หลักสูตรสถานศึกษา สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

๙๙

ารเรียนรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนร/ู้ เน้อื หา/ เวลา คะแนน
กจิ กรรม (ชว่ั โมง) เกบ็
งการแก้ปัญหาทำได้ หลากหลายวธิ ี
ขยี นแผนภาพ การเขยี นผงั งาน แก้ปัญหา

ละระยะเวลาในการทำงาน ก่อน - ทดสอบ
ช่วยให้ทำงานสำเรจ็ ได้ตาม
พลาด ของการทำงานท่ีอาจเกิดขึน้ - ปรบั ปรุง แก้ไข และ
ประเมินผล

- นำเสนอผลงาน

๒. ววิ ฒั นาการของ
เทคโนโลยี

มินผลเปน็ การตรวจสอบ ช้นิ งาน
แก้ปญั หาไดต้ าม วัตถปุ ระสงค์ภายใต้
า ข้อบกพร่อง และดำเนินการ
อบซ้ำเพอ่ื ใหส้ ามารถแก้ปญั หาได้

นการถ่ายทอดแนวคดิ เพื่อให้ผู้อนื่
การทำงาน และชน้ิ งานหรอื วิธกี ารท่ี
ลายวิธี เชน่ การเขียนรายงาน การทำ
ารจัดนิทรรศการ การนำเสนอผา่ น

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้ีวดั สาระกา

ส่ือออนไลน์

๕. ใชค้ วามรแู้ ละทักษะ - วัสดแุ ตล่ ะประเภทมสี

เกย่ี วกับวสั ดุ อปุ กรณ์ พลาสติก จึงต้องมีการว

เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้า เหมาะสมกบั ลกั ษณะขอ

หรืออิเลก็ ทรอนิกส์ - การสรา้ งช้ินงานอาจใช
เพอ่ื แก้ปัญหาได้อยา่ ง อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เช่น LED
ถูกต้อง เหมาะสม และ

ปลอดภัย - อปุ กรณแ์ ละเคร่ืองมือ

วธิ กี ารมหี ลายประเภท

และปลอดภยั รวมท้ัง ร

มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจ ๑. ออกแบบอลั กอริทมึ - แนวคดิ เชงิ นามธรรม เ

และใช้แนวคดิ เชิงคำนวณ ทใ่ี ชแ้ นวคิดเชิง รายละเอียดของปญั หา

ในการแก้ปัญหาท่ีพบใน นามธรรม เพอ่ื ออกจากส่วนท่ีไม่ใช่สาร

๑๐๐

ารเรยี นรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรยี นร้/ู เนื้อหา/ เวลา คะแนน

กิจกรรม (ชว่ั โมง) เกบ็

สมบัติแตกต่างกัน เชน่ ไม้ โลหะ ผลงานออกแบบและ ๑๐
วเิ คราะห์สมบัติ เพ่อื เลือกใชใ้ ห้ เทคโนโลยี
องงาน
ชค้ วามรู้ เร่อื งกลไก ไฟฟา้ ๑. การเลือกใช้วัสดุ
D บัซเซอร์ มอเตอร์ วงจรไฟฟา้ อุปกรณ์และเคร่อื งมอื
อในการสรา้ งช้ินงานหรอื พัฒนา
ต้องเลอื กใชใ้ ห้ถูกต้อง เหมาะสม - ประเภทของวสั ดุ
รจู้ ักเก็บรกั ษา
- สมบัตแิ ละการเลอื ก
เป็นการประเมนิ ความสำคัญ ของ วัสดุ
แยกแยะส่วนทีเ่ ปน็ สาระสำคัญ
ระสำคัญ ๒. กรณศี ึกษาผลงานการ
ออกแบบและเทคโนโลยี

- กรณีศกึ ษา

การออกแบบและการ ๖
เขยี นอัลกอริทึม

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้ีวัด สาระกา

ชีวติ จริงอย่างเปน็ ข้นั ตอน แก้ปัญหาหรืออธบิ าย - ตวั อย่างปัญหา เชน่ ต
และเป็นระบบ ใช้ การทำงานที่พบใน กำหนด โดยหญ้าหนึง่ ผืน
เทคโนโลยสี ารสนเทศและ ชวี ติ จริง ๕๐ เซนตเิ มตร จะใชห้ ญ
การส่อื สารในการเรยี นรู้
การทำงาน และการ
แกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมี
ประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทนั
และมีจริยธรรม

๑๐๑

ารเรยี นรู้แกนกลาง* หน่วยการเรียนรู้/เน้อื หา/ เวลา คะแนน
กจิ กรรม (ช่ัวโมง) เก็บ
ต้องการปูหญา้ ในสนาม ตามพ้ืนท่ีที่
นมคี วามกวา้ ง ๕๐ เซนติเมตร ยาว ๑. แนวคิดเชิงนามธรรม
ญ้าทั้งหมดก่ผี ืน
- แนวคิดเชงิ นามธรรม

- การใชแ้ นวคดิ เชงิ
นามธรรมเพ่ือแกป้ ัญหา

๒. อัลกอรทิ ึมเบ้ืองต้น

๓. การเขียนอัลกอรทิ ึม
ด้วยภาษาธรรมชาติ

- ภาษาคอมพิวเตอร์

- การเขียนอลั กอริทึม
ดว้ ยภาษาธรรมชาติ

๔. การเขยี นอลั กอรทิ มึ
ด้วยรหสั จำลอง

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้ีวัด สาระกา

๒. ออกแบบและเขยี น - การออกแบบและเขยี น

๑๐๒

ารเรียนรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู/้ เนอื้ หา/ เวลา คะแนน
นโปรแกรมท่ีมกี ารใชต้ ัวแปร กิจกรรม (ชว่ั โมง) เกบ็

