คาํ นํา
กรมที่ดินไดกําหนดประเด็นยุทธศาสตรเพื่อการขับเคลื่อนกรมที่ดิน
ไปสูวิสัยทศั นท ว่ี างไว ในประเดน็ ยุทธศาสตรที่ ๔ เปนการขับเคล่ือน
การพัฒนาระบบบรกิ ารประชาชนดวยระบบออนไลนท่ีมีมาตรฐานสากล
ดวยบุคลากรท่มี ขี ดี ความสามารถสงู มีเปาประสงคใหบุคลากรกรมที่ดิน
มคี วามพรอ มและมขี ดี ความสามารถในการปฏบิ ัตงิ าน เพอื่ ใหบริการ
ประชาชนอยางถูกตอง เปนไปดวยความรวดเร็ว โปรงใส โดยการพัฒนา
ศกั ยภาพการปฏิบัติงานดานการบริการประชาชนโดยยึดหลักสมรรถนะ
และบริหารจดั การความรใู หสอดคลอ งกบั ประเด็นยทุ ธศาสตร
สาํ นกั มาตรฐานการทะเบยี นทด่ี ิน จงึ ไดจ ัดทําคูมือการสอบสวน
จดทะเบียนสทิ ธิและนิตกิ รรมเก่ยี วกบั อสังหาริมทรัพยข้ึน เพ่ือใหพนักงาน
เจาหนา ที่ทเี่ ก่ียวขอ งดานการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรม โดยเฉพาะ
ขาราชการทีบ่ รรจใุ หมใ ชในการศกึ ษาและเปนคูมือในการปฏิบัติงาน
สําหรบั การบริการประชาชนในการสอบสวนการจดทะเบียนสทิ ธิและ
นติ กิ รรมของสํานักงานที่ดินตา ง ๆ ท่วั ประเทศ เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ
ในการปฏิบัติราชการและเพิ่มศักยภาพในการใหบริการประชาชน
ตามยุทธศาสตรกรมที่ดินท่ีมีเปาประสงคใหบุคลากรกรมท่ีดินมีขีด
ความสามารถสงู ขนึ้ ในการปฏบิ ัติงาน และบริการประชาชนอยางถูกตอง
รวดเรว็ โปรง ใส
กรมทด่ี นิ จงึ หวังเปนอยางยิ่งวา คมู อื การสอบสวนจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยเลมนี้จะอํานวยประโยชนให
พนกั งานเจา หนา ท่นี ําไปใชป ฏิบตั ิงานดานการสอบสวนจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมและเพ่ือศึกษาหาความรู สามารถนําไปสูก ารปฏิบัติงาน
ไดอยา งมีประสทิ ธภิ าพ ถกู ตอ ง สะดวก รวดเร็ว
กรมทีด่ นิ
สํานกั มาตรฐานการทะเบยี นทด่ี นิ
สงิ หาคม ๒๕๖๑
ก
สารบญั
เรอื่ ง หนา
๑. ความรเู กี่ยวกับท่ดี ิน และหลกั การทะเบียนทีด่ นิ ๑
- ประเภทของหนงั สอื แสดงสทิ ธิในที่ดิน
- ความสาํ คัญของการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรมเกีย่ วกับ ๑
อสังหารมิ ทรพั ย ๒
- หลกั การทะเบียนทดี่ นิ และความเปน มาของการจดทะเบียน ๔
๒. กระบวนการในการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมเก่ียวกบั ๗
อสงั หาริมทรัพย
- ประเภทการจดทะเบียนอสงั หารมิ ทรัพยต อพนักงานเจาหนาที่ ๗
- สถานท่จี ดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมเกี่ยวกับอสงั หารมิ ทรพั ย ๘
- พนักงานเจา หนาท่ีในการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมเกย่ี วกบั
อสงั หารมิ ทรพั ย ๙
- การแตงตง้ั พนักงานเจาหนาที่ ๑๐
- อาํ นาจหนาทแ่ี ละทุนทรพั ยในการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรม ๑๐
ของเจาพนกั งานทด่ี ิน
- การจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมเกีย่ วกับอสงั หารมิ ทรพั ย ๑๔
๓. หลกั กฎหมายทีเ่ กี่ยวขอ งกับการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรม
ชุดประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย ๓๗
- ความหมายและลกั ษณะของนติ กิ รรม ๓๗
- องคป ระกอบของนิตกิ รรม ๓๘
- การสอบสวนสทิ ธิและความสามารถของคสู ัญญา ๓๙
ข
เรือ่ ง หนา
- ความแตกตา งระหวา งโมฆะกรรมกบั โมฆียะกรรม ๔๒
- บคุ คลตามกฎหมาย ๔๒
- บคุ คลซึ่งกฎหมายคุมครองในการใชสทิ ธทิ ํานติ ิกรรม ๔๓
- การทาํ นติ ิกรรมของผูเยาว ๔๓
- ประเภทผแู ทนโดยชอบธรรมของผเู ยาว ๔๗
- การสอบสวนสิทธิและความสามารถของผเู ยาว ๔๗
- แผนภูมกิ ารทํานิติกรรมของผเู ยาว ๔๙
- สรปุ การทํานติ กิ รรมของผเู ยาว ๕๐
- การทํานติ ิกรรมของผูเยาวแ ตล ะประเภทจดทะเบียน ๕๕
- การทาํ นติ ิกรรมของคนไรค วามสามารถ ๖๔
- อาํ นาจในการทํานติ ิกรรมของผอู นบุ าลเก่ยี วกบั ทรพั ยสนิ
ของผูไ รค วามสามารถ ๖๕
- แผนภูมิการทาํ นิติกรรมของคนไรความสามารถ ๖๘
- สรุปการทาํ นิติกรรมของคนไรค วามสามารถ ๖๙
- การทาํ นติ ิกรรมของคนไรค วามสามารถแตล ะประเภทจดทะเบียน ๗๕
- ความสามารถในการทาํ นติ ิกรรมของคนเสมอื นไรความสามารถ ๘๔
- แผนภมู ิการทํานิติกรรมของคนเสมือนไรค วามสามารถ ๘๖
- สรปุ การทํานิตกิ รรมของคนเสมือนไรค วามสามารถ ๘๗
- การทํานิติกรรมของคนเสมือนไรความสามารถแตละ
ประเภทจดทะเบยี น ๙๐
- การทาํ นิตกิ รรมของนติ บิ คุ คล ๙๗
- ประเภทของนิตบิ ุคคล ๙๗
- สทิ ธิและหนาที่ของนติ บิ คุ คล ๑๐๐
ค
เร่อื ง หนา
- การจดั การนิตบิ ุคคล ๑๐๐
- การสอบสวนสิทธิและความสามารถของนิตบิ ุคคล ๑๐๒
- ประเภท/ผูแทน และการดาํ เนนิ การของนิติบคุ คล
แตล ะประเภท ๑๐๓
- ความหมาย และประเภทของวัด ๑๐๙
- ทีด่ ินของวดั ๑๐๙
- การทาํ นิติกรรมเกี่ยวกับทดี่ นิ ของวัด ๑๐๙
- ผูแ ทนของวัด ๑๑๑
- การทํานิตกิ รรมเกีย่ วกบั ทดี่ นิ ของวดั แตล ะประเภทจดทะเบยี น ๑๑๒
๔. บทบาทและหนา ที่ของนักวชิ าการทดี่ นิ ในการจดทะเบยี น
สิทธแิ ละนติ กิ รรม ๑๒๒
๕. สรุประยะเวลาดําเนนิ การแลวเสรจ็ แตล ะกระบวนงาน
ตามคมู ือสําหรบั ประชาชน ๑๒๗
๖. ประเภทการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรม
- การจดทะเบยี นประเภทขาย ๑๓๑
- การจดทะเบยี นประเภทขายฝาก ๑๖๕
- การจดทะเบยี นประเภทให ๑๘๓
- การจดทะเบยี นประเภทกรรมสทิ ธริ์ วม ๑๙๕
- การจดทะเบยี นสทิ ธิเก่ยี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ยซ ่ึงไดมา
โดยทางมรดก ๒๐๑
- การจดทะเบียนประเภทจํานอง ๒๑๑
- การจดทะเบยี นประเภทเชา ๒๓๕
- การจดทะเบียนประเภทภาระจาํ ยอม ๒๔๗
ง
เร่ือง หนา
- การจดทะเบยี นประเภทสทิ ธเิ ก็บกนิ ๒๕๓
- การจดทะเบียนประเภทสทิ ธิเหนือพื้นดิน ๒๕๗
- การจดทะเบียนประเภทสทิ ธอิ าศัย ๒๕๙
- การจดทะเบยี นประเภทภาระติดพันในอสังหาริมทรพั ย ๒๖๓
- การจดทะเบยี นประเภทบรรยายสวน ๒๖๗
- การจดทะเบียนประเภทหา มโอน ๒๗๑
- การจดทะเบียนประเภทบรุ ิมสทิ ธิ ๒๗๗
- การจดทะเบียนแลกเปลีย่ น ๒๘๑
- การจดทะเบียนโอนชําระคาหุน ๒๘๓
- การจดทะเบียนโอนใหตัวการ ๒๘๕
- การจดทะเบียนในหนังสอื แสดงสิทธใิ นทีด่ ินทม่ี กี ารหามโอน
ทีด่ นิ ทีผ่ มู สี ทิ ธิในทีด่ ินไดร ับมาตามกฎหมาย ๒๘๙
- การจดทะเบยี นลงชือ่ คสู มรส ๒๙๙
- การจดทะเบยี นแบง ทรพั ยสนิ ระหวางคูสมรส ๓๐๑
- การจดทะเบยี นแบง คนื ทรพั ยส ินของหางหนุ สวนหรอื
บรษิ ัทใหผเู ปน หุน สวนหรือผถู ือหุน ๓๐๕
- การจดทะเบียนโอนตามกฎหมาย ๓๐๗
- การจดทะเบียนโอนตามคําสัง่ ศาล ๓๑๗
- การจดทะเบยี นโอนจากสขุ าภบิ าลเปนของเทศบาล ๓๑๙
- การจดทะเบยี นโอนเปนท่ีสารณประโยชนและแบง หกั
เปน ทสี่ าธารณประโยชน ๓๒๑
- การจดทะเบียนเวนคืน ๓๓๑
- การจดทะเบียนผูปกครองทรพั ย ๓๓๙
จ
เร่อื ง หนา
- การจดทะเบียนไดม าโดยการครอบครองตามประมวล ๓๔๓
กฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๑๓๖๗ ๓๔๙
- การจดทะเบียนไดม าโดยการครอบครองตามประมวล ๓๕๕
กฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๑๓๘๒ ๓๙๙
- การสอบเขต แบง แยก และรวมโฉนด ๔๐๗
- การมอบอํานาจ
- การอายดั ท่ีดนิ ๔๒๕
๔๒๙
ภาคผนวก
๔๗๗
คมู อื และระเบยี บกรมท่ดี ินทเ่ี กี่ยวขอ งกับการจดทะเบียน
สทิ ธิและนิติกรรม
กฎหมายท่ีเกี่ยวของกับการเรียกเก็บคาธรรมเนียม
ภาษีเงินไดหกั ณ ที่จา ย ภาษธี ุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป
ในหนา ท่ีของพนักงานเจา หนา ทตี่ ามประมวลกฎหมายที่ดนิ
- คาธรรมเนยี ม
- ภาษเี งนิ ได หกั ณ ทีจ่ า ย
- ภาษีธุรกจิ เฉพาะ
- อากรแสตมป
คาธรรมเนียม ภาษีอากร ตามประเภทการจดทะเบียน
.........................................
ความรูเ กีย่ วกบั ที่ดิน และหลักการทะเบยี นทดี่ ิน
๑. ประเภทของหนงั สือแสดงสิทธิในทด่ี ิน
เมื่อประมวลกฎหมายที่ดินใหความหมายคําวา สิทธิในที่ดิน
หมายถงึ กรรมสิทธิ์และสทิ ธคิ รอบครอง จึงแบงประเภทของหนังสือแสดงสิทธิ
ในที่ดินได ดังนี้
๑.๑ หนงั สอื สาํ คัญแสดงกรรมสิทธิใ์ นทดี่ นิ
โฉนดทีด่ ิน มาตรา ๑ แหงประมวลกฎหมายทีด่ ินให
ความหมายไววา “โฉนดท่ีดิน” หมายความวา หนังสือแสดงกรรมสิทธ์ิท่ีดิน
และหมายความรวมถึง โฉนดแผนท่ี โฉนดตราจอง และตราจองที่ตราวา
“ไดทําประโยชนแ ลว ”
๑.๒ หนังสอื สาํ คญั แสดงสทิ ธิครอบครอง
๑.๒.๑ ใบจอง (น.ส. ๒)
๑.๒.๒ หนังสอื รับรองการทําประโยชน
(๑) น.ส. ๓
(๒) น.ส. ๓ ก.
(๓) น.ส. ๓ ข.
