The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ (พัฒนาประชาอุปถัมภ์) (ฉบับปรับปรุง 2566) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by iClass, 2023-09-06 04:17:47

หลักสูตรโรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ (พัฒนาประชาอุปถัมภ์) (ฉบับปรับปรุง 2566) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

หลักสูตรโรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดแพร่ (พัฒนาประชาอุปถัมภ์) (ฉบับปรับปรุง 2566) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

๒๙๕ กิจกรรมเพื่อสังคมและสำธำรณประโยชน์ ค ำอธิบำยรำยวิชำ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์เป็นกิจกรรมที่ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนอง ตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ โดยค านึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ ความส าคัญทั้งความรู้และคุณธรรม จริยธรรม จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เรียนคิดสร้างสรรค์ ออกแบบกิจกรรมเพื่อ สังคมและสาธารณประโยชน์อย่างหลากหลายรูปแบบ เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในลักษณะจิต อาสา วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อปลูกฝังและสร้างจิตส านึกให้แก่ผู้เรียนในการบ าเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ๒. เพื่อให้ผู้เรียนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ตาม ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร ๓. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ คุณธรรมจริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ๔. เพื่อให้ผู้เรียนมีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์


๒๙๖ กำรประเมินกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน เวลาเรียนส าหรับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่ก าหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลาง ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีละ 120 ชั่วโมง เป็นเวลาส าหรับปฏิบัติกิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ให้สถานศึกษาจัดสรรเวลาให้ผู้เรียนดังนี้ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 รวม 3 ปี จ านวน 45 ชั่วโมง (เฉลี่ยปีละ 15 ชั่วโมง) การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ สามารถน าไปสอดแทรก หรือบูรณาการ ในกิจกรรมลูกเสือ เนตร นารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์และนักศึกษาวิชาทหาร ได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ การท ากิจกรรมเพื่อสังคมและ สาธารณประโยชน์ให้ผู้เรียนรายงานแสดงการเข้าร่วมกิจกรรมและมีผู้รับรองผลการเข้าร่วมกิจกรรมด้วย การประเมินผลการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เป็นเงื่อนไขส าคัญประการหนึ่งส าหรับ การเลื่อนชั้นและการจบระดับ การศึกษา ผู้เรียนต้องมีเวลาเข้าร่วมและปฏิบัติกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตลอดจนผ่านการประเมินตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา ก าหนด โดยแนวทางการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนมีรายละเอียดดังแผนภาพ แผนภำพ แสดงขั้นตอนกำรประเมินกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน แนะแนว กิจกรรมนักเรียน (ลูกเสือฯ/ยุวฯ /รด.ชุมนุม) ไม่ผ่าน ซ่อมเสริม ส่งผลการประเมิน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมเพื่อสังคมฯ เกณฑ์การประเมิน 1. เวลาการเข้าร่วมกิจกรรม 2. การปฏิบัติกิจกรรม 3. ผลงาน / ชิ้นงาน ตามเกณฑ์ ไม่ตามเกณฑ์ ผ่าน ประเมิน เมินน


๒๙๗ แนวด ำเนินกำรประเมินกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน 1. กำรประเมินกิจกรรมพัฒนำผู้เรียนเพื่อเลื่อนชั้นและจบระดับกำรศึกษำ การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อเลื่อนชั้นและจบระดับการศึกษาเป็นการประเมินการผ่านกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน เป็นรายปี / รายภาค เพื่อสรุปผลการผ่านในแต่ละกิจกรรม สรุปผลรวมเพื่อเลื่อนชั้นและประมวล ผลรวมในปีสุดท้ายเพื่อการจบแต่ละระดับการศึกษา โดยการด าเนินการดังกล่าวมีแนวปฏิบัติ ดังนี้ 1.1 ก าหนดให้มีผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของ ผู้เรียนทุกคนตลอดระดับการศึกษา 1.2 ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินผลการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเป็นรายบุคคลตาม เกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด (เกณฑ์การจบแต่ละระดับการศึกษาที่สถานศึกษาก าหนดนั้น ผู้เรียนจะต้องผ่าน กิจกรรม 3 กิจกรรมส าคัญ ดังนี้ 1) กิจกรรมแนะแนว 2) กิจกรรมนักเรียน ซึ่งได้แก่ (1) กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บ าเพ็ญประโยชน์ และนักศึกษาวิชาทหาร (2) กิจกรรมชุมนุม ชมรม 3) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ 1.3 น าเสนอผลการประเมินต่อคณะอนุกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้ความเห็นชอบ 1.4 เสนอผู้บริหารสถานศึกษา พิจารณาอนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผ่านเกณฑ์การ จบแต่ละระดับการศึกษา 2. ข้อเสนอแนะ การประเมินผลการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้น จะต้องค านึงถึงสิ่งต่อไปนี้ 2.1 เวลาการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนดสถานศึกษาควรก าหนดเวลา ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 2.2 ผลการปฏิบัติกิจกรรมและผลงานของผู้เรียนให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด โดยอาจจัดให้ผู้เรียนแสดงผลงาน แฟ้มสะสมงานหรือจัดนิทรรศการ 2.3 ผู้เรียนทุกคนต้องมีผลการประเมินระดับผ่าน ทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงานของผู้เรียนจึงจะได้ผลการประเมินเป็นผ่าน (ผ) เพื่อบันทึกในระเบียนแสดงผลการเรียน 2.4 กรณีที่ผู้เรียนไม่ผ่านกิจกรรม (มผ) ให้เป็นหน้าที่ของครู หรือผู้รับผิดชอบกิจกรรมนั้น ๆ ที่จะต้องซ่อมเสริม โดยให้ผู้เรียนท ากิจกรรมจนครบตามเวลาที่ขาดหรือปฏิบัติกิจกรรมให้บรรลุตาม วัตถุประสงค์ของกิจกรรมนั้น แล้วจึงประเมินให้ผ่านกิจกรรม เพื่อบันทึกในระเบียนแสดงผล การเรียน ยกเว้น มีเหตุสุดวิสัยให้รายงานผู้บริหารสถานศึกษาทราบ เพื่อด าเนินการช่วยเหลือผู้เรียนอย่างเหมาะสมเป็นรายกรณีไป 2.5 ในการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หากสถานศึกษามีบุคลากรไม่เพียงพอ หรือไม่สามารถจัด กิจกรรมได้อย่างหลากหลาย สถานศึกษาอาจจัดกิจกรรมในลักษณะบูรณาการ หรือสอดแทรกในกิจกรรมหรือ โครงการต่าง ๆ เช่นกิจกรรมโฮมรูม กิจกรรมวันส าคัญ กิจกรรมบ าเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น ซึ่งสถานศึกษา สามารถด าเนินการประเมินผลการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวและน ามาเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินกิจกรรม พัฒนาผู้เรียนได้


