The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านป่าคาป่าม่วง สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pakapamung, 2022-09-04 09:44:36

หลักสูตรสถานศึกษา สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านป่าคาป่าม่วง สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

๑๒๔

สาระการเรียนร้แู กนกลาง หนว่ ยการเรียนรู/้ หน่วย ชว่ั โมง
หลากหลายทางพนั ธุกรรม เนอื้ หาทสี่ อน

- การตัดไม้ทำลายป่าเป็นสาเหตุหน่ึงท่ีทำ
ให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทาง
ชีวภาพซ่ึงส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต
ของมนุษย์สัตว์ พืชและสง่ิ แวดล้อม

- การใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชและ
สัตว์ส่งผลกระทบต่อส่ิงมีชีวิตท้ังมนุษย์
สัตว์และพืชทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ความหลากหลายทางชีวภาพและส่งผล
กระทบต่อส่ิงแวดลอ้ ม

๖. อภิปรายผลของเทคโนโลยีชีวภาพต่อ
การดำรงชวี ติ ของมนษุ ย์และสง่ิ แวดล้อม

สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวช้วี ัด

สงิ่ แวดลอ้ ม

สาระที่ ๒ ชีวิตกับ ๑. สำรวจระบบนิเวศตา่ งๆใน
ส่ิงแวดลอ้ ม มาตรฐาน ว ๒. ๑ เขา้ ใจ ท้องถิ่นและ อธิบาย
ความสัมพนั ธ์ขององคป์ ระกอบ
สง่ิ แวดลอ้ มในท้องถิ่น ภาย ในระบบนิเวศ
ความสมั พนั ธ์ระหว่าง

สงิ่ แวดล้อมกบั สิ่งมีชีวติ

ความสมั พันธ์ระหว่าง

สิง่ มชี ีวิตตา่ ง ๆ ในระบบ

นิเวศ มกี ระบวนการสืบ

เสาะหาความรแู้ ละจติ วทิ ยา

ศาสตร์ สื่อสารส่งิ ที่เรยี นรู้

และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

๒. วิเคราะห์และอธิบายความ
ของการถ่ายทอดพลังงานของ

๑๒๕

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง หนว่ ยการเรียนรู/้ หนว่ ย ชั่วโมง
เนอื้ หาทีส่ อน

- ระบบนเิ วศในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ ประกอบดว้ ย ระบบนเิ วศ ๑๔ ๒๕
องค์ประกอบทางกายภาพ และ
องคป์ ระกอบทางชีวภาพเฉพาะถนิ่ ซ่ึงมี
ความเกี่ยวข้องสมั พันธก์ นั

- ส่ิงมีชีวิตมีความเก่ียวข้องสัมพันธ์กันโดย
มกี ารถ่ายทอดพลังงานในรูปของโซ่อาหาร

สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด

ส่ิงมีชีวิตในรูปของโซ่อาหารและ
สายใยอาหาร

๓. อธิบายวัฏจกั รนำ้ วัฏจกั ร
คาร์บอนและความสำคญั ท่ีมีต่อ
ระบบนเิ วศ

๔. อธิบายปัจจัยท่ีมีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงขนาดของประชากร
ในระบบนิเวศ

๑๒๖

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู้/ หนว่ ย ชวั่ โมง
และสายใยอาหาร เน้อื หาทส่ี อน

- น้ำ และคาร์บอนเปน็ องค์ประกอบใน
ส่งิ มชี ีวิตและสง่ิ ไม่มชี วี ิต

- น้ำและคาร์บอนจะมีการหมุนเวียน
เป็นวัฏจกั รในระบบนิเวศ ทำใหส้ ่งิ มีชวี ติ
ในระบบนิเวศนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้

- น้ำ และคาร์บอนเป็นองคป์ ระกอบใน
สิง่ มีชีวติ และส่งิ ไม่มีชวี ิต

- น้ำและคาร์บอนจะมีการหมุนเวยี น
เปน็ วัฏจกั รในระบบนเิ วศ ทำใหส้ ิ่งมีชวี ติ
ในระบบนเิ วศนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้

- อตั ราการเกิด อัตราการตาย อัตราการ
อพยพเข้า และอตั ราการอพยพออกของ

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้วี ัด

มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจ ๑. วิเคราะหส์ ภาพปญั หา

ความสำคญั ของ ส่งิ แวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติ

ทรพั ยากรธรรมชาติ การใช้ ในทอ้ งถน่ิ และเสนอแนวทางใน

ทรัพยากรธรรมชาติในระดับ การแก้ไขปญั หา

ท้องถ่นิ ประเทศ และโลกนำ

ความรไู้ ปใช้ในในการจัดการ

ทรัพยากรธรรมชาติและ

สง่ิ แวดล้อมในท้องถน่ิ อยา่ ง

ยัง่ ยนื

๒. อธิบายแนวทางการรักษา
สมดุลของระบบนิเวศ

๑๒๗

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หน่วยการเรียนร/ู้ หนว่ ย ชั่วโมง
เนื้อหาทีส่ อน
สง่ิ มีชีวติ มผี ลต่อการเปล่ียนแปลงขนาด
ของประชากรในระบบ นิเวศ

- สภาพปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ทรัพยากรธรรมชาติ ๘ ๑๐
ธรรมชาติในท้องถ่ิน เกิดจากการกระทำ
ของธรรมชาติและ มนษุ ย์

- ปญั หาสิง่ แวดล้อมและ
ทรัพยากรธรรมชาติทีเ่ กิดขนึ้ ควรมี
แนวทางในการดแู ลรกั ษา และปอ้ งกนั

- ระบบนเิ วศจะสมดลุ ได้จะต้องมีการ
ควบคมุ จำนวนผู้ผลติ ผู้บริโภค ผู้สลาย
สารอินทรยี ใ์ หม้ ีปริมาณ สัดส่วน และการ
กระจายท่ีเหมาะสม

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ช้ีวดั

๓. อภิปรายการใช้
ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งยั่งยืน

๔. วเิ คราะห์และอธบิ ายการใช้
ทรัพยากรธรรมชาติ ตามปรัชญา
เศรษฐกจิ พอเพยี ง

๕. อภิปรายปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม
และเสนอ แนะแนวทางการ

๑๒๘

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู/้ หน่วย ช่วั โมง
เนื้อหาทีส่ อน

- การใชท้ รัพยากรธรรมชาติอยา่ งยงั่ ยืน
และการดูแลรักษาสภาพแวดล้อม เป็น
การรักษา สมดลุ ของระบบนิเวศ

- การนำทรัพยากรธรรมชาตมิ าใช้อย่าง
คุ้มคา่ ดว้ ยการใชซ้ ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ ลด
การใช้ผลติ ภัณฑ์ ใช้ผลติ ภณั ฑ์ชนดิ เดมิ
ซ่อมแซมส่ิงของเครอ่ื งใช้ เปน็ วธิ กี ารใช้
ทรัพยากร ธรรมชาติอย่างย่ังยืน

- การใชท้ รัพยากรธรรมชาตคิ วรคำนึงถงึ
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งบนพ้ืนฐานของ
ทางสายกลาง และความไมป่ ระมาท โดย
คำนงึ ถงึ ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล
และการเตรียมตวั ให้พร้อมท่จี ะรบั
ผลกระทบและการเปลย่ี นแปลงที่เกิดขนึ้

- ปญั หาสิ่งแวดล้อม อาจเกิดจากมลพิษ
ทางนำ้ มลพิษทางเสยี ง มลพิษทางอากาศ

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด
แก้ปัญหา

๖. อภิปรายและมีสว่ นรว่ มใน
การดแู ลและอนุรกั ษ์สง่ิ แวดล้อม
ในท้องถ่นิ อย่างย่งั ยืน

