คาํ นํา
กรมที่ดินไดกอตั้งเมื่อวันท่ี ๑๗ กุมภาพันธ ๒๔๔๔ โดยมีภารกิจหลักในการ
ใหบรกิ ารประชาชน ดา นการคมุ ครองสทิ ธใิ นทด่ี ินของบุคคลและจดั การทีด่ นิ ของรัฐ โดยการรังวัด
ทาํ แผนท่ี การออกหนังสอื แสดงสิทธิในท่ีดิน การใหบริการดานการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
การสงเสริมธุรกจิ อสงั หาริมทรพั ย และการจัดการขอมูลสารสนเทศท่ีดิน เพ่ือใหประชาชนมีความมั่นคง
ในการถือครองท่ีดินและไดรับบริการที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการบริหารจัดการท่ีดินของรัฐ
เปนไปอยางมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชนสูงสุด โดยถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ วิธีการ
ตามประมวลกฎหมายที่ดินที่เปนกฎหมายหลักที่สําคัญตอการปฏิบัติงานของกรมท่ีดินในสวน
ท่ีเกี่ยวของกับทรัพยากรท่ีดินของประเทศ ซึ่งประมวลกฎหมายท่ีดินไดใชบังคับต้ังแตวันท่ี ๑
ธนั วาคม ๒๔๙๗ เปนตนมา และไดมีการปรับปรุงพัฒนาใหเหมาะสมสอดคลองกับความเปล่ียนแปลง
ทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองอยา งตอ เนื่องตลอดมาจนถึงปจจุบัน และยังมีกฎหมายซึ่งอยูในภารกิจ
กรมท่ีดินเพ่ิมขึ้นอีก ๒ ฉบับ เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๒๐ ป กรมที่ดินไดรวบรวมและจัดพิมพ
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ประมวลกฎหมายท่ีดินท่ีเปนปจจุบัน
และกฎกระทรวงที่เก่ียวของ รวมทั้งพระราชบัญญัติคุมครองประชาชนในการทําสัญญาขายฝากท่ีดิน
เพ่ือเกษตรกรรมหรือท่ีอยูอาศัย พ.ศ. ๒๕๖๒ และระเบียบที่เก่ียวของ ตลอดจนพระราชบัญญัติ
ทรัพยอิงสิทธิ พ.ศ. ๒๕๖๒ กฎกระทรวงและระเบียบท่ีเก่ียวขอ ง ท้ังน้ี เพ่ือความสะดวกสําหรับศึกษา
คนควา และอางอิงในการปฏิบัติงานของพนักงานเจาหนาท่ีของกรมท่ีดิน รวมถึงผูสนใจท่ีจะทํา
ความเขา ใจถึงสิทธแิ ละหนา ตามท่ีบัญญตั ไิ วใ นกฎหมาย
กรมท่ีดินหวังเปนอยางย่ิงวาการรวบรวมและจัดพิมพกฎหมายในโอกาสน้ี
จะอํานวยประโยชนในการนําไปใชศึกษาคนควาและปฏิบัติงาน ตลอดจนอางอิงในการใหบริการ
ประชาชนไดเปนอยางดี ซึ่งจะทําใหการปฏิบัติงานตามภารกิจสําเร็จลุลวงไปไดอยางมี
ประสทิ ธภิ าพ สง ผลใหเ กิดประโยชนส งู สุดตอประชาชนผรู ับบรกิ าร
สาํ นกั กฎหมาย
กรมท่ดี ิน กระทรวงมหาดไทย
๑๗ กุมภาพนั ธ ๒๕๖๔
สารบญั
พระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ หนา
พระราชบัญญตั ใิ หใชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ๓
ประมวลกฎหมายทีด่ นิ
หมวด ๑ บทเบด็ เสร็จทั่วไป ๑๑
หมวด ๒ การจดั ท่ดี ินเพอ่ื ประชาชน ๑๗
หมวด ๓ การกําหนดสทิ ธิในท่ดี นิ ๒๕
หมวด ๔ การออกหนังสือแสดงสทิ ธิในทดี่ นิ ๒๘
หมวด ๕ การรังวดั ท่ีดนิ ๓๖
หมวด ๖ การจดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรม ๓๙
หมวด ๗ การกาํ หนดสิทธใิ นทด่ี นิ เพอ่ื การศาสนา ๔๕
หมวด ๘ การกําหนดสทิ ธิในท่ดี ินของคนตา งดา ว ๔๖
หมวด ๙ การกําหนดสิทธิในท่ดี ินของนิตบิ คุ คลบางประเภท ๔๙
หมวด ๑๐ การคา ทดี่ นิ ๕๐
หมวด ๑๑ คา ธรรมเนยี ม ๕๑
หมวด ๑๒ บทกําหนดโทษ ๕๓
อัตราคา ธรรมเนียมทายประมวลกฎหมายทีด่ นิ ๕๖
กฎกระทรวง
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ชประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ๖๓
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ๖๗
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๖ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ๖๙
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ๗๑
กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ๗๗
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๐๐) ๘๓
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๐๐) ๘๗
กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๑๔ (พ.ศ. ๒๕๐๔) ๙๓
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ๙๗
กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๒๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ๙๙
กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ๑๐๑
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๑ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ๑๐๗
กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑) ๑๐๙
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ๑๑๑
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ๑๔๓
กฎกระทรวงกาํ หนดหลักเกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขการไดมาซ่งึ ทด่ี ิน
เพ่อื ใชเ ปนทีอ่ ยูอาศัยของคนตางดาว พ.ศ. ๒๕๔๕ ๑๕๕
กฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑแ ละวิธีการในการสอบสวน
และการพิจารณาเพิกถอนหรือแกไขการออกโฉนดท่ีดิน ๑๖๓
หรอื หนังสอื รับรองการทําประโยชนก ารจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรม หรือการจดแจง เอกสารรายการจดทะเบยี น ๑๗๕
โดยคลาดเคลอื่ นหรือไมชอบดวยกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑๗๗
๑๘๐
พระราชบญั ญตั คิ ุมครองประชาชนในการทาํ สัญญาขายฝากทดี่ นิ
เพอ่ื เกษตรกรรมหรือทอ่ี ยูอาศัย พ.ศ. ๒๕๖๒
หมวด ๑ บทเบด็ เสรจ็ ทว่ั ไป
หมวด ๒ สิทธิและหนา ทีข่ องผขู ายฝากและผูซ้อื ฝาก
บทเฉพาะกาล
ระเบยี บกรมทีด่ ิน วา ดวยการจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรมเกย่ี วกับการขายฝากท่ดี ิน
เพือ่ เกษตรกรรมหรือท่อี ยูอาศัยตามกฎหมายวาดว ยการคุมครองประชาชนในการทาํ สญั ญา
ขายฝากท่ดี ินเพอื่ เกษตรกรรมหรือทอ่ี ยูอาศยั พ.ศ. ๒๕๖๒
หมวด ๑ การยน่ื คําขอและการสอบสวน ๑๘๗
หมวด ๒ ประเภทการจดทะเบยี น ๑๙๑
หมวด ๓ การเขียนคาํ ขอจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม การจัดทาํ หนงั สือ ๑๙๔
๒๐๐
สญั ญาและแกท ะเบียน ๒๐๑
หมวด ๔ การลงลายมือช่ือ ๒๐๑
หมวด ๕ การประกาศ ๒๐๔
หมวด ๖ การขยายกาํ หนดเวลาไถ และการวางทรพั ยอ ันเปน สินไถ ๒๐๗
หมวด ๗ การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรม ๒๐๘
หมวด ๘ การจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมเก่ียวกบั ทด่ี ินและอสงั หารมิ ทรพั ยอ ยา งอ่ืน
ภายหลังครบกําหนดเวลาไถตามสัญญาขายฝาก
หมวด ๙ คา ธรรมเนียม
ระเบยี บกรมท่ดี ิน วา ดวยการวางทรพั ยอนั เปนสินไถ ณ สาํ นักงานทีด่ นิ
ตามกฎหมายวาดวยการคมุ ครองประชาชนในการ
ทําสญั ญาขายฝากท่ดี นิ เพ่ือเกษตรกรรมหรือท่ีอยอู าศัย พ.ศ. ๒๕๖๒
หมวด ๑ บททัว่ ไป ๒๑๒
หมวด ๒ การรบั คําขอวางทรพั ยอนั เปน สนิ ไถ ณ สํานักงานที่ดิน ๒๑๓
๒๑๕
ท่ีรับจดทะเบยี นขายฝากไว ๒๑๖
หมวด ๓ การรบั คําขอวางทรัพยอนั เปนสินไถ ณ สํานักงานทด่ี นิ จังหวดั ๒๑๗
๒๑๘
และสาํ นกั งานทีด่ นิ กรงุ เทพมหานคร ท่ีมไิ ดรับจดทะเบียนขายฝากไว ๒๑๙
หมวด ๔ การขอรับสินไถ
หมวด ๕ สว นท่ี ๑ การรบั เงนิ การนาํ เงนิ ฝากคลงั
สว นท่ี ๒ การเบิกเงิน การจา ยเงินและโอนขายบลิ
สวนท่ี ๓ การรายงานและการบญั ชี
พระราชบญั ญัตทิ รัพยอิงสทิ ธิ พ.ศ. ๒๕๖๒
พระราชบญั ญัติทรัพยอ งิ สิทธิ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒๒๓
กฎกระทรวงออกตามความในพระราชบญั ญัติทรัพยอิงสิทธิ พ.ศ. ๒๕๖๒
กฎกระทรวงการขอกอตง้ั และการยกเลกิ ทรพั ยอิงสิทธิ การทํานิติกรรมเกี่ยวกับ ๒๓๓
ทรัพยอ ิงสทิ ธิ การออกหนังสอื รบั รอง การออกใบแทนหนังสือรบั รอง ๒๔๗
และการเพิกถอนหนังสือรับรองทรัพยองิ สิทธิ พ.ศ. ๒๕๖๓
กฎกระทรวงกาํ หนดคา ธรรมเนียมและคาใชจ า ยเก่ียวกบั ทรพั ยอ งิ สทิ ธิ พ.ศ. ๒๕๖๓
ระเบยี บกรมท่ีดนิ วา ดวยการจดทะเบียนขอกอ ตั้งและการยกเลิกทรพั ยอ ิงสิทธิ
และการจดทะเบยี นนิติกรรมในหนังสือรบั รองทรัพยอ งิ สิทธิ
ตามกฎหมายวาดว ยทรพั ยอ งิ สิทธิ พ.ศ. ๒๕๖๓
หมวด ๑ การจดทะเบียนกอ ต้ังทรัพยอิงสทิ ธิในโฉนดทด่ี ินและหนังสอื ๒๕๒
กรรมสทิ ธ์ิหองชดุ
สว นที่ ๑ การย่นื คาํ ขอ การสอบสวน และประเภทการจดทะเบียน ๒๕๒
กอต้ังทรพั ยองิ สทิ ธิ
สวนที่ ๒ การเขียนคําขอจดทะเบยี นกอตง้ั ทรพั ยอ ิงสิทธิ ๒๕๔
และการแกทะเบียน ๒๕๖
สว นที่ ๓ การลงลายมือชอื่ และการจดทะเบยี นกอตงั้ ทรพั ยองิ สิทธิ ๒๕๗
๒๕๘
หมวด ๒ การออกหนังสือรบั รองทรัพยอ งิ สทิ ธิ ๒๕๘
หมวด ๓ การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมในหนังสือรับรองทรัพยอิงสิทธิ ๒๖๑
สว นท่ี ๑ แบบพมิ พ การย่ืนคําขอ และการสอบสวน ๒๖๓
สวนท่ี ๒ ประเภทการจดทะเบยี น ๒๖๔
สวนท่ี ๓ การเขยี นคําขอจดทะเบยี นนิติกรรม การจัดทําหนังสอื สัญญา
และการแกท ะเบียน
สวนที่ ๔ การจดทะเบยี นนติ กิ รรม
หมวด ๔ การจดทะเบยี นยกเลิกทรัพยองิ สทิ ธิในโฉนดทด่ี นิ ๒๖๖
และหนงั สือกรรมสทิ ธ์ิหอ งชดุ ๒๖๙
๒๗๐
หมวด ๕ การอายัดหนงั สือรบั รองทรัพยอ ิงสิทธิ
หมวด ๖ คาธรรมเนยี ม ๒๗๐
หมวด ๗ การจดั เกบ็ หนังสอื รบั รองทรัพยองิ สิทธิและสารบบ
และการทาํ ลายเอกสารเก่ียวกบั ทรพั ยองิ สิทธิ
พระราชบญั ญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗
๓
3
พระราชบญั ญัติ
ใหใ ชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วันท่ี ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๗
เปน ปที่ ๙ ในรัชกาลปจ จบุ นั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการ
โปรดเกลาฯ ใหประกาศวา
โดยทเี่ ปนการสมควรที่จะประกาศใชป ระมวลกฎหมายทีด่ นิ
จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบญั ญตั ขิ ้ึนไว โดยคําแนะนํา
และยินยอมของสภาผูแ ทนราษฎร ดังตอไปนี้
มาตรา ๑พระราชบัญญัตินี้เรียกวา “พระราชบัญญัติใหใชประมวล ชอื่ กฎหมาย
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศใน วนั ใชบ งั คับ
ราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตน ไป๑
มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายท่ีดินตามท่ีตราไวตอทายพระราชบัญญัตินี้ วันใชบ งั คับ
ใหใชบังคับเปนกฎหมายตั้งแตวันท่ี ๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ เปนตน ไป ป.ท่ีดิน
๑ ราชกจิ จานุเบกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๗๘ (ฉบบั พเิ ศษ) วันท่ี ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๗
๔
4
กฎหมายเกา มาตรา ๔ ตง้ั แตวันท่ปี ระมวลกฎหมายทด่ี ินใชบงั คบั ใหยกเลกิ
ทีถ่ กู ยกเลกิ (๑) พระราชบัญญัติออกตราจองชั่วคราว ซ่ึงประกาศเปล่ียนนามพระราชบัญญัติ
เมื่อรัตนโกสนิ ทรศก ๑๒๔ เปน พระราชบญั ญตั อิ อกโฉนดตราจอง
(๒) พระราชบัญญตั ิการออกโฉนดที่ดนิ รัตนโกสนิ ทรศก ๑๒๗
(๓) พระราชบัญญัติออกโฉนดทดี่ นิ ฉบับที่ ๒
(๔) พระราชบัญญตั อิ อกโฉนดที่ดิน ฉบับท่ี ๓
(๕) พระราชบัญญัติแกไขความในมาตรา ๒๕ แหงพระราชบัญญัติการออก
โฉนดทด่ี ิน ร.ศ. ๑๒๗
(๖) พระราชบญั ญตั วิ า ดว ยการหวงหามท่ีดินรกรางวางเปลาอันเปนสาธารณ
สมบัติของแผนดนิ พุทธศักราช ๒๔๗๘