- การเขียนอัลกอรทิ มึ
ด้วยรหัสจำลอง

- หลกั เกณฑก์ ารเขยี น
รหสั จำลอง

๕. การเขยี นอลั กอรทิ มึ
ดว้ ยผังงาน

- รูปแบบการเขยี นผงั
งาน

- การเขียนอลั กอริทมึ
ด้วยผงั งาน

- กรณศี กึ ษาการ
ออกแบบและการเขยี น
อัลกอริทึม

การออกแบบและการ ๘

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้วี ัด สาระกา

โปรแกรมอย่างงา่ ย เงอ่ื นไข วนซำ้

เพื่อแก้ปญั หาทาง - การออกแบบอลั กอรทิ
คณิตศาสตรห์ รือ วิทยาศาสตรอ์ ย่างงา่ ย อ
วทิ ยาศาสตร์ ออกแบบ เพอื่ ให้ การแก

- การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็
อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

- ซอฟตแ์ วร์ท่ีใช้ในการเ
python, java, c

- ตวั อยา่ งโปรแกรม เ

โปรแกรมคำนวณหาพ้นื

๑๐๓

ารเรียนร้แู กนกลาง* หน่วยการเรยี นร/ู้ เนื้อหา/ เวลา คะแนน
เกบ็
ทึม เพื่อแกป้ ัญหาทางคณิตศาสตร์ กจิ กรรม (ชั่วโมง)
อาจใช้ แนวคดิ เชิงนามธรรมในการ
ก้ปญั หามปี ระสทิ ธภิ าพ เขยี นโปรแกรมเบอ้ื งต้น
นข้นั ตอนจะชว่ ยให้แก้ปัญหา ได้
๑. การเขียนโปรแกรม
เขียนโปรแกรม เชน่ Scratch, เบื้องต้น

เช่น โปรแกรมสมการการเคล่อื นท่ี - หลกั การเขยี น
นท่ี โปรแกรมคำนวณดัชนมี วลกาย โปรแกรม

- โปรแกรมภาษา C

- โปรแกรม Scratch

- โปรแกรมไพทอน
(python)

- โปรแกรมภาษาจาวา
(java)

- รูปแบบการเขยี น
โปรแกรมคอมพิวเตอร์

๒. ซอฟต์แวรท์ ใี่ ช้ในการ

สาระ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด สาระกา

๓. รวบรวมข้อมูลปฐม -การรวบรวมข้อมูลจาก

ภูมิ ประมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมนิ

๑๐๔

ารเรยี นรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรียนรู้/เนอ้ื หา/ เวลา คะแนน
กิจกรรม (ชั่วโมง) เกบ็

เขยี นโปรแกรม
คอมพิวเตอร์

- ตวั อยา่ งซอฟต์แวร์ที่
ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม

๓. การเขยี นโปรแกรม
คอมพิวเตอร์จาก
อัลกอริทึม

- เขยี นโปรแกรม
คอมพวิ เตอร์จาก
อัลกอริทึม

- กรณศี กึ ษาการเขยี น
โปรแกรมคอมพวิ เตอร์

กแหล่งขอ้ มูลปฐมภูมิ ประมวลผล การจดั การขอ้ มลู ๔
นผล จะทำให้ ได้สารสนเทศเพ่ือใช้ใน สารสนเทศ

สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัด สาระกา

ประเมินผล นำเสนอ การแกป้ ัญหาหรือการ ต
ข้อมลู และสารสนเทศ
ตามวัตถปุ ระสงค์ โดย • การประมวลผลเป็นกา
ใชซ้ อฟต์แวร์ หรือ ผลลัพธ์ท่ีมีความหมายแ
บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ นต็ สามารถทำไดห้ ลายวธิ ี เ
ทีห่ ลากหลาย คา่ เฉลยี่

- การใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บ
ในการรวบรวม ประมวล
นำเสนอ จะชว่ ยให้ แก้ป
แมน่ ยำ

- ตวั อยา่ งปัญหา เนน้ กา
ให้ตรงกับพฤติกรรมการ
ทอ้ งถนิ่ การสร้างกราฟ
แนวโนม้

๑๐๕

ารเรียนรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้/เนื้อหา/ เวลา คะแนน
ตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธภิ าพ เกบ็
กจิ กรรม (ชวั่ โมง)

๑. ขอ้ มูลกบั สารสนเทศ

ารกระทำกบั ข้อมลู เพ่ือให้ ได้ - ประเภทของข้อมลู
และมีประโยชน์ต่อ การนำไปใช้งาน - การรวบรวมข้อมลู
เช่น คำนวณอตั ราสว่ น คำนวณ - สารสนเทศเบอื้ งต้น

บริการบนอนิ เทอร์เนต็ ทห่ี ลากหลาย - ลักษณะของ
ลผล สร้างทางเลือก ประเมนิ ผล สารสนเทศท่ดี ี
ปญั หาได้อยา่ งรวดเร็ว ถกู ต้อง และ
- ระบบสารสนเทศ

ารบรู ณาการกับวิชาอื่น เช่น ต้มไข่ - การจัดการข้อมูลและ
รบรโิ ภค คา่ ดัชนี มวลกายของคนใน สารสนเทศ
ผลการทดลองและวิเคราะห์
๒. การประมวลขอ้ มลู
สารสนเทศ

