195 2. นักเรียนร่วมกันสนทนาภายหลังจากสวดมนต์ โดยใช้คำถาม ดังนี้ • หลังจากการสวดมนต์แล้ว นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ จิตใจสงบ มีสมาธิ) • นักเรียนคิดว่าการสวดมนต์และแผ่เมตตามีประโยชน์อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ได้ระลึกถึงคุณ พระศรีรัตนตรัย ได้อุทิศบุญกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวร) 3. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การสวดมนต์แปล แผ่เมตตา จากหนังสือเรียน และแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ 4. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับการสวดมนต์แปล แผ่เมตตา ว่ามีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 5. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • นักเรียนควรสวดมนต์แปลและแผ่เมตตาอย่างไรจึงจะสงบ (ตัวอย่างคำตอบ สวดด้วยความตั้งใจ และมีสมาธิ) ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 6. นักเรียนฝึกการสวดมนต์แปลและแผ่เมตตา จากนั้นบันทึกผลลงในแบบบันทึกในชิ้นงานที่ 12 เรื่อง การสวดมนต์แปล แผ่เมตตา 7. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของชิ้นงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น 8. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ การสวดมนต์แปล แผ่เมตตา ทำให้ผู้สวดมนต์มีจิตสงบ เข้าใจความหมายของบทสวดมนต์และ รู้แนวทางในการปฏิบัติตนตามหลักคำสอน จิตมีเมตตาต่อตนเองและบุคคลอื่น ประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน ของการสวดมนต์แปล แผ่เมตตา เป็นการฝึกจิตให้มีสติ ฝึกสมาธิในเรื่องต่าง ๆ ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความรอบคอบ บทแผ่เมตตา สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ อัพะยาปัชฌาโหนตุ อะนีฆา โหนตุ สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้พยาบาทเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้น เถิด
196 ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 9. นักเรียนออกมานำเสนอชิ้นงานหน้าชั้นเรียน 10. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 11. นักเรียนประเมินตนเองหลังการเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนรู้ในวันนี้หรือไม่ เพียงใด จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป 9. สื่อการเรียนการสอน 1. ชิ้นงานที่ 1 เรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน 2. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 2 3. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 2 หน้า 126-128 การวัดและการประเมินผล การวัดและประเมินผลด้าน วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายวิธีการสวดมนต์แปล แผ่เมตตา (K) ตรวจความคิดรวบยอด เรื่อง ประโยชน์ต่อ ชีวิตประจำวัน ของการสวดมนต์แปล สรุปประโยชน์ต่อ ชีวิตประจำวัน ของการสวดมนต์แปล ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 2. ปฏิบัติโดยการสวดมนต์ แปล แผ่เมตตา (P) แบบบันทึกสวดมนต์ แผ่เมตตา แบบบันทึกสวดมนต์แผ่ เมตตา ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 3.เห็นคุณค่าของการสวดมนต์ แปล แผ่เมตตาใน ชีวิตประจำวัน (A) แบบบันทึกสวดมนต์ แผ่เมตตา แบบบันทึกสวดมนต์แผ่ เมตตา การบันทึกการสวนมนต์ ครบทุกวัน 11. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
197 สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1.1 นักเรียน จำนวน......................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้....................คน คิดเป็นร้อยละ…………............ ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้................คน คิดเป็นร้อยละ....................... นักเรียนไม่ผ่านมีดังนี้…………………………………………………………………………………………….………………………… 1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ(K).................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1.3 นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ(P)....................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม (A)........................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ลงชื่อ…………………………..…………………ครูผู้สอน (นางสาวขวัญนภา ศรีชาติ) ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………../……………./………… 12. ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ……………………………………….. (นางวราภรณ์ อุ่นเที่ยว) ครูพี่เลี้ยง …………../……………./………… 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะผู้บริหาร
198 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………………… รองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายวิชาการ (นายไมตรี ภูสอดสี) …………../……………./………… 12. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะผู้อำนวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..………………..…… ผู้อำนวยการสถานศึกษา (นาางสาวอารีรัตน์ นุตะภิบาล) …………../……………./…………
199 ภาคผนวก
200 วันที่________เดือน_______________พ.ศ.___________ ชื่อ_____________________________เลขที่______ชั้น__________ ชิ้นงานที่ 19 เรื่อง การสวดมนต์แปล แผ่เมตตา นักเรียนฝึกการสวดมนต์แปลและแผ่เมตตา จากนั้นบันทึกผลลงในแบบบันทึก(ตัวอย่างคำตอบ) แบบบันทึกสวดมนต์แผ่เมตตา 1. นักเรียนกล่าวบทสวดมนต์แปลและกล่าวคำแผ่เมตตาได้ถูกต้องหรือไม่ 1.1 บทสวดมนต์แปล ถูกต้องทั้งหมด ถูกต้องบางคำ ไม่ถูกต้อง 1.2 คำแผ่เมตตา ถูกต้องทั้งหมด ถูกต้องบางคำ ไม่ถูกต้อง 2. นักเรียนจะปรับปรุงการกล่าวบทสวดมนต์แปลและกล่าวคำแผ่เมตตาของตนเองอย่างไร (ควรทำจิตให้สงบนิ่งกว่านี้ และฝึกฝนการอ่านบทสวดมนต์ให้แม่นยำมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการสวดมนต์ให้ดียิ่งขึ้๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘ 3. หลังกล่าวบทสวดมนต์แปลและกล่าวคำแผ่เมตตารู้สึกอย่างไร ๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘ ๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘ 4. การสวดมนต์แปลและการแผ่เมตตามีประโยชน์อย่างไร (ช่วยให้ผู้ปฏิบัติมี่สมาธิ เกิดสติ และทำให้จิตใจผ่องใส สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุข รวมถึงเพิ่ม ประสิทธิภาพในการเรียนและการปฏิบัติงานด้วย)
201 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่10 การสวดมนต์แปล แผ่เมตตาบริหารจิต และเจริญปัญญา เวลาเรียน 3 ชั่วโมง เรื่อง การบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักอานาปานสติ เวลา 2 ชั่วโมง สอนวันที่.....................เดือน...................................พ.ศ.................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรมเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 2. ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.2/10สวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิต และเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือตามแนวทางของ ศาสนาที่ตนนับถือ 3. สาระสำคัญ การบริหารจิตและเจริญปัญญาด้วยการเจริญอานาปานสติ เป็นการกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เพื่อฝึก จิตให้เกิดสมาธิตามหลักของสติปัฏฐาน 4. จุดประสงค์ 1. อธิบายการบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐานเน้นอานาปานสติ (K) 2. ฝึกปฏิบัติการบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐานเน้นอานาปานสติ (P) 3. เห็นคุณค่าการบริหารจิตและเจริญปัญญา เพื่อนำไปปฏิบัติใช้ในชีวิตประจำวัน (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. การบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐานเน้นอานาปานสติ 2. ประโยชน์ของการบริหารจิตและเจริญปัญญา และการนำวิธีการบริหารจิต และเจริญปัญญาไปใช้ ในชีวิตประจำวัน 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2.มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ : GPAS 5 Steps ชั่วโมงที่ 1 1. นักเรียนสังเกตภาพที่กำหนด แล้วร่วมกันสนทนา โดยใช้คำถาม ดังนี้