(๗) พระราชบัญญตั อิ อกโฉนดทีด่ นิ (ฉบับท่ี ๕) พุทธศกั ราช ๒๔๗๙
(๘) พระราชบญั ญตั ิออกโฉนดที่ดนิ (ฉบับท่ี ๖) พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๙
(๙) พระราชบัญญัติควบคุมการไดมาซ่ึงท่ีดินโดยหางหุนสวนและบริษัท
จํากัด เพือ่ คากําไร พุทธศักราช ๒๔๘๕
(๑๐) พระราชบญั ญตั ิออกโฉนดทด่ี นิ (ฉบับที่ ๗) พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๖
(๑๑) พระราชบัญญัติวาดวยพนักงานเจาหนาท่ีจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๖
(๑๒) พระราชบญั ญัติวาดวยพนกั งานเจาหนาท่ีจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย (ฉบับที่ ๒)
พทุ ธศกั ราช ๒๔๙๒
(๑๓) พระราชบญั ญตั ิท่ดี ินในสว นท่ีเกี่ยวกบั คนตางดาวพทุ ธศักราช ๒๔๘๖
(๑๔) พระราชบัญญัติที่ดินในสวนท่ีเก่ียวกับคนตางดาว (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๔๙๓ และ
(๑๕) บรรดาบทกฎหมาย กฎ และขอบังคับอ่ืนๆ ในสวนท่ีมีบัญญัติไวแลว
ในประมวลกฎหมายทด่ี นิ หรือซงึ่ แยง หรือขดั ตอ บทแหงประมวลกฎหมายทด่ี ิน
๕
5
มาตรา ๕ ใหผูท่ีไดครอบครองและทําประโยชนในที่ดินอยูกอนวันที่ การแจง ส.ค. ๑
ประมวลกฎหมายท่ีดินใชบังคับ โดยไมมีหนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน
แจงการครอบครองที่ดินตอนายอําเภอทองที่ภายในหน่ึงรอยแปดสิบวันนับแต
วันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ตามหลักเกณฑและวิธีการท่ีรัฐมนตรีกําหนด
โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา๒
วรรคสอง๓ (ยกเลิก)
การแจงการครอบครองตามความในมาตราน้ี ไมกอใหเกิดสิทธิขึ้นใหมแกผูแจง การแจง ส.ค. ๑
ไมก อใหเ กดิ สิทธิใหม
แตประการใด
มาตรา ๖ บุคคลท่ีครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินอยูโดยชอบ การรบั รองสทิ ธขิ อง
ดว ยกฎหมายกอ นวันทพ่ี ระราชบญั ญัติออกโฉนดทีด่ นิ (ฉบบั ท่ี ๖) พุทธศักราช ๒๔๗๙ ผูดําเนนิ การตาม
ใชบังคับ และผูรับโอนที่ดินดังกลาว ใหมีสิทธิขอรับโฉนดที่ดินตามบทแหง กฎหมายเกา
ประมวลกฎหมายท่ีดิน สําหรับบุคคลท่ีครอบครองท่ีดินต้ังแตวันที่พระราชบัญญัติ
ออกโฉนดท่ีดิน (ฉบับท่ี ๖) พุทธศักราช ๒๔๗๙ ใชบังคับเปนตนมา และกอนวันท่ี
ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ ถาไมดําเนินการใหชอบดวยกฎหมายท่ีใชบังคับอยู
ในขณะน้ัน การออกโฉนดท่ีดินใหเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการท่ีกําหนด
โดยกฎกระทรวง๔ และใหพระราชบัญญัติออกโฉนดท่ีดิน (ฉบับท่ี ๖) พุทธศักราช ๒๔๗๙
คงใชบงั คบั ตอ ไป
มาตรา ๗ ท่ีดินที่ไดรับอนุญาตใหจับจองไวแลวตามพระราชบัญญัติ การรับรองสิทธิของ
ออกโฉนดท่ีดิน (ฉบับท่ี ๖) พุทธศักราช ๒๔๗๙ และยังมิไดรับคํารับรองวา ผไู ดรบั อนญุ าตจบั จอง
ไดทําประโยชนแลวกอนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใชบังคับใหถือวาผูไดรับอนุญาต ตามกฎหมายเกา
ยงั มีสทิ ธทิ ีจ่ ะมาขอคาํ รับรองจากนายอําเภอไดจนกวาจะครบกําหนดหนึง่ รอยแปดสิบวัน
นบั จากวนั สิน้ สดุ เวลาแหง การจับจองตามพระราชบญั ญัติดังกลาว
๒ รัฐมนตรไี ดอ อกประกาศเร่อื งแจง การครอบครองท่ดี ิน ลงวันท่ี ๑ ธันวาคม ๒๔๙๗
๓ ความในวรรคสองของมาตรา ๕ นี้ถูกยกเลิกโดยขอ ๑ แหงประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๙๖ ลงวันที่
๒๙ กุมภาพันธ พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
๔ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
๖
6
ที่มาของแบบ ในกรณรี ะยะเวลาแหงการจับจองดังกลาวในวรรคแรกสิ้นสุดลง กอนวันท่ี
หมายเลข ๓
หลัง ป.ทดี่ ิน ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ หากปรากฏวาการทําประโยชนจากที่ดินที่ไดรับ
อนุญาตใหจับจองอยูในสภาพที่จะพึงขอคํารับรองวา ไดทําประโยชนดังกลาว
หลกั เกณฑ แลวได ใหย่ืนคําขอตอนายอําเภอเพ่ือขอคํารับรองเสียภายในกําหนดหนึ่งรอย
การทําประโยชน
การโอนสทิ ธิ แปดสิบวนั นับแตว นั ท่ปี ระมวลกฎหมายทด่ี นิ ใชบ ังคบั เมื่อพนกําหนดเวลาดังกลา ว
จับจอง ใหถือวาท่ีดินนั้นปลอดจากการจับจอง เวนแตนายอําเภอไดมีคําสั่งผอนผันใหเปน
การเฉพาะราย
การโอนสิทธิ
ครอบครอง มาตรา ๘ การพิจารณาวาท่ีดินไดทําประโยชนแลวหรือไม ใหเปนไปตาม
รบั รองการ หลักเกณฑที่กําหนดในกฎกระทรวง๕
หวงหามตาม
กฎหมายเกา ท่ีดินที่ไดรับอนุญาตใหจับจอง แตยังไมไดรับคํารับรองจากนายอําเภอ
การนาํ วธิ ีการ วาไดทาํ ประโยชนแลว ผูไดรับอนุญาตจะโอนไปไมไดเวนแตจะตกทอดโดยทาง
ดําเนินการตาม มรดก
กฎหมายเกา มาใช
ตอไป มาตรา ๙ ทดี่ ินท่ีไดรับคํารบั รองจากนายอําเภอวา ไดทําประโยชนแลว
การคุมครอง ใหโ อนกันได
การถือสิทธใิ นทดี่ นิ
มาตรา ๑๐ ท่ดี ินซึง่ ไดหวงหามไวเพ่ือประโยชนตามพระราชบัญญัติวาดว ยการ
หวงหา มที่ดินรกรางวางเปลาอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน พทุ ธศักราช ๒๔๗๘
หรือตามกฎหมายอื่นอยูกอนวันท่ีประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ ใหคงเปนที่
หวงหามตอไป
มาตรา ๑๑ ในเขตทองทซ่ี ึ่งไดออกโฉนดตราจองและตราจองที่ตราวา “ไดทํา
ประโยชนแลว” กอนวันที่ประมวลกฎหมายที่ดินใชบังคับ ใหคงใชบทกฎหมาย
วาดวยการน้ันเฉพาะในสวนที่บัญญัติถึงวิธีการรังวัดและการออกหนังสือสําคัญ
ดงั กลา วขางตนตอ ไปจนกวาจะไดออกโฉนดทด่ี นิ ตามประมวลกฎหมายทีด่ นิ แลว
มาตรา ๑๒ บคุ คลใดจะไดมาซึ่งท่ีดินโดยมีสัญญาจะซ้ือจะขาย หรือสัญญา
เชาซื้อซึ่งไดกระทําไวกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ถา ไดจดแจงสัญญาน้ัน
๕ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ชประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๗
7
ตอพนักงานเจาหนาท่ีตามมาตรา ๗๑ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ตามหลักเกณฑ ตามกฎหมายเกา
และวิธีการท่ีรัฐมนตรีกําหนด๖ ภายในหน่ึงรอยย่ีสิบวันนับแตวันท่ีพระราชบัญญัติน้ี
ใชบังคับ เม่ือไดมีการซ้ือขายไปตามสัญญาเชนวานั้น ใหถือเสมือนวาผูซื้อหรือ
ผูเชาซื้อมีสิทธิในท่ีดินอยกู อ นวันที่ประมวลกฎหมายท่ดี นิ ใชบ งั คับ
มาตรา ๑๓ บุคคลใดไดขายฝากท่ีดินไวกอนวันที่ระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ การรับรองสทิ ธิของ
ถาไดท าํ การไถถอนท่ีดินน้นั เม่อื ประมวลกฎหมายท่ีดินไดใชบังคับแลว ใหถือเสมือนวา ผไู ถถอนจากขาย
ฝาก
ผูน้นั เปน ผูมสี ิทธใิ นท่ีดินอยูก อ นวันทปี่ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ ใชบ ังคับ
มาตรา ๑๔ บุคคลใดไดดําเนินการขอจับจองท่ีดินไวตอพนักงานเจาหนาที่ สิทธขิ องผขู อ
กอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ แตยังไมไดรับอนุญาต ใหนายอําเภอ จบั จองทด่ี นิ
กอน ป.ท่ีดนิ (ที่มา
มีอํานาจดําเนินการตามนัยแหงพระราชบัญญัติออกโฉนดที่ดิน (ฉบับที่ ๖) ของใบเหยียบยาํ่
พทุ ธศักราช ๒๔๗๙ ตอไปจนถึงที่สดุ ได หลงั ป.ทดี่ นิ )
มาตรา ๑๕ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตาม ผรู กั ษาการตาม
พระราชบัญญัตินี้ และตามประมวลกฎหมายที่ดิน และใหมีอํานาจแตงตั้ง กฎหมายและ
เจาพนักงานที่ดินและพนักงานเจาหนาที่กับออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการ อํานาจ
ใหเปน ไปตามพระราชบญั ญัตนิ ้แี ละประมวลกฎหมายทด่ี นิ
กฎกระทรวงนั้น เมอื่ ไดป ระกาศในราชกจิ จานุเบกษาแลวใหใ ชบ ังคับได วนั บงั คบั ใช
กฎกระทรวง
ผูร ับสนองพระบรมราชโองการ
จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม
นายกรฐั มนตรี
๖ รฐั มนตรีไดก ําหนดไว ในคาํ ส่งั ที่ ๑๓๗๙/๒๔๙๗ ลงวันที่ ๑ ธนั วาคม ๒๔๙๗
๙
ประมวลกฎหมายที่ดนิ
๑๑
11
ประมวลกฎหมายทด่ี ิน
หมวด ๑
บทเบด็ เสร็จทวั่ ไป
มาตรา ๑ ในประมวลกฎหมายน้ี คาํ นยิ าม
“ท่ีดิน” หมายความวา พื้นที่ดนิ ท่ัวไป และใหหมายความรวมถึง ภูเขา - ทีด่ ิน
หว ย หนอง คลอง บึง บาง ลํานาํ้ ทะเลสาบ เกาะ และทช่ี ายทะเลดวย
“สิทธิในที่ดิน” หมายความวา กรรมสิทธ์ิ และใหหมายความรวมถึง - สทิ ธใิ นทด่ี นิ
สิทธคิ รอบครองดวย
“ใบจอง” หมายความวา หนังสือแสดงการยอมใหเขาครอบครองท่ีดิน - ใบจอง
ชว่ั คราว
“หนังสอื รับรองการทําประโยชน” หมายความวา หนังสือคํารับรองจาก - หนังสือรบั รอง
การทาํ ประโยชน
พนักงานเจา หนา ทีว่ าไดท าํ ประโยชนในท่ีดนิ แลว
“ใบไตสวน” หมายความวา หนังสือแสดงการสอบสวนเพ่ือออกโฉนดท่ีดิน - ใบไตส วน
และใหหมายความรวมถึงใบนําดวย
“โฉนดที่ดิน” หมายความวา หนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดิน และให - โฉนดที่ดนิ
หมายความรวมถึงโฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง และตราจองท่ีตราวา “ไดทํา
ประโยชนแลว ”
“การรังวัด” หมายความวา การรังวัดปกเขต และทําเขต จด หรือ - การรงั วัด
คํานวณการรังวัด เพ่ือใหทราบท่ีตั้งแนวเขตท่ีดิน หรือทราบท่ีตั้งและเน้ือที่ของ
ทด่ี ิน
“การคา ทดี่ นิ ”๑ (ยกเลิก)
๑ นยิ ามคําวา “การคาท่ดี นิ ” ถูกยกเลิกโดย พ.ร.บ. แกไขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบับท่ี ๑๒) พ. ศ. ๒๕๕๑
๑๒
12
- ทบวงการเมือง “ทบวงการเมือง”๒ หมายความวา
(๑) ราชการสวนกลาง ราชการสว นภูมภิ าค หรอื ราชการสวนทอ งถนิ่
- คณะกรรมการ (๒) หนว ยงานอ่นื ของรฐั ที่ไมใ ชรัฐวสิ าหกจิ
- พนักงาน “คณะกรรมการ”๓ หมายความวา คณะกรรมการจดั ทีด่ นิ
เจา หนา ที่ “พนักงานเจาหนาท่ี” หมายความวา เจาพนักงานซึ่งเปนผูปฏิบัติการ
ตามประมวลกฎหมายน้ี และพนักงานอื่นซ่ึงรัฐมนตรีแตงต้ังใหปฏิบัติการตาม
- อธิบดี ประมวลกฎหมายนี้
- รัฐมนตรี “อธบิ ดี” หมายความวา อธบิ ดกี รมที่ดนิ
“รัฐมนตรี” หมายความวา รัฐมนตรีผูรักษาการตามพระราชบัญญัติใหใช
ท่ีดินของรฐั ประมวลกฎหมายท่ดี นิ และตามประมวลกฎหมายนี้
มาตรา ๒ ท่ีดินซึ่งมิไดตกเปนกรรมสิทธิ์ของบุคคลหน่ึงบุคคลใด ใหถือวา
ทด่ี นิ เอกชน เปนของรฐั
(กรรมสิทธใ์ิ นทด่ี ิน) มาตรา ๓ บุคคลยอ มมีกรรมสทิ ธใ์ิ นทีด่ ิน ในกรณีตอ ไปนี้
(๑) ไดมาซ่ึงกรรมสิทธิ์ตามบทกฎหมายกอนวันท่ีประมวลกฎหมายน้ีใช
ทีด่ นิ เอกชน บงั คับ หรือไดม า ซ่ึงโฉนดท่ีดินตามบทแหง ประมวลกฎหมายนี้
(สทิ ธคิ รอบครอง) (๒) ไดมาซ่ึงกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายวาดวยการจัดท่ีดินเพ่ือการครองชีพ
หรอื กฎหมายอื่น
การโอนตอ ง มาตรา ๔ ภายใตบังคับมาตรา ๖ บุคคลใดไดมาซึ่งสิทธิครอบครองใน
จดทะเบียน ที่ดินกอนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใชบังคับ ใหมีสิทธิครอบครองสืบไปและให
คุมครองตลอดถงึ ผรู บั โอนดวย
มาตรา ๔ ทวิ๔ นับตั้งแตวันท่ีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใชบังคับ
การโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในท่ีดินซึ่งมีโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทาํ ประโยชน ตอ งทําเปนหนังสอื และจดทะเบยี นตอพนกั งานเจา หนาที่
๒ นยิ ามคาํ วา “ทบวงการเมอื ง” แกไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบับที่ ๑๓)
