The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ท23101 รายวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดศาลาแดง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mpsiridao, 2022-11-06 09:48:47

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ม.3

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ท23101 รายวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดศาลาแดง

Keywords: STAR

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

รหัสวชิ า ท๒๓๑๐๑ รายวชิ าภาษาไทย ๕

ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕

ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓

โรงเรียนวดั ศาลาแดง
สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครสวรรคเ์ ขต ๑

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

รหสั วิชา ท23101 รายวชิ าภาษาไทย
จำนวน 60 ช่ัวโมง ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

ชอ่ื ผ้สู อน นางสาวศิริวรรณ ฤทธม์ิ หันต์
ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย

กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย

โรงเรียนวดั ศาลาแดง
อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์
สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 1

แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

รหสั วิชา ท23101 รายวชิ าภาษาไทย
จำนวน 60 ช่ัวโมง ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3

ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565

ชอ่ื ผ้สู อน นางสาวศิริวรรณ ฤทธม์ิ หันต์
ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย

กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย

โรงเรียนวดั ศาลาแดง
อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์
สำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ เขต 1

สว่ นราชการ บันทกึ ข้อความ
ท่…ี ………….
เรื่อง ขอส่งกำหนดการจัดการเรียนรู้ โรงเรยี นวัดศาลาแดง อำเภอโกรกพระ จังหวดั นครสวรรค์
วนั ที่ 17 พฤษภาคม 2565

เรยี น ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นสันป่าตองวทิ ยาคม

ข้าพเจ้านางสาวศิริวรรณ ฤทธิ์มหันต์ ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ได้รับ
มอบหมายให้จัดการเรียนรู้และวัดประเมินผลในรายวิชา ภาษาไทย รหัส ท23102 จำนวน 1.5 หน่วยกิต
ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 แผนการจัดการเรยี นรทู้ งั้ หมด 5 หน่วยการเรียนรู้
รวม 6 แผนการจัดการเรยี นรู้

ขา้ พเจ้าขออนมุ ตั ิใช้กำหนดการจัดการเรยี นร้ใู นครั้งนี้
จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและพิจารณาดำเนนิ การ

(นางสาวศริ ิวรรณ ฤทธ์ิมหนั ต์)
ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย

 อนมุ ตั ิ  ไมอ่ นมุ ัติ

เสนอ ผู้อำนวยการโรงเรยี นวดั ศาลาแดง

………..………………………………………………………………………….

(นางสลิลทิพ ชูชาติ)
ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั ศาลาแดง



คำนำ

การจดั ทำกำหนดการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ า ภาษาไทย (ท23101) ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ซ่งึ เป็น
รายวชิ าในกลุ่มสาระพ้นื ฐาน ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ฉบับน้ีจัดทำขึ้น
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนของครูที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนหลักสูตรจากทฤษฎี ไปสู่
กิจกรรม และนำไปปฏิบัติให้เกิดพฤติกรรมแก่ผูเ้ รียนตามความคาดหวังของหลักสูตร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ
การปฏริ ูปการศกึ ษา การพฒั นาการเรยี นการสอนเปน็ ปัจจัยหนึ่งท่ีช่วยพัฒนาการศึกษาทีส่ ่งผลถึงสถานศึกษา
ชว่ ยให้การจดั การเรียนการสอนในโรงเรยี นมีกระบวนการจดั การเรียนรูไ้ ดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ

การพฒั นากำหนดการจัดการเรียนรู้ ฉบับนส้ี ำเรจ็ ลุล่วงดว้ ยดี ด้วยความกรุณาของทา่ นคณะกรรมการ
กลุ่มบริหารวิชาการของโรงเรียนวัดศาลาแดง และคณะครู ซึ่งได้เสียสละเวลาในการประชุม ชี้แจง ให้
คำปรึกษา ชี้แนะ แนะนำ ตลอดจนแก้ไขข้อบกพรอ่ งต่าง ๆ ด้วยความละเอียดประณีตเพื่อใหแ้ ผนการจัดการ
เรยี นรฉู้ บับนม้ี ีความสมบรู ณม์ ากยงิ่ ข้ึน ผ้พู ัฒนาแผนการจดั การเรียนรู้ฯ ขอกราบขอบพระคณุ มา ณ โอกาสนี้

ขอขอบคุณท่านผู้อำนวยการ โรงเรียนวัดศาลาแดงท่ีให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ
เก่ียวกบั การพัฒนากำหนดการจัดการเรียนรรู้ ายวิชาภาษาไทย (ท23101) ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในคร้ังน้ี
รวมทั้งได้มีการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ซ่ึงกันและกันในหลาย ๆ ด้าน หลายประเดน็ ซึ่งเป็นความรู้ในเชิงวชิ าการที่
หลากหลาย การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาทั้งสิ้น และ
ขอขอบคณุ ผู้ที่ไมไ่ ด้เอย่ นาม ณ ท่ีน้ี ทีม่ ีส่วนร่วมในการสนบั สนนุ ในการพัฒนากำหนดการจัดการเรียนรู้รายวิชา
ภาษาไทย 5 (ท23101) จนทำใหก้ ำหนดการจดั การเรยี นรู้ฉบับน้ีสำเร็จลงด้วยดี

นางสาวศิริวรรณ ฤทธิ์มหันต์
ครูผู้ชว่ ย

สารบัญ ข

คำนำ หนา้
สารบญั ก
วิสัยทัศน์ พนั ธกจิ เป้าประสงค์ อตั ลักษณโ์ รงเรยี นวัดศาลาแดง ข
วิสัยทัศนห์ ลกั สูตร คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ 2
คำอธบิ ายรายวชิ า 3
แผนผังการวิเคราะหห์ ลกั สูตร 4
โครงสร้างรายวิชา 5
การวางแผนการวัดผล/ประเมินผล 6
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 9
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 13
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 23
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 33
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 52
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 63
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 74
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 86
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 9 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 93
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 10 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 102
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 11 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 110
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 12 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 117
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 13 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 124
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 131
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 15 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 153
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 169
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 17 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 178
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 18 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 191
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 19 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 201
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 20 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 212
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 21 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 221
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 22 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 229
242

1

วสิ ยั ทศั น์โรงเรยี นวดั ศาลาแดง
มุ่งจัดการศึกษาให้ผู้เรียน มีทัศนคติที่ดี มีคุณธรรม มีอาชีพ เป็นพลเมืองดี รักการเรียนรู้และ

สขุ อนามัย ตลอดจนเปน็ ศนู ย์รวมบรกิ ารการศกึ ษาแกน่ ักเรียนและชุมชน เพิ่มโอกาสการศกึ ษาอย่างมีคุณภาพ
โดยกระบวนการบรหิ ารแบบมีส่วนรว่ ม

พันธกจิ
1. ส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมอันพึงประสงค์ และมีวิถีชีวิตตามหลักปรัชญา

เศรษฐกจิ พอเพยี ง
2. ส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปญั ญาของนักเรียน
3. สง่ เสรมิ ดแู ลนกั เรยี นในวัยเรียนให้เขา้ รบั การศกึ ษาทุกคน จนจบหลกั สูตรทีส่ ถานศึกษากำหนด
4. ส่งเสรมิ ให้นักเรยี นได้รับความรดู้ ้านวชิ าการ ทกั ษะอาชพี และการใช้ส่ือเทคโนโลยี
5. สง่ เสรมิ ใหค้ รูมคี ุณธรรม จริยธรรมและพัฒนาครใู หม้ คี วามร้คู วามสามารถในการปฏิบัติงาน
6. ส่งเสริมการบรหิ ารจดั การศกึ ษา การพัฒนาหลกั สตู รสถานศึกษา การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน

ทห่ี ลากหลายและเนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ
7. ส่งเสริมการจัดสภาพแวดล้อมทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรยี นการสอนและการใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ภูมปิ ญั ญาท้องถิ่น
8. สง่ เสริมใหผ้ ู้ปกครองและชมุ ชนเข้ามามสี ว่ นรว่ มในการจัดการศกึ ษา

เปา้ ประสงค์หลักสูตร
1. เพอ่ื ให้ผเู้ รียนทกุ คนไดร้ ับการปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม มีคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มีการพัฒนา

ศักยภาพ มีทักษะชีวิต มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดี นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางการ
ดำเนนิ ชวี ิต เปน็ ผู้นำทด่ี ีของสังคมและมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยเี พื่อการเรียนร้แู ละการสื่อสารอย่าง
หลากหลาย ผเู้ รียนมศี กั ยภาพเปน็ พลโลก (Worid Citizen)

2. เพื่อให้สถานศึกษามีระบบการบริหารและจัดการศึกษาด้วยระบบคุณภาพ (Quality System
Management) เพอื่ รองรบั การกระจายอำนาจอย่างทัว่ ถงึ

3. เพอื่ ใหบ้ คุ ลากรทุกคนมีทกั ษะวิชาชพี ในการพัฒนาการเรยี นการสอนและใช้นวตั กรรมเทคโนโลยีท่ี
ทันสมัยยกระดับการจัดการเรยี นการสอนเทยี บเคยี งมาตรฐานสากล (Worle Class standard)

4. เพื่อให้การใช้งบประมาณและทรัพยากรของทุกหน่วยงานเป็นไปตามเป้าหมายได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ลสงู สดุ

ปรชั ญา : “นตถฺ ิ ปญญฺ าสมา อาภา” แสงสวา่ งเสมอด้วยปัญญาไมม่ ี
คำขวัญโรงเรียน : เรยี นดี ประพฤตดิ ี มีคณุ ธรรม
อตั ลกั ษณ์นักเรียนวัดศาลาแดง : แรกพบนบไหว้
เอกลกั ษณ์โรงเรียนวดั ศาลาแดง : สง่ เสรมิ คุณธรรม จริยธรรม

