The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

PBCITHIM11-LE-1-V01_640604_รวมเล่ม_แบบฝึกหัด วิวิธภาษา ม.1 เทอม 1_PC_(266)_WM

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by surikrit.kon, 2021-06-09 06:04:24

แบบฝึกหัด วิวิธภาษา ม.1 เทอม 1

PBCITHIM11-LE-1-V01_640604_รวมเล่ม_แบบฝึกหัด วิวิธภาษา ม.1 เทอม 1_PC_(266)_WM

แบบฝึกหดั รายวชิ าพน้ื ฐาน

ภาษาไทย วิวิธภาษา

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ เล่ม ๑

ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ดั
กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

ฝา่ ยวิชาการ

ชาญชัย เกษตรลาภอุดม
วรารัตน์ สตใิ หม่
สวรรยา สนสนิท
ธนาวฒุ ิ วจีสัจจะ
Learn Education พรพติ รา โสมี
สทุ ธิฌลา ทองแทง่
นนั ทน์ ภัส ไตรวชิ สุทธิทอง

บรรณาธกิ าร พทุ ธิพงศ์ ฉนั ทศิริเวทย์
ฉตั รธิดา ศิรวิ รเดชกุล
ปลายฟา้ ดิษพฒั น์ มุกราตรี คงวุฒติ ิ
นิศารตั น์ คะปญั ญา นิสาชล เกียมา
กญั ญาภัทร บญุ ปก
กนกวรรณ จระกา

พมิ พ์ครงั้ ที่ ๑ : ๒๕๖๔
จดั พิมพ์และจ�ำ หน่ายโดย
บรษิ ทั เลิรน์ เอด็ ดูเคชนั่ จ�ำ กัด

เลขที่ 444 ช้นั 12 อาคารเอ็ม บี เค ทาวเวอร์
ถนนพญาไท แขวงวงั ใหม่ เขตปทมุ วัน กรงุ เทพฯ 10330
โทรศัพท์ : 02-114-6956
โทรสาร : 02-114-6955
Website : www.learneducation.co.th

สงวนลขิ สิทธต์ิ ามพระราชบญั ญัตลิ ิขสทิ ธ์ิ (ฉบบั เพมิ่ เตมิ ) พ.ศ. ๒๕๕๘

Learn Education

คำ�นำ �

แบบฝึกึ หััดรายวิชิ าพื้น้� ฐานภาษาไทย วิวิ ิิธภาษา ชั้้�นมััธยมศึึกษาปีีที่่� ๑ ได้เ้ รีียบเรีียงเนื้�้อหา
สาระให้้สอดคล้้องตามมาตรฐานการเรีียนรู้แ�้ ละตััวชี้้ว� ัดั กลุ่�่มสาระการเรีียนรู้้�ภาษาไทย ตามหลักั สููตร
แกนกลางการศึกึ ษาขั้น�้ พื้น้� ฐาน พุุทธศักั ราช ๒๕๕๑ โดยมุ่ง่� ส่่งเสริมิ ให้ผ้ ู้เ�้ รีียนได้เ้ รีียนรู้แ�้ ละพัฒั นาทักั ษะ
ภาษาไทย โดยเฉพาะเรื่อ� งหลักั ภาษาและการใช้ภ้ าษาเพื่่อ� การสื่อ� สาร อันั เป็น็ พื้น�้ ฐานการใช้ภ้ าษาไทย
ในชีีวิติ ประจำ�ำ วันั และเป็น็ ประโยชน์ต์ ่่อการเรีียนรู้้�กลุ่่�มสาระการเรีียนรู้้�อื่�น ๆ ตลอดจนสามารถนำำ�ไป
ประยุุกต์์ใช้เ้ พื่่อ� การดำ�ำ เนิินชีีวิติ ในสัังคมได้้
คณะผู้�้ จััดทำ�ำ หวัังเป็็นอย่่างยิ่�งว่่าหนัังสืือเล่่มนี้้�จะเป็็นประโยชน์์ต่่อการจััดการเรีียนการสอน
และเป็็นส่่วนสำ�ำ คััญในการพััฒนาเยาวชนให้้มีีความรู้้�ความสามารถด้้านภาษาไทยที่่�สอดคล้้องกัับยุุค
สมัยั ปััจจุุบันั และขอขอบคุุณคณะครูู ตลอดจนหน่่วยงานและบุุคลากรทุุกท่่านที่�ม่ ีีส่่วนในการจััดทำำ�
หนัังสืือเล่่มนี้้�ไว้้ ณ โอกาสนี้้ � หากมีีข้้อบกพร่่องหรืือข้อ้ เสนอแนะประการใด ทางคณะผู้้�จัดั ทำ�ำ ยิินดีี
น้อ้ มรับั คำำ�ติชิ มเพื่่อ� นำ�ำ มาปรัับปรุุงและพััฒนาให้้มีีความสมบููรณ์ม์ ากยิ่�งขึ้�น



คณะผู้้�จััดทำ�ำ
Learn Education

คำ�ช้ีแจงการใช้หนั งสื อ

หนัังสืือแบบฝึึกหััดรายวิิชาพื้�้นฐานภาษาไทย วิิวิิธภาษาเล่่มนี้้�ได้้ออกแบบมาให้แ้ ต่ล่ ะหน่ว่ ยการเรียนรู้�้
มีีส่ว่ นประกอบต่า่ ง ๆ ที่่ท� ำ�ำ ให้น้ ักั เรีียนมีีความรู้� ความเข้า้ ใจ และความคิดิ อ่า่ นด้า้ นภาษาไทยที่่ด� ีีและชัดั เจน
มากขึ้�้นจากเนื้้อ� หาหลักั ซึ่ง่� สามารถแยกอธิิบายได้้ ดังั นี้้�

รูไ้ วใ้ ชว่ า่ ชวนน้ องลองคิด

รู้้�ไว้ใ้ ช่ว่ ่า่ Learn Education ชวนน้้ องลองคิิด

ความรู้้�เสริมิ หรืือเกร็ด็ ความรู้�้ต่า่ ง ๆ คำำ�ถามชวนคิดิ เกี่�ยวกัับเนื้้อ� หาที่่เ� รีียน
ที่่�เกี่�ยวข้อ้ งกับั เนื้้�อหาการเรีียนรู้�้ ไปซึ่่�งเป็็นคำ�ำ ถามปลายเปิิดเพื่่�อให้้

น้ องลองท�ำ ฝึึกทักั ษะในการคิิดวิเิ คราะห์์

น้้ องลองทำ�ำ ทบทวน

แบบทดสอบความรู้้�ท้า้ ยเรื่�อง เพื่่อ� ให้้ผู้�้ กอ่ นจาก..
เรีียนประเมินิ ว่่าส่่วนใดที่่�ทำ�ำ ได้ด้ ีี
และส่่วนใดที่่ย� ังั ต้้องพััฒนา ทบทวนก่อ่ นจาก