พ.ศ. ๒๕๕๖
๓ นิยามคาํ วา “คณะกรรมการ” แกไ ขเพิ่มเติม โดยพระราชบญั ญตั ิแกไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบับที่ ๑๕)
พ.ศ. ๒๕๖๒
๔ มาตรา ๔ ทวิ เพ่มิ เตมิ โดยขอ ๒ แหงประกาศของคณะปฏิบัติ ฉบับท่ี ๙๖ ลงวนั ท่ี ๒๙ กมุ ภาพนั ธ พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
๑๓
13
มาตรา ๕ ผูใดมีความประสงคเวนคืนสิทธิในท่ีดินใหแกรัฐ ใหยื่นคําขอ เวนคนื สิทธิใหแ กร ฐั
เวนคนื ตอ พนักงานเจา หนา ทีต่ ามมาตรา ๗๑
มาตรา ๖๕ นับต้ังแตวันท่ีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับนี้ใชบังคับ บุคคลใด การทอดท้งิ
มีสิทธิในที่ดินตามโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน หากบุคคลนั้น ไมท ําประโยชน
ทอดทิ้งไมท ําประโยชนในที่ดิน หรือปลอยท่ีดินใหเปนที่รกรางวางเปลา เกินกําหนดเวลา
ดงั ตอ ไปนี้
(๑) สําหรับท่ดี นิ ท่มี ีโฉนดท่ดี ิน เกินสิบปต ดิ ตอกัน - กรณีโฉนด
(๒) สาํ หรับท่ดี นิ ทม่ี หี นังสือรบั รองการทําประโยชน เกนิ หาปต ดิ ตอ กัน - หนงั สอื รบั รอง
การทําประโยชน
ใหถือวาเจตนาสละสิทธิในท่ีดินเฉพาะสวนท่ีทอดท้ิงไมทําประโยชนหรือ การดาํ เนนิ การ
ที่ปลอยใหเปนที่รกรางวางเปลา เม่ืออธิบดีไดยื่นคํารองตอศาล และศาลไดส่ัง ของรัฐ
เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกลาว ใหที่ดินนั้นตกเปนของรัฐเพ่ือ
ดาํ เนินการตามประมวลกฎหมายนตี้ อ ไป
มาตรา ๗๖ (ยกเลกิ )
มาตรา ๘๗ บรรดาท่ีดินทั้งหลายอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดิน การดูแลรักษา
หรือเปนทรัพยสินของแผนดินนั้น ถาไมมีกฎหมายกําหนดไวเปนอยางอื่น ทสี่ าธารณสมบัติ
ใหอ ธิบดมี ีอํานาจหนา ท่ดี แู ลรักษา และดําเนินการคุมครองปองกันไดตามควรแกกรณี ของแผน ดนิ
อาํ นาจหนา ท่ดี ังวา นี้ รฐั มนตรจี ะมอบหมายใหท บวงการเมอื งอื่นเปนผใู ชก็ได
ที่ดินอันเปนสาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกันหรือ การถอนสภาพ
ใชเพ่ือประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ หรือเปนท่ีดินท่ีไดหวงหามหรือสงวนไว หรอื การโอนเพ่ือใช
ตามความตอ งการของทบวงการเมืองอาจถกู ถอนสภาพหรือโอนไปเพื่อใชประโยชน อยา งอืน่
อยางอ่ืน หรอื นําไปจดั เพอื่ ประชาชนไดในกรณีดงั ตอไปน้ี
๕ มาตรา ๖ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยขอ ๓ แหงประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ที่ ๙๖ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพนั ธ พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
๖ มาตรา ๗ น้ี ถกู ยกเลกิ โดยมาตรา ๓ แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖
๗ มาตรา ๘ แกไ ขเพมิ่ เตมิ โดยขอ ๑ แหงประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๓๓๔ ลงวนั ท่ี ๑๓ ธันวาคม พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
๑๔
14
ที่สาธารณประโยชน (๑) ท่ีดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน ถาทบวงการเมือง รัฐวิสาหกิจหรือ
ประชาชนใช เอกชนจัดหาที่ดินมาใหพลเมืองใชรวมกันแทนแลว การถอนสภาพหรือโอนให
ประโยชนร ว มกัน กระทําโดยพระราชบัญญัติ แตถาพลเมืองไดเลิกใชประโยชนในท่ีดินนั้น หรือ
ที่ดนิ นั้นไดเปลย่ี นสภาพไปจากการเปนท่ีดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน และมิได
ตกไปเปนกรรมสิทธิ์ของผูใดตามอํานาจกฎหมายอื่นแลว การถอนสภาพ
ใหก ระทําโดยพระราชกฤษฎกี า
ทดี่ นิ ทใี่ ชเ พอ่ื (๒) ที่ดนิ ที่ใชเ พ่อื ประโยชนของแผนดนิ โดยเฉพาะ หรอื ทดี่ นิ ท่ไี ดห วงหาม
ประโยชนของ หรือสงวนไวต ามความตอ งการของทบวงการเมืองใด ถาทบวงการเมืองน้ันเลิกใช
แผน ดนิ โดยเฉพาะ หรือไมตองการหวงหามหรือสงวนตอไป เมื่อไดมีพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพ
แลว คณะรัฐมนตรีจะมอบหมายใหทบวงการเมืองซ่ึงมีหนาที่เปนผูใชหรือจัดหา
ประโยชนก็ได แตถาจะโอนตอไปยังเอกชน ใหกระทําโดยพระราชบัญญัติ และ
ถา จะนําไปจัดเพื่อประชาชนตามประมวลกฎหมายน้ีหรือกฎหมายอื่น ใหกระทําโดย
พระราชกฤษฎกี า
การออกกฎหมาย การตราพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาตามวรรคสองใหมีแผนที่
การนาํ ที่ดนิ ของรัฐ แสดงเขตท่ีดนิ แนบทายพระราชบัญญตั ิหรือพระราชกฤษฎีกาน้นั ดวย
ขนึ้ ทะเบียน มาตรา ๘ ทวิ๘ ท่ีดินของรัฐซึ่งมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิครอบครอง หรือท่ีดิน
สําหรับพลเมืองใชรวมกันซ่ึงไดถอนสภาพตามมาตรา ๘ (๑) แลว รัฐมนตรีมีอํานาจ
ท่ีจะจัดข้ึนทะเบียนเพือ่ ใหทบวงการเมืองใชประโยชนในราชการไดตามหลักเกณฑ
และวธิ ีการที่กําหนดในกฎกระทรวง
ขนั้ ตอนการขนึ้ กอนทจ่ี ะจดั ข้ึนทะเบยี นตามวรรคหนงึ่ ใหม กี ารรงั วัดทําแผนท่ี และใหผูวา
ทะเบยี น ราชการจังหวัดทองที่ประกาศการจัดขึ้นทะเบียนใหราษฎรทราบมีกําหนด
สามสิบวัน ประกาศใหปดในท่ีเปดเผย ณ สํานักงานท่ีดิน ท่ีวาการอําเภอหรือ
ทีว่ าการกงิ่ อําเภอ ท่ีทาํ การกาํ นนั และในบริเวณที่ดนิ นัน้
๘ มาตรา ๘ ทวิ เพม่ิ เติมโดยขอ ๒ แหง ประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๓๓๔ ลงวนั ที่ ๑๓ ธันวาคม พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
∗ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๒๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๑๕
15
การจัดขึ้นทะเบียนตามวรรคหนึ่ง ใหรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ประกาศใน
ราชกจิ จานเุ บกษา
และใหมแี ผนท่ีแนบทายประกาศดวย
มาตรา ๘ ตรี๙ ท่ดี นิ อันเปนสาธารณสมบตั ิของแผนดินสําหรับพลเมืองใช การออกหนังสอื
รวมกัน หรือใชเพื่อประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ อธิบดีอาจจัดใหมีหนังสือ สาํ คัญสําหรบั
ที่หลวง (น.ส.ล.)
สาํ คัญสําหรับที่หลวงเพื่อแสดงเขตไวเปนหลกั ฐาน
แบบ หลักเกณฑ และวิธีการออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง ใหเปนไป หลกั เกณฑ
ตามทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง
ท่ีดินตามวรรคหนึ่งแปลงใดยังไมมีหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง เขตของ
ท่ีดินดังกลาวใหเ ปนไปตามหลักฐานของทางราชการ
มาตรา ๙ ภายใตบังคับกฎหมายวาดวยการเหมืองแรและการปาไม การหวงหา มทดี่ นิ
ที่ดินของรัฐน้ันถามิไดมีสิทธิครอบครอง หรือมิไดรับอนุญาตจากพนักงาน
เจา หนาท่ีแลว** หามมใิ หบ คุ คลใด
(๑) เขา ไปยดึ ถอื ครอบครอง รวมตลอดถงึ การกนสรา งหรือเผาปา ขอหามกระทาํ
(๒) ทําดวยประการใด ใหเปนการทําลาย หรือทําใหเสื่อมสภาพท่ีดิน ที่หิน
ที่กรวด หรือท่ที ราย ในบรเิ วณท่รี ฐั มนตรปี ระกาศหวงหามในราชกจิ จานุเบกษา หรือ
(๓) ทําสิ่งหน่ึงสงิ่ ใดอันเปนอนั ตรายแกทรัพยากรในท่ดี ิน
มาตรา ๙ ทวิ๑๐ (ยกเลกิ )
มาตรา ๙/๑๑๑ ใหผูรับอนุญาตตามมาตรา ๙ เสียคาตอบแทนเปนรายป
ใหแกเทศบาล องคการบริหารสวนตําบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา หรือ
องคกรปกครองสวนทองถิ่นอ่ืนท่ีมีกฎหมายจัดตั้งท่ีท่ีดินที่ไดรับอนุญาตต้ังอยู
๙ มาตรา ๘ ตรี เพิ่มเติมโดยขอ ๒ แหง ประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ที่ ๓๓๔ ลงวนั ที่ ๑๓ ธันวาคม พทุ ธศักราช ๒๕๑๕
∗ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖) และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
** คําสั่งกระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๐๙/๒๕๓๘ ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๓๘
∗∗∗ รฐั มนตรไี ดป ระกาศหวงหา ม ลงวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๒๓
๑๐ มาตรา ๙ ทวิ ถูกยกเลกิ โดยมาตรา ๓ แหง พ.ร.บ. แกไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๑ มาตรา ๙/๑ เพ่ิมเติมโดยมาตรา ๓ แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
๑๖
16
การแบง ยกเวนองคการบริหารสวนจังหวัด ท้ังน้ี ตามวิธีการและอัตราที่กําหนดใน
คาตอบแทน ขอ บญั ญัติทอ งถน่ิ นน้ั แตต อ งไมเ กนิ อัตราตามบัญชที ายประมวลกฎหมายน้ี
การจัดหา ใหองคกรปกครองสวนทองถ่ินในเขตจังหวัดแบงคาตอบแทนที่ไดรับ
ผลประโยชน ตามวรรคหน่ึง ใหแกองคการบริหารสวนจังหวัดในอัตรารอยละส่ีสิบของ
ในทดี่ นิ ของรัฐ คาตอบแทนท่ีไดร บั ภายในกําหนดสามสิบวันนับแตวนั ท่ีไดร ับ เพ่อื เปน รายไดของ
หลกั เกณฑ องคการบริหารสวนจังหวัด และใหคาตอบแทนสวนท่ีเหลือตกเปนรายไดของ
องคกรปกครองสวนทองถนิ่ ท่ีท่ีดินที่ไดรับอนุญาตต้ังอยู ในกรณีที่ที่ดินดังกลาว
ขอ คํานงึ ถงึ อนาคต ไมไดต้ังอยูในเขตขององคการบริหารสวนจังหวัด ใหคาตอบแทนท่ีไดรับตาม
การมอบใหทบวง วรรคหนงึ่ ตกเปน รายไดขององคกรปกครองสว นทองถน่ิ น้นั ท้งั หมด
การเมอื งอ่นื เปน
ผูจ ดั หาประโยชน มาตรา ๑๐ ท่ีดินของรัฐซ่ึงมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิครอบครองและมิใช
สาธารณสมบัติของแผนดนิ อนั ราษฎรใชประโยชนรว มกันนั้น ใหอธิบดีมอี ํานาจจัดหา
ผลประโยชน ในการจัดหาผลประโยชน ใหรวมถึงจัดทําใหที่ดินใชประโยชนได
ซ้อื ขาย แลกเปลย่ี น ใหเ ชา และใหเชา ซ้ือ
หลักเกณฑและวิธีการจัดหาผลประโยชน ใหกําหนดโดยกฎกระทรวง
แตสําหรับการขาย การแลกเปล่ียน และการใหเชาซ้ือท่ีดินตองไดรับอนุมัติจาก
รฐั มนตรี
การดําเนินการจัดหาผลประโยชนตามความในมาตรานี้ ใหคํานึงถึงการที่
จะสงวนท่ีดนิ ไวใ หอ นชุ นรุนหลงั ดว ย
มาตรา ๑๑ การจัดหาผลประโยชนซ่ึงที่ดินของรัฐตามนัยดังกลาวมาใน
มาตรากอนนี้ รัฐมนตรีจะมอบหมายใหทบวงการเมืองอื่นเปนผูจัดหา
ผลประโยชนสําหรับรฐั หรอื บํารุงทอ งถนิ่ กไ็ ด ทง้ั นี้ ใหเปนไปตามหลักเกณฑและ
วธิ ีการทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง**
∗ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๑ พ.ศ. ๒๕๐๐ ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
** กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๑ พ.ศ. ๒๕๐๐ ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๑๗
17
มาตรา ๑๒ ท่ีดินของรัฐซึ่งมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิครอบครอง รัฐมนตรี การขอสัมปทาน
มีอํานาจใหสัมปทาน ให หรือใหใชในระยะเวลาอันจํากัด ทั้งน้ี ใหเปนไปตาม
หลักเกณฑแ ละวิธกี ารท่ีกําหนดในกฎกระทรวง
บทบัญญัติในมาตราน้ีไมกระทบกระเทือนถึงกฎหมายวาดวยการเหมืองแร
และการปา ไม
มาตรา ๑๓ เพื่อดําเนินการใหเปนไปตามบทแหงประมวลกฎหมายน้ี ตัง้ สํานกั งานทดี่ ิน
จังหวดั
ใหรฐั มนตรีมอี ํานาจจัดตัง้ สาํ นกั งานทด่ี นิ จงั หวดั ข้นึ
จังหวัดใดมีความจําเปนที่จะตองต้ังที่ทําการที่ดินมากกวาหนึ่งแหง ตั้งสาํ นกั งานทดี่ นิ
ใหรัฐมนตรีมีอํานาจจัดตั้งสํานักงานท่ีดินสาขาขึ้น โดยใหสังกัดอยูในสํานักงาน สาขา
ท่ดี นิ จังหวัด
การจัดตั้งสํานักงานท่ีดินจังหวัดและสํานักงานที่ดินสาขา ใหประกาศใน
ราชกจิ จานเุ บกษา
หมวด ๒
การจดั ที่ดินเพ่อื ประชาชน
.
