The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2109สุภาพร แผนเทอม1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 109 สุภาพร, 2024-01-11 06:47:19

2109สุภาพร แผนเทอม1

2109สุภาพร แผนเทอม1

147 แผนการจัดการเรียนรู้ที่13 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว 23101 หน่วยการเรียนที่4 แสง เวลาเรียนรวม 16 ชั่วโมง เรื่อง การหักเหของแสง เวลา 2 ชั่วโมง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่.......เดือน..................พ.ศ……. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.3/15 อธิบายการหักเหของแสงเมื่อผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกัน และอธิบาย การกระจายแสงของแสงขาวเมื่อผ่านปริซึมจากหลักฐานเชิงประจักษ์ 2. สาระสำคัญ การหักเหของแสง เกิดจากการที่ความเร็วของแสงเปลี่ยนไป เมื่อเดินทางผ่านตัวกลางต่างชนิดกัน แสงจะ เบนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและดรรชนีการหักเหของตัวกลางที่แสงเดินทางผ่าน การหักเหของแสง ผ่านเลนส์นูน ทำให้เกิดภาพได้หลายแบบขึ้นอยู่กับระยะระหว่างวัตถุกับเลนส์ และการหักเหของแสงผ่านเลนส์เว้า ทำให้เกิดภาพเสมือนหัวตั้งขนาดเล็กกว่าวัตถุ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้(K) 1.อธิบายการเกิดการหักเหของแสง แนวรังสีตกกระทบ และแนวรังสีหักเหได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P) 1. มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ 2. มีความมั่นใจในการกล้าแสดงออก 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


148 5. สาระการเรียนรู้ 1. การหักเหของแสง 2. การกระจายของแสง 6. กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้การสืบเสาะหาความรู้ (5E)) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engement) (20นาที) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง การสะท้อนของแสง จากนั้นครูแจ้งจุดประสงค์ การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ 2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การหักเหของแสง ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (30 นาที) 1. ครูเตรียมอุปกรณ์สาธิตการทดลอง เช่น แก้ว ดินสอ จากนั้นครูสุ่มนักเรียน 2 คน ออกมาสาธิตการ ทดลองหน้าชั้นเรียน ครูให้ตัวแทนนักเรียนเทน้ำใส่ลงในแก้วโดยให้ระดับน้ำสูงประมาณ 3/4 ของความสูงของแก้ว แล้วนำดินสอจุ่มลงในแก้วที่มีน้ำ โดยครูให้นักเรียนแต่ละคนสังเกตดินสอที่อยู่ในแก้วน้ำ และร่วมกันอภิปรายแสดง ความคิดเห็นอย่างอิสระ 2. ครูตั้งประเด็นคำถามกระตุ้นความสนใจนักเรียนว่า “นักเรียนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ในแก้วน้ำหรือไม่ แล้วเกิดจากอะไร” โดยให้นักเรียนแต่ละคนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระโดยครู เขียนคำตอบของนักเรียนไว้ แล้วครูจะมาตรวจสอบคำตอบหลังเรียนเสร็จ (แนวตอบ : เมื่อมองแท่งดินสอในแก้วน้ำ ดินสอจะเบี้ยว ไม่เป็นเส้นตรง ซึ่งเกิดจากการหักเหของแสง) ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (30 นาที) 1. ครูตั้งประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนักเรียน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดง ความคิดเห็นเพื่อหาคำตอบ ดังนี้ - การหักเหของแสงเกิดขึ้นได้อย่างไร (แนวตอบ : เมื่อแสงเคลื่อนที่จากตัวกลางโปร่งใสหนึ่งไปสู่ตัวกลางหนึ่งที่มีความหนาแน่นหรือค่าดรรชนีหักเห ต่างกัน) - การหักเหของแสงจะเบนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอะไร (แนวตอบ : ความหนาแน่นของตัวกลางที่แสงเคลื่อนที่ผ่าน) - มุมวิกฤตคืออะไร (แนวตอบ : มุมตกกระทบที่ทำให้มุมหักเหมีค่าเท่ากับ 90 องศา) - ถ้ามุมตกกระทบมีขนาดใหญ่กว่ามุมวิกฤตจะเกิดเหตุการณ์ใด (แนวตอบ : แสงจะเดินทางกลับสู่ตัวกลางเดิม เรียกว่า การสะท้อนกลับหมดของแสง)


149 2. ครูให้นักเรียนแต่ละคนยกตัวอย่างเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการสะท้อนกลับหมด ของแสงที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน โดยบันทึกลงในสมุดประจำตัวนักเรียน ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที) 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมประกอบกับ Powerpoint เรื่อง การหักเหของแสง - ผลที่เกิดขึ้นจากการหักเหของแสง เมื่อมองที่อยู่ในน้ำโดยนัยน์ตาของเราอยู่ในอากาศ จะทำให้ มองเห็นวัตถุตื้นกว่าเดิม นอกจากนี้นักเรียนอาจจะเคยสังเกตุว่าสระว่ายน้ำหรือถังใส่น้ำจะมองดูตื้น กว่าความเป็น จริง เพราะแสงต้องเดินทางผ่านน้ำและอากาศแล้วจึงหักเหเข้าสู่นัยน์ตา - มิราจ( Mirage ) เป็น ปรากฏการณ์เกิดภาพลวงตา ซึ่ง บางครั้งในวันที่อากาศ เราอาจจะ มองเห็นสิ่งที่เหมือนกับสระน้ำบนถนน ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่ามีแถบอากาศร้อนใกล้ถนนที่ร้อน และแถบอากาศที่ เย็นกว่า (มีความหนาแน่นมากกว่า) อยู่ข้างบน รังสีของแสงจึงค่อยๆ หักเหมากขึ้น เข้าสู่แนวระดับ จนในที่สุดมัน จะมาถึงแถบอากาศร้อนใกล้พื้นถนนที่มุมกว้างกว่ามุมวิกฤต จึงเกิดการสะท้อนกลับหมดนั่นเอง - รุ้งกินน้ำ( Rainbow) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่มักเกิดตอนหลังฝนตกใหม่ ยิ่งเฉพาะมี แดดออกด้วย ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากแสงแดดจากดวงอาทิตย์ที่ส่องลงมากระทบกับหยด น้ำฝนหรือ ละอองน้ำ แล้วจะเกิดการหักเหและการสะท้อนกลับหมดของแสงทำให้เกิดเป็นแถบสีบนท้องฟ้า โดยการหักเหของ แสงในหยดน้ำนั้นจะแยกสเปกตรัมของแสงขาวจากแสงแดดออกเป็นแถบสี ต่างๆ ขั้นที่ 5 ประเมิน (Evaluation) (20 นาที) ครูประเมินผลของนักเรียนตามแบบประเมินดังนี้ 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ มีความมั่นใจ และกล้าแสดงออก และสังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของแต่ละบุคคล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน 2. นักเรียนทำใบงานที่ 4.1 เรื่อง การหักเหของแสง 7. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 2. Powerpoint เรื่อง การหักเหของแสง 3. ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การหักเหของแสง 4. DLTV เรื่อง การหักเหของแสง 6. แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง การหักเหของแสง 8. ภาระงานและชิ้นงาน - ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การหักเหของแสง


