The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nathanop.ppetu, 2022-04-16 13:43:15

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการสังเคราะห์ข้อเสนอและออกแบบเชิงนโยบายการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบลให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด

สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)

Keywords: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล,องค์การบริหารส่วนจังหวัด,การกระจายอำนาจด้านสุขภาพ,ระบบสุขภาพปฐมภูมิ

-104-

จังหวัด (คปสจ.) และคณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คสปอ.) เปNนกลไกสำคัญใน
การสื่อสารเกี่ยวกับนโยบาย แผนงาน และโครงการต4าง ๆ ระหว4างกระทรวงสาธารณสุขและองคBกรปกครอง
ส4วนท#องถิ่น แต4คณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขระดับจังหวัด (คปสจ.) และคณะกรรมการประสานงาน
สาธารณสุขระดับอำเภอ (คสปอ.) ในหลายจังหวัดยังจำเปNนต#องได#รับการพัฒนาให#มีความเข#มแข็งเพื่อให#
สามารถเปNนเวทีแลกเปลี่ยนเรียนร#ู (Learning Platform) สำหรับโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับ
การถ4ายโอนแลว# และโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลทยี่ ังอย4ูในสงั กัดกระทรวงสาธารณสุข

กลไก คปสจ. กับ คปสอ. เปNนแพลตฟอรBมสำคัญมากในการสื่อสารนโยบายและ
ถ4ายทอดตัวชี้วัดให#แก4 รพ.สต. และสถานพยาบาลในระดับพื้นที่ หลายปvก็ต#องยอมรับ
ว4า คปสจ. กับ คปสอ. ยังไม4เข#มแข็งเท4าทุกวัน แต4ปbจจุบัน จังหวัดเราใช#กลไกนี้ใน
การสื่อสารนโยบายและถ4ายทอดตัวชี้วัดให#ท#องถิ่นที่รับถ4ายโอน รพ.สต. ไปแล#ว
เนื่องจากเรามี รพ.สต. ที่ถ4ายโอนค4อนข#างจะเยอะ มากกว4าจังหวัดใกล#เคียง
จึงจำเปNนต#องสื่อสารกันเปNนประจำและพยายามเชื่อมประสานกับท#องถิ่นไม4ให#
งานดา# นสาธารณสุขกลายเปNนเบยี้ หวั แตก

คำให%สมั ภาษณ-ตวั แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด [รหสั 4A])
วิชาชีพสาธารณสุขทำงานกันเปNนเครือข4าย ถึงจะถ4ายโอนไปอยู4ไหน สุดท#ายก็ต#อง
ทำงานร4วมกันอยู4ดี ถ#ายังอยู4ในพื้นที่เดียวกัน ฉะนั้น กลไก คปสจ. กับ คปสอ. สำคัญ
มากเพราะเปNนเวทีให#ได#พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน แล#วก็รับฟbงนโยบายจากส4วนกลาง
กับ สสจ. แต4เท4าที่ได#รับข#อมูลมา บางจังหวัดก็ยังไม4เข#มแข็งเท4าไร คือ คนรับผิดชอบ
เรื่อง คปสจ. ก็ต#องประสานงานเปNน มีข#อมูล มีความรู#ในระดับหนึ่ง ถึงจะออกนิเทศ
งานให#หน4วยงานในพื้นที่ได# แต4บางจังหวัด ก็ต#องยอมรับว4า ผู#รับผิดชอบฝvมือยังไม4ถึง
ก็ตอ# งพฒั นาตอ4 ไปให# คปสจ. คปสอ. เขม# แขง็

คำให%สัมภาษณส- าธารณสุขอำเภอ [รหสั 5A]
ปกติ คปสอ. นายก [นายกเทศมนตรี] เขาก็ไม4ไปประชุมหรอก เปNนผม [ผอ.รพ.สต.]
ไปประชุม ความจริงก็ต#องยอมรับ มันไม4ได#แตกต4างไปจากตอนอยู4กับกระทรวง
สาธารณสุขมาก เพื่อน ๆ ที่ รพ.สต. ข#างเคียงก็ยังหน#าเดิม ๆ แต4ก็มีความแตกต4าง
อยู4บ#าง คือ พอเราย#ายมาท#องถิ่น เรื่องตัวชี้วัดเยอะ ๆ เราก็ทำน#อยลง เน#นลงพื้นท่ี
มากขึ้น แต4เวลา สสอ. ขอความร4วมมือ เราก็พยายามทำให#เต็มที่ครับ สรุปคือ
ถ4ายโอนมาแล#วก็ไม4ได#แตกต4างมากจากตอนที่อยู4กระทรวง คปสอ. ก็ประชุม
เหมือนเดมิ การทำงานของหมออนามัยอย4ทู ีไ่ หนกท็ ำงานได#

คำให%สัมภาษณ-ของผู%อำนวยการโรงพยาบาลสAงเสริมสุขภาพตำบล
ท่ไี ด%รบั การถAายโอนใหอ% งคก- รปกครองสวA นทอ% งถิน่ แล%ว [รหัส 2F]

-105-

นอกจากนี้ ผู#วิจัยพบว4า ในหลายพื้นที่ ผู#บริหารขององคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นที่ได#รับถ4ายโอน
โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลได#รับแต4งตั้งเปNนกรรมการในคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ
(พชอ.) ซึ่งเปNนคณะกรรมการที่แต4งตั้งขึ้นตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว4าด#วยการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับ
พื้นที่ พ.ศ. 2561 ซึ่งมีนายอำเภอเปNนประธานและสาธารณสุขอำเภอเปNนเลขานุการ โดยตัวแทนผู#บริหาร
องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นที่ดำรงตำแหน4งในคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอเห็นว4า เปNนกลไก
ที่สำคัญในการบูรณาการความร4วมมือของทุกหน4วยงานในพื้นที่อำเภอเกี่ยวกับแผนงานและโครงการด#าน
สขุ ภาพซงึ่ เปนN องคBประกอบสำคญั ของการพัฒนาคุณภาพชวี ติ ประชาชน

เราทำงานร4วมกับ สสอ. อย4างใกล#ชิดใน พชอ. การทำงานแบบเกื้อกูลกัน คือ เทศบาล
เรามีงบประมาณและมีกำลังคน ส4วน สสอ. มีองคBความรู# เราก็มาทำงานร4วมกัน ไม4ใช4
เฉพาะเรื่องคุณภาพชีวิตทั่วไป แต4ยังรวมถึงเรื่องการพัฒนาสถานีอนามัยที่เรารับถ4าย
โอนมาด#วย ก็ถือว4าเปNนสิ่งที่ดีขึ้นกว4าเมื่อตอนเรารับถ4ายโอนสถานีอนามัยมาใน
ตอนแรกทีไ่ ม4มีเวทใี หพ# วกเราไดม# าพูดคุยและทำงานร4วมกัน

คำให%สมั ภาษณ-ของผ%บู รหิ ารองค-กรปกครองสวA นท%องถิน่ [รหสั 1E]
พชอ. เปNนแนวคิดที่ดีแต4กรรมการ พชอ. ควรมีที่มาที่ไปที่เปNนประชาธิปไตยมากกว4านี้
คือ ตอนน้ีระเบยี บสำนกั นายกรฐั มนตรี ฯ ใหน# ายอำเภอแตง4 ต้งั กรรมการ ถา# นายอำเภอ
ดีและ ไม4ขัดแย#งกับพื้นที่และท#องถิ่น ก็ไม4มีปbญหาอะไร แต4ก็ไม4ใช4จะเกิดขึ้นกับ
ทุกอำเภอ อย4างไรก็ตาม ผมว4า พชอ. ช4วยเหลือในการประสานงานระหว4างหน4วยงาน
ในพื้นที่ได#ดี เรื่องสุขภาพก็เปNนเรื่องคุณภาพชีวิต ฉะนั้น มันต#องทำงานแบบบูรณาการ
กัน

คำใหส% มั ภาษณข- องผู%บรหิ ารองคก- รปกครองสAวนทอ% งถ่นิ [รหสั 2E]
คำสัมภาษณBข#างต#นสะท#อนการทำงานเชิงบูรณาการของส4วนราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและ
องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นในพื้นที่ทำให#เกิดการแบ4งบทบาทหน#าที่ขององคาพยพในระบบสุขภาพอย4างชัดเจน
กล4าวคือ องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นที่ได#รับถ4ายโอนโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลปฏิบัติหน#าที่ผู#ให#บริการ
สุขภาพระดับปฐมภูมิ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอปฏิบัติหน#าที่ส4งเสริม
และสนับสนุนทางด#านวิชาการแก4หน4วยบริการ และประสานงานเชื่อมโยงระหว4างหน4วยงานกำหนดนโยบาย
ในราชการบริหารส4วนกลางกับหน4วยงานในพื้นที่ ดังนั้น พัฒนาการด#านผลลัพธBสุขภาพประชากรขององคBกร
ปกครองส4วนท#องถิ่นจึงไม4ใช4ผลงานขององคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแต4เพียงฝeายเดียว แต4เปNนเครื่องบ4งชี้
พัฒนาการของระบบบริหารงานภาครัฐในระดับพื้นที่ซึ่งเปNนรูปแบบ “เครือข4ายในแนวราบ (Horizontal
Network)” ทั้งการทำงานในรูปแบบคณะกรรมการต4าง ๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะคณะกรรมการประสานงาน
สาธารณสุขระดับจังหวัด (คปสจ.) คณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คสปอ.) และ
คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) ตลอดจนความสัมพันธBอย4างไม4เปNนทางการระหว4าง
ส4วนราชการในสงั กดั กระทรวงสาธารณสุขกบั องคBกรปกครองสว4 นทอ# งถ่นิ

-106-

จากข#อมูลข#างต#นสอดคล#องกับผลการศึกษาในส4วนต4อไป (ข#อที่ 4.2 ข#อย4อยที่ 6.4) ความสัมพันธBกับ
หน4วยงานอื่นภายนอกองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น) ซึ่งสะท#อนสัมพันธภาพในการปฏิบัติหน#าที่ระหว4างองคBกร
ปกครองส4วนท#องถิ่นกับหน4วยงานอื่นในพื้นที่โดยเฉพาะหน4วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและ
คณะกรรมการระดับพื้นที่ชุดต4าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส4งเสริม สนับสนุน และพัฒนางานด#านสุขภาพอนามัยและ
คุณภาพชีวติ ของประชาชน

4.2 ผลการวิเคราะห์ระบบการบริหารจัดการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับ
การถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระหว่างปี พ.ศ. 2551-2563 โดยใช้แนวคิด
“6 องคป์ ระกอบของระบบสุขภาพ (Six Building Blocks of Health Systems)”

ในส4วนนี้ ผู#วิจัยใช#แนวคิด “6 องคBประกอบของระบบสุขภาพ (Six Building Blocks of Health
Systems) ขององคBการอนามัยโลก (WHO) เพื่อวิเคราะหBการบริหารจัดการโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบล
ที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น ซึ่งเปNนแนวคิดที่ใช#ประเมินระบบสุขภาพในภาพรวม
ที่ประกอบด#วยการสร#างเสริมสุขภาพ การควบคุมและปäองกันโรคติดต4อ และการให#บริการสุขภาพระดับ
ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ อย4างไรก็ตาม แม#โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลจะเปNนเพียงส4วนหนึ่งของ
ระบบสุขภาพ แต4ผู#วิจัยจะใช#แนวคิด “6 องคBประกอบของระบบสุขภาพ” เพื่อวิเคราะหBปbจจัยนำเข#า (Input)
และระบบสนับสนุน (Support System) โดยเปรียบเทียบโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ4ายโอนแล#ว
และท่ยี ังไมไ4 ดร# บั การถ4ายโอนให#แกอ4 งคกB รปกครองสว4 นทอ# งถนิ่

4.2.1 การให้บรกิ าร
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลระหว่างปี พ.ศ. 2551-
2563 ในภาพรวมมีระบบการให้บริการสุขภาพมีปริมาณเพิ่มขึ้นหรือเท่ากับก่อนการถ่ายโอนการให้บริการ
สุขภาพที่เพิ่มขึ้น คือ การให้บริการผู้ป่วยนอกมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น 27 แห่ง (ร้อยละ 45) ในขณะที่การให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
การบริการดูแลสุขภาพผู้ป่วยที่บ้าน (Home Care) และการดูแลสุขภาพระยะยาว (Long-term Care)
มีปริมาณเท่ากับกอ่ นการถ่ายโอน (ตารางท่ี 4-3)
ตารางที่ 4-3 ปริมาณการบริการสุขภาพให้แก่ประชาชนของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเชิง

เปรียบเทยี บ “กอ่ น” และ “หลัง” การถ่ายโอนให้กับองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ (n = 60)

งานดา้ นสุขภาพ เพ่มิ ขน้ึ ลดลง เทา่ เดมิ
1. การให้บริการผู้ปว่ ยนอก 27 (45%) 8 (13%) 25 (42%)
2. การให้บรกิ ารส่งเสริมสุขภาพและปอ้ งกันโรค 19 (32%) 18 (30%) 23 (38%)
3. การบริการดูแลสุขภาพผู้ปว่ ยทบี่ า้ น (Home Care) 16 (27%) 12 (20%) 32 (53%)
4. การดแู ลสขุ ภาพระยะยาว (Long-term Care) 23 (38%) 5 (8%) 32 (53%)
5. การบนั ทกึ ข้อมลู และจัดทำรายงานต่าง ๆ 33 (55%) 0 (0%) 27 (45%)

-107-

ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้บริหารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้ว สะท้อนว่า ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเหล่านี้สนใจในภารกิจ
ด้านสุขภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การรักษาปริมาณและคุณภาพของบริการสุขภาพเป็น “ต้นทุนทางการเมือง
(Political Capital)” ของนักการเมืองท้องถิ่นในปัจจุบันที่จำเป็นต้องผลักดันนโยบายสร้างเสริมคุณภาพชีวิต
ของประชาชนซึ่งแตกต่างจากในอดีตที่เน้นนโยบายโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลัก ดังนั้น การขอรับถ่ายโอน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจึงเป็นการเดิมพันทางการเมืองที่สูงมากสำหรับผู้บริหารองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นทำให้ต้องสนับสนุนและส่งเสริมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้สามารถ
ปฏิบตั ิหน้าท่ีได้อยา่ งเต็มที่

งาน รพ.สต. เป็นงานหลักด้านคุณภาพชีวิตของประชาชน ปัจจุบันนี้ ผมคิดว่า ควรให้
ท้องถิ่นรับผิดชอบงานด้านคุณภาพชีวิตให้มากขึ้นได้แล้ว จะได้ลดงานด้านโครงสร้าง
พื้นฐาน พวกถนนลงบ้าง เพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ประชาชนเขามีการศึกษาและ
ความรู้มากขึ้น สิ่งที่จำเป็นสำหรับเขามันก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ปัจจุบันนี้ คนเป็นห่วง
เรื่องสุขภาพมากขึ้น คนชราก็มากขึ้น ฉะนั้น การให้ท้องถิ่นจัดการ รพ.สต. จะเป็น
สิ่งที่ดี เพราะเป็นหน่วยดูแลสุขภาพที่ต้นทาง เราพร้อมที่จะช่วยให้ต้นทางดี คนป่วย
จะไดไ้ ม่ไปแออดั ทีโ่ รงพยาบาลอำเภอ

คำใหส% ัมภาษณ-ของผูบ% รหิ ารองคก- รปกครองสวA นท%องถน่ิ [รหัส 1D]
ความจริงวิชาชีพสาธารณสุขอยู4ที่ไหนก็ทำงานได# หมออนามัยมีความอดทนเปNนที่หน่ึง
อยู4แล#ว พอย#ายไปสังกัดท#องถิ่น เราก็ต#องทำงานภายใต#นายกองคBกรปกครองส4วน
ท#องถิ่นซึ่งถ#านักการเมืองคนไหนรู#จักทำงานด#านสุขภาพเยอะ ๆ ก็เตรียมตัวเปNนนายก
ตลอดไปได#เลย งานด#านสุขภาพเปNนงานที่มี Impact สูง ถ#าทำให#ดี ชาวบ#านได#
ประโยชนB นายกกไ็ ด#เปNนนายกนาน นี่แหละทีเ่ ขาเรียกว4า การเมืองดี

คำใหส% ัมภาษณ-ของผอ%ู ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สุขภาพตำบล
ท่ียงั ไมAได%ถาA ยโอนใหอ% งคก- รปกครองสAวนทอ% งถ่นิ [รหสั 3AC]

สิ่งที่เราประสบความสำเร็จและกลายเปNนกรณีศึกษาต#นแบบก็เพราะนายกเทศมนตรีมี
วิสัยทัศนBและสนับสนุนเชิงนโยบาย มันไม4ได#มาจากคน รพ.สต. ทั้งหมด ถ#าการโอนย#าย
มาท#องถิ่นทำให#ผมรู#ว4า นักการเมืองเขาก็มีความดีของเขาอยู4 ถ#าเขาเข#าใจเรื่องสุขภาพ
เขาจะให#การสนับสนุนงานของ รพ.สต. เต็มที่เลย ก็เปNนหน#าที่ของเราที่จะช4วยให#
ความรู#นักการเมืองท#องถิ่น ผมว4าไม4ได#ยากอะไรเลย หมออนามัยต#องสื่อสารกับ
ประชาชนเปนN อยู4แลว#

คำให%สัมภาษณข- องผบ%ู ริหารองค-กรปกครองสAวนทอ% งถ่นิ
ทไี่ ดร% บั ถAายโอนโรงพยาบาลสAงเสรมิ สขุ ภาพตำบลแล%ว [รหัส 2C]

-108-

เมื่อเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม่ได้รับการถ่ายโอนให้องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น พบว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว
มีความคล่องตัวมากขึ้นในการบริหารจัดการระบบและกระบวนการจัดบริการสุขภาพ โดยเฉพาะการให้
บริการดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยสูงอายุ (Home Care and Long-term Care) ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ
(1) ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ความสำคัญกับการให้บริการดูแลผู้ป่วยติดเตียงและผู้ป่วยสูงอายุ
เนื่องจากเป็นนโยบายที่สร้างฐานคะแนนเสียงในพื้นที่ และ (2) บุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่ี
ถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว เนื่องจากไม่มีภาระในการจัดเก็บและรายงานข้อมูลตัวชี้วัดที่มี
ปริมาณมากให้กับสว่ นราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสขุ

บุคลากร รพ.สต. (ก่อนการถ่ายโอนให้ท้องถิ่น) ต้องรับผิดชอบตัวชี้วัดกระทรวง
สาธารณสุขเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นงานเอกสารทำให้หมออนามัยกลายเป็น “หมอ
หน้าคอม” ทำให้ไม่สามารถให้บริการชาวบ้านได้เต็มที่ โดยเฉพาะงาน Home Care
และ Long-term Care

คำใหส% ัมภาษณ-ของผอ%ู ำนวยการโรงพยาบาลสงA เสริมสขุ ภาพตำบล
ที่ยังไมไA ดถ% าA ยโอนให%องค-กรปกครองสวA นท%องถน่ิ [รหสั 3D]

ทรัพยากรและกำลังคนของ รพ.สต. มีไม4เพียงพออยู4แล#ว การจะยื่นขอใช#งบประมาณ
เช4น ค4าน้ำมันเชื้อเพลิง ค4าใช#จ4ายในการสนับสนุน Home Care และ Long-term
Care จะต#องขออนุมัติกับสาธารณสุขอำเภอและนายแพทยB สสจ. ซึ่งก็ได#บ#างไม4ได#บ#าง
สว4 นใหญม4 ักจะไม4ได# ทำใหห# มออนามยั ตอ# งใช#งบส4วนตัว

คำให%สมั ภาษณ-ของ ผ%อู ำนวยการโรงพยาบาลสงA เสรมิ สุขภาพตำบล
ทย่ี งั ไมไA ด%ถAายโอนใหอ% งค-กรปกครองสAวนท%องถ่ิน [รหสั 3C])

ถ#าหมออนามัยมัวแต4ไปทำเอกสาร ส4งตัวชี้วัดให#ส4วนกลาง แล#วจะเอาเวลาไหนไป
บริการประชาชน เหมือนกับโรงเรียนก4อนถ4ายโอนให#ท#องถิ่น แต4พอมาอยู4กับท#องถิ่น
แล#วจะไปมัวทำแต4เอกสารไม4ได# ต#องลงพื้นที่ ดูแลชาวบ#าน ผู#ปeวยติดบ#านติดเตียงมาก
ขึ้น ผมได#รับเรื่องร#องเรียนมาเยอะว4าก4อนถ4ายโอน รพ.สต. ทำงานได#ไม4เต็มที่ พอมาอยู4
กับผม ผมเลยเน#นว4า งานบริการชาวบ#านต#องมาเปNนอันดับแรก ถ#าชาวบ#านร#องเรียน
ผมก็อยู4ไม4ได#

คำใหส% มั ภาษณ-ของผูบ% ริหารองค-กรปกครองสวA นทอ% งถิ่น [รหสั 1BA]
ประเด็นที่น่าสนใจ คือ ความคืบหน้าในการจัดระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิของโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และ
มาตรฐานตามพระราชบัญญัติระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 พบว่า เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล
ยังไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ชัดเจนจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนหน่วยบริการและ
เกณฑ์มาตรฐานของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในขณะที่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล

-109-

หลายแห่งได้รับทราบข้อมูลว่า การจัดบริการให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์และมาตรฐานตามพระราชบัญญัติ
ระบบสุขภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562 มีระยะเวลาในการดำเนินการ 10 ปี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจึงอยู่ใน
ขั้นตอนการเตรียมความพร้อม ประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-
19) ทำให้ยังไม่สามารถจัดเตรียมเอกสารและตรวจสอบความครบถ้วนของรายการตรวจสอบตามประกาศ
คณะกรรมการระบบสุขภาพปฐมภูมิ อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยพบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตั้งอยู่ในพื้นท่ี
เขตเมือง (Urban Area) และเขตกึ่งเมือง (Semi-urban Area) ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนโรงพยาบาลส่งเสริม
สขุ ภาพตำบลถา่ ยโอนเป็นหนว่ ยบรกิ ารปฐมภูมิเรียบร้อยแล้ว

