92
ประเภทการจดทะเบยี น การทาํ นิตกิ รรมของ
คนเสมอื นไรความสามารถ
- คนเสมือนไรความสามารถ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ขอถอื กรรมสทิ ธร์ิ วมโดยไมมี ผพู ิทักษกอ น (ม. ๓๔ (๘) ป.พ.พ.)
คาตอบแทน เงื่อนไขหรือ
คาภาระตดิ พัน
- คนเสมอื นไรค วามสามารถ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ขอถอื กรรมสิทธร์ิ วมโดยไมมี ผูพทิ ักษกอ น (ม. ๓๔ (๗) ป.พ.พ.)
คาตอบแทน แตมีเง่ือนไข
หรือคาภาระติดพัน เชน
ขอถอื กรรมสทิ ธิ์รวม (รบั ให)
โดยมเี งื่อนไขหา มขาย, ขอถือ
กรรมสิทธ์ิรวม (รับให) แลว
จดทะเบยี นสทิ ธิเกบ็ กนิ เปนตน
- คนเสมือนไรค วามสามารถ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ขอถือกรรมสทิ ธ์ิรวม โดยมี ผพู ทิ ักษก อน (ม. ๓๔ (๘) ป.พ.พ.)
คา ตอบแทน (ซ้อื )
๕. มรดก
- คนเสมอื นไรค วามสามารถ ทําไดดวยตนเอง โดยไมตองไดรับ
รับมรดก ความยนิ ยอมจากผพู ิทักษ
93
ประเภทการจดทะเบยี น การทํานิตกิ รรมของ
คนเสมือนไรความสามารถ
- คนเสมือนไรค วามสามารถ ทําไดโ ดยตอ งไดร บั ความยนิ ยอมจาก
สละมรดก ผพู ิทกั ษแ ละตองขออนุญาตศาลกอน
(ม. ๑๖๑๑ ป.พ.พ.)
- คนเสมือนไรค วามสามารถ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ทําพินยั กรรม ผพู ิทักษก อน (ฎีกา ๑๗๗/๒๕๒๘)
- คนเสมือนไรค วามสามารถ คนเสมือนไรค วามสามารถเปน ผูจัดการ
เปนผูจดั การมรดก มรดกไมไ ด (ม. ๑๗๑๘ ป.พ.พ.)
๖. แลกเปล่ียน ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ผพู ทิ ักษกอน (ม. ๓๔ (๘) ป.พ.พ.)
๗. โอนชําระคา หนุ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ผพู ทิ กั ษก อน (ม. ๓๔ (๑) ป.พ.พ.)
๘. ลงชือ่ คสู มรส/ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
แบงทรพั ยส ินระหวา งคูสมรส ผพู ิทักษก อ น (ม. ๓๔ (๘) ป.พ.พ.)
๙. โอนตามคําส่ังศาล ทาํ ไดดวยตนเอง โดยไมตองไดรับ
ความยินยอมจากผพู ทิ กั ษกอน
94
ประเภทการจดทะเบยี น การทํานติ กิ รรมของ
คนเสมือนไรความสามารถ
๑๐. โอนเปนที่สาธารณ- ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ประโยชน/แบงหักเปนที่ ผพู ิทักษก อ น (ม. ๓๔ (๖) ป.พ.พ.)
สาธารณประโยชน
๑๑. เวนคนื ในกรณีน้ีพนักงานเจาหนาท่ีผูจัดทํา
- กรณีมพี ระราชกฤษฎีกา สัญญาซ้ือขายมิใชพนักงานเจาหนาที่
กรมทีด่ นิ พนกั งานเจาหนา ที่กรมที่ดิน
กาํ หนดเขตท่ดี นิ ทจี่ ะเวนคืน มีหนาท่ีดําเนินการแกไขหลักฐานทาง
แลวคนเสมือนไรค วามสามารถ ทะเบียนในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
ตกลงซื้อขายที่ดิน เทานั้น โดยสามารถทําไดดวยตนเอง
ไมตองไดรับความยินยอมจากผูพ ิทักษ
- กรณมี พี ระราชบัญญัติ เนอ่ื งจากกรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพย
เวนคืนท่ีดินของคนเสมือน ท่ีถูกเวนคืนตกเปนของผูเวนคืนแลว
ไรค วามสามารถ ตาม ม. ๑๖ พ.ร.บ. วาดวยการเวนคืน
อสงั หารมิ ทรพั ย พ.ศ. ๒๕๓๐ โดยสามารถ
ทําไดด วยตนเองไมต องไดร บั คาํ ยินยอม
จากผพู ทิ ักษ
95
ประเภทการจดทะเบียน การทาํ นิติกรรมของ
๑๒. จาํ นอง คนเสมือนไรความสามารถ
ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
- คนเสมือนไร ผูพ ทิ กั ษกอ น (ม. ๓๔ (๔) ป.พ.พ.)
ความสามารถจาํ นอง สัญญาจํานองตองมสี ัญญาประธาน คือ
สญั ญากูยมื เงนิ ท่ผี เู สมอื นไรค วามสามารถ
- คนเสมอื นไร เปนผใู หกยู ืมเงนิ ทําไดโ ดยตองไดร บั ความ
ความสามารถรบั จํานอง ยินยอมจากผูพิทักษกอน (ม. ๓๔ (๓)
ป.พ.พ.)
๑๓. เชา ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
- คนเสมอื นไรค วาม ผพู ทิ ักษกอน (ม. ๓๔ (๕) ป.พ.พ.)
สามารถใหเ ชาเกนิ กวา ๓ ป
- คนเสมอื นไรค วาม ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
สามารถเชาเกินกวา ๓ ป ผพู ิทกั ษก อ น (ม. ๓๔ (๕) ป.พ.พ.)
๑๔. บรรยายสว น ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ผพู ิทกั ษก อ น (ม. ๓๔ (๑๑) ป.พ.พ.)
96
ประเภทการจดทะเบียน การทํานิตกิ รรมของ
คนเสมอื นไรความสามารถ
๑๕. ภาระจาํ ยอม/สทิ ธเิ ก็บกิน/ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
สิทธิเหนือพ้ืนดิน/สิทธิอาศัย/ ผูพทิ กั ษก อ น (ม. ๓๔ (๘) ป.พ.พ.)
ภาระตดิ พนั ในอสังหาริมทรพั ย/
บรุ มิ สทิ ธิ
- คนไรความสามารถ
เปน ผูใหสทิ ธกิ ับบคุ คลอน่ื
- คนไรความสามารถ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
เปนผูไดร บั สทิ ธิ ผพู ิทกั ษกอน (ม. ๓๔ (๘) ป.พ.พ.)
- คนไรความสามารถ ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
จดทะเบยี นยกเลิกสิทธิ ผพู ทิ กั ษก อ น (ม. ๓๔ (๘) ป.พ.พ.)
๑๖. หามโอน ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
- คนเสมอื นไรค วาม ผพู ทิ กั ษก อน (ม. ๓๔ (๗) ป.พ.พ.)
ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
สามารถรบั ใหมขี อกําหนด ผูพิทักษ และตองขออนุญาตศาลกอน
หามโอนไปยงั บุคคลอ่นื (ม.๑๖๑๑ (๒) ป.พ.พ.)
- คนเสมอื นไรค วาม
ส า ม า ร ถ ร ับ ม ร ด ก ต า ม
พินัยกรรมที่มีขอกําหนด
หา มโอน
97
ประเภทการจดทะเบียน การทาํ นิติกรรมของ
คนเสมอื นไรความสามารถ
๑๗. สอบเขต แบงแยก ทําไดดวยตนเอง โดยไมตองไดรับ
ในนามเดมิ และรวมโฉนด ความยนิ ยอมจากผพู ิทักษ
(กรณีไมมีการคัดคาน
การรงั วัด)
๑๘. สอบเขต แบงแยก ทําไดโดยตองไดรับความยินยอมจาก
ในนามเดิม และรวมโฉนด ผูพิทักษกอน (ม. ๓๔ (๘) หรือ (๑๑)
( ก ร ณี มี ก า ร คั ด ค า น ก า ร ป.พ.พ.)
รังวัด) แบงกรรมสิทธ์ิรวม
แบง ให แบงขาย
๙. การทาํ นติ กิ รรมของนติ ิบุคคล
นิติบุคคล คือ บุคคลตามกฎหมายท่ีกฎหมายสมมติขึน้ และรับรอง
ใหมีสิทธิและหนาท่ีเชนเดียวกับบุคคลธรรมดา เวนแตสิทธิและหนาท่ี
บางอยา งซ่ึงบุคคลธรรมดามอี ยูน ้ัน นติ บิ คุ คลจะมไี มได เชน สิทธิในดาน
ครอบครวั สทิ ธิในทางการเมอื ง เปน ตน
ประเภทของนติ ิบุคคล
นติ ิบุคคลแบงตามอํานาจของกฎหมายท่ีกอตั้งขึ้นไดเปน ๒
ประเภท คือ นิติบคุ คลตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย และนิติบุคคล
ตามกฎหมายอืน่ ๆ
98
๑. นติ บิ ุคคลตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ไดแก
๑.๑ หา งหนุ สว นทจ่ี ดทะเบียน ซงึ่ แบงออกเปน ๒ ประเภท
ไดแ ก หางหุนสว นสามัญ และหา งหุนสวนจํากัด
- หางหุนสวนสามญั คือ สัญญาซ่ึงบุคคลตั้งแตสองคน
ข้นึ ไปตกลงเขากนั เพื่อกระทาํ กจิ การรวมกัน ดวยประสงคจะแบงปนกําไร
จะพึงไดแ ตกจิ การน้นั และเม่อื นําไปจดทะเบียนตอนายทะเบียนแลว จะมี
ฐานะเปนนิติบุคคล นับเปนบุคคลหนึ่งตางหากจากผูเปนหุนสวน ผูเปน
หุนสว นทกุ คนจะเปนหุนสวนประเภทไมจ าํ กัดความรับผิดทัง้ หมด
- หางหุนสวนจาํ กดั คือ ตองจดทะเบียนตอนายทะเบียน
โดยมีผถู อื หนุ สวนสองประเภท คอื หุนสวนจาํ กัดความรับผิด และหุนสวน
ไมจ ํากัดความรับผิด
๑.๒ บริษัทจาํ กัด คอื บริษัททต่ี งั้ ขึ้นดวยการแบง ทนุ เปน
หุนมีมูลคาเทา ๆ กัน โดยมีผูถือหุน ๓ คนขึ้นไป และผูถือหุนทุกคน
ตางรบั ผิดจํากัดเพยี งไมเ กินจํานวนเงินท่ตี นยงั สงใชไ มครบมูลคา ของหุน ท่ตี นถอื
และบรษิ ทั จํากดั นี้กฎหมายบงั คบั ใหจ ดทะเบียนซ่ึงเมอื่ จดทะเบยี นแลว กจ็ ะ
มสี ภาพเปนนิติบคุ คล
๑.๓ สมาคม คือ การท่ีบุคคลหลายคนตกลงเขากัน
เพ่อื ทําการอันใดอันหนึ่งอันมลี กั ษณะตอ เน่ืองรวมกัน และมิใชเ ปน การหา
กําไรหรอื รายไดม าแบง ปนกนั จงึ แตกตา งกบั บรษิ ทั จาํ กัดหรอื หา งหนุ สว นซง่ึ
มงุ หากาํ ไร สมาคมทีไ่ ดจ ดทะเบียนแลวเปน นติ บิ คุ คล
๑.๔ มลู นธิ ิ คอื ทรัพยส ินอนั จดั สรรไวโ ดยเฉพาะสาํ หรับ
วัตถุประสงคเพ่ือการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร
วรรณคดี การศกึ ษา หรอื เพือ่ สาธารณประโยชนอยางอ่ืน โดยมิไดมุงหา
ผลประโยชนมาแบงปนกันและตองจดทะเบียนตามกฎหมาย โดยตอง
ประกาศการจัดตั้งมูลนิธิในราชกิจจานุเบกษา มูลนิธิท่ีไดจดทะเบียนแลว
99
เปนนติ บิ ุคคล การจัดการทรัพยสินของมูลนิธิ ตองมิใชเปนการหาผลประโยชน
เพอื่ บคุ คลใดนอกจากเพอื่ ดําเนินการตามวตั ถุประสงคของมูลนธิ ินน้ั เอง
๒. นติ ิบุคคลตามกฎหมายอ่นื ๆ
นิตบิ ุคคลน้ันจะตองมกี ฎหมายกําหนดไวเ ปน เรื่อง ๆ ไป เชน
๒.๑ สหกรณ เปนนติ บิ ุคคลตามพระราชบัญญัติสหกรณ
พ.ศ. ๒๔๗๑ ซง่ึ หมายความวา คณะบุคคลซึ่งรวมกันดําเนินกิจการ เพ่ือ
ประโยชนท างเศรษฐกิจและสงั คม โดยชว ยตนเองและชวยเหลอื ซ่งึ กันและกัน
และเมอ่ื จดทะเบียนตอ นายทะเบยี นจงึ มฐี านะเปนนติ ิบคุ คล
๒.๒นติ ิบคุ คลหมบู า นจัดสรร เปน นิติบคุ คลตามพระราชบญั ญตั ิ
การจดั สรรทดี่ นิ พ.ศ. ๒๕๔๓ เปน กรณผี ซู ื้อท่ีดินจัดสรรไมนอยกวากึ่งหน่ึง
ของแปลงยอ ยตามแผนผงั โครงการรวมตัวกันจดั ตงั้ นติ บิ คุ คลหมบู า นจดั สรร
และนําไปจดทะเบียนตอ พนักงานเจา หนาที่ เม่ือจดทะเบยี นแลว จงึ มีฐานะ
เปนนติ ิบุคคล
๒.๓ นิติบุคคลอาคารชุด เปนนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติ
อาคารชดุ พ.ศ. ๒๕๒๒ เปนกรณีไดจดทะเบียนอาคารชุดแลว และจะขาย
หองชุดตอ งจดทะเบียนนติ ิบคุ คลอาคารชุดกอ น เพ่อื เปน ผูดูแลอาคารชุดน้ัน
เมื่อจดทะเบียนแลวจงึ มฐี านะเปน นติ ิบคุ คล
๒.๔ วัด เปนนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ
พ.ศ. ๒๕๐๕ แกไขเพ่ิมเตมิ โดย พ.ร.บ. คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕)
วัด คือ สถานที่ทางพระพุทธศาสนาโดยปกติมีพระอุโบสถ พระวิหาร
เจดยี และมีพระภิกษสุ งฆอ ยอู าศัย เปน ตน
100
สทิ ธแิ ละหนา ทข่ี องนิติบุคคล
๑. มีสิทธิและหนาที่ภายในขอบแหงอํานาจหนาที่หรือ
วัตถุประสงค ซ่ึงยอมเปนไปตามที่ไดกาํ หนดไวในกฎหมาย ขอบังคับ
หรอื ตราสารจัดตงั้ ของนติ ิบคุ คลนน้ั จะทําการใดนอกขอบเขตวัตถุประสงค
ที่กําหนดไวไ มไ ด (ม. ๖๖ ป.พ.พ.)