(๔) แบบหมายเลข ๓ ออกตามกฎกระทรวง
เกษตราธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติออกโฉนดทีด่ ิน (ฉบับที่ ๖)
พ.ศ. ๒๔๗๙ และตองแจงการครอบครองทีด่ ิน (ส.ค. ๑) ตอนายอําเภอ
ตามมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติใหใ ชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ดวย
และออกตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญตั ิใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
2
๒. ความสาํ คัญของการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรมเกีย่ วกบั อสังหาริมทรัพย
๒.๑ การไดม าซึง่ อสังหาริมทรพั ย
ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๒๙๙
บญั ญัตถิ งึ การไดมาซ่ึงอสงั หาริมทรัพยหรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย
แบงออกเปน ๒ กรณี คอื
๑) การไดมาโดยนิติกรรม หมายความวา การไดมาซึ่ง
อสังหาริมทรัพยหรือทรัพยสิทธิอันเกีย่ วกับอสังหาริมทรัพยโดยการทํานิติกรรม
ซึ่งจะสมบูรณเพียงใดแคไหนยอมแลวแตบทบัญญัติของกฎหมายในเรือ่ งนัน้ ๆ
บัญญตั ไิ วโ ดยเฉพาะ เชน การซ้อื ขายอสังหาริมทรพั ย การจํานอง จะตอง
ทาํ เปน หนังสือและจดทะเบยี นตอ พนักงานเจาหนาท่ีตามท่ีบัญญัติไวในประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๔๕๖ และมาตรา ๗๑๔ ตามลําดับ
มิฉะนั้นเปนโมฆะ นอกจากน้ี การไดมาโดยนิติกรรมซึ่งอสังหาริมทรัพยหรือ
ทรัพยสทิ ธิอันเกย่ี วกบั อสงั หาริมทรัพย ถาไมทําเปนหนังสือและจดทะเบียน
ตอพนักงานเจาหนาที่ยอมไมบริบูรณ ตามที่บัญญัติไวในวรรคแรกของ
มาตรา ๑๒๙๙ เชน การไดมาซึง่ ทรัพยสิทธิตาง ๆ ในบรรพ ๔ (ภาระจํายอม
สิทธิอาศัย สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน ภารติดพันในอสังหาริมทรัพย)
เปน ตน
๒) การไดม าโดยทางอนื่ นอกจากนิติกรรม หมายความวา
การไดมาซึ่งอสังหาริมทรัพยหรือทรัพยสิทธิอันเกีย่ วกับอสังหาริมทรัพย โดยผล
ของกฎหมาย โดยคําพิพากษาของศาล และโดยการรับมรดก ถายังมิได
จดทะเบียนจะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนมิได และจะยกขึ้นเปนขอตอสู
บุคคลภายนอกผูไดสิทธิมาโดยเสียคาตอบแทนและโดยสุจริต และได
จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแลวมิได ท้ังนี้ ดังทีบ่ ัญญัติไวในวรรคทายของ
มาตรา ๑๒๙๙ เชน การไดมาโดยการครอบครองปรปกษ ตามมาตรา
๑๓๘๒ เปนตน
3
๒.๒ แบบแหง นติ ิกรรม
แบบแหงนิติกรรมที่ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
กําหนดไว แยกไดเ ปน ๕ ประเภท คอื
๑) แบบทาํ เปน หนังสอื และจดทะเบยี นตอ พนกั งานเจา หนา ท่ี
ถา ไมทําจะเปน โมฆะทันทไี มมีผลบังคับตามกฎหมายแตอยางใด เชน การทํา
สัญญาซ้อื ขายอสังหาริมทรัพยห รอื สงั หารมิ ทรัพยพเิ ศษ ขายฝาก แลกเปลี่ยน
จาํ นอง ใหอ สังหารมิ ทรพั ย เปน ตน
๒) แบบตอ งจดทะเบียนตอ พนักงานเจา หนาท่ี ประเภทน้ี
กฎหมายไมไดบ ังคับวา ตองทาํ เปนหนังสอื แตบ งั คบั ใหจดทะเบียนตอ พนักงาน
เจาหนาท่ี เชน จดทะเบยี นหางหนุ สว นสามัญ จดทะเบยี นหา งหุนสวนจํากัด
จดทะเบียนหนังสอื บริคณหสนธิ การจดทะเบยี นบริษัท การจดทะเบยี นสมรส
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม เปน ตน
๓) แบบตองทาํ เปน หนังสอื ตอพนกั งานเจาหนาท่ี กรณีนี้
แมจ ะตองทําเปน หนังสอื ตอ หนาพนกั งานเจา หนา ทแ่ี ตก ็มไิ ดมกี ฎหมายบงั คบั
วา จะตอ งจดทะเบียนแตอยา งใด เชน การทําพนิ ัยกรรมแบบเอกสารฝายเมอื ง
หรือเอกสารลับ เปนตน
๔) แบบตองทาํ เปน หนงั สอื ระหวา งกันเอง คอื เปนกรณี
ที่ผทู ํานิตกิ รรมจะตองทําเปนหนังสือกันเอง เพื่อไมใหการแสดงเจตนาน้ัน
เปน การเลอ่ื นลอยจนเกินไป ไมจ าํ เปน ตอ งใหพนกั งานเจาหนาท่รี ับรูเปนเพียง
เกีย่ วของกันเฉพาะระหวางคูสญั ญาเทานัน้ เชน การทาํ สัญญาเชาซ้ือ การรับ
สภาพหน้ี ต๋ัวเงิน การโอนหุน การโอนหน้ี สัญญาหยาโดยความยินยอม
เปน ตน
๕) แบบอน่ื ๆ ตามท่ีกฎหมายกาํ หนด กลาวคือ เปนแบบ
เฉพาะตามท่ีกฎหมายกําหนดเปน เรือ่ ง ๆ ไป ตา งไปจากนิตกิ รรม ๔ แบบ
ดังกลา วขางตน แตเ ปนนติ ิกรรมท่ีกฎหมายกําหนดไวเปนพิเศษ เชน เช็ค
ตอ งมีรายการตามทก่ี ฎหมายกาํ หนดไว ตั๋วสัญญาใชเงินตองมีรายการระบุไว
มฉิ ะน้นั จะเปนเช็คและตว๋ั สญั ญาใชเ งินไมสมบรู ณ เปน ตน
4
๓. หลักการทะเบียนที่ดินและความเปนมาของการจดทะเบยี น
๓.๑ ประวตั คิ วามเปน มาของหลกั การทะเบยี นทด่ี นิ ในประเทศไทย
ระบบทะเบียนท่ีดินตาง ๆ สําหรับประเทศไทยเร่ิมในสมัย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาอยูหัว (รัชกาลที่ ๕) โดยไดนําระบบ
ทะเบียนแบบทอรเรนส (Torrens System) ของเซอรโรเบิต ทอเรนส
ชาวองั กฤษ มาใช ระบบทะเบียนท่ีดินแบบทอรเรนส ถือตัวทะเบียนเปนหลัก
ในการแสดงสิทธิในทีด่ ิน โดยจัดทําทะเบียนท่ีดินเปนรายแปลง รัฐรับรองสิทธิ
ของเจาของที่ดินและออกหนังสือแสดงสิทธิในทีด่ ินเปนฉบับสํานักงานทีด่ ินโดย
ถอื เปน ตัวทะเบียน และใหเจาของที่ดนิ หน่ึงฉบับ การสง ตอ กรรมสิทธิ์โดยวิธี
การจดทะเบียนหลังหนังสือแสดงสิทธิในทีด่ ินทัง้ ฉบับสํานักงานที่ดินและ
ฉบบั เจาของที่ดนิ กอ นจึงจะมีผลบงั คับได
๓.๒ หลกั การ และลักษณะทะเบียนที่ดิน
หลักการทะเบียนที่ดิน หมายถึง การจดบันทึกเพื่อให
ทราบประวัติความเปนมา ความเปล่ียนแปลงของท่ีดินแปลงน้ัน ๆ ในหนังสือ
แสดงสิทธิในทีด่ ิน ไดแก โฉนดท่ีดิน หนังสือรับรองการทําประโยชน ใบจอง
ใบไตส วน เปนตน
ลักษณะทะเบียนทีด่ นิ ตามหลกั การทะเบยี นที่ดนิ มีดังน้ี
๑) เปน หลักประกันมั่นคง ยากตอ การสบื หกั ลาง
๒) มลี ักษณะเขาใจงาย ดจู ากโฉนดที่ดินยอมเขาใจได
๓) หลกั ฐานและรายการเปลย่ี นแปลงทางทะเบยี นจะตอ ง
ถกู ตอ งแนน อน
๔) คาใชจายในการดําเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนมือ
จะตองถูกไมแ พงจนเกินไป
๕) วิธีดาํ เนินการจะตอ งรวดเร็ว เหมาะสมตอเหตุการณ
๓.๓ สาเหตทุ ตี่ อ งมีการจดทะเบียน
๑) กฎหมายบังคับ ถาไมจดทะเบียนเปนโมฆะ หรือไม
บริบรู ณ เชน การซอื้ ขายอสงั หาริมทรัพย
5
การจดทะเบยี นใหป ระกาศมกี ําหนด ๓๐ วัน และใหแยกประกาศ
เปนเรือ่ ง ๆ ไป
- การจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับท่ีดิน
ท่ียังไมม โี ฉนดทดี่ นิ ใบไตสวน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
ตามแบบ น.ส. ๓ ก. หรือเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยอยางอื่นในท่ีดินดังกลาว
หรอื เกี่ยวกับอสงั หารมิ ทรัพยอ ยา งอ่ืนในทด่ี นิ ท่ีมีโฉนดท่ีดิน ใบไตสวน
หรอื หนังสอื รบั รองการทําประโยชน ตามแบบ น.ส. ๓ ก. ในกรณี
ไมรวมกับท่ีดินดังกลาว ตองมีการประกาศการจดทะเบียนตามที่
กฎหมายกําหนด ตามมาตรา ๗๗ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
บัญญัติวา “การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับท่ีดินหรือ
อสังหาริมทรัพยอยางอ่ืน ถาประมวลกฎหมายน้ีมิไดบัญญัติไวเปน
อยางอ่ืนใหปฏิบัติตามหลักเกณฑและวิธีการท่ีกําหนดในกฎกระทรวง”
ซ่ึงตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ แกไข
เพิ่มเติมโดยกฎกระทรวงฉบับท่ี ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๒๖)ฯ และ
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑)ฯ ไดกําหนดหลักเกณฑ
เก่ียวกับการประกาศการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม ซง่ึ กรมทดี่ นิ ได
วางระเบียบ คําส่ัง และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประกาศการ
จดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมกรณตี าง ๆ ไวด งั ตอ ไปน้ี
๑) กาํ หนดเวลาการปดประกาศ
การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเก่ียวกับที่ดิน
ที่ยังไมม ีโฉนดท่ีดนิ ใบไตสว น หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
ตามแบบ น.ส. ๓ ก. หรือเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนในที่ดิน
ดังกลาว หรือเกยี่ วกบั อสังหาริมทรพั ยอยางอืน่ ในทดี่ นิ ท่ีมีโฉนดที่ดิน
ใบไตสวน หรือหนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชนตามแบบ น.ส. ๓ ก.
ในกรณีไมร วมกบั ทด่ี ินดงั กลาวใหป ระกาศการขอจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรม
มีกําหนดสามสบิ วัน (ตามขอ ๕ แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
6
๒) วธิ ีแกท ะเบียนแบบพเิ ศษ
เปน ทเ่ี ขาใจกันวา เปน การแกทะเบียนแบบรอ ยแกว
- ใน ท.ด. ๑ จะมีชื่อบุคคลเฉพาะในขอ ๓ เทานัน้
ไมตองระบุไวในขอ ๔ แตอยางใด การบรรยายรายละเอียดจะตองมีทุกครั้ง
โดยบรรยายดา นขาง ท.ด. ๑ ดวยอีกษรสีแดง
- การแกทะเบียนในโฉนดที่ดิน ไมตองลงชือ่ ทั้งใน
ชองผูโ อน และผูร ับโอน การบรรยายในรายการจดทะเบียนบรรยายดวย
อักษรสีนํา้ เงินหรือดาํ เรม่ิ ตั้งแตในชอ งผูโอน
7
กระบวนการในการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมเก่ียวกับ
อสังหาริมทรพั ย
๑. ประเภทการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยต อพนักงานเจาหนา ที่
การจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยตอพนักงานเจาหนาที่
อาจแบง ออกไดต ามวิธีการจดทะเบยี นได ๓ หลกั ดังน้ี
๑) แบง ตามหลักการทะเบยี น โดยแบง ออกไดเปน ๒
ประเภทใหญ ๆ คือ
- ประเภทโอนทางทะเบยี น หมายถึง การจดทะเบียน
โอนไปโดยเด็ดขาด เชน ขาย ให ขายฝาก แลกเปลยี่ น เปน ตน
- ประเภทแกทะเบียน หมายถึง การจดทะเบียน
ใหป รากฏหลกั ฐานทางทะเบียน ไมไดโอนเปลี่ยนมือไปโดยเด็ดขาด
เชน จาํ นอง เชา ภาระจาํ ยอม เปน ตน
๒) แบง ตามลักษณะแหงนติ กิ รรม
การแบงตามลักษณะแหงนิติกรรมยอมเปนไปตาม
ลักษณะที่สําคัญของนติ กิ รรมน้ัน ซึง่ มีอยูดวยกนั หลายประเภท เชน
ขาย แลกเปล่ียน ให ขายฝาก จํานอง ภาระจํายอม เปนตน
และบางประเภทก็ใชชื่อการจดทะเบียนตามขอเท็จจริง เชน โอน
ตามคาํ สัง่ ศาล เปน ตน
การแบงตามประเภทนี้ จึงไมอาจกําหนดลงไป
ไดวามีกี่ประเภท เพราะถาขอเท็จจริงเปลี่ยนแปลงไปไมตรงกับ
ประเภททีม่ อี ยูแ ลว และไมอาจอนุโลมโดยการเทียบเคียงและปรับไป
ตามประเภทการจดทะเบียนที่กําหนดไว กรมที่ดินก็ตองวางระบบ
จดทะเบยี นโดยตัง้ ประเภทข้ึนใหม ตามความเหมาะสมเปน เร่อื ง ๆ ไป
