The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ทศวรรษแรก ชีวิตนักศึกษา มช. (6) ฉบับ e-book resize และเพิ่มปก พร้อม ISBN

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kwattananikorn, 2022-05-06 09:19:44

ทศวรรษแรก ชีวิตนักศึกษา มช. (6) ฉบับ e-book resize และเพิ่มปก พร้อม ISBN

ทศวรรษแรก ชีวิตนักศึกษา มช. (6) ฉบับ e-book resize และเพิ่มปก พร้อม ISBN

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 141

บันทึก คนื ย่เี ป�ง 17 พย. 2510

โดย..สวุ ฒั น์ กอไพศาล

แรม 1 ค่าํ เดือน 12 คืนแห่ (ลอย )กระทงใหญ่ เป็นวันท่ีฉันขอ
จดจาํ มิรูล้ ืม คืนงานวันลอยกระทงของนครเชียงใหม่ ช่างติดตรึงใจจริงๆ
ฉันไม่คิดเลยว่าบรรยากาศคืนนีจ้ ะดีเช่นนี้ ท้องฟ้าเวิง้ ว้าง บางครง้ั ก็มี
ละลอกรวิ้ เมฆลอยผ่านไปมา พระจนั ทรเ์ ต็มดวง ทอรศั มีสกุ ใส กระทงใหญ่
นอ้ ยไหลเอ่ือยไปตามคงุ้ นาํ้ ของลาํ นาํ้ ปิง แลดจู ากสะพานนวรฐั งามตาจับ
ใจ

ผูค้ นหล่งั ไหลมาเบียดเสียดทงั้ สองฝ่ัง คืนนีท้ ัง้ คืนเต็มไปดว้ ยแสง
จนั ทร์ กระทง และแสงเทยี นกลางนา้ํ สลวั ๆ เออื้ งสาวเชยี งใหมอ่ ย่ใู นชดุ ไทย
งามเสน่ห์ ลานตา เสมือนริมฝ่ังแม่นา้ํ แห่งนีเ้ ป็นท่ีรวมแห่งความงาม ความ
น่ารกั หนุ่มชวนสาวมาลอยกระทงกันเป็นค่ๆู ทาํ ใหห้ วนระลึกถึงนวนิยาย
อมตะรกั ของนอ้ ยไจยา

กระทงชีวิต..แสงไฟวอมแวมริมฝ่ังนา้ํ ใบหน้าทุกคนอิ่มเอิบ ยิม้
แยม้ บอกถึงความมีไมตรี สายตาต่อสายตา มองแลว้ มองเล่า เสียงพลุ...
ดอกไมไ้ ฟใหค้ วามสว่างแก่ทอ้ งฟ้าเป็นแสงสีต่างๆกนั ขบวนกระทงใหญ่อนั
ประทับใจของมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ โรงเรียน
ตา่ งๆ ลว้ นแตห่ รูหรานา่ ทศั นาทงั้ สิน้

นิสิต มช.กว่า 400 คน ถือกระทงคบเพลิง เดินแห่รอบตัวเมือง
เชียงใหม่ยามราตรี ติดตามดว้ ยธรรมศาสตรแ์ ละอ่นื ๆ ยาวกว่า 2 กิโลเมตร
ทางมหาวิทยาลยั ไดแ้ นะนดั ใหน้ สิ ิตพรอ้ มกนั ท่ีวิทยาลยั 1 ตกึ 1 เพ่ือรบั ไป

142 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

ผู้บนั ทกึ (ซ้ายสุด) กบั เพื่อนรุ่น 10 ในขบวนแหก่ ระทง โดยมพี ีป่ ี สอง
ยคุ ล นิมมานเหมนิ ท์ (ขวาสุด) ควบคมุ ขบวน

ตงั้ ขบวนแถวท่ีส่ีแยกสุริวงศ์ ทุกคนตื่นเตน้ เป็นการใหญ่ ขบวนท่ีว่านีม้ ีทั้ง
แต่งตวั แบบชดุ ใหญ่ สทู ในโอกาสพิเศษหญิงและชาย ชดุ นกั ศกึ ษาธรรมดา
และพนื้ เมอื ง

ชดุ กระทงนางนพมาศ มีสาวงามนศ.ปี 1 คณะมนุษยศ์ าสตรเ์ ป็น
นางนพมาศ ส่วน ภณิดา อมาตยกุล คณะวิทย์ และสาวงามปีหนึ่งคณะ
เกษตร อยซู่ า้ ยและขวา ขบวนของเราต่อจากขบวนของเทคนิค และต่อจาก
เราเป็นของทหารอากาศ ตงั้ ขบวนจากเยน็ จนถงึ มดื สนกุ ยินดี ตื่นเตน้

ฉันเองใส่ชุดนอกสีขาว ซ่ึงมีทั้งหมดด้วยกัน 20 คน สวมแว่น
สายตาเสีย 15 คน แถวเดินไปตามถนนเวลาค่าํ มืด มือถือกระทงคนละใบ
จดุ เทียนดว้ ยเดินไปอยา่ งสงบเสง่ียม จากท่าแพเดนิ ไปยงั ถนนวิชยานนท์

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 143

ผ่านผคู้ นมากมาย
ใครๆก็บอกว่าของ มช.สวยเป็นระเบียบเรียบรอ้ ยดีจรงิ หลายคนก็

กระซิบว่าดูชุดนีซ้ ิสวมแว่นทั้งนั้น ผลปรากฏว่าประกวดกระทง มช.ชนะ
ประเภทสวยงาม

(สนิ้ สดุ พนื้ ทเี่ ขียนในหนา้ สมดุ ไดอารีวนั นนั้ พอด)ี

144 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

“ทําไมพวกจุฬาฯ ไม่มาช่ วยพวกผมละ่ ครบั ”

โดย..เอนก กมิ สวุ รรณ

ประโยคขา้ งบนนีเ้ ป็นคาํ ถามของ ปรีมาวศุต อดิศักดิ์ นักศึกษา
มช. รุ่นสาม (รหัส 09..) ตะโกนถามหัวหน้าฝ่ ายดูแลการแจกหนังสือ
อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ ท่ีส่งั นกั ศึกษา มช. เขา้ ขนหนังสือจาก
อาคารเล็กๆ หลงั หน่ึงซ่ึงในนนั้ มีหนังสืออนุสรณฯ์ เป็นมดั ๆ กองอยู่เต็มไป
หมด แตล่ ะมดั จะมีหนงั สอื ราว 3-4 เล่ม พมิ พด์ ว้ ยกระดาษอารต์ มนั อย่างดี
นา้ํ หนกั แต่ละมดั เกนิ 2 กโิ ลกรมั

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันท่ี 8 มิถุนายน 2511 ณ เมรุหน้า
พลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส ในงานพระราชทาน
เพลิงศพ พันเอก พระยาศรีวิสารวาจา อธิการบดีคนแรกของ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เรือ่ งนเี้ ร่มิ จากวชั ระ ตนั ตรานนท์ นกั ศกึ ษา มช. รุน่ สาม (รหสั 09..)
ได้รับมอบหมายจากทางตึกหน้า (หมายถึงตึกอธิการฯ) ให้รวบรวม
นักศึกษาประมาณ 10 คนเพ่ือเขา้ ร่วมงานพระราชทานเพลิงศพครง้ั นั้น
นักศึกษาจะต้องเตรียมชุดขาวพร้อมเสื้อนอกสีขาวเน็คไทดําไปด้วย
หลังจากติดต่อรวบรวมนักศึกษาไดแ้ ลว้ วัชระนัดหมายให้ทุกคนมาพัก
รวมกนั ในวนั ท่ี 6 ท่หี อชาย หรอื “หอปากห...”

นักศึกษาท่ีร่วมเดินทางคร้ังนี้เท่าท่ีจําได้รุ่นรหัส 09 มี ยุคล
นิมมานเหมินทร์ สุบิน อินทป๋ัน เอนก กิมสวุ รรณ สว่ นรุ่นรหสั 10 มี วิศิษฎ์
คุตติกุล ในวันท่ี 7 ตอนสายๆ พวกเราเร่ิมออกเดินทางโดยรถบัส

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 145

มหาวิทยาลัยถึงหอพักของจุฬาฯ เวลาราวทุ่มกว่าๆ ทางจุฬาฯ ให้การ
ต้อนรบั ด้วยห้องพักแบบนอนรวม มีเตียงมีฟูก แต่ไม่มีผ้าปูและปลอก
หมอน ประตูมงุ้ ลวดชาํ รุด พวกเรารีบอาบนาํ้ แลว้ ออกไปหาอะไรกิน บาง
คนไปประตนู าํ้ บางคนไปสามย่าน เสรจ็ แลว้ กลบั มานอนใหย้ งุ กดั จนหลบั
ไปดว้ ยความอ่อนเพลีย

วนั รุ่งขึน้ ไม่ทราบหาทานขา้ วเชา้ และขา้ วเท่ียงกนั อย่างไร และก็
จาํ ไม่ไดว้ ่ามีเบยี้ เลีย้ งจาก มช. ใหค้ นละเทา่ ไร แต่จาํ ไดว้ ่ามีใหน้ ดิ หน่อย รถ
บสั นาํ พวกเรามาท่ีวดั เทพสิรนิ ฯ นกั ศกึ ษา มช. ท่ีเขา้ ร่วมเพ่ิมอีกคนคือ ปรี
มาวศตุ นอกนนั้ จาํ ไมไ่ ดแ้ ลว้

หัวหน้าฝ่ ายแจกหนังสืออนุสรณ์ฯ ส่งั ใหน้ ักศึกษา มช. ท่ีดูสุภาพ
เรียบรอ้ ยเดินเรียงลาํ ดบั กันเขา้ ไปขนหนังสือเอาออกมาวางท่ีโต๊ะทางขึน้
เมรุ อากาศวนั นนั้ รอ้ นมาก ขนหนงั สือจนเสือ้ เปียก คนท่ีเร่มิ ปรปิ ากคนแรก
คือปรีมาวศตุ

“อะไรกนั วะ พวกจุฬายืนรออยู่ทีโ่ ต๊ะอย่างเดยี ว ไม่เขา้ มาช่วยกนั
ขนหนงั สอื แบบนเี้ อาเปรยี บกนั นหี่ ว่า”
พวกเรา มช. เร่ิมแสดงอาการไม่พอใจ เม่ือปรกึ ษากันสักครู่ ปรีมาวศุตก็
เดินเขา้ ไปถามหัวหน้าฝ่ ายคนดังกล่าวดว้ ยคาํ ถามท่ีเกร่ินตอนต้นเรื่อง
คาํ ตอบท่ไี ดร้ บั คือ
“ผมแบ่งกลุ่มให้นิสิตจุฬาทําหน้าที่แจกหนังสือ นักศึกษา
มหาวทิ ยาลยั เขียงใหมข่ นหนงั สอื มาตงั้ ทโี่ ตะ๊ สาํ หรบั แจกแขก”
ปรีมาวศตุ จงึ แยง้ ไปวา่
“ทาํ ไมไมม่ าช่วยกนั ขนแลว้ ช่วยกนั แจกละครบั ”

146 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

คาํ ตอบท่ไี ดค้ ือ
“อ๋อ นิสิตจุฬาใส่ชุดราชปะแตนดูเป็นระเบียบสวยงาม ควรยืน
ประจาํ ทโี่ ตะ๊ แจกหนงั สอื ”

เม่ือไดย้ ินเหตุผลการแบ่งหนา้ ท่ี พวกเราชาว มช. ถึงกบั ควนั ออกหู แบบนี้
ถือว่าเป็นการไม่ใหเ้ กียรติกนั น่ีหว่า อีกประการหน่ึง หนา้ ท่สี ดุ ทา้ ยของพระ
ยาศรวี สิ ารวาจาคืออธิการบดขี องมหาวิทยาลยั เชียงใหม่ ไม่ใช่ของจฬุ าฯ

มีการโตเ้ ถียงไปมาระหว่างปรีมาวศตุ และหวั หนา้ ฝ่ายฯ หากยงั ไม่
มีการเปลี่ยนแปลงหน้าท่ีการทํางาน พวกเราชาว มช. ก็จะไม่ยอมขน
หนงั สือต่อ ในท่ีสดุ หวั หนา้ ฝ่ายฯ ซง่ึ มีอาการคมุ อารมณแ์ ทบไม่อยู่ และหา
เหตผุ ลท่ีดีมาเถียงปรีมาวศตุ ไม่ได้ จึงส่งั ใหน้ ิสิตจฬุ า 5-6 คนท่ีก่อนนีย้ ืนเท่
อยา่ งเดียวใหเ้ ขา้ ไปขนหนงั สอื แทนพวกเรา

เม่ือถึงเวลาแขกเดินขึน้ เมรุเพ่ือวางดอกไม้จันทน์แสดงความ
เคารพเป็นครงั้ สุดทา้ ย พวกเรา มช. ก็ทาํ หน้าท่ียืนแจกหนังสืออนุสรณ์
เคียงข้างนิสิตจุฬาด้วยความภาคภูมิใจในความเป็ นนักศึกษาของ
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ท่ีอายุเพ่ิงครบ 4 ปี ขอบคณุ ปรีมาวศตุ ท่ีทาํ ใหพ้ วก
เรานกั ศกึ ษา มช. ไม่ถกู เอารดั เอาเปรียบ

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 147

กัญชา...เม่อื หา้ สบิ ปี กอ่ น

โดย.. ทวศี กั ดิ์ ระมงิ คว์ งศ์

เพลานีก้ ัญชากาํ ลังเป็น Talk of the town กัญชากาํ ลังถูกปลด
ล็อกจากยาเสพติดท่ีน่ากลวั แปรสภาพมาเป็นยาวิเศษและมีแนวโนม้ เป็น
พชื เศรษฐกิจตวั ใหม่

เม่ือหา้ สิบกว่าปีก่อนนู้น สมัยท่ีผมยังเป็นหนุ่มนักศึกษา กัญชา
เป็นของท่ีค่อนขา้ งจะธรรมดาในหม่นู กั ศกึ ษา เป็นอะไรท่ีซือ้ ง่ายขายคล่อง
ไม่ยุ่งยาก แค่ข่ีมอเตอรไ์ ซคจ์ าก มช. มาแถวๆ กาํ แพงดิน จา่ ยเงนิ ย่สี ิบบาท
ก็สามารถกลบั มช.พรอ้ มกับใบกัญชาแหง้ ห่อกระดาษหนังสือพิมพ์ ท่ีมี
ปรมิ าณมากพอสาํ หรบั คอกญั ชาสี่หา้ คนใหห้ นกุ หนานร่ืนเรงิ บนั เทิงใจ