2

วสิ ยั ทศั นห์ ลกั สูตรสถานศึกษา พทุ ธศกั ราช 2561 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช 2563)
หลักสูตรโรงเรียนวัดศาลาแดง พุทธศักราช 25'61 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2563) ตามหลักสูตร

เรียนรู้สู่มาตรฐานสากลและเป็นมนุษยท์ มี่ ีความสมดุลทั้งรา่ งกาย ความรคู้ ูค่ ุณธรรม มคี วามเป็นผนู้ ำของสงั คมมี
จิตสำนึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลกโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงยึดมั่นในการ
ปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพรมหากษัตริย์เป็นประมุข มีความรู้และทักษะพื้นฐานสามารถใช้
นวัตกรรมและเทคโนโลยีรวมทั้งเจตคติที่จำเป็นต่อการศึกษาในการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต
โดยมุง่ เนน้ ผ้เู รียนเป็นสำคญั บนพ้นื ฐานความเชอ่ื วา่ ทกุ คนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้เตม็ ตามศักยภาพ

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ม่งุ พฒั นาผู้เรียนใหม้ คี ุณลักษณะพงึ ประสงค์ เพื่อให้สามารถ

อย่รู ว่ มกบั ผู้อ่ืนในสงั คมได้อยา่ งมีความสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ซื่อสัตย์สจุ รติ
3. มีวินยั
4. ใฝ่เรยี นรู้
5. อย่อู ยา่ งพอเพียง
6. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย
8. มจี ติ สาธารณะ

3

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ 1 การอา่ น
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพือ่ นำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนิน

ชวี ติ และมนี ิสัยรกั การอา่ น
สาระที่ 2 การเขยี น
มาตรฐาน ท 2.1 ใชก้ าระบวนการเขียน เขยี นสือ่ สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ

ต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

สาระท่ี 3 การฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลอื กฟงั และดูอยา่ งมวี ิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกใน

โอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

สาระที่ 4 หลักการใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา

ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัตชิ าติ

สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคณุ ค่าและนำมา

ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ

4

คำอธบิ ายรายวชิ า

ท23101 ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและร้อยกรอง อธิบายความหมายของคำโดยตรงและความหมายโดยนัย

สรุปใจความสำคัญของเร่ือง แปลความ ตีความ เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความและรายงาน

เรอื่ งท่ีอา่ น คดั ลายมือตวั บรรจงครง่ึ บรรทดั ตามรูปแบบของการเขียนอักษรไทย ใช้ภาษาในการเขยี นตามระดับ

ของภาษา เขียนชีวประวัติของบุคคลและอตั ชวี ประวัตโิ ดยการรวบรวมข้อมูลเร่ืองราวและข้อคดิ เห็น สะท้อน

ข้อคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมายกิจธุระ เขียนอธิบาย ชี้แจงแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งเรื่องต่าง ๆ

อย่างมีเหตุผล เขียนความเรียงขั้นสูงอย่างเป็นระบบเกี่ยวกับสถานการณ์โลกด้วยการใช้วิถีของการแสวงหา

ความรู้ เขยี นรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ ได้อยา่ งเปน็ ระบบและมีมารยาทในการเขียนแสดงความคิดเห็นจาก

เรื่องที่ฟังและดู พูดวิเคราะห์วจิ ารณ์พูดรายงานจากการฟังและการดู นำข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในชีวติ จำแนก

และใช้คำที่มาจากภาษาต่างประเทศได้ถูกต้องตรงความหมาย วิเคราะห์โครงสร้างของประโยคซับซ้อนและ

สร้างประโยค วิเคราะห์ระดับของภาษาและใช้ได้ถูกต้องเหมาะสม สรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและ

วรรณกรรมท้องถิ่น วิเคราะห์คุณค่าวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่านนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจำ

บทอาขยานทีก่ ำหนดหรือบทร้อยกรองทม่ี ีคุณคา่ ได้

โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด กระบวนการความรู้ความเข้าใจ

กระบวนการสร้างองค์ความรู้ (TOK) กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้างความ

ตระหนัก กระบวนการสร้างเจตคติ การสืบค้นข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ในท้องถ่ินและเทคโนโลยเี พื่อให้มีความ

เข้าใจเกี่ยวกับทักษะภาษาไทย รักความเป็นไทย มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย

มจี ติ สาธารณะ นำความรไู้ ปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม มศี กั ยภาพเป็นพลโลก

รหัสตัวชวี้ ดั
ท 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม3/5, ม3/6
ท 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม3/6
ท 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ท 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ท 5.1 ม.3/1, ม.3/2

รวมทง้ั หมด 20 ตัวชี้วดั

5

แผนผังการวิเคราะหห์ ลักสูตร วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน กระบวนการกลุ่ม กระบวนการสร้าง
ความรคู้ วามเข้าใจ
1.สมบตั ิวรรณคดี
กระบวนการ
5.พอเพยี ง 2.แม่ศรเี รอื น กระบวนการเรยี นรู้ ทางภาษา

เนอ้ื หาหนว่ ย ภาษาไทย กระบวนการปฏิบตั ิ
การเรยี นรู้ ท23101
กระบวนการสรา้ ง
ความตระหนกั พูด

ห้องสมุด

4. อิศรญาณภาษิต 3.พระอภัยมณี สือ่ สง่ิ พมิ พ์

แหลง่ เรียนรู้ ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ แหลง่ เรียนรู้
ในโรงเรยี น ในชุมชน

การวดั ผล/ประเมินผล อนิ เทอร์เนต็
สอื่ อิเล็กทรอนกิ ส์

กระบวนการ/ชนิ้ งาน แผนผังความคดิ

พฤตกิ รรม เรยี งความ
ความรู้ แบบประเมนิ บนั ทึกการอา่ น
นำเสนองาน
สงั เกตพฤตกิ รรม
รายงาน
แบบทดสอบ แบบฝึกหดั

บทประพนั ธ์

6

โครงสร้างรายวิชา

รหสั วิชา ท23101 ช่ือรายวชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการเรยี นร้/ู สาระสำคัญ/ความคดิ เวลา น้ำหนัก/ ชิ้นงาน/ภาระงาน

เรียนรู้ ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ รวบยอด (ชว่ั สดั ส่วน รวบยอด

โมง) ของ

คะแนน

1 สมบัติ ท1.1 ม.3/1,2,3 - สาระสำคัญของสมบัติ 14 20 - อา่ นออกเสยี ง

วรรณคดี ท2.1 ม.3/1,2,4 ของวรรณคดี - สรุปใจความสำคญั

ท3.1 ม.3/1,2 - การอา่ นออกเสยี งร้อย - เขียนกรอบความคิด

ท4.1 ม.3/1 แก้วและร้อยกรอง จากการอา่ น

ท5.1 ม.3/1,2 - การสรุปใจความสำคัญ - เขียนคำขวัญ คำคม

- การเขียนกรอบความคิด คตพิ จน์

- คำทีม่ าจาก - สมุดรายงาน

ภาษาต่างประเทศ คำศัพท์ที่มาจาก

- บทอาขยาน ภาษาต่างประเทศ

- การเขยี นในโอกาส - เขียนเรือ่ งจากคำท่ี

ตา่ ง ๆ คำขวญั คำคม กำหนด

คตพิ จน์ - ท่องจำบทประพันธ์

- คำท่มี ีความหมาย - แบบฝึกหัด

โดยนัยและโดยตรง - แบบทดสอบ

2 แมศ่ รเี รือน ท1.1 ม.3/1,3,5 - สาระสำคญั ของเรอื่ งแม่ 14 20 - อ่านออกเสียงรอ้ ย

ท2.1 ม.3/1,3,5 ศรีเรือน แกว้

ท3.1 ม.3/1,2,3 - การพูดแสดงความ - อธบิ ายเร่อื งทอ่ี า่ น

ท4.1 ม.3/3 คดิ เหน็ - แบบฝึกทกั ษะ

ท5.1 ม.3/1,2,3 - การเขยี นจดหมายกจิ - พดู แสดงความ

ธรุ ะ คิดเหน็

- การเขยี นชวี ประวัติ - เขียนอตั ชีวประวตั ิ

- การเขยี นอธิบายโตแ้ ยง้ - เขียนจดหมายกจิ

- ระดับภาษา ธุระ

- แบบฝกึ ระดบั ภาษา

- แบบทดสอบ

7

หนว่ ยที่ ช่อื หนว่ ยการ มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคญั /ความคิด เวลา น้ำหนัก/ ช้ินงาน/ภาระงาน
3 เรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ รวบยอด (ชว่ั สัดส่วน รวบยอด
โมง) ของ
4 พระอภัยมณี ท1.1 ม3/3,4,9 คะแนน - อา่ นออกเสียงร้อย
ท2.1 ม3/6,9,10 - สาระสำคญั ของเร่ือง 14 20 กรอง
อิศรญาณ ท3.1 ม3/1,2,6 พระอภยั มณี - รายงานการสรปุ
ภาษิต ท4.1 ม3/2 - การอ่านออกเสียงรอ้ ย 20 เนื้อหาของวรรณคดี
ท5.1 ม3/1,2,3 แกว้ และร้อยกรอง - วิเคราะห์ตัวละคร
- การสรปุ ใจความสำคัญ - เขยี นและพดู แสดง
ท1.1 ม3/3,4,10 - การเขียนแสดงความ ความคดิ เห็นโต้แย้ง
ท2.1 ม3/6,9,10 คดิ เหน็ - แบบฝึกหัดเรอื่ ง
ท3.1 ม3/1,2,6 - รายงานเชงิ วิชาการ พระอภัยมณี
ท4.1 ม3/1 - วเิ คราะห์โครงสรา้ ง - แบบฝกึ วเิ คราะห์
ท5.1 ม3/1,2,3,4 ประโยคทซ่ี ับซ้อน ประโยค
- การพดู รายงาน - พูดรายงาน
การศึกษาคน้ ควา้ - อ่านออกเสียงรอ้ ย
- สาระสำคัญของเรอ่ื ง 12 กรอง
อศิ รญาณภาษติ - เขยี นอธบิ ายสำนวน
- การอา่ นออกเสยี งบท สภุ าษิต(สมุดสำนวน
ร้อยกรอง สุภาษติ )
- การเขยี นอธิบายสำนวน - แบบฝกึ หัด
สภุ าษติ - พูดวเิ คราะหว์ ิจารณ์
- การฟัง ดู และพดู เรอื่ งจากการฟัง ดู
วเิ คราะห์วจิ ารณ์นิทาน - แบบทดสอบ
สุภาษิต - การประเมินคา่
- คำสมาส วรรณคดี
- การประเมนิ คา่ วรรณคดี