ทาง สสจ. แจ้งว่า มีเวลาในการขอขึ้นทะเบียนหน่วยบริการอีก 8 ปีตามบทเฉพาะกาล
ของ พรบ. ปฐมภูมิ ฯ เรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วงอะไร เพราะนายก ฯ ก็สั่งการให้เตรียม
ความพร้อมและขึ้นทะเบียนอยู่แล้ว หลายอย่างเราก็ยึดตามกระทรวงสาธารณสุข
อย่างเช่น เรื่อง รพ.สต. ติดดาว เราก็ได้ระดับ 5 ดาวอยู่แล้ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่มันก็คือ
เกณฑ์หนว่ ยบริการปฐมภูมิ ตรงนี้เราคดิ วา่ ไม่น่าเปน็ ปัญหา เพราะทางผูบ้ ริหารทอ้ งถนิ่
กเ็ ห็นด้วยกับเรื่องคณุ ภาพมาตรฐานการให้บรกิ ารประชาชน

คำให%สมั ภาษณข- องผูบ% ริหารองค-กรปกครองสAวนทอ% งถน่ิ
ท่ีได%รบั ถาA ยโอนโรงพยาบาลสงA เสรมิ สขุ ภาพตำบลแลว% [รหัส 2C]
ของเราได#รับแจ#งทางไลนBกลุ4มอนามัยถ4ายโอนของกรมส4งเสริมการปกครองท#องถ่ิน
เพราะ สสจ. แจ#งว4า ยังไม4มีกลุ4มงานที่รับผิดชอบงานปฐมภูมิโดยตรง จึงยังไม4ได#เร4งรัด
อนามัยเราในเรอื่ งนี้ รพ.สต. สว4 นใหญ4ในจงั หวัดกย็ งั ไม4ไดข# ้ึนทะเบียน

คำให%สมั ภาษณ-ผอ%ู ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สขุ ภาพตำบล
ทีไ่ ด%รับการถAายโอนใหอ% งคก- รปกครองสAวนทอ% งถน่ิ แลว% [รหัส 2F])
สำหรับข้อกังวลเรื่องการให้บริการผู้ป่วยโดยแพทย์เวชกิจทั่วไป (General Practitioner: GP) และ
แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว (Family Medicine) ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอน
ให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลนั้น พบว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอน
แล้วโดยส่วนใหญ่ยังอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของเครือข่ายหน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ
(CUP) และได้รับการสนับสนุนแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปและแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวจากโรงพยาบาลแม่ข่าย
ซึ่งจัดตารางตรวจรักษาโรคและให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกสัปดาห์ ทั้งน้ี
เนื่องจากการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลมีจำนวน
ที่ไม่มาก และโดยส่วนใหญ่ภายในเครือข่ายหน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP) จะมี
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล 1 แห่งหรือ
อย่างมากไม่เกิน 2 แห่ง จึงไม่เป็นอุปสรรคในการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ให้แก่เทศบาลและองค์การ
บรหิ ารส่วนตำบล

-110-

CUP ของเราสนับสนุนแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปหรือแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวให้กับ
รพ.สต. ของ อบต. [ชื่อ] อยู่แล้ว เพราะเป็น CUP เดียวกันและ รพช. ก็ได้รับ
งบสนับสนุนตรงนี้จาก สปสช. โดยส่วนใหญ่แพทย์ของ รพช. จะลงตรวจที่ รพ.สต.
[ชื่อ] ทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ ศุกร์ ช่วงเช้า และบางครั้งก็ลงพื้นที่พร้อมกับทีม
สหวชิ าชพี ไปเยี่ยมดูแลผู้ป่วยติดบ้านติดเตยี ง

คำใหส% มั ภาษณ-ของตวั แทนโรงพยาบาลแมAขาA ยของโรงพยาบาลสงA เสริมสุขภาพตำบล
ทไ่ี ด%รับการถAายโอนใหแ% กAองค-กรปกครองสAวนทอ% งถน่ิ แล%ว [รหสั 6B]

ใน CUP ของเราตอนนี้มี อบต. ที่รับถ4ายโอน รพ.สต. ไปทั้ง 2 แห4ง เรียกได#ว4า
ครอบคลุมทั้งตำบล เราก็จำเปNนต#องจัดสรรแพทยBไปสนับสนุนงานตรวจคนไข# OPD
และงานเวชปฏิบัติครอบครัวให# รพ.สต. ซึ่งก็เปNนไปตามเงื่อนไขของ สปสช. อยู4แล#ว
นอกนั้น เราก็ส4งเสริมสนับสนุนทางวิชาการให#กับ รพ.สต. ถ4ายโอนเปNนประจำ ตรงน้ี
ก็ไม4เห็นว4าจะมีปbญหาอะไร หากจะถ4ายโอน รพ.สต. ทั้งหมดให# อบจ. เพราะระบบของ
สปสช. โดยเฉพาะระบบ CUP ก็ออกแบบมาให#รองรับอยูแ4 ล#ว

คำใหส% ัมภาษณ-ของตวั แทนโรงพยาบาลแมขA AายของโรงพยาบาลสงA เสริมสุขภาพตำบล
ทไี่ ด%รบั การถAายโอนให%แกอA งคก- รปกครองสวA นทอ% งถน่ิ แลว% [รหัส 6C]

ทั้งนี้ ผู้วิจัยมีข้อสังเกตว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
มักจะบริหารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเสมือนเป็นหน่วยงานกึ่งอิสระ (หรือที่เรียกว่าความสัมพันธ์
แบบ Arm’s Length) ทำให้บุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมีความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าท่ี
ซึ่งมีข้อดีคือ บุคลากรใช้ดุลยพินิจ ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการพัฒนาบริการสุขภาพให้แก่
ประชาชนอย่างเต็มท่ี ในขณะที่ ข้อเสียคือ บุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกลายเป็นกลุ่มบุคลากรท่ี
ปฏิบัติงานเป็นเอกเทศจากบุคลากรอื่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งทำให้การปฏิบัติหน้าที่บางด้าน
เกิดความล่าช้า ยกตัวอยา่ งเชน่ การจัดซอ้ื จดั จา้ งทตี่ ้องดำเนินการผ่านองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ เป็นต้น

เทศบาลไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ รพ.สต. เท่าใดนักซึ่งแตกต่างจากก่อน
การถ่ายโอน แต่หลายอย่างเราก็อยากให้เทศบาลช่วยเหลือ เช่น เรื่องกระบวนการ
เสนอฎีกา หรือการจัดซื้อจัดจ้าง บางครั้ง ปลัดเทศบาลกับ ผอ.กองอื่นก็ไม่เข้าใจ
(งานของ) พวกเรา โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ หลังการถ่ายโอน ตอนนก้ี ็ดขี นึ้ แต่อยากให้
เทศบาลมองเราเป็นส่วนหน่งึ ของเทศบาลจริง ๆ ซ่งึ กต็ ้องใชเ้ วลา

คำให%สัมภาษณ-ของผูบ% รหิ ารองค-กรปกครองสวA นทอ% งถิ่น [รหสั 2E]
รพ.สต. เหมือนกับเปNนกองสาธารณสุขของเทศบาลซึ่งก็เปNนสิ่งที่ดี เราสามารถทำงาน
ด#านสาธารณสุขด#วย เช4น เรื่องตลาด เรื่องอาหาร และมี Career path ค4อนข#างชัดเจน
สำหรับพวกเรา คือ เราสามารถสอบเปลี่ยนสายงานไปแท4งอำนวยการได#ด#วย ถ#ายังอย4ู

-111-

กระทรวงสาธารณสุขคงยาก แต4ข#อเสีย คือ คน รพ.สต. ไม4ได#ชำนาญเรื่องสาธารณสุข
ทกุ คน เทศบาลก็ควรแสวงหาบคุ ลากรด#านสาธารณสขุ มาเตมิ เตม็ ตรงน้ีด#วย

คำให%สมั ภาษณ-ของผู%บริหารองค-กรปกครองสAวนท%องถิน่ [รหัส 2D]
นอกจากนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งปฏิบัติหน้าที่
เสมือนกองสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยพฤตินัย ทำให้มีภาระงานอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับ
การบริการสุขภาพโดยตรง ได้แก่ การบันทึกข้อมูลและจัดทำรายงานต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลในตารางที่
4-3 ที่แสดงให้เห็นว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 55)
มีภาระงานบันทึกข้อมูลและจัดทำรายงานต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากในฐานะหน่วยงานในสังกัดองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นจึงจำเป็นต้องจัดทำรายงานประสิทธิภาพในการจัดบริการสาธารณะตามที่กรมส่งเสริมการปกครอง
ท้องถิ่นกำหนดและยังต้องปฏิบัติตามระเบียบและหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย แต่เนื่องจากองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้เงินรายได้ของตนเองบรรจุหรือจ้างพนักงานจ้างตามภารกิจหรือลูกจ้างชั่วคราว
ช่วยเหลือการบันทึกข้อมูลและจัดทำรายงานที่ต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ไม่กระทบต่อภาระงานของ
บุคลากรท่ที ำหน้าท่ีใหบ้ ริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน

พอถ่ายโอนมาท้องถิ่น เราก็ต้องปฏิบัติตามตัวชี้วัดและระเบียบของท้องถิ่น ก็มีอะไรท่ี
ต้องเรียนรู้มากขึ้น ตัวชี้วัด LPA หรืองานที่ต้องรายงานเทศบาลก็มีเยอะ ไม่ใช่ไม่มี
แต่เทศบาลเขาก็จ้างคนให้มาช่วยบันทึกข้อมูล ทำเอกสาร เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง
การทำรายงาน ก็มีกองต่าง ๆ ของเทศบาลช่วย เป็นหน้าที่ของเขา ฉะนั้น จะพูดว่างาน
เอกสารลดลงกไ็ มใ่ ช่ จริง ๆ งานเอกสารเพม่ิ ขึ้น แตเ่ รากม็ คี นทำงานเพม่ิ มนั ก็พอรับได้

คำใหส% มั ภาษณผ- อู% ำนวยการโรงพยาบาลสงA เสริมสขุ ภาพตำบล
ท่ไี ดร% ับการถาA ยโอนให%องคก- รปกครองสAวนท%องถน่ิ แลว% [รหสั 2F])
เรายังเก็บข#อมูลตัวชี้วัดให#สาธารณสุขอำเภอและสาธารณสุขจังหวัดเหมือนเดิมก4อน
การถ4ายโอน เพราะนายก อบต. ไปทำความตกลงกับสาธารณสุขอำเภอ ซึ่ง (พี่) ก็ไม4ได#
ขัดข#องอะไร เพราะนายกเขาก็ส4งเด็กมาช4วยคียBข#อมูล สิ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือ ข#อมูล LPA
ซึ่งเปNนตัวชี้วัดประสิทธิภาพขององคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นที่กรมส4งเสริมการปกครอง
ท#องถิ่นบังคับให#ทำ แต4ก็ไม4ได#เปNนภาระกับ รพ.สต. มาก เพราะมีกองยุทธศาสตรBของ
อบต. กับปลัด อบต. เขารับผิดชอบตรงนี้ เราก็ช4วยให#ข#อมูลที่เรามี ซึ่งตัวชี้วัด LPA ใน
ส4วนสาธารณสุขก็ไม4ได#ยุ4งยากอะไรมากมาย แต4ในอนาคตกระทรวงมหาดไทยกับ
กระทรวงสาธารณสุขก็ควรพดู คุยกับ บูรณาการขอ# มลู กนั จะไดไ# ม4ทำงานซำ้ ซอ# น
คำให%สัมภาษณ-ของผอ%ู ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สุขภาพตำบล
ทไ่ี ดร% บั การถAายโอนใหอ% งคก- รปกครองสAวนทอ% งถิน่ แลว% [รหัส 2BB]

-112-
จากข้อมูลที่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นแล้ว พบว่า การให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วมีคุณภาพที่ดี
ขึ้นกว่าก่อนการถ่ายโอน ร้อยละ 55 และสามารถตอบสนองต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ดีกว่าก่อน
การถ่ายโอนใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน ร้อยละ 75 (ภาพท่ี 4-2)
ภาพท่ี 4-2 คุณภาพการใหบ้ ริการประชาชนและการตอบสนองต่อปญั หาสขุ ภาพของประชาชน
ของโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตำบลในปจั จบุ ันเปรียบเทียบกับกอ่ นการถา่ ยโอน (n = 60)

คุณภาพการใหบ้ ริการประชาชนในปัจจุบนั เทียบกับ การตอบสนองต่อปญั หาสุขภาพของประชาชน
ก่อนการถา่ ยโอนใหก้ ับองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ในพืน้ ท่ใี นปจั จบุ นั เทยี บกับกอ่ นการถ่ายโอน

ให้กับองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ

4.2.2 บคุ ลากรดา้ นสุขภาพ
ประเด็นบุคลากรด้านสุขภาพเป็น “จุดเจ็บปวด (Pain Point)” ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ที่ได้รับการถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เนื่องจากการถ่ายโอนบุคลากรยึดตามหลัก “งานไป
เงินไป ตำแหน่งไป บุคลากรสมัครใจ” โดยตำแหน่งบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเป็นตำแหน่ง
เฉพาะตัวที่รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณหมวดเงินเดือนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับถ่ายโอน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล จำนวน 5 ตำแหน่ง เมื่อบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้รับ
แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้นภายในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ไม่ใช่ตำแหน่งภายในโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบล เช่น ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขหรือตำแหน่งในแท่งบริหาร เป็นต้น หรือบุคลากรโอนย้ายไป
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ตำแหน่งที่บุคลากรนั้นครองอยู่จะถูกยุบโดยปริยายโดยที่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิน่ จะไมไ่ ดร้ บั งบประมาณหมวดเงินเดือนสำหรบั ตำแหน่งทถี่ กู ยุบอกี ตอ่ ไป

บุคลากรที่ถ่ายโอนมา 5 ตำแหน่งเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นตำแหน่งเฉพาะบุคคลดีกว่าเพราะ
ถ้าคนนั้นลาออกหรือย้ายไปท้องถิ่นอื่น เทศบาลก็จะสูญเสียตำแหน่งนั้นไปเลย จะหา
คนอื่นมาแทน เทศบาลก็ต้องใช้เงินรายได้ของตนเองมาจ้าง ทำให้ถูกผนวกรวมใน
รายจ่ายด้านบุคคลตามมาตรา 35 ของ พ.ร.บ. ระเบียบบริหารงานบุคคล ฯ และในช่วง

-113-

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เทศบาลมีรายได้ลดลง ทำให้เพดาน
รายจา่ ยบคุ คลเกอื บจะชนเพดาน 40% แลว้

คำให%สมั ภาษณ-ของผ%บู รหิ ารองค-กรปกครองสAวนท%องถ่นิ [รหสั 1AB]
ผอ.รพ.สต. ที่ถ4ายโอนมาพรอ# มกับ รพ.สต. ตอนนย้ี า# ยไปเปนN ปลดั เทศบาลที่ จ. ร#อยเอ็ด
แล#ว ก็ถือว4าเปNนความก#าวหนา# ทางวิชาชพี ของ ผอ. แตก4 ็ทำให# อบต. เราขาดคนทำงาน
และตำแหน4งที่ ผอ. ครองก็ถูกยุบไปด#วย อบต. ต#องใช#เงินงบประมาณของตนเองมา
จา# งคนเพม่ิ เพือ่ ทดแทนอตั รา ผอ. ที่ถกู ยบุ กน็ บั ว4า ลำบากพอสมควร

คำให%สัมภาษณข- องผบู% รหิ ารองคก- รปกครองสวA นท%องถิ่น [รหัส 1AA]
อย่างไรก็ตาม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปัจจุบันสามารถเสนอขอปรับกรอบอัตรากำลังและ
บรรจุบุคลากรทดแทนตำแหน่งที่ถูกยุบต่อคณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัดและคณะกรรมการพนักงาน
ส่วนตำบลจังหวัด และในจังหวัดแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี พบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้วิธีการจ้างเหมา
บริการคณะผู้ให้บริการจากสถานพยาบาลภาคเอกชนทำให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับ
การถ่ายโอนจากเดิมที่มีบุคลากร 2 คนจนในปัจจุบันมีบุคลากร 45 คนประกอบด้วยแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ
นักเวชกิจฉกุ เฉนิ เภสชั กร ทันตแพทย์ นกั เทคนิคการแพทย์ และนักกายภาพบำบดั

[ชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น] ได้รับถ่ายโอน รพ.สต. มาในตอนแรกมีบุคลากร 2 คน
ตอนนี้เราใช้วิธีการจ้างเหมาบริการโรงพยาบาลเอกชนมาช่วย ทำให้ตอนนี้มีบุคลากร
45 คน เปิดให้บริการได้ 24 ชั่วโมง มีห้องฉุกเฉินที่มีแพทย์ประจำ และเรือเร็วฉุกเฉิน
เพื่อขนส่งผู้ป่วยวิกฤติไปโรงพยาบาลแม่ข่าย ทำให้จากเดิมที่เราให้บริการประชาชนได้
ในข้ันพื้นฐาน ตอนนี้เรียกว่า เราเป็นศูนย์การแพทย์ย่อม ๆ หรือโปลีคลินิกได้
ส่วนบคุ ลากร 2 คนท่เี ปน็ นกั วิชาการสาธารณสขุ กร็ บั ผดิ ชอบบรหิ ารงานในภาพรวม

คำให%สมั ภาษณข- องผ%บู ริหารองคก- รปกครองสวA นทอ% งถ่นิ [รหัส 2E]
ระบบดังกล่าวทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความยืดหยุ่นคล่องตัวในการบริหารอัตรากำลัง
และประหยัดรายจ่ายประจำได้มากกว่าส่วนราชการและสถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
แต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องใช้งบประมาณส่วนที่เป็นเงินรายได้บรรจุแต่งตั้งบุคลากรทดแทนซึ่งเข้าข่าย
บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 35 ที่กำหนดให้
การจ่ายเงินเดือน ประโยชน์ตอบแทนอื่น และเงินค่าจ้างของข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น และลูกจ้าง
ที่นำมาจากเงินรายได้ที่ไม่รวมเงินอุดหนุน ต้องไม่สูงเกินร้อยละ 40 ของเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแม้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งจะไม่ประสบปัญหาสัดส่วน
รายจ่ายหมวดเงินเดือน ประโยชน์ตอบแทนอื่น และเงินค่าจ้างของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นและ
ลูกจ้าง แต่ไม่สามารถบรรจุบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลได้ครบตามกรอบอัตรากำลัง เนื่องจาก
บางตำแหนง่ เป็นสาขาท่ขี าดแคลน เชน่ พยาบาลวิชาชพี ทันตาภิบาล เป็นต้น

-114-

ในพื้นที่อำเภอเรา โรงพยาบาลอำเภอยังขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพ ฉะนั้น อบต. เรายิ่ง
ไม่ต้องพูดถึง แต่ทางโรงพยาบาลอำเภอก็สนับสนุนเราเป็นอย่างดี ในช่วงแรก ๆ หลัง
การถ่ายโอนก็ส่งพยาบาลวิชาชีพมาช่วยงานเราทุกสัปดาห์ จนสถานการณ์ดีขึ้นที่เรามี
บุคลากรครบครัน แต่โรงพยาบาลอำเภอก็ยังช่วยสนับสนุนเรื่องวิชาการให้กับบุคลากร
ของเราเปน็ ประจำ

คำให%สมั ภาษณ-ของผบ%ู รหิ ารองคก- รปกครองสวA นท%องถิ่น [รหัส 1AA]
เราขาดแคลนทันตาภิบาลทั้งจังหวัด บางอำเภอมีทันตาภิบาลไม4ถึง 10 คน ทำให#
ชาวบ#านรอคิวทำฟbนนาน แต4มันก็เปNนไปตามหลักอุปสงคB-อุปทาน เพราะก็ต#องยอมรับ
ว4า ภายใต#กฎหมายวิชาชีพในปbจจุบัน ทันตาภิบาลทำงานได#จำกัดมาก ถอนได#แต4ฟbน
น้ำนม เขา (สถาบันอุดมศึกษากับ วสส.) เลยผลิตทันตาภิบาลได#ไม4มาก ถ#าถามว4า
ความจำเปNนจริง ๆ คือ เราอยากได#ทันตแพทยB แต4นั่นยิ่งขาดแคลนไปกันใหญ4 หาก
เปNนไปได# ก็ใช#บุคลากรร4วมกันในระดับพื้นที่เปNนทางออกทางหนึ่ง แต4ก็ต#องร4วมมือกัน
ผลติ บุคลากรทางการแพทยแB ละสาธารณสขุ ใหเ# พยี งพอกับความต#องการของชาวบ#าน

คำให%สมั ภาษณ-ของผู%อำนวยการโรงพยาบาลสAงเสริมสขุ ภาพตำบล
ทยี่ ังไมAไดถ% าA ยโอนใหอ% งค-กรปกครองสAวนทอ% งถิ่น [รหสั 3C]

แต4โดยส4วนใหญ4 โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#ว
มีจำนวนบุคลากรเพิ่มขึ้นอย4างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม4ถ4ายโอน
ให#องคBกรปกครองส4วนทอ# งถ่นิ

ในตำบลเดียวกัน ความแตกต4างมันชัดเจน รพ.สต. [ชื่อ] เขาอยู4สังกัดเทศบาลมี
งบประมาณของตัวเอง เขาจ#างคนเพิ่มของเขาเองได# แต4 รพ.สต. เราก็ต#องรอให#เงิน
บำรุงมีเพียงพอ และต#องทำเรื่องขออนุมัติ สสจ. ซึ่งเขาก็ไม4มีปbญหาอะไรอยู4แล#ว
มีปbญหาที่เราจะมีงบประมาณหรือเปล4า โชคดีเราเปNน รพ.สต. ขนาดใหญเ4 รื่องเงินบำรุง
เราเลยดีกว4าขนาดกลางกับขนาดเล็ก แต4เงินบำรุงก็ต#องใช#เรื่องอื่นด#วย และการจ#างคน
มันมีค4าใช#จ4ายผูกมัดในระยะยาว เช4น สิทธิประโยชนB การขึ้นเงินเดือน ฯลฯ แต4
รพ.สต. ในสังกัดเทศบาลเขามีเงินรายได#ของเทศบาล ก็เลยไม4มีปญb หาเหมือนพวกเรา