202 • ภาพดังกล่าวคือภาพใด (ภาพคนนั่งสมาธิ) • นักเรียนเคยปฏิบัติตนตามอย่างในภาพหรือไม่ (เคย) • การปฏิบัติตนตามภาพมีประโยชน์อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เกิดการฝึกฝนจิตใจ มีความสงบ) 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน เน้นอานาปานสติ จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ 3. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน เน้นอานาปานสติ โดยใช้คำถาม ดังนี้ • อานาปานสติ คืออะไร (ตัวอย่างคำตอบ อานาปานสติ คือ การฝึกจิตโดยการกำหนด ลมหายใจเข้า-ออก เป็นฐาน เป็นวิธีฝึกสมาธิที่ง่าย) • การบริหารจิตตามหลักอานาปานสติสามารถฝึกปฏิบัติในแบบใดได้บ้าง (ตัวอย่างคำตอบ สามารถฝึกปฏิบัติได้ในทุกอิริยาบถ) • การบริหารจิตแบบกำหนดลมหายใจมีวิธีปฏิบัติที่ใช้กันอยู่โดยทั่วไปมีอะไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ มี 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 การกำหนดลมหายใจแบบสั้น-ยาว วิธีที่ 2 การกำหนด ลมหายใจแบบบริกรรม) 3.นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับการเจริญอานาปานสติว่าคืออะไร และมีวิธีปฏิบัติอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็น ความคิดรวบยอด ลงในแผนภาพความคิด 5. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • การเจริญสมาธิด้วยการกำหนดลมหายใจจะปฏิบัติอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ การระลึกถึงลมหายใจเข้า-ออก การกำหนดรู้ทุกครั้งที่ลมผ่านเข้า-ออกจมูกเพื่อให้ จิตเป็นสมาธิ ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 6. นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อฝึกปฏิบัติการบริหารจิตและเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติ โดยกำหนด ขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนี้ • ขั้นเตรียมการปฏิบัติ • เลือกสถานที่ที่เงียบสงบ • นมัสการกล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย • สมาทานการปฏิบัติกัมมัฏฐาน • ขั้นตอนการปฏิบัติ • นั่งขัดสมาธิ ตัวตรง • กำหนดสติหรือความรู้สึกไว้ที่ปลายจมูก • กำหนดลมหายใจเข้า-ออก จนกว่าจะสมควรแก่เวลา • จบด้วยการแผ่เมตตา 7. นักเรียนตรวจสอบการปฏิบัติตน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น 8. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ การบริหารจิตและเจริญปัญญาด้วยการเจริญอานาปานสติ เป็นการกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เพื่อ ฝึกจิตให้เกิดสมาธิตามหลักของสติปัฏฐาน ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ
203 9. นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 10. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 11. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทำกิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพื่อนนักเรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นักเรียนพอใจกับการเรียนในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ได้อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล 1. นักเรียนทบทวนการฝึกปฏิบัตินั่งสมาธิ โดยแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจในการเลือกปฏิบัติ สมาธิ ดังนี้ • กลุ่มที่เลือกปฏิบัติด้วยวิธีการนั่ง • กลุ่มที่เลือกปฏิบัติด้วยวิธีการยืน จากนั้นบันทึกผลการปฏิบัติ แล้วเลือกนักเรียนออกมาเล่าความรู้สึกขณะปฏิบัติให้เพื่อนฟัง หน้าชั้นเรียน 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง ประโยชน์ของการบริหารจิตและเจริญปัญญา และ การนำวิธีการบริหารจิตและเจริญปัญญาไปใช้ในชีวิตประจำวัน จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ 3. นักเรียนวิเคราะห์ประโยชน์ของการบริหารจิตและเจริญปัญญา และการนำวิธีการบริหารจิตและ เจริญปัญญาไปใช้ในชีวิตประจำวัน แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอด ลงในแผนภาพความคิดดังตัวอย่าง
204 4.นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • ถ้านักเรียนสวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิต และเจริญปัญญาด้วยอานาปานสติเป็นประจำทุกวัน จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำให้จิตใจสงบ ไม่คิดฟุ้งซ่าน สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ สามารถรับรู้ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จในชีวิต ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 5. นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อร่วมกันฝึกการบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐานเน้นอานาปาน สติ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ แล้วบันทึกผลลงในแบบบันทึก ดังตัวอย่าง แบบบันทึกการสวดมนต์ แผ่เมตตา บริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐานเน้นอานาปานสติ ว/ด/ป ความรู้สึกก่อนปฏิบัติ ความรู้สึกขณะปฏิบัติ ผลจากการปฏิบัติ (13/4/62) (ตื่นเต้น) (จิตใจสงบ ไม่คิดฟุ้งซ่าน) (สมองปลอดโปร่ง จิตใจสงบ มีสมาธิ ความมุ่งหมาย สูงสุด •ความหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง •ความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ความสามารถ พิเศษ ด้านสุขภาพจิต บุคลิกภาพ ประโยชน์ ในชีวิตประจำวัน • เกิดฌานสมาบัติเป็นฐานทำให้เกิดอภิญญา คือ แสดงฤทธิ์ได้ • หูทิพย์ ตาทิพย์ รู้ใจผู้อื่น •ระลึกอดีตชาติได้ และรู้การทำกิเลสให้สิ้นไป • สุขภาพจิตของผู้ปฏิบัติจะมีความสงบ จิตใจมั่นคง • บุคลิกภาพเรียบร้อย มีระเบียบ สง่างาม มีเมตตากรุณา และเป็นมิตรกับผู้อื่น •จิตผู้ปฏิบัติจะผ่อนคลาย ไม่เครียด มีสติขณะทำ พูด คิด •การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ จิตจดจ่ออยู่กับการทำงาน • สุขภาพจิต สุขภาพกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคภัย
205 มากขึ้น) 6. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของผลงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น 7. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ประโยชน์ที่เป็นความมุ่งหมายของการ ปฏิบัติสมาธิ คือ การรู้จักดำเนินชีวิตอย่างมีสติในชีวิตประจำวัน และความมุ่งหมายสูงสุด คือ การหลุดพ้นจาก กิเลสและทุกข์ ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 8. นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 9. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 10. นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการฝึกปฏิบัติการบริหารจิตและเจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน เน้นอานาปานสติไปแนะนำให้สมาชิกในครอบครัวได้รู้จัก และฝึกปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง 11. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทำกิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพื่อนนักเรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นักเรียนพอใจกับการเรียนในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ได้อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป 9. สื่อการเรียนการสอน 1. ชิ้นงานที่ 1 เรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน 2. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 2 3. แบบฝึกทักษะ รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 2 หน้า 126-128
206 การวัดและการประเมินผล การวัดและประเมินผลด้าน วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายการบริหารจิตและ เจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน เน้นอานาปานสติ (K) ตรวจความคิดรวบยอด เรื่อง ประโยชน์ต่อ ชีวิตประจำวัน ของการสวดมนต์แปล สรุปประโยชน์ต่อ ชีวิตประจำวัน ของการสวดมนต์แปล ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 2. ฝึกปฏิบัติการบริหารจิตและ เจริญปัญญาตามหลักสติปัฏฐาน เน้นอานาปานสติ (P) แบบบันทึกสวดมนต์ แผ่เมตตา แบบบันทึกสวดมนต์แผ่ เมตตา ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 3. เห็นคุณค่าการบริหารจิตและ เจริญปัญญา เพื่อนำไปปฏิบัติใช้ ในชีวิตประจำวัน (A) แบบบันทึกสวดมนต์ แผ่เมตตา แบบบันทึกสวดมนต์แผ่ เมตตา การบันทึกการสวนมนต์ ครบทุกวัน
207 11. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1.1 นักเรียน จำนวน......................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้....................คน คิดเป็นร้อยละ…………............ ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้................คน คิดเป็นร้อยละ....................... นักเรียนไม่ผ่านมีดังนี้…………………………………………………………………………………………….………………………… 1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ(K).................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1.3 นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ(P)....................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม (A)........................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ลงชื่อ…………………………..…………………ครูผู้สอน (นางสาวขวัญนภา ศรีชาติ) ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………../……………./………… 12. ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ……………………………………….. (นางวราภรณ์ อุ่นเที่ยว) ครูพี่เลี้ยง …………../……………./…………
