The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน VID115 CRAFT DESIGN-เล่มจริง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by da.suchitra, 2021-11-17 21:20:25

เอกสารประกอบการสอน VID115 CRAFT DESIGN-เล่มจริง

เอกสารประกอบการสอน VID115 CRAFT DESIGN-เล่มจริง

เอกสารประกอบการสอน
รายวชิ า อบท115 การออกแบบศลิ ปหัตถกรรม

โดย
อาจารย์ ดร.พรนารี ชัยดิเรก

ได้รบั การสนบั สนนุ การตีพมิ พ์เผยแพร่จากโครงการผลติ หนังสือ ตำรา
เอกสารคำสอนและเอกสารประกอบการสอน ประจําปงี บประมาณ 2564

คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ

เอกสารประกอบการสอน
รายวิชา อบท115 การออกแบบศลิ ปหัตถกรรม

ผูท้ รงคุณวฒุ พิ ิจารณาคุณภาพผลงาน

รองศาสตราจารย์ ดร.รัฐไท พรเจริญ

รองศาสตราจารย์วรรณรัตน์ ตัง้ เจริญ

คณะจัดทำ: ฝ่ายวจิ ยั และนวัตกรรมการศกึ ษา คณะศิลปกรรมศาสตร์

จำนวนหน้า: 271 หน้า

จำนวนพมิ พ์: 100 เลม่

ปที ี่พิมพ:์ พุทธศักราช 2564

ภาพปกหนา้ : พรนารี ชยั ดิเรก

ภาพปกหลงั : พรนารี ชัยดิเรก

การสนบั สนุน: คณะศลิ ปกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ

คำนำ

เอกสารประกอบการสอนวิชา อบท115 การออกแบบศิลปหัตถกรรม (VID115 CRAFT DESIGN)
เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารที่ใช้สำหรับการเรียนการสอนในหลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการ
ออกแบบทศั นศิลป์ วิชาเอกการออกแบบผลิตภัณฑ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ

เอกสารประกอบการสอนฉบบั นี้มจี ุดมุ่งหมายเพื่อให้นสิ ิตสาขาวิชาการออกแบบทัศนศิลป์วิชาเอกการ
ออกแบบผลิตภัณฑ์ได้ใช้เพื่อศึกษาเรียนรู้ศิลปหัตถกรรมของไทย ด้านวัสดุ โครงสร้าง รูปทรง ประโยชน์ใช้สอย
ลวดลาย กรรมวิธกี ารผลิต การใชเ้ คร่อื งมือ ภูมิปญั ญาในการผลิตผลิตภณั ฑ์ร่วมสมยั และฝึกปฏิบตั กิ ารออกแบบ
ผลิตภัณฑ์และเขียนแบบเพื่อการผลิตด้วยแบบฝึกปฏิบัติท้ายบท ด้วยเนื้อหาภายในเล่มที่ผู้เขียนได้รวบรวมจาก
เอกสาร ตำรา และประสบการณใ์ นการวจิ ัยและการออกแบบผลิตภัณฑห์ ตั ถกรรมไทยของผเู้ ขียน

ผู้เขียนจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการสอน ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์แก่นิสิตสาขาวิชาการ
ออกแบบทัศนศิลป์ วิชาเอกการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในการพัฒนาทักษะด้านการสร้างแนวคิดและการออกแบบ
ผลติ ภณั ฑ์หตั ถกรรมของไทยใหด้ ียงิ่ ขน้ึ

พรนารี ชัยดเิ รก

สารบญั หนา้

หัวขอ้ ก

คำนำ ซ
สารบญั ฑ
สารบัญภาพ 1
แผนบริหารการสอนประจำวิชา 2
เน้อื หารายวชิ าการออกแบบศลิ ปหัตถกรรม
8
แผนการสอนคร้ังท่ี 1 9
12
บทท่ี 1 ศลิ ปหัตถกรรมของไทย 16
แผนการสอนครั้งที่ 2 16
1. ความหมายและประวัตคิ วามเปน็ มาของงานศลิ ปหัตถกรรมไทย 19
2. ความสำคญั ของงานศลิ ปหัตถกรรมไทย 20
3. ประเภทของงานศลิ ปหตั ถกรรมไทย 21
4. ลักษณะเฉพาะของงานศิลปหตั ถกรรมไทยพ้ืนบา้ น
5. สรุป 26
6. คำถามท้ายบท 27
30
บทที่ 2 ศิลปหัตถกรรมไทยภาคเหนอื 36
แผนการสอนครั้งที่ 3-4 38
1. กำเนดิ งานหัตถกรรมไทยภาคเหนือ 46
2. ภมู ปิ ัญญาในการสร้างสรรค์งาน 47
3. แนวทางการศึกษาผลงานหัตถกรรมไทยภาคเหนือ 47
4. สรปุ
5. คำถามท้ายบท 48
6. แบบฝกึ หัดปฏบิ ัตงิ านออกแบบท้ายบท 49
52
บทท่ี 3 ศลิ ปหัตถกรรมไทยภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 61
แผนการสอนคร้ังท่ี 5-6
1. กำเนิดงานหัตถกรรมไทยภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ
2. ภูมิปญั ญาในการสร้างสรรคง์ าน



สารบัญ (ตอ่ ) หนา้

หวั ข้อ 63
70
3. แนวทางการศึกษาผลงานหตั ถกรรมไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 71
4. สรุป 72
5. คำถามท้ายบท
6. แบบฝึกหัดปฏิบัตงิ านออกแบบท้ายบท 73
74
บทที่ 4 ศลิ ปหัตถกรรมไทยภาคกลาง 79
แผนการสอนคร้ังที่ 7-8 86
1. กำเนิดงานหัตถกรรมไทยภาคกลาง 88
2. ภูมปิ ัญญาในการสรา้ งสรรค์งาน 94
3. แนวทางการศึกษาผลงานหัตถกรรมไทยภาคกลาง 95
4. สรุป 95
5. คำถามท้ายบท
6. แบบฝึกหัดปฏิบตั ิงานออกแบบท้ายบท 97
98
บทท่ี 5 ศลิ ปหัตถกรรมไทยภาคตะวันออก 101
แผนการสอนครั้งท่ี 9-10 111
1. กำเนิดงานหตั ถกรรมไทยภาคตะวนั ออก 114
2. ภูมิปญั ญาในการสร้างสรรค์งาน 119
3. แนวทางการศึกษาผลงานหตั ถกรรมไทยภาคตะวันออก 120
4. สรปุ 120
5. คำถามท้ายบท
6. แบบฝกึ หัดปฏิบัตงิ านออกแบบทา้ ยบท 121
122
บทท่ี 6 ศิลปหัตถกรรมไทยภาคใต้ 125
แผนการสอนคร้ังท่ี 11-12 136
1. กำเนดิ งานหตั ถกรรมไทยภาคใต้ 137
2. ภูมิปัญญาในการสรา้ งสรรคง์ าน
3. แนวทางการศึกษาผลงานหัตถกรรมไทยภาคใต้



สารบัญ (ตอ่ ) หนา้

หวั ข้อ 144
145
4. สรุป 145
5. คำถามท้ายบท
6. แบบฝกึ หัดปฏิบัตงิ านออกแบบท้ายบท 147
148
บทที่ 7 ผลิตภัณฑศ์ ิลปหตั ถกรรมไทยรว่ มสมยั 151
แผนการสอนครั้งท่ี 13 155
1. คำจำกดั ความของศิลปหัตถกรรมไทยรว่ มสมยั 159
2. แนวคดิ การออกแบบร่วมสมยั 165
3. แนวทางการศึกษาผลงานศิลปหตั ถกรรมไทยรว่ มสมยั 166
4. สรุป 167
5. คำถามท้ายบท
6. แบบฝึกหัดปฏบิ ัตงิ านออกแบบท้ายบท 169

บทที่ 8 แนวทางการสรา้ งแรงบันดาลใจและการกำหนดทิศทางในการออกแบบ 170
จากงานหัตถกรรมไทย 172
แผนการสอนครั้งท่ี 14 173
1. การคน้ หาแรงบันดาลใจจากงานหตั ถกรรมไทย
2. การวเิ คราะห์องค์ประกอบในการออกแบบ และหลักการออกแบบ 179
ผลติ ภัณฑ์ศลิ ปหัตถกรรมไทยรว่ มสมยั 179
3. การออกแบบด้านรูปธรรม 179
4. การออกแบบด้านนามธรรม 182
5. การสร้างกระดานบรรยายอารมณ์และรปู แบบของผลิตภัณฑ์ (Mood Board) 184
6. การกำหนดทิศทางในการออกแบบจากงานหัตถกรรมไทย 185
7. สรุป 186
8. คำถามท้ายบท
9. แบบฝึกหดั ปฏบิ ตั ิงานออกแบบท้ายบท



สารบัญ (ตอ่ ) หนา้

หวั ขอ้ 187
188
บทท่ี 9 กระบวนการออกแบบและพัฒนาผลิตภณั ฑ์หตั ถกรรมไทยร่วมสมัย 190
แผนการสอนคร้ังที่ 15 191
1. การออกแบบด้านประโยชนใ์ ช้สอย 191
2. การออกแบบด้านความงาม 193
3. การออกแบบรายละเอยี ดอ่ืน ๆ
4. กระบวนการประยกุ ต์ใช้องค์ประกอบเพ่ือการออกแบบผลติ ภัณฑ์หตั ถกรรมไทย 197
รว่ มสมัย 210
5. กลยทุ ธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยรว่ มสมัย 220
6. กรณีศกึ ษาการออกแบบผลิตภัณฑ์ศลิ ปหตั ถกรรมร่วมสมยั 220
7. สรุป 220
8. คำถามท้ายบท
9. แบบฝกึ หัดปฏิบัติงานออกแบบทา้ ยบท 221
222
บทท่ี 10 การเขียนแบบและการสรา้ งผลงานตน้ แบบผลิตภณั ฑ์หัตถกรรมไทยรว่ มสมัย 224
แผนการสอนครั้งที่ 16 244
1. การเขียนแบบผลติ ภัณฑเ์ บื้องต้น 246
2. การเขยี นแบบเพ่อื การผลิตผลติ ภณั ฑ์หัตถกรรมไทยรว่ มสมัย 249
3. การทดลองสรา้ งตน้ แบบผลติ ภัณฑไ์ ม่มีกลไก 250
4. การนำเสนอผลงานการออกแบบผลติ ภัณฑ์หตั ถกรรมไทยร่วมสมัย 264
5. กรณศี กึ ษา 265
6. สรปุ
7. แบบฝกึ หัดปฏิบัตงิ านออกแบบทา้ ยบท 267
273
บรรณานุกรม
ประวัติผเู้ ขียน



สารบญั ภาพ

หน้า

ภาพประกอบที่ 1 ภาพแสดงเครอ่ื งป้ันดนิ เผาทบ่ี ้านเก่า จ.กาญจนบุรี 14
ภาพประกอบท่ี 2 ภาพแสดงหลักฐานวฒั นธรรมไมไ้ ผแ่ ละการจกั สานทีเ่ ก่าแก่และสมบรู ณท์ สี่ ุด 14

ที่ประตผู า จ.ลำปาง 19
ภาพประกอบที่ 3 ภาพแสดงเคร่อื งจักสาน จ.กาญจนบุรี 32
ภาพประกอบท่ี 4 ภาพแสดงอาณาเขตลา้ นนาในปี พ.ศ. 2083 33
ภาพประกอบท่ี 5 ภาพแสดงภูมิประเทศภาคเหนอื 36
ภาพประกอบท่ี 6 ภาพแสดงการเล้ียงผปี แู่ สะยา่ แสะ ตามคติความเช่ือทางภาคเหนือ 37
ภาพประกอบที่ 7 ภาพแสดงเคร่ืองจักสานพ้ืนบ้านในภาคเหนอื 40
ภาพประกอบท่ี 8 ภาพแสดงการสาธิตวธิ กี ารทำร่ม การจำหนา่ ยรม่ บ่อสรา้ ง จ.เชยี งใหม่ 41
ภาพประกอบที่ 9 ภาพแสดงหมบู่ า้ นหตั ถกรรมไม้แกะสลัก จ.เชยี งใหม่ 42
ภาพประกอบท่ี 10 ภาพแสดงเคร่อื งเงนิ ของบา้ นววั ลาย จ.เชียงใหม่ 43
ภาพประกอบท่ี 11 ภาพแสดงสินคา้ หตั ถกรรมท่ที ำจากกระดาษสา จ.เชยี งใหม่ 44
ภาพประกอบที่ 12 ภาพแสดงแม่ครู ดวงกมล ใจคำปัน ผมู้ ีความชำนาญในงานหตั ถกรรม
45
เครอื่ งเขิน จ.เชยี งใหม่ 55
56
ภาพประกอบท่ี 13 ภาพแสดงเคร่ืองเคลือบศลิ าดล จ.เชยี งใหม่ 60
65
ภาพประกอบที่ 14 ภาพแสดงกลุ่มชาติพนั ธุ์ในภาคอสี าน 66
ภาพประกอบท่ี 15 ภาพแสดงภมู ปิ ระเทศภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 67
ภาพประกอบที่ 16 ภาพแสดงประเพณฮี ีตสิบสองคองสิบสี่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื 68
ภาพประกอบที่ 17 ภาพแสดงผา้ แพรวา ผา้ มัดหม่ี และผ้าย้อมคราม ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื 69
ภาพประกอบท่ี 18 ภาพแสดงเครอื่ งจักสานไมไ้ ผ่ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ 80
ภาพประกอบที่ 19 ภาพแสดงเคร่อื งทองเหลืองบา้ นปะอาว ฆ้องบ้านทรายมูล และประเกอื มสุรนิ ทร์ 84
ภาพประกอบท่ี 20 ภาพแสดงเกวยี นสลักลาย เรือนไทยพื้นบา้ นดงั้ เดมิ และเรอื นโคราช
ภาพประกอบท่ี 21 ภาพแสดงบายศรี และปราสาทผง้ึ
ภาพประกอบท่ี 22 ภาพแสดงสภาพภมู ิศาสตร์ภาคกลาง
ภาพประกอบท่ี 23 ภาพแสดงประเพณีรับบวั โยนบวั มีข้นึ ท่ีอำเภอบางพลี จังหวดั สมทุ รปราการ



