นางสาวสุภสุาพร พื้น พื้ ขุนทด นักนัศึกศึษาฝึกฝึ ประสบการณ์วิณ์ชวิาชีพชีครู รหัสหันักนัศึกศึษา 63040112109 วิทวิยาศาสตร์ 5 ว23101 แผนการจัด จั การเรีย รี นรู้ ชั้นชั้มัธมัยมศึก ศึ ษาปีที่ ปี ที่ 3 ปีก ปี ารศึก ศึ ษา 2566 โรงเรียรีนหนองบัวบัพิทพิยาคาร สำ นักนังานเขตพื้น พื้ ที่ก ที่ ารศึกศึษามัธมัยมศึกศึษาเขต 19 สาขาวิทวิยาศาสตร์ทั่ร์วทั่ ไปและเคมี คณะครุศรุาสตร์ มหาวิทวิยาลัยลัราชภัฏภัอุดอุรธานี
ก คำนำ การจัดการศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เพื่อให้สอดคล้อง กับหลักการและบรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) จำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง และการจัดทำหลักสูตรระดับ รายวิชาเป็น องค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญ ที่เป็นกรอบในการจัดการศึกษาให้สามารถพัฒนาและยกระดับ คุณภาพของผู้เรียนให้ ดีขึ้นและช่วยให้ครูผู้สอนได้ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเข้าใจ และส่งผลให้สามารถจัด กิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ผู้จัดทำได้ศึกษาและวิเคราะห์จากหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) หลักสูตรสถานศึกษาและเอกสารที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หลักสูตรรายวิชา วิทยาศาสตร์กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ช่วยให้การจัด การศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป สุภาพร พื้นขุนทด
ข สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข คำอธิบายรายวิชา 1 โครงสร้างรายวิชา วิทยาศาสตร์ 5 4 กำหนดการสอน 16 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 การปฐมนิเทศรายวิชา 18 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 วิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหา 28 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 วิทยาศาสตร์ในชีวิตและวิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหาของมนุษย์ 28 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 35 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รูปร่าง ลักษณะและส่วนประกอบของโคโมโซม 35 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 ยีนบนโครโมโซม 45 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 การศึกษาพันธุศาสตร์ขิงเมนเดล 53 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 โครโมโซมของมนุษย์และการแบ่งเซลล์ 62 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 โรคทางพันธุกรรม 69 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม 80 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 คลื่นและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 89 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับคลื่น 89 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 104 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 แสง 117 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 การสะท้อนแสงและการเกิดภาพของกระจกเงาราบ 117 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 การเกิดภาพของกระจกเงาโค้ง 131 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 การหักเหของแสง 147 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 เลนส์และการเกิดภาพ 157 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 การนำแสงประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ 170
ค สารบัญ เรื่อง หน้า แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 นัยน์ตากับการมองเห็น 180 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 ความสว่างและการมองเห็น 190 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ 201 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ 201 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 19 การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ 211 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 การเกิดฤดูกาลต่างๆ บนโลก 223 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ 234 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 อิทธิพลของดวงจันทร์ที่มีต่อโลก 247 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 มองท้องฟ้าด้วยกล้องโทรทรรศน์ 263 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 ความก้าวหน้าของการสำรวจอวกาศ 275 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 การเดินทางสู่อวกาศ 285
1 คำอธิบายรายวิชา รายวิชา ว23101 วิทยาศาสตร์5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่3 ภาคเรียนที่1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ศึกษาสาเหตุหรือปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีและความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับ ศาสตร์อื่นเพื่อเป็นแนวทางแก้ปัญหา ตลอดจนคาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีในอนาคต เลือกใช้เทคโนโลยีโดย คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ทักษะ และทรัพยากร โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบและเลือกข้อมูลที่จำเป็นเพื่อออกแบบวิธีการแก้ปัญหาในชุมชนหรือท้องถิ่น และสร้างชิ้นงานหรือ พัฒนาวิธีการโดย ใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม รวมทั้งเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการแก้ปัญหาได้ อย่างถูกต้องกับลักษณะของงาน เหมาะสม และปลอดภัยเพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน ความสัมพันธ์ระหว่าง ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม โดยใช้แบบจำลอง การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมจากการผสมโดยพิจารณาลักษณะเดียวที่แอลลีลเด่นข่มแอลลีลด้อยอย่างสมบูรณ์ การเกิดจีโนไทป์และฟี โนไทป์ของลูกและคำนวณอัตราส่วนจากจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของรุ่นลูก ความแตกต่างของการแบ่งเซลล์แบบไมโท ซิสและไมโอซิส การเปลี่ยนแปลงของยีนหรือโครโมโซมอาจทำให้เกิดโรคทางพันธุกรรม พร้อมทั้งยกตัวอย่างโรค ทางพันธุกรรม ประโยชน์ของความรู้เรื่องโรคทางพันธุกรรม โดยรู้ว่าก่อนแต่งงานควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจและ วินิจฉัยภาวะเสี่ยงของลูกที่อาจเกิดโรคทางพันธุกรรม การใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และ ผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การเกิดคลื่นและส่วนประกอบของคลื่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและ สเปกตรัมของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ประโยชน์และอันตรายของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ปรากฏการณ์เกี่ยวกับแสง การสะท้อนของแสงและการหักเหของ แสง การทำงานของทัศนอุปกรณ์ความสว่างและการมองเห็น ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ด้วยแรง โน้มถ่วง การเกิดฤดูการ เคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์การเกิดข้างขึ้น ข้างแรม การเปลี่ยนแปลงเวลาขึ้น และตกของดวงจันทร์การเกิดน้ำ ขึ้น น้ำลง เทคโนโลยีอวกาศ โครงการสํารวจอวกาศ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ม.3/1 : อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม โดยใช้แบบจําลอง
