แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 193 เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง มัจฉานุบอกทางโดยละเอียดให้แก่หนุมานเพื่อไปช่วยพระรามและสังหารไมยราพ .................................................................................................................................................................. ............. เมื่อรู้ว่าหนุมานเป็นบิดา มัจฉานุรู้สึกผิดและกล่าวขอโทษที่ได้ล่วงเกินหนุมาน .................................................................................................................................................................. ............. ✓ เมื่อไปถึงเมืองบาดาล นางพิรากวนพูดคำลวงเพื่อหลอกใช้หนุมานให้สังหารไมยราพ .................................................................................................................................................................. ............. หนุมานแปลงกายเป็นแมลงวันเกาะชายสไบของนางพิรากวนเข้าไปในเมืองบาดาล .................................................................................................................................................................. ............. พระรามถูกไมยราพนำไปขังไว้ที่กรงในดงตาล .................................................................................................................................................................. ............. ✓ ทหารรักษาประตูจับได้ว่านางพิรากวนโกหกจึงสังหาร ส่วนหนุมานบินหนีเข้าไปในเมืองบาดาล .................................................................................................................................................................. ............. เมื่อไปถึงเมืองบาดาล หนุมานใช้กำลังสังหารเหล่าทหารยักษ์ที่เฝ้าอยู่โดยรอบเพื่อเข้าไปช่วยพระราม .................................................................................................................................................................. ............. นางพิรากวนแสร้งทำเป็นโมโหเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของทหารยักษ์ที่รักษาหน้าประตู .................................................................................................................................................................. ............. หนุมานบอกให้พระรามรออยู่ในที่คุมขัง ก่อนที่จะไปตามพระลักษมณ์ สุครีพ และองคต มาช่วย .................................................................................................................................................................. ............. หนุมานเป่ามนตร์ให้เหล่ายักษ์หลับใหล แล้วรีบลอบผ่านประตูเมืองเข้าไปพบพระรามที่หลับอยู่ในที่คุมขัง .................................................................................................................................................................. ............. ✓ x x x x x x มัจฉานุบอกใบ้เพียงว่า บิดาลงมาทางไหน ทางนั้นจะไปยังมีอยู่ x หนุมานเป็นผู้ขอให้นางพิรากวนแนะทางไปหาไมยราพเพื่อที่จะได้กำจัด และเป็นการช่วยเหลือไวยวิกด้วย หนุมานแปลงกายเป็นใยบัวติดสไบของนางพิรากวนเข้าไปในเมืองบาดาล ทหารรักษาประตูไม่สามารถจับได้ว่า หนุมานแปลงกายเป็นใยบัวลอบเข้ามาในเมืองบาดาล เมื่อไปถึงเมืองบาดาล หนุมานพรางตัวแอบอยู่หลังต้นโศกริมสระน้ำเพื่อสังเกตการณ์ นางพิรากวนแสร้งพูดจาน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตาของตนเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของทหาร หนุมานอุ้มพระรามออกจากที่คุมขังไปยังถ้ำสุรกานต์ แล้วกล่าวฝากเทวดาในถ้ำให้ช่วยดูแล
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 194 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 195 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 196 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ชั่วโมงที่ 9-10 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท ๑.๑ ป.6/2 อธิบายความหมายของคำ ประโยค และข้อความที่เป็นโวหาร ท 5.๑ ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน ท 5.1 ป.6/4 ท่องจำบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ 2. สาระสำคัญ รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ กล่าวถึงการทำศึกระหว่างหนุมานกับไมยราพซึ่งเป็นหลานชายของทศกัณฐ์ อีก ทั้งในตอนนี้ยังเป็นเหตุการณ์ที่หนุมานและมัจฉานุบุตรชายที่เกิดจากนางสุพรรณมัจฉาพบกัน การต่อสู้ระหว่างหนุมาน กับไมยราพเป็นสัญลักษณ์ของธรรมะและอธรรม ซึ่งในที่สุดธรรมะย่อมชนะอธรรม 3. คำถามจุดประกาย ระหว่างหนุมานกับไมยราพใครจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. คาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเรื่องพร้อมบอกเหตุผลได้ 2. สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา ตัวละครในช่วงที่อ่านได้ 3. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาและตัวละครในช่วงที่อ่านได้ 4. ท่องจำบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ บทที่สนใจเป็นทำนองเสนาะ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 197 6. สาระการเรียนรู้ บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูให้นักเรียนดูภาพจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 101) บอกสิ่งที่เห็นจากภาพ เช่น ตัวละคร สิ่งที่ตัวละครกำลังกระทำ 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 2. ครูเขียนคำ ทำลายดวงใจ ให้นักเรียนตอบคำถาม ดวงใจ ในที่นี้มีความหมายว่าอย่างไร ดวงใจของผู้ใดที่จะ ถูกทำลาย แล้วคาดคะเนว่า เหตุการณ์ในเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไปหลังจากที่หนุมานขอให้เทวดาทั้งหลายดูแลพระราม 3. ครูแบ่งนักเรียน จำนวน 3 กลุ่ม อ่านออกเสียงบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ จากหนังสือเรียน - กลุ่มที่ 1 อ่าน หน้า 100-102 ตั้งแต่ขึ้นต้นบท บัดนั้น จนจบวรรค มิให้ดำรงกายทัน - กลุ่มที่ 2 อ่าน หน้า 102-104 ตั้งแต่ย่อหน้า ไมยราพเมื่อเสียทีแก่หนุมาน จนจบวรรค จึ่งไว้ชีวีอสุรา - กลุ่มที่ 3 อ่าน หน้า 104-106 ตั้งแต่ขึ้นต้นบท เมื่อนั้น จนจบวรรค กุมภัณฑ์ก็ม้วยชีวี 4. ครูให้สมาชิกกลุ่มค้นหาคำศัพท์ที่ไม่ทราบความหมาย จากหัวข้อเรียนรู้คำ จำความหมาย ถอดความลง กระดาษ flip chart แล้วเขียนนำเสนอเกี่ยวกับคำศัพท์ที่น่าสนใจ เช่น คำที่ใช้เรียกตัวละคร คำที่หมายถึงสิ่งเดียวกันแต่ เขียนต่างกัน คำที่ใช้เขียนต่อท้ายเพื่อขยายความตัวละคร 5. ครูให้แต่ละกลุ่มนำกระดาษมาติดบนกระดาน เล่าเหตุการณ์ตามที่ถอดความ นำเสนอความรู้เกี่ยวกับคำศัพท์ 6. ครูให้นักเรียนเชื่อมโยงและเรียบเรียงเหตุการณ์ในช่วง ทำลายดวงใจ จากการฟังแล้วตอบคำถาม - อุบายที่ให้ต่อสู้ด้วยกระบองตาลสะท้อนว่า ไมยราพเป็นตัวละครแทนบุคคลที่มีลักษณะนิสัยอย่างไร - ในศึกครั้งนี้ใครเป็นผู้ชนะ ตรงกับที่คาดคะเนไว้หรือไม่ อย่างไร 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 7. ครูให้นักเรียนสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงแรกพบสงสัย ไร้ความเคลือบแคลง จำแลงแปลงกาย ใจหมาย ช่วยนาย และทำลายดวงใจ เรียงตามลำดับเวลา 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 8. ครูให้นักเรียนเลือกคัดลอกระหว่างบทบรรยายการต่อสู้กับบทพรรณนาอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร จน จบความหนึ่ง ๆ ลงกระดาษรายงาน ใช้เครื่องหมาย / แบ่งจังหวะคำ นำมาอ่านทำนองเสนาะกับครู หรือบันทึกเสียง ขณะอ่านนำส่งเป็นรายบุคคล แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 3. อินเทอร์เน็ต 4. ใบกิจกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 198 กลอนบทละครที่สอดคล้องกับภาพ ............................................................................................. ........................................................................................................ ตัวละครในเหตุการณ์ …………………………………………………………………………………….