• ประการแรก รัฐบาลยังคงต้องควบคุมการเดินทางสาธารณะ
ท้งั หมดเหมือนเดิมไปก่อน อย่าปล่อยทนั ที
• จงั หวดั ปลายทางต้องประเมินและเตรยี มความพรอ้ มของตนเอง
ให้มากกว่าทเ่ี ปน็ อยู่
• แต่ละจังหวัดพร้อมรับไม่เท่ากัน การเร่ิมต้นและการควบคุม
จ�ำ นวนการรับกลบั จงึ ต้องดำ�เนินการโดยจงั หวัด
• เมื่อวางแผนเรยี บรอ้ ยแล้ว ต้องมรี ะบบไอทซี ง่ึ คนอยากกลบั บา้ น
ลงทะเบยี นออนไลน์ แล้วจังหวัดปลายทางตรวจสอบอนมุ ัติ
• จากน้ันรัฐบาลจัดระบบการเดินทาง ซ่ึงมีการตรวจสอบผลการ
อนมุ ตั ิของจงั หวดั ส�ำ หรบั ผเู้ ดินทาง เหมือนผู้โดยสารมหี ลกั ฐาน
จากบรษิ ทั สายการบิน และเหมือนกงสลุ ส่งคนไทยจากมาเลเซยี
กลับประเทศ
ขณะทผ่ี มเขยี นบทความนี้ อาจจะสายไปแล้วเปน็ บางส่วน เพราะ
รัฐอาจจะเปิดให้เดินทางอย่างเสรีไปแล้ว อ่านแล้วกลับไปคิดดูอีกครั้งว่า
จะเปล่ียนคำ�ส่ังหรือเปล่า ถ้าเปิดอย่างรวดเร็ว เราก็คอยดูกันต่อไปว่าโรค
จะระบาดระลอกสองจากการเดินทางของฝงู ชนคร้งั ใหญ่ (mass exodus)
ครง้ั นี้หรือไม่ครับ
(1 พฤษภาคม 2563) 1
1) ในทส่ี ดุ การเดินทางกลบั ภูมิล�ำ เนาของคนท�ำ งานในเมืองใหญ่กเ็ ปน็ ไปอยา่ งคอ่ ยเปน็ คอ่ ย
ไป ไม่มกี ารส�ำ รวจรายละเอยี ด จงั หวดั ทม่ี กี ารติดเชอื้ ในช่วงเมษายน-พฤษภาคมสูงหลงั
การปดิ เมืองนาน คือ จงั หวดั ภูเก็ต ยะลา และ กทม. สนามบินและสถานีขนส่ง (บขส.)
ทวั่ ประเทศปิดหมดเปน็ เวลาประมาณสองเดือน
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 251
หา้ โมงเย็น ผลการตรวจน้ำ�ลายปรากฏวา่ เปน็ บวก
18 จาก 28 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 64
โปะ๊ เชะตามค�ำ พยากรณ์ไวเ้ ลย
สรุปผมแนะนำ�วา่
ไม่ตอ้ งไปแยกกลมุ่ ทใี่ หผ้ ลบวกออกจากผลลบ
เพราะทุกคนคงจะติดเชื้อไปหมด
ตอนท่ี 35
การใชเ้ ปอร์เซ็นตผ์ ้ตู ิดเชอ้ื
เปน็ ตัวบ่งบอกสถานการณ์โรค
เมื่อเชา้ หมอสวุ ฒั น์ (นายแพทยส์ วุ ฒั น์ วิรยิ ะพงษส์ กุ จิ ผอู้ �ำ นวยการ
โรงพยาบาลสมเดจ็ พระบรมราชินนี าถ ณ อ�ำ เภอนาทวี จงั หวดั สงขลา) พบ
ว่าโรฮนี จาบางคนบนชนั้ สองของศูนยก์ กั กนั มีไข้ เลยไปเกบ็ ตวั อยา่ งน�้ำ ลาย
ส่งตรวจ แล้วโทรถามความเห็นผมว่าต่อไปควรทำ�อย่างไร
ผมให้ความเห็นดังน้ี
“ตรวจน้ำ�ลาย แปลผลยากหน่อย เพราะมีผลลบปลอม (false
negative) 1 มากพอควร
“แต่ผมคิดว่า น่าจะใช้เปอร์เซ็นต์เป็นตัวบ่งบอกสถานการณ์โรค
ดงั น้ี
ประการแรก ใหซ้ กั ประวตั ิว่าคนที่มีอาการไข้และไอคนแรก ๆ เร่ิม
มอี าการเหล่านเ้ี มื่อไหร่ คนถดั มาเริ่มมอี าการอกี กีว่ ันต่อมา
“ถ้าคนที่ป่วยไข้เหล่านี้เริ่มมีอาการมานานหลายวันแล้วและมีเชื้อ
โควิดก็คงกระจายไปหมดท้ังห้องขังแล้ว ความจำ�เป็นต้องแยกเป็นกลุ่มมี
เชอ้ื โควิดกบั กลุ่มไม่มเี ชอ้ื โควิด (positive & negative cohort) ก็น้อยลง
ในกรณีนี้ค่าเปอร์เซ็นต์ของคนที่มีเชื้อโควิด ควรจะสูงราวร้อยละ 40-60
ท่ีคาดว่าจะไม่สูงถึงร้อยละ 80 แบบผู้ต้องขังชุดแรก เพราะปัญหาผลลบ
ปลอมจากการตรวจด้วยน�ำ้ ลาย
“ถ้าอาการเพิ่งเริ่มมีไม่นาน อาจจะแพร่เชื้อไม่ครบทุกคน จำ�นวน
เปอร์เซ็นต์น่าจะอย่รู าวร้อยละ 10-30 อย่างนีต้ ้องพิจารณาแยกกลุ่ มมีเชื้อ
1) ดูค�ำ อธิบายเพิ่มเติมในหมายเหตตุ อนท้ายในตอนท่ี 29 255
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์
โควิดออกจากกลุ่มไม่มเี ชอื้ โควิด แต่การแยกด้วยน�ำ้ ลายจะยงั มผี ลลบปลอม
อยู่ จงึ ควรเอาพวกท่ีมผี ลการตรวจเปน็ ลบมาตรวจซ�ำ้ ด้วยวิธปี า้ ยคอตรวจ
ด้วย RT-PCR ส่วนพวกท่ีผลการตรวจเป็นบวก ก็ถือว่าเป็นคนท่ีติดเช้ือ
โควิดไปเลย ไม่ต้องตรวจซ้ำ� เพราะผลบวกปลอม (false positive) มนี ้อย
“กรณกี ารตรวจน�้ำ ลายพบผลบวก (positive) ต�่ำ กว่ารอ้ ยละ 5 และ
คนไขเ้ รม่ิ มอี าการมานานหลายวนั แล้ว คิดว่าคนเหลา่ นี้ ทงั้ หมดอาจจะเปน็
ผลบวกปลอม ควรตรวจนำ้�ลายพวกน้ีซำ้�อีกครั้ง ถ้าเท่ียวนี้ให้ผลลบก็ไม่
ต้องทำ�อะไร ถ้าให้ผลบวก ก็อาจจะต้องลุยตรวจด้วยวิธีป้ายคอตรวจด้วย
RT-PCR ทัง้ หมด”
หา้ โมงเยน็ ผลการตรวจนำ�้ ลายปรากฏว่าเปน็ บวก (positive) 18
จาก 28 คน คิดเป็นร้อยละ 64 โป๊ะเชะตามคำ�พยากรณ์ไว้เลย คือ แสดง
ว่ามีการติดเชอื้ กนั ทกุ คนแล้ว โดยดูจากผลการตรวจน�้ำ ลายทพี่ บใกลเ้ คยี ง
กบั ตวั เลขทีค่ าดการณ์ไว้ (คอื ร้อยละ 40–60)
สรุป ผมแนะนำ�ว่าไม่ต้องไปแยกกลุ่ มท่ีให้ผลบวกออกจากผลลบ
เพราะทุกคนคงจะติดเช้อื ไปหมด เนื่องจากอยู่ด้วยกนั นานแล้ว
ผมเสนอว่า รักษาตามข้อบ่งชี้ทางคลินิกคือ ให้ทุกคนรอเอกซเรย์
พรงุ่ นี้ ไม่ว่าผลเอกซเรย์จะเปน็ อย่างไร ถ้าไม่มอี าการอะไรไม่น่าจะต้องท�ำ
อะไร เพราะไม่มีหลกั ฐานว่าจะได้ประโยชน์กบั ผู้ป่วยแต่อย่างไร
วันต่อมา หมอสวุ ฒั นแ์ จง้ ว่าใน 18 รายท่ีมีผลนำ�้ ลายเปน็ บวก มี
ผลเอกซเรยเ์ ขา้ ได้กับปอดอกั เสบหรือปอดบวม 8 ราย แต่อาการแขง็ แรง
ดี ปรึกษาทางโรงพยาบาลแล้วไม่จำ�เป็นต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลใหญ่
จึงรักษาตามมาตรฐานที่ผู้เช่ียวชาญแนะนำ�ที่โรงพยาบาลสนามในศูนย์
กักกันน้ัน ส่วนพวกทเ่ี อกซเรยป์ กติกส็ งั เกตอาการต่อไป ไม่จำ�เปน็ ต้องท�ำ
อะไรต่อในขณะน้ี
ทมี งานของหมอสวุ ฒั นป์ รบั หอ้ งขงั ชน้ั สองใหเ้ ปน็ โรงพยาบาลสนาม
อกี ชน้ั หนงึ่ ตกึ ทเี่ ปน็ หอ้ งขงั เลยกลายเปน็ โรงพยาบาลสนามเกอื บจะสมบรู ณ์
ท�ำ งานกบั หมอสุวฒั น์สนกุ จริง ๆ ครับ
(6 พฤษภาคม 2563)
256 สู้โควิดแบบไทย ๆ
ข่าวทส่ี วิงไปสวิงมา เด๋ยี วใช่เด๋ียวไมใ่ ช่
เปน็ ธรรมชาติท่จี ะสอนประชาชน (และผู้บริหารประเทศ)
ใหเ้ รียนรู้ อยา่ ดว่ นสรปุ เรว็ เกนิ ไป
ตอนท่ี 36
หา้ มใหข้ า่ วก่อน ศบค.
ตอนน้มี คี �ำ สง่ั อยา่ งไม่เป็นทางการว่า หา้ มใหข้ ่าวก่อน ศบค.