2 ม.3/2 : อธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากการผสมโดยพิจารณาลักษณะเดียวที่แอลลีลเด่นข่มแอลลี ลด้อยอย่างสมบูรณ์ ม.3/3 : อธิบายการเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของลูก และคํา นวณอัตราส่วนการเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของรุ่น ลูก ม.3/4 : อธิบายความแตกต่างของการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซิส ม.3/5 : บอกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของยีนหรือโครโมโซมอาจทำให้เกิดโรคทางพันธุกรรม พร้อมทั้งยกตัวอย่างโรค ทางพันธุกรรม ม.3/6 : ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้เรื่องโรคทางพันธุกรรม โดยรู้ว่าก่อนแต่งงานควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจ และวินิจฉัยภาวะเสี่ยงของลูกที่อาจเกิดโรคทางพันธุกรรม ม.3/7 : อธิบายการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ ม.3/8 : ตระหนักถึงประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมโดย การเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ซึ่งมีข้อมูลสนับสนุน มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ม.3/10 : สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดคลื่นและบรรยายส่วนประกอบของคลื่น ม.3/11 : อธิบายคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและสเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ม.3/12 : ตระหนักถึงประโยชน์และอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยนํา เสนอการใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ และอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในชีวิตประจำวัน ม.3/13 : ออกแบบการทดลองและดำเนินการทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายกฎการสะท้อนของแสง ม.3/14 : เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพจากกระจกเงา ม.3/15 : อธิบายการหักเหของแสง เมื่อผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกัน และอธิบายการกระจายแสงของแสงขาว เมื่อผ่านปริซึมจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ม.3/16 : เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์บาง ม.3/17 : อธิบายปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสงและการทำงานของทัศนอุปกรณ์จากข้อมูลที่รวบรวมได้ ม.3/18 : เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพของทัศนอุปกรณ์และเลนส์ตา ม.3/19 : อธิบายผลของความสว่างที่มีต่อดวงตาจากข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น
3 ม.3/20 : วัดความสว่างของแสงโดยใช้อุปกรณ์วัดความสว่างของแสง ม.3/21 : ตระหนักในคุณค่าของความรู้เรื่อง ความสว่างของแสงที่มีต่อดวงตา โดยวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาและ เสนอแนะการจัดความสว่างให้เหมาะสมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์และระบบ สุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ ตัวชี้วัด ม.3/1 : อธิบายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ด้วยแรงโน้มถ่วงจากสมการ F = (Gm1m2)/r 2 ม.3/2 : สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดฤดูและการเคลื่อนที่ปรากฏของดวงอาทิตย์ ม.3/3 : สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดข้างขึ้นข้างแรม การเปลี่ยนแปลงเวลาการขึ้นและตกของดวงจันทร์และ การเกิดน้ำขึ้นน้ำลง ม.3/4 : อธิบายการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศและยกตัวอย่างความก้าวหน้าของโครงการสำรวจอวกาศ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ รวม 24 ตัวชี้วัด
4 โครงสร้างรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ว23101) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 ปฐมนิเทศ การแนะนำขอบข่ายรายวิชา วิธีการเรียนการสอน จุดประสงค์ การเรียนรู้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในแต่ละเรื่อง การวัดและ ประเมินผล 1 - 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 วิทยาศาสตร์กับการ แก้ปัญหา หน่วยการเรียนรู้นี้มีจุดมุ่งหมายให้นักเรียนตระหนักถึง ความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อ มนุษย์ทั้งในด้านการดำรงชีวิตและการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งที่ กําลังเกิดขึ้นในปัจจุบันและอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเพราะ การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา 2 5 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การถ่ายทอดลักษณะ ทางพันธุกรรม สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธ ุกรรม สารพันธ ุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ (15) (15) เรื่องที่ 1 รูปร่าง ลักษณะ และ ส่วนประกอบของ โคโมโซม ว 1.3 ม.3/1 อธิบาย ความสัมพันธ์ระหว่างยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม โดยใช้แบบจําลอง - ลักษณะทางพันธุกรรมของ สิ่งมีชีวิตสามารถถ่ายทอด จากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง ได้โดยมียีนเป็นหน่วยควบคุม ลักษณะทางพันธุกรรม - โครโมโซมประกอบด้วย ดีเอ็นเอ และโปรตีน ขดอยู่ในนิวเคลียส ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซมมี ความสัมพันธ์กัน โดบางส่วน ของดีเอ็นเอทำหน้าที่เป็นยีน ที่กำหนดลักษณะขอสิ่งมีชีวิต 3 4 เรื่องที่ 2 ยีนบนโครโมโซม 2
5 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 4 เรื่องที่ 2 ยีนบนโครโมโซม (ต่อ) - สิ่งมีชีวิตที่มีโครโม โซม ๒ ชุด โครโมโซมที่เป็นคู่กันมีการ เรียงลำดับของยีนบน โครโมโซมเหมือนกัน เรียกว่า ฮอมอโลกัสโครโมโซม ยีน หนึ่งที่อยู่บนคู่ฮอมอ โลกัส โครโมโซม อาจมีรูปแบบ แตกต่างกัน เรียกแต่ละ รูปแบบของยีนที่ต่างกันนี้ว่า แอลลีล ซึ่งการเข้าคู่กันของ แอลลีลต่างๆ อาจส่งผลทำให้ สิ่งมีชีวิตมีลักษณะที่แตกต่าง กันได้ - สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีจำนวน โครโมโซมคงที่ มนุษย์มี จำนวนโครโมโซม ๒๓ คู่ เป็น ออโตโซม ๒๒ คู่และ โครโมโซมเพศ ๑ คู่ เพศหญิง มีโครโมโซมเพศเป็น XX เพศ ชายมีโครโมโซมเพศเป็น XY 5 เรื่องที่ 3 การศึกษาพันธุศาสตร์ ของเมนเดล ว 1.3 ม.3/2 อธิบายการ ถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมจากการผสม โดยพิจารณาลักษณะ เดียวที่แอลลีลเด่นข่ม แอลลีลด้อยอย่าง สมบูรณ์ - เมนเดลได้ศึกษาการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรมของ ต้นถั่วชนิดหนึ่ง และนำมาสู่ หลักการพื้นฐานของการ ถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต - สิ่งมีชีวิตที่มีโครโมโซมเป็น ๒ ชุด ยีนแต่ละตำแหน่งบน 2