……… มูลเหตุหรือแรงจูงใจ …………………………………………………………………………………….……… กลอนบทละครที่สอดคล้องกับภาพ ............................................................................................. ........................................................................................................ ตัวละครในเหตุการณ์ …………………………………………………………………………………….……… มูลเหตุหรือแรงจูงใจ …………………………………………………………………………………….……… กลอนบทละครที่สอดคล้องกับภาพ ............................................................................................. ........................................................................................................ ตัวละครในเหตุการณ์ …………………………………………………………………………………….……… มูลเหตุหรือแรงจูงใจ …………………………………………………………………………………….……… ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนดูภาพเหตุการณ์ที่กำหนดแล้วตอบคำถามลงในช่องว่าง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 199 กลอนบทละครที่สอดคล้องกับภาพ ............................................................................................. ........................................................................................................ ตัวละครในเหตุการณ์ …………………………………………………………………………………….……… มูลเหตุหรือแรงจูงใจ …………………………………………………………………………………….……… กลอนบทละครที่สอดคล้องกับภาพ ............................................................................................. ........................................................................................................ ตัวละครในเหตุการณ์ …………………………………………………………………………………….……… มูลเหตุหรือแรงจูงใจ …………………………………………………………………………………….……… กลอนบทละครที่สอดคล้องกับภาพ ............................................................................................. ........................................................................................................ ตัวละครในเหตุการณ์ …………………………………………………………………………………….……… มูลเหตุหรือแรงจูงใจ …………………………………………………………………………………….……… เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนดูภาพเหตุการณ์ที่กำหนดแล้วตอบคำถามลงในช่องว่าง หนุมาน และไมยราพ โผนเผ่นขึ้นยืนเหยียบบ่า กรขวาฉวยชิงพระขรรค์ กลอกกลับสัประยุทธ์พัลวัน ฟาดฟันต้องกายขุนมาร หนุมานต้องการสังหารไมยราพที่บังอาจมาลักพาตัวพระราม หนุมาน และไมยราพ เมื่อนั้น พญาไมยราพยักษา เห็นกระบี่นอนทอดกายา ก็ปรีดาเงือดเงื้อตระบองตาล ไมยราพต้องการสังหารหนุมานด้วยกระบองที่ทำจากตาล 3 ต้น หนุมาน และไมยราพ เหวยเหวยไมยราพยักษี นี่หัวใจมึงฤๅมิใช่ ว่าแล้วขยี้เป็นจุรณไป ตัดเศียรลงให้พร้อมกัน หนุมานต้องการจบการต่อสู้ครั้งนี้ ด้วยการสังหารไมยราพ
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 200 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 201 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 202 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง คุณค่าของบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ชั่วโมงที่ 1-2 1. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท 1.1 ป.6/5 อธิบายการนำความรู้และความคิดจากเรื่องที่อ่านไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนินชีวิต ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน ท 5.1 ป.6/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 2. สาระสำคัญ บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ เป็นวรรณคดีที่มีความไพเราะ มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคติความเชื่อ ธรรมเนียมปฏิบัติ พฤติกรรมของตัวละครสะท้อนข้อคิดที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนั้น บทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ จึงปรากฏคุณค่าทั้งด้านวรรณศิลป์ อารมณ์ความรู้สึก ปัญญา คติธรรม และสังคม 3. คำถามจุดประกาย บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ใช้ถ้อยคำโดดเด่นอย่างไร 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา ตัวละครในบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 2. แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 3. บอกคุณค่าและข้อคิดที่ได้รับจากบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ คุณค่าของบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 203 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูขออาสาสมัคร 8 คน หน้าชั้นเรียน แจกบัตรภาพเหตุการณ์ในบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ให้แต่ละคนโดยไม่เรียงลำดับ จากนั้นเพื่อน ๆ ในห้องทำหน้าที่บอกว่าเพื่อนแต่ละคนต้องยืนสลับตำแหน่งอย่างไรจึงจะ เรียงลำดับเหตุการณ์ถูกต้อง 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 2. ครูให้นักเรียนระบุว่า ภาพลำดับใดอยู่ในช่วงเหตุการณ์แรกพบสงสัย ไร้ความเคลือบแคลง จำแลงแปลงกาย ใจหมายช่วยนาย ทำลายดวงใจ ร่วมกันเล่าเหตุการณ์ในภาพโดยกล่าวถึงสาเหตุและผลของเหตุการณ์ 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มอ่านบทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ วิเคราะห์ว่ามีความโดดเด่นด้านใด เช่น เนื้อหาที่สะท้อนสภาพสังคมไทย เนื้อหาที่ให้ข้อคิด ภาษาที่บรรยายภาพชัดเจน ภาษาที่มีสัมผัสไพเราะคล้องจอง ดู ตัวอย่างการวิเคราะห์คุณค่าจากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 107-111) 4. ครูให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอ โดยจับสลากว่าจะได้นำเสนอความโดดเด่นด้านใด กลุ่มละ 1 ประเด็น ดังนี้ ด้านการใช้ถ้อยคำ ด้านอารมณ์ความรู้สึก ด้านปัญญา ด้านคติธรรม ด้านสังคม อ่านออกเสียงบทละครประกอบ 5. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวละครในตอน กลุ่มละ 1 ตัว ได้แก่ หนุมาน มัจฉานุ นางพิรากวน และไมยราพ เขียน พฤติกรรมของตัวละครลงกระดาษรายงาน กลุ่มที่ศึกษาตัวละครเดียวกันเข้ากลุ่มใหญ่แลกเปลี่ยนข้อมูลและวิเคราะห์ว่า พฤติกรรม ความคิดของตัวละครสะท้อนค่านิยม ความเชื่อ หรือข้อคิดใด 6. ครูให้แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมเสริม เพิ่มการเรียนรู้ ขออาสาสมัครตอบคำถามทบทวนชวนคิด เขียนคำตอบ บนกระดาน สุ่มเรียกนักเรียนแสดงความคิดเห็น เพราะเหตุใดจึงควรศึกษาบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 7. ครูให้นักเรียนสรุปข้อคิดที่ได้รับจากบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ โดยพิจารณาจากพฤติกรรม ของตัวละคร แล้วยกเหตุการณ์ประกอบ รวมถึงสรุปคุณค่าด้านต่าง ๆ ครูชี้แนะเพิ่มเติม 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 8. ครูให้แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมเชื่อมโยงความรู้ นำเสนอในรูปแบบแผ่นพับความรู้ จากนั้นนักเรียนคัดลอกบท ละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ที่ประทับใจจนจบความหนึ่ง ๆ ลงกระดาษรายงาน เขียนอธิบายว่า ปรากฏ คุณค่าด้านใดและอย่างไร นำส่งเป็นรายบุคคล ทำใบกิจกรรมและแบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. บัตรภาพเหตุการณ์ในบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ จากหนังสือเรียน 3. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 4. อินเทอร์เน็ต 5. ใบกิจกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 204 อย่าให้เป็นกรรมเวรา แก่ข้าน้อยนี้สืบไป จะแปลงเป็นใยบัวติดสไบ เข้าไปมิให้สงกา กราบลงแทบบาทภูวไนย ซบพักตร์ร่ำไห้โศกา ปล้ำปลุกคลุกคลีตีประจัญ พัลวันหลบหลีกไปในที ทำลายกรงช้อนองค์พระจักรี ด้วยกำลังฤทธีพาจร คุณค่าด้านวรรณศิลป์ คุณค่าด้านคติธรรม คุณค่าด้านสังคม คุณค่าด้านอารมณ์ คุณค่าด้านปัญญา การใช้คำเปรียบเทียบ เล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะ ความกตัญญูรู้คุณ ความโศกเศร้า ความภักดี การมีปฏิภาณ ไหวพริบ ความเชื่อเรื่องเวรกรรม กริ้วโกรธพิโรธดั่งอัคคี ขุนกระบี่รับระปะทะกร อันซึ่งจะบอกมรคา ดั่งข้าไม่มีกตัญญู ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ โยงเส้นให้สัมพันธ์กับคุณค่าที่ปรากฏ แล้วเลือก หมายเลขไปเติมในช่องว่างเพื่อบอกลักษณะ 1 2 3 4 5 6 7