๑๒๙

สาระการเรียนร้แู กนกลาง หน่วยการเรียนรู/้ หนว่ ย ชว่ั โมง
เนื้อหาท่สี อน

มลพิษทางดิน

- แนวทางการแก้ปญั หามีหลายวธิ ี เรมิ่
จากศึกษาแหล่งที่มาของปญั หา เสาะหา
กระบวนการในการแก้ปัญหา และทุกคนมี
ส่วนรว่ มในการปฏบิ ัตเิ พ่อื แก้ปญั หานน้ั

- การดูแลและอนุรักษส์ งิ่ แวดล้อมใน
ท้องถ่ินใหย้ งั่ ยืน ควรไดร้ ับความร่วมมือ
จากทุกฝ่ายและต้องเปน็ ความรบั ผิดชอบ
ของทุกคน

สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวชี้วดั

สาระที่ ๔ แรง มาตรฐาน ว ๔. ๑ เขา้ ใจ ๑. อธบิ ายความเรง่ และผลของ
และการเคลื่อนท่ี
ธรรมชาตขิ องแรง แรงลพั ธ์ทีท่ ำต่อวัตถุ

แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า แรงโนม้ ถว่ ง

และแรงนิวเคลียร์มี

กระบวนการสืบเสาะหา

ความรู้ ส่อื สารสงิ่ ท่ีเรียนรู้

และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

อย่างถูกต้องและมคี ุณธรรม

ณธรรมช้นั

๒. ทดลองและอธิบายแรงกิริยา
และแรงปฏิกริ ยิ าระหว่างวตั ถุ
และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

๑๓๐

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู้/ หน่วย ช่วั โมง
เนอื้ หาที่สอน
- วัตถุเคลอ่ื นทดี่ ว้ ยความเรว็ ที่
เปลี่ยนแปลงเปน็ การเคลื่อนที่ดว้ ย แรงและการ ๒๕ ๓๐
ความเรง่ เมื่อแรงลพั ธ์มีคา่ ไมเ่ ทา่ กับศูนย์ เคลอื่ นที่
กระทำต่อวัตถุวตั ถุจะเคลือ่ นท่ีด้วย
ความเร่งซง่ึ มีทิศทางเดยี วกับแรงลพั ธ์

- ทุกแรงกริ ิยาจะมีแรงปฏกิ ริ ิยาโตต้ อบ
ดว้ ยขนาดของแรงเท่ากนั แต่มที ศิ ทางตรง
ข้าม

- การนำความรู้เร่อื งแรงกริ ิยาและแรง
ปฏกิ ริ ิยาไปใชอ้ ธิบาย เช่น การชักเยอ่ การ
จุดบั้งไฟ

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้วี ัด

๓. ทดลองและอธิบายแรงพยุง
ของของเหลวที่กระทำตอ่ วัตถุ

มาตรฐาน ว ๔.๒ เข้าใจ ๑. ทดลองและอธิบายความ
ลกั ษณะการเคล่อื นท่ีแบบ แตกต่างระหวา่ งแรงเสยี ดทาน
ตา่ งๆ ของวตั ถใุ นธรรมชาติ สถติ กับแรงเสยี ดทานจลน์ และ
มกี ระบวนการสืบเสาะหา นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ความรู้และจติ วทิ ยาศาสตร์
ส่ือสารสงิ่ ทีเ่ รียนรู้และนำ
ความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

๑๓๑

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หน่วยการเรียนรู้/ หน่วย ช่วั โมง
เนอ้ื หาทส่ี อน

- แรงพยงุ คือ แรงที่ของเหลวกระทำต่อ
วัตถุมคี า่ เท่ากับน้ำ หนักของของเหลวที่มี
ปริมาตรเท่ากบั สว่ นทจ่ี มของวัตถุ

- ของเหลวท่ีมคี วามหนาแนน่ มากจะมแี รง
พยุงมาก

- วัตถุทีล่ อยไดใ้ นของเหลวจะมคี วาม
หนาแน่นนอ้ ยกว่าความหนาแน่นของ
ของเหลว

- แรงเสียดทานสถิตเป็นแรงเสียดทานท่ี
กระทำต่อวัตถุขณะหยุดน่ิง ส่วนแรงเสยี ด
ทานจลน์เปน็ แรงเสียดทานท่ีกระทำตอ่
วัตถุขณะเคล่อื นท่ี

- การเพ่ิมแรงเสยี ดทาน เชน่ การ
ออกแบบพ้นื รองเท้าเพ่ือกนั ลื่น

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั

๒. ทดลองและวเิ คราะห์โมเมนต์
ของแรง และนำความรไู้ ปใช้
ประโยชน์

๓. สงั เกตและอธิบายการ
เคลื่อนท่ีของวตั ถทุ ่เี ปน็ แนวตรง
และแนวโค้ง

สาระท่ี ๕ มาตรฐาน ว ๕. ๑ เขา้ ใจ ๑. อธบิ ายงาน พลงั งานจลน์
พลังงาน พลังงานศักย์โนม้ ถ่วง กฎการ
ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง

๑๓๒

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หน่วยการเรยี นรู้/ หน่วย ชว่ั โมง
เนอ้ื หาท่สี อน

- การลดแรงเสยี ดทาน เชน่ การใช้
นำ้ มันหล่อลื่นทีจ่ ดุ หมุน

- เม่อื มีแรงท่กี ระทำต่อวัตถุ แล้วทำใหเ้ กดิ
โมเมนตข์ องแรงรอบจุดหมนุ วัตถจุ ะ
เปล่ียนสภาพการหมนุ

- การวเิ คราะห์โมเมนต์ของแรงใน
สถานการณ์ต่าง ๆ

-การเคลอื่ นทีข่ องวตั ถุมีทัง้ การเคลื่อนท่ใี น
แนวตรงเชน่ การตกแบบเสรี และการ
เคล่ือนท่ใี นแนวโคง้ เช่น การเคลือ่ นทแี่ บบ
โพรเจกไทล์ของลูก บาสเกตบอลในอากาศ
การเคลอ่ื นทแี่ บบวงกลมของวัตถุทผ่ี กู
เชอื กแลว้ แกว่ง เป็นตน้

- การให้งานแกว่ ัตถเุ ปน็ การถ่ายโอนพลัง งานและพลังงาน ๓๕ ๔๐
งานใหว้ ตั ถุ พลังงานนี้เปน็ พลังงานกลซงึ่

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด

พลงั งานกับการดำรงชีวติ อนุรักษ์พลงั งาน และ
การเปล่ียนรปู พลงั งาน ความสมั พันธ์ระหวา่ งปริมาณ
ปฏิสัมพันธ์ระหวา่ งสารและ เหล่านี้ รวมท้ังนำความร้ไู ปใช้
พลงั งาน ผลของ ประโยชน์
การใชพลังงานตอ่ ชีวติ และ
สงิ่ แวดล้อม มกี ระบวน การ
สืบเสาะหาความรู้ สือ่ สารสิง่
ทเี่ รยี นรแู้ ละนำความรูไ้ ปใช้
ประโยชน์

๒. ทดลองและอธิบาย

๑๓๓

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู/้ หน่วย ชั่วโมง
เนื้อหาที่สอน

ประกอบดว้ ยพลงั งานศักย์และพลงั งาน
จลนพ์ ลังงานจลนเ์ ปน็ พลงั งานของวัตถุ
ขณะวตั ถุเคลอื่ นท่ีสว่ นพลังงานศกั ย์โน้ม
ถ่วงของวัตถุเป็นพลังงานของวตั ถุทีอ่ ยสู่ งู
จากพืน้ โลก

- กฎการอนรุ กั ษ์พลงั งานกล่าววา่ พลงั งาน
รวมของวัตถุไม่สญู หาย แต่สามารถเปล่ียน
จากรูปหนึ่งไปเปน็ อีกรปู หน่ึงได้

- การนำกฎการอนุรักษ์พลงั งานไปใช้
ประโยชน์ในการอธบิ ายปรากฏการณ์ เช่น
พลังงานนำ้ เหนือเข่ือนเปลีย่ นรูปจาก
พลงั งานศักย์โน้มถ่วงเป็นพลงั งานจลน์,
ปั้นจน่ั ตอกเสาเข็ม

- ความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้าและความ

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัด

ความสมั พนั ธ์ระหว่าง
ความตา่ งศักย์ กระแสไฟฟา้
ความต้านทาน และนำความรู้ไป
ใชป้ ระโยชน์

๓. คำนวณพลงั งานไฟฟา้ ของ
เครอ่ื งใช้ไฟฟ้า และนำความรู้ไป
ใช้ประโยชน์

๔. สังเกตและอภปิ รายการต่อ
วงจรไฟฟ้าในบา้ นอย่างถูกต้อง
ปลอดภัย และประหยดั

๑๓๔

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง หน่วยการเรียนรู้/ หนว่ ย ช่วั โมง
เนือ้ หาที่สอน

ต้านทานมคี วามสมั พันธ์กนั ตามกฎของ
โอหม์

- การนำกฎของโอห์มไปใช้วิเคราะห์
วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย

- การคำนวณพลังงานไฟฟ้าของ
เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ เปน็ ส่วนหนึง่ ของการคิดคา่
ไฟฟ้าและเปน็ แนวทางในการประหยัด
พลังงานไฟฟา้ ในบา้ น

การต่อวงจรไฟฟา้ ในบ้านต้องออกแบบ
วงจร ตดิ ตัง้ เคร่อื งใช้ไฟฟา้ อุปกรณ์ไฟฟา้
อยา่ งถูกต้อง โดยการต่อสวิตชแ์ บบ
อนกุ รม ต่อเตา้ รบั แบบขนานและเพ่ือ
ความปลอดภัยต้องต่อสายดินและฟวิ ส์
รวมทงั้ ตอ้ งคำนงึ ถงึ การใชไ้ ฟฟา้ อยา่ ง
ประหยัด

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้ีวดั

๕. อธิบายตวั ตา้ นทานไดโอด
ทรานซิสเตอร์ และทดลองตอ่
วงจรอิเลก็ ทรอนิกสเ์ บ้ืองตน้ ท่ีมี
ทรานซิสเตอร์

๑๓๕

สาระการเรียนรู้แกนกลาง หน่วยการเรยี นรู้/ หนว่ ย ชว่ั โมง
เนอ้ื หาทส่ี อน

- ชน้ิ ส่วนอิเล็กทรอนกิ ส์ เชน่ ตัวตา้ นทาน
ไดโอด ทรานซสิ เตอร์ มสี มบตั ิทางไฟฟ้า
แตกตา่ งกัน ตวั ตา้ นทานทำหน้าที่จำกัด
กระแสไฟฟ้าในวงจรไดโอดมีสมบัตใิ ห้
กระแส ไฟฟ้าผา่ นได้ทศิ ทางเดยี วและ
ทรานซสิ เตอร์ทำหน้าที่เป็นสวิตซป์ ิด- เปิด
วงจร

- การประกอบวงจรอิเล็กทรอนิกส์
เบื้องตน้ ที่มีทรานซิสเตอร์ ๑ ตวั ทำหนา้ ท่ี
เป็นสวิตซ์

สาระการเรียนรู้ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด

สาระท่ี ๗ ดารา มาตรฐาน ว ๗.๑ เขา้ ใจ ๑. สบื ค้น แ ล ะ อ ธิ บ า ยค
ศาสตรแ์ ละ วิวฒั นาการของระบบสรุ ยิ ะ วามสัมพนั ธ์ระหว่างดวงอาทิตย์
อวกาศ กาแล็กซีและเอกภพ การ โลก ดวงจันทรแ์ ละดาวเคราะห์
ปฏสิ ัมพนั ธ์ภายในระบบ อื่น ๆ และผลทเ่ี กิดขึ้นต่อ
สรุ ิยะและผลตอ่ สงิ่ มชี วี ติ บน สิง่ แวดลอ้ มและส่ิงมชี ีวิตบนโลก
โลก มกี ระบวนการสบื เสาะ
หาความรแู้ ละจิตวทิ ยา ๒. สบื คน้ และอธิบาย
ศาสตร์ การส่อื สารสิ่งที่ องคป์ ระกอบของเอกภพ
เรยี นร้แู ละนำความรู้ไปใช้ กาแล็กซี และระบบสุรยิ ะ
ประโยชน์

๓. ระบุตำแหนง่ ของกล่มุ ดาว

๑๓๖

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง หน่วยการเรียนรู/้ หนว่ ย ชัว่ โมง
เน้ือหาที่สอน

- ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์อยเู่ ปน็ ปฏสิ มั พันธ์ภายใน ๑๐ ๑๐

ระบบไดภ้ ายใต้แรงโนม้ ถว่ ง ระบบสุริยะ

- แรงโน้มถว่ งระหวา่ งโลกกับดวงจันทร์
ทำให้ดวงจนั ทรโ์ คจรรอบโลก แรงโนม้ ถ่วง
ระหว่างดวงอาทิตย์กับบริวาร ทำให้
บริวารเคลือ่ นรอบดวงอาทิตย์กลายเป็น
ระบบสรุ ิยะ

- แรงโนม้ ถว่ งที่ดวงจนั ทร์ ดวงอาทติ ย์

-กรเอะกทภำตพ่อปโรละกกทอำบใหด้วเกยิดกปาแราลก็ ฏซกีมารกณมาน์ ย้ำ
ขนึน้บั นแำ้สนลลง้าซนง่ึ แสหง่ ่งผลแต่อลสะิ่งกแาวแดลล็กอ้ ซมี และ
สป่ิงรมะชีกวีอิตบบดนว้ โยลดกาวฤกษ์จำนวนมาก ที่อยู่

เป็นระบบดว้ ยแรงโน้มถ่วง กาแลก็ ซที าง

ช้างเผือกมรี ะบบสุรยิ ะอย่ทู ี่แขนของกา

แลก็ ซี่ดา้ นกลุ่มดาวนายพราน

- กลมุ่ ดาวฤกษป์ ระกอบด้วยดาวฤกษ์
หลายดวงท่ีปรากฏอยูใ่ นขอบเขตแคบๆ

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด
และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว ๗.๒ เขา้ ใจ ๑. สบื ค้น และอภิปราย

ความสำคญั ของเทคโนโลยี ความกา้ วหน้าของเทคโนโลยี

อวกาศทน่ี ำมาใชใ้ นการ อวกาศทใี่ ช้สำรวจอวกาศ วัตถุ

สำรวจอวกาศและ ทอ้ งฟ้าสภาวะอากาศ ทรพั ยากร

ทรพั ยากรธรรมชาติ ดา้ น ธรรมชาติ การเกษตรและการ

การเกษตรและการสอ่ื สาร มี ส่ือสาร

กระบวนการสบื เสาะหา

ความร้แู ละจิตวิทยาศาสตร์

สือ่ สารส่งิ ทีเ่ รยี นรแู้ ละนำ

ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์อย่างมี

คุณธรรมต่อชวี ิตและ

๑๓๗

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หนว่ ยการเรียนร้/ู หนว่ ย ช่วั โมง
เนื้อหาท่สี อน

และเรียงเปน็ รูปต่างๆกันบนทรงกลมฟ้า
โดยดาวฤกษ์ที่อยใู่ นกลุ่มเดยี วกนั ไม่
จำเป็นต้องอย่ใู กล้กนั อย่างทีต่ าเหน็ แตม่ ี
ตำแหนง่ ทแ่ี น่นอนบนทรงกลมฟ้า จงึ ใช้
บอกทิศและเวลาได้

- มนษุ ยใ์ ชก้ ลอ้ ง โทรทรรศน์ จรวด ๖ ๑๐
ดาวเทยี ม ยานอวกาศ สำรวจอวกาศ วัตถุ
ทอ้ งฟ้า สภาวะ อากาศ ทรัพยากร
ธรรมชาติ การเกษตรและใชใ้ นการสอื่ สาร

