The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา-โรงเรียนสาธิตบุญเลิศวิทยา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Fangkamol Phetkliang, 2022-07-26 23:46:54

หลักสูตรสถานศึกษา-โรงเรียนสาธิตบุญเลิศวิทยา

หลักสูตรสถานศึกษา-โรงเรียนสาธิตบุญเลิศวิทยา

194

คำอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ส ๒๑๑๐๓ ประวัติศาสตร์ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาและวฒั นธรรมศาสนา
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

วิเคราะห์ความสำคัญของเวลาในการศึกษาประวัติศาสตร์ เทียบศักราชตามระบบต่างๆท่ีใช้ ศึกษา
ประวัติศาสตร์ และนำธีการทางประวัติศาสตร์มาใชศ้ ึกษาเหตกุ ารณ์ทางประวตั ิศาสตร์ พัฒนาการทางสงั คม
เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉยี งใต้โดยใช้กระบวนการคิดอย่างมี
วิจารณญาณ การคดิ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์นการกลมุ่ กระบวน เพ่ือรว่ มมอื กนั ในการศกึ ษาค้นคว้า ด้วยวิธีการ
ทางประวัติศาสตร์และสังคมศาสตร์มีทักษะที่จำเป็นต่อการเป็นนกั คดิ อย่างมวี ิจารณญาณ เข้าใจพัฒนาการ
ของรับไทยในด้านประวัติศาสตร์ ของสมัยสุโขทัย ให้เกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริตความ
กตัญญรู ักความเปน็ ไทย มีกตเวทีต่อแผน่ ดินเกิด

มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด
ส ๔.๑ม. ๑/๑ , ม.๑/๒ , ม. ๑/๓
ส ๔.๒ม. ๑/๑, ม. ๑/๒
ส ๔.๓ ม. ๑/๑

รวมท้งั สนิ้ ๖ ตัวชวี้ ัด

195

คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

ส๒๑๑๐๔ ประวัตศิ าสตร์ ๒ กลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษาและวฒั นธรรมศาสนา
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต

ระบุความสำคัญของแหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอธิบายเรื่องราว ทาง
ประวัติศาสตร์สมัยก่อนสุโขทัยในดินแดนไทยโดยสังเขป วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักรสุโขทัย ในด้าน
ตา่ งๆ วเิ คราะห์อิทธพิ ลของวฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทยสมยั สโุ ขทยั และสงั คมไทยในปัจจยั โดยใช้กระบวนการ
คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณการคิดวเิ คราะห์ะห์สังเคราะห์ กระบวนการกลุ่มเพ่ือรว่ มมอื กนั ในการศกึ ษาค้นคว้าเห็น
คุณค่าและความสำคญั ของผลงานที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของอารยธรรมไทย มีความรกั ชาต ศาสน์ กษัตริย์
ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ มงุ่ มัน่ ในการทำงานและรักความเปน็ ไทย

มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด
ส ๔.๑ ม.๑/๓
ส ๔.๒ ม. ๑/๒
ส ๔.๓ ม.๑/๒ , ม.๑/๓

รวมทง้ั สนิ้ ๔ ตัวชว้ี ัด

196

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ส๒๒๑๐๑ สังคมศึกษา ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษาและวฒั นธรรมศาสนา
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๐ หนว่ ยกิต

อธิบายการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือสู่ประเทศเพื่อนบา้ นวิเครา ความสำคัญ
ของพระพุทธศาสนาที่ช่วยเสรมิ สร้างความเข้าใจอันดกี ับประเทศเพื่อนบ้าน ความสำคญั ของพระพุทธศาสนา
ในฐานะที่เป็นรากฐานของวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของชาติ และมรดก ของชาติ อภิปรายความส าคัญของ
พระพทุ ธศาสนา กับการพัฒนาชุมชน และการจดั ระเบียบสงั คม วเิ คราะห์พทุ ธประวัตหิ รือประวัติศาสดาของ
ศาสนาท่ีตนนับถือตามท่ีกวิเคราะหแ์ ละปฏิบัติตนาหนด ตามแบบอยา่ งการด าเนนิ ชีวิตและขอ้ คิดจากประวัติ
สาวกล่าและศาสนิกชนตัวอย่างอธิบายชาดก โครงสร้างและสาระโดยสังเขปของพระไตรปิฎก อธิบาย
ธรรมคุณ และข้อธรรมสำคญั ในกรอบอริยสจั สี่ เหน็ คณุ ค่าและนำไปพัฒนาแกป้ ญั หาของชมุ ชนและสงั คม เหน็
คณุ คา่ ของการพัฒนาจิตเพอ่ื การเ และด าเนินชีวิตด้วยวธิ คี ิดแบบโยนโิ สมนสิการ มตตาสวดมนตแ์ ผ่เบริหารจิต
และเจริญปญั ญาดว้ ย อาณาปานสติ วิเคราะหก์ ารปฏิบตั ติ นตามหลกั ธรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื เพือ่ การด ารง
ตนอยา่ งเหมาะสม ในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก และการอยรู่ ่วมกันอย่างสนั ติสุข

อธิบายและปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมายทเี่ ก่ียวข้องกับตวั เอง ครอบครัวะเทศชมุ ชนและปรเห็น คณุ คา่ ใน
การปฏบิ ตั ติ นตามสถานภาพ บทบาท สทิ ธิเสรีภาพ หน้าที่ ในฐานะพลเมืองดีตามวถิ ี ประชาธิปไตย วิเคราะห์
บทบาทความสำคัญ และความสัมพันธ์ของสถาบันทางสังคม อธิบายความ คล้ายคลึงและความแตกต่างของ
วัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมของประเทศในภูมภิ าคเอเชียปส่คู วามเข้าใจอนั ดรี ะหว่างกัน อธบิ ายกระบวนการ
ในการตรากฎหมาย วิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารทาง การเมือง การปกครอง ที่มีผลกระทบต่อสังคมไทยสมัย
ปจั จบุ ัน

วเิ คราะหป์ จั จยั ท่ีมผี ลตอ่ การลงทุนและการออม อธบิ ายปจั จยั การผลิตสนิ ค้าและปัจจัยท่ีมีอิทธิพล
ต่อการผค้าแลิตสะบรินการ เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรชั ญา ของเศรษฐกิจพอเพียง
อภิปรายแนวทางการคมุ้ ครองสทิ ธขิ องตนเองในฐานะผบู้ ริโภค อภปิ รายระบบ เศรษฐกจิ แบบต่างๆ ยกตัวอยา่ ง
ที่สะท้อนให้เห็นการพึ่งพาอาศัยกัน และการแข่งขันกันทางเศร ในภูมิภาคเอเชีย วิเคราะห์การกระจายของ
ทรัพยากรในโลกที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศ วิเคราะห์การแขง่ ขนั ทางการค้า ใน
ประเทศและตา่ งประเทศท่สี ่งผลต่อคณุ ภาพสนิ ค้า ปริมานการผลติ และราคาสนิ ค้า

197

มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด
ส ๑.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔
ส ๒.๑ ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔
ส ๒.๒ ม.๒/๑,ม.๒/๒
ส ๓.๑ ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔
ส ๓.๒ ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔

รวมท้ังสิน้ ๑๘ ตัวชว้ี ัด

198

คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

ส๒๒๑๐๒ สงั คมศึกษา ๔ กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษาและวฒั นธรรมศาสนา
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

การปฏบิ ัติตนอย่างเหมาะสมตอ่ บุคคลตา่ งๆ ตามหลักศาสนาท่ตี นนับถอื มมี ารยาท เปน็ ศา
สนิกชนทีด่ ี วิเคราะหค์ ณุ คา่ ของศาสนพิธีและปฏิบตั ติ นได้ถกู ต้อง อธบิ ายคำสอนที่เกยี่ วกับวนั สำคญั ทางศาสนา
และปฏบิ ัตติ นได้ถูกตอ้ ง อธิบายความแตกต่างของศาสนพิธี พธิ กี รรม แนวปฏิบัติของศาสนาอืน่ ๆ เพ่ือนำไปสู่
การยอมรับและความเข้าใจซึ่งกันและกันประเมินความน่าเช่ือถือของหลักฐานทางประวัติศาสตรใ์ นลักษณะ
ตา่ งๆ วเิ คราะห์ความแตกต่าระหวา่ งความจรงิ กับขอ้ เทจ็ จรงิ ของเหตุการณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ เหน็ ความสำคัญ
ของการตคี วามหลงั ทางประวัตศิ าสตร์ทน่ี ่าเชอ่ื ถอื อธบิ ายพฒั นาการทางสงั คมและการเมอื งของภมู ิภาคเอเชีย
เศรษฐกิจระบุความสำคัญของแหล่งอารยะธรรมโบราณในภูมิภาคเอเชีย วิเคราะห์พัฒนาการของอาณาจักร
อยุธยาและธนบรุ ใี นด้านตา่ งๆ วเิ คราะห์ปัจจัยท่สี ง่ ผลต่อความม่นั คงและความเจรญิ ร่งุ เรอื งของอาณาจัอยุธยา
ระบภุ ูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาและธนบรุ อี ิทธพิ ลของภมู ปัญญาดังกล่าวต่อการพฒั นาชาตไิ ทยใน
ยุคต่อมาใช้เครื่องมือทางภูมศิ าสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลเกีย่ วกับลักษณะ กายภาพ
และสังคมของทวีปยุโยป แอฟรกิ า วิเคราะหค์ วามสมั พันธร์ ะหว่างลกั ษณะทางกายภาพและ สังคมของทวีปยุ
โยปและแอฟรกิ าวิเคราะห์การกอ่ เกิดสิง่ แวดล้อมใหม่ ทางสงั คมอันเป็นผลจากการ เปล่ยี นแปลงทางธรรมชาติ
และทางสังคมของทวีปยุโรปและแอฟริกา ระบุแนวทางการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใน
ทวปี ยุโรปและแอฟรกิ าสำรวจอภิปรายประเดน็ ปัญหาเกยี่ วกับ ส่งิ แวดล้อมทเ่ี กดิ ขึ้นในทวีปยโุ รปและแอฟริกา
วิเคราะห์เหตุและผลกระทบที่ประเทศไทยได้รับจากการ เปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมในทวีปยุโรปและ
แอฟรกิ า

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ส ๑.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
ส ๒.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔, ม.๒/๕
ส ๒.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒
ส ๓.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓, ม.๒/๔
ส ๓.๒ ม.๒/๑, ม.๒/๒ ,ม.๒/๓, ม.๒/๔

รวมทั้งสนิ้ ๒๐ ตัวชวี้ ัด

199

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ส๒๒๑๐๓ ประวตั ิศาสตร์ ๓ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู งั คมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง ๐.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษา วิเคราะหว์ ิธกี ารประเมนิ ค่าความนา่ เชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตรอ์ ย่าง
ตัวอยา่ งการประเมนิ ค่าความน่าเชอื่ ถือของหลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ไทยในท้องถิ่น ของตน วิเคราะห์ข้อมูล
จากเอกสารต่างๆในสมัยอยุธยาและธนบุรี ข้อความบางตอนในพระราชพงศาวดาร อยุธยา จดหมายเหตุ
ชาวตา่ งชาติการแยกแยะระหวา่ งขอ้ มูลกับความคิดเห็นความจรงิ กับ ขอ้ เทจ็ จริง ตัวอยา่ งการตีความขอ้ มลู จาก
หลักฐานท่แี สดงเหตุการณส์ ำคญั ในสมยั อยุธยาแล เห็นคุณคา่ และความสำคัญของการวเิ คราะห์ข้อมูล และการ
ตีความทางประวตั ิศาสตร์

ศึกษา การสถาปนาอาณาจักรอยุธยาวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของ
อาณาจักรอยุธยาศึกษาพัฒนาการของอาณาจักรอยุธยาในด้านการเมืองการปกครองสังคมเศรษฐกิจ และ
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วิเคราะห์การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๑ และการกู้เอกราชภูมิ ปัญญาและ
วัฒนธรรมไทยในสมัยอยุธยาในด้านการควบคุมกศลิ ปวัฒนธรรมางั คนการเสียกรงุ คร้งั ท่ี ๒ การกู้เอกราชการ
สถาปนากรงุ ธนบรุ ี ภมู ิปัญญาและวฒั นธรรมไทยสมัยธนบุรี

ศึกษา วรี กรรมของบรรพบุรษุ ไทยผลงานของบุคคลสำคัญของไทยทม่ี สี ่วนสรา้ งสรรค์ ชาติ
ไทย คือ สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี ๒ พระสรุ โิ ยทัยพระนเรศวรมหาราช พระนารายณ์มหาราช พระบาทสมเด็จ
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(ด้วง)และสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาถ(บุญ มา) โดยใช้
กระบวนการสืบค้น การสังเกต การปฏิบัติ วิธีการทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้ ความรู้ ความเข้าใจ เห็นคุณคา่
และความสำคญั ของการตคี วามทางประวตั ิศาสตร์

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๔.๑ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓
ส ๔.๓ ม.๒/๑, ม.๒/๒, ม.๒/๓

รวมท้งั สิ้น ๖ ตวั ชีว้ ดั

200

คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ส๒๒๑๐๔ ประวตั ิศาสตร์ ๔ กลุม่ สาระการเรยี นรู้สังคมศกึ ษาและวฒั นธรรมศาสนา
ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ จำนวน ๒๐ ช่วั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศกึ ษา วเิ คราะหป์ ัจจัยท่ีมีผลตอ่ การพัฒนาทวปี เอเชยี ในดา้ นที่ตงั้ สภาพทางภมู พฒั นาการของภูมภิ าค
ทวปี เอเชยี ในด้านประวัตศิ าสตสังคมเศรษฐกจิ

ศึกษา วิเคราะห์ทีต่ งั้ และความสำคัญของแหล่งอารยธรรมในทวีปเอเชียท้ังแหล่งอารยธรรม ในเอเชียตะวันออก
แหลง่ อารยธรรมในเอเชยี ใต้และแหลง่ อารยธรรมในเอเชียตะวนั ตกเฉียงใต้ ศกึ ษาแหล่งอารยธรรมท่เี ป็นมรดก
โลกในภูมิภาคเอเชยี

ศึกษา วเิ คราะหอ์ ทิ ธพิ ลของอารยธรรมโบราณที่มีต่อภมู ิภาคเอเชียในปัจจุบัน อารยธรรมญ่ีปุ่นอารยธรรมจีน
อารยธรรมอนิ เดียและอารยธรรมเอเชยี ตะวนั ตกเฉียงใต้

โดยใช้กระบวนการวเิ คราะห์ อธิบาย การสืบค้น การนำเสนอ การสืบค้นขอ้ มลู เพื่อให้ความรูค้ วามเขา้ ใจ ใน
ประวตั ิศาสตร์ของประเทศตา่ งๆในทวีปเอเชีย

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๔.๒ ม. ๒/๑ , ม.๒/๒

รวมทัง้ สน้ิ ๒ ตัวชี้วัด

201

คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

ส๒๓๑๐๑ สังคมศึกษา ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้สังคมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ จำนวน ๔๐ ช่ัวโมง ๑.๐ หนว่ ยกติ

อธิบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือสู่ประเทศต่างๆทั่วโลก วิเครา ความสำคัญของ
พระพุทธศาสนาในฐานะที่ช่วยสร้างสรรค์อารยธรรมและความสงบสุขแก่โลก อภิปราย ความสำคัญของ
พระพุทธศาสนากับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน วเิ คราะห์ ประวัติจากพระพุทธรูปปาง
ต่างๆหรือประวัติศาสดาที่ตนนับถือ วิเคราะห์และประพฤติตนตา แบบอย่างการดำเนินชีวิตและข้อคิดจาก
ประวัตสิ าวก ชาดก เร่ืองเลา่ ศาสนกิ ชนตัวอย่าง อธิบาย คุณและข้อธรรมสำคัญในกรอบอริยสัจ 4 เห็นคุณค่า
และวิเคราะหก์ ารปฏิบัติตนตามหลักธรรม พัฒนาตนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานและการมีครอบครัว
เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิตใจ การเรียนรู้ และการดำเนินชีวิตด้วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ สวดมนต์แผ่
เมตตาบรหิ ารจิตและ ปัญญาด้วยอานาปานสติ วิเคราะหค์ วามแตกต่างและยอมรับวถิ ีการดำเนินชีวิตของศา
สนิกชนของศาสนาอืน่ ๆ

อธิบายความแตกต่างของการกระทำความผิดระหว่างคดีอาญาและคดีแพ่ง การมีส่วนร่วมในการ
ปกป้องคุ้มครองผู้อื่นตามหลักสิทธิมนุษยนิยม อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมที่เหมาะสม
วิเคราะห์ปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งในประเทศและเสนอแนวคิดในการลดความขัดแย้ง เสนอ
แนวคดิ ในการดำรงชวี ิตอย่างมคี วามสุขในประเทศและสงั คมโลก อธิบายระบอบการปกครองแบบตา่ งๆท่ใี ช้ใน
ยุคปัจจุบัน วิเคราะห์เปรียบเทียบระบอบการปกครองของไทยกับประเทศอื่นๆที่มีการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย วิเคราะห์รัฐธรรมนูญฉบบั ปัจจบุ ันในมาตราต่างเกี่ยวข้องกับการเลอื กตั้ง การมีส่วนร่วม และ
การตรวจสอบการใชอ้ ำนาจรฐั วเิ คราะหป์ ระเด็นปัญหาทเ่ี ปน็ อปุ สรรคตอ่ การพฒั นาประชาธิปไตยของประเทศ
ไทย และเสนอแนวทางแกไ้ ข

อธิบายกลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นตาม ปรัชญาเศรษฐกจิ
พอเพียง วิเคราะหค์ วามสัมพันธร์ ะหว่างแนวคิดเศรษฐกิจพอเพยี งกับระบบสหกรณ์ อธิบายบทบาทหน้าท่ีของ
รัฐบาลในระบบเศรษฐกิจ แสดงความคิดเห็นต่อนโยบายและกิจกรรมทาง เศรษฐกิจของรฐั ทม่ี ตี ่อบุคคล กลุ่ม
คนและประเทศชาติ อภิปรายบทบาทความสำคัญของการรวมกลไกล ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศอภิปราย
ผลกระทบที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อเงินฝืด วิเคราะห์ผลเสียจาก การว่างงานและแนวทางแก้ปัญหา วิเคราะห์
สาเหตุและวิธีการกดี กนั ทางการคา้ ในการค้าระหว่า ประเทศ

202

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๑.๑ ม.๓/๑,ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔
ส ๒.๒ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔
ส ๒.๑ ม.๓./๑,ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔
ส ๓.๑ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔
ส ๓.๒ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔,

รวมท้ังสนิ้ ๒๒ ตัวชี้วดั

203

คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

ส๒๓๑๐๒ สงั คมศกึ ษา ๖ กลุม่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษาและวัฒนธรรมศาสนา
ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๔๐ ชัว่ โมง ๑.๐ หน่วยกติ

วิเคราะห์หน้าทแี่ ละบทบาทของสาวกและปฏบิ ัตติ นต่อสาวกตามทกี่ ำหนดไดถ้ ูกต้อง ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งเหมาะสม
ต่อบุคคลต่างๆตามหลักศาสนา ปฏิบัติหน้าที่ของศาสนิกชนที่ดี ปฏิบัติตน พิธี พิธีกรรมได้ถูกต้อง อธิบาย
ประวัติวนั สำคัญทางศาสนาตามที่กำหนดและปฏิบตั ิตน แสดงตนเป็นพธุ มามกะ หรอื แสดงตนเป็นศาสนิกชน
ของศาสนาท่ตี นนบั ถือ นำเสนอแนวทางในการ ธำรงรกั ษาศาสนาทีต่ นนับถือ

วเิ คราะหเ์ รอ่ื งราวเหตกุ ารณ์สำคัญทางประวตั ศิ าสตร์ได้อย่างมีเหตุผล ตามวิธกี าร ประวตั ศิ าสตร์ ใช้วิธีการทาง
ประวตั ศิ าสตรใ์ นการศึกษาเร่ืองราวตา่ งๆทต่ี นสนใจ อธบิ ายพฒั นาการ ทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งของ
ภมู ภิ าคต่างๆในโลกโดยสงั เขป วิเคราะหผ์ ลของการ เปลีย่ นแปลงท่ีนำไปสู่ความร่วมมือและความขัดแย้งในค
ริส๒๐ ต์ศตวรรษที่ลอดจนความพยายามใน การขจัดปัญหาความขัดแย้ง วิเคราะห์พัฒนาการของไทยสมัย
รัตนโกสินทร์ในด้านต่างๆ วิเคราะห์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทยในสมัย
รัตนโกสินทร์ วิเคราะห์ ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทยสมัยรัตนโกสินทร์ และอิทธิพลต่อการพัฒนาชาติไทย
วิเคราะหบ์ ทบาทของไทยใน สมยั ประชาธปิ ไตย

ใช้เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวมวิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะทาง กายภาพ สังคม
ของทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณ ความสำคัญทางกายภาพ และ
สังคมของทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ วิเคราะห์การก่อเกิด สิ่งแวดล้อมทางสังคมอันเป็นผลจากการ
เปลี่ยนแปลงธรรมชาตแิ ละสังคมของทวปี อเมริกาเหนือและ อเมริกาใต้ ระบุแนวทางการอนุรกั ษท์ รพั ยากรทาง
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของทวีปอเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ สำรวจอภิปรายประเด็นปัญหาเกี่ยวกับ
สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ในของทวีปอเมริกา และอเมริกาใต้ วิเคราะห์เหตุและผลกระทบต่อเนื่องจากการ
เปลย่ี นแปลงของส่ิงแวดลอ้ มของทวปี อเมรกิ าเหนอื และอเมรกิ าใต้ ทสี่ ่งผลต่อประเทศไทย

มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด
ส ๑.๒ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔
ส ๔.๑ ม.๓/๑,ม.๓/๒
ส ๔.๒ ม.๓/๑,ม.๓/๒
ส ๔.๓ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔

204

ส ๕.๑ ม.๓/๑,ม.๓/๒
ส ๕.๒ ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔

รวมทง้ั ส้ิน ๑๘ ตวั ชว้ี ดั

205

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ส ๒๓๑๐๓ ประวตั ิศาสตร์ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาและวฒั นธรรมศาสนา
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชัว่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

การศกึ ษาประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาตนิ ับตั้งแตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบันเหตุการณ์ตา่ มากมายซงึ่ เป็นเรื่องท่ียากแก่
การจดจ านกั ประวตั ศิ าสตร์จึงได้รวบรวมเหตุการณ์ส าคญั โดยก ออกมาเปน็ ยุคสมยั เพอื่ ใหเ้ กดิ ความสะดวกแก่
การศกึ ษาและใหเ้ ป็นที่เข้าใจตรงกันไม่สับสนวิคราะห์ เรอื่ งราวเหตุการณ์ส าคัญทางประวัติศาสตร์ได้อย่างมี
เหตุผลตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ใ ประวตั ิศาสตร์ในการศึกษาเรอื่ งราวต่างๆทีต่ นสนใจ อธิบายพัฒนาการ
ทางสังคมเศรษฐกิจและการเมื ของภมู ิภาคต่างๆในโลกโดยสงั เขป วเิ คราะห์ผลการเปลีย่ นแปลงทีน่ วมมือและา
ไปสคู่ วามขดั แย้งร่ ในคริสต์วรรษท่ี๒๐ตลอดจนความพยายามในการขจดั ปัญหา ความขดั แยง้

โดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ การสืบค้น การรวบรวมข้อมูล การสังเคราะห์ข้อมูล การน าเสนอ ข้อมูลโดย
วิธีการเชื่อมโยงสัมพันธ์เชิงเหตุผลเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจมีความคิดริเริสรรค์มี คุณธรรมจริยธรรม
ตระหนักเห็นคุณคา่ ของประวัติสาสตร์และน าความรูไ้ ปใช้ประโยชนใ์ นชวี ติ ประ ไดอ้ ย่างเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ดั
ส ๔.๑ ม.๓/๑,ม.๓/๒
ส ๔.๒ ม.๓/๑, ม.๓/๒

รวมทง้ั สิ้น ๔ ตวั ช้ีวดั

206

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ส ๒๓๑๐๔ ประวัติศาสตร์ ๖ กลมุ่ สาระการเรียนรู้สงั คมศกึ ษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ

ศึกษาประวัติศาสตร์สมัยรัตนโกสินทร์ ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ในการตั้งถิ่นฐานที่ส่งผลต่อความ
มั่นคงและความเจริญรุ่งเรือง พัฒนาการด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมส
รัตนโกสนิ ทร์ศกึ ษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษัตรยิ ์เปน็ ประมขุ วิเครา ปัญญาและ
วัฒนธรรมไทย บทบาทของไทยในสมัยประชาธิปไตย โดยใช้กระบวนการสืบค้น สอบถาม สัมภาษณ์ คิด
วิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดหาเหตุผลและอธิบายเปรียบเทียบ มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์เห็นคณุ ค่าของ
ประวตั ิศาสตร์และภูมิปญั ญาไทย ตลอดจนนำ ความร้ทู ่ีไดไ้ ปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ส ๔. ม. ๓/๑ ม. ๓/๒ ม. ๓/๓ ม. ๓/๔

รวมทัง้ สนิ้ ๔ ตวั ช้ีวัด

207

คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

ส ๒๑๒๐๕ วถิ ไี ทย กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาและวฒั นธรรมศาสนา

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษาเพื่อให้เข้าใจวัฒนธรรมด้านมารยาทไทย ประวลวัติความเป็นมา และองค์ประกอบของ
มารยาทไทย เพื่อใหต้ ระหนักต่อคุณคา่ ของมารยาทไทยท่มี ตี อ่ ผ้ปู ฏบัติ และส่วนรวม
ศึกษามารยาทการแสดงความเคารพเรอื่ ง การไหว้ การกราบ การถอนสายบวั การถวายคำนับการถวายบังคับ
และการหมอบกราบ เพื่อให้เขเข้าใจหลักการปฏิบัติที่ถูกต้องและสามารถปฏิบัติตนได้อย่าง ถูกต้องตาม
สถานภาพของบุคคล

ศึกษามารยาทการนงั่ ยืน เดินเพื่อใหเ้ กกิ ความรู้ความเขา้ ใจหลเกการปฎิบัติทีถ่ กู ตอ้ งและสามารถ
สืบสานความเปน็ ไทยได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม
ศึกษามารยาทการใชว้ าจาสภุ าพแบบไทย เพ่อื สามารถใช้ถอ้ ยคำและปฏิบตั ไิ ด้อยา่ งถกู ต้องและ เหมาะสม
ศึกษามารยาทการปฏิบตั ิตอ่ พระสงฆ์ เพือ่ ให้เกดิ ความร้คู วามเข้าใจวิธกี ารประเคนสิ่งของแด่ พระสงฆ์ การรับ
สิ่งของจากพระสงฆ์ การทำบุญตกั บาตร และการปฏิบัตติ ่อพระสงฆท์ ั้งทางกาย วาจา และใจ ได้อย่างถูกต้อง
และเหมาะสม และสามารถเปน็ แบบอย่างท่ีดกี บั บุคคลอ่ืนได้

ศึกษามารยาทการแต่งกายเพื่อให้เกิดความเข้าในเรื่องหลักสำคัญของการแต่งกาย ข้อปฏิบัติใน
การ แต่งกายเนื่องในโอกาสต่าง ๆ ชุดประจาชาติไทย และการแต่งเครือ่ งแบบในแตล่ ะประเภท เพื่อให้เกดิ
ความ ตระหนักเหน็ คุณค่าของการแตง่ กายเพือ่ ใหเ้หมาะกับกาลเทศะ
โดยใช้กระบวนการคิด วิเคราะห์ การสร้างองคค์ วามรู้ การแสดงบทบาทสมมุติ การลงมือปฏิบัติเพื่อให้เห็น
คุณคา่ และมีความตระหนกั ถงึ มารยาทไทยและสามารถนำไปประยุกตใชใ้ นชีวิตประจำวันและมี คา่ นยิ มที่ดีงาม
ผลการเรียนรู้
๑.บอกความหมายความเปน็ มาและองคป์ระกอบของมารยาทไทย
๒. ปฏิบัตติ นและสืบทอดการแสดงความเคารพตามสถานภาพของบุคคลได้อย่างถกู ตอ้ ง
๓. มคี วามร้คู วามเขา้ ใจเก่ียวกับมารยาทการนัง่ ยืนเดินและสามารถนำไปปฏิบัตใิ นชีวติ ประจำวนั ได้
อยา่ งถูกตอ้ ง
๔. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับมารยาทการใช้วาจาสุภาพแบบไทย และสามารถนาไปปฏิบัตใิ น
ชวี ติ ประจำวันได้อยา่ งถูกต้อง
๕. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั มารยาทการปฏิบัติต่อพระสงฆ์และสามารถนาไปปฏิบตั ิใน ชีวิตประจำวันได้
อย่างถกู ต้อง
รวมทัง้ หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

208

คำอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ

ส ๒๑๒๐๖ หน้าทีพ่ ลเมอื ง ๒ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษาและวฒั นธรรมศาสนา
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษาหน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดําเนินชีวิตในสังคม เกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตนเป็น
พลเมืองดี ตามวิถป่ี ระชาธิปไตย ในการมสี ่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของสงั คม การตดั สินใจโดยใชเ้ หตุผล มีส่วน
รว่ มและ รบั ผิดชอบในการตัดสนิ ใจในกจิ กรรมของห้องเรียน และโรงเรียน ตรวจสอบขอ้ มูลเพ่ือใชป้ ระกอบการ
ตัดสินใจในกิจกรรมต่างๆ ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวนิ ัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต อดทน ขยันหมั่นเพียร
ใฝ่หาความรู้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอนรับผลที่เกิดจากการกระทําของตนเองยอมรับความหลากหลายทาง
สังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเรือ่ งวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา ส่งิ แวดล้อม อยู่ร่วมกัน
อยา่ งสันตแิ ละพึง่ พาซึง่ กนั และกนั ในสังคมพหวุ ัฒนธรรม ดว้ ยการเคารพซงึ่ กนั และกนั ไม่แสดงกริ ิยาและวาจา
ดูหมิ่นผู้อืน่ ช่วยเหลือซึ่งกนั และกัน แบ่งปัน มีส่วนรว่ มในการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสนั ติวิธี ในเรื่องการ
ทะเลาะวิวาท ความคิดเหน็ ไม่ตรงกนั ด้วยการเจรจาไกลเ่ กล่ีย การเจรจาต่อรอง การระงับความขัดแย้ง การ
ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต อดทน ขยันหมั่นเพียร ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติ
หนา้ ที่ และยอนรบั ผลทีเ่ กิดจากการกระทาํ ของตนเอง