สรุปุ องค์์ความรู้�้ สำ�ำ คัญั ของเนื้้�อหา
ในส่่วนที่่�ได้้เรีียนไปแล้ว้

ตะลยุ โจทย์ จดให้จาํ นํ าไปใช้

ตะลยุ โจทย์ จดให้จาํ นํ าไปใช้

แบบทดสอบความรู้ท้ายหน่วย สาํ หรับจดบนั ทกึ เน้อื หาเพิม่ เติม
ท่มี ลี กั ษณะใกลเ้ คยี งการทดสอบ
ทางการศึกษาระดับชาติขัน้ พื้นฐาน
Learn Education
ความหมายของจาํ นวนดาวในแบบทดสอบตะลยุ โจทย์

แบบทดสอบระดบั ง่าย
แบบทดสอบระดบั ปานกลาง
แบบทดสอบระดบั ยาก

สารบัญ Learn Education ๒

๐๑ ภาษามีพลัง ๒

พลังภาษา
การอ่านพยัญชนะท่ไี มม่ ีรูปสระกํากบั ๑๘

๐๒ บ.ก. ท่รี กั ๑๘
๒๒
จดหมาย ๒๘
การเลือกใชค้ ํา
คํานํ าหน้ านาม ๓๘

๐๓ ทอ่ งเวบ็ เกบ็ ความรู้ ๓๘
๔๔
การรบั สารผา่ นอินเทอรเ์ น็ ต
การส่ือสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ ต ๕๖

๐๔ เพ่ือนกัน ๕๖
๖๒
ภาษาพูด-ภาษาเขียน ๖๖
คํานาม
คําสรรพนาม ๗๖

๐๕ เสียงเพลงกับเสียงกรด๊ี ๗๖
๘๐
คําอุทาน ๘๔
มารยาทในการชมการแสดง ๙๐
การเขียนบรรยาย
การใชค้ วามเปรยี บ

สารบัญ

๐๖ คิดตา่ งกัน แต่อย่รู ว่ มกันได้ Learn Education ๑๐๐

การแสดงความคิดเห็น ๑๐๐
มารยาทในการแสดงความคิดเห็น ๑๐๖
เจตนาในการสื่ อสาร ๑๑๐
การใชภ้ าษาไทยในการส่ือสาร ๑๑๔

๐๗ เก็บมาเล่า เอามาคุย ๑๒๔

คําพ้อง ๑๒๔

๐๘ วถิ ีงามความพอเพียง ๑๔๐

การพิจารณาคุณค่าของเรอื่ งท่อี ่าน ๑๔๐
คําเชอ่ื ม ๑๔๖
อักษรท่ไี มอ่ อกเสียง ๑๕๔
การอ่านพยางค์ท่มี ี รร (รอ หัน) ๑๖๐
พยางค์หนั ก-พยางค์เบา ๑๖๔

๐๙ แตง่ ให้งามตามท่เี หมาะ ๑๗๒

การสรุ ปใจความสํ าคัญ ๑๗๒
คําประสม ครงั้ ท่ี ๑ ๑๗๖
คําประสม ครงั้ ท่ี ๒ ๑๘๐

สารบัญ Learn Education ๑๙๒

๑๐ เข้าเมืองตาหล่ิว ต้องหล่ิวตาตาม ๑๙๒
๑๙๘
เรยี นรูเ้ รอื่ งสํานวน สุภาษิต คําพังเพย
คุณค่าทางภาษาของสํ านวนไทย ๒๐๘

๑๑ สรุปความรูว้ วิ ธิ ภาษา ม.๑ เทอม ๑ ๒๐๘
๒๑๒
ภาษามีพลัง ๒๑๖
บ.ก. ท่รี กั ๒๒๐
ทอ่ งเว็บเกบ็ ความรู้ ๒๒๔
เพ่ือนกนั ๒๒๘
เสี ยงเพลงกับเสี ยงกรด๊ี ๒๓๒
คิดตา่ งกัน แตอ่ ย่รู ว่ มกันได้ ๒๓๖
เกบ็ มาเล่า เอามาคุย ๒๔๐
วิถีงามความพอเพียง ๒๔๔
แตง่ ให้งามตามท่เี หมาะ
เข้าเมืองตาหล่ิว ต้องหล่ิวตาตาม ๒๔๘

๑๒ ตะลุยโจทย์

๑๓ บรรณานกุ รม

จดให้จาํ นํ าไปใช้

Learn Education

Learn Educationตวั ช้วี ัด

ท ๑.๑ ม.๑/๒ จับใจความสาํ คัญจากเรือ่ งท่ีอาน
ท ๑.๑ ม.๑/๓ ระบเุ หตแุ ละผล และขอเท็จจริงกบั ขอคดิ เห็นจากเร่อื งท่อี า น
ท ๑.๑ ม.๑/๕ ตคี วามคํายากในเอกสารวชิ าการ โดยพจิ ารณาจากบรบิ ท
ท ๓.๑ ม.๑/๖ มีมารยาทในการฟง การดู และการพูด

จุดประสงค์

๑. สามารถอา นจับใจความเร่ือง ภาษามีพลัง ไดอยา งเหมาะสม
๒. มมี ารยาทในการพูด
๓. สามารถเขาใจถึงความสมั พันธร ะหวางเหตุและผลจากเร่อื งท่อี า น
๔. สามารถตีความคาํ ยากท่ีพบในบทเรยี นได

ภาษามพี ลงั

ภาษานน้ั มอี ทิ ธพิ ลตอ การดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั ของเราเปน อยา งมาก เพราะวา ภาษานน้ั
มพี ลงั ทจ่ี ะกอ ใหเ กดิ ผลตอ จติ ใจของคนทกุ คน หากเราใชภ าษาไปในทศิ ทางทด่ี จี ะกอ ใหเ กดิ
พลงั ของภาษาในทางบวกตอ ผรู บั สาร แตใ นขณะเดยี วกนั ถา เราใชภ าษาไปในทศิ ทางทไ่ี มด ี
ภาษากจ็ ะสง พลงั ในทางลบใหแ กผ รู บั สารดว ยเชน เดยี วกนั
Learn Education

จดให้จาํ นํ าไปใช้

Learn Education

ผงั มโนทศั น์

๑. พลังภาษา
๒. การอ่านพยัญชนะท่ไี มม่ รี ูปสระกํากบั
Learn Education

แบบฝึกหัด รายวชิ าภาษาไทย

ววิ ิธภาษา ม.๑

พลงั ภาษา

พลังภาษา

พลงั ภาษา คอื อาํ นาจของภาษา โดยภาษาเปนส่งิ ที่ทําใหเ ราสามารถส่ือสารกนั ได บอกเรอ่ื งราว
และความรูส ึกนกึ คิดกันได ตลอดจนเรยี นรูส่งิ ตาง ๆ และสามารถพัฒนาตนเองและสงั คม

