๔๒
42
การขอแบง แยก นิติกรรมสําหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดินแลว ใหปฏิบัติตามหลักเกณฑและวิธีการ
หรือรวมโฉนด ท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง
- นาํ เร่ืองคัดคาน/
ไกลเกลย่ี มาใช มาตรา ๗๙๕๘ ผูมีสิทธิในท่ีดินประสงคจะแบงแยกที่ดินออกเปนหลาย
- จดทะเบียนกอน แปลงหรือรวมท่ีดินหลายแปลงเขาเปนแปลงเดียวกัน ใหย่ืนคําขอพรอมดวย
ออกแปลงแบง แยก หนังสอื แสดงสิทธใิ นที่ดนิ นั้นตอ พนกั งานเจาหนา ที่ตามมาตรา ๗๑
ขอไถถ อนฝายเดียว
เพื่อประโยชนแหงมาตรานี้ ใหนํามาตรา ๖๙ ทวิ มาใชบังคับโดยอนุโลมดวย
โอนมรดก และถาจะตองจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ก็ใหจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเสียกอน
แลว จึงออกหนังสือแสดงสิทธิในทด่ี ินฉบับใหมใ ห
มาตรา ๘๐๕๙ ในกรณีไถถอนจากจํานอง หรือไถถอนจากการขายฝากซึ่ง
ที่ดินท่ีมีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยอืน่ เม่ือผูรับจํานองหรือผูรับ
ซอ้ื ฝากไดทําหลักฐานเปนหนังสือวาไดมีการไถถอนแลว ใหผูมีสิทธิไถถอนหรือผู
มีสิทธิในอสังหาริมทรัพยนําหลักฐานท่ีแสดงวาไดมีการไถถอนแลวมาขอจด
ทะเบียนไถถอนตอ พนกั งานเจาหนาทไ่ี ด
เมื่อพนักงานเจาหนาท่ีตรวจเปนการถูกตอง ใหจดทะเบียนในหนังสือ
แสดงสิทธิในที่ดินหรือในทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยให
ปรากฏการไถถ อนนนั้
มาตรา ๘๑๖๐ การขอจดทะเบียนสทิ ธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยซึ่งไดมาโดย
ทางมรดก ใหผ ไู ดร ับมรดกนําหลักฐานสําหรับที่ดินหรือหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน
หรือหลักฐานเกีย่ วกบั อสังหาริมทรัพยอ่ืนพรอมดวยหลักฐานในการไดรับมรดกมาย่ืนคําขอ
ตอ พนักงานเจา หนา ท่ีตามมาตรา ๗๑ ถา หนงั สอื แสดงสิทธิในทด่ี ินอยูก บั บุคคลอื่น ให
พนักงานเจาหนา ท่มี ีอํานาจเรยี กหนังสอื แสดงสิทธิในทด่ี ินดังกลาวนั้นได๖๑
∗ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๕๘ มาตรา ๗๙ แกไขเพม่ิ เตมิ โดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ที่ ๓๓๔ ลงวนั ที่ ๑๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๕
๕๙ มาตรา ๘๐ แกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๖
๖๐ มาตรา ๘๑ แกไ ขเพมิ่ เติมโดยพระราชบัญญัติแกไ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓
๖๑ มาตรา ๘๑ วรรคหน่ึง แกไ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๑๓)
พ.ศ. ๒๕๕๖
๔๓
43
เมื่อพนักงานเจาหนาที่สอบสวนพยานหลักฐานและเชื่อไดวาผูขอเปน สอบสวน และ
ทายาทแลว ใหประกาศโดยทําเปนหนงั สือปดไวในที่เปดเผยมีกําหนดสามสิบวัน ประกาศการ
ณ สาํ นักงานที่ดิน สาํ นกั งานเขตหรือที่วาการอําเภอหรือก่ิงอําเภอ สํานักงานเทศบาล จดทะเบียน
ท่ีทําการองคการบริหารสวนตําบล ที่ทําการแขวงหรือที่ทําการกํานัน ท่ีทําการ โอนมรดก
ผูใหญบานแหงทองที่ซ่ึงอสังหาริมทรัพยตั้งอยู และบริเวณอสังหาริมทรัพยน้ัน
แหง ละหน่ึงฉบับ และใหพนักงานเจา หนา ที่มีหนังสอื สงประกาศดังกลาวใหบุคคล
ท่ีผูขอแจงวาเปนทายาทและมิไดมาดวยในวันย่ืนคําขอทราบเทาท่ีจะทําได
หากไมมีทายาทซ่ึงมีสิทธิไดรับมรดกโตแยงภายในกําหนดเวลาที่ประกาศ และมี
หลักฐานเปนท่ีเช่ือไดวาผูขอมีสิทธิไดรับมรดกแลว ใหพนักงานเจาหนาที่
ดําเนินการจดทะเบียนใหตามที่ผูขอแสดงหลักฐานการมีสิทธิตามกฎหมาย
ตามหลักเกณฑและวธิ กี ารทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง๖๒
ในกรณีที่มีทายาทซึ่งมีสิทธิไดรับมรดกโตแยง ใหพนักงานเจาหนาท่ี โตแยงเปรยี บเทยี บ
มอี าํ นาจสอบสวนคกู รณีและเรียกบุคคลใด ๆ มาใหถอยคํา หรือสั่งใหสงเอกสาร
ที่เกี่ยวของไดตามความจําเปน และใหพนักงานเจาหนาท่ีเปรียบเทียบ
ถาเปรียบเทียบไมต กลง ใหพนักงานเจา หนา ทส่ี งั่ การไปตามทเ่ี ห็นสมควร
เม่ือพนักงานเจาหนาท่ีสั่งประการใดแลว ใหแจงใหคูกรณีทราบ และให ไมพอใจฟอ งศาล
ฝายทไ่ี มพอใจไปดาํ เนนิ การฟอ งตอศาลภายในกาํ หนดหกสิบวันนับแตวันท่ีไดรับแจง
หากผูน ัน้ มไิ ดฟอ งตอศาลและนาํ หลกั ฐานการยนื่ ฟอ งพรอมสาํ เนาคําฟองเกี่ยวกับ
สิทธิในการไดรับมรดกมาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ีภายในกําหนดเวลาดังกลาว
กใ็ หด ําเนินการไปตามที่พนกั งานเจาหนาท่สี ่ัง
ในกรณีท่ที ายาทไดย ่นื ฟองตอศาลภายในกําหนดเวลาตามความในวรรคสี่ ฟอ งศาลระงับ
หรือทายาทอื่นซ่งึ มีสิทธิไดรับมรดกไดฟองคดีเกี่ยวกับสิทธิในการไดรับมรดกตอศาล
กอนที่พนักงานเจา หนาท่ีไดจ ดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมการไดมาโดยทางมรดก จดทะเบียน
