The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ทศวรรษแรก ชีวิตนักศึกษา มช. (6) ฉบับ e-book resize และเพิ่มปก พร้อม ISBN

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kwattananikorn, 2022-05-06 09:19:44

ทศวรรษแรก ชีวิตนักศึกษา มช. (6) ฉบับ e-book resize และเพิ่มปก พร้อม ISBN

ทศวรรษแรก ชีวิตนักศึกษา มช. (6) ฉบับ e-book resize และเพิ่มปก พร้อม ISBN

( พ.ศ.๒๕๐๗-๒๕๑๖ )
บันทึกความทรงจํากว่า ๕๐ ปี มาแล้ว

กลมุ่ สนทนาประสา มช. รุ่นเดอะ



ทศวรรษแรก
ชีวติ นักศึกษา มช.

บันทึกความทรงจํากวา่ 50 ปี มาแลว้

ทศวรรษแรก ชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

พISมิ BพNค์ รงั้ แรก พฤ9ษ78ภ-า6ค1ม6-529506-5787-3

พมิ พค์ รั�งแรก พฤษภาคม ����
เจา้ ของ ศาสตราจารยเ์ กยี รตคิ ุณ ดร.กติ ตชิ ัย วัฒนานิกร

กลุ่มสนทนาประสา มช. รุ่นเดอะ
���/� หมบู่ า้ นเชียงใหมก่ รนี วลั เลย่ ์ หมู่ �

ทขศ้อวมรลู รทษแางรกบรชรวี ณติถอ.นนาแนกันมเศรุ่กชมิกึียรษงจมใา.ขหเชมมอีย-่ชงงแห.ใมหอร่ มมิส่ �มต�.ดุ�รมิ�แ�ใหตง่้ ชาติ
-ผ-ู้เเขชยี ยี นงใหม่: หนว่กยลพุ่มิมสพนเท์ อนกาสปารระคสณา ะมวชิท.ยราุ่นศเาดสอตะร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่
22กพ65ลมิ 62่มุ พ5สหท์ นน�ี ทา้ นาประห�โสท�นาร�่ว.มถ�ยช.�พห.�วมิ้ร-ย�ุน่พ�แเเ์ด�กอ�วอ้ ก�ะตส�.าส,รเุ�ท�คพ�ณอ�ะ.�เว�มทิ ือ�ยง�า�จศ�.เาชสEียต-งmใรหa์ มมil:ห่ �Pา�uว�sทิ �cย�iinาfลoัย@เcชmยี uง.ใaหcม.th่
ISBN

เจ้าของ กลมุ่ สนทนาประสา มช. รุน่ เดอะ
248/8 หม่บู า้ นเชยี งใหมก่ รีนวลั เล่ย์
ถนนเชยี งใหม-่ แมร่ มิ
หมู่ 1 ต.รมิ ใต้ อ.แม่รมิ
จ.เชยี งใหม่ 50180

คาํ ปรารภ

“อ้ายจ๋อยสนใจตจี้ ะเป๋ น "เก๊า" ในก๋านเขยี นเล่า มช.
ในช่วงแรกๆ ก่อคบั ?“

เป็นคาํ ถาม “กําเมือง” มาจากไลนข์ อง รศ.ดร.มงคล รายะนาคร
รุน่ นอ้ งรว่ มสถาบนั ท่ีปกติเป็นคนขีส้ งสยั ชอบตงั้ คาํ ถามชวนใหข้ บคิด แต่
คราวนีม้ าแปลกกลบั เป็นคาํ ถามเชิง “สุ่ย” หรือยุยงกลายๆ จนทาํ ใหเ้ ป็น
ท่ีมาของหนงั สอื เลม่ นี้

บรรดา "หวั โป่ " หรือผูร้ ่วมก่อการท่ีร่วมคิดกันครงั้ นั้น ตั้งใจไวว้ ่า
อยากใหเ้ ป็นหนังสือท่ีอ่านสบายๆ เพ่ือราํ ลึกถึงความหลงั ครงั้ เก่าของชาว
มช. รุน่ แรกๆ และเป็นหนงั สือท่ไี มเ่ ป็นทางการ แตข่ ณะเดียวกนั ก็ไมไ่ รส้ าระ
จนผอู้ ่านไม่ไดป้ ระโยชนอ์ นั ใดเลย

วิธีเขียนหนังสือเล่มนีอ้ าศยั เทคโนโลยีสมยั ใหม่ลว้ นๆ ผ่านการตงั้
กล่มุ ไลน์ "สนทนาประสา มช. รุ่นเดอะ" ใครใคร่เล่าเรื่องอะไร หรือส่งรูป
อะไรมาแจมในกลุ่มไลน์ เปิดให้เป็นไปอย่างอิสระเสรี ภายใต้กรอบส่ี
ประการคือ หนง่ึ เป็นเรอ่ื งและรูปภาพในทศวรรษแรกของ มช. สองเป็นเร่ือง
ความประทบั ใจภายใตร้ ม่ พระบรมโพธิสมภารของในหลวงรชั การท่ี 9 สาม
เป็นเรอื่ งเก่ียวกบั กิจกรรมของนกั ศึกษาและสโมสรนกั ศึกษาสมยั นนั้ และส่ี
เป็นเรื่องราวชีวิตนักศึกษาเม่ือกว่าห้าสิบปีท่ีแล้ว ทั้งจากประสบการณ์
ภายใน และนอกรวั้ มช.

ผลจากการตงั้ กลมุ่ ไลนป์ รากฏวา่ ไดร้ บั ความรว่ มมือจากเพ่อื นพอ้ ง
นอ้ งพ่ี ช่วยสง่ รูป สง่ เร่ืองเขา้ มามากมาย ทาํ ใหส้ ามารถปิดเลม่ ทาํ เป็น

หนงั สือได้ ภายในเวลาเพยี งสองเดอื นเศษ

ผมตอ้ งขอขอบคณุ ทุกๆ ท่านในกล่มุ ไลนแ์ ละนอกกลมุ่ ฯ ท่ีช่วยทาํ

ให้หนังสือเล่มนีป้ ระสบผลสาํ เร็จในเวลารวดเร็ว เหนือความคาดหมาย

โดยเฉพาะ ศ.ดร.เอนก กิมสวุ รรณ ท่ีนอกจากส่งบทความและรูปภาพเขา้
มาแลว้ ยงั ช่วยตรวจคาํ ผดิ ใหท้ งั้ เลม่

หวังว่าหนังสือเล่มนีจ้ ะทาํ ใหค้ นเก่าๆ (ตงั้ ใจหลีกเลี่ยงคําว่าแก่)
อ่านแลว้ กระช่มุ กระชวย นกึ ถึงวนั เวลาของอดีตสมยั เป็นนกั ศกึ ษา มช. เม่ือ

กว่าหา้ สิบปีมาแลว้

ขณะเดียวกัน หากเผอิญคนรุ่นหนุ่มสาวไดเ้ ขา้ มาอ่าน พวกเขาก็

คงไดเ้ ห็นภาพวิถีชีวิต สมยั คนรุน่ ป่ ยู ่าตายายเป็นนกั ศกึ ษา ท่ีบางครงั้ ก็มีที
เดด็ ไม่เบาเหมือนกนั

กิตตชิ ยั วฒั นานกิ ร
พฤษภาคม 2565

สารบัญ หน้า

คาํ ปรารภ
ภาพและเรอ่ื งราวในทศวรรษแรกของ มช. 1

- พระมหากรุณาธิคณุ เสดจ็ เปิดมหาวทิ ยาลยั และเสดจ็ เย่ยี มหอพกั

นกั ศกึ ษาเม่อื 24 มกราคม 2508 2

- งานพระราชทานเลีย้ ง อีกหน่ึงพระมหากรุณาธิคณุ

แกเ่ หลา่ ลกู ชา้ ง 7
- รบั นอ้ งรถไฟ 12

- พธิ ีไหวค้ รู 16

- ประเพณีเดนิ ขึน้ ดอยสเุ ทพ 23

- วนั รบั นอ้ งใหม่ 30

- งานเลยี้ งกลางคนื ตอ้ นรบั นอ้ งใหม่ 40

- เท่ยี ว..แต่ดนั เรียกทศั นศกึ ษา 49
- รว่ มงานลอยกระทงและทอดกฐิน 54

- สปอรต์ เดย์ 63

- พธิ ีรบั ปรญิ ญา 76

จากสโมสร...ส่อู งคก์ ารนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ 81
- จากสโมสรนกั ศกึ ษา สอู่ งคก์ ารนกั ศกึ ษา มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ 82

- ทาํ เนียบนายกสโมสร ประธานสภานกั ศกึ ษา และนายกสโมสรเจด็

คณะแรก ในชว่ งทศวรรษท่หี น่ึง 96

ประสบการณใ์ นลา้ นนาจากบันทกึ ชาว มช. 101

- คาํ เมืองกบั ปัญหาการส่ือสารของชาว มช.ครง้ั กระโนน้ 102
- ค่ายอาสาพฒั นาชนบทคา่ ยแรก ของ มช. 106
- แคบ่ อกใหเ้ พ่ือนหนั ไปมองโต๊ะอ่นื เกือบโดนกระทบื 112
- เป็นมคั คเุ ทศกใ์ หก้ บั PATA 115
- พชิ ิตดอยอินทนนท์ 119
- “อาจารยก์ าํ ลงั หาอะไรอย่คู รบั ” 124
- เม่อื ผมตอ้ งซอื้ ปืน 127