มาตรา ๑๔๑๒ ใหมีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกวา “คณะกรรมการ คณะกรรมการ
จัดท่ดี นิ ” ประกอบดว ยรัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทยเปน ประธานกรรมการ จัดทด่ี ิน
ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมการปกครอง อธิบดีกรมชลประทาน อธิบดี
กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง อธบิ ดีกรมธนารักษ อธิบดีกรมปาไม อธิบดี
กรมพัฒนาที่ดิน อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อธิบดีกรมสงเสริม
สหกรณ อธิบดีกรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช เลขาธิการสํานักงาน
การปฏิรูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม และเลขาธิการสํานักงานนโยบายและแผน
∗ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๐๐) กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๐๓) และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๑
(พ.ศ. ๒๕๑๕)
๑๒ มาตรา ๑๔ แกไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ท่ี ๑๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๑๘
18
กรรมการและ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม เปนกรรมการโดยตําแหนง และผูทรงคุณวุฒิ
เลขานุการ
กรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแตงตั้งจากผูมีความรูความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และ
ผทู รงคณุ วฒุ ิ ประสบการณดานการจัดการที่ดิน ดานทรัพยากรดิน ดานการปฏิรูปที่ดิน
การพนจาก
ตําแหนงกรรมการ ดานการอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม ดานกฎหมาย ดานเทคโนโลยี
ผทู รงคณุ วุฒิ ภูมสิ ารสนเทศ หรอื ดา นเศรษฐศาสตร จาํ นวนไมเกนิ เจด็ คนเปน กรรมการ
กําหนดเวลาของ ใหอธิบดีกรมท่ีดินเปนกรรมการและเลขานุการ และใหอธิบดีกรมที่ดิน
ผูถ กู ตง้ั แทน แตง ตง้ั ขา ราชการของกรมทด่ี นิ จาํ นวนไมเ กนิ สองคนเปน ผูชวยเลขานกุ าร
องคประชุม
กรณปี ระธานไมอยู มาตรา ๑๕๑๓ กรรมการผูทรงคุณวุฒิดํารงตําแหนงมีกําหนดส่ีป กรรมการ
ผูทรงคณุ วุฒทิ พ่ี น จากตําแหนง คณะรฐั มนตรีจะแตงตัง้ ใหเปนกรรมการอกี ก็ได
มาตรา ๑๖ นอกจากการออกจากตําแหนงตามวาระตามความในมาตรา ๑๕
กรรมการผูทรงคุณวุฒพิ นจากตาํ แหนงเมอ่ื
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ตองจาํ คุกโดยคําพิพากษาถึงท่ีสุดใหจําคุก เวนแตความผิดท่ีเปนลหุโทษ
หรอื ความผิดท่ีมีโทษชั้นลหุโทษ หรือความผิดอันไดกระทาํ โดยประมาท
(๔) คณะรฐั มนตรใี หออกจากตําแหนง
ในกรณีท่ีมีการพนจากตําแหนงตามมาตราน้ี ใหคณะรัฐมนตรีแตงตั้ง
ผูทรงคุณวุฒิเปนกรรมการแทน กรรมการท่ีไดรับแตงต้ังเขาแทนนี้ยอมอยูใน
ตาํ แหนงไดเ พยี งเทา กาํ หนดเวลาของผซู ึ่งตนแทน
มาตรา ๑๗ การประชุมของคณะกรรมการ ตองมีกรรมการประชุม
เกินกวา กึง่ หนง่ึ จงึ เปน องคป ระชุม
มาตรา ๑๘ ในเมื่อประธานไมอยูในที่ประชุม ใหกรรมการเลือกตั้งกัน
ข้นึ เองเปนประธาน
๑๓ มาตรา ๑๕ แกไขเพ่ิมเติมโดยขอ ๔ แหงประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม
พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
๑๙
19
มาตรา ๑๙ การลงมติวินิจฉัยขอปรึกษานั้นใหถือเอาเสียงขางมาก มติที่ประชุม
เปน ประมาณ
กรรมการคนหนึ่งยอมมีเสียงหนึ่งในการลงคะแนน ถามีจํานวนเสียง
ลงคะแนนเทากัน ใหประธานในที่ประชุมออกเสียงเพ่ิมขึ้นไดอีกเสียงหนึ่ง
เปน เสียงชข้ี าด
มาตรา ๒๐๑๔ ใหคณะกรรมการมีอํานาจหนาท่ีควบคุมการจัดที่ดิน อํานาจหนาท่ี
ตามประมวลกฎหมายนร้ี วมท้ังใหมีอาํ นาจหนา ที่ ดังตอ ไปนี้
(๑) กําหนดแนวทางการจดั ทดี่ ิน เพ่ือใหประชาชนมีที่ดินสําหรับอยูอาศัย
และหาเลี้ยงชีพตามควรแกอัตภาพและสอดคลองกับนโยบายและแผนการ
บริหารจัดการท่ีดินและทรัพยากรดินของประเทศ
(๒) วางแผนการถอื ครองทดี่ ินในการจดั ท่ดี นิ
(๓) สงวนหรือหวงหามที่ดินของรัฐซ่ึงมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิครอบครอง
เพ่ือใหประชาชนใชประโยชนรวมกัน
(๔) กําหนดระเบียบ ขอบังคับ หลักเกณฑ หรือเง่ือนไขเกี่ยวกับการ
จัดท่ีดิน การออกโฉนดท่ีดินและหนังสือรับรองการทําประโยชน หรือเพื่อกิจการอ่ืน
ตามประมวลกฎหมายน้ี
(๕) ปฏิบตั กิ ารอ่ืนใดตามทีป่ ระมวลกฎหมายนี้หรอื กฎหมายอื่นกําหนดให
เปนอํานาจหนาท่ีของคณะกรรมการ หรือตามที่คณะรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการ
นโยบายท่ีดนิ แหง ชาติมอบหมาย
ระเบียบหรือขอบังคับท่ีเก่ียวของกับประชาชน เม่ือประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาแลว ใหมีผลใชบงั คบั ได
มาตรา ๒๑ ใหรัฐมนตรีดําเนินการตามมติของคณะกรรมการ และมี มอบหมายใหทบวง
อํานาจมอบหมายใหทบวงการเมืองที่เก่ียวของดําเนินการใด ๆ อันเก่ียวกับการ การเมืองอนื่ จดั ที่ดนิ
จัดที่ดินได และถาสามารถทําได ใหทบวงการเมืองที่เก่ียวของปฏิบัติการให
เปน ไปตามท่ไี ดร บั มอบอาํ นาจไปนั้นโดยไมช กั ชา และเพือ่ ประโยชนแหงมาตราน้ี
ใหเจาพนักงานของทบวงการเมืองเชนวาน้ันมีอํานาจหนาที่อยางเดียวกับ
พนักงานเจาหนาที่ตามทีก่ าํ หนดไวในประมวลกฎหมายน้ี
๑๔ มาตรา ๒๐ แกไ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบบั ที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๖๒
๒๐
20
การเบกิ ในการมอบอํานาจใหทบวงการเมืองดําเนินการตามความในวรรคกอน
งบประมาณแทน รัฐมนตรีจะใหทบวงการเมอื งเชน วา นัน้ เบิกเงินในงบประมาณของกรมที่ดิน ไปใชจาย
อาํ นาจหนาทีข่ อง ตามรายการในงบประมาณแทนกรมทดี่ ินก็ได
รฐั มนตรี และ
ผูไดร บั มอบหมาย มาตรา ๒๒ ใหรัฐมนตรีและพนักงานเจาหนาท่ีที่รัฐมนตรีมอบหมาย
มอี าํ นาจ ดงั ตอไปน้ี
อํานาจหนาที่ของ
พนักงานเจาหนาที่ (๑) มีหนังสือเรียกบุคคลใด ๆ มาช้ีแจงหรือแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ
การจัดท่ีดิน และใหสงเอกสารหลักฐานหรือส่ิงอ่ืนที่เกี่ยวของมาประกอบการ
เจาพนักงาน พิจารณาของคณะกรรมการ
ตาม ป. อาญา
การสํารวจทด่ี นิ (๒) เขาไปยังสถานที่หรือที่ดินของทบวงการเมือง องคการของรัฐหรือ
เอกชนเพือ่ ตรวจสอบเร่ืองตาง ๆ ท่ีเกยี่ วกับการจัดที่ดนิ และใหมอี ํานาจสอบถาม
ขอเท็จจริง เรียกเอกสารหลักฐาน หรือส่ิงอื่นที่เกี่ยวของ จากบุคคลที่อยูใน
สถานทีห่ รือทดี่ ินเชน วานน้ั มาตรวจพิจารณาไดตามความจําเปน ในการน้ีบุคคล
เชนวาน้ันตองใหความสะดวกแกคณะกรรมการและพนักงานเจาหนาที่
ตามสมควร
มาตรา ๒๓ ในการใชอํานาจหนาท่ีตามประมวลกฎหมายนี้ พนักงาน
เจาหนาท่ีและเจาพนักงานของทบวงการเมืองซ่ึงมีอํานาจหนาที่อยางเดียวกับ
พนักงานเจาหนาที่ตามความในมาตรา ๒๑ ตองมีบัตรประจําตัว และแสดงแก
บคุ คลทเ่ี ก่ยี วของ
มาตรา ๒๔ ใหถือวาพนักงานเจาหนาท่ีและเจาพนักงานที่ปฏิบัติหนาท่ี
ตามความในประมวลกฎหมายน้ี เปนเจาพนักงานตามความหมายในกฎหมาย
ลักษณะอาญา
มาตรา ๒๕๑๕ เพื่อประโยชนในการจัดที่ดินหรือการสํารวจความอุดม
สมบูรณของดิน คณะกรรมการจะจดั ใหม ีการสํารวจทด่ี นิ ก็ได
เม่ือเปนการสมควรจะสํารวจที่ดินในทองที่ใด ใหคณะกรรมการประกาศทองที่น้ัน
เปนเขตสํารวจที่ดินในราชกิจจานุเบกษา และใหปดประกาศนั้น ณ ท่ีวาการ
๑๕ มาตรา ๒๕ แกไ ขเพ่ิมโดยขอ ๕ แหงประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔ ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
๒๑
21
อําเภอและบานกํานันในตําบลที่อยูในเขตสํารวจ ประกาศของคณะกรรมการ
ดังกลาวใหมีแผนท่ีประเมินเขตท่ีดินท่ีกําหนดใหเปนเขตสํารวจที่ดินไว
ทายประกาศดว ย แผนท่ีดังกลา วนใี้ หถอื วาเปนสวนแหง ประกาศ
มาตรา ๒๖ ภายในเขตสํารวจท่ีดินตามความในมาตรา ๒๕ ใหผูมีสิทธิ หนา ทีข่ องผมู ีสิทธิ
ในที่ดนิ ในเขตสํารวจ
ในท่ีดนิ หรือผูครอบครองทดี่ ินซง่ึ อยใู นเขตสํารวจทีด่ ิน มีหนาที่
(๑) แจงตอพนักงานเจา หนาท่ีในทองที่ซ่ึงท่ีดินต้ังอยูภายในระยะเวลาที่
ผวู า ราชการจังหวดั ประกาศกําหนด ตามแบบและวธิ ีการทกี่ าํ หนดในกฎกระทรวง
ในกรณเี ชนนี้จะจัดใหบ คุ คลอืน่ แจง แทนกไ็ ด
(๒) นําหรือจัดใหบุคคลอื่นนําพนักงานเจาหนาท่ีไปชี้เขตที่ดินซ่ึงตน
มีสทิ ธิหรอื ครอบครองอยู ในเมื่อไดรับคําบอกกลาวจากพนักงานเจาหนาที่เปนเวลา
อนั สมควร
(๓) ลงชื่อรับรองการสํารวจท่ีดินของพนักงานเจาหนาท่ีตามท่ีเปนจริง
ในกรณีท่ีจัดใหบ คุ คลอ่ืนนําชเ้ี ขตทดี่ ินใหบุคคลซ่ึงนําช้ีเขตท่ีดินเปนผูลงช่ือรับรอง
การสาํ รวจทด่ี นิ แทน
มาตรา ๒๗ นอกจากทดี่ นิ ทีส่ วนราชการหรือองคการของรัฐนําไปจัดตาม การจัดทด่ี นิ
กฎหมายอ่ืนแลว อธิบดีมีอํานาจจัดที่ดินของรัฐซึ่งมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิ ของกรมที่ดิน
ครอบครองใหราษฎรเพอ่ื เปนท่อี ยูอาศัยและทํามาหาเลี้ยงชีพได ทง้ั น้ี ตอ งเปนไป (ผนื ใหญ)
ตามระเบียบ** ขอบังคับ ขอกําหนด และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกําหนดซึ่ง
ใหร วมถึงรายการดังตอไปน้ี คอื
(๑) จํานวนทดี่ นิ ทีจ่ ะแบง ใหครอบครอง
(๒) หลักเกณฑสอบสวนคัดเลือกผูเขาครอบครอง
(๓) วิธีท่ีผเู ขา ครอบครองพึงปฏบิ ัติ
∗ กฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๑๔ (พ.ศ. ๒๕๐๔) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
** ระเบยี บคณะกรรมการจัดท่ดี นิ แหงชาติ วา ดว ยการจัดท่ีดินเพ่ือประชาชน พ.ศ. ๒๔๙๘, ระเบียบฯ ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๒๑)
และระเบยี บฯ ฉบบั ที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๒๑)
๒๒
22
ขอผอ นผัน (๔) หลักเกณฑการชดใชทุนที่ไดลงไปในที่ดินน้ัน และการเรียก
การแจง ส.ค. ๑ คา ธรรมเนยี มบางอยา ง
แจงสทิ ธใิ นทด่ี นิ ที่ (๕) กจิ การท่จี าํ เปน สาํ หรับการจัดแบง ท่ดี ิน
ไดม ากอ น ป.ทด่ี ิน ระเบยี บ ขอบังคบั ขอกําหนด และเงือ่ นไขของคณะกรรมการ ใหประกาศ
ในการเดนิ สํารวจ ในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๒๗ ทวิ๑๖ ในกรณีท่ีผูครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินหรือ
ผูซึ่งไดครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินตอเนื่องจากบุคคลดังกลาว ไดยื่น
คํารองขอผอนผันการแจงการครอบครองตามพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ กอนวันท่ีประกาศของคณะปฏิวัติฉบับน้ีใชบังคับ
และผูวาราชการจังหวัดยังไมไดมีคําสั่ง ใหผูวาราชการจังหวัดพิจารณาสั่งการ
ใหเสร็จส้ินโดยไมชักชา แตทั้งน้ีไมตัดสิทธิผูครอบครองและทําประโยชนในท่ีดินน้ัน
ทีจ่ ะใชส ิทธิตามมาตรา ๒๗ ตรี แหงประมวลกฎหมายนี้
มาตรา ๒๗ ตรี๑๗ เมื่อผูวาราชการจังหวัดไดประกาศกําหนดทองท่ีและวัน
เริ่มตนของการสํารวจตามมาตรา ๕๘ วรรคสอง ผูครอบครองและทําประโยชน
ในที่ดินอยูกอนวันที่ประมวลกฎหมายนี้ใชบังคับโดยไมมีหนังสือสําคัญแสดง
กรรมสิทธิ์ทีด่ ิน และมิไดแจงการครอบครองตามมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติ
ใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ หรือผูซึ่งรอคําส่ังผอนผันจากผูวา
ราชการจังหวัดตามมาตรา ๒๗ ทวิ แตไดค รอบครองและทําประโยชนในที่ดินน้ัน
ติดตอมาจนถึงวันทําการสํารวจรังวัดหรือพิสูจนสอบสวน ถาประสงคจะไดสิทธิ
ในท่ีดินน้ัน ใหแจงการครอบครองท่ีดินตอเจาพนักงานที่ดิน ณ ที่ดินนั้นต้ังอยู
ภายในกําหนดเวลาสามสิบวันนับแตวันปดประกาศ ถามิไดแจงการครอบครอง
ภายในกําหนดเวลาดังกลาว แตไดมานําหรือสงตัวแทนมานําพนักงานเจาหนาที่