หนว่ ยท่ี ช่ือหนว่ ยการ มาตรฐานการเรียนร/ู้ สาระสำคญั /ความคดิ 8
เรียนรู้ ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ รวบยอด
เวลา น้ำหนกั / ชิ้นงาน/ภาระงาน
5 ปรชั ญา ท1.1 ม3/3 ,4, 10 - การอา่ นจับใจความ (ชัว่ สดั ส่วน รวบยอด
โมง) ของ
พอเพียง ท2.1 ม3/2,4,9,10 สำคญั และวิเคราะห์
คะแนน
ท3.1 ม3/1,2,3,6 วจิ ารณแ์ ละประเมนิ ค่า 6 20 - บันทกึ สรปุ จากการ

ท4.1 ม3/2,3,5 - การพดู รายงาน อ่าน/รวบรวมขอ้ มลู
- พูดรายงานหน้าชั้น
รวมระหวา่ งภาค เรยี น
ปลายภาค - การพดู แสดงความ
รวม คดิ เห็น
- การเขยี นแผนผัง
ความคิด
60
40:10:
10
40
20:10
:10
100
60:20:
20

9

การวางแผนการวัดผล/ประเมินผล
รหสั วิชา ท23101 ช่ือวชิ า ภาษาไทย 5 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

ตารางวเิ คราะห์การวัดผล/ประเมินผล

ด้านความรู้ ด้านคณุ ธรรม/จรยิ ธรรม กระบวนการ/ช้นิ งาน
(K) คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ (A) (P)

รอ้ ยละ60 รอ้ ยละ20 ร้อยละ20
100 %

10

ปฏิทินการจัดการเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ ผล
รหัสวิชา ท23101 รายวิชา ภาษาไทย 5 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

สปั ดาหท์ ี่ หน่วยที่ ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ เนือ้ หาทสี่ อน การวดั ผล/ประเมินผล หมายเหตุ
1 1 K 10
2 1 ท5.1 ม3/1,4 - สมบัติวรรณคดี Mind Map (K.P.) 10
3 1 K 10
4 1 ท2.1 ม3/2,4 - การเขียนกรอบความคิด K.A.P. 10
5 1 10
ท1.1 ม3/1 ,2 - การสรปุ ใจความสำคัญ A.P.
6 2 K.P 10
ท4.1 ม3/1 - คำทีม่ าจาก
7 2 K 10
ภาษาตา่ งประเทศ A,P
8 3 . 10
ท1.1 ม3/2 - การเขียนในโอกาสต่างๆ K 10
9 3 A,P 20
10 3 ท2.1 ม3/2 - คำที่มคี วามหมาย A,P

โดยตรง/โดยนยั K
A,P
ท5.1 ม3/1,2,3, แมศ่ รเี รอื น A,P
A,P
ท3.1 ม3/1 - การพูดแสดงความ A,p
K
คดิ เห็น

ท2.1 ม3/2,3,5 - ระดับของภาษา

- การเขียนจดหมายกจิ

ธุระ

- การเขียนอตั ชีวประวตั ิ /

สารคดี

ท1.1 ม3/12,3,4,5 พระอภัยมณี

ท5.1 ม3/1,2,3,5 - อา่ นทำนองเสนาะ

- เขยี นสรุปใจความ

ท3.1 ม3/7,9,10 - เขยี นแสดงความคิดเหน็

- พูดรายงาน/พดู นำเสนอ

ท4.1 ม3/2 -ประโยคทีซ่ บั ซอ้ น

สอบกลางภาคเรียน

สปั ดาห์ท่ี หน่วยที่ ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ เนื้อหาท่สี อน การวัดผล/ 11
ประเมินผล
11 3 ท3.1 ม3/3 - การพดู รายงาน A.P หมายเหตุ
A.P
12 3 ท2.1 ม3/9,10 - รายงานเชิงวชิ าการ K.A.P 10
10
13 4 ท1.1 ม3/1,2,3,4,5 อศิ รญาณภาษิต 10

14 4 ท3.1 ม3/4 - การพดู อธบิ าย A.P 10
A.P 10
15 4 ท2.1 ม3/6,10 - การเขียนอธิบาย A.P 10

16 4 ท1.1 ม3/9 - การวเิ คราะหน์ ทิ าน

ท2.1 ม3/7 สภุ าษติ

17 5 ท4.1 ม3/1 -คำสมาส K 10
K.A.P 10
18 5 ท2.1 ม3/9,10 ปรัชญาพอเพยี ง
20
สอบปลายภาคเรยี น

ลงชื่อ...................................................ผ้สู รปุ
(นางสาวศิริวรรณ ฤทธิม์ หนั ต์)

12

แผนการจดั การเรียนรู้
รายวชิ า ภาษาไทย 5
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3

13

แผนการจดั การเรยี นรู้

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 1 เร่ือง สมบตั ิวรรณคดี หน่วยการเรยี นรู้ สมบตั ิวรรณคดี

รหสั วิชา ท23101 รายวิชา ภาษาไทย 5 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย

ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 จำนวนคาบ 3 ช่ัวโมง

___________________________________________________________________________

สาระที่ 5 วรรณคดแี ละวรรณกรรม

มาตรฐานการเรียนรู้ ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คุณคา่ และนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ

ตวั ชีว้ ัด
1. สรปุ เน้อื หาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถ่ินในระดับที่ยากขน้ึ
2. วิเคราะหว์ ถิ ไี ทยและคุณคา่ จากวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านใชใ้ นการดำเนินชีวติ
3. สรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดจากการอา่ นเพอื่ นำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ

สาระการเรยี นรู้
1. ความร้ทู ่ัวไปเกยี่ วกบั วรรณกรรมและวรรณคดี
2. หลักการพจิ ารณาวรรณคดี

สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (KAP)
วรรณคดีเป็นผลงานการประพันธ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นอย่างมีศิลปะและสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ซ่ึง

ศิลปะในวรรณคดีเกิดจากการเลอื กใช้ถ้อยคำสำนวนโวหารที่ไพเราะนา่ ฟังอ่านแล้วเกิดอารมณ์สนุ ทรยี ์และให้
แง่คดิ จรรโลงใจ นำไปใชเ้ ป็นแบบอย่างในการดำรงชีวติ ประจำวัน ดงั นนั้ วรรณคดีจงึ เปน็ สิง่ ทอ่ี นุชนรุ่นหลังต้อง
รกั ษาไว้เปน็ มรดกทางวัฒนธรรมของชาตแิ ละสมควรอ่านอย่างพนิ ิจพิเคราะหเ์ พอื่ รับรู้ความงามทางภาษาและ
ข้อคดิ ต่าง ๆ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)

1. บอกคณุ ค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)

2. ระบรุ ายละเอยี ดและองค์ประกอบของวรรณคดีและวรรณกรรม

14

ด้านคณุ ลักษณะ (A)
3. เห็นคุณค่าของคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย

ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ใบงานเร่ือง สมบตั ิวรรณคดี
2. ใบงานเรื่อง โวหารภาพพจน์
3. แบบทดสอบ

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
4. ทกั ษะทางภาษา

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. รักความเป็นไทย
3. มจี ิตสาธารณะ

กจิ กรรมการเรียนรู้
กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรยี น

1. ครูชี้แจงข้อตกลงภายในชั้นเรียน และการทำแบบวัดความรู้พื้นฐานด้านทักษะการฟังและการ
เขียน

2. นกั เรียนทำแบบวัดความรู้พืน้ ฐานดา้ นทักษะการฟังและการเขยี น
3. ครนู ำนักเรียนสนทนาการเรยี นวรรณคดแี ละวรรณกรรมโดยถามนกั เรยี นวา่
- ใครเคยอา่ นวรรณคดีเร่ืองใดบา้ ง ชอบเรื่องใดมากท่ีสุด และบอกเหตุผลประกอบ
- นกั เรยี นรู้จกั วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยเรือ่ งใดบา้ ง
4. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี นักเรียนคดิ ว่า จุดเด่นของวรรณคดีคอื อะไร
วรรณคดที ี่นกั เรยี นช่ืนชอบคือเรือ่ งอะไร ตัวละครในวรรณคดที นี่ ักเรยี นชอบคอื ใคร
กจิ กรรมพัฒนาการเรยี น
5. นักเรียนศึกษาเรื่อง สมบัติวรรณคดี จากใบความรู้เรื่อง สมบติวรรณคดี โดยมีเนื้อหาดังน้ี
ความหมายของวรรณคดีและวรรณกรรม ประเภทของวรรณคดี แล้วให้นักเรียนสรุปความรู้ความเข้าใจด้วย
ตนเองโดยการจดบนั ทกึ ลงไปในสมุด

