The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-06-06 05:27:11

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ม6

ครูพีระ

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 นายพีระ เหมือดนอก ตำแหน่ง ครู โรงเรียนพนมศึกษา อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร


แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนพนมศึกษา ที่ พิเศษ/2566 วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา สิ่งที่แนบมาด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาอังกฤษ (อ33101) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เนื่องด้วยข้าพเจ้า นายพีระ เหมือดนอก ตำแหน่ง ครูโรงเรียนพนมศึกษา ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ การสอนตามคำสั่งที่ ....../2566 เรื่องมอบหมายงานสอน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งทางกลุ่มบริหารงาน วิชาการได้มอบหมายให้ครูทุกคน จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้อย่างน้อยคนละ 1 รายวิชานั้น ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงาน สายการสอนประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ได้จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ในรายวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขออนุมัติใช้แผนการ จัดการเรียนรู้ดังกล่าว เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ ลงชื่อ ( นายพีระ เหมือดนอก ) ครู ลงชื่อ ลงชื่อ ( นางอังคณา แก้วเมือง ) ( นางสาวณัฐิญา คาโส ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานวิชาการ ความคิดเห็นผู้อำนวยการ อนุมัติ ไม่อนุมัติ ................................................................................................................................. ลงชื่อ ( นางผกา สามารถ ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา ........../......../...........


แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา สารบัญ เรื่อง หน้า กำหนดการใช้แผน 1 คำนำ 2 วิเคราะห์หลักสูตร 3 • คำอธิบายรายวิชา 3 • ตารางวิเคราะห์รายวิชา 4 • โครงสร้างรายวิชา 6 วิเคราะห์ผู้เรียน 7 • ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ 7 • แบบวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล/ความถนัด/ความสนใจ 8 การวัดผลประเมินผล 13 แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 1 เรื่อง My Home Is My Castle 14 แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 2 เรื่อง While There’s Life, There’s Hope 70 แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 3 เรื่อง Travel Broadens the Mind 124 แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 4 เรื่อง Earth Is Dearer Than Gold 177 แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 5 เรื่อง Early to Bed… 229


1 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยการเรียน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 การกำหนดการใช้แผนจัดการเรียนรู้ รายการตรวจสอบและกลั่นกรองการใช้แผนจัดการเรียนรู้ ความคิดเห็น ความคิดเห็น ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ลงชื่อ................................................. ( นางอังคณา แก้วเมือง ) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ................................................................................. ลงชื่อ................................................. ( นางสาวณัฐิญา คาโส ) หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการ .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ลงชื่อ................................................. ( นางผกา สามารถ ) ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา


2 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอน เพราะเป็น เอกสารหลักสูตร ที่ใช้ในการบริหารงานของครูผู้สอนให้ตรงตามนโยบายในการปฏิรูปการศึกษา กำหนดไว้ในแผน หลักคุณภาพการศึกษา สนองจุดประสงค์และคำอธิบายรายวิชาของหลักสูตร ในการบริหารงานวิชาการถือว่า “แผน จัดการเรียนรู้”เป็นเอกสารทางวิชาการที่สำคัญที่สุดของครู เพราะในแผนจัดการเรียนรู้ประกอบด้วย ๑. การกำหนดเวลาเรียน กำหนดการสอน กำหนดการสอบ ๒. สาระสำคัญของเนื้อหาวิชาที่เรียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๔. กิจกรรมการเรียนการสอน ๕. สื่อและอุปกรณ์ ๖. การวัดผลประเมินผล การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ถือว่าเป็นการสร้างผลงานทางวิชาการ เป็นผลงานที่แสดงถึงความชำนาญ ในการสอนของครู เพราะครูใช้ศาสตร์ทุกสาขาอาชีพของครู เช่นการออกแบบ การสอน การจัดการ และการ ประเมินผล ในการจัดทำแผนจัดการเรียนรู้นั้นจะทำให้เกิดความมั่นใจในการสอนได้ตรงจุดประสงค์การเรียนรู้ เพิ่ม ประสิทธิภาพการเรียนการสอนในรายวิชาที่รับผิดชอบสูงขึ้น ทั้งยังเป็นข้อมูลในการนิเทศติดตามตรวจสอบและ ปรับปรุงการเรียนการสอนได้อย่างมีระบบและครบวงจร ยังผลให้คุณภาพการศึกษาโดยรวมพัฒนาไปอย่างมีทิศทาง บรรลุเป้าหมายของหลักสูตร นายพีระ เหมือดนอก ครูผู้สอน


3 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา คำอธิบายรายวิชา ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ 33101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกิต เข้าใจข้อความที่ใช้ในการขอ และให้ข้อมูล แสดงความรู้สึก และแสดงความคิดเห็น ข้อมูล สารคดี และ บันเทิงคดี วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีชีวิต ฝึกทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน คำศัพท์ สำนวน ภาษา ประโยค ที่ใช้ในการขอ และให้ข้อมูล แสดงความรู้สึก และแสดงความคิดเห็น ข้อมูล สารคดี และบันเทิงคดี วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และวิถีชีวิต สามารถตีความ วิเคราะห์ สังเคราะห์ อภิปราย แสดงความคิดเห็น เปรียบเทียบ นำเสนอข้อมูล ชื่นชมและเห็นคุณค่าของภาษา สามารถนำภาษาไปใช้ในชีวิตประจำวัน ในการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ ตระหนักและเห็นคุณค่า ความสำคัญของภาษาอังกฤษ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความมั่นใจ ในการใช้ภาษา และกล้า แสดงออก อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา สามารถบูรณาการประยุกต์ใช้ ใน ชีวิตประจำวัน รหัส ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.6/1 ต 1.1 ม.6/2 ต 1.1 ม.6/3 ต 1.1 ม.6/4 ต 1.2 ม.6/1 ต 1.2 ม.6/2 ต 1.2 ม.6/3 ต 1.2 ม.6/4 ต 1.2 ม.6/5 ต 1.3 ม.6/1 ต 1.3 ม.6/2 ต 1.3 ม.6/3 ต 2.1 ม.6/1 ต 2.1 ม.6/2 ต 2.1 ม.6/3 ต 2.2 ม.6/1 ต 2.2 ม.6/2 ต 3.1 ม.6/1 ต 4.1 ม.6/1 ต 4.2 ม.6/1 ต 4.2 ม.6/2 รวมทั้งหมด 21 ตัวชี้วัด


4 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ตารางวิเคราะห์รายวิชา [วิเคราะห์ความรู้ (K) กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) สมรรถนะ (C)] วิชาภาษาอังกฤษ 6 (อ23102) ผลการเรียนรู้ ความรู้ (K) กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A) สมรรถนะ (C) 1. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเนื้อหา เรื่อง My Home Is My Castle -ความรู้ความเข้าใจ เรือง My Home Is My Castle - กระบวนการ เขียน - กระบวนการพูด การฟังและดู - กระบวนการคิด - มีมารยาทและมี นิสัยรักการเขียน - มีมารยาทในการ พูด การฟังและดู -มีความสามารถใน การสื่อสาร -มีความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต ผลการเรียนรู้ ความรู้ (K) (10 คะแนน) กระบวนการ (P) (8 คะแนน) คุณลักษณะ (A) (2 คะแนน) สมรรถนะ (C) (ระดับ 0-3) 2. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเนื้อหา เรื่อง While There’s Life, There’s Hope - ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเนื้อหา เรื่อง While There’s Life, There’s Hope - กระบวนการ เขียน - กระบวนการพูด การฟังและดู - กระบวนการคิด - มีมารยาทและมี นิสัยรักการเขียน - มีมารยาทในการ พูด การฟังและดู -มีความสามารถใน การสื่อสาร -มีความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต


5 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ผลการเรียนรู้ ความรู้ (K) (10 คะแนน) กระบวนการ (P) ( 8 คะแนน) คุณลักษณะ (A) (2 คะแนน) สมรรถนะ (C) (ระดับ 0-3) 3. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับเนื้อหา เรื่อง Travel Broadens the Mind - ความรู้ ความเข้าใจเนื้อหา เรื่อง Travel Broadens the Mind - กระบวนการ เขียน - กระบวนการพูด การฟังและดู - กระบวนการคิด - มีมารยาทและมีนิสัย รักการเขียน - มีมารยาทในการพูด การฟังและดู -มีความสามารถใน การสื่อสาร -มีความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต ผลการเรียนรู้ ความรู้ (K) (10 คะแนน) กระบวนการ (P) (8 คะแนน) คุณลักษณะ (A) (2 คะแนน) สมรรถนะ (C) (ระดับ 0-3) 4. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ เรื่อง Earth is Dearer Than Gold - ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ เรื่อง Earth is Dearer Than Gold - กระบวนการ เขียน - กระบวนการพูด การฟังและดู - กระบวนการคิด - มีมารยาทและมีนิสัย รักการเขียน - มีมารยาทในการพูด การฟังและดู -มีความสามารถใน การสื่อสาร -มีความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต ผลการเรียนรู้ ความรู้ (K) (10 คะแนน) กระบวนการ (P) (8 คะแนน) คุณลักษณะ (A) (2 คะแนน) สมรรถนะ (C) (ระดับ 0-3) 5. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ เรื่อง Early to Bed - ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับ เรื่อง Early to Bed - กระบวนการ เขียน - กระบวนการพูด การฟังและดู - กระบวนการคิด - มีมารยาทและมีนิสัย รักการเขียน - มีมารยาทในการพูด การฟังและดู -มีความสามารถใน การสื่อสาร -มีความสามารถใน การใช้ทักษะชีวิต


6 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา โครงสร้างรายวิชา โครงสร้างรายวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ 33101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลารวม 40 ชั่วโมง/ภาคเรียน จำนวน 1.0 หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 1 ลำดับ ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก (คะแนน) 1. My Home Is My Castle มฐ ต 1.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/3 มฐ ต 1.2 ม.6/1, ม.6/3, ม.6/4 มฐ ต 1.3 ม.6/1, ม.6/2 มฐ ต 2.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 มฐ ต 2.2 ม.6/1, ม.6/2, มฐ ต 3.1 ม.6/1 มฐ ต 4.1 ม.6/1, มฐ ต 4.2 ม.6/2 8 10 2. While There’s Life, There’s Hope มฐ ต 1.1 ม.6/1,ม.6/2,ม.6/3, ม.6/3, ม.6/3 มฐ ต 1.2 ม.6/1, ม.6/4, ม.6/5 มฐ ต 1.3 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 มฐ ต 2.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 มฐ ต 2.2 ม.6/1, ม.6/2 มฐ ต 4.1 ม.6/1, มฐ ต 4.2 ม.6/2 8 10 Mid-Term Examination 20 3. Travel Broadens the Mind มฐ ต 1.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4 มฐ ต 1.2 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4 มฐ ต 1.3 ม.6/1, ม.6/2 มฐ ต 2.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 มฐ ต 2.2 ม.6/1, มฐ ต 3.1 ม.6/1 มฐ ต 4.1 ม.6/1, มฐ ต 4.2 ม.6/1, ม.6/2 8 10 4. Earth is Dearer Than Gold มฐ ต 1.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4 มฐ ต 1.2 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4 มฐ ต 1.3 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 มฐ ต 2.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 มฐ ต 2.2 ม.6/1, มฐ ต 3.1 ม.6/1 มฐ ต 4.1 ม.6/1, มฐ ต 4.2 ม.6/1, ม.6/2 8 10 5. Early to Bed มฐ ต 1.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3, ม.6/4 มฐ ต 1.2 ม.6/1, ม.6/4, ม.6/5 มฐ ต 1.3 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 มฐ ต 2.1 ม.6/1, ม.6/2, ม.6/3 มฐ ต 2.2 ม.6/1, มฐ ต 3.1 ม.6/1 มฐ ต 4.1 ม.6/1, มฐ ต 4.2 ม.6/1 8 10 Final Examination 30 Total in year-round 40 100


