The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ann milaela, 2023-06-06 05:27:11

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ม6

ครูพีระ

98 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 9. ครูและนักเรียนศึกษาตัวอย่างวิธีการใช้ used to/would ในกรอบที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 19 Ex.5a ร่วมกัน จากนั้นครูเขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน a) I used to wake up early when I was five. b) I used to live in a cottage when I was five. ครูถามนักเรียนว่าระหว่างประโยค a และ b ประโยคใดที่สามารถใช้ would แทนที่ used to ได้ (sentence a) จากนั้นอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนฟังว่า ทั้ง used to และ would สามารถใช้พูดเกี่ยวกับ การกระทำที่เป็นนิสัยในอดีต (habitual actions in the past) ได้ แต่ถ้าเป็นสภาพหรือสถานการณ์ในอดีต (past state) จะใช้ would ไม่ได้ ต่อมาครูให้นักเรียนทำ Ex.5a โดยขีด ท้ายประโยคที่สามารถใช้ would แทน used to ได้ เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน 1. I used to come here when I was young. ✓ 4. Caroline used to play tennis every week when she was a child. ✓ 5. When they were younger, they used to go for long walks in the countryside. ✓ 6. Grandma used to make porridge for breakfast. ✓ 10. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 19 Ex.5b และอ่านข้อมูลที่ให้มา พร้อมทั้งอธิบายคำศัพท์ยากที่ นักเรียนไม่รู้ จากนั้นครูเปิด CD1/track 16 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟัง และให้นักเรียนขีด หน้ากิจกรรมที่ Sam และ Sarah เคยทำเมื่อตอนเป็นเด็ก และกา หน้ากิจกรรมที่พวกเขาไม่เคยทำ play with computers lock their doors have their own private phones do lots of chores play outdoors have early nights play with their friends in the street wear a uniform to school go fishing go to school six days a week go swimming in the river visit their grandparents in the school holidays


99 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: Sam and Sarah didn’t use to have their own private phones. Sam and Sarah used to play outdoors. Sam and Sarah used to play with their friends in the street. Sam and Sarah used to go fishing. Sam and Sarah didn’t use to go swimming in the river. Sam and Sarah didn’t use to lock their doors. Sam and Sarah used to do lots of chores. Sam and Sarah used to have early nights. Sam and Sarah used to wear a uniform to school. Sam and Sarah didn’t use to go to school six days a week. Sam and Sarah used to visit their grandparents in the school holidays. ให้นักเรียนถามคำถามซึ่งกันและกันเกี่ยวกับสิ่งที่เคยทำเมื่อตอนเป็นเด็ก โดยนักเรียนสามารถใช้วลีใน แบบฝึกหัด หรือใช้ความคิดของตนเองก็ได้ e.g. SA: Did you play in the street? SB: No, I didn’t. Did you use to walk to school? SA: Yes, I did. I used to walk to school every day. 11. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 19 Ex.5c โดยพูดถึงสิ่งที่ตนเองเคยทำเมื่อตอนเป็นเด็ก Suggested answer key: I used to play basketball in the street when I was a child. I used to go to bed early. etc. 12. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 19 Ex.6a และให้นักเรียนอ่านประโยค a และ b ที่ให้มา เพื่อ ระบุว่าประโยคใดกล่าวถึงอดีต a. They met ten years ago. 13. ให้นักเรียนทำกิจกรรมขั้นก่อนการอ่าน โดยดูภาพและอ่านเนื้อเรื่องประโยคแรกในบทอ่านใน หนังสือเรียน หน้า 19 Ex.6b แล้วตอบคำถามต่อไปนี้ - Who is this? (Alex Morton) - What does he do? (He’s a writer.) กิจกรรมเพิ่มเติม


100 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา - What is he doing now? (He’s reading.) etc. จากนั้นให้เวลานักเรียน 3 นาที เติมคำในบทอ่าน โดยเปลี่ยนคำกริยาในวงเล็บให้อยู่ในรูป past simple หรือ present perfect เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบ โดยให้นักเรียนอ่านบทอ่านที่เติมคำสมบูรณ์แล้ว 1. has led 2. showed 3. gave 4. left 5. wrote 6. found 7. has always been 8. has written 9. has been 10.won 11. has continued 12. have been made เสร็จแล้วครูให้นักเรียนทำกิจกรรมขั้นหลังการอ่าน ด้วยการให้นักเรียนช่วยกันคิดชื่อเรื่องที่เหมาะสมกับบท อ่าน ครูให้ชื่อเรื่องทุกชื่อที่นักเรียนคิดถูกต้องหมดทุกชื่อ เพียงแต่ให้นักเรียนหาเหตุผลมาอธิบายประกอบได้ ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ‘International Book Award’ ที่ปรากฏอยู่ในบทอ่านว่า เป็นรางวัลทาง วรรณกรรมสำหรับนักเขียนนวนิยาย ซึ่งเป็นรางวัลทางด้านวรรณกรรมที่สำคัญที่สุดของอังกฤษ ให้นักเรียนค้นคว้าหารางวัลทางด้านวรรณกรรมอื่นๆ และนำเสนอหน้าชั้น หรือครูถามนักเรียนว่าในประเทศ ไทยมีรางวัลทางด้านวรรณกรรมหรือไม่ ถ้ามี ให้นักเรียนหาชื่อผู้ที่เคยได้รับรางวัล และชื่อหนังสือมา 5 ตัวอย่าง เสร็จแล้วให้นำเสนอที่หน้าชั้นในคาบเรียนถัดไป กิจกรรมเพิ่มเติม Active Learning สู่สมรรถนะ Active Learning 1. การเรียนรู้ผ่านการคิดข้นัสูง (Thinking Based Learning) 2. การเรียนรู้ผ่านการลงมือท า (Learning by doing) 3. การเรียนรู้จากการท างานร่วมกัน (Cooperative Learning) 5. การสื่อสาร น าเสนอ (Communication and Presentation) 4. การเรียนรู้จากการส ารวจ และค้นหา (Inquiry-Based Learning)


101 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 14. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 19 Ex.6c โดยพูดเกี่ยวกับญาติที่มีอายุมากกว่าของตนเองหนึ่ง คนตามประเด็นที่ให้มา โดยก่อนทำกิจกรรม ครูเขียนหัวข้อที่ให้มาบนกระดาน และให้นักเรียนทั้งชั้นช่วยกัน บอกวลีที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อเหล่านี้ แล้วให้นักเรียนจดบันทึกลงในสมุด Suggested phrases: childhood: was born, moved house, lived in, played in, etc. education: started school, left school, entered university, studied (maths), graduated from, etc. work: joined (the police), applied for (a post as), looked for a job, found a position as, got promoted, etc. family: got engaged/married to, started a family, had children, etc. achievements: a successful career, a happy family, win a prize/award, etc. later years: retired, travelled a lot, took up gardening, etc. ครูให้นักเรียนอ่านตัวอย่างที่ให้มา และให้เวลานักเรียนเตรียมบทพูดของตนเอง เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน หลายๆ คน ให้ออกมาพูดนำเสนอที่หน้าชั้น Suggested answer key: My grandfather is called Harry. He was born in Brighton in 1950. When he left school he joined the local fire brigade. He got married when he was twenty-six. He and his wife Ada had seven children. He says that his family was his most important achievement in life. My grandfather retired three years ago. Since then, he and my grandmother have spent their time travelling and gardening. ให้นักเรียนเขียนประวัติสั้นๆ ของญาติตนเอง 1 คน ติดรูปและนำเสนอที่หน้าชั้นในคาบเรียนถัดไป หรือครู อาจให้นักเรียนจับคู่แสดงบทสนทนาเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ญาติคนโปรด ครูสุ่มเรียกนักเรียนบางคู่ออกมา นำเสนอที่หน้าชั้น e.g. S1: Who are you going to talk about today? S2: I’m going to talk about my uncle. S1: What is his name? S2: His name is Peter. S1: Where was he born? etc. 15. ให้นักเรียนศึกษาคำศัพท์ช่อง C และ D ใน Appendix 1 (Verbs, Adjectives, Nouns with Preposition) ในหนังสือเรียน หน้า 138 จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 20 Ex.7a โดยขีดเส้นใต้ คำบุพบทที่ถูกต้อง เสร็จแล้วตรวจคำตอบของนักเรียน และให้นักเรียนช่วยกันอธิบายความหมายของวลีที่ พิมพ์ตัวหนาในแต่ละข้อ ครูแนะนำให้นักเรียนจดจำวลีเหล่านี้ กิจกรรมเพิ่มเติม


102 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 1. of 2. on 3. on 4. from 5. with 6. about 7. about 8. to 9. on 10. With 1 capable of: have the ability to do things well 2 depend on: rely on 3 comment on: express an opinion; make a remark 4 dismissed from: fired; sacked 5 charged with: accused of a crime 6 complaining about: say that you are annoyed about sth or sb 7 curious about: wanting to know about sth 8 dedicated to: working hard at what they enjoy doing 9 concentrate on: give all your attention to sth 10 copes with: deal with a task successfully 16. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 20 Ex.7b เติมคำบุพบทลงในช่องว่าง เพื่อให้เป็นวลีที่ถูกต้อง โดยครูอธิบายว่าวลี/สำนวนเหล่านี้มาจากบทอ่านในหนังสือเรียน หน้า 15 จากนั้นครูศึกษาตัวอย่างคำตอบที่ ให้มาในข้อ 1 ร่วมกับนักเรียน แล้วให้นักเรียนจับคู่กันทำข้อที่เหลือ ครูตรวจคำตอบ แล้วให้นักเรียนเลือกวลี/ สำนวนมา 3 สำนวนเพื่อแต่งประโยค หรือครูอาจมอบหมายให้นักเรียนไปแต่งประโยคเป็นการบ้าน 1. in 2. in 3. to 4. on 5. of 6. on - in fact: Some people are intimidated by his size, but in fact he's a gentle giant. - to spend time and money on sth: We should spend our time and money on something that will benefit everyone. - an expert on sth: He's an expert on fifteenth century Italian art. 17. ครูให้นักเรียนศึกษากริยาวลีที่มาจาก come และ carry + preposition ใน Appendix 2 (Phrasal verbs) ในหนังสือเรียน หน้า 141 จากนั้นครูและนักเรียนศึกษาตัวอย่างคำตอบที่ให้มาในข้อ 1 ใน หนังสือเรียน หน้า 20 Ex.8a ร่วมกัน แล้วให้นักเรียนทำที่เหลือด้วยตนเอง เสร็จแล้วจึงตรวจคำตอบพร้อมกัน แล้วจึง แนะนำให้นักเรียนจดจำวลีเหล่านี้ 1. away 2. across 3. into 4. round 5. off 6. on 7. out 8. up with 9. out 10. down with


103 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 1 carried away: be very excited 6 carry on: continue doing sth 2 come across: find/meet by chance 7 come out: be published 3 come into: inherit 8 come up with: find (an answer, solution, etc.) 4 come round: visit casually 9 carry out: conduct an experiment 5 carry sth off: handle a difficult situation 10 come down with: become ill successfully 18. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 20 Ex.8b โดยเปิดพจนานุกรมเพื่อหาความหมายอื่นของวลี come out และ come (a)round จากที่กำหนดไว้ใน Appendix 2 จากนั้นให้นักเรียนแต่งประโยคโดยใช้ come out และ come (a)round ในความหมายที่นักเรียนหาจาก พจนานุกรม เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนให้อ่านประโยคที่ตนเองแต่งทีละคน Suggested answer key: Come out: 1) (of flowers) begin to blossom = บาน, ออกดอก e.g. Roses come out in spring. 2) (of stains) be able to be removed = (รอยเปื้อน) สามารถเอาออกได้ e.g. This stain will come out if you use bleach. Come (a) round: recover consciousness = ฟื้นคืนสติ e.g. When she came round, she was on the kitchen floor. 19. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมขั้นก่อนการอ่าน โดยดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 20 Ex.9 แล้วให้นักเรียนตอบ คำถามต่อไปนี้ Where are the people going? (to work) How do people in your country usually travel to work? (car, bus, train, walk, etc) จากนั้นให้นักเรียนดูชื่อเรื่องของบทอ่าน (Working Lives) และอ่านแบบ skimming เพื่อหาว่า บทอ่านนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร ต่อมาครูอธิบายว่าคำศัพท์ที่อยู่ทางด้านขวามือสุดของบทอ่าน เป็นรากศัพท์ของคำที่ขาดหายไป ในแต่ละช่องว่างในบทอ่าน ครูอ่านบทอ่านจนถึงตัวอย่างคำตอบที่ให้ และกระตุ้นให้นักเรียนตอบว่า majority เป็นคำชนิดใด (noun) จากนั้นครูอ่านบทอ่านต่อจนถึงข้อ 1 แล้วทำข้อ 1 ร่วมกับนักเรียน โดยการถามคำถามดังนี้ - Is it a verb? (No, the sentence has got 4 verbs – say, work, think, isn’t.) - Is it an adverb? (No, it isn’t. It doesn’t come after a verb.) - Is it an adjective? (Yes, it is. It comes before a noun and describes/gives more information about the noun.)


