๔๙
าระการเรียนรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้/ ชวั่ โมง คะแนน
เนื้อหาที่สอน
๗๐
สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ดั สา
คะแนนสอบปลายภาค
คะแนนข้อสอบกลาง/สว่ นกลางกำหนด ๒๐ %
รวมทง้ั สิน้ ตลอดปี
๕๐
าระการเรยี นรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรียนรู้/ ช่วั โมง คะแนน
เน้ือหาทสี่ อน ๒๐
๑๐
๑๐๐
ช้นั ประถมศกึ ษ
จำนวนมาตรฐาน ๙ มาตรฐาน และจำ
สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วดั
สาระท่ี ๑ มาตรฐาน ว ๑. ๑ เข้าใจหน่วย ๑. สังเกตและระบสุ ว่ นประกอบข
สิ่งมชี ีวติ กบั พ้นื ฐานของสง่ิ มีชวี ิตความสมั พันธ์ ดอกและโครงสรา้ งที่เกี่ยวข้องกับก
กระบวนกา ขอโครงสรา้ ง และหนา้ ท่ีของ สืบพนั ธุข์ องพืชดอก
รดำรงชวี ติ ระบบต่างๆ ของสงิ่ มีชีวติ ท่ีทำงาน
สมั พนั ธก์ นั มีกระบวนการสบื
เสาะหาความรู้ สอ่ื สารสง่ิ ที่
เรยี นรแู้ ละนำความรู้ไปใช้ในการ
ดำรงชีวติ ของตนเองและดแู ล
สงิ่ มีชีวิต
๒. อธบิ ายการสบื พนั ธข์ุ องพืชดอก
ขยายพันธ์พุ ชื และนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์
๕๑
ษาปีท่ี ๕
ำนวนตัวช้ีวดั ๓๔ ตัวช้ีวดั ต่อปี
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หนว่ ยการ
เรยี นรู้/ ชั่วโมง คะแนน
เนอ้ื หาทสี่ อน
ของ - ดอกโดยทั่วไปประกอบดว้ ย กลบี เลยี้ ง การดำรงพนั ธุ์ ๑๖ ๓๕
การ กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ของสิง่ มชี ีวิต
- สว่ นประกอบของดอกท่ีทำหนา้ ที่
เกี่ยวขอ้ งกับการสืบพันธุ์ ไดแ้ ก่ เกสรเพศ
เมยี ประกอบด้วย รังไข่ ออวุล และ
เกสร เพศผู้ ประกอบดว้ ยอับเรณแู ละ
ละอองเรณู
ก การ - พชื ดอกมีการสืบพนั ธทุ์ ้งั แบบอาศัย
เพศและการสบื พันธุแ์ บบไม่อาศัยเพศ
- การขยายพันธพ์ุ ืชเพือ่ เพมิ่ ปริมาณและ
คณุ ภาพ ของพืช ทำไดห้ ลายวธิ ี โดยการ
เพาะเมล็ด การปักชำ การตอนกิง่ การ
สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วดั
๓. อธิบายวัฏจักรชีวติ ของพชื ดอก
ชนดิ
๔. อธิบายการสบื พันธแ์ุ ละการ
ขยายพนั ธข์ุ องสัตว์
๕. อภปิ รายวฏั จกั รชวี ติ ของสัตว์บา
ชนดิ และนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน
๕๒
สาระการเรียนรู้แกนกลาง หนว่ ยการ
เรียนร/ู้ ชว่ั โมง คะแนน
เนือ้ หาท่สี อน
ติดตา การทาบกงิ่ การเสยี บยอด และ
การเพาะเลีย้ งเน้ือเยื่อ
กบาง - พืชดอกเมื่อเจรญิ เติบโตเต็มท่จี ะออก
ดอก ดอกไดร้ บั การผสมพนั ธ์กุ ลายเป็น
ผล ผลมเี มลด็ ซ่ึงสามารถงอกเป็นตน้
พชื ต้นใหมห่ มนุ เวียนเป็นวัฏจกั ร
- สตั วม์ กี ารสบื พนั ธุแ์ บบอาศัยเพศและ
การสบื พันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศ
- การขยายพันธุส์ ตั ว์โดยวธิ ีการคัดเลอื ก
พนั ธ์ุและการผสมเทยี ม ทำให้มนุษยไ์ ด้
สตั ว์ทีม่ ีปริมาณและคุณภาพตามที่
ต้องการ
าง - สตั ว์บางชนิด เชน่ ผเี สอื้ ยุง กบ เมอ่ื
น์ ไขไ่ ด้รบั การผสมพนั ธุ์จะเจรญิ เปน็ ตัวอ่อน
และตวั อ่อน เจรญิ เตบิ โตเป็นตวั เต็มวัย
จนกระทั่งสามารถสบื พนั ธ์ไุ ด้ หมนุ เวียน
สาระ มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจ ๑. สำรวจ เปรยี บเทยี บและระบุ
กระบวนการและความสำคญั ของ ลกั ษณะของตนเองกบั คนในครอบ
การถ่ายทอดลกั ษณะทาง
พันธุกรรม ววิ ัฒนาการของ
สงิ่ มีชวี ติ ความหลากหลายทาง
ชีวภาพ การใชเ้ ทคโนโลยชี ีวภาพ
ทม่ี ผี ลกระทบตอ่ มนุษยแ์ ละ
สง่ิ แวดล้อม มีกระบวนการสืบ
เสาะหาความรแู้ ละจิตวทิ ยา
ศาสตร์ สอื่ สารสงิ่ ทเี่ รยี นรู้
และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
๕๓
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง หนว่ ยการ
เรียนรู้/ ชั่วโมง คะแนน
เน้ือหาทส่ี อน
เปน็ วัฏจกั ร
- มนุษย์นำความรู้เกย่ี วกับวฏั จกั รชวี ติ
ของสัตว์ มาใชป้ ระโยชนม์ ากมาย ทัง้
