The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่ม 2 แผนปฏิบัติการประจำปี 2567.pdf

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by illpooo01, 2024-06-18 20:18:44

เล่ม 2 แผนปฏิบัติการประจำปี 2567.pdf

เล่ม 2 แผนปฏิบัติการประจำปี 2567.pdf

ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ 2.5 กิจกรรมแข่งขันทักษะภาษาอังกฤษ (Open House) ทั้งระดับโซนและระดับภาค -นักเรียน EP จำนวน 25 คน เข้าร่วมกิจกรรม แข่งขันทักษะภาษาอังกฤษ (Open House) ระดับโซน B ของกลุ่มโรงเรียน EP/MEP และมี นักเรียนเข้าร่วมแข่งขันในระดับภาค ในช่วง เดือนพฤศจิกายน 2565 ก.ค. 2567, ส.ค. 2567 215,000 ครูยุธารัตน์ สังข์สน นางพรชนก เปาริก และคุณครูประจำ ชั้นเรียน EP/ครู ต่างชาติทุกคน 2.6 กิจกรรม English Camp -นักเรียน EP จำนวน 230 คนเข้าร่วมกิจกรรม English Camp เป็นเวลา 2 วัน เป็นกิจกรรม ฐานการเรียนรู้ในโรงเรียน 1 วันและเข้าร่วม กิจกรรมภายนอกสถานศึกษา จำนวน 1 วัน เพื่อให้เกิดกระบวนการการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ - ครูใน English Program จำนวน 25 คนเข้าร่วม กิจกรรมภายในและภายนอกสถานศึกษา จัด ประสบการณ์การเรียนรู้ให้กับนักเรียน ได้เพิ่มพูน ประสบการณ์จากกิจกรรมและนำไปต่อยอดในการ จัดการเรียนการสอนในห้องเรียนต่อไป 28-29 พ.ย. 2567 391,715 นางสาวชนิดา สินกลัด นางพรชนก เปาริก และคุณครูประจำ ชั้นครูประจำชั้น ห้องเรียน EP/ ครูต่างชาติทุกคน 2.7 งานจัดเตรียมสื่อ วัสดุอุปกรณ์การเรียน การสอนประจำห้องเรียนและการปรับปรุง ห้องเรียน -ห้องเรียน EP ตั้งแต่ อ.2/5 – ป.6/5 รวม 8 ห้องเรียน มีสื่อวัสดุ อุปกรณ์ในการเรียน การสอนครบทั้ง 8 ห้องเรียน ตลอดปีการศึกษา 80,000 นางพรชนก เปาริก และคุณครูประจำ ชั้นเรียน EP ทุกคน 2.8 กิจกรรมนำเสนอทักษะภาษาอังกฤษของ นักเรียนชั้น ป.6/5 นักเรียน EP ตั้งแต่ชั้น อ.2/5 – ป.6/5 ฝึก ทักษะกระบวนการใช้ภาษาอังกฤษทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน และต้องนำเสนอเป็นการพูดสุนทร พจน์ (Public Speaking) ทุกคนเมื่อจบชั้น ป. 6/5 21 ก.พ. 2568 21,625 นางธีรวรรณ กิจวรวุฒิ นางพรชนก เปาริก 2.9 กิจกรรมวิทยากรสอนคณิตศาสตร์ นักเรียน English Program ชั้น ป.1 - ป.6 มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในด้านคณิตศาสตร์ มาสอน วิชาคณิตศาสตร์ เพื่อให้นักเรียนมีทักษะ ความรู้ ด้านคณิตศาสตร์มากยิ่งขึ้น ตลอดปีการศึกษา 172,000 นางสาวชุติมา ช่อกระทุ่ม นางพรชนก เปาริก 2.10 กิจกรรมการส่งเสริมพัฒนาการสำหรับ เด็กปฐมวัย จัดซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้น อ.2 - อ.3 เพื่อพัฒนาการด้านร่างกาย ด้าน อารมณ์-จิตใจ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา ตลอดปีการศึกษา 9,654 นางจำเรียง อ่อนฉ่ำ นางพรชนก เปาริก


ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ จากงบประมาณเงินสนับสนุนห้องเรียนสอง ภาษา English Program 2.11 กิจกรรม Christmas Day เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ประเพณีและวัฒนธรรมใน วันคริสต์มาส นักเรียนมีความมั่นใจและกล้า แสดงออกอย่างเหมาะสม และเฉลิมฉลองเนื่องใน เทศกาลวันคริสต์มาส 25 ธ.ค. 2567 33,900 นางพรชนก เปาริก นายภควัฒน์ เรืองปราชญ์ และคุณครู EP 2.12 กิจกรรมการสอบ CEFR ของนักเรียนชั้น ป.6/5 จัดการทดสอบวัดระดับความสามารถทาง ภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนชั้น ป.6/5 จำนวน 30 คน เพื่อให้นักเรียนได้สอบวัด ความรู้ภาษาอังกฤษ และวัดผลและประเมินผล ความสามารถทางภาษาที่เป็นสากลทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ Listening, Speaking, Reading, Writing ธ.ค.2567 39,600 นางพรชนก เปาริกและคุณครู ประจำชั้นเรียน EP ทุกคน 3. C : Check 1. ควบคุม กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การ ปฏิบัติงานของแต่ละกิจกรรมที่สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ เป้าหมายของแผนการดำเนินงาน และขั้นตอนปฏิบัติงาน 2.ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรมดำเนินการติดตาม และประเมินผลตามปฏิทินการดำเนินงานให้ตรง ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกิจกรรม ตลอดปีการศึกษา - นางพรชนก เปาริกและคุณครู ประจำชั้นเรียน EP ทุกคน 4. A : Act ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรมรายงานผลให้ ผู้รับผิดชอบโครงการทราบและรายงานให้ ผู้บริหารทราบเพื่อปรับปรุง หรือ พัฒนาต่อไป เม.ย. 2567 - นางพรชนก เปาริกและคุณครู ประจำชั้นเรียน EP ทุกคน รวมงบประมาณทั้งสิ้น 1,035,358 5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว - เงินพัฒนาผู้เรียน - เงินรายได้สถานศึกษา ประเภทห้องเรียนโครงการสองภาษา (English Program) 1,035,358 รวม 1,035,358 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. ทักษะกระบวนการในการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ เป็นภาษาอังกฤษ 2. ทักษะการคิด การตัดสินใจ และการแก้ปัญหา 3. หลักสูตรห้องเรียนสองภาษา (English Program)


เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 4. การนำความรู้และทักษะภาษาอังกฤษไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 5. การทำงานเป็นกระบวนการกลุ่ม ด้านคุณธรรม 1. มีเจตคติที่ดีต่อภาษาอังกฤษในการเรียนในโครงการการเรียนการสอนตาม หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ 2. มีวินัย มีความตรงต่อเวลา ในการเรียนและการทำกิจกรรม 3. อยู่อย่างพอเพียง ใช้ทรัพยากรในการเรียนและการทำกิจกรรมอย่าง ประหยัดคุ้มค่า 4. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มความสามารถ 5. มีความยุติธรรมและเคารพในกติกาของประชาธิปไตย 3 หลักการ ความ พอประมาณ 1. มีการวางแผนการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า 2. ผู้เรียนได้เรียนรู้เรื่องการแบ่งเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ 3. มีการกำหนดเนื้อหาให้เหมาะสมกับเวลาและการจัดกิจกรรมการเรียนการ สอน 4. รู้จักเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ ที่มีอยู่อย่างประหยัด คุ้มค่า ความมีเหตุผล 1. เพื่อจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมตามหลักสูตรสถานศึกษาและ เทียบเคียงมาตรฐานสากล 2. เพื่อให้นักเรียนมีความเชื่อมั่นในตนเองในการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร สามารถพัฒนาตนเอง รู้จักแก้ปัญหา มีจิตสำนึกที่ดีต่อตนเอง ชุมชน และ ปรับตัวเข้ากับสังคมโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง ภูมิคุ้มกัน 1.ประชุมคณะครูโครงการการจัดเรียนการสอนตามหลักสูตร กระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (English Program) 2. วางแผนการทำงานของโครงการ โดยกระบวนการทำกิจกรรมการเรียนรู้ ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ(English Program) 3. ดำเนินการตามแผน โดยมุ่งเน้นศักยภาพของนักเรียนเป็นสำคัญ 4. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดทำโครงการตาม วัตถุประสงค์ 5. จัดทำรายงานผล และสรุปผลการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาให้ เกิดผลกับนักเรียนให้มากที่สุด 6. มีการศึกษาหาความรู้ให้ตนเองให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ 7. มีการอบรมและพัฒนาให้ได้รับวิทยาการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง 4 มิติ ด้านวัตถุ 1. ใช้สื่อ เทคโนโลยี นวัตกรรมหลากหลายและทันสมัย 2. การใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างประหยัด คุ้มค่า ด้านสังคม 1. เรียนรู้กระบวนการกลุ่ม ฝึกการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ อย่างเป็นระบบ ปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสามัคคี 2. มีการติดต่อประสานความร่วมมือกับทางผู้ปกครอง ชุมชน 3.มีการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสาร ในชีวิตประจำวันสู่ความเป็นสากล ด้านสิ่งแวดล้อม 1. จัดสิ่งแวดล้อมให้มีความเหมาะสมกับกระบวนการเรียนการสอน 2. ใช้วัสดุ อุปกรณ์ ที่มีอยู่อย่างประหยัด คุ้มค่าและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม 1. การใช้ภาษาในการสื่อสารทั้ง 2 ภาษา ระหว่างภาษาไทยและภาษาอังกฤษ 2. ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และมีความรับผิดชอบในการเรียนรู้ของ ตนเอง


7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1. ร้อยละของนักเรียนได้รับการ จัดการเรียนการสอนตาม หลักสูตรครบถ้วน ร้อยละ100 ของ นักเรียนได้รับการจัดการ เรียนการสอนตาม หลักสูตรครบถ้วน สำรวจจากกิจกรรมที่ นักเรียนได้รับจากการเรียน การสอน แบบสำรวจ 2. ร้อยละของนักเรียนมีความ เชื่อมั่นในตนเองในการใช้ ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับครู ชาวต่างชาติสามารถพัฒนา ตนเอง รู้จักแก้ปัญหา มีจิตสำนึก ที่ดีต่อตนเอง ชุมชน และปรับตัว เข้ากับสังคมโดยใช้ภาษาอังกฤษ เป็นสื่อกลาง ร้อยละ 85 ของนักเรียน มีความเชื่อมั่นในตนเอง ในการใช้ภาษาอังกฤษใน การสื่อสารกับครู ชาวต่างชาติสามารถ พัฒนาตนเอง รู้จัก แก้ปัญหา มีจิตสำนึกที่ดี ต่อตนเอง ชุมชน และ ปรับตัวเข้ากับสังคมโดย ใช้ภาษาอังกฤษเป็น สื่อกลาง สังเกตจากการเข้าร่วม กิจกรรมทุกกิจกรรม และ การเรียนรู้ในทุกวิชากับครู ชาวต่างชาติ ตรวจสอบจากค่าเฉลี่ยของ รายงานผลรายกิจกรรม แบบสังเกต รายงานผลกิจกรรม 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนชั้น อ.2 – ป.6 ห้องเรียนโครงการ English Program มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ มีความสนุกสนานและกล้าแสดงออกมากขึ้น 8.2 ผู้ปกครองนักเรียนในโครงการ English Program มีความพึงพอใจ และพร้อมสนับสนุนการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนร่วมกับโรงเรียน (ลงชื่อ)...........................................ผู้เสนอโครงการ (นางพรชนก เปาริก) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี (ลงชื่อ)............................................ผู้เสนอโครงการ (นางสาวชุติมา ช่อกระทุ่ม) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี (ลงชื่อ)............................................ผู้เสนอโครงการ (นางธีรวรรณ กิจวรวุฒิ) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี (ลงชื่อ)...........................................ผู้อนุมัติโครงการ ( นายสุริยา มนตรีภักดิ์ ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ การพัฒนาการเรียนรู้สู่มาตรฐานสากล อ.2 – ป.6 สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๓ จัดทำหลักสูตรและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความรู้ความสนใจของ ผู้เรียน สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อที่ ๓ ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ทันสมัยและหลากหลาย สนองนโยบายระยะเร่งด่วน(Quick Win) สพฐ. ข้อที่ ๒ ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ข้อที่ 2.๒ สร้างความเข้มแข็งระบบแนะแนว การชี้แนะ (Coaching) และการดูแล สุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้เรียน สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ ๓ คิดคำนวณ อ่าน เขียน สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ข้อที่ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ ๑ ยกระดับคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานสากล ข้อที่ ๒ ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณลักษณะตามค่านิยมที่พึงประสงค์ 12 ประการ กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวกันทิมา เอมประเสริฐ นางกัลยกร นาคราช นายรัชพิพัชร ผาดศรี ระยะเวลาดำเนินการ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ๑. หลักการและเหตุผล ในปี 2553 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรีได้รับคัดเลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ดำเนินงานโรงเรียนสู่มาตรฐานสากล เพื่อยกระดับคุณภาพโรงเรียนให้มีการจัดการเรียนการสอนและการบริหารระบบ คุณภาพ (Quality System Management) มุ่งให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เทียบเคียงมาตรฐานสากล (World Class Standard) มีศักยภาพเป็นพลโลก(World Citizen) ดังนั้นโครงการการพัฒนาการเรียนรู้สู่มาตรฐานสากล จึงเป็น โครงการจัดการเรียนรู้ มุ่งเน้นผู้เรียนมีทักษะกระบวนการคิด ตั้งคำถาม แสวงหาความรู้และสรุปองค์ความรู้ การใช้ ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร การใช้ ICT เพื่อเรียนรู้และดำรงชีวิต ผลิตผลงานที่สร้างสรรค์ มีความตระหนักหน้าที่รับผิดชอบ ร่วมกันในสังคมได้สอดรับกับโรงเรียนมาตรฐานสากล 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความสามารถทางด้านวิชาการทักษะกระบวนการคิด ตั้งคำถาม แสวงหาความรู้และ สรุปองค์ความรู้เต็มศักยภาพตามวัย 2.2 เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนให้มีทักษะการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ในการสื่อสาร 2.3 เพื่อพัฒนาทักษะการใช้ ICTในการแสวงหาความรู้และนำไปใช้ในการดำรงชีวิตได้เต็มศักยภาพสมวัย ของผู้เรียน 2.4 เพื่อพัฒนาผลิตผลงานที่สร้างสรรค์ จากทักษะกระบวนการคิด 2.5 เพื่อให้นักเรียนตระหนักหน้าที่รับผิดชอบร่วมกันในสังคม