7 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา โรงเรียนพนมศึกษา ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อนำไปออกแบบการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับความสามารถของนักเรียน 2. เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียนด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ 33101 ภาคเรียนที่ 1/2566 ชื่อผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก สรุปผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนพื้นฐานที่ใช้ในการเรียนวิชานี้ ระดับคุณภาพของ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน GPA ของกลุ่ม จำนวนคน ร้อยละ ปรับปรุง ต่ำกว่า 2.00 พอใช้ 2.00 – 2.50 ดี สูงกว่า 2.50 รวม แนวทางการจัดกิจกรรม ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ร้อยละ กิจกรรมแก้ไขหรือพัฒนา ในแผนการเรียนรู้ จำนวน เครื่องมือ/วิธีการ เดิม เป้าหมาย ประเมิน ดี - - - - - ปรับปรุง - - - - -


8 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ / รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 1 เลขที่ ชื่อ – สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายชยุตรา สาคร 2 นายธนพัฒ สารจิตต์ 3 นายปริญญา นุ้ยย่อง 4 นายปุณณัตถ์ นรารักษ์ 5 นายพงษ์นรินทร์ กองกุล 6 นายภูมิพัฒ สัมพันธ์ 7 นายภูริณัฐ รินเกลื่อน 8 นายรัฐภูมิ สุขกรี 9 นายสุทธิวงค์ ทิพย์มาก 10 นางสาวกชกร แก้วนพคุณ 11 นางสาวกนกวรรณ ส้มเมือง 12 นางสาวกฤติยาวรรณ จันทร์แสงกุล 13 นางสาวกัณฐิกา ถาพร 14 นางสาวเกตน์สิรี ทิพย์เดช 15 นางสาวเกศรา ศรัทธาสุข 16 นางสาวขวัญติมา รักสีทอง 17 นางสาวชมพูนุท ชัยธรรม 18 นางสาวณัฏฐนันท์ ทรัพย์เรืองเนตร 19 นางสาวณัฐธิดา คงเดิม 20 นางสาวทิพวัลย์ ปู่จันทร์ 21 นางสาวธิดารัตน์ พลลือ 22 นางสาวบุษกร ทองจันทร์ 23 นางสาวใบเงิน ช่วยศรี 24 นางสาวพิมพ์ชนก กองแก้ว 25 นางสาวภัทรติกา ขาวจิตต์ 26 นางสาวรติรส รักกะเปา 27 นางสาวรมิดา เรืองไชย 28 นางสาวลดาวัลย์ ชูไทย


9 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 29 นางสาววริษฐา แสงจง 30 นางสาววัลย์ลิกา ดำพันธ์ 31 นางสาวศลิษา มากแก้ว 32 นางสาวสวรินทร์ รัตนพันธ์ 33 นางสาวสุพรรษา ทรงเหล็กสิงห์ 34 นางสาวสุภาวดี ศรีนิล 35 นางสาวสุวคนธ์ สงเคราะห์ 36 นางสาวโสรยา ฉิมฤทธิ์ 37 นางสาวไอลดา วรรณศรี แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ / รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 2 เลขที่ ชื่อ – สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายก้องภพ อุดมวงศ์ศิริ 2 นายจุลจักร ดารุณภักดี 3 นายชนาธิป ฉัตรทอง 4 นายชวัลกร นาคสวาท 5 นายธนพัฒน์ สาเรศ 6 นายภูตะวัน ทองตำลึง 7 นายภูริณัฐ ชูทรัพย์ 8 นายภูริทัต เกิดชูกุล 9 นายภูริพัฒน์ โภคัย 10 นายเมธัส เวชพราหมณ์ 11 นายศักดิ์สิทธิ์ วงศ์สวัสดิ์ 12 นายศักรินทร์ ชูพนม 13 นายศิริวัฒน์ บุญชุม 14 นายสิปปกร จินดาพล 15 นางสาวคุณัญญา ทองชนะ 16 นางสาวชญานิษฐ์ อินทอง 17 นางสาวธิมาภรณ์ พิพิธเสมา 18 นางสาวนุชวรา วาดวงปราง


10 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 19 นางสาวบุษราคัม คงวุธ 20 นางสาวปณิดา ชาติวงษ์ 21 นางสาวประภาภรณ์ แสนภูมี 22 นางสาวรัญชิดา รักโคตร 23 นางสาววิภาวดี เหมือนใจ 24 นางสาววิลาวัณย์ สุวรรณคง 25 นางสาวศธิตา ซุยจินา 26 นางสาวศศิกาญจน์ อภิโมทย์ 27 นางสาวศศิภา ปั้นทอง 28 นางสาวศุภมาศ ราชสมบัติ 29 นางสาวสิริภัทร จุ้ยทองคำ 30 นางสาวสุชานรี คงเดิม 31 นางสาวสุธิตา ดาศรี 32 นางสาวสุนิษา ทองจาร 33 นางสาวอนุสรา ฤกษ์อ่อน 34 นางสาวอริสรา เวชวานิช 35 นางสาวอาทิมา ปรึกษาเหตุ แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ / รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 ห้อง 3 เลขที่ ชื่อ – สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายกฤษฎา คงเรือง 2 นายชลภัทร พูลเงิน 3 นายธีรพงศ์ ปาลคะเชนทร์ 4 นายนภัสกร ใฝจันทร์ 5 นายปรวิทย์ ศิริวัฒน์ 6 นายป้องรักษ์ ลิ้มวิชิต 7 นายพลธกร เสนาประชาราษฎร์ 8 นายวรภัทร วราชัย 9 นายวริทธิ์ มุกดา 10 นางสาวจิรวรรณ มีมาก


11 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 11 นางสาวจิรัชญา รามวงศ์ 12 นางสาวชนกนารี ขันทอง 13 นางสาวฌัชชฏาภา เจริญ 14 นางสาวณัฏฐณิชา คนโอ 15 นางสาวณัฐริกา มีแก้ว 16 นางสาวธัญสินี นฤมิตรพรสุข 17 นางสาวธารทิพย์ เขียวดำ 18 นางสาวธิดารัตน์ ทองเนียม 19 นางสาวเบญจรัตน์ บัวแก้ว 20 นางสาวปวันรัตน์ ชูรักษ์ 21 นางสาวพิมพ์วิภา ละออ 22 นางสาวภาวิณี สุขขี 23 นางสาวมนทิรา ศักดา 24 นางสาวมาติกา รัฐแฉล้ม 25 นางสาวสายธาร จรรย์ทัน แบบวิเคราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล เกี่ยวกับความถนัด / ความสนใจ / รายวิชา ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 4 เลขที่ ชื่อ – สกุล ระดับความถนัด / ความสนใจ หมายเหตุ 3 2 1 0 1 นายกรวิท อึกทองจอม 2 นายกิตติภพ ปลอดภัย 3 นายจิรวัฒน์ บุญลึก 4 นายณัฐภัทร พลเยี่ยม 5 นายทินกร ชะบากาญจน์ 6 นายแทนไท แสงทอง 7 นายธีรพล ศรชนะ 8 นายนรวิชญ์ วงแหวน 9 นายปิยทัศน์ ปลอดทุกข์ 10 นายภาณุพงศ์ ชูพนม 11 นายเมธีพัฒน์ สาคร 12 นายศรัณยู พินเศษ


12 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 13 นายศุภกร รัตนละออ 14 นายศุภชัย ทองสุข 15 นายศุภณัฐ จามจุรีย์ 16 นายสุภวัทน์ ทิพย์เดช 17 นางสาวกัลยาณี บวรสุวรรณ์ 18 นางสาวขจีพรรณ ศรีพิทักษ์ 19 นางสาวจันทร์จิรา เทียมยม 20 นางสาวจิรัชญา นาคสัน 21 นางสาวชนาพร ทับแก้ว 22 นางสาวชลธิชา หลุ่ยจิ๋ว 23 นางสาวณัฐณิชา แคล่วคล่อง 24 นางสาวธัญญลักษณ์ พรหมชาติ 25 นางสาวนฤมล โอภาสะ 26 นางสาวปรียาภรณ์ สุขขัง 27 นางสาวปิยมาส เย็นใจ 28 นางสาวพรกนก แก่นงูเหลือม 29 นางสาวพรธิตา หนูบุญ 30 นางสาวพรรณนิพา วิชิตชู 31 นางสาวลลิตภัทร กันคง 32 นางสาวสิริกร คงไล่ 33 นางสาวสุนันทา หลวงปลอด


13 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา การวัดผลประเมินผล การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ / รายวิชา ในแต่ละตัวชี้วัดชั้นปี ซึ่งสถานศึกษา วิเคราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด การประเมินสาระการเรียนรู้รายวิชา ให้ตัดสินผลการประเมินเป็นระดับ ผลการเรียน 8 ระดับ ดังนี้ คะแนน 80 – 100 ระดับผลการเรียน “4” หมายถึง ผลการเรียนดีเยี่ยม คะแนน 75 – 79 ระดับผลการเรียน “3.5” หมายถึง ผลการเรียนดีมาก คะแนน 70 – 74 ระดับผลการเรียน “3” หมายถึง ผลการเรียนดี คะแนน 65 – 69 ระดับผลการเรียน “2.5” หมายถึง ผลการเรียนค่อนข้างดี คะแนน 60 – 64 ระดับผลการเรียน “2” หมายถึง ผลการเรียนปานกลาง คะแนน 55 – 59 ระดับผลการเรียน “1.5” หมายถึง ผลการเรียนพอใช้ คะแนน 50 – 54 ระดับผลการเรียน “1” หมายถึง ผลการเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินขั้นต่ำ คะแนน 0 - 49 ระดับผลการเรียน “0” หมายถึง ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์การ ประเมิน ในกรณีที่ไม่สามารถให้ระดับผลการเรียนเป็น 8 ระดับได้ให้ใช้ตัวอักษร ระบุเงื่อนไขของผลการเรียน ดังนี้ “มส” หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรียนมีเวลาไม่ถึงร้อย ละ ๘๐ ของเวลาเรียนในแต่ละรายวิชา และไม่ได้รับการผ่อนผันให้เข้ารับการ วัดผลปลายภาคเรียน “ร” หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้ เนื่องจากผู้เรียนไม่มีข้อมูลการเรียน รายวิชานั้นครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลกลางภาคเรียน/ปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่ง งานที่มอบหมายให้ทำ ซึ่งงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินผลการเรียน หรือมี เหตุสุดวิสัยที่ทำให้ประเมินผลการเรียนไม่ได้ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นั้น ให้ระดับผลการประเมินเป็น ดีเยี่ยม ดี และผ่าน ดีเยี่ยม หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ เขียนที่มีคุณภาพ ดีเลิศอยู่เสมอ ดี หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ แต่ยังมีข้อบกพร่องบาง ประการ ไม่ผ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน หรือถ้ามี ผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพร่องที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขหลายประการ


14 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 รายวิชา อ 33101 ภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง My Home Is My Castle ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก เวลา 8 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่1: ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1: เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ตัวชี้วัด 1.ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่างๆ คำชี้แจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟัง และ อ่าน 2. อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้อง ตามหลักการอ่าน 3. อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ ฟังหรืออ่าน 4. จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก การฟัง และอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดีพร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2: มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 1. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ข่าว/เหตุการณ์ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสม 2. พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือ ในสถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม 3. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3: นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัด 1. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่อง และประเด็น ต่างๆ ตามความสนใจของสังคม


15 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 2. พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์และสถานการณ์ตามความสนใจ สาระที่2: ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1: เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 1. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ ตาม มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 2. อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของ เจ้าของภาษา 3. เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 2.2: เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1. อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิตและบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล สาระที่3: ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต 3.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานใน การพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด 1. ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูดและการเขียน สาระที่4: ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตัวชี้วัด 1. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม มาตรฐาน ต 4.2: ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด 1. เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทักษะเฉพาะวิชา • Language features and functions


16 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Grammar: preposition of places, linkers, present tenses, stative verbs, adverbs of frequency, prepositions of place Vocabulary: phrasal verbs (break, bring) คำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน เครื่องใช้ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ งานบ้าน ความรู้สึก Function: การแสดงความเห็นใจ Intonation: การแสดงความเห็นใจ • Language skills Listening: ฟังเพื่อหาข้อมูลจำเพาะ, ฟังเพื่อจับใจความสำคัญ, ฟังและจดบันทึกย่อ Speaking: พูดเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของบ้านจากเรื่องที่อ่าน, พูดเกี่ยวกับบ้านในอุดมคติ, พูดบรรยายห้อง, พูดเกี่ยวกับบ้านของตนเอง, พูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับบ้านที่จะ เช่า, พูดเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของบ้าน 2 หลัง, พูดเกี่ยวกับ การเลือกบ้านที่จะเช่า, พูดเรียกใช้บริการ, พูดแสดงความเห็นใจ Reading: อ่านเพื่อหารายละเอียด Writing: เขียนโฆษณาเกี่ยวกับบ้าน, เขียนอีเมลเพื่อบรรยายลักษณะบ้านให้เช่า 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการให้คำจำกัดความ 3.2.3 ทักษะการเปรียบเทียบ 3.2.4 ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3.2.5 ทักษะการตีความ 3.2.6 ทักษะการสังเกต 3.2.7 ทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ 3.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.1 มุ่งมั่นในการทำงาน 4.2 รักความเป็นไทย 5. การบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงื่อนไข พอประมาณ ความรู้ มีเหตุผล คุณธรรม มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4 มิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม


17 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ Lead-in 1. นำเข้าสู่บทเรียนด้วยการให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 4 Ex.1 โดยให้นักเรียนอ่าน ชื่อเรื่อง My Home is My Castle ครูอธิบายว่าข้อความนี้มาจากสุภาษิตอังกฤษ “An Englishman’s home is his castle” ครูอธิบายความหมายของคำว่า proverb (a popular saying used to express a well-known fact) จากนั้นอธิบายความหมายของชื่อเรื่องโดยถามคำถามนักเรียนต่อไปนี้ - What is a castle? - What were castles used for? - Why would someone call his house a castle? etc. Suggested answer key: An Englishman takes pride in his home.


18 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูนำเสนอสำนวนสุภาษิตภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับคำว่า castle ด้วยการยกตัวอย่างประโยค และให้ นักเรียนช่วยกันบอกความหมาย เสร็จแล้วครูช่วยบอกคำจำกัดความอีกครั้ง และให้นักเรียนบอกว่ามีสำนวน สุภาษิตไทยที่ใกล้เคียงกับสำนวนเหล่านี้หรือไม่ a man’s home is his castle (AmE) หรือ an Englishman’s home is his castle (BrE) = a person’s home is a place where they can be private and safe and do as they like (บ้าน คือวิมานของเรา) ตัวอย่างประโยค When I get back home… well, an Englishman’s home is his castle, isn’t it? (build) castles in the air = (to have) plans or dreams that are not likely to happen or come true (สร้างวิมานในอากาศ) ตัวอย่างประโยค My father built castles in the air about owning a boat one day. เสร็จแล้วครูมอบหมายให้นักเรียนหาสำนวนไทยและอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับคำว่าบ้าน แล้วมาพูดนำเสนอใน ตอนต้นของคาบเรียนถัดไป หรือครูอาจให้นักเรียนวาดภาพประกอบ แล้วเขียนสำนวนไทยและอังกฤษ ด้านล่างแต่ละภาพและนำมาติดบอร์ดของห้อง กิจกรรมเพิ่มเติม Active Learning สู่สมรรถนะ Active Learning 1. การเรียนรู้ผ่านการคิดข้นัสูง (Thinking Based Learning) 2. การเรียนรู้ผ่านการลงมือท า (Learning by doing) 3. การเรียนรู้จากการท างานร่วมกัน (Cooperative Learning) 5. การสื่อสาร น าเสนอ (Communication and Presentation) 4. การเรียนรู้จากการส ารวจ และค้นหา (Inquiry-Based Learning)


19 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 2. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 4 Ex.2a โดยดูภาพ A-D ในหน้า 4-5 เพื่อหาสิ่งผิดปกติในภาพ จากนั้นอ่านวลีสำหรับบรรยายลักษณะบ้านที่ให้มา แล้วจับคู่วลีดังกล่าวกับภาพบ้าน บ้านหลังใดที่มี - 5 ชั้น และมีบ้านอยู่ด้านบนสุด (five storeys and a house on top) - ฉลามไฟเบอร์กลาสส์(a fibreglass shark) - กำแพงอิฐ (brick walls) - หลังคามุงฟางหรือจาก (a thatched roof) - ปล่องไฟ (a chimney) - ก้อนหินบนหลังคา (a rock on the roof) - บันไดไม้สำหรับขึ้นไปที่ประตูหน้าบ้าน (wooden stairs up to the front door) - กำแพงหิน (stone walls) - หลังคาทรงแหลม (a pitched roof) - หลังคามุงกระเบื้อง (a tiled roof) บ้านหลังใดที่ - สร้างใต้ดิน (built underground) - เป็นปราสาท (a castle) - สร้างบนเสาสูง (built on stilts) five storeys and a house on top: C a fibreglass shark: D brick walls: D a thatched roof: A a chimney: C a rock on the roof: B wooden stairs up to the front door: A stone walls: B a pitched roof: C a tiled roof: D built underground: (none) a castle: (none) built on stilts: A


20 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 3. ครูอ่านคำคุณศัพท์ที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 4 Ex.2b และอธิบายความหมายของคำศัพท์ให้นักเรียนฟัง ด้วยการบอกคำที่มีความหมายเหมือนกัน/ตรงข้ามกัน หรือยกตัวอย่างประโยค หรือครูอาจให้นักเรียนค้นหา ความหมายของคำศัพท์เหล่านี้จากพจนานุกรม จากนั้นให้นักเรียนทำงานคู่ ช่วยกันตัดสินใจเลือกว่าคำคุณศัพท์คำใดเหมาะที่จะบรรยายลักษณะบ้านหลังใด ได้ดีที่สุด พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน ครูสุ่มเลือกนักเรียนบางคู่ออกมาพูด เกี่ยวกับบ้านแต่ละหลังหน้าชั้น Suggested answer key: House B is cold because its walls are made of stone, and it is built underground, into the hillside. House C is spacious because it has many floors, and thus a lot of room. House D is eccentric because the fibreglass shark sculpture gives it a strange view. 4. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 4 Ex.2c โดยจับคู่แสดงความคิดเห็นว่าบ้านหลังใด (A-D) ที่ นักเรียนต้องการจะอยู่/ไม่ต้องการจะอยู่ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ Suggested answer key: I wouldn’t like to live in the rock house because it looks very cold to me. I would like to live in the five-storey building because it looks very spacious to me. I wouldn’t like to live in the terraced house because it looks very eccentric to me. Reading 1. ครูอ่านชื่อเรื่องของบทอ่านในหนังสือเรียน หน้า 4 Ex.3a และให้นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นว่าบท อ่านดังกล่าวน่าจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร พบได้ในสื่อใด (newspaper, blog, encyclopedia, etc.) และมีคำศัพท์ใดที่นักเรียนคาดว่าจะได้เจอในบทอ่าน Suggested answer key: The article must be about various types of houses. This article might be found in a magazine. I expect to find words like comfortable, attractive, spacious, countryside, suburb, city, affordable, expensive, etc. จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันเขียนคำศัพท์10 คำที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญในบทอ่านเรื่องนี้เสร็จแล้วให้ นักเรียนพูดรายงานคำตอบ โดยครูเขียนคำศัพท์ที่นักเรียนบอกบนกระดาน และให้นักเรียนลอกลงในสมุด 2. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 5 Ex.3b จากนั้นให้นักเรียนศึกษา Tip ในหน้า 4