- การประมวลข้อมูลให้
เปน็ สารสนเทศ

สาระ มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั สาระกา

๔. ใช้เทคโนโลยี -ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเท
สารสนเทศอย่าง ความเปน็ สว่ นตัวและอตั
ปลอดภัย ใชส้ ื่อ และ
แหล่งข้อมลู ตาม -การจัดการอัตลกั ษณ์ เ
ขอ้ กำหนดและ ขอ้ มลู สว่ นตวั
ข้อตกลง
-การพิจารณาความเหม
เปน็ ส่วนตวั ผ้อู น่ื อนาจา

๑๐๖

ารเรียนรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้/เนอ้ื หา/ เวลา คะแนน
กจิ กรรม (ชั่วโมง) เกบ็

- วธิ กี ารประมวลผล
ขอ้ มลู

๓. ซอฟตแ์ วร์และการ
เลอื กใชง้ าน

- ประเภทของ
ซอฟต์แวร์

- ตัวอยา่ งการสรา้ ง
กราฟ

ทศอย่างปลอดภยั เชน่ การปกป้อง การใชเ้ ทคโนโลยี ๒

ตลักษณ์ สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั

เชน่ การตั้งรหัสผา่ น การปกป้อง ๑. ความปลอดภยั ของ
ระบบสารสนเทศ

มาะสมของเน้ือหา เชน่ ละเมดิ ความ - ความปลอดภยั ของ
าร วจิ ารณ์ ผ้อู นื่ อย่างหยาบคาย เทคโนโลยสี ารสนเทศ

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้วี ดั สาระกา

-ขอ้ ตกลง ขอ้ กำหนดใน
เชน่ Creative commo

๑๐๗

ารเรยี นร้แู กนกลาง* หนว่ ยการเรยี นร้/ู เนื้อหา/ เวลา คะแนน
กิจกรรม (ช่ัวโมง) เกบ็
นการใช้สอื่ หรือแหล่งข้อมูล ตา่ ง ๆ
ons - รปู แบบภัยคกุ คามต่อ
ระบบรกั ษาความปลอดภยั
ทางคอมพวิ เตอร์

- รูปแบบภัยคุกคามต่อระบบ
รกั ษาความปลอดภัยใน
คอมพิวเตอร์

- แนวโนม้ ของภัยคุกคามใน
อนาคต

- การปอ้ งกันและการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศใน
อนาคต

- แนวโน้มระบบรกั ษาความ
ปลอดภยั เทคโนโลยี
สารสนเทศในอนาคต

๒. จริยธรรมในการใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ

สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ดั สาระกา

๑๐๘

ารเรียนรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรียนรู/้ เนือ้ หา/ เวลา คะแนน
เก็บ
กจิ กรรม (ชวั่ โมง)

- จรรยาบรรณในการ

ใช้งานเทคโนโลยสี ารสนเทศ

- ข้อกำหนด ข้อตกลงใน
การใช้แหลง่ ข้อมลู

ช้ันมัธยมศึกษ
กลุม่ สาระการเรยี นร.ู้ ..................วิทยาศา

จำนวนมาตรฐาน ๗ มาตรฐาน และจำ

สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วัด สาระ

สาระท่ี ๑ มาตรฐาน ว ๑.๑ ๑. อธบิ ายโครงสร้างและการ - ระบบย่อยอ
ส่ิงมชี วี ิตกับ ทำงานของระบบ ย่อยอาหาร ระบบหายใจ
กระบวนการ ระบบหมนุ เวยี นเลือด ระบบ และระบบปร
ดำรงชีวติ หายใจ ระบบขบั ถา่ ย ระบบ ระบบ ประก
สบื พนั ธุ์ ของมนุษยแ์ ละสัตว์ ทำงานอย่าง
รวมท้งั ระบบประสาทของมนุษย์ - ระบบยอ่ ยอ
ระบบหายใจ
๒. อธบิ ายความสัมพนั ธข์ อง ของสัตว์ ปร
ระบบต่างๆ ของ มนษุ ย์และนำ ทำงานอย่าง
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ - ระบบยอ่ ยอ
ระบบหายใจ
ของมนุษย์ใน
สัมพันธก์ นั ท
อย่างปกติ ถ
ผิดปกติ ย่อม

๑๐๙

ษาปีที่ ๒

าสตร์.................ช้นั ......ม.๒............

ำนวนตวั ช้ีวัด ๔๔ ตวั ช้ีวดั ตอ่ ปี

ะการเรยี นรูแ้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเก็บ
เนือ้ หา/กิจกรรม (ชว่ั โมง) ๑๕
๑๕
อาหาร ระบบหมุนเวยี นเลือด ระบบตา่ งๆ ใน