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั

ส่งิ แวดลอ้ ม

สาระท่ี ๘ มาตรฐาน ว ๘.๑ ใช้ ๑. ตงั้ คำถามท่ีกำหนดประเด็น
ธรรมชาตขิ อง
วทิ ยาศาสตรแ์ ละ กระบวนการทาง หรอื ตวั แปรทสี่ ำคญั ในการ
เทคโนโลยี
วิทยาศาสตรแ์ ละจติ วทิ ยา สำรวจ ตรวจสอบ หรอื ศกึ ษา
ศาสตร์ในการสืบเสาะหา ค้นคว้าเร่ืองทส่ี นใจได้อย่าง
ความรู้ การแกป้ ญั หา ร้วู ่า ครอบคลุมและเชื่อถือได้
ปรากฏการณ์ทางธรรมชาตทิ ่ี
เกดิ ขนึ้ ส่วนใหญ่มรี ปู แบบที่ ๒. สรา้ งสมมติฐานทส่ี ามารถ
แนน่ อนสามารถอธิบายและ ตรวจสอบ ไดแ้ ละวางแผนการ
ตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมลู สำรวจตรวจสอบหลาย ๆ วิธี

และเครื่องมือท่ีมอี ยใู่ น ๓. เลือกเทคนคิ วิธีการสำรวจ
ช่วงเวลา นน้ั ๆ เข้าใจว่า ตรวจสอบ ทั้งเชงิ ปริมาณและ
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี เชิงคณุ ภาพที่ไดผ้ ลเท่ียงตรงและ
สังคม และสง่ิ แวดล้อมมี ปลอดภยั โดยใช้วัสดุและ
ความเกย่ี วข้องสัมพันธก์ ัน เครอื่ งมอื ที่เหมาะสม

๔. รวบรวมข้อมูล จดั กระทำ

๑๓๘

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หนว่ ยการเรียนร้/ู หน่วย ชั่วโมง
เนือ้ หาทีส่ อน

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ชวี้ ัด

ขอ้ มลู เชิงปรมิ าณและคุณภาพ

๕. วเิ คราะห์และประเมินความ
สอดคล้อง ของประจกั ษ์พยาน
กับข้อสรุป ทั้งท่สี นบั สนนุ หรือ
ขัดแยง้ กับสมมติฐานและความ
ผิดปกติของข้อมูล จากการ
สำรวจตรวจสอบ

๖. สรา้ งแบบจำลอง หรอื
รปู แบบท่อี ธิบายผลหรอื แสดงผล
ของการสำรวจตรวจสอบ

๗. สร้างคำ ถามที่นำ ไปสู่การ
สำรวจ ตรวจสอบ ในเรอื่ งที่
เก่ียวข้อง และนำความรู้ที่ได้ ไป
ใช้ในสถานการณ์ใหม่หรืออธิบาย
เกยี่ วกับแนวคิดกระบวนการ
และผลของโครงงานหรอื ช้นิ งาน

๑๓๙

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หนว่ ยการเรียนร้/ู หน่วย ชั่วโมง
เนือ้ หาทีส่ อน

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวช้วี ดั

ใหผ้ อู้ ื่นเข้าใจ

๘. บนั ทกึ และอธิบายผลการ
สงั เกต การสำรวจ ตรวจสอบ
คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ จากแหล่ง
ความร้ตู ่าง ๆ ให้ไดข้ ้อมูลท่ี
เช่อื ถอื ได้ และยอมรับการ
เปล่ยี นแปลงความรูท้ ี่คน้ พบ
เมอื่ มีข้อมูลและประจักษ์ พยาน
ใหม่เพิ่มข้ึนหรือโตแ้ ย้งจากเดิม

๙. จัดแสดงผลงาน เขยี น
รายงาน และ/ หรอื อธิบาย
เกีย่ วกับ แนวคดิ กระบวนการ
และผลของโครงงานหรือ ช้ินงาน
ใหผ้ ้อู นื่ เขา้ ใจ

๑๔๐

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง หนว่ ยการเรียนร้/ู หน่วย ชั่วโมง
เนือ้ หาทีส่ อน

๑๔๑

คำอธบิ ายรายวชิ า

๑๔๒

รหสั ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๑ คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
คำอธิบายรายวิชา เวลา ๘๐ ชว่ั โมง

ศึกษา วิเคราะห์ ระบุช่ือพืชและสัตว์ท่ีอาศัยอยู่บริเวณต่างๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ บอก
สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต ของสัตว์ในบริเวณท่ีอาศัยอยู่ บรรยายลักษณะและบอก
หน้าที่ของ ส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์สัตว์ และพืช รวมท้ังบรรยายการทำหน้าท่ีร่วมกันของ ส่วน
ต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ในการทำกิจกรรมต่าง ๆจากข้อมูลที่รวบรวมได้ ตระหนักถึงความสำคัญของ
ส่วนต่างๆ ของร่างกายตนเอง โดยการดูแลส่วนต่างๆ อย่าถูกต้องให้ปลอดภัย และรักษาความสะอาด
อยเู่ สมอ อธบิ ายสมบตั ิที่สังเกตได้ของวัสดุทใี่ ช้ทำวัตถุ ซ่ึงทำจากวัสดุชุนเดียวหรอื หลายชุนประกอบกัน
โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุชนิดของวัสดุและจัดกลุ่มวัสดุตามสมบัติที่สังเกตได้ บรรยายการเกิด
เสียงและทิศทางการเคล่ือนท่ี ของเสียงจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุดาวท่ีปรากฏบนท้องฟ้าในเวลา
กลางวันและกลางคืนจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ อธิบายสาเหตุท่ีมองไม่เห็นดาวส่วนใหญ่ในเวลากลางวัน
จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ อธิบายลักษณะภายนอกของหนิ จากลกั ษณะ เฉพาะตวั ทสี่ ังเกตได้

แก้ปญั หาอย่างงา่ ยโดยใชก้ ารลองผดิ ลองถูก การเปรียบเทยี บ แสดงลำดับขั้นตอนการทำงาน
หรือการแก้ปัญหา อย่างง่ายโดยใช้ภาพสัญลักษณ์หรือข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้
ซอฟต์แวร์ หรอื สอ่ื ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จัดเก็บเรียกใช้ข้อมูล ตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏิบัติ ตามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันดูแล รกั ษาอปุ กรณเ์ บือ้ งต้น
ใชง้ านอยา่ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ว ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๑.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
ว ๒.๓ ป.๑/๑

ว ๓.๑ ป.๑/๑, ป.1/2
ว ๓.๒ ป.๑/๑
ว ๔.๒ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕

รวมท้ังหมด 15 ตวั ชี้วัด

๑๔๓

ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๒ คำอธบิ ายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์
เวลา ๘๐ ชั่วโมง

คำอธิบายรายวิชา
ระบุว่าพืชต้องการแสงและน้ำเพ่ือการเจริญเติบโตโดยใช้ข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์

ตระหนักถึงความจำเป็นที่พืชต้องการได้รับน้ำและแสงเพื่อการเจริญเติบโตโดยดูแลพื ชให้ได้รับส่ิง
ดังกล่าวอย่างเหมาะสม สร้างแบบจำลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก เปรียบเทียบลักษณะ
ส่งิ มีชีวิตและสิ่งไม่มีชีวติ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้ เปรียบเทยี บสมบตั กิ ารดูดซับน้ำของวัสดุโดยใช้หลกั ฐาน
เชิงประจักษ์และระบุการนำสมบัติการดูดซับน้ำไปประยุกต์ใช้ในการทำวัสดุในชีวิตประจำวัน อธิบาย
สมบัติท่ีสังเกตุได้ของวัสดุท่ีเกิดจากการนำวัสดุมาผสมกันโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ เปรียบเทียบ
สัมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุเพื่อนำมาทำเป็นวัตถุในการใช้งานตามวัตถุประสงค์และอธิบาย การนำวัสดุที่
ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ตระหนกั ถึงประโยชน์ของการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมา
ใช้ใหม่โดยการนำวัสดุท่ีใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ บรรยายแนวทางการเคลื่อนที่ของแสงจากแหล่งกำเนิด
แสงและอธิบายการมองเห็นวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ตระหนักในการเห็นคุณค่าของความรู้ของ
การมองเห็นโดยเสนอแนะแนวทางการป้องกันอันตรายจากการมองเหน็ วตั ถุในที่มแี สงสว่างไม่เหมาะสม
ระบสุ ่วนประกอบของดินและจำแนกชนดิ ของดินโดยใชล้ กั ษณะเน้ือดินและการจับตัวเป็นเกณฑ์ อธิบาย
การใช้ประโยชน์จากดินจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้