21 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา อ่านเนื้อเรื่องอย่างรวดเร็วเพื่อจับใจความว่า บทอ่านนั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร จากนั้นอ่าน เฉพาะคำถามที่ให้มา และดูเนื้อหาของบทอ่านส่วนที่คำถามเหล่านี้กล่าวถึง แล้วจึงอ่านตัวเลือก ที่กำหนดให้ และเลือกตัวเลือกที่คิดว่าเหมาะสมที่สุด นักเรียนควรจดจำไว้ว่าข้อมูลเหล่านี้ อาจจะถูกกล่าวซ้ำอีกครั้ง โดยใช้ภาษาที่แตกต่างออกไป (rephrase) ถึงแม้นักเรียนจะคิดว่า คำตอบที่ตนเองเลือกนั้นถูกต้องแล้ว ให้นักเรียนตรวจสอบตัวเลือกที่เหลือด้วยว่าทำไมจึงไม่ ถูกต้อง สุดท้ายให้ตรวจทานคำตอบที่เลือกอีกครั้งกับบทอ่าน ครูย้ำว่าให้นักเรียนทำ Ex.3b ตามคำแนะนำที่ให้ไว้ใน Tip จากนั้นให้เวลานักเรียน 4-5 นาที อ่านเนื้อเรื่อง ในใจ และศึกษาตัวอย่างคำตอบข้อ 1 ร่วมกับครูโดยครูอ่านคำถาม และให้นักเรียนหาว่าคำถามนี้เกี่ยวข้อง กับเนื้อหาในบทอ่านส่วนใด เมื่อได้คำตอบว่าย่อหน้าที่ 1 แล้ว ครูอ่านตัวเลือก A-D ที่ให้มาใน ข้อ 1 และช่วยนักเรียนขีดเส้นใต้คำสำคัญในตัวเลือกเหล่านี้ Key words to be underlined: A: live underground B: have exactly the home they want C: cheaper buying D: modern luxuries จากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันอธิบายว่าทำไมตัวเลือก B จึงเป็นคำตอบที่ถูกต้อง เมื่อได้คำตอบว่า เพราะมี กล่าวไว้ในเนื้อเรื่องว่า “If they can’t buy what they want they are quite prepared to build it from scratch” [บรรทัดที่ 5-6] ครูให้นักเรียนสังเกตข้อความนี้กับข้อความในตัวเลือก B ว่าเป็นข้อมูล เดียวกัน แต่มีการเปลี่ยนภาษาที่ใช้ในการถ่ายทอดข้อมูลใหม่ (rephrased) ต่อมาให้นักเรียนทำข้อที่เหลือด้วยตนเอง เสร็จแล้วครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน พร้อมทั้งให้นักเรียน อธิบายเหตุผลประกอบการตอบของตนเอง 1. b (line 5-6) 5. c (line 30-31) 2. a (line 17-19) 6. d (line 38-39) 3. a (line 18-19) 7. c (line 45-47) 4. c (line 25-27) 3. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 5 Ex.3c โดยครูช่วยนักเรียนอธิบายความหมายของคำศัพท์ที่ พิมพ์ตัวหนาในบทอ่านด้วยการยกตัวอย่างประโยค หรือบอกคำที่มีความหมายเหมือนกัน จากนั้นให้นักเรียน ใช้พจนานุกรม หาคำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกับคำศัพท์ที่อยู่ในพื้นสี (highlighted words) ในบทอ่าน เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน


22 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: out of the ordinary (phr): unusual From scratch (idm): from the very beginning, without making use of anything that has been done before brand new (adj): completely new keep (n): the main tower of a castle where people used to live moat (n): a deep, wide channel dug round a castle and filled with water, to protect it from an attack drawbridge (n): a bridge that can be pulled up draught (n): a current of air fuel bill (phr): the money you pay for heating appeal to (sb) (v): to find sth attractive or interesting become short of sth (phr): to no longer have enough of sth spruce tree (n): a kind of evergreen tree above the ground (phr): at a higher level than the top part of the earth’s surface extension (n): a new room added to an existing building airy (adj): with lots of fresh air and space suitable for (adj): right or acceptable suffer from (v): to have a particular illness, especially for a long time hay fever (n): sneezing and itching caused by allergy to grass setting (n): a place or surroundings where sth takes place stand out (phr v): to be very noticeable fibreglass shark (phr): a large sea fish with sharp teeth made of plastic strengthened with stands of glass sculpture (n): a work of art produced by carving or shaping stone or other materials Synonyms harsh: severe convince: persuade spacious: roomy set up: establish ordinary: normal resist: keep from


23 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูถามนักเรียนว่า การเรียนภาษาอังกฤษเก่งมีประโยชน์ต่อนักเรียนในอนาคตอย่างไร ครูแนะนำนักเรียนว่า จะเก่งภาษาอังกฤษได้นั้น นักเรียนจำเป็นต้องฝึกฝนด้วยตนเองเพิ่มเติมนอกห้องเรียน เพราะวิชา ภาษาอังกฤษเป็นวิชาทักษะ ดังนั้นยิ่งนักเรียนฝึกฝนภาษาอังกฤษบ่อย นักเรียนก็จะยิ่งใช้ภาษาอังกฤษได้ คล่องมากขึ้น จากนั้นครูแนะนำให้นักเรียนฝึกทักษะการฟังด้วยตนเอง จากเว็บไซต์ต่อไปนี้ https://learnenglishteens.britishcouncil.org/study-break/video-series/word-on-thestreet/homes-of-the-future นักเรียนจะได้ดูคลิปวิดีโอเกี่ยวกับ Homes of the future ซึ่งเมื่อฟังเสร็จ แล้วจะมีกิจกรรมให้นักเรียนฝึกทำเพื่อทดสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยในกรณีที่นักเรียนทำคะแนนได้ไม่ ดี นักเรียนไม่ต้องกังวล นักเรียนสามารถอ่าน tapescript ที่มีไว้แล้วฝึกฟังอีกครั้ง เมื่อนักเรียนฝึกบ่อยๆ นักเรียนก็จะสามารถฟังได้อย่างเข้าใจโดยที่ไม่ต้องดู tapescript Follow-up 1. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 5 Ex.4a โดยครูเขียนหัวข้อบนกระดาน และรวบรวมคำตอบ จากนักเรียนเพื่อเติมข้อมูลในตารางดังกล่าว จากนั้นให้นักเรียนลอกตารางนี้ลงในสมุด แล้วใช้ข้อมูลนี้พูด เกี่ยวกับข้อดี/ข้อเสียของบ้านแต่ละหลัง (Mew’s, Ridd’s and Garner’s dwellings) โดยให้ใช้สำนวนภาษา เหล่านี้ในการรายงาน To list points: Firstly…, To start with…, One (dis)advantage is…, In addition…, Also…, etc. To give an opposing viewpoint: However…, On the other hand…, etc. ADVANTAGES DISADVANTAGES Mew’s brand new, luxurious, impressive appearance, unique, spacious expensive to build, impractical, cold in winter Ridd’s quiet, cosy, doesn’t damage the environment, low fuel bills dark, claustrophobic Garner’s airy, secure, comfortable high off the ground, not suitable for sufferers of hay fever กิจกรรมเพิ่มเติม


24 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: The Mew’s castle has many advantages. Firstly, it is brand new. It is also luxurious, unique and has an impressive appearance. In addition, it is spacious. However, there are certain disadvantages, too. For example, it was expensive to build. It is also impractical and cold in the winter. Nevertheless, I would like to live in a house like this because it is so unique and impressive. 3. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 5 Ex.4b โดยให้เวลานักเรียน 2 นาที คิดเกี่ยวกับบ้านในอุดมคติ ของตนเอง จากนั้นสุ่มเลือกนักเรียน 2-3 คน ออกมาพูดบรรยายหน้าชั้น Suggested answer key: My ideal house would be a castle. It would be made of stone. The rooms would be large and airy. It would have a garden and a pool, where I could spend my time in summer. It would be cool and very comfortable to live in, and very economical.


25 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูเขียนคำว่า traditional houses บนกระดาน และนำภาพเรือนไทยทั้ง 4 ภาค มาติดแสดง ครูถามคำถาม เช่น Which of the houses are built on stilts? Which of the houses have a pitched roof? Which of the houses are made of wood? เพื่อให้นักเรียนสังเกตลักษณะที่มีร่วมกันของบ้านคนไทยแต่ ดั้งเดิม เช่น ทำมาจากไม้ (wood) หรือวัสดุในท้องถิ่น (local materials) เรือนยกพื้นบนเสาสูง (built on stilts) ครูอาจถามเพิ่มเติมว่า Why are Thai traditional houses built on stilts? และให้นักเรียนช่วยกัน คิด เช่น เพื่อป้องกันน้ำท่วม เป็นต้น ต่อมาครูถามนักเรียนว่า Are Thai traditional houses beautiful? Would you like to live in Thai traditional houses? แล้วให้นักเรียนช่วยกันอภิปรายว่าทำไมเรือนไทย ถึงแตกต่างจากบ้านของคนในตะวันตก เพื่อให้นักเรียนพิจารณาหาเหตุผล เสร็จแล้วครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มย่อย ครูกำหนดหัวข้อให้นักเรียน แล้วให้แต่ละกลุ่มเลือกว่าจะทำ หัวข้อใดต่อไปนี้traditional houses, typical houses หรือ unusual houses ในอาเซียน แล้ว ค้นหาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เพื่อนำข้อมูลมาจัดทำเป็นโปสเตอร์ แบบฝึกหัด หน้า 4 Ex.3 และหน้า 6 Ex.9 (ดูเฉลยภาคผนวก C) Culture Clip 1 (Unit 1) หนังสือเรียน หน้า 105-106 กิจกรรมเพิ่มเติม Active Learning สู่สมรรถนะ Active Learning 1. การเรียนรู้ผ่านการคิดข้นัสูง (Thinking Based Learning) 2. การเรียนรู้ผ่านการลงมือท า (Learning by doing) 3. การเรียนรู้จากการท างานร่วมกัน (Cooperative Learning) 5. การสื่อสาร น าเสนอ (Communication and Presentation) 4. การเรียนรู้จากการส ารวจ และค้นหา (Inquiry-Based Learning)


26 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Unit 1b Vocabulary practice 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1: เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมี เหตุผล ตัวชี้วัด 1.ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่างๆ คำชี้แจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟัง และ อ่าน 3. อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ ฟังหรืออ่าน 4. จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก การฟัง และอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดีพร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2: มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 1. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ข่าว/เหตุการณ์ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3: นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัด 1. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่อง และประเด็น ต่างๆ ตามความสนใจของสังคม 2. พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์และสถานการณ์ตามความสนใจ มาตรฐาน ต 2.1: เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 1. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ ตาม มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 2. อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของ เจ้าของภาษา 3. เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 2.2: เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1. อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย


27 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา สุภาษิตและบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 3.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด 1. ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูดและ การเขียน 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทักษะเฉพาะวิชา • Language features and functions Grammar: preposition of places, linkers Vocabulary: คำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน เครื่องใช้ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ งานบ้าน และ ความรู้สึก • Language skills Listening: ฟังเพื่อหาข้อมูลจำเพาะ Speaking: พูดบรรยายห้อง, พูดเกี่ยวกับบ้านของตนเอง, พูดขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับบ้าน ที่จะเช่า, พูดเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของบ้าน 2 หลัง Writing: เขียนโฆษณาเกี่ยวกับบ้าน 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการเปรียบเทียบ 3.2.3 ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.1 มุ่งมั่นในการทำงาน 4. กิจกรรมการเรียนรู้