คำให%สัมภาษณ-ของผ%อู ำนวยการโรงพยาบาลสงA เสรมิ สขุ ภาพตำบล
ทย่ี งั ไมAได%ถAายโอนให%องค-กรปกครองสAวนทอ% งถ่ิน [รหสั 3E]

ด#วยเหตุนี้ จึงทำให#โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลสามารถจัดบริการสุขภาพให#แก4ประชาชนได#
เพิ่มขึ้นและมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะบุคลากรที่ปฏิบัติงานด#านทันตกรรมและแพทยBแผนไทย
รองลงมาคือบุคลากรด#านกายภาพบำบัดที่องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นให#ความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากจำนวน
ผู#สูงอายุและผู#ปeวยติดเตียงที่มีแนวโน#มเพิ่มขึ้นในปbจจุบัน สำหรับบุคลากรทางการแพทยBนั้น โรงพยาบาล
ส4งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นที่ตั้งอยู4ในเขตเมืองมีแพทยBประจำคลินิกตรวจรักษา

-115-

โรคทั่วไปและโรคเรื้อรัง (แต4ไม4เต็มเวลา) สำหรับองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นที่ไม4อยู4ในพื้นที่เขตเมือง
มักได#รับการสนับสนุนแพทยBตรวจรักษาโรคทั่วไปและโรคเรื้อรังจากโรงพยาบาลแม4ข4ายในเครือข4ายคู่สัญญา
ของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP) โดยอาศัยข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
และสำนกั งานสาธารณสุขจังหวดั

เทศบาลเราไม่มีปัญหาเรื่องบุคลากร นโยบายของเราชัดเจนคือ ต้องการทำให้สถานี
อนามัยมีบุคลากรพร้อมสำหรับการให้บริการชาวบ้าน ทั้งทันตแพทย์ แพทย์แผนไทย
เภสัชกร EMS และนักกายภาพบำบัดที่ออกเยี่ยมบ้าน ส่วนแพทย์ OPD เราก็มีตาราง
ตรวจทุกวัน เราใช้วิธีการจ้างแพทย์เกษียณและแพทย์ Parti-time เป็นแพทย์ประจำ
โชคดีที่เราอยู่ในเขตเมืองเลยหาแพทย์ไม่ยาก ปัจจุบันเรามีแพทย์ประจำแบบไม่เต็ม
เวลา 5 คน ออกตรวจตามตาราง จันทร์-เสาร์ ทั้งที่ศูนย์สาขาหลักที่เทศบาลและศูนย์
สาขาบนดอย รพ.สต.ของกระทรวงยังทำไม่ได้เหมือนเรา ของเรามีแพทย์ออกตรวจ
เกือบทกุ วัน

คำใหส% มั ภาษณ-ของผู%บรหิ ารองค-กรปกครองสวA นทอ% งถ่นิ [รหัส 2AB]
สิ่งที่เราเน#นคือ เรื่องทำฟbน อบต. มีทั้ง Unit ทำฟbนซึ่งก็ได#โครงการจากเงินอุดหนุน
เฉพาะกิจที่ขอไป และเราจ#างทันตแพทยBแบบ Part-time มาประจำที่ รพ.สต. สัปดาหB
หนึ่งก็ออกตรวจและให#บริการ 3 วัน สาเหตุที่ อบต. ต#องให#ความสำคัญเพราะการทำ
ฟbนมีค4าใช#จ4ายที่สูง ถ#า อบต. ไม4มีพร#อมให#ชาวบ#าน ชาวบ#านก็ต#องเสียเงินเองหรือไม4
รักษาสุขภาพฟนb เลย

คำให%สัมภาษณ-ของผู%บริหารองคก- รปกครองสวA นท%องถน่ิ [รหสั 1BB]
ยุคนี้เรากลายเปNนสังคมผู#สูงอายุเต็มตัว ผู#ปeวยสูงอายุและผู#ปeวยติดเตียงเยอะข้ึน
แต4ตอนถ4ายโอน รพ.สต. ให#เทศบาล ไม4มีนักกายภาพบำบัดมาให#เรา แต4ก็ไม4เปNนอะไร
ในเมื่อประชาชนจำเปNนต#องได#รับบริการกายภาพบำบัด เทศบาลก็ต#องช4วยเหลือซึ่งก็ไม4
เหลือบ4ากว4าแรงอะไร เรามีนักกายภาพ 2 คน และ Caregiver ที่เปNนอาสาสมัคร
บริบาลชุมชนคอยใหบ# ริการตามบา# น

คำให%สัมภาษณ-ของผบ%ู รหิ ารองค-กรปกครองสวA นท%องถนิ่ [รหัส 1AA]
นอกจากน้ี สิ่งที่องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นมีความโดดเด4นมากกว4ากระทรวงสาธารณสุข คือ การจ#าง
บุคลากรสายสนับสนุนให#แก4โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบล ได#แก4 เจ#าหน#าที่การเงิน เจ#าหน#าที่ธุรการ
เจ#าหน#าที่คอมพิวเตอรB และเจ#าหน#าที่รักษาความสะอาด ซึ่งสามารถแบ4งเบาภาระของบุคลากรที่ต#อง
ใหบ# รกิ ารสขุ ภาพแกป4 ระชาชน

-116-

สิ่งที่องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นสนับสนุนเราได#ชัดเจน คือ เจ#าหน#าที่สายสนับสนุน
เช4น พนักงานบัญชี พนักงานการเงิน พนักงานคอมพิวเตอรB ซึ่งช4วยแบ4งเบาภาระให#
พยาบาลและนักวิชาการสาธารณสุขได#มาก ก4อนการถ4ายโอน เราต#องทำเอกสารและ
งานธุรการเอง หรือแม#กระทั่งต#องทำความสะอาด พวกผมก็ทำเองจะได#ประหยัดเงิน
บำรุง แต4พอถ4ายโอนมา นายกเทศมนตรีเขาจัดให#พวกเราหมด ให#เราได#ทำงานอย4าง
เตม็ ท่ใี นการบริการประชาชน

คำให%สัมภาษณข- องผ%ูบรหิ ารองค-กรปกครองสวA นทอ% งถน่ิ [รหสั 2D]
นอกจากนี้ บุคลากรสังกัดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นจำนวนหนึ่งมีความต้องการโอนย้ายกลับไปกระทรวงสาธารณสุข แต่พบว่า ระบบการบริหารงานบุคคล
ภาครัฐในปัจจุบันยังไม่ยืดหยุ่นคล่องตัวเพียงพอ ตัวแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับ
การถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากจังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ความเห็นว่า
บุคลากรที่ประสงค์ “ถ่ายโอนกลับ” ย่อมเกิดขึ้นได้และไม่ได้หมายความว่า การกระจายอำนาจด้านสุขภาพเป็น
สิ่งที่ไม่ดี เพราะความประสงค์ถ่ายโอนกลับเป็นความคิดเห็นเฉพาะบุคคลและควรเป็นสิทธิ แต่ระบบ
การบริหารงานบุคคลภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น “แข็งตัว” เกินไป ทำให้บุคลากรโรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตำบลสูญเสียสิทธิ และทำให้หลายคนมีทัศนคติต่อต้านการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบลให้แกอ่ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิน่
คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) และคณะกรรมการ
ข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) จึงควรแสวงหาทางออกร่วมกันให้ข้าราชการสังกัดโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
สามารถขอช่วยราชการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก่อนที่จะตัดสินใจถ่ายโอนไปพร้อมกับโรงพยาบาล
ส่งเสริมสขุ ภาพตำบลได้

กระบวนการถ่ายโอน รพ.สต. ให้ท้องถิ่นควรเปิดโอกาสให้บุคลากรมีโอกาสช่วยราชการ
ได้ด้วยเพื่อให้บุคลากรได้ทดลองงานที่ท้องถิ่นก่อนการตัดสินใจถ่ายโอนไปท้องถ่ิน
อย่างเต็มตัว ตอนนี้หลักการถ่ายโอนบุคลากร คือ ต้องให้บุคลากรแจ้งความประสงค์
ถ่ายโอนไปที่กระทรวง แล้ว อ.ก.พ. กระทรวงจึงจะตัดโอนตำแหน่งให้ท้องถิ่น
แต่กระบวนการนี้ยังไม่ดีพอ ควรเปิดโอกาสให้คน รพ.สต. ได้เห็นสภาพการทำงานจริง
กอ่ นแลว้ จึงตัดสนิ ใจ

คำใหส% มั ภาษณ-ของผ%อู ำนวยการโรงพยาบาลสงA เสรมิ สุขภาพตำบล
ท่ียงั ไมไA ด%ถาA ยโอนใหอ% งคก- รปกครองสวA นท%องถ่ิน [รหัส 1D]

ระบบบริหารงานบุคคลภาครัฐควรจะปฏิรูปได#แล#ว ระบบปbจจุบันมันแข็งตัวเกินไป
จะโอนย#ายก็ต#องย#ายขาด บางทีคนเราจะย#ายบ#าน ย#ายที่ทำงานที่เคยอยู4มาเปNน 10 ปv
จะให#ตัดสินใจเลยคงยาก ถ#าไม4ลองไปทำงานจริงในที่ทำงานใหม4 แต4การถ4ายโอนตอนนี้
มันทำไม4ได# ส4วนกลางควรคิดใหม4ทำใหม4ได#แล#วเพื่อรักษาคนไว#ในระบบ ยิ่งคนรุ4นใหม4

-117-

ด#วยแล#ว จะไปบังคับเขามาก เขาก็ไปอยู4เอกชนหมด หรือไปขายของออนไลนB เราต#อง
สรา# งระบบใหมท4 ่ีเปดñ ช4องทางไว#ให#เขาได#เลอื กตดั สนิ ใจอนาคตของตวั เอง

คำใหส% ัมภาษณ-ของผ%ูอำนวยการโรงพยาบาลสงA เสริมสุขภาพตำบล
ที่ยงั ไมไA ดถ% Aายโอนใหอ% งคก- รปกครองสวA นท%องถ่นิ [รหัส 3BB]

“จุดเจ็บปวด (Pain Point)” ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบล คือ ความไม่คล่องตัวในการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุแต่งตั้งบุคลากรใหม่เนื่องจากคำสั่งหัวหน้า
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 8/2560 เรื่อง การขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหารงานส่วนบุคคลท้องถิ่น
ที่กำหนดให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ในการจัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเป็น
ขา้ ราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ และพนักงานสว่ นท้องถนิ่ แทนองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่

สิ่งที่ลำบากมากตอนนี้ คือ เราไม่สามารถบรรจุพยาบาลกับนักวิชาการสาธารณสุขได้
รวดเร็วทันการณ์เหมือนสมัยก่อน พอ คสช. ออกคำสั่งมาให้กรม สถ. เป็นผู้จัดสอบ
และขึ้นบัญชี ทุกอย่างก็ช้าไปหมด ประกอบกับ COVID-19 ด้วย หลายตำแหน่งไม่
เฉพาะแต่ รพ.สต. ก็ว่างถึงทุกวันนี้ หลายแห่งที่เรารู้จักใช้วิธีการจ้างเหมาบริการหรือ
จ้างเป็นพนักงานจ้างตามภารกิจไปก่อน แต่พยาบาลกับนักวิชาการสาธารณสุขเขาก็
อยากบรรจุเปน็ ขา้ ราชการ ก็ยังทำไมไ่ ด้ ทำให้เราลำบากมาก

คำให%สัมภาษณ-ของผูอ% ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สุขภาพตำบล
ท่ียงั ไมAได%ถAายโอนให%องค-กรปกครองสวA นทอ% งถิน่ [รหัส 1D]

ทั้งนี้ จากภาพที่ 4-3 พบว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นโดยส่วนใหญ่ (35 แห่ง หรือ ร้อยละ 58.33) มีอัตรากำลังเพิ่มมากขึ้น แต่ในจำนวนน้ี 21 แห่ง
(ร้อยละ 35) รายงานว่า แม้อัตรากำลังจะเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่เพียงพอต่อการให้บริการ เมื่อพิจารณาบุคลากร
แต่ละประเภท พบว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 26 แห่ง (ร้อยละ 43) มีจำนวนบุคลากรสายวิชาชีพ
ได้แก่ พยาบาลวิชาชีพ นักวิชาการสาธารณสุข และทันตาภิบาล ลดลง มีเพียง 16 แห่ง (ร้อยละ 27) ที่มี
จำนวนบุคลากรสายวิชาชีพเพิ่มขึ้น แต่พบว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมากกว่าครึ่งหนึ่ง (33 แห่ง
หรือร้อยละ 55) มีจำนวนบุคลากรสายสนับสนุนเพิ่มขึ้น ได้แก่ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี เจ้าพนักงาน
ธุรการ

-118-
ภาพท่ี 4-3 อัตรากำลงั ในปจั จุบนั เปรียบเทยี บกบั ก่อนการถ่ายโอน

ไปยงั องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน (n = 60)

ตารางที่ 4-4 ความเพียงพอของบุคลากรสายวิชาชีพและบุคลากรสายสนับสนุนภายในโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบล (n = 60)

ประเภทบคุ ลากร เพมิ่ ขึน้ ลดลง เท่าเดมิ
1. บุคลากรสายวิชาชีพ 16 (27%) 26 (43%) 18 (30%)
2. บุคลากรสายสนับสนุน 33 (55%) 23 (38%) 4 (7%)

อย4างไรก็ตาม ข#อสังเกตจากการสัมภาษณBผู#อำนวยการโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม4ได#
รับการถ4ายโอนให#กับองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น คือ ส4วนราชการที่เกี่ยวข#องกับการกระจายอำนาจและ
การส4งเสริมการปกครองท#องถิ่น ได#แก4 สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให#แก4องคBกรปกครอง
ส4วนท#องถิ่น กรมส4งเสริมการปกครองท#องถิ่น และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังไม4ได#ประชาสัมพันธB
ข#อมูลระบบบริหารงานบุคคลส4วนท#องถิ่น ความก#าวหน#าทางวิชาชีพ และเงินเดือนและค4าตอบแทนพิเศษ
อย4างชัดเจนและเพียงพอ ทำให#บุคลากรโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม4ได#รับการถ4ายโอนไม4เกิด
ความม่ันใจในการโอนย#ายไปสังกัดองคBกรปกครองส4วนทอ# งถน่ิ

4.2.3 ระบบขอ้ มูลด้านสุขภาพ
ภายหลังการถ่ายโอน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสามารถเลือกเก็บรวบรวมข้อมูลตามตัวชี้วัด
ของกระทรวงสาธารณสุขที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิจารณาแล้วเห็นว่า เหมาะสมและสอดคล้องกับพื้นท่ี
ทำให้การรายงานตามตัวชี้วัดกระทรวงไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับ
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วมีความคิดเห็นต่อประเด็นนี้แตกต่างกัน
ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยส่วนใหญ่มีความประสงค์ที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตามตัวชี้วัดของ
กระทรวงสาธารณสุขกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ แต่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นในปัจจุบันไม่มีช่องทางตามสายงานการบังคับบัญชาอย่างเป็นทางการในการประสานกับ
ส่วนราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทำให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งอาศัยความคุ้มเคย
กับสำนักงานสาธารณสุขอำเภอในการพัฒนาระบบข้อมูลให้สอดคล้องกับระบบของกระทรวงสาธารณสุข

-119-

โดยเฉพาะการกรอกข้อมูลเข้าโปรแกรม JHCIS HOSxP และระบบข้อมูลสุขภาพชุมชน (District Health
Information System: DHIS) เพื่อส่งต่อข้อมูลสู่ระบบข้อมูลคลังสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข (Health
Data Center: HDC)

อะไรที่กระทรวงสาธารณสุขทำอยู่แล้ว เราก็พร้อมที่จะเรียนรู้และสนับสนุนงาน
ของนายแพทย์ สสจ. และ สสอ. เพราะเราก็อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทำงานร่วมกันเพ่ือ
ประชาชนอยู่แล้ว เรื่องให้เทศบาลร่วมเก็บข้อมูลตามตัวชี้วัดด้านสุขภาพประชากร
ของกระทรวง เทศบาลก็ยินดีอยู่แล้ว ขอสนับสนุนงบประมาณ เรายังให้ได้ เพียงแค่
ตวั ช้วี ัดไมใ่ ชเ่ รอ่ื งยากลำบาก

คำให%สัมภาษณข- องผ%บู รหิ ารองค-กรปกครองสวA นทอ% งถนิ่ [รหัส 1BB])
ผมเห็นว4า การจัดทำตัวชี้วัดและข#อมูลด#านสุขภาพร4วมกับสาธารณสุขเปNนเรื่องที่ดี
เรายินดีให#ตรวจสอบและร4วมมืออยู4แล#ว ไม4ใช4แค4ตัวชี้วัดของกระทรวงสาธารณสุข
มีตัวชี้วัดของกระทรวงอื่น ๆ ด#วย เช4น ข#อมูลจำนวนสุนัข ข#อมูลคนจน ขอให#มีหนังสือ
สั่งการจากส4วนกลางหรือจากจังหวัดมา อบต. ก็พร#อมให#ความร4วมมืออยู4แล#วหรือ
ในหลายกรณี ให#รอหนังสือสั่งการจากกรม ฯ หรือจังหวัดจะล4าช#าไม4ทันการณB ผมก็
ประสานกับ สสอ. อย4างไม4เปNนทางการอยู4แล#ว หมายเลขโทรศัพทBและ LINE ก็มี
โทรหากันไดต# ลอดเวลา

คำให%สัมภาษณข- องผบู% ริหารองค-กรปกครองสAวนทอ% งถิน่ [รหสั 1BA])
ตัวชี้วัดหลายตัวอยู4นอกเหนืออำนาจหน#าที่ของท#องถิ่น แต4เราก็ยินดีให#ความร4วมมือ
กับฝbòงสาธารณสุข ถ#า สสอ. ประสานมาทางนายก นายกก็ยินดีให#ความร4วมมืออยู4แล#ว
แต4ถ#าจะมีกลไกประสานงานระหว4างกระทรวงมาตั้งแต4เบื้องบน ก็จะดีมากยิ่งขึ้น จะทำ
ใหท# อ# งถ่ินทำงานได#สะดวกมากขึ้น

คำให%สมั ภาษณ-ของผบ%ู รหิ ารองคก- รปกครองสวA นท%องถ่นิ [รหสั 2AA]
ในขณะท่ีผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วให้ความเห็นว่า
ตัวชี้วัดของกระทรวงสาธารณสุขมีจำนวนมากเกินความจำเป็น ไม่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ และเป็นภาระ
ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยเฉพาะตัวชี้วัด 43 แฟ้มของกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงาน
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วจึงเลือกปฏิบัติ
และบันทึกเฉพาะตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับตัวชี้วัดของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและตัวชี้วัด
ทค่ี ณะกรรมการประสานงานสาธารณสขุ อำเภอ (คปสอ.) ใหค้ วามสำคัญ

ตัวชี้วัดหลายตัวของกระทรวงเป็นตัวชี้วัดที่มาตอบโจทย์พื้นที่ จะเรียกว่าเป็นภาระของ
รพ.สต. ก็ได้ การเก็บข้อมูลตัวชี้วัดคือ หนึ่งในสาเหตุใหญ่ทำให้คน รพ.สต. ตัดสินใจ
ถ่ายโอนมาเทศบาล เราก็เข้าใจว่า สาธารณสุขต้องการข้อมูลไปจัดทำแผนและนโยบาย

-120-

ในภาพรวมของระบบสุขภาพ แต่การเก็บข้อมูลตัวชี้วัดทำให้เรา (บุคลากร รพ.สต.)
ให้บริการประชาชนได้น้อยลงมากจน “หมออนามัย” กลายเป็น “หมอหน้าคอม”
การจะให้พยาบาลวิชาชีพหรือนักวิชาการสาธารณสุขไปสาละวนกับการบันทึกข้อมูล
ถอื เปน็ การใชค้ นไมถ่ ูกกบั งาน ผลลพั ธก์ ารทำงานจะดไี ด้อยา่ งไร

คำให%สมั ภาษณข- องผู%บริหารองคก- รปกครองสวA นท%องถิ่น [รหัส 2C]
ตัวชี้วัดที่เรายังต#องทำอยู4ก็เปNนของ สปสช. และตัวชี้วัดบางตัวที่ คปสอ. แจ#งเราว4ามี
ความสำคัญเปNนประเด็นสุขภาพในพื้นที่ของเรา ตอนนี้เราให#ความสำคัญกับตรงนั้น
มากกว4า เพราะเราถ4ายโอนมาเทศบาลแล#ว ไม4ได#อยู4สังกัดกระทรวง ถ#าจะให#เราทำ
อะไรหรือเก็บข#อมูลอะไรก็ต#องเปNนสิ่งที่เปNนประโยชนBต4อประชาชนในพื้นที่เทศบาล
เพราะสายงานการบงั คับบญั ชาในตอนนี้เปนN เช4นนน้ั

คำใหส% มั ภาษณ-ของผู%บริหารองค-กรปกครองสวA นทอ% งถ่นิ [รหัส 2D]
สำหรับมุมมองของตัวแทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเกี่ยวกับ
ระบบข้อมูลด้านสุขภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นนั้น พบอุปสรรคในการเก็บรวบรวมข้อมูลตัวชี้วัดด้านสุขภาพประชากรในช่วงแรก ทั้งนี้ เนื่องจาก
ความเข้าใจที่ไม่ตรงกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบล กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และส่วนราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข แต่ในระยะเวลาต่อมา
เมื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการพัฒนาศักยภาพมากขึ้นจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งได้ร่วมทำโครงการและกิจกรรมเกี่ยวกับสุขภาพกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ก็ทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับตัวชี้วัดด้านสุขภาพจนส่งผลให้
องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ หลายแหง่ มผี ลสัมฤทธิ์ในการดำเนินงานดา้ นสขุ ภาพดีขน้ึ