15

6. นักเรียนรว่ มกันตอบคำถามเพื่อทบทวนเนื้อหา เร่อื ง สมบตั วิ รรณคดี ซึ่งนกั เรียนที่ตอบคำถามจะ
ได้รบั คะแนนพิเศษเพือ่ เป็นการชมเชยความกล้าแสดงออกของนักเรยี น โดยมปี ระเดน็ คำถามดงั ต่อไปน้ี

- ใหน้ กั เรียนบอกความแตกต่างของวรรณคดีและวรรณกรรม
- วรรณคดมี กี ี่ประเภท อะไรบา้ ง
- วรรณคดีเรอ่ื ง ลิลติ โองการแช่นำ้ เป็นวรรณคดีประเภทใด
7. นักเรียนทำใบงานเรื่อง สมบัติวรรณคดี โดยมีครูคอยชี้แนะ และให้ความช่วยเหลือ จากนั้นให้
นกั เรยี นรว่ มกันตรวจใบงานเรอ่ื ง สมบัตวิ รรณคดี ด้วยตนเอง โดยมคี รูเฉลยและอธบิ ายเพม่ิ เตมิ
8. นักเรียนศึกษาเรื่อง โวหารภาพพจน์ จากสื่อ PowerPoint พร้อมครูอธิบายประกอบ และให้
นกั เรียนรว่ มกนั ตอบว่าคำประพันธท์ ่ียกตวั อยา่ งมามกี ารใชโ้ วหารภาพพจนใ์ ด
9. ครชู ี้แนะ แกไ้ ข และอธบิ ายเน้อื หาทน่ี ักเรยี นศึกษาซ้ำอกี ครง้ั นกั เรยี นบันทกึ เพมิ่ เตมิ ลงในสมดุ
10. นกั เรียนทำใบงานเรื่อง โวหารภาพพจน์ หลงั จากทำเสร็จให้นกั เรียนแลกเปลี่ยนใบงานกับเพ่ือน
เพอื่ ตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน

สรปุ บทเรียน
13. นักเรียนร่วมกนั สรปุ ความร้ทู ่ไี ดเ้ รยี นในวันน้วี า่ วรรณคดแี ละวรรณกรรมคอื อะไร และแตกต่างกัน

อย่างไร ประเภทของวรรณคดีมีทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่ วรรณคดีพุทธศาสนา วรรณคดีนิราศ วรรณคดี
พิธีกรรมประเพณี วรรณคดีสุภาษติ คำสอน วรรณคดีบนั เทิง วรรณคดีประวตั ิศาสตร์

14. นักเรียนรว่ มกันสรปุ ความร้ทู ีไ่ ด้เรียนในวันน้ี ดงั น้ี โวหารภาพพจน์มีก่รี ปู แบบอะไรบา้ ง

สื่อและแหล่งเรียนรู้
1. สอื่ พาวเวอร์พอ้ ยท์ (Power point presentation) เรอ่ื ง สมบตั วิ รรณคดี
2. สือ่ พาวเวอร์พอ้ ยท์ (Power point presentation) เร่อื ง โวหารภาพพจน์
3. หนังสอื เรียนภาษาไทย ม.3 วรรณคดีและวรรณกรรม
4. ใบความรู้เรอื่ ง สมบตั ิวรรณคดี

การวัดและประเมินผล

หลักฐานการเรียนรู้ วิธวี ัด เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์

(ชน้ิ งาน/ภาระงาน) ทกุ รายการไดค้ ะแนน
รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
1. ใบงาน - ประเมนิ ใบงาน - แบบประเมินใบงาน ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

2. แบบทดสอบ - สงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล/ราย - แบบสังเกตพฤติกรรม

กลมุ่ รายบุคคล

- การทำแบบประเมนิ ผลการ - แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้

เรียนรูก้ อ่ น - หลงั เรยี น ก่อน - หลงั

16

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3/......
วนั ที่.................. เดือน..................... พ.ศ.................

ชอ่ื นักเรียน............................................................................................................ชัน้ .................เลขท.่ี ...............
คำช้ีแจง: ใหท้ ำเครื่องหมาย √ ลงในช่องรายการท่ตี รงกับความเปน็ จรงิ

รายการประเมนิ ปฏบิ ัติ ไม่ปฏบิ ตั ิ
1. เร่ิมตน้ งานที่ได้รบั มอบหมายทันที
2. ทำงานเสร็จเรียบรอ้ ยตามเวลาท่ีกำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครหู รอื เพอ่ื นเม่อื ไมเ่ ขา้ ใจ
4. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเต็มใจ
5. มีส่วนรว่ มในการทำกิจกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ
6. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพือ่ นในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมดว้ ยตนเอง
8. แตง่ กายสุภาพเรยี บร้อย
9. พดู จาสุภาพเรยี บรอ้ ย
10. ปฏิบัตติ ามข้อตกลงในชนั้ เรียน

รวมคะแนน (10 คะแนน)

หมายเหตุ

1. ขอ้ ใดที่นกั เรียนปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏบิ ัติ ได้คะแนน 0 คะแนน

2. เกณฑ์การประเมิน

9 - 10 คะแนน = ดมี าก

7 - 8 คะแนน = ดี

5 - 6 คะแนน = พอใช้

ตำ่ กว่า 4 คะแนน = ควรปรับปรงุ

3. ครอู าจสุ่มเลอื กนักเรียนเท่าท่ีสังเกตได้ในการสงั เกตแต่ละครงั้ โดยหมุนเวยี นไปจนครบทุกห้อง

ลงช่อื …………….............................………..ผปู้ ระเมิน

17

แบบประเมนิ ใบงานเรอื่ ง สมบัตวิ รรณคดี
นกั เรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3/......

วันท่.ี ..............เดือน............................พ.ศ.................

คำชี้แจง: ให้ทำเคร่อื งหมาย √ ลงในช่องรายการที่ตรงกับความเปน็ จริง

เลขท่ี รายชื่อ เกณฑ์การประเมิน รวมคะแนน
(เต็ม 10
ความถกู ตอ้ ง คะแนน)

4 3 2 1
(10 (9 (7 - 8 (5 - 6
คะแนน) คะแนน) คะแนน) คะแนน)

ลงชือ่ …………….............................………..ผปู้ ระเมิน

เกณฑก์ ารประเมิน : ใบงานเรอ่ื ง สมบตั ิวรรณคดี 18

เกณฑ์การประเมนิ 432 1
(5-6 คะแนน)
ความถกู ตอ้ ง (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7-8 คะแนน) ถกู ตอ้ งตำ่ กวา่ 10 ขอ้

เกณฑ์การตดั สนิ ถูกตอ้ งท้ังหมด ถกู ตอ้ ง 18 ขอ้ ถูกต้อง 16 ข้อ
10
9 คะแนน = ดีมาก
7-8 คะแนน = ดี
คะแนน = พอใช้
ต่ำกวา่ 5 คะแนน = ควรปรับปรุง

19

แบบประเมนิ ใบงานเรือ่ ง โวหารภาพพจน์
นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 3/......

วนั ที่.................. เดอื น..................... พ.ศ.................

คำชแี้ จง: ใหท้ ำเครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการที่ตรงกับความเปน็ จรงิ

เลขที่ รายช่อื เกณฑก์ ารประเมนิ รวมคะแนน
(เต็ม 10
ความถูกต้อง คะแนน)

4 3 2 1
(10 (9 (7 - 8 (5 - 6
คะแนน) คะแนน) คะแนน) คะแนน)

ลงชอื่ …………….............................………..ผูป้ ระเมิน

เกณฑก์ ารประเมนิ : ใบงานเร่อื ง โวหารภาพพจน์ 20

เกณฑ์การประเมนิ 432 1
(5 - 6 คะแนน)
ความถกู ตอ้ ง (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7 - 8 คะแนน) ถกู ต้องต่ำกวา่ 5 ขอ้

เกณฑ์การตดั สิน ถูกต้องทงั้ หมด ถูกตอ้ ง 9 ข้อ ถกู ตอ้ ง 7 - 8 ข้อ
9 - 10
7-8 คะแนน = ดีมาก
5-6 คะแนน = ดี
คะแนน = พอใช้
ตำ่ กวา่ 5 คะแนน = ควรปรบั ปรุง

21

แบบประเมินผลการเรียนรู้กอ่ น–หลงั เรยี น
นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 3/......

วนั ท่.ี ................. เดือน..................... พ.ศ.................

คำช้แี จง: ให้เตมิ คะแนนลงในชอ่ งว่างตามความเป็นจรงิ คะแนน (เตม็ 10 คะแนน)
เลขที่ รายช่อื

ก่อนเรียน หลังเรียน

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดีมาก
9 - 10 คะแนน = ดี
7-8 คะแนน = พอใช้
5-6 คะแนน = ควรปรบั ปรุง

ตำ่ กวา่ 5

22

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้

1. สภาพท่วั ไปของการจัดการเรยี นการสอน
1.1 ด้านความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั การเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแก้ปัญหาและขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรุปผลการจัดการเรียนรู้จากแผนการจดั การเรยี นรู้ตามตวั ช้ีวัด

จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด.........................คน
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมินระดับดี.................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................
- ผา่ นเกณฑ์ประเมินระดบั ปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ปรับปรุง...................คน คิดเป็นร้อยละ.................