28 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Dwellings and appliances 1. ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ของ Unit 1b ว่าจะเป็นการฝึกใช้คำศัพท์เกี่ยวกับบ้าน เครื่องใช้ภายในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ งานบ้าน และความรู้สึก 2. นำเข้าสู่บทเรียน โดยครูอธิบายความหมายของชื่อหัวข้อย่อย (Dwellings and appliances) ใน หนังสือ เรียน หน้า 6 ด้วยวิธีการถามคำถามหรือยกตัวอย่างประโยค เช่น A terraced house is a type of dwelling. A fridge and a washing machine are appliances. 3. ครูอธิบายว่าเมื่อเราคิดถึงประเภทของบ้าน (a type of dwelling) เราต้องพิจารณาจากรูปแบบ (style); ทำเลที่ตั้ง (location); ขนาด (size); ราคา (cost) และลักษณะทั่วไป (general description) style = how it is built location = where it is situated size = how big/small it is general description = what it is like cost = how much the rent is/if it is economical to maintain จากนั้นให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.1a อ่านคำศัพท์ในกรอบใต้ Ex.1b คร่าวๆ และหา ความหมายของคำศัพท์ที่ไม่รู้จากพจนานุกรม ต่อมาครูอ่านคำศัพท์ทั้งหมด แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอก ความหมายของคำศัพท์เหล่านี้ ด้วยการยกตัวอย่างประโยคหรือบอกคำจำกัดความ ครูเขียนคำว่า terraced house บนกระดาน และหาภาพมาให้นักเรียนดู จากนั้นครูถามนักเรียนว่า terraced house มีลักษณะใกล้เคียงกับบ้านประเภทใดในประเทศไทย ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน เสร็จ แล้วครูอธิบายว่า terraced house เป็นภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ โดยถ้าเป็นภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (AmE) จะเรียกว่า row house หรือ townhouse ดังนั้น terraced house ก็คือ townhouse ในบ้านเรา นั่นเอง ครูเขียนคำจำกัดความของคำว่า terraced house บนกระดาน ให้นักเรียนอ่านและอธิบายเป็นภาษาไทย terraced house (n) a house that is one of a row of houses that are joined together on each side ต่อมาครูถามนักเรียนว่า Are there detached houses in Thailand? What do we call them in Thai? ครูถามคำถามเช่นเดียวกันนี้กับบ้านประเภทอื่นๆ ได้แก่ semi-detached house, flat/apartment จนได้ คำตอบว่าในประเทศไทยก็มีบ้านเหล่านี้เช่นเดียวกัน โดย detached house เรียกว่า บ้านเดี่ยว, semidetached house เรียกว่า บ้านแฝด, flat/apartment เรียกว่า ห้องชุด หรือเรียกทับศัพท์ได้เลยว่าแฟลต หรืออะพาร์ตเมนต์ กิจกรรมเพิ่มเติม


29 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา คนอังกฤษส่วนใหญ่จะพักอาศัยอยู่ในบ้าน (houses) ซึ่งมักจะเป็นบ้านแบบ terraced houses หรือ semi-detached houses และมักจะมีสวน คนอังกฤษได้ชื่อว่าชอบทำสวนมาก พวกเขาภาคภูมิใจกับ บ้านและสวนของตนเอง โดยเกือบทุกเมืองในประเทศอังกฤษจะมีร้านขายอุปกรณ์การทำสวนที่เรียกว่า garden centre และร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้านด้วยตนเองที่เรียกว่า DIY store หรือ DIY centre ร้านเหล่านี้จะได้รับความนิยมจากคนอังกฤษที่มีบ้านเป็นของตนเองในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ครูอาจเปิดคลิปวิดีโอให้นักเรียนดูลักษณะบ้านของคนอังกฤษได้ที่ www.youtube.com พิมพ์ชื่อคลิป types of houses in Britain หรือเข้าไปที่ https://youtu.be/rL9sutnl9Zc หรือดูสไลด์ได้ที่ http://www.slideshare.net/TatianaVolkova2/types-of-houses-in-england ที่มา: http://resources.woodlands-junior.kent.sch.uk/customs/questions/houses/main/ 4. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.1b นักเรียนจะได้ฟังบุคคล 2 คน สนทนากันเกี่ยวกับบ้าน ของตนเอง จากนั้นครูอธิบายภาระงาน แล้วเปิด CD1/track 2 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟัง 2 ครั้ง ครั้งแรกให้นักเรียนขีดเส้นใต้คำศัพท์ที่บรรยายลักษณะบ้านของ Ann ในบทสนทนา ครั้งที่ 2 ให้ นักเรียนวงกลมรอบคำศัพท์ที่บรรยายลักษณะบ้านของ John เสร็จแล้วครูเปิด CD อีกครั้ง เพื่อให้นักเรียน ฟังและตรวจทานคำตอบของตนเอง Words to be underlined: Ann: traditional, cottage, in the country, small, cheap, comfortable, well-maintained, cold Words to be circled: John: modern, flat, storey building, in the suburbs, spacious, expensive, luxurious, fully furnished 5. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.1c ว่า ให้นักเรียนใช้คำศัพท์ใน Ex.1b บรรยายบ้านของ Ann และ John อีกครั้ง จากนั้นให้นักเรียนใช้คำศัพท์เหล่านี้ในการบรรยายบ้านของตนเอง Suggested answer key: - Ann lives in a traditional cottage in the country. The cottage is small but really cheap. It’s comfortable and well-maintained - John lives in a new, modern flat in the suburbs. It is part of a 3-storey building. The apartment is comfortable, and fully furnished. - I live in a modern flat in the city. It is centrally located and close to the shops. It is a large 3-bedroomed apartment that is comfortable, well maintained and fully furnished.


30 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 6. ให้นักเรียนดูข้อความ A และ B ในหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.2a และบอกว่าจะพบข้อความเหล่านี้ได้ที่ใด (on a website) ครูอ่านโฆษณาให้นักเรียนฟัง และอธิบายคำศัพท์ยาก จากนั้นครูอธิบายภาระงานว่าให้นักเรียนทำงานเป็นคู่และเขียนลักษณะพิเศษของสถานที่แต่ละแห่งในโฆษณา A-B เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน A Inside: 3 bedrooms, large lounge/dining room, fireplace, entrance hall, modern fitted kitchen, attic, central heating, built-in wardrobes Outside: large front garden with shared fence, rear patio, pool B Inside: 2 bedrooms, fully furnished, double glazing, air conditioning, fully equipped kitchen, modern security system Outside: large balcony, modern security system 7. ให้เวลานักเรียน 2 นาที เตรียมคำตอบสำหรับหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.2b จากนั้น ครูสุ่มเรียกนักเรียนหลายๆ คน ให้พูดเกี่ยวกับลักษณะเด่นทั้งภายในและภายนอก บ้านของตนเอง 8. ครูอ่านคำศัพท์เกี่ยวกับเครื่องใช้ภายในบ้าน (household appliances) ที่ให้ไว้ใน หนังสือเรียน หน้า 6 Ex.3a แล้วกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าสิ่งของแต่ละ อย่างมีไว้ใช้เพื่อทำอะไร หรือครูอาจใช้วิธีถามคำถามเพื่อสำรวจว่านักเรียนรู้จักสิ่งของเหล่านี้หรือไม่ ตัวอย่างเช่น - Where can we clean dirty dishes? (In the dishwasher.) - Where can we cook food? (In/On the cooker.) etc. จากนั้นครูให้นักเรียนบอกชื่อห้องต่างๆ ภายในบ้าน (utility room, lounge, etc.) และเขียนคำตอบบน กระดาน แล้วจึงให้นักเรียนตอบคำถามว่าเครื่องใช้ที่กำหนดให้ใน Ex.3a อยู่ในห้องใดของบ้าน เสร็จแล้วครู ตรวจคำตอบของนักเรียน (ในชั้นเรียนที่มีนักเรียนหลายเชื้อชาติ/ภาษา ครูให้นักเรียนเปรียบเทียบคำตอบกัน เพื่อหาเหตุผลว่าทำไมบ้านของตนเองจึงตั้งสิ่งของดังกล่าวไว้ในที่เหล่านั้น) Suggested answer key: vacuum cleaner – utility room; electric heater – bedroom/ lounge; washing machine – kitchen/utility room/bathroom; microwave – kitchen; humidifier – bedroom/lounge; air conditioner – lounge/bedroom; hairdryer – bathroom/bedroom; dishwasher – kitchen; cooker – kitchen


31 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา นักเรียนทำงานคู่ วาดรูปห้องนอน 1 ห้อง คนหนึ่งบรรยายว่ามีอะไรบ้างในห้องนอน อีกคนฟังและวาดรูป สิ่งของต่างๆ ลงในตำแหน่งที่ได้ยิน เสร็จแล้วนักเรียนเปลี่ยนกระดาษคำตอบกันและตรวจดูว่าคู่ของตนเอง วาดรูปได้ถูกต้องตามที่บรรยายหรือไม่ Note: utility room คือห้องอเนกประสงค์ หรือห้องในบ้านที่ใช้สำหรับเก็บเครื่องซักล้างหรืออุปกรณ์ ทำงานบ้านต่างๆ lounge คือ ห้องนั่งเล่น เหมือนกับคำว่า living room และ sitting room แต่คำว่า lounge เป็น British English (ภาษาอังกฤษที่คนอังกฤษใช้) 9. ให้นักเรียนจับคู่คำศัพท์ในหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.3b ภายในเวลา 1 นาที จากนั้นครูเฉลยคำตอบพร้อมกัน แล้วให้นักเรียนแต่งประโยค เพื่อบอกว่านักเรียนมี/ไม่มีเครื่องใช้ใดในบ้านของตนเอง โดยให้ใช้โครงสร้าง ต่อไปนี้ในการแต่งประโยค There is/isn’t/are/aren’t ……….. We have/haven’t got …………. 1. – d 2. – g 3. – e 4. – c 5. – b 6. – f 7. – a There are built-in wardrobes in our house. We haven’t got a security system and a central heating. 10. ให้นักเรียนอ่านบทสนทนาในหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.4a อย่างรวดเร็วและบอกว่าบทสนทนาดังกล่าว เกี่ยวข้องกับอะไร (A person is interested in the house advertised in Ex.2a) จากนั้นให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน ช่วยกันเติมวลีที่ขาดหายไปในบทสนทนา เสร็จแล้วครูเปิด CD1/track 3 (หรือสแกน QR code) เพื่อให้นักเรียนตรวจคำตอบ ครูสุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คู่ ให้ออกมาอ่านบทสนทนา ดังกล่าวที่หน้าชั้น 1. if you could 2. What would you 3. could you tell me 4. When do you think 5. How about 11. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.4b และให้นักเรียนศึกษาโครงสร้างบทสนทนาที่ให้มาใน กรอบ จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันบอกสำนวนวลีที่จะนำมาใช้ในบทสนทนานี้เช่น Greeting: Hello! Hi! etc. ต่อมาให้นักเรียนทำงานคู่ แต่งบทสนทนาระหว่างเจ้าของ/ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์(owner/estate agent) กับลูกค้า (client) เกี่ยวกับการเช่าบ้านที่อยู่ในโฆษณาในหนังสือเรียน หน้า 6 Ex.2a โดยเมื่อนักเรียนแต่งบท or กิจกรรมเพิ่มเติม


32 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา สนทนาเสร็จแล้ว ให้นักเรียนแสดงบทสนทนาดังกล่าว ครูสังเกตขณะนักเรียนทำกิจกรรม แล้วสุ่มเรียก นักเรียน 2-3 คู่ออกมาแสดงที่หน้าชั้น Suggested answer key: Advertisement A A: Hello! B: Good morning. I'm calling about the house advertised for rent in Paddington. A: Oh yes? B: I wonder If you could give me a bit more information, please. A: Of course. What would you like to know? B: First of all, could you tell me exactly where the house is situated? A: Yes, it's on 15, Bayswater Drive. B: And the lounge and dining room - are they separate? A: Yes, but they're joined by a sliding glass door. B: And do all the bedrooms have fitted wardrobes? A: No, only the two largest bedrooms. B: One last question. Is the garage large enough for two cars? A: Oh, definitely. B: It sounds perfect. When do you think I could see it? A: How about 6 o'clock this evening? B: That's fine - see you then. Advertisement B A: Hello! B: Good morning. I wonder if could you give me some more information about the flat in Golders Green. A: Of course, what would you like to know? B: First of all, could you tell me exactly where the flat is situated? A: Yes, it’s on Riverside Park Drive. B: And does it have a separate dining room? A: No, it doesn’t. There is a combined lounge and dining room. B: I see. Do the bedrooms have fitted wardrobes? A: Yes, they do. B: One last question. Does the kitchen have a dishwasher? A: Oh definitely. B: It sounds perfect. When do you think I could see it? A: How about 6 o’clock this evening? B: That’s fine – see you then.


