อังกฤษอ่านเขียน 2

แผนการจดั การเรยี นร้ภู าษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

2

แผนการจัดการเรียนรู้
รายวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหสั วชิ า อ30204

นางสาวพรเพ็ญ เลย้ี งวทิ ยา
กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ

โรงเรยี นพนมศึกษา

สังกัด สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศกึ ษาสุราษฎรธ์ านี ชุมพร

แผนการจดั การเรยี นร้ภู าษาองั กฤษอ่าน-เขยี น 2 รหัสวชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

1

บนั ทกึ ข้อความ

ส่วนราชการ โรงเรยี นพนมศึกษา

ที่ พเิ ศษ/๒๕๖๔ วันที่ ๒๙ ตลุ าคม ๒๕๖๔

เรือ่ ง ขออนุมตั ใิ ช้แผนการจัดการเรียนรู้

เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา

ส่งิ ที่แนบมาด้วย แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๕

เนื่องด้วยข้าพเจ้า นางสาวพรเพ็ญ เลี้ยงวิทยา ตำแหน่ง ครูอัตราจ้าง โรงเรียนพนมศึกษา
ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่การสอนตามคำสั่งที่ ๒๒๘/๒๕๖๔ เรื่องมอบหมายงานสอน ภาคเรียนที่ ๒
ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ซึ่งทางกลุ่มบริหารงานวิชาการ ได้มอบหมายให้ครูทุกคน จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้
อย่างน้อยคนละ ๑ รายวิชานั้น ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานสายการสอนประจำกลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาตา่ งประเทศ ไดจ้ ดั ทำแผนการจดั การเรยี นรู้ ในรายวชิ า ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕

บัดนี้ ข้าพเจ้าได้ดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงขออนุมัติใช้
แผนการจัดการเรยี นร้ดู ังกลา่ ว เพื่อใชใ้ นการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ ตอ่ ไป

จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดพิจารณาอนมุ ัติ

ลงชือ่
(นางสาวพรเพ็ญ เล้ยี งวทิ ยา)
ครูอัตราจ้าง

ลงชอื่ ลงชือ่
( นางอังคณา แก้วเมือง ) ( นางสาวณัฐญิ า คาโส )

หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ หวั หน้ากลุ่มบริหารงานวชิ าการ

ความคดิ เหน็ ผ้อู ำนวยการ

 อนมุ ัติ
 ไม่อนุมตั ิ .................................................................................................................. ...............

ลงชื่อ
( นางผกา สามารถ )

ผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศกึ ษา

........../......../..........

แผนการจดั การเรยี นร้ภู าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหัสวิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

2

แผนการจดั การเรยี นรู้

รายวชิ าภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวิชา อ30204
ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 ช่ัวโมง/ภาคเรียน
จำนวน 1.0 หนว่ ยการเรยี น ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564

การกำหนดการใชแ้ ผนจัดการเรียนรู้
รายการตรวจสอบและกลัน่ กรองการใชแ้ ผนจดั การเรยี นรู้

ความคิดเหน็ ความคดิ เห็น

.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................
.................................................................................. ..................................................................................

ลงชื่อ................................................. ลงชื่อ.................................................
(นางองั คณา แก้วเมือง) (นางสาวณัฐญิ า คาโส)
หัวหน้ากลุ่มงานวชิ าการ
หัวหน้ากลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
ความคดิ เห็น
ความคิดเห็น

.................................................................................. ...................................................................................
.................................................................................. ...................................................................................
.................................................................................. ...................................................................................
.................................................................................. ...................................................................................
.................................................................................. ...................................................................................

ลงชื่อ................................................. ลงชอ่ื .................................................
(นางงามพรรณ ธิปัตย)์ (นางผกา สามารถ)

รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนพนมศกึ ษา ผอู้ ำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา

แผนการจดั การเรียนรู้ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 2 รหสั วิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

3

คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนการสอน
เพราะเป็นเอกสารหลักสูตร ที่ใช้ในการบริหารงานของครูผู้สอนให้ตรงตามนโยบายในการปฏิรูปการศึกษา
กำหนดไว้ในแผนหลักคุณภาพการศึกษา สนองจุดประสงค์และคำอธิบายรายวิชาของหลักสูตร ในการ
บริหารงานวิชาการถือว่า “แผนจัดการเรียนรู้”เป็นเอกสารทางวิชาการที่สำคัญที่สุดของครู เพราะในแผน
จัดการเรียนรู้ประกอบดว้ ย

๑. การกำหนดเวลาเรยี น กำหนดการสอน กำหนดการสอบ
๒. สาระสำคญั ของเนือ้ หาวิชาทเี่ รยี น
๓. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
๔. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
๕. สือ่ และอุปกรณ์
๖. การวดั ผลประเมนิ ผล
การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ถือว่าเป็นการสร้างผลงานทางวิชาการ เป็นผลงานท่ีแสดงถึงความ
ชำนาญในการสอนของครู เพราะครใู ช้ศาสตร์ทกุ สาขาอาชพี ของครู เช่นการออกแบบ การสอน การจดั การ
และการประเมินผล ในการจัดทำแผนจัดการเรยี นรู้น้ันจะทำให้เกิดความมัน่ ใจในการสอนไดต้ รงจุดประสงค์
การเรียนรู้ เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนในรายวิชาที่รับผิดชอบสูงขึ้น ทั้งยังเป็นข้อมูลในการนิเทศ
ติดตามตรวจสอบและปรับปรุงการเรียนการสอนได้อย่างมีระบบและครบวงจร ยังผลให้คุณภาพการศึกษา
โดยรวมพัฒนาไปอย่างมีทศิ ทางบรรลเุ ปา้ หมายของหลักสูตร

นางสาวพรเพ็ญ เลี้ยงวิทยา

ครูผู้สอน

แผนการจดั การเรียนร้ภู าษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 2 รหสั วิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา

สารบัญ 4

เร่ือง หน้า
ขออนุมตั ใิ ชแ้ ผนการจัดการเรียนรู้ 1
กำหนดการใช้แผน 2
คำนำ 3
วิเคราะห์หลักสตู ร 4
5
• คำอธบิ ายรายวชิ า 6
• ตารางวิเคราะหร์ ายวชิ า 7
• โครงสร้างรายวชิ า 8
วเิ คราะห์ผู้เรียน 9
• ตารางวเิ คราะหผ์ ้เู รียนดา้ นผลสมั ฤทธิ์ 10
• แบบวิเคราะหผ์ ้เู รยี นเปน็ รายบคุ คล/ความถนดั /ความสนใจ 11
การวดั ผลประเมนิ ผล
แผนการจัดการเรียนรู้ 1
17
• แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 30
• แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 42
• แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 56
• แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 4 70
• แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 84
• แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 97
• แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7 110
• แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8 123
• แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9 136
• แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 10 149
• แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 11 162
• แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 12 176
• แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 13 189
• แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 206
• แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 221
• แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16 234
• แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 17
• แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 18

แผนการจดั การเรยี นร้ภู าษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

5

คำอธบิ ายรายวิชา

รายวชิ า ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน (รหสั วิชา อ30204) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ

เวลา 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน 1.0 หน่วยกิต

เข้าใจ น้ำเสียง ความรู้สึกของผู้พูด ทำตามคำสั่ง คำขอร้อง คำแนะนำ เข้าใจความแตกต่างทางภาษาวัฒนธรรม
ประเพณีของไทยและเจ้าของภาษา แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารในหัวข้อต่าง ๆ ใช้ภาษาในการให้ข้อมูล
เก่ียวกับตนเอง ,ครอบครัว ,โรงเรยี น ,สง่ิ แวดลอ้ ม ,อาหาร ,เครอ่ื งดม่ื แสดงความสมั พันธร์ ะหว่างบุคคล ,การเดนิ ทางทอ่ งเที่ยว
,วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ,ใช้ภาษาตามมารยาทางสังคม ใช้ภาษาสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล แสดงความคดิ เห็น
ความต้องการ อธิบาย บรรยายแลกเปลี่ยนความรู้ ใช้ภาษาท่าทางสื่อสารได้เหมาะสมกับระดับบุคคล กาลเทศะและ
วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ใช้ภาษาแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสาระการเรียนรู้อื่นภายในโรงเรียนและชุมชน
ข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ เหน็ คุณคา่ ของภาษาองั กฤษ

มีทักษะในการสือ่ สาร มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน และมีจิตสาธารณะ มีความรักและภาคภูมิใจในท้องถิ่น
ของตน

ผลการเรยี นรู้

1. ปฏบิ ตั ิตามคำขอร้อง คำแนะนำคำช้ีแจง และคำอธบิ ายทฟี่ งั และอ่าน
2. ระบแุ ละเขยี นส่ือท่ไี มใ่ ช่ความเรยี งรูปแบบต่างๆใหส้ มั พันธ์กบั ประโยคและขอ้ ความทฟี่ งั หรอื อา่ น
3. พูดและเขียนแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์

ตา่ งๆ อยา่ งเหมาะสม
4. พูดและเขียนบรรยายความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องต่างๆกิจกรรม ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ พรอ้ มทัง้ ให้เหตผุ ลประกอบอย่างเหมาะสม
5. พดู และเขียนบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์/ เร่ือง/ ประเดน็ ตา่ งๆ
ทอ่ี ย่ใู นความสนใจของสังคม
6. เลือกใช้ภาษา น้ำเสยี ง และกิริยาทา่ ทาง เหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคม
และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
7. เขา้ รว่ ม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ
8. เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งชวี ิตความเปน็ อยแู่ ละวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ของไทย และนำไปใชอ้ ยา่ งเหมาะสม
9. ค้นควา้ รวบรวมทั้งหมด และสรปุ ข้อมูล/ ข้อเทจ็ จริงทเี่ กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื จากแหล่งเรยี นรู้ และ
นำเสนอด้วยการพูดและการเขยี น

10. ใช้ภาษาสือ่ สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองทเ่ี กดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียน สถานศึกษา ชุมชน และสังคม

รวมทงั้ หมด 10 ผลการเรียนรู้

แผนการจดั การเรียนร้ภู าษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั วชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

6

ตารางวิเคราะหร์ ายวิชา

[วเิ คราะห์ความรู้ (K) กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A) สมรรถนะ (C)]

ผลการเรยี นรู้ ความรู้ กระบวนการ คณุ ลกั ษณะ สมรรถนะ
(K) (P) (A) (C)
1. มีความรู้ (10 คะแนน)
ความเขา้ ใจ (8 คะแนน) (2 คะแนน) (ระดับ 0-3)
เก่ยี วกบั เน้ือหา - ความรู้
เร่ือง Shopping ความเข้าใจ - กระบวนการ - มีมารยาทและมี -มคี วามสามารถใน
เกย่ี วกับเนื้อหา เขยี น นสิ ัยรักการเขียน การสอ่ื สาร
เรอ่ื ง Shopping - กระบวนการพูด - มมี ารยาทในการ -มีความสามารถใน
การฟงั และดู พดู การฟังและดู การใช้ทกั ษะชวี ติ
- กระบวนการคดิ

๒. มคี วามรู้ - ความรู้ - กระบวนการ - มีมารยาทและมี -มีความสามารถใน
ความเข้าใจ ความเข้าใจ เขยี น นิสัยรักการเขยี น การส่ือสาร
เก่ียวกบั เนือ้ หา เก่ยี วกบั เนื้อหา - กระบวนการพูด - มีมารยาทในการ -มคี วามสามารถใน
เรอ่ื ง Geography เรอ่ื ง Geography การฟงั และดู พูด การฟังและดู การใชท้ กั ษะชีวิต
- กระบวนการคิด