๓) แบงตามลักษณะของการจดทะเบียนหรือตาม
จุดมุงหมาย แบงออกเปน ๒ ประเภทใหญ ๆ คอื
8
- การจดทะเบยี นสิทธิ หมายถงึ การจดทะเบยี นส่งิ ท่ี
บุคคลมีอ ยูห รือ ไมไ ดม า โ ด ย ผ ล ขอ ง ก ฎห ม า ย ใ หป ร า ก ฏห ลัก ฐ า น
ในทางทะเบียน แตก รณีนี้ตองมีกฎหมายบัญญัตริ ับรองไวดวย เชน
สิทธิในการรับมรดก การไดสิทธิมาโดยการครอบครองปรปกษ
ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๑๓๘๒ ภาระจํายอม
โดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๔๐๑
เปนตน
- การจดทะเบียนนิติกรรม หมายถึง การจดทะเบียน
การมีอยูหรือการไดมาที่เกิดจากการกระทําของบุคคลที่ชอบดวยกฎหมาย
ดว ยใจสมัคร มงุ โดยตรงตอการผกู นติ สิ มั พนั ธขึ้นระหวางบุคคล ไมวา
จะเปนโดยการกอ เปลีย่ นแปลง โอน สงวน หรือระงับซ่ึงสิทธิก็ตาม
สวนใหญมักจะมคี กู รณี ๒ ฝาย คือ ผูโอนฝายหนึ่งกับผูรับโอนอีก
ฝายหนึ่ง เชน ขาย แบงขาย ให จํานอง แลกเปล่ียน เปนตน
ซึ่งเปนนิติกรรมท่ีกฎหมายบงั คบั ใหทําเปน หนงั สือและจดทะเบียนตอ
พนักงานเจาหนาที่
๒. สถานท่จี ดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรมเกีย่ วกับอสังหาริมทรพั ย
ส ถาน ท่ี รั บ จ ดท ะ เ บี ยนสิ ท ธิ แล ะ นิ ติ ก ร ร ม เ กี่ ยวกั บ
อสงั หารมิ ทรพั ยใ นปจจุบนั มี ดงั น้ี
๒.๑ สํานักงานทด่ี นิ จงั หวดั /สาํ นักงานท่ีดนิ สาขา (รวมถึง
สํานักงานทด่ี ินกรุงเทพมหานครและสาขา) เปนสํานักงานท่ีดินตาม
ประมวลกฎหมายท่ีดนิ ซ่งึ รัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทยจัดต้ังขึ้น
ตามมาตรา ๑๓ แหงประมวลกฎหมายทีด่ ิน
๒.๒ สํานักงานที่ดินอําเภอ เปนสวนราชการกรมที่ดิน
ประเภทราชการบริหารสวนภมู ิภาคเทานั้น ตามกฎกระทรวงแบงสวน
ราชการกรมที่ดนิ ไมใชสาํ นักงานทีด่ ินทีบ่ ัญญัติไวในประมวลกฎหมายทด่ี นิ
9
๒.๓ สํานกั งานท่ดี นิ จังหวดั /สาขา สวนแยก เปนการจัดตั้ง
ตามระเบยี บกรมทีด่ นิ วา ดว ยการจัดต้งั และปฏิบัติงานในสํานักงานที่ดิน
จังหวัดหรือสํานักงานท่ีดินสาขาสวนแยก ไมมีบัญญัติไวในประมวล
กฎหมายที่ดิน โดยเปนสวนหน่ึงของสํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสาขา
ซึ่งกรมที่ดินไดประกาศใหแยกสวนออกไป โดยมีสถานที่ตั้งและ
เขตดําเนินการในพื้นท่ีตามที่กรมท่ดี นิ กาํ หนด
๓. พนักงานเจาหนาที่ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกี่ยวกับอสังหารมิ ทรัพย
๑) เจาพนักงานที่ดนิ
มาตรา ๗๑ แหงประมวลกฎหมายที่ดินกําหนดให
เจาพนักงานทด่ี ิน เปน พนกั งานเจา หนา ที่จดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม
เกีย่ วกับอสงั หารมิ ทรพั ย ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยได
สาํ หรบั ที่ดินท่ีมีโฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทําประโยชน และสิ่งปลูกสราง
ทต่ี ัง้ อยใู นเขตสาํ นักงานทด่ี นิ จงั หวดั /สาขา ซงึ่ ปจ จุบันเจาพนกั งานทด่ี นิ
ในการจดทะเบยี นเปน ไปตามคําส่ังรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
แตง ตั้ง โดยอาศยั อํานาจตามมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ไดมีคําส่ังกระทรวงมหาดไทย
ที่ ๖๖/๒๕๕๒ ลงวนั ที่ ๑๘ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๒
๒) นายอาํ เภอหรือผทู ําการแทน (ทองที่ท่ียังไมยกเลิก
อํานาจนายอําเภอ) เปนไปตามมาตรา ๑๙ แหงพระราชบัญญัติ
แกไ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ ท่ีกําหนดให
นายอาํ เภอปฏิบัติหนา ท่ีเปน พนักงานเจาหนา ท่ีจดทะเบยี นตอ ไปกอน
จนกวารัฐมนตรีจะไดป ระกาศยกเลิกอํานาจหนาทข่ี องนายอําเภอตาม
ประมวลกฎหมายทดี่ นิ ในราชกิจจานุเบกษาเปนทอ งที่ไป เฉพาะที่ดิน
มหี นงั สือรบั รองการทําประโยชน และสิง่ ปลกู สรา งที่ต้งั ในเขตอาํ เภอของตน
10
๔. การแตงตั้งพนักงานเจา หนาที่
ตามคาํ ส่ังกระทรวงมหาดไทย ที่ ๖๖/๒๕๕๒ ลงวันท่ี
๑๘ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๒ แตงตั้งใหผ ดู าํ รงตําแหนง ตอ ไปนี้ในสํานกั งานที่ดิน
จังหวัดและสาํ นักงานทดี่ นิ จังหวดั สาขา เปน เจา พนกั งานท่ีดินตามประมวล
กฎหมายท่ีดนิ ในสาํ นักงานทดี่ ินจังหวดั และสาํ นักงานทด่ี นิ จงั หวดั สาขา
นั้น ๆ คอื
๑) เจาพนักงานท่ีดินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ีดิน
จงั หวัดสาขา
๒) นักวิชาการท่ีดิน ต้ังแตระดับปฏิบัติการข้ึนไปใน
ฝา ยทะเบยี น
๓) เจาพนักงานที่ดิน ตั้งแตระดับปฏิบัติงานข้ึนไปใน
ฝายทะเบียน
๔) นายชางรงั วดั ตง้ั แตระดับชํานาญงานขึ้นไปในฝา ยรังวัด
๕) ขาราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการ ตั้งแต
ระดับปฏิบัติการขึ้นไป หรือประเภททั่วไปตั้งแตระดับปฏิบัติงานข้ึนไป
ซง่ึ อธิบดีกรมทีด่ นิ แตงตัง้ ใหท าํ หนา ทใ่ี นตําแหนงตาม ๒) ๓) ๔)
๕. อํานาจหนาท่ีและทุนทรพั ยในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ของเจา พนักงานท่ีดนิ
๑) สอบสวนคูสัญญาถึงสิทธิและความสามารถ
ตลอดจนความสมบรูณแหงนิติกรรมตามกฎหมาย สอบสวนถึง
ขอกําหนดสิทธิในที่ดิน หรือการหลีกเลี่ยงกฎหมาย เชน การไดมาซ่ึงที่ดิน
เพอ่ื ประโยชนแกค นตางดาว เปน ตน รวมทัง้ อาํ นาจหนา ท่ีในการกําหนด
ทนุ ทรพั ยส ําหรบั เสยี คาธรรมเนยี มในการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรม
๒) เรียกหนังสือแสดงสทิ ธใิ นที่ดนิ และเอกสารที่เกยี่ วขอ ง
ที่ผูขอนํามาย่ืน เชน หนังสือมอบอํานาจ หนังสือยินยอมของคูสมรส
บัตรประจาํ ตวั ประชาชน ทะเบียนบาน หรือเอกสารอื่น ๆ ที่จําเปน
ในการพิจารณามาตรวจสอบ ท้ังน้ี เพ่ือประโยชนในการสอบสวน
11
ใหท ราบแนชดั วา ผโู อนเปน เจาของอนั แทจริงและผูรบั โอนมีความสามารถ
ทีจ่ ะทาํ นิตกิ รรมไดโดยชอบดวยกฎหมาย
ท้ังน้ี ตามนัยมาตรา ๗๔ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
และกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ใิ หใชประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
สวนการกําหนดอาํ นาจหนาที่และความรับผิดชอบของ
เจาพนกั งานที่ดนิ กรมทดี่ นิ ไดมคี ําสง่ั กําหนดทุนทรัพยในการจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมของเจาพนักงานท่ีดินไวโดยใหอาํ นาจของแตละบุคคล
ไมเหมือนกัน ท้ังน้ี เปนไปตามคําสั่งกรมที่ดิน ที่ ๙๕๕/๒๕๕๒
ลงวนั ท่ี ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ซ่ึงใหถอื ราคาประเมินทุทรัพยเปนเกณฑ
ในการกําหนดทุนทรัพยที่อยูในอํานาจจดทะเบียนของเจาพนักงานที่ดิน
แตล ะระดับสรปุ สาระสําคญั ดังนี้
๑) ในสาํ นักงานทด่ี นิ กรงุ เทพมหานคร/สาขา สํานักงานที่ดิน
จังหวัด/สาขา ซึ่งมีผูดํารงตําแหนงเจาพนักงานท่ีดินจังหวัด/สาขา
ประเภทอาํ นวยการระดบั สูงหรอื อํานวยการระดบั ตน ใหห วั หนา ฝา ยทะเบยี น
เปนผูป ฏิบัตงิ านเกี่ยวกับงานดานทะเบียนท่ีดิน ส่ิงปลูกสราง และ
อาคารชดุ ทุกกรณี เวนแตก ารลงลายมือชอ่ื ในการออกหนังสอื แสดงสิทธิ
ในที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์หองชุด การสั่งเปรียบเทียบการออก
เอกสารสทิ ธิในทด่ี ินตามมาตรา ๖๐ การสั่งแกไ ขแผนท่ีและหรือเน้ือที่
ตามมาตรา ๖๙ ทวิ แหง ประมวลกฎหมายที่ดิน การสั่งโอนมรดก
การส่งั การเปรยี บเทยี บมรดก เรื่องใบแทน เร่อื งการอายัด การจดทะเบียน
นติ บิ คุ คลหมูบา นจัดสรร การจดทะเบียนยกเลิกนิติบุคคลหมูบานจัดสรร
การจดทะเบียนอาคารชุด การจดทะเบียนนิติบุคคลอาคารชุดและ
การจดทะเบียนเลิกอาคารชดุ การสัง่ การเกย่ี วกับหนังสือมอบอาํ นาจ
ท่เี ปน การโอนทางทะเบยี น เชน ขาย ขายฝาก ให แลกเปลี่ยน ฯลฯ
ซง่ึ มีทนุ ทรพั ยเ กนิ ทุนทรพั ยหวั หนาฝายทะเบียนมีอํานาจจดทะเบียน
12
หรือเกินกวาสิบลานบาท ใหเปนหนาท่ีของเจาพนักงานท่ีดิน
กรุงเทพมหานคร/สาขา เจา พนักงานทด่ี ินจงั หวัด/สาขา แลวแตก รณี
๒) ในสํานกั งานท่ีดินจงั หวัดสาขาอ่นื ๆ นอกจากขอ ๑
ใหเ จาพนักงานที่ดินจังหวัดสาขาและหัวหนาฝายทะเบียนปฏิบัติหนาท่ี
เชนเดียวกับขอ ๑ เวนแตการส่ังการเก่ียวกับหนังสือมอบอํานาจ
ทีเ่ ปน การโอนทางทะเบียน ซ่ึงมีทุนทรัพยไมเกินทุนทรัพยที่หัวหนา
ฝายทะเบียนมีอํานาจจดทะเบียนหรือเกินกวาหาลานบาทใหเปน
หนา ทขี่ องเจา พนกั งานทด่ี นิ จังหวดั สาขา
๓) การปฏบิ ตั งิ านตามขอ ๑ หรือขอ ๒ เกีย่ วกับงาน
ดานทะเบียนที่ดิน หากเจาพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร/สาขา
เจาพนักงานทด่ี นิ จงั หวดั /สาขา ไมอยหู รอื อยูแตไมอาจปฏิบัติหนาที่
ไดใ หหัวหนา ฝา ยทะเบยี นปฏบิ ัตหิ นาท่แี ทน ยกเวนเรื่องท่ีกําหนดให
เปน อํานาจโดยเฉพาะของเจาพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร/สาขา
เจา พนกั งานที่ดินจังหวัด/สาขา ใหผูรักษาราชการแทนหรือผูรักษาการ
ในตาํ แหนง ปฏิบัติหนา ที่แลวแตก รณี
๔) การปฏิบัตงิ านตามขอ ๑ หรือขอ ๒ เกยี่ วกับงาน
ดานทะเบยี นทด่ี นิ หากหัวหนาฝายทะเบียนไมอยูหรืออยูแตไมอาจ
ปฏบิ ัติหนา ทไ่ี ดโดยไมม ีผูรักษาราชการแทนหรือไมมีผูรักษาราชการ
ในตาํ แหนง สําหรับงานดานทะเบียนท่ีดินใหเจาพนักงานที่ดินตาม
ประมวลกฎหมายที่ดินท่ีอาวุโสในฝายทะเบียนปฏิบัติหนาท่ีแทน
ตามลาํ ดบั โดยใหมีอํานาจหนาท่ีและขอยกเวนเชนเดียวกับหัวหนา
ฝา ยทะเบยี นทตี่ นปฏบิ ตั หิ นา ท่แี ทน
๕) ให สํา นัก งา นที่ ดิน กรุ ง เท พม หา นคร / สา ขา
สํานักงานที่ดินจังหวัด/สาขา กําหนดทุนทรัพยในการจดทะเบียน
สิทธแิ ละนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยของหัวหนาฝายทะเบียน
และเจาพนักงานท่ีดินทุกระดับในแตละสํานักงานท่ีดินใหเหมาะสม
กับอตั รากําลงั ปริมาณงาน และระดับตาํ แหนง โดยใหเ จาพนกั งานทด่ี นิ
13
กรุงเทพมหานคร/สาขา เจาพนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา ในฐานะ
เปนเจาพนักงานทดี่ นิ รับผดิ ชอบในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
โดยไมจํากัดจํานวนทนุ ทรพั ย สว นเจา พนักงานทีด่ ินอ่นื ในสาํ นกั งานทดี่ นิ
ใหจ ํากดั จํานวนทุนทรัพยล ดหล่ันกันตามความเหมาะสม
การกําหนดจํานวนทุนทรัพยในการจดทะเบียน กรณี
เปน การจดทะเบียนประเภทที่ตอ งการประเมินราคาทุนทรัพย เชน ขาย
ขายฝาก ให แลกเปล่ียน ฯลฯ ใหถือเอาราคาประเมินทุนทรัพย