ในช่วงแรกของการถ่ายโอนเท่าที่จำได้ คือ ช่วงปี 2551-2553 มีปัญหาหลายอย่าง
เพราะเรื่องการถ่ายโอน รพ.สต. ให้ท้องถิ่นยังเป็นเรื่องใหม่ เราก็ยอมรับว่า หลายฝ่าย
ก็ต้องทำงานแบบมวยวัด แต่หลังจากนั้น พอปัญหาได้รับการสะท้อนกลับไป
ที่ส่วนกลาง ทิศทางการทำงานร่วมกันระหว่างสาธารณสุขในพื้นที่กับท้องถิ่นที่รับถ่าย
โอนสถานีอนามัยไปก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นเรื่องธรรมดา พอฝุ่นหายตลบ อะไรก็เข้าท่ี
เข้าทาง สถานีอนามัยของท้องถิ่นก็ช่วยส่งข้อมูลตัวชี้วัดดีข้ึน จะแตกต่างจาก รพ.สต.
ทย่ี ังไมถ่ ่ายโอนบา้ ง แตก่ ็ยงั ถอื วา่ ดีกว่าช่วงแรกชดั เจน

คำให%สมั ภาษณข- องตวั แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด [รหสั 4A]
ในช4วงแรกหลังการถ4ายโอน นายก อบต. ยังไม4ทราบว4า มีการถ4ายโอน รพ.สต. ให#
อบต. แล#ว เพราะตอนนั้น (พ.ศ. 2551-2552) ไม4ได#มีการประเมินความพร#อมท#องถิ่น
ก4อนการถ4ายโอนเหมือนกับในปbจจุบัน ส4วนกลางใช#วิธีการเลือกถ4ายโอนให#ท#องถิ่นที่
ได#รับรางวัลการบริหารจัดการที่ดี ทำให# อบต. ไม4ทราบเรื่อง จนกระทั่งมีหนังสือจาก

-121-

ส4วนกลางและเอกสารที่เกี่ยวกับการถ4ายโอนทั้งหมดส4งไปให# ส4งผลให#การทำงาน
ในช4วงแรกของอนามัยที่ถ4ายโอนไปมีอุปสรรคมาก ทางกรมส4งเสริมการปกครอง
ท#องถิ่นและท#องถิ่นจังหวัดก็ไม4มีประสบการณBในการบริหารงานของสถานีอนามัย
ส4วนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดก็เข#าไปควบคุมสั่งการโดยตรงไม4ได# เพราะท#องถ่ิน
ไมไ4 ด#อย4ูสังกดั เรา

คำใหส% ัมภาษณข- องตวั แทนสำนกั งานสาธารณสขุ จังหวัด [รหัส 4B]
ในจังหวัดนี้มีอนามัยถ4ายโอนสองแห4ง การส4งมอบข#อมูลตัวชี้วัดให# สสจ. ก็แตกต4างกัน
แห4งหนึ่งมีปbญหาในช4วงแรก พึ่งจะมาลงตัวเมื่อไม4กี่ปvที่ผ4านมา ส4วนอีกแห4งให#
ความร4วมมือโดยดีมาตลอด ผมว4า ศักยภาพและความพร#อมของท#องถิ่นเปNนปbจจัย
สำคัญ การส4งเสริมสนับสนุนท#องถิ่นก็เปNนเรื่องสำคัญเช4นกัน ทาง สสจ. และ สสอ. ก็
ต#องรับผิดชอบตาม MOU ที่เขียนไว#ตอนถ4ายโอน แต4เราก็มีเวลา ทรัพยากรที่จำกัด
ส4วนกลางก็ต#องช4วยเติมเต็ม โชคดีที่สมัยนี้ เครื่องมือการสื่อสารดีขึ้น มีอะไรเราก็
ประสานกับน#อง ๆ ที่อนามัยของเทศบาลได#โดยตรง ไม4ต#องทำหนังสือราชการให#
ย4งุ ยาก

คำใหส% ัมภาษณ-ของสาธารณสุขอำเภอ [รหัส 5F]
อย่างไรก็ตาม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและสาธารณสุขอำเภอในหลายพื้นที่มองว่า โครงสร้าง
การกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในปัจจุบันทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคยังเป็นกลไกของ
กระทรวงมหาดไทยที่ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขในฐานะ “ผู้บริบาลระบบสุขภาพ”
และ “พี่เลี้ยง” ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่ผู้รักษาการ
ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดไม่ใช่ผู้กำกับดูแล
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้น สิ่งสำคัญ คือ การเพิ่ม
ศักยภาพของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการประสานงานและอำนวยความสะดวกให้แก่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อส่งเสริม
และสนับสนุนองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินในการปฏิบตั หิ น้าท่ดี ้านสุขภาพ

ปัญหาเกิดจากกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้กำกับดูแล
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และในระดับจังหวัดก็เป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัด
ซึ่งก็ทำงานหลายด้าน ส่วนกลางก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองด้วย โดยเฉพาะกรมส่งเสริม
กับกระจายอำนาจ ก็ออกแนวทางและหลักเกณฑ์ต้องชัดเจนให้ผู้ปฏิบัติทำงานได้
อย่างสบายใจและมั่นใจ เพราะเรื่องถ่ายโอนสถานีอนามัยเป็นเรื่องใหม่และเรื่องสำคัญ
มันต้องทำงานร่วมกันและประสานงานกัน แต่ส่วนกลางของเรายังทำตรงได้ไม่มี
ประสทิ ธิภาพ

คำให%สมั ภาษณข- องสาธารณสุขอำเภอ [รหสั 5B]

-122-

แนวทางการปฏิบัติจากส่วนกลางไม่ชัดเจนเลย ยิ่งในช่วงแรก ๆ ของการถ่ายโอน
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชัดเจน เราคนทำงานในพื้นที่ก็ลำบากใจ ทำอะไรไปโดยไม่มีหนังสือ
สั่งการลงมาจากกระทรวงผ่านจังหวัด เราก็จะมีความผิด ก็อยากให้ส่วนกลางทำงาน
ให้รอบคอบมากขึ้น มีแนวทางการถ่ายโอนที่ชัดเจนมากกว่านี้ ในพื้นที่ยินดีให้
ความรว่ มมืออย่แู ลว้

คำให%สมั ภาษณข- องสาธารณสุขอำเภอ [รหัส 4A]
4.2.4 การเขา้ ถึงยา เวชภัณฑ์ทีไ่ มใ่ ชย่ า และเครอื่ งมือทางการแพทย์ท่ีจำเป็น
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังคงเป็น
หน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่าย “หน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP)” ภายใต้การบริหาร
จัดการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งสถานพยาบาลแม่ข่ายที่เป็นโรงพยาบาลอำเภอ
สนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ท่ีไม่ใช่ยาที่มีมาตรฐานเดียวกันให้แก่หน่วยบริการปฐมภูมิทุกแห่งในเครือข่าย ดังนั้น
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วจึงยังสามารถเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ท่ีไม่ใช่ยาเท่าเดิม
ไม่แตกต่างจากก่อนการถ่ายโอน (ร้อยละ 62) และหลายแห่งมียาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาเพิ่มขึ้น (ร้อยละ 33)
เนื่องจากระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินบำรุงโรงพยาบาลและหน่วยบริการสาธารณสุขขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 อนุญาตให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นสามารถจดั ซอื้ ยานอกบญั ชยี าหลักแห่งชาติได้

โรงพยาบาล [ชื่อ] ยังคงสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาตามสิทธิหลักประกัน
สุขภาพแห่งชาติให้แก่ รพ.สต. ที่ถ่ายโอนไปแล้ว ตรงนี้เป็นไปตามกฎหมายหลักประกัน
สุขภาพแห่งชาติ ไม่เก่ยี วกบั ว่าสถานพยาบาลนนั้ อยูส่ ังกดั ไหน หาก รพ.สต. อยู่ใน CUP
เราก็จะจัดสรรยาและเวชภัณฑ์ให้ แล้วหักต้นทุนจากงบค่าหัวประชากรของ รพ.สต.
น้นั

คำใหส% ัมภาษณข- องตัวแทนโรงพยาบาลแมAขAายของโรงพยาบาลสAงเสรมิ สขุ ภาพตำบล
ทีไ่ ด%รบั การถAายโอนให%แกAองคก- รปกครองสAวนท%องถ่นิ แล%ว [รหัส 6A]

สถานีอนามัยของเราตั้งอยู4ในเขตเมือง เทศบาลก็ต#องเพิ่มยาและบริการมากขึ้นตาม
ความต#องการของประชาชนและสภาพพื้นที่ ก4อนปv พ.ศ. 2560 ก็ยอมรับว4า การที่
เทศบาลจะจัดซื้อยาที่นอกเหนือจากยาพื้นฐานที่โรงพยาบาล [ชื่อ] จัดให#เปNนเรื่องที่
ยากมาก เพราะระเบียบกระทรวงมหาดไทยไม4เปñดช4อง แต4หลังจากที่กระทรวงออก
ระเบียบปv 2560 ใช#บังคับ ทุกอย4างก็ง4ายขึ้น เราสามารถจัดซื้อยานอกบัญชียาหลัก
แห4งชาติได# โดยหัวหน#าสถานีอนามัยเสนอต4อผู#บริหารเทศบาลเพื่อพิจารณาอนุมัติ
งบประมาณ ก็ทำให#เราใหบ# ริการประชาชนได#มากข้ึน

คำใหส% ัมภาษณ-ของผ%ูบริหารองค-กรปกครองสวA นท%องถ่นิ [รหัส 1A]

-123-

นอกจากนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วยังได้รับงบประมาณสนับสนุน
จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นสังกัดและเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ทำให้ส่วนใหญ่มีงบประมาณเพิ่มขึ้น
(ร้อยละ 78) และครุภัณฑ์ทางการแพทย์เพิ่มขึ้น (ร้อยละ 68) ในภาพรวมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมียา เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา เครื่องมือทางการแพทย์ที่จำเป็น
และอาคารสถานที่เพียงพอในการบริการประชาชน โดยร้อยละ 53 ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
รายงานว่า ได้รับงบประมาณสนับสนุนเพื่อก่อสร้างและปรับปรุงอาคารสถานที่เท่าเดิม และร้อยละ 42 ได้รับ
เพิ่มข้นึ (ตารางท่ี 4-5)

เงินอุดหนุนเฉพาะกิจที่รัฐบาลจัดสรรให้ท้องถิ่นทำให้เรามีครุภัณฑ์และวัสดุทาง
การแพทย์เพียงพอ เราขอเงินอุดหนุนเฉพาะกิจไปที่กรม สถ. ทุกปี และกรมก็จัดให้
ทุกปี จนตอนนี้ไม่รู้จะขออะไรอีกแล้ว Unit ทันตกรรมเราก็ได้มาและล่าสุดเครื่องมือ
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ก็ได้มา พยาบาลที่ รพ.สต. อ่านค่าเป็นและช่วยเรา
คัดกรองโรค NCD ให้คนไข้ได้ดีขึ้น ฉะนั้น ถ้าถามว่า พอถ่ายโอนมาแล้ว ยา เวชภัณฑ์
และพสั ดคุ รุภัณฑ์ มีเพยี งพอหรือเปล่า เราตอบได้ว่า เกินพอ และดีขึน้ กวา่ เดมิ

คำใหส% ัมภาษณผ- ู%อำนวยการโรงพยาบาลสAงเสริมสุขภาพตำบล
ท่ไี ด%รับการถาA ยโอนให%องคก- รปกครองสวA นทอ% งถิ่นแล%ว [รหสั 1AC]
ในพื้นที่อำเภอเรา ถือว4า รพ.สต. ของ อบต. [ชื่อ] ถือได#ว4ามีเครื่องมือทางการแพทยB
อย4างครบครัน เพราะเขาได#งบสนับสนุนจาก อบต. และนายก อบต. คนปbจจุบันก็
เข#าใจและสนับสนุนงานด#านสุขภาพเต็มที่ ท4านเปNนนายกมาเกือบ 10 ปvตั้งแต4 รพ.สต.
ถ4ายโอนมาในช4วงแรก ๆ จนถึงตอนนี้ รพ.สต. แห4งที่สองในพื้นที่ตำบลเดียวกันก็ได#ถ4าย
โอนให# อบต. แล#ว อาคารสำนักงานและอุปกรณBหลายอย4างก็เพิ่มขึ้น ล4าสุดเห็น อบต.
ซื้อรถตส#ู ำหรับรับ-ส4งผูป# eวยจาก รพ.สต. มาโรงพยาบาลอำเภอ
คำให%สัมภาษณข- องตวั แทนโรงพยาบาลแมAขาA ยของโรงพยาบาลสAงเสรมิ สุขภาพตำบล
ที่ไดร% บั การถาA ยโอนให%แกอA งค-กรปกครองสวA นท%องถน่ิ แลว% [รหัส 6B]
อบต. พยายามจัดสรรงบสนับสนุน รพ.สต. ให#มากที่สุดตามความเหมาะสมและ
ความจำเปNนในการให#บริการประชาชน ทั้งรถรับ-ส4งผู#ปeวย อุปกรณBให# อสม. ยืมไปใช#
บริการชาวบ#าน อย4างในตำบลผม รพ.สต.ทั้ง 2 แห4งถ4ายโอนมาแล#ว ถึง อสม. จะยังไม4
ถ4ายโอนมา รพ.สต. ก็ยังทำหน#าที่เปNนพี่เลี้ยงให# อสม. อสม. เขาขาดเหลืออะไร เราก็
แนะนำให#เขาทำโครงการมาเสนอ ถ#า อบต. ไม4มีในแผน เราก็ให#เขามาใช#เงินกองทุน
หลักประกันสุขภาพระดับตำบล อย4างในช4วงโควิด อบต. เราก็ช4วยเหลือหลาย
อย4างงบของท#องถิ่นกระบวนการไม4ยุ4งยากสลับซับซ#อนเท4ากับของสาธารณสุข
เราเลยอุดหนุนไดเ# ร็วและชว4 ย อสม. ได#รวดเรว็
คำใหส% ัมภาษณ-ของผู%บรหิ ารองค-กรปกครองสAวนทอ% งถ่ิน [รหัส 1BB]

-124-

ตารางที่ 4-5 ความเพยี งพอของทรพั ยากรในการใหบ้ ริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตำบล (n = 60)

ทรพั ยากร เพ่ิมขน้ึ ลดลง เท่าเดิม
1. งบประมาณ 47 (78%) 0 (0%) 13 (22%)
2. ยาและเวชภณั ฑท์ ีไ่ มใ่ ช่ยา 20 (33%) 3 (5%) 37 (62%)
3. ครภุ ณั ฑ์ทางการแพทย์ 41 (68%) 2 (3%) 17 (28%)
4. สง่ิ กอ่ สรา้ ง 25 (42%) 3 (5%) 32 (53%)

4.2.5 การเงิน
ตามที่ได้กล่าวมาแล้วในข้อ 4.2.4 การเข้าถึงยา เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา และครุภัณฑ์ทางการแพทย์
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจะได้รับเงินอุดหนุนทั่วไปและ
เงินอุดหนุนเฉพาะกิจเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นขนาดใหญ่ ได้แก่ เทศบาลนคร เทศบาลเมือง และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีรายได้สูง
ยังจัดสรรงบประมาณสนับสนุนภารกิจของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจากเงินรายได้ของตนเอง
กล่าวโดยสรุป โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมี
แหลง่ รายได้ตอ่ ไปน้ี

1) เงินอุดหนุนทั่วไปที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับการจัดสรรจากรัฐบาลและต้องโอน
เข้าบัญชีเงินบำรุงของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่า
ด้วยเงินบำรุงโรงพยาบาลและหน่วยบริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 และที่แก้ไข
เพ่ิมเตมิ (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 256220

2) เงินอุดหนุนเฉพาะกิจที่ได้รับการจัดสรรจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นเพื่อสนับสนุน
การกอ่ สร้างสงิ่ ปลกู สรา้ งและอาคารและจดั ซ้อื ครุภณั ฑท์ างการแพทย์

3) งบประมาณที่ได้รับจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามข้อบัญญัติและเทศบัญญัติ
งบประมาณรายจา่ ยประจำปีขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน

4) งบเหมาจ่ายรายหัวที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผ่าน
เครอื ขา่ ยหนว่ ยคู่สญั ญาของบริการสขุ ภาพระดับปฐมภูมิ (CUP)

20 ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินบำรุงโรงพยาบาลและหน่วยบริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.
2560 ข้อ 6 กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้จ่ายเงินบำรุงเพื่อการสาธารณสุขและการบริหารจัดการโรงพยาบาลและ
หน่วยบริการสาธารณสุข ดงั น้ี 1) ค่ายาและเวชภณั ฑ์ 2) ค่าวัสดทุ างการแพทยแ์ ละวัสดอุ น่ื ใดของโรงพยาบาลและหน่วยบรกิ าร
สาธารณสุข 3) ค่าตอบแทนทางการแพทย์และฝ่ายสนับสนุนอื่น ๆ 4) ค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่หน่วยบริการอื่น
5) ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งก่อสร้างของโรงพยาบาลและหน่วยบริการสาธารณสุข 6) ค่าซ่อมแซมครุภัณฑ์หรือสิ่งกอ่ สร้าง และ
7) ค่าจ้างช่วั คราวรายเดอื น ค่าจ้างรายวัน หรอื รายคาบ

-125-

5) เงินสนับสนุนจากแหล่งอื่น เช่น กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่
กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นต้น ซึ่งเป็นแหล่งเงินสนับสนุนที่กำหนดให้องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นตั้งงบประมาณสมทบ อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยพบว่า ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการตั้ง
งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อสมทบกองทุน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 กล่าวถึง กองทุนหรือ
ทุนหมุนเวียนที่จัดตั้งขึ้นโดยกฎหมายเพียง 2 กองทุน คือ กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นท่ี
ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และกองทุนสวัสดิการชุมชนที่ประชาชนในชุมชนร่วมกัน
จัดตั้งขึ้นและได้รับการรับรองตามกฎหมายว่าด้วยส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม ทำให้องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นที่ได้รับการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลไม่สามารถตั้งงบประมาณเพื่อสมทบกองทุนอื่นได้
และการบริหารงบประมาณที่ตั้งสมทบกองทุนเหล่านี้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นก็เป็นไปในลักษณะ
กระจดั กระจาย ไมส่ ามารถบูรณาการเพอ่ื ตอบโจทย์ความจำเป็นเร่งดว่ น

นอกจากนี้ ระหว่างปี พ.ศ. 2551 – 2560 กระทรวงมหาดไทยไม่มีระเบียบที่ชัดเจนให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นในการใช้จ่ายเงินบำรุงของหน่วยบริการสาธารณสุขและการจ่ายค่าตอบแทนเจ้าหน้าท่ี
ที่ปฏิบัติงานให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจนก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ ยกตัวอย่างเช่น ระเบียบ
กระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินทุนหมุนเวียนค่ารักษาพยาบาลและเวชภัณฑ์ พ.ศ. 2530 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 ไม่ครอบคลุมถึงองค์การบริหารส่วนตำบล ทำให้การดำเนินการของโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลที่ถ่ายโอนให้แก่องค์การบริหารส่วนตำบลใช้ระเบียบหรือหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข
โดยอนุโลม

ก่อนปี พ.ศ. 2560 กระทรวงมหาดไทยใช้ระเบียบเงินบำรุงคนละฉบับซึ่งแตกต่าง
กับฉบับปัจจุบันมาก ฉบับปัจจุบันมีแนวทางที่ชัดเจนกว่ามาก คือ ระเบียบ
กระทรวงมหาดไทยฉบับเก่าไม่ครอบคลุม อบต. ทำให้ต้องใช้ระเบียบกระทรวง
สาธารณสุขโดยอนุโลม แต่ก็ไม่ได้ประกาศเป็นระเบียบอะไร ทำให้เราก็กลัว สตง.
มาตรวจสอบเหมือนกัน เพราะได้ยินว่า เทศบาลบางแห่งอยากทำศูนย์บริการ
สาธารณสุขของตัวเอง แต่ สตง. ไม่อนุญาต ทำให้ต้องมีการคืนเงินกันยกใหญ่ แต่ของ
เราก็รอดมาถึงปัจจุบัน มาโล่งอกตอนที่มหาดไทยออกระเบียบปี 2560 ก็อยากแนะนำ
ส่วนกลางว่า ก่อนการถ่ายโอนภารกิจ ควรเตรียมความพร้อมพวกระเบียบกับแนวทาง
ปฏิบัติให้พร้อมก่อนการถ่ายโอน จะช่วยให้ท้องถิ่นทำงานได้ง่ายขึ้นและปลอดภัยมาก
ขึ้น เพราะคนรับผิดชอบเวลา สตง. มาตรวจสอบ คือ ท้องถิ่น ไม่ใช่กระจายอำนาจหรือ
กรม

คำให%สัมภาษณ-ของผ%ูอำนวยการโรงพยาบาลสAงเสริมสขุ ภาพตำบล
ทีไ่ ด%รบั การถAายโอนให%องคก- รปกครองสAวนท%องถน่ิ แลว% [รหสั 2C])

-126-

สิ่งที่คนทำงาน รพ.สต. ต#องทราบ เมื่อถ4ายโอนมาท#องถิ่น คือ ท#องถิ่นมีกฎระเบียบที่
ค4อนข#างเข#มงวดมากกว4ากระทรวงสาธารณสุข และ สตง. ก็เข#าตรวจบ4อยกว4า ฉะนั้น
แม#การถ4ายโอน รพ.สต. ให#ท#องถิ่นจะทำให# รพ.สต. มีงบประมาณมากขึ้น แต4ก็ต#อง
ยอมรบั การตรวจสอบทเี่ ข#มงวดขนึ้ ของมหาดไทยและ สตง.