๒. มีสิทธิและหนาท่ีเหมือนกับบุคคลธรรมดา เวนเสียแต
สิทธิและหนาท่ีซ่ึงวาโดยสภาพจะพึงมีพึงเปนไดเฉพาะแกบุคคลธรรมดา
เชน ไมอ าจทจ่ี ะทําการสมรส ไมมีหนาท่ีรับราชการทหาร ไมมีสิทธิทาง
การเมือง เปน ตน (ม. ๖๗ ป.พ.พ.)
การจัดการนิติบุคคล
- เนอ่ื งจากนติ บิ คุ คลเปนสิ่งไมมีชีวิตจิตใจจึงไมสามารถท่ีจะ
แสดงเจตนาหรือทําการโดยตนเองได ดงั น้ัน นิติบุคคลตองมีผูแทนและมี
อาํ นาจทาํ การแทนนิติบุคคล ตามมาตรา ๗๐ วรรคสอง แหงประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย
- ผแู ทนนิติบุคคล คือ ผมู อี ํานาจหนาท่ีจัดการแทนนิติบุคคล
อาจจะมีคนเดียวหรือหลายคนก็ได เชน รัฐมนตรีเปนผูแทนกระทรวง
อธิบดีเปนผูแทนกรม เจาอาวาสเปนผูแทนวัดวาอาราม กรรมการเปน
ผแู ทนบรษิ ทั เปน ตน ซึง่ เมือ่ ผูแ ทนไดจดั การอยางใดใหแกนิติบุคคลภายใน
ขอบวตั ถปุ ระสงค และตามบทบัญญตั ขิ องกฎหมายแลว การนน้ั ยอมผูกพัน
นิติบุคคล อาํ นาจของผแู ทนนิตบิ ุคคลโดยปกตแิ ลว ยอมมีกาํ หนดไวในกฎหมาย
หรือในขอบงั คบั หรือตราสารจดั ต้ังนติ บิ ุคคลนั้น และถามีผูจ ัดการหลายคน
และมไิ ดมขี อกาํ หนดไวเปนประการอืน่ การทําความตกลงตาง ๆ ในทาง
อาํ นวยกิจการใหเ ปน ไปตามเสียงขางมาก (ม. ๗๑ ป.พ.พ.) ถาผูแทนของ
นิติบคุ คล หรอื ผูมีอํานาจทําการแทนนติ ิบคุ คลไดท ําการตามหนาที่และทาํ ให
101
เกดิ ความเสียหายอยางหน่ึงอยางใดแกบุคคลอ่ืน นิติบุคคลนั้นจําตองเสีย
คาสินไหมทดแทนเพ่ือความเสียหายน้ัน แตมีสิทธิไลเบ้ียเอาแกตัวผูเปน
ตน เหตุท่ที าํ ใหเกดิ ความเสยี หายในภายหลงั ได แตถ า ความเสยี หายน้ันเกิด
จากการกระทาํ ซึ่งมิไดอ ยภู ายในขอบวตั ถุประสงคของนิติบุคคล หรืออํานาจ
หนาทีข่ องนิตบิ คุ คล บคุ คลทั้งหลายเหลา นั้นทีไ่ ดเ หน็ ชอบใหท ําการนั้นกับ
ผูจดั การทไี่ ดเปนผลู งมอื ทําการจะตอ งรวมกันรบั ผดิ ชดใชคาสินไหมทดแทน
(ม. ๗๖ ป.พ.พ.)
- ผูแทนนติ บิ คุ คลตา งจากตวั แทน ผแู ทนนิตบิ ุคคลยอมมีอํานาจ
ดาํ เนนิ การทกุ อยางแทนนิติบุคคลภายในขอบแหงวัตถุประสงคในฐานะที่
เปนตัวการเสยี เอง สามารถทําการท้งั หลายไดโ ดยไมถ กู จํากัดเหมือนตัวแทน
คือมีอาํ นาจจาํ หนายจายโอนอสังหาริมทรัพย นําคดีข้ึนฟองรองตอศาลได
เพราะเปนการกระทาํ ของตัวการเอง ตา งจากตวั แทนซ่งึ จะตอ งไดรับมอบ
อาํ นาจจากตัวการ คือ ตองมผี ูแทนนิตบิ ุคคลข้ึนกอน นอกจากผูรับมอบ
อํานาจทว่ั ไปจะทาํ การท้ังหลายแทนตวั การได แตนิตกิ รรมสําคัญบางประเภท
กท็ ําแทนตวั การไมได เวนแตจะไดมอบอํานาจไวเ ปนการเฉพาะ ท้ังน้ี ผูแทน
นติ ิบุคคลมีอํานาจแตงต้ังตวั แทน หรอื มอบอํานาจใหผอู ืน่ ทําการแทนตนได
การกระทําของตัวแทนยอมผูกพันนิติบุคคลซึ่งมีฐานะเปนตัวการเหมือน
นติ ิบคุ คลทําการดว ยตนเอง และผูแทนนิติบุคคลเปนไดทั้งบุคคลธรรมดา
และนติ ิบคุ คล
- ขอหามทําการแทนกรณีประโยชนไดเสียขัดกับนิติบุคคล
หลกั สาํ คญั ในการจัดการนติ บิ คุ คล คอื หากประโยชนไดเ สยี ของนติ ิบคุ คล
ขัดกบั ประโยชนไ ดเ สียของผูแทนนติ ิบคุ คล ผแู ทนของนติ ิบคุ คลนั้นจะเปน
ผูแทนในการนัน้ ไมได (ม. ๗๔ ป.พ.พ.) โดยพิจารณาจากสภาพแหงประโยชน
ในกิจการนนั้ ๆ หรอื จากมาตรฐานความรสู กึ นกึ คิดและประสบการณของ
วิญูชน และกฎหมายมงุ คมุ ครองประโยชนของนิติบุคคลโดยตรง เชน กรณี
102
ทาํ นติ ิกรรมกบั ตนเอง โดยขายทรพั ยของนิติบุคคลใหผูแทนเอง ผลประโยชน
ของผูขายและผูซื้อขัดกันอยูในตัว ผูแทนของนิติบุคคลจะกระทาํ ไมได
หากการกระทําดงั กลาวสงผลใหน ิตบิ ุคคลขาดผูแทน หรือมผี แู ทนไมเพียงพอ
ท่จี ะทําการในนามของนติ บิ คุ คลไดใ หปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ขอ บังคับ หรือ
ตราสารจดั ต้ังนิตบิ คุ คลในการหาบคุ คลเขา ทาํ หนาทเ่ี ปนผูแ ทนกอน แตถา
ไมไดกําหนดไวก็ใหผูมีสวนไดสวนเสียหรือพนักงานอัยการรองขอใหศาล
แตง ตัง้ ผแู ทนเฉพาะการข้ึนเพอื่ ทาํ การแทนนติ บิ คุ คล (ม. ๗๕ ป.พ.พ.)
การสอบสวนสิทธแิ ละความสามารถของนติ บิ คุ คล
พนักงานเจาหนา ทตี่ อ งสอบสวนและตรวจสอบ ดงั นี้
๑. ผูแทนของนิติบคุ คลยงั มอี ํานาจอยหู รือไม ตรวจสอบจาก
หนังสือรับรองตาง ๆ ของนิตบิ ุคคลทีน่ าํ มาแสดง โดยใหผ ูม ีอํานาจทาํ การ
แทนนิติบคุ คลรบั รองสาระสาํ คญั ตา ง ๆ ในหนังสือรับรอง (ที่ มท ๐๗๑๐/
ว ๓๖๘๒๓ ลว. ๒๒ ต.ค. ๒๕๔๒) ถามีการมอบอํานาจใหตัวแทนมา
ดําเนินการใหตัวแทนทไ่ี ดร ับมอบอาํ นาจเปน ผูใหค าํ รบั รองความเปนปจจุบัน
ของหนงั สอื รับรองของนติ ิบคุ คล (มท ๐๗๑๐/ว ๔๓๕๐๐ ลว. ๓ ธ.ค. ๒๕๔๒)
๒. ผแู ทนของนติ บิ ุคคลทาํ นอกวตั ถุประสงคข องนติ บิ คุ คลหรือไม
โดยใหต รวจดูจากวัตถปุ ระสงคของนติ ิบุคคล
๓. นิติกรรมท่ีผูแทนของนิติบุคคลทํามีประโยชนไดเสียของ
นติ ิบคุ คลขดั กับประโยชนไ ดเ สยี ของผูแทนนิติบุคคล ผูแทนของนิติบุคคล
น้นั จะเปนผูแ ทนไมได (ม. ๗๔ ป.พ.พ.) มีคําอธิบายตามหนังสือ ที่ มท
๐๖๑๐/ว ๐๘๔๒๙ ลว. ๒๖ มี.ค. ๒๕๓๖
๔. กรณเี ลิกนิตบิ คุ คลผูช ําระบัญชขี องหางหุน สว นหรือบริษัท
ไดมกี ารจดทะเบียนเสรจ็ สน้ิ การชาํ ระบญั ชแี ลว ตอมาพบวายังมีท่ีดินของ
103
นติ บิ ุคคลหลงเหลอื อยู จะตอ งไปรองตอ ศาลส่ังใหผูชาํ ระบัญชีกลบั มามีอํานาจ
การชาํ ระบัญชขี องนิติบคุ คลอีกครงั้
ขอสังเกต “คณะบุคคล” ไมใชนิติบุคคลตามประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย และ “หางหุนสวนสามัญท่ียังไมไดจดทะเบียน”
ยังไมมีสภาพนิติบุคคลตามกฎหมาย หาก “คณะบุคคล” หรือ “หาง
หนุ สวนสามัญทย่ี งั ไมไดจดทะเบียน” มาทํานิติกรรมใหใสชื่อในนามบุคคล
ธรรมดารว มกนั
ประเภท/ผแู ทน และการดําเนินการของนิติบุคคลแตละประเภท
ประเภทของ ผแู ทนนติ ิบุคคล กรณผี แู ทน
นติ ิบุคคล ไมส ามารถทาํ ได
- มีหนุ สว นผูจดั การเปน - ผูเปนหุนสวนจะ
๑. หา งหนุ สว นสามญั ผูแ ทน เขาทาํ สัญญาอะไร
นติ ิบคุ คล - ถาไมไดตกลงกันไว ซึง่ ผเู ปน หนุ สวนอ่ืน
ผู เ ป น หุ น ส ว น ทุ ก ค น ทักทวงไมได
ยอมจดั การหา งหุนสวนได (ม. ๑๐๓๓ ป.พ.พ.)