สารบัญภาพ (ตอ่ ) หน้า

ภาพประกอบท่ี 24 ภาพแสดงเรอื นไทยในภาคกลาง 87
ภาพประกอบที่ 25 ภาพแสดงหม้อน้าํ ลายวิจติ ร จ.นนทบุรี 89
ภาพประกอบที่ 26 ภาพแสดงโถเบญจรงค์ จ.อยุธยา 90
ภาพประกอบที่ 27 ภาพแสดงผา้ ซิน่ ตนี จก จ.ราชบุรี 91
ภาพประกอบท่ี 28 ภาพแสดงบาตรโบราณ (ตีมือแปดตะเข็บ) จ.กรงุ เทพมหานคร 92
ภาพประกอบที่ 29 งานหัตถกรรมหวั โขน จ.อา่ งทอง 93
ภาพประกอบท่ี 30 ภาพแสดงสภาพภูมิศาสตร์ภาคตะวันออก 102
ภาพประกอบที่ 31 ภาพแสดงประเพณีงานชักพระบาท จงั หวัดจันทบรุ ี 106
ภาพประกอบที่ 32 ภาพแสดงประเพณีงานขึ้นเขาเผาข้าวหลาม ของอำเภอพนมสารคาม 107

จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา 107
ภาพประกอบที่ 33 ภาพแสดงประเพณีงานกองขา้ ว อำเภอศรีราชา จังหวดั ชลบุรี 108
ภาพประกอบท่ี 34 ภาพแสดงประเพณีงานวันวรี กรรมทหารเรือไทยใน ยุทธนาวที เ่ี กาะช้าง จ.ตราด 109
ภาพประกอบท่ี 35 ภาพแสดงประเพณีงานแห่บ้ังไฟ จังหวดั ปราจีนบุรี 109
ภาพประกอบที่ 36 ภาพแสดงประเพณีงานทอดผ้าป่ากลางน้ำ จงั หวัดระยอง 110
ภาพประกอบที่ 37 ภาพแสดงประเพณีงานบวงสรวงศาลหลักเมอื ง
113
และรดน้ำดำหวั ผสู้ ูงอายุ จังหวัดสระแกว้ 114
ภาพประกอบที่ 38 ภาพแสดงแผนท่ภี าคตะวันออกแสดงแหลง่ ทพ่ี บภูมปิ ัญญาพื้นถ่ิน 115
ภาพประกอบที่ 39 ภาพแสดงเสือ่ กกจันทบรู ณ์ จ.จนั ทบุรี 116
ภาพประกอบที่ 40 ภาพแสดงกระเป๋าดอกพิกลุ รูปไข่ จ.ชลบรุ ี 117
ภาพประกอบท่ี 41 ภาพแสดงกระบุงจักสานคลุ้ม จ.ตราด 118
ภาพประกอบที่ 42 ภาพแสดงการทำแหวนกล จ.จนั ทบรุ ี 127
ภาพประกอบท่ี 43 ภาพแสดงครกหนิ อา่ งศิลา จ.ชลบรุ ี 128
ภาพประกอบท่ี 44 ภาพแสดงอาณาเขตศรีวิชัยในพทุ ธศตวรรษที่ 15 132
ภาพประกอบที่ 45 ภาพแสดงสภาพภมู ิศาสตร์ภาคใต้
ภาพประกอบท่ี 46 ภาพแสดงการแต่งกายของภาคใต้



สารบัญภาพ (ต่อ) หน้า

ภาพประกอบที่ 47 ภาพแสดงเจดยี ว์ ัดพระบรมธาตไุ ชยา จ.สรุ าษฎร์ธานี 133
ภาพประกอบที่ 48 ภาพแสดงการไหวแ้ ม่ย่านางเรือของชาวประมง 135
ภาพประกอบท่ี 49 ภาพแสดงภูมิปญั ญาดา้ นการประกอบอาชพี ของชาวประมง 137
ภาพประกอบท่ี 50 ภาพแสดงงานแกะสลกั หนงั ตะลุง 138
ภาพประกอบที่ 51 ภาพแสดงผา้ ยกเมืองนคร 139
ภาพประกอบที่ 52 ภาพแสดงเครอื่ งป้ันดินเผาสทงิ หม้อ 140
ภาพประกอบท่ี 53 ภาพแสดงเคร่ืองถมเมืองนคร 141
ภาพประกอบท่ี 54 ภาพแสดงเครื่องจักสานย่านลเิ ภา 142
ภาพประกอบท่ี 55 ภาพแสดงว่าวเบอรอ์ ามสั 143
ภาพประกอบที่ 56 ภาพแสดงกระบวนการออกแบบผลิตภัณฑจ์ ากภมู ิปัญญาไทย 157
ภาพประกอบท่ี 57 แนวทางการออกแบบแฟชนั่ สินคา้ เคร่ืองหนังสง่ ออก “ITSME Model” 158
ภาพประกอบที่ 58 ภาพแสดงการศึกษาและตดั ทอนรูปทรงสญั ญะ“ขนั แก้วทั้งสาม” 160
ภาพประกอบที่ 59 ภาพแสดงการออกแบบโคมไฟตั้งโต๊ะจาก “ขันแก้วทั้งสาม” 160
ภาพประกอบที่ 60 ภาพแสดงการศึกษาและตดั ทอนรปู ทรงสญั ญะ“หม้อลายวจิ ิตร” 161
ภาพประกอบท่ี 61 ภาพแสดงการออกแบบปรบั เปลย่ี นประโยชน์ใชส้ อยของ หม้อน้ำลายวิจิตร 161
ภาพประกอบที่ 62 ภาพแสดงการศึกษาและตัดทอนรูปทรงสญั ญะ“งอบ” 162
ภาพประกอบที่ 63 ภาพแสดงแนวคดิ โลร่ างวลั อเนกประสงค์เปน็ โคมไฟและ 162

ท่วี างของในตวั จากรปู ทรงสัญญะ“งอบ” 163
ภาพประกอบที่ 64 ภาพแสดงการศึกษาและตัดทอนรปู ทรงสญั ญะ “นาง” 163
ภาพประกอบท่ี 65 ภาพแสดงการออกแบบโคมไฟตั้งโตะ๊ จาก “นาง” 164
ภาพประกอบที่ 66 ภาพแสดงการศึกษาและตัดทอนรูปทรงสญั ญะ “เปลกระบอก” 164
ภาพประกอบที่ 67 ภาพแสดงแนวคิดการออกแบบปรบั เปล่ยี นประโยชน์ ใช้สอยเก้าอ้แี ละโคมไฟ
165
จาก“เปลกระบอก”และ ” สุ่มไก”่
ภาพประกอบท่ี 68 ภาพแสดงการศึกษาและตดั ทอนรูปทรงสัญญะ “กร้อวิดนำ้ ”



สารบญั ภาพ (ต่อ)

หนา้

ภาพประกอบท่ี 69 ภาพแสดงแนวคิดการออกแบบปรับเปล่ียนประโยชน์ ใชส้ อยเก้าอีจ้ าก 165
“เกา้ อก้ี ร้อวดิ น้ำ”
173
ภาพประกอบที่ 70 ภาพการนำแรงบันดาลใจมาใชใ้ นการออกแบบงานศิลปหตั ถกรรมไทย 175
ภาพประกอบที่ 71 ภาพองค์ประกอบด้านการออกแบบ 176
ภาพประกอบที่ 72 ภาพองค์ประกอบด้านการออกแบบและทฤษฎีการออกแบบ 178
ภาพประกอบที่ 73 ภาพตัวอยา่ งตารางการวเิ คราะห์องคป์ ระกอบด้านการออกแบบ (Design Matrix) 182
ภาพประกอบท่ี 74 ภาพตัวอยา่ งมูดบอร์ดช่วยในการนำเสนองานออกแบบเฟอรน์ ิเจอร์ 190
ภาพประกอบที่ 75 ภาพแสดงการออกแบบดา้ นประโยชน์ใชส้ อยด้วยการใชม้ ูดบอร์ด 191
ภาพประกอบที่ 76 ภาพแสดงการออกแบบด้านความงามดว้ ยการใชม้ ดู บอร์ด 194
ภาพประกอบท่ี 77 ภาพแสดงกระบวนการออกแบบผลติ ภัณฑ์จากภมู ิปัญญาท้องถ่นิ เชิงทดลอง
197
(Experimental Design) ของอ.อรญั วานิชกร
ภาพประกอบที่ 78 ภาพตวั อยา่ งแสดงผลงานการออกแบบผลติ ภณั ฑศ์ ลิ ปหตั ถกรรมรว่ มสมยั 198
200
ทีใ่ ช้การวิเคราะห์องคป์ ระกอบด้านการออกแบบ (Design Matrix) 201
ภาพประกอบที่ 79 ภาพแสดงแนวคิดการออกแบบเพ่ือมวลชน
ภาพประกอบที่ 80 ภาพแสดงตัวอย่างการออกแบบตามแนวคดิ การออกแบบเพื่อมวลชน
ภาพประกอบที่ 81 ภาพแสดงตามแนวคดิ การการตลาดแบบยอ้ นยคุ

ภาพประกอบที่ 82 ภาพแสดงตวั อยา่ งงานออกแบบตามแนวคิดการตลาดย้อนยุค 202

ภาพประกอบที่ 83 ภาพแสดงหลกั การของ 4Rs 203
ภาพประกอบท่ี 84 ภาพแสดงตวั อย่างผลงานการออกแบบผลิตภณั ฑต์ ามหลักการของ 4Rs 204
ภาพประกอบที่ 85 ภาพแสดงตัวอยา่ งผลงานการออกแบบผลิตภัณฑต์ าม 208

แนวคิด“ออสบอร์นเช็กลสิ ต์” (Osborn’s checklist) – SCAMPER

ภาพประกอบที่ 86 ภาพแสดงตวั อยา่ งผลงานการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ตาม 209

แนวคดิ “ออสบอรน์ เช็กลสิ ต”์ (Osborn’s checklist) – SCAMPER



สารบญั ภาพ (ตอ่ ) หนา้

ภาพประกอบที่ 87 ภาพตัวอย่างการออกแบบผลติ ภัณฑ์ศิลปหตั ถกรรมร่วมสมยั 219
ภาพประกอบท่ี 88 ภาพสลักหินฟาโรหโ์ จเซอร์และอักษรภาพอยี ปิ ต์โบราณ 225
ภาพประกอบท่ี 89 ภาพแผ่นหินเขียนเปน็ ภาพป้อมปราการ เขียนโดย ซาลเดนกตู วั 226
ภาพประกอบท่ี 90 ภาพสเก็ตช์ธนขู นาดใหญ่ จากจนิ ตนาการของ ลโิ อนาโด ดาวนิ ซี 226
ภาพประกอบที่ 91 ภาพแสดงแนวคดิ ของฟีลปิ โป บรเู นลเลสกี 227
ภาพประกอบที่ 92 ภาพเทคนคิ การเขยี นภาพฉายคน้ พบโดย Gaspard Monge 227
ภาพประกอบที่ 93 ภาพแสดงลักษณะของกระดานเขียนแบบ 229
ภาพประกอบท่ี 94 ภาพแสดงลกั ษณะของโตะ๊ เขยี นแบบพร้อมชุดเขียนแบบ 229
ภาพประกอบที่ 95 ภาพแสดงไม้ที (T-Square) 230
ภาพประกอบท่ี 96 ภาพแสดงลักษณะของฉากสามเหล่ยี ม 230
ภาพประกอบท่ี 97 ภาพแสดงลักษณะของดินสอเปลอื กไม้ 231
ภาพประกอบท่ี 98 ภาพแสดงลกั ษณะของดนิ สอเปลี่ยนไส้ 232
ภาพประกอบที่ 99 ภาพแสดงลักษณะของวงเวยี น (Drafting compass) 232
ภาพประกอบท่ี 100 ภาพแสดงลกั ษณะของบรรทดั เขียนส่วนโคง้ (French Curve) 233
ภาพประกอบที่ 101 ภาพแสดงลกั ษณะของเทมเพลต (Templates) 233
ภาพประกอบที่ 102 ภาพแสดงอปุ กรณ์เบด็ เตล็ด 233
ภาพประกอบที่ 103 ภาพแสดงลักษณะของการเขยี นเสน้ ตรงในระดับ 234
ภาพประกอบท่ี 104 ภาพแสดงลักษณะการเขยี นเสน้ ตรงในแนวด่ิง 235
ภาพประกอบท่ี 105 ภาพแสดงลักษณะการใช้ไม้ที ฉากสามเหลีย่ มเขียนเส้นตรงเอียงทำมุมต่างๆ 235
ภาพประกอบที่ 106 ภาพแสดงผลิตภัณฑ์ทีจ่ ะเขียนแบบภาพฉาย 236
ภาพประกอบที่ 107 ภาพแสดงภาพด้านหนา้ ของผลิตภัณฑ์ 236
ภาพประกอบท่ี 108 ภาพแสดงผลติ ภณั ฑ์ที่จะเขียนแบบภาพฉาย 237
ภาพประกอบท่ี 109 ภาพแสดงผลิตภณั ฑ์ทจ่ี ะเขียนแบบภาพฉาย 237
ภาพประกอบที่ 110 ภาพแสดงการเขยี นแบบภาพฉาย 238
ภาพประกอบท่ี 111 ภาพแสดงการเขียนแบบภาพฉายข้ันสุดทา้ ย 239