การเสพกัญชาก็ทาํ กันง่ายๆแค่มวนใบกัญชาผสมบุหรี่ก็เสพได้
แลว้ อัดควันกัญชาไปสองสามซีด้ ก็เร่ิมหัวเราะ ตาเคลิม้ หวานหยดยอ้ ย
การเสพผ่านบอ้ งกัญชาก็ไม่ยุ่งยากขอให้มีบอ้ งไมไ้ ผ่ก็พอ ซอยกัญชาให้
ละเอยี ดแลว้ ยดั เขา้ ไปในรูแขนงของบอ้ ง จดุ ไฟแลว้ ก็ดดู ควนั ผ่านนาํ้ ในบอ้ ง
กญั ชาก็อภิรมยไ์ ดแ้ ลว้ อาจตอ้ งมีเทคนิคเฉพาะตวั ในการดดู นิดหน่อยแต่ก็
ดไู ม่ยากเยน็ อะไร

ท่ีเห็นเม่ือเสพแลว้ คนเสพก็จะอารมณด์ ีพดู อะไรก็หวั เราะเอิก๊ อ๊าก
ย่ิงไดก้ ๊วนเพ่ือนท่ีถูกคอกนั ก็ย่ิงสนุกเป็นท่ีเฮฮายิ่งนกั เวลาเสพกนั ในก๊วน
มกั เห็นของหวานประเภททองหยิบทองหยอดเป็นเครื่องแนม ว่ากันว่าเม่ือ
เสพแลว้ ขนมหวานเหลา่ นที้ าํ ใหช้ ่ืนใจยิง่ นกั

148 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

ก๊วนกัญชา เอ้ย..ก๊วนธรณีวทิ ยา (จากซ้าย) ประดษิ ฐ์ สกนธวฒั น์ (08) ภชุ งค์
ชินพงษานนท์ (09) ธีรพงศ์ ธนสุทธิพทิ ักษ์ (07) พนิ ิจ คุณาวฒั น์ (09) และ สงา่

บญุ ชม (09)

บรรยากาศในก๊วนกญั ชาเห็นมีแต่ความสนุกสนานรอ้ งราํ ทาํ เพลง
เรื่องชกต่อยหรือทะเลาะเบาะแวง้ มีน้อย ไม่ค่อยเห็นใครออกแนวบู๊ลา้ ง
ผลาญในวงกัญชา แต่ท่ีเห็นชดั เจนคนท่ีเสพกญั ชาดเู หมือนจะกลวั ตาํ รวจ
มาก กลวั จนเม่ือเพ่ือนหลอกว่าตาํ รวจมาจะพากนั วงิ่ มดุ เขา้ ไปหลบใตเ้ ตยี ง
อีกอยา่ งท่ีดจู ะกลวั หนกั ก็คือความสงู คนท่ีไดก้ ญั ชาเขา้ ไปถึงระดบั หนงึ่ เม่ือ
ยืนอยู่บนกล่องเตีย้ ๆ จะกลัวมากเหมือนกับว่ากล่องนั้นสูงซะเหลือเกิน
เพ่ือนๆยใุ หก้ ระโดดลงจากกลอ่ ง ไม่มีวนั ท่ีเขาจะยอม

ฤทธิ์กญั ชาก็ดเู หมือนจะไม่อย่ใู นเลือดนาน เสพไปซกั พกั ใหญ่ๆ ก็
ดเู หมือนจะผ่อนคลายลงและกลบั เป็นปกติ รวมๆ แลว้ กญั ชาเพลานนั้ ก็ดู
จะเป็นเรื่องไม่รา้ ยแรงอะไรมาก เป็นวิถีชีวิตของนักศึกษาท่ีรกั ในเสียง

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 149

หัวเราะและเสียงดนตรี โดยเฉพาะนักศึกษาท่ีรกั ธรรมชาติ รกั เสียงเพลง
เฉกเช่นธรณีวิทยา

ที่สําคัญไม่เห็นเพื่อนๆที่ต้องเสียอนาคตจากกัญชาเลย
แม้แตค่ นเดียว

150 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

ช่ืนชีวติ จติ ใจ..

โดย..กิตตชิ ยั วฒั นานกิ ร

ชื่นชวี ิตจติ ใจ รักค่หู ทัย เร้าในอารมณ์ พก่ี ับน้องชน่ื ชม
ทกุ ส่งิ เกลยี วกลม ภริ มยฤ์ ทยั …. ♪ ♫

แม้วนั ไม่สดชนื่ แม้คนื จะเปล่าเปลยี่ ว รักเธอคนเดียว
รืน่ รมยก์ ลมเกลียวทกุ ทาง….. ♪ ♫

ไดย้ ินเพลงนีท้ ีไร ทาํ ใหน้ ึกถึงสมัยเป็นนกั ศึกษา ในยุคนนั้ ขณะน่งั
รถไปทศั นศกึ ษากบั เพ่ือนๆ รุน่ พ่ี-รุ่นนอ้ ง ตามแหล่งท่องเท่ียวในชนบทของ
ลา้ นนา ส่ิงท่ีพวกเราทาํ เป็นกิจวัตรคือร่วมรอ้ งเพลงสรา้ งความครึกครืน้
ขณะเดินทาง ทงั้ เพลงลกู ทุ่ง ลกู กรุง โดยเฉพาะเพลงสุนทราภรณ์ท่ีมีเนือ้
รอ้ งเขา้ กบั บรรยากาศสมัยนนั้ ท่ียงั คงความเป็นธรรมชาติอย่มู ากเทียบกบั
ปัจจุบนั เช่นเพลง “พรานไพร” ท่ีขึน้ ตน้ ดว้ ยคาํ รอ้ งท่ีว่า “เทีย่ วพเนจร ซอก

ซอนพนาลยั ชมเขาลาํ เนาไพร เพลินใจ เจรญิ ตา…. ♪ ♫”

แต่เพลงเจา้ ประจาํ ท่ีขาดไม่ไดอ้ ีกเพลงคือ “ชื่นชีวิต” ท่ีมีคาํ รอ้ ง
ขา้ งต้น สาํ หรบั วัยรุ่นสมัยกว่าห้าสิบปีมาแล้ว เพลงนีเ้ ป็นเพลงท็อปฮิต
เพราะมีท่วงทาํ นองสนกุ สนาน เรา้ อารมณ์ แต่เสียอย่างเดียว เวลารอ้ งตอ้ ง
ตงั้ สติใหด้ ี! เพราะหลังจากฝ่ ายหญิงและฝ่ ายชายแยกกันรอ้ งฝ่ ายละคร่งึ
เพลงแลว้ จากนนั้ ตอ้ งมารอ้ งพรอ้ มกนั แต่สลบั เนือ้ รอ้ ง

เน่ืองจากเนือ้ เพลงท่ีทั้งสองฝ่ ายรอ้ งนั้นต่างกัน ดังนั้นเผลอเป็น
ไม่ได้ เพราะฝ่ ายหญิงท่ีนาํ โดยโอ-ผ่องศรี ศิริไพโรจน์ นอ้ ย-ก่ิงแกว้ โกไศย
กานนท์ และแป๊ ว-สงั วาล ดวงไทย แต่ละคนเสียงแหลมมีเสน่หท์ ัง้ นัน้ เลย
ชกั จงู ใหฝ้ ่ายชายป่ันป่วนรวนเร เพราะบางคนเผลอไปรอ้ งตามเนือ้ รอ้ งของ

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 151

รุ่นพี่-รุ่นน้องฟิ สกิ ส์ ที่ ย.2 ขุนตาล ราวปี พ.ศ. 2511

ฝ่ ายหญิงเข้า จนพาเพ่ือนๆ ล่ม ร้องกันไม่จบเพลง เป็ นท่ีสนุกสนาน
ครนื้ เครงในกลมุ่ เพ่อื นพอ้ งนอ้ งพ่ี

บางครง้ั การไปทัศนศึกษาศึกษาของพวกเราก็จาํ เป็นตอ้ งคา้ งคืน
เพราะกลบั ไม่ทนั ในวนั เดยี ว เช่นกรณีน่งั รถไฟไปเท่ียวดอยขนุ ตาล การคา้ ง
แรมในป่ าท่ีห่างไกลตัวเมืองเช่นนั้น เป็นช่วงเวลาท่ีพวกเรา โดยเฉพาะ
หนุ่มๆ ร่วมกิน ร่วมด่ืม ได้อย่างอิสระเสรี ทั้งเหล้า เบียร์ กระแช่ และ
เม่ือไหรพ่ กกัญชาไปดว้ ย จะย่ิงสนุกสนานครืน้ เครงกันไปใหญ่ ทงั้ คนเสพ
และคนไม่เสพ

สาํ หรบั คนเสพบางคนเห็นอะไรก็เป็นเร่ืองชวนหัวไปหมด หวั เราะ
รว่ นไม่หยดุ จนนา้ํ ตาไหล แต่สาํ หรบั ผเู้ สพบางคนกลบั นา่ สงสาร เพราะเกิด
อาการกลวั ลนลาน ว่าจะพลดั ตกลงไปในช่องระหว่างแผ่นกระดานปูพืน้

152 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

จนไม่กลา้ ขยบั ตวั ทาํ ใหเ้ ป็นทขี องคนไมเ่ สพ ท่ีไดห้ วั เราะงอหายกนั บา้ ง
พูดถึงขุนตาลผมมีเร่ืองอยากเล่า มีครง้ั หน่ึงขณะท่ีเรียน มช. จาํ

ไม่ไดว้ ่าตอนนัน้ อยู่ชั้นปีไหน พวกเราผูช้ ายกลุ่มหน่ึงไดน้ ัดกันขึน้ ไปเท่ียว
ดอยขุนตาล แต่ไม่รูด้ ว้ ยเหตบุ งั เอิญหรือตงั้ ใจ ซ่งึ จาํ ไม่ไดอ้ ีกเหมือนกนั ก็มี
ผูห้ ญิงอีกกลุ่มหน่ึงขึน้ ไปเท่ียวดอยขุนตาลในเวลาไล่เล่ียกัน ในกลุ่มนีม้ ี
แฟนผมอย่ดู ว้ ย โดยกล่มุ ผูช้ ายพกั กนั ท่ี ย.2 ส่วนกล่มุ ผูห้ ญิงพกั ท่ี ย.3 ซ่ึงมี
บา้ นพกั เป็นสดั สว่ นของชาวคณะมชิ ชนั นารอี เมรกิ นั

คืนนั้นจาํ ได้ว่าราวตีสาม ผมเร่ิมกระสับกระส่ายคิดถึงแฟน จึง
ตัดสินใจแสดงความกลา้ หาญ ออกเดินจาก ย.2 ไป ย.3 ท่ีอยู่ห่างไปราว
สามกิโลเมตร ท่ามกลางความมืดและอากาศท่หี นาวเหนบ็ โดยถือเพียงไฟ
ฉายไปกระบอกเดียว

เดินขึน้ เขาไปตามทางเดินแคบๆ ท่ีขา้ งทางรกรุงรงั ไปดว้ ยหญ้าสูง
และต้นไม้ป่ าหนาทึบ หูได้ยินแต่เสียงแมลงและนกกลางคืนดังระงม
บางครงั้ ก็มีเสียงสวบสาบขา้ งทาง พรอ้ มกบั แสงสะทอ้ นกลมๆ เลก็ ๆ หลาย
คู่ วบั ๆ แวมๆ ทาํ ใหจ้ ินตนาการเตลดิ เปิดเปิงไปต่างๆ นาๆ

สิ่งท่ีกลวั ท่ีสดุ ขณะนัน้ คือกลวั เหยียบงู แต่เม่ือถลาํ ตวั ไปอยู่กลาง
ป่ าเช่นนนั้ แลว้ จะเดินหนา้ หรือถอยหลงั ก็ไม่ต่างกนั จึงกดั ฟันทาํ ใจดีสเู้ สือ
(ท่ีไมไ่ ดอ้ ยากเจอ) เดนิ ต่อ นกึ ไปแลว้ ไม่รูท้ าํ ไมถึงบา้ (แฟน) ไดข้ นาดนนั้

เม่ือผมไปถึง ย. 3 ฟ้ายงั ไม่สางดี แต่ก็สว่างพอท่ีจะเห็นสีหนา้ ของ
แฟนสาวเม่ือเจอกนั จากสีหนา้ แววตาก็แอบคิดในใจ ความคาดหวงั ท่ีจะ
โชวค์ วามกลา้ ใหส้ าวดู น่าจะไดผ้ ล! ทาํ ใหร้ ูส้ ึกเหมือนช่ือเพลงท่ีเป็นต้น
เร่อื งขนึ้ มาทนั ทีในเชา้ นนั้

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 153

ความสุขวนั แจกเกรด

โดย..เอนก กมิ สวุ รรณ

ปัจจุบันการประกาศผลการเรียนของนักศึกษาสามารถดูไดจ้ าก
มอื ถือหรือจากคอมพิวเตอร์ รูส้ ึกสะดวกสบายมาก แต่นกั ศกึ ษารุน่ ปัจจบุ นั
“ขาดส่ิงหน่งึ ไปอย่างนา่ เสียดาย” ส่ิงนนั้ คือ “ความสขุ จากการดูเกรด” ตาม
ผมมาซคิ รบั จะเลา่ ใหฟ้ ัง…

ก่อนนีก้ ารประกาศผลการเรียนของแต่ละเทอมจะทาํ ท่ีตึกอธิการ
ตรงหนา้ บนั ไดชนั้ ลา่ งดา้ นทิศตะวนั ออก ทางมหาวิทยาลยั จะตงั้ โต๊ะยาวไว้
หน่ึงตัว บนโต๊ะจะมีกล่องไม้คล้ายลิ้นชัก 6-7 กล่อง ในกล่องจะมี
แผ่นกระดาษการด์ ขนาดประมาณ 8 คูณ 15 ซม.เรียงอยู่ เม่ือนักศึกษา
มาถึงกจ็ ะบอกรหสั ประจาํ ตวั ใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีหยิบให้