ทางดา้ นการเกษตร การอุตสาหกรรม
และการดูแลรักษาส่งิ แวดลอ้ ม
- ลักษณะของตนเองจะคล้ายคลงึ กับคน
บครัว ใน ครอบครัว
สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วัด
๒. อธิบายการถา่ ยทอดลักษณะทา
พันธกุ รรมของสง่ิ มชี วี ิตในแต่ละรุน่
๓. จำแนกพชื ออกเป็นพืชดอก แล
ไมม่ ดี อก
๔. ระบลุ ักษณะของพืชดอกท่ีเป็นพ
เลย้ี งเดย่ี ว และพชื ใบเล้ียงคู่ โดยใช
ลกั ษณะภายนอกเป็นเกณฑ์
๕. จำแนกสัตว์ออกเปน็ กลุ่มโดยใช
ลักษณะภายในบางลักษณะและลกั
ภายนอกเป็นเกณฑ์
๕๔
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หน่วยการ
เรยี นร/ู้ ชว่ั โมง คะแนน
เน้ือหาทสี่ อน
าง - การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม
น เปน็ การถ่ายทอดลักษณะบางลักษณะ
จากบรรพบรุ ษุ สลู่ ูกหลาน ซง่ึ บาง
ลักษณะจะเหมอื นพ่อหรือเหมือนแม่
หรืออาจมลี ักษณะเหมอื น ปู่ ยา่ ตา ยาย
ละพืช - พืชแบง่ ออกเป็นสองประเภทคอื พชื
ดอกกับพชื ไมม่ ีดอก
พชื ใบ - พืชดอกแบ่งออกเป็น พชื ใบเลย้ี งเดยี่ ว
ช้ กบั พืชใบเลี้ยงคู่ โดยสงั เกตจาก ราก ลำ
ตน้ และใบ
ช้ - การจำแนกสัตว์เปน็ กลุม่ โดยใชล้ ักษณะ
กษณะ ภายนอกและลกั ษณะภายในบางลกั ษณะ
เป็นเกณฑแ์ บ่งออกได้เปน็ สตั วม์ กี ระดูก
สันหลงั และสตั ว์ไม่มีกระดูกสันหลงั
- สัตว์มีกระดูกสนั หลังแบง่ เป็นกลุ่มปลา
สตั ว์คร่ึงนำ้ ครงึ่ บก สตั วเ์ ล้ือยคลาน สตั ว์
ปีก และสัตวเ์ ลีย้ งลูกดว้ ยน้ำนม
สาระ มาตรฐาน ตวั ชวี้ ัด
สาระท่ี ๓ มาตรฐาน ว ๓. ๑ เข้าใจสมบตั ิ ๑. ทดลองและอธบิ ายสมบตั ิของ
สารและ ของสาร ความสมั พนั ธ์ระหว่าง วสั ดชุ นดิ ต่าง ๆ เกีย่ วกับความยดื
สมบัติของ สมบัตขิ องสารกบั โครงสรา้ งและ ความแข็ง ความเหนยี วการนำความร
สาร แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนภุ าค มี การนำไฟฟา้ และความหนาแนน่
กระบวนการสืบเสาะ หาความรู้
และจติ วิทยาศาสตร์ สอ่ื สารสิง่ ที่
เรียนรู้
นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
๒. สืบคน้ ขอ้ มลู และอภิปรายกา
วัสดไุ ปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
สาระที่ ๔ มาตรฐาน ว ๔. ๑ เขา้ ใจ ทดลองและอธิบายการหาแรงลพั ธ
แรงและการ ธรรมชาตขิ องแรงแมเ่ หล็กไฟฟ้า แรงสองแรง ซ่ึงอยู่ในแนวเดยี วกันท
เคลื่อนที่ แรงโนม้ ถ่วง และแรงนิวเคลยี ร์ กระทำต่อวัตถุ
มกี ระบวนการสืบเสาะหาความรู้
สอ่ื สารส่ิงที่เรียนรู้และนำความรู้
๕๕
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หน่วยการ
เรยี นร/ู้ ชั่วโมง คะแนน
เน้อื หาทส่ี อน
- ความยืดหยุ่น ความแขง็ ความเหนยี ว วสั ดุและ ๑๔ ๓๕
ดหยนุ่ การนำความร้อน การนำไฟฟา้ และความ สมบัติของ
ร้อน หนาแน่นเปน็ สมบตั ิต่าง ๆ ของวสั ดุ ซ่งึ วสั ดุ
วัสดุต่างชนิดกนั จะมีสมบตั ิบางประการ
แตกต่างกัน
ารนำ - ในชวี ิตประจำวันมกี ารนำวัสดุตา่ ง ๆ ๑๕ ๓๕
มาใช้ทำส่ิงของเคร่ืองใช้ตามสมบตั ิของ
วสั ดนุ ้ัน ๆ
ธข์ อง - แรงลัพธข์ องแรงสองแรงท่ีกระทำต่อ แรงและความ
ท่ี วัตถุโดยแรงทงั้ สองอยูใ่ นแนวเดยี วกนั ดนั
เท่ากบั ผลรวมของแรงทงั้ สองนัน้
สาระ มาตรฐาน ตัวช้ีวัด
ไปใช้ประโยชนอ์ ย่างถูกต้องและมี
คณุ ธรรม
ทดลองและอธิบายความดันอากาศ
ทดลองและอธิบายความดนั ของของเ
ทดลองและอธบิ ายแรงพยุงของ
ของเหลว การลอยตัว และการจมข
วัตถุ
มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจลกั ษณะ ทดลองและอธิบาย แรงเสียดทานแ
การเคล่ือนทแ่ี บบตา่ งๆ ของวัตถุ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
ในธรรมชาติ มกระบวนการสืบ
เสาะหาความรูแ้ ลจิตวทิ ยาศาสตร์
๕๖
สาระการเรียนรู้แกนกลาง หนว่ ยการ
เรยี นรู/้ ชั่วโมง คะแนน
เน้อื หาทีส่ อน
ศ - อากาศมแี รงกระทำตอ่ วตั ถุ แรงท่ี
อากาศกระทำตั้งฉากต่อหนึ่งหนว่ ยพืน้ ที่
เรียกวา่ ความดนั อากาศ