สารบญั ภาพ (ต่อ) หนา้
239
ภาพประกอบที่ 112 ภาพแสดงการเขยี นแบบภาพดา้ นหน้าของการเขียนแบบภาพออบลิค 240
ภาพประกอบท่ี 113 ภาพแสดงการเขยี นแบบภาพขดี เสน้ ด้านข้าง 45 องศาของการเขยี นแบบ
240
ภาพออบลิค
ภาพประกอบท่ี 114 ภาพแสดงการเขยี นแบบขีดเสน้ ตั้งฉากและเส้นระนาบใหค้ รบ 241
242
ของการเขยี นแบบภาพออบลิค 242
ภาพประกอบที่ 115 ภาพแสดงการเขียนแบบภาพสุดท้ายของการเขยี นแบบภาพออบลิค 243
ภาพประกอบท่ี 116 ภาพแสดงการเขยี นแบบภาพเพอร์สเพกทิฟแบบจุดรวมสายตาจดุ เดยี ว 243
ภาพประกอบที่ 117 ภาพแสดงการเขยี นแบบภาพเพอรส์ เพกทิฟแบบจุดรวมสายตา 2 จุด
ภาพประกอบท่ี 118 ภาพแสดงการเขยี นแบบภาพเพอรส์ เพกทิฟแบบจุดรวมสายตา 3 จุด 246
ภาพประกอบท่ี 119 ภาพแสดงคลิปวิธีการเขียนแบบภาพเพอรส์ เพกทิฟสำหรบั งานออกแบบ
247
ผลติ ภณั ฑ์ 249
ภาพประกอบที่ 120 ภาพแสดงตวั อยา่ งของการเขยี นแบบงานเพื่อการผลติ ผลิตภณั ฑ์
264
หตั ถกรรมไทยรว่ มสมัย
ภาพประกอบที่ 121 ภาพแสดงประเภทของต้นแบบผลติ ภณั ฑ์
ภาพประกอบท่ี 122 ภาพแสดงตัวอยา่ งของการทดลองสร้างตน้ แบบผลิตภณั ฑ์ไม่มีกลไก

ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทยร่วมสมยั
ภาพประกอบที่ 123 ภาพแสดงตัวอย่างของการทดลองสร้างต้นแบบผลิตภัณฑ์ไมม่ ีกลไก

ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทยร่วมสมัย



แผนบริหารการสอนประจำวชิ า
รายวิชา อบท115 การออกแบบศลิ ปหัตถกรรม

หมวดท่ี 1 ขอ้ มลู ท่วั ไป

1. รหัสและชื่อวิชา

อบท115 การออกแบบศลิ ปหตั ถกรรม

VID115 CRAFT DESIGN

2. จำนวนหน่วยกติ

3 หน่วยกิต (2-2-5)

3. หลกั สูตรและประเภทของรายวชิ า

หลกั สูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการออกแบบทศั นศิลป์ วชิ าบังคบั

4. อาจารยผ์ รู้ บั ผิดชอบรายวิชาและอาจารยผ์ ู้สอน

อาจารย์ผูร้ บั ผิดชอบรายวชิ า

ลำดบั อาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบรายวชิ า สังกดั

1 อาจารยพ์ รนารี ชยั ดิเรก สาขาวชิ าการออกแบบทศั นศิลป์ คณะศลิ ปกรรมศาสตร์

อาจารย์ผสู้ อน

ตอน อาจารย์ผสู้ อน สงั กัด ตำแหนง่ อาจารยผ์ ู้สอน

B01 อาจารย์พรนารี ชัยดเิ รก สาขาวิชาการออกแบบทัศนศิลป์ ผู้สอนหลัก

คณะศิลปกรรมศาสตร์

5. ภาคการศกึ ษา/ชั้นปที ่ีเรยี น

ภาคเรียนท่ี 2 ชนั้ ปีท่เี รียน 1

6. รายวิชาทีต่ ้องเรยี นมาก่อน (Per-requisite)

ไมม่ ี

7. รายวชิ าทตี่ ้องเรยี นพรอ้ มกนั (Co-requisite)

ไมม่ ี

8. สถานที่เรยี น

B01 : อาคารคณะศิลปกรรมศาสตร์ + สำนกั คอมพิวเตอร์ ห้องบรรยาย 1503

9. วนั ทีจ่ ัดทำหรือปรบั ปรงุ รายละเอียดของรายวชิ า

28/12/2563



หมวดที่ 2 จดุ มุ่งหมายและวัตถปุ ระสงค์

1. จดุ มงุ่ หมายของรายวชิ า
1 .เพ่อื ให้นสิ ติ ศึกษาเรยี นรศู้ ลิ ปหตั ถกรรมของไทย ด้านวัสดุ โครงสร้าง รูปทรง ประโยชนใ์ ช้สอย

ลวดลาย กรรมวิธกี ารผลิต การใชเ้ คร่อื งมือ ภมู ิปญั ญาในการผลติ ผลติ ภัณฑ์ร่วมสมยั
2. เพือ่ ใหน้ สิ ติ ฝกึ ปฏิบัติการออกแบบผลติ ภณั ฑ์และเขียนแบบเพ่อื การผลิตได้
3. เพื่อให้นิสติ ทดลองสร้างตน้ แบบผลติ ภณั ฑไ์ มม่ ีกลไก ผลติ และนำเสนอผลงานการออกแบบได้

2. วัตถปุ ระสงค์ในการพัฒนา/ปรบั ปรุงรายวิชา
เพื่อใหเ้ หมาะสมกับยุคสมัยและสถานการณ์ปจั จุบนั และระยะเวลาในการเรยี นการสอน

หมวดที่ 3 ลกั ษณะและการดำเนินการ
1. คำอธิบายรายวชิ า

ศึกษา เรียนรู้ศิลปหัตถกรรมของไทย ด้านวัสดุ โครงสร้าง รูปทรง ประโยชน์ใช้สอย ลวดลาย
กรรมวิธกี ารผลิต การใช้เคร่ืองมือ ภมู ปิ ญั ญาในการผลิตผลิตภัณฑ์รว่ มสมัย ละฝึกปฏิบตั ิการออกแบบผลิตภัณฑ์
เขยี นแบบเพ่อื การผลติ และทดลองสร้างต้นแบบผลติ ภัณฑไ์ ม่มกี ลไก ผลิตและนำเสนอผลงาน

2. จำนวนชั่วโมงท่ีใชต้ ่อภาคการศึกษา

ลำดบั บรรยาย สอนเสริม การฝึกปฏิบัต/ิ งานภาคสนาม/การฝึกงาน การศึกษาด้วยตัวเอง

1 2.00 0.00 2.00 5.00

3. ความรับผิดชอบหลัก/ความรับผิดชอบรอง ประเภทความรับผดิ ชอบ

● ความรับผดิ ชอบหลัก O ความรบั ผดิ ชอบรอง

1. คุณธรรมและ 2 .ความรู้ 3. ทักษะทางปญั ญา 4. ทักษะ 5. ทักษะการ

จริยธรรม ความสัมพนั ธ์ วเิ คราะหเ์ ชงิ

ระหวา่ งบคุ คล ตวั เลข การ

และความ ส่ือสารและการ

รับผดิ ชอบ ใชเ้ ทคโนโลยี

สารสนเทศ

1.1 1.2 1.3 1.4 2.1 2.2 2.3 2.4 3.1 3.2 3.3 3.4 3.5 4.1 4.2 4.3 5.1 5.2 5.3

    



4. จำนวนชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ทีอ่ าจารยใ์ ห้คำปรกึ ษาและแนะนำทางวิชาการแก่นสิ ติ เป็นรายบคุ คล
อาจารยจ์ ดั เวลาให้คำปรึกษาและแนะนำแกน่ ักศกึ ษาทั้งในและนอกชนั้ เรยี นหรือรายกลุ่มตามความต้องการ

1 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์ ด้วยการติดต่อทางเครื่องมือสื่อสารต่างๆโดยแจ้งประกาศให้นสิ ิตนักศึกษาทราบโดยทวั่ กัน หรือ
โดยการนัดหมายทางโทรศัพท์ อีเมล (E-mail) กูเกลิ คลาสรูม (Google Classroom) และไลน์(Line) ในบางกรณี

หมวดท่ี 4 การพฒั นาผลการเรยี นรูข้ องนกั ศึกษา

1. รายละเอียดการพัฒนาผลการเรียนรขู้ องนสิ ติ

1. คุณธรรมและจริยธรรม

ลำดับ หลกั /รอง คุณธรรมและ วิธกี ารสอน วิธกี ารประเมินผล

จริยธรรมทตี่ ้องพฒั นา

1 หลัก มีความซ่อื สตั ย์ มวี นิ ยั ชี้แจงกฎระเบยี บและแนว สังเกตพฤตกิ รรมความซ่ือสัตย์

ตรงต่อเวลา ปฏิบตั ิในการเรียนการสอน การตรงต่อเวลาในการเข้าชนั้ เรยี น

ใหช้ ัดเจนในทุกรายวิชา การทำรายงาน การอ้างอิงผลงาน

และการสอบ

2 หลกั มีจรรยาบรรณทาง สรา้ งเงือ่ นไข/โจทยง์ านใน ประเมินจากการมสี ่วนรว่ มในการอภิปราย

วชิ าการและวิชาชพี กจิ กรรมปฏิบัตเิ พือ่ ใหผ้ ูเ้ รยี น การวางแผน การปฏิบตั งิ าน

สะทอ้ นจติ สำนึกสาธารณะ การนำเสนอผลงาน และการสะทอ้ นคดิ

กิจกรรมในชั้นเรยี นดา้ นจรรยาบรรณ

ทางวชิ าการและวชิ าชีพ

2. ความรู้

ลำดบั หลกั /รอง ความรทู้ ่ีตอ้ งพัฒนา วิธกี ารสอน วธิ ีการประเมินผล

1 หลกั มคี วามรู้ หลักการ จดั การเรียนการสอนทคี่ รอบ ประเมินจากผลการสอบภาคทฤษฎี/ปฏิบตั ิ

และทฤษฎี ทางศลิ ปะ คลุมความรหู้ ลักการและทฤษฎี แฟ้มสะสมผลงานและผลงาน

และการออกแบบ ทางศลิ ปะและการออกแบบโดย

เน้นผ้เู รียนเป็นสำคญั

3. ทักษะทางปัญญา

ลำดับ หลัก/รอง ทกั ษะทางปัญญา วิธีการสอน วธิ กี ารประเมนิ ผล

ทตี่ ้องพัฒนา

1 หลัก สามารถคดิ วิเคราะหอ์ ย่าง ใชต้ ัวอย่างทีด่ เี ปน็ กรณศี กึ ษา ประเมนิ จากการสอบภาคทฤษฎแี ละ

เป็นระบบ และแกไ้ ข เพ่ือใหน้ สิ ติ ไดเ้ รยี นรวู้ เิ คราะห์ ปฏบิ ตั ิ

ปญั หาได้ ปัญหาและฝึกบรู ณาการ

ความร้เู พ่อื ใชใ้ นการแก้ไข

ปญั หาอย่างเป็นระบบ

2 หลัก มคี วามคิดรเิ รม่ิ จดั กจิ กรรมฝกึ ความคิด สังเกตพัฒนาการในดา้ นตา่ งๆ จาก

สรา้ งสรรคน์ วัตกรรม สร้างสรรค์ และนวัตกรรม



ลำดับ หลกั /รอง ทักษะทางปญั ญา วิธีการสอน วิธีการประเมนิ ผล

ที่ตอ้ งพฒั นา

ทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ ตนเอง พฤตกิ รรม การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมกลมุ่

สงั คมและส่ิงแวดลอ้ ม การสะท้อนคดิ ในชนั้ เรียน

4. ทักษะความสมั พันธ์ระหวา่ งบุคคลและความรับผิดชอบ

ลำดับ หลัก/รอง ทกั ษะความสมั พันธ์ วิธกี ารสอน วธิ กี ารประเมนิ ผล

ระหวา่ งบุคคลและ

ความรบั ผิดชอบ

ที่ตอ้ งพัฒนา

1 หลัก สามารถทำงานร่วมกบั จัดการเรยี นการสอนแบบ ประเมินจากคุณภาพของรายงาน

ผอู้ นื่ ทั้งในฐานะผนู้ ำและ Project Based Learning ทแ่ี สดงถึงความรว่ มมอื ในการวางแผน

ผรู้ ว่ มงานได้ ทีม่ กี ารค้นคว้าข้อมลู ใน การปฏิบตั แิ ละการแกป้ ัญหา

ระดบั สากล

2 หลกั มีความรับผิดชอบตอ่ เลือกประเดน็ ท่ีเป็นปญั หาสงั คม ประเมนิ ผลจากการนำเสนอผลงานหรือ

ตนเอง สังคม และสง่ิ แวดล้อมให้นิสติ เรียนรู้ จากผลการประเมินของผู้ประกอบการ

และสง่ิ แวดลอ้ ม และตระหนกั ถึงผลกระทบ ที่นิสติ เข้าฝึกงาน

ท่ีเกิดขน้ึ พรอ้ มทัง้ กระตุ้นให้คดิ

หาวิธีท่จี ะมีสว่ นร่วมรบั ผิดชอบ

ในการแกป้ ญั หาโดยเรมิ่ ตน้ จาก

ตวั นิสติ เอง

5. ทักษะการวเิ คราะหเ์ ชิงตวั เลข การสอ่ื สารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

ลำดบั หลกั /รอง ทกั ษะการวเิ คราะห์ วิธีการสอน วิธกี ารประเมนิ ผล

เชิงตวั เลข

การส่ือสารและการใช้

เทคโนโลยสี าร

สนเทศที่ต้อง

พฒั นา

1 หลกั สามารถสอ่ื สารได้ ฝึกการใชท้ กั ษะสอื่ สารในทุก

อย่างมปี ระสิทธิภาพ รายวชิ า



หมวดที่ 5 แผนการสอนและการประเมินผล

1. แผนการสอน









2. แผนการประเมนิ ผลการเรียนรู้

กิจกรรม ผลการเรียนรู้ วธิ กี ารประเมนิ สัดสว่ นการประเมนิ ผล

บรรยาย คณุ ธรรมและจรยิ ธรรม การสังเกต 10%

บรรยาย / ซักถาม ความรู้ การสงั เกต 20%

มอบงาน ทกั ษะทางปัญญา ผลงาน / การแกป้ ัญหา 40%

งานกลมุ่ ทักษะความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคลและความรบั ผดิ ชอบการสังเกตการทำงานกลมุ่ 10%

มอบงาน / ทักษะการวิเคราะห์เชงิ ตวั เลข การนำเสนอผลงาน 10%

การนำเสนอผลงาน การส่ือสารและการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ

การวัดผลประเมินผล 50 คะแนน
40 คะแนน
การวัดผล 10 คะแนน
1. คะแนนระหว่างภาคเรยี น 25 คะแนน
1.1 คะแนนแบบฝึกหัดท้ายบท 25 คะแนน
1.2 คะแนนจติ พิสยั และพฤติกรรมระหว่างเรยี น 100 คะแนน
2. คะแนนโครงการออกแบบ
3. คะแนนสอบกลางภาคและปลายภาค
รวม