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 205 อย่าให้เป็นกรรมเวรา แก่ข้าน้อยนี้สืบไป จะแปลงเป็นใยบัวติดสไบ เข้าไปมิให้สงกา กราบลงแทบบาทภูวไนย ซบพักตร์ร่ำไห้โศกา ปล้ำปลุกคลุกคลีตีประจัญ พัลวันหลบหลีกไปในที ทำลายกรงช้อนองค์พระจักรี ด้วยกำลังฤทธีพาจร คุณค่าด้านวรรณศิลป์ คุณค่าด้านคติธรรม คุณค่าด้านสังคม คุณค่าด้านอารมณ์ คุณค่าด้านปัญญา การใช้คำเปรียบเทียบ เล่นเสียงสัมผัสพยัญชนะ ความกตัญญูรู้คุณ ความโศกเศร้า ความภักดี การมีปฏิภาณ ไหวพริบ ความเชื่อเรื่องเวรกรรม กริ้วโกรธพิโรธดั่งอัคคี ขุนกระบี่รับระปะทะกร อันซึ่งจะบอกมรคา ดั่งข้าไม่มีกตัญญู เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนอ่านบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ โยงเส้นให้สัมพันธ์กับคุณค่าที่ปรากฏ แล้วเลือก หมายเลขไปเติมในช่องว่างเพื่อบอกลักษณะ 1 2 3 4 5 6 7 7 6 4 2 5 1 3
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 206 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 207 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 208 เฉลยคำถามทบทวนชวนคิด หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 1. นักเรียนคิดว่าการตายของไมยราพสมเหตุสมผลหรือไม่ อย่างไร ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู 2. ถ้านักเรียนเป็นมัจฉานุ นักเรียนจะบอกทางไปเมืองบาดาลอันเป็นที่อยู่ของไมยราพแก่หนุมานหรือไม่ เพราะเหตุใด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู 3. ในการต่อสู้ระหว่างหนุมานกับไมยราพ นักเรียนเอาใจช่วยหนุมานหรือไมยราพ และเพราะเหตุใดจึงเอาใจช่วยฝ่ายนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู 4. นักเรียนคิดว่าหากหนุมานไม่พบกับนางพิรากวน หนุมานจะเข้าไปยังเมืองบาดาลได้หรือไม่ อย่างไร ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของครู 5. นักเรียนได้ข้อคิดอะไรจากการอ่านบทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ ธรรมะย่อมชนะอธรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 209 แบบทดสอบท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 1. เรื่อง รามเกียรติ์ นำเสนอแนวคิดตรงกับข้อใด 1. ความพยายาม 2. ความกตัญญูกตเวที 3. ธรรมะย่อมชนะอธรรม 4. ความซื่อสัตย์สุจริต 2. ข้อใดไม่ใช่ตัวละครในเรื่อง รามเกียรติ์ 1. หนุมาน 2. นางสีดา 3. ทศกัณฐ์ 4. ม้าสีหมอก 3. พระมหากษัตริย์พระองค์ใดทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 1. รัชกาลที่ 1 2. รัชกาลที่ 3 3. รัชกาลที่ 8 4. รัชกาลที่ 9 4. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับบ้านเมืองในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 1. สงบร่มเย็น 2. เกิดสงคราม 3. ยังไม่มั่นคง 4. เกิดความระส่ำระสาย 5. ข้อใดไม่ใช่ผลงานพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 1. บทละครเรื่อง เงาะป่า 2. เพลงยาวรบพม่าที่ท่าดินแดง 3. รามเกียรติ์ 4. อิเหนา 6. รามเกียรติ์เป็นวรรณคดีที่มีเค้าโครงเรื่องจากวรรณคดีเรื่องใด 1. อิเหนา 2. พระอภัยมณี 3. ขุนช้างขุนแผน 4. รามายณะ 7. รามายณะ เป็นวรรณคดีที่แต่งด้วยภาษาใด 1. ภาษาบาลี 2. ภาษาสันสกฤต 3. ภาษาเขมร 4. ภาษามคธ 8. เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ มีลักษณะคำประพันธ์ตรงกับข้อใด 1. กลอนบทละคร 2. กลอนเสภา 3. กาพย์ฉบัง 16 4. กาพย์ยานี 11 9. ข้อใดเป็นลักษณะเด่นของกลอนบทละคร 1. จำนวนบท 2. คำขึ้นต้นบท 3. จำนวนบาท 4. คำสัมผัส
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 210 10. เมื่อกล่าวถึง หนุมาน ในกลอนบทละครจะใช้คำขึ้นต้นบทตรงกับข้อใด 1. บัดนั้น 2. มาจะกล่าวบทไป 3. เมื่อนั้น 4. ครานั้น 11. ข้อใดถูกต้อง 1. พระศิวะ - พระราม 2. พระนารายณ์ - ทศกัณฐ์ 3. นนทก - ทศกัณฐ์ 4. พระนารายณ์ - พระลักษมณ์ 12. เมื่อมัจฉานุพบหนุมานลอบเข้ามาในเมือง มัจฉานุรู้สึกอย่างไร 1. ล่วงด่านผ่านทางเข้ามา 2. โกรธาขบฟันกระทืบบาท 3. ลดเลี้ยวกระเวนทางใหญ่ 4. ขึ้นไปจากท้องชลธาร 13. ข้อใดมีความหมายเดียวกันทุกคำ 1. วานร สาคร อาทร 2. มัจฉา วานร อัคคี 3. กริ้ว โกรธ พิโรธ 4. กริ้ว พิโรธ อัคคี 14. ข้อใดแสดงภาพเคลื่อนไหว 1. มัจฉานุฤทธิแรงแข็งขัน 2. ด้วยกำลังศักดาราวี 3. ต่อกรไม่ละลดกัน 4. ถีบกัดวัดเหวี่ยงอุตลุด 15. ข้อใดหมายถึงหนุมาน 1. เป็นด่านรักษาชั้นใน 2. วายุบุตรวุฒิไกรใจหาญ 3. ขึ้นไปจากท้องชลธาร 4. ลดเลี้ยวกระเวนทางใหญ่ 16. มูลเหตุ หรือแรงจูงใจที่ทำให้มัจฉานุไม่บอกทางไปหาไมยราพแก่หนุมานตรงกับข้อใด 1. ดั่งข้าไม่มีกตัญญู 2. เปลี่ยนท่าเปลี่ยนทีรอนราญ 3. รับขวัญจุมพิตแล้วพิศพักตร์ 4. พระคุณดั่งคุณบิตุเรศ 17. หาวเป็นดาวเดือนทินกร เขจรสว่างเวหา หนุมานทำเช่นนี้เพราะเหตุใด 1. ให้มัจฉานุเกรงกลัว 2. ให้มัจฉานุตกใจ 3. ให้มัจฉานุเชื่อว่าเป็นบิดา 4. ให้มัจฉานุโกรธ 18. ข้อใดเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมัจฉานุกับไมยราพ 1. ตบมือสำรวลไปมา 2. เลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรม์ 3. บันดาลให้มาพบกัน 4. เป็นด่านรักษาชั้นใน
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 211 19. ข้อใดเป็นคำใช้เรียกไมยราพ 1. อสุรี อสุรา 2. วานร อสุรา 3. อสุรี จาบัลย์ 4. วานร กระบี่ 20. ข้อใดสะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของนางพิรากวน 1. แม้นเจ้าสิ้นชีพชีวี 2. ทรามเชยผู้ยอดเสน่หา 3. ร่ำพลางแสนโศกโศกา 4. ที่ไหนแม่จะได้เห็นหน้า 21. กราบลงแทบบาทภูวไนย ซบพักตร์ร่ำไห้โศกา สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกใดของหนุมานที่มีต่อพระราม 1. เคารพและเทิดทูน 2. เทิดทูนและสงสาร 3. สงสารและอาลัย 4. รักและอาลัย 22. อาวุธในข้อใดที่หนุมานและไมยราพไม่ได้ใช้ในการต่อสู้ 1. กระบองตาล 2. พระขรรค์ 3. ธนู 4. โตมร 23. ข้อใดปรากฏภาพพจน์เปรียบเทียบ 1. ให้ประหวั่นครั่นคร้ามขามฤทธิ์ 2. เร่งนอนลงเถิดอ้ายจัญไร 3. ปัถพีกัมปนาทหวาดไหว 4. ร้อนจิตดั่งหนึ่งเพลิงไหม้ 24. ไมยราพถอดดวงใจฝากไว้ที่แมลงชนิดใด 1. แมลงภู่ 2. แมลงหวี่ 3. ผึ้ง 4. ด้วง 25. ข้อใดเป็นจุดจบของไมยราพ 1. พระรามสังหารด้วยศร 2. ทศกัณฐ์โกรธจึงสั่งฆ่า 3. ไวยวิกสังหารด้วยความแค้น 4. หนุมานขยี้ดวงใจและตัดเศียร 26. ข้อใดสะท้อนให้เห็นว่าหน้าที่สำคัญกว่าความรู้สึกส่วนตัว 1. บิดาลงมาทางไหน ทางนั้นจะไปยังมีอยู่ 2. ว่าแล้วขยี้เป็นจุรณไป ตัดเศียรลงให้พร้อมกัน 3. พ่อจักอยู่ช้าก็ไม่ได้ จะรีบไปตามองค์พระทรงจักร 4. บัดนั้น มัจฉานุผู้มีอัชฌาสัย 27. ข้อใดสะท้อนคติธรรมเรื่องความกตัญญู 1. บัดนั้น คำแหงหนุมานทหารใหญ่ 2. พระคุณดั่งคุณบิตุเรศ ซึ่งบังเกิดเกศเกศา 3. อันทางบาดาลนครา แก้วตาจงบอกให้พ่อไป 4. อันซึ่งผิดพลั้งทั้งนั้น ไม่ถือโทษทัณฑ์แก่ลูกรัก