เม่ือผูนั้นนําหลักฐานการย่ืนฟองพรอมสําเนาคําฟองแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ี
ใหพ นักงานเจาหนาทร่ี ะงับการจดทะเบียนไว เม่ือศาลไดมีคําพิพากษาหรือคําส่ัง
ถงึ ทส่ี ดุ ประการใดก็ใหดาํ เนินการไปตามคําพิพากษาหรอื คําสงั่ น้ัน
๖๒ มาตรา ๘๑ วรรคสอง แกไ ขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบับที่ ๑๓)
พ.ศ. ๒๕๕๖
๔๔
44
ผจู ดั การมรดก มาตรา ๘๒๖๓ ผูใดประสงคจะขอจดทะเบียนลงช่ือผูจัดการมรดกในหนังสือ
แสดงสิทธิในท่ีดินหรือประสงคจะขอจดทะเบียนใหปรากฏชื่อผูจัดการมรดก
โอนมรดก ในทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยใหยื่นคําขอพรอมดวย
ทรสั ตี นําหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินหรือหลักฐานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยอื่นนั้น และ
อายดั หลักฐานการเปนผูจัดการมรดกมาแสดงตอพนักงานเจาหนาที่ตามมาตรา ๗๑
ถาเปนผูจัดการมรดกโดยคําส่ังศาลใหพนักงานเจาหนาท่ีดําเนินการจดทะเบียน
ใหต ามคาํ ขอ แตถ าเปน ผูจดั การมรดกในกรณีอื่น ใหพนักงานเจาหนาทสี่ อบสวน
และตรวจสอบหลักฐาน และใหน ําความในมาตรา ๘๑ วรรคสอง มาใชบังคับโดยอนุโลม
เม่ือไมมีผูใดโตแยงใหพนักงานเจาหนาท่จี ดทะเบียนลงช่ือผูจัดการมรดกในหนังสือ
แสดงสิทธิในที่ดินน้ัน หรอื ในทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยได
แตถามีผูโตแยงก็ใหรอเร่ืองไวและแจงใหคูกรณีไปฟองตอศาล เมื่อศาล
มีคําพิพากษาหรอื คําส่ังถึงที่สุดประการใดแลว ใหดําเนินการไปตามคําพิพากษา
หรอื คําสง่ั ศาลนน้ั
ในกรณีที่ผูจัดการมรดกซึ่งไดมีชื่อในหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินแลว
ขอจดทะเบียนสิทธิในที่ดินหรือจดทะเบียนสิทธิในที่ดินพรอมกับอสังหาริมทรัพยอื่น
รวมกับทดี่ ินดังกลาวใหแกทายาท หรือผูจัดการมรดกซึ่งปรากฏช่ือในทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยแลวขอจดทะเบียนสิทธิในอสังหาริมทรัพยอื่น
ใหแ กท ายาท ใหพ นกั งานเจา หนาที่ดําเนินการจดทะเบียนใหตามคําขอโดยไมตอง
ประกาศตามมาตรา ๘๑
ในกรณีที่ทรัสตีของทรัสตซ่ึงไดกอตั้งข้ึนโดยชอบดวยกฎหมายไวแลว
ขอจดทะเบียนในฐานะเปน ทรสั ตี เมอื่ พนักงานเจาหนาทส่ี อบสวนพยานหลักฐานแลว
ใหดําเนินการจดทะเบยี นได
มาตรา ๘๓๖๔ ผูใดมีสวนไดเสียในที่ดินใดอันอาจจะฟองบังคับใหมีการ
จดทะเบียน หรือใหม ีการเปลยี่ นแปลงทางทะเบยี นได มคี วามประสงคจะขออายัดท่ีดิน
ใหย่นื คาํ ขอตอ พนักงานเจาหนา ที่ตามมาตรา ๗๑
๖๓ มาตรา ๘๒ แกไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิแกไ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๕๕๖
๖๔ มาตรา ๘๓ แกไ ขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบับท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓
๔๕
45
เม่ือพนักงานเจาหนาที่สอบสวนเอกสารหลักฐานท่ีผูขอไดนํามาแสดงแลว รบั อายัดซํา้
ถาเห็นสมควรเช่ือถือก็ใหรับอายัดไวมีกําหนดสามสิบวันนับแตวันท่ีส่ังรับอายัด
เมื่อพนกําหนดระยะเวลาดังกลาว ใหถือวาการอายัดส้ินสุดลงและผูน้ันจะขอ
อายัดซ้าํ ในกรณีเดียวกันอีกไมไ ด
ถาผูมีสวนไดเ สียคัดคา นวา การอายัดน้นั ไมชอบดวยกฎหมาย ใหพนักงาน คดั คานเลกิ อายัด
เจาหนาทม่ี อี าํ นาจสอบสวนพยานหลักฐานเทาท่ีจําเปน เม่ือเปนที่เช่ือไดวาไดรับ
อายดั ไวโ ดยไมชอบดวยกฎหมาย ใหพนักงานเจาหนาท่ีมีอํานาจสั่งยกเลิกการอายัดนั้น
และแจงใหผ ขู ออายัดทราบ
หมวด ๗
การกําหนดสทิ ธใิ นทีด่ ินเพื่อการศาสนา
.
มาตรา ๘๔ การไดมาซึ่งที่ดินของวัดวาอาราม วัดบาดหลวงโรมันคาธอลิค การขออนุญาต
มูลนิธิเก่ียวกับคริสตจักรหรือมัสยิดอิสลาม ตองไดรับอนุญาตจากรัฐมนตรี และ ไดม า
ใหไ ดมาไมเกิน ๕๐ ไร
ในกรณที เ่ี ปน การสมควร รัฐมนตรจี ะอนญุ าตใหไดมาซึง่ ทด่ี นิ เกินจํานวนท่ี กรณีเกนิ ๕๐ ไร
บญั ญัติไวใ นวรรคแรกก็ได
บทบัญญัติในมาตราน้ีไมกระทบกระเทือนการไดมาซึ่งท่ีดินท่ีมีอยูแลว ขอ ยกเวน
กอนวันท่ีประมวลกฎหมายนี้ใชบังคับ และการไดมาซ่ึงท่ีดินของมัสยิดอิสลาม
โดยทางบทบัญญตั ิแหง ศาสนาอสิ ลามในจังหวัดทมี่ ีตาํ แหนงดะโตะ ยตุ ธิ รรม
มาตรา ๘๕ ในกรณีท่ีนิติบุคคลไดมาซ่ึงที่ดินเกินกําหนด ตามความใน กรณไี ดมาเกนิ สิทธิ/
มาตรา ๘๔ เม่ือประมวลกฎหมายน้ีไดใชบังคับแลว ใหนิติบุคคลดังกลาวจัดการ การจาํ หนา ย
จาํ หนายภายในหาป ถาไมจําหนายท่ีดินภายในเวลาท่ีกําหนด ใหอธิบดีมอี ํานาจ
จําหนายท่ีดินน้ัน และใหนําบทบัญญัติเรื่องการบังคับจําหนายที่ดินตามความใน
หมวด ๓ มาใชบงั คบั อนโุ ลม
∗ คําสง่ั กระทรวงมหาดไทย ที่ ๖๓๕/๒๕๔๗ ลงวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๗
๔๖
46
หมวด ๘
การกาํ หนดสทิ ธใิ นทด่ี นิ ของคนตา งดา ว
.