การประเมินผล 80-100 ไดร้ ะดบั A
ช่วงคะแนน 75-79 ได้ระดบั B+
ช่วงคะแนน 70-74 ได้ระดบั B
ช่วงคะแนน 65-69 ได้ระดับ C+
ช่วงคะแนน 60-64 ได้ระดับ C
ชว่ งคะแนน 55-59 ได้ระดบั D+
ชว่ งคะแนน 50-54 ไดร้ ะดบั D
ช่วงคะแนน 0-49 ไดร้ ะดับ E
ช่วงคะแนน



หมวดท่ี 6 ทรพั ยากรประกอบการเรียนการสอน

1. ตำราและเอกสาร
นฤทธิ์ วัฒนภ.ู (2555). ศิลปหตั ถกรรมพ้นื บา้ นไทย.กรุงเทพฯ: บริษทั วาดศิลป์จำกัด.
รฐั ไท พรเจริญ. (2558). เทคนคิ การเขยี นภาพออกแบบผลติ ภณั ฑ์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพส์ .ส.ท.
วิบลู ย์ ล้สี วุ รรณ. (2558). พจนานุกรมหตั ถกรรม เคร่ืองมือเคร่ืองใช้พืน้ บ้าน. กรุงเทพฯ:
สำนกั พิมพ์เมืองโบราณ.
วริ ณุ ต้ังเจริญ.(2554). ศลิ ปกรรมร่วมสมัย : การเรยี นรู้และ สร้างสรรค์.
กรุงเทพฯ.วารสารสถาบันวัฒนธรรมและ ศลิ ปะ(สาขามนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์)
มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ. 14 (1),15.
อรญั วานชิ กร. (2559). การออกแบบผลิตภณั ฑท์ ้องถ่ิน. กรุงเทพฯ:
สำนักพมิ พ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
อรัญ วานิชกร. (2014). องค์ความรู้ ภมู ปิ ัญญาไทย:
การออกแบบและสร้างสรรค์ผลติ ภัณฑร์ ่วมสมัย THAI WISDOM KNOWLEDGE:
DESIGNED AND CREATED THE CONTEMPORARY PRODUCTS.
กรงุ เทพฯ. วารสารสถาบันวัฒนธรรมและ ศลิ ปะ(สาขามนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์)
มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวิโรฒ. 12 (2),22.
อาชญั นักสอน. (2558). ศิลปะการออกแบบหตั ถอุตสาหกรรม : The Art of Industrial Crafts
Design. กรุงเทพฯ: ทริปเป้ลิ กรุป๊ .

2. เอกสารและข้อมูลสำคัญ
ไม่มี

3. เอกสารและข้อมูลแนะนำ
ไมม่ ี

หมวดที่ 7 การประเมินและปรบั ปรุงการดำเนินการของรายวิชา

1. กลยุทธ์การประเมินประสิทธิผลของรายวิชาโดยนสิ ติ
ประเมนิ คุณภาพการจดั การเรียนการสอนและรายวชิ าโดยนิสิตผ่านระบบการประเมินการเรียนการสอน

ในรปู แบบออนไลน์
2. กลยุทธ์การประเมนิ การสอน

ประเมินคุณภาพการสอนของอาจารย์โดยนิสิตผ่านระบบการประเมินการเรียนการสอนในรูปแบบ
ออนไลน์ของมหาวทิ ยาลัยและสรุปผลประเมนิ ตามแผนการเรยี นรู้ โดยระบบประเมินของมหาวิทยาลัย



3. การปรบั ปรุงการสอน
สาขาวชิ ากำหนดให้ผสู้ อนทบทวนและปรบั ปรุงกลยุทธ์และวิธีการสอนจากผลการประเมินประสิทธิภาพ

ของรายวิชา และผลการประเมินคุณภาพของผู้สอนนำไปสู่การปรับปรุงและให้มีการจัดการเรียนการสอนใน
ลกั ษณะของการเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี 21 ตามแนวทางของสาขาฯ และมหาวทิ ยาลัยฯ

4. การทบทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธิของนสิ ติ ในรายวิชา

ลำดับ ผลการเรยี นรู้ วธิ ที บทวนสอบ

1 คุณธรรมและจรยิ ธรรม ทบทวนจากพฤติกรรมและความรับผดิ ชอบ

2 ความรู้ ทบทวนจากผลคะแนนการสอบกลางภาค

สอบปลายภาค และความคิดสรา้ งสรรค์

3 ทักษะทางปัญญา ทบทวนจากผลคะแนนการสอบกลางภาค

สอบปลายภาค และความคดิ สรา้ งสรรค์

4 ทักษะความสมั พันธร์ ะหว่างบุคคลและความรบั ผดิ ชอบ ทบทวนจากพฤตกิ รรมและความรับผิดชอบ

5 ทักษะการวิเคราะห์เชิงตวั เลข ทบทวนจากการนำเสนอส่อื สารสนเทศ

การสือ่ สารและการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ และการใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื ใหเ้ กิดสมั ฤทธ์ิผล

5. การดำเนนิ การทบทวนและการวางแผนปรบั ปรุงประสิทธิผลของรายวิชา
1. นำผลจากการทวนสอบมาตรฐานผลสัมฤทธ์ิของนักศึกษามาวเิ คราะห์เพ่ือหาแนวทางพัฒนา
2. การจดั ประชมุ หรอื สัมมนาเพอื่ วางแผนปรบั ปรุงการสอน
3. วางแผนการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์เพ่ือสร้างประสทิ ธิผลของรายวิชาให้ดียงิ่ ข้ึน



เนื้อหารายวิชา
การออกแบบศิลปหตั ถกรรม

แผนการสอนคร้ังท่ี 1

หวั ข้อ อธิบายเนื้อหารายวิชา
ผูส้ อน อาจารย์ ดร.พรนารี ชยั ดเิ รก
เวลา 240 นาที

วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือให้นสิ ิตเขา้ ใจเน้ือหารายวิชาการออกแบบศิลปหตั ถกรรม
2. เพ่ือให้นิสติ เข้าใจวิธกี ารเรียนการสอน การเก็บคะแนน และการวัดผล
3. เพอื่ ทดสอบความรู้ความเข้าใจของนิสิตก่อนการเรยี นการสอน

เนอื้ หา
1. อธิบายเนอ้ื หารายวชิ า
2. อธบิ ายวธิ กี ารเรยี นการสอน
3. อธิบายการเก็บคะแนนและการวดั ผล
4. การทดสอบกอ่ นการเรียนการสอน

การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ 45 นาที
1. อธบิ ายเนื้อหารายวิชา 45 นาที
2. อธิบายวิธกี ารเรียนการสอน 30 นาที
3. อธิบายการเก็บคะแนนและการวดั ผล 30 นาที
4. นสิ ิตซกั ถามปรึกษาเนื้อหาการเรยี น 90 นาที
5. การทดสอบก่อนการเรียนการสอน

สอ่ื การสอน
1. เอกสารประกอบการสอนรายวชิ า การออกแบบศิลปหตั ถกรรม
2. ไฟลน์ ำเสนอภาพนิง่ ผา่ นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
3. หนงั สือ ตำรา วารสารตา่ ง ๆ ทัง้ ในประเทศและตา่ งประเทศ ที่เก่ยี วขอ้ งกับการออกแบบ
ศลิ ปหัตถกรรมไทย
4. ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ ผลงานหตั ถกรรมสำหรบั การเรียนการสอนที่เก่ยี วขอ้ งและตัวอยา่ งภาพ
ผลงานการออกแบบของนิสติ ทไ่ี ด้เรียนวชิ านี้ (ตามความเหมาะสมของเนอื้ หาการเรยี น)

2

การประเมินผล
1. สงั เกตจากพฤติกรรมของผู้เรียน
2. ประเมินผลจากกจิ กรรมในชั้นเรยี น
3. ประเมินผลจากการทดสอบกอ่ นการเรียนการสอน

3

ประมวลรายวชิ า ( Course Syllabus)

1. รหัสและช่อื รายวิชา

VID115 CRAFT DESIGN
อบท115 การออกแบบศิลปหตั ถกรรม

2. จำนวนหนว่ ยกติ

3 หน่วยกติ (2-2-5)

3. หลกั สตู รและประเภทของรายวชิ า

หลกั สูตรศลิ ปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวชิ าการออกแบบทัศนศิลป์ วิชาบังคับ

4. อาจารย์ผรู้ บั ผิดชอบรายวชิ าและอาจารยผ์ สู้ อน

Section อาจารยผ์ ้สู อน สังกดั
สาขาวชิ าการออกแบบทศั นศลิ ป์
B01 อาจารย์ ดร.พรนารี ชัยดเิ รก คณะศิลปกรรมศาสตร์

5. ภาคการศึกษา / ชนั้ ปที เ่ี รียน :

ภาคการเรียนที่ 2 / ช้นั ปที ี่ 1

6. รายวชิ าท่ีตอ้ งเรยี นมาก่อน (Pre-requisite) (ถ้าม)ี

ไมม่ ี

7. รายวิชาท่ตี ้องเรียนพรอ้ มกนั (Co-requisite) (ถา้ ม)ี

ไม่มี

8. สถานทีเ่ รยี น(ระบุสถานทที่ กุ แหง่ ทง้ั ในและนอกท่ตี ง้ั หลักของมหาวิทยาลัยให้ครบถ้วน)

ตอน B01 : สถานที่ต้ัง อาคาร 16 คณะศิลปกรรมศาสตร์ ห้องบรรยาย 1503 มศว.ประสานมติ ร

4

9. คำอธบิ ายรายวิชา

ศกึ ษา เรียนรศู้ ิลปหัตถกรรมของไทย ดา้ นวัสดุ โครงสร้าง รปู ทรง ประโยชนใ์ ชส้ อย ลวดลาย กรรมวิธี
การผลิต การใช้เครื่องมือ ภูมิปัญญาในการผลิตผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย ฝึกปฏิบัติการออกแบบผลิตภัณฑ์ เขียน
แบบเพอื่ การผลิตและทดลองสรา้ งต้นแบบผลติ ภัณฑไ์ ม่มีกลไก ผลิตและนำเสนอผลงาน

10. จุดมุ่งหมายของรายวิชา

1. เพ่อื ให้นิสิตศึกษา เรยี นรศู้ ิลปหัตถกรรมของไทย ดา้ นวัสดุ โครงสร้าง รปู ทรง ประโยชนใ์ ช้
สอย ลวดลาย กรรมวิธีการผลิต การใชเ้ คร่ืองมือและภมู ิปญั ญาในการผลิตผลิตภณั ฑร์ ่วมสมัย

2. เพือ่ ให้นสิ ติ ฝึกปฏิบัติการออกแบบผลิตภัณฑ์ เขียนแบบเพอื่ การผลิตได้
3. เพือ่ ใหน้ สิ ิตทดลองสรา้ งตน้ แบบผลิตภณั ฑไ์ ม่มกี ลไก ผลติ และนำเสนอผลงานการออกแบบ

ได้

11. จำนวนชัว่ โมงท่ใี ชต้ ่อภาคการศึกษา

บรรยาย 2 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์
ฝึกปฏิบตั ิงาน / ภาคสนาม 2 ชัว่ โมงต่อสปั ดาห์
การศึกษาดว้ ยตวั เอง 5 ชั่วโมงตอ่ สัปดาห์

แผนการสอน

ครั้งท/ี่ หวั ข้อ สื่อการสอน อาจารยผ์ ู้สอน หมายเหตุ
1 อธบิ ายเนื้อหารายวชิ า และ เอกสารนำเสนอ / อ. ดร.พรนารี ชัยดเิ รก
กฎระเบียบการเขา้ เรยี น เกณฑ์การ แบบทดสอบกอ่ น (B01)
ใหค้ ะแนน ขอ้ ตกลงในการเรียน เรยี น
2 บทท่ี 1 ศิลปหัตถกรรมของไทย เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชัยดิเรก
แบบฝกึ หดั / แบบ (B01)
3 บทท่ี 2 ศิลปหตั ถกรรมของไทย มอบหมายงาน
ภาคเหนือ - 1 เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชัยดเิ รก
แบบฝกึ หดั / แบบ (B01)
4 บทท่ี 2 ศิลปหตั ถกรรมของไทย มอบหมายงาน
ภาคเหนอื - 2 เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชยั ดเิ รก
แบบฝกึ หดั / แบบ (B01)
มอบหมายงาน

5

ครง้ั ท/่ี หัวข้อ สื่อการสอน อาจารย์ผสู้ อน หมายเหตุ
5 บทท่ี 3 ศลิ ปหัตถกรรมของไทยภาค เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชยั ดิเรก
ตะวนั ออกเฉียงเหนอื - 1 แบบฝกึ หัด / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
6 บทที่ 3 ศลิ ปหัตถกรรมของไทยภาค เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชยั ดิเรก
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ - 2 แบบฝึกหดั / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
7 บทท่ี 4 ศลิ ปหตั ถกรรมของไทยภาค เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชยั ดเิ รก
กลาง - 1 แบบฝกึ หัด / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
8 บทที่ 4 ศิลปหตั ถกรรมของไทยภาค เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชัยดิเรก
กลาง - 2 แบบฝกึ หัด / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
9 บทท่ี 5 ศลิ ปหัตถกรรมของไทยภาค เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชัยดิเรก
ตะวนั ออก - 1 แบบฝึกหดั / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
10 บทที่ 5 ศิลปหตั ถกรรมของไทยภาค เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชยั ดิเรก
ตะวันออก - 2 แบบฝกึ หัด / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
11 บทที่ 6 ศิลปหัตถกรรมของไทย เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชยั ดเิ รก
ภาคใต้ - 1 แบบฝึกหัด / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
12 บทที่ 6 ศิลปหตั ถกรรมของไทย เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชัยดเิ รก
ภาคใต้ - 2 แบบฝึกหัด / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
13 บทที่7 ผลิตภณั ฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชยั ดิเรก
ร่วมสมยั แบบฝกึ หดั / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
14 บทท่ี 8 แนวทางการสร้างแรง เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชัยดเิ รก
บันดาลใจและการกำหนดทิศทางใน แบบฝกึ หดั / แบบ (B01)
การออกแบบจากงานหัตถกรรมไทย มอบหมายงาน