นักศึกษาท่ีมารบั เกรดจะมีท่าทางในการดูเกรดท่ีแตกต่างกันไป
บางคนรบั แลว้ ดแู บบไมส่ นใจไยดีในผลการเรียนของตน บางคนดเู กรดแลว้
ยิม้ น้อยยิม้ ใหญ่คนเดียว บางคนยืนซึมระหว่างรอใหเ้ ขาหยิบแผ่นเกรด
และเม่ือดูเกรดแลว้ ก็เดินซึมจากไป ท่ีเสียงดังสนุกครืน้ เครงจนหลายคน
ตอ้ งหันไปดูคือนักศึกษาท่ีมาพรอ้ มเพ่ือนหลายคน พอรบั เกรดแลว้ จะมี
เสียงเฮ มีการกระโดดดว้ ยความดีใจซ่ึงความดีใจนนั้ บางครงั้ มาจากเกรดท่ี
เป็นอกั ษรอะไรกไ็ ดท้ ่ไี ม่ใช่ F ก็เป็นอนั ใชไ้ ด้

ท่ีผมเกร่นิ ในตอนตน้ ว่านกั ศึกษาปัจจุบนั ขาดสิ่งหน่ึงในการดเู กรด
ไปอย่างน่าเสียดายย่ิงคือ การ “ลุน้ เกรด” นกั ศึกษาปัจจุบนั เม่ือเปิดมือถือ
หรือคอมฯ ก็จะเห็นเกรดทงั้ หมดภายในหนเดียว 6 หรือ 7 วิชาแลว้ แต่การ

154 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

ลงทะเบียนของตน ความรูส้ ึกต่ืนเตน้ เกิดขึน้ เปรีย้ งเดียวแบบฟ้าผ่า แลว้ ก็
จางหายไป แต่นักศึกษารุ่นเก่าเขามีวิธีบิ๊วอารมณ์ใหเ้ กิดความตื่นเตน้ กิน
เวลานานเพ่ือจะไดเ้ สพอารมณน์ นั้ ไดอ้ ย่างเต็มท่สี มกบั ท่ีทมุ่ เทเลา่ เรียนและ
รอคอย

นักศึกษาท่ีลุ้นเกรดมักจะเป็นนักศึกษาชายเท่านั้น เขาจะพับ
กระดาษการด์ ตามความยาวปิดขอ้ มลู ทงั้ หมดไว้ เน่ืองจากช่อื กระบวนวิชา
จะอย่ดู า้ นซา้ ย ผลการเรียนจะอยู่ดา้ นขวา จากนนั้ จะเร่มิ “แย้ม” กระดาษ
ท่ีพับปิ ดเกรดเหมือนแย้มไพ่ การแย้มสามารถบ่งบอกให้รูว้ ่าคนไหน
สามารถเสพอารมณต์ ืน่ เตน้ ไดย้ าวนานและมากกวา่ กนั

คนท่ีแยม้ การด์ โดยรูดกระดาษไปทางดา้ นซา้ ยแบบขนาดกันไป
จะเห็นเกรดทุกวิชาในเวลาเดียว แต่คนท่ีรูดกระดาษในลักษณะดันจาก
ล่างเฉียงขึน้ บนจะเห็นเกรดวิชาสุดทา้ ยจากล่างแลว้ ค่อยๆ เห็นเกรดตัวท่ี
สูงขึน้ ๆ ไปตามลาํ ดับ เขาผูน้ ีเ้ สพอารมณ์ตื่นเตน้ ได้ถึง 6 หรือ 7 ครงั้ เลย
ทีเดียว นอกจากนัน้ ยังควบคุมเวลาใหไ้ ดม้ ีโอกาสเดาเพ่ือสรา้ งความสุข
เพมิ่ ขึน้ ไปไดอ้ ีกว่า เกรดตวั ท่แี ยม้ เห็นแตล่ ะครง้ั เป็นของวิชาใด น่จี ะบอกว่า
ตื่นเตน้ 6 หรอื 7 ครงั้ คงไม่ใช่แลว้ เพราะมีการเดาวิชาอีกต่างหาก มนั ตอ้ ง
เป็นความรูส้ กึ ตืน่ เตน้ 12 หรือ 14 ครงั้ เลยแหละ

ผมว่านักศึกษารุ่นก่อนๆ อย่างพวกเรานั้นน่าอิจฉาจริงๆ ใน
การรู้จักหาความสุขจากสิง่ ง่ายๆ ทไี่ มม่ ีคา่ ใชจ้ า่ ยใดๆ

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 155

อนั เน่ืองมาจาก
กิจกรรมนักศกึ ษา

156 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

ดราม่าคืนรับนอ้ ง มช. ครงั� แรก เม่อื ปี 2508

โดย..รธั ชยั ฤทธาภรณ์

วนั นนั้ วนั เสารท์ ่ี 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 พวกเรานกั ศกึ ษา มช.
รุน่ แรก หรือรุ่น 07 รูส้ ึกต่ืนเตน้ กนั มากท่ีจะไดต้ อ้ นรบั นอ้ งใหม่รหัส 08 เป็น
ครงั้ แรกในรวั้ สีม่วง ซ่ึงถือเป็นประวัติศาสตรว์ ันหนึ่งของ มช. ก็ว่าได้ ใน
ภาคเช้ามีการรับน้องรวมทั้ง 3 คณะ คือวิทย์ฯ มนุษย์ฯ และสังคมฯ ท่ี
สนามหน้าตึกอธิการบดี ส่วนภาคกลางคืน มีงานเลีย้ งขันโตกท่ีอาคาร
ยเู นียน โดยเชิญบรรดาอาจารยม์ ารว่ มงาน อาจารยผ์ ูใ้ หญ่ใน มช. ขณะนนั้
ก็มีอาจารยบ์ ัวเรศ คาํ ทอง อาจารยห์ มอบุญสม มารต์ ิน อาจารย์ มล.ตุย้
ชมุ สาย เป็นตน้

แหละแล้วส่ิงท่ีไม่คาดฝันก็เกิดขึน้ บ่ายวันนัน้ ผมในฐานะนายก
สโมสรนกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ กาํ ลงั ว่นุ อย่กู บั การเตรยี มงานเลีย้ ง
ขนั โตกท่ีจะจัดในตอนเย็น จู่ๆ อาจารยบ์ วั เรศก็ใหค้ นมาเรียกผมเขา้ ไปพบ
ท่ีหอ้ งแลปตึกเคมี ซ่ึงขณะนนั้ เป็นตึกอเนกประสงค์ เพราะมหาวิทยาลยั มี
ตกึ เรียนอยเู่ พยี งสามตกึ คือตกึ คณะมนษุ ยฯ์ ตกึ คณะสงั คมฯ และตกึ เคมี

ทาํ ไมตอ้ งไปพบท่ีหอ้ งแลปเคมี ผมนึกในใจ และแลว้ ก็พอเดาออก
(หนา้ ต่างมีหูประตมู ีตา) คงมีใครสกั คนแอบไปกระซิบอาจารยบ์ ัว เร่ืองท่ี
ผมนํากะแช่สองไหไปซ่อนไว้ท่ีห้องแลป ซ่ึงผมได้จ้างคนงานของ
มหาวิทยาลยั ช่วยหมกั ให้ เพราะตอนนนั้ ยงั มหี ม่บู า้ นคนงานอยหู่ ่างออกไป
หลงั ตกึ เคมี

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 157

ดังนั้นเพ่ือให้อุ่นใจจึงชวนกรรมการสโมสรฯ ไปดว้ ย ไม่แน่ใจว่า
เป็น คาํ รพ ชัยวัชราภรณ์ หรือ อดิเรก ตันสาโรจน์วนิช ขณะเดินไปพบ
อาจารยบ์ ัว ยอมรบั ว่าหว่ันใจอยู่ไม่นอ้ ย เหมือนลูกสิงโตกาํ ลังจะพบพ่อ
สิงโต แต่ก็ปลอบใจตวั เองใหส้ กู้ ับพ่อ เพราะเม่ือคิดจะทาํ ก็ตอ้ งรบั ผิดชอบ
เม่อื ไปถงึ หอ้ งแลปกเ็ ป็นดงั คาด อาจารยบ์ วั เอ่ยประโยคแรกเม่ือพบหนา้ ผม

“ไดข้ ่าวมาว่าพวกเธอจะมีการนาํ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเลีย้ ง
นอ้ งในงานคนื นรี้ ”ึ
แลว้ อาจารยก์ ็เขวีย้ งพวงกญุ แจพวงใหญ่ไปท่ีไหกะแช่ (โชคดีท่ไี หไม่แตก)
“พวกเธอรูไ้ หมว่าพอ่ แมส่ ง่ ใหม้ าเรยี น ไม่ใชม่ ากนิ เหลา้ เมายา”
“เอานา้ํ นรกนไี้ ปทาํ ลายเสยี เดยี๋ วน”ี้
หลงั ประกาศิตอาจารยบ์ วั ผมลงั เลอยู่พักหนึ่งจึงตัดสินใจเขา้ พบ
อาจารย์หมอบุญสม ในฐานะรองอธิการบดีฝ่ ายปกครอง เรียนให้ท่าน
ทราบเรอื่ ง แตแ่ ทนท่ที ่านจะวา่ กลา่ ว กลบั ใหก้ าํ ลงั ใจ
ท่านกล่าวว่าความจริงนั้นของมึนเมามันไม่ดีก็จริงอยู่ แต่น่ีเป็น
เฉพาะเวลาท่ีมาสงั สรรคก์ นั ฉนั พ่ีนอ้ ง และพวกคณุ ก็ไม่ไดบ้ งั คับนอ้ งใหด้ ื่ม
แลว้ แต่สมคั รใจ อีกประการหน่ึง เม่ือพวกคณุ จบออกไปส่มู หา’ลยั ชวี ติ บาง
คนออกไปปกครองชาวบา้ น เช่น เป็นนายอาํ เภอ ก็ตอ้ งใกลช้ ิดกบั ชาวบา้ น
เม่ือมีการเลีย้ งกัน คุณไม่ดื่มแอบไปหลบท่ีมุมหอ้ ง แล้วมันจะไปเขา้ กับ
ชาวบา้ นไดอ้ ย่างไร บางครงั้ เราตอ้ งทาํ ตวั ใหเ้ ป็น เอาใจเขาได้ ดื่มใหเ้ ป็น มี
สติ และมีศกั ดศิ์ รี
มีอะไรอีกหลายอย่างในตวั ท่านอาจารยบ์ ุญสม ท่ีทาํ ใหพ้ วกเราไม่
ว่าเป็นคณะใด มีความรกั และเคารพทา่ นท่มี ีความเป็นกนั เอง เหมาะกบั

158 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

ภาพบนเป็ นซ้มุ คณะวิทยฯ์ ในช่วงเช้าและถดั มาเป็ นภาพรุ่นพ่ี 07 สามคน จาก
ซ้าย วิทูร วสิ ุทธ์ิเสรวี งศ์ สมพงษ์ สมณะ และรัธชัย ฤทธาภรณ์ ส่วนภาพล่าง
เป็ นบรรยากาศในงานขันโตก ทเี่ หน็ ในภาพมีรุ่น 07 เชน่ วนิดา นวลบุญเรือง

ประมุข แก้วเนียม รุ่น 08 เชน่ บุญเสริม ชวี ะอิสระกุล เม่ง โชคชัยชาญ
ยุพดี โมระกรานต์ (ฤทธาภรณ์) บุญเลศิ จลุ เกียรติ
สมศักด์ิ วนิชาชีวะ เป็ นต้น

กาลเวลา มีใจนักเลง ไม่เคยปฏิบตั ิกับพวกเราเหมือนครูกับนักเรียน แต่
เป็นนกั ศึกษาท่ีกาํ ลงั จะเติบโตเป็นผใู้ หญ่ช่วยชาติบา้ นเมืองในวนั ขา้ งหนา้
ก่อนจบการสนทนาทา่ นบอกผมวา่

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 159

“เอาอย่างนี้ ผมไปงานพวกคุณแน่ แต่เพื่อไม่ตอ้ งเผชิญหนา้ กับ
ทา่ นอาจารยบ์ วั เรศ ซ่ึงคาดวา่ ท่านคงมาตอนงานเร่ิมประมาณเจ็ด
โมงเยน็ คดิ วา่ แปดโมงทา่ นคงกลบั ”
“ผมจะไปตอนเกา้ โมงกแ็ ลว้ กนั นะ”
จะว่าไปแล้ว มีอีกหลายสิ่งหลายอย่างท่ีพวกเราได้เรียนรูจ้ าก
อาจารยห์ มอบญุ สม ไม่วา่ ในดา้ นความคิดรเิ ร่ิม เชน่ ประเพณีเดนิ ขนึ้ ดอยสุ
เทพ การเสนอขอพระราชทานเพลงประจาํ มหาวิทยาลยั คลา้ ยกบั จุฬาและ
ธรรมศาสตร์ แต่สาํ คัญท่ีสุดคือ ได้เรียนรูจ้ ากการปฏิบัติตนเป็นตัวอย่าง
ของอาจารย์ ไม่ว่าในดา้ นทศั นคติในการดาํ เนินชีวิต การทาํ งานเพ่ือสงั คม
ฯลฯ
ในความเป็นจรงิ นนั้ ผมเองยงั ราํ ลึกถึงพระคณุ ครูบาอาจารยแ์ ละ
พ่ีๆ ทุกท่านเสมอมา ท่ีได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้ผม และต้องขอบใจ
เพ่ือนๆ น้องๆ ท่ีช่วยกันสรรคส์ รา้ งให้ มช. เกรียงไกรมาตราบเท่าทุกวนั นี้
แต่ธรรมชาติของคน หลายๆ อย่างมี Check & Balance มดี ี มีไม่ดี ท่ีทาํ ให้
ชวี ิตมีรสชาติ

160 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

“ใหญม่ าจากไหน เอาวางไวห้ นา้ มช.”

