The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ท23101 รายวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดศาลาแดง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mpsiridao, 2022-11-06 09:48:47

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ม.3

แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ท23101 รายวิชาภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนวัดศาลาแดง

Keywords: STAR

45

เกณฑก์ ารประเมิน : ใบงานเรอ่ื ง การเว้นวรรคตอนของการอ่าน

เกณฑก์ าร 4 32 1
ประเมิน (5 - 6 คะแนน)
ความถกู ตอ้ ง (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7 - 8 คะแนน) ถกู ตอ้ งน้อยกวา่ 15 ท่ี

ถูกต้องมากกวา่ 20 ที่ ถูกต้อง 18 - 20 ที่ ถกู ตอ้ ง 15 - 17 ที่

เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน = ดมี าก
9 - 10 คะแนน = ดี
7-8 คะแนน = พอใช้
5-6 คะแนน = ควรปรับปรงุ
ต่ำกวา่ 5

46

แบบประเมนิ การทอ่ งจำบทอาขยาน
นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/......
วนั ท.่ี ............ เดือน....................... พ.ศ.................

คำชีแ้ จง: ให้ทำเคร่อื งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ตี รงกบั ความเป็นจรงิ

เลขที่ รายชื่อ รายการประเมิน/ระดับคะแนน รวม

อกั ขรวิธี น้ำเสยี ง/ ความถูกตอ้ งใน บคุ ลกิ ทา่ ทาง คะแนน

อารมณ์ การอา่ น (เตม็ 16

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 คะแนน)

ลงชอ่ื …………….............................………..ผู้ประเมิน

47

เกณฑก์ ารประเมิน : แบบประเมนิ การท่องจำบทอาขยาน

รายการประเมิน ระดบั คะแนน

ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ

(4) (3) (2) (1)

1. อกั ขรวิธี ออกเสียงอกั ขระ ออกเสยี งอักขระ ออกเสยี งอักขระ ออกเสียงอักขระ

ตวั สะกด ตัวสะกด ตวั สะกด ตวั สะกด

ควบกลำ้ ถกู ตอ้ งทกุ ควบกลำ้ ถูกตอ้ งแต่ ควบกล้ำส่วนใหญ่ ควบกลำ้

แห่ง ยงั มีผดิ อยู่บา้ ง ไมถ่ กู ตอ้ ง ไม่ถูกต้อง

2. น้ำเสยี ง/ เสียงดงั ชัดเจน เสียงดังพอสมควรมี เสยี งเบา เสียงเบาขาด

อารมณ์ ไพเราะ ความไพเราะ สอดแทรก ความชัดเจน

สอดแทรกอารมณ์ สอดแทรกอารมณ์ อารมณ์ ขาดการ

เหมาะสมกับเร่อื ง เหมาะสมกบั เรอื่ ง เหมาะสมกบั เรอ่ื ง สอดแทรก

อารมณ์

3. ความถกู ต้องในการอา่ น การเว้นวรรคตอน การเว้นวรรคตอน การเว้นวรรคตอน การเว้นวรรคตอน

จังหวะ ลลี าถูกตอ้ ง จังหวะ แต่ขาดลีลา ถูกตอ้ งแตข่ าด ไม่ถูกตอ้ งทงั้

สมบรู ณ์ จังหวะและลลี า จงั หวะ

และขาดลีลา

4. บุคลกิ ท่าทาง ม ี ค ว า ม เ ช ื ่ อ ม่ั น ม ี ค ว า ม เ ช ื ่ อ ม่ั น ขาดความมั่นใจ ขาดความมั่นใจ

ท่าทางสัมพันธ์กับ ท่าทางสัมพันธ์กับ ท่าทางสัมพันธ์กับ ท่าทางไม่สัมพันธ์

เนื้อเรื่องเหมาะสม เนือ้ เรอ่ื งบางสว่ น เนือ้ เร่อื งบางสว่ น กับเน้อื เรื่อง

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดมี าก
14 - 16 คะแนน = ดี
11 - 13 คะแนน = พอใช้
8 - 10 คะแนน = ควรปรับปรงุ
ต่ำกว่า 8

48

แบบประเมนิ แบบทดสอบ
นักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/......
วันท.่ี ............. เดือน...........................พ.ศ.................

คำช้แี จง: ให้เติมคะแนนลงในช่องวา่ งตามความเป็นจรงิ คะแนน
เลขท่ี รายช่ือ (เต็ม 10 คะแนน)

เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนน = ดมี าก
9 - 10 คะแนน = ดี
7-8 คะแนน = พอใช้
5-6 คะแนน = ควรปรับปรุง
ต่ำกว่า 5

49

แบบประเมินการคดั ลายมือ
นักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/......
วนั ที่.............. เดอื น............................ พ.ศ.................

คำชแี้ จง: ใหท้ ำเครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการทต่ี รงกับความเป็นจริง

เลขที่ รายชอื่ รายการประเมิน/ระดับคะแนน รวม

รปู แบบตวั อกั ษร ขนาดตวั อักษร ความถกู ตอ้ ง ความเรยี บรอ้ ย คะแนน

4321 4321432 14321 (เตม็ 16
คะแนน)

ลงชอ่ื …………….............................………..ผปู้ ระเมิน

50

เกณฑ์การประเมิน : แบบประเมินการคัดลายมอื

รายการประเมนิ ระดับคะแนน
1. รปู แบบตวั อกั ษร
2. ขนาดตัวอักษร ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
3. ความถูกตอ้ ง
(4) (3) (2) (1)
4. ความเรียบรอ้ ย
เขยี นถูกตอ้ งเป็น มขี ้อบกพร่องใน มีขอ้ บกพร่องใน มีข้อบกพรอ่ งใน

รูปแบบตวั อกั ษร การเขยี นไมเ่ ปน็ การเขียนไมเ่ ปน็ การเขยี นไม่เป็น

เดยี วกนั ทกุ ตวั รปู แบบเดียวกัน รูปแบบเดียวกัน รปู แบบเดยี วกนั

1 - 2 ตวั อักษร 3 - 4 ตัวอักษร 5 ตัวอกั ษรขึ้นไป

ขนาดตวั อักษรแต่ ขนาดตวั อักษรแต่ ขนาดตวั อกั ษรแต่ ขนาดตวั อักษรแต่

ละตวั เปน็ มาตรฐาน ละตัวเปน็ มาตรฐาน ละตวั เป็น ละตวั เป็น

เดียวกัน มี เดยี วกนั มี มาตรฐานเดยี วกนั มาตรฐานเดียวกนั

ระยะห่างเทา่ กนั ระยะหา่ งเทา่ กัน มีระยะหา่ งเทา่ กนั แตม่ รี ะยะหา่ งไม่

เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางสว่ น เทา่ กนั

เขียนสะกดคำได้ เขียนสะกดคำไม่ เขียนสะกดคำไม่ เขียนสะกดคำไม่

ถูกตอ้ งตาม ถกู ตอ้ งตาม ถกู ต้องตาม ถูกต้องตาม

อกั ขรวิธแี ละ อักขรวิธี 1 – 2 ที่ อักขรวธิ ี 3 – 4 ท่ี อกั ขรวิธี 5 ที่

ครบถว้ นไม่ตกหล่น และเขียนครบถ้วน และเขียน และเขียน

ไมต่ กหลน่ ครบถว้ น ไมต่ ก ครบถว้ น ไมต่ ก

หล่น หล่น

สะอาดและมีความ สะอาดและมีความ ไม่ค่อยสะอาด มี ไม่ค่อยสะอาด มี

เ ป ็ น ร ะ เ บ ี ย บ เ ป ็ น ร ะ เ บ ี ย บ ความเป็นระเบียบ ความเปน็ ระเบียบ

เรียบร้อย ไม่มีรอย เรียบร้อย แต่มีรอย เ ร ี ย บ ร ้ อ ยเป็น เ ร ี ย บ ร ้ อ ยเป็น

ขีดฆา่ ขดู ลบ ขดี ฆา่ ขกู ลบ 1 – 2 บางส่วน และมี บางส่วน และมี

ที่ รอยขีดฆ่า ขูดลบ รอยขีดฆ่า ขูดลบ

3 – 4 ที่ มากกว่า 5 ที่ขึ้น

ไป

เกณฑ์การตดั สนิ คะแนน = ดมี าก
14 - 16 คะแนน = ดี
11 - 13 คะแนน = พอใช้
8 - 10 คะแนน = ควรปรับปรุง
ตำ่ กว่า 8

51

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1. สภาพทว่ั ไปของการจัดการเรียนการสอน
1.1 ดา้ นความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั การเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ญั หาและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรุปผลการจัดการเรยี นรู้จากแผนการจัดการเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ัด

จำนวนนกั เรียนท้ังหมด.........................คน
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดับดี.................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ระดับปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดับปรับปรุง...................คน คิดเป็นร้อยละ.................