6 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 5 เรื่องที่ 3 การศึกษาพันธุศาสตร์ ของเมนเดล (ต่อ) ว 1.3 ม.3/3 อธิบายการ เกิดจีโนไทป์ และฟีโน ไทป์ของลูกและคํานวณ อัตรา ส่วนการเกิดจีโน ไทปและ ฟีโนไทป์ของ รุ่นลูก ฮอมอโลกัสโครโมโซมมี๒ แอลลีลโดยแอลลีลหนึ่งมา จากพ่อและอีกแอลลีลมาจาก แม่ซึ่งอาจมีรูปแบบเดียวกัน หรือแตกต่างกันแอลลีลที่ แตกต่างกันนี้แอลลีลหนึ่งอาจ มีการแสดงออกข่มอีกแอล ลีลหนึ่งได้เรียกแอลลีลนั้นว่า เป็นแอลลีลเด่น ส่วนแอลลีล ที่ถูกข่มอย่างสมบูรณ์เรียกว่า เป็นแอลลีลด้อย - เมื่อมีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ แอลลีลที่เป็นคู่กันในแต่ละฮ อมอโลกัสโครโมโซมจะแยก จากกันไปสู่เซลล์สืบพันธุ์แต่ ละเซลล์โดยแต่ละเซลล์ สืบพันธุ์จะได้รับเพียง ๑ แอล ลีลและจะมาเข้าคู่กับแอลลีล ที่ตำแหน่งเดียวกันของอีก เซลล์สืบพันธุ์หนึ่งเมื่อเกิดการ ปฏิสนธิจนเกิดเป็นจีโนไทป์ และแสดงฟีโนไทป์ในรุ่นลูก
7 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 6 เรื่องที่ 4 โครโมโซมของมนุษย์ และการแบ่งเซลล์ ว 1.3 ม.3/4 อธิบาย ความแตกต่างของการ แบ่งเซลล์แบบไมโทซิส และไมโอซิส - กระบวนการแบ่งเซลล์ของ สิ่งมีชีวิตมี๒ แบบ คือไมโท ซิส และไมโอซิส - ไมโทซิส เป็นการแบ่งเซลล์ เพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ร่างกาย ผลจากการแบ่งจะได้เซลล์ ใหม่ ๒ เซลล์ที่มีลักษณะและ จำนวนโครโมโซมเหมือน เซลล์ตั้งต้น - ไมโอซิส เป็นการแบ่งเซลล์ เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์ผล จากการแบ่งจะได้เซลล์ใหม่ ๔ เซลล์ที่มีจำนวนโครโมโซม เป็นครึ่งหนึ่งของเซลล์ตั้งต้น เมื่อเกิดการปฏิสนธิของเซลล์ สืบพันธุ์ลูกจะได้รับการ ถ่ายทอดโครโมโซมชุดหนึ่ง จากพ่อและอีกชุดหนึ่งจาก แม่จึงเป็นผลให้รุ่นลูกมี จำนวนโครโมโซมเท่ากับรุ่น พ่อแม่และจะคงที่ในทุกๆรุ่น 3 7 เรื่องที่ 5 โรคทางพันธุกรรม ว 1.3 ม.3/5 บอกได้ว่า การเปลี่ยนแปลงของยีน หรือโครโมโซมอาจทำให้ เกิดโรคทางพันธุกรรม พร้อมทั้งยกตัวอย่างโรค ทางพันธุกรรม - การเปลี่ยนแปลงของยีนหรือ โครโมโซม ส่งผลให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงลักษณะทาง พันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เช่น โรคธาลัสซีเมียเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงของยีน กลุ่ม 2
8 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ว 1.3 ม.3/6 ตระหนักถึง ประโยชน์ของความรู้ เรื่องโรคทางพันธุกรรม โดยรู้ว่าก่อนแต่งงานควร ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจ และวินิจฉัยภาวะเสี่ยง ของลูกที่อาจเกิดโรคทาง พันธุกรรม อาการดาวน์เกิดจากการ เปลี่ยนแปลงจำนวน โครโมโซม - โรคทางพันธุกรรมสามารถ ถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูกได้ ดังนั้นก่อนแต่งงานและมีบุตร จึงควรป้องกันโดยการตรวจ และวินิจฉัยภาวะเสี่ยงจาก การถ่ายทอดโรคทาง พันธุกรรม 8 เรื่องที่ 6 สิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม ว 1.3 ม.3/7 อธิบายการ ใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิต ดัดแปรพันธุกรรม และ ผลกระทบที่อาจมีต่อ มนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ ว 1.3 ม.3/8 ตระหนักถึง ประโยชน์และผลกระทบ ของสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมที่อาจมีต่อ มนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยการเผยแพร่ความรู้ที่ ได้จากการโต้แย้งทาง วิทยาศาสตร์ซึ่งมีข้อมูล สนับสนุน - มนุษย์เปลี่ยนแปลง พันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตตาม ธรรมชาติเพื่อให้ได้สิ่งมีชีวิตที่ มีลักษณะตาม ต้องการเรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่า สิ่งมีชีวิตดัดแปพันธุกรรม - ในปัจจุบันมนุษย์มีการใช้ ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิต ดัดแปรพันธุกรรมเป็นจำนวน มาก เช่น การผลิต อาหารการผลิตยารักษาโรค การเกษตรอย่างไรก็ดี สังคมยังมีความกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัด แปรพันธุกรรมที่มีต่อ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ยังทำการติดตามศึกษา ผลกระทบดังกล่าว 3
9 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 9 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 คลื่นและคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า สารที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยน แปลง และการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและ พลังงานพลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ (5) (10) เรื่องที่ 1 ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ คลื่น ว 2.3 ม.3/10 สร้าง แบบจําลองที่อธิบายการ เกิดคลื่นและบรรยาย ส่วนประกอบของคลื่น ว 2.3 ม.3/11 อธิบาย คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและ สเปกตรัมคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้าจากข้อมูล ที่รวบรวมได้ ว 2.3 ม.3/12 ตระหนัก ถึงประโยชน์และ อันตรายจากคลื่น แม่เหล็ก ไฟฟ้าโดย นําเสนอการใช้ประโยชน์ ในด้านต่าง ๆ และ อันตรายจากคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้าในชีวิต ประจำวัน - คลื่นเกิดจากการส่งผ่าน พลังงานโดยอาศัยตัวกลาง และไม่อาศัยตัวกลาง ในคลื่น กลพลังงานจะถูกถ่ายโอน ผ่านตัวกลางโดยอนุภาคของ ตัวกลางไม่เคลื่อนที่ไปกับ คลื่นคลื่นที่แผ่ออกมาจาก แหล่งกำเนิดคลื่นอย่าง ต่อเนื่องและมีรูปแบบที่ซ้ำ กัน บรรยายได้ด้วยความยาว คลื่น ความถี่แอมพลิจูด - คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นคลื่นที่ ไม่อาศัยตัวกลางในการ เคลื่อนที่ มีความถี่ต่อเนื่อง เป็นช่วงกว้างมากเคลื่อนที่ใน สุญญากาศด้วยอัตราเร็ว เท่ากันแต่จะเคลื่อนที่ด้วย อัตราเร็วต่าง กันในตัวกลาง อื่นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบ่ง ออกเป็นช่วงความถี่ต่างๆ เรียกว่า สเปกตรัมของคลื่น 3 10 เรื่องที่ 2 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 2
10 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 10 เรื่องที่ 2 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (ต่อ) แม่เหล็กไฟฟ้า แต่ละช่วง ความถี่มีชื่อเรียกต่างกัน 11 หน่วยที่ 4 แสงและการมองเห็น สารที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยน แปลง และการถ่ายโอนพลังงานปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและ พลังงานพลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้า รวมทั้งนําความรู้ไปใช้ประโยชน์ (16) (10) เรื่องที่ 1 การสะท้อนแสงและ การเกิดภาพของ กระจกเงาราบ ว 2.3 ม.3/13 ออกแบบ การทดลองและดำเนิน การทดลองด้วยวิธีที่ เหมาะสมในการอธิบาย กฎการสะท้อนของแสง ว 2.3 ม.3/14 เขียน แผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสง แสดงการเกิด ภาพจากกระจกเงา - เมื่อแสงตกกระทบวัตถุจะ เกิดการสะท้อนซึ่งเป็นไปตาม กฎการสะท้อนของแสง โดย รังสีตกกระทบเส้นแนวฉาก รังสีสะท้อนอยู่ในระนาบ เดียวกันและมุมตกกระทบ เท่ากับมุมสะท้อน ภาพจาก กระจกเงาเกิดจากรังสี สะท้อนตัดกันหรือต่อแนว รังสีสะท้อนให้ตัดกัน โดยถ้า รังสีสะท้อนตัดกันจริงจะเกิด ภาพจริง แต่ถ้าต่อแนวรังสี สะท้อนให้ไปตัดกัน จะเกิด ภาพเสมือน 3 12 เรื่องที่ 2 การเกิดภาพของ กระจกของกระจกเงา โค้ง 3 13 เรื่องที่ 3 การหักเหของแสง ว 2.3 ม.3/15 อธิบาย การหักเหของแสงเมื่อ ผ่านตัวกลางโปร่งใสที่ แตกต่างกัน และอธิบาย การกระจายแสงของแสง - เมื่อแสงเดินทางผ่านตัวกลาง โปร่งใสที่แตกต่างกัน เช่น อากาศและน้ำอากาศและแก้ วจะเกิดการหักเห หรืออาจ เกิดการสะท้อนกลับหมดใน 2