ไดม าโดย มาตรา ๘๖ คนตางดาวจะไดมาซ่ึงท่ีดินก็โดยอาศัยบทสนธิสัญญา
สนธิสญั ญา ซ่ึงบัญญัติใหมีกรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพยได และอยูในบังคับบทบัญญัติแหง
ประมวลกฎหมายน้ดี ว ย
ไดม าโดยทางอน่ื ภายใตบังคับมาตรา ๘๔ คนตางดาวดังกลาวจะไดมาซึ่งที่ดินเพ่ือใชเปน
ท่ีอยูอาศัย ประกอบกิจการในทางพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การ
สุสาน การกุศลสาธารณะ หรือการศาสนา ตองเปนไปตามเงื่อนไขและวิธีการ
ซึง่ กาํ หนดโดยกฎกระทรวง และตองไดร บั อนุญาตจากรฐั มนตรี
จํานวนท่พี งึ อนญุ าต มาตรา ๘๗ จํานวนท่ีดินท่ีจะพึงอนุญาตใหตามความในมาตรากอน
มกี าํ หนดดังน้ี
(๑) ทอ่ี ยอู าศยั ครอบครวั ละไมเ กิน ๑ ไร
(๒) ทใ่ี ชเ พื่อพาณชิ ยกรรม ไมเ กิน ๑ ไร
(๓) ท่ใี ชเ พ่อื อตุ สาหกรรม ไมเ กิน ๑๐ ไร
(๔) ที่ใชเพอื่ เกษตรกรรม ครอบครวั ละไมเ กนิ ๑๐ ไร
(๕) ที่ใชเพอื่ การศาสนา ไมเ กนิ ๑ ไร
(๖) ทใ่ี ชเพ่ือการกุศลสาธารณะ ไมเกิน ๕ ไร
(๗) ทใ่ี ชเ พือ่ การสุสาน ตระกลู ละไมเกนิ ๑/๒ ไร
กรณีจาํ นวนเกนิ คนตางดาวผูใดตองการมีสิทธิในท่ีดินเพื่อการอุตสาหกรรมเกินกวาทีบ่ ัญญัติ
ไวใน (๓) ถาเห็นเปนการสมควร คณะรัฐมนตรีจะอนุญาตใหไดมาซึ่งท่ีดิน
เกินกวาจํานวนท่ีกําหนดไว โดยกําหนดเงื่อนไขก็ได และใหนําบทบัญญัติ
มาตรา ๔๘ มาใชบ ังคบั โดยอนุโลม
ไมกระทบจํานวน มาตรา ๘๘ บทบัญญัติในมาตรา ๘๗ มิใหกระทบกระเทือนแกท่ีดิน
กอนกฎหมาย ของคนตางดาวท่ีมีอยูแลว เกินกําหนดตามความในมาตรา ๘๗ กอนวันท่ี
ประมวลกฎหมายน้ีใชบังคับ สวนผูท่ีมีท่ีดินอยูแลวนอยกวากําหนด หรือผูที่ได
จําหนายท่ีดินเดิมของตนไป อาจไดมาซ่ึงท่ีดินไดอีก แตรวมแลวตองไมเกินกําหนด
ตามมาตรา ๘๗
∗ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๔๗
47
มาตรา ๘๙ เมื่อคนตางดาวไดรับอนุญาตใหไดมาซ่ึงท่ีดินเพ่ือกิจการใด เง่อื นไขการใช
ผูร บั อนุญาตตอ งใชท่ดี ินเพื่อกิจการนั้น จะใชเพื่อกิจการอ่ืนไมได เวนแตจะไดรับ ประโยชน
อนุญาตใหใชเพื่อกิจการอ่ืนใหมตามจํานวนท่ีไมเกินกําหนดในมาตรา ๘๗ ถาจะ
ไมใชท่ีดินตามที่ไดรับอนุญาตน้ันตองแจงใหทราบตามแบบและวิธีการทก่ี ําหนด
ในกฎกระทรวง ภายในกําหนดสามสบิ วนั นับแตวันไมใ ชทีด่ ินนั้น
คนตางดาวผูใดประสงคจะใชท่ีดินเพ่ือกิจการอ่ืนใหม ใหขออนุญาตใหม ใชก จิ การใหม
ตอ รฐั มนตรีตามแบบและวิธีการท่ีกําหนดในกฎกระทรวง ถารัฐมนตรีเห็นสมควร
ก็ใหมอี ํานาจอนญุ าต
มาตรา ๙๐ คนตางดาวท่ีไดรับอนุญาตใหมีและใชที่ดินเพ่ือกิจการใด ไมใ ชต อ งจําหนา ย
ถาไมใชที่ดินน้ันตอไป หรือไดใชที่ดินเพื่อกิจการอื่นโดยไมไดรับอนุญาตใหม
ใหจัดการจําหนายที่ดินนั้นภายในเวลาที่อธิบดีกําหนด ซ่ึงไมนอยกวาหน่ึงรอย
แปดสิบวัน แตไมใหเกินหนึ่งป ถาพนกําหนดเวลาดังกลาว ใหอธิบดีมีอํานาจ
จําหนา ยทด่ี ินนนั้
มาตรา ๙๑ คนตางดาวที่ไดรับอนุญาตใหใชท่ีดินเพ่ือกิจการใด ถาไดรับ กจิ การใหม
อนุญาตใหม ใหใชที่ดินน้ันเพื่อกิจการอ่ืนซ่ึงจํานวนท่ีดินที่ไดรับอนุญาตนี้ลดลง สิทธินอยลง
ใหจาํ หนายทีด่ นิ สว นท่ีเกินนน้ั ภายในเวลาทอี่ ธบิ ดกี ําหนด ซึ่งไมนอยกวาหน่ึงรอย ตองจําหนาย
แปดสิบวัน แตไมใหเกินหนึ่งป ถาพนกําหนด เวลาดังกลาว ใหอธิบดีมีอํานาจ สวนเกนิ
จําหนา ยทีด่ ินน้นั
มาตรา ๙๒ คนตางดาวผูใดไดรับอนุญาตใหไดมาซ่ึงที่ดินตามความใน ไมป ฏบิ ตั ิตาม
มาตรา ๘๗ วรรคสอง ถาไมไดปฏิบัติตามเง่ือนไขที่คณะรัฐมนตรีกําหนด เงอ่ื นไข
ใหจ ําหนา ยท่ีดนิ สวนทีไ่ ดรับอนญุ าตใหไ ดมาเกนิ กวาจํานวนที่กําหนดไวน้ัน ภายใน
เวลาที่อธิบดีกําหนด ซ่ึงไมนอยกวาหนึ่งรอยแปดสิบวัน แตไมใหเกินหนึ่งป ถาพน
กาํ หนดเวลาดังกลาว ใหอธบิ ดีมอี ํานาจจาํ หนา ยทด่ี นิ น้นั
มาตรา ๙๓ คนตางดาวไดมาซึ่งที่ดินโดยไดรับมรดกในฐานะที่เปน กรณีรบั มรดก
ทายาทโดยธรรม รัฐมนตรีจะอนุญาตใหไดมาซึ่งท่ีดินนั้น แตเม่ือรวมกับท่ีมีอยูแลว
ไมเกินจํานวนทีจ่ ะพึงมีไดต ามความในมาตรา ๘๗ ก็ได
∗ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ ชป ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
∗∗ กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
๔๘
48
ไดม าไมช อบ มาตรา ๙๔ บรรดาท่ีดินท่ีคนตางดาวไดมาโดยไมชอบดวยกฎหมาย
ดวยกฎหมาย หรือไมไดรับอนุญาตใหคนตางดาวน้ันจัดการจําหนายภายในเวลาที่อธิบดี
กาํ หนดให ซ่ึงไมนอ ยกวา หนง่ึ รอยแปดสบิ วัน แตไ มเกินหนึ่งป ถาไมจ าํ หนายที่ดิน
ภายในเวลาที่กําหนด ใหอธิบดีมีอํานาจจําหนายท่ีดินนั้น และใหนําบทบัญญัติ
เรอ่ื งการบงั คบั จาํ หนา ยที่ดนิ ตามความในหมวด ๓ มาใชบงั คบั โดยอนโุ ลม
มาตรา ๙๕ ผูใดไดมาซ่ึงที่ดินในขณะที่มีสัญชาติไทย ถาภายหลังผูนั้น
กรณเี ปลี่ยนสญั ชาติ เปลี่ยนสัญชาติเปนคนตางดาว ใหคงมีสิทธิถือที่ดินไดเทาที่คนตางดาวนั้น
เปนตา งดาว จะพึงมี นอกจากน้ันใหทําการจําหนาย และใหนําบทบัญญัติมาตรา ๙๔ มาใช
บังคบั โดยอนโุ ลม
มาตรา ๙๖ เมื่อปรากฏวาผูใดไดมาซึ่งที่ดินแหงใดในฐานะเปนเจาของ
กรณีถอื แทน
ตางดา ว แทนคนตางดาว หรือนิติบคุ คลตามความในมาตรา ๙๗ หรอื มาตรา ๙๘ ใหอธิบดี
มอี ํานาจทาํ การจาํ หนา ยท่ีดินน้ันและใหนาํ บทบัญญัตมิ าตรา ๙๔ มาใชบังคับโดย
อนโุ ลม
มาตรา ๙๖ ทวิ๖๕ บทบญั ญัติวา ดว ยคนตางดา วจะไดม าซง่ึ ที่ดนิ โดยอาศัย
การนําเงินมาลงทนุ บทสนธิสัญญาตามมาตรา ๘๖ วรรคหน่ึง มิใหใชบงั คบั กับคนตา งดา วซึ่งไดนําเงิน