150 9. การวัดและประเมินผล ประเด็นการประเมิน วิธีการ เครื่องมือ การวัดประเมินผล ด้านความรู้ (K) 1. อธิบายการเกิดการหักเห ของแสง แนวรังสีตกกระทบ และแนวรังสีหักเหได้ ตรวจคะแนนจาก ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การหักเหของแสง ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การหักเหของแสง ทำได้ร้อยละ 70 ขึ้นไป ด้านทักษะ (P) 1. มีความกระตือรือร้นใน การหาความรู้ 2. มีความมั่นใจในการกล้า แสดงออก - สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบสังเกต พฤติกรรมรายบุคล ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการ สื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. มีความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ประเมินจากสังเกต พฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป


151


152


153


154 ภาคผนวก


155 จงเติมคำหรือข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้อง 1. กำหนดวัตถุต่าง ๆ ดังนี้ กระดาษ พลาสติกใส น้ำ ดิน แอลกอฮอล์ หิน อากาศ 1.1 วัตถุที่แสงผ่านได้ ....................................................................................................... 1.2 วัตถุที่แสงผ่านไม่ได้ ................................................................................................... 2. จงศึกษาภาพแสดงทางเดินของแสงผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นต่างกันดังนี้ 2.1) รังสี X เรียกว่า ........................................... รังสี Y เรียกว่า............................................. 2.2) มุม 1 คือ .................................................... มุม 2 คือ ..................................................... 2.3) ตัวกลางที่มีความหนาแน่นมากกว่า คือ ..................... 3. ภาพที่มองเห็นดินสอหักงอในน้ำเกิดจากสาเหตุอะไร ...................................................................................................................................................... 4. 4.1) คนมองเห็นวัตถุในน้ำอยู่ตื้นหรือลึกกว่าความจริง ...................................................................................... 4.2) การเห็นตำแหน่งของวัตถุคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ........................................................................................ 5. 5.1) มุม a คือ.....................และ b คือ ................................. 5.2) มุม a โตกว่ามุม b เนื่องจาก ........................................ ........................................................................................ 5.3) ตำแหน่งจริงของปลาเป็นตำแหน่ง ก หรือ ข ................. และตำแหน่งของภาพปลา คือ ..................................... ใบงานที่ 4.1 เรื่อง การหักเหของแสง


156 พลาสติกใส น้ำ แอลกอฮอล์ อากาศ กระดาษ ดิน หิน รังสีตกกระทบ รังสีหักเห มุมตกกระทบ มุมหักเห ตัวกลาง ข การหักเหของแสงจากดินสอในน้ำเดินทางผ่านน้ำสู่อากาศ ตื้นกว่าความเป็นจริง การหักเหของแสงจากวัตถุในน้ำเดินทางผ่านน้ำสู่อากาศ มุมหักเห มุมตกกระทบ ทำให้รังสีหักเหเบนออกจากเส้นปกติมากกว่ารังสีตกกระทบ อากาศมีความหนาแน่น ตำแหน่ง ข ตำแหน่ง ก จงเติมคำหรือข้อความลงในช่องว่างให้ถูกต้อง 1. กำหนดวัตถุต่าง ๆ ดังนี้ กระดาษ พลาสติกใส น้ำ ดิน แอลกอฮอล์ หิน อากาศ 1.1 วัตถุที่แสงผ่านได้ ....................................................................................................... 1.2 วัตถุที่แสงผ่านไม่ได้ ................................................................................................... 2. จงศึกษาภาพแสดงทางเดินของแสงผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นต่างกันดังนี้ 2.1) รังสี X เรียกว่า ........................................... รังสี Y เรียกว่า............................................. 2.2) มุม 1 คือ .................................................... มุม 2 คือ ..................................................... 2.3) ตัวกลางที่มีความหนาแน่นมากกว่า คือ ..................... 3. ภาพที่มองเห็นดินสอหักงอในน้ำเกิดจากสาเหตุอะไร ...................................................................................................................................................... 4. 4.1) คนมองเห็นวัตถุในน้ำอยู่ตื้นหรือลึกกว่าความจริง ...................................................................................... 4.2) การเห็นตำแหน่งของวัตถุคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ........................................................................................ 5. 5.1) มุม a คือ.....................และ b คือ ................................. 5.2) มุม a โตกว่ามุม b เนื่องจาก ........................................ ........................................................................................ 5.3) ตำแหน่งจริงของปลาเป็นตำแหน่ง ก หรือ ข ................. และตำแหน่งของภาพปลา คือ ..................................... เฉลยใบงานที่ 4.1 เรื่อง การหักเหของแสง


157 แผนการจัดการเรียนรู้ที่14 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว 23101 หน่วยการเรียนที่4 แสง เวลาเรียนรวม 16 ชั่วโมง เรื่อง เลนส์และการเกิดภาพ เวลา 2 ชั่วโมง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่.......เดือน..................พ.ศ……. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.3/16 เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์บาง 2. สาระสำคัญ การหักเหของแสง เกิดจากการที่ความเร็วของแสงเปลี่ยนไป เมื่อเดินทางผ่านตัวกลางต่างชนิดกัน แสงจะ เบนมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความหนาแน่นและดรรชนีการหักเหของตัวกลางที่แสงเดินทางผ่าน การหักเหของแสง ผ่านเลนส์นูน ทำให้เกิดภาพได้หลายแบบขึ้นอยู่กับระยะระหว่างวัตถุกับเลนส์ และการหักเหของแสงผ่านเลนส์เว้า ทำให้เกิดภาพเสมือนหัวตั้งขนาดเล็กกว่าวัตถุ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้(K) 1. นักเรียนสามารถสังเกตและบรรยายภาพที่เกิดจากเลนส์นูนและเลนส์เว้าได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P) 1. นักเรียนสามารถทำการทดลองเกี่ยวกับภาพที่เกิดจากเลนส์นูนได้ 2. มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ 3. มีความมั่นใจในการกล้าแสดงออก 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