โดย..กิตตชิ ยั วฒั นานกิ ร

ประโยคขา้ งตน้ ดังล่นั ออกมาจากหน่ึงในวา้ กเกอรร์ าวสิบกว่าคน
ท่ียืนจังกา้ ท่าทางดดุ ันถมึงทึง ขนาบอยู่สองขา้ งของนอ้ งใหม่หมาดๆ ซ่ึง
กาํ ลงั น่งั หนา้ ตาตืน่ ในหอ้ งเลคเชอรช์ นั้ สองของตกึ เคมี

ขณะนั้นเป็นเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2512 ผมอยู่ชั้นปีส่ีและเป็น
นายกสโมสรคณะวิทยาศาสตร์ ช่วงเวลานนั้ “การวา้ กนอ้ ง” ดจู ะเป็นธรรม
เนียมของนักศึกษารุ่นพ่ีมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยเฉพาะจุฬาฯ ดังนั้นทาง
มช. ก็ดูจะรบั เอาธรรมเนียมดังกล่าวมาด้วย สาํ หรบั คณะวิทยาศาสตร์
การวา้ กเร่มิ ตน้ ขณะท่ีนอ้ งๆ ปีหน่งึ กาํ ลงั ทยอย ‘ก่ึงเดนิ ก่ึงว่งิ ’ ขึน้ บนั ไดเขา้ สู่
หอ้ งเชยี รใ์ นช่วงหลงั อาหารเท่ยี ง หรือช่วงเยน็

เม่อื นอ้ งปีหนึ่งเขา้ น่งั ประจาํ ท่ีเรียบรอ้ ย ประธานเชยี รซ์ ่งึ รุน่ นนั้ คอื สุ
วิทย์ เจริญพร (รหสั 105..) จะเขา้ มาชีแ้ จงและอบรมนอ้ งๆ ก่อนท่ีเชียรล์ ีด
เดอรท์ ั้งหญิงและชายจะออกมานาํ เชียรห์ น้าหอ้ ง ดว้ ยลีลาท่าทางเท่ๆ ท่ี
ฝึกซอ้ มมาอย่างดี

แต่ปรากฏว่าไม่ว่านอ้ งใหม่จะรอ้ งอยา่ งไร ตะเบ็งแลว้ ตะเบง็ อีกจน
แสบคอ ก็ดจู ะไม่เป็นท่ีสบอารมณบ์ รรดาวา้ กเกอรอ์ ย่นู ่นั เอง คงเป็นเพราะ
พวกเขาต้องการ ‘เอาคืน’ หลังถูกวา้ กมาตอนอยู่ปีหนึ่ง จึงมีการตะโกน
บรภิ าษออกมาไม่ขาดสาย

สรุปแลว้ นอ้ งปีหนึ่งทาํ อะไรดจู ะไม่ถูกอกถกู ใจบรรดาวา้ กเกอรอ์ ยู่
น่นั เอง จึงไม่น่าแปลกใจท่ีบคุ คลเหลา่ นี้ ซ่งึ ส่วนใหญ่อยู่ปีสอง เช่น สุวฒั น์

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 161

จุธากรณ์ สุรชัย วชั รโยธิน สุวินัย จึงสงวนสิทธิ์ และนิพนธ์ สุวพนั ธ์ จะถูก
หมายหวั ดา่ (ลบั หลงั ) เป็นประจาํ

สาํ หรบั เพลงเชียรท์ ่ีพ่ีๆ รงั สรรคก์ ันขึน้ มาระยะนนั้ มีทัง้ ประเภทท่ี
เป็นลกั ษณะชอ็ คเวฟ คอื สนั้ กระชบั เรว็ และแรง เช่น "บมู วทิ ยา"

“Hey Boom.. We are here! We are the thunder (of) cheer. The sound you
hear. Science Science Science Laaa”

หรืออาจเป็นประเภทตลกขบขัน แกมเย้ยหยันนิดๆ ให้คู่ต่อสู้
หม่นั ไส้ เชน่ เพลง "หมพู ะโล้"

“เฮบุมวา เชียรว์ ทิ ยา ยาอะไร ยาหม้อ หม้ออะไร หม้อแกง
แกงอะไร แกงหมู หมอู ะไร หมพู ะโล้

เสอื วทิ ย์อดโซ หมพู ะโล้ทาํ เบ่ง หมอู วดเก่ง โจนเข้าขวดิ เสอื
เนือ้ หมหู วานเหลอื เสอื ขยายเล็บรับ ตบผับผับ หมพู บั มรณา

นีแ่ หละน้องเอย อย่าสู้วทิ ยา จําไว้เถดิ หนา วิทยาสู้ตาย”

พูดถึงเพลงเชียร์ นึกขึน้ มาได้ถึงเพลงเชียรเ์ พลงแรกของ มช. ท่ี
นักศึกษารุ่น 07 แต่งขึน้ ก่อนไปแข่งปิงปองการกุศลกับโรงเรียนมงฟอรต์
เม่อื พ.ศ. 2507 สมยั ท่ีพ่ีหมอวทิ รู วิสทุ ธิเ์ สรวี งศ์ เป็นนายกสโมสรนกั ศกึ ษา
ของมหาวิทยาลัยขณะเรียนอยู่ปีหน่ึง ซ่ึงเล่าไวโ้ ดยพ่ีสุรินทร์ ธรรมนิเวศ
เพ่อื นรว่ มรุน่

สํา ห รับ เพ ล ง นี้ ใช้ ทํ า น อ ง ข อ ง เพ ล ง The Longest Day
(https://youtu.be/k_dirzUJHN8) ท่ีกาํ ลังฮิตติดชารต์ สมัยนั้น โดยมีคํา
รอ้ งท่อนแรกดงั นี้

“มอ ชอ สมี ่วงงามสะ-หงา่ การกีฬา เราไม่เคยหว่นั
อย่ทู ใี่ ด ดวงใจเราพร้อมกนั ด้วยม่งุ ม่ัน สร้างสามัคคี”

162 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

จากปี พ.ศ. 2507 เป็ นต้นมา การเชียร์กีฬาเร่ิมเข้มข้นขึ้น
ตามลาํ ดบั เม่ือมีการแข่งขันกีฬาระหว่างคณะ จนเร่ิมมีประธานเชียรแ์ ละ
กล่มุ วา้ กเกอรข์ องสโมสรคณะต่างๆ ล่วงมาถึงกลางปี พ.ศ. 2511 สมัยพ่ี
สมศักดิ์ วนิชาชีวะ (08) เป็นนายกสโมสรนักศึกษาคณะวิทยฯ์ การเชียร์
และการวา้ กเขม้ ขน้ ขึน้ จนกระท่งั เกดิ เหตปุ ระทว้ ง

เปล่า! โปรดอย่าเขา้ ใจผิด ไม่ใช่การประทว้ งของนกั ศึกษาปีหนึ่งท่ี
ถกู วา้ ก แต่เป็นการลาออกประทว้ งของบรรดาเหลา่ วา้ กเกอร์ อนั เป็นผลมา
จากนโยบายของคณบดี (ท่ีขณะนั้นลูกสาวเรียนอยู่ปี 1) จนในท่ีสุดท่าน
คณบดี ศ.ดร.บวั เรศ คาํ ทอง ตอ้ งยอมแพ้ เรียกนายกสโมสรคณะฯ ไปพบ
เพ่อื อ่อนขอ้ ใหเ้ ชยี รต์ อ่ ได้

อย่างไรก็ตามแม้ปกติการเชียรใ์ นช่วงต้นปี การศึกษาจะเป็ น
บรรยากาศท่ีตึงเครียด จนน้องใหม่บางคนถึงกับลาออก แต่พอนานเขา้ ก็
ค่อยๆ เปล่ียนไปเป็นความสนกุ สนาน ปนดว้ ยความม่งุ ม่นั เป็นอันหนึ่งอนั
เดียวกนั ของนอ้ งๆ ปีหนึง่

การวา้ กนั้นแม้ปัจจุบันอาจถือว่าไม่ศิวิไลซ์ แต่สมัยก่อนนับเป็น
เทคนิคอย่างหนึ่งท่ีฝึกให้นักศึกษาปีหน่ึงมีระเบียบวินัย อดทน รกั และ
สามคั คีกนั เพราะถกู กดดนั ดว้ ยกนั

เร่ืองระเบียบวินัยนีร้ วมถึงการแต่งกายท่ีรุน่ พ่ีจะตามจิกถา้ ใครไม่
ผกู เนคไท จนบางครงั้ จิกผดิ ดนั ไปจิกอาจารย์ เพราะสมยั นนั้ อาจารยใ์ หม่ๆ
หนา้ เดก็ เยอะ

สาํ หรบั ความรกั และสามคั คีของนกั ศกึ ษาแต่ละคณะแมเ้ ป็นเร่ืองดี
แตบ่ างครง้ั กเ็ ลยเถดิ กลายเป็นคล่งั คณะ นาํ ไปสกู่ ารยกพวกตีกนั ซ่งึ เรอื่ งนี้

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 163
แข่งบาสฯ รอบชงิ และการฉลองถ้วยเชยี รแ์ ละขบวนพาเหรด ธค. 2512

164 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

เคยมีเค้าลางว่าจะเกิดขึน้ ขณะผมเป็นนายกสโมสรฯ โดยเร่ิมท่ีสนาม
บาสเกตบอล ซ่ึงเป็นชนิดกีฬาท่ี แรง เร็ว ตื่นเต้นเร้าอารมณ์ นักกีฬา
“กระทบกระแทก” กนั ตลอดเวลา ขณะท่ีกองเชยี รท์ งั้ สองฝ่ายตา่ งกเ็ ชียรก์ นั
สดุ มนั

ครงั้ นนั้ จาํ ไดว้ ่าทีมบาสเกตบอลคณะวิทยาศาสตรช์ นะคณะเกษตร
ฯ แบบหวดุ หวิดในรอบคดั เลือก ภายใตบ้ รรยากาศท่ีตึงเครียด มีปะทะกัน
ประปรายในสนาม แต่เรื่องไม่จบแค่นนั้ เพราะหลงั จากมีการแข่งขันต่ออีก
หลายคู่ กลบั มีขอ้ กลา่ วหาท่ีฉกาจฉกรรจจ์ ากคณะเกษตรฯว่า ทีมคณะวทิ ย์
ฯ ลม้ บอล จนทาํ ใหท้ มี ของเกษตรฯ ตอ้ งตกรอบ อดเขา้ ชิงชนะเลศิ

จากนนั้ เร่ืองจึงบานปลายกลายเป็นการหา้ํ ห่นั กนั ทงั้ กายและวาจา
ส่อจะเกิดการยกพวกตีกันระหว่างคณะ ทาํ ใหอ้ ธิการบดี ศ.ดร. บวั เรศ คาํ
ทอง เรียกผมไปพบ จนผมต้องบากหน้าไปเจรจาสงบศึกกับกนก ฤกษ์
เกษม นายกสโมสรนักศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ ซ่ึงสมัยนั้นพูดกันง่าย
หน่อย เพราะขณะอย่ปู ีหน่ึงเรียนมาดว้ ยกนั

จะว่าไปแล้วคณะเกษตรฯ ให้เครดิตทีมบาสเกตบอลคณะ
วิทยาศาสตรม์ ากไปหน่อยว่า ‘ลม้ บอล’ เพราะในท่ีสดุ เม่ือการแข่งขันรอบ
ชงิ ชนะเลิศมาถงึ ทีมวิทยฯ์ กแ็ พท้ ีมคณะมนษุ ยฯ์ ท่ีเคยถกู หาวา่ เราลม้ บอล
ใหอ้ ีกครงั้ เป็นการยืนยันว่าแพจ้ ริง ไม่ไดแ้ กลง้ แพ้ นาํ มาซ่ึงความผิดหวัง
ของบรรดากองเชียรร์ อบสนาม

แต่ความผิดหวงั ของกองเชียรค์ รง้ั นนั้ ต่อมาก็ไดร้ บั การชดเชยใน
วนั แข่งขนั กีฬาประจาํ ปีระหว่างคณะ หรือสปอรต์ เดย์ ซ่ึงไฮไลทข์ องวันนนั้
คือการประกวดกองเชียรแ์ ละขบวนพาเหรด โดยคณะวิทยฯ์ สามารถพลิก

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 165

ล็อคเอาชนะตวั เก็งท่ีจัดรวิ้ ขบวนอย่างสวยงามในชุด My Fair Lady ไปได้
อย่างผิดความคาดหมาย ชนิดหักปากกาเซียน ได้ครองทั้งถ้วยขบวน
พาเหรดและถว้ ยกองเชียร์

เรื่องนี้ตอ้ งยกเครดิตให้ทีมเชียรแ์ ละวา้ กเก้อรไ์ ปเต็มๆ ทาํ ให้ใน
ท่ีสุดพวกเขาก็ไดร้ บั ความรกั ความช่ืนชม จากนอ้ งๆ ปีหนึ่ง หลงั ถูกด่าลบั
หลงั มาทงั้ ปี

ส่วนเด็กวิทยา ที่มีแฟนอยู่คณะมนุษยฯ์ ก็คงต้องรับหางเลข
กนั เอาเอง

166 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

สรรหาภาพเก่ามาเลา่ เร่ือง
เส�ือเหลอื งปรศิ นา ?