ลงชือ่ .............................................................
(นางสาวศิริวรรณ ฤทธมิ์ หนั ต์)
ครูผู้สอน

52

แผนการจดั การเรยี นรู้

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรือ่ ง จับประเดน็ เนน้ ใจความ หน่วยการเรยี นรู้ สมบัตวิ รรณคดี

รหสั วิชา ท23101 รายวิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนท่ี 1 จำนวนคาบ 2 ชว่ั โมง

___________________________________________________________________________

สาระที่ 1 การอา่ น

มาตรฐานการเรียนรู้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาใน
การดำเนินชีวิตและมนี ิสัยรกั การอ่าน

ตัวชีว้ ดั
2. ระบุความแตกตา่ งของคำทีม่ ีความหมายโดยตรง และความหมายโดยนยั
3. ระบุใจความสำคัญและรายละเอียดของข้อมลู ทสี่ นับสนุนจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน
10. มีมารยาทในการอ่าน

สาระการเรยี นรู้
1. คำท่ีมคี วามหมายโดยตรงและความหมายโดยนยั
2. การอา่ นจับใจความจากสือ่ ต่าง ๆ

สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (KAP)
การอ่านเพื่อจับใจความสำคัญ เป็นพื้นฐานที่จำเป็นในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝึกฝนให้เกดิ ความ

ชำนาญจนสามารถจับใจความสำคญั ในงานเขียนทุกประเภท

จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)

1. อธิบายหลักการอา่ นจบั ใจความจากเร่ืองที่อ่าน
2. อธิบายความหมายของคำท่ีมคี วามหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
3. จบั ใจความเรอ่ื งท่อี า่ นหรอื ได้ฟังได้
4. แปลความ ตคี วาม และใช้คำไดถ้ ูกตอ้ ง
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
5. เห็นความสำคัญของการอ่านจบั ใจความและมีมารยาทในการอ่าน

53

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ใบงานเรอ่ื ง คน้ หาความหมายทแี่ ทจ้ รงิ
2. ใบงานเร่อื ง จับประเดน็ เนน้ ใจความ
3. แบบทดสอบ
4. แบบฝึกหดั เร่ือง การจับใจความ

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
4. ทกั ษะทางภาษา

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. รกั ความเป็นไทย
2. ใฝร่ ใู้ ฝ่เรียน
3. มีจติ สาธารณะ

กจิ กรรมการเรียนรู้
ชวั่ โมงที่ 1
กจิ กรรมนำเข้าส่บู ทเรยี น

1. ครูแจง้ ตัวช้วี ดั ให้นักเรียนทราบและให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน
2. นกั เรียนฟังเพลง “ไม้ขดี ไฟกบั ดอกทานตะวัน” และร่วมกันวิเคราะห์เน้อื หา ความหมายแฝงในบท
เพลง โดยมปี ระเด็นดังตอ่ ไปนี้
- ในเนอ้ื เพลง “ไม้ขดี ไฟ” กบั “ดอกทานตะวัน” หมายถึงอะไร
- “เจ้าไม้ขีดไฟ กา้ นน้อยเดียวดาย แอบรักดอกทานตะวนั ” ประโยคดังกลา่ วหมายความว่าอยา่ งไร
3. ครูอธิบายเพิ่มเติมถึงเนื้อหาของเพลง “ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน” มีการใช้คำแฝงความหมาย
โดยนยั
กจิ กรรมพฒั นาการเรียน
5. นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับคำที่มีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย โดยครูใช้ส่ือ
PowerPoint เรื่อง คำทมี่ คี วามหมายโดยตรงและโดยนัย
6. นักเรยี นยกตวั อย่างคำท่มี คี วามหมายโดยนยั ท่ีพบในชีวติ ประจำหรอื ในสื่อสังคมออนไลน์
7. นักเรียนทำใบงานเรื่อง ค้นหาความหมายที่แท้จริง และตรวจสอบความถูกต้องร่วมกัน โดยมีครู
ร่วมเฉลยและอธบิ ายเพ่มิ เตมิ

54

สรุปบทเรียน
8. ตัวแทนนักเรียน 2 - 3 บอกความรู้หรือเนื้อหาที่ได้เรียนในวันนี้ว่ามีอะไรบ้าง โดยครูช่วยเสริม

เพิ่มเตมิ

ช่ัวโมงท่ี 2
กจิ กรรมนำเขา้ สู่บทเรียน

1. นกั เรยี นและครูรว่ มกันทบทวนเนอ้ื หาท่เี รยี นในคาบเรียนท่แี ล้ว
2. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ คำถามดังตอ่ ไปนี้
- นักเรยี นคดิ ว่าการจับใจความจากการฟงั กับการจับใจความจากการอ่านมคี วามยากงา่ ยแตกต่างกัน
อยา่ งไร
- นักเรียนมีวิธกี ารอ่านอย่างไรจึงจะเขา้ ใจสาระสำคญั ของเร่อื งได้
- นักเรียนคิดวา่ การเขา้ ใจสาระสำคญั ของเรื่องทีอ่ ่านน้ันสำคัญอย่างไร
กจิ กรรมพัฒนาการเรยี น
3. นักเรียนทำกจิ กรรม “นักสง่ สาร” โดยมกี ตกิ าดังน้ี
- ครกู ำหนดขอ้ ความ ดังนี้ “รักก็คือรกั หลงก็คือหลง ถ้าถามชาวประมง กค็ งไม่เขา้ ใจ เพราะฉันนั้น
เป็นวาฬ ท่ีเกยตน้ื น้ำตาย ใจสลายแหลกลงไปใต้ทะเล”
- ให้นักเรียนจำนวน 5 คน มายืนเรียงกันหน้ากระดาน เพื่อส่งสารหรือข้อความที่กำหนดให้ไปยัง
นกั เรยี นคนตอ่ ไป
- นักเรียนคนที่ 1 อ่านข้อความที่กำหนดให้ในใจ แล้วบอกข้อความดังกล่าวให้แก่นักเรียนคนที่ 2
และนักเรียนคนที่ 2 นำข้อความที่นักเรียนคนที่ 1 บอกบอกต่อนักเรียนคนต่อไป ทำแบบนี้จนถึงนักเรียนคน
สุดท้าย แล้วจงึ ให้นกั เรียนคนสุดทา้ ยบอกเพื่อน ๆ ให้หอ้ งวา่ ขอ้ ความดงั กล่าวคืออะไร
- เมื่อนักเรยี นคนสุดทา้ ยบอกข้อความมา ข้อความอาจมีเน้ือหาไม่ครบถ้วน แต่ยังคงใจความเดิมไว้
ครอู ธิบายว่ามนั เปน็ เรือ่ งของการจบั ใจความ แล้วจึงนำเขา้ สู่บทเรยี น
4. ครูเฉลยว่าข้อความที่ยกมานั้นเป็นเพลง “วาฬเกยตื้น” โดยใจความสำคัญของข้อความนี้คือ
ความรกั เปน็ สิง่ ทเี่ ขา้ ใจยาก
5. นักเรียนฟังครูอธิบายเกี่ยวกับการอ่านจับใจความสำคัญ โดยครูใช้สื่อ PowerPoint เรื่อง จับ
ประเดน็ เน้นใจความ
6. นักเรียนอ่านแถบข้อความที่ 1 - 2 พร้อม ๆ กันแล้วช่วยกันตอบคำถามว่าใจความสำคัญของ
ขอ้ ความคืออะไร และครูเฉลยคำตอบพร้อมทงั้ อธิบายเพมิ่ เติม
แถบข้อความท่ี 1

ความสมบูรณ์ของชีวิตมาจากความเข้าใจชีวิตพื้นฐาน คือเข้าใจธรรมชาติเข้าใจความเป็นมนุษย์และ
ความสัมพันธ์ท่ีเกื้อกูลกันระหว่างมนษุ ยก์ ับมนุษย์และมนุษย์กับธรรมชาตมิ ีความรกั ความเมตตาต่อเพ่ือนมนุษย์
และธรรมชาตอิ ย่างจริงใจ

จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ

55

- ใจความสำคัญของข้อความคืออะไร (ความสมบูรณ์ของชีวติ มาจากความเขา้ ใจชีวิตเปน็ พน้ื ฐาน)
แถบข้อความที่ 2

ความเครยี ดทำใหเ้ พม่ิ ฮอร์โมนอะดรีนาลนี ในเลือด ทำใหห้ ัวใจเต้นเรว็ เสน้ เลือดบีบตัว กลา้ มเน้อื เขม็งดึง
ระบบยอ่ ยอาหารผดิ ปกติ เกิดอาการปวดหัว ปวดท้อง ใจสัน่ แขง้ ขาอ่อนแรง ความเครียดจงึ เป็นตัวการใหแ้ กเ่ รว็

บาหยนั อม่ิ สำราญ

- ใจความสำคญั ของขอ้ ความคืออะไร (ความเครยี ดทำใหแ้ ก่เร็ว)
7. นักเรียนทำแบบฝึกหดั เร่อื ง การจับใจความ และทำใบงานเร่ือง จับประเด็นเน้นใจความ
8. ครูแจ้งตวั ช้วี ดั ใหน้ ักเรียนทราบและใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น

สรุปบทเรียน
9. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรปุ ความรู้ว่าหลกั การจับใจความมอี ะไรบ้าง และประโยชนข์ องการนำการ

จับใจความไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั

ส่ือและแหลง่ เรียนรู้
1. สื่อพาวเวอรพ์ ้อยท์ (Power point presentation) เรอ่ื ง คำท่ีมคี วามหมายโดยตรงและโดยนัย
2. ส่อื พาวเวอรพ์ ้อยท์ (Power point presentation) เร่ือง จบั ประเด็นเน้นใจความ
3. เนือ้ เพลง วาฬเกยตื้น
4. เพลง ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวนั (ที่มา: https://www.youtube.com)

การวดั และประเมินผล วิธวี ดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์
หลักฐานการเรียนรู้
(ชิน้ งาน/ภาระงาน) - ประเมินใบงาน - แบบประเมนิ ใบงาน ทกุ รายการไดค้ ะแนน
- ประเมินการทำ - แบบประเมินผลการ รอ้ ยละ 70 ขึ้นไปถือ
1. ใบงาน แบบทดสอบ เรียนรกู้ ่อน–หลังเรียน วา่ ผา่ นเกณฑ์
2. แบบทดสอบ - ประเมนิ แบบฝกึ หดั - แบบประเมิน
3. แบบฝึกหัด - สังเกตพฤตกิ รรม แบบฝกึ หดั
รายบคุ คล - แบบสงั เกตพฤติกรรม
รายบคุ คล

56

แบบสังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล
นกั เรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/......
วนั ท.่ี .................เดอื น.....................พ.ศ.................