บรรยากาศสมยั เป็ นนักศึกษา 131

- บรรยากาศใน มช. ช่วงทศวรรษแรกผ่านบทกลอน 133
- ใครๆ กน็ ดั กนั ท่ี..ยเู นียน 135
- บนั ทกึ วนั เลือกผแู้ ทนชนั้ ปี 1 139
- บนั ทกึ คนื ย่เี ป็ง 17 พย. 2510 141
- “ทาํ ไมพวกจฬุ าฯ ไม่มาช่วยพวกผมละ่ ครบั ” 144
- กญั ชา...เม่ือหา้ สิบปีก่อน 147
- ช่นื ชวี ิตจิตใจ 150
- ความสขุ วนั แจกเกรด 153

อันเน่ืองมาจากกจิ กรรมนักศึกษา 155

- ดรามา่ คนื รบั นอ้ ง มช. ครงั้ แรก เม่ือปี 2508 156
- “ใหญ่มาจากไหน เอาวางไวห้ นา้ มช.” 160
- สรรหาภาพเกา่ มาเลา่ เรอ่ื ง เสือ้ เหลืองปรศิ นา ? 166
- กจิ กรรมนกั ศกึ ษาผา่ นบทกลอน 169

- วารสารปี 2509 ของคณะมนษุ ยท์ ่ีผมมีสว่ นร่วม 174
- จิตวิทยา เปิดตวั ท่ธี รรมศาสตร์ 177
- ชมรมพทุ ธศลิ ป์ ฯ ท่ผี มเคยร่วมกจิ กรรม 179

ชีวิตชาวหอ 182

- ชีวิตชาวหอเม่อื พ.ศ. 2507 183
- เปิดหอชาย ทา้ ทายนกั ศกึ ษาหญิง 185
- ผีถว้ ยแกว้ ท่ี หอ 4 มช. 188
- รวมเร่ืองฮา ประสาชาวหอหญิง 191
- อ่างแกว้ ขวญั ใจ..ท่ไี มใ่ ชช่ ่อื เพลง 196

ความผูกพนั ฉัน เพอ่ื น พี่ น้อง 198

- หมฮู่ า หม่คู ิง...หมเู่ ฮา 199
- ราํ พงึ ราํ พนั จากรูปถ่าย 201
- ฉงนฉงาย 205
- เธอ...ผมู้ ีเสียงทิพย์ 207
- ผมสารภาพ 210
- ความรกั ผลแิ ละเบง่ บานท่ี มช. 213

เรือ่ ง (นินทา) อาจารย์ 221

- เฮย้ ตายห่าแลว้ กู อาจารยบ์ วั เรศ 222
- ศาสตราจารย์ ดร. มล.ตยุ้ ชมุ สาย ในความทรงจาํ 225
- ลงุ ทะเรน้ จอมพลงั 227
- อาจารยฝ์ ร่งั หรือ CIA? 230
- เลน่ หลวิ่ คิว้ แข่งกบั เลคเชอรอ์ าจารยส์ ขุ 234

- ผกู้ องทองอณุ ห.์ . ครูฝึก รด. 237

บันทกึ ประวตั ิศาสตร์ 239

- นกั ศกึ ษาภาคสมทบ..รุน่ แรกและรุน่ เดียว 240

- ขบั เสียงประสาน-วงชาโด-้ วง สมช. และเพลงสนุ ทราภรณ์ 243

- เบือ้ งหลงั งานฉลองรบั ปรญิ ญาของรุน่ 09 249

- หน่อใหม่ 254

บทส่งทา้ ย 258
รายชือ่ สมาชกิ กลุ่มไลน์ “สนทนาประสา มช.รุ่นเดอะ” 261

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 1

ภาพและเร่ืองราวใน
ทศวรรษแรกของ มช.

2 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

พระมหากรุณาธิคุณ
เสด็จเปิ ดมหาวทิ ยาลยั และเสด็จเย่ยี มหอพักนกั ศึกษา

เม่ือ 24 มกราคม 2508

โดย…ประหยดั สายวเิ ชยี ร 074038

เร่อื งยอ่ จากบทความของศาสตราจารย์ ม.ล. ตุ้ย ชุมสาย ใน
หนังสอื มช. 07 ผนวกกับความทรงจาํ ของตนเองทไี่ ม่เคยลมื เลอื น...

ภายหลงั เหตกุ ารณป์ ระวตั ิศาสตรใ์ นพธิ ีเปิดมหาวิทยาลยั เชียงใหม่
อย่างเป็นทางการท่ีศาลาธรรมเม่ือวนั ท่ี 24 มกราคม พ.ศ. 2508 (ซ่ึงในวนั
นนั้ แพรคลมุ ป้ายสีชมพูที่เตรียมไวอ้ ย่างดี ตอ้ งกลายไปเป็นแพรสีทองของ
นส. วิไล วสุทพั หการ ที่เผอิญในช่วงเชา้ ไดอ้ ดั มาในกระเป๋ าถือเพื่อไม่ให้
กระเป๋ าเสียรูป01) พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั รชั กาลท่ี 9 และสมเด็จพระ
นางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ พรอ้ มดว้ ยสมเด็จเจา้ ฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ และ
สมเด็จเจา้ ฟ้าอบุ ลรตั นฯ์ ไดเ้ สด็จต่อไปยงั สาํ นกั งานอธิการบดี จากนนั้ เวลา
ประมาณ 11.15 น. ทุกพระองค์ได้เสด็จพระราชดําเนินมายังหอพัก
นักศึกษาซ่ึงมีเพียงหอเดียวขณะนั้นเรียก “วิทยาลยั ที่ 1” (ต่อมาตงั้ แต่ปี
การศกึ ษา 2508 วทิ ยาลยั ที่ 1 ไดก้ ลายไปเป็น หอชาย 1)

วิทยาลยั แห่งนีม้ ีศาสตราจารย์ ดร.มล.ตุย้ ชมุ สาย ดาํ รงดาํ แหน่ง
อธิการวิทยาลยั มีอาจารยจ์ ัน เกริกมธุกร ดูแลนักศึกษาชาย และอาจารย์

1 บวั เรศ คาํ ทอง 2527 “เมอื่ แพรสชี มพเู ปลยี่ นเป็นสที อง” ครบรอบ20ปี
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ 282 หนา้

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 3

ประมูล เพ็ญสดุ ดแู ลนักศึกษาหญิง ในหอพกั มีหอ้ งอาหารท่ีทนั สมยั มาก
ในยุคนนั้ ใชอ้ ปุ กรณก์ ารปรุงอาหารดว้ ยระบบไอนาํ้ ซ่งึ แต่เดิมตงั้ ใจใหเ้ ป็น
ครวั กลางของหอพกั อาคารอ่ืนๆ ท่ีจะสรา้ งเพ่ิมขึน้ ในภายหลงั (แต่ไม่ทราบ
ดว้ ยเหตุอนั ใด หอพกั ที่สรา้ งตามมาภายหลงั จึงมีหอ้ งอาหารของตนเอง
อย่างทีเ่ ราทราบกนั ) ท่ีหอ้ งอาหารมีโภชนากรสามคนคือ วาณี สวุ รรณชาต
พรพิมล นันทขวา้ ง และสาํ ราญ เพ่ิมประไพ รวมทงั้ เจา้ หนา้ ท่ีจาํ นวนหน่ึง
คอยดูแล (พี่โภชนากรทงั้ สามท่านนีท้ าํ ตวั เป็นกนั เองกบั นกั ศึกษาทุกคน
ทาํ ใหเ้ ป็นทรี่ กั ใคร่ของพวกเรามาก)

เม่ือเสด็จถึงมีคณาจารย์และนักศึกษาทั้งชายและหญิงใส่ชุด
นกั ศกึ ษาโอกาสพิเศษ (ผูช้ ายสวมเสอื้ ขาวกางเกงขาว ผกู ไทดส์ มี ่วง ผูห้ ญิง
สวมเสอื้ ขาวกระโปรงม่วง) ไดร้ อรบั เสด็จดา้ นหนา้ ทางเขา้ วิทยาลยั จากนนั้
ทุกพระองคจ์ ึงเสด็จผ่านหอ้ งธุรการ หอ้ งทาํ งาน แคนทีน และเสด็จเขา้ ไป
ในหอ้ งอาหาร ณ ท่ีนนั้ มีคณะโภชนากรทงั้ สามคนและเจา้ หนา้ ท่ีรอเฝ้ารบั
เสด็จและถวายรายงาน ทั้งสองพระองค์ทรงสนพระทัยสอบถามเร่ือง
อาหาร การปรุงอาหาร การใหบ้ รกิ าร ฯลฯ

จากหอ้ งอาหารไดเ้ สด็จเย่ียมหอ้ งพักนักศึกษาชายในบริเวณชั้น
สอง โดยไดห้ ยดุ ท่ีหอ้ งหมายเลข 2231 ซง่ึ เจา้ ของหอ้ งพกั มีสามคนคอื ธวชั
ผลพนั ธิน สนั ธาน พทุ ธมณทล และสเุ นตร คาํ นวณ แต่มเี พยี งธวชั ท่ีรอเฝ้า
รบั เสด็จอยู่ในหอ้ ง พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ทรงซกั ถามเร่ืองอุปกรณ์
เคร่ืองใชใ้ นหอ้ งท่ีทางวทิ ยาลยั จดั ให้ ทรงตรสั ว่าตเู้ สือ้ ผา้ เป็นแบบตะวนั ตก
เกินไป ไม่เหมาะกับอากาศรอ้ น จากนั้นไดเ้ สด็จผ่านหอ้ งพักทุกหอ้ ง ทรง
ซกั ถามเร่ืองการจดั เตียงท่ีแต่ละหอ้ งจดั ไม่เหมือนกนั มีทัง้ ใกลก้ นั และแยก

