95
5. นักเรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 6 คน คละความสามารถเกง่ อ่อน ปานกลาง และเลือกประเด็นที่สนใจ
ดงั นี้
- วรรณกรรมแมศ่ รีเรือน
- วงการ T-Pop หรอื ฟุตบอลในประเทศไทย (เลือกอย่างใดอยา่ งหน่ึง)
- การเรียนออนไลนข์ องเดก็ ไทย
- วงการยทู ูปเบอรใ์ นประเทศไทย
6. นกั เรยี นกลบั ไปศึกษาประเด็นทีไ่ ด้รบั มอบหมายและเตรียมการพดู แสดงความคดิ เหน็ ในประเดน็ ใด
ก็ได้ ไม่วา่ จะเปน็ สนบั สนุน วิจารณ์ ตั้งขอ้ สงั เกต
7. นำมาพดู หนา้ ชน้ั เรยี นในคาบถัดไป
สรุปบทเรียน
8. นักเรียนร่วมกนั สรุปความรทู้ ่ีได้เรยี นในวนั นี้ พรอ้ มท้งั บอกประโยชนข์ องการแสดงความคดิ เหน็
ตามหลกั การหมวก 6 ใบ
ช่ัวโมงท่ี 3
กิจกรรมนำเขา้ ส่บู ทเรยี น
1. นักเรียนรว่ มกนั บอกถงึ เรือ่ งทีเ่ รียนในคาบที่แล้ว
2. ให้นกั เรยี นโหวตหวั ขอ้ งานการพูดแสดงความคิดเหน็ ที่อยากฟังมากท่ีสุด
กจิ กรรมพัฒนาการเรยี น
3. นักเรียนกลมุ่ ทถี่ กู โหวตอนั ดบั สงู สุดออกมาพูดแสดงความคิดเห็นเรอื่ งที่เตรียมมา (กลุ่มละไม่เกนิ 7
นาที)
4. ให้นักเรยี นในห้องแสดงความคดิ เห็นในประเด็นทีต่ ่างออกไป เช่น กลมุ่ ท่ี 1 พูดเชงิ สนบั สนนุ วงการ
ฟตุ บอลไทย และให้นักเรียนในห้องแสดงความคิดเห็นในเชิงต้ังข้อสงั เกต เป็นต้น
5. ครูอธิบาย และชี้แนะเพิ่มเตมิ เช่น การใช้ภาษา การใชน้ ้ำเสียง และชใี้ ห้เหน็ ขอ้ แตกต่างของการ
แสดงความคิดเหน็ ของแตล่ ะกลมุ่
สรุปบทเรยี น
6. นักเรียนรว่ มกนั สรุปเร่ืองทีไ่ ด้เรยี นในวันน้ี และร่วมกันประเมินการทำงานของตนเองและเพือ่ นใน
กลุ่มว่ามีความพึงพอใจในงานของตนเองมากน้อยเพียงใด พร้อมครูบอกข้อดีและข้อควรปรับปรุงของแต่ละ
กลุม่
สอื่ /แหลง่ เรียนรู้
1. สือ่ PowerPoint เรอื่ ง การพดู แสดงความคดิ เห็น
2. คลิปวีดีโอการศึกษาตีตราวา่ ...ผมโง่”
3. กิจกรรมหมวก 6 ใบ
96
การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัด เครือ่ งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมนิ
หลักฐานการเรียนรู้
(ช้ินงาน/ภาระงาน) - ประเมนิ การพดู แสดง - เกณฑ์ประเมนิ การพดู ทุกรายการได้คะแนน
ความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
1. การพดู แสดงความ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ พฤติกรรม ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
คดิ เหน็ รายบุคคล การทำกิจกรรมรายบุคคล
2. กิจกรรมหมวก 6 ใบ - สงั เกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมนิ พฤติกรรม
ทำงานกล่มุ การทำกจิ กรรมรายกลมุ่
97
แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
นกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 3/......
วันท่.ี ................ เดอื น....................... พ.ศ.................
คำช้ีแจง: ให้ทำเครือ่ งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการทีต่ รงกับความเป็นจริง
รายการประเมิน การแสดง การตอบ การยอมรบั ทำงาน รวม
คำถาม ฟังคนอื่น ตามที่ได้รบั
ความสนใจ ความ มอบหมาย
คิดเหน็
ชื่อ-สกลุ 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
ลงชื่อ…………….............................………..ผปู้ ระเมนิ
เกณฑก์ ารประเมิน ให้คะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั นี้
ดีมาก = 4 สนใจฟงั ไม่หลบั ไมพ่ ดู คยุ ในช้นั มีคำถามท่ดี ี ตอบคำถามถูกตอ้ ง ทำงานส่งครบตรง
เวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑ์ประมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยูใ่ นเกณฑป์ ระมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เข้าชั้นเรียน แต่การแสดงออกน้อยมาก สง่ งานไมค่ รบ ไมต่ รงเวลา
98
แบบสงั เกตพฤติกรรมรายกลุ่ม
นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/......
วนั ท.่ี ................ เดือน....................... พ.ศ.................
คำช้ีแจง: ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย √ ลงในช่องรายการทต่ี รงกับความเปน็ จรงิ
รายการประเมนิ การปรกึ ษา มกี ารแบง่ การปฏิบัติ มกี าร ทำงาน รวม
และ หนา้ ท่อี ย่าง ตาม ช่วยเหลือ เสรจ็ ตาม
ชอ่ื กลุ่ม เหมาะสม ข้ันตอน ซ่ึงกนั และ
วางแผน เวลา
รว่ มกนั กัน
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน ลงชอ่ื …………….............................………..ผปู้ ระเมิน
10 คะแนน
9 คะแนน = ดมี าก
7-8 คะแนน = ดี
= พอใช้
ต่ำกว่า 5 = ควรปรบั ปรงุ
99
แบบประเมนิ การพดู แสดงความคิดเหน็
นักเรียนชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/......
วันท.ี่ .................เดอื น........................พ.ศ.................
คำช้ีแจง: ใหท้ ำเครอื่ งหมาย √ ลงในช่องรายการท่ตี รงกับความเป็นจริง
รายการประเมนิ / เหตผุ ล ภาษา เนือ้ หา บคุ ลิก รวม
ระดับคะแนน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16
ชือ่ กลุ่ม
ลงชื่อ…………….............................………..ผปู้ ระเมิน
100
เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ การพดู แสดงความคิดเหน็
รายการประเมิน ระดบั คะแนน
1. เหตผุ ล
ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
2. ภาษา
3. เน้ือหา (4) (3) (2) (1)
4. บคุ ลกิ
แสดงความคิดเหน็ ได้ แสดงความคิดเหน็ ได้ แสดงความคิดเห็นได้ แสดงความคิดเห็น
สมเหตุผล สมเหตุผล สมเหตุผล ไมไ่ ด้
สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์ สรา้ งสรรค์ ขาดเหตผุ ล
นา่ เชอ่ื ถอื ตรง น่าเชอ่ื ถือ นา่ เชือ่ ถอื ขาด ไมต่ รงประเดน็
ประเดน็ เหตผุ ลสนบั สนุนไป นำไปปฏิบัติไม่ได้
นำไปปฏิบตั ิได้จริง บ้างเลก็ น้อย
ใช้ภาษาสละสลวย ใช้ภาษาสละสลวย ใชภ้ าษาสละสลวย ใชภ้ าษาไม่ชัดเจน
ชัดเจน ไม่เยิ่นเย้อ ชดั เจน ไม่เย่ินเย้อ ชดั เจน แตเ่ ยิน่ เยอ้ เย่นิ เย้อ มกี ารใช้
มกี ารใช้สำนวน มกี ารใชส้ ำนวน มกี ารใช้สำนวน สำนวนโวหารที่ไม่
โวหารเหมาะสมกบั โวหารทไ่ี มเ่ หมาะสม โวหารท่ไี ม่เหมาะสม เหมาะสมกับเรื่อง
เร่ือง กบั เร่อื ง กบั เรอื่ ง
เนือ้ หาสาระครบ เนอื้ หาสาระครบ เนอ้ื หาสาระสื่อ เน้ือหาไมค่ รบ
ถว้ นสรา้ งสรรค์ ถ้วนสรา้ งสรรค์ ไดต้ ามจดุ ประสงค์ ขาดหาย
บรรลุตาม ทวี่ างไว้แตข่ าด ส่ือไมไ่ ดต้ าม
จดุ ประสงค์ทวี่ างไว้ ความสมบรู ณไ์ ป จดุ ประสงค์
บา้ งเล็กน้อย
บุคลิกท่าทางดี บุคลกิ ท่าทางดี บุคลิกท่าทางดี บุคลิกท่าทาง
มีความมั่นใจ มีความมั่นใจ ขาดความมัน่ ใจ
ในตนเอง ในตนเองอย่บู า้ ง ในตนเอง
เกณฑ์การตดั สนิ คะแนน = ดมี าก
14 – 16 คะแนน = ดี
11 - 13 คะแนน = พอใช้
8 - 10 คะแนน = ควรปรับปรุง
ตำ่ กว่า 8
101
บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
1. สภาพท่ัวไปของการจัดการเรียนการสอน
1.1 ดา้ นความรู้ (K)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.3 ด้านคณุ ลักษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจัดการเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ัญหาและขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรปุ ผลการจัดการเรยี นรูจ้ ากแผนการจัดการเรยี นรู้ตามตวั ชวี้ ัด
จำนวนนกั เรียนท้งั หมด.........................คน
- ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ดี.................คน คดิ เป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมินระดบั ปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับปรบั ปรงุ ...................คน คิดเป็นร้อยละ.................
ลงช่อื .............................................................