3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 นักเรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะกระบวนการคิดตั้งคำถาม แสวงหา ความรู้และสรุปองค์ความรู้ ในระดับประถมศึกษาใช้กระบวนการ IS จำนวนปีการศึกษาละ 1 หน่วยการเรียนรู้และประเมิน ปีการศึกษาละ 1 ครั้ง ระดับชั้นปฐมวัยใช้กิจกรรมการศึกษาค้นคว้าในรูปแบบ Project Approach โดยใช้แบบประเมิน พัฒนาการระดับชั้นปฐมวัย และแบบวัดผลประเมินระดับประถมศึกษา 3.1.2 นักเรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีนในการสื่อสาร โดยจัดให้มีกิจกรรม English is Fun ในวันจันทร์และวันอังคาร กิจกรรมภาษาพาเพลิน ในวันพุธ และวันพฤหัสบดี และกิจกรรม Chinese Today ในวันพฤหัสบดี ตลอดปีการศึกษา 2567 3.1.3 นักเรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2– ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใช้ ICT ในการแสวงหาความรู้ในปีการศึกษา 2562 ในชั่วโมงเรียน/กิจกรรมและเวลาว่างผลิตผลงานที่สร้างสรรค์อย่างน้อยคนละ 1 ชิ้น 3.1.4 นักเรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2– ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันในด้าน คุณธรรม จริยธรรม โดยการบำเพ็ญประโยชน์ ปีการศึกษาละ 4 ครั้ง ภายในโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 นักเรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีทักษะกระบวนการคิด ตั้งคำถาม แสวงหา ความรู้และสรุปองค์ความรู้ทางด้านวิชาการ โดยการแข่งขันทักษะทางด้านวิชาการในวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน และสามารถการสื่อสารอยู่ในระดับดีเยี่ยม 3.2.2 นักเรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2– ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ใช้ ICT ในการแสวงหาความรู้ในปีการศึกษา 2565 ในชั่วโมง/กิจกรรมและเวลาว่างผลิตผลงานที่สร้างสรรค์ คิดเป็นร้อยละ 100 3.2.3 นักเรียนในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 – ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกันในด้าน คุณธรรม จริยธรรม โดยการบำเพ็ญประโยชน์ อยู่ในระดับดีเยี่ยม 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรมการพัฒนาการเรียนรู้สู่มาตรฐานสากล อ.2 – ป.6 1 P : Plan 1. คณะฝ่ายบริหารชี้แจงถึงแนวทางในการ ดำเนินงานในกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ 2. ขออนุมัติโครงการประชุมคณะครูสายชั้น ปฐมวัย เพื่อชี้แจงให้คณะครูทราบถึงแนวทางใน การจัดกิจกรรมต่าง ๆ กรกฎาคม 2567 นางสาวกันทิมา เอมประเสริฐ นางกัลยกร นาคราช นายรัชพิพัชร ผาดศรี ครูประจำชั้นทุก ชั้น 2 D : Do 1. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงาน 2. กิจกรรมยามเช้า - กิจกรรม English is Fun ในวันจันทร์และวัน อังคาร - กิจกรรมภาษาพาเพลิน ในวันพุธ -กิจกรรม Chinese Today ในวันพฤหัสบดี 3. กิจกรรม Conversation 4. กิจกรรม ค้นหาความรู้ จาก ICT และผลิตสื่อ 5. จัดทำหน่วยการเรียนรู้สอดแทรก กระบวนการเรียนรู้ บันได 3 ขั้น ตลอดปีการศึกษา นางสาวกันทิมา เอมประเสริฐ นางกัลยกร นาคราช นายรัชพิพัชร ผาดศรี ครูประจำชั้นทุก ชั้น


ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ (ทักษะกระบวนการคิด, การตั้งคำถาม, การแสวงหาความรู้,สรุปองค์ความรู้) - กิจกรรมการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (Independent study) จัดเงินให้สายชั้น ป.1- 6 และ EP สายชั้น ป.1-6 รวม 26 ห้อง - กิจกรรมประกวดการจัดการเรียนการสอน มาตรฐานสากล ค่าวัสดุห้องละ 500 บาท สำหรับห้องที่ได้คัดเลือกแต่ละสายชั้นจำนวน 6 ห้อง - กิจกรรมการศึกษาค้นคว้าในรูปแบบ Project Approach จัดเงินให้สายชั้นปฐมวัย รวม 12 ห้อง 7,800 3,000 6,000 3 C : Check 1. ตรวจสอบ ทบทวนการปฏิบัติ พฤศจิกายน 2567 ถึง มีนาคม 2568 นางสาวกันทิมา เอมประเสริฐ นางกัลยกร นาคราช นายรัชพิพัชร ผาดศรี ครูประจำชั้นทุก ชั้น 4 A : Act 1. ประเมินโคงการสรุปผลการดำเนินงานและ พัฒนารายงานโครงการ 2. รายงานโครงการ มีนาคม 2568 นางสาวกันทิมา เอมประเสริฐ นางกัลยกร นาคราช นายรัชพิพัชร ผาดศรี ครูประจำชั้น ทุกชั้น รวมงบประมาณทั้งสิ้น 16,8๐๐ 5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว 16,8๐๐ เงินพัฒนาผู้เรียน - เงินรายได้สถานศึกษา - รวม 16,8๐๐ 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. มีความรู้ถึงขอบข่ายการจัดการเรียนรู้สู่มาตรฐานสากล 2. รู้ถึง 5 ขั้นตอน เพื่อให้ประสบความสำเร็จทางการเรียน และต้องให้สอดคล้องกับ ระดับการศึกษาแต่ละระดับชั้นให้เหมาะสม


เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด ด้านคุณธรรม 1. ความรับผิดชอบ การทำงานให้สำเร็จ 2. การตรงต่อเวลา งานสำเร็จ 3. ความอดทน เนื่องจากงานบางงานท้าทาย ความสามารถต้องทำให้สำเร็จ 3 หลักการ ความ พอประมาณ แต่ละกิจกรรมในงานมาตรฐานสากล ต้องใช้เงินแต่งบประมาณที่ได้รับต้องใช้ให้คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด การจัดงานแต่ละครั้ง ต้องให้เหมาะสมกับบริบทที่จะนำเสนอ และเหมาะสม ความมีเหตุผล งานมาตรฐานสากล ในแต่ละกิจกรรม มีเวลากำหนดที่ชัดเจน ต้องทำให้เสร็จทันเวลา การที่โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรีเป็นโรงเรียนชั้นนำฉะนั้น รางวัล OBECQA จึงเหมาะสม ที่สุด มีภูมิคุ้มกันที่ดี การที่โรงเรียนได้รับรางวัล OBECQA แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการจัดการเรียนรู้สู่ มาตรฐานสากล ทำให้เป็นที่ยอมรับแก่โรงเรียนต่างๆ 4 มิติ ด้านวัตถุ IT / ICT เป็นส่วนหนึ่งของการจัดการเรียนรู้สู่มาตรฐานสากล เพื่อให้นักเรียนก้าวล้ำสู่ มาตรฐานสากลได้อย่างสมบูรณ์ ด้านสังคม การจัดการเรียนรู้สู่มาตรฐานสากล มีหนึ่งข้อดี คือ ร่วมกันรับผิดชอบต่อสังคมโลก คือ การมีจิตสาธารณะ ร่วมสร้างสังคมให้น่าอยู่และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการเรียนรู้แบบ IS จะมีการเรียนรู้จากสิ่งรอบๆ ตัวที่นักเรียนสนใจ ด้านวัฒนธรรม มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันกับผู้ที่มาศึกษาที่โรงเรียน 7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1.ร้อยละความพึงพอใจของผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้อยละ 80 มีความพึงพอใจใน ระดับดีขึ้นไป สำรวจความพึง พอใจ แบบประเมินความ พึงพอใจ 2.ระดับของนักเรียนที่สามารถตั้งคำถาม แสวงหาความรู้ได้ นักเรียนที่สามารถตั้งคำถาม แสวงหาความรู้ได้อยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม สังเกต, สัมภาษณ์ แบบประเมิน 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนได้ฝึกทักษะกระบวนการเรียนรู้ทักษะกระบวนการคิด ตั้งคำถาม แสวงหาความรู้ ได้เหมาะสมตามวัย จากการจัดกิจกรรมเด็กได้รับการพัฒนาเต็มศักยภาพตามวัย และพัฒนาเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางสาวกันทิมา เอมประเสริฐ) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ ส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๑ ปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้ เป็นคนดี มีวินัยฯ สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อที่ ๑ จัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ สนองนโยบายระยะเร่งด่วน(Quick Win) สพฐ. ข้อที่ 2 ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ข้อที่ 2.1 การเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ 2 พัฒนาหลักสูตร เพิ่มผลสัมฤทธิ์ สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ข้อที่ 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ข้อที่ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ 1 ยกระดับคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานสากล กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางวณิชยา เดชกล้าหาญ ระยะเวลาดำเนินการ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ๑. หลักการและเหตุผล หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้เน้นการจัดการศึกษา โดยกำหนดมาตรฐานการเรียนรู้ ในการพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพของผู้เรียน กำหนดสาระการเรียนรู้ขั้นพื้นฐาน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งกลุ่มสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นสาระหนึ่งที่มุ่งพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านความรู้ ทักษะ กระบวนการ สมรรถนะและ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ โดยการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงจนสรุปความรู้ได้ด้วยตนเอง ในปีการศึกษา 2567 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรีได้คัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ และจัดห้องเรียนส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2,5/2 และ 6/2 จำนวน 3 ห้องเรียน มีนักเรียน 120 คน และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถของผู้เรียนทางด้านวิทยาศาสตร์เพิ่มขึ้น ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สามารถนำชื่อเสียง สู่สถานศึกษาและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อจัดการเรียนรู้สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2,5/2 และ 6/2 ในโครงการส่งเสริมศักยภาพทาง วิทยาศาสตร์จำนวน 120 คน ที่มีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ 2.2 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนนักเรียนที่มีความสามารถเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขัน ทักษะทางวิชาการกับหน่วยงานอื่นๆและศึกษาแหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ 2.3 เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2,5/2 และ 6/2 ในโครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 120 คน ได้รับการเรียนรู้โดยวิทยากรสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมงต่อชั้นเรียน


3.1.2 จัดกิจกรรมนักเรียนตามโครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) ที่มีความสามารถทาง วิทยาศาสตร์ เข้าร่วมแข่งขันทางวิชาการในระดับโรงเรียน เขตพื้นที่ ระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับประเทศ และหน่วยงาน อื่นๆ 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 นักเรียนในโครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) ได้รับการเรียนรู้โดยวิทยากรอย่างเต็ม ความสามารถและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 85 3.2.2 มีนักเรียนตามโครงการศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) เข้าร่วมแข่งขันทางวิชาการในระดับเขต พื้นที่ ระดับภาค ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ร้อยละ 85 3.2.3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) โดยครูผู้สอนในระดับที่สูงขี้นและมีคุณภาพ ร้อยละ 85 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ 1 P : Plan 1. ประชุมคระครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. แต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบ 16 พฤษภาคม 2567 นางวณิชยา เดชกล้าหาญและ คณะครูกลุ่มสาระ การเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 2 D : Do 1. พัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนการสอน วิทยาศาสตร์โดยใช้วิทยากร 2. การแข่งขันทักษะและความเป็นเลิศทาง วิทยาศาสตร์ 3. ศึกษาแหล่งเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ 4. จัดค่ายวิทยาศาสตร์ 5.การสอบเข้าโครงการส่งเสริมศักยภาพทาง วิทยาศาสตร์ 5. จัดทำแบบทดสอบ 16พฤษภาคม 2567- 31 มีนาคม 2568 1 -30 สิงหาคม 2567 19 สิงหาคม 2567 กุมภาพันธ์ 2568 มีนาคม 2568 1 มิถุนายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 63,000 3,200 4,210 197,600 2,255 6,840 ครูวิทยากรและ คณะครู กลุ่มสาระการ เรียนรู้ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 3 C : Check 1. 1. หัวหน้ากลุ่มสาระเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีติดตามประเมินผลการดำเนินงานตาม กิจกรรม 16 พฤษภาคม 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2568 นางวณิชยา เดชกล้าหาญ 4 A : Act 1. สรุปโครงการและรายงานการประเมินผล 2. นำผลการดำเนินงานวิเคราะห์ปรับปรุง และ พัฒนาโครงการ มีนาคม 2568 นางวณิชยา เดชกล้าหาญ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 277,105


5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว เงินพัฒนาผู้เรียน เงินรายได้สถานศึกษา 277,105 รวม 277,105 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. รู้ในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. รู้จักการคิด การแก้ปัญหา 4. รู้จักการนำความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ด้านคุณธรรม 1. พัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ มีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ 2. มีวินัย มีความตรงต่อเวลา 3. อยู่อย่างพอเพียง 4. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มความสามารถ 5. มีความยุติธรรม 3 หลักการ ความ พอประมาณ ผู้เรียนได้เรียนรู้เรื่องการแบ่งเวลาในการทำกิจกรรม มีการกำหนดเนื้อหา กับเวลาและ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และรู้จักเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ สารเคมีที่มีอยู่อย่าง ประหยัด คุ้มค่า ความมีเหตุผล 1. เพื่อผู้เรียนได้มีคุณภาพเกิดทักษะกระบวนการทางด้านวิทยาศาสตร์มีเจตคติที่ดีต่อ วิทยาศาสตร์ 2. เพื่อเพื่อส่งเสริมสนับสนุนนักเรียนที่มีความสามารถเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ มีภูมิคุ้มกันที่ดี 1. ประชุมคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. วางแผนการทำงานของโครงการ โดยกระบวนการทำกิจกรรมการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 3. ดำเนินการตามแผน โดยมุ่งเน้นศักยภาพของนักเรียนเป็นสำคัญ 4.กำกับ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดทำโครงการตามวัตถุประสงค์ 5. จัดทำรายงานผล และสรุปผลการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนา 4 มิติ ด้านวัตถุ เห็นคุณค่าของวัสดุ อุปกรณ์ สารเคมีโดยใช้อย่างประหยัด คุ้มค่าพร้อมทั้งพัฒนาสื่อ นวัตกรรม ใช้ในการเรียนสอนใหม่ และคุ้มค่า ด้านสังคม เรียนรู้กระบวนการกลุ่มฝึกการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ปฎิบัติกิจกรรมด้วย ความสามัคคี ด้านสิ่งแวดล้อม จัดสิ่งแวดล้อมมีความเหมาะสมกับการเรียนการสอน ใช้วัสดุ อุปกรณ์ สารเคมีที่มีอยู่ อย่างประหยัด คุ้มค่าเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม มีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และมีความรับผิดชอบใน การเรียนรู้ของตนเอง


