The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา-โรงเรียนสาธิตบุญเลิศวิทยา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Fangkamol Phetkliang, 2022-07-26 23:46:54

หลักสูตรสถานศึกษา-โรงเรียนสาธิตบุญเลิศวิทยา

หลักสูตรสถานศึกษา-โรงเรียนสาธิตบุญเลิศวิทยา

94

คาอธิบายรายวิชา

ท 30201 การเขียน 1 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษำกำรเขยี นรูปแบตำ่ งๆ และฝึกใชก้ ระบวนกำรเขยี นเพอ่ื พฒั นำกำรเขยี น มคี วำมรู้
พน้ื ฐำนทำงกำรเขยี น เขยี นจดหมำยส่อื สำรอยำ่ งมปี ระสทิ ธิภำพ เขยี นเรยี งควำม ยอ่ ควำม และเขยี น
เสนอเร่อื งรำวในรปู แบบตำ่ งๆ ได้ ตำมจุดประสงคข์ องกำรเขยี น เขยี นรำยงำนเชงิ วชิ ำกำรตำมขนั้ ตอน
และสำมำรถเขยี นรอ้ ยกรองอย่ำงง่ำยๆ ได้ ถูกต้องตำมฉันทลกั ษณ์

เพ่อื เพม่ิ พูนทกั ษะกำรเขยี นในรูปแบบต่ำงๆ สำมำรถเขยี นแสดงควำมตอ้ งกำร ควำมคดิ
และควำมรูส้ กึ ไดถ้ กู ต้องตำมมำรยำทและธรรมเนียมนยิ ม

ผลการเรยี นรู้
1. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจกระบวนกำรเขยี นในลกั ษณะตำ่ งๆ
2. เขยี นจดหมำยส่อื สำรได้
3. เขยี นเรยี งควำมยอ่ ควำมได้
4. เขยี นเร่อื งรำวในรปู แบบต่ำงๆ ได้

95

5. เขยี นรอ้ ยกรองอย่ำงง่ำยๆ ได้
รวมทงั้ หมด 5 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา

ท 30202 การเขยี น 2 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง / ภาคเรยี น จานวน 1 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษำกำรเขยี นรปู แบตำ่ งๆ ฝึกเขยี นบทสนทนำทแ่ี สดงอำรมณแ์ ละควำมรูส้ กึ ต่ำงๆ
โดยใชจ้ นิ ตนำกำรหรอื กำหนดสถำนกำรณ์ขน้ึ ฝึกเขียนบทควำมสนั้ ๆ แสดงควำมคดิ เหน็ หรอื อำจฝึก
เขยี นบรรยำยประสบกำรณพ์ รรณนำทศั นียภำพ หรอื อำจเขยี นในรปู แบบอ่นื ฝึกแต่งคำประพนั ธ์ตำม
ควำมคดิ และหวั ขอ้ ทกี่ ำหนดใหเ้ พอ่ื ใหเ้ ขยี นไดอ้ ยำ่ งมเี น้อื หำสำระน่ำอ่ำน ใชถ้ ้อยคำสำนวนสละสลวย
กอ่ ใหเ้ กดิ ควำมเพลดิ เพลนิ และช่วยพฒั นำควำมคดิ

เพ่อื ใหเ้ ขยี นไดอ้ ยำ่ งมเี น้อื หำสำระ น่ำอ่ำน ใชถ้ ้อยคำสำนวนสละสลวยกอ่ ให้เกดิ ควำม
เพลดิ เพลนิ และชว่ ยพฒั นำควำมคดิ

ผลการเรยี นรู้
1. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจกำรเขยี นบทสนทนำ กำรเขยี นบรรยำยประสบกำรณ์
2. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจกำรเขยี นบทประพนั ธ์ ประเภทกลอนสภุ ำพ

96

นกั เรยี นสำมำรถบอกหลกั เกณฑใ์ นกำรเขยี นทใี่ ชจ้ นิ ตนำกำรได้
4. นักเรยี นบอกหลกั เกณฑก์ ำรเขยี นบทควำมได้
5. นกั เรยี นสำมำรถเขยี นแสดงควำมคดิ เหน็ เก่ยี วกบั เร่อื งต่ำงๆได้
6. นกั เรยี นสำมำรถใชถ้ อ้ ยคำไดน้ ่ำอำ่ นขน้ึ

รวมทงั้ หมด 6 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา

ท30203 การพดู กล่มุ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษำหลกั กร วธิ กี ำรในกำรพุดในรปู แบบของกำรสนทนำ กำรสมั ภำษณ์ กำรพดู ในทป่ี ระชมุ
กำรอภปิ รำยในกลุม่ และในทปี่ ระชมุ และกำรอำ่ นในทปี่ ระชมุ ฟัง

ฝึกตงั้ คำถำมและแสดงควำมคดิ เหน็ เก่ยี วกบั เร่อื งทฟ่ี ังและดู มวี จิ ำรณญำณในกำรเลอื กเรอ่ื งท่ี
ฟังและดวู เิ ครำะหว์ ตั ถปุ ระสงค์ แนวคดิ กำรใชภ้ ำษำ ควำมน่ำเช่อื ถอื ของเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู ประเมนิ สงิ่ ทฟ่ี ัง
และดูและนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นกำรดำเนนิ ชวี ติ มที กั ษะในกำรพดู ในโอกำสตำ่ งๆ ทัง้ ทเี่ ป็นทำงกำรไมเ่ ป็น
ทำงกำรโดยใชภ้ ำษำทถ่ี กู ต้อง พดู แสดงทรรศนะโต้แยง้ โนม้ น้ำวและเสนอแนวคดิ ใหม่อยำ่ งมเี หตผุ ล
รวมทงั้ มมี ำรยำทในกำรฟัง ดู และพดู

เพ่อื พฒั นำสมรรถภำพในกำรพูดของตนเองใหถ้ ูกตอ้ งตำมหลกั กำรและวธิ กี ำร มจี รรยำบรรณ
ควำมรบั ผดิ ชอบ และคูณธรมในกำรพูด

97

ผลการเรยี นรู้
1. บอกควำมหมำยของกำรพูดและองคป์ ระกอบของกำรพูดได้
2. บอกควำมสำคญั และปัจจยั ทท่ี ำใหพ้ ดู สมั ฤทธผิ ์ ลพรอ้ มทงั้ วเิ ครำะหผ์ ฟู้ ัง
3. อธบิ ำยรปู แบบกำรพดู ประเภทตำ่ งๆและสำมำรถเลอื กใชร้ ปู แบบกำรพดู ไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม
4. เลอื กใชถ้ ้อยคำใหเ้ หมำะสมกบั กำลเทศะ บคุ คลและมมี ำรยำทในกำรพูด
5. สนทนำเพอ่ื สรำ้ งมนุษยส์ มั พนั ธก์ บั บคุ คลตำ่ งๆ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม และมมี ำรยำทในกำรพูด
6. สมั ภำษณบ์ คุ คลต่ำงๆ และใหส้ มั ภำษณ์ไดถ้ กู ตอ้ งตำมหลกั กำรสมั ภำษณ์
7. ดำเนินกำรอภปิ รำยและเป็นผรู้ ว่ มอภปิ รำยไดถ้ ูกต้องตำมบทบำท
รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา

ท 30204 ภาษาไทยธรุ กิจ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ขนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษำรปู แบบตำ่ งๆของภำษำทใี่ ชใ้ นธุรกจิ ต่ำงๆ โดยฝึกอำ่ นสำรประเภทตำ่ งๆ และเขำ้ ใจ
ตคี วำมแปลควำม และขยำยควำมเร่อื งทอ่ี ่ำนได้ วเิ ครำะหว์ ิจำรณ์เร่อื งทอ่ี ำ่ น แสดงควำมควำมคดิ
โต้แยง้ และเสนอควำมคดิ ใหม่จำกกำรอำ่ นอยำ่ งมเี หตุผล คำดคะเนเหตุกำรณ์จำกเร่ืองทีอ่ ่ำน เขยี น
กรอบแนวคดิ ผงั ควำมคดิ บนั ทกึ ย่อควำม และเขยี นรำยงำนจำกสง่ิ ทอ่ี ำ่ น สงั เครำะห์ ประเมนิ คำ่ และนำ
ควำมรูค้ วำมคดิ จำกกำรอ่ำนมำพฒั นำตนเอง พฒั นำกำรเรียนและพฒั นำควำมรูท้ ำงอำชพี และนำควำมรู้
ควำมคดิ ไปประยกุ ตใ์ ชแ้ กป้ ัญหำในกำรดำเนินชวี ติ มมี ำรยำทและมนี สิ ยั รกั กำรอ่ำน

98

ฝึกเขยี นส่อื สำรในรปู แบบตำ่ งๆ โดยใชภ้ ำษำไดถ้ ูกต้องตำมวตั ถปุ ระสงค์ ยอ่ ควำมจำกสอ่ื
ทมี่ รี ปู แบบและเน้อื หำสำระท่หี ลำกหลำย เรยี งควำมแสดงควำมควำมคดิ เชงิ สรำ้ งสรรคโ์ ดยใชโ้ วหำร
ตำ่ งๆ เขยี นบนั ทกึ รำยงำนกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ ตำมหลกั กำรเขยี นเชงิ วชิ ำกำร ใชข้ อ้ มูลสำรสนเทศในกำร
อ้ำงองิ ผลติ ผลงำนของตนเองในรปู แบบสำรคดี รวมทงั้ ประเมนิ งำนเขยี นของผอู้ น่ื และนำมำพฒั นำงำน
เขยี นของตนเอง

ฝึกพูดในโอกำสต่ำงๆและแสดงควำมคดิ เห็นเกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟ่ี ังและดู มวี จิ ำรณญำณใน
กำรเลอื กเรอ่ื งทฟี่ ังและดู วเิ ครำะห์วตั ถุประสงค์ แนวคดิ กำรใชภ้ ำษำ ควำมน่ำเชอ่ื ถอื ของเรอ่ื งทฟี่ ังและดู
ประเมนิ สงิ่ ทฟ่ี ังและดแู ละนำไปประยุกตใิ ชใ้ นกำรดำเนนิ ชวี ติ มที กั ษะในกำรพดู ในโอกำสตำ่ งๆ ทงั้ ทเ่ี ป็น
ทำงกำรไม่เป็นทำงกำรโดยใชภ้ ำษำทถี่ กู ต้อง พดู แสดงทรรศนะโต้แยง้ โนม้ นำ้ วและเสนอแนวคดิ ใหม่
อย่ำงมเี หตุผล รวมทงั้ มมี ำรยำทในกำรฟัง ดู และพดู

เพ่อื ใชภ้ ำษำในกำรตดิ ตอ่ ธุรกจิ ทเี่ กย่ี วกบั ชวี ิตประจำวนั ธรุ กจิ เกย่ี วกบั อำชพี ธุรกจิ ทวั่ ไป
เพ่อื ใหส้ ำมำรถใชภ้ ำษำตดิ ต่อธรุ กจิ ไดอ้ ยำ่ ถูกต้องเหมำะสม และเหน็ ควำมสำคญั ของกำรใชภ้ ำษำใน
กำรตดิ ต่อธรุ กจิ

ผลการเรียนรู้

1. อำ่ นสำรทวั่ ไปและสำรทำงธุรกจิ ไดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ

2. ฟังสำรทวั่ ไปและสำรทำงธุรกจิ ไดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ

3. พดู ส่อื สำรทำงโทรศพั ทไ์ ดอ้ ย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ

4. พดู เสนอขำยสนิ คำ้ ได้

5. เขยี นเรอ่ื งทวั่ ไปและเรอ่ื งทำงธุรกจิ ได้

6. เขยี นจดุ หมำยธรุ กจิ ได้

7. เขยี นรำยงำนกำรประชมุ ได้

รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรียนรู้

99

ท 30205 หลกั ภาษาไทย 1 คาอธิบายรายวิชา
ขนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย
เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

100

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

ศกึ ษำหลกั ภำษำไทย เร่อื งเสยี งในภำษำไทย ทงั้ รปู และเสยี ง คำ กลุ่มคำ และ
ควำมหมำยประโยคชนดิ ต่ำง ๆ รวมทงั้ ประโยคบกพรอ่ ง เพอ่ื ใหม้ คี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจหลกั ภำษำไทย

สำมำรถนำควำมรูไ้ ปใช้ วเิ ครำะหค์ ำ กลุ่มคำ ประโยค กำรใชภ้ ำษำไทยไดอ้ ย่ำง
ถูกตอ้ ง มนี สิ ยั รกั กำรอำ่ น กำรเขยี น