มาลงทุนตามจํานวนท่ีกําหนดในกฎกระทรวง ซึ่งตองไมต่ํากวาส่ีสิบลานบาท
โดยใหไดมาซึ่งที่ดินเพื่อใชเปนที่อยูอาศัยไดไมเกินหน่ึงไร และตองไดรับอนญุ าต
จากรฐั มนตรี
การไดมาซ่ึงท่ีดินของคนตางดาวตามวรรคหน่ึง ใหเปนไปตามหลักเกณฑ
หลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงื่อนไขทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง โดยในกฎกระทรวง อยา งนอยตอง
มสี าระสําคญั ดงั ตอไปนี้
(๑) ประเภทของธุรกิจที่คนตางดาวลงทุนซึ่งตองเปนประโยชนตอ
- ประกอบธุรกิจ เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ หรือเปนกิจการที่คณะกรรมการสงเสริม
การลงทุนไดประกาศใหเปนกิจการที่สามารถขอรับการสงเสริมการลงทุนตาม
กฎหมายวาดวยการสง เสริมการลงทุนได
๖๕ มาตรา ๙๖ ทวิ เพ่มิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ที่ ๘) พ.ศ. ๒๕๔๒
∗ กฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไข การไดมาซ่ึงที่ดิน เพือ่ ใหเปนท่ีอยูอาศัยของคนตางดาว
พ.ศ. ๒๕๔๕
๔๙
49
(๒) ระยะเวลาการดาํ รงการลงทุนตองไมน อยกวาสามป - ระยะเวลาลงทุน
(๓) บริเวณที่ดินที่อนุญาตใหคนตางดาวไดมาตองอยูภายในเขตกรุงเทพมหานคร - ที่ตัง้ ทด่ี นิ
เขตเมืองพัทยา เขตเทศบาล หรืออยูภายในบริเวณท่ีกําหนดเปนเขตที่อยูอาศัย
ตามกฎหมายวาดวยการผังเมือง
มาตรา ๙๖ ตรี๖๖ คนตางดาวซ่ึงไดรับอนุญาตใหไดมาซึ่งท่ีดินตาม ไมป ฏบิ ัติตาม
มาตรา ๙๖ ทวิ ถา กระทําการผิดหลักเกณฑหรือเงือ่ นไขท่ีกําหนดในกฎกระทรวง เงอื่ นไข/จาํ หนาย
ตามมาตรา ๙๖ ทวิ วรรคสอง ใหจัดการจําหนายที่ดินในสวนที่ตนมีสิทธิภายในเวลา
ที่อธิบดีกําหนด ซ่ึงไมนอยกวาหนึ่งรอยแปดสิบวัน แตไมเกินหน่ึงป ถาพน
กาํ หนดเวลาดงั กลา วใหอ ธิบดีมอี าํ นาจจาํ หนา ยที่ดนิ น้ัน
คนตางดาวซ่ึงไดรับอนุญาตใหไดมาซ่ึงที่ดินตามมาตรา ๙๖ ทวิ ถาไมไดใช ไมใ ชท ด่ี ิน
ที่ดินน้ันเพื่อเปนท่ีอยูอาศัยภายในกําหนดเวลาสองปนับแตวันจดทะเบียนการไดมา จาํ หนา ย
ใหอธบิ ดมี ีอาํ นาจจาํ หนายทีด่ ินนัน้
หมวด ๙
การกําหนดสทิ ธิในท่ดี ินของนิตบิ คุ คลบางประเภท
.
มาตรา ๙๗ นิตบิ คุ คลดงั ตอ ไปน้ีใหมีสิทธใิ นทด่ี นิ ไดเ สมือนกับคนตางดาว นติ ิบุคคลตา งดาว
(๑)๖๗ บริษัทจํากัดหรือบริษัทมหาชนจํากัดที่มีหุนอันเปนทุนจดทะเบียน จาํ นวนหุน
ถือโดยคนตางดาวเกินกวารอยละสี่สิบเกาของทุนจดทะเบียน หรือผูถือหุน
เปน คนตางดา วเกินกวากึง่ จํานวนผถู ือหนุ แลว แตก รณี
เพื่อประโยชนแหงหมวดนี้บริษัทจํากัดใดออกใบหุนชนิดออกใหแกผูถือ ใบหนุ ชนดิ
ใหถ ือวาใบหุน นั้นคนตางดา วเปนผถู ือ
ออกใหแกผ ถู ือ
(๒)๖๘ หา งหนุ สว นจํากดั หรอื หางหนุ สว นสามญั ที่จดทะเบียนแลว ทีม่ ีคน - จํานวนผถู ือหนุ
ตางดาวลงหุนมีมูลคาเกินกวารอยละสี่สิบเกาของทุนท้ังหมด หรือผูเปนหุนสวน
เปนคนตา งดา วเกนิ กวา กึง่ จาํ นวนของผูเปนหนุ สวน แลว แตก รณี
๖๖ มาตรา ๙๖ ตรี เพ่มิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๘) พ.ศ. ๒๕๔๒
๖๗ มาตรา ๙๗ (๑) แกไขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๓๕
๖๘ มาตรา ๙๗ (๒) แกไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบญั ญตั ิแกไ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๓๕
๕๐
50
- จํานวนสมาชกิ (๓) สมาคมรวมท้ังสหกรณที่มีสมาชิกเปนคนตางดาว เกินกวากึ่งจํานวน
หรือกิจกรรม หรือดําเนินกิจการเพื่อประโยชนค นตางดา วโดยเฉพาะ หรือเปนสวนใหญ
วตั ถุประสงคมลู นิธิ
(๔) มูลนธิ ทิ ีม่ ีวตั ถุประสงคเ พ่ือประโยชนคนตา งดา วโดยเฉพาะ หรอื เปน สวนใหญ
ผลการถือหุนของ (๕)๖๙ (ยกเลิก)
นติ ิบุคคลตา งดา ว มาตรา ๙๘๗๐ ในกรณีที่นิติบุคคลท่ีระบุไวในมาตรา ๙๗ เขาถือหุนหรือ
ลงหุน แลวแตกรณีในนิติบุคคลอื่นตามนัยท่ีกลาวในมาตรา ๙๗ ใหถือวา
ไดม าไมช อบ นติ บิ คุ คลอื่นนน้ั เปน คนตางดาว
มาตรา ๙๙๗๑ ในกรณีท่ีนิติบุคคลตามมาตรา ๙๗ หรือมาตรา ๙๘ จะ
เปลยี่ นสภาพ ไดม าหรอื ตองจาํ หนา ยไปซง่ึ สิทธิในทดี่ นิ ใหนาํ บทบญั ญัตใิ นหมวด ๘ มาใชบังคับ
เปน ตางดาว โดยอนุโลม และใหนิติบุคคลดังกลาวมีหนาที่และความรับผิดเชนเดียวกับที่
กาํ หนดไวสาํ หรับคนตางดาวและบุคคลทั่วไป
มาตรา ๑๐๐ นิติบุคคลใดไดมาซ่ึงที่ดินในขณะท่ีไมตองดวยบทบัญญัติ
ของมาตรา ๙๗ และมาตรา ๙๘ ถา ภายหลงั มสี ภาพตอ งดวยบทบญั ญัตใิ นมาตรา ๙๗
หรือมาตรา ๙๘ ใหนาํ บทบญั ญัติมาตรา ๙๕ มาใชบ งั คบั โดยอนุโลม
หมวด ๑๐
การคา ทด่ี ิน๗๒
.
มาตรา ๑๐๑๗๓ (ยกเลิก)
มาตรา ๑๐๒๗๔ (ยกเลิก)
๖๙ มาตรา ๙๗ (๕) ยกเลกิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ท่ี ๔๙ ลงวันที่ ๑๓ มกราคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๒
๗๐ มาตรา ๙๘ แกไ ขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญัติแกไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๓๕
๗๑ มาตรา ๙๙ แกไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๒ หมวด ๑๐ ถกู ยกเลกิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๓ มาตรา ๑๐๑ ยกเลิกโดยพระราชบัญญตั แิ กไ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๗๔ มาตรา ๑๐๒ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแกไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบบั ที่ ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๑
51
หมวด ๑๑ .