ชื่อนกั เรียน .........................................................................................................ช้ัน..................เลขท.่ี ................
คำชีแ้ จง: ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ตี รงกับความเป็นจริง

รายการประเมิน ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏิบตั ิ
1. เริ่มต้นงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายทันที
2. ทำงานเสร็จเรียบร้อยตามเวลาท่กี ำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพื่อนเมือ่ ไมเ่ ข้าใจ
4. ทำกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานและเต็มใจ
5. มีสว่ นร่วมในการทำกจิ กรรมอย่างสม่ำเสมอ
6. ช่วยเหลือแนะนำเพื่อนในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศึกษาหาความรู้เพม่ิ เติมดว้ ยตนเอง
8. แตง่ กายสุภาพเรียบรอ้ ย
9. พูดจาสุภาพเรยี บรอ้ ย
10. ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลงในชั้นเรียน

รวมคะแนน (10 คะแนน)

หมายเหตุ

1. ข้อใดท่นี กั เรยี นปฏบิ ตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน 0 คะแนน

2. เกณฑก์ ารประเมิน

9 - 10 คะแนน = ดีมาก

7 - 8 คะแนน = ดี

5 - 6 คะแนน = พอใช้

ต่ำกวา่ 4 คะแนน = ควรปรับปรงุ

3. ครูอาจสมุ่ เลอื กนกั เรียนเท่าทส่ี ังเกตได้ในการสงั เกตแตล่ ะครงั้ โดยหมุนเวียนไปจนครบทกุ ห้อง

ลงชื่อ…………….............................………..ผปู้ ระเมิน

57

แบบประเมินใบงานเรอ่ื ง ค้นหาความหมายทีแ่ ทจ้ ริง
นักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3/......

วันท่ี.................. เดือน..................... พ.ศ.................

คำชแี้ จง: ให้ทำเครือ่ งหมาย √ ลงในช่องรายการท่ีตรงกับความเปน็ จรงิ

เลขที่ รายชอื่ เกณฑก์ ารประเมิน รวมคะแนน
(เต็ม 10
ความถูกตอ้ ง คะแนน)

4 3 2 1
(10 (9 คะแนน) (7 - 8 (5 - 6
คะแนน) คะแนน) คะแนน)

ลงช่อื …………….............................………..ผ้ปู ระเมิน

58

เกณฑ์การประเมิน : ใบงานเรื่อง คน้ หาความหมายที่แทจ้ รงิ

เกณฑก์ าร 4 32 1
ประเมิน (5 - 6 คะแนน)
ความถกู ตอ้ ง (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7 - 8 คะแนน) ถูกต้องนอ้ ยกว่า 7 ข้อ

ถูกตอ้ ง 13 ข้อ ถกู ตอ้ ง 10 - 12 ขอ้ ถูกตอ้ ง 7 - 9 ข้อ

เกณฑก์ ารตดั สิน คะแนน = ดีมาก
9 - 10 คะแนน = ดี
7-8 คะแนน = พอใช้
5-6 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ

ตำ่ กว่า 5

59

แบบประเมนิ ใบงานเรอ่ื ง จับประเดน็ เนน้ ใจความ
นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3/......

วนั ที่.................. เดือน......................... พ.ศ.................

คำชี้แจง: ใหท้ ำเครือ่ งหมาย √ ลงในช่องรายการทีต่ รงกับความเป็นจริง

เลขที่ รายชือ่ เกณฑก์ ารประเมิน รวมคะแนน
(เต็ม 10
ความถูกตอ้ ง คะแนน)

4 3 2 1
(10 (9 คะแนน) (7 - 8 (5 - 6
คะแนน) คะแนน) คะแนน)

ลงช่อื …………….............................………..ผ้ปู ระเมิน

60

เกณฑก์ ารประเมนิ : ใบงานเรื่อง จบั ประเด็นเน้นใจความ

เกณฑ์การ 4 32 1
ประเมิน (5 - 6 คะแนน)
ความถูกตอ้ ง (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7 - 8 คะแนน) ถกู ตอ้ ง 5 - 6 ขอ้

ถกู ต้องทง้ั หมด ถูกตอ้ ง 9 ข้อ ถกู ต้อง 7 - 8 ขอ้

เกณฑ์การตดั สนิ คะแนน = ดีมาก
9 - 10 คะแนน = ดี
7-8 คะแนน = พอใช้
5-6 คะแนน = ควรปรับปรุง
ต่ำกว่า 5

61

แบบประเมินผลการเรยี นรู้กอ่ น–หลังเรยี น
นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3/......

วนั ท.ี่ ................. เดือน..................... พ.ศ.................

คำชแ้ี จง: ใหเ้ ตมิ คะแนนลงในชอ่ งว่างตามความเปน็ จรงิ คะแนน (เต็ม 10 คะแนน)
เลขที่ รายชือ่

ก่อนเรยี น หลงั เรียน

เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน = ดมี าก
9 - 10 คะแนน = ดี
7-8 คะแนน = พอใช้
5-6 คะแนน = ควรปรับปรงุ

ตำ่ กวา่ 5

62

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1. สภาพทว่ั ไปของการจัดการเรียนการสอน
1.1 ดา้ นความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั การเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ญั หาและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรุปผลการจัดการเรยี นรู้จากแผนการจัดการเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ัด

จำนวนนกั เรียนท้ังหมด.........................คน
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดับดี.................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ระดับปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดับปรับปรุง...................คน คิดเป็นร้อยละ.................

ลงชือ่ .............................................................
(นางสาวศิริวรรณ ฤทธมิ์ หนั ต์)
ครูผู้สอน

63

แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5 เรื่อง การเขยี นในโอกาสต่าง ๆ หน่วยการเรียนรู้ สมบัติวรรณคดี

รหสั วิชา ท23101 รายวชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1 จำนวนคาบ 2 ชวั่ โมง

___________________________________________________________________________

สาระที่ 2 การเขยี น

มาตรฐานการเรียนรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่อื สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวใน
รูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ

ตวั ชี้วดั
2. เขียนข้อความโดยใช้ถอ้ ยคำไดถ้ ูกต้องตามระดับภาษา
10. มมี ารยาทในการเขียน

สาระการเรียนรู้
1. การเขียนคำขวัญ คำคม คติพจน์
2. มารยาทในการเขยี น

สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (KAP)
การเขียนคำขวญั คำคม คติพจน์ เป็นทกั ษะการใช้ภาษาขั้นสูง เปน็ การนำสรรคำมาใชใ้ นการแต่งคำข

วัย คำคม คติพจน์ให้มคี วามเพราะและให้แงค่ ิดทีด่ ี นอกจากนี้ยังตอ้ งคำนึงถึงโอกาสและสถานทีใ่ นการนำคำ
ขวญั คำคม คตพิ จน์ไปใชด้ ว้ ย

จุดประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)

1. อธบิ ายลักษณะและแนวทางการเขียนในโอกาสต่าง ๆ ได้
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)

2. เขยี นในโอกาสตา่ ง ๆ ได้
ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)

3. ตระหนกั ในคุณคา่ ของการเขียนในโอกาสตา่ ง ๆ และมีมารยาทในการเขียน

64

ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. เขียนคำขวัญ คำคม คตพิ จน์
2. ใบงานเรื่อง การเขียนคำขวญั คำคม คติพจน์

สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
4. ทักษะทางภาษา

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ชัว่ โมงที่ 1
กจิ กรรมนำเข้าส่บู ทเรียน

1. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนทราบหรือไม่วา่ คำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2563 ใช้คำขวัญว่า
อะไร “เด็กไทยยคุ ใหม่ รรู้ กั สามัคคี ร้หู นา้ ทพี่ ลเมืองไทย”

2. ครูสนทนากบั นักเรยี นเกี่ยวกับลกั ษณะของคำขวญั และเชอื่ มโยงเข้าส่เู นือ้ หา
กิจกรรมพัฒนาการเรยี น

3. นักเรียนทำกิจกรรม “คล้องจองคล้องใจ” ซึ่งเป็นกิจกรรมทีก่ ระตุ้นในนักเรียนใช้ความคิดในการ
หาคำศัพทท์ คี่ ลอ้ งจองกับคำศัพทข์ องเพอื่ น มรี ายละเอียดของกิจกรรมดงั ตอ่ ไปนี้

- ผ้เู ลน่ คนแรกพูดคำหน่ึงออกมา เช่น คำว่า หวั ใจ ผเู้ ล่นคนตอ่ ไปต้องพูดคำทมี่ ีพยางคแ์ รกคล้องจอง
กับพยางค์ท่ีสองของคำวา่ หวั ใจ เช่น ไมตรี แล้วผู้เลน่ คนถัดไปกท็ ำเชน่ เดิม จนถงึ ผ้เู ลน่ คนสุดท้าย

4. ครอู ธบิ ายว่ากิจกรรม “คลอ้ งจองคล้องใจ” เปน็ กจิ กรรมทีท่ ำใหน้ กั เรยี นใชค้ วามคิดสรรหาคำศัพท์
เพราะว่าในการแตง่ คำขวัญนัน้ ต้องมกี ารสรรหาคำที่หลากหลายและมีความคล้องจอง จงึ จะทำให้คำขวัญน้ันมี
ความไพเราะ