11 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 13 เรื่องที่ 3 การหักเหของแสง (ต่อ) ขาวเมื่อผ่านปริซึมจาก หลักฐานเชิงประจักษ์ ตัวกลางที่แสงตกกระทบ การหักเหของแสงผ่านเลนส์ ทำให้เกิดภาพที่มีชนิดและ ขนาดต่าง ๆ - แสงขาวประกอบด้วยแสงสี ต่าง ๆ เมื่อแสงขาวผ่าน ปริซึมจะเกิดการกระจายแสง เป็นแสงสีต่างๆ เรียกว่า สเปกตรัมของแสงขาว เมื่อ เคลื่อนที่ในตัวกลางใด ๆ ที่ ไม่ใช่อากาศจะมีอัตราเร็ว ต่างกัน จึงมีการหักเหต่างกัน - การสะท้อนและการหักเห ของแสงนําไปใช้อธิบาย ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสง เช่น รุ้ง มิราจ และอธิบาย การทำงานของทัศนอุปกรณ์ เช่น แว่นขยายกระจกโค้ง จราจรกล้องโทรทรรศน์กล้อง จุลทรรศน์และแว่นสายตา - ในการมองวัตถุ เลนส์ตาจะ ถูกปรับโฟกัส เพื่อให้เกิดภาพ ชัดที่จอตา ความบกพร่อง ทางสายตา เช่น สายตาสั้น และสายตายาว เป็นเพราะ ตำแหน่งที่เกิดภาพไม่ได้อยู่ที่ จอตาพอดีจึงต้องใช้เลนส์ใน การแก้ไขเพื่อช่วยให้มองเห็น 14 เรื่องที่ 4 เลนส์และการเกิด ภาพ ว 2.3 ม.3/16 เขียน แผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสงแสดงการเกิด ภาพจากเลนส์บาง 2 15 เรื่องที่ 5 การนำแสงมา ประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์ ว 2.3 ม.3/17 อธิบาย ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับ แสงและการทำงานของ ทัศนอุปกรณ์จากข้อมูลที่ รวบรวมได้ ว 2.3 ม.3/18 เขียน แผนภาพการเคลื่อนที่ ของแสง แสดงการเกิด ภาพของทัศนอุปกรณ์ และเลนส์ตา 2
12 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 15 เรื่องที่ 5 การนำแสงมา ประยุกต์ใช้ให้เกิด ประโยชน์ เหมือนคนสายตาปกติโดยคน สายตาสั้นใช้เลนส์เว้า ส่วน คนสายตายาวใช้เลนส์นูน 16 เรื่องที่ 6 นัยน์ตากับการ มองเห็น เรื่องที่ 6 นัยน์ตากับการ มองเห็น(ต่อ) ว 2.3 ม.3/19 อธิบายผล ของความสว่างที่มีต่อ ดวงตาจาก ข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น - ความสว่างของแสงมีผลต่อ ดวงตามนุษย์การใช้สายตาใน สภาพแวดล้อมที่มีความสว่าง ไม่เหมาะสม จะเป็นอันตราย ต่อดวงตา เช่น การดูวัตถุในที่มีความสว่าง มากหรือน้อยเกินไป การจ้อง ดูหน้าจอภาพเป็นเวลานาน ความสว่างบนพื้นที่รับแสงมี หน่วยเป็นลักซ์ ความรู้ เกี่ยวกับความสว่างสามารถ นำมาใช้จัดความสว่างให้ เหมาะสมกับการทำกิจกรรม ต่าง ๆ เช่น การจัดความ สว่างที่เหมาะสมสำหรับการ อ่านหนังสือ 2 17 เรื่องที่ 7 ความสว่างและการ มองเห็น ว 2.3 ม.3/20 วัดความ สว่างของแสงโดยใช้ อุปกรณ์วัดความสว่าง ของแสง ว 2.3 ม.3/21 ตระหนัก ในคุณค่าของความรู้เรื่อง ความสว่างของแสงที่มี ต่อดวงตาโดยวิเคราะห์ สถานการณ์ปัญหาและ เสนอแนะการจัดความ สว่างให้เหมาะสมในการ ทำกิจกรรมต่าง ๆ 2 18 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ปฏิสัมพันธ์ในระบบ สุริยะ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และ วิวัฒนาการของเอกภพกาแล็กซีดาวฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศ (15) (10)
13 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน เรื่องที่ 1 ดาวฤกษ์และดาว เคราะห์ในระบบสุริยะ ว 3.1 ม.3/1 อธิบายการ โคจรของดาวเคราะห์ รอบดวงอาทิตย์ด้วยแรง โน้มถ่วงจากสมการ F = (Gm1m2 )/r 2 - ในระบบสุริยะมีดวงอาทิตย์ เป็นศูนย์กลางโดยมีดาว เคราะห์และบริวาร ดาว เคราะห์แคระดาวเคราะห์ น้อย ดาวหาง และอื่น ๆ เช่น วัตถุคอยเปอร์โคจรอยู่ โดยรอบ ซึ่งดาวเคราะห์และ วัตถุเหล่านี้โคจรรอบดวง อาทิตย์ด้วยแรงโน้มถ่วง แรงโน้มถ่วงเป็นแรงดึงดูด ระหว่างวัตถุสองวัตถุโดยเป็น สัดส่วนกับผลคูณของมวล ทั้งสอง และเป็นสัดส่วน ผกผันกับกําลังสองของ ระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสอง แสดงได้โดยสมการ F = (Gm1m2)/r2 เมื่อ F แทน ความโน้มถ่วงระหว่างมวลทั้ง สอง G แทนค่านิจโน้มถ่วง สากล m1 แทนมวลของวัตถุ แรก m2 แทนมวลของวัตถุที่ สอง และ r แทนระยะห่าง ระหว่างวัตถุทั้งสอง 2 19 เรื่องที่ 2 การโคจรของดาว เคราะห์รอบดวง อาทิตย์ 2 20 เรื่องที่ 3 การเกิดฤดูกาลต่างๆ บนโลก ว 3.1 ม.3/2 สร้าง แบบจําลองที่อธิบายการ เกิดฤดูและการเคลื่อนที่ ปรากฏของดวงอาทิตย์ - การที่โลกโคจรรอบดวง อาทิตย์ในลักษณะที่แกนโลก เอียงกับแนวตั้งฉากของ ระนาบทางโคจร ทำให้ส่วน ต่าง ๆ บนโลกได้รับปริมาณ 2
14 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 21 เรื่องที่ 4 การขึ้นและตกของ ดวงอาทิตย์ แสงจากดวงอาทิตย์แตกต่าง กันในรอบปีเกิดเป็นฤดู กลางวันกลางคืนยาวไม่ เท่ากัน และตำแหน่ง การขึ้นและตกของดวง อาทิตย์ที่ขอบฟ้าและเส้นทาง การขึ้นและตกของดวง อาทิตย์เปลี่ยนไปในรอบปีซึ่ง ส่งผลต่อการดำรงชีวิต 2 22 เรื่องที่ 5 อิทธิพลของดวงจันทร์ ที่มีต่อโลก ว 3.1 ม.3/3 สร้าง แบบจําลองที่อธิบายการ เกิดข้างขึ้นข้างแรม การ เปลี่ยนแปลงเวลาการขึ้น และตกของดวงจันทร์ และการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง - ดวงจันทร์โคจรรอบโลก โลก และดวงจันทร์โคจรรอบดวง อาทิตย์ดวงจันทร์รับแสงจาก ดวงอาทิตย์ครึ่งดวง ตลอดเวลาเมื่อดวงจันทร์ โคจรรอบโลกได้หันส่วนสว่าง มายังโลกแตกต่างกัน จึงทำ ให้คนบนโลกสังเกตส่วนสว่าง ของดวงจันทร์แตกต่างไปใน แต่ละวันเกิดเป็นข้างขึ้น ข้างแรม - ดวงจันทร์โคจรรอบโลกใน ทิศทางเดียวกับที่โลก หมุนรอบตัวเอง จึงเห็นดวง จันทร์ขึ้นช้าไปประมาณวัน ละ 50 นาที - แรงโน้มถ่วงที่ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์กระทำต่อโลก ทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น 2
15 ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สารสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน น้ำลง วันที่น้ำมีระดับการขึ้น สูงสุดและลงต่ำสุดเรียก วัน น้ำเกิด ส่วนวันที่ระดับน้ำมี การขึ้นและลงน้อยเรียกวัน น้ำตาย 23 เรื่องที่ 6 มองท้องฟ้าด้วยกล้อง โทรทรรศน์ ว 3.1 ม.3/4 อธิบายการ ใช้ประโยชน์ของ เทคโนโลยีอวกาศ และ ยกตัวอย่าความก้าวหน้า ของโครงการสํารวจ อวกาศ จากข้อมูลที่ รวบรวมได้ - เทคโนโลยีอวกาศได้มี บทบาทต่อการดำรงชีวิตของ มนุษย์ในปัจจุบันมากมาย มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์จาก เทคโนโลยีอวกาศ เช่น ระบบ นําทางด้วยดาวเทียม (GNSS) การติดตามพายุสถานการณ์ ไฟป่าดาวเทียมช่วยภัยแล้ง - โครงการสํารวจอวกาศต่าง ๆ ได้พัฒนาเพิ่มพูนความรู้มาก ขึ้นเป็นลำดับ ตัวอย่าง โครงการสํารวจอวกาศเช่น การสํารวจสิ่งมีชีวิตนอกโลก การสํารวจดาวเคราะห์นอก ระบบสุริยะ 1 24 เรื่องที่ 7 ความก้าวหน้าของ การสำรวจอวกาศ 2 25 เรื่องที่ 8 การเดินทางสู่อวกาศ 2 คะแนนเก็บระหว่างเรียน 54 50 คะแนนสอบกลางภาค 3 20 คะแนนสอบปลายภาค 3 30 รวมคะแนนทั้งหมดตลอดภาคเรียน 60 100