(นางสาวศริ วิ รรณ ฤทธ์ิมหนั ต)์
ครผู สู้ อน
102
แผนการจัดการเรียนรู้
แผนการจดั การเรียนรู้ 9 เรื่อง การเขียนอธบิ ายช้แี จง หน่วยการเรยี นรู้ แมศ่ รเี รอื น
รหสั วชิ า ท23101 รายวิชา ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1
จำนวนคาบ 2 ชว่ั โมง
สาระที่ 2 การเขยี น
มาตรฐานการเรยี นรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความและเขยี นเร่ืองราวใน
รปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้
ตวั ช้ีวดั
6. เขียนอธบิ าย ชแี้ จง แสดงความคดิ เหน็ และโต้แยง้ อยา่ งมีเหตผุ ล
10. มีมารยาทในการเขยี น
สาระการเรียนรู้
1. การเขยี นอธิบายและช้แี จง
สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (KPA)
การเขียนอธิบายและชี้แจง ต้องประกอบด้วยข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริงกับการแสดงความคิดเห็นต่อ
เร่อื งใดเรือ่ งหนงึ่ ความคดิ เห็นควรจะมีเหตุผลเป็นไปในทางสร้างสรรค์ เพือ่ นำไปสู่การชี้แจงโต้แย้งโดยใช้หลัก
เหตุและผลมิใช่โตแ้ ยง้ ดว้ ยอารมณ์ความรสู้ กึ เป็นการช้แี จง โตแ้ ยง้ ทนี่ ำไปสู่การใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ย่างแท้จริง
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้ (K)
1. นักเรยี นเขา้ ใจหลักการสำคญั ของการเขียนอธิบายและชแ้ี จง
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
2. นักเรยี นสามารถเขยี นอธบิ ายและชีแ้ จงได้
ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
3. มีมารยาทในการเขียน
ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. เขียนอธิบายและโต้แยง้
103
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
3. มีวนิ ัย
กิจกรรมการเรยี นรู้
ช่ัวโมงที่ 1
กจิ กรรมนำเขา้ สู่บทเรยี น
1. นักเรียนดคู ลิปวีดีโอ คาเฟ่บ้านทุ่ง EP.14 วิธีทำหมูกระทะ สูตรหมักหมูนุ่ม น้ำจิ้มรสเด็ด โดยนาย
ฮ้อยซาลาห์ | Wongnai
2. ดงึ เข้าสู่บทเรียนดว้ ยเทคนิคการตงั้ คำถาม ดงั น้ี นกั เรยี นเหน็ อะไรในคลิป, การอธบิ ายเป็นอย่างไร,
นกั เรยี นคดิ วา่ จะเก่ียวข้องกบั เรอื่ งที่เราเรียนอย่างไร
3. บอกเรื่องที่จะเรียนในวันนี้ “วันนี้เราจะไม่ได้จะมาทำอาหาร แต่เราจะมาฝึกการเขียนอธิบาย
เพือ่ ใหค้ นอื่นเขา้ ใจสงิ่ ทีเ่ ราอยากสื่อสาร”
กจิ กรรมพฒั นาการเรยี น
4. นักเรยี นศึกษาจากหนังสือเรยี นหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทยหน้า 157
5. แบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเปน็ 7 กลุ่ม จำนวนกลุ่มละเทา่ ๆ กนั คละความสามารถเก่ง ปานกลาง ออ่ น
โดยแบ่งหวั ข้อให้ดังน้ี
- การเขียนอธบิ ายคอื อะไร
- การอธิบายโดยใชต้ วั อย่างคืออะไร
- การเขยี นอธบิ ายโดยการเรียงลำดบั ขน้ั ตอนคืออะไร
- การเขียนอธิบายโดยใหคำนยิ มคอื อะไร
- การเขยี นอธิบายโดยการเปรียบเทียบความเหมอื นและความต่างคืออะไร
- การเขียนอธิบายโดยใช้เหตุผลประกอบคอื อะไร
- การเขียนชีแ้ จงคืออะไร
6. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาหัวข้อทีไ่ ด้รับมอบหมายอย่างละเอียด 5 – 10 นาที จากนั้นให้เขยี นสรปุ
ความรู้ในหัวข้อทไี่ ด้รบั มอบหมายถงึ ในกระดาษ A4 5 นาที
7. สง่ กระดาษทีส่ รุปความรไู้ ปยังกล่มุ ถัดไป วนไปจนทุกกล่มุ ได้รบั หวั ข้อจนครบ
104
8. ครูสรุปและรวบรวมองค์ความรู้ทั้งหมดหน้าชั้นเรียนอีกครั้งโดยใช้เทคนิคการตั้งคำถามเพื่อให้
นกั เรียนเกดิ ความคิดรวบยอด
- การเขยี นอธบิ ายคอื อะไร
- การอธบิ ายโดยใช้ตวั อย่างคืออะไร
- การเขียนอธิบายโยการเรยี งลำดบั ข้ันตอนคอื อะไร
- การเขยี นอธิบายโดยใหคำนิยมคอื อะไร
- การเขียนอธิบายโดยการเปรยี บเทียบความเหมอื นและความต่างคอื อะไร
- การเขยี นอธบิ ายโดยใชเ้ หตุผลประกอบคอื อะไร
- การเขียนชแ้ี จงคืออะไร
กิจกรรมสรปุ บทเรียน
9. นกั เรียนทบทวนสง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นในวันนี้
ชวั่ โมงท่ี 2
กจิ กรรมนำเข้าสู่บทเรียน
1. นักเรยี นร่วมกนั บอกถงึ เร่อื งที่เรยี นในคาบทแ่ี ล้ว
กิจกรรมพัฒนาการเรียน
2. นกั เรียนจับสลากหวั ขอ้ ดงั ต่อไปน้ี
- การอธบิ ายโดย
- การเขียนอธิบายโดยการเรยี งลำดบั ขั้นตอน
- การเขียนอธบิ ายโดยให้คำนยิ ม
- การเขียนอธบิ ายโดยการเปรียบเทียบความเหมือนและความต่าง
- การเขยี นอธบิ ายโดยใชเ้ หตผุ ลประกอบ
- การเขียนชี้แจง
3. นักเรยี นเขียนอธิบาย ช้ีแจงเรอื่ งทตี่ นเองสนใจ โดยใช้ลกั ษณะการเขยี นทีต่ นจับสลากได้ลงกระดาษ
A4 ตกแตง่ ใหส้ วยงามตามความเหมาะสม
กิจกรรมสรปุ บทเรยี น
4. นักเรยี นร่วมกนั สรุปเรือ่ งท่ไี ดเ้ รยี นในวนั นี้
สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้
1. หนังสอื เรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย
2. คลปิ วดี ีโอ คาเฟ่บ้านท่งุ EP.14 วิธที ำหมกู ระทะ สูตรหมกั หมูนมุ่ น้ำจ้มิ รสเด็ด โดยนายฮ้อยซาลาห์
| Wongnai
3. กระดาษ A4
105
การวัดผลและประเมนิ ผล วธิ ีวดั เครื่องมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
หลักฐานการเรียนรู้
(ชน้ิ งาน/ภาระงาน) - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมินพฤตกิ รรม ทุกรายการได้คะแนน
รายบุคคล รายบคุ คล ร้อยละ 70 ขึ้นไปถือ
1. ความเข้าใจเรอ่ื งการ - สงั เกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมินพฤติกรรม ว่าผา่ นเกณฑ์
เขียนอธิบายชแี้ จง ทำงานกล่มุ รายบุคคล
2. การลงมอื เขยี น - ประเมนิ จากงานเขยี น - แบบประเมินการเขียน
อธบิ ายชแี้ จง อธบิ ายช้ีแจง
106
แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3/......
วันท.ี่ ................ เดือน....................... พ.ศ.................
คำชี้แจง: ให้ทำเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ีตรงกบั ความเปน็ จรงิ
รายการประเมนิ การแสดง การตอบ การยอมรับ ทำงาน รวม
คำถาม ฟงั คนอน่ื ตามที่ได้รบั
ความสนใจ ความ มอบหมาย
คดิ เหน็
ชื่อ-สกุล 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
ลงชอื่ …………….............................………..ผู้ประเมิน
เกณฑก์ ารประเมิน ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังน้ี
ดมี าก = 4 สนใจฟงั ไมห่ ลับ ไมพ่ ดู คุยในชัน้ มีคำถามท่ดี ี ตอบคำถามถกู ต้อง ทำงานส่งครบตรง
เวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยู่ในเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรบั ปรงุ = 1 เข้าช้นั เรยี น แต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา
แบบประเมินใบงานเรอ่ื ง การเขยี นแสดงความคิดเหน็ และโตแ้ ยง้ 107
นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3/......
วันท.่ี ................ เดือน....................... พ.ศ.................
คำชแ้ี จง: ใหท้ ำเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องรายการทต่ี รงกับความเป็นจรงิ
พฤตกิ รรม การ เนือ้ หา การใช้ ความเป็น รวม
/ระดับคะแนน วเิ คราะห์ ภาษา ระเบียบ 16
เรียบรอ้ ย
ชื่อกลมุ่
4321432143214321
ลงช่อื …………….............................………..ผปู้ ระเมิน
108
เกณฑก์ ารประเมนิ : ใบงานเรือ่ ง การเขียนแสดงความคดิ เห็นและโต้แยง้
รายการ ดีมาก ระดบั คะแนน ควรปรบั ปรงุ
ประเมิน (4) ดี พอใช้ (1)
วเิ คราะหแ์ ละเขยี น (3) (2)
1. การ อธิบายงานไดด้ ีมาก วิเคราะห์และ วเิ คราะหแ์ ละ วเิ คราะห์และ
วิเคราะห์ อธบิ ายงานได้ดี อธิบายงานได้ อธบิ ายงานไม่
เนอื้ หาครบถว้ น ตรง ชดั เจน
2. เน้อื หา ประเด็นดมี าก พอใช้ เนอ้ื หาไมค่ รบถว้ น
เน้ือหาครบถว้ น เนื้อหาตรง และไมต่ รงประเดน็
ตรงประเด็นดี ประเดน็
3. การใชภ้ าษา เลือกใชภ้ าษาได้ เลอื กใช้ภาษาได้ เลือกใชภ้ าษาได้ ใช้ภาษาไดไ้ ม่
เหมาะสมกับงาน มี เหมาะสมกบั งาน เหมาะสมกับงาน เหมาะสมกับงาน
4. ความเป็น การเรียบเรยี งภาษา มกี ารเรยี บ การเรยี บเรยี งคำ สอ่ื ความได้ไม่
ระเบียบ และเลือกใช้คำไดด้ ี เรียงคำใหเ้ ข้าใจ ระดบั พอใช้ สื่อ ชัดเจน
เรียบรอ้ ย มาก ไดช้ ัดเจนดี ความได้
ผลงานเปน็ ระเบียบ ผลงานเรียบร้อย ผลงานเรยี บรอ้ ย ผลงานไม่เรยี บร้อย
เรยี บรอ้ ย สะอาด สะอาด แสดงถึง สะอาดในระดับ ไม่มรี ะเบียบ ไม่
แสดงถงึ การใส่ใจกับ การใสใ่ จในกับ พอใช้ สะอาด ไมแ่ สดงถงึ
งานในระดับดมี าก งานระดับดี การใสใ่ จในงาน
เกณฑ์การตัดสิน
14 - 26 คะแนน = ดมี าก
11 - 13 คะแนน = ดี
8 - 10 คะแนน = พอใช้
ต่ำกว่า 8 คะแนน = ควรปรบั ปรุง
109
บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
1. สภาพทวั่ ไปของการจัดการเรยี นการสอน
1.1 ดา้ นความรู้ (K)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.2 ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.3 ด้านคณุ ลักษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปญั หาและอุปสรรคระหว่างการจัดการเรยี นการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแก้ปญั หาและข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรุปผลการจัดการเรียนรูจ้ ากแผนการจัดการเรยี นร้ตู ามตวั ช้ีวัด
จำนวนนกั เรียนทัง้ หมด.........................คน
- ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ระดบั ด.ี ................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมินระดับปรบั ปรงุ ...................คน คิดเป็นร้อยละ.................