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการเผชิญสถานการณา กระบวนการ
แก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้างค่านิยม และ
กระบวนการ สรา้ งเจตคติ
เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีลกั ษณะที่ดขี องคนไทย ภาคภมู ใิ จในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยดึ ม่นั ในศาสนา
และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ ทรงเป็น
ประมขุ มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยรู่ ่วมกบั ผู้อน่ื อยา่ งสันติ จดั การความขัดแย้งด้วยสนั ติ วธิ ี และมี
วนิ ัยในตนเอง
ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธปิ ไตย
๒. มสี ว่ นรว่ มและรับผดิ ชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบขอ้ มูลเพอ่ื ประกอบการตดั สนิ ใจในกิจกรรมตา่ งๆ
๓. ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวฒั นธรรมในภมู ิภาคตะวนั ออกเฉยี งใต้ และอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติ
และพ่ึงพาซึง่ กนั และกัน
๔. มีส่วนรว่ มในการแก้ปญั หาความขัดแยง่ โดยสนั ตวิ ิธี
๕. ปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มวี นิ ัยในตนเอง

รวมทง้ั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

209

คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ

ส ๒๒๒๐๕ อาเซยี นศึกษา ๓ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศกึ ษาและวฒั นธรรมศาสนา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศกึ ษาเก่ยี วกบั ขอ้ มูลด้านเหตุการณป์ ระวัตศิ าสตรท์ ่ีมีความสำคญั ตอ่ ประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซียน
ดา้ นวฒั นธรรมท่นี ่าสนใจของประเทศสมาชิกแตล่ ะประเทศ เปรยี บเทยี บความคล้ายคลงึ และความแตกตา่ ง กัน
ของเหล่าประเทศสมาชิกทั้ง ๑๐ ประเทศ ศึกษาข้อขัดแยง้ ในกลุ่มประเทศสมาชกิ และวิเคราะห์สาเหตุ ของ
ความขดั แยง้ ศกึ ษาแนวทางการหาทางหลีกเลีย่ งหรอื ลดความขัดแย้งนักเรยี นร่วมทางานเปน็ กลุ่ม ศึกษาข้อมูล
ด้านประวตั ศิ าสตร์ และวฒั นธรรมของประเทศสมาชิกอาเซียน ใชค้ วามร้ใู นการตอบคำถาม ตลอดจนนำเสนอ
ข้อมูลท่ีศึกษาเกี่ยวกับวิชาดังกล่าวกับเพื่อนร่วมช้ันและโรงเรียน บูรณาการความรู้ใน รายวิชากับความรู้ใน
รายวชิ าอื่น ๆ ผ่านการทำโครงงาน

ผลการเรียนรู้

๑. บอกข้อมลู ดา้ นประวตั ิศาสตร์ของประเทศสมาชกิ อาเซียน เปรยี บเทียบความคลา้ ยและแตกต่าง กนั ได้
๒. บอกข้อมูลเก่ียวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของสมาชิกประเทศอาเซียน เปรียบเทียบความคล้าย และ
แตกต่างกันด้านวัฒนธรรมได้
๓. ศกึ ษาวิจยั กลุ่มเกีย่ วกับวัฒนธรรมอาเซียน นำเสนอขอ้ มูลจากการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ได้
๔. นำความรู้เก่ียวกับด้านวัฒนธรรมอาเซียนเพื่อพัฒนาแนวความคิดในการส่งเสริมความเข้า ใจด้าน
วฒั นธรรมของกล่มุ ประเทศสมาชิก
๕. ศึกษาและบอกข้อมลู ด้านความแตกตา่ งและขัดแยเวของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซยี นในช่วง ศตวรรษท่ีผ
ทานมาได้
๖. วิเคราะห์ถึงความแตกต่างและความขัดแย้ง ในความเข้าใจผิดด้านวัฒนธรรมท่ีอาจจะเกิดข้ึนได้ ผู้เรียน
นำเสนอแนวความคิดท่อี าจนามาใชเพ้ อ่ื หลีกเลยี่ งหรือลดปัญหาความขดั แยง้ ซงึ่ อาจจะเกิดจากความ เขา้ ใจผิด
๗. ใช้ความรู้เกีย่ วกับวัฒนธรรมท่แี ตกต่างกนั ของกลุม่ ประเทศอาเซียนเพื่อการสง่ เสริมความเข้า ใจที่ ดี และ
การมสี นั ติภาพในกลุ่มประเทศอาเซยี น

รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

210

คำอธิบายรายวิชาเพม่ิ เตมิ

ส ๒๒๒๐๖ อาเซียนศกึ ษา ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู งั คมศึกษาและวฒั นธรรมศาสนา
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศึกษาด้านโครงสร้างทางสังคมของประเทศสมาชิกอาเซียน ศึกษาด้านความไม่เสมอภาคและ
ปัญหาที่คนในประเทศสมาชิกกาลังเผชิญ ทำการวเคราะห์ปัญหา ศึกษาเปรียบเทียบความคล้ายคลงึ กันหรอื
ความแตกต่างของปัญหา ศึกษาถึงโครงสร้างด้านเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก นำความรู้ มาพัฒนา
แนวความคดิ เพ่ือปรบั ปรงุ สถานภาพความเปน็ อย่ขู องคนจน ทำการศกึ ษากลุ่มในหัวขอ้ ตา่ ง ๆ นำเสนอ ความรู้
จากการศึกษาค้นคว้าต่อเพ่ือนร่วมช้นั และตอ่ โรงเรียน นาความรทู้ ไี่ ด้จากรายวิชาไปบรู ณาการกับรายวชิ าตา่ งๆ

ผลการเรยี นรู้
๑.บอกข้อมลู ดา้ นประวตั ิศาสตรข์ องประเทศสมาชกิ อาเซยี น เปรียบเทยี บความคลา้ยและแตกต่าง กันได้
๒. บอกข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของสมาชิกประเทศอาเซียน เปรียบเทียบความคล้าย และ
แตกต่างกันด้านวฒั นธรรมได้
๓. ศกึ ษาวจิ ยั ยงั กล่มุ เก่ยี วกับวฒั นธรรมอาเซียน นำเสนอข้อมลู จากการศกึ ษาในรปู แบบต่าง ๆ ได้
๔. นำความรู้เกยี่ วกับด้านวฒั นธรรมอาเซยี นเพ่ือพัฒนาแนวความคิดในการสง่ เสริมความเข้าใจด้านวัฒนธรรม
ของกลุม่ ประเทศสมาชกิ
๕. ศกึ ษาและบอกขอ้ มลู ดา้ นความแตกต่างและขัดแย้งของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนในช่วง ศตวรรษท่ีผ่าน
มาได้
๖. วิเคราะห์ถึงความแตกต่างและความขัดแย้งในความเข้าใจผิดด้านวัฒนธรรมที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ผู้เรียน
นำเสนอแนวความคิดทอี่ าจนามาใช้เพือ่ หลีกเล่ยี งหรือลดปญั หาความขัดแย้ง ซึ่งอาจจะเกิดจากความ เขา้ ใจผิด
๗. ใช้ความรู้เกยี่ วกบั วัฒนธรรมทีแ่ ตกตา่ งกนั ของกลุ่มประเทศอาเซียนเพอื่ การสง่ เสริมความเข้าใจที่ ดี และการ
มีสันติภาพในกลมุ่ ประเทศอาเซยี น

รวมทงั้ หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

211

ส ๒๓๒๐๕ รักษท์ ้องถิน่ ๑ คำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เติม
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา
เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษาอธิบายเก่ียวกับลักษณะภูมิศาสตร์ ที่ตั้งความเจริญของในกรุงเทพมหานครอดีตถึงปัจจุบัน
ประวตั ศิ าสตร์ทรพั ยากรธรรมชาติ ทรพั ยากรท่องเท่ยี ว การพัฒนาชนบทใหเ้ จรญิ รุ่งเรอื งในฐานะเมอื งหลวงใน
ปจั จุบัน เพอ่ื ให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจจงั หวดั กรงุ เทพมหานครในฐานะเมืองทอ่ งเที่ยวที่สวยงาม สามารถ
ท่ีจะถา่ ยทอดความรู้ความเข้าใจนี้สู่เพ่อื น ผูส้ นใจเก่ยี วกับเมืองสยามไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งด้วยการบูรณาการการจัด
เรียนการสอนโดยใช้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรยี นรู้

๑. มีความรู้ความเขา้ ใจ เก่ียวกับความสำคัญของท้องถน่ิ และจำแนกประเภทของทอ้ งถิ่น
๒. มคี วามรู้ความเข้าใจเกีย่ วกับประวตั คิ วามเป็นมาของจงั หวดั กรุงเทพมหานคร
๓. อธิบายประวตั ิความเป็นมาของจังหวัดกรุงเทพมหานครสมยั ประวัตศิ าสตร์ได้
๔. มีความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกับลักษณะและสภาพแวดล้อมทางภูมศิ าสตร์ของโรงเรียนและจงั หวัด
กรุงเทพมหานคร
๕. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติท่สี ำคัญของจังหวัดกรงุ เทพมหานครได้
๖. มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับสภาพแวดลอ้ มทางสงั คม และการปกครองของจังหวัดกรุงเทพมหานคร
๗.มีความรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ประวตั ิศาสตร์ผลงานคณุ ธรรมจรยิ ธรรมบุคคลสำคญั ในจังหวดั กรุงเทพมหานคร
๘. วเิ คราะห์เก่ียวกะบคณุ ธรรมจริยธรรมของบคุ คลสำคัญท่ีเป็นแบบอย่างของของจงั หวดั กรุงเทพมหานครได้
๙. มีความรู้ความเขา้ ใจในปัญหาโครงการแกป้ ัญหาปฏิ บัติในงานตามโครงการแก้ป้ญหาทอ้ งถิน่ ใน
จังหวดั กรุงเทพมหานครไดต้ ามความเหมาะสม

รวมทั้งหมด ๙ ผลการเรียนรู้

ส ๒๓๒๐๖ รกั ษ์ท้องถ่ิน ๒ 212
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๒
คำอธิบายรายวิชาเพ่มิ เตมิ

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา
เวลา ๒๐ ชั่วโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษา อธิบาย วิเคราะห์เก่ยี วกับ ค่านิยม ความเช่ือ วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น ซึ่งแสดงถึงความ
เปน็ เอกลกั ษณ์ของทอ้ งถิ่นตลอดจนวิถีชีวติ ของชาวภูเก็ตลกั ษณะท่ีอยู่อาศัยการทำมาหากิน การแตง่ กาย การ
แต่งงาน ภาษาอาหารพ้นื เมืองตลอดจนสามารถถา่ ยทอดความรู้ความเข้าใจในความเป็นวัฒนธรรมท้องถน่ิ ต่อ
ผู้อ่นื ได้ เพื่อให้ ผู้เรยี นเป็นส่อื ในการถ่ายทอดประเพณีวัฒนธรรม คา่ นยิ ม ความเช่ือ และวถิ ีชีวิต ใหแ้ ก่เพอ่ื นใน
โรงเรยี น ผูน้ ้ันใจภายนอกและเปน็ มมัคคุเทศก์ทอ้ งถิ่นได้ มคี วามภมู ใิ จในวถิ ีชวี ติ ปฏิบตั ติ นในฐานะของชาวไทย
ที่มีคุณภาพของทอ้ งถ่นิ ดว้ ยการบรู ณาการ การจัดการเรยี นการสอนโดยใช้ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรยี นรู้

๑ . มคี วามร้คู วามเข้าใจเก่ียวกับความหมายและความสำคัญของท้องถ่ิน
๒. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ประเพณี การละเล่น ภาษาสอ่ื ความเปน็ ท้องถิ่น อาหารพื้นเมอื ง และภูมิ
ปญั ญา
๓. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั การแต่งกาย การแต่งงาน ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิน่
๔. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับความเชอื่ ค่านิยมของภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น
๕. มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ ข้าวของ เครือ่ งมืออาชพี ของคนในทอ้ งถิน่ และภูมิ
ปญั ญาทอ้ งถิน่
๖. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับแหล่งท่องเที่ยว ในทอ้ งถิน่ และเรือ่ งนา่ รู้เกยี่ วกับการทอ่ งเที่ยว
๗.มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั อตุ สาหกรรมโรงงานครวั เรอื นและจำหนา่ ยของท่รี ะลึก
๘. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับอตุ สาหกรรมบรกิ ารและ มารยาทท่ดี ขี องมัคคเุ ทศก์
ปฏิบตั กิ ารท่องเทีย่ วและการเป็นมคั คุเทศกท์ ด่ี ี
๙. มีความรเู้ กยี่ วกบั การปฐมพยาบาลเบือ้ งต้น แก่นกั ทอ่ งเที่ยวทป่ี ระสบปญั หาอุบตั ิเหตุได้ 10. มีความรู้ ความ
เข้าใจในการวางแผนการทอ่ งเท่ยี ว และจัดทวั รน์ ำเทีย่ วในท้องถิน่

รวมทง้ั หมด ๑๐ ผลการเรียนรู้

213

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

ส ๓๑๑๐๑ สังคมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษาและวฒั นธรรมศาสนา
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษาลักษณะของสังคมชมพูทวีป คติความเชื่อทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า วิเคราะ
พระพทุ ธเจ้าในฐานะเปน็ มนุษยฝ์ ึกตนได้อย่างสูงสดุ ในการตรสั รู้ การกอ่ ต้ัง วธิ ีการสอน แล แผพ่ ระพุทธศาสนา
ศึกษาพุทธประวัติด้านการบริหารและการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา วิเคราะห์ ข้อปฏิบัติทางสายกลางใน
พระพุทธศาสนา วิเคราะหก์ ารพฒั นาศรัทธาและปัญญาท่ถี ูกต้องใน พระพทุ ธศาสนา

วิเคราะห์และปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติและ
สังคมโลก วิเคราะห์ความสำคัญของโครงสร้างทางสังคม การขัดเกลาทางสังคม และการเปลี่ยนแปลง ทาง
สงั คม ปฏบิ ตั ติ นและมีสว่ นสนบั สนนุ ให้ผูอ้ ่นื ประพฤตปิ ฏบิ ัติเพ่อื เปน็ พลเมอื งดีของประเทศ สังคมโลก ประเมิน
สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยวิเคราะห์ความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและ
อนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมไทยและเลอื กรับวฒั นธรรมสากล

มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั
ส ๑.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓,ม.๔/๔
ส ๒.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓,ม.๔/๔

รวมทงั้ สิ้น ๘ ตวั ชี้วัด

214

คำอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

ส ๓๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษาการแบง่ ยุคสมัยทางประวัตศิ าสตร์ ขัน้ ตอนวธิ ีการทางประวัตศิ าสตร์ หลักฐาน ประวตั ศิ าสตร์
และสามารถบอกคุณค่าประโยชนข์ องวิธีการทางประวัติศาสตร์ ประวตั ิความเปน็ มาของ ชนชาติไทยต้ังแต่อดีต
จนถึงปจั จบุ ัน บอกวิถีชวี ิตของคนไทยในยคุ สมัยต่างๆ และอาณาจกั รโบรา ในดินแดนสุวรรณภูมิ อิทธิพลของ
อารยธรรมโบราณของโลกตะวันออกและโลกตะวันตก ซึ่งส่งผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงในโลกปัจจุบันพร้อมทง้ั
วิเคราะห์สถาบันหลักของชาตทิ ี่มีส่วนทำให้ชาตไิ ทยมี ปจั จัยที่ช่วยส่งเสรมิ การคิดสร้างสรรค์ใช้ภูมิปัญญาไทย
วัฒนธรรมไทย โดยใช้ทักษะกระบวนการทางประวัติศาสตร์ ทักษะกระบวนการ การสืบค้นข้อมูล การ สืบ
เสาะหาความรู้ ทักษะทางการใช้เทคโนโลยี และทักษะการปฏิบตั ิ ให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความ
เปน็ ไทย มีเหตุผลและรจู้ ักคิดอย่างเป็นระบบ ร้จู ักการทำงานเป็นหมู่คณะ มีความใฝ่ ตระหนักถึงความสำคัญ
ของการศึกษาตามขั้นตอนทางประวัติศาสตร์ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ สถานการณ์ปัจจุบันได้อย่าง
เหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ส ๔.๑ ม.๔/๑,ม.๔/๒
ส ๔.๒ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓,ม.๔/๔
ส ๔.๓ ม.๔/๑,ม.๔/๒,ม.๔/๓