คำใหส% ัมภาษณ-ของผอู% ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สขุ ภาพตำบล
ที่ไดร% ับการถาA ยโอนให%องคก- รปกครองสAวนทอ% งถิน่ แล%ว [รหสั 2F])
ต่อมาในปี พ.ศ. 2560 กระทรวงมหาดไทยได้ออกระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินบำรุง
โรงพยาบาลและหน่วยบริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้แก่
หน่วยบริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ซึ่งครอบคลุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด
และองค์การบริหารส่วนตำบล รวมทั้งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน
ให้แก่หน่วยบริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ทำให้แนวทางการบริหาร
งบประมาณ การเงิน และบัญชีของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าในอดีต และยังเปิดโอกาสให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้ระเบียบ
กระทรวงสาธารณสุขโดยอนุโลมในกรณีที่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยไม่ได้กำหนดไว้ส่งผลให้โรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตำบลในสงั กดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ มคี วามยืดหยุ่นคล่องตัวมากขึน้ ในการปฏบิ ัติหน้าที่
ข้อดีของระเบียบปี 2560 คือ กระทรวงมหาดไทยให้ รพ.สต. ใช้ระเบียบกระทรวง
สาธารณสุขได้โดยอนุโลมในกรณีที่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยไม่ครอบคลุมหรือไม่
กล่าวถึง นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังออกระเบียบค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่
ผู้ปฏิบัติงานให้แก่สถานพยาบาลในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้เทศบาล
สามารถทำงานได้ถูกต้อง ชัดเจน และคล่องตัวมากขึ้น ตามแนวคิด “งานสนุก
คนสำราญ งานสำเร็จ” แต่กว่าจะได้ถึงทุกวันนั้น ผมลองผิดลองถูกมาเยอะ จนถูก
หลายหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขสบประมาทว่าทำงานไม่เป็น ซึ่งที่จริงก็ไม่ใช่
ความผิดผมหรือความผิดของท้องถิ่นกับ รพ.สต. นะ เป็นความบกพร่องของส่วนกลาง
ที่ไม่ออกระเบยี บมาใหพ้ วกเราทำงานได้
คำให%สัมภาษณ-ของผูอ% ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สุขภาพตำบล
ทไ่ี ด%รบั การถาA ยโอนให%องค-กรปกครองสวA นทอ% งถนิ่ แลว% [รหัส 2C]
เรื่องค4าตอบแทนบุคลากร เช4น แพทยB ทันตแพทยB มีปbญหาในช4วงก4อนมีระเบียบปv
2562 เพราะบุคลากรเหล4านี้จำเปNนต#องได#รับค4าตอบแทนที่เหมาะสม มิหนำซ้ำยังเปNน
บุคลากรวิชาชีพที่ขาดแคลนอยู4แล#ว จะใช#ระเบียบบริหารงานบุคคลประเภททั่วไปของ
กระทรวงมหาดไทยไม4ได# หลังจากที่มหาดไทยประกาศใช#ระเบียบค4าตอบแทนบุคลากร
ในสถานพยาบาลขององคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น เราก็ไม4ต#องไปขอยกเว#นระเบียบ
อะไรแล#ว ทุกอย4างทำได#คล4องตัวและถูกต#องทำให#เทศบาลมีแพทยBประจำแบบไม4เต็ม

-127-
เวลาที่อนามัยมากขึ้น ตอนนี้เรากำลังพยายามเพิ่มตำแหน4งแพทยBแผนไทย แผนจีน
และทันตแพทยB

คำให%สัมภาษณ-ของผู%บริหารองค-กรปกครองสวA นท%องถ่นิ [รหสั 1AA]
นอกจากนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วยังได้รับงบประมาณสนับสนุน
จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นสังกัดตามแผนงานและโครงการที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบรรจุไว้
ในแผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและข้อบัญญัติและเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
และสำหรับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลประเภทเงินอุดหนุนทั่วไปเพื่อสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการ
ด้านสาธารณสุขของสถานีอนามัยที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น กระทรวงมหาดไทย
กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องโอนเงินอุดหนุนดังกล่าวเข้าบัญชีเงินบำรุงของโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลทันที21 ซึ่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้เฉพาะตามรายการที่ระบุ
ไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินบำรุงสถานพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล พ.ศ.
2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ ระเบียบดังกล่าวกำหนดให้โรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลต้องมีเงินบำรุงคงเหลือไม่น้อยกว่า 200,000 บาท เพื่อใช้จ่ายในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
ยกตวั อยา่ งเชน่ สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19 เป็นตน้

สิ่งที่เราอุ่นใจ คือ เงินอุดหนุนทั่วไปที่ รพ.สต. ได้รับจากรัฐบาลแห่งละ 1,000,000
บาท เมื่อเทศบาลได้รับเงินจากส่วนกลางแล้วต้องผลักเข้าบัญชีเงินบำรุง และการใช้
จ่ายเงินจากบัญชีเงินบำรุงก็ต้องเป็นไประเบียบกระทรวงมหาดไทยปี 60 และระเบียบ
นี้ก็ถูกแก้ปี 61 ให้ รพ.สต. ต้องมีเงินติดบัญชีเงินบำรุงไว้ 200,000 บาท ตรงนี้ดีมาก
เพราะถ้าเปลี่ยนนายก เราก็ไม่ต้องกลัวว่านายกคนใหม่จะสนใจหรือไม่สนใจเรื่อง
การจัดบริการสุขภาพ เพราะมีระเบียบกระทรวงมหาดไทยกำหนดแนวทางการรับ-
จา่ ยเงินเขา้ บญั ชเี งินบำรงุ เอาไว้

คำใหส% ัมภาษณข- องผอู% ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สขุ ภาพตำบล
ทไ่ี ดร% บั การถAายโอนให%องค-กรปกครองสวA นทอ% งถนิ่ แลว% [รหสั 2C]

21 ปัจจุบัน (พ.ศ. 2564) รัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสาธารณสุขให้แก่
สถานีอนามัยและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แห่งละ 1,000,000
บาท

-128-

หัวใจของการเงินของ รพ.สต. คือ การบริหารเงินบำรุงซึ่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยมี
รองรับไว#แล#ว และยังมีข#อกำหนดที่ให#ใช#ระเบียบกระทรวงสาธารณสุขได#โดยอนุโลม
ทำให#กลไกการรองรับ รพ.สต. ถ4ายโอนมีความสมบูรณBแบบ พวก รพ.สต. ที่ถ4ายโอนมา
รุ4นแรกอาจจะลำบากหน4อยเพราะตอนนั้นระเบียบไม4ชัดเจนขนาดนี้ แต4 รพ.สต. รุ4น
หลัง ๆ ไมน4 า4 จะเจอปญb หาอุปสรรคมาก

คำให%สัมภาษณ-ของผู%อำนวยการโรงพยาบาลสงA เสริมสุขภาพตำบล
ที่ไดร% บั การถาA ยโอนให%องคก- รปกครองสวA นทอ% งถน่ิ แลว% [รหัส 1D]
อย่างไรก็ตาม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับ
การถ่ายโอนแล้วบางแห่งมีข้อสังเกตว่า เงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้าน
สาธารณสุขของสถานีอนามัยที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ไม่ครอบคลุมรายจ่ายจริงของ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แต่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสามารถแสวงหาแหล่งรายได้อื่น
มาชดเชยได้ ยกตัวอย่างเช่น การบริการผู้ป่วยตามสิทธิประโยชน์ของกองทุนประกันสังคม การเรียกเก็บ
ค่ารักษาพยาบาลจากนักท่องเที่ยวตามที่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยเงินบำรุงโรงพยาบาลและ
หน่วยบริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 อนุญาตให้องค์กรปกครอง
สว่ นท้องถิ่นสามารถกระทำได้
เงินอุดหนุนทั่วไป (รพ.สต. แห่งละ 1,000,000 บาท) ไม่พอกับค่าใช้จ่ายจริง คงพอ
สำหรับ Fixed Costs บางส่วน มันไม่พอแม้กระทั่งสำหรับ รพ.สต. ขนาดเล็กนะ
รพ.สต. เราโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายจากเทศบาล ทำให้เราขยายบริการ
ได้เยอะขึ้น รองรับผู้ป่วยสิทธิข้าราชการ สิทธิประกันสังคม ซึ่งก็เป็นแหล่งรายได้
สำหรับ รพ.สต. เรา เช่น ค่าทำฟันจากกองทุนประกันสังคม นอกจากนี้ พอมีการแก้ไข
ระเบียบเงินบำรุงล่าสุดให้ รพ.สต. เก็บค่าบริการรักษาพยาบาลได้ เราก็เริ่มเพิ่มบริการ
พิเศษให้ชาวบ้านที่มีกำลังจ่าย เช่น ดัดฟันกับรักษารากฟัน แต่เราก็ไม่ได้เก็บแพง คือ
เอาพออยู่ตัวได้ เราทำเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์เต็มที่ ไม่ต้องไปจ่ายค่ารักษา
แพงท่ีคลนิ กิ เอกชน
คำให%สัมภาษณ-ของผู%อำนวยการโรงพยาบาลสAงเสริมสุขภาพตำบล
ทีไ่ ดร% บั การถาA ยโอนใหอ% งค-กรปกครองสวA นทอ% งถนิ่ แล%ว [รหัส 2C])
ทั้งนี้ แหล4งรายได#สำคัญของโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4เทศบาลและ
องคBการบริหารส4วนตำบล คือ งบเหมาจ่ายรายหัวที่ได้รับการจัดสรรจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ผ่านโรงพยาบาลแม่ข่ายในเครือข่ายหน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP) ซึ่งผู้วิจัยพบว่า
เครือข่ายหน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิมีความหลากหลายในการจัดสรรงบเหมาจ่ายรายหัว
และค่าบริการสาธารณสุขอื่นให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่น ในบางพื้นที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นไม่ได้รับการจัดสรรค4าใช#จ4ายประจำ (Fixed Costs) งบบริการสร#างเสริมสุขภาพและ

-129-

ปäองกันโรค (Health Promotion and Disease Prevention: P&P) ค4าใช#จ4ายตามเกณฑBคุณภาพผลงาน
ตัวชี้วัดสุขภาพปฐมภูมิ (QOF) งบค4าเสื่อมจากการบริการ และค่าใช้จ่ายบริการแพทย์แผนไทยและแพทย์
แผนไทยประยุกต์จากโรงพยาบาลแม4ข4ายของหน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP) โดยมี
เหตุผล คือ เนื่องจากโรงพยาบาลแม่ข่ายอยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งใช้ระเบียบที่แตกต่างจากองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นทำให้ไม่สามารถอุดหนุนงบประมาณให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลูกข่ายใน
สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้โดยตรง แต่ยังสามารถอุดหนุนยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาตามสิทธิ
หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไป
ให้บริการประชาชน

ในพืน้ ทีข่ องเราก่อนการถา่ ยโอน เราก็พอจะได้ Fixed Costs งบคา่ เสอื่ ม และค่าใช้จา่ ย
ตามเกณฑ์ QOF จาก CUP แต่ก็ไม่ได้เท่าที่ควรจะได้ แต่หลังการถ่ายโอน CUP แจ้งว่า
ไม่สามารถอุดหนุนงบประมาณในส่วนค่าเสื่อมกับค่าใช้จ่ายประจำให้หน่วยบริการ
นอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุขได้เพราะติดเงื่อนไขระเบียบเงินบำรุงของกระทรวง
ในส่วนของงบ P&P และ QOF เราก็ได้ตามผลงานที่เราทำ ซึ่งเราโชคดีที่เราได้เพราะ
เพ่ือน ๆ ทางภาค [ชื่อภาค] ไม่ไดร้ ับงบ P&P และ QOF

คำใหส% ัมภาษณ-ของผอ%ู ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สุขภาพตำบล
ทไ่ี ด%รับการถาA ยโอนใหอ% งคก- รปกครองสวA นท%องถนิ่ แลว% [รหัส 2AB])
ภายหลังการถ่ายโอน CUP ยังสนับสนุนยาและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยาให้แก่ รพ.สต.
โดย CUP จะหักต้นทุนค่ายาและเวชภัณฑ์ออกจากงบเหมาจ่ายรายหัวในสัดส่วน
รพ.สต. ส่วนงบค่าเสื่อม QOF กับ P&P เราก็ได้มาบ้าง แต่ไม่เป็นไปตามที่ควรจะได้รับ
ซึ่งก็เป็นปกติธรรมดาตั้งแต่ก่อนการถ่ายโอนอยู่แล้ว เพราะ CUP ต้องนำเงินไปบริหาร
จัดการในส่วนอนื่
คำให%สัมภาษณ-ของผอ%ู ำนวยการโรงพยาบาลสงA เสรมิ สขุ ภาพตำบล
ทีไ่ ดร% ับการถAายโอนใหอ% งค-กรปกครองสAวนทอ% งถิน่ แล%ว [รหสั 2BB])
แต่ในบางพื้นที่กลับพบว่า โรงพยาบาลแม่ข่ายของหน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ
(CUP) จัดสรรเงินอุดหนุนเป็นค่าใช้จ่ายประจำ งบบริการสร#างเสริมสุขภาพและปäองกันโรค ค4าใช#จ4ายตาม
เกณฑBคุณภาพผลงานตัวชี้วัดสุขภาพปฐมภูมิ และงบค4าเสื่อมจากการบริการให#แก4โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพ
ตำบลในสังกัดองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นอย4างครบถ#วน และยังมอบหมายให#บุคลากรทางการแพทยB พยาบาล
วิชาชีพ และนักวิชาการสาธารณสุขให#แก4องคBการบริหารส4วนจังหวัดในระยะแรกภายหลังการถ4ายโอน
โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบล
กล4าวโดยสรุปในประเด็นการจัดสรรเงินอุดหนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพแห4งชาติผ4านเครือข่าย
หน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP) คือ แต่ละเครือข่ายมีข้อตกลงเกี่ยวกับแนวทาง
การบริหารจัดการงบเหมาจ่ายรายหัวและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการจัดบริการสุขภาพที่แตกต่างกัน แต่หลักการ

-130-

พื้นฐานของทุกเครือข่ายหน่วยคู่สัญญาของบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP) คือ การส่งเสริมและสนับสนุน
ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถให้บริการสุขภาพในระดับปฐมภูมิให้แก่ประชาชนตามสิทธิที่ได้รับ
การรับรองโดยรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 โดยเฉพาะสิทธิ
ที่พึงได้รับการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมและป้องกันโรค การรักษาพยาบาลขั้นต้น การฟื้นฟูสมรรถภาพ
ที่จำเป็นทางการแพทย์ และยาขั้นพื้นฐานและเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา โดยสิ่งที่จำเป็นต้องพิจารณาต่อไปเพื่อเตรียม
ความพร้อมรองรับการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจำนวนมากให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด
คือ การคำนวณค่าใช้จ่ายประจำ งบบริการสร#างเสริมสุขภาพและปäองกันโรค ค4าใช#จ4ายตามเกณฑBคุณภาพ
ผลงานตัวชี้วัดสุขภาพปฐมภูมิ และงบค4าเสื่อมที่เหมาะสมสำหรับการจัดบริการสุขภาพปฐมภูมิที่มีคุณภาพและ
เปNนไปตามมาตรฐานของพระราชบัญญตั ิระบบสขุ ภาพปฐมภูมิ พ.ศ. 2562

4.2.6 ภาวะผู้นำและธรรมาภบิ าล
ในองคBประกอบนี้ของระบบสุขภาพ ผู#วิจัยแบ4งการวิเคราะหBเปNน 4 ประเด็น คือ 1) ความสัมพันธB
ระหว4างบุคลากรโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#วกับบุคลากร
อื่นภายในองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น 2) ความยืดหยุ4นคล4องตัวในการบริหารจัดการภายในองคBกร 3)
การมีส4วนร4วมของประชาชน และ 4) ความสัมพันธBระหว4างโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลกับหน4วยงาน
ภายนอกองคกB รปกครองสว4 นทอ# งถิน่
1) ความสัมพันธ์ระหว่างบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ่ายโอนแล้วกับ
ผู้บริหารและบคุ ลากรอ่ืนภายในองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่

จากการสำรวจข#อมูลความคิดเห็นของบุคลากรโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ4ายโอน
ให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#ว พบว4า ร#อยละ 53 ของผู#อำนวยการโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบล
ที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#วมีความเปNนอิสระมาก เนื่องจากผู#บริหารองคBกร
ปกครองส4วนท#องถิ่นให#ความเปNนอิสระอย4างเต็มที่ในการกำหนดนโยบายด#านสุขภาพและการบริหารจัดการ
ภายในโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลมีเพียงร#อยละ 13 ของผู#อำนวยการโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบล
ที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#วได#รับความเปNนอิสระในระดับน#อยจากผู#บริหาร
องคกB รปกครองส4วนท#องถ่นิ (ภาพที่ 4-4)

ผลการสำรวจความคิดเห็นข#างต#นสอดคล#องกับข#อมูลจากการสัมภาษณBผู#อำนวยการ
โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#วซึ่งสะท#อนให#เห็นว4า
โดยส4วนใหญ4บุคลากรโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลไม4มีปbญหาและอุปสรรคในการทำงานร4วมกับผู#บริหาร
องคกB รปกครองสว4 นทอ# งถ่นิ

งานของเรา คือ งานบริการประชาชนโดยตรง นักการเมืองเขาก็ต#องทำงานเพ่ือ
คะแนนเสียง ถ#าเรารู#จักหาจุดที่สามารถทำงานร4วมกันได# มันก็เข#ากันได# กระทรวง
สาธารณสุขมีรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งก็นักการเมืองเหมือนกัน ในกรณีของ
เทศบาล นายกเทศมนตรีก็มาจากการเลือกตั้ง แตกต4างกันตรงที่นายกเทศมนตรี

-131-
เขาอยู4ใกล#ชิดประชาชนมากกว4า ถ#านายกเทศมนตรีทำงานดี ก็เปNนนายกได#หลาย
สมัย แต4ถ#าทำงานไม4ดี มันจะมีผลกระทบหลายด#าน ฉะนั้น ผมคิดว4า งานของหมอ
อนามัยกับงานของนักการเมืองไม4แตกต4างกัน เราต4างต#องตอบสนองความต#องการ
ของประชาชน

คำใหส% มั ภาษณข- องผ%อู ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสริมสขุ ภาพตำบล
ทไ่ี ดร% บั การถAายโอนให%องค-กรปกครองสAวนทอ% งถ่นิ แลว% [รหสั 2C]
งานของพี่ไม4แตกต4างกันระหว4างก4อนกับหลังการถ4ายโอน เราก็ทำงานเหมือนเดิม
คือ บริการประชาชน นายก อบต. เขาก็ทำงานของเขาไป ยังไม4เห็นว4า เขาจะ
พยายามทำอะไรให#เราลำบากใจ ตรงกันข#ามเลย ถ#ามีปbญหาติดขัดอะไร เราก็
แจ#งทาง อบต. ไป ไม4กี่วันเขาก็ส4งคนมาช4วยดูแลให# เช4น เรื่องการซ4อมแซม
ตกึ อาคาร
คำใหส% มั ภาษณ-ของผอ%ู ำนวยการโรงพยาบาลสAงเสริมสุขภาพตำบล
ที่ไดร% บั การถาA ยโอนใหอ% งคก- รปกครองสวA นท%องถ่ินแล%ว [รหสั 2BB]

ภาพที่ 4-4 ความสมั พนั ธร1 ะหวา5 งบุคลากรโรงพยาบาลส5งเสรมิ สขุ ภาพตำบลทีถ่ า5 ยโอนแลวE
กับผูบE ริหารและบคุ ลากรอนื่ ภายในองค1กรปกครองส5วนทอE งถ่ิน (n = 60)

-132-

ในกรณีความสัมพันธBระหว4างบุคลากรโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับการถ4ายโอน
ให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#วกับบุคลากรอื่นภายในองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น พบว4า โรงพยาบาล
ส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#วโดยส4วนใหญ4 (ร#อยละ 63)
ได#รับความร4วมมือและการสนับสนุนอย4างเหมาะสมจากบุคลากรอื่นภายในองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น และ
ร#อยละ 37 ได#รับความร4วมมือและการสนับสนุนในระดับดีมาก (ภาพที่ 4-4) ซึ่งสอดคล#องกับข#อมูลที่ได#
จากการสัมภาษณBผู#อำนวยการโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครอง
ส4วนท#องถิ่นแล#ว ยกเว#นผู#อำนวยการโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลแห4งหนึ่งในภาคตะวันออกที่พบปbญหา
อุปสรรคในการประสานงานเรื่องกระบวนการการจัดซื้อจัดจ#างและการส4งข#อมูลเพื่อประกอบการจัดทำ
แผนงานและโครงการตามแผนพัฒนาองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นและเทศบัญญัติงบประมาณรายจ4ายประจำปv
กบั สำนกั ปลดั และกองคลังของเทศบาล แตท4 ้งั หมดนนั้ เปนN อุปสรรคทีเ่ กิดขึ้นในช4วงแรกภายหลังการถ4ายโอน

การถ4ายโอนในช4วงแรกมีปbญหาอุปสรรคในเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ#างและ
การส4งข#อมูลเกี่ยวกับแผนงานโครงการให#กับทางเทศบาล หลัก ๆ เลยเปNนผล
มาจากการที่เทศบาลไม4คุ#นชินกับการบริหารหน4วยบริการสาธารณสุขจึงสื่อสารกับ
เราผิดเพี้ยนไป รวมทั้งเรากไ็ ม4เคยสัมผัสงานของเทศบาลมาก4อน แตเ4 มื่อเวลาผา4 นไป
เมื่อทางกรมส4งหนังสือซักซ#อมและมีแนวทางการบริหาร รพ.สต. ท่ีชัดเจนมากขึ้น
อะไร ๆ กเ็ ขา# ท่เี ข#าทาง

