The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ที่1ถึง31

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thanuttha K, 2023-09-10 03:22:21

แผนการสอนม.1เทอม1

แผนการจัดการเรียนรู้ที่1ถึง31

ขั้นที่ 4 สรุป ครูถามคำถามเพื่อสรุปความรู้รวบยอดของนักเรียน ดังนี้ 1) เลขยกกำลัง คืออะไร (แนวตอบ การคูณจำนวนซ้ำ ๆ กัน) 2) “a ยกกำลัง n” มีความหมายอย่างไร (แนวตอบ a n = a a a … a ) 15. สื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ 15.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การเขียนเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 15.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อินเตอร์เน็ต n ตัว


ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การเขียนเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามแต่ละข้อต่อไปนี้ 1. จงเขียนจำนวนที่กำหนดให้ต่อไปนี้ในรูปเลขยกกำลัง 1) 243 = ............................................... 2) 512 = ............................................... 3) 625 = ............................................... 4) 1,331 = ............................................... 5) 2,401 = ............................................... 2. จงเขียนจำนวนต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังที่มีฐานเป็นจำนวนเฉพาะ 1) 27 64 = ............................................... 2) 125 49 = ............................................... 3) 121 169 = ...............................................


ใบงานที่ 3.1 เรื่อง การเขียนเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามแต่ละข้อต่อไปนี้ 1. จงเขียนจำนวนที่กำหนดให้ต่อไปนี้ในรูปเลขยกกำลัง 1) 243 = ............................................... 2) 512 = ............................................... 3) 625 = ............................................... 4) 1,331 = ............................................... 5) 2,401 = ............................................... 2. จงเขียนจำนวนต่อไปนี้ให้อยู่ในรูปเลขยกกำลังที่มีฐานเป็นจำนวนเฉพาะ 1) 27 64 = ............................................... 2) 125 49 = ............................................... 3) 121 169 = ............................................... เฉลย 3 5 2 9 5 4 113 7 4 3 3 2 6 5 3 7 2 112 132


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 20 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เลขยกกำลัง เรื่อง การคูณเลขยกกำลังเมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก รายวิชา คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 3 คาบ (2 ชั่วโมง 30 นาที) ผู้จัดการเรียนรู้นางสาวธนัฏฐา คุณสุข โรงเรียนเบญจมานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 1. เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวนผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ม.1/2 เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกในการแก้ปัญหา คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) อธิบายการหาผลคูณของเลขยกกำลังเมื่อชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกได้ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนสามารถด้าน (P) เขียนแสดงขั้นตอนการหาผลคูณของเลขยกกำลังเมื่อชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกได้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์(A) มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การคูณเลขยกกำลังที่มีฐานเดียวกัน ผลคูณจะเป็นเลขยกกำลังที่มีฐานเท่าเดิม และมีเลขชี้กำลังเท่ากับ ผลบวกของเลขชี้กำลังของเลขยกกำลังที่นำมาคูณกัน 3. สาระการเรียนรู้แกนกลาง - เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 4. สาระการเรียนร้ทู้องถิ่น - 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร


5.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการเชื่อมโยง 3) ทักษะการให้เหตุผล 4) ทักษะการตีความ 5) ทักษะการพิสูจน์ความจริง 5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย : ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน 6.2 ใฝ่เรียนรู้: ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 7. ค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ 7.1 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 7.2 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 7.3 มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ 8. ศาสตร์พระราชา : พระบาทสมเด ็ จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร หลักการทรงงาน การมีส่วนร่วม การพึ่งตนเอง ความซื่อสัตย์สุจริต จริงใจต่อกัน ความเพียร 9. พระบรมราโชบาย : พระบาทสมเด็จพระเจ้ายู่หัว รัชกาลที่ 10 1. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง – มีคุณธรรม 2. เป็นพลเมืองดี 10. ต้านทุจริตศึกษา หน่วยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 4. อภิปรายถึงความแตกต่างของคำว่า จริยธรรม คุณธรรมและการทุจริต หน่วยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 1. อภิปราย เสวนา สัมมนาเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากความไม่ละอายและการ เพิกเฉยต่อการทุจริต 11. แนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21


สาระวิชาหลัก(Core Subject) - คณิตศาสตร์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1) ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม - คิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา - การสื่อสารและการร่วมมือ 2) ทักษะด้านสารสนเทศ - ความรู้ด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี 3) ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ - ความยืดหยุ่นและการปรับตัว 4) ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม - ก าร เป็ น ผู้ ส ร้ างห รือ ผู้ ผ ลิ ต (Productivity) แ ล ะ ค ว าม รับ ผิ ด ช อ บ เชื่ อ ถื อ ได้ (Accountability) - ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (Responsibility) 12. ชิ้นงาน/ภาระงาน ชิ้นงาน/ภาระงานระหว่างจัดการเรียนรู้ 1 ใบงานที่ 3.2 เรื่องการคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 13. การประเมินผลการเรียนรู้ 1. การประเมินผลระหว่างจัดการเรียนรู้ 1.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 1.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล 1.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2. การประเมินผลหลังจัดการเรียนรู้ 2.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 2.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล


2.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 13. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัดและประเมิน เครื่องมือที่ใช้วัดประเมิน เกณฑ์การวัด และประเมิน ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) 1. อธิบายการหาผล คูณของเลขยกกำลัง เมื่อชี้กำลังเป็นจำนวน เต็มบวกได้ - ตรวจใบงานที่ 3.2 เรื่อง การคูณเลขยกกำลัง เมื่อ เลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม บวก - ใบงานที่ 3.2 เรื่องการคูณเลขยก กำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม บวก ได้คะแนน ร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนมีความสามารถ (P) 1. เขียนแสดงขั้นตอน การหาผลคูณของเลข ยกกำลังเมื่อชี้กำลัง เป็นจำนวนเต็มบวก ได้ - สังเกตพฤติกรรมด้าน ทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรมด้านทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนมี (A) 1. มีวินัย : ปฏิบัติ ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน - สังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมระหว่างเรียน - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ใฝ่เรียนรู้ : ตั้งใจ เพียรพยายามในการ เรียนและเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์: นักเรียนมี(A) 1. มีความมุมานะใน การทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ - สังเกตการณ์ทำตัวอย่าง การซักถาม และการ แสดงความคิดเห็น - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน


14. กระบวนการจัดการเรียนรู้ คาบที่ 1 (รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Concept Based Teaching) ขั้นที่ 1 การใช้ความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ 1.ครูทบทวนความหมายของเลขยกกำลังว่า a n = a a a … a จากนั้นครูยกตัวอย่างเลขยกกำลัง แล้วให้นักเรียนเขียนในรูปการคูณของฐานจำนวนซ้ำๆ กัน 2.ครูอาจจะยกตัวอย่างเลขยกกำลังเพิ่มเติม แล้วให้นักเรียนหาค่าของเลขยกกำลัง ขั้นที่ 2 รู้และเข้าใจ 1. ครูยกตัวอย่างการหาผลคูณของเลขยกกำลัง 3 4 3 3 ในหนังสือเรียน หน้า 112 บนกระดาน พร้อมกับถามคำถาม ดังนี้ 1) 3 4 เขียนในรูปการคูณของฐานเป็นจำนวนซ้ำ ๆ กันได้อย่างไร (แนวตอบ 3 3 3 3) 2) 3 3 เขียนในรูปการคูณของฐานเป็นจำนวนซ้ำ ๆ กันได้อย่างไร (แนวตอบ 3 3 3) 3) 3 4 3 3 เขียนในรูปการคูณของฐานเป็นจำนวนซ้ำ ๆ กันได้อย่างไร (แนวตอบ 3 3 3 3 3 3 3) 4) 3 4 3 3 เขียนในรูปเลขยกกำลังได้อย่างไร (แนวตอบ 3 7 ) จากนั้นครูสรุปว่า 3 4 3 3 = 37 มาจาก 3 4+3 ตัวอย่างเลขยกก าลัง 1) 4 6 2) (-6)2 3) (1.8)3 4) (-3.1)5 5) 4 2 3 6) − 2 5 6 เขียนในรูปการคูณของฐานเป็นจ านวนซ ้า ๆ กัน 1) 4 4 4 4 4 4 2) (-6) (-6) 3) (1.8) (1.8) (1.8) 4) (-3.1) (-3.1) (-3.1) (-3.1) (- 3.1) 5) 2222 3333 6) − − 5 5 6 6


3. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาการคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ในหนังสือ หน้า 112 2. เมื่อครูยกตัวอย่าง จะมีการถาม-ตอบ ให้ตอบตามความสมัครใจของนักเรียน หากมีนักเรียนที่ไม่ ค่อยตอบ จึงจะใช้วิธีการสุ่มให้ทั่วถึง และบวกแต้มให้นักเรียนที่มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อเป็นการ กระตุ้นความสนใจและการเสริมแรงทางบวกแก่นักเรียน 3. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาตัวอย่างที่ 3 ในหนังสือเรียน หน้า 113 4. ให้นักเรียนจับคู่กัน แล้วทำ “Thinking Time” ในหนังสือเรียน หน้า 113 พร้อมทั้งยกตัวอย่าง ประกอบ โดยทำลงในสมุดของตนเอง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบ “Thinking Time” คาบที่ 2 5. ครูยกตัวอย่างการหาผลคูณของเลขยกกำลัง (3 6 ) 2 ในหนังสือเรียน หน้า 114 บนกระดาน แล้ว อธิบายว่าใช้สมบัติ 1 ช่วยในการหาผลคูณได้ ดังนี้ (36 ) 2 = 36 3 6 = 36+6 = 36×2


6. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาตัวอย่างการหาผลคูณข้อที่ 2 และ 3 ในหนังสือเรียน หน้า 114 – 115 ขั้นที่ 3 ลงมือทำ 1. ครูให้นักเรียนทำ“ลองทำดู” ในหนังสือเรียน หน้า 115 โดยมีครูคอยให้คำปรึกษาและสังเกต พฤติกรรมการทำแบบฝึกทักษะของนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนออกมาเฉลย“ลองทำดู” ในหนังสือเรียน หน้า 115 หน้าชั้นเรียน ให้ออกมาตาม ความสมัครใจของนักเรียน และบวกแต้มให้นักเรียนที่ออกมาเฉลยหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 4 สรุป ครูถามคำถามเพื่อสรุปความรู้รวบยอดของนักเรียน ดังนี้ - สมบัติเลขของเลขยกกำลัง 2 สมบัติที่ได้เรียนในวันนี้คืออะไรบ้าง (แนวตอบ)


คาบที่ 3 (รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Concept Based Teaching) ขั้นที่ 1 การใช้ความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ 1. นักเรียนและครูกล่าวทักทายกัน 2. ครูทบทวนสมบัติ 1 และสมบัติ 2 โดยการถาม – ตอบ ขั้นที่ 2 รู้และเข้าใจ 1. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาตัวอย่างการหาผลคูณของเลขยกกำลัง ในหนังสือเรียน หน้า 115 – 117 ขั้นที่ 3 ลงมือทำ 1. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 3.2 เรื่องการคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก โดยมี ครูคอยให้คำปรึกษาและสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกทักษะของนักเรียน กำหนดให้ a แทนจำนวนใด ๆ และ m, n แทนจำนวนเต็มบวก (a m) n = am × n กำหนดให้ a แทนจำนวนใด ๆ และ m, n แทนจำนวนเต็มบวก a m a n = am+n


2. ครูให้นักเรียนออกมาเฉลยใบงานที่ 3.2 เรื่องการคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก หน้าชั้นเรียน ให้ออกมาตามความสมัครใจของนักเรียน และบวกแต้มให้นักเรียนที่ออกมาเฉลยหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 4 สรุป ครูถามคำถามเพื่อสรุปความรู้รวบยอดของนักเรียนและให้นักเรียนจดลงในสมุด ดังนี้ ถ้ากำหนดให้ a, b แทนจำนวนใด ๆ และ m, n, k แทนจำนวนเต็มบวก แล้ว 1) a m a n มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ a m+n ) 2) (a m) n มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ a m × n ) 3) a m b m มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ (a b) m ) 4) (am b n ) k มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ a m × k b n × k ) 15. สื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ 15.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1


2) ใบงานที่ 3.2 เรื่องการคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 15.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อินเตอร์เน็ต ใบงานที่ 3.2 เรื่อง การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก คำชี้แจง : จงเขียนผลคูณของจำนวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกกำลัง 1) (-3)2 (-3)8 = ............................................... 2) 4 5 1 1 10 10 = ............................................... 3) ((-7)3 ) 6 = ............................................... 4) 4 7 5 11 = ............................................... 5) 6 2 (-10)2 = ............................................... 6) 6 3 6 36 7 49 = ............................................... 7) (79 (-6)3 ) 2 = ............................................... 8) ( ) − 3 6 2 1 12 2 = ...............................................