158 5. สาระการเรียนรู้ 1. การหักเหของแสงผ่านเลนส์ 2. ภาพที่เกิดจากเลนส์ 6. กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้การสืบเสาะหาความรู้ (5E)) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engement) (10นาที) 1. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยให้นักเรียนใช้แว่นขยายส่องดูเส้นลายมือของ ตนเอง เลื่อนแว่นขยายเข้าและออกจากมือแล้วสังเกตภาพที่เกิดขึ้น จากนั้นใช้คำถามกระตุ้นความสนใจ เช่น แว่น ขยายเป็นเลนส์นูนหรือเลนส์เว้า ภาพเส้นลายมือเมื่อมองผ่านแว่นขยายแตกต่างจากเส้นลายมือจริงอย่างไร และ เขียนแผนภาพรังสีของแสงเพื่อระบุตำแหน่งภาพได้อย่างไร (นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง) 2. จากนั้นครูเชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรม เรื่อง ภาพที่เกิดจากเลนส์นูนเป็นอย่างไร ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (40 นาที) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 จากนั้นนักเรียนส่งตัวแทนรับใบกิจกรรมที่ 4.1 เรื่อง ภาพที่เกิดจาก เลนส์นูน 2. ครูอธิบายการทดลองให้นักเรียนฟัง นักเรียนแต่ละกลุ่มรับอุปกรณ์การทดลอง 3. ขณะที่นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูเดินสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียนในแต่ละกลุ่มและ ให้คำแนะนำถ้านักเรียนมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ เช่น - ควรจัดห้องให้มืดเพื่อให้สังเกตผลการทำกิจกรรมได้ชัดเจนขึ้น - การสังเกตภาพที่ปรากฏบนฉาก โดยเมื่อวางเทียนไขที่จุดไฟหน้าเลนส์นูนที่ระยะน้อยกว่า f แล้ว นำฉากมาวางด้านหลังเลนส์ นักเรียนจะสังเกตเห็นดวงไฟวงกลมสีส้มบนฉากขาว โดยดวงไฟวงกลมสีส้มบนฉาก ขาวนี้ไม่ถือว่าเป็นภาพของเทียนไข ดังนั้นเมื่อวางเทียนไขที่จุดไฟหน้าเลนส์นูนที่ระยะน้อยกว่า f จึงไม่สามารถหา ระยะภาพได้ ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (40 นาที) 1. นักเรียนนำเสนอผลการทำกิจกรรม ตอบคำถามท้ายกิจกรรม และร่วมกันอภิปรายโดยใช้คำถาม ท้ายกิจกรรมเป็นแนวทางเพื่อให้ได้ข้อสรุปจากกิจกรรมว่า เมื่อวางเทียนไขไว้ที่ตำแหน่งต่าง ๆ หน้าเลนส์นูน ลักษณะของภาพเทียนไขที่มองเห็นจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเทียนไข ซึ่งอาจเป็นภาพหัวกลับที่ปรากฏบนฉากรับ ภาพที่มีทั้งภาพขนาดใหญ่กว่าหรือเล็กกว่าเทียนไข หรืออาจเป็นภาพหัวตั้ง ขนาดใหญ่ซึ่งไม่สามารถเกิดบนฉากได้ 2 นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้แผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์จาก หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 และร่วมกันอภิปรายโดยใช้คำถามระหว่างเรียนและโจทย์ชวนคิดเพื่อ ตรวจสอบความเข้าใจ ดังนี้


159 - กระจกเงาและเลนส์มีหลักการทำงานเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (แนวคำตอบ กระจกเงาและเลนส์มีหลักการทำงานแตกต่างกันโดยภาพจากกระจกเงาเกิดจาก การสะท้อนของแสง ในขณะที่ภาพจากเลนส์เกิดจากการหักเหของแสง) - ถ้าวางวัตถุไว้หน้าเลนส์นูนและเลนส์เว้า ดังภาพ ภาพที่เกิดขึ้นจะมีลักษณะอย่างไรและเกิดที่ ตำแหน่งใด แนวคำตอบ


160 เพื่อให้สรุปได้ว่า ภาพจากเลนส์เกิดจากรังสีหักเหตัดกันหรือต่อแนวรังสีให้ตัดกัน โดยถ้ารังสีหัก เหตัดกันจริงจะเกิดภาพจริง แต่ถ้าต่อแนวรังสีหักเหให้ตัดกันจะเกิดภาพเสมือน ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (20 นาที) 1. นักเรียนเรียนรู้เพิ่มเติมจากหนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 เรื่องเลนส์และการเกิดภาพ เกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เลนส์นูนและเลนส์เว้าในชีวิตประจำวัน จากนั้นร่วมกันอภิปรายเพื่อให้สรุปได้ว่า เลนส์นูน ทำหน้าที่รวมแสงและเลนส์เว้าทำหน้าที่กระจายแสงและทำให้เกิดภาพที่มีลักษณะแตกต่างกัน 2. ขั้นที่ 5 ประเมิน (Evaluation) (10 นาที) ครูประเมินผลของนักเรียนตามแบบประเมินดังนี้ 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ มีความมั่นใจ และกล้าแสดงออก และสังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของแต่ละบุคคล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และ มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 2. Powerpoint เรื่อง ภาพที่เกิดจากเลนส์ 3. ใบกิจกรรมที่ 4.1 เรื่อง ภาพที่เกิดจากเลนส์นูน 4. DLTV เรื่อง ภาพที่เกิดจากเลนส์ 8. ภาระงานและชิ้นงาน - ใบกิจกรรมที่ 4.1 เรื่อง ภาพที่เกิดจากเลนส์นูน