ลงช่อื .............................................................
(นางสาวศริ วิ รรณ ฤทธิม์ หันต)์
ครูผสู้ อน
110
แผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้ 10 เร่ือง ระดบั ภาษา หนว่ ยการเรยี นรู้ แม่ศรเี รอื น
รหัสวชิ า ท23101 รายวชิ า ภาษาไทย 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
ภาคเรียนท่ี 1 จำนวนคาบ 2 ชว่ั โมง
สาระที่ 4 หลักการใชภ้ าษาไทย
มาตรฐานการเรียนรู้ ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ
พลังของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ
ตวั ชวี้ ดั
3. วิเคราะหร์ ะดบั ภาษา
สาระการเรยี นรู้
1. ระดับภาษา
สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด (KPA)
ระดับภาษา คือรูปแบบการใช้ภาษาที่มีความลดหลั่นของถ้อยคำตามโอกาส กาลเทศะ และ
ความสัมพนั ธ์ระหว่างบคุ คล เช่น การใชค้ ำสรรพนามว่า ขา้ พระพทุ ธเจ้า ขา้ พเจา้ กระผม ดิฉนั คำท่ีใช้แทนตัว
ผู้พูดเหลา่ น้ีแสดงถึงระดบั ของภาษาว่ามีความแตกตา่ งกนั ถึงแมผ้ ู้ใชภ้ าษาจะเปน็ บคุ คลเดียวกันกต็ าม
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นักเรียนเข้าใจภาษาในระดบั ตา่ ง ๆ
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
2. นักเรียนสามารถเลือกใช้ภาษาในระดับตา่ ง ๆ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งตามบรบิ ท
ด้านคุณลกั ษณะ (A)
3. รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้
ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. แบบฝกึ หดั เรอื่ ง ระดับภาษา
2. แบบทดสอบหลังเรยี น
111
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
3. มีวินยั
กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1 - 2
กิจกรรมนำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. นักเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ กบั ขอ้ ความต่อไปน้ี
“ไอ้จอรจ์ มันขีเ้ กียจจะตายห่า เอง็ ยังจะเอามนั ทำผวั อกี เรอะ”
“ขอบคุณทุก ๆ คนทม่ี ารว่ มงานวันเกดิ ในวันนี้”
“ผูบ้ รหิ ารจึงควรเรง่ หาเทคโนโลยีด้านการกฬี าสมยั ใหม่มาพฒั นาความสามารถของเด็กให้ฟติ ขึน้ ”
“ขออำนวยพรให้ทา่ นท้งั ปวงจงเจริญดว้ ยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏภิ าณ คุณสารสมบัติทกุ ประการ”
“ดิฉันขอขอบคุณอย่างยิ่ง ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีที่ท่านทั้งหลายได้พร้อมใจกันมาส่งดิฉันใน
วนั น้ี”
2. ครใู ช้เทคนิคการต้ังถาม ดงั นี้ นักเรยี นเห็นอะไรจากขอ้ ความทค่ี รูยกมา, นักเรียนคิดว่าจะเก่ียวกับ
เรือ่ งทีเ่ ราเรียนอย่างไร
กิจกรรมพัฒนาการเรียน
3. นักเรยี นลองจบั คขู่ ้อความขา้ งตน้ กับระดับของภาษา พร้อมบอกว่าเราจะเรียนภาษาท้ัง 5 ระดับใน
วนั นี้ “ไอ้จอร์จมนั ขี้เกียจจะตายห่า เอง็ ยังจะเอามนั ทำผัวอกี เรอะ” (ระดบั กนั เอง)
“ขอบคุณทุก ๆ คนทมี่ าร่วมงานวนั เกิดในวันนี้” (ระดับกง่ึ ทางการ)
“ผู้บริหารจึงควรเร่งหาเทคโนโลยีด้านการกีฬาสมัยใหม่มาพัฒนาความสามารถของเด็กให้ฟิตขึ้น”
(ระดับไมเ่ ปน็ ทางการ)
“ขออำนวยพรให้ทา่ นทงั้ ปวงจงเจรญิ ดว้ ยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ คณุ สารสมบัตทิ กุ ประการ”
(ระดับพิธีการ)
“ดิฉันขอขอบคุณอย่างยิ่ง ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจไมตรีที่ท่านทั้งหลายได้พร้อมใจกันมาส่งดิฉันใน
วนั น้ี” (ระดบั ทางการ)
4. เรียนรู้เนื้อหาจากหนงั สอื เรยี นหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย
112
5. นักเรยี นและครแู ลกเปลย่ี นความคิดเหน็ เกีย่ วกับประโยชน์ของหลกั ภาษาหลงั จากทไี่ ด้ศึกษา
ลกั ษณะของภาษาระดบั ต่าง ๆ จากหนงั สือ
6. ครูยกตวั อยา่ งสถานการณข์ องการใช้ภาษาระดับต่าง ๆ ให้นกั เรียนเห็นภาพมายง่ิ ข้ึน
- การพดู กับเพ่ือน
- การพูดกับเจ้านาย
- ข่าวในพระราชสำนกั เป็นต้น
7. นกั เรียนทำแบบฝึกทักษะเร่ืองระดับภาษา (ตวั อยา่ งขอ้ สอบ O-net) จากน้ันรว่ มกนั เฉลยคำตอบท่ี
ถกู ตอ้ ง คนทต่ี อบถกู มากทสี่ ุดรับรางวลั
8. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน
สรปุ บทเรยี น
9. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เนื้อหาท่ีได้เรียนในวันน้ี
ส่อื /แหล่งเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนหลกั ภาษาและการใชภ้ าษาไทย
2. แบบฝกึ ทักษะเรื่องระดับภาษา
3. แบบทดสอบหลังเรียน
การวัดและประเมนิ ผล
หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธวี ดั เคร่ืองมือวัด เกณฑ์
(ช้ินงาน/ภาระงาน)
1. แบบฝึกหัด - ประเมนิ แบบฝกึ หัด - แบบประเมนิ แบบฝึกหัด ทกุ รายการไดค้ ะแนน
2. แบบทดสอบหลงั เรียน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบประเมนิ พฤตกิ รรม รอ้ ยละ 70 ขนึ้ ไปถอื
รายบุคคล รายบุคคล ว่าผ่านเกณฑ์
113
แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3/......
วนั ท่.ี ............เดอื น..............................พ.ศ.................
ชื่อนักเรยี น .......................................................................................................ชน้ั ..................เลขท.ี่ ..................
คำช้แี จง: ใหท้ ำเครื่องหมาย √ ลงในช่องรายการทตี่ รงกบั ความเปน็ จรงิ
รายการประเมนิ ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏิบตั ิ
1. เร่ิมต้นงานท่ไี ดร้ บั มอบหมายทันที
2. ทำงานเสรจ็ เรียบร้อยตามเวลาท่กี ำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครูหรือเพื่อนเมือ่ ไมเ่ ขา้ ใจ
4. ทำกจิ กรรมด้วยความสนกุ สนานและเต็มใจ
5. มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมอย่างสมำ่ เสมอ
6. ช่วยเหลอื แนะนำเพ่อื นในการทำกจิ กรรมตามสมควร
7. สนใจศกึ ษาหาความรู้เพมิ่ เติมดว้ ยตนเอง
8. แตง่ กายสภุ าพเรียบร้อย
9. พูดจาสุภาพเรียบร้อย
10. ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลงในชนั้ เรยี น
รวมคะแนน (10 คะแนน)
หมายเหตุ
1. ขอ้ ใดท่นี กั เรียนปฏิบตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏิบัติ ได้คะแนน 0 คะแนน
2. เกณฑ์การประเมิน
9 - 10 คะแนน = ดมี าก
7 - 8 คะแนน = ดี
5 - 6 คะแนน = พอใช้
ต่ำกว่า 4 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ
3. ครอู าจส่มุ เลอื กนักเรยี นเทา่ ทีส่ ังเกตได้ในการสงั เกตแตล่ ะครัง้ โดยหมนุ เวยี นไปจนครบทกุ หอ้ ง
ลงชอื่ …………….............................………..ผูป้ ระเมิน
114
แบบประเมินแบบฝึกหดั เรอ่ื ง ระดับภาษา
นกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3/......
วันท่.ี ............เดอื น..............................พ.ศ.................
ชือ่ นกั เรยี น .......................................................................................................ชน้ั ..................เลขท.่ี ..................