ใบงานที่ 3.2 เรื่อง การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก คำชี้แจง : จงเขียนผลคูณของจำนวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกกำลัง 1) (-3)2 (-3)8 = ............................................... 2) 4 5 1 1 10 10 = ............................................... 3) ((-7)3 ) 6 = ............................................... 4) 4 7 5 11 = ............................................... 5) 6 2 (-10)2 = ............................................... 6) 6 3 6 36 7 49 = ............................................... 7) (79 (-6)3 ) 2 = ............................................... 8) ( ) − 3 6 2 1 12 2 = ............................................... เฉลย (-3)10 9 1 10 (-7)18 28 5 11 (-60)2 12 6 7 7 18 (-6)6 ( ) 18 1 6 12 2 −


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เลขยกกำลัง เรื่อง การหารเลขยกกำลังเมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก รายวิชา คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 2 คาบ (1 ชั่วโมง 40 นาที) ผู้จัดการเรียนรู้ นางสาวธนัฏฐา คุณสุข โรงเรียนเบญจมานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 1. เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวนผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ม.1/2 เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกในการแก้ปัญหา คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) อธิบายการหาผลหารของเลขยกกำลังเมื่อชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกได้ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนสามารถด้าน (P) เขียนแสดงขั้นตอนการหาผลหารของเลขยกกำลังเมื่อชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกได้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์(A) มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การหารเลขยกกำลังที่มีฐานเป็นจำนวนเดียวกันและฐานไม่เท่ากับศูนย์ ผลหารที่ได้จะเป็นเลขยกกำลัง ที่มีฐานเท่าเดิม และมีเลขชี้กำลังเท่ากับเลขชี้กำลังของตัวตั้งลบด้วยเลขชี้กำลังของตัวหาร 3. สาระการเรียนรู้แกนกลาง - เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 4. สาระการเรียนร้ทู้องถิ่น - 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน


5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการเชื่อมโยง 3) ทักษะการให้เหตุผล 4) ทักษะการตีความ 5) ทักษะการพิสูจน์ความจริง 5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย : ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน 6.2 ใฝ่เรียนรู้: ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 7. ค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ 7.1 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 7.2 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 7.3 มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ 8. ศาสตร์พระราชา : พระบาทสมเด ็ จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร หลักการทรงงาน การมีส่วนร่วม การพึ่งตนเอง ความซื่อสัตย์สุจริต จริงใจต่อกัน ความเพียร 9. พระบรมราโชบาย : พระบาทสมเด็จพระเจ้ายู่หัว รัชกาลที่ 10 1. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง – มีคุณธรรม 2. เป็นพลเมืองดี 10. ต้านทุจริตศึกษา หน่วยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 4. อภิปรายถึงความแตกต่างของคำว่า จริยธรรม คุณธรรมและการทุจริต หน่วยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 10. อภิปราย เสวนา สัมมนาเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากความไม่ละอายและการ เพิกเฉยต่อการทุจริต


11. แนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สาระวิชาหลัก(Core Subject) - คณิตศาสตร์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1) ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม - คิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา - การสื่อสารและการร่วมมือ 2) ทักษะด้านสารสนเทศ - ความรู้ด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี 3) ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ - ความยืดหยุ่นและการปรับตัว 4) ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม - ก าร เป็ น ผู้ ส ร้ างห รือ ผู้ ผ ลิ ต (Productivity) แ ล ะ ค ว าม รับ ผิ ด ช อ บ เชื่ อ ถื อ ได้ (Accountability) - ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (Responsibility) 12. ชิ้นงาน/ภาระงาน ชิ้นงาน/ภาระงานระหว่างจัดการเรียนรู้ 1 ใบงานที่ 3.3 เรื่องการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 13. การประเมินผลการเรียนรู้ 1. การประเมินผลระหว่างจัดการเรียนรู้ 1.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 1.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล 1.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2. การประเมินผลหลังจัดการเรียนรู้ 2.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 2.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล


- แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล 2.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ จุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัดและประเมิน เครื่องมือที่ใช้วัดประเมิน เกณฑ์การวัด และประเมิน ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) 1. อธิบายการหา ผลหารของเลขยก กำลังเมื่อชี้กำลังเป็น จำนวนเต็มบวกได้ - ตรวจใบงานที่ 3.3 เรื่อง การหารเลขยกกำลัง เมื่อ เลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม บวก - ใบงานที่ 3.3 เรื่องการหารเลขยก กำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม บวก ได้คะแนน ร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนมีความสามารถ (P) 1. เขียนแสดงขั้นตอน การหาผลหารของเลข ยกกำลังเมื่อชี้กำลัง เป็นจำนวนเต็มบวก ได้ - สังเกตพฤติกรรมด้าน ทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรมด้านทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนมี (A) 1. มีวินัย : ปฏิบัติ ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน - สังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมระหว่างเรียน - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ใฝ่เรียนรู้ : ตั้งใจ เพียรพยายามในการ เรียนและเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์: นักเรียนมี(A) 1. มีความมุมานะใน การทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ - สังเกตการณ์ทำตัวอย่าง การซักถาม และการ แสดงความคิดเห็น - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน


14. กระบวนการจัดการเรียนรู้ คาบที่ 1 (รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Concept Based Teaching) ขั้นที่ 1 การใช้ความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ 1.ครูตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้แสดงความรู้เดิมเกี่ยวกับการคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลัง เป็นจำนวนเต็มบวก จากการเล่นเกมตอบคำถาม จากเว็บไซต์ kahoot.it เรื่อง การคูณเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้ กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ดังนี้ 2. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการเล่นเกม เพื่อสร้างความรู้เกี่ยวกับการหาผลคูณของเลขยก กำลัง ให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้น ขั้นที่ 2 รู้และเข้าใจ 1. ครูยกตัวอย่างการหาผลหารของเลขยกก าลัง 7 4 5 5 ในหนังสือเรียน หน้า 118 บนกระดาน พร้อมกับถามค าถาม ดังนี้ 5 7 เขียนในรูปการคูณของฐานเป็นจ านวนซ ้า ๆ กันได้อย่างไร (แนวตอบ 5 5 5 5 5 5 5) 5 4 เขียนในรูปการคูณของฐานเป็นจ านวนซ ้า ๆ กันได้อย่างไร (แนวตอบ 5 5 5 5) 7 4 5 5 เขียนในรูปการคูณของฐานเป็นจ านวนซ ้า ๆ กันได้อย่างไร (แนวตอบ 5555555 5555 )