16 กำหนดการสอน รายวิชา วิทยาศาสตร์ 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 จำนวนหน่วยกิต 1.5 หน่วยกิต เวลา 60 ชั่วโมง วัน/เดือน/ปี ชื่อหน่วยการเรียนรู้/หน่วยย่อย จำนวนคาบ ปฐมนิเทศ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 วิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหา วิทยาศาสตร์ในชีวิตและวิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหาของมนุษย์ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม รูปร่าง ลักษณะและส่วนประกอบของโคโมโซม 3 ยีนบนโครโมโซม 2 การศึกษาพันธุศาสตร์ขิงเมนเดล 2 โครโมโซมของมนุษย์และการแบ่งเซลล์ 3 โรคทางพันธุกรรม 2 สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 คลื่นและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับคลื่น 3 คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 แสง การสะท้อนแสงและการเกิดภาพของกระจกเงาราบ 3 การเกิดภาพของกระจกเงาโค้ง 3 การหักเหของแสง 2 เลนส์และการเกิดภาพ 2 การนำแสงประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ 2 นัยน์ตากับการมองเห็น 2 ความสว่างและการมองเห็น 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ 2 การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ 2 การเกิดฤดูกาลต่างๆ บนโลก 2
17 วัน/เดือน/ปี ชื่อหน่วยการเรียนรู้/หน่วยย่อย จำนวนคาบ การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ 2 อิทธิพลของดวงจันทร์ที่มีต่อโลก 2 มองท้องฟ้าด้วยกล้องโทรทรรศน์ 1 ความก้าวหน้าของการสำรวจอวกาศ 2 การเดินทางสู่อวกาศ 2 สอบกลางภาค 3 สอบปลายภาค 3 รวม 60
18 แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว23101 การปฐมนิเทศรายวิชา เวลา 1 ชั่วโมง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่......เดือน……. พ.ศ. 2566 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ที่ - มาตรฐานการเรียนรู้ - 2. สาระสำคัญ - 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนสามารถบอกขอบข่ายเนื้อหาในรายวิชาวิทยาศาสตร์รหัสวิชา ว23101 ตามสาระการ เรียนรู้และตัวชี้วัดได้ 2. บอกผลการเรียนรู้/จุดประสงค์การเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์รหัสวิชา ว23101 3. สามารถบอกเกณฑ์คะแนนวัดผลด้านความรู้ระหว่างเรียนและปลายภาคเรียนได้ 4. สามารถบอกแนวทางในการปฏิบัติในรายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 ได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P) 1. วางแผนการทำงานได้ถูกต้อง เหมาะสมกับเนื้อหา 2. ให้ความร่วมมือ รับผิดชอบ มีความกระตือรือร้นรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
19 5. สาระการเรียนรู้ 1. นักเรียนรับทราบข้อตกลงร่วมกันทั้งชั้น 2. นักเรียนทราบคำอธิบายรายวิชา ผลการเรียนรู้จุดประสงค์การเรียนรู้และรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับ การสอนเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนได้รู้แนวทางวางแผนการเรียนและทำให้การเรียนนั้นได้ผลสัมฤทธิ์ตรงตาม ผลการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ 6. กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้การสืบเสาะหาความรู้ (5E)) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engement) (10 นาที) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาช่วงเวลาปิดภาคเรียน 1.1 ครูถามนักเรียนเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่านักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับแนว ทางการป้องกันตัวเองอย่างไร ให้ปลอดภัย 1.2 ครูถามนักเรียนเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อย่างไร 2. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 1.1 เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (15 นาที) 1. นักเรียนศึกษาคำอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตร์ว23101 2. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนความรู้พื้นฐานในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 3. นักเรียนและครูร่วมกันทำความเข้าใจกับแนวทางกฎเกณฑ์การประเมิน การให้คะแนนเกณฑ์การ เก็บคะแนน และแนวทางการจัดการเรียนการสอน 4. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อทบทวนความรู้ ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (15 นาที) 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับคำอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตร์ ว23101 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสร้างกฎระเบียบข้อบังคับในการเรียนรายวิชาวิทยาศาสตร์ว23101 ของห้องเรียน ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (10 นาที) 1.ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคขั้นตอนในการทำกิจกรรมในการทดลอง และแนวทางวิธีการใน การบริหารจัดการเวลาเรียน และส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ขั้นที่ 5 ประเมิน (Evaluation) (10 นาที) 1. ประเมินใบงานที่ 1.1 เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว 7. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1
20 2. คำอธิบายรายวิชาวิทยาศาสตร์ ว 23101 3. แบบทดสอบก่อนเรียน 4. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว 8. ภาระงาน/ชิ้นงาน 1. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว 9. การวัดและประเมินผล ประเด็นการประเมิน วิธีการ เครื่องมือ การวัดประเมินผล ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนสามารถ บอกขอบข่ายเนื้อหาใน รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 ตามสาระการเรียนรู้ และตัวชี้วัดได้ 2. บอกผลการเรียนรู้/ จุดประสงค์การเรียนรู้ รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 3. สามารถบอกเกณฑ์ คะแนนวัดผลด้าน ความรู้ระหว่างเรียน และปลายภาคเรียน ได้4. สามารถบอก แนวทางในการปฏิบัติ ในรายวิชา วิทยาศาสตร์ รหัสวิชา ว23101 ได้ ตรวจคะแนนจาก ใบงานที่ 1.1 เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว ใบงานที่ 1.1เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว ทำได้ร้อยละ 70 ขึ้นไป
21 ประเด็นการประเมิน วิธีการ เครื่องมือ การวัดประเมินผล ด้านทักษะ(P) 1. วางแผนการทำงาน ได้ถูกต้อง เหมาะสม กับเนื้อหา 2. ให้ความร่วมมือ รับผิดชอบ มีความ กระตือรือร้น รับผิดชอบงานที่ได้รับ มอบหมาย สังเกตพฤติกรรมการ ทำงาน แบบประเมิน พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ(A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถใน การสื่อสาร 2. ความสามารถใน การคิด 3. มีความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี ประเมินจากสังเกต พฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป
22
23
24
25 ภาคผนวก
26 ใบงานที่ 1.1 เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว ให้นักเรียนบอกคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์และคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ที่นักเรียนมี คุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ คุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ที่นักเรียนมี ชื่อ-สกุล .............................................................................. เลขที่ ........................... ชั้น..................................... ให้นักเรียนวาดรูปสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มา 1 ตัวอย่าง ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ...................................................................