7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1. ร้อยละห้องเรียนที่เปิดสอนโครงการ ส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) ในชั้น4/2, 5/2 และ6/2 มี จำนวน 3 ห้องเรียน 1.ร้อยละ 85 ของนักเรียนที่ เข้าเรียนในห้องโครงการ ส่งเสริมศักยภาพทาง วิทยาศาสตร์ (science) 1. คัดเลือก/ ทดสอบ 1. แบบทดสอบ คัดเลือกนักเรียน ห้องโครงการ ส่งเสริมศักยภาพ ทางวิทยาศาสตร์ 2. ร้อยละนักเรียนที่เข้าเรียนในห้อง โครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) ห้องละ 40 คน 2. ร้อยละ 85 ของนักเรียนที่ เข้าเรียนในห้องโครงการ ส่งเสริมศักยภาพทาง วิทยาศาสตร์ (science) 2. คัดเลือก/ ทดสอบ 2. แบบทดสอบ คัดเลือกนักเรียน ห้องโครงการ ส่งเสริมศักยภาพ ทางวิทยาศาสตร์ 3. ร้อยละของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนห้องโครงการส่งเสริมศักยภาพทาง วิทยาศาสตร์ ร้อยละ 85 3. ร้อยละ 85 ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียนห้อง โครงการส่งเสริมศักยภาพทาง วิทยาศาสตร์ 3. ข้อมูล ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน ของนักเรียน ห้องโครงการ ส่งเสริม ศักยภาพทาง วิทยาศาสตร์ 3. แบบทดสอบ วัดผลผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ 4. ร้อยละ 85 ของระดับคุณภาพของ กิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูผู้สอนและวิทยากร สนับสนุนให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง จน สรุปความรู้ได้ด้วยตนเอง 4. ร้อยละ 85 ของระดับ คุณภาพของกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ครูผู้สอนและวิทยากร สนับสนุนให้ผู้เรียน 4. แบบ ประเมินความ พึงพอใจของ นักเรียน 4. แบบประเมิน ความพึงพอใจของ นักเรียนที่มีต่อการ จัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ครูผู้สอน สนับสนุนให้ผู้เรียน ได้ลงมือปฏิบัติจริง จนสรุปความรู้ได้ ด้วยตนเอง 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 โรงเรียนสามารถเปิดห้องเรียนโครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) ในชั้น 4/2,5/2 และ 6/2 มีจำนวน 3 ห้องเรียน ห้องเรียนละ 40 คน จำนวน 120 คน 8.2 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนห้องโครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 85 8.3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนรู้ที่ครูผู้สอนและวิทยากรสนับสนุนให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง จนสรุปความรู้ได้ด้วยตนเอง มีค่าเฉลี่ยระดับคุณภาพระดับ ดีเยี่ยม ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางวณิชยา เดชกล้าหาญ) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ ห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๑ ปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้ เป็นคนดี มีวินัยฯ สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อที่ 7 จัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ สนองนโยบายระยะเร่งด่วน (Quick Win) สพฐ. ข้อที่ 2 ลดภาระนักเรียนแลผู้ปกครอง ข้อที่ 2.2 สร้างความเข้มแข็งระบบแนะแนว การชี้แนะ (Coaching) และการดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพจิตของผู้เรียน สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ 3 คิดคำนวณ อ่าน เขียน สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ข้อที่ ๑.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ ๒ ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณลักษณะตามค่านิยมที่พึงประสงค์ 12 ประการ กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวติมาภรณ์ แซ่เล้า ระยะเวลาดำเนินการ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ๑. หลักการและเหตุผล การจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เป็นสาระการเรียนรู้ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการนำไปใช้ ในชีวิตประจำวัน และในการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาในด้านทักษะการ คิดคำนวณ ความรู้ ความเข้าใจ การคิดวิเคราะห์การแก้ปัญหา เพื่อให้นักเรียนเกิดกระบวนการคิด มีความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นและมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ ในปีการศึกษา 2566 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรีได้คัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์และ จัดห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ในชั้น ป.1-ป.4 มีนักเรียน จำนวน 30 คน และชั้น ป.5–ป.6 จำนวน มีนักเรียนห้องเรียน ละ 40 คน และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถของผู้เรียนทางด้านคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้น ผู้เรียนสามารถ พัฒนาตนเองสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ สามารถนำชื่อเสียงสู่สถานศึกษาและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อจัดการเรียนการสอนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ที่มีความสามารถทางด้านทักษะและกระบวนการทาง คณิตศาสตร์ 2.2 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนนักเรียนที่มีความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ในการเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขัน ทางวิชาการทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 นักเรียนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ชั้น ป.1–ป.6 ได้รับสื่อ หนังสือ สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพสู่ ความเป็นเลิศ 3.1.2 นักเรียนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ชั้น ป.1–ป.6 ได้รับการพัฒนาศักยภาพทางด้านคณิตศาสตร์


3.1.3 นักเรียนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ชั้น ป.1–ป.6 ได้รับการพัฒนาทักษะการคิดและกระบวนการ ทางคณิตศาสตร์จากประสบการณ์ค่ายคณิตศาสตร์ 3.1.4 นักเรียนที่มีศักยภาพได้รับการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ 3.1.5 นักเรียนชั้น ป.1–ป.6 จำนวน 6 ห้องเรียน ผ่านการทดสอบห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 ร้อยละ 85 ของนักเรียนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ 3.2.2 ร้อยละ 85 ของนักเรียนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนให้เข้าร่วมแข่งขัน ทักษะทางวิชาการทั้งภาครัฐและเอกชน และได้รับรางวัลสูงสุดระดับประเทศ 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรม ห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ 1 P : Plan ประชุมครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อ วางแผนการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ 1. ประชุมครูกลุ่มสาระฯ เพื่อทบทวนปัญหา อุปกรณ์ในการดำเนินงานของโครงการ ปีการศึกษา 2566 ที่ผ่านมา 2. หาทางแก้ไขและพัฒนากิจกรรมในโครงการ ปีการศึกษา 2567 1 พ.ค. 2567 ถึง 16 มี.ค. 2568 - ครูผู้สอน คณิตศาสตร์ ชั้น ป.1–ป.6 2 D : Do คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ร่วมกันวางแผนการพัฒนากระบวนการจัด การเรียนรู้ ส่งเสริมศักยภาพทางคณิตศาสตร์ และพัฒนากระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ ให้กับนักเรียน ดังนี้ 1. จัดเตรียมสื่อการเรียนการสอน 1.1 จัดซื้อหนังสือเสริมคณิตศาสตร์ ชั้น ป.1/1, ป.2/1, ป.3/1 ให้เสร็จสิ้น ในวันที่ 1 พ.ค. 2567 1.2 จัดซื้อหนังสือเพื่อจัดทำเอกสารสอนเสริม คณิตศาสตร์ ชั้น ป.4/1, ป.5/1, ป.6/1 ให้เสร็จสิ้นในวันที่ 31 พ.ค. 2567 1.3 ถ่ายเอกสารเสริมให้นักเรียน 2. จัดหาวิทยากรผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ ความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์มาสอนเสริม พิเศษให้กับนักเรียนด้านคณิตศาสตร์ สอนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ชั้น ป.1 - ป.6 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ 3. จัดกิจกรรมเข้าค่ายคณิตศาสตร์ห้องเรียน พิเศษคณิตศาสตร์ ในช่วงเดือนตุลาคม 3.1 จัดค่ายคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้น ป.1/1, ป.2/1, ป.3/1 จำนวน 1 วัน 1 พ.ค. 2567 ถึง 16 มี.ค. 2568 709,960 ครูผู้สอน คณิตศาสตร์ ชั้น ป.1–ป.6


ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ 3.2 จัดค่ายคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้น ป.4/1, ป.5/1, ป.6/1 จำนวน 2 วัน 1 คืน 3.3 จัดทำฐานการเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนทักษะ การคิด คณิต ศาสต ร์ จำน วน 10 ฐาน ให้นักเรียนเข้าเรียนรู้ในแต่ละฐาน หมุนเวียนจน ครบทุกฐาน โดยเน้นการปฏิบัติจริง 4. จัดกิจกรรมส่งเสริมการแข่งขันทางวิชาการ 4.1 นักเรียนศักยภาพ (เด็กยอด) ชั้นป.4 – ป.6 โดยการสอบคัดเลือก ได้รับการสอนจากวิทยากร วันจันทร์ วันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 07.30 - 08.30 น. 5. ส่งเสริมให้นักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันทักษะ ทางวิชาการด้านคณิตศาสตร์ 5.1 ค่าเช่ารถตู้พานักเรียนไปสอบแข่งขัน 5.2 ค่าเบี้ยเลี้ยงนักเรียนไปสอบแข่งขัน 6. คัดเลือกนักเรียนเข้าห้องเรียนพิเศษ คณิตศาสตร์ ขึ้นชั้น ป.1 – ป.5 เพื่อเรียน ในปีการศึกษา 2568 3 C : Check 1. ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา คณิตศาสตร์ห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ 2. ติดตามผลนักเรียนห้องเรียนพิเศษ คณิตศาสตร์ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน ให้เข้าร่วมแข่งขันทักษะทางวิชาการทั้งภาครัฐ และเอกชน และได้รับรางวัลสูงสุดระดับประเทศ 1 มิ.ย. 2567 ถึง 31 มี.ค. 2568 - ครูผู้สอน คณิตศาสตร์ ชั้น ป.1 – ชั้น ป.6 4 A : Act รายงานโครงการ ต.ค. 2567 และ มี.ค. 2568 หัวหน้ากลุ่มสาระ การเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว - เงินพัฒนาผู้เรียน - เงินรายได้สถานศึกษา 646,040 รวม 646,040 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2. แนวข้อสอบการแข่งขันรายการต่าง ๆ


เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด ด้านคุณธรรม 1. ความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีความรอบคอบในการทำงาน 2. การตรงต่อเวลาในการส่งงานที่รับผิดชอบ 3 หลักการ ความ พอประมาณ ได้รับความรู้คณิตศาสตร์ความยากง่ายของเนื้อหาและข้อสอบอยู่ในระดับที่เหมาะสม ตามศักยภาพของนักเรียน ความมีเหตุผล 1. เพื่อจัดการเรียนการสอนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ที่มีความสามารถ ทางด้านทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนนักเรียนที่มีความสามารถทางด้านคณิตศาสตร์ ในการเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันทางวิชาการทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มีภูมิคุ้มกันที่ดี 1. ประชุมคณะดำเนินการ 2. วางแผนการทำงานของโครงการ โดยมีการกำหนดขั้นตอนการทำงาน 3. ดำเนินการตามแผน 4. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดทำโครงการตามวัตถุประสงค์ 5. จัดทำรายงานผล และสรุปผลการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป 4 มิติ ด้านวัตถุ 1. วิธีการสอนและเนื้อหามีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดกับนักเรียน 2. ผลงาน รางวัล การแข่งขันของนักเรียน ด้านสังคม 1. รู้จักการทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่น และเกิดความสามัคคี รู้จักการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 2. นักเรียนมีผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับนักเรียน ด้านสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างคุ้มค่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม รู้จักการให้เกียรติ ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น มีความกระตือรือร้น ในการหาความรู้และเทคนิคการสอนใหม่อยู่เสมอ 7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1. ร้อยละ 85 ขึ้นไปผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของ นักเรียนห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ชั้น ป.1–ป.6 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี - 1. ค่าเฉลี่ยร้อยละ 85 ของนักเรียนห้องเรียนพิเศษ คณิตศาสตร์ ชั้น ป.1–ป.6 ค่าเฉลี่ยร้อยละ 85 ของ ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนกลุ่ม สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ 1. ทดสอบจาก ค่าเฉลี่ยคะแนน การสอบปลาย ภาคกลุ่มสาระ การเรียนรู้ คณิตศาสตร์ของ นักเรียน ชั้น ป.1 – ป.6 1. แบบทดสอบ 2. ร้อยละของนักเรียนได้รับรางวัลการ แข่งขันทางวิชาการทั้งหน่วยงานภาครัฐและ เอกชนรางวัลสูงสุดระดับประเทศ อย่างน้อย 1 รายการ 2. ร้อยละของนักเรียน ห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ ชั้น ป.1–ป.6 ได้รับรางวัล การแข่งขันทางวิชาการทั้ง หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รางวัลสูงสุดระดับประเทศ อย่างน้อย 1 รายการ 2. ทดสอบ 2. แบบทดสอบ


8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนชั้น ป.1 – ชั้น ป.6 ห้องเรียนพิเศษคณิตศาสตร์ มีทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์เพิ่มมากขึ้น 8.2 นักเรียนได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันทางวิชาการ ได้รับรางวัลการแข่งขันทางวิชาการ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรางวัลสูงสุดระดับประเทศ อย่างน้อย 1 รายการ ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางสาวติมาภรณ์ แซ่เล้า) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ พัฒนากระบวนการเรียนรู้สู่โครงงาน สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๑ ปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้ เป็นคนดี มีวินัยฯ สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อที่ ๓ ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ทันสมัยและหลากหลาย สนองนโยบายระยะเร่งด่วน(Quick Win) สพฐ. ข้อที่ ๒ . ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ข้อที่ 2.1 การเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ ๑ น้อมนำพระราโชบายสู่การปฏิบัติ สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ข้อที่ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ ๒ ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณลักษณะตามค่านิยมที่พึงประสงค์ 12 ประการ กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ 1. นางเมตตา เติมเกาะ 2. นางสาวพลอยไพลิน พวงเพ็ญ ระยะเวลาดำเนินการ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ๑. หลักการและเหตุผล ในการจัดจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรสถานศึกษา ได้กำหนดให้มีการจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียน เป็นสำคัญ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็น สำคัญเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้คิด ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง เป็นการส่งเริมศักยภาพการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน รู้จักการวางแผนการทำงาน ตาม พรบ. การศึกษาแห่งชาติ 2542 โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรีเห็นความสำคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการ กระบวนการเรียนรู้สู่โครงงานขึ้น 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อพัฒนาและส่งเสริมครูทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้จัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้โครงงาน 2.2 เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้รู้จักคิด แก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการโครงงาน และลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง 2.3 เพื่อเปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานโครงงานและ นำผลงานมาต่อยอดเพื่อสู่เวทีการแข่งขันที่สูงขึ้น 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 ทุกคน ได้เรียนรู้โครงงานจากความสนใจ ลงมือปฏิบัติจริง โดยส่งผลงานโครงงานห้องเรียนละ 1 โครงงาน ภายในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 3.1.2 ครูและนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 นำผลงานโครงงานห้องเรียนละ 1 โครงงาน โดยนำเสนอ โครงงานที่ห้องเช้านี้ที่อนุบาลเดือนละ ๒ โครงงานเริ่มเดือน พฤศจิกายน ๒567 – 31 มกราคม 2568