โดย ..พรทพิ ย์ จนั ทรมงคล

เห็นๆ กันอยู่ บรรดาเหล่าเสือ้ เหลืองสีสดสวยท่ีน่ังกันหน้าสลอน
บนอัฒจันทรเ์ ชียรใ์ นภาพ คือพวกเราวิทยารหัส 10 เม่ือครง้ั ยังอยู่ในวัย
สดใส แตจ่ ากวนั เวลาท่ีเน่ินนานมากวา่ 50 ปี เม่อื มีคาํ ถามเป็นชดุ จากท่าน
บอกอ หนงั สือเลม่ นี้

“อาจารย์จาํ ไดไ้ หม ภาพนีถ้ ่ายที่ไหน เมื่อไหร่ มีใครอยู่ในภาพนี้
บา้ ง?”
เออแนะ่ ! ถามยงั กะว่าเรอ่ื งเพง่ิ เกิดเม่อื ปีท่ีแลว้
คาํ ถามขา้ งตน้ ทาํ ใหส้ มองเร่มิ ประมวลจากประสบการณภ์ าพเชียร์
ซ่งึ ปกติกิจกรรมเป็นของนอ้ งใหม่ ควรเป็นภาพตอนอย่ปู ีหน่ึงรเึ ปล่า? พวก
เรารหสั 10 เขา้ มาปี พ.ศ. 2510 แต่เป็นรุน่ 4 รุน่ เติมเต็มให้ มช. มนี กั ศึกษา
ครบทกุ ชนั้ ปีเป็นครง้ั แรก มหาวิทยาลยั เชียงใหมเ่ ปิดเรยี นครง้ั แรกเม่ือ พ.ศ.
2507 รหสั 07 จงึ เป็นรุน่ 1 รุน่ บกุ เบิก สรุปนยั ยะ นกั ศกึ ษา มช. ท่ีทราบรหสั
ซ่งึ มาจากเลขทา้ ยสองตัวของปี พ.ศ. ท่ีเขา้ เรียน หากตอ้ งการทราบว่าเป็น
รุน่ ท่เี ท่าไหรข่ องมหาวิทยาลยั -6 คอื คาํ ตอบนะจะ๊
วิเคราะห์ต่ออย่างผิวเผิน ภาพเชียรก์ ีฬาเม่ือปี 2510 น่าจะเป็น
คาํ ตอบ แต่เม่ือพิจารณาเสือ้ เชียรป์ ี 2510 ท่ีมีแถบดาํ ท่ีลาํ คอบนพืน้ เสือ้ สี
เหลือง และยังมีแถบสีม่วงพาดลงมาขา้ งลาํ ตวั อีก คงไม่ใช่ปี 2510 น่ะ! ท่ี
สาํ คญั ในภาพยงั มพี ยานบคุ คลซง่ึ เป็นนอ้ งรหสั 11 อกี หลายคน น่งั อย่สู อง

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 167

ภาพปริศนา และเสอื้ เชียรป์ ี พ.ศ. 2511 และ 2512

แถวลา่ งดว้ ย จงึ ไมใ่ ช่รูปตอนสมยั ปีหน่งึ แน่ๆ
ถ้าเช่นนั้นคงเป็นภาพสปอรต์ เดย์ของปี 2511 หรือมิฉะนั้นก็ปี

2512 สมยั เราอย่ปู ีสาม จะปีไหนคงหาคาํ ตอบไดไ้ ม่ยาก โพสตถ์ ามเพ่อื นๆ
ในกลมุ่ ไลนด์ ซู ิ

ณ บดั นนั้ ความสบั สนอลหม่าน ปนดว้ ยความสนกุ สนานจึงบงั เกิด
เพราะเม่ือถามไปยงั เพ่อื นฝงู หลายคนจาํ เพ่ือนได้ เรียกขานกนั ถกู ตอ้ ง

168 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

หลายคนชกั ลงั เล แตม่ อี ีกหลายคนอาการหนกั จาํ ไมไ่ ดแ้ มก้ ระท่งั ตวั เอง!
เอาละซิ! ความหวังท่ีจะได้คําตอบจากเพ่ือนๆ เป็นอันพับไป

คงเหลือเฉพาะหลกั ฐานเชิงประจักษ์จากภาพเก่าๆ เช่น สถานท่ีจัดงาน
สปอรต์ เดย์ ลกั ษณะเสือ้ เชียรข์ องปี 2511/2512 และถา้ จะใหแ้ น่ก็ตอ้ งถาม
ประธานเชียรช์ ่วงนนั้ อกี ที

แต่พอนาํ หลกั ฐานภาพถ่ายมาเปรียบเทียบดู สถานท่ีจัดงานก็ท่ี
เดียวกนั ทงั้ สองปี คือสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เสือ้ เชียรป์ ี 11 และ
12 ก็เหมอื นกนั ยงั กะแกะดงั ภาพท่เี ห็น แมก้ ระท่งั โลโกท้ ่ีอกเสือ้ และหมวกก็
ยงั พิมพเ์ ดียวกนั อีก ไม่รูว้ ่าเป็นนโยบายทีมเชียรป์ ี 2512 หรือเปลา่ ท่ีตงั้ ใจ
ทาํ เสือ้ เชียรใ์ หเ้ หมือนปีก่อนหนา้ เพราะตอ้ งการใหร้ ุ่นพ่ีช่วยขึน้ อัฒจันทร์
เชียรเ์ ยอะๆ เพ่ือแสดงศกั ดาคณะวิทยาศาสตร์ โดยท่ีไมต่ อ้ งควกั เงินซือ้ เสือ้
ใหม่

หนทางสุดท้ายก็คงต้องไปถามเจ๊ก-สุวิทย์ เจริญพร เพ่ือนรุ่น
เดียวกนั ซ่งึ เป็นประธานเชียรต์ อนปี 2512 แต่ก็อีกน่นั แหละ เจา้ ตัวดันลา
ลบั กลบั สวรรคไ์ ปนานแลว้

ดังนั้นเลยตอ้ งปล่อยไวเ้ ป็นปริศนาคาใจอย่างนี้ เพ่ือช่วยกันหา
คาํ ตอบต่อไปใหส้ มกบั ช่ือเร่ือง “ภาพเสือ้ เหลอื งปรศิ นา” ท่ตี งั้ โดย บอกอ

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 169

กจิ กรรมนกั ศึกษา ผา่ นบทกลอน

โดย..มงคล รายะนาคร

เปิ ดภาคเรยี น-รับน้องรถไฟ :

เปิ ดเทอมใหญแ่ ต่ละปี นี่สนุก พีพ่ ่ลี ุกตน่ื นอนกอ่ นเช้าตรู่
ทลี่ งสู่สังเวยี นชนกลางคนเชยี ร์
ขมขี มนั กนั ใหญ่เหมอื นไก่อู
ต่างตัง้ ใจไปรับพวกน้องใหม่ แห่กนั ไปคอยทา่ มชิ า้ เสีย
สถานีรถไฟคนม่วั กนั นัวเนีย บ้างงวั เงยี บา้ งครกึ ครืน้ ยนื เบียดกนั

พวกมกี ลอ้ งขยับกายเตรียมถา่ ยภาพ พวกจะหาบจะแบกของจอ้ งแข็งขนั
สวัสดกิ ารนี่แหละทสี่ าํ คญั ยืนแลว้ ดนั คนข้างหลังมิฟังใคร
รถไฟมาตามเวลาทกี่ าํ หนด
พ่พี ร่ี ้องเพลงมหาวิทยาลยั ก็ปรากฏเสียงรับน้องก้องกนั ใหญ่
พวกน้องใหม่ตนื้ ตนั สุดพรรณา

น้องน้องยมิ้ พช่ี อบใจไปรับขวญั เข้าแถวกนั หอ้ มล้อมออ้ มแน่นหนา
สวมมาลยั ใหน้ ้องใหมม่ ิไดช้ ้า พี่ยมิ้ ร่าน้องยมิ้ ตอบเหมือนขอบคณุ
พวกพีพ่ ด่ี ใี จไดช้ ว่ ยเหลอื
ขนของใหน้ ้องใหม่ไวเ้ อาบุญ หบี ผา้ เสือ้ ขนให้ไม่ไดฉ้ ุน
แม้จะวุ่นจรงิ จรงิ กันก็ตาม

รถบสั จดั รับอยู่ดพู ร้อมสรรพ ทัง้ คนรับคนดูอยูล่ น้ หลาม
น้องใหม่วา่ เชยี งใหมน่ ีซ้ ิสวยงาม พีพ่ ่ถี ามจริงหรอื น่นั ฮากันครืน

ถงึ มช. ก็ไหว้ศาลพระภมู ิเจ้า ยามเช้าเชา้ ยิม้ แยม้ ดมี ิมีฝื น
ตา่ งตั้งใจปฏิญญาขณะยนื ยกมอื ขึน้ ประณมก้มหวั ลง

170 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

แล้วจึงน่ังคารวะพระภมู ิที่ บ้างคิดดีขอพบนางร่างระหง
บ้างอธษิ ฐานขอให้ได้อยู่ยง จะไดค้ งกระพนั กนั ศาสตรา
บ้างขอให้ไดป้ ระสบพบสาํ เร็จ จะได้เสร็จกิจการด้านศึกษา
บา้ งขอพบชายในฝันฉนั สักครา
ต่างกว็ า่ กนั ไปตามใจตวั

ไดเ้ วลาพ่พี าน้องมองทวิ ทศั น์ เดินเลาะลดั จวนเจยี นจะเวียนหัว
น้องจะบอกพเ่ี ล่าเขา้ กก็ ลวั ทาํ ยิม้ หวั ฟังคาํ พี่ทเี่ ล่าไป
น้องวทิ ยถ์ ามตกึ เคมีนอ่ี ยูไ่ หน โน่นยังไงตกึ ใหญย่ ังไงน่ัน
น้องวิทยเ์ หน็ ใจเตน้ เป็ นพลั วนั
ตา่ งพูดกนั ว่าตึกเราดเู ขา้ ที

รู้อะไรเป็ นอะไรแล้วไปหอ ตา่ งกลุ กี ุจอขมนั ขมี
ทงั้ กระเป๋ าเครอ่ื งใชน้ ้องใหม่น่ี พวกพี่พี่ชว่ ยเต็มทม่ี ิมรี อ

นักศกึ ษาคนเชยี งใหมน่ ้องใหมเ่ ล่า มิได้เขา้ อยูส่ ถานอาคารหอ
มที พี่ กั พาํ นกั อยนู่ อกมอชอ ก็มาออดเู พ่อื นใหมม่ ิใช่นอ้ ย...

เร่มิ เรียน-เร่มิ เชียร์ :

หะแรกจัดตารางสอนแสนออ่ นจติ เป็ นหนว่ ยกติ เป็ นเซ็คช่นั พนั กนั ใหญ่

น้องมาใหม่จงึ ไมค่ อ่ ยเข้าใจ พีพ่ ไ่ี ซร้จงึ ช่วยกนั ฉันพีน่ ้อง

ลงทะเบียนนัน้ หรอื คอื เรอื่ งใหญ่ พวกน้องใหมซ่ าบซึ่งตรึงสมอง

น้องผหู้ ญิงบ้างระอานํ้าตานอง พดู วา่ น้องลงไมไ่ ดท้ าํ ไงดี

ปณิธานแน่วแน่แต่เริม่ ตน้ จะเป็ นคนเรยี นให้เดน่ เป็ นศกั ดิศ์ รี
กะจะเรียนกนั อยชู่ นั้ ละปี หวังดกี รเี กียรตนิ ิยมใหส้ มจนิ ต์
นี่แหละความตงั้ ใจของน้องใหม่ ยกมาไซร้ใชว่ ่าจะติฉนิ
ศัพทแ์ ปลกสิน้ มิชนิ หูทรี่ ู้มา
ฟังเลคเชอรใ์ หม่ใหมก่ ไ็ ด้ยิน

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 171

ปฏบิ ตั ิการอาจารยท์ า่ นว่าแลบ็ ฟังแลว้ แทบตกใจใหผ้ วา
ประดังมาใหเ้ หน็ เป็ นประจาํ
คาํ แปลกแปลกไม่คอ่ ยเหน็ เจนสายตา พวกน้องนั้นฟังสงสัยไมเ่ หน็ ขาํ
พวกพีพ่ ดู หวั เราะกนั สน่ันล่นั
นี่ดที พี่ ่มี กี ารงานต้องทาํ กิจกรรมทาํ ให้เขา้ ใจกนั

เริม่ ประชุมน้องใหม่ในครั้งแรก พวกพีแ่ ปลกตะโกนล่นั กนั น่าขัน
พอน้องใหมจ่ ะหวั เราะกันเท่านั้น เสยี งสน่ันตะโกนก่ขู นู่ ่ากลวั
ประกาศกอ้ งมใิ ชห่ อ้ งลองดเี ลน่
น้องผหู้ ญิงใจส่ันกนั ระรัว มิใช่เป็ นห้องก่อกวนหรือชวนหัว
น้องผชู้ ายใช่จะแกร่งแข็งมากนัก ระวังตัวน่ังกนั น่ิงมติ งิ กาย
บ้างกแ็ คน้ พี่บางคนจนตาลาย
ใบหน้าชกั ถอดสกี นั ใจหว่นั หาย
บ้างขวาซ้ายกาํ หมดั อึดอดั ใจ

ประชุมครั้งตอ่ มาซาลงบา้ ง น้องน้องตา่ งเริ่มเขา้ ใจไมส่ งสยั
ต่างทราบวา่ พท่ี าํ ไปเพราะหว่ งใย อยากจะให้น้องใหม่ไดด้ บิ ดี
พ่อี ยากให้นอ้ งใหมม่ ีระเบียบ รู้จักเงยี บถกู เวลาและหนา้ ที่

ใหน้ อ้ งใหมพ่ ร้อมพรักสามคั คี ให้เป็ นทยี่ กย่องอยใู่ นหมู่ชน...

บรรยากาศการรับน้องภาคเช้า-ภาคบ่าย :

รับน้องใหมน่ ้นั หรอื คอื งานใหญ่ ทใี่ ครใครตดิ ใจมากอยู่หลากหลาย
น้องผชู้ ายถูกพป่ี ลกุ ลุกขนึ้ ตนื่ ให้ไปยนื ตงั้ แถวทหี่ น้าหอ
ออกกาํ ลงั วิง่ เสยี หอบรอบ มช. ผหู้ ญงิ ก็สะดุ้งตื่นลกุ ขนึ้ ดู

ณ พธิ นี ้องเขา้ แถวแนวถนน น้องทกุ คนแต่งตัวดีสงี ามหรู

สทู สีขาวงามสงา่ น่าเชิดชู อกี ทงั้ หมกู่ ระโปรงม่วงเด็ดดวงจัง
พวกตน่ื เช้าเขา้ แถวกอ่ นยนื ตอนหน้า พวกมาช้ามายนื ตอ่ อยขู่ ้างหลงั

172 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

ได้เวลาตน่ื เตน้ เป็ นกาํ ลงั ต่างยืนฟังคาํ เรียกขวญั กนั ดว้ ยดี
อาจารยผ์ ูกขอ้ มือใหน้ ้องใหม่ แลว้ อวยชัยใหพ้ รดมี สี ุขี

น้องใหมย่ มิ้ แย้มใหญ่ใจยินดี ต่างพร้อมทจี่ ะประสบพบเหตกุ ารณ์

ภาคเช้าน้ันรับร่วมรวมกนั หมด ไมล่ ะลดสนุกนักสมัครสมาน

ตอ้ งร้องเพลงแทบทกุ คนเสียจนอาน บา้ งตอ้ งคลานบา้ งตอ้ งวิ่งเหมือนลงิ ลม

หกคณะหกซมุ้ คนรุมซกั บา้ งยกึ ยกั ขนู่ ้องล่ันกนั เสียงขรม

บา้ งชีกอน้องผ้หู ญิงยิ่งน่าชม ขนมอมมีเท่าไรให้หมดเลย
บ้างทาแป้งให้น้องมองแลว้ ขนั พี่พ่นี ั้นบ้างกข็ าํ แตท่ าํ เฉย
น้องวิทยผ์ ่านซุม้ วทิ ยไ์ ปไดเ้ ลย
ภาคบ่ายมีทคี่ ณะสนุกอกี คอ่ ยคนุ้ เคยกนั ตอนบา่ ยสบายดี
ไมม่ ีหลกี เลีย่ งลบหรอื หลบหนี

น้องวทิ ยต์ า่ งสขุ สันตก์ นั เต็มที่ โดยพีพ่ ่ีบงการใหไ้ ม่รีรอ
ซุ้มฟิ สิกส์ ซุ้มเคมี ซมุ้ ชีวะ ซมุ้ ทันตพยาบาลผ่านซุม้ หมอ
เทคนิคแมท็ ซุ้มเภสชั จดั ไวพ้ อ ทัง้ จอี ออนั เคลิ้ เชิญน้องน้อง
พ่ปี ี สามสี่พร้อมสรรพรับขวญั ให้ เพ่อื น้องใหมจ่ ะไดไ้ มห่ มน่ หมอง
ใหน้ ้องราํ น้องกร็ าํ ตามทาํ นอง ให้น้องร้องน้องก็ร้องเสียงกอ้ งไกล...