เหลว - ของเหลวมีแรงกระทำต่อวัตถุทุกทศิ ทาง
แรงท่ีของเหลวกระทำต้ังฉากต่อหนึ่งหน่วย
พ้ืนท่ี เรียกว่า ความดันของของเหลว ซึง่ มี
ความสมั พันธ์กับความลึก
- ของเหลวมแี รงพยุงกระทำต่อวัตถุที่
ของ ลอยหรอื จมในของเหลว การจมหรือ
การลอยตัวของวตั ถุขึน้ อยู่กบั นำ้ หนกั ของ
วัตถุ และแรงพยุงของของเหลวนน้ั
และ แรงเสียดทานเป็นแรงต้านการเคลือ่ นที่ แรงและความ
ของวตั ถุ แรงเสียดทานมีประโยชน์ เชน่ ดนั
ในการเดินต้องอาศยั แรงเสียดทาน
สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วดั
สอ่ื สารสงิ่ ท่ีเรียนรู้และนำความรู้
ไปใชป้ ระโยชน์
สาระที่ ๕ มาตรฐาน ว ๕. ๑ เขา้ ใจ ทดลองและอธิบายการเกิดเสียงแล
พลงั งาน
ความสัมพนั ธร์ ะหว่างพลังงานกบั เคลื่อนท่ีของเสยี ง
การดำรงชวี ิต การเปล่ียนรูป
พลังงาน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งสาร
และพลังงาน ผลของการใช้
พลงั งานต่อชีวติ และสิ่งแวดล้อม
มีกระบวน การสบื เสาะหาความรู้
สือ่ สารสง่ิ ที่เรยี นรแู้ ละนำความรู้
ไปใช้ประโยชน์
ทดลองและอธบิ ายการเกดิ เสียงสูง
เสียงตำ่
ทดลองและอธิบายเสยี งดัง เสียงค
๕๗
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง หนว่ ยการ
เรยี นรู้/ ชั่วโมง คะแนน
เนอ้ื หาทีส่ อน
ละการ เสยี งเกิดจากการสัน่ ของแหล่งกำเนิด เสยี งกับการได้ ๑๑ ๓๕
เสยี งและเสียงเคลื่อนทีจ่ ากแหลง่ กำเนดิ ยนิ
เสียงทุกทิศทางโดยอาศยั ตวั กลาง
ง แหลง่ กำเนิดเสียงสนั่ ด้วยความถ่ีต่ำจะ
เกิดเสียงตำ่ แต่ถ้าส่ันดว้ ยความถสี่ งู จะ
เกิดเสยี งสูง
ค่อย แหลง่ กำเนิดเสียงสั่นด้วยพลังงานมากจะ
ทำใหเ้ กิดเสียงดัง แตถ่ ้าแหล่งกำเนิดเสียง
สาระ มาตรฐาน ตัวชี้วดั
๔. สำรวจและอภิปรายอันตรายท
เกดิ ขน้ึ เม่ือฟงั เสยี งดังมาก ๆ
สาระท่ี ๖ มาตรฐาน ว ๖. ๑ เข้าใจ ๑.สำรวจ ทดลองและอธบิ ายการเ
กระบวนการ กระบวนการต่าง ๆ ทีเ่ กิดขน้ึ เมฆ หมอก นำ้ ค้าง ฝน และลกู เห
เปลย่ี นแปลง บนผวิ โลกและภายในโลก
ของโลก ความสัมพันธ์ของกระบวนการต่าง
ๆ ท่มี ผี ลต่อการเปลย่ี นแปลง
ภูมอิ ากาศ ภมู ิประเทศ และ
สัณฐานของโลก มีกระบวนการ
สบื เสาะหาความรูแ้ ละจติ วิทยา
ศาสตร์ สือ่ สารสง่ิ ทีเ่ รยี นรู้
และนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
๒. ทดลองและอธบิ ายการเกิดวฏั จ
๕๘
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง หนว่ ยการ
เรยี นรู้/ ชั่วโมง คะแนน
เน้อื หาทีส่ อน
สน่ั ด้วยพลังงานน้อยจะเกิดเสียงค่อย
ท่ี เสยี งดงั มาก ๆ จะเป็นอันตรายต่อการได้
ยิน และเสียงท่กี ่อใหเ้ กิดความรำคาญ
เรียกว่ามลพิษทางเสยี ง
เกดิ - ไอนำ้ ในอากาศท่ีควบแนน่ เป็นละออง ปรากฏการณ์ ๑๓ ๓๕
ห็บ น้ำเลก็ ๆ ทำใหเ้ กิดหมอกและเมฆละออง ของโลก
นำ้ เล็ก ๆทรี่ วมกนั เปน็ หยดน้ำจะทำให้
เกดิ นำ้ ค้างและฝน
- หยดน้ำทก่ี ลายเป็นนำ้ แข็งแล้วถกู พายุ
พัดวนในเมฆระดบั สูงจนเป็นก้อนนำ้ แข็ง
ขนาดใหญ่ขึ้นแลว้ ตกลงมาทำใหเ้ กิด
ลูกเห็บ
จักรนำ้ - วฏั จกั รน้ำเกิดจากการหมนุ เวียนอย่าง
ตอ่ เนื่อง ระหวา่ งนำ้ บริเวณผวิ โลกกับ
นำ้ ในบรรยากาศ
สาระ มาตรฐาน ตวั ช้วี ดั
๓. ออกแบบและสร้างเครอื่ งมืออย
ในการวดั อุณหภมู ิ ความชน้ื และ
กดอากาศ
๔.ทดลองและอธบิ ายการเกดิ ลมแล
ความรู้ไปใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจ
สาระท่ี ๗ มาตรฐาน ว ๗. ๑ เข้าใจ ๑. สังเกตและอธบิ ายการเกดิ ทิศ
ดารา ววิ ัฒนาการของระบบสุรยิ ะ และปรากฏการณ์การขึน้ ตกของดว
ศาสตรแ์ ล กาแล็กซีและเอกภพ การ โดยใช้แผนทด่ี าว
ะอวกาศ ปฏสิ ัมพันธ์ภายในระบบสรุ ยิ ะ
และผลตอ่ บนโลก มีกระบวนการ
๕๙
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หนว่ ยการ
เรยี นรู้/ ชั่วโมง คะแนน
เนือ้ หาท่ีสอน
ยา่ งง่าย - อุณหภมู ิ ความชืน้ ความกดอากาศ มี
ะความ การเปล่ยี นแปลง ซ่ึงสามารถตรวจสอบ