ทําการสํารวจรังวัดตามวันและเวลาท่ีพนักงานเจาหนาที่ประกาศกําหนด ใหถือวา
ยังประสงคจ ะไดสิทธใิ นทีด่ ินนนั้
๑๖ มาตรา ๒๗ทวิ เพ่มิ เตมิ โดยขอ ๕แหง ประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ที่ ๙๖ลงวนั ที่ ๒๙กมุ ภาพนั ธ พุทธศักราช ๒๕๑๕
๑๗ มาตรา ๒๗ตรี แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยมาตรา ๓แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๒๓
23
เพื่อประโยชนแหงมาตราน้ี ผูครอบครองและทําประโยชนในที่ดินตาม ผคู รอบครอง
วรรคหน่ึง ใหหมายความรวมถึงผูซึ่งไดครอบครองและทําประโยชนในท่ีดิน ตอเนอื่ ง
ตอ เน่อื งมาจากบุคคลดังกลา วดวย
มาตรา ๒๘ ให คณะกรรมการมี อํ านาจแต งตั้ งคณะอนุ กรรมการ ตงั้ อนกุ รรมการของ
เพื่อชว ยเหลอื ในการดําเนนิ กจิ การอยา งใดอยา งหน่งึ แลว รายงานคณะกรรมการ คณะกรรมการ
ใหนาํ ความในมาตรา ๑๗ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๑๙ มาใชบงั คบั โดยอนุโลม จัดทดี่ นิ แหงชาติ
มาตรา ๒๙ ในการดําเนินการตามความในมาตรา ๒๗ ที่ดินท่ีไดรับมา การจัดทดี่ นิ เพื่อ
โดยบทแหงประมวลกฎหมายน้ีต้ังอยูในทองท่ีใด ใหจัดใหบุคคลท่ีมีภูมิลําเนา ประชาชน
อยูในทองท่ีน้ันไดรับ ไดซ้ือ ไดแลกเปล่ียน หรือไดเชาซ้ือกอน ตอเม่ือมีท่ีดิน
เหลืออยู จึงใหจัดใหบุคคลที่มีภูมิลําเนาอยูในทองที่อื่นไดรับ ไดซื้อ
ไดแ ลกเปลี่ยน หรอื ไดเ ชาซอ้ื ตอ ไป
มาตรา ๓๐๑๘ เม่ือไดจัดใหบุคคลเขาครอบครองในท่ีดินรายใดแลว การออกใบจอง
ใหพนักงานเจาหนาท่ีออกใบจองใหไวเปนหลักฐานกอน และเม่ือปรากฏแก และออกหนงั สอื
พนกั งานเจาหนาทวี่ า บคุ คลท่ไี ดจัดใหเขาครอบครองที่ดินไดทาํ ประโยชนใ นท่ีดิน แสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ
และทัง้ ไดปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ ขอกําหนด และเงื่อนไขที่คณะกรรมการ
กาํ หนดโดยครบถวนแลว กใ็ หพนักงานเจา หนาท่ีออกหนังสอื แสดงสทิ ธิในท่ีดินให
โดยเรว็
มาตรา ๓๑๑๙ โฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนที่ไดออก หามโอน
สืบเน่ืองมาจากใบจองตามมาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๓ หามมิใหผูไดมาซึ่งสิทธิ
ในที่ดินดังกลาวโอนที่ดนิ นั้นใหแกผอู ่ืนในกรณดี งั ตอไปนี้
(๑) ถาเปนกรณีที่ไดออกใบจองในหรือหลังวันท่ี ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ หา มโอน ๑๐ ป
หามโอนภายในกําหนดสิบปนับแตวันไดรับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชน
๑๘ มาตรา ๓๐ แกไ ขเพมิ่ เติมโดยขอ ๖ แหงประกาศของคณะปฏวิ ัติฉบบั ที่ ๓๓๔ ลงวันที่ ๑๓ ธนั วาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕
๑๙ มาตรา ๓๑ แกไ ขเพ่มิ เตมิ มาตรา ๔ แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๒๔
24
หามโอน ๕ ป (๒) ถาเปนกรณีท่ีไดออกใบจองกอนวันท่ี ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
เฉพาะที่รัฐใหการชวยเหลือในดานสาธารณูปโภคและอ่ืน ๆ เน่ืองจากการจัดท่ีดิน
ขอ ยกเวน หามโอนภายในกําหนดหาป นับแตวันไดรับโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การหา มโอน การทําประโยชน
หามบงั คับคดี ความในวรรคหนึ่งมิใหใ ชบังคับแกกรณีท่ีท่ีดนิ นั้นตกทอดทางมรดก หรือโอน
การสัง่ ขาดสิทธิ ใหแกทบวงการเมือง องคการของรัฐบาลตามกฎหมายวาดวยการจัดตั้งองคการ
ในทด่ี นิ ทจี่ ัดให ของรัฐบาล รัฐวิสาหกิจที่จัดต้ังขึ้นโดยพระราชบัญญัติ หรือโอนใหแกสหกรณ
เพือ่ ชําระหนีโ้ ดยไดรับอนุมัตจิ ากนายทะเบยี นสหกรณ
การอุทธรณคาํ สงั่
ภายในกําหนดเวลาหามโอนตามวรรคหนึ่ง ที่ดินน้ันไมอยูในขายแหงการ
คําส่งั เปนท่สี ดุ บังคับคดี
จัดทด่ี นิ แปลงเล็ก
แปลงนอย มาตรา ๓๒ บุคคลใดเขาครอบครองที่ดินตามนัยแหงบทบัญญัติมาตรา ๓๐
ไมปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ ขอกําหนด หรือเงื่อนไขของคณะกรรมการ
อธิบดมี ีอาํ นาจสง่ั ใหบ ุคคลนั้นออกไปจากที่ดินนั้นได และนับตั้งแตวันไดรับคําส่ัง
ใหบุคคลนั้นขาดสิทธิอนั จะพงึ ไดต ามระเบียบขอบังคับท้งั หลายทนั ที
ถาบุคคลนั้นไมพอใจคําสั่งดังกลาวในวรรคกอน ก็มีสิทธิย่ืนอุทธรณตอ
รัฐมนตรีไดภายในกําหนดสามสิบวัน นับแตวันไดรับคําส่ัง แตถารัฐมนตรีมิได
วนิ ิจฉยั สัง่ การภายในกําหนดหกสิบวันนับแตวันไดรับอุทธรณใหถือวารัฐมนตรีสั่งให
มีสิทธิครอบครองในที่ดินน้ันตอไป แตจะตองปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ
ขอ กาํ หนด และเงอื่ นไขของคณะกรรมการตามเดมิ
คําส่งั ของรฐั มนตรีใหถือเปน ท่สี ุด
มาตรา ๓๓ ในเขตทองที่ใดท่ีคณะกรรมการยังมิไดประกาศเขตสํารวจที่ดิน
ตามความในหมวดน้ีก็ดี หรอื ในกรณที ่ีสภาพของที่ดินเปนแปลงเล็กแปลงนอยก็ดี
ราษฎรจะขออนุญาตจับจองท่ีดินไดโดยปฏิบัติตามระเบียบ ขอบังคับ ขอกําหนด
และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกําหนดและเม่ือพนักงานเจาหนาที่อนุญาตแลว ก็ใหออก
ใบจองใหต อ ไป
∗ ระเบียบวา ดว ยการจัดทด่ี ินเพ่อื ประชาชน และฉบับท่แี กไ ข (ฉบับท่ี ๕, ๖)
๒๕
25
หมวด ๓
การกาํ หนดสทิ ธิในทดี่ ิน
.
มาตรา ๓๔๒๐ (ยกเลกิ )
มาตรา ๓๕๒๑ (ยกเลกิ )
มาตรา ๓๖๒๒ (ยกเลิก)
มาตรา ๓๗๒๓ (ยกเลิก)
มาตรา ๓๘๒๔ (ยกเลกิ )
มาตรา ๓๙๒๕ (ยกเลกิ )
มาตรา ๔๐๒๖ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๑๒๗ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๒๒๘ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๓๒๙ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๔๓๐ (ยกเลิก
มาตรา ๔๕๓๑ (ยกเลิก)
๒๐ มาตรา ๓๔ ถูกยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๑ มาตรา ๓๕ ถูกยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๔๙ ลงวนั ท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๒ มาตรา ๓๖ ถกู ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับที่ ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๓ มาตรา ๓๗ ถูกยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๔ มาตรา ๓๘ ถกู ยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวนั ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๕ มาตรา ๓๙ ถกู ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ที่ ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๖ มาตรา ๔๐ ถกู ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๗ มาตรา ๔๑ ถกู ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ที่ ๔๙ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๘ มาตรา ๔๒ ถูกยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๙ มาตรา ๔๓ ถูกยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๔๙ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๓๐ มาตรา ๔๔ ถูกยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ที่ ๔๙ ลงวนั ท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๓๑ มาตรา ๔๕ ถกู ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวนั ที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๒๖
26
หลักเกณฑการ มาตรา ๔๖๓๒ (ยกเลิก)
จาํ หนายทด่ี นิ โดย มาตรา ๔๗๓๓ (ยกเลิก)
อธบิ ดกี รมท่ดี นิ มาตรา ๔๘๓๔ (ยกเลิก)
มาตรา ๔๙๓๕ (ยกเลิก)
สิทธใิ นการตกลง มาตรา ๕๐ ในการที่อธิบดีใชอํานาจจําหนายท่ีดินตามบทแหงประมวล
กําหนดแปลง กฎหมายนี้ ใหอธิบดีมีอํานาจจําหนายโดยการขาย หรือใหเชาซ้ือตามหลักเกณฑ
จําหนาย และวิธกี ารท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง* และใหอ ธิบดีมีอํานาจเรียกคาธรรมเนียมได
ไมเกนิ รอยละหา ของราคาท่จี ําหนายน้ัน ถาจําหนายไมไดภายในสองป ใหอธิบดีโดย
ขั้นตอนการ อนุมตั ิรัฐมนตรมี ีอํานาจจดั การขายท่ีดินน้ันดว ยวธิ ผี อ นสงภายในสิบป
จาํ หนา ยที่ดนิ อํานาจตามความที่กลาวในวรรคแรกน้ัน เม่ืออธิบดีเห็นเปนการสมควร
จะจดั แบงทด่ี ินออกเปนแปลง ๆ เพอ่ื จําหนา ยก็ได
มาตรา ๕๑ ในกรณีที่อธิบดีจะใชอํานาจจําหนายท่ีดินตามประมวล
กฎหมายนี้ ใหผูมีสิทธิในท่ีดินอันจะพึงจําหนายตกลงกับพนักงานเจาหนาที่วา
ท่ดี นิ แปลงใด หรือสวนของท่ีดินตอนใดจะพึงจําหนาย ถาไมสามารถตกลงกันได
ใหเสนอเรื่องใหคณะกรรมการชี้ขาด
มาตรา ๕๒ ในกรณีที่อธิบดีเห็นสมควรจะใชอํานาจจําหนายที่ดิน ให
พนักงานเจาหนาท่ีแจงไปใหผูมีสิทธิในที่ดินทราบลวงหนาไมนอยกวาสามสิบวัน
เม่ือพนกําหนดดังกลาว ใหพนักงานเจาหนาที่ตกลงกับผูมีสิทธิในท่ีดินเกี่ยวกับ
ราคาที่ดิน ถาไมสามารถตกลงราคาท่ีดินกันได ใหนําบทบัญญัติวาดวยการ
กําหนดราคาอสังหาริมทรัพยโดยอนุญาโตตุลาการตามกฎหมายวาดวยการ
เวนคืนอสงั หารมิ ทรพั ยม าใชบ งั คบั โดยอนุโลม
๓๒ มาตรา ๔๖ ถูกยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๓๓ มาตรา ๔๗ ถูกยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบับท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๓๔ มาตรา ๔๘ ถูกยกเลิกโดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับที่ ๔๙ ลงวนั ท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
๓๕ มาตรา ๔๙ ถูกยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบบั ท่ี ๔๙ ลงวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๐๒
* กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ ชประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๒๗
27
ราคาท่ีดินท่ีจะพึงตกลงหรือท่ีจะพึงกําหนดโดยอนุญาโตตุลาการน้ันใหถือ การกําหนดราคา
ราคาตลาดตามท่เี ปน อยูใ นวนั ทพี่ นักงานเจา หนาทแี่ จง ใหผมู สี ิทธิในท่ีดินทราบวา
อธิบดจี ะใชอ ํานาจจาํ หนา ย
มาตรา ๕๓ นับแตวันท่ีพนักงานเจาหนาที่แจงใหทราบตามความใน อาํ นาจการ
มาตรา ๕๒ ใหอธิบดีมีอํานาจครอบครองท่ีดินน้ันทันที และใหผูมีสิทธิในท่ีดิน ครอบครองและ
บริวาร ผูเชา ผูอาศัย และบุคคลอ่ืนใดท่ีอยูในท่ีดินนั้น ออกจากท่ีดินภายใน ระยะเวลาตอ งออก
จากทีด่ นิ
กาํ หนดหนงึ่ ป
ในกรณีท่ีมีสัญญาเชาท่ีดินแปลงนั้นอยู ก็ใหสัญญาเชาเปนอันระงับไป กรณมี ีการเชา อยู
ในวันท่ีพนักงานเจาหนาที่แจงใหผูมีสิทธิในที่ดินทราบวาอธิบดีจะใชอํานาจ
จาํ หนาย
มาตรา ๕๔ เมื่อมีการจําหนายท่ีดินของผูใดตามนัยแหงประมวล การชาํ ระราคา
กฎหมายน้ีโดยวิธีเชาซื้อหรือผอนชําระราคา ใหอธิบดีชําระราคาที่ดินใหแก ผอนชาํ ระ
ผูมีสิทธใิ นทีด่ ินเปน งวด ๆ ใหเ สรจ็ สน้ิ ภายในระยะเวลาดังตอไปน้ี
(๑) กรณกี ารจําหนา ยตามมาตรา ๓๙ ใหผ อนชาํ ระราคาทีด่ นิ ภายในหาป
(๒) กรณกี ารจาํ หนายตามมาตราอื่น ใหผอ นชําระราคาท่ีดินภายในสิบป
สําหรับการผอนชําระราคาที่ดินนั้น ใหคิดดอกเบี้ยรอยละสามตอปของ ดอกเบี้ย
ราคาทีด่ นิ ทค่ี า งชาํ ระจากผูซ ื้อหรอื ผเู ชา ซื้อ ใหแ กผ มู ีสิทธใิ นท่ดี ินเดิม
มาตรา ๕๕ ในกรณีการขายหรือใหเชาซ้ือท่ีดินตามความในมาตรา ๕๐ การเรยี กท่ีดนิ
ถาผูซื้อหรือผูเชาซ้ือไมปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายหรือสัญญาเชาซ้ือ ทจี่ าํ หนายคืน
แลวแตก รณี ใหอธิบดีมีอํานาจเรียกที่ดินคืน ในการเรียกท่ีดินคืน ใหสิทธิในท่ีดิน
ตกเปน ของกรมทด่ี ินในวันทีผ่ ซู อ้ื หรอื ผูเชาซ้ือไดท ราบ หรอื ควรจะไดทราบถึงการ
เรยี กท่ีดนิ คืน
๒๘
28
หมวด ๔
การออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นที่ดนิ
.