5. นกั เรยี นศกึ ษาใบความรเู้ รื่อง การเขียนคำขวัญ พรอ้ มครูอธบิ ายประกอบ
6. นักเรยี นทกุ คนช่วยกนั หาคำขวญั ตา่ ง ๆ ที่นกั เรียนเคยพบเห็น มาเขยี นบนกระดานดำ คนละ 1 คำ
ขวญั แลว้ ชว่ ยกันวเิ คราะห์วา่ คำขวัญแตล่ ะคำขวัญนนั้ ผเู้ ขียนมจี ดุ มงุ่ หมายในการเขียนเพอื่ อะไร

65

7. นักเรียนจับคู่ ช่วยกันระดมสมองคิดคำขวัญรณรงค์ให้ตระหนักเรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์
กลมุ่ ละ 1 คำขวญั แล้วออกมานำเสนอหน้าชั้นเรยี น

8. นักเรียนช่วยกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั คำขวัญรณรงค์เรื่องการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของกลุ่ม
เพอื่ นที่ออกมานำเสนอ
สรุปบทเรยี น

9. นกั เรยี นและครู่ ว่ มกนั สรุปความหมายและลักษณะสำคัญของการเขยี นคำขวญั นักเรียนจดบันทึก
ความรู้ลงในสมดุ

ช่วั โมงที่ 2
กจิ กรรมนำเขา้ สู่บทเรียน

1. นกั เรยี นทบทวนเนือ้ หาในคาบเรยี นที่แล้ววา่ ในคาบเรยี นท่ีแล้วเรยี นเรื่องอะไร และใจความสำคัญ
ของเร่อื งท่ีเรยี นคืออะไร

2. นักเรียนและครูรว่ มกันสนทนา แสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับเนือ้ หาในวดิ โิ อ “คมธรรมประจำวันกับ
ท่าน ว.วชริ เมธี ตอน นทิ านไม้ซงุ ”

3. ครใู ห้นกั เรียนยกตวั อยา่ งคำคมที่ชอบหรือทีพ่ บในชีวิตประจำวนั
4. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับเนือ้ หาในวิดิโอ“คติพจน์ บัณฑิตเข็มทองคำ ปีการศึกษา
2560” และให้นกั เรยี นเลือกคติพจน์คตพิ จนท์ ี่ช่ืนชอบมาคนละ 1 คตพิ จน์
กจิ กรรมพฒั นาการเรียน
5. นกั เรียนศึกษาใบความรเู้ รือ่ ง การเขียนคำคมและคตพิ จน์ พรอ้ มครอู ธบิ ายประกอบ
6. นักเรียนจับคู่ ระดมสมองช่วยกันแต่งคำคมตามหัวข้อทีต่ นเองถนัด แล้วออกมานำเสนอหน้าชั้น
เรียน
7. นักเรียนแบ่งกลุ่ม เป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน เพื่อทำกิจกรรม “จับคู่ชูช่ืน” ซึ่งมีรายละเอยี ด
ดังน้ี
- ครเู ตรยี มคำขวญั คำคม และคตพิ จนไ์ ว้ และแบ่งไวเ้ ป็นชุด ชุดละ 5 ตวั อย่าง จำนวน 5 ชุด
- นักเรียนส่งตวั แทนมาเลือกชุดคำขวญั คำคม และคตพิ จน์
- นักเรยี นนำชุดคำขวญั คำคม และคติพจน์ ออกมาแปะทก่ี ระดานดำตามหมวดหม่ทู ี่จัดไว้ โดยแต่ละ
กลมุ่ จะได้เวลาในการคดิ และนำชดุ คำขวญั คำคม และคตพิ จน์มาแปะ กลมุ่ ละ 5 นาที
- ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลย พร้อมอธิบายข้อสงั เกตและความแตกตา่ งของคำขวญั คำคม คติพจน์
- กลุม่ ท่ีถกู ตอ้ งมากทีส่ ุดจะไดร้ บั คะแนนพิเศษ
หมายเหตุ ให้นกั เรยี นทำกจิ กรรมทลี ะกลมุ่ เพราะพ้นื ท่หี น้ากระดานดำมีจำกัด
8. นกั เรียนแตง่ คตพิ จนป์ ระจำตวั แล้วออกมานำเสนอหนา้ ชนั้ เรียน
9. นกั เรยี นทำใบงาน เรอื่ ง การเขยี นคำขวัญ คำคม คติพจน์

66

สรุปบทเรียน
10. นักเรียนร่วมกนั สรปุ ความหมายและลักษณะสำคัญของการเขยี นคำคม
11. นักเรียนร่วมกนั สรุปความหมายและลักษณะสำคัญของการเขียนคตพิ จน์

สื่อและแหลง่ เรียนรู้
1. ใบความรู้เรื่อง การเขียนคำขวญั
2. ใบความรู้เรอ่ื ง การเขียนคำคมและคตพิ จน์
3. วิดิโอ “คมธรรมประจำวันกบั ทา่ น ว.วชริ เมธี ตอน นิทานไมซ้ งุ ”
4. วดิ ิโอ “คติพจน์ บณั ฑิตเขม็ ทองคำ ปีการศึกษา 2560”

การวดั และประเมินผล

หลกั ฐานการเรียนรู้ วิธวี ัด เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์
(ช้นิ งาน/ภาระงาน)
1. ใบงาน - ประเมินใบงาน - แบบประเมินใบงาน ทุกรายการไดค้ ะแนน
2. เขียนคำขวัญ - ประเมินการเขียน - แบบประเมินการเขียน ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
3. เขียนคำคม - สงั เกตพฤตกิ รรมรายกลมุ่ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
4. เขียนคติพจน์ และรายบุคคล รายบคุ คล
5. กิจกรรม “จับคูช่ ูชื่น” - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
รายบุคคล

67

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
นักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3/......
วันท.ี่ ...............เดือน......................พ.ศ.................

ชอื่ กล่มุ .......................................................................
คำช้แี จง: ใหท้ ำเคร่อื งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการทตี่ รงกับความเปน็ จรงิ

รายการประเมนิ เกณฑ์การใหค้ ะแนน รวม
4321 คะแนน
1. บทบาทหน้าที่
2. ความรับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่
3. ข้ันตอนการทำงาน
4. เวลา
5. ความร่วมมอื ในการทำงาน

รวมคะแนน (20 คะแนน)

เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน = ดีมาก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรับปรุง
ต่ำกว่า 10

ลงชือ่ …………….............................………..ผ้ปู ระเมิน

68

เกณฑก์ ารประเมิน : แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

รายการประเมิน ระดับคะแนน
1. บทบาทหนา้ ที่
2. ความรับผิดชอบตอ่ หนา้ ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
3. ข้นั ตอนการทำงาน
(4) (3) (2) (1)
4. เวลา
5. ความรว่ มมอื ในการทำงาน มีการกำหนด มีการกำหนด มีการกำห น ด ไม่มีการกำหนด

บทบาทหน้าที่ บทบาทหน้าท่ี บทบาทหน้าที่ไม่ บทบาทหน ้ า ท่ี

ส ม า ช ิ ก ไ ว้ ไม่ครบ ขาดไป คร บ ขาดไ ป 2 ของสมาชกิ

ชัดเจน 1 อยา่ ง อย่าง

ทุกคนมีหน้าที่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่

แ ล ะ ค ว า ม ไม่รับผิดชอบ 1 รบั ผดิ ชอบ 2คน รับผิดชอบ 2คน

รับผิดชอบต่อ คน ขึ้นไป

หน้าทีข่ องตน

- ค ั ด เ ล ื อ ก ขาด 1 ขั้นตอน ขาด 2 ขั้นตอน ขาด 2 ขน้ั ตอนขึ้น

เตรียมข้อมูลได้ หรือไม่ชดั เจน หรือไมช่ ัดเจน ไป

เหมาะสม

- มีการวาง

แผนการทำงาน

- มีการเตรียม

วสั ดอุ ปุ กรณ์

- มีการปฏิบัติ

ตามแผนและ

พัฒนางาน

เ ส ร ็ จ ก ่ อ น เ ส ร ็ จ ต า ม เ ส ร ็ จ ไ ม ่ ทั น เ ส ร ็ จ ไ ม ่ ทั น

กำหนดและงาน กำหนดและงาน กำหนด แต่งานมี กำหนด และงาน

มีคณุ ภาพ มคี ุณภาพ คณุ ภาพ ไมม่ คี ุณภาพ

ทุกคนมีส่ ว น ร้อยละ 80 ของ ร้อยละ 60 ของ ร้อยละ 40 ของ

ร ่ ว ม แ ล ะ ใ ห้ กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม

คว ามร ่ว มมือ แ ล ะ ใ ห ้ ค ว าม แ ล ะ ใ ห ้ ค ว า ม แ ล ะ ใ ห ้ ค ว า ม

อยา่ งเตม็ ท่ี ร่วมมอื รว่ มมอื ร่วมมอื

69

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดมี าก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรับปรงุ
ต่ำกวา่ 10

70

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
นกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3/......
วนั ที่...................เดือน......................พ.ศ.................