4 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

ห่างจากกัน จึงมีผูถ้ วายรายงานว่า เน่ืองจากนักศึกษามักไดย้ ินเรื่องเล่า
เกี่ยวกบั ผีในวิทยาลยั ท่ี 1 ทาํ ใหห้ ลายคนกลวั จงึ ไดอ้ นุญาตใหน้ กั ศึกษาจดั
เตียงตามความตอ้ งการ ถือวา่ ไมผ่ ิดระเบยี บ

เม่อื เสด็จถึงหอ้ งโถงทางขึน้ ชนั้ สาม ซ่งึ เป็นท่พี กั ของนกั ศกึ ษาหญิง
มีนกั ศึกษากล่มุ หน่ึงรอเฝ้ารบั เสด็จ โดยนกั ศกึ ษาหญิงกลมุ่ นนั้ และแม่บา้ น
ไดช้ ่วยกนั โรยกลีบดอกไมเ้ ป็นลาดพระบาทตามบันไดทางขึน้ ไปจนถึงชนั้
สาม ซง่ึ สมเด็จพระบรมราชนิ ีนาถไดต้ รสั ชมเชยวา่

“นกั ศกึ ษาทนี่ มี่ ีศลิ ปะดจี งั สวยมาก ขอบใจ ทอี่ ตุ สา่ หจ์ ดั ทาํ ”
จากนัน้ ทรงเสด็จผ่านหอ้ งพกั นกั ศึกษาดา้ นตะวนั ตก ทุกหอ้ งเปิด
ประตูรอรบั เสด็จโดยมีนักศึกษารอรบั เสด็จห้องละหนึ่งคน ทุกพระองค์
เส ด็ จ ท อ ด พ ระเน ต รด้วย ค วาม ส น พ ระราช ห ฤ ทั ย แ ล ะ ส ม เด็ จ
พระบรมราชนิ ีนาถยงั ไดเ้ สด็จเขา้ ไปในหอ้ งเกือบทกุ หอ้ ง ทรงตรสั ดว้ ยว่า
“ขอดูใหท้ ่วั ถงึ ทกุ หอ้ งนะ”
ตอ่ มาไดเ้ สด็จลงจากชนั้ สามทางดา้ นตะวนั ตก และเสด็จออกจาก
วิทยาลยั ท่ี 1 ท่ีคณาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษารอสง่ เสด็จเม่ือเวลา 11.55 น. ก่อน
เสดจ็ กลบั สมเด็จพระบรมราชินีนาถไดต้ รสั วา่
“สวยมาก ขอบใจ”
ทุกพ ระองค์ทรงใช้เวลาท่ีวิทยาลัยท่ี 1 นานร่วม 40 นาที
เหตุการณ์ครงั้ นั้นยังความปลาบปลืม้ ปิติแก่ทุกคนท่ีได้เข้าเฝ้ารบั เสด็จ
สงั เกตไดจ้ ากดวงตาหลายๆ คู่ ท่ีมนี าํ้ ตาซมึ ดว้ ยความซาบซงึ้ ใจในพระมหา
กรุณาธิคณุ ทาํ ใหน้ กึ ถึงเพลงของมหาวิทยาลยั เชยี งใหมท่ ่อนหน่งึ ท่วี า่
....... พระเมตตาแผ่พร้อมมา ถึงพวกเราทุกเหล่าเอย.....

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 5
พิธเี ปิ ดมหาวทิ ยาลัย และการเสดจ็ มายงั วทิ ยาลัยที่ 1

6 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.
เสด็จห้องอาหารของวทิ ยาลัยที่ 1 และลาดพระบาทกลบี ดอกไม้สด

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 7

งานพระราชทานเลีย� ง อีกหน่ึงพระมหากรุณาธคิ ุณ
แก่เหลา่ ลูกช�าง

บนั ทกึ จากความทรงจาํ ของรุ่น 07 และ 08

พวกเรารุ่น 07 ยงั จาํ ภาพเหตกุ ารณค์ รงั้ นนั้ ไดอ้ ย่างแจม่ ชดั ตราบ
จนทุกวนั นี้ ซ่งึ ต่างกป็ ระทบั ใจในพระมหากรุณาธิคณุ ท่ีมีใหก้ บั พวกเราชาว
มช. ดงั นนั้ จึงขอเรยี บเรียงจากเร่ืองเล่าของเพ่ือนๆ ท่ีสะทอ้ นจากความทรง
จาํ ความรูส้ กึ เพ่อื ใหค้ นรุน่ หลงั ไดร้ บั รู้ (ขอบคณุ เพอื่ นๆ : จนั ทร์เพญ็ สนิท
วงศ์ บญั ชา ปัญญาตรง ลดา แกว้ กูร แพรวพรรณ นาํ เบ็ญจพล บัวทอง
สว่างโสภากลุ และอทุ ยั วรรณ สวุ รรณนพรตั น)์

ปลายเดือนมกราคม 2509 ได้ทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระ
เจา้ อยู่หัวจะพระราชทานเลีย้ งอาหารเย็นแก่คณาจารยแ์ ละนักศึกษาของ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ พระตําหนักภูพิงคราชนิเวศน์ในวันท่ี 2
กุมภาพันธ์ ทาํ ใหพ้ วกเราต่ืนเตน้ มาก ต่างก็พูดคุยกันถึงเร่ืองนี้ และรอให้
วนั นนั้ มาถงึ ดว้ ยใจจดจ่อ ทงั้ นีด้ ว้ ยความรูส้ กึ ซาบซงึ้ ในพระมหากรุณาธิคณุ
อนั หาท่ีสดุ มิได้

วนั ท่ี 2 กุมภาพนั ธ์ 2509 หลงั เลิกเรียน นกั ศึกษาต่างรีบเตรียมตวั
พรอ้ มเสือ้ กนั หนาว ไปขึน้ รถท่ีหนา้ ศาลาธรรม เม่ือเต็มคนั รถจึงทยอยออก
เดินทาง เม่ือไปถึงพระตาํ หนักฯ อากาศกาํ ลงั เร่มิ เย็นลง แต่ยังมีแสงสว่าง
ให้พ ว ก เร า ได้เห็ น ค ว า ม งด งา ม ข อ ง ไม้ด อ ก บ ริเว ณ ห น้า พ ร ะ ตํา ห นั ก
โดยเฉพาะกหุ ลาบดอกโตๆ ท่สี วยงามมาก จนเรียกความสนใจใหห้ ลายคน
เดินเขา้ ไปช่นื ชมความงามและสดู ดมกลิน่ หอมอยใู่ กลๆ้

8 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

เพ่ือนคนหนึ่งเล่าว่า เย็นนั้นก่อนถึงเวลาอาหารราวคร่ึงช่ัวโมง
ขณะท่ีเธอและเพ่ือนๆ กาํ ลงั พากันเดินชมความงามของกุหลาบหน้าพระ
ตาํ หนกั ดว้ ยความเพลิดเพลินอย่นู นั้ พลนั ไดย้ ินเสียงจากดา้ นหลงั

“ค่าํ ๆ ขา้ งบนนอี้ ากาศจะเยน็ หนอ่ ย”
พอหนั กลบั ไป เห็นพระเจา้ อยหู่ วั ประทบั ยืนอย่ไู ม่ไกล พระองคท์ รงชุดกีฬา
สขี าวและฉลองพระบาท ”นนั ยาง” ทรงแยม้ พระสรวลใหน้ กั ศกึ ษาดว้ ยพระ
เมตตา และทรงตรสั เชญิ ใหไ้ ปรบั ประทานอาหารอย่างเป็นกนั เองวา่

“มอี ะไร กร็ บั ประทานกนั นะ”
ทาํ ใหร้ ูส้ ึกหัวใจพองโตว่าเราเป็น ”แขก” ของพระองคท์ ่าน จึงรีบสาวเท้า
เดินตามราชองครกั ษก์ ลบั ไปยงั ท่จี ดั เลีย้ งทนั ที

คืนนั้นซุ้มอาหารมีจาํ นวนเยอะมาก หลากหลายชนิดให้เลือก
รบั ประทาน และท่ปี ระทบั ใจสดุ ๆ คอื ยงั มรี บั ส่งั ผา่ นลงมาดว้ ยว่า

“ใหเ้ ลอื กทานอาหารไดต้ ามใจชอบ ขออย่างเดยี วอยา่ เหยยี บ
ตน้ ไม”้
ไดย้ ินแลว้ พวกเราต่างหันมามองหนา้ กันแลว้ อมยิม้ รูส้ ึกว่าพระองคท์ ่าน
เอ็นดพู วกเราเหมือนลกู หลาน
หลงั ทานอาหารเสร็จ มีเสียงบอกต่อๆ กันว่า “เสด็จลงแลว้ เสด็จ
ลงแล้ว…” มีนักศึกษาบางกลุ่มรีบไปจองพื้นท่ีรอบท่ีประทับซ่ึงมีเปียโน
ตัง้ อยู่ก่อนแลว้ ต่อมาทงั้ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวฯ และสมเด็จพระ
นางเจา้ ฯ พระบรมราชินีนาถ ไดท้ รงเปียโนซ่ึงไพเราะจบั ใจ พรอ้ มกันนั้น
พระเจา้ ลกู เธอฯ ยงั ทรงรอ้ งเพลงใหพ้ วกเราฟังอีกหลายเพลง
ความรูส้ กึ เป็นสขุ ท่ีไดส้ มั ผสั จากการไดใ้ กลช้ ิดเบือ้ งพระยคุ ลบาท