27 ให้นักเรียนบอกคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์และคุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ที่นักเรียนมี คุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ คุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ที่นักเรียนมี ชื่อ-สกุล .............................................................................. เลขที่ ........................... ชั้น..................................... ให้นักเรียนวาดรูปสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มา 1 ตัวอย่าง ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... ................................................................... เฉลยใบงานที่ 1.1 เรื่อง นักวิทยาศาสตร์ตัวจิ๋ว ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนักเรียน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนักเรียน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนักเรียน
28 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว23101 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 วิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหา เวลาเรียนรวม 2 ชั่วโมง เรื่อง วิทยาศาสตร์ในชีวิต และวิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหาของมนุษย์ เวลา 2 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่….เดือน………..พ.ศ…….. 1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ - ตัวชี้วัด - 2. สาระสำคัญ วิทยาศาสตร์มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องอาศัยองค์ความรู้ต่างๆมาผสมผสานกันจึงจะสามารถ นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การประดิษฐ์อากาศยานไร้คนขับ(Unmanned aerial vehicle : UAV) หรือ โดรน(drone) สามารถเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่างๆโดยการบังคับจากระยะไกลสามารถนำไปใช้ ประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้โลกพัฒนาไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ทำให้เกิดปัญหาต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อมมากไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของสภาพภูมิอากาศ และปัญหามลพิษด้านต่างๆจึงต้องมี การแก้ปัญหา โดยอาศัยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เพื่อการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) 1.นักเรียนสามารถอธิบายความรู้ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวันได้ 2.นักเรียนสามารถอธิบายความรู้ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหาของมนุษย์ได้ 3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P) 1.นักเรียนสามารถเขียนกระบวนการแก้ปัญหาโดยประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ 3.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) 1.นักเรียนมีนัย ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการทำงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
29 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน - มีความสามารถในการสื่อสาร - มีความสามารถในการคิด - มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. ทักษะในศตวรรษที่ 21 - การคิดอย่างสร้างสรรค์ - การร่วมมือร่วมใจ - การสื่อสาร - การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 6. สาระการเรียนรู้ • วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน • วิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน 7. กิจกรรม / กระบวนการเรียนรู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ 5 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน (Engagement Phase) (10นาที) 1.ครูนำเข้าสู่บทเรียน โดยการใช้คำถามกระตุ้น และทบทวนความรู้เดิม ดังนี้ - นักเรียนคิดว่าวิทยาศาสตร์หมายถึงอะไร และรอบๆตัวเรามีสิ่งใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ (แนวคำตอบ นักเรียนตอบตามความรู้ความเข้าใของตนเอง) - นักเรียนยกตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (แนวคำตอบ นักเรียนตอบตามความรู้ความเข้าใของตนเอง) ขั้นที่ 2 ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration Phase) (45นาที) 1. ครูให้นักเรียนยกตัวอย่างสิ่งประดิษฐ์ต่างๆในชีวิตประจำวันโดยสืบค้นจากอินเตอร์เน็ต (แนวคำตอบ อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน, หุ่นยนต์กับปัญญาประดิษฐ์, รถไฟฟ้า เป็นต้น) 2. ครูชี้แจงการทำกิจกรรม เรื่อง วิทยาศาสตร์ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างไร ให้นักเรียนทำกิจกรรมและบันทึก ผลลงในแบบฝึกหัด กิจกรรมที่ 1.2 หน้าที่ 6-7 ขั้นที่ 3 ขั้นอภิปรายและสรุปผล (Explanation Phase) (15นาที) 1.ครูสุ่มนักเรียนนำเสนอผลการออกแบบในกิจกรรมที่ 1.2 ดังนี้
30 (1.1) จากสถานการณ์ที่กำหนดให้ปัญหาคือ (แนวคำตอบ ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ช่วยให้น้ำแข็งหลอมเหลวช้าที่สุดจากวัสดุและอุปกรณ์ที่กำหนดให้) ผลจากการระบุปัญหาที่ได้คือ (แนวคำตอบ แนวทางในการทำให้น้ำแข็งหลอมเหลวช้าลงเมื่อสัมผัสอากาศที่อุณหภูมิสูงขึ้น หรือวิธีการ กันความร้อนข้างนอกสัมผัสน้ำแข็ง หรือป้องกันการหลอมเหลวของน้ำแข็งโดยทำให้อุณหภูมิภายในภาชนะให้คงที่) (1.2) ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่นักเรียนนำมาใช้และประยุกต์ใช้มีอะไรบ้าง (แนวคำตอบ นักเรียนตอบตามความคิดและสิ่งที่ปฏิบัติ) (1.3) ให้นักเรียนวาดภาพผลการออกแบบชิ้นงานตามความคิดและเหตุผลประกอบที่ได้รวบรวมมา (แนวคำตอบ นักเรียนวาดภาพและให้เหตุผลประกอบตามความคิดของตนเอง) (1.4) ลำดับและขั้นตอนกระบวนการแก้ปัญหาของนักเรียนเป็นอย่างไร จงอธิบาย (แนวคำตอบ นักเรียนตอบตามความคิดและตามที่นักเรียรปฏิบัติ โดยมีแนวคำตอบดังนี้ เริ่มจากการระบุ ปัญหา วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม ออกแบบ สร้างชิ้นงานตามแบบทดสอบ ประเมินผล นำเสนอแนวคิด และผลการทำกิจกรรม) ขั้นที่ 4 ขั้นขยายความรู้ (Expansion Phase) (30นาที) 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมประกอบกับ Power point เรื่อง วิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหา ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินผล (Evaluation Phase) (20นาที) 1. สังเกตการปฏิบัติการทำกิจกรรมที่ 1.2 และการตอบคำถาม ความกระตือรือร้นในการหาความรู้ สังเกตพฤติกรรม ลักษณะอันพึงประสงค์ ความมีวิรัยใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ แบบฝึกหัดท้ายหน่วยที่ 1 เรื่อง วิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหา 8. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 2. Power point เรื่อง วิทยาศาสตร์กับการแก้ปัญหา 3. หนังสือแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 5 4. อินเตอร์เน็ต