(ม. ๑๐๓๓ และ ๑๐๖๔ - หุนสวนผูจัดการ
(๕) ป.พ.พ.) จะทําการอะไรซึ่ง
- ถาไดตกลงกันไววามี หนุ สวนผจู ัดการอืน่
หนุ สวนผูจดั การหลายคน ทักทวงไมได
หุนสว นผจู ดั การแตละคน (ม.๑๐๓๕ ป.พ.พ.)
จะจัดการหางหุนสวน
น้ันก็ได (ม. ๑๐๓๕
ป.พ.พ.)
104
ประเภทของ ผูแทนนติ ิบุคคล กรณผี แู ทน
นิติบุคคล ไมสามารถทาํ ได
๒. หางหุนสว นจํากัด - มหี นุ สวนผูจัดการเปน - ถาประโยชนได
๓. บรษิ ทั จํากดั ผแู ทน เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
- หุนสวนไมจ ํากัดความ ขัดกับประโยชนได
รบั ผดิ ตองจัดการหาง เสียของผูแทนของ
หุนสวนภายใตวัตถุ นิติบุคคล ผูแท น
ประสงคของหางหนุ สว น ของนิตบิ ุคคลน้ันจะ
(ม. ๑๐๗๘ (๒), (๖), เ ป น ผู แ ท น ไ ม ไ ด
๑๐๘๗ ป.พ.พ.) (ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
- มีกรรมการผูจัดการ
เปน ผแู ทน - ถาประโยชนได
- กรรมการคนหนงึ่ หรือ เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
ห ล า ย ค น จั ด ก า ร ต า ม ขัดกับประโยชนได
ขอบังคับของบริษัทและ เสียของผูแทนของ
ท่ีประชุมใหญผูถือหุน นิติบุคคล ผูแท น
(ม. ๑๑๑๑ (๖), ๑๑๔๔ ของนติ ิบุคคลนั้นจะ
ป.พ.พ.) เ ป น ผู แ ท น ไ ม ไ ด
(ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
- ถาประโยชนได
เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
ขัดกับประโยชนได
เสียของผูแทนของ
นิติบุคคล ผูแท น
ของนติ ิบุคคลนั้นจะ
เ ป น ผู แ ท น ไ ม ไ ด
(ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
105
ประเภทของ ผแู ทนนติ บิ ุคคล กรณผี แู ทน
นติ ิบุคคล ไมสามารถทาํ ได
๔. สมาคม - มคี ณะกรรมการของ - ถาประโยชนได
๕. มลู นิธิ สมาคมเปน ผูแทน เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
- คณะกรรมการของ ขัดกับประโยชนได
ส ม า ค ม เ ป น ผู ดํ า เ นิ น เสียของผูแทนของ
กิจการของสมาคมตาม นิติบุคคล ผูแท น
กฎหมายและขอบังคับ ของนิติบุคคลนั้นจะ
ภายใตการควบคุมดูแล เ ป น ผู แ ท น ไ ม ไ ด
ของทป่ี ระชุม (ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
(ม. ๘๖, ๘๗ ป.พ.พ.)
- มีคณะกรรมการของ - ถาประโยชนได
มูลนธิ เิ ปนผูแทน เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
- คณะกรรมการของ ขัดกับประโยชนได
มลู นิธปิ ระกอบดว ย เสียของผูแทนของ
บคุ คลอยางนอ ยสามคน นิติบุคคล ผูแท น
เปนผดู าํ เนนิ กจิ การของ ของนติ บิ ุคคลน้ันจะ
มลู นธิ ิตามกฎหมายและ เ ป น ผู แ ท น ไ ม ไ ด
ขอ บังคับของมลู นธิ ิ (ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
- คณะกรรมการของ
มูลนิธิเปนผูแทนของ
มูลนิธิในกิจการท่เี กยี่ วกับ
บุคคลภายนอก
(ม. ๑๑๘, ๑๑๑ ป.พ.พ.)
106
ประเภท ผูแทนนิตบิ ุคคล กรณผี แู ทน
ของนติ ิบุคคล ไมส ามารถทาํ ได
๖. สหกรณ
- มีคณะกรรมการของ - ถาประโยชนได
สหกรณเ ปนผแู ทน เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
- ใหคณะ ก รร มก าร ขัดกับประโยชนได
ดํา เนิ นก า รส หก ร ณ เสียของผูแทนของ
เ ป น ผู ดํ า เ นิ น กิ จ ก า ร นิติบุคคล ผูแท น
และเปนผูแทนสหกรณ ของนติ ิบุคคลนั้นจะ
ในกิจการอันเก่ียวกับ เปน ผแู ทนไมได
บุคคลภายนอก (ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
- คณะกรรมการ
ดําเนินการสหกรณจะ
มอบหมายใหกรรมการ
คนหน่ึงหรือหลายคน
เปนผูจดั การทําการแทน
ก็ได (ม. ๕๑ พ.ร.บ.
สหกรณ)
107
ประเภท ผแู ทนนิตบิ ุคคล กรณผี แู ทน
ของนติ ิบุคคล ไมส ามารถทาํ ได
๗. นิติบุคคลหมูบาน - คณะกรรมการหมูบาน - ถาประโยชนได
จดั สรร จดั สรรเปน ผแู ทน เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
- คณะกรรมการหมูบาน ขัดกับประโยชนได
จัดสรรเปนผูแทนของ เสียของผูแทนของ
นิตบิ คุ คลหมูบานจัดสรร นิติบุคคล ผูแท น
ใ น กิ จ ก า ร ที่ เ กี่ ย ว ก ั บ ของนิตบิ ุคคลนั้นจะ
บุคคลภายนอก (ม. ๔๖ เ ป น ผู แ ท น ไ ม ไ ด
พ.ร.บ.จดั สรร) (ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
๘. นติ ิบุคคลอาคารชุด - มีผูจัดการนิติบุคคล - ถาประโยชนได
อาคารชุดเปนผูแ ทน เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
- ผูจัดการนิติบุคคล ขัดกับประโยชนได
อาคารชุดปฏิบัติใหเปน เสียของผูแทนของ
ไ ป ต า ม วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค นิติบุคคล ผูแท น
ข อ ง ก า ร จ ด ท ะ เ บี ย น ของนติ ิบุคคลนั้นจะ
อาคารชุด ตามขอบังคับ เ ป น ผู แ ท น ไ ม ไ ด
หรอื ตามมติของทีป่ ระชมุ (ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
ใหญเจาของรวมหรือ
คณะกรรมการ ทั้งนี้
โดยไมขัดตอกฎหมาย
(ม. ๓๖ พ.ร.บ. อาคารชุด)
108
ประเภท/ลักษณะ ผูแทนนติ ิบุคคล กรณผี ูแทน
ของนติ ิบุคคล ไมสามารถทาํ ได
๙. วดั - มีเจาอาวาสเปนผูแทน - ถาประโยชนได
ของวัด และมีอํานาจ เ สี ย ข อ ง นิ ติ บุ ค ค ล
ดําเนินการในกิจการ ขัดกับประโยชนได
ทั่วไปตาง ๆ เก่ียวกับ เสียของผูแทนของ
ท่ีดินของวัด ตาม ม. ๓๑ นิติบุคคล ผูแท น
พ.ร.บ. คณะสงฆ (ฉบับ ของนติ บิ ุคคลน้ันจะ
ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ เ ป น ผู แ ท น ไ ม ไ ด
(ม. ๗๔ ป.พ.พ.)