ประเภทของภาษา

กขค
Learn Education
......................... ..........................
ภาษาทใ่ี ชถอยคํา เชน ภาษาพดู ภาษาเขียน
ภาษาทไ่ี มใชถ อยคํา แตใชทา ทางหรือ
แลว้ การพดู สนทนาของเรา การแสดงออกของรางกายในการ
เป็นวจั นภาษาหรอื
อวจั นภาษากนั นะ ส่อื สาร รวมถึงสญั ลกั ษณ รปู ภาพและ
วตั ถุสิ่งของตาง ๆ

2 ภาษามพี ลงั

ภาษามคี วามเก่ยี วข้องกบั วฒั นธรรมของคนในสังคมอย่างไร

?? การเลอื กใชภ าษาในสงั คมไทยมกั ตอ งคาํ นึงถงึ วัฒนธรรม สมั มาคารวะ

กาลเทศะ สังเกตไดจากการใชค าํ วา “ถือ” ของคนไทย

ห้ามเอาเข้าบ้านนะ!
แมถ่ ือ

ตวั อยา่ ง
Learn Education

การตงั้ ช่ือของคนไทย การเลอื กตน ไมป ลูกในบาน ขนมในวันแตง งาน

พลังของภาษาส่ งผลในสองทาง

พลงั ของภาษาทางบวก พลงั ของภาษาทางลบ

3ภาษามีพลงั

แบบฝึกหัด รายวชิ าภาษาไทย

วิวิธภาษา ม.๑

พลงั ของภาษาทางบวก ชวยสรา งสมั พนั ธไมตรี เพอื่ โนมนาว

สรางขวัญกําลังใจ

Learn Educationชว ยปลอบประโลมใจ สรา งความฮกึ เหมิ ใหคติสอนใจ

พลังของภาษาทางลบ

ประเวณีตงี ใู หหลงั หกั มันก็มกั ทาํ รายเมื่อภายหลงั
จระเขใ หญไ ปถึงน้ํามีกาํ ลัง เหมือนเสอื ขังเขาถึงดงกค็ งรา ย
อนั แมทัพจบั ไดแลว ไมฆ า ไปขางหนา ศกึ จะใหญขึ้นใจหาย
ตองตาํ รับจับใหม ั่นคั้นใหต าย จะทําภายหลังยากลาํ บากครัน
จะพลกิ พลิว้ ชิวหาเปน อาวุธ ประหารบตุ รเจาลงั กาใหอาสัญ
ตองตดั ศึกลึกลาํ้ ท่สี ําคญั นางหมายมั่นมุงเห็นจะเปน การ

(พระอภัยมณ)ี

4 ภาษามีพลัง

น้ องลองทาํ

คาํ ชแี้ จง ตอนท่ี ๑ ใหน กั เรยี นพจิ ารณาวา ขอ ความใดเปน วจั นภาษาและขอ ความใดเปน อวจั นภาษา

กวนี พิ นธ ทา ราํ การจบั มอื การยกั ไหล การสนทนา
เครอ่ื งหมายวรรคตอน ภาษามอื ตวั อกั ษรเบรลล
Learn Education
วจั นภาษา อวจั นภาษา

...................... ......................
...................... ......................
...................... ......................
...................... ......................

5ภาษามีพลงั

Learn Educationแบบฝึกหัด รายวิชาภาษาไทย

วิวิธภาษา ม.๑

น้ องลองทาํ

คําชี้แจง ตอนท่ี ๒ ใหน กั เรยี นเลอื กคาํ ตอบทถ่ี กู ทส่ี ดุ เพยี งขอ เดยี ว

๑๑.. คํากลาวของใครกลา วถูกตองเก่ียวกบั พลงั ภาษา
๑. พิจิตรากลา ววา พลังภาษามีอทิ ธพิ ลตอ คนไทยในเรือ่ งของการตั้งชอ่ื เทา นั้น
๒. เจนจริ ากลาวถึงความหมายของพลงั ภาษาวา พลังภาษา คอื อํานาจของภาษา
๓. อภษิ ฎากลาวถงึ พลังภาษาวา พลงั ภาษาไมมีความเก่ียวของกับวฒั นธรรมไทยเลย
แมเ เตน อย
๔. รงุ ทิวากลาวถงึ ประเภทของพลงั ภาษาวา มี ๓ ประเภท คอื พลังของภาษาระดับสงู
พลงั ของภาษาระดับกลาง และพลังของภาษาระดับต่าํ

๒. คาํ พูดของใครกอใหเกิดพลังของภาษาในทางลบ
๑. แบมพดู กบั พิมวา “ยนิ ดีตอนรับเขา มากลุมนะพมิ ”
๒. บีมพูดกบั พร้ิงวา “ต้ังแตพร้ิงเขามาก็มแี ตเ รื่องแย ๆ”
๓. บอสพดู กบั แพรวา “ขอใหแ พรเดินทางปลอดภัยนะ”
๔. ไบรทพดู กับเพรียววา “เราเชื่อวาเพรยี วจะชนะการแขง ขันแนน อน”

6 ภาษามพี ลัง

ทบทวน วจั นภาษา
อวจั นภาษา
กอ่ นจาก..

ภาษามี ๒ ประเภท

ภาษาเกี่ยวขอ งกบั วฒั นธรรมของคนไทย
คือ การเลอื กใชภาษาในสังคมไทยมักตอ ง
คํานึงถึงวัฒนธรรม สัมมาคารวะ กาลเทศะ
Learn Education
พลังของภาษาทางบวก

--สชรวา ยงปขลวัญอบกปาํ ลระังใโจลมใจ - ใชหว คยตสสิ รอานงสใจัมพนั ธไมตรี
- สรา งความฮกึ เหมิ -

- เพื่อโนมนาว

พลังของภาษาทางลบ

กอ ใหเกดิ ความรูส ึกไมด ี
ตอ ผฟู ง

7ภาษามีพลัง

แบบฝึกหัด รายวชิ าภาษาไทย

วิวธิ ภาษา ม.๑

การอ่านพยัญชนะท่ไี ม่มรี ูปสระกํากบั

การอ่านพยญั ชนะทไ่ี มม่ รี ูปสระกาํ กบั

การอา่ นออกเสียงแบบประสมสระ /-ะ/

พยญั ชนะตวั แรก + สระ
/-ะ/ ตวั อยา ง..................
Learn Education
พยญั ชนะตัวแรก + สระ /-ะ/ พยัญชนะตัวแรก ออกเสียงสระ /-ะ/ +
และออกเสยี งแบบอกั ษรนํา ตวั ที่ ๒ ออกเสยี งเปน ตัวสะกด +
นาํ พยางคหลงั ตวั อยาง............. สระ /-ะ/ ตวั อยาง ..................

