The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pradipatt62, 2024-02-13 00:58:42

แผนการจัดการเรียนรู้ วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6

แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 243 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง คุณค่าของเพลงพื้นบ้าน ชั่วโมงที่ 1-2 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน ท 5.1 ป.6/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ เพลงพื้นบ้านเป็นเพลงที่สร้างสรรค์เนื้อร้องและทำนองโดยผู้คนในแต่ละภูมิภาค เนื้อหาจึงสะท้อนความเป็น ท้องถิ่น เช่น วิถีชีวิต ความเชื่อ พิธีกรรม สิ่งเหล่านี้เป็นคุณค่าของเพลงพื้นบ้านนอกจากความเพลิดเพลิน 3. คำถามจุดประกาย เนื้อหาของเพลงพื้นบ้านบอกเล่าเรื่องราวใดบ้าง และเรื่องราวนั้นมีประโยชน์อย่างไร 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านได้ 2. บอกคุณค่าและสิ่งที่ได้รับจากเพลงพื้นบ้านได้ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ คุณค่าของเพลงพื้นบ้าน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูตกแต่งห้องเรียนให้มีบรรยากาศแบบพื้นบ้าน โดยใช้วัสดุต่าง ๆ ให้นักเรียนนั่งเป็นกลุ่ม ๆ แล้วสอบถาม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 244 เกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านที่ศึกษา โดยให้บอกว่า ศึกษาเพลงพื้นบ้านภาคใด เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด ท่วงทำนองเป็นอย่างไร 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 2. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มเลือกศึกษาเพลงพื้นบ้านแต่ละภาค ภาคใดก็ได้1 เพลง จากหนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 124- 129) แจกกระดาษ flip chart ให้สมาชิกเขียนเนื้อเพลง ร่วมกันทำความเข้าใจเนื้อหา บอกสิ่งที่สะท้อนผ่านบทเพลง เช่น ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม อัตลักษณ์ของภูมิภาค และผู้คน ส่งตัวแทนนำเสนอข้อมูล 3. ครูให้นักเรียนสนทนาเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านที่เพื่อนศึกษา โดยให้บอกว่า เป็นของภูมิภาคใดบ้าง มีภูมิภาคใด มากที่สุด เนื้อหาเกี่ยวข้องกับเรื่องใด และเกี่ยวข้องกับเรื่องใดมากที่สุด 4. ครูให้กลุ่มที่ศึกษาเพลงพื้นบ้านเพลงเดียวกันเข้ากลุ่มใหญ่เพื่อแลกเปลี่ยน อภิปรายข้อมูล จากนั้นกลุ่มใหญ่ แต่ละกลุ่ม นำกระดาษที่เขียนเนื้อเพลงเลือกแผ่นที่อ่านง่ายมาติดบนกระดาน อ่านออกเสียงเนื้อเพลง ส่งตัวแทนอธิบาย ข้อมูลที่ได้จากการอภิปรายร่วมกัน 5. ครูให้นักเรียนร่วมกันตอบคำถาม - เรื่องราวที่สะท้อนผ่านเพลงพื้นบ้านของแต่ละภูมิภาคมีลักษณะอย่างไร - เมื่อพิจารณาในด้านภาษา เพลงพื้นบ้านแตกต่างจากบทร้อยกรองอย่างไร - ความไพเราะด้านภาษาของเพลงพื้นบ้านมีลักษณะอย่างไร สุ่มเรียกนักเรียนแสดงความคิดเห็นว่า เพลงพื้นบ้านมีแนวโน้มที่ผู้คนจะรู้จักน้อยลงหรือไม่ เพราะเหตุใด จะมีส่วนในการ แก้ไขปัญหาอย่างไร แล้วตอบคำถามทบทวนชวนคิด โดยขออาสาสมัครเขียนคำตอบบนกระดาน กลุ่มละ 1 ข้อ 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 6. ครูให้นักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับเพลงสิกจุ่งจา เพลงเซิ้งบั้งไฟ เพลงพวงมาลัย และเพลงเรือ โดยเปรียบเทียบ ความเหมือนและความต่าง นำเสนอเป็นตารางสรุปร่วมกันบนกระดาน จากนั้นสรุปคุณค่าของเพลงพื้นบ้านที่มีต่อ สังคมไทย 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 7. ครูให้นักเรียนระดมความคิดเลือกศึกษาวัฒนธรรมท้องถิ่นประเภทใดก็ได้เช่น เพลงพื้นบ้าน การละเล่น พื้นบ้าน อาหารพื้นบ้าน การแต่งกายพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน การแสดงพื้นบ้าน ภาษาถิ่น กลุ่มละ 1 หัวข้อ รวบรวมและ เรียบเรียงเนื้อหา ใช้เทคโนโลยีอย่างง่าย เช่น PowerPoint นำเสนอข้อมูลโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อประชาสัมพันธ์และ อนุรักษ์นำส่งเป็นรายกลุ่ม 8. ครูให้นักเรียนทำใบกิจกรรมและแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 3. อินเทอร์เน็ต 4. ใบกิจกรรม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 245 ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง เพลงพื้นบ้านเป็นเพลงประจำท้องถิ่น สร้างสรรค์คำร้องและทำนองโดยคนต่างภูมิภาค .................................................................................................................................................................. ............. เพลงพื้นบ้านจะสะท้อนความเป็นท้องถิ่น เช่น ความเชื่อ ประเพณี อาชีพ สภาพภูมิประเทศ .................................................................................................................................................................. ............. เนื้อหาของเพลงพื้นบ้านมีทั้งความสนุกสนาน ตลกขบขัน เสียดสีสังคม โศกเศร้า หรือเกี้ยวพาราสี .................................................................................................................................................................. ............. ความเป็นท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาคจะบอกเล่าผ่านคำร้องที่เป็นภาษาถิ่นตามแต่ละท้องถิ่น .................................................................................................................................................................. ............. เพลงร้องเล่น สิกจุ่งจา เป็นเพลงพื้นบ้านที่สะท้อนคุณค่าด้านอารมณ์ คือ ความรักของแม่ที่มีต่อลูก .................................................................................................................................................................. ............. ความเชื่อเรื่องผี ความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เป็นความเชื่อที่ถูกกล่าวถึงในเพลงพื้นบ้าน .................................................................................................................................................................. ............. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ในเพลงพื้นบ้าน คือ การคิดคำร้องที่มีสัมผัสคล้องจอง เกิดความไพเราะด้านเสียง .................................................................................................................................................................. ............. เพลงพื้นบ้านในทุกภูมิภาคจะถ่ายทอดหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนาเพียงอย่างเดียว .................................................................................................................................................................. ............. ออ น้อง หนา ขอน้อมหัตถ์นมัสการท่านอาจารย์ผู้ประสาท สะท้อนลักษณะนิสัยของคนไทย .................................................................................................................................................................. ............. ขึ้นดอยหน้อย ขึ้นดอยหลวง เนื้อหาของเพลงสะท้อนสภาพภูมิประเทศของภาคเหนือ .................................................................................................................................................................. .............


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 246 เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง เพลงพื้นบ้านเป็นเพลงประจำท้องถิ่น สร้างสรรค์คำร้องและทำนองโดยคนต่างภูมิภาค .................................................................................................................................................................. ............. เพลงพื้นบ้านจะสะท้อนความเป็นท้องถิ่น เช่น ความเชื่อ ประเพณี อาชีพ สภาพภูมิประเทศ .................................................................................................................................................................. ............. ✓ เนื้อหาของเพลงพื้นบ้านมีทั้งความสนุกสนาน ตลกขบขัน เสียดสีสังคม โศกเศร้า หรือเกี้ยวพาราสี .................................................................................................................................................................. ............. ✓ ความเป็นท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาคจะบอกเล่าผ่านคำร้องที่เป็นภาษาถิ่นตามแต่ละท้องถิ่น .................................................................................................................................................................. ............. ✓ เพลงร้องเล่น สิกจุ่งจา เป็นเพลงพื้นบ้านที่สะท้อนคุณค่าด้านอารมณ์ คือ ความรักของแม่ที่มีต่อลูก .................................................................................................................................................................. ............. ความเชื่อเรื่องผี ความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เป็นความเชื่อที่ถูกกล่าวถึงในเพลงพื้นบ้าน .................................................................................................................................................................. ............. ✓ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ในเพลงพื้นบ้าน คือ การคิดคำร้องที่มีสัมผัสคล้องจอง เกิดความไพเราะด้านเสียง .................................................................................................................................................................. ............. ✓ เพลงพื้นบ้านในทุกภูมิภาคจะถ่ายทอดหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนาเพียงอย่างเดียว .................................................................................................................................................................. ............. ออ น้อง หนา ขอน้อมหัตถ์นมัสการท่านอาจารย์ผู้ประสาท สะท้อนลักษณะนิสัยของคนไทย .................................................................................................................................................................. ............. ✓ ขึ้นดอยหน้อย ขึ้นดอยหลวง เนื้อหาของเพลงสะท้อนสภาพภูมิประเทศของภาคเหนือ .................................................................................................................................................................. ............. ✓ x x x เพลงพื้นบ้านเป็นเพลงประจำท้องถิ่น สร้างสรรค์คำร้องและทำนองโดยคนในแต่ละภูมิภาค เพลงร้องเล่น สิกจุ่งจา เป็นเพลงพื้นบ้านที่สะท้อนคุณค่าด้านสังคม เกี่ยวกับวิถีการดำเนินชีวิต เพลงพื้นบ้านจะถ่ายทอดเนื้อหาที่หลากหลาย หลักธรรมในศาสนาเป็นหนึ่งในเนื้อหาที่ปรากฏในเพลง