(รายละเอียดการทํา
นิตกิ รรมเกยี่ วกับทด่ี นิ
ของวดั แตล ะประเภท
การจดทะเบยี น ตาม
ตารางดานทา ยน)้ี
109
วัด
วัด หมายถึง สถานที่ทางพระพุทธศาสนาโดยปกติมีพระอุโบสถ
พระวหิ าร เจดีย และมพี ระภกิ ษุสงฆอยูอ าศยั
ประเภทของวัด
ตามมาตรา ๓๑ พระราชบัญญัติคณะสงฆ พ.ศ. ๒๕๐๕
แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
วดั แบงออกเปน ๒ ประเภท
๑. วัดที่ไดรับพระราชทานวิสงุ คามสมี า หมายถึงวัดท่ีมีประกาศ
ตั้งวดั โดยชอบดว ยกฎหมายแลว และตอมาไดรับพระราชทานวิสุงคามสีมา
๒. สํานักสงฆ วัดท่ีตั้งโดยชอบดวยกฎหมาย แตยังไมได
พระราชทานวิสงุ คามสีมา (มีสภาพทุกส่ิงทกุ อยา งเหมือนวดั แตไ มม ีโบสถ)
วัดท่ีไดร บั พระราชทานวิสงุ คามสีมาและสํานักสงฆ ตางก็เปน
นติ ิบุคคล
ทด่ี นิ ของวัด
มาตรา ๓๓ พระราชบัญญัติคณะสงฆ พ.ศ. ๒๕๐๕ ไดแบงวัด
และท่ีซึง่ ขน้ึ ตอ วัดแบงเปน ๓ ประเภท ดงั นี้
๑. ท่วี ัด คอื ทซี่ ่ึงต้งั วัดตลอดจนเขตของวดั นัน้
๒. ทธ่ี รณีสงฆ คอื ทีซ่ ่ึงเปน สมบัติของวดั
๓. ท่ีกัลปนา คือ ท่ีซึ่งมีผูอุทิศแตผลประโยชนใหวัดหรือ
พระศาสนา
การทํานิติกรรมเกยี่ วกบั ทด่ี ินของวดั
คําวา “นิติกรรม” ตามในมติคณะสงั ฆมนตรี คร้ังท่ี ๑/๒๔๙๖
เม่อื วนั จนั ทรท ่ี ๕ มกราคม ๒๔๙๖ หมายถงึ การขอรังวดั รบั โฉนดทีด่ ิน
110
การขอสอบเขต การขอแบงแยกและการขอรับรองเขตที่ดิน มิใช “นิติกรรม”
ตามความหมายในมาตรา ๑๔๙ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
กิจการอันใดที่เก่ียวของกับที่ดินซึ่งเรียกชื่อตางออกไปบางแตมีลักษณะ
ใกลเคยี งทํานองเดียวกบั กิจการ ๔ ประการดงั กลา วขา งตน ใชไดโ ดยอนุโลม
การทํานิติกรรมอันเก่ียวกับที่ดินของวัด ๔ ประการ คือ
การขอรังวดั รบั โฉนดท่ดี นิ การขอสอบเขต การขอแบงแยก และการขอ
รับรองเขตทดี่ ินของวดั มหี ลกั เกณฑด งั น้ี
๑. วดั มีพระสงฆทต่ี ั้งอยูในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเทศบาล
หรือสุขาภบิ าล ใหเจาอาวาสมอบฉนั ทะใหสํานักงานพระพทุ ธศาสนาแหง ชาติ
หรือตัวแทนของสาํ นกั งานพระพุทธศาสนาแหงชาติเปน ผูดาํ เนนิ การแทนวดั
แตขอ ตกลงใด ๆ ในการทาํ นิติกรรมน้ตี องไดร บั ความเหน็ ชอบจากเจาอาวาส
๒. วัดท่ีอยูนอกเขตดังกลาวในขอ ๑ ใหเจาอาวาสพิจารณา
คดั เลือกทายก ทายิกาแหงวัดนัน้ ท่ีนาเชื่อถือจํานวน ๒ หรือ ๓ ทาน
ใหเ ปน ผูดําเนินการแทนเจา อาวาสในการทํานิติกรรมเก่ียวกับที่ดินของวัด
แตข อ ตกลงใด ๆ ในการทาํ นติ ิกรรมนี้ตอ งไดร บั ความเห็นชอบจากเจาอาวาสกอน
(ตามมติคณะสงั ฆมนตรี ท่ี ๑/๒๔๙๖ และ ที่ ๑๖/๒๕๒๘ ลงวันที่ ๒๐
มถิ นุ ายน ๒๕๒๘)
๓. การทํานิติกรรมเก่ียวกับท่ีดินอันเปนศาสนสมบัติของวัด
กรณีวัดไดมอบการจัดประโยชนศาสนสมบัติของวัดให
สาํ นักงานพระพุทธศาสนาแหง ชาติดําเนนิ การทํานิตกิ รรมใดๆ เกี่ยวกับศาสนสมบัติ
ของวัดตองใหผ อู าํ นวยการสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเปนผูทําการ
แทนวัด แตถาวดั มไิ ดมอบใหสํานักงานพระพุทธศาสนาแหงชาติดําเนินการ
เจาอาวาสในฐานะผูแทนวัดหรือมอบอํานาจใหไวยาวัจกร หรือผูใดไป
ดําเนินการแทนได ตามมาตรา ๓๑ แหง พระราชบัญญัติคณะสงฆ พ.ศ. ๒๕๐๕
แกไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญัตคิ ณะสงฆ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และ
111
การท่ีจะทราบวา วัดท่ีขอจดทะเบียนมอบการจัดประโยชนศาสนสมบัติ
ของวัดใหส าํ นักงานพระพุทธศาสนาแหงชาตหิ รือไม ใหตรวจสอบจากสญั ญา
ทคี่ กู รณีนํามาจดทะเบียน หากวดั ไดมอบการจดั ประโยชนใหแกทางราชการ
สญั ญาจะระบวุ า วดั .....โดยสํานักงานพระพุทธศาสนาแหง ชาติ ผูรับมอบ
อาํ นาจสาํ หรับวดั ทอี่ ยใู นกรุงเทพมหานคร สวนวัดที่อยูในสวนภูมิภาคจะ
ระบุวา วดั .....โดยผอู ํานวยการสํานกั งานพระพุทธศาสนาจังหวัด และถา
วัดมิไดมอบอํานาจการจัดประโยชนจะระบุวา วดั .....โดยเจา อาวาส (หนังสือ
กรมท่ีดนิ ที่ มท ๐๗๑๐/ว ๒๔๒๖๑ ลงวันท่ี ๑๐ กันยายน ๒๕๔๑)
ผแู ทนของวดั
๑. เจาอาวาสเปน ผแู ทนวดั ตามกฎหมาย ยอมมีอํานาจท่ีจะ
ดําเนินการในกจิ การทั่วไปตาง ๆ เกี่ยวกับท่ีดินของวัด ตามมาตรา ๓๑
พระราชบัญญัติคณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕
๒. ท่ีดินของวดั ซ่งึ อยูในความปกครองดูแลของกรมพระคลัง
ขา งทแ่ี ละตอ งใหผ แู ทนกรมพระคลงั ขางทเ่ี ปนผูแทนวดั (หนังสือกรมท่ีดิน
ที่ ๔๒๗๘/๒๔๙๖ ลงวันท่ี ๒๔ สิงหาคม ๒๔๙๖) ซง่ึ มี ๖ วัด คือ
๒.๑ วัดบวรนิเวศวหิ าร
๒.๒ วัดเบญจมบพิตร
๒.๓ วัดเทพศิรนิ ทราวาส
๒.๔ วัดราชบพติ ร
๒.๕ วัดราชประดษิ ฐ
๒.๖ วดั นเิ วศธรรมประวัติ
112
การทาํ นิตกิ รรมเกี่ยวกบั ที่ดนิ ของวัดแตล ะประเภทจดทะเบยี น
ประเภทการจดทะเบยี น การทาํ นิติกรรมของวดั
๑. ขาย ทําไดโดยออกเปนพระราชบัญญัติกอน
- วัดขาย และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๔ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
- วดั โอนใหสวนราชการ ทํา ไ ด โ ด ย ต อ ง ไ ด รับ ค ว า ม เ ห ็น ช อ บ
รฐั วิสาหกิจ หรือหนวยงาน จากมหาเถรสมาคม และวัดไดรับเงิน
อื่นของรัฐ โดยไดรับเงิน คาผาติกรรมแลว โดยออกเปน
คา ผาตกิ รรม (เงินคา ทดแทน) พระราชกฤษฎกี า และใหเจาอาวาส
เปนผูดําเนินการ (ม. ๓๔ วรรคสอง
พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๓๕)
- วดั ซอ้ื ทําไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม.๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
113
ประเภทการจดทะเบียน การทํานิติกรรมของวัด
๒. ขายฝาก ทาํ ไดโ ดยออกเปนพระราชบัญญัติกอน
- วดั ขายฝาก และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๔ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
- วดั รบั ซือ้ ฝาก ทําไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
๓. ให ทาํ ไดโ ดยออกเปนพระราชบัญญัติกอน
- วัดให และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๔ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
- วดั รบั ใหโ ดยไมมีเง่ือนไข ทาํ ไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
หรอื คาภาระตดิ พัน และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
114
ประเภทการจดทะเบยี น การทํานิติกรรมของวัด
- วัดรับใหโดยมีภาระ ทาํ ไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
ผูกพันอยู เชน จํานอง และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
ภาระจาํ ยอม เปนตน (ม.๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
- วัดรบั ใหโดยมีเง่ือนไข ทาํ ไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
หรือคาภาระติดพัน (เชน และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
รั บ ใ ห โ ด ย มี เ ง่ื อ น ไ ข ห า ม (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
ขาย, รบั ใหแลว จดทะเบียน พ.ศ. ๒๕๓๕)
สทิ ธเิ กบ็ กิน เปนตน )
๔. กรรมสิทธ์ริ วม ทาํ ไดโ ดยออกเปน พระราชบัญญัติกอน
- วดั ใหถอื กรรมสิทธริ์ วม และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๔ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
-วดั ขอถอื กรรมสิทธ์ิรวม ทาํ ไดโดยตอ งขออนญุ าตรัฐมนตรีกอ น
โดยไมม ีคาตอบแทน และไมม ี และใหเ จา อาวาสเปนผูดําเนนิ การ
เง่ือนไขหรือคา ภาระติดพัน (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบบั ที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
115
ประเภทการจดทะเบยี น การทํานิตกิ รรมของวดั
- วัดขอถือกรรมสิทธิ์รวม ทําไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
ไมม คี าตอบแทน แตมีเงอ่ื นไข และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
หรือคา ภาระตดิ พัน (เชน (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
ขอกรรมสิทธิ์รวม (รับให) พ.ศ. ๒๕๓๕)
โดยมีขอกําหนดหามขาย,
ขอถอื กรรมสทิ ธร์ิ วม (รับให)
แลวจดทะเบียนสิทธิเกบ็ กิน
เปน ตน)
- วัดขอถือกรรมสทิ ธริ์ วม ทําไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
โดยมีคาตอบแทน (ซอ้ื ) และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
๕. มรดก ทําไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
- วดั รับมรดก และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
116
ประเภทการจดทะเบยี น การทาํ นิติกรรมของวดั
- วัดสละมรดก ทาํ ไดโดยออกเปน พระราชบัญญัติกอน
และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๔ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
๗. โอนตามกฎหมาย เฉพาะกรณีมีกฎหมายกาํ หนดใหทรัพย
ของวดั ตกเปน ของผูร บั โอน
๘. โอนตามคาํ สั่งศาล ทําไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
๙. โอนเปนที่สาธารณ- ทําไดโ ดยใหเจาอาวาสเปน ผูดาํ เนินการ
ประโยชน/แบงหักเปนที่ เปนกรณีที่กรรมสิทธิ์ตกไปโดยผลของ
สาธารณประโยชน กฎหมาย ไมขัด ม. ๓๔ พ.ร.บ.คณะสงฆ
(เปน การอุทิศใหโดยสภาพ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕)
เปนทางสาธารณประโยชนแ ลว )
117
ประเภทการจดทะเบยี น การทํานิติกรรมของวดั
๑๐. เวนคืน วัดตกลงซ้อื ขายจะตองออกเปน พ.ร.บ.
-กรณีมีพระราชกฤษฎีกา ตาม ม. ๓๔ แตถ าสวนราชการ รฐั วสิ าหกจิ
หรอื หนวยงานอ่นื ของรัฐ จา ยคา ผาตกิ รรมแลว
กาํ หนดเขตที่ดินท่ีจะเวนคืน เมอ่ื มหาเถรสมาคมเห็นชอบ ใหกระทํา
แลววัด ตกลงขายที่ดิน โดยพระราชกฤษฎีกา และใหเ จา อาวาส
(ตาม ม. ๑๐ พ.ร.บ. วาดว ย เปนผูดําเนินการ (ม. ๓๑, ๓๔ วรรคสอง
การเวนคืนอสังหารมิ ทรพั ย พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕)
พ.ศ. ๒๕๓๐)
- กรณมี ีพระราชบัญญัติ ทําไดตาม ม. ๑๗ พ.ร.บ. วาดวยการ
เวนคนื ทดี่ ินของวัด (ตามม.๑๕ เวนคืนอสังหาริมทรัพย พ.ศ. ๒๕๓๐
พ.ร.บ. วาดวยการเวนคืน ใหถ ือวา พ.ร.บ.เวนคนื เปน พ.ร.บ.โอน
อสงั หาริมทรัพย พ.ศ.๒๕๓๐) กรรมสิทธ์ิทว่ี ัดหรอื ธรณสี งฆแ ลว
๑๑. ไดมาโดยการครอบครอง ทาํ ไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
ตามประมวลกฎหมาย และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
แพงและพาณิชย มาตรา (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
๑๓๖๗ และ ๑๓๘๒ พ.ศ. ๒๕๓๕)
118
ประเภทการจดทะเบียน การทาํ นติ กิ รรมของวัด
๑๒. จํานอง
ทาํ ไดโดยใหเ จาอาวาสเปนผูดาํ เนินการ
- วัดจํานอง (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
- วัดรบั จาํ นอง พ.ศ. ๒๕๓๕)
- วดั ไถถ อนจาํ นอง ทําไดโดยใหเจา อาวาสเปน ผดู าํ เนินการ
๑๓. เชา (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
- วัดใหเชาเกนิ ๓ ป พ.ศ. ๒๕๓๕)
ทาํ ไดโดยใหเ จาอาวาสเปนผูด าํ เนินการ
- วดั เชา (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
ทาํ ไดเมือ่ ไดร บั ความเห็นชอบจากสาํ นักงาน
พระพุทธศาสนาแหง ชาติ และเจาอาวาส
เปน ผดู ําเนนิ การ (กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒
(พ.ศ. ๒๕๑๑) ออกตามความใน พ.ร.บ.