ส�ำ นกั งานสาธารณสขุ ยะลาออกตรวจคดั กรองหาผู้ติดเชอื้ ในหมู่บา้ น
พบว่ามผี ลบวกหลายราย ข่าวนีแ้ พรอ่ อกไปกอ่ นที่ ศบค. จะประกาศ ท�ำ ให้
ผู้ใหญ่ส่งั การคุณหมอในพื้นที่ว่าอยา่ ให้ข่าวกอ่ นทาง ศบค. ประกาศ
ผมลองคิดว่า มมี ิติอะไรในนบี้ ้าง
มิติจากชาวบา้ น เราไปตรวจเขา อยา่ งไรกเ็ ปน็ ขา่ วอยแู่ ล้ว ใคร ๆ ใน
ชมุ ชนนน้ั กอ็ ยากรูผ้ ลเร็ว ถา้ ไม่แจ้งผลต่อไปเขาคงไม่ใหค้ วามร่วมมือ
เมื่อแจ้งผลเบื้องต้นไปแล้ว และบอกว่าต้องยืนยันอีกครั้งในขั้นที่
สูงกว่า ก็น่าจะเปน็ สิง่ ท่ีต้องท�ำ อยา่ งหลกี เลีย่ งไม่ได้
แต่ตัวข่าวโรคระบาดเองก็เป็นสิ่งท่ีระบาดกระจายออกไปเร็วมาก
ถา้ ยง่ิ ปดิ บงั กจ็ ะยง่ิ มคี วามกดดนั จากคนได้ขา่ ว การไม่แถลงขา่ วกเ็ ปน็ ปญั หา
ถ้านายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดได้รับอนุมัติจากท่านผู้ว่ายะลาให้
แถลงข่าวได้ ก็จะมีความขัดแย้งระหว่างอำ�นาจของกระทรวงสาธารณสุข
ส่วนกลาง กับอ�ำ นาจของผู้ว่าฯ ในการควบคมุ การไหลของข้อมูลข่าวสาร
สำ�หรับประชาชนในยุค 4.0 ผมว่าเขาอยากและมีวิธีที่จะรับรู้ข่าว
เรว็ เท่ากบั ทางราชการครบั การพยายามหน่วงข่าวให้ช้าลง นบั วันจะท�ำ ได้
ยากข้นึ ทกุ ที
ข่าวก็คือข้อเท็จจริง (fact) มีทั้งเท็จ (ผลบวกปลอม หรือ false
positive + ผลลบปลอม หรอื false negative) และจริง (ผลบวกแท้ หรือ
true positive + ผลลบแท้ หรอื true negative) 1 ไม่ว่าจะแถลงจากใคร
1) ดูค�ำ อธิบายเพิม่ เติมในหมายเหตตุ อนท้ายในตอนท่ี 29
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 261
ขอ้ จ�ำ กดั ของขา่ วคือไม่มีอะไรทเี่ ป็นมาตรฐานอ้างอิง หรอื gold standard
คนบรโิ ภคต้องพิจารณา โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ เมื่อขา่ วจากแหลง่ ขา่ วทส่ี มั พนั ธ์
กันให้ขอ้ มูลท่ขี ดั กนั
ปัญหาคือคนส่วนใหญ่อยู่ในอารมณ์ ท้ังความกลัว รู้สึกไม่มั่นคง
และความหิวจากการปดิ เมือง เมื่อมีอารมณก์ ็จะเอาข้อมูลหรือขา่ วเหลา่ น้ี
(รูป) ที่ได้รับ (อายตนะภายนอก) ไปปรุงแต่งให้เกิดความรู้สึก (เวทนา)
คิดไปต่าง ๆ นานา (สัญญา สังขาร วิญญาณ) แล้ว take action หรอื
ลงมือกระท�ำ
ข่าวท่ีสวิงไปสวิงมา เดี๋ยวใช่เด๋ียวไม่ใช่ เป็นธรรมชาติที่จะสอน
ประชาชน (และผูบ้ ริหารประเทศ) ใหเ้ รยี นรู้ อยา่ ด่วนสรปุ เร็วเกินไป
ประชาชนพึงรู้ว่า ขา่ วจากทางราชการระดบั สูงมคี วามนิ่งมากทส่ี ดุ
แต่กอ็ าจจะช้าทส่ี ดุ ต้องทำ�ใจเปน็ ธรรม รับฟังทง้ั ขา่ วช้นั ต้นจากพื้นท่ี และ
ขา่ วยืนยัน จาก ศบค.
แน่นอน เราท้งั ผู้บริหารประเทศและประชาชนต้องไม่นิ่งเฉย ต้อง
ตอบสนองต่อขา่ ว แต่ต้องมสี ติ ไม่ตอบสนองด้วยอคติ ไม่ว่าฉนั ทาคติ (อคติ
จากความชอบ) หรือ ภยาคติ (อคติจากความกลัว) ครับ
(6 พฤษภาคม 2563)
262 สู้โควิดแบบไทย ๆ
ประเทศไทยหน้าบานครับ
ได้รับค�ำ ยกยอ่ งจากทั่วโลกว่า ควบคุมโควดิ ไดด้ ี
เราไล่ทันเกาหลีดว้ ยต้นทุนทางเทคโนโลยที ี่ตำ�่ กว่า
ความจริงแล้วเราเก่งหรือเฮงครบั
หรอื ทั้งสองอย่าง
ตอนท่ี 37
เกง่ หรือเฮง หว่ ยหรือซวย :
อธิบายด้วยสถติ เิ ชงิ ภมู ิศาสตร์
Moran’s I สำ�หรับชาวบา้ น
วันท่ีรอคอยมาถึงแล้วครับ วันน้จี �ำ นวนผู้ปว่ ยติดเชอื้ โควิดจากการ
แพร่เชื้อในประเทศเป็นศูนย์แล้ว เหลือเฉพาะผู้ป่วยท่ีมาจากต่างประเทศ
เทา่ นัน้
ประเทศไทยหน้าบานครับ ได้รับคำ�ยกย่องจากท่ัวโลกว่าควบคุม
โควิดได้ดี เราไลท่ นั เกาหลีด้วยต้นทนุ ทางเทคโนโลยีทตี่ �ำ่ กว่า
ความจรงิ แล้วเราเกง่ หรอื เฮงครบั หรอื ท้งั สองอย่าง
ดงั ทผี่ มบอกแล้ว ผมสงั เกตว่าสถานการณ์โควิดของไทยเราไม่คอ่ ย
ต่างจากประเทศ CLMV (Cambodia, Laos, Myanmar & Vietnam) ทง้ั ๆ
ท่ีประเทศเหล่าน้ีมที รพั ยากรทางสาธารณสขุ น้อยกว่าเรามาก ถา้ ดูอยา่ งนี้
เราไม่ได้เก่งเท่าไหร แต่เราอาจจะเฮงเหมือน ๆ กับประเทศเพื่อนบ้านท่ี
ขนาบเราอยู่ซงึ่ เฮงเหมือนกนั
ส่วนภายในประเทศเราก็มีเหตุการณ์ท่ีผมถือว่าค่อนข้าง “ซวย”
หรือ โชคไม่ดี แต่หลายคนพยายามมองใหเ้ ป็นความ “ห่วย” ซ่ึงผมเหน็ ว่า
เปน็ การมองท่ีไม่ช่วย และไม่สวย
ผมเรยี กเหตกุ ารณผ์ ลแลบ็ ทยี่ ะลาว่าเปน็ ความ “ซวย” คอื ถอื ว่าเปน็
ความบังเอิญท่ีเกิดขนึ้ ได้
โชคไม่ดีของชายแดนใต้ คอื มีผู้ปว่ ยมาก เนื่องจากปจั จัยเส่ยี งทง้ั
ในและนอกประเทศทค่ี วบคมุ ได้ยาก พืน้ ทป่ี ลายด้ามขวานเตม็ ไปด้วยความ
ลา้ หลงั ไม่ใช่มแี ต่เพยี งปมขดั แยง้ ทางชาติพนั ธ์ุ ทน่ี ย่ี งั พบทงั้ โรคติดต่อ เช่น
โรคหดั คอตบี มาลาเรยี และโรคไม่ติดต่อ (เช่น เบาหวาน ความดนั โลหิต
สูง การติดยาเสพติดและบุหรี่) มากกว่าทุกภาคของประเทศ
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 267
โรคระบาดหนักก็ต้องทำ�งานหนัก โอกาสที่จะเจอคำ�วิจารณ์หนัก
ก็เลยมากกว่าที่อื่น
เมื่อ 5 ปีที่แล้วมีนักระบาดวิทยาชาวอังกฤษได้รับพระราชทาน
รางวัลเจ้าฟา้ มหิดล งานทท่ี ่านวิจยั จนเกิดความรู้ใหม่ใชอ้ ธิบายปัญหาทาง
สขุ ภาพได้มาก เรยี กว่า “Social determinants of health” แปลว่า “ปจั จยั
ทางสังคมทีก่ �ำ หนดสภาวะสุขภาพ” ซง่ึ สรปุ ว่า สขุ ภาพของคนขึ้นอยูก่ บั ว่า
เขาเกิด เติบโต และเจริญชวี ิตการงานท่ีไหน ปจั จยั ทางสงั คม ณ ทนี่ ัน้ จะ
เปน็ ตวั กำ�หนดชะตาชีวิตด้านสุขภาพ
ความจริง ชะตา กค็ ือ ชาตะ คอื การเกิด ไทยเราเชอ่ื ตามจนี และ
อินเดยี โบราณว่า ดวงชะตา คอื เวลาตกฟาก หรือ เวลาที่หล่นออกมาจาก
ช่องคลอดแม่ลงพืน้ ไม้ไผ่ท่ีสบั เปน็ ซ่ี ๆ เป็นตวั ก�ำ หนดอนาคต คนสมยั ใหม่
ส่วนหนงึ่ กย็ งั เชอื่ และเลอื กเวลาเกิดใหล้ กู โดยก�ำ หนดเวลาใหห้ มอผา่ คลอด
อยา่ ไปว่าคนโบราณว่างมงายเลยครับ
ความเชื่อเรื่องอิทธิพลของเวลาเกิดเปน็ ศาสตรท์ ่ีลกึ ลบั อาจจะเอา
ไว้ให้โหราจารย์ทั้งหลายได้ทำ�มาหากิน เพราะถ่ายทอดเรียนรู้ได้ยาก ย่ิง
ผูกขาดความรู้ ยง่ิ มรี ายได้มาก ตรงกนั ขา้ ม ขอ้ สรปุ เรือ่ ง “Social deter-
minants of health” เปน็ เรื่องทีม่ ตี วั เลขสถิติ คนทั่วไปเห็นได้ชัด ใคร ๆ
กเ็ รียนได้ เอาไปอธิบายปรากฏการณแ์ ละแก้ปัญหาได้