104 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา - What is the missing word, then? (financial) ครูเขียนคำตอบข้อ 1 บนกระดาน แล้วใช้วิธีการเดียวกันนี้ในการทำแบบฝึกหัดข้อที่เหลือ เมื่อทำเสร็จแล้วครู สุ่มเรียกนักเรียนให้อ่านบทอ่านที่เติมคำสมบูรณ์แล้ว 1. financial 2. Recently 3. importance 4. choice 5. graduation 6. personal 7. workers 8. stressful 9. enjoyable 10. employers ครูเตือนให้นักเรียนเติมคำศัพท์ที่เรียนในวันนี้เพิ่มเติมลงในตารางในสมุดของนักเรียนที่ได้ทำไว้เมื่อตอนเรียน Unit 1c Verb Noun (person) Noun (abstract) Adjective Adverb - - majority major - finance financier finance financial financially - - - recent recently importance important importantly choose - choice choosy - graduate graduate graduation - - personalise person personality personal personally work worker work workable - stress - stress stressful stressfully enjoy - enjoyment enjoyable enjoyably employ employer, employee employment employable - ให้นักเรียนทำกิจกรรมขั้นหลังอ่าน โดยให้นักเรียนอ่านบทอ่านเรื่อง Working Lives อีกครั้งและ ขีดเส้นใต้เหตุผลที่ว่าคนทำงานเพื่ออะไร โดยครูถามคำถามนักเรียน ดังนี้ Is it the same in your country? What other reasons can you add? ครูถามคำถามนักเรียนดังนี้What type of writing is it? (an article) Where could it be found? (an online post or journal) กิจกรรมเพิ่มเติม


105 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูเขียนบนกระดาน the ability to work under pressure และให้นักเรียนช่วยกันอธิบายความหมายของ วลีนี้จากนั้นครูอธิบายว่า บางครั้งคนเราก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความเครียดหรือภาวะกดดันจากการ ทำงานได้ โดยการทำงานภายใต้ภาวะความกดดันนั้น ถือเป็นทักษะที่ทำให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติงาน (employability skills) อย่างหนึ่งในศตวรรษที่ 21 เวลาไปสัมภาษณ์งานนักเรียนอาจจะเจอคำถาม Can you work (well) under pressure? ครูอาจช่วยยกตัวอย่างเพื่อให้นักเรียนเห็นภาพชัดเจนว่าภาวะกดดัน จากการทำงานคืออะไร เช่น - Dealing with an emergency. - Overcoming problems or issues to achieve a goal, e.g. losing assignment data or work. - Reorganising responsibilities in a group task if one member unexpectedly drops out. - Managing well when work is unexpectedly busy or short staffed. จากนั้นครูให้นักเรียนไปค้นหาข้อมูล เพื่อตอบคำถามนี้ แล้วเขียนคำตอบมาส่งครู โดยครูให้นักเรียนสมมติว่า ครูเป็นเจ้าของบริษัทที่นักเรียนอยากจะมาทำงานด้วย เพื่อให้นักเรียนตั้งใจเขียนคำตอบมาส่งครูเสร็จแล้วใน คาบเรียนถัดไป ครูนำตัวอย่างการเขียนที่ดีมาอ่านให้นักเรียนฟัง พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลประกอบว่าทำไมคน ที่เขียนคำตอบเช่นนี้ครูจึงคัดเลือกเข้าทำงานด้วย กิจกรรมเพิ่มเติม Active Learning สู่สมรรถนะ Active Learning 1. การเรียนรู้ผ่านการคิดข้นัสูง (Thinking Based Learning) 2. การเรียนรู้ผ่านการลงมือท า (Learning by doing) 3. การเรียนรู้จากการท างานร่วมกัน (Cooperative Learning) 5. การสื่อสาร น าเสนอ (Communication and Presentation) 4. การเรียนรู้จากการส ารวจ และค้นหา (Inquiry-Based Learning)


106 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 20. ให้เวลานักเรียน 3-5 นาที ทบทวนเนื้อหาใน Unit 2c ในหนังสือเรียนและสมุดจดของตนเอง จากนั้นให้ นักเรียนจับคู่พูดคุยกันเกี่ยวกับโครงสร้างภาษาและสำนวนวลีที่ได้เรียนในบทเรียนนี้และแต่งประโยคโดยใช้ โครงสร้างภาษาและสำนวนวลีเหล่านี้อย่างละ 1 ประโยค เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 5-8 คู่ ออกมาพูด นำเสนอที่หน้าชั้น แบบฝึกหัด หน้า 9 Exs. 6-7 และหน้า 45-50 Exs. 1-11 (ดูเฉลยภาคผนวก C) Grammar reference: • Past simple เราใช้ past simple ในกรณีต่อไปนี้ - สำหรับการกระทำซึ่งเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งระบุเวลาแน่นอน (ระบุหรือบอกเป็นนัย) ตัวอย่างเช่น The postman delivered the parcel at 8 o’clock this morning. - สำหรับการกระทำซึ่งเกิดขึ้นทันทีทันใดหลังอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต ตัวอย่างเช่น She opened the curtains and looked out of the window. - สำหรับนิสัย (habits) หรือสภาพ/สถานการณ์ (states) ที่เสร็จสิ้นไปแล้วในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น Mr Jones worked in a factory when he was younger. หมายเหตุ: used to สามารถใช้แทนที่ past simple ได้ในกรณีที่กล่าวถึงนิสัยหรือการกระทำที่ทำซ้ำๆ ในอดีต คำ/วลีบ่งบอกเวลาที่เราใช้ร่วมกับ past simple ได้แก่ yesterday, then, when, How long ago ...?, last night/week/month/year/Friday/October etc, three days/weeks etc ago, in 1999 เป็นต้น • Past continuous เราใช้ past continuous ในกรณีต่อไปนี้ - กล่าวถึงการกระทำซึ่งกำลังดำเนินอยู่ และมีอีกการกระทำหนึ่งเกิดแทรกขึ้นมา เราใช้ past continuous ในการกล่าวถึงการกระทำซึ่งกำลังดำเนินอยู่ (เกิดขึ้นนานกว่า) และ past simple ใน การกล่าวถึงการกระทำที่เกิดแทรกขึ้นมา (เกิดขึ้นสั้นกว่า) ตัวอย่างเช่น We were playing football in the garden when it started to rain. - กล่าวถึงการกระทำที่เกิดขึ้นพร้อมกันในอดีต 2 การกระทำ หรือมากกว่า 2 ตัวอย่างเช่น I was cooking dinner in the kitchen while Mary was watching TV in the living room. - กล่าวถึงการกระทำซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในอดีต ซึ่งระบุเวลาแน่นอน โดยเราจะไม่เอ่ยถึงเวลา ที่การ กระทำดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นหรือเสร็จสิ้นลง ตัวอย่างเช่น At 11 o’clock last night I was driving home from the party.


107 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา - บรรยายถึงบรรยากาศ ฉาก และให้ข้อมูลพื้นฐานของเรื่องราว ตัวอย่างเช่น The birds were singing and the sun was shining, I was sitting outside in the garden when something strange happened ... หมายเหตุ: เมื่อมีการใช้ past continuous ในประโยค 2 รูป โดยมีประธานของประโยคเหมือนกัน เรา จะหลีกเลี่ยงการกล่าวซ้ำ โดยใช้ present participle (-ing form) และละ verb to be ตัวอย่างเช่น He was walking along, he was whistling a tune. = He was walking along, whistling a tune. คำ/วลีบ่งบอกเวลาที่ใช้ร่วมกับ past continuous ได้แก่ while, when, as, all morning/evening/ day/week etc • Past perfect เราใช้ past perfect (had + กริยาช่องที่ 3) ในกรณีต่อไปนี้ - การกระทำซึ่งเสร็จสิ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีตหรือก่อนเวลาที่ระบุไว้ในอดีต ตัวอย่างเช่น Lucy had finished her homework by six o’clock. - การกระทำซึ่งเสร็จสิ้นไปแล้วในอดีต และผลของการกระทำดังกล่าวยังเห็นได้ในอีกระยะหนึ่งในอดีต ตัวอย่างเช่น He had sprained his ankle a few days earlier and he was still limping slightly. - สถานการณ์ทั่วๆ ไป ในอดีต ตัวอย่างเช่น Everything had seemed normal at first. คำ/วลีบ่งบอกเวลาที่ใช้ร่วมกับ past perfect ได้แก่ before, after, already, just, for, since, till/until, when, by the time, never เป็นต้น • Past perfect continuous เราใช้ past perfect continuous ในกรณีต่อไปนี้ - เน้นช่วงเวลาของการกระทำซึ่งเริ่มต้นและสิ้นสุดลงในอดีต ก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่ง หรือก่อนเวลาที่ ระบุในอดีต โดยปกติจะใช้ร่วมกับ for หรือ since ตัวอย่างเช่น I had been walking for about half an hour when I realised I was completely lost. - การกระทำซึ่งสิ้นสุดลงในเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีตและผลของการกระทำยังเห็นได้ในอดีต ตัวอย่างเช่น She had been swimming and her hair was still wet. คำ/วลีบ่งบอกเวลาที่ใช้ร่วมกับ past perfect continuous ได้แก่ for, since, how long, before, until เป็นต้น • Used to เราใช้ used to + infinitive เพื่อกล่าวถึงนิสัยในอดีต (past habits) หรือสภาพ/สถานการณ์ในอดีต (past states) ในกรณีเช่นนี้ used to สามารถแทนที่ด้วย past simple ได้ โดยที่ความหมาย


108 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ไม่เปลี่ยน ตัวอย่างเช่น When the children were younger they walked/used to walk to school every day. แต่การกระทำที่เกิดขึ้นในอดีตซึ่งระบุเวลาแน่นอน เราจะใช้ past simple ไม่ใช้ used to ตัวอย่างเช่น I walked to work yesterday. (ไม่ใช้: I used to walk to work yesterday. ) คำ/วลีบ่งบอกเวลาที่ใช้กล่าวถึงอดีต ได้แก่ ago (= ผ่านมาแล้ว) ใช้ร่วมกับ past simple ตัวอย่างเช่น I finished work about an hour ago. since (= ตั้งแต่ --- จากจุดเริ่มต้นในอดีต) ใช้ร่วมกับ present perfect (simple and continuous) ตัวอย่างเช่น I haven’t seen Rick since he got married. for (= เป็นระยะเวลา) ใช้ร่วมกับ present perfect (simple and continuous) ตัวอย่างเช่น They’ve been playing that computer game for hours. already (= เรียบร้อยแล้ว) ใช้ในประโยคบอกเล่าและคำถาม (เพื่อแสดงความแปลกใจ) ตัวอย่างเช่น I have already spoken to Nick. Have you finished your essay already? yet (= ยัง) ใช้ร่วมกับ present perfect ในประโยคคำถามและปฏิเสธ ตัวอย่างเช่น Have you paid the rent yet? I haven’t finished eating yet.