เพอ่ื นำควำมรูไ้ ปใชว้ เิ ครำะหก์ ำรใชภ้ ำษำไทย และ ตระหนกั ในวฒั นธรรมกำรใช้
ภำษำและควำมเป็นไทยอนั จะนำไปสูก่ ำรอนุรกั ษ์และพฒั นำภำษำไทย
ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ำยและยกตวั อย่ำง พยญั ชนะตน้ สระ พยญั ชนะทำ้ ย วรรณยกุ ต์และกำรนำไปใชไ้ ดถ้ กู ต้อง
2. อธบิ ำย ยกตวั อยำ่ ง และจำแนก คำมลู คำประสม และมนี ิสยั รกั กำรอ่ำน กำรเขยี น
3. อธบิ ำยและยกตวั อย่ำง และบอกประโยชน์ของคำซำ้ คำซ้อนได้
4. สงั เกต อธบิ ำยคำเป็น คำตำย และยกตวั อย่ำงได้
5. สงั เกต อธบิ ำยคำเป็น คำครุ ลหุ และยกตวั อย่ำงได้
6. อธบิ ำยควำมหมำยและจำแนกคำไทยจำกภำษำอน่ื ได้
7. อธบิ ำยลกั ษณะคำ ควำมหมำย และกำรนำไปใช้
8. อธบิ ำยควำมหมำยและยกตวั อย่ำงคำทมี่ คี วำมหมำยเหมอื นกนั ได้
9. บอกลกั ษณะและยกตวั อยำ่ งคำใกลเ้ คยี งและคำตรงขำ้ มได้
10. บอกลกั ษณะ และอธบิ ำยควำมหมำยคำพอ้ งรปู คำพอ้ งเสยี งได้
11. อธบิ ำยและยกตวั อยำ่ งคำทมี่ คี วำมหมำยแคบกวำ้ งได้
12. วคิ รำะหป์ ระโยคบกพรอ่ ง และแกไ้ ขใหถ้ ูกต้องได้ และมมี ำรยำทในกำรใชภ้ ำษำ
13. อธบิ ำยยกตวั อย่ำงและจำแนกประโยคควำมเดยี ว ประโยคควำมรวม และประโยคควำมซอ้ นได้

รวมทงั้ หมด 13 ผลการเรียนรู้

101

คาอธิบายรายวิชา

ท 30206 หลกั ภาษาไทย 2 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทยขนั้
มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษำหลกั ภำษำไทยเร่อื งกำรเปลย่ี นแปลงของภำษำไทย รวมทงั้ อิทธพิ ลภำษำตำ่ งประเทศทม่ี ี
ตอ่ ภำษำไทย กำรใชค้ ำ สำนวน คำรำชำศพั ท์ กำรอ่ำน กำรเขยี น กำรศกึ ษำโวหำรกำรประพนั ธ์
อรรถรสทำงกำรประพนั ธ์ เพ่อื ใหม้ คี วำมรูแ้ ละควำมเขำ้ ใจหลกั ภำษำไทย

สำมำรถนำควำมรูไ้ ปใชว้ เิ ครำะหค์ ำ กลุ่มคำ กำรใชภ้ ำษำไดถ้ ูกต้องเหมำะสมกบั ระดบั ภำษำ มนี ิสยั รกั
กำรอำ่ น กำรเขยี น กำรคดิ ประเมนิ คณุ ค่ำงำนประพนั ธ์ดำ้ นวรรณศลิ ป์

เพ่อื นำควำมรูไ้ ปใชว้ เิ ครำะหก์ ำรใชภ้ ำษำไทย ใชภ้ ำษำไดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ ง และตระหนกั ในวฒั นธรรม
กำรใชภ้ ำษำทถี่ กู ตอ้ งเหน็ คณุ ค่ำภำษำไทยซ่งึ เป็นภำษำประจำชำติ อนั นำไปสกู่ ำรอนุรกั ษล์ ะเชดิ ชู
ภำษำไทย

ผลการเรียนรู้

1. จำแนกและยกตวั อย่ำง คำสมำส สมำสแบบกลนื ( สนธิ ) ได้ บอกลกั ษณะคำสมำส และยกตวั อย่ำงได้

2. บอกลกั ษณะ จำแนก และยกตวั อยำ่ งคำบำลี สนั สกฤต เขมร จนี และภำษำองั กฤษไดถ้ กู ตอ้ ง

3. ใชร้ ำชำศพั ทไ์ ดเ้ หมำะสมกบั บุคคลและมนี สิ ยั รกั กำรอำ่ น

4. ใชล้ กั ษณะนำมไดถ้ ูกต้องและมมี ำรยำทในกำรใชภ้ ำษำ

5. อธบิ ำยควำมหมำยและยกตวั อย่ำงสำนวนไทย และนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม

6. วเิ ครำะหง์ ำนประพนั ธ์โดยใชภ้ ำษำภำพพจนไ์ ด้

7. วเิ ครำะหง์ ำนประพนั ธ์ดำ้ นวรรณศลิ ป์ ได้

8. อำ่ นและเขยี นคำไดถ้ กู ตอ้ ง มนี ิสยั รกั กำรอ่ำน กำรเขยี น

รวมทงั้ หมด 8 ผลการเรยี นรู้

102

คาอธิบายรายวิชา

ท 30207 วรรณกรรมท้องถ่ิน กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษำเพลงพน้ื บำ้ น ปรศิ นำคำทำย ภำษำและสำนวน ตำนำน นทิ ำน เร่อื งเล่ำ โดย
ศกึ ษำเก่ยี วกบั ทมี่ ำ และอทิ ธพิ ลทมี่ ตี อ่ กำรดำรงชวี ติ

วิเครำะหว์ จิ ำรณ์วรรณกรรมตำมหลกั กำรวจิ ำรณ์เบอ้ื งตน้ รูแ้ ละเขำ้ ใจลกั ษณะเด่นของ
วรรณกรรมภมู ปิ ัญญำทำงภำษำและวรรณกรรมพน้ื บำ้ น เช่อื มโยงกบั กำรเรยี นรูท้ ำงประวตั ศิ ำสตรแ์ ละ
วถิ ไี ทย

เพอ่ื ใหม้ คี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ ประเมนิ คำ่ ดำ้ นวรรณศลิ ป์ ดำ้ นสงั คมและวฒั นธรรม นำ
ขอ้ คดิ จำกรรณกรรมไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ และร่วมกนั อนุรกั ษว์ รรณกรรมทอ้ งถน่ิ

ผลการเรยี นรู้

1. บอกควำมหมำยประเภทและลกั ษณะของวรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ได้

2. แยกประเภทและยกตวั อย่ำงปรศิ นำคำทำย และสำมำรถทเ่ี ป็น ของเดมิ และทปี่ รำกฎในปัจจุบนั ได้

3. อธบิ ำยควำมหมำยของสำนวนสภุ ำษติ และใชส้ ำนวนสภุ ำษติ ในชวี ติ ประจำวนั ไดอ้ ยำ่ งงถกู ต้อ
เหมำะสม

4. บอกทม่ี ำ ประเภท ของนทิ ำนและนำขอ้ คดิ จำกนิทำนไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชวี ติ ประวนั ได้

5. อธบิ ำยลกั ษณะและยกตวั อยำ่ งเพลงพน้ื บำ้ น

6. วเิ ครำะหท์ ม่ี ำของเพลงพน้ื บำ้ นและนำแนวคดิ จำกเพลงพน้ื บำ้ นเป็นแนวทำงในกำรดำชวี ติ ได้

7. บอกทมี่ ำและคุณค่ำของตำนำนกบั กำรดำรงชวี ติ ได้

8. บอกคณุ คำ่ และแนวทำงในกำรอนุรกั ษว์ รรณกรรมทอ้ งถน่ิ ได้

รวมทงั้ หมด 8 ผลการเรยี นรู้

103

คาอธิบายรายวิชา

ท 30208 ภาษากบั วฒั นธรรม กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษำวฒั นธรรมในกำรใชภ้ ำษำ ควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งวรรณคดกี บั ศลิ ปะแขนงตำ่ งๆ

กำรใชภ้ ำษำทส่ี มั พนั ธก์ บั ประเพณีไทยโดยทวั่ ไป และเฉพำะทอ้ งถน่ิ และควำมสำคญั ของภำษำในกำรสบื
ทอดวฒั นธรรม

วเิ ครำะหว์ จิ ำรณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมตำมหลกั กำรวจิ ำรณ์รรณคดเี บ้อื งตน้ รูแ้ ละ
เขำ้ ใจลกั ษณะเดน่ ของวรรณคดี ภูมปิ ัญญำทำงภำษำและวรรณดพี น้ื บำ้ น เชอ่ื มโยงกบั กำรเรยี นรูท้ ำง
ประวตั ศิ ำสตรแ์ ละวถิ ไี ทย ประเมนิ ค่ำดำ้ นวรรณศลิ ป์ ดำ้ นสงั คมและวฒั นธรรม

เพ่อื ใหเ้ ขำ้ ใจและเหน็ คุณค่ำของภำษำในฐำนะทเ่ี ป็นเคร่อื งมอื รกั ษำสบื ทอดวฒั นธรรม
ไทย และนำขอ้ คดิ จำกวรรณคดแี ละวรรณกรรมไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ

ผลการเรยี นรู้

1. อธบิ ำยควำมหมำย ลกั ษณะของภำษำและวฒั นธรรมได้

2. อธบิ ำยควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงภำษำกบั วฒั นธรรมได้

3. ใชถ้ อ้ ยคำใหเ้ หมำะสมกบั กำลเทศะ บคุ คลไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม

4. อธบิ ำยและยกตวั อย่ำงศลิ ปะแขนงตำ่ งๆได้

5. บอกควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงภำษำกบั ศลิ ปะแขนงตำ่ งๆได้

104

6. บอกควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งภำษำกบั ประเพณไี ทยโดยทวั่ ไปได้
7. อธบิ ำยควำมสมั พนั ธ์ระหวำ่ งภำษำกบั คตชิ ำวบำ้ นได้
8. อธบิ ำยและยกตวั อย่ำงเร่อื งรำวเกย่ี วกบั วฒั นธรรมประเพณีคตชิ ำวบำ้ นในทอ้ งถน่ิ ได้
9. อธบิ ำยควำมสำคญั ของภำษำไทยในกำรสบื ทอดวฒั นธรรมได้
รวมทงั้ หมด 9 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา

ท 30209 ภาษาเพ่ือกิจกรรมการแสดง สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศกึ ษำถงึ รูปแบบวธิ กี ำรเล่ำเรอ่ื งตำ่ งๆ และ กำรบรรยำยเพ่อื กจิ กรรมกำรแสดง ฝึกกำรเล่ำ
นิทำน กำรเล่ำเรอ่ื งทมี่ ขี อ้ ขำ กำรเลำ่ เร่อื งขบขนั กำรเล่ำเร่อื งทต่ี ่นื เตน้ ฝึกกำรพูดบรรยำยหรือแนะนำ
กำรแสดง ฝึกกำรทำหน้ำทเ่ี ป็นพธิ กี รหรอื โฆษก ฝึกกำรละเล่นหรอื กำรแสดงละคร ฝึกแตง่ บททใี่ ชใ้ น
กจิ กรรมขำ้ งตน้ และควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรอ่ื งทฟี่ ังและดู มวี จิ ำรณญำณในกำรเลอื กเร่อื งทฟ่ี ังและดู
วเิ ครำะหว์ ตั ถุประสงคแ์ นวคดิ กำรใชภ้ ำษำ ควำมน่ำเช่อื ถอื ของเรอ่ื งทฟี่ ังและดู ประเมนิ สง่ิ ทฟี่ ังและดู
และนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นกำรดำเนินชวี ติ มที กั ษะในกำรพดู ในโอกำสต่ำง ทงั้ ท่ีเป็นทำงกำรไม่เป็นทำงกำร
โดยใชภ้ ำษำทถ่ี กู ต้อง พูดแสดงทรรศนะโต้แยง้ โน้มนำ้ วและเสนอแนวคดิ ใหมอ่ ย่ำงมเี หตุผล รวมทงั้ มี
มำรยำทในกำรฟัง ดู และพูด

เพ่อื ใหเ้ กดิ ควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจกำรใชภ้ ำษำในกจิ กรรมกำรแสดงสำมำรถใชภ้ ำษำเป็น
เครอ่ื งมอื สรำ้ งควำมบนั เทงิ ได้

ผลการเรยี นรู้

1. บอกควำมหมำยของกำรพูดและองคป์ ระกอบของกำรใชภ้ ำษำเพอ่ื กจิ กรรมกำรแสดงได้

2. เล่ำเร่อื งใหผ้ อู้ น่ื ฟังและบอกประโยชน์ของกำรเล่ำนิทำนได้

105

3. บอกควำมแตกตำ่ งระหว่ำโฆษกกบั พธิ กี รได้
4. ทำหนำ้ ทเ่ี ป็นโฆษกและพธิ กี รได้
5. เขยี นบทบรรยำยประกอบกำรแสดงและเป็นผบู้ รรยำยประกอบกำรแสดงได้
6. แสดงบทบำทสมมตุ ติ ำมทกี่ ำหนดไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม
7. เขยี นบทละครสนั้ ๆ เพอ่ื กจิ กรรมกำรแสดง
8. เล่นกลอนสด กลอนสกั วำ่ และกลอนดอกสรอ้ ยได้
รวมทงั้ หมด 8 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชา

ท 30210 การพดู ต่อหน้าท่ีประชุมชน สาระการเรียนร้ภู าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

ศกึ ษำรูปแบต่ำงๆของกำรพูดตอ่ หนำ้ ประชมุ ชน ฝึกกำรพดู ต่อหน้ำทป่ี ระชุมชนทงั้ ทเ่ี ป็นกำร
บรรยำย พรรณนำ ชกั ชวน ชแ้ี จง้ อภปิ รำย ดำเนินกำรอภปิ รำย สมั ภำษณ์ โต้วำท่ี ทำหน้ำท่ีเป็นพธิ กี ร
และโฆษก ทงั้ น้โี ดนเนน้ กำรใชถ้ อ้ ยคำ น้ำเสยี ง และทำ่ ทำงทเ่ี หมำะสม และแสดงควำมคดิ เหน็ เก่ยี วกบั
เรอ่ื งทฟ่ี ังและดู มวี จิ ำรณญำณในกำรเลอื กเร่อื งทฟ่ี ังและดู วเิ ครำะหว์ ตั ถปุ ระสงค์ แนวคดิ กำรใชภ้ ำษำ
ควำมน่ำเชอ่ื ถอื ของเรอ่ื งทฟี่ ังและดู ประเมนิ สง่ิ ทฟี่ ังและดแู ละนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นกำรดำเนินชวี ติ มี
ทกั ษะในกำรพดู ในโอกำสต่ำงๆ ทงั้ ท่ีเป็นทำงกำรไม่เป็นทำงกำรโดยใชภ้ ำษำทถี่ ูกตอ้ ง พูดแสดงทรรศนะ
โต้แยง้ โนม้ น้ำวและเสนอแนวคดิ ใหมอ่ ยำ่ งมเี หตผุ ล รวมทงั้ มมี ำรยำทในกำรฟัง ดู และพดู

เพอ่ื ให้สำมำรถพดู ไดอ้ ย่ำงมเี น้อื หำสำระและน่ำสนใจทำใหผ้ ฟู้ ังเกดิ ควำมเข้ำใจ พอใจหรอื คลอ้ ย
ตำม

106

ผลการเรยี นรู้
1. บอกชนั้ ตอนและปฏบิ ตั ติ นในกำรเตรยี มกำรพูดใหส้ มั ฤทธผิ ์ ลได้
2. พูดใหค้ วำมรูแ้ ละขอ้ เทจ็ จรงิ ต่อหน้ำทปี่ ระชุมชนได้
3. พดู ใหค้ วำมบนั เทงิ ในทปี่ ระชมุ ชนได้
4. พดู โนม้ น้ำวใจผอู้ ่นื ฟังในทำงทสี่ รำ้ งสรรคไ์ ด้
5. อภปิ รำยต่อหนำ้ ทปี่ ระชมชนได้
6. สนทนำและสมั ภำษณต์ ่อหน้ำทป่ี ระชมุ ชนได้
7. โต้วำทีตอ่ หน้ำทปี่ ระชมุ ชนได้
รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชา

ท 30211 ประวตั ิวรรณคดี 1 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

ศกึ ษำวรรณคดสี ำคญั สมยั สุโขทยั อยุธยำที่เกย่ี วกบั ประวตั คิ วำมเป็นมำ ประวตั กิ วี
เน้อื หำโดยสงั เขป กำรชำระหนงั สอื วรรณคดี

วเิ ครำะหแ์ ละวจิ ำรณว์ รณคดตี ำมหลกั กรวจิ ำรณเ์ บ้อื งตน้ และวเิ ครำะหล์ กั ษณะเด่นของ
วรรณคดเี ช่อื มโยงกบั กำรเรยี นรูท้ ำงประวตั ศิ ำสตรแ์ ละวถิ ชี วี ติ ของสงั คมในอดตี

107

เพ่อื ใหร้ ูค้ วำมเป็นมำของวรรณดไี ทย เขำ้ ใจควำมสมั พนั ธต์ ่อเน่อื งระหว่ำงสมยั เข้ำใจคำ่ นิยม
และลกั ษณะชวี ติ ของคนในสมยั นนั้ มวี นิ ัย ใฝ่รูไ้ ผ่เรยี น มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำนและเหน็ คุณคำ่ ของวรรณคดี
สำคญั ในฐำนะทเี่ ป็นมรดกทำงวฒั นธรรมไทย
ผลการเรียนรู้
1. อธบิ ำยควำมหมำยของวรรณคดแี ละวรรณกรรมได้
2. อธบิ ำยควำมสำคญั ของกำรเรยี นประวตั วิ รรณคดไี ด้
3. อธบิ ำยยุคสมยั ของวรรณคดอี ย่ำงมหี ลกั เกณฑ์
4. อธบิ ำยวธิ กี ำรศกึ ษำวรรณคดไี ด้
5. แสดงทรรศนะและวจิ ำรณ์วรรณคดสี มยั สุโขทยั และอยธุ ยำอยำ่ งมหี ลกั เกณฑแ์ ละมเี หตุผล
6. อธบิ ำยประวตั คิ วำมเป็นมำของวรรณคดี ประวตั กิ วี เน้อื หำโดยสงั เขป ของวรรณคดสี มยั สมยั สโุ ขทยั
และอยธุ ยำไดอ้ ย่ำงถกู ต้อง
7. อธบิ ำยวธิ กี ำรและหลกั เกณฑก์ ำรชะระหนงั สอื วรรณคดไี ดถ้ กู ต้อง
8. อธบิ ำยถงึ ควำมสมั พนั ธต์ อ่ เน่อื ง ระหวำ่ งวรรณคดสี มยั สุโขทยั และอยธุ ยำได้
9. อธบิ ำยคำ่ นิยมและลกั ษณะชวี ติ ของคนสมยั สุโขทยั และอยุธยำไดถ้ ูกต้อง
10. อธบิ ำยถงึ คณุ คำ่ ของวรรณดสี ำคญั ในฐำนะทเ่ี ป็นมรดกทำงวฒั นธรรมได้
รวมทงั้ หมด 10 ผลการเรยี นรู้

อธิบายรายวิชา

ท 30212 ประวตั ิวรรณคดี 2 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

108

ศกึ ษำวรรณคดสี ำคญั สมยั ธบรุ แี ละรตั นโกสนิ ทร์ ทเี่ กย่ี วกบั ประวตั คิ วำมเป็นมำ ประวตั ิ
กวี เน้อื หำโดยสงั เขป กำรชำระหนังสอื วรรณคดี

วเิ ครำะหแ์ ละวจิ ำรณ์วรณคดตี ำมหลกั กำรวจิ ำรณ์เบ้อื งตน้ วเิ ครำะหล์ กั ษณะเดน่ ของ
วรรณคดเี ช่อื มโยงกบั กำรเรยี นรูท้ ำงประวตั ศิ ำสตรแ์ ละวถิ ชี วี ติ ของสงั คมในอดตี และวเิ ครำะหป์ ระเมนิ
คุณค่ำดำ้ นวรรณศลิ ป์ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมในฐำนะทเ่ี ป็นมรดกทำงวฒั นธรรมของชำติ

เพอ่ื ใหร้ ูค้ วำมเป็นมำของรรณดไี ทย เข้ำใจควำมสมั พนั ธต์ อ่ เน่อื งระหว่ำงสมยั เขำ้ ใจค่ำนยิ ม
และลกั ษณะชวี ติ ของคนในสมยั นนั้ มวี นิ ยั ใผร่ ูเ้ รยี น มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำนและเหน็ คุณค่ำของวรรณคดี
สำคญั ในฐำนะทเ่ี ป็นมรดกทำงวฒั นธรรมไทย

ผลการเรียนรู้

1. อธบิ ำยกำรแบ่งยคุ สมยั ของวรรณคดอี ยำ่ งมหี ลกั เกณฑ์

2. อธบิ ำยวธิ กี ำรศกึ ษำวรรณคดไี ด้
3. วจิ ำรณ์วรรณคดสี มยั กรุงธนบุรแี ละกรงุ รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ย่ำงมหี ลกั เกณฑแ์ ละมเี หตผุ ล
4. อธบิ ำยประวตั คิ วำมเป็นมำของวรรณคดี ประวตั กิ วี เน้อื หำโดยสงั เขป ของวรรณคดสี มยั กรงุ ธนบุรี
และกรงุ รตั นโกสนิ ทรไ์ ดอ้ ยำ่ งถกู ต้อง
5. อธบิ ำยถงึ ควำมสมั พนั ธ์ตอ่ เน่อื ง ระหวำ่ งสมยั กรงุ ธนบุรแี ละกรุงรตั นโกสนิ ทรไ์ ด้

6. อธบิ ำยค่ำนยิ มและลกั ษณะชวี ติ ของคนสมยั กรุงธนบุรแี ละกรุงรตั นโกสนิ ทรไ์ ดถ้ กู ต้อง

7. อธบิ ำยคุณคำ่ ควำมสำคญั ในฐำนะทเ่ี ป็นมรดกทำงวฒั นธรรมได้

รวมทงั้ หมด 7 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย
ท 30213 การเขียนความเรยี งขนั้ สูง 1

109

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง จานวน 0.5 หน่วยกิต

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

ศกึ ษำ และฝึกกระบวนกำรคน้ ควำ้ ดว้ ยตนเองอย่ำงอสิ ระเก่ยี วกบั เร่อื งทผี่ เู้ รยี นสนใจจำกสำระ
กำรเรยี นรูท้ ตี่ อ้ งกำรคนั ควำ้ หำควำมรูเ้ พมิ่ เตมิ กำรถำ่ ยทอด/ส่อื ควำมหมำย แนวคดิ และขอ้ มลู ลกั ษณะ
เป็นเป็นควำมเรยี งทำงวชิ ำกำร กำรเขยี นโครงรำ่ ง กำรเขยี นคำนำ เน้อื เรอ่ื ง และสรุป กำรเขยี นเรยี บ
เรยี งเชอ่ื มโยงอย่ำงเป็นขนั้ ตอน สมเหตสุ มผล สละสลวย ใชค้ ำสำหรบั กำรเขยี นผลงำน จำนวน 4.000
คำ

โดยเน้นกระบวนกำรศกึ ษำ คนั ควำ้ ใชข้ อ้ มลู จำกกำรคน้ ควำ้ เพม่ิ เตมิ จำกแหลง่ เรยี นรูต้ ำ่ งๆ
กระบวนกำรโต้แยง้ และสนบั สนุนอยำ่ งเป็นเหตุเป็นผล

เพอ่ื ใหม้ คี วำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในกระบวนกำรศกึ ษำ คน้ ควำ้ ทเี่ หมำะสม มคี วำมคดิ สรำ้ งสรรค์
และกำรคดิ วเิ ครำะห์ มวี ธิ กี ำรและสงั่ สมประสบกำรณ์ในกำรคน้ ควำ้ หำควำมรูด้ ว้ ยสตปิ ัญญำของตนเอง
อยำ่ งมปี ระสทิ ธภิ ำพ

ผลการเรียนรู้

1. ระบอุ งคป์ ระกอบของแตล่ ะองคป์ ระกอบทใ่ี ชใ้ นกำรเขยี นควำมเรยี งขนั้ สงู

2. สำมำรถกำหนดช่อื เร่อื งทสี่ ะทอ้ นใหเ้ หน็ ภำพ แล: เรยี บเรยี งเป็นรูปคำถำม หรอื ประเดน็ คน้ ควำ้

3. เขยี นโครงรำ่ ง จำกกำรศกึ ษำคน้ ควำ้ เรยี บเรยี งและถำ่ ยทอดควำมคดิ ไดอ้ ย่ำงชดั เจน เทยี่ งตรงและ
เป็นเชงิ วชิ ำกำรอย่ำงแทจ้ รงิ

4. เขยี นบทคดั ยอ่ ทสี่ ะทอ้ นใหเ้ หน็ เก่ยี วกบั หวั ข้อเร่อื ง และใชค้ ำไม่เกนิ 300 คำ

5. เขยี นคำนำ สำรบญั ไดค้ รบถว้ นตำมกระทงสำคญั ทกี่ ำหนด

6. เขยี นสว่ นนำ เน้อื เร่อื ง สรุป และขอ้ เสนอแนะ ไดค้ รบถ้วนตำมประเดน็ ทก่ี ำหนด

7. เขยี นบรรณำนุกรม ทอ่ี ำ้ งองิ แหลง่ ขอ้ มูลโดยใชร้ ปู แบบทน่ี ยิ มใชก้ นั อย่ำงแพร่หลำยเป็นสำกล

8. แสดงภำคผนวก ทเ่ี สนอขอ้ มลู และรำยละเอยี ดต่ำงๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั กำรคน้ ควำ้ ไดค้ รบถว้ น

รวม 8 ผลการเรียนรู้

110

คาอธิบายรายวิชา

ท 30215 การเขียนความเรยี งขนั้ สงู กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1.0 หน่วยกิต