ลงชื่อ.............................................................
(นางสาวศิริวรรณ ฤทธ์มิ หนั ต์)
ครูผสู้ อน

23

แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การเขียนผังความคดิ หน่วยการเรียนรู้ สมบัติวรรณคดี

รหัสวิชา ท23101 รายวชิ า ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย

ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 1 จำนวนคาบ 1 ชั่วโมง

___________________________________________________________________________

สาระท่ี 1 การอ่าน

มาตรฐานการเรียนรู้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนินชวี ิตและมนี ิสัยรกั การอ่าน

ตวั ช้ีวดั
3. ระบุใจความสำคัญและรายละเอียดของข้อมูลท่ีสนบั สนนุ จากเรื่องทอ่ี ่าน
4. อา่ นเร่อื งตา่ ง ๆ แล้วเขียนกรอบแนวคดิ ผังความคิด บนั ทึก ย่อความและรายงาน

สาระการเรยี นรู้
1. หลกั การอ่านและสรุปเปน็ กรอบแนวคดิ
2. การเขยี นกรอบแนวคดิ และผังความคดิ

สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (KAP)
การเขยี นกรอบแนวคิดและการเขียนผงั ความคิด คือ การสรุปความคิดรวบยอดจากการอ่านข้อความ

หรือบทความใหเ้ ปน็ กรอบความคดิ โดยใช้เส้นโยงเพือ่ เชื่อมข้อความให้มีความสัมพันธ์กันเพื่อช่วยให้จดจำง่าย
และฝกึ ทกั ษะการคดิ

จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)

1. บอกหลักการอ่านและสรุปเป็นกรอบแนวคิดได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)

2. เขียนกรอบแนวคดิ และผังความคิดจากเรือ่ งที่อา่ นได้
ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)

3. มคี วามม่งุ มนั่ ในการทำงาน

24

ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. แผนผงั ความคิด

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
4. ทกั ษะทางภาษา

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
4. รกั ความเปน็ ไทย

กิจกรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรมนำเข้าสู่บทเรยี น

1. ครนู ำตัวอยา่ งผงั ความคิด ซง่ึ เปน็ ผลงานเกา่ ของนักเรียนทีม่ ีความแตกต่างกนั อย่างหลากหลายมา
ใหน้ ักเรียนดู และใหน้ กั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็

2. ครูสนทนากับนักเรยี นเกยี่ วกับการเขยี นกรอบความคดิ และประโยชน์ของการเขียนกรอบความคิด
นักเรียนตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด การเขียนผงั ความคดิ ดงั นี้

- นักเรียนจะนำความรู้ในวิชาใดมาใช้ได้บ้าง และใช้อย่างไร (วิชาศิลปศึกษา ใช้ในการตกแต่งให้
สวยงาม)
กจิ กรรมพฒั นาการเรียน

3. นักเรียนศึกษาเรอ่ื ง การเขียนกรอบแนวคดิ และผังความคิด ในหนงั สอื เรียน หลักภาษาและการใช้
ภาษาไทย ม.3 (หนา้ 96 - 102)

4. นักเรียนศึกษา เรื่อง การเขียนกรอบแนวคิดและผังความคิด จากสื่อสื่อ PowerPoint พร้อมครู
อธบิ ายประกอบ ดังนี้

- การเขียนกรอบแนวคดิ และการเขียนผงั ความคิด
5. ครยู กตวั อย่างการเขยี นกรอบแนวคิดและแผนผังแนวคดิ แบบต่าง ๆ เพอื่ ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามว่า
ตัวอย่างผงั ความคดิ ทย่ี กมาเป็นแบบใดบ้าง
6. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 – 4 คน คละความสามารถเก่ง ปานกลาง อ่อน เพื่อทำผังความคดิ
เร่ือง สมบตั ิวรรณคดี และนำเสนอผงั ความคิด

25

7. นักเรียนและครูร่วมกันแสดงความคิดเห็นและประเมินผังความคิดของเพื่อนกลุ่มที่นำเสนอว่า
เนื้อหา รูปแบบถกู ต้องตามหลกั การเขยี นผงั ความคิดหรอื ไม่
สรุปบทเรยี น

8. นักเรียนช่วยกันสรุปว่ากรอบแนวคิดกับผงั ความคิดมีความแตกต่างกันอย่างไร และผังความคิดมี
รปู แบบและหลกั ในการเขยี นอย่างไรบา้ ง

สือ่ และแหล่งเรียนรู้
1. ส่อื พาวเวอร์พ้อยท์ (Power point presentation) เรือ่ ง การเขยี นกรอบแนวคดิ และผังความคดิ
2. หนงั สอื เรยี น หลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย ม.3

การวดั และประเมินผล

หลักฐานการเรียนรู้ วธิ ีวัด เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์
(ชนิ้ งาน/ภาระงาน)
1. แผนผังความคิด - ประเมนิ แผนผังความคดิ - แบบประเมินแผนผัง ทุกรายการได้คะแนน
- สงั เกตพฤตกิ รรม ความคดิ ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป
รายบุคคล/รายกลุ่ม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
รายบุคคล/รายกลุม่

26

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
นกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 3/......
วันที่.................เดอื น.......................พ.ศ.................

ชอ่ื กลุม่ .............................................................
คำช้แี จง: ให้ทำเครือ่ งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ตี รงกบั ความเป็นจรงิ

รายการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน รวม
4321 คะแนน
1. บทบาทหนา้ ท่ี
2. ความรบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่
3. ขนั้ ตอนการทำงาน
4. เวลา
5. ความรว่ มมอื ในการทำงาน

รวมคะแนน (20 คะแนน)

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดีมาก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ
ตำ่ กวา่ 10

ลงชือ่ …………….............................………..ผู้ประเมิน

27

เกณฑ์การประเมิน : แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

รายการประเมิน ระดับคะแนน
1. บทบาทหนา้ ท่ี
ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง

(4) (3) (2) (1)

มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนด ม ี ก าร ก ำห น ด ไม่มีการกำหนด

หนา้ ทส่ี มาชิกไว้ชัดเจน บทบาทหน้าที่ บทบาทหน้าที่ไม่ บทบาทหน ้ า ท่ี

ไม่ครบ ขาดไป คร บ ขาดไ ป 2 ของสมาชกิ

1 อยา่ ง อยา่ ง

2. ความรับผิดชอบต่อ ทุกคนมีหน้าที่และ มีผู้มีหน้าที่ แต่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่

หนา้ ที่ ความรับผิดชอบต่อ ไม่รับผิดชอบ 1 รับผดิ ชอบ 2คน รับผิดชอบ 2คน

หน้าที่ของตน คน ขนึ้ ไป

3. ข้นั ตอนการทำงาน - คัดเลอื ก เตรยี มข้อมูล ขาด 1 ขั้นตอน ขาด 2 ขั้นตอน ขาด 2 ขนั้ ตอนขึ้น

ไดเ้ หมาะสม หรือไมช่ ัดเจน หรอื ไมช่ ดั เจน ไป

- มีการวางแผนการ

ทำงาน

- มีการเตรียมวัสดุ

อุปกรณ์

- มีการปฏิบัติตามแผน

และพฒั นางาน

4. เวลา เสร็จก่อนกำหนดและ เ ส ร ็ จ ต า ม เ ส ร ็ จ ไ ม ่ ทั น เ ส ร ็ จ ไ ม ่ ทั น

งานมคี ณุ ภาพ กำหนดและงาน กำหนด แต่งานมี กำหนด และงาน

มคี ุณภาพ คุณภาพ ไมม่ คี ุณภาพ

5. ความร่วมมือในการ ทุกคนมีส่วนร่วมและ ร้อยละ 80 ของ ร้อยละ 60 ของ ร้อยละ 40 ของ

ทำงาน ให้ความร่วมมืออย่าง กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม

เตม็ ท่ี แ ล ะ ใ ห ้ ค ว าม แ ล ะ ใ ห ้ ค ว า ม แ ล ะ ใ ห ้ ค ว า ม

รว่ มมือ รว่ มมือ ร่วมมือ

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดมี าก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรับปรุง
ตำ่ กว่า 10

28

แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
นกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3/......
วันท่ี.................. เดอื น..................... พ.ศ.................

ช่อื นักเรียน ..........................................................................................................ชนั้ ..................เลขท.ี่ ...............
คำชี้แจง: ให้ทำเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องรายการที่ตรงกับความเปน็ จรงิ

รายการประเมนิ ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
1. เรมิ่ ตน้ งานท่ีได้รบั มอบหมายทันที
2. ทำงานเสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามเวลาท่กี ำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครหู รอื เพื่อนเม่อื ไมเ่ ข้าใจ
4. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ
5. มีส่วนรว่ มในการทำกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ
6. ช่วยเหลือแนะนำเพื่อนในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศึกษาหาความรู้เพ่ิมเตมิ ดว้ ยตนเอง
8. แตง่ กายสภุ าพเรยี บรอ้ ย
9. พูดจาสภุ าพเรยี บร้อย
10. ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในชั้นเรียน

รวม (10 คะแนน)

หมายเหตุ

1. ข้อใดท่ีนกั เรยี นปฏิบัติ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ตั ิ ได้คะแนน 0 คะแนน

2. เกณฑ์การประเมนิ

9 - 10 คะแนน = ดีมาก

7 - 8 คะแนน = ดี

5 - 6 คะแนน = พอใช้

ตำ่ กว่า 4 คะแนน = ควรปรบั ปรุง

3. ครอู าจสมุ่ เลอื กนกั เรียนเท่าท่ีสงั เกตไดใ้ นการสงั เกตแตล่ ะครงั้ โดยหมนุ เวยี นไปจนครบทกุ ห้อง

ลงช่อื …………….............................………..ผปู้ ระเมิน

แบบประเมนิ ผงั ความคิด 29
นกั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3/......
วนั ท.่ี ...................เดือน.....................พ.ศ................. รวม
1 คะแนน
ช่อื กลุม่ ......................................................................
คำช้ีแจง: ให้ทำเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ีตรงกับความเป็นจริง

รายการประเมิน ระดบั คะแนน
432
1. รปู แบบช้นิ งาน
2. ภาษา
3. เน้อื หา
4. ความสวยงาม
5. เวลา