โดยใชเ้ ครอื่ งมืออย่างง่ายได้
ละนำ - การเกดิ ลมเกิดจากการเคลอ่ื นท่ีของ
จำวัน อากาศตามแนวพ้นื ราบ อากาศบริเวณที่
มอี ุณหภูมิสงู มวลอากาศจะขยายตัว
ลอยตัวสูงขึ้น สว่ นอากาศบรเิ วณทม่ี ี
อณุ หภมู ิต่ำ มวลอากาศจะจมตัวลงและ
เคล่ือนท่ีไปแทนที่
- พลงั งานจากลมนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้
มากมายในด้านการผลิตกระแสไฟฟ้า
และการทำกังหนั ลม
ศ - การทโ่ี ลกหมุนรอบตัวเองนี้ทำให้เกิด ระบบสุริยะ
วงดาว การกำหนดทศิ โดยโลกหมุนรอบตัวเอง
ทวนเข็มนาฬิกาจากทิศตะวันตกไปยงั ทศิ
ตะวนั ออกเม่ือสงั เกตจากข้ัวเหนอื จงึ
ปรากฏให้เหน็ ดวงอาทิตยแ์ ละดวงดาว
สาระ มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด
สืบเสาะ หาความรูแ้ ละจติ วิทยา
ศาสตร์ การส่ือสารสงิ่ ท่ีเรยี นรู้
และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระท่ี ๘ มาตรฐาน ว ๘. ๑ ๑. ต้งั คำถามเกย่ี วกับประเด็น หร
ธรรมชาติ ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือสถานการณ์ ท่จี ะศึกษา ตามท
ของ และจติ วิทยาศาสตร์ในการสบื กำหนดให้และตามความสนใจ
วทิ ยาศาสต เสาะหาความรู้ การแกป้ ัญหา รู้
ร์และ ว่าปรากฏการณท์ างธรรมชาติที่
เทคโนโลยี เกิดข้ึนส่วนใหญม่ ีรูปแบบท่ี
แนน่ อน สามารถอธิบายและ
ตรวจสอบได้ ภายใตข้ ้อมลู และ
เครื่องมอื ท่ีมีอยู่ในชว่ งเวลานัน้ ๆ
เข้าใจวา่ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
สังคม และส่ิงแวดล้อมมคี วาม
เกยี่ วข้องสัมพันธ์กัน
๖๐
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หน่วยการ
เรียนรู้/ ช่วั โมง คะแนน
เนอื้ หาท่สี อน
ต่างๆ ขนึ้ ทางทศิ ตะวันออก และตกทาง
ทิศตะวันตก
- แผนทด่ี าวช่วยในการสงั เกตตำแหน่ง
ดาวบนท้องฟ้า
รอื เร่อื ง -
ที่
สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ดั
๒.วางแผนการสังเกต เสนอการสำ
ตรวจสอบ หรือศึกษาค้นคว้า และ
คาดการณส์ ง่ิ ที่จะพบจากการสำรว
ตรวจสอบ
๓.เลือกอปุ กรณท์ ถ่ี ูกตอ้ งเหมาะสมในก
สำรวจ ตรวจสอบใหไ้ ดข้ ้อมูลทเ่ี ชอื่
ได้
๔.บันทกึ ข้อมลู ในเชิงปริมาณและค
และตรวจสอบผลกับส่งิ ทีค่ าดการณ
นำเสนอผลและข้อสรุป
๕.สร้างคำถามใหม่เพื่อการสำรวจ
ตรวจสอบตอ่ ไป
๖.แสดงความคดิ เห็นอย่างอสิ ระ อ
และสรปุ สง่ิ ทไี่ ด้ เรียนรู้
๗.บนั ทึกและอธิบายผลการสำรวจ
ตรวจสอบตามความเป็นจริง มกี าร
๖๑
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หนว่ ยการ
เรียนรู้/ ชว่ั โมง คะแนน
ำรวจ - เนอ้ื หาที่สอน
ะ
วจ
การ -
อถือ
คณุ ภาพ -
ณไ์ ว้
-
อธิบาย -
จ-
รอ้างอิง
สาระ มาตรฐาน ตัวชีว้ ัด
๘.จดั แสดง ผลงาน โดยอธบิ ายด้ว
วาจา หรอื เขยี นอธิบายแสดงระบว
และผลของงานใหผ้ อู้ นื่ เข้าใจ
๖๒
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง หน่วยการ
เรียนรู้/ ชวั่ โมง คะแนน
วย - เนื้อหาท่สี อน
วนการ
ชั้นประถมศึกษ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้...................วิทยาศา
จำนวนมาตรฐาน.....๘......มาตรฐาน และจำนว
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัด สาระการเ
๑ ว ๑.๑ ๑. อธบิ ายการเจริญเติบโตของมนษุ ย์ - มนษุ ยม์ กี ารเจริญเตบิ โต
จากวยั แรกเกิดจนถงึ วัยผูใ้ หญ่ ทางด้านร่างกายต้ังแตแ่ ร
๒. อธิบายการทางานทส่ี ัมพนั ธก์ นั - ระบบยอ่ ยอาหาร ทาหน
ของระบบย่อยอาหาร ระบบหายใจ สารอาหารขนาดเล็กแล้ว
และระบบหมนุ เวยี นเลือดของมนษุ ย์ หมนุ เวียนเลอื ด แก๊สออก
ทาใหส้ ารอาหารเกิดการเ
พลังงานท่รี ่างกายนาไปใช
๓. วเิ คราะหส์ ารอาหารและอภิปราย - สารอาหาร ไดแ้ ก่ โปรต
ความจาเปน็ ท่ีร่างกายต้องได้รับ วิตามิน และน้า มคี วามจ
สารอาหารในสัดส่วนท่ีเหมาะสมกบั ต้องไดร้ ับสารอาหารในสดั
เพศและวยั เพอ่ื การเจริญเตบิ โตและก
๖๓
ษาปีที่ ๖
าสตร์.................ช้นั ......ป.๖............