การอ่านออกเสียงแบบประสมสระ /-อ/

ตวั บ + สระ /-อ/ เชน .................... พยัญชนะที่ไมม รี ปู สระกํากบั + ตัว ร + สระ /-อ/
ตวั อยา ง....................

การอา่ นออกเสียงแบบประสมสระ /โอะ/

พยัญชนะ + พยญั ชนะ ออกเสยี งสระ โอะ เรียกวา สระโอะลดรปู
ตวั อยาง กบ คน งก

8 ภาษามีพลัง

การอา่ นแบบประสมสระ /-ะ/และ /-อ/

พยญั ชนะ + ตวั ร ออกเสียงสระ บางคร้ังก็จะมีรูปสระอะ ในพยางคท่ี ๒
/-อ/ และ ตัว ร ออกเสยี งสระ /-ะ/ ตัวอยา ง ....................
เชน ....................
คาํ บางคําสามารถอานไดสองแบบ คอื ตวั ป
พยญั ชนะ + พยัญชนะ + ตวั ร อานประสมกับสระ /-ะ/ หรือ สระ /-อ/ ก็ได
ตัวอยา ง ปรนยั ปรโลก
........................
Learn Education
การอ่านออกเสียงแบบประสมสระ /-ะ/และ /โอะ/

พยัญชนะ + พยญั ชนะ + พยัญชนะ

ออกเสียงสระ /-ะ/ ออกเสียงสระ /โ-ะ/ เปน ตัวสะกด

ถา ตัวแรกเปนอักษรสูงหรอื กลาง และตวั ท่ี ๒ เปน ตํ่าเดยี่ ว จะออกเสยี งแบบอักษรนาํ ดวย เชน .......................

การอ่านออกเสี ยงสระหลายเสี ยง บางครงั้ เรากต็ อ้ งแยกพยางค์
ให้ถกู ถงึ จะออกเสียงไดต้ รง
บางคาํ อาจเปนสระ /- ะ/ สระ / โ-ะ/ หรือ
สระ /-อ/ เชน ................................... ความหมายทต่ี อ้ งการนะ

9ภาษามีพลงั

แบบฝึกหัด รายวิชาภาษาไทย Learn Education

ววิ ธิ ภาษา ม.๑

น้ องลองทาํ

คาํ ชแ้ี จง ตอนท่ี ๑ ใหน กั เรยี นเขยี นคาํ อา นของคาํ ตอ ไปนใ้ี หถ กู ตอ ง
๑. สมร อา นวา .......................
๒. นรชน อา นวา .........................
๓. กลลวง อา นวา .......................
๔. ปรปก ษ อา นวา ..........................
๕. กนิ นร อา นวา ........................
๖. บรหิ าร อา นวา ........................
๗. ผลกึ อา นวา .............................
๘. พลงั อา นวา .......................

10 ภาษามพี ลัง

Learn Educationน้ องลองทาํ

คําชแ้ี จง ตอนท่ี ๒ ใหน กั เรยี นเลอื กคาํ ตอบทถ่ี กู ทส่ี ดุ เพยี งขอ เดยี ว

๑. คาํ วา ผสม มหี ลกั การอา นตรงกบั ขอ ใด
๑. พยญั ชนะตวั แรกออกเสยี งประสมสระ /-ะ/
๒. พยญั ชนะตวั แรกสามารถอา นออกเสยี งสระ /-ะ/ หรอื สระ /-อ/ กไ็ ด
๓. พยญั ชนะตวั แรกออกเสยี งประสมสระ /-ะ/ และตวั ท่ี ๒ ออกเสยี งเปน ตวั สะกด
๔. พยญั ชนะตวั แรกออกเสยี งประสมสระ /-ะ/ และพยางคห ลงั ออกเสยี งแบบอกั ษรนาํ

๒. ขอ ใดสามารถแยกคาํ ของขอ ความตอ ไปนไ้ี ดถ กู ตอ ง
กรกนกคนตลกชวนดวงกมล
๑. กรก-นก-คน-ตล-กช-วน-ดวง-กมล
๒. กร-กนก-คน-ตลก-ชวน-ดวง-กมล
๓. กร-กน-กคน-ตลก-ชวน-ดว-งก-มล
๔. กรก-นก-คน-ตล-กชวน-ดว-งก-มล

11ภาษามพี ลัง

แบบฝึกหัด รายวชิ าภาษาไทย

วิวิธภาษา ม.๑

ทบทวน

กอ่ นจาก..

การอ่านพยัญชนะท่ไี ม่มรี ูปสระกํากับ

-ะ

๑. การอา นออกเสียงแบบประสมสระ /-ะ/
Learn Education -อ

-ะ+-อ ๒. การอา นออกเสยี งแบบประสมสระ /-อ/

๓. การอานแบบประสมสระ /-ะ/และ /-อ/

-ะ+โอะ

๔. การอา นออกเสียงแบบประสมสระ /-ะ/และ /โอะ/

-ะ+-อ+โอะ

๕. การอานออกเสียงสระหลายเสียง

12 ภาษามพี ลงั

จดให้จาํ นํ าไปใช้

Learn Education

Learn Educationตวั ช้วี ดั
ท ๒.๑ ม.๑/๒ เขียนสอ่ื สารโดยใชถ อ ยคําถูกตองชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย
ท ๒.๑ ม.๑/๗ เขยี นจดหมายสวนตวั และจดหมายกิจธรุ ะ
ท ๒.๑ ม.๑/๙ มมี ารยาทในการเขียน
ท ๔.๑ ม.๑/๓ วิเคราะหชนิดและหนาท่ขี องคาํ ในประโยค

จดุ ประสงค์

๑. สามารถเขยี นจดหมายสวนตวั และจดหมายกิจธุระไดอยางถูกตองและเหมาะสม
๒. สามารถเขียนสะกดคาํ ไดถ ูกตอ งตามอักขระ และเลือกใชคําในการเขียนไดตรง

ความหมาย เรยี บเรียงประโยคเปน ขอความใหถ ูกระดบั ภาษาได
๓. มมี ารยาทในการเขยี นจดหมาย
๔. สามารถบอกชนดิ และหนาท่ีของคํานาม และคาํ สรรพนามไดถูกตอง

บ.ก.ท่รี กั

การเขียนจดหมาย เปนวิธกี ารสอ่ื สารรูปแบบหนงึ่ ท่ีไดร ับความนิยมมาก ตัง้ แต
อดีตจนถึงปจ จุบนั เมือ่ เวลาผานไปเทคโนโลยไี ดเ ขา มามีบทบาทมากขนึ้ ชองทางใน
การเขียนจดหมายก็เปล่ียนแปลงไปตามเทคโนโลยจี ากอดีตที่เขียนจดหมายหากนั
โดยใชก ระดาษ กเ็ ปลี่ยนเปน การเขียนจดหมายอเิ ลก็ ทรอนิกสห รอื อีเมลแทน
Learn Education