161 9. การวัดและประเมินผล ประเด็นการประเมิน วิธีการ เครื่องมือ การวัดประเมินผล ด้านความรู้ (K) 1. นักเรียนสามารถสังเกต และบรรยายภาพที่เกิดจาก เลนส์นูนและเลนส์เว้าได้ ตรวจคะแนนจาก ใบกิจกรรมที่ 4.1 เรื่อง ภาพที่เกิดจาก เลนส์นูน ใบกิจกรรมที่ 4.1 เรื่อง ภาพที่เกิดจากเลนส์ นูน ทำได้ร้อยละ 70 ขึ้นไป ด้านทักษะ (P) 1. นักเรียนสามารถทำการ ทดลองเกี่ยวกับภาพที่เกิด จากเลนส์นูนได้ 2. มีความกระตือรือร้นใน การหาความรู้ 3. มีความมั่นใจในการกล้า แสดงออก - สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบสังเกต พฤติกรรมรายบุคล ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการ สื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. มีความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ประเมินจากสังเกต พฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป


162


163


164


165 ภาคผนวก


166 จุดประสงค์…………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… ………………………………………………………………………………………………………………………… สมมติฐาน…………………………………………………………………………………………………………………………………..…………… …………………………………………………………………………………………………………………………… วัสดุอุปกรณ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ผลการทำกิจกรรม ตาราง ระยะภาพและลักษณะภาพที่เกิดจากเลนส์นูนเมื่อวางเทียนไขที่ตำแหน่งต่างๆ หน้าเลนส์นูนที่มี ความยาวโฟกัสเป็น 25 เซนติเมตร ระยะวัตถุ (cm) ลักษณะของภาพเมื่อมอง ผ่านเลนส์จากด้านหลัง เลนส์ สังเกตลักษณะของ ภาพบนฉาก ระยะภาพ (cm) 60 (มากกว่า 2f) 35 (ระหว่าง f กับ 2f) 10 (น้อยกว่า f) ใบกิจกรรมการที่ 4.1 เรื่อง ภาพที่เกิดจากเลนส์นูน


167 1. เมื่อวางเทียนไขตำแหน่งต่าง ๆ หน้าเลนส์นูน ภาพที่เกิดขึ้นมีลักษณะอย่างไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… 2. วางเทียนไขตำแหน่งใดบ้าง ที่ทำให้เกิดภาพบนฉากได้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จากกิจกรรม สรุปได้ว่าอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… คำถามท้ายกิจกรรม


168 จุดประสงค์ สังเกตและบรรยายภาพที่เกิดจากเลนส์นูน สมมติฐาน นักเรียนเขียนตามความคิดเห็นของตนเอง วัสดุอุปกรณ์ 1. เลนส์นูน 1 อัน 2. ฉากสีขาว 1 แผ่น 3. เทียนไข 1 เล่ม 4. ไม้ขีดไฟ 1 กล่อง 5. ดินน้ำมัน 1 ก้อน ผลการทำกิจกรรม ตาราง ระยะภาพและลักษณะภาพที่เกิดจากเลนส์นูนเมื่อวางเทียนไขที่ตำแหน่งต่างๆ หน้าเลนส์นูนที่มี ความยาวโฟกัสเป็น 25 เซนติเมตร ระยะวัตถุ (cm) ลักษณะของภาพเมื่อมอง ผ่านเลนส์จากด้านหลังเลนส์ สังเกตลักษณะของภาพบน ฉาก ระยะภาพ (cm) 60 (มากกว่า 2f) หัวกลับ ขนาดเล็กกว่าวัตถุ หัวกลับ ขนาดเล็กกว่าวัตถุ 42.8 35 (ระหว่าง f กับ 2f) หัวกลับ ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ หัวกลับ ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ 87.5 10 (น้อยกว่า f) หัวตั้ง ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ ไม่ปรากฏภาพบนฉาก เฉลยใบกิจกรรมการที่ 4.1 เรื่อง ภาพที่เกิดจากเลนส์นูน


169 1. เมื่อวางเทียนไขตำแหน่งต่าง ๆ หน้าเลนส์นูน ภาพที่เกิดขึ้นมีลักษณะอย่างไรบ้าง แนวคำตอบ เมื่อวางเทียนไขตำแหน่งต่าง ๆ หน้าเลนส์นูน ภาพที่เกิดขึ้นมีทั้งภาพหัวตั้งและหัวกลับ มีทั้ง ขนาดเล็กและขนาดใหญ่กว่าเทียนไขจริง มีทั้งปรากฏบนฉากและไม่ปรากฏบนฉาก 2. วางเทียนไขตำแหน่งใดบ้าง ที่ทำให้เกิดภาพบนฉากได้ แนวคำตอบ ภาพจะเกิดบนฉากเมื่อวางเทียนไขให้อยู่ห่างจากเลนส์นูนมากกว่าความยาวโฟกัสของเลนส์ นูนหรือระยะวัตถุมากกว่าความยาวโฟกัส 3. จากกิจกรรม สรุปได้ว่าอย่างไร แนวคำตอบ เมื่อวางเทียนไขไว้ที่ตำแหน่งต่าง ๆ หน้าเลนส์นูน ลักษณะของภาพเทียนไขที่มองเห็นจะ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเทียนไข ซึ่งอาจเป็นภาพหัวกลับที่ปรากฏบนฉากรับภาพที่มีทั้งภาพขนาดใหญ่กว่าหรือเล็ก กว่าเทียนไข หรืออาจเป็นภาพหัวตั้งขนาดใหญ่ซึ่งไม่ปรากฏบนฉาก คำถามท้ายกิจกรรม


170 แผนการจัดการเรียนรู้ที่15 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว 23101 หน่วยการเรียนที่4 แสง เวลาเรียนรวม 16 ชั่วโมง เรื่อง การนำแสงมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ เวลา 2 ชั่วโมง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่.......เดือน..................พ.ศ……. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.3/17 อธิบายปรากฏการณ์ที่เกี่ยวกับแสง และการทำงานของทัศนอุปกรณ์จาก ข้อมูลที่รวบรวมได้ ว 2.3 ม.3/18 เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพของทัศนอุปกรณ์ และเลนส์ตา 2. สาระสำคัญ ทัศนอุปกรณ์เป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาใช้งานโดยอาศัยความรู้เรื่องหลักการทางแสงมาใช้ และอาศัยความรู้ เกี่ยวกับการเกิดภาพจากอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น เลนส์ กระจกเงาราบ กระจกเงาเว้า ตัวอย่างของทัศนอุปกรณ์ ได้แก่ แว่นขยาย แว่นตา กล้องจุลทรรศน์ กล้องโทรทรรศน์ ทัศนอุปกรณ์เหล่านี้นำไปประโยชน์ในงานด้านต่าง ๆ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้(K) 1.อธิบายการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์จากการสะท้อนและการหักเห ของแสงได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P) 1. เขียนแผนภาพการเคลื่อนที่ของแสง แสดงการเกิดภาพของทัศนอุปกรณ์และเลนส์ตาได้ 2. มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ 3. มีความมั่นใจในการกล้าแสดงออก 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน


171 4. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. สาระการเรียนรู้ 1. เส้นใยนำแสง 2. ทัศนอุกรณ์ 6. กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้การสืบเสาะหาความรู้ (5E)) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engement) (20นาที) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับภาพที่เกิดจากการสะท้อนของแสง และการหักเหของ แสง โดยครูใช้คำถามกระตุ้นความคิดนักเรียน ดังนี้ - ภาพที่เกิดจากกระจกเงาราบ กระจกเว้า และกระจกนูน มีลักษณะอย่างไร - ลักษณะภาพที่เกิดจากเลนส์เว้าและเลนส์นูนขึ้นอยู่กับสิ่งใด - อุปกรณ์ในชีวิตประจำวันของนักเรียนที่มีส่วนประกอบของกระจกและเลนส์มีอะไรบ้าง และ นักเรียนใช้ประโยชน์ในเรื่องใด 2. นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น เพื่อเชื่อมโยงเข้าสู่การเรียนรู้เรื่อง การนำแสง มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (30 นาที) 1. นักเรียนศึกษาเรื่อง การนำแสงมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 2. นักเรียนทำใบงานที่ 4.2 เรื่อง ทัศนอุปกรณ์ ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (20 นาที) 1. ครูตั้งประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนักเรียน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดง ความคิดเห็นเพื่อหาคำตอบ ดังนี้ - คนสายตาสั้นและคนสายตายาวใช้แว่นที่มีส่วนประกอบของเลนส์เหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ : ไม่เหมือนกัน คนสายตาสั้นใช้เลนส์เว้า ส่วนคนสายตายาวใช้เลนส์นูน) - กล้องจุลทรรศน์มีหลักในการทำงานอย่างไร (แนวตอบ : กล้องจุลทรรศน์ประกอบด้วย เลนส์นูน 2 อัน คือ เลนส์ใกล้วัตถุและเลนส์ใกล้ตา ภาพที่เห็นจากเลนส์ใกล้วัตถุจะเป็นภาพจริงหัวกลับขนาดใหญ่กว่าวัตถุ และภาพนี้จะทำหน้าที่เป็นวัตถุของเลนส์ใกล้ตา ภาพที่เกิดจากเลนส์ใกล้ตาเป็นภาพเสมือนหัวกลับกับวัตถุจริง มี ขนาดใหญ่กว่าภาพที่เกิดจากเลนส์ใกล้วัตถุ)


172 - เพราะเหตุใดทันตแพทย์จึงใช้กระจกเงาเว้าส่องฟันผู้ป่วยแทนการใช้เลนส์นูน (แนวตอบ : เพราะกระจกเงาเว้าให้ภาพเสมือนหัวตั้ง ขนาดใหญ่กว่าวัตถุ ซึ่งจะทำให้ช่วยเห็นฟันใหญ่ขึ้นและหัวตั้ง) ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (30 นาที) 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจว่า “อุปกรณ์แต่ละชนิดใช้ประโยชน์จากการสะท้อนของแสง และการหักเหของแสงได้แตกต่างกัน ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้มนุษย์ดำรงชีวิตได้ดีและทำงานได้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น” 2. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่อง ทัศนอุปกรณ์ และให้ความรู้เพิ่มเติมจาก คำถามของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรื่อง ทัศนอุปกรณ์ ในการอธิบายเพิ่มเติม ขั้นที่ 5 ประเมิน (Evaluation) (20 นาที) ครูประเมินผลของนักเรียนตามแบบประเมินดังนี้ 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ มีความมั่นใจ และกล้าแสดงออก และสังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของแต่ละบุคคล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และ มุ่งมั่นในการทำงาน 2. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่องการหักเหของแสง 7. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 2. Powerpoint เรื่อง ทัศนอุปกรณ์ 3. ใบงานที่ 4.2 เรื่อง ทัศนอุปกรณ์ 4. DLTV เรื่อง การหักเหของแสง 6. แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องการหักเหของแสง 8. ภาระงานและชิ้นงาน - ใบงานที่ 4.2 เรื่อง ทัศนอุปกรณ์


173 9. การวัดและประเมินผล ประเด็นการประเมิน วิธีการ เครื่องมือ การวัดประเมินผล ด้านความรู้ (K) 1. อธิบายการทำงานของ อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ ประโยชน์จากการสะท้อน และการหักเหของแสงได้ ตรวจคะแนนจาก ใบงานที่ 4.2 เรื่อง ทัศนอุปกรณ์ ใบงานที่ 4.2 เรื่อง ทัศนอุปกรณ์ ทำได้ร้อยละ 70 ขึ้นไป ด้านทักษะ (P) 1. มีความกระตือรือร้นใน การหาความรู้ 2. มีความมั่นใจในการกล้า แสดงออก - สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบสังเกต พฤติกรรมรายบุคล ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการ สื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. มีความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ประเมินจากสังเกต พฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป


174


175


176


177 ภาคผนวก


178 คำชี้แจง : ให้นักเรียนอธิบายหลักการทำงานของทัศนอุปกรณ์ต่อไปนี้ ทัศนอุปกรณ์ หลักการทำงาน แว่นขยาย กล้องถ่ายรูป กล้องจุลทรรศน์ กล้องโทรทรรศน์ . ใบงานที่ 4.2 เรื่อง ทัศนอุปกรณ์