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 247 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 248 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 249 เฉลยคำถามทบทวนชวนคิด หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เพลงพื้นบ้าน ปฏิภาณภาษา 1. นักเรียนคิดว่าเนื้อหาของเพลงไทยที่นักเรียนฟังอยู่ในปัจจุบันมีลักษณะเหมือนหรือแตกต่างอย่างไรจากเพลงพื้นบ้าน เนื้อหามีความแตกต่างกัน เพราะเพลงไทยในปัจจุบันนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่เพลงพื้นบ้านนำเสนอเนื้อหาทั้งด้านอารมณ์ สังคม และสติปัญญา 2. นักเรียนคิดว่าเพลงลูกทุ่งของนักร้องปัจจุบันที่ได้รับความนิยม จัดเป็นเพลงพื้นบ้านได้หรือไม่ เพราะเหตุใด เพลงลูกทุ่งบางเพลง มีต้นแบบมาจากเพลงพื้นบ้าน คำร้องมีลักษณะที่ใกล้เคียงกัน เช่น ใช้ภาษาที่สวยงาม มี สัมผัสคล้องจอง 3. นักเรียนคิดว่าเพลงพื้นบ้านของแต่ละท้องถิ่นที่เลือกมาให้เรียนแสดงลักษณะเฉพาะของแต่ละท้องถิ่นอย่างไร เพลงพื้นบ้านภาคเหนือ สะท้อนภาพของลักษณะภูมิประเทศที่เป็นดอย เป็นป่าเขา วิถีชีวิตที่เรียบง่าย เพลง พื้นบ้านภาคอีสาน สะท้อนความเชื่อเรื่องผี การกลับชาติมาเกิด นิสัยที่สนุกสนานของคนในพื้นที่ เพลงพื้นบ้านภาค กลาง สะท้อนวัฒนธรรมการแต่งกาย ภาคใต้ สะท้อนวิถีชีวิต การคมนาคม 4. นักเรียนสามารถอนุรักษ์เพลงพื้นบ้านได้ด้วยวิธีใด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู 5. นักเรียนได้ข้อคิดและประโยชน์อะไรจากเพลงพื้นบ้าน ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 250 แบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เพลงพื้นบ้าน ปฏิภาณภาษา 1. เพลงพื้นบ้านมีลักษณะตรงกับข้อใด 1. เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อปลุกใจ 2. เพลงที่ชาวบ้านแต่งขึ้น 3. เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อโน้มน้าวใจ 4. เพลงที่เป็นสัญลักษณ์ของท้องถิ่น 2. ภาษาที่ใช้ในเพลงพื้นบ้านมีลักษณะตรงกับข้อใด 1. เป็นภาษาที่ใช้สื่อสารในท้องถิ่น 2. เป็นภาษาที่ซับซ้อน 3. เป็นภาษาราชการ 4. ภาษาต่างประเทศ 3. เนื้อหาของเพลงพื้นบ้านไม่เกี่ยวข้องกับข้อใด 1. ประเพณี 2. การเมือง 3. วัฒนธรรม 4. ศาสนา 4. เพลงพื้นบ้านมีการถ่ายทอดตรงกับข้อใด 1. ปากต่อปาก 2. จดใส่สมุด 3. พิมพ์เป็นเอกสาร 4. จารึกบนแผ่นศิลา 5. สถานที่ใดเหมาะสมที่จะขับร้องเพลงพื้นบ้าน 1. ลานวัด 2. หุบเขา 3. ไหล่เขา 4. กลางทะเล 6. ความเชื่อใดปรากฏในเพลงพื้นบ้าน 1. ความเชื่อในตนเอง 2. ความเชื่อทางการเมือง 3. ความเชื่อในการเปลี่ยนแปลง 4. ความเชื่อเรื่องเวรกรรม 7. เพลงพื้นบ้านแบ่งเป็น ๔ ภาค จากข้อความใช้เกณฑ์ใดแบ่งประเภท 1. ภูมิศาสตร์ 2. จำนวนผู้ขับร้อง 3. ท่วงทำนอง 4. ภาษา 8. ข้อใดเป็นเพลงพื้นบ้านที่แบ่งตามโอกาสในการร้อง 1. เพลงสิกจุ่งจา 2. เพลงหมอลำ 3. เพลงซอ 4. เพลงพวงมาลัย 9. เพลงพื้นบ้านในข้อใดขับร้องคนเดียว 1. เพลงกล่อมเด็ก 2. เพลงพวงมาลัย 3. เพลงสงคอลำพวน 4. เพลงนา


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 251 10. ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีประกอบการขับร้องเพลงพื้นบ้านภาคเหนือทุกชิ้น 1. ระนาด ซอ 2. ซึง สะล้อ 3. โปงลาง สะล้อ 4. ปี่ จะเข้ 11. ข้อใดไม่ใช่เพลงพื้นบ้านภาคเหนือ 1. เพลงซอ 2. เพลงเรือ 3. เพลงสิกจุ่งจา 4. เพลงสิกก้องก๋อ 12. เพลงสิกจุ่งจาและเพลงซอมีสิ่งใดแตกต่างกัน 1. เนื้อหา 2. ภาษา 3. ภูมิภาค 4. สถานที่ในการขับร้อง 13. ข้อใดเป็นจุดประสงค์การขับร้องเพลงสิกจุ่งจา 1. ปลุกใจให้ฮึกเหิม 2. บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ 3. สร้างความสนุกสนาน 4. รำพันถึงคนรัก 14. เนื้อหาของเพลงสิกจุ่งจากล่าวถึงเรื่องใด 1. ความสวยงามของหญิงสาว 2. ความสวยงามของธรรมชาติ 3. ความเชื่อเรื่องเวรกรรม 4. วิถีชีวิตความเป็นอยู่ 15. ข้อใดเป็นเนื้อเพลงของเพลงพื้นบ้านภาคเหนือ 1. ผักบุ้งสันตะวา 2. ใส่ซ้าข้างลุ่ม 3. เออระเหยลอยมา 4. ลา ลา ก่อนเด้อ 16. ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีประกอบการขับร้องเพลงพื้นบ้านภาคอีสานทุกชิ้น 1. สะล้อ ซึง 2. พิณ แคน 3. พิณ ระนาด 4. สะล้อ แคน 17. ข้อใดเป็นเพลงพื้นบ้านภาคอีสาน 1. เพลงรำเซิ้ง เพลงโคราช 2. เพลงโคราช เพลงซอ 3. เพลงซอ เพลงสิกจุ่งจา 4. เพลงเรือ เพลงพวงมาลัย 18. เนื้อหาของเพลงเซิ้งบั้งไฟกล่าวถึงความเชื่อเรื่องใด 1. ความเชื่อเรื่องเวรกรรม 2. ความเชื่อเรื่องการสั่งสมบุญ 3. ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย 4. ความเชื่อเรื่องวาสนา


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 252 19. ข้อใดเป็นเนื้อเพลงของเพลงพื้นบ้านภาคอีสาน 1. บะลาจุ่งจ้อย 2. ตายเป็นผีกะสินำมาหลอก 3. สองมือแม่ก็นุ่งผ้าลาย 4. เออเหย ขอถาม 20. ข้อใดเป็นลักษณะของเพลงหมอลำ 1. เนื้อหาโศกเศร้า ทำนองสนุกสนาน 2. เน้นการเกี้ยวพาราสี 3. นิยมร้องในวันสงกรานต์ 4. ถ่ายทอดความเชื่อเรื่องเวรกรรม 21. ข้อใดเป็นเพลงที่ต้องมีลูกคู่ร้องรับ 1. เพลงพวงมาลัย 2. เพลงสิกจุ่งจา 3. เพลงสิกก้องก๋อ 4. เพลงหมอลำ 22. ข้อใดกล่าวถูกต้อง 1. เพลงสิกจุ่งจาเป็นเพลงพื้นบ้านภาคอีสาน 2. เพลงสงคอลำพวนเป็นเพลงพื้นบ้านภาคกลาง 3. เพลงเรือเป็นเพลงพื้นบ้านภาคอีสาน 4. เพลงเรือเป็นเพลงพื้นบ้านภาคเหนือ 23. ข้อใดเป็นหน้าที่ของลูกคู่ 1. ขึ้นต้นวรรคแรกของเพลง 2. ร้องวรรคสุดท้ายของเพลง 3. ปรบมือให้จังหวะ 4. ปรบมือให้จังหวะและร้องรับ 24. ข้อใดเป็นเพลงพื้นบ้านภาคใต้ 1. เพลงสิกจุ่งจา เพลงเรือ 2. เพลงสงคอลำพวน เพลงสิกจุ่งจา 3. เพลงเรือ เพลงนา 4. เพลงนา เพลงพวงมาลัย 25. ข้อใดเป็นวรรคแรกของเพลงเรือ 1. เออเหย ขอถาม 2. ออ น้อง หนา 3. เออระเหยลอยมา 4. สิกจุ่งจา 26. ข้อใดเป็นเครื่องดนตรีประกอบการขับร้องเพลงพื้นบ้านภาคใต้ทุกชิ้น 1. สะล้อ ซึง 2. โปงลาง แคน 3. กรับ แคน 4. แตร ปี่ 27. ข้อใดเป็นลักษณะเฉพาะของเพลงพื้นบ้านภาคใต้ 1. ทำนองเนิบนาบ 2. ทำนองสนุกสนาน 3. ทำนองการร้องเร็ว หนักแน่น คึกคัก 4. ทำนองการร้องเนิบนาบสลับสนุกสนาน