คาธรรมเนียม
มาตรา ๑๐๓๗๕ ในการดําเนินการออกหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน การ อตั ราคา ธรรมเนียม
รังวัด การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หรือการทําธุระอ่ืน ๆ เก่ียวกับ
อสังหาริมทรัพย ใหเรียกเก็บคาธรรมเนียมและคาใชจายตามท่ีกําหนดใน
กฎกระทรวง แตต อ งไมเ กนิ อตั ราตามบญั ชีทา ยประมวลกฎหมายนี้
ในกรณีออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตามมาตรา ๕๘ คา ธรรมเนยี ม
ใหเรียกเก็บเฉพาะคาธรรมเนียมเปนคาออกโฉนดท่ีดิน คาออกหนังสือรับรองการ ออกโฉนด
ทําประโยชน คาหลักเขตที่ดิน และคามอบอํานาจในกรณีที่มีการมอบอํานาจ กรณีเดนิ สาํ รวจ
แลวแตกรณี โดยผูมีสิทธิในท่ีดินจะขอรับโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรอง
การทาํ ประโยชนไ ปกอนแตย งั ไมชําระเงนิ คาธรรมเนยี มก็ได และใหพนักงานเจาหนาท่ี
จดแจงการคา งชําระเงินคาธรรมเนียมใหปรากฏในโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรอง
การทําประโยชนนัน้ ถาไดย นื่ คาํ ขอจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมครัง้ แรก ใหผูย ื่น
คําขอเปน ผูช ําระคา ธรรมเนยี มทีค่ า งชําระ๗๖
ในกรณีออกโฉนดท่ีดินตามาตรา ๕๘ ตรี ใหไดรับยกเวนคาธรรมเนียม ยกเวน คาธรรมเนยี ม/
และคาใชจ าย๗๗ คาใชจ า ย ยายแปลง
มาตรา ๑๐๓ ทวิ๗๘ การจดทะเบียนสิทธิและ นิติกรรมเกี่ยวกับ ยกเวน คาธรรมเนยี ม
บริจาคใหราชการ
อสงั หาริมทรัพยท บ่ี ริจาคใหแ กทางราชการ ใหไดรับยกเวน คา ธรรมเนยี ม
๗๕ มาตรา ๑๐๓ แกไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
∗ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
และที่แกไ ขเพ่ิมเติม
๗๖ มาตรา ๑๐๓ วรรคสอง เพ่มิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๗๗ มาตรา ๑๐๓ วรรคสาม เพม่ิ โดยพระราชบัญญัตแิ กไ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘
๗๘ มาตรา ๑๐๓ ทวิ เพม่ิ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๑๖ ลงวันท่ี ๗ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๐
๕๒
52
เสยี คา ธรรมเนียม มาตรา ๑๐๔๗๙ การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในกรณีโอน
ตามราคาประเมิน กรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย ใหผูขอจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรมเสียคาธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโดยคํานวณ
กรณีเกบ็ ตามราคาประเมนิ ทุนทรพั ยตามบัญชรี าคาประเมนิ ทรัพยสนิ ตามกฎหมายวาดวย
คา ธรรมเนยี ม การประเมินราคาทรัพยสนิ เพ่ือประโยชนแหงรัฐ ซงึ่ ใชอยูในวันที่จดทะเบียนสิทธิ
ตามทนุ ทรัพย และนิตกิ รรมนนั้
การขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยในกรณีอ่ืน
นอกจากท่ีกําหนดไวในวรรคหนึ่ง ใหผูขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เสยี คาธรรมเนียมจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม โดยคํานวณตามจาํ นวนทนุ ทรัพย
ท่ผี ูขอจดทะเบียนแสดงตามความเปนจริง
มาตรา ๑๐๕๘๐ (ยกเลิก)
มาตรา ๑๐๕ ทวิ๘๑ (ยกเลิก)
มาตรา ๑๐๕ ตรี๘๒ (ยกเลิก)
มาตรา ๑๐๕ จัตวา๘๓ (ยกเลิก)
มาตรา ๑๐๕ เบญจ๘๔ (ยกเลิก)
มาตรา ๑๐๕ ฉ๘๕ (ยกเลกิ )
มาตรา ๑๐๕ สตั ต๘๖ (ยกเลิก)
๗๙ มาตรา ๑๐๔ แกไ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบบั ท่ี ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘๐ มาตรา ๑๐๕ ยกเลิกโดยพระราชบญั ญัตแิ กไ ขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘๑ มาตรา ๑๐๕ ทวิ ยกเลิกโดยพระราชบญั ญัติแกไ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘๒ มาตรา ๑๐๕ ตรี ยกเลิกโดยพระราชบัญญตั แิ กไ ขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘๓ มาตรา ๑๐๕ จัตวา ยกเลกิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘๔ มาตรา ๑๐๕ เบญจ ยกเลกิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับท่ี ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘๕ มาตรา ๑๐๕ ฉ ยกเลกิ โดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี นิ (ฉบับท่ี ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘๖ มาตรา ๑๐๕ สตั ต ยกเลกิ โดยพระราชบญั ญัติแกไขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๕๓
53
มาตรา ๑๐๕ อฏั ฐ๘๗ (ยกเลิก)
มาตรา ๑๐๖๘๘ (ยกเลิก)
หมวด ๑๒
บทกําหนดโทษ
.
มาตรา ๑๐๗๘๙ ผใู ดไมน าํ พนกั งานเจาหนาทที่ ําการสาํ รวจรงั วดั ทําแผนท่ี - ไมน าํ /ไมปฏบิ ตั ิ
หรือพิสูจนสอบสวนการทําประโยชนในท่ีดินของตน หรือไมตั้งตัวแทนเพื่อการ
ดังกลาว ตามมาตรา ๕๘ หรือมาตรา ๖๙ หรือผูใดฝาฝนหรือไมปฏิบัติตาม
มาตรา ๒๖ หรือมาตรา ๗๐ ตอ งระวางโทษปรับไมเกินหารอยบาท
มาตรา ๑๐๘๙๐ ผูใ ดฝา ฝน มาตรา ๙ อยูก อ นวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฝา ฝน มาตรา ๙
ฉบับน้ีใชบังคับพนักงานเจาหนาท่ีหรือผูซึ่งไดรับมอบหมายจากพนักงาน กอน ปว. ฉบบั ๙๖
เจาหนาท่ีมีอํานาจแจง เปนหนังสอื ใหผูฝาฝนปฏิบัติตามระเบียบท่ีคณะกรรมการ
กําหนด ถาผูฝาฝนเพิกเฉยหรือไมปฏิบัติใหถูกตองตามระเบียบ ใหพนักงาน
เจา หนาที่มคี าํ สง่ั เปน หนงั สือใหผ ฝู า ฝน ออกจากทีด่ ินและหรือรื้อถอนสิ่งปลูกสราง