33 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 12. ครูนำเสนอข้อมูลในตารางในหนังสือเรียน หน้า 7 Ex.5a และอธิบายภาระงานว่า ให้นักเรียนแต่งประโยค เกี่ยวกับบ้านแต่ละหลังโดยใช้คำเชื่อมที่กำหนดให้เหมือนดังตัวอย่าง จากนั้นครูอ่านตัวอย่างคำตอบที่ให้มา และกระตุ้นให้นักเรียนสังเกตโครงสร้างประโยคของแต่ละประโยค ครู อธิบายว่าเราใช้ both, as well as, besides และ also เพื่อเชื่อมความคิดที่คล้อยตามกัน ขณะที่เราใช้ although, whereas, but และ however เพื่อเชื่อมความคิดที่ขัดแย้งกัน เมื่อนักเรียนแต่งประโยคเสร็จ แล้ว ครูตรวจสอบว่านักเรียนใช้คำเชื่อมเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่ Suggested answer key: House A has got a pool whereas house B hasn’t got one. Both house A and house B have got a garden. Both house A and house B have got an attic. House A has got a patio although house B hasn’t got one. House B has got a garden, but it doesn’t have a fence. Besides having a balcony, house A has got air conditioning. House B hasn’t got a balcony but it has got air conditioning. Both houses have got a security system. House B has got a cellar but it hasn’t got a fireplace. House A has got a fireplace. However, it hasn’t got a cellar or built-in wardrobes. Both houses have central heating. Whereas house A has a fitted kitchen, house B hasn’t got one. House A has a pool and a garage. Also, it has a garden. As well as having air conditioning and a security system, house B has also got central heating. Although house B hasn’t got a fireplace, it has got central heating. 13. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 7 Ex.5b ว่า ให้นักเรียนเขียนโฆษณาบ้านรูป A และ B ใน Ex.5a โดยก่อนทำ ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกคำศัพท์และข้อมูลที่จำเป็นที่ต้องระบุไว้ในโฆษณา เช่น บ้านสำหรับเช่า หรือขาย ชนิดของบ้าน ราคา ลักษณะพิเศษ และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับติดต่อ จากนั้นครูให้นักเรียน ช่วยกันเขียนโฆษณาปากเปล่าร่วมกันในชั้นเรียน แล้วจึงให้นักเรียนไปเขียนโฆษณาเป็นการบ้าน


34 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: A For Sale London. Large detached house with garden, patio, balcony and pool. Fitted kitchen with central heating and latest security system. Fully airconditioned with a fireplace. Private driveway and large garage. Attic suitable for conversion. Close to shops and public transport. Contact Bryson Properties: Tel. 020 8253 6149. B For Rent Large detached house with central heating, air conditioning and modern security system. All bedrooms with built-in wardrobes. Large attic. Front garden with private driveway and large garage. Available for long lease. Full details at AJ Estate Agents: Tel.020 8942 6851. Household chores 1. ให้นักเรียนบอกความหมายของคำว่า household chores โดยครูช่วยยกตัวอย่างประโยค (Washing the dishes is a household chore.) แล้วให้นักเรียนทำงานคู่ จับคู่คำกริยากับคำนามในหนังสือเรียน หน้า 7 Ex.6a เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน ต่อมาให้นักเรียนช่วยกันบอกคำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ (sometimes, often, always, etc) ครูเขียน คำตอบที่นักเรียนบอกบนกระดาน จากนั้นครูเขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน He is late for work. He works late. ครูให้นักเรียนเติมคำว่า always ในประโยคทั้งสองให้ถูกต้อง เสร็จแล้วช่วยกันสรุปตำแหน่งของ adverbs of frequency ซึ่งก็คือ วางอยู่หน้ากริยาหลัก (He always works late.) แต่หลังกริยาช่วย (He is always late for work.) จากนั้นให้นักเรียนแต่งประโยคเพื่อตอบคำถามที่กำหนดให้ - งานบ้านชนิดใดที่นักเรียนทำ - ทำบ่อยแค่ไหน - งานบ้านชนิดใดที่นักเรียนชอบ/ไม่รังเกียจที่จะทำ/เกลียด 1. – d 2. – h 3. – a 4. – c 5. – b 6. – e 7. – f 8. – g (Students’ own answers) I always make my bed before I leave home for work. I hate dusting the furniture. etc 2. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 7 Ex.6b โดยพิจารณาคำกริยาใน Ex.6a อีกครั้ง เพื่อหาว่า คำกริยาใดที่สามารถเปลี่ยนให้อยู่ในรูป do+ -ing ได้ ครูยกตัวอย่างให้นักเรียนดูบนกระดาน เช่น iron do the ironing cook do the cooking shop do the shopping


35 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูตรวจคำตอบ แล้วให้นักเรียนทำงานคู่ ช่วยกันแต่งประโยคเกี่ยวกับครอบครัวของตนเอง โดยใช้วลีที่อยู่ใน รูป do+-ing Suggested answer key: do the ironing do the washing up do the dusting do the vacuuming do the cleaning Dad never does the washing up. On Mondays it’s my turn to do the dusting. My sister usually does the vacuuming. My mum does most of the cleaning. เลือกนักเรียน 1 คน ออกมาแสดงท่าทางใบ้คำ โดยใช้วลีจาก Ex.6a นักเรียนปิดหนังสือเรียน แล้วพยายาม เดาว่าเพื่อนที่ออกมาแสดงท่าทางนั้นทำกิจกรรมอะไร นักเรียนที่ตอบถูกจะเป็นผู้ออกมาแสดงท่าทางแทน เพื่อน 3. ให้นักเรียนดูตารางในหนังสือเรียน หน้า 7 Ex.7a แล้วนำเสนอคำศัพท์ใหม่ที่อยู่ในตารางด้วยการ ยกตัวอย่างประโยค หรือแสดงท่าทางใบ้คำ ฯลฯ หรือให้นักเรียนค้นหาความหมายจากพจนานุกรม ครูอธิบายว่านักเรียนจะได้ฟังคนพูดเกี่ยวกับสีของห้องว่าทำให้เรารู้สึกอย่างไร จากนั้นเปิด CD1/track 4 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟัง และให้นักเรียนวงกลมล้อมรอบคำตอบ โดยนักเรียนสามารถวงกลม ได้มากกว่า 1 คำตอบในแต่ละสีเสร็จแล้วจึงตรวจคำตอบร่วมกัน Red = active, excited Orange = talkative, adventurous Yellow = cheerful, impatient Blue = calm, confident, peaceful Green = relaxed, refreshed White = isolated, withdrawn 4. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 7 Ex.7b ว่า นักเรียนจะได้ฟัง CD1/track 4 (หรือสแกน QR code) อีกครั้ง เพื่อหาคำตอบว่าควรจะใช้สีอะไรทาห้องต่างๆ ต่อไปนี้ a dining room, a child’s bedroom, a play area, a living room, a classroom และทำไมจึงควรใช้สีเหล่านั้น กิจกรรมเพิ่มเติม


36 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: I would paint a child’s bedroom green because it makes people feel relaxed. I would paint a play area red because it makes people feel active. I would paint a living room yellow because it makes people feel happy. I would paint a classroom blue because it makes people feel confident. 5. ครูอ่านคำศัพท์เกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 7 Ex.8 และตรวจสอบว่านักเรียนเข้าใจ ความหมายของคำศัพท์เหล่านี้ ด้วยการให้นักเรียนชี้สิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในภาพตามที่ครูบอก จากนั้นครู ทบทวนเกี่ยวกับคำบุพบทบอกสถานที่ (prepositions of place) ด้วยการยืน ณ จุดหนึ่งในชั้นเรียน แล้วพูด ถามและบอกตำแหน่งของตนเอง และบุคคลที่อยู่ใกล้ๆ ดังนี้ T: Do you see me? I’m next to George. Tim is behind George. Bill is in front of George. etc. ครูอาจให้นักเรียนจับคู่ถาม-ตอบเกี่ยวกับตำแหน่งของนักเรียนคนอื่นๆ ในชั้นเรียน เพื่อฝึกการใช้คำบุพบท บอกสถานที่ เสร็จแล้วครูมอบหมายให้นักเรียนเขียนประโยคบรรยายรูปภาพใน Ex.8 โดยใช้คำศัพท์เกี่ยวกับ เฟอร์นิเจอร์และคำบุพบทที่กำหนดให้ Suggested answer key: There are two lamps on either side of the sofa. There is a window behind the sofa. The glass coffee table is opposite the fireplace. There are some cushions on the sofa. There is a painting above the fireplace. There is a plant next to the mirror. There is an armchair next to the fireplace. There is a rug in the middle of the room. เสร็จแล้วครูถามนักเรียนว่าในภาษาไทยมีprepositions หรือไม่ เรียกว่าอะไร และให้นักเรียนช่วยกันบอกคำ บุพบทในภาษาไทย พร้อมทั้งยกตัวอย่างประโยค เช่น เขานอนบนโซฟา ผมขอลงตรงสะพานลอย พ่อตัด ต้นไม้หลายต้นในสวน ให้นักเรียนจับคู่กัน คนหนึ่งวาดรูปห้องนั่งเล่น เสร็จแล้วให้นักเรียนในแต่ละคู่ ผลัดกันบอกตำแหน่งที่จะวาง เฟอร์นิเจอร์ (sofa, armchair, coffee table, lamp, cushions, etc.) ลงในห้องนั่งเล่นดังกล่าว เช่น SA: Draw a coffee table in the middle of the room. SB: Now you draw an armchair next to the coffee table. etc. กิจกรรมเพิ่มเติม