179 คำชี้แจง : ให้นักเรียนอธิบายหลักการทำงานของทัศนอุปกรณ์ต่อไปนี้ ทัศนอุปกรณ์ หลักการทำงาน แว่นขยาย กล้องถ่ายรูป กล้องจุลทรรศน์ กล้องโทรทรรศน์ เฉลยใบงานที่ 4.2 เรื่อง ทัศนอุปกรณ์ แว่นขยาย ทำจากเลนส์นูนโดยอาศัยหลักการว่า เมื่อวาง วัตถุไว้ใกล้กว่าจุดโฟกัสของเลนส์นูน จะทำให้เกิด ภาพเสมือนหัวตั้งขนาดใหญ่กว่าวัตถุ ซึ่งสามารถมองเห็นได้ ด้วยตาเปล่าย้อนผ่านเลนส์เข้าไป เมื่อแสงสะท้อนจากวัตถุเดินทางเป็นเส้นตรงผ่านเลนส์ และเกิดเป็นภาพบนฉากรองรับ ได้แก่ ฟิล์ม เพื่อให้เกิดเป็น ภาพที่ชัดเจนบนฟิล์มได้ จึงมีการติดตั้งไดอะเฟรมปรับให้เกิด รูรับแสงขนาดต่าง ๆ รวมทั้งมีชัตเตอร์ ซึ่งทำหน้าที่ควบคุม เวลาในการเปิด-ปิด เพื่อให้ปริมาณแสงตกกระทบกับฟิล์ม ตามความต้องการ เมื่อแสงจากวัตถุ ซึ่งอยู่ไกล พุ่งผ่านเลนส์ใกล้วัตถุของ กล้องโทรทรรศน์ แสงจะเกิดการหักเหทำให้เกิดภาพจริงหัว กลับขึ้นที่จุดโฟกัสของเลนส์ใกล้วัตถุนั้น และเมื่อแสงพุ่งผ่าน เลนส์ใกล้ตาจะหักเหแล้วทำให้เกิดภาพเสมือนขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อแสงสะท้อนออกจากวัตถุที่ต้องการส่องดู แสงจะพุ่ง ผ่านเลนส์ใกล้วัตถุแล้วเกิดเป็นภาพจริงหัวกลับในกล้อง จุลทรรศน์ และเมื่อจัดให้ภาพที่เกิดนี้ อยู่ใกล้กว่าจุดโฟกัสของ เลนส์ใกล้ตาด้านบน เมื่อแสงหักเหผ่านเลนส์ใกล้ตา จะทำให้ เกิดเป็นภาพเสมือนหัวตั้งขนาดใหญ่กว่าวัตถุ สามารถมองเห็น ได้ด้วยตาเปล่า


180 แผนการจัดการเรียนรู้ที่16 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว 23101 หน่วยการเรียนที่4 แสง เวลาเรียนรวม 16 ชั่วโมง เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น เวลา 2 ชั่วโมง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่.......เดือน..................พ.ศ……. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.3/19 อธิบายผลของความสว่างที่มีต่อดวงตาจากข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น 2. สาระสำคัญ การรับภาพของนัยน์ตามนุษย์ เกิดจากการสะท้อนของแสงจากวัตถุเข้าตา ทำให้เกิดภาพวัตถุบนจอตา ข้อมูลของวัตถุที่มองเห็นจะถูกส่งขึ้นไปยังสมองตามเส้นประสาท ซึ่งสมองจะทำหน้าที่แปลข้อมูลเหล่านั้นให้เป็น ภาพของวัตถุ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้(K) 1. อธิบายส่วนประกอบของนัยน์ตาได้ 2.อธิบายการมองเห็นของตามนุษย์และลักษณะของสายตาสั้นและสายตายาวได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P) 1. มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ 2. มีความมั่นใจในการกล้าแสดงออก 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 4. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


181 5. สาระการเรียนรู้ 1. นัยน์ตาของมนุษย์ 6. กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้การสืบเสาะหาความรู้ (5E)) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engement) (30นาที) 1. ครูตั้งประเด็นคำถามกระตุ้นความสนใจนักเรียน โดยให้นักเรียนแต่ละคู่ร่วมกันอภิปรายแสดง ความคิดเห็นอย่างอิสระดังนี้ - จากการสังเกตดวงตาของเพื่อน มีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (แนวตอบ : พิจารณาจากคำตอบของนักเรียน โดยอยู่ในดุลพินิจของครูผู้สอน เช่น ดวงตาของแต่ละคนมีลักษณะที่ คล้ายคลึงกัน คือ มีบริเวณที่เป็นสีดำหรือสีน้ำตาลอยู่บริเวณกึ่งกลางของดวงตา เป็นต้น) - ดวงตามีความสำคัญอย่างไร (แนวตอบ : ดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญทำหน้าที่ในการรับแสงแล้วเปลี่ยนสัญญาณแสงให้เป็นภาพ หรือทำหน้าที่ใน การมองเห็นนั้นเอง) - แสงมีผลต่อการมองเห็นอย่างไร (แนวตอบ : แสงจะตกกระทบและสะท้อนจากวัตถุต่าง ๆ เข้าสู่นัยน์ตาของคน และแสงที่ตกกระทบและสะท้อนนั้น จะทำให้มองเห็นวัตถุหรือภาพเป็นสีสันต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับแสงสีของวัตถุนั้น ๆ) - สีของดวงตามีผลต่อการมองเห็นหรือไม่ อย่างไร (แนวตอบ : ไม่มีผลต่อการมองเห็น แต่เป็นการแสดงออกถึงความแตกต่างทางพันธุกรรมของ แต่ละบุคคลหรือเชื้อชาติ เช่น คนไทยจะมีดวงตาสีดำหรือสีน้ำตาล คนยุโรปจะมีดวงตาสีฟ้า) 2. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (60 นาที) 1. นักเรียนทำใบงานที่ 5.1 เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น 2. นักเรียนศึกษา เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็นเพิ่มเติม จากหนังสือวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (40 นาที) 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมประกอบกับ Powerpoint เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น 2. ครูตั้งประเด็นคำถามกระตุ้นความคิดนักเรียน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแสดงความ คิดเห็นเพื่อหาคำตอบ ดังนี้ - เลนส์ตาเป็นเลนส์ชนิดใด และช่วยในการมองเห็นอย่างไร (แนวตอบ : เลนส์ตาเป็นเลนส์นูน ซึ่งมีหน้าที่รวมแสงที่สะท้อนจากวัตถุไปตกที่จอตา) - นักเรียนสามารถมองเห็นวัตถุได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าวัตถุจะอยู่ใกล้หรือไกลได้อย่างไร