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

ศกึ ษำองคป์ ระกอบ กำรเขยี นช่อื เรอ่ื ง กำรกำหนดประเดน็ ปัญหำ กำรเขยี นคำนำ กำรเขยี น
เน้อื เรอ่ื งสำหรบั กำรเขยี นควำมเรยี งขนั้ สงู โดยใชก้ ระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ กำรเขยี นบทคดั ย่อ กำร
เขยี นกติ ตปิ ระกำศ กำรเขยี นสำรบญั กำรเขยี นเอกสำรอำ้ งองิ บรรณำบกุ รมและภำคผนวก ศกึ ษำวธิ กี ำร
นำเสนอ กำรอ้ำงองิ กำรแสดงควำมคดิ เหน็ หลกั กำรวิเครำะหว์ จิ ำรณฝ์ ึกทกั ษะกำรเขยี นควำมเรยี งขนั้ สงู
วเิ ครำะหว์ จิ ำรณ์ เสนอแนะงำนผอู้ น่ื มนี สิ ยั รกั กำรทำงำน รกั กำรคน้ ควำ้ และมมี ำรยำทในกำรพูดและ
กำรเขยี น

ฝึกเขยี นในรูปแบบต่ำงๆ โดยเน้นกรลำดบั ควำมใหผ้ อู้ ำ่ นไดร้ บั สำรอย่ำงชดั เจน เลอื กใช้
โวหำรเหมำะสมกบั เน้อื เร่อื งและโอกำส

เพอ่ื ใหเ้ ขยี นไดอ้ ยำ่ งมเี น้อื หำสำระน่ำอ่ำน ใชถ้ อ้ ยคำสำนวนสละสลวยก่อให้เกดิ ควำม
เพลดิ เพลนิ และชว่ ยพฒั นำควำมคดิ และเพ่อื เพม่ิ พูนทกั ษะกำรเขยี นในรปู แบบตำ่ ง แสดงควำมต้องกำร
ควำมคดิ และควำมรูส้ กึ ไดถ้ ูกตอ้ งตำมมำรยำทและธรรมเนยี มนยิ ม

ผลการเรยี นรู้

1. วเิ ครำะหป์ ระเภทและองคป์ ระกอบของเรยี งควำมขนั้ สูงได้

2. เขยี นควำมเรยี งขนั้ สูงไดค้ รบถว้ นทกุ องคป์ ระกอบ ถูกต้องตำมหลกั วชิ ำกำรและนำเสนอขอ้ มูลอย่ำง
หลำกหลำย

3.วเิ ครำะหว์ จิ ำรณ์ ผลงำนกำรเขยี นควำมเรยี งขนั้ สูงของผูอ้ ่นื ไดอ้ ยำ่ งถูกตอ้ งตำมหลกั วชิ ำ

4.มนี ิสยั รกั กำรทำงำน กำรคน้ ควำ้ และมมี ำรยำทในกำรเขยี น

รวมทงั้ หมด 4 ผลการเรียนรู้

111

คาอธิบายรายวิชา

ท 30221 วรรณคดีมรดก กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

อ่ำนขุนชำ้ งขนุ แผน อเิ หนำ ใหร้ ูเ้ รอ่ื งตลอดโดยสงั เขปและอ่ำนเฉพำะตอนทสี่ ำคญั ในเชงิ
วรรณศลิ ป์ ตอนทท่ี ำใหใ้ หเ้ ห็นสภำพชวี ติ ในสมยั ของบรรพบรุ ุษ ตอนทท่ี ำใหเ้ ขำ้ ใจธรรมชำตขิ องมนุษย์
และตอนทเ่ี ก่ยี วกบั ศลิ ปะสำขำต่ำงๆ เพอ่ื ให้สำมำรถวเิ ครำะหแ์ ละแสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ตวั ละครที่
สำคญั แนวคดิ ในเน้อื เร่อื งโดยเปรยี บเทยี บกบั เหตุกำรณใ์ นชวี ติ ในปัจจุบนั เกดิ ควำมประทบั ใจในศลิ ปะ
กำรประพนั ธ์ สำมำถนำไปกลำ่ วอำ้ งได้

ผลการเรยี นร้ทู ่ีคาดหวงั

1. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั วรรณดไี ทยและเหน็ คุณค่ำของวรรณคดไี ทยเร่อื งขนุ ชำ้ งขุนแผน ตอน
ขุนแผนขน้ึ เรอื น ขนุ ชำ้ งไดน้ ำงแกว้ กริ ยิ ำและพำนำงวนั ทองหนี , อเิ หนำ ในดำ้ นวรรณศลิ ป์

2. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเกย่ี วกบั วรรณคดไี ทยและเหน็ คณุ ค่ของวรรณคดไี ทยเรอ่ื งขนุ ชำ้ งขุนแผน ตอน
ขนุ แผนขน้ึ เรอื นขุนชำ้ งไดน้ ำงแก้วกริ ยิ ำและพำนำงวนั ทองหนี , อเิ หนำ ดำ้ นค่นิยมรสนิยมทที่ ำใหเ้ หน็
สภำพชวี ติ ในสมยั บรรพบุรุษ

3. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเกย่ี วกบั วรรณคดไี ทยและเหน็ คุณค่ำของวรรณคดไี ทยเรอ่ื งขนุ ชำ้ งขุนแผน ตอน
ขุนแผนขน้ึ เรอื นขุนชำ้ งไดน้ ำงแก้วกริ ยิ ำและพำนำงวนั ทองหนี , อเิ หนำ ดำ้ นทท่ี ำใหเ้ ขำ้ ใจธรรมชำตขิ อง
มนุษย์ เปรยี บเทยี บชวี ติ มนุษยใ์ นสมยั ของบรรพบรุ ุษกบั ชวี ติ ในสมยั ปัจจุบนั ได้

4. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั วรรณคดไี ทยและเหน็ คุณคข่ องวรรณคดไี ทยเรอ่ื งขุนชง้ ขุนแผน ตอน
ขุนแผนขน้ึ เรอื นขุนชำ้ งไดน้ ำงแกว้ กริ ยิ ำและพำนำงวนั ทองหนี , อเิ หนำ ดำ้ นศลิ ปะสำขำตำ่ งๆ ได้

112

5. สำมำรถวิเครำะห์ และแสดงควำมคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ตวั ละครรสำคญั แนวคดิ ในเรอ่ื ง และเปรยี บเทยี บ
กบั
เหตุกำรณใ์ นชวี ติ ปัจจบุ นั ได้
6. สำมำรถสงั เครำะหค์ วำมรูเ้ พ่อื นำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ เช่น เน้อื เร่อื งและคณุ ค่ทไ่ี ดร้ บั จำก
วรรณคดที กี่ ำหนดได้
รวม 6 ผลการเรียนรู้

คาอธิบายรายวิชา

รายวิชา ท 30222 วรรณคดมี รดก กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 4 เวลา 40 ชวั่ โมง จานวน 1 หน่วยกิต

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

อำ่ นรำมเกยี รติ์ (สมยั รชั กำลที่ 1) พระอภยั มณี ไดร้ ูเ้ รอ่ื งตลอดโดยสงั เขปและอ่ำนเฉพำะ
ตอนทสี่ ำคญั ในเชงิ วรรณศลิ ป์ ตอนทท่ี ำใหใ้ ห้เหน็ สภำพชวี ิตในสมยั ของบรรพบรุ ุษ ตอนทที่ ำใหเ้ ขำ้ ใจ
ธรรมชำตขิ องมนุษยแ์ ละตอนทเี่ กย่ี วกบั ศลิ ปะสำขำต่ำงๆ เพอ่ื ใหส้ ำมำรถวิเครำะหแ์ ละแสดงควำมคดิ เหน็
เก่ยี วกบั ตวั ละครทส่ี ำคญั แนวคดิ ในเน้อื เรอ่ื ง โดยเปรยี บเทยี บกบั เหตกุ ำรณน์ ชวี ติ ในปัจจุบนั เกดิ ควำม
ประทบั ใจในศลิ ปะกำรประพนั ธส์ ำมำถนำไปกลำ่ วอ้ำงได้

ผลการเรยี นร้ทู ่ีคาดหวงั

1. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั วรรณคดไี ทยและเหน็ คุณคำ่ ของวรรณคดไี ทยเร่อื งรำมเกยี รติ์ (สมยั
รชั กำลที่ 1) พระอภยั มณใี นดำ้ นวรรณศลิ ป์

2. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั วรรณคดไี ทยและเหน็ คุณคำ่ ของวรรณคดไี ทยเรอ่ื งรำมเกยี รติ์ (สมยั
รชั กำลที่ 1) พระอภยั มณี ดำ้ นคำ่ นยิ มรสนยิ มทท่ี ำใหเ้ หน็ สภำพชวี ติ ในสมยั บรรพบุรษุ

113

3. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเก่ยี วกบั วรรณคดไี ทยและเหน็ คุณคำ่ ของวรรณคดไี ทยเรอ่ื งรำมเกยี รติ์ (สมยั
รชั กำลที่ 1) พระอภยั มณีดำ้ นทที่ ำให้เขำ้ ใจธรรมชำตขิ องมนุษย์ เปรยี บเทยี บชวี ติ มนุษยใ์ นสมยั ของ
บรรพบรุ ุษกบั ชวี ติ ในสมยั ปัจจบุ นั ได้

4. มคี วำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเกย่ี วกบั วรรณดไี ทยและเหน็ คณุ คข่ องวรรณคดไี ทยเร่อื งรำมเกยี รติ์ (สมยั รชั กำล
ท1ี่ ) พระอภยั มณี ดำ้ นศลิ ปะสำขำต่ำงๆ ได้

5. สำมำรถวเิ ครำะห์ และแสดงควำมคดิ เหน็ เก่ยี วกบั ตวั ละครสำคญั แนวคดิ ในเร่อื ง และเปรยี บเทยี บกบั

เหตุกำรณใ์ นชวี ติ ปัจจุบนั ได้

6. สำมำรถสงั เครำะหค์ วำมรูเ้ พอ่ื นำไปประยกุ ตใี ชใ้ นชวี ติ จรงิ เชน่ เน้อื เรอ่ื งและคุณค่ทไ่ี ดร้ บั จำก
วรรณคดที กี่ ำหนดได้

รวม 6 ผลการเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชา เพ่ิมเติม

การแต่งคาประพนั ธ์ 2 ท 30224 กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี 4 เวลา 40 ชวั่ โมง 1 หน่วยกิต

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-

ศกึ ษำ ประวตั คิ วำมเป็นมำ ประเภทและววิ ฒั นำกำรของรอ้ ยกรองไทยในอดตี จนถงึ
ปัจจบุ นั โดยสำมำรถอธบิ ำย ระบปุ ระเภท เปรยี บเทยี บ ยกตวั อย่ำงไดแ้ ละบอกคุณค่ำของบทรอ้ ยกรอง

ศกึ ษำควำมหมำย ฉนั ลกั ษณ์ ของคำประพนั ธ์ประเภท โคลง ฉนั ท์ และรำ่ ย สำมำรถ
อธบิ ำยยกตวั อยำ่ งฉันทลกั ษณข์ องคำประพนั ธ์แตล่ ะประเภทได้

ฝึกทกั ษะกำรแตง่ คำประพนั ธ์ ประเภท โคลง ฉนั ทแ์ ละร่ำย โดยคำนึงถงึ ลกั ษณะ
บงั คบั

114

ควำมงำม ควำมไพเรำะของถ้อยคำ กำรแสดงออกทำงอำรมณ์ เน้อื หำมคี ณุ ค่ำทำงควำมคดิ โดยใช้
กระบวนกำรปฏบิ ตั ิ กระบวนกำรสงั เกต กระบวนกำรคดิ สรำ้ งสรรคแ์ ละกระบวนกำรกลุ่มเพ่อื ใหเ้ กดิ
ควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจและเกดิ ทกั ษะในกำรเขยี นเป็นพน้ื ฐำนในกำรศกึ ษำระดบั ทส่ี ูงขน้ึ

มคี วำมตระหนกั รกั ควำมเป็นไทย ภูมใี จในภูมปิ ัญญำทำงภำษำเป็นกำรสบื ทอด
วฒั นธรรมทำงภำษำอนั จะนำไปส่กู ำรอนุรกั ษ์และพฒั นำกำรแต่งบทรอ้ ยกรองใหค้ งอยสู่ บื ไป
ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ำยคณุ คำ่ และควำมสำคญั ของรอ้ ยกรองประเภทโคลง ฉนั ท์ และรำ่ ยทมี่ ตี ่อผแู้ ตง่ ผอู้ ่ำน และสงั คม
ได้
2. สำมำรถระบคุ วำมงำมของรอ้ ยกรองประเภทโคลง ฉนั ท์ และรำ่ ยได้
3. อธบิ ำยฉนั ทลกั ษณห์ รอื ลกั ษณะบงั คบั ของรอ้ ยกรองประเภทโคลง ฉนั ท์ และรำ่ ยได้
4. สำมำรถแต่งรอ้ ยกรองประเภทโคลง ฉันท์ และรำ่ ยได้
5. สำมำรถวิเครำะห์ คำประพนั ธ์ของผอู้ น่ื ได้
6. เกดิ ควำมตระหนกั ภูมใิ จและมพี ฤตกิ รรมในกำรอนุรกั ษส์ บื ทอดบทรอ้ ยกรองทตี่ นเอชอบได้
7. สำมำรถวจิ ำรณ์งำนประพนั ธ์ไดอ้ ยำ่ งถกู ต้อง