208 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………………… รองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายวิชาการ (นายไมตรี ภูสอดสี) …………../……………./………… 12. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะผู้อำนวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..………………..…… ผู้อำนวยการสถานศึกษา (นาางสาวอารีรัตน์ นุตะภิบาล) …………../……………./…………
209 ภาคผนวก
210 ใบความรู้เรื่องการเจริญอานาปานสติ การเจริญ อานาปานสติ การบริหารจิตตามหลักอานาปานสติ อานาปานสติเป็นวิธีฝึกจิตโดยใช้การกำหนดลมหายใจ เข้า-ออกเป็นฐาน เป็นวิธีฝึกสมาธิที่ง่าย สะดวก สามารถฝึกปฏิบัติ ได้ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะในขณะนอนหรือนั่ง การบริหารจิต โดยการกำหนดลมหายใจเข้า-ออก มีวิธีปฏิบัติได้หลายอย่าง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัธยาศัยของแต่ละคน วิธีปฏิบัติโดยทั่วไปมี 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 การกำหนดลมหายใจแบบสั้น-ยาว โดยผู้ปฏิบัติ พยายามกำหนดลมหายใจของตน หายใจเข้า-ออกยาว ก็กำหนดรู้ ว่ายาว หายใจเข้า-ออกสั้น ก็กำหนดรู้ว่าสั้น รวมไปถึงการรู้วิธี ผ่อนลมหายใจเข้า-ออกเป็นระยะ ๆ วิธีที่ 2 การกำหนดลมหายใจแบบบริกรรม โดยผู้ปฏิบัติ ฝึกบริกรรม (ออกเสียงในใจ) เมื่อหายใจเข้าให้บริกรรมว่า “พุท” หายใจออกให้บริกรรมว่า “โธ” ฝึกจิตให้จดจ่อกับลมหายใจ เข้า-ออก
211 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่11 การปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลาเรียน 2 ชั่วโมง เพื่อการดำรงตนอย่างเหมาะสมในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข เรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อการดำรงตนอย่างเหมาะสมในกระแส เวลา 2 ชั่วโมง ความเปลี่ยนแปลงของโลก สอนวันที่.....................เดือน...................................พ.ศ.................... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ส 1.1 รู้และเข้าใจประวัติ ความสำคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ ตนนับถือและศาสนาอื่น มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรมเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 2. ตัวชี้วัด ส 1.1 ม.2/11วิเคราะห์การปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อการดำรงตนอย่าง เหมาะสมในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขศาสนาที่ตนนับถือ 3. สาระสำคัญ หลักธรรมในทางพระพุทธศาสนาสามารถนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตจริงได้ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรหลักธรรมก็สามารถใช้ได้ทุกสมัย โดยไม่จำกัดกาลเวลาและการเปลี่ยนแปลงของโลก 4. จุดประสงค์ 1. อธิบายหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อการดำรงตนอย่างเหมาะสมในกระแสความเปลี่ยนแปลง ของโลก (K) 2. จำแนกการปฏิบัติตนตามหลักธรรมอริยสัจ 4 และกุลจิรัฏฐิติธรรม 4 (P) 3. เห็นความสำคัญในการนำหลักธรรมมาใช้ปฏิบัติตนในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อใช้ใน การดำเนินชีวิตประจำวันอย่างสงบสุข (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อการดำรงตนอย่างเหมาะสมในกระแสความเปลี่ยนแปลงของ โลก 2. หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2.มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ : GPAS 5 Steps ชั่วโมงที่ 1 1. นักเรียนพิจารณาข้อความที่กำหนด แล้วร่วมกันสนทนา โดยใช้คำถาม ดังนี้
212 โลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การเปลี่ยนแปลงของโลกเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทาง สังคม ได้แก่ สภาพสังคม กระบวนการหรือรูปแบบทางสังคม มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น ในท่ามกลาง ความเปลี่ยนแปลงมนุษย์จึงจำเป็นต้องแสวงหาแนวทางในการดำเนินชีวิต เพื่อให้สามารถดำรงตนอยู่ได้ อย่างมีความสุข • ข้อความที่กำหนด กล่าวเกี่ยวกับเรื่องใด (ตัวอย่างคำตอบ การเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน) • ปัจจุบันกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกเป็นอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ โลกในปัจจุบันเกิดการแข่งขันกันโดยเฉพาะในด้านของเศรษฐกิจ จึงทำให้ผู้คน ต้องแข่งขันกัน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนมุ่งหวังไว้) • นักเรียนมีแนวทางการดำรงชีวิตอย่างไร เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (ตัวอย่างคำตอบ ยึดหลักธรรมทางศาสนาในการอยู่ร่วมกันในสังคม) • นักเรียนคิดว่ามีหลักธรรมใดบ้างที่ควรใช้ยึดถือปฏิบัติในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก (ตัวอย่างคำตอบ อริยสัจ 4) 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อการดำรงตน อย่างเหมาะสมในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ 3. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่ใช้สำหรับการดำรงตนในกระแสความ เปลี่ยนแปลงของโลก แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง • อริยสัจ 4 สภาวะของปัญหาที่เกิดจากกระแสของการเปลี่ยนแปลงของโลก ในสภาวะต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและบุคคลรอบข้าง หลักธรรมอริยสัจ 4 ทุกข์ รู้สาเหตุต้นตอแห่งปัญหาที่เกิดจากกระแสของการเปลี่ยนแปลงของโลก อย่างกระจ่างชัด รู้ว่าสาเหตุปัญหามาจากอะไร สมุทัย ปรับตัวดำรงตนอยู่อย่างปกติสุขอย่างรู้เท่าทันทั้งคุณและโทษ ที่เกิดจากกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก ใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานคุณธรรม นิโรธ รู้วิธีแก้ปัญหาและใช้ปัญญาในการดำเนินชีวิตโดยปฏิบัติตามหนทาง สายกลาง ไม่ตกเป็นทาสของกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก มรรค
213 • กุลจิรัฏฐิติธรรม 4 4. นักเรียนวิเคราะห์และเสนอแนวทางการปฏิบัติตนท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก โดย ใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติ แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอด ลงใน แผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 5. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • เพราะเหตุใดหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาจึงนำมาใช้ได้ทุกสถานการณ์ และไม่จำกัดกาลเวลา (ตัวอย่างคำตอบ เนื่องจากหลักธรรมอิงกับความเชื่อและสิ่งที่เป็นจริง ปฏิบัติได้จริง และสามารถ พิสูจน์ได้) ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ กุลจิรัฏฐิติธรรม 4 ปรับสภาพความเป็นอยู่ให้เหมาะสมกับกระแสการเปลี่ยนแปลง นำทรัพยากรที่มีอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รู้จักปริมาณในการบริโภคที่เหมาะสมไม่หลงไปตามกระแส ของการเปลี่ยนแปลง ส่งเสริมความมีคุณธรรมของบุคคลในครอบครัว ไม่ตกเป็นทาส ไปกับกระแสของการเปลี่ยนแปลง หลักธรรมที่นำมาปฏิบัติท่ามกลาง กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก อริยสัจ 4 แนวทางการปฏิบัติตน นำเรื่องมรรคในอริยสัจ 4 มาใช้ในการแก้ไข ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยใช้หลักทางสายกลาง บริหารการใช้สิ่งแวดล้อมให้เกิดประโยชน์ กับมนุษย์ และไม่ทำลายสมดุลธรรมชาติ ผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติ ธรรมชาติ และมนุษย์ สามารถอยู่ร่วมกันได้ อย่างมีความสุข