๓. มคี วามรู้ - ความรู้ - กระบวนการ - มมี ารยาทและมี -มีความสามารถใน
นสิ ยั รักการเขยี น การส่อื สาร
ความเข้าใจ ความเข้าใจเน้ือหา เขยี น - มีมารยาทในการ -มีความสามารถใน
พดู การฟงั และดู การใชท้ กั ษะชวี ิต
เกี่ยวกับเน้ือหา เรอ่ื ง Modern life - กระบวนการพูด

เรอ่ื ง Modern life การฟังและดู

- กระบวนการคดิ

๔. มคี วามรู้ - ความรู้ - กระบวนการ - มีมารยาทและมี -มคี วามสามารถใน
ความเขา้ ใจ ความเขา้ ใจ เขียน นิสยั รกั การเขยี น การสื่อสาร
เกยี่ วกับ เกี่ยวกับ - กระบวนการพูด - มีมารยาทในการ -มคี วามสามารถใน
เรื่อง เร่ือง การฟังและดู พูด การฟังและดู การใชท้ กั ษะชวี ิต
Entertainment Entertainment - กระบวนการคดิ

แผนการจดั การเรียนร้ภู าษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 2 รหัสวิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

7

โครงสร้างรายวชิ า

รายวชิ า ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น (รหสั วิชา อ30204) กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ

เวลา 40 ชั่วโมง/ภาคเรยี น จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ลำดับท่ี ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ช้วี ัด เวลา น้ำหนัก
(คะแนน)
1. Shopping มฐ ต 1.1 (4) มฐ ต 1.2 (4) (ชัว่ โมง)
มฐ ต 1.3 (2) มฐ ต 4.1 (1) 10 20

2. The geography มฐ ต 1.1 (4) มฐ ต 1.2 (4) 10 20
มฐ ต 1.3 (2) มฐ ต 4.1 (1)

3. Modern life มฐ ต 1.1 (4) มฐ ต 1.2 (4) 10 20
มฐ ต 1.3 (2) มฐ ต 4.1 (1)

4. Entertainment มฐ ต 1.1 (4) มฐ ต 1.2 (4) 10 20
มฐ ต 1.3 (2) มฐ ต 4.1 (1)
มฐ ต 4.2 (1)

Final Examination 20
Total in year round 40 100

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

8

โรงเรียนพนมศึกษา
ตารางวิเคราะห์ผู้เรียนด้านผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน

วัตถุประสงค์ 1. เพือ่ นำไปออกแบบการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับความสามารถของนักเรยี น
2. เพอ่ื เปน็ แนวทางในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรยี นดา้ นผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน

กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวิชาภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวชิ า อ 30204
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

ชือ่ ผูส้ อน นางสาวพรเพญ็ เล้ยี งวทิ ยา

สรุปผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนพ้ืนฐานท่ีใชใ้ นการเรยี นวชิ านี้

ระดับคุณภาพของ GPA ของกลุ่ม จำนวนคน ร้อยละ
ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียน - -
ตำ่ กวา่ 2.00
ปรับปรุง 2.00 – 2.50
พอใช้ สูงกว่า 2.50

ดี

แนวทางการจัดกจิ กรรม

ผลสัมฤทธ์ิ รอ้ ยละ กจิ กรรมแก้ไขหรือพัฒนา จำนวน เครือ่ งมอื /วิธีการ
ในแผนการเรยี นรู้ ประเมิน
ทางการเรียน เดิม เปา้ หมาย

ดี

ปรับปรุง

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 2 รหสั วชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา

แบบวเิ คราะหน์ ักเรยี นเป็นรายบคุ คล 9

เกย่ี วกับความถนัด / ความสนใจ / รายวิชา ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 2 หมายเหตุ

ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 หอ้ ง 2

เลขท่ี ชือ่ – สกลุ ระดบั ความถนัด / ความสนใจ
3210

1. นายจกั รกฤษ ณ ฤทธ์ิ

2. นายชินวฒั น์ แสงตาขนุ

3. นายธนพล เพชรศรี

4. นายธีรภทั ร มสุ กิ

5. นายนิวัฒน์ สวุ รรณเสน

6. นางสาวกนกวรรณ มากแก้ว

7. นางสาวกฤษกรวรรณ จันทรแ์ สงกุล

8. นางสาวกญั ญว์ รา ปิตะมะหะ

9. นางสาวกัณณิกา ศรขี นนุ

10. นางสาวจรญิ ญา ศรีสมทรัพย์

11. นางสาวจันทราทิพย์ วงษ์สวัสดิ์
12. นางสาวจิดาภา ทิพยม์ ณเฑยี ร
13. นางสาวจฬุ าลักษณ์ วรรณะ
14. นางสาวเจนจริ า แดงกลุ
15. นางสาวชลติ สา สังข์ทอง
16. นางสาวชาลสิ า ชโู ลก
17. นางสาวณัฐฐาพร เทพคง
18. นางสาวนนั ทน์ ภัส วฒั นชยั
19. นางสาวเบญจวรรณ ทองส่งโสม
20. นางสาวปกติ ตา แสงศรี
21. นางสาวปยิ ธดิ า พูนพพิ ฒั น์
22. นางสาวพัทธนันท์ อาจกิจ
23. นางสาวรงุ่ นภา ศรีสมทรัพย์
24. นางสาวศรัญญา สืบรกั ษ์
25. นางสาวศภุ าพิชญ์ นาคกุล
26. นางสาวสดุ ารัตน์ รกั ษศ์ รีทอง
27. นางสาวสุวนันท์ พษิ ครฑุ
28. นางสาวอษุ ณิษา ปานแก้ว
29. นางสาวสันต์ฤทัย หลวงปลอด

แบบวเิ คราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล

แผนการจดั การเรยี นรูภ้ าษาอังกฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

เกยี่ วกบั ความถนดั / ความสนใจ / รายวชิ า ภาษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 2 10

ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5 ห้อง 4 หมายเหตุ

เลขท่ี ชือ่ – สกุล ระดบั ความถนดั / ความสนใจ
3210

1. นายกิตตศิ กั ด์ิ แปน้ เผอื ก

2. นายจักรกฤษณ์ พรมศรีแกว้

3. นายเจษฎา เกตขุ าว

4. นายชาญณรงค์ วงศรี

5. นายณัฐภัทร ชขู าว

6. นายเตชินท์ หอมจันทร์

7. นายเติมพงศ์ ศิริชยั

8. นายธรี พงค์ สนั ขาว

9. นายปริทรรศน์ ยวนกะเปา

10. นายพงศ์พล ฤกษอ์ ุไร

11. นายพรอ้ มพงศ์ วงศห์ นอ้ ย

12. นายไพโรจน์ อนุจนั ทร์

13. นายภาณพุ งศ์ ชิตจุย้

14. นายวรวุฒิ สุวรรณพราย

15. นายสรุ ศักดิ์ วังฉาย

16. นายอนวุ ัฒน์ เยน็ ใจ

17. นายอคั ร วเิ ชียรวงศ์

18. นายเอกรตั น์ ดาศรี

19. นางสาวกฤษชนก ชูเพชร

20. นางสาวกาญจนา นิรันเรอื ง

21. นางสาวจริ นนั ท์ ชาตรที ัพ

22. นางสาวเตอื นใจ ปญั จพล

23. นางสาวธิดารตั น์ นาคจติ ร์

24. นางสาวนพสั ศร รสเกลีย้ ง

25. นางสาวนฤมล สมสุข

26. นางสาวนาเดยี รวยจนิ ดา

27. นางสาวนุชนารถ หมวดเพช็ ร

28. นางสาวบัณฑติ า แก้วนพคุณ

29. นางสาวพนั ธิตรา ทองเนือ้ ขาว

30. นางสาวพมิ พศิ า กุนอก

31. นางสาวเรวดี ศรนี าวา

32. นางสาวสิรวิ มิ ล ตรีรนิ

33. นางสาวสุนันทา โยธาจลุ

34. นางสาวอนธุ ดิ า ประดษิ ฐพร

35. นางสาวอภสั รา สงพัฒนแ์ กว้

การวดั ผลประเมนิ ผล

แผนการจดั การเรียนรู้ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 2 รหสั วชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

11

การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ / รายวิชา ในแต่ละตัวชี้วัดชั้นปี ซึ่ง
สถานศึกษาวิเคราะห์จากมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด การประเมินสาระการเรียนรู้รายวิชา ให้ตัดสินผล
การประเมินเปน็ ระดบั ผลการเรยี น ๘ ระดับ ดังนี้

คะแนน 80 – 100 ระดับผลการเรยี น “4” หมายถงึ ผลการเรียนดีเยี่ยม
คะแนน 75 – 79 ระดบั ผลการเรียน “3.5” หมายถึง ผลการเรียนดมี าก
คะแนน 70 – 74 ระดับผลการเรยี น “3” หมายถงึ ผลการเรียนดี
คะแนน 65 – 69 ระดบั ผลการเรียน “2.5” หมายถงึ ผลการเรยี นคอ่ นขา้ งดี
คะแนน 60 – 64 ระดับผลการเรียน “2” หมายถงึ ผลการเรยี นปานกลาง
คะแนน 55 – 59 ระดบั ผลการเรียน “1.5” หมายถงึ ผลการเรียนพอใช้
คะแนน 50 – 54 ระดบั ผลการเรียน “1” หมายถึง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ข้ัน
ตำ่
คะแนน 0 - 49 ระดบั ผลการเรยี น “0” หมายถึง ผลการเรียนตำ่ กว่าเกณฑก์ ารประเมิน
ในกรณที ่ีไม่สามารถใหร้ ะดับผลการเรยี นเป็น ๘ ระดบั ได้ให้ใชต้ วั อักษร ระบเุ งื่อนไขของผลการเรียน
ดงั น้ี

“มส” หมายถงึ ผู้เรียนไม่มีสทิ ธเ์ิ ข้ารบั การวัดผลปลายภาคเรียน เนอ่ื งจากผู้เรยี นมเี วลา
ไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเรียนในแตล่ ะรายวชิ า และไม่ได้รับการผอ่ น
ผันใหเ้ ขา้ รับการวดั ผลปลายภาคเรียน

“ร” หมายถึง รอการตดั สินและยังตดั สนิ ผลการเรียนไม่ได้ เนื่องจากผู้เรยี นไม่มีข้อมลู
การเรยี นรายวชิ านัน้ ครบถว้ น ได้แก่ ไม่ได้วดั ผลกลางภาคเรียน/ปลาย
ภาคเรยี น ไม่ได้ส่งงานท่ีมอบหมายใหท้ ำ ซงึ่ งานนนั้ เปน็ สว่ นหนึง่ ของการ
ตดั สนิ ผลการเรียน หรอื มีเหตุสุดวสิ ยั ท่ที ำใหป้ ระเมนิ ผลการเรียนไม่ได้

การประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์นน้ั ใหร้ ะดับผลการ
ประเมนิ เป็น ดเี ยี่ยม ดี และผ่าน

ดีเยี่ยม หมายถงึ มผี ลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะหแ์ ละ เขยี นที่มี
คุณภาพดีเลิศอยูเ่ สมอ

ดี หมายถงึ มผี ลงานทแี่ สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขียนท่ีมี
คุณภาพเปน็ ที่ยอมรับ

ผา่ น หมายถึง มีผลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี นท่ีมี
คณุ ภาพเปน็ ท่ยี อมรับ แตย่ งั มีขอ้ บกพร่องบาง ประการ

ไมผ่ ่าน หมายถึง ไม่มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขียน
หรือถา้ มผี ลงาน ผลงานน้นั ยังมขี ้อบกพร่องทีต่ ้องไดร้ ับการปรับปรงุ
แกไ้ ขหลายประการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหสั วชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

1

แผนการจัดการเรยี นรู้ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ รหัสวชิ า อ 30204
รายวชิ าภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง Shopping เวลา 2 ชัว่ โมง
เรื่อง : She always wears shoes ’to school.

1. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด
ต 1.1
ม 1/2 อา่ นออกเสียงข้อความ นิทาน และบทร้อยกรอง (poem) ส้ันๆ ถูกต้องตาม หลกั การ
อ่าน
ม 1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและข้อความ ให้สมั พนั ธ์กบั สอื่ ท่ีไม่ใชค่ วามเรียง
(non-text information) ทีอ่ ่าน
ต 1.2
ม 1/1 สนทนา แลกเปลี่ยนข้อมลู เก่ยี วกับตนเอง กิจกรรม และสถานการณ์ต่างๆ ใน
ชวี ิตประจำวัน
ม 1/3 พดู และเขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้
ความชว่ ยเหลือในสถานการณ์ตา่ งๆ อย่างเหมาะสม

2. สาระสำคัญ
ฝกึ ทักษะทางภาษาโดยการใช้ รปู ภาพเกยี่ วกบั เส้อื ผา้ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนฝึกพูดถาม-ตอบให้ข้อมูล

เกี่ยวกับสิ่งที่อ่าน โดยใช้คำศัพท์โครงสร้างประโยคที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์และ
วัฒนธรรม
3.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. นักเรียนสามารถอา่ นออกเสยี งคำศัพท์ข้อความได้ถูกต้องตามหลกั การอา่ นออกเสียง
2. นักเรยี นฟังประโยคข้อความส้ัน ๆ เกีย่ วกับสถานการณก์ ับการแตง่ กายให้สัมพันธก์ นั ได้
3. นกั เรียนเขียนประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พันธเ์ ก่ยี วกบั เคร่ืองแต่งกายได้
4.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคดิ วิเคราะห์
- การคดิ อย่างสรา้ งสรรค์
4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5.สาระการเรยี นรู้
1. Vocabulary : cab, shoes, boots, shorts, tie, dress, sweater, socks, skirt, suit, wear,

winter, summer, snow, beach, sweat, shirt, sweater, bathing suit, bank, always
2. Structure : He bought four pairs of shoes.

We wear..............................when we go to swim.
She always wears.............................to school.

3. Function : To talk about clothing

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

2

4. Culture : วฒั นธรรมการแต่งกายของแต่ละชนชาติ การแต่งกายเข้ารว่ มงานต่าง ๆ
เช่นงานแตง่ งาน งานเล้ียง งานวันเกดิ การแต่งกายใหเ้ หมาะสมกบั โอกาสตา่ ง ๆ

6. กระบวนกาจดั การเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี 1
กจิ กรรมการเรยี นรู้

1. Warm up
1.1 เพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับคำศัพท์บอกสีและเสื้อผ้า ให้นักเรียนทำกิจกรรม

โดยแบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ 2-3 คน ให้เวลา 1-2 นาทีในการดูภาพในใบความรู้ที่ 1 แล้วแต่ละ
กลมุ่ รายงานว่าเหน็ อะไรบา้ ง โดยครอู าจจะมีประโยคคำถามเป็นตัวช่วยให้นกั เรยี นตอบ เชน่

What color do you see?
How many colors are there?
What is the boy/the girl wearing?
What color is the man’s suit?
What color is the dress?
What is yellow/purple?
1.2 ครูทบทวนคำศัพทใ์ ห้นกั เรียนทราบโดยใหน้ กั เรียนบอกช่ือเครือ่ งแตง่ กายทต่ี นทราบเป็น
ภาษาอังกฤษ แล้วเขียนไวบ้ นกระดานดำ เชน่ cap, blouse, skirt, socks, jeans, dress, shoes,
etc.
1.3 นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน
2. Presentation
2.1 ครูอ่านคำศพั ท์ให้นกั เรียนฟังในใบความร้ทู ่ี 1 แล้วช้ีท่ีภาพเครอ่ื งแต่งกายดังกล่าว เมื่อได้
ยนิ เสียงคำศัพท์ที่ครูอา่ นท่ตี รงกับภาพ หลังจากน้ันใหน้ กั เรียนจับคู่ คนหน่ึงชท้ี ี่ภาพและอีกคนหนึ่ง
บอกช่ือเครื่องแต่งกายในภาพ แล้วสลับบทบาทกัน ตอ่ จากนั้นครใู หน้ ักเรยี นศึกษาในใบความรู้ท่ี 1
บอกนักเรยี นว่า เราใช้ a pair of ข้างหน้า socks, shoes, sneakers, pants, jeans และ shorts
เป็นตน้ ท้งั น้เี พราะสงิ่ เหลา่ น้ีมี 2 ข้าง และเป็นสิ่งท่ตี ้องใช้คู่กนั โดยครูยกตวั อยา่ งประโยคการใช้ a
pair of เพ่ือใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจยิ่งขึ้น ดงั นี้
- He bought four pairs of shoes.
- I can’t find a pair of socks.
- I want a pair of sneakers.
3. Practice
3.1 นักเรยี นฝกึ อา่ นคำศพั ท์ตามครู และจดคำศพั ทล์ งในสมดุ
3.2 ครูตรวจสอบความเข้าใจคำศพั ท์เก่ยี วกับเคร่อื งแตง่ กาย โดยใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ที่ 1
4. Production
นกั เรียนวาดรูปภาพบคุ คลทส่ี วมใสเ่ ส้อื ผ้าและมเี คร่ืองแตง่ กายพร้อมทำลกู ศรช้ไี ปที่เครอื่ ง
แต่งกายและเขยี นคำศัพท์บอกความหมายของเคร่ืองแตง่ กายเหล่าน้ัน
5. Wrap up
นกั เรียนและครูร่วมกันเฉลยแบบฝกึ ที่ 1 ร่วมกันเพ่ือสรปุ บทเรยี นเรือ่ งการแตง่ กาย
ช่วั โมงท่ี 2

แผนการจดั การเรียนรูภ้ าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหัสวชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

3

กจิ กรรมการเรียนรู้
1. Warm up
1.1 ครูเขียนประโยคเหล่านี้บนกระดานเพื่อทดสอบความรู้เดิมเกี่ยวกับการใช้เสื้อผ้าใน
สถานการณ์ทีแ่ ตกตา่ งกนั โดยให้นักเรียนเติมคำในประโยคต่อไปนี้
We wear..............................when we go to swim.
Miss Somying is a teacher. She always wears.............................to school.
1.2 ครูให้นักเรียนดูเสื้อผ้าแต่ละชนิดที่ครูนำมา เมื่อครูหยิบตัวใดขึ้นมาให้นักเรียนบอก
ความหมายเป็นภาษาไทยและภาองั กฤษพร้อมสะกดคำศัพทน์ ้ัน ๆ

2. Presentation
2.1 ครูอธบิ ายความหมายคำว่า Wear แปลวา่ สวมใส่ เปน็ คำกิริยา และอธิบายลักษะของชุด

แตล่ ะชุดวา่ เหมาะสมกับสถานการณ์หรอื หตุการณ์อยา่ งไร เช่น งานวนั แตง่ งานควรสวมใสช่ ดุ ทส่ี ภุ าพ
เชน่ กระโปรง ชุดราตรสี ั้น ถา้ เป็นผู้ชายควรใส่เนคไทด์ ไมค่ วรใสก่ างเกงขาสน้ั หรอื กางเกงยนี สแ์ ละ
รองเทา้ แตะ เพราะไมส่ ภุ าพและเปน็ การไมใ่ หเ้ กียรตสิ ถานที่

2.2 ครูอธบิ ายประวัติกางเกงยีนสพ์ อสงั เขป
ประวัติกางเกงยีนส์

ผ้ผู ลิตกางเกงยนี สร์ ายแรกของโลกคือ ลวี าย สเตราส์ (Levi Strauss) หรอื ท่ีรู้จักกนั ดีในย่ีห้อลี
วายสน์ นั่ เอง เขาเป็นชาวเยอรมันเชอ้ื สายยิวทีม่ าทำงานในสหรฐั อเมริกา เริม่ นำผ้ายนี สม์ าตัดกางเกงเมื่อ
ราวปี ค.ศ. 1850 หรอื พ.ศ. 2393 โดยตงั้ ชอื่ กางเกงยนี สต์ ามชื่อผ้าฝ้าย ซงึ่ มผี ู้ทำขนึ้ ในนครเจนัว
(Genoa) เมอื งท่าของประเทศอติ าลี กลางศตวรรษที่ 19 ซ่งึ ทางประเทศองั กฤษสั่งนำเขา้ ผ้าชนดิ นี้ ด้วย
ความท่ึงในความทนทาน และเรียกผา้ น้ีรวม ๆ วา่ Fustian ซึง่ แปลว่าผา้ สีเนอ้ื หยาบ ต่อมาระหวา่ งที่เรือ
ขนส่งสินค้าจากอิตาลมี าองั กฤษ ต้องผา่ นประเทศฝรงั่ เศส ซ่ึงคนฝร่งั เศสเรยี กเมือง เจนวั วา่ แซน
(Gênes) และเรียกสินค้าจากเจนวั ว่า ชีน (Jene) ซงึ่ ภายหลงั เปล่ยี นมาเปน็ ชอง (Jean) พอมาถงึ อังกฤษ
คนอังกฤษอา่ นคำวา่ Jean วา่ จีนหรอื ยนี ส์ เชน่ เดียวกับคนอเมริกันทพี่ ูดภาษาอังกฤษ ซึง่ เมื่อคนนำผ้า
ชนดิ น้ไี ปตัดกางเกง จึงเรียกว่า Jeans หรือยีนสน์ ่นั เอง
3. Practice

3.1 นักเรียนหาความหมายคำศัพทใ์ นแบบฝึกท่ี 2 เพ่ิมจากในบทเรียน
3.2 นักเรยี นฝึกอ่านประโยคข้อความตามครใู นแบบฝึกที่ 2
3.3 นกั เรียนทำแบบฝึกท่ี 2
4. Production

นกั เรียนทำรายงานเกย่ี วกบั สมดุ ภาพการแต่งกายประจำชาติต่างๆ แลว้ นำเสนอในห้อง
5. Wrap up

นักเรียนและครรู ว่ มกันเฉลยแบบฝึกท่ี 2 รว่ มกนั เพอื่ สรปุ บทเรยี นเร่ืองการแตง่ กาย

7.การบูรณาการหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

แผนการจดั การเรียนร้ภู าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

4

หลักความ พอประมาณกับเวลา นกั เรยี นสามารถหาคำศัพท์ ไก้ทันเวลา
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชิก นักเรยี นสามารถแบ่งกลมุ่ เพียงต่อการ่วมกันทำงานเปน็ กลุ่ม
พอประมาณกบั สถานท่ี ห้องเรยี นภาษาอังกฤษมโี ตะ๊ เรียน 36 โตะ๊

หลักมีเหตุผล ในการจดั การเรียนการสอน นักเรยี นสามารถสร้างประโยคจาก Grammar ได้

หลักการสรา้ ง การจัดการเรียนสอนแตล่ ะครั้ง นกั เรียนเกดิ ความเข้าใจในการเรียน เนือ้ หา ได้เปน็ อยา่ ง
ภูมคิ ุม้ กันในตัวทดี่ ี ดีทกุ คนมีส่วนร่วมในการเรยี นการสอนได้เป็นอย่างดี

เงอื่ นไขความรู้ นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจเรือ่ งGrammar ได้เป็นอย่างดี