109 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Unit 2d Listening & Speaking skills 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1: เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 2. อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้อง ตามหลักการอ่าน 3. อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ ฟังหรืออ่าน 4. จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก การฟัง และอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดีพร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2: มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 1. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ข่าว/เหตุการณ์ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสม มาตรฐาน ต 2.1: เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 1. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ ตาม มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 2. อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของ เจ้าของภาษา มาตรฐาน ต 2.2: เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม 2. วิเคราะห์/อภิปรายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างวิถีชีวิต ความเชื่อ และ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับของไทย และนำไปใช้อย่างมีเหตุผล มาตรฐาน ต 4.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตัวชี้วัด 1. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม


110 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทักษะเฉพาะวิชา • Language features and functions Function: introducing people Intonation: contrastive stress • Language skills Listening: ฟังเพื่อจับใจความสำคัญ Speaking: พูดให้ข่าวสาร, พูดบรรยายลักษณะบุคคล, พูดแนะนำบุคคล 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.1 มุ่งมั่นในการทำงาน 5. กิจกรรมการเรียนรู้ Listening 1. ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ของ Unit 2d ว่าจะเป็นการฝึกฟังและพูดเกี่ยวกับประสบการณ์ในอดีต การให้ ข่าวสาร การบรรยายลักษณะบุคคล การแนะนำบุคคล และการฝึกออกเสียงสูง-ต่ำเพื่อชี้ให้เห็นความแตกต่าง (contrastive stress) 2. ครูเขียนหัวข้อต่อไปนี้บนกระดาน family - financial security - health - friends - career - relationship และให้นักเรียนเลือกว่าหัวข้อใดสำคัญที่สุดสำหรับนักเรียน ให้นักเรียนเลือกได้เพียง 1 หัวข้อ ครูให้นักเรียนยกมือเลือกคำตอบ เสร็จแล้วครูเขียนกราฟแสดงผลการตอบของนักเรียนบนกระดาน และถามนักเรียนว่าทำไมจึงเลือกหัวข้อดังกล่าว 3. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.1a ว่านักเรียนจะได้ฟังบุคคล 5 คน พูดคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่ สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเขา จากนั้นให้นักเรียนอ่านประโยค A-F ครูอธิบายว่านักเรียนต้องจับคู่ผู้พูด 1-5 กับประโยค A-F โดยจะมี1 ประโยคที่ไม่มีคู่ครูแนะนำว่าให้นักเรียนฟังผู้พูดแต่ละคนอย่างระมัดระวัง และรอจน ผู้พูดทุกคนพูดเสร็จ


111 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ก่อนจะจับคู่ เพราะผู้พูดบางคนอาจให้ข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดได้ ครูเพิ่มเติมว่านักเรียนจะได้ยินผู้พูดแต่ละคน พูด 2 ครั้ง แล้วจึงเปิด CD1/track 17 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟังและจับคู่เสร็จแล้วตรวจ คำตอบร่วมกัน Speaker 1 E Speaker 2 F Speaker 3 D Speaker 4 A Speaker 5 C 4. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.1b โดยฟัง CD1/track 17 (หรือสแกน QR code) อีก ครั้ง เพื่อจดเหตุผลว่าทำไมผู้พูดแต่ละคนจึงให้ความสำคัญกับสิ่งที่พวกเขาเลือก Suggested answer key: Speaker 1 (family): we are very close; we love each other/we would do anything for each other; your family will always be there for you; a strong family will make you more secure and confident Speaker 2 (career): I love my work; I get a lot from my job; I enjoy the responsibility, respect from my colleagues; I get paid a lot of money; the feeling of great satisfaction Speaker 3 (friends): my friends certainly mean a lot to me; I spend most of my time with them; I care what they think; I can talk to them about anything; we’re always there for each other Speaker 4 (relationship): we clicked from the start; we have so much in common; we talk for hours on end; we share everything; important to have somebody you can rely on and who will support you Speaker 5 (health): you can enjoy living; you can do anything you want; you can live life to the fullest; without good health you have nothing ครูให้นักเรียนจับคู่พูดคุยกันเกี่ยวกับครอบครัวของตนเอง โดยใช้คำถามต่อไปนี้ - How big is your family? - What does each member of your family look like? - Which family member do you admire most? - Who is your favourite relative? Why? - How often do you see your relatives? Spreading the news กิจกรรมเพิ่มเติม


112 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 1. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.2a ว่านักเรียนจะได้ฟังบทสนทนาสั้นๆ 4 บท แล้วระบุว่า บทสนทนาแต่ละบทเป็นการให้ข่าวสาร (spreading the news) ที่เป็นข่าวร้ายหรือข่าวดี จากนั้นครูเปิด CD1/track 18 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟังและทำกิจกรรม เสร็จแล้วเฉลยคำตอบพร้อมกัน 1, 4 – give bad news 2, 3 – give good news 2. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.2b และอ่านบทสนทนาสั้นๆ 1-4 ที่ให้มา แล้วแนะนำการ ออกสำเนียงสูง-ต่ำให้ถูกต้อง จากนั้นเปิด CD1/track 18 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟัง และให้ นักเรียนจับคู่ฝึกออกสำเนียงสูง-ต่ำเหมือนดังตัวอย่าง ครูสังเกตเพื่อประเมินการทำกิจกรรมของนักเรียน ต่อมาครูอ่านสถานการณ์ที่กำหนดให้ (prompts) และสนทนากับนักเรียน 1 คน เพื่อเป็นต้นแบบ แล้วจึงให้ นักเรียนจับคู่แสดงบทสนทนาเกี่ยวกับการให้ข่าวสารคล้ายๆ กันนี้ โดยใช้สถานการณ์ที่ให้มา ครูสังเกตการทำ กิจกรรมของนักเรียน แล้วสุ่มเรียกนักเรียนบางคู่ออกมาแสดงบทสนทนาที่หน้าชั้น Suggested answer key: A: I’ve got something to tell you. Sharon got engaged. B: That’s brilliant. She must be very happy. A: Have you heard? Toby got a big promotion. B: Wow! Congratulations to him. A: I’m afraid I’ve just heard something terrible. Mark was in a car accident. B: Oh no! How awful! A: Guess what! I passed my exams. B: That’s brilliant! Well done. A: Guess what! I’ve got my driving licence. B: Wow! You must be pleased. A: Have you heard? Alex lost his job. B: That’s a pity. He must be really upset. Intonation ครูอธิบายว่าการออกเสียงหนัก-เบาแบบ contrastive stress ให้นักเรียนฟัง Contrastive stress เป็นการเน้นเสียงหนัก-เบา เพื่อชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งของอย่างหนึ่ง กับอีกอย่าง [Contrastive stress is used to point out the difference between one object and another.] ตัวอย่างเช่น A: Ice cream is made of cheese B: No, it’s made of milk.


113 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา จากนั้นครูเปิด CD1/track 19 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟังบทสนทนาสั้นๆ ในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.3 แล้วให้นักเรียนขีดเส้นใต้คำที่ออกเสียงเน้นหนัก (stressed words) ครูเปิด CD1/track 19 (หรือ สแกน QR code) อีกครั้งเพื่อตรวจทานคำตอบของตนเอง เสร็จแล้วให้นักเรียนจับคู่กันอ่านบทสนทนาให้ เพื่อนๆ ในห้องฟัง • A: Did you make a chocolate cake? B: No, I made a fruit cake. • A: Do you want three boxes of chocolates? B: No, I want two boxes. • A: Did you ask Mr Johnson? B: No, I asked Miss Johnson. Describing people 1. ครูเปิด CD1/track 20 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟัง และตอบคำถามในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.4a ที่ถามว่า Who does Simon want to meet? He wants to meet Diana. 2. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.4b และให้นักเรียนจับคู่ประโยค A-D กับ 1-4 เพื่อทำให้ เป็นบทสนทนาที่ถูกต้อง ครูตรวจคำตอบของนักเรียน ด้วยการให้นักเรียนอ่านบทสนทนาที่เรียงลำดับถูกต้อง แล้ว จากนั้นให้นักเรียนจับคู่แสดงบทสนทนาคล้ายๆกันนี้ เกี่ยวกับบุคคลที่นักเรียนเห็นในภาพ 1. – c 2. – d 3. – b 4. – a Suggested answer key: A: This is a great party, Fred. B: Thanks. Are you having a good time? A: Yes, I am, but who’s that over there? B: Who? A: The boy with the short brown hair. B: Oh, that’s Dave. He’s my neighbour. Do you want to meet him? A: Yes, please. That would be great. B: No problem. Let’s go over and I’ll introduce you.


114 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Introducing people 1. ครูเปิด CD1/track 21 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟังบทสนทนา แล้วตอบคำถามในหนังสือเรียน หน้า 21 Ex.5a ที่ถามว่าบทสนทนานี้เกิดขึ้นที่ไหน (Where does it take place?) At a business meeting. 3. ครูนำเสนอสำนวนภาษาที่ใช้ในการแนะนำตัวผู้อื่นแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการในตารางในหนังสือ เรียน หน้า 21 Ex.5b จากนั้นสนทนากับนักเรียน 1 คน เพื่อเป็นตัวอย่าง ครูให้นักเรียนอ่านสถานการณ์ที่ กำหนดให้ (prompts) แล้วให้นักเรียนจับคู่แสดงบทสนทนาตามสถานการณ์ที่ให้มาโดยใช้บทสนทนาใน Ex.5b เป็นต้นแบบ ครูสังเกตขณะนักเรียนทำกิจกรรม แล้วสุ่มเลือกนักเรียน 2-3 คู่ออกมาแสดงบทสนทนา ที่หน้าชั้น Suggested answer key: A: Sam, come and meet my parents. B: Certainly. A: Sam, these are my parents, Mr and Mrs Lee. Mum and Dad, this is Sam. B: It is a pleasure to meet you, Mr and Mrs Lee. C: Pleased to meet you, too, Sam. A: David, I’d like to introduce you to my employer. B: Yes, of course. A: David, this is my employer, Mr Brown. Mr Brown, this is my husband, David. B: How do you do, Mr Brown? C: How do you do! It is a pleasure to meet you, David. A: Miss Scarlet, I would like you to meet a business associate of mine. B: Certainly. A: Miss Scarlet, this is my business associate, Mr Black. Mr Black, this is Miss Scarlet. B: It is a pleasure to meet you, Mr Black. C: How do you do, Miss Scarlet? ครูเขียนคำนำหน้าชื่อในภาษาอังกฤษทั้ง 4 แบบ บนกระดาน ดังนี้ Mr Mrs Miss Ms ครูอธิบายว่าคำนำหน้าชื่อที่เป็นตัวย่อ ได้แก่ Mr Mrs และ Ms ถ้าเขียนแบบ American English จะมีจุด เสมอ จากนั้นครูถามนักเรียนว่าคำนำหน้าชื่อแต่ละคำ มีวิธีการใช้อย่างไร Mr = ใช้สำหรับผู้ชาย กิจกรรมเพิ่มเติม


115 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Mrs = ใช้สำหรับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว Miss = ใช้สำหรับผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงาน Ms = ใช้สำหรับผู้หญิง โดยไม่ระบุว่าแต่งงานแล้วหรือยังไม่แต่ง ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำนำหน้าชื่อเหล่านี้ตามครู ดังนี้ Mr อ่านว่า /’mɪstə(r)/ [ถ้าเป็น American English จะออกเสียง r] Mrs อ่านว่า /mIs/ Miss อ่านว่า /mIz/ Ms อ่านว่า /’mIsIz/ จากนั้นครูอธิบายว่าในสถานการณ์ที่เป็นทางการ เจ้าของภาษาจะเรียกบุคคลอื่น โดยใช้คำนำหน้าชื่อ + นามสกุลเสมอ เช่น เช่น Mr Smiths Mrs Smiths Miss Smiths Ms Smiths จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากเจ้าของชื่อให้เรียกชื่อแรก เช่น Please, call me [first name]. You can call me [nickname or short form]. หรือเราสามารถถามเจ้าตัวว่าอยากให้เราเรียกว่าอย่างไร หรือขออนุญาตในการเรียกชื่อเขา เช่น Is it OK if I call you Rachel? เสร็จแล้วครูถามนักเรียนว่าในภาษาไทย มีคำนำหน้าชื่อหรือไม่ คนไทยจะใช้คำนำหน้าชื่อเมื่อใด 3. ครูให้เวลานักเรียน 3-5 นาที ทบทวนเนื้อหาใน Unit 2d จากนั้นให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันบอกสำนวนวลีที่ นักเรียนได้เรียนในบทเรียนนี้ อย่างน้อย 10 สำนวน เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียน 5-8 คู่ ออกมาพูดนำเสนอ ที่หน้าชั้นเรียน แบบฝึกหัด หน้า 9 Ex.8 (ดูเฉลยภาคผนวก C)


116 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Unit 2e Writing 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.3: นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัด 1. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่อง และประเด็น ต่างๆ ตามความสนใจของสังคม 3. พูดและเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์ ทั้งในท้องถิ่น สังคม และโลก พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 2.1: เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 2.อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของ เจ้าของภาษา 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทักษะเฉพาะวิชา • Language skills Writing: เขียนเรื่องเล่า 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3.2.3 ทักษะการตีความ 3.2.4 ทักษะการเรียงลำดับ 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.1 มุ่งมั่นในการทำงาน 5. กิจกรรมการเรียนรู้ Analysing a rubric 1. ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ Unit 2e ว่านักเรียนจะได้ฝึกเขียนเรื่องเล่า