คำชี้แจง: ใหท้ ำเครอ่ื งหมาย √ ลงในช่องรายการท่ีตรงกบั ความเปน็ จริง
เลขท่ี รายช่ือ เกณฑ์การประเมนิ รวมคะแนน
(เต็ม 10
ความถกู ตอ้ ง คะแนน)
4 3 2 1
(10 (9 คะแนน) (7-8 (5-6
คะแนน) คะแนน) คะแนน)
ลงชื่อ…………….............................………..ผ้ปู ระเมิน
เกณฑ์การประเมิน : แบบฝึกหัดเรื่อง ระดับภาษา 115
เกณฑ์การประเมนิ 432 1
(5 - 6 คะแนน)
ความถกู ต้อง (10 คะแนน) (9 คะแนน) (7 - 8 คะแนน) ถกู ตอ้ งตำ่ กว่า 5 ขอ้
เกณฑ์การตดั สิน ถูกต้องท้ังหมด ถูกตอ้ ง 9 ขอ้ ถกู ต้อง 7 - 8 ขอ้
9 - 10
7-8 คะแนน = ดีมาก
5-6 คะแนน = ดี
คะแนน = พอใช้
ต่ำกว่า 5 คะแนน = ควรปรับปรุง
116
บนั ทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้
1. สภาพทัว่ ไปของการจดั การเรียนการสอน
1.1 ด้านความรู้ (K)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.2 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจัดการเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ัญหาและข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรปุ ผลการจัดการเรียนรู้จากแผนการจดั การเรียนร้ตู ามตัวชวี้ ัด
จำนวนนกั เรยี นท้งั หมด.........................คน
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ด.ี ................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
- ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ ระดับปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผา่ นเกณฑ์ประเมินระดับปรบั ปรงุ ...................คน คิดเป็นร้อยละ.................
ลงชอ่ื .............................................................
(นางสาวศริ ิวรรณ ฤทธ์มิ หันต)์
ครผู ูส้ อน
117
แผนการจดั การเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ 11 เรื่อง จดหมายกิจธรุ ะ หนว่ ยการเรยี นรู้ แมศ่ รีเรอื น
รหัสวชิ า ท23101 รายวิชา ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
ภาคเรยี นที่ 1 จำนวนคาบ 2 ชว่ั โมง
สาระท่ี 2 การเขยี น
มาตรฐานการเรยี นรู้ ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสอ่ื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความและเขยี นเร่อื งราวใน
รปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาค้นควา้
ตัวชวี้ ัด
5. เขียนจดหมายกิจธุระ
สาระการเรียนรู้
1. การเขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ
สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (KPA)
จดหมายกิจธุระ คือ จดหมายที่เขียนขึ้นจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่ง หรือไปยังหน่วยงานใด
หน่วยงานหน่ึง เพอ่ื ติดต่อเร่ืองธุรการงานต่าง ๆ ทีไ่ ม่เกีย่ วกบั การแสวงหาผลกำไรในเชงิ การคา้
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นกั เรียนเข้าใจหลักการเขยี นจดหมายกิจธุระที่ถกู ต้อง
2. นกั เรียนเขา้ ใจถึงประโยชน์ของการเขยี นจดหมายกจิ ธุระ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
3. นักเรยี นสามารถเขียนจดหมายกิจธรุ ะได้
ดา้ นคณุ ลักษณะ (A)
4. มีมารยาทในการเขียน
ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. จดหมายกิจธุระ 1 ฉบบั
2. แบบฝกึ ทกั ษะ เรอ่ื งการเขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ
118
3. แบบทดสอบท้ายบทเรยี น
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มุ่งมั่นในการทำงาน
กจิ กรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมนำเขา้ สู่บทเรยี น
1. บอกนักเรียนถึงเร่ืองทีจ่ ะเรยี นในวันน้ี
2. นำตัวอย่างของจดหมายกิจธุระที่ถูกต้องให้นักเรียนดู และร่วมกันทายว่าประกอบไปด้วย
ส่วนประกอบกี่สว่ น
กิจกรรมพัฒนาการเรียน
3. เรยี นรู้เนอ้ื หาจากใบความรูเ้ รอ่ื ง การเขียนจดหมายกิจธรุ ะ
4. นกั เรียนและครูรว่ มกันแลกเปลี่ยนความรู้หลังจากศึกษาใบความรู้
5. นักเรยี นจับกลมุ่ ตามความสมคั รใจ ร่วมกันทำใบงานเรื่อง จดหมายกจิ ธรุ ะ
6. มอบหมายให้นกั เรยี นเขียนจดหมายกจิ ธุระคนละ 1 ฉบับ
7. กลุ่มทที่ ำเสร็จเร็วทสี่ ุดรับรางวัล
สรปุ บทเรยี น
8. นกั เรยี นและครรู ่วมกนั ทบทวนสง่ิ ที่ไดเ้ รยี นในวนั นี้
9. มอบหมายใหน้ กั เรียนเตรียมกระดาษ A4 มาคนละ 1 แผน่ ในคาบเรยี นถดั ไป
สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
1. ใบความรู้ เรื่องการเขยี นจดหมายกจิ ธรุ ะ
119
การวดั และประเมินผล วิธีวดั เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์
หลักฐานการเรยี นรู้
(ช้นิ งาน/ภาระงาน) - ตรวจเฉลยแบบฝึก - แบบประเมินแบบฝึก ทกุ รายการได้
ทกั ษะ ทกั ษะ คะแนนรอ้ ยละ 70
1. การทำแบบฝกึ ทกั ษะ - ตรวจเฉลย - แบบประเมิน ขึน้ ไปถอื วา่ ผ่าน
2. การเขยี นจดหมาย แบบทดสอบ แบบทดสอบ เกณฑ์
ธุระ - ประเมนิ การเขยี น - แบบประเมินการเขยี น
3. การทำแบบทดสอบ จดหมาย จดหมาย
- สังเกตพฤตกิ กรม - แบบประเมนิ พฤตกิ รรม
รายบุคคล รายบุคคล
120
แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3/......
วันท่.ี ................ เดือน....................... พ.ศ.................
คำช้ีแจง: ใหท้ ำเคร่อื งหมาย √ ลงในช่องรายการที่ตรงกับความเปน็ จรงิ
รายการประเมนิ การแสดง การตอบ การยอมรบั ทำงาน รวม
คำถาม ฟังคนอน่ื ตามท่ีได้รบั
ความสนใจ ความ มอบหมาย
คิดเหน็
ชอ่ื -สกุล 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
ลงชอ่ื …………….............................………..ผูป้ ระเมิน
เกณฑก์ ารประเมนิ ให้คะแนนระดบั คณุ ภาพของแตล่ ะพฤตกิ รรมดงั น้ี
ดมี าก = 4 สนใจฟงั ไมห่ ลบั ไมพ่ ูดคุยในช้ัน มีคำถามท่ดี ี ตอบคำถามถูกตอ้ ง ทำงานส่งครบตรง
เวลา
ดี = 3 การแสดงออกอยใู่ นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เข้าช้ันเรยี น แต่การแสดงออกน้อยมาก ส่งงานไม่ครบ ไมต่ รงเวลา
121
แบบประเมนิ การเขยี นจดหมายกจิ ธุระ
นกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3/......
วนั ท่.ี ................ เดอื น....................... พ.ศ.................
คำช้แี จง: ใหท้ ำเคร่อื งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการที่ตรงกบั ความเป็นจรงิ
พฤตกิ รรม ความ เน้ือหา การใช้ ความเปน็ รวม
/ระดับคะแนน ถกู ตอ้ ง ภาษา ระเบียบ 16
เรยี บรอ้ ย
ชอ่ื กลมุ่
4321432143214321
ลงชอ่ื …………….............................………..ผ้ปู ระเมิน
122
เกณฑก์ ารประเมิน : การเขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ
รายการ ระดบั คะแนน
ประเมิน
1. ความถูกตอ้ ง ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง
(4) (1)
2. เนือ้ หา รูปแบบถูกตอ้ ง (3) (2)
ชดั เจนทุก รปู แบบไม่ถกู ต้อง ไม่
3. การใช้ภาษา องค์ประกอบ รปู แบบถูกตอ้ งแตม่ ี รูปแบบถูกตอ้ ง ชดั เจน
ลำดับขน้ั ตอนดี มี
4. ความเป็น การเรยี บเรียง บางจุดไม่ชดั เจน เกือบทั้งหมด บาง ลำดับขนั้ ตอนและ
ระเบยี บ ภาษาให้ชัดเจน การสอื่ ความสับสน
เรียบรอ้ ย สือ่ ได้เข้าใจไดใ้ น จดุ เขยี นไม่ชัดเจน เขา้ ใจยาก
ระดบั ดมี าก
เลอื กใช้ภาษาได้ ลำดบั ข้ันตอนดี ลำดับข้ันตอนดี ใชภ้ าษาได้ไม่
เหมาะสมกับงาน เหมาะสมกับงาน
มีการเรียบเรยี ง สื่อความชัดเจน ส่ือความไม่คอ่ ย ส่อื ความได้ไมช่ ัดเจน
ภาษาและเลือกใช้
คำไดด้ ีมาก เข้าใจง่าย ชัดเจน ผลงานไม่เรียบรอ้ ย
ผลงานเปน็ ไมม่ ีระเบียบ ไม่
ระเบยี บเรียบรอ้ ย เลอื กใชภ้ าษาได้ เลือกใช้ภาษาได้ สะอาด ไมแ่ สดงถงึ
สะอาด แสดงถงึ เหมาะสมกับงาน มี เหมาะสมกับงาน การใส่ใจในงาน
การใสใ่ จกับงาน การเรียบเรยี งคำให้ การเรยี บเรยี งคำ
ในระดับดมี าก เข้าใจได้ชัดเจนดี ระดบั พอใช้ สอ่ื
ความได้
ผลงานเรยี บรอ้ ย ผลงานเรียบรอ้ ย
สะอาด แสดงถึง สะอาดในระดับ
การใสใ่ จในกับงาน พอใช้
ระดบั ดี
เกณฑก์ ารตดั สนิ
14 - 16 คะแนน = ดมี าก
11 - 13 คะแนน = ดี
8 - 10 คะแนน = พอใช้
ต่ำกวา่ 8 คะแนน = ควรปรบั ปรุง
123
บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
1. สภาพท่ัวไปของการจัดการเรียนการสอน
1.1 ดา้ นความรู้ (K)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.3 ด้านคณุ ลักษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจัดการเรียนการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ัญหาและขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรปุ ผลการจัดการเรยี นรูจ้ ากแผนการจัดการเรยี นรู้ตามตวั ชวี้ ัด
จำนวนนกั เรียนท้งั หมด.........................คน
- ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ดี.................คน คดิ เป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมินระดบั ปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผ่านเกณฑ์ประเมินระดับปรบั ปรงุ ...................คน คิดเป็นร้อยละ.................