เงื่อนไขคณุ ธรรม รจู้ ักการทำงานรว่ มกล่มุ ซื้อสัตย์ มีความรับผิดชอบ

8.สอ่ื การเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้
1. ใบความรู้ท่ี 1
2. แบบฝึกที่ 1
3. แบบฝกึ ที่ 2
4. แบบทดสอบกอ่ นเรียน
5. ตวั อย่างเส้อื ผา้ ของจรงิ

9.การวดั ประเมนิ ผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวัด
1. สังเกตจาก 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านระดบั ดี
ส่ิงท่ตี ้องการวัด การอา่ นออกเสียง
การอ่านออกเสียง ผ่านระดบั ดี
1. การอา่ นออกเสยี ง 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
คำศัพทแ์ ละประโยค 2. สงั เกตจากพฤตกิ รรม การเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
เกย่ี วกับการแต่งกาย การเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

2. การเข้ารว่ มกิจกรรม
กลมุ่

ใบความรทู้ ่ี 1

แผนการจดั การเรยี นรูภ้ าษาอังกฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา

5

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหัสวชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

6

แบบฝกึ ท่ี 1
Label the clothes using the words from the box.

cap ,shoes, boots, , shorts ,tie
dress, sweater , socks , skirt, suit

1. ____________ 2. ____________

3. ____________ 4. ____________

5. ____________ 6. ____________

แผนการจดั การเรยี นรู้ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหัสวชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

7

7. ____________ 8. ____________

9. ____________

10.____________

แผนการจดั การเรยี นรู้ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั วชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

8

เฉลยแบบฝึกท่ี 1

1. Cap
2. Sweater
3. Boots
4. Suit
5. Socks
6. Shorts
7. Dress
8. Tie
9. Shoes
10.Skirt

แผนการจดั การเรียนรู้ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหัสวชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

9

แบบฝึกท่ี 2
Direction : Fill in the blank to correct answer.
1. We wear..............................when we go to swim.
2. Miss Somying is a teacher. She always wears.............................to school.
3. In winter, people wear..............................and.............................. .
4. The man who works in the bank always wears...................................... .
5. In summer we can see people wear.....................and....................at the
beach.
6. We can walk on the snow if we wear........................... .

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 2 รหัสวชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

10

เฉลยแบบฝกึ ที่ 2

1. bathing suit
2. skirt
3. sweatshirt and sweater
4. tie
5. bathing suit and shorts
6. boots

แผนการจดั การเรยี นรภู้ าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

11

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

Fill PART A : in the blanks.

เตมิ คำในชอ่ งวา่ งของประโยคให้สมบรู ณ์

six, much , dollars, green ,color, purple, twenty, yellow ,pair,

extra-large, favorite, sweater, jeans, forty, green

1. The tree is ______________.
2. I like your ______________ .
3. Four, five, ____________, seven, eight, nine, ten.
4. My _____________ clothing is dress.
5. Ten, twenty, thirty, __________, seventy, eighty, ninety, one hundred.
6. The pair of ______________ is blue.
7. A: How _________ is the kite ?

B: It’s ten _________ .
8. I want a __________ of shoes.
9. A : What size?

B : ______________
10. A: What ______________ are in the rainbow?

B: red, blue, orange, indigo, ________ , _________ , ________

แผนการจดั การเรยี นรภู้ าษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

12

PART B : Read the conversation and answer the questions.
Conversation

A : Can I help you?
B : Yes, please. I want a blouse.

Do you have this one in red?
A : What size?
B : Small
A : Yes, we have it in small.

Do you want to try it on?
The fitting rooms are in the back.
B : Thanks. I also want a skirt.
These are nice. How much are they?
A : Ninety dollars
B : That’s expensive
A : Yes, they’re new arrivals.
B : Do you have any skirts on sale?
A : Yes. Special offers are over there. Fifty percent off.
B : That’s better! I want the ones on sale.

Answer the questions
1. What is the girl looking for?
2. What color blouse does she want?
3. Does the store have her size?
4. Are the skirts cheap?
5. How much is the special offer?

แผนการจดั การเรยี นรูภ้ าษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหัสวิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

13

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น

PART A : Fill in
the six, much , dollars, green ,color, purple, twenty, yellow ,pair, blanks.
เตมิ คำ extra-large, favorite, sweater, jeans, forty, green ใน

ชอ่ งวา่ งของประโยคใหส้ มบรู ณ์

1. green
2. sweater
3. six
4. favorite
5. forty
6. jeans
7. much

dollars
8. pair
9. extra-large
10. color

purple, yellow, green

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา

14

PART B : Read the conversation and answer the questions.
Answer the question

1. What is the girl looking for?
A blouse

2. What color blouse does she want?
Red

3. Does the store have her size?
Yes, it does.

4. Are the skirts cheap?
No, It’ isn’t. It is expensive

5. How much is the special offer?
Fifty percent off.

แผนการจดั การเรยี นรู้ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

15

แบบประเมินการทำงานกล่มุ

ประเด็น ระดับคะแนน / คำอธบิ ายระดับคุณภาพ นำ้ หนกั คะแนน
การประเมิน ความ รวม
4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ควร สำคญั
1. ความรว่ มมอื ปรบั ปรงุ ) 12
ในการทำงาน วางแผนรว่ มกัน สว่ นใหญร่ ว่ ม 3
ยอมรับขอ้ ตกลง วางแผน ยอมรบั วางแผนรว่ มกัน บางคนรว่ ม
ของกลุ่ม ทำตาม ขอ้ ตกลง ทำตาม
ขั้นตอน ขัน้ ตอน ทำตามขน้ั ตอน วางแผน ไมท่ ำ
ช่วยเหลือเพ่อื น ชว่ ยเหลือเพอื่ น
ในกลมุ่ ในกลุ่ม นอ้ ย ไม่ช่วยเหลือ ตามข้อตกลง ไม่

เพอ่ื น ช่วยเหลอื เพ่อื น

ในกลุ่ม ในกลุม่

2. ทศั นคติท่ีดตี ่อ มีส่วนรว่ ม สว่ นใหญ่ บางคนตัง้ ใจ ขาดความ 28

การทำงาน รับผดิ ชอบ ตั้งใจ รับผดิ ชอบ ต้ังใจ ทำงานทไี่ ดร้ ับ รับผดิ ชอบ

เตม็ ใจทำงานท่ี ทำงานท่รี ับได้ มอบหมาย ทำงานท่ีได้รับ

ไดร้ ับมอบหมาย มอบหมายอยา่ ง มอบหมาย

อยา่ งมคี วามสุข มคี วามสุข ไมส่ ำเรจ็

รวม 5 20

เกณฑ์การประเมนิ : นกั เรียนต้องได้คะแนนรวมไมน่ อ้ ยกวา่ 60% หรือ 12 คะแนน จงึ จะผ่านเกณฑ์
วิธีคดิ คะแนน: ค่าน้ำหนกั ความสำคญั × ระดับคะแนนท่นี ักเรยี นได้ = คะแนนรวม

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 2 รหสั วิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

16

บันทึกหลังสอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดับชั้น ม.5

 สอนได้ตามแผนการจดั การเรียนรู้

 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ เนื่องจาก..........................................................................

2. ผลทเี่ กดิ กับผเู้ รียน

1.) การประเมินผลความรหู้ ลังการเรยี น โดยใช้……………………….....................................พบวา่

นักเรยี นผา่ นการประเมินคิดเปน็ ร้อยละ...............……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ้นั ตำ่ ท่ีกำหนดไว้คิดเป็นรอ้ ยละ.................

ไดแ้ ก่ ...................................................................................................................... ............................................

2.) การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………...….….........................พบวา่

นกั เรยี นผ่านการประเมนิ คิดเป็นร้อยละ..............…. ไมผ่ า่ นเกณฑ์ข้นั ตำ่ ที่กำหนดไวค้ ิดเป็นร้อยละ....................

ได้แก่ ..................................................................................................................................................................

3.) การประเมินด้านคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ เรียน โดยใช…้ …………………….....................................

พบว่านักเรยี นผ่านการประเมินคดิ เป็นรอ้ ยละ............... ไมผ่ า่ นเกณฑ์ขัน้ ต่ำที่กำหนดไว้คิดเปน็ ร้อยละ..............

ไดแ้ ก่ ...................................................................................................................... .............................................

3. ปญั หาและอุปสรรค

 กิจกรรมการจดั การเรยี นรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา

 มนี กั เรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา

 มนี ักเรียนทไี่ ม่สนใจเรยี น

 อนื่ ๆ

4. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

 ควรนำแผนไปปรับปรุง เร่ือง ...................................................................................................

 แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไมผ่ ่านการประเมนิ .............................................................................

 ไมม่ ขี ้อเสนอแนะ

ลงชือ่ ผ้สู อน

(นางสาวพรเพญ็ เล้ยี งวทิ ยา)

ความคิดเหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ความคิดเห็นของหัวหนา้ วิชาการ

1.เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่ ……………………………………………………………………………………

 ดมี าก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรงุ ……………………………………………………………………………………

2.การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ ลงช่ือ................................................
 ท่ีเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนได้อยา่ ง (นางสาวณฐั ิญา คาโส)

เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกตา่ งกันของผเู้ รียน ความคดิ เหน็ ของผู้อำนวยการโรงเรียนพนมศึกษา
 ที่ยังไมเ่ น้นผู้เรียนเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพัฒนา ……………………………………………………………………………………
3.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ ……………………………………………………………………………………
นำไปใช้ได้จริง  ควรปรับปรงุ กอ่ นนำไปใช้

ลงช่ือ....................................................... ลงชื่อ................................................
(นางอังคณา แก้วเมือง) (นางผกา สามารถ)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนพนมศกึ ษา

แผนการจดั การเรียนร้ภู าษาองั กฤษอา่ น-เขยี น 2 รหสั วิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา

17

แผนการจดั การเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5

รายวชิ าภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน2 รหัสวชิ า อ 30204

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอื่ ง Shopping จำนวน 10 ชัว่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง Space probe เวลา 2 ชัว่ โมง

___________________________________________________________________________

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวัด

สาระที่ 1: ภาษาเพ่ือการสอื่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเร่ืองที่ฟงั และอ่านจากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล

ต 1.1 (4) เลอื ก/ระบุหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสำคัญ รายละเอยี ดสนบั สนุน และแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เรือ่ งท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ พร้อมท้ังใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอยา่ งประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรสู้ กึ และ
ความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

ต 1.2 (4) พดู และเขียนเพือ่ ขอและใหข้ ้อมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับ
เร่ืองที่ฟงั หรืออา่ นอย่างเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรอ่ื งตา่ งๆ โดยการพูด
และการเขยี น

ต 1.3 (2) พดู และเขยี นสรปุ ใจความสำคัญ/แกน่ สาระ หัวข้อเรอื่ งท่ีได้จากการวิเคราะห์เรอ่ื ง/ขา่ ว/
เหตกุ ารณ/์ สถานการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสงั คม

2. สาระสำคญั

การอา่ นเร่ืองเกีย่ วกบั ยานอวกาศที่ถูกส่งไปสำรวจระบบสุริยจักรวาล และเขียนให้ข้อมูล ความคดิ เหน็
เก่ยี วกับโลกที่เราอาศยั อยู่ โดยใช้ความรูท้ ่ีผเู้ รียนมผี า่ นกระบวนการทางภาษา และการคิดวเิ คราะหใ์ นการ
นำเสนอข้อมูล ทำให้ผูเ้ รียนได้พฒั นาทกั ษะการคิด การสอ่ื สาร และเรยี นรู้การใช้ does และ doesn’t

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

 Language Features and Functions
Vocabulary: คำศัพท์เกย่ี วกับอวกาศ
Grammar: does and doesn’t

 Language Skills
Speaking: การพดู ตอบคำถามเกีย่ วกบั เรื่องท่ีอ่าน
Reading: การอ่านเน้ือเร่ืองเพื่อจบั ใจความสำคญั และตอบคำถาม
Writing: การเขียนตอบคำถามจากเร่อื งทอ่ี า่ น เขียนนำเสนอข้อมูลเก่ียวกับ

โลกของเราและเขียนประโยคท่ใี ช้ does และ doesn’t

แผนการจดั การเรียนรู้ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวทิ ยา

18

4.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคดิ วิเคราะห์
- การคดิ อยา่ งสร้างสรรค์

5.สาระการเรียนรู้
1. Vocabulary : cab, shoes, boots, shorts, tie, dress, sweater, socks, skirt, suit, wear, winter,
summer, snow, beach, sweat, shirt, sweater, bathing suit, bank, always

2. Structure : He bought four pairs of shoes.
We wear..............................when we go to swim.
She always wears.............................to school.