หลักเกณฑการออก มาตรา ๕๖๓๖ ภายใตบังคับมาตรา ๕๖/๑ แบบ หลักเกณฑ และวิธีการ
หนังสอื แสดงสทิ ธิ ออกใบจอง หนังสือรับรองการทําประโยชน ใบไตสวนหรือโฉนดท่ีดิน รวมท้ัง
ในทดี่ นิ ใบแทนของหนังสือดังกลาว ใหเ ปนไปตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง
กรณีทีด่ ินมีเขต มาตรา ๕๖/๑๓๗ การออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
ตดิ ตอ หรอื อยูในเขต ถาเปน ที่ดินท่มี ีอาณาเขตติดตอคาบเก่ยี วหรืออยูในเขตท่ีดินของรัฐท่ีมีระวางแผนท่ี
ท่ีดนิ ของรัฐ รูปถา ยทางอากาศหรือระวางรูปถายทางอากาศ พนักงานเจาหนา ท่ีจะออกใหได
ตอ เมอ่ื ตรวจสอบกบั ระวางแผนทีร่ ปู ถา ยทางอากาศหรอื ระวางรปู ถายทางอากาศ
ฉบับท่ที ําขน้ึ กอนสุดเทา ที่ทางราชการมอี ยแู ลววาเปนท่ีดินที่สามารถออกโฉนดท่ีดิน
หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนได หรือตรวจสอบดวยวิธีอื่น ท้ังน้ี ตามระเบียบ
ท่ีอธบิ ดีกําหนด
องคป ระกอบของ มาตรา ๕๗๓๘ โฉนดท่ดี ินและหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชน ใหมีขอ ความสําคัญ
หนงั สือแสดงสทิ ธิใน ดังตอไปนี้ ช่ือตัว ชื่อสกุล ท่ีอยูของผูมีสิทธิในท่ีดิน ตําแหนงที่ดิน จํานวนเนื้อท่ี
ที่ดิน รูปแผนท่ีของที่ดินแปลงน้ันซ่ึงแสดงเขตขางเคียงท้ังส่ีทิศ ใหเจาพนักงานท่ีดินจังหวัด
เจาพนักงานท่ีดินจังหวัดสาขา หรือเจาพนักงานที่ดินซ่ึงอธิบดีมอบหมาย
เปน ผูลงลายมือช่ือ๓๙ และประทับตราประจําตําแหนงของเจาพนักงานที่ดินเปน
สาํ คัญ กับใหมีสารบัญสําหรับจดทะเบยี นไวดวย
๓๖ มาตรา ๕๖ แกไ ขเพมิ่ เติมโดยมาตรา ๔ แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
∗ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๓๗ มาตรา ๕๖/๑ เพม่ิ เติมโดยมาตรา ๕ แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับท่ี ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
๓๘ มาตรา ๕๗ แกไขเพิ่มเติมโดยมาตรา ๑๙ แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๓๙ มาตรา ๑๙ แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘:- การปฏิบตั ิการตาม
ประมวลกฎหมายทดี่ ิน ซ่ึงเปนอาํ นาจหนาท่ขี องหัวหนาเขต นายอําเภอ หรือปลัดอําเภอผูเปนหัวหนาประจํากิ่งอําเภอ
อยกู อ นวนั ทพ่ี ระราชบัญญตั นิ ี้ใชบังคับใหผูดํารงตําแหนงดังกลาวปฏิบัติตอไปพลางกอน จนกวารัฐมนตรีจะได
ประกาศยกเลกิ ในราชกจิ จานุเบกษาเปนทองที่ไป
๒๙
29
โฉนดที่ดินและหนังสือรับรองการทําประโยชนใหทําเปนคูฉบับรวมสองฉบับ จดั ทําคฉู บบั
มอบใหผูมีสิทธิในท่ีดินฉบับหนึ่ง อีกฉบับหนึ่งเก็บไว ณ สํานักงานที่ดิน สําหรับ
ฉบับที่เก็บไว ณ สํานักงานที่ดิน น้ัน จะจําลองเปนรปู ถายหรือจัดเก็บโดยระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารก็ได ในกรณเี ชน นใี้ หถือเสมอื นเปนตน ฉบับ๔๐
มาตรา ๕๘๔๑ เม่ือรัฐมนตรีเห็นสมควรจะใหมีการออกโฉนดท่ีดินหรือ ประกาศกําหนด
หนังสือรับรองการทําประโยชนในจังหวัดใดในปใด ใหรัฐมนตรีประกาศใน จงั หวดั เดนิ สาํ รวจ
ราชกิจจานุเบกษากําหนดจังหวัดท่ีจะทําการสํารวจรังวัดทําแผนท่ีหรือพิสูจน
สอบสวนการทําประโยชนสําหรับปน้ัน เขตจังหวัดท่ีรัฐมนตรีประกาศกําหนด
ไมรวมทองทีท่ ท่ี างราชการไดจ าํ แนกใหเ ปน เขตปาไมถ าวร
เม่ือไดมีประกาศของรัฐมนตรีตามวรรคหน่ึง ใหผูวาราชการจังหวัด ประกาศทอ งทีแ่ ละ
กําหนดทองที่และวันเริ่มตนของการเดินสํารวจรังวัดในทองท่ีน้ันโดยปดประกาศไว วันเรมิ่ ตน
ณ สํานักงานที่ดิน ที่วาการอําเภอ ที่วาการก่ิงอําเภอ ที่ทําการกํานัน และที่ทําการ
ผใู หญบ า นแหงทอ งทก่ี อนวันเรมิ่ ตนสํารวจไมน อยกวาสามสิบวนั
เมื่อไดมีประกาศของผูวาราชการจังหวัดตามวรรคสอง ใหบุคคลตาม หนา ท่ขี อง
มาตรา ๕๘ ทวิ วรรคสอง หรือตัวแทนของบุคคลดังกลาว นําพนกั งานเจาหนาที่ เจาของทดี่ นิ
หรือผูซ่ึงพนักงานเจาหนาที่มอบหมาย เพื่อทําการสํารวจรังวัดทําแผนท่ีหรือ
พิสูจนสอบสวนการทําประโยชนในท่ีดินของตนตามวันและเวลาที่พนักงาน
เจาหนาทไ่ี ดนัดหมาย
ในการเดินสํารวจพสิ จู นส อบสวนการทําประโยชนเพื่อออกหนังสือรับรอง การแตง ต้งั
การทําประโยชนเจาพนักงานท่ีดินมีอํานาจแตงต้ังผูซ่ึงไดรับการอบรมในการ เจาหนา ท่เี ดนิ
พิสูจนสอบสวนการทําประโยชน เปนเจาหนาที่ออกไปพิสูจนสอบสวน สํารวจ
การทําประโยชนแทนตนได
๔๐ มาตรา ๕๗ วรรคสอง แกไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบบั ท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๕๕๐
๔๑ มาตรา ๕๘ แกไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๓๐
30
เปน เจา พนักงาน ในการปฏิบตั หิ นา ท่ตี ามวรรคสี่ ใหเ จา หนา ท่ีเปน เจาพนกั งานตามประมวล
ตาม ป. อาญา กฎหมายอาญา
มาตรา ๕๘ ทวิ๔๒ เมื่อไดสํารวจรังวัดทําแผนท่ีหรือพิสูจนสอบสวน
หลักเกณฑก ารออก
หนงั สอื แสดงสิทธิใน การทําประโยชนในท่ีดินตามมาตรา ๕๘ แลว ใหพนักงานเจาหนาท่ีออกโฉนด
ทดี่ ิน (เดินสํารวจ) ท่ีดนิ หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน แลวแตกรณี ใหแกบุคคลตามท่ีระบุไว
ในวรรคสอง เม่ือปรากฏวาท่ีดินที่บุคคลนั้นครอบครองเปนท่ีดินที่อาจออกโฉนดท่ีดิน
หรอื หนงั สือรบั รองการทําประโยชนไ ดตามประมวลกฎหมายน้ี
บคุ คลผมู สี ทิ ธิ บุคคลซึ่งพนักงานเจาหนาที่อาจออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชน ตามวรรคหนึง่ ใหไ ด คือ
- กรณมี ีหลักฐาน (๑) ผูซึ่งมีหลักฐานการแจงการครอบครองที่ดิน มีใบจอง ใบเหยียบย่ํา
หนงั สือรับรองการทาํ ประโยชน โฉนดตราจอง ตราจองที่ตราวา “ไดทําประโยชนแลว”
หรือเปน ผมู ีสทิ ธติ ามกฎหมายวา ดวยการจัดทด่ี ินเพ่ือการครองชพี
- ครอบครองกอน (๒) ผซู ่ึงไดปฏบิ ัติตามมาตรา ๒๗ ตรี
ป.ทดี่ ิน
- ครอบครองหลัง (๓) ผซู งึ่ ครอบครองท่ีดินและทําประโยชนในท่ดี นิ ภายหลังวนั ท่ีประมวล
ป.ทดี่ นิ กฎหมายนี้ใชบังคับ และไมมีใบจอง ใบเหยียบยํ่า หรือไมมีหลักฐานวาเปนผู
มีสิทธติ ามกฎหมายวา ดวยการจัดที่ดินเพ่อื การครองชีพ
ผคู รอบครอง เพื่อประโยชนแหงมาตราน้ี ผูซ่ึงมีหลักฐานการแจงการครอบครองท่ีดิน
ตอเนอ่ื ง ตามวรรคสอง (๑) ใหหมายความรวมถึงผูซ่ึงไดครอบครองและทําประโยชน
ในทีด่ ินตอเน่ืองมาจากบุคคลดงั กลาวดว ย
กรณีออกเกนิ สําหรับบุคคลตามวรรคสอง (๒) และ (๓) ใหออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือ
๕๐ ไร รับรองการทําประโยชน แลวแตกรณี ไดไมเกินหาสิบไรถาเกินหาสิบไร จะตอง
ไดรับอนุมัติจากผูวาราชการจังหวัดเปนการเฉพาะราย ทั้งนี้ ตามระเบียบ
ท่ีคณะกรรมการกาํ หนด
๔๒ มาตรา ๕๘ ทวิ แกไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไ ขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
∗ ระเบียบคณะกรรมการจดั ท่ดี ินแหงชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๓๒)
๓๑
31
ภายในสิบปนับแตวันที่ไดรับโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน หา มโอนและการ
ตามวรรคหน่ึง หามมิใหบุคคลตามวรรคสอง (๓) ผูไดมาซ่ึงสิทธิในท่ีดินดังกลาว ยกเวน
โอนท่ีดินนน้ั ใหแ กผอู ่ืน เวน แตเปนการตกทอดทางมรดก หรือโอนใหแกทบวงการเมือง
อ ง ค ก า ร ข อ ง รั ฐ บ า ล ต า ม ก ฎ ห ม า ย ว า ด ว ย ก า ร จั ด ตั้ ง อ ง ค ก า ร ข อ ง รั ฐ บ า ล
รัฐวิสาหกิจท่ีจัดตั้งข้ึนโดยพระราชบัญญัติ หรือโอนใหแกสหกรณเพ่ือชําระหนี้
โดยไดร บั อนมุ ัตจิ ากนายทะเบยี นสหกรณ
ภายในกําหนดระยะเวลาหามโอนตามวรรคหา ที่ดินน้ันไมอยูในขาย หามบงั คับคดี
แหงการบงั คับคดี
มาตรา ๕๘ ตรี๔๓ เม่ือรัฐมนตรีเห็นสมควรจะใหมีการออกโฉนดท่ีดิน การออกโฉนดทด่ี นิ
สําหรับท่ีดินทีม่ ีหนังสือรับรองการทําประโยชนซ่ึงใชระวางรูปถายทางอากาศใน แบบยา ยแปลง
ทอ งทีใ่ ด ใหรฐั มนตรปี ระกาศในราชกิจจานุเบกษากําหนดทองท่ีน้ันและวันท่ีเริ่ม
ดําเนนิ การออกโฉนดที่ดนิ ใหทราบลวงหนา ไมนอ ยกวา สามสบิ วนั
การทําแผนที่เพ่ือออกโฉนดท่ีดินตามวรรคหน่ึง ใหนําหลักฐานเก่ียวกับ การทาํ แผนทเ่ี พ่อื
ระวางรูปถายทางอากาศที่ใชกับหนังสือรับรองการทําประโยชนมาปรับแก ออกโฉนดท่ดี ิน
ตามหลักวิชาการแผนท่ีรูปถายทางอากาศโดยไมตองทําการสํารวจรังวัด เวนแต
กรณีจําเปนใหเ จา พนักงานที่ดนิ ทาํ การสาํ รวจรังวัด
เมื่อถึงกําหนดวันท่ีเร่ิมดําเนินการออกโฉนดท่ีดินตามประกาศของ การระงับทํา
รัฐมนตรีตามวรรคหน่ึงแลว ใหระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใด ๆ ท่ี นิตกิ รรมทีต่ อง
ตองมีการรังวัดสําหรับที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทําประโยชนโดยใชระวางรูปถาย มีการรังวัด
ทางอากาศในทองที่ดังกลาว เวนแตในกรณีจําเปนเจาพนักงานที่ดินจะอนุญาต
เฉพาะรายก็ได ทง้ั นี้ ตามระเบยี บที่คณะกรรมการกาํ หนด
การออกโฉนดทีด่ ินตามมาตราน้ี ใหอ อกแกผูมีช่อื ซึ่งเปนผมู สี ิทธิในหนังสือ ชื่อเจา ของโฉนด
รับรองการทําประโยชน
๔๓ มาตรา ๕๘ ตรี เพมิ่ โดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
∗ ระเบียบคณะกรรมการจดั ท่ีดนิ แหงชาติ ฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๙)
๓๒
32
ประกาศแจก เม่ือไดจัดทําโฉนดท่ีดินแปลงใดพรอมที่จะแจกแลว ใหเจาพนักงานท่ีดิน
และผลยกเลกิ ประกาศกําหนดวันแจกโฉนดที่ดินแปลงน้ันแกผูมีสิทธิ และใหถือวาหนังสือ
น.ส. ๓ ก. เดมิ รับรองการทาํ ประโยชนส าํ หรับท่ดี ินแปลงนน้ั ไดย กเลกิ ต้ังแตว ันกาํ หนดแจกโฉนดท่ีดิน
ตามประกาศดังกลาว และใหสงหนังสือรับรองการทําประโยชนที่ยกเลิกแลวนั้น
ขอออกหนงั สอื คนื แกเ จา พนักงานท่ีดนิ เวน แตก รณีสญู หาย
แสดงสทิ ธิในทดี่ นิ
เฉพาะราย มาตรา ๕๙๔๔ ในกรณีที่ผูมีสิทธิครอบครองที่ดินมาขอออกโฉนดท่ีดิน
หรือหนงั สือรับรองการทําประโยชนเปนการเฉพาะรายไมวาจะไดมีประกาศของ
ผคู รอบครอง รัฐมนตรีตามมาตรา ๕๘ แลวหรือไมก็ตาม เมื่อพนักงานเจาหนาท่ีพิจารณา
ตอเนอ่ื ง เห็นสมควร ใหดําเนินการออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
การขอเฉพาะราย แลวแตก รณี ไดตามหลกั เกณฑและวิธกี ารทีป่ ระมวลกฎหมายนก้ี ําหนด
กรณีครอบครอง