214 6. นักเรียนแบ่งกลุ่มวิเคราะห์เกี่ยวกับการนำหลักธรรมทางศาสนามาปฏิบัติในกระแสความ เปลี่ยนแปลงของโลกว่าถ้าปฏิบัติจะเกิดผลอย่างไร และถ้าไม่ปฏิบัติจะเกิดผลอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็น ความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 7. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของผลงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น 8. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ หลักธรรมในทางพระพุทธศาสนา สามารถนำมาปฏิบัติใช้ในชีวิตจริงได้ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไป อย่างไรหลักธรรมก็สามารถใช้ได้ทุกสมัย โดยไม่จำกัดกาลเวลาและการเปลี่ยนแปลงของโลก ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 9. นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 10. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 11. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทำกิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไปได้ อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิด ประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป ถ้าปฏิบัติ การนำหลักธรรมทางศาสนา มาปฏิบัติในกระแส ความเปลี่ยนแปลงของโลก (เกิดประโยชน์ สามารถปรับตัวและ แก้ปัญหากับการเปลี่ยนแปลงได้) ผลที่เกิดขึ้น (เกิดความเดือดร้อน ไม่สามารถปรับตัว และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้) ผลที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ปฏิบัติ
215 ชั่วโมงที่ 2 1. นักเรียนพิจารณาข้อความที่กำหนด แล้วร่วมกันสนทนา โดยใช้คำถาม ดังนี้ การที่มนุษย์มาอยู่รวมกันเป็นสังคม สามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกันได้ ทั้งกฎเกณฑ์ใน รูปแบบของกฎระเบียบ กฎหมาย รวมถึงการมีคุณธรรม จริยธรรมเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตน ทำให้ คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข • ข้อความดังกล่าว กล่าวถึงเรื่องใด (ตัวอย่างคำตอบ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข) • นักเรียนจะปฏิบัติตนอย่างไรให้ชุมชน/สังคมที่นักเรียนอาศัยอยู่เกิดความสงบสุข(ตัวอย่าง คำตอบ การเคารพกฎ ระเบียบ การมีคุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิต) • นักเรียนจะนำหลักธรรมใดมาใช้ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น (ตัวอย่างคำตอบ สังคหวัตถุ 4) 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ 3. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักธรรมกุศลกรรมบถ 10 โดยใช้คำถาม ดังนี้ • กุศลกรรมบถ 10 คืออะไร (ตัวอย่างคำตอบ คือ หนทางแห่งการทำความดีทั้งทางกาย วาจา และใจ ซึ่งนำไปสู่ความสุข และความเจริญ) • กุศลกรรมบถ 10 แยกเป็นหมวดหมู่อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ แยกเป็น 3 หมวดหมู่ คือ 1. กายกรรม 2. วจีกรรม 3. มโนกรรม) • เพราะเหตุใดหากทุกคนปฏิบัติตามกุศลกรรมบถ 10 แล้วสังคมจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (ตัวอย่างคำตอบ เพราะกุศลกรรมบถ เป็นหนทางแห่งการทำความดี เมื่อทุกคนทำความดี ย่อมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข) 4. นักเรียนจำแนกและวิเคราะห์ลักษณะของหลักธรรมกุศลกรรมบถ 10 ว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอด ลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง การละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม การละเว้นจากการลักทรัพย์ การละเว้นจากการฆ่าสัตว์ การทำความดีทางกาย การทำความดีทางวาจา กุศลกรรมบถ 10 การละเว้นจากการพูดคำหยาบ การละเว้นจากการพูดส่อเสียด การละเว้นจากการพูดเท็จ การละเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ
216 5. นักเรียนวิเคราะห์และเสนอแนวทางการปฏิบัติตนเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยใช้หลักธรรมทาง พระพุทธศาสนา และผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติตน แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพ ความคิด ดังตัวอย่าง 6. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับข้อดีของการนำหลักธรรมมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง หลักธรรมที่นำมาปฏิบัติ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข กุศลกรรมบถ 10 แนวทางการปฏิบัติตน ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคม ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น โดยนำหลักธรรมกุศลกรรมบถ 10 มาปฏิบัติ เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติ คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การไม่คิดอยากได้ของผู้อื่นมาเป็นของตน การไม่คิดปองร้าย พยาบาท อาฆาต แค้นเคืองผู้อื่น การมีความเห็นชอบ การทำความดีทางใจ
217 7. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • เพราะเหตุใดจึงควรนำหลักธรรมมาปรับใช้เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (ตัวอย่างคำตอบ ช่วยให้คนในสังคมมีคุณธรรม จริยธรรม มีแนวทางที่ดีในการยึดเป็นแบบแผน สำหรับประพฤติปฏิบัติ) ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 8. นักเรียนอ่านคำขวัญที่ให้ข้อคิดหรือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ท่ามกลางกระแส การเปลี่ยนแปลงของโลกและเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แล้วสรุปความรู้ลงในชิ้นงานที่ 13 เรื่อง หลักธรรมสร้างสันติสุขในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข 9. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของชิ้นงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น 10. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ หลักธรรมกุศลกรรมบถ 10 เป็นหลักธรรมที่สอนให้ผู้ปฏิบัติงดการทำความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจ เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 11. นักเรียนออกมานำเสนอชิ้นงานหน้าชั้นเรียน 12. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 13. นักเรียนนำความรู้เกี่ยวกับหลักธรรมในการดำรงชีวิตไปจัดเป็นป้ายนิเทศ เพื่อเป็นการแบ่งปัน ความรู้ให้เพื่อนในชั้นเรียนและในโรงเรียน 14. นักเรียนประเมินตนเองหลังการเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนรู้ในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ข้อดีของการนำหลักธรรม มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ทำให้ละอายต่อการทำชั่ว เกรงกลัวต่อการทำบาป ทำให้ไม่ประมาท ในการดำเนินชีวิต ทำให้ประสบผลสำเร็จ ในการดำเนินชีวิต ทำให้อยู่ร่วมกัน ในสังคมได้อย่างมีความสุข
218 ได้อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป 9. สื่อการเรียนการสอน 1. ชิ้นงานที่ 1 เรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน 2. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 2 การวัดและการประเมินผล การวัดและประเมินผลด้าน วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายหลักธรรมทาง พระพุทธศาสนาเพื่อการดำรง ตนอย่างเหมาะสมในกระแส ความเปลี่ยนแปลงของโลก (K) ใบงานที่ 21 เรื่อง หลักธรรมสร้าง สันติสุขในกระแสความ เปลี่ยนแปลงของโลก และการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข ใบงานที่ 21 เรื่อง หลักธรรมสร้างสันติ ส ุ ข ใ น ก ร ะ แ ส ค ว า ม เปลี่ยนแปลงของโลก และการอยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุข ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 2. จำแนกการปฏิบัติตนตาม หลักธรรมอริยสัจ 4 และกุล จิรัฏฐิติธรรม 4 (P) ตรวจใบงานที่ 21 เรื่อง หลักธรรมสร้าง สันติสุขในกระแสความ เปลี่ยนแปลงของโลก และการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข ใบงานที่ 21 เรื่อง หลักธรรมสร้างสันติ ส ุ ข ใ น ก ร ะ แ ส ค ว า ม เปลี่ยนแปลงของโลก และการอยู่ร่วมกันอย่าง สันติสุข ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 3. เห็นความสำคัญในการนำ หลักธรรมมาใช้ปฏิบัติตนใน กระแสความเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อใช้ในการดำเนิน ชีวิตประจำวันอย่างสงบสุข (A) แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม อยู่ในระดับ 3 ขึ้นไป
219 11. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1.1 นักเรียน จำนวน......................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้....................คน คิดเป็นร้อยละ…………............ ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้................คน คิดเป็นร้อยละ....................... นักเรียนไม่ผ่านมีดังนี้…………………………………………………………………………………………….………………………… 1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ(K).................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1.3 นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ(P)....................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม (A)........................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ลงชื่อ…………………………..…………………ครูผู้สอน (นางสาวขวัญนภา ศรีชาติ) ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………../……………./………… 12. ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ……………………………………….. (นางวราภรณ์ อุ่นเที่ยว) ครูพี่เลี้ยง …………../……………./…………