3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 ครูมีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานสามารถนำไปใช้ในการจัดการ เรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 80 3.2.2 นักเรียนมีความสนใจ รู้จักคิด แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกทั้งมีเจตคติที่ดีในการเรียนมีความคิด สร้างสรรค์ในการทำงาน และสามารถนำไปพัฒนาผลงานของตนเองได้ ในระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 80 3.2.3 ผลงานโครงงานของนักเรียนในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่โรงเรียนกำหนด ในระดับยอดเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 50 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ 1 P: Plan 1. ประชุมคณะดำเนินการเกี่ยวกับการจัด กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน จัดทำโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการ 1 - 12 เม.ย. 67 - 1.นางเมตตา เติมเกาะ 2.นางสาวพลอยไพลิน พวงเพ็ญ 2 D : Do ๑. ผู้รับผิดชอบโครงการวางแผน การดำเนินงาน ๒. กำหนดขั้นตอนการทำงานตาม แผนงานและจัดทำปฏิทินการปฏิบัติงาน ๓. แต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบ งานเพื่อดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้ -ประชาสัมพันธ์กิจกรรม แก่นักเรียน - ครูคัดเลือกผลงานโครงงานที่ผ่าน เกณฑ์ที่กำหนดห้องเรียนละ 1 โครงงาน - จัดแผงโครงงานและรูปเล่มเตรียม ส่งประกวด 4. การนำเสนอโครงงานนักเรียน จัดการ ประกวดแข่งขันโครงงานเพื่อคัดเลือก โครงงานระดับดี 17 - 30 เม.ย. 67 ช่วง ส.ค. 67 – ก.ย. 67 9 - 11 ก.พ. 65 - 3,330 1.นางเมตตา เติมเกาะ 2.นางสาวพลอยไพลิน พวงเพ็ญ ๓.คณะครูทุกคน ๓ C : Check ๑. คณะครูผู้รับผิดชอบ ปฏิบัติตามคำสั่ง ๒. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบผล การดำเนินกิจกรรมและประเมินผล กิจกรรม 14 ก.พ. 68 - 1.นางเมตตา เติมเกาะ 2.นางสาวพลอยไพลิน 3,330พวงเพ็ญ ๔. A : Act 1. ผู้รับผิดชอบโครงการ จัดทำรายงานผลการดำเนินการและ รายงานต่อผู้บริหาร 2. การรักษา การนำไปใช้และนำ ผลงานโครงงานและนำผลงานมาต่อยอด เพื่อสู่เวทีการแข่งขันที่สูงขึ้น 3 มี.ค – 7 มี.ค. 68 - 1.นางเมตตา เติมเกาะ 2.นางสาวพลอยไพลิน พวงเพ็ญ รวมงบประมาณทั้งสิ้น - 3,330


5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว 3,330 เงินพัฒนาผู้เรียน - เงินรายได้สถานศึกษา - รวม 3,330 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. กระบวนการเรียนรู้แบบโครงงาน 2. วิธีการค้นคว้าจาก สิ่งรอบตัว 3. ขั้นตอนและรูปแบบการทำโครงงาน ด้านคุณธรรม 1. ใฝ่เรียนรู้ เพียรพยายามในการศึกษาเล่าเรียน 2. มีความรับผิดชอบ ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จตามกำหนด 3. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มความสามารถ 4. ความประหยัด รู้จักใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ในการเรียนและการทำกิจกรรมอย่างคุ้มค่า 3 หลักการ ความ พอประมาณ 1. การจัดกิจกรรมมีความเหมาะสมทั้งด้านรูปแบบ เนื้อหาสาระ และความสามารถ ของนักเรียน 2. เนื้อหาที่เลือกทำโครงงานมีความยาก ง่าย เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละช่วงชั้น 3. ใช้วัสดุอุปกรณ์ได้หมาะสมกับงานที่ทำ อย่างประหยัดและคุ้มค่า ความมีเหตุผล 1. เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้รู้จักคิด แก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการโครงงาน และลงมือ ปฏิบัติจริงด้วยตนเอง 2. เพื่อเปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผลงานโครงงานและนำผลงานมาต่อยอดเพื่อสู่เวทีการแข่งขันที่สูงขึ้น มีภูมิคุ้มกันที่ดี 1. ประชุมคณะดำเนินการ 2. วางแผนการทำงานของโครงการ โดยมีการกำหนดขั้นตอนการทำงาน 3. ดำเนินการตามแผน โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของนักเรียนเป็นสำคัญ 4. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดทำโครงการ ตามวัตถุประสงค์ 5. จัดทำรายงานผล และสรุปผลการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป 4 มิติ ด้านวัตถุ 1. การใช้วัสดุ อุปกรณ์ งบประมาณ มีความเหมาะสม เพียงพอต่อการดำเนินงาน และมีความคุ้มค่า 2. มีโครงงานที่แปลกใหม่ หลากหลายในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ และสามารถ นำไปต่อยอดสู่การแข่งขัน ด้านสังคม 1. คุณครูและนักเรียนให้ความร่วมมือในการจัดกิจกรรม มีความสามัคคี และทำงาน ร่วมกันแบบกัลยาณมิตร 2. การนำโครงงานไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณชนต่อไป ด้านสิ่งแวดล้อม 1. การนำทรัพยากรทางธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดทำโครงงาน และ หลีกเลี่ยงการทำลายสิ่งแวดล้อม 2. การดูแลรักษาความสะอาดของสถานที่ในการทำงานอย่างสะอาดเรียบร้อย ด้านวัฒนธรรม 1. การให้เกียรติกัน ตามมารยาทไทย ยอมรับฟังความคิดเห็นซึ่งกันและกัน 2. ใช้ถ้อยคำสุภาพในการทำงานร่วมกันระหว่างนักเรียน คุณครู และบุคลากรต่าง ๆ


7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ - ร้อยละ ของนักเรียนมีการคิด แก้ปัญหา โดยใช้กระบวนการโครงงาน และลงมือ ปฏิบัติจริงได้ ระดับดีขึ้นไป ร้อยละ 80 - การสังเกต - การซักถาม - แบบสังเกต พฤติกรรม - แบบตอบคำถาม - ร้อยละ ของผลงานโครงงานของนักเรียน ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับยอดเยี่ยม ร้อยละ 50 - ตรวจผลงาน ประเมินผลการ นำเสนอ โครงงาน - แบบประเมินผล โครงงาน 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ๘.1 นักเรียนได้ฝึกการกล้าแสดงออก ในการนำเสนอผลงานของตนเอง ๘.2 ครูได้แนวทางในการพัฒนานักเรียนให้รู้จักการคิดแก้ปัญหา สถานการณ์ต่าง ๆ ๘.3 โรงเรียนได้ผลงานโครงงานนักเรียนเพื่อพัฒนาต่อยอดสู่เวทีการแข่งขัน ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางเมตตา เติมเกาะ) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ วันเสนอผลงานนักเรียน “Student’s Day” สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๑ ปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้ เป็นคนดี มีวินัยฯ สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อ 3 ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ทันสมัยและหลากหลาย สนองนโยบายระยะเร่งด่วน(Quick Win) สพฐ. ข้อที่ 2 ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ข้อที่ 2.๕ เสริมสร้างทักษะอาชีพ และการมีรายได้ระหว่างเรียน สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ 2 พัฒนาหลักสูตร เพิ่มผลสัมฤทธิ์ สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ 1 ยกระดับคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานสากล กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ 1. นางสาวสุธาสินี เพชรแย้ม 2. นางสาวพลอยไพลิน พวงเพ็ญ 3. นางสาวยุธารัตน์ สังข์สน 4. นางสาวบุปผา พวงเดช 5. นางพรชนก เปาริก 6. นางสาวศตพร ชัยสุริยะเดชา ระยะเวลาดำเนินการ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ๑. หลักการและเหตุผล โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรีมีวิสัยทัศน์ในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา แห่งชาติ โดยส่งเสริมให้บุคลากรครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้ง 8 สาระการเรียนรู้ และระดับปฐมวัย กิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน และ English Program จัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้เหมาะสม กับความแตกต่างระหว่างบุคคลอย่างหลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และมีความรู้ ทักษะ สามารถนำไปใช้เป็น พื้นฐาน และการดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข ซึ่งการดำเนินงานประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แสดงให้ เห็นถึงศักยภาพของการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรต่าง ๆ ของบุคลากรครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้ง 8 สาระการเรียนรู้ และระดับปฐมวัย กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และ English Program ที่ได้ทำมาโดยตลอด พร้อมที่จะนําเสนอ และเผยแพร่ โรงเรียนในเครือข่ายได้รับทราบ อีกทั้งจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการและ ประสบการณ์ต่าง ๆ ซึ่งกันและกัน และยังเป็นการส่งเสริมให้ครู นักเรียน ได้แสดงออกถึงความรู้ ความสามารถ มีนิสัยรัก การทำงาน รู้จักการแก้ปัญหา รู้จักการทำงานเป็นหมู่คณะ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และได้รับประสบการณ์ตรงจากการเข้า ร่วมกิจกรรม จากเหตุผลดังกล่าวโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี จึงได้จัดให้มี วันเสนอผลงานนักเรียน “Student’s Day” ขึ้นเป็น ประจำทุกปี โดยจะมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดแสดงและเผยแพร่ผลงานของนักเรียนและผลงานทางการศึกษาของครู รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการ การสาธิต และการฝึกกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น


2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อจัดแสดงและเผยแพร่ผลงานของนักเรียนและผลงานทางการศึกษาของครูเมื่อสิ้นปีการศึกษา 2.2 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ฝึกทักษะทางวิชาการ จากประสบการณ์จริง 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 การจัดแสดงและเผยแพร่ผลงานของนักเรียนชั้น อ.2 – ชั้น ป.6และการแสดงผลงานทางการศึกษาของ ครู รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น เมื่อสิ้นปีการศึกษา ณ ลานโดม โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี 3.1.2 นักเรียนชั้น อ. 2 – ชั้น ป.6 แลกเปลี่ยนการเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการ จากประสบการณ์จริง ณ ลาน โดม โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 การจัดแสดงและเผยแพร่ผลงานของนักเรียนชั้น อ.2 – ชั้น ป.6 และการแสดงผลงานทางการศึกษา ของครู รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นที่ประจักษ์ ต่อผู้เข้าชมงาน และเป็นที่น่าพึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 85 3.2.2 นักเรียนชั้น อ. 2 – ชั้น ป.6 ทุกคนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการจากประสบการณ์จริง คิดเป็นร้อยละ 100 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ 1 P : Plan 1. ประชุมคณะครูเพื่อสร้างความตระหนักและ ให้รับทราบถึงความสำคัญและวัตถุประสงค์ของ การจัดทำโครงการ 2. สอบถามความความคิดเห็นเพื่อหาแนวทาง ในการดำเนินการตามโครงการวันเสนอผลงาน นักเรียน “Student’s Day” 3. คณะดำเนินงานร่วมกันวางแผนการ ดำเนินงาน จัดทำกำหนดการ/ขั้นตอนในการ ดำเนินงานตามแผน รวมทั้งจัดทำปฏิทินการ ปฏิบัติงาน 4. ศึกษา สำรวจ รูปแบบที่เป็นแนวทางในการ ดำเนินงานตามโครงการ 5. บริหารจัดการความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงาน เพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยเฉพาะ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้ง 8 สาระการเรียนรู้ และระดับปฐมวัย กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และ English Program 6. ศึกษา แนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับจัด แสดงและเผยแพร่ผลงานทางการศึกษาของครู และนักเรียนเมื่อสิ้นปีการศึกษา 7. ศึกษา แนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการ ส่งเสริมให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึก ทักษะทางวิชาการ จากประสบการณ์จริง 8. แต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบงานเพื่อ ดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้ พ.ค. 2567 - นางสาวสุธาสินี เพชรแย้ม นางสาวพลอย ไพลิน พวงเพ็ญ นางสาวยุธารัตน์ สังข์สน นางสาวบุปผา พวงเดช นางพรชนก เปาริก นางสาวศตพร ชัยสุริยะเดชา


ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ 9. จัดทำโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการ 10. ขออนุมัติโครงการ 2 D : Do 1. ดำเนินการติดต่อ ประสานงาน กับหน่วยงาน องค์กร ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และบุคคลภายนอก ในการจัดกิจกรรม 2. ดำเนินการตามแผน ได้แก่ 2.1 กิจกรรมการจัดแสดงและเผยแพร่ ผลงานของนักเรียนผลงานทางการศึกษาของครู โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี และนักเรียนเมื่อสิ้นปี การศึกษา ณ ลานโดม โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี 2.2 ดำเนินการตามแผน กิจกรรมการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการ จาก ประสบการณ์จริง ให้กับนักเรียน ชั้น อ. 2 – ชั้น ป.6 13 พ.ค. 2567 -10 ก.พ. 2568 11 ก.พ. 2568 32,270 นางสาวสุธาสินี เพชรแย้ม นางสาวพลอย ไพลิน พวงเพ็ญ นางสาวยุธารัตน์ สังข์สน นางสาวบุปผา พวงเดช นางพรชนก เปาริก นางสาวศตพร ชัยสุริยะเดชา 3 C : Check 1. ควบคุม กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การ ปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เป้าหมายของแผนการดำเนินงานและขั้นตอน ปฏิบัติงาน 2. ประเมินโครงการตามวัตถุประสงค์ 12 ก.พ. 2567 - 31 มี.ค. 2567 นางสาวสุธาสินี เพชรแย้ม นางสาวพลอย ไพลิน พวงเพ็ญ นางสาวยุธารัตน์ สังข์สน นางสาวบุปผา พวงเดช นางพรชนก เปาริก นางสาวศตพร ชัยสุริยะเดชา 4 A : Act 1. จัดทำรายงานผลการดำเนินการและรายงาน ต่อผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้อง 2. นำผลจากโครงการวันเสนอผลงานนักเรียน “Student’s Day” ได้แก่การจัดแสดงและ เผยแพร่ผลงานของนักเรียนผลงานทาง การศึกษาของครูเมื่อสิ้นปีการศึกษา และการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการ จากประสบการณ์จริงไป พัฒนาต่อยอด รวมถึงปรับปรุงแก้ไขต่อไป 3. ประชาสัมพันธ์ผลของความสำเร็จจาก โครงการวันเสนอผลงานนักเรียน “Student’s Day” 31 มี.ค. 2567 - นางสาวสุธาสินี เพชรแย้ม นางสาวพลอย ไพลิน พวงเพ็ญ นางสาวยุธารัตน์ สังข์สน นางสาวบุปผา พวงเดช นางพรชนก เปาริก นางสาวศตพร ชัยสุริยะเดชา รวมงบประมาณทั้งสิ้น