ลงช่อื .............................................................
(นางสาวศริ วิ รรณ ฤทธ์ิมหนั ต)์
ครผู สู้ อน
124
แผนการจัดการเรยี นรู้
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 12 เร่ือง รจู้ ักชวี ประวัตอิ ตั ชวี ประวัติ หนว่ ยการเรียนรู้ แมศ่ รเี รอื น
รหสั วชิ า ท23101 รายวชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ภาคเรียนที่ 1
จำนวนคาบ 2 ชัว่ โมง
สาระท่ี 2 การเขยี น
มาตรฐานการเรยี นรู้ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขียนส่อื สาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความและเขียนเร่ืองราวใน
รปู แบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้
ตัวชี้วัด
3. เขียนชวี ประวตั ิหรอื อตั ชวี ประวตั โิ ดยเล่าเหตกุ ารณ์ ข้อคดิ เห็น และทัศนคตใิ นเร่อื งตา่ ง ๆ
10. มมี ายาทในการเขยี น
สาระการเรียนรู้
1. การเขยี นชีวประวตั ิ
2. การเขยี นอตั ชวี ประวตั ิ
สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด (KPA)
ชีวประวัติ คือ งานเขียนชนิดหนึ่งที่เป็นการกล่าวถึงเรื่องราวของบุคคลในช่วงชีวิต ชีวประวัติของ
บุคคลหนึ่ง ๆ ไม่เพียงแต่กล่าวถึง วันเกิด อาชีพ การศึกษา แต่จะมีการกล่าวถึงเรื่องราวของแต่ละช่วงชีวิต
และเหตกุ ารณส์ ำคัญทีเ่ กดิ ข้ึนในชวี ิตด้วย สว่ น อตั ชวี ประวตั ิ มาจากคำวา่ อัต ชวี และ ประวตั ิ หมายถงึ ประวตั ิ
ชีวิตที่เจ้าของเขียนหรือเล่าด้วยตนเอง หรือการบอกเล่าชีวประวัติของตนเอง นักเรียนควรเรยี นรูว้ ธิ ีการเขยี น
ชีวประวตั แิ ละอตั ชวี ประวัตเิ พอื่ ใหเ้ ข้าใจความหมายและฝึกฝนทักษะการเขียนของตนเอง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
1. นักเรียนเขา้ ใจและสามารถอธบิ ายหลักการเขยี นชีวประวตั ไิ ด้
2. นกั เรยี นเข้าใจและสามารถอธิบายหลักการเขยี นอัตชีวประวตั ไิ ด้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
3. นักเรียนสามารถเขียนอัตชีวประวัตหิ รอื ชีวประวัตไิ ด้
125
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A)
4. มมี ารยาทในการเขยี น
ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. เขยี นอัตชวี ประวัตหิ รอื ชีวประวตั ิ
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รียนรู้
2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
3. มีวนิ ยั
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี 1
กจิ กรรมนำเข้าสู่บทเรียน
1. บอกนักเรียนถึงเรื่องทีจ่ ะเรียนในวันน้ีด้วยการให้นักเรียนอ่านชีวประวัติและอัตชีวประวัติที่ครูหา
และใชเ้ ทคนิคการตัง้ คำถาม
- นกั เรยี นว่าเรือ่ งทค่ี รใู หอ้ ่านคร่าวๆ ทั้งสองเร่อื ง มีจดุ ใดทเี่ หมอื นและตา่ งกันอยา่ งไร
กจิ กรรมพฒั นาการเรยี น
2. แจกใบความรเู้ รอื่ งการเขียนชวี ประวัตแิ ละอตั ชีวประวตั ิ และให้นักเรียนศึกษา ความหมายและ
ลกั ษณะของชีวประวัติและอตั ชวี ประวัติ
3. นักเรียนและครูร่วมกนั แลกเปล่ียนความรทู้ ่ีไดจ้ ากเรอื่ งทอ่ี า่ น
4. ตรวจสอบความเขา้ ใจดว้ ยการใช้เทคนคิ การตัง้ คำถาม
- ชวี ประวัตคิ ืออะไร
- อัตชีวประวตั ิคืออะไร
- ทัง้ สองอยา่ งแตกต่างกนั อย่างไร
สรปุ บทเรยี น
5. ครูมอบหมายให้นักเรียนกลับไปเขียนแบบร่างประวัติของตนเองที่อยากนำเสนอให้คนอื่นได้รู้
มาคนละอย่างนอ้ ยคร่งึ หนา้ กระดาษ
126
ชวั่ โมงท่ี 2
กจิ กรรมนำเขา้ สู่บทเรยี น
1. Check-in เขา้ ชั้นเรยี นดว้ ยกิจกรรมกระดานอารมณ์ โดยการให้นกั เรยี น เขียนชอื่ ช่อื เล่น ช้ัน เลขที่
และเขียนสิ่งที่อยากเล่าในวันนี้ใส่กระดาษ และนำไปติดตามช่องอารมณ์ที่ตนเองกำลังรู้สึก เพื่อทำความเข้า
ผู้เรยี นเบื้องตน้ กอ่ นเข้าสู่กระบวนการเรียนการสอน
2. นกั เรยี นและครูร่วมกนั ทบทวนสง่ิ ท่ีได้เรยี นในช่ัวโมงกอ่ น โดยครูใช้เทคนคิ การตั้งคำถาม
- ชีวประวตั คิ ืออะไร
- อตั ชีวประวัติคอื อะไร
- งานเขยี นทัง้ สองแบบมีขอ้ แตกตา่ งกนั อย่างไร
กิจกรรมพัฒนาการเรียน
3. นักเรียนอ่านตัวอย่างงานเขยี นชวี ประวัตแิ ละอตั ชีวประวัตจิ ากใบความรู้
4. ขอแบบร่างประวัตทิ ่ีนกั เรียนเตรยี มมา 1 คน เพ่ือแยกเป็นประเด็นตา่ ง ๆ เชน่ จุดเริม่ ต้นวัยเด็ก
ประวัติการศกึ ษา และชว่ ยกันเชอื่ มโยงเปน็ อัตชวี ประวัติคร่าวๆ ในชัน้ เรยี น
5. ครใู ช้เทคนคิ การต้งั คำถามเพอ่ื ตรวจสอบความเข้าใจอีกคร้ัง
- การเขยี นแบบนีเ้ รยี กวา่ อะไร
- การเขยี นเรื่องราวของตนเองสอดคลอ้ งกบั ตวั อย่างไหนทไี่ ดอ้ า่ น
6. นกั เรยี นเลอื กระหว่างชีวประวตั ิหรอื อัตชวี ประวัตแิ ละเขียนออกมาเปน็ ชิน้ งาน 1 ช้ินที่ได้รับการ
ออกแบบท้ังดา้ นภาษาและการตกแต่งความสวยงาม (ชนิ้ งานใหเ้ วลา 1 สัปดาห์)
สรปุ บทเรยี น
7. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ เรื่องที่ไดเ้ รียนในวนั น้ี
สอื่ /แหล่งเรียนรู้
1. กิจกรรมกระดานอารมณ์
2. ใบความรู้เรื่อง การเขียนชวี ประวตั ิและอตั ชีวประวัติ
การวัดและประเมนิ ผล
หลักฐานการเรียนรู้ วธิ ีวดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์
(ชนิ้ งาน/ภาระงาน)
1. เขยี นชวี ประวตั หิ รอื - ประเมนิ การเขียน - แบบประเมินการเขียน ทกุ รายการได้คะแนน
อัตชวี ประวัตไิ ด้ ชวี ประวัติและ ชีวประวตั ิและ รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไปถือ
อตั ชีวประวัติ อตั ชวี ประวัติ วา่ ผา่ นเกณฑ์
- สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมนิ
รายบคุ คล พฤติกรรมรายบุคคล
127
แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3/......
วนั ท่ี................. เดอื น....................... พ.ศ.................
คำช้ีแจง: ให้ทำเครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ีตรงกบั ความเป็นจริง
รายการประเมนิ การแสดง การตอบ การยอมรบั ทำงาน รวม
คำถาม ฟงั คนอ่นื ตามทีไ่ ด้รบั
ความสนใจ ความ มอบหมาย
คดิ เหน็
ช่ือ-สกุล 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 20
ลงชือ่ …………….............................………..ผปู้ ระเมิน
เกณฑก์ ารประเมิน ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะพฤติกรรมดงั น้ี
ดมี าก = 4 สนใจฟัง ไม่หลบั ไม่พูดคุยในชัน้ มคี ำถามที่ดี ตอบคำถามถูกตอ้ ง ทำงานส่งครบตรง
เวลา
ดี = 3 การแสดงออกอย่ใู นเกณฑป์ ระมาณ 70%
ปานกลาง = 2 การแสดงออกอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 50%
ปรับปรุง = 1 เขา้ ชน้ั เรยี น แต่การแสดงออกน้อยมาก สง่ งานไม่ครบ ไม่ตรงเวลา
128
แบบประเมินการเขียนชวี ประวตั แิ ละอัตชีวประวัติ
นักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3/......
วนั ท.่ี ................ เดือน....................... พ.ศ.................