37 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูแนะนำคลิปวิดีโอเพื่อฝึกฝนภาษาอังกฤษนอกห้องเรียนให้กับนักเรียน โดยอาจใช้ห้องคอมพิวเตอร์ของ โรงเรียน คอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือโทรศัพท์มือถือของตนเองก็ได้ครูอธิบายว่าคลิปวิดีโอนี้เป็นการพูดบรรยาย บ้านของผู้หญิงคนหนึ่ง โดยเมื่อฟังจบแล้วจะมีแบบฝึกหัดให้ทำหลังการฟังด้วย เพื่อทดสอบความเข้าใจของ นักเรียน จากนั้นครูเขียนเว็บไซต์ให้นักเรียนบนกระดาน http://esol.britishcouncil.org/content/learners/skills/speaking/talk-about-your-house ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อนักเรียนทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้ว อยากจะฟังเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบคำตอบของ ตนเอง สามารถเลือกกดดู tapescript ของคลิปวิดีโอนี้ได้ ซึ่งนอกจากช่วยให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้นแล้ว นักเรียนสามารถฝึกอ่านออกเสียงตามคลิปวิดีโอได้ด้วย แบบฝึกหัด หน้า 4 Exs. 1-2 หน้า 5 Exs. 4-5, 7 และหน้า 7 Exs. 10-11 (ดูเฉลยภาคผนวก C) Unit 1c Grammar in use 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1: เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 3. อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่ อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และ ข้อความที่ฟังหรืออ่าน มาตรฐาน ต 1.2: มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 1. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ข่าว/เหตุการณ์ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3: นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัด 1. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่อง และประเด็น ต่างๆ ตามความสนใจของสังคม มาตรฐาน ต 2.1: เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ กิจกรรมเพิ่มเติม


38 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ตัวชี้วัด 1. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ ตาม มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 2. อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของ เจ้าของภาษา 3. เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 2.2: เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1. อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิตและบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย 2. วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 3.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด 1. ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูดและ การเขียน มาตรฐาน ต 4.2: ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด 2. เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทักษะเฉพาะวิชา • Language features Grammar: present tenses, stative verbs, adverbs of frequency, prepositions of place Vocabulary: phrasal verbs (break, bring) 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3.2.3 ทักษะกระบวนการคิดสร้างสรรค์ 3.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์


39 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 4.1 มุ่งมั่นในการทำงาน 5. กิจกรรมการเรียนรู้ Present tenses 1. ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ของ Unit 1c ว่านักเรียนจะได้ฝึกใช้ present tenses, stative verbs, adverbs of frequency และ phrasal verbs (break, bring) 2. ครูให้นักเรียนดูคำศัพท์ที่พิมพ์ตัวหนาในหนังสือเรียน หน้า 8 Ex.1 แล้วพิจารณาว่าคำศัพท์ดังกล่าวอยู่ใน tense ใด แล้วจับคู่กับการใช้ (a-h) โดยครูและนักเรียนศึกษาตัวอย่างคำตอบที่ให้มาในข้อ 1 ร่วมกัน แล้ว ช่วยกันทำข้อที่ 2 เพื่อเป็นตัวอย่าง จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันทำข้อที่เหลือ เสร็จแล้วจึงเฉลยคำตอบ 1. present simple (b) 5. present continuous (c) 2. present simple (g) 6. present perfect continuous (a) 3. present continuous (d) 7. present continuous (f) 4. present perfect (e) 8. present continuous (h) ครูถามนักเรียนว่าในภาษาไทย มี tenses เหมือนอย่างในภาษาอังกฤษหรือไม่ จากนั้นครูถามนักเรียนว่าแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราพูดถึงเหตุการณ์ในอดีต หรืออนาคตในภาษาไทย ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียน เสร็จแล้วครูอธิบายให้นักเรียนฟัง คำช่วยกริยา หรือกริยานุเคราะห์ในภาษาไทย คือ คำที่ไม่ใช่คำกริยาและไม่ปรากฏตามลำพัง แต่จะปรากฏร่วมกับคำกริยาและอยู่ข้างหน้าคำกริยาเสมอ เพื่อบอกความหมายทางไวยากรณ์ของกริยา ได้แก่ แสดงความหมายบอกกาลว่าเป็นอดีตหรืออนาคต เช่น หมอได้ผ่าเอาเนื้อร้ายออกหมดแล้ว ฉันจะไปหาเขาพรุ่งนี้ แสดงความหมายว่าเกิดเหตุการณ์อยู่ในขณะใดขณะหนึ่ง เกิดเหตุการณ์เป็นประจำ หรือเหตุการณ์เพิ่งสิ้นสุดไป เช่น ผมกำลังอาบน้ำอยู่ เลยรับโทรศัพท์ไม่ได้ นาฬิกาเพิ่งตาย เขามักออกไปวิ่งที่สวนสาธารณะทุกเย็น ที่มา: วิจินตน์ ภาณะพงศ์ และคณะ (2552) หนังสืออุเทศภาษาไทย ชุด บรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม 3: ชนิด ของคำ วลี ประโยคและสัมพันธสาร. กรุงเทพฯ: สถาบันภาษาไทย กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 41 กิจกรรมเพิ่มเติม


40 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 3. ครูอ่านคำอธิบายการใช้stative verbs ในกรอบที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 8 จากนั้นให้นักเรียนแต่ง ประโยคโดยใช้คำกริยาที่พิมพ์ตัวหนา ครูอาจให้นักเรียนศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมจาก Grammar reference ในหนังสือเรียน หน้า 122 Stative verb (คำกริยาที่แสดงสภาวะ ไม่ใช่การกระทำ) โดยปกติแล้ว เราไม่สามารถใช้คำกริยาต่อไปนี้ believe, forget, hate, know, like, love, need, prefer, realise, remember, suppose, understand, want, appear ในรูปของ continuous tenses ได้ เช่น I believe you. ไม่ใช่ I’m believing you. คำกริยา think, taste, see, look, smell, feel และ have สามารถทำให้อยู่ในรูป continuous tenses ได้แต่ความหมายจะเปลี่ยนแปลงไป เช่น I think he is desperate. (= I believe ฉันเชื่อ) แต่ I’m thinking about moving house (= I’m considering ฉันกำลังพิจารณา) ต่อมาครูให้เวลานักเรียน 2 นาที ทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 8 Ex.2 โดยเปลี่ยนคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ ในรูป tense ที่ถูกต้อง เสร็จแล้วตรวจคำตอบพร้อมกันบนกระดาน พร้อมทั้งให้นักเรียนช่วยกันอธิบายว่า ทำไมแต่ละข้อจึงตอบเช่นนั้น 1. is moving (fixed arrangement in the future) 2. has evicted (result/consequence of a past activity in the present) 3. Have you been waiting (action which started in the past and continues up to the present with emphasis on duration) 4. are converting (action happening around the time of speaking) 5. freezes (law of nature) 6. arrives (timetable) 7. Are you signing (fixed arrangement in the future) 8. is becoming (gradual development) 9. comes (timetable) 10. are still searching (action happening around the time of speaking) 4. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 8 Ex.3 และให้เวลานักเรียนเปลี่ยนคำในวงเล็บที่ให้มาใน แต่ ละข้อ ให้อยู่ในรูป tense ที่ถูกต้อง เสร็จแล้วสุ่มเรียกให้นักเรียนอ่านคำตอบ โดยครูเขียนคำตอบ ที่ถูกต้อง บนกระดาน 1. Is Jane still thinking, think 2. is tasting, tastes 3. are you smelling, smells


41 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูนำเสนอสำนวนสุภาษิตเกี่ยวกับคำว่า home โดยครูอาจทบทวนสำนวนที่ครูได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ an Englishman’s home is his castle และให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมาย จากนั้นครูเขียนสำนวนต่อไปนี้บนกระดาน Home sweet home Home is where the heart is. แล้วให้นักเรียนลองพยายามเดาความหมายด้วยตนเอง เสร็จแล้วครูบอกความหมายของสำนวนเหล่านี้ให้ นักเรียนฟัง Home sweet home = used to say how nice it is to be in your own home Home is where the heart is. = a home is where the people you love are สุดท้ายให้นักเรียนช่วยกันคิดว่าในภาษาไทยมีสำนวนสุภาษิตคล้ายคลึงกับสำนวนเหล่านี้หรือไม่ ในกรณีที่ไม่มี ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกสำนวนสุภาษิตไทยที่เกี่ยวข้องกับคำว่าบ้าน และความหมายของสำนวนเหล่านี้ 5. ครูและนักเรียนศึกษาข้อมูลที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 8 Ex.4 ร่วมกัน นักเรียนอ่านประโยคตัวอย่างที่ให้ มาตามครูครูชี้ให้นักเรียนเห็นว่านักเรียนสามารถใช้โครงสร้างประโยคทั้ง 3 แบบ (have, there is, you can find) ในการแต่งประโยค จากนั้นให้นักเรียนแต่งประโยคเกี่ยวกับบ้านของคนอังกฤษ โดยใช้adverbs of frequency ที่กำหนดให้ Suggested answer key: British homes usually have a garden on a yard. There is often a garage in British homes. You can sometimes find a cellar or a basement in British homes. British homes rarely have a swimming pool. There is never a storm cellar in British homes. ให้นักเรียนทำแผนผังเหมือนใน Ex.4 เกี่ยวกับบ้านของคนไทยเป็นการบ้าน แล้วให้นักเรียนออกมานำเสนอใน คาบเรียนถัดไป หรือในอีกทางเลือกหนึ่ง ครูอาจเขียนแผนผังบนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันระดมสมอง บอกลักษณะบ้านของไทยว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเติมข้อมูลลงในแผนผังให้สมบูรณ์ จากนั้นให้นักเรียนลอกแผนผัง ดังกล่าวลงในสมุด และพูดอภิปรายเกี่ยวกับลักษณะบ้านของไทย โดยใช้ข้อมูลจากในแผนผังดังกล่าว 6. ครูให้นักเรียนช่วยกันบอกกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำในเวลาว่าง (read a book, watch a TV, gardening, ride a bike, meet friends, surf the Internet, go to the cinema, play games/sports, etc.) ครูเขียน คำตอบของนักเรียนบนกระดาน กิจกรรมเพิ่มเติม กิจกรรมเพิ่มเติม


