-243-
สว่ นที่ 2 คุณภาพของกิจกรรมสรา้ งเสริมสุขภาพของโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำบล
กรณุ าให้คะแนนกิจกรรมสรา้ งเสริมสุขภาพของโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตำบลในพนื้ ทข่ี องท่าน
กจิ กรรม 1 2 3 45
นอ้ ยที่สดุ น้อย ปานกลาง มาก มากท่สี ุด
1. กจิ กรรมควบคมุ และปอ้ งกันโรคติดต่อ
2. กจิ กรรมทนั ตสาธารณสุข
3. กิจกรรมส่งเสรมิ สขุ ภาพประชาชน
4. การบริการการแพทยแ์ ผนไทย
ส่วนที่ 3 คุณภาพของบริการสุขภาพระดบั ปฐมภมู ิของโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำบล
กรุณาให้คะแนนบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ของ
ทา่ น
ประเด็น 1 2 34
ควรปรบั ปรงุ พอใช้ ดี ดีเลศิ
1. การเขา้ ถงึ บริการ
2. การมสี ่วนรว่ มออกแบบแผนการให้บริการ
3. มนษุ ยสัมพนั ธ์ของบคุ ลากร
4. อปุ กรณ์ทางการแพทย์
5. ความสะดวกในการนัดหมายแพทย์
6. ความน่าเช่อื ถอื ของแพทยแ์ ละบคุ ลากร
ส่วนที่ 4 คณุ ภาพของบริการดแู ลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ปว่ ยระยะยาว
กรุณาให้คะแนนบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาวของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบลในพนื้ ทีข่ องท่าน
กิจกรรม 1 2345
1. การบริการของบุคลากร น้อยทส่ี ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่ีสุด
2. ความสมำ่ เสมอในการเยยี่ มบา้ น/ผู้ปว่ ย
3. อปุ กรณ์และเคร่ืองมอื
4. ความนา่ เช่อื ถือของบุคลากร
-244-
สว่ นท่ี 5 การเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมเกยี่ วกับสขุ ภาพ
กรุณาระบุว่าในระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมเกี่ยวกับสุขภาพของท่านมีความเปลี่ยนแปลง
หรือไม่
พฤติกรรมสุขภาพ ใช่ ไม่ใช่
1. การเปลย่ี นแปลงพฤติกรรมการสบู บหุ รี่
2. การเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมการดืม่ สุราและเครือ่ งดม่ื แอลกอฮอล์
3. การออกกำลังกายอยา่ งสมำ่ เสมออย่างนอ้ ย 3-4 คร้ังต่อสัปดาห์
4. การรับประทานอาหารท่เี ปน็ ประโยชน์และถกู สขุ ลักษณะ
(งดและลดอาหารรสหวาน เค็ม และมนั )
ขอบพระคุณทกุ ทา่ นทใี่ หค้ วามร่วมมือตอบแบบสอบถามนี้
ภาคผนวก ฉ
ขอ้ เสนอเชิงนโยบายสำหรบั การวพิ ากษใ์ น 4 จงั หวดั
บันทกึ หลกั การและเหตผุ ล
ประกอบรา่ งประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่
เรอื่ ง แนวทางการขับเคลือ่ นภารกิจดา้ นสุขภาพขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั
พ.ศ...............
หลักการ
ใหม้ รี ะเบยี บกฎเกณฑว์ ่าด้วยกลไกการขับเคลือ่ นภารกจิ ด้านสุขภาพขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัดเพ่ือรองรบั
การถ่ายโอนโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำบลใหแ้ ก่องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น
เหตผุ ล
โดยที่มาตรา ๒๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
มีหน้าที่และอำนาจดูแลและจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนใน
ท้องถิ่นตามกฎหมายที่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับกลไกและขั้นตอนในการกระจายหน้าที่และอำนาจ ตลอดจน
งบประมาณและบุคลากรที่เกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นอาจร่วมดำเนินการกับหน่วยงานของรัฐเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนในท้องถ่ิน
ประกอบกับมาตรา ๑๗ (๓) (๘) (๑๙) (๒๔) (๒๕) และ (๒๙) ของพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอน
การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้บัญญัติให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด
จัดให้มีโรงพยาบาลจังหวัด การรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ และจัดทำกิจการอื่นใด
ที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นกำหนด โดยประสาน ให้ความร่วมมือ และอาจร่วมดำเนินการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอ่ืน
จึงสมควรกำหนดระเบียบว่าด้วยกลไกการขับเคลื่อนการสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิของ
องค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นอื่นและภาคประชาชน รวมทั้งกฎเกณฑ์และขั้นตอนการจัดทำแผนพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ
ในระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อรองรับการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและยกระดับ
การสาธารณสุขมูลฐานและการจัดบริการปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจังหวัดให้สอดคล้องกับบทบัญญัติ
แห่งพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ และพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ.