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 9
งานพระราชทานเลีย้ งอาจารยแ์ ละ นศ. มช. บนพระตําหนักภูพงิ คฯ์

10 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.
สองภาพสดุ ท้ายปรากฏภาพผู้บนั ทกึ ทงั้ สองทา่ นในงานวันนัน้

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 11

ทงั้ สองพระองคป์ ระดจุ ลกู หลานในวนั นนั้ เป็นความรูส้ กึ ท่ียากจะบรรยาย
เป็นความสขุ ใจท่ีพวกเราจดจาํ เสมอมาจวบจนปัจจบุ นั

นับเป็ นพระมหากรุณาธิคุณอันหาท่ีสุดมิได้ ท่ีพระองค์ทรง
พระราชทานเลีย้ งในคืนนนั้ และยงั ใหโ้ อกาสพวกเราไดเ้ ขา้ เฝา้ อยา่ งใกลช้ ดิ

ประหยดั สายวเิ ชยี ร

นั ก ศึ ก ษ า รุ่ น 08 ก็ เช่ น เดี ย วกับ รุ่น พ่ี ท่ี ได้รับ ท ราบ ว่า
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั จะพระราชทานเลีย้ งคณาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษา
ราวพันคน บนพระตาํ หนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ในเย็นวันท่ี 2 กุมภาพันธ์
2509 หลงั จากทราบข่าว ต่อมาในตอนเย็นหลงั เลิกเรียน จึงมีการซอ้ มรอ้ ง
เพลง “สดดุ ีพระเกียรติ” เพ่ือท่ีจะไดร้ อ้ งถวายในวนั งาน (สามารถฟังเพลงนี้
ไดจ้ ากลงิ ค์ https://youtu.be/SdyBc_wuMG8 )

ถึงวนั พุธท่ี 2 กุมภาพันธช์ ่วงเย็นไดไ้ ปรอขึน้ รถบสั ท่ีศาลาธรรมใน
ชดุ ขาว ไทดส์ ีม่วง เม่ือไปถึงพระตาํ หนกั มีรา้ นอาหารจดั เป็นซุม้ ใหเ้ ลือกกิน
ตามความชอบ เม่อื ถึงเวลาทงั้ สองพระองคก์ เ็ สด็จลงมาในงาน

พวกผมไม่ไดเ้ บียดเขา้ ไปใกลจ้ ึงอยู่ค่อนขา้ งไกล ทัง้ สองพระองค์
ทรงเล่นเปียโนบรรเลงหลายเพลงจนไดเ้ วลาจึงเสด็จขึน้ ท่ีประทบั ส่วนพวก
เราก็ขนึ้ รถท่ีมารอรบั กลบั มหาวิทยาลยั

เป็ นอันจบสิ้นวันอันมิอาจลืมได้ในชีวิตนี้ ในน้ําพระทัยของ
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ท่ีมีต่อชาว
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ ในสมยั นนั้ เม่ือกวา่ 55 ปีมาแลว้

สมศกั ดิ์ วนชิ าชวี ะ

12 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.

รับน้องรถไฟ

การรบั นอ้ งปีหนึ่งท่ีสถานีรถไฟเชียงใหม่ ท่ีจดั โดยสโมสรนกั ศึกษา
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ หรือ สมช. เร่มิ ขนึ้ ปีใดไม่ปรากฏหลกั ฐานแน่ชดั แต่
ท่ีแน่ๆ ยังไม่ไดด้ าํ เนินการในปีการศึกษา 2508 ดังท่ีสมศักดิ์ วนิชาชีวะ
นกั ศกึ ษารุน่ 08 เขยี นบนั ทกึ ไวด้ งั นี้

“หลังประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 25
พฤษภาคม 2508 ผมน่งั รถไฟมาเชียงใหม่พรอ้ มเพื่อนๆ จํานวน
หลายรอ้ ยคน มาถึงเชียงใหม่ตอนเชา้ โดยอาจารย์ไดเ้ ตรียมรถบสั
ไปรบั ที่สถานีรถไฟ ฝ่ ายชายจะอยู่ในคนั เดียวกัน รถบัสว่ิงผ่าน
ถนนในเมืองไดไ้ ม่นาน รูส้ ึกว่าจะไม่เห็นบา้ นคนสองขา้ งทาง (คง
เร่มิ ว่งิ บนถนนหว้ ยแกว้ ) ในใจขณะนั้นคิดว่ารถจะพาเราไปเข้า
ป่ า แต่สกั พกั ใหญ่ๆ รถก็มาถึงประตูเขา้ มหาวิทยาลยั แลว้ มาจอด
หนา้ หอชาย 1 สว่ นนอ้ งใหมห่ ญิงถกู จดั ใหพ้ กั ทหี่ ออ่างแกว้ ”
อย่างไรก็ตามเท่าท่ีปรากฏหลักฐาน ในปีการศึกษา 2512 ไดม้ ี
การจดั รบั นอ้ งโดย สมช. ท่ีสถานีรถไฟเชยี งใหม่แลว้ ดงั ปรากฏใน ภาพรับ
น้องรถไฟชุดท่ี 1 ซ่ึงจะเห็นสุบิน อินทป๋ัน พ่ีปีส่ีรฐั ศาสตร์ (หน่ึงในพี่ๆ
จาํ นวนมากที่คอยตอ้ นรบั ทีส่ ถานีฯ ในเชา้ วนั นนั้ ) กาํ ลงั ชะเงอ้ คอยรบั นอ้ ง
ดว้ ยใจจดจอ่
เม่ือนอ้ งใหม่เดินทางมาถึงและทยอยลงจากตรู้ ถไฟบรรดาพ่ีๆ จะ
เรยี งแถวคอยสวมพวงมาลยั ตอ้ นรบั อย่างอบอ่นุ เรียกวา่ สถานีรถไฟ

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 13
(ภาพชุด 1) รับน้องรถไฟปี พ.ศ. 2512

14 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.

เชยี งใหมใ่ นวนั นนั้ กลายเป็นพนื้ ท่ขี องนกั ศกึ ษา มช. ส่งเสยี งกนั อึกทกึ ไปท่วั
ทงั้ สถานฯี

นอกจากการรบั นอ้ งรถไฟสาํ หรบั นอ้ งปีหน่ึงแลว้ ยังมีการรบั นอ้ ง
รถไฟของคณะแพทย์ศาสตร์ หลังจากโรงเรียนแพทย์เชียงใหม่ของ
มหาวิทยาลัยแพ ทย์ศาสตร์ ได้ถูกโอนเข้ามาเป็ นคณ ะหน่ึงของ
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหมต่ งั้ แต่ปี พ.ศ 2508 โดยเป็นการรบั นอ้ งท่จี บชนั้ ปีท่ี 2
จากฝ่ัง “รม่ สกั ” ไปยงั ฝ่ัง “สวนดอก”

ในการรบั นอ้ งรถไฟของคณะแพทยฯ์ นอ้ งทกุ คนตอ้ งไปรวมตวั กนั
ท่ีสถานีรถไฟ แมเ้ ป็นคนในเชียงใหม่เอง ก่อนท่ีบรรดาพ่ีๆ จะพาน่ังซอ้ น
ทา้ ยรถจกั รยานยนตข์ บั ข่ีผ่านไปตามตวั เมืองเชียงใหม่ เพ่ือนาํ ไปยงั หอพกั
ในคณะแพทยศาสตรท์ ่ีสวนดอก ดงั ปรากฏใน ภาพรับน้องรถไฟชุดท่ี 2

ภาพแรกของภาพชุดนี้ เป็นการรบั นอ้ งรุน่ รหสั 07 จากสถานีรถไฟ
ผ่านสพานนวรฐั หรือขวั เหล็กเม่ือปี พ.ศ. 2509 ซ่ึงเป็นครง้ั แรกของการรบั
นอ้ งรถไฟคณะแพทยฯ์

ภาพต่อๆ มาในชุดนี้ เป็นการรบั นอ้ งรุ่นรหัส 09 ในปี พ.ศ. 2511
โดยพ่ีๆ พานอ้ งน่ังซอ้ นทา้ ยรถจักรยานยนต์ ซ่ึงมีรถจ๊ีปวิลลีนาํ ขบวน เพ่ือ
พานอ้ งๆ ไปยังหอพักในคณะแพทยศาสตร์ นอ้ งผูห้ ญิงท่ีน่ังซอ้ นทา้ ยจาก
ซา้ ย วมิ ล วสทุ ธาพงศช์ ยั (อธิพนั ธอุ์ าํ ไพ) โสภา สกุ ณั ศีล (วฒั นานิกร) และ
พนั ทวี วฒั นะ (พนั ธโุ ฆษิต)

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 15
(ภาพชุด 2) รับน้องรถไฟของคณะแพทยฯ์ เมือ่ พ.ศ. 2509 และ 2511

16 / ทศวรรษแรกชวี ิตนกั ศกึ ษา มช.