3. Function : To talk about clothing

6. กระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

6.1 ข้ันเตรยี มความพร้อมและทบทวนความรเู้ ดิม

 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - สามารถคาดเดาเรอ่ื งทอี่ ่านได้

1. ครูให้นักเรยี นดูภาพในหนงั สอื เรียน หน้า 8 แล้วถามคำถาม
- What can you see in the picture?
- Do you think what it is used for?

2. ครใู ห้นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายคำถามในหนังสือเรยี น หน้า 8 หวั ขอ้ Before you read
- What do you know about other planets?
- How can we find out about them?
- How long do you think it would take to travel to another planet?

3. ครใู หน้ กั เรยี นคาดเดาว่า เรื่องทจี่ ะไดเ้ รยี นต่อไปนจี้ ะเปน็ เรื่องเกย่ี วกับอะไร โดยพิจารณาจากคำถาม
และภาพประกอบ

6.2 ขั้นก่อนอ่าน

 จุดประสงค์การเรยี นรู้ - อ่านออกเสียงและบอกความหมายของคำศพั ท์

ได้

1. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หัดคำศัพท์ก่อนเรยี น Pre-vocabulary (ใบงานที่ 1 ท้ายหน่วยการเรยี นรูท้ ี่
1) โดยครูถ่ายเอกสารแจกนักเรียนทุกคนในชัน้ พรอ้ มทง้ั อธบิ ายคำสงั่ โดยใหน้ กั เรียนจับคู่คำศัพท์กบั
ความหมายทีส่ ัมพันธก์ นั

แผนการจดั การเรยี นรู้ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

19

2. ครูนำเสนอคำศัพทจ์ ากเรื่อง Space probe ในหนงั สือเรยี น หนา้ 8 โดยครูเขียนคำศัพทบ์ นกระดาน
แลว้ อา่ นออกเสียงทีละคำให้นักเรยี นฟงั และฝกึ ออกเสยี งตาม

planet solar system space equipment
enter
carry mission further

จากน้ันครูยกตัวอย่างประโยคและเขยี นบนกระดาน ใหน้ กั เรียนเดาความหมายของ
คำศัพทจ์ ากประโยคท่ีครูนำเสนอ

solar system (n.)
The solar system is the sun and the planets that move around it.

Saturn, planet (n.)
The planets of our solar system are Mercury, Venus, Earth, Mars, Jupiter,

Uranus and Neptune.

space (n.)
Voyager 1 travelled through space to other planets.

equipment (n.)
The equipment of the photographic studio was expensive.

carry (v.)
This train doesn’t carry passengers; it carries oil.

mission (n.)
My mission in life is to help poor people.

further (adv.)
Africa is further from England than France.

enter (v.)

Don’t enter the room without knocking.

3. นกั เรียนสรุปความหมายของคำศพั ท์เป็นภาษาไทยอีกคร้ัง แล้วครเู ขยี นคำศัพท์พร้อมคำแปล

ภาษาไทยลงบนกระดาน และให้นกั เรยี นออกเสียงคำศัพท์พร้อมกนั

planet = ดาวเคราะห์ carry = ขนสง่ , บรรทุก

solar system = ระบบสุรยิ จักรวาล mission = งานหรอื หนา้ ท่ีพิเศษ

space = อวกาศ further = ไกลออกไปอีก

equipment = เครือ่ งมือ, อปุ กรณ์ enter = เขา้ มาหรือเขา้ ไป

4. ครูใหน้ ักเรยี นรวบรวมใบงานคำศัพท์ก่อนเรยี น Pre-vocabulary สง่ ใหค้ รตู รวจความถูกต้อง
1. f 2. c 3. a 4. b 5. h 6. d 7. g 8. e

แผนการจดั การเรียนรู้ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 2 รหัสวิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

20

6.3 ขน้ั ระหว่างอ่าน

 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - จบั ใจความสำคัญ (main idea) หาหวั ขอ้ เรือ่ ง (topic) และตอบคำถาม
เกยี่ วกับเรื่องที่อ่าน

1. ครใู ห้นักเรยี นจับคู่กนั อา่ น เรอ่ื ง Space probe ยอ่ หนา้ ที่ 1 ในหนังสอื เรยี น หนา้ 8 เมื่ออ่านจบแล้ว
ครถู ามคำถามให้นกั เรยี นตอบโดยสุม่ เรียกตอบทลี ะคู่

- How do we learn more about the planets in our solar system?
(We learn more about them by getting closer to the planets.)

- What space probe did America send into space? (Voyager 1.)
- How far has Voyager 1 flown? (Nearly 17 billion kilometres.)

2. ครูเขยี น topic 3 หวั ข้อ บนกระดาน แลว้ ถามนักเรยี นวา่ ย่อหนา้ ท่ี 1 น่าจะเปน็ หวั ขอ้ ใด
- Learning about the solar system.
- The future of Voyager 1.
- A description of Voyager 1.

จากนนั้ ครเู ฉลยคำตอบว่า ย่อหน้าท่ี 1 พูดถึง Learning about the solar system.

3. ครูใหน้ กั เรียนคูเ่ ดมิ อ่านเนื้อเรื่อง Space probe ย่อหน้าที่ 2 เมอื่ อา่ นจบแล้ว ครถู ามคำถามให้
นักเรียนตอบโดยสุ่มเรยี กตอบทีละคู่

- What does Voyager 1 carry? (A lot of equipment.)
- What does Voyager 1 send back from other planets? (Information and
pictures.)
- How does Voyager 1 send them back from other planets? (By radio.)
- What was the mission of Voyager 1? (To fly past Jupiter and Saturn.)
- Did Voyager 1 stop at Saturn? (No, it didn’t.)

4. ครถู ามนักเรยี นวา่ topic ของย่อหนา้ ท่ี 2 คืออะไร โดยพจิ ารณาจากหัวข้อบนกระดาน แลว้ ครเู ฉลย
คำตอบวา่ ย่อหน้าท่ี 2 พูดถงึ A description of Voyager 1.

5. ครูใหน้ ักเรยี นคู่เดมิ อ่านเน้ือเรื่อง Space probe ย่อหน้าท่ี 3 เมื่ออา่ นจบแลว้ ครูถามคำถามให้
นกั เรยี นตอบโดยสุม่ เรียกตอบทลี ะคู่

- How far is Voyager 1 travelling per year? (520 million kilometres.)
- What is the heliosheath? (The outer part of the solar system.)
- Did Voyager 1 enter the heliosheath in B.E. 2550? (Yes, it did.)
- How long did Voyager 1 send the heliosheath’s pictures back to Earth?
(14 hours.)
- Has Voyager 1 enough power to send information back to Earth in
2017?

(Yes, it has.)

แผนการจดั การเรียนร้ภู าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

21

6. ครูถามนักเรยี นว่า topic ของยอ่ หนา้ ท่ี 3 คืออะไร โดยพิจารณาจากหวั ข้อบนกระดาน แล้วครเู ฉลย
คำตอบวา่ ย่อหนา้ ที่ 3 พดู ถึง The future of Voyager 1.

6.4 ขนั้ หลงั การอ่าน

 จุดประสงค์การเรียนรู้ - 1. ตอบคำถามเกยี่ วกับเร่ืองที่อา่ นได้
2. เขยี นนำเสนอความคิดของตนเองเก่ียวกับข้อมลู ในโลกของเราที่
ตอ้ งการ
ให้จักรวาลอื่นรู้

1. นกั เรียนทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรยี น หนา้ 9 โดยครูอธิบายการทำแบบฝึกหัด ดังน้ี
- แบบฝึกหัด Vocabulary ข้อ A ใหน้ กั เรยี นเลือกคำหรือวลีที่กำหนดให้มาเติมใน

ประโยค
ให้สมบรู ณ์ โดยดูจากความหมายของคำศพั ท์ และบริบทในประโยค หรอื ใชห้ ลกั
ไวยากรณช์ ว่ ย ครูทำขอ้ 1 พร้อมกับนักเรียนเป็นตวั อย่าง
The captain of the ship sent a message to another ship by ______.
จากความหมายของประโยค “กปั ตนั ของยานอวกาศสง่ ข้อความไปยงั ยาน

ลำอนื่ โดย…” ถา้ ดูจากหลักไวยากรณ์ คำว่า by ต้องตามดว้ ยคำนาม (n.) ดงั นัน้ คำที่
สอดคล้องกับความหมายของประโยคและเปน็ คำนาม คือ radio ซ่งึ หมายถึง วิทยุ

- แบบฝึกหดั Vocabulary ขอ้ B ใหน้ ักเรยี นเลอื กคำท่มี ีความหมายเหมือนกบั คำที่
พิมพ์สีฟ้าในแต่ละประโยค โดยครทู ำข้อ 1 เป็นตัวอยา่ ง
A million dollars isn’t enough! I want more! I want a billion dollars!
จากความหมายของประโยค “million ดอลลาร์ ไม่พอ ฉนั ตอ้ งการมากกว่าน้ัน ฉัน
ต้องการ... ดอลลาร์” ดงั นน้ั คำทีจ่ ะแทนท่ี billion ต้องมคี ่ามากกวา่ million ซง่ึ

ตรงกบั วลี one thousand million
- แบบฝึกหัด In other words ข้อ A ใหน้ ักเรียนหาจดุ ประสงค์ หรอื ใจความหลักของเรื่อง
Space probe คืออะไร
- แบบฝึกหดั In other words ขอ้ B ใหน้ ักเรยี นจบั คู่ topic กบั ย่อหนา้ ท่ี 1-3 จากเร่ือง

Space probe โดยพิจารณาวา่ แตล่ ะย่อหน้าพูดเกย่ี วกบั เร่ืองอะไร

เม่ือนักเรยี นทำแบบฝึกหัดเสร็จ ให้นักเรียนชว่ ยกันเฉลยคำตอบพร้อมกนั ทั้งชัน้

2. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ในหนังสอื เรยี น หนา้ 10 โดยครอู ธบิ ายการทำแบบฝกึ หดั ดงั นี้
- แบบฝึกหดั General understanding เปน็ กิจกรรมเก่ยี วกับความรคู้ วามเขา้ ใจใน

เร่อื งที่อา่ น โดยพิจารณาประโยคท่ใี หม้ าว่าถูกต้องตามเนอ้ื เรื่องหรือไม่ ถา้ ถูกต้องให้วงกลม T
(True) ถา้ ไม่ถูกต้องให้วงกลม F (False)

- แบบฝึกหดั In detail ใหน้ ักเรียนตอบคำถามสั้นๆ เกีย่ วกับเรอ่ื ง Space probe
- แบบฝกึ หดั In focus เปน็ การจับค่ขู ้อมลู ทางด้านซ้ายกบั ด้านขวาใหถ้ ูกต้องตามเนื้อ
เรื่อง Space probe