5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว 29,270 เงินพัฒนาผู้เรียน - เงินรายได้สถานศึกษา 3,000 รวม 32,270 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. ทักษะทางวิชาการตามกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ กิจกรรม พัฒนาผู้เรียน / English Program / และ ปฐมวัย 2. วิธีการ กระบวนการ รูปแบบในการนำเสนอผลงานทางวิชาการ 3. วิธีการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีในการนำเสนอและการฝึกกิจกรรมต่าง ๆ ด้านคุณธรรม 1.มีความรับผิดชอบ มุ่งมั่นในการนำเสนอผลงาน กิจกรรม 2. มีความกล้าแสดงออก และมั่นใจในตนเองอย่างถูกต้องและเหมาะสม 3. ความขยันหมั่นเพียร ใฝ่เรียนรู้ ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 4. มีวินัย ตรงต่อเวลาในการร่วมกิจกรรมต่างๆ 5. มีความเสียสละความสามัคคี อดทน รู้จักการรอคอยในการทำกิจกรรมร่วมกัน 3 หลักการ ความพอประมาณ 1.การใช้งบประมาณได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์ 2.รูปแบบการนำเสนอผลงานและการจัดกิจกรรมมีความน่าสนใจ ตรงประเด็น และเหมาะสมสำหรับนักเรียน 3. การจัดสรรเวลาในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เหมาะสมกับเนื้อหาของกิจกรรมการ เรียนรู้ ความมีเหตุผล 1. เพื่อจัดแสดงและเผยแพร่ผลงานของนักเรียนและผลงานทางการศึกษาของครู เมื่อสิ้นปีการศึกษา 2. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการ จาก ประสบการณ์จริง ภูมิคุ้มกัน 1. ประชุมคณะครูเพื่อสร้างความตระหนักและให้รับทราบถึงความสำคัญและ วัตถุประสงค์ของการจัดทำโครงการสอบถามความความคิดเห็นเพื่อหาแนวทางใน การดำเนินการและจัดทำโครงการเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการ 2. ขออนุมัติโครงการวางแผนการดำเนินงาน จัดทำกำหนดการ/ขั้นตอน ในการ ดำเนินงานตามแผน รวมทั้งจัดทำปฏิทินการปฏิบัติงาน และศึกษา สำรวจ รูปแบบ ที่เป็นแนวทางในการดำเนินงานตามโครงการบริหารจัดการความรู้ร่วมกับหัวหน้า กลุ่มสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้ง 8 สาระการเรียนรู้ และระดับปฐมวัย กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และ English Program รวมถึงศึกษา แนวทางการ ดำเนินการเกี่ยวกับจัดแสดงและเผยแพร่ผลงานทางการศึกษาของครูและนักเรียน เมื่อสิ้นปีการศึกษา และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการจากประสบการณ์ จริง 3.แต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบงานเพื่อดำเนินงานตามแผนงานที่วางไว้ ดำเนินการติดต่อ ประสานงาน กับหน่วยงาน องค์กร ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และ บุคคลภายนอกในการจัดกิจกรรม และดำเนินการตามแผนได้แก่ การจัดแสดงและ เผยแพร่ผลงานของนักเรียนผลงานทางการศึกษาของครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการจากประสบการณ์จริง ให้กับ นักเรียนชั้น อ. 2 – ชั้น ป.6 4. ควบคุม กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ เป้าหมายของแผนการดำเนินงาน/ขั้นตอนปฏิบัติงาน และประเมินโครงการตาม วัตถุประสงค์ 5. จัดทำรายงานผลการดำเนินการและรายงานต่อผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้อง นำผลจากโครงการวันเสนอผลงานนักเรียน “Student’s Day”ได้แก่การจัดแสดง และเผยแพร่ผลงานของนักเรียนผลงานทางการศึกษาของครูเมื่อสิ้นปีการศึกษา และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการ จากประสบการณ์จริงไปพัฒนา ต่อยอด รวมถึงปรับปรุงแก้ไขต่อไปตลอดจนประชาสัมพันธ์ผลของความสำเร็จจาก โครงการ 4 มิติ ด้านวัตถุ 1. การใช้วัสดุ อุปกรณ์อย่างประหยัดและคุ้มค่า เหมาะสมมีความปลอดภัย 2. การจัดนิทรรศการในรูปแบบที่แปลกใหม่ มีความน่าสนใจ 3. การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการนำเสนอผลงาน นำเสนอกิจกรรม 4. เกิดผลงานทางการศึกษาทั้งของนักเรียน และครู โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ด้านสังคม 1. ทุกฝ่ายรู้บทบาทหน้าที่ในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ 2. นักเรียนได้แสดงออกทั้งด้านผลงานและกิจกรรมอย่างภาคภูมิ 3. นักเรียนทุกคนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดความสามัคคี มีความเสียสละ 4. ผลงานของนักเรียนและครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี เป็นที่ประจักษ์ต่อ สาธารณชน ด้านสิ่งแวดล้อม 1. การตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรต่างๆอย่างคุ้มค่ารวมถึงส่งเสริมการใช้วัสดุตาม ธรรมชาติในการจัดนิทรรศการ และการจัดกิจกรรมต่างๆ 2. การร่วมกันดูแลรักษาความสะอาดบริเวณต่างๆในการจัดนิทรรศการการ นำเสนอผลงาน และการจัดกิจกรรม ด้านวัฒนธรรม 1. การปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันด้วยความเป็นกัลยาณมิตร ยอมรับฟังความคิดเห็น ของผู้อื่น เคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกันตามวัฒนธรรมขององค์กร 2. ส่งเสริมการอนุรักษ์ความเป็นไทย ขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมไทย รวมถึง การแสดงทักษะความสามารถทางเครื่องดนตรีไทยในการนำเสนอผลงาน และการ จัดกิจกรรม 3. นักเรียนและครู รักและภาคภูมิใจในสถานศึกษาของตนเอง


7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1.ร้อยละของผู้เข้าชมงาน วันเสนอผลงาน นักเรียน “Student’s Day” มีความพึง พอใจในการจัดแสดงและเผยแพร่ผลงาน ของนักเรียนและผลงานทางการศึกษาของ ครู รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น ร้อยละ 85 ของผู้เข้าชมงาน วันเสนอผลงานนักเรียน “Student’s Day” มีความพึง พอใจในการจัดแสดงและ เผยแพร่ผลงานของนักเรียน และผลงานทางการศึกษาของ ครู รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น สอบถามความ พึงพอใจผู้เข้า ชมงาน วันเสนอ ผลงานนักเรียน “Student’s Day” แบบสอบถามความ พึงพอใจ 2.ร้อยละของนักเรียน ชั้น อ. 2 – ชั้น ป.6 ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะทางวิชาการ จากประสบการณ์จริง ร้อยละ 100 ของนักเรียน ชั้นอ. 2 – ชั้น ป.6 ได้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฝึกทักษะ ทางวิชาการ จากประสบการณ์ จริง บันทึกการเข้า ร่วมกิจกรรม แบบบันทึกการเข้า ร่วมกิจกรรม 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนและครูมีภาคภูมิใจในสถานศึกษาพร้อมผลิตผลงานทางการศึกษาต่อไป 8.2 ผลงานของโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรีเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชนผู้ปกครองให้การยอมรับ และส่งบุตรหลาน เข้าเรียนอย่างต่อเนื่อง ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางสาวสุธาสินี เพชรแย้ม) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ ผู้ใหญ่ใจดี สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๖. ความมีคุณภาพของครูทั้งประเทศ รวมไปถึงครูแนะแนวฯ เพื่อช่วยให้ นักเรียนได้รับคำแนะนำด้านเนื้อหาของวิชาการและการเข้าถึงข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกเรียนและประกอบอาชีพรวมไปถึงการดูแลสุขภาพ กายและสุขภาพใจของนักเรียนทุกคน สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อ 3 ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ทันสมัยและหลากหลาย สนองนโยบายระยะเร่งด่วน(Quick Win) สพฐ. ข้อที่ 2 ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ข้อที่ 2.4 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ 4 โรงเรียนมีคุณภาพ ปลอดภัย น่าอยู่ สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ 3 กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ข้อที่ 3.1 จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ 4. พัฒนาประสิทธิภาพของระบบการบริหารจัดการและการมีส่วนร่วมใน การจัดการศึกษา กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวสรีย์วรรณ คงสี , นางสาวชุติมา ช่อกระทุ่ม และนางสาวสุวรรณี ฮั่วจั่น ระยะเวลาดำเนินการ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ๑. หลักการและเหตุผล โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี มีการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรม และวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โรงเรียน วัด และชุมชน มีความสำคัญและมีทรัพยากรบุคลากรที่แตกต่างซึ่งต้องคอยเกื้อหนุนกัน โรงเรียนและชุมชนถือ ได้ว่าเป็นสิ่งที่ต้องประสานกันในทุกๆเรื่องไม่ว่าจะเป็นการจัดการเรียนการสอน การเข้ามามีส่วนเสนอแนะงานต่างๆ ของ โรงเรียน เพื่อเป็นการประสานการทำงานร่วมกันให้ได้ผลดี การพัฒนานักเรียนให้มีความรู้และมีทักษะด้านต่าง ๆ อีกทั้ง โรงเรียนและผู้ปกครองจะได้มีโอกาสเพิ่มความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดแก่นักเรียนให้ได้รับการพัฒนา อย่างเต็มที่ ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับโรงเรียนจึงนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จในการเรียนของเด็ก ทั้งสองฝ่าย จึงต้องร่วมมือกันเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ และพัฒนการด้านต่างๆ ของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการศึกษาของ โรงเรียนจะต้องให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาเพื่อให้สอดกับความต้องการของนักเรียนและตา ความสามารถของนักเรียนโดยมีผู้ปกครองและครูได้ร่วมกันจัดการเรียนการสอน ดังนั้นเพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมรประสิทธิภาพทางโรงเรียนจึงได้จัดโรงการฯ ขึ้นมาเพื่อจะได้จัดกิจกรรม การเรียนรู้ให้กับผู้เรียนได้เกิดทักษะกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการจัดประสบการณ์เรียนรู้โดยวิทยากรผู้ปกครอง 2.2 เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น 2.3 เพื่อให้พ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการพัฒนานักเรียน


3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 ผู้ปกครองอย่างน้อยร้อยละ 90 พึงพอใจในการร่วมโครงการ 3.1.2 นักเรียนร้อยละ 95 ขึ้นไป ได้รับประสบการณ์ตรงจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยวิทยากร ผู้ปกครอง 3.1.3 ผู้ปกครองเป็นวิทยากรจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างน้อย 1 ครั้งต่อห้อง ต่อปีการศึกษา 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 ครูและผู้ปกครองได้ร่วมกันสร้างเครือข่ายและพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน อย่างต่อเนื่อง 3.2.1 เด็กได้รับการจัดประสบการณ์ตรงจากการจัดกิจกรรมโดยวิทยากรผู้ปกครอง 3.2.2 ครูและผู้ปกครอง ร่วมพัฒนาการเรียนรู้นักเรียน 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลา ดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรมผู้ใหญ่ใจดี 1 P : Plan 1. ขออนุมัติโครงการ 2. วางแผนการดำเนินงานตามแผนและจัดทำ ปฏิทินการปฏิบัติงานตามโครงการ 3. ว า ง แ ผ น ก า ร จ ั ด ก ิ จ ก ร ร ม ก ำ ห น ด กลุ่มเป้าหมายและระดับความสำเร็จของ โครงการ 4. ศึกษา สำรวจ รูปแบบที่เป็นแนวทางในการ ดำเนินงาน ตามโครงการผู้ใหญ่ใจดี มิ.ย. 2567 79,750 นางสาวสรีย์วรรณ คงสี นางสาวชุติมา ช่อกระทุ่ม นางสาวสุวรรณี ฮั่วจั่น 2 D : Do 1. ดำเนินการทำกิจกรรมผู้ใหญ่ใจดี 2. บริหารจัดการความรู้โครงการผู้ใหญ่ใจดี 3. ศึกษา แนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับ กิจกรรมผู้ใหญ่ใจดีเพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ และประสบการณ์ตรงจากวิทยากร ให้นักเรียน ตระหนักในคุณค่าของการกระบวนการจัดการ เรียนรู้ ก.ค. 2567 นางสาวสรีย์วรรณ คงสี นางสาวชุติมา ช่อกระทุ่ม นางสาวสุวรรณี ฮั่วจั่น 3 C : Check 1. ประเมินผลการดำเนินการและนำผลมา เปรียบเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2. ปรับปรุงวิธีการจัดกิจกรรมในครั้งถัดไปตาม ผลการประเมิน 3. ประเมินความพร้อมด้านปัจจัย ในการ ดำเนินการโครงการ 4. ประเมินกระบวนการทำงานระหว่างการ ดำเนินการโครงการ 5. ควบคุม กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ การ ปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ก.ค. 2567 นางสาวสรีย์วรรณ คงสี นางสาวชุติมา ช่อกระทุ่ม นางสาวสุวรรณี ฮั่วจั่น


ที่ กิจกรรม ระยะเวลา ดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ เป้าหมายของแผนการดำเนินงานและขั้นตอน ปฏิบัติงาน 4 A : Act 1. จัดทำรายงานผลการดำเนินการและรายงาน ต่อผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้อง 2. การรักษา การนำไปใช้ การธำรงไว้ ในด้าน ความรู้และประสบการณ์ตรงจากวิทยากรผู้ให้ ความรู้ 3. ประชาสัมพันธ์ ผลงานที่สำเร็จ ที่เกิดจากโครงการ 4. ประเมินผลโครงการตามวัตถุประสงค์เมื่อ ดำเนินการเสร็จสิ้น ก.ค. 2567 นางสาวสรีย์วรรณ คงสี นางสาวชุติมา ช่อกระทุ่ม นางสาวสุวรรณี ฮั่วจั่น รวมงบประมาณทั้งสิ้น 79,750 5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว 550 เงินพัฒนาผู้เรียน 79,200 เงินรายได้สถานศึกษา - รวม 79,750 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. ศิลปวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น 2. วิถีชีวิตของท้องถิ่นเพชรบุรี 3. สถานที่สำคัญในจังหวัดเพชรบุรีและประวัติความเป็นมา 4. ทรัพยากรทางธรรมชาติในท้องถิ่น 5. ขั้นตอนในการทำกิจกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านคุณธรรม 1. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเอง 2. ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันในการร่วมกิจกรรม 3. มีวินัยตรงต่อเวลา 4. ความสามัคคีในการทำงานหรือเดินทางร่วมกัน 5. ความพอเพียงในการใช้วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ 3 หลักการ ความ พอประมาณ 1. มีการกำหนดเวลาได้เหมาะสมกับการศึกษาเรียนรู้ 2. วิเคราะห์แหล่งเรียนรู้และกิจกรรมที่เหมาะกับวัยของนักเรียน 3. วัสดุอุปกรณ์ในการปฏิบัติกิจกรรมอย่างพอเพียง 4. ใช้เวลาในการทำกิจกรรมอย่างเหมาะสม 5. รูปแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัยวุฒิภาวะของนักเรียนและมีรูปแบบกิจกรรม เหมาะสมกับวัยวุฒิภาวะของนักเรียน


เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด ความมีเหตุผล 1. เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้และประสบการณ์ตรงจากแหล่งเรียนรู้และภูมิปัญหา ท้องถิ่น 2. เพื่อนักเรียนตระหนักในคุณค่าของ แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญหาท้องถิ่น มีภูมิคุ้มกันที่ดี 1. ประชุมคณะดำเนินการ 2. วางแผนการทำงานของโครงการ โดยมีการกำหนดขั้นตอนการทำงาน 3. ดำเนินการตามแผน 4. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดทำโครงการตามวัตถุประสงค์ 5. จัดทำรายงานผล และสรุปผลการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป 4 มิติ ด้านวัตถุ 1. นักเรียนเห็นคุณค่าของการใช้วัสดุอุปกรณ์ทรัพยากรต่าง ๆ และใช้อย่างคุ้มค่า 2. ผลผลิตจากภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยฝีมือนักเรียน ด้านสังคม 1. ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของภูมิปัญญาในท้องถิ่น และตระหนักถึงวิถีชีวิตบนพื้นฐาน ของความพอเพียงและเห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ผู้บริหาร ครู บุคลากร ผู้ปกครอง และนักเรียน มีความเข้าใจอันดีต่อกันให้เกียรติกันเกิดการเรียนรู้ และรู้จักการยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และนักเรียนมีความภาคภูมิใจในผลงาน ของตนเอง ด้านสิ่งแวดล้อม 1. ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นและร่วมกันอนุรักษ์ดูแลทรัพยากร ทางธรรมชาติให้ปราศจากมลพิษต่าง ๆ โดยเฉพาะการจัดการขยะ 2. ทุกฝ่ายตระหนักในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์มากที่สุดและรู้จักการนำ กลับมาใช้ใหม่หรือการใช้สิ่งอื่นทดแทน ด้านวัฒนธรรม ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของภูมิปัญญาท้องถิ่น และศิลปะวัฒนะธรรมไทย แหล่ง โบราณสถานต่าง ๆ และร่วมกันอนุรักษ์ สืบทอด ต่อยอดและเผยแพร่กิจกรรมใน ท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักต่อไป 7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1. ร้อยละ 80 ของผู้ปกครองที่มีความพึง พอใจในการเข้าร่วมโครงการ ร้อยละ 80 บันทึกการเข้าร่วม กิจกรรม แบบบันทึกการเข้าร่วม กิจกรรม 2. ร้อยละ 80 ขึ้นไปของนักเรียนได้รับ ประสบการณ์ตรงจากการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้โดยวิทยากรผู้ปกครอง ร้อยละ 80 แบบสอบถาม แบบประเมินความพึงพอใจ 3. ผู้ปกครองเป็นวิทยากรจัดประสบการณ์ การเรียนรู้อย่างน้อย 1 ครั้งต่อห้อง ต่อปี การศึกษา ร้อยละ 100 บันทึกการเข้าร่วม กิจกรรม แบบบันทึกการเข้าร่วม กิจกรรม


8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนเรียนรู้อย่างกระตือรือร้นผ่านประสบการณ์ตรง 8.2 นักเรียนได้ความรู้และประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย ๘.๓ ผู้ปกครองจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เด็กครบทุกห้องเรียน ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางสาวสรีย์วรรณ คงสี) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ ปรับพื้นฐานเตรียมความพร้อมนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สอดคล้องกับนโยบาย สพฐ. ๒. เสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด ส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้ กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึงฯ สอดคล้องกับจุดเน้น สพป. ข้อ 3 ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ทันสมัยและหลากหลาย สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา 2. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และเป็นผู้มีคุณลักษณะ ตามค่านิยมที่พึงประสงค์ 12 ประการ กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ , นางสาวสิรินาถ โชคทรัพย์ทวี ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ระยะเวลาดำเนินการ 1 พฤษภาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 1. หลักการและเหตุผล กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญเกี่ยวการจัดการศึกษาที่มีระบบ เพื่อพัฒนา เยาวชนไปสู่ความเป็นพลเมืองที่มีความพร้อมสมบูรณ์แบบ สามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข ได้กำหนดนโยบาย สำคัญต่อการพัฒนาการอ่านของเยาวชนไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดกลยุทธ์พัฒนา คุณภาพทางการศึกษา เพื่อเร่งรัด ส่งเสริม และพัฒนาการอ่าน การเขียนและยกระดับผลสัมฤทธิ์ การเรียนภาษาไทย ส่งเสริมให้นักเรียนอ่านคล่อง เขียนคล่อง ใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นพื้นฐานการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ อื่น เพื่อการศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น และมีทักษะในการสื่อสาร สื่อความคิดได้ถูกต้อง โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี กลุ่มบริหารงานวิชาการกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตระหนักถึงความสำคัญในการ พัฒนาและส่งเสริมการอ่าน การเขียน ให้บังเกิดผลสำเร็จและยั่งยืน อีกทั้งเป็นการตอบสนองจุดเน้นของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาการอ่าน การเขียนระดับโรงเรียน เพื่อเป็นแนวทางในการ แก้ปัญหาและพัฒนานักเรียนอ่านออกเขียนได้ โดยส่งเสริมกิจกรรมกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยปรับพื้นฐานเตรียมความ พร้อมนักเรียนระดับชั้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อรองรับการประเมินทุกปีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2.2 เพื่อพัฒนาการอ่าน การเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 2.3 เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 220 คน เข้ารับการปรับพื้นฐานเตรียมความ พร้อมขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนจากครูผู้สอน จำนวน 24 คน คณะกรรมการฝ่าย ประเมิน จำนวน 10 คน ให้นักเรียนได้มีพื้นฐานจากการอ่าน การเขียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยใช้เทคนิคการสอน สื่อ เกม เพลง การสอนเพื่อพัฒนาและปูพื้นฐานให้นักเรียนอ่านออก เขียนได้ ในช่วงเวลาระหว่าง วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 – 10 พฤษภาคม 2567 รวมเป็นเวลา 8 วัน ณ โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ร้อยละ 100 อ่านออกเขียนได้ตามเกณฑ์การประเมินของกลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทยโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี 3.2.2 นักเรียนมีนิสัยรักการอ่านอยูในระดับดี 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ 1. P : Plan 1.ประชุมคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยและครูผู้สอนภาษาไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่1-2 เม.ย. 67 - นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ และคณะครูกลุ่ม สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย 2. D : Do 1.คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทยรวมวางแผนจัดทำปฏิทิน การดำเนินงาน วางแผน มอบหมาย งาน ทำตามปฏิทิน กำหนดเวลาในการ ทำกิจกรรม 2.จัดเตรียมเอกสาร สื่อการเรียน การสอน -จัดทำแบบฝึกพัฒนาการอ่านการ เขียน จำนวน 220 ชุด -จัดทำคู่มือครู จำนวน 12 ชุด -จัดทำแบบประเมินก่อนเรียน ระหว่าง เรียนและหลังเรียน จำนวน 660 ชุด และจัดทำเอกสารประเมินความพึง พอใจ 3.ดำเนินกิจกรรมตามแผนงาน - ประเมินการอ่านออกเขียนได้ ก่อนเรียน - กิจกรรมการเรียนการสอนฝึก พัฒนาการอ่านการเขียนโดยใช้ แบบฝึกภาษาไทย ( 08.00 - 11.30 น.) - กิจกรรมต่างๆเช่น นิทาน เกม เพลง ภาษาไทยที่สอดคล้องกับ การพัฒนาการอ่านการเขียน ( 12.30 - 14.30 น. ) - การประเมินการอ่านออกเขียน ได้หลังเรียนของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 - สรุปผลการปรับพื้นฐานและ ประชุมผู้ปกครองนักเรียนที่ไม่ ผ่านการปรับพื้นฐาน เม.ย. 67 3-20 เม.ย. 67 1-10 พ.ค.67 13,920 3,300 500 นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ และคณะครูกลุ่ม สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ไม่ใช้งบประมาณ


ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ 3. C : Check 1. ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรม ดำเนินการติดตามและประเมินผลตาม ปฏิทินการดำเนินงาน 10 พ.ค.67 - คณะกรรมการฝ่าย ประเมินประเมินผล 4. A : Act 1.ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรมรายงาน ผลให้ผู้รับผิดชอบโครงการทราบและ รายงานให้ผู้บริหารทราบ 1 ต.ค.67 นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ และคณะกรรมการ ฝ่ายประเมินผล รวม 17,720 5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว 17,720 เงินพัฒนาผู้เรียน - เงินรายได้สถานศึกษา - รวม 17,720 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1.ความรู้ ความเข้าใจ ในด้านการอ่าน การเขียน 2.ความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการพัฒนานักเรียนในด้านการ อ่าน การเขียน ด้านคุณธรรม 1. มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย ขยันหมั่นเพียร เอาใจใส่ มุ่งมั่น อดทน ในการเรียนและพร้อมพัฒนาตนเองในการเรียนรู้ 2. มีความมุ่งมั่น รับผิดชอบ ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการ อ่าน การเขียน 3. ความพอเพียง ใช้วัสดุอุปกรณ์ในการทำงานอย่างประหยัดและคุ้มค่า 3 หลักการ ความพอประมาณ การพัฒนาและส่งเสริมนักเรียนตามความสามารถของนักเรียน ความมีเหตุผล 1. เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ของนักเรียน 2. เพื่อพัฒนาผลด้านการอ่าน การเขียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 3. เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีนิสัยรักการอ่าน ภูมิคุ้มกัน 1. ประชุมคณะดำเนินการ 2. วางแผนการทำงานของโครงการ โดยมีการกำหนดขั้นตอนการทำงาน 3. ดำเนินการตามแผน 4. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดทำโครงการตาม วัตถุประสงค์ 5. จัดทำรายงานผล และสรุปผลการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนา ต่อไป 4 มิติ ด้านวัตถุ แบบฝึกการอ่านและเขียนที่สามารถพัฒนาให้นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการ เรียนอย่างมีระบบ


เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด ด้านสังคม 1. การอ่าน การเขียน สามารถพัฒนานักเรียนให้อยู่ร่วมกันในสังคม ได้อย่างเป็นสุข 2. ผลการประเมินการอ่านเขียนมีการพัฒนาสร้างความเชื่อถือและเป็น ที่ยอมรับ ด้านสิ่งแวดล้อม 1. การอ่าน การเขียน สามารถพัฒนาให้นักเรียนมีความคิดอย่างมี วิจารณญาณต่อสิ่งแวดล้อม 2. การใช้วัสดุอุปกรณ์ ในการทำงานอย่างประหยัดคุ้มค่าและเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม การสื่อสารถึงความคิดโดยใช้ทักษะการอ่านการเขียนใช้ภาษาอย่างถูกต้อง 7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1. ร้อยละของนักเรียน ในระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 อ่านได้ - - ร้อยละ 80นักเรียนชั้น - ประถมศึกษาปีที่ 1 อ่านออก - เขียนได้ อยู่ในระดับปานกลาง - ตรวจสอบผลจาก การประเมินการอ่าน - - ตรวจสอบผลการ - จากแบบทดสอบ - แบบประเมิน - - แบบทดสอบ 2. ร้อยละของนักเรียน ในระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 เขียนได้ - ร้อยละ 80 นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลด้าน การอ่าน การเขียนในการประเมิน ความสามารถการอ่านการเขียนใน ระดับดีขึ้นไป อยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม - ตรวจสอบผลจาก การทดสอบ - แบบประเมิน - - แบบทดสอบ 3. ร้อยละของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 มีนิสัย รักการอ่าน - ร้อยละ 80 นักเรียนมีคุณนิสัยรัก การอ่านอยู่ในระดับดีมาก -ตรวจสอบผลจาก แบบสอบถามปกครอง - - แบบสอบถาม - ผู้ปกครอง 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีพัฒนาการด้านการอ่านร้อยละ 80 มีพัฒนาการด้านการเขียนร้อยละ 80 8.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีพัฒนาการด้านการอ่าน การเขียนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ 8.3 นักเรียนมีคุณนิสัยรักการอ่าน การเขียนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ ส่งเสริมการอ่านออก เขียนได้ ตามนโยบาย สพฐ สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๒ เสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด ส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้ กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึง การเรียนรู้อย่างทั่วถึงฯ สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อที่ ๓ ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ทันสมัยและหลากหลาย สนองนโยบายระยะเร่งด่วน(Quick Win) สพฐ. ข้อที่ 1 ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้อที่ ๑.๕ สร้างความตระหนักในการป้องกันการทุจริต สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ ๓ คิดคำนวณ อ่าน เขียน สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ข้อที่ 1 มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสารและการคิดคำนวณ ข้อที่ 2 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมี วิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ ๒ ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณลักษณะตามค่านิยมที่พึงประสงค์ 12 ประการ กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวสิรินาถ โชคทรัพย์ทวี, นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ ระยะเวลาดำเนินการ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ๑. หลักการและเหตุผล กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญเกี่ยวการจัดการศึกษาที่มีระบบ เพื่อพัฒนา เยาวชนไปสู่ความเป็นพลเมืองที่พร้อมสมบูรณ์ สามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข ได้กำหนดนโยบายสำคัญ ต่อการพัฒนาการอ่านของเยาวชนไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดกลยุทธ์พัฒนาคุณภาพ ทางการศึกษา เพื่อเร่งรัด ส่งเสริม และพัฒนาการอ่าน การเขียนและยกระดับผลสัมฤทธิ์ การเรียนภาษาไทย ส่งเสริมให้ นักเรียนอ่านคล่อง เขียนคล่อง ใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพเป็นพื้นฐานการเรียนรู้สาระอื่น เพื่อการศึกษาต่อ ในระดับสูงขึ้น และมีทักษะในการสื่อสาร สื่อความคิดได้ถูกต้อง โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี กลุ่มงานวิชาการ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตระหนักถึงควาสำคัญในการพัฒนาและ ส่งเสริมการอ่าน การเขียน ให้บังเกิดผลสำเร็จและยั่งยืน อีกทั้งเป็นการตอบสนองจุดเน้นของสำนักงานคณะการรม การการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาการอ่าน การเขียนระดับโรงเรียน เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา และพัฒนานักเรียนอ่านออกเขียนได้ โดยส่งเสริมกิจกรรมย่อย อ่านเขียนสุขสันต์ ( อ่านได้ เขียนเป็น ) และกิจกรรมปรับ พื้นฐานนักเรียนนั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เพื่อรองรับการประเมินทุกปีการศึกษาอย่างต่อเนื่อง 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของนักเรียน - โดยจัดทำแบบประเมินกิจกรรมอ่านได้เขียนเป็นตามนโยบาย (สพฐ) จำนวน 1,170 ชุด ชุดละ 12 แผ่น ใช้กระดาษ 14,040 แผ่น จำนวน ๒๘ รีม รีมละ 100 บาท เป็นเงิน 2,800 บาท - โดยจัดทำแบบฝึกพัฒนาการอ่านการเขียนนักเรียน จำนวน ๕๕ ชุด ชุดละ 25 แผ่น ใช้กระดาษ 1,000 แผ่น จำนวน 2 รีม รีมละ 100 บาท เป็นเงิน 200 บาท