31 9. การวัดและประเมินผล ประเด็นการประเมิน วิธีการ เครื่องมือ การวัดประเมินผล ด้านความรู้ (K) 1.นักเรียนสามารถอธิบาย ความรู้ความเข้าใจทาง วิทยาศาสตร์ใน ชีวิตประจำวันได้ 2.นักเรียนสามารถอธิบาย ความรู้ความเข้าใจทาง วิทยาศาสตร์กับการ แก้ปัญหาของมนุษย์ได้ ตรวจคะแนนจาก ใบกิจกรรม เรื่อง โครโมโซม ใบกิจกรรมที่ 1.1 เรื่อง ศึกษาโครโมโซม ทำได้ร้อยละ 70 ขึ้นไป ด้านทักษะ (P) 1.นักเรียนสามารถเขียน กระบวนการแก้ปัญหาโดย ประยุกต์ใช้ความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ได้ สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน พฤติกรรมการทำงาน รายบุคคล ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ(A) 1.มีนัย ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นใน การทำงาน สามารถทำงาน ร่วมกับผู้อื่นได้ สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป
32
33
34
35 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว23101 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เวลาเรียนรวม 15 ชั่วโมง เรื่อง รูปร่าง ลักษณะและส่วนประกอบของโครโมโซม เวลา 3 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่….เดือน………..พ.ศ…….. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ม.3/1 อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม โดยใช้แบบจำลอง 2. สาระสำคัญ เมื่อมองเซลล์ผ่านกล้องจุลทรรศน์จะเห็นเส้นใยเล็ก ๆ พันกันอยู่ในนิวเคลียส เมื่อเกิดการแบ่งเซลล์เส้นใย เหล่านี้จะขดสั้นจนมีลักษณะเป็นท่อนสั้น เรียกว่า โครโมโซม ซึ่งโครโมโซมประกอบด้วยดีเอ็นเอและโปรตีน ส่วน หนึ่งของดีเอ็นเอทำหน้าที่เป็นยีนซึ่งเป็นหน่วยพันธุกรรมที่ควบคุมลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตี่สามารถ ถ่ายทอดจากรุ่นพ่อและแม่ไปสู่รุ่นลูก โครโมโซมประกอบด้วย 2 โครมาทิด ที่เหมือนกันโครมาทิดทั้งสองจะติดกัน อยู่ตรงส่วนที่เรียกว่า เซนโทรเมียร์ (Centromere) รวมเรียกเซนโทรเมียร์แบ่งเป็น 2 ส่วน แต่ละโครมาทินก็ เรียกว่าโครโมโซม นั่นคือ 1 โครโมโซม มี 1 เซนโทรเมียร์ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) 1.นักเรียนสามารถอธิบายตำแหน่งของโครมโมโซมได้ 2.นักเรียนสามารถอธิบายส่วนประกอบและลักษณะสำคัญของโครโมโซมได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนใช้ทักษะการสังเกตลักษณะของโครโมโซมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ได้ 2.มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้
36 3.มีทักษะในการวางแผนทำงานกลุ่ม 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระการเรียนรู้ 1) ตำแหน่งของโครโมโซม 2) รูปร่าง ลักษณะและโครงสร้างของของโครโมโซม 5. สมรรถนะสำคัญ 1.มีความสามารถในการสื่อสาร 2.มีความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้การสืบเสาะหาความรู้(5E)) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engement) (10 นาที) 1.ครูกระตุ้นความสนใจนักเรียน เพื่อนำเข้าสู่หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรม โดยใช้คำถาม - นักเรียนสังเกตลักษณะรูปร่าง หน้าตาของนักเรียนและเพื่อนๆว่ามีความเหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร (แนวคำตอบ : ตอบตามสิ่งที่นักเรียนสังเกตได้) - นักเรียนคิดว่าสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันมีลักษณะ เหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ : ไม่เหมือนกัน สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน เช่น คน แต่ละคนมีลักษณะต่างกันเนื่องจากคนละพ่อคนละแม่) - นักเรียนสังเกตว่ามีลักษณะใดที่เหมือนคุณพ่อและแม่ เกิดจากสิ่งใด (แนวคำตอบ : เกิดจากการถ่ายทอด ลักษณะต่างๆจากพ่อแม่สู่ลูก ) ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (50 นาที) 1.นักเรียกแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5-6 คน ทำกิจกรรมที่ 2.1 ลักษณะของโครโมโซมที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอด ลักษณะทางพันธุกรรม บันทึกผลโดยการวาดภาพและตอบคำถามในแบบฝึกหัด
37 2.นักเรียนศึกษาส่วนประกอบและวิธีการใช้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง จากนั้นครูสาธิตการใช้กล้องจุลทรรศน์ ใช้แสง กิจกรรมที่ 2.1 ลักษณะของโครโมโซมที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จุดประสงค์ของกิจกรรม สังเกตและบรรยายลักษณะของโครโมโซมโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสง วิธีทำกิจกรรม 1.นำสไลด์ถาวรของเซลล์ปลายรากหอมไปส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ใช้แสง 2.ใช้เลนส์ใกล้วัตถุกำลังขยายต่ำสุดเพื่อตรวจดูเซลล์โดยเลื่อนสไลด์เพื่อตรวจหาเซลล์ที่มีโครงสร้างภายในต่างจาก เซลล์อื่น เช่น โครงสร้างที่เป็นเส้นหรือท่อนซึ่งติดสีได้ดีภายในเซลล์ 3.ใช้เลนส์ใกล้วัตถุกำลังขยายสูงและปรับภาพให้ชัดเจนโดยใช้ปุ่มปรับภาพละเอียดเพื่อตรวจดูรายละเอียดของ เซลล์นั้นๆ บันทึกผลโดยการวาดภาพ และตอบคำถามในแบบฝึกหัด แบบบันทึกกิจกรรม (แนวทางในการวาดภาพ) คำถามเพื่อการวิเคราะห์และสรุปผล 1.รูปร่างของเซลล์ปลายรากหอมมีลักษณะดังนี้ คือ………………………………………………………………………………………… เห็นนิวเคลียสทุกเซลล์หรือไม่………………………………………………………………………………………………………………………. 2.โครงสร้างภายในเซลล์ที่นักเรียนสังเกตเห็นแต่ละเซลล์มีลักษณะเหมือนกันหรือแตกต่างกัน อย่างไร………………………………………………………………………………………………………………………………………….………….. .……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3.โครงสร้างที่มีลักษณะเป็นท่อนๆอยู่ภายในเซลล์ เรียกว่า………………………………………………………………………………
38 4.เซลล์ที่ไม่เห็นนิวเคลียสแต่จะเห็นโครงสร้างที่มีลักษณะเป็นท่อนๆแสดงว่าเซลล์กำลังจะมีกิจกรรมใดภายในเซลล์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.นักเรียนคิดว่าโครงสร้างใดของเซลล์ที่ทำหน้าในการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม………………………………………. 6.การศึกษาโครโมโซมควรศึกษาขณะที่เซลล์มีการแบ่งตัวเพราะ……………………………………………………………………… ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (60) 1.ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำผลกิจกรรมหน้าชั้นเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน 2.นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์อภิปราย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการทำกิจกรรมและ สรุปผล โดยร่วมกันตอบคำถามหลังทำกิจกรรม ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (30 นาที) ครูอธิบายเพิ่มเติม โดยใช้ power point เรื่อง ส่วนประกอบและลักษณะโครโมโซม ดังนี้ ความหมายของพันธุกรรม พันธุกรรม หมายถึง การถ่ายทอดลักษณะต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง (Generation) เช่น รุ่นพ่อ แม่ถ่ายทอดลักษณะต่างๆ ไปยังรุ่นลูก รุ่นหลาน โครโมโซม (Chromosome) ในเซลล์มีนิวเคลียสอยู่ตรงกลางเซลล์ ภายในนิวเคลียสจะมีโครงสร้างเป็นท่อนสั้นๆ เรียนกว่า โครโมโซม ภายใน นิวเคลียสของเซลล์ที่ยังไม่มีการแบ่งเซลล์จะมีเส้นใยเล็กๆ พันกันอยู่ เรียกว่า โครมาทิน (chromatin) เมื่อเซลล์จะ มีการแบ่งเซลล์โครมาทินจะจำลองตัวเองเพิ่มขึ้นจาก1เส้นเป็น2เส้นที่เหมือนกันทุกประการ เชื่อมติดกันตรงบริเวณ ที่เรียกว่า เซนโทรเมียร์ (centromere) จากนั้นโครมาทินจะขดตัวสั้นลงและละหนาขึ้นเป็นโครโมโซม ที่มีลักษณะ เป็นแท่ง 2 แท่งที่เชื่อมติดกัน เรียกแต่ละแท่งของโครโมโซมว่า โครมาทิด(chromatid)