รวม (20 คะแนน)

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดีมาก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรับปรงุ
ต่ำกวา่ 10

30

เกณฑก์ ารประเมนิ : แบบประเมินผงั ความคิด

รายการประเมนิ ระดับคะแนน

ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
(1)
(4) (3) (2)
คณุ ภาพขาด 2
1. รปู แบบช้ินงาน - รปู แบบชิ้นงาน คณุ ภาพขาดไป 1 คุณภาพขาดไป 2 อยา่ งข้นึ ไป

ถูกต้องตามทก่ี ำหนด อยา่ ง อยา่ ง คณุ ภาพขาด 2
อยา่ งข้ึนไป
- รปู แบบแปลกใหม่
คณุ ภาพขาด 2
น่าสนใจ อยา่ งข้ึนไป

- มีขนาดเหมาะสม คณุ ภาพขาด 2
อย่างขึ้นไป
- รูปมคี วามสมั พนั ธ์กับ

เน้ือหา

2. ภาษา - มกี ารใช้ภาษาถกู ต้อง คุณภาพขาดไป 1 คณุ ภาพขาดไป 2

- ประโยคสอดคล้องกับ อย่าง อยา่ ง

เนอ้ื หา

- สะกดคำถกู ตอ้ ง

- มกี ารเวน้ วรรคโดยไม่

ฉีกคำ

3. เนื้อหา - เน้ือหาถกู ต้อง คณุ ภาพขาดไป 1 คุณภาพขาดไป 2

- เนื้อหาตรงตามหัวขอ้ อยา่ ง อย่าง

เรือ่ ง

- เนอ้ื หาเป็นไปตามที่

กำหนด

- รายละเอยี ด

ครอบคลมุ

4. ความสวยงาม -ตกแตง่ สวยงาม คณุ ภาพขาดไป 1 คุณภาพขาดไป 2

- ใชโ้ ทนสอี ยา่ ง อย่าง อยา่ ง

เหมาะสม

- ไมร่ ะบายสีทบั

ตวั หนังสอื จนมองไม่

เห็น

- รปู ตกแต่งสอดคลอ้ ง

กับเนือ้ หา

31

รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
5. เวลา
ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ

(4) (3) (2) (1)

ส่งช้ินงานภายในเวลาที่ ส่งชิ้นงานช้ากว่า ส่งชิ้นงานช้ากว่า ส่งชิ้นงานช้ากว่า

กำหนด กำหนด 1 วัน กำหนด 2 วัน กำหนด 3 วัน

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดีมาก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรบั ปรุง
ต่ำกว่า 10

32

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้

1. สภาพท่วั ไปของการจัดการเรยี นการสอน
1.1 ด้านความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอุปสรรคระหวา่ งการจัดการเรยี นการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ญั หาและข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรุปผลการจัดการเรียนรูจ้ ากแผนการจัดการเรียนรูต้ ามตวั ชีว้ ัด

จำนวนนักเรียนท้ังหมด.........................คน
- ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ดี.................คน คดิ เปน็ ร้อยละ.................
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดับปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดบั ปรับปรุง...................คน คิดเป็นร้อยละ.................

ลงชือ่ .............................................................
(นางสาวศริ ิวรรณ ฤทธมิ์ หันต)์
ครผู สู้ อน

33

แผนการจดั การเรียนรู้

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 3 เรือ่ ง การอา่ นออกเสยี ง หน่วยการเรียนรู้ สมบัติวรรณคดี

รหัสวชิ า ท 23101 รายวชิ า ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวนคาบ 3 ชัว่ โมง

___________________________________________________________________________

สาระที่ 1 การอา่ น

มาตรฐานการเรียนรู้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนนิ ชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่าน

ตัวชี้วัด
1. อา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสมกบั เรื่องที่อ่าน
10. มมี ารยาทในการอ่าน

สาระที่ 2 การเขยี น

มาตรฐานการเรยี นรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรื่องราวใน
รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ

ตัวชวี้ ัด
1. คัดลายมอื ตัวบรรจงคร่ึงบรรทดั

สาระการเรียนรู้
1. การอ่านออกเสยี งร้อยแกว้ และรอ้ ยแกว้
2. คัดลายมือตัวบรรจง

สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (KAP)
การอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง ผอู้ ่านต้องอา่ นออกเสียงให้ถูกตอ้ ง ชัดเจน และมีลีลา

การอ่านเหมาะสมกับบทประเภทของงานเขียนเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ผู้ฟังใหค้ ล้อยตามไปกับเร่ืองราวหรือ
บทประพนั ธท์ อ่ี า่ น และต้องมมี ารยาทในการอา่ น นอกจากนีย้ งั ต้องมีความสามารถในคัดลายมอื ให้ถูกต้องและ
สวยงาม เพื่อสง่ สารออกไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพและเกิดประโยชน์สูงสุด

34

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)

1. อธบิ ายวธิ กี ารอ่านออกเสยี งรอ้ ยแก้วได้
2. อธบิ ายหลักอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรอื่ งท่ีอา่ น
3. อธิบายหลกั การคดั ลายมอื ท่ีถูกตอ้ งและสวยงาม
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
3. อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วได้ถูกตอ้ งและเหมาะสมกบั เรือ่ งทอ่ี า่ น
4. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้องเหมาะสมกับเร่อื งที่อ่าน
5. คัดลายมอื ได้อยา่ งถกู ตอ้ งและสวยงาม
ด้านคุณลกั ษณะ (A)
5. เหน็ ความสำคัญของการอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและรอ้ ยกรอง
6. มีมารยาทในการอา่ นและการเขยี น

ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้ว
2. ใบงานเรือ่ ง การเวน้ วรรคตอนของการอา่ น
3. ทอ่ งจำบทอาขยาน เร่อื ง อิศรญาณภาษิต
4. แบบทดสอบเรอ่ื ง การอ่านออกเสียงร้อยกรอง
5. คดั ลายมือตัวบรรจง

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
4. ทกั ษะทางภาษา

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
3. รกั ความเปน็ ไทย

35

กิจกรรมการเรยี นรู้
ชว่ั โมงท่ี 1
กิจกรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น

1. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น ตามประเด็นคำถาม ดังน้ี นกั เรยี นมวี ธิ ีการส่งเสรมิ ให้เพื่อน ๆ
หรอื คนอนื่ ๆ มนี ิสยั รักการอา่ นอยา่ งไร

2. นักเรียนร่วมกันตอบคำถามตามความเข้าใจของตนเอง โดยมีประเด็นคำถามดงั ต่อไปนี้ ร้อยแก้ว
หรือบทรอ้ ยแก้วคอื อะไร
กจิ กรรมพัฒนาการเรยี น

3. นักเรียนศึกษาว่าบทร้อยแก้วคืออะไร และมีหลักเกณฑ์ในการอ่านอย่างไรบ้าง จากส่ือ
PowerPoint โดยมีเน้ือหาดังนี้

- ความหมายของการอา่ นออกเสียง
- หลกั การอ่านออกเสียงร้อยแก้ว
- การเตรียมตัวก่อนการอ่านออกเสียง
- ตวั อย่าง บทรอ้ ยแก้ว
- การปรับปรุงตนเองเกี่ยวกบั การอา่ น
4. ครูช้ีแนะ แกไ้ ข และอธบิ ายเนือ้ ท่ีนักเรียนศึกษาอีกคร้งั
5. นักเรียนยกตัวอย่างบทร้อยแก้วที่พบในชีวิตประจำวัน โดยสามารถสืบค้นจากหนังสือ หรือ
อินเทอรเ์ นต็ ได้ เพือ่ ใหน้ กั เรียนเข้าใจและเหน็ ว่าบทรอ้ ยแกว้ เป็นแบบใดบ้าง
6. นกั เรียนทำใบงานเร่อื ง การเวน้ วรรคตอนของการอ่าน และร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
7. ให้นักเรียนจับคู่กับเพื่อน โดยให้นักเรียนแต่ละคู่อ่านออกเสียงบทความในหนังสือ โดยเลือก
บทความเพียง 1 บทความ จากบทความดงั ต่อไปน้ี
- บทความเร่ือง พระบรมราโชวาทพระราชทานพวกรักเรียนในกรงุ เทพ (หนา้ 62 - 63)
- บทความเรื่อง เหตุใดข้าพเจ้าจึงชอบดนตรีไทย (หนา้ 63 - 66)
- บทความเร่อื ง คนสวย (หน้า 67 - 70)
- บทความเรื่อง ขนมฝรง่ั กุฎจี ีน (หนา้ 71 - 72)
8. ครปู ระเมนิ การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วของนักเรียนว่ามีความถูกต้องตามหลกั การอ่านออกเสียง
มากน้อยเพยี งใด พรอ้ มทัง้ บอกผลการประเมนิ ใหน้ กั เรยี นทราบเพือ่ ใหน้ กั เรียนปรบั ปรงุ และพฒั นาตนเองตอ่ ไป
สรปุ บทเรยี น
9. นักเรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความรเู้ รอ่ื ง การอ่านบทร้อยแกว้
ชั่วโมงท่ี 2 วธิ สี อนแบบ Jigsaw
กิจกรรมนำเขา้ ส่บู ทเรียน
1. นักเรียนตอบคำถามเพื่อทบทวนความรู้จากชั่วโมงที่ผ่านมา ดังนี้ ในคาบเรียนที่แล้วนักเรียนได้
เรียนเกย่ี วกับอะไร

36

2. ครแู จง้ จุดประสงค์การเรยี นรวู้ ิธกี ารวัดและประเมนิ ผลให้นักเรยี นทราบ
กจิ กรรมพัฒนาการเรยี น
ขน้ั ท่ี 1 แบ่งหวั ข้อเนือ้ หา