สารพดั กิจกรรมนําสู่เกรด : แต่ละคนคยุ โขมงกนั โฉงเฉง
พอต้องเร่งเรียนเข้าจงึ เพลาไป
พองานรับน้องใหมไ่ ด้ผา่ นพน้ แตล่ ะวันเชยี รก์ นั ใหห้ ว่ันไหว
พูดตามศัพทใ์ หมไ่ ดว้ ่าไมเ่ ซ็ง โหมโรงใหญด่ ตู าํ ราจนตาบวม
จากนน้ั มแี ขง่ กฬี าจา้ ละหว่นั
พอจะสอบกันเมื่อไหร่ใหต้ กใจ

อีกงานบอลงานเตน้ ราํ ชกั นาํ จติ ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 173
หนังดีบ้างไมด่ ีบา้ งอ้างสว่ นรวม
เกรดได้กนั นั้นมที ุกชนดิ ทกุ อาทติ ยซ์ บู ผดิ ตาเสอื้ ผา้ หลวม
ทไี่ ดเ้ อได้บีมพี อโชว์ เราก็ร่วมกบั เขาไปกนั ใหญโ่ ต
คณะวทิ ยม์ ีดเี อ๊ฟก็มากโข
พออกี ปี มีนอ้ งใหม่มาอกี แลว้ ใช่เรื่องโมเ้ พราะเรารู้อยทู่ กุ คน
มรี ับน้องรับอะไรไดย้ นิ ยล
ก็ไม่แคล้วสุขสนั ตก์ นั อกี หน
มันเวียนวนอยา่ งนีม้ เิ ปลยี่ นแปลง...

174 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

วารสารปี 2509 ของคณะมนุษย์ท่ีผมมสี ่วนร่วม

โดย..เอนก กมิ สวุ รรณ

หวั เร่ืองอาจจะไม่ตรงกับส่ิงตีพิมพข์ องคณะมนุษยท์ ่ีมีจาํ หน่ายใน
ปี 2509 ขณะท่ีผมอยู่ปีหนึ่ง เพราะส่ิงตีพิมพน์ ีค้ ลา้ ยหนงั สือพิมพ์ ไม่เย็บ
เล่ม ไม่มีปก แต่การแบ่งเนือ้ หาขา้ งในจะออกมาทางแนววารสารมากกว่า
มีบทความ มีเรื่องสนั้ มีกลอน ภาพประกอบ คิดว่าวางจาํ หน่ายทุก 15 วนั
เพ่ือความสะดวกผมขอเรียกว่า วารสาร ก็แลว้ กัน ช่ือวารสารว่าอย่างไรก็
จาํ ไม่ไดเ้ สยี แลว้

บุคคลหลักท่ีเก่ียวขอ้ งกับวารสารนีค้ ือ พ่ีแว่นทิพย์ นิมมานเหมิ
นทร์ (08) และวัลลภ แม่นยาํ (09) พ่ีแว่นทิพยน์ ่าจะเป็นบรรณาธิการ -
และน่าจะเป็นเจา้ ของดว้ ย เพราะตอ้ งใชเ้ งินในการตีพิมพ์ – สว่ นวลั ลภผูม้ ี
ฝีมือในเร่ืองการเขียนการต์ นู มีหนา้ ท่ีจดั วางรูปหนา้ ติดต่อโรงพมิ พแ์ ละจดั
จาํ หน่าย ผมเขา้ ไปเกี่ยวขอ้ งอยู่ 2 อย่างคือ เรื่องสัน้ ของตนเองไดร้ บั การ
ตีพิมพ์ในฉบับแรก และช่วยวัลลภในการนําวารสารไปเดินขายท่ีคณะ
วิทยาศาสตร์ (วลั ลภเองเดนิ ขายท่คี ณะมนษุ ยแ์ ละคณะสงั คม)

ผมไม่มีโอกาสทราบยอดการตีพิมพ์และยอดขาย รูแ้ ต่ว่าต้อง
ขอรอ้ งเพ่ือนๆ ท่ีเรียนคณะวิทยฯ์ ช่วยซือ้ ฉบบั ละ 1 บาท กว่าจะขายหมด
10 ฉบับใช้เวลานาน ขา้ วราดแกงท่ี Union ราคาจานละ 2 บาท เบนซิน
ลิตรละ 1.50 บาท ดงั นนั้ เงนิ 1 บาทจึงมคี า่

เร่อื งสน้ั ท่ผี มไดร้ บั เลือกใหล้ งในวารสารช่อื “สดใสอย่ารอ้ งไห“้ เป็น
เรื่องส้นั เร่ืองแรกและเร่ืองเดียวในชีวิต พล็อตเร่ืองเป็นเหตุการณ์จริง 95

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 175

เปอรเ์ ซนต์ ตอนสดุ ทา้ ยหกั มมุ ดว้ ยการพลิกจินตการผอู้ ่านท่ีคิดว่าเป็นเร่ือง
ของนกั ศกึ ษาชายหญิง กลายเป็นหญิงกบั หญิง

พ่ีแว่นทิพยช์ มว่า เอนกเขียนไดด้ ีมาก ความอยากไดล้ งเรื่องท่ีสอง
จึงเกิดขึน้ เพ่ือจะเขียนใหท้ ันลงในฉบบั ท่ีสองในอีกสองอาทิตย์ หาพล็อต
ไม่ไดก้ ็เลยหยิบเอาเรื่องท่ีไดย้ ินนักศึกษาหญิงขีก้ ลวั ทงั้ หลายเล่าถึงการท่ี
ตอ้ งเดินผ่านโคง้ ตกึ วิทยาเพ่ือกลบั หอซิกแซ็กหอหกเหลยี่ มในตอนกลบั จาก
ทานขา้ วเย็นหน้า มช.เร่ืองนีพ้ ่ีแว่นทิพยไ์ ม่ลงให้ ผมเลยไม่ไดช้ ่วยขายให้
แลว้ ในเทอมตอ่ มากไ็ ม่เหน็ การจาํ หน่ายวารสารนีอ้ ีก

ในตอนอย่ปู ีหน่ึงเช่นกนั บทความภาษาอังกฤษของผมไดร้ บั เลือก
ใหล้ งในวารสารช่ือ Komut ท่ีภาควิชาภาษาองั กฤษจดั พิมพจ์ าํ หน่าย เร่ือง
นีผ้ มลืมไปสนิท จนกระท่ังมาเจอชนินทร์ แจง้ กระจ่าง (09) ซ่งึ ตอนนนั้ ติด
ดาวรอ้ ยตาํ รวจโทหมาดๆ ทกั ว่า “เอนกสมยั เรียนเก่งภาษาองั กฤษน่ี นาย
ไดเ้ ขียนบทความเป็นภาษาองั กฤษลงในวารสาร เราจาํ ได”้ ผมถึงจาํ เรือ่ งนี้
ได้ ความจริงไม่ใช่เร่ืองเก่งหรือไม่เก่ง ความท่ีระบบการเรียนการสอนแบบ
interdisciplinary ของ มช. ทําให้ผมมีจินตนาการฟุ้งซ่านอย่างไม่เคย
เป็นมากอ่ น

การเขียนครงั้ นนั้ มีเนือ้ ความวิพากษ์วิจารณน์ กั ศกึ ษาท่ใี ชเ้ วลาว่าง
วนั องั คารและพฤหัส ท่ีมีการเรียนนอ้ ย แบบไม่เกิดประโยชน์ ม่ัวสมุ อยู่แต่
ใน Union หรือไม่ก็นดั กนั ไปเท่ียวเลน่ ดหู นงั ดว้ ยความท่ีไม่กลวั เรื่องเขียน
ผิดเขียนถกู เขียนแบบไม่กลวั ขายหนา้ ดา้ นศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ ยิ่งกว่านนั้
ยังไม่ยอมใหอ้ าจารยช์ ่วยตรวจทานแกไ้ ข เขียนเสร็จก็ส่งผูร้ บั ผิดชอบของ

176 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

ภาควชิ าภาษาองั กฤษไปเลย ไมแ่ น่ใจวา่ เป็นวลั ลภหรือเปลา่ แลว้ กล็ มื เร่ือง
นไี้ ปเลย

เม่ือราว 20 ปีก่อน นกั ศึกษาเมเจอรเ์ ยอรมัน ซ่ึงเก่งภาษาองั กฤษ
มากเพราะไป AFS มา ไดเ้ อากระดาษหนา้ ตาคลา้ ยหนงั สือพิมพม์ าใหผ้ ม
แลว้ บอกว่า หนไู ปเจอท่ีภาควชิ าภาษาองั กฤษ เลยยืมมาใหอ้ าจารยไ์ ดอ้ ่าน
น่นั เป็นครงั้ แรกท่ีผมไดอ้ ่านบทความภาษาอังกฤษของตนเอง อ่านแลว้ ก็
ยิม้ ไปด้วย วงศัพทแ์ คบ ไวยากรณ์ใชไ้ ด้ สื่อความชัด แค่นีก้ ็เอาละวา้ ไม่
เคยไปต่างประเทศมาก่อน อยู่ปีหน่ึงเขียนไดแ้ ค่นีก้ ็พอเอาตัวรอดไดแ้ ลว้
หากเป็นตอนนีค้ งตอ้ งใชเ้ วลาเขียนบทความสนั้ ๆ แบบนนั้ เป็นเดือน และยงั
ตอ้ งขอรอ้ งผูม้ ีความรูด้ า้ นภาษามาช่วยเกลาสาํ นวนใหอ้ ีกต่างหาก ไม่ใช่
อะไร กลวั ขายหนา้ เขา

(หมายเหตุ : เมื่อลงบทความนีใ้ นกลุ่มไลน์ มี มงคล รายะนาคร เขา้ มา
เขียนใหข้ อ้ มูลเรื่องชื่อของวารสารภาษาองั กฤษว่าคือ Komut และอกี ท่านหน่ึงทใี่ ห้
ความกระจา่ งเรื่องปกของวารสารคือ เสรินทร์ จริ ะคปุ ต์ ซ่ึงเป็นผูอ้ อกแบบปกวารสาร
นี้ 2 ปีต่อเนอื่ ง ตอ้ งขอขอบคณุ ท่านทงั้ สองเป็นอย่างย่ิง)

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 177

จิตวทิ ยา เปิ ดตวั ท่ธี รรมศาสตร์

โดย.. เผชิญ เพชรจาํ รสั

การไปจดั อภิปรายท่ีหอประชมุ ธรรมศาสตรข์ องนกั ศึกษา “ชุมนุม
จิตวิทยา” ระหว่างวนั ท่ี 5-9 กรกฏาคม พ.ศ. 2510 ขณะผมอยู่ปีหนึ่งนั้น
จรงิ ๆ ผมจาํ อะไรไดไ้ มม่ ากครบั จาํ ไดแ้ ตว่ า่ การจดั งานขลกุ ขลกั พอสมควร

พ่ีดุสิต ศิริวรรณ แกก็โวยวายกบั น้องๆ หลายคน โดยเฉพาะน้อง
ผหู้ ญิง ทกุ คนมาจากเชียงใหมโ่ ดยไม่ไดเ้ ตรียมตวั อะไรกนั มา

แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปดว้ ยดี ทาํ ใหแ้ ขกผูใ้ หญ่และนักวิชาการ รูจ้ ัก
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดีขึน้ มาก โดยเฉพาะสาขาจิตวิทยา ตอ้ งขอกราบ
ท่านอาจารยห์ ม่อมหลวง ตยุ้ ชมุ สาย ท่ีท่านเปิดทางใหส้ าขาจิตวิทยาและ
มหาวทิ ยาลยั เชียงใหมเ่ ป็นท่ีรูจ้ กั มากขนึ้ ในประเทศไทย

178 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

ผมยังจาํ ไดว้ ่า มีตาํ แหน่งนกั จิตวิทยาเปิดใหส้ มคั รเขา้ รบั ราชการ
ในโรงพยาบาลทัง้ ประเทศ 4 ตาํ แหน่ง มีการสอบท่ีกรุงเทพ จาํ ไม่ไดว้ ่าท่ี
ไหน ก็มีผูเ้ ข้าสอบแข่งขันจาก จุฬา ธรรมศาสตร์ และท่ีไหนอีกจาํ ไม่ได้
เกือบสบิ คนถา้ จาํ ไมผ่ ิด

ผลการสอบพวกเรา มช. ท่ีไปสอบแข่งขันได้หมดทุกคนทั้ง 4
ตาํ แหน่ง ผมติดเป็นนกั จิตวิทยาท่ีโรงพยาบาลโคราช แต่ผมไมไ่ ดไ้ ป เพราะ
ยงั เป็นนกั จิตวทิ ยา (ลกู จา้ งช่วั คราว) อย่ทู ่เี ชียงใหม่ ไดง้ านนีต้ งั้ แตอ่ ย่ปู ีท่ี 4