จ ระบบขบั ถา่ ย ระบบสบื พนั ธ์ุ รา่ งกาย

ระสาทของมนุษย์ ในแต่ละ

กอบดว้ ยอวัยวะหลายชนิดที่

งเปน็ ระบบ

อาหาร ระบบหมุนเวียนเลือด

จ ระบบขบั ถา่ ย ระบบสบื พันธ์ุ

ระกอบดว้ ยอวยั วะหลายชนิดท่ี

ง เปน็ ระบบ

อาหาร ระบบหมุนเวียนเลือด

จ ระบบขับถ่าย ระบบสบื พนั ธ์ุ

นแตล่ ะระบบมีการทำงานท่ี

ทำให้มนุษย์ดำรงชวี ติ อยู่ได้

ถา้ ระบบใดระบบหนง่ึ ทำงาน

มส่งผลกระทบตอ่ ระบบอืน่ ๆ

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้วี ดั สาระ

สาระที่ ๑ มาตรฐาน ว ๑.๑ ๓. สงั เกตและอธิบายพฤติกรรม ดังนน้ั จงึ ต้อง
สิ่งมีชีวิตกับ ของมนุษย์และสัตว์ทีต่ อบสนอง - แสง อุณหภ
กระบวนการ ตอ่ ส่งิ เรา้ ภายนอกและภายใน เรา้ ภายนอก
ดำรงชีวติ สารใน ร่างก
เรา้ ภายใน ซ
เร้าภายในมผี
แสดงพฤติกร

๔. อธบิ ายหลักการและผลของ - เทคโนโลยชี
การใช้เทคโนโลยีชวี ภาพในการ เพ่อื ทำให้สิ่ง
ขยายพนั ธ์ุ ปรบั ปรุงพนั ธุ์ และ สิง่ มชี วี ติ มีส
เพ่ิมผลผลติ ของสัตว์และนำ
ความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ - การผสมเท
โคลนเปน็ กา
ขยายพันธ์ุ ป
ของสตั ว์

๕. ทดลอง วเิ คราะห์ แลอธิบาย - แป้ง นำ้ ตา
สารอาหาร ในอาหารมปี รมิ าณ เปน็ สารอาห

๑๑๐

ะการเรียนรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเกบ็
เนอ้ื หา/กจิ กรรม (ชว่ั โมง)
งมกี ารดูแลรกั ษาสุขภาพ
ภมู ิ และการสัมผัส จดั เป็นส่ิง
ก สว่ นการเปลย่ี นแปลงระดบั
กาย เช่น ฮอร์โมน จัดเปน็ สิ่ง
ซ่งึ ทั้ง สิ่งเร้าภายนอกและส่ิง
ผลตอ่ มนุษย์และสัตว์ ทำให้
รรมต่างๆ ออกมา

ชวี ภาพเปน็ การใช้เทคโนโลยี
งมีชวี ติ หรอื องคป์ ระกอบของ
สมบัตติ ามต้องการ

ทยี ม การถ่ายฝากตวั อ่อน การ
ารใชเ้ ทคโนโลยชี ีวภาพในการ
ปรบั ปรุงพันธ์ุ และเพ่ิมผลผลติ

าล ไขมนั โปรตีน วติ ามินซี
หารและสามารถทดสอบได้

สาระ มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด สาระ

สาระที่ ๓ พลังงาน และสดั สว่ นที่เหมาะสม - การบริโภค
สารและ กบั เพศและวัย
สมบตั ขิ อง
สาร ๖. อภิปรายผลของสารเสพติดต่อ - สารเสพติด

ระบบตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย และ ต่างๆของรา่ ง

แนวทางในการปอ้ งกนั ตนเองจาก หน้าทีผ่ ิดปก

สารเสพติด ใช้สารเสพติด

ปอ้ งกันตนเอ

มาตรฐาน ว ๓.๑ ๑. สำรวจและอธบิ าย - ธาตุเปน็ สา
องค์ประกอบสมบตั ิของธาตแุ ละ อะตอม ชนิด
สารประกอบ แยกสลายเป
เคมี

- สารประก
ประกอบด้วย
รวมตวั กันดว้
และมีสมบตั ิแ
ธาตุ ที่เป็นอ

๑๑๑

ะการเรียนรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็
คอาหาร จำ เปน็ ต้องให้ได้ เนอื้ หา/กิจกรรม (ชั่วโมง)

ดแต่ละประเภทมีผลตอ่ ระบบ ๑๒ ๑๕
งกาย ทำให้ระบบเหล่าน้ันทำ
กติ ดงั นั้นจึงต้องหลีกเลี่ยงการ
ด และหาแนวทางในการ
องจาก สารเสพติด

ารบรสิ ทุ ธท์ิ ีป่ ระกอบดว้ ย การจำแนกสาร
ดเดยี วกันและไมส่ ามารถ
ป็นสารอ่ืนได้อีกโดยวิธีการทาง

กอบเป็นสารบริสุทธ์ิที่
ยธาตุต้งั แต่สองธาตขุ นึ้ ไป
วยอัตราส่วนโดยมวลคงที่
แตกต่างจากสมบัตเิ ดิมของ
องค์ประกอบ

สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ดั สาระ

๒. สบื ค้นข้อมูลและเปรยี บเทียบ - ธาตแุ ตล่ ะช
สมบัติของธาตโุ ลหะ ธาตุอโลหะ คล้ายกนั และ
ธาตุกึง่ โลหะและธาตุกัมมันตรังสี จำแนกกลุ่มธ
และนำความรู้ไป ธาตุโลหะ กึง่
กัมมนั ตรงั สี
ใชป้ ระโยชน์
- ในชวี ิตประ
ผลิตภณั ฑ์ต่า
สารประกอบ
เหมาะสมปล

๓. ทดลองและอธบิ ายการ - การกรอง ก
หลักการแยกสารดว้ ยวิธีการ และโครมาโท
กรอง การตกผลึก การสกัด การ มีหลักการแต
กลั่น และโครมาโทกราฟีและนำ ประยุกตใ์ ชใ้ น
ความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