๒๕๖๒
-246-
(ร่าง)
ประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แกอ่ งค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่
เรอ่ื ง แนวทางการขบั เคลอื่ นภารกจิ ดา้ นสุขภาพขององคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวดั
พ.ศ...............
เพื่อให้การดำเนินการด้านสาธารณสุขมูลฐานและการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด ตามหน้าที่ อำนาจ และภารกิจที่ได้รับการถ่ายโอนเป็นไปในทิศทาง ยุทธศาสตร์ และเป้าหมาย
อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมุ่งเน้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในพื้นที่องค์การ
บริหารส่วนจังหวัด โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง เสริมสร้างความเป็นผู้นำและเจ้าของร่วมกัน
ในการขับเคลื่อนกิจการเกี่ยวกับการสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะ
ทางกาย จิต และสงั คมท่ีดีและมคี วามยง่ั ยืนสืบไป
อาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๒ (๔) มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๗ (๒๙) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดแผนและ
ขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ คณะกรรมการการกระจายอำนาจ
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงกำหนดแนวทางการขับเคลื่อนภารกิจด้านสุขภาพขององค์การบริหารส่วน
จงั หวัด ดังต่ อ่ ไปนี้
ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน
ทอ้ งถน่ิ เรื่อง แนวทางการขับเคลอื่ นภารกจิ ดา้ นสุขภาพขององค์การบริหารสว่ นจังหวดั ”
ข้อ ๒ ประกาศนใ้ี ห้ใชบ้ งั คับตงั้ แตว่ ันถดั จากประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป
ขอ้ ๓ ในประกาศนี้
“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น” หมายความว่า เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และองค์กร
ปกครองสว่ นท้องถนิ่ รูปแบบอื่นทีม่ ีกฎหมายจดั ตงั้
“สาธารณสุขมูลฐาน” หมายความว่า การบริการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานที่ประชาชนสามารถ
ดำเนินการได้ด้วยตนเองโดยมีผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุขในสังกัดองค์การบริหารส่วน
จังหวัดเป็นที่ปรึกษา มีกิจกรรมประกอบด้วยการป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพอนามัย การรักษาพยาบาล
อย่างง่าย การฟ้ืนฟูสภาพ และการคุม้ ครองผูบ้ รโิ ภค
“ระบบสุขภาพปฐมภูมิ” หมายความว่า กลไกและกระบวนการในการประสานความร่วมมือ
เพื่อจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน รวมทั้งการส่งต่อผู้รับบริการและการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง
หนว่ ยบรกิ ารทงั้ ระดับปฐมภูมิ ทุตยิ ภมู ิ และตตยิ ภูมิ
“แผนพฒั นา” หมายความว่า แผนพัฒนาสขุ ภาพระดบั พื้นท่ีขององคก์ ารบริหารส่วนจังหวัด
-247-
“สถานบริการสาธารณสุข” หมายความว่า สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา นวมินทราชินี
และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทไ่ี ด้รับการถา่ ยโอนให้แก่องคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั
“คณะอนุกรรมการ” หมายความว่า คณะอนุกรรมการกลุ่มพื้นที่สุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด
หมวด ๑
คณะกรรมการสุขภาพระดบั พื้นที่
ข้อ ๔ ในแต่ละองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับการถ่ายโอนสถานบริการสาธารณสุขให้มี
คณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการสุขภาพระดับพื้นที่” เรียกโดยย่อว่า “กสพ.” ซึ่งมีผู้ว่าราชการ
จงั หวัดเป็นท่ีปรึกษา
ให้ กสพ. ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
ที่ได้รับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นรองประธานกรรมการ
และทอ้ งถน่ิ จงั หวดั เปน็ กรรมการโดยตำแหนง่ และกรรมการอนื่ ซง่ึ ประธานแต่งต้งั จากบคุ คลดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนไม่เกินห้าคน ซึ่งอย่างน้อยต้องแต่งตั้งจากผู้บริหาร
เทศบาล จำนวนสองคน และผูบ้ รหิ ารองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวนสองคน
(๒) ผู้แทนสำนักงานหลักประกันสุขภาพเขตซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งนั้นตั้งอยู่ จำนวน
หน่งึ คน
(๓) ผู้แทนสถานพยาบาลของรัฐในพื้นที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวนไม่เกินสี่คน ซึ่งอย่างน้อย
ต้องแต่งตั้งจากผู้บริหารโรงพยาบาลศูนย์ จำนวนหนึ่งคน ผู้บริหารโรงพยาบาลทั่วไป จำนวนหนึ่งคน และ
ผ้บู รหิ ารโรงพยาบาลอำเภอ จำนวนหนึง่ คน
(๔) ผูแ้ ทนสาธารณสุขอำเภอ จำนวนหนึ่งคน
(๕) ผ้แู ทนสถานบรกิ ารสาธารณสุข จำนวนไมเ่ กนิ ห้าคน
(๖) ผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด
จำนวนไม่เกินหกคน ซึ่งอย่างน้อยต้องประกอบด้วยผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ จำนวน
หนึ่งคน ผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน จำนวนหนึ่งคน ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม จำนวนหนึ่งคน
และผู้ประกอบวชิ าชีพเภสชั กรรม จำนวนหนง่ึ คน และผู้ประกอบวิชาชพี การแพทยแ์ ผนไทย จำนวนหนึง่ คน
(๗) ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนสี่คน ประกอบด้วยบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านกฎหมาย
ดา้ นสาธารณสุข ด้านเศรษฐศาสตร์ และดา้ นการปกครองท้องถน่ิ ในสาขารัฐศาสตรห์ รอื รัฐประศาสนศาสตร์