3. ครูแบ่งหวั ข้อของเน้อื หาออกเป็น 6 หัวขอ้ ตามเนอ้ื หาของบทเรียน
ขั้นที่ 2 จดั กลมุ่ นกั เรยี นเป็นกลุม่ พ้นื ฐาน (Home Groups)

4. นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 6 คน คละความสามารถเก่ง ปานกลาง ออ่ น แล้วให้นกั เรียนแต่ละคน
ในกลุ่มแบ่งกันศึกษาเรื่อง การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ในหนังสือเรียนหลักภาษาและการใช้ภาษาไทย
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 คนละหวั ข้อ ดงั น้ี

- หวั ข้อที่ 1 กลอนสุภาพ (หนา้ 11-12)
- หวั ข้อที่ 2 กลอนบทละคร (หนา้ 12-13)
- หวั ขอ้ ท่ี 3 กลอนเสภา (หนา้ 13)
- หัวข้อท่ี 4 โคลงส่สี ภุ าพ (หนา้ 13)
- หวั ขอ้ ท่ี 5 กาพย์ยานี 11 (หนา้ 14)
- หัวข้อท่ี 6 กาพยฉ์ บัง 16 (หนา้ 15)
ขน้ั ท่ี 3 เปน็ การศกึ ษาในกลุ่มผเู้ ชี่ยวชาญ (Expert Groups)
5. นักเรียนในกลุ่มเดิม (กล่มุ พนื้ ฐาน) ย้ายไปกล่มุ ผู้เชยี่ วชาญซง่ึ เปน็ กลุ่มที่นกั เรยี นแต่ละคนได้หัวข้อ
เดียวกัน และนกั เรียนแตล่ ะคนตอ้ งอา่ นเอกสาร สรุปเนื้อหาสาระ จดั ลำดับข้ันตอนการนำเสนอ เพอ่ื เตรียมทุก
คนใหพ้ รอ้ มทีจ่ ะไปสอนหัวขอ้ นน้ั ท่ีกล่มุ เดิมของตนเอง
ขั้นท่ี 4 นกั เรียนแตล่ ะคนในกลมุ่ ผู้เชีย่ วชาญกลบั กลมุ่ เดมิ ของตน
6. นักเรยี นแตล่ ะคนในกล่มุ ผู้เช่ียวชาญกลบั กลมุ่ เดมิ ของตน (กลุ่มพน้ื ฐาน) แลว้ ผลัดเปลีย่ นหมุนเวยี น
กันอธบิ ายให้เพอ่ื นในกลุม่ ฟังทีละหัวขอ้ มีการซกั ถามข้อสงสยั ตอบปัญหา ทบทวนให้เข้าใจชัดเจน
สรุปบทเรยี น
ขน้ั ที่ 5 นักเรียนแต่ละคนทำแบบทดสอบ
7. นักเรียนทุกคนทำแบบทดสอบในทุกหัวข้อ แล้วนำคะแนนของสมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มมารวมกัน
เป็นคะแนนกลุ่ม
ขั้นท่ี 6 การให้รบั รางวลั หรือการชมเชย
8. ครใู ห้รางวลั กลมุ่ ทไ่ี ด้คะแนนสูงสุด และชมเชยกลุ่มทไี่ ม่ได้รางวัล

ชั่วโมงท่ี 3
วธิ ีสอนแบบลงมือปฏิบตั ิ (Practice Learning)
กจิ กรรมนำเข้าสูบ่ ทเรียน
ข้ันที่ 1 ข้นั เตรียม

1. ครชู ้แี จ้งจดุ ประสงคแ์ ละหลักเกณฑก์ ารประเมนิ การอา่ นบทรอ้ ยกรอง

37

2. นักเรียนฟังตัวอย่างการอ่านออกเสยี งบทร้อยกรองเปน็ ทำนองเสนาะ เร่อื ง อิศรญาณภาษิต และ

พระอภยั มณี จำนวน 2 รอบ

กจิ กรรมพฒั นาการเรยี น

ขัน้ ท่ี 2 ขนั้ ดำเนนิ การ

3. นกั เรียนฝึกอา่ นและท่องบทอาขยาน เร่ือง อิศรญาณภาษติ พร้อมกันจำนวน 2 รอบ ดงั นี้

“ชายขา้ วเปลอื กหญิงขา้ วสารโบราณวา่ นำ้ พึ่งเรือเสือพ่ึงปา่ อชั ฌาสัย

เราก็จติ คดิ ดูเล่าเขากใ็ จ รกั กันไวด้ กี ว่าชงั ระวังการ

ผูใ้ ดดดี ตี ่ออย่างก่อกจิ ผใู้ ดผิดผอ่ นพักอยา่ หักหาญ

สิบดีกไ็ มถ่ งึ กบั กึ่งพาล เปน็ ชายชาญอยา่ เพ่อคาดประมาทชาย

รักสนั้ น้นั ใหร้ ้อู ยู่เพยี งสน้ั รกั ยาวนนั้ อย่าใหเ้ ยนิ่ เกนิ กฎหมาย

มิใช่ตายแตเ่ ขาเราก็ตาย แหนดูฟา้ อย่าใหอ้ ายแก่เทวดา

อย่าดถู กู บญุ กรรมวา่ ทำนอ้ ย นำ้ ตาลย้อยมากเม่อื ไรไดห้ นักหนา

อย่านอนเปล่าเอากระจกยกออกมา ส่องดหู นา้ เสยี ทหี น่งึ แล้วจงึ นอน”

4. ครูให้นกั เรยี นบอกวา่ บทอาขยานดงั กล่าว ประพนั ธ์ดว้ ยฉนั ทลกั ษณ์แบบใด

5. นกั เรียนอ่านบทประพันธ์เปน็ ทำนองธรรมดา 1 รอบ และทำนองเสนาะ 1 รอบ

6. ครูเสนอแนะท่วงทำนองการแบ่งวรรคตอนการอ่านทำนองเสนาะ การอ่านรวบคำ การอ่านเอื้อ

สัมผัส และการเออ้ื นเสยี งเพอ่ื ให้เกิดความไพเราะ

7. ครูเปดิ เสยี งการท่องอาขยานเร่ือง อศิ รญาณภาษิต ให้นักเรยี นฟงั เปน็ ตวั อยา่ งอีกครัง้

8. นักเรียนจับคู่ฝึกท่องจำบทอาขยานบทหลัก เรื่อง อิศรญาณภาษิต และผลัดกันติ-ชมแก้ไข

บกพรอ่ ง

9. ครแู จง้ กำหนดการสอบทอ่ งจำบทอาขยานหลักใหน้ ักเรียนทราบ

10. นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง การคัดลายมือ ซึ่งในใบความรู้จะบอกถึงหลักการคัดลายมือให้

ถูกต้องและสวยงาม การคัดลายมือในรูปแบบต่าง ๆ โดยครูเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจ

ซกั ถามเพิ่มเติม

11. ครูอธิบายวา่ การคัดลายมือใหถ้ กู ตอ้ งและสวยงามน้นั จะตอ้ งมีความรูค้ วามเขา้ ใจในหลักการคัด

ลายมอื และหม่นั ฝกึ ฝนอยา่ งสมำ่ เสมอ

12. นักเรยี นลงมือปฏบิ ัติคดั ลายมือตัวบรรจงครง่ึ บรรทดั บทอาขยาน เรือ่ ง อิศรญาณภาษิต ในบทท่ี

ครยู กมาขา้ งต้น “ชายข้าวเปลอื กหญิงข้าวสารโบราณวา่ ” ลงสมุด

สรุปบทเรียน

ขั้นที่ 3 ขน้ั สรุป

13. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ผลการปฏบิ ตั งิ าน ดังน้ี

- นกั เรียนมีความพอใจกับการท่องบทร้อยกรองของตนเองมากน้อยเพียงใด

- นักเรยี นคิดว่า การท่องบทรอ้ ยกรองมคี วามสำคญั อย่างไร

38

14. นักเรียนให้คะแนนการคัดลายมือของตนเองว่าจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน นักเรียนจะให้
คะแนนเท่าไร แบะคิดว่าการคัดลายมือของตนเองอยู่ในระดับใด ดังนี้ ระดับ 4 = ดีมาก ระดับ 3 = ดี
ระดบั 2 = พอใช้ และระดับ 1 = ปรับปรงุ
ขัน้ ท่ี 4 ขน้ั วัดผล

15. ครูประเมนิ และใหค้ ะแนนการทอ่ งบทร้อยกรองของนักเรยี น
16. ครูประเมินและให้คะแนนการคัดลายมือของนักเรียน พร้อมทั้งบอกผลการประเมินและผล
คะแนนให้นักเรยี นทราบ เพอ่ื ให้นกั เรยี นทราบว่าตนเองอยู่ในระดับใด และปรบั ปรุง ฝกึ ฝน พัฒนาตัวเองให้ดี
ข้ึน

สือ่ และแหลง่ เรยี นรู้
1. ส่ือพาวเวอร์พอ้ ยท์ (Power point presentation) เรอื่ ง การอา่ นบทรอ้ ยแกว้
2. ใบความรเู้ ร่อื ง การอา่ นออกเสียงร้อยแกว้
3. ใบความรู้เร่ือง การทอ่ งจำบทอาขยาน
4. เสยี งบทอาขยานบทหลัก เรอื่ ง อิศรญาณภาษิต
5. เสียงบทอาขยานบทหลัก เรือ่ ง พระอภยั มณี
6. หนงั สือเรยี น หลกั ภาษาและการใช้ภาษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

การวดั และประเมนิ ผล

หลักฐานการเรียนรู้ วิธวี ัด เคร่อื งมือวดั เกณฑ์

(ชิน้ งาน/ภาระงาน) ทกุ รายการไดค้ ะแนน
ร้อยละ 70 ขนึ้ ไป
1. การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ - ประเมินการอ่านออกเสยี ง - แบบประเมนิ การอ่าน ถือว่าผ่านเกณฑ์

2. ใบงานเรื่อง การเว้นวรรคตอน - ประเมินใบงาน บทรอ้ ยแกว้

ของการอา่ น - ประเมินการท่องจำ - แบบประเมินใบงาน

3. ท่องจำบทอาขยาน เรื่อง อิศร อาขยาน - แบบประเมินการ

ญาณภาษติ - ประเมินแบบทดสอบ ท่องจำอาขยาน

4. แบบทดสอบเรื่อง การอ่าน - ประเมนิ การคัดลายมอื - แบบประเมนิ

ออกเสียงรอ้ ยกรอง - สงั เกตพฤติกรรม แบบทดสอบ

5. คัดลายมอื ตวั บรรจง รายบุคคล/รายกล่มุ - แบบประเมินการคัด

ลายมือ

- แบบสงั เกตพฤติกรรม

รายบุคคล/รายกลุม่

39

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3/......
วนั ท.ี่ ............เดอื น..........................พ.ศ.................