Social determinants เปน็ อทิ ธิพลของบริบท ไม่ใช่เศรษฐานะของ
ปจั เจกบุคคล ถา้ อยู่ในบริบทดี มีสิ่งแวดลอ้ มดี การศึกษาดี ความปลอดภัย
สูง สขุ ภาพย่อมดกี ว่าคนท่ีอยูใ่ นบริบทที่เต็มไปด้วยปัญหา
บรบิ ททเ่ี ตม็ ไปด้วยปญั หานเ่ี องกระมงั ทเี่ ปน็ ค�ำ อธิบายเรอ่ื ง “ซวย”
ปญั หาหน่ึงจะลกุ ลามไปสู่ปัญหาหนึ่ง แก้กนั ไม่หวาดไม่ไหว
ยุโรปและอเมริกามีการระบาดของโควิดรุนแรงกว่าอุษาคเนย์
(Southeast Asia) ของเรา เขา “ห่วย” หรอื ครบั ? ผมคิดว่าเขา “ซวย”
มากกว่า คือไปอยู่ในบริบททางระบาดวิทยาของกลุ่มประเทศท่ีโรคโควิด
ติดต่อกันได้ง่าย
ทำ�นองเดียวกนั พีน่ ้องประเทศไทยตอนเหนือและอสี าน ท่านอาจ
จะไม่ได้เกง่ นะครับ ท่านเฮงมากกว่า เพราะไปอยใู่ นบรบิ ทอะไรบางอยา่ งก็
268 สู้โควิดแบบไทย ๆ
ไม่รู้ท่ีโควิดไม่คอ่ ยระบาด แต่ท่านกเ็ คยซวยมาแล้ว จากโรคประจำ�ถ่ินหรือ
โรคระบาดอื่น ๆ เช่น HIV พยาธิใบไม้ในตบั หรือโรคไม่ติดต่อ (เช่น นิว่ ใน
ทางเดินปัสสาวะ การฆ่าตัวตาย) ซ่ึงพบได้มากกว่าภาคใต้ ไม่ได้เกิดจาก
ระบบบริการสาธารณสขุ ห่วยนะครับ
ผมพยายามจะชกั จงู ใหท้ า่ นเห็นคล้อยว่า ความเฮง ความซวย ด้าน
หนงึ่ กเ็ ปน็ ความบงั เอิญ แต่หลายครง้ั เปน็ ความน่าจะเปน็ (probability) ซง่ึ
เปน็ พหปุ จั จยั เชงิ บรบิ ท และความโชคดีโชคไม่ดกี ม็ กั จะกระจกุ เปน็ ต�ำ แหน่ง
ทางภูมิศาสตร์
ผมกำ�ลังพูดถึงสถิติเชิงภูมิศาสตร์ (geographical statistics) ที่
วัดความละม้ายคล้ายคลึงของพื้นที่ซ่ึงอยู่ใกล้กัน สถิตินั้นคือ Moran’s I
(มอแรนสฺ ไอ) ท่ใี ช้กนั มา 70 ปีแล้ว
ทา่ นคงเคยเหน็ ตรงกลางของธงชาติเกาหลี หรอื ธงของพรรคบตู๊ ง๊ึ
ลทั ธิเตา๋ เปน็ รูปปลาสองตวั ในวงกลม ตวั หนง่ึ สดี �ำ อกี ตวั สขี าว ด�ำ กด็ �ำ ล้วน
ขาวกข็ าวล้วน แยกขอบเขตชดั เจน ถา้ ปรากฏอยา่ งนใ้ี นแผนทคี่ า่ Moran’s I
เทา่ กบั หนงึ่ คอื แยกด้านมืดไปไว้ขา้ งหนงึ่ ด้านสว่างไปไว้อกี ขา้ งหนงึ่ ชดั เจน
เหมือนหนังเรื่อง Star Wars สู้รบกนั ระหว่างด้านมืดนำ�โดย Darth Vader
กบั ด้านสว่างน�ำ โดย Luke Skywalker
ทีนีล้ องดูภาพของท่านอาจารย์ถวลั ย์ ดัชนี ยอดศิลปนิ ของเราบ้าง
ทา่ นใช้สดี �ำ ทส่ี ่วนใหญ่แล้วไม่เน้นขอบเขตชดั เจน แต่กป็ น ๆ กนั กบั ชอ่ งว่าง
ของแผ่นผ้าใบ ด้านมืดกับด้านสว่างในภาพอยู่ปะปนกันท่ัวไปทั้งนรกและ
สวรรค์ อย่างนี้ ผมเดาว่าคา่ Moran’s I มคี า่ ใกล้ ๆ กับศูนย์
สุดท้ายเวลาเล่นหมากฮอส (checker board) หรือลายขัดแตะ
จกั สานยกหนง่ึ ข่มหนง่ึ ขาวสลบั ด�ำ ไปตลอด หรอื สูงสลบั ต�ำ่ แบบลงั กระดาษ
สำ�หรบั วางไข่ อยา่ งน้ีมีค่า Moran’s I เทา่ กบั ลบหน่ึง ในทางสังคมไม่คอ่ ย
พบการกระจายแบบนี้ครับ
การกระจายของโรคโควิดในโลกนี้ และในประเทศมีคา่ Moran’s I
ไปทางไหนครับ หน่งึ ศูนย์ หรือ ลบหนง่ึ ?
คำ�ตอบคืออยู่ประมาณกึ่งกลางระหว่างศูนย์กับหน่ึง เป็นค่าบวก
แถวประมาณ 0.4 ท่ีเปน็ ค่าบวกเพราะโควิดเป็นโรคติดต่อครบั อะไรท่อี ยู่
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 269
ใกล้กันติดต่อกันหมดอย่างเช่นในยุโรป ส่วนที่โรคไปไม่ถึงก็อยู่ติด ๆ กัน
เช่นประเทศ CLMV แต่ท่ีไม่มีค่าเป็นหนึ่งเด็ดขาดไปเลย เพราะยังมีรอย
ต่อตรงชายแดนท่ีขาวกับดำ�ปนกัน อย่างเช่นประเทศไทยส่วนใหญ่ไม่มี
โรคโควิดแล้ว เหลือแต่ทนี่ ำ�เข้าจากภายนอกโดยเฉพาะแถวชายแดน เรา
ไม่สามารถปิดประเทศได้สมบูรณ์ นอกจากน้ียังอาจจะมีไข่แดงอยู่บริเวณ
แรงงานต่างชาติในเมืองใหญ่ ๆ
สรปุ ครบั ผมพยายามบอกว่าสถานการณ์โควิดของเราดแี ล้ว กอ็ ยา่
ทะนงว่าเก่ง ต้องขอบคุณที่เราอยู่ในกลุ่มประเทศเฮงด้วย เราเห็นใครทำ�
อะไรไม่เข้าตาก็อย่าไปคิดว่าเขาห่วย บางทีเขาอาจจะดวงตกเพราะไปอยู่
ในพื้นทีซ่ ง่ึ โชคไม่ดีไปหน่อย
แต่เราต้องไม่ยอมแพ้ในโชคชะตาครบั
“อยา่ รู้มากบากหนแี ต่ทง่ี ่าย ท่ีไหนหนกั หักกายเขา้ หาบหาม”
ถ้าเราต่างคนต่างหนเี อาตวั รอดไปอยู่ด้านเฮง ท�ำ ใหค้ ่า Moran’s I
เข้าใกล้หนึง่ คนที่เหลอื ท่อี ยู่ด้านซวยอยูแ่ ล้วมิซวยยงิ่ ข้นึ หรือครับ
เมื่ออย่ใู นภูมิประเทศท่ดี ี ต้องคิดถึงคนทีอ่ ยลู่ �ำ บาก มาช่วยกนั บ้าง
ถา้ อยใู่ นทท่ี ลี่ �ำ บาก กต็ ้องมกี �ำ ลงั ใจต่อสู้ อยกู่ บั ความทา้ ทาย ชวี ิตจงึ จะสนกุ
พยายามเปล่งแสงสว่างเอาชนะความมืดรอบตัว ลดค่า Moran’s I ให้มี
ความเท่าเทยี มระหว่างพื้นทม่ี ากขนึ้
ปญั หาหนึง่ เบาลง ปัญหาอื่นกค็ อ่ ย ๆ โผล่ โควิดเพลาลงแล้ว แต่
ความยากจนก�ำ ลังจะเพิม่ ข้ึน
การระบาดโควิดมคี ่า Moran’s I ออกไปในบวก คือ มีพื้นที่ระบาด
เป็นกระจุก ๆ เราต้องติดตามดูต่อไปว่ารัฐบาลจะจัดสรรทรัพยากรแก้ไข
ปัญหาเศรษฐกิจหลังโควิด แบบกระจุกหรือกระจาย ค่า Moran’s I จะ
เป็นอย่างไร งานน้ีพื้นที่ไหนจะเฮง พื้นท่ีไหนจะซวย กระทรวงใดจะเก่ง
กระทรวงใดจะห่วย ติดตามตอนต่อไปนะครับ
(7 พฤษภาคม 2563)
270 สู้โควิดแบบไทย ๆ
คนไทยในมาเลเซีย
ซึ่งเปรยี บเปน็ เหมอื น "น้ำ�เหนอื เขื่อน"
ที่ก�ำ ลังไหลเขา้ มาในประเทศ
ซง่ึ หากมปี รมิ าณการเคล่อื นย้ายกลบั เข้าไทย
ทางจุดผา่ นแดนทางบกในจังหวัดชายแดนภาคใตม้ าก ๆ
ทางนจี้ ะรบั มอื ไม่ไหว
ตอนที่ 38
โรคโควิด-19: จัดการ "น�ำ้ เหนือเข่ือน"
และ "ระบายหนอง"
บทสมั ภาษณ์ ศ.ดร.นพ.วรี ะศกั ดิ์ จงสูว่ ิวัฒนว์ งศ์ โดย ‘บบี ีซีไทย’
คนไทยในมาเลเซียทะลักกลับเข้าประเทศ เหตุระบาดในศูนย์กัก
คนเข้าเมืองสะเดา ความผิดพลาดของผลตรวจหาเช้ือในยะลา--ดูเหมือน
ว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้กำ�ลังเจอศึกโควิด-19 ท่ีหนักหนากว่าภูมิภาค
อื่น ๆ ในเวลาน้ี
ทา่ มกลางความยาก ข้อจ�ำ กัดและความไม่พร้อมต่าง ๆ บุคลากร
ทางการแพทย์และสาธารณสุขในชายแดนใต้ยังคงคิดและทำ�งานกันไม่
หยุดเพื่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพนั ธุ์ใหม่ หน่งึ ในนน้ั คือ ศ.นพ.วีระศักดิ์
จงสู่วิวฒั นว์ งศ์ ผกู้ อ่ ตงั้ หน่วยระบาดวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั
สงขลานครินทร์ (ม.อ.) ซ่ึงเพิ่งได้รับแต่งต้ังเป็นคณะท่ีปรึกษานายอนุทิน
ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.