๒๙๘ เกณฑ์กำรผ่ำนกำรประเมินกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ผู้เรียนจะต้องได้รับการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและผ่านเกณฑ์ตามที่สถานศึกษาก าหนด โดยก าหนดเกณฑ์ในการประเมินอย่างเหมาะสม ดังนี้ 1. ก าหนดคุณภาพหรือเกณฑ์ในการประเมินตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ก าหนด ไว้ 2 ระดับ คือ ผ่าน และไม่ผ่าน 2. ก าหนดประเด็นการประเมินให้สอดคล้องตามจุดประสงค์ในแต่ละกิจกรรมและก าหนด เกณฑ์การผ่านการประเมิน ดังนี้ 2.1 เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินรายกิจกรรม ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมครบตามเกณฑ์และปฏิบัติกิจกรรมและ ผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษาก าหนด ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมไม่ครบตามเกณฑ์ หรือไม่ผ่านการปฏิบัติ กิจกรรมและผลงานของผู้เรียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา ก าหนด 2.2 เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในแต่ละภาค/ปี ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ในกิจกรรมส าคัญทั้ง 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีผลการประเมินระดับ“ไม่ผ่าน” ในกิจกรรมส าคัญกิจกรรมใด กิจกรรมหนึ่งจาก 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 2.3 เกณฑ์การตัดสินผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพื่อจบระดับการศึกษา ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีผลการประเมินระดับ “ผ่าน” ทุกชั้นปีในระดับการศึกษานั้น ไม่ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนมีผลการประเมินระดับ “ไม่ผ่าน” บางชั้นปีในระดับการศึกษานั้น


๒๙๙ 7. เกณฑ์กำรจบกำรศึกษำ


๓๐๐ เกณฑ์กำรจบกำรศึกษำมัธยมศึกษำตอนต้น 1. เกณฑ์กำรจบกำรศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น (1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วยกิต และ รายวิชาเพิ่มเติม ดังนี้ แผนการเรียนเน้นกีฬา ๓3 หน่วยกิต แผนการเรียนทั่วไป 15 หน่วยกิต (2) ผู้เรียนต้องได้หน่วยกิตตลอดหลักสูตรไม่น้อยกว่า 81 หน่วยกิต โดยเป็นรายวิชา พื้นฐาน 66 หน่วยกิต และรายวิชาเพิ่มเติม ดังนี้ แผนการเรียนเน้นกีฬา ๓3 หน่วยกิต แผนการเรียนทั่วไป 15 หน่วยกิต (3) ผู้เรียนมีผลการประเมิน การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ได้รับการตัดสิน “ผ่าน” “ดี” หรือ “ดีเยี่ยม (4) ผู้เรียนมีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ได้รับการตัดสิน “ผ่าน” “ดี” หรือ “ดีเยี่ยม” (5) ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและมีผลการประเมินได้รับการตัดสิน “ผ่าน” ทุกกิจกรรม หมำยเหตุ รำยละเอียดปรำกฏในคู่มือกำรวัดและประเมินผล