ทสี่ าํ คญั ไม่ไปเพราะชอบเชยี งใหมม่ ากทส่ี ุดครับ

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 179

ชมรมพุ ทธศลิ ป์ฯ ท่ผี มเคยร่วมกิจกรรม

โดย..เอนก กมิ สวุ รรณ

นักศึกษา มช. ยุคบุกเบิกส่วนใหญ่ เข้าร่วมกิจกรรมท่ีทาง
มหาวิทยาลยั ใหโ้ อกาสเขา้ ร่วม ตามความถนัดและความสมัครใจ คนท่ี
สุขภาพแข็งแรงจะไปชมรมกีฬา คนท่ีรกั ศิลปะ - อาจเป็นเพราะไม่ค่อย
แข็งแรงเท่าไร - จะเลือกชมรมดนตรี ชมรมภาษา และคนท่ีชอบครุ่นคิด
เรอ่ื งชีวิตจะเลือกเขา้ ชมรมพทุ ธศลิ ป์

ผมเรียกว่าชมรมพทุ ธศิลป์ จนติดปาก แต่เม่ือมาเขา้ รว่ มเป็นกลุ่ม
คณะทาํ งาน “สนทนาประสา มช.ฯ” และไปคน้ รูปเก่าๆ จึงเพ่ิงรูว้ ่า ชมรม
พทุ ธศิลป์ นนั้ ความจริงช่ือ “ชมุ นุมพทุ ธศิลปศึกษาและประเพณี ส.มช. ใน
พระอปุ ถมั ภ์ แห่ง ม.จ.หญิง พนู พิศมยั ดิศกุล” เหตใุ ดจึงเป็น “ชุมนุม” เหตุ
ใดอย่ใู นพระอปุ ถมั ภฯ์ เร่ืองนีผ้ มไมท่ ราบ

ชุมนุมนีม้ ีพ่ีพริม้ เพรา (07 จิตวิทยา) เป็นประธานชุมนุม อาจารย์
แสง จันทรง์ ามเป็นอาจารย์ท่ีปรึกษา และจาํ ได้แม่นคือ พ่ีคณิต เศรษฐ
เสถียร (07) ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องชุมนุมท่ีตั้งอยู่ท่ี Union โดย
เด็ดขาด อะไรเป็นสาเหตุในตอนนั้น ผมก็ไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นตอนนีต้ อ้ ง
บอกวา่ ปี 2509-2510 เป็นปีชงของพ่คี ณิต

ผมเข้าไปร่วมกิจกรรมชุมนุมพุทธศิลปฯ ตามคําชักชวนของ
สารณีย์ ไทยานนั ท์ (09) จาํ ไดว้ ่าพ่ีพริม้ เพรานาํ สมาชิกชุมนุมไปนมสั การ
ท่านเจา้ คณุ วินัย โกศล (สมณศักดิ์ในขณะนนั้ ) ท่ีวดั เจดียห์ ลวงหลายครง้ั

180 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

มีการพดู คยุ เรอ่ื งธรรมะและปัญหาชีวิต เม่ือพ่ีพรมิ้ เพราจบออกไป สารณีย์
และศิรลิ กั ษณ์ ฤทธานนั ท์ (09 ภาษาไทย) ทาํ หนา้ ท่ีดแู ลชมุ นมุ ต่อ

เดือนมกราคมปี พ.ศ. 2511 มีการจัดกิจกรรมใหญ่ท่ีพุทธสถาน
กิจกรรมนั้นคือการโตว้ าที มีการเชิญผูใ้ หญ่ในเชียงใหม่ท่ีเป็นท่ีรูจ้ ักว่ามี
ฝีปากในเร่ืองนีห้ ลายท่าน หน่ึงในนนั้ คือ คณุ หมอถาวร อนุมานราชธน ใน
งานคืนนั้นทางชุมนุมพุทธศิลปฯ ไดต้ ั้งโต๊ะจาํ หน่ายหนังสือธรรมะและ
ปรชั ญา มีคนทยอยมารอฟังการโต้วาทีกันมากมายเพราะนานๆ ทีจะมี
อะไรใหค้ นในเชยี งใหม่ไดเ้ ขา้ ชม

ภายในหอประชุมฯ มีการจดั รอ้ งเพลงไทยสากล ผูร้ อ้ งเท่าท่ีจาํ ได้
คือ วลั ลภ (09) และสรณีย์ (09) เวลาผ่านไปจนเกือบ 2 ทุ่ม เลยเวลาการ
โตว้ าทีไปกวา่ ครง่ึ ช่วั โมง แต่คณุ หมอถาวรยงั มาไม่ถงึ ไม่รูจ้ ะติดต่ออย่างไร
เพราะยคุ นนั้ ไม่มีมือถือโทรป๊ บุ ติดต่อไดป้ ๊ับ สารณียต์ อ้ งเรียกใหว้ ลั ลภและ
สรณียข์ ึน้ ไปรอ้ งเพลงเป็นการฆ่าเวลา จนทัง้ สองไม่รูจ้ ะเอาเพลงอะไรมา
รอ้ งอีก

พวกเราท่ีร่วมเป็นกรรมการจัดงานไม่มีใครกลา้ ขึน้ ไปบนเวทีเพ่ือ
บอกใหผ้ ูฟ้ ังว่ามีเหตุขัดขอ้ งอะไร เร่ิมมีเสียงอือ้ อึงในกลุ่มผูฟ้ ังท่ีเร่ิมหมด
ความอดทน

ในท่ีสุด คุณหมอถาวรก็ขับรถโฟลก์ มาถึง (หมายเหตุ มีคนบอกว่า
กว่าคุณหมอจะทาํ ฟันคนไขเ้ สร็จก็เลยทุ่มกว่าไปแลว้ ) พวกเรารีบเขา้ ไปเชิญให้
คุณหมอเข้าน่ังประจําท่ี แล้วสารณีย์ก็ขึน้ กล่าวเปิดงาน หัวข้อในการ
โตว้ าทีคนื นนั้ ช่ือวา่ อยา่ งไรก็จาํ ไม่ไดแ้ ลว้ จาํ ไดแ้ ตว่ ่าคณุ หมอถาวรเป็นฝ่าย

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 181

ผมและน้องๆ รุ่น 10 สมพร ล้วนปรดี า และพรรณี ศรสี ุวรรณ กําลังจาํ หน่าย
หนังสือธรรมะทพี่ ุทธสถาน มอี าจารย์ ร.อ.หญิงกานดา โกษะโยธนิ และ
เพ่อื นๆ กําลังเลือกซือ้ หนังสือ

คา้ นและคาํ แรกท่ีหลดุ จากปากคณุ หมอคือการตัดไมข้ ่มนาม “คืนนี้ ฝ่ าย
คา้ นตอ้ งชนะแน่”

อีกสิ่งหน่ึงท่ีผมคิดทาํ ใหช้ ่วงเป็นกรรมการชุมนุมฯ คือการจดั บวช
นกั ศึกษา มช. ในช่วงฤดรู อ้ น ผมไดป้ รกึ ษาเรอื่ งนีก้ บั อาจารยแ์ สง ท่านเห็น
ดว้ ย เพราะถือวา่ เป็นครงั้ แรกของประเทศเลยทีเดยี วท่มี หาวิทยาลยั จดั ใหม้ ี
การบวชนกั ศกึ ษา ผมเรียนอาจารยต์ ่อไปวา่ จะบวชดว้ ย

แต่แล้วโครงการนี้ก็ไม่ได้ทํา เพราะเม่ือถึงฤดูรอ้ นก็เป็นช่วงฝึก
ภาคสนาม รด. ปี 5 ฤดรู อ้ นถดั มากจ็ บการศกึ ษาและไดท้ ุนไปศึกษาตอ่

182 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

ชี วิตชาวหอ

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 183

ชีวติ ชาวหอเม่อื พ.ศ. 2507

โดย..ประหยดั สายวเิ ชยี ร

เน่ืองจากเป็นนักศึกษารุ่นแรก หอพักมีอาคารเดียว (หอ 1) ใช้
ประโยชนเ์ อนกประสงคค์ ือนักศึกษาทัง้ ชายและหญิงพักอาคารเดียวกัน
หญิ งอยู่ชั้น 3 ชายอยู่ชั้น 2 ส่วนชั้นล่างเป็ นทั้งท่ีทํางานคณาจารย์
หอ้ งเรียน หอ้ งอาหาร ชัน้ สองเหนือหอ้ งอาหารเป็น study room ส่วนชั้น
ลา่ งของหอ้ งอาหาร เป็นหอ้ งกีฬาในรม่ มีปิงปอง แบตมินตนั ฯลฯ

อาคารเคมีหลงั แรก เป็นทั้งหอ้ งเรียนและหอ้ งสมุดฯ ส่วนอาคาร
บรหิ ารคอื ตกึ อธิการบดี

เวลานั้นเมืองเชียงใหม่รถรามีน้อย รถเมลม์ ีสายเดียวว่ิงระหว่าง
ชา้ งเผือก-หว้ ยแกว้ เท่านัน้ จะเขา้ เมืองทีแสนยาก และเสน้ ทางก็ค่อนขา้ ง
เปล่ียวโดยเฉพาะช่วงพลบค่าํ และกลางคืน ดงั นนั้ อาจารยท์ ่ีดแู ลจึงเกรงว่า
นักศึกษาจะเหงา คิดถึงบา้ น ท่านจึงจดั ใหม้ ีกิจกรรมพิเศษภาคเย็น เท่าท่ี
จาํ ไดแ้ ละไดเ้ ขา้ รว่ มคอื หดั อู้ (พดู ) คาํ เมือง และ เรยี นวิธีเลยี้ งกลว้ ยไม้

การเรียนภาษาคาํ เมืองนัน้ จะเรียนในตอนเย็นสอนโดยอาจารย์
บวั เขียว จนั ทรปัญญา สว่ นกลางวนั อาจารยใ์ หไ้ ปฝึกพดู กับเพ่ือนคนเมือง
สาํ หรบั เสาร-์ อาทิตย์ ตอ้ งไปลองใชก้ ับแม่คา้ ในกาด (ตลาด) พอตกเย็นวัน
จนั ทร์ ตอ้ งมาเลา่ ประสบการณก์ ารใชภ้ าษาใหอ้ าจารยฟ์ ัง สนุกสนานและ
ไดใ้ ชม้ าจนปัจจุบนั โดยเฉพาะคาํ ว่า เจา้ .. โดยลากเสียงยาว ซ่งึ เป็นคาํ ลง
ทา้ ยประโยคแทนคาํ วา่ คะ หรอื คะ่ ในภาษากลาง

184 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

ตึกอธกิ ารบดี (ล่างสุด) หอ 1 และอาคารเคมี สามอาคารในปี การศึกษา 2507

ส่วนการเลีย้ งกลว้ ยไม้สอนโดย อ.ดร.พิสิทธ์ วรอุไร ท่านไดเ้ ชิญ
ดร.รพี สาคริก มาช่วยสอน และพาไปเก็บกลว้ ยไม้ท่ีอาํ เภอลีด้ ว้ ย สนุก
เพลดิ เพลนิ และทาํ ใหช้ อบกลว้ ยไมม้ าจนถึงปัจจบุ นั เจา้ ..

ขอขอบพระคณุ คณาจารยท์ ุกท่านท่ีดแู ลพวกเราในปีแรกของการ
มาอยู่ มช. มีทัง้ สขุ สนุก ต่ืนเตน้ โดยได้ F ภาษาองั กฤษเป็นของแถม รุ่น
แรกของ มช. มเี กรดทงั้ A B C D E และ F

กวา่ จะผา่ น 4 ปี มาได้ สมั ผสั มาแล้วทกุ ตัวเจา้ ..555

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 185

เปิ ดหอชาย ท้าทายนกั ศึกษาหญงิ

โดย..ชนนิ ทร์ แจง้ กระจา่ ง

ปี การศึก ษ า 2509 ผ ม สอ บ ติ ด ภ าค วิชารัฐศ าส ต ร์ ค ณ ะ
สงั คมศาสตรข์ อง มช. เราครบั ผมเดินทางมาพรอ้ มเพ่ือนหลายคน เม่ือมา
รายงานตวั ปรากฏว่าหอพักใน มช. เต็ม ผมตอ้ งไปอยู่หอนอก จนกระท่ัง
เทอมท่ีสองของปีการศึกษา 2509 พ่ี สืบพงษ์ แม้นสุวรรณ พ่ีธรณีปีสอง
รหัส 08... ถูกฆ่าชิงทรพั ยร์ ถจักรยานยนตท์ ่ีถนนนิมมานเหมินทร์ ทาํ ให้
เตียงในหอว่างลงหน่ึงเตียง ผมจึงขอเขา้ ไปอยู่แทนพ่ีเขา ทาํ ใหไ้ ดเ้ ป็นรูม
เมท ของพ่ี สกล สชุ าติวฒุ ิ พ่ธี รณีปีสอง

จากนั้นผมก็อยู่หอใน มช. คือ หอ 3 (หรือหอชาย 2) จนจบ
การศึกษา ระหว่างอย่ทู ่ีหอ ผมไดร้ บั แต่งตงั้ เป็นกรรมการหอพกั จึงไดส้ ิทธิ
อย่จู นจบการศกึ ษาได้ ไม่ตอ้ งออกไปอยู่หอขา้ งนอก เพราะขณะนนั้ หอชาย
ไม่พอ ทุกคนตอ้ งออกไปอย่หู อนอก เพ่ือใหน้ ักศึกษาใหม่เขา้ หอแทน ดว้ ย
เหตนุ ีผ้ มจึงมกั ถกู เพ่อี นๆ นินทาว่า ผมเป็นอภิสทิ ธช์ น ไดอ้ ยู่หอตงั้ แต่ปีหน่ึง
ยนั ปีสดุ ทา้ ย

ระหว่างเป็นกรรมการหอผมขอใหท้ าง มช. มาปรบั พืน้ ท่ีขา้ งหอให้
เรียบเพ่ือใชเ้ ป็นสนามฟตุ บอลของชาวหอ ทาํ ใหบ้ รเิ วณนนั้ โล่ง สะอาด เห็น
ถนนท่ีนกั ศษึ าหญิงใชเ้ ดินไปตลาดฝายหินชดั เจน ดงั นนั้ เม่ือมีบรรดาสาวๆ
จากหอหญิงเดินผ่านไปมา จึงมักโดนนักศึกษาชายท่ีจับกลุ่มกันอยู่บน
ระเบียงหอพักตะโกนแซวสนุกสนาน ซ่ึงบางคนในกลุ่มใส่ลิงตัวเดียว บาง
คนน่งุ เพยี งผา้ ขาวมา้ จนหอนไี้ ดส้ มญานามท่ีรูก้ นั ไปท่วั ว่า “หอปากหมา”

186 / ทศวรรษแรกชีวิตนกั ศกึ ษา มช.