42 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา จากนั้นครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 8 Ex.5 แล้วแสดงบทบาทสมมติกับนักเรียน 1 คน แล้วจึง ให้นักเรียนจับคู่กันถาม-ตอบตามประเด็นที่ให้ไว้ครูสังเกตขณะนักเรียนทำกิจกรรมและ สุ่มเรียกนักเรียน 2-3 คู่ออกมาแสดงบทสนทนาที่หน้าชั้น Suggested answer key: A: What do you usually do in your free time? B: Well, I usually go to the cinema. Sometimes, I surf the Internet. What about you? A: I don’t like the cinema so I usually watch TV or play games. B: What are you doing this weekend? A: I’m visiting my aunt. She lives in the countryside. How about you? B: I’m going to a party. A: That’s nice. What have you done so far today? B: Well, I’ve made my bed, I’ve had breakfast and I’ve played football. What about you? A: I’ve fixed my bike and I’ve taken my little sister to her friend’s house. ในชั้นเรียนเด็กเก่ง ครูถามคำถามนักเรียนว่า How much have you changed since you were thirteen years old? (ตั้งแต่อายุ 13 ขวบ นักเรียนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง รูปร่าง เป็น ต้น) ครูเขียนตัวอย่างคำตอบให้นักเรียนบนกระดาน 1 ประโยค เช่น I’ve grown my hair long. จากนั้นครู ให้เวลานักเรียน 2 นาทีเตรียมคำตอบ เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนให้อ่านประโยคที่แต่งให้เพื่อนฟัง เช่น I’m a lot taller. I’ve put on weight. I’ve dyed my hair. etc. 7. ครูอ่านวลีที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 8 Ex.6 และเลือกนักเรียน 2 คน ให้อ่านบทสนทนาที่ให้มาเป็น ตัวอย่าง จากนั้นครูให้นักเรียนช่วยกันอธิบายความหมายของวลีที่กำหนดให้โดยครูให้ความช่วยเหลือในเรื่อง คำศัพท์ยาก เช่น power cut (n) = a period of time when there is no electricity supply [= power failure; power outage] เมื่อนักเรียนเข้าใจคำศัพท์แล้ว ครูให้นักเรียนจับคู่และแสดงบทสนทนาคล้ายๆ กับตัวอย่างที่ให้มา ครูสังเกต ขณะนักเรียนทำกิจกรรม และสุ่มเลือกนักเรียน 2-3 คู่ออกมาแสดงบทสนทนาที่หน้าชั้น กิจกรรมเพิ่มเติม


43 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: A: Have you ever slept outdoors? B: No, I haven’t. Have you ever visited a castle? A: Yes, I have. B: Really? When was that? A: Two years ago. Have you ever been in a tree house? B: No, I haven't. Have you ever stayed at a campsite? A: No, I haven’t. Have you ever redecorated your own bedroom? B: Yes, I have. A: Really? When was that? B: Last summer. Have you ever stayed in a house with its own swimming pool? A: No, I haven't. Have you ever had a power cut at your home? B: Yes, I have. A: Really? When was that? B: A week ago. Have you ever moved house? A: Yes, I have. B: Really? When was that? A: Two years ago. 8. ครูอธิบายภาระงานและอ่านบท (prompts) ที่กำหนดให้ในหนังสือเรียน หน้า 9 Ex.7 จากนั้นเลือกนักเรียน 2 คน ให้อ่านบทสนทนาที่ให้มาเป็นตัวอย่าง ครูศึกษาบทที่ให้มาในข้อ 2 และ 3 ร่วมกับนักเรียน เพื่อตรวจสอบว่ามีคำศัพท์ใดที่นักเรียนไม่เข้าใจ จากนั้น ให้นักเรียนจับคู่แสดงบทสนทนาเหมือนดังตัวอย่าง ครูสังเกตขณะนักเรียนทำกิจกรรม และสุ่มเลือกนักเรียน 2-3 คู่ออกมาพูดบทสนทนาหน้าชั้น 2. A: You look tired. What have you been doing? B: I’ve been doing my homework. A: What have you done? B: Well, I’ve finished my maths and written a composition, but I haven’t studied for the test yet. 3. A: You look excited. What have you been doing? B: I’ve been organising a party. A: What have you done? B: Well, I’ve sent out the invitations and booked the caterers, but I haven’t booked the band yet.


44 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 9. ให้นักเรียนช่วยกันบอกวิธีการใช้กริยาวิเศษณ์บอกเวลาที่กำหนดให้ในหนังสือเรียน หน้า 9 Ex.8 โดยใช้ คำถามต่อไปนี้ - Which time adverbs do we use with the present perfect? yet, already, for, since - What sentence structure do we use with yet? We use yet in the negative and interrogative of the present perfect. e.g. I haven’t cooked yet. Have you cooked yet? - What sentence structure do we use with already? We use already in the affirmative of the present perfect. e.g. I have already cooked. etc. หรือในอีกทางเลือกหนึ่งครูบอกบทให้นักเรียน เช่น - Mary/go finishing - Ann/send out invitations - Tony/buy a car etc. และให้นักเรียนแต่งประโยค โดยใช้กริยาวิเศษณ์บอกเวลาจาก Ex.8 เมื่อแน่ใจว่านักเรียนเข้าใจวิธีการใช้กริยาวิเศษณ์และโครงสร้างประโยคแล้ว ครูให้นักเรียนแต่งประโยค เกี่ยวกับตัวเอง Suggested answer key: I haven’t done the shopping yet. I am doing my homework at the moment. I am still working on my science project. I wake up early every day. I have already read this morning’s paper. I am sitting at my desk now. I haven’t seen my cousin John for 3 years. I am seeing Jeff next Saturday. I haven’t seen my friend Mary since March. 10. ครูเขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน (1) I have cleaned the house. (2) I have been cleaning the house since 10 o’clock. และถามนักเรียนว่า - Which sentence gives emphasis to the duration of the action? (2) - Which sentence is about a finished action? (1) จากนั้นครูและนักเรียนศึกษาตัวอย่างคำตอบที่ให้มาในข้อ 1 ในหนังสือเรียน หน้า 9 Ex.9 ร่วมกัน ครูขอ อาสาสมัคร 1 คน ให้ทำข้อที่ 2 แล้วให้เพื่อนๆ ในชั้นช่วยกันพิจารณาว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าผิด ให้ช่วยกัน แก้ไขให้ถูกต้อง ต่อมาครูอ่านโจทย์ข้อที่เหลือ เพื่อตรวจสอบว่ามีคำศัพท์ใดที่นักเรียนไม่รู้ความหมายบ้าง แล้ว จึงให้เวลานักเรียน 2 นาที ในการทำแบบฝึกหัดข้อที่เหลือ ครูสุ่มเรียกนักเรียนหลายๆ คน ให้อ่านคำตอบของ ตนเอง เพื่อเป็นการตรวจคำตอบ


45 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ในอีกทางเลือกหนึ่งครูทำ Ex.9 ร่วมกับนักเรียนปากเปล่าในชั้นเรียน แล้วจึงมอบหมายให้นักเรียนไปเขียน เป็นการบ้าน 2. He has been sitting in the sun all morning. 3. I have been watching TV for hours. 4. He has studied hard. 5. He has been on a diet. 6. She has bought a new house. 11. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 9 Ex.10 และให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันเลือกวงกลมคำตอบที่ถูกต้อง เพื่อทำให้ประโยคสมบูรณ์ โดยให้เวลาในการทำ 2 นาทีเสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน และให้นักเรียน ช่วยกันอธิบายเหตุผลว่าทำไมแต่ละข้อจึงตอบเช่นนั้น 1. b (fixed future arrangement thus present continuous) 2. d (timetable thus present simple) 3. a (action which started in the past and continues up to the present with emphasis on duration thus present perfect continuous) 4. b (result/consequence of a past activity in the present thus present perfect) 5. a (action which started in the past and continues up to the present with emphasis on duration thus present perfect continuous) Prepositions 1. ครูและนักเรียนศึกษาคำศัพท์ช่อง A และ B ใน Appendix 1 (Verbs, Adjectives, Nouns with Prepositions) ในหนังสือเรียน หน้า 138 ร่วมกัน จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 9 Ex.11โดยเติม prepositions ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง เสร็จแล้วตรวจคำตอบของนักเรียน และให้นักเรียน ช่วยกันอธิบายความหมายของวลีที่พิมพ์ตัวหนาในแบบฝึกหัด โดยการยกตัวอย่าง หรือบอกคำที่มีความหมาย เหมือนกัน ครูแนะนำให้นักเรียนจดจำวลีเหล่านี้


46 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 1. from 2. to 3. of 4. on 5. to …. for 6. to … for 7. of 8. for 9. in 10. with absent from: not present accustomed to: adapt to accused of: say that you think someone is guilty of sth agree on: decide to do sth with sb apologise to sb for sth: tell sb that you are sorry for doing sth wrong apply to sth for: request for a place in a university approve of: accept a plan or proposal beg for: ask for help or for sth you need believe in: be sure that sth exists busy with: have a lot of things to do ให้นักเรียนเล่นเกม Chain story ซึ่งวิธีการเล่นก็คือ ให้นักเรียนดูภาพที่กำหนดให้ แล้วช่วยกันแต่งเรื่องต่อๆ กัน คนละ1 ประโยค จากต้นเรื่องที่กำหนดให้ โดยใช้วลีที่พิมพ์ตัวหนาใน Ex.11 ครูให้ความช่วยเหลือในกรณี ที่จำเป็น John Smith worked as an office manager. He was very good at his job, but unfortunately he wasn’t able to go to work because he was very ill. He was absent from work for three weeks. หรือถ้ากิจกรรมนี้ยากเกินไปสำหรับนักเรียน ครูเขียนข้อความต่อไปนี้บนกระดาน โดยเว้นช่องว่าง ไว้ให้นักเรียนเติม โดยใช้วลีที่พิมพ์ตัวหนาจาก Ex.11 กิจกรรมเพิ่มเติม


47 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา His boss could not get 1) ……………… John being away. He was very angry and called John every day to ask him when he was coming back. When John finally came back to work, he 2) ……… him ……….. pretending to be ill and he fired him. John tried to get his boss to 3) ……………… a compromise, but it was no use. John 4) ……………… his boss for his long absence, but he wouldn’t even listen to him. After that, John 5) ……………… many other companies for a job as an office manager. Unfortunately, most companies don’t 6) ……………… people who have been fired, so it was very difficult. John even called his boss to 7) ………… him …………… his job back, but he was not successful. Luckily, his wife did not stop 8) ……………… him. She encouraged him to keep trying. One day, John was 9) ……………… his job applications when the telephone rang. He was offered a fantastic job as an office manager at a large international company. His wife had been right all along. 1. accustomed to 2. accused… of 3. agree on 4. apologised to 5. applied to 6. approve of 7. beg …. for 8. believing in 9. busy with 2. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 10 Ex.12 โดยเติม prepositions ลงในช่องว่าง เพื่อให้เป็นวลีที่ ถูกต้อง ครูอธิบายว่าวลีเหล่านี้มาจากบทอ่านในหนังสือเรียน หน้า 4-5 จากนั้นครูและนักเรียนศึกษาตัวอย่าง คำตอบในข้อ 1 ร่วมกัน เสร็จแล้วให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันทำข้อที่เหลือให้เสร็จ ครูตรวจคำตอบของนักเรียน แล้วให้นักเรียนเลือกวลีใน Ex.12 มา 5 วลีเพื่อแต่งประโยค ในอีกทางเลือกหนึ่งครูอาจให้นักเรียนทำ Ex.12 ปากเปล่า แล้วกลับไปเขียนเป็นการบ้าน 1. out of 2. from 3. in 4. from 5. in 6. to 7. in 8. of 9. to 10. of 11. of 12. for 13. from 14. of - out of the ordinary: His behaviour was nothing out of the ordinary. - from scratch: I learned German from scratch in six months. - in the countryside: We grew up in the countryside, surrounded by the beauties of nature. - to appeal to somebody: This book will appeal to young readers.


Click to View FlipBook Version