220 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………………… รองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายวิชาการ (นายไมตรี ภูสอดสี) …………../……………./………… 12. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะผู้อำนวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..………………..…… ผู้อำนวยการสถานศึกษา (นาางสาวอารีรัตน์ นุตะภิบาล) …………../……………./…………
221 ภาคผนวก
222 วันที่________เดือน_______________พ.ศ.___________ ชื่อ_____________________________เลขที่______ชั้น__________ ชิ้นงานที่ 21 เรื่อง หลักธรรมสร้างสันติสุขในกระแสความเปลี่ยนแปลงของโลกและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข นักเรียนอ่านคำขวัญที่ให้ข้อคิดหรือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของ โลกและเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข แล้วตอบคำถาม (ตัวอย่างคำตอบ) (ปฏิบัติดีต่อกันทั้งการกระทำ การพูด และการคิด รู้จักให้อภัยกัน มีเมตตา ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกัน ใช้คำพูดที่ส่งเสริมความสามัคคี โดยพูดในสิ่งที่มีสาระประโยชน์ มีเหตุผล และคิดปรารถนาดี ต่อผู้อื่นเสมอ) (ทุกคนอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบ สันติ มีความสุข ทำให้เกิดความเชื่อมั่นทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมภายในประเทศ ทำให้ชาติพัฒนาและเจริญมากยิ่งขึ้น) คำขวัญ “สามัคคีคือพลัง โปรดยับยั้งความแตกแยก” วิธีการปฏิบัติตน ผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติ
223 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 เวลาเรียน 3 ชั่วโมง เรื่อง การปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 เวลา 3 ชั่วโมง สอนวันที่.....................เดือน...................................พ.ศ.................... ************************************************************************************************** 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ 2. ตัวชี้วัด ส 1.2 ม.2/1 ปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลักศาสนาที่ตนนับถือตามที่กำหนด 3. สาระสำคัญ ทิศทั้ง 6 ในพระพุทธศาสนาเป็นการกำหนดบทบาทหน้าที่ของบุคคลที่พึงปฏิบัติต่อกันตามฐานะ หน้าที่ของตนในการอยู่ร่วมกันของบุคคล เพื่อให้เกิดความสงบสุขตามหลักธรรม 4. จุดประสงค์ 1.อธิบายเกี่ยวกับการเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 (K) 2.วิเคราะห์และจำแนกทิศ 6 และการปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามทิศ 6 (P) 3.เห็นความสำคัญในการปฏิบัติตามหน้าที่ในฐานะลูกที่ดีที่พึงปฏิบัติต่อบิดามารดาในชีวิตประจำวัน (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของทิศ 6 2. การปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2.มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ : GPAS 5 Steps ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล 1. นักเรียนร่วมกันสนทนา โดยใช้คำถาม ดังนี้ • นักเรียนมีบทบาทหน้าที่ใดต้องรับผิดชอบบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ เป็นนักเรียนที่ดี ตั้งใจเรียน เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่) • เพราะเหตุใดนักเรียนจึงต้องรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง (ตัวอย่างคำตอบ เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ เพื่ออนาคตที่ดีของตนเอง) 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้
224 3. นักเรียนจำแนกหน้าที่และความรับผิดชอบของทิศ 6 แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอด ลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 4. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศเบื้องหน้า (ปุรัตถิมทิส) โดยใช้คำถาม ดังนี้ • เพราะเหตุใดพระพุทธศาสนาจึงจัดให้บิดามารดาเป็นทิศเบื้องหน้า (ตัวอย่างคำตอบ เพราะบิดามารดาเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูเรามาก่อน) • บิดามารดามีหน้าที่ที่พึงสงเคราะห์บุตรธิดาอย่างไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ บิดามารดาย่อมอนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้ 1. ห้ามปรามจากความชั่ว 2. ให้ตั้งอยู่ในความดี 3. ให้ศึกษาศิลปวิทยา 4. หาคู่ครองที่สมควรให้ 5. มอบทรัพย์สมบัติให้ในโอกาสอันสมควร) • บุตรธิดาพึงบำรุงหรือปฏิบัติต่อบิดามารดาอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ บุตรธิดาพึงบำรุงบิดามารดา ผู้เป็นทิศเบื้องหน้า ดังนี้ 1. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ 2.ช่วยทำงานของท่าน 3.ดำรงวงศ์สกุล 4. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท 5. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน) 5. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับหน้าที่ในการอนุเคราะห์บุตรธิดาของบิดามารดา แล้วสรุปความรู้เป็น ความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง ทิศ 6 ทิศเบื้องหน้า (ปุรัตถิมทิส) ได้แก่ บิดามารดา ทิศเบื้องขวา (ทักขิณทิส) ได้แก่ ครูอาจารย์ ทิศเบื้องหลัง (ปัจฉิมทิส) ได้แก่ บุตร ภรรยา ทิศเบื้องซ้าย (อุตตรทิส) ได้แก่ มิตรสหาย ทิศเบื้องล่าง (เหฏฐิมทิส) ได้แก่ ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และลูกจ้าง ทิศเบื้องบน (อุปริมทิส) ได้แก่ พระภิกษุ
225 6. นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่สมบูรณ์ของบิดามารดา โดยใช้คำถาม ดังนี้ • หากบิดามารดาปฏิบัติหน้าที่ไม่สมบูรณ์จะเกิดผลอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ บุตรทั้งหลายจะมีลักษณะนิสัยไม่เหมาะสม และมีพฤติกรรมที่ไม่ดี) • พฤติกรรมกิเลสมีอะไรบ้าง สรุปคำตอบเป็นแผนภาพความคิด 7. นักเรียนวิเคราะห์หลักการปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 แล้วสรุปความรู้เป็น ความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง หน้าที่ในการอนุเคราะห์ บุตรธิดาของบิดามารดา ให้ศึกษาศิลปวิทยา ให้ตั้งอยู่ในความดี ห้ามปรามจากความชั่ว หาคู่ครองที่สมควรให้ มอบทรัพย์สมบัติให้ในโอกาสอันสมควร พฤติกรรมกิเลส เป็นมิจฉาทิฏฐิ คือ เป็นเด็กไม่คิดแบ่งปัน ไม่รู้จักแยกแยะ ทำผิดศีลเป็นนิจ เพราะชอบเอาแต่ใจตน แสดงวจีทุจริต ชอบพูดเท็จ พูดหยาบคาย พูดส่อเสียด
226 8. นักเรียนวิเคราะห์ข้อคิดจากการศึกษาทิศเบื้องหน้า พร้อมบอกแนวทางการปฏิบัติ และผลที่เกิดขึ้น แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 9. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • หลักการปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 มีคุณค่าและความสำคัญอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ มีความสำคัญ คือ สร้างความตระหนักในหน้าที่ของลูกอย่างมีเหตุผล เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดี เพื่อตอบแทนพระคุณของบิดามารดา และเติบโตเป็นพลเมืองดี ของสังคม) ชั่วโมงที่ 2 ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 10. นักเรียนยกตัวอย่างบุคคลรอบตัวและเสนอวิธีปฏิบัติตนตามหลักทิศ 6 ลงในแผนภาพความคิดใน ชิ้นงานที่ 14 เรื่อง ทิศ 6 11. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของชิ้นงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไข การปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดี ตามหลักทิศเบื้องต้น ในทิศ 6 เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ท่าน ช่วยทำกิจของท่าน ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ ประพฤติตนให้เหมาะสม กับความเป็นทายาท ดำรงวงศ์สกุล ข้อคิดหรือหลักธรรมที่ได้จาก การศึกษาทิศเบื้องหน้าในทิศ 6 พ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณต่อลูก เปรียบเหมือนพระอรหันต์ ของลูก ลูกที่ดีควรมีความ กตัญญูกตเวทีต่อท่าน แนวทางการนำไปปฏิบัติ ในชีวิต ปฏิบัติตนเป็นคนดี เชื่อฟัง คำสอนของท่าน เลี้ยงดูท่าน ยามท่านเจ็บป่วยหรือแก่ชรา ช่วยทำงาน ปฏิบัติตน ที่ทำให้ท่านชื่นใจและเป็น เกียรติแก่วงศ์ตระกูล เป็นต้น ผลที่เกิดขึ้น มีความสุขในชีวิต ประสบผลสำเร็จในหน้าที่ การงาน และการศึกษา ได้รับการชื่นชมจากสังคม และถ้าลูกทุกคนปฏิบัติเช่นนี้ สังคมส่วนรวมก็จะมีความ เจริญรุ่งเรือง