คณะสงฆ พ.ศ. ๒๕๐๕)
ทําไดโดยใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
119
ประเภทการจดทะเบียน การทํานิตกิ รรมของวดั
๑๔. บรรยายสว น ทาํ ไดโดยใหเ จาอาวาสเปน ผูด ําเนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
๑๕. โอนใหต ัวการ ทาํ ไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
(ม. ๗๙๗ ป.พ.พ. กรณีวัด และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
เปน ผูรับโอน) (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
๑๖. ภาระจํายอม ทําไดโดยตองไดรับความเห็นชอบจาก
- วัดจดทะเบียน คณะกรรมการพิจารณางบประมาณ
ศาสนสมบตั กิ ลางประจํา และใหเจาอาวาส
ภาระจํายอมใหบ ุคคลอน่ื เปนผูดําเนินการ (มติมหาเถรสมาคม
ครั้งท่ี ๑๘/๒๕๔๐ ลว. ๓๐ มิ.ย. ๒๕๔๐
และ ม. ๓๑ พ.ร.บ. คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
- วัดเปนผูไดรับสิทธิ ทาํ ไดโ ดยใหเจา อาวาสเปน ผดู ําเนินการ
ภาระจาํ ยอม (ม. ๓๑ พ.ร.บ. คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
120
ประเภทการจดทะเบียน การทาํ นิติกรรมของวัด
- วัดจดทะเบียนยกเลิก ทําไดโดยใหเ จาอาวาสเปน ผดู ําเนินการ
ภาระจาํ ยอม (ม. ๓๑ พ.ร.บ. คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
๑๗. หา มโอน ทําไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
- วัดรับใหมีขอกําหนด และใหเจาอาวาสเปนผูดําเนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ. คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
หามโอน (ม. ๑๗๐๐ ป.พ.พ.) พ.ศ. ๒๕๓๕)
- วัดรับมรดกตาม ทาํ ไดโดยตองขออนุญาตรัฐมนตรีกอน
พินัยกรรมที่มีขอกําหนด และใหเจาอาวาสเปนผูดาํ เนินการ
หามโอน (ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕)
๑๘. การรังวัดออกโฉนด
ที่ดิน การสอบเขต การขอ
แบง แยก และรวมโฉนด
- วัดรงั วดั ออกโฉนดที่ดิน - กรณีวัดท่ีตั้งอยูในเขตกรุงเทพมหานคร
การสอบเขต การขอแบงแยก เขตเทศบาล หรือสุขาภิบาล ใหเจาอาวาส
และการขอรับรองเขตที่ดิน มอบฉันทะใหสํานักงานพระพุทธศาสนา
แหงชาติ หรือตัวแทนของสาํ นักงาน
121
ประเภทการจดทะเบียน การทาํ นิติกรรมของวัด
- วดั รวมโฉนดทีด่ ิน พระพทุ ธศาสนาแหงชาติเปน ผดู าํ เนินการ
แทนวดั แตขอตกลงใดๆ ในการทาํ นิติกรรมน้ี
ตองไดรับความเห็นชอบจากเจาอาวาส
- กรณีวัดที่อยูนอกเขตดังกลาวขางตน
ใหเ จาอาวาสพจิ ารณาคดั เลอื กทายกทายิกา
แหง วดั น้ัน ท่ีนาเชื่อถือจํานวน ๒ หรือ
๓ ทาน ใหเ ปน ผดู ําเนนิ การแทนเจา อาวาส
ในการทํานิตกิ รรมเกี่ยวกับที่ดินของวัด
แตขอ ตกลงใด ๆ ในการทํานิติกรรมนี้
ตอ งไดรับความเห็นชอบจากเจาอาวาสกอน
(ตามมตคิ ณะสงั ฆมนตรี ท่ี ๑/๒๔๙๖ และ
ที่ ๑๖/๒๕๒๘ ลงวันที่ ๒๐ มถิ ุนายน ๒๕๒๘
ทาํ ไดโ ดยใหเจา อาวาสเปนผูดาํ เนินการ
(ม. ๓๑ พ.ร.บ.คณะสงฆ (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๓๕
122
บทบาทและหนาท่ขี องนกั วชิ าการท่ีดินในการจดทะเบียนสทิ ธิ
และนิติกรรมเกีย่ วกับอสงั หาริมทรพั ย
ประมวลกฎหมาย ประมวลกฎหมายที่ดิน
แพง และพาณชิ ย
- บัญญัติใหจดทะเบียน พนกั งานเจา หนา ท่ี
การไดม าจึงบริบูรณ ผูจดทะเบยี น
- เปลย่ี นแปลงทาง
ทะเบยี นได
- ยกเปน ขอ ตอ สู
บคุ คลภายนอกได
ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
มาตรา ๑๒๙๘ ทรัพยสิทธิทั้งหลายนัน้ ทานวาจะกอตัง้ ขึน้
ไดแ ตดว ยอาศยั อาํ นาจในประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
มาตรา ๑๒๙๙ วรรคหนึ่ง “ภายในบังคับแหงบทบัญญัติ
ในประมวลกฎหมายนีห้ รือกฎหมายอื่น ทานวาการไดมาโดยนิติกรรม
ซึ่งอสังหาริมทรัพยหรือทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยนัน้ ไมบริบูรณ
เวนแตนิติกรรมจะไดทําเปนหนังสือและไดจดทะเบียนการไดมากับ
พนักงานเจา หนา ที่
123
มาตรา ๑๒๙๙ วรรคสอง “ถามีผูไดมาซึ่งอสังหาริมทรัพย
หรือทรัพยสิทธิอันเกีย่ วกับอสังหาริมทรัพยโดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม
สิทธิของผูไดมานั้น ถายังมิไดจดทะเบียนไซร ทานวาจะมีการเปลีย่ นแปลง
ทางทะเบียนไมไดและสิทธิอันยังมิไดจดทะเบียนนั้น มิใหยกขึ้นเปนขอตอสู
บุคคลภายนอกผูไดสิทธิมาโดยเสียคาตอบแทนและโดยสุจริต และได
จดทะเบียนสทิ ธโิ ดยสจุ รติ แลว”
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ
มาตรา ๗๑ วรรคหนึง่ “ใหเจาพนักงานที่ดิน เปนพนักงาน
เจาหนาที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยตามประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย สําหรับอสังหาริมทรัพยที่อยูใ นเขตทองทีส่ ํานักงาน
ท่ดี นิ จังหวดั หรอื สํานกั งานที่ดินสาขานน้ั ”
มาตรา ๗๒ วรรคหนึ่ง “ผูใดประสงคจะจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
ใหค กู รณนี ําหนังสือแสดงสทิ ธใิ นทด่ี ินมาขอจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่
ตามมาตรา ๗๑”
พระราชบัญญัตใิ หใ ชประมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
มาตรา ๑๕ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยรักษาการ
ตามพระราชบัญญัตินี้ และตามประมวลกฎหมายทีด่ ิน และใหมีอํานาจ
แตงตัง้ เจาพนักงานทีด่ ินและพนักงานเจาหนาที่กับออกกฎกระทรวงเพื่อ
ปฏิบัตกิ ารใหเ ปน ไปตามพระราชบญั ญัตนิ ้แี ละประมวลกฎหมายที่ดิน
124
คาํ สง่ั กระทรวงมหาดไทย ท่ี ๖๖/๒๕๕๒ ลงวันท่ี ๑๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๒
เร่อื ง แตง ตั้งเจาพนักงานท่ีดิน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
จงึ ไดอ อกคาํ ส่ัง ดงั นี้
ใหผูด ํารงตําแหนงดังตอไปนี้ในสํานักงานที่ดินจังหวัดและ
สาํ นกั งานทด่ี นิ จังหวัดสาขาเปน เจา พนักงานท่ีดินตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
ในสาํ นักงานทด่ี นิ จงั หวัดและสํานักงานที่ดินสาขานน้ั ๆ คอื
๑) เจา พนกั งานทีด่ นิ จงั หวดั หรอื เจาพนักงานทีด่ นิ จงั หวดั สาขา
๒) นกั วชิ าการทด่ี นิ ตั้งแตร ะดบั ปฏิบตั ิการขึ้นไปในฝายทะเบยี น
๓) เจา พนกั งานทีด่ นิ ตงั้ แตร ะดบั ปฏิบตั งิ านขน้ึ ไปในฝา ยทะเบียน
๔) นายชา งรังวดั ต้งั แตระดบั ชาํ นาญงานข้นึ ไปในฝายรงั วัด
๕) ขาราชการพลเรือนสามัญประเภทวิชาการ ตั้งแตระดับ
ปฏิบัติการขึน้ ไป หรือประเภททัว่ ไปตัง้ แตระดับปฏิบัติงานขึน้ ไป ซึง่ อธิบดี
กรมท่ดี นิ แตงต้งั ใหทาํ หนา ทใี่ นตาํ แหนง ตาม ๒) ๓) ๔)
125
มาตรา 1298 และ 1299
ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
ประมวลกฎหมายทด่ี นิ
มาตรา 72 มาตรา 74 มาตรา 73 มาตรา 71
ประมวล นักวชิ าการ มาตรา 15 พ.ร.บ.
กฎหมายอาญา ทีด่ ิน ใหใ ชป ระมวล
กฎหมายทด่ี นิ
มาตรา มาตรา 148, กฎกระทรวง คําสั่ง
137, 267 154, 157 ฉบบั ที่ 7
กระทรวงมหาดไทย
ความผดิ ตอ ความผดิ ตอ คาํ สั่ง ที่ 66/2552
เจา พนกั งาน ตําแหนง หนาท่ี กระทรวงมหาดไทย
ราชการ มาตรา 1 ประมวล
ท่ี 380/2497 กฎหมายท่ดี ิน
126
กระบวนงานจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรม
คกู รณี เจา หนาที่สอบสวนสทิ ธิ เจา หนา ท่ี พนกั งานเจา หนา ท่ี
(นักวิชาการทดี่ ิน) ที่ไดรบั แตง ตั้ง
ยื่นคาํ ขอ สอบสวนสิทธิ - ชาํ ระคา ธรรมเนยี มภาษอี ากร จดทะเบียน แจกโฉนด
- แกทะเบียนในโฉนด และสญั ญา
- จดั ทําสัญญา
127
• สรปุ ระยะเวลาดาํ เนนิ การแลว เสรจ็ แตล ะกระบวนงาน เกย่ี วกบั การจดทะเบยี น
สิทธแิ ละนติ ิกรรมตามคูมอื สาํ หรบั ประชาชน
ประเภทการจดทะเบยี น สํานักงานทีด่ ิน ระยะเวลา
ท่รี บั คาํ ขอ กรณีไมตอง กรณีตอง
ประกาศ ประกาศ
๑. ประเภทโอน ๑๕๐ นาที ๔๗ วนั