เปนเกณฑ แตถา เปนการจดทะเบียนประเภทท่ไี มตองประเมินราคา
ทุนทรพั ย เชน จาํ นอง เชา ฯลฯ ใหถอื เอาจํานวนทุนทรัพยที่ผูขอ
แสดงเปนเกณฑ
๖) เจาพนักงานที่ดินตามท่ีรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
แตงตั้งตามประมวลกฎหมายที่ดิน ถ าเจาพนักงานท่ีดิ น
กรุงเทพมหานคร/สาขา เจาพนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา เห็นวา
เจา พนักงานท่ีดนิ ระดับใด หรือบุคคลใดไมสมควรใหจดทะเบียนหรอื
ควรใหจ ดทะเบยี นเฉพาะบางเรื่อง ก็ใหมอี ํานาจส่ังไดตามความเหมาะสม
โดยใหม คี ําสงั่ ไวเปนลายลกั ษณอกั ษร
๗) สาํ หรบั สาํ นักงานทด่ี ินสว นแยกใหเจาพนักงานที่ดิน
หัวหนาสวนแยก และหัวหนางานทะเบียนถือปฏิบัติเชนเดียวกับ
สํานกั งานท่ีดนิ จังหวัดสาขาอน่ื ๆ ตามขอ ๒ ยกเวนการปฏิบัติงาน
ท่ีกฎหมายบัญญัตใิ หเ ปน อํานาจหนาทีข่ องเจาพนักงานที่ดินจังหวัด/
สาขาโดยเฉพาะ เชน การสั่งการตามมาตรา ๖๐ แหงประมวล
กฎหมายทด่ี ิน ใหเสนอเจาพนักงานที่ดินจังหวัด/สาขาแลวแตกรณี
เปนผูส่ังการตามกฎหมายและใหถือปฏิบัติตลอดจนดําเนินการตามขอ ๓
ถงึ ขอ ๖ โดยอนุโลม
๘) เม่ือผูดํารงตําแหนงแตละตําแหนงอยูปฏิบัติหนาท่ี
ตามปกติ หามมอบหมายใหบ ุคคลอนื่ ทําหนาท่ีแทนเปน อนั ขาด
14
๖. การจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรมเก่ียวกบั อสังหาริมทรพั ย
ประมวลกฎหมายท่ีดินไดบญั ญัตกิ ารดําเนินการจดทะเบยี น
ไวต ั้งแตม าตรา ๗๑ เปน ตน ไป โดยมีสาระสําคัญวา ผูประสงคจะ
จดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยตามประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย ใหคูกรณีนําหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
ไปขอจดทะเบยี นตอ พนักงานเจา หนา ท่ีตามมาตรา ๗๑
การขอจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ ิกรรมดงั กลา ว สาํ หรบั ท่ีดิน
ท่ีมีโฉนดที่ดิน ใบไตสวน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
คูกรณีอาจยืน่ คําขอตอพนกั งานเจา หนา ที่ ณ สํานักงานที่ดินแหงใด
แหง หน่งึ เพือ่ ใหพนกั งานเจาหนาที่ตามมาตรา ๗๑ ดําเนินการจดทะเบียนให
เวนแตการจดทะเบยี นทต่ี อ งการประกาศหรือตอ งการรังวัด ซึ่งกรมที่ดิน
ไดออกระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการรับคําขอจดทะเบียนสิทธิและ
นติ กิ รรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยสําหรับที่ดินท่ีมีโฉนดที่ดิน ใบไตสวน
หรอื หนังสอื รับรองการทําประโยชน ณ สํานกั งานทีด่ นิ แหงใดแหง หน่งึ
พ.ศ. ๒๕๕๘ ลงวันท่ี ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๘ ไดกําหนดขั้นตอน
และวิธปี ฏบิ ตั ไิ ว เพ่ือใหการดําเนินการในเร่อื งนเี้ ปน แนวทางเดียวกัน
ขนั้ ตอนและกระบวนการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกยี่ วกับอสังหาริมทรัพยของพนักงานเจาหนาท่ี ตามบทบัญญัติใน
ประมวลกฎหมายที่ดิน กฎกระทรวง และระเบียบคําสั่ง ที่เก่ียวของ
แลว พอสรุปขั้นตอนได ๔ ขั้นตอน ดงั ตอไปนี้
๑) การรบั คําขอ
มาตรา ๗๒ แหงประมวลกฎหมายที่ดินบัญญัติให
ผูท ่ปี ระสงคจะขอจดทะเบียนสทิ ธิและนิตกิ รรมเกีย่ วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย
ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย ใหนําหนังสือแสงสิทธิในท่ีดิน
มาขอจดทะเบียนตอ พนักงานเจา หนา ท่ตี ามมาตรา ๗๑ โดยใหผูขอ
ยน่ื คาํ ขอตามแบบเรอื่ งราวขอจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรม (ท.ด. ๑)
ซงึ่ กําหนดไวตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตาม
15
ความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๑ พรอ มท้ังสงหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินหรือหลักฐานอยางอ่ืน
ตอ พนักงานเจาหนา ท่ี
คาํ ขอตามแบบ ท.ด. ๑ เปนเร่ืองราวขอจดทะเบียนสิทธิ
และนติ ิกรรมและการสอบสวนสิทธใิ นท่ีดินประเภทตา ง ๆ ที่ประสงค
จะขอจดทะเบยี น สาํ หรบั ประเภทในการจดทะเบยี นกรมทีด่ นิ ไดออก
ระเบียบ คําส่ัง หรือหนงั สือเวียน กําหนดแนวทางปฏิบัติแตละเรื่องไว
เปนการเฉพาะแลว เปนประเภทการจดทะเบียนประเภทตาง ๆ
จาํ นวนมาก เชน ขาย ให ขายฝาก จํานอง เชา เปนตน
การลงลายมือชอ่ื ในเรื่องราวขอจดทะเบยี นสิทธิและ
นติ ิกรรม (ท.ด. ๑) และลงลายมือช่ือในบันทึกขอตกลงหรือในสัญญา
ทุกประเภท กรมที่ดินไดวางระเบียบคําส่ังในการจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยไววา ใหผูขอลงลายมือชื่อ
ในเรื่องราวขอจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม (ท.ด. ๑) และลงลายมือช่ือ
ในบันทึกขอตกลงหรือในสัญญาตอหนาพนักงานเจาหนาท่ีผูจดทะเบียน
หา มมิใหดาํ เนินการจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมในกรณีที่ผขู อไมไดมา
ลงลายมอื ชือ่ ในชั้นสอบสวนและไมไ ดล งลายมือชื่อในบันทึกขอตกลง
หรือในสัญญาตอหนาพนักงานเจาหนาท่ีผูจดทะเบียนเปนอันขาด
(คาํ ส่ังกระทรวงมหาดไทย ที่ ๓๘๐/๒๔๙๗ ลงวันที่ ๗ เมษายน ๒๔๙๗
และหนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๖๑๒/๑/ว ๓๗๕๒๙ ลงวันท่ี ๘
ตลุ าคม ๒๕๑๙ และระเบียบกรมท่ีดินวาดวยการจดทะเบียนสิทธิ
และนติ กิ รรมประเภทตาง ๆ)
๒) การสอบสวน การตรวจสอบ และการประกาศ
๒.๑ การสอบสวน
- เพ่ือเปนการคุม ครองประโยชนข องผูมีสวนไดเสีย
และปองกันการทุจริตหลีกเล่ียงกฎหมาย ประมวลกฎหมายที่ดิน
มาตรา ๗๔ จึงไดบัญญัตใิ หอ าํ นาจพนกั งานเจาหนาท่ีในการสอบสวน
16
คูก รณี และบุคคลอน่ื ท่ีเกี่ยวขอ ง โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ระเบียบ คําส่ังของกระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดิน ไดกําหนด
รายละเอียดวา จะตอ งสอบสวนในเรอื่ งใดบาง และจะตองทําอยางไร สรุปได
ดังน้ี
๒.๑.๑มาตรา ๗๔ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
(อํานาจในการสอบสวนของเจาพนกั งานทด่ี ิน)
ในการดําเนินการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมของพนักงานเจาหนาที่ตามมาตรา ๗๑ ใหพนักงาน
เจาหนา ที่มีอาํ นาจสอบสวนคกู รณี และเรียกบุคคลที่เก่ียวของมาให
ถอยคํา หรือสงเอกสารหลักฐาน ที่เกี่ยวของไดตามความจําเปน
แลว ใหพนกั งานเจา หนาท่ดี าํ เนินการไปตามควรแกก รณี
๒.๑.๒กฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
กอนจะทําการจดทะเบียนใหพนักงาน
เจา หนา ทส่ี อบสวนในเร่ืองดังตอ ไปน้ี คอื
(๑) สิทธิและความสามารถของบุคคล
รวมตลอดจนถึงความสมบรูณแหงนิติกรรม ตามประมวลกฎหมายแพง
และพาณชิ ย
(๒) ขอกําหนดสทิ ธิในที่ดิน และการคาท่ีดิน
หรือการหลีกเลย่ี งกฎหมาย เชน การไดมาซงึ่ ท่ีดนิ เพื่อประโยชนแก
คนตา งดา ว
(๓) การกําหนดทุนทรัพยสําหรับเสีย
คา ธรรมเนยี มในการจดทะเบียน
17
๒.๑.๓ คําสงั่ กรมท่ดี ิน ที่ ๓๘๐/๒๔๙๗ ลงวนั ที่
๗ เมษายน ๒๔๙๗ เรื่อง ระเบียบการเกี่ยวกับการจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรม
ขอ ๒ ในการจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม
ตามนัยประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย เฉพาะท่ีดินที่มีหนังสือ
กรรมสิทธิ์ทีด่ ิน ใหป ฏิบตั ดิ งั ตอไปนี้
(๑) การสอบสวน เม่ือมีผูมาแสดง
ความประสงคขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน ให
พนักงานเจา หนา ทีท่ ําการสอบสวนใหไดส าระสาํ คัญ ดงั ตอไปน้ี
ก. ชื่อตัว ชื่อสกุล บิดามารดา
อายุ สัญชาติ เช้อื ชาติ ภูมลิ าํ เนา ท่ีอยขู องผขู อทํานติ กิ รรมทง้ั สองฝา ย
ข. ความประสงคใ นการขอจดทะเบยี น
สิทธิและนิติกรรม
ค. คูสัญญาทั้งสองฝายมีสิทธิ
ท่จี ะกระทํากิจการนัน้ ไดห รอื ไม ถามีเอกสารเก่ียวของใหตรวจสอบ
โดยละเอียด
ง. ใหสอบคูสัญญาตามรายการ
ในแบบพมิ พก ารสอบสวนและใหคูส ัญญาลงชื่อ หรือลายมือช่ือไวดวย
ขอสําคัญใหใชดุลพินิจและไหวพริบสอบสวนพยานและหลักฐาน
เพื่อใหไ ดข อ เทจ็ จริงโดยถกู ตอง
จ. ถามกี ารขดั ของอยางใด ผสู อบสวน
ตองรายงานใหหัวหนาการทราบ เพ่ือจะไดชี้แจงเหตุที่ขัดของให
คูสญั ญา ทงั้ สองฝายทราบ”
๒.๑.๔ คําส่ังกรมที่ดนิ ที่ ๔/๒๕๐๖ ลงวันท่ี
๒๕ ธันวาคม ๒๕๐๖ เรื่อง การสอบสวนสิทธิของผูมาทําการ
เกี่ยวกับทด่ี ิน
18
“ขอ ๑ เมื่อมีผูมาขอทํานิติกรรมและ
จดทะเบยี น เจาหนาท่ีพงึ พจิ ารณาดงั ตอไปนี้
(ก) ผูนั้นเปนเจาของที่ดินจริง
หรอื ไม
(ข) ลายมือช่ือตรงกับของเดิม
หรอื ไม
ขอ ๒ ในเรอ่ื งพจิ ารณาตัวบคุ คลผูขาย
หรือผูจํานอง ฯลฯ ถาไมเปนท่ีรูจักก็ควรใหหาผูท่ีเช่ือถือไดมา
รับรอง นอกจากน้ันก็ควรไดตรวจสอบสิ่งอื่น ๆ ประกอบ เชน
บัตรประจําตัวท่ีมีอยูตามกฎหมาย เปนตน และใหผูรับซื้อ หรือ
รบั จํานองรบั รองอกี ชน้ั หนึ่ง
ขอ ๓ ในก รณีที่เปนเ จาของเอ ง
แตเซ็นชื่อผิดเพี้ยนมาก ก็ควรพยายามขอใหเขาเซ็นใหตรงกับ
ของเดิม ถาทําไมไดดังนั้น ถาเปนคนรูจักเชื่อถือไดก็ไมเปนไร
ถาเปนผทู ไี่ มรูจกั ก็ใหหาหลกั ฐานหรอื หาคนทเ่ี ชือ่ ถือไดรับรองและให
ผซู ื้อรับรองอีกช้ันหนง่ึ ดวย
ในกรณคี นไมเคยมีลายมือช่อื อยูแตเดิม
เชน ไดท ีด่ ินขณะเปน ผเู ยาวหรอื กรณรี บั มรดก กค็ วรจะสอบสวนให
เปน ทีพ่ อใจวาเปนผมู ีสิทธแิ ทจริงเชน เดียวกันแลวจึงทาํ การใหตอไป”
- การสอบสวนสทิ ธิและความสามารถของบคุ คล
เหตุทีต่ องสอบสวนถึงสทิ ธิและความสามารถ
ของบุคคลคูกรณีที่ขอทํานิติกรรมรวมตลอดถึงความสมบรูณแหง
นิติกรรมน้ัน ทั้งน้ี เพราะเกี่ยวโยงถึงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
เชน ผูเยาวจะทํานิติกรรมใด ๆ ตองไดรับความยินยอมของผูแทน
โดยชอบธรรมกอ น หากฝาฝน นิติกรรมน้ันก็ตกเปนโมฆียะ หรือบุคคล
วิกลจริตทํานิตกิ รรมใด นิตกิ รรมนน้ั ก็เปน โมฆยี ะเชน กัน หรือนติ ิกรรม
ทมี่ ีวัตถุประสงคเ ปน การตองหา มชดั แจง โดยกฎหมาย หรอื เปนการพนวิสัย
หรอื เปน การขดั ตอความสงบเรียบรอย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
19
นิติกรรมน้ันเปนโมฆะ (มาตรา ๑๕๐ ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย)
เปน ตน ซงึ่ นิติกรรมท่ีเปนโมฆะหรือโมฆียะ ประมวลกฎหมายที่ดิน
มาตรา ๗๓ ไดบัญญัติไววา เมื่อปรากฏตอพนักงานเจาหนาที่วา
นิติกรรมที่คกู รณีมาขอจดทะเบียนน้ันเปนโมฆะกรรม พนักงานเจา หนาท่ี