สาระที่ ๓ มาตรฐาน ว ๓.๒ ๑. ทดลอง แ ล ะ อธิบายการ - เม่อื สารเกดิ

สารและ เปลยี่ นแปลง สมบัติ มวล และ เขา้ มาเกยี่ วข

๑๑๒

ะการเรยี นรูแ้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็
เน้อื หา/กจิ กรรม (ชว่ั โมง)
ชนดิ มีสมบัติบางประการท่ี
ะแตกตา่ งกัน จึงสามารถ
ธาตุตามสมบตั ิของธาตเุ ปน็
งโลหะ อโลหะ และธาตุ

ะจำวันมวี ัสดุอุปกรณแ์ ละ
างๆทีผ่ ลติ มาจากธาตแุ ละ
บ จึงควรเลอื กใช้ให้ถกู ต้อง
ลอดภัย และยัง่ ยืน

การตกผลึก การสกดั การกล่ัน
ทกราฟี เป็นวิธีการแยกสารท่ี
ตกตา่ งกนั และสามารถนำไป
นชีวติ ประจำวนั

ดปฏกิ ริ ิยาเคมีจะมพี ลังงาน ปฎกิ รริ ิยาเคมี ๑๒ ๑๕
ข้อง ซ่ึงอาจเปน็ การดดู

สาระ มาตรฐาน ตวั ช้ีวัด สาระ

สมบตั ิของ พลงั งาน เมื่อสารเกิด ปฏกิ ิริยา พลงั งาน ควา
สาร
เคมี รวมทงั้ อธิบาย ปัจจัยทมี่ ีผล รอ้ น

ต่อการเกิดปฏิกิริยาเคมี - อณุ หภมู ิ ค

และตวั เร่งปฏ

ปฏิกริ ยิ าเคม

๒. ทดลอง อธบิ ายและเขยี น - สมการเคม
สมการเคมีของปฏิกิรยิ าของสาร เกิดปฏกิ ิริยา
ตา่ ง ๆ และนำความรู้ไปใช้ และสารผลิต
ประโยชน์
- ปฏกิ ริ ยิ าร
โลหะกับนำ้
และกรดกับค
พบท่วั ไป

- การเลือกใ
ประจำ วันได
โดยคำนึงถงึ ป

๑๑๓

ะการเรยี นรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเกบ็
ามร้อนหรือคายพลงั งานความ เน้ือหา/กิจกรรม (ชว่ั โมง)

ความเข้มขน้ ธรรมชาติของสาร
ฏกิ ริ ยิ ามผี ลต่อการเกิด
มขี องสาร

มีใช้เขยี นแสดงการ
าเคมีของสาร ซง่ึ มีท้ังสารตงั้ ต้น
ตภณั ฑ์

ระหวา่ งโลหะกบั ออกซิเจน
โลหะกับกรด กรดกบั เบส
คารบ์ อเนตเป็นปฏิกิริยาเคมที ี่

ใช้วัสดุและสารรอบตัวในชวี ติ
ด้อย่างเหมาะสมและปลอดภยั
ปฏกิ ริ ยิ าที่เกดิ ข้ึน

สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วัด สาระ

๓. สืบคน้ ขอ้ มลู และอภิปรายผล - สารเคมแี ล

ของสารเคมี ปฏกิ ริ ิยาเคมตี ่อ ประโยชนแ์ ล

ส่งิ มชี ีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม ส่งิ แวดลอ้ มท

๔. สืบคน้ ขอ้ มลู และอธิบายการ - การใชส้ าร

ใช้สารเคมีอยา่ งถกู ตอ้ ง ปลอดภยั ป้องกัน ไม่ให

วิธีปอ้ งกันและแก้ไขอันตรายที่ ผ้อู ื่น โดยใช้ใ

เกดิ ข้นึ จากการใชส้ ารเคมี - ผูใ้ ชส้ ารเคม

บนฉลาก แล

พยาบาลเบื้อ

สารเคมี

สาระท่ี ๔ มาตรฐาน ว ๔.๑ ๑. ทดลองและอธบิ ายการหาแรง - แรงเป็นปร
แรงและการ
เคลื่อนที่ ลัพธ์ของแรงหลายแรงในระนาบ แรงในระนาบ

เดียวกนั ทีก่ ระทำต่อวัตถุ เดียวกัน สาม

หลกั การรวม

๑๑๔

ะการเรยี นรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็
เน้ือหา/กจิ กรรม (ช่วั โมง)
ละปฏกิ ริ ยิ าเคมี มีทง้ั
ละโทษต่อสง่ิ มีชวี ติ และ
ทัง้ ทางตรงและทางออ้ ม

รเคมตี อ้ งมีความระมดั ระวัง ๑๓ ๑๕
หเ้ กดิ อันตรายตอ่ ตนเองและ
ให้ถูกต้อง ปลอดภัยและคมุ้ ค่า

มคี วรรูจ้ กั สญั ลกั ษณ์เตือนภัย
ละรวู้ ิธกี ารแก้ไข และการปฐม
องต้นเม่ือได้รบั อนั ตรายจาก

รมิ าณเวกเตอร์ เม่ือมีแรงหลาย แรง
บเดียวกันกระทำ ต่อวัตถุ
มารถหาแรงลัพธ์ได้โดยใช้
มเวกเตอร์

สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ดั สาระ

สาระท่ี ๕ ๒. อธบิ ายแรงลัพธท์ กี่ ระทำต่อ - เมือ่ แรงลพั
พลังงาน วตั ถทุ ห่ี ยดุ นงิ่ หรอื วัตถเุ คลอ่ื นท่ี ทีห่ ยดุ นงิ่ วตั
ดว้ ยความเร็วคงตัว ถ้าวัตถเุ คล่ือ
เคลื่อนทีด่ ้วย

มาตรฐาน ว ๕.๑ ๑. ทดลองและอธบิ ายการ - เมือ่ แสงตก

สะทอ้ นของแสง การหักเหของ อกี ตวั กลางห

แสงและนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ เคลื่อนท่โี ดย

หกั เหของแส

- การนำควา
แสงและการ
แวน่ ตา ทัศน

๒. อธบิ ายผลของความสวา่ งท่มี ี - นยั น์ตาของ
ต่อมนษุ ย์และสิ่งมีชวี ิตอน่ื ๆ ตา่ งๆ นัยนต์

อย่าง

- ความสวา่ ง
การนำความ

๑๑๕

ะการเรียนรูแ้ กนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเกบ็
เนื้อหา/กจิ กรรม (ชั่วโมง) ๒๕
พธม์ ีคา่ เปน็ ศูนยก์ ระทำต่อวตั ถุ
ตถุนัน้ กจ็ ะหยุดนง่ิ ตลอดไป แต่
อนทีด่ ้วยความเร็วคงตัว กจ็ ะ
ยความเรว็ คงตัวตลอดไป

กกระทบผิววตั ถหุ รอื ตัวกลาง แสงและการเกดิ ภาพ ๒๐
หน่ึง แสงจะเปลย่ี นทิศทางการ
ยการสะท้อนของแสง หรอื การ
สง

ามรเู้ กีย่ วกับการสะท้อนของ
รหักเหของแสงไปใช้อธบิ าย
นอุปกรณ์ กระจกเส้นใยนำแสง

งคนเราเปน็ อวยั วะใช้มองดูสิง่
ตามีองคป์ ระกอบสำคัญหลาย

งมีผลต่อนยั นต์ ามนษุ ย์ จงึ มี
มรเู้ ก่ียวกับความสว่างมาช่วย

สาระ มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั สาระ

ในการจดั คว
ทำงาน

- ออกแบบว
มีผลต่อสง่ิ มชี

๓. ทดลองและอธิบายการ - เมอ่ื แสงตก

ดดู กลนื แสงสี การมองเห็นสีของ แสงสบี างสีไว

วัตถุและนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ ออกมาทำให

- การนำควา
การมองเห็น
การถา่ ยรปู แ

สาระท่ี ๖ มาตรฐาน ว ๖.๑ ๑. สำรวจ ทดลองและอธิบาย -ดินมลี ักษณ
กระบวนการ ลกั ษณะของชน้ั หน้าตัดดินสมบตั ิ วัตถตุ น้ กำเน
เปลี่ยนแปลง ของดนิ และกระบวนการเกิดดิน ลักษณะภูมิป
ของโลก และระยะเวล
ตรวจสอบสม

๑๑๖

ะการเรยี นรู้แกนกลาง* หน่วยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็
วามสว่างใหเ้ หมาะสมกับการ เน้อื หา/กจิ กรรม (ชว่ั โมง)

วิธกี ารตรวจสอบว่าความสว่าง
ชวี ิตอื่น

กกระทบวัตถุ วตั ถุจะดูดกลนื
ว้ และสะทอ้ นแสงสีท่เี หลอื
หเ้ รามองเหน็ วตั ถุเปน็ สตี ่าง ๆ

ามรเู้ ก่ียวกับการดูดกลืนแสงสี
นสขี องวัตถุไปใช้ประโยชน์ใน
และในการแสดง

ณะและสมบตั แิ ตกต่างกันตาม หิน ดิน แร่ น้ำ อากาศ ๑๒ ๑๕
นิดดนิ ลกั ษณะภมู ิอากาศ
ประเทศ พชื พรรณ ส่งิ มชี ีวติ
ลาในการเกดิ ดินและ
มบัติบางประการของดิน

สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัด สาระ

- ช้นั หน้าตดั
ลักษณะ สมบ
กนั

๒. สำรวจ วิเคราะหแ์ ละอธิบาย - ดินในแตล่

การใชป้ ระโยชน์และการปรบั ปรงุ ต่างกนั ตามส

คณุ ภาพของดิน ประโยชนต์ า่

- การปรบั ปร
ของดนิ เพ่ือท
การใช้ประโย

๓. ทดลองเลยี นแบบเพ่ืออธบิ าย - กระบวนกา
กระบวนการเกิด และลักษณะ ทง้ั บนและใต
องคป์ ระกอบของหนิ ลกั ษณะองค
ทางด้านกาย

๔. ทดสอบและสังเกต - หินแบง่ เปน็

องค์ประกอบและสมบตั ขิ องหิน ตะกอนหินแ

เพ่ือจำแนกประเภท ของหนิ และ กนั และนำ ไป

๑๑๗

ะการเรียนรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็
เนอ้ื หา/กิจกรรม (ช่ัวโมง)
ดดนิ แต่ละช้นั และแต่ละพืน้ ท่ีมี
บัติ และองคป์ ระกอบแตกตา่ ง

ละท้องถน่ิ มีลักษณะและสมบัติ
สภาพของดนิ จึงนำ ไปใช้
างกัน

รุงคณุ ภาพดนิ ข้นึ อย่กู ับสภาพ
ทำใหด้ ินมคี วามเหมาะสมต่อ
ยชน์

ารเปลย่ี นแปลงทางธรณวี ิทยา
ต้พืน้ ผิวโลก ทำ ให้เกดิ หนิ ทม่ี ี
คป์ ระกอบแตกตา่ งกนั ทงั้
ยภาพ และทางเคมี