182 (แนวตอบ : เพราะดวงตาของเราสามารถปรับความโค้งนูนของเลนส์ตาได้ ทำให้แสงจากวัตถุเกิดการหักเหและตกบน จอตาทุกครั้ง ซึ่งปรับความโค้งของเลนส์ตานั้นเป็นผลมาจากการทำงานของกล้ามเนื้อตาที่ยึดเลนส์เอาไว้) ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (40 นาที) 1. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่อง ตาและการมองเห็น และให้ความรู้เพิ่มเติม จากคำถามของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น ขั้นที่ 5 ประเมิน (Evaluation) (10 นาที) ครูประเมินผลของนักเรียนตามแบบประเมินดังนี้ 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ มีความมั่นใจ และกล้าแสดงออก และสังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของแต่ละบุคคล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และ มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 2. Powerpoint เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น 3. ใบงานที่ 5.1 เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น 4. DLTV เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น 6. แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น 8. ภาระงานและชิ้นงาน - ใบงานที่ 5.1 เรื่อง ผลของแสงสว่างที่มีต่อการมองเห็น


183 9. การวัดและประเมินผล ประเด็นการประเมิน วิธีการ เครื่องมือ การวัดประเมินผล ด้านความรู้ (K) 1. อธิบายส่วนประกอบของ นัยน์ตาได้ 2. อธิบายการมองเห็นของ ตามนุษย์และลักษณะของ สายตาสั้นและสายตายาวได้ ตรวจคะแนนจาก ใบงานที่ 5.1 เรื่อง นัยน์ตากับการ มองเห็น ใบงานที่ 5.1 เรื่อง นัยน์ตากับการ มองเห็น ทำได้ร้อยละ 70 ขึ้นไป ด้านทักษะ (P) 1. มีความกระตือรือร้นใน การหาความรู้ 2. มีความมั่นใจในการกล้า แสดงออก - สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบสังเกต พฤติกรรมรายบุคล ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการ สื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. มีความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ประเมินจากสังเกต พฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป


184


185


186


187 ภาคผนวก


188 คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. จงอธิบายลักษณะของคนสายตาสั้น และวิธีการแก้ไข 2. จงอธิบายลักษณะของคนสายตายาว และวิธีการแก้ไข 3. ถ้ายืนในบริเวณแสงแดดจ้า ม่านตาและรูม่านตาจะเป็นอย่าง เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ............................................................................................................................. .............................. ................................................................................................................................................... ........ .......................................................................................................................... ................................. 4. ต้นมีสายตาปกติ ขณะที่อ่านหนังสือ ต้นควรวางหนังสือให้ห่างจากนัยน์ตาอย่างน้อยเท่าใด จึงเห็นหนังสือได้ ชัดเจน ............................................................................................................................. .............................. ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. 5. นักเรียนจะมีวิธีถนอมสายตาอย่างไร เพื่อให้นัยน์ตามีสุขภาพที่ดี ยกตัวอย่างอย่างน้อย 3 วิธี ............................................................................................................................. .............................. ........................................................................................................................................................... ใบงานที่ 5.1 เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ...................................................................................................


189 คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ 1. จงอธิบายลักษณะของคนสายตาสั้น และวิธีการแก้ไข 2. จงอธิบายลักษณะของคนสายตายาว และวิธีการแก้ไข 3. ถ้ายืนในบริเวณแสงแดดจ้า ม่านตาและรูม่านตาจะเป็นอย่าง เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ......................................................................................................................... .................................. ............................................................................................................................. .............................. ........................................................................................................................................................... 4. ต้นมีสายตาปกติ ขณะที่อ่านหนังสือ ต้นควรวางหนังสือให้ห่างจากนัยน์ตาอย่างน้อยเท่าใด จึงเห็นหนังสือได้ ชัดเจน ............................................................................................................................. .............................. ................................................................................................................................ ........................... 5. นักเรียนจะมีวิธีถนอมสายตาอย่างไร เพื่อให้นัยน์ตามีสุขภาพที่ดี ยกตัวอย่างอย่างน้อย 3 วิธี ........................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .............................. ............................................................................................................................. .............................. เฉลยใบงานที่ 5.1 เรื่อง นัยน์ตากับการมองเห็น ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................................... คนสายตาสั้น หมายถึง ตาที่เมื่อแสงมาจากที่ไกล เมื่อถูก หักเหแล้วทำให้เกิดจุดรวมภาพอยู่ข้างหน้าของจอตา ภาพที่ ไปตกที่จอตาจะเป็นภาพไม่ชัดเจน วิธีการแก้ไขโดยการสวม แว่นตาที่ทำมาจากเลนส์เว้า เพื่อกระจายแสงให้ไปตกที่ จอตาพอดี คนสายตายาว หมายถึง ตาที่เมื่อแสงมาจากที่ไกล เมื่อ ถูกหักเหแล้วทำให้เกิดจุดรวมภาพอยู่ข้างหลังของจอตา ภาพที่ไปตกที่จอตาจะเป็นภาพไม่ชัด ต้องมีการเพิ่มกำลัง ของแก้วตาเพื่อให้มองเห็นภาพได้ชัดเจน วิธีการแก้ไขโดย การสวมแว่นตาที่ทำมาจากเลนส์นูน เพื่อรวมแสงให้ไปตกที่ จอตาพอดี ม่านตาจะขยายตัว ทำให้รูม่านตาเล็กลง เพื่อให้แสงเข้าไปในบริเวณที่พอเหมาะ 1) ไม่ควรอยู่ในที่ที่แสงจ้ามากเกินไป 2) ไม่ควรเข้าไปในบริเวณที่มีแสงไฟกระพริบตลอดเวลา 3) ไม่ควรอ่านหนังสือในที่แสงไฟสลัว ควรอ่านหนังสือที่ที่มีแสงพอเหมาะ 25 เซนติเมตร