ไมตอ งจดทะเบยี นให หากนติ กิ รรมน้ันเปนโมฆียะกรรมใหพนักงาน
เจา หนา ทีร่ ับจดทะเบยี นใหไดใ นเมื่อคูก รณีฝายทีอ่ าจเสยี หายยนื ยนั ให
จดทะเบียนเทา นัน้ การสอบสวนสิทธิและนิติกรรมและความสามารถ
ของบคุ คล ยอ มอาศยั อํานาจและวิธีการตามมาตรา ๗๔ แหงประมวล
กฎหมายท่ีดิน ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)ฯ
คาํ สงั่ และระเบียบแนวทางปฏบิ ัติ
- การสอบสวนถึงการหลีกเล่ียงกฎหมาย
๑) การสอบสวนถึงการหลีกเลี่ยงกฎหมาย
เชน การไดม าซง่ึ ที่ดนิ เพอ่ื ประโยชนแกคนตา งดา ว ท้งั นี้ เพราะตาม
ประมวลกฎหมายที่ดิน ในปจจุบันนี้คนตางดาวไมอาจไดมาซ่ึง
กรรมสทิ ธิใ์ นทีด่ ิน ไมวา ในกรณใี ด ๆ เวนแตไ ดม าหรือมีอยูกอนแลว
โดยชอบ หรอื ไดมาภายใตบงั คบั ของกฎหมายอนื่ ซึ่งไดส ิทธิโดยมิได
อาศยั บทสนธิสัญญาเปน หลัก เชน ไดมาตามพระราชบัญญัติวาดวย
การสงเสริมการลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐ เปนตน
๒) การสอบสวนตามประมวลกฎหมายที่ดิน
มาตรา ๗๔ หากขอเทจ็ จรงิ เชอื่ ไดวาจะเปนการหลีกเลี่ยงกฎหมาย
หรือเปน ทีค่ วรเช่ือไดว า จะเปน การซ้ือที่ดินเพ่ือประโยชนแกคนตางดาว
ใหข อคําสัง่ รัฐมนตรคี ําสัง่ รฐั มนตรีเปน ท่ีสุด (มาตรา ๗๔ วรรคสอง)
๓) การสอบสวนตามมาตรา ๗๔ วรรคสอง
เกีย่ วกบั การหลีกเลีย่ งกฎหมายในอนั ทบ่ี คุ คลใดจะซอ้ื ทดี่ นิ เพอ่ื ประโยชน
แกบคุ คลตา งดา วนนั้ มีความหมายรวมถึงบุตรผูเยาวและภริยาคนตางดาวดวย
ซงึ่ แมวา บุตรหรือภรยิ านัน้ จะเปน ผูมีสญั ชาติไทยก็ตาม ตอ งสอบสวน
และขอคาํ สง่ั รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทยทกุ ราย เวนแตภ รยิ า
โดยชอบดวยกฎหมายของคนตางดาว ซึ่งเปนผูรับใหที่ดิน (ซึ่งผูให
20
ระบุในหนังสือสัญญาใหวา “ใหเปนสินสวนตัวของผูรับให” หรือ
ตามกฎหมายใหเปน สนิ สว นตวั ซ่งึ มหี ลักเกณฑการสอบสวนและการ
พิจารณาโดยละเอียด ตามคูมือการขอไดมาซึ่งที่ดินของคนไทย
ที่มีคูสมรสเปนคนตางดาว เวียนตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท
๐๕๑๕/ว ๓๙๒๘๘ ลงวันท่ี ๒๒ ธันวาคม ๒๕๔๘ เร่ือง การขอ
ไดม าซง่ึ ทดี่ นิ ของคนไทยท่ีมีคสู มรสเปนคนตางดาว
๔) กรณีท่ีนิติบุคคลเปนผูขอไดมาซ่ึงที่ดิน
หากนติ บิ ุคคลดังกลาวมคี นตางดาวถือหุนหรือเปนกรรมการ หรือมีเหตุ
อันควรเชือ่ ไดว าใหค นไทยเปน ผถู อื หนุ แทนคนตา งดา ว เพอื่ เปนการปองกัน
มิใหมีการหลกี เล่ียงกฎหมายหรือซอื้ ทด่ี นิ เพอ่ื ประโยชนแกคนตา งดาว
กระทรวงมหาดไทยไดว างหลักเกณฑใหพนักงานเจาหนาที่ถือปฏิบัติ
โดยใหสอบสวนรายไดของผถู อื หุน สญั ชาติไทย สอบสวนท่ีมาของเงิน
ซงึ่ ผูถือหนุ สัญชาตไิ ทยนํามาซอ้ื หนุ และกรณีซื้อท่ีดินในราคาที่สูงกวา
ทุนจดทะเบียน โดยไมมีการจํานองที่ดินใหสอบสวนที่มาของเงิน
ที่นํามาซอื้ ทด่ี นิ ตามหนังสอื กระทรวงมหาดไทย ดวนท่ีสุด ที่ มท
๐๕๑๕/ว ๑๕๖๒ ลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๔๙ ดวนที่สุด ที่ มท
๐๕๑๕/ว ๒๔๓๐ ลงวันท่ี ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๔๙ และดวนท่ีสุด
ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๒๒๒๗ ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑
สําหรับการพิจารณาเร่ืองราวนิติบุคคลขอซื้อที่ดินทุกราย ตองให
เจาพนักงานท่ีดินจังหวัดส่ังการทุกเร่ือง ตามหนังสือกรมท่ีดิน ลับ
ดว นท่สี ดุ ที่ มท ๐๗๑๐/ ว ๑๘๖๘๘ ลงวนั ที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๔๑
หนงั สอื กระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๕๑๕/ ว ๒๖๕๗ ลงวันท่ี ๕
สงิ หาคม ๒๕๔๖
21
มาตรา ๗๔ แหงประมวลกฎหมายทด่ี ิน ใหอํานาจ
พนกั งานเจาหนาที่ เพอ่ื สอบสวนใหไดขอเท็จจริงวา คูกรณีที่มาขอจดทะเบียน
มีสิทธิอยางใด มีความสามารถทํานิติกรรมหรือไม กิจการท่ีขอจดทะเบียน
ชอบดว ยกฎหมายเพยี งใด สรุปได ๓ ประการ คือ
๑. มอี าํ นาจสอบสวนคูกรณี คือสอบสวนวา
คูกรณีเปนตัวจริงหรือตัวปลอม บุคคลนั้นบรรลุนิติภาวะหรือไม
เปนนติ กิ รรมทีม่ าขอจดทะเบียนชอบดวยกฎหมายหรือไม มีเจตนา
หลกี เลยี่ งกฎหมายหรอื ไม หลีกเลี่ยงการเสียคาธรรมเนียมหรอื ไม
๒. มีอํานาจเรียกบุคคลที่เกี่ยวของมาใหถอยคํา
เพ่อื ใหทราบขอเทจ็ จรงิ ตลอดจนรายละเอยี ดเกยี่ วกบั การจดทะเบียนนนั้
๓. มีอํานาจสั่งใหบุคคลใดสงเอกสารหรือ
หลักฐานทีเ่ กี่ยวขอ งไดต ามความจาํ เปน เชน พนิ ัยกรรม สัญญาเชา
สัญญาจะซ้ือจะขาย เปน ตน
ซ่ึงในสว นการสอบสวนน้ีจะรวมไปถึง ท่ีดิน
ดังกลา วเปนที่อะไร เชน ท่ีบา น ทีส่ วน หรอื ท่ีนา หากเปนท่ีนามีผูเชา
หรอื ไม ผเู ชาประสงคจะซื้อหรอื ไม นอกจากนี้ยงั ตองสอบสวนถงึ ส่ิงปลกู สราง
ในท่ีดนิ อีกดวย
ขอ ควรระมัดระวังเพ่ิมเตมิ ในการสอบสวน
๑. การจํานองท่ีดินพรอมส่ิงปลูกสราง ให
ตรวจสอบดว ยวา สิ่งปลกู สรางเปนของผจู ํานองหรือไม
๒. การสอบสวนเกย่ี วกับการขายตอ งสอบสวน
ใหชัดเจนวา มีความประสงคจะขายที่ดินอยางเดียวหรือที่ดิน
พรอมสิ่งปลกู สราง
๓. การสอบสวนเรื่องโอนมรดกตองสอบสวนวา
ทายาทจะรบั มรดกหรอื ไม และขอรับมรดกอะไรบา งในกองทรพั ยส นิ
ของเจามรดก
22
๔. การโอนทดี่ ินใหเ ปน ทางสาธารณประโยชน
ตองบนั ทกึ ถอ ยคาํ ผูขอใหชัดเจนวามีความประสงคจะยกใหเปนทาง
สาธารณประโยชน มิไดใหเ ปนทางภาระจํายอม
๕. การขายท่ดี นิ ในโครงการจัดสรรที่ดิน โดยผูจัดสรร
เปน ผูขายจะตอ งตรวจสอบแผนผงั โครงการวา ตามแผนผงั โครงการจดั สรร
ระบุวิธีการจําหนายที่ดินน้ีไวอยางไร เชน ขายที่ดินพรอมสิ่งปลูกสราง
หรอื ขายทด่ี นิ เปลา
๒.๒ การตรวจสอบ
๑) กอนจะทําการจดทะเบียนใหพ นกั งานเจาหนา ที่
สอบสวนในเร่ืองสทิ ธแิ ละความสามารถของบุคคล ตลอดจนความสมบรณู
แหง นติ ิกรรมตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย ขอกาํ หนดสิทธิ
ในที่ดิน การหลีกเล่ียงกฎหมาย ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
โดยพนักงานเจาหนาที่ทําการสอบสวนพรอมท้ังตรวจสอบจาก
เอกสารหลกั ฐานท่ใี หผ ขู อนํามาแสดง เชน บตั รประจาํ ตัวประชาชน
สาํ เนาทะเบียนบา น ใบสาํ คัญการสมรส ใบสาํ คัญการหยา สูติบัตร
มรณบตั ร หนงั สือสาํ คัญแสดงการจดทะเบียนเปล่ียนชื่อตัว หนังสือ
สําคัญแสดงการจดทะเบยี นเปลีย่ นช่อื สกุล เปน ตน
- เอกสารหลักฐานสําคัญทีใ่ ชในการสอบสวน
และตรวจสอบ คือ บัตรประจําตัวประชาชน ซึ่งเปนหลักฐาน
ในการแสดงตนเพอ่ื พิสูจนและยนื ยนั ตัวบุคคลวาเปนใคร อายุเทาไร
มภี มู ลิ าํ เนาท่ีไหน ไมผิดตัวบุคคล อีกทั้งผูที่มีบัตรประจําตัวประชาชน
ไดต องมีสญั ชาติไทยเทาน้ัน และมีหนาทีต่ อ งพกบตั รตดิ ตัวและแสดง
ตอเจาหนาที่ไดเสมอ ในการตรวจสอบบัตรประจําตัวประชาชนตอง
ตรวจสอบจากตนฉบับ หากสํานกั งานที่ดินที่มีระบบเช่ือมโยงขอมูล
กับกรมการปกครองไดก ด็ าํ เนินการตรวจสอบขอมูลทะเบียนราษฎร
จากระบบเชอื่ มโยงวาถูกตองตรงกนั หรอื ไม
23
- การตรวจสอบสาํ เนาทะเบียนบาน (ตนฉบับ)
ซึ่งเปนทะเบียนประจําบานแตละบาน โดยแสดงเลขประจําบาน
และรายการของคนทั้งหมดท่ีอยูในบาน เพ่ือยืนยันตัวบุคคลและ
เปนเอกสารประกอบ การสอบสวนสถานภาพของบุคคลไดอีกทางหน่ึง
โดยตรวจสอบจากทะเบียนบานทุกหนา เชน ในทะเบียนบาน
ปรากฏวา มบี ุตร แสดงวาไมโสดมีคูสมรสแลว หรือปรากฏมีบุตรโดย
บิดาหรือมารดามิไดมีสัญชาติไทย เปนการขอไดมาซึ่งท่ีดินเพ่ือ
ประโยชนแกคนตางดาวหรือไม ตามมาตรา ๗๔ แหงประมวล
กฎหมายท่ดี นิ เปนตน
- ทั้งนี้ หามพนกั งานเจา หนาที่เรียกสําเนา
บัตรประจาํ ตวั ประชาชนและสาํ เนาทะเบียนบานโดยเด็ดขาด หากมี
ความประสงคตองใชสําเนาเอกสารประกอบการพิจารณา ใหพนักงาน
เจาหนา ท่ีเปนผจู ัดทาํ สําเนาเอกสารเอง เชน การขอรบั มรดก เปนตน
โดยหา มมใิ หเรียกคาใชจ ายการทาํ สาํ เนาจากผูขอ (ตามหนังสือกรมที่ดิน
ดวนท่สี ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ ว ๑๐๑๑๙ ลงวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๐)
- ผขู อเปนนติ ิบุคคล กรณสี าํ นกั งานท่ีดินท่ี
ใชระบบคอมพิวเตอรเชื่อมโยงขอมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจการคาให
พนกั งานเจาหนาท่ีตรวจสอบหลักฐานจากระบบ และบันทึกยืนยัน
ตรวจสอบไวหลงั สัญญา/บันทึกขอตกลงหรือคําขอ (ท.ด. ๙) แลวแตกรณี
เสร็จแลว ใหพนักงานเจาหนาท่ีผูสอบสวนลงชื่อพรอมวัน เดือน ป
กาํ กับไว หากเปนกรณีสํานักงานที่ดินไมมีการเชื่อมโยง หรือกรณีมี
การเชื่อมโยงขอมูลแลวมีเหตุขัดของไมสามารถเชื่อมโยงขอมูลได
ใหพ นกั งานเจาหนาท่ีแจง กรมพัฒนาธรุ กิจการคาหรือสํานักงานพัฒนา
ธุรกจิ การคาจงั หวดั เพื่อจัดสงเอกสารหลักฐานมาเพอื่ ประกอบคําขอ
เวนแตผ ูขอประสงคนําเอกสารหลักฐานมาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ี
ดวยตนเอง (หนงั สือกรมที่ดิน ดวนท่ีสุด ที่ มท ๐๕๑๕.๓/ว ๑๔๑๕๓
ลงวันท่ี ๑ มถิ ุนายน ๒๕๖๐)
24
๒) ตรวจสอบทะเบียนอายัดวามีการอายัด
หรือไม หรือมกี ารหา มโอนตามกฎหมายหรอื ไม ประการใด
๓) ตรวจสอบสารบบ คือตรวจช่ือบิดามารดา
อายุ ลายมือชื่อ หรือลายพิมพนิ้วมือ ตลอดจนเคร่ืองหมายท่ีดิน
ห รื อ เ อ ก ส า ร อั น เ ป น ห ลั ก ฐ า น เ กี่ ย ว กั บ อ สั ง ห า ริ ม ท รั พ ย อื่ น
โดยตรวจสอบเอกสารตาง ๆ ในสารบบวาถูกตองตรงกันหรือไม
หากมขี อขัดขอ งประการใด จะตอ งชี้แจงเหตทุ ่ขี ดั ของใหผ ูข อทราบ
๔) กรณีเปน การจดทะเบยี นที่ดนิ ไมเตม็ ทงั้ แปลง
หรือกรณีที่พนักงานเจาหนาท่ีเห็นสมควรใหคูกรณีนําพนักงานเจาหนาท่ี
หรอื เจา หนาทอ่ี ื่นไปตรวจสอบสภาพท่ีดิน หรืออสังหาริมทรัพยอื่นท่ีขอ
จดทะเบียน โดยคูกรณีเปนผอู อกคาใชจาย (กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๗
(พ.ศ. ๒๔๙๗)ฯ ขอ ๓)
๕) การตรวจสอบในกรณอี ื่นๆ
- การสอบสวนเรือ่ งโอนมรดก กรณีสอบสวน
ทายาทของเจามรดกในการสอบสวนจะสอบสวนจากผมู าขอรบั มรดก
แตตองตรวจสอบจากเอกสารหลักฐานท่ีผูขอนํามาประกอบการขอ
จดทะเบียน เชน ทะเบียนบานใหตรวจสอบหนาอ่ืนๆดูวามีชื่อ
ทายาทผูมสี ทิ ธริ บั มรดกอกี หรือไม
- การตรวจสอบกรณีมคี สู มรสท่ไี มช อบดวย
กฎหมายหรือคูสมรสที่เปนคนตางดาว ใหตรวจสอบจากสําเนา
ทะเบียนบาน โดยการตรวจสอบบุคคลท่ีมีช่ือในทะเบียนบานวามี
ความเก่ียวของสัมพันธก ันอยา งไร
..........ฯลฯ............