(๘) ประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านระดับจังหวัด และผู้แทนประธานชมรม
อาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจำหมู่บ้านระดบั อำเภอ จำนวนอย่างน้อยสามคนแต่ไม่เกนิ หา้ คน
ใหป้ ลดั องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั เปน็ กรรมการและเลขานุการ
-248-
ให้ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุของค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือผู้อำนวยการกองสาธารณสุข
องค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้ากลุ่มพัฒนางานยุทธศาสตร์สาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
และหัวหน้ากลุ่มงานสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
เปน็ กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานุการ
ให้สำนักสาธารณสุของค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือกองสาธารณสุของค์การบริหารส่วนจังหวัด
เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ รับผิดชอบในงานเลขานุการของคณะกรรมการและประสานงาน
กับหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องกับ
การดำเนนิ งานของคณะกรรมการ ตลอดจนปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีอื่นตามท่ี กสพ. มอบหมาย
ขอ้ ๕ ให้ กสพ. มอี ำนาจและหน้าท่ี ดังตอ่ ไปน้ี
(๑) ส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลสถานบริการสาธารณสุขตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ
การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และรายงานผลการดำเนินงานในภาพรวมต่อ
คณะกรรมการการกระจายอำนาจใหแ้ ก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน อย่างน้อยปีละหน่งึ คร้งั
(๒) พิจารณาให้ความเห็นชอบและอนุมตั ิแผนพัฒนา
(๓) กำกับดแู ล ตดิ ตาม และประเมนิ ผลการดำเนนิ งานขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั ตามแผนพัฒนา
(๔) กำหนดเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาศักยภาพขององค์การบริหารส่วนจังหวัดในการจัดการ
และพัฒนากำลังคนและการบริหารการงบประมาณด้านสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ รวมทั้ง
การพัฒนาสถานบริการสาธารณสุขให้สอดคล้องกับมาตรฐานหน่วยบริการปฐมภูมิตามบทบัญญัติแห่ง
พระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. ๒๕๖๒ และมาตรฐานหน่วยบริการประจำตามข้อบังคับ
คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็น
หน่วยบรกิ ารและเครือข่ายหน่วยบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๕๘
(๕) ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในภารกิจด้านสาธารณสุขมูลฐานและระบบ
สขุ ภาพปฐมภมู ิขององคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั
(๖) กำหนดหลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณขององค์การบริหารส่วนจังหวัดและงบประมาณ
จากแหล่งอื่นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหาร
ส่วนจงั หวดั
(๗) ปฏิบัติงานอื่นใดตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
มอบหมาย
ข้อ ๖ การประชุม กสพ. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
จึงจะเป็นองคป์ ระชมุ
ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ในกรณีที่ประธานกรรมการไม่มาประชุมหรือไม่อาจ
ปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรม
การไมม่ าประชุมหรือไม่อาจปฏิบตั หิ น้าที่ได้ ให้ทป่ี ระชมุ เลอื กกรรมการคนหน่ึงเป็นประธานในทปี่ ระชุม
-249-
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน
ถา้ คะแนนเสียงเทา่ กนั ให้ประธานในทปี่ ระชุมออกเสยี งเพิ่มขนึ้ อีกเสียงหนงึ่ เปน็ ที่ยตุ ิ
ข้อ ๗ กรรมการตามข้อ ๔ วรรคสอง (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มีวาระการดำรงตำแหน่ง
คราวละสีป่ ีนับต้งั แตว่ นั ทีไ่ ด้รบั แต่งตั้ง และอาจไดร้ บั แตง่ ตง้ั อกี ได้
เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการข้ึนใหม่แทนให้กรรมการซึ่ง
พ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่เข้า
รบั หน้าท่ี
ขอ้ ๘ นอกจากการพน้ จากตำแหน่งตามวาระ กรรมการตามขอ้ ๔ วรรคสอง (๗) พน้ จากตำแหนง่ เมือ่
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ประธานมีคำสั่งให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่หรือมีความประพฤติเสื่อมเสียหรือหย่อน
ความสามารถ
ในกรณีที่กรรมการตามข้อ ๔ วรรคสอง (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) และ (๖) พ้นจากตำแหน่งที่ได้รับ
การแต่งตั้งเป็นผู้แทนของหน่วยงานนั้น ใหพ้ น้ จากการเปน็ กรรมการด้วย
ในกรณีท่ีกรรมการตามข้อ ๔ วรรคสอง (๘) พ้นจากตำแหน่งประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข
ประจำหมู่บ้านระดับจังหวัด และประธานชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านระดับอำเภอให้พ้นจาก
การเปน็ กรรมการดว้ ย
ในกรณีที่กรรมการตามข้อ ๔ วรรคสอง (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) พ้นจากตำแหน่ง
กอ่ นวาระตามวรรคหน่งึ ให้ประธานแตง่ ตงั้ กรรมการขน้ึ แทนตำแหน่งทว่ี ่างภายในสามเดอื น
ข้อ ๙ ในการดำเนินการตามข้อ ๕ วรรคหนึ่ง (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) และ (๗) กสพ. อาจแต่งต้ัง
คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการตามที่ กสพ. มอบหมายได้ตามความจำเป็น
และสอดคล้องกับอำนาจและหนา้ ที่ของ กสพ.