จดให้จาํ นํ าไปใช้

Learn Education

ผังมโนทัศน์Learn Education

๑. จดหมาย
ประเภทของจดหมาย

๒. การเลือกใชค้ ํา
รปู แบบของจดหมาย
เนอ้ื หาสาระ
การเลือกใชค ํา
มารยาทในการเขียน

๓. คํานําหน้านาม

แบบฝึกหัด รายวชิ าภาษาไทย

ววิ ธิ ภาษา ม.๑

จดหมาย

จดหมาย

จดหมายเป็น็ เครื่�อ่ งมืือสื่่�อสารชนิิดหนึ่ง�่ โดยเนื้้อ� หาในจดหมายขึ้น�้ อยู่ก่� ับั วััตถุปุ ระสงค์์ของผู้�้ส่่งว่่า
ต้้องการแนะนำำ�ตน เล่า่ เรื่อ�่ ง สอบถาม แสดงความคิิดเห็น็ หรืือแสดงความรู้�สึึก
Learn Education
ประเภทของจดหมาย .....................................
.....................................
วัตั ถุปุ ระสงค์์ในการไต่่ถาม
ทุุกข์ส์ ุุข หรืือแจ้้งข้้อมููล การส่่งจดหมายควรลงที่อ่� ยู่�่
ข่่าวสาร ของผู้้�เขีียนให้้ผู้ร�้ ับั สามารถ
ติดิ ต่่อกลัับได้้และควรลงวันั ที่�่
จดหมายส่่วนตัวั เพื่อ�่ ให้้ผู้�้อ่่านรู้ว� ่่าเขีียนเมื่่�อใด

จดหมายกิิจธุรุ ะ

................................... มีีวัตั ถุปุ ระสงค์์เพื่�่องาน
................................... หรืือธุรุ ะ
...................................

18 บ.ก.ท่ีรกั

Learn Educationน้ องลองทาํ

คําช้แี จง ตอนท่ี ๑ ใหน กั เรยี นพจิ ารณาจดหมายตอ ไปนแ้ี ละระบวุ า เปน จดหมายประเภทใด
.๑.๑.......เ.ร..ยี...น....ค..ุณ...ท...ม..ย...ัน..ต...ีท..เ่ี..ค..า..ร..พ...ร..ัก....................................................................................
.........ห...น..ูช...อ่ื ..แ...พ..ร..พ...ล..อ...ย..ค..ะ....อ..า..ย...ุ .๑...๓....ป....ห..น...เู.ร..ีย..น...อ..ย...โู .ร..ง..เ.ร..ีย..น...ท..ีจ่...ัง.ห...ว..ัด...เ.ช..ยี..ง..ใ..ห..ม... ...............
.เ.ป..ด...เ.ท...อ..ม...น..จ้ี..ะ...ข..้นึ....ม...๑....แ...ล..ว..ค...ะ...ท...กุ ..ว..ัน...เ.ส..า..ร..ค...ุณ...แ..ม...ม ..ัก...จ..ะ..ใ..ห..ห...น..ูอ...า ..น..ห...น...ัง.ส...ือ..เ.พ...ือ่..เ..ป..น...ก..า..ร....
.ฝ..ก..ฝ...น..ว..ิช...า..ภ..า..ษ...า..ไ.ท...ย..ข...อ..ง..ห..น...ูใ.ห...แ..ข...ง็ .แ..ร..ง..ค...ะ...โ..ด..ย..ห...น...ูม..กั..เ..ล..ือ..ก...ห..น...ัง..ส..อื...ข..อ..ง..ค...ณุ ...ท..ม...ย..นั...ต..ี........
.ม..า..อ..า..น...เ.ส..ม...อ..เ..พ..ร..า..ะ..ห...น...ูช..ื่น...ช..อ..บ...ค..ณุ....ท..ม...ย..ัน...ต..ีม...า..ก..ค..ะ............................................................
........................................................................................................ส...ว..ัส..ด..ีค...ะ...................
........................................................................................................แ...พ..ร..พ...ล..อ...ย................
..ต..อ...บ................................................................................................................................
.......................................................................................................................................
.๒.๒........ม..น...ัส...ท...่รี ..กั .................................................................................................................
..........เ.ร..า..ย..า..ย..ม...า..อ..ย..ทู...ข่ี..อ...น..แ...ก..น...ไ.ด...ป..น...ึง..แ..ล..ว....เ.ร..า..ส..บ...า..ย..ด..ี..ห..ว..ัง..ว..า..น...า..ย..จ..ะ..ส...บ..า..ย...ด..ีเ.ห...ม..ือ...น..ก...นั ...
.น...า.ย...ค..ง..ส..ง..ส..ยั...ว..า ..ท..าํ..ไ..ม..เ.ร..า..จ...งึ .เ..ข..ีย..น...จ..ด..ห...ม...า.ย...ฉ..บ...บั ..น...ี้ม..า..ห...า..น...า.ย...ท..ั้ง..ท...ี่เ.ร..า..ไ.ม...ต..ดิ...ต..อ..ก...ัน..เ..ล..ย..........
.ต..้ัง..แ..ต...เ .ร..า..ย..า..ย..ม...า..ท...่นี ..ี่.เ..ร..า.ต...ัง้ ..ใ.จ..เ.ข...ีย..น...ม..า..เ.พ...่ือ..ใ..ห..ค...าํ..ต..อ...บ..ก...ับ..น...า..ย...ท...ี่น...า..ย..เ.ค...ย..ถ..า..ม...เ.อ..า..ไ..ว.. ..........
.เ.ร..า..ค..น...พ...บ..ว..า..เ.ร..า..ส...า..ม..า..ร..ถ..อ...ย..ูไ..ด..แ..ล...ว..โ.ด...ย..ไ.ม...ม..นี...า..ย...เ..ร..า.เ..ล..กิ..ก...นั ..เ..ถ..อ..ะ...น..ะ..................................
.ข..อ...โ.ท...ษ..ด...ว..ย..ท...เ่ี .ร..า..ไ.ม...ไ.ด...พ...ูด..ก..บั...น...า.ย...ด..ว..ย...ต..น...เ.อ..ง....................................................................
.........................................................................................................ข..อ..โ..ท..ษ...แ..ล...ะ..ล..า..ก...อ ..น...
.........................................................................................................โ.ส..ภ...ี ........................
..ต..อ...บ................................................................................................................................