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหัสวชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

22

เมอ่ื นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดเสร็จ ใหน้ กั เรียนช่วยกันเฉลยคำตอบพร้อมกันทง้ั ชัน้

3.ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั ในหนังสือเรียน หนา้ 11 โดยครอู ธบิ ายการทำแบบฝึกหดั ดังนี้
- แบบฝกึ หดั Taking you further ให้นกั เรยี นเลอื กคำที่กำหนดใหม้ าเติมในประโยค

ให้สมบรู ณ์ โดยดูจากความหมายของคำศัพทแ์ ละบริบทในประโยค หรอื ใช้หลกั ไวยากรณ์ โดยครูทำช่องวา่ งที่
1 พร้อมกับนักเรียนเปน็ ตัวอย่างThe Pioneer space probes were _______ in the early 1970s.
หมายความว่า ยาน สำรวจอวกาศรุ่นบุกเบิกถูก _______ ในช่วงต้นของปี ค.ศ. 1970-1979 ถ้าดูจาก
หลักไวยากรณ์ คำว่า were เป็น verb to be ตอ้ งตามด้วย adjective หรอื กรยิ าช่องที่ 3 (past participle)
ดังนน้ั คำตอบที่เหมาะสมคือ คำวา่ launched

- แบบฝึกหัด More ideas ใหน้ ักเรียนเขยี นนำเสนอความคิดของตนเองเกีย่ วกบั
ขอ้ มูลในโลกของเราทต่ี ้องการให้จกั รวาลอื่นรู้ โดยมี 2 คอลัมน์ คอื คอลมั นเ์ กีย่ วกบั โลก และคอลัมนเ์ ก่ยี วกบั
มนษุ ย์ ครูใหน้ ักเรยี นทำงานด้วยตนเองโดยไมป่ รึกษาเพ่ือน

4. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดในหนังสือเรยี น หน้า 12 โดยครูอธิบายการทำแบบฝึกหัด ดงั นี้
- แบบฝึกหดั Use of language ข้อ A ให้นกั เรียนเตมิ คำบุพบท (preposition) ลง

ในชอ่ งวา่ งแตล่ ะประโยคให้ถูกตอ้ ง โดยพิจารณาจากความหมายของแตล่ ะประโยค
- แบบฝกึ หดั Use of language ข้อ B ใหน้ กั เรียนหาสงิ่ ท่ีผดิ แตล่ ะประโยค แลว้ แก้

ประโยคทีใ่ ห้มาให้ถูกต้องตามเน้อื เร่ือง Space probe
- แบบฝึกหดั Use of language ข้อ C ให้นักเรยี นเขียนประโยคที่ใช้ does และ

doesn’t โดยศึกษาจากตัวอย่างในหนงั สือเรยี น และครูอธบิ ายวา่ การใช้ does และ doesn’t จะตอ้ งตาม
ดว้ ย verb infinitive without to (V.1)

does แสดงความเปน็ ประโยคบอกเล่า
doesn’t แสดงความเป็นประโยคปฏิเสธ
จากตัวอย่างในหนังสอื It doesn’t carry any people, but it does carry a
lot of equipment.
หมายความวา่ “มันไม่ไดเ้ อาผูค้ นไปดว้ ยแต่เอาอปุ กรณ์ไปเยอะมาก” จากหลกั
ไวยากรณ์
ในประโยคน้ีมีคำว่า but แสดงว่าประโยคน้มี เี นื้อความทข่ี ัดแยง้ กนั

5. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะคนคิดและเขียนประโยคทีใ่ ช้ does และ doesn’t โดยดูตวั อยา่ งใน
หนงั สอื -เรยี น อกี 5 ประโยคลงในสมดุ แลว้ ใหร้ วบรวมสง่ ครทู ้ายช่ัวโมง

แผนการจดั การเรียนรู้ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา

23

7.การบรู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

หลกั ความ พอประมาณกับเวลา นกั เรียนสามารถหาคำศัพท์ ไก้ทันเวลา
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชกิ นักเรียนสามารถแบง่ กลุม่ เพยี งต่อการว่ มกนั ทำงานเป็นกลมุ่
พอประมาณกบั สถานที่ ห้องเรยี นภาษาองั กฤษมีโตะ๊ เรียน 36 โตะ๊

หลกั มีเหตุผล ในการจัดการเรียนการสอน นักเรียนสามารถสรา้ งประโยคจาก Grammar ได้

หลกั การสร้าง การจดั การเรยี นสอนแต่ละคร้ัง นกั เรียนเกิดความเข้าใจในการเรยี น เนอื้ หา ได้เปน็ อย่าง
ภูมิคุ้มกันในตัวท่ีดี ดที กุ คนมสี ่วนร่วมในการเรียนการสอนไดเ้ ป็นอย่างดี

เง่อื นไขความรู้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเรือ่ งGrammar ได้เป็นอยา่ งดี

เงือ่ นไขคุณธรรม รู้จกั การทำงานร่วมกลมุ่ ซ้ือสัตย์ มีความรับผิดชอบ

8. ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้

8.1 ส่ือการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรียน Focus on Reading 3 Unit 1 Space probe
2. ใบงานท่ี 1

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1. หอ้ งสมดุ
2. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
- เวบ็ ไซต์ http://www.nasa.gov/vision/universe/solarsystem/ voyager_agu.html
- เวบ็ ไซต์

http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2008/07/X6762841/X6762841.html

9.การวัดประเมินผล วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์การวัด
2. สังเกตจาก 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม ผ่านระดับ ดี
สิง่ ทต่ี ้องการวดั การอ่านออกเสยี ง
การอ่านออกเสียง ผ่านระดบั ดี
3. การอา่ นออกเสียง 2. แบบสงั เกตพฤติกรรม
คำศัพท์และประโยค 2. สังเกตจากพฤตกิ รรม การเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ
เกยี่ วกับการแต่งกาย การเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม

4. การเข้ารว่ มกิจกรรม
กลุม่

แผนการจดั การเรยี นรภู้ าษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั วชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

24

 ใบงานท่ี 1

Pre-vocabulary

 Match the words to their definitions.

around it 1. planet a. the sun and all the planets that move
where all
2. solar system b. things needed for a particular purpose
around 3. space c. the area outside the earth’s atmosphere

4. equipment the other planets and stars are
5. carry d. particular task or duty undertaken by an
6. mission
7. further individual or a group
8. enter e. come or go in or into something
f. a large round object in space that moves
from it
a star (such as the sun) and receives light
place to
g. at or to a greater distance
h. to take somebody/something from one

another

แผนการจดั การเรยี นร้ภู าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหัสวชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

25

การประเมนิ ชนิ้ งาน / ภาระงาน
แบบประเมนิ งานเขียน

ประเดน็ ระดับคะแนน / คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ นำ้ หนัก
การประเมิน ความ คะแนน
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ควรปรบั ปรุง) สำคัญ รวม
1. เน้อื หา 4 (ดมี าก)

เขียนถกู ต้อง เขียนถูกต้อง เขียนผิดบา้ ง และไม่ เขยี นผดิ มาก และ 2 8
ครอบคลมุ เนือ้ หา ครอบคลมุ เนอื้ หา ครอบคลมุ เน้ือหา ใหข้ ้อมลู นอ้ ย
อย่างสมบรู ณ์ เปน็ ส่วนใหญ่

2. คำศัพท์ ใชค้ ำศพั ท์ สำนวน ใชค้ ำศัพท์ สำนวน ใช้คำศพั ท์ สำนวน ใชค้ ำศพั ท์ สำนวน 2 8
สำนวน และ และโครงสร้าง และโครงสรา้ งภาษา และโครงสรา้ งภาษา และโครงสรา้ งภาษา
โครงสรา้ ง ภาษาถูกต้อง ถูกตอ้ งเหมาะสม แบบงา่ ยๆ และมขี อ้ แบบง่ายๆ และมขี อ้
ภาษา เหมาะสม และ
หลากหลาย ผิดบา้ ง ผดิ มาก

3. องค์ประกอบ องคป์ ระกอบของ องค์ประกอบของ องคป์ ระกอบของ องคป์ ระกอบของ 1 4
ของงานเขยี น งานเขียนแสดงให้ งานเขียน งานเขียนนา่ สนใจ งานเขยี น
เหน็ ความรเิ รมิ่ มคี วามสมั พนั ธ์ ขาดความสมั พนั ธ์ ไม่น่าสนใจ
สรา้ งสรรค์ ต่อเน่อื งน่าสนใจ ต่อเนือ่ ง
มคี วามสมั พนั ธ์
ตอ่ เนอ่ื งน่าสนใจ

รวม 5 20

เกณฑก์ ารประเมิน: นกั เรยี นต้องได้คะแนนรวมไม่น้อยกว่า 60% หรือ 12 คะแนน จงึ จะผ่านเกณฑ์
วิธคี ิดคะแนน: ค่าน้ำหนกั ความสำคัญ × ระดบั คะแนนทน่ี ักเรียนได้ = คะแนนรวม

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

26

แบบบนั ทกึ การประเมนิ งานเขยี น

ประเด็น / เนือ้ หา คำศพั ท์ สำนวน องคป์ ระกอบ คะแนน
และโครงสรา้ งภาษา ของงานเขียน รวม
ลำดับ คะแนน
ที่ 8 8 4 20
ชื่อ - สกลุ

ลงชอื่ ...................................... ผ้ปู ระเมิน
(..............................................)

แผนการจดั การเรยี นรูภ้ าษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหสั วิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

27

เฉลย แบบฝึกหดั ในหนังสอื เรียน หน้า 9-10

Vocabulary

A 1. radio 2. space probe 3. planet

4. equipment 5. mission

B 1. one thousand million

2. the area beyond the Earth where the sun and the stars are

3. the planets that go around the sun

4. people who study science

5. things we know

In other words
A 3 - To describe how Voyager 1 is helping us learn about our solar

system. B 1. Paragraph 1 2. Paragraph 3 3. Paragraph 2

one year General understanding 3. F 4. T
get 1. F 2. F

In detail

1. In September, 1977. 2. A lot of equipment.

3. By radio. 4. In 2007.

5. 14 hours.

6. It may go to other solar systems and other planets.

In focus
1. about 520 million - the number of kilometres Voyager 1 travels in

2. 1979 - the year Voyager 1 flew past Jupiter
3. 14 - the number of hours it takes information from Voyager 1 to

to Earth
4. 1980 - the year Voyager 1 flew past Saturn
5. nearly 17 billion - Voyager 1’s distance from Earth in kilometres
6. 1977 - the year Voyager 1 was launched

แผนการจดั การเรยี นร้ภู าษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหัสวิชา 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

28

เฉลย แบบฝกึ หัด ในหนงั สือเรยี น หนา้ 11-12

Taking you further 2. solar 3. what
1. launched 5. in People
4. how

More ideas
(Students’ own answers)

The Earth

Use of language 2. of 3. past, in
A 1. into 5. to

4. at

1. past, in 2. of 3. into
4. at 5. to

B 1. Voyager 1 carries a lot of equipment.
2. Voyager 1 sends information back from other planets by radio.
3. Voyager 1 is nearly 17 billion kilometres from the Earth.
4. Voyager 1’s mission was to fly past Jupiter and Saturn.
5. One day Voyager 1 may go to other solar systems.

แผนการจดั การเรยี นรูภ้ าษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั วชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

29

บนั ทึกหลังสอนแผนการสอนที่ ...............

1. ผลการสอนระดบั ชั้น ม.5

 สอนไดต้ ามแผนการจัดการเรยี นรู้

 สอนไมไ่ ด้ตามแผนการจัดการเรยี นรู้ เนอ่ื งจาก..........................................................................