๒.๓ การประกาศ
- เมือ่ พนกั งานเจา หนา ท่ีไดดาํ เนนิ การสอบสวน
และตรวจสอบไมมีขอขัดของประการใดแลว ในกรณีตองประกาศ
25
การจดทะเบียนใหประกาศมกี ําหนด ๓๐ วัน และใหแยกประกาศ
เปนเรือ่ ง ๆ ไป
- การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน
ท่ยี ังไมม ีโฉนดทด่ี ิน ใบไตส วน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
ตามแบบ น.ส. ๓ ก. หรือเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยอยางอื่นในที่ดินดังกลาว
หรอื เกี่ยวกับอสงั หารมิ ทรพั ยอ ยา งอื่นในท่ีดินท่ีมีโฉนดท่ีดิน ใบไตสวน
หรอื หนังสือรับรองการทําประโยชน ตามแบบ น.ส. ๓ ก. ในกรณี
ไมรวมกับท่ีดินดังกลาว ตองมีการประกาศการจดทะเบียนตามท่ี
กฎหมายกําหนด ตามมาตรา ๗๗ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
บัญญัติวา “การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับที่ดินหรือ
อสังหาริมทรัพยอยางอ่ืน ถาประมวลกฎหมายนี้มิไดบัญญัติไวเปน
อยางอ่ืนใหปฏิบัติตามหลักเกณฑและวิธีการท่ีกําหนดในกฎกระทรวง”
ซ่ึงตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ แกไข
เพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวงฉบับที่ ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๒๖)ฯ และ
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑)ฯ ไดกําหนดหลักเกณฑ
เกยี่ วกับการประกาศการจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรม ซงึ่ กรมทดี่ นิ ได
วางระเบียบ คาํ ส่ัง และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประกาศการ
จดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ ิกรรมกรณตี าง ๆ ไวด งั ตอไปนี้
๑) กําหนดเวลาการปดประกาศ
การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรมเก่ียวกับที่ดิน
ที่ยงั ไมมโี ฉนดที่ดนิ ใบไตส วน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
ตามแบบ น.ส. ๓ ก. หรือเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนในท่ีดิน
ดังกลาว หรอื เกย่ี วกับอสงั หาริมทรพั ยอ ยางอืน่ ในทีด่ ินที่มีโฉนดที่ดิน
ใบไตส วน หรือหนงั สอื รับรองการทาํ ประโยชนตามแบบ น.ส. ๓ ก.
ในกรณีไมรวมกับทดี่ นิ ดงั กลาวใหป ระกาศการขอจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม
มีกาํ หนดสามสิบวนั (ตามขอ ๕ แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
26
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑)ฯ)
๒) สถานทปี่ ด ประกาศ
- การปดประกาศใหป ด ประกาศไวในทเี่ ปด เผย
ณ สํานกั งานทีด่ นิ ทองที่ซึ่งท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนตั้งอยู
สํานกั งานเขตหรอื ทวี่ า การอาํ เภอหรือที่วาการก่ิงอําเภอทองท่ี ท่ีทําการแขวง
หรือท่ที าํ การกาํ นันทองที่ และบริเวณท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยนั้น
แหงละหน่ึงฉบับ (ขอ ๕ แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
แกไขเพ่มิ เติม โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑)ฯ)
- ระเบยี บกรมที่ดิน วาดวยการจัดต้ังและ
ปฏบิ ัตงิ านในสํานักงานที่ดนิ จังหวัดหรือสํานกั งานท่ดี นิ สาขาสวนแยก
พ.ศ. ๒๕๔๖ ขอ ๒๑ แกไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกรมท่ีดิน วาดวย
การจัดต้ังและปฏิบัตงิ านในสํานักงานทีด่ ินจงั หวดั หรือสํานักงานที่ดิน
สาขาสว นแยก (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๗ ขอ ๓ วางแนวทางปฏบิ ตั ิ
กรณีทก่ี ฎหมายกําหนดใหปดประกาศ ณ สํานักงานท่ีดินทองท่ีที่ท่ีดิน
ต้งั อยู ซ่ึงไดแ ก สํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดินจังหวัดสาขา
แลวแตกรณี ใหปดประกาศเพิ่มอีกฉบับหนึ่ง ณ สํานักงานท่ีดิน
สว นแยกดว ย
- กรณีมรดก ใหปด ประกาศทกุ แหงท่ีกฎหมาย
กําหนด ไดแก สํานักงานที่ดิน สํานักงานเขตหรือที่วาการอําเภอ
หรอื กง่ิ อาํ เภอ สาํ นักงานเทศบาล ทท่ี ําการองคการบริหารสวนตําบล
ทที่ าํ การแขวง หรือทท่ี าํ การกํานันทอ งที่ ที่ทําการผูใหญบานทองท่ี
ซึง่ อสงั หารมิ ทรัพยต ัง้ อยู และบรเิ วณอสงั หาริมทรัพยนั้น แหง ละ ๑ ฉบบั
สําหรับทองที่ซึ่งอสังหาริมทรัพยท่ีขอจดทะเบียนต้ังอยูไมมีสถานที่
บางแหงน้ันใหปดเนื่องจากการแบงเขตความรับผิดชอบตามท่ีกฎหมาย
กําหนดทําใหไ มม ีหนว ยงานดงั กลา วในทองทซ่ี ง่ึ อสังหารมิ ทรพั ยต้ังอยู
27
ใหปด เฉพาะสถานท่ีที่มีอยูในทองท่ีซึ่งอสังหาริมทรัพยต้ังอยูเทานั้น
เชน ท่ีดินต้ังอยูเฉพาะในเขตเทศบาลซ่ึงจะมีแตสํานักงานเทศบาล
เทานัน้ โดยไมมีที่ทาํ การองคก ารบรหิ ารสวนตําบลตั้งอยดู วย กรณนี ้ี
ใหป ดประกาศเฉพาะท่ีสํานกั งานเทศบาล โดยไมต อ งปดประกาศท่ีที่
ทําการองคการบรหิ ารสว นตําบลขา งเคียงซึ่งที่ดินไมไดต้ังอยูในทองท่ีน้ัน
ดว ยแตอ ยา งใด เปนตน หากอสังหาริมทรัพยตั้งอยูในเขตความรับผิดชอบ
ของสาํ นกั งานทีด่ นิ สว นแยก ใหปดประกาศท่ีสํานักงานที่ดินจังหวัด
หรือสํานักงานท่ีดินสาขา และสํานักงานที่ดินสวนแยกดวย และ
กรณีสาํ นกั งานที่ดินอําเภอซ่ึงตั้งอยูแยกตางหากจากท่ีวาการอําเภอ
หรือก่ิงอําเภอ ใหปดประกาศ ณ ที่วาการอําเภอหรือก่ิงอําเภอทองที่
และสํานักงานที่ดินอําเภออีก ๑ ฉบับดวย(ตามระเบียบกรมท่ีดิน
วาดว ยการจดทะเบียนสทิ ธเิ กยี่ วกบั อสงั หาริมทรพั ยซง่ึ ไดมาโดยทางมรดก
(ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๗ สวนที่ ๔ การประกาศ ขอ ๒๒)
๓) ขอ ยกเวน ท่ไี มตอ งประกาศ
การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมที่ไมตอง
ประกาศตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัตใิ หใชป ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และฉบับที่
แกไขเพมิ่ เตมิ มดี งั นี้
๓.๑) การจดทะเบียนเลิกสทิ ธิหรือนติ กิ รรม
เชน เลิกเชา เลกิ ภาระจํายอม เปนตน
๓.๒) การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ท่เี กีย่ วเนอื่ งกบั การจาํ นอง เชน การไถถ อน การขึ้นเงิน การผอนตน
การโอนสิทธิ การโอนหลุดเปนสิทธิ การโอนชําระหนี้จํานอง
การแกไ ขเปลย่ี นแปลงจาํ นองหรอื หน้ีอนั จาํ นองเปน ประกัน เปน ตน
๓.๓) การไถถอนจากการขายฝาก
การปลดเง่ือนไขการไถ หรือการโอนสทิ ธิไถจ ากการขายฝาก
28
๓.๔) การจดทะเบียนไดมาจากการขาย
ทอดตลาดโดยมีการบังคับคดีทางศาล
๓.๕) การจดทะเบียนตาม ๓.๒) ๓.๓)
หรอื ๓.๔) แลวจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมประเภทอ่ืนตอไปในวนั
เดียวกนั
๓.๖) เมื่อมีการประกาศการขอจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนติ กิ รรมประเภทหน่ึงประเภทใดไวค รบกาํ หนดแลว ตอ มามี
การตกลงเปล่ียนประเภทการจดทะเบยี นหรอื เปลย่ี นคูก รณีฝายผรู บั สัญญา
๓.๗) การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ประเภทหนึ่งประเภทใดซ่ึงไดกระทาํ ติดตอในวันเดียวกัน เมื่อการ
จดทะเบียนลําดับแรกนัน้ มกี ารประกาศตามขอ ๓.๕) แลว
๓.๘) การจดทะเบียนการโอนตามคําสั่งศาล
๓.๙) การจดทะเบียนการโอนตามคําส่ัง
พนกั งานเจา หนาทผ่ี ูม อี าํ นาจตามกฎหมายอน่ื
(ขอ ๖ แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗
(พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ แกไขเพม่ิ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๓
(พ.ศ. ๒๕๒๖)ฯ และแกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๕
(พ.ศ. ๒๕๓๑)ฯ)
๔) การคดั คานการประกาศ
- ในการประกาศตามความในขอ ๕ แหง
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ แกไข
เพมิ่ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑)ฯ ถาไมมีผูใด
คัดคานภายในกําหนดเวลาแลวใหดําเนินการจดทะเบียนตอไป
ในกรณีท่ีมีผูคัดคานใหพนักงานเจาหนาท่ีสอบสวนพยานหลักฐาน
และทําการเปรียบเทียบท้ังสองฝาย ถาตกลงกันไดใหทําหนังสือ
29
สัญญาประนีประนอมยอมความไวแลวดําเนินการตามน้ัน ถาตกลง
กันไมไดใหงดดําเนินการไว แลวแจงใหท้งั สองฝายไปจดั การฟองรอง
วา กลาวกนั ตอไป และเมื่อมีคําพิพากษาถึงที่สุดแลว จึงดําเนินการ
จดทะเบียนตามผลแหงคําพิพากษา (ขอ ๗ แหงกฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗)
- กรณีมรดกยอมเปนไปตามมาตรา ๘๑
ซ่ึงใหปดประกาศมีกําหนด ๓๐ วัน และในกรณีมีการโตแยง
พนักงานเจาหนาท่ี มีอํานาจสอบสวนคูกรณี และเรียกบุคคลใด ๆ
มาใหถอยคําหรอื ส่งั ใหส ง เอกสารทเี่ กยี่ วของไดต ามความจาํ เปน และ
ใหม อี าํ นาจเปรยี บเทียบ ถาเปรียบเทียบไมตกลงใหส่ังการไปตามท่ี
เหน็ สมควร หากฝายใดไมพ อใจ ใหไปดําเนินการฟองตอศาลภายใน
กาํ หนด ๖๐ วัน นับแตวันท่ีทราบคําสั่ง ถาไมฟองตามกําหนดให
ดําเนินการตามที่พนักงานเจาหนาท่ีส่ัง แตถามีการฟองภายใน
กาํ หนดใหรอเรื่องไว เม่ือศาลมีคําสั่งหรือคําพิพากษาถึงที่สุดแลว
จงึ ดําเนนิ การตามนัน้
๕) การนับระยะเวลาการปด ประกาศ
การนบั ระยะเวลาการปดประกาศ ๓๐ วัน
ใหน ับจากหลกั ฐานการปดประกาศฉบับสุดทาย โดยมิใหนับวันแรก
แหงระยะเวลา การปดประกาศรวมเขาดวย ถาวันที่ครบกําหนด
๓๐ วนั ตรงกบั วนั หยดุ ราชการใหน ับวนั เร่ิมทําการใหมตอจากวันที่
หยดุ ทาํ การนัน้ เปนวนั สุดทายของการปดประกาศ และวันรุงข้ึนเปน
วันที่จะดําเนินการตอไป ตามนัยบทบัญญัติของมาตรา ๖๔ แหง
พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ และ
มาตรา ๑๙๓/๘ แหงประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
๓. การทําสัญญา/บันทึกขอ ตกลง/แกทะเบียน/ชําระ
คาธรรมเนียม ภาษีอากร
30
๓.๑ การทําสญั ญา/บันทกึ ขอ ตกลง/แกท ะเบยี น
- เมื่อสอบสวนและตรวจสอบแลวไมมีการ
อายัด คัดคา น หรอื ขอขัดขอ งประการใดแลว ใหด าํ เนนิ การทํานิติกรรม
โดยทําเปนสัญญาหรือบันทึกขอตกลง แลวแตกรณี ถาเปนการ
จดทะเบียนท่ีไมม กี ารทํานิติกรรม เชน รับมรดก ก็ไมตองมีการทํา
สัญญาหรือทําบนั ทึกขอ ตกลงกนั แตอยา งใด ในกรณที าํ เปนสญั ญาให
ทําเปน คูฉบับ เพอื่ เกบ็ ไว ณ สาํ นกั งานทีด่ ิน ๑ ฉบับ และมอบให
ผูเปนฝายที่ตองถือเปนหลักฐาน อีก ๑ ฉบับ หรือ ๒ ฉบับ
แลว แตกรณี ถา ทําเปนรูปบนั ทึกขอตกลงใหทาํ ๑ ฉบับ เพอื่ เก็บไว
ณ สาํ นกั งานท่ดี ิน (ขอ ๔ กฎกระทรวงฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
- การแกทะเบียน เปนไปตามหลักการ
ทะเบยี นที่ดิน ประเภทการจดทะเบียนแตละประเภทท่ีกาํ หนดไว
๓.๒ การเรียกเก็บคา ธรรมเนียม
- ประมวลกฎหมายท่ีดิน มาตรา ๑๐๓
วรรคหนึ่ง บัญญัติไววา ในการดําเนินการออกหนังสือสิทธิในที่ดิน
การรังวัด การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการทําธุระอ่ืนๆ
เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย ใหเรียกเก็บคาธรรมเนียมและคาใชจาย
ตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง แตตองไมเกินอัตราตามบัญชีทาย
ประมวลกฎหมายน้ี
- ประมวลกฎหมายท่ีดิน มาตรา ๑๐๓ ทวิ
บญั ญตั วิ า การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมเกี่ยวกบั อสงั หาริมทรพั ย
ท่บี ริจาคใหแกทางราชการใหไ ดรบั ยกเวนคา ธรรมเนยี ม
- ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๑๐๔
บัญญัติไววา ในกรณีการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอน
กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยใหผูขอ
จดทะเบียนเสียคา ธรรมเนยี มจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม โดยคํานวณ
ตามราคาประเมินทุนทรพั ย ตามมาตรา ๑๐๕ เบญจ
31
การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับ
อสังหารมิ ทรพั ยในกรณีอนื่ นอกจากท่ีกาํ หนดไวใ นวรรคหน่ึง ใหผูขอ
จดทะเบียนเสียคาธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโดยคํานวณ
ตามจาํ นวนทุนทรพั ยท่ผี ูขอจดทะเบียนแสดงตามความเปนจริง
- กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ไดก ําหนดคา ธรรมเนยี มจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมประเภทตาง ๆ ไว
- หลักเกณฑการคิดคาธรรมเนียมจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนติ กิ รรมมที ุนทรพั ย โดยใหคิดจากราคาประเมินทุนทรัพย
กรมทด่ี นิ ไดวางแนวทางใหพนักงานเจาหนาท่ีถือปฏิบัติเก่ียวกับการ
เรียกเกบ็ คา ธรรมเนียมภาษีเงนิ ไดห ัก ณ ทจี่ าย และอากรแสตมปในการ
จดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรม ดงั น้ี
๑. เมื่อมีผมู าขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ประเภทมีทุนทรัพย เชน ขาย แลกเปลย่ี น หรอื ให เปนตน ใหผูขอ
แสดงราคาทรัพยที่ขอจดทะเบียนตามความจริง โดยระบุลงในเรื่องราว
ขอจดทะเบียนสทิ ธินิตกิ รรมฯ (ท.ด. ๑) ขอ ๔
๒. ใหพ นักงานเจาหนาทค่ี าํ นวณราคาประเมิน
ทุนทรัพยตามบัญชีกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยที่คณะกรรมการ
กําหนดราคาประเมินทุนทรัพยเห็นชอบ และไดประกาศใชในการ
เรียกเก็บคาธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมลงใน
เรื่องราวขอจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรมฯ (ท.ด. ๑) ชองพนักงาน
เจาหนา ท่ีประเมนิ ทนุ ทรัพย
๓. ในการเรยี กเก็บคาธรรมเนียมและภาษีเงิน
ไดห กั ณ ทีจ่ า ย ใหเรยี กเก็บ ดงั นี้
๓.๑ บคุ คลธรรมดา ใหเรยี กเกบ็ คาธรรมเนียม
และภาษเี งินไดหกั ณ ทจ่ี า ย ตามราคาประเมินทุนทรัพยท่ีคํานวณ
ได ตาม ๒. ทง้ั น้ี ไมว าราคาทรพั ยที่ผขู อจดทะเบยี นแสดงตาม ๑.