19บ.ก.ท่ีรกั

Learn Educationแบบฝึกหัด รายวิชาภาษาไทย

วิวธิ ภาษา ม.๑
๒.๓..... ....เ.ร.ื่.อ�่..ง...ข...อ..ค...ว..า.ม...ร.ู้.เ�้ .ก.ี.่ย�่...ว..ก.ั.บั...ก..า..ร..เ.ว.้้.น..ว..ร..ร..ค........................................................................................
.........เ.ร.ีี.ย..น....ส.ำ..�ำ .น..ั.กั..ง..า..น...ร.า..ช...บ.ั.ณั....ฑ.ิ.ติ...ย..ส..ภ...า.. ...........................................................................................
..............ด..้.ว้ ..ย..ช..ม...ร..ม..อ..น..ุ.รุ.ั.กั..ษ..์.ภ์..า..ษ...า..ไ.ท...ย....ข..อ..ง..โ.ร..ง..เ.ร.ีี.ย..น...ไ.ท...ย..ศ.ึ..กึ ..ษ...า...ไ.ด.้..้ก.ำ.�ำ..ห..น...ด..ก.ิ..จิ ..ก..ร..ร..ม...ป..ร..ะ..จ.ำ..�ำ .ป..ี.ี.๒...๕...๖...๔....
โ..ด..ย..ม.ี.ี.ว.ั.ตั..ถ.ุ.ป.ุ ..ร..ะ..ส...ง.ค..์.เ์ .พ.ื.่.อ�่ ..จ..ะ..ใ..ห.้้.เ..ด.็.ก็..ใ..น..โ..ร.ง..เ.ร.ี.ีย...น..ส..า..ม...า..ร.ถ..อ..่.า่..น...แ..ล..ะ..เ.ข.ี.ี.ย..น...ภ..า..ษ...า..ไ.ท...ย..ไ.ด..้.อ้ ..ย.่.า่..ง..ถ.ู.ู.ก.ต.้.้.อ..ง..............
ใ..น..ร..ะ..ย...ะ..เ.ริ.่.ม�..ต.้.้.น..ค...ณ...ะ..ก..ร..ร..ม...ก..า..ร..ช..ม...ร..ม..ส..น...ใ.จ...จ..ะ..ร..ว..บ...ร.ว...ม..ป.ั..ญั ...ห..า..ท.ี.่.ม�่ .ั.กั..จ...ะ..เ.ก.ิ.ดิ.ข.ึ.้.้.น�...ใ.น...ก..า..ร..เ.ข.ีี.ย..น...ง..า..น..เ.ข.ี.ีย...น.......
อ...ย.่.า่..ง..ไ.ร.ก..็.ต็...า..ม..เ.ม.ื.่.อ�่ ..อ.่.า่..น...ห..น..ั.งั ..สื.ื.อ..ห...ล..า..ย..เ..ล.่.ม่ ..แ...ล้.้.ว...ย.ั.งั..ไ..ม.่.เ่.ข.้.้า..ใ..จ..ช.ั.ดั...เ.จ..น..ว.่.า่..ก...า..ร..เ.ว้.้.น..ว..ร..ร..ค..ท.ี.่.ถ�่.ู.ู.ก.ต.้.้.อ..ง..จ..ะ...ต้.้.อ..ง..ท.ำ..�ำ ....
เ.ช..่.น่ ..ไ..ร...จ.ึ.งึ..ข..อ..ค...ว..า..ม..ก..ร.ุ.ณุ....า..ส.ำ.�ำ.น..ั.กั...ง..า.น...ร..า..ช..บ.ั..ณั ...ฑ.ิ..ติ ..ย..ส...ภ..า..ไ..ด.้.้.ช.่ว่..ย...อ..ธ.ิ.บิ...า..ย..แ..ล..ะ...ย..ก..ต.ั..วั ..อ..ย.่.า่..ง..ป...ร.ะ...ก..อ..บ...............
.........ช..ม...ร..ม..ห...ว.ั.งั ..เ.ป.็.น็...อ..ย.่..า่ .ง..ย.ิ่.ง.� .ว.่.า่..จ..ะ...ใ.ห.้.้.ค..ว..า..ม..อ...น.ุ.เุ.ค...ร..า..ะ..ห.์.ต์...อ..บ...ข.้้.อ..ม.ู.ู.ล..ค..ว...า.ม...ร.ู้.แ�้ ..ล..ะ...ข..อ..บ...พ..ร..ะ...ค.ุ.ณุ...ม...า...ณ..........
โ..อ..ก..า..ส.น.ี.้.้.�..........................................................................................................................................
......... ........ ......... ........ ........ ......... ........ ........ ......................ข...อ..แ..ส...ด..ง..ค..ว..า..ม..น..ั.บั ...ถื.ื.อ................................
......... ........ ......... ........ ........ ......... ........ ........ ....................................................................................
......... ........ ......... ........ ........ ......... ........ ........ ......................(.น...า..ย..ป...ร..ะ..เ.ส..ร.ิ.ฐิ....เ.ซ.็.ง็ ..แ..ซ.่.)่ .............................
......... ........ ......... ........ ........ ......... ........ ........ ......................ป...ร..ะ..ธ..า..น..ช...ม..ร..ม...อ..น.ุ.ร.ุ ั.กั...ษ.์.ภ์...า..ษ...า.ไ..ท...ย.. ............
..ต..อ...บ................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................

20 บ.ก.ท่รี ัก

ทบทวน

ก่อนจาก..

จดหมายเป็นเครอื่ งมือส่ือสารชนิ ดหน่ึ ง

Learn Educationประเภทของจดหมาย

จดหมายส่ว่ นตัวั
ไต่่ถามทุุกข์ส์ ุขุ
ใช้้ภาษาระดัับไม่เ่ ป็น็ ทางการ

จดหมายกิจิ ธุรุ ะ

มีวี ััตถุุประสงค์์เพื่่�องานหรืือธุุระ
ภาษาที่่ใ� ช้้มักั เป็็นระดับั กึ่่�งทางการ

21บ.ก.ท่ีรกั

Learn Educationแบบฝึกหัด รายวิชาภาษาไทย

วิวธิ ภาษา ม.๑

การเลอื กใช้คํา

รูปแบบของจดหมาย

จดหมายจะมรี ูปแบบทวั่ ๆ ไป ดังน้ี

ท่อี ยู
วันเดือนป
คําขึน้ ตน
......................................................................................................................
...............................................................................................................................
..........................................................
......................................................................................................................
...............................................................................................................................
.........................................................