ชอ่ื นกั เรียน..............................................................................................................ชัน้ ...............เลขท.่ี ...............
คำชี้แจง: ใหท้ ำเครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการทต่ี รงกบั ความเป็นจรงิ

รายการประเมนิ ปฏบิ ัติ ไม่ปฏบิ ตั ิ
1. เร่ิมตน้ งานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายทนั ที
2. ทำงานเสรจ็ เรยี บรอ้ ยตามเวลาทีก่ ำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครหู รอื เพอ่ื นเมื่อไม่เข้าใจ
4. ทำกจิ กรรมดว้ ยความสนุกสนานและเต็มใจ
5. มสี ว่ นรว่ มในการทำกจิ กรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ
6. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพ่อื นในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศึกษาหาความรเู้ พมิ่ เติมด้วยตนเอง
8. แต่งกายสุภาพเรียบรอ้ ย
9. พดู จาสภุ าพเรียบร้อย
10. ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในชน้ั เรียน

รวมคะแนน (10 คะแนน)

หมายเหตุ

1. ข้อใดทีน่ ักเรียนปฏบิ ตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ัติ ได้คะแนน 0 คะแนน

2. เกณฑ์การประเมิน

9 – 10 คะแนน = ดีมาก

7 - 8 คะแนน = ดี

5 - 6 คะแนน = พอใช้

ตำ่ กวา่ 4 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ

3. ครอู าจสุม่ เลอื กนักเรียนเท่าท่ีสงั เกตได้ในการสงั เกตแตล่ ะครัง้ โดยหมุนเวียนไปจนครบทุกหอ้ ง

ลงช่ือ…………….............................………..ผปู้ ระเมิน

71

แบบประเมินใบงานเร่ือง การเขียนคำขวัญ คำคม คติพจน์
นักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3/......

วันที่...............เดอื น......................พ.ศ.................

คำชแ้ี จง: ใหท้ ำเครือ่ งหมาย √ ลงในช่องรายการท่ีตรงกับความเปน็ จรงิ

เลขที่ รายชือ่ เกณฑ์การประเมิน รวมคะแนน
(เต็ม 10
ความถูกต้อง คะแนน)

4 3 2 1
(10 (9 คะแนน) (7-8 (5-6
คะแนน) คะแนน) คะแนน)

ลงชอ่ื …………….............................………..ผปู้ ระเมิน

72

เกณฑ์การประเมิน : ใบงานเรอื่ ง การเขยี นคำขวัญ คำคม คตพิ จน์

เกณฑ์การ 4 32 1
ประเมิน (5 - 6 คะแนน)
ความถกู ตอ้ ง (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7 - 8 คะแนน) ถูกตอ้ งนอ้ ยกว่า 7 ข้อ

ถกู ตอ้ ง 13 ขอ้ ถกู ต้อง 10 - 12 ข้อ ถูกตอ้ ง 7 - 9 ข้อ

เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน = ดมี าก
9 - 10 คะแนน = ดี
7-8 คะแนน = พอใช้
5-6 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ
ต่ำกว่า 5

73

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1. สภาพทว่ั ไปของการจัดการเรียนการสอน
1.1 ดา้ นความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั การเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ญั หาและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรุปผลการจัดการเรยี นรู้จากแผนการจัดการเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ัด

จำนวนนกั เรียนท้ังหมด.........................คน
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดับดี.................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ระดับปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดับปรับปรุง...................คน คิดเป็นร้อยละ.................

ลงชือ่ .............................................................
(นางสาวศิริวรรณ ฤทธมิ์ หนั ต์)
ครูผู้สอน

74

แผนการจดั การเรยี นรู้

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 6 เรอ่ื ง คำทม่ี าจากภาษาต่างประเทศ หนว่ ยการเรียนรู้ สมบตั วิ รรณคดี

รหสั วิชา ท23101 รายวชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย

ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นที่ 1 จำนวนคาบ 3 ชั่วโมง

___________________________________________________________________________

สาระท่ี 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย

มาตรฐานการเรียนรู้ ท 4.1 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ

ตัวชว้ี ัด
1. จำแนกและใชค้ ำภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย

สาระการเรยี นรู้
1. คำท่มี าจากภาษาต่างประเทศ

สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (KAP)
การนำคำภาษาตา่ งประเทศมาใช้ทำให้ภาษาไทยมีคำใช้เพ่ิมมากขึน้ แสดงถงึ การรับอิทธิพลทางภาษา

และวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศึกษาคำภาษาต่างประเทศที่ใช้ในภาษาไทยเป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
ภาษาไทยในระดบั ทสี่ งู ขึ้นตอ่ ไป

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)

1. บอกหลกั การจำแนกคำภาษาต่างประเทศท่ใี ชใ้ นภาษาไทย
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)

2. จำแนกคำภาษาตา่ งประเทศทใี่ ช้ในภาษาไทย
3. ยกตวั อยา่ งคำภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย
ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
4. ตระหนกั ถึงความสำคญั ของภาษาไทย และอิทธิพลภาษาต่างประเทศทีม่ ตี ่อภาษาไทย

75

ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ใบงานเร่อื ง คำภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย
2. แบบฝึกหดั

สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
4. ทกั ษะทางภาษา

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่วั โมงที่ 1
กิจกรรมนำเข้าส่บู ทเรยี น

1. นกั เรียนรว่ มกนั ทบทวนความรใู้ นคาบเรยี นทแี่ ลว้ ตามประเด็นที่ได้เรียน ดังน้ี
- การเขียนกรอบแนวคิดและผังความคิด
2. ครูนำนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดผ่านคำภาษาต่างประเทศท่ี
ภาษาไทยยืมคำมาใช้ว่าการรับคำจากภาษานนั้ ๆ เขา้ มาใช้ผา่ นทางใดบา้ ง และมีผลตอ่ วฒั นธรรมไทยอยา่ งไร
3. นักเรียนช่วยกันบอกสาเหตุที่มีการยืมคำจากภาษาต่างประเทศเข้ามาใช้ในภาษาไทย พร้อมครู
ช่วยเสริมเพิ่มเตมิ
4. นักเรียนสังเกตช่ือตนเอง และชื่อเพื่อนว่าเป็นภาษาไทยแท้หรือไม่ ถ้าหากไม่ นักเรียนคดิ ว่าเป็น
ภาษาใด เพราะอะไร

กิจกรรมพัฒนาการเรยี น
5. นักเรียนศกึ ษาใบความรเู้ ร่อื ง คำไทยแท้ พรอ้ มครูอธบิ ายประกอบ
6. ใหน้ กั เรยี นยกตวั อย่างคำไทยแท้ทพี่ บในชวี ิตประจำวนั พร้อมทงั้ บอกหลักเกณฑ์การสงั เกตคำไทย

แท้
7. นักเรียนศึกษาเรื่อง คำภาษาบาลีและสันสกฤตที่ใช้ในภาษาไทยพร้อมครูอธิบายประกอบ โดยใช้

สอื่ PowerPoint ประกอบการอธบิ าย มหี วั ข้อดงั นี้

76

- ลักษณะของคำภาษาบาลีในภาษาไทย
- ลักษณะของคำภาษาสนั สกฤตในภาษาไทย
- ข้อแตกต่างระหวา่ งภาษาบาลแี ละสนั สกฤตกบั ภาษาไทย
8. นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน คละความสามารถเก่ง ปานกลาง อ่อน แล้วส่ง
ตวั แทนออกมาทีละคนเพ่อื ทำกจิ กรรม “จบั คู่รใู้ จ” ดังนี้
- ครเู ตรยี มบัตรคำภาษาบาลีและสันสกฤตจำนวน 30 ใบ
- ครแู บง่ ฝั่งภาษาบาลีและสันสกฤตบนกระดาษดำ
- นักเรียน 2 คน (ตัวแทนจากกลุ่มละ 1 คน) จับสลากบัตรคำที่ครูเตรียมไว้ แล้วนำไปแปะบน
กระดาษใหถ้ กู ต้อง และทำแบบเดมิ จนนกั เรยี นในกลุ่มออกมาครบทุกคน หรือจนกว่าบัตรคำจะหมด
- ครูและนักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง หากถูก 1 คำ จะได้รับ 1 คะแนน แต่ถ้าหากผิด 1
คำ จะได้ 0 คะแนน และกลมุ่ ที่ไดค้ ะแนนมากทส่ี ุด จะไดร้ ับรางวัล
9. นักเรียนเขียนคำภาษาบาลี-สนั สกฤตบนกระดานดำลงสมุด
10. นกั เรียนทำแบบฝึกหัดท่ี 1 - 2
สรปุ บทเรยี น
11. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้หลกั การสงั เกตคำไทยแท้ คำบาลแี ละสันสกฤต
12. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ และบอกประโยชน์ของการนำคำบาลแี ละสนั สกฤตเข้ามาใช้ใน
ภาษาไทย

ชั่วโมงท่ี 2
กจิ กรรมนำเขา้ สู่บทเรยี น

1. นักเรียนดูวิดิโอ “พูดไทยคำอังกฤษคำ” และหลังจากดูวิดิโอจบ ครูสอบถามนักเรียนดังนี้
จากวิดิโอที่ดูจบไป นักเรียนพบคำภาษาอังกฤษกี่คำ และคำว่าอะไรบ้าง ( 9 คำ ได้แก่ Hello Shop Season
sale Kidding OH my god Check budget Okay Weekend)

2. นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็นวา่ ภาษาไทยเข้ามาในประเทศในช่วงสมัยใด และถกู นำเข้ามาใช้
ในประเทศไทยได้อย่างไร

กิจกรรมพัฒนาการเรยี น
4. นักเรียนศึกษาเรื่อง คำภาษาอังกฤษที่ใช้ในภาษาไทย พร้อมครูอธิบายประกอบ โดยใช้ส่ือ