227 ให้ดีขึ้น 12. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ ทิศทั้ง 6 ในพระพุทธศาสนาเป็นการกำหนดบทบาทหน้าที่ของบุคคลที่พึงปฏิบัติต่อกันตามฐานะ หน้าที่ของตนในการอยู่ร่วมกันของบุคคล เพื่อให้เกิดความสงบสุขตามหลักธรรม ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 13. นักเรียนออกมานำเสนอชิ้นงานหน้าชั้นเรียน 14. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 15. นักเรียนเสนอแนวทางการปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 จากนั้นนำข้อมูล มาจัดเป็นป้ายนิเทศ เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่สมาชิกในโรงเรียน 16. นักเรียนประเมินตนเองหลังการเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนรู้ในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ได้อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป ชั่วโมงที่ 3 ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล 1. นักเรียนร่วมกันสนทนา โดยใช้คำถาม 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ 3. นักเรียนจำแนกหน้าที่และความรับผิดชอบของทิศ 6 แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอด ลงในแผนภาพความคิด 4. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทิศเบื้องหน้า (ปุรัตถิมทิส) โดยใช้คำถาม 5. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับหน้าที่ในการอนุเคราะห์บุตรธิดาของบิดามารดา แล้วสรุปความรู้เป็น ความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด 6. นักเรียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ไม่สมบูรณ์ของบิดามารดา โดยใช้คำถาม จากนั้นสรุปคำตอบเป็นแผนภาพความคิด 7. นักเรียนวิเคราะห์หลักการปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 แล้วสรุปความรู้เป็น ความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด
228 8. นักเรียนวิเคราะห์ข้อคิดจากการศึกษาทิศเบื้องหน้า พร้อมบอกแนวทางการปฏิบัติ และผลที่เกิดขึ้น แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด 9. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอดเกี่ยวกับเรื่อง การเป็นลูกที่ดี ตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 10. นักเรียนยกตัวอย่างบุคคลรอบตัวและเสนอวิธีการปฏิบัติตนตามหลักทิศ 6 ลงในแผนภาพความคิดในชิ้นงานที่ 14 เรื่อง ทิศ 6 11. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของชิ้นงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น 12. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ ทิศ 6 เป็นหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งกล่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างกันและกันของ บุคคลประเภทต่าง ๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันทางสังคม หากผู้อยู่ในฐานะลูกสามารถปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดี ตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 ได้ ย่อมก่อให้เกิดความมั่นคงในการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข เพราะ การเป็นลูกที่ดีคือพื้นฐานสำคัญของการเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 13. นักเรียนออกมานำเสนอชิ้นงานหน้าชั้นเรียน 14. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 15. นักเรียนเสนอแนวทางการปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 จากนั้นนำข้อมูล มาจัดเป็นป้ายนิเทศ เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่สมาชิกในโรงเรียน 16. นักเรียนประเมินตนเองหลังการเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนรู้ในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ได้อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป
229 9. สื่อการเรียนการสอน 1. ชิ้นงานที่ 22 เรื่อง ทิศ 2. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 2 การวัดและการประเมินผล การวัดและประเมินผลด้าน วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1.อธิบายเกี่ยวกับการเป็นลูกที่ ดีตามหลักทิศเบื้องต้นในทิศ 6 (K) ตรวจใบงานที่ 22 เรื่อง ทิศ ใบงานที่ 22 เรื่อง ทิศ ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 2.วิเคราะห์และจำแนกทิศ 6 และการปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดี ตามทิศ 6 (P) ตรวจใบงานที่ 22 เรื่อง ทิศ ใบงานที่ 22 เรื่อง ทิศ ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 3.เห็นความสำคัญในการปฏิบัติ ตามหน้าที่ในฐานะลูกที่ดีที่พึง ปฏิบัติต่อบิดามารดาใน ชีวิตประจำวัน) แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม อยู่ในระดับ 3 ขึ้นไป
230 11. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1.1 นักเรียน จำนวน......................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้....................คน คิดเป็นร้อยละ…………............ ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้................คน คิดเป็นร้อยละ....................... นักเรียนไม่ผ่านมีดังนี้…………………………………………………………………………………………….………………………… 1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ(K).................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1.3 นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ(P)....................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม (A)........................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ลงชื่อ…………………………..…………………ครูผู้สอน (นางสาวขวัญนภา ศรีชาติ) ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………../……………./………… 12. ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ……………………………………….. (นางวราภรณ์ อุ่นเที่ยว) ครูพี่เลี้ยง …………../……………./…………
231 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ ……………………………………… รองผู้อำนวยการสถานศึกษาฝ่ายวิชาการ (นายไมตรี ภูสอดสี) …………../……………./………… 12. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะผู้อำนวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………..………………..…… ผู้อำนวยการสถานศึกษา (นาางสาวอารีรัตน์ นุตะภิบาล) …………../……………./…………
232 ภาคผนวก
233 ใบงานที่ 22 เรื่อง ทิศ ให้นักเรียนยกตัวอย่างบุคคลรอบตัวและเสนอวิธีปฏิบัติตนตามหลักทิศ 6 (ตัวอย่างคำตอบ) ทิศ 6 5. ทิศเบื้องล่าง เหฏฐิมทิส 1. ทิศเบื้องหน้า ปุรัตถิมทิส 3. ทิศเบื้องหลัง ปัจฉิมทิส 2. ทิศเบื้องขวา ทักขิณทิส 6. ทิศเบื้องบน อุปริมทิส 4. ทิศเบื้องซ้าย อุตตรทิส ได้แก่ (ครูอาจารย์)๘๘๘๘๘๘ วิธีปฏิบัติตน (เคารพและเชื่อฟัง คำสั่งสอน) ได้แก่ ______________________ วิธีปฏิบัติตน (ยงดูท่านยามแก่ชรา) ได้แก่ (บุตร ภรรยา) วิธีปฏิบัติตน (ดูแลและทำหน้าที่ ของตนให้ดีที่สุด) ได้แก่ (พระภิกษุ) วิธีปฏิบัติตน (เคารพและปฏิบัติตน ให้เหมาะสม) ได้แก่ (มิตสหาย)๘๘๘๘๘๘๘๘ วิธีปฏิบัติตน (ให้ความจริงใจ แนะนำแต่ทางที่ดี) ได้แก่ (ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และลูกจ้าง)๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘๘ วิธีปฏิบัติตน (ให้เกียรติซึ่งกันและกัน) ถ้าทุกคนในโลกปฏิบัติต่อกันอย่างเหมาะสมจะเกิดผลอย่างไร (สังคมโลกจะสงบสุข)
234 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 มรรยาทของพุทธศาสนิกชนที่ดี เวลาเรียน 3 ชั่วโมง เรื่อง มรรยาทของพุทธศาสนิกชนที่ดี เวลา 3 ชั่วโมง สอนวันที่.....................เดือน...................................พ.ศ.................... *************************************************************************************************1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ส 1.2 เข้าใจ ตระหนักและปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธำรงรักษาพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ 2. ตัวชี้วัด ส 1.2 ม.2/2 มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชนที่ดีตามที่กำหนด 3. สาระสำคัญ การต้อนรับประกอบด้วย อามิสปฏิสันถารและธรรมปฏิสันถาร ซึ่งเป็นการต้อนรับแขก การทักทาย ปราศรัยแขก และการเป็นแขกที่ดีควรปฏิบัติตนให้เป็นผู้มีมรรยาทที่ดีงาม 4. จุดประสงค์ 1. อธิบายเกี่ยวกับมรรยาทการต้อนรับมรรยาทของผู้เป็นแขก และการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุสงฆ์(K) 2. วิเคราะห์และจำแนกมรรยาทการต้อนรับ มรรยาทของผู้เป็นแขก และการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ สงฆ์(P) 3. เห็นความสำคัญในการปฏิบัติตนในการเป็นผู้มีมรรยาทในการต้อนรับและการเป็นแขกที่ดีใน ชีวิตประจำวัน (A) 5. สาระการเรียนรู้ 1. การต้อนรับ (ปฏิสันถาร) 2. มรรยาทของผู้เป็นแขก 3. การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ 4. การแต่งกาย 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2.มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ : GPAS 5 Steps ชั่วโมงที่ 1 ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล 1. นักเรียนสังเกตภาพที่กำหนด แล้วร่วมกันสนทนาโดยใช้คำถาม ดังนี้