สธ.) เก่ียวกับภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโควิด-19
เมื่อวนั ท่ี 29 เม.ย. ทผ่ี า่ นมา
ในวยั 70 ปี นพ.วรี ะศกั ดิ์ ยงั คงเปน็ อาจารยแ์ พทยด์ ้านระบาดวิทยา
อยู่ท่ี ม.อ. ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาทเี่ ขาสอนมานานกว่า 40 ปี และยงั มี
บทบาทอย่างมากในการขับเคลื่อนงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขใน
จงั หวัดชายแดนภาคใต้
เมื่อสัปดาห์ท่แี ล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกลู ลงพืน้ ทีต่ รวจเยี่ยมและ
ให้กำ�ลังใจเจ้าหน้าท่ีที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองและโรงพยาบาลใน จ.สงขลา
นพ.วีระศักดิ์ได้เห็นภาพที่ทำ�ให้เขาภูมิใจ นั่นคือในบรรดาผู้บริหาร
ของกระทรวงสาธารณสุข และกรมควบคุมโรค ทั้งจากส่วนกลางและ
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 275
ส่วนภูมิภาคที่ติดตามรัฐมนตรีในวันนั้น ราวครึ่งหน่ึงเป็นลูกศิษย์ที่เขา
สอนมา
ด้วยความที่เป็นคนหาดใหญ่และทำ�งานในพื้นท่ีภาคใต้มาอย่าง
ยาวนาน นพ.วีระศักดิ์มีความเข้าใจสภาพปัญหาการควบคุมโรคระบาดใน
จงั หวดั ชายแดนภาคใต้เป็นอย่างดี
บบี ซี ีไทยสมั ภาษณพ์ ิเศษ นพ.วรี ะศกั ดิ์ถงึ สถานการณก์ ารระบาด ขอ้
เสนอในการควบคมุ โรคในพืน้ ที่ รวมถงึ มมุ มองต่อการท�ำ งานของแพทยด์ ้าน
ระบาดวิทยาท่กี �ำ ลงั กลายเปน็ "ฮีโร่" ในสายตาของหลายคน
"น�ำ้ เหนอื เข่อื น" และ "หนองที่ต้องระบาย"
ประเด็นที่น่ากังวลเก่ียวกับการควบคุมโรคโควิด-19 ในจังหวัด
ชายแดนภาคใต้ขณะนม้ี อี ยู่สองเรอ่ื งหลกั ๆ เรอื่ งแรกคอื คนไทยในมาเลเซยี
ทตี่ ้องการเดินทางกลับประเทศ เรื่องที่สองคือผู้ติดเช้อื ท่อี ยใู่ นชุมชนที่ต้อง
เรง่ ค้นหาให้พบ
เร่ืองแรก - คนไทยในมาเลเซีย ซ่ึงเปรียบเป็นเหมือน "น้ำ�เหนือ
เข่ือน" ท่ีกำ�ลังไหลเข้ามาในประเทศ สถานการณ์ในมาเลเซียขณะน้ีมีการ
ปิดเมืองท่ีเข้มงวดข้ึนมาก หลังจากสิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อเพิ่มข้ึนจากแรงงาน
ข้ามชาติ คนไทยในมาเลเซียอยู่ด้วยความยากล�ำ บากมาก งานก็ไม่มี คนที่
เคยคิดว่าจะอยู่ต่อเพื่อรอให้สถานการณค์ ลค่ี ลายกเ็ รม่ิ เปลยี่ นใจอยากกลบั
บา้ น ซึ่งหากมปี ริมาณการเคลื่อนยา้ ยกลับเข้าไทยทางจุดผ่านแดนทางบก
ในจงั หวัดชายแดนภาคใต้มาก ๆ ทางนี้จะรบั มือไม่ไหว
เร่อื งที่สอง - ในพืน้ ทย่ี ังมี "pocket" หรอื "แอง่ ของการติดเชอื้ "
อยู่ ซ่ึงเกิดจากการท่ีมีคนเอาโรคมาจากท่ีอื่นแล้วเข้าไปแพร่เชื้อในชุมชน
โดยเฉพาะจดุ ทมี่ คี นอยกู่ นั อยา่ งหนาแน่น แอง่ ของการติดเชอ้ื นเ้ี ปน็ เหมือน
หนองทเี่ ราต้องรีบเข้าไประบายออก
ขอ้ เสนอเรือ่ งการจดั การ "นำ้�เหนอื เขอื่ น"
ตามหลกั รฐั ธรรมนูญและมนษุ ยธรรม คนไทยทกุ คนมสี ิทธิทจี่ ะได้รบั
การอ�ำ นวยความสะดวกใหก้ ลบั เขา้ ประเทศ กอ่ นหน้านร้ี ฐั พยายามชะลอคน
276 สู้โควิดแบบไทย ๆ
ทจ่ี ะกลบั เขา้ มา ซง่ึ ตอนนผ้ี มคิดว่าเราน่าจะพอรบั มือกบั คนทจี่ ะกลบั มาจาก
มาเลเซียได้แล้ว แต่ใหจ้ งั หวดั ชายแดนรับมือคนเดียวไม่ได้ อกี ทั้งแรงงาน
ไทยส่วนใหญ่ทีก่ ลบั จากมาเลเซยี ก็เปน็ คนอสี าน
ข้อเสนอของผมคือเมื่อผา่ นแดนเข้ามาแล้ว ควรจัดเทยี่ วบินพิเศษ
จากสนามบินใกล้ด่านชายแดนในจังหวัดนราธิวาส สงขลา หรือยะลา
พาแรงงานที่ไม่ได้มีภูมิลำ�เนาอยู่ในภาคใต้บินไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ
เพื่อเขา้ สู่การกักกันโรคในส่วนกลางโดยทันที เพราะส่วนกลางมกี ำ�ลงั และ
ศกั ยภาพในการรบั คนเขา้ state quarantine (การกกั กนั โรคในสถานทท่ี รี่ ฐั
จดั ไว้) มากกว่าทนี่ ่ีแน่นอน เราเจอทั้งกรณอี ยา่ งที่ยะลาและศูนยก์ ักคนเข้า
เมืองท่ีสะเดาก็รบั แทบไม่ไหวแล้ว ยงั มีกลุ่มโรฮีนจาท่ตี ้องดูแลอีก รัฐบาล
ส่วนกลางต้องเอื้อมมือเข้ามาช่วยหรือใช้มาตรการพิเศษเพื่อลดภาระของ
จังหวดั ชายแดน
ควรยกเลิกข้อก�ำ หนดใหข้ อใบรบั รองแพทย์ Fit-to-fly
รัฐบาลกำ�หนดให้คนไทยที่เดินทางจากประเทศท่ีมีการระบาด
ของโรคต้องมีเอกสารรับรองว่าสุขภาพเหมาะสมสำ�หรับการเดินทาง
(Fit-to-fly) เพื่อชะลอการเดินทางกลับเข้าประเทศของคนไทย แต่
สถานการณก์ ารระบาดของโรคนีเ้ ปลีย่ นแปลงเร็วมาก ข้อก�ำ หนดนี้จึงควร
ได้รับการทบทวนอย่างจรงิ จงั ว่ายงั เหมาะสมกบั สถานการณ์หรอื ไม่ ทัง้ ต่อ
ตัวผู้เดินทาง ความปลอดภัยของคนในประเทศ สิทธิความเป็นพลเมือง
ไทย และหลักมนุษยธรรมที่ต้องช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในสถานการณ์ท่ียาก
ลำ�บาก
ผมคิดว่าใบรับรองแพทย์ Fit-to-fly ไม่เหมาะกับกรณีนี้เพราะ
เป็นเอกสารที่สายการบินใช้พิจารณาว่าผู้ โดยสารจะพร้อมรับกับสภาพใน
อากาศยานได้หรือไม่ และถึงแม้จะเป็นผู้ป่วยหนักก็ยังสามารถเดินทาง
โดยเครอื่ งบินได้หากสายการบินจดั เตรยี มความพรอ้ มพิเศษตามค�ำ แนะน�ำ
ของแพทย์
กรณีของโควิด- 19 สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
(IATA) แนะนำ�ให้สายการบินปฏบิ ัติตามคำ�แนะน�ำ ขององคก์ ารอนามัยโลก
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 277
ในการป้องกันและควบคุมโรค รวมท้ังการดูแลผู้โดยสารที่สงสัยว่าอาจ
จะติดเชื้อ ท้ังในอากาศยานและสนามบิน แต่ก็ไม่ได้ระบุห้ามผู้ติดเชื้อ
เดินทาง
รัฐบาลจึงควรเปล่ียนจากใบรับรองแพทย์ Fit-to-fly เป็น Cer-
tificate of SARS CoV-2 test หรอื ผลการตรวจหาเชอ้ื ไวรัสโคโรนาสาย
พันธ์ุใหม่ให้ชัดเจนไปเลย โดยรัฐบาลไทยต้องกำ�หนดว่าวิธีการตรวจต้อง
ดำ�เนินการตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก เช่น ต้องเก็บตัวอย่าง
จากด้านหลงั ของโพรงจมูก ต้องตรวจด้วยวิธี RT-PCR ไม่ใช่ตรวจเลอื ดหา
แอนติบอดีหรือ Rapid test นอกจากนี้ห้องแล็บต้องผ่านมาตรฐานของ
ประเทศนั้น ๆ
ถ้าตรวจแล้วพบว่ามีเชื้อ ควรจะให้อยู่ในต่างประเทศไปก่อนหรือ
กลับมาดูแลรักษาในประเทศไทยในฐานะท่ีเป็นคนไทย เป็นเรื่องท่ีต้องคิด
ต่อไป แต่หากผลตรวจเปน็ ลบ เมื่อผา่ นด่านเขา้ เมืองมาแล้ว กต็ ้องกกั ตวั
ทท่ี างราชการก�ำ หนด 14 วนั เพราะในขณะทต่ี รวจกอ่ นเดินทางนน้ั เชอ้ื อาจ
จะเขา้ ไปในรา่ งกายและยังไม่เพิ่มจำ�นวนพอที่ตรวจพบได้
การระบายหนอง
ส�ำ หรบั การจัดการกบั "แอง่ ของการติดเชือ้ " ในชุมชนทำ�ได้โดยวิธี
การค้นตรวจหาเชอื้ เชงิ รกุ หรอื active case finding ปกติผมจะเปน็ คนที่
ไม่ชอบ active case finding เพราะต้นทุนมนั แพงและถ้ามผี ลบวกปลอม
(false positive) ก็จะวุ่ นวาย