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 212 28. ข้อใดใช้คำเลียนเสียงธรรมชาติ 1. ว่าแล้วขยี้เป็นจุรณไป 2. เสียงสนั่นครั่นครื้นโพยมหน 3. เยือกเย็นไปทั้งบาดาล 4. กริ้วโกรธพิโรธดั่งอัคคี 29. ความเชื่อใดไม่ได้ปรากฏในเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 1. เวทมนตร์ 2. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 3. โชคลาง 4. เวรกรรม 30. คติธรรมใดปรากฏในเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน ศึกไมยราพ 1. ความซื่อสัตย์ 2. ความประหยัด 3. ความขยันหมั่นเพียร 4. ความกตัญญู เฉลย ๑. 3 ๒. 4 ๓. 1 ๔. 3 ๕. 1 ๖. 4 ๗. 2 ๘. 1 ๙. 2 ๑๐. 1 ๑๑. 3 ๑๒. 2 ๑๓. 3 ๑๔. 4 ๑๕. 2 ๑๖. 1 ๑๗. 3 ๑๘. 2 ๑๙. 1 ๒๐. 3 ๒๑. 2 ๒๒. 3 ๒๓. 4 ๒๔. 1 ๒๕. 4 ๒๖. 3 ๒๗. 2 ๒๘. 2 ๒๙. 3 ๓๐. 4
หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เพลงพื้นบ้าน ปฏิภาณภาษา จำนวน 11 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับเพลงพื้นบ้าน ชั่วโมงที่ 1 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง 2. สาระสำคัญ เพลงพื้นบ้าน คือ เพลงที่ชาวบ้านในท้องถิ่นแต่งเนื้อร้องและทำนองขึ้นเพื่อร้องเล่น มีความเรียบง่ายทั้งเนื้อร้อง และทำนอง มุ่งเน้นความสนุกสนานรื่นเริง ใช้เล่น หรือร้องในโอกาสต่าง ๆ 3. คำถามจุดประกาย ความเรียบง่ายของเพลงพื้นบ้านสะท้อนผ่านองค์ประกอบใด 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านได้ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ ความรู้เกี่ยวกับเพลงพื้นบ้าน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูยกตัวอย่างชื่อการแสดงพื้นบ้าน เช่น ฟ้อนเล็บ รำกลองยาว เซิ้งกระติบ มโนราห์ ให้นักเรียนระบุภูมิภาค
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 214 แล้วสนทนาเกี่ยวกับการแสดงตามประสบการณ์ความรู้เช่น รูปแบบการแสดง การแต่งกาย 2. ครูให้นักเรียนวาดภาพเครื่องดนตรีพื้นบ้านที่รู้จักบนกระดาน เพื่อน ๆ ในชั้นตอบว่าเป็นเครื่องดนตรีชนิดใด ของภูมิภาคใด จากนั้นร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับลักษณะที่เหมือนกันของเครื่องดนตรีพื้นบ้านภูมิภาคต่าง ๆ 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 3. ครูขออาสาสมัครเขียนคำที่มีคำว่า พื้นบ้าน ทำหน้าที่ขยาย เช่น อาหารพื้นบ้าน การแต่งกายพื้นบ้าน นิทาน พื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน การแสดงพื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน บนกระดาน 4. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ส่งตัวแทนจับสลากหัวข้อ ได้แก่ อาหารพื้นบ้าน การแต่งกายพื้นบ้าน นิทานพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน การแสดงพื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน แล้วสืบค้นจากอินเทอร์เน็ตว่า หัวข้อที่ได้รับมอบหมายมีลักษณะเฉพาะ อย่างไร นำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรียน พร้อมยกตัวอย่างประกอบ 5. ครูให้นักเรียนอธิบายลักษณะร่วมของอาหารพื้นบ้าน การแต่งกายพื้นบ้าน นิทานพื้นบ้าน ดนตรีพื้นบ้าน การแสดงพื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน โดยครูชี้แนะเพิ่มเติม 6. ครูให้นักเรียนศึกษาหัวข้อ ความรู้เกี่ยวกับเพลงพื้นบ้าน จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 121-122) 7. ครูให้นักเรียนบอกคำสำคัญ หรือ Key word ของเนื้อหาแต่ละย่อหน้าในหัวข้อ ความรู้เกี่ยวกับเพลงพื้นบ้าน ขออาสาสมัครเขียนบนกระดาน จากนั้นร่วมกันอธิบาย ขยายความเกี่ยวกับคำ 8. ครูให้นักเรียนบอกประโยคใจความสำคัญของเนื้อหาแต่ละย่อหน้า แล้วตอบคำถาม - บทร้อยกรองที่ไม่เคร่งครัดฉันทลักษณ์มีความหมายว่าอย่างไร - เนื้อหาของเพลงพื้นบ้านส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับเรื่องใด - การขับร้องเพลงพื้นบ้านเกิดจะขึ้นในโอกาสใด เพราะเหตุใด 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 9. ครูให้นักเรียนสรุปความรู้เกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านที่ได้รับจากการอ่านในรูปแบบการย่อความ โดยขออาสาสมัคร เขียนบนกระดาน ครูตรวจสอบความถูกต้องก่อนให้บันทึกลงสมุด จากนั้นให้อภิปรายว่า มีประเด็นใดอีกหรือไม่ ที่ จำเป็นต้องทราบเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้าน 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 10. ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านเพิ่มเติมจากประเด็นในหนังสือเรียน เช่น องค์ประกอบ การแบ่ง ประเภท เนื้อหา เครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบขณะขับร้อง ประเด็นใดประเด็นหนึ่ง นำเสนอในรูปแบบใบความรู้นำส่งเป็น รายบุคคล แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 3. อินเทอร์เน็ต 4. ใบกิจกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 215 ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง เพลงพื้นบ้านเป็นบทร้อยกรองที่เคร่งครัดฉันทลักษณ์ หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับจำนวนบท บาท คำ สัมผัส .................................................................................................................................................................. ............. เพลงพื้นบ้านไม่มีท่วงทำนองในการขับร้อง แต่จะกล่าวเนื้อเพลงให้คล้องจองกันไปเรื่อย ๆ .................................................................................................................................................................. ............. คนในท้องถิ่นเป็นผู้คิดค้นคำร้องและท่วงทำนองในการขับร้องเพลง โดยใช้ภาษาถิ่นที่ไม่ซับซ้อน .................................................................................................................................................................. ............. ท่วงทำนองของเพลงพื้นบ้านจะเน้นความลื่นไหลที่เข้ากับคำร้องและจังหวะ .................................................................................................................................................................. ............. เพลงพื้นบ้านเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะ ที่มีการถ่ายทอดกันปากต่อปาก .................................................................................................................................................................. ............. สามารถสืบค้นเกี่ยวกับผู้แต่งคำร้องและทำนองของเพลงพื้นบ้านได้ทุกเพลง .................................................................................................................................................................. ............. เพลงพื้นบ้านเป็นวรรณกรรมที่ไม่สามารถดัดแปลง สร้างสรรค์ ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงได้ .................................................................................................................................................................. ............. เนื้อหาของเพลงพื้นบ้านจะถ่ายทอดคติธรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาโดยเฉพาะ .................................................................................................................................................................. ............. การแบ่งประเภทของเพลงพื้นบ้าน แบ่งได้หลายประเภทขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง .................................................................................................................................................................. ............. การปรบมือเป็นรูปแบบหนึ่งของการประกอบจังหวะเมื่อมีการขับร้องเพลงพื้นบ้าน .................................................................................................................................................................. .............