(เชน ขาย ขายฝาก ให แลกเปลย่ี น หลดุ เปน สทิ ธิ สํานกั งานทดี่ นิ
จากจํานอง โอนชําระหน้ีจํานอง โอนตามคําส่ังศาล ทท่ี ่ดี ินตัง้ อยู
โอนตามกฎหมาย โอนชําระคาหุน โอนชําระหน้ี
การไดม าโดยการครอบครอง ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๑๓๘๒
การลงช่ือคูสมรส และแบงทรัพยสินระหวาง
คูสมรส เปนตน )
๒. ประเภทจาํ นอง สํานักงานท่ีดิน ๑๐๐ นาที ๔๗ วนั
(เชน จํานอง ขึ้นเงินจํานอง การโอนสิทธิ ทท่ี ี่ดนิ ตัง้ อยู
การรับจํานอง แกไขหนอ้ี นั จาํ นองเปน ประกนั
ผอนตนเงินจากจํานอง ลดเงินจากจํานอง
ปลอดจํานอง ไถถ อนจาํ นอง เปนตน)
๓. ประเภทเชา
(เชน เชา โอนสิทธิการเชา แบงเชา เชาชวง สํานักงานที่ดิน ๑๕๐ นาที ๔๗ วัน
แกไขเพ่มิ เติมสัญญาเชา เลกิ เชา เปน ตน ) ที่ที่ดินตงั้ อยู
๔. ประเภทกอ ภาระผกู พัน สํ า นั ก ง า น ที่ ดิ น ๑๕๐ นาที ๔๗ วนั
(เชน สิทธิเก็บกิน สิทธิเหนือพืน้ ดิน ภาระติดพัน ทีท่ ี่ดินต้งั อยู
ในอสังหาริมทรัพย สิทธิอาศัย ภาระจํายอม
บรรยายสวน หรือเลิกภาระผูกพัน เชน เลิกสิทธิ
เก็บกิน เลิกสิทธิเหนือพื้นดิน เลิกภาระติดพัน
ในอสงั หารมิ ทรพั ย เลิกสทิ ธอิ าศยั เลกิ ภาระจาํ ยอม
เปน ตน )
๕. การจดทะเบยี นเชาตามพระราชบัญญัติการ สํ า นั ก ง า น ที่ ดิ น ๑๕๐ นาที ๔๗ วัน
เชาอสังหาริมทรัพยเพื่อพาณิชยกรรมและ ทีท่ ี่ดินต้ังอยู
อุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ (เชาเนือ้ ที่ไมเกิน
๑๐๐ ไร)
(เชน เชา แบงเชา เชาชวง โอนสทิ ธกิ ารเชา
แกไขเพมิ่ เติมสัญญาเชา เลิกเชา เปน ตน)
128
ประเภทการจดทะเบยี น สํานกั งานทด่ี ิน ระยะเวลา
ทร่ี บั คําขอ กรณีไมตอง กรณตี อง
ประกาศ ประกาศ
๖. การจดทะเบียนเชาตามพระราชบัญญัติ สํ า นั ก ง า น ท่ี ดิ น ๖๑ วัน ๖๑ วัน
การเชาอสังหาริมทรัพยเพื่อพาณิชยกรรม กรงุ เทพมหานคร
และอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ (เชาเนื้อที่
เกนิ ๑๐๐ ไร)
(เชน เชา แบงเชา เชาชวง โอนสิทธิการเชา
แกไ ขเพ่มิ เติมสัญญาเชา เลกิ เชา เปนตน )
สํ า นั ก ง า น ท่ี ดิ น ๖๗ วัน ๖๗ วนั
กรุงเทพมหานคร ๕๕ วัน
สาขา/สว นแยก ๖๑ วัน
สํานักงานท่ีดิน ๕๕ วัน -
จังหวัด
๔๗ วัน
สาํ นักงานท่ีดิน ๖๑ วนั
จงั หวดั สาขา/
สวนแยก/
สํานักงานทด่ี นิ
อาํ เภอ/กิ่งอาํ เภอ
๗. เกย่ี วกบั ผจู ัดการมรดก สํ า นั ก ง า น ท่ี ดิ น ๙๐ นาที
(เชน ผูจัดการมรดก ผจู ดั การมรดกเฉพาะสวน ทีท่ ี่ดินตัง้ อยู
เปลี่ยนผูจัดการมรดก โอนเปลี่ยนนามผูจัดการ
มรดก เลกิ ผูจ ัดการมรดก เปน ตน )
- ผจู ดั การมรดกตามคําสั่งศาล
- ผูจัดการมรดกกรณีอ่นื (ตามพินยั กรรม) สํ า นั ก ง า น ท่ี ดิ น -
ทท่ี ่ดี นิ ตง้ั อยู
129
ประเภทการจดทะเบยี น สํานกั งานที่ดิน ระยะเวลา
ท่รี ับคําขอ กรณีไมตอง กรณีตอ ง
ประกาศ ประกาศ
๘. โอนมรดก
(เชน โอนมรดก โอนมรดกเฉพาะสวน โอนมรดก
บางสวน โอนมรดกเฉพาะสวนเพียงบางสวน
โอนมรดกสิทธิการไถ โอนมรดกสิทธิการรับ
จาํ นอง โอนมรดกสิทธเิ หนือพื้นดนิ เปนตน)
- กรณีมีผจู ดั การมรดก สํ า นั ก ง า น ที่ ดิ น ๑๓๐ นาที -
ท่ที ดี่ ินตงั้ อยู
- กรณไี มม ผี ูจ ดั การมรดก สํ า นั ก ง า น ท่ี ดิ น - ๔๗ วนั
ท่ที ด่ี ินตัง้ อยู
ประเภทคาํ ขอ ระยะเวลา
๙. การยน่ื คาํ ขอจดทะเบียนตา งสํานกั งานที่ดิน สาํ นักงานท่ีดิน ๑๑ วนั
(เชน โอน จาํ นอง เชา กอภาระผูกพนั ใน ทร่ี บั คาํ ขอ
อสังหารมิ ทรพั ย เปน ตน )
สํานกั งานท่ดี ิน
กรุงเทพมหานคร/
สาขา สํานักงาน
ทด่ี ินจังหวัด/สาขา
และสว นแยก
แหงใดแหงหนงึ่
๑๐. การจดทะเบียนประเภทคําขอตรวจสอบ สํานกั งานที่ดนิ ๔๐ นาที
หลักทรพั ยอสังหาริมทรพั ย ท่ที ี่ดนิ ตงั้ อยู
๑๑. การจดทะเบียนประเภทคําขอตรวจ สาํ นักงานท่ีดนิ ๓๐ นาที
หลักฐานทะเบียนทีด่ ิน/หองชุด ขอคัดขอถาย ท่ีทดี่ นิ ตง้ั อยู
สําเนาเอกสาร
๑๒. การขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน สํานกั งานที่ดนิ ๗ วนั
ทางไปรษณีย ที่ทีด่ นิ ต้ังอยู
130
ประเภทคาํ ขอ สาํ นักงานท่ีดิน ระยะเวลา
๑๓. การขอหนังสือรับรองราคาประเมิน ท่รี ับคําขอ ๕๐ นาที
ทุนทรัพย ๓๐ นาที
สํานกั งานทดี่ นิ
ท่ีทดี่ ินต้ังอยู ๑๕ นาที
๑๔. การขอแกคํานําหนานาม ชือ่ ตัว ชือ่ สกุล สํานักงานท่ีดิน
อายุ ทท่ี ด่ี ินตั้งอยู
๑๕. การขอแสดงตัวผูใชอ าํ นาจปกครอง สํานกั งานท่ดี ิน
ผูเยาว/ผปู กครอง/ผูพทิ กั ษ/ผอู นบุ าล ที่ทีด่ นิ ตั้งอยู
แนวทางปฏิบัติในการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรมตามพระราชบญั ญัติการอาํ นวยความ
สะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. ๒๕๕๘ เปนไปตามหนงั สอื กรมทดี่ ิน ดวนทส่ี ดุ
ท่ี มท ๐๕๑๕.๓/ว ๑๖๕๙๑ ลงวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘
131
การจดทะเบยี นขาย
ความหมาย
ซ้ือขาย คือ สัญญาซ่ึงบุคคลฝ่ายหน่ึงเรียกว่าผู้ขาย
โอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินให้บุคคลอีกฝ่ายหน่ึงเรียกว่าผู้ซื้อ และผู้ซ้ือ
ตกลงว่าจะใช้ราคาทรัพย์สินน้ันให้แก่ผู้ขาย (ประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณชิ ย์ มาตรา ๔๕๓)
กฎหมาย ระเบียบ และคาสั่งที่เก่ียวข้อง
- ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๕๓ -
มาตรา ๔๙๐
- ระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเก่ียวกับการขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อ่ืน พ.ศ. ๒๕๔๓
ลงวนั ที่ ๒๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๓
- ระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเก่ียวกับการขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อื่น (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๕ ลงวันท่ี ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
ประเภทการจดทะเบยี น
๑. ขาย หมายถึง การจดทะเบียนขายท่ีดินท้ังแปลง
หรือขายอสังหาริมทรัพย์ใดท้ังหมด ไม่ว่าท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย์น้ัน
จะมีผู้ถอื กรรมสทิ ธิ์คนเดียว หรอื หลายคน
๒. ขายเฉพาะส่วน หมายถึง กรณีเจ้าของท่ีดินหรือ
อสังหาริมทรัพย์มีหลายคนแต่เจ้าของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย์
บางคนมาขอจดทะเบียนขายท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย์เฉพาะส่วน
ท้งั หมดของตน เช่น ก. และ ข. มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ท่ีดินร่วมกัน
ก. มาขอจดทะเบียนขายเฉพาะส่วนของตนแก่ ค. เท่าน้ัน ส่วนของ ข.
ยงั คงมีอยู่ตามเดิม
132
๓. ขาย (ระหว่างจานอง หรือทรัพยสิทธิอย่างอ่ืนและ
การเช่า) หรอื ขายเฉพาะสว่ น (ระหวา่ งจานองหรอื ทรัพยสิทธิอย่างอ่ืน
และการเช่า) หมายถึง กรณีที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้มาขอ
จดทะเบียนขายมีการจดทะเบียนทรัพยสิทธิและการเช่าผูกพันอยู่
เช่น จานอง สิทธิเก็บกิน ภาระจายอม การเช่า เจ้าของมาขอ
จดทะเบยี นขาย หรอื ขายเฉพาะสว่ น โดยผู้ซ้อื จะต้องรับเอาภาระผูกพัน
นั้นด้วย เช่น ก. และ ข. ผู้ถือกรรมสิทธ์ิที่ดินขายท่ีดินทั้งแปลงที่
จดทะเบียนจานองไว้กับธนาคารเอ แก่ ค. โดย ค. รับภาระการจานอง
ไปดว้ ย หรอื ก. ขายทีด่ ินแปลงดงั กลา่ วเฉพาะส่วนของตนแก่ ค.
๔. แบ่งขาย หมายถึง กรณีที่ดินมีเจ้าของคนเดียว
หรือหลายคน และเจ้าของที่ดินทุกคนขอจดทะเบียนแบ่งขายท่ีดิน
บางส่วนโดยมีการรังวัดแบ่งแยกที่ดิน และออกหนังสือแสดงสิทธิที่ดิน
แปลงใหมใ่ หแ้ ก่ผู้ซือ้ เชน่ ก. และ ข. เป็นผ้ถู อื กรรมสทิ ธทิ์ ี่ดินแปลงหนึ่ง
จานวน ๕ ไร่ ต่อมาได้แบ่งขายท่ีดินแปลงดังกล่าวให้แก่ ค.