แสดงลำดับขั้นตอนการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์หรือข้อความ
เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ใช้เทคโนโลยี
ในการสร้างจัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง
ปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์เบ้ืองต้นใช้งานอย่าง
เหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ว ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ว ๑.๓ ป.๒/๑
ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ว ๒.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ว ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ว 4.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔

รวมท้ังหมด ๑๖ ตวั ช้วี ัด

๑๔๔

ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓ คำอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์
เวลา ๘๐ ชวั่ โมง

คำอธบิ ายรายวชิ า
บรรยายส่ิงที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตโดยใช้ข้อมูลจากที่รวบรวมได้

ตระหนักถึงประโยชน์ของอาหาร น้ำและอากาศโดยการดูแลตนเองและสัตว์ให้ได้รับส่ิงเหล่านี้อย่าง
เหมาะสม สร้างแบบจำลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตว์และเปรียบเทียบวัฏจักรชีวิตของสัตว์บาง
ชนิด ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตสัตว์โดยไม่ทำให้วัฏจักรชีวิตของสัตว์เปล่ียนแปลง อธิบายว่าวัตถุ
ประกอบกันเป็นวัตถุช้ินใหม่ได้โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ อธิบายการเปลี่ยนแปลงของวสั ดุเม่ือทำให้
รอ้ นข้ึนหรือทำให้เย็นลงโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุผลของแรงเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนที่ของวัตถุ
จากหลักฐานเชิงประจักษ์ เปรียบเทียบและยกตัวอย่างแรงสัมผัสและแรงสัมผัสท่ีมีผลต่อการเคล่ือนท่ี
ของวัตถุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ การจำแนกวัตถุโดยใช้การดึงดูดกับแม่เหล็กเป็นเกณฑ์จาก
หลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุขัว้ แม่เหล็กและพยากรณ์ผลทีเ่ กดิ ข้ึนระหวา่ งขั้วแมเ่ หล็กเมอ่ื นำมาเข้าใกล้กัน
จากหลักฐานเชิงประจักษ์ ยกตัวอย่างการเปล่ียนพลังงานหน่ึงไปเป็นอีกพลังงานหน่ึงจากหลักฐานเชิง
ประจักษ์ บรรยาย การทำงานของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้าและระบุแหลง่ พลังงานในการผลิตไฟฟ้าจากข้อมูล
ที่รวบรวมได้ ตระหนักในประโยชน์ของไฟฟ้าโดยการนำเสนอวิธีการใช้อย่างประหยัดและปลอดภัย
อธิบายแบบรูปเส้นทางการข้ึนละตกของดวงอาทิตย์โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ อธิบายสาเหตุการเกิด
ปรากฏการณ์ข้ึนและตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืนและการกำหนดทิศโดยใช้แบบจำลอง
ตระหนักถึงความสำคัญของดวงอาทิตย์ประโยชน์ของดวงอาทิตย์ต่อสิ่งมีชีวิต ระบุส่วนประกอบของ
อากาศ บรรยายนความสำคัญของอากาศและผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อสิ่งมีชีวิตจากข้อมูลที่
รวบรวมได้ ตระหนักถึงความสำคญั ของอากาศโดยการนำเสนอแนวทางการปฏิบตั ิตนในการลดการเกิด
มลพษิ ทางอากาศ บรรยายประโยชนแ์ ละโทษของลมจากขอ้ มลู ที่รวบรวมได้

แสดงอัลกอรึทึมในการทำงานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพสัญลักษณ์ หรือข้อความ
เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือส่ือ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ใช้
อินเทอร์เน็ตคน้ หาความรู้ รวบรวมประมวลผลและนำเสนอข้อมูลโดยใช้ซอฟตแ์ วรต์ ามวัตถุประสงค์ ใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัยปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงในการใชอ้ ินเทอรเ์ นต็

รหัสตัวชี้วดั
ว ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
ว ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๒.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ว ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ว ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว 4.2 ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕
รวมท้ังหมด ๒๕ ตัวชี้วดั

๑๔๕

ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๔ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
เวลา 160 ช่วั โมง

คำอธิบายรายวชิ า
บรรยายหน้าท่ีของราก ลำต้น ใบและดอกของพืชดอกโดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ จำแนก

สง่ิ มีชีวติ โดยใช้ความเหมือนและความแตกต่างของลักษณะของส่ิงมีชวี ิต ออกเป็นกลุ่มพืช กลมุ่ สัตว์และ
กลุ่มที่ไม่ใช่พืชและสัตว์ จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเกณฑ์ โดยใช้
ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ จำแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง โดยใช้การมี
กระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ บรรยายลักษณะเฉพาะท่ีสังเกตได้ของสัตว์มี
กระดกู สันหลังในกลุ่มปลา กล่มุ สัตว์สะเทนำ้ สะเทินบก กลมุ่ สัตว์เล้อื ยคลาน กลุ่มนก และกลมุ่ สัตว์เลียง
ลูกด้วยนม และตัวอย่างส่ิงมีชีวิตในแต่ละกลุ่ม เปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพ ด้านความแข็ง สภาพ
ยืดหยุ่น การนำความร้อนและการนำไฟฟ้าของวัสดุโดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์จากการทดลองและระบุ
การน ำส ม บั ติ เร่ือ งค วาม แ ข็ งส ภ าพ ยื ด ห ยุ่ น ก ารน ำค วาม ร้อ น แล ะ ก าร น ำไฟ ฟ้ าขอ งวัส ดุ ไป ใช้ ใน
ชวี ิตประจำวันผ่านกระบวนการออกแบบช้ินงาน แลกเปล่ียนความคิดกับผู้อื่นโดยการอภิปรายเก่ียวกับ
สมบัติทางกายภาพของวัสดุอย่างมีเหตุผลจากการทดลอง เปรียบเทียบสมบัติของสสารทั้ง ๓ สถานะ
จากข้อมูลท่ีได้จากการสังเกตมวล การต้องการที่อยู่รูปร่างและปริมาตรของสสาร ใช้เคร่ืองมือเพ่ือวัด
มวล และปริมาตรของสสารทั้ง ๓ สถานะ ระบุผลของแรงโน้มถ่วงที่มีต่อวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์
ใช้เคร่ืองชั่งสปริงในการวัดน้ำหนักของวัตถุ บรรยายมวลของวัตถุที่มีผลต่อการเปล่ียนแปลงการ
เคลื่อนท่ีของวตั ถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ จำแนกวัตถุเป็นตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสงและวัตถุ
ทบึ แสงโดยใช้ลักษณะการมองเห็นส่งิ ต่างๆผา่ นวัตถุนั้นเป็นเกณฑ์จากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ อธบิ ายแบบ
รูปเส้นทางการข้ึนและตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ สร้างแบบจำลองที่อธิบายแบบ
รปู การเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์และพยากรณ์รูปร่างของดวงจันทร์ สร้างแบบจำลอง
แสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะและอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาวเคราะห์ต่างๆจาก
แบบจำลอง

ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาการอธิบาย การทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์จากปัญหา
อย่างงา่ ย ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและ
แก้ไข ใช้อินเตอร์เน็ตค้นหาความรู้และประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล รวบรวม ประเมินนำเสนอ
ข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ท่ีหลากหลายเพ่ือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบ
ข้อมลู หรอื บุคคลทไี่ มเ่ หมาะสม