พิธไี หว้ครู

ภาพไหว้ครูชุดที่ 1 เป็นภาพพิธีไหวค้ รูท่ีจดั ขึน้ ครง้ั แรกในปีก่อตงั้
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ โดยจัดภายหลงั เสร็จพิธีสกั การะศาลพระภูมิเม่ือ
วันท่ี 6 สิงหาคม พ.ศ 2507 (ภาพสีเหล่านีไ้ ด้มาจากวีดีโอของ รศ.ดร.
อรรณพ วราอศั วปติ ศิยษ์เก่า มช. รุ่นแรก ซ่ึงตดั ต่อมาจากภาพยนตร์ที่
ถา่ ยทาํ ไวโ้ ดย Dr. Philip A. Bradbeer เมอื่ ปี พ.ศ. 2507)

พิธีไหวค้ รูในวันนั้นคณาจารยต์ ่างพากันสวมเสือ้ ครุยมาในงาน
อย่างพรอ้ มเพรียง ทาํ ใหง้ านดขู ลงั เป็นท่ีน่าประทบั ใจ หลงั จากประธานใน
พิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรตั นตรยั แลว้ นักศึกษาไดพ้ รอ้ มกนั กล่าวบทสวด
บชู าพระรตั นตรยั จากนนั้ ตวั แทนนกั ศึกษาไดน้ าํ กล่าวบทไหวค้ รูกอ่ นจะนาํ
พานดอกไมแ้ ละธูปเทียนไปมอบแก่บรรดาคณาจารย์ หลงั พิธีไหวค้ รูในวนั
นนั้ ยงั มีการมอบทนุ การศกึ ษาแก่นกั ศกึ ษาอกี ดว้ ย

ภาพไหว้ครูชุดที่ 2 เป็นพิธีไหว้ครูของปี พ.ศ. 2509 ในปีนั้น
มหาวิทยาลยั ยงั คงมีเพียงสามคณะวชิ า ดงั นนั้ จึงมีตวั แทนนกั ศกึ ษาปีหน่ึง
หญิงและชายคณะละสองคนรวมเป็นหกคน เป็นผู้แทนมอบพานพุ่ม
ดอกไมแ้ ละธูปเทียนแกค่ ณาจารย์

ตวั แทนนักศึกษาปีหนึ่งคณะวิทยาศาสตรใ์ นครงั้ นนั้ ไดแ้ ก่ พิทยา
บญุ ศิริ และ สนุ ทรี เฉลิมศรี ขณะท่ีตวั แทนนกั ศึกษาคณะมนุษยศาสตรค์ ือ
เอนก กิมสุวรรณ และ สรนีย์ โหละสุต สําหรบั ตัวแทนนักศึกษาคณะ
สงั คมศาสตรไ์ ดแ้ ก่ ปรีดา รกั วาทิน และ พรอ้ มพร ชยั นาม ทงั้ นีโ้ ดยมีนายก
สโมสรนกั ศกึ ษามหาวิทยาลยั เชยี งใหม่ ซง่ึ เป็นนกั ศกึ ษาแพทย์ (นศพ.)

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 17
(ภาพชุด 1) พธิ สี กั การะศาลพระภมู แิ ละไหว้ครูเมื่อ 6 สงิ หาคม พ.ศ. 2507

18 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.
(ภาพชดุ 2) พิธไี หว้ครูครัง้ ทสี่ ามเม่อื ปี พ.ศ. 2509

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 19

เชียงใหมร่ ุน่ ท่ี 4 ช่ือ เกษม วฒั นชยั ท่ีขณะะนนั้ ศกึ ษาอย่ชู นั้ ปีท่ี 6 กลา่ วนาํ
ไหวค้ รู

ภาพไหว้ครูชุดที่ 3 เป็นพิธีไหวค้ รูของปี พ.ศ. 2510 ซ่ึงส่วนหนึ่ง
ไดจ้ ากเวปไซต้ ข์ อง Dr. Philip A. Bradbeer เช่นกนั ในภาพจะเห็น นศพ.
พิเชฐ โตวิชยธาํ รง นายกสโมสรนกั ศึกษามหาวิทยาลยั เชียงใหม่ นาํ กลา่ ว
คาํ ไหวค้ รู ก่อนท่ีตวั แทนนักศึกษาปีหน่ึงจะนาํ พานธูปเทียนและดอกไมไ้ ป
ถวายหนา้ โต๊ะหม่บู ูชา ตวั แทนนักศึกษาชายหญิงคณะวิทยาศาสตรท์ ่ีเห็น
ในภาพคือสุวัฒน์ กอไพศาล และพงษ์จันทร์ ชนะนนท์ ส่วนตัวแทน
นกั ศึกษาปีหนึ่งคณะมนุษยศาสตรฝ์ ่ ายชายคือเสรี ฤกษ์สาํ ราญ ส่วนฝ่ าย
หญิงไม่ทราบช่ือ บรรยากาศในวนั ไหวค้ รูท่ีบนั ทึกไวโ้ ดยสวุ ฒั น์ กอไพศาล
มดี งั น:ี้ -

“วนั เสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2510 วนั ไหวค้ รู นกั ศึกษาทุก
คนตอ้ งแต่งกายตามระเบียบของมหาวิทยาลยั คือผูช้ ายสวมเสือ้
นอกสขี าว ผูห้ ญิงนงุ่ กระโปรงสีม่วง เสือ้ ขาวธรรมดา เป็นธรรมดา
ที่นิสิตกบั นิสิตตาจะตอ้ งเห่อบา้ งกบั ส่ิงใหม่ๆ ขนาดทีว่ ่ากลางวนั
ฝนตก ต่างกอ็ ยากใหฝ้ นหยดุ เพอื่ ทจี่ ะสวมชดุ ใหญ่ออกไปโชว.์ .

บา่ ยโมงพรอ้ มกนั ทศี่ าลาธรรม เตม็ ไปดว้ ยชุดนอกอนั งาม
สง่า ผูห้ ญิงชดุ สีม่วงก็งามตาน่าทศั นาย่ิงนกั บรรยากาศรอบดา้ น
ดูรนื่ รมย์ ไดเ้ วลาท่านอธกิ ารบดี สนุ ทร หงลดารมย์ มาถงึ ...

คณะอนื่ ๆกม็ ีดอกไมธ้ ูปเทยี นกนั หมดแลว้ แต่ของคณะ
วทิ ยาศาสตร์ยงั ไม่มา แสนจะรอ้ นรนฝนหรือก็ตกพราํ ๆ เขาไหวไ้ ป
ทีละคณะ คณะวิทยร์ ุ่นพเี่ พ่งิ จะนาํ มาให้ แมใ้ จจะรอ้ นรนแต่ก็โล่ง

20 / ทศวรรษแรกชวี ิตนกั ศกึ ษา มช.

ใจทขี่ องเรายงั มาทนั มิหนาํ ซ้ํายงั ภาคภูมิใจในความสวยงามของ
พานดอกไมอ้ ีกดว้ ย พวกเราทาํ พิธีเสร็จก็มีพิธีแจกทุนรางวลั แก่
นกั ศึกษาทเี่ รียนดีหรือขาดแคลนทนุ ทรพั ย์ จากนนั้ ท่านอธิการบดี
ก็ใหโ้ อวาทแก่นสิ ติ นสิ ติ ตาทงั้ หลาย ฟังโอวาทซาบซึง้ ดนี กั จงึ เสร็จ
พธิ เี มือ่ เวลา 15.00 น.”
ภาพไหว้ครูชุดท่ี 4 เป็นภาพการมอบทุนการศึกษาและรางวัล
อ่ืนๆ ในวนั ไหวค้ รูแก่นักศึกษาโดยอธิการบดีแต่ละสมัย ภาพแรกเป็นการ
มอบทนุ การศกึ ษาแก่ประหยดั สายวเิ ชยี ร (สงั คมฯ 07) โดยพระยาศรวี ิสาร
วาจาในปี พ.ศ. 2507 ท่ีศาลาธรรม
ต่อมาหลงั ปี พ.ศ. 2510 พิธีไหวค้ รูไดย้ า้ ยจากศาลาธรรมไปจดั ท่ี
โถงชั้นล่างของคณะเกษตรดังปรากฏในสามภาพต่อมา ซ่ึงเป็นการมอบ
รางวลั ความประพฤติดแี ละรางวลั เรยี นดตี ามลาํ ดบั แก่ ทวีศกั ดิ์ ระมิงคว์ งศ์
และกิตติชยั วฒั นานิกร (วิทยฯ์ 09) โดย พล.ต.อ. ประเสริฐ รุจิรวงศ์ เม่ือปี
พ.ศ. 2511
ภาพสดุ ทา้ ยเป็นการมอบทนุ การศกึ ษาในปี พ.ศ. 2512 โดย ศ.ดร.
บวั เรศ คาํ ทอง แก่เกศิณี กาวีต๊ะ (เกษตรฯ 09) โดยมี ดร.สขุ มุ อศั เวศน์ ใน
ฐานะรองอธิการบดฝี ่ายปกครองอ่านรายช่อื
ภายหลงั เม่ือศาลาเอนกประสงคบ์ ริเวณหนา้ มหาวิทยาลยั ฝ่ังตรง
ขา้ มถนนกับสนามฟุตบอลสรา้ งเสร็จในปี พ.ศ. 2514 (ศาลาแห่งนีม้ ีชื่อ
เรียกเป็นทางการว่า “ศาลาอ่างแกว้ ” แต่บรรดานกั ศึกษามกั เรียกกันว่า
“ศาลาตองตงึ ” เพราะระยะแรกมงุ หลงั คาดว้ ยใบตองตงึ ) จงึ ไดย้ า้ ยพธิ ีไหว้
ครูไปจดั ท่ศี าลาดงั กลา่ วในชว่ งปีทา้ ยๆ ของทศวรรษแรก