รวมท้งั ส้นิ ๙ ตัวชี้วัด

215

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ส ๓๑๑๐๓ พระพทุ ธศาสนา กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชว่ั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบาย ลักษณะของสังคมชมพูทวีปและคติความเชื่อทางศาสนาสมัยก่อน
พระพทุ ธเจ้าพระพุทธเจ้าในฐานะเป็นมนษุ ย์ ผู้ฝึกตนได้อย่างสูงสุด (การตรัสรู้) พุทธประวัตพิ ุทธประวตั ดิ ้าน
การบริหารและ การธำรงรักษาพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนามีทฤษฎีและวิธีการที่เป็นสากลแ ละมีข้อ
ปฏิบัติที่ยึดทาง สายกลางพระพุทธศาสนากับปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง และการพัฒนาพระรัตนตรัย
วิเคราะห์ความหมายและคณุ คา่ ของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อริยสัจ ๔ ทุกข์ (ธรรมที่ ควรรู้) ขันธ์ ๕ ,
นาม , รูป สมุทัย (ธรรมท่ีควรละ) หลักกรรม นิยม ๕ กรรมนิยาม (กรรม ๑๒) ธรรมนินาม (ปฏิจจสมุปบาท)
นิโรธ (ธรรมท่ีควรบรรล)ุ ภาวนา ๔ มรรค (ธรรมท่คี วรเจรญิ ) พระสัทธรรม ๓ ปัญญาวุฒิธรรม ๔ พละ ๕ พุทธ
ศาสนาสุภาษิตจิตตํ ทนฺตํสุทวตํ ( จิตที่ฝึกดีแล้วนำสุขมาให้ นอุจจาจจํ ปณฺฑิตา ทสุสยนุติ (บัณฑิตย่อม ไม่
แสดง อาการ ขึน้ ๆ ลง ๆ)พุทธสาวก พทุ ธสาวกิ า พระอสั สชิ พระกีสาโคตมเี ถรี ชาดก พระเวชสันดรชาดก
ชาวพทุ ธตวั อยา่ ง พระนาคเสน พระยามลิ นิ ท์ พระอาจารยม์ นั่ ภูรทิ ตฺโต วธิ ีการศกึ ษาและคน้ คว้าพระไตรปีฎก
และดัมภีร์ของศาสนาอื่นๆ การสังคยนาและการเผยแผ่ พระไตรปิฎก ตัวอย่างผลที่เกิดพระเยช พัฒนาการ
เรียนรูด้ ว้ ยวธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสิการ ๑๐ วธิ ี เนน้ วิธคี ดิ แบบแยกแยะ สว่ นประกอบแบบสามญั ลักษณะ วิธีคิด
แบบสืบสาวเหตุปัจจัยวิธีคิดแบบแยกแยะส่วนประกอบ สวดมนต์แปล และเผยเมตตา รู้และเข้าใจวิธีปฏิบตั ิ
และประโยชนข์ องการบรหิ ารจติ และเจรญิ ปัญญา ฝึกบรหิ ารจติ และเจรญิ ปญั ญา ตามหลกั สตปิ ฏั ฐาน นำธกี าร
บริหารจติ และเจรญิ ปัญญาไปใช้ใน การพัฒนาการเรียนรู้คุณภาพชีวิตและ สงั คมหลกั ธรรมในการอยู่ร่ วมกัน
อยา่ งสันติสขุ สาราณียธรรม ๖ คริสต์ศาสนา ได้แกบ่ ัญญตั ิ ๑๐ ประการ ศาสนาอสิ ลาม ได้แก่ หลักจริยธรรม
สภาพปัญหาในชุมชน และสังคม ปฏิบัติตนเป็นชาวพุทธท่ีดี ศาสนพิธี พิธีกรรมทางศาสนา การแสดงตนเป็น
พุทธมามกะ

มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั
ส ๔.๑ ม.๔-๖/๑ ม.๔-๖/ ๒ ม.๔-๖/๓
รวมทั้งหมด ๓ ตัวช้ีวัด

216

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ส ๓๒๑๐๑ ประวตั ิศาสตรไ์ ทย กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษาขอ้ มลู หลักเกณฑ์การแบ่งยุดทางประวัตศิ าสตร์ แยกแยะเหตุการณต์ ่าง ๆ ท่เี กิดข้ึน เข้าสู่ยุค
สมัยทางประวัติศาสตรไ์ ด้อย่างถูกต้องตามหลกั เกณฑ์ อธิบายรายละเอียดและประเด็นสำคญั ของเหตุการณ์
ทางประวัติศาสตร์ อธิบายความเช่ือมต่อของเหตกุ ารณต์ ลอดจนพัฒนาการ ของเหตุการณ์ท่ีเกิดขึน้ ใช้วธิ ีการ
ทางประวตั ิศาสตรค์ ้นหาข้อเท็จจรงิ อธิบายสาเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงตลอดจนผลกระทบท่ีเกิดตามมาและ
วเิ คราะหป์ จั จัยแหง่ การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณต์ า่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ส ๔.๒ ม.๔-๖/๒
ส ๔.๓ ม.๔-๖/๓

รวมทง้ั ส้นิ ๒ ตัวชีว้ ัด

217

คำอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ส ๓๒๑๐๒ เศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู งั คมศกึ ษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๖๐ ช่วั โมง ๑.๕ หนว่ ยกติ

วเิ คราะห์ อธิบาย เสนอแนะ ตระหนัก การกำหนดราคาและค่าจา้ งในระบบเศรษฐกจิ ความสำคญั ของ
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่มีต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศ ระบบสหกรณ์ ในการพัฒนาเศรษฐกิจใน
ระดับชุมชนและประเทศปัญหาทางเศรษฐกิจในชุมชนและแนวทางแก้ไข บทบาทของรัฐบาลด้านน โยบาย
การเงิน การคลังในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ผลกระทบของ การเปีดเสรีทางเศรษฐกิจในยุด
โลกาภวิ ัฒนท์ ี่มีผลตอ่ สังคมไทย ผลดี ผลเสียของความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศในรูปแบบต่างๆนำ
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการจัดการการเงิน เรื่องอัตรา
แลกเปลี่ยนเงนิ ตรา ค่าเงินอ่อนค่า ค่าเงินแข็งค่า การทำสัญญาเพือ่ ปกป้องเงินบาท เงินเฟ้อ งินฝืด เงินออม
เงินลงทุนระบบสหกรณ์กับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นโยบายการคลังของรัฐบาล หนี้สาธารณะ ภาษี
อากร การค้าระหว่างประเทศ การเข้ารวมกลุ่มเศรษฐกิจของไทย กับ กลุ่มเศรษฐกิจของโลกกระบวนการ
เรียนรู้อย่างมคี วามหมาย การระดมพลังสมอง การสร้างองค์ความรู้ การแก้ ปัญหา วิธีการสืบเสาะ เน้นการ
ปฏิบัติ การอ่านร่วมกันในกลุ่ม การจัดระบบการคิดด้วยการฝึก การสัมภายณ์ กรณีศึกษาแหล่งเรียนรู้ การ
รายงาน

มาตราฐาน/ตวั ชี้วัด
ส 3.๑ ม.๔-๖/๑ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓ ม.๔-๖/๔
ส 3.2 ม.๔-๖/๑ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓

รวมทง้ั หมด ๗ ตัวช้วี ัด

218

คำอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

ส ๓๓๑๐๓ ภมู ศิ าสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาและวฒั นธรรมศาสนา

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง ๑.๐ หนว่ ยกิต

ศึกษาวิเคราะห์ นำเสนอข้อมูล เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ข่าวสารภูมิลักษณ์ ภูมิอากาศและภูมิ
สังคมไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก ปัญหาทางกายภาพทางท้องถิ่น จังหวัดอุทัยธานีการเปลี่ยนแปลงของ
พนื้ ท่ซี งึ่ ไดร้ บั อิทธพิ ลทางปัจจยั ทางภมู ศิ าสตร์ การเกิดภูมสิ งั คมไทยแหลง่ ท่องเท่ียวทสี่ ำคญั ในทวีปต่าง ๆ การ
เคลอ่ื นตวั ของแผ่นเปลือกโลก การจมตวั ของเกาะการเปล่ียนแปลงธรรมชาติในโลก ภาวะ โลกรอ้ น ความแห้ง
แล้ง สภาพอากาศแปรปรวน ประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิน่ วิกฤติการค้านทรัพยากร ธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมของไทยและโลก มาตรการป้องกันและแก้ปัญหา บทบาทขององค์กร ประสานความร่วมมือทั้งใน
และนอกประเทศ กฎหมายสิ่งแวดล้อม การจัดทรัพยากร ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ การใช้ประ
โยชน์จากสิ่งแวดล้อมในการสร้างสรรค์อารยธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นในประเทศและ โลก การ
แกป้ ญั หาและการดำเนนิ ชีวิตตามแนวทางการอนุรกั ษ์ทรัพยากรและสิง่ แวดลอ้ มเพอ่ื การพัฒนาท่ียั่งยืนโดยใช้
กระบวนการคิด กระบวนการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการจากแหล่ง
เรียนรู้ ภูมิปัญญาในท้องถิ่น กระบวนการสร้างองค์ความรู้ กระบวนการใช้ปัญหาเป็นฐาน กระบวนการ
แก้ปัญหาเพือ่ ใหเ้ กดิ ความรูค้ วามข้าใจ สามารถนำไปปฏบิ ตั ิในการดำเนนิ ชีวิต มกี ารจดั การ อนุรักษ์ทรัพยากร
และสิ่งแวดลอ้ ม มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ในด้านใฝ่รู้ใฝเรียน มวี นิ ัย รักความเปน็ ไทยอยู่อยา่ งพอเพียงมีจิต
สาธารณะ สามารถจัดการทรพั ยากรและสิ่งแวดล้อมอยา่ งยิง่ ยืน

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ส 5.๑ ม ๔-๖/๒ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓ ม.๔-๖/๔
ส 5.๒ ม ๔-๖/๑ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓ ม.๔-๖/๔

รวมทงั้ หมด ๘ ตวั ช้วี ดั

219

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ส ๓๓๑๐๑ พระพทุ ธศาสนา ๑ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ ภาคเรียนท่ี ๑ จำนวน ๒๐ ช่ัวโมง ๐.๕ หน่วยกิต

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบายลักษณะของสังคมชมพูทวีปและคติความเชื่อทางศาสนาสมัยก่อน
พระพุทธเจา้ พระพุทธเจา้ ในฐานะเป็นมนษุ ย์ ผู้ฝกึ ตนได้อย่างสงู สุด (การตรสั รู)้ พทุ ธประ วตั ิ พุทธประวัติด้าน
การบริหารและการธำรงรักษาพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนามีทฤษฎีและ วิธีการที่เป็นสากลและมีข้อ
ปฏบิ ัตทิ ่ียึดทางสายกลาง พระพทุ ธศาสนากบั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และการพัฒนาพระรตั นตรัย วเิ คราะห์
ความหมายและคณุ ค่าของพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ อริยสัจ 4 ทุกข์ (ธรรมทีค่ วรร)ู้ ขันธ์ 5 นาม รปู สมุทัย
(ธรรมที่ควรละ)หลักกรรม นิยม 5กรรมนิยาม (กรรม 12) ธรรมนินาม (ปฏิจจสมุปบาท) นิโร ธ (ธรรมที่ควร
บรรลุ) ภาวนา 4 มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ) พระสัทธรรรม 3 ปัญญาวุฒิธรรม 4 พละ 5 พุทธศาสนาสุภาษติ
จติ ตํ ทนฺตํสทุ วตํ (จิตที่ฝึกดแี ล้วนำสุขมาให้) นอุจจาจจํ ปณฺฑิตา ทสสุ ยนตุ ิ (บณั ฑติ ย่อมไม่แสดงอาการข้ึน ๆ
ลง ๆ) พทุ ธสาวก พุทธสาวกิ า พระอสั สชิ พระกีสาโคตรมเี ถรี ชาดก พระเวชสันดรชาดกโดยใชก้ ระบวนการคิด
การสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และการแก้ปัญหา กระบวนการปลูก
จิตสำนึก กระบวนการทางสังคม การเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาเพ่ือให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั
พระพทุ ธศาสนาและศาสนาอ่นื ท่ีตนนับถือตลอดจน หลกั ธรรมและศาสนพธิ ีต่าง ๆ สามารถนำไปปฏบิ ัตใิ นการ
ดำเนินชีวิตประจำวนั ได้ถกู ต้องเหมาะสม มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เปน็ คนดี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ยึดมั่น
ต่อผลของการทำความดีตลอดจน การปกป้องทำนุบำรุงเพ่ือธำรงไว้ซึง่ ศาสนาที่ตนนับถือเพื่อการอยู่รว่ มกัน
อย่างสันติสุขทัง้ สังคม ครอบครวั ชมุ ชน ประเทศชาตแิ ละสังคมโลก

มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั
ส ๑.๑ ม ๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓ ม.๔-๖/๔
ส ๑.๒ ม ๔-๖/๒ ม.๔-๖/๓

รวมทั้งหมด ๕ ตัวช้ีวดั

220

คำอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

ส ๓๓๑๐๒ พระพทุ ธศาสนา ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา วเิ คราะห์ อธิบายลักษณะของชาวพทุ ธตัวอย่าง พระนาคเสน พระยามิลนิ ทพ์ ระอาจารย์มั่น
ภูริทตุโต วิธีการศึกษาและค้นคว้าพระไตรปีฎกและคัมภีร์ของศาสนาอื่น ๆการสังคายนาและการเผยแผ่
พระไตรปิฎก ตัวอย่างผลที่เกดิ พระเยซู พัฒนาการเรียนรู้ด้วยวธิ ีคิดแบบโยนิโสมนสิการ ๑๐ วิธี เน้นวิธีคดิ
แบบแยกแยะส่วนประกอบแบบสามัญ ลักษณะวีคิดแบบสืบสาวเหตปุ ัจจยั วิธีคิดแบบแยกแยะส่วนประกอบ
สวดมนต์แปลและแผเ่ มตตา รู้และเข้าใจวธิ ีปฏิบตั ิและประ โยชนข์ องการบรหิ ารจิตและเจรญิ ปญั ญา ฝกึ บริหาร
จิตและเจริญปัญญา ตามหลักสติปัฏฐาน นำวิธีการบริหารจิตและเจริญปัญญาไปใช้ในการพัฒนาการเรยี นรู้
คุณภาพชวี ิตและสังคมหลักธรรมในการอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสันติสุข สาราณยี ธรรม ๖ คริสตศ์ าสนา ได้แก่บัญญัติ
๑๐ประการ ศาสนาอสิ ลาม ได้แก่ หลกั จริยธรรม สภาพปัญหาในชมุ ชนและสังคม ปฏบิ ัติตนเปน็ ชาวพทุ ธท่ดี ศี า
สนพิธี พิธกี รรมทางศาสนา การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะโดยใชก้ ระบวนการคิด การสบื คน้ั ข้อมลู กระบวนการ
ปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และการแก้ปัญหา กระบวนการปลกู จิตสำนึก กระบวนการทางสงั คม
การเสนอแนะแนวทางในการพฒั นาเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับพระพทุ ธศาสนา และศาสนาอ่ืนที่
ตนนับถือตลอดจนหลักธรรมและศาสนพิธิตา่ ง ๆ สามารถนำไปปฏิบัติในการดำเนินชวี ิตประจำวันได้ถกู ต้อง
เหมาะสม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นคนดี มีคณุ ธรรม จริยธรรม ยดึ ม่นั ตอ่ ผลของการทำความดีตลอดจน
การปกป้องทำนุบำรุงเพื่อธำรงไว้ซึ่งศาสนาท่ีตนนับถือเพื่อการอยู่ร่ วมกันอย่าง สันติสุขทั้งสังคม ครอบครวั
ชมุ ชน ประเทศชาติและสังคมโลก