6

ครัง้ ท/ี่ หวั ข้อ สอ่ื การสอน อาจารย์ผ้สู อน หมายเหตุ
15 บทท่ี 9 กระบวนการออกแบบและ เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชยั ดิเรก
พัฒนาผลิตภัณฑห์ ตั ถกรรมรว่ มสมัย แบบฝกึ หดั / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
16 บทที่ 10 การเขยี นแบบและการ เอกสารนำเสนอ/ อ. ดร.พรนารี ชัยดิเรก
สรา้ งผลงานต้นแบบผลิตภณั ฑ์ แบบฝึกหัด / แบบ (B01)
มอบหมายงาน
17 สอบปลายภาค เอกสารนำเสนอ อ. ดร.พรนารี ชัยดิเรก
(B01)

7



บทท่ี 1
ศลิ ปหตั ถกรรมของไทย

แผนการสอนคร้งั ที่ 2

หัวขอ้ ศิลปหตั ถกรรมของไทย
ผสู้ อน อาจารย์ ดร.พรนารี ชัยดเิ รก
เวลา 240 นาที

วตั ถุประสงค์
1. เพื่อให้นสิ ติ เขา้ ใจความหมาย ความสำคญั และประเภทของงานศิลปหตั ถกรรมของไทย
2. เพื่อให้นิสติ เขา้ ใจและเรียนรูผ้ ลงานศลิ ปหตั ถกรรมไทย

เนือ้ หา
1. ความหมายและประวตั ิความเป็นมาของงานศลิ ปหัตถกรรมไทย
1.1 ความหมายและคำจำกดั ความของงานศิลปหตั ถกรรมไทย
1.2 ประวตั ิความเป็นมาของผลิตภณั ฑง์ านหตั ถกรรมไทย
2. ความสำคัญของงานศิลปหัตถกรรมไทย
2.1 บทบาทและคณุ ค่าความสำคัญของงานศิลปหตั ถกรรมไทย
3. ประเภทของงานศิลปหตั ถกรรมไทย
3.1 การแบง่ ประเภทของงานศิลปหตั ถกรรมไทย
4. ลักษณะเฉพาะของงานศิลปหัตถกรรมไทยพน้ื บ้าน
5. สรุป

การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ 15 นาที
1. อธบิ ายวตั ถุประสงค์และเนื้อหาโดยรวม 60 นาที
2. บรรยายเนื้อหาและหัวข้อต่าง ๆ 150 นาที
3. ศึกษาเรียนรู้ผลงานศลิ ปหัตถกรรมของไทย 15 นาที
4. นิสติ ซักถามปรึกษาเนื้อหาการเรยี น

สื่อการสอน
1. เอกสารประกอบการสอนรายวชิ า การออกแบบศิลปหัตถกรรม
2. ไฟลน์ ำเสนอภาพนิ่งผา่ นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
3. หนงั สอื ตำรา วารสารตา่ ง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั การออกแบบ
ศลิ ปหัตถกรรมไทย
4. ตวั อยา่ งผลติ ภณั ฑ์ ผลงานหตั ถกรรมสำหรับการเรยี นการสอนท่ีเกีย่ วขอ้ ง (ตามความ

9

เหมาะสมของเนอ้ื หาการเรยี น)

การประเมนิ ผล
1. สงั เกตจากพฤติกรรมของผู้เรยี น
2. ประเมินผลจากกิจกรรมในการชน้ั เรียน
3. ประเมินผลจากคำถามท้ายบทท่ี 1
4. ประเมนิ ผลจากแบบฝึกหดั ปฏบิ ัติงานออกแบบท้ายบท

หนังสืออ้างองิ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม. (2543). รูปแบบผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทย. กรุงเทพฯ :
กรมสง่ เสริมอุตสาหกรรม.
กิตติพงษ์ เกียรติวิภาค. (2559). พัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยใช้กรอบแนวคิดการออกแบบหัตถ
อุตสาหกรรม Industrial Crafts Design Framework (Grow - Reborn). วารสารศิลปกรรม
ศาสตรม์ หาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ , 9(2), น. 333-366.
ณัฐพล อัสสะรัตน และ อภิรดี วงศ์กิจรุ่งเรือง. (2559). วิจิตรศิลป์: กลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ของร้านค้า
ปลกี . วารสารจฬุ าลงกรณ์ธุรกิจปรทิ ศั น,์ 39(1), น. 94-118.
ธรี ารตั น์ ทิพย์จรัสเมธา. (2563). การปฏิวตั ิทางวทิ ยาศาสตร์. [เอกสารประกอบการสอน วิชาประวตั ศิ าสตร์
ยโุ รปเรื่องการปฏวิ ัติวทิ ยาศาสตร์] ,จาก
http://www.eledu.ssru.ac.th/teerarat_ti/pluginfile.php/347/course/summary/
เอกสารประกอบการสอนปวศยุโรปเรอื่ งการปฏวิ ัติทางวทิ ยาศาสตร์.pdf
พิสิฐ คลงั กลู , กฤษณ์ วิไลโอฬาร, และ กลั ยกร จันทรสาขา. (2556). ศึกษาวจิ ยั หัตถกรรมพืน้ ถ่นิ : เพอื่ การ
พัฒนาผลิตภัณฑ์ชมุ ชน. จาก
http://narinet.sut.ac.th:8080/xmlui/handle/123456789/169
ภริตพร แก้วแกมเสอื . (2562). การอนุรกั ษ์ สบื สานและพัฒนางานศิลปหตั ถกรรมพืน้ บา้ นเครือ่ ง
จกั สานโดยแนวคิดทางการออกแบบผลิตภณั ฑ์. สารอาศรมวฒั นธรรมวลัยลักษณ,์ 19(2),
น. 68-96.
วิบูลย์ ลี้สุวรรณ. (2553). ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน : เอกลักษณ์เฉพาะถิ่น Folk Handicrafts : Local
Identity. วารสารมหาวิทยาลยั ศิลปากร, 30(1), น. 163-182.
สืบพงศ์ ธรรมชาติ. (2561). “ศิลปหัตถกรรมอาเซียน”. ในเอกสารการประชุมวิชาการระดับชาติและ
นานาชาติ สานสัมพันธ์วัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 3, 2561. นครศรีธรรมราช : อาศรมวัฒนธรรม
วลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยวลัยลกั ษณ์.
อาชัญ นักสอน. (2558). กระบวนการ สร้างงานศิลปหัตถกรรม กับฝ้ายทอมือ “แสงดา บันสิทธิ์”.
วารสารวชิ าการคณะศลิ ปกรรมศาสตร์มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, 10(1), น. 215-234.

10

Petcharanonda, B. , Tantinipankul, W. , & Wongreun, W. , ( 2017) . From Local Handicraft to
Creative Art and Design: A Case Study of Palm Waving in Kay Noi Village, Mae Taeng
District, Chiang Mai Province. Proceedings of 13Th International Conference on Thai
Studies Globalized Thailand Connectivity, Conflict and Conundrums of Thai Studies
15-18 July 2017, Chiang Mai, Thailand.

11

บทที่ 1
ศลิ ปหตั ถกรรมของไทย

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (2543) ได้ให้ข้อมูลว่าวิวัฒนาการของการพัฒนาหัตถกรรมไทย
มีประวัติความเป็นมาในอดีตอันยาวนานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ 7,000 ปีมาแล้ว เห็นได้
จากหลักฐานเครื่องมือหินกะเทาะและขุดพบในบรเิ วณแห่งวัฒนธรรมก่อนประวัตศิ าสตร์บ้านเก่า ตำบลจระเข้
เผือก อำเภอเมือง จงั หวัดกาญจนบุรี หรือเคร่อื งป้ันดินเผาท่ีขุดพบบริเวณบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัด
อุดรธานี มีรูปทรงแปลกตาและลวดลายการเขียนสีวิจิตรพิสดาร จัดเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมล้ำค่าซึ่งนัก
ประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีเชื่อกันว่าดินแดนของประเทศไทยเคยเป็นที่อยู่ของกลุ่มชนที่มีวัฒนธรรมอัน
สูงส่ง ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมในดินแดนแห่งนี้จึงเป็นมรดกสื่อทางวัฒนธรรมไทยที่บรรพบุรุษสร้างไว้เป็นสมบัติ
แห่งความภมู ใิ จถงึ ปจั จบุ ัน

ประเทศไทยมีการผลิตงานหัตถกรรมมายาวนาน งานหัตถกรรมแบบดั้งเดิมทำขึ้นเพื่อประโยชน์
ใช้สอยที่สะทอ้ นให้เหน็ ถงึ วิถชี วี ิต ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ ขนบประเพณแี ละภูมิปัญญาท้องถน่ิ ต่อมาจึงมีการ
พัฒนางานหัตถกรรมให้มีความสวยงามขึ้นในภายหลัง จวบจนปัจจุบันงานศิลปหัตถกรรมไม่ได้เป็นเพียงงาน
ประยุกต์ศิลป์1ที่เป็นแค่เครื่องมือเครื่องใช้ แต่ยังเป็นงานศิลปหัตถกรรมร่วมสมัยและเป็นงานวิจิตรศิลป์2ที่มี
คุณค่าทางศิลปะอย่างมากมาย (วิบูลย์ ลี้สุวรรณ, 2553) การศึกษาเรียนรู้เทคนิคและภูมิปัญญา เข้าใจ
กระบวนการกรรมวิธีการผลิตงานภาพรวมของงานหัตถกรรมตัง้ แต่เริ่มต้นจะทำให้เกิดการสร้างสรรค์ ต่อยอด
สามารถนำองค์ความรู้มาใช้ได้เหมาะสม และทำให้งานศิลปหัตถกรรมของไทยยังคงดำรงอยู่ตลอดไป (กิตติ
พงษ์ เกยี รติวิภาค, 2559)

1. จุดมงุ่ หมายและความหมายของงานศลิ ปหัตถกรรมไทย

1.1 ความหมายและคำจำกัดความของงานศิลปหัตถกรรมไทย
นิยามของคำว่าหัตถกรรม(Craft หรือ Handicraft) มีหลายนยิ าม ดังน้ี
วบิ ูลย์ ลสี้ วุ รรณ (2553) ใหค้ ำจำกดั ความของหตั ถกรรมว่า เป็นส่งิ ท่มี นษุ ย์สรา้ งขึ้นดว้ ยมอื และมี
วตั ถปุ ระสงค์หลกั ดา้ นการใชส้ อย
หัตถกรรม หมายถึง งานประยุกต์ศิลป์หรือศิลปะที่มีประโยชน์ใช้สอยประเภทหนึ่ง ที่ชาวบ้าน
ธรรมดาเป็นผู้สร้างขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองหรือสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน(พิสิฐ คลังกูล,
กฤษณ์ วไิ ลโอฬาร, และ กัลยกร จนั ทรสาขา, 2556)

1 ประยกุ ตศ์ ิลป์ (Applied Art) หรือศิลปะประยุกตเ์ ป็นงานศิลปะท่ีเนน้ สรา้ งขึน้ เพื่อประโยชนใ์ ชส้ อยมากกว่าคุณค่าทางความงามหรือ
ทางสนุ ทรียภาพ ท้งั นีเ้ พ่อื สนองประโยชน์ทางกาย ได้แก่กลุ่มงาน มณั ฑนศิลป์ พาณิชยศิลป์ นิเทศศิลป์ อุตสาหกรรมศิลป์ และ
หตั ถกรรม เป็นตน้ (วบิ ลู ย์ ลส้ี วุ รรณ, 2553 : 164)
2 วิจติ รศลิ ป์ (Fine Art)เป็นศลิ ปะทเ่ี นน้ คณุ คา่ ทางดา้ นความงามมากกว่าประโยชนใ์ ชส้ อย ทงั้ น้เี พอ่ื ตอบสนองประโยชน์ทางใจไดแ้ กง่ าน
ศลิ ปะประเภท ประตมิ ากรรม จติ รกรรม วรรณกรรม สถาปัตยกรรม คตี ศลิ ป์ และนาฏศลิ ป์ และส่อื ผสม (ณฐั พล อสั สะรตั น และ อภริ ดี
วงศก์ จิ รงุ่ เรอื ง, 2559, น.100)

12

หัตถกรรม หมายถึง ผลงานสร้างสรรค์ที่ถูกทำขึ้นด้วยมือ โดยอาศัยวัสดุและเครื่องมือที่หาได้ใน
ท้องถิน่ ซึง่ เดิมงานหตั ถกรรมสร้างขึ้นเพ่ือประโยชน์ใชส้ อยในชวี ิตประจำวัน เชน่ ผา้ ทอมอื ใช้เป็นเคร่ืองนุ่งห่ม
เครื่องปั้นดินเผา ใช้เป็นภาชนะต่างๆ ในครัวเรือน งานไม้แกะสลัก ใช้ทำเครื่องเรือน ฯลฯ(อาชัญ นักสอน,
2558)

ศิลปหัตถกรรม (Art and Craft) หมายถึงงานหัตถกรรมที่มีความงามทางศิลปะ แฝงภูมิปัญญา
และทักษะเฉพาะตัวใช้ฝึมือระดับสูง สะท้อนค่านิยมของชุมชนท้องถ่ิน ความรู้สึกนึกคิด จินตนาการ (วิบูลย์ ล้ี
สวุ รรณ, 2553)

ศลิ ปหตั ถกรรม (Art and Craft) คอื งานหตั ถกรรมท่ีไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือเครื่องใช้เท่าน้ัน แต่มี
คณุ ลักษณะของความงามท่ีแฝงภูมปิ ัญญาและคา่ นยิ มของชุมชน ซึ่งอาจจะเปน็ ได้ทั้งศลิ ปะแบบวิจิตรศิลป์และ
ประยุกตศ์ ิลป์ (สบื พงศ์ ธรรมชาติ, 2561)