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 253 28. ท้ายไฟ มีความหมายตรงกับข้อใด 1. วรรคสุดท้ายของเพลง 2. ลูกเพลง 3. วรรคแรกของเพลง 4. ผู้เล่นดนตรีประกอบการขับร้อง 29. ข้อใดสะท้อนความเชื่อ 1. เอ่ยเอื้อนวาจา 2. รับรักพี่ชายนะนวลเอย 3. ขอเหล้าเด็ดนำเจ้าจักโอ 4. ชาติหน้าขอเป็นขวัญใจ 30. ข้อใดปรากฏสัมผัสในที่เป็นสัมผัสสระมากที่สุด 1. หวังจะได้เคียงข้างแม่นางเอ๋ยใน 2. มีคู่หรือยัง 3. คนไม่รู้จักเที่ยวทักถามหา 4. ชาตินี้ขอเป็นขวัญตา เฉลย ๑. 2 ๒. 1 ๓. 2 ๔. 1 ๕. 1 ๖. 4 ๗. 1 ๘. 4 ๙. 1 ๑๐. 2 ๑๑. 2 ๑๒. 1 ๑๓. 3 ๑๔. 4 ๑๕. 2 ๑๖. 2 ๑๗. 1 ๑๘. 3 ๑๙. 2 ๒๐. 1 ๒๑. 1 ๒๒. 2 ๒๓. 4 ๒๔. 3 ๒๕. 1 ๒๖. 4 ๒๗. 3 ๒๘. 2 ๒๙. 4 ๓๐. 1


หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 นิทานพื้นบ้านเปรียบเทียบ จำนวน 9 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้าน ชั่วโมงที่ 1 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง 2. สาระสำคัญ นิทานพื้นบ้าน เป็นวรรณกรรมมุขปาฐะ หรือเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาในแต่ละภูมิภาค เนื้อหาสะท้อนให้เห็นวิถี ชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี และความเป็นอยู่ของผู้คน การเล่านิทานพื้นบ้านในภาคต่าง ๆ จะใช้ภาษาถิ่นของภูมิภาคนั้น 3. คำถามจุดประกาย นิทานพื้นบ้านมีลักษณะร่วมกับเพลงพื้นบ้านอย่างไร 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านได้ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ ความรู้เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้าน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูเขียนคำ พื้นบ้าน บนกระดาน ให้นักเรียนพิจารณาว่านำไปประกอบกับคำใดได้บ้าง เช่น เพลงพื้นบ้าน


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 255 นิทานพื้นบ้าน การแสดงพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน อาหารพื้นบ้าน ขออาสาสมัครเขียนคำบนกระดาน 2. ครูขออาสาสมัครเล่าเรื่องย่อของนิทานที่เคยฟัง จากนั้นให้ร่วมกันตอบคำถามโดยการคาดคะเนว่า นิทาน พื้นบ้านแตกต่างจากนิทานประเภทอื่น ๆ อย่างไร ครูเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง 3. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับประเภทของนิทานพื้นบ้าน โดยบอกประเภทและยกตัวอย่าง เช่น นิทานพื้นบ้าน ประเภทนิทานประจำถิ่น เรื่อง เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก พระยากง พระยาพาน 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 4. ครูให้นักเรียนศึกษาหัวข้อ ความรู้เกี่ยวกับนิทานพื้นบ้าน และกรอบเสริมความรู้ จากหนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 ของ สสร. (หน้า 135-136) แล้วบอกใจความสำคัญ 5. ครูเขียนคำเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้าน เช่น มุขปาฐะ แต่งเติมเนื้อเรื่อง โครงเรื่อง เหตุการณ์ ฉาก ตัวละคร บน กระดาน ให้นักเรียนสนทนา อธิบายความรู้ หรือขยายความเกี่ยวกับคำ ครูตรวจสอบชี้แนะเพิ่มเติม 6. ครูอ่านหรือเล่านิทานพื้นบ้านประเภทใด ของภูมิภาคใดก็ได้ให้นักเรียนฟัง ขออาสาสมัครเล่าเรื่องย่อ จากนั้น แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ร่วมกันเขียนแผนภาพโครงเรื่องแสดงองค์ประกอบของนิทาน ลงกระดาษ flip chart 7. ครูให้แต่ละกลุ่มนำกระดาษมาติดบนกระดานแล้วพิจารณาว่า องค์ประกอบของนิทานที่แต่ละกลุ่มวิเคราะห์ ได้จากการฟังเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ระบุโครงเรื่องร่วมกันอีกครั้ง ขออาสาสมัครเขียนบนกระดาน ครูตรวจสอบ และชี้แนะ 8. ครูให้ความรู้เพิ่มเติมว่า นิทานพื้นบ้านจะมีองค์ประกอบเช่นเดียวกัน แต่ในบางประเภท เช่น นิทานอธิบาย เหตุ นิทานผี นิทานปริศนา นิทานลูกโซ่ อาจไม่ได้นำเสนอข้อคิดซึ่งเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของนิทานไว้เป็นประเด็น หลัก จากนั้นร่วมกันตอบคำถาม นิทานพื้นบ้านจะสะท้อนเรื่องราวต่าง ๆ เช่น วิถีชีวิต ค่านิยม ความเชื่อ หรือข้อคิด มา สู่ผู้อ่านได้อย่างไร 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 9. ครูให้นักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับนิทานอีสปและนิทานพื้นบ้าน โดยทบทวนเนื้อหาของนิทานอีสปที่เคยฟัง และนิทานพื้นบ้านที่ครูเล่า เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างลงในตารางสรุป ขออาสาสมัครเขียนบนกระดาน ตามที่เพื่อนบอก ครูตรวจสอบและชี้แนะ 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 10. ครูให้นักเรียนสืบค้นนิทานพื้นบ้านเรื่องที่สนใจ เขียนย่อความให้ถูกต้องตามหลักการ แล้วเขียนแผนภาพ โครงเรื่องแสดงองค์ประกอบแต่ละส่วนว่ามีลักษณะอย่างไร นำส่งเป็นรายบุคคล แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. นิทานพื้นบ้าน 3. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 4. อินเทอร์เน็ต 5. ใบกิจกรรม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 256 ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง นิทานพื้นบ้าน คือ เรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนานในแต่ละท้องถิ่น .................................................................................................................................................................. ............. นิทานพื้นบ้านในระยะแรกมีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในรูปแบบใบลาน .................................................................................................................................................................. ............. นิทานพื้นบ้านเรื่องเดียวกันอาจมีรายละเอียดที่ต่างกัน เนื่องจากผู้เล่าได้มีการแต่งเติมบางส่วน .................................................................................................................................................................. ............. ผู้คนที่อยู่ต่างภูมิภาคไม่สามารถที่จะเข้าใจเนื้อหาของนิทานอีกภูมิภาคหนึ่งใด .................................................................................................................................................................. ............. สิ่งที่แตกต่างกันของนิทานพื้นบ้านเรื่องเดียวกันแต่มีหลายสำนวน คือ ฉาก การกระทำของตัวละคร .................................................................................................................................................................. ............. จุดเด่นของนิทานพื้นบ้าน คือ ไม่มีใครถือสิทธิ์ขาดการเป็นเจ้าของ .................................................................................................................................................................. ............. นิทานพื้นบ้านในแต่ละภูมิภาคไม่มีส่วนใดที่คล้ายคลึงกัน เพราะเป็นอัตลักษณ์เฉพาะ .................................................................................................................................................................. ............. นิทานพื้นบ้านทุกเรื่องจะต้องให้ข้อคิดคติสอนใจเป็นประเด็นหลักของเรื่อง .................................................................................................................................................................. ............. นิทานพื้นบ้านภาคอีสานจะมีฉากเป็นความแห้งแล้ง ตัวละครมีความลำบาก .................................................................................................................................................................. ............. สิ่งที่แตกต่างกันของนิทานพื้นบ้านแต่ละภูมิภาค คือ ภาษาที่ใช้ในเนื้อเรื่อง ลีลาการเล่า ภูมิหลังตัวละคร .................................................................................................................................................................. .............