117 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 2. ครูอ่านข้อความในหนังสือเรียน หน้า 22 หัวข้อ Tip และอธิบายคำศัพท์ที่นักเรียนไม่รู้ความหมาย การเขียนเรื่องเล่า เราต้องตัดสินใจเกี่ยวกับประเภทของเรื่องที่จะเขียน โครงเรื่อง และตัว ละครหลักก่อน โดยเรื่องเล่าอาจจะเป็นเรื่องตลก เรื่องจารกรรมหรือสายลับ เรื่องเขย่าขวัญ เรื่องเกี่ยวกับการสืบสวน เรื่องเกี่ยวกับเทพนิยาย เป็นต้น บทนำ ในย่อหน้าแรก เราจะเขียนบอกว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อไรและที่ไหน บุคคลในเรื่องเป็น ใคร และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอันดับแรกคืออะไร เนื้อเรื่อง ในย่อหน้าของเนื้อเรื่อง เราจะบรรยายเหตุการณ์ต่างๆ ตามลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยในหลายๆ เหตุการณ์เหล่านี้ จะมีอยู่ 1 เหตุการณ์ที่เป็นจุดสำคัญที่สุดของเรื่องเล่า เราสามารถใช้คำสันธาน เช่น so, because, and, also เป็นต้น ในการเชื่อมประโยคหรือ ความคิด บทสรุป ในย่อหน้าสุดท้าย เราจะเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนจบ และความรู้สึกของตัวละครในเรื่อง เราสามารถใช้คำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์ที่หลากหลาย เพื่อทำให้เรื่องเล่าของเรามีความ น่าสนใจมากขึ้น โดยปกติแล้ว เราจะใช้ past tenses ในการเขียนเรื่องเล่า จากนั้นอ่านคำสั่งในการทำงาน (rubric) ในหนังสือเรียน หน้า 22 Ex.1 และอ่านคำถามที่ให้มา แล้วกระตุ้นคำตอบจากนักเรียน Suggested answer key: 1. In a magazine; on a school notice board 2. A story writing competition. 3. Myself. 4. The time when I met my best friend; something I did for the first time; winning a contest, etc. Analysing a model text 1. ครูอ่านคำเชื่อม (linkers) ที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 22 Ex.2a และให้เวลานักเรียนอ่านบทอ่านในใจ แล้ว เติมคำที่ขาดหายไป ครูอธิบายหรือให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของคำศัพท์ที่นักเรียนไม่รู้ในบทอ่าน จากนั้นครูตรวจคำตอบ ด้วยการให้นักเรียนอ่านบทอ่านที่เติมคำสมบูรณ์แล้ว สุดท้ายครูกระตุ้นถามนักเรียน ว่าในบทอ่านนี้ใช้ tense อะไรบ้างในการเล่าเรื่อง ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าบทอ่านนี้เป็นเรื่องเล่าในมุมมองของ บุคคลที่ 1 (first-person narrative) หรือเรื่องเล่าของตัวเอง


118 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 1. While 2. as 3. Then 4. but 5. By the time 6. As soon as The tenses used are mainly past tenses. 2. ให้นักเรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 22 Ex.2b และตอบคำถามว่าภาพดังกล่าวอยู่ในเหตุการณ์ตอนใด ของเนื้อเรื่อง เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก่อน/หลังเหตุการณ์นี้ และผู้เขียนคือเด็กคนใดในรูป The picture shows the end of the race itself. Before this the writer was lined up with the other competitors, ready to go. After this, he won the race, then he collapsed on the grass. The writer must be the boy in black shorts and a white T-shirt. Sequence of events ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.2c แล้วอ่านประโยค a-j ให้นักเรียนฟัง จากนั้นให้นักเรียน จับคู่กัน ช่วยกันเรียงลำดับประโยคเหล่านี้ให้ถูกต้อง a. 5 b. 3 c. 7 d. 10 e. 2 f. 8 g. 6 h. 4 i. 9 j. 1 Descriptive techniques 1. ให้เวลานักเรียนเตรียมคำตอบสำหรับกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.3a จากนั้นครูตรวจคำตอบ โดย สุ่มเรียกนักเรียนให้อ่านคำตอบของตนเอง เสร็จแล้วครูให้นักเรียนบอกคำที่มีความหมายเหมือน (synonyms) กับ adjectives ที่นักเรียนนำมาเติม 1. eager (= keen) 2. proud (= pleased) 3. broad (= wide) 4. bustling (= active) 5. soft (= not hard) 6. deep (= long) 7. starting (= opening) 8. finishing (= ending) 2. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.3b โดยอ่านเรื่อง The best day of my life อีกครั้ง แล้วขีดเส้นใต้คำกริยาและคำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะปรากฏร่วมกันในภาษาอังกฤษ (verb/adverb collocations) ที่ผู้เขียนใช้ในบทอ่าน ครูตรวจคำตอบ แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกคำกริยาวิเศษณ์ (adverbs) คำอื่นๆ ที่ใช้ร่วมกับคำกริยาเหล่านี้ครูเขียนคำตอบของนักเรียนบนกระดาน แล้วให้นักเรียนจับคู่ กันแต่งประโยค โดยใช้คำกริยาและคำกริยาวิเศษณ์เหล่านี้


119 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 1. waving enthusiastically (frantically, wildly, cheerfully) e.g. - The fans were all waving happily at the players after the game. - His parents and siblings were waving proudly at her when she won the gold medal. 2. pounding fast (eagerly, strong, quickly) e.g. - Her heart was pounding eagerly as she opened the package. - He felt his heart pounding quickly as he went on stage to collect the prize. 3. shouting excitedly (wildly, loudly) e.g. - His mother shouted at him furiously for taking too long in the shower. - I have never seen him shouting so joyously. 3. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.3c โดยครูกระตุ้นให้นักเรียนบอกว่าประสาทสัมผัสทั้ง 5 มีอะไรบ้าง (sight, hearing, touch, taste, smell) จากนั้นให้นักเรียนอ่านบทอ่านอีกครั้ง เพื่อหาวลี เกี่ยวกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ที่ผู้เขียนใช้ในบทอ่าน ครูตรวจคำตอบ และถามว่าแต่ละวลีใช้ประสาทสัมผัส อะไร the shouts of the spectators (hearing) the bustling crowd of spectators (hearing/sight) my heart was pounding (hearing) hear the crowd shouting excitedly (hearing) the noise seemed far away (hearing) soft grass (touch) 4. ครูอ่านข้อความที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.4a และอธิบายความหมายของคำศัพท์ที่นักเรียนไม่รู้ แล้วจึงอธิบายภาระงานว่าให้นักเรียนจับคู่กันและเขียนข้อความนี้ใหม่ โดยใช้ adjectives และ adverbs ที่ กำหนดให้จากนั้นให้นักเรียนแต่ละคู่อ่านคำตอบของคู่ตนเองให้เพื่อนฟัง หรือครูอาจให้นักเรียนทำกิจกรรมนี้ เป็นการบ้าน We were driving slowly along the winding road through the gloomy forest, on the way to my grandmother’s house. The heavy rain made it difficult to see where we were going. Suddenly, there was a brilliant flash of lightning followed by a deafening crash of thunder. A huge tree crashed loudly onto the road in front of us. Luckily, my father stopped the car in time. We all looked at each other nervously. What were we going to do now?


120 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 5. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.4b โดยขีดเส้นใต้วลีเกี่ยวกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 ใน ข้อความใน Ex.4a ครูตรวจคำตอบ จากนั้นถามนักเรียนว่าแต่ละวลีใช้ประสาทสัมผัสอะไร Suggested answer key: made it difficult to see (sight) brilliant flash of lightning (sight) deafening crash of thunder (hearing) crashed loudly (hearing) looked at each other nervously (sight) Beginnings/Endings 1. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.5 โดยอ่านตอนต้นของบทอ่านใน Ex.2b อีกครั้ง และ ตอบคำถามว่าผู้เขียนเล่าถึงสถานที่และเวลาที่เรื่องราวนี้เกิดขึ้นอย่างไรบ้าง รวมถึงมีผู้ใดที่เกี่ยวข้องและเกิด ในเหตุการณ์ใด Suggested answer key: The writer says that the story took place during his first year in primary school. The story is about the writer himself, in which he narrates taking part and winning a 100- metre race. 2. ครูและนักเรียนร่วมกันศึกษาข้อมูลที่ให้มาในกรอบในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.6 ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ เทคนิควิธีการเริ่มต้นและจบเรื่องเล่า จากนั้นให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าผู้เขียนเรื่อง The best day of my life ใช้เทคนิควิธีการใดในการเริ่มต้น และจบเรื่อง แล้วจึงให้นักเรียนจับคู่กัน และให้เวลานักเรียนช่วยกันเขียนย่อหน้าแรกและ ย่อหน้าสุดท้ายของเรื่องนี้ใหม่ โดยใช้เทคนิควิธีการที่แตกต่างไปจากที่ผู้เขียนใช้เสร็จแล้วให้นักเรียนแต่ละคู่ ออกมารายงานคำตอบของตนเองที่หน้าชั้น Suggested answer key: At the beginning, the writer refers to his feelings. (e.g. Whenever I look at that photograph it takes me back to those early years when every new experience was so important that it was unbearable.) At the end, the writer uses direct speech. (e.g. “Well done!” said the Headmaster, as he presented me with the winner’s certificate.) First paragraph: Do you have pleasant memories from your childhood? Last paragraph: I was so happy and proud when the Headmaster presented me with my winner’s certificate. It was one of the best days of my life. Discuss & Write


121 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 1. ครูนำเสนอข้อมูลใน Plan ในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.7a และอธิบายภาระงาน จากนั้นครูถามคำถามที่ให้ มาใน Plan และกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันคิดคำตอบ เพื่อทำให้เค้าโครงการเขียนสมบูรณ์ T: Where were you? S1: I was in the school yard. T: When did it happen? S2: It happened when I was six years old. T: What happened? S3: I was watching some children playing with a ball in the school yard. Suggested answer key: Introduction I was in the school yard. – It happened when I was six years old. – I was watching some children playing with a ball in the school yard. Main body The ball bounced over the fence and into the main road. – Tom Brown went after it. – I ran to get the teacher. – We heard the sound of brakes screeching. – The teacher grabbed Tom just in time. Conclusion Tom was okay. – I was praised for acting quickly. 2. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.7b จากนั้นศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่งานเขียนของนักเรียน จำเป็นต้องมีร่วมกัน แล้วจึงมอบหมายให้นักเรียนไปเขียนเรื่องเล่าในหัวข้อ ประสบการณ์ในวัยเด็กที่ลืมไม่ลง ที่สุด (The most unforgettable childhood experience) ตามเค้าโครงที่วางไว้ใน Ex.7a เป็นการบ้าน ตรวจทานว่าเรื่องเล่าของนักเรียนมีสิ่งต่อไปนี้หรือไม่ • ในบทเริ่มต้นของเรื่องเล่า ใช้เทคนิคใดเทคนิคหนึ่งที่เรียนในบทเรียนนี้ • ใช้คำคุณศัพท์และกริยาวิเศษณ์ที่หลากหลาย • เรียงลำดับเหตุการณ์ตามลำดับเวลาที่เกิดขึ้น • จบเรื่องเล่าโดยใช้เทคนิคใดเทคนิคหนึ่งที่เรียนในบทเรียนนี้ • ตั้งชื่อเรื่องให้เหมาะสม


122 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: ACCIDENTAL HERO I’ll never forget that day in the school yard so long ago. It was a dull, grey Friday afternoon – my first year at school – when it happened. I was bored. I was watching the other children playing in the school yard. They were laughing noisily and running around energetically. They were bouncing a ball and having lots of fun. Suddenly, the ball bounced the wrong way. It bounced over the fence and into the busy main road. Tom Brown went after it. The other children stood and stared in disbelief, but I snapped into action. I ran quickly and told the teacher that Tom was in danger. Mr Thornton shouted frantically to Tom to stand still, but he stood between two parked cars and didn’t hear the urgent warning. He stepped out into the oncoming traffic, and we heard the brakes screech loudly. Fortunately, Mr Thornton grabbed Tom just in time, and he was returned safely to the playground. “Your quick thinking has prevented a nasty accident,” said Mr Thornton, “Well done!” I felt happy and relieved that everything was okay. Famous words 1. ครูอ่านประโยคที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 23 Ex.8 ทีละประโยค แล้วช่วยนักเรียนตีความความหมายของ ประโยคเหล่านี้ Suggested answer key: - It is not easy to be yourself. - It is possible to change the way people think if you believe in something and always live according to these beliefs. ให้นักเรียนหาคำกล่าวเช่นนี้ในภาษาไทย และอธิบายความหมายเป็นภาษาอังกฤษ 2. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบ Progress test 2 (ดูเฉลยภาคผนวก C) จากส่วนท้ายของ Unit นี้ เพื่อประเมินความก้าวหน้าในการเรียนรู้ กิจกรรมเพิ่มเติม Songsheets (Module 1) หนังสือเรียน หน้า 118