วนตวั ช้ีวดั ........๓๗...........ตัวช้วี ัด ตอ่ ปี
เรียนรแู้ กนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้/เน้อื หาที่ ช่วั โมง คะแนน
สอน
ตและมีการเปลย่ี นแปลง อาหารและสารอาหาร ๕ ๑๐
รกเกิดจนเป็นผู้ใหญ่
น้าที่ย่อยอาหารให้เปน็ ร่างกายมนุษย์ ๕๕
วจะถูกดดู ซึมเขา้ ส่รู ะบบ ๕๕
กซเิ จนทไ่ี ดจ้ ากระบบหายใจจะ
เปล่ียนแปลงจนกลายเป็น
ชไ้ ด้
ตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แร่ธาตุ สารอาหาร
จาเป็นตอ่ รา่ งกาย มนษุ ย์จาเปน็
ดส่วนท่เี หมาะสมกบั เพศและวยั
การดารงชวี ิต
สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัด สาระการเ
๒ ว ๒.๑ ๑. สำรวจและอภิปราย - กลุ่มส่งิ มีชีวติ ในแหลง่ ท
ความสัมพนั ธข์ องกลุ่ม ส่ิงมีชีวติ ใน และมีความสมั พนั ธ์กับแ
แหลง่ ทอี่ ยูต่ า่ ง ๆ อาหาร แหลง่ ที่อยู่อาศยั
ล
๒. อธิบายความสมั พนั ธข์ องส่ิงมชี ีวติ - ความสัมพนั ธ์ของสงิ่ มชี
กบั สิ่งมชี ีวติ ในรูปของโซอ่ าหารและ อาหาร และสายใยอาหาร
สายใยอาหาร พลังงานจากผผู้ ลติ สผู่ ูบ้ ริโ
๓. สืบค้นข้อมูลและอธิบาย - สิ่งมีชีวิตทอ่ี าศัยอยูใ่ นแต
ความสัมพนั ธ์ระหว่าง การดารงชวี ิต เหมาะสมต่อการดารงชวี
ของส่ิงมีชีวิตกับสภาพแวดล้อมใน ปรบั ตัวให้เข้ากบั สภาพแว
ท้องถน่ิ อยรู่ อด
๒ ว ๒.๒ ๑. สืบคน้ ขอ้ มูลและอภิปรายแหลง่ - ทรัพยากรธรรมชาตติ ่าง
ทรพั ยากรธรรมชาติในแต่ละท้องถิ่นที่เปตน็ ่อการดารงชีวติ ของส่ิงม
ประโยชน์ต่อ การดารงชวี ิต
๒. วิเคราะหผ์ ลของการเพิ่มข้ึนของ - การเพม่ิ ขึ้นของประชาก
๖๔
เรียนรูแ้ กนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้/เนอ้ื หาท่ี ชว่ั โมง คะแนน
สอน
ทอี่ ยู่ต่าง ๆ มคี วาม สมั พนั ธก์ ัน ส่งิ มชี วี ติ กับส่งิ แวดล้อม ๕ ๔
แหลง่ ที่อยู่ในลกั ษณะของแหล่ง
แหล่งสบื พันธ์ุ และแหลง่ เลี้ยงดู
ลูกอ่อน
ชีวติ กับส่ิงมชี ีวติ ในรปู ของโซ่
ร ทาใหเ้ กดิ การถา่ ยทอด
โภค
ต่ละแหลง่ ที่อยู่จะมี โครงสร้างที่
วิตในแหล่งทอ่ี ยูน่ ้นั และสามารถ
วดล้อมเพ่อื หาอาหารและมชี วี ิต
ง ๆ ในแต่ละท้องถน่ิ มีประโยชน์ สิง่ มีชีวิตกับส่งิ แวดล้อม ๘ ๖
มีชวี ิต
กรมนษุ ย์ทาใหท้ รัพยากร
สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ัด สาระการเ
ประชากรมนุษย์ต่อการใช้ ธรรมชาตถิ ูกใชม้ ากขนึ้ เป
ทรพั ยากรธรรมชาติ ลดน้อยลง และสง่ิ แวดล้อ
๓. อภิปรายผลต่อสง่ิ มีชีวติ จากการ - ภัยพบิ ัตจิ ากธรรมชาตแิ
เปล่ียนแปลงสิง่ แวดล้อม ทงั้ โดย สง่ิ แวดลอ้ มเปล่ยี นแปลง
ธรรมชาตแิ ละโดยมนุษย์ บางชนิดสูญพนั ธุ์
๔. อภิปรายแนวทางในการดูแล - การสรา้ งจิตสานกึ ในกา
รกั ษาทรัพยากรธรรมชาตแิ ละ ธรรมชาติ ตลอดจนการป
สิง่ แวดลอ้ ม แนวทางหนึ่งในการดูแลร
สิ่งแวดล้อม
๕. มีสว่ นร่วมในการดแู ลรกั ษา - ร่วมจัดทาโครงการเฝ้าร
สง่ิ แวดลอ้ มในท้องถิน่ ส่งิ แวดลอ้ มในท้องถ่นิ อยา่
๓ ว ๓.๑ ๑. ทดลองและอธบิ าย สมบตั ิของ - สารอาจปรากฏในสถาน
ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส สารท้ังสามสถานะมีสมบัต
บางประการแตกตา่ งกนั
๖๕
เรยี นรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้/เนือ้ หาที่ ชว่ั โมง คะแนน
สอน
ปน็ ผลทำให้ทรพั ยากรธรรมชาติ