2. ผลท่ีเกิดกับผู้เรยี น

1.) การประเมินผลความรู้หลังการเรียน โดยใช้……………………….....................................พบวา่

นกั เรียนผา่ นการประเมนิ คิดเปน็ ร้อยละ...............……. ไม่ผา่ นเกณฑข์ ั้นตำ่ ที่กำหนดไวค้ ดิ เปน็ รอ้ ยละ.................

ได้แก่ ...................................................................................................................... ............................................

2.) การประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการเรยี น โดยใช้…………………...….….........................พบว่า

นักเรียนผา่ นการประเมนิ คิดเป็นรอ้ ยละ..............…. ไมผ่ ่านเกณฑ์ขน้ั ต่ำท่ีกำหนดไว้คิดเป็นรอ้ ยละ....................

ไดแ้ ก่ ..................................................................................................................................................................

3.) การประเมินด้านคุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ เรยี น โดยใช้……………………….....................................

พบว่านักเรยี นผ่านการประเมินคิดเปน็ รอ้ ยละ............... ไม่ผา่ นเกณฑ์ข้ันต่ำท่ีกำหนดไว้คิดเปน็ รอ้ ยละ..............

ไดแ้ ก่ ...................................................................................................................................................................

3. ปัญหาและอุปสรรค

 กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ ไม่เหมาะสมกับเวลา

 มนี ักเรยี นทำใบงาน/ใบกิจกรรมไม่ทนั ตามกำหนดเวลา

 มีนักเรียนท่ไี มส่ นใจเรียน

 อื่น ๆ

4. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

 ควรนำแผนไปปรบั ปรงุ เร่ือง ...................................................................................................

 แนวทางแกไ้ ขนกั เรยี นท่ีไม่ผา่ นการประเมิน .............................................................................

 ไมม่ ีข้อเสนอแนะ

ลงช่ือ ผู้สอน

(นางสาวพรเพญ็ เลี้ยงวิทยา)

ความคดิ เหน็ ของหัวหน้ากลุ่มสาระฯ ความคิดเหน็ ของหัวหน้าวิชาการ

1.เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ……………………………………………………………………………………

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรุง ……………………………………………………………………………………

2.การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ ลงชอื่ ................................................
 ทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ ง (นางสาวณัฐิญา คาโส)

เหมาะสมกับศักยภาพที่แตกตา่ งกันของผเู้ รยี น ความคิดเห็นของผอู้ ำนวยการโรงเรยี นพนมศึกษา
 ทย่ี ังไม่เนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนา ……………………………………………………………………………………
3.เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ ……………………………………………………………………………………
นำไปใช้ไดจ้ รงิ  ควรปรับปรุงกอ่ นนำไปใช้

ลงชือ่ ....................................................... ลงชอ่ื ................................................
(นางองั คณา แก้วเมือง) (นางผกา สามารถ)

ผู้อำนวยการโรงเรยี นพนมศึกษา

แผนการจดั การเรยี นรู้ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

30

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5

รายวิชาภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 2 รหัสวิชา อ 30204

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง Shopping จำนวน 10 ช่ัวโมง

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3 เรื่อง A beautiful planet เวลา 3 ชั่วโมง

____________________________________________________________________________________

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั

สาระท่ี 1: ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรอื่ งทฟ่ี ังและอา่ นจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตผุ ล

ต 1.1 (4) เลอื ก/ระบหุ วั ข้อเรอื่ ง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนนุ และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั เรอื่ งท่ี

ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ พร้อมท้ังให้เหตผุ ลและยกตัวอยา่ งประกอบ

มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรสู้ ึก
และความคิดเห็นอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
ต 1.2 (4) พดู และเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ ้อมลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกบั เรื่องทฟี่ ังหรอื
อา่ นอยา่ งเหมาะสม

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอขอ้ มลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตา่ งๆ โดยการพดู และการเขียน

ต 1.3 (2) พดู และเขยี นสรปุ ใจความสำคญั /แกน่ สาระ หวั ข้อเรอ่ื งทีไ่ ดจ้ ากการวเิ คราะหเ์ รอ่ื ง/ข่าว/เหตุการณ์/

สถานการณท์ ีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม

สาระท่ี 3: ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ ับกล่มุ สาระการเรียนรอู้ น่ื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเช่อื มโยงความรู้กบั กลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ่ืน และเป็นพื้นฐานในการพัฒนา

แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทศั นข์ องตน

ต 3.1 (1) ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ข้อมลู /ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกย่ี วข้องกับกลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่ จากแหลง่ เรียนรู้

และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น

สาระที่ 4: ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชมุ ชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ า่ งๆ ท้ังในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม
ต 4.1 (1) ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จำลองที่เกิดขนึ้ ในหอ้ งเรยี น สถานศึกษา ชมุ ชน และ

สงั คม

มาตรฐาน ต 4.2 ใชภ้ าษาต่างประเทศเปน็ เครอ่ื งมอื พนื้ ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชพี

และการแลกเปลี่ยนเรยี นร้กู บั สงั คมโลก

ต 4.2 (1) ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ /คน้ ควา้ รวบรวม และสรปุ ความร/ู้ ข้อมูลต่างๆ จากส่ือและแหล่ง

การเรยี นรู้ต่างๆ ในการศกึ ษาต่อและประกอบอาชพี

2. สาระสำคญั

การอา่ นเร่อื งเกีย่ วกับดาวเคราะหท์ ่สี วยงาม (โลก) แลว้ วเิ คราะหเ์ รอื่ งและตอบคำถาม ทำให้ผเู้ รยี นไดพ้ ฒั นาทักษะการอา่ นและ
การคดิ นอกจากนีผ้ เู้ รียนยงั ได้ค้นคว้าและสรปุ ข้อมลู เก่ียวกบั ดาวเคราะห์ดวงอืน่ ๆ
ทไ่ี ด้จากแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 รหสั วชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

31

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

 Language Features and Functions

Vocabulary: คำศัพทเ์ กีย่ วกับดาวเคราะห์

Grammar: Present perfect tense

Function: Expressing feelings and ideas

I think… / In my point of view… / In my opinion…

 Language Skills

Speaking: การพดู ตอบคำถามเก่ียวกบั เรอื่ งท่ีอา่ น

Reading: การอ่านเน้อื เรือ่ งเพ่อื จับใจความสำคัญและตอบคำถาม

Writing: การเขยี นตอบคำถามจากเร่ืองที่อ่าน และเขียนนำเสนอขอ้ มลู เกี่ยวกบั ดาว

เคราะห์

4.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร

4.2 ความสามารถในการคิด

- การคิดวเิ คราะห์

- การคิดอย่างสรา้ งสรรค์

4.3 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5.สาระการเรยี นรู้

1. Vocabulary : cab, shoes, boots, shorts, tie, dress, sweater, socks, skirt, suit, wear, winter, summer,

snow, beach, sweat, shirt, sweater, bathing suit, bank, always

2. Structure : He bought four pairs of shoes.

We wear..............................when we go to swim.

She always wears.............................to school.

6. กระบวนกาจัดการเรียนรู้

6.1 ขัน้ เตรยี มความพร้อมและทบทวนความรู้เดิม

 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ - สามารถคาดเดาเรื่องทีอ่ า่ นได้

1. ครูให้นกั เรียนดภู าพในหนงั สือเรยี น หนา้ 13 แล้วถามคำถามนกั เรยี นจากหวั ข้อ Before you read
- When you look at this picture of the Earth, how do you feel?
- How are we changing the Earth?
- What do you think life on Earth will be like in the future?

2. ครใู ห้นกั เรยี นคาดเดาวา่ เรื่องทีจ่ ะได้เรียนตอ่ ไปนี้จะเปน็ เรื่องเก่ียวกบั อะไร

6.2 ขน้ั กอ่ นอ่าน

 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ - อ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคำศพั ท์ได้

1. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั คำศัพท์ก่อนเรียน Pre-vocabulary (ใบงานที่ 1 ท้ายหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2) โดย
ครูถ่ายเอกสารแจกนกั เรียนทกุ คนในช้นั พร้อมทั้งอธิบายคำสงั่ โดยใหน้ ักเรียนจบั คู่คำศัพทก์ ับความหมายทส่ี มั พันธก์ ัน

2. ครูนำเสนอคำศัพท์จากเรือ่ ง A beautiful planet ในหนังสือเรยี น หน้า 13 โดยครูเขยี นคำศัพทบ์ น
กระดาน แลว้ อา่ นออกเสียงทลี ะคำให้นักเรียนฟังและฝึกออกเสยี งตาม

แผนการจดั การเรยี นรูภ้ าษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 รหัสวชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

32

damage support fertiliser conserve waste
environment reduce
temperature depend on

จากนน้ั ครใู หน้ ักเรียนหาคำศัพท์ในเน้ือเรอ่ื ง แลว้ เดาความหมายของคำศัพทโ์ ดยดบู ริบทข้างเคียงในยอ่ หน้า
น้นั ๆ ถ้านกั เรยี นไมส่ ามารถบอกความหมายได้ ครูยกตัวอย่างประโยคบนกระดาน

damage (n.)
The storm caused a lot of damage to my boat.

support (v.)
My father supports me to study Computer Sciences.

fertiliser (n.)
The fertiliser is a chemical substance that we put to soil to make plants grow.

conserve (v.)
To conserve electricity, you have to switch of the lights when you leave the room.

waste (n.)
Do not leave waste into the river. It makes the water dirty.

temperature (n.)
It’s hot. What is the temperature this morning?

depend on (v.)
Children depend on their parents until they can do everything by themselves.

environment (n.)
Air, water, plants and animals are the environment.

reduce (v.)
Giving up smoking reduces the risk of heart disease.

3. ครบู อกความหมายของคำศพั ทเ์ ปน็ ภาษาไทยใหน้ กั เรียนฟงั อีกครั้ง แล้วให้นกั เรียนออกเสียงคำศพั ท์ พรอ้ มทง้ั บอก

ความหมายอกี ครัง้

damage = ความเสยี หาย temperature = อณุ หภมู ิ

support = สนับสนุน depend on = ขนึ้ อยกู่ ับ

fertiliser = ปยุ๋ environment = สงิ่ แวดล้อม

conserve = อนุรักษ,์ สงวน reduce = ลดลง

waste = ของเสีย

4. ครูใหน้ กั เรยี นรวบรวมใบงานคำศพั ท์ก่อนเรียน Pre-vocabulary ส่งใหค้ รูตรวจความถูกตอ้ ง

1. c 2. g 3. i 4. b 5. h 6. f 7. d
8. e 9. a

แผนการจดั การเรียนรภู้ าษาอังกฤษอา่ น-เขียน 2 รหัสวิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลย้ี งวิทยา

33

5. ครทู บทวนไวยากรณ์เรื่อง Present perfect tense (เหตกุ ารณ์ท่ดี ำเนินมาต้ังแตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จุบนั )
S + has/have + V.3

- คำบอกเวลาทใ่ี ช้ already, yet, since และ for

- การใช้ since, for

since + เวลา since 1999, since I was young, etc.

for + ระยะเวลา for 3 weeks, for 2 months, etc.

Ex. She has lived in Rayong since she was born.

I have studied in this school for 2 years.

6.3 ข้นั ระหว่างอ่าน

 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - จบั ใจความสำคญั (main idea) หาหัวขอ้ เรื่อง (topic) และตอบคำถาม
เกย่ี วกับเรือ่ งทอี่ า่ นได้

1. ครูให้นกั เรยี นอ่านเรอ่ื ง A beautiful planet ย่อหนา้ ที่ 1 ในหนังสือเรียน หน้า 13 เม่อื อ่านจบแล้ว ครูถามคำถาม
ใหน้ กั เรียนตอบโดยสุ่มเรยี กนกั เรยี นตอบทลี ะคน

- Why can living things live on the Earth? (Because there is enough air and water
at

the right temperature on the Earth.)
- What happens if one part of the environment changes? (All the others will change
too.)