PowerPoint ประกอบการอธบิ าย มีเนือ้ หาดังนี้
- สาเหตุการยมื คำจากภาษาต่างประเทศเข้ามาใช้
- ลกั ษณะของคำภาษาองั กฤษในภาษาไทย
- ขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทย

77

5. นักเรียนช่วยกันยอกตัวอย่างคำที่มาจากภาษาอังกฤษที่พบเจอในชีวิตประจำ และช่วยกันแบ่ง
หมวดหมูว่ ่าคำทยี่ กตวั อย่างมาอย่ใู นหมวดหมู่ใดบา้ ง และพบมากที่สุดในหมวดหมู่ใด

6. นักเรียนศึกษาเรื่อง คำภาษาจีนที่ใช้ในภาษาไทย พร้อมครูอธิบายประกอบ โดยใช้ส่ือ
PowerPoint ประกอบการอธบิ าย มีเนอื้ หาดงั น้ี

- ลักษณะของคำภาษาจีนในภาษาไทย
- ข้อแตกต่างระหวา่ งภาษาจนี กบั ภาษาไทย
7. นักเรียนศึกษาเรื่อง คำภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในภาษาไทย พร้อมครูอธิบายประกอบ โดยใช้สื่อ
PowerPoint ประกอบการอธิบาย มเี นอ้ื หาดงั น้ี
- ลักษณะของคำภาษาจนี ในภาษาไทย
8. ครูทบทวนความรูน้ ักเรยี นอีกคร้งั โดยการสมุ่ ถามนกั เรยี น ดังน้ี
- ใหน้ ักเรยี นบอกสาเหตขุ องการนำคำจากภาษาต่างประเทศเขา้ มาใช้
- ให้นกั เรียนบอกลักษณะของคำยมื ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญีป่ นุ่
9. นกั เรียนแบง่ เป็น 2 กลุม่ กลุม่ ละเทา่ ๆ กัน เพื่อทำกิจกรรม “เขยี นคำศัพท์” มาเขียนคำท่ีมาจาก
คำยืมภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น บนกระดานหน้าชั้นเรียน กลุ่มที่เขียนได้เยอะที่สุดและถูกต้อง
จะได้รับรางวลั
10. นักเรียนทบทวนและสรุปความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรม “เขียนคำศัพท์” ลงสมุด และทำ
แบบฝึกหัดที่ 3
สรุปบทเรยี น
11. ให้นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ ดังน้ี
- การนำคำภาษาตา่ งประเทศมาใชท้ ำให้ภาษาไทยมคี ำใชเ้ พ่มิ มากขึ้น
- แสดงถงึ การรับอิทธพิ ลทางภาษาและวฒั นธรรมจากตา่ งประเทศ การศึกษาคำภาษาต่างประเทศที่
ใชใ้ นภาษาไทยเปน็ ประโยชนต์ อ่ การศึกษาภาษาไทยในระดับทส่ี งู ข้นึ ตอ่ ไป
12. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ขอ้ สังเกตของคำทม่ี าจากภาษาองั กฤษ จีน และญีป่ ุ่น

ช่ัวโมงที่ 3
กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรยี น

1. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนเนื้อหาในคาบเรียนที่แล้ว ในประเด็นเรื่อง คำภาษาอังกฤษ จีน
และญ่ปี ุ่นท่ีถูกนำมาใช้ในภาษาไทย

2. นักเรียนตอบคำถามดงั ต่อไปนี้
- นกั เรียนคิดว่ามีภาษาใดอีกท่ีถกู นำมาใชใ้ นภาษาไทย
กจิ กรรมพัฒนาการเรยี น
3. นักเรียนศึกษาเรื่อง คำภาษาเขมรที่ใช้ในภาษาไทยพร้อมครูอธิบายประกอบ โดยใช้สื่อ
PowerPoint ประกอบการอธิบาย มีเนอื้ หาดงั น้ี

78

- ลักษณะของคำภาษาเขมรในภาษาไทย
4. ครูสุ่มใหน้ ักเรยี นยกตวั อยา่ งคำภาษาเขมร
5. นักเรียนฟังครูอธิบายเรื่อง คำภาษาชวา-มลายูที่ใช้ในภาษาไทย โดยใช้สื่อ PowerPoint
ประกอบการอธบิ าย มเี น้อื หาดังนี้
- ลักษณะของคำภาษาชวา-มลายูในภาษาไทย
6. ครูสมุ่ ให้นกั เรยี นยกตวั อย่างคำภาษาชวา-มลายู
7. นักเรียนทบทวนความรู้ของตนเอง โดยการทำแบบฝึกหัดที่ 4งานเรือ่ ง คำภาษาต่างประเทศที่ใช้
ในภาษาไทย
สรุปบทเรยี น
8. ใหน้ กั เรยี นและครรู ว่ มกันสรุปความรู้ ดังน้ี
- การนำคำภาษาตา่ งประเทศมาใช้ทำใหภ้ าษาไทยมคี ำใชเ้ พ่ิมมากขน้ึ
- แสดงถงึ การรบั อิทธิพลทางภาษาและวัฒนธรรมจากต่างประเทศ การศกึ ษาคำภาษาตา่ งประเทศที่
ใชใ้ นภาษาไทยเปน็ ประโยชนต์ อ่ การศกึ ษาภาษาไทยในระดับทส่ี ูงขน้ึ ต่อไป
9. ให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ว่าคำในภาษาใดท่ีถูกนำมาใช้ในภาษาไทยมากที่สุด
เพราะเหตใุ ด

ส่อื และแหล่งเรยี นรู้
1. ส่อื พาวเวอร์พอ้ ยท์ เรื่อง คำภาษาองั กฤษท่ีใช้ในภาษาไทย
2. ส่ือพาวเวอรพ์ อ้ ยท์ เรอ่ื ง คำภาษาจนี ที่ใช้ในภาษาไทย
3. สื่อพาวเวอร์พอ้ ยท์ เรื่อง คำภาษาญป่ี นุ่ ทใี่ ช้ในภาษาไทย
4. ส่ือพาวเวอรพ์ อ้ ยท์ เร่ือง คำภาษาบาลแี ละสันสกฤตท่ีใชใ้ น

ภาษาไทย
5. สอ่ื พาวเวอรพ์ อ้ ยท์ เร่อื ง คำภาษาเขมรท่ใี ช้ในภาษาไทย
6. สือ่ พาวเวอร์พอ้ ยท์ เรือ่ ง คำภาษาชวา-มลายทู ีใ่ ชใ้ นภาษาไทย
7. บตั รคำภาษาบาลแี ละสันสกฤต
8. วิดโิ อ “พูดไทยคำองั กฤษคำ”
9. ใบความรู้เรือ่ ง คำไทยแท้

79

การวัดและประเมินผล วิธวี ดั เครือ่ งมือวัด เกณฑ์

หลกั ฐานการเรียนรู้ - ประเมนิ ใบงาน - แบบประเมินใบงาน ทุกรายการได้คะแนน
(ชนิ้ งาน/ภาระงาน) - ประเมนิ แบบฝึกหัด - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ร้อยละ 70 ขึ้นไป
1. ใบงาน - สงั เกตพฤติกรรม รายบคุ คล ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
2. กิจกรรม “จับครู่ ้ใู จ” รายบุคคล/กลมุ่ - แบบสงั เกตพฤติกรรม
3. กจิ กรรม “เขียนคำศพั ท”์ - สังเกตการณ์รว่ มกจิ กรรม การทำงานกลุ่ม
4. แบบฝกึ หัด

80

แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/......
วันท่ี.................เดอื น.......................พ.ศ.................

ชื่อกลมุ่ .....................................................................
คำช้แี จง: ให้ทำเครือ่ งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ีตรงกบั ความเปน็ จรงิ

รายการประเมนิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน รวม
4321 คะแนน
1. บทบาทหน้าที่
2. ความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่
3. ข้ันตอนการทำงาน
4. เวลา
5. ความรว่ มมือในการทำงาน

รวมคะแนน (20 คะแนน)

เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดีมาก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรับปรุง
ตำ่ กวา่ 10

ลงช่ือ…………….............................………..ผ้ปู ระเมิน

81

เกณฑก์ ารประเมนิ : แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ

รายการประเมนิ ระดับคะแนน

ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ

(4) (3) (2) (1)

1. บทบาทหน้าท่ี ม ี ก า ร ก ำ ห น ด มีการกำห น ด มีการกำห น ด ไม่มีการกำหนด

บ ท บ า ท ห น ้ า ท่ี บทบาทหน้าที่ไม่ บทบาทหน้าที่ไม่ บทบาทหน ้ า ท่ี

สมาชกิ ไวช้ ัดเจน คร บ ขาดไ ป 1 คร บ ขาดไ ป 2 ของสมาชกิ

อยา่ ง อยา่ ง

2. ความรับผิดชอบต่อ ทุกคนมีหน้าที่และ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่ มีผู้มีหน้าที่ แต่ไม่

หนา้ ท่ี ความรับผิดชอบต่อ รบั ผดิ ชอบ 1 คน รบั ผิดชอบ 2คน รับผิดชอบ 2คน

หนา้ ทข่ี องตน ข้ึนไป

3. ขน้ั ตอนการทำงาน - คัดเลือก เตรียม ขาด 1 ขั้นตอน ขาด 2 ขั้นตอน ขาด 2 ขนั้ ตอนขึ้น

ข้อมลู ไดเ้ หมาะสม หรือไม่ชัดเจน หรอื ไม่ชัดเจน ไป

- มกี ารวางแผนการ

ทำงาน

- มีการเตรียมวัสดุ

อุปกรณ์

- มีการปฏิบัติตาม

แผนและพัฒนางาน

4. เวลา เสร็จก่อนกำหนด เสร็จตามกำหนด เ ส ร็ จ ไ ม ่ ทั น เ ส ร ็ จ ไ ม ่ ทั น

และงานมีคณุ ภาพ แ ล ะ ง า น มี กำหนด แต่งานมี กำหนด และงาน

คุณภาพ คุณภาพ ไม่มีคณุ ภาพ

5. ความร่วมมือในการ ทุกคนมีส่วนร่วม ร้อยละ 80 ของ ร้อยละ 60 ของ ร้อยละ 40 ของ

ทำงาน และให้ความร่วมมือ กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม

อยา่ งเต็มที่ และให้ความ และให้ความ และให้ความ

ร่วมมอื ร่วมมือ ร่วมมือ

เกณฑก์ ารตัดสิน
17 - 20 คะแนน = ดมี าก
13 - 16 คะแนน = ดี
10 - 12 คะแนน = พอใช้

82

ตำ่ กวา่ 10 คะแนน แบบ=สังเกตพคฤวตริกปรรรับมปรรางุยบุคคล
นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/......