ในที่ดินน้ันภายในระยะเวลาท่ีกําหนด ถาไมปฏิบัติตามคําสั่งของพนักงาน
เจาหนาท่ี ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหน่ึงป หรือปรบั ไมเกินหาพันบาท หรือท้ังจํา
ทั้งปรบั
ในการกําหนดระเบียบตามวรรคหนง่ึ คณะกรรมการจะกําหนดใหผูฝาฝน
ตองเสียคาตอบแทนในการใชที่ดินน้ันใหแกรัฐหรือราชการบริหารสวนทองถ่ิน
ดว ยก็ได
๘๗ มาตรา ๑๐๕ อัฏฐ ยกเลิกโดยพระราชบญั ญัตแิ กไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบับที่ ๑๕) พ.ศ. ๒๕๖๒
๘๘ มาตรา ๑๐๖ ยกเลกิ โดยพระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔
๘๙ มาตรา ๑๐๗ แกไ ขเพม่ิ เติมโดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับที่ ๙๖ ลงวนั ท่ี ๒๙ กมุ ภาพนั ธ พทุ ธศกั ราช
๒๕๑๕
๙๐ มาตรา ๑๐๘ แกไขเพมิ่ เติมโดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบับท่ี ๙๖ ลงวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ พุทธศักราช ๒๕๑๕
∗ ระเบียบคณะกรรมการจดั ท่ดี ินแหง ชาติ ฉบบั ท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๑๕)
๕๔
54
ฝาฝน มาตรา ๙ มาตรา ๑๐๘ ทวิ๙๑ นับตั้งแตวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับน้ีใช
หลัง ปว. ฉบบั ๙๖ บังคับ ผูใดฝาฝนมาตรา ๙ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งป หรือปรับไมเกินหาพัน
บาท หรอื ทั้งจาํ ทัง้ ปรบั
ขดั ขวางการ
ปฏิบัติงาน ถาความผดิ ตามวรรคหนึ่งไดก ระทําแกท ด่ี ินซ่งึ เปนสาธารณสมบัติของแผนดิน
- ยา ยหลกั เขต ทป่ี ระชาชนใชรวมกัน หรือทีใ่ ชเพื่อประโยชนของแผนดินโดยเฉพาะ ตองระวางโทษ
- ไมใ หถ อ ยคาํ จําคุกไมเ กนิ สามป หรอื ปรบั ไมเกนิ หนง่ึ หม่นื บาท หรอื ทัง้ จาํ ท้งั ปรับ
คนตางดาวฝาฝน
ถา ความผดิ ตามวรรคสองไดก ระทําเปน เนอ้ื ทเ่ี กินกวาหาสิบไร ตองระวางโทษ
จาํ คุกไมเ กินหา ป หรอื ปรบั ไมเ กินสองหมื่นบาท หรอื ทง้ั จาํ ท้ังปรับ
ในกรณีท่ีมีคําพิพากษาวาผูใดกระทําความผิดตามมาตราน้ี ศาลมีอํานาจ
สั่งในคําพิพากษาใหผูกระทําความผิด คนงาน ผูรับจาง ผูแทน และบริวารของ
ผูก ระทาํ ความผดิ ออกไปจากทด่ี นิ นนั้ ดวย
บรรดาเคร่อื งมอื เครื่องใช สัตวพาหนะ ยานพาหนะ หรือเคร่ืองจักรกลใด ๆ
ซ่ึงบุคคลไดใชในการกระทําความผิด หรือไดใชเปนอุปกรณใหไดรับผลในการ
กระทําความผิดดังกลาว ใหริบเสียท้ังสิ้น ไมวาจะมีผูถูกลงโทษตามคําพิพากษา
หรอื ไม
มาตรา ๑๐๘ ตรี๙๒ ผูใดขัดขวางหรือไมใหความสะดวกตอพนักงาน
เจา หนา ท่ีซง่ึ ปฏบิ ตั หิ นา ท่ีตามมาตรา ๖๖ ตอ งระวางโทษปรบั ไมเ กนิ หนึ่งพนั บาท
มาตรา ๑๐๙ ผูใดฝาฝน หรือไมปฏิบัติตามาตรา ๓๘ มาตรา ๖๗ หรือ
มาตรา ๗๔ มีความผิดตองระวางโทษปรับไมเกินสองพันบาท หรือจําคุกไมเกิน
สามเดือน หรือท้ังปรับท้งั จาํ
มาตรา ๑๑๐ ผูใดฝาฝน หรือไมปฏิบัติตามาตรา ๘๙ มีความผิด
ตองระวางโทษปรบั ไมเกนิ สามพนั บาท หรอื จาํ คุกไมเ กินหกเดือน หรอื ท้งั ปรับทัง้ จาํ
มาตรา ๑๑๑๙๓ ผูใดฝาฝน หรือไมปฏิบัติตามมาตรา ๘๖ มีความผิด
ตองระวางโทษปรบั ไมเ กินสองหม่ืนบาท หรอื จําคุกไมเกินสองป หรอื ทั้งปรบั ท้ังจํา
๙๑ มาตรา ๑๐๘ ทวิ เพมิ่ โดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๙๖ ลงวันท่ี ๒๙ กมุ ภาพนั ธ พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
๙๒ มาตรา ๑๐๘ ตรี เพิม่ โดยประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ที่ ๙๖ ลงวนั ท่ี ๒๙ กุมภาพันธ พุทธศกั ราช ๒๕๑๕
๙๓ มาตรา ๑๑๑ แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญัตแิ กไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๕
55
มาตรา ๑๑๒ นติ บิ คุ คลใด ความผดิ นติ บิ คุ คล
(๑) ไดมาซง่ึ ท่ีดนิ เปนการฝาฝน บทแหง ประมวลกฎหมายนี้
(๒) ใชทด่ี ินนัน้ เพื่อกจิ การอืน่ นอกจากท่ีไดรับอนญุ าต
(๓) ใชที่ดินผิดเง่ือนไขที่คณะรัฐมนตรีกําหนดตามความในมาตรา ๙๙
ประกอบดวย มาตรา ๘๗ วรรคสอง
(๔) ไมแจงการไมใชที่ดินตามความในมาตรา ๙๙ ประกอบดวยมาตรา ๘๙
หรอื
(๕)๙๔ (ยกเลิก)
มคี วามผิดตอ งระวางโทษปรับไมเ กนิ หา หมืน่ บาท
มาตรา ๑๑๓ ผูใดไดม าซึง่ ทีด่ นิ ในฐานะเปนตัวแทนของคนตางดาว หรือ ตวั แทนตางดา ว
นิติบุคคลตามความในมาตรา ๙๗ หรือมาตรา ๙๘ มคี วามผิดตองระวางโทษปรับ
ไมเ กินสองหม่นื บาท หรอื จําคกุ ไมเ กนิ สองป หรือทง้ั ปรบั ทง้ั จาํ
(ราชกิจจานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๗๘ (ฉบับพเิ ศษ) วนั ท่ี ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๗)
๙๔ มาตรา ๑๑๒ (๕) ยกเลกิ โดยพระราชบญั ญตั ิแกไขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบบั ท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๖
56
บญั ชีอัตราคา ธรรมเนียมและคาใชจ ายทา ยประมวลกฎหมายที่ดนิ ๙๕
๑. คาธรรมเนียมในการขอสมั ปทาน รายละ ๕๐๐ บาท
๒. คา สมั ปทานปห น่งึ ไรละ ๒๐ บาท
เศษของไรใหค ดิ เปนหนึ่งไร ๓๐ บาท
๓. คาธรรมเนยี มออกหนังสือรับรองการทาํ ประโยชน ๒ บาท
(๑) ทีด่ ินเน้ือที่ไมเกิน ๒๐ ไร แปลงละ ๓๐ บาท
(๒) ทีด่ นิ เนือ้ ที่เกิน ๒๐ ไร สวนทีเ่ กิน ไรล ะ ๓๐ บาท
๓๐ บาท
เศษของไรใ หคดิ เปนหน่ึงไร ๓๐ บาท
๔. คาธรรมเนียมการพิสูจนส อบสวนหรือตรวจสอบเน้ือทีเ่ กีย่ วกบั หนังสือ ๑๐ บาท
รับรองการทําประโยชน ๕๐ บาท