คำช้แี จง: ให้ทำเครอื่ งหมาย √ ลงในช่องรายการทีต่ รงกับความเป็นจริง
พฤตกิ รรม ความคดิ เนอื้ หา การใช้ ความเปน็
/ระดบั คะแนน สรา้ งสรรค์ ภาษา ระเบียบ รวม
เรยี บรอ้ ย
ชื่อกล่มุ
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16
ลงชื่อ…………….............................………..ผปู้ ระเมิน
129
เกณฑ์การประเมนิ : การเขยี นชีวประวตั แิ ละอัตชีวประวตั ิ
รายการ ระดับคะแนน
ประเมิน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1)
1. ความคดิ มคี วามคิดสร้างสรรค์ มีความคิด มคี วามคิด ไม่มคี วามคิด
สรา้ งสรรค์ ใหม่ ๆ ในการสร้าง สร้างสรรค์ใหม่ ๆ สร้างสรรคใ์ น สร้างสรรค์ในการ
ผลงาน ทง้ั ดา้ น ในการสร้างผลงาน ระดับพอใช้ สรา้ งผลงาน และ
เนื้อหา การนำเสนอ ทัง้ ด้านเน้อื หา การ ผลงานสรา้ งขนึ้ มา การนำเสนอ
เรยี บเรียง และการ นำเสนอเรยี บเรียง ได้นา่ สนใจ ผลงานไมน่ ่าสนใจ
ตกแต่งในระดับดีมาก และการตกแต่งใน
ระดบั ดี
2. เนื้อหา ลำดบั ข้นั ตอนดี มี ลำดับขน้ั ตอนดี ลำดับขัน้ ตอนดี ลำดับขนั้ ตอนและ
การเรียบเรยี งภาษา สื่อความชัดเจน สอ่ื ความไม่ค่อย การส่ือความ
ให้ชัดเจน ส่อื ได้ เขา้ ใจง่าย ชดั เจน สบั สนเข้าใจยาก
เข้าใจได้ในระดบั ดี
มาก
3. การใชภ้ าษา เลือกใช้ภาษาได้ เลอื กใช้ภาษาได้ เลือกใชภ้ าษาได้ ใชภ้ าษาไดไ้ ม่
เหมาะสมกบั งาน มี เหมาะสมกบั งาน มี เหมาะสมกบั งาน เหมาะสมกับงาน
การเรยี บเรยี งภาษา การเรียบเรยี งคำให้ การเรียบเรยี งคำ ส่อื ความไดไ้ ม่
และเลือกใช้คำไดด้ ี เขา้ ใจได้ชัดเจนดี ระดับพอใช้ สือ่ ชัดเจน
มาก ความได้
4. ความเป็นระเบียบ ผลงานเปน็ ระเบียบ ผลงานเรยี บรอ้ ย ผลงานเรียบร้อย ผลงานไม่
เรยี บร้อย เรยี บร้อย สะอาด สะอาด แสดงถงึ สะอาดในระดับ เรียบรอ้ ย ไม่มี
แสดงถงึ การใส่ใจกับ การใส่ใจในกบั งาน พอใช้ ระเบียบ ไม่
งานในระดับดมี าก ระดับดี สะอาด ไมแ่ สดง
ถึงการใสใ่ จในงาน
เกณฑก์ ารตดั สนิ
14 - 16 คะแนน = ดมี าก
11 - 13 คะแนน = ดี
8 - 10 คะแนน = พอใช้
ต่ำกว่า 8 คะแนน = ควรปรับปรงุ
130
บันทึกผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1. สภาพทว่ั ไปของการจัดการเรียนการสอน
1.1 ด้านความรู้ (K)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1.3 ด้านคุณลักษณะ (A)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั การเรยี นการสอน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางแกป้ ญั หาและขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติม
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สรปุ ผลการจัดการเรยี นรจู้ ากแผนการจดั การเรยี นรตู้ ามตัวชวี้ ดั
จำนวนนักเรยี นทัง้ หมด.........................คน
- ผา่ นเกณฑ์ประเมินระดับดี.................คน คิดเปน็ ร้อยละ.................
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมินระดับปานกลาง.................คน คิดเป็นร้อยละ.................
- ผา่ นเกณฑป์ ระเมนิ ระดบั ปรับปรงุ ...................คน คิดเป็นร้อยละ.................
ลงชอ่ื .............................................................
(นางสาวศิริวรรณ ฤทธม์ิ หนั ต)์
ครผู สู้ อน
131
แผนการจัดการเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 เรอื่ ง พระอภัยมณี หนว่ ยการเรียนรู้ พระอภัยมณี
รหัสวชิ า ท23101 รายวชิ า ภาษาไทย 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 จำนวนคาบ 4 ชัว่ โมง
___________________________________________________________________________
สาระท่ี 1 การอา่ น
มาตรฐานการเรียนรู้ ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิด เพอื่ นำไปใช้ ตัดสินใจ แก้ปัญหา
ในการดำเนินชีวิตและมนี ิสัยรักการอ่านตวั ชว้ี ดั
ตวั ช้ีวดั
1. อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ กู ต้องและเหมาะสมกับเรอ่ื งทอ่ี า่ น
สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐานการเรียนรู้ ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คุณคา่ และนำมาประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจริง
ตัวชวี้ ัด
1. สรปุ เน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมทอ้ งถน่ิ ในระดับทย่ี ากขนึ้
2. วเิ คราะหว์ ถิ ไี ทยและคุณคา่ จากวรรณคดีและวรรณกรรมทีอ่ า่ นใชใ้ นการดำเนินชวี ิต
3. สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการอ่านเพอื่ นำไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จริง
4. ท่องจำและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กำหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจ และ
นำไปใชอ้ ้างองิ
สาระการเรียนรู้
1. พระอภัยมณี ตอนพระอภยั มณหี นนี างผเี ส้ือสมทุ ร
2. การวเิ คราะหว์ ถิ ีไทยและคุณคา่ จากวรรณคดแี ละวรรณกรรม
3. บทอาขยานและบทร้อยกรองทมี่ ีคุณค่า
4. วเิ คราะห์ตัวละคร
สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด (KAP)
นิทานคำกลอนเรือ่ ง พระอภยั มณี เป็นผลงานที่ดีท่ีสุดและสมบูรณท์ ีส่ ุดของสนุ ทรภู่ จึงได้รับการยก
ยอ่ งให้เป็นยอดของนทิ านคำกลอน เนือ่ งจากมศี ลิ ปะการประพันธ์ที่เป็นเลิศ และมขี อ้ คดิ คุณธรรม คติคำสอน
132
ที่ดี ตัวละครมีอารมณ์ ความรู้สึกที่เต็มไปด้วยอารมณ์รัก โกรธ หลงเหมือนปุถุชนทั่วไป สุนทรภู่สามารถ
ถ่ายทอดอารมณค์ วามรู้สึกของตัวละครผา่ นทางศลิ ปะการประพันธ์ไดอ้ ยา่ งนา่ ชืน่ ชม
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
1. บอกคุณคา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
2. ระบรุ ายละเอยี ดและองค์ประกอบของวรรณคดแี ละวรรณกรรม
3. อา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองได้ถกู ต้องเหมาะสมกบั เรอ่ื งทอี่ า่ น
ด้านคุณลักษณะ (A)
4. เห็นคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมไทย
5. ทำงานร่วมกนั ได้เปน็ อย่างดี
ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1. ผงั ความคดิ เร่ือง พระอภัยมณี ตอนพระอภยั มณหี นีนางผีเสอ้ื
2. สรุปเนื้อหาเรอ่ื งพระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนนี างผเี ส้ือสมุทร
3. ใบงานเร่อื ง ตัวละคร สะทอ้ นสงั คม
4. ใบงานเร่ือง วเิ คราะห์คำกลอน สะทอ้ นเร่อื งราว
5. การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรอง
6. การนำเสนอกจิ กรรมจากเร่อื ง พระอภยั มณี
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
4. ทักษะทางภาษา
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินัย
2. มุ่งม่นั ในการทำงาน
133
กิจกรรมการเรยี นรู้
ชั่วโมงท่ี 1 - 2
กจิ กรรมนำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ
2. ครูสนทนากับนักเรียนโดยใช้คำถามที่ช่วยกระตุ้นให้นักเรียนทบทวนหรือนำความรู้เดิมที่มีอยู่
ออกมาใช้ ดงั น้ี
- นิทานคำกลอนเรื่อง พระอภยั มณเี ปน็ ผลงานประพนั ธ์ของใคร
- ตวั ละครในเร่ืองพระอภัยมณีมีใครบ้าง
- นิทานคำกลอนเร่อื ง พระอภยั มณเี ปน็ บทประพันธแ์ บบใด
กิจกรรมพัฒนาการเรียน
3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 - 5 คน คละความสารถเก่ง อ่อน ปานกลาง และตั้งชื่อกุล่มตามชื่อ
ของตัวละครในเรื่อง พระอภัยมณี เพื่อค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต หรือสื่อต่าง ๆ
เรอื่ ง พระอภยั มณี ตอนพระอภยั มณีหนีนางผีเส้ือสมทุ ร ตามหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้
- ประวตั ิผแู้ ต่ง
- ลกั ษณะการประพันธ์
- เนื้อเรื่องยอ่
- ตวั ละคร
4. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นำความร้ทู ีไ่ ด้มาจดบนั ทึกลงในสมุดเพือ่ เป็นหลักฐานจากการคน้ ควา้ หาความรู้