คําลงทา ย
ชอ่ื และนามสกุล

การกําหนดรปู แบบของจดหมายนน้ั มเี หตุผลดังนี้
๑. ทีอ่ ยู เพื่อใหผูรับสามารถตอบกลบั ไดถ ูกตอง
๒. วันที่ เพอ่ื ใหท ราบวาเขยี นเมือ่ ใด
๓. คําขนึ้ ตนและคําลงทาย เพื่อใหท ราบผูรบั และสถานภาพของผูใหแ ละผูรบั
๔. การลงชอ่ื เพ่ือใหท ราบวา เปน จดหมายของใคร

22 บ.ก.ท่ีรกั

เนื้ อหาสาระ กจิ ธุระ

แตกตา่ งไปตามประเภทของการเขียนจดหมาย

ส่ วนตวั

Learn Education
มกั เลาความเปน ไปและไตถามทุกขส ุข ตองแสดงวัตถุประสงคท่ีแนนอนวา
ความสน้ั ยาวของเน้อื หาขน้ึ อยูกบั วา ตอ งการ เขียนข้ึนเพ่อื อะไร จดหมายกจิ ธรุ ะมักมี
จะเลา เรอื่ งราวมากนอยเพียงใด จดหมาย สองยอหนา ยอหนาแรก บอกสาเหตุที่
สว นตัวยาว ๆ อาจมหี ลายยอ หนา โดยแตล ะ ทําใหต องเขียนจดหมาย สวนยอหนา ท่สี อง
ยอหนา จะเลาเรื่องราวแยกเปน ประเด็น ๆ บอกวตั ถุประสงควาตอ งการอะไรใหผ ูรับ
จดหมายปฏบิ ตั ิอยา งไร

23บ.ก.ท่ีรกั

แบบฝึกหัด รายวิชาภาษาไทย

ววิ ิธภาษา ม.๑

การเลือกใชค้ ํา

..................................
..................................

Learn Education ท่ีอยู

วันเดือนป

คาํ ขึ้นตน

......................................................................................................................

...............................................................................................................................

..........................................................

......................................................................................................................
...............................................................................................................................

.........................................................

คาํ ลงทาย

การใชคาํ สรรพนาม ชือ่ และนามสกุล

............................ การใชคําตามระดบั ภาษา ...................................................
.............................................................. ...................................................
............................ ระดับภาษา คอื ถอ ยคาํ ...................................................
............................................................... ท่สี ัมพันธก ับสถานะของบุคคล ...................................................
โอกาสและกาลเทศะ

24 บ.ก.ท่ีรกั

มารยาทในการเขียนจดหมาย เลือกใชส หี มึก กระดาษและ
ซองท่ีเหมาะสม
ใชคําขึน้ ตน และลงทายให
เหมาะสม

Learn Educationเขยี นใหตรงประเดน็ ¡ ¢ ¤ § ลายมือควรเขยี นใหอ านงา ย

รวมถงึ การรกั ษาความสะอาด

ผนึกไปรษณียากรให จา หนา ซองโดยระบชุ ื่อ
ครบถวนและไมใช ทีอ่ ยขู องผูรบั ใหค รบถว น
ตราไปรษณียากรซ้ํา
กอ นสงจดหมายควรอาน
หากเปน การสงอเี มล ตองพมิ พ ทบทวนเพื่อตรวจดกู ารสือ่
อเี มลแอดเดรสของผรู ับให ความ ความเรียบรอย
เรียบรอ ย และพิมพขอความท่ี
เปนหวั เรอ่ื งทุกคร้งั

25บ.ก.ท่ีรัก

Learn Educationแบบฝึกหัด รายวิชาภาษาไทย

ววิ ธิ ภาษา ม.๑

น้ องลองทาํ

คาํ ชแ้ี จง ตอนท่ี ๑ ใหน กั เรยี นเลอื กคาํ ตอบทถ่ี กู ทส่ี ดุ เพยี งขอ เดยี ว

๑. ขอใดไมใ ชขอคํานงึ เกย่ี วกบั การเลอื กใชค ําในจดหมาย
๑. การเวนวรรค
๒. การใชค ําสรรพนาม
๓. คําข้ึนตนและคาํ ลงทา ย
๔. การใชคําตามระดบั ภาษา

๒. หากขน้ึ ตน จดหมายดว ยคาํ วา กราบเรยี น ควรใชค ําลงทายใดจึงจะเหมาะสม
๑. รกั เสมอ
๒. สวสั ดีคะ
๓. รกั และคิดถงึ
๔. รักเคารพและคิดถงึ มากเสมอ

๓. บคุ คลใดถอื วา เปน ผมู มี ารยาทในการเขยี นจดหมายมากทส่ี ดุ
๑. โฟรส ง จดหมายโดยไมย อมระบชุ อ่ื ผรู บั บนหนา ซองจดหมาย
๒. กอ นสง จดหมายทกุ ครง้ั เอก มกั จะอา นจดหมายเพอ่ื ทบทวนทกุ ครง้ั
๓. โฟรท ใชต ราไปรษณยี ากรทเ่ี คยใชแ ลว เพราะกลวั จะเปลอื งเงนิ
๔. เฟร ส เขยี นอเี มลหาเตริ ด โดยไมใ สห วั เรอ่ื งเนอ่ื งจากคดิ วา มนั จะซา้ํ ซอ นกบั เนอ้ื หาในจดหมาย

26 บ.ก.ท่ีรัก

ทบทวน

ก่อนจาก..

รปู แบบของจดหมาย เนอ้ื หาสาระ การเลือกใชค ํา

ทอ่ี ยู Learn Educationเลาความเปน ไปและคาํ สรรพนาม
วนั เดอื นปทีเ่ ขยี น ไตถ ามทุกขส ขุ ระดับภาษา
คาํ ขน้ึ ตนและคาํ ลงทา ย
ลงช่อื คนเขยี น แสดงวัตถปุ ระสงคท่ี คําขึ้นตน
แนนอน คาํ ลงทาย

มารยาทในการเขียน

ใชค าํ ขึน้ ตนและลงทายให ๑. จา หนา ซองโดยระบุชอ่ื
เหมาะสม
๒. ๕. ท่อี ยูของผรู บั ใหค รบถวน
เลือกใชส หี มึก กระดาษและ ๓.
ซองทเ่ี หมาะสม ผนึกไปรษณียากรใหค รบถวน
๔.
เขยี นใหตรงประเด็น ๖. และไมใชตราไปรษณียากรซ้ํา
พมิ พอ ีเมลแอดเดรสของผูร บั
ลายมอื ควรเขียนใหอ านงา ย ใหเ รียบรอย และพิมพหวั เรอ่ื ง
รวมถงึ การรักษาความสะอาด
๗. ทกุ คร้ัง
กอ นสงจดหมายควรอา น

๘. ทบทวน 27บ.ก.ท่รี ัก

แบบฝึกหัด รายวชิ าภาษาไทย

ววิ ิธภาษา ม.๑

คํานํ าหน้ านาม

คํานํ าหน้ านาม

แบงเปน ๓ กลุม

คํานํ าหน้ านามตามฐานะของบคุ คลLearn Education

๑. บคุ คลธรรมดา

ตั้งแตเ กิดจนถึง ๑๔ ป จะใชค ํานําหนา นามวา
เด็กชาย หรอื เด็กหญงิ ตามเพศของเด็ก

๑๕ ปข้นึ ไป จะเปลีย่ นคาํ นาํ หนา เปน
นางสาว................. และนาย

๒.บคุ คลท่เี ป็นพระราชวงศ์

ตวั อยาง พระองคเจา หมอมราชวงศ ..............
หมอ มหลวง..............