(๑) ถา เรยี กเปนรายแปลง แปลงละ ๒ บาท
(๒) ถา เรยี กเปนรายวนั วนั ละ
(๓) คาคดั หรือจาํ ลองแผนที่ แปลงละ ๔๐ บาท
(๔) คา คํานวณเนือ้ ที่หรือสอบแส แปลงละ ๔๐ บาท
(๕) คา จับระยะ แปลงละ ๓๐ บาท
๕. คา ธรรมเนียมออกโฉนดท่ีดิน
(๑) ท่ีดนิ เนอื้ ท่ีไมเกิน ๒๐ ไร แปลงละ
(๒) ทดี่ ินเนื้อที่เกิน ๒๐ ไร สวนท่ีเกนิ ไรล ะ
เศษของไรใ หค ิดเปน หน่ึงไร
๖. คา ธรรมเนยี มรังวดั เกย่ี วกบั โฉนดท่ดี นิ
(๑) ถา เรยี กเปนรายแปลง แปลงละ
(๒) ถา เรียกเปน รายวัน วนั ละ
(๓) คาคดั หรือจําลองแผนที่ แปลงละ
๙๕ บญั ชีอัตราคาธรรมเนียมและคาใชจายทายประมวลกฎหมายที่ดิน แกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแกไข
เพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี ิน (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๒๑
๕๗
57
(๔) คา คาํ นวณเนือ้ ท่ีหรือสอบแส แปลงละ ๓๐ บาท
(๕) คา จบั ระยะ แปลงละ ๑๐ บาท
๗.๙๖ คา ธรรมเนยี มจดทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรม
(๑) มีทุนทรัพยใ หเรียกเกบ็ รอยละ ๒ ของราคาประเมนิ ทุนทรัพย
สาํ หรบั การขอจดทะเบียนสทิ ธิ และนติ ิกรรมโอนกรรมสิทธ์ิ
หรอื สิทธิครอบครองในทีด่ ินหรอื อสงั หาริมทรพั ย
สวนกรณอี ื่นใหเ รียกเกบ็ รอ ยละ ๒
ของจํานวนทุนทรพั ยท ีผ่ ูขอจดทะเบียน
แสดงตามความเปน จริงเศษของรอ ยใหคดิ เปน หนึ่งรอ ย
(๒) ไมมที นุ ทรพั ย แปลงละ ๑,๐๐๐ บาท
๘. คา ธรรมเนียมการขอใหไดม าซึ่งทด่ี ินของคนตางดา ว รายละ ๕๐๐ บาท
คาอนุญาต ไรล ะ ๑๐๐ บาท
เศษของไรใหคดิ เปนหน่ึงไร
๙.๙๗ (ยกเลิก)
๑๐. คา ธรรมเนยี มเบ็ดเตลด็
(๑) คาคําขอ แปลงละ ๕ บาท
(๒) คาคดั สําเนาเอกสารตา ง ๆ รวมทง้ั คาคดั สําเนา
เอกสารเปนพยานในคดแี พงโดยเจา หนา ท่ีเปน ผูคดั
รอยคําแรกหรือไมถงึ รอยคาํ ๑๐ บาท
รอ ยคาํ ตอ ไป รอยละ ๕ บาท
เศษของรอยใหคดิ เปน หน่ึงรอ ย
(๓) คารบั รองเอกสารทีค่ ดั ฉบับละ ๑๐ บาท
(๔) คาตรวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ีดนิ แปลงละ ๑๐ บาท
๙๖ บัญชีอัตราคาธรรมเนียมและคาใชจายทายประมวลกฎหมายท่ีดิน ๗. แกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ
แกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายทีด่ นิ (ฉบบั ที่ ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓
๙๗ บัญชีอัตราคาธรรมเนียมและคาใชจายทายประมวลกฎหมายท่ีดิน ๙. ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแกไข
เพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ (ฉบับท่ี ๑๒) พ.ศ. ๒๕๕๑
๕๘
58
(๕) คารับอายดั ที่ดนิ แปลงละ ๑๐ บาท
(๖) คา มอบอาํ นาจ เรื่องละ ๒๐ บาท
(๗) คา ออกใบแทนโฉนดทด่ี ินหรือหนังสือแสดงสิทธิ
ในทีด่ นิ อยา งอน่ื ฉบับละ ๕๐ บาท
(๘) คาประกาศ แปลงละ ๑๐ บาท
(๙) คา หลกั เขตท่ีดนิ หลักละ ๑๕ บาท
ถา เปน การเดนิ สาํ รวจหรอื สอบเขตท้ังตาํ บลสาํ หรบั
กรณอี อกโฉนดคิดเปน รายแปลง แปลงละ ๖๐ บาท
(๑๐)๙๘ คาตรวจสอบขอมลู ดา นงานรังวดั ดา นทะเบียนที่ดิน
ดานประเมินราคาหรอื ขอ มลู อ่ืนครั้งละ ๑๐๐ บาท
(๑๑)๙๙ คาสาํ เนาจากส่อื บันทึกขอ มูลทางคอมพิวเตอร
หรอื ส่ืออิเล็กทรอนิกสอน่ื หรือสําเนาขอมูลอน่ื แผนละ ๕๐ บาท
๑๑.๑๐๐ คาใชจา ย
(๑) คาพาหนะเดินทางใหแกเ จาพนักงาน ใหจา ยในลักษณะเหมาจาย
พนกั งานเจาหนา ที่ และคนงานท่จี า ง ตามระเบียบกระทรวง
ไปทาํ การรงั วดั เก่ยี วกบั โฉนดทด่ี ิน หรือ มหาดไทยดว ยความเหน็ ชอบ
พสิ จู นสอบสวน หรือตรวจสอบเนอื้ ที่ ของกระทรวงการคลงั
เกีย่ วกบั หนงั สอื รับรองการทําประโยชน
ตามคาํ ขอ
๙๘ บัญชีอัตราคาธรรมเนียมและคาใชจายทายประมวลกฎหมายที่ดิน ๑๐. (๑๐) เพ่ิมโดย
พระราชบญั ญตั แิ กไขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ (ฉบบั ท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓
๙๙ บัญชีอัตราคาธรรมเนียมและคาใชจายทายประมวลกฎหมายท่ีดิน ๑๐. (๑๑) เพิ่มโดย
พระราชบัญญตั แิ กไ ขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายทดี่ ิน (ฉบับท่ี ๙) พ.ศ. ๒๕๔๓
๑๐๐ บัญชีอัตราคาธรรมเนียมและคาใชจายทายประมวลกฎหมายที่ดิน ๑๑. แกไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบญั ญตั แิ กไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบบั ท่ี ๗) พ.ศ. ๒๕๔๑
๕๙
59
(๒) คา เบ้ยี เลย้ี งใหแกเ จา พนักงาน ใหจา ยในลักษณะเหมาจา ย
พนักงานเจา หนาท่ี และคา จา งคนงาน ตามระเบยี บกระทรวง
ที่จา งไปทําการรังวัดเก่ยี วกับโฉนดท่ดี นิ มหาดไทยดว ยความ
หรือพิสจู นส อบสวน หรือตรวจสอบเน้อื ที่ เห็นชอบของ
เกี่ยวกบั หนงั สอื รบั รองการทําประโยชน กระทรวงการคลงั
ตามคําขอ
๑๐๐ บาท
(๓) คาปวยการใหแ กเ จา พนักงานผูปกครอง ใหจ า ยในลกั ษณะเหมาจาย
ทองท่ีหรือผแู ทนท่ีไปในการรงั วดั เกยี่ วกบั ตามระเบยี บกระทรวง
โฉนดท่ีดิน หรือพิสจู นสอบสวน หรอื มหาดไทยดวยความเหน็ ชอบ
ตรวจสอบเน้ือทเ่ี กย่ี วกบั หนงั สือรบั รอง ของกระทรวงการคลงั
การทําประโยชน คนหน่ึง วันละ
๒๐ บาท
(๔) คาใชจา ยอ่นื ๆ ในการรงั วัดเกย่ี วกับ ๒๐ บาท
โฉนดท่ดี ิน หรือพสิ จู นสอบสวน หรอื
ตรวจสอบเน้ือที่เก่ียวกบั หนงั สอื รบั รอง
การทาํ ประโยชน
(๕) คา ปดประกาศใหแ กผ ปู ดประกาศ แปลงละ
(๖) คาพยานใหแกพ ยาน คนละ
๖๐
60