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 257 เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง นิทานพื้นบ้าน คือ เรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาเป็นเวลายาวนานในแต่ละท้องถิ่น .................................................................................................................................................................. ............. ✓ นิทานพื้นบ้านในระยะแรกมีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรในรูปแบบใบลาน .................................................................................................................................................................. ............. นิทานพื้นบ้านเรื่องเดียวกันอาจมีรายละเอียดที่ต่างกัน เนื่องจากผู้เล่าได้มีการแต่งเติมบางส่วน .................................................................................................................................................................. ............. ✓ ผู้คนที่อยู่ต่างภูมิภาคไม่สามารถที่จะเข้าใจเนื้อหาของนิทานอีกภูมิภาคหนึ่งใด .................................................................................................................................................................. ............. สิ่งที่แตกต่างกันของนิทานพื้นบ้านเรื่องเดียวกันแต่มีหลายสำนวน คือ ฉาก การกระทำของตัวละคร .................................................................................................................................................................. ............. ✓ จุดเด่นของนิทานพื้นบ้าน คือ ไม่มีใครถือสิทธิ์ขาดการเป็นเจ้าของ .................................................................................................................................................................. ............. ✓ นิทานพื้นบ้านในแต่ละภูมิภาคไม่มีส่วนใดที่คล้ายคลึงกัน เพราะเป็นอัตลักษณ์เฉพาะ .................................................................................................................................................................. ............. นิทานพื้นบ้านทุกเรื่องจะต้องให้ข้อคิดคติสอนใจเป็นประเด็นหลักของเรื่อง .................................................................................................................................................................. ............. นิทานพื้นบ้านภาคอีสานจะมีฉากเป็นความแห้งแล้ง ตัวละครมีความลำบาก .................................................................................................................................................................. ............. ✓ สิ่งที่แตกต่างกันของนิทานพื้นบ้านแต่ละภูมิภาค คือ ภาษาที่ใช้ในเนื้อเรื่อง ลีลาการเล่า ภูมิหลังตัวละคร .................................................................................................................................................................. ............. ✓ x x x x นิทานพื้นบ้านในระยะแรกไม่มีการบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ใช้การถ่ายทอดปากต่อปาก ผู้คนที่อยู่ต่างภูมิภาคสามารถที่จะเข้าใจเนื้อหาของนิทานได้ แม้ว่าจะสอดแทรกภาษาถิ่นในการเล่า นิทานพื้นบ้านในแต่ละภูมิภาคมีส่วนที่คล้ายกัน เช่น ให้คติสอนใจ เล่าเรื่องเกี่ยวกับภูมิภาค ความเชื่อ นิทานพื้นบ้านไม่จำเป็นต้องให้ข้อคิดเป็นประเด็นหลัก เช่น นิทานอธิบายเหตุ หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 258 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 259 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 260 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง นิทานพื้นบ้านแต่ละภาคและคุณค่า ชั่วโมงที่ 1-2 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน ท 5.1 ป.6/2 เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและนิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่น ท 5.1 ป.6/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ เมืองลับแล เป็นนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่องราวของชายหนุ่มผู้ไม่รักษาความสัตย์ ทำให้ได้รับผลของการ กระทำนั้น เป็นคติธรรมหรือข้อคิดสำคัญที่สะท้อนผ่านพฤติกรรมของตัวละคร 3. คำถามจุดประกาย การรักษาคำพูดมีความสำคัญอย่างไร 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เล่าและสรุปเหตุการณ์จากนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล 2. ตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวละครหรือเหตุการณ์จากนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล 3. บอกคุณค่าและสิ่งที่ได้รับจากนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ นิทานพื้นบ้านภาคเหนือ : เมืองลับแล


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 261 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูนำภาพประติมากรรมแม่ม่ายเมืองลับแลมาให้นักเรียนดูแล้วบอกสิ่งที่เห็นจากภาพ จากนั้นครูตั้งคำถาม ให้ตอบโดยการคาดคะเน เพราะเหตุใดหญิงสาวจึงยืนร้องไห้อุ้มลูก ชายหนุ่มที่นั่งอยู่คือใคร 2. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความบริเวณฐานประติมากรรม แล้วตอบคำถาม วาจาสัตย์ มีความหมายว่า อย่างไร คาดคะเนว่า จะเกี่ยวข้องกับนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล อย่างไร 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 3. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 136-138) 4. ครูขออาสาสมัครเรียงลำดับเหตุการณ์ในเรื่อง คนละ 1 เหตุการณ์ เขียนบนกระดาน ร่วมกันตอบคำถาม ชายหนุ่มเข้าเมืองลับแลได้อย่างไร เขาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองลับแลได้เพราะทำสิ่งใด และเพราะทำสิ่งใดจึงต้องออกจากเมือง 5. ครูให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์แรงจูงใจ หรือสาเหตุที่ทำให้ตัวละครมีพฤติกรรม ดังนี้ชายหนุ่มพูดปดกับลูก ชาย, แม่ของหญิงสาวบอกหญิงสาวว่าสามีของนางพูดโกหก, หญิงสาวให้สามีออกจากเมืองลับแล 6. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้สมาชิกร่วมกันเขียนแผนภาพโครงเรื่องของนิทาน เรื่อง เมืองลับแล ลงกระดาษ flip chart และศึกษาหัวข้อ คุณค่าของนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ จากหนังสือเรียน หน้า 138 บอกคุณค่าของนิทาน โดยอธิบายว่าสะท้อนผ่านองค์ประกอบใด 7. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเป็นรายกลุ่ม หากเปลี่ยนตอนจบของเรื่องได้จะให้นิทานเรื่องนี้จบอย่างไร การที่ชายหนุ่มต้องออกจากเมืองลับแล และได้ทองคำเพียงน้อยนิด เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเหตุใด 8. ครูให้นักเรียนอธิบายว่า นิทาน เรื่อง เมืองลับแล สะท้อนวิธีการควบคุมทางสังคมและบทลงโทษไว้อย่างไร บอกข้อคิดที่ได้รับจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชายหนุ่ม จากนั้นตอบคำถาม สิ่งที่คาดคะเนไว้ถูกต้องหรือไม่ 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 9. ครูให้นักเรียนสรุปเหตุการณในนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล ในรูปแบบเส้นเวลา จากนั้นสรุป องค์ประกอบและคุณค่าที่โดดเด่นของนิทาน 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 10. ครูให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดว่า จะบอกเล่าเรื่องราวในนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล ผ่าน ฉาก 3 มิติ ที่ทำจากเศษวัสดุต่าง ๆ อย่างไร โดยต้องสื่อสารว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิทาน และทำให้เข้าใจเนื้อหา ของนิทานได้สร้างสรรค์ผลงานนำส่งเป็นรายกลุ่ม แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. ภาพประติมากรรมแม่ม่ายเมืองลับแล 3. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 4. อินเทอร์เน็ต 5. ใบกิจกรรม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 262 ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนดูภาพที่กำหนดแล้วตอบคำถามลงในช่องว่าง 1. ในภาพปรากฏตัวละครใดบ้าง ตัวละครหลักในนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล คือใคร 2. เล่าเหตุการณ์ในภาพได้ว่าอย่างไร 3. เหตุการณ์ในภาพมีส่วนสำคัญต่อการดำเนินเรื่องอย่างไร 4. ข้อคิดที่ได้รับจากนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล 5. คุณค่าที่โดดเด่นของนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ........................... . ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 263 เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนดูภาพที่กำหนดแล้วตอบคำถามลงในช่องว่าง 1. ในภาพปรากฏตัวละครใดบ้าง ตัวละครหลักในนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล คือใคร 2. เล่าเหตุการณ์ในภาพได้ว่าอย่างไร 3. เหตุการณ์ในภาพมีส่วนสำคัญต่อการดำเนินเรื่องอย่างไร 4. ข้อคิดที่ได้รับจากนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล 5. คุณค่าที่โดดเด่นของนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ........................... . ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ชายหนุ่ม และกลุ่มหญิงสาวจากเมืองลับแล ตัวละครหลัก คือ ชายหนุ่ม ............................ ชายหนุ่มแอบสังเกตการณ์การเข้าออกเมืองลับแลของกลุ่มหญิงสาว ชายหนุ่มใช้เป็นข้ออ้างให้หญิงสาวพาตนเข้าไปในเมืองลับแล จนได้สร้างครอบครัวร่วมกัน การไม่รักษาวาจาสัตย์นำมาซึ่งความสูญเสีย คุณค่าด้านคติธรรม เรื่อง การรักษาวาจาสัตย์ ความเสมอต้นเสมอปลายในการรักษาคำพูด


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 264 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 265 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 266 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง นิทานพื้นบ้านแต่ละภาคและคุณค่า ชั่วโมงที่ 3-4 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน ท 5.1 ป.6/2 เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและนิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่น ท 5.1 ป.6/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ ขี้เหล้าเล่นหม้อ เป็นนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่องราวของชายหนุ่มลูกเศรษฐีที่ชะตาชีวิตพลิกผันกลายเป็น ยาจกเพราะความเกียจคร้าน ไม่ทำสิ่งใดนอกจากดื่มสุรา แม้เมื่อได้รับโอกาสก็ไม่รักษาคำพูดของตนเอง 3. คำถามจุดประกาย ความเกียจคร้านจะทำให้ชีวิตมีจุดจบอย่างไร 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เล่าและสรุปเหตุการณ์จากนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ 2. ตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวละคร เหตุการณ์จากนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ 3. บอกคุณค่าและสิ่งที่ได้รับจากนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน : ขี้เหล้าเล่นหม้อ