รวม 7 ผลการเรียนรู้

115

กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

116

กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนต้น รำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ค21101 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน1 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ

ค21102 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน2 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ

ค22101 คณิตศำสตรพ์ น้ื ฐำน3 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ

ค22102 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน4 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ

ค23101 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน5 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ

ค23102 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน6 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนตน้ รำยวชิ ำเพม่ิ เตมิ

ค2120๓ คณิตศำสตรเ์ พมิ่ (จำนวนและตวั เลข) จำนวน 20 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 0.5 หน่วยกติ

ค2120๔ คณติ ศำสตรเ์ พมิ่ (พหนุ ำม) จำนวน 20 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 0.5 หน่วยกติ

ค2220๓ คณติ ศำสตรเ์ พม่ิ (เศษสว่ นพหุนำม) จำนวน 20 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 0.5 หน่วย
กติ

ค2220๔ คณติ ศำสตรเ์ พมิ่ (กำรแยกตวั ประกอบ)จำนวน 20 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 0.5 หน่วย
กติ

ค2320๓ คณติ ศำสตรเ์ พม่ิ (พำรำโบลำ) จำนวน 20 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 0.5 หน่วย
กติ

ค2320๔ คณิตศำสตรเ์ พม่ิ (ระบบสมกำร) จำนวน 20 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 0.5 หน่วย
กติ

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย รำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ค31101 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน1 จำนวน 40 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.0 หน่วยกติ

ค31102 คณิตศำสตรพ์ น้ื ฐำน2 จำนวน 40 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.0 หน่วยกติ

ค32101 คณิตศำสตรพ์ น้ื ฐำน3 จำนวน 40 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.0 หน่วยกติ

117

ค32102 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน4 จำนวน 40 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.0 หน่วยกติ
ค33101 คณติ ศำสตรพ์ น้ื ฐำน5 จำนวน 40 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.0 หน่วยกติ
ค33102 คณิตศำสตรพ์ น้ื ฐำน6 จำนวน 40 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.0 หน่วยกติ
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษำตอนปลำย รำยวชิ ำพน้ื ฐำน
ค3120๓ คณิตศำสตรเ์ พมิ่ เตมิ 1 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ
ค3120๔ คณติ ศำสตรเ์ พม่ิ เตมิ 2 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ
ค3220๓ คณติ ศำสตรเ์ พมิ่ เตมิ 3 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ
ค3220๔ คณิตศำสตรเ์ พม่ิ เตมิ 4 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ
ค3320๓ คณิตศำสตรเ์ พมิ่ เตมิ 5 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ
ค3320๔ คณติ ศำสตรเ์ พม่ิ เตมิ 6 จำนวน 60 ชวั่ โมง ชวั่ โมง/สปั ดำห์ 1.5 หน่วยกติ

118

คาอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน

ค ๒๑๒๐๑ คณิตศาสตร์ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเกย่ี วกบั เรอ่ื งต่อไปน้ี
สมบตั ขิ องจำนวนนบั ตวั ประกอบ จำนวนคู่และจำนวนคี่ จำนวนเฉพำะ ตวั ประกอบเฉพำะ
กำรแยกตวั ประกอบ ตวั หำรร่วมมำก ตวั คูณร่วมน้อย กำรหำ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. โดยกำรแยกตวั
ประกอบ กำรหำ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. โดยวธิ หี ำรสนั้
ระบบจำนวนเตม็ จำนวนเตม็ ลบ กำรเปรยี บเทยี บจำนวนเตม็ ควำมหมำยของประโยค สมบตั ิ
ของจำนวนเตม็ บวก ค่ำสมั บูรณแ์ ละจำนวนตรงขำ้ ม กำรบวกจำนวนเตม็ กำรลบจำนวนเตม็ กำรคณู
จำนวนเตม็ กำรหำรจำนวนเตม็ กำรบวก กำรลบ กำรคณู กำรหำรจำนวนเตม็
เลขยกกำลงั กำรหำคำ่ ของเลขยกก ำลงั กำรเขยี นจำนวนใหอ้ ยู่ในรปู เลขยกก ำลงั กำรคณู ของ
เลขยกก ำลงั เลขยกกำลงั ทม่ี ฐี ำนในรูปกำรคูณ เลขยกกำลงั ทมี่ ฐี ำนเป็นเลขยกกำลงั กำรหำรเลขยกกำลงั
กำรใชเ้ ลขยกกำลงั แสดงจำนวนทมี่ คี ่ำมำกหรอื มคี ่ำนอ้ ย
พน้ื ฐำนทำงเรขำคณิต จุด เสน้ ตรง สว่ นของเสน้ ตรง รงั สี และมมุ กำรบอกขนำดควำมยำวของ
เสน้ ตรงและกำรสรำ้ งสว่ นของเสน้ ตรง กำรสรำ้ งมุมและกำรแบง่ ครง่ึ มมุ มมุ ตรง และมุมฉำก กำรสรำ้ งรูป
เรขำคณิตอยำ่ งงำ่ ย
โดยจดั ประสบกำรณห์ รอื สรำ้ งสถำนกำรณ์ในชวี ติ ประจ ำวนั ทใ่ี กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รำยงำน
เพ่อื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแก้ปัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำรสอ่ื สำร
กำรส่อื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ และกำรน ำเสนอ กำรเช่อื มโยงควำมรูต้ ำ่ งๆ ทำงคณิตศำสตรแ์ ละ
เช่อื มโยงคณิตศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ น่ื ๆ และน ำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไ่ี ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ ง่ิ ตำ่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจ ำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนักในคณุ ค่ำและมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ คณิตศำสตร์ สำมำรถท ำงำนอยำ่ งมรี ะบบ มรี ะเบยี บ

119

มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
รหสั ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ม.1/1, ม.1/2,
ค 1.2 ม.1/1, ม.1/3, ม.1/4
ค 1.4 ม.1/1
ค 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ค 6.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
รวมทงั้ หมด 15 ตวั ช้วี ดั

120

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

ค ๒๑๒๐๒ คณิตศาสตร์ ๒ กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ กษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเกย่ี วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี
เศษส่วน กำรเปรยี บเทยี บเศษส่วน กำรบวก กำรลบ กำรคูณ และกำรหำรเศษสว่ น กำรแก้
โจทยป์ ัญหำเกย่ี วกบั เศษสว่ น
ทศนิยม กำรเปรยี บเทยี บทศนิยม กำรบวก กำรลบ กำรคู ณ และกำรหำรทศนยิ ม กำรแก้
โจทยป์ ัญหำเก่ยี วกบั ทศนยิ ม โอกำสของเหตุกำรณ์ กำรประมำณคำ่ กำรประมำณค่ำและกำรนำไปใช้
ค่อู นั ดบั และกรำฟ กำรเขยี นกรำฟบนระนำบในระบบพกิ ดั ฉำกแสดงควำมเก่ยี วขอ้ งของ
ปรมิ ำณสองชุดทกี่ ำหนดให้ กำรอ่ำนและกำรแปลควำมหมำยของกรำฟบนระนำบในระบบพกิ ดั ฉำกที่
กำหนดให้
สมกำรเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ควำมสมั พนั ธ์ของแบบรปู สมกำรเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว กำรเขยี น
สมกำร เชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วจำกสถำนกำรณห์ รอื ปัญหำ โจทยป์ ัญหำเก่ยี วกบั สมกำรเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว
ควำมสมั พนั ธข์ องรูปเรขำคณิตสองมติ แิ ละสำมมติ ิ ภำพของรปู เรขำคณติ สำมมติ ิ ภำพทไ่ี ด้
จำกกำรมองดำ้ นหน้ำ ดำ้ นขำ้ ง และดำ้ นบนของรูปเรขำคณติ สำมมติ ิ กำรวำดหรอื ประดษิ ฐร์ ปู เรขำคณิต
สำมมติ ทิ ป่ี ระกอบขน้ึ จำกลูกบำศก์ เม่อื กำหนดภำพสองมติ ทิ ไ่ี ดจ้ ำกกำรมองดำ้ นหน้ำ ดำ้ นขำ้ ง และ
ดำ้ นบนให้
โดยจดั ประสบกำรณห์ รอื สรำ้ งสถำนกำรณ์ในชวี ติ ประจำวนั ทใ่ี กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรปุ รำยงำน
เพ่อื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแก้ปัญหำ กำรใหเ้ หตผุ ล กำรส่อื สำร
กำร ส่อื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และกำรน ำเสนอ กำรเช่อื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณติ ศำสตรแ์ ละ
เชอ่ื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ ่นื ๆ และน ำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไี่ ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ งิ่ ตำ่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนกั ในคุณค่ำและมเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อคณติ ศำสตร์ สำมำรถท ำงำนอยำ่ งมรี ะบบ มรี ะเบยี บ

121

มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเช่อื มนั่ ในตนเอง
รหสั ตวั ช้วี ดั
ค 1.1 ม.1/1, ค 1.2 ม.1/2, ค 1.3 ม.1/1, ค 3.1 ม.1/4,
ค 3.1 ม.1/5, ค 3.1 ม.1/6
ค 4.1 ม.1/1,
ค 4.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
ค 5.2 ม.1/1
ค 6.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
รวมทงั้ หมด 19 ตวั ช้วี ดั

122

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

ค ๒๑๒๐๓ คณิตศาสตรเ์ พ่ิม(จานวนและตวั เลข) กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี
กำรประยุกต์1 รูปเรขำคณิต จำนวนนับ ควำมยำวของดำ้ นของรูปสำมเหลยี่ ม จุดขำ้ งใน และ
จุดขำ้ งนอก ประกอบภำพจำกรูปเรขำคณิตทก่ี ำหนดใหเ้ ป็นรูปตำ่ งๆ
จำนวนและตวั เลข ระบบตวั เลขโรมนั กำรประยุกตเ์ ก่ยี วกบั จำนวนเตม็ และเลขยกก ำลงั กำรคดิ
คำนวณโจทยป์ ัญหำ
กำรประยกุ ตเ์ กย่ี วกบั จำนวนเตม็ และเลขยกกำลงั กำรคดิ คำนวณโจทยป์ ัญหำ
โดยจดั ประสบกำรณ์หรอื สรำ้ งสถำนกำรณใ์ นชวี ติ ประจำวนั ทใี่ กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รำยงำน
เพอ่ื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำรสอ่ื สำร
กำรส่อื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเช่อื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณติ ศำสตรแ์ ละ
เช่อื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ ่นื ๆ และนำประสบกำรณด์ ำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไี่ ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ ง่ิ ต่ำงๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนักในคุณค่ำและมเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อคณติ ศำสตร์ สำมำรถทำงำนอย่ำงมรี ะบบ มรี ะเบยี บ
มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
ผลกำรเรยี นรู้
1. ใชค้ วำมรูเ้ กย่ี วกบั รูปเรขำคณิต จำนวนนับ รอ้ ยละในชวี ติ ประจำวนั ปัญหำชวนและ
ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณิตศำสตรแ์ กป้ ัญหำตำ่ งๆ ได้
2. อ่ำนและเขยี นตวั เลขโรมนั ได้
3. ใชค้ วำมรูเ้ กย่ี วกบั จำนวนเตม็ และเลขยกกำลงั ในกำรแกป้ ัญหำได้
4. ตระหนักถงึ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบทไ่ี ด้
รวมทงั้ หมด 4 ผลกำรเรยี นรู

123

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

ค ๒๑๒๐๔ คณิตศาสตรเ์ พิ่ม(พหนุ าม) กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เรอ่ื งต่อไปน้ี
เอกนำมและพหุนำม สมั ประสทิ ธแิ ์ ละดกี รขี องเอกนำม ดกี รขี องพหุนำม กำรบวกและกำรลบ
เอกนำม กำรบวกและกำรลบพหุนำม กำรคณู และกำรหำรพหุนำม
จำนวนและตวั เลข ระบบตวั เลขฐำนตำ่ งๆ
โดยจดั ประสบกำรณ์หรอื สรำ้ งสถำนกำรณใ์ นชวี ติ ประจ ำวนั ทใ่ี กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รำยงำน
เพอ่ื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแก้ปัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำรส่อื สำร
กำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเชอ่ื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณติ ศำสตรแ์ ละ
เชอ่ื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ น่ื ๆ และนำประสบกำรณด์ ำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไ่ี ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ ง่ิ ตำ่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนกั ในคณุ ค่ำและมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอย่ำงมรี ะบบ มรี ะเบยี บ มี
ควำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
ผลกำรเรยี นรู้
1. หำผลบวกและผลลบของเอกนำมและพหนุ ำมได้
2. หำผลคูณและผลหำรของพหุนำมอย่ำงง่ำยได้
3. บอกค่ำของเลขโดดในตวั เลขฐำนต่ำงๆ ทก่ี ำหนดใหไ้ ด้
4. เขยี นตวั เลขฐำนทก่ี ำหนดใหเ้ ป็นตวั เลขฐำนต่ำงๆ ได้
5. ตระหนกั ถงึ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบทไี่ ด้
รวมทงั้ หมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

