The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม.5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-03-23 22:30:45

แผนการจัดการเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม.5

แผนการจัดการเรียนรู้ ภูมิศาสตร์ ม.5

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 139

ใบงานที่ 3.1
เรอื่ ง การกระจายและความหนาแน่นของประชากร

คำชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นเขียนบรรยายความสัมพนั ธข์ องสิง่ แวดล้อมทางกายภาพกับกจิ กรรมของมนษุ ย์
กบั การกระจายและความหนาแน่นของประชากรของภมู ิภาคตา่ ง ๆ ในโลก จากแผนที่
ทกี่ ำหนดให้ จำนวน 6-8 บรรทดั

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 140

เฉลยใบงานที่ 3.1
เร่อื ง การกระจายและความหนาแน่นของประชากร

คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนเขยี นบรรยายความสมั พนั ธ์ของสิง่ แวดลอ้ มทางกายภาพกับกิจกรรมของมนุษย์
กับการกระจายและความหนาแน่นของประชากรของภมู ิภาคต่าง ๆ ในโลก จากแผนท่ี
ท่ีกำหนดให้ จำนวน 6-8 บรรทดั

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(พิจารณาคำตอบของนักเรยี น จากดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 141

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9 การเปลี่ยนแปลงประชากรโลกและประชากรไทย

รายวิชา ส 32101 สังคมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 สงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากรและการต้งั ถ่นิ ฐาน เวลาเรยี น 10 ชวั่ โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 การเปล่ียนแปลงประชากรโลกและประชากรไทย เวลาเรยี น 3 ชัว่ โมง

ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ครผู สู้ อน นางสาวรชนีกร จนั ทรพ์ ิทกั ษ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสัมพันธร์ ะหว่างมนุษย์กบั สิง่ แวดลอ้ มทางกายภาพที่ก่อให้เกดิ
การสร้างสรรค์วถิ ีการดำเนนิ ชีวิต มจี ิตสำนกึ และมสี ว่ นรว่ มในการจัดการ
ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม เพอื่ การพัฒนาท่ีย่งั ยืน
ตวั ช้วี ดั ม. 4-6/1 วเิ คราะหป์ ฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั กิจกรรมของมนุษย์
ในการสร้างสรรค์วิถกี ารดำเนนิ ชวี ิตของทอ้ งถิน่ ท้ังในประเทศไทยและ
ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก และเหน็ ความสำคญั ของสง่ิ แวดลอ้ มท่ีมีผลต่อ
การดำรงชีวติ ของมนุษย์

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
วิถกี ารดำเนินชีวติ ของทอ้ งถน่ิ ทงั้ ในประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก เกิดจากปฏิสัมพนั ธ์

ระหว่างส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพกบั กิจกรรมของมนุษย์ นอกจากนี้ กระแสโลกาภวิ ตั น์ทำให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพและวถิ ีการดำเนินชีวิต

3. สาระการเรยี นรู้
ปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่างสิง่ แวดล้อมทางกายภาพกับวถิ ีการดำเนินชีวติ ภายใต้กระแสโลกาภวิ ตั น์

ได้แก่ ประชากรและการตัง้ ถ่ินฐาน (การกระจายและการเปลี่ยนแปลงประชากร ชมุ ชนเมอื งและชนบท
และการกลายเปน็ เมอื ง)

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. วเิ คราะห์ปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกับกจิ กรรมของมนษุ ย์ท่กี อ่ ใหเ้ กดิ การ

เปล่ยี นแปลงประชากรโลกและประชากรไทยได้ (K)
2. เลอื กใชเ้ ครือ่ งมือทางภูมิศาสตรใ์ นการศึกษาประชากรและการเปล่ียนแปลงประชากรได้ (P)

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 142

3. สนใจศึกษาโครงสร้างประชากรและการเปล่ยี นแปลงประชากรเพม่ิ มากขึ้น (A)

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียนและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินยั

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

6. การรูเ้ ร่อื งภมู ศิ าสตร์ (Geo–Literacy)

ความสามารถทางภมู ศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทักษะทางภมู ศิ าสตร์
1. การแปลความขอ้ มูลทาง
1. ความเข้าใจระบบธรรมชาติ 1. การตง้ั คำถามเชิงภูมศิ าสตร์ ภูมศิ าสตร์
2. การใช้เทคนิคและเครื่องมอื
และมนษุ ย์ 2. การรวบรวมขอ้ มูล ทางภมู ศิ าสตร์
3. การคดิ เชิงพนื้ ที่
2. การใหเ้ หตุผลทางภมู ศิ าสตร์ 3. การจัดการข้อมลู 4. การคดิ แบบองคร์ วม

3. การตดั สนิ ใจอย่างเปน็ ระบบ 4. การวเิ คราะหข์ ้อมลู

5. การสรปุ เพอื่ ตอบคำถาม

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วธิ ีสอนแบบกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process)
ข้ันนำ

1. ครูให้นักเรยี นดูภาพ หรอื คลิปวดิ ีโอเกี่ยวกบั ความแตกตา่ งของลกั ษณะการอย่อู าศัยของ
ประชากรในปัจจบุ นั ยกตวั อย่างเช่น

(ภาพตัวอยา่ ง)

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 143

2. ครูถามคำถามกระต้นุ ความคดิ โดยใหน้ ักเรยี นร่วมกันตอบคำถาม เช่น
- จากภาพตัวอยา่ ง สามารถแสดงข้อมลู ในเรอื่ งใดได้บ้าง (แนวตอบ เช่น ลกั ษณะประชากร

โครงสรา้ งประชากร จำนวนประชากร การศกึ ษา อาชพี เศรษฐกิจ ลักษณะการอยอู่ าศยั เทคโนโลยี ฯลฯ)
ขัน้ สอน

ขนั้ ท่ี 1 การตั้งคำถามเชิงภมู ศิ าสตร์
1. ครใู หน้ กั เรียนศึกษา Geo Tip เกย่ี วกับการคำนวณอัตราเกิดอย่างหยาบ จากนั้นให้นกั เรยี น
กำหนดตัวเลขเพ่ือทดลองคำนวณอตั ราเกดิ อย่างหยาบด้วยตนเอง เช่น

กำหนดให้ ในปี 2563 ประเทศไทยมี 669,328 คน
จำนวนการเกดิ มชี ีพทง้ั หมดในปหี นึง่ เท่ากบั 87,324,000 คน
จำนวนประชากรเมือ่ กลางปนี ้นั เทา่ กับ 1,000 คน
คา่ คงท่ี เท่ากับ

ดงั น้ัน อัตราเกดิ อย่างหยาบ เท่ากบั จำนวนการเกดิ มีชีพท้ังหมดในปหี นึ่ง X ค่าคงที่
จำนวนประชากรเม่ือกลางปนี ั้น

เท่ากับ 669,328 X 1,000 = 7.7
87,324,000

น่ันคอื ประเทศไทยในปี 2563 มีจำนวนเกิดมชี พี ประมาณ 7-8 คน ต่อจำนวนประชากรกลางปี
1,000 คน

2. ครใู ห้นกั เรยี นดูแผนท่แี สดงอตั ราการเกดิ ของโลก ในปี พ.ศ. 2550-2560 จากหนงั สือเรยี น
ภูมิศาสตร์ ม.4-6 แลว้ ร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั อัตราเกดิ และจำนวนประชากรในแตล่ ะทวีปทั่วโลก

3. ครูถามคำถามใหน้ ักเรียนร่วมกนั ตอบ เช่น
- จากอตั ราการเกดิ ของโลก นักเรยี นคดิ ว่า ในอนาคต แนวโน้มประชากรโลกอาจมโี ครงสรา้ ง

ในรูปแบบใด และมีสาเหตุจากสิ่งใด (แนวตอบ ในอนาคต ประชากรโลกมแี นวโนม้ ว่าจะมีโครงสร้างเปน็
สงั คมผู้สูงอายุ อันมสี าเหตุเน่อื งมาจากการมปี ระชากรในวยั เดก็ ที่ลดน้อยลง เพราะประชากรส่วนใหญ่ให้
ความสำคญั กบั การศกึ ษา การคมุ กำเนดิ มกี ารแต่งงานและมีบตุ รท่ีลดนอ้ ยลง ดังนั้น จึงมีการคาดการณ์วา่
ในอนาคตประชากรโลกจะกลายเป็นสงั คมผู้สูงอายุเพิ่มมากขึน้ )

4. ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษาเชอื่ มโยงถงึ แผนทแ่ี สดงจำนวนประชากรและอัตราเกดิ ของประชากรโลก
และประชากรไทย ในปี พ.ศ. 2550-2560 จากหนงั สอื เรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 แล้วรว่ มกนั แสดงความ
คิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธร์ ะหวา่ งจำนวนประชากรในแต่ละทวปี ทว่ั โลกและจำนวนประชากรในประเทศ
ไทย

5. ครใู ห้นักเรยี นใชส้ มารต์ โฟนสบื ค้นจำนวนประชากรและอัตราเกดิ ของประชากรโลกในบริเวณ
พื้นทที่ ่ีนกั เรยี นสนใจเพม่ิ เติม

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 144

6. ครกู ระตุ้นให้นักเรยี นชว่ ยกนั ตง้ั ประเด็นคำถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ เช่น
6.1 ปจั จยั ใดที่ทำให้ประเทศต่าง ๆ ในโลกมอี ัตราเกิดและอตั ราตายท่แี ตกต่างกนั
6.2 โครงสร้างประชากรแตล่ ะพนื้ ท่ีมีส่ิงใดเป็นเกณฑใ์ นการจัดแบง่ ตลอดจนมีความเหมือน

หรือความแตกต่างกัน อยา่ งไร
6.3 หากในอนาคต ประชากรโลกมชี ว่ งอายใุ ดอายุหน่ึงมากจนเกินไป จะสง่ ผลกระทบตอ่ สงิ่

ใดบา้ ง
ขัน้ ท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มูล
1. ครูใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน โดยใหน้ กั เรียนในแตล่ ะกลมุ่ มหี มายเลขประจำตวั คือ

หมายเลข 1 2 3 และ 4 เรยี กวา่ กลุ่มแมบ่ า้ น
2. นักเรียนกลุ่มแมบ่ ้านแยกยา้ ยไปรวมกันตามหมายเลขเดียวกนั เรียกว่า กล่มุ ผู้เชีย่ วชาญ
3. สมาชิกในกลมุ่ ผเู้ ชย่ี วชาญ ร่วมกนั สืบคน้ ความรู้ เรือ่ ง การเปล่ยี นแปลงประชากรโลกและ

ประชากรไทย จากหนงั สอื เรียนภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 ประกอบการใช้เครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ และสรปุ ความรู้
ลงในใบงาน ตามประเดน็ ต่อไปนี้

- หมายเลข 1 ทำใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง การเกดิ
- หมายเลข 2 ทำใบงานที่ 3.3 เรือ่ ง การตาย
- หมายเลข 3 ทำใบงานที่ 3.4 เรื่อง การยา้ ยถิ่น
- หมายเลข 4 ทำใบงานท่ี 3.5 เรอื่ ง การเปลยี่ นแปลงประชากรสูงอายุ
4. ครแู นะนำแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศทีน่ า่ เชอ่ื ถอื ให้กบั นกั เรยี นเพม่ิ เติม
ขัน้ ท่ี 3 การจัดการขอ้ มลู
1. สมาชิกในกลุ่มผู้เชีย่ วชาญแต่ละหมายเลขทำการรวบรวมและอภิปรายขอ้ มลู จากการทำใบงาน
แล้วกลบั ไปยังกลุม่ แม่บ้านของตนเอง
2. สมาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มนำขอ้ มูลทีต่ นได้จากการรวบรวมมาอธิบายแลกเปลย่ี นความรรู้ ะหวา่ งกัน
ข้นั ท่ี 4 การวเิ คราะห์และแปลผลข้อมลู
1. ครูสมุ่ ถามนักเรยี นเพิม่ เตมิ ถึงพ้ืนท่ีท่ีมีอตั ราเกิด อตั ราตายมากทีส่ ุดและนอ้ ยที่สุด รวมถึง
สาเหตุทที่ ำให้เป็นเชน่ น้นั จากนัน้ อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ รว่ มกัน
2. ครูใหน้ ักเรียนดคู ลปิ วิดโี อทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั การตายของประชากรโลกและประชากรไทย จากน้นั
ถามคำถามท่เี ก่ยี วข้องกับประเดน็ การตายของประชากร เพอ่ื เปน็ การเชอ่ื มโยงและวิเคราะหค์ วามรู้เพ่มิ เติม
เช่น
2.1 ในปจั จุบัน ขนาดของประชากรมนุษย์มีจำนวนเพ่มิ มากขนึ้ ส่วนหน่งึ เป็นเพราะอัตราการ
รอดชวี ติ ของทกุ ชว่ งอายุสูงข้นึ นกั เรียนคิดวา่ มีสาเหตุจากสิ่งใด (แนวตอบ ความก้าวหน้าทางอตุ สาหกรรม
และการแพทย์ ทำใหป้ ระชากรสามารถสร้างสรรค์สิง่ ใหม่ ๆ เพอื่ อำนวยความสะดวกและเพิ่มคุณภาพใน
การดำรงชวี ิต เชน่ การสรา้ งทอ่ี ย่อู าศยั โรงงานอุตสาหกรรม รถยนต์ เครื่องทุ่นแรงต่าง ๆ รวมไปถงึ การ
พัฒนาในดา้ นการรกั ษาโรคและควบคุมโรคอย่างมีประสทิ ธิภาพ สง่ ผลใหอ้ ตั ราการรอดชีวิตเพ่มิ สูงข้ึน หรือมี
อัตราตายท่ีลดนอ้ ยลงนนั่ เอง)

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 145

2.2 การแพรก่ ระจายของโรคระบาด ถอื เป็นสาเหตุหน่งึ ทท่ี ำให้เกิดการตายในประชากร ซง่ึ มี
ความเกย่ี วข้องกบั ปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ การตายในดา้ นใด (แนวตอบ การแพร่กระจายของโรคระบาด อนั เป็น
สาเหตุหนึง่ ทีท่ ำให้ประชากรโลกและประชากรไทยต้องเสยี ชีวิตลง ซึ่งมีความเกยี่ วข้องกบั ปัจจยั ที่สง่ ผลต่อ
การตายท้ังในดา้ นสาธารณสุข ดา้ นสวสั ดกิ ารสงั คม และดา้ นสงิ่ แวดล้อมท่ีหมายรวมถงึ สภาพภมู อิ ากาศ
เนอื่ งจากการแพรก่ ระจายของเช้ือโรคในประเทศเขตอบอุ่นมกั เกดิ ขนึ้ ไดง้ ่ายกว่าประเทศในเขตหนาว เป็น
ต้น)

3. ครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาแผนท่ีแสดงอัตราตายของโลกทีแ่ ตกต่างกันในรอบ 10 ปี คือ
ระหว่าง พ.ศ. 2550-2560 จากหนังสือเรยี นภมู ิศาสตร์ ม.4-6 หรอื จากแหล่งการเรียนร้อู น่ื ๆ เพิ่มเติม

ขน้ั ที่ 5 การสรปุ เพือ่ ตอบคำถาม
1. ครูตง้ั คำถามเพอื่ ทดสอบนกั เรียนกลมุ่ แม่บา้ น เพ่ือเป็นการเช่ือมโยงและวิเคราะหค์ วามรู้
จากนน้ั ให้นำคะแนนของแตล่ ะคนในกลุ่มมารวมกนั กลุ่มใดมคี ะแนนมากที่สุด ถอื เปน็ ผชู้ นะ ตัวอยา่ งคำถาม
เชน่

1.1 ปัจจัยใดบา้ งทม่ี ีผลใหจ้ ำนวนประชากรผสู้ งู อายมุ ีอตั ราทเี่ ปลี่ยนแปลงไปจากในอดตี (แนว
ตอบ ความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางการแพทย์ การสาธารณสขุ การศกึ ษาตลอดจน
เทคโนโลยใี นด้านตา่ ง ๆ ที่มีสว่ นใหช้ วี ิตของประชากรมีความมั่นคงยืนยาวได้เพิม่ มากข้นึ เชน่ อาหาร ยา
รักษาโรค เคร่ืองมอื ทางการแพทย์ ตลอดจนการส่ือสารและการคมนาคมต่าง ๆ)

1.2 แนวทางใดบ้างท่สี ามารถนำมาแก้ปัญหาการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปัจจุบัน (แนวตอบ
เช่น การให้ความรู้ หรอื ช้ีให้เห็นถึงความสำคญั ของการมีบตุ ร เพือ่ ส่งเสรมิ ใหม้ ีการเพ่มิ ขน้ึ ของจำนวน
ประชากรในสงั คม ตลอดจนเพิ่มสวสั ดิการ แรงจูงใจ หรอื สิทธพิ เิ ศษในการมีบตุ รของวัยเจริญพันธุ์ภายใต้
การดูแลอยา่ งถูกตอ้ งจากทุกภาคสว่ นของสงั คม)

1.3 ประชากรสงู อายุ มีความสัมพันธก์ ับการยา้ ยถิน่ ได้หรอื ไม่ อย่างไร (แนวตอบ เช่น
ประชากรสูงอายุอาจมคี วามเกี่ยวขอ้ งสมั พนั ธ์กับการย้ายถน่ิ ยกตัวอยา่ งเช่น ในกรณีสถานการณผ์ ู้สูงอายใุ น
ประเทศญี่ปุ่นทีม่ ีจำนวนมาก จนกอ่ ให้เกดิ ปัญหาดา้ นการแพทย์และการสาธารณสขุ เปน็ ผลใหเ้ กิดการย้าย
ถนิ่ ออกนอกประเทศของผสู้ งู อายุ เพือ่ หาทพ่ี ักที่เหมาะสม เช่น จังหวัดเชยี งใหม่ ประเทศไทย)

1.4 การค้าทาส เปน็ การยา้ ยถิ่นประเภทใด (แนวตอบ การคา้ ทาส เปน็ การยา้ ยถน่ิ แบบทถี่ กู
บังคับใหย้ า้ ย เพราะเป็นการอพยพยา้ ยถน่ิ ซึ่งผทู้ ่ีตัดสินใจใหม้ กี ารยา้ ยถน่ิ มักจะไม่ใช่ตัวของผยู้ ้ายถิ่นเอง)

1.5 ประชากรในภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ของประเมทศไทย มกั มีการย้ายถนิ่ เข้ามาตง้ั ถิ่นฐาน
ในเขตกรงุ เทพมหานครเป็นจำนวนมาก จากสถานการณ์ดังกล่าวถอื วา่ เป็นการยา้ ยถ่นิ ในลักษณะใด (แนว
ตอบ เป็นการย้ายถิ่นของประชากรในประเทศ เนื่องจากเปน็ การย้ายถ่ินจากเขตเมืองเมอื งหนึง่ ไปสูอ่ ีกพน้ื ที่
หน่ึงท่บี รเิ วณไมก่ ว้างขวางหรอื ห่างไกลกนั มากนัก เพ่อื แสวงหาทางเลอื กในการดำรงชีวติ ทด่ี ขี ้ึน เช่น อาชีพ
เศรษฐกิจ เทคโนโลยี การศึกษา)

1.6 ประเทศจดุ หมายสำคญั ในการย้ายถ่ินเขา้ ไปอยู่ในทวปี ยุโรป ไดแ้ กป่ ระเทศใดบา้ ง (แนว
ตอบ เช่น สเปน ฝร่งั เศส เยอรมนี อติ าลี สหราชอาณาจักร)

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 146

1.7 หากมกี ารยา้ ยถน่ิ ของประชากรระหว่างทวีปเพิม่ มากขึ้นในอนาคต อาจกอ่ ใหเ้ กิดปญั หาใน
ดา้ นใด (แนวตอบ เช่น ปัญหาในดา้ นแรงงาน ปญั หาในดา้ นความมัน่ คง ปัญหาในด้านเศรษฐกิจ ตลอดจน
ปัญหาในดา้ นสาธารณสุข)

1.8 จากกรณีแรงงานย้ายถ่ินจากทวปี ยุโรปเขา้ สปู่ ระเทศอังกฤษ ซงึ่ หากไมม่ กี ารย้ายถน่ิ ใน
รูปแบบนี้ อาจก่อให้เกิดปญั หาในด้านใด (แนวตอบ เช่น ปัญหาในด้านการขาดแคลนแรงงาน ส่งผลต่อเน่อื ง
ใหเ้ กดิ ปัญหาในด้านการผลติ ท่อี าจจะทำใหก้ ารผลิตสนิ ค้าไม่เพยี งพอ หรือไม่ทนั ต่อการจำหนา่ ย รวมถึง
ขาดแคลนสนิ ค้าอุปโภค บรโิ ภคตา่ ง ๆ ซงึ่ อาจส่งผลให้ราคาสนิ ค้าปรับตวั สงู ข้ึนอยา่ งรวดเร็ว)

2. ครูเฉลยคำถามและรวบรวมคะแนนของนักเรียนในแต่ละกลุ่ม สรปุ ผลการทดสอบและร่วมกนั
แสดงความคิดเหน็ เพมิ่ เติม

3. ครใู หน้ ักเรยี นทำแบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ิศาสตร์ ม.4-6 เกยี่ วกับเรอ่ื ง การเปลีย่ นแปลง
ประชากรโลกและประชากรไทย เพอื่ เป็นการบา้ นสง่ ครูในช่ัวโมงถดั ไป
ขน้ั สรปุ

ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เกยี่ วกับการเปล่ยี นแปลงประชากรโลกและประชากรไทย
ตลอดจนความสำคญั ทม่ี ีอทิ ธพิ ลตอ่ การดำเนินชวี ิตของประชากร หรอื ใช้ PPT สรุปสาระสำคญั ของเนอ้ื หา
ขน้ั ประเมนิ

1. ครปู ระเมนิ ผลโดยสงั เกตจากการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้า
ชัน้ เรียน

2. ครตู รวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝกึ สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1. สือ่ การเรียนรู้
- หนงั สือเรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6
- แบบฝกึ สมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6
- หนังสอื ค้นคว้าเพมิ่ เติม
⬧ โครงการตำราวิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตรม์ ลู นธิ ิ สอวน. 2557. ภูมิศาสตรก์ ายภาพ.
กรงุ เทพมหานคร : ดา่ นสทุ ธาการพมิ พ์.
⬧ โครงการตำราวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มูลนิธิ สอวน. 2557. ภูมิศาสตรม์ นษุ ย์.
กรุงเทพมหานคร : ด่านสุทธาการพมิ พ.์
⬧ พษิ นุ อภสิ มาจารโยธิน. 2559. ประชากรและการอนามยั เจริญพนั ธุ์ = Population
and reproductive health. พษิ ณโุ ลก : ภาควิชาสงั คมวทิ ยาและมานุษยวทิ ยา
คณะสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.
⬧ บญุ เลศิ เลยี วประไพ. 2557. ประชากรไทย อดีต–ปัจจุบัน-อนาคต. นครปฐม :
สถาบันวจิ ัยประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลัยมหิดล.

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 147

- เครือ่ งมอื ทางภูมศิ าสตร์ ไดแ้ ก่ แผนท่ี ลูกโลกจำลอง รูปถ่ายทางอากาศ และภาพจาก
ดาวเทียม

- ใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง การเกดิ
- ใบงานที่ 3.3 เรือ่ ง การตาย
- ใบงานที่ 3.4 เรื่อง การยา้ ยถ่นิ
- ใบงานที่ 3.5 เรอ่ื ง การเปล่ยี นแปลงประชากรสงู อายุ
2. แหล่งการเรียนรู้
- หอ้ งสมดุ
- แหล่งข้อมูลสารสนเทศ

⬧ http://earth.google.co.th
⬧ http://maps.google.co.th
⬧ http://thaigoodview.com
⬧ https://www.youtube.com/watch?v=zF8t7E99i1Y
⬧ https://www.youtube.com/watch?v=XH-lS5t7SdE
⬧ https://www.youtube.com/watch?v=p1Nh4ODtVS4
⬧ https://www.youtube.com/watch?v=2VTqHiSQYWU

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 148

9. การวัดและการประเมินผล

รายการวดั วธิ ีวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ

1. การวดั และประเมนิ ผลระหว่าง - ใบงานที่ 3.2 - รอ้ ยละ 60
- ใบงานที่ 3.3 ผ่านเกณฑ์
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ - ใบงานที่ 3.4
- ใบงานท่ี 3.5 - ระดับคณุ ภาพ 2
- วเิ คราะหป์ ฏิสมั พันธ์ระหวา่ ง - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
การนำเสนอผลงาน - ระดับคณุ ภาพ 2
สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกับ - ตรวจใบงานที่ 3.2 - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
การทำงานรายบุคคล - ระดบั คณุ ภาพ 2
กิจกรรมของมนษุ ย์ท่กี อ่ ให้เกิดการ - ตรวจใบงานที่ 3.3 - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
การทำงานกล่มุ - ระดบั คณุ ภาพ 2
เปลย่ี นแปลงประชากรโลกและ - ตรวจใบงานที่ 3.4 - แบบประเมิน ผา่ นเกณฑ์
คณุ ลักษณะ
ประชากรไทยได้ - ตรวจใบงานท่ี 3.5 อันพึงประสงค์ - ระดบั คณุ ภาพ 2
- แบบประเมนิ การใช้ ผ่านเกณฑ์
- การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ เครอ่ื งมอื ทางภูมศิ าสตร์

ผลงาน

- พฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล - สงั เกตพฤตกิ รรม

การทำงานรายบุคคล

- พฤติกรรมการทำงานกลุม่ - สังเกตพฤตกิ รรม

การทำงานกลุ่ม

- คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตความใฝ่เรียนรู้

และมุ่งมน่ั ใน

การทำงาน

2. การรเู้ รื่องภมู ิศาสตร์ - ประเมนิ การใช้

เครือ่ งมอื ทางภูมิศาสตร์

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 149

10. บนั ทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ผลการเรียนรู้
1.1 นักเรียนท่ผี ่านตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้
มจี ำนวน............................................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ.............................................
1.2 นักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้
มจี ำนวน............................................คน คิดเป็นร้อยละ.............................................
คอื ...............................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
พฤตกิ รรมการเรยี นรู.้ ..................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.3 นกั เรียนทม่ี ีความสามารถพิเศษ คอื
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
แนวทางการสง่ เสรมิ ....................................................................................................
....................................................................................................................................
1.4 นักเรียนได้รบั ความรู้
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.5 นกั เรียนเกดิ ทักษะกระบวนการ
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.6 นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
2. ปัญหาและอุปสรรค
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 150

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงช่อื .......................................................ผู้สอน
(นางสาวรชนกี ร จันทรพ์ ทิ กั ษ์)

ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
วันที่........... เดอื น.........................พ.ศ. ..............

11. ความเห็น/ข้อเสนอแนะ ของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรยี นรู้/ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงชื่อ.........................................................
()

ตำแหน่ง........................................................
วันท่ี........... เดอื น......................... พ.ศ. ..............

12. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา/ผ้ทู ่ีได้รบั มอบหมาย
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงช่ือ...................................................................
()

ตำแหนง่ ................................................................
วันที่........... เดอื น......................... พ.ศ. ..............