2.2 เพื่อแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ของนักเรียน 2.3 เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีนิสัยรักการอ่าน 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 นักเรียนชั้น ป.1-6 อ่านออก เขียนได้ 3.1.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -6 มีผลด้านการอ่าน การเขียนในการประเมินความสามารถการอ่าน การเขียนในระดับดีขึ้นไป 3.1.๓ นักเรียนชั้น ป.1-6 มีคุณนิสัยรักการอ่าน 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 ร้อยละ 90 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 อ่านออกเขียนได้ 3.2.2 ร้อยละ 80 ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -6 มีผลด้านการอ่าน การเขียนในการประเมิน ความสามรถการอ่านการเขียนในระดับดีขึ้นไป 3.2.3 ร้อยละ 80 ของนักเรียนมีนิสัยรักการอ่านอยู่ในระดับยอดเยี่ยม 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรม ส่งเสริมการอ่านออก เขียนได้ ตามนโยบาย สพฐ 1 P : Plan ๑. ประชุมคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ๒. คณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยรวม วางแผนจัดทำปฏิทินการดำเนินงาน ก.ค. ๖๗ - นางสาวสิรินาถ โชคทรัพย์ทวี และคณะครูกลุ่ม สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย 2 D : Do ๑. ดำเนินกิจกรรมตามแผนงาน -ประเมินการอ่านออกเขียนได้ตามนโยบาย สพฐ. -กิจกรรมค่ายภาษาไทย -การประเมินความสามารถด้านการอ่าน ของนักเรียน ภาคเรียนละ ๑ ครั้ง (ตามที่สพฐ.กำหนด) 7-๙ ตุลาคม 67 ปีการศึกษาละ ๑ ครั้ง (ตามที่สพฐ.กำหนด) 17,775 นางสาวสิรินาถ โชคทรัพย์ทวี นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ หัวหน้าสายชั้น ประถมศึกษา ปีที่ ๑ 3 C : Check ๑. ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรมดำเนินการติดตาม และประเมินผลตามปฏิทินการดำเนินงาน พ.ค. ๖๗ - เม.ย.๖๘ - นางสาวสิรินาถ โชคทรัพย์ทวี นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ หัวหน้าสายชั้น ประถมศึกษาปีที่๑ 4 A : Act 1. ผู้รับผิดชอบแต่ละกิจกรรมรายงานผลให้ ผู้รับผิดชอบโครงการทราบและรายงานให้ ผู้บริหารทราบ เม.ย.๖๘ - นางสาวสิรินาถ โชคทรัพย์ทวี นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ หัวหน้าสายชั้น ประถมศึกษาปีที่1 รวมงบประมาณทั้งสิ้น - ๕,325


5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว 17,775 เงินพัฒนาผู้เรียน - เงินรายได้สถานศึกษา - รวม 17,775 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ในด้านการอ่าน การเขียน 2. ครูมีความรู้ ความเข้าใจ และมีความสามารถในการพัฒนานักเรียนในด้านการอ่าน การเขียน ด้านคุณธรรม 1. นักเรียนมีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย ขยันหมั่นเพียร เอาใจใส่ มุ่งมั่น อดทน ในการเรียนและพร้อมพัฒนาตนเองในการเรียนรู้ 2. ครูมีความมุ่งมั่น รับผิดชอบ ในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นกระบวนการอ่าน การเขียน 3 หลักการ ความ พอประมาณ นักเรียนแต่ละคนมีความสามารถในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ควรพัฒนาและส่งเสริม ตามความสามารถของนักเรียนแต่ละคน ความมีเหตุผล การพัฒนาให้นักเรียนมีความสามารถในการอ่าน การเขียน มีความสำคัญต่อนักเรียน เป็นอย่างมาก เพื่อให้นักเรียนนำไปพัฒนาตนเองให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างเป็นสุข มีภูมิคุ้มกันที่ดี มีการวางแผนในการจัดการเรียนการสอนและจัดกิจกรรมให้นักเรียนเกิดการ พัฒนาการอ่าน การเขียน 4 มิติ ด้านวัตถุ การอ่าน การเขียนสามารถพัฒนาให้นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการเรียนอย่าง มีระบบ ด้านสังคม การอ่าน การเขียน สามารถพัฒนานักเรียนให้อยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างเป็นสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การอ่าน การเขียน สามารถพัฒนาให้นักเรียนมีความคิดอย่างมีวิจารณญาณต่อ สิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม เห็นคุณค่าและประโยชน์ของทักษะการอ่าน การเขียน 7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1. ร้อยละของนักเรียน ในระดับประถม ศึกษาปีที่ 1 – 6 อ่านออกเขียนได้ทุกคน - ร้อยละ 90 นักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 อ่านออกเขียนได้ อยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม - ตรวจสอบผล จากการประเมิน - ตรวจสอบผล จากการทดสอบ 1. ร้อยละของนักเรียน ในระดับประถมศึกษา ปีที่ 1 – 6 อ่านออก เขียนได้ทุกคน 2. จำนวนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -6 ที่มีผลด้านการอ่าน การเขียน ในการประเมินความสามารถการอ่าน การเขียนในระดับดี - ร้อยละ 80 นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -6 มีผลด้านการอ่าน การเขียนในการประเมิน ความสามารถการอ่านการ เขียนในระดับดีขึ้นไป อยู่ในระดับยอดเยี่ยม - ตรวจสอบผล จากการทดสอบ 2. จำนวนนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 -6 ที่มีผลด้านการอ่าน การเขียนในการ ประเมินความสามารถ การอ่านการเขียนใน ระดับดี


8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 มีประสิทธิภาพในการอ่าน การเขียนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ 8.2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 -6 มีผลด้านการอ่าน การเขียนในการประเมินความสามารถการอ่าน การเขียน ในระดับดีเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ 8.3 นักเรียนมีคุณนิสัยรักการอ่าน การเขียนเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางสาวสิรินาถ โชคทรัพย์ทวี) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ พัฒนากระบวนการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”สู่การพัฒนาคุณภาพ สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ 2 เสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด ส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้าง อนาคต สร้างรายได้ กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่าง ทั่วถึงฯ สอดคล้องกับนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อที่ 3 ปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้ให้ทันสมัยและหลากหลาย นโยบายระยะเร่งด่วน (Quick Win) ข้อที่ 2 ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง 2.1 การเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล สอดคล้องกับจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ 3 เพิ่มระดับผลสัมฤทธิ์ สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของเด็ก ข้อที่ 1.1.7 เด็กมีทักษะการว่ายน้ำ ข้อที่ 1.2.9 เด็กสามารถเล่นดนตรีได้ 1 ชิ้น มาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ข้อที่ 1.1 ข้อ 2 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหา สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ 2 ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการ และเป็นผู้มี คุณลักษณะตามค่านิยมที่พึงประสงค์ 12 ประการ กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสาวกมลพร เพิ่มขรัวจำ , นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์, นางสาวชญานิศ อุบลน้อย ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ระยะเวลาดำเนินการ 16 พฤษภาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568 1. หลักการและเหตุผล ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายในการปรับลดเวลาเรียน เพื่อลดระยะเวลาเรียนภาควิชาการลงโดยไม่ กระทบเนื้อหาหลักที่ผู้เรียนควรเรียนรู้ จึงได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักวิชาการ และมาตรฐานการศึกษา สำรวจความคิดเห็นของผู้เรียน ผู้ปกครอง ครู บุคคลทั่วไป เกี่ยวกับโครงการและจัดทำคู่มือการ บริหารจัดการเวลาแนวทางการจัดกิจกรรตมการเรียนรู้ “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” เพื่อให้โรงเรียนนำร่องนำไปใช้ พร้อมทั้งแนวดำเนินการเพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์ ในระยะที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 มีโรงเรียนนำร่องนำไปใช้ ในระยะนี้เน้นการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่มีเป้าหมายการพัฒนา 4 H คือ Head (กิจกรรมพัฒนาสมอง) Heart (กิจกรรพัฒนาจิตใจ) Hand (กิจกรรม พัฒนาทักษาการปฏิบัติ) และ Health (กิจกรรมพัฒนาสุขภาพ) และเน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีความสุข ในระยะที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 มีโรงเรียนทุกสังกัดเข้าร่วมโครงการเพิ่มอีก 21,417 โรงเรียน ในระยะนี้เน้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีเป้าหมายการพัฒนา 4 H คือ Head (กิจกรรมพัฒนาสมอง) Heart (กิจกรรม พัฒนาจิตใจ) Hand (กิจกรรมพัฒนาทักษาการปฏิบัติ) และ Health (กิจกรรมพัฒนาสุขภาพ) และเน้นให้ผู้เรียนเรียนรู้ อย่างมีความสุขโดยใช้ขั้นพัฒนาการของ Bloom Taxonomy (Krathwohl, D.R.,2002) เป็นหลักในการจัดกิจกรรมและ เน้นให้เกิดทักษะการคิดขั้นสูง ในระยะที่ 3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 มีพัฒนาการจัดกิจกรรมเพิ่มเวลารู้ให้เชื่อมโยงกับหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ยังคงเน้นเป้าหมายการพัฒนา 4 H ทั้งนี้เพื่อให้ความสำคัญทั้งการจัด


กิจกรรมการเรียนรู้และกิจกรรมเพิ่มเวลารู้โดยมุ่งเน้นลดเวลาเรียนในลักษณะการรับการถ่ายทอดความรู้ด้วยการบรรยาย/ สาธิต เพิ่มเวลาและโอกาสในการสร้างความรู้ด้วยตนเองผ่านการลงมือปฏิบัติมีความสุขกับการเรียนรู้ จากการดำเนินงานระยะที่ 1–3 ดังกล่าวตามกิจกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” สู่การ ปฏิบัติที่มีคุณภาพ โรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 1จึงได้จัดทำโครงการ พัฒนากระบวนการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” สู่การพัฒนาคุณภาพ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อให้โรงเรียนสามารถจัดกิจกรรมตามแนวทาง นโยบาย “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ได้อย่างมีคุณภาพ 2.2 เพื่อให้ครูสามารถพัฒนา/ปรับ/ออกแบบการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองตามความสนใจและ ความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพตามหลักสูตร และมีความสุขกับการเรียนรู้ 2.3 เพื่อประเมินความสำเร็จการจัดโครงการพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” สู่การพัฒนาคุณภาพ ของนักเรียน ครูผู้สอน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 ครูทุกคน สามารถจัดกิจกรรมตามแนวทาง นโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ได้อย่างมีคุณภาพ 3.1.2 ครูทุกคนสามารถพัฒนา/ปรับ/ออกแบบการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตนเองตามความสนใจ และความถนัดอย่างเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพตามหลักสูตร และความสุขกับการเรียนรู้ โดยได้จัดทำเอกสาร จำนวน 200 ชุด ชุดละ 30 แผ่น ใช้กระดาษ 6,000 แผ่น จำนวน 12 รีม รีมละ 100 บาท เป็นเงิน 1,200 บาท 3.1.3 นักเรียน ครูผู้สอน ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ประเมินความสำเร็จการจัด โครงการพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” สู่การพัฒนาคุณภาพ ที่อยู่ระดับ 4 ขึ้นไป 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 ร้อยละ100 ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความถนัดและความสนใจ อย่างมีความสุข และพัฒนาตนเอง รอบด้าน ครอบคลุม 4 H 3.2.2 ร้อยละ 80 ผู้เรียนได้รับโอกาสและมีเวลาลงมือปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเองมากขึ้นและพัฒนา ความสามารถพื้นฐานตามหลักสูตร 3.2.3 ร้อยละ100 ครูปรับบทบาทของตนเองจากผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกของกิจกรรมมากขึ้น 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรม ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ 1 P : Plan 1. ประชุม ทบทวนความสอดคล้องกิจกรรมของ โรงเรียนในโครงการลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ - ด้าน 4 H - มาตรฐาน/ตัวชี้วัดของหลักสูตร - บริบทโรงเรียนความสนใจและความถนัด ของโรงเรียน คุณภาพของนักเรียน ยุค 4.0 2. คณะครูร่วมกันวิเคราะห์ ปรับ และเพิ่ม คุณภาพระบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ โรงเรียนและสอดคล้องกับความสนใจและความ ถนัดผู้เรียน พ.ค.2567 – มี.ค. 2568 - นางสาวกมลพร เพิ่มขรัวจำ หัวหน้าสายชั้น หัวหน้าสาระการ เรียนรู้ ทั้ง 8 กลุ่ม สาระฯ


ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ 2 D : Do 1. ปฏิบัติการครูออกแบบกิจกรรม “ลดเวลา เรียน เพิ่มเวลารู้”ที่เน้น Active Learning สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวชี้วัด สามารถ พัฒนานักเรียนให้ครอบคลุม 4 H - วางแนวทางการดำเนินงาน - ก า ร เ ต ร ี ย ม ค ว า ม พ ร ้ อ ม ใ น ก า ร ดำเนินงาน - การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ การจัดกิจกรรม นิเทศติดตามการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ที่เน้น Active Learning สอดคล้อง กับมาตรฐานและตัวชี้วัด พัฒนานักเรียนได้ ครอบคลุมด้าน 4 H พ.ค.2567 – มี.ค. 2568 3,615 นางสาวกมลพร เพิ่มขรัวจำ หัวหน้าสายชั้น หัวหน้าสาระการ เรียนรู้ ทั้ง 8 กลุ่ม สาระฯ 3 C : Check 1. โรงเรียนจัดกิจกรรม AAR : After Action Review ในโรงเรียน 2. สรุปผลการดำเนินโครงการ 3. จัดทำรายงานโครงการ พ.ค.2567 – มี.ค. 2568 - นางสาวกมลพร เพิ่มขรัวจำ หัวหน้าสายชั้น หัวหน้าสาระการ เรียนรู้ ทั้ง 8 กลุ่ม สาระฯ 4 A : Act 1.คณะครูร่วมกันวิเคราะห์ ปรับ และเพิ่ม คุณภาพระบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ โรงเรียนและสอดคล้องกับความสนใจและความ ถนัดผู้เรียน พ.ค.2567 – มี.ค. 2568 - นางสาวกมลพร เพิ่มขรัวจำ หัวหน้าสายชั้น หัวหน้าสาระการ เรียนรู้ ทั้ง 8 กลุ่ม สาระฯ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 3,615 5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว 3,615 เงินรายได้สถานศึกษา - รวม 3,615 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ ความรู้ทักษะกระบวนการในทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้านคุณธรรม ความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีความรอบคอบในการทำงาน การตรงต่อเวลาในการ ส่งงานที่รับผิดชอบ 3 หลักการ ความ พอประมาณ ได้ความรู้ทางทักษะวิชาการด้านต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับนักเรียน ความมีเหตุผล เพื่อพัฒนานักเรียนให้สามรถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้


เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด มีภูมิคุ้มกันที่ดี นักเรียนสามารถนำความรู้ไปเป็นแนวทางในชีวิตประจำวันได้ 4 มิติ ด้านวัตถุ เลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่พียงพอและเหมาะสมกับนักเรียนและเกิดประโยชน์สูงสุด ด้านสังคม รู้จักการทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่น และเกิดความสามัคคี รู้จักการแบ่งปัน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ด้านสิ่งแวดล้อม นำนักเรียนที่ได้รับการทักษะในด้านต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ด้านวัฒนธรรม นักเรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ 7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1. ร้อยละของกิจกรรมที่โรงเรียนสามารถจัด กิจกรรมตามแนวทาง นโยบาย “ลดเวลา เรียน เพิ่มเวลารู้” ได้อย่างมีคุณภาพ ร้อยละ 100 - ตรวจสอบผลจาก แบบสอบถาม - แบบสอบถาม 2. ร้อยละของครูสามารถพัฒนา/ ปรับ/ ออกแบบการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนสามรถ พัฒนาตนเองตามความสนใจและความถนัด อย่างเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพตาม หลักสูตร และมีความสุขกับการเรียนรู้ ร้อยละ 80 - ตรวจสอบผลจากการ สอบถาม - แบบสอบถาม 3. ร้อยละของการประเมินความสำเร็จการ จัดโครงการพัฒนากระบวนการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” สู่การพัฒนา คุณภาพ ร้อยละ 80 - ตรวจสอบผลจากการ ประเมิน - แบบประเมิน 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 โรงเรียนมีระบบการจัดกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ที่เน้น Active Learning ที่สอดคล้องกับมาตรฐานและ ตัวชี้วัด และครอบคลุมการพัฒนา 4 H 8.2 นักเรียนได้รับการพัฒนาตนเองครอบคลุม 4 H อย่างมีคุณภาพ และมีความสามารถพ้นฐานตามหลักสูตร 8.3 ผู้เรียนมีความสามารถสอดคล้องกับคุณภาพเด็กไทย 8.4 ครูมีการพัฒนาและปรับแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นกิจกรรม Active Learning ทำให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น (ลงชื่อ)...........................................ผู้เสนอโครงการ (ลงชื่อ)...........................................ผู้เสนอโครงการ ( นางสาวกมลพร เพิ่มขรัวจำ ) ( นางกิตตินันทน์ ธานีรัตน์ ) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี (ลงชื่อ)...........................................ผู้เสนอโครงการ (ลงชื่อ)...........................................ผู้อนุมัติโครงการ ( นางสาวชญานิศ อุบลน้อย ) ( นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ ค่ายวิทยาศาสตร์ สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๑ ปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้ เป็นคนดี มีวินัยฯ สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อที่ ๑ จัดการศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ สนองนโยบายระยะเร่งด่วน(Quick Win) สพฐ. ข้อที่ 2 ลดภาระนักเรียนและผู้ปกครอง ข้อที่ 2.1 การเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ 2 พัฒนาหลักสูตร เพิ่มผลสัมฤทธิ์ สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรียน ข้อที่ 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน ข้อที่ ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา ข้อที่ 1 ยกระดับคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานสากล กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางวณิชยา เดชกล้าหาญ ระยะเวลาดำเนินการ 30 – 31 มกราคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ๑. หลักการและเหตุผล ปัจจุบันความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็ว การถ่ายทอดให้นักเรียน เพียงแต่จดจำความรู้เหล่านั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะครอบคลุมให้ได้ทั้งหมด ดังนั้นการให้การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ โดยมี การเน้นทั้งทางด้านความรู้ และทักษะกระบวนการให้กับนักเรียน ควรให้ได้รับการฝึกฝน จนเกิดความรู้และทักษะ กระบวนการและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตประจำวันได้ ในการจัดค่ายวิทยาศาสตร์มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ นักเรียนได้สนุกสนานกับกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นภายในค่ายพร้อมกับให้ได้รับความรู้และทักษะกระบวนการพร้อมกันไป โครงการค่ายวิทยาศาสตร์ มีส่วนสำคัญที่จะช่วยเสริมหลักสูตรวิทยาศาสตร์ ให้บังเกิดผลในการส่งเสริมความ ต้องการของนักเรียนได้ตามความถนัดให้มากขึ้น นักเรียนจะได้รับการฝึกทักษะการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ เพื่อสร้าง วินัยในตนเองและพัฒนาศักยภาพของตนเอง อันเกิดจากการเรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ รู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อ ตนเองและส่วนรวม มีการฝึกฝนค้นหาลักษณะความเป็นผู้นำที่แอบแฝงอยู่ในตัวเองให้เด่นชัดขึ้น มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักคิดอย่างมีเหตุผลเป็นลำดับขั้นตอน อันเป็นแนวทางในการนำไปใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริม และพัฒนาความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์ของนักเรียนให้สอดคล้องกับหลักการ จัดการศึกษาที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ จึงได้จัดโครงการค่ายวิทยาศาสตร์ซึ่งได้จัดกิจกรรมที่หลากหลายเหมาะสมกับวัยและ พัฒนาการของนักเรียน ตลอดจนการเสริมสร้างการเป็นผู้นำในการทำกิจกรรม ควบคู่ไปกับการพัฒนาความฉลาดทาง อารมณ์โดยใช้กิจกรรมนันทนาการควบคู่กันไปเพื่อเป็นการพัฒนาสมองของนักเรียนทั้งทางด้านสติปัญญา อารมณ์ และการ ทำกิจกรรมร่วมกับสังคม นำไปสู่การพัฒนาความสามารถของนักเรียนด้วยตนเองผ่านกิจกรรมค่ายตามฐานต่างๆ 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่มีความหลากหลาย และพัฒนาความรู้ในการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ 2.2 เพื่อให้นักเรียนได้ร่วมทำกิจกรรม กล้าแสดงออกทางความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะในการ เรียนวิชาวิทยาศาสตร์


2.3 เพื่อให้นักเรียนเกิดเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ 3.1.1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2,5/2 และ 6/2 ในโครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ จำนวน 120 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ 3.1.2 จัดกิจกรรมนักเรียนตามโครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ ได้ศึกษาเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่ หลากหลาย สามารถสร้างชิ้นงานได้อย่างน้อยคนละ 1 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ 3.2.1 นักเรียนในโครงการส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) มีทักษะในการเรียนรู้วิชา วิทยาศาสตร์ร้อยละ 85 3.2.2 มีนักเรียนตามโครงการศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ (science) มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ ร้อยละ 85 4. กิจกรรมและการดำเนินงาน ที่ กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรมส่งเสริมศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ 1 P : Plan 1. ประชุมคระครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. แต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบ 16 พฤษภาคม 2567 นางวณิชยา เดชกล้าหาญและ คณะครูกลุ่มสาระ การเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 2 D : Do 1. ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับค่ายวิทยาศาสตร์ 2. จัดกิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ 16 พฤษภาคม 2567 - 31 มกราคม 2568 30 - 31 มกราคม 2568 39,000 ครูวิทยากรและ คณะครู กลุ่มสาระการ เรียนรู้ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี 3 C : Check หัวหน้ากลุ่มสาระเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีติดตามประเมินผลการดำเนินงานตาม กิจกรรม 16 พฤษภาคม 2567 – 29 กุมภาพันธ์ 2568 นางวณิชยา เดชกล้าหาญ 4 A : Act 1. สรุปโครงการและรายงานการประเมินผล 2. นำผลการดำเนินงานวิเคราะห์ปรับปรุง และ พัฒนาโครงการ มีนาคม 2568 นางวณิชยา เดชกล้าหาญ รวมงบประมาณทั้งสิ้น 39,000


5. งบประมาณ ประเภทของการใช้เงิน จำนวนเงิน (บาท) เงินอุดหนุนรายหัว เงินพัฒนาผู้เรียน เงินรายได้สถานศึกษา (เก็บจากผู้ปกครอง) 39,000 รวม 39,000 6. ถอดบทเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (หลักการ 2-3-4) เงื่อนไข/หลักการ/มิติ รายละเอียด 2 เงื่อนไข ด้านความรู้ 1. รู้ในวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. รู้จักการคิด การแก้ปัญหา 4. รู้จักการนำความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ด้านคุณธรรม 1. พัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ มีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ 2. มีวินัย มีความตรงต่อเวลา 3. อยู่อย่างพอเพียง 4. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มความสามารถ 5. มีความยุติธรรม 3 หลักการ ความ พอประมาณ 1. ผู้เรียนได้เรียนรู้เรื่องการแบ่งเวลาในการทำกิจกรรม มีการกำหนดเนื้อหา กับเวลา และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และรู้จักเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ สารเคมีที่มีอยู่ อย่างประหยัด คุ้มค่า ความมีเหตุผล 1. เพื่อผู้เรียนได้มีคุณภาพเกิดทักษะกระบวนการทางด้านวิทยาศาสตร์มีเจตคติที่ดีต่อ วิทยาศาสตร์ 2. เพื่อเพื่อส่งเสริมสนับสนุนนักเรียนที่มีความสามารถเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์ มีภูมิคุ้มกันที่ดี 1. ประชุมคณะครูกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. วางแผนการทำงานของโครงการ โดยกระบวนการทำกิจกรรมการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 3. ดำเนินการตามแผน โดยมุ่งเน้นศักยภาพของนักเรียนเป็นสำคัญ 4.กำกับ ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดทำโครงการตามวัตถุประสงค์ 5. จัดทำรายงานผล และสรุปผลการดำเนินงาน เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนา 4 มิติ ด้านวัตถุ เห็นคุณค่าของวัสดุ อุปกรณ์ สารเคมีโดยใช้อย่างประหยัด คุ้มค่าพร้อมทั้งพัฒนาสื่อ นวัตกรรม ใช้ในการเรียนสอนใหม่ และคุ้มค่า ด้านสังคม เรียนรู้กระบวนการกลุ่มฝึกการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ปฎิบัติกิจกรรมด้วย ความสามัคคี ด้านสิ่งแวดล้อม จัดสิ่งแวดล้อมมีความเหมาะสมกับการเรียนการสอน ใช้วัสดุ อุปกรณ์ สารเคมีที่มีอยู่ อย่างประหยัด คุ้มค่าเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม ด้านวัฒนธรรม มีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และมีความรับผิดชอบใน การเรียนรู้ของตนเอง


7. การวัดและประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ เกณฑ์การประเมิน วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ 1. ร้อยละนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมค่าย วิทยาศาสตร์ 1ร้อยละ 100 ของนักเรียนที่ เข้ากิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์ 1.การนิเทศ โครงการ 1. แบบประเมิน 2. ร้อยละ 85 ของระดับคุณภาพของ กิจกรรมค่ายวิทยาศาสตร์สนับสนุนให้ผู้เรียน ได้ลงมือปฏิบัติจริง จนสรุปความรู้ได้ด้วย ตนเอง 2. ร้อยละ 85 ของระดับ คุณภาพของกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ครูผู้สอนและวิทยากร สนับสนุนให้ผู้เรียน 2.แบบประเมิน ความพึงพอใจ ของนักเรียน 2. แบบประเมิน ความพึงพอใจของ นักเรียนที่มีต่อการ จัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่ครูผู้สอน สนับสนุนให้ผู้เรียน ได้ลงมือปฏิบัติจริง จนสรุปความรู้ได้ ด้วยตนเอง 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 8.1 นักเรียนได้ฝึกแสดงออกเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้และการใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ในการ วิเคราะห์ผล 8.2 นักเรียน กล้าคิด กล้าทำ และรู้จักคิด วิเคราะห์ และมีความคิดสร้างสรรค์อย่างมีเหตุผลและวิจารณญาณ 8.3 นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการจัดโครงการค่ายวิทยาศาสตร์ พัฒนาวิทยาศาสตร์ด้วยวิถีธรรมชาติ อย่างยั่งยืน 8.4 นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงนอกห้องเรียนและนำเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้เสนอโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ..............................................ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ........................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางวณิชยา เดชกล้าหาญ) (นายสุริยา มนตรีภักดิ์) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี


ชื่อโครงการ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ ลายมือสวยด้วยมือเรา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สนองนโยบายรัฐบาล ข้อที่ ๑ ปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้ เป็นคนดี มีวินัยฯ สนองนโยบาย/จุดเน้น สพฐ. ข้อ 10 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา สนองนโยบายระยะเร่งด่วน(Quick Win) สพฐ. ข้อที่ 1 ลดภาระครูและบุคลากรทางการศึกษา 1.1 การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานบุคคล สนองจุดเน้น สพป. จุดเน้นที่ 8 พัฒนาระบบประกันคุณภาพ สนองมาตรฐานของสถานศึกษา มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 2.4 พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ สนองกลยุทธ์ของสถานศึกษา 3. ส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาครูและบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ กลุ่มบริหารงาน กลุ่มบริหารงานวิชาการ ผู้รับผิดชอบโครงการ นางสิรินทร์ นาคเพ็ชร์ นางสาวยุธารัตน์ สังข์สน และครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ระยะเวลาดำเนินการ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๗ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๘ ลักษณะโครงการ โครงการใหม่ ๑. หลักการและเหตุผล ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ของชาติเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและเสริมสร้าง บุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็นไทยเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน กระทรวงศึกษาธิการ มีนโยบายให้ความสำคัญเกี่ยวการจัดการศึกษาที่มีระบบ เพื่อพัฒนาเยาวชนไปสู่ความเป็นพลเมือง ที่มีความพร้อมสมบูรณ์แบบ สามารถดำรงตนในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข จึงได้กำหนดนโยบายสำคัญต่อการพัฒนาการ อ่านการเขียนของเยาวชนไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดกลยุทธ์พัฒนาคุณภาพทาง การศึกษา เพื่อเร่งรัด ส่งเสริมและพัฒนาการอ่าน การเขียนและยกระดับผลสัมฤทธิ์การเรียน ภาษาไทย ส่งเสริมให้ นักเรียนอ่านคล่อง เขียนคล่อง ใช้ภาษาไทยอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นพื้นฐานการเรียนรู้สาระอื่น เพื่อการศึกษาต่อใน ระดับสูงขึ้น และมีทักษะในการสื่อสาร สื่อความคิดได้ถูกต้องและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน การเขียนคัดลายมือเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนจนเกิดความชำนาญและถูกต้องตามรูปแบบ โรงเรียนอนุบาล เพชรบุรีกลุ่มงานวิชาการสาระการเรียนรู้ภาษาไทยตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมครู และบุคลากร ทางการศึกษาที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจในการเขียนคัดลายมือตามรูปแบบตัวอักษรหัวกลมกระทรวงศึกษาธิการ กลุ่ม สาระการเรียนรู้ภาษาไทยจึงได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้บังเกิดผลสำเร็จเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนานักเรียนต่อไปได้ อย่างยั่งยืน 2. วัตถุประสงค์ 2.1 เพื่อให้ครูพัฒนาการเขียนคัดลายมือตามรูปแบบตัวอักษรแบบกระทรวงศึกษาธิการได้ถูกต้อง 2.2 เพื่อให้นักเรียนพัฒนาการคัดลายมือตามรูปแบบที่ถูกต้อง 2.3 เพื่อส่งเสริมนักเรียนให้มีนิสัยรักการเขียน


Click to View FlipBook Version