ดว้ ยตนเอง
5. นกั เรยี นภายในกลุ่มเดียวกันตอ้ งแลกเปลยี่ นขอ้ มูลทค่ี ้นควา้ มาได้ และอภิปรายรว่ มกนั ภายในกลุ่ม
6. นักเรียนต่างกลุ่มช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของข้อมูล และแลกเปลี่ยนข้อมูลทีค่ ้นคว้ามาได้
ของแต่ละกลุ่ม โดยครชู ่วยตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมลู หรือความรู้ทน่ี ักเรยี นคน้ คว้าหามาไดเ้ พิ่มเตมิ
7. ครูและนักเรียนร่วมกันเรียบเรียงชีวประวัติของสุนทรภู่ตั้งแตเ่ กดิ การออกเดินทาง จนได้เป็นกวี
คนโปรดในรัชกาลที่ 2 จนถึงการสนิ้ ชีพ
8. ครูและนักเรียนรว่ มกันพิจารณาและสรปุ สัมผัสบังคบั คำประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพ จากเรื่อง
พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ แล้วสุ่มให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำประพันธ์ในนิทานคำกลอน
เรื่อง พระอภยั มณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผเี ส้อื คนละ 1 – 2 บท หรอื ตามความเหมาะสม
9. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำผังความคิดเรื่อง พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผีเสือ้ สมุทรโดยนำ
ความรเู้ ดมิ และความรใู้ หมม่ าเช่ือมโยงกัน
10. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน ผังความคิดเรื่อง พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนี
นางผีเสื้อสมทุ ร หนา้ ช้นั เรยี น
11. นักเรียนทำใบงานเรือ่ ง ตัวละคร สะทอ้ นสงั คม แลว้ ส่งในคาบเรยี นถดั ไป
134
สรุปบทเรียน
12. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้เกีย่ วกับเร่ืองพระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมทุ ร ว่า
เป็นเรอื่ งทีแ่ ตง่ ข้ึนโดยผู้ใด มีรปู แบบการประพันธ์แบบใด เนือ้ เร่อื งยอ่ เปน็ อยา่ งไร และมตี วั ละครใดบา้ ง พร้อม
ท้งั บอกข้อคิดท่ีได้จากเรอ่ื ง
ชั่วโมงที่ 3
กจิ กรรมนำเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ให้นักเรยี นทราบ
2. นักเรียนและครูร่วมกันทบทวนเนื้อหาในคาบเรียนที่แล้วเกี่ยวกับประวัติผู้แต่ง ลักษณะการ
ประพันธ์ เนอื้ เรื่องย่อ และตวั ละครในเร่อื งพระอภยั มณี ตอน พระอภยั มณีหนนี างผีเสอ้ื สมทุ ร
กิจกรรมพัฒนาการเรยี น
3. นกั เรยี นอ่านบทกลอนทคี่ รูแสดงบนกระดานดำ ดังน้ี
“ถงึ มว้ ยส้ินดินฟา้ มหาสมทุ ร ไม่ส้นิ สุดความรักสมคั รสมาน
แมเ้ กิดในใตห้ ล้าสธุ าธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
แมเ้ นอื้ เยน็ เปน็ ห้วงมหรรณพ พ่ขี อพบศรีสวัสดิเ์ ป็นมจั ฉา
แม่เปน็ บวั ตวั พเี่ ป็นภุมรา เชยผกาโกสมุ ประทุมทอง
เจ้าเป็นถำ้ อำไพขอใหพ้ ่ี เปน็ ราชสหี ์สิงสเู่ ป็นคู่สอง
จะตดิ ตามทรามสงวนนวลละออง เปน็ คู่ครองพศิ วาสทกุ ชาตไิ ป”
4. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นวา่ บทประพนั ธ์ดังกล่าวหมายความว่าอย่างไร และกลา่ วถงึ ตอน
ใดในเรือ่ ง
5. นกั เรียนศกึ ษาเรอื่ ง หลกั การถอดคำประพันธ์ จากส่อื พาวเวอรพ์ ้อยท์ พร้อมครอู ธิบายประกอบ
6. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน คละความสามารเก่ง ปานกลาง อ่อน เพื่อสรุปเนื้อหาเร่อื ง
พระอภยั มณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสอ้ื สมุทร ในสว่ นทไ่ี ด้รบั มอบหมาย กลมุ่ ละประมาณ 10 บท จากน้ัน
ใหเ้ ขยี นสรปุ ลงในกระดาษหรอื สมุด
8. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอผลงานตามทกี่ ลุ่มของนักเรียนไดร้ ับมอบหมายหน้าช้นั เรียน โดยเรียง
ตามลำดบั เนือ้ หาของเรือ่ ง ครูตรวจสอบความถูกต้องและชว่ ยแก้ไขในส่วนท่ขี าด
9. นักเรียนนำผลงานไปติดบริเวณหน้าห้องและหลังห้องเรียนเพื่อเผยแพร่ความรู้ใหก้ ับผูท้ ี่สนใจได้
ศึกษาเพม่ิ เตมิ
10. นกั เรียนจบั คู่ ทำใบงานเร่ือง วิเคราะหค์ ำกลอน สะทอ้ นเร่ืองราว โดยนักเรยี นสามารถซักถามครู
หากไม่เขา้ ใจตรงส่วนใดสว่ นหนึ่งของใบงาน หลงั จากนัน้ ครเู ฉลยใบงาน โดยให้นกั เรยี นตรวจสอบความถูกต้อง
ดว้ ยตวั เอง
135
สรปุ บทเรยี น
11. นกั เรยี นร่วมกันตอบคำถามตามประเด็นท่ีกำหนดให้ เพือ่ ทบทวนความรู้ ดงั นี้ การถอดความบท
ประพันธ์หมายความว่าอยา่ งไร หลกั การถอดคำประพนั ธ์มอี ะไรบา้ ง
12. ครูตรวจผลงานการสรุปเนื้อหาเรื่องพระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อสมุทรของ
นักเรยี น และกลา่ วชื่นชมผลงานของนักเรียน
ชว่ั โมงท่ี 4
กิจกรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เรื่อง พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณีหนีนางผีเสื้อ ที่ได้
ศึกษาไปแล้วเพื่อทบทวนความรคู้ วามเข้าใจอกี คร้ัง
2. ครชู ้ีแจงจุดประสงค์การเรียนร้ใู ห้นักเรียนทราบ
กจิ กรรมพัฒนาการเรียน
3. นักเรียนกลุ่มเดิมในคาบเรยี นท่ีแล้วปฏิบตั ิกจิ กรรมเรื่อง พระอภัยมณี โดยให้นักเรยี นเลอื กหวั ข้อ
ตามความถนดั และความสนใจ ดงั น้ี
- การวาดภาพการต์ นู ในจินตนาการจากเรื่อง พระอภัยมณี
- การแสดงบทบาทสมมติ เรอื่ ง พระอภัยมณี
- การแสดงละครวิทยุ เรอ่ื ง พระอภยั มณี
- การจัดกิจกรรมโต้วาทีในหัวข้อ “รักแท้แพ้ใกล้ชิด” หรือ “ความรักทำให้คนตาบอด” โดย
ยกตวั อย่างจากเรอื่ ง พระอภยั มณี
- การรวบรวมคำคมและความเปรยี บเร่อื ง พระอภยั มณี
4. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานจากกจิ กรรมในหัวขอ้ ต่าง ๆ ขา้ งตน้ กลุม่ ละ 10 นาที
สรุปบทเรยี น
5. นกั เรียนรว่ มกันสรุปผลการปฏบิ ตั ิงาน ดงั นี้
- นักเรยี นมีความคดิ เหน็ อยา่ งไร เกยี่ วกับการนำเสนอของกลุม่ ของตนเอง และกลุ่มของเพื่อน
- นกั เรียนมีความพอใจกับการท่องบทรอ้ ยกรองของตนเองมากน้อยเพียงใด
- นักเรียนคิดวา่ การท่องบทร้อยกรองมีความสำคญั อย่างไร
6. ครปู ระเมินและให้คะแนนการนำเสนอกิจกรรมของนักเรยี น
7. ครูชมเชยนกั เรียนทกุ คนที่ให้ความร่วมมือ และตง้ั ใจเรียนเป็นอย่างดี และเนน้ ย้ำให้นักเรียนหมั่น
ทบทวนความรอู้ ย่างสมำ่ เสมอ
สือ่ และแหลง่ เรียนรู้
1. สอ่ื พาวเวอร์พ้อยท์ (Power point presentation) เร่อื ง หลกั การถอดคำประพนั ธ์
2. สอื่ พาวเวอร์พอ้ ยท์ (Power point presentation) เรื่อง พระอภัยมณี
136
3. หนงั สือเรียนภาษาไทย ม.3 วรรณคดีและวรรณกรรม
4. โปรแกรมคน้ หา (Search engine) เชน่ Google, Bing, Yahoo, Ask
5. เสียงการอา่ นบทรอ้ ยกรองเรอ่ื ง พระอภยั มณี ตอนพระอภยั มณหี นนี างผีเส้ือสมุทร
การวัดและประเมนิ ผล วิธีวัด เคร่ืองมือวัด เกณฑ์
หลกั ฐานการเรยี นรู้
(ชน้ิ งาน/ภาระงาน) - ประเมินใบงาน - แบบประเมนิ ใบงาน ทกุ รายการไดค้ ะแนน
- ประเมินผังความคดิ - แบบประเมินแผนผงั ร้อยละ 70 ขึน้ ไปถือ
1. ใบงาน - ประเมนิ การสรปุ เนื้อหา ความคดิ วา่ ผา่ นเกณฑ์
2. ผังความคดิ - ประเมนิ การพดู นำเสนอ - แบบประเมนิ การพูด
3. สรุปเน้ือหา หน้าช้นั เรียน นำเสนอหน้าชั้นเรียน
4. พดู นำเสนอหน้าชน้ั เรียน - ประเมินการอา่ นออกเสยี ง - แบบประเมินการอา่ น
5. อ่านออกเสยี งบทร้อยกรอง บทร้อยกรอง ออกเสียงบทร้อยกรอง
6. การนำเสนอกิจกรรมจากเร่ือง - ประเมินนำเสนอผลงาน - แบบประเมินนำเสนอ
พระอภัยมณี - สังเกตพฤตกิ รรม ผลงาน
รายบุคคล/กลุ่ม - แบบสังเกต
พฤติกรรมรายบุคคล
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม
การทำงานกลุ่ม
137
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
นักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/......
วนั ที่................เดือน........................พ.ศ.................
ชื่อกลมุ่ ............................................................................