235 • ภาพดังกล่าวคือภาพใด (ตัวอย่างคำตอบ ภาพเจ้าบ้านทักทายแขกผู้มาเยือนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม) • นักเรียนเคยปฏิบัติตนตามภาพหรือไม่ (เคย) • การปฏิบัติตนตามภาพก่อให้เกิดผลอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เกิดความเจริญต่อเจ้าบ้านและผู้ มาเยือน เป็นผู้มีมรรยาทที่ดี) 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การต้อนรับ (ปฏิสันถาร) และมรรยาทของผู้เป็น แขก จากหนังสือเรียนและแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ 3. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการต้อนรับ (ปฏิสันถาร) โดยใช้คำถาม ดังนี้ • การปฏิสันถารคืออะไร (ตัวอย่างคำตอบ ปฏิสันถาร คือ วิธีการต้อนรับแขก) • อามิสปฏิสันถาร หมายถึง การปฏิสันถารในลักษณะใด (ตัวอย่างคำตอบ อามิสปฏิสันถาร ได้แก่ การต้อนรับด้วยวัตถุสิ่งของ เช่น ข้าว น้ำ ผลไม้) • ธรรมปฏิสันถาร หมายถึง การปฏิสันถารในลักษณะใด (ตัวอย่างคำตอบ ธรรมปฏิสันถาร คือ การต้อนรับด้วยการให้ความรู้ หรือสนทนาธรรม) • การปฏิสันถารทั้ง 2 ลักษณะมีความสำคัญอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ มีความสำคัญในด้านการสร้างมิตรสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของบ้านและแขก ที่มาเยือน) 4. นักเรียนจำแนกลักษณะของการต้อนรับ (ปฏิสันถาร) ว่ามีอะไรบ้าง แล้วสรุปความรู้เป็น ความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง การต้อนรับแขกด้วยสิ่งของ เช่น น้ำดื่ม อาหาร การต้อนรับแขกด้วยสถานที่พักอาศัย อามิสปฏิสันถาร ธรรมปฏิสันถาร ปฏิสันถาร การสอบถามสารทุกข์สุกดิบ การแสดงความเคารพต่อกัน การเชื้อเชิญด้วยความเต็มใจ การแสดงออกด้วยจิตมิตรไมตรี
236 5. นักเรียนเปรียบเทียบระหว่างอามิสปฏิสันถาร และธรรมปฏิสันถารว่ามีความเหมือน และความแตกต่างกันอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 6. นักเรียนวิเคราะห์ลักษณะมรรยาทของผู้เป็นแขกว่า ควรปฏิบัติอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็นความคิด รวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 7. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับมรรยาทของผู้เป็นแขกว่า ถ้าปฏิบัติจะเกิดผลอย่างไร และถ้าไม่ปฏิบัติจะ เกิดผลอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง อามิสปฏิสันถาร ธรรมปฏิสันถาร เหมือน การต้อนรับแขก ที่มาเยือนด้วยสิ่งของ การต้อนรับแขก ที่มาเยือนด้วยธรรม เป็นการต้อนรับแขก และการทักทาย แขกผู้มาเยือน มรรยาทของผู้เป็นแขก บอกกล่าวล่วงหน้า ควรมีของฝากติดไม้ติดมือไปด้วย ตรงต่อเวลา แสดงความเคารพเจ้าบ้านตามสมควรแก่ฐานะ แนะนำตัวและแจ้งความประสงค์ แสดงกิริยามรรยาทที่เหมาะสม เมื่อเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วควรลากลับ
237 8. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • นักเรียนจะแสดงการต้อนรับอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าเป็นเจ้าบ้านที่ดี (ตัวอย่างคำตอบ ยิ้มแย้มแจ่มใสต่อผู้มาเยือน กล่าวขอบคุณ และจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม ไว้ให้ผู้มาเยือน) ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 9. นักเรียนเขียนเสนอแนวทางปฏิบัติการเป็นเจ้าของบ้านที่ดีและผู้เป็นแขกที่ดี ลงในแผนภาพความคิดในชิ้นงานที่ 15 เรื่อง แนวทางการต้อนรับและมรรยาทของผู้เป็นแขก 10. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของชิ้นงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น 11. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ การต้อนรับประกอบด้วยอามิสปฏิสันถารและธรรมปฏิสันถาร ซึ่งเป็นการต้อนรับแขก การทักทาย ปราศรัยแขก และการเป็นแขกที่ดีควรปฏิบัติตนให้เป็นผู้มีมรรยาทที่ดีงาม ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 12. นักเรียนออกมานำเสนอชิ้นงานหน้าชั้นเรียน 13. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 14. นักเรียนประเมินตนเองหลังการเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้มากน้อยเพียงใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนรู้ในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไปได้อย่างไร ถ้าปฏิบัติ มารยาทของผู้เป็นแขก • ทำให้ผู้ที่นัดหมายมีเวลาเตรียมตัว • ผู้ที่นัดหมายจะได้ไม่รอนาน แสดงออกถึงความมีน้ำใจ ผลที่เกิดขึ้น • อาจจะไม่พบผู้ที่จะไปพบ • ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคมด้วย ถูกมองว่าไม่มีน้ำใจ ผลที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ปฏิบัติ 1. บอกกล่าวล่วงหน้า 2. ควรมีของฝาก 3. ตรงต่อเวลา
238 จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป ชั่วโมงที่ 2 เรื่อง การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล 1. นักเรียนสังเกตภาพที่กำหนดให้ แล้วร่วมกันสนทนา โดยใช้คำถาม ดังนี้ ภาพดังกล่าวคือภาพอะไร (การกราบไหว้พระภิกษุ) • นักเรียนเคยปฏิบัติตนตามภาพดังกล่าวหรือไม่ (เคย) • การรู้จักปฏิบัติตนตามภาพก่อให้เกิดผลอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมและมรรยาทของไทยตามแบบพุทธศาสนิกชนที่ดี) 2. นักเรียนศึกษา และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ จากหนังสือเรียน และแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม 3. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับลักษณะการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุว่ามีรูปแบบใดบ้าง แล้วสรุปความรู้ เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง การปฏิบัติตน ต่อพระภิกษุ การเดินสวน เป็นการแสดงออกถึง ความเคารพ กิริยา มรรยาทสุภาพอ่อนน้อม การให้ที่นั่ง เป็นการแสดงออกถึง ความเอื้อเฟื้อต่อพระภิกษุ การยืน เป็นการแสดงความเคารพ ต่อพระภิกษุ การสนทนา เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงกิริยา อาการที่เรียบร้อยสำรวม ใช้ถ้อยคำสุภาพตาม ความเหมาะสม การรับสิ่งของ เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ ให้ถูกต้องและเหมาะสม
239 4. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับข้อดีของการเป็นผู้มีมรรยาทตามหลักพุทธศาสนิกชนที่ดี แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 5. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • นักเรียนคิดว่าการเป็นผู้มีมรรยาทดีตามอย่างพุทธศาสนิกชนที่ดี สามารถทำได้อย่างไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ การปฏิบัติตนอย่างสุภาพเรียบร้อย และมีมรรยาทต่อพระภิกษุ เช่น การประนมมือขณะที่ สนทนากับพระภิกษุ และใช้ถ้อยคำที่สุภาพเหมาะสม) ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 6. นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับการปฏิบัติตนอย่างมีมรรยาทกับพระภิกษุว่าถ้าปฏิบัติจะเกิดผลอย่างไร และถ้าไม่ปฏิบัติจะเกิดผลอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง ข้อดีของการ เป็นผู้มีมรรยาทตามหลัก พุทธศาสนิกชนที่ดี เป็นการอนุรักษ์ มรรยาทไทย มีคนยกย่องนับถือ เป็นที่รักของทุกคน เกิดความเจริญ แก่ตนเองและสังคม ถ้าปฏิบัติ การปฏิบัติตน อย่างมีมรรยาทกับพระภิกษุ (เป็นผู้มีมรรยาทตามหลักพุทธศาสนิกชน ที่ดี) ผลที่เกิดขึ้น (เป็นผู้ไม่มีมรรยาท ขาดจิตสำนึก ในการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี) ผลที่เกิดขึ้น ถ้าไม่ปฏิบัติ