กสพ. อาจแต่งตั้งบุคคลผู้มีความรู้หรือประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษา
พิเศษของ กสพ. เพือ่ ใหค้ ำแนะนำเก่ียวกับการดำเนนิ งานตามอำนาจหน้าทีข่ อง กสพ. ด้วยได้
การประชมุ คณะอนกุ รรมการหรอื คณะทำงาน ใหเ้ ปน็ ไปตามที่ กสพ. กำหนด
ข้อ ๑๐ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางของกรรมการ ค่าใช้จ่ายใน
การประชมุ และค่าใชจ้ ่ายอื่นทเ่ี กย่ี วข้องกับการดำเนนิ งานของ กสพ.
-250-
หมวด ๒
กลุ่มพนื้ ท่สี ขุ ภาพปฐมภมู ิขององคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั
ข้อ ๑๑ ให้ กสพ. จัดตั้งกลุ่มพื้นที่สุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยแต่ละกลุ่มพื้นที่
รับผดิ ชอบดแู ลสถานบริการสาธารณสุขจำนวนอยา่ งนอ้ ยสบิ แหง่ แตไ่ ม่เกินสบิ ห้าแหง่ ขึ้นอย่กู บั ความเหมาะสม
ของสภาพพนื้ ที่
ในแต่ละกลุ่มพื้นที่สุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้มี “คณะอนุกรรมการกลุ่มพื้นที่
สุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจังหวัด” โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด สาธารณสุขอำเภอ และ
ผู้แทนโรงพยาบาลอำเภอในเขตสุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวนอย่างน้อยหนึ่งคน
เป็นที่ปรึกษาและกรรมการอื่นประกอบด้วย ผู้อำนวยการสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับเลือกจาก
ผู้อำนวยการสถานบริการสาธารณสุขอื่นในพื้นที่ เป็นประธานกรรมการ และกรรมการอื่นอีกจำนวนไม่เกินสิบ
คนซึง่ กสพ. แตง่ ตัง้ จากบุคคลต่อไปน้ี
(๑) ผู้แทนสถานบริการสาธารณสุขภายในเขตสุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน
ไม่เกินสามคน
(๒) ผู้แทนภาคเอกชน จำนวนไม่เกินสามคน โดยคัดเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และ
สาธารณสขุ และผ้ปู ระกอบกิจการด้านสุขภาพหรอื สาธารณสุข เปน็ กรรมการ
(๓) ผแู้ ทนอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจำหมูบ่ ้าน จำนวนไม่เกินสามคน เปน็ กรรมการ
ให้ข้าราชการสำนักสาธารณสุของค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือกองสาธารณสุของค์การบริหารส่วน
จังหวัด ระดับชำนาญการพเิ ศษข้นึ ไป ท่ีได้รับมอบหมายจาก กสพ. เป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้สำนักงานเลขานุการคณะกรรมการกลุ่มพื้นที่สุขภาพปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
มีสถานะเป็นกลุ่มงานภายในสำนักสาธารณสุของค์การบริหารส่วนจังหวัดหรือกองสาธารณสุของค์การบริหาร
ส่วนจังหวดั ตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกลางข้าราชการองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั กำหนด
ให้นำความในขอ้ ๖ มาใช้บงั คบั กับการประชมุ ของคณะอนกุ รรมการด้วยโดยอนุโลม
ข้อ ๑๒ กรรมการตามข้อ ๑๑ วรรคสอง (๒) ต้องมีสัญชาติไทยและมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์
มีทอ่ี ยหู่ รอื ปฏิบตั งิ านอยใู่ นกล่มุ พน้ื ท่สี ขุ ภาพปฐมภูมิขององค์การบริหารส่วนจงั หวัด
ในกรณีที่มีความจำเป็นหรือเห็นสมควรเพื่อประโยชน์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด กสพ.