39 โดยโครโมโซม ประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 2ส่วน คือ 1.กรดดีออกซีไรโบนิวคลีอิก หรือ ดีเอ็นเอ(DNA) จำนวน 2 สายซึ่งจับกันเป็นคู่และบิดเกลียวคลายบันไดเวียน โมเลกุลของดีเอ็นเอมีขนาดใหญ่ประกอบด้วยหน่วยย่อยเรียงต่อกันเป็นสายยาว เรียกว่า นิวคลีโอ ไทด์(nucleotide) ซึ่งแต่ละนิวคลีอไทด์ประกอบด้วย - น้ำตาลดออกซีไรโบส - หมู่ฟอสเฟต - ไนโตรจีนัสเบส มี 4 ชนิด ได้แก่ อะดีนีน (A),กวานีน (G), ไซโทซีน (C) และไทมีน (T) 2.โปรตีน ไม่ใช่สารพันธุกรรมแต่ทำหน้าที่ในเชิงโครงสร้าง โดยช่วยในการขดตัวของสายดีเอ็นเอให้สั้นลง
40 ขั้นที่ 5 ประเมิน (Evaluation) (30 นาที) 1.สังเกตการปฏิบัติการทดลอง ความคล่องแคล่วในการทำการทดลอง การใช้อุปกรณ์ เวลาที่ใช้ ในการปฏิบัติการทดลอง และการตอบคำถาม ความกระตือรือร้นในการหาความรู้ สังเกตพฤติกรรม ลักษณะอันพึง ประสงค์ ความมีวิรัยใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน 2. ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ใบกิจกรรมที่ 2.1 เรื่อง ลักษณะของ โครโมโซมที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม 7. สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.3 2. แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 เรื่องลักษณะของโครโมโซมที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดทาง พันธุกรรม (หน้า 12 – 14 ) 3. power point เรื่อง ส่วนประกอบและลักษณะโครโมโซม 8. การวัดและการประเมิน ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ที่ใช้ในการ ประเมิน ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) 1.นักเรียนสามารถอธิบายตำแหน่ง ของโครมโมโซมได้ 2.นักเรียนสามารถอธิบาย ส่วนประกอบและลักษณะสำคัญของ โครโมโซมได้ ตรวจแบบฝึกหัด วิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 เกณฑ์ร้อยละ 70 % ผ่านเกณฑ์ ด้านกระบวนการ (P) 1.นักเรียนใช้ทักษะการสังเกต ลักษณะของโครโมโซมโดยใช้กล้อง จุลทรรศน์ได้ 2.มีความกระตือรือร้นในการหา ความรู้ 3.มีทักษะในการวางแผนทำงานกลุ่ม สังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุ่ม แบบประเมินทักษะการ ปฏิบัติกิจกรรม ระดับคุณภาพ ดี/ พอใช้/ปรับปรุง ผ่านระดับดีขึ้นไป
41 ด้านเจตคติ (A) 1.มีวินัย 2.ใฝ่เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตความ ร่วมมือในการทำ กิจกรรมของ นักเรียน แบบประเมินด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์รายบุคคล ระดับคุณภาพ ดี/ พอใช้/ปรับปรุง ผ่านระดับดีขึ้นไป
42
43
44
45 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว23101 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เวลาเรียนรวม 15 ชั่วโมง เรื่อง ยีนบนโครโมโซม เวลา 2 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่…..เดือน……พ.ศ…….. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้ที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ม.3/1 อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม โดยใช้แบบจำลอง 2. สาระสำคัญ โครโมโซม ดีเอ็นเอ และยีน มีความสัมพันธ์กัน โครโมโซมประกอบด้วยดีเอ็นเอ บางช่วงของดีเอ็นเอเป็น ยีน ยีนมีอยู่เป็นจำนวนมากในสายดีเอ็นเอและยีนทำหน้าที่เป็นหน่วยควบคุมและกำหนดลักษณะของสิ่งมีชีวิต 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) 1.นักเรียนสามารถอธิบายหน้าที่ของหน่วยที่กำหนดลักษณะทางพันธุกรรมหรือยีนได้ 2.นักเรียนสามารถอธิบายความสัมพันธ์ของโครโมโซม ดีเอ็นเอ และยีนได้ 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 1.นักเรียนสามารถตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปโดยนำข้อมูลรหัสภาพที่แทนแบบจำลองของ หน่วยกำหนดลักษณะทางพันธุกรรมที่สุ่มได้มาเปรียบเทียบกับตารางแปลรหัสภาพและสรุปลักษณะของสุนัข 3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) 1.นักเรียนมีความอยากรู้อยากเห็น มีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมเพื่อศึกษาหน่วย กำหนดลักษณะทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อลักษณะของสิ่งมีชีวิต 2.มีวินัย 3.ใฝ่เรียนรู้
46 4.มุ่งมั่นในการทำงาน 4. สาระการเรียนรู้ 1) ยีนบนโครโมโซม 2) ความสัพพันธ์โครโมโซม ดีเอ็นเอ และยีน 5. สมรรถนะสำคัญ 1.มีความสามารถในการสื่อสาร 2.มีความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้การสืบเสาะหาความรู้(5E)) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engement) (10 นาที) 1.ครูทบทวนความรู้เดิม และเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาใหม่ โดยใช้คำถาม ดังนี้ - โครงสร้างใดที่มองเห็นภายใต้กล้องจุลทรรศน์ในช่วงที่เซลล์กำลังแบ่งเซลล์ และมีหน้าที่เกี่ยว ของกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิต (แนวคำตอบ : โครโมโซม) - ลักษณะทางพันธุกรรมถูกกำหนดโดยหน่วยที่กำหนดลักษณะทางพันธุกรรมซึ่งอยู่บนโครโมโซม ทำให้สิ่งมีชีวิตสามารถถ่ายทดลักษณะจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งได้ นักเรียนทราบหรือไม่ว่า หน่วยที่กำหนด ลักษณะทางพันธุกรรมต่างกันส่งผลให้สิ่งมีชีวิตมีลักษะเหมือนกันหรือไม่อย่างไร (แนวคำตอบ : นักเรียนตอบตาม ความเข้าใจ) ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (50 นาที) 1.นักเรียนอ่านทำความเข้าใจขั้นตอนการทำกิจกรรมที่ 2.2 ในแบบฝึกหัด และร่วมกันอภิปรายในประเด็น ดังต่อไปนี้ - กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อะไร (เพื่ออธิบายความเกี่ยวข้องของหน่วยที่กำหนดลักษณะทาง พันธุกรรมกับลักษณะของสิ่งมีชีวิตโดยใช้แบบจำลอง) - วิธีการดำเนินกิจกรรมโดยสรุปเป็นอย่างไร (แนวคำตอบ : หยิบชิ้นกระดาษที่มีรหัสภาพใน กระดาษหรือแก้วพลาสติกลักษณะละ 1 ชิ้น รวม 5 ชิ้น แล้วนำไปเปรียบเทียบกับตารางแปลลักษณะของสุนัข จากนั้นวาดรูปสุนัขจากลักษณะที่หยิบได้)