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด
ส๑.๑ ม๔-๖/๑ ม.๔-๖/๑ ม.๔-๖/๒ ม.๔-๖/๒
ส ๑.๒ ม ๔-๖/๔

รวมท้ังหมด ๕ ตวั ชวี้ ดั

221

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ

ส ๓๑๒๖๔ การคมุ้ ครองสิทธิผู้บริโภค กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๔ ภาคเรียนที่ ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกิต

ศึกษา วิเคราะห์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริ โภค และหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการ
คุ้มครองผู้บริ โภค การรักษาและคุ้มครองสิทธิประโยชนข์ องผู้บริ โภค ด้านการขายตรงตลาดแบบตรง ด้าน
ฉลาก ด้านโฆษณา ด้านสัญญา ด้านสินค้าอันตราย แนวทางป้องกันสิทธิผู้บริโภค ตนเอง ครอบครัว ชุมชน
การคมุ ครองสทิ ธผิ ู้บริ โภค ประการ ตามพระราชบญั ญัติคุม้ ครองผบู้ รโิ ภค พ.ศ. ๒๕๒๒ และแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2)พ.ศ.2541โดยจัดประสบการณ์ สืบคั้นศึกษาจากข้อมลู ข่าวสาร
สารสนเทศ ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ ตามกลุ่มสนใจ นำผลจากการศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ สรุป รายงาน เพ่ือ
พฒั นาทักษะกระบวนการในการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การใหเ้ หตุผล เสรมิ สรา้ งคุณธรรมจรยิ ธรรม และ
นำประสบการณ์ ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใน
ชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ สามารถทำงานเป็นทีมรวมทง้ั มเี หตุผลเหน็ คณุ ค่าและมเี จตนาทีด่ ตี ่อวชิ าการ
คุ้มครองผูบ้ ริ โภค

ผลการเรยี นรู้
๑. นำกฎหมายทเ่ี กย่ี วข้องกบั การคุ้มครองผู้บรโิ ภคไปใช้ในชีวติ ประจำวนั
๒. ปกปอ้ งคมุ้ ครองสิทธผิ บู้ ริ โภคของตนเอง ครอบครัวและชมุ ชน
๓. รสู้ ทิ ธิพ้ืนฐานและการรกั ษาผลประโยชนข์ องผู้บริโภค
๔. รู้สทิ ธิพน้ื ฐานและการรกั ษาผลประโยชน์ของผู้บริโภค
๕. รแู้ ละเข้าใจการคุ้มครองสทิ ธิผบู้ ริ โภค
๖. รแู้ ละเข้าใจการช่ือขายสินค้าและบรกิ ารด้วยระบบ ICT
๗. รแู้ ละเข้าใจแนวทางปกปอ้ งสิทธผิ ้บู ริ โภคด้านการขายตรงและดลาดแบบตรง
๘. ดำเนินกจิ กรรมการพทิ ักษ์สทิ ธิและผลประโยชนต์ ามกฎหมายและคณุ ธรรมในฐานะ ผู้บริ โภค

รวมทัง้ หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

222

คำอธบิ ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ

ส๓๑๒๖๕ มนษุ ยก์ บั ส่งิ แวดลอ้ ม กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาและวัฒนธรรมศาสนา

ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ จำนวน ๒๐ ช่วั โมง ๐.๕ หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มทางธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมทมี่ นุษข์สร้างขึ้น
บทบาทหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บทบาทภาครัฐในการรักษาและใช้
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างประหยัดถูกต้องเหมาะสม บทบาทของสังคมในการรับผิดชอบดำรงรักษาและใช้
ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างถูกต้อง เหมาะสม เกิดประ โยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติโดยจัด
ประสบการณ์ สืบค้นศึกษาจากข้อมูลข่าวสารสารสนเทศ ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ตามกลุ่มสนใจ นำผลจาก
การศกึ ษาจากแหล่งเรียนรู้ สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการในการคดิ วเิ คราะห์ การแกป้ ัญหา การ
ให้เหตผุ ล เสริมสรา้ งคุณธรรมจริยธรรม และนำประสบการณ์ ดา้ นความรู้ ความคิด ทกั ษะกระบวนการทไี่ ด้ไป
ใช้ในการเรียนรู้สิ่งตา่ ง ๆ และในชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ รวมทั้งเหตุผลคุณค่าและมเี จตนาที่ดตี ่อวิชา
มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม สามารถทำงานอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มี
วจิ ารณญาณและมคี วามเชอ่ื มนั่ ในตนเอง ประพฤติและปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมืองดีในสงั คมและประเทศชาติ

ผลการเรียนรู้
๑. มที กั ษะกระบวนการในการคิดวเิ คราะห์ แก้ปัญหา และมีเหตุผล
๒. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจสงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อมทีม่ นษุ ยส์ ร้างข้นึ และ
สามารถนำทรัพยากรที่มอี ยูใ่ ช้อย่างจำกดั และไดป้ ระ โยชน์สูงสดุ และคุ้มคา่
๓. นำความรทู้ ไ่ี ด้ไปใช้ในชวี ติ ประจำวันอยา่ งสร้างสรรค์
๔. มีเจตคติทด่ี ี ตระหนักถงึ คุณค่าและความสำคัญของส่งิ แวดล้อม

รวมทงั้ หมด ๔ ผลการเรยี นรู้

223

คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ

ส ๓๒๒๔๔ เศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษาและวฒั นธรรมศาสนา
ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต

ศึกษา ฝึกปฏิบัติทักษะกระบวนการ ทฤษฎีเศร ษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ระบบเศรษฐกิจ
ตามแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั นำแนวคดิ กระบวนการมาใชใ้ นการดำเนินชีวิตในด้าน
ต่าง ๆ ศึกษาวิธีการดำนินชีวิตตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ศึกษารายได้เศรษฐกิจของประชากรในท้องถ่ิน
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางนำไปดำเนินชีวิตประจำวันโดยจัด
ประสบการณ์ ศึกษา สร้างสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่ใกลต้ ัวผู้เรียน สืบคั้นข้อมูลจากขา่ วสารสารสนเทศ
จากแหล่งเรียนรูใ้ นท้องถิ่นชุมชนที่อยูใ่ กล้ตัว โดยการฝึกปฏบิ ัติจริง ทคลอง สรุป รายงาน เพื่อพฒั นาทักษะ
กระบวนการคิดวิเคราะห์ การแก้ปญั หา การใชเ้ หตผุ ล การเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และนำประสบการณ์
ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจำวันอย่าง
สร้างสรรค์ รวมท้งั เห็นคณุ คา่ และมเี จตคตทิ ี่ดตี อ่ วชิ าเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ สามารถทำงาน
อย่างเปน็ ระบบเปน็ ระเบยี บ มคี วามรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและมคี วามเช่อื มนั่ ในตนเอง
ประพฤตแิ ละปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมืองดใี นสังคมและประเทศชาติ

ผลการเรยี นรู้
๑. มที ักษะกระบวนการในการคิดวเิ คราะห์ แกป้ ัญหา และมเี หตผุ ล
๒. นำความรูท้ ไ่ี ดไ้ ปใช้ในชีวติ ประจำวันอยา่ งสรา้ งสรรค์
๓. มีเจตคตทิ ด่ี ตี ่อการดำรงชีวติ ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำรฯิ

รวมทง้ั หมด ๓ ผลการเรยี นรู้

224

คำอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เตมิ

ส ๓๒๒๔๕ เศรษฐศาสตรจ์ ลุ ภาค กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษาและวัฒนธรรมศาสนา
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๒๐ ชั่วโมง ๐.๕ หน่วยกิต

ศึกษา วิเคราะห์การบรหิ ารจัดการทรัพยากร ธรรมชาตทิ ่มี ีอยู่ในประเทศไทย กระบวนการดา้ นการผลิต
การบริโภค กฎอปุ สงค์ อุปทาน กฎหมายเกยี่ วกบั แรงงานและกฎหมายเกยี่ วกับคมุ้ ครองผูบ้ ริ โภค บทบาทและ
สทิ ธขิ องผผู้ ลติ ผบู้ ริ โภคและขอบเขตของกฎหมาย บทบาทภาครัฐ ในการบริหารจดั การด้านเศ ษฐกิบทบาท
ภาคเอกชนในการพฒั นาเศรษฐกิจ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติตระหนกั ในความสำคัญและความ
จำเป็นในการนำหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในสังคมไทย แนวทางการประยุกตใ์ ชใ้ หส้ อดคลอ้ งกับุคคล
ในสาขาอาชีพต่าง ๆเข้าใจและตระหนักในความสำคัญและความเหมาะสมในการนำระบบสหกรณ์มาใช้ใน
สังคมที่หลากหลายมีคุณสมบัติการเป็นสมาชกิ ที่ดีของสหกรณ์รวมและพัฒนาระบบสหกรณ์ใหเ้ จริญก้าวหนา้
มั่นคงเข้มแขง็ เขา้ ใจระบบสหกรณ์กับการแก้ปัญหาเศรษฐกจิ ของชุมชน และเสนอแนวทางแกป้ ัญหาเศรษฐกิจ
ในชุมชนภายใต้การดำเนินงานของสหกรณ์โดยจัดประสบการณ์ ศึกษา สร้างสถานการณใ์ นชีวิตประจำวันท่ี
ใกล้ตัวผู้เรียน สืบค้นข้อมูลจากข่าวสารสารสนเทศ จากแหล่งเรียนรู้ในท้องถ่ินชมุ ชนทีอ่ ยู่ใกล้ตัว โดยการฝกึ
ปฏิบัติจรงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การแก้ปญั หา การใช้เหตุผล การ
เสรมิ สรา้ งคุณธรรม จริยธรรม และนำประสบการณ์ดา้ นความรู้ ความคิด ทกั ษะกระบวนการทไี่ ด้ไปใช้ในการ
เรยี นรสู้ งิ่ ต่าง ๆ และใช้ในชีวติ ประจำวนั อย่างสร้างสรรค์ รวมทง้ั เห็นคณุ คา่ และมีเจตคติที่ดีตอ่ วชิ เศรษฐศาสตร์
จุลภาค สามารถทำงานอย่างเป็นระบบ ระเบียบ มีวินัย เสียสละมีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบมี
วิจารณญาณและมคี วามเชอ่ื ม่นั ในตนเอง ประพฤติ และปฏิบัติตนเปน็ พลเมอื งดีในสงั คมและประเทศชาติ

ผลการเรยี นรู้
๑. มที กั ษะกระบวนการในการคดิ วิเคราะห์ แก้ปญั หา และมีเหตผุ ล
๒. มคี วามรู้ ความเข้าใจและนำความรดู้ ้านการผลติ การจำหน่าย การบริการ การจดั สรร
ทรัพยากรทม่ี ีอยมู่ าใช้ในการดำเนินชวี ติ โดยยดึ หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง สามารถนำระบบ
สหกรณ์มาใช้ในการแก้ปญั หาเศรษฐกิจชมุ ชนท้องถน่ิ
๓. นำความรทู้ ไ่ี ด้ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์
๔. มีเจตคติทด่ี ีต่อการเรยี นรวู้ ิชาเศรษฐศาสตรจ์ ลุ ภาค
รวมท้ังหมด ๔ ผลการเรยี นรู้

225

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ

ส๓๓๒๔๓ ประชากรกับคณุ ภาพชีวิต กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษาและวัฒนธรรมศาสนา

ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๖ ภาคเรยี นท่ี ๑ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หน่วยกติ

ศกึ ษา ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาวะประชากร ทรัพยากร และส่ิงแวดล้อมกับคุณภาพชวี ิต
สาเหตุ ผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และแนวทางแก้ไขปัญหาสังคมที่สำคัญๆ โดยเน้นปัญหาสุขภาพอนามัย
ปัญหาการประกอบอาชีพ ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสิ่งเสพย์ติดให้โทษ ปัญหาการขาดแคลนท รัพยากร
ปัญหาความไม่สมดุลระหวา่ งจำนวนประชากรและทรัพยากรปัญหาสุขภาพอนามยั ปญั หาการประกอบอาชีพ
ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาสิ่งเสพย์ติดใหโ้ ทษ ปัญหาการขาดแคลนทรัพยากร ปัญหาความไม่สมดลุ ระหว่าง
จำนวนประชากรและทรัพยากร

โดยใช้การวิเคราะห์ อธบิ าย และสรุปรายงานในปัญหาของประชากรท่มี ผี ลกระทบต่อคุณภาพ
ชีวติ เหน็ แนวทางในการรว่ มมือกันแก้ไขปญั หาสังคม และพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต
เพือ่ นาไปใช้ในปัญหาของประชากรทม่ี ีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต เหน็ แนวทางในการร่วมมือกันแก้ไข ปัญหา
สงั คม และพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ มีคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสนา กษัตริย์ ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มีวินัย
ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง มุง่ มนั่ ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ติ สาธารณะ

ผลการเรียนรู้
๑. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่างภาวะประชากร ทรพั ยากร และสิ่งแวดล้อมกบั คณุ ภาพชวี ิต
๒. วิเคราะหส์ าเหตุและผลกระทบตอ่ คณุ ภาพชีวิตปัญหาสงั คมทสี่ ำคัญๆ
๓. วิเคราะห์ปัญหาสขุ ภาพอนามยั ปัญหาการประกอบอาชีพ ปญั หาอาชญากรรม
๔. สรุปปัญหาสิ่งเสพยต์ ดิ ให้โทษ ปญั หาการขาดแคลนทรพั ยากร
๕. วเิ คราะหป์ ัญหาความไมส่ มดุลระหว่างจานวนประชากรและทรัพยากร

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรยี นรู้

226

คำอธบิ ายรายวิชาเพม่ิ เตมิ

ส ๓๓๒๔๔ ภูมิปญั ญาในทอ้ งถิ่น กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษาและวฒั นธรรมศาสนา
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ ภาคเรยี นที่ ๒ จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง ๐.๕ หนว่ ยกติ