คำใหส% มั ภาษณ-ของผ%ูอำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สขุ ภาพตำบล
ที่ได%รบั การถาA ยโอนใหอ% งคก- รปกครองสAวนทอ% งถ่นิ แลว% [รหัส 2E]
2) ความยดื หยนุ่ คล่องตัวในการบริหารจดั การภายในองค์กร
การบริหารจัดการภายในองคBกรของโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับการถ4ายโอน
ให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#วมีความยืดหยุ4นคล4องตัวมากกว4าก4อนการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครอง
ส4วนท#องถิ่น โดยร#อยละ 75 ของโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลมีการบริหารจัดการภายในองคBกรดีขึ้น
และร#อยละ 25 ของโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลรายงานว4า ความยืดหยุ4นคล4องตัวในการบริหารจัดการ
ภายในองคกB รไม4แตกต4างจากกอ4 นการถ4ายโอน (ภาพที่ 4-5)
ภาพท่ี 4-5 การบริหารจัดการภายในองคก1 รของโรงพยาบาลส5งเสริมสขุ ภาพตำบลท่ีไดEรบั การถ5ายโอน
ใหEแกอ5 งคก1 รปกครองสว5 นทอE งถนิ่ แลEว (n = 60)

-133-

จากการสัมภาษณBผู#อำนวยการโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4
องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น พบว4า การบริหารจัดการภายในองคBกรที่ดีขึ้นหรือยืดหยุ4นคล4องตัวขึ้น
เปNนผลสืบเนื่องจากสายงานการบังคับบัญชาขององคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นที่สั้นกว4าสายงานการบังคับบัญชา
ของกระทรวงสาธารณสุข ส4งผลให#กระบวนการและขั้นตอนในการทำงานมีความกระชับมากขึ้น เช4น
กระบวนการจัดซ้อื จดั จ#าง การขออนมุ ัติโครงการต4าง ๆ เปนN ต#น

สิ่งที่เห็นได#ชัดเจน คือ สายงานการบังคับบัญชาที่สั้นลงเปNนอย4างมากหลังจาก
ถ4ายโอนมาอยู4ที่เทศบาล จากเดิมที่ต#องเขียนบันทึกเสนอขออนุมัติไปที่จังหวัด
ตอนนี้กลายเปNนว4า แค4เดินหนังสือไปที่เทศบาลตึกใกล# ๆ เราเลย จะขออนุมัติ
อนุญาตอะไรก็ง4ายขึ้น ยกตัวอย4างเช4น การขออนุมัติเดินทางไปราชการของ
ผู#อำนวยการสถานีอนามัยก็ขออนุมัติจากนายกเทศมนตรีไม4ต#องขออนุมัติจาก
นายอำเภอผ4าน สสอ. เหมือนกับก4อนการถ4ายโอน การทำงานในด#านอื่นก็คล4องตัว
และยดื หย4นุ มากข้นึ เช4นกัน

คำให%สัมภาษณข- องผ%ูอำนวยการโรงพยาบาลสงA เสริมสุขภาพตำบล
ท่ไี ดร% ับการถาA ยโอนใหอ% งค-กรปกครองสAวนท%องถิน่ แลว% [รหสั 1AB]
โครงสร#างการบงั คับบญั ชาของท#องถน่ิ มนั ไมเ4 หมอื นกับกระทรวงสาธารณสุข แตเ4 ดิม
ก4อนการถ4ายโอน รพ.สต. ขึ้นอยู4กับ สสอ. สสจ. และผู#ว4าราชการจังหวัด และ
กระทรวงสาธารณสุข ก็จะขออนุมัติหรือเจรจาต4อรองเรื่องค4าตอบแทนของบุคลากร
ก็ต#องเดินทางไปที่กระทรวง แต4ของท#องถิ่น รพ.สต. ขึ้นตรงต4อกองสาธารณสุขของ
เทศบาลซึ่งเปNนนิติบุคคลมีอำนาจเบ็ดเสร็จในตัวเอง สามารถออกเทศบัญญัติได#และ
มีเงินรายได#ของตนเอง รวมทั้งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว4าด#วยเงินบำรุงก็
กำหนดให#กระบวนการอนมุ ัติอนญุ าตจบทน่ี ายกเทศมนตรี
คำให%สมั ภาษณข- องผ%ูอำนวยการโรงพยาบาลสAงเสรมิ สุขภาพตำบล
ท่ไี ด%รับการถAายโอนให%องค-กรปกครองสAวนท%องถ่นิ แล%ว [รหสั 2D]
3) การมสี ่วนรว่ มของประชาชน
นักวิชาการและผู#สนับสนุนการกระจายอำนาจให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นโดยส4วนใหญ4
มักใช#เห็นเหตุผลในการผลักดันให#ถ4ายโอนภารกิจด#านสุขภาพให#แก4ประชาชน เนื่องจากผู#บริหารองคBกร
ปกครองส4วนท#องถิ่นและสมาชิกสภาท#องถิ่นมีที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง จึงเปNนหลักประกันว4า ผู#แทนของ
ประชาชนจะบริหารภารกิจด#านสุขภาพโดยคำนึงถึงความต#องการและเจตนารมณBของประชาชนเปNนหลัก ทั้งน้ี
จากการสนทนากล4มุ (Focus Group) รว4 มกับตัวแทนภาคประชาชนในพน้ื ทอ่ี งคBกรปกครองสว4 นทอ# งถน่ิ ทไี่ ดร# ับ
การถ4ายโอนโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลแล#วพบว4า ตัวแทนภาคประชาชนจำนวนมาก “ไม4ทราบ” ข#อมูล
เกี่ยวกับการถ4ายโอนโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น แม#จะเกิดการถ4ายโอน
โรงพยาบาลสง4 เสริมสุขภาพตำบลใหแ# ก4องคBกรปกครองส4วนท#องถ่นิ ในพน้ื ทีต่ นเองแล#วกต็ าม

-134-

ก็พึ่งทราบวันนี้เองว4า การถ4ายโอน รพ.สต. เปNนกฎหมายและได#ดำเนินการถ4ายโอน
มาแล#ว ตอนได#รับจดหมายเชิญประชุมก็นึกว4า กำลังจะเริ่มถ4ายโอน ที่ไหนได#
ถ4ายโอนมาแล#วหลายปv แต4ไม4ใช4ว4าราชการเขาไม4ได#บอกประชาชนในพื้นที่นะ คงมี
การบอกกล4าวกันแล#ว และคงทำประชาคมตามขั้นตอนของเขา แต4ต#องยอมรับว4า
ปbจจุบันมีประชาคมเยอะ เชิญประชุมก็บ4อย ชาวบ#านรวมทั้งพวกผมอาจจะลืมไป
แล#ว และการประชาคมก็คือการสอบถามความคิดเห็นของชาวบ#าน เราก็เสนอ
ความเห็นไป ในสังคมไทย ถ#าไม4ใช4เรื่องเอาขยะมาทิ้งในชุมชนเราหรือมาตั้งโรงงาน
เรากไ็ มต4 อ4 ต#านกนั

ความเห็นของประธานชุมชนในเขตเทศบาล [รหัส 10AB]
เท4าที่ทราบมา การสอบถามความเห็นของประชาชนเปNนหนึ่งในตัวชี้วัดความพร#อม
ของเทศบาลเพื่อรับการถ4ายโอนอนามัย แต4ตอนนั้นก็แค4สอบถามความเห็นชาวบ#าน
เฉย ๆ ไม4ได#มีการลงมติอะไร คือ ถ#าลงมติกัน ชาวบ#านก็เห็นด#วย เพราะเทศบาล
(ชื่อ) เขาก็ทำงานตอบสนองชาวบ#านดี ชาวบ#านแค4ติดใจเรื่องหมอเท4านั้นว4า หมอ
จะตามมาด#วยหรือเปล4า ถ#ามีหมอบริการเหมือนเดิม ชาวบ#านก็ไม4ได#ติดใจอะไรว4า
จะอยก4ู ับเทศบาลหรือสาธารณสุข เพราะในสายตาชาวบา# นมนั กร็ ฐั เหมอื นกนั

ความเหน็ ของประธานชมุ ชนในเขตเทศบาล [รหัส 8DB]
กล4าวโดยสรุปคือ แม#การรับฟbงความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการถ4ายโอนภารกิจ
จากราชการส4วนกลางและส4วนภูมิภาคให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นจะสอดคล#องกับหลักการปกครอง
ในระบอบประชาธิปไตยและยังเปNนช4องทางเปñดโอกาสให#ประชาชนได#แสดงความคิดเห็นและข#อเสนอแนะ
แก4หน4วยงานภาครัฐ แต4ในบางกรณีและบางพื้นที่ การรับฟbงความคิดเห็นอาจเปNนเพียงพิธีกรรม (Ritual) หรือ
เปNนเวทีให#ประชาชนพูดคุยสนทนาเพื่อหาทางออก (Deliberation) มากกว4าเปNนกระบวนการตัดสินใจ
เชิงนโยบาย รวมทั้งยังพบว4าในปbจจุบัน หน4วยงานภาครัฐจำนวนมากใช#กระบวนการรับฟbงความคิดเห็นของ
ประชาชนในทุกเรื่องซึ่งแม#จะเปNนสิ่งที่ดี แต4ก็เปNนภาระแก4ประชาชนที่ต#องประกอบอาชีพและดูแลรับผิดชอบ
เรื่องราวภายในครอบครัว โดยจากการสนทนากลุ4ม ตัวแทนภาคประชาชนจำนวนหนึ่งมีข#อเสนอแนะว4า
ภาครัฐไม4จำเปNนต#องจัดการประชุมประชาคมในทุกเรื่องก็ได# แต4ต#องสื่อสารข#อมูลเกี่ยวกับการกระจายอำนาจ
และนโยบายต4าง ๆ ให#ประชาชนรับทราบในช4วงเวลาที่เหมาะสม โดยในปbจจุบันก็สามารถกระทำได#
หลายชอ4 งทางและรวดเร็ว
ความจริงเราอยากรู#มากกว4าว4า ประชาชนในฐานะผู#บริโภคจะได#รับผลกระทบ
อย4างไรจากการถ4ายโอน รพ.สต. ให#ท#องถิ่น และภาครัฐมีนโยบายมาตรการอะไร
ในการลดผลกระทบนั้น ถ#าถามว4า นายกท#องถิ่นเขาดีหรือเปล4า ในเวทีประชาคม
หมู4บ#าน ใครจะไปกล#าตอบว4า ไม4ดี ไม4มีความสามารถ ทุกคนในหมู4บ#านรู#จักกัน
ทัง้ น้นั เผลอ ๆ นายกกล็ กู หลานพวกเรา

คำกลAาวประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมAบู %าน [รหัส 8BB]

-135-

ปvที่มีการถ4ายโอนโรงเรียนกับ รพ.สต. ผมเคยร4วมประชาคมทั้งสองเวทีเลยนะ ผมว4า
ประชาคมมันมีหลายเวทีเกินไป บางคนถูกเชิญมาร4วมประชาคมยังไม4รู#ด#วยซ้ำว4า
ถูกเชิญมาประชุมเรื่องอะไร ผมว4า บ#านเราชอบประชุมกับประชาคมมากไป เรื่องท่ี
ควรประชาคมก็ไม4ประชาคม เช4น เรื่องทำเหมือง ทำโรงไฟฟäา ทำนิคมอุตสาหกรรม
แต4เรื่องจะถ4ายโอนอนามัยมาให#ท#องถิ่นจัดการกันเอง กลับต#องมาประชาคมให#
ยุ4งยาก ผลมันก็ชัดเจนอยู4แล#ว ชาวบ#านที่ไหนเขาไม4อยากจัดการสุขภาพชุมชนของ
ตวั เอง

คำกลAาวประธานอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจำหมูAบา% น [รหัส 8AB]
โดยหลักการเหมือนจะฟbงดูดี คือ การรับฟbงความคิดเห็นของประชาชนมันทำให#
ทุกอย4างดูดี แต4เวลาส4วนราชการจัดเวทีรับฟbงความคิดเห็น มันก็คือ การจัดฉาก
และระดมพรรคพวกตัวเองมาร4วมเวที คือ เรื่องนโยบายมันเปNนธรรมดาที่จะมีทั้ง
คนเห็นด#วยกับไม4เห็นด#วย แต4เรื่องบริการสาธารณสุขมันต#องดูระยะยาว ถ#าถาม
พวกเราเมื่อ 10 ปvก4อนว4า กระจายอำนาจให# อบต. ดีหรือเปล4า ก็ต#องตอบว4าดี
แต4ถามว4า มั่นใจหรือเปล4าว4า นายก อบต. เขาจะจัดการได# ก็ต#องบอกว4า ไม4มั่นใจ
100% เพราะนายก (ชื่อ) ไม4ใช4หมอ ถึงแม#ตอนนี้ ทุกอย4างจะดี รพ.สต. ที่ถ4ายโอน
มาจะให#บริการดีกว4า รพ.สต. ที่พึ่งถ4ายโอนมาในตำบลเดียวกัน แต4อะไรจะเปNน
หลักประกันว4า นายกสมัยหน#าจะเปNนคนเดิม และถึงเปNนนายก (ชื่อ) คนเดิม คนเรา
มันก็ต#องมีเกิด แก4 เจ็บ ตาย ก็ต#องถามกลับไปที่ส4วนกลางกับท#องถิ่นว4าจะสร#าง
ระบบอะไรเปNนหลักประกันให#ชาวบ#านวา4 สิง่ ดี ๆ ตอนนีจ้ ะคงอยตู4 4อไป

คำกลAาวของผู%ใหญบA า% น [รหัส 11BA]
จากข#อมูลที่กล4าวมาแล#วข#างต#นเปNนมุมมองที่แตกต4างจากกระบวนทัศนBดั้งเดิมในการกำหนด
ขั้นตอนการถ4ายโอนภารกิจให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นซึ่งเน#นการรับฟbงความคิดเห็นของประชาชนก4อน
การถา4 ยโอนภารกิจ ซง่ึ สามารถสรปุ ได#ดังน้ี
(1) ประชาชนต้องการรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายโอนภารกิจด้านสุขภาพให้แก่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการบริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและ
แนวทางการบริหารจัดการผลกระทบนั้น ยกตัวอย่างเช่น แนวทางการชดเชยสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนในฐานะ
ผู้บริโภคอาจสูญเสียไป และหากการบริการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจะดีขึ้นภายหลังการถ่ายโอน
การบริการนน้ั จะดีขนึ้ อย่างไร
(2) การกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหัวใจสำคัญของระบอบ
ประชาธิปไตย แต่ควรมีกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนภายหลังการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบลให้ชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวแทนภาคประชาชนต้องการทราบ โดยเฉพาะกลไกการตรวจสอบการทำงานของ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในลักษณะการตรวจสอบโดยภาคสังคม (Social Audit) อย่างไรก็ตาม

-136-

ตัวแทนภาคประชาชนมีข้อสังเกตว่ากลไกการมีส่วนร่วมของประชาชนในปัจจุบันที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบลยงั อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสขุ ก็ยงั ไม่มีความชดั เจน

(3) การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเป็นแนวคิดที่ดี แต่ในเชิงปฏิบัติ หลายปัจจัย
ส่งผลกระทบต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ยกตัวอย่างเช่น ภารกิจส่วนตัวและภาระทางครอบครัว รวมทั้ง
อิทธิพลทางการเมืองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งจากฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำในพื้นที่ ทำให้
ประชาชนไม่เข้าร่วมเวทีการรับฟังความคิดเห็น นอกจากนี้ การจัดรับฟังความคิดเห็นหลายครั้งเกินความจำเป็น
ยังทำให้ประชาชนเกิด “ภาวะเบื่อหน่ายต่อการมีส่วนร่วม (Participation Fatigue)” และตัดสินใจไม่เข้าร่วม
เวทรี บั ฟังความคิดเหน็

นอกจากนี้ ข้อสังเกตจากข้อมูลการสำรวจความคิดเห็นของบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว พบว่า ร้อยละ 57 เห็นว่า โรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีช4องทางให#ภาคประชาชนมีส4วนร4วมในการวางแผน
ดำเนินงานด#านสุขภาพของโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลมากกว4าก4อนการถ4ายโอน (ภาพที่ 4-6) โดยเฉพาะ
การมีส4วนร4วมของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู4บ#าน (อสม.) และอาสาสมัครเครือข4ายภาคประชาชนอ่ืน
เช4น เครือข4ายคุ#มครองผู#บริโภค เปNนต#น ท่ีมีความกระตือรือร#นในการร4วมวางแผนดำเนินงานด#านสุขภาพ
อย4างไรก็ตาม แม#พระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 พระราชบัญญัติสภาตำบลและองคBการบริหารส4วนตำบล
พ.ศ. 2537 และพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถ่ิน
พ.ศ. 2542 ตลอดจนระเบียบกระทรวงมหาดไทยว4าด#วยการจัดทำแผนพัฒนาองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น พ.ศ.
2548 และที่แก#ไขเพิ่มเติมจะกำหนดให#เทศบาลและองคBการบริหารส4วนตำบลส4งเสริมการมีส4วนร4วมของ
ประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นและเทศบัญญัติ/ข#อบัญญัติงบประมาณรายจ4าย
ประจำปv รวมทั้งการติดตามประเมินผลการดำเนินงานขององคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น แต4ยังไม4มีแนวทาง
หรือช4องทางการมีส4วนร4วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาสุขภาพหรือแผนดำเนินงานของ
หน4วยบริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลขององคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นได#โดยตรง จึงเปNนโจทยBสำคัญให#แก4
หน4วยงานที่เกี่ยวข#องกับการกระจายอำนาจด#านสุขภาพในการออกแบบระบบและกระบวนการมีส4วนร4วมของ
ประชาชนในการขับเคลอื่ นภารกจิ ดา# นสขุ ภาพขององคBกรปกครองส4วนท#องถ่ินตอ4 ไป

ภาพท่ี 4-6 บทบาทของภาคประชาชนในการวางแผนดำเนนิ งานดEานสขุ ภาพของ
โรงพยาบาลส5งเสรมิ สขุ ภาพตำบลในปจV จุบันเปรยี บเทียบกับกอ5 นการถา5 ยโอน
ใหEแก5องค1กรปกครองสว5 นทอE งถิ่น (n = 60)

-137-

4) ความสัมพนั ธก์ บั หนว่ ยงานภายนอกองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน

จากการสำรวจความคิดเห็นบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกี่ยวกับความสัมพันธ์
ระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วและ
หน่วยงานภายนอกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุข
อำเภอ โรงพยาบาลแม่ข่ายของเครือข่ายหน่วยคู่สัญญาบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP) และคณะกรรมการ
ดา้ นสาธารณสุขระดบั พื้นที่ ได้แก่ คณะกรรมการประสานงานสาธารณสขุ ระดับจังหวัด (คปสจ.) คณะกรรมการ
ประสานงานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คปสอ.) และคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.)
ซึ่งพบว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด (ร้อยละ
100) มีความร่วมมือดีมากกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในด้านการส่งต่อผู้ป่วยไปยังหน่วยบริการ
ที่มีศักยภาพสูงกว่า การจัดทำแผนดำเนินงานสุขภาพร่วมกับหน่วยงานอื่นในพื้นท่ีและการส่งข้อมูลตัวชี้วัด
สุขภาพให้แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ รองลงมาคือ ความสัมพันธ์
กับหน่วยงานภายนอกในการให้บริการประชาชนโดยคณะสหวิชาชีพ ได้แก่ โรงพยาบาลอำเภอและ
โรงพยาบาลชุมชน (ร้อยละ 92) การให้คำแนะนำทางวิชาการของหน่วยงานภายนอก (ร้อยละ 77) และ
การตอบสนองต่อสภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขในพื้นท่ี (ร้อยละ 75) นอกจากนี้ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วทั้ง 60 แห่งรายงานว่าได้รับการนิเทศงานจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเครือข่ายหน่วยคู่สัญญาบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ
(CUP) อย่างนอ้ ยปลี ะ 1 คร้งั

ตารางที่ 4-6 ความสัมพันธ์ระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้องค์กรปกครอง
สว่ นท้องถิน่ และหน่วยงานในสังกดั กระทรวงสาธารณสขุ (n = 60)

ประเดน็ ความสมั พันธ์ ไม่มี มคี วามร่วมมอื มคี วามรว่ มมือ
ความร่วมมอื บ้าง ดมี าก
1. การส่งต่อผ้ปู ว่ ยไปยังหน่วยบรกิ ารท่มี ีศักยภาพสงู กวา่ 0 (0%)
2. การตอบสนองต่อสภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสขุ ในพ้ืนที่ 0 (0%) 60 (100%)
3. การจดั ทำแผนสขุ ภาพ 5 (8%) 10 (17%) 45 (75%)
4. การให้บริการประชาชนโดยสหวิชาชีพ
5. การใหค้ ำแนะนำทางวิชาการ 0 (0%) 0 (0%) 60 (100%)
6. การสง่ ขอ้ มูลตวั ชี้วัดดา้ นสขุ ภาพ 0 (0%) 5 (8%) 55 (92%)
2 (3%) 12 (20%) 46 (77%)
0 (0%) 0 (0%) 60 (100%)

จากข้อมูลข้างต้นประกอบกับข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนแล้วและที่ยังไม่ได้รับการถ่ายโอน
รวมทั้งบุคลากรสังกัดกระทรวงสาธารณสุขในราชการบริหารส่วนภูมิภาค พบว่า ระบบสุขภาพของประเทศไทย
มีจุดเด่นที่การทำงานเชิงเครือข่าย โดยเฉพาะเครือข่ายหน่วยคู่สัญญาบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP)
คณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คปสอ.) และคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับ
อำเภอ (พชอ.) แม้การถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล

-138-

ระหว่างปี พ.ศ.2551-2563 ได้ทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบลสังกัดเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลกับเครือข่ายต่าง ๆ ในระบบสุขภาพของประเทศ แต่ผู้วิจัย
มีข้อสังเกตว่าอุปสรรคในการทำงานเชิงเครือข่ายของหน่วยบริการสุขภาพในประเทศไทยไม่ได้เกิดจากองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหมด แต่เป็นผลพวงจากการปฏิรูปกระทรวงสาธารณสุขในช่วงปี พ.ศ. 2550 – 2554
และนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมาซึ่งทำให้เกิดหน่วยงานใหม่ภายในกระทรวงสาธารณสุขที่มีกลไกการทำงานและ
“เครือข่ายมวลชน” ในระดับภูมิภาคที่ทับซ้อนกัน ยกตัวอย่างเช่น คณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัด
คณะกรรมการประสานงานสาธารณสุขระดับอำเภอ (คปสอ.) คณะกรรมการบริหารเครือข่ายหน่วยบริการ
สุขภาพระดับปฐมภูมิ (CUP) คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ (พชอ.) คณะกรรมการเขต
สุขภาพเพื่อประชาชน (กขป.) คณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นท่ี (อปสข.) และ
คณะอนุกรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข (อคม.) ซึ่งคณะกรรมการบางชุดมีขอบเขต
อำนาจหน้าท่ีทับซ้อนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บางชุดเป็นเพียงแพลตฟอร์มระดมความคิดเห็นแต่ไม่มี
งบประมาณ บางชุดมงี บประมาณและเปน็ แพลตฟอร์มระดมความคดิ เหน็ ของหลายภาคสว่ น แตข่ าดองคาพยพ
การทำงานในระดบั พ้นื ท่ี

ถ้ามองจากมุมมองของคนนอก การถ่ายโอนจะก่อให้เกิดปัญหาในการประสานงาน
อยู่แล้ว เพราะหน่วยงานราชการบ้านเรายังทำงานแยกส่วนกัน ประเภทหน่วยงาน
ใครหน่วยงานมัน แต่ในระดับท้องถิ่น ยิ่งถ้าเป็นงานด้านสุขภาพแล้ว เราทำงาน
ร่วมกันมาตลอด ในพื้นที่ผมยิ่งชัดเจน สามีทำงานให้อนามัยที่ถ่ายโอนให้กับ อบต.
ส่วนภรรยากับนอ้ งสาวทำงานใหโ้ รงพยาบาลอำเภอกับ สสอ.