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 21
(ภาพชดุ 3) พิธีไหว้ครูครัง้ ทสี่ ีเ่ มอ่ื ปี พ.ศ. 2510

22 / ทศวรรษแรกชวี ิตนกั ศกึ ษา มช.
(ภาพชดุ 4) พธิ มี อบทนุ และรางวัลต่างๆ แก่ นศ. ในวนั ไหว้ครู

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 23

ประเพณีเดนิ ข�นึ ดอยสเุ ทพ

ประเพณีเดินขึน้ ดอยสเุ ทพก่อกาํ เนิดขึน้ จากการดาํ รขิ อง นพ.บุญ
สม มารต์ ิน รองอธิการบดีท่ีรบั ผิดชอบดแู ลนักศึกษาของมหาวิทยาลยั เม่ือ
เร่ิมก่อตงั้ สมัยท่ีพระยาศรีวิศาลวาจาเป็นอธิการบดี โดยอาจารยห์ มอบุญ
สมเห็นว่าหนทางรถยนตจ์ ากเชิงดอยขนึ้ ไปส่วู ดั พระธาตนุ นั้ สาํ เร็จดว้ ยแรง
ศรทั ธาของประชาชนท่ีนาํ โดยครูบาศรีวิชัย เป็นผลงานท่ีแสดงถึงความ
สามัคคีและนาํ ไปส่คู วามสขุ จากการไดข้ ึน้ ไปนมสั การพระธาตดุ อยสุเทพ
ดังนั้นหากยึดถือการเดินขึน้ ดอยสุเทพเป็นประเพณีสาํ หรบั นกั ศึกษาก็จะ
เป็นลกั ษณะเฉพาะตวั ไม่เหมือนมหาวิทยาลยั ใดๆ ดงั ท่ที ่านไดเ้ คยกลา่ วไว้
ดงั น:ี้

"ผมมาคิดเรื่องการตอ้ นรบั นอ้ งใหม่ ซ่ึงเป็นประเพณีต่างๆ กนั ใน
แต่ละมหาวิทยาลยั และเป็นเรื่องของนกั ศกึ ษา หากจะตงั้ กฎเกณฑ์ขึน้ มา
อาจจะสวนความรูส้ ึกขึน้ ได้ และระยะเร่ิมตน้ นีอ้ ยากจะเห็นความราบรื่น
รื่นรมย์และประทบั ใจ...จึงไดช้ วนนกั ศึกษารุ่นแรก ใหเ้ ดินขึน้ ไปนมสั การ
พระธาตดุ อยสเุ ทพดว้ ยเทา้ ดว้ ยกนั ทงั้ หมดหลงั จากปฐมนิเทศแลว้ ก็ไดร้ บั
การตอบสนองดว้ ยดี ดว้ ยความตนื่ เตน้ และไดร้ บั ความร่วมมืออย่างดี ทุก
คนเดินขึน้ ไป ไม่ว่าหญิงหรือชาย ชา้ บา้ งเร็วบา้ ง เมือ่ พรอ้ มกนั แลว้ ก็ขึน้ ไป
นมสั การพระธาตดุ ว้ ยกนั แสดงถงึ ว่าเป็นนกั ศึกษาของ มช. อย่างสมบูรณ์
ทางจิตใจแลว้ "

ในปีแรกๆ ก่อนขึน้ ดอยจะมีการทาํ บายศรีสู่ขวัญผูกข้อมือโดย
คณาจารยท์ ่ีมารว่ มงานจาํ นวนมาก เรอ่ื งนอี้ าจารยไ์ พฑรู ย์ ตนั ฆศิริ เคย

24 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.

เขียนเลา่ ไวว้ ่า:
“ในปีแรกทผี่ ูเ้ ขยี นมาเป็นอาจารยท์ คี่ ณะวทิ ยาศาสตรก์ ย็ งั

เดนิ ขึน้ ดอยกบั เขาดว้ ย เขามีรางวลั ใหแ้ ก่นอ้ งทีเ่ ดินถงึ ผาลาดเป็น
คนแรกทั้งชายและหญิง บังเอิญผู้เขียนเดินล่วงหน้าไปก่อน
หลงั จากพธิ บี ายศรสี ูข่ วญั แลว้ ไม่ไดร้ อขบวน จึงเป็นผูห้ ญิงคนแรก
ทีเ่ ดินถึงผาลาด ก็ไดร้ บั การตอ้ นรบั อย่างดีจากรุ่นพี่ 07 (จําไดว้ ่า
อยู่คณะมนษุ ย์) เอาพวงมาลยั มาคลอ้ งคอใหต้ อ้ นรบั ดว้ ยความดี
ใจ ชมว่าน้องเก่งจังเดินถึงก่อนเพื่อน ชื่ออะไรคะอยู่คณะไหน
พร้อมกับรอ้ งเรียกช่างภาพให้มาถ่ายรูปเธอกับน้องคนเก่ง ก็
บงั เอิญอีกว่าช่างภาพก็อยู่คณะวทิ ยเ์ สยี นี่ ความเลยแตก พสี่ าวก็
เลยหายวบั ไปกบั ตา”
ภาพเดินขึน้ ดอยชุดที่ 1 เป็นการเดินขึน้ ดอยสเุ ทพของนกั ศกึ ษา
ในปี พ.ศ. 2507 ถึง 2509 ภาพแรกในชุดนีจ้ ะเห็น นพ.บุญสม มารต์ ิน
กาํ ลงั ยืนถ่ายภาพรว่ มกบั นกั ศกึ ษารุน่ แรกเม่ือวนั ท่ี 8 สิงหาคม พ.ศ. 2507
ท่วี ดั พระธาตดุ อยสเุ ทพ
นักศึกษาในรูปแรกจากซ้ายมีประหยัด สายวิเชียร วิรุณ คูห์
สวุ รรณ เทียร ใจบุญมา วิไลวรรณ จูประเสรฐิ วรรณวดี จรรยาสณั ห์ พวง
มณี อ่อนนุ่ม ยุพิน วาณิชยเ์ จริญ และ ป้วยฮุง แซ่โงว้ ซ่ึงส่วนใหญ่กาํ ลัง
ศกึ ษาสาขาแพทยฯ์ เภสชั ฯ และวทิ ยฯ์ ในคณะวิทยาศาสตร์ ยกเวน้ คนแรก
ท่ศี กึ ษาในคณะสงั คมฯ
ภาพสีถดั มาเป็นนกั ศกึ ษาอีกกล่มุ ในวนั เดียวกนั จากซา้ ย ผสั สพร
จิตตาภรณ์ (วิทย์ฯ) ขวัญใจ เลอจันทร์ (สังคม) พัชรี เมฆารสธรรมกุล

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 25

(สงั คม) อาภา ศริ วิ งศ์ ณ อยธุ ยา (สงั คม) วนั เพ็ญ เก่งสกลุ (สงั คม) และนิธิ
ยา ประทมุ รตั น์ (วทิ ยฯ์ )

ภาพกล่มุ นกั ศึกษาชายถดั มาเป็นการเดินขึน้ ดอยในปี พ.ศ. 2508
ท่ีเห็นในภาพเป็นนกั ศกึ ษารุน่ แรกรหสั 07 กล่มุ ซา้ ยมือก็มีเช่น นิพนธ์ ตวุ า
นนท์ เจริญ ตันชีวะวงศ์ และปิติ ทฤษฏิคุณ ทั้งหมดศึกษาสาขาเภสัชฯ
ส่วนกลุ่มขวามือเช่น วิทูร วิสุทธิ์เสรีวงศ์ (แพทย)์ สัมพันธ์ พิเชียรสุนทร
และ อรรณพ วราอศั วปติ (วิทยฯ์ )

สาํ หรับสองภาพสุดท้ายในชุดแรกนี้เป็ นการเดินขึ้นดอยของ
นกั ศกึ ษารุน่ 09 ซ่ึงถือเป็นประเพณีว่าตอ้ งคอยใหท้ ุกคนเดินขึน้ มาถึงหนา้
บนั ไดนาคพรอ้ มกันก่อน จึงค่อยพากนั เดินขึน้ บันไดไปนมัสการพระธาตุ
ดอยสเุ ทพพรอ้ มกนั จากนนั้ จึงกลบั ลงมาพกั ผ่อนรบั ประทานอาหารท่ีสวน
สนอันร่มรื่น โดยมีรุ่นพ่ีจัดเตรียมอาหารไว้ให้ สวนสนแห่งนี้อยู่สูงกว่า
ระดับนาํ้ ทะเลราว 1600 เมตร ดังนั้นคงเป็นประสบการณ์ครง้ั แรกท่ีน่า
ประทับใจของบรรดานักศึกษาชาวพืน้ ราบภาคกลางหลายๆ คนท่ีไดม้ า
รบั ประทานอาหารกลางวนั ในบรรยากาศท่ีรม่ ร่ืน เย็นฉ่าํ (ทงั้ นีห้ ากไม่โชค
รา้ ย เจอขา้ วบูดเหมอื นบางปี)