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 267 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูเขียนชื่อนิทาน ขี้เหล้าเล่นหม้อ บนกระดาน ให้นักเรียนร่วมกันบอกโทษของการดื่มสุรา แล้วคาดคะเนว่า เนื้อหาของนิทานจะเกี่ยวข้องกับเรื่องใด 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 2. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 139-140) 3. ครูขออาสาสมัครเรียงลำดับเหตุการณ์ในเรื่อง คนละ 1 เหตุการณ์ เขียนบนกระดาน แล้วร่วมกันตอบ คำถาม ชายหนุ่มมีลักษณะนิสัยอย่างไร, ชายหนุ่มพลิกผันจากลูกเศรษฐีกลายเป็นยาจกเพราะเหตุใด, หลังจากได้รับ หม้อวิเศษชายหนุ่มกลับไปเป็นคนที่หมดสิ้นทุกอย่างเพราะเหตุใด 4. ครูให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์แรงจูงใจ หรือสาเหตุที่ทำให้ตัวละครมีพฤติกรรม ดังนี้ชายหนุ่มรักสนุก ชอบ ดื่มเหล้าเป็นประจำ, พ่อของชายหนุ่มลงมาจากสวรรค์แล้วมอบหม้อดินให้ชายหนุ่ม, ชายหนุ่มทำหม้อดินแตก 5. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้สมาชิกร่วมกันเขียนแผนภาพโครงเรื่องของนิทาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ ลง กระดาษ flip chart และศึกษาหัวข้อ คุณค่าของนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน จากหนังสือเรียน หน้า 140 บอกคุณค่าของ นิทาน โดยอธิบายว่าสะท้อนผ่านองค์ประกอบใด 6. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเป็นรายกลุ่ม หากเปลี่ยนตอนจบของเรื่องได้ จะให้นิทานเรื่องนี้จบอย่างไร การที่ชายหนุ่มกลับไปเป็นคนที่หมดสิ้นทุกอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเหตุใด บอกข้อคิดที่ได้รับจากเหตุการณ์ 7. ครูให้นักเรียนอธิบายว่านิทาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ สะท้อนโทษของการดื่มเหล้าไว้อย่างไร, อะไรคือสาเหตุ ที่แท้จริงของการที่ชายหนุ่มกลายเป็นคนที่หมดสิ้นทุกอย่าง แล้วตอบคำถาม สิ่งที่คาดคะเนไว้ถูกต้องหรือไม่ 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 8. ครูให้นักเรียนสรุปเหตุการณ์ในนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ ในรูปแบบเส้นเวลา จากนั้น สรุปองค์ประกอบและคุณค่าที่โดดเด่นของนิทาน 9. ครูให้นักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล และนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ โดยเปรียบเทียบความเหมือนและความต่าง นำเสนอเป็นตารางสรุปร่วมกันบนกระดาน 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 10. ครูให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดว่า จะบอกเล่าเรื่องราวในนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ ผ่านฉาก 3 มิติ ที่ทำจากเศษวัสดุต่าง ๆ อย่างไร โดยต้องสื่อสารว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิทาน และทำให้เข้าใจ เนื้อหาของนิทานได้ สร้างสรรค์ผลงานนำส่งเป็นรายกลุ่ม แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 3. อินเทอร์เน็ต 4. ใบกิจกรรม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 268 ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนดูภาพที่กำหนดแล้วตอบคำถามลงในช่องว่าง 1. ภาพเหตุการณ์ที่ 1 และ 2 เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อน 2. เล่าเหตุการณ์ในภาพที่ 1 ได้ว่าอย่างไร 3. เล่าเหตุการณ์ในภาพที่ 2 ได้ว่าอย่างไร 4. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มกลับไปเป็นคนที่หมดสิ้นทุกอย่าง 5. คุณค่าที่โดดเด่นของนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ........................... . ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ 1 2


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 269 เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนดูภาพที่กำหนดแล้วตอบคำถามลงในช่องว่าง 1. ภาพเหตุการณ์ที่ 1 และ 2 เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก่อน 2. เล่าเหตุการณ์ในภาพที่ 1 ได้ว่าอย่างไร 3. เล่าเหตุการณ์ในภาพที่ 2 ได้ว่าอย่างไร 4. อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มกลับไปเป็นคนที่หมดสิ้นทุกอย่าง 5. คุณค่าที่โดดเด่นของนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ........................... . ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ ............................................................................................................................. ............................ 1 2 ภาพเหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นก่อน หลังจากได้หม้อดินที่ภายในมีสมบัติ ชายหนุ่มนึกสนุกโยนหม้อเล่นแล้วรับ จนหม้อดินแตกจริง ๆ ชายหนุ่มได้หม้อดินที่มีสมบัติอยู่ข้างในมาจากพ่อ แลกกับคำสัญญาว่า จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี การที่เขาไม่รู้จักทำมาหากินด้วยตนเอง, การไม่รักษาคำพูด คุณค่าด้านคติธรรม การไม่รักษาสัจจะ หรือคำพูดของตนเองจนพบกับความสูญเสีย


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 270 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 271 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 272 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง นิทานพื้นบ้านแต่ละภาคและคุณค่า ชั่วโมงที่ 5-6 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน ท 5.1 ป.6/2 เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและนิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่น ท 5.1 ป.6/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ หัวล้านนอกครู เป็นนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่องราวของทิดทองและทิดถม ชายหัวล้านที่ต้องการจะมีผม จึง ไปขอความช่วยเหลือจากโยคีกลางป่า แต่เพราะความต้องการที่เกินพอดี เกิดเป็นความโลภทำให้ทั้งสองฝืนทำเกิน คำแนะนำ กลับกลายเป็นชายหัวล้านดังเดิม 3. คำถามจุดประกาย ความโลภจะนำพาชีวิตไปพบกับจุดจบอย่างไร 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เล่าและสรุปเหตุการณ์จากนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู 2. ตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวละคร เหตุการณ์จากนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู 3. บอกคุณค่าและสิ่งที่ได้รับจากนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ นิทานพื้นบ้านภาคกลาง : หัวล้านนอกครู


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 273 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูเขียนชื่อนิทาน หัวล้านนอกครู บนกระดาน ให้นักเรียนบอกความหมายของคำ นอกครู ตามประสบการณ์ ความรู้ ครูเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง แล้วร่วมกันคาดคะเนเกี่ยวกับเนื้อหาของนิทาน 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 2. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 141) 3. ครูขออาสาสมัครเรียงลำดับเหตุการณ์ในเรื่อง คนละ 1 เหตุการณ์ เขียนบนกระดาน แล้วตอบคำถาม ทิด ทอง ทิดถม หัวล้านเพราะเหตุใด, โยคีให้คำแนะนำทิดทอง ทิดถมว่าอย่างไร, ทิดทอง ทิดถม มีผมขึ้นที่ศีรษะหรือไม่ 4. ครูให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์แรงจูงใจ หรือสาเหตุที่ทำให้ตัวละครมีพฤติกรรม ดังนี้ ทิดทอง ทิดถม ไปขอ ความช่วยเหลือจากโยคี, โยคีให้ความช่วยเหลือทิดทอง ทิดถม, ทิดทอง ทิดถม ดำนำครั้งที่สี่ 5. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้สมาชิกร่วมกันเขียนแผนภาพโครงเรื่องของนิทาน เรื่อง หัวล้านนอกครู ลง กระดาษ flip chart และศึกษาหัวข้อ คุณค่าของนิทานพื้นบ้านภาคกลาง จากหนังสือเรียน หน้า 142 บอกคุณค่าของ นิทาน โดยอธิบายว่าสะท้อนผ่านองค์ประกอบใด 6. ครูให้นักเรียนแสดงความคิดเห็นเป็นรายกลุ่ม ถ้าเปลี่ยนตอนจบของเรื่องได้ จะให้นิทานเรื่องนี้จบอย่างไร การที่ทิดทอง ทิดถม กลับไปหัวล้านดังเดิมสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะเหตุใด บอกข้อคิดที่ได้รับจากเหตุการณ์ 7. ครูให้นักเรียนตอบคำถาม นิทาน เรื่อง หัวล้านนอกครู นอกจากจะสะท้อนโทษของความต้องการที่เกินพอดี แล้วยังเชื่อมโยงกับคติธรรม การรักษาสัจจะได้หรือไม่ ถ้าได้ ทิดทองทิดถม ไม่รักษาสัจจะในเรื่องใด 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 8. ครูให้นักเรียนสรุปเหตุการณในนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู ในรูปแบบเส้นเวลา จากนั้น สรุปองค์ประกอบและคุณค่าที่โดดเด่นของนิทาน 9. ครูให้นักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้ เหล้าเล่นหม้อ นิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู โดยเปรียบเทียบความเหมือนและความต่าง นำเสนอเป็น ตารางสรุปร่วมกันบนกระดาน 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 10. ครูให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดว่า จะบอกเล่าเรื่องราวในนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู ผ่านฉาก 3 มิติ ที่ทำจากเศษวัสดุต่าง ๆ อย่างไร โดยต้องสื่อสารว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิทาน และทำให้เข้าใจ เนื้อหาของนิทานได้ สร้างสรรค์ผลงานนำส่งเป็นรายกลุ่ม แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 3. อินเทอร์เน็ต 4. ใบกิจกรรม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 274 ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่เป็นเหตุการณ์ในนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง แล้วเขียนหมายเลขเรียงลำดับเหตุการณ์ลงใน ทิดทองและทิดถมเป็นศัตรูกัน ต้องการให้อีกฝ่ายหัวล้าน จึงไปขอให้โยคีช่วย เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ หลังจากดำน้ำครั้งที่สี่เมื่อโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ ปรากฏว่าหัวของทิดทองและทิดถมกลับไปล้านเช่นเดิม เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ทิดทองและทิดถมอับจนหนทางจึงไปตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากโยคีที่อยู่กลางป่า เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ เมื่อดำลงไปครั้งที่สาม ผมของทิดทองและทิดถมก็งอกเต็มหัว เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ทิดทองและทิดถมดำน้ำครั้งที่สี่ ทำให้ผมขึ้นมาปิดบริเวณรอยแผลเป็นของทั้งสอง เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ทิดทองและทิดถมซื้อน้ำมันมาใส่ผม ต่อมาไม่นานผมของทั้งสองก็หลุดร่วงจนกลายเป็นคนหัวล้าน เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ โยคีให้ความช่วยเหลือทิดทองและทิดถมโดยให้ไปดำน้ำที่สระข้างอาศรม 3 ครั้ง เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ โยคีช่วยให้ทิดทองและทิดถมกลับมามีผมอีกครั้งแม้ว่าทั้งสองจะไม่เชื่อ ดำน้ำเกินสามครั้ง เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ทิดทองและทิดถมตัดสินใจกันเองว่าจะดำนำเป็นครั้งที่สี่เพื่อให้ผมขึ้นมาปิดรอยแผลเป็นบนหัว เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ชาวบ้านสงสารทิดทองและทิดถมจึงพาทั้งสองไปขอความช่วยเหลือจากโยคีที่กลางป่า เป็นเหตุการณ์ลำดับที่