7 4 5 5 เขียนในรูปเลขยกก าลังได้อย่างไร (แนวตอบ 5 3 ) 2. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ในหนังสือ หน้า 118 - 120 2. เมื่อครูยกตัวอย่าง จะมีการถาม-ตอบ ให้ตอบตามความสมัครใจของนักเรียน หากมีนักเรียนที่ไม่ ค่อยตอบ จึงจะใช้วิธีการสุ่มให้ทั่วถึง และบวกแต้มให้นักเรียนที่มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อเป็นการ กระตุ้นความสนใจและการเสริมแรงทางบวกแก่นักเรียน 3. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาตัวอย่างที่ 7 ในหนังสือเรียน หน้า 120 - 121 4. ให้นักเรียนจับคู่กัน แล้วทำ “ลองทำดู” ในหนังสือเรียน หน้า 121 พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบ โดยทำลงในสมุดของตนเอง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบ “ลองทำดู” คาบที่ 2


5. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาตัวอย่าง และ ตัวอย่างที่ 9 ในหนังสือเรียน หน้า 122 – 123 6. เมื่อครูยกตัวอย่าง จะมีการถาม-ตอบ ให้ตอบตามความสมัครใจของนักเรียน หากมีนักเรียนที่ไม่ ค่อยตอบ จึงจะใช้วิธีการสุ่มให้ทั่วถึง และบวกแต้มให้นักเรียนที่มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อเป็นการ กระตุ้นความสนใจและการเสริมแรงทางบวกแก่นักเรียน ขั้นที่ 3 ลงมือทำ 1. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 3.3 เรื่องการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก โดยมี ครูคอยให้คำปรึกษาและสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกทักษะของนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนออกมาเฉลยใบงานที่ 3.3 เรื่องการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก หน้าชั้นเรียน ให้ออกมาตามความสมัครใจของนักเรียน และบวกแต้มให้นักเรียนที่ออกมาเฉลยหน้าชั้นเรียน


ขั้นที่ 4 สรุป ครูถามคำถามเพื่อสรุปความรู้รวบยอดของนักเรียนและให้นักเรียนจดลงในสมุด ดังนี้ ถ้ากำหนดให้ a, b แทนจำนวนใด ๆ ที่ b 0 และ m, n, k แทนจำนวนเต็มบวก แล้ว 1) a m a n โดยที่ a 0 มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ a m - n ) 2) เมื่อ m = n แล้ว a m a n มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ 1) 3) เมื่อ m < n แล้ว a m a n มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ m 1 a หรือ a -m ) 4) m m a b มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ m a b ) 5) k m n a b มีค่าเท่ากับเท่าไร (แนวตอบ เท่ากับ m k n k a b ) 15. สื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ 15.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) ใบงานที่ 3.3 เรื่องการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 15.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อินเตอร์เน็ต


ใบงานที่ 3.3 เรื่อง การหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามแต่ละข้อต่อไปนี้ 1. จงเขียนผลหารของจำนวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกกำลังและมีเลขชี้กำลังเป็นบวก 1) 3 9 9 = ............................................... 2) − − 8 2 7 7 = ............................................... 3) 2 2 6 11 = ............................................... 4) 3 6 4 4 = ............................................... 5) 5 2 7 2 3 = ............................................... 2. จงทำให้อยู่ในรูปอย่างง่าย 4 2 3 10 15 = ............................................................................................ = ............................................................................................ = ............................................................................................ = ............................................................................................ = .........................................................................................


ใบงานที่ 3.3 เรื่อง การหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามแต่ละข้อต่อไปนี้ 1. จงเขียนผลหารของจำนวนต่อไปนี้ในรูปเลขยกกำลังและมีเลขชี้กำลังเป็นบวก 1) 3 9 9 = ............................................... 2) −8 2 7 7 = ............................................... 3) 2 2 6 11 = ............................................... 4) 3 6 4 4 = ............................................... 5) 5 2 7 2 3 = ............................................... 2. จงทำให้อยู่ในรูปอย่างง่าย 4 2 3 10 15 = ............................................................................................ = ............................................................................................ = ............................................................................................ = ............................................................................................ = ............................................................................................ เฉลย 9 2 −10 1 7 2 6 113 1 4 10 35 2 3 2 4 3 4 10 15 8 12 10 15 ( ) ( ) 8 12 2 5 3 5 8 8 12 12 2 5 3 5 8 12 4 2 3 5


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 22 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เลขยกกำลัง เรื่อง การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ รายวิชา คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 2 คาบ (1 ชั่วโมง 40 นาที) ผู้จัดการเรียนรู้ นางสาวธนัฏฐา คุณสุข โรงเรียนเบญจมานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 1. เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวนผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ม.1/2 เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกในการแก้ปัญหา คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) อธิบายความหมายของจำนวนที่มีค่ามาก ๆ หรือทศนิยมที่มีค่าน้อย ๆ ในรูปสัญกรณ์ วิทยาศาสตร์ได้ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนสามารถด้าน (P) ใช้ความรู้ ทักษะ กระบวการทางคณิตศาสตร์ในการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์(A) มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การเขียนจำนวนที่มีค่ามาก ๆ หรือทศนิยมที่มีค่าน้อยๆ บางครั้งอาจไม่สะดวกในการนำจำนวน เหล่านั้นไปใช้ในการคำนวณ ดังนั้นเพื่อสะดวกในการคำนวณ เราจะเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ คือ จำนวนที่เขียนอยู่ในรูป A 10n เมื่อ 1 A < 10 และ n เป็นจำนวนเต็ม 3. สาระการเรียนรู้แกนกลาง - เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก 4. สาระการเรียนร้ทู้องถิ่น -


5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการเชื่อมโยง 3) ทักษะการให้เหตุผล 4) ทักษะการตีความ 5) ทักษะการพิสูจน์ความจริง 5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย : ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน 6.2 ใฝ่เรียนรู้: ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 7. ค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ 7.1 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 7.2 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 7.3 มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ 8. ศาสตร์พระราชา : พระบาทสมเด ็ จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร หลักการทรงงาน การมีส่วนร่วม การพึ่งตนเอง ความซื่อสัตย์สุจริต จริงใจต่อกัน ความเพียร 9. พระบรมราโชบาย : พระบาทสมเด็จพระเจ้ายู่หัว รัชกาลที่ 10 1. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง – มีคุณธรรม 2. เป็นพลเมืองดี 10. ต้านทุจริตศึกษา หน่วยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 4. อภิปรายถึงความแตกต่างของคำว่า จริยธรรม คุณธรรมและการทุจริต หน่วยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 11. อภิปราย เสวนา สัมมนาเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากความไม่ละอายและการ