190 แผนการจัดการเรียนรู้ที่17 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ 5 รหัสวิชา ว 23101 หน่วยการเรียนที่4 แสง เวลาเรียนรวม 16 ชั่วโมง เรื่อง ความสว่างและการมองเห็น เวลา 2 ชั่วโมง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1/2566 ผู้สอน นางสาวสุภาพร พื้นขุนทด วันที่.......เดือน..................พ.ศ……. 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 2.3 ม.3/20 วัดความสว่างของแสงโดยใช้อุปกรณ์วัดความสว่างของแสง ว 2.3 ม.3/21 ตระหนักในคุณค่าของความรู้เรื่อง ความสว่างของแสงที่มีต่อดวงตา โดยวิเคราะห์ สถานการณ์ปัญหา และเสนอแนะการจัดความสว่างให้เหมาะสมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ 2. สาระสำคัญ ความสว่างของแสงไม่ว่ามีมากหรือน้อย ล้วนมีผลต่อกล้ามเนื้อทั้งสิ้น กล่าวคือ ถ้ามีแสงสว่างมาก ม่านตา จะต้องปรับความสว่างของแสงที่เข้ามาบนจอตาให้เล็กลง แต่ถ้ามีแสงน้อย ม่านตาจะเปิดกว้างมาก เพื่อให้แสง สว่างเข้ามาสู่นัยน์ตาอย่างเพียงพอ ดังนั้นในการปฏิบัติงาน หรือการทำงานประเภทต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องให้มีแสง สว่างในแต่ละหน่วยพื้นที่อย่างเพียงพอ ซึ่งเราจะรู้ได้ก็โดยใช้เครื่องวัดแสงวัด เครื่องมือที่จะใช้วัดปริมาณแสงที่ตก กระทบต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่ เรียกว่า ลักซ์มิเตอร์ (luxmeter) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้(K) 1.อธิบายผลของความสว่างที่มีต่อดวงตาได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ (P) 1. เสนอแนะการจัดความสว่างให้เหมาะสมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ 2. มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ 3. มีความมั่นใจในการกล้าแสดงออก 3.3 ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน


191 4. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความสว่างและการมองเห็น 6. กิจกรรมการเรียนรู้ (ใช้การสืบเสาะหาความรู้ (5E)) ขั้นที่ 1 สร้างความสนใจ (Engement) (30นาที) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับ เรื่อง ตาและการมองเห็น โดยครูใช้คำถามตรวจสอบความ เข้าใจของนักเรียน ดังนี้ - ส่วนประกอบของตามีอะไรบ้าง (แนวตอบ : จอตา กระจกตา รูม่านตา ม่านตา เลนส์ตา กล้ามเนื้อตา และเรตินา) - ตาบอดสีเกิดจากกอะไร (แนวตอบ : เกิดจากความผิดปกติของเซลล์รับรู้การเห็นสี) ขั้นที่ 2 สำรวจและค้นหา (Exploration) (60 นาที) 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ทำกิจกรรมที่ 5.1 เรื่อง ผลของแสงสว่างที่มีต่อการมองเห็น และบันทึกผลการทดลองลงในใบกิจกรรม 2. ครูอธิบายวิธีการดำเนินกิจกรรมการทดลอง ขณะที่นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมครูคอยให้คำปรึกษา คำแนะนำและกระตุ้นให้นักเรียนในกลุ่มเกิดการเรียนรู้ร่วมกันพร้อมทั้งสังเกตและประเมินพฤติกรรมการทางาน ของนักเรียน ขั้นที่ 3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation) (40 นาที) 1. นักเรียนนำเสนอผลการทดลองหน้าชั้นเรียน และอภิปรายร่วมกันกับผลการทดลองที่ได้ 2. ครูสรุปกิจกรรมให้นักเรียน โดยจากการทำกิจกรรมจะผมว่าแสงเป็นพลังงานที่ทำให้นัยน์ตาของ เรามองเห็นวัตถุต่าง ๆ ได้ปริมาณแสงเป็นปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นภาพปริมาณแสงไม่เพียงพอการ มองเห็นวัตถุต่าง ๆ ก็ไม่ชัดเจนแต่ถ้าเป็นวันของแสงมากเกินไปก็ทำให้รู้สึกตาพร่ามัวความสว่างบนพื้นผิววัตถุมี ความสำคัญต่อการมองเห็นของนัยน์ตาของมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง


192 ขั้นที่ 4 ขยายความรู้ (Elaboration) (40 นาที) 1. ครูอธิบายเพิ่มเติมประกอบกับ Powerpoint เรื่อง ความสว่างและการมองเห็น ให้นักเรียนเข้าใจ เกี่ยวกับอัตราการให้พลังงานแสงของแหล่งกำเนิดแสง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ฟลักซ์ส่องสว่าง” จากนั้นครูให้ นักเรียนแต่ละคนพิจารณาตารางค่าความสว่างที่เหมาะสมสำหรับสถานที่ต่าง ๆ 2. นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 ขั้นที่ 5 ประเมิน (Evaluation) (10 นาที) ครูประเมินผลของนักเรียนตามแบบประเมินดังนี้ 1. สังเกตพฤติกรรมการร่วมกิจกรรมของนักเรียน มีความกระตือรือร้นในการหาความรู้ มีความมั่นใจ และกล้าแสดงออก และสังเกตพฤติกรรมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของแต่ละบุคคล มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน 7. สื่อการเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 เล่ม 1 2. Powerpoint เรื่อง ความสว่างและการมองเห็น 3. ใบกิจกรรมที่ 5.1 เรื่อง ผลของแสงสว่างที่มีต่อการมองเห็น 4. DLTV เรื่อง ความสว่างและการมองเห็น 8. ภาระงานและชิ้นงาน - ใบกิจกรรมที่ 5.1 เรื่อง ผลของแสงสว่างที่มีต่อการมองเห็น


193 9. การวัดและประเมินผล ประเด็นการประเมิน วิธีการ เครื่องมือ การวัดประเมินผล ด้านความรู้ (K) 1. อธิบายผลของความสว่าง ที่มีต่อดวงตาได้ ตรวจคะแนนจาก ใบกิจกรรมที่ 5.1 เรื่อง ผลของแสง สว่างที่มีต่อการ มองเห็น ใบกิจกรรมที่ 5.1 เรื่อง ผลของแสงสว่างที่มี ต่อการมองเห็น ทำได้ร้อยละ 70 ขึ้นไป ด้านทักษะ (P) 1. มีความกระตือรือร้นใน การหาความรู้ 2. มีความมั่นใจในการกล้า แสดงออก - สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบสังเกต พฤติกรรมรายบุคล ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ (A) 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน สังเกตพฤติกรรม ในชั้นเรียน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการ สื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. มีความสามารถในการใช้ เทคโนโลยี ประเมินจากสังเกต พฤติกรรม ในชั้นเรียน แบบประเมิน สมรรถนะสำคัญ ระดับคุณภาพ ดี/พอใช้/ ปรับปรุง ผ่านเกณฑ์ ในระดับดีขึ้นไป


194


195


196


Click to View FlipBook Version