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 275 เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่เป็นเหตุการณ์ในนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง แล้วเขียนหมายเลขเรียงลำดับเหตุการณ์ลงใน ทิดทองและทิดถมเป็นศัตรูกัน ต้องการให้อีกฝ่ายหัวล้าน จึงไปขอให้โยคีช่วย เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ หลังจากดำน้ำครั้งที่สี่เมื่อโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ ปรากฏว่าหัวของทิดทองและทิดถมกลับไปล้านเช่นเดิม เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ✓ ทิดทองและทิดถมอับจนหนทางจึงไปตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากโยคีที่อยู่กลางป่า เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ✓ เมื่อดำลงไปครั้งที่สาม ผมของทิดทองและทิดถมก็งอกเต็มหัว เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ✓ ทิดทองและทิดถมดำน้ำครั้งที่สี่ ทำให้ผมขึ้นมาปิดบริเวณรอยแผลเป็นของทั้งสอง เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ทิดทองและทิดถมซื้อน้ำมันมาใส่ผม ต่อมาไม่นานผมของทั้งสองก็หลุดร่วงจนกลายเป็นคนหัวล้าน เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ✓ โยคีให้ความช่วยเหลือทิดทองและทิดถมโดยให้ไปดำน้ำที่สระข้างอาศรม 3 ครั้ง เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ✓ โยคีช่วยให้ทิดทองและทิดถมกลับมามีผมอีกครั้งแม้ว่าทั้งสองจะไม่เชื่อ ดำน้ำเกินสามครั้ง เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ทิดทองและทิดถมตัดสินใจกันเองว่าจะดำนำเป็นครั้งที่สี่เพื่อให้ผมขึ้นมาปิดรอยแผลเป็นบนหัว เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ ✓ ชาวบ้านสงสารทิดทองและทิดถมจึงพาทั้งสองไปขอความช่วยเหลือจากโยคีที่กลางป่า เป็นเหตุการณ์ลำดับที่ 1 x x x x 2 3 4 5 6


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 276 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 277 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 278 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง นิทานพื้นบ้านแต่ละภาคและคุณค่า ชั่วโมงที่ 7-8 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน ท 5.1 ป.6/2 เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและนิทานพื้นบ้านของท้องถิ่นอื่น ท 5.1 ป.6/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ เขาทะนาน เป็นนิทานพื้นบ้านภาคใต้ ที่อธิบายความเป็นมาของสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่น ในเรื่อง คือ เกาะเภตรา หินสายสมอ ภูเขาบัน เกาะสุกร ภูเขาป้อย ภูเขาแล่ง และภูเขาทะนาน 3. คำถามจุดประกาย เพราะเหตุใดจึงต้องมีนิทานเพื่อใช้อธิบายความเป็นมาของสิ่งที่อยู่ในท้องถิ่น 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เล่าและสรุปเหตุการณ์จากนิทานพื้นบ้านภาคใต้เรื่อง เขาทะนาน 2. ตอบคำถาม แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวละครหรือเหตุการณ์จากนิทานพื้นบ้านภาคใต้เรื่อง เขาทะนาน 3. บอกคุณค่าและสิ่งที่ได้รับจากนิทานพื้นบ้านภาคใต้เรื่อง เขาทะนาน 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ นิทานพื้นบ้านภาคใต้ : เขาทะนาน


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 279 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูนำบัตรภาพสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของท้องถิ่นมาให้นักเรียนดูแล้วสนทนาเกี่ยวกับ ภาพ ครูสอบถามเกี่ยวกับนิทาน ตำนานที่ใช้อธิบายการเกิดของสิ่งที่อยู่ในภาพ ขออาสาสมัครเล่าให้เพื่อนฟัง หรือครู เป็นผู้เล่า 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 2. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงนิทานพื้นบ้านภาคใต้เรื่อง เขาทะนาน จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 142-143) 3. ครูขออาสาสมัครเรียงลำดับเหตุการณ์ในเรื่อง คนละ 1 เหตุการณ์ เขียนบนกระดาน แล้วตอบคำถาม ลูก ของตายายไปอยู่กับนายสำเภาได้อย่างไร, เพราะเหตุใดลูกชายจึงกลับมาเยี่ยมตายาย, ลูกชายต้องเผชิญเคราะห์ร้ายใด กลางทะเล 4. ครูให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์แรงจูงใจ หรือสาเหตุที่ทำให้ตัวละครมีพฤติกรรม ดังนี้ ตายายยกลูกให้กับ นายสำเภา, นายสำเภาให้บุญบุตรธรรมแต่งงานกับลูกสาวของตน, ลูกชายไม่ยอมรับว่าตายายเป็นพ่อแม่ 5. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้สมาชิกร่วมกันเขียนแผนภาพโครงเรื่องของนิทาน เรื่อง เขาทะนาน ลงกระดาษ flip chart และศึกษาหัวข้อ คุณค่าของนิทานพื้นบ้านภาคใต้ จากหนังสือเรียน หน้า 143 บอกคุณค่าของนิทาน โดย อธิบายว่าสะท้อนผ่านองค์ประกอบใด 6. ครูให้นักเรียนตอบคำถาม นิทาน เรื่อง เขาทะนาน นอกจากจะสะท้อนสิ่งที่บุคคลซึ่งไม่กตัญญูต่อบิดามารดา จะได้รับ ยังสามารถเชื่อมโยงกับคติธรรม ความซื่อสัตย์ ได้หรือไม่ หากได้ชายหนุ่มไม่รักษาความสัตย์ในเรื่องใด 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 7. ครูให้นักเรียนสรุปคติธรรมเชื่อมโยงที่ทำให้ชายหนุ่มต้องออกจากเมืองลับแล, ชายขี้เหล้ากลายเป็นผู้หมด สิ้นทุกอย่าง, ทิดทองและทิดถมกลับมาหัวล้านดังเดิม และลูกชายของตายายประสบเคราะห์ร้ายกลางทะเล 8. ครูให้นักเรียนเปรียบเทียบความเหมือนและความต่างของนิทานพื้นบ้านทั้ง 4 ภาค นำเสนอเป็นตารางสรุป ร่วมกันบนกระดาน จากนั้นทำกิจกรรมเสริม เพิ่มการเรียนรู้ ขออาสาสมัครตอบคำถามทบทวนชวนคิด คนละ 1 ข้อ 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 9. ครูให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดว่า จะบอกเล่าเรื่องราวในนิทานพื้นบ้านภาคใต้เรื่อง เขาทะนาน ผ่านฉาก 3 มิติ ที่ทำจากเศษวัสดุต่าง ๆ อย่างไร โดยต้องสื่อสารว่า เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิทาน และทำให้เข้าใจเนื้อหาของ นิทานได้ สร้างสรรค์ผลงานนำส่งเป็นรายกลุ่ม 10. ครูให้แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมเชื่อมโยงความรู้ ใบกิจกรรม และแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 3. อินเทอร์เน็ต 4. ใบกิจกรรม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 280 นิทานที่เป็นที่มาของ สำนวนไทย ชายหนุ่มผู้ไม่มีความกตัญญูต่อบิดา มารดา โกหก ไม่ยอมรับความจริง นิทานพื้นบ้าน ประเภท นิทานอธิบายเหตุ คุณค่าด้านสังคม การยอมรับ และปฏิบัติตามข้อตกลงของสังคม คุณค่าด้านสังคม ความเชื่อ เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในวาจาของพ่อแม่ คุณค่าด้านสังคม ความเชื่อ บาปบุญคุณโทษ การสั่งสมบุญ ผลของความต้องการจนเกิน พอดี เกิดเป็นความโลภ คุณค่าด้านคติธรรม การรักษาคำพูด วาจาสัตย์ และความจริง ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับภาพที่กำหนด


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 281 นิทานที่เป็นที่มาของ สำนวนไทย ชายหนุ่มผู้ไม่มีความกตัญญูต่อบิดา มารดา โกหก ไม่ยอมรับความจริง นิทานพื้นบ้าน ประเภท นิทานอธิบายเหตุ คุณค่าด้านสังคม การยอมรับ และปฏิบัติตามข้อตกลงของสังคม คุณค่าด้านสังคม ความเชื่อ เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ในวาจาของพ่อแม่ คุณค่าด้านสังคม ความเชื่อ บาปบุญคุณโทษ การสั่งสมบุญ ผลของความต้องการจนเกิน พอดี เกิดเป็นความโลภ คุณค่าด้านคติธรรม การรักษาคำพูด วาจาสัตย์ และความจริง เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับภาพที่กำหนด