คำชี้แจง: ให้ทำเคร่อื งหมาย √ ลงในชอ่ งรายการทต่ี รงกับความเปน็ จรงิ
รายการประเมนิ เกณฑก์ ารให้คะแนน รวม
4321 คะแนน
1. การเขา้ รว่ มกิจกรรม
2. ความตรงต่อเวลา
3. การแสดงความคิดเห็น
4. กลา้ คิดกล้าแสดงออก
5. ความร่วมมอื ในการทำงาน
รวมคะแนน (20 คะแนน)
เกณฑ์การตัดสิน คะแนน = ดมี าก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรบั ปรุง
ต่ำกวา่ 10
ลงชอื่ …………….............................………..ผู้ประเมิน
138
เกณฑก์ ารประเมิน : แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
รายการประเมิน ระดับคะแนน
ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
(4) (3) (2) (1)
1. การเขา้ ร่วมกจิ กรรม กระตือรือร้นให้ กระตือรือร้นให้ ให้ความสนใจเข้า ข า ด ค ว า ม
ความสนใจเข้า ความสนใจเข้า ร่วมกิจกรรม ตาม กระตือรอื รน้ และ
ร่วมกิจกรรมทุก ร ่ว มก ิจกรรม บทบาทหนา้ ท่ี ไม่สนใจเข้าร่วม
ครัง้ บางคร้งั กจิ กรรม
2. ความตรงต่อเวลา ผ ล ง า น เ ส ร็ จ ผ ล ง า น เ ส ร็ จ ผ ล ง า น เ ส ร็ จ ผ ล ง า น เ ส ร็ จ
3. การแสดงความคดิ เหน็ เรียบร้อยก่อน เรียบร้อยตาม เร ียบร ้อ ยตา ม เร ียบร ้อ ยหลั ง
เวลาทกี่ ำหนด เวลาที่กำหนด เว ลาที่ก ำหนด เวลาทีก่ ำหนด
เปน็ บางครง้ั
ม ี ก า ร แ ส ด ง ม ี ก า ร แ ส ด ง มีการแสดงความ ไม่มีการแสดง
คว ามคิดเ ห็ น คว ามคิดเ ห็ น คดิ เห็นบา้ ง ความคดิ เห็น
มากและยอมรบั มาก แต่ยังหา
ในขอ้ ยุติด้วยดี ข้อยตุ ิไม่ได้
4. กล้าคิดกล้าแสดงออก ก ล้าคิด ก ล้า ก ล้าคิด ก ล้า ก ล ้ า ค ิ ด ก ล้ า ไม่กล้าคิด กล้า
5. ความร่วมมือในการทำงาน
แสดงออกอย่าง แสดงออกอย่าง แสดงออกอย่าง แสดงออก
สร้างสรรค์เป็น ส ร ้ า ง ส ร ร ค์ สร้างสรรค์เป็น
ประจำ บอ่ ยครั้ง บางคร้ัง
ทุกคนมีส่ ว น ร้อยละ 80 ของ ร้อยละ 60 ของ ร้อยละ 40 ของ
ร ่ ว ม แ ล ะ ใ ห้ กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม กลุ่มมีส่วนร่วม
คว ามร ่ว มมือ แ ล ะ ใ ห ้ ค ว าม แ ล ะ ใ ห ้ ค ว า ม แ ล ะ ใ ห ้ ค ว า ม
อย่างเตม็ ท่ี รว่ มมอื ร่วมมือ รว่ มมือ
เกณฑก์ ารตัดสิน คะแนน = ดีมาก
17 - 20 คะแนน = ดี
13 - 16 คะแนน = พอใช้
10 - 12 คะแนน = ควรปรับปรุง
ตำ่ กวา่ 10
139
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
นักเรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3/......
วันที.่ ................เดอื น........................พ.ศ.................
ช่อื นักเรยี น.........................................................................................................ชัน้ ..................เลขท่ี..................
คำชแี้ จง: ให้ทำเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งรายการที่ตรงกบั ความเป็นจริง
รายการประเมนิ ปฏิบตั ิ ไม่ปฏิบตั ิ
1. เร่ิมต้นงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายทันที
2. ทำงานเสรจ็ เรียบรอ้ ยตามเวลาท่ีกำหนด
3. ขอคำแนะนำจากครูหรอื เพื่อนเมอ่ื ไมเ่ ข้าใจ
4. ทำกิจกรรมด้วยความสนกุ สนานและเตม็ ใจ
5. มสี ่วนรว่ มในการทำกจิ กรรมอย่างสม่ำเสมอ
6. ช่วยเหลอื แนะนำเพ่ือนในการทำกิจกรรมตามสมควร
7. สนใจศึกษาหาความรเู้ พมิ่ เติมด้วยตนเอง
8. แต่งกายสภุ าพเรยี บรอ้ ย
9. พูดจาสภุ าพเรียบร้อย
10. ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงในชนั้ เรยี น
รวมคะแนน (10 คะแนน)
หมายเหตุ
1. ขอ้ ใดที่นกั เรียนปฏบิ ตั ิ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏิบัติ ได้คะแนน 0 คะแนน
2. เกณฑ์การประเมิน
9 - 10 คะแนน = ดมี าก
7 - 8 คะแนน = ดี
5 - 6 คะแนน = พอใช้
ต่ำกวา่ 4 คะแนน = ควรปรับปรุง
3. ครอู าจสมุ่ เลือกนกั เรียนเท่าทีส่ งั เกตได้ในการสงั เกตแตล่ ะครง้ั โดยหมุนเวียนไปจนครบทกุ หอ้ ง
ลงชื่อ…………….............................………..ผูป้ ระเมิน
140
แบบประเมินผังความคิดเร่ือง พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณหี นนี างผีเสอื้
นกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3/......
วนั ท.ี่ ...............เดือน.........................พ.ศ.................
คำชีแ้ จง: ใหท้ ำเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งรายการท่ีตรงกบั ความเปน็ จริง
พฤติกรรม รูปแบบ ภาษา เนอื้ หา ความ รวม
/ระดบั คะแนน ช้ินงาน สวยงาม
ช่อื กลุ่ม
4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16
ลงชอื่ …………….............................………..ผู้ประเมิน
141
เกณฑ์การประเมนิ : แบบประเมนิ ผังความคิดเรือ่ ง พระอภัยมณี ตอนพระอภัยมณีหนีนางผเี ส้ือ
รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ
(4) (3) (2) (1)
1. รูปแบบชิ้นงาน - รปู แบบชิน้ งาน คุณภาพขาดไป 1 คุณภาพขาดไป 2 คุณภาพขาด 2
ถูกต้องตามทีก่ ำหนด อย่าง อยา่ ง อย่างขน้ึ ไป
- รูปแบบแปลกใหม่
นา่ สนใจ
- มขี นาดเหมาะสม
- รูปมีความสัมพนั ธ์
กับเนอ้ื หา
2. ภาษา - มีการใช้ภาษา คุณภาพขาดไป 1 คุณภาพขาดไป 2 คุณภาพขาด 2
ถูกต้อง อย่าง อยา่ ง อยา่ งขน้ึ ไป
- ประโยคสอดคล้อง
กับเนอื้ หา
- สะกดคำถูกตอ้ ง
- มีการเว้นวรรคโดย
ไม่ฉีกคำ
3. เนือ้ หา - เนอ้ื หาถูกตอ้ ง คุณภาพขาดไป 1 คุณภาพขาดไป 2 คุณภาพขาด 2
- เนื้อหาตรงตาม อย่าง อย่าง อย่างขน้ึ ไป
หวั ข้อเรอ่ื ง
- นื้อหาเป็นไปตามที่
กำหนด
- รายละเอียด
ครอบคลุม
4. ความสวยงาม - ตกแตง่ สวยงาม คุณภาพขาดไป 1 คุณภาพขาดไป 2 คุณภาพขาด 2
- ใช้โทนสีอย่าง อยา่ ง อยา่ ง อยา่ งข้ึนไป
เหมาะสม
- ไม่ระบายสที บั
ตวั หนงั สือจนมองไม่
เห็น
- รปู ตกแต่ง
สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หา
142
เกณฑก์ ารตัดสนิ คะแนน = ดีมาก
14 - 16 คะแนน = ดี
11 – 13 คะแนน = พอใช้
8 – 10 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ
ต่ำกว่า 8
143
แบบประเมนิ การนำเสนอผงั ความคดิ เร่ือง พระอภยั มณี ตอนพระอภัยมณีหนนี างผีเสอ้ื
นกั เรียนช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3/......
วันที่.................. เดอื น..................... พ.ศ.................
คำชแี้ จง: ใหท้ ำเครื่องหมาย √ ลงในช่องรายการที่ตรงกับความเป็นจรงิ
ชอื่ กล่มุ พฤตกิ รรม เหน็ คณุ ค่า การ การแสดง ความ รวม
/ระดับคะแนน ภมู ปิ ญั ญา นำเสนอ ความ ร่วมมือกับ 16
ทางภาษา ผลงาน คดิ เห็น กลมุ่
4321432143214321
ลงช่ือ……………............................................………..ผ้ปู ระเมิน
144
เกณฑ์การประเมิน : การนำเสนอผังความคดิ เร่ือง พระอภัยมณี ตอนพระอภยั มณหี นนี างผีเสือ้
รายการ ระดับคะแนน
ประเมิน
1. เหน็ คุณค่าภมู ปิ ญั ญา ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง
ทางภาษา
(4) (3) (2) (1)
2. การนำเสนอผลงาน
แสดงออกด้วย แสดงออกตาม แสดงออกตาม แสดงออกด้วย
3. การแสดงความคดิ เหน็
ความช่ืนชมยินดี บทบาทหน้าที่ มี บ ท บ า ท ห น ้ าที่ ความเบือ่ หนา่ ย
4. ความร่วมมือกับกลุ่ม
อ า ร ม ณ์ ใ น มีอารมณ์ในการ
การแสดงมาก แสดงออกนอ้ ย
นำเสนอผลงาน นำเสนอผลงาน นำเสนอผลงาน นำเสนอผลงาน
เ ป ็ น ไ ป ต า ม เ ป ็ น ไ ป ต า ม ข้ามขั้นตอนบ้าง ไม่เป็นไปตามขั้นตอน
ขั้นตอนได้อย่าง ขั้นตอน เล็กนอ้ ย
สร้างสรรค์
มีความคิดริเร่ิม เ ส น อ ค ว า ม ความคิดเห็นท่ี ไ ม ่ ค ่ อ ย เ ส น อ
สร้างสรรค์ที่มี คิดเห็นที่แปลก เสนอไมด่ ีนกั ความคดิ เห็น
คณุ ค่า ใหมบ่ ้าง
ให้ความร่วมมือ ให้ความร่วมมือ ให้ความร่วมมือ หลีกเลี่ยงที่จะให้
สม่ำเสมอไม่เคย ข า ด บ ้ า ง เ ป็ น เป็นครัง้ คราว ความรว่ มมือ
ขาด บางครัง้
เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน = ดีมาก
14 - 16 คะแนน = ดี
11 – 13 คะแนน = พอใช้
8 – 10 คะแนน = ควรปรับปรุง
ต่ำกวา่ 8