ศกึ ษา วเิ คราะห์ลักษณะความเป็นมาของภมู ิปัญญาไทยจากอดีตสู่ปัจจุบนั ภูมปิ ัญญาในด้านการแพทย์
การอาหาร การก่อสร้าง งานศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรมประเพณี ความเป็นไทย รายได้
จากอาชีพพืน้ ฐานดง่ั เดิมของชาวไทยในอดตี และการนำภูมิปัญญาไทยมาใช้ในการดำเนนิ การ อนุรักษ์ช่วยกัน
รักษภูมปิ ัญญาไทยเขา้ ใจตระหนกั ในความสำกัญ ความหมาย ความเป็นมาของภูมปิ ญั ญาไทยในดา้ นตา่ ง ๆ นำ
ภมู ปิ ญั ญาไทยมาพัฒนาเป็นอาชีพที่ม่นั คงและมรี ายได้ตลอดทง้ั ปีโดยจดั ประสบการณ์ ศกึ ษา สรา้ งสถานการณ์
ในชีวิตประจำวนั ทีใ่ กลต้ ัวผู้เรียน สืบต้นข้อมลู จากข่าวสารสารสนเทศ จากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นชมุ ชนทีอ่ ยู่
ใกลต้ ัว โดยการฝึกปฏิบตั จิ ริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ การแก้ปัญหา
การใช้เหตุผล การเสริมสร้างคุณธรรม จรยิ ธรรม และนำประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการ
ท่ีไดไ้ ปใชใ้ นการเรยี นรู้สิ่งต่าง ๆ และใชใ้ นชีวิตประจำวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์ รวมทง้ั เห็นคุณคา่ และมีเจตคติท่ีดีต่อ
ภูมิปัญญาไทยในท้องถิ่น สามารถทำงานอย่างเป็นระบบเป็นระเบียบ มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบ มี
วจิ ารณญาณและมีความเชือ่ ม่นั ในตนเอง ประพฤตแิ ละปฏิบัติตนเปน็ พลเมอื งดี ในสังคมและประเทศชาติ

ผลการเรยี นรู้
๑. มีทกั ษะกระบวนการในการคดิ วเิ คราะห์ แกป้ ญั หา และมเี หตผุ ล
๒. ศึกษาเรียนรู้ ภูมิปญั ญาไทยในด้านตา่ ง ๆ นำภมู ิปัญญาไทยมาปรบั ปรงุ เพม่ิ เติมและ
อนุรกั ษ์รกั ษาภูมปิ ญั ญาไทย และนำมาใช้ในการดำเนนิ ชวี ติ มาประกอบอาชีพ
๓. นำความรู้ทไ่ี ดไ้ ปใช้ในชีวิตประจำวนั อยา่ งสร้างสรรค์
๔. มเี จตคติท่ดี ตี ่อภูมิปญั ญาไทย
รวมทง้ั หมด ๔ ผลการเรียนรู้

227

กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพล
ศึกษา

228

กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนต้น รายวิชาพน้ื ฐาน

พ๒๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๑ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พ๒๑๑๐๒ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๒ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พ๒๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๓ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พ๒๒๑๐๒ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๔ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พ๒๓๑๐๑ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๕ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พ๒๓๑๐๒ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๖ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาตอนต้น รายวิชาเพ่ิมเติม

พ๒๑๒๐๓ เปตอง จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย
กติ

พ๒๑๒๐๔ หมำกรุกไทย จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย
กติ

พ๒๒๒๐๓ เทเบลิ เทนนิส จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย
กติ

พ๒๒๒๐๔ แบดมนิ ตนั จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕หน่วย
กติ

พ๒๓๒๐๓ ฟุตบอล จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน๐.๕ หน่วย
กติ

พ๒๓๒๐๔ ฟุตซอล จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕หน่วย
กติ

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวิชาพื้นฐาน

229

พ๓๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๑ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย
กติ

พ๓๑๑๐๒ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๒ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย
กติ

พ๓๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๓ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย
กติ

พ๓๒๑๐๒ สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๔ จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง จำนวน ๐.๕ หน่วย
กติ

พ๓๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ๕ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วย
กติ

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รายวิชาเพิ่มเติม

พ๓๑๒๐๓ เปตอง จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พ๓๑๒๐๔ เทเบลิ เทนนสิ จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐หน่วยกติ

พ๓๒๒๐๓ ฟตุ ซอล จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พ๓๒๒๐๔ ฟุตบอล จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

๓๓๒๐๓ วอลเลยบ์ อล จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

พ๓๓๒๐๔ แบดมนิ ตนั จำนวน ๔๐ ชวั่ โมง จำนวน ๑.๐ หน่วยกติ

230

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหสั วิชา พ๒๑๑๐๑ ชื่อวิชา สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๑ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพล
ศกึ ษา

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

อธบิ ำยควำมสำคญั ของระบบประสำทและระบบตอ่ มไรท้ ่อทมี่ ผี ลต่อสขุ ภำพ กำร
เจรญิ เตบิ โต และพฒั นำกำรของวยั รุ่น รวมทงั้ วธิ กี ำรรกั ษำระบบประสำทและระบบตอ่ มไรท้ ่อใหท้ ำงำน
ตำมปกตวิ เิ ครำะหภ์ ำวกำรณเ์ จรญิ เตบิ โตทำงดำ้ นร่ำงกำยของตนเองกบั เกณฑม์ ำตรฐำน แสวงหำ
แนวทำงในกำรพฒั นำตนเองใหเ้ จรญิ เตบิ โตสมวยั อธบิ ำยกำรปรบั ตวั ตวั ต่อกำรเปลย่ี นแปลงทำงดำ้ น
รำ่ งกำย จติ ใจอำรมณ์ และพฒั นำกำรทำงเพศอย่ำงเหมำะสม แสดงทกั ษะปฏเิ สธเพอ่ื ป้องกนั ตนเองจำก
กำรถกู ลว่ งละเมดิ ทำงเพศ เลอื กกนิ อำหำรทเี่ หมำะสมกบั วยั วเิ ครำะหป์ ัญหำทเ่ี กดิ จำกภำวะโภชนำกำรท่ี
มผี ลกระทบต่อสุขภำพควบคมุ น้ำหนักตนเองใหอ้ ยู่ในเกณฑม์ ำตรฐำน สรำ้ งเสรมิ และปรบั ปรงุ
สมรรถภำพทำงกำยตำมผลกำรทดสอบพฒั นำทกั ษะกลไกและทกั ษะพน้ื ฐำน เขำ้ ร่วมกจิ กรรม
นันทนำกำรและนำควำมรูแ้ ละหลกั กำรทไ่ี ดร้ บั ไปปรบั เชอ่ื มโยงสมั พนั ธ์กบั วชิ ำอน่ื อธบิ ำยควำมสำคญั
ของกำรออกกำลงั กำยและกำรเล่นกฬี ำทชี่ อบ ประเมนิ กำรเลน่ ของตนเองและผอู้ ่นื ไดโ้ ดยใชก้ ระบวนกำร

231

จดั กำรเรยี นรูแ้ บบกระบวนกำรกลมุ่ กระบวนกำรสบื คน้ ขอ้ มูล กำรคดิ วเิ ครำะหแ์ ละกำรอภปิ รำยเพ่อื ให้
เกดิ ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ สำนกึ ในคุณค่ำและศกั ยภำพของตนเอง สำมำรถส่อื สำรสงิ่ ทเี่ รยี นรูแ้ ละนำ
ประสบกำรณ์ไปปรบั ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ ในกำรดำเนินชวี ติ
มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชี้วดั
พ ๑.๑ (ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔)
พ ๑.๒ (ม.๑/๒,ม.๑/๓)
พ ๓.๑ (ม.๑/๑,ม.๑/๒)
พ ๓.๒ (ม.๑/๑,ม.๑/๒)
พ ๔.๑ (ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔)
รวม ๑๔ ตวั ชีว้ ดั

คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน

รหสั วิชา พ๒๑๑๐๒ ช่ือวิชา สุขศกึ ษาและพลศึกษา ๒ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพล
ศึกษา

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

อธบิ ำยวเิ ครำะห์ กำรแสดงวธิ ปี ฐมพยำบำลและเคล่อื นยำ้ ยผปู้ ่วยอย่ำงปลอดภยั ลกั ษณะ
อำกำรของผตู้ ดิ สำรเสพตดิ และกำรป้องกนั กำรตดิ สำรเสพตดิ ควำมสมั พนั ธ์ของกำรใชส้ ำรเสพตดิ กบั
กำรเกดิ โรคและอุบตั เิ หตุ แสดงวธิ กี ำรชกั ชวนผอู้ น่ื ใหล้ ด ละ เลกิ สำรเสพตดิ พฒั นำกำรทกั ษะกลไกและ
ทกั ษะพน้ื ฐำน เล่นกฬี ำไทยและกฬี ำสำกล อธบิ ำยควำมสำคญั ของกำรออกกำลงั กำยและกำรเลน่ กฬี ำที่
ชอบ ประเมนิ กำรเลน่ ของตนเองและผอู้ ่นื ได้ ปฏบิ ตั ติ ำม กฎ กตกิ ำ และขอ้ ตกลงของเกมและชนิดกฬี ำท่ี

232

เลอื กเลน่ วำงแผนและปฏบิ ตั ติ ำมโดยวธิ กี ำรรกุ และป้องกนั ไปใชใ้ นกำรเล่นกีฬำอยำ่ งเป็นระบบ ใหค้ วำม
รว่ มมอื ในกำรเล่นกฬี ำ และกำรทำงำนเป็นทมี วเิ ครำะหเ์ ปรยี บเทยี บและยอมรบั ควำมแตกต่ำงระหว่ำง
วธิ กี ำรเลน่ กฬี ำของตนเองและผอู้ ่นื โดยใชก้ ระบวนกำรจดั กำรเรยี นรูแ้ บบกระบวนกำรกลุม่ กระบวนกำร
สบื คน้ ขอ้ มลู กำรคดิ วเิ ครำะหแ์ ละกำรอภปิ รำยเพ่อื ใหเ้ กดิ ควำมรู้ ควำมเข้ำใจ สำนกึ ในคณุ ค่ำและ
ศกั ยภำพของตนเอง สำมำรถส่อื สำรสงิ่ ทเ่ี รยี นรูแ้ ละนำประสบกำรณไ์ ปปรบั ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ ใน
กำรดำเนนิ ชวี ติ
มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชี้วดั
พ ๕.๑ (ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔)
พ ๓.๑ (ม.๑/๑,ม.๑/๒)
พ ๓.๑ (ม.๑/๑,ม.๑/๒,ม.๑/๓,ม.๑/๔,ม.๑/๕,ม.๑/๖)
รวม ๑๒ ตวั ชี้วดั

คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน
รหสั วิชา พ๒๒๑๐๑ ชื่อวิชา สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ๓ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพล
ศกึ ษา

233

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษำวเิ ครำะหแ์ ละอธบิ ำยเกย่ี วกบั กำรเปลยี่ นแปลงทำงดำ้ นรำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์
สงั คม และสตปิ ัญญำในวยั รุ่น ปัจจยั ทม่ี ผี ลกระทบตอ่ กำรเจรญิ เตบิ โตและพฒั นำกำรทำงดำ้ นรำ่ งกำย
จติ ใจ อำรมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญำในวยั รุ่น ปัจจยั ทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ เจตคตใิ นเร่อื งเพศ ปัญหำและ
ผลกระทบทเี่ กดิ จำกกำรมเี พศสมั พนั ธใ์ นวยั เรยี น วธิ ปี ้องกนั ตนเองและหลกี เลย่ี งจำกโรคตดิ ตอ่ ทำง
เพศสมั พนั ธ์ เอดส์ และกำรตงั้ ครรภ์ไมพ่ งึ ประสงค์ ควำมสำคญั ของควำมเสมอภำคทำงเพศ และวำงตวั
ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ควำมสมั พนั ธข์ องภำวะสมดุลระหว่ำงสขุ ภำพกำยและสุขภำพจติ พฒั นำสมรรถภำพ
ทำงกำยตนเองใหเ้ ป็นไปตำมเกณฑท์ กี่ ำหนดลกั ษณะอำกำรเบ้อื งตน้ ของผมู้ ปี ัญหำสขุ ภำพจติ วธิ ปี ฏบิ ตั ิ
ตนเพอ่ื จดั กำรกบั อำรมณ์และควำมเครยี ดปฏบิ ตั ติ นเกย่ี วกบั กลไกและกำรเคลอ่ื นไหวในกำรเล่นกฬี ำจำก
แหล่งขอ้ มลู ทห่ี ลำกหลำย สมำรถปฏบิ ตั ิทกั ษะไดจ้ รงิ เล่นกฬี ำไทยและกฬี ำสำกลตำมชนดิ ทเี่ ลอื กไดท้ งั้
ประเภทบคุ คลและประเภททมี เปรยี บเทยี บประสทิ ธภิ ำพของรปู แบบกำรเคลอ่ื นไหวทสี่ ่งผลตอ่ กำรเลน่
กฬี ำและกจิ กรรมในชวี ติ ประจำวนั เขำ้ ร่วมกจิ กรรมนนั ทนำกำรและนำควำมรูแ้ ละหลกั กำรไปปรบั ใชใ้ น
ชวี ติ ประจำวนั อธบิ ำยสำเหตกุ ำรเปลย่ี นแปลงและปฏบิ ตั กิ ำรออกกำลงั กำยและกำรเล่นกฬี ำใน
ชวี ติ ประจำวนั เพอ่ื เขำ้ ร่วมกจิ กรรมกำรออกกำลงั กำยเลน่ กฬี ำไทยและกฬี ำสำกลประเภทบุคคลและ
ประเภททมี วิเครำะหค์ วำมแตกต่ำงระหวำ่ งบคุ คลเพ่อื เป็นแนวทำงในกำรพฒั นำตนเอง ปฏบิ ตั ติ ำมกฎ
กตกิ ำ และขอ้ ตกลงในกำรเลน่ กฬี ำและมวี นิ ัยในกำรฝึกฝน วำงแผนกำรลกุ และกำรป้องกนั ในกำรเลน่
กฬี ำรวมทงั้ ใหค้ วำมร่วมมอื ในกำรเล่นกำรแข่งขนั กฬี ำ และกำรทำงำนเป็นทมี พฒั นำวธิ กี ำรเล่นกฬี ำท่ี
เหมำะสมกบั ตนเองรวมทงั้ สรำ้ งแรงจูงใจ และควำมมงุ่ มนั่ ในกำรเล่นและแข่งขนั กฬี ำโดยใชก้ ระบวนกำร
เรยี นรูแ้ บบร่วมมอื คดิ วเิ ครำะหส์ งั เครำะหอ์ ภปิ รำย สบื คน้ ขอ้ มลู ตงั้ คำถำม และกำรเผชญิ สถำนกำรณ์
และกำรแก้ไขปัญหำ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ควำมรูค้ วำมเข้ำใจ มเี จตคตแิ ละค่ำนยิ มทถ่ี ูกตอ้ งในกำรเสรมิ สรำ้ ง
สขุ ภำพและพฒั นำคุณภำพชวี ติ อย่ำงยงั่ ยนื รวมถงึ สำมำรถนำควำมรูต้ ลอดประสบกำรณท์ ไ่ี ดไ้ ปปรบั ใช้
ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุดในกำรดำเนินชวี ติ

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั

พ ๑.๑ (ม.๒/๑,ม.๒/๒,)

พ ๒.๑ (ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔)
พ ๓.๑ (ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔)
พ ๓.๒ (ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔,ม.๒/๕)
พ ๔.๑ (ม.๒/๔,ม.๒/๕,ม.๒/๖,ม.๒/๗)

รวม ๑๙ ตวั ชีว้ ดั

234

คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

รหสั วิชา พ๒๒๑๐๒ ช่ือวิชา สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ๔ กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพล
ศึกษา