กรณีของชุมชนในจังหวัดยะลา การท่ีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไป
ตรวจแบบปูพรมในพืน้ ท่นี ี้เป็นเร่ืองที่ถูกต้องแล้ว เพราะในชุมชนมคี นกลับ
จากต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงสูงทจี่ ะพบผู้ติดเชือ้ ส่วนการทเ่ี กิดผลบวก
ปลอมข้ึนมาน้ัน เป็นปัญหาในทางเทคนิคของห้องปฏิบัติการ แต่ในทาง
ยุทธศาสตร์แล้วไม่ผิดเพราะเป็นการเข้าไปค้นหา “แอ่งของการติดเช้ือ”
เพื่อระบายหนองออกมา นเ่ี ปน็ วิธกี ารท่ถี กู แล้ว
พื้นท่ีไหนท่ีมีผู้ต้องสงสัยติดเช้ือ เราก็ต้องเข้าไปตรวจแบบปูพรม
ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันโดยทั่วไปเมื่อเกิดโรคระบาด ไม่ใช่เฉพาะแค่โควิด- 19
278 สู้โควิดแบบไทย ๆ
สมัยก่อนเคยมกี ารระบาดของโรคคุดทะราดในจงั หวัดนราธิวาส เราก็ต้อง
ปิดหมู่บา้ นแล้วตรวจหาเช้อื ชาวบ้านท้งั หมด มกี าฬโรคเรากต็ ้องตรวจหมด
ต้องเอกซเรย์ทุกตารางนิว้
เรือ่ งน่าห่วงท่ศี ูนยก์ กั คนเข้าเมือง
ผมได้เห็นการทำ�งานของหมอและเจ้าหน้าท่ีตรวจคนเข้าเมืองท่ี
ศูนยก์ กั คนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา ผา่ นกลอ้ งวงจรปดิ ผมคิดว่าเขา
ท�ำ ดที ี่สุดแล้ว มกี ารจัดห้องกักใหเ้ ป็นทร่ี ักษาพยาบาล เพราะผู้ติดเชอ้ื ส่วน
ใหญ่อาการไม่หนัก ไม่น่าเป็นห่วง อาจมีไข้ต�่ำ ๆ บา้ ง บางคนผลเอกซเรย์
พบว่ามีปอดบวมก็ยงั ใช้ชวี ิตได้ตามปกติ และแพทยก์ ใ็ ห้ยารักษาตามความ
เหมาะสม
แต่สิง่ ทน่ี ่าเปน็ ห่วงคอื การระบายอากาศภายในศูนยก์ กั คนเขา้ เมือง
ไม่ดี และคนท่ีอยู่ในนั้นมีเชื้อเยอะ เจ้าหน้าท่ีท่ีเข้าไปตรวจอาการ เก็บ
ตัวอย่างเพื่อนำ�มาตรวจหาเช้อื หรือนำ�อาหารไปให้ จึงมีความเส่ียงสูงมาก
เพราะชุดป้องกันการติดเช้ือที่เจ้าหน้าที่มีเป็นเพียงชุดที่ป้องกันเท่าที่ทำ�ได้
เท่านั้น ไม่ใช่เป็นชุดท่ีคลุมท้ังตัวเหมือนชุดนักบินอวกาศ ดังน้ันสิ่งที่ต้อง
ทำ�เร่งด่วนคือการติดต้ังระบบฟอกอากาศคล้ายกับระบบฟอกอากาศใน
เคร่ืองบิน ไม่เช่นนั้นคนท่ีอยู่ในนั้นจะติดเชื้อมากข้ึนอีก รวมท้ังเจ้าหน้าท่ี
ตรวจคนเขา้ เมือง หมอ พยาบาลทเ่ี ขา้ ไปก็จะติดเชื้อ ซงึ่ เราไม่อยากใหเ้ ปน็
แบบนัน้
คาดว่าชาวโรฮนี จาในศูนย์กกั คนเข้าเมอื งสะเดาตดิ เชอ้ื แล้วทุกคน
ในศูนยก์ กั คนเขา้ เมืองมผี ู้ต้องกกั กลุ่มหนงึ่ ทเ่ี ปน็ ชาวโรฮนี จา ซง่ึ กอ่ น
หน้านม้ี กี ารเกบ็ ตัวอยา่ งมาตรวจหาเช้ือ 28 คน พบว่าติดเชอ้ื 18 คน ซ่งึ
เมื่อน�ำ มาค�ำ นวณทางสถิติ ประกอบกบั ปจั จยั ทว่ี ่าบางคนติดเชอ้ื แต่ตรวจไม่
เจอและการตรวจด้วยน�้ำ ลายอาจใหผ้ ลลบปลอม ผมเชอ่ื ว่ากลุ่มชาวโรฮนี จา
ในศูนย์กกั ฯ ติดเช้อื ทั้งหมดแล้ว เพราะเขาถกู ควบคมุ ตวั อยู่ร่วมกันมานาน
ดงั นน้ั สิง่ ทผ่ี มแนะน�ำ คณุ หมอทด่ี ูแลคนกลุ่ มนค้ี อื ไม่ต้องไปตรวจหาเชอ้ื แล้ว
และเน้นการดูแลตามอาการ ถ้าใครมอี าการปอดบวมก็รักษาไป
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 279
อย่าประเมนิ ความร่วมมือของประชาชนต�่ำ เกินไป
ข้อมูลที่ผมได้จากผู้ปฏิบัติงานในพื้นท่ีสีแดง เช่น อำ�เภอจะนะ
จังหวัดสงขลา อำ�เภอยะหา และอำ�เภอบันนังสตา จังหวัดยะลา พบว่า
ประชาชนให้ความร่วมมือในการควบคุมโรคสูงมาก สูงกว่าท่ีทางการคิด
ชาวบา้ นรู้ว่าโรคนอ้ี นั ตราย ก�ำ นนั ผู้ใหญ่บา้ นเปน็ คนเรยี กหมอให้ไปตรวจเอง
ทงั้ กลางวนั กลางคืน ผมคิดว่าเราไม่ควรประเมินความร่วมมือของประชาชน
ต่�ำ เกินไป และควรจะให้ชาวบ้านร้ผู ลการตรวจได้อย่างรวดเรว็ ไม่ใช่ว่าเกบ็
ตัวอยา่ งไปตรวจแล้ว ต้องรอให้ ศบค. (ศูนยบ์ ริหารสถานการณ์โควิด-19)
รับทราบหรือแถลงก่อน เมื่อเก็บตัวอย่างตรวจแล้ว ประชาชนต้องการรู้
จากหมอทม่ี าตรวจว่าเขาเปน็ อะไร เหมือนเวลาเราไปหาหมอท่ีโรงพยาบาล
เราก็อยากฟังจากหมอที่รักษาเราว่าเป็นอะไร ไม่ใช่ว่าต้องรอให้ผู้อำ�นวย
การโรงพยาบาลมาบอก
ใหค้ ำ�ปรึกษา "อนุทนิ "
ข้อเสนอต่าง ๆ เหล่านี้ผมยังไม่เคยเสนอกับ รมว.สธ. โดยตรง
ตง้ั แต่ผมได้รบั แต่งตง้ั เปน็ ทป่ี รกึ ษารฐั มนตรกี รณีโควิด-19 รฐั มนตรอี นทุ ินก็
ยงั ไม่ได้ปรกึ ษาอะไรมา แต่ผมเชอ่ื ว่ายคุ นที้ กุ คนสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มูลได้หมด
ผมก็ใช้วิธีการให้คำ�ปรึกษาผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะข้อเสนอต่าง ๆ ของ
ผมก็ไม่ได้เปน็ ความลบั อะไร เป็นเร่ืองเทคนิค ความรู้ วิชาการ นอกจากน้ี
คณะทป่ี รึกษาก็มกี ารประชุมและมกี ลุ่ มไลน์ ผมก็มักจะส่งความเหน็ ต่าง ๆ
ไปในกลุ่ มนด้ี ้วย ส่วนเขาจะท�ำ หรอื ไม่ท�ำ ตามขอ้ เสนอแนะของผมก็ไม่เปน็ ไร
หน้าท่ขี องเราคอื ใหค้ วามเหน็ คิดแล้วบอกรฐั มนตรี เขาจะเชอ่ื ก็ได้ ไม่เช่อื
ก็ได้ แต่ถ้าเราคิดแล้วเราไม่บอกนีน่ ่าจะไม่ดี
ระบาดวทิ ยา "เปน็ เร่ืองสนุก"
การระบาดของโควิด -19 มนั มคี วามไม่แน่นอนอยเู่ ยอะมาก โมเดล
ต่าง ๆ ทมี่ แี ทบจะใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย เพราะมันต้องดูของจรงิ เรอื่ งพวก
นมี้ นั สนกุ ผมคิดว่าเหตุการณน์ ี้จะทำ�ให้คนรุ่ นใหม่หันมาใหค้ วามสนใจวิชา
ท่ีใช้ตรรกะ สถิติ และคณิตศาสตร์มากขึ้น และทำ�ให้งานของแพทย์สาย
280 สู้โควิดแบบไทย ๆ
สาธารณสขุ อยา่ งเช่นหมอในกรมควบคมุ โรคได้รับความสนใจมากขน้ึ หมอ
ท่ีทำ�งานอยู่ในกรมควบคุมโรคเกือบทุกคนต้องเรียนระบาดวิทยา ไม่อย่าง
นั้นควบคุมโรคไม่ได้
(6 พฤษภาคม 2563) 1
1) บทความจาก https://bbc.in/2L5U3PU 281
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์
เมอ่ื คณุ หมอและสาธารณสุขช่วยกนั บ่งหนามออกได้
ในไมก่ ว่ี ันข้างหนา้ เรากจ็ ะถงึ เวลาเปิดเมือง
มีกจิ กรรมทางเศรษฐกิจอีกครัง้ หนง่ึ
เราจะดำ�เนนิ กจิ กรรมเหล่านี้โดยไมม่ ีแรงงานตา่ งชาตไิ ด้ไหมครบั
ผมเชือ่ ว่าคนไทยแตล่ ะกลุ่มมีความเห็นตา่ งกัน
ตอนที่ 39
ข้อหว่ งใยกับการกลบั เขา้ มา
ของแรงงานต่างชาติ
แรงงานต่างชาติ คือ พลังท่ีสำ�คัญในการเปิดเมืองไทยอีกคร้ัง
แต่จะปอ้ งกนั ระเบิดโควิดอยา่ งไร
ผ่านวันแรงงานสากลไปหนึ่งสัปดาห์แล้วนะครับ สมัยก่อนท่ีเรียก
กันว่า “สากล” มีความหมายเพียงการมีอยู่ในทุก ๆ ประเทศ แต่สมัยนี้
น่าจะใชค้ �ำ ว่าแรงงานโลก หรอื Global labor แทน เพราะแรงงานขา้ มชาติ
เดินทางไปทวั่ โลก ไม่ใช่บ้านใครบ้านมนั อีกต่อไป
คงเห็นกันท่ัวไปแล้วว่าไทยเราเอง ถ้าไม่มีแรงงานข้ามชาติเข้ามา
ประเทศไทยจะอยู่ไม่ได้เอา ชีวิตของชนช้ันกลางท่ีสะดวกสบายได้ทุกวันน้ี
ก็เพราะประเทศเราดูดซับเอาแรงงานข้ามชาติมาทำ�งานที่คนไทยไม่อยาก
ทำ� ทั้งภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการ และ การดูแลบ้านช่องห้องหับ