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 216 เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนกาเครื่องหมาย ✓ หน้าข้อความที่ถูกต้อง กาเครื่องหมาย x หน้าข้อความที่ไม่ถูกต้อง แล้วแก้ไขให้ ถูกต้อง เพลงพื้นบ้านเป็นบทร้อยกรองที่เคร่งครัดฉันทลักษณ์ หรือข้อกำหนดเกี่ยวกับจำนวนบท บาท คำ สัมผัส .................................................................................................................................................................. ............. เพลงพื้นบ้านไม่มีท่วงทำนองในการขับร้อง แต่จะกล่าวเนื้อเพลงให้คล้องจองกันไปเรื่อย ๆ .................................................................................................................................................................. ............. คนในท้องถิ่นเป็นผู้คิดค้นคำร้องและท่วงทำนองในการขับร้องเพลง โดยใช้ภาษาถิ่นที่ไม่ซับซ้อน .................................................................................................................................................................. ............. ✓ ท่วงทำนองของเพลงพื้นบ้านจะเน้นความลื่นไหลที่เข้ากับคำร้องและจังหวะ .................................................................................................................................................................. ............. ✓ เพลงพื้นบ้านเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะ ที่มีการถ่ายทอดกันปากต่อปาก .................................................................................................................................................................. ............. ✓ สามารถสืบค้นเกี่ยวกับผู้แต่งคำร้องและทำนองของเพลงพื้นบ้านได้ทุกเพลง .................................................................................................................................................................. ............. เพลงพื้นบ้านเป็นวรรณกรรมที่ไม่สามารถดัดแปลง สร้างสรรค์ ให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงได้ .................................................................................................................................................................. ............. เนื้อหาของเพลงพื้นบ้านจะถ่ายทอดคติธรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาโดยเฉพาะ .................................................................................................................................................................. ............. การแบ่งประเภทของเพลงพื้นบ้าน แบ่งได้หลายประเภทขึ้นอยู่กับเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง .................................................................................................................................................................. ............. ✓ การปรบมือเป็นรูปแบบหนึ่งของการประกอบจังหวะเมื่อมีการขับร้องเพลงพื้นบ้าน .................................................................................................................................................................. ............. ✓ x x x x x เพลงพื้นบ้านเป็นบทร้อยกรองที่ไม่เคร่งครัดฉันทลักษณ์ เพลงพื้นบ้านมีท่วงทำนองที่เรียบง่าย เน้นความลื่นไหลไปกับเนื้อร้อง เพลงพื้นบ้านเป็นวรรณกรรมมุขปาฐะ ถ่ายทอดปากต่อปาก จึงไม่สามารถทราบเกี่ยวกับผู้แต่งได้แน่ชัด ปัจจุบันได้มีการนำเพลงพื้นบ้านบางเพลงมาดัดแปลง ผสมผสานให้เข้ากับเครื่องดนตรีสากล เนื้อหาของเพลงพื้นบ้านส่วนมากเกี่ยวกับการเกี้ยวพาราสีระหว่างหนุ่มสาว
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 217 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 218 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 219 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค ชั่วโมงที่ 1-2 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน 2. สาระสำคัญ เพลงพื้นบ้านภาคเหนือ เป็นเพลงที่ใช้ร้องเล่นได้ทุกโอกาส ทุกเทศกาล เป็นบทร้องที่ใช้ปฏิภาณไหวพริบ นิยม ร้องเพื่อความสนุกสนาน ผ่อนคลาย ใช้เครื่องดนตรีบรรเลงทำนอง คือ สะล้อ ซึง และปี่ 3. คำถามจุดประกาย ท่วงทำนองของเพลงบอกสิ่งใดแก่ผู้ฟังได้บ้าง 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านภาคเหนือได้ 2. เข้าใจและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านภาคเหนือได้ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค : เพลงพื้นบ้านภาคเหนือ 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูให้นักเรียนที่ศึกษาเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านในประเด็นเดียวกันเข้ากลุ่มใหญ่แลกเปลี่ยนความรู้ แล้วร่วมกัน
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 220 เรียบเรียงความรู้ใหม่อีกครั้งโดยใช้ข้อมูลจากใบความรู้ของทุกคน ส่งตัวแทนนำเสนอหน้าชั้นเรียน 2. ครูให้ความรู้เกี่ยวกับการแบ่งประเภทเพลงพื้นบ้าน โดยบอกเกณฑ์แล้วให้นักเรียนคาดคะเนว่า จะแบ่งเป็น ประเภทย่อย ๆ ได้อย่างไร เช่น แบ่งตามพื้นที่ แบ่งตามกลุ่มวัฒนธรรม แบ่งตามโอกาสการร้อง แบ่งตามจุดประสงค์การ ร้อง แบ่งตามจำนวนผู้ร้อง ครูเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 3. ครูเปิดแถบบันทึกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคเหนือให้นักเรียนฟัง เช่น เพลงกล่อมเด็ก (อื่อ จาจา) หรือเพลงอื่น โดยเปิดให้ฟังเฉพาะทำนอง แล้วให้คาดคะเนว่า เป็นเพลงพื้นบ้านของภูมิภาคใด สังเกตจากสิ่งใด 4. ครูให้ข้อมูลเกี่ยวกับทำนองของเพลงพื้นบ้านที่เปิดให้ฟัง ให้นักเรียนฟังอีกครั้งแล้วตอบคำถาม นอกจาก ท่วงทำนองแล้ว บทเพลงที่ฟังยังสะท้อนสิ่งใดที่เป็นลักษณะเฉพาะของภาคเหนือ 5. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มเลือกศึกษาเพลงพื้นบ้านภาคเหนือ ระหว่างเพลงร้องเล่น สิกจุ่งจา และเพลงซอ จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 124-125) 6. ครูให้สมาชิกกลุ่มวิเคราะห์บทเพลงที่เลือกในประเด็น ได้แก่ ประเภท โดยให้บอกว่า หากใช้เกณฑ์ในการ แบ่ง เพลงสิกจุ่งจา เพลงซอ จะเป็นเพลงพื้นบ้านประเภทใดได้บ้าง เนื้อหา ให้ถอดความเป็นร้อยแก้ว ข้อมูลหรือข้อคิดที่ ได้รับ เขียนลงกระดาษรายงานกลุ่ม 7. ครูให้นักเรียนที่ศึกษาเพลงพื้นบ้านภาคเหนือเพลงเดียวกันเข้ากลุ่มใหญ่ อภิปรายข้อมูลจากทุกกลุ่ม แล้ว เรียบเรียงความรู้ใหม่อีกครั้ง ส่งตัวแทนนำเสนอ เพลงละ 1 คน หน้าชั้นเรียน ครูตรวจสอบและชี้แนะเพิ่มเติม 8. ครูให้นักเรียนฝึกร้องเพลงสิกจุ่งจาและเพลงซอตามครูทีละวรรค กลับเข้ากลุ่มย่อยฝึกร่วมกันอีกครั้ง จากนั้น ให้แต่ละกลุ่มแสดงความคิดเห็น ระหว่างเพลงสิกจุ่งจาและเพลงซอ ชอบเพลงใดมากกว่ากัน แสดงเหตุผลเกี่ยวกับ เนื้อหา ภาษา และสิ่งได้รับจากบทเพลง 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 9. ครูให้นักเรียนอภิปรายเปรียบเทียบระหว่างเพลงสิกจุ่งจาและเพลงซอ ในประเด็น ได้แก่ จุดประสงค์การร้อง ภาษา ท่วงทำนอง สิ่งที่สะท้อนผ่านบทเพลง นำเสนอเป็นตารางสรุปร่วมกันบนกระดาน 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 10. ครูให้แต่ละกลุ่มขับร้องเพลงพื้นบ้านภาคเหนือตามที่ฝึกซ้อมหน้าชั้นเรียน กลุ่มละ 1 เพลง จากนั้นให้ ระดมความคิดเลือกศึกษาวัฒนธรรมภาคเหนือในด้านที่สนใจใช้เทคโนโลยีอย่างง่าย เช่น PowerPoint นำเสนอข้อมูล หรือเลือกตามความถนัด นำส่งเป็นรายกลุ่ม แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แถบบันทึกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคเหนือ 3. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 4. อินเทอร์เน็ต 5. ใบกิจกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 221 เป็นบทเพลงที่เน้นความสนุกสนาน ไม่เน้นความหมายลึกซึ้ง เป็นบทเพลงที่ใช้ร้องโต้ตอบกัน หรือร้องเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เป็นบทเพลงที่เด็กใช้ร้องเมื่อเล่น ไกวชิงช้า มีเครื่องดนตรีประกอบการร้อง ได้แก่ ปี่ ซึง สะล้อ ติดกิ่งไม้เนิ้ง หมายถึง กิ่งไม้ ที่มีลักษณะโค้ง ขึ้นต้นบทเพลงด้วยคำว่า สิกจุ่งจา บะลาจุ่งจ้อย เป็นบทเพลงที่อาจร้องคนเดียว เป็นคู่ หรือหมู่คณะ เก็บผักอีกุ่ม ใส่ซ้าข้างบน หมายถึง เก็บผักกุ่มใส่ตะกร้าข้างบน เพลงสิกจุ่งจา เพลงซอ พระลอเดินดง ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับเพลงพื้นบ้านภาคเหนือที่กำหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 222 เป็นบทเพลงที่เน้นความสนุกสนาน ไม่เน้นความหมายลึกซึ้ง เป็นบทเพลงที่ใช้ร้องโต้ตอบกัน หรือร้องเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เป็นบทเพลงที่เด็กใช้ร้องเมื่อเล่น ไกวชิงช้า มีเครื่องดนตรีประกอบการร้อง ได้แก่ ปี่ ซึง สะล้อ ติดกิ่งไม้เนิ้ง หมายถึง กิ่งไม้ ที่มีลักษณะโค้ง ขึ้นต้นบทเพลงด้วยคำว่า สิกจุ่งจา บะลาจุ่งจ้อย เป็นบทเพลงที่อาจร้องคนเดียว เป็นคู่ หรือหมู่คณะ เก็บผักอีกุ่ม ใส่ซ้าข้างบน หมายถึง เก็บผักกุ่มใส่ตะกร้าข้างบน เพลงสิกจุ่งจา เพลงซอ พระลอเดินดง เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับเพลงพื้นบ้านภาคเหนือที่กำหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 223 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 224 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 225 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค ชั่วโมงที่ 3-4 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน 2. สาระสำคัญ เพลงพื้นบ้านภาคอีสาน นิยมร้องประกอบการทำกิจกรรมร่วมกัน หรือในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ซึ่งเพลง พื้นบ้านภาคอีสานมีความหลากหลายด้านภาษา ท่วงทำนอง เนื่องจากความแตกต่างด้านวัฒนธรรมของกลุ่มคนในพื้นที่ 3. คำถามจุดประกาย เพลงพื้นบ้านภาคอีสานมีท่วงทำนองที่สะท้อนอัตลักษณ์ของผู้คนอย่างไร 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านภาคอีสานได้ 2. เข้าใจและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านภาคอีสานได้ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค : เพลงพื้นบ้านภาคอีสาน 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูเปิดแถบบันทึกเสียงทำนองเพลงพื้นบ้านภาคอีสานคลอไปกันการพูดทักทายด้วยภาษาไทยถิ่นอีสาน สุ่ม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 226 เรียกนักเรียนตอบคำถาม เจ้าของวัฒนธรรมทำนองเพลงพื้นบ้าน และภาษาถิ่นที่ได้ฟังคือภูมิภาคใด ทราบได้อย่างไร 2. ครูให้นักเรียนสนทนาเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้าน การแสดงพื้นบ้านภาคอีสานที่รู้จัก แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เกี่ยวกับท่วงทำนอง ภาษาที่ใช้แต่งคำร้อง เนื้อหา การแต่งกาย 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 3. ครูเปิดแถบบันทึกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคอีสานให้นักเรียนฟัง เช่น เพลงแห่นางแมว โดยเปิดให้ฟังเฉพาะ ทำนอง แล้วให้คาดคะเนว่า เพลงพื้นบ้านที่ได้ยินเป็นของภูมิภาคใด ทราบได้อย่างไร 4. ครูให้ข้อมูลเกี่ยวกับทำนองของเพลงพื้นบ้านที่เปิดให้ฟังพอสังเขป จากนั้นให้ฟังอีกครั้งแล้วบอกชนิดของ เครื่องดนตรีที่ได้ยิน บรรยายลักษณะท่วงทำนอง และอธิบายว่าเนื้อหาของบทเพลงกล่าวถึงเรื่องใด ครูเฉลยคำตอบ 5. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มศึกษาเพลงพื้นบ้านภาคอีสานระหว่างเพลงเซิ้งและเพลงหมอลำ ตามความสนใจ จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 125-126) 6. ครูให้สมาชิกกลุ่มวิเคราะห์บทเพลงที่เลือกในประเด็น ได้แก่ ประเภท โดยให้บอกว่า หากใช้เกณฑ์ในการ แบ่ง เพลงเซิ้ง เพลงหมอลำจะเป็นเพลงพื้นบ้านประเภทใดได้บ้าง เนื้อหา ให้ถอดความเป็นร้อยแก้ว ข้อมูลหรือข้อคิดที่ ได้รับ เขียนลงกระดาษรายงานกลุ่ม 7. ครูให้นักเรียนที่ศึกษาเพลงพื้นบ้านภาคอีสานเพลงเดียวกันเข้ากลุ่มใหญ่ อภิปรายข้อมูลจากทุกกลุ่ม แล้ว เรียบเรียงความรู้ใหม่อีกครั้ง ส่งตัวแทนนำเสนอ เพลงละ 1 คน หน้าชั้นเรียน จากนั้นร่วมกันตอบคำถาม เพลงเซิ้งบั้งไฟ สะท้อนให้เห็นความเชื่อ และวิถีชีวิตกลุ่มคนในวัฒนธรรมไทย - อีสาน อย่างไร 8. ครูให้นักเรียนฝึกร้องเพลงเซิ้งบั้งไฟและเพลงหมอลำ เต้ยโขง ตามครูทีละวรรค กลับเข้ากลุ่มย่อยฝึกร่วมกัน อีกครั้ง จากนั้นให้แต่ละกลุ่มแสดงความคิดเห็น ระหว่างเพลงเซิ้งบั้งไฟและเพลงหมอลำ ชอบเพลงใดมากกว่ากัน แสดง เหตุผลเกี่ยวกับเนื้อหา ภาษา และสิ่งได้รับจากบทเพลง 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 9. ครูให้นักเรียนอภิปรายเปรียบเทียบระหว่างเพลงเซิ้งบั้งไฟและเพลงหมอลำ เต้ยโขง ในประเด็น ได้แก่ จุดประสงค์การร้อง ภาษา ท่วงทำนอง สิ่งที่สะท้อนผ่านบทเพลง นำเสนอเป็นตารางสรุปร่วมกันบนกระดาน 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 10. ครูให้แต่ละกลุ่มขับร้องเพลงพื้นบ้านภาคอีสานตามที่ฝึกซ้อมหน้าชั้นเรียน กลุ่มละ 1 เพลง จากนั้นให้ระดม ความคิดเลือกศึกษาวัฒนธรรมภาคอีสานในด้านที่สนใจใช้เทคโนโลยีอย่างง่าย เช่น PowerPoint นำเสนอข้อมูล หรือ เลือกตามความถนัด นำส่งเป็นรายกลุ่ม แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แถบบันทึกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคอีสาน 3. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 4. อินเทอร์เน็ต 5. ใบกิจกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 227 มักขึ้นต้นด้วยคำว่า โอ เฮาโอ ศรัทธา เฮาโอ เป็นเพลงลาวผสมกับเพลง ภาคอีสานของไทย มีท่วงทำนองที่สนุกสนาน แม้ เนื้อหาของเพลงจะมีความโศกเศร้า เป็นเพลงที่ใช้ร้องประกอบพิธีกรรม หรือนำเสนอวิถีชีวิต ตายเป็นผีกะสินำมาหลอก สะท้อน ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ใช้ร้องเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อ เพลงเซิ้งบั้งไฟ เพลงหมอลำ ใช้ร้องเพื่อความสนุกสนาน เฉลิมฉลอง ดึงดูดผู้คนให้มาเข้าร่วม ชาตินี้ขอเป็นขวัญตา ชาติหน้า ขอเป็นขวัญใจ ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับเพลงพื้นบ้านภาคอีสานที่กำหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 228 มักขึ้นต้นด้วยคำว่า โอ เฮาโอ ศรัทธา เฮาโอ เป็นเพลงลาวผสมกับเพลง ภาคอีสานของไทย มีท่วงทำนองที่สนุกสนาน แม้ เนื้อหาของเพลงจะมีความโศกเศร้า เป็นเพลงที่ใช้ร้องประกอบพิธีกรรม หรือนำเสนอวิถีชีวิต ตายเป็นผีกะสินำมาหลอก สะท้อน ความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย ใช้ร้องเพื่อบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อ เพลงเซิ้งบั้งไฟ เพลงหมอลำ ใช้ร้องเพื่อความสนุกสนาน เฉลิมฉลอง ดึงดูดผู้คนให้มาเข้าร่วม ชาตินี้ขอเป็นขวัญตา ชาติหน้า ขอเป็นขวัญใจ เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับเพลงพื้นบ้านภาคอีสานที่กำหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 229 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 230 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 231 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค ชั่วโมงที่ 5-6 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน 2. สาระสำคัญ เพลงพื้นบ้านภาคกลาง เป็นเพลงที่ร้องโต้ตอบกันระหว่างฝ่ายชายและฝ่ายหญิง หรือเรียกว่า พ่อเพลง แม่เพลง และจะมีลูกคู่ทำหน้าที่ร้องรับ เนื้อหาของเพลงมีความเกี่ยวข้องกับการเกี้ยวพาราสี 3. คำถามจุดประกาย เพลงพื้นบ้านภาคกลางมีสิ่งใดที่ต่างจากเพลงพื้นบ้านของภูมิภาคอื่น ๆ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านภาคกลางได้ 2. เข้าใจและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านภาคกลางได้ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค : เพลงพื้นบ้านภาคกลาง 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูให้นักเรียนดูภาพในกิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียน จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและ
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 232 วรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 120) แล้วตอบคำถามด้วยการคาดคะเน ภูมิภาคใดเป็นเจ้าของวัฒนธรรมการแสดงในภาพ สังเกตจากอะไร ครูเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง 2. ครูให้นักเรียนคาดคะเนว่า ท่วงทำนองของเพลงพื้นบ้านภาคกลางจะเหมือนหรือต่างไปจากภูมิภาคอื่น 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 3. ครูเปิดแถบบันทึกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคกลางให้นักเรียนฟัง เช่น เพลงเต้นกำรำเคียว โดยเปิดให้ฟังเฉพาะ ทำนอง แล้วให้คาดคะเนเกี่ยวกับเครื่องดนตรีที่ได้ยิน จังหวะ และท่วงทำนอง 4. ครูให้ข้อมูลเกี่ยวกับทำนองของเพลงพื้นบ้านที่เปิดให้ฟัง จากนั้นให้นักเรียนฟังอีกครั้งแล้วตอบคำถาม - ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านชนิดใดบ้างบรรเลงทำนอง - เพลงพื้นบ้านที่ได้ฟังมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด 5. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียง เพลงพวงมาลัย จากหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและ วรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 127) แล้วสนทนาเกี่ยวกับความหมาย ของเพลง 6. ครูเขียนเนื้อเพลง เพลงพวงมาลัย ประกอบด้วยบทร้องของพ่อเพลง แม่เพลง และลูกคู่ บนกระดาน แบ่ง นักเรียนจำนวน 3 กลุ่ม รับหน้าที่เป็นผู้ร้องแตกต่างกัน ครูสอนร้องเพลงทีละวรรค 7. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียง เพลงสงคอลำพวน จากหนังสือเรียน หน้า 128 สนทนาเกี่ยวกับความหมาย ของเพลง จากนั้นแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม ชาย หญิง รับหน้าที่เป็นผู้ร้องแตกต่างกัน ครูสอนร้องเพลงทีละวรรค 8. ครูให้นักเรียนพิจารณาเพลงพวงมาลัย เพลงสงคอลำพวน แล้วอภิปรายว่า สะท้อนประวัติศาสตร์ หรือ วัฒนธรรมด้านใดของสังคมไทยภาคกลาง 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 9. ครูให้นักเรียนอภิปรายเปรียบเทียบระหว่างเพลงพวงมาลัยและเพลงสงคอลำพวน ในประเด็น ได้แก่ จุดประสงค์การร้อง ภาษา ท่วงทำนอง สิ่งที่สะท้อนผ่านบทเพลง นำเสนอเป็นตารางสรุปร่วมกันบนกระดาน 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 10. ครูให้แต่ละกลุ่มระดมความคิดศึกษาเกี่ยวกับเพลงพวงมาลัย เรียบเรียงข้อมูลเพื่อใช้เป็นบทนำของการ แสดงร้องเพลงพวงมาลัยที่ประกอบด้วยพ่อเพลง แม่เพลง และลูกคู่ บันทึกการแสดงแล้วใช้เทคโนโลยีอย่างง่าย เช่น PowerPoint หรือตามความถนัดนำเสนอข้อมูลและการแสดงส่งเป็นรายกลุ่ม แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. แถบบันทึกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคกลาง 3. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 4. อินเทอร์เน็ต 5. ใบกิจกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 233 มักขึ้นต้นบทเพลงว่า สงคอลำพวนเอย เป็นเพลงที่ร้องบนลานนวดข้าว ประกอบกิจกรรมคัดเลือกเมล็ดข้าว หวังจะได้เคียงข้างแม่นางเอ๋ยใน แสดงเจตนาเกี้ยวพาราสี เป็นเพลงปฏิพากย์ ที่ใช้ร้อง โต้ตอบกันระหว่างชาย หญิง สองมือแม่ก็นุ่งผ้าลาย สะท้อนค่านิยมการแต่งกาย นิยมร้องเล่นกันในวันตรุษ วันสงกรานต์ เพลงพวงมาลัย เพลงสงคอลำพวน เนื้อหาเป็นการเกี้ยวพาราสีระหว่าง หนุ่ม สาว ขึ้นต้นด้วยคำว่า เออระเหยลอยมา ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับเพลงพื้นบ้านภาคกลางที่กำหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 234 มักขึ้นต้นบทเพลงว่า สงคอลำพวนเอย เป็นเพลงที่ร้องบนลานนวดข้าว ประกอบกิจกรรมคัดเลือกเมล็ดข้าว หวังจะได้เคียงข้างแม่นางเอ๋ยใน แสดงเจตนาเกี้ยวพาราสี เป็นเพลงปฏิพากย์ ที่ใช้ร้อง โต้ตอบกันระหว่างชาย หญิง สองมือแม่ก็นุ่งผ้าลาย สะท้อนค่านิยมการแต่งกาย นิยมร้องเล่นกันในวันตรุษ วันสงกรานต์ เพลงพวงมาลัย เพลงสงคอลำพวน เนื้อหาเป็นการเกี้ยวพาราสีระหว่าง หนุ่ม สาว ขึ้นต้นด้วยคำว่า เออระเหยลอยมา เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับเพลงพื้นบ้านภาคกลางที่กำหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 235 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 236 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 237 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค ชั่วโมงที่ 7-8 ๑. มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดำเนิน ชีวิต และมีนิสัยรักการอ่าน มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่า และ นำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป.6/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้อง ท 5.1 ป.6/1 แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่อ่าน 2. สาระสำคัญ เพลงพื้นบ้านภาคใต้ได้รับอิทธิพลจากการประกอบพิธีกรรม ศาสนา เทศกาล สภาพแวดล้อม การดำเนินชีวิต เนื้อหาจึงมีความหลากหลาย และยังมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับการเกี้ยวพาราสี การบอกเล่าเรื่องราวภายในท้องถิ่น 3. คำถามจุดประกาย สิ่งใดเป็นเอกลักษณ์ของเพลงพื้นบ้านภาคใต้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สนทนาและตอบคำถามเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านภาคใต้ได้ 2. เข้าใจและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเพลงพื้นบ้านภาคใต้ได้ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์และสมรรถนะสำคัญ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสำคัญ ๑. มีวินัย ๒. ซื่อสัตย์ ๓. สามัคคี ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. สาระการเรียนรู้ เพลงพื้นบ้านแต่ละภาค : เพลงพื้นบ้านภาคใต้ 7. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7.1 ขั้นสร้างประสบการณ์(E : Experience) 1. ครูนำบัตรภาพหนังตะลุงมาให้นักเรียนดูแล้วบอกเกี่ยวกับสิ่งที่เห็นตามประสบการณ์ครูแนะนำเพิ่มเติม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 238 2. ครูให้นักเรียนทบทวนเกี่ยวกับท่วงทำนองของเพลงพื้นบ้านภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง แล้วคาดคะเน ว่า ท่วงทำนองของเพลงพื้นบ้านภาคใต้จะเหมือนหรือต่างออกไป 7.2 ขั้นสะท้อนความคิด (R : Reflection) 3. ครูเปิดแถบบันทึกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคใต้ให้นักเรียนฟัง เช่น เพลงกล่อมเด็ก โดยเปิดให้ฟังเฉพาะทำนอง แล้วคาดคะเนว่า เพลงพื้นบ้านที่ได้ยินเป็นของภูมิภาคใด ทราบได้อย่างไร 4. ครูให้ข้อมูลเกี่ยวกับทำนองของเพลงพื้นบ้านที่เปิดให้ฟัง จากนั้นให้นักเรียนฟังอีกครั้งแล้วตอบคำถาม - ท่วงทำนองของเพลงที่ฟังมีลักษณะอย่างไร ใช้เครื่องดนตรีใดบ้างบรรเลงทำนอง - เพลงพื้นบ้านที่ได้ฟังมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด 5. ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคใต้เพลงเรือ เพลงนา (บทไหว้ครู) จากหนังสือเรียน รายวิชา พื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด (หน้า 129) แล้วสนทนาเกี่ยวกับความหมายของเพลง 6. ครูสอนนักเรียนร้องเพลงเรือโดยให้ออกเสียงตามทีละวรรค จากนั้นแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มคละชายและหญิง ฝึกร้องเพลงเรือตามที่ครูสอน 7. ครูให้นักเรียนพิจารณาเพลงเรือ และเพลงนาที่เป็นบทไหว้ครูแล้วอภิปรายว่า สะท้อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม หรือความเชื่อด้านใดของสังคมไทยภาคใต้ 7.3 ขั้นสรุปความคิดรวบยอด (C : Conceptualization) 8. ครูให้นักเรียนอภิปรายเปรียบเทียบระหว่างเพลงเรือและเพลงนา ในประเด็น ได้แก่ จุดประสงค์การร้อง ภาษา ท่วงทำนอง สิ่งที่สะท้อนผ่านบทเพลง นำเสนอเป็นตารางสรุปร่วมกันบนกระดาน 7.4 ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (A : Application) 9. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมเสริม เพิ่มการเรียนรู้ เป็นรายบุคคล ไม่ต้องทำการแสดงหน้าชั้นเรียน ให้นำเสนอ เป็นใบความรู้ โดยเขียนอธิบายความหมายของเพลง และบอกสิ่งที่เนื้อหาสะท้อนให้เห็น 10. ครูให้แต่ละกลุ่มทำกิจกรรมเชื่อมโยงความรู้โดยใช้แนวทางการฝึกซ้อมตามที่ได้เรียนรู้ร่วมกับเพื่อน บันทึก การขับร้องนำส่งเป็นรายกลุ่ม หรือนำมาขับร้องหน้าชั้นเรียน แล้วทำใบกิจกรรม 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ชั้น ป.6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย บริษัท สร้างสรรค์สื่อเพื่อการเรียนรู้ (สสร.) จำกัด 2. บัตรภาพหนังตะลุง 3. แถบบันทึกเสียงเพลงพื้นบ้านภาคใต้ 4. แบบวัดและบันทึกผลการเรียนรู้ 5. อินเทอร์เน็ต 6. ใบกิจกรรม
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 239 ใช้ร้องในงานประเพณีท้องถิ่น ภาคใต้ คือ ประเพณีชักพระ เป็นเพลงที่หนุ่มสาวร้องเล่น ในขณะทำนา หรือร้องเล่นทั่ว ๆ ไป เป็นบทเพลงที่จะมีท้ายไฟ หรือ ลูกเพลง คอยร้องเสริม ทำนองเป็นกลอนเพลง สำหรับ ให้จังหวะในการพายเรือ ขอน้อมหัตถ์นมัสการท่านอาจารย์ที่ ประสาท เนื้อหาของบทเพลงเป็นการ เกี้ยวพาราสี เพลงเรือ เพลงนา บทไหว้ครู นิยมเล่นกันในฤดูน้ำหลากเดือน 11 และ เดือน 12 เออเหยขอถาม เรืองามทรายวัย หน้าตาขาวขาว เป็นชาวบ้านไหน ใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับเพลงพื้นบ้านภาคใต้ที่กำหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 240 ใช้ร้องในงานประเพณีท้องถิ่น ภาคใต้ คือ ประเพณีชักพระ เป็นเพลงที่หนุ่มสาวร้องเล่น ในขณะทำนา หรือร้องเล่นทั่ว ๆ ไป ทำนองเป็นกลอนเพลง สำหรับ ให้จังหวะในการพายเรือ ขอน้อมหัตถ์นมัสการท่านอาจารย์ที่ ประสาท เนื้อหาของบทเพลงเป็นการ เกี้ยวพาราสี เพลงเรือ เพลงนา บทไหว้ครู นิยมเล่นกันในฤดูน้ำหลากเดือน 11 และ เดือน 12 เออเหยขอถาม เรืองามทรายวัย หน้าตาขาวขาว เป็นชาวบ้านไหน เป็นบทเพลงที่จะมีท้ายไฟ หรือ ลูกเพลง คอยร้องเสริม เฉลยใบกิจกรรม ชื่อ …………..…………………………… นามสกุล ……………………………… ระดับชั้น ……………………. เลขที่ …………………. คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นข้อความที่สัมพันธ์กับเพลงพื้นบ้านภาคใต้ที่กำหนด
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 241 วัดและประเมินผลการเรียนรู้ รายการวัด วิธีการวัดผล เครื่องมือวัดและ ประเมิน เกณฑ์การประเมิน ๑. สังเกตพฤติกรรมด้านปฏิบัติ ๑. สังเกตพฤติกรรม รายบุคคลและกลุ่ม ๒. ตรวจผลงาน ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ ๑. แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๓. นักเรียนร่วมสนทนา ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๔. นักเรียนตอบคำถาม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. สังเกตรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง ๕. นักเรียนทำกิจกรรม ๑. แบบประเมินการ สังเกตพฤติกรรมและ แบบประเมินผลงาน ๑. ตรวจงานรายบุคคล ๑๖-๒๐ หมายถึง ดีมาก ๑๑-๑๕ หมายถึง ดี ๖-๑๐ หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า ๕ หมายถึง ปรับปรุง
แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ป.6 242 บันทึกผลหลังการเรียนรู้ 1. ผลการสอน ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ปัญหาและอุปสรรค ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ……………………………………………………………ผู้สอน (…………………………………………………………….)