๓๐๑ ภำคผนวก


๓๐๒ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพื้นฐำน 1. นายรัฐกานต์ จันทนู ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา 2. พระสมุห์เอกลักษณ์ ขันติวโร กรรมการผู้แทนพระภิกษุสงฆ์ และหรือผู้แทนองค์กรศาสนา 3. นางลัดดา วงศ์สวัสดิ์ กรรมการผู้แทนศิษย์เก่า 4. นายกันตพงษ์ ค าปลุก กรรมการผู้แทนผู้ปกครอง 5. นายจรัล ค าวิชัย กรรมการผู้แทนครู 6. นางสาวพัชราภรณ์ กิติสาร กรรมการผู้แทนองค์กรชุมชน 7. นายปริญญา เทียมแสน กรรมการผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 8. นางสาวปวีณา ใจกระเสน กรรมการและเลขานุการ


๓๐๓ คณะผู้จัดท ำหลักสูตรโรงเรียนกีฬำองค์กำรบริหำรส่วนจังหวัดแพร่(พัฒนำประชำอุปถัมภ์) (ฉบับปรับปรุง 2566) คณะกรรมกำรที่ปรึกษำ 1. นายรัฐกานต์ จันทนู ประธานคณะกรรมการ 2. นางสาวปวีณา ใจกระเสน รองประธานคณะกรรมการ 3. นายทัชชัย รอดน้อย กรรมการ 4. นายจรัล ค าวิชัย กรรมการ 5. นางเสาวลักษณ์ มณีขัติย์ กรรมการ 6. นายอัษฎายุทธ ศักดิ์สิทธิ์ กรรมการ 7. นายเชาว์ลิต สุดวังยาง กรรมการ 8. นางสาวสุปราณี ค าลือ กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมกำรผู้จัดท ำ 1. นางสาวปวีณา ใจกระเสน ประธานกรรมการ 2. นายทัชชัย รอดน้อย รองประธานคณะกรรมการ 3. นางสาวปริยานุช ฮ่วนสกุล กรรมการ 4. นางสาวรุจิรัตน์ เลือดนักรบ กรรมการ 5. นางสุกานดา ลาวัณย์ศิลป กรรมการ 6. นางสุดารัตน์ สุวรรณโคตร กรรมการ 7. นางเสาวลักษณ์ มณีขัติย์ กรรมการ 8. นางอลิษา กันทะหงษ์ กรรมการ 9. นายจรัล ค าวิชัย กรรมการ 10.นายเชาว์ลิต สุดวังยาง กรรมการ 11.นายธีปกรณ์ งามดี กรรมการ 12.นายธีระพงษ์ จันทร์ยาง กรรมการ 13.นายพงษ์พันธุ์ ยองใย กรรมการ 14.นายภัทรพล เมฆอากาศ กรรมการ 15.นายวรษา จักรพันธุวงค์ กรรมการ 16.นายศุภกันต์ สุขรอด กรรมการ 17.นายอัษฎายุทธ ศักดิ์สิทธิ์ กรรมการ 18.นางสาวจิรัชยา เจริญมณี กรรมการ 19.นายวิธวัช สายยืด กรรมการ 20.นายสงกรานต์ พรมเวช กรรมการ 21.นางสาวกนกวรรณ ปิวาคม กรรมการ 22.นางสาวกัญจนพร ฐานเจริญพร กรรมการ 23.นางสาวสุปราณี ค าลือ กรรมการ


๓๐๔ 24.นายฐิติกร วาสนะตระกูล กรรมการ 25.Mr.Chang Guojun กรรมการ 26.นางสาวกนกวรรณ มิจะต๊ะ กรรมการ 27.นางสาวกรกนก อภิชัย กรรมการ 28.นางสาวชลธิชา กรสมบัติ กรรมการ 29.นางสาวชุติกาญจน์ ประจันนวล กรรมการ 30.นางสาวพักตร์พิมล ยศทิศ กรรมการ 31.นางสาวสุวรรณา การะกัน กรรมการ 32.นายวรวัฒน์ ธรรมสรางกูร กรรมการ 33.นายศราวุฒิ สมบูรณ์ กรรมการ 34.นายสิรภพ กันยะมี กรรมการ 35.นายอัครพนธ์ เครือเต็ม กรรมการ 36.ว่าที่ร้อยตรีวิศรุต ยะตาหิ กรรมการ 37.นายผดุง บุญชุม กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ


๓๐๕


๓๐๖


๓๐๗


๓๐๘ วิสัยทัศน์หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซึ่งเป็นก าลังของชาติให้เป็นมนุษย์ ที่มีความสมดุลทั้งด้านร่างกาย ความรู้คุณธรรม มีจิตส านึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก ยึดมั่น ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐาน รวมทั้ง เจตคติ ที่จ าเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผู้เรียน เป็นส าคัญบนพื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ วิสัยทัศน์ (VISION) องค์กำรบริหำรส่วนจังหวัดแพร่ พัฒนาความเป็นเลิศด้านกีฬา สื่อสารภาษาจีน น้อมน าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง


Click to View FlipBook Version