คนเหล่าน้ีมาทำ�งาน ต้องกินต้องใช้ จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกับเรา
จึงมสี ่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยพลงั บรโิ ภคของเขา
และแล้ววันร้ายคืนร้ายก็มาถึง เมื่อโควิดทำ�ให้เราต้องปิดเมือง
ธรุ กจิ รายยอ่ ยถูกโควิดท�ำ ลาย อุตสาหกรรมหลายอย่างโดยเฉพาะ SME
ก็มีปัญหาเรื่องห่วงโซ่อุปทาน ทั้งแรงงานไทยและแรงงานต่างชาติต่างก็
ตกงานกนั หมด กอ่ นปดิ เมืองแรงงานต่างชาติเรง่ รบี กลบั บา้ น ทงั้ นเี้ พราะใน
ขณะทแ่ี รงงานไทยยงั มรี ะบบประกนั สงั คมและงบประมาณอื่น ๆ ของรฐั เปน็
ตาขา่ ยรองรับการตกอบั อยา่ งฉับพลนั (safety net for sudden downfall)
แต่แรงงานต่างชาติไม่มีใครช่วยได้
ณ วันนี้ เราเหลือเพียงจังหวัดชายแดนใต้เท่านั้นที่ยังมีโควิด
คอยเป็นหนามชีวิตอยู่ เมื่อคุณหมอและสาธารณสุขช่วยกันบ่งหนามออก
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 285
ได้ในไม่ก่ีวันข้างหน้า เราก็จะถึงเวลาเปิดเมือง มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
อีกครั้งหนึ่ง เราจะดำ�เนินกิจกรรมเหล่าน้ีโดยไม่มีแรงงานต่างชาติได้ไหม
ครับ ผมเชอ่ื ว่าคนไทยแต่ละกลุ่ มมีความเหน็ ต่างกัน
กลุ่ มหนงึ่ ที่ไม่ได้รบั ผลกระทบเลย คอื กลุ่ มทแ่ี รงงานต่างชาติไม่ได้
กลบั บา้ น ได้แก่ การจา้ งงานบา้ น และอตุ สาหกรรมขนาดใหญ่หน่อยที่ไม่มี
ปัญหาเร่ืองขาดออรเ์ ดอร์ คนไทยกลุ่ มนี้น่าจะไม่ออกความเหน็
กลุ่มทส่ี อง ท่ีน่าจะต้องการแรงงานต่างชาติมาก คอื ธุรกิจบรกิ าร
และอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็ก SME ที่ใช้แรงงานเป็นหลัก
(labor intensive) ซ่ึงต้องปิดตัวไปในระยะหน่ึง ถ้าไม่มีแรงงานต่างชาติ
ก็ไม่สามารถฟ้ืนตัวได้ รัฐบาลต้องการส่งเสริม SME เพื่อสรา้ งการกระจาย
รายได้ เสียงของ SME จงึ เป็นเสียงท่ีต้องรบั ฟงั
กลุ่มที่สาม คือ แรงงานไทยท่ีอาจจะมองว่าแรงงานต่างชาติ
เป็นคู่แข่ง และกลุ่ม xenophobia (แปลว่าไม่ชอบกลุ่มคนท่ีไม่เหมือน
ตัวเอง) รังเกียจเดียดฉันท์และกลัวแรงงานต่างชาติ ซ่ึงปัจจุบันน่าจะมี
น้อยลง
รวม ๆ แล้ว เป็นไปได้ว่าเราน่าจะอยู่กันลำ�บากหน่อยถ้าแรงงาน
ต่างชาติไม่กลบั มา อปุ สงคต์ ่อแรงงานต่างชาติจึงน่าจะสูงมาก
มองจากมมุ มองอื่น ๆ บา้ ง นอกจากมแี รงดงึ จากภายในหรอื อปุ สงค์
แล้ว แรงผลกั จากความยากจนของประเทศเพื่อนบา้ นหรอื อปุ ทานกม็ คี วาม
ส�ำ คัญไม่แพ้กัน
เปดิ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ กเ็ หมือนเปดิ แสงสว่างในบา้ นตอนกลาง
คืนต้นฤดูฝน หลังผ่านความแห้งแล้งอันยาวนานมาใหม่ ๆ แมลงเม่า
ท้ังหลายท่ีพักตัวสร้างปีกก็ถึงเวลาบินเข้าหาแสงไฟในบ้านท่ีช่ือว่า
ประเทศไทยไม่ว่าเจ้าบ้านจะปิดประตูหน้าต่างอย่างไรก็กันสัญชาตญาณ
ของแมลงเม่าไม่อยู่
ศึกโควิดด้านทิศใต้ยังไม่สิ้นสุดนะครับ เรายังรับคนไทยกลับบ้าน
ได้เพียงเล็กน้อยด้วยเหตุต่าง ๆ ท่ีเคยเล่ามาแล้ว ตอนนี้เรากำ�ลังเปดิ ศึก
ชายแดนอกี หลายด้าน อตั ราการผา่ นแดนทง้ั ทถ่ี กู กฎหมายและผิดกฎหมาย
ของแรงงานต่างชาติเข้าไทยมาตามรูพรุนตามชายแดนนับพันกิโลเมตร
286 สู้โควิดแบบไทย ๆ
สูงกว่าอัตราการกลบั เข้าประเทศของคนไทยทางมาเลเซยี แน่นอน
เราอยากรับแรงงานต่างชาติเข้า เขาอยากมาทำ�งานหาเงิน
ผลประโยชน์สอดคล้องกัน แต่เราน่าจะยังไม่มีวิธีรับมือกับโควิดที่อาจจะ
มาพร้อมกบั แรงงานต่างชาติ
เปลยี่ นฉากจากยะลาทมี่ ผี รู้ บั เชอ้ื เขา้ มาจากต่างประเทศ และ สถาน
กกั กนั ผหู้ ลบหนเี ขา้ เมืองทอี่ �ำ เภอสะเดา จงั หวดั สงขลา ไปเปน็ ฉากทอี่ �ำ เภอ
แม่สอด จงั หวดั ตาก
ตอนสภาพเศรษฐกิจปกติ มีแรงงานข้ามแดนอย่างถูกกฎหมาย
วันละประมาณ 2,000 คน ในนี้ส่วนใหญ่เดินทางต่อทะลวงเข้าไปส่วน
ต่าง ๆ ของประเทศไทย ท้ังเมืองหลวง หวั เมือง และชนบท อกี ส่วนหนึ่ง
ทำ�งานในตัวเมืองแม่สอด ท้ังกับอุตสาหกรรมใหญ่ (โรงงานสิ่งทอ) และ
ธุรกิจอตุ สาหกรรม SME ก่อนรัฐบาลประกาศปดิ พรมแดน มีแรงงานนบั
หมื่นทยอยกลับจากส่วนต่าง ๆ ของประเทศผา่ นด่านน้ี อกี ส่วนหนงึ่ กลบั
ตามเส้นทางธรรมชาติ
ตอนนถ้ี งึ เวลาท่ีไทยจะเปดิ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ แล้ว แม่สอดเปน็
เสมือนรแู คบ ๆ ทแี่ มลงเม่าต้องบินผา่ นออกมาหาแสงไฟ การคดั กรองโรค
และการกกั ตัวสำ�หรบั แรงงานจ�ำ นวนมากขนาดน้ีไม่น่าจะเปน็ ไปได้
โชคดีไปอย่างครับ ท่ีสถานการณ์โควิดในพม่าไม่เลวร้ายเท่าใน
มาเลเซยี สดั ส่วนของผเู้ ดินทางทางพรมแดนพม่าทม่ี เี ชอ้ื โควิดน่าจะต�่ำ กว่า
ทางมาเลเซียมาก ตัวเมืองแม่สอดเองกม็ ีโควิดในช่วงท่ผี า่ นมา 2 ราย เป็น
ชาวต่างชาติทเ่ี ขา้ ไทยทางสวุ รรณภูมิทงั้ คู่ ไม่ปรากฏว่ามกี ารแพรเ่ ชอ้ื ในพืน้ ท่ี
แต่อยา่ ลืมว่ามคี นเขา้ ทางแม่สอดมากกว่าทางภาคใต้หลายเทา่ สถานการณ์
จงึ อาจจะไม่ปลอดภยั แม่สอดเปน็ เส้นทางผา่ นเขา้ ออกระหว่างไทยกบั พม่า
ทม่ี ผี เู้ ดินทางผา่ นมากทสี่ ดุ แม่สอดมสี นามบินโดยตรงจากสวุ รรณภูมิ และ
เปน็ จดุ ผา่ นแดนทใี่ กลก้ รงุ ยา่ งกงุ้ เขตระบาดโควิดของพม่ามากทสี่ ดุ และน่า
จะเป็นจดุ ผ่านทสี่ ำ�คัญของกระบวนการค้ามนษุ ยน์ านาชาติด้วย
ขอกระซิบว่าลองติดตามข่าวใหม่เรื่องโรฮีนจาทแ่ี ม่สอด 2-3 วันน้ี
ดูนะครบั กว่าจะเดินทางจากอาระกนั หรอื รฐั ยะไขข่ องพม่า ขา้ มประเทศมา
ทางตะวันออกเพื่อเข้าไทย โดยหวังจะต่อไปมาเลเซีย ทำ�ไมเขาต้องเสี่ยง
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 287
ขนาดนี้ เขามากันได้อยา่ งไร กระบวนการคา้ มนุษยเ์ ปน็ อย่างไร
พอพูดเรอื่ งนน้ี ิดเดยี วกม็ กี ารผรสุ วาททางชาติพนั ธข์ุ น้ึ มา ระวงั ให้ดี
นะครับ ประเทศซเี รีย เมืองเลบานอนกเ็ คยร่งุ เรอื งสวยงามมากอ่ น ภายใน
ไม่กี่เดือนชาวซเี รยี 2 ล้านคนที่เคยอยู่สบายในบา้ นของตนกต็ ้องกลายเปน็
ผลู้ ภ้ี ยั หนตี ายไปใหเ้ ขาโขกสบั ในยโุ รป ประเทศไทยกอ็ ยา่ ได้ประมาทนะครบั
ถ้าเราเป็นเหมือนซีเรียเราจะรู้สึกอย่างไร ที่เราไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็ดีแล้ว
ควรมองดูผู้ลี้ภยั ด้วยใจเมตตาด้วย
สิง่ ทน่ี ่ากลวั มาก ๆ ไม่ใชก่ ารเดินทางเขา้ ไม่ใชก่ ารคา้ มนษุ ย์ แต่เปน็
ปญั หาการกกั ตวั และสภาพความเปน็ อยขู่ องแรงงานต่างชาติ ทงั้ ทยี่ งั คงอยู่
ในเมืองไทยและท่กี �ำ ลังจะกลับเขา้ มาใหม่
ความเสี่ยงที่สำ�คัญ คือ สภาพความเป็นอยู่ท่ีแออัด ง่ายต่อการ
แพร่โรค สิงคโปร์ซึ่งมีรายได้ต่อหัวประชากรมากกว่าไทย 9 เท่าก็ยังแก้