เพิกเฉยต่อการทุจริต 11. แนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สาระวิชาหลัก(Core Subject) - คณิตศาสตร์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1) ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม - คิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา - การสื่อสารและการร่วมมือ 2) ทักษะด้านสารสนเทศ - ความรู้ด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี 3) ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ - ความยืดหยุ่นและการปรับตัว 4) ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม - ก าร เป็ น ผู้ ส ร้ างห รือ ผู้ ผ ลิ ต (Productivity) แ ล ะ ค ว าม รับ ผิ ด ช อ บ เชื่ อ ถื อ ได้ (Accountability) - ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (Responsibility) 12. ชิ้นงาน/ภาระงาน ชิ้นงาน/ภาระงานระหว่างจัดการเรียนรู้ 1 ใบงานที่ 3.4 เรื่องการเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ 13. การประเมินผลการเรียนรู้ 1. การประเมินผลระหว่างจัดการเรียนรู้ 1.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 1.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล 1.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2. การประเมินผลหลังจัดการเรียนรู้ 2.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล


2.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล 2.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ จุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัดและประเมิน เครื่องมือที่ใช้วัดประเมิน เกณฑ์การวัด และประเมิน ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) 1. อธิบายความ หมายของจำนวนที่มี ค่ามาก ๆ หรือ ทศนิยมที่มีค่าน้อย ๆ ในรูปสัญกรณ์ วิทยาศาสตร์ได้ - ตรวจใบงานที่ 3.4 เรื่อง การเขียนจำนวนในรูปสัญ กรณ์วิทยาศาสตร์ - ใบงานที่ 3.4 เรื่องการเขียนจำนวน ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ ได้คะแนน ร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนมีความสามารถ (P) 1. ใช้ความรู้ ทักษะ กระบวการทาง คณิตศาสตร์ในการ แก้ปัญหาได้อย่าง เหมาะสม - สังเกตพฤติกรรมด้าน ทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรมด้านทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนมี (A) 1. มีวินัย : ปฏิบัติ ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน - สังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมระหว่างเรียน - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ใฝ่เรียนรู้ : ตั้งใจ เพียรพยายามในการ เรียนและเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์: นักเรียนมี(A)


จุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัดและประเมิน เครื่องมือที่ใช้วัดประเมิน เกณฑ์การวัด และประเมิน 1. มีความมุมานะใน การทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ - สังเกตการณ์ทำตัวอย่าง การซักถาม และการ แสดงความคิดเห็น - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 14. กระบวนการจัดการเรียนรู้ คาบที่ 1 (รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Concept Based Teaching) ขั้นที่ 1 การใช้ความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ 1.ครูตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้แสดงความรู้เดิมเกี่ยวกับการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลัง เป็นจำนวนเต็มบวก จากการเล่นเกมตอบคำถาม จากเว็บไซต์ kahoot.it เรื่องการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้ กำลังเป็นจำนวนเต็มบวก ดังนี้ 2. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเกี่ยวกับการเล่นเกม เพื่อสร้างความรู้เกี่ยวกับการหาผลหารของเลขยก กำลัง ให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้น


ขั้นที่ 2 รู้และเข้าใจ 1. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาการเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ในหนังสือ หน้า 126 – 130 ดังนี้ 2. เมื่อครูยกตัวอย่าง จะมีการถาม-ตอบ ให้ตอบตามความสมัครใจของนักเรียน หากมีนักเรียนที่ไม่ค่อยตอบ จึงจะ ใช้วิธีการสุ่มให้ทั่วถึง และบวกแต้มให้นักเรียนที่มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจ และการเสริมแรงทางบวกแก่นักเรียน คาบที่ 2 ขั้นที่ 3 ลงมือทำ 1. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 3.4 เรื่องการเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์โดยมีครูคอยให้ คำปรึกษาและสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกทักษะของนักเรียน


2. ครูให้นักเรียนออกมาเฉลยใบงานที่ 3.4 เรื่องการเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์หน้าชั้น เรียน ให้ออกมาตามความสมัครใจของนักเรียน และบวกแต้มให้นักเรียนที่ออกมาเฉลยหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 4 สรุป ครูถามคำถามเพื่อสรุปความรู้รวบยอดของนักเรียนและให้นักเรียนจดลงในสมุด ดังนี้ 1) จำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ คือ (แนวตอบ จำนวนที่เขียนอยู่ในรูป A 10n เมื่อ 1 A < 10 และ n เป็นจำนวนเต็ม) 2) การเขียนจำนวนที่มีค่ามาก ๆ ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ เป็นอย่างไร (แนวตอบ เลขชี้กำลังของฐาน 10 จะเป็นจำนวนเต็มบวก ที่มีค่าน้อยกว่าจำนวนหลักของ ส่วนที่เป็นจำนวนเต็มอยู่ 1 ค่า) 3) การเขียนจำนวนที่มีค่าน้อย ๆ ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ เป็นอย่างไร (แนวตอบ เลขชี้กำลังของฐาน 10 จะเป็นจำนวนเต็มลบ ที่มีค่าสัมบูรณ์มากกว่าจำนวนของ ศูนย์หลังจุดทศนิยมอยู่ 1 ค่า) 15. สื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ 15.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) ใบงานที่ 3.4 เรื่องการเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ 15.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อินเตอร์เน็ต


ใบงานที่ 3.4 เรื่อง การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามแต่ละข้อต่อไปนี้ 1. จงเขียนจำนวนต่อไปนี้ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ 1) 1,023,000 = ............................................... 2) 48,000,000 = ............................................... 3) 0.00193 = ............................................... 4) 0.0000001 = ............................................... 5) 999,000,000 = ............................................... 2. จงเขียนจำนวนที่อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ต่อไปนี้ในรูปของจำนวนเต็มหรือทศนิยม 1) 4.62 104 = ............................................... 2) 1.47 10-2 = ............................................... 3) 3.99 10-6 = ............................................... 3. จงเขียนจำนวนต่อไปนี้ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ 1) 2 6 1.5 10 3 10 = ............................................... 2) 3 4 128 10 6.4 10 = ...............................................