จานวน ๑ ไร่ คงเหลือท่ดี ินเป็นของ ก. และ จานวน ๔ ไร่
๕. ขายตามคาสงั่ ศาลหรอื ขายเฉพาะส่วนตามคาส่ังศาล
หมายถึง กรณีที่ศาลมีคาสั่งหรือคาพิพากษาให้ขายที่ดินหรือ
อสังหาริมทรัพย์ เมื่อมีผู้นาคาสั่งหรือคาพิพากษาของศาลมาขอ
จดทะเบียนขายไปตามผลของคาสั่งหรือคาพิพากษาดังกล่าว เช่น
ศาลขายทอดตลาดที่ดินท่ีมีช่ือ ก. และ ข. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์และ
ค. เป็นผซู้ ้อื ทอดตลาดได้
สาระสาคัญ
- การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้ทาเป็นหนังสือ
และจดทะเบียนตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ที่เป็นโมฆะ (มาตรา ๔๕๖)
- ค่าฤชาธรรมเนียมทาสัญญาซ้ือขาย ผู้ซื้อและผู้ขาย
พึงออกใชเ้ ท่ากันท้ังสองฝา่ ย (มาตรา ๔๕๗)
133
- กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินท่ีขายน้ัน ย่อมโอนไปยังผู้ซื้อ
ตง้ั แต่ขณะเมอื่ ได้ทาสญั ญาซอ้ื ขายน้นั (มาตรา ๔๕๘)
- ในการซื้อขายอสังหารมิ ทรัพยน์ ั้น หากว่าไดร้ ะบุจานวน
เน้ือท่ีท้ังหมดไว้ และผู้ขายส่งมอบทรัพย์สินน้อยหรือมากไปกว่าท่ีได้
สัญญา ผู้ซ้ือจะปัดเสียหรือจะรับเอาไว้และใช้ราคาตามส่วนก็ได้
ตามแต่จะเลือก อนึ่ง ถ้าขาดตกบกพร่องหรือล้าจานวนไม่เกินกว่า
ร้อยละห้าแห่งเน้ือที่ท้ังหมดอันได้ระบุไว้น้ัน ผู้ซ้ือจาต้องรับเอาและ
ใช้ราคาตามส่วนแต่ว่าผู้ซื้ออาจจะเลิกสัญญาเสียได้ในเม่ือขาดตก
บกพร่องหรือล้าจานวนถึงขนาดซ่ึงหากผู้ซื้อได้ทราบก่อนแล้วคงจะมิได้
เขา้ ทาสัญญานั้น (มาตรา ๔๖๖)
- ในข้อรับผิดเพื่อการที่ทรัพย์ขาดตกบกพร่องหรือ
ล้าจานวนนั้น ห้ามมิให้ฟ้องคดี เมื่อพ้นกาหนดหนึ่งปีนับแต่เวลา
สง่ มอบ (มาตรา ๔๖๗)
- ก่อนทาการจดทะเบียนพนกั งานเจ้าหน้าท่ีต้องสอบสวน
ในเรือ่ งดังต่อไปน้ี
(๑) ความประสงค์ ในการจดทะเบียนสิทธิและ
ความสามารถของคู่กรณี ความสมบูรณ์แห่งนิติกรรมตามประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ข้อกาหนดสิทธิในท่ีดิน การหลีกเล่ียง
กฎหมาย ราคาซ้ือขายที่แท้จริง การชาระราคาซ้ือขาย การชาระ
ภาษบี ารุงทอ้ งที่
(๒) สอบสวนผู้ขายว่าเป็นเจ้าของท่ีแท้จริง ให้ผู้ซื้อ
ให้ถ้อยคายืนยันว่าผู้ขายเป็นเจ้าของท่ีแท้จริงและยินยอมรับผิดชอบ
ความเสียหายต่าง ๆ ท่ีจะเกิดจากความผิดพลาดเพราะผิดตวั เจ้าของท่ีดนิ
(๓) สอบสวนคู่กรณีให้ทราบว่า ที่ดินท่ีซ้ือขายเป็นที่ดิน
ประเภทใด มีการเช่าทานาหรือไม่ หากมีการเช่าเพื่อทานา ผู้ขาย
ต้องดาเนินการตามพระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพ่ือเกษตรกรรม
พ.ศ. ๒๕๒๔
134
(๔) การสอบสวนเกี่ยวกับส่ิงปลูกสร้าง ให้จดลงไว้
ในคาขอจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม (ท.ด.๑ , ท.ด.๑ ก) ดงั น้ี
(ก) กรณีที่ดินที่ขายเป็นที่ว่างให้ระบุว่า “ไม่มี
สิ่งปลกู สรา้ ง”
(ข) กรณสี ่ิงปลูกสร้างในท่ีดินเป็นของเจ้าของท่ีดิน
ท่ีขาย และเจ้าของท่ีดินประสงค์จะจดทะเบียนขายส่ิงปลูกสร้างน้ัน
รวมกับท่ีดิน ให้ระบุชนิดของส่ิงปลูกสร้างและความประสงค์ของ
ผขู้ ายลงไว้
(ค) กรณีส่ิงปลูกสร้างในท่ีดินเป็นของผู้ที่จะรับ
โอนทีด่ ินอยกู่ อ่ นแล้ว หรือเป็นของบคุ คลภายนอกโดยมีหลักฐานการ
แสดงความเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างนั้น ให้ระบุว่า “ขายเฉพาะที่ดิน
ส่วนสิ่งปลูกสร้างในที่ดินเป็นของผู้ซื้อหรือเป็นของบุคคลภายนอก
อยู่ก่อนแล้ว (แลว้ แต่กรณี)” แต่ถ้าไม่มีหลักฐานพอที่จะเชื่อถือได้ว่า
ผ้ทู ีจ่ ะซอ้ื ท่ีดินหรือบคุ คลภายนอกเป็นเจ้าของสิ่งปลกู สรา้ งนน้ั ใหป้ ระเมิน
ราคาเฉพาะท่ีดินเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและ
จดทะเบยี นโอนเฉพาะท่ดี นิ โดยใหร้ ะบวุ า่ “ขายเฉพาะทีด่ ิน ไม่เก่ียวกับ
สิ่งปลูกสร้างในท่ดี นิ ”
(๕) ในกรณีที่เห็นเป็นการสมควร เจ้าพนักงานที่ดิน
จะให้ผู้ขอจดทะเบียนนาพนักงานเจ้าหน้าที่ไปตรวจสภาพที่ดิน
หรืออสังหาริมทรัพย์ท่ีขอจดทะเบียนโดยผู้ขอจดทะเบียนเป็นผู้ออก
ค่าใชจ้ ่ายกไ็ ด้
(ระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมเกี่ยวกับการขายที่ดนิ และอสังหาริมทรัพย์อ่ืน พ.ศ. ๒๕๔๓
ลงวันท่ี ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓ และระเบียบกรมท่ีดิน ว่าด้วยการ
จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับการขายที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อ่ืน
(ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ลงวันที่ ๑๖ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๔๕)
135
- การลงลายมือช่ือหรือลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ขอและ
คู่สัญญา
(๑) การลงลายมือชื่อของผู้ขอในคาขอจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนติ กิ รรม (ท.ด. ๑, ท.ด. ๑ ก) ให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ใน
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙
(๒) ห้ามพนักงานเจ้าหน้าท่ีนาแบบพิมพ์ที่ยังไม่ได้
กรอกขอ้ ความให้ผู้ขอลงนามในแบบพมิ พ์
(๓) กรณีผู้ขอไม่สามารถลงลายมือชื่อได้ให้พิมพ์
ลายนิ้วมือของบุคคลดังกล่าวลงไว้แทนการลงลายมือชื่อ โดยพิมพ์
น้ิวหัวแม่มือซ้ายลงไว้ให้เห็นเส้นลายมือชัดเจน แล้วเขียนกากับว่า
เป็นลายนิ้วหัวแม่มือซ้ายของผู้ใด หากหัวแม่มือซ้ายของผู้ขอพิการ
หรือลบเลือนให้ใช้ลายพิมพ์หัวแม่มือขวาแทน แล้วหมายเหตุไว้ด้วย
ว่าเป็นลายน้ิวหัวแม่มือขวาของผู้ใด ถ้าในช่องลงลายมือช่ือของผู้ขอ
ไม่มีเน้ือที่เพียงพอให้พิมพ์ลายน้ิวมือของผู้ขอไว้ในที่ว่างแห่งอื่น
ในคาขอนนั้ ก็ได้ แต่ให้มีเครอ่ื งหมาย เช่น ลูกศรชี้ไปให้รู้ว่าเป็นลายน้ิวมือ
ของผ้ใู ด
- การตรวจสอบก่อนจดทะเบียน ก่อนลงนามจดทะเบียน
และประทับตราตาแหน่ง ในหนังสือสัญญารวมท้ังสารบัญจดทะเบียน
พนกั งานเจ้าหนา้ ทจ่ี ะตอ้ งดาเนนิ การ ดงั น้ี
(๑) ตรวจสอบสาระสาคัญที่พนักงานเจ้าหน้าท่ีได้
สอบสวนจดลงไวห้ รือผู้ขอจดทะเบียนกรอกข้อความไว้ในคาขอจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมและเอกสารที่ผู้ขอจดทะเบียนนามายื่นพร้อมคาขอ
ให้เป็นการถกู ตอ้ ง
(๒) ตรวจสอบสารบบ ประวัติความเป็นมาของที่ดิน
และอสังหาริมทรัพย์ที่ผู้ขอประสงค์จะจดทะเบียน ชื่อเจ้าของที่ดิน
อายุ ช่ือบิดามารดา ลายมือช่ือและหรือลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ขอ
จดทะเบียนในคาขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหรือในหนังสือ
136
มอบอานาจแล้วแต่กรณี โดยตรวจสอบให้ตรงกับหลักฐานเดิมในสารบบ
กรณีลายมือช่ือของผู้ขอจดทะเบียนผิดเพี้ยนจากลายมือชื่อเจ้าของ
ในสารบบเดิมมาก ควรให้ผู้ขอจดทะเบียนพยายามลงลายมือชื่อ
ให้ตรงกับลายมือช่ือในสารบบเดิม หากผู้ขอจดทะเบียนยังลงลายมือช่ือ
ผิดเพี้ยนจากเดิม แต่ผู้ขอจดทะเบียนเป็นผู้ที่พนักงานเจ้าหน้าที่รู้จัก
ก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดาเนินการต่อไปได้ หากพนักงานเจ้าหน้าท่ี
ไม่รู้จักตัวผู้ขอจดทะเบียน ควรขอหลักฐานท่ีเช่ือถือได้จากผู้น้ัน
มาตรวจสอบเพ่ิมเติมจนเป็นที่เชื่อได้ว่า ผู้ขอจดทะเบียนเป็นเจ้าของ
ที่แท้จริง หรือให้ผู้ที่เชื่อถือได้รับรองว่าผู้ขอจดทะเบียนเป็นเจ้าของ
ท่ีแท้จริงเสียก่อน สาหรับกรณีไม่มีลายมือช่ือหรือลายพิมพ์น้ิวมือ
ของเจ้าของในสารบบ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบสวนเช่นเดียวกับ
ท่ีไดก้ ลา่ วมาขา้ งต้น
(๓) ตรวจสอบบัญชีอายัด ว่ามีการอายัดท่ีดินหรือ
อสงั หารมิ ทรพั ยอ์ นื่ ท่ีผู้ขอประสงค์ จะจดทะเบียนหรอื ไมป่ ระการใด
(๔) ตรวจการห้ามโอน ว่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์
อื่นที่ผู้ขอประสงค์จะจดทะเบียน มีกฎหมายใดบัญญัติเป็นการห้าม
โอนไวห้ รอื ไม่ ประการใด
(๕) ห้ามพนักงานเจ้าหน้าที่ดาเนินการจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมในกรณีผู้ขอไม่ได้ลงลายมือชื่อในชั้นยื่นคาขอและ
สอบสวนต่อพนกั งานเจา้ หน้าท่ี
(๖) การจัดทาคาขอ (ท.ด. ๙) การจดสาระสาคัญ
การสอบสวนตาม ท.ด. ๑ หรือ ท.ด. ๑ ก หนังสือสัญญาและการ
บันทึกในสารบัญจดทะเบียน ให้ถือปฏิบัติได้ตามตัวอย่างท้ายระเบียบ
กรมท่ีดิน ว่าด้วยการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับการขายท่ีดิน
และอสังหาริมทรัพย์อ่ืน พ.ศ. ๒๕๔๓ ลงวันท่ี ๒๐ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๕๔๓
137
(๗) การเขียนช่ือคู่กรณีในข้อ ๒ และข้อ ๓ ของ
ท.ด. ๑ หรอื ท.ด. ๑ ก ให้ถอื ปฏบิ ัติตามตวั อย่างท้ายระเบียบกรมที่ดิน
ว่าด้วยการเขียนช่ือผู้ขอในคาขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตาม
แบบ ท.ด. ๑ หรือ ท.ด. ๑ ก พ.ศ. ๒๕๔๗ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม
พ.ศ. ๒๕๔๗
- การจดทะเบยี นสิทธิและนิตกิ รรม
(๑) กรณีตกลงซ้ือขายกัน ให้ทาในรูปแบบหนังสือ
สัญญาตามแบบของทางราชการ เก็บไว้ ณ สานักงานท่ีดิน ๑ ฉบับ
มอบให้แก่ผู้ซื้อ ๑ ฉบับ ส่วนกรณีศาลมีคาส่ังหรือคาพิพากษาให้ขาย