ชอ่ื กลมุ่ ............................................................................
คำชแี้ จง: ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการทต่ี รงกบั ความเป็นจรงิ

รายการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน รวม
4321 คะแนน
1. บทบาทหนา้ ที่
2. ความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี
3. ขน้ั ตอนการทำงาน
4. เวลา
5. ความร่วมมอื ในการทำงาน

รวมคะแนน (20 คะแนน)

เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน = ดมี าก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรับปรุง
ต่ำกว่า 10

ลงช่อื …………….............................………..ผู้ประเมิน

40

เกณฑ์การประเมนิ : แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่

รายการประเมิน ระดับคะแนน

ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง

(4) (3) (2) (1)

1. บทบาทหน้าท่ี มีการกำหนดบทบาท มีการกำหน ด ม ี ก า ร ก ำ ห น ด ไม่มีการกำหนด

หน ้าที่สมาชิก ไ ว้ บทบาทหน้าที่ บทบาทหน้าที่ไม่ บทบาทหน ้ า ที่

ชัดเจน ไม่ครบ ขาดไป คร บ ขาดไ ป 2 ของสมาชิก

1 อยา่ ง อยา่ ง

2. ความรับผิดชอบต่อ ทุกคนมีหน้าที่และ มีผู้มีหน้าที่ แต่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่

หนา้ ท่ี ความรับผิดชอบต่อ ไม่รับผิดชอบ 1 รบั ผิดชอบ 2คน รับผิดชอบ 2คน

หนา้ ท่ขี องตน คน ขน้ึ ไป

3. ขน้ั ตอนการทำงาน - คัดเลือก เตรียม ขาด 1 ขั้นตอน ขาด 2 ขั้นตอน ขาด 2 ข้นั ตอนขนึ้

ขอ้ มูลได้เหมาะสม หรอื ไม่ชดั เจน หรือไม่ชัดเจน ไป

- มีการวางแผนการ

ทำงาน

- มีการเตรียมวัสดุ

อุปกรณ์

- มีการปฏิบัติตาม

แผนและพัฒนางาน

4. เวลา เสรจ็ ก่อนกำหนดและ เ ส ร ็ จ ต า ม เ ส ร็ จ ไ ม ่ ทั น เ ส ร ็ จ ไ ม ่ ทั น

งานมีคณุ ภาพ กำหนดและงาน กำหนด แต่งานมี กำหนด และงาน

มคี ุณภาพ คุณภาพ ไมม่ ีคณุ ภาพ

5. ความร่วมมือในการ ทุกคนมีส่วนร่วมและ ร้อยละ 80 ของ ร้อยละ 60 ของ ร้อยละ 40 ของ

ทำงาน ให้ความร่วมมืออย่าง กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม

เต็มที่ แ ล ะ ใ ห ้ ค ว าม แ ล ะ ใ ห ้ ค ว า ม แ ล ะ ใ ห ้ ค ว า ม

รว่ มมือ รว่ มมือ ร่วมมอื

เกณฑก์ ารตัดสิน คะแนน = ดมี าก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรับปรงุ
ตำ่ กว่า 10

41

แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
นักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3/......
วันท.่ี .........เดอื น..........................พ.ศ.................

ช่ือนักเรยี น ...........................................................................................................ชั้น................เลขท.ี่ ...............
คำชแ้ี จง: ใหท้ ำเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งรายการทตี่ รงกบั ความเปน็ จริง

รายการประเมิน ปฏิบตั ิ ไมป่ ฏบิ ัติ
1. เริ่มตน้ งานทไ่ี ด้รับมอบหมายทนั ที
2. ทำงานเสร็จเรยี บรอ้ ยตามเวลาทกี่ ำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครูหรือเพอ่ื นเมอ่ื ไม่เขา้ ใจ
4. ทำกจิ กรรมด้วยความสนุกสนานและเต็มใจ
5. มสี ่วนร่วมในการทำกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ
6. ช่วยเหลอื แนะนำเพ่ือนในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศกึ ษาหาความรเู้ พม่ิ เติมด้วยตนเอง
8. แตง่ กายสุภาพเรยี บรอ้ ย
9. พูดจาสุภาพเรยี บร้อย
10. ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงในชัน้ เรียน

รวม (10 คะแนน)

หมายเหตุ

1. ขอ้ ใดทีน่ ักเรยี นปฏบิ ตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ตั ิ ได้คะแนน 0 คะแนน

2. เกณฑ์การประเมิน

9 - 10 คะแนน = ดีมาก

7 - 8 คะแนน = ดี

5 - 6 คะแนน = พอใช้

ตำ่ กว่า 4 คะแนน = ควรปรบั ปรุง

3. ครูอาจสมุ่ เลอื กนักเรียนเทา่ ทสี่ งั เกตไดใ้ นการสงั เกตแต่ละครั้งโดยหมุนเวยี นไปจนครบทุกห้อง

ลงชือ่ …………….............................………..ผูป้ ระเมิน

42

แบบประเมินการอ่านบทรอ้ ยแก้ว
นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/......
วันท่ี..................เดอื น......................พ.ศ.................

คำช้แี จง: ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย √ ลงในช่องรายการทตี่ รงกบั ความเป็นจรงิ

เลขท่ี รายชอื่ รายการประเมิน/ระดับคะแนน รวม

อักขรวธิ ี น้ำเสียง/ ความถูกต้องใน บคุ ลิกท่าทาง คะแนน

อารมณ์ การอา่ น (เตม็ 16

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน)

ลงชอื่ …………….............................………..ผู้ประเมิน

43

เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมินการอ่านบทร้อยแกว้

รายการประเมนิ ระดับคะแนน

ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ

(4) (3) (2) (1)

1. อักขรวธิ ี ออกเสียงอกั ขระ ออกเสยี งอกั ขระ ออกเสยี งอักขระ ออกเสียงอักขระ

ตวั สะกด ตัวสะกด ตวั สะกด ตัวสะกด ควบกล้

ควบกลำ้ ถูกตอ้ งทกุ ควบกลำ้ ถูกตอ้ งแต่ ควบกลำ้ ส่วนใหญ่ า

แห่ง ยงั มีผิดอยู่บา้ ง ไม่ถูกตอ้ ง ไม่ถกู ตอ้ ง

2. น้ำเสยี ง/ เสียงดงั ชดั เจน เสียงดังพอสมควรมี เสียงเบา เสียงเบาขาด

อารมณ์ ไพเราะ ความไพเราะ สอดแทรก ความชัดเจน

สอดแทรกอารมณ์ สอดแทรกอารมณ์ อารมณ์ ขาดการ

เหมาะสมกับเร่อื ง เหมาะสมกบั เรือ่ ง เหมาะสมกบั เร่อื ง สอดแทรก

อารมณ์

3. ความถูกตอ้ งในการอา่ น การเว้นวรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเวน้ วรรคตอน การเว้นวรรคตอน

จงั หวะ ลลี าถูกตอ้ ง จงั หวะ แต่ขาดลีลา ถกู ตอ้ งแต่ขาด ไมถ่ ูกตอ้ งทั้ง

สมบรู ณ์ จังหวะและลีลา จงั หวะ

และขาดลีลา

4. บุคลกิ ท่าทาง ม ี ค ว า ม เ ช ื ่ อ มั่ น ม ี ค ว า ม เ ช ื ่ อ มั่ น ขาดความมั่นใจ ขาดความมั่นใจ

ท่าทางสัมพันธ์กับ ท่าทางสัมพันธ์กับ ทา่ ทางสมั พันธ์กับ ท่าทางไม่สัมพันธ์

เนือ้ เร่อื งเหมาะสม เนอื้ เรือ่ งบางสว่ น เนื้อเรื่องบางส่วน กับเน้อื เร่อื ง

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดมี าก
14 - 16 คะแนน = ดี
11 - 13 คะแนน = พอใช้
8 - 10 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ
ต่ำกว่า 8

44

แบบประเมนิ ใบงานเรือ่ ง การเวน้ วรรคตอนของการอ่าน
นักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3/......

วนั ที่.................. เดือน..................... พ.ศ.................

คำชี้แจง: ใหท้ ำเครอื่ งหมาย √ ลงในช่องรายการที่ตรงกบั ความเปน็ จริง

เลขท่ี รายชื่อ เกณฑก์ ารประเมิน รวมคะแนน
(เต็ม 10
ความถกู ต้อง คะแนน)

4 3 2 1
(10 (9 คะแนน) (7 - 8 (5 - 6
คะแนน) คะแนน) คะแนน)

ลงชื่อ…………….............................………..ผปู้ ระเมิน


Click to View FlipBook Version