ไม่ได้ โควิดระบาดหนกั ไทยเราจะแกจ้ ดุ ออ่ นนี้ได้หรอื หรอื เพยี งแต่รอเวลา
ให้ระเบิดท�ำ งานเทา่ น้ัน
เมื่อแรงงานต่างชาติเข้าเมืองทำ�งานอย่างถูกกฎหมายเกิดป่วย
เป็นโรคโควิด เขาก็ต้องมสี ิทธิรบั การรักษาเทา่ เทียมกับคนไทย โดยใช้เงิน
ประกันแรงงานต่างชาติ เงินส่วนนีอ้ าจจะนำ�มาใช้ในการรักษาพยาบาลได้
ถา้ มผี ู้ป่วยไม่มาก แต่ดังทเี่ คยคยุ แล้วว่า โควิดเปน็ โรคระบาด ถา้ มผี ู้ปว่ ย
เพียงรายเดยี วในท่ีแออดั ก็จะมีการติดเช้อื ท้งั กลุ่ ม ย่ิงกลุ่ มใหญ่และแออัด
ขน้ึ เท่าไร ระเบิดโควิดท่ีจดุ ติดแล้วก็จะส่งผลทางเศรษฐกจิ มากข้ึนเทา่ นนั้
แรงงานต่างชาติเหมือนเชอ้ื เพลงิ ทข่ี บั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ ของประเทศ
แต่การมีเชอื้ เพลิงในบ้านโดยไม่สามารถจัดการให้ดี กจ็ ะท�ำ ให้ไฟโควิดไหม้
บ้านได้ด้วยประกายไฟหรือคนนำ�เช้ือเข้ามาเพียงนิดเดียว ปัญหาแรงงาน
ต่างชาติ จึงเป็นปัญหาทีก่ ลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริง ๆ
ขอจบบทความท่ีค่อนข้างยาวและหนักด้วยความเห็นทิ้งท้ายดังนี้
ครับ ท่ีผ่านมาเราจัดการแต่ละจังหวัดเหมือนบ้านใครบ้านมัน แต่ความ
จริงแล้วบ้านของเราอยู่ชิดกันมาก เป็นห้องแถวไม้ท่ีนำ้�มันไหลนองถึงกัน
เมื่อจังหวัดชายแดนจะตัดสินใจนำ�เข้าเชื้อเพลิงเพิ่มเติมจากที่มีอยู่ น่าจะ
288 สู้โควิดแบบไทย ๆ
ต้องคยุ กนั ทง้ั ตลาดนะครับ ไฟไหม้จากการเปิดเศรษฐกิจโดยไม่ระมัดระวัง
เพียงบา้ นเดียว อาจจะลามไปจนวอดหมดตลาดก็ได้
(8 พฤษภาคม 2563)
การระบาดของโรคในกลมุ่ แรงงานพลดั ถิ่นมมี าต้งั แต่สมยั น้นั
จนกระทั่งในสมัยปจั จบุ ันกย็ งั คงเปน็ ปัญหาสาธารณสุขท่สี �ำ คัญ
ในเขตเมอื ง ทัง้ แรงงานจากชนบท และ แรงงานต่างชาติ
ปัญหานีย้ ังคงอยูต่ ลอด 100 ปีทผ่ี ่านมา
ตอนท่ี 40
Spanish Flu ระบาดในไทยเม่อื 100 ปีท่ีแลว้
เหมือนในสหรฐั อเมรกิ าและยโุ รปหรอื เปลา่
ชาวอเมริกันอาจจะชอบโทษคนอื่นในเรื่องโรคระบาด ปลายช่วง
สงครามโลกครั้งทห่ี น่ึง ในปี พ.ศ. 2461 มีไขห้ วดั ใหญ่ (flu หรอื ชอ่ื เตม็ ว่า
influenza) ระบาดในสหรฐั อเมรกิ าและยโุ รป ประมาณการว่ามคี นตายไป
ราว 60 ลา้ นคน (จรงิ หรอื เปลา่ ไม่รู้ เพราะมนั มากเท่า ๆ กบั ประชากรของ
ประเทศไทยในปัจจุบัน) สหรัฐอเมริกาโทษว่าทหารที่ไปรบเอาเชื้อไข้หวัด
ใหญ่กลับมาจากสเปน เลยต้ังชื่อว่า “Spanish Flu” หรือ “ไข้หวัดใหญ่
สเปน” เหมือนโรคโควิดที่เคยถกู ชาวอเมริกนั เรียกว่า “Wuhan Disease”
หรอื “โรคอู่ฮั่น” เมื่อโรคเริ่มระบาดเข้าประเทศนนั้
ระยะน้ีในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปมีการนำ�ภาพและข่าว
เกา่ ๆ เกีย่ วกบั Spanish Flu ท่รี ะบาดในปี พ.ศ. 2461 มาเปรยี บเทียบกบั
การระบาดของโควิดในปจั จุบัน ผมอ่านข่าวแล้วกส็ งสัยว่าเรามีปัญหาเร่อื ง
การระบาดของ Spanish Flu บนั ทึกไว้ในประวตั ิศาสตร์ทางการแพทย์ของ
ไทยบา้ งไหม ปรากฏว่าในโซเชยี ลมเี ดยี เผยแพร่ขอ้ ความในพระราชกจิ จานุ
เบกษา (ฉบับวันที่ 3 พฤศจิกายน 2461 และ 27 กรกฎาคม 2462) บันทึก
ว่ามีราษฎรไทยในมณฑลต่าง ๆ ตายไปถงึ แปดหมื่นกว่าคน แต่การบนั ทกึ
สาเหตกุ ารตายในสมยั นนั้ อาจจะไม่แม่นยำ�นกั เพราะตามมณฑลต่าง ๆ ยงั
ไม่มีแพทยแ์ ผนปัจจุบัน
ผมจึงกลบั ไปค้นคว้างานวิจัยเกา่ ๆ ของผม ย้อนยุคกลบั ไป 24 ปี
เมื่อประมาณกลางปี พ.ศ. 2539 สำ�นักงานกองทุนสนับสนุน
การวิจัยได้ติดต่อให้ผมศึกษาทบทวนสถานการณ์การพัฒนานักวิจัย
ทางด้านระบาดวิทยาของประเทศอย่างรอบด้าน และเสนอแนะแนวทาง
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 293
ในการสนับสนุนการวิจยั และการพฒั นานกั วิจยั ในสาขานี้
เพื่อเตรียมข้อเสนอสำ�หรับอนาคต ผมได้ใช้เวลาในห้องสมุดคณะ
แพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาพัฒนาการของวิชาระบาด
วิทยาในประเทศไทยในยุคที่เราได้เร่ิมรับความช่วยเหลือจากมูลนิธิร็อกก้ี
เฟลเลอร์อยูห่ ลายวัน
สิ่งมคี ่ามาก ๆ ท่ีผมค้นพบในหอ้ งสมดุ คอื จดหมายเหตทุ างแพทย์
ของสภากาชาดสยาม วารสารทค่ี าดว่าไม่มใี ครอา่ นเปน็ เวลาหลายปี วารสาร
นี้เร่ิมตีพิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ พ.ศ 2461 (ตรงกับ ค.ศ. 1918) ซ่ึงต่อมา
เปลยี่ นชอื่ เปน็ “จดหมายเหตทุ างแพทยข์ องแพทยสมาคมแหง่ ประเทศไทย
(จพสท.)” หลังจากวารสารเล่มนี้ออกได้ 30 ปี จึงมีสารศิริราชเล่มแรกในปี
พ.ศ. 2491 เวชสารกรมการแพทย์ในปี พ.ศ. 2495 และ จฬุ าลงกรณ์เวช
สารในปี พ.ศ. 2497
ในเล่มแรกนี้ จอมพลสมเดจ็ พระเจ้าน้องยาเธอ เจา้ ฟา้ กรมหลวง
พิศณุโลกประชานาถ ผอู้ �ำ นวยการสภากาชาดสยาม ได้ปรารภในคำ�ชี้แจง
ตอนหนึ่งว่า
“ประเทศสยามของเรามดี ินแดนกว้างใหญ่ มิได้แพ้มหาประเทศบาง
แหลง่ แต่เหตไุ ฉนเราจงึ ยงั ไม่มกี �ำ ลงั เทา่ เทยี มเขาเลา่ ตอบว่าเพราะจ�ำ นวน
พลเมืองของเรายังน้อยนัก น้อยเพราะเหตใุ ด เพราะว่าพลเมืองของเรายัง
ตายมากนัก ย่ิงช้ันเด็กด้วยแล้วนับว่าได้คร่ึงเสียครึ่ง หรือจะตายมากกว่า
รอดไปเสียอีก จำ�นวนพลเมืองของเราจึงไม่งอก …”
“อีกไนย ๑ เมื่อเราจะเอาความรู้ทางอื่นมาใช้ดังน้ี จะรับแต่ถ่าย
เดียวก็มิสมควร จักต้องให้ตอบแทนด้วยจึงจะถูก การแลกเปลี่ยนความรู้
ซึ่งกันและกันเป็นหนทางนำ�มาซ่ึงความเจริญแก่มนุษยชาติ ใช่แต่เท่านั้น
เมื่อเรามขี า่ วซึ่งแปลกซ่ึงเป็นประโยชน์ไปแสดงแกช่ นต่างชาติ ก็นบั ว่าเปน็
เกียรติยศดีสำ�หรบั ชาติเรา …”
คำ�ปรารภดังกล่าวแสดงให้เห็นความกลมกลืนระหว่างความ
ต้องการขยายประชากร (pronatalism) ความต้องการปรบั ปรงุ สขุ ภาพของ
ประชาชน กับการแลกเปลี่ยนความรู้ทางการแพทย์และสาธารณสุขกับ
ประชาคมโลก ซง่ึ นบั ว่าเปน็ ความคิดทก่ี า้ วหน้ามากในสมยั นน้ั อยา่ งไรกต็ าม
294 สู้โควิดแบบไทย ๆ
แนวคิดส่วนทีเ่ ป็น pronatalism ได้เปลยี่ นแปลงไปเป็น antinatalism ใน
อกี 50 ปตี ่อมา ดงั จะได้ปรทิ ศั น์ใหเ้ หน็ ในเรอ่ื งการวิจยั เชงิ สขุ ภาพการเจริญ
พันธ์ุในยุคทศวรรษ พศ. 2510 ต่อไป
กาฬโรคระบาด
ในเล่มท่ี 2 ของจดหมายเหตุทางแพทย์ H. Campbell Highet
นายแพทย์ชาวอเมริกันซ่ึงเป็น Principal Medical Officer of Health
(แพทยส์ ขุ าภบิ าล - ชอื่ ต�ำ แหน่งในสมยั นน้ั ) รายงานการระบาดของกาฬโรค
ในกรงุ เทพ ฯ
Highet ระบวุ ่า “The first authentic case of plague was dis-
covered by the Medical Officer of Health on the 20th December
1904 ............ Since its introduction in December 1904 (BE 2447)
plague has continued in Bangkok and is still prevalent.”