124

คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

ค ๒๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี
อตั รำสวนและรอยละ อตั รำสวน สดั สวน รอยละ กำรแกโ้ จทยป์ ัญหำเก่ยี วกบั อตั รำสวนและ
รอ้ ยละ โอกำสของเหตุกำรณ
กำรวดั หน่วยควำมยำว พน้ื ท่ี กำรแกปัญหำหรอื สถำนกำรณในชวี ติ ประจำวนั โดยใชค้ วำมรู้
เกย่ี วกบั พน้ื ที่ กำรคำดคะเน
แผนภมู ริ ูปวงกลม กำรอำนแผนภูมริ ปู วงกลม กำรเขยี นแผนภูมริ ปู วงกลม กำรแปลงทำง
เรขำคณติ กำรเลอ่ื นขนำน กำรสะทอน กำรหมุน
ควำมเทำกนั ทกุ ประกำร ควำมเท่ำกนั ทุกประกำรของรปู สำมเหลยี่ ม รปู สำมเหลยี่ มสองรปู ท่ี
สมั พนั ธก์ นั แบบ ดำน – มมุ – ดำน มุม – ดำน – มุม ดำ้ น – ดำน – ดำน
โดยจดั ประสบกำรณ์หรอื สรำ้ งสถำนกำรณใ์ นชวี ติ ประจำวนั ทใี่ กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รำยงำน
เพอ่ื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตผุ ล กำรสอ่ื สำร
กำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเช่อื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณิตศำสตรแ์ ละ
เชอ่ื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ ่นื ๆ และนำประสบกำรณด์ ำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไี่ ด้
ไปใช้
ในกำรเรยี นรูส้ งิ่ ตำ่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้

125

ตระหนกั ในคณุ คำ่ และมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ คณติ ศำสตร์ สำมำรถทำงำนอย่ำงมรี ะบบ มรี ะเบยี บ มคี วำม
รอบคอบ
มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
รหสั ตวั ช้วี ดั
ค 1.1 ม.2/4
ค 2.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
ค 2.2 ม.2/1
ค 3.2 ม.2/3, ม.2/4
ค 4.2 ม.2/2,
ค 5.1 ม.2/1
ค 6.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
รวมทงั้ หมด 15 ตวั ชว้ี ดั

126

คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค ๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี
ทฤษฎบี ทพที ำโกรสั สมบตั ขิ องรปู สำมเหลยี่ ม ทฤษฎบี ทพที ำโกรสั บทกลบั ทฤษฎบี ทพที ำ
โกรสั และกำรนำไปใช้
ควำมรูเ้ บ้อื งต้นเก่ยี วกบั จำนวนจรงิ จำนวนตรรกยะ จำนวนอตรรกยะ กำรหำรำกที่สอง รำกท่ี
สำม ควำมสมั พนั ธ์ของกำรยกกำลงั และกำรหำรำกของจำนวนเตม็ ควำมเก่ยี วขอ้ งระหวำ่ งจำนวนเตม็
จำนวนตรรกยะและจำนวนอตรรกยะ
กำรประยุกต์สมกำรเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว ทบทวนกำรแก้สมกำรเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว และ
กำรนำไปใช้
เสน้ ขนำน เสน้ ขนำนและมุมภำยใน เสน้ ขนำนและมุมแยง้ เสน้ ขนำนและมมุ ภำยนอกกบั มมุ
ภำยใน เสน้ ขนำนและรูปสำมเหลยี่ ม
โอกำสของเหตกุ ำรณ์เหตกุ ำรณ์ท่เี กดิ ขน้ึ แน่นอน เหตกุ ำรณ์ทไี่ มเ่ กดิ ขน้ึ แน่นอน โอกำสของ
เหตกุ ำรณ์ทีเ่ กดิ ขน้ึ
โดยจดั ประสบกำรณ์หรอื สรำ้ งสถำนกำรณใ์ นชวี ติ ประจำวนั ทใี่ กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รำยงำน
เพ่อื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตผุ ล กำรส่อื สำร
กำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเช่อื มโยงควำมรูต้ ำ่ งๆ ทำงคณติ ศำสตรแ์ ละ
เช่อื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ น่ื ๆ และนำประสบกำรณด์ ำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไ่ี ด้
ไปใช้
ในกำรเรยี นรูส้ งิ่ ตำ่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้

127

ตระหนักในคณุ คำ่ และมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณิตศำสตร์ สำมำรถท ำงำนอย่ำงมรี ะบบ มรี ะเบยี บ มคี วำม
รอบคอบ
มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเช่อื มนั่ ในตนเอง
รหสั ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
ค 1.2 ม.2/1, ม.2/2
ค 1.3 ม.2/1
ค 1.4 ม.2/1
ค 3.2 ม.2/1, ม.2/2
ค 4.2 ม.2/1
ค 5.2 ม.2/1
ค 6.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
รวมทงั้ หมด 17 ตวั ช้วี ดั

128

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

ค ๒๒๒๐๓ คณิตศาสตรเ์ พิ่ม(เศษส่วนพหนุ าม) กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
เศษส่วนของพหนุ ำม กำรบวก กำรลบ กำรคูณ และกำรหำรเศษส่วน พหุนำมดกี รไี มเ่ กนิ 1
สมบตั ขิ องเลขยกกำลงั กำรคูณเลขยกกำลงั กำรหำรเลขยกกำลงั สมบตั ขิ องเลขยกกำลงั เลข
ยกกำลงั ในรปู สญั กรณว์ ทิ ยำศำสตร์
โดยจดั ประสบกำรณ์หรอื สรำ้ งสถำนกำรณใ์ นชวี ติ ประจำวนั ทใ่ี กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ ค้นควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รำยงำน
เพอ่ื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแก้ปัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำรสอ่ื สำร
กำรส่อื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเชอ่ื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณิตศำสตรแ์ ละ
เชอ่ื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ ่นื ๆ และนำประสบกำรณ์ด้ำนควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไ่ี ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ ง่ิ ต่ำงๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนักในคุณค่ำและมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณติ ศำสตร์ สำมำรถทำงำนอย่ำงมรี ะบบ มรี ะเบยี บ มี
ควำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเช่อื มนั่ ในตนเอง
ผลกำรเรยี นรู้
1. บวก ลบ คูณ หำรเศษสว่ นของพหนุ ำมทมี่ ดี กี รไี ม่เกนิ หนง่ึ ได้
2. แกโจทยปัญหำเกย่ี วกบั เศษส่วนของพหุนำมได้
3. คณู และหำรจำนวนทเ่ี ขยี นอยใู่ นรูปเลขยกกำลงั ทมี่ เี ลขช้กี ำลงั เป็นจำนวนเตม็ โดยใช้
บทนิยำมและสมบตั ขิ องเลขยกกำลงั และนำไปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำได้
4. คำนวณและใชเ้ ลขยกกำลงั ในกำรเขยี นแสดงจำนวนทมี่ คี ่ำนอ้ ย ๆ หรอื มำก ๆ ในรปู
สญั กรณ์วทิ ยำศำสตรไ์ ด้
5. ตระหนักถงึ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบทไ่ี ด้
รวมทงั้ หมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

129

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

ค ๒๒๒๐๔ คณิตศาสตรเ์ พิ่ม(การแยกตวั ประกอบ) กล่มุ สาระการเรียนรู้

คณิ ตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เร่อื งต่อไปน้ี
กำรแยกตวั แประกอบของพหนุ ำมดกี รสี อง กำรแยกตวั ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี องโดยใช

สมบตั กิ ำรแจกแจง กำรแยกตวั ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี องทอี่ ยูในรปู 2 + +

เม่อื , , เป็นคำคงตวั และ ≠ 0 กำรแยกตวั ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี องทอี่ ยูในรูปกำลงั สอง
สม
บรู ณ กำรแยกตวั ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี องทอี่ ยูในรปู ผลตำงกำลงั สอง

กำรแยกตวั ประกอบของพหนุ ำม กำรแยกตวั ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี องโดยวธิ ที ำเป็นกำลงั
สองสมบูรณ กำรแยกตวั ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี ูงกวำสองทมี่ สี มั ประสทิ ธเิ ์ปนจำนวนเตม็ โดยอำศยั
วธิ ี
ทำเป็นกำลงั สองสมบูรณหรอื ใชท้ ฤษฎเี ศษเหลอื
โดยจดั ประสบกำรณ์หรอื สรำ้ งสถำนกำรณ์ในชวี ติ ประจำวนั ทใ่ี กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นได้ศกึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรปุ รำยงำน
เพอ่ื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำรสอ่ื สำร
กำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเช่อื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณิตศำสตรแ์ ละ
เชอ่ื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ น่ื ๆ และนำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไี่ ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ ง่ิ ตำ่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนักในคณุ คำ่ และมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ คณติ ศำสตร์ สำมำรถทำงำนอย่ำงมรี ะบบ มรี ะเบยี บ มี
ควำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
ผลกำรเรยี นรู้

1. แยกตวั ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี องตวั แปรเดยี วทม่ี สี มั ประสทิ ธขิ ์ องแต่ละพจนเป็นจำนวน
เตม็ และมสี มั ประสทิ ธขิ ์ องแตล่ ะพจนในพหนุ ำมตวั ประกอบเป็นจำนวนเตม็
2. แก้สมกำรกำลงั สองตวั แปรเดยี วโดยใชกำรแยกตวั ประกอบได้
3. แก้โจทยปัญหำเก่ยี วกบั สมกำรกำลงั สองตวั แปรเดยี วโดยใชกำรแยกตวั ประกอบไดแ้ ยกตวั
ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี องโดยวธิ ที ำเป็นกำลงั สองสมบูรณได้
4. แยกตวั ประกอบของพหนุ ำมดกี รสี ูงกวำสองทม่ี สี มั ประสทิ ธขิ ์ องแตล่ ะพจนเป็นจำนวนเตม็
และไดต้ วั ประกอบทมี่ สี มั ประสทิ ธขิ ์ องแตล่ ะพจนเป็นจำนวนเตม็ โดยอำศยั วธิ ที ำเป็นกำลงั สอง
สมบูรณ์ หรอื ใชทฤษฎเี ศษเหลอื ได้

130

5. แกส้ มกำรกำลงั สองตวั แปรเดยี วได้
6. แกโ้ จทยป์ ัญหำเก่ยี วกบั สมกำรกำลงั สองตวั แปรเดยี วได้
7. ตระหนักถงึ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบทไ่ี ด้
รวมทงั้ หมด 7 ผลกำรเรยี นรู้

คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค ๒๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเกย่ี วกบั เรอ่ื งตอ่ ไปน้ี
พน้ื ทผ่ี วิ และปรมิ ำตร ลกั ษณะและสมบตั ขิ องปรซิ มึ พรี ะมดิ ทรงกระบอก กรวย และทรงกลม
กำรหำพน้ื ทผ่ี วิ ของปรซิ มึ และทรงกระบอก กำรหำปรมิ ำตรของปรซิ มึ ทรงกระบอก พรี ะมดิ กรวยและ
ทรงกลม กำรเปรยี บเทยี บหน่วยควำมจหุ รอื หน่วยปรมิ ำตรในระบบเดยี วกนั หรอื ตำ่ งระบบและเลอื กใช้
หน่วยกำรวดั ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม กำรคำดคะเนเกย่ี วกบั กำรวดั ในสถำนกำรณ์ตำ่ งๆ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม
กำรใชค้ วำมรูเ้ กย่ี วกบั พน้ื ที่ พน้ื ทผ่ี วิ และปรมิ ำตรในกำรแกป้ ัญหำในสถำนกำรณ์ ต่ำง ๆ
สำมเหลยี่ มคลำ้ ย กำรใชส้ มบตั ขิ องรปู สำมเหลย่ี มคลำ้ ยในกำรใหเ้ หตุผลและกำรแก้ปัญหำ
กรำฟของสมกำรเชงิ เสน้ สองตวั แปร กำรเขยี นกรำฟแสดงควำมเกย่ี วขอ้ งระหว่ำงปรมิ ำณสอง
ชดุ ทม่ี คี วำมสมั พนั ธ์เชงิ เสน้ เขยี นกรำฟของสมกำรเชงิ เสน้ สองตวั แปร กำรอ่ำนและแปลควำมหมำย
กรำฟของระบบสมกำร เชงิ เสน้ สองตวั แปรและกรำฟอน่ื ๆ
ระบบสมกำรเชงิ เสน้ สองตวั แปร กำรแกร้ ะบบสมกำรเชงิ เส้นสองตวั แปรและน ำไปใชแ้ ก้ปัญหำ
พรอ้ มทงั้ ตระหนกั ถงึ ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบ
โดยจดั ประสบกำรณ์หรอื สรำ้ งสถำนกำรณ์ในชวี ติ ประจำวนั ทใี่ กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รำยงำน