ภาพเดินขึน้ ดอยชุดท่ี 2 เป็นงานร่ืนเริงท่ีสวนสนหลงั กลบั ลงมา
จากไหวอ้ งคพ์ ระธาตขุ องนกั ศึกษารุ่นรหสั 11 และ 12 เม่ือเดือนมิถุนายน
พ.ศ. 2511 และ 2512 ตามลาํ ดบั ซ่ึงก็มีการกระเซา้ เยา้ แหย่ระหว่างรุน่ พ่ี
รุ่นนอ้ งกนั อย่างสนุกสนาน (สาวสวยในภาพคือ สมิหรา จิตตลดากร นอ้ ง
รหสั 11 คณะวทิ ยฯ์ กาํ ลงั ออกอาการเขินนิดๆ กบั คาํ พูดหวานๆ ของรุ่นพี่
ปีสามคณะแพทยฯ์ ชยั วฒั น์ ศริ ิพงษ์)

26 / ทศวรรษแรกชวี ิตนกั ศกึ ษา มช.
(ภาพชดุ 1) เดินขนึ้ ดอยสุเทพในปี พ.ศ. 2507 พ.ศ. 2508 และ 2509

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 27
(ภาพชุด 2) เดนิ ขนึ้ ดอยสุเทพในปี พ.ศ.2511 และ พ.ศ. 2512

28 / ทศวรรษแรกชวี ิตนกั ศกึ ษา มช.
(ภาพชุด 3) เดินขนึ้ ดอยสุเทพในปี พ.ศ. 2514

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 29

ภาพเดินขึน้ ดอยชุดที่ 3 ก็เป็นเฉกเช่นปีก่อนๆ เป็นภาพความ
ร่ืนรมณ์ น่าประทับใจ และมีความสุขของบรรดานกั ศกึ ษารุ่นรหสั 14 ซ่ึงก็
เป็นไปสมตามเจตนารมณเ์ ร่ิมแรกของท่านอาจารยค์ ุณหมอ บุญสม มาร์
ติน ผรู้ เิ ร่มิ ประเพณีนีเ้ ม่ือเกือบหกสบิ ปีมาแลว้

30 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.

วนั รับนอ้ งใหม่

การต้อนรับนักศึกษาใหม่ในครั้งแรกเม่ือปี พ.ศ. 2507 นั้น
ผูบ้ ริหารและคณาจารยไ์ ดน้ าํ นักศึกษาทัง้ หมดไปพรอ้ มกันท่ีวัดพระสิงห์
วรวิหาร เพ่ือบาํ เพ็ญประโยชนแ์ ละฟังธรรมะสอนใจจากพระคณุ เจา้ ก่อนท่ี
ผู้แทนอธิการบดีจะกล่าวต้อนรับ จากนั้นจึงเป็นการแนะนําผู้บริหาร
มหาวิทยาลยั และคณบดีซ่ึงมีเพียงไมก่ ่ีคน ในปีนนั้ ไมม่ ีการรบั นอ้ งใหม่จาก
รุน่ พ่ี เพราะรุน่ พ่ียงั ไมม่ ี

ในปีต่อๆ มาการรบั นอ้ งใหม่มีทัง้ การรบั รวมของมหาวิทยาลัยใน
ตอนเชา้ ส่วนในตอนบ่ายจึงแยกไปรบั นอ้ งตามคณะต่างๆ บรรยากาศการ
รบั นอ้ งใหม่จะเร่ิมตัง้ แต่ประตทู างเขา้ มหาวิทยาลัยตรงไปถึงศาลพระภูมิ
จากนั้นจะเลีย้ วขวามุ่งตรงไปสู่สนั เข่ือนอ่างแกว้ ตลอดเสน้ ทางจะมีเสียง
จากรุ่นพ่ีท่ีแข่งกนั พดู (ตะโกน) ใส่นอ้ งใหม่ไม่ขาดสาย บา้ งใชเ้ สียงดงั ราว
กบั จะข่ใู หน้ อ้ งใหม่กลวั บา้ งช่วยปลอบเม่อื เหน็ นอ้ งผหู้ ญิงนา้ํ ตาจะไหล

วนั รบั นอ้ งใหม่เป็นวนั แห่งความสขุ เสียงดงั ไปท่วั ทงั้ มหาวิทยาลยั
มีการรอ้ งเพลงท่ียงั ไม่ใช่เพลงเชียรเ์ ป็นกล่มุ ใหญ่ๆ เพลงท่ีรอ้ งจะเป็นเพลง
ท่ีนอ้ งใหมร่ ูจ้ กั คนุ้ เคยอยู่แลว้ เน่ืองจาก มช. มสี ญั ลกั ษณช์ า้ งชคู บเพลิง เรา
จึงไดย้ ินเพลง “ชา้ งๆๆๆๆๆ นอ้ งเคยเห็นชา้ งหรือเปล่า ...” ดังกระห่ึมอยู่
ตลอดเวลา

ภาพวันรับน้องใหม่ชุดท่ี 1 เร่ิมดว้ ยภาพการฟังบรรยายธรรม
ของบรรดานักศึกษารุ่นแรกในปี พ.ศ. 2507 คนท่ีน่งั แถวหนา้ ในภาพ เป็น
ก๊วนเดิมในวนั ขึน้ ดอยสเุ ทพมีนิธิยา ประทมุ รตั น์ หรือ รตั นาปนนท์ (วิทยฯ์ )

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 31

วญั เพ็ญ เก่งสกุล หรือ แกลว้ ทนงค์ (สงั คมฯ) ผัสสพร จิตตาภรณ์ (วิทยฯ์ )
อาภา ศิริวงศ์ ณ อยุธยา (สังคม) และขวัญใจ เลอจันทร์ หรือ ไทยทอง
(สงั คม)

ตามมาในภาพชุดเดียวกนั เป็นบรรยากาศการรบั นอ้ งของปี พ.ศ.
2508 ท่ีเห็นเป็นซุม้ ของคณะวิทยาศาสตรซ์ ่ึงมีพ่ีๆ คอยตอ้ นรบั อยู่หนา้ ซุม้
ประกอบด้วย จากซ้าย สุทธิพันธ์ ชีวธนรตั น์ สมศักดิ์ สุมิตสวรรค์ และ
เกรยี งศกั ดิ์ (รธั ชยั ) ฤทธาภรณ์ สาขาแพทยศาสตร์ ชุมพรรณ ชวชาติ สาขา
เคมี ธนิต หาสาสน์ศรี สาขาแพทยศ์ าสตร์ บัณฑูรย์ วาฤทธิ์ และชุมพล
สุวรรณรตั น์ สาขาเกษตรฯ และในภาพชุดนีย้ ังเห็น วสันต์ กิตติกุล หนุ่ม
หล่อนอ้ งใหม่ของคณะสงั คมฯ กาํ ลงั โดนรุน่ พ่ีสาวๆ รุมกนั รบั จนเจา้ ตวั ออก
อาการเขินนิดๆ

ภาพวันรับน้องใหม่ชุดท่ี 2 เป็นการรบั น้องของปี พ.ศ. 2509
เร่ิมจากหนุ่มน้องใหม่สาขาเกษตรสุนทร สิตตา กําลังถูกสองสาวรุ่น
เดียวกนั วีระพรรณ มโนรตั น์ และ นวลวิภา เดิมศรีสมุทร จงู คอเดินดว้ ยสี
หนา้ ยมิ้ ระรื่น ดทู งั้ สามคนจะสนกุ สนานกนั เตม็ ท่ี คงเป็นเพราะขณะนนั้ เพ่ิง
เรม่ิ ตน้ เดนิ จากหนา้ มช. ยงั ไมท่ นั เจอเร่อื งหนกั ๆ จากรุน่ พ่ีเกษตร

ตามมาดว้ ยภาพพ่ีๆ กาํ ลงั ใหน้ อ้ งปีหน่ึงสาธิตวิธีขอความรกั จาก
สาวปู สรนีย์ โหละสุต น้องใหม่คณะมนุษย์ฯ ส่วนนิมิตร จิวะสันติการ
(สงั คมฯ) ถกู รุ่นพ่ีละเลงสี ใสห่ นวด จนเกือบจาํ หนา้ ไม่ได้ แถมยังหาว่าหิว
ขนมโก๋ซะอีก! ขณะท่ีสาวนิรนามก็กาํ ลงั ตั้งหน้าตัง้ ตาเป่ าลูกโป่ งจนแก้ม
พอง

32 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.
(ภาพชดุ 1) การรับน้องใหม่ในปี พ.ศ. 2507-2508

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 33
(ภาพชุด 2) การรับน้องใหม่ในปี พ.ศ. 2509

34 / ทศวรรษแรกชวี ิตนกั ศกึ ษา มช.