ใบงานที่ 3.4 เรื่อง การเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถามแต่ละข้อต่อไปนี้ 1. จงเขียนจำนวนต่อไปนี้ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ 1) 1,023,000 = ............................................... 2) 48,000,000 = ............................................... 3) 0.00193 = ............................................... 4) 0.0000001 = ............................................... 5) 999,000,000 = ............................................... 2. จงเขียนจำนวนที่อยู่ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ต่อไปนี้ในรูปของจำนวนเต็มหรือทศนิยม 1) 4.62 104 = ............................................... 2) 1.47 10-2 = ............................................... 3) 3.99 10-6 = ............................................... 3. จงเขียนจำนวนต่อไปนี้ในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ 1) 2 6 1.5 10 3 10 = ............................................... 2) 3 4 128 10 6.4 10 = ............................................... เฉลย 1.023 106 4.8 107 1.93 10-3 1 10-7 9.99 108 46,200 0.0147 0.00000399 3 10-5 2 106


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 23 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เลขยกกำลัง เรื่อง การนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง รายวิชา คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 2 คาบ (1 ชั่วโมง 40 นาที) ผู้จัดการเรียนรู้ นางสาวธนัฏฐา คุณสุบ โรงเรียนเบญจมานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 1. เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวนผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ม.1/2 เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็มบวกในการแก้ปัญหา คณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) อธิบายการนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้แก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนสามารถด้าน (P) เขียนแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เกี่ยวกับเลขยกกำลังได้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์(A) มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด ในชีวิตประจำวันเราได้พบเห็นเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับจำนวนที่อยู่ในรูปเลขยกกำลัง อยู่เสมอ เช่น การคิดอัตราดอกเบี้ยทบต้น ความเร็วของการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อความ รวดเร็วในการคำนวณเราจึงต้องอาศัยสมบัติของเลขยกกำลังและการเขียนจำนวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ มาช่วย 3. สาระการเรียนรู้แกนกลาง - การนำความรู้เกี่ยวกับบจำนวนเต็ม จำนวนตรรกยะ และเลขยกกำลังไปใช้ในการแก้ปัญหา 4. สาระการเรียนร้ทู้องถิ่น -


5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการเชื่อมโยง 3) ทักษะการให้เหตุผล 4) ทักษะการตีความ 5) ทักษะการพิสูจน์ความจริง 5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย : ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน 6.2 ใฝ่เรียนรู้: ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 7. ค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ 7.1 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 7.2 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 7.3 มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ 8. ศาสตร์พระราชา : พระบาทสมเด ็ จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร หลักการทรงงาน การมีส่วนร่วม การพึ่งตนเอง ความซื่อสัตย์สุจริต จริงใจต่อกัน ความเพียร 9. พระบรมราโชบาย : พระบาทสมเด็จพระเจ้ายู่หัว รัชกาลที่ 10 1. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง – มีคุณธรรม 2. เป็นพลเมืองดี 10. ต้านทุจริตศึกษา หน่วยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 4. อภิปรายถึงความแตกต่างของคำว่า จริยธรรม คุณธรรมและการทุจริต หน่วยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 1. อภิปราย เสวนา สัมมนาเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากความไม่ละอายและการ


เพิกเฉยต่อการทุจริต 11. แนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สาระวิชาหลัก(Core Subject) - คณิตศาสตร์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1) ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม - คิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา - การสื่อสารและการร่วมมือ 2) ทักษะด้านสารสนเทศ - ความรู้ด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี 3) ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ - ความยืดหยุ่นและการปรับตัว 4) ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม - ก าร เป็ น ผู้ ส ร้ างห รือ ผู้ ผ ลิ ต (Productivity) แ ล ะ ค ว าม รับ ผิ ด ช อ บ เชื่ อ ถื อ ได้ (Accountability) - ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (Responsibility) 12. ชิ้นงาน/ภาระงาน ชิ้นงาน/ภาระงานระหว่างจัดการเรียนรู้ 1 ใบงานที่ 3.5 การนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง 13. การประเมินผลการเรียนรู้ 1. การประเมินผลระหว่างจัดการเรียนรู้ 1.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 1.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล 1.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2. การประเมินผลหลังจัดการเรียนรู้ 2.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 2.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล


- แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล 2.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ จุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัดและประเมิน เครื่องมือที่ใช้วัดประเมิน เกณฑ์การวัด และประเมิน ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) 1. อธิบายการนำ ความรู้เกี่ยวกับเลขยก กำลังไปใช้แก้ปัญหา คณิตศาสตร์และ ปัญหาในชีวิตจริง - ตรวจใบงานที่ 3.5 เรื่อง การนำความรู้เกี่ยวกับเลข ยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง - ใบงานที่ 3.5 เรื่องการนำความรู้ เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง ได้คะแนน ร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนมีความสามารถ (P) 1. เขียนแสดงขั้น ตอนการแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ เกี่ยวกับเลขยกกำลัง ได้ - สังเกตพฤติกรรมด้าน ทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรมด้านทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนมี (A) 1. มีวินัย : ปฏิบัติ ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน - สังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมระหว่างเรียน - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ใฝ่เรียนรู้ : ตั้งใจ เพียรพยายามในการ เรียนและเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์: นักเรียนมี(A) 1. มีความมุมานะใน การทำความเข้าใจ - สังเกตการณ์ทำตัวอย่าง การซักถาม และการ - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ทาง ระดับพอใช้ ขึ้นไป


จุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัดและประเมิน เครื่องมือที่ใช้วัดประเมิน เกณฑ์การวัด และประเมิน และแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ แสดงความคิดเห็น คณิตศาสตร์รายบุคคล ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 14. กระบวนการจัดการเรียนรู้ คาบที่ 1 (รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Concept Based Teaching) ขั้นที่ 1 การใช้ความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ 1. ครูทบทวนสมบัติของการคูณและสมบัติของการหารเลขยกกำลัง เมื่อเลขชี้กำลังเป็นจำนวนเต็ม บวก โดยการถาม - ตอบ ขั้นที่ 2 รู้และเข้าใจ 1. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาการนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง ในหนังสือ หน้า 132 – 134 ดังนี้ 2. ครูจะอธิบายการหาดอกเบี้ยเงินฝาก โดยให้ความรู้แก่นักเรียนเกี่ยวกับความหมายคำที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ - เงินต้น คือ เงินที่เรานำไปฝากสถาบันการเงิน หรือเงินที่เรากู้จากสถาบันการเงิน - ดอกเบี้ย คือ เงินที่สถาบันการเงินต้องจ่ายให้แก่เจ้าของเงินที่นำฝาก หรือเงินที่ผู้กู้ต้องจ่ายให้กับ ผู้ให้กู้


- อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก คือ ผลตอบแทนที่สถาบันการเงิน จ่ายให้กับผู้ฝากเงิน - เงินรวม คือ เงินต้นรวมกับดอกเบี้ย 3. ครูยกตัวอย่างการหาเงินเก็บในแต่ละปีของวารุณีในหนังสือเรียน หน้า 132 โดยครูอธิบาย ขั้นตอนการหาดอกเบี้ยในแต่ละปีอย่างละเอียด และเน้นย้ำว่า เมื่อสิ้นปีที่ 1 เงินต้นและดอกเบี้ยที่ ได้จากสิ้นปีที่ 1 จะเป็นเงินต้นในปีที่ 2 และเมื่อสิ้นปีที่ 2 เงินต้นและดอกเบี้ยที่ได้จากสิ้นปีที่ 2 จะ เป็นเงินต้นในปีที่ 3 เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ เราเรียกการคิดดอกเบี้ยเช่นนี้ว่า “การคิดดอกเบี้ยทบ ต้น” 4. ครูสนทนากับนักเรียนจนได้ข้อสรุปสูตรดอกเบี้ยทบต้น ดังนี้ A = + t r P 1 100 เมื่อ A แทน เงินรวมเมื่อสิ้นปีที่ t P แทน เงินต้น r แทน อัตราดอกเบี้ยต่อปี t แทน ระยะเวลาเป็นปี ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “การหาจำนวนเงินเก็บในแต่ละปีของวารุณี เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการนำ เลขยกกำลังมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา” 5. เมื่อครูยกตัวอย่าง จะมีการถาม-ตอบ ให้ตอบตามความสมัครใจของนักเรียน หากมีนักเรียนที่ไม่ ค่อยตอบ จึงจะใช้วิธีการสุ่มให้ทั่วถึง และบวกแต้มให้นักเรียนที่มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อเป็นการ กระตุ้นความสนใจและการเสริมแรงทางบวกแก่นักเรียน คาบที่ 2 ขั้นที่ 3 ลงมือทำ 1. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 3.5 เรื่องการนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง โดยมีครูคอย ให้คำปรึกษาและสังเกตพฤติกรรมการทำแบบฝึกทักษะของนักเรียน


2. ครูให้นักเรียนออกมาเฉลยใบงานที่ 3.5 เรื่องการนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง หน้าชั้นเรียน ให้ออกมาตามความสมัครใจของนักเรียน และบวกแต้มให้นักเรียนที่ออกมาเฉลยหน้าชั้นเรียน ขั้นที่ 4 สรุป 1. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง ดังนี้ 15. สื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ 15.1 สื่อการเรียนรู้ 1) หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) ใบงานที่ 3.5 เรื่องการการนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง 15.2 แหล่งการเรียนรู้ 1) อินเตอร์เน็ต เลขยกกำลังถูกนำไปใช้ในหลาย ๆ สิ่งอยู่ในชีวิตจริง เช่น การคำนวณหา ดอกเบี้ยเงินฝากต่อปี และการคำนวณอะตอมของธาตุ เป็นต้น


ใบงานที่ 3.5 เรื่อง การนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง คำชี้แจง : จงแสดงวิธีทำ 1. เวลา 1 ไมโครวินาที เท่ากับ 10-6 วินาที จงหาว่า 30 ไมโครวินาที เท่ากับกี่วินาที วิธีทำ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… 2. ถ้า 1 อังสตรอม เท่ากับ 10-10 เมตร และ 1 นาโนเมตร เท่ากับ 10-9 เมตร จงหาว่า 2.1 อังสตรอม เท่ากับกี่นาโนเมตร วิธีทำ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………


ใบงานที่ 3.5 เรื่อง การนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง คำชี้แจง : จงแสดงวิธีทำ 1. เวลา 1 ไมโครวินาที เท่ากับ 10-6 วินาที จงหาว่า 30 ไมโครวินาที เท่ากับกี่วินาที วิธีทำ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… 2. ถ้า 1 อังสตรอม เท่ากับ 10-10 เมตร และ 1 นาโนเมตร เท่ากับ 10-9 เมตร จงหาว่า 2.1 อังสตรอม เท่ากับกี่นาโนเมตร วิธีทำ …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………… เฉลย เวลา 1 ไมโครวินาที เท่ากับ 10-6 วินาที ดังนั้น เวลา 30 ไมโครวินาที เท่ากับ 3 10-5 วินาที เวลา 30 ไมโครวินาที เท่ากับ 30 10-6 = 3 10 10-6 วินาที = 3 10-5 วินาที 1 อังสตรอม เท่ากับ 10-10 เมตร 2.1 อังสตรอม เท่ากับ 2.1 10-10 เมตร แต่ 1 นาโนเมตร เท่ากับ 10-9 เมตร หรือ 10-9 เมตร เท่ากับ 1 นาโนเมตร จึงได้ว่า 2.1 10-10 เมตร เท่ากับ − − 10 9 21 10 10 นาโนเมตร = 2.1 10(-10)-(-9) นาโนเมตร = 2.1 10-1 นาโนเมตร = 0.21 นาโนเมตร ดังนั้น 2.1 อังสตรอม เท่ากับ 0.21 นาโนเมตร


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 มิติสัมพันธ์ของรูปเรขาคณิต เรื่อง หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ รายวิชา คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค21101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 1 คาบ (50 นาที) ผู้จัดการเรียนรู้ นางสาวธนัฏฐา คุณสุช โรงเรียนเบญจมานุสรณ์ จังหวัดจันทบุรี 1. เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง รูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ม.1/2 เข้าใจและใช้ความรู้ทางเรขาคณิตในการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างรูป เรขาคณิตสองมิติและรูปเรขาคณิตสามมิติ จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) อธิบายภาพหน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติที่กำหนดให้ได้ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนสามารถด้าน (P) เขียนภาพหน้าตัดที่เกิดจากการใช้ระนาบตัดรูปเรขาคณิตสามมิติ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์(A) มีความมุมานะในการทำความเข้าใจและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติจะเป็นรูปเรขาคณิตสองมิติ ซึ่งจะได้รูปใดขึ้นอยู่กับชนิดของรูป เรขาคณิตสามมิติและแนวในการตัดรูปเรขาคณิตสามมิตินั้น 3. สาระการเรียนรู้แกนกลาง - หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ 4. สาระการเรียนร้ทู้องถิ่น - 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการสื่อสาร