123 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา บันทึกหลังสอนแผนการสอนที่ ............ 1. ผลการสอนระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 สอนได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ สอนไม่ได้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก .......................................................................... 2. ผลที่เกิดกับผู้เรียน 1.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้………………แบบทดสอบหลังเรียน............พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ ................……..…. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ............................. ได้แก่ ....................................เลขที่ …………………………........................................................................................... 2.) การประเมินด้านทักษะกระบวนการเรียน โดยใช้…………………………………………………………...............พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็น ร้อยละ...........……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ................ ได้แก่ ....................................................................................................................................................................... 3.) การประเมินด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์เรียน โดยใช้………..…แบบสังเกตพฤติกรรม.................... พบว่านักเรียนผ่านการประเมินคิดเป็นร้อยละ..…....……. ไม่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ.................. ได้แก่ ........................................................................................................................................................................ 3. ปัญหาและอุปสรรค กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา มีนักเรียนทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทันตามกำหนดเวลา มีนักเรียนที่ไม่สนใจเรียน อื่น ๆ ............................................................................................................................................. 4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ควรนำแผนไปปรับปรุง เรื่อง ...................................................................................................... ....................................................................................................................................................... แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านการประเมิน .................................................................................. ....................................................................................................................................................... ไม่มีข้อเสนอแนะ ลงชื่อ ผู้สอน ( นายพีระ เหมือดนอก ) วันที่……..../................../................ ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………… ลงชื่อ....................................................... ( นางอังคณา แก้วเมือง ) ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ 1.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2.การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่าง เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกต่างกันของผู้เรียน ที่ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3.เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4.ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………. ลงชื่อ....................................................... ( นางสาวณัฐิญา คาโส )


124 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รายวิชา อ 33101 ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Travel Broadens the Mind ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก เวลา 8 ชั่วโมง 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด สาระที่1: ภาษาเพื่อการสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1: เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมี เหตุผล ตัวชี้วัด 1.ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่างๆ คำชี้แจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟัง และ อ่าน 2. อ่านออกเสียง ข้อความ ข่าว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น (skit) ถูกต้อง ตามหลักการอ่าน 3. อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ ฟังหรืออ่าน 4. จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก การฟัง และอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดีพร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2: มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 1. สนทนาและเขียนโต้ตอบข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องต่างๆ ใกล้ตัว ประสบการณ์ สถานการณ์ข่าว/เหตุการณ์ ประเด็นที่อยู่ในความสนใจของสังคม และสื่อสารอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสม 2. เลือกและใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายอย่างคล่องแคล่ว 3. พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือใน สถานการณ์จำลองหรือสถานการณ์จริงอย่างเหมาะสม 4. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3: นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัด 1. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่อง และประเด็น ต่างๆ ตามความสนใจของสังคม


125 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 2. พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์และสถานการณ์ตามความสนใจ สาระที่ 2: ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต 2.1: เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 1. เลือกใช้ภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกับระดับของบุคคล โอกาส และสถานที่ ตาม มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา 2. อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของ เจ้าของภาษา 3. เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 2.2: เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษากับภาษา และวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1. อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิตและบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย สาระที่4: ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต 4.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม ตัวชี้วัด 1. ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขึ้นในห้องเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม มาตรฐาน ต 4.2: ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด 1.ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 2. เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ 2. สาระการเรียนรู้ 2.2 ทักษะเฉพาะวิชา • Language features and functions Vocabulary: คำศัพท์เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิต, ช่วงวัย, การบรรยายลักษณะบุคคล, ความรู้สึก, phrasal verbs (carry, come) Grammar: past tenses, used to/would, prepositions Function: introducing people Intonation: contrastive stress


126 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา • Language skills Listening: ฟังเพื่อจับใจความสำคัญ, ฟังเพื่อหาข้อมูลจำเพาะ, ฟังเพื่อหารายละเอียด Speaking: พูดเกี่ยวกับชีวิตของ Alexander Graham Bell, พูดบรรยายลักษณะบุคคล, พูด เกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองเคยทำเมื่อตอนเป็นเด็ก, พูดเกี่ยวกับญาติของ ตนเอง, พูดให้ข่าวสาร, พูดแนะนำบุคคล Reading: อ่านและเติมประโยคลงในช่องว่าง Writing: เขียนเรื่องเล่า 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการให้คำจำกัดความ 3.2.3 ทักษะการสรุปย่อ 3.2.4 ทักษะการวิเคราะห์ 3.2.5 ทักษะการเปรียบเทียบ 3.2.6 ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3.2.7 ทักษะการตีความ 3.2.8 ทักษะการเรียงลำดับ 3.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.1 ใฝ่เรียนรู้ 4.2 มุ่งมั่นในการทำงาน 4.3 จิตสาธารณะ 5. การบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงื่อนไข พอประมาณ ความรู้ มีเหตุผล คุณธรรม มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4 มิติ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม 6. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้


127 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Unit 3a Travel Broadens the Mind 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1: เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 1.ปฏิบัติตามคำแนะนำในคู่มือการใช้งานต่างๆ คำชี้แจง คำอธิบาย และคำบรรยายที่ฟัง และ อ่าน 3. อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ ฟังหรืออ่าน 4. จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก การฟัง และอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.2: มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความ คิดเห็นอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด 2. เลือกและใช้คำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธิบายอย่างคล่องแคล่ว 4. พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย อธิบาย เปรียบเทียบ และแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง/ประเด็น/ข่าว/เหตุการณ์ที่ฟังและอ่านอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 1.3: นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัด 2. พูดและเขียนสรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระที่ได้จากการวิเคราะห์เรื่อง กิจกรรม ข่าว เหตุการณ์และสถานการณ์ตามความสนใจ มาตรฐาน ต 3.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด 1. ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูดและ การเขียน มาตรฐาน ต 4.2: ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด 1. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 2. เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ


128 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทักษะเฉพาะวิชา • Language skills Listening: ฟังแล้วจับคู่ผู้พูดกับประเภทของวันหยุด Speaking: พูดเกี่ยวกับสถานที่พักสำหรับการไปเที่ยว Reading: อ่านเพื่อหาข้อมูลจำเพาะ, อ่านแบบ scanning 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการให้คำจำกัดความ 3.2.3 ทักษะการสรุปย่อ 3.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.1 มุ่งมั่นในการทำงาน 4.2 รักความเป็นไทย 5. กิจกรรมการเรียนรู้ Lead-in 1. ครูเตรียมความพร้อมนักเรียนเข้าสู่ Unit 3 โดยอ่านชื่อเรื่อง Travel Broadens the Mind และอธิบายว่าชื่อ เรื่องนี้เป็นสุภาษิต (proverb) ครูกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมาย (You can learn a lot about the world and its people by travelling.) จากนั้นให้นักเรียนดูภาพและอ่านชื่อสถานที่ในหนังสือเรียน หน้า 24 Ex.1a แล้วกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันบอกว่าชื่อเรื่องเกี่ยวข้องกับสถานที่เหล่านี้อย่างไร (If you travel and visit new places, you get to know other people’s habits, customs, culture, etc, therefore you expand your knowledge.) ครูให้นักเรียนบอกชื่อทวีปและเขียนบนกระดาน (Asia, Africa, North America, South America, Antarctica, Europe และ Australia) และให้นักเรียนระบุว่าสถานที่ที่เห็นในภาพอยู่ในทวีปใดบ้าง (Australia is in the continent of Australia. The Czech Republic is in the continent of Europe. Russia is in the continent of Asia and Europe. Canada is in the continent of North America.) เสร็จแล้วครูให้นักเรียนบอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละสถานที่


129 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: If you travel and visit new places, you get to know other people’s habits, customs, culture, et cetera, therefore you expand your knowledge. Russia in in the continents of Asia and Europe. Australia is in the continent of Australia. The Czech Republic is in the continent of Europe. Canada is in the continent of North America. - In Russia you can visit museums and art galleries or enjoy a ballet performance. - In Australia you can swim in crystal clear waters and sunbathe on sandy beaches. You can also see kangaroos. - In the Czech Republic you can visit museums or walk along the cobbled streets. - In Canada you can enjoy magnificent scenery, snow-capped mountains and huge lakes. ต่อมาครูให้นักเรียนจับคู่กันอภิปรายว่าสถานที่ในภาพใดที่นักเรียนอยากไปเที่ยวพร้อมบอกเหตุผล ครูสุ่ม เรียกนักเรียนบางคู่ออกมาพูดสนทนาที่หน้าชั้น Suggested answer key: A: The place I’d like to visit most is Russia. I get very excited about this country’s long history. B: That’s true. Its culture is fascinating too, and I’d read that the people there are warm and friendly. etc. 2. ครูอ่านกิจกรรมที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 24 Ex.1b และอธิบายคำศัพท์ที่นักเรียนไม่รู้ จากนั้นให้นักเรียน ตอบคำถามว่ากิจกรรมอะไรที่สามารถทำได้ในแต่ละสถานที่ (A-D) Suggested answer key: A In Russia you can visit galleries, museums, ancient castles and historical sites. You can also see the beautiful natural scenery and admire the interesting architecture. You can also try the local cuisine and buy handmade souvenirs. B In Australia you can see animals in their natural environment. You can visit the beach resorts and the many nearby islands. You can also visit many other natural sites. C In the Czech Republic you can visit galleries, museums, ancient castles and historical sites. You can also take leisurely strolls, admire interesting architecture and see people in traditional dress. D In Canada you can see animals in their natural environment. You can also


130 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา go kayaking, white water rafting or hiking and see spectacular falls. 3. ครูอ่านชื่อประเภทของวันหยุดที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 24 Ex.2a จากนั้นเปิด CD1/track 22 (หรือ สแกน QR code) ให้นักเรียนฟัง และจับคู่ชื่อคนกับประเภทของวันหยุดที่พวกเขากำลังจะไป 1 – b (Russia) 2 – d (Australia) 3 – c (The Czech Republic) 4 – a (Canada) 4. นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 24 Ex.2b โดยฟัง Audio อีกครั้ง แล้วจดว่าแต่ละคนวางแผนจะ ทำอะไรบ้าง จากนั้นให้นักเรียนแต่งประโยคเหมือนดังตัวอย่าง Suggested answer key: Carl is going on a cultural tour of Russia. He is going to visit the Hermitage Museum. He is also going to visit the Grand Palace, take a tour of the gardens and pavilions and get tickets for the Kirov Ballet. Sonya is going on an island holiday in Australia. She is going to walk along the beaches and go surfing. She is also going to go snorkelling and scuba diving and go on a glass bottom boat tour. Rick is going to the Czech Republic on a package holiday. He is going to visit ancient castles and admire the architecture. He is also going to visit traditional villages. He is going to see people in traditional costumes and eat traditional food. Moira is going to Canada for an adventure holiday. She is going hiking and she will see lots of animals. She is also going kayaking and white-water rafting and she is going to see the Niagara Falls. 5. ครูอ่านคำถามในหนังสือเรียน หน้า 24 Ex.2c หัวข้อ Think แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ Suggested answer key: I like to spend my holidays by the sea. The beach is always an excellent place for a relaxing time. I love walking barefooted on the sand, I love the sound of waves splashing, and there are always lots of fun activities to do. I would like to visit The Philippines or The Maldives as there are plenty of beaches and beautiful cultures to experience. Reading 1. ครูอ่านชื่อเรื่องและหัวข้อย่อยของบทอ่านในหนังสือเรียน หน้า 25 Ex.3a แล้วให้นักเรียนช่วยกันบอกว่า สถานที่ในบทอ่านนี้อยู่ในประเทศใด (England) และข้อมูลอะไรที่นักเรียนคาดว่าจะได้พบในบทอ่าน Suggested answer key:


131 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา These places are all situated in England, a country that is part of the United Kingdom. London is the capital and largest city of England and the United Kingdom. Northumberland is a county in Northern England. Cornwall is a county in South West England. West Yorkshire is a county in northern England. I would expect to read about the facilities available at the different places, as well as interesting sites to visit and things to do in the surrounding area of each place. ครูให้นักเรียนตั้งคำถามเกี่ยวกับโรงแรมในบทอ่านโดยใช้คำสำคัญ (key words) ดังต่อไปนี้ situated, shops, countryside, sea, modern, room service, activities, facilities Suggested answer key: Where is the hotel situated? Is it modern? Is it close to the shops? Does it have room service? Is it in the countryside? What activities can you do? Is it by the sea? What facilities does the hotel have? หรือครูอาจให้นักเรียนช่วยกันระดมสมองคิดคำที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม (receptionist, book a room, room service, maid, swimming pool, four-star hotel, etc.) 2. ครูนำเสนอข้อมูลในกรอบในหนังสือเรียน หน้า 25 หัวข้อ Tip อ่านคำถามอย่างละเอียด และขีดเส้นใต้คำสำคัญ จากนั้นอ่านเนื้อเรื่องทั้งหมด อย่างรวดเร็ว เพื่อหาข้อมูลที่นักเรียนต้องการ ขณะที่อ่านให้นักเรียนขีดเส้นใต้ เนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคำถามไปด้วย เมื่ออ่านเสร็จแล้ว ให้นักเรียนกลับไปดูคำถาม อีกครั้ง และพยายามตอบคำถามเหล่านี้ทีละข้อ โดยพิจารณาเนื้อเรื่องในส่วนที่เกี่ยวข้อง กับคำถามไปพร้อมกันด้วย นักเรียนควรจดจำไว้ว่าข้อมูลบางข้อจะเป็นการถอดความ (ความหมายของ ประโยคเหมือนกัน แต่รูปประโยคแตกต่างออกไป) จากนั้นครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 25 Ex.3b แล้วทำข้อ 1 ร่วมกับนักเรียน โดยให้นักเรียน อ่าน scan บทอ่านอย่างรวดเร็ว และขีดเส้นใต้คำว่า hotel ทั้งหมดในบทอ่าน สถานที่ใดในบทอ่านที่ไม่มีคำ นี้อยู่ คือคำตอบของคำถามข้อ 1 (Which place is not a hotel? D) ต่อมาครูให้นักเรียนจับคู่กัน และทำ แบบฝึกหัดข้อที่เหลือให้เสร็จ เสร็จแล้วจึงตรวจคำตอบร่วมกัน กิจกรรมเพิ่มเติม


132 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 1. D 2. A 3. B 4. D 5. C 6. A 7. C 8. B 9. A 10. C 11. C 12. A 13. B 14. A 15. C 3. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 25 Ex.3c โดยครูช่วยอธิบายคำศัพท์ที่พิมพ์ตัวหนาในบทอ่าน ด้วยการยกตัวอย่างประโยคหรือบอกคำที่มีความหมายเหมือนกัน จากนั้นให้นักเรียนค้นหาคำที่มีความหมาย เหมือนกับคำศัพท์ที่อยู่ในพื้นสีฟ้าเข้ม (highlighted words) จากพจนานุกรม เสร็จแล้วตรวจคำตอบ ร่วมกัน สุดท้ายครูถามนักเรียนว่ามีคำศัพท์ใดในบทอ่านที่คล้ายคลึงกับคำในภาษาไทยบ้าง เช่น Cable TV, gym, picnic Suggested answer key: A stone’s throw (phr): very near extensive (adj): covering a wide area or range fully equipped (phr): with all the necessary equipment woodland (n): land with a lot of trees date back to (phr v): to start or be made at a particular time stained glass (phr): piece of glass of different colours fixed to make decorative windows or other objects roaring (adj): burning brightly and producing a lot of heat award-winning (adj): having won prizes in competitions archery (n): a sport of shooting at a target with a bow and arrow scenic (adj): with beautiful, picturesque scenery waterfront (n): a street or piece of land next to water e.g. harbour unspoiled (adj): beautiful because it has not been changed or built on for a long time (for place) handmade (adj): made by hand, not by machine open to the public (phr): open for people to visit moor (n): an area of open and usually high land with poor soil, covered with grass and heather self-contained (adj): with all own facilities such as kitchen and bathroom restore (v): to cause sth or sb to be in its/their previous condition modern conveniences (phr): hot and cold running water, wc, bath, telephone, etc. (‘all mod cons’ sometimes used as abbreviation) aspiring (adj): trying to become successful in a particular field Synonyms stylish: chic trendiest: most fashionable sample: try dine: eat situated in: located in amazing: wonderful fascinating: interesting experience: feel fans: admirers wander: stroll appeal to: interest alike: similar


133 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 4. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 25 Ex.3d โดยจับคู่อภิปรายเกี่ยวกับสถานที่ที่นักเรียนอยากไป พัก พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลประกอบ เสร็จแล้วครูสุ่มเลือกนักเรียนออกมาสนทนาที่หน้าชั้น Suggested answer key: A: I’d like to stay at the Radisson SAS Portman Hotel in London because it’s a luxurious hotel with lots of facilities. What about you? B: Well, luxurious hotels aren’t to my taste. I prefer small quiet hotels in the countryside. I’d choose to go to Old Oxenhope Hall Cottage. etc. ครูแนะนำคลิปวิดีโอ Britain’s history and culture จากเว็บไซต์ http://esol.britishcouncil.org/content/learners/uk-life/video-uk/britain’s-history-and-culture เพื่อให้นักเรียนไปฝึกทักษะการฟังด้วยตนเองนอกเวลาเรียน โดยครูอธิบายเนื้อหาให้นักเรียนฟังสั้นๆ ว่าเป็น คลิปวิดีโอเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของอังกฤษในด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยนักเรียน สามารถทำแบบฝึกหัดหลังการฟัง และดู tapescript ได้ถ้าต้องการ ในชั่วโมงถัดไปครูอาจให้นักเรียนช่วยกัน เล่าเนื้อหาคร่าวๆ หรือสถานที่ที่น่าสนใจ แล้วครูพูดให้กำลังใจนักเรียนที่มีความใฝ่เรียนรู้ ด้วยการฝึกฝน ภาษาอังกฤษนอกห้องเรียน Follow-up 1. ครูตั้งคำถามเกี่ยวกับโรงแรมในบทอ่านย่อหน้าแรก และให้นักเรียนช่วยกันตอบ จากนั้นครูให้นักเรียนทำงาน เป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเลือกย่อหน้าที่ตนเองต้องการ และช่วยกันแต่งประโยคคำถามเกี่ยวกับสถานที่ในย่อ หน้านั้นๆ ครูกำหนดเวลาให้นักเรียนทำ 8-10 นาที เสร็จแล้วครูให้นักเรียน แต่ละกลุ่มผลัดกันพูดถามคำถาม นักเรียนกลุ่มอื่น ตัวอย่างคำถามเช่น - Where is Radisson SAS Portman Hotel? In London. - How far is it from the Marble Arch? Just a minute’s walk. - How far is it from Oxford Street? Just a stone’s throw from there. - What are the famous places near this hotel? Buckingham Palace and the Houses of Parliament. - What can you do if you choose to stay at this hotel? You can relax in your room, watch cable TV and enjoy something from the extensive room service menu and the leisure facilities of the hotel. กิจกรรมเพิ่มเติม


134 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 2. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 25 Ex.4 โดยครูเขียนหัวข้อที่กำหนดให้บนกระดาน (name, location, description, facilities, things to see/do) แล้วให้นักเรียนเลือกโรงแรมมา 1 แห่งจากในบท อ่าน และช่วยกันให้ข้อมูลในแต่ละหัวข้อ ครูเติมข้อมูลดังกล่าวลงในตาราง จากนั้นให้นักเรียนลอกตารางดังกล่าวลงในสมุด และให้นักเรียนใช้ข้อมูลจากตารางนี้ พูดเกี่ยวกับโรงแรมที่ นักเรียนเลือก ครูสุ่มเลือกนักเรียน 2-3 คน ออกมารายงานที่หน้าชั้น Suggested answer key: Name: Radisson SAS Portman Hotel Location: Central London Description: deluxe four-star hotel Facilities: cable TV, extensive room service menu, fully equipped gym, two restaurants Things to see/do: go shopping in Oxford Street, visit Buckingham Palace and the Houses of Parliament Radisson SAS Portman Hotel in central London is a deluxe four-star hotel. It has got cable TV, an extensive room service menu, a fully equipped gym and two restaurants. During your stay there you can go shopping in Oxford Street, or visit Buckingham Palace and the Houses of Parliament. กิจกรรมเพิ่มเติม Active Learning สู่สมรรถนะ Active Learning 1. การเรียนรู้ผ่านการคิดข้นัสูง (Thinking Based Learning) 2. การเรียนรู้ผ่านการลงมือท า (Learning by doing) 3. การเรียนรู้จากการท างานร่วมกัน (Cooperative Learning) 5. การสื่อสาร น าเสนอ (Communication and Presentation) 4. การเรียนรู้จากการส ารวจและค้นหา (Inquiry-Based Learning)


135 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูให้นักเรียนทำตารางเหมือนใน Ex.4 แล้วเติมข้อมูลเกี่ยวกับโรงแรมที่นักเรียนเคยไปพักในวันหยุด แล้วให้นักเรียน ใช้ข้อมูลเหล่านี้เขียนบทความสั้นๆ เกี่ยวกับโรงแรมแห่งนั้น โดยครูให้นักเรียนใช้บทอ่านในหนังสือเรียน หน้า 25 เป็นต้นแบบในการเขียน หรือครูอาจมอบหมายให้นักเรียนไปเขียนเป็นการบ้าน แล้วนำมานำเสนอที่หน้าชั้น Suggested answer key: Name: Balmoral Hotel Location: Edinburgh Description: luxury five-star hotel Facilities: real fireplaces, excellent restaurant, cable TV, gym, swimming pool, sauna and steam room Things to see/do: visit Edinburgh Castle, shop in the city centre, go and see a play The Balmoral Hotel in Edinburgh is a luxury five-star hotel. It has got real fireplaces, an excellent restaurant and cable TV as well as a gym, a swimming pool and a sauna and steam room. During your stay there you can visit Edinburgh Castle and go shopping in the city centre or you can go and see a play. ในอีกทางเลือกหนึ่งครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม และให้แต่ละกลุ่มเลือกโรงแรมจากในบทอ่านมา กลุ่มละ 1 แห่ง ครู สมมติให้นักเรียนทำ presentation เสนอลูกค้าหรือนักท่องเที่ยว โดยให้นักเรียนใช้ข้อมูลจากบทอ่านหรือข้อมูลที่หา เพิ่มเติม รวมทั้งหาภาพโรงแรมและสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ ที่ระบุอยู่ในบทอ่าน เพื่อนำมาใช้ประกอบในการพูด นำเสนอโรงแรมของกลุ่มตนเอง นักเรียนสามารถนำเสนองานโดยใช้ Microsoft PowerPoint ได้ 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มทำโปสเตอร์หรือแผ่นพับนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวด้าน ประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมในประเทศไทย โดยค้นคว้าข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ เช่น ห้องสมุดหรือ Internet เสร็จแล้วตกแต่งให้สวยงาม และนำมาจัดแสดงในห้องเรียน หรือในกรณีที่ท้องถิ่นของนักเรียนมี สถานที่ท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ครูให้นักเรียนถ่ายคลิปวิดีโอแนะนำสถานที่ ดังกล่าวจากมือถือของตนเอง โดยสมมติว่านักเรียนเป็น guide ครูอาจกำหนดเวลาให้นักเรียนว่า ไม่ควรเกิน 10-15 นาที แบบฝึกหัด หน้า 12 Ex.3 และหน้า 13-14 Ex.8 (ดูเฉลยภาคผนวก C) ข้อมูลเพิ่มเติม Marble Arch เป็นซุ้มประตูหินสีขาวขนาดใหญ่ ซึ่งมี 3 ทางเข้าออก เป็นชุมทางที่มีถนน สำคัญๆ ตัดผ่าน เช่น Oxford Street, Park Lane, Edgware Rode


136 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Hadrian’s wall เป็นกำแพงหินบางส่วนและกำแพงหญ้าบางส่วนที่สร้างโดยจักรวรรดิ โรมันขวางตลอดแนวตอนเหนือของเกาะอังกฤษใต้แนวพรมแดนอังกฤษและสกอตแลนด์ ในปัจจุบัน การก่อสร้างกำแพงเริ่มขึ้นในรัชสมัยของจักรพรรดิเฮเดรียนในปี ค.ศ. 122 “กำแพงเฮเดรียน” เป็นหนึ่งในสามแนวป้องกันการรุกรานอาณานิคมบริเตนของโรมัน Northumberland นอร์ธทัมเบอร์แลนด์ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ติดกับพรมแดนสกอตแลนด์ The Lake District หรือ the Lakes เป็นดินแดนของทะละสาบและภูเขาในมณฑลคัมเบรีย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียง เหนือของอังกฤษ โดยมีทั้งภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศอังกฤษ ได้แก่ scafell pike (สูง 978 เมตร) และทะเลสาบที่ใหญ่ ที่สุดในอังกฤษ ได้แก่ Windermere Brontë sisters พี่น้องบรอนเต้ ได้แก่ Charlotte Brontë (1816–55), Emily Brontë (1818–48) และ Anne Brontë (1820–49) แต่ละคนเป็นนักเขียนนิยายเรื่องที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เรื่องหนึ่งในอังกฤษ ซึ่งพี่น้องทั้ง 3 ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่หมู่บ้านชื่อ Haworth ใน Yorkshire ซึ่ง อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ พ่อของพวกเขาเป็นนักบวชของนิกายเชิร์ชออฟ อิงค์แลนด์ พวกเขาได้เริ่มเขียนนิยายและบทกวี ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็กๆ แต่พวกเขาตายก่อนที่ หนังสือของพวกเขาจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกตราบจนทุกวันนี้ ตัวอย่าง หนังสือของ Charlotte Brontë ได้แก่ Jane Eyre หนังสือของ Emily ได้แก่ Wuthering Heights และหนังสือของ Anne ได้แก่ Tenant of Wildfell Hall (1848)