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษำวเิ ครำะห์ และอธบิ ำยเลอื กใชบ้ รกิ ำรสำธำรณสขุ อย่ำงมเี หตผุ ล ผลของกำรใช้
เทคโนโลยแี ละกำรเจรญิ ก้ำวหนำ้ ทำงกำรแพทยท์ มี่ ตี อ่ สุขภำพ วธิ กี ำร ปัจจยั และแหล่งทช่ี ว่ ยเหลือฟ้ืนฟู
ผตู้ ดิ สำรเสพตดิ วธิ กี ำรหลกี เลยี่ งพฤตกิ รรมเสย่ี งและสถำนกำรณเ์ สย่ี ง ใชท้ กั ษะชวี ติ ในกำรป้องกนั ตนเอง
และหลกี เลยี่ งสถำนกำรณค์ บั ขนั ทอี่ ำจนำไปส่อู นั ตรำยนำผลกำรปฏบิ ตั ติ นเก่ยี วกบั ทกั ษะกลไกและทกั ษะ
กำรเคลอ่ื นไหวในกำรเล่นกฬี ำจำกแหลง่ ขอ้ มลู ทหี่ ลำกหลำยมำสรุปเป็นวธิ ที เี่ หมำะสมในบรบิ ทของ
ตนเองเลน่ กฬี ำไทยและกฬี ำสำกลทงั้ ประเภทบุคคลและทมี เปรยี บเทยี บประสทิ ธภิ ำพของรปู แบบกำร
เคล่อื นไหวทสี่ ง่ ผลต่อกำรเลน่ กฬี ำและกจิ กรรมในชวี ติ ประจำวนั รว่ มกจิ กรรมนนั ทนำกำรและนำควำมรู้
และหลกั กำรทไ่ี ดไ้ ปปรบั ใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่ำงเป็นระบบ อธบิ ำยสำเหตุกำรเปลยี่ นแปลงทำงกำย
จติ ใจ อำรมณ์ สงั คม และสตปิ ัญญำทเี่ กดิ จำกกำรออกกำลงั กำยและเลน่ กฬี ำเป็นประจำจนเป็นวถิ ชี วี ิต
เลอื กเขำ้ รว่ มกจิ กรรมกำรออกกำลงั กำยเล่นกฬี ำตำมควำมถนดั และควำมสนใจ พรอ้ มทงั้ วเิ ครำะหค์ วำม
แตกตำ่ งระกว่ำงบุคคลเพอ่ื เป็นแนวทำงในกำรพฒั นำตนเอง มวี นิ ยั ปฏบิ ตั ติ ำมกฎ กตกิ ำ และขอ้ ตกลง
ในกำรเลน่ กฬี ำทเี่ ลอื ก วำงแผนกำรรกุ และกำรป้องกนั ในกำรเล่นกฬี ำทเ่ี ลอื กและนำไปใชใ้ นกำรเล่นอย่ำง
เหมำะสมกบั ทมี นำผลกำรปฏบิ ตั ใิ นกำรเล่นกฬี ำมำสรุปเป็นวธิ ที เ่ี หมำะสมกบั ตนเองดว้ ยควำมมุง่ มนั่ โดย
ใชก้ ระบวนกำรเรยี นรูแ้ บบรว่ มมอื คดิ วเิ ครำะหส์ งั เครำะหอ์ ภปิ รำย สบื คน้ ขอ้ มูล ตงั้ คำถำม และกำร
เผชญิ สถำนกำรณ์และกำรแกไ้ ขปัญหำเพอ่ื ให้เกดิ ควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจ มเี จตคตแิ ละค่ำนยิ มทถี่ กู ตอ้ งใน
กำรเสรมิ สรำ้ งสุขภำพและพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ อย่ำงยงั่ ยนื รวมถงึ สำมำรถนำควำมรูต้ ลอดจน
ประสบกำรณท์ ไ่ี ดไ้ ปปรบั ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ ในกำรดำเนนิ ชวี ติ

มาตรฐานการเรียนร้แู ละตวั ชี้วดั

พ ๔.๑ (ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓)

พ ๓.๑ (ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔)

พ ๓.๒ (ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓,ม.๒/๔,ม.๒/๕)

พ ๕.๑ (ม.๒/๑,ม.๒/๒,ม.๒/๓)

รวม ๑๕ ตวั ชี้วดั

235

คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน

รหสั วิชา พ๒๓๑๐๑ ชื่อวิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ๕ กล่มุ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพล
ศึกษา

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษำอธบิ ำย วเิ ครำะห์ เปรยี บเทยี บกำรเปลย่ี นแปลงทำงดำ้ นรำ่ งกำย จติ ใจ อำรมณ์
สงั คม และสตปิ ัญญำแต่ละชว่ งของชวี ติ อทิ ธพิ ลและควำมคำดหวงั ของสงั คมตอ่ กำรเปลย่ี นแปลงของ
วยั รนุ่ สอ่ื โฆษณำ ทมี่ อี ทิ ธพิ ลต่อกำรเจรญิ เตบิ โตและพฒั นำกำรของวยั ร่นุ อนำมยั แม่และเดก็ กำร
วำงแผนครอบครวั และวธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นทเี่ หมำะสม ปัจจยั ท่มี ผี ลกระทบตอ่ กำรตงั้ ครรภ์ สำเหตแุ ละเสนอ
แนวทำงป้องกนั แกไ้ ขควำมขดั แยง้ ในครอบครวั กำหนดรำยกำรอำหำรทเี่ หมำะสมกบั วยั ตำ่ ง ๆ โดย
คำนึงถงึ ควำมประหยดั และคุณคำ่ ทำงโภชนำกำรเลน่ กฬี ำไทยและกฬี ำสำกลโดยใชเ้ ทคนิคทเ่ี หมำะสม
กบั ตนเองและทมี นำหลกั กำร ควำมรู้ และทกั ษะในกำรเคล่อื นไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และ
กำรเลน่ กฬี ำไปกำหนดเป็นระบบสรำ้ งเสรมิ สุขภำพอยำ่ งต่อเน่อื ง ควำมรูแ้ ละวธิ กี ำรจดั กจิ กรรม
นันทนำกำรไปขยำยผลกำรเรยี นรูใ้ หก้ บั ผอู้ ่นื แสดงออกถงึ กำรมมี ำรยำทและมนี ้ำใจนกั กฬี ำในขณะเลน่
และดูกฬี ำ กำรนำประสบกำรณ์ แนวคดิ จำกกำรออกกำลงั และเล่นกฬี ำอย่ำงสม่ำเสมอไปประยุกต์ใชใ้ น
กำรพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ ปฏบิ ตั ติ นตำมกฎ กตกิ ำและขอ้ ตกลงในกำรเลน่ กฬี ำประยกุ ต์ประสบกำรณ์จำก
กำรปฏบิ ตั ติ ำมกฎ กตกิ ำและขอ้ ตกลงไปพฒั นำคุณภำพชวี ติ ของตน จำแนกกลวธิ กี ำรรุกกำรป้องกนั และ
นำไปใชใ้ นกำรเลน่ กฬี ำไดต้ ำมสถำนกำรณข์ องกำรเลน่ ตดั สนิ ใจเลอื กวธิ ที เ่ี หมำะสมกบั ทมี นำเสนอผล
กำรพฒั นำสขุ ภำพทเ่ี กดิ จำกกำรออกกำลงั กำยและเล่นกฬี ำเป็นประจำโดยใชก้ ระบวนกำรเรยี นรูแ้ บบ
รว่ มมอื คดิ วเิ ครำะหส์ งั เครำะหอ์ ภปิ รำย สบื คน้ ขอ้ มูล ตงั้ คำถำม และกำรเผชญิ สถำนกำรณแ์ ละกำรแกไ้ ข
ปัญหำเพ่อื ใหเ้ กดิ ควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจ มเี จตคตแิ ละค่ำนิยมทถ่ี กู ตอ้ งในกำรเสรมิ สรำ้ งสุขภำพและพฒั นำ
คุณภำพชวี ติ อย่ำงยงั่ ยนื รวมถงึ สำมำรถนำควำมรูต้ ลอดจนประสบกำรณท์ ไ่ี ดไ้ ปปรบั ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์
สูงสุดในกำรดำเนนิ ชวี ติ

มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั

236

พ ๑.๑ (ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓)
พ ๒.๑ (ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓)
พ ๓.๑ (ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓)
พ ๓.๒ (ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔,ม.๓/๕)
พ ๔.๑ (ม.๓/๑)
รวม ๑๕ ตวั ชี้วดั

คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน

รหสั วิชา พ๒๓๑๐๒ ชื่อวิชา สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ๖ กล่มุ สาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพล
ศึกษา

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษำวิเครำะหอ์ ธบิ ำยเสนอแนวทำงป้องกนั โรคทเี่ ป็นสำเหตสุ ำคญั ของกำรเจบ็ ป่วยและ
กำรตำยของคนไทย รวบรวมขอ้ มูลและเสนอแนวทำงแก้ไขปัญหำสุขภำพในชุมชน กำรพฒั นำ
สมรรถภำพทำงกำยเพอ่ื สุขภำพทดี่ ี ปัจจยั เสย่ี งและพฤตกิ รรมเสย่ี งทม่ี ผี ลต่อสขุ ภำพและแนวทำงป้องกนั
หลกี เลยี่ งกำรใชค้ วำมรุนแรงและชกั ชวนเพ่อื นใหห้ ลกี เลย่ี งกำรใชค้ วำมรุนแรงในกำรแก้ปัญหำ วเิ ครำะห์
อทิ ธพิ ลของส่อื ต่อพฤตกิ รรมสขุ ภำพและควำมรนุ แรง ควำมสมั พนั ธ์ของกำรด่มื เคร่อื งดม่ื แอลกอฮอลต์ อ่
สุขภำพและกำรเกดิ อุบตั เิ หตุ แสดงวธิ กี ำรชว่ ยฟ้ืนคนื ชพี อย่ำงถกู ต้องเลน่ กฬี ำไทยและกฬี ำสำกลโดยใช้
เทคนคิ ทเ่ี หมำะสมกบั ตนเองและทมี นำหลกั กำร ควำมรู้ และทกั ษะในกำรเคล่อื นไหว กจิ กรรมทำงกำย
กำรเลน่ เกม และกำรเล่นกฬี ำไปกำหนดเป็นระบบสรำ้ งเสรมิ สขุ ภำพอยำ่ งตอ่ เน่อื ง ควำมรูแ้ ละวธิ กี ำรจดั
กจิ กรรมนนั ทนำกำรไปขยำยผลกำรเรยี นรูใ้ หก้ บั ผอู้ น่ื แสดงออกถงึ กำรมมี ำรยำทและมนี ้ำใจนักกฬี ำ
ในขณะเลน่ และดูกฬี ำ กำรนำประสบกำรณ์ แนวคดิ จำกกำรออกกำลงั และเล่นกฬี ำอยำ่ งสม่ำเสมอไป
ประยุกต์ใชใ้ นกำรพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ ปฏบิ ตั ติ นตำมกฎ กตกิ ำและขอ้ ตกลงในกำรเล่นกฬี ำประยุกต์
ประสบกำรณจ์ ำกกำรปฏบิ ตั ติ ำมกฎ กตกิ ำและขอ้ ตกลงไปพฒั นำคุณภำพชวี ติ ของตน จำแนกกลวธิ กี ำร
รุกกำรป้องกนั และนำไปใชใ้ นกำรเล่นกฬี ำไดต้ ำมสถำนกำรณ์ของกำรเล่น ตดั สนิ ใจเลอื กวธิ ที เี่ หมำะสม
กบั ทมี นำเสนอผลกำรพฒั นำสุขภำพทเ่ี กดิ จำกกำรออกกำลงั กำยและเล่นกฬี ำเป็นประจำโดยใช้

237

กระบวนกำรเรยี นรูแ้ บบรว่ มมอื คดิ วเิ ครำะหส์ งั เครำะหอ์ ภิปรำย สบื คน้ ขอ้ มูล ตงั้ คำถำม และกำรเผชญิ
สถำนกำรณ์และกำรแก้ไขปัญหำเพอ่ื ใหเ้ กดิ ควำมรูค้ วำมเข้ำใจ มเี จตคตแิ ละคำ่ นิยมทถี่ กู ตอ้ งในกำร
เสรมิ สรำ้ งสุขภำพและพฒั นำคณุ ภำพชวี ติ อยำ่ งยงั่ ยนื รวมถงึ สำมำรถนำควำมรูต้ ลอดจนประสบกำรณท์ ่ี
ไดไ้ ปปรบั ใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ ในกำรดำเนินชวี ติ
มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตวั ชีว้ ดั

พ ๓.๑ (ม.๓/๑,ม.๓/๒)
พ ๓.๒ (ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔)
พ ๔/๑ (ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔,ม.๓/๕)
พ ๕.๑ (ม.๓/๑,ม.๓/๒,ม.๓/๓,ม.๓/๔,ม.๓/๕)
รวม ๑๕ ตวั ชี้วดั

238

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

รหสั วิชา พ๒๑๒๐๓ ชื่อวิชา เปตอง กลุม่ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำอธบิ ำยถงึ ควำมเป็นมำของกฬี ำเปตองได้ ลกั ษณะของอุปกรณท์ ใี่ ช่ในกำรเล่น
กฬี ำเปตองและกำรดูแลรกั ษำอปุ กรณ์ได้ แสดงทำ่ กำรจบั ลูกเปตองแบบตำ่ ง ๆ ไดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง อธบิ ำย
และสำมำรถปฏบิ ตั ทิ กั ษะขนั้ พน้ื ฐำนในกำรเล่นเปตองได้ รแู้ ละเขำ้ ใจกฎ กตกิ ำ มำรยำท ในกำรเลน่ และ
กำรรบั ชมกฬี ำเปตอง สำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมระเบยี บกำรเลน่ กำรแข่งขนั ของกฬี ำเปตองได้ นำควำมรูแ้ ละ
ทกั ษะทเ่ี รยี นไปใชใ้ นกำรแข่งขนั กฬี ำเปตองไดโ้ ดยใชก้ ระบวนกำรสบื คน้ กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ สบื คน้ ขอ้ มูล
เปรยี บเทยี บ สำรวจ วเิ ครำะหอ์ ภปิ รำยปฏบิ ตั ิ บอก ระบุ แสดง และกำรมสี ่วนรว่ มของผเู้ รยี น เพอ่ื เกดิ
ควำมรู้ เขำ้ ใจในกำรเลน่ กฬี ำเปตอง และกำรเสรมิ สรำ้ งสมรรถภำพทำงกำยเพ่อื ใหเ้ กดิ ควำมตระหนัก
และเหน็ คณุ คำ่ ของกำรออกกำลงั กำย โดยมงุ่ หวงั ใหม้ พี ฒั นำกำรทำงดำ้ นควำมรู้ ทกั ษะ กระบวนกำรคดิ
และกระบวนกำรตอบสนอง กำรเสรมิ สรำ้ งสมรรถภำพร่ำงกำยใหแ้ ขง็ แรงสมวยั เป็นผใู้ หญท่ มี่ สี ุขภำพดใี น
อนำคต

ผลการเรยี นรู้

๑. อธบิ ำยถงึ ควำมเป็นมำของกฬี ำเปตองได้
๒. ทกั ษะกำรเลน่ และกำรเคล่อื นไหวกฬี ำเปตอง
๓. รูข้ นั้ ตอนและสำมำรถปฏบิ ตั ทิ กั ษะกำรนงั่ เขำ้ ลกู ไดอ้ ยำ่ งถูกต้องและเหมำะสม
๔. รูข้ นั้ ตอนและสำมำรถปฏบิ ตั ทิ กั ษะกำรยนื เขำ้ ลูกไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและเหมำะสม
๕. รู้ เขำ้ ใจ และปฏบิ ตั ติ ำมกฎกตกิ ำกำรแข่งขนั กฬี ำฟุตซอลไดอ้ ย่ำงถูกตอ้ ง
๖. รู้ เขำ้ ใจ และปฏบิ ตั กิ ำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำยไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ ง

รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรียนรู้

239

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

รหสั วิชา พ๒๑๒๐๔ ชื่อวิชา หมากรกุ ไทย กลุ่มสาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพล
ศกึ ษา

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำอธบิ ำยถงึ ควำมเป็นมำของกฬี ำหมำกรกุ ไทยได้ ลกั ษณะของอุปกรณท์ ใ่ี ชใ่ นกำรเล่น
กฬี ำหมำกรกุ ไทยและกำรดูแลรกั ษำอปุ กรณไ์ ด้ หลกั กำรในกำรทำสมำธกิ อ่ นกำรเลน่ หมำกรกุ ไทย รูแ้ ละ
เขำ้ ใจขนั้ ตอนในกำรเลน่ และกำรเดนิ หมำก พฒั นำกระบวนกำรคดิ อย่ำงเป็นระบบ รูแ้ ละเขำ้ ใจกฎ กตกิ ำ
มำรยำท ในกำรเล่นและกำรรบั ชมกฬี ำหมำกรุกไทย สำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมระเบยี บกำรเล่น กำรแขง่ ขนั ของ
กฬี ำหมำกรกุ ไทยได้ นำควำมรูพ้ น้ื ฐำนในกำรเดนิ หมำกพน้ื ฐำน และกตกิ ำมำรยำท มำใชใ้ นกำรเล่น และ
กำรแขง่ ขนั ไดโ้ ดยใชก้ ระบวนกำรสบื คน้ กำรศกึ ษำคน้ ควำ้ สบื คน้ ขอ้ มลู เปรยี บเทยี บ สำรวจ วเิ ครำะห์
อภปิ รำยปฏบิ ตั ิ บอก ระบุ แสดง และกำรมสี ่วนรว่ มของผเู้ รยี น เพอ่ื เกดิ ควำมรู้ เขำ้ ใจในกำรเล่นกฬี ำ
หมำกรุกไทย และกรบวนกำรคดิ อย่ำงเป็นระบบเพอ่ื ใหเ้ กดิ ควำมตระหนกั และเหน็ คุณค่ำของกำรออก
กำลงั กำย โดยมุง่ หวงั ใหม้ พี ฒั นำกำรทำงดำ้ นควำมรู้ ทกั ษะ กระบวนกำรคดิ และกระบวนกำรตอบสนอง
กำรเสรมิ สรำ้ งสมรรถภำพรำ่ งกำยใหแ้ ขง็ แรงสมวยั เป็นผใู้ หญท่ ม่ี สี ขุ ภำพดใี นอนำคต

ผลการเรยี นรู้

๑. อธบิ ำยถงึ ควำมเป็นมำของกฬี ำหมำกรกุ ไทยได้
๒. อธบิ ำยลกั ษณะของอุปกรณท์ ใี่ ชใ่ นกำรเล่นกฬี ำหมำกรกุ ไทยและกำรดแู ลรกั ษำอปุ กรณ์ได้
๓. อธบิ ำยหลกั กำรในกำรทำสมำธกิ ่อนกำรเล่นหมำกรุกไทย
๔. รูแ้ ละเขำ้ ใจขนั้ ตอนในกำรเลน่ และกำรเดนิ หมำก
๕. รู้ เขำ้ ใจ กระบวนกำรในกำรรกุ และกำรบั
๖. รูแ้ ละเขำ้ ใจกฎ กตกิ ำ มำรยำท ในกำรเล่น และกำรรบั ชมกฬี ำหมำกรุกไทย
๗. สำมำรถปฏบิ ตั ติ ำมระเบยี บกำรเล่น กำรแข่งขนั ของกฬี ำหมำกรุกไทยได้
๘. นำควำมรูพ้ น้ื ฐำนในกำรเดนิ หมำกพน้ื ฐำน และกตกิ ำมำรยำท มำใชใ้ นกำรเลน่ และกำร

แขง่ ขนั ได้

รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรียนรู้

240

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

รหสั วิชา พ๒๒๒๐๓ ชื่อวิชา เทเบิลเทนนิส กลุม่ สาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพล
ศึกษา

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำควำมรูพ้ น้ื ฐำนเก่ยี วกบั ประวตั แิ ละประโยชน์ของกฬี ำเทเบลิ เทนนสิ กำรสง่ เสรมิ
รำ่ งกำยในกำรเลน่ กฬี ำเทเบลิ เทนนสิ ทกั ษะเบ้อื งต้นในกำรเล่นกฬี ำเทเบลิ เทนนิส กำรตลี กู กำรส่งลกู
กำรตบลูก กำรตลี ูกหยอด กำรตลี ูกพรอ้ ม กตกิ ำกำรแข่งขนั กำรเล่นเทเบลิ เทนนิส เพอ่ื กำรแข่งขนั และ
กำรทดสอสมรรถภำพทำงกำยเพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมที กั ษะในกำรเล่นกฬี ำเทเบลิ เทนนิส ทกั ษะพน้ื ฐำนในกำร
เลน่ กฬี ำเทเบลิ เทนนสิ ทกั ษะกำรส่งเสรมิ รำ่ งกำยในกำรเลน่ กฬี ำเทเบลิ เทนนสิ ทกั ษะเบ้อื งต้นในกำรเล่น
เทเบลิ เทนนิส ทกั ษะกำรตลี ูกทกั ษะกำรส่งลูก ทกั ษะกำรตบลกู ทกั ษะกำรตลี ูกหยอด ทกั ษะกำรตลี กู
พรอ้ ม กตกิ ำกำรแข่งขนั ทกั ษะกำรเลน่ เทเบลิ เทนนิสเพ่อื กำรแข่งขนั และกำรทดสอบสมรรถภำพทำง
กำยเพ่อื ใหน้ กั เรยี นมเี จตคตทิ ถี่ ูกต้องและเหมำะ เกย่ี วกบั กจิ กรรมกำรออกกำลงั กำยตำมควำมถนัดและ
ควำมสนใจ และนำทกั ษะกฬี ำเทเบลิ เทนนิสไปใชใ้ นกำรออกกำลงั กำย เพอ่ื พฒั นำบุคลกิ ภำพและ
สมรรถภำพต่อไป

ผลการเรียนรู้

๑. อธบิ ำยควำมรูเ้ บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั กฬี ำเทเบลิ เทนนิสได้
๒. มที กั ษะในกำรเลน่ และกำรเคลอ่ื นไหวในกฬี ำเทเบลิ เทนนสิ
๓. รูข้ นั้ ตอนและสำมำรถปฏบิ ตั เิ มอ่ื เป็นฝ่ำยรุกไดอ้ ย่ำงถกู ต้องและเหมำะสม
๔. รูข้ นั้ ตอนและสำมำรถปฏบิ ตั เิ ม่อื เป็นฝ่ำยรบั ไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งและเหมำะสมถ้ำ
๕. รูเ้ ขำ้ ใจ และปฏบิ ตั ติ ำมกตกิ ำกำรแขง่ ขนั กฬี ำเทเบลิ เทนนสิ ไดอ้ ย่ำงถูกต้อง
๖. รูเ้ ขำ้ ใจ และมที กั ษะในกำรเล่นเทเบลิ เทนนสิ เพอ่ื กำรแขง่ ขนั
๗. 7 รูเ้ ขำ้ ใจ และปฏบิ ตั กิ ำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำยไดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง

รวมทงั้ หมด ๗ ผลการเรียนรู้

241

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

รหสั วิชา พ๒๒๒๐๔ ช่ือวิชา แบดมินตนั กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพล
ศึกษา

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำควำมรูพ้ น้ื ฐำนเกย่ี วกบั ควำมรูเ้ บ้อื งต้นเก่ยี วกบั กฬี ำแบดมนิ ตนั กำรสรำ้ งเสรมิ
สมรรถภำพทำงร่ำงกำยสำหรบั กำรเล่นแบดมนิ ตนั ทกั ษะพน้ื ฐำนในกำรเล่นแบดมนิ ตนั กำรสง่ ลูก กำรตี
ลูกโด่ง กำรตลี ูกดำดกำรตลี ูกหยอด กำรตบลูก กตกิ ำกำรเลน่ แบดมนิ ตนั กำรเล่นแบดมนิ ตนั เพอ่ื กำร
แขง่ ขนั และกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำยเพ่อื ใหน้ กั เรยี นมที กั ษะในกำรเล่นกฬี ำแบดมนิ ตนั ทกั ษะ
พน้ื ฐำนในกำรเล่นกฬี ำแบดมนิ ตนั ทกั ษะกำรสง่ ลกู กำรตลี ูกโดง่ ทกั ษะกำรตลี กู ดำด ทกั ษะกำรตลี กู
หยอด ทกั ษะกำรตบลกู ทกั ษะกำรสรำ้ งเสรมิ สมรรถภำพทำงรำ่ งกำย สำหรบั กำรเล่นแบดมนิ ตนั กตกิ ำ
กำรเล่นแบดมนิ ตนั กำรเลน่ แบดมนิ ตนั เพอ่ื กำรแขง่ ขนั กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย และมคี วำม
เขำ้ ใจอธบิ ำยควำมรูพ้ น้ื ฐำนเก่ยี วกบั ควำมรูเ้ บอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั กฬี ำแบดมนิ ตนั ไดเ้ พอ่ื ใหน้ กั เรยี นมเี จตคตทิ ี่
ถูกตอ้ งและเหมำะสม เกย่ี วกบั กจิ กรรมกำรออกกำลงั กำยตำมควำมสนใจและนำทกั ษะกฬี ำแบดมนิ ตนั
ไปใชใ้ นกำรออกกำลงั กำยเพ่อื พฒั นำบคุ ลกิ ภำพและสมรรถภำพต่อไป

ผลการเรยี นรู้

๑. อธบิ ำยควำมรูเ้ บอ้ื งต้นเกย่ี วกบั กฬี ำแบดมนิ ตนั ได้
๒. เขำ้ ใจและสำมำรถปฏบิ ตั กิ ำรสรำ้ งเสรมิ สมรรถภำพทำงร่ำงกำยสำหรบั กำรเล่นแบดมนิ ตนั ได้
๓. มที กั ษะในกำรเลน่ และกำรเคลอ่ื นไหวในกฬี ำแบดมนิ ตนั

242

๔. รูข้ นั้ ตอนและสำมำรถปฏบิ ตั เิ ม่อื เป็นฝ่ำยรกุ ไดอ้ ยำ่ งถูกต้องและเหมำะสม
๕. รูข้ นั้ ตอนและสำมำรถปฏบิ ตั ิเม่อื เป็นฝ่ำยรบั ไดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ งและเหมำะสม
๖. รูเ้ ขำ้ ใจ และปฏบิ ตั ติ ำมกฎกตกิ ำกำรแข่งขนั แบดมนิ ตนั ไดอ้ ยำ่ งถกู ต้อง
๗. รูเ้ ขำ้ ใจ และมที กั ษะในกำรเล่นแบดมนิ ตนั เพอ่ื กำรแขง่ ขนั
๘. รูเ้ ขำ้ ใจ และปฏบิ ตั กิ ำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำยไดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ ง

รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

รหสั วิชา พ๒๓๒๐๓ ชื่อวิชา ฟุตซอล กลุ่มสาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำควำมรูแ้ ละควำมเขำ้ ใจพน้ื ฐำนเก่ยี วกบั กฬี ำฟุตซอล ประวตั คิ วำมเป็นมำและ
ประโยชน์ของกฬี ำฟุตซอล ควำมรูท้ วั่ ไปเก่ยี วกบั กฬี ำฟุตซอล ทกั ษะกำรเล่นกฬี ำฟตุ ซอล หลกั กำรรุก
หลกั กำรรบั กตกิ ำกำรแขง่ ขนั กฬี ำฟุตซอล และกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำยเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมที กั ษะ
ในกำรเลน่ กฬี ำฟตุ ซอล ทงั้ ควำมรูท้ วั่ ไปเก่ยี วกบั กฬี ำฟุตซอล ทกั ษะกำรเล่นกฬี ำฟุตซอล ทกั ษะกำรรกุ
ทกั ษะกำรรบั กตกิ ำกำรแขง่ ขนั กฬี ำฟตุ ซอล กำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย และมคี วำมเขำ้ ใจ สำมำรถ
อธบิ ำยถงึ ประวตั คิ วำมเป็นมำของกฬี ำฟุตซอลไดเ้ พอ่ื ใหน้ ักเรยี นมเี จตคตทิ ถี่ ูกตอ้ งและเหมำะสมเก่ยี วกบั
กจิ กรรมกำรออกกำลงั กำยตำมควำมถนัดและควำมสนใจ และนำทกั ษะกฬี ำฟตุ ซอลไปใชใ้ นกำรออก
กำลงั กำยเพอ่ื พฒั นำบุคลกิ ภำพลกั ษณะสภำพตอ่ ไป

ผลการเรียนรู้

๑. อธบิ ำยประวตั คิ วำมเป็นมำ ววิ ฒั นำกำร และประโยชน์ของกำรของกฬี ำฟุตซอล

243

๒. มที กั ษะในกำรเล่นและกำรเคลอ่ื นไหวในกฬี ำฟุตซอล
๓. รูข้ นั้ ตอนและสำมำรถปฏบิ ตั เิ มอ่ื เป็นฝ่ำยรุกไดอ้ ยำ่ งถกู ต้องและเหมำะสม
๔. รูข้ นั้ ตอนและสำมำรถปฏบิ ตั เิ มอ่ื เป็นฝ่ำยรบั ไดอ้ ย่ำงถูกต้องและเหมำะสม
๕. รู้ เขำ้ ใจ และปฏบิ ตั ติ ำมกฎกตกิ ำกำรแข่งขนั กฬี ำฟตุ ซอลไดอ้ ย่ำงถูกต้อง
๖. รู้ เขำ้ ใจ และปฏบิ ตั กิ ำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำยไดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ ง

รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

รหสั วิชา พ๒๓๒๐๔ ชื่อวิชา ฟุตบอล กลุม่ สาระการเรียนร้สู ุขศกึ ษาและพล
ศึกษา

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำควำมรูแ้ ละควำมเขำ้ ใจประวตั แิ ละควำมเป็นมำ ประโยชน์ของกฬี ำฟุตบอล
ควำมรูท้ วั่ ไปเกย่ี วกบั กฬี ำฟตุ บอล ทกั ษะกำรเล่นฟตุ บอล หลกั กำรรกุ หลกั กำรรบั กำรเลน่ แบบทมี แบบ
ต่ำง ๆ ระเบยี บขอ้ บงั คบั กตกิ ำทคี่ วรทรำบ คำศพั ทเ์ ฉพำะทใ่ี ชใ้ นกำรเลน่ กฬี ำฟุตบอล และกำรทดสอบ
สมรรถภำพทำงกำยเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมที กั ษะในกำรเล่นกฬี ำฟตุ บอล ทงั้ ประวตั คิ วำมเป็นมำและประโยชน์
ของกฬี ำฟุตบอลทกั ษะกำรเลน่ ฟุตบอล ทกั ษะกำรรกุ ทกั ษะกำรรบั ทกั ษะกำรเลน่ เป็นทมี แบบตำ่ ง ๆ
ระเบยี บขอ้ บงั คบั ทค่ี วรทรำบ คำศพั ท์เฉพำะทใี่ ชใ้ นกำรเล่นฟุตบอล และกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย


Click to View FlipBook Version