วันท่.ี ................เดอื น.......................พ.ศ.................

ช่อื นกั เรียน .........................................................................................................ช้ัน.................เลขท.ี่ ...............
คำชแ้ี จง: ใหท้ ำเคร่อื งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการที่ตรงกับความเปน็ จรงิ

รายการประเมนิ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ
1. เร่ิมต้นงานท่ีได้รบั มอบหมายทันที
2. ทำงานเสรจ็ เรียบรอ้ ยตามเวลาที่กำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครูหรือเพื่อนเมอื่ ไม่เข้าใจ
4. ทำกิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานและเต็มใจ
5. มสี ่วนรว่ มในการทำกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ
6. ชว่ ยเหลอื แนะนำเพอื่ นในการทำกจิ กรรมตามสมควร
7. สนใจศกึ ษาหาความรู้เพม่ิ เตมิ ด้วยตนเอง
8. แตง่ กายสภุ าพเรยี บร้อย
9. พูดจาสุภาพเรียบร้อย
10. ปฏิบัติตามข้อตกลงในชั้นเรยี น

รวมคะแนน (10 คะแนน)

หมายเหตุ

1. ขอ้ ใดทนี่ ักเรยี นปฏบิ ตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏิบัติ ไดค้ ะแนน 0 คะแนน

2. เกณฑ์การประเมิน

9 - 10 คะแนน = ดมี าก

7 - 8 คะแนน = ดี

5 - 6 คะแนน = พอใช้

ต่ำกวา่ 4 คะแนน = ควรปรับปรงุ

3. ครอู าจส่มุ เลอื กนกั เรยี นเทา่ ที่สังเกตไดใ้ นการสงั เกตแตล่ ะคร้ังโดยหมนุ เวียนไปจนครบทุกห้อง

ลงช่อื …………….............................………..ผู้ประเมิน

83

แบบประเมนิ ใบงานเร่อื ง คำภาษาตา่ งประเทศท่ีใชใ้ นภาษาไทย
นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3/......

วันท่.ี ................. เดือน..................... พ.ศ.................

คำชแ้ี จง: ให้ทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องรายการที่ตรงกับความเป็นจริง

เลขที่ รายช่อื เกณฑ์การประเมนิ รวมคะแนน
(เต็ม 10
ความถกู ตอ้ ง คะแนน)

4 3 2 1
(10 (9 คะแนน) (7 - 8 (5 - 6
คะแนน) คะแนน) คะแนน)

ลงชอ่ื …………….............................………..ผู้ประเมิน

84

เกณฑก์ ารประเมนิ : ใบงานเรอ่ื ง คำภาษาต่างประเทศที่ใชใ้ นภาษาไทย

เกณฑ์การประเมิน 4 3 2 1

(10 คะแนน) (9 คะแนน) (7-8 คะแนน) (5-6 คะแนน)

ความถูกตอ้ ง ถูกต้องท้ังหมด ถูกตอ้ งมากกวา่ รอ้ ย ถูกต้องมากกวา่ ถูกต้องน้อยกวา่

ละ 80 รอ้ ยละ 70 ร้อยละ 70

เกณฑก์ ารตดั สิน คะแนน = ดีมาก
9 - 10 คะแนน = ดี
7-8 คะแนน = พอใช้
5-6 คะแนน = ควรปรับปรุง
ตำ่ กว่า 5

85

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้

1. สภาพทว่ั ไปของการจัดการเรียนการสอน
1.1 ดา้ นความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั การเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ญั หาและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรุปผลการจัดการเรยี นรู้จากแผนการจัดการเรยี นรตู้ ามตวั ชว้ี ัด

จำนวนนกั เรียนท้ังหมด.........................คน
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดับดี.................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมนิ ระดับปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑป์ ระเมินระดับปรับปรุง...................คน คิดเป็นร้อยละ.................

ลงชือ่ .............................................................
(นางสาวศิริวรรณ ฤทธมิ์ หนั ต์)
ครูผู้สอน

86

แผนการจัดการเรยี นรู้

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง แม่ศรเี รือน หนว่ ยการเรยี นรู้ แม่ศรีเรือน
รหัสวิชา ท23101 รายวิชา ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3
ภาคเรียนท่ี 1 จำนวนคาบ 3 ชั่วโมง

สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม

มาตรฐานการเรียนรู้ ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ

ตวั ช้วี ดั
1. สรปุ เน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถ่นิ ในระดับที่ยากย่ิงขน้ึ
2. วิเคราะหว์ ิถไี ทยและคุณค่าจากวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ ่าน
3. สรปุ ความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นเพ่ือนำไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง

สาระการเรียนรู้
1. แมศ่ รเี รือน

สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (KPA)
แมศ่ รเี รอื นเป็นสารคดีบทความท่ีหม่อมเจ้าพูนพิศสมัย ดศิ กลุ เสนอแนวคิดเก่ียวกับหน้าท่ีของผู้หญิง

ในการดูแลบ้านเรือนให้เรียบร้อยปกติสุข ผู้แต่งเสนอแนวคดิ สำคัญอย่างตรงไปตรงมา ด้วยการแสดงความคิด
แล้วอธิบายโดยยกตัวอย่าง ประกอบเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจความได้ชัดเจนขึ้น เนื้อหาสอดแทรกคุณธรรมในการ
ดำเนินชีวิต และ เนื่องจากผู้แต่งมีความรอบรู้แตกฉานทางดา้ นพระพุทธศาสนา จึงแฝงหลักธรรมคําสอนของ
ศาสนาพุทธ ในเนื้อเรื่องได้อย่างกลมกลืนและสอดคล้องกับเนื้อความ เรื่อง แม่ศรีเรือน จึงเป็นสารคดีที่มี
ประโยชนแ์ ฝงคณุ ธรรมและแงค่ ิด อันนาํ ไปสูก่ ารประยกุ ตใ์ ช้ใน ชีวิตจริงให้เกดิ ความสุขในบา้ นเรือน ครอบครัว
และสงั คม

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)

1. นักเรียนจบั ใจความสำคัญและแสดงความคิดเห็นประเด็นตา่ ง ๆ เกยี่ วกบั เรือ่ งทอี่ า่ นได้
ด้านทักษะกระบวนการ (P)

2. นกั เรยี นสามารถวิเคราะห์วิจารณว์ รรกรรมเรือ่ งแม่ศรีเรือนได้
3. นกั เรียนทำแบบฝกึ ทักษะเรื่องแม่ศรเี รือน

87

ดา้ นคุณธรรม/จริยธรรม (A)
4. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด

ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. แบบฝกึ ทกั ษะเรอื่ ง แมศ่ รเี รอื น
2. แบบทดสอบ

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
3. มีวนิ ยั

กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่วั โมงที่ 1 -3
กิจกรรมนำเขา้ สู่บทเรยี น

1. ดงึ เข้าสู่บทเรียนดว้ ยการใชเ้ ทคนิคการตง้ั คำถาม
“นักเรียนคดิ ว่าบทบาทของชายและหญิงในสมยั ก่อนแตกต่างกันหรือไม่”
“หากแตกตา่ ง แตกตา่ งอย่าไร”
“ในปัจจุบนั บทบาทชายหญิงตา่ งไปจากเดิมอยา่ งไร”

กจิ กรรมพัฒนาการเรียน
2. นักเรียนอ่านบทประพันธเ์ รอ่ื งแมศ่ รีเรอื นจากใบความรู้
3. นักเรียนและครูแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่อ่านโดยไม่มีถูกผิด ทั้งประเด็นเนื้อเรื่อง

บรบิ ทสงั คมในเรอื่ ง พฤตกิ รรมของตวั ละคร
4. นักเรียนช่วยกันบอกถึงสิ่งที่ค้นพบจากเรื่องที่อ่าน เช่น ผู้แต่ง ลักษณะการแต่ง ใจความสำคัญ

แง่มมุ ความเหน็ ต่าง ๆ
5. นกั เรียนทำแบบฝกึ ทักษะ โดยใช้เทคนคิ SQ4R เพ่ือใหเ้ กดิ กระบวนการคดิ อย่างลึกซงึ้
6. สุ่มนกั เรียนออกมานำเสนอสง่ิ ทีต่ นเองตอบในแบบฝึกทักษะจำนวน 5 คน
7. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอีกคร้งั