32
จะต่ําหรือสูงกวาราคาประเมินทุนทรัพยตามท่ีคํานวณไดตาม ๒.
หรอื ไมก็ตาม
๓.๒ นติ ิบุคคล ใหเรียกเก็บคาธรรมเนียม
ตามราคาประเมินทุนทรพั ยท ่คี าํ นวณไดตาม ๒. เชนเดียวกับ ๓.๑
เวนแตคาภาษีเงินไดหัก ณ ที่จาย ใหเรียกเก็บตามราคาที่ผูขอ
จดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรมแสดงตาม ๑. หรือราคาประเมินทุนทรัพย
ทีค่ าํ นวณไดตาม ๒. แลวแตร าคาใดจะสงู กวา
๔. การเรียกเก็บคา อากรแสตมป ใหเรียกเก็บ
ตามราคาที่ผูข อแสดงหรือราคาประเมนิ ทุนทรัพยแลวแตร าคาใดจะสงู กวา
- เหตทุ ี่พนกั งานเจา หนาทีใ่ นการจดทะเบยี น
ท่ีมีทุนทรัพยต องเรยี กเกบ็ ภาษีเงินไดห กั ณ ทจ่ี า ยและอากรแสตมป
เนอ่ื งจากประกาศกระทรวงการคลัง วาดวยการแตงต้ังเจาพนักงาน
(ฉบบั ท่ี ๑๐) ลงวนั ท่ี ๒๗ กุมภาพันธ ๒๕๒๕ แตงต้ังใหพนักงาน
เจาหนา ทผ่ี รู บั จดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมเกีย่ วกับอสังหาริมทรัพย
เปนเจาพนักงานประเมินตามมาตรา ๑๖ แหงประมวลรัษฎากร
เ ฉ พ า ะ ใ น ก ร ณี ท่ี เ กี่ ย ว กั บ ก า ร จั ด เ ก็ บ ภ า ษี เ งิ น ไ ด จ า ก ก า ร ข า ย
อสงั หาริมทรัพย และประกาศกระทรวงการคลัง วาดวยการแตงต้ัง
เจาพนกั งาน (ฉบบั ที่ ๑๑) ลงวันที่ ๑๑ มถิ ุนายน ๒๕๒๕ แตงต้ัง
ใหเปนพนักงานเจาหนาท่ีอากรแสตมป ตามมาตรา ๑๐๓ แหง
ประมวลรษั ฎากร เฉพาะกรณกี ารจดทะเบยี นเก่ียวกับอสงั หาริมทรัพย
- คา ธรรมเนียมจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม
๑) การจดทะเบยี นประเภทมีทุนทรพั ย
๑.๑ เรียกเก็บตามราคาประเมินทุนทรัพย
รอ ยละ ๒ (เรียกเก็บตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑)
ขอ ๒ (๗) (ก)) เชน ประเภท ขาย ขายฝาก โอนสิทธิการไถจาก
ขายฝาก ให แลกเปลย่ี น กรรมสิทธ์ิรวม โอนชําระหน้ี โอนชําระ
33
หน้ีจํานอง โอนชําระคาหุน ไดมาโดยการครอบครอง โอนตาม
คาํ สงั่ ศาล โอนมรดก เปน ตน
๑.๒ เรียกตามราคาประเมินทุนทรัพย
รอ ยละ ๐.๕ เชน โอนมรดกระหวางบุพการีกับผูสืบสันดาน โอนมรดก
ระหวางคูสมรส ใหระหวางคูสมรส ใหระหวางบุพการีกับ
ผูส ืบสนั ดาน เปน ตน
๒) ประเภทไมมีทนุ ทรพั ย
การจดทะเบียนเลิกและปลอดสิทธิตางๆ
เปนประเภทไมม ที ุนทรัพย เรยี กเก็บเปน รายแปลง แปลงละ ๕๐ บาท
เชน ประเภท ไถถ อนจากขายฝาก ไถถอนจากจํานอง ผอนตนเงิน
จากจํานอง จาํ นองเพ่ิมหลักทรัพย แกไขหนี้จํานองอันเปนประกัน
ปลอดจํานอง ภาระจํายอม สิทธิอาศัย สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน
ภาระติดพันในอสงั หารมิ ทรัพย ลงชอื่ คสู มรส บรรยายสวน โอนตามกฎหมาย
ผูจดั การมรดก เปล่ยี นผจู ดั การมรดก โอนเปลี่ยนนามผจู ัดการมรดก
หา มโอน เปนตน
๓) ประเภททถ่ี อื เสมือนวา มีทุนทรัพย
- การจํานองและบุรมิ สทิ ธิ เรียกตามราคา
ที่จาํ นอง หรือบรุ มิ สิทธทิ ี่จดทะเบยี น รอ ยละ ๑ แตอ ยางสงู ไมเกิน
๒๐๐,๐๐๐ บาท
- การจาํ นองและบุริมสิทธิ สําหรับการให
สินเช่อื เพ่อื การเกษตรของสถาบันการเงนิ ท่ีกระทรวงมหาดไทยกําหนด
(ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณการเกษตร ธนาคารพาณิชย
ตามกฎหมายวา ดวยธนาคารพาณิชย และบรษิ ทั เงนิ ทุนอตุ สาหกรรม
แหงประเทศไทย) เรียกตามราคาที่จํานอง หรือบุริมสิทธิท่ีจดทะเบียน
รอ ยละ ๐.๕ แตอยางสงู ไมเกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
- การเชา เรยี กตามคาเชาหรือเงินกนิ เปลา
หรอื ทั้งสองอยา งรวมกนั ตลอดระยะเวลาการเชา รอ ยละ ๑
34
๔) คา ใชจ า ย
- คาปดประกาศใหแกผูปดประกาศ แปลงละ
๑๐ บาท
- คาพยานใหแกพยาน คนละ ๑๐ บาท
(ใหสอบถามผูทํานิติกรรมหรือคําขอวามีพยานมาแลวหรือไม ถามี
ครบแลวก็ใหพยานลงลายมือชื่อ ถาไมมีพยานหรือมีแตไมครบ
จึงใหเจา หนา ทีเ่ ปนพยานได และไมค วรใหมีเกิน ๒ คน ตามคําสั่งกรมท่ีดิน
ท่ี ๑/๒๕๐๐ ลงวนั ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๐๐ เร่ือง การเปนพยาน
ในนติ ิกรรมและคําขอตา ง ๆ)
- การยกเวนไมต องเสียคา ธรรมเนียม
๑) ตามประมวลกฎหมายที่ดิน การจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนิติกรรมเกยี่ วกบั อสงั หาริมทรพั ยท บ่ี รจิ าคใหแ กท างราชการ
ใหไดรับยกเวนไมตองเสียคาธรรมเนียม ตามมาตรา ๑๐๓ ทวิ
แหง ประมวลกฎหมายทดี่ ิน
๒) ตามกฎหมายอ่ืน เชน พระราชบัญญัติสหกรณ
พ.ศ. ๒๕๔๒ พระราชบัญญตั ิการปฏริ ปู ที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘
พระราชบัญญตั ิวาดว ยการการเวนคืนอสังหาริมทรัพย พ.ศ. ๒๕๓๐
เปนตน
๔. การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม/แจกหนังสือ
แสดงสิทธใิ นท่ีดนิ และสญั ญา
(๑) การจดทะเบยี นสทิ ธิและนิติกรรม ในโฉนดที่ดิน
หรอื หนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชน
ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๗๕
การดําเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับท่ีดินท่ีมีโฉนดที่ดิน
หรือหนังสือรบั รองการทาํ ประโยชน เจาพนักงานท่ีดินตองบันทึกขอตกลง
หรือทําสัญญาเก่ียวกับการนั้น แลวใหจดบันทึกสาระสําคัญลง
ในโฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สือรับรองการทําประโยชนฉ บับสํานักงานท่ีดิน
35
และฉบบั เจา ของท่ีดินใหตรงกันดว ย หรอื ที่เรียกกันโดยทั่ว ๆ ไปวา
จดทะเบยี นสองขา จะจดทะเบยี นขาใดขาหน่ึงเฉพาะฉบบั สํานักงานท่ีดิน
หรือเฉพาะฉบับเจาของที่ดินไมได
หากโฉนดทด่ี ินหรือ น.ส. ๓ ฉบับเจาของท่ีดิน
เปนอนั ตราย ชํารุด สญู หาย ดว ยประการใด หรอื ไมสามารถนาํ มา
จดทะเบียนได จะตองดําเนินการออกใบแทนเสยี กอ นตามนยั มาตรา ๖๓
แหง ประมวลกฎหมายทีด่ นิ และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)ฯ
ขอ ๑๗ กอ น
นอกจากน้ี กอ นจะจดทะเบียนฯ พนกั งานเจาหนาที่
ผูจดทะเบียนจะตองตรวจสอบเร่ืองราวและหลักฐานตาง ๆ กับ
สอบถามคูกรณี เพื่อความถูกตองอีกครั้งหน่ึงกอนที่จะลงช่ือและ
ประทับตราในรายการจดทะเบียน ซ่ึงกรมท่ีดินไดวางระเบียบไว
ตามหนังสือกรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๖๑๐/ว ๑๑๙๖๖ ลงวันที่ ๒๑
พฤษภาคม ๒๕๑๖ โดยใหพนักงานเจาหนาที่กอนจะลงลายมือช่ือ
ในการจดทะเบียนใหมีการตรวจสอบรายการในหัวขอตอไปน้ีดวย
ตนเองเสยี กอ นทุกครัง้ คอื
- การกรอกรายการใน ท.ด. ๑ ครบถวนถูกตองแลว
- ตรวจอายัดแลว
- ตรวจสารบบถกู ตองแลว
- คดิ คาธรรมเนยี มถูกตองแลว
- ปด อากรแสตมปถ ูกตองแลว
- ทาํ สญั ญาหรอื บนั ทึกขอตกลงถกู ตอ งแลว
- แกสารบญั จดทะเบยี นทง้ั ๒ ฉบับ ถกู ตอ งแลว
- คูสัญญาไดเซ็นช่ือตอหนาและใหถอยคําวามี
การชําระราคาซอ้ื ขายแลว
(๒) การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรมเก่ียวกับท่ีดิน
หรอื อสังหาริมทรพั ยอยา งอ่ืน
36
ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา ๗๗ และ
มาตรา ๗๘ ไดบ ญั ญตั ิถึงการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมเกี่ยวกับที่ดิน
หรืออสงั หาริมทรัพยอ ยางอ่นื และการจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม
ในที่ดิน ซ่ึงไดมาตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย มาตรา ๑๓๘๒
หรือโดยประการอื่นนอกจากนิติกรรมสําหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดิน
ใหปฏบิ ัตติ ามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๗ ซึ่งกาํ หนดไวในขอ ๘ ขอ ๙
ระเบียบกรมท่ดี ิน วา ดว ยการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับ
ทีด่ นิ ซึ่งไดม าโดยการครอบครอง พ.ศ. ๒๕๕๑ หมวด ๑ สวนที่ ๑
และ ๒ ขอ ๕ - ขอ ๑๙
ตามกฎกระทรวงดงั กลาวไดก าํ หนดหลกั เกณฑ
และวิธีการจดทะเบียนตามกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๓๘๒
หรือการไดมาโดยการครอบครองปรปกษไ วช ัดแจงแลว ซึ่งพนักงาน
เจา หนาท่ีจะดําเนนิ การใหตอเมื่อมีคําพิพากษาหรือคําสั่งอันถึงท่ีสุด
ไปแสดง หากคดียังไมถงึ ท่ีสดุ ก็ยงั ไมอาจดาํ เนนิ การได
สํ า ห รั บ ก า ร จ ด ท ะ เ บี ย น สิ ท ธิ ใ น ที่ ดิ น โ ด ย
ประการอื่นนอกจากนิตกิ รรมนัน้ กรณกี ารไดมาโดยการครอบครอง
ตามประมวลกฎหมายแพงพาณิชย มาตรา ๑๓๖๗ กรมท่ดี นิ ไดวาง
แนวทางปฏิบัติไวต ามระเบยี บกรมที่ดนิ วาดวยการจดทะเบียนสิทธิ
และนติ ิกรรมเก่ียวกบั ท่ีดนิ ซึ่งไดม าโดยการครอบครอง พ.ศ. ๒๕๕๑
หมวด ๒ สวนที่ ๑ และ ๒ ขอ ๒๐ - ขอ ๒๗
(๓) แจกหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ และสญั ญา
เมือ่ จดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมแลว กอนแจก
หนงั สือแสดงสิทธิในที่ดินและสัญญาใหผูขอตรวจสอบความถูกตอง
กอนรับกลับไป
............................