137 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Unit 3b Vocabulary practice 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1: เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 3. อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์กับประโยค และข้อความที่ ฟังหรืออ่าน 4. จับใจความสำคัญ วิเคราะห์ความ สรุปความ ตีความ และแสดงความคิดเห็นจาก การฟัง และอ่านเรื่องที่เป็นสารคดีและบันเทิงคดี พร้อมทั้งให้เหตุผลและยกตัวอย่างประกอบ มาตรฐาน ต 1.3: นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด และการเขียน ตัวชี้วัด 1. พูดและเขียนนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง/ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ เรื่อง และประเด็น ต่างๆ ตามความสนใจของสังคม มาตรฐาน ต 2.1: เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 2. อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของ เจ้าของภาษา 3. เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 3.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด 1. ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูดและ การเขียน มาตรฐาน ต 4.2: ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด 2. เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทักษะเฉพาะวิชา • Language features and functions Vocabulary: คำศัพท์เกี่ยวกับ weather, holidays, holiday troubles, traveller’s tips, festivals


138 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา • Language skills Listening: ฟังเพื่อหาข้อมูลจำเพาะ, ฟังและจับคู่ผู้พูดกับสถานที่, ฟังและเติมข้อมูลลงใน แผนภูมิ Speaking: พูดรายงานสภาพอากาศ, พูดเกี่ยวกับเทศกาลในประเทศไทย 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.1 มุ่งมั่นในการทำงาน 4.2 รักความเป็นไทย 5. กิจกรรมการเรียนรู้ Weather 1. ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ของ Unit 3b ว่าเป็นการฝึกใช้คำศัพท์เกี่ยวกับสภาพอากาศ ปัญหาที่เกิดขึ้นใน การไปเที่ยว เกร็ดความรู้สำหรับนักท่องเที่ยว และเทศกาลต่างๆ 2. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 26 Ex.1a โดยครูอ่านหัวข้อ (weather) แล้วให้นักเรียนช่วยกัน บอกคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ เช่น windy, freezing cold, below 0oC, cool, it’s raining เป็น ต้น จากนั้นอธิบายว่านักเรียนจะได้ฟังการรายงานสภาพอากาศ ให้นักเรียนดูภาพและอ่านข้อมูลที่ให้มา แล้ว ครูเปิด CD1/track 23 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟังและเติมคำที่ขาดหายไปในช่องว่าง Havana: sunny Hong Kong: humid Cape Town: cool Geneva: breezy ครูตรวจคำตอบ และให้นักเรียนใช้ข้อมูลที่ให้มาและคำตอบของนักเรียนพูดเกี่ยวกับสภาพอากาศ ในแต่ละ สถานที่เหมือนดังตัวอย่าง In Hong Kong it is the rainy season and it is hot, humid and sticky with a temperature of 35oC. In Cape Town it is wet and cool with temperatures below freezing. In Geneva it is warm, dry and breezy with a temperature of 18oC. Note: boiling hot = very hot freezing cold = very cold chilly = chilly weather are cold enough to make you feel uncomfortable


139 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 3. ครูอ่านข้อมูลที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 26 Ex.1b และให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของคำศัพท์ ครู ทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับชื่อสถานที่ในตาราง และให้นักเรียนช่วยกันระบุตำแหน่งของสถานที่เหล่านี้ในแผนที่ จากนั้นให้เวลานักเรียน 2 นาที เตรียมคำตอบ เสร็จแล้วครูสุ่มเรียกนักเรียนออกมารายงานสภาพอากาศของ สถานที่ต่างๆ ที่กำหนดให้ที่หน้าชั้น Suggested answer key: It will be cool and sunny in Barcelona with a temperature of 17oC. It will be chilly and cloudy in Budapest with a temperature of 10oC. It will be cold and snowy in Chicago with a temperature of 2oC. It will be chilly and rainy in Istanbul with a temperature of 10oC. It will be chilly and rainy in Kiev with a temperature of 8oC. It will be warm and sunny in Madrid with a temperature of 20oC. It will be cool and sunny in Milan with a temperature of 17oC. It will be cold and cloudy in Moscow with a temperature of 4oC. It will be cold and cloudy in Prague with a temperature of 5oC. It will be boiling hot and rainy in Singapore with a temperature of 33oC. It will be chilly and foggy in Warsaw with a temperature of 12oC. ครูแนะนำคลิปวิดีโอ Britain’s weather จากเว็บไซต์ http://learnenglishteens.britishcouncil.org/uknow/video-uk/british-weather เพื่อให้นักเรียนไปฝึกทักษะการฟังด้วยตนเองนอกเวลาเรียน โดยครูบอก นักเรียนว่า คลิปวิดีโอนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาพอากาศของประเทศอังกฤษและการทำงานของสถานีโทรทัศน์ BBC ในการพยากรณ์สภาพอากาศ ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าสภาพอากาศเป็นหัวข้อ ในการพูดคุยยอดนิยมของคนอังกฤษ จากนั้นครูบอกให้นักเรียนไปดูคลิป แล้วลองหาคำตอบว่าเป็นเพราะ อะไร โดยหลังจากดูและฟังคลิปจบแล้ว นักเรียนสามารถทำแบบฝึกหัด และดู tapescript ได้ถ้าต้องการ ใน ชั่วโมงถัดไปครูสอบถามนักเรียนเกี่ยวกับประเด็นที่ครูถามไว้ ตัวอย่างบทสนทนาในคลิปวิดีโอ Amandeep: Why do you think British people are so interested in the weather? Nick: Well, it gives us something to talk about. You know, lots of different weather all the time. Never the same from one day to the next, so if you run out of conversation, you can always talk about the weather. นอกจากนี้ครูอาจทดสอบว่านักเรียนเข้าใจคำศัพท์หรือไม่ ด้วยการยกตัวอย่างประโยคและถามความหมาย เช่น It’s blowing a gale outside (= a strong wind is blowing). Thunderstorms sometimes drop balls of ice known as hail in addition to rain. กิจกรรมเพิ่มเติม


140 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Holidays 1. ครูอ่านรายการสิ่งของที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 26 Ex.2 และให้นักเรียนช่วยกันบอกความหมายของ คำศัพท์ยาก จากนั้นครูอธิบายภาระงานว่าถ้านักเรียนได้ไปเที่ยวสถานที่ทั้ง 4 แห่งใน Ex.1a นักเรียนจะนำ สิ่งของที่กำหนดให้สิ่งใดไปบ้าง ครูอ่านตัวอย่างคำตอบ และให้เวลานักเรียนทำงาน 2 นาที เสร็จแล้วให้ นักเรียนอ่านคำตอบของตนเองทีละคน Suggested answer key: A: If I visited Havana, I would definitely take my sunglasses, shorts, T-shirt and sandals because it is hot and dry there. B: I agree. I’d also pack sunscreen because it’s very hot and sunny there. A: If I visited Hong Kong. I would definitely take my umbrella and raincoat because it is the rainy season there. B: An insect repellent is needed too as it’s so humid. A: If I visited Geneva I would take a camera because there is a lot of beautiful scenery there. B: I’d also take walking shoes as you can go walking in the countryside. 2. ครูอธิบายว่า quiz คืออะไร และมีไว้ใช้ทำอะไร (a competition or game in which people try to answer questions to test their knowledge) จากนั้นจึงอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 26 Ex.3 ครูอ่านคำถามข้อ 1-5 ทีละข้อ และให้นักเรียนวงกลมคำตอบที่คิดว่าถูกต้อง เสร็จแล้วครูสำรวจคร่าวๆ ว่า นักเรียนในชั้นกี่คนที่ส่วนใหญ่ตอบข้อ A (Mostly A) ข้อ B (Mostly B) ข้อ C (Mostly C) หรือข้อ D (Mostly D) (Students’ own answers) ให้นักเรียนจับคู่กัน แล้วช่วยกันสร้างแบบทดสอบเกี่ยวกับวันหยุด (holiday quiz) 3. ให้นักเรียนอ่านคำคุณศัพท์ (adjectives) ที่กำหนดให้ในแต่ละข้อในหนังสือเรียน หน้า 27 Ex.4 แล้วเติม คำนามที่คำคุณศัพท์เหล่านี้ขยาย เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน แล้วให้นักเรียนใช้คำคุณศัพท์และคำนาม เหล่านี้ พูดถึงสถานที่ที่นักเรียนได้ไปเที่ยวครั้งล่าสุด 1. beach 2. shop 3. street 4. hotel 5. cuisine 6. mountain 7. island กิจกรรมเพิ่มเติม


141 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Suggested answer key: Last year I went to Spain. It was fantastic. I spent a lot of time looking around trendy shops and buying presents. I also sampled the local cuisine. It was delicious. 4. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 27 Ex.5a โดยครูเปิด CD1/track 24 (หรือสแกน QR code) ให้นักเรียนฟัง 2 ครั้ง แล้วจับคู่ผู้พูด 1-4 กับสถานที่ที่พวกเขาจะไปพัก เสร็จแล้วตรวจคำตอบร่วมกัน Speaker 1 = a Speaker 2 = d Speaker 3 = c Speaker 4 = b 5. ให้นักเรียนทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 27 Ex.5b โดยฟัง CD1/track 24 (หรือสแกน QR code) อีก ครั้ง แล้วเติมคำลงในแผนภูมิ (spidergrams) ครูตรวจคำตอบ จากนั้นให้เวลานักเรียนแต่งประโยคเกี่ยวกับ สถานที่ทั้ง 4 แห่ง ครูตรวจคำตอบโดยสุ่มเรียกนักเรียนให้อ่านประโยคที่ตนเองแต่ง Suggested answer key: Hotel: room service, swimming pool, gym, staff, manager, restaurant Cruise liner: pool, experienced crew, set sail, on board, passenger, pool Caravan: fully equipped kitchen, home comforts, tour Hostel: cooking facilities, communal dining halls, share rooms, bunks, sleeping bags - Some hotels have got a swimming pool and a gym. - On my first cruise, many years ago, I was invited to have dinner at the captain's table. - His family lived in a mobile caravan for almost a decade before buying a house. - We stayed in a cheap hostel in Spain in order to save money. Note: spidergram (n) = a drawing that shows a summary of facts or ideas, with the main subject in a central circle and the most important facts on lines drawn out from it Holiday troubles ครูอ่านข้อมูลที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 27 Ex.6 แล้วเปิด CD1/track 25 (หรือสแกน QR code) ให้ นักเรียนฟังและขีดเส้นใต้ปัญหาที่แต่ละคนพบขณะไปเที่ยว เสร็จแล้วเฉลยคำตอบร่วมกัน แล้วให้นักเรียน ช่วยกันบอกประสบการณ์การไปเที่ยวในวันหยุดที่ไม่น่าพึงพอใจอื่นๆ Claire = travel sickness, engine trouble Tim = terrible food, overcharged Pam = power cut, flat battery Other unpleasant holiday experiences: robbery, lost passport, fire in hotel, car accident, etc.