น หนิ อคั นี หนิ แปรและหนิ
แตล่ ะประเภทมีความสัมพนั ธ์
ปใชป้ ระโยชนใ์ นทาง

สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระ

นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ อุตสาหกรรม

สาระที่ ๖ มาตรฐาน ว ๖.๑ ๕. ตรวจสอบและอธิบาย - เมื่อสภาวะ
กระบวนการ
เปลยี่ นแปลง ลักษณะทางกายภาพของแร่ และ ภายใต้
ของโลก
การนำไปใช้ประโยชน์ อุณหภมู ิและ

สารประกอบ

และสมบัติตา่

สมบัติแต่ละอ

- แร่ที่สำรวจ
ชนดิ แต่ละชน
จากรปู ผลึก
ความวาว แน
และนำ ไปใช
เครื่องประดับ

๖ สบื ค้นและอธิบายกระบวนการ - ปิโตรเลยี ม
เกดิ ลักษณะและสมบัติของ เชอื้ เพลงิ ธรร
ปิโตรเลียม ถ่านหิน หินนำ้ มัน เปล่ยี นแปลง

๑๑๘

ะการเรียนรูแ้ กนกลาง* หน่วยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเกบ็
มการก่อสร้างและอืน่ ๆ เน้อื หา/กจิ กรรม (ช่ัวโมง)
ะแวดลอ้ มธรรมชาติท่ีอยู่
โลกของเรา ๘ ๑๐

ะความดนั ทเี่ หมาะสม ธาตุและ
บจะตกผลึกเป็นแร่ทม่ี ีลักษณะ
างกนั ซง่ึ ต้องใช้วิธีตรวจสอบ
อย่างแตกตา่ งกนั ไป

จพบในประเทศไทยมีหลาย
นิดตรวจสอบทางกายภาพได้
ความถ่วงจำเพาะ ความแขง็
นวแตกเรียบ สแี ละสีผงของแร่
ชป้ ระโยชน์ต่างกันเช่นใชท้ ำ
บ ใช้ในดา้ นอตุ สาหกรรม

ม ถา่ นหนิ หนิ นำ้ มัน เป็น
รมชาติที่เกิดจากกระบวนการ
งทางธรณีวิทยา ซ่ึงแตล่ ะชนิด

สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ดั สาระ

และการนำไปใช้ประโยชน์ จะมีลกั ษณะ
ประโยชนแ์ ต

สาระท่ี ๘ มาตรฐาน ว ๘.๑ ๑. ตงั้ คำถามท่ีกำหนดประเด็น
ธรรมชาติของ หรือตัวแปรทสี่ ำคัญในการ
วทิ ยาศาสตร์ สำรวจ ตรวจสอบ หรือศกึ ษา
และ คน้ ควา้ เรอ่ื งท่สี นใจได้อย่าง
เทคโนโลยี ครอบคลุมและเช่ือถือได้

๒. สร้างสมมติฐานท่ีสามารถ
ตรวจสอบ ได้และวางแผนการ
สำรวจตรวจสอบหลาย ๆ วิธี

๓. เลือกเทคนิควิธีการสำรวจ
ตรวจสอบ ทั้งเชงิ ปริมาณและเชงิ
คุณภาพทีไ่ ดผ้ ลเที่ยงตรงและ
ปลอดภัย โดยใชว้ ัสดุและ
เครอ่ื งมือท่ีเหมาะสม

๑๑๙

ะการเรยี นรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้ เวลา คะแนนเกบ็
เนื้อหา/กิจกรรม (ชัว่ โมง)
ะ สมบัตแิ ละวิธกี ารนำไปใช้
ตกต่างกัน

สาระ มาตรฐาน ตวั ชวี้ ัด สาระ

๔. รวบรวมข้อมลู จดั กระทำ
ข้อมลู เชิงปริมาณและคณุ ภาพ

๕. วเิ คราะหแ์ ละประเมินความ
สอดคลอ้ ง ของประจกั ษพ์ ยาน
กบั ข้อสรุป ท้งั ท่ี สนบั สนุน หรือ
ขดั แย้งกับสมมติฐานและความ
ผิดปกตขิ องข้อมลู จากการสำรวจ
ตรวจสอบ

สาระที่ ๘ มาตรฐาน ว ๘.๑ ๖. สรา้ งแบบจำลอง หรรื ปู แบบท่ี
ธรรมชาตขิ อง อธบิ ายผลหรือแสดงผลของการ
วิทยาศาสตร์ สำรวจตรวจสอบ
และ
เทคโนโลยี ๗. สร้างคำ ถามทีน่ ำ ไปสู่การ
สำรวจ ตรวจสอบ ในเร่อื งท่ี
เกี่ยวขอ้ ง และนำความรทู้ ไี่ ด้ ไป
ใชใ้ นสถานการณ์ใหมห่ รือธบิ า
เกี่ยวกับแนวคดิ กระบวนการ

๑๒๐

ะการเรยี นรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็
เนือ้ หา/กิจกรรม (ชว่ั โมง)

สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สาระ

และผลของโครงงานหรือชน้ิ งาน
ใหผ้ ูอ้ ่ืนเขา้ ใจ

๘. บันทึกและอธบิ ายผลการ
สงั เกต การสำรวจ ตรวจสอบ
คน้ คว้าเพ่ิมเติม จากแหล่ง
ความรู้ต่าง ๆ ใหไ้ ดข้ ้อมูลท่ี
เชอ่ื ถือได้ และยอมรบั การ
เปลีย่ นแปลงความร้ทู ี่ค้นพบ
เมอื่ มีข้อมลู และประจกั ษ์ พยาน
ใหมเ่ พิ่มขึ้นหรอื โต้แย้งจากเดิม

๙. จัดแสดงผลงาน เขยี นรายงาน
และ/หรอื อธิบาเก่ยี วกบั แนวคิด
กระบวนการ และผลของ
โครงงานหรือ ชน้ิ งานให้ผ้อู น่ื
เขา้ ใจ

๑๒๑

ะการเรยี นรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้ เวลา คะแนนเกบ็
เนือ้ หา/กิจกรรม (ชว่ั โมง)

ช้ันมัธยมศกึ ษ

กลมุ่ สาระการเรียนรู.้ .................วิทยาศาส
มจี ำนวน.....๘..... สาระ จำนวนมาตรฐาน...๙...มาตรฐา

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ช้ีวดั

สาระท่ี ๑ มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจ ๑.สงั เกตและอธิบายลักษณะของ
สง่ิ มีชวี ิตกับ กระบวนการและความสำคญั โครโมโซมทมี่ หี นว่ ยพันธกุ รรม
กระบวนการ ของการถ่ายทอดลักษณะ หรือยนี ในนิวเคลยี ส
ดำรงชีวติ ทางพนั ธุกรรมววิ ฒั นาการ
ของส่ิงมชี ีวติ ความหลาก
หลายทางชีวภาพ การใช้
เทคโนโลยีชวี ภาพที่มผล
กระทบตอ่ มนุษย์และ
ส่ิงแวดลอ้ ม มกี ระบวนการ
สืบเสาะหาความรแู้ ละ
จติ วทิ ยาศาสตร์ สื่อสารส่งิ ที่
เรียนรู้ และนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

๑๒๒

ษาปี ท่ี ๓

สตร์.................ชนั ......ม.๓............

น และจำนวนตวั ชว้ี ดั .......๔๐............ตัวช้วี ัด ตอ่ ปี

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง หน่วยการเรียนรู้/ หน่วย ชว่ั โมง
เนอื้ หาท่สี อน

- เมื่อมองเซลลผ์ า่ นกลอ้ งจลุ ทรรศนจ์ ะเห็น การถ่ายทอด ๑๘ ๒๐
เส้นใยเล็กๆพนั กนั อยู่ในนิวเคลยี ส เมอ่ื เกิด ลกั ษณะทาง
การแบง่ เซลลเ์ สน้ ใยเหลา่ นี้จะขดส้ันเข้าจน พนั ธกุ รรม
มีลกั ษณะเปน็ ทอ่ นสั้น เรียกว่าโครโมโซม

- โครโมโซมประกอบด้วยดีเอ็นเอและ
โปรตีน

- ยีนหรือหน่วยพันธุกรรมเป็นส่วนหนึ่งที่
อยบู่ นดีเอ็นเอ

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตวั ชี้วดั

๒. อธิบายความสำคัญของสาร
พนั ธกุ รรมหรือดีเอ็นเอ และ
กระบวนการถา่ ยทอดลกั ษณะ
ทางพนั ธกุ รรม

๓. อภิปรายโรคทางพันธุกรรมที่
เกิดจากความผิดปกติของยนี และ
โครโมโซมและนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์

๔. สำรวจและอธบิ ายความ
หลากหลายทางชีวภาพใน
ท้องถิ่นท่ที ำใหส้ ิ่งมีชวี ิตดำรงชวี ิต

๑๒๓

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง หนว่ ยการเรยี นรู/้ หน่วย ช่วั โมง
เนื้อหาทีส่ อน

- เซลล์หรือส่ิงมีชีวิต มีสารพันธุกรรมหรือ
ดีเอ็นเอ ที่ควบคุม ลักษณ ะ ของการ
แสดงออก

- ลักษณะทางพันธุกรรมที่ควบคุมด้วยยีน
จากพ่อและแม่สามารถถ่ายทอดสู่ลูกผ่าน
ทางเซลลส์ บื พนั ธ์แุ ละการปฏสิ นธิ

- โรคธาลัสซีเมีย ตาบอดสี เป็นโรคทาง
พันธกุ รรมที่เกิดจากความผิดปกติของยนี

- กลุ่มอาการดาวน์เป็นความผิดปกติของ
ร่างก าย ซ่ึ งเกิ ด จ าก ก ารที่ มี จ ำน ว น
โครโมโซมเกินมา

- ความหลากหลายทางชีวภาพท่ีทำให้
สิ่งมีชีวิตอยู่อย่างสมดุลขึ้นอยู่กับความ
ห ล าก ห ล าย ข อ งร ะ บ บ นิ เว ศ ค ว าม
หลากหลายของชนิดสิ่งมีชีวิต และความ

สาระการเรยี นรู้ มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั
อย่ไู ด้อย่างสมดุล

๕. อธบิ ายผลของความ
หลากหลายทางชีวภาพทม่ี ตี ่อ
มนุษย์ สัตว์พชื และสง่ิ แวดล้อม

๖. อภปิ รายผลของ
เทคโนโลยีชวี ภาพต่อการ
ดำรงชวี ิตของมนุษย์และ