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 151

ใบงานที่ 3.2
เร่ือง การเกิด

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง การเกิด แล้วตอบคำถามตามประเด็นต่อไปน้ี

การเกิด

ปัจจยั ที่สง่ ผลต่ออัตราเกิด
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………..…



สถานการณอ์ ตั ราเกิด

ของโลก ของไทย
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

สาเหตุ สาเหตุ
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 152

ใบงานท่ี 3.3
เรอ่ื ง การตาย

คำชีแ้ จง : ให้นกั เรียนศึกษาความรเู้ รือ่ ง การตาย แลว้ ตอบคำถามตามประเด็นต่อไปน้ี

การตาย

ปจั จยั ท่สี ง่ ผลตอ่ อตั ราตาย
……………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………
………………………………………………………….......................……

สถานการณอ์ ัตราตาย

ของโลก ของไทย
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

สาเหตุ สาเหตุ
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 153

ใบงานท่ี 3.4
เร่อื ง การย้ายถ่นิ

คำช้แี จง : ให้นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง การย้ายถน่ิ แลว้ ตอบคำถามตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี

การยา้ ยถ่ิน

ปจั จัยทสี่ ่งผลต่อการยา้ ยถนิ่
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………..…



สถานการณ์การย้ายถ่นิ

ของโลก ของไทย
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

สาเหตุ สาเหตุ
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 154

ใบงานที่ 3.5
เรอ่ื ง การเปลี่ยนแปลงประชากรสูงอายุ

คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นศึกษาความรเู้ ร่อื ง การเปล่ียนแปลงประชากรสูงอายุ แลว้ ตอบคำถามตามประเดน็
ต่อไปนี้

การเปลย่ี นแปลงประชากรสูงอายุ

ปัจจัยท่ที ำให้เกดิ การเปล่ียนแปลงประชากรสงู อายุ
………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………..…



สถานการณก์ ารเปลี่ยนแปลงประชากรสงู อายุ

ของโลก ของไทย
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

สาเหตุ สาเหตุ
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 155

เฉลยใบงานท่ี 3.2
เรอ่ื ง การเกดิ

คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนศกึ ษาความรู้เร่อื ง การเกิด แล้วตอบคำถามตามประเด็นตอ่ ไปน้ี

การเกิด

ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ อัตราเกดิ
…อ…า…ยุแ…ร…กส…ม…ร…ส…ระ…ย…ะ…เว…ลา…ท…อ่ี …ยรู่…่ว…มก…ัน……ค่า…น…ยิ ม…เ…ก่ยี…ว…ก…บั ……
…จ…ำน…ว…น…แ…ละ…เพ…ศ……ทอ่ี…ย…ู่อ…าศ…ยั …ใน…เ…มอื …ง…แล…ะ…ช…นบ…ท……รว…ม…ถึง…ภ…าว…ะ
…เศ…ร…ษ…ฐก…ิจ…แ…ละ…ส…ังค…ม………………………………………………..…



สถานการณ์อตั ราเกดิ

ของโลก ของไทย
…ปร…ะ…เท…ศ…ท…ี่พ…ัฒ…น…าแ…ล…้ว…ม…ีอ…ัต…รา…เก…ิด…ข…อง …ม…ีอ…ตั ร…า…ลด…ล…ง…จา…ก…ใน…อ…ด…ีต ………………
…ป…ร ะ…ช…า…ก…ร…ค่…อ…น…ข้ …า ง…ต…่ ำ…ใ…น…ข…ณ…ะ…ที่ …………………………………………………
…ปร…ะ…เท…ศ…ก…ำ…ลัง…พ…ัฒ…น…า…ม…ีอัต…ร…า…เก…ิด…แ…ละ …………………………………………………
…กา…ร…เพ…มิ่ …ขอ…ง…ป…ระ…ช…าก…ร…ส…ูง ……………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

สาเหตุ สาเหตุ
…ป…ระ…เท…ศ…ท…่ีพ…ัฒ…น…าแ…ล…้ว…ม…ีค…่าค…ร…อ…งช…ีพ…สูง ป…ัจ…จ…ัย…ท…าง…ด…้า…นส…ัง…ค…ม…แ…ละ…ค…ว…าม…ค…ิด…ที่
…ม…ีก…าร…พ…ึ่ ง…พ…า…ต…น…เ…อ…ง …เข…้า…ใ…จ…ภ…า…ว ะ ไ…ม…่ต…้อง…ก…าร…ม…ีล…ูก…ร…วม…ถ…ึง…คว…า…ม…ต้อ…ง…ก…าร
…ค…รอ…บ…ค…ร…ัว…ใ…นข…ณ……ะท…่ีป…ร…ะ…เท…ศ…ก…ำ…ลัง ใ…น…ด…้าน…ก…า…รศ…ึก…ษ…าแ…ล…ะ…คว…า…มก…้า…ว…หน…้า…ท่ี
…พ…ั ฒ…น…า…ข…า ด…ค…ว…า…ม…รู้ ใ…น…ก…า…ร ว…า…ง …แ ผ…น เ…พ…ิ่ม…สงู …ข…น้ึ ……………………………………
…ค…รอ…บ…ค…รัว…แ…ละ…ก…าร…ค…มุ …กำ…เน…ิด……...…… …………………………………………...……

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 156

เฉลยใบงานที่ 3.3
เร่ือง การตาย

คำชี้แจง : ให้นกั เรียนศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง การตาย แล้วตอบคำถามตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี

การตาย

ปจั จยั ท่ีสง่ ผลต่ออัตราตาย
…ด…า้ …น…สา…ธ…าร…ณ…ส…ุข…ด…้าน…ก…า…รศ…กึ …ษ…า …ด้า…น…ส…วัส…ด…ิก…าร…ส…งั ค…ม………
…ด…า้ …น…เศ…รษ…ฐ…ก…จิ แ…ล…ะ…กา…ร…เม…อื …ง …รว…ม…ไป…ถ…ึง…ด้า…น…ส่งิ…แ…วด…ล…้อ…ม……
…………………………………………………………………………..…



สถานการณอ์ ัตราตาย

ของโลก ของไทย
…ปร…ะ…ช…าก…ร…โล…ก…ม…ีอัต…ร…าต…า…ย…ที่…ลด…ล…ง…โด…ย …ม…อี …ัตร…า…ตา…ย…ท…ี่ลด…ล…งจ…า…ก…ใน…อ…ดีต…………
…อัต…ร…า…ต…าย…ท…่ีส…ูงเ…ป…็น…อ…ัน…ดั…บแ…ร…ก…อ…ยู่…ใน …………………………………………………
…ทว…ีป…ย…ุโร…ป…แ…ล…ะอ…ัต…ร…าต…า…ยต…่ำ…ท…ี่สดุ …อ…ย…ู่ใน …………………………………………………
…ทว…ีป…อ…เม…ร…ิกา…ใต…้ …………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

สาเหตุ สาเหตุ
ม…ีก…า…ร…พั…ฒ…น…าท…า…งด…้า…น…ก…าร…แ…พ…ท…ย์…แล…ะ …มี…กา…ร…พ…ัฒ…น…าท…า…ง…ด้า…น…ก…า…รแ…พ…ท…ย…์แ…ละ
ก…า…ร…สา…ธ…าร…ณ…ส…ขุ ท…่ดี …ขี …น้ึ …………………… …กา…ร…สา…ธ…าร…ณ…ส…ขุ …ที่ด…ขี …ึน้ ……………………
………………………………………………… …………………………………………………
………………………………………………… …………………………………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 157

เฉลยใบงานท่ี 3.4
เรอ่ื ง การยา้ ยถ่ิน

คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรียนศึกษาความรเู้ ร่ือง การยา้ ยถ่ิน แล้วตอบคำถามตามประเดน็ ตอ่ ไปน้ี

การย้ายถนิ่

ปัจจยั ทสี่ ่งผลต่อการย้ายถ่ิน
……ด…้าน…ส…ภ…าพ…แ…วด…ล…้อ…ม…ด…า้ น…เ…ศร…ษ…ฐ…กจิ……รว…ม…ไป…ถ…งึ ด…้า…น…คว…า…ม…
……ป…ลอ…ด…ภ…ัย………………………………………………………………
…………………………………………………………………………..…



สถานการณ์การย้ายถิน่

ของโลก ของไทย
ป…ร…ะ…เท…ศ…ตา่…ง…ๆ…ใ…น…โล…ก…สา…ม…า…รถ…ค…วบ…ค…ุม …ก…าร…ย…้าย…ถ…ิ่น…ส…่วน…ใ…ห…ญ…่ เ…ป็น…ก…า…รย…้า…ย…ถิ่น
ก…า…ร…ย้…าย…ถ…่ิน…ร…ะห…ว…่า…งป…ร…ะ…เท…ศ…ไ…ด…้เป…็น …จ…าก…เ…ขต…ช…น…บ…ท…เข…้า…ส…ู่สัง…ค…ม…เม…ือ…ง…เ…ช่น
อ…ย…่า…งด…ี …ท…้ังก…า…รย…้า…ย…เข…้า…แล…ะ…ย…้า…ยอ…อ…ก …ก…าร…ย…้าย…ถ…ิ่น…จ…าก…ภ…า…ค…อีส…า…น…สู่…เข…ต…เม…ือง
ท…ำ…ใ…ห้แ…น…ว…โน…้ม…ใ…น…ก…าร…ย…้าย…ถ…ิ่น…ไ…ม่ค…ง…ที่ …อ…ยา่…ง…กร…งุ …เท…พ…ม…หา…น…ค…ร …………………
ข…้ึน…อ…ย…ู่กับ…ส…ถ…าน…ก…า…รณ…์ต…่า…ง …ๆ……...…… …………………………………………...……

สาเหตุ สาเหตุ
…คว…า…ม…ต้อ…ง…ก…าร…ใน…ก…า…ร…เป…ล…ี่ยน…แ…ป…ล…งว…ิถี …คว…า…มต…อ้ …ง…กา…ร…ใน…ก…าร…เป…ล…่ีย…น…แป…ล…ง…แล…ะ
…ชี ว…ิ ต……ส…ภ…า พ…แ…ว…ด…ล…้ อ…ม……ก า…ร…ห…น…ี ภ…ั ย พ…ั…ฒ…น…า…ว…ิ ถ…ี ช…ี วิ…ต…ส…ภ…า…พ…แ…ว…ด…ล…้ อ…ม
…ส ง…ค…ร…า…ม …ร…ว…ม …ไ ป…ถ…ึ ง…ป…ั ญ…ห…า…ใ น…ด…้ า…น ก…า…ร…ศึก…ษ…า…อ…า…ชีพ……ร…วม…ไ…ปถ…ึง…แ…ก้ป…ัญ…ห…า
…เศ…รษ…ฐ…ก…ิจ …………………………………… …ใน…ด…้าน…เศ…ร…ษ…ฐก…ิจ……………………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 158

เฉลยใบงานท่ี 3.5
เร่อื ง การเปลย่ี นแปลงประชากรสงู อายุ

คำชแี้ จง : ให้นักเรียนศึกษาความรู้เร่อื ง การเปล่ียนแปลงประชากรสงู อายุ แลว้ ตอบคำถามตามประเด็น
ตอ่ ไปนี้

การเปล่ียนแปลงประชากรสูงอายุ

ปจั จยั ที่ทำใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงประชากรสูงอายุ
……ก…า…รพ…ัฒ…น…า…เศ…รษ…ฐ…ก…ิจ…แล…ะ…กา…ร…พ…ัฒ…น…าป…ร…ะเ…ท…ศ…รว…ม…ไป…ถ…งึ …
……ค…ว…าม…ก…า้ ว…ห…น…้าท…า…งด…้า…น…วิท…ย…า…ศา…ส…ต…ร์ …เท…ค…โน…โล…ย…ี แ…ล…ะ……
……ด…้าน…ก…า…รแ…พ…ท…ย…์ ………………………………………………..…



สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงประชากรสูงอายุ

ของโลก ของไทย
…ปัจ…จ…ุบ…ัน…โล…ก…ก…ำล…ัง…เข…้า…สู่ส…ัง…ค…มผ…ู้ส…ูง…อา…ยุ …ป…ระ…เท…ศ…ไ…ทย…ม…ีป…ร…ะช…า…กร…ผ…ู้ส…ูงอ…า…ยุ…ห…รือ
…เน…่ือ…งจ…า…ก…สั…ดส…่ว…น…ผ…ู้สูง…อ…า…ยุม…ีม…า…ก…ก…ว่า …ผทู้…่ีม…ีอ…า…ยุ …60…ป…ีข…น้ึ …ไป……ป…ระ…ม…าณ…ร…อ้ …ย…ละ
…ปร…ะ…ชา…ก…ร…กล…มุ่ …อ…าย…ุอ…ื่น…………………… …15……ข…อ…งป……ระ…ช…า…ก…ร…ท…้ั ง…ห…ม…ด…ซ…ึ่ ง…มี
………………………………………………… …แ…น…วโ…น…้ม…ใน…ก…า…รเ…ข…้าส…ู่ก…า…ร…เป…็น…ส…ังค…ม
…………………………………………...…… …ผู…้สงู …อ…าย…ุเช…น่ …เด…ยี …ว…กนั………………...……

สาเหตุ สาเหตุ
…ป…ร…ะ ช…า…ก…ร…ม…ี อ…า ย…ุ ท…่ี ย…ื น…ย…า…ว…ม…า ก…ข…ึ้ น ป…ร…ะ…ช…าก…ร…ไท…ย…ม…ีคว…า…ม…ใส…่ใจ…ใ…นด…้า…น…ก…าร
…แ…ส ด…ง…ใ…ห้…เห…็ น…ถ…ึ ง …ค ว…า…ม…ก…้ า ว…ห…น…้ า…ท…า ง ด…ูแ…ล…ส…ุข…ภ…าพ…ท…ี่เ…พ…ิ่ม…มา…ก…ข…ึ้น…ร…ว…ม…ถึง…มี
…ก…าร…แ…พท…ย…์ ก…า…ร…ดูแ…ล…ส…ุขภ…า…พ…ก…า…รศ…ึก…ษา …กา…ร…พ…ัฒ…น…าใ…น…ด้า…น…ก…าร…แ…พ…ท…ย์แ…ล…ะ…ก…าร
…แ…ละ…ค…วา…ม…เป…น็ …อ…ยทู่…า…งเ…ศ…รษ…ฐ…ก…ิจท…่ดี …ีข…้ึน …สา…ธ…าร…ณ…ส…ุขท…เ่ี …พ…ิ่มม…า…กข…ึ้น…………………
…………………………………………...…… …………………………………………...……

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 159

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 การต้ังถ่ินฐานและความเป็นเมอื ง

รายวิชา ส 32101 สังคมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการตัง้ ถิ่นฐาน เวลาเรียน 10 ช่วั โมง

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 10 การต้ังถ่นิ ฐานและความเปน็ เมอื ง เวลาเรียน 3 ชว่ั โมง

ภาคเรียนท่ี 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ครูผู้สอน นางสาวรชนีกร จันทรพ์ ทิ กั ษ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ส 5.2 เข้าใจปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างมนษุ ย์กับส่ิงแวดล้อมทางกายภาพทกี่ ่อใหเ้ กิด
การสร้างสรรค์วิถีการดำเนนิ ชวี ิต มจี ิตสำนกึ และมสี ว่ นรว่ มในการจัดการ
ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อการพัฒนาท่ยี ่ังยนื
ตวั ชวี้ ดั ม. 4-6/1 วเิ คราะห์ปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างสิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกบั กิจกรรมของมนุษย์
ในการสรา้ งสรรคว์ ิถกี ารดำเนนิ ชวี ติ ของทอ้ งถนิ่ ท้ังในประเทศไทยและ
ภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลก และเหน็ ความสำคัญของส่ิงแวดล้อมทีม่ ีผลต่อ
การดำรงชีวิตของมนษุ ย์

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
วิถกี ารดำเนินชวี ติ ของท้องถนิ่ ทงั้ ในประเทศไทยและภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก เกดิ จากปฏิสัมพันธ์

ระหวา่ งสิ่งแวดล้อมทางกายภาพกับกิจกรรมของมนษุ ย์ นอกจากนี้ กระแสโลกาภิวัตน์ทำใหเ้ กดิ การ
เปล่ียนแปลงส่งิ แวดล้อมทางกายภาพและวิถกี ารดำเนินชวี ติ

3. สาระการเรียนรู้
ปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั วิถีการดำเนินชีวิต ภายใต้กระแสโลกาภวิ ตั น์

ได้แก่ ประชากรและการตั้งถ่นิ ฐาน (การกระจายและการเปล่ียนแปลงประชากร ชมุ ชนเมืองและชนบท
และการกลายเปน็ เมอื ง)

4. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. วิเคราะห์ลกั ษณะการตงั้ ถ่นิ ฐานและความเป็นเมอื งภายใตอ้ ทิ ธพิ ลของโลกาภิวตั น์ได้ (K)
2. วเิ คราะห์ปฏสิ มั พันธ์ระหวา่ งสิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกบั การตง้ั ถ่ินฐานและความเปน็ เมอื ง