สาํ หรบั สาวตาคม ผมสนั้ ชาวนครชัยศรี ผ่องศรี ศิรไิ พโรจน์ (วิทย์
ฯ) ก็ยิม้ หวานใหพ้ ่ๆี คงเพราะชอบใจปา้ ยหอ้ ยคอ “pretty little baby” สว่ น
กิตติชยั วัฒนานิกร ดจู ะไม่มีความสขุ กว่าเพ่ือน หนา้ มุ่ยไม่สบอารมณ์ คง
เป็นเพราะถกู จบั ผกู โบวท์ ่ผี มโดยรุน่ พ่ีสาวๆ

ภาพวันรับน้องใหม่ชุดที่ 3 เป็นการรบั นอ้ งปี พ.ศ. 2510 และ
2511 ภาพแรกในชดุ นีจ้ ะเหน็ รุน่ พ่ีปีสองคณะมนุษย์ โอภาส วยั วฒั น์ กาํ ลงั
ใหจ้ ังหวะนอ้ งๆ รอ้ งเพลง “มะนดุ สะยะสาด เก่งกาจจริงหนอ…” ดังสน่ัน
ภาพถัดมาเป็นนอ้ งใหม่ตัวเล็กน่ารกั ของปีนัน้ สุรีย์ ณ เชียงใหม่ (มนุษย)์
ซง่ึ มเี พ่อื นค่หู ชู ่ือ สดุ ายืนอย่ใู กลก้ นั

ถัดไปเป็นภาพถ่ายหน้าตึกมนุษยฯ์ แถวยืนจากซา้ ย เอนก (พ่ีปี
สอง) นพพร และ ศภุ ชยั (นอ้ งใหม่) แถวน่ังมี พยนต์ (พ่ีปีสาม) ทิพากร (พ่ี
ปีสอง) ธรรมนญู วศิ ิษฎ์ และ อศั วิน (นอ้ งใหม่) ทงั้ หมดกาํ ลงั สนกุ สนานกบั
การแหกปา...รอ้ งเพลงแข่งกบั กลมุ่ อ่ืนๆ

ภาพต่อมาในชดุ นเี้ ป็นขบวนนอ้ งใหม่ท่ีเดินจากหนา้ มช. มาถึงสนั
เข่ือนอ่างแก้ว ถูกพ่ีปีสองรุมสัมภาษณ์ พ่ีๆ ท่ีจาํ หน้าได้มี กมล คูตระกูล
(มนษุ ยฯ์ ) เฉลมิ ชยั วรวฒุ ิพทุ ธพงศ์ (สงั คมฯ) ฉายฉาน กงั วานพงศ์ พีระพล
รตั นสมบัติ ขัยวัฒน์ ผลประสิทธิ์ (วิทย์ฯ) เดชา คูวุฒิยากร (แพทย์) และ
ไพโรจน์ แพรสกลุ (เกษตร)

ส่วนภาพสดุ ทา้ ยของการรบั น้องปีการศึกษา 2510 เป็นภาพของ
นอ้ งปีหน่ึง นิรชราพร สมัยศรีวัฒนากูล (วิทยฯ์ ) กาํ ลงั ถูกพ่ีๆ นาํ โดย วิชัย
ใจแกว้ (แพทยฯ์ ) กระหน่าํ สมั ภาษณจ์ นตอ้ งควกั ยาดมออกมาสดู !

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 35
(ภาพชุด 3) การรับน้องใหม่ของปี พ.ศ. 2510

36 / ทศวรรษแรกชวี ิตนกั ศกึ ษา มช.

ภาพวนั รับน้องใหม่ชุดท่ี 4 เป็นการรบั นอ้ งเม่ือ 27 กค. 2511 ซ่งึ
ก็ดสู นกุ สนานไม่แพป้ ีกอ่ นๆ นอ้ งใหม่ปีนีม้ ีจาํ นวนมากขึน้ สองภาพแรกเป็น
การผูกขอ้ มือรบั ขวัญนอ้ งใหม่บรเิ วณหนา้ มหาวิทยาลยั ก่อนจะเดินต่อมา
ยงั บรเิ วณสนั เข่ือนอา่ งแกว้ ท่ีมรี ุน่ พ่ีคอยรบั นอ้ งอยา่ งคกึ คกั

ภาพท่ีสามจากซา้ ย นพพร ซิงห์ พงษ์เทพ วัดแกว้ ประธาน ภัทร
รงั รอง ทวีศักดิ์ เกตพุ นั ธุ์ เผชิญ เพชรจาํ รสั สดุ า มิ่งขวญั และวิญ�ู พลู ศรี
เขาเหล่านีก้ าํ ลงั ตงั้ อกตั้งใจเอาคืน หลงั จากตนเองถูกรบั นอ้ งมาในปีก่อน
หน้า ส่วนเด็กใส่เสือ้ ลายหาใช่นอ้ งใหม่ มช. ไม่ แต่เป็นลูกหลานสมาชิก
ชาว มช. ท่ีมีบา้ นอย่ใู กลเ้ คียงบริเวณนนั้ ไดย้ ินเสียงรุน่ พ่ีวา้ กกนั ดงั ล่นั จึง
นึกสนกุ เขา้ มารว่ มวงดว้ ย

สองภาพสุดทา้ ยในชุดนีจ้ ะเห็น นิเวศน์ นนั ทจิต (ใส่แว่น) และ ศิ
วาพร สิงหเนตร (กาํ ลงั ปรบมือ) สองคนดังในปัจจุบัน ท่ีปีนั้นเขา้ มาเป็น
นอ้ งใหม่

ภาพวันรับน้องใหม่ชุดท่ี 5 และ 6 เป็นการรบั น้องในปี พ.ศ.
2512-2514 ซ่ึงก็มีบรรยากาศไม่แตกต่างจากปี ก่อนหน้า เร่ิมจากพิธี
บายศรีส่ขู วญั และผกู ขอ้ มือโดยอธิการบดี ศ.ดร.บวั เรศ คาํ ทอง คณาจารย์
และพ่ีๆ ท่ีบริเวณสนามฟุตบอลหนา้ ตึกอธิการบดี ก่อนจะตามมาดว้ ยการ
รบั นอ้ งรวมในภาคเชา้ และแยกยา้ ยไปรบั นอ้ งของแตล่ ะคณะในภาคบา่ ย

การรบั น้องปีการศึกษา 2512 พิเศษกว่าทุกปี เน่ืองจากก่อนงาน
รบั นอ้ งในครงั้ นนั้ มเี คา้ ลางว่าจะเกิดปัญหาการกระทบกระท่งั ของนกั ศกึ ษา
ภาคปกติและภาคสมทบ ดงั ท่วี ชั ระ ตนั ตรานนท์ เขียนเลา่ ไวใ้ นหนงั สือเลม่
นี้ แต่งานรบั นอ้ งในวนั นนั้ ก็ผ่านไปไดด้ ว้ ยดี

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 37
(ภาพชุด 4) การรับน้องใหม่ของปี พ.ศ. 2511

38 / ทศวรรษแรกชวี ิตนกั ศกึ ษา มช.
(ภาพชุด 5) การรับน้องใหม่ของปี พ.ศ. 2512

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 39
(ภาพชดุ 6) การรับน้องใหม่ของปี พ.ศ. 2513-14

40 / ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช.

งานเล�ียงกลางคืนตอ้ นรับนอ้ งใหม่

งานเลีย้ งกลางคืนตอ้ นรบั นักศึกษาใหม่ จัดขึน้ ครงั้ แรกในปี พ.ศ.
2507 ซ่ึงเป็นงานแบบขนั โตกจดั โดยคณาจารยเ์ พ่ือใหน้ ักศึกษารุ่นแรกได้
เรียนรูข้ นบธรรมเนยี มของชาวเหนอื งานครง้ั นนั้ จดั ท่หี อ้ งอาหารในหอ 1

ปีต่อมารุ่นพ่ี 07 ไดจ้ ัดเลีย้ งขันโตกตอ้ นรบั นักศึกษาใหม่รหัส 08
ทั้งสามคณะพรอ้ มกันท่ีอาคารสโมสรนักศึกษา หรือ “อาคารยูเนี่ยน”
อย่างไรกต็ ามตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2509 เป็นตน้ มา งานเลีย้ งกลางคืนตอ้ นรบั นอ้ ง
ใหม่หลังงานภาคกลางวัน ได้แยกไปจัดกันเองแต่ละคณะ (หมายเหตุ:
นักศึกษาแพทย์ฯ ชั้นปี หน่ึงและสอง ยังถือว่าสังกัดคณะวิทย์ฯ ส่วน
นกั ศึกษาเกษตรฯ ก็ยงั สงั กัดภาควิชาวิทยาศาสตร์การเกษตรของคณะ
วทิ ยาศาสตร)์

ภาพคืนงานเลีย้ งชุดท่ี 1 ภาพแรกในชุดนเี้ ป็นการแห่ขนั โตกของ
นักศึกษารุน่ แรก เพ่ือเขา้ สู่งานเลีย้ งในหอ้ งอาหารหอ 1 เม่ือปี พ.ศ. 2507
งานขันโตกครง้ั นั้นจัดอย่างพิถีพิถัน นักศึกษาหญิงสวมซิ่นไหมลวดลาย
ของชาวเหนือ ใส่เสือ้ แขนกระบอกห่มสไบ และแต่งหน้าทาํ ผมมาอย่างดี
สว่ นนกั ศกึ ษาชายใสเ่ สอื้ และกางเกงม่อฮอ่ ม รดั เอวดว้ ยผา้ ขาวมา้

บคุ คลสองแถวหนา้ ในภาพนีจ้ ากซา้ ยมี อรรณพ วราอศั วปติ (วิทย์
ฯ) พนู สนิ ถ่ินวอ่ ง (สงั คมฯ) เฉลิมศรี มีนนั ท์ (มนษุ ยฯ์ ) กรรณิการ์ พกุ กะเวส
ประหยดั สายวิเชยี ร และนงลกั ษณ์ อศั วชินโชติ (สงั คมฯ) ธนิต หาสาสนศ์ รี
และ สมศกั ดิ์ สมุ ิตสวรรค์ (วทิ ยฯ์ )


Click to View FlipBook Version