1.2 ประวตั คิ วามเปน็ มาของผลติ ภณั ฑง์ านหตั ถกรรมไทย
ประวัติความเป็นมาของพัฒนาการงานหัตถกรรมไทยมีมาอย่างยาวนาน ในประเทศไทยมีการ
ค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีประเภทงานหัตถกรรมตามแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์หลายแห่ง
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (2543) อ้างว่า ส่วนมากพบหลักฐานทางโบราณคดีใน
ประเทศไทยเป็นเคร่อื งมือหินกะเทาะทที่ ำจากหินแมน่ ้ำที่ ตำบลจระเข้ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ตอ่ มาในยุคหินกลางหรือช่วงเวลา 10,000-8,350 ปีไดค้ น้ พบเคร่ืองมือหนิ และเครื่องป้ันดินเผาท่ี
มผี วิ เกล้ยี งและมลี ายเชอื กทาบ มกี ารป้นั แบบงา่ ย ๆ มีรูปทรงและลวดลายทไ่ี มป่ ระณีตมากนัก สว่ นมากพบใน
จงั หวัดแมฮ่ อ่ งสอน และกาญจนบุรี
วบิ ลู ย์ ลีส้ วุ รรณ (2553) อ้างว่า ในยุคหินใหมใ่ นชว่ งเวลา 3,900-2,000ปีมนุษยร์ ้จู กั การเพาะปลูก
เลี้ยงสัตว์ ทำเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องจักสานที่มีความประณีตสวยงามมากขึ้น ในประเทศไทยส่วนใหญ่
ค้นพบในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ ขอนแก่น ราชบุรี ลพบุรี และกาญจนบุรี เครื่องปั้นดินเผาที่พบมีรูปทรง
ลวดลายที่แปลกตา มีการเขียนสที ่ีแปลกพิสดารพบทตี่ ำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จงั หวัดอุดรธานี มนุษย์
ยคุ หนิ ใหม่มพี ฒั นาการทางสติปัญญาจากหลักฐานที่พบซากเคร่ืองจักสานไม้ไผล่ ายขัดท่ีมอี ายุเกา่ กว่าที่พบท่ีอื่น
ในโลก ร้จู กั สรา้ งบ้านและประดิษฐส์ ง่ิ สวยงามประดับร่างกายแสดงว่าในยุคน้ีมีการพัฒนาจากงานหัตถกรรมให้
เป็นศิลปหัตถกรรมแล้ว โดยใช้องค์ประกอบด้านสุนทรียภาพทางความรู้สึกมาสร้างงานกนั มนุษย์ในสมัยก่อน
ประวัติศาสตร์มีการเรียนรู้คุณสมบัติพิเศษของวัตถุดิบตามธรรมชาติเช่น แร่ทองแดง เหล็ก ทองเหลืองมาทำ
เป็นเครื่องมือเครื่องใช้และมีการทำถ่านที่ใช้สำหรบั วาดรูปบนผนังถ้ำจากการนำไม้หรือกระดูกสัตว์มาเผาและ
บดให้เป็นผง ผสมยางไม้ ไขสัตว์ และการทำสีวาดรูปที่ผลิตมาจากดนิ แดง ดินเหลือง มาบดเป็นผงผสมยางไม้
กับน้ำผึ้ง ซึ่งในประเทศไทยพบพบภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์หลายแห่ง ได้แก่ ภาพเขียนบนหน้าผาปู
ปลาร้า อำเภอทบั ทนั ลานสัก บ้านไร่ จงั หวดั อทุ ัยธานี ภาพเขียนบนหลบื ผาใกล้นำ้ ทะเล จังหวดั พังงาเป็นต้น

13

ภาพประกอบ 1 ภาพแสดงเครอื่ งปั้นดนิ เผาทีบ่ ้านเกา่ จ.กาญจนบุรี
ทม่ี า : Billgossman, (2018). เครอื่ งปน้ั ดินเผา บา้ นเก่า กาญจนบุรี ประวัติยาวนานถงึ ยุคหนิ . สบื ค้นจาก

HTTPS://GOSSMANPOTTERY.COM/BAN-GAO-POTTERY/

ในสมัยประวัติศาสตร์เมื่อประมาณ 1,000ปีที่แล้ว มนุษย์เริ่มมีความสามารถในการทำงาน
ศิลปหัตถกรรมหลายชนิดมากขึ้น เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องจักสาน การถักทอ การหล่อหลอมโลหะ เช่น
งานหตั ถกรรมโลหะท่บี า้ นปะอาว ตำบลหนองขอน อำเภอเมอื ง จังหวดั อบุ ลราชธานี

จากประวัติศาสตร์ความเป็นมาของงานหัตถกรรมตั้งแต่ยุคหินทั้งหมดพบว่า งานหัตถกรรม
ประเภทจักสานเป็นประเภทงานหัตถกรรมที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุด ในประเทศไทยพบซากเครื่องจักสานไม้ไผ่
ลายขัดวางไว้ใกล้กับโครงกระดูกยุคหินใหม่ที่ถ้ำแห่งหนึ่งในอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีอายุ
ประมาณ 4,000 ปีเก่ากว่าที่พบในทวีปแอฟริกาและอเมริกา หัตถกรรมจักสานยังเป็นต้นแบบของหัตถกรรม
การทอผ้า ท่ีซึ่งมีกรรมวิธีการทอเหมือนกับการสาน แค่เปลี่ยนจากเส้นตอกมาเป็นเส้นใยไหมหรือเส้นด้าย
แสดงว่าการสานน้ันยงั เป็นต้นแบบของการถักทออกี ด้วย

ภาพประกอบ 2 ภาพแสดงหลกั ฐานวัฒนธรรมไม้ไผแ่ ละการจกั สานทเ่ี ก่าแกแ่ ละสมบรู ณ์ทสี่ ดุ ท่ปี ระตผู า จ.ลำปาง
ท่ีมา : วรณัย พงศาชลากร, (2550). จักสานไมไ้ ผ่ 3,000 ปี ทอ่ งเท่ียวโบราณคดที ่.ี ..ประตผู า . สืบคน้ จาก
HTTP://OKNATION.NATIONTV.TV/BLOG/VORANAI/2007/08/10/ENTRY-4

กติ ตพิ งษ์ เกียรติวิภาค (2559) กล่าวว่างานศลิ ปหัตถกรรมไทยนน้ั ได้รบั การสบื ทอดมาต้ังแต่สมัย
อาณาจักรสุโขทัยพ.ศ. 1792 อาณาจักรอยุธยา จนถึงยุครัตนโกสินทร์ โดยมีแกนนำทางวัฒนธรรมที่สำคัญคือ
ชาติ ศาสนาพทุ ธ และพระมหากษัตรยิ ์ ทำใหผ้ ลงานศิลปหตั ถกรรมไทยนน้ั ถูกแบง่ ออกไดเ้ ปน็ หลายระดับตั้งแต่

14

ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน จนถึงศิลปหัตถกรรมชั้นสูง Petcharanonda, Tantinipankul and Wongreun
(2017) อ้างว่างานศิลปหัตถกรรมของไทยในยุคต้นตั้งแต่สมัยสุโขทัยมีการหยิบยืมและดัดแปลงผสมผสานมา
จากหลากหลายวฒั นธรรมโดยเฉพาะวฒั นธรรมชาม เขมรและจีน

ทางฝั่งทวีปยุโรปในช่วงค.ศ.1880-1900 ในประเทศอังกฤษได้เกิดขบวนการศิลปหัตถกรรม
(Arts and Crafts Movement) ซึง่ เป็นกลมุ่ ท่เี กดิ จากการรวมตวั กันของศลิ ปิน นกั ออกแบบ นักวชิ าการศิลปะ
กลุ่มหนึ่งที่กังวลว่าศิลปหัตถกรรมที่เป็นงานฝีมือของช่างดั้งเดิมจะสูญหายไปเพราะผลกระทบจากการปฏิวัติ
อุตสาหกรรม 3 จึงได้ร่วมกันรณรงค์ให้เกิดการอนุรักษ์ฝีมือช่างของแต่ละท้องถิ่นเอาไว้ แนวคิดน้ีได้แพร่ไปยัง
ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ศิลปะและวัฒนธรรมตะวันตกกำลัง
หลั่งไหลเขา้ ประเทศมากมายส่งผลกระทบต่อศิลปหัตถกรรมประจำชาติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล
ที่ 5 จึงโปรดเกล้าฯ ต้ังสโมสรชา่ งในปีพ.ศ.2451 และยกฐานะเป็นโรงเรยี นหัตถกรรมราชบูรณะในสมัยรัชกาล
ที่ 6 และทรงพระราชทานชื่อใหม่ว่า โรงเรียนเพาะช่าง เพื่อให้เป็นโรงเรียนสำหรับฝึกหัดช่างหัตถกรรมของ
สยามและเป็นขบวนการเคลื่อนไหวด้านศิลปหัตถกรรมของประเทศอีกด้วย (วิบูลย์ ลี้สุวรรณ, 2553) ในสมัย
รัชกาลที่ 5 ประเทศทางยุโรปส่วนใหญ่เข้ามาล่าอาณานิคม งานหัตถกรรมไทยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งท่ีได้รับการ
นำมาแสดงว่าเป็น สัญลักษณ์ของประเทศที่มีอารยธรรมในการต่อสู้กับลัทธิล่าอาณานิคมในขณะนั้น
(Petcharanonda, Tantinipankul & Wongreun, 2017)

ในช่วงปีค.ศ.1960 ถึงค.ศ. 1970 ภายหลังสงครามเวียดนาม งานหัตถกรรมของไทยยังไดร้ บั การ
ฟื้นฟูและส่งเสริมให้เป็นเอกลักษณ์ของชาติตามแผนและนโยบายของรัฐบาลในยุคนั้น เมื่อย่างเข้าสู่ปีค.ศ.
2000 มีการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานที่นำประเทศไทยเปลี่ยนจากประเทศเกษตรกรรมเป็น
ประเทศอุตสาหกรรม สนิ คา้ งานหัตถกรรมไทยต่างไดร้ ับผลกระทบจากยอดขายตกต่ำ และขาดแคลนช่างฝีมือ
ในการผลติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมวฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทยมากมาย เม่ือ
พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ ทรงเห็นลักษณะของภูมิปัญญาในงาน
หัตถกรรมในแต่ละท้องถิ่น และทรงตระหนักว่าภูมิปัญญานี้เป็นมรดกของชาติที่คนไทยต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้
เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง
ส่งเสริมและอนุรักษ์งานหัตถกรรมพื้นบ้านมากมายดว้ ยการจัดตั้งมูลนิธิโครงการศิลปาชีพ เพื่อส่งเสริม รับซื้อ
ผลงานหัตถกรรมไทย ทำให้ประชาชนมีอาชีพและสร้างรายไดจ้ ากการขายสินค้างานหตั ถกรรมอย่างกว้างขวาง
จนมาถงึ ปัจจุบนั

ปัจจบุ ันความก้าวหน้าของอตุ สาหกรรมและเทคโนโลยีต่างๆในโลกมีมากขึ้น ผลติ ภณั ฑส์ ินค้างาน
หัตถกรรมแบบดั้งเดิมเป็นที่ต้องการน้อยลง เพราะอาจไม่เหมาะสมกับการใช้งานในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป งาน

3 การปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรม (Industrial Revolution) หมายถงึ กระบวนการเปลย่ี นแปลงในระบบการผลติ จากเดมิ ระบบการผลติ ทม่ี กั ทา
กนั ภายในครอบควั มพี ่อคา้ คนกลางเป็นนายทุน การผลติ สนิ คา้ ใชแ้ รงงานคน แรงงานสตั วร์ วมทงั้ พลงั งานจากธรรมชาตดิ ว้ ยเคร่อื งมอื
แบบง่ายๆ เปลย่ี นมาเป็นการใชเ้ คร่อื งจกั รกลแทนทาใหม้ กี าลงั ผลติ สูง จนเกดิ เป็นการผลติ ในระบบโรงงาน (Factory System) การ
ปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรมครงั้ แรกเกดิ ในประเทศองั กฤษในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 18 และได้แพร่ขยายไปยงั ประเทศตะวนั ตกอ่นื ๆทวั ่ โลก การ
ปฏิวตั ิอุตสาหกรรมนับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ท่มี ีผลกระทบส่งผลต่อการเมอื งการปกครอง สงั คม เศรษฐกิจ และวฒั นธรรมของ
มนุษยชาตทิ วั ่ โลก (ธรี ารตั น์ ทพิ ยจ์ รสั เมธา, 2563)

15

ศิลปหัตถกรรมแบบดั้งเดิมควรจะตอบสนองต่อความต้องการใช้สอยของมนุษย์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ด้วย
การพฒั นาคณุ ภาพและความงามให้ได้มาตรฐานแบบสากล แนวทางการออกแบบหัตถอุตสากรรม (Industrial
Craft Design) จงึ เกดิ ข้นึ เพือ่ พฒั นาสินคา้ งานหัตถกรรมไทยสู่การผลิตเชิงอตุ สาหกรรม โดยมีรปู แบบทีท่ ันสมัย
เหมาะกับวถิ ชี วี ิตรว่ มสมยั มากข้ึน (กติ ตพิ งษ์ เกียรติวภิ าค, 2559)