5.2 ความสามารถในการคิด 1) ทักษะการสังเกต 2) ทักษะการเชื่อมโยง 3) ทักษะการให้เหตุผล 4) ทักษะการตีความ 5) ทักษะการพิสูจน์ความจริง 5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.1 มีวินัย : ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน 6.2 ใฝ่เรียนรู้: ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 7. ค่านิยมพื้นฐาน 12 ประการ 7.1 ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนทั้งทางตรง และทางอ้อม 7.2 มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักการเคารพผู้ใหญ่ 7.3 มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ 8. ศาสตร์พระราชา : พระบาทสมเด ็ จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร หลักการทรงงาน การมีส่วนร่วม การพึ่งตนเอง ความซื่อสัตย์สุจริต จริงใจต่อกัน ความเพียร 9. พระบรมราโชบาย : พระบาทสมเด็จพระเจ้ายู่หัว รัชกาลที่ 10 1. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง – มีคุณธรรม 2. เป็นพลเมืองดี 10. ต้านทุจริตศึกษา หน่วยที่ 1 การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 4. อภิปรายถึงความแตกต่างของคำว่า จริยธรรม คุณธรรมและการทุจริต หน่วยที่ 2 ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต 12. อภิปราย เสวนา สัมมนาเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากความไม่ละอายและการ เพิกเฉยต่อการทุจริต 11. แนวคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21


สาระวิชาหลัก(Core Subject) - คณิตศาสตร์ ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 1) ทักษะด้านการเรียนรู้และนวัตกรรม - คิดอย่างมีวิจารณญาณและการแก้ปัญหา - การสื่อสารและการร่วมมือ 2) ทักษะด้านสารสนเทศ - ความรู้ด้านสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี 3) ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ - ความยืดหยุ่นและการปรับตัว 4) ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม - ก าร เป็ น ผู้ ส ร้ างห รือ ผู้ ผ ลิ ต (Productivity) แ ล ะ ค ว าม รับ ผิ ด ช อ บ เชื่ อ ถื อ ได้ (Accountability) - ภาวะผู้นำและความรับผิดชอบ (Responsibility) 12. ชิ้นงาน/ภาระงาน ชิ้นงาน/ภาระงานระหว่างจัดการเรียนรู้ 1 ใบงานที่ 4.1 หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ 13. การประเมินผลการเรียนรู้ 1. การประเมินผลระหว่างจัดการเรียนรู้ 1.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 1.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล 1.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ 2. การประเมินผลหลังจัดการเรียนรู้ 2.1 วิธีการวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 2.2. เครื่องมือการวัดและประเมินผล - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนรายบุคคล


2.3. เกณฑ์การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมได้ระดับพอใช้ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ จุดประสงค์การ เรียนรู้ วิธีการวัดและประเมิน เครื่องมือที่ใช้วัดประเมิน เกณฑ์การวัด และประเมิน ด้านความรู้ : นักเรียนสามารถ (K) 1. อธิบายภาพหน้า ตัดของรูปเรขาคณิต สามมิติที่กำหนดให้ได้ - ตรวจใบงานที่ 4.1 หน้า ตัดของรูปเรขาคณิตสาม มิติ - ใบงานที่ 4.1 หน้าตัดของรูป เรขาคณิตสามมิติ ได้คะแนน ร้อยละ 60 ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ ด้านทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ : นักเรียนมีความสามารถ (P) 1. เขียนภาพหน้าตัด ที่เกิดจากการใช้ ระนาบตัดรูป เรขาคณิตสามมิติ - สังเกตพฤติกรรมด้าน ทักษะกระบวนการทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล - แบบสังเกตพฤติกรรมด้านทักษะ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนมี (A) 1. มีวินัย : ปฏิบัติ ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน - สังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมระหว่างเรียน - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน 2. ใฝ่เรียนรู้ : ตั้งใจ เพียรพยายามในการ เรียนและเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ทางคณิตศาสตร์: นักเรียนมี(A) 1. มีความมุมานะใน การทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ - สังเกตการณ์ทำตัวอย่าง การซักถาม และการ แสดงความคิดเห็น - แบบสังเกตพฤติกรรมด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ทาง คณิตศาสตร์รายบุคคล ระดับพอใช้ ขึ้นไป ผ่านเกณฑ์ การประเมิน


14. กระบวนการจัดการเรียนรู้ (รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Concept Based Teaching) ขั้นที่ 1 การใช้ความรู้เดิมเชื่อมโยงความรู้ใหม่ 1. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยให้นักเรียนดูภาพหน้าหน่วย จากนั้นครูถามคำถามในหนังสือ เรียน หน้า 140 แล้วให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น 2. ให้นักเรียนศึกษา “ควรรู้ก่อนเรียน” ในหนังสือเรียน หน้า 141 เรื่องชนิดของรูปเรขาคณิตสองมิติ และ รูปเรขาคณิตสามมิติ จากนั้นครูถามคำถาม ดังนี้ 1)รูปเรขาคณิตสองมิติมีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ รูปเรขาคณิตสองมิติ เป็นรูปเรขาคณิตที่มีความกว้างและความยาว สามารถมองได้ เพียง 2 ด้านเท่านั้น) 2)รูปเรขาคณิตสามมิติมีลักษณะอย่างไร (แนวตอบ รูปเรขาคณิตสามมิติ เป็นรูปเรขาคณิตที่มีความกว้าง ความยาวและความสูง (หรือความหนา) ซึ่งสามารถมองได้ 3 ด้าน) 3. ให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างรูปเรขาคณิตสองมิติและรูปเรขาคณิตสามมิติ พร้อมทั้งช่วยกันบอก ลักษณะให้ครูวาดรูปแสดงบนกระดาน (แนวตอบ รูปเรขาคณิตสองมิติ เช่น รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม วงกลม วงรีฯ รูปเรขาคณิตสามมิติ เช่น ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก ทรงกลมฯ)


ขั้นที่ 2 รู้และเข้าใจ 1. นักเรียนและครูร่วมกันศึกษาการนำความรู้เกี่ยวกับเลขยกกำลังไปใช้ในชีวิตจริง ในหนังสือ หน้า 142 – 146 ดังนี้ 2. เมื่อครูยกตัวอย่าง จะมีการถาม-ตอบ ให้ตอบตามความสมัครใจของนักเรียน หากมีนักเรียนที่ไม่ ค่อยตอบ จึงจะใช้วิธีการสุ่มให้ทั่วถึง และบวกแต้มให้นักเรียนที่มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เพื่อเป็นการ กระตุ้นความสนใจและการเสริมแรงทางบวกแก่นักเรียน


Click to View FlipBook Version