อมเปลีย่ นแปลงไป
และการกระทาของมนุษย์ ทำให้
เป็นผลทาให้พืชและสตั วป์ า่
ารอนุรกั ษ์ เฝา้ ระวังทรัพยากร
ปลกู ต้นไม้ เพ่ิมข้ึนเพ่อื เป็น
รกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติและ
ระวังรักษาคุณภาพของ ๑๔ ๑๐
างยัง่ ยืน
นะของแข็ง ของเหลวหรอื แก๊ส สารในชีวติ ประจำวัน
ตบิ างประการเหมอื นกนั และ
สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สาระการเ
๒. จำแนกสารเปน็ กลมุ่ โดยใช้ - การจำแนกสารอาจจำแ
สถานะหรือเกณฑ์อืน่ ทีก่ ำหนดเอง การนำความร้อน หรือสม
๓. ทดลองและอธิบายวิธีการแยก - ในการแยกสารบางชนดิ
สารบางชนิดทผ่ี สมกนั โดยการรอ่ น วิธกี ารตา่ ง ๆ ท่ีเหมาะสม
การตกตะกอน การกรอง การระเหิด การตกตะกอน การกรอง
การระเหยแหง้ ทั้งน้ีขึ้นอยูก่ ับสมบัติของส
น้นั ๆ
๔. สำรวจและจำแนกประเภทของ - สารอาจปรากฏในสถาน
สารต่างๆ ทีใ่ ชใ้ นชีวิตประจำวัน โดย สารทง้ั สามสถานะมีสมบัต
ใชส้ มบตั ิและการใช้ประโยชน์ของ บางประการแตกตา่ งกัน
สาร เปน็ เกณฑ์
๕. อภิปรายการเลือกใช้สารแต่ละ - การจำแนกสารอาจจำแ
ประเภทได้อยา่ งถกู ต้องและ การนำความร้อน หรอื สม
ปลอดภัย - สารอาจปรากฏในสถาน
สารทง้ั สามสถานะมสี มบัต
๖๖
เรยี นรู้แกนกลาง* หน่วยการเรียนรู้/เนื้อหาท่ี ช่วั โมง คะแนน
สอน
แนกโดยใชส้ ถานะ การนำไฟฟ้า
มบัติอื่น เปน็ เกณฑ์ได้
ดที่ผสมกนั ออกจากกันต้องใช้
ม ซง่ึ อาจจะทำไดโ้ ดยการรอ่ น
ง การระเหิด การระเหยแห้ง
สารท่ีเปน็ ส่วนผสมในสารผสม
นะของแข็ง ของเหลวหรอื แก๊ส
ตบิ างประการเหมอื นกนั และ
แนกโดยใช้สถานะ การนำไฟฟ้า
มบตั ิอ่ืน เปน็ เกณฑ์ได้
นะของแข็ง ของเหลวหรือแกส๊
ตบิ างประการเหมอื นกนั และ
สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วดั สาระการเ
บางประการแตกตา่ งกนั
- การจำแนกสารอาจจำแ
การนำความร้อน หรือสม
- ในการแยกสารบางชนิด
วิธีการต่าง ๆ ทเ่ี หมาะสม
การตกตะกอน การกรอง
ทงั้ น้ีข้นึ อยู่กับสมบัติของส
นัน้ ๆ
- จำแนกประเภทของสาร
ตามการใช้ประโยชน์ แบง่
แตง่ สีอาหาร สารทาความ
ศัตรูพชื ซงึ่ สารแต่ละประ
แตกตา่ งกัน
- การใช้สารตา่ ง ๆ ในชวี
ถกู ต้องตามวตั ถุประสงคข์
๖๗
เรียนรูแ้ กนกลาง* หนว่ ยการเรยี นรู้/เน้ือหาที่ ช่วั โมง คะแนน
สอน
แนกโดยใช้สถานะ การนำไฟฟ้า
มบตั ิอื่น เปน็ เกณฑ์ได้
ดที่ผสมกนั ออกจากกนั ต้องใช้
ม ซ่งึ อาจจะทาไดโ้ ดยการรอ่ น
ง การระเหิด การระเหยแห้ง
สารที่เป็นส่วนผสมในสารผสม
รต่าง ๆ ทใ่ี ช้ในชีวติ ประจาวัน
งได้เปน็ สารปรุงรสอาหาร สาร
มสะอาด สารกาจดั แมลงและ
ะเภทมคี วามเป็นกรด - เบส
ิตประจาวนั ต้องเลือกใชใ้ ห้
ของการ ใชง้ าน ปลอดภยั ต่อ
สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วัด สาระการเ
ส่ิงมชี ีวติ และส่ิงแวดล้อม
๓ ว ๓.๒ ๑. ทดลองและอธิบายสมบัติของสาร - เมอื่ สารเกิดการเปล่ยี นแ
เมอ่ื สารเกิดการละลายและเปลย่ี น เปลี่ยนสถานะ สารแต่ละ
สถานะ สารเดิม
๒. วเิ คราะหแ์ ละอธบิ ายการ - การเปล่ยี นแปลงทางเค
เปล่ยี นแปลงท่ีทาใหเ้ กิดสารใหมแ่ ละ ให้มสี ารใหม่เกิดขนึ้ และส
มีสมบัตเิ ปล่ยี นแปลงไป จากเดิม
๓. อภปิ รายการเปลย่ี นแปลงของ - การเปล่ียนแปลงของสา
สถานะและการเกดิ สารให
สารท่ีก่อให้เกิดผลต่อส่งิ มีชีวติ และ ส่ิงแวดลอ้ ม