131

เพ่อื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรใหเ้ หตุผล กำรส่อื สำร
กำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเชอ่ื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณิตศำสตรแ์ ละ
เช่อื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ น่ื ๆ และนำประสบกำรณ์ดำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไี่ ด้
ไปใช้ ในกำรเรยี นรูส้ ง่ิ ตำ่ งๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่ำงสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้
ตระหนกั ในคณุ คำ่ และมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ คณติ ศำสตร์ สำมำรถท ำงำนอย่ำงมรี ะบบ มรี ะเบยี บ มคี วำม
รอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
รหสั ตวั ช้วี ดั
ค 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4
ค 2.2 ม.3/1
ค 3.1 ม.3/1
ค 3.2 ม.3/1
ค 4.2 ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
ค 6.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
รวมทงั้ หมด 17 ตวั ชว้ี ดั

132

คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน

ค ๒๓๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๖ กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี
อสมกำร คำตอบและกรำฟแสดงคำตอบของอสมกำรเชงิ เส้นตวั แปรเดยี ว กำรแก้อสมกำรเชงิ
เสน้ ตวั แปรเดยี ว กำรแกโ้ จทยป์ ัญหำเกย่ี วกบั อสมกำรเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี ว

สถติ ิ กำรกำหนดประเดน็ กำรเขยี นขอ้ คำถำม กำรกำหนดวธิ กี ำรศกึ ษำ และกำรเกบ็
กำรรวบรวมขอ้ มลู กำรนำเสนอขอ้ มลู กำรหำค่ำกลำงของขอ้ มลู กำรเลอื กใชค้ ำ่ กลำงของขอ้ มลู
กำรอำ่ น กำรแปลควำมหมำย และกำรวเิ ครำะหข์ อ้ มูล กำรใชข้ อ้ มลู สำรสนเทศ

ควำมน่ำจะเป็น กำรทดลองสุม่ และเหตุกำรณ์กำรหำควำมน่ำจะเป็นของเหตกุ ำรณ์ กำรนำไปใช้
กำรเสรมิ ทกั ษะกระบวนกำรทำงคณติ ศำสตร์ เก่ยี วกบั ทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรแก้ปัญหำ

กำรใหเ้ หตผุ ล กำรสอ่ื สำร ส่อื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และกำรน ำเสนอ กำรเช่อื มโยง ควำมคดิ รเิ รมิ่
สรำ้ งสรรค์

โดยจดั ประสบกำรณห์ รอื สรำ้ งสถำนกำรณ์ในชวี ติ ประจ ำวนั ทใี่ กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรปุ รำยงำน

เพ่อื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแก้ปัญหำ กำรใหเ้ หตผุ ล กำรสอ่ื สำร
กำรส่อื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเชอ่ื มโยงควำมรูต้ ำ่ งๆ ทำงคณติ ศำสตรแ์ ละ
เช่อื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ ่นื ๆ และนำประสบกำรณด์ ำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไี่ ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ งิ่ ต่ำงๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนักในคณุ ค่ำและมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อคณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอยำ่ งมรี ะบบ มรี ะเบยี บ
มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเช่อื มนั่ ในตนเอง

รหสั ตวั ช้วี ดั
ค 4.2 ม.3/1

133

ค 5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4
ค 5.2 ม.3/1
ค 5.3 ม.3/1, ม.3/2
ค 6.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
รวมทงั้ หมด 14 ตวั ช้วี ดั

134

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม

ค ๒๓๒๐๓ คณิตศาสตรเ์ พ่ิม(พาราโบลา) กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เร่อื งต่อไปน้ี
สมกำรพำรำโบลำ กรำฟของสมกำรพำรำโบลำทีอ่ ยู่ในรปู = 2 + +
เม่อื ≠ 0

กรณฑท์ ่ี 2 กำรบวก กำรลบ กำรคณู และกำรหำรจำนวนจรงิ ทอี่ ย่ใู นรูป √ เมอ่ื ≥ 0
โดยจดั ประสบกำรณห์ รอื สรำ้ งสถำนกำรณ์ในชวี ติ ประจ ำวนั ทใี่ กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รำยงำน
เพอ่ื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแก้ปัญหำ กำรใหเ้ หตผุ ล กำรส่อื สำร
กำรสอ่ื ควำมหมำยทำงคณิตศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเช่อื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณติ ศำสตรแ์ ละ
เชอ่ื มโยงคณติ ศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ น่ื ๆ และนำประสบกำรณด์ ำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไ่ี ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ งิ่ ต่ำงๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่ำงสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนักในคณุ ค่ำและมเี จตคตทิ ดี่ ีตอ่ คณติ ศำสตร์ สำมำรถท ำงำนอยำ่ งมรี ะบบ มรี ะเบยี บ
มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
ผลกำรเรยี นรู้

1. นักเรยี นมคี วำมรูเ้ กย่ี วกบั เร่อื ง พำรำโบลำ สมกำรพำรำโบลำ และกรำฟของพำรำโบลำ และ
นำควำมรูเ้ ร่อื งพำรำโบลำไปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำได้
2. นกั เรยี นมคี วำมรูเ้ กย่ี วกบั เรอ่ื งกรณฑท์ ส่ี อง แสดงกำรบวก ลบ คณู และหำรจำนวนจรงิ ทอี่ ยู่

ในรปู √ และนำควำมรูเ้ ร่อื ง กรณฑท์ สี่ องไปใชใ้ นกำรแก้ปัญหำได้
3. ตระหนักถงึ ควำมสมเหตุสมผลของคำตอบทไ่ี ด้
รวมทงั้ หมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

135

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

ค ๒๓๒๐๓ คณิตศาสตรเ์ พิ่ม(ระบบสมการ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้

คณิ ตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๒๐ ชวั่ โมง จานวน ๐.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเกย่ี วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี
ระบบสมกำร ระบบสมกำรดกี รไี ม่เกนิ สอง โจทยป์ ัญหำระบบสมกำรดกี รไี ม่เกนิ สอง
วงกลม มมุ ทจี่ ดุ ศนู ยก์ ลำงและมมุ ในสว่ นโคง้ ของวงกลม คอรด์ เสน้ สมั ผสั วงกลม
โดยจดั ประสบกำรณห์ รอื สรำ้ งสถำนกำรณ์ในชวี ติ ประจ ำวนั ทใี่ กลต้ วั ใหผ้ เู้ รยี นไดศ้ กึ ษำ คน้ ควำ้
โดยกำรปฏบิ ตั จิ รงิ ทดลอง สรปุ รำยงำน
เพอ่ื พฒั นำทกั ษะ/กระบวนกำรในกำรคดิ คำนวณ กำรแก้ปัญหำ กำรใหเ้ หตผุ ล กำรส่อื สำร
กำรส่อื ควำมหมำยทำงคณติ ศำสตร์ และกำรนำเสนอ กำรเชอ่ื มโยงควำมรูต้ ่ำงๆ ทำงคณติ ศำสตรแ์ ละ
เชอ่ื มโยงคณิตศำสตรก์ บั ศำสตรอ์ น่ื ๆ และนำประสบกำรณด์ ำ้ นควำมรู้ ควำมคดิ ทกั ษะกระบวนกำรทไ่ี ด้
ไปใชใ้ นกำรเรยี นรูส้ งิ่ ต่ำงๆ และใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่ำงสรำ้ งสรรค์ ตำมหลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง
พรอ้ มทงั้ ตระหนกั ในคุณคำ่ และมเี จตคตทิ ด่ี ตี ่อคณิตศำสตร์ สำมำรถทำงำนอย่ำงมรี ะบบ มรี ะเบยี บ
มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มวี จิ ำรณญำณ และมคี วำมเช่อื มนั่ ในตนเอง
ผลกำรเรยี นรู้

1. นกั เรยี นมคี วำมรูเ้ ก่ยี วกบั เรอ่ื งระบบสมกำร ทมี่ ดี กี รไี มเ่ กนิ สอง และนำควำมรูเ้ รอ่ื งระบบ
สมกำร
ไปใชแ้ กป้ ัญหำได้
2. นักเรยี นมคี วำมรูเ้ กย่ี วกบั เร่อื งวงกลม และนำควำมรูเ้ รอ่ื งวงกลมไปใชแ้ ก้ปัญหำได้
3. ตระหนักถงึ ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบทไ่ี ด้
รวมทงั้ หมด 3 ผลกำรเรยี นร

136

คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

ค ๓๑๑๐๑ คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน ๑ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๔ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เรอ่ื งต่อไปน้ี
เซต เอกภพสมั พทั ธ์ สบั เซตและเพำเวอร์เซต กำรด ำเนนิ กำรของเซต แผนภำพเวนน์-ออยเลอร์
กำรใหเ้ หตผุ ล กำรใหเ้ หตุผลแบบอปุ นัย กำรใหเ้ หตผุ ลแบบนิรนยั
จำนวนจรงิ ค่ำสมั บรู ณ์ของจำนวนจรงิ จำนวนจรงิ ทอี่ ยู่ในรปู เลขยกกำลงั ทม่ี เี ลขชก้ี ำลงั เป็น
จำนวนตรรกยะและจำนวนจรงิ ทอี่ ย่ใู นรปู กรณฑ์ กำรบวก กำรลบ กำรคณู และกำรหำรจำนวนจรงิ กำร
บวก กำรลบ กำรคณู และกำรหำรจำนวนจรงิ ทอ่ี ยู่ในรูปเลขยกก ำลงั ทมี่ เี ลขช้กี ำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ
และจำนวนจรงิ ทอี่ ยู่ในรปู กรณฑ์ ค่ำประมำณของจำนวนจรงิ ทอ่ี ยู่ในรูปกรณฑ์ และจำนวนจรงิ ทอ่ี ยใู่ น
รปู เลขยกกำลงั สมบตั ขิ องจำนวนจรงิ และกำรน ำไปใช้
โดยใชค้ วำมรู้ ทกั ษะ/กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นกำรแก้ปัญหำใน
สถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม โดยใชว้ ธิ กี ำรทห่ี ลำกหลำยในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำรให้
เหตุผลประกอบกำรตดั สนิ ใจและสรปุ ผลไดอ้ ย่ำงถกู ตอ้ งเหมำะสมใชภ้ ำษำและสญั ลกั ษณท์ ำง
คณิตศำสตรใ์ นกำรสอ่ื สำร กำรส่อื ควำมหมำยและกำรน ำเสนอไดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ งชดั เจน เชอ่ื มโยงควำมรู้
ตำ่ ง
ๆ ในคณิตศำสตรแ์ ละนำควำมรู้ หลกั กำร กระบวนกำรทำงคณิตศำสตรไ์ ปเชอ่ื มโยงกบั ศำสตร์ อน่ื ๆ

137

รวมทงั้ เหน็ คณุ ค่ำและมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณิตศำสตร์ มคี วำมใฝ่เรยี นรู้ ควำมมุ่งมนั่ ในกำรทำงำน รูส้ ำมำรถ
ทำงำนอยำ่ งเป็นระบบระเบยี บ มวี นิ ยั มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มคี วำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
มวี จิ ำรณญำณและมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเองและใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่ำงสรำ้ งสรรค์
รหสั ตวั ช้วี ดั
ค 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ค 1.2 ม.4-6/1
ค 1.4 ม.4-6/1
ค 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2
ค 4.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3
ค 6.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6
รวมทงั้ หมด 15 ตวั ชว้ี ดั

138

คาอธิบายรายวิชาพืน้ ฐาน

ค ๓๑๑๐๒ คณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน ๒ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปี ที่ ๔ ภาคเรียนที่ ๒ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเกย่ี วกบั เรอ่ื งต่อไปน้ี
ควำมสมั พนั ธแ์ ละฟังกช์ นั กรำฟของควำมสมั พนั ธแ์ ละฟังกช์ นั กรำฟของสมกำรและอสมกำร
ฟังกช์ นั และกำรน ำไปใช้ ฟังกช์ นั เชงิ เสน้ ฟังก์ชนั ก ำลงั สอง ฟังกช์ นั เอกซโ์ พเนนเชยี ล ฟังกช์ นั ค่ำ
สมบูรณ์ ฟังกช์ นั ขนั้ บนั ได