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 282 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 283 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 284 เฉลยคำถามทบทวนชวนคิด หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 นิทานพื้นบ้านเปรียบเทียบ 1. นักเรียนคิดว่าหญิงสาวชาวเมืองลับแลคิดถูกหรือไม่ที่นำทองใส่ย่ามของสามีที่ทำผิดศีลธรรม ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู 2. นิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ นักเรียนคิดว่าการที่พ่อผู้เป็นเทวดาช่วยเหลือลูกที่ทำตัวเสเพลเป็นสิ่ง ที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู 3. ในนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู ถ้านักเรียนเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านของทิดทองและทิดถม จะร่วมกัน แกล้งทิดทองและทิดถมหรือไม่ เพราะเหตุใด ไม่แกล้ง เพราะต้องเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น คิดถึงใจเขาใจเรา 4. นักเรียนคิดว่าเขาทะนานเกิดขึ้นตามตำนานที่ได้เล่าไว้หรือไม่ เพราะเหตุใด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู 5. นักเรียนได้ข้อคิดใดบ้างจากนิทานพื้นบ้านที่ได้เรียนมาทุกเรื่อง ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 285 แบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 นิทานพื้นบ้านเปรียบเทียบ 1. นิทานพื้นบ้านมีลักษณะตรงกับข้อใด 1. เรื่องที่เกิดขึ้นจริง 2. เรื่องที่บันทึกไว้ในพงศาวดาร 3. เรื่องที่เล่าสืบต่อกันมา 4. เรื่องที่พิสูจน์ว่าเกิดขึ้นจริง ๒. มุขปาฐะ อ่านว่าอย่างไร 1. มุก - ปา - ถะ 2. มุก - ถะ 3. มุด - ปา - ถะ 4. มุก - ขะ - ปา - ถะ ๓. ข้อใดเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะ 1. เรื่อง รามเกียรติ์ 2. นิทานพื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน 3. เรื่อง ราชาธิราช 4. จารึกสุโขทัย ๔. ข้อใดกล่าวถูกต้อง 1. นิทานพื้นบ้านเรื่องเดียวกันมีหลายสำนวน 2. นิทานพื้นบ้านเลียนแบบจากนิทานภาคกลาง 3. นิทานพื้นบ้านทุกเรื่องต้องให้ข้อคิดสอนใจ 4. นิทานพื้นบ้านไม่ใช่วรรณกรรมมุขปาฐะ ๕. ข้อใดเป็นนิทานพื้นบ้าน 1. ประเพณีชักพระ 2. เพลงพวงมาลัย 3. เขาทะนาน 4. เพลงสิกจุ่งจา 6. ข้อใดไม่ใช่ตัวละครในนิทานพื้นบ้าน 1. แก้วหน้าม้า 2. นางเอื้อย 3. ไกรทอง 4. หนุมาน 7. ข้อใดเป็นนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ 1. เขาทะนาน 2. อ้ายก้องขี้จุ๊ 3. หัวล้านนอกครู 4. ปลาบู่ทอง 8. จากนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล ข้อใดถูกต้อง 1. เมืองที่ผู้คนถือวาจาสัตย์ 2. เมืองที่มีแต่ผู้ชายอาศัยอยู่ 3. เมืองที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ 4. เมืองที่เต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ 9. ข้อใดเป็นโครงเรื่องของนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล 1. หญิงสาวครองรักกับชายหนุ่ม 2. ชายหนุ่มที่ไม่รักษาคำพูดจนถูกไล่ออกจากเมือง 3. หญิงสาวและชายหนุ่มเผชิญความลำบาก 4. หญิงสาวหลงรักชายหนุ่มจนยอมเสียสละชีวิต


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 286 10. ชายหนุ่มเข้าไปยังเมืองลับแลได้เพราะเหตุใด 1. หญิงสาวจับตัวไป 2. พลัดหลงเข้าไปเนื่องจากออกล่าสัตว์ 3. สร้างเงื่อนไขให้หญิงสาวพาเข้าไป 4. สะกดรอยตามหญิงสาว 11. ข้อใดเป็นมูลเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มถูกไล่ออกจากเมือง 1. ความกลัว 2. คำโกหก 3. ความโลภ 4. ความอกตัญญู 12. การยอมรับ ปฏิบัติตามข้อตกลงของชุมชนในนิทานพื้นบ้านภาคเหนือ เรื่อง เมืองลับแล สะท้อนผ่านเหตุการณ์ใด 1. หญิงสาวบอกให้ชายหนุ่มออกจากเมืองลับแล 2. ชายหนุ่มสร้างเงื่อนไขให้หญิงสาวพาเข้าเมือง 3. แม่ของหญิงสาวอนุญาตให้ทั้งสองอยู่ด้วยกัน 4. หญิงสาวพาชายหนุ่มไปพบแม่ของตนเอง 13. ข้อใดเป็นนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน 1. ไกรทอง 2. เมืองลับแล 3. เขาทะนาน 4. พญาคันคาก 14. ชายหนุ่มในนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ ได้รับโทษจากการดื่มสุราอย่างไร 1. ประสบอุบัติเหตุ 2. พ่อตรอมใจจนเสียชีวิต 3. เป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว 4. เจ็บป่วยเรื้อรัง 15. ข้อใดเป็นโครงเรื่องของนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ 1. ชายหนุ่มทำให้พ่อตรอมใจตาย 2. ชายหนุ่มพบความสูญเสียเพราะการกระทำของตนเอง 3. ชายหนุ่มดื่มเหล้าจนไม่มีผู้ใดคบค้าสมาคม 4. ชายหนุ่มได้รับเคราะห์เพราะอกตัญญู 16. ข้อใดเป็นสาเหตุที่ทำให้ชายหนุ่มกลายเป็นผู้ที่หมดสิ้นทุกอย่าง 1. ดื่มสุรา ไม่ทำมาหากิน 2. บิดาเสียชีวิต 3. ทำหม้อดินแตก 4. ไม่มีเพื่อนให้ความช่วยเหลือ 17. ความเชื่อใดที่สะท้อนผ่านเนื้อหาของนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ 1. ความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ 2. ความเชื่อเรื่องสิ่งเร้นลับ 3. ความเชื่อเรื่องผี 4. ความเชื่อไสยศาสตร์ 18. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับชายหนุ่มในนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ 1. ตั้งเงื่อนไขให้หญิงสาวพาเข้าเมืองลับแล 2. ดื่มสุรา ไม่ขยันทำมาหากิน 3. พูดโกหกจนถูกขับไล่ออกจากเมือง 4. อกตัญญูต่อพ่อแม่ของตนเอง


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 287 19. ข้อใดเป็นคติธรรมที่ตรงกันในนิทาน เรื่อง เมืองลับแล และนิทาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ 1. ความกตัญญู 2. ความประหยัดมัธยัสถ์ 3. ความสัตย์ 4. ความเมตตาปรานี 20. เหตุการณ์ใดสะท้อนความเชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษในนิทานพื้นบ้านภาคอีสาน เรื่อง ขี้เหล้าเล่นหม้อ 1. เพื่อนของชายหนุ่มไม่มีใครช่วยเหลือ 2. ชายหนุ่มกลายเป็นผู้ที่หมดสิ้นทุกอย่าง 3. ชายหนุ่มทำหม้อดินแตก 4. พ่อของชายหนุ่มเป็นคนใจบุญ เมื่อตายไปจึงเป็นเทวดา 21. ข้อใดเป็นนิทานพื้นบ้านภาคกลาง 1. พระยากงพระยาพาน 2. ผีม้าบ้อง 3. ขี้เหล้าเล่นหม้อ 4. เมืองลับแล 22. ข้อคิดจากนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู เป็นที่มาของสิ่งใด 1. สุภาษิต 2. สำนวน 3. คำพังเพย 4. ลักษณะนิสัยของบุคคล 23. ข้อใดเป็นเหตุการณ์ในนิทานพื้นบ้านภาคกลาง เรื่อง หัวล้านนอกครู 1. ชายหนุ่มดื่มสุราอย่างหนัก 2. พ่อของชายหนุ่มแม้ตายไปแล้วแต่ยังเป็นห่วงลูกชาย 3. ทิดทอง ทิดถม กลับมาหัวล้านดังเดิม 4. ชาวบ้านพาทิดทอง ทิดถมไปขอความช่วยเหลือจากโยคี 24. ข้อใดเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้ทิดทอง ทิดถม ตัดสินใจดำนำครั้งที่สี่ 1. ความต้องการเอาชนะ 2. ความต้องการที่เกินพอดี 3. ความต้องการได้รับการยอมรับ 4. ความต้องการพิสูจน์ 25. เหตุการณ์ใดสะท้อนโทษของการไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง คำแนะนำ 1. ทิดทอง ทิดถมกลับมาหัวล้านดังเดิม 2. ชาวบ้านล้อเลียนทิดทอง ทิดถม 3. ทิดทอง ทิดถม มีผมขึ้นเต็มศีรษะ 4. โยคีกล่าวตำหนิทิดทอง ทิดถม 26. ข้อใดเป็นนิทานพื้นบ้านภาคใต้ 1. ผีม้าบ้อง 2. ไกรทอง 3. เมืองลับแล 4. เกาะหนูเกาะแมว 27. ข้อใดเป็นโครงเรื่องของนิทานพื้นบ้านภาคใต้ เรื่อง เขาทะนาน 1. ชายหนุ่มผู้หมดสิ้นทุกอย่างเพราะไม่ทำมาหากิน 2. ชายหนุ่มที่ถูกขับไล่ออกจากเมืองเพราะโกหก 3. ชายหนุ่มผู้ได้รับเคราะห์กรรมเพราะอกตัญญู 4. ชายหนุ่มที่กลับตัวกลับใจเลิกดื่มสุรา


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 288 28. ความเชื่อเรื่อง วาจาพ่อแม่นั้นศักดิ์สิทธิ์ สะท้อนผ่านเหตุการณ์ใด 1. ตายายยกลูกชายให้นายสำเภา 2. ลูกชายตายายไม่สามารถกลับไปยังเมืองเดิมได้ 3. นายสำเภารับลูกชายของตายายเป็นลูกบุญธรรม 4. สิ่งของต่าง ๆ ในเรือกลายเป็นสถานที่ทางธรรมชาติ 29. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะร่วมของนิทานพื้นบ้าน 1. บอกเล่าวิถีชีวิตของผู้คน 2. นำเสนอความเชื่อของสังคมไทย 3. มีโครงเรื่องแบบเดียวกัน 4. สะท้อนค่านิยมของสังคมไทย 30. คุณค่าด้านคติธรรมของนิทานพื้นบ้านภาคใต้ เรื่อง เขาทะนาน ตรงกับข้อใด 1. ความกตัญญูและการตั้งมั่นในความจริง 2. ความซื่อสัตย์และความมัธยัสถ์ 3. การบำเพ็ญภาวนารักษาศีล 4. ความซื่อสัตย์และความเมตตาปรานี เฉลย ๑. 3 ๒. 4 ๓. 2 ๔. 1 ๕. 3 ๖. 4 ๗. 2 ๘. 1 ๙. 2 ๑๐. 3 ๑๑. 2 ๑๒. 1 ๑๓. 4 ๑๔. 3 ๑๕. 2 ๑๖. 1 ๑๗. 1 ๑๘. 2 ๑๙. 3 ๒๐. 4 ๒๑. 1 ๒๒. 2 ๒๓. 3 ๒๔. 2 ๒๕. 1 ๒๖. 4 ๒๗. 3 ๒๘. 2 ๒๙. 3 ๓๐. 1


หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 คุณค่าจากบทอาขยาน จำนวน 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับบทอาขยาน ชั่วโมงที่ 1-2 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง 2. สาระสำคัญ บทอาขยาน เป็นบทร้อยกรองที่ไพเราะ จดจำง่าย เนื้อหาให้ข้อคิด เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่ดี สามารถ นำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาตนเองในด้านต่าง ๆ ได้ การท่องบทอาขยานไม่ได้เป็นเพียงการท่องจำเพียงอย่างเดียว แต่ยัง ช่วยทำให้ผู้ท่องได้เรียนรู้ ซึมซับภาษาที่งดงาม เกิดสุนทรียภาพทางความรู้สึก นำภาษาจากบทอาขยานไปปรับใช้กับงาน เขียนของตนเอง 3. คำถามจุดประกาย บทอาขยาน เป็นบทร้อยกรองที่มีลักษณะอย่างไร 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับบทอาขยานได้ 2. บอกแนวการอ่านออกเสียงบทอาขยานแบบทำนองเสนาะได้ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ ความรู้เกี่ยวกับบทอาขยาน


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 290 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับลักษณะของบทอาขยาน รูปแบบการอ่านออกเสียงบทอาขยาน ให้นักเรียนบันทึกข้อมูล 2. ครูเขียนเครื่องหมาย / และ // บนกระดาน ให้นักเรียนทบทวนหน้าที่ของเครื่องหมายเมื่อนำไปใช้ในการ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทร้อยกรอง ครูชี้แนะเพิ่มเติม 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 3. ครูให้นักเรียนศึกษาหัวข้อ ความรู้เกี่ยวกับบทอาขยาน จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดี และวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 151) ขออาสาสมัครบอกประโยค ใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า 4. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มระดมความคิดเขียนแผนภาพความคิดระบุลักษณะที่ทำให้บทร้อยกรองเรื่องต่าง ๆ ได้รับเลือกเป็นบทอาขยาน ลงกระดาษ flip chart นำมาติดบนกระดานแลกเปลี่ยนความรู้ 5. ครูเปิดแถบบันทึกเสียงการอ่านออกเสียงทำนองเสนาะให้นักเรียนฟัง สมาชิกแต่ละกลุ่มค้นหาแนวทางการ อ่านจากแถบบันทึกเสียงที่ฟัง เขียนลงกระดาษรายงานกลุ่ม ตามประเด็นต่อไปนี้ - การใช้น้ำเสียงในแต่ละวรรค - การแบ่งจังหวะคำภายในวรรค - การใช้น้ำเสียงให้เหมาะสมกับเนื้อหา หรืออารมณ์ของบทอ่าน 6. ครูยกตัวอย่างบทร้อยกรองประเภทโคลงและกลอนสุภาพ อ่านออกเสียงเป็นทำนองเสนาะให้นักเรียนฟัง และอ่านตามทีละวรรค จากนั้นให้สังเกตว่า ในแต่วรรคของกลอนมีจำนวนคำน้อยที่สุดและมากที่สุดกี่คำ สนทนา เกี่ยวกับการแบ่งจังหวะคำที่ไม่เท่ากันในแต่ละวรรค ได้แก่ 6 คำ 7 คำ 8 คำ และ 9 คำ 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 7. ครูให้แต่ละกลุ่มบอกแนวทางการอ่านออกเสียงทำนองเสนาะตามที่กลุ่มวิเคราะห์ได้ ครูเป็นผู้สุ่มถามตาม ประเด็นและเขียนบนกระดาน จากนั้นให้นักเรียนพิจารณาสรุปแนวทางทั้งหมดร่วมกัน แนวทางใดที่ถูกต้องและเห็น ด้วย เขียนลงกระดาษ flip chart ครูตรวจสอบและชี้แนะ 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 8. ครูให้นักเรียนศึกษาบทอาขยานบทรองที่สนใจ จำนวน 1 บท คัดลอกลงสมุด ใช้เครื่องหมาย / และ // แบ่ง จังหวะคำ ถอดความเป็นร้อยแก้ว อธิบายความรู้ หรือข้อคิดที่ได้รับไว้ด้านล่าง นำบทอาขยานมาอ่านทำนองเสนาะให้ ครูฟัง หรือบันทึกเสียงขณะอ่านนำส่งเป็นรายบุคคล จากนั้นทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แถบบันทึกเสียงการอ่านทำนองเสนาะ 3. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 4. อินเทอร์เน็ต 5. ใบกิจกรรม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 291 ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง บทอาขยานเป็นบทร้อยกรองที่มีการใช้ภาษาที่ไพเราะ ประณีต .................................................................................................................................................................. ............. บทร้อยกรองมีข้อบังคับด้านฉันทลักษณ์ แตกต่างจากบทร้อยแก้วที่ไม่มีข้อบังคับด้านฉันทลักษณ์ .................................................................................................................................................................. ............. การอ่านออกเสียงบทอาขยาน อ่านได้แบบเดียวคือ อ่านแบบทำนองเสนาะ .................................................................................................................................................................. ............. บทอาขยานมีลักษณะเป็นคำคล้องจอง มีจังหวะในการอ่าน เน้นเสียงหนักเบาของพยางค์ .................................................................................................................................................................. ............. การอ่านออกเสียงบทอาขยานแบบไม่ใส่ทำนอง ต้องคำนึงถึงการแบ่งจังหวะคำในวรรคให้ถูกต้อง .................................................................................................................................................................. ............. วิธีการอ่านออกเสียงทำนองเสนาะต้องเริ่มต้นจากการฝึกใช้เสียงให้มีลูกเอื้อนที่ไพเราะ .................................................................................................................................................................. ............. การอ่านแบบเอื้อสัมผัสเป็นการออกเสียงลักษณะพิเศษเมื่ออ่านบทอาขยานแบบไม่ใส่ทำนอง .................................................................................................................................................................. ............. การท่องจำบทอาขยานเป็นการถ่ายทอดและสั่งสมความรู้ด้านวรรณศิลป์ การใช้ภาษาที่สละสลวย .................................................................................................................................................................. ............. การอ่านเอื้อสัมผัส คือ การแปรเสียงคำเพื่อให้เกิดสัมผัสที่ไพเราะของคำภายในวรรค หรือนอกวรรค .................................................................................................................................................................. ............. การอ่านออกเสียงทำนองเสนาะ คือ การออกเสียงคำให้มีเสียงสูง ต่ำ หนัก เบา ยาว สั้น .................................................................................................................................................................. .............


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 292 เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง บทอาขยานเป็นบทร้อยกรองที่มีการใช้ภาษาที่ไพเราะ ประณีต .................................................................................................................................................................. ............. ✓ บทร้อยกรองมีข้อบังคับด้านฉันทลักษณ์ แตกต่างจากบทร้อยแก้วที่ไม่มีข้อบังคับด้านฉันทลักษณ์ .................................................................................................................................................................. ............. ✓ การอ่านออกเสียงบทอาขยาน อ่านได้แบบเดียวคือ อ่านแบบทำนองเสนาะ .................................................................................................................................................................. ............. บทอาขยานมีลักษณะเป็นคำคล้องจอง มีจังหวะในการอ่าน เน้นเสียงหนักเบาของพยางค์ .................................................................................................................................................................. ............. ✓ การอ่านออกเสียงบทอาขยานแบบไม่ใส่ทำนอง ต้องคำนึงถึงการแบ่งจังหวะคำในวรรคให้ถูกต้อง .................................................................................................................................................................. ............. ✓ วิธีการอ่านออกเสียงทำนองเสนาะต้องเริ่มต้นจากการฝึกใช้เสียงให้มีลูกเอื้อนที่ไพเราะ .................................................................................................................................................................. ............. การอ่านแบบเอื้อสัมผัสเป็นการออกเสียงลักษณะพิเศษเมื่ออ่านบทอาขยานแบบไม่ใส่ทำนอง .................................................................................................................................................................. ............. การท่องจำบทอาขยานเป็นการถ่ายทอดและสั่งสมความรู้ด้านวรรณศิลป์ การใช้ภาษาที่สละสลวย .................................................................................................................................................................. ............. ✓ การอ่านเอื้อสัมผัส คือ การแปรเสียงคำเพื่อให้เกิดสัมผัสที่ไพเราะของคำภายในวรรค หรือนอกวรรค .................................................................................................................................................................. ............. ✓ การอ่านออกเสียงทำนองเสนาะ คือ การออกเสียงคำให้มีเสียงสูง ต่ำ หนัก เบา ยาว สั้น .................................................................................................................................................................. ............. ✓ อ่านได้ 2 แบบ คือ การอ่านแบบไม่ใส่ทำนอง และการอ่านแบบทำนองเสนาะ x x วิธีการอ่านออกเสียงทำนองเสนาะต้องเริ่มต้นจากการฝึกออกเสียงคำให้ชัดเจน ตัว ร ล คำควบกล้ำ x การอ่านแบบเอื้อสัมผัสเป็นการออกเสียงลักษณะพิเศษเมื่ออ่านบทอาขยานแบบใส่ทำนอง


Click to View FlipBook Version