37
หลกั กฎหมายทเี่ กี่ยวของกบั การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม
ชดุ ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
๑. ความหมายและลักษณะของนิตกิ รรม
“นิติกรรม” หมายความวา การใด ๆ อันทําลงโดยชอบ
ดว ยกฎหมายและดว ยใจสมคั รมงุ โดยตรงตอการผูกนิติสัมพันธขึ้นระหวาง
บุคคล เพอ่ื จะกอ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึง่ สทิ ธิ
ลกั ษณะของนิตกิ รรมประกอบดวย ดงั น้ี
๑) เปนการกระทํา ตองมีการกระทําของบุคคลท่ีเกิดจาก
ความคิด การตัดสินใจ และการกระทําเพื่อแสดงใหเห็นความตองการ
ตามท่ีไดตัดสินใจตามขั้นตอนหรือกระบวนการในการกอเจตนานั่นเอง
ซึ่งการกระทาํ นั้นจะถอื เปนการกระทําได บุคคลน้ันจะตองกระทําไดโดย
รูสึกในสิ่งทต่ี นกระทํา
๒) เปนการกระทาํ ท่ชี อบดว ยกฎหมาย หมายถงึ มีกฎหมาย
รับรองการกระทาํ ดงั กลาว นติ ิกรรมนน้ั ตองไมขดั ตอกฎหมาย ความสงบ
เรยี บรอย หรือศีลธรรมอนั ดขี องประชาชน
๓) ตอ งทําโดยสมัครใจ หมายความวา บุคคลนั้นไดกระทํานิติกรรม
ไปโดยการตดั สินใจของตนเอง คอื ตัดสนิ ใจที่จะทาํ เองมไิ ดก ระทาํ ไปเพราะถกู
หลอกลวงหรือเรยี กเปนภาษากฎหมายวาถูกกลฉอฉล มิไดกระทําไปเพราะ
การถกู บังคบั อนั เปนเรอ่ื งของการขม ขู หรือมิไดก ระทาํ ไปเพราะความเขาใจผิด
แตไดกระทําดวยการตัดสินใจของตนเองโดยไมมีปจจัยอ่ืนมาทําใหความ
ประสงคท ่ีแทจ ริงน้ันเปลย่ี นแปลง
38
๔) ตอ งการกอใหเ กดิ ผลในทางกฎหมาย จะตองอยูท่ีเจตนา
หรือความตองการของผูทํานิติกรรมวาตองการมุงใหเกิดผลทางกฎหมาย
หรอื ไม มีเปาหมายหรอื วตั ถุประสงคใ นทางกฎหมายหรือไม
๕) เปน ผลผกู พันระหวา งบคุ คล การทาํ นิติกรรมทําจากบุคคล
ความผูกพนั ทางกฎหมายหรือนิตสิ มั พนั ธท่ีเกดิ ขึ้นจึงเกิดระหวา งบุคคลเทา นน้ั
๖) ผลนนั้ ก็คอื ความเคลอ่ื นไหวในสทิ ธิ ซ่งึ อาจจะเปน การ
(๖.๑) การกอใหเ กิดสิทธทิ ย่ี งั ไมมี
(๖.๒) การเปลย่ี นแปลงสิทธทิ ่ีเคยมีแลวเปนอยา งอืน่
(๖.๓) โอนสิทธิท่ีเคยมีใหกบั บคุ คลอ่นื เชน การโอนสทิ ธิ
เรียกรอง โอนสทิ ธิการรับจํานอง โอนสิทธกิ ารเชา เปน ตน
(๖.๔) สงวนสิทธิท่ีเคยมีใหเกิดความมั่นคง เชน การคํ้า
ประกัน การจํานอง เปน ตน
(๖.๕) ระงับสทิ ธิท่เี คยมีหรอื เคยกอ ขึ้นไว เชน การบอกเลิก
สญั ญา การบอกลา งโมฆียะกรรม เปน ตน
๒. องคประกอบของนิตกิ รรม
องคประกอบของนติ ิกรรม มี ๒ อยา ง ดงั นี้
๒.๑ องคประกอบที่เปนสาระสําคัญ ถาขาดองคประกอบ
อยางใดอยางหนึ่งดังตอไปนแ้ี ลว นติ กิ รรมก็จะไมเกิด ไดแก
๒.๑.๑ บุคคล บุคคลกระทํานิติกรรมไดตองมีความรู
สํานึกในสิ่งท่ีตนกระทํา ตองเปนผูรูคิดรอบคอบ มีความสามารถดูแล
ผลประโยชนข องตนเองได
๒.๑.๒ วัตถุประสงค การทํานิติกรรมนั้นตองเปนการ
กระทาํ ท่ี “มุง ” ตอ ผลอะไรสกั อยาง โดยการกระทํานั้นตองมีเปาหมาย
หรือวัตถปุ ระสงคเสมอ
39
๒.๑.๓ แบบ เปนวธิ ีการในการทาํ นิติกรรม
๒.๑.๔ เจตนา คือ มกี ารกระทําที่เกิดจากความตองการ
โดยสมคั รใจของผูทาํ นิติกรรมเอง
๒.๒ องคประกอบเสริม เปนองคประกอบที่ผูทํานิติกรรม
อาจกําหนดเพ่ิมเติมเขามาในนิติกรรม ซ่ึงเม่ือกําหนดเขามาแลวก็จะ
กลายเปน เน้อื หาสว นหนง่ึ ของนิตกิ รรม ไดแก
๒.๒.๑ เงื่อนไข คือ การนําเอาเหตุการณในอนาคตที่
ไมแนนอนมากําหนดเกี่ยวกับความเปน ผลหรือสนิ้ ผลของนติ กิ รรม
๒.๒.๒ เง่ือนเวลา คือ การนําเอา “เวลา” อันเปน
เหตกุ ารณในอนาคตที่แนนอนมากําหนดเก่ียวกับความเปนผลหรือส้ินผล
ของนิติกรรม
๓. การสอบสวนสทิ ธแิ ละความสามารถของคสู ัญญา
ในการทํานติ ิกรรมเกีย่ วกับอสังหารมิ ทรพั ยต ามประมวลกฎหมาย
แพงและพาณิชย ซ่ึงจะตองทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงาน
เจา หนา ท่นี ้ัน กอนที่จะมีการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม พนักงานเจาหนาท่ี
จะตอ งสอบสวนสิทธิและความสามารถของบุคคลท่ีมาย่ืนคําขอ ตลอดจน
ความสมบรู ณของนติ ิกรรมเปนลาํ ดบั แรก เพอื่ ใหทราบถงึ สทิ ธิ ความสามารถ
ในการใชสิทธขิ องคูสญั ญาหรอื ผยู นื่ คําขอ วามีสิทธิและความสามารถตามที่
จะมาขอใหเจาหนา ทด่ี าํ เนนิ การใหตามความประสงคห รอื ไม
“สิทธิ” คือ ประโยชนสวนไดเสียที่กฎหมายรับรองและ
คุม ครอง อันเปนการผูกพันบคุ คลผมู ีหนา ทีใ่ หกระทําการหรืองดเวนกระทําการ
อยางใดอยา งหนงึ่ เพือ่ ประโยชนผูทรงสิทธิ “สิทธิ” เปน “ประโยชน”
เพราะเจาของสทิ ธยิ อ มสามารถใชส ทิ ธใิ หเปนประโยชนแกตนในทางตาง ๆ ได
กลา วคอื สามารถครอบครองใชสอย จาํ หนาย จายโอน หรือจะทําอะไร ๆ
40
ตามใจชอบได ถา หากการกระทําน้ันไมฝาฝนกฎหมายและไมละเมิดสิทธิ
ของบุคคลอน่ื
“ความสามารถของบุคคล” บุคคลมีสิทธิแลวใชวาจะทํา
อะไรตามใจชอบไดทุกอยางโดยไมมีขอกําหนด แตบุคคลนั้นจะตองมี
ความสามารถดว ย ซง่ึ มี ๒ ประเภท ดังนี้
๑) ความสามารถในการถือสิทธิ หมายถึง ความสามารถของ
บุคคลท่ีจะเปน เจาของสทิ ธไิ ด ไมว า จะเปนตามประมวลกฎหมายแพงและ
พาณชิ ย หรือประมวลกฎหมายท่ดี ิน เชน บุคคลตางดาวไมอาจไดมาซึ่ง
กรรมสทิ ธใ์ิ นท่ีดนิ ในประเทศไทยได นอกจากจะมกี ฎหมายพิเศษยกเวนไว
หรอื มาตรา ๑๙ แหง พระราชบัญญตั อิ าคารชดุ พ.ศ. ๒๕๒๒ แกไขเพม่ิ เตมิ
โดยพระราชบัญญตั อิ าคารชุด (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๔ ปจ จบุ ันคนตา งดา ว
สามารถถอื กรรมสทิ ธิใ์ นหอ งชุดได โดยปฏิบตั ติ ามหลกั เกณฑท่กี ฎหมายกาํ หนดไว
๒) ความสามารถในการใชสิทธิ หมายถึง ความสามารถใน
การที่บุคคลจะใชส ิทธทิ ม่ี อี ยูใหเ กิดประโยชนแกต นเอง แตในเร่อื งการใชสิทธินี้
กฎหมายกําหนดขอ จํากดั ไวมากมาย เพราะวาการใชส ทิ ธขิ องแตละบุคคล
อาจกระทบกระเทือนถึงสิทธขิ องบคุ คลอ่นื ได
“ความสมบูรณของนติ กิ รรม” นิติกรรม หมายถึง การกระทํา
ของบุคคลทีช่ อบดวยกฎหมายและดว ยใจสมัครมุงโดยตรงตอ การผูกนิติสัมพันธ
ข้ึนระหวา งบุคคล เพอื่ กอใหเ กิดความเคลอ่ื นไหวแหง สิทธิ นิติกรรมจะมีผล
สมบูรณตอ งกระทําใหถ ูกหลักเกณฑตามกฎหมายกาํ หนดไว คือ วัตถุประสงค
ของนติ กิ รรมไมต องหา มชัดแจงโดยกฎหมาย ไมเปนการพนวิสัย ไมเปน
การขัดตอความสงบเรยี บรอ ยและศีลธรรมอนั ดขี องประชาชน หากกระทํา
การฝาฝน วตั ถุประสงคดังกลาว นิติกรรมนั้นเปนโมฆะ คือเสียเปลาไมมี
ผลบงั คับตามกฎหมาย ความสมบรู ณข องนิติกรรมท่ที าํ ขึน้ มี ๓ กรณี คือ
41
๑) กรณีท่ีนติ ิกรรมกระทําขนึ้ ถกู ตองตามหลกั เกณฑทกี่ ฎหมาย
กาํ หนดทุกประการ ยอ มสมบูรณม ผี ลใชบังคับ
๒) กรณนี ิติกรรมที่กระทาํ ขนึ้ มีขอ ท่อี าจเสอ่ื มเสยี บางประการ
กฎหมายจงึ เขาคุม ครองปกปองสิทธิของฝายท่ีเสียเปรียบ โดยกําหนดให
นติ กิ รรมนนั้ มีผลสมบรู ณต ลอดไปหรอื สนิ้ ผลไป สดุ แทแ ตฝ า ยทีเ่ สยี เปรียบ
นั้นจะเลือก เรยี กวา นติ ิกรรมทีเ่ ปน โมฆยี ะ
๓) กรณีนติ ิกรรมที่กระทําขึ้นไมถ ูกตอ งตามหลกั เกณฑท ่ีกฎหมาย
บัญญัตใิ นเรอื่ งทเ่ี ปน สาระสําคัญ จึงตกเปนโมฆะ ซึ่งเหตุแหงโมฆะกรรม
อันเกิดจากวัตถุประสงคข องนติ ิกรรม แบง เปน ๓ กรณี
(๓.๑) นติ กิ รรมมีวัตถปุ ระสงคเ ปน การตองหา มชัดแจงโดย
กฎหมาย
(๓.๒) นิติกรรมมีวัตถุประสงคเ ปน การพนวิสัย คือ ทําในส่ิง
ทเ่ี ปนไปไมไ ด
(๓.๓) นิติกรรมมีวัตถุประสงคเปนการขัดตอความสงบ
เรียบรอยหรอื ศลี ธรรมอันดขี องประชาชน