88

8. ทำแบบทดสอบหลงั เรียนเพ่อื ทบทวนความรู้และตรวจสอบความเข้าใจ
สรปุ บทเรยี น

9. นักเรียนชว่ ยกนั สรปุ ส่ิงท่ีไดเ้ รยี นรูใ้ นวนั น้ี

สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้
1. สื่อ PowerPoint เรือ่ งแมศ่ รีเรอื น
2. ใบความรเู้ รื่องแมศ่ รีเรือน
3. แบบทดสอบเรอ่ื งแม่ศรีเรอื น
4. แบบฝึกทกั ษะเรื่องแมศ่ รเี รอื น

การวดั และประเมินผล วิธกี ารวดั เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมนิ
หลักฐานการเรยี นรู้
(ช้ินงาน/ภาระงาน) - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ทกุ รายการได้คะแนน

1. แบบทดสอบก่อน-หลงั รายบคุ คล รายบุคคล ร้อยละ 70 ข้ึนไปถอื
เรียนเรื่องแมศ่ รเี รือน
2. แบบฝึกทกั ษะ SQ4R - สังเกตพฤติกรรมการ - แบบสงั เกตพฤติกรรมการ วา่ ผ่านเกณฑ์
เรือ่ งแม่ศรีเรือน
3. แบบฝกึ ทักษะท้าย ทำงานกล่มุ ทำงานกลมุ่
บทเรยี น
- สังเกตการตอบคำถาม - แบบประเมนิ การตอบแบบ

- การทำกจิ กรรม/แบบฝกึ ฝึกทกั ษะ

ทักษะ/ แบบทดสอบกอ่ น- - แบบประเมินการตอบ

หลังเรียน แบบทดสอบ

89

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3/......
วันท่ี................. เดอื น....................... พ.ศ.................

คำช้แี จง: ใหท้ ำเครือ่ งหมาย √ ลงในช่องรายการทต่ี รงกับความเปน็ จริง

รายการประเมนิ การแสดง การตอบ การยอมรบั ทำงาน รวม
คำถาม ฟงั คนอ่ืน ตามท่ไี ด้รบั
ความสนใจ ความ มอบหมาย

คดิ เห็น

ชื่อ-สกลุ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20

ลงช่อื …………….............................………..ผู้ประเมนิ

เกณฑก์ ารประเมนิ ให้คะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั นี้
ดีมาก = 4 สนใจฟงั ไม่หลับ ไม่พูดคุยในชั้น มีคำถามทด่ี ี ตอบคำถามถูกตอ้ ง ทำงานส่งครบตรง
เวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เขา้ ชนั้ เรยี น แตก่ ารแสดงออกนอ้ ยมาก ส่งงานไมค่ รบ ไม่ตรงเวลา

90

แบบประเมินการตอบคำถาม
นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3/......
วนั ที่................. เดอื น....................... พ.ศ.................

ชอ่ื นกั เรยี น.............................................................................................................ชน้ั ...............เลขท.่ี ...............

คำช้ีแจง: ใหท้ ำเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ตี รงกับความเปน็ จรงิ

ระดับคะแนน

มาก มาก ปาน น้อย ควร
ปรบั ปรงุ รวม
รายการประเมนิ ทีส่ ดุ กลาง
(5) (4) (3) (2) (1) (30 คะแนน)

1. ความร้คู วามเข้าใจในเรื่องทพี่ ูด
2. ความสามารถในการอธิบายเนือ้ หาท่ีตนสนใจ
3. ความสามารถในการตอบคำถามและการแก้ปญั หา
4. การมีเหตุผลและตรรกะทางความคดิ
5. การเคารพในความคิดเห็นของผู้อนื่
6. การมมี ารยาทในการพูด

เกณฑก์ ารตัดสิน คะแนน ลงชื่อ…………….............................………..ผ้ปู ระเมิน
26 - 30 คะแนน
21 - 25 คะแนน = ดีมาก
15 - 20 คะแนน = ดี
= พอใช้
ต่ำกวา่ 15 = ควรปรบั ปรุง

91

แบบประเมินใบงานเร่ือง แมศ่ รเี รอื น
นักเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3/......
วันที่................. เดอื น....................... พ.ศ.................

ชอื่ นกั เรียน.............................................................................................................ชั้น...............เลขท.่ี ...............
คำช้ีแจง: ให้ทำเครอ่ื งหมาย √ ลงในช่องรายการทต่ี รงกับความเป็นจริง

พฤติกรรม ความ ความ ผลสำเร็จ รวม
/ระดับคะแนน เน้อื หา ถกู ตอ้ ง สะอาด ของงาน
เรยี บรอ้ ย
ชอ่ื

4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16

ลงชอื่ …………….............................………..ผปู้ ระเมิน
เกณฑก์ ารตัดสิน

14 - 16 คะแนน = ดมี าก
11 - 13 คะแนน = ดี
8 - 10 คะแนน = พอใช้
ต่ำกวา่ 8 คะแนน = ควรปรบั ปรุง

92

บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้

1. สภาพทว่ั ไปของการจัดการเรียนการสอน
1.1 ดา้ นความรู้ (K)

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั การเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ญั หาและขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรุปผลการจดั การเรยี นรจู้ ากแผนการจดั การเรยี นรตู้ ามตัวชี้วัด

จำนวนนกั เรยี นท้งั หมด.........................คน
- ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ด.ี ................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดับปรับปรงุ ...................คน คิดเป็นร้อยละ.................

ลงช่อื .............................................................
(นางสาวศริ ิวรรณ ฤทธ์มิ หนั ต)์
ครผู ู้สอน

93

แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8 เรอื่ ง การพูดแสดงความคดิ เหน็ หนว่ ยการเรยี นรู้ แมศ่ รเี รือน
รหสั วชิ า ท23101 รายวิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 1
จำนวนคาบ 3 ชั่วโมง

สาระท่ี 3 การฟงั การดู การพูด

มาตรฐานการเรียนรู้ ท3.2 สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิดและ
ความร้สู ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์

ตัวชว้ี ดั
1. แสดงความคดิ เหน็ และประเมินเรื่องจากการฟงั และการดู
2. วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์เรื่องท่ฟี งั และดู เพอื่ นำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชวี ติ
6. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด

สาระการเรยี นรู้
1. การพดู แสดงความคิดเหน็ และวิเคราะห์วิจารณ์

สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (KPA)
การพูดแสดงความคดิ เห็น เป็นการพดู ในเชงิ อธบิ ายเหตผุ ล ขอ้ เทจ็ จริง หลกั การหรอื แนวคิดเห็นของผู้

พูด เพ่ือให้ผู้ฟงั คลอ้ ยตาม เชือ่ ถือ ยอมรบั หรอื เห็นด้วยกบั ผู้พูด เพอื่ ให้ผู้ฟังคลอ้ ยตาม เช่อื ถอื ยอมรับหรือเห็น
ดว้ ยกับผู้พูดและสามารถนำแนวคิดเหลา่ นน้ั ไปวิเคราะห์เพ่อื ใช้ประโยชนต์ อ่ ไปได้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)

1. นกั เรียนเข้าใจหลักการและความสำคัญในการพูดแสดงความคิดเห็น
ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

2. นักเรียนสามารถพดู แสดงความคิดเหน็ ได้
ด้านคณุ ลกั ษณะ (A)

3. มีมารยาทในการฟงั การดู และการพูด

94

ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. การพูดแสดงความคิดเห็น

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
3. มีวนิ ัย

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ชัว่ โมงที่ 1 - 2
กิจกรรมนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น

1. นำเข้าสู่บทเรียนด้วยการให้นักเรียนดูวีดีโอ “การศึกษาตีตราว่า...ผมโง่” แล้วให้นักเรียนร่วมกนั
แสดงความคดิ เหน็ ตามประเดน็ คำถาม ดงั นี้

- นกั เรียนเห็นอะไรจากคลิปวดี โี อนี้
- เขากำลงั พดู เรื่องอะไร
- เป็นการพูดแบบใด (แสดงความคิดเห็น)
- จะเกย่ี วขอ้ งกับเร่ืองที่เราจะเรยี นอยา่ งไร
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2. นกั เรียนศึกษาจากสือ่ PowerPoint เรือ่ งการพดู แสดงความคดิ เห็น พร้อมครูอธบิ ายประกอบ
3. นักเรียนดูคลปิ วีดีโอ “การศกึ ษาตตี ราว่า...ผมโง่” อกี ครงั้
4. ครูแจกหมวกและอธบิ ายวธิ ีเล่นกจิ กรรมหมวก 6 ใบ ซึง่ นกั เรยี นต้องพูดแสดงความคดิ เห็นจากเร่อื ง
ท่อี า่ นตามสีหมวกทไี่ ดร้ บั ประกอบดว้ ย
- หมวกสีขาว ขอ้ เท็จจรงิ เปน็ กลาง
- หมวกสีแดง แสดงความคดิ เห็นตามความรู้สึก
- หมวกสดี ำ ข้อคิดเหน็ เชิงลบ วจิ ารณ์ ตั้งขอ้ สงั เกต
- หมวกสเี หลือง ข้อคดิ เหน็ เชิงบวก สนบั สนนุ
- หมวกสเี ขียว เสนอขอ้ คิดเห็นด้วยความคิดสร้างสรรค์ นอกกรอบ ใช้จนิ ตนาการ
- หมวกสนี ้ำเงนิ บคุ คลผู้สรปุ รวมยอดความคดิ เห็นต่าง ๆ


Click to View FlipBook Version