กอน ป. ทดี่ ิน เพื่อประโยชนแหงมาตรานี้ ผูมีสิทธิครอบครองที่ดินตามวรรคหนึ่ง
แตไ มแจง ส.ค. ๑ ใหห มายความรวมถึงผูซ่งึ ไดค รอบครองและทําประโยชนในที่ดนิ ตอเนื่องมาจากผู
ซ่งึ มหี ลกั ฐานการแจงการครอบครองดวย
ผูค รอบครอง
ตอ เนือ่ ง มาตรา ๕๙ ทวิ๔๕ ผูซ่ึงครอบครองและทําประโยชนในที่ดินอยูกอนวันที่
ประมวลกฎหมายนีใ้ ชบ งั คับโดยไมมีหนังสือสําคัญแสดงกรรมสิทธ์ิที่ดิน และมิได
แจงการครอบครองตามมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗ แตไมรวมถึงผูซ่ึงมิไดปฏิบัติตามมาตรา ๒๗ ตรี ถามีความจําเปน
จะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนเปนการเฉพาะราย
เม่ือพนักงานเจาหนาที่พิจารณาเห็นสมควรใหดําเนินการออกโฉนดท่ีดินหรือ
หนังสือรับรองการทําประโยชนแลวแตกรณี ไดตามหลักเกณฑและวิธีการ
ท่ปี ระมวลกฎหมายนีก้ าํ หนด แตตอ งไมเ กินหาสิบไร ถาเกินหาสิบไรจะตองไดรับ
อนุมัติจากผูวาราชการจังหวัด ท้ังน้ีตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด
เพอ่ื ประโยชนแหงมาตราน้ี ผูครอบครองและทําประโยชนใ นที่ดินตามวรรคหนึ่ง
ใหหมายความรวมถึงผูซ่ึงไดครอบครองและทําประโยชนในท่ีดนิ ตอเนื่องมาจาก
บคุ คลดงั กลา วดวย
๔๔ มาตรา ๕๙ แกไ ขเพ่มิ เติมโดยประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ที่ ๙๖ ลงวนั ที่ ๒๙ กุมภาพนั ธ พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
๔๕ มาตรา ๕๙ ทวิ เพม่ิ โดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ท่ี ๙๖ ลงวนั ท่ี ๒๙ กมุ ภาพันธ พุทธศักราช ๒๕๑๕
๓๓
33
มาตรา ๕๙ ตรี๔๖ ในการออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน กรณีรงั วัดไดเ นอื้ ที่
ถาปรากฏวาเน้ือที่ที่ทําการรังวัดใหมแตกตางไปจากเนื้อท่ีตามใบแจงการ ตา งจาก ส.ค. ๑
ครอบครองตามมาตรา ๕ แหงพระราชบญั ญัตใิ หใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ใหพ นักงานเจา หนาท่ีพิจารณาออกหนังสอื แสดงสิทธิในที่ดินใหไดเทาจํานวนเนื้อท่ี
ท่ไี ดทาํ ประโยชน ทั้งน้ตี ามระเบยี บทค่ี ณะกรรมการกาํ หนด
มาตรา ๕๙ จตั วา๔๗ การออกโฉนดทด่ี นิ ตามมาตรา ๕๘ ทวิ มาตรา ๕๘ ตรี การยกรายการ
และมาตรา ๕๙ ถาหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินเดิมมีรายการภาระผูกพัน หรือมี ภาระผกู พันหรอื
เปลย่ี นแปลง
รายการเปล่ียนแปลงผูมีสิทธิในที่ดินในระหวางดําเนินการออกโฉนดท่ีดิน ใหยก มาจดแจง
รายการดงั กลา วมาจดแจง ไวในโฉนดที่ดินดวย
มาตรา ๕๙ เบญจ๔๘ การออกโฉนดที่ดินตามมาตรา ๕๘ ทวิ และมาตรา ๕๙ การยกเลิก
ใหถ ือวาหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินเดิมเปนอันยกเลิก และใหสงหนังสือแสดงสิทธิ หลกั ฐานเดมิ
ในทดี่ ินทีย่ กเลิกแลว นน้ั คนื แกเจา พนักงานท่ดี ิน เวนแตกรณีสูญหาย
มาตรา ๖๐๔๙ ในการออกโฉนดทด่ี ินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน การเปรียบเทยี บ
ถามีผูโตแยงสิทธิกัน ใหพนักงานเจาหนาที่หรือเจาพนักงานที่ดิน แลวแตกรณี ออกหนังสือแสดง
มีอํานาจทําการสอบสวนเปรียบเทียบ ถาตกลงกันไดก็ใหดําเนินการไปตามที่ตกลง สิทธใิ นที่ดนิ
หากตกลงกันไมไ ดใหเ จา พนักงานท่ดี ินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ดี ินจังหวัดสาขา
มีอํานาจพจิ ารณาสง่ั การไปตามท่ีเห็นสมควร
เม่ือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดสาขา ไมพอใจคาํ สัง่
สั่งประการใดแลวใหแจงเปนหนังสือตอคูกรณีเพ่ือทราบ และใหฝายที่ไมพอใจ ใหฟ องศาล
ไปดําเนนิ การฟอ งตอศาลภายในกําหนดหกสิบวนั นับแตวนั ทราบคําสัง่
๔๖ มาตรา ๕๙ ตรี เพมิ่ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๙๖ ลงวันท่ี ๒๙ กมุ ภาพนั ธ พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๕
∗ ระเบียบคณะกรรมการจดั ที่ดินแหงชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๓๒)
๔๗ มาตรา ๕๙ จตั วา เพม่ิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๔๘ มาตรา ๕๙ เบญจ เพิม่ โดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ ิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๔๙ มาตรา ๖๐ แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๓๔
34
การรอเรื่อง ในกรณที ีไ่ ดฟองตอ ศาลแลว ใหรอเร่อื งไว เมื่อศาลไดพิพากษาหรือมีคําสั่ง
รอผลพิจารณาคดี ถึงที่สุดประการใด จึงใหดําเนินการไปตามกรณี ถาไมฟองภายในกําหนด
ก็ใหดําเนินการไปตามที่เจาพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัด
สาขาสงั่ แลว แตก รณี
มาตรา ๖๑๕๐ เม่ือความปรากฏวาไดออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การเพิกถอน/แกไข
เอกสารสิทธิในทด่ี นิ การทําประโยชน หรือไดจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย
และรายการ หรือจดแจงเอกสารรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพยใหแกผูใดโดยคลาดเคล่ือน
ทะเบียน หรือไมชอบดวยกฎหมาย ใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายซ่ึงดํารงตําแหนง
รองอธบิ ดีหรือผตู รวจราชการกรมท่ดี นิ มีอํานาจหนา ทสี่ ่งั เพกิ ถอนหรอื แกไ ขได
ขั้นตอนดําเนนิ การ กอนท่ีจะดําเนินการตามวรรคหน่ึง ใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมาย
- ตัง้ คณะกรรมการ ตามวรรคหนึ่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้ึนคณะหนึ่ง โดยมีอํานาจเรียกโฉนดท่ีดิน
- แจงผูมีสว น หนังสือรับรองการทําประโยชน เอกสารที่ไดจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
ไดเสีย เอกสารท่ีไดจดแจงรายการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย หรือเอกสารอ่ืนท่ีเกี่ยวของ
มาพิจารณา พรอมท้ังแจงใหผูมีสวนไดเสียทราบเพื่อใหโอกาสคัดคาน ถาไมค ัดคาน
ภายในกาํ หนดสามสบิ วันนับแตวนั ทีไ่ ดร บั แจง ใหถอื วา ไมม ีการคดั คา น
- องคป ระกอบของ คณะกรรมการสอบสวนการออกโฉนดทด่ี นิ หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน
คณะกรรมการ ที่ออกโดยคลาดเคล่ือนหรือไมชอบดวยกฎหมาย อยางนอยตองมีเจาพนักงาน
ฝายปกครองและตัวแทนคณะผูบริหารทองถ่ินหรือผูบริหารทองถิ่นท่ีท่ีดินน้ัน
ต้งั อยเู ปนกรรมการ
- ระยะเวลา การสอบสวนตามวรรคสองตองดําเนินการใหแลวเสร็จและสงใหอธิบดี
สอบสวน หรือผูซ่ึงอธิบดมี อบหมายตามวรรคหน่ึงภายในกําหนดหกสิบวันนับแตวันที่ไดมี
คาํ สัง่ ใหทําการสอบสวน ในกรณีท่ีคณะกรรมการสอบสวนไมสามารถดําเนินการ
๕๐ มาตรา ๖๑ แกไ ขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไ ขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ที่ ๑๑) พ.ศ. ๒๕๕๑
๓๕
35
ใหแลวเสร็จภายในกําหนดเวลาดังกลาว ใหคณะกรรมการสอบสวนรายงานเหตุ
ท่ีทําใหการสอบสวนไมแลวเสร็จตออธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่ง
เพ่อื ขอขยายระยะเวลาการสอบสวน โดยใหอธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายตาม - กรณีขอขยาย
วรรคหน่ึงสง่ั ขยายระยะเวลาดาํ เนินการไดตามความจําเปน แตไ มเกนิ หกสิบวนั เวลา
ใหอธิบดีหรือผูซ่ึงอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งพิจารณาใหแลวเสร็จ การพจิ ารณาของ
ภายในสิบหาวันนับแตไดรับรายงานการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวน ผูมอี ํานาจเพิกถอน
ตามวรรคสี่ เม่ืออธิบดีหรือผูซึ่งอธิบดีมอบหมายตามวรรคหนึ่งพิจารณาประการใด แกไข
แลว ก็ใหดาํ เนินการไปตามนนั้
การดําเนินการเพิกถอนหนังสือหรือแกไขตามความในมาตรานี้ ถาไมได การออกใบแทน
โฉนดท่ีดินหรอื หนงั สือรับรองการทําประโยชนม า ใหถือวาโฉนดที่ดินหรือหนังสือ
รับรองการทาํ ประโยชนนั้นสูญหาย และใหเจาพนักงานทดี่ ินออกใบแทนหนังสือ
แสดงสิทธใิ นท่ีดนิ เพื่อดําเนนิ การตอ ไป
ถามีการคลาดเคล่ือนเนื่องจากเขียนหรือพิมพขอความผิดพลาดโดยมี กรณเี ขยี น
หลักฐานชัดแจงและผูมีสวนไดเสียยินยอมเปนลายลักษณอักษรแลว ให คลาดเคลอ่ื น
เจาพนกั งานทดี่ ินมอี าํ นาจหนาท่แี กไ ขใหถูกตอ งได
ในกรณีท่ศี าลมคี ําพพิ ากษาหรอื คาํ สง่ั ถึงทส่ี ดุ ใหเพิกถอนหรือแกไ ขอยางใดแลว กรณศี าลสัง่
ใหเจาพนักงานทด่ี ินดําเนินการตามคําพิพากษาหรือคําส่ังน้ันตามวิธีการท่ีอธิบดี เพิกถอน/แกไข
กาํ หนด
การต้ังคณะกรรมการสอบสวน การสอบสวน การแจงผูมีสวนไดเสีย หลกั เกณฑและ
เพื่อใหโอกาสคัดคานและการพิจารณาเพิกถอนหรือแกไขใหเปนไปตาม วธิ ดี าํ เนนิ การ
หลกั เกณฑแ ละวิธกี ารท่กี ําหนดในกฎกระทรวง*
* กฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑและวิธีการในการสอบสวนและการพิจารณาเพิกถอนหรือแกไขการออก
โฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการจดแจงเอกสาร
รายการจดทะเบยี นโดยคลาดเคลอื่ นหรอื ไมชอบดวยกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๓
๓๖
36
การแจง ผลคดี มาตรา ๖๒ บรรดาคดีที่เกิดข้ึนเกี่ยวดวยเรื่องกรรมสิทธ์ิที่ดินท่ีไดออก
เก่ียวกับกรรมสทิ ธิ์ โฉนดท่ีดินแลว เมื่อศาลพิจารณาพิพากษาคดีถึงที่สุดแลว ใหศาลแจงผลของ
ทด่ี ินของศาล คําพิพากษาอันถึงที่สุดหรือคําส่ังนั้นตอเจาพนักงานที่ดินแหงทองท่ีซ่ึงท่ีดินน้ัน
ตง้ั อยดู วย
การออกใบแทน
มาตรา ๖๓ โฉนดที่ดินของผูใดเปนอันตราย ชํารุด สูญหายดวยประการใด
ฉบบั เดมิ ยกเลกิ ใหเจาของมาขอรับใบแทนโฉนดทดี่ ินนน้ั ได
ใชกับใบจองและ เม่ือไดออกใบแทนไปแลว โฉนดที่ดินเดิมเปนอนั ยกเลิก เวนแตศาลจะสั่ง
หนงั สือรบั รอง เปนอยางอื่น
การทาํ ประโยชนดวย
สรา งใหมท งั้ คูฉบบั สําหรับการขอใบแทนใบจอง หนังสือรับรองการทําประโยชนหรือใบไตสวน
ใหนาํ ความดงั กลาวขางตน มาใชบงั คับโดยอนโุ ลม
มาตรา ๖๔๕๑ ถาโฉนดที่ดิน ใบไตสวน หนังสือรับรองการทําประโยชน
หรือใบจอง ฉบับสํานักงานท่ีดินเปนอันตราย ชํารุด สูญหาย ใหพนักงานเจาหนาท่ี
ตามมาตรา ๗๑ มีอํานาจเรียกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินดังกลาวจากผูมีสิทธิ
ในที่ดนิ มาพิจารณาแลว จดั ทําข้นึ ใหม โดยอาศยั หลักฐานเดิมได
หมวด ๕
การรังวดั ท่ีดิน
.