โดยใชค้ วำมรู้ ทกั ษะ/กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นกำรแกป้ ัญหำใน
สถำนกำรณต์ ่ำง ๆ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม โดยใชว้ ธิ กี ำรทห่ี ลำกหลำยในกำรคดิ คำนวณ กำรแก้ปัญหำ กำร
ให้
เหตผุ ลประกอบกำรตดั สนิ ใจและสรปุ ผลไดอ้ ยำ่ งถกู ตอ้ ง เหมำะสม ใชภ้ ำษำและสญั ลกั ษณท์ ำง
คณติ ศำสตรใ์ นกำรส่อื สำร กำรสอ่ื ควำมหมำยและกำรนำเสนอไดอ้ ยำ่ งถกู ต้องชดั เจน เช่อื มโยงควำมรู้
ต่ำง ๆ ในคณิตศำสตรแ์ ละนำควำมรู้ หลกั กำร กระบวนกำรทำงคณิตศำสตรไ์ ปเช่อื มโยงกบั ศำสตรอ์ น่ื ๆ
รวมทงั้ เหน็ คณุ ค่ำและมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณิตศำสตรม์ คี วำมใฝ่เรยี นรู้ ควำมมงุ่ มนั่ ใน กำรทำงำน รูส้ ำมำรถ
ทำงำนอย่ำงเป็นระบบระเบยี บ มวี นิ ัย มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มคี วำมซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
มวี จิ ำรณญำณและมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเองและใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์
รหสั ตวั ช้วี ดั
ค 4.1 ม.4-6/3
ค 4.2 ม.4-6/4, ม.4-6/5
ค 6.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6
รวมทงั้ หมด 9 ตวั ช้วี ดั

139

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

ค ๓๑๒๐๓ คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเติม ๑ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเกย่ี วกบั เร่อื งต่อไปน้ี
ตรรกศำสตรเ์ บ้อื งต้น ประพจน์ กำรหำค่ำควำมจรงิ ของประพจน์ กำรสรำ้ งตำรำงคำ่ ควำม
จรงิ รูปแบบของประพจน์ทส่ี มมลู กนั สจั นริ นั ดร์ กำรอ้ำงเหตุผล ประโยคเปิด ตวั บ่งปรมิ ำณ คำ่ ควำม
จรงิ ของประโยคทม่ี ตี วั บง่ ปรมิ ำณตวั เดยี ว สมมลู และนิเสธของประโยคทมี่ ตี วั บ่งปรมิ ำณ และค่ำควำม
จรงิ ของประโยคทมี่ ตี วั บง่ ปรมิ ำณสองตวั
ระบบจำนวนจรงิ จำนวนจรงิ สมบตั ขิ องระบบจำนวนจรงิ กำรแก้สมกำรพหุนำมตวั แปรเดยี ว
สมบตั กิ ำรไม่เท่ำกนั ชว่ งและกำรแกส้ มกำร ค่ำสมั บรู ณ์ กำรแก้สมกำรและอสมกำรในรูป ค่ำสมั บรู ณ์

โดยใชค้ วำมรู้ ทกั ษะ/กระบวนกำรทำงคณิตศำสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นกำรแกป้ ัญหำใน
สถำนกำรณต์ ำ่ ง ๆ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม โดยใชว้ ธิ กี ำรทห่ี ลำกหลำยในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำร
ให้
เหตผุ ลประกอบกำรตดั สนิ ใจและสรุปผลไดอ้ ยำ่ งถกู ต้อง เหมำะสม ใชภ้ ำษำและสญั ลกั ษณ์ทำง
คณติ ศำสตรใ์ นกำรสอ่ื สำร กำรสอ่ื ควำมหมำยและกำรนำเสนอไดอ้ ยำ่ งถกู ต้องชดั เจน เช่อื มโยงควำมรู้
ต่ำง ๆ ในคณิตศำสตรแ์ ละนำควำมรู้ หลกั กำร กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรไ์ ปเชอ่ื มโยงกบั ศำสตรอ์ ่นื ๆ
รวมทงั้ เหน็ คุณคำ่ และมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณติ ศำสตร์ มคี วำมใฝ่เรยี นรู้ ควำมมงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน รูส้ ำมำรถ
ทำงำนอย่ำงเป็นระบบระเบยี บ มวี นิ ยั มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มคี วำมซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
มวี จิ ำรณญำณและมคี วำมเช่อื มนั่ ในตนเองและใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์
ผลกำรเรยี นรู้

1. หำคำ่ ควำมจรงิ ของประพจน์ และรปู แบบของประพจน์ทส่ี มมูลกนั รปู แบบของประพจน์ที่
เป็นสจั นิรนั ดร์ และนิเสธของประพจน์
2. รูปแบบทส่ี มมลู และนเิ สธประโยคทมี่ ตี วั บง่ ปรมิ ำณ และหำคำ่ ควำมจรงิ ของประพจน์ทมี่ ตี วั

140

บ่งปรมิ ำณได้
3. บอกไดว้ ่ำกำรอำ้ งเหตุผลทกี่ ำหนดใหส้ มเหตุสมผลหรอื ไม่
4. มคี วำมคดิ รวบยอดเก่ยี วกบั ระบบจำนวนจรงิ
5. น ำสมบตั ติ ่ำง ๆ เกย่ี วกบั จำนวนจรงิ และกำรดำเนนิ กำรไปใชไ้ ด้
6. แกส้ มกำรพหุนำมตวั แปรเดยี วดกี รไี ม่เกนิ สไ่ี ด้
7. แกส้ มกำรและอสมกำรในรูปคำ่ สมั บรู ณ์ได้
รวมทงั้ หมด 7 ผลกำรเรยี นรู้

141

คาอธิบายรายวิชาเพ่ิมเติม

ค ๓๑๒๐๔ คณิตศาสตรเ์ พ่ิมเติม ๒ กลุม่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เร่อื งตอ่ ไปน้ี
เรขำคณติ วเิ ครำะห์ ควำมรูเ้ บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั เรขำคณติ วเิ ครำะห์ ระยะทำงระหว่ำงจดุ สองจดุ
จุดกง่ึ กลำงระหว่ำงจุดสองจุด ควำมชนั ของเสน้ ตรง เสน้ ขนำน เสน้ ตงั้ ฉำก ควำมสมั พนั ธ์ ซ่งึ มกี รำฟ
เป็นเสน้ ตรง ระยะห่ำงระหวำ่ งเสน้ ตรงกบั จดุ ภำคตดั กรวย วงกลม วงรี พำรำโบลำ ไฮเพอรโ์ บลำ
และกำรเลอ่ื นขนำน
ฟังกช์ นั ควำมสมั พนั ธ์ ผลคณู คำรท์ เี ซยี น ควำมสมั พนั ธ์ โดเมนและเรนจข์ องควำมสมั พนั ธ์
ตวั ผกผนั ของควำมสมั พนั ธ์ ฟังกช์ นั ควำมหมำยของฟังก์ชนั กำรด ำเนนิ กำร ของฟังก์ชนั ฟังกช์ นั
ผกผนั และเทคนิคกำรเขยี นกรำฟ
โดยใชค้ วำมรู้ ทกั ษะ/กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นกำรแก้ปัญหำใน
สถำนกำรณ์ต่ำง ๆ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม โดยใชว้ ธิ กี ำรทหี่ ลำกหลำยในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำร
ให้
เหตผุ ลประกอบกำรตดั สนิ ใจและสรุปผลไดอ้ ย่ำงถกู ต้องเหมำะสม ใชภ้ ำษำและสญั ลกั ษณ์ทำง
คณติ ศำสตรใ์ นกำรสอ่ื สำร กำรส่อื ควำมหมำยและกำรนำเสนอไดอ้ ยำ่ งถกู ต้องชดั เจน เชอ่ื มโยงควำมรู้
ต่ำง ๆ ในคณติ ศำสตรแ์ ละน ำควำมรู้ หลกั กำร กระบวนกำรทำงคณติ ศำสตรไ์ ปเช่อื มโยงกบั ศำสตรอ์ น่ื

รวมทงั้ เหน็ คุณคำ่ และมเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อคณติ ศำสตร์ มคี วำมใฝ่เรยี นรู้ ควำมมุ่งมนั่ ในกำรท ำงำน รูส้ ำมำรถ
ทำงำนอย่ำงเป็นระบบระเบยี บ มวี นิ ยั มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มคี วำมซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
มวี จิ ำรณญำณและมคี วำมเช่อื มนั่ ในตนเองและใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อย่ำงสรำ้ งสรรค์
ผลกำรเรยี นรู้
1. วเิ ครำะหแ์ ละหำค ำตอบของระบบสมกำรเชงิ เสน้
2. หำระยะทำงระหว่ำงจุดสองจดุ จุดก่งึ กลำง ระยะระหวำ่ งเสน้ ตรงกบั จุด

142

3. หำควำมชนั ของเสน้ ตรง สมกำรเสน้ ตรง เสน้ ขนำน เสน้ ตงั้ ฉำก และน ำไปใชใ้ นกำร
แกป้ ัญหำได้
4. เขยี นควำมสมั พนั ธท์ มี่ กี รำฟเป็นภำคตดั กรวย เมอ่ื กำหนดสว่ นต่ำง ๆ ของภำคตดั กรวยให้
และเขยี นกรำฟของควำมสมั พนั ธ์นนั้ ได้
5. นำควำมรูเ้ รอ่ื งกำรเล่อื นแกนทำงขนำนไปใชใ้ นกำรเขยี นกรำฟได้
6. นำควำมรูเ้ ร่อื งเรขำคณติ วเิ ครำะหไ์ ปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำได้
7. มคี วำมคดิ รวบยอดเกย่ี วกบั ฟังกช์ นั เขยี นกรำฟของฟังก์ชนั และสรำ้ งฟังก์ชนั จำกโจทย์
ปัญหำทกี่ ำหนดให้
8. นำควำมรูเ้ ร่อื งฟังก์ชนั ไปใชแ้ กป้ ัญหำได้
รวมทงั้ หมด 8 ผลกำรเรยี นรู้

143

คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน

ค ๓๒๑๐๑ คณิตศาสตรพ์ ื้นฐาน ๓ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปี ที่ ๕ ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต

ศกึ ษำ คน้ ควำ้ ฝึกทกั ษะ/กระบวนกำรเก่ยี วกบั เรอ่ื งต่อไปน้ี
เลขยกกำลงั รำกที่ n ของจำนวนจรงิ เลขยกกำลงั ทมี่ เี ลขช้กี ำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ
อตั รำส่วนตรโี กณมติ แิ ละกำรนำไปใช้ สำมเหลยี่ มคลำ้ ย อตั รำส่วนตรโี กณมติ ิ อตั รำสว่ น
ตรโี กณมติ ขิ องมุม 30 องศำ 45 องศำ และ 60 องศำ กำรหำอตั รำสว่ นตรโี กณมติ ขิ องมุมระหวำ่ ง 0
องศำ ถงึ 90 องศำ โดยใชต้ ำรำง กำรนำอตั รำส่วนตรโี กณมติ ไิ ปใชใ้ นกำรแกป้ ัญหำเก่ยี วกบั กำรหำ
ระยะทำงและควำมสงู
โดยใชค้ วำมรู้ ทกั ษะ/กระบวนกำรทำงคณิตศำสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นกำรแกป้ ัญหำใน
สถำนกำรณต์ ่ำง ๆ ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม โดยใชว้ ธิ กี ำรทห่ี ลำกหลำยในกำรคดิ คำนวณ กำรแกป้ ัญหำ กำร
ให้
เหตผุ ลประกอบกำรตดั สนิ ใจและสรปุ ผลไดอ้ ย่ำงถูกต้อง เหมำะสม ใชภ้ ำษำและสญั ลกั ษณ์ทำง
คณติ ศำสตรใ์ นกำรส่อื สำร กำรสอ่ื ควำมหมำยและกำรนำเสนอไดอ้ ย่ำงถูกต้องชดั เจน เช่อื มโยงควำมรู้
ต่ำง ๆ ในคณิตศำสตรแ์ ละนำควำมรู้ หลกั กำร กระบวนกำรทำงคณิตศำสตรไ์ ปเชอ่ื มโยงกบั ศำสตร์
อน่ื ๆ รวมทงั้ เหน็ คณุ คำ่ และมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ คณติ ศำสตร์ มคี วำมใฝ่เรยี นรู้ ควำมมุ่งมนั่ ในกำรทำงำน รู้
สำมำรถทำงำนอยำ่ งเป็นระบบระเบยี บ มวี นิ ยั มคี วำมรอบคอบ มคี วำมรบั ผดิ ชอบ มคี วำมซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ
มวี จิ ำรณญำณและมคี วำมเชอ่ื มนั่ ในตนเองและใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั อยำ่ งสรำ้ งสรรค์
รหสั ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ม.4-6/3
ค 1.2 ม.4-6/2
ค 1.3 ม.4-6/1
ค 4.1 ม.4-6/3, ม.4-6/4
ค 4.2 ม.4-6/5


Click to View FlipBook Version