240 7. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของผลงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น 8. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ พระภิกษุ เป็นผู้ดำรงตนอยู่ในฐานะผู้สืบทอดพระพุทธศาสนา เป็นปูชนียบุคคลที่พุทธศาสนิกชน ทุกคนควรให้ความเคารพ ดังนั้นการปฏิบัติตนให้เหมาะสมต่อพระภิกษุเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง ขั้นที่4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 9. นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 10. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงานที่มี แบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 11. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทำกิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไปได้ อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิด ประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป ชั่วโมงที่ 3 การแต่งกาย 1. นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับมรรยาทในการแต่งกาย โดยใช้คำถาม ดังนี้ • การแต่งกายโดยพื้นฐานที่ถูกต้องควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง ตัวอย่างคำตอบ 1.ความสะอาดของชุดที่สวมใส่และร่างกาย 2.ความสุภาพเรียบร้อย 3.ความถูกต้อง กาลเทศะเหมาะสมกับงานและสถานที่) • ข้อที่ควรปฏิบัติในการแต่งกายต้องคำนึงถึงสิ่งใดบ้าง ตัวอย่างคำตอบ 1. ให้เหมาะสมกับลักษณะงานที่จะไป เช่น งานมงคลก็ควรใส่สีสดใส งานอวมงคล ถ้าเป็นงานศพก็ควรใส่สีดำหรือสีขาว 2. ให้เหมาะสมกับความสำคัญของงาน เช่น งานระหว่างเพื่อนฝูง งานรัฐพิธี ถ้าเป็นงานศพ ก็ต้องดูว่าเป็นงานศพทั่วไปหรืองานศพพระราชทาน 3. ให้เหมาะสมกับเวลา เช่น เป็นงานราตรีสโมสรหรืองานกลางคืนธรรมดา 4. ให้เหมาะสมกับฐานะและหน้าที่ เช่น เป็นครู เป็นนักร้อง เป็นหัวหน้า เป็นคนรับใช้ 5. ให้เหมาะสมกับวัย เช่น เป็นผู้สูงอายุก็ไม่ควรแต่งเป็นวัยรุ่นเกินไป เป็นเด็กก็ไม่ควรแต่งให้เป็น ผู้ใหญ่เกินไป 6. ให้เหมาะสมกับยุคและสมัยนิยม ไม่นำสมัยเกินไปหรือล้าสมัยเกินไป
241 7. พึงแต่งกายให้สมเกียรติกับงานที่ได้รับเชิญ) 2. นักเรียนศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การแต่งกาย จากหนังสือเรียน และแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ เพิ่มเติม ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ 3. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งกาย โดยใช้คำถาม ดังนี้ • นักเรียนเคยแต่งกายไปวัดอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ เสื้อยืด กางเกงยีน) • การแต่งกายของนักเรียนเหมาะสมหรือไม่ เพราะอะไร (ตัวอย่างคำตอบ เหมาะสม เพราะเป็นชุดที่สุภาพ ไม่โป๊) • การแต่งกายไปวัดที่เหมาะสมควรแต่งกายอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ แต่งกายสุภาพ ผู้ชายสวมกางเกงขายาว ผู้หญิงสวมกระโปรงไม่สั้นจนเกินไป คอ เสื้อไม่เว้าลึก) • การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะสมไปวัดช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้นได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ มีความมั่นใจ ผู้ใหญ่เห็นแล้วชื่นชมในการแต่งกายที่เหมาะสม) 4. นักเรียนจำแนกลักษณะการแต่งกาย แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอด ลงในแผนภาพความคิด 5. นักเรียนเปรียบเทียบการแต่งกายระหว่างงานมงคล และงานอวมงคลว่ามีความเหมือน และความแตกต่างกันอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง 6. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด โดยใช้คำถาม ดังนี้ • นักเรียนจะแต่งกายอย่างไรให้ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนิกชนที่ดี (ตัวอย่างคำตอบ แต่งกายถูกต้องตามกาลเทศะ) ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ 7. นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อวิเคราะห์เกี่ยวกับการแต่งกายที่เหมาะสมว่า ถ้าปฏิบัติจะเกิดผลอย่างไร และถ้าไม่ปฏิบัติจะเกิดผลอย่างไร แล้วสรุปความรู้เป็นความคิดรวบยอดลงในแผนภาพความคิด ดังตัวอย่าง งานมงคล งานอวมงคล เหมือน แต่งกายสวยงาม สุภาพ เรียบร้อย สีสัน สดใส ดูแล้วสบายตา เหมาะสมกับงาน และสถานที่ แต่งกายตามสมัยนิยม สีเข้ม สุภาพ เรียบร้อย แต่งกายให้เหมาะสม กับกาลเทศะ
242 8. นักเรียนตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยของผลงาน หากพบข้อผิดพลาดให้ปรับปรุงแก้ไข ให้ดีขึ้น 9. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ การแต่งกายเป็นมรรยาททางสังคมที่ทุกคนพึงปฏิบัติ เป็นการแสดงถึงขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมที่ดีงามของสังคม ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ 10. นักเรียนออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน 11. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ 12. นักเรียนร่วมกันเสนอแนวทางการปฏิบัติตนเป็นผู้มีมรรยาทที่ดี และนำข้อมูลไปติดไว้ที่ป้ายนิเทศ หน้าชั้นเรียน เพื่อเป็นการแบ่งปันความรู้ให้เพื่อนในโรงเรียน และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้ 13. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียนและหลังการทำกิจกรรม ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพื่อนนักเรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นักเรียนพอใจกับการเรียนในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ได้อย่างไร ถ้าปฏิบัติ ลักษณะการแต่งกายที่เหมาะสม • ผลที่เกิดขึ้น (แสดงถึงผู้มีมรรยาทที่ดี และเป็นการปฏิบัติตนตามวัฒนธรรม ของไทย ได้รับคำชมเชยจากผู้ที่พบเห็นว่า ปฏิบัติตนเหมาะสมและถูกต้อง) ถ้าไม่ปฏิบัติ (แต่งกายให้ถูกต้องตามกาลเทศะ และให้เกียรติแก่สถานที่และเจ้าภาพ ที่เชิญมาร่วมงาน เช่น ถ้าไปงานอวมงคล (งานศพ) ควรจะแต่งกายสีดำหรือขาว แต่ถ้าไปงานมงคลควรแต่งกายสีสันสดใส สุภาพและสวยงาม) • ผลที่เกิดขึ้น (เกิดความไม่เหมาะสม ไม่ถูกกาลเทศะ และเป็นการไม่ให้เกียรติ แก่เจ้าภาพ ได้รับการตำหนิจากคนในสังคม)
243 จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป 9. สื่อการเรียนการสอน 1. ชิ้นงานที่ 22 เรื่อง ทิศ 2. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ม. 2 การวัดและการประเมินผล การวัดและประเมินผลด้าน วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. อธิบายเกี่ยวกับมรรยาทการ ต้อนรับมรรยาทของผู้เป็นแขก และการปฏิบัติตนต่อพระภิกษุ สงฆ์ (K) ตรวจใบงานที่ 23 เรื่อง มรรยาทชาวพุทธ สรุปความคิดรวบยอด การปฏิสันถาร ใบงานที่ 23 เรื่อง มรรยาทชาวพุทธ สรุปความคิดรวบยอด การปฏิสันถาร ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 2. วิเคราะห์และจำแนก มรรยาทการต้อนรับ มรรยาท ของผู้เป็นแขก และการปฏิบัติ ตนต่อพระภิกษุสงฆ์ (P) ตรวจใบงานที่ 23 เรื่อง มรรยาทชาวพุทธ สรุปความคิดรวบยอด การปฏิสันถาร ใบงานที่ 23 เรื่อง มรรยาทชาวพุทธ สรุปความคิดรวบยอด การปฏิสันถาร ตอบคำถามถูกมาก มากกว่าร้อยละ 70 3. เห็นความสำคัญในการปฏิบัติ ตนในการเป็นผู้มีมรรยาทในการ ต้อนรับและการเป็นแขกที่ดีใน ชีวิตประจำวัน (A) แบบสังเกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม อยู่ในระดับ 3 ขึ้นไป
244 11. บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1.1 นักเรียน จำนวน......................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้....................คน คิดเป็นร้อยละ…………............ ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้................คน คิดเป็นร้อยละ....................... นักเรียนไม่ผ่านมีดังนี้…………………………………………………………………………………………….………………………… 1.2 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ(K).................................................................................................................... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1.3 นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ(P)....................................................................................................................... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรม (A)........................................................................................ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................ ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................................ ............................................................................................................................. ................................................ ลงชื่อ…………………………..…………………ครูผู้สอน (นางสาวขวัญนภา ศรีชาติ) ตำแหน่ง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู …………../……………./………… 12. ความคิดเห็นครูพี่เลี้ยง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ……………………………………….. (นางวราภรณ์ อุ่นเที่ยว) ครูพี่เลี้ยง …………../……………./…………