ให้ผู้ได้มาย่ืนคาขอ ท.ด. ๙ โดยบรรยายข้อความในคาขอตามนัย
คาส่ังหรือคาพิพากษาของศาลแล้วแต่กรณีโดยไม่ต้องทาสัญญา เว้นแต่
ศาลจะสั่งให้ทาสัญญาด้วย ส่วนคาขอฯ ท.ด. ๑ หรือ ท.ด. ๑ ก
ให้เปน็ รายงานการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน
(๒) ให้ผู้ซ้ือรับรองว่าผู้ขายเป็นผู้ท่ีตนได้ติดต่อและ
รู้ว่าเป็นเจ้าของอันแท้จริง หากผิดพลาดตนยินยอมรับผิดชอบ ถ้าผู้ซ้ือ
ไมย่ ินยอมให้สอบสวนพจิ ารณาเสนอเรื่องตามลาดับ โดยหมายเหตุไว้หลัง
หนังสือสัญญาท่ีทากันว่า ผู้ซื้อได้ทราบข้อสังเกตแล้ว แต่ไม่ยอมรับทราบ
โดยมีพยานรู้เห็นสองคน การซ้ือขายให้สอบถามผู้ซ้ือว่าได้ติดต่อ
กับเจ้าของที่ดิน ตลอดจนการสืบสวนประวัติความเป็นมาของที่ดินด้วย
แบบบนั ทึกถ้อยคายนิ ยอมรับผิดชอบของผู้ซ้ือให้เขียนหรือพิมพ์ที่หลัง
หนังสือสัญญาที่จดทะเบียนน้ันโดยให้ถอ้ ยคาดังตอ่ ไปน้ี
“ข้าพเจ้าผู้ซื้อขอยืนยันว่า ในการทาสัญญาน้ี
ข้าพเจ้าได้ติดต่อกับเจ้าของที่ดินโดยตรงได้มีการตกปากลงคาสัญญา
กันมาอย่างแน่นอนแล้ว จงึ มาทาสญั ญาและขอจดทะเบียน หากเกิด
การผิดพลาดเพราะผิดตัวเจ้าของที่ดิน ข้าพเจ้าขอรับผิดชอบเอง
ทั้งส้ิน ไม่เก่ยี วแก่พนกั งานเจา้ หนา้ ทแี่ ตอ่ ยา่ งใด
138
พนักงานเจ้าหน้าท่ีได้อ่านข้อความข้างบนน้ีให้ข้าพเจ้า
ฟังโดยตลอดแล้ว ข้าพเจ้าทราบและเข้าใจข้อความดังกล่าวดีแล้ว
จึงได้ลงลายมือชื่อหรือลงลายพิมพ์น้ิวมือไว้เป็นสาคัญต่อหน้าพยาน
และพนักงานเจา้ หนา้ ท่ี
ลงช่อื …………………………...ผซู้ อ้ื
ลงชอื่ …………………………..พยาน
ลงชอื่ …………………………..พยาน
ตอ่ หน้า……………....…………...พนกั งานเจ้าหน้าท่ี”
(คาส่ังกรมที่ดิน ท่ี ๕/๒๕๐๗ ลงวันที่ ๓๐ ตุลาคม
๒๕๐๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยคาส่ังกรมที่ดิน ท่ี ๒๑๙/๒๕๒๐ ลงวันท่ี
๒๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๒๐)
(๓)การทาสัญญาซ้ือขาย ทั้งสองฝ่ายตกลงยินยอมกัน
โดยชาระเงนิ ใหแ้ กก่ นั แต่คร่ึงหนึ่งก่อน หรือยังไม่ชาระเงินกันในเวลา
ท่ีทาสัญญาจะชาระกันภายหลังก็ดี หรือจะขอผลัดส่งเงินในคราว
เดียวกัน หรือหลายครั้งก็ดีให้ทากันได้แต่ให้มีข้อสัญญาตามท่ีตกลง
กันไว้ให้ชัดเจน ส่วนจานวนเงินเม่ือไม่นามาชาระต่อหน้าเจ้าพนักงาน
โดยทั้งสองฝ่ายได้รับวา่ ชาระเงินกนั เสรจ็ แล้วก็ใหท้ าได้
(หนังสือกรมทะเบียนท่ีดิน กระทรวงเกษตราธิการ
ที่ ๑๘๔/๗๘๕๔ ฉบบั ลงวันท่ี ๕ ตลุ าคม ๒๔๕๙)
(๔)การบันทึกถ้อยคายินยอมรับผิดชอบของผู้ซ้ือที่ดิน
จะโดยวิธีใดกต็ ามขอใหช้ ดั เจนอา่ นง่ายทุกตวั อกั ษร
(หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๖๐๘/๔๓๑๕ ลงวันท่ี ๒๓
มิถุนายน ๒๕๐๘ เวียนโดยหนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๖๐๘/๓๓๖๙
ลงวันท่ี ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๐๘)
- การประกาศ กรณผี ูข้ อจดทะเบียนซื้อขายที่ดินที่ยัง
ไม่มีโฉนดท่ีดิน ใบไต่สวน หรือหนังสือรับรองการทาประโยชน์ตาม
แบบ น.ส. ๓ ก. หรือขายอสังหาริมทรัพย์อย่างอ่ืนในที่ดินดังกล่าว
139
หรือขายอสังหาริมทรัพย์อื่นในที่ดิน ใบไต่สวนหรือหนังสือรับรอง
การทาประโยชน์ตามแบบ น.ส. ๓ ก. ในกรณีไม่รวมกับที่ดินดังกล่าว
ให้ประกาศมกี าหนด ๓๐ วัน ตามข้อ ๕ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗
(พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่
๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวล
กฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
- หลักเกณฑ์การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกยี่ วกับทรพั ยส์ ินของสามีภริยา
๑. ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยานอกจากสินส่วนตัว
ซึ่งสามีหรือภริยาได้มาหรือมีอยู่ก่อนวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
ให้ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี
(๑) กรณีท่ีไม่มีสัญญาก่อนสมรสหรือสัญญา
ระหว่างสมรสกาหนดไว้เป็นอย่างอ่ืน เมื่อสามีมาขอทานิติกรรม
ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีรับจดทะเบียนได้ โดยไม่ต้องให้ภริยาให้ความ
ยนิ ยอมแต่ถ้าภรยิ ามาขอทานติ กิ รรม ตอ้ งให้สามใี หค้ วามยนิ ยอม
(๒) กรณีท่ีมีสัญญาก่อนสมรสหรือสัญญา
ระหว่างสมรสกาหนดให้ภริยาเป็นผู้จัดการแต่ฝ่ายเดียว เมื่อภริยา
มาขอทานิติกรรม ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รับจดทะเบียนได้ โดยไม่ต้อง
ให้สามีให้ความยินยอม แต่ถ้ามีสัญญาก่อนสมรสหรือสัญญาระหว่าง
สมรสกาหนดให้สามีและภริยาจัดการร่วมกัน เม่ือคู่สมรสฝ่ายใดมาขอ
ทานติ ิกรรม ตอ้ งให้คู่สมรสอกี ฝา่ ยหนึ่งใหค้ วามยนิ ยอม
(๓) กรณีท่ีคู่สมรสฝ่ายใดมิได้เป็นผู้จัดการ
สินบริคณห์ตามบทบัญญัติ บรรพ ๕ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์เดิม มาขอทานิติกรรมโดยอ้างว่าเป็นสินเดิมที่เปลี่ยน
มาเปน็ สินสว่ นตัวและได้จดั แบ่งกันแล้ว ตามนัยมาตรา ๗ วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติให้ใช้บทบัญญัติ บรรพ ๕ แห่งประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ท่ีได้ตรวจชาระใหม่ พ.ศ. ๒๕๑๙ ก็ให้
140
พนักงานเจ้าหน้าท่ีจดทะเบียนได้โดยไม่ต้องให้คู่สมรสอีกฝ่ายหน่ึงให้
ความยินยอม
๒. ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยานอกจากสินส่วนตัว
ซ่ึงสามีหรือภริยาได้มาภายหลัง วันท่ี ๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๙ ให้ปฏิบัติ
ดังน้ี
(๑) กรณีที่ไม่มีสัญญาก่อนสมรสหรือสัญญา
ระหว่างสมรสกาหนดไว้เป็นอย่างอ่นื เมื่อสามหี รือภริยามาขอทานิติกรรม
ตอ้ งใหภ้ ริยาหรอื สามใี ห้ความยนิ ยอม
(๒) กรณีที่มีสัญญากอ่ นสมรสหรือสัญญาระหว่าง
สมรสกาหนดให้สามีหรือภริยาเป็นผู้จัดการสินสมรสแต่ฝ่ายเดียว
เมื่อสามีหรือภรยิ ามาขอทานิติกรรม ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีรับจดทะเบียน
ไดโ้ ดยไมต่ ้องให้สามหี รอื ภรยิ าใหค้ วามยินยอม
(๓) การใหค้ วามยนิ ยอมดงั กล่าวใน (๑) และ (๒)
ต้องทาเป็นหนังสือ ถ้าไม่มีความยินยอมเป็นหนังสือ หรือไม่มีคาส่ัง
ของศาลอนญุ าตแทนตามมาตรา ๑๔๗๘ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง
และพาณิชย์ที่ได้ตรวจชาระใหม่ พนักงานเจ้าหน้าที่จะรับจดทะเบียน
ให้ได้ก็ต่อเม่ือคู่กรณีทั้งสองฝ่ายยืนยันให้จดทะเบียน แต่ต้องบันทึก
ถ้อยคาของค่กู รณไี ว้เปน็ หลักฐานด้วย
(๔) ผู้มีสิทธิขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
จะต้องเป็นผู้มชี ่อื ในหลักฐานแสดงกรรมสิทธห์ิ รือสทิ ธคิ รอบครอง
(๕) การพิจารณาว่า อสังหาริมทรัพย์ใดเป็ น
ทรัพยส์ นิ ทสี่ ามหี รอื ภรยิ าได้มาหรือมีอยู่ก่อนวันท่ี ๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
หรือได้มาภายหลงั วนั ท่ี ๑๕ ตลุ าคม ๒๕๑๙ ใหพ้ จิ ารณาจากหลักฐาน
ทางทะเบียนในหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินหรือในทะเบียน สิทธิและ
นิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ (ท.อ. ๑๓) หรือหลักฐานอื่น
โดยถือวันจดทะเบียนเป็นสาคัญ เว้นแต่เป็นการได้มาโดยทางมรดก
ให้ถอื วนั ท่ีเจ้ามรดกถึงแกค่ วามตายและพจิ ารณาดังน้ี
141
ก. การจดทะเบียนโอนมรดกหลงั วนั ที่ ๑๕
ตลุ าคม ๒๕๑๙ แตเ จา มรดกถงึ แกค วามตายกอนวันที่ ๑๖ ตุลาคม
๒๕๑๙ ถาไมมีพนิ ยั กรรมหรอื มีแตพินยั กรรมไมไดระบุยกใหเปนสิน
สวนตวั หรือสนิ เดิม ใหถือวาเปน สนิ สมรสซึ่งไดมาหรือมีอยูกอนวันที่
๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
ข. การจดทะเบียนโอนมรดกหลงั วนั ท่ี ๑๕
ตลุ าคม ๒๕๑๙ แตเจา มรดกถึงแกค วามตายหลงั วนั ที่ ๑๕ ตุลาคม
๒๕๑๙ ถาไมมีพินัยกรรมหรือมีแตระบุยกใหเปนสินสวนตัวหรือ
สินเดิมหรือพินยั กรรมมิไดร ะบุเปน สนิ สมรส ใหถือวาเปนสินสว นตวั
(หนังสอื กรมท่ดี ิน ดวนมาก ที่ มท ๐๖๑๒/๑/ว ๔๑๔๘๘
ลงวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๑๙ และหนงั สือกรมที่ดิน ดว นมาก ที่ มท
๐๖๑๒/๑/ว ๒๑๔๗๙ ลงวันท่ี ๑๗ ตลุ าคม ๒๕๒๐)
๓. การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับ
ทรัพยสินของสามีภรยิ าที่อางวาตนมีคูสมรสแตไมชอบดวยกฎหมาย
มีแนวทางปฏิบตั ดิ งั น้ี
(๑) ถาคูสมรสของผูขอจดทะเบียนมาในวัน
จดทะเบยี นดว ย ก็ใหส อบถามและบนั ทกึ ถอ ยคํายืนยันไววาเปนสามี
หรอื ภริยากนั โดยไมชอบดวยกฎหมาย
(๒) ถาคูสมรสของผูขอจดทะเบียนไมมาในวัน
จดทะเบียน หากสามารถจะนําหลกั ฐานเปน หนังสือรบั รองตามนยั (๑)
มาแสดงไดก ค็ วรใหนาํ มาแสดงดว ย
(๓) ในกรณีท่ีผูขอฝายที่มีคูสมรสโดยไมชอบ
ดว ยกฎหมาย ไมอ าจจะกระทําตาม (๑) หรอื (๒) ได ก็ใหบันทึก
ผูขอฝา ยนั้นใหร ับรองไววาเปนสามีหรือภริยากันโดยไมชอบดวยกฎหมาย
และหากถอ ยคาํ ท่ีใหไ วเปนเท็จใหใชถอยคําดังกลาวยันผูขอในคดีอาญา
ไดดวย แลว แจง ใหผ ูข ออกี ฝายหนง่ึ ทราบ เมือ่ ผขู อท้งั สองฝายยืนยนั
ใหจดทะเบียนโดยไมประสงคปฏิบัติตาม (๑) และ (๒) และยอม