๑๔๖

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๑.๒ ป.๔/๑ ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๓ ป.๔/๑
ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว 4.2 ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
รวมท้ังหมด 21 ตัวช้วี ดั

๑๔๗

ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๕ คำอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์
เวลา 160 ชวั่ โมง

คำอธบิ ายรายวิชา
บรรยายโครงสรา้ งและลักษณะของสิ่งมชี ีวิตที่เหมาะสมกับการดำรงชวี ิตซ่งึ เป็นผลมาจากการปรับตัว

ของส่ิงมีชีวิตในแต่ละแหล่งที่อยู่ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่าง
สิ่งมีชีวิตกับสงิ่ ไม่มีชีวติ เพื่อประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต เขยี นโซ่อาหารและระบุบทบาทหน้าท่ีของส่งิ สงิ่ มชี ีวติ ที่
เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคในโซ่อาหาร ตระหนักในคุณค่าของส่ิงแวดล้อมที่มีต่อการดำรงชีวิตของส่ิงมีชีวิตโดยมี
ส่วนร่วมในการดูแลรักษาส่ิงแวดล้อม อธิบายลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมีการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของ พืช
สตั ว์ และ มนษุ ย์ แสดงความอยากรอู้ ยากเห็นโดยการถามคำถามเก่ยี วกบั ลักษณะที่คลา้ ยคลึงกันของตนเอง
กับพ่อแม่ อธิบายการเปล่ียนสถานะของสสารเมื่อทำให้สสารร้อนข้ึนหรือเย็นลง โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์
อธิบายการละลายของสารในน้ำ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของสารเมื่อเกิดการ
เปล่ียนแปลงทางเคมี โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์และระบุการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และการ
เปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ อธิบายวิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกันท่ีกระทำต่อวัตถุใน
กรณีที่วัตถุอยู่น่ิงจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพแสดงแรงที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ในแนวเดียวกันและ
แรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุ ใช้เคร่ืองชงั่ สปริงในการวัดแรงที่กระทำต่อวัตถุ ระบุผลของแรงเสียดทานที่มีต่อการ

เปลีย่ นแปลงการเคล่อื นทข่ี องวัตถุจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เขียนแผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงท่อี ยูใ่ น
แนวเดยี วกันที่กระทำต่อวตั ถุ อธิบายการไดย้ ินเสียงผ่านตัวกลางจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ระบุตัวแปรทดลอง
และอธิบายลักษณะและการเกิดเสียงสงู เสียงต่ำ ออกแบบการทดลองและอธิบายลกั ษณะและการเกิดเสียงดัง
เสียงค่อย วัดระดับเสียงโดยใช้เครื่องมือวัดระดับเสียง ตระหนักในคุณค่าของความรู้เรื่องระดับเสียงโดย
เสนอแนะแนวทางในการหลกี เล่ยี งและลดมลพษิ ทางเสียง เปรียบเทียบความแตกตา่ งของดาวเคราะหแ์ ละดาว
ฤกษ์จากแบบจำลอง ใช้แผนที่ดาวระบุตำแหน่งและเส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าและ
อธิบายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแต่ละ
แหล่งและระบุปริมาณน้ำท่ีมนุษย์สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ ตระหนักถึงคุณค่าของ
นำ้ โดยนำเสนอแนวทางการใช้น้ำอย่างประหยัดและการอนุรกั ษ์น้ำ สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายการหมุนเวียน
ของน้ำในวัฏจักรน้ำ เปรียบเทียบกระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็ง จากแบบจำลอง
เปรยี บเทียบกระบวนการเกิด ฝน หมิ ะ และลูกเหบ็ จากขอ้ มลู ที่รวบรวมได้

ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาการอธิบายการทำงานการคาดการณ์ผลลัพธจ์ ากปัญหาอย่างงา่ ย
ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไข ใช้
อินเทอร์เน็ตคน้ หาข้อมลู ติดตอ่ สื่อสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มูล รวบรวม ประเมิน
นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบนอินเทอร์เน็ตทห่ี ลากหลาย เพ่ือ
แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน

เคารพในสทิ ธขิ องผู้อ่นื แจ้งผู้เกยี่ วขอ้ งเม่อื พบข้อมูลหรือบคุ คลท่ไี มเ่ หมาะสม

๑๔๘

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๒.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว 4.2 ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕

รวมทั้งหมด ๓๒ ตัวชี้วดั

๑๔๙

ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์๖ คำอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์
เวลา 160 ชวั่ โมง

คำอธิบายรายวชิ า
ร ะ บุ ส า ร อ า ห า ร แ ล ะ บ อ ก ป ร ะ โ ย ช น์ ข อ ง ส า ร อ า ห า ร แ ต่ ล ะ ป ร ะ เภ ท จ า ก อ า ห า ร ท่ี ต น เอ ง

รับประทานบอกแนวทางในการเลือกรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสม

กับเพศและวัย รวมท้ังความปลอดภัยต่อสุขภาพ ตระหนักถึงความสำคัญของสารอาหาร โดยการเลือก
รับประทานอาหารท่ีมีสารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับเพศและวัย รวมทั้งความปลอดภัย
ต่อสุขภาพ สร้างแบบจำลองระบบย่อยอาหารและบรรยายหน้าท่ีของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร
รวมทงั้ อธิบายการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร ตระหนักถงึ ความสำคญั ของระบบย่อยอาหาร
โดยการบอก แนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบย่อยอาหารให้ทำงานเป็นปกติ อธิบายและ
เปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การรินออก การกรอง
และการตกตะกอน โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับการ
แยกสาร อธบิ ายการเกิดและผลของแรงไฟฟา้ ซงึ่ เกดิ จากวัตถทุ ่ีผา่ นการขัดถูโดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ระบุ
ส่วนประกอบและบรรยายหน้าท่ีของแต่ละส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าอย่างง่ายจากหลักฐานเชิงประจักษ์
เขียนแผนภาพและตอ่ วงจรไฟฟา้ อย่างง่าย ออกแบบการทดลองด้วยวิธที เี่ หมาะสมในการอธบิ ายวิธกี ารและผล
ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรมโดย
บอกประโยชน์และการประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีท่เี หมาะสมในการ
อธิบายการต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน ตระหนักถึงประโยชนข์ องความรู้ของการต่อไฟฟ้าแบบ
อนกุ รม แบบขนาน อธบิ ายการเกดิ เงามืดเงามวั จากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เขียนแผนภาพรงั สขี องแสงแสดงการ
เกดิ เงามดื เงามัว สร้างแบบจำลองท่ีอธบิ ายการเกดิ และเปรียบเทียบปรากฏการณ์สรุ ิยปุ ราคาและจนั ทรุปราคา
อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันจากข้อมูลท่ีรวบ รวมได้
เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดซากดึกดำ
บรรพ์และคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดีตของซากดึกดำบรรพ์ การเกิดลมบก ลมทะเล มรสุมรวมท้ังอธิบาย
ผลที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและส่ิงแวดล้อมจากแบบจำลอง อธิบายผลของมรสุมต่อการเกิดฤดูของประเทศไทย จาก
ข้อมูลท่ีรวบรวม บรรยายลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝ่ังดินถล่ม แผ่นดินไหว
ตระหนักถึงผลกระทบของภยั ธรรมชาติและธรณีพบิ ตั ิภัย โดยนำเสนอแนวทางในการเฝา้ ระวงั และปฏบิ ตั ติ นให้
ปลอดภัยจากภัยธรรมชาตแิ ละธรณีพิบตั ิภยั ที่อาจเกิดในทอ้ งถิ่น อธิบายการเกดิ ปรากฏการณ์เรอื นกระจกและ
ผลของปรากฏการณ์เรือนกระจกต่อส่ิงมีชวี ิต ตระหนักถึงผลกระทบองปรากฏการณ์เรือนกระจกโดยนำเสนอ
แนวทางการปฏิบตั ิตนเพอ่ื ลดกจิ กรรมท่ีกอ่ ใหเ้ กิดแกส็ เรือนกระจก

ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตประจำวัน ออกแบบและ
เขียนโปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไข ใช้
อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างป ลอดภัย
เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหนา้ ทีข่ องตน เคารพในสทิ ธิของผู้อนื่ แจง้ ผู้เกย่ี วข้องเมื่อพบขอ้ มูลหรอื บุคคลที่ไม่เหมาะสม

๑๕๐

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ว ๒.๑ ป.๖/๑
ว ๒.๒ ป.๖/๑
ว ๒.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘
ว ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒
ว ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ว ๔.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔

รวมท้ังหมด ๓๐ ตัวชีว้ ัด

๑๕๑

ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๑
คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน
รหสั วชิ า ว๒๑๑๐๑ รายวิชา วิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกติ

ศึกษา วิเคราะห์ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สมบัติของสารบริสุทธิ์ การจำแนกและองค์ประกอบ
ของสารบรสิ ุทธ์ิ เซลล์ การลำเลียงสารเข้าออกเซลล์ การสืบพันธุแ์ ละขยายพันธ์พุ ืชดอก การสังเคราะห์
ด้วยแสง การลำเลียงน้ำ ธาตุอาหาร และอาหารของพืช แนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน
และวิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ปัญหาหรือความต้องการใน
ชีวิตประจำวัน ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา ทดสอบ ประเมินผล และระบุข้อบกพร่องที่เกิดข้ึนพร้อมทั้ง
หาแนวทางแก้ไข ทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้า หรืออิเล็กทรอนิกส์ อัลกอริทึมท่ี
ใช้แนวคิดเชิงนามธรรม ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ประมวลผล
ประเมินผล นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือบริการบน
อินเตอร์เน็ตที่หลากหลาย ใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย ใช้ส่ือและแหล่งข้อมูลตามข้อกำหนดและ
ข้อตกลง

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความ
เข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั มจี ติ วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นยิ มท่เี หมาะสม

ตัวชว้ี ัด
ว 1.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8 ม.1/9 ม.1/10 ม.1/11

ม.1/12 ม.1/13 ม.1/14 ม.1/15 ม.1/16 ม.1/17 ม.1/18
ว 2.1 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7 ม.1/8
ว 4.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
รวมทั้งหมด 26 ตัวชวี้ ัด

๑๕๒

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
รหัสวิชา ว๒๑๑๐๒ รายวิชา วิทยาศาสตรพ์ น้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๖๐ ช่วั โมง จำนวน ๑.๕ หนว่ ยกติ

ศกึ ษา วิเคราะห์ ความร้อนกับการเปล่ียนแปลงของสสาร การถ่ายโอนความร้อน ลมฟ้าอากาศ
รอบตวั มนษุ ยแ์ ละการเปลย่ี นแปลงลมฟา้ อากาศ

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทักษะในศตวรรษท่ี 21 การสืบค้นข้อมูลและการอภิปราย เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา กานำความรู้ไปใช้ใน
ชีวิตประจำวนั มจี ิตวทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านิยมทีเ่ หมาะสม

ตวั ช้วี ัด
ว 2.1 ม.1/9 ม.1/10
ว 2.2 ม.1/1
ว 2.3 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7
ว 3.2 ม.1/1 ม.1/2 ม.1/3 ม.1/4 ม.1/5 ม.1/6 ม.1/7

รวมทัง้ หมด 17 ตัวช้วี ดั

๑๕๓

ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

คำอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหสั ว๒๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๓ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๖๐ ช่ัวโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศึกษา วเิ คราะห์ อวัยวะและหน้าท่ีของอวัยวะที่เก่ียวข้องในระบบหายใจ กลไกการหายใจเข้า
และออก โดยใช้แบบจำลอง กระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊ส ความสำคัญของระบบหายใจ หน้าท่ีของ
อวัยวะในระบบขับถ่ายในการกำจัดของเสียทางไต ความสำคัญของระบบขับถ่ายในการกำจัดของเสีย
ทางไต บรรยายโครงสรา้ งและหน้าท่ีของหัวใจ หลอดเลือด และเลือด การทำงานของระบบหมุนเวียน
เลือดโดยใช้แบบจำลอง ออกแบบการทดลองและทดลองในการเปรียบเทียบอัตราการเต้นของหัวใจ
ขณะปกติและหลังทำกิจกรรม ความสำคัญของระบบหมุนเวียนเลือด อวัยวะและหน้าที่ของอวัยวะใน
ระบบประสาทส่วนกลางในการควบคุมการทำงานต่างๆ ของร่างกาย ความสำคัญของระบบประสาท
หน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ของเพศชายและหญิง ผลของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิง การ
เปลยี่ นแปลงของรา่ งกายเมือ่ เข้าสูว่ ัยหนุ่มสาว การตกไข่ การมีประจำเดือน การปฏิสนธิ และการพัฒนา
ของไซโกต วิธีการคมุ กำเนดิ ออกแบบการทดลองและทดลองในการอธบิ ายผลของชนิดตัวละลาย ชนิด
ของตวั ทำละลาย อณุ หภมู ิที่มีตอ่ สภาพละลายไดข้ องสาร ผลของความดันท่ีมีต่อสภาพละลายไดข้ องสาร
ระบุปริมาณตัวละลายในสารละลาย ในหน่วยความเข้มข้นเป็นร้อยละ ปริมาตรตอ่ ปริมาตร มวลตอ่ มวล
และมวลต่อปริมาตร การนำความรู้เร่ืองความเข้มข้นของสารไปใช้ อธิบายการแยกสารผสมโดยการ
ระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่ันอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกัดดว้ ยตวั ทำละลาย แยก
สารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกล่ันอยา่ งง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษ การสกัดด้วยตวั ทำ
ละลาย นำวิธีการแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชีวิตประจำวันโดยบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
เทคโนโลยี และวิศวกรรมศาสตร์ แนวโน้มเทคโนลีที่จะเกิดข้ึน ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาภายใต้
ทรพั ยากรที่มีอยู่ ใชค้ วามรู้ และทกั ษะเก่ียวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครอื่ งมือ กลไก ไฟฟา้ และอเิ ล็กทรอนกิ ส์
เพ่ือแก้ปัญหาหรือพัฒนางานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย ออกแบบอัลกอริทึมที่ใช้แนวคิด
เชิงคำนวณในการแก้ปัญหา ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีใช้ตรรกะและฟังก์ชันในการแก้ปัญหา
อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการส่ือสาร ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความรบั ผิดชอบ

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 การสบื ค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความ
เข้าใจ สามารถสื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ใน
ชีวิตประจำวนั มีจติ วทิ ยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทีเ่ หมาะสม

๑๕๔

ตัวชวี้ ดั
ว 1.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11

ม.2/12 ม.2/13 ม.2/14 ม.2/15 ม.2/16 ม.2/17
ว 2.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6
ว 4.1 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5
ว 4.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4
รวมทั้งหมด 32 ตวั ช้ีวัด

๑๕๕

ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๒

คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน

รหัส ว๒๑๑๐๒ วิทยาศาสตร์ ๔ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ ภาคเรียนท่ี ๒ เวลา ๖๐ ชัว่ โมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต

พยากรณ์การเคลื่อนท่ขี องวัตถุท่เี ป็นผลของแรงลัพธท์ ่ีเกิดจากแรงหลายแรงที่กระทำต่อวัตถุใน
แนวเดียวกัน เขียนแผนภาพแสดงแรงและแรงลัพธ์ท่ีเกิดจากแรงหลายแรงที่กระทำต่อวัตถุในแนว
เดียวกัน แรงที่กระทำต่อวัตถุในของเหลว แรงเสียดทานและแรงอื่นๆ ท่ีกระทำต่อวัตถุ แรงเสียดทาน
และแรงอื่นๆ ที่กระทำต่อวัตถุ ออกแบบการทดลองและทดลองปัจจัยท่ีมีผลต่อความดันของของเหลว
ปัจจัยท่ีมีผลต่อขนาดของแรงเสียดทาน โมเมนต์ของแรง เมื่อวัตถุอยู่ในสภาพสมดุลต่อการหมุน และ
คำนวณโดยใช้สมการ วิเคราะห์แรงพยุงและการจม การลอยของวัตถุในของเหลว อธิบายแรงเสียด
ทานสถิตและแรงเสียดทานจลน์ ประโยชน์ของความรู้เรื่องแรงเสียดทานโดยวิเคราะห์สถานการณ์
ปั ญ ห า แ ล ะ เส น อ แ น ะ วิ ธี ก า ร ล ด ห รื อ เพิ่ ม แ ร ง เสี ย ด ท า น ที่ เป็ น ป ร ะ โ ย ช น์ ต่ อ ก า ร ท ำ กิ จ ก ร ร ม ใ น
ชีวิตประจำวัน เปรียบเทียบแหล่งของสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และสนามโน้มถ่วง และทิศทางของ
แรงที่กระทำต่อวัตถุท่ีอยู่ในแต่ละสนามจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ เขียนแผนภาพแสดงแรงแม่เหล็ก แรง
ไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงท่ีกระทำต่อวัตถุ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของแรงแม่เหล็ก แรง
ไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงท่ีกระทำต่อวัตถุท่ีอยู่ในสนามน้ันๆ กับระยะห่างจากแหล่งของสนามถึงวัตถุจาก
ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ อธิบายและคำนวณอัตราเร็วและความเร็วของการเคล่ือนที่ของวตั ถุ เขียนแผนภาพ
แสดงการกระจัดและความเร็ว วเิ คราะห์สถานการณ์และคำนวณเกี่ยวกับงานและกำลงั ที่เกิดจากแรงที่
กระทำต่อวัตถุจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ หลักการทำงานของเคร่ืองกลอย่างง่ายจากข้อมูลที่รวบรวมได้
ความรู้ของเคร่ืองกลอย่างง่าย ออกแบบและทดลองปัจจัยท่ีมีผลต่อพลังงานจลน์ และพลังงานศักย์โน้ม
ถ่วง แปลความหมายข้อมูลและอธิบายการเปลี่ยนพลังงานระหว่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงและพลังงาน
จลน์ของวัตถุโดยพลังงานกลของวัตถุมีค่าคงตัว วิเคราะห์สถานการณ์และอธิบายการเปลี่ยนและการ
ถ่ายโอนพลังงานโดยใช้กฎการอนุรักษ์พลังงาน เปรียบเทียบกระบวนการเกิด สมบัติ และการใช้
ประโยชน์ รวมทั้งอธบิ ายผลกระทบจากการใช้เชอื้ เพลงิ ซากดึกดำบรรพ์ ผลจากการใช้เช้ือเพลิงซากดึก
ดำบรรพ์ โดยนำเสนอแนวทางการใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ เปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของ
พลังงานทดแทนแต่ละประเภทจากการรวบรวมข้อมูลและนำเสนอแนวทางการใช้พลังงานทดแทนที่
เหมาะสมในท้องถ่ิน สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายโครงสร้างภายในโลกตามองค์ประกอบทางเคมี อธิบาย
กระบวนการผุพังอยู่กับท่ี การกรอ่ น และการสะสมตัวของตะกอนจากแบบจำลองรวมท้ังยกตัวอย่างผล
ของกระบวนการดังกล่าวที่ทำให้ผิวโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ลักษณะของชั้นหน้าตัดดินและ
กระบวนการเกิดดิน จากแบบจำลอง รวมท้ังระบุปัจจัยที่ทำให้ดินมีลักษณะและสมบัติแตกต่างกัน

๑๕๖

ตรวจวัดสมบัติบางประการของดิน โดยใช้เคร่ืองมือทเี่ หมาะสมและนำเสนอแนวทางการใช้ประโยชนด์ ิน
จากข้อมูลสมบัติของดิน อธิบายปัจจัยและกระบวนการเกิดแหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดิน จาก
แบบจำลอง สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายการใช้น้ำ และนำเสนอแนวทางการใช้อย่างยั่งยืนในท้องถ่ินของ
ตนเอง สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายกระบวนการเกิดและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดิน
ถล่ม หลมุ ยบุ แผน่ ดนิ ทรุด

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 การสบื ค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความ
เข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั มีจติ วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มทเี่ หมาะสม

ตัวช้ีวัด
ว 2.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10 ม.2/11

ม.2/12 ม.2/13 ม.2/14 ม.2/15
ว 2.3 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6
ว 3.2 ม.2/1 ม.2/2 ม.2/3 ม.2/4 ม.2/5 ม.2/6 ม.2/7 ม.2/8 ม.2/9 ม.2/10

รวมทัง้ หมด 31 ตัวช้ีวัด

๑๕๗

ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓

คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน

รหสั ว๒๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์ ๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๖๐ ชั่วโมง จำนวน ๑.๕ หน่วยกิต

ศึกษา วิเคราะห สมบัติทางกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์
และวัสดุผสม โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และสารสนเทศ การใช้วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์
และวัสดุผสม โดยเสนอ แนะแนวทางการใช้วัสดุอย่างประหยัดและคุ้มค่า การเกิดปฏิกิริยาเคมี รวมถึง
การจัดเรยี งตัวใหม่ของอะตอมเม่ือเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยใช้แบบจำลองและสมการข้อความ กฎทรงมวล
ปฏิกิริยาดูดความร้อน และปฏิกิริยาคายความร้อน จากการเปล่ียนแปลงพลังงานความร้อนของ
ปฏิกิริยา ปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยาของกรดกับเบส และ
ปฏิกิริยาของเบสกับโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และอธบิ ายปฏิกริ ิยาการเผาไหมก้ ารเกิดฝนกรด
การสังเคราะห์ด้วยแสง โดยใช้สารสนเทศ รวมทั้งเขียนสมการข้อความแสดงปฏิกิริยา ประโยชน์และ
โทษของปฏิกิริยาเคมีที่มีต่อส่ิงมีชีวติ และส่ิงแวดล้อม และยกตัวอย่างวิธีการป้องกันและแก้ปัญหาท่ีเกิด
จากปฏิกิริยาเคมีที่พบในชีวิตประจำวัน วิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ระหว่างความต่าง
ศักย์ กระแสไฟฟ้า และความต้านทาน และคำนวณปริมาณที่เกี่ยวข้อง ความสัมพันธ์ระหว่าง
กระแสไฟฟ้าและความตา่ งศักยไ์ ฟฟา้ การวัดปริมาณทางไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าใน
วงจรไฟฟ้าเมื่อต่อตัวตา้ นทานหลายตัวแบบอนุกรมและแบบขนาน แผนภาพวงจรไฟฟ้าแสดงการต่อตัว
ต้านทานแบบอนุกรมและขนาน การทำงานของช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างง่าย คำนวณพลังงานไฟฟ้า
เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยนำเสนอวิธีการใช้เคร่ืองใช้ไฟฟ้ าอย่างประหยัดและปลอดภัยแบบจำลองท่ี
อธิบายการเกิดคล่ืนและบรรยายส่วนประกอบของคลื่น คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าและสเปกตรัมคล่ืน
แม่เหล็กไฟฟ้า พัฒนาแอปพลิเคชัน รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมูลและ
สารสนเทศตามวัตถุประสงค์ โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตท่ีหลากหลาย ประเมินความ
น่าเชื่อถือของข้อมูล วิเคราะห์สื่อและผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่ผิด เพื่อการใช้งานอย่างรู้เท่าทัน
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตามกฎหมายเก่ียวกับ
คอมพิวเตอร์ ใชล้ ิขสทิ ธิ์ของผู้อ่นื โดยชอบธรรม

โดยใช้การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และ
ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 การสบื ค้นข้อมูลและการอภิปราย เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความ
เข้าใจ สามารถสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ การแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวัน มจี ิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มทเ่ี หมาะสม


Click to View FlipBook Version