ภายใต้อิทธพิ ลของโลกาภิวตั น์ได้ (K)

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 160

3. เลือกใช้เครือ่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ในการศกึ ษาการตง้ั ถนิ่ ฐานและความเปน็ เมอื งภายใตอ้ ิทธพิ ล
ของโลกาภวิ ตั น์ได้ (P)

4. สนใจศึกษาปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพเพ่ิมมากข้นึ (A)

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียนและคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินยั

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

6. การร้เู รอ่ื งภมู ศิ าสตร์ (Geo–Literacy)

ความสามารถทางภูมศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทักษะทางภูมิศาสตร์
1. การแปลความขอ้ มูลทาง
1. ความเขา้ ใจระบบธรรมชาติ 1. การต้งั คำถามเชิงภูมิศาสตร์ ภมู ศิ าสตร์
2. การใช้เทคนิคและเครื่องมอื
และมนษุ ย์ 2. การรวบรวมขอ้ มลู ทางภูมศิ าสตร์
3. การคดิ เชิงพ้ืนท่ี
2. การใหเ้ หตุผลทางภมู ศิ าสตร์ 3. การจดั การขอ้ มลู 4. การคดิ แบบองค์รวม

3. การตัดสนิ ใจอย่างเป็นระบบ 4. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู

5. การสรปุ เพือ่ ตอบคำถาม

7. กจิ กรรมการเรียนรู้ วธิ ีสอนแบบกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process)
ขนั้ นำ

1. ครใู หน้ กั เรียนดูภาพหรอื คลปิ วิดโี อเกีย่ วกับการตง้ั ถิ่นฐานของประชากรในพนื้ ทตี่ ามภมู ิภาค
ตา่ ง ๆ ของโลก เชน่

- นครเซ่ียงไฮ้
- นครลอนดอน
- จังหวัดเชียงใหม่
- เขตบรหิ ารพเิ ศษฮ่องกง
2. ครแู ละนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ จากภาพ หรือคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการตัง้ ถน่ิ ฐานของ
ประชากรในพืน้ ที่ตามภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก
3. ครูให้นักเรียนใช้สมาร์ตโฟนสอ่ งดู QR Code เรอื่ ง เมืองใต้เหมืองโอปอล (Coober Pedy)
จากหนงั สือเรียน ภูมิศาสตร์ ม.4-6
4. ครูสุ่มนกั เรียนเพอื่ แสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั ความแตกต่างระหวา่ งความเปน็ เมอื งและชนบท
ในความคดิ ของนกั เรียน ประกอบการใชค้ ำถามเพ่ิมเตมิ เชน่

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 161

- ปัจจยั ใดบ้างทกี่ อ่ ให้เกิดความแตกต่างระหวา่ งเมอื งและชนบท (แนวตอบ เช่น อุตสาหกรรม
เทคโนโลยี การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การศกึ ษา การสาธารณสุข การคมนาคมขนสง่ การตดิ ต่อสือ่ สาร
ตลอดจนความต้องการของประชากรที่ไม่ส้ินสดุ ในพื้นทต่ี ่าง ๆ)
ขนั้ สอน

ขนั้ ที่ 1 การตั้งคำถามเชิงภูมศิ าสตร์
1. ครูให้นักเรยี นดูภาพตอ่ ไปนี้ จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นลองบอกสิ่งท่ีเห็นจากสายตาวา่ มีความ
เก่ียวข้องกบั การตัง้ ถน่ิ ฐานและความเปน็ เมอื ง ภายใต้อิทธิพลของโลกาภวิ ตั น์หรอื ไม่ อยา่ งไร

(ภาพตัวอย่าง)

2. ครกู ระตนุ้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตัง้ ประเด็นคำถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ เช่น
2.1 ปจั จยั ใดบา้ งทีม่ ีผลต่อการตง้ั ถนิ่ ฐานของประชากรในภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลก
2.2 ลักษณะชมุ ชนเมอื งและชนบทในภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกมีลกั ษณะอย่างไร
2.3 ลกั ษณะการกลายเป็นเมอื งในภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของโลกมีผลกระทบตอ่ วิถกี ารดำเนินชวี ติ อยา่ งไร
2.4 อิทธิพลของโลกาภวิ ตั น์สง่ ผลตอ่ ประชากรและการต้งั ถิ่นฐานอยา่ งไร

3. ครูแนะนำแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศทีน่ ่าเชอ่ื ถือให้กบั นกั เรียนเพิม่ เติม
ขน้ั ท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มูล
1. นักเรียนทำการแบง่ กลุ่ม จำนวน 7 กลมุ่ จบั สลากเลือกพืน้ ที่เพอ่ื ทำการสบื คน้ ข้อมูลเกี่ยวกับ
การตั้งถน่ิ ฐานของประชากรจากหนังสอื เรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6 หรอื จากแหลง่ การเรียนรอู้ น่ื ๆ เช่น หนังสอื
ในห้องสมุด เว็บไซต์ในอินเทอร์เนต็ ประกอบการใช้เคร่อื งมอื ทางภมู ิศาสตร์ โดยมหี วั ข้อในการจับสลาก
ดงั นี้

1.1 ทวีปเอเชยี
1.2 ทวีปยุโรป
1.3 ทวปี อเมรกิ าเหนอื
1.4 ทวปี อเมรกิ าใต้
1.5 ทวีปแอฟริกา

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 162

1.6 ทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนีย
1.7 ประเทศไทย
2. ครูอธบิ ายใหน้ ักเรียนทำการรวบรวมขอ้ มลู โดยบันทึกขอ้ มูลลงในใบงานท่ี 3.6 เร่อื ง การตั้งถน่ิ
ฐานและความเป็นเมือง ภายใต้อทิ ธพิ ลของโลกาภิวัตน์ ตามประเด็นตอ่ ไปน้ี
2.1 ขนาดการตั้งถ่ินฐาน
2.2 การตั้งถิ่นฐานเมอื ง
2.3 การต้งั ถน่ิ ฐานชนบท
2.4 ความเปน็ เมอื ง
2.5 การใช้ท่ีดนิ ภายในเมอื ง
2.6 ปญั หาเมอื ง
3. ครแู นะนำแหล่งข้อมลู สารสนเทศทีน่ ่าเชอ่ื ถอื ให้กบั นักเรียนเพิ่มเติม
ข้นั ที่ 3 การจดั การข้อมูล
1. สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มนำขอ้ มูลที่ตนไดจ้ ากการรวบรวมมาอธบิ ายแลกเปล่ยี นความร้รู ะหวา่ งกัน
2. จากนั้นสมาชกิ ในกลุม่ ช่วยกนั คดั เลอื กขอ้ มูลทนี่ ำเสนอเพ่ือให้ได้ขอ้ มูลทถ่ี กู ต้อง และร่วม
อภิปรายแสดงความคดิ เห็นเพิ่มเติม
ข้นั ท่ี 4 การวิเคราะห์และแปลผลขอ้ มูล
1. ครูสุ่มนักเรยี นเพอื่ สอบถามถงึ ความเปน็ เมือง ในความคิดของนกั เรยี น จากน้ันอภปิ รายความ
คิดเห็นรว่ มกัน
2. ครูถามคำถามเพอ่ื ให้นกั เรียนร่วมกันวิเคราะหแ์ ละเชื่อมโยงความรู้เพ่มิ เติม เชน่
2.1 ปัจจัยสำคัญท่กี อ่ ใหเ้ กดิ ความเป็นเมืองในภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก ไดแ้ กส่ ิ่งใด (แนวตอบ
เชน่ เทคโนโลยี การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การศกึ ษา การสาธารณสขุ การคมนาคมขนส่ง การ
ติดตอ่ สอ่ื สาร การรักษาสภาพแวดลอ้ ม)
2.2 ปจั จุบันประเทศไทยถอื ได้ว่ามีความเปน็ เมืองเพิ่มมากข้ึน อนั มีสาเหตุสำคญั มาจากสิ่งใด
(แนวตอบ สาเหตสุ ำคัญของการพัฒนาสู่ความเปน็ เมืองของประเทศไทยในปจั จบุ ัน คือ ลกั ษณะทาง
เศรษฐกจิ กลา่ วคอื ลักษณะทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบนั กอ่ ให้เกิดการพัฒนาบนพื้นฐานทางเศรษฐกจิ
นำมาซึ่งการพัฒนาความสำคญั ในดา้ นต่าง ๆ ซึ่งทำให้ประชากรเกิดการอพยพย้ายถน่ิ ฐาน เพ่ือการทำงาน
การศกึ ษา รวมถงึ ปจั จยั ทางสงั คมอ่ืน ๆ จึงเป็นสาเหตสุ ำคัญของการพัฒนาสคู่ วามเปน็ เมืองของประเทศไทย
ในปัจจุบัน)
3. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศกึ ษาแผนที่แสดงความเปน็ เมือง พ.ศ. 2533 จากหนงั สือเรยี นภมู ศิ าสตร์
ม.4-6 เพอ่ื วิเคราะห์เพม่ิ เติมเชื่อมโยงกับลักษณะการต้ังถิน่ ฐานของพน้ื ท่ีของกลมุ่ ทน่ี ักเรียนรบั ผิดชอบ
ประกอบการใชค้ ำถาม ในประเด็นเช่น
3.1 ความแตกต่างของลักษณะพืน้ ที่
3.2 จำนวนประชากรในเมือง
3.3 ปริมาณความเป็นเมอื ง

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 163

4. จากนนั้ ให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ นำขอ้ มูลมาวเิ คราะหเ์ ช่ือมโยงกับแผนท่แี สดงความเป็นเมือง พ.ศ.
2560 จากหนังสอื เรยี นภูมิศาสตร์ ม.4-6 เพ่ือวเิ คราะหเ์ พ่มิ เติมเชือ่ มโยงกับลกั ษณะการตง้ั ถิ่นฐานของแต่ละ
ทวปี ตลอดจนผลกระทบจากการขยายตัวของเมอื งท่นี กั เรียนได้ทำการสืบคน้ ข้อมูลมา จากนั้นรว่ มกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มูล

5. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ นำขอ้ มลู ของตนเองมาเชื่อมโยงกบั อทิ ธพิ ลของโลกาภิวตั น์ เพอื่
วเิ คราะห์เพิ่มเติมเกย่ี วกับอทิ ธิพลของโลกาภิวัตนท์ ี่ส่งผลต่อประชากรและการต้งั ถ่นิ ฐานของแตล่ ะทวปี ใน
โลก

ขนั้ ท่ี 5 การสรปุ เพอ่ื ตอบคำถาม
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอขอ้ มูลจากการศกึ ษา พรอ้ มท้ังอภิปรายแสดงความคิดเห็น
ร่วมกนั
2. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้ ประกอบการใช้คำถาม เชน่

2.1 เขตศนู ย์กลางธรุ กิจการคา้ ของเมอื งในประเทศไทย ไดแ้ ก่พ้ืนทีใ่ นบรเิ วณใด (แนวตอบ
เช่น พ้ืนทีใ่ จกลางเมืองบรเิ วณสลี ม สาธร ลาดพร้าว สขุ มุ วทิ ฯลฯ)

2.2 ผู้ท่มี เี ขตทพ่ี กั อาศัยอยูใ่ นบรเิ วณเขตศนู ยก์ ลางธุรกิจการค้าของเมอื งจะมขี ้อดี และ
ข้อจำกัดอย่างไร (แนวตอบ ขอ้ ดี คอื มีความสะดวกสบายในการดำรงชีวติ ดา้ นต่าง ๆ ไมว่ ่าจะเปน็ ทอี่ ยู่
อาศยั อาหาร เครื่องแตง่ กาย การคมนาคม การส่ือสาร การศกึ ษา การรกั ษาพยาบาล แตม่ ีขอ้ จำกดั คือ
จะตอ้ งประสบกับปญั หาการจราจรติดขดั ปัญหามลพษิ ปญั หาคา่ ครองชพี ตลอดจนปัญหาอ่นื ๆ ท่ีเกิดจาก
ความวนุ่ วายจากการแขง่ ขนั กันในสังคม)

2.3 เขตอุตสาหกรรมสำคัญในประเทศไทย ได้แก่ที่ใด (แนวตอบ เชน่ นิคมอุตสาหกรรมมาบ
ตาพดุ จงั หวดั ระยอง นคิ มอตุ สาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบรุ ี นคิ มอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบรุ ี
นคิ มอตุ สาหกรรมบางปะอนิ จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา นิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวดั สมุทรปราการ ฯลฯ)

2.4 หากในเมือง ๆ หน่ึงมกี ารใช้ท่ีดินภายในเมืองอย่างเหมาะสม จะสง่ ผลดีต่อสิ่งใดบา้ ง (แนว
ตอบ เมืองท่ีมีการใช้ท่ีดินอย่างเหมาะสมจะทำให้ประชากรมีคณุ ภาพชีวิตและคณุ ภาพจติ ใจทีด่ ี สง่ ผล
ต่อเนื่องให้เกดิ การขับเคลื่อนทางอาชพี และเศรษฐกิจในทกุ ภาคส่วน นอกจากนี้ ยงั ทำให้ประเทศชาติมี
ความเจรญิ กา้ วหน้าตามไปดว้ ย)

3. ครูให้สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มช่วยกนั สรุปสาระสำคัญเพื่อตอบคำถามเชงิ ภมู ิศาสตร์
4. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6 เรอ่ื ง การต้งั ถ่นิ ฐานและความเปน็
เมืองโดยครูแนะนำเพ่ิมเติม
5. ใหน้ กั เรียนทำแบบวัดฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 เรือ่ ง สง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการ
ตง้ั ถน่ิ ฐาน เพือ่ ทดสอบความรู้ท่ไี ดศ้ กึ ษามา
ขั้นสรปุ
ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปความรเู้ ก่ียวกับการต้ังถ่นิ ฐานและความเป็นเมือง ตลอดจน
ความสำคัญท่ีมีอทิ ธิพลต่อการดำเนนิ ชวี ิตของประชากร หรือใช้ PPT สรุปสาระสำคัญของเน้ือหา

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 164

ขนั้ ประเมนิ
1. ครปู ระเมินผลโดยสงั เกตจากการตอบคำถาม การร่วมกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้า

ชน้ั เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน แบบวดั ฯ และแบบฝึกสมรรถนะฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6
3. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับ

ประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้
1. สอื่ การเรียนรู้
- หนงั สอื เรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6
- แบบฝึกสมรรถนะฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6
- แบบวดั ฯ ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6
- หนังสือคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ
⬧ โครงการตำราวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตรม์ ลู นิธิ สอวน. 2557. ภูมิศาสตร์กายภาพ.
กรงุ เทพมหานคร : ด่านสุทธาการพิมพ์.
⬧ โครงการตำราวิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตรม์ ลู นิธิ สอวน. 2559. ภมู ศิ าสตรเ์ ทคนิค.
กรุงเทพมหานคร : ด่านสุทธาการพิมพ์.
⬧ โครงการตำราวิทยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์มูลนิธิ สอวน. 2557. ภูมศิ าสตรม์ นษุ ย์.
กรงุ เทพมหานคร : ด่านสทุ ธาการพมิ พ.์
- เครือ่ งมอื ทางภมู ิศาสตร์ ไดแ้ ก่ แผนที่ ลูกโลกจำลอง รูปถ่ายทางอากาศ และภาพจาก

ดาวเทยี ม
- ใบงานที่ 3.6 เร่ือง การต้งั ถิน่ ฐานและความเป็นเมอื ง ภายใตอ้ ทิ ธิพลของโลกาภวิ ตั น์

2. แหลง่ การเรยี นรู้
- ห้องสมุด
- แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
⬧ http://earth.google.co.th
⬧ http://maps.google.co.th
⬧ http://thaigoodview.com

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 165

9. การวดั และการประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

1. การวัดและประเมินผลระหว่าง - ใบงานท่ี 3.6 - รอ้ ยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ - แบบประเมนิ
การนำเสนอผลงาน - ระดบั คณุ ภาพ 2
- วเิ คราะห์ลักษณะการตั้งถน่ิ ฐาน - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
การทำงานรายบุคคล - ระดับคุณภาพ 2
และความเปน็ เมืองภายใต้อิทธพิ ล - ตรวจใบงานท่ี 3.6 - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
การทำงานกลุ่ม - ระดับคุณภาพ 2
ของโลกาภิวัตน์ได้ - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
คุณลักษณะ - ระดับคณุ ภาพ 2
- วิเคราะหป์ ฏิสัมพนั ธ์ระหว่าง อันพึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
- แบบทดสอบหลังเรยี น - รอ้ ยละ 60
สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกบั การตง้ั ผา่ นเกณฑ์
- แบบประเมนิ การใช้
ถิ่นฐานภายใต้อิทธิพลของโลกาภิ เครื่องมอื ทางภูมิศาสตร์ - ระดบั คุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
วัตน์ได้

- การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ

ผลงาน

- พฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล - สังเกตพฤติกรรม

การทำงานรายบคุ คล

- พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม - สังเกตพฤตกิ รรม

การทำงานกลุ่ม

- คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - สงั เกตความใฝ่เรยี นรู้

และม่งุ มนั่ ใน

การทำงาน

2. การวดั และประเมนิ ผล - ตรวจแบบทดสอบ

หลงั เรยี น หลังเรยี น

- แบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการ

เรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง สงิ่ แวดล้อมทาง

กายภาพกับประชากรและการตัง้

ถิน่ ฐาน

3. การร้เู รอ่ื งภมู ิศาสตร์ - ประเมินการใช้

เครือ่ งมอื ทางภูมิศาสตร์

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 166

10. บนั ทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ผลการเรยี นรู้
1.1 นักเรียนทผี่ ่านตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้
มีจำนวน............................................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................................
1.2 นกั เรียนท่ีไม่ผา่ นตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้
มีจำนวน............................................คน คิดเป็นร้อยละ.............................................
คอื ...............................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
พฤตกิ รรมการเรียนรู้...................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.3 นักเรยี นทีม่ คี วามสามารถพเิ ศษ คอื
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
แนวทางการสง่ เสริม....................................................................................................
....................................................................................................................................
1.4 นกั เรียนได้รบั ความรู้
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.5 นกั เรียนเกดิ ทักษะกระบวนการ
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.6 นกั เรยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
2. ปญั หาและอปุ สรรค
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 167

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .......................................................ผู้สอน
(นางสาวรชนกี ร จันทร์พิทกั ษ์)

ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพเิ ศษ
วันท่ี........... เดอื น.........................พ.ศ. ..............

11. ความเห็น/ขอ้ เสนอแนะ ของหัวหน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้/ผูท้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงชื่อ.........................................................
()

ตำแหน่ง........................................................
วันท.่ี .......... เดอื น......................... พ.ศ. ..............

12. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา/ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงชอื่ ...................................................................
()

ตำแหนง่ ................................................................
วันที่........... เดอื น......................... พ.ศ. ..............

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 168

แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3
เรื่อง สิ่งแวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากรและการต้ังถน่ิ ฐาน

คำชแ้ี จง : ใหก้ า  ทับตัวอักษรหนา้ ข้อความท่ีเปน็ คำตอบทถ่ี ูกที่สุดเพียงข้อเดยี ว

1. การกระจายตวั ของประชากร มีแนวโนม้ กระจายตวั ไปในทศิ ทางใด

ก. แหล่งชมุ ชนหนาแน่น ข. แหลง่ ชนบทเพื่อทำการเพาะปลูก

ค. แหลง่ ที่เอ้อื อำนวยต่อการดำรงชวี ิต ง. แหลง่ ทีส่ ามารถพฒั นาเทคโนโลยขี น้ั สงู

2. ลกั ษณะชมุ ชนเมอื งและชนบทแตกตา่ งกนั น้อยท่สี ดุ ในข้อใด

ก. การนบั ถอื ศาสนา ข. ระบบนิเวศวทิ ยา

ค. การประกอบอาชพี ง. ความสัมพนั ธใ์ นครอบครัว

3. สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพข้อใดทเ่ี หมาะสมตอ่ การตงั้ ถิน่ ฐานมากทีส่ ุด

ก. ชุมชนทอ่ี าศยั อยแู่ ถบที่ราบสงู

ข. ชมุ ชนทอ่ี าศัยอยบู่ รเิ วณท่รี าบลุ่ม

ค. ชุมชนทีม่ ีความเป็นอิสระอยนู่ อกเชงิ เขา

ง. ชุมชนทอ่ี าศยั อย่บู รเิ วณหมเู่ กาะและชายฝัง่ ทะเล

4. ปัญหาสิ่งแวดล้อมทางกายภาพท่ีมักเกิดขนึ้ ในเขตเมอื งคอื ปัญหาใด

ก. ปัญหาการจราจร

ข. ปญั หาการขยายตวั ทางเศรษฐกิจ

ค. ปญั หาการใชช้ วี ิตอย่างอสิ ระพงึ่ พาตนเอง

ง. ปญั หาการขาดแคลนเครอื่ งอปุ โภคบรโิ ภค

5. ข้อใดกล่าวถึงความหมายของส่ิงแวดลอ้ มไดถ้ ูกต้องทีส่ ุด

ก. ส่งิ ตา่ ง ๆ ที่อยูร่ อบตัวเราท่มี นุษย์สร้างขนึ้

ข. ทุกสิ่งท่ีประกอบกนั เป็นโลกและสภาพแวดลอ้ ม

ค. ส่ิงตา่ ง ๆ ท่มี คี วามเหมาะสมต่อการดำเนนิ ชีวติ ของมนษุ ย์

ง. ทกุ สง่ิ ทอี่ ยรู่ อบตวั เราที่มีลักษณะทางกายภาพตามท่ีมนุษย์สร้างข้นึ

6. การแพรก่ ระจายของดินเคม็ ในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นผลมาจากการกระทำของ

มนุษยใ์ นข้อใด

ก. การใชด้ นิ ที่ผิดวธิ ี ทำให้นำ้ ระเหยจากผิวดินมากข้ึน

ข. การตดั ไม้ทำลายปา่ ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขยายตัว

ค. การสูบน้ำใต้ดินมาใช้มากเกนิ ไป ทำใหผ้ ิวดนิ ทรุดตวั

ง. การสร้างเข่ือนและอา่ งเก็บน้ำ ทำให้ระดับนำ้ ใต้ดินสูงขน้ึ

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 169

7. การท่ชี มุ ชนในเขตกรงุ เทพมหานครเปล่ียนผวิ ดินธรรมชาตไิ ปเป็นผวิ คอนกรีตแอสฟัลต์ กอ่ ใหเ้ กดิ

ผลกระทบตอ่ ส่งิ แวดล้อมอยา่ งไร

ก. ทำให้ฝนตกในเมืองมากกวา่ ชนบท

ข. ทำให้อณุ หภูมิในเมืองสงู กว่าชนบท

ค. ทำใหค้ วามชน้ื สัมพัทธใ์ นเมอื งสงู กว่าชนบท

ง. ทำใหเ้ กดิ ลมแปรปรวนบอ่ ยคร้ังในเมอื งมากกวา่ ชนบท

8. เพราะเหตใุ ดทวีปอเมรกิ าเหนือจงึ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากทีส่ ดุ

ก. มีการผสมผสานระหว่างชนพ้นื เมอื งกับผอู้ พยพ

ข. มีการรบั ผู้อพยพลภี้ ัยผวิ ดำจากประเทศต่าง ๆ ท่วั โลก

ค. มีการอพยพเข้ามาตั้งถ่ินฐานในทวปี ชว่ งยคุ ล่าอาณานคิ ม

ง. มีชนพ้ืนเมอื งด้ังเดมิ หลายชนเผ่ากอ่ นจะมีผอู้ พยพเข้ามา

9. กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชากรในภมู ภิ าคใดของประเทศไทยถูกต้องที่สดุ

ก. ภาคใตไ้ มส่ ามารถปลกู พชื ไร่ได้ เพราะฤดูฝนยาวนาน

ข. ภาคตะวันตกนยิ มปลูกพืชไร่ เพราะรายไดจ้ ากการท่องเทยี่ วเป็นอันดบั รอง

ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมดี นิ ที่ไม่เออื้ ต่อการเพาะปลกู การเกษตรแบบยงั ชีพจงึ เปน็ เพียง

ทางเลือก

ง. ภาคเหนอื มีพื้นทเ่ี พาะปลกู จำกดั อาชพี ของประชากรส่วนใหญ่จึงเนน้ ไปที่การท่องเทีย่ ว

10. ขอ้ ใดอธิบายลกั ษณะของสังคมยคุ โลกาภิวัตน์ได้ถกู ตอ้ งทสี่ ุด

ก. ความเอื้ออาทรของคนในสังคมเมือง

ข. ความเร่งรบี ในการใช้ชีวิตของคนในเมอื ง

ค. ความหลากหลายทางวฒั นธรรมของคนในเมือง

ง. การรับรขู้ อ้ มลู ข่าวสารไรพ้ รมแดนของคนในเมือง

11. ประเทศไทยมีความหนาแน่นของประชากรตำ่ ที่สุดในภาคใด

ก. ภาคใต้ ข. ภาคเหนอื

ค. ภาคตะวันออก ง. ภาคตะวันตก

12. ลกั ษณะการต้ังถิน่ ฐานแบบเมืองของมนุษย์ มคี วามสมั พันธ์กับขอ้ ใด

ก. นครขนาดใหญ่ ข. ชมุ ชนท่มี ีบา้ นหลาย ๆ หลงั

ค. เขตท่ีมีเมอื งใหญ่อยตู่ ดิ ตอ่ กัน ง. ชมุ ชนทม่ี ขี นาดใหญ่กว่าหมบู่ ้าน

13. การขยายตวั ของเมือง สง่ ผลกระทบใหเ้ กดิ ปัญหาใด

ก. เงินเฟอ้ ข. ชมุ ชนแออดั

ค. การศึกษา ง. เทคโนโลยี

14. เดนมาร์ก เปน็ ประเทศที่มโี ครงสร้างประชากรเป็นพรี ะมดิ แบบเสถียร เช่นเดียวกับประเทศใด

ก. สเปน ข. สงิ คโปร์

ค. สวีเดน ง. เยอรมนี

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 170

15. ในประเทศท่ีมีจำนวนคนเกดิ และจำนวนคนตายมาก พรี ะมดิ ประชากรจะมีรูปแบบเปน็ อยา่ งไร

ก. พรี ะมดิ แบบคงที่ ข. พรี ะมดิ แบบหดตัว

ค. พีระมิดแบบเสถียร ง. พรี ะมิดแบบขยายตัว

16. การที่คนจากต่างจังหวัดเขา้ มาหางานทำในเขตพน้ื ท่ีกรุงเทพมหานคร จัดเป็นการย้ายถนิ่ ท่ีมาจากปจั จยั ใด

ก. เศรษฐกจิ ข. วฒั นธรรม

ค. สงิ่ แวดล้อม ง. ความปลอดภยั

17. ในอนาคต ลักษณะประชากรของไทยมแี นวโน้มเป็นอย่างไร

ก. มีอัตราเกดิ สงู ข. มอี ตั ราประชากรคงที่

ค. เขา้ สู่การเป็นสงั คมผสู้ ูงอายุ ง. ประชากรมีการเพิม่ ขน้ึ อย่างรวดเร็ว

18. ข้อใดสมั พันธ์กับลกั ษณะความเป็นเมือง

ก. มีความหนาแน่นของประชากรในระดบั ตำ่

ข. การดำเนินชีวิตของคนมลี กั ษณะใกลเ้ คยี งกัน

ค. ประชากรสว่ นใหญ่ประกอบอาชพี เกษตรกรรม

ง. ครอบครัวส่วนใหญม่ ลี ักษณะเปน็ ครอบครัวเดี่ยว

19. ในปจั จบุ นั การย้ายถิ่นของประชากรเขา้ สสู่ หรัฐอเมรกิ ามอี ัตราค่อนขา้ งสงู โดยมีสาเหตุหลักมาจากสิง่ ใด

ก. เป็นพนื้ ทที่ ่มี ปี ระชากรเบาบาง

ข. มอี ตั ราภาษีส่วนบคุ คลคอ่ นข้างตำ่

ค. มีความเจรญิ ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

ง. เปน็ ผู้นำการปกครองระบอบประชาธิปไตย

20. การเขา้ สู่สงั คมผู้สูงอายุ ส่งผลกระทบในดา้ นใด

ก. การรักษาสภาพแวดลอ้ ม ข. การขาดบุคลากรในวัยทำงาน

ค. การเพิม่ ของประชากรอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ง. การอนุรักษแ์ ละฟนื้ ฟทู รพั ยากรธรรมชาติ

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3
เร่อื ง สงิ่ แวดล้อมทางกายภาพกับประชากรและการตงั้ ถน่ิ ฐาน

ข้อ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เฉลย ค ก ข ก ค ค ข ค ข ง

ข้อ 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20
เฉลย ง ง ข ข ง ก ค ง ค ข

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 171

ใบงานท่ี 3.6
เรอ่ื ง การต้ังถิน่ ฐานและความเป็นเมือง ภายใต้อทิ ธพิ ลของโลกาภวิ ัตน์

คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ สืบคน้ และวเิ คราะห์ พรอ้ มทัง้ บนั ทึกข้อมูลเกีย่ วกบั การตง้ั ถ่นิ ฐานและ
ความเป็นเมือง ภายใตอ้ ิทธพิ ลของโลกาภวิ ตั น์ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก

1. กลมุ่ ท่ี ………….… ชอ่ื พื้นท่ีทศี่ ึกษา..…………………………………………………………………………………………………

2. ขอ้ มลู ทไี่ ด้จากการสบื คน้ และรวบรวม

ขนาด การต้ังถน่ิ ฐาน การตง้ั ถน่ิ ฐาน ความเป็นเมือง การใชท้ ี่ดิน ปัญหาเมอื ง
การต้ังถนิ่ ฐาน เมือง ชนบท ภายในเมือง

3. ความแตกต่างระหวา่ งเมอื งกับชนบท ชนบท
เมอื ง

4. พ้นื ท่ีทีศ่ กึ ษา มีความเป็นเมอื ง หรือชนบทมากกว่ากัน อธิบายพรอ้ มเหตุผลทเี่ ชอ่ื มโยงกับอทิ ธพิ ลของ
โลกาภวิ ตั น์
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 172

เฉลยใบงานที่ 3.6
เรอื่ ง การต้ังถ่ินฐานและความเปน็ เมือง ภายใตอ้ ทิ ธพิ ลของโลกาภิวัตน์

คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสืบคน้ และวิเคราะห์ พรอ้ มทง้ั บนั ทกึ ขอ้ มลู เกีย่ วกับการตั้งถ่ินฐานและ
ความเปน็ เมือง ภายใต้อิทธพิ ลของโลกาภวิ ตั น์ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก

1. กลมุ่ ที่………….… ชื่อพ้นื ท่ีท่ีศึกษา …………………………………………………………………………………………………

2. ข้อมลู ทไ่ี ด้จากการสืบคน้ และรวบรวม

ขนาด การตงั้ ถ่นิ ฐาน การต้งั ถ่ินฐาน ความเปน็ เมอื ง การใช้ที่ดิน ปัญหาเมือง
การต้ังถ่นิ ฐาน เมอื ง ชนบท ภายในเมือง

3. ความแตกต่างระหว่างเมอื งกับชนบท ชนบท
เมือง

4. พ้นื ท่ีที่ศกึ ษา มีความเปน็ เมืองหรอื ชนบทมากกว่ากนั อธบิ ายพร้อมเหตุผลทีเ่ ชื่อมโยงกับอิทธิพลของ
โลกาภวิ ตั น์
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(พิจารณาคำตอบของนักเรยี น จากดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

ส32101 สงั คมศึกษา ม.5 173

ช้ินงาน/ภาระงานรวบยอด
กิจกรรม จดั ปา้ ยนิเทศแสดงผลการสบื คน้ ข้อมลู
เร่อื ง สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพกับประชากรและการตั้งถิ่นฐาน

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนจดั ทำปา้ ยนิเทศแสดงผลการสบื ค้นขอ้ มูล เรอื่ ง สิง่ แวดล้อมทางกายภาพกบั ประชากร
และการตัง้ ถ่นิ ฐาน พร้อมท้ังอธิบายวิธกี ารสืบค้นข้อมลู โดยใช้เครอื่ งมือและวิธีการทางภมู ศิ าสตร์ รวมถงึ
นำเสนอให้เขา้ ใจง่ายและชัดเจน

แบบประเมินการร้เู รือ่ งภูมศิ าสตร์

กจิ กรรม การจัดปา้ ยนิเทศ

เกณฑก์ ารประเมิน

รายการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง ระดับคณุ ภาพ
1. ความสามารถ
(4) (3) (2) (1)
ทางภมู ศิ าสตร์
สรุปผลการสบื ค้นการ สรุปผลการสบื ค้นการ สรปุ ผลการสบื คน้ การ สรุปผลการสบื คน้ การ
2. กระบวนการทาง
ภมู ศิ าสตร์ เปลี่ยนแปลงทาง เปลีย่ นแปลงทาง เปล่ียนแปลงทาง เปล่ยี นแปลงทาง ดมี าก
กายภาพของพื้นทีใ่ น กายภาพของพื้นทีใ่ น กายภาพของพ้นื ที่ใน กายภาพของพ้ืนทใี่ น
3. ทักษะทาง
ภมู ศิ าสตร์ ประเทศไทยและภูมิภาค ประเทศไทยและภูมิภาค ประเทศไทยและภมู ิภาค ประเทศไทยและภูมภิ าค

ต่าง ๆ ของโลก ซ่งึ ไดร้ บั ตา่ ง ๆ ของโลก ซึ่งไดร้ บั ตา่ ง ๆ ของโลก ซึ่งได้รบั ต่าง ๆของโลก ซงึ่ ไดร้ บั ดี

อทิ ธิพลปัจจยั ทาง อิทธิพลปัจจัยทาง อิทธิพลปัจจยั ทาง อทิ ธิพลปจั จยั ทาง

ภมู ิศาสตรไ์ ดถ้ ูกตอ้ ง ภูมศิ าสตร์ไดถ้ กู ตอ้ งเปน็ ภมู ศิ าสตร์ได้ถูกต้อง ภูมศิ าสตร์ได้บางสว่ น แต่
ครบถ้วน ไมถ่ ูกตอ้ ง
สว่ นใหญ่ บางสว่ น พอใช้

ดำเนนิ การตาม ดำเนนิ การตาม ดำเนินการตาม ดำเนนิ การตาม

กระบวนการทาง กระบวนการทาง กระบวนการทาง กระบวนการทาง
ภมู ศิ าสตร์ได้ถกู ต้อง ภูมศิ าสตร์ไดถ้ ูกตอ้ ง
ภมู ศิ าสตรไ์ ดถ้ กู ตอ้ งและ ภมู ิศาสตรไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง ปรบั ปรุง

ครบทกุ ขน้ั ตอน สว่ นใหญ่เปน็ ไปตาม บางสว่ น แตไ่ มค่ รบทกุ บางสว่ น แต่ไม่เปน็ ไป

ขั้นตอน ขัน้ ตอน ตามขั้นตอน

ใชเ้ ทคนคิ และเคร่ืองมือ ใชเ้ ทคนิคและเครอื่ งมอื ใชเ้ ทคนคิ และเคร่ืองมือ ใชเ้ ทคนคิ และเครอ่ื งมอื

ทางภูมศิ าสตร์สืบค้น ทางภมู ศิ าสตรส์ ืบค้นและ ทางภูมศิ าสตรส์ ืบคน้ ทางภูมศิ าสตร์สบื คน้

และรวบรวมขอ้ มูล การ รวบรวมขอ้ มลู การ และรวบรวมข้อมูล การ และรวบรวมขอ้ มลู การ

เปล่ยี นแปลงทาง เปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เปล่ียนแปลงทาง เปลี่ยนแปลงทาง

กายภาพของพื้นท่ีใน ของพ้นื ที่ในประเทศไทย กายภาพของพ้ืนทใี่ น กายภาพของพ้นื ที่ใน

ประเทศไทยและภมู ิภาค และภูมิภาคตา่ ง ๆ ของ ประเทศไทยและภูมิภาค ประเทศไทยและภูมิภาค

ตา่ ง ๆ ของโลก ซ่ึงได้รบั โลก ซ่ึงไดร้ ับอทิ ธิพลจาก ตา่ ง ๆ ของโลก ซ่ึงไดร้ บั ตา่ ง ๆ ของโลก ซ่ึงได้รบั

อิทธพิ ลจากปจั จัยทาง ปจั จยั ทางภูมิศาสตร์ได้ อิทธิพลจากปจั จยั ทาง อิทธิพลจากปัจจัยทาง

ภมู ศิ าสตร์ได้ครบถว้ น เปน็ สว่ นใหญ่ ภูมศิ าสตร์ได้เปน็ ภมู ศิ าสตรไ์ ดบ้ างสว่ นแต่

ชดั เจน บางส่วน ไม่ชดั เจน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

9-12 ดี

6-8 พอใช้

ตำ่ กว่า 6 ปรบั ปรงุ

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 174

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน

คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลการนำเสนอผลงานของนักเรยี นตามรายการ แล้วขดี ✓ลงในช่องที่
ตรงกบั ระดับคะแนน

ลำดบั ท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา
2 การลำดับขนั้ ตอนของเรื่อง
3 วิธีการนำเสนอผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์
4 การใชเ้ ทคโนโลยีในการนำเสนอ
5 การมีส่วนร่วมของสมาชกิ ในกล่มุ

รวม

ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
.............../................./................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ สมบรู ณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ตำ่ กว่า 8 ปรบั ปรุง

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 175

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล

คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งท่ี
ตรงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
321

1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื
3 การทำงานตามหนา้ ท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย
4 ความมีน้ำใจ
5 การตรงตอ่ เวลา

รวม

ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../...............

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครัง้

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ต่ำกว่า 8 ปรบั ปรงุ

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 176

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ

คำชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกับระดบั คะแนน

การมี

ลำดบั ที่ ช่ือ – สกลุ การแสดง การยอมรบั การทำงาน ความมี ส่วนรว่ มใน รวม
ของนักเรยี น ความ ฟงั คนอืน่ ตามท่ีไดร้ ับ น้ำใจ การ 15
คิดเห็น มอบหมาย คะแนน
ปรับปรุง
ผลงานกลุ่ม

321321321321321

ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ
............../.................../..............

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้งั

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

12-15 ดี

8-11 พอใช้

ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรุง

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 177

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ลงในชอ่ งที่

ตรงกับระดับคะแนน

คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงค์ด้าน 32 1

1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติ

1.2 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์

ตอ่ โรงเรียน

1.3 เข้าร่วมกจิ กรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏิบตั ิตามหลักศาสนา

1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทเ่ี ก่ียวกับสถาบันพระมหากษตั ริย์ตามท่ีโรงเรยี นจัดขน้ึ

2. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต 2.1 ใหข้ อ้ มูลทถี่ กู ต้องและเป็นจริง

2.2 ปฏิบตั ิในสิ่งท่ถี กู ตอ้ ง

3. มวี นิ ัย รับผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั

3.2 มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน

4. ใฝ่เรยี นรู้ 4.1 รจู้ ักใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ัตไิ ด้

4.2 ศึกษาคน้ คว้าความรู้จากสอ่ื และเทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งสมำ่ เสมอ

5. อยูอ่ ย่างพอเพยี ง 5.1 ใช้ทรัพย์สนิ และส่ิงของของตนเองและส่วนรวมอย่างประหยดั

5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงนิ

6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย

6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพอ่ื ให้งานสำเร็จ

7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสำนกึ ในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย

7.2 เห็นคุณคา่ และปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมไทย

8. มีจติ สาธารณะ 8.1 อาสาทำงาน ชว่ ยคดิ ช่วยทำกจิ กรรมเพอ่ื สว่ นรวม

8.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรม เพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์

ลงช่อื ...................................................ผูป้ ระเมิน
……........../................./...............

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบางครง้ั

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 178

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 กิจกรรมทางเศรษฐกิจ : เกษตรกรรม

รายวชิ า ส 32101 สังคมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 ส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกบั กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เวลาเรยี น 5 ชัว่ โมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11 กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ : เกษตรกรรม เวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง

ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 ครผู ้สู อน นางสาวรชนีกร จนั ทรพ์ ทิ กั ษ์

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ส 5.2 เขา้ ใจปฏสิ มั พนั ธ์ระหวา่ งมนุษย์กับสิง่ แวดล้อมทางกายภาพทก่ี ่อให้เกดิ
การสรา้ งสรรค์วถิ ีการดำเนินชวี ิต มีจิตสำนึกและมีส่วนรว่ มในการจดั การ
ทรพั ยากรและสงิ่ แวดล้อม เพือ่ การพฒั นาทีย่ ง่ั ยนื
ตวั ชี้วดั ม. 4-6/1 วเิ คราะหป์ ฏสิ มั พนั ธ์ระหว่างสิง่ แวดลอ้ มทางกายภาพกับกจิ กรรมของมนุษย์
ในการสรา้ งสรรค์วถิ กี ารดำเนินชวี ติ ของทอ้ งถิ่น ทั้งในประเทศไทยและ
ภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก และเหน็ ความสำคัญของสงิ่ แวดลอ้ มทม่ี ีผลต่อ
การดำรงชวี ติ ของมนุษย์

2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
วิถกี ารดำเนินชีวติ ของท้องถิน่ ท้งั ในประเทศไทยและภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก เกิดจากปฏิสมั พันธ์

ระหวา่ งสงิ่ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั กจิ กรรมของมนษุ ย์ นอกจากน้ี กระแสโลกาภวิ ตั น์ทำให้เกดิ การ
เปลยี่ นแปลงสง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพและวถิ ีการดำเนนิ ชีวติ

3. สาระการเรยี นรู้
ปฏสิ มั พันธ์ระหวา่ งส่งิ แวดล้อมทางกายภาพกับวิถกี ารดำเนนิ ชีวติ ภายใตก้ ระแสโลกาภิวตั น์

ได้แก่ การกระจายของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (เกษตรกรรม อตุ สาหกรรมการผลติ การบรกิ ารและการ
ทอ่ งเทย่ี ว)

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. วเิ คราะหป์ ฏิสมั พันธ์ระหว่างส่ิงแวดลอ้ มทางกายภาพทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ

ประเภทเกษตรกรรมและการเปลีย่ นแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ ได้ (K)

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 179

2. เลอื กใชเ้ ครือ่ งมือทางภมู ิศาสตรใ์ นการศึกษาปฏสิ ัมพันธร์ ะหวา่ งสง่ิ แวดล้อมทางกายภาพท่ี
กอ่ ให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกจิ ประเภทเกษตรกรรมและการเปลีย่ นแปลงในดา้ นต่าง ๆ ได้ (P)

3. สนใจศกึ ษากจิ กรรมทางเศรษฐกิจประเภทเกษตรกรรม และการเปล่ยี นแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ
เพม่ิ มากข้นึ (A)

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวินยั

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. มุ่งม่ันในการทำงาน

4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

6. การร้เู ร่อื งภมู ิศาสตร์ (Geo–Literacy)

ความสามารถทางภูมศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทกั ษะทางภูมศิ าสตร์
1. การแปลความขอ้ มูลทาง
1. ความเข้าใจระบบธรรมชาติ 1. การต้งั คำถามเชงิ ภมู ิศาสตร์ ภมู ศิ าสตร์
2. การใช้เทคนิคและเคร่ืองมือ
และมนษุ ย์ 2. การรวบรวมข้อมลู ทางภมู ิศาสตร์
3. การคดิ เชงิ พื้นที่
2. การใหเ้ หตุผลทางภูมิศาสตร์ 3. การจดั การข้อมลู 4. การคิดแบบองคร์ วม