2. ความสำคัญของงานศิลปหตั ถกรรมไทย

2.1 บทบาทและคุณคา่ ความสำคัญของงานศลิ ปหตั ถกรรมไทย
ภรติ พร แก้วแกมเสือ (2562) กล่าวว่า คุณค่าของงานศลิ ปหตั ถกรรมไทยสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
1. คุณคา่ ทีไ่ ดจ้ ากประโยชนใ์ ช้สอย (Functional Value) ท่ใี ชใ้ นการดำรงชวี ติ ในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น
เพื่อใช้ในการ อุปโภคบริโภค ใช้ในการประกอบอาชีพและคุณค่าทางจิตใจ เช่น เครื่องใช้ ที่ใช้ในพิธีกรรมทาง
ศาสนา ความเช่ือและขนบประเพณี
2. คุณค่าทางความงามและศิลปะ (Aesthetic Value & Artistic Value) ท่ีเกิดจากการเลือกใช้
รปู ทรง โครงสรา้ ง และลวดลาย ความประณีตละเอียดอ่อน การแสดงออก ทางอารมณ์และศลิ ปะประกอบกัน
เป็นรูปทรง โครงสร้างและลวดลายทีเ่ หมาะสม ลงตัวมีความงามทีเ่ รยี บง่าย
3. คุณค่าในฐานะที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาของชาวบ้านใน
ท้องถิ่นต่าง ๆ ในการคัดสรรวัตถุดิบ การนำมาดัดแปลงแปรรูปเป็นวัสดุเพื่อใช้ ทำเครื่องจักสานด้วยวิธีงา่ ย ๆ
แต่มรี ปู แบบและประโยชน์ใช้สอยที่สมบูรณ์
คณุ คา่ ของศิลปหตั ถกรรมไทยพนื้ บา้ นมดี งั น้ี
1. คุณค่าในการแสดงออก ซึ่งงานศิลปหัตถกรรมไทยพื้นบ้านมีแนวคิดในการออกแบบอย่าง
ตรงไปตรงมาเน้นด้านประโยชน์ใช้สอย จึงมีรูปแบบที่เรียบง่ายไม่เน้นความสวยงามตามหลักสุนทรียศาสตร์
ประชาชนสามารถรบั รู้ไดง้ ่าย
2. คุณค่าของลักษณะเฉพาะถิ่น ที่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยม ความเชื่อ วิถีชีวิต ขนบธรรมเนีบม
ประเพณี และรสนิยมของแตล่ ะท้องถิ่นท่ีแตกต่างกันแมจ้ ะใช้กรรมวิธกี ารผลิตแบบเดียวกนั
3. คุณค่าทางภูมิปัญญา การเลือกวตั ถุดิบในท้องถิ่นมาใช้อย่างเหมาะสมที่สะทอ้ นถึงความฉลาด
ของช่าง เชน่ การทำหมาจากเพ่อื ใช้ตักน้ำของภาคใต้ท่ีเกิดจากการนำใบจากอ่อนมาสอดเรยี งเขา้ ดว้ ยกัน

3. ประเภทของงานศิลปหตั ถกรรมไทย

3.1 การแบ่งประเภทของงานศลิ ปหัตถกรรมไทย
วิบูลย์ ลส้ี วุ รรณ (2553) อ้างวา่ ศิลปหัตถกรรมไทยสามารถแบ่งได้เปน็ 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่
1. ศิลปหัตถกรรมของชนชั้นสูง หรือเรียกว่า ศิลปะราชสำนัก (Court Art) หรือบางทีเรียกว่า
ประณีตศิลป์ (Minor Art)
2. ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน / ศิลปะชาวบ้าน / ศิลปะพื้นบ้าน (Folk Art) / ศิลปะพื้นถิ่น
(Vernacular Art) ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านมาจากคำว่า ศิลปะพื้นบ้าน + หัตถกรรมพื้นบ้าน หมายถึงศิลปะ
ประเพณีพื้นฐานของชาวบ้านทั่วไปโดยไม่ปรากฎตัวผู้สร้างงาน และเน้นที่ประโยชน์ใช้สอยเป็นหลักมากกว่า

16

ความสวยงาม ยังแสดงถึงภูมิปัญญาที่แฝงด้วยปรัชญาในการดำเนินชีวิตที่เน้นความสมถะเรียบง่ายและยังมี
ความเหมาะสมต่อลักษณะภูมิประเทศและภูมิอากาศอีกดว้ ย (ภริตพร แก้วแกมเสือ, 2562)

ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านเป็นงานที่สร้างขึ้นตามความพอใจของผู้สร้างงาน หรือเพื่อสนองตอบต่อ
ประโยชน์ใช้สอยหรือความต้องการของชุมชนในท้องถิ่นสะท้อนถึงกรอบประเพณี ไม่ได้ให้ความสำคัญกับ
ผู้สร้างงาน ซึ่งผู้สร้างงานส่วนใหญ่ทำงานจากความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ได้รับการฝึกฝนสืบต่อกันมา
มากกว่าการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านเป็นสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของ
ประชาชนทวั่ ไปและเป็นส่ิงทแี่ สดงถึงรากเหงา้ ของศลิ ปะประจำชาติ

การแบง่ ประเภทของศลิ ปหัตถกรรมพืน้ บา้ นสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ดงั น้ี
1. แบ่งตามประเภทของวตั ถุดบิ ในการผลติ ดงั นี้

1.1 เครือ่ งหนงั เช่น หนงั วัว หนงั ควาย หนังงู
1.2 เครื่องปน้ั ดนิ เผาประเภทตา่ ง ๆ ทงั้ เผาดิบ เผาเคลอื บ
1.3 เคร่ืองไม้ เป็นเครอ่ื งใชไ้ มส้ อยทำดว้ ยไม้เนอ้ื ออ่ น และไมเ้ นื้อแขง็
1.4 เครือ่ งไมไ้ ผ่และหวาย สว่ นใหญ่เปน็ เครอ่ื งจกั สาน
1.5 เครื่องรัก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ยางรักมาทาทับหรือเคลือบเพื่อรักษาเนื้อไม้ กระดาษ
ผ้า กระเบอื้ งหรือโลหะ
1.6 เครื่องหล่อ เป็นการจำลองรูปพรรณลวดลายหรือภาชนะต่าง ๆ จากรูปหุ่นที่สร้าง
เป็น แบบ ซงึ่ ทำดว้ ยโลหะ ปนู หรือทราย
1.7 เครื่องทอ-ย้อม จากเสน้ ใยธรรมชาติหรือใยสังเคราะหม์ าเป็นวัสดุ ใยธรรมชาติ ได้แก่
ฝา้ ย ปอ ป่าน ไหม ใยสังเคราะห์ ได้แก่ เรยอน ไนลอ่ น ใยแก้ว ผลผลิตจากการทอย้อม เช่น เส้อื ผ้า กระเปา๋
1.8 เครื่องโลหะ เป็นการใช้โลหะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิต เช่น วิธีผลิตแบบ
โลหะแผ่น โลหะรูปพรรณ เครื่องถม โลหะที่นำมาใช้มีหลายชนิด ได้แก่ เหล็ก สังกะสี ดีบุก ทองแดง
อะลมู เิ นยี ม
2. แบ่งตามลักษณะการใชส้ อย โดยเน้นท่ปี ระโยชน์การใช้สอยเป็นหลกั ดงั น้ี
2.1 หัตถกรรมทีใ่ ช้เป็นพาหนะทางบกและทางน้ำ เช่น เกวยี น เรอื เป็นต้น
2.2 หัตถกรรมที่ใช้ในการทำไร่ ทำนา เช่น ไถ คราด แอก กระออม กระพร้อมใส่ข้าว
กระบงุ ตะกร้า เป็นต้น
2.3 หัตถกรรมท่ีใช้เปน็ เคร่ืองจบั สัตว์ เช่น แห อวน ลอบ ไซ
2.4 หัตถกรรมที่ใช้สอยประจำวัน เช่น เครื่องถ้วยชาม เครื่องทองเหลือง เชี่ยนหมาก
สำรบั ขา้ ว เปน็ ต้น
2.5 หัตถกรรมที่เกี่ยวกับการพักผ่อนหย่อนใจ ได้แก่ เครื่องดนตรี เช่น ปี่ กลอง ซอ ทับ
เปน็ ต้น
2.6 หัตถกรรมที่เกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนาและการศึกษาเล่าเรียน เช่น ภาพพระบฏ
ภาพชาดก สมดุ ข่อย บุษบกพนมพระ บษุ บกต้งั อฐั ผิ ู้ตาย เป็นต้น

17

2.7 หัตถกรรมทีเ่ ป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน เช่น การทอผ้า ทอเสือ่ ทำเครอ่ื งปนั้ ดนิ เผา
เป็นต้น

3. แบง่ ตามประเภทของกรรมวิธใี นการผลติ ไดแ้ ก่
3.1 ภาพเขียน ได้แก่ ภาพวาดระบายสีในโบสถ์ วิหาร หอไตร ศาสนสถาน อาคาร

บา้ นเรอื น ยานพาหนะ ฯลฯ
3.2 งานปั้น หล่อ และแกะสลัก ได้แก่ งานปั้นดินเหนียว ปูน ไม้แกะสลัก รูปหล่อโลหะ

พระพทุ ธรูป รปู เคารพ และลวดลายตกแต่งตา่ ง ๆ
3.3 อาคารและสิ่งก่อสร้าง ได้แก่ การสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ศาสนสถาน

สถาปัตยกรรมต่างๆ
3.4 เครื่องปั้นดินเผา ได้แก่ งานปั้นดินเผาที่เป็นสีอิฐ หรือที่ปั้นด้วยมอื หรือปั้นด้วยแปน้

หมนุ ทผี่ ่านการเผาโดยใชเ้ ตาเผาแบบต่าง ๆ
3.5 เครื่องจักสาน ได้แก่ เครื่องจักสานไม้ไผ่ที่สามารถพบเห็นได้ในทุกภาคของประเทศ

ไทย และเครือ่ งจกั สานทใ่ี ชว้ ัตถุดบิ อนื่ ๆ ในการผลติ
3.6 เครื่องถักทอ ได้แก่ งานทอผ้าและการถักทอประเภทต่าง ๆ ซึ่งแต่ละภาคแต่ละ

ทอ้ งถนิ่ จะมวี ิธีการทอท่ีเป็นเอกลักษณแ์ ตกต่างกันไป
3.7 เครื่องรัก หรือเครื่องเขิน ได้แก่ เครื่องใช้ที่นำเครื่องจักสานหรือเครื่องไม้มาเคลือบ

ดว้ ยยางรัก
3.8 เครื่องโลหะ ได้แก่ งานศิลปหัตถกรรมที่ผลิตด้วยโลหะชนิดต่างๆ เช่น เหล็ก

ทองแดง ทองคำ เงนิ สมั รดิ
3.9 เคร่อื งหนัง ไดแ้ ก่ งานศลิ ปหตั ถกรรมที่แปรรูปหนงั สัตว์มาเป็นเครอื่ งมือเคร่ืองใช้หรือ

อุปกรณส์ ว่ นประกอบในการแสดงพื้นบา้ นของแต่ละท้องถนิ่
3.10 เครื่องไม้ ได้แก่ งานศิลปหัตถกรรมที่นำไม้มาแปรรูปเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ของ

ตกแต่ง เคร่อื งบูชา เกวยี น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรอื นตา่ ง ๆ
3.11 ประเภทเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ได้แก่ งานศิลปหัตถกรรมอื่นๆที่นอกเหนือไปจาก 10 ข้อ

ขา้ งตน้ เชน่ งานแกะสลกั เครอ่ื งสด งานแทงหยวก งานใบตอง งานกระดาษ ฯลฯ
ซึ่งในการเรียนวิชาการออกแบบศิลปกรรม วิชานี้นั้น การเรียนการสอนส่วนใหญ่จะเน้นและให้

น้ำหนักไปในด้านงานศิลปหัตถกรรมไทยพื้นบ้านมากกว่าศิลปหัตถกรรมของชนชั้นสูง เนื่องจากผลงาน
ศิลปหัตถกรรมไทยพื้นบ้านนั้นมีข้อมูลปรากฎในทั่วทุกภาคของประเทศไทย สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย มี
ข้อมูลในการศึกษาค้นคว้ามากกว่าและมีความหลากหลายในเรื่องของการออกแบบ การใช้วัสดุและกรรมวิธี
การผลติ ท่เี หมาะสมต่อการเรยี นรู้สำหรับนิสติ เอกการออกแบบผลิตภัณฑ์ได้เปน็ อยา่ งดี

18

4. ลักษณะเฉพาะของงานศิลปหตั ถกรรมไทยพนื้ บา้ น

วิบูลย์ ลี้สุวรรณ (2553) สรุปว่า ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านสะท้อนถึงค่านิยม วิถีชีวิต
ขนบธรรมเนียมประเพณี และความเชื่อของท้องถิ่น ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการผลิตที่แตกต่างจากงานศิลปะ
ประเภทอ่ืน ๆ ทำใหศ้ ิลปหัตถกรรมพืน้ บา้ นมีลกั ษณะเฉพาะตวั ท่โี ดดเด่น ดังนี้

1. ศิลปหัตถกรรมพน้ื บา้ นเป็นการผลติ เพื่อการใชส้ อย หรือเพอ่ื การแลกเปล่ยี นกบั ปัจจัยในการ
ดำรงชพี ที่จำเปน็ อน่ื ๆ

2. ศลิ ปหตั ถกรรมพื้นบ้านส่วนมากทำด้วยมอื และใช้เครื่องมือพ้ืนบา้ นในการผลิต สง่ ผลทำใหไ้ ม่
สามารถผลติ จำนวนมากได้

3. ศลิ ปหัตถกรรมพน้ื บ้านมีกระบวนการผลติ และกรรมวธิ ีการผลติ สืบทอดกันมาจากบรรพบรุ ุษ
4. ศิลปหตั ถกรรมพื้นบ้านใชว้ ัสดุท่ีมอี ยใู่ นทอ้ งถ่นิ ทำใหม้ รี ูปแบบและลกั ษณะเฉพาะถนิ่ ที่
แตกตา่ งกนั ไป
5. ศิลปหัตถกรรมพนื้ บา้ นมลี ักษณะเฉพาะถนิ่ ท่เี กิดจากองคป์ ระกอบสำคัญในการสะท้อนวิถี
ชีวิตชุมชน เช่น รปู ทรงของกระติบ และเกิดจากขนบธรรมเนยี มประเพณีคตคิ วามเชื่อของทอ้ งถิน่
6. ศลิ ปหตั ถกรรมพน้ื บา้ นสร้างข้นึ ตามความต้องการของชุมชนที่มลี กั ษณะวัฒนธรรมร่วมกนั
7. ศลิ ปหตั ถกรรมพน้ื บา้ นมีความเรยี บงา่ ยแสดงภาพลักษณ์อยา่ งซ่ือตรง เนน้ ประโยชนใ์ ช้สอยท่ี
สอดคล้องกบั วถิ ชี วี ิตความเชื่อ ขนบธรรมเนยี มประเพณี
8. ศลิ ปหตั ถกรรมพน้ื บ้านส่วนมากสรา้ งโดยช่างนิรนามและผใู้ ชง้ านหตั ถกรรม โดยไมส่ นใจว่า
ใครเปน็ ผู้ผลิต
ซงึ่ ต้นเหตุและปัจจยั ทีท่ ำให้เกิดลกั ษณะเฉพาะของศิลปหตั ถกรรมพ้ืนบ้าน มดี ังนี้
1. เกิดจากความเช่ือ ขนบประเพณี และวิถชี วี ติ ชุมชน
2. เกิดจากลกั ษณะการใช้สอยเฉพาะถนิ่ เปน็ รปู แบบทชี่ ุมชนต้องการ
3. เกิดจากการใชว้ ตั ถดุ บิ ในท้องถิ่นที่มอี ยู่ในแต่ละพ้ืนท่ี
4. เกิดจากประเพณี และคตินิยมของชุมชน