สิง่ แวดลอ้ ม
๕ ว ๕.๑ ๑. ทดลองและอธบิ ายการต่อ - วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่ายประ
วงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย อปุ กรณ์ไฟฟา้
๒. ทดลองและอธบิ ายตวั นาไฟฟา้ - วัสดทุ ก่ี ระแสไฟฟ้าผ่าน
และฉนวนไฟฟ้า กระแสไฟฟา้ ผ่านไม่ได้เป็น
๖๘
เรียนรู้แกนกลาง* หน่วยการเรยี นรู้/เนอื้ หาที่ ชว่ั โมง คะแนน
สอน
แปลงเปน็ สารละลายหรือ ๑๐ ๑๕
ะชนดิ ยังคงแสดงสมบัติของ
คมี หรือการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี ทา
สมบตั ิของสารจะเปล่ยี นแปลงไป
าร ท้ังการละลายการเปลี่ยน
หม่ ต่างกม็ ีผลต่อสิ่งมชี วี ิตและ
ะกอบดว้ ย แหล่งกำเนดิ ไฟฟ้า วงจรไฟฟ้า ๑๒ ๑๐
นไดเ้ ป็นตวั นาไฟฟ้า ถ้า
นฉนวนไฟฟ้า
สาระ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด สาระการเ
๓. ทดลองและอธิบายการต่อ - เซลลไ์ ฟฟ้าหลายเซลลต์
เซลล์ไฟฟา้ ท้งั แบบอนุกรม และนา เซลล์ไฟฟ้าเซลลห์ น่ึงต่อก
ความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ การต่อแบบอนุกรม ทาให
ไฟฟ้าในวงจรเพมิ่ ขน้ึ
- การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบอ
ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาว
ในไฟฉาย
๔. ทดลองและอธบิ ายการต่อหลอด - การต่อหลอดไฟฟ้าแบบ
ไฟฟา้ ทง้ั แบบอนุกรมและ แบบ ปรมิ าณเดยี วกันผา่ นหลอ
ขนาน และนาความรู้มาใชป้ ระโยชน์ - การต่อหลอดไฟฟา้ แบบ
ผา่ นหลอดไฟฟ้าแตล่ ะหล
เชน่ การตอ่ หลอดไฟฟา้ ห
๕. ทดลองและอธิบายการเกดิ -สายไฟที่มกี ระแสไฟฟ้าผ
สนามแมเ่ หล็กรอบสายไฟที่มี สายไฟ สามารถนาไปใช้ป
๖๙
เรยี นรู้แกนกลาง* หน่วยการเรยี นรู้/เน้อื หาที่ ชั่วโมง คะแนน
สอน
ตอ่ เรียงกัน โดยข้ัวบวกของ
กับข้วั ลบของอีกเซลลห์ นง่ึ เป็น
ห้มีกระแสไฟฟ้าผ่านอุปกรณ์
อนุกรมสามารถนาไปใช้
วนั เชน่ การต่อเซลล์ไฟฟ้า
บอนุกรม จะมีกระแสไฟฟา้
อดไฟฟา้ แต่ละหลอด
บขนาน กระแสไฟฟา้ จะแยก
ลอด สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์
หลายดวงในบา้ น
ผ่านจะเกดิ สนามแมเ่ หล็ก รอบ
ประโยชน์ เชน่ การทา
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัด สาระการเ
กระแสไฟฟา้ ผ่าน และนำความรู้ แม่เหล็กไฟฟ้า
ไปใช้ประโยชน์
ว ๖.๑ ๑. อธิบาย จำแนกประเภทของหนิ -หนิ แต่ละชนิดมีลักษณะแ
โดยใชล้ ักษณะของหิน สมบัติของหิน ลักษณะท่ีสังเกตไดเ้ ป็นเก
เปน็ เกณฑแ์ ละนำความรไู้ ปใช้ ความหนาแน่น
ประโยชน์ - นกั ธรณวี ทิ ยาจำแนกหิน
ประเภท คือ หินอัคนี หนิ
-ลกั ษณะหินและสมบตั ิขอ
เหมาะกับงานทง้ั ในด้านก
และอ่ืน ๆ
๖ ๒. สำรวจและอธบิ ายการ - การเปลย่ี นแปลงของหิน
เปลย่ี นแปลงของหิน กับที่ การกร่อน ทำใหห้ นิ
ส่วนประกอบของดิน
๗๐
เรียนรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้/เน้อื หาที่ ชว่ั โมง คะแนน
สอน
แตกตา่ งกัน จำแนกตาม หนิ และการเปลย่ี นแปลง ๑๒ ๑๐
กณฑ์ เชน่ สี เนื้อหิน ความแขง็
นตามลกั ษณะการเกดิ ไดส้ าม
นตะกอน และหนิ แปร
องหินทีแ่ ตกตา่ งกนั นำมาใช้ให้
ก่อสร้างดา้ นอตุ สาหกรรม
นในธรรมชาติโดยการผพุ ังอยู่
นมขี นาดเล็กลง จนเป็น
สาระ มาตรฐาน ตวั ชว้ี ดั สาระการเ
๓. สบื ค้นและอธิบายธรณพี บิ ัตภิ ยั ที่ - มนษุ ยค์ วรเรียนรู้และปฏ