หลกั เกณฑการรงั วดั มาตรา ๖๕ การรงั วัดเพื่อออกโฉนดทีด่ ิน ใหเปนไปตามหลักเกณฑและ
วธิ ีการท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง∗∗
๕๑ มาตรา ๖๔ แกไขเพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิแกไขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
∗ ระเบยี บกระทรวงมหาดไทย วา ดวยการจัดทําหนังสอื แสดงสทิ ธใิ นท่ดี นิ ขึ้นใหม ในกรณีท่ีหนังสือแสดงสิทธิใน
ทด่ี ินฉบับสํานักงานทด่ี ินเปน อนั ตราย ชาํ รดุ สญู หาย พ.ศ. ๒๕๒๔
∗∗ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๓๗
37
มาตรา ๖๖ เพ่ือประโยชนแกการรังวัด ใหพนักงานเจาหนาท่ีและ อาํ นาจชา งรงั วดั
คนงานมีอํานาจ เขาไปในท่ีดินของผูมีสิทธิในท่ีดิน หรือผูครอบครองในเวลา - เขา ท่ีดนิ
กลางวนั ได แตจ ะตองแจงใหผูมสี ทิ ธใิ นทีด่ ินทราบเสยี กอ น และใหผมู ีสทิ ธิในที่ดิน
หรือผูครอบครองที่ดินนั้นอํานวยความสะดวกตามควรแกก รณี
ในกรณีตองสรางหมุดหลักฐานการแผนที่ในท่ีดินของผูใด ใหพนักงาน - สรางหมดุ
เจาหนา ท่ีมีอาํ นาจสรางหมุดหลกั ฐานลงไดต ามความจาํ เปน หลกั ฐาน
ในการรังวัด เมื่อมีความจําเปนและโดยสมควร พนักงานเจาหนาที่ - อาํ นาจขดุ
มีอํานาจท่ีจะ ขุดดิน ตัด รานกิ่งไมหรือกระทําการอยางอื่นแกสิ่งที่กีดขวางแก ตดั ตน ไม
การรังวัดไดเทาที่จําเปน ท้ังน้ี ใหระลึกถึงการท่ีจะใหเจาของไดรับความเสียหาย
นอยท่ีสุด
มาตรา ๖๗ เมื่อพนักงานเจาหนาท่ีไดจัดทําหลักหมายเขตที่ดิน หรือได หามบุคคลอน่ื
สรางหมุดหลักฐานเพื่อการแผนที่ลงไวในที่ใด หามมิใหผูหน่ึงผูใดนอกจาก เคลอื่ นยา ยทําลาย
พนักงานเจาหนาที่ ทําลาย ดัดแปลง เคลื่อนยาย ถอดถอนหลักหมายเขตหรือ หลักเขต
หมุดหลักฐานเพื่อการแผนที่น้ันไปจากที่เดิม เวนแตจะไดรับอนุญาตจาก
เจาพนักงานท่ดี นิ
มาตรา ๖๘ เมื่อบุคคลใดมีความจาํ เปนท่จี ะตอ งกระทาํ การตามความใน ขออนุญาต
มาตรา ๖๗ ใหย ่ืนคํารอ งตอ เจาพนักงานทีด่ ินเพ่ือขออนุญาต ยา ยหลกั เขต
ในกรณีที่เจาพนักงานท่ีดินไมอนุญาต ใหเจาของที่ดินมีสิทธิอุทธรณตอ กรณีไมอ นญุ าต
รัฐมนตรีได ภายในสิบหาวันนับจากวันทราบคําสั่งไมอนุญาต ใหรัฐมนตรีสั่ง
ภายในหกสิบวันนบั จากวนั ไดรับอทุ ธรณ คาํ สง่ั รฐั มนตรีใหเปน ทส่ี ดุ
ถารัฐมนตรีไมสั่งภายในกําหนดหกสิบวันดังกลาวในวรรคกอน ใหถือวา อนญุ าตโดยปริยาย
อนุญาต
มาตรา ๖๙ เมอ่ื เปนการสมควรจะทาํ การสอบเขตทดี่ ินตามแผนท่รี ะวาง สอบเขตท้ังตําบล
ในทองที่ใด ใหผูวาราชการจังหวัดประกาศใหผูมีสิทธิในที่ดินทราบลวงหนา
ไมนอยกวาสิบหาวัน การประกาศใหทําหนังสือปดไวในบริเวณท่ีดินเพื่อใหผูที่
เก่ียวของทราบดวย และใหแจงกําหนด วัน เวลา ไปใหผูมีสิทธิในท่ีดินทราบ
อีกชน้ั หนงึ่ และใหผูม ีสทิ ธิในท่ดี นิ นําพนักงานเจาหนา ทท่ี ําการรงั วดั สอบเขตทดี่ นิ
๓๘
38
สรา งโฉนดใหม ผูมสี ิทธิในท่ีดินตามความในวรรคกอน จะต้ังตวั แทนนําพนกั งานเจาหนาท่ีทาํ การ
สอบเขตเฉพาะราย รังวดั สอบเขตที่ดินของตนกไ็ ด
กรณคี รอบครอง ที่ดินท่ีไดทําการสอบเขตแลว ใหเจาพนักงานที่ดินมีอํานาจทําโฉนดที่ดิน
ไมต รง ใหใหม แทนฉบบั เดิม สวนฉบบั เดิมเปนอันยกเลกิ และใหส ง คืน
กรณตี ดิ ตอ ไมไ ด/ มาตรา ๖๙ ทวิ๕๒ ผูมีสิทธิในที่ดินประสงคจะขอสอบเขตโฉนดท่ีดิน
ขางเคียงไมลงชอ่ื เฉพาะรายของตนใหยื่นคําขอพรอมดวยโฉนดท่ีดินน้ันตอเจาพนักงานท่ีดินและ
ใหพนักงานเจา หนา ท่ไี ปทาํ การรงั วัดให
- แกไขแผนที่หรือ
เนอ้ื ที่ ในการรังวัด ถาปรากฏวาการครอบครองไมตรงกับแผนที่หรือเน้ือท่ีใน
การแจง ขางเคียง โฉนดทีด่ ิน เม่ือผูมีสิทธิในที่ดินขางเคียงไดร ับรองแนวเขตแลว ใหเจาพนักงานท่ีดิน
กรณคี ดั คาน/ มีอํานาจแกไขแผนท่ีหรือเนื้อที่ใหตรงกับความเปนจริงได เวนแตจะเปนการ
ไกลเกล่ีย สมยอมเพ่ือหลกี เลี่ยงกฎหมาย
ในกรณที ไี่ มอาจติดตอผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงใหมาระวังแนวเขตได หรือ
ในกรณีที่ผูมีสิทธิในที่ดินขางเคียงไดรับการติดตอจากพนักงานเจาหนาที่ใหมา
ระวังแนวเขตแลว แตไมมา หรือมาแตไมยอมลงช่ือรับรองแนวเขตโดยไมได
คัดคานการรังวัด ใหพนักงานเจาหนาที่แจงเปนหนังสือใหผูนั้นมาลงช่ือรับรอง
แนวเขตหรือคัดคา นภายในสามสิบวันนับแตวันที่ไดสงหนังสือ ถาผูมีสิทธิในท่ีดิน
ขางเคียงไมดําเนินการอยางหน่ึงอยางใดภายในกําหนดดังกลาว และผูขอไดให
คํารับรองวามิไดนําทําการรังวัดรุกล้ําท่ีดินขางเคียงและยินยอมใหแกไขแผนที่
หรือเน้ือท่ีใหตรงกบั ความเปนจริง ใหเจาพนักงานท่ีดินดําเนินการตามวรรคสอง
ไปไดโดยไมต องมกี ารรับรองแนวเขต
การติดตอหรือการแจงผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงตามวรรคสาม ใหเปนไป
ตามหลักเกณฑและวธิ ีการทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง
หากปรากฏวามีผูคัดคาน ใหเจาพนักงานท่ีดินมีอํานาจสอบสวนไกลเกล่ีย
โดยถือหลักฐานแผนที่เปนหลักในการพิจารณา ถาตกลงกันไดก็ใหดําเนินการ
๕๒ มาตรา ๖๙ ทวิ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
∗ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๓๑ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใชประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๓๙
39
ไปตามที่ตกลง แตตองไมเปนการสมยอมกันเพ่ือหลีกเลี่ยงกฎหมาย หากตกลงกัน
ไมไดใหแจงคูกรณีไปฟองตอศาลภายในเกาสบิ วันนับแตวันท่ีไดรับแจง ถาไมมีการฟอง
ภายในกาํ หนดดงั กลาว ใหถือวาผูขอไมประสงคจ ะสอบเขตโฉนดที่ดินน้ันตอไป
ในกรณีผูมีสิทธิในท่ีดินประสงคจะขอใหตรวจสอบเน้ือที่ตามหนังสือ การตรวจสอบเนื้อที่
รับรองการทําประโยชนเฉพาะรายของตน ใหย่ืนคําขอพรอมดวยหนังสือรับรอง หนงั สอื รบั รอง
การทําประโยชนสําหรับที่ดินน้ันตอเจาพนักงานท่ีดิน และใหนําความในวรรคสอง การทําประโยชน
วรรคสาม วรรคสี่ และวรรคหา มาใชบงั คับโดยอนโุ ลม
มาตรา ๗๐ เพื่อประโยชนแกการรังวดั ใหพ นกั งานเจา หนา ทมี่ ีอาํ นาจ อาํ นาจเจา หนาท่ี
(๑) เรียกผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงมาระวังแนวเขต และลงช่ือรับทราบ เกย่ี วกบั รังวดั
แนวเขตที่ดนิ ของตน
(๒) เรียกใหบุคคลท่ีเกี่ยวของมาใหถอยคํา หรือสั่งใหสงเอกสาร หรือ
หลกั ฐานอน่ื ใดที่เก่ียวของในการสอบสวน
มาตรา ๗๐ ทวิ๕๓ ใหนําความในมาตรา ๖๖ และมาตรา ๗๐ มาใชบ งั คบั กรณนี ํามาใชก บั
แกการพิสูจนสอบสวนท่ีดินเพื่อออกหนังสือรับรองการทําประโยชน และการ หนงั สอื รับรองการ
ตรวจสอบเนอ้ื ทต่ี ามหนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนโดยอนุโลม
หมวด ๖ ทําประโยชน
การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรม
.
มาตรา ๗๑๕๔ ใ ห เ จ า พ นั ก ง า น ท่ี ดิ น เ ป น พ นั ก ง า น เ จ า ห น า ท่ี * เจา พนักงาน
จดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเก่ยี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ยตามประมวลกฎหมายแพง ผูมีอาํ นาจ
๕๓ มาตรา ๗๐ ทวิ แกไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญัตแิ กไขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
๕๔ มาตรา ๗๑ แกไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
* มาตรา ๑๙ แหง พ.ร.บ. แกไ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ :- การปฏิบัติตาม
ประมวลกฎหมายท่ีดิน ซง่ึ เปน อํานาจหนาท่ีของหัวหนาเขต นายอาํ เภอ หรอื ปลดั อาํ เภอผูเปนหัวหนา ประจํากิ่ง
อําเภออยูกอนวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ใหผูดํารงตําแหนงดังกลาวปฏิบัติตอไปพลางกอน จนกวา
รัฐมนตรจี ะไดประกาศยกเลกิ ในราชกจิ จานุเบกษาเปนทอ งท่ีไป
๔๐
40
จดทะเบยี นOnline และพาณชิ ย สําหรับอสังหารมิ ทรัพยท ี่อยูในเขตทองที่สํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือ
(ปจ จุบันยงั ปฏิบตั ิ สาํ นกั งานที่ดินสาขาน้ัน
ไมไ ด)
ในกรณีที่สํานักงานที่ดินจังหวัดหรือสํานักงานท่ีดินสาขาไดนําระบบ
ย่ืนคาํ ขอ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารมาใชในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมแลว
ใหเ จา พนักงานท่ดี ินเปน พนกั งานเจา หนา ทจ่ี ดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเก่ียวกับ
ยืน่ คําขอ อสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยโดยระบบเทคโนโลยี
ตา งสาํ นกั งาน สารสนเทศและการส่ือสารสําหรับอสังหาริมทรัพยท่ีอยูในเขตทองที่สํานักงาน
ที่ดินจังหวัดหรือสํานักงานท่ีดินสาขาอ่ืนไดดวย เวนแตการจดทะเบียนที่ตองมี
นิตกิ รรมโมฆะ การประกาศหรือตองมีการรังวัด ท้ังนี้ ตามหลักเกณฑและวิธีการท่ีอธิบดี
นติ กิ รรมโมฆยี ะ ประกาศกําหนดในราชกิจจานเุ บกษา๕๕
มาตรา ๗๒๕๖ ผูใดประสงคจะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับ
อสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ใหคูกรณีนําหนังสือ
แสดงสทิ ธิในทดี่ ินมาขอจดทะเบยี นตอ พนักงานเจา หนาทีต่ ามมาตรา ๗๑
การขอจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรมตามวรรคหนึ่ง สําหรับท่ีดินที่มีโฉนดท่ีดิน
ใบไตสวนหรือหนังสือรับรองการทําประโยชน คูกรณีอาจย่ืนคําขอตอพนักงาน
เจาหนาท่ี ณ กรมท่ีดิน หรือสํานักงานที่ดินแหงใดแหงหน่ึง เพ่ือใหพนักงาน
เจาหนาที่ตามมาตรา ๗๑ ดําเนินการจดทะเบียนให เวนแตการจดทะเบียนท่ี
ตอ งมีการประกาศหรือตองมกี ารรงั วดั
มาตรา ๗๓ เมื่อปรากฏตอพนกั งานเจาหนาท่ีวา นิติกรรมที่คูกรณีนํามา
ขอจดทะเบียนน้ันเปนโมฆะกรรม พนกั งานเจา หนา ท่ีไมตอ งจดทะเบียนให
หากนิติกรรมท่ีคูกรณีนํามาขอจดทะเบียนน้ันปรากฏวาเปนโมฆียะกรรม
ใหพ นักงานเจาหนาท่รี ับจดทะเบียนในเมอ่ื คูกรณีฝา ยที่อาจเสยี หายยืนยนั ใหจ ด
๕๕ มาตรา ๗๑ วรรคสอง เพ่มิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๕๕๐
๕๖ มาตรา ๗๒ แกไขเพิม่ เติมโดยพระราชบญั ญัตแิ กไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
41
มาตรา ๗๔ ในการดําเนินการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมของ อาํ นาจสอบสวน
พนักงานเจาหนา ที่ตามมาตรา ๗๑ ใหพ นกั งานเจาหนา ท่มี ีอาํ นาจสอบสวนคกู รณี และเรียกคนหรอื
และเรียกบุคคลที่เก่ียวของมาใหถอยคํา หรือสงเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวของได เอกสาร
ตามความจําเปนแลว ใหพ นักงานเจาหนา ทด่ี าํ เนินการไปตามควรแกกรณี
ถามีกรณีเปนท่ีควรเช่ือไดวา การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมน้ัน กรณหี ลีกเลยี่ ง
จะเปนการหลีกเล่ียงกฎหมาย หรือเปนที่ควรเช่ือไดวาบุคคลใดจะซ้ือที่ดินเพื่อ กฎหมายหรอื เพอ่ื
ประโยชนต างดา ว
ประโยชนแ กคนตางดา วใหขอคําส่ังตอรฐั มนตรี คาํ สั่งรฐั มนตรเี ปนทีส่ ุด
มาตรา ๗๕๕๗ การดาํ เนนิ การจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรมเกี่ยวกับท่ีดิน ทาํ สัญญาและ
ที่มีโฉนดท่ีดิน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชน ใหเจาพนักงานท่ีดินบันทึก จดทะเบียน
ขอตกลงหรือทําสัญญาเกี่ยวกับการนั้นแลวแตกรณี แลวใหจดบันทึกสาระสําคัญ ทั้งสองฉบับ
ลงในโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนฉบับสํานักงานท่ีดินและฉบับ
เจาของที่ดนิ ใหตรงกนั ดว ย
มาตรา ๗๖ ในกรณีการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับท่ีดิน จดทะเบยี น
ซ่ึงพนักงานเจาหนาท่ีไดทําการสอบสวนและรังวัดหมายเขตไวแลว แตยังไมได ใบไตสวน
ออกโฉนดทีด่ นิ ใหไ ปขอจดทะเบียนตอ พนกั งานเจา หนา ท่ตี ามความในมาตรา ๗๑
การจดทะเบียนดังกลาวในวรรคกอน ใหจดแจงในใบไตสวน อนุโลม
ตามวิธีการวา ดวยการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมเกี่ยวกบั ที่ดนิ ทม่ี โี ฉนดทีด่ นิ
มาตรา ๗๗ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับท่ีดินหรือ วธิ ีการจดทะเบยี น
อสงั หารมิ ทรพั ยอ ยา งอื่น ถาประมวลกฎหมายน้ีมิไดบัญญัติไวเปนอยางอ่ืน ใหปฏิบัติ
ตามหลักเกณฑและวธิ กี ารทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๗๘ การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในที่ดินซ่ึงไดมาตาม แยงการครอบครอง
ประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๑๓๘๒ หรือโดยประการอ่ืนนอกจาก (ครอบครองปรปกษ)
๕๗ มาตรา ๗๕ แกไ ขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
∗ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗), กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๒๖), กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑)
และกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๒ (พ.ศ. ๒๕๓๖)