คำใหส้ ัมภาษณ์ของผ้อู ำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ท่ีได้รบั การถ่ายโอนให้แกอ่ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ แล้ว [รหสั 2BA]
ผมก็ไม่เห็น รพ.สต. (ชื่อ) เขาจะมีปัญหาเรื่องทำงานร่วมกับ รพ.สต. ที่ยังไม่ถ่ายโอน
เวลาลงพื้นที่บางครั้งเราก็ไปด้วยกัน เพราะพื้นที่ติดกัน ประชุม คปสอ. หรือ CUP
Board ก็เจอกันทุกครั้ง เวลา พชอ. ขอความร่วมมืออะไร สสอ. ขอความร่วมมือ
อะไร กเ็ หน็ รพ.สต. (ชื่อ) เขาไปร่วมด้วยตลอด

คำให้สมั ภาษณ์ของผอู้ ำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ทีย่ ังไมไ่ ดร้ บั การถ่ายโอนใหแ้ ก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ แลว้ [รหสั 3BB]
ถ้าทุกคนตั้งเป้าหมายว่า เราทำงานเพื่อประชาชน มันก็พูดกันไม่ยาก ผมทำตัวเป็น
น้ำครึ่งแก้วเสมอพร้อมที่จะเรียนรู้กับหน่วยงานของสาธารณสุข ผมเชื่อว่า นายก
ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ เรามาจากประชาชน มีแต่ความตั้งใจจริงที่จะทำงาน ฉะนั้น
อะไรที่ดี เราก็พร้อมร่วมมือ ผมว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ รัฐบาลก็บอกอยู่แล้วว่าอยากให้
ทำงานแบบบรู ณาการกัน เรากส็ นองนโยบายนัน้ มาตลอด

คำให้สัมภาษณข์ องผู้บริหารองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน [รหสั 1BB]

-139-

ก็ต้องยอมรับว่า แรก ๆ ทาง สสจ. กับ สสอ. ก็ยังงง ๆ และไม่แน่ใจว่า จะนิเทศงาน
และให้การสนับสนุนทางวิชาการกับ รพ.สต. ที่ถ่ายโอนไปให้เทศบาล (ชื่อ) ยังไง
แต่พอนายได้พูดคุยกับนายกเทศมนตรีก็พบว่า นายกเทศมนตรีน่ารักมากและพร้อม
เรียนรู้ร่วมมือกับเรา ความจริงในพื้นที่มันก็รู้จักกันหมดอยู่แล้ว นายก (ชื่อ) เขาก็
ลูกหลานคน (ชื่อจังหวัด) รู้จักกันตั้งแต่เด็ก จะบอกว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวไม่ยั่งยืน
กไ็ ม่ใชน่ ะ ความสัมพันธส์ ว่ นตัวของคนในพนื้ ท่นี แ่ี หละปจั จยั แหง่ ความสำเรจ็ เลย

คำใหส้ มั ภาษณ์ตัวแทนสำนกั งานสาธารณสุขจงั หวัด [รหัส 4D]
ดังนั้น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการออกแบบระบบเพื่อรองรับการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะในกรณีที่ถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
จำนวนมากให้องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นขนาดใหญ่ คอื กลไกระดับพน้ื ทหี่ รือระดับอำเภอที่ช่วยเชื่อมประสาน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับหน่วยบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุขในพื้นที่เดียวกัน และระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในสังกัดองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นกับหน่วยบริการที่มีศักยภาพสูงกว่าในพื้นที่ รวมทั้งต้องคำนึงถึงกลไกการประสาน
โครงการและกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ (Health Promotion) และการดูแลสุขภาพระยะยาว (Long-term
Care) ที่ควรดำเนินการในระดับพื้นที่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ทั้งนี้ การกระจายอำนาจด้าน
สุขภาพหรือการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลจึงไม่ควรอยู่ภายใต้กรอบความคิดแบบ “เกมผลรวม
เป็นศูนย์” หรือ “เกมที่ต้องมีแพ้-ชนะ” (Zero-sum Game) หรือ “กระทรวงสาธารณสุขเสียงบ เสียลูกน้อง
กระทรวงมหาดไทยได้เยอะขึ้น” แต่ควรคำนึงถึงการอภิบาลระบบสุขภาพระดับปฐมภูมิให้มีเสถียรภาพ
มีมาตรฐาน และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ในลักษณะ “เกมผลรวมเป็นบวก (Positive Sum
Game)” ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และภาคส่วนต่าง ๆ สามารถ
ร่วมมือกันขับเคลื่อนการพัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเกิด
การปฏิรปู นโยบายและการจดั การดา้ นสขุ ภาพให้เปน็ เอกภาพและขับเคล่ือนไปในทิศทางเดียวกนั

4.3 ผลการวิเคราะห์ผลกระทบจากการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์กร
ปกครองสว่ นท้องถิ่นต่อการบรกิ ารสุขภาพระดบั ปฐมภมู ิจากมมุ มองของประชาชน

ในส4วนนี้ ผู#วิจัยนำเสนอผลการวิเคราะหBผลกระทบจากการถ4ายโอนโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบล
ให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นต4อคุณภาพการบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิซึ่งได#จากการสำรวจทัศนคติของ
ประชาชน โดยผู#วิจัยเก็บรวบรวมข#อมูลในเชิงเปรียบเทียบระหว4างพื้นที่องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นที่ได#รับ
การถ4ายโอนโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลกับพื้นที่ใกล#เคียงซึ่งโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลยังไม4ได#รับ
การถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น ทั้งนี้ โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลจำนวน 80 แห4งให#
ความอนุเคราะหBรวบรวมแบบสอบถามจากประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบโดยใช# Google Forms ของผู#วิจัยซ่ึง
ประกอบด#วยโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น จำนวน 40 แห4ง
และโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ใกล#เคียงที่ยังไม4ได#ถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น
จำนวน 40 แห4ง

-140-

4.3.1 การวเิ คราะหข์ อ้ มูลเบอ้ื งตน้
จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต4อคุณภาพการให#บริการของโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพ
ตำบลที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นแล#วเปรียบเทียบกับคุณภาพการให#บริการของ
โรงพยาบาลที่ยังไม4ได#รับการถ4ายโอนในพื้นที่องคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นใกล#เคียง พบว4า มีประชาชนตอบ
แบบสอบถามจำนวนทั้งหมด 6,304 คน คิดเปNนร#อยละ 1 ของประชากรที่อาศัยในพื้นที่รับผิดชอบของ
โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลทั้ง 80 แห4งและพื้นที่ใกล#เคียง อนึ่ง ในพื้นที่รับผิดชอบของแต4ละ
โรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ถ4ายโอนแล#วและแต4ละโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม4ได#รับ
การถ4ายโอน มจี ำนวนประชาชนผต#ู อบแบบสอบถามเทา4 กนั หรือใกลเ# คียงกนั
ตารางที่ 4-7 แสดงให#เห็นว4า ผู#ตอบแบบสอบถามแบ4งเปNนชาย 3,498 คน (ร#อยละ 44.51) และ
หญิง 2,806 คน (ร#อยละ 55.49) อายุเฉลี่ย (Mean Age) 42.67 ปvและค4าเบี่ยงเบนมาตรฐานของอายุ 4.81
สำหรับระดับการศึกษาของผู#ตอบแบบสอบถามแบ4งเปNนระดับประถมศึกษา 741 คน (ร#อยละ 11.75) ระดับ
มัธยมศึกษาและอนุปริญญา 4,739 คน (ร#อยละ 75.17) ระดับปริญญาตรี 4,255 คน (ร#อยละ 67.50) และ
ระดับปริญญาโทขึ้นไป 824 คน (ร#อยละ 13.07) โดยในจำนวนผู#ตอบแบบสอบถามเปNนผู#ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่
เทศบาล 3,849 คน (ร#อยละ 61.06) และพื้นที่องคBการบริหารส4วนตำบล 2,455 คน (ร#อยละ 38.94) ในจำนวน
นี้เปNนผู#ที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่มีโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลที่ได#รับการถ4ายโอนให#แก4องคBกรปกครองส4วน
ท#องถิ่น 3,455 คน (ร#อยละ 54.81) และพื้นที่ที่ยังไม4มีโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลถ4ายโอนให#แก4องคBกร
ปกครองสว4 นทอ# งถน่ิ 2,849 คน (ร#อยละ 45.19) นอกจากน้ี ผตู# อบแบบสอบถามสว4 นใหญ4 3,045 คน (ร#อยละ
48.30) มีความเชื่อมั่นในองคBกรปกครองส4วนท#องถิ่นในพื้นที่ตนเองในระดับปานกลาง รองลงมาคือ ระดับน#อย
1,406 คน (ร#อยละ 22.30) ระดับมาก 1,234 คน (ร#อยละ 19.57) ระดับน#อยที่สุด 329 คน (ร#อยละ 5.22)
และระดับมากท่ีสุด 290 คน (ร#อยละ 4.60)
เมื่อวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามต่อคุณภาพการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบล 3 ประเด็น คือ งานสร้างเสริมสุขภาพ บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ
และผูป้ ่วยระยะยาว พบวา่

1) คุณภาพงานสร้างเสริมสุขภาพ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความพึงพอใจระดับมาก
และมากที่สุดในงานควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพประชาชน และการบริการแพทย์
แผนไทยของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว
มากกว่าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม่ได้รับการถ่ายโอน ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามโดยส่วนใหญ่
เห็นว่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม่ได้รับการถ่ายโอนมีคุณภาพการให้บริการด้านทันตสาธารณสุข
มากกว่า (ตารางท่ี 4-8)

2) คุณภาพบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ ผู้ตอบแบบสอบถามโดยส่วนใหญ่เห็นว่า การเข้าถึง
บริการ การมีส่วนร่วมออกแบบแผนการให้บริการ มนุษยสัมพันธ์ของบุคลากร และอุปกรณ์ทางการแพทย์
ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วอยู่ในระดับดี
และระดับดีเลิศมากกว่าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม่ได้รับการถ่ายโอน ในขณะที่ความสะดวก

-141-

ในการนัดหมายแพทย์และความน่าเชื่อถือของแพทย์และบุคลากรของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั้งสอง
ประเภทไมม่ ีความแตกต่างกนั จากมุมมองของผู้ตอบแบบสอบถาม (ตารางท่ี 4-9)

3) คุณภาพบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว ในภาพรวม ผู้ตอบแบบสอบถาม
โดยส่วนใหญ่เห็นว่า การบริการของบุคลากรและอุปกรณ์และเครื่องมือของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่
ได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วอยู่ในระดับดีและดีเลิศมากกว่าโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลที่ยังไม่ได้รับการถ่ายโอน ในขณะที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่ยังไม่ได้รับการถ่ายโอน
มีความสม่ำเสนอในการเยี่ยมบ้านและเยี่ยมผู้ป่วยในระดับดีและดีเลิศมากกว่า แต่พบว่าโรงพยาบาลส่งเสริม
สขุ ภาพตำบลทั้งสองประเภทมีความนา่ เชอื่ ถือของบุคลากรในระดบั ทไ่ี ม่แตกตา่ งกนั (ตารางท่ี 4-10)

ตารางที่ 4-7 การวิเคราะหBขอ# มลู เบ้อื งต#นของตัวแปรท่ีใชใ# นการศึกษา

1. เพศ ตวั แปรที่ใช้ในการศึกษา ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู เบ้ืองตน้
ชาย: 44.51% (3,498 คน)
2. อายุ หญิง: 55.49% (2,806 คน)
ค่าเฉลยี่ (Mean): 42.67 ปี
3. รายได้เฉลยี่ ตอ่ เดือนของครัวเรือน คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation): 4.81
ค่าเฉล่ยี (Mean): 15,094 บาท
4. ประเภทองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation): 150.66
เทศบาล: 61.06% (3,849 คน)
5. พื้นทมี่ โี รงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตำบลถา่ ยโอน องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบล: 38.94% (2,455 คน)
หรอื ไม่ ม:ี 50.88% (3,207 คน)
ไม่มี: 49.13% (3,097 คน)
6. ผลการประเมนิ ประสทิ ธิภาพขององคก์ รปกครอง ค่าเฉล่ยี (Mean): 86.75
สว่ นทอ้ งถ่นิ (LPA) พ.ศ. 2562 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation): 3.45
ค่าเฉลย่ี (Mean): 85.61
7. ผลการประเมนิ คณุ ธรรมและความโปรง่ ใส (ITA) คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation): 2.11
ขององค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ พ.ศ. 2562 คา่ เฉลยี่ (Mean): 2.34 คน
คา่ เบย่ี งเบนมาตรฐาน (Standard Deviation): 0.85
8. จำนวนผสู้ ูงอายใุ นครัวเรือน

-142-

ตารางท่ี 4-8 ความคิดเห็นของผตู้ อบแบบสอบถามตอ่ คุณภาพงานสรา้ งเสริมสุขภาพ (n = 6,304)1

คณุ ภาพงานสร้างเสริมสขุ ภาพ 1 2 3 4 5
น้อยที่สดุ น้อย ปานกลาง มาก มากทีส่ ุด
ตวั แปรที่ 1 งานควบคมุ และปอ้ งกนั โรคติดต่อ
1.1 พน้ื ท่ี รพ.สต. ถา่ ยโอน 38 (1.18%) 104 (3.24%) 436 (13.60%) 1,453 (45.31%) 1,176 (36.67%)
1.2 พื้นที่ไม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 124 (4.00%) 358 (11.56%) 813 (26.25%) 930 (30.03%) 872 (28.16%)
ตวั แปรที่ 2 การบริการด้านทันตสาธารณสขุ
2.1 พื้นท่ี รพ.สต. ถ่ายโอน 89 (2.78%) 212 (6.61%) 1,411 (44.00%) 903 (28.16%) 592 (18.46%)
2.2 พ้ืนที่ไม่มี รพ.สต. ถา่ ยโอน 109 (3.52%) 278 (8.98%) 1,124 (36.29%) 1,432 (46.24%) 154 (4.97%)
ตวั แปรท่ี 3 กิจกรรมสง่ เสรมิ สขุ ภาพประชาชน
3.1 พื้นที่ รพ.สต. ถา่ ยโอน 240 (7.48%) 533 (16.62%) 898 (28.00%) 1,202 (37.48%) 334 (10.41%)
3.2 พน้ื ทไี่ ม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 404 (13.04%) 711 (22.96%) 890 (28.74%) 650 (20.99%) 442 (14.27%)
ตัวแปรที่ 4 การบรกิ ารการแพทยแ์ ผนไทย
4.1 พน้ื ที่ รพ.สต. ถา่ ยโอน 111 (3.46%) 345 (10.76%) 1,001 (31.21%) 908 (28.31%) 842 (26.26%)
4.2 พื้นท่ไี มม่ ี รพ.สต. ถา่ ยโอน 261 (8.43%) 789 (25.48%) 1,205 (38.91%) 445 (14.37%) 397 (12.82%)
หมายเหต:ุ 1 ประกอบดว้ ยจำนวนผตู้ อบแบบสอบถามจากพ้ืนท่ีโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบลถา่ ยโอน 3,207 คนและ
จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามจากพ้ืนที่ใกลเ้ คียง 3,097 คน
2 ค่า Cronbach’s alpha เท่ากับ 0.79

ตารางท่ี 4-9 ความคดิ เห็นของผูต้ อบแบบสอบถามตอ่ คุณภาพบริการสขุ ภาพระดบั ปฐมภมู ิ (n = 6,304)1

คุณภาพบรกิ ารสุขภาพระดับปฐมภูมิ 1 2 3 4
ควรปรับปรุง พอใช้ ดี ดีเลศิ
ตัวแปรที่ 1 การเข้าถึงบริการ
1.1 พื้นที่ รพ.สต. ถ่ายโอน 440 (13.72%) 676 (21.08%) 1,746 (54.44%) 345 (10.76%)
1.2 พื้นทไ่ี ม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 718 (23.18%) 1,045 (33.74%) 1,212 (39.13%) 122 (3.94%)
ตวั แปรที่ 2 การมีสว่ นร่วมออกแบบแผนการให้บริการ
2.1 พนื้ ท่ี รพ.สต. ถา่ ยโอน 98 (3.06%) 980 (30.56%) 765 (23.85%) 1,364 (42.53%)
2.2 พน้ื ทไ่ี ม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 405 (13.08%) 1,098 (35.45%) 1,120 (36.16%) 474 (15.31%)
ตวั แปรที่ 3 มนุษยสมั พันธข์ องบุคลากร
3.1 พื้นที่ รพ.สต. ถา่ ยโอน 297 (9.26%) 234 (7.30%) 1,778 (55.44%) 898 (28.00%)
3.2 พ้นื ทไ่ี ม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 708 (22.86%) 865 (27.93%) 1,090 (35.20%) 434 (14.01%)
ตวั แปรท่ี 4 อุปกรณ์ทางการแพทย์
4.1 พื้นที่ รพ.สต. ถ่ายโอน 92 (2.87%) 101 (3.15%) 2,034 (63.42%) 980 (30.56%)
4.2 พืน้ ที่ไมม่ ี รพ.สต. ถา่ ยโอน 200 (6.46%) 1,089 (35.16%) 1,546 (49.92%) 262 (8.46%)
ตัวแปรที่ 5 ความสะดวกในการนัดหมายแพทย์
5.1 พน้ื ท่ี รพ.สต. ถ่ายโอน 453 (14.13%) 1,101 (34.33%) 1,218 (37.98%) 435 (13.56%)
5.2 พื้นทไ่ี ม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 461 (14.89%) 985 (31.80%) 1,095 (35.36%) 556 (17.95%)
ตัวแปรที่ 6 ความน่าเชื่อถือของแพทยแ์ ละบคุ ลากร
6.1 พื้นท่ี รพ.สต. ถ่ายโอน 484 (15.09%) 1,134 (35.36%) 1,109 (34.58%) 480 (14.97%)
6.2 พื้นทไ่ี ม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 313 (10.11%) 1,202 (38.81%) 1,179 (38.07%) 403 (13.01%)
หมายเหต:ุ 1 ประกอบดว้ ยจำนวนผตู้ อบแบบสอบถามจากพนื้ ท่ีโรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตำบลถา่ ยโอน 3,207 คนและ
จำนวนผตู้ อบแบบสอบถามจากพ้ืนทีใ่ กล้เคยี ง 3,097 คน
2 ค่า Cronbach’s alpha เท่ากับ 0.81

-143-

ตารางท่ี 4-10 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามต่อคุณภาพบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว
(n = 6,304)1

คุณภาพบริการดแู ลผู้ปว่ ยสงู อายุ 1 2 3 4
และผูป้ ว่ ยระยะยาว ควรปรบั ปรุง พอใช้ ดี ดีเลศิ

1. การบริการของบคุ ลากร
1.1 พน้ื ที่ รพ.สต. ถ่ายโอน 205 (6.39%) 910 (28.38%) 1,401 (43.69%) 691 (21.55%)
1.2 พื้นที่ไมม่ ี รพ.สต. ถา่ ยโอน 554 (17.89%) 890 (28.74%) 1,331 (42.98%) 322 (10.40%)
2. ความสมำ่ เสมอในการเยย่ี มบา้ น/ผปู้ ว่ ย
2.1 พืน้ ที่ รพ.สต. ถ่ายโอน 243 (7.58%) 1,185 (36.95%) 1,294 (40.35%) 485 (15.12%)
2.2 พื้นท่ไี ม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 212 (6.85%) 980 (31.64%) 1,334 (43.07%) 571 (18.44%)
3. อุปกรณ์และเครอื่ งมือ
3.1 พื้นที่ รพ.สต. ถ่ายโอน 184 (5.74%) 608 (18.96%) 1,504 (46.90%) 911 (28.41%)
3.2 พน้ื ทไ่ี ม่มี รพ.สต. ถา่ ยโอน 341 (11.01%) 659 (21.28%) 1,107 (35.74%) 990 (31.97%)
4. ความนา่ เชอื่ ถอื ของบุคลากร
4.1 พน้ื ท่ี รพ.สต. ถ่ายโอน 409 (12.75%) 1,058 (32.99%) 1,194 (37.23%) 546 (17.03%)
4.2 พื้นที่ไม่มี รพ.สต. ถ่ายโอน 397 (12.82%) 987 (31.87%) 1,096 (35.39%) 617 (19.92%)
หมายเหต:ุ 1 ประกอบด้วยจำนวนผตู้ อบแบบสอบถามจากพื้นทโ่ี รงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตำบลถ่ายโอน 3,207 คนและ
จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามจากพนื้ ที่ใกล้เคียง 3,097 คน
2 ค่า Cronbach’s alpha เท่ากับ 0.74