3. การตัดสินใจอย่างเปน็ ระบบ 4. การวิเคราะหข์ ้อมลู

5. การสรุปเพอ่ื ตอบคำถาม

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้ วธิ สี อนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process)
ข้ันนำ

1. ครแู จ้งให้นกั เรียนทราบถงึ วิธีสอนแบบกระบวนการทางภูมิศาสตร์ (Geographic Inquiry
Process) ชอื่ เร่ืองทจี่ ะเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ และผลการเรียนรู้

2. ครูให้นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรื่อง ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพกบั
กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ

3. ครูถามคำถามกระตนุ้ ความคดิ โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกันตอบคำถาม เช่น
3.1 พชื ชนิดใดเปน็ พืชเศรษฐกิจในบริเวณเขตศูนย์สตู ร (แนวตอบ ยางพารา ชา กาแฟ)
3.2 พชื ชนดิ ใดสามารถปลกู ไดท้ ุกภูมภิ าค (แนวตอบ ขา้ วโพด)
3.3 พชื ชนิดใดมีมากในเขตเมดเิ ตอรเ์ รเนียน (แนวตอบ สม้ องุ่น มะกอก)
3.4 สตั วช์ นดิ ใดท่ีสามารถเล้ยี งได้ในเขตทม่ี ีทุง่ หญ้าบาง นำ้ นอ้ ย (แนวตอบ แพะ แกะ)
3.5 การประมงและการเลีย้ งปลานำ้ จดื พบได้มากในทวปี ใด (แนวตอบ ทวีปเอเชีย)

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 180

ข้ันสอน
ขน้ั ท่ี 1 การตั้งคำถามเชิงภมู ศิ าสตร์
1. ครใู หน้ กั เรยี นดูภาพหรือคลปิ วดิ ีโอทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับการเกษตรกรรมทงั้ การเพาะปลูก การเลี้ยง

สตั ว์ และการประมง แลว้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับภาพหรือคลปิ วิดโี อดงั กล่าว
2. ครูสอบถามนักเรยี นถงึ ความสัมพันธร์ ะหว่างพน้ื ท่ี หรอื ลักษณะทางกายภาพ สภาพแวดล้อม

สภาพภูมอิ ากาศของแตล่ ะพืน้ ที่บนโลก วา่ มคี วามเหมือนหรือแตกตา่ งในการเพาะปลูกหรอื ไม่ อยา่ งไร
3. ครใู หน้ ักเรยี นดภู าพพืชชนิดต่าง ๆ แล้วสุม่ ถามถงึ แหลง่ เพาะปลูกทเ่ี หมาะสม จากนั้นร่วมกัน

แสดงความคิดเห็นเพิม่ เติม เชน่

(แนวตอบ 1. ยางพารา ปลกู ได้ดีบรเิ วณเนินเขา หรอื บริเวณดินร่วนทีส่ ามารถระบายนำ้ ไดด้ ี
พ้นื ทีป่ ลกู ยางพาราส่วนใหญอ่ ยใู่ นภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ จนี อนิ เดยี และศรลี งั กา 2. กาแฟ ปลูก
ไดด้ ใี นดนิ ทีเ่ กิดจากหนิ ภเู ขาไฟท่ีมรี ูพรนุ และมแี ร่ธาตอุ ดุ มสมบูรณ์ พ้นื ทปี่ ลกู กาแฟสว่ นใหญ่ เชน่ ประเทศ
บราซิล เกาะชวา เกาะสมุ าตรา ประเทศจาเมกา ดินแดนเปอร์โตรโิ ก 3. ชา ปลูกไดด้ ใี นพน้ื ท่ีทม่ี คี วามสูง
กวา่ ระดบั น้ำทะเล 1,000-2,000 เมตร หรือบริเวณเทอื กเขา พ้นื ท่ีปลูกชาส่วนใหญ่ เช่น ประเทศอินเดยี
ประเทศจีน ประเทศญป่ี ุ่น 4. ข้าวโพด สามารถปลูกได้ทว่ั ไป พน้ื ทปี่ ลกู ขา้ วโพดส่วนใหญ่ เชน่
สหรฐั อเมรกิ า จนี เม็กซิโก บราซิล อาร์เจนตินา สหภาพยโุ รป อินเดยี แอฟริกาใต้ แคนาดา 5. ฝา้ ย ปลกู ได้
ดใี นเขตรอ้ นและเขตอบอุ่น พน้ื ท่ปี ลูกฝ้ายส่วนใหญ่ เชน่ สหรฐั อเมรกิ า ทวปี เอเชยี ทางตะวนั ตกเฉยี งเหนอื
แถบที่ราบสูงเดกกัน ในประเทศอินเดยี แถบลุ่มแมน่ ้ำฉางเจียงและหวางเหอในท่รี าบภาคเหนือของประเทศ
จนี )

4. ครูให้นักเรียนจับกลุ่มทำกจิ กรรมตาม Geo Activity เก่ยี วกบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งลักษณะ
ภูมิประเทศและลักษณะภูมอิ ากาศ จากหนังสือเรียนภมู ศิ าสตร์ ม.4-6

5. ครูสุม่ นักเรยี นนำเสนอผลการอธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งลกั ษณะภูมิประเทศและลกั ษณะ
ภูมิอากาศ จากนัน้ ร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ เพ่มิ เติม

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 181

6. ครใู ห้นกั เรยี นใชส้ มาร์ตโฟนสืบคน้ ภาพ หรือคลิปวดิ ีโอตวั อย่างท่เี กยี่ วขอ้ งกับการเพาะปลูกใน
รูปแบบต่าง ๆ เช่น การเพาะปลกู แบบยงั ชพี การเพาะปลูกบบเพ่มิ ผลผลติ การเพาะปลูกในพ้ืนท่ีกวา้ งขวาง
การเพาะปลกู แบบผสม การเพาะปลูกแบบไรข่ นาดใหญ่

7. ครูสุ่มนักเรียนนำเสนอผลการสืบคน้ จำนวน 4-5 คน อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ เพิม่ เตมิ
ร่วมกัน

8. ครกู ระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ตั้งประเด็นคำถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ เช่น
8.1 กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ในด้านการเพาะปลกู เลย้ี งสัตว์ ประมง ในประเทศไทยและภมู ภิ าค

ตา่ ง ๆ ของโลกมีการเปลย่ี นแปลงจากในอดตี อย่างไรบ้าง และปัจจยั ใดเป็นสาเหตุทีก่ ่อให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลงดงั กล่าว

8.2 สิ่งแวดลอ้ มทางกายภาพส่งผลตอ่ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ในด้านการเพาะปลกู เลยี้ งสัตว์
ประมง ในประเทศไทยและภมู ิภาคต่าง ๆ ของโลกอย่างไร

9. ครูใหน้ ักเรียนศกึ ษา Geo Knowledge เก่ยี วกบั การใช้เทคโนโลยีในการทำเกษตรกรรม จาก
หนงั สือเรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 ประกอบการตง้ั คำถามทางภูมศิ าสตร์เพม่ิ เติม

ขน้ั ที่ 2 การรวบรวมขอ้ มูล
1. ครใู ห้นักเรียนแบง่ กลุ่ม จำนวน 3 กลุม่ สบื ค้นข้อมูลเกีย่ วกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จาก
หนังสอื เรียนภูมิศาสตร์ ม.4-6 หรือจากแหล่งการเรียนรู้อ่นื ๆ เชน่ หนงั สือในหอ้ งสมดุ เวบ็ ไซต์ใน
อนิ เทอร์เนต็ ในประเด็นตอ่ ไปน้ี

- ประเภทของเกษตรกรรม
- กิจกรรมทางการเกษตรท่ีสำคัญของโลก
- เกษตรกรรมในประเทศไทย
2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศึกษาข้อมลู ในหัวข้อท่ีรับผดิ ชอบ โดยนำความรูเ้ กีย่ วกับเครอ่ื งมือ
ทางภูมศิ าสตร์มาใช้ประกอบในการศึกษาด้วย
3. ครแู นะนำแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศทนี่ ่าเชื่อถือให้กบั นกั เรียนเพิ่มเติม
ขั้นที่ 3 การจดั การขอ้ มูล
1. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุม่ นำขอ้ มูลที่ตนไดจ้ ากการรวบรวม มาอธบิ ายแลกเปลย่ี นความรูร้ ะหว่างกนั
2. จากนนั้ สมาชกิ ในกลุม่ ช่วยกนั คดั เลอื กขอ้ มูลทีน่ ำเสนอเพอ่ื ใหไ้ ดข้ ้อมูลท่ีถกู ต้อง และร่วม
อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เติม
ข้ันที่ 4 การวิเคราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มูล
1. ครใู ห้นกั เรยี นดูภาพ หรอื คลิปวิดีโอทเ่ี กี่ยวข้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจประเภทการเล้ยี งสตั ว์
และการประมงประกอบการวิเคราะห์ข้อมลู เพม่ิ เตมิ
2. ครูถามคำถามเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นได้วเิ คราะห์ความรู้ เชน่
2.1 การเลี้ยงสตั วใ์ นไร่นาแบบผสมคอื อะไร พบไดม้ ากในบรเิ วณใด และมีสาเหตุจากส่งิ ใด
(แนวตอบ การเลยี้ งสัตว์ในไรน่ าแบบผสม คอื การเล้ยี งสัตว์รว่ มกับการปลกู พชื รวมถงึ พืชท่ีเปน็ อาหารของ
สัตว์ โดยมีสตั วท์ ีน่ ิยมเลย้ี งในไรน่ าแบบผสม เช่น โคนม โคเน้ือ สกุ ร สตั ว์ปกี พบได้มากในบริเวณ

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 182

ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ของสหรัฐอเมรกิ าและตะวันออกเฉยี งใตข้ องแคนาดา เนอื่ งจากมคี วามอุดมสมบูรณ์ทงั้
ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติและเทคโนโลยี รวมถึงมคี วามชนื้ ที่เพยี งพอ)

2.2 บริเวณจงั หวัดสมุทรสงครามและสมุทรสาครของประเทศไทยถือได้ว่าเปน็ แหลง่ การ
ประมงขนาดใหญข่ องประเทศ อนั เน่อื งมาจากสาเหตุใด (แนวตอบ บริเวณจังหวดั สมทุ รสงครามและ
สมุทรสาครของประเทศไทยเปน็ พื้นท่ีทม่ี ีลกั ษณะทางกายภาพเป็นการผสมกนั ระหว่างน้ำจดื ท่ีไหลลงทะเล
ทำให้น้ำทะเลได้รับอนิ ทรยี วตั ถซุ ง่ึ เป็นอาหารของสตั วน์ ำ้ มลี กั ษณะชายฝงั่ ทเ่ี ว้าแหว่ง ระดบั น้ำไมล่ ึก
จนเกนิ ไป เหมาะแก่การอาศัยและขยายพนั ธขุ์ องสัตว์น้ำ รวมไปถึงการมแี รงงานและมปี ระชากรทหี่ นาแนน่
ด้วยเหตผุ ลดงั กล่าวจงึ ทำให้บรเิ วณจงั หวัดสมุทรสงครามและสมทุ รสาครของประเทศไทยเป็นแหลง่ การ
ประมงขนาดใหญ่แหลง่ หนึง่ ของประเทศนั่นเอง)

3. ครูใหน้ ักเรยี นดูแผนทแ่ี สดงการกระจายเกษตรกรรมสำคญั จากหนังสือเรียนภูมศิ าสตร์ ม.4-6
แล้วร่วมกนั อภิปรายแสดงความคดิ เหน็

4. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำขอ้ มลู จากการสืบค้นในหัวขอ้ ทีร่ ับผิดชอบ มาวเิ คราะห์
ความสัมพันธ์ระหวา่ งกิจกรรมของมนุษยก์ ับลกั ษณะทางกายภาพ จัดทำเป็นแผนผังประกอบการวาด
ภาพประกอบ

5. ครมู อบหมายให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลงาน แลว้ แลกเปลยี่ นหมนุ เวยี นกัน เพือ่
วิเคราะหแ์ ละแปลผลข้อมูลรว่ มกนั

6. ครูใหน้ กั เรียนดูแผนทีแ่ สดงปรมิ าณผลผลิตขา้ วสาลีในฤดหู นาวของสหรฐั อเมรกิ า และแผนท่ี
แสดงพ้นื ท่ีท่ีเหมาะสมในการทำสวนผลไมร้ อบทะเลเมดเิ ตอร์เรเนียน จากหนงั สอื เรยี นภูมศิ าสตร์ ม.4-6
แลว้ รว่ มกันอภิปรายแสดงความคิดเหน็ เพ่ิมเตมิ เช่ือมโยงกับลักษณะทางกายภาพตามแผนทท่ี ี่กำหนด

7. ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั วิเคราะห์เช่ือมโยงความสัมพันธร์ ะหว่างลักษณะทางกายภาพกบั กิจกรรม
ทางการเกษตรทส่ี ำคญั ของโลก พร้อมทัง้ ยกตวั อย่าง หรอื อภิปรายโดยใช้คำถาม เช่น

7.1 เพราะเหตใุ ดประเทศไทยจงึ พบการปลกู ข้าวสาลนี อ้ ยกวา่ การปลูกข้าวเจา้ (แนวตอบ
เนื่องจากอิทธิพลของสภาพภมู ิอากาศ เพราะขา้ วสาลมี ักเจรญิ เตบิ โตได้ดใี นฤดใู บไมผ้ ลแิ ละฤดูหนาว โดย
จะตอ้ งมสี ภาพแวดลอ้ มและอุณหภมู ิท่ีเหมาะสม ซง่ึ แตกต่างกบั สภาพภูมิอากาศของประเทศไทย ในขณะที่
ข้าวเจ้ามีความเหมาะสมกับสภาพแวดลอ้ มและอุณหภมู ิของประเทศไทยมากกว่า เนื่องจากข้าวเจ้าส่วนใหญ่
เจรญิ เตบิ โตได้ดใี นเขตร้อนท่มี ภี มู อิ ากาศแบบมรสุม และสภาพพน้ื ทที่ ีเ่ ป็นทร่ี าบลุ่มแม่นำ้ )

7.2 ผลผลิตทีไ่ ดจ้ ากการปลกู อ้อยและขา้ วโพด กอ่ ให้เกิดการขับเคล่ือนทางธุรกจิ เกดิ เป็น
สนิ ค้าชนิดใดได้บา้ ง (แนวตอบ เช่น นำ้ อ้อย น้ำตาล น้ำนมขา้ วโพด ขนมหวาน อาหารกระป๋อง ผลิตภัณฑ์
อาหารสัตว์ พลังงานเชื้อเพลงิ ไม้อดั แปรรูป ฯลฯ)

8. ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกันศกึ ษาและยกตัวอยา่ ง เขตประมงสำคัญของโลก จากหนังสอื เรยี น
ภมู ศิ าสตร์ ม.4-6 หรอื จากแหล่งการเรียนรูอ้ ่นื ๆ เชน่ เวบ็ ไซต์ในอินเทอร์เน็ต เพ่มิ เตมิ

9. ครูสุ่มถามนกั เรียนเพม่ิ เตมิ ถึงพนื้ ที่ทมี่ ีผลผลติ จากการทำประมงในภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก
จากนน้ั อภิปรายแสดงความคิดเห็นเพอ่ื วิเคราะหแ์ ละแปลผลขอ้ มูลร่วมกนั

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 183

10. ครูให้นักเรยี นรว่ มกนั นำขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการศึกษามาวเิ คราะห์เช่อื มโยงกบั ประเด็น
“เกษตรกรรมในประเทศไทย” อภปิ รายและเสนอแนะขอ้ คดิ เห็นเพิ่มเติม

ข้ันท่ี 5 การสรปุ เพอื่ ตอบคำถาม
1. ครูให้สมาชิกในแต่ละกล่มุ ช่วยกันสรุปสาระสำคัญเพอ่ื ตอบคำถามเชิงภูมศิ าสตร์
2. ครใู ห้นกั เรยี นร่วมกันทำใบงานท่ี 4.1 เรือ่ ง กิจกรรมทางเศรษฐกิจในดา้ นเกษตรกรรม
3. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกสมรรถนะฯ ภูมศิ าสตร์ ม.4-6 เกย่ี วกับเรือ่ ง กิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ในด้านเกษตรกรรม โดยครูแนะนำเพม่ิ เติม
ขั้นสรุป
ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้ ตลอดจนการใช้เครอื่ งมือทางภมู ศิ าสตร์ และเคร่ืองมอื ด้าน
เทคโนโลยใี นการสืบค้นเกย่ี วกับกจิ กรรมทางเศรษฐกิจในด้านเกษตรกรรม หรือใช้ PPT สรุปสาระสำคญั ของ
เนือ้ หา
ข้นั ประเมิน
1. ครูประเมนิ ผลโดยสังเกตจากการตอบคำถาม การรว่ มกนั ทำงาน และการนำเสนอผลงานหน้า
ชน้ั เรียน
2. ครูตรวจสอบผลจากการทำใบงาน และแบบฝึกสมรรถนะฯ ภูมศิ าสตร์ ม.4-6

8. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. ส่ือการเรียนรู้
- หนงั สือเรียนภมู ิศาสตร์ ม.4-6
- แบบฝกึ สมรรถนะฯ ภูมิศาสตร์ ม.4-6
- หนงั สอื คน้ คว้าเพิม่ เตมิ
⬧ โครงการตำราวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มลู นิธิ สอวน. 2557. ภมู ศิ าสตรก์ ายภาพ.
กรุงเทพมหานคร : ด่านสุทธาการพมิ พ.์
⬧ โครงการตำราวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มูลนธิ ิ สอวน. 2557. ภมู ิศาสตรม์ นุษย์.
กรงุ เทพมหานคร : ดา่ นสทุ ธาการพิมพ.์
⬧ วทิ ยากร เชยี งกูล. 2550. อนาคตเศรษฐกิจโลกและทางออกของไทย. กรุงเทพมหานคร
: บ้านพระอาทิตย์.
⬧ วิทยากร เชียงกลู . 2552. มองมมุ ใหมว่ ิกฤตเศรษฐกจิ โลก. กรุงเทพมหานคร :
บ้านพระอาทิตย์.
- เคร่อื งมือทางภูมศิ าสตร์ ไดแ้ ก่ แผนท่ี ลูกโลกจำลอง รปู ถ่ายทางอากาศ และภาพจากดาวเทียม
- ใบงานท่ี 4.1 เร่อื ง กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ในด้านเกษตรกรรม
2. แหลง่ การเรียนรู้
- หอ้ งสมดุ
- แหล่งข้อมูลสารสนเทศ

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 184

⬧ http://earth.google.co.th
⬧ http://maps.google.co.th
⬧ https://scbeic.com/th/detail/product/4325
⬧ https://ryt9.com/tag/เศรษฐกจิ โลก
⬧ https://thai.tourismthailand.org

9. การวดั และการประเมนิ ผล วธิ วี ัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน
รายการวดั - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - รอ้ ยละ 60
ก่อนเรยี น ผา่ นเกณฑ์
1. การวัดและประเมนิ ผล - ใบงานที่ 4.1
กอ่ นเรียน - ตรวจใบงานที่ 4.1 - ร้อยละ 60
- แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ย - แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
การเรียนร้ทู ี่ 4 เรือ่ ง สงิ่ แวดลอ้ ม - ประเมินการนำเสนอ การนำเสนอผลงาน
ทางกายภาพกบั กจิ กรรมทาง ผลงาน - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2
เศรษฐกิจ - สังเกตพฤตกิ รรม การทำงานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
2. การวัดและประเมินผลระหวา่ ง การทำงานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ - สงั เกตพฤตกิ รรม การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์
- วเิ คราะหป์ ฏิสมั พันธ์ระหว่าง การทำงานกลุ่ม - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2
สง่ิ แวดล้อมทางกายภาพที่ - สงั เกตความใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
กอ่ ให้เกิดกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ และมุ่งมน่ั ใน อันพึงประสงค์ - ระดบั คุณภาพ 2
ประเภทการเพาะปลูก เลีย้ งสัตว์ การทำงาน - แบบประเมินการใช้ ผา่ นเกณฑ์
ประมงและการเปลี่ยนแปลงใน - ประเมินการใช้ เคร่อื งมอื ทางภูมศิ าสตร์
ด้านต่าง ๆ ได้ เครือ่ งมือทางภูมศิ าสตร์ - ระดับคุณภาพ 2
- การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์

- พฤติกรรมการทำงานรายบุคคล

- พฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

- คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

3. การร้เู รื่องภมู ศิ าสตร์

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 185

10. บนั ทึกผลหลังการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ผลการเรยี นรู้
1.1 นักเรียนทผี่ ่านตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้
มีจำนวน............................................คน คดิ เป็นร้อยละ.............................................
1.2 นกั เรียนท่ีไม่ผา่ นตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้
มีจำนวน............................................คน คิดเป็นร้อยละ.............................................
คอื ...............................................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
พฤตกิ รรมการเรียนรู้...................................................................................................
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.3 นักเรยี นทีม่ คี วามสามารถพเิ ศษ คอื
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
แนวทางการสง่ เสริม....................................................................................................
....................................................................................................................................
1.4 นกั เรียนได้รบั ความรู้
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.5 นกั เรียนเกดิ ทักษะกระบวนการ
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
1.6 นกั เรยี นมคี ณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม
....................................................................................................................................
....................................................................................................................................
2. ปญั หาและอปุ สรรค
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ส32101 สังคมศึกษา ม.5 186

......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงช่ือ.......................................................ผู้สอน
(นางสาวรชนีกร จันทร์พิทกั ษ์)

ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ
วนั ที่........... เดือน.........................พ.ศ. ..............

11. ความเห็น/ข้อเสนอแนะ ของหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้/ผู้ท่ีไดร้ ับมอบหมาย
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงช่ือ.........................................................
()

ตำแหน่ง........................................................
วันท่ี........... เดอื น......................... พ.ศ. ..............

12. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะ ของผ้บู ริหารสถานศึกษา/ผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงชอื่ ...................................................................
()

ตำแหนง่ ................................................................
วนั ที่........... เดอื น......................... พ.ศ. ...............

ส32101 สงั คมศกึ ษา ม.5 187

แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4
เร่อื ง ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกับกิจกรรมทางเศรษฐกจิ

คำช้ีแจง : ให้กา  ทับตัวอักษรหน้าข้อความทีเ่ ป็นคำตอบทถี่ กู ท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว

1. ขอ้ ใดเป็นเหตุผลท่ีทำให้ข้าวเปน็ พืชเศรษฐกิจของทวปี เอเชยี

ก. ตลาดโลกนยิ มขา้ วของเอเชียเพราะมคี ุณภาพดี

ข. ลักษณะของดนิ เปน็ ดินปนทรายและดนิ เหนยี วท่ีเหมาะสมกับการปลกู ข้าว

ค. ภูมิประเทศสว่ นใหญ่เปน็ ที่ดอน จงึ สามารถผลิตข้าวไดเ้ ป็นจำนวนมาก

ง. ภมู ิประเทศและภูมอิ ากาศเหมาะสมกบั การเพาะปลกู รวมถงึ เป็นพืชหลกั ในการบรโิ ภคของ

ชาวเอเชีย

2. ประเทศใดเปน็ แหลง่ ปลกู ชาทส่ี ำคัญในทวีปเอเชยี

ก. จีน อนิ เดยี ญ่ีปนุ่ ข. จีน เกาหลี ฟิลิปปินส์

ค. อนิ เดยี เกาหลี เมยี นมา ง. อนิ เดยี ศรีลังกา เมยี นมา

3. ข้อใดเป็นปจั จัยสำคญั ที่ทำให้ประเทศบราซลิ เป็นประเทศทผ่ี ลิตกาแฟได้มาก

ก. มพี ืน้ ทร่ี าบเป็นบรเิ วณกว้างขวาง

ข. มีดินภูเขาไฟท่มี ีแรธ่ าตุอดุ มสมบูรณ์

ค. ภูมอิ ากาศมคี วามหนาวเยน็ เหมาะสำหรบั การปลูกพชื

ง. ใช้เครื่องจักรแทนแรงงานคนเปน็ การเพ่มิ ปรมิ าณผลผลิต

4. หากเราไปทอ่ งเทยี่ วแถบเมดเิ ตอรเ์ รเนียน มกั พบผลไม้สำคญั ในข้อใด

ก. ส้ม แอปเปลิ เชอรร์ ี ข. สม้ อง่นุ มะกอก

ค. องุ่น ลกู พลับ เชอร์รี ง. องนุ่ มะกอก กีวี

5. พื้นทีจ่ ัดงานการแสดงนิทรรศการนานาชาตทิ ี่เมืองชา่ งไห่ ประเทศจนี จัดเป็นสว่ นหนึง่ ของการทอ่ งเทย่ี ว

ในรปู แบบใด

ก. การทอ่ งเที่ยวเชิงธรุ กิจ ข. การท่องเทย่ี วเชิงนิเวศ

ค. การทอ่ งเทีย่ วเชงิ สขุ ภาพ ง. การท่องเท่ียวเชิงนนั ทนาการ

6. บริษัทไทยพัฒนามวี ัตถปุ ระสงคจ์ ะขยายโรงงานแปรรปู ไม้เพิ่มอีก 2 สาขา ดงั นัน้ บริษทั ควรเลือกทำเล

ใกล้แหลง่ ใดเป็นอนั ดบั แรก

ก. ตลาด ข. วัตถดุ บิ

ค. แรงงาน ง. พลงั งานไฟฟ้า

7. อุตสาหกรรมการทอ่ งเทย่ี วจัดเป็นกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ขัน้ ใด

ก. ปฐมภูมิ ข. ทุตยิ ภมู ิ

ค. ตติยภูมิ ง. ทุตยิ ภมู ิและตตยิ ภมู ิ

ส32101 สังคมศกึ ษา ม.5 188

8. ถา้ ทา่ นตอ้ งการเดนิ ทางไปท่องเที่ยวในประเทศท่ีมีแหลง่ ท่องเทยี่ วทางธรรมชาตแิ ละทางวฒั นธรรมทมี่ ี

ชื่อเสยี ง ควรเดนิ ทางไปทใี่ ด

ก. ออสเตรเลีย นวิ ซีแลนด์ ข. จนี อินเดีย สวิตเซอรแ์ ลนด์

ค. สวติ เซอรแ์ ลนด์ ออสเตรเลยี ง. เมยี นมา สงิ คโปร์ ออสเตรเลีย

9. ปัจจยั สำคญั ท่ีทำให้เกิดการค้าระหว่างประเทศสอดคล้องกับขอ้ ใด

ก. การสรา้ งความสมั พันธท์ ่ีดรี ะหวา่ งกนั

ข. ความเจรญิ ของแตล่ ะประเทศแตกต่างกนั

ค. ลกั ษณะทางกายภาพทีแ่ ตกต่างกนั ในแต่ละประเทศ

ง. จำนวนประชากรของแตล่ ะประเทศมีจำนวนแตกต่างกนั

10. ผลกระทบจากกระแสโลกาภวิ ตั น์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจคอื ขอ้ ใด

ก. ปญั หาทรัพยากรไมเ่ พียงพอ

ข. ปัญหาการเคล่ือนยา้ ยแรงงาน

ค. ปัญหามลพษิ ในกระบวนการผลติ

ง. ปัญหาการสอ่ื สารที่ไม่มีประสทิ ธิภาพ

11. พชื ในขอ้ ใดท่ีเจริญเติบโตได้ในภูมอิ ากาศประเภทเดียวกัน

ก. ฝ้าย ข้าวโพด สม้ ข. ยางพารา ชา กาแฟ

ค. ฝา้ ย ขา้ วสาลี ข้าวเจ้า ง. องุ่น มะกอก ยางพารา

12. ข้อใดเป็นปัจจยั สำคญั ของการเตบิ โตทางการท่องเท่ียวในภมู ิภาคต่าง ๆ

ก. สถานที่ การคมนาคม

ข. การประชาสัมพนั ธ์ สงั คม วฒั นธรรม

ค. การประชาสมั พันธ์ สถานที่ วฒั นธรรม

ง. สถานที่ การเมอื ง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม

13. สนิ คา้ ออกที่สำคญั ประเภททองคำ เพชร ปาล์มนำ้ มนั สว่ นใหญม่ ีท่ีมาจากแหลง่ ใด

ก. ยุโรป ข. เอเชยี

ค. แอฟรกิ า ง. อเมรกิ าใต้

14. กระแสโลกาภิวตั น์มผี ลกระทบตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมในข้อใดมากทีส่ ุด

ก. มีการเคลอื่ นยา้ ยแรงงานจากประเทศกำลังพฒั นา

ข. การผลิตและการบริโภคทฟ่ี ุม่ เฟือยกอ่ ให้เกิดปัญหามลพิษ

ค. มกี ารย้ายฐานการผลติ ทางอุตสาหกรรมไปยงั ประเทศทม่ี ีค่าแรงต่ำ

ง. เกิดปัญหาผลผผลติ ทางการเกษตรไม่เพียงพอตอ่ โรงงานอุตสาหกรรม

15. ทรพั ยากรธรรมชาตขิ อ้ ใดที่เป็นปจั จัยสำคัญที่ทำให้ภูมอิ ากาศแบบมรสมุ มคี วามเหมาะสมตอ่ การปลูก

ข้าวมากท่ีสุด

ก. น้ำ ข. ลม

ค. ดิน ง. แรธ่ าตุ


Click to View FlipBook Version