อาจแต่งต้งั กรรมการซงึ่ มิใชบ่ คุ คลสัญชาติไทยได้ โดยบุคคลนัน้ ต้องมีที่อยูใ่ นพน้ื ที่นัน้ มาไม่นอ้ ยกวา่ หา้ ปี
ข้อ ๑๓ กรรมการตามข้อ ๑๑ วรรคสอง (๑) (๒) และ (๓) มีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับ กสพ. และ
อาจได้รบั แต่งตง้ั อกี ได้
-251-
เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่แทนให้กรรมการ
ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่
เขา้ รบั หน้าท่ี
ข้อ ๑๔ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการตามข้อ ๑๑ วรรคสอง (๒) และ (๓) พ้นจาก
ตำแหนง่ เมอ่ื
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) กสพ. มีคำสั่งให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่หรือมีความประพฤติเสื่อมเสียหรือหย่อน
ความสามารถ
ในกรณีที่กรรมการตามข้อ ๑๑ วรรคสอง (๑) พ้นจากตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทน
สถานบรกิ ารสาธารณสขุ น้นั ใหพ้ ้นจากการเป็นกรรมการด้วย
ในกรณีที่กรรมการตามข้อ ๑๑ วรรคสอง (๑) (๒) และ (๓) พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระตามวรรคหน่ึง
ให้ กสพ. แต่งตัง้ กรรมการขึน้ แทนตำแหนง่ ทวี่ า่ งภายในสามเดอื น
ข้อ ๑๕ ให้คณะอนุกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการตามที่ กสพ.
มอบหมายไดต้ ามความจำเปน็ และสอดคล้องกับอำนาจและหนา้ ทีข่ องคณะอนกุ รรมการ
คณะอนุกรรมการอาจแต่งตั้งบุคคลผู้มีความรู้หรือประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่
เป็นที่ปรึกษาพิเศษของคณะอนุกรรมการเพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานตามอำนาจและหน้าที่ของ
คณะอนุกรรมการ
การประชมุ คณะอนกุ รรมการหรือคณะทำงาน ให้เป็นไปตามทคี่ ณะอนกุ รรมการกำหนด
ข้อ ๑๖ ใหค้ ณะอนุกรรมการมีอำนาจและหนา้ ที่ ดังต่อไปน้ี
(๑) ดำเนนิ การใหเ้ ปน็ ไปตามแผนพฒั นาและนโยบายของ กสพ. ตามขอ้ ๕ (๔)
(๒) แต่งตั้งกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุข และกำกับดูแลการดำเนินงานของสถานบริการ
สาธารณสุขในพืน้ ท่ีและรายงานผลการดำเนนิ งานตอ่ กสพ. ทุกหกเดือน
(๓) กำหนดแผนงานและเป้าหมายในการพัฒนางานด้านสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ
ในระดบั พน้ื ท่ีให้สอดคล้องกบั แผนพัฒนาและนโยบายของ กสพ. ตามขอ้ ๕ (๔) โดยคำนงึ ถึงความเหมาะสมกบั
สภาพข้อเท็จจรงิ และสภาพปัญหาในพนื้ ท่ี
(๔) ขับเคลื่อนให้มีการดำเนินการตามแผนพัฒนาและนโยบายของ กสพ. ตามข้อ ๕ (๔) และแผนงาน
และเป้าหมายตาม (๓) ให้เกิดการบูรณาการร่วมกันของสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ในด้านทรัพยากร
บุคลากร งบประมาณและภารกจิ ภายใต้อำนาจหนา้ ทขี่ ององค์การบริหารสว่ นจังหวดั
(๕) ขับเคลื่อนให้มีการยกระดับสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่ให้เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ
ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. ๒๕๖๒ และหน่วยบริการประจำตามข้อบังคับ
-252-
คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็น
หน่วยบริการและเครือข่ายหน่วยบริการ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยให้สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทาง
การดำเนินงานท่ี กสปจ. กำหนด
(๖) ประสานงานหรือร่วมมือกับคณะอนุกรรมมการอื่น หรือหน่วยงานอื่นทั้งในและนอกเขตพื้นท่ี
องค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเน้น
ให้เกิดการบูรณาการในการดำเนนิ งานไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ
(๗) ปฏบิ ัติการอ่ืนใดตามที่ กสพ. มอบหมาย
ข้อ ๑๗ เมื่อคณะอนุกรรมการจัดทำหรือแก้ไขแผนงานหรือเป้าหมายตามข้อ ๑๖ (๓) แล้ว ให้ กสพ.