ภาพประกอบ 3 ภาพแสดงเคร่อื งจกั สาน จ.กาญจนบรุ ี
ทีม่ า : ภมู ิปัญญาไทย. สบื คน้ จาก HTTP://U2T.BRU.AC.TH/IDTECH/ID10

19

งานศิลปหัตถกรรมในประเทศไทยมีมากมายทั่วทุกภาค ในแต่ละภาคมีลักษณะ รูปแบบ วัสดุ
ตลอดจนกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างกันไป ในบทต่อไปจะกล่าวถึงงานศิลปหัตถกรรมไทยในแต่ละภาค ซึ่งใน
เอกสารประกอบการสอนฉบับนี้ จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ซึ่งทำให้การศึกษาเกี่ยวกับงานศิลปหัตถกรรมของไทยนั้นมีความ
ละเอียดและลึกมากยิ่งขน้ึ

5. สรปุ

ศิลปหัตถกรรม หมายรวมถึงงานหัตถกรรมต่าง ๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยมือหรือการใช้เครื่องมือ
อย่างง่าย ๆ มีความงามทางศิลปะ แฝงภูมิปัญญา ค่านิยมและทักษะเฉพาะตัว ใช้ฝึมือ สะท้อนค่านิยมของ
ชมุ ชนท้องถนิ่ ความรสู้ กึ นกึ คิด จินตนาการ ทง้ั น้ีเพอื่ เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองหรือดา้ นประโยชน์

งานศิลปหัตถกรรมไทยมีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่การพบหลักฐานทางโบราณคดีในยุค
ก่อนประวัติศาสตร์จวบจนถึงปัจจุบัน งานศิลปหัตถกรรมไทยแบบดั้งเดิมถูกปรับเปลี่ยนประยุกต์ให้เข้ากับวิถี
ชีวิตแบบสมัยใหมก่ ลายเป็นงานหัตถอุตสาหกรรมร่วมสมัยที่มกี ารผสมผสานการผลติ ในระบบอุตสาหกรรมทำ
ใหผ้ ลิตภณั ฑ์หตั ถกรรมทไี่ ด้มคี ณุ ภาพและความงามตามมาตรฐานสากล

งานศิลปหัตถกรรมไทยมีคุณค่าและความสำคัญมากมาย ได้แก่ คุณค่าที่ได้จากประโยชน์ใช้สอย
คุณค่าทางความงามและศิลปะ คุณค่าในฐานะที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ คุณค่าของลักษณะเฉพาะถ่ิน
ที่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยม ความเชื่อ วิถีชีวิต คุณค่าทางภูมิปัญญาในการเลือกวัตถุดิบในท้องถิ่นมาใช้อย่าง
เหมาะสม

ประเภทของงานศิลปหัตถกรรมไทยแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ได้แก่ ศิลปหัตถกรรมของชน
ชั้นสูงและศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ซึ่งประเภทของศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท
ใหญ่ ได้แก่ แบ่งตามประเภทของวัตถุดิบในการผลิต แบ่งตามลักษณะการใช้สอย และแบ่งตามประเภทของ
กรรมวิธีในการผลิต ซึ่งในการเรียนของเอกการออกแบบผลิตภัณฑ์ในวิชาการออกแบบศิลปกรรม วิชานี้นั้น
การเรยี นการสอนสว่ นใหญจ่ ะเนน้ และให้น้ำหนักไปในด้านงานศิลปหัตถกรรมไทยพืน้ บ้านและเนน้ ตามการแบ่ง
ตามประเภทของกรรมวิธีในการผลิตมากกกว่า เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้ เข้าใจในวัสดุ ลักษณะรูปแบบการผลิต
และขน้ั ตอนการสรา้ งสรรค์ผลงานได้มากขนึ้

ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านมีลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นหลายประการ ลักษณะที่โดดเด่นที่สำคัญ
คือ ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านเปน็ การผลิตเพื่อการใช้สอย ซึ่งส่วนมากทำด้วยมือและใช้เครื่องมอื พื้นบ้านในการ
ผลิต มีการใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น ทำให้มีรูปแบบและลักษณะเฉพาะถิ่นที่แตกต่างกันไป มีความเรียบง่าย
แสดงความซือ่ ตรง

20

6. คำถามทา้ ยบท

1. ใหน้ สิ ติ อธบิ ายความหมายของคำวา่ “ศิลปหัตถกรรม” ตามความเขา้ ใจของตนเอง
2. ให้นิสิตเลือกคุณค่าของศิลปหัตถกรรมไทยพื้นบ้านข้อที่ประทับใจมากที่สุด พร้อมอธิบาย
เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
3. ให้นสิ ิตหาข้อมลู เก่ยี วกับผลิตภัณฑ์หตั ถกรรมพ้นื บ้านไทยตามการแบง่ ประเภทของกรรมวิธีใน
การผลิตในแต่ละข้อ ข้อละ 5 ผลิตภัณฑ์ พร้อมหาภาพประกอบและอธิบายข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ช่ือ
ผลิตภณั ฑ์ แหล่งกำเนิด วสั ดุท่ใี ช้ และขั้นตอนกรรมวธิ ีการผลิต เป็นต้น

7. แบบฝึกหดั ปฏิบัติงานออกแบบท้ายบท

1. ให้นิสิตออกแบบผลิตภัณฑ์ 1 ชิ้น โดยใช้แรงบันดาลใจจากผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นบ้านไทย
ตามทีไ่ ด้หาขอ้ มลู มาในการทำคำถามท้ายบท

21

บทท่ี 2
ศิลปหตั ถกรรมไทยภาคเหนอื

แผนการสอนคร้ังท่ี 3 - 4

หวั ขอ้ ศลิ ปหตั ถกรรมของไทยภาคเหนอื
ผู้สอน อาจารย์ ดร.พรนารี ชยั ดิเรก
เวลา 480 นาที

วตั ถุประสงค์
ครง้ั ที่ 3
1. เพื่อใหน้ สิ ิตเข้าใจความหมาย ความสำคญั และประเภทของงานศิลปหตั ถกรรมของไทย
ภาคเหนือ

2. เพื่อให้นิสติ เขา้ ใจและเรียนร้ผู ลงานศิลปหตั ถกรรมไทยภาคเหนอื
ครง้ั ที่ 4
1. เพ่ือใหน้ ิสติ เข้าใจตวั อยา่ งผลงานศิลปหัตถกรรมไทยภาคเหนือ
2. เพื่อให้นสิ ติ เรยี นรู้จากผลงานการออกแบบผลติ ภัณฑ์ศลิ ปหัตถกรรมไทยภาคเหนือ

เนื้อหา
คร้ังที่ 3
1. กำเนดิ งานหตั ถกรรมไทยภาคเหนอื
1.1 ปจั จัยทีเ่ กี่ยวขอ้ งในการผลติ ผลงานศลิ ปหัตถกรรมไทยภาคเหนือ
2. ภูมิปัญญาในการสรา้ งสรรค์งาน
2.1 การสรา้ งสรรคผ์ ลงานจากภมู ปิ ญั ญา
ครั้งท่ี 4
1. แนวทางการศึกษาผลงานศิลปหตั ถกรรมไทยภาคเหนือ
1.1 แนวทางการศกึ ษาผลงานศิลปหัตถกรรมไทยภาคเหนอื
1.2 ตัวอย่างการศกึ ษาผลงานการออกแบบผลติ ภณั ฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยภาคเหนือ
2. สรปุ ศลิ ปหัตถกรรมไทยภาคเหนอื

การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ 15 นาที
ครงั้ ท่ี 3 60 นาที
1. อธบิ ายวตั ถปุ ระสงค์และเน้ือหาโดยรวม 150 นาที
2. บรรยายเนื้อหาและหวั ข้อต่าง ๆ 15 นาที
3. ศึกษาเรียนรู้ผลงานศลิ ปหัตถกรรมไทยภาคเหนือ
4. นิสติ ซกั ถามปรึกษาเน้ือหาการเรยี น

27

ครั้งท่ี 4 15 นาที
1. อธิบายวตั ถุประสงค์และเน้ือหาโดยรวม 60 นาที
2. บรรยายเนอ้ื หาและหัวข้อต่าง ๆ 150 นาที
3. ศึกษาเรียนรู้ผลงานการออกแบบผลติ ภัณฑ์
15 นาที
ศิลปหัตถกรรมไทยภาคเหนือ
4. นสิ ิตซกั ถามปรึกษาเนื้อหาการเรยี น

สื่อการสอน
คร้ังที่ 3
1. เอกสารประกอบการสอนรายวิชา การออกแบบศิลปหัตถกรรม
2. ไฟลน์ ำเสนอภาพนิ่งผ่านโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
3. หนังสือ ตำรา วารสารต่าง ๆ ทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศ ทเี่ กี่ยวข้องกบั การออกแบบ
ศิลปหัตถกรรมไทย
4. ตัวอย่างผลติ ภณั ฑ์ ผลงานหัตถกรรมสำหรับการเรียนการสอนทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
(ตามความเหมาะสมของเนอ้ื หาการเรียน)
ครงั้ ท่ี 4
1. เอกสารประกอบการสอนรายวชิ า การออกแบบศลิ ปหัตถกรรม
2. ไฟลน์ ำเสนอภาพน่งิ ผา่ นโปรแกรมคอมพวิ เตอร์
3. หนังสือ ตำรา วารสารต่าง ๆ ท้ังในประเทศและต่างประเทศ ท่เี กย่ี วขอ้ งกับการออกแบบ
ศิลปหตั ถกรรมไทย
4. ตวั อยา่ งผลิตภณั ฑ์ ผลงานหตั ถกรรมสำหรับการเรยี นการสอนที่เกยี่ วข้อง
(ตามความเหมาะสมของเนื้อหาการเรียน)

การประเมินผล
ครั้งท่ี 3
1. สงั เกตจากพฤติกรรมของผู้เรยี น
2. ประเมนิ ผลจากกจิ กรรมในการช้นั เรยี น
3. ประเมนิ ผลจากคำถามทา้ ยบทท่ี 2
4. ประเมนิ ผลจากแบบฝึกหดั ปฏบิ ัตงิ านออกแบบทา้ ยบท
ครง้ั ที่ 4
1. สังเกตจากพฤติกรรมของผู้เรยี น
2. ประเมินผลจากกจิ กรรมในการชั้นเรยี น
3. ประเมนิ ผลจากคำถามทา้ ยบทท่ี 2

28

4. ประเมนิ ผลจากแบบฝึกหดั ปฏิบัติงานออกแบบท้ายบท

หนังสืออ้างองิ
จรูญ แดนนาเลิศ. (2562). ประเพณี ความเชื่อ ของวิถีชุมชนล้านนา Traditions, Beliefs of Lanna
community. การประชุมวิชาการราชภัฏรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 2
“การเมือง การบริหารและสงั คมในยุคดจิ ิทลั กบั การพัฒนาท่ยี ่งั ยืน”. เชยี งราย : มหาวิทยาลัยราช
ภฏั จงั หวัดเชียงราย.
ทัศนัย ดํารงหัด และ รัฐไท พรเจริญ (2558). ภูมิปัญญาล้านนาในการพัฒนาหัตถกรรมของแต่งบ้านจาก
เศษใบไม้แหง้ . วารสารวิชาการ AJNU ศลิ ปะสถาปัตยกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร. 6(2). น.
101-119.
นวลลออ ทินานนท์. (2543). ศิลปะพื้นบ้านไทย. เอกสารประกอบการสอน คณะศิลปกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ. กรุงเทพมหานคร, น. 75-82.
ภรติ พร แก้วแกมเสอื . (2562). การอนุรักษ์ สบื สานและพัฒนางานศิลปหัตถกรรมพ้ืนบา้ นเครื่องจักสานโดย
แนวคดิ ทางการออกแบบผลิตภณั ฑ.์ สารอาศรมวฒั นธรรมวลัยลักษณ์. 19(2), น.68-96.
รชั พงศ์ จารุสนิ ธพุ งศ์. (2560). ปัญหากฎหมายการหา้ มโฆษณาเกยี่ วกบั สุรา : กรณีศึกษาสุราพ้ืนบา้ น
(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). สืบค้นจาก
http://dspace.spu.ac.th/handle/123456789/5494.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2542). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์
พับลิเคชัน่ ส.์ หนา้ 619.
สามารถ จันทรส์ รู ย์. (2542). ภมู ิปัญญาชาวบา้ นกบั การพัฒนาชนบท. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท อมรินทร์
พริน้ ทต์ ง้ิ กรุป๊ . หน้า 65.
สรุ พล ดำริหก์ ลุ , (2539). แผน่ ดนิ ล้านนา. กรงุ เทพฯ : สำนักพมิ พ์เมืองโบราณ.
สํานักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ. (2557). ยุทธศาสตร์การวิจัย (พ.ศ.๒๕๕๕-๒๕๕๙) : ภาคเหนือ
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.). กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง
ประเทศไทย จำกัด.
อรัญ วานิชกร. (2555). การศึกษากระบวนการเขียนภาพรา่ ง ทศั นียภาพเพอ่ื การออกแบบผลติ ภณั ฑช์ ุมชน.
กรงุ เทพ : มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.
อญั ชัญ ฉมิ มาฉยุ . (2562). วฒั นธรรมเเละประเพณีไทยThai culture and traditions. [เอกสาร
ประกอบการสอน E-book Library กศน.ตำบลทรงคนอง], สบื ค้นจาก
https://pubhtml5.com/slre/bndk/basic.

29


Click to View FlipBook Version