4.3.2 การวเิ คราะหส์ มั ประสทิ ธส์ิ หสัมพนั ธข์ องตวั แปรท่ใี ช้ในการศึกษา
ตามที่กล4าวมาแล#วในบทที่ 3 การวิเคราะหBสัมประสิทธิ์สหสัมพันธB (Correlation Coefficient: r) ของ
ตัวแปรที่ใช#ในการศึกษาเปNนการตรวจสอบการเกิดภาวะร4วมเส#นตรงหลายตัวแปร (Multicollinearity) ซึ่งอาจ
ส4งผลให#สมการตัวแบบที่ใช#ในการวิเคราะหBความสัมพันธBระหว4างตัวแปรตามและตัวแปรอิสระคลาดเคลื่อน
จากตารางที่ 4-11 พบว4า ตัวแปรอิสระทุกตัวมีความสัมพันธBกันอย4างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p > 0.05) ยกเว#น
จำนวนผู#สูงอายุในครัวเรือนและผลการประเมินประสิทธิภาพขององคBกรปกครองส4วนท#องถิ่น (LPA) พ.ศ.
2562 กับจำนวนผู#สูงอายุในครัวเรือนและผลการประเมินคุณธรรมและความโปร4งใส (ITA) พ.ศ. 2562 ที่ไม4มี
ความสัมพันธBกันอย4างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p > 0.1) โดยตัวแปรอิสระที่มีความสัมพันธBในระดับค4อนข#างมาก
จนถึงระดับมาก22 จำนวน 9 ค4ู คอื

1) คุณภาพงานสร้างเสรมิ สขุ ภาพกบั ประเภทองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ
2) คุณภาพงานสร้างเสริมสุขภาพกับพื้นที่ที่มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลถ่ายโอนให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ เรียบรอ้ ยแล้ว

22 ระดับความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรค่อนข้างมาก คือ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์มีค่าระหว่าง 0.60 ถึง 0.80 ระดับความสัมพันธ์
ระหว่างตัวแปรระดับมาก คือ สัมประสทิ ธ์สิ หสัมพนั ธ์มคี า่ ต้ังแต่ 0.80 ข้นึ ไป

-144-

3) คุณภาพงานสร้างเสริมสุขภาพกับผลการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถน่ิ (LPA) พ.ศ. 2562

4) คุณภาพบรกิ ารสขุ ภาพระดบั ปฐมภูมิกับประเภทองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่
5) คุณภาพบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิกับพื้นที่ที่มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ถา่ ยโอนใหแ้ ก่องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ินเรยี บร้อยแล้ว
6) คุณภาพบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิกับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA)
พ.ศ. 2562
7) คุณภาพบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาวกับประเภทองค์กรปกครอง
สว่ นทอ้ งถ่นิ
8) คุณภาพบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาวกับพื้นที่ที่มีโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลถา่ ยโอนใหแ้ กอ่ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ เรียบร้อยแล้ว
9) คุณภาพบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาวกับผลการประเมินประสิทธิภาพ
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ (LPA) พ.ศ. 2562
4.3.3 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับความคิดเห็นของประชาชนต่อคุณภาพในการสร้างเสริมสุขภาพ คุณภาพ
บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และคุณภาพบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาวขององค์กรปกครอง
ส่วนทอ้ งถ่นิ
ในการวิเคราะหBความสัมพันธBระหว4างการถ4ายโอนโรงพยาบาลส4งเสริมสุขภาพตำบลให#แก4องคBกร
ปกครองส4วนท#องถิ่นกับความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต4อคุณภาพในการสร#างเสริมสุขภาพ การบริการ
สุขภาพระดับปฐมภูมิ และการบริการดูแลผู#ปeวยสูงอายุและผู#ปeวยระยะยาวขององคBกรปกครองส4วนท#องถ่ิน
ผู#วิจัยใช#วิธีการวิเคราะหBการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ซึ่งเริ่มต#นด#วยการทดสอบ
สมมุติฐาน (Assumption) ของการวิเคราะหกB ารถดถอยพหคุ ูณ ดงั นี้
1) การทดสอบสมมตุ ิฐานของการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ

1.1) การเตรียมตัวแปร ตัวแปรตามทั้ง 3 ตัวแปร คือ คุณภาพงานสร้างเสริม
สุขภาพ คุณภาพบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และคุณภาพบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว ได้รับ
การแปรสภาพเป็นตัวแปรเชิงปริมาณ (Quantitative Variable) หรือตัวแปรต่อเนื่อง (Continuous
Variable) ด้วยวิธีการวิเคราะห์องค์ประกอบ (Factor Analysis) รวมทั้งตัวแปรต้นโดยส่วนใหญ่เป็นตัวแปร
ต่อเนื่อง (Continuous Variable) คือ อายุ รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน ผลการประเมินประสิทธิภาพ
ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (LPA) พ.ศ. 2562 ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส (ITA) พ.ศ.
2562 และจำนวนผู้สูงอายุในครัวเรือน และสำหรับเพศประเภทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และพื้นที่ที่มี

-145-

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลซึ่งได้รับการถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นตัวแปรที่วัด
โดยมาตรวัดนามบัญญัติ (Nominal Scale) ได้รับการแปลงข้อมูลให้เป็นตัวแปรหุ่น (Dummy Variable) คือ
มีคา่ เท่ากบั 0 และ 1

1.2) การตรวจสอบความผิดปกติของข้อมูล โดยการตรวจสอบว่าชุดข้อมูลมี
ข้อมูลบางค่าที่ผิดปกติไปจากข้อมูลอื่น (Outlier) หรือไม่ ผู้วิจัยใช้ค่า Cook’s Distance ซึ่งพบว่าอยู่ระหว่าง
0.0169-0.367 ทั้งนี้ หากค่า Cook’s Distance น้อยกว่า 1 หมายความว่า ชุดข้อมูลไม่มีข้อมูลที่มีค่าผิดปกติ
ดงั นัน้ จงึ สรปุ ได้ว่า ชดุ ข้อมลู ที่ใชใ้ นการวเิ คราะห์ไมม่ ีขอ้ มูลท่มี ีค่าผิดปกติ

1.3) การทดสอบการแจกแจงของตัวแปรตามและค่าความคาดเคลื่อนว่าเป็น
ตัวแปรท่ีมีการแจกแจงแบบปกติ (Normal Distribution) หรือไม่ ผู้วิจัยทดสอบโดยใช้ Kolmogorov-
Smirnov Test ซึ่งมีหลักการ คือ ตัวแปรที่มีการแจกแจงแบบปกติจะต้องมีนัยสำคัญทางสถิติมากกว่า 0.05
ซึ่งผู้วิจัยพบว่า ตัวแปรตามทั้ง 3 ตัวแปร (คุณภาพงานสร้างเสริมสุขภาพ คุณภาพบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ
และคุณภาพบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว) มีนัยสำคัญทางสถิติเท่ากับ 0.077, 0.102, 0.084
ตามลำดับ แสดงวา่ ตัวแปรตามท้งั หมดในการศกึ ษาน้ีเป็นตวั แปรทมี่ ีการแจกแจงแบบปกติ

1.4) การทดสอบความแปรปรวนของความคาดเคลื่อนของตัวแปรตามว่าเป็น
ค่าคงที่ (Homoscedasticity) หรือไม่ โดยพิจารณาจากแผนภาพการกระจาย (Scatter Plot) ซึ่งภาพที่ 4-7
แสดงให้เห็นว่า ความคลาดเคลื่อน (Residual) กระจายตัวเหนือและใต้ค่า 0 ในช่วงแคบ ไม่ว่าตัวแปรตาม
ทัง้ 3 ตัวแปรจะเปล่ยี นแปลงในทศิ ทางใด จงึ สรปุ ได้ว่า ความแปรปรวนของความคาดเคลอ่ื นมีคา่ คงที่

1.5) การทดสอบความเป็นอิสระกันของความคาดเคลื่อน (Independence)
เป็นการทดสอบว่า ความคาดเคลื่อนแต่ละค่ามีความเป็นอิสระจากกันหรือไม่ ซึ่งพิจารณาจากค่า Durbin-
Watson โดยผู้วิจับพบว่า ชุดข้อมูลมีค่า Durbin-Watson เท่ากับ 1.98 ซึ่งอยู่ระหว่าง 1.5 – 2.5 ทำให้
สามารถสรุปได้ว่า ตัวแปรอิสระที่นำมาทดสอบเป็นข้อมูลที่ไม่มีความสัมพันธ์ภายในตัวเองหรือเกิดภาวะ
Autocorrelation

1.6) การทดสอบความสัมพันธ์กันของตัวแปรอิสระ (Multicollinearity) ซึ่งพิจารณา
จากค่า Variance Inflation Factor (VIF) ของทุกตัวแปรอิสระและพบว่า ค่า VIF ของตัวแปรอิสระทั้ง
8 ตัวแปรอยู่ระหว่าง 1.574 – 2.279 ซึ่งน้อยกว่า 10 ทำให้สรุปได้ว่า ตัวแปรอิสระในการศึกษานี้ไม่มี
ความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน หมายความว่า ไม่เกิด Multicollinearity ที่จะส่งผลกระทบรุนแรงต่อการวิเคราะห์
การถดถอยพหุคูณ

-14

ตารางที่ 4-11 สัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์ของตัวแปรท่ีใช้ในการศกึ ษา (n = 6,304)1

ตวั แปรในการศึกษา 123
1. คุณภาพงานสรา้ งเสริมสขุ ภาพ ---
2. คุณภาพบริการสขุ ภาพระดับปฐมภมู ิ ---
3. คณุ ภาพบรกิ ารดูแลผปู้ ่วยสงู อายุและผ้ปู ่วยระยะยาว - - -
4. เพศ (1 = ชาย) -0.11** -0.15* -0.03*
5. อายุ 0.13** -0.02* 0.22**
6. รายได้เฉล่ยี ตอ่ เดอื นของครวั เรอื น 0.11* 0.21** 0.01*
7. ประเภท อปท. (1 = เทศบาล) 0.69*** 0.62** 0.71**
8. พ้นื ที่ถ่ายโอน รพ.สต. (1 = มี รพ.สต. ถา่ ยโอน) 0.72*** 0.61** 0.68**
9. ผลการประเมิน LPA พ.ศ. 2562 0.60** 0.49** 0.61*
10. ผลการประเมนิ ITA พ.ศ. 2562 0.45** 0.67* 0.59**
11. จำนวนผู้สงู อายใุ นครัวเรือน 0.22* 0.18* -0.01*
หมายเหต:ุ 1 ประกอบด้วยจำนวนผ้ตู อบแบบสอบถามจากพ้ืนทีโ่ รงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตำบล
2 การทดสอบสมมุตฐิ านแบบสองทาง (Two-tailed Test)
3 สัญลกั ษณน์ ยั สำคญั ทางสถิติ คือ * p < 0.1, ** p < 0.05, *** p < 0.01

46-

4 5 6 7 8 9 10 11

*- -
** -0.18* -
* -0.07** 0.14* -
* -0.06* 0.07** -0.19* -
** 0.09* 0.10** -0.08* 0.02* -
* 0.04** 0.11* -0.09* 0.15* -0.10* -
* -0.10* -0.08** -0.13* 0.02* -0.24** 0.15* -
* -0.11* -0.03** -0.01* 0.17** 0.23* -0.07 -0.21
ลถ่ายโอน 3,207 คนและจำนวนผตู้ อบแบบสอบถามจากพน้ื ทีใ่ กลเ้ คยี ง 3,097 คน

-14
ภาพที่ 4-7 แผนภาพการกระจาย

47-
(Scatter Plot) ของตัวแปรตาม

-148-

2) การวเิ คราะหก์ ารถดถอยพหุคณู (Multiple Regression Analysis)

การวิเคราะห+ข-อมูลที่ได-จากกลุ9มตัวอย9างประชาชน 6,304 คนโดยใช-วิธีการวิเคราะห+ถดถอย
พหุคูณ (Multiple Regression Analysis) เป^นการทดสอบความสัมพันธ+ระหว9างการถ9ายโอนโรงพยาบาล
ส9งเสริมสุขภาพตำบลให-แก9องค+กรปกครองส9วนท-องถิ่นกับความคิดเห็นของกลุ9มตัวอย9างประชาชนต9อคุณภาพ
ในการให-บริการของโรงพยาบาลส9งเสริมสุขภาพตำบล 3 ด-าน คือ คุณภาพในการสร-างเสริมสุขภาพ คุณภาพ
การบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และคุณภาพการบริการดูแลผู-ปhวยสูงอายุและผู-ปhวยระยะยาว โดยผู-วิจัย
แบง9 การวิเคราะหก+ ารถดถอยพหุคณู เป^น 7 ตวั แบบตามท่ีปรากฏในตารางที่ 4-12

ตารางที่ 4-12 ตวั แบบการวเิ คราะหก+ ารถดถอยพหคุ ณู

ตัวแบบ ตัวแปร
ตัวแบบท่ี 1 - ความคดิ เหน็ ของประชาชนต่อคณุ ภาพการสร้างเสริมสขุ ภาพตำบลของ รพ.สต.
ตัวแบบที่ 2 - พื้นท่มี ีการถ่ายโอน รพ.สต. ใหแ้ กอ่ งคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินหรอื ไม่
ตวั แบบที่ 3 - ความคดิ เหน็ ของประชาชนต่อคณุ ภาพบริการสขุ ภาพระดบั ปฐมภูมขิ อง รพ.สต.
ตวั แบบที่ 4 - พื้นที่มีการถา่ ยโอน รพ.สต. ใหแ้ ก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ หรอื ไม่
- ความคิดเหน็ ของประชาชนต่อคุณภาพบริการดูแลผ้ปู ่วยสงู อายแุ ละผู้ป่วยระยะยาว
ตวั แบบที่ 5
ของ รพ.สต.
ตวั แบบที่ 6 - พน้ื ทม่ี กี ารถา่ ยโอน รพ.สต. ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือไม่
- ความคิดเหน็ ของประชาชนตอ่ คณุ ภาพการสรา้ งเสริมสขุ ภาพตำบลของ รพ.สต.
- ตัวแปรอสิ ระทกุ ตัวแปร (เพศ, อาย,ุ รายไดต้ อ่ เดือนของครัวเรอื น, ประเภท อปท.,

พน้ื ทม่ี ีการถา่ ยโอน รพ.สต. หรือไม,่ ผลการประเมนิ LPA พ.ศ. 2562, ผลการประเมนิ ITA
พ.ศ. 2562, จำนวนผู้สูงอายใุ นครัวเรือน)
- ค่าปฏิสมั พันธ์ (Interaction Term) คอื พืน้ ท่ีมกี ารถา่ ยโอน รพ.สต. หรือไม่ x ประเภท อปท.
- ความคดิ เห็นของประชาชนต่อคุณภาพบริการสุขภาพระดบั ปฐมภมู ิของ รพ.สต.
- ตัวแปรอสิ ระทกุ ตวั แปร (เพศ, อาย,ุ รายได้ตอ่ เดือนของครวั เรอื น, ประเภท อปท.,
พน้ื ท่ีมีการถ่ายโอน รพ.สต. หรอื ไม,่ ผลการประเมนิ LPA พ.ศ. 2562, ผลการประเมนิ ITA
พ.ศ. 2562, จำนวนผู้สูงอายใุ นครวั เรอื น)
- คา่ ปฏสิ ัมพันธ์ (Interaction Term) คือ พื้นทมี่ ีการถา่ ยโอน รพ.สต. หรอื ไม่ x ประเภท อปท.
- ความคิดเหน็ ของประชาชนต่อคณุ ภาพบรกิ ารดแู ลผปู้ ่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาวของ
รพ.สต.
- ตวั แปรอสิ ระทุกตวั แปร (เพศ, อาย,ุ รายไดต้ อ่ เดือนของครวั เรือน, ประเภท อปท., พนื้ ท่ี
มกี ารถ่ายโอน รพ.สต. หรือไม,่ ผลการประเมิน LPA พ.ศ. 2562, ผลการประเมนิ ITA พ.ศ.
2562, จำนวนผสู้ งู อายุในครัวเรอื น)
- คา่ ปฏสิ ัมพนั ธ์ (Interaction Term) คือ พื้นทมี่ กี ารถา่ ยโอน รพ.สต. หรือไม่ x ประเภท อปท.

-149-

จากตารางที่ 4-13 พบว9า ในตัวแบบที่ 1-3 ตัวแปรอิสระ “พื้นที่มีการถ9ายโอนโรงพยาบาล
ส9งเสริมสุขภาพตำบลให-แก9องค+กรปกครองส9วนท-องถิ่น” มีสัมประสิทธิ์ความถดถอยเป^นบวกและมีนัยสำคัญ
ทางสถิติ หมายความว9า ในพ้ืนที่ที่มีการถ9ายโอนโรงพยาบาลส9งเสริมสุขภาพตำบลให-แก9องค+กรปกครอง
ส9วนท-องถิ่น ประชาชนมีความคิดเห็นในเชิงบวกต9อคุณภาพการเสริมสร-างสุขภาพ คุณภาพบริการสุขภาพ
ระดับปฐมภูมิ และคุณภาพบริการดูแลผู-ปhวยสูงอายุและผู-ปhวยระยะยาวของโรงพยาบาลส9งเสริมสุขภาพตำบล
และเมื่อวิเคราะห+ร9วมกับตัวแปรอิสระทุกตัวแปรและค9าปฏิสัมพันธ+ (Interaction Term) ในตัวแบบที่ 4-6
ซึง่ พบวา9

- สัมประสิทธิ์ความถดถอยของประเภทองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีค่าเป็นบวก
และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในตัวแบบที่ 4 และ 6 และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในตัวแบบ
ที่ 5 ซึ่งหมายความว่า ประชาชนในพื้นที่เทศบาลมีความคิดเห็นในเชิงบวกต่อคุณภาพการให้บริการของ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในด้านการเสริมสร้างสุขภาพ บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และบริการดูแล
ผปู้ ว่ ยสงู อายุและผู้ป่วยระยะยาว มากกวา่ ประชาชนในพืน้ ทอ่ี งคก์ ารบริหารสว่ นตำบล

- ในทำนองเดียวกันกับตัวแบบที่ 1-2 สัมประสิทธิ์ความถดถอยของพื้นที่องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแล้วมีค่าเป็นบวกและมีนัยสำคัญทาง
สถิติที่ระดับ 0.01 ในตัวแบบที่ 4-6 หมายความว่า ประชาชนในพื้นที่ที่มีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้วมีความคิดเห็นในเชิงบวกต่อคุณภาพการให้บริการของ
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในด้านการเสริมสร้างสุขภาพ บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และบริการดูแล
ผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว มากกว่าประชาชนในพื้นที่ที่ยังไม่มีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตำบลให้แก่องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน

- สัมประสิทธิ์ความถดถอยของผลการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น (LPA) ประจำปี พ.ศ. 2562 มีค่าเป็นบวกและมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.1 (ตัวแบบที่ 6) และ
ระดับ 0.05 (ตัวแบบที่ 4 และ 5) หมายความว่า ผลการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความคิดเห็นของประชาชนต่อคุณภาพในการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตำบลในด้านการเสริมสร้างสุขภาพ บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและ
ผปู้ ว่ ยระยะยาว

- สัมประสิทธิ์ความถดถอยของจำนวนผู้สูงอายุในครัวเรือนมีค่าเป็นบวกและ
มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 หมายความว่า จำนวนผู้สูงอายุมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความคิดเห็นของ
ประชาชนต่อคุณภาพในการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในด้านการเสริมสร้างสุขภาพ
บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะประชาชน
ที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากในครัวเรือนจำเป็นต้องได้รับบริการจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลมากกว่า
ประชาชนที่มีผู้สูงอายุจำนวนน้อยกว่าหรือไม่มีผู้สูงอายุในครัวเรือน สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของบริการ
สขุ ภาพสำหรบั ผู้สงู อายแุ ละผปู้ ่วยระยะยาวในระดบั พื้นที่

-150-
- สัมประสิทธิ์ความถดถอยของค่าปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเภทองค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นและพื้นที่ที่มีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว
มีค่าเป็นบวกและมีนัยสำคัญทางสถิติในระดับ 0.01 (ตัวแบบที่ 4 และ 5) และในระดับ 0.05 (ตัวแบบที่ 6)
ซึ่งหมายความว่า ประชาชนในพื้นที่เทศบาลที่มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลถ่ายโอนจะมีความคิดเห็น
ในเชิงบวกต่อคุณภาพในการให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในด้านการเสริมสร้างสุขภาพ
บริการสุขภาพระดับปฐมภูมิ และบริการดูแลผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยระยะยาว มากกว่าประชาชนในพ้ืนท่ี
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลท่มี ีโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตำบลถา่ ยโอน

-15

ตารางที่ 4-13 ผลการวเิ คราะห-การถดถอยพหุคณู

เพศ (1 = ชาย) ตัวแปร ตัวแบบ 1 ตวั แบบ 2

อายุ
Log (รายไดเ้ ฉลี่ยตอ่ เดือนของครัวเรอื น)
ประเภท อปท. (1 = เทศบาล)
พ้นื ทถี่ า่ ยโอน รพ.สต. (1 = มี รพ.สต. ถ่ายโอน) 0.331*** (0.031) 0.291** (0.02
ผลการประเมิน LPA พ.ศ. 2562
ผลการประเมิน ITA พ.ศ. 2562
จำนวนผู้สงู อายุในครัวเรือน
ประเภท อปท. X พืน้ ท่ถี ่ายโอน รพ.สต.
n 6,304 6,304
R2 0.344 0.368
Adjusted R2 0.325 0.277
F-statistic F (1, 6,032) = F (1, 6,032)
366.72*** 407.21***
หมายเหต:ุ 1. ความคาดเคลอ่ื นมาตรฐาน (Standard Error) อยใูL นวงเลบ็ หลังสัมประสิทธก์ิ ารถด
2. สัญลกั ษณ์นยั สำคญั ทางสถติ ิ คอื * p < 0.1, ** p < 0.05, *** p < 0.01


Click to View FlipBook Version