ส่งแผนงานหรือเป้าหมายดังกล่าว ให้ กสพ. ในการนี้ ให้ประธาน กสพ. และคณะกรรมการพิจารณาสนับสนุน
ตามสมควร เพื่อให้คณะอนุกรรมการและสถานบริการสาธารณสุขในพื้นที่สามารถดำเนินการตามแผนงานหรือ
เป้าหมายดังกลา่ วได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
ให้คณะอนุกรรมการทบทวนแผนงานหรือเป้าหมายตามข้อ ๑๖ (๓) อย่างน้อยทุกสองปี หรือเมื่อมี
ขอ้ เทจ็ จรงิ หรือสถานการณเ์ ปล่ยี นแปลง
ข้อ ๑๘ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายในการประชุม
และค่าใช้จ่ายอ่ืนทเ่ี กยี่ วข้องกบั การดำเนินงานของคณะอนกุ รรมการ
หมวด ๔
คณะกรรมการบรหิ ารสถานบริการสาธารณสขุ ที่ไดร้ ับการถ่ายโอนให้แกอ่ งคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั
ข้อ ๑๙ ให้แต่ละสถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด
มี “คณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุข” โดยมีหัวหน้าหรือผู้อำนวยการสถานบริการสาธารณสุข
เป็นประธานโดยตำแหน่ง และกรรมการอื่นอีกจำนวนไม่เกินเจ็ดคน ซึ่งคณะอนุกรรมการแต่งตั้งจากบุคคล
ตอ่ ไปนี้
(๑) ผู้แทนข้าราชการและเจ้าหน้าทีส่ ถานบรกิ ารสาธารณสขุ จำนวนไม่เกนิ สองคน
(๒) ผ้แู ทนอาสาสมคั รสาธารณสุขประจำหมบู่ า้ น จำนวนไมเ่ กนิ สีค่ น
ให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่สถานบริการสาธารณสุขที่ได้รับมอบหมายจากประธาน เป็นกรรมการ
และเลขานุการ
ให้นำความในข้อ ๖ มาใช้บังคับกับการประชุมของคณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุขด้วย
โดยอนุโลม
ข้อ ๒๐ ให้กรรมการตามข้อ ๑๙ วรรคหนึ่ง (๑) และ (๒) มีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับ กพป. และ
อาจได้รับแตง่ ตง้ั อกี ได้
-253-
เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่แทนให้กรรมการ
ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับแต่งตั้งใหม่
เขา้ รับหนา้ ท่ี
ข้อ ๒๑ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการตามข้อ ๑๙ วรรคหนึ่ง (๒) และ (๓) พ้นจาก
ตำแหน่งเม่อื
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) คณะอนุกรรมการมีคำสั่งให้ออกเพราะบกพร่องต่อหน้าที่หรือมีความประพฤติเสื่อมเสียหรือหย่อน
ความสามารถ
ในกรณีที่กรรมการตามข้อ ๑๙ วรรคหนึ่ง (๑) พ้นจากตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนข้าราชการ
และเจ้าหนา้ ที่สถานบริการสาธารณสุขนั้น ให้พ้นจากการเป็นกรรมการด้วย
ในกรณีที่กรรมการตามข้อ ๑๙ วรรคหนึ่ง (๑) และ (๒) พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระตามวรรคหนึ่ง
ให้คณะอนกุ รรมการแต่งต้งั กรรมการขึ้นแทนตำแหน่งที่วา่ งภายในสามเดอื น
ข้อ ๒๑ คณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุขอาจแต่งตั้งบุคคลผู้มีความรู้หรือประสบการณ์
ที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุขเพื่อให้
คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานตามอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุข
ดว้ ยได้
ข้อ ๒๒ ใหค้ ณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสขุ มอี ำนาจและหน้าท่ี ดังตอ่ ไปน้ี
(๑) พิจารณาอนุมัติยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพประชาชนของสถานบริการสาธารณสุข และขอ
ความเหน็ ชอบตอ่ คณะอนุกรรมการ
(๒) กำกับการดำเนินงานของสถานบริการสาธารณสุขให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพ
ประชาชนของสถานบริการสาธารณสุข รวมทั้งแผนพัฒนาและนโยบายของ กสพ. และคณะอนุกรรมการและ
ความตอ้ งการของชุมชนและท้องถน่ิ
(๓) ส่งเสรมิ และสนบั สนุนการดำเนินงานด้านตา่ ง ๆ ของสถานบริการสาธารณสุข
(๔) ปฏิบัตหิ นา้ ทีอ่ ่นื ตามท่ี กสพ. และคณะอนกุ รรมการมอบหมาย
-254-
หมวด ๔
แผนพฒั นาสขุ ภาพระดับพืน้ ที่ขององค์การบริหารสว่ นจงั หวัด
ข้อ ๒๓ ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดจัดทำ “แผนพัฒนาสุขภาพระดับพื้นที่ขององค์การบริหารส่วน
จังหวัด” และดำเนินการส่งให้หน่วยงานจัดทำแผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนำไปบรรจุไว้ใน
แผนพัฒนาองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยกำหนดห้วงเวลาของแผนพัฒนาให้สอดคล้องกับห้วงเวลาของ
แผนพฒั นาขององคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั
ใหป้ ระธาน กสพ. เป็นผปู้ ระกาศใชแ้ ผนพฒั นา โดยขอความเห็นชอบต่อ กสพ.
ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดทบทวนแผนพัฒนาทุกสองปี หรือเมื่อมีข้อเท็จจริงหรือสถานการณ์
เปลี่ยนแปลง โดยเมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดจัดทำ เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงแผนพัฒนาแล้ว ต้องได้รับ
ความเห็นชอบจาก กสพ.
ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรูปแบบและวิธีการจัดทำแผนพัฒนาสาธารณสุขจังหวัดของกระทรวง
สาธารณสขุ มาใชโ้ ดยอนุโลม
ข้อ ๒๔ เพื่อให้แผนพัฒนานำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
และชุมชน ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดใช้แผนพัฒนาเป็นแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาขององค์การ
บริหารส่วนจังหวัด เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ข้อบัญญัติ
งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และการใช้จ่ายเงินสะสมขององค์การบริหารส่วนจังหวัด และให้สถานบริการ
สาธารณสุขใช้แผนพัฒนาเป็นแนวทางในการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพประชาชนของสถานบริการ
สาธารณสุขและแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณของสถานบริการสาธารณสุขเพื่อใช้เป็นกรอบในการใช้จ่าย
จากเงินบำรุงสถานบรกิ ารสาธารณสขุ
ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำโครงการที่อยู่ในแผนพัฒนาของปีงบประมาณใดไปจัดทำเป็น
โครงการในข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย การใช้จ่ายจากเงินสะสมขององค์การบริหารส่วนจังหวัด และ
แผนปฏิบัตกิ ารประจำปงี บประมาณของสถานบริการสาธารณสขุ ของปีงบประมาณน้ัน
หากองค์การบริหารส่วนจังหวัด และ/หรือ สถานบริการสาธารณสุข มีความจำเป็นต้องนำโครงการ
ของปีงบประมาณอื่นมาจัดทำเป็นโครงการในข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย การใช้จ่ายจากเงินสะสมของ
องค์การบริหารส่วนจังหวัด และ/หรือแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณของสถานบริการสาธารณสุข
ใหด้ ำเนนิ การเพมิ่ เตมิ หรอื เปลีย่ นแปลงแผนพฒั นากอ่ น
ข้อ ๒๕ ให้สถานบริการสาธารณสุขนำแผนพัฒนามาปรับปรุงเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพ
ประชาชนของสถานบริการสาธารณสุข โดยกำหนดห้วงเวลาให้สอดคล้องกับห้วงเวลาของแผนพัฒนาของ
องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั
ให้สถานบริการสาธารณสุขกำหนดสาระสำคัญของยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพประชาชนของสถาน
บริการสาธารณสุขให้สอดคล้องกับมาตรฐานหน่วยบริการตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติหลักประกัน
สุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ และพระราชบัญญตั ริ ะบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. ๒๕๖๒
-255-
ให้สถานบริการสาธารณสุขนำรูปแบบและวิธีการจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริม
สขุ ภาพตำบลของกระทรวงสาธารณสขุ มาใชโ้ ดยอนุโลม
ให้สถานบริการสาธารณสุขเสนอร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพประชาชนของสถานบริการ
สาธารณสุขต่อคณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุขพิจารณาอนุมัติ และเสนอคณะอนุกรรมการให้
ความเหน็ ชอบ
ให้หัวหน้าหรือผู้อำนวยการสถานบริการสาธารณสุขประกาศใช้ยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพ
ประชาชนของสถานบริการสาธารณสุขที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุข
และคณะอนกุ รรมการให้ประชาชนทราบโดยทว่ั กนั
ให้สถานบริการสาธารณสุขจัดส่งยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพประชาชนของสถานบริการสาธารณสุข
ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารสถานบริการสาธารณสุขและคณะอนุกรรมการและประกาศใช้
แล้วให้ กสพ.
สถานบริการสาธารณสุขสามารถจัดทำ เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพ
ประชาชนของสถานบริการสาธารณสุขได้ โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารสถาน
บริการสาธารณสุขและคณะอนุกรรมการก่อนการประกาศใช้ เมื่อสถานบริการสาธารณสุขประกาศใช้
ยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพประชาชนของสถานบริการสาธารณสุขที่จัดทำ เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลงแล้ว
ให้สถานบริการสาธารณสุขส่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้ กสพ. ทุกครั้งที่มีการจัดทำ เพิ่มเติม หรือเปลี่ยนแปลง
เพื่อรวบรวมยุทธศาสตร์การพัฒนาสุขภาพประชาชนของสถานบริการสาธารณสุขไว้สำหรับการตรวจสอบ และ
การนเิ ทศ ติดตาม และประเมินผลตอ่ ไป
ข้อ ๒๖ ให้ประธาน กสพ. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจประสานแผนพัฒนาการสาธารณสุข
มูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัด.... โดยมีนายกองค์การบริหาร
ส่วนจังหวัดเป็นประธาน ผู้บริหารของทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดหรือผู้แทน เป็นกรรมการ
ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ผู้อำนวยการกองแผนและงบประมาณ
องค์การบริหารส่วนจังหวัด และผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุขหรือกองสาธารณสุของค์การบริหารส่วนจังหวัด
เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานกุ าร ท้งั น้ี ใหน้ ายแพทยส์ าธารณสุขจังหวัดและทอ้ งถนิ่ จงั หวดั เป็นท่ีปรึกษา
ให้ กสพ. จัดประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจประสานแผนพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานและระบบ
สุขภาพปฐมภูมิขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัด.... โดยให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขต
จังหวัดนำแผนงานด้านสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตนเองมาร่วมกันประสานและบูรณาการ
จัดทำเป็นแผนพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ........ ขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถ่ินในเขตจงั หวัด.....