28 บ.ก.ท่ีรัก

Learn Educationคํานํ าหน้ านามตามยศ

ผรู บั ราชการเปน ทหาร ตาํ รวจ จะมีคาํ บอกยศทไ่ี ดร บั พระราชทาน
ตัวอยา ง
จาสบิ เอก ใชย อ วา ..................
เรือตรี ใชย อวา .......................
เรืออากาศตรี ใชย อ วา ................
สบิ ตาํ รวจตรี ใชย อ วา ..................

คํานํ าหน้ านามบอกอาชพี

คํานําหนา นามท่บี อกอาชพี หรือตําแหนงทางวชิ าการ

ตวั อยาง
ศาสตราจารย ใชย อวา .................
แพทยหญิง ใชย อวา ....................

29บ.ก.ท่ีรกั

Learn Educationแบบฝึกหัด รายวชิ าภาษาไทย

ววิ ิธภาษา ม.๑

น้ องลองทำ�

คำ�ำ ชี้�แ้ จง ตอนที่�่ ๑ ให้น้ ักั เรียี นเขียี นอักั ษรย่อ่ ของคำ�ำ นำ�ำ หน้า้ นามให้ถ้ ูกู ต้อ้ ง

๑. ผู้�้ช่ว่ ยศาสตราจารย์์ ย่่อว่่า..............
๒. นางสาว ย่อ่ ว่า่ ..............
๓. เรือื ตรีี ย่อ่ ว่า่ .......................
๔. หม่่อมราชวงศ์์ ย่อ่ ว่่า..............
๕. นายแพทย์์ ย่่อว่า่ ..............

คำำ�ชี้�้แจง ตอนที่�่ ๒ ให้น้ ักั เรียี นเลือื กคำ�ำ ตอบที่ถ�่ ูกู ที่ส�่ ุดุ เพีียงข้อ้ เดีียว

๑. “บุุคคล (Persons) ตามหลัักนิิติศิ าสตร์์ หมายถึึง ผู้้�ที่ส�่ ามารถจะมีีสิิทธิิและหน้้าที่�่
ตามกฎหมาย เป็น็ เจ้้าของทรัพั ย์ส์ ิินได้”้ จากคำำ�จำ�ำ กััดความของบุคุ คล
การเลืือกใช้ค้ ำ�ำ นำ�ำ หน้้าของบุคุ คลในทางกฎหมายข้้อใดแตกต่่างจากข้้ออื่�น
๑. เด็็ก
๒. ผู้้�หญิิง
๓. ผู้้�พิิการทางสายตา
๔. พระบรมวงศานุวุ งศ์์
๒. หากต้อ้ งการย่อ่ คำำ�นำำ�หน้้าชื่่อ� ของพลตำ�ำ รวจเอกแพทย์ห์ ญิงิ ประกายดาว ทอแสงฉาย
ควรย่่อคำำ�นำ�ำ หน้้าชื่่�ออย่า่ งไรถึงึ จะถูกู ต้อ้ งตามหลักั การ
๑. พ.ต.อ พญ.ประกายดาว ทอแสงฉาย
๒. พล.ต.อ พญ.ประกายดาว ทอแสงฉาย
๓. พล.ต.อ นพญ.ประกายดาว ทอแสงฉาย
๔. พ.ต.อ นพญ.ประกายดาว ทอแสงฉาย

30 บ.ก.ท่รี กั

ทบทวน

กอ่ นจาก..

คํานํ าหน้ านาม

Learn Educationบคุ คลธรรมดา คาํ นําหนา นามตามฐานะของบุคคล
บุคคลทีเ่ ปน พระราชวงศ

คํานาํ หนานามตามยศ

ผรู ับราชการเปน ทหาร ตํารวจ
จะมีคาํ บอกยศท่ีไดรบั พระราชทาน

คํานําหนา นามทบี่ อกอาชีพหรือ คํานาํ หนานามบอกอาชพี
ตําแหนงทางวชิ าการ
31บ.ก.ท่รี ัก

จดให้จาํ นํ าไปใช้

Learn Education

จดให้จาํ นํ าไปใช้

Learn Education

Learn Educationตวั ช้วี ัด
ท ๒.๑ ม.๑/๒ เขียนส่ือสารโดยใชถอ ยคาํ ถูกตอ งชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย
ท ๒.๑ ม.๑/๙ มีมารยาทในการเขียน
ท ๓.๑ ม.๑/๔ ประเมินความนาเชือ่ ถือของสื่อทม่ี เี นือ้ หาโนม นาวใจ

จดุ ประสงค์

๑. สามารถประเมินความนาเชอ่ื ถอื ของสื่อตาง ๆ ทีม่ เี นื้อหาโนมนาวใจ
๒. สามารถเขยี นสะกดคําไดถูกตองตามอกั ขรวธิ ี เลอื กใชคาํ ในการเขียน

ไดตรงความหมาย และเรยี บเรยี งประโยคเปนขอ ความใหเหมาะสม
ตามระดบั ภาษาทใี่ ชสอื่ สารบนอนิ เทอรเน็ต
๓. มีมารยาทในการเขียนบนอนิ เทอรเน็ต

ทอ่ งเวบ็ เกบ็ ความรู้

ปจ จุบนั อินเทอรเน็ตเขา มามีบทบาทในชีวติ ประจาํ วันของเรามากขึ้นไมวาจะเพ่อื
การศกึ ษาหาขอ มลู สําหรับการเรียนรู หรือการตดิ ตอสื่อสารตา ง ๆ แตไ มว า อยางไรเนื้อหา
บนอินเทอรเ น็ตมีทัง้ สารทเ่ี หมาะสมและไมเหมาะสม ดงั นนั้ เราจงึ ตอ งเรียนรถู ึงการรับ
สารและสือ่ สารผา นอินเทอรเ นต็ เพอื่ ท่ีจะรูเทา ทนั อินเทอรเนต็
Learn Education

จดให้จาํ นํ าไปใช้

Learn Education

ผังมโนทัศน์ Learn Education

๑. การรบั สารผา่ นอินเทอรเ์ น็ ต
อนิ เทอรเน็ต
การรบั สารผา นอนิ เทอรเน็ต

๒. การสื่อสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ ต
การเขียนบนสือ่ อเิ ล็กทรอนิกส
ขอแนะนําในการเขยี นบนส่อื อเิ ล็กทรอนิกส
มารยาทในการสือ่ สารผานอินเทอรเ นต็


Click to View FlipBook Version