หอ 3 หรอื หอชาย 2 ซ่ึงปัจจบุ นั เหลือเพยี งตาํ นานของหอปากหมา
เช่นเดยี วกบั ตํานานของผู้ทเี่ คยพกั ณ ทแี่ หง่ นหี้ ลายๆ คน

ระหว่างท่ีเป็นกรรมการหอ ผมสงั เกตเห็นเพ่ือนร่วมหอบางคน ไม่
ทาํ ความสะอาดหอ้ งพกั สง่ กล่ินตลบอบอวลรบกวนหอ้ งอ่ืนๆ จงึ มคี วามคิด
ใหน้ กั ศกึ ษาหญิงมาชมหอพกั เพ่ือบีบใหบ้ รรดาสิงหโ์ สโครกทงั้ หลายไดท้ าํ
ความสะอาดหอ้ ง โดยประกาศเปิดหอหน่งึ วนั ตงั้ แต่เวลา 08.00-16.00 น.

ปรากฏว่าถกู ตอ่ ตา้ นจากสมาชกิ ชาวหอบางคน บางหอ้ งยืนยนั ว่า
จะไม่ยอมเปิดหอ้ ง ผมก็บอกไปว่า “ไม่เปิดก็ไม่เป็นไร ผมมีมาสเตอร์คีย์
ใครไม่เปิด ผมเปิดไดท้ ุกหอ้ ง” ในการเปิดหอครงั้ นั้นยังได้ขอให้ชาวหอ
เตรียมขนม กาแฟ นา้ํ ดื่มไวร้ อตอ้ นรบั นกั ศึกษาสาวๆ ท่ีกลา้ หาญพอจะมา
เย่ียมเยอื นอกี ดว้ ย

ผมจาํ ไดว้ ่า ไดต้ งั้ ดาวเด่นทุกคนในหอเป็นกรรมการเปิดหอครงั้ นนั้
ทั้ง “ดาวรา้ ยและดาวดี” คละกันไป ทั้งนีเ้ พ่ือไม่ให้งานล่ม เท่าท่ีจาํ ได้มี
เฮีย้ ง หรือ ไพโรจน์ แพรสกุล จากเกษตรฯ เคย์ (จาํ ช่ือจริงไม่ได)้ เขา้ ใจว่า

ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช. / 187

มาจากวิทยาศาสตร์ แต่สุดท้ายไปจบคณะอะไรไม่แน่ใจ และกิตติชัย
วฒั นานิกร จากฟิ สิกส์ แต่ละคนท่ีเลือกมาลว้ นมีผลงานการนั ตีความเป็น
ดาวได้เป็นอย่างดี (แต่ในชีวิตจริงต่อมา ดาวรา้ ยสมัยนกั ศึกษาบางคน
กลบั ไดด้ กี ว่าดาวดใี นสมยั นนั้ )

กรรมการเปิดหอบางคนเคยโชวก์ ารขับข่ีมอเตอรไ์ ซคไ์ ต่บนั ไดหอ
ชาย 2 จากชนั้ หนึ่งถึงดาดฟ้า โดยใชร้ ถหรู MZ ของเยอรมนั มีเลขทะเบียน
แสดงฐานะชนชั้นนาํ ของเจา้ ของ (น ฐ 5555) แต่เจ้าตัวกลับทาํ ตัวเป็น
ยาจก ตอ้ งเปิดหมวกขอค่านา้ํ มนั เม่ือมเี พ่อื นๆ อยากใหโ้ ชวซ์ า้ํ รอบสองรอบ
สาม

กรรมการฯ บางคนมปี ระวตั ไิ ม่พอใจตนู้ า้ํ ดมื่ ท่ีตงั้ อยู่รมิ บนั ไดขึน้ หอ
ซง่ึ คงไม่เย็นฉ่าํ ด่งั ใจ เลยถีบส่งั สอนลงไปนอนแอง้ แมง้ ใตถ้ ุนหอซะใหร้ ูแ้ ลว้
รูร้ อด

สว่ นบางคนชอบตะโกนโหวกเหวกเม่ือกลบั เขา้ หอหลงั เท่ียงคืนไป
แลว้ ดว้ ยคาํ ท่แี สลงหผู ใู้ หญ่สมยั นนั้ ไมร่ ูเ้ พราะกลวั เพ่ือนเหงา หรือกลวั ผี

กลยุทธการต้ังกรรมการฯ ครั้งนั้นดูจะได้ผล ทาํ ให้งานเปิ ด
หอผ่านไปได้ด้วยดี และเป็ นประเพณีต่อมาอีกนาน แต่จะมีมาจน
ปัจจุบันนี้หรือไม่ ไม่อาจทราบได้ เพราะเหตุการณ์นั้นผ่านมาแล้ว
กวา่ หา้ สบิ ปี

188 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

ผีถว้ ยแกว้ ท่ี หอ 4 มช.

โดย..ยวุ ดี (ทรพั ย์สกลุ ) พรี พรพศิ าล

จรงิ ๆ แลว้ ไม่คิดจะเป็นหมอดู หมอเดา กบั ใครเขาเลย ตอนอยปู่ ี 4
(รหัส 10) อยู่ท่ีหอ 4 มีรูมเมทอยู่รัฐศาสตร์ เธอสวย น่ารัก และเรียน
เก่ง และแน่นอนเธอมีแฟนแลว้ มารบั ส่งกันทุกวัน แต่เธอก็เกิดสงสัยว่า
แฟนเธอจะมีคนอ่นื อกี หรอื เปลา่ เลยมาคยุ กบั เราอยา่ งจรงิ จงั

เราเองพอดูลายมือเป็น เคยเรียนมาจากแม่ของเพ่ือนตั้งแต่อยู่
มธั ยมตน้ และก็ดใู หใ้ ครบา้ งนานๆ ครง้ั เราเห็นเธอวติ กก็เลยจบั มือเธอมา
ดู ดูข้างซ้าย ดูข้างขวา แล้วก็บอกกับเธอว่า เธอจะแต่งงานกับคนนี้
แน่นอน เขาไม่มีคนอ่ืนหรอกเช่ือเถอะ และแลว้ เธอก็ไดเ้ กียรตินิยมอันดับ
1 และตอ่ มากแ็ ตง่ งานกบั หวานใจคนเดมิ ของเธอ มีครอบครวั ท่ีอบอนุ่

ช่วงท่ีอยู่ มช. ปี 4 หลงั จากดลู ายมือใหร้ ูมเมทแลว้ เธอก็เอาไปคุย
กบั เพ่ือนๆ ว่าเราดหู มอเก่ง เอาละซี ผหู้ ญิงอย่ทู ่ีไหนก็ชอบดูหมอกันทงั้ นนั้
ครานี้ห้อง 415 ของเราจึงไม่ค่อยว่าง มีเพ่ือนคณะอ่ืนบ้าง อยู่หออ่ืน
บา้ ง ย่องๆ แอบมาดวู ่าเราว่างไหม กาํ ลงั ดหู นงั สืออยู่หรือเปล่า เราเองก็ขี้
เกรงใจคน ก็ดใู หท้ ุกคนท่ีมาหา บางทีเกรงใจรูมเมทท่ีเขากาํ ลงั ท่องหนงั สือ
กพ็ ากนั ไปหอ้ งstudy (ซ่งึ ก็จะไปรบกวนคนอ่นื เขาอกี จึงตอ้ งใชเ้ สียงเบาๆ)

เราดไู ปตามหลกั เกณฑท์ ่แี ม่ของเพ่ือนสอนมา และมกั จะเติมสงิ่ ดีๆ
เข้าไปอีกหน่อย โธ่ ! คนมาดูหมอก็อยากไดค้ าํ ตอบดีๆ ทั้งนั้นแหละ แต่
ทั้งนีท้ ั้งนั้นเราก็ไม่ได้เติมส่ิงท่ีดีจนเว่อรเ์ กินไป ตอนนั้นได้กินขนมอร่อย
บ่อยๆ บางคร้งั เพ่ือนเอาขนมติดตัวมาเลย แต่บางคนก็แอบเอามาใส่

ทศวรรษแรกชวี ติ นกั ศกึ ษา มช. / 189

ตูจ้ ดหมายไว้ แต่เราก็พยายามไม่ดูมากนัก เพราะเราก็อยากได้เกรดดีๆ
เหมือนกนั

มาวนั หน่ึงเพ่ือนคนหนงึ่ มาชวนเล่น "ผีถว้ ยแกว้ " ซง่ึ เราไม่เคยเลน่
มาก่อน ผีถ้วยแก้วมีความเป็นมาน่าสะพรึงมาก คนเล่นอย่างน้อย 3
คน เชิญวิญญาณของคนตายท่ีอยู่แถวนั้น หรืออยู่ท่ีอ่ืนมาอยู่ในถ้วยแกว้
เล็กๆ เบาๆ (ตอ้ งเล็กๆ เบาๆ จริงๆ) และมีกระดาษว่างๆ ขนาดใหญ่แผ่น
หนึ่ง นาํ มาเขียนพยัญชนะ สระทุกตัวใหค้ รบ โดยแต่ละตัวจะเขียนอยู่ใน
ตารางเป็นระเบียบ เวลาจะเล่นก็ให้คนกลา้ ๆ หน่อยจุดธูปและอัญเชิญ
วิญญาณแถวนนั้ เขา้ มาอยใู่ นถว้ ยแกว้

เม่ือทกุ อย่างเรียบรอ้ ยกเ็ ร่มิ เลน่ กนั โดยใครจะมีคาํ ถามอะไรก็ถาม
มา แลว้ คน 3 คนนนั้ จะเอานิว้ ชีจ้ ิม้ ลงไปท่ีกน้ แกว้ ซ่ึงคว่าํ เอาไว้ ทุกคนเช่ือ
แน่ว่าวิญญาณของคนตายอยู่ในถ้วยแก้ว คราวนีก้ ็จะถึงคาํ ตอบ สมมุติ
ถามว่า "เทอมนขี้ า้ พเจา้ จะติด F หรือไม่" ถว้ ยก็จะเคล่ือนท่ีไป โดยมีนิว้ ชี้
3 นิว้ ของทงั้ 3 คนพาใหถ้ ว้ ยแกว้ เคลื่อนท่ี ไปตามพยญั ชนะและสระท่ีควร
จะเป็นอยา่ งชา้ ๆ

ตอนนีเ้ ช่ือแน่ว่าหัวใจของแต่ละคนเตน้ ตุ๊บๆ เป็นแน่ ความเงียบ
เกิดขึน้ กล่ินธูปลอยอบอวล พอแก้วเคล่ือนท่ีไปท่ีสละ "ไ" ก็จะมีคนจด
เอาไว้ แลว้ ตอ่ มาเคล่ือนมาท่ี "ม" กจ็ ดไว้ แลว้ กม็ าท่ีไมเ้ อก รวมแลว้ คอื "ไม่"
จากนัน้ จะมีเสียงเฮดงั ขึน้ ตามดว้ ยเสียงจอ้ กแจก้ จอแจของสาวๆ ทุกคนดี
ใจกับคนถาม ด้วยเช่ือว่าเทอมนั้นเธอคงไม่ติด F เป็นแน่ และก็เป็นจริง
ตามนนั้

ต่อมาก็จะถงึ คิวของคนอ่นื ๆ เด็กสาวท่เี รียนปรญิ ญาตรีในมหา

190 / ทศวรรษแรกชีวติ นกั ศกึ ษา มช.

วิทยาลยั จะมีอะไรมากไปกว่า สอบผ่านไหม แฟนจะคบกนั ต่อไปไหม รูส้ ึก
จะมี 2 คาํ ถามเน่ียฮิตท่ีสุด และคาํ ตอบเกือบรอ้ ยเปอรเ์ ซนต์จะเป็นไป
ในทางท่ีดี

เพ่ือนๆ ท่ีมาดจู ะรวมตวั กนั อยู่หลงั หอ้ งค่อนขา้ งแน่น เม่ือดใู หใ้ คร
เสร็จแลว้ มีคาํ ตอบท่ีมันๆ จะมีเสียงเฮ บางทีก็เฮดงั เกินไป จนตอ้ งช่วยกนั
เตือนเกรงว่าอาจารยป์ ระจาํ หอจะไดย้ นิ เด๋ียวถกู ทาํ โทษอีก เม่อื ดกึ พอควร
แลว้ ก็แยกยา้ ยกันกลบั หอ้ ง และนัดกันคร่าวๆ ว่าจะมีรายการแบบนีค้ รงั้
หนา้ อกี เม่อื ไหร่

เราเองเม่ือเพ่ือนๆ กลับไปแล้วก็มาน่ังคิดว่า ทาํ ไมถ้วยแก้วจึง
เคลื่อนท่ีได้ วิญญาณมีจรงิ หรือ เรารูส้ ึกสงสยั ว่าแรงจากนิว้ ของเพ่ือนทงั้ 2
คนทาํ ไมเบาจงั ถา้ เราไม่ดันกน้ ถ้วย ถว้ ยแกว้ ก็จะอยู่น่ิง แต่ถา้ เราดันดว้ ย
แรงเล็กนอ้ ย ถ้วยแกว้ ก็จะเคลื่อนไปตามมือเรา เช่นเราดันไปท่ี “ ไ” และ
“ม” และไมเ้ อก ผลออกมาก็จะอ่านว่า "ไม่ "อยา่ งท่กี ลา่ วไปแลว้

เอ! แสดงว่ามนั ตอ้ งมีใครเป็นหวั โจก ตงั้ ใจจะใหเ้ ป็นขอ้ ความอะไร
มนั กจ็ ะเป็นไปตามนนั้ กรณีของเรานีเ้ พ่ือนอีก 2 คนคงเกรงใจเรา ปลอ่ ยให้
เป็นขอ้ ความอย่างท่ีเราต้องการ ใช่แล้ว! เราเป็นหัวโจกจริงๆ อืม! น่ีเรา
หรอกเพ่ือนจรงิ ๆ หรอื น่ี

หลงั จากน้ัน "ผถี ้วยแกว้ " หลงั หอ 4 มช. จึงไม่มอี กี เลย ขอ
โทษนะเพอ่ื นๆ เราไมไ่ ดต้ ั้งใจ.....


Click to View FlipBook Version