ให้ กสพ. นำรูปแบบ แนวทาง และหลักเกณฑ์การจัดทำและประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์กร
ปกครองสว่ นท้องถิน่ ที่กระทรวงมหาดไทยกำหนดมาใชโ้ ดยอนุโลม
-256-
ให้ประธาน กสพ. เป็นผู้ประกาศใช้แผนพัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานและระบบสุขภาพปฐมภูมิ
พ.ศ........ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัด..... โดยความเห็นชอบของ กสพ. และจัดส่ง
แผนดงั กลา่ วใหค้ ณะกรรมการสาธารณสขุ จังหวดั ต่อไป
ข้อ ๒๗ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการการกระจายอำนาจ
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัดและ กสพ. กำกับดูแลให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดดำเนินการ
จัดทำแผนพัฒนา และนำแผนพัฒนาเป็นแนวทางในการจัดทำแผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัด
เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
และการใช้จ่ายจากเงินสะสมขององค์การบริหารส่วนจังหวัด และให้สถานบริการสาธารณสุขใช้ยุทธศาสตร์
การพัฒนาสุขภาพประชาชนของสถานบริการสาธารณสุขเป็นแนวทางในการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี
งบประมาณของสถานบรกิ ารสาธารณสุข เพ่อื ใชเ้ ป็นกรอบในการใช้จา่ ยจากเงนิ บำรงุ สถานบรกิ ารสาธารณสขุ
หากองค์การบริหารส่วนจังหวัดและสถานบริการสาธารณสุขใดไม่ปฏิบัติตามประกาศนี้
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้กำกับดูแล พิจารณาสอบสวนข้อเท็จจริงและรายงานผลต่อคณะกรรมการ
การกระจายอำนาจใหแ้ ก่องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ภายใน ๓๐ วัน
ข้อ ๒๘ ภายในสี่ปีแรกหลังจากได้รับการถ่ายโอนสถานบริการสาธารณสุข ให้องค์การบริหาร
ส่วนจังหวัดนำแผนยทุ ธศาสตร์พัฒนาสขุ ภาพจงั หวดั มาปรับใชเ้ ปน็ แผนพัฒนาโดยอนุโลม
ข้อ ๒๙ ให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรักษาการตาม
ประกาศนี้ และให้มีอำนาจตีความวินิจฉัยปัญหา กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีปฏิบัติเพื่อดำเนินการให้เป็นไป
ตามประกาศนี้
ในกรณีที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติท่ี
กำหนดในวรรคหนึ่ง ให้ขอทำความตกลงกับคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน
ทอ้ งถน่ิ กอ่ นการปฏบิ ัติ
ประกาศ ณ วันที่..........................................................
()
ประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น
ภาคผนวก ช
รายงานการวเิ คราะหต์ น้ ทุนค่าใช้จา่ ย
ของกลุม่ ตัวอยา่ งโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตำบล
-258-
-259-
-260-
-261-
-262-
-263-
-264-
-265-
-266-
-267-
-268-
-269-
-270-
-271-
-272-
-273-
-274-
-275-
-276-
-277-
-278-
-279-
-280-
ภาคผนวก ซ
การรับรองผลงานวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชน์
-282-
-283-
การกระจายอํานาจ = การคืนอาํ นาจ
สกู่ ารจัดการตนเองของชมุ ชน ท้องถนิ และสังคม
แม้การกระจายอาํ นาจจะเปนกลยทุ ธท์ ีนานาอารยประเทศ
ตา่ งเลอื กใช้ในการเสรมิ สร้างรากฐานประชาธปิ ไตย
ในระดบั ชมุ ชนท้องถนิ แต่หากขันตอนการถา่ ยโอนอาํ นาจ
จากสว่ นกลางสู่ท้องถินไม่เปนไปอยา่ งรอบคอบกย็ อ่ มทําให้
คณุ ภาพในการให้บริการสาธารณะลดลงและกอ่ ให้
เกิดความเหลอื มลําทางดา้ นเศรษฐกิจและสงั คม
"รบั ใชป้ ระชาคือ ปลายทางเราทีเล่าเรยี น"
วิทยาลัยสหวทิ ยาการ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์
https://ci.tu.ac.th/