2. ครเู ขยี นหัวข้อ 3 หวั ขอ้ บนกระดาน แลว้ ถามนักเรยี นวา่ topic ของย่อหน้าท่ี 1 คอื หวั ขอ้ ใด
- How human activity is changing the environment.
- How life was supported on Earth for millions of years.
- The solution to the problem.

จากน้นั ครเู ฉลยคำตอบวา่ ยอ่ หนา้ ท่ี 1 พูดถึง How life was supported on Earth for millions of years.

3. ครใู หน้ กั เรยี นอา่ นเร่ือง A beautiful planet ย่อหน้าท่ี 2 เม่ืออา่ นจบแล้ว ครูถามคำถามว่า What things can
damage the environment on the Earth? (ส่ิงใดทส่ี ามารถทำลายส่งิ แวดลอ้ มบนโลกได)้ ครสู ุ่มเรียกนักเรยี นตอบทีละคน

- To cut down the forests.
- To use fertilisers on farms.
- To leave the waste into the rivers from factories and homes.
- To leave carbon dioxide into the air from cars and factories.

4. ครถู ามนกั เรยี นว่า topic ของย่อหน้าที่ 2 ตรงกบั หัวขอ้ ใด โดยพจิ ารณาจากขอ้ ความบนกระดาน แลว้ ครู
เฉลยคำตอบว่าย่อหน้าที่ 2 พดู ถงึ How human activity is changing the environment.

5. ครใู ห้นกั เรยี นอ่านเรือ่ ง A beautiful planet ยอ่ หนา้ ท่ี 3 เม่อื อ่านจบแล้ว ครูถามวา่ What things can
we do to reduce the damage of the environment? (สง่ิ ใดท่ีสามารถทำเพอ่ื ลดการทำลายสิง่ แวดล้อมได)้ ครสู มุ่ เรยี ก
นักเรียนตอบทลี ะคน

- To conserve the forests, water and other parts of the environment.
- To look after the environment carefully.
จากน้ันครถู ามคำถามอกี 1 ข้อ ใหน้ กั เรยี นตอบ

แผนการจดั การเรยี นรภู้ าษาองั กฤษอ่าน-เขยี น 2 รหสั วชิ า 30204 ครูผสู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา

34

- Why do we have to reduce the damage of the environment? (Because people in
the

future will be able to live in it and enjoy it.)

6. ครถู ามนักเรยี นว่า topic ของย่อหนา้ ที่ 3 ตรงกับหวั ขอ้ ใด โดยพิจารณาจากขอ้ ความบนกระดาน แลว้ ครู
เฉลยคำตอบวา่ ยอ่ หนา้ ที่ 3 พดู ถึง The solution to the problem.

6.4 ขนั้ หลังการอา่ น

 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ - 1. ตอบคำถามเกี่ยวกบั เรือ่ งทีอ่ ่าน
2. เขียนนำเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกับดาวเคราะหท์ สี่ นใจทไ่ี ดจ้ ากการค้นควา้ จาก
แหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ

1. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรียน หน้า 14 โดยครอู ธบิ ายการทำแบบฝกึ หดั ดงั นี้
- กจิ กรรม Vocabulary ขอ้ A ให้นักเรียนเลือกคำหรอื วลที ี่กำหนดใหม้ าเติมในประโยค
ให้สมบูรณ์ โดยดจู ากความหมายของคำศพั ท์และบรบิ ทในประโยค หรอื หลักไวยากรณ์
แลว้ ครทู ำข้อ 1 พรอ้ มกับนกั เรยี นเป็นตัวอย่าง
Ann’s uncle is ______ her while she is studying. He sends her money each

month.
จากความหมายของประโยค “ลงุ ของแอน...... เธอ ขณะที่เธอกำลังเรยี นอยู่ เขาส่ง
เงินให้เธอในแต่ละเดือน” แสดงถงึ การให้ความช่วยเหลอื และเม่อื ดทู ี่หลักไวยากรณ์
is สามารถนำหน้าคำนาม คำคณุ ศพั ท์ และกริยา + ing (v.ing) ดงั นนั้ คำท่จี ะนำมา
เติม คอื คำว่า supporting หมายถงึ สนับสนนุ

- กิจกรรม Vocabulary ข้อ B ให้นักเรียนเลือกวลที ่ีกำหนดใหท้ ี่มีความหมายเหมือนกับ
คำที่พมิ พ์สฟี ้าในแต่ละประโยค โดยครทู ำข้อ 1 เปน็ ตัวอย่าง
Air conditioning keeps the air in here at the right temperature.
ประโยคบอกวา่ เครอื่ งปรบั อากาศเกบ็ รักษาอากาศทอี่ ณุ หภูมเิ หมาะสมไวใ้ นน้ี
at the right temperature หมายถึง ท่อี ุณหภมู ิเหมาะสม ซงึ่ วลีทมี่ ีความหมาย
เหมือนกบั at the right temperature คอื neither too hot nor too cold

- กจิ กรรม In other words ข้อ A ใหน้ ักเรียนหาว่าจดุ ประสงคห์ ลักของเรอื่ ง A beautiful
planet คืออะไร

- กจิ กรรม In other words ขอ้ B ใหน้ กั เรยี นจับคู่ topic กับเนือ้ เร่อื งยอ่ หนา้ ท่ี 1-3 จาก
เรอื่ ง A beautiful planet

เมือ่ นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั เสร็จ ใหน้ ักเรียนชว่ ยกันเฉลยคำตอบพรอ้ มกันทัง้ ชนั้

2. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรียน หน้า 15 โดยครูอธบิ ายการทำแบบฝึกหดั ดังนี้
- กิจกรรม General understanding ให้นักเรียนพจิ ารณาประโยคทใี่ หม้ าว่าถูกต้องตาม
เน้ือเร่ืองทีอ่ ่านหรอื ไม่ ถา้ ถกู ตอ้ งให้วงกลม T (True) ถา้ ไม่ถกู ตอ้ งใหว้ งกลม F (False)
- กจิ กรรม In detail ให้นักเรยี นตอบคำถามเกย่ี วกับเรอ่ื ง A beautiful planet
- กจิ กรรม In focus ใหน้ ักเรียนจบั ค่ขู ้อความทง้ั 2 ฝั่ง ให้ถูกต้องตามเน้ือเรื่อง A beautiful
planet

เมอื่ นกั เรยี นทำแบบฝกึ หดั เสรจ็ ให้ช่วยกนั เฉลยคำตอบพรอ้ มกันทงั้ ชัน้

3. ครใู ห้นกั เรียนอา่ นเนอ้ื เร่ืองในกิจกรรม Taking you further ในหนงั สือเรยี น หน้า 16 เมอื่ อา่ นจบครู
ถามคำถาม

แผนการจดั การเรยี นร้ภู าษาองั กฤษอา่ น-เขียน 2 รหสั วิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

35

- Where do green and golden bell frogs live? (In grass by ponds, lakes and river
in outh-eastern Australia.)

- Why have populations of green and golden bell frogs reduced? (Because many
areas that they live have been destroyed to make way for roads and houses.)

- What is Frog Focus Botany? (A project about saving green and golden bell
frogs.)

- Who works with the scientists from Sydney’s zoo for Frog Focus Botany?
(The students from Botany Public School.)

จากน้ันใหน้ ักเรียนทำกิจกรรม Odd word out โดยเลือกวงกลมคำศัพท์ท่ีไมเ่ ขา้ พวก เม่ือนักเรยี นทำ
เสรจ็ แลว้ ช่วยกันเฉลยคำตอบ และครูตรวจความถกู ต้อง

4. ภาระงาน
ครูใหน้ ักเรยี นทำภาระงาน โดยใหน้ ักเรียนคน้ คว้าข้อมลู จากห้องสมดุ หรือแหล่งข้อมลู สารสนเทศ

(อนิ เทอรเ์ น็ต) เกย่ี วกบั ดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะทนี่ ักเรียนสนใจ (ยกเว้นโลก) แลว้ เขยี นสรปุ ข้อมลู เสรจ็ แล้วนำส่งครูตรวจ
แล้วครเู ลือกงานเขยี นของนกั เรยี น 2-3 คน ใหเ้ จา้ ของงานออกมาอ่านหน้าช้นั เรยี น

7.การบรู ณาการหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

หลกั ความ พอประมาณกบั เวลา นกั เรยี นสามารถหาคำศัพท์ ไกท้ ันเวลา
พอประมาณ พอประมาณกบั สมาชกิ นักเรียนสามารถแบง่ กลุ่ม เพยี งต่อการ่วมกันทำงานเป็นกลุ่ม
พอประมาณกับสถานท่ี ห้องเรยี นภาษาอังกฤษมีโต๊ะเรียน 36 โตะ๊

หลักมีเหตุผล ในการจัดการเรยี นการสอน นกั เรยี นสามารถสรา้ งประโยคจาก Grammar ได้

หลักการสรา้ ง การจดั การเรยี นสอนแตล่ ะครงั้ นกั เรยี นเกดิ ความเข้าใจในการเรยี น เนอื้ หา ได้เปน็ อยา่ งดที ุกคนมี
ภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ที่ดี สว่ นรว่ มในการเรียนการสอนไดเ้ ปน็ อย่างดี

เงือ่ นไขความรู้ นักเรียนมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเรอ่ื งGrammar ไดเ้ ป็นอยา่ งดี

เงือ่ นไขคณุ ธรรม ร้จู ักการทำงานร่วมกล่มุ ซอื้ สัตย์ มคี วามรบั ผดิ ชอบ

8. สอ่ื / แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สื่อการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน Focus on Reading 3 Unit 2 A beautiful planet
2. ใบงานท่ี 1

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1. หอ้ งสมดุ
2. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ

แผนการจดั การเรยี นร้ภู าษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 2 รหัสวิชา 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวทิ ยา

36

9.การวัดประเมนิ ผล วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์การวดั
ผ่านระดับ ดี
สงิ่ ท่ีตอ้ งการวัด 3. สงั เกตจาก 1. แบบสงั เกตพฤติกรรม
5. การอ่านออกเสยี ง การอ่านออกเสียง การอา่ นออกเสียง

คำศพั ท์และประโยค 2. สงั เกตจากพฤติกรรมการ 2. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้า ผ่านระดบั ดี
เก่ยี วกบั การแตง่ กาย
6. การเขา้ รว่ มกิจกรรม เขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ร่วมกิจกรรมกลมุ่
กลุ่ม

แผนการจดั การเรียนร้ภู าษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 2 รหัสวชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา

37

 ใบงานท่ี 1

Pre-vocabulary

Match the words to their definitions.

1. damage a. to make something smaller in size, degree,
2. support important, etc.
3. fertiliser
4. conserve b. to keep and protect something from damage,
5. waste change or waste
6. temperature
7. depend on c. physical harm caused to something which makes
8. environment it less attractive, useful or valuable
9. reduce
d. need the support of somebody/something in order
to survive

e. the air, water and land in or on which people,
animals and plants live

f. the measured amount of heat in a place or in the y
g. to agree with and give encouragement to someone

or something because you want them to succeed
h. materials that are no longer needed and are thrown
i. a natural or chemical substance which is spread on

the land or given to plants, to make plants grow

แผนการจดั การเรยี นรภู้ าษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 2 รหสั วชิ า 30204 ครผู สู้ อน นางสาวพรเพญ็ เลยี้ งวิทยา