142 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา ครูให้นักเรียนพูดเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การไปเที่ยวที่ไม่ดีของตนเอง โดยให้นักเรียนบอกว่าไปเที่ยวที่ไหน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อใด และบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักเรียน หรืออาจให้นักเรียน จินตนาการว่าตนเองเป็น Tim แล้วเขียนอีเมลร้องเรียนถึงผู้จัดการโรงแรม The Milton Hotel โดยในอีเมล ต้องระบุข้อมูลต่อไปนี้ วันที่แน่นอนที่ไปพัก (exact dates of stay), เรื่องที่ไม่พอใจ (complaints), การ ดำเนินการที่คาดหวัง (action expected to be taken) โดยครูกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันบอกวลีที่ จำเป็นต้องใช้ในการเขียนอีเมลร้องเรียน เช่น express dissatisfaction, was disappointed, to make matters worse, overcharged, written apology, partial refund และกระตุ้นให้นักเรียนช่วยกันบอก เค้าโครงของอีเมล แล้วครูเขียนเค้าโครงที่นักเรียนบอกบนกระดาน Suggested plan: Introduction (Para 1): reasons for writing – exact dates of stay Main Body (Para 2): complains Conduction (Para 3): restate complaint – state action expect to be taken ครูให้นักเรียนช่วยกันร่างอีเมลฉบับนี้ด้วยกันปากเปล่าก่อน เสร็จแล้วจึงให้นักเรียนกลับไปเขียนอีเมลฉบับนี้ ลงในสมุดเป็นการบ้าน Suggested answer key: Dear Sir, I am writing to express my dissatisfaction with my recent stay at the Milton Hotel. I stayed at the hotel from 7th May to 14th May this year. While I was happy with the spacious room and pleasant, quiet atmosphere, I am afraid that the food, which I ordered from room service, was not of the quality that I would expect. The meal I received was dreadful. The soup was watery, and the main course was cold. To make matters worse, I feel that I was overcharged for this meal. As you can imagine, I was extremely disappointed. I believe that I am entitled to at least a partial refund and a written apology. I hope that this matter can be dealt with promptly. Yours faithfully, Tim Laurie กิจกรรมเพิ่มเติม


143 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 2. – c 3. – d 4. – a Traveller’s tips 1. ครูอ่านตัวอย่างคำตอบที่ให้มาในหนังสือเรียน หน้า 27 Ex.7a หัวข้อ Traveller’s tips แล้วให้นักเรียน ช่วยกันพิจารณาการใช้คำสันธาน (conjunction) ในประโยคดังกล่าว in case + present tense so that + subject + can… จากนั้นให้นักเรียนใช้ in case หรือ so that เชื่อมประโยคที่เหลือเหมือนดังตัวอย่าง เสร็จแล้วตรวจคำตอบ ร่วมกัน 3 – d Take out travel insurance in case any of your belongings are lost or stolen. 4 – c Find out the local address of your country’s embassy or consulate in case something serious goes wrong at your destination. 5 – b Make photocopies of your tickets and passport so that they can be replaced more easily if lost. 2. ให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 27 Ex.7b โดยช่วยกันคิดเกร็ดความรู้อื่นๆ สำหรับ นักท่องเที่ยว (Traveller’s tips) นอกเหนือจากที่บอกไว้แล้วใน Ex.7a พร้อมทั้งบอกเหตุผล Suggested answer key: Find out about the local laws and customs before you visit a place so that you won’t offend anyone. If you are flying, make sure that you don’t carry anything onto the plane for anyone else, in case it is something illegal. Festivals 1. ครูอ่านข้อมูลในตารางในหนังสือเรียน หน้า 27 Ex.8a หัวข้อ Festivals แล้วทบทวนเกี่ยวกับการใช้ คำคุณศัพท์เกี่ยวกับเชื้อชาติ (nationality adjectives) เช่น Japan-Japanese, India-Indian, PolandPolish, Spain-Spanish เป็นต้น จากนั้นให้นักเรียนจับคู่กัน แล้วจับคู่เทศกาล (festivals) กับเหตุการณ์ (events) แล้วแต่งประโยคเหมือนดังตัวอย่าง Suggested answer key: The Rocket Festival takes place in Thailand. The Thai people celebrate it by making rockets and setting off fireworks. etc.


144 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา 3. ให้นักเรียนจับคู่ทำกิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 27 Ex.8b พูดคุยเกี่ยวกับเทศกาลในประเทศไทย โดยให้ บอกว่าเทศกาลนั้นเกิดขึ้นเมื่อไร และมีการเฉลิมฉลองอย่างไรบ้าง ครูสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียน จากนั้นให้นักเรียนออกมารายงานคำตอบของตนหน้าชั้นทีละคน Suggested answer key: The Day of the Dead takes place in Mexico between 31st October and 2nd November. Families come together to pray for and remember lost relatives. Altars are constructed in both public spaces and private homes, and are decorated with pumpkins and squashes, marigolds, candles, and sugar skulls. Some cities also host costumed parades. ให้นักเรียนเขียนบทความสั้นๆ เกี่ยวกับเทศกาล เพื่อลงนิตยสารของโรงเรียน โดยรวบรวมภาพเกี่ยวกับ เทศกาลจากหลายๆ ประเทศ เพื่อทำเป็นโปสเตอร์เกี่ยวกับเทศกาลของห้องเรียน ครูแนะนำว่านักเรียนควร ระบุชื่อของเทศกาลและวันเวลาที่จัดเทศกาลไว้ใต้ภาพแต่ละภาพ ครูให้นักเรียนเขียนบทความบรรยายเกี่ยวกับเทศกาลที่นักเรียนได้ไปเที่ยวในประเทศของตนเอง โดยใช้ บทความในแบบฝึกหัด (Workbook) หน้า 15 Ex.9a เป็นต้นแบบในการเขียน ครูช่วยเหลือนักเรียนในการ ทำงานด้วยการเขียนโครงร่าง (Plan) ให้นักเรียนดูบนกระดาน ดังนี้ แบบฝึกหัด หน้า 12-13 Exs.1-2, Ex.4 และหน้า 15 Exs.9-11 ร่วมกัน (ดูเฉลยภาคผนวก C) ข้อมูลเพิ่มเติม: • เมืองต่างๆ กิจกรรมเพิ่มเติม กิจกรรมเพิ่มเติม


145 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Athens The capital and largest city of Greece Barcelona 2nd largest Spanish city and the largest port and commercial center Budapest The capital and largest city of Hungary Cape Town A port city in south-western South Africa Chicago The third largest US city. It is in the state of Illinois. Geneva A city in south-west Switzerland Havana The capital and largest city of Cuba Hong Kong a special administrative region of south-east China Istanbul The largest city of Turkey Kiev The capital of Ukraine Madrid The capital and largest city of Spain Milan The capital of Lombardy in northern Italy Moscow The capital and largest city of Russia Prague The capital and largest city of the Czech Republic Singapore The capital of the republic of Singapore Warsaw The capital of Poland • Star Festival วันทานาบาตะ (Star festival) คือวันแห่งความรักและความสุขสมหวังของดวงดาว 2 ดวง ดวงแรกมีนามว่า “โอริฮิเมะ” (หญิงทอผ้า) และดวงที่สองมีนามว่า “ฮิโกโบชิ” (คนเลี้ยงวัว) ตามความเชื่อของคนญี่ปุ่นที่ได้เล่าต่อๆ กันมาว่า ดวงดาวสองดวงนี้ต้องพลัดพรากจากกันโดยมี ทางช้างเผือก หรือที่คนญี่ปุ่นสมัยโบราณตั้งชื่อให้ว่า “อามาโน่ คาวา” ตามจินตนาการของคนสมัยโบราณจะมองเห็น ทาง ช้างเผือกที่มีดวงดาวนับร้อยนับพันดวงมารวมกันเป็นทางยาวนั้นเขามองเห็นเป็นเหมือนแม่น้ำสายใหญ่และตั้งชื่อให้ว่า “อามา โน่ คาวา” ซึ่งแปลตามศัพท์ตรงๆ ว่า“แม่น้ำแห่งสวรรค์” และแม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำสายที่ขวางกั้นดวงดาวสองดวงให้ต้อง พลัดพรากจากกัน แต่ในทุกๆ ปี ของวันที่ 7 เดือน 7 (กรกฎาคม) ซึ่งเป็นวันที่ทางช้างเผือกจะออกมาปรากฏบนท้องฟ้าของ ประเทศญี่ปุ่นให้ได้เห็นกันในทุกๆ ปีนั้นจะเป็นวันที่ดวงดาวสองดวงคือ “โอริ ฮิเมะ” (หญิงทอผ้า) กับ “ฮิโกโบชิ” (คนเลี้ยงวัว) จะได้มีโอกาสได้มาพบกันสมดังใจที่คิดถึงและปรารถนาของทั้งสอง และในวันนี้ก็เป็นวันที่ให้กำเนิดพิธี“ทานาบาตะ” ขึ้นมา คนญี่ปุ่นจะเชื่อถือและเล่า ต่อๆ กันมาสู่ลูกๆ หลานๆ ว่า ให้ไปตัดต้นไผ่ นำมาปักไว้ในรั้วบ้าน และให้เขียนคำอธิษฐานใส่ กระดาษ นำไปผูกไว้ที่ต้นไผ่ที่ตัดมา แล้วคำอธิษฐานนั้นก็อาจจะได้ผลสมประสงค์สมดังใจ ปรารถนาเหมือนๆ กับ “โอริ ฮิเมะ” และ “ฮิโกโบชิ” ที่ได้สมหวัง และได้พบกันในวันนั้น (ที่มา: http://forum.board-conan.net/viewthread.php?tid=1112&from=recommend_f)


146 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Unit 3c Grammar in use 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ต 1.1: เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล ตัวชี้วัด 3. อธิบายและเขียนประโยคและข้อความให้สัมพันธ์กับสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ที่อ่าน รวมทั้งระบุและเขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่างๆ ให้สัมพันธ์ กับประโยค และข้อความที่ฟังหรืออ่าน มาตรฐาน ต 2.1: เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ ตัวชี้วัด 2. อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวิต ความคิด ความเชื่อ และที่มาของขนบธรรมเนียม และประเพณีของเจ้าของภาษา 3. เข้าร่วม แนะนำ และจัดกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม มาตรฐาน ต 2.2: เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ตัวชี้วัด 1. อธิบาย/เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโครงสร้างประโยค ข้อความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิตและบทกลอนของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย มาตรฐาน ต 3.1: ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และเป็นพื้นฐานในการ พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วัด 1. ค้นคว้า/สืบค้น บันทึก สรุป และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ กลุ่มสาระ การเรียนรู้อื่น จากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ และนำเสนอด้วยการพูด และการเขียน มาตรฐาน ต 4.2: ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก ตัวชี้วัด 1. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/ค้นคว้า รวบรวม วิเคราะห์ และสรุปความรู้/ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ 2. เผยแพร่/ประชาสัมพันธ์ ข้อมูล ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาต่างประเทศ 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 ทักษะเฉพาะวิชา • Language features and functions Grammar: future tenses, conditional types 0 and 1, the definite article, prepositions


147 แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ33101 ครูผู้สอน นายพีระ เหมือดนอก โรงเรียนพนมศึกษา Vocabulary: phrasal verbs (cut, do) 3. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 3.1 ความสามารถในการสื่อสาร 3.2 ความสามารถในการคิด 3.2.1 ทักษะการคิดที่ใช้ในการสื่อสาร 3.2.2 ทักษะการนำความรู้ไปใช้ 3.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.1 มุ่งมั่นในการทำงาน 5. กิจกรรมการเรียนรู้ Future tenses 1. ครูบอกจุดประสงค์การเรียนรู้ของ Unit 3c ว่าจะเป็นการฝึกใช้โครงสร้างประโยค Future tenses, conditional types 0 and 1, the definite article, prepositions, phrasal verbs – cut, do 2. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 28 Ex.1 ว่า ให้นักเรียนอ่านประโยค 1-4 จากนั้นจับคู่หลักการใช้ที่ ให้มากับคำกริยาที่พิมพ์ตัวหนาในประโยคดังกล่าว ครูทำข้อ 1 ร่วมกับนักเรียน เพื่อเป็นตัวอย่าง แล้วจึงให้นักเรียนทำข้อที่เหลือด้วยตนเอง เสร็จแล้วครูตรวจคำตอบของนักเรียน 1. a prediction based on evidence 2. a future action already arranged 3. an uncertainty/possibility 4. an intention/plan ให้นักเรียนแต่งประโยคที่เป็น a future action already arranged, an intention/plan, an uncertainty/possibility และ a prediction based on evidence อย่างละ 1 ประโยค 3. ครูอธิบายภาระงานในหนังสือเรียน หน้า 28 Ex.2 แล้วให้นักเรียนทำงานคู่ แต่งบทสนทนาเกี่ยวกับแผนการ สำหรับวันหยุดของตนเองเหมือนดังตัวอย่างที่ให้มา ครูสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียน Suggested answer key: A: Are you doing anything on your next holiday? B: Yes, I’m visiting a friend in Edinburgh. A: That will be nice. Is anybody going with you? B: I think my brother will come, but he’s not sure yet. A: Where are you staying? B: At my friend’s flat. กิจกรรมเพิ่มเติม


Click to View FlipBook Version