มผี ลต่อมนษุ ย์และสภาพแวดล้อมใน พิบัตภิ ยั ที่อาจเกดิ ขนึ้ ในท
ทอ้ งถ่นิ นำ้ ทว่ ม แผ่นดินถล่ม แผ่น
๗ ว ๗.๑ ๑. สรา้ งแบบจำลองและอธบิ ายการ - การท่โี ลกโคจรรอบดวง
เกิดฤดู ข้างข้ึนข้างแรม สุรยิ ปุ ราคา ทแี่ กนโลกเอียงกบั แนวต้งั
จนั ทรปุ ราคา และ นำความรไู้ ปใช้ ให้บรเิ วณสว่ นต่างๆ ของ
ประโยชน์ แตกตา่ งกัน เป็นผลใหเ้ กิด
- ดวงจนั ทร์ไม่มีแสงสว่าง
จากแสงอาทิตย์ตกกระทบ
โลก การทีด่ วงจนั ทรโ์ คจร
ดวงอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์จึง
มองเห็นแสงสะท้อนจากด
คนื ซง่ึ เรยี กว่าข้างขึน้ ข้าง
ระบบจันทรคติ
- การท่โี ลก ดวงจันทร์ ดว
เดยี วกนั ทาให้ดวงจันทรบ์
๗๑
เรยี นรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรยี นรู้/เนื้อหาท่ี ชั่วโมง คะแนน
สอน
ฏบิ ัติตนให้ปลอดภยั จากธรณี
ท้องถิ่นไดแ้ ก่ น้าป่าไหลหลาก
นดนิ ไหว สึนามแิ ละอืน่ ๆ
งอาทิตยใ์ นเวลา ๑ ปี ในลกั ษณะ
งฉากของระนาบทางโคจร ทา
งโลกรับพลงั งานจากดวงอาทิตย์
ดฤดูตา่ ง ๆ
งในตัวเอง แสงสวา่ งที่เหน็ เกิด
บ ดวงจนั ทรแ์ ลว้ สะท้อนมายงั
รรอบโลกขณะท่ีโลกโคจรรอบ
งเปลีย่ นตำแหนง่ ไปทาให้
ดวงจันทร์แตกตา่ งกนั ในแตล่ ะ
งแรม และนำมาใชจ้ ดั ปฏิทินใน
วงอาทิตย์อย่ใู นแนวเส้นตรง
บังดวงอาทิตย์ เรยี กว่า เกดิ
สาระ มาตรฐาน ตัวช้วี ดั สาระการเ
สุรยิ ุปราคา และเม่ือดวงจ
ของโลกเรยี กว่าเกิดจันทร
ว ๗.๒ ๑. สบื คน้ อภปิ รายความก้าวหนา้ - ความกา้ วหน้าของ จรว
และประโยชน์ของเทคโนโลยีอวกาศ - ความกา้ วหน้าของเทคโ
สำรวจข้อมูลของวัตถุท้อง
ระบบสรุ ยิ ะท้ังในและนอก
และยังมปี ระโยชน์ในการ
สำรวจทรัพยากรธรรมชา
อากาศ ดา้ นการแพทย์ แ
๗ ว ๘.๑ ๑. ตัง้ คาถามเกยี่ วกบั ประเดน็ หรือ -
เร่อื งหรือสถานการณ์ ทจ่ี ะศึกษา
ตามที่กำหนดใหแ้ ละตามความสนใจ
๘ ว ๘.๑ ๒. วางแผนการสังเกต เสนอการ -
สำรวจตรวจสอบ หรือศึกษาค้นควา้
คาดการณ์ สงิ่ ทจ่ี ะพบ จากการ
๗๒
เรยี นรแู้ กนกลาง* หน่วยการเรยี นรู้/เน้ือหาท่ี ชัว่ โมง คะแนน
สอน ๑๐
จนั ทร์เคล่ือนทเี่ ขา้ ไปอย่ใู นเงา
รุปราคา
วด ดาวเทยี ม และ ยานอวกาศ ปรากฏการณ์ของโลกและ ๑๑
โนโลยอี วกาศ ไดน้ ามาใชใ้ นการ เทคโนโลยี
งฟ้า ทาให้ไดเ้ รียนรู้ เกี่ยวกบั
กระบบสรุ ยิ ะเพิ่มข้ึนอีกมากมาย
รพัฒนาเทคโนโลยีในด้านการ
าติ การสอื่ สาร การสำรวจสภาพ
และด้านอื่น ๆ อีกมากมาย
สาระ มาตรฐาน ตัวชีว้ ดั สาระการเ
สำรวจตรวจสอบ
๘ ๓. เลอื กอุปกรณ์ และวธิ กี ารสำรวจ -
ตรวจสอบที่ถูกต้องเหมาะสมให้
ได้ผลท่ีครอบคลุมและเชอื่ ถอื ได้
๔. บนั ทกึ ข้อมูลในเชิงปริมาณและ -
คุณภาพ วิเคราะห์ และตรวจสอบ
ผลกบั สิ่งท่คี าดการณ์ไว้ นำเสนอผล
และข้อสรุป
๕. สร้างคาถามใหม่เพ่ือการสำรวจ
ตรวจสอบตอ่ ไป
๖. แสดงความคิดเหน็ อย่างอิสระ
อธิบาย ลงความเหน็ และสรุปสิง่ ที่ได้
เรียนรู้
๗. บนั ทึกและอธิบายผลการสำรวจ
ตรวจสอบตามความเปน็ จริง มี
๗๓
เรยี นรู้แกนกลาง* หนว่ ยการเรียนรู้/เนอ้ื หาท่ี ชว่ั โมง คะแนน
สอน
-
-
-
สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั สาระการเ
เหตุผล และมปี ระจักษ์พยานอ้างอิง
๘. นาเสนอ จดั แสดงผลงาน โดย
อธิบายด้วยวาจา และเขียนรายงาน
แสดงกระบวนการและผลของงานให้
ผอู้ ่ืนเขา้ ใจ