โรคเริ่มต้นในชาวอินเดีย แล้วขยายไปในกลุ่มชาวมลายู จากน้ัน
ขยายไปในกลุ่ มชาวจีนและชาวสยาม ไม่ปรากฏว่าชาวยุโรปป่วยเป็นโรคน้ี
เขตระบาดของโรคเรมิ่ ท่ีตกึ แดงและตกึ ขาวในเขตคลองสาน พาหรุ ดั และ
พระราชวงั แล้วขยายไปครบ 25 อำ�เภอของพระนคร อำ�เภอทม่ี ีประชากร
หนาแน่น เช่น สามแยก มผี ู้ปว่ ย 1 ราย ต่อประชากร 174 คน สัมพนั ธวงศ์
มีผู้ป่วย 1 ราย ต่อประชากร 331 คน ในพื้นท่ีท่ปี ระชากรไม่หนาแน่นมาก
เช่น เขตนางเลงิ้ สามเสน มผี ู้ป่วยน้อยลง คอื 1 ราย ต่อประชากร 1,343
คน และ 1,221 คน ตามลำ�ดบั (ไม่ได้ระบุว่าในเวลานานเทา่ ไร) กลุ่ มคนจนี
ป่วยมากทส่ี ุด โดยเฉพาะกรรมกรจนี ซ่งึ นำ�เขา้ มาใหม่ ๆ
Highet บรรยายต่อว่า “It is part of the price which we all
have to pay and will always pay for imported Chinese labour. The
Chinese is self-centered. He thinks of very little outside his own
job. He has no time to devote to such things as sanitary habits
and this combined with ignorance and strong racial prejudices
against modern method of sanitation make him the despair of
the Sanitary Officer. ... Nationality itself however does not prevent
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 295
a Siamese from getting plague for if he copies the Chinese methods
of living, he is just as likely to suffer......”
การระบาดของโรคในกลุ่ มแรงงานพลัดถิ่นมีมาตั้งแต่สมัยน้ัน
จนกระทั่งในสมัยปัจจุบันก็ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำ�คัญในเขต
เมืองทั้งแรงงานจากชนบท และ แรงงานต่างชาติ ปญั หาน้ยี ังคงอยู่ตลอด
100 ปที ผ่ี า่ นมา
นอกจากน้ี Highet ได้เขยี นกราฟแสดงจ�ำ นวนผู้ตายรายเดือนคกู่ บั
ระดับอุณหภูมิเฉล่ีย และความชื้นเฉลี่ย พบว่าจำ�นวนผู้ตายคู่ขนานไปกับ
ระดับความชนื้ คอ่ นข้างชัดเจน ข้อมูลที่เกบ็ รวบรวมไว้ 14 ปีสรปุ ว่ามีผู้ป่วย
รวม 1,416 คน โดยมีอบุ ัติการณส์ ูงสุดถงึ 298 คน ในปี พศ. 2458 ในช่วง
ปี พ.ศ. 2453 ถึง 2460 ในเขตพระนคร มีผเู้ สียชีวิตจากกาฬโรคเฉลย่ี ปีละ
ประมาณ 120 คน นับเป็นสาเหตกุ ารตายอันดับ 5 ในทะเบยี นมรณบตั ร
จ�ำ นวนผู้ตายต่อปที ี่สูงกว่าน้ัน คือ ทารกตาย (2,350 ราย) โรคปอดชนิด
ต่าง ๆ (1,220 ราย) บิด (590 ราย) และโรคเหนบ็ ชา หรือ Beriberi (440
ราย)
การควบคุมกาฬโรคในสมัยน้ันมีปัญหามาก Highet จัดระบบเฝ้า
ระวังกาฬโรค ในปี พ.ศ. 2446 เมื่อโรคเริ่มระบาด ผู้ตายที่สงสัยว่าเกิด
จากกาฬโรคต้องได้รับการตรวจศพ มกี ารตรวจตราเรือจากนอกเขตทุกล�ำ
สรา้ งโรงพยาบาลแยกโรคโดยอนญุ าตให้ญาติผู้ปว่ ยเยีย่ มได้ แต่ไม่ให้ออก
จากโรงพยาบาลจนกว่าจะพ้นระยะกักกัน (10 วัน) ทำ�ความสะอาดบ้าน
ช่องและกำ�จัดสิ่งโสโครกในบ้านผู้ป่วย ความไม่รู้และความเข้าใจผิดเป็น
ปัญหาสำ�คัญในการควบคุมโรค มีข่าวลือจากชาวบ้านว่าถ้าบ้านใดมีผู้ป่วย
เปน็ กาฬโรคหมอจะจบั คนในบา้ นไม่ว่าจะปว่ ยหรอื ไม่ปว่ ยใหเ้ ขา้ โรงพยาบาล
ทง้ั หมด แล้วแช่น�้ำ แขง็ จนตาย จะได้สกดั ยาจากศพไปรกั ษาโรค ขา่ วลอื เช่น
น้ีทำ�ให้การเฝ้าระวังโรคเปน็ ไปได้ยาก เพราะญาติผู้ปว่ ยไม่กล้าแจง้ ความ
กาฬโรคครงั้ นนั้ สิน้ สดุ การระบาดในพระนครในปใี ดไม่เปน็ ทป่ี รากฏ
แต่เป็นที่แน่นอนว่า ในปี พ.ศ. 2482 ยังคงมีกาฬโรคปรากฏขึ้นในต่าง
จังหวัดประปรายแต่ไม่ได้ระบาดรา้ ยแรงอกี ต่อไป
เกอื บลืมบอกไปว่ากาฬโรคติดต่อผา่ นหมดั หนู หมดั มเี ชอื้ แพร่ไปยงั
296 สู้โควิดแบบไทย ๆ
หนูทำ�ให้หนูตาย แต่หมัดยงั คงหิวอยู่จงึ กระโดดหาเหยื่อ จนกระท่ังเจอคน
จงึ กัดคน แพร่เชื้อเข้าคน เชอ้ื แพร่เขา้ ไปในปอด ทำ�ใหเ้ กิดปอดบวม คนไข้
กาฬโรคจงึ แพรเ่ ชอื้ ผา่ นทางเดินหายใจเหมือนไขห้ วดั ใหญ่ด้วย ประเทศไทย
ไม่มีรายงานกาฬโรคมาหลายสิบปีแล้ว ในสหรัฐฯเองมีรายงานผู้ป่วย
กาฬโรคประปรายทุกปี แต่ไม่มกี ารระบาดใหญ่แต่อย่างไร
ผมอ่าน จพสท. เล่มต่อ ๆ มาจนถึงยุค 2500 ซึ่งผมถือว่าเข้าสู่
ยคุ ปัจจบุ ันแล้ว ก็ไม่ปรากฏว่ามีรายงานโรคไขห้ วดั ใหญ่ระบาดแต่อย่างไร
สรุปแล้ว เมื่อ 100 ปที แ่ี ล้ว Spanish Flu ซง่ึ ระบาดรนุ แรงในยุโรป
และสหรฐั อเมรกิ า มคี นตายไปถงึ 60 ลา้ นคน ประเทศไทยกม็ กี ารระบาดจด
บันทึกไว้พระราชกิจจานเุ บกษา แต่ไม่อยใู่ นวารสารการแพทย์ไทย
อาจจะพิจารณาว่า วารสารแพทยม์ อี คติในการตพี ิมพ์ (publication
bias) คือ วงการแพทย์มักจะลงตีพิมพ์เร่ืองท่ีตนเองสนใจมากกว่าเร่ืองท่ี
เป็นปัญหาอยู่ในสังคมขณะน้ัน อย่างไรก็ตามการระบุว่าวารสารมีอคติใน
การตีพิมพ์ก็อาจจะเป็นการไม่ยุติธรรมเพราะเราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จริง
ของยุคสมัยนัน้
(9 พฤษภาคม 2563)
ศ.นพ.วีระศักดิ์ จงสู่วิวัฒน์วงศ์ 297
เต่าไทยที่โผลห่ ัวออกนอกกระดอง เร่มิ เดินเตาะแตะแลว้
กจ็ ะมที ิศทางเดินหลีกเลี่ยงการตกหลุมโควิดได้ดขี นึ้ ครบั
การจะวเิ คราะห์ให้เห็นหลมุ ปจั จยั เสย่ี งทเ่ี ล่ียงได้ ตอ้ งขอตวั ช่วย
คอื เทคโนโลยี Big data ให้ทมี ระบาดวิทยาสมองเต่าได้ใช้ด้วย