บญั ชคี า ตอบแทนทายประมวลกฎหมายที่ดิน
คา ตอบแทนในการอนญุ าต ๑,๐๐๐ บาทตอป
(๑) ตามมาตรา ๙ (๑) ไรล ะ
(๒) ตามมาตรา ๙ (๒) หรอื มาตรา ๙ (๓) ๒๘ บาท
๑๐,๐๐๐ บาทตอ ป
(ก) การขุดหรือดูดทราย ลูกบาศก เมตรละ
(ข) การขดุ ดนิ หรือลูกรังหรืออื่น ๆ ไรล ะ ๑๐ บาท
หรือลูกบาศกเ มตรละ
๖๑
กฎกระทรวง
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ช
ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๖๓
63
กฎกระทรวง
ฉบบั ที่ ๓ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๓๘ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไวดังตอ ไปนี้
ขอ ๑ บคุ คลใดมีทด่ี ินเกนิ กวาสทิ ธิตามจํานวนทก่ี ําหนดไวในมาตรา ๓๔ มีทีด่ ินเกินสทิ ธิ
และมีหนา ที่แจง ตามมาตรา ๓๘ (๑) ใหแ จงตามแบบ จ.ส. ๑ ทา ยกฎกระทรวงน้ี หนาทต่ี องแจง
ขอ ๒ การแจงตามความในขอ ๑ ใหกรอกจํานวนท่ีดิน ซ่ึงผูแจงมีอยู วธิ ีการแจง
ทุกแปลงรวมลงในแบบแจงฉบับเดียว ในกรณีที่ผูแจงถือสิทธิในที่ดินเพ่ือ
ประโยชนของบุคคลอื่นตามมาตรา ๔๑ หรือมาตรา ๔๒ ใหระบุลงไวในชอง
หมายเหตขุ องแบบ จ.ส. ๑ ดวย การระบุในชองหมายเหตุดังกลาวไมกระทบกระเทือน
หนาที่ที่จะตองแจงตามความในมาตรา ๔๑ หรือมาตรา ๔๒ อีกช้ันหนึ่งและให
ระบุถึงขอ เท็จจริงท่ีทําใหผ แู จงมีสิทธใิ นทด่ี ินเกนิ กาํ หนด (ถา มี) ไวดว ย
ขอ ๓ ในกรณีที่บุคคลหลายคนมสี ิทธใิ นทด่ี นิ แปลงเดียวรว มกนั ใหแตละคน กรณถี อื สทิ ธริ วมกัน
ลงรายการจาํ นวนท่ีดนิ แปลงน้นั ทง้ั แปลงในแบบแจง ของตน แตใ หระบุไวใ นชอ ง หลายคน
หมายเหตใุ หทราบวา มสี ิทธิรว มกับบคุ คลใดบา ง และใหบคุ คลผเู ปนเจาของรว ม
ลงลายมือชื่อกาํ กับไวในชอ งหมายเหตดุ วย
ในกรณีทเี่ จา ของรว มไมไดล งลายมอื ชือ่ กใ็ หหมายเหตุไวในชองหมายเหตุ กรณเี จาของรวม
ไมไ ดล งช่ือ
วา เจา ของรว มไมไดล งลายมือชอ่ื เพราะเหตใุ ด
๖๔
64
เจา หนาท่ี ขอ ๔ พนกั งานเจาหนาทผ่ี รู ับแจง คือ
ผูรบั แจง (๑) เจา พนักงานทดี่ ินในทอ งทซ่ี ึง่ มสี าํ นักงานทดี่ นิ หรือ
กรณีมีหลายทอ งท่ี (๒) นายอําเภอหรอื ปลดั อาํ เภอผเู ปนหัวหนาประจํากิ่งอําเภอในทองที่ซึ่ง
ออกใบรบั ไมม สี าํ นกั งานทดี่ ิน
การมสี ิทธิ
เปล่ยี นแปลง ขอ ๕ การแจงใหแจงตอพนักงานเจาหนาท่ีในทองที่ซึ่งที่ดินต้ังอยู และ
ในกรณีท่ีมีท่ีดินหลายแปลง จะแจงตอพนักงานเจาหนาที่ในทองท่ีซึ่งที่ดินแปลงใด
แปลงหนึง่ ตงั้ อยูกไ็ ด
ขอ ๖ เมื่อพนกั งานเจาหนา ที่ไดรบั แบบ จ.ส. ๑ ไวแลวใหอ อกใบรับมอบ
ใหผ ูแ จงยึดถือไวเปน หลกั ฐาน
ขอ ๗ บคุ คลใดมที ีด่ ินเกนิ กวา สิทธิตามจํานวนที่กําหนดไวในมาตรา ๓๔
และมีหนาท่ีแจงตามมาตรา ๓๘ (๒) ใหแจงตอพนักงานเจาหนาท่ีผูรับ
จดทะเบียนในขณะที่ทําการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามแบบ จ.ส. ๑
ทายกฎกระทรวงนี้ แตใหระบุในชองหมายเหตุถึงกรณีที่ขอเท็จจริงแหงสทิ ธิในท่ีดิน
ไดเ ปล่ยี นแปลงไปดวย
ใหไ ว ณ วนั ที่ ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรอื โท สุนาวินวิวฒั
รฐั มนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย
(ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๘๒ (ฉบบั พิเศษ) ลงวันท่ี ๑๑ ธนั วาคม ๒๔๙๗)
๖๕
65
๖๗
67
กฎกระทรวง
ฉบบั ที่ ๔ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง พระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๕๐ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไวด ังตอ ไปน้ี
ขอ ๑. ในการท่ีอธิบดีใชอาํ นาจจําหนายที่ดินโดยการขายหรือใหเชาซื้อ อธบิ ดีจําหนา ยท่ดี นิ
ใหปฏบิ ตั ิ ดงั นี้
(๑) กรณีขาย ใหขายโดยวิธซี ้ือขายธรรมดา โดยการประกวดราคา หรือ - ขาย
โดยการทอดตลาด
(๒) กรณใี หเชาซอ้ื ใหปฏิบตั ิตามความใน (๑) โดยอนโุ ลม - เชา ซอ้ื
ขอ ๒. ผมู ีสิทธ์ิในท่ีดินท่ีจะเสนอความเห็นตออธิบดีวา ในการขายหรือ ผมู ีสิทธใิ นทีด่ นิ
การใหเชาซื้อน้ันควรจะใชวิธีซื้อขายธรรมดา การประกวดราคา หรือการ เสนอวธิ ีจาํ หนา ย
ทอดตลาดกไ็ ด
ขอ ๓. การขายหรือการใหเชาซื้อ ใหดําเนินการในทองที่ซ่ึงที่ดินต้ังอยู ประกาศการ
กอนท่ีจะทําการขายหรือใหเชาซื้อที่ดินแปลงใดตองประกาศใหประชาชนทราบ จาํ หนา ย
มกี าํ หนด ๓๐ วัน ประกาศน้นั ใหปด ไวในที่เปดเผย ณ สํานักงานที่ดินจังหวัดหรือ
สํานักงานที่ดินสาขา ๑ ฉบับ ณ ท่ีวาการอําเภอหรือกิ่งอําเภอทองที่ ๑ ฉบับ
ที่บานกํานัน ๑ ฉบับ และในบริเวณที่ดินที่จะขาย ๑ ฉบับ ในเขตเทศบาลใหปดไว
ณ สํานกั งานเทศบาล ๑ ฉบับ และจะประกาศในหนงั สอื พมิ พรายวนั ดว ยก็ได
๖๘
68
กรณีมผี เู สนอสูง ขอ ๔. เม่ือหมดกาํ หนดระยะเวลาประกาศใหขายหรือใหเชาซื้อท่ีดินตาม
หรือตาํ่ กวาราคา ขอ ๓ ถา มผี ูเสนอขอตกลงซอ้ื หรอื ขอเชา ซอื้ เทา กับหรอื สูงกวา ราคาท่ีบัญญัติไวใน
ทก่ี าํ หนด มาตรา ๕๒ ก็ใหขายหรือใหเชาซ้ือไปได แตถามีผูเสนอขอซ้ือตํ่ากวาราคาที่
บัญญัติไวในมาตรา ๕๒ เมอื่ ผมู ีสทิ ธิในทดี่ ินยินยอมกใ็ หข ายหรอื ใหเ ชา ซ้อื ไปได
ชําระ ๒๐ % กอน
ขอ ๕. เมื่อมีการตกลงซื้อขายหรือใหเชาซื้อกันแลว ใหผูซ้ือหรอื ผูเชาซ้ือ
ชาํ ระราคาทด่ี ินไวร อ ยละย่ีสิบกอน สวนราคาที่ดินท่ีเหลือนั้นสําหรับกรณีซ้ือขาย
เด็ดขาดใหชําระใหเสร็จในเมื่อจดทะเบียนโอนที่ดินตอพนักงานเจาหนาท่ี
สาํ หรับกรณเี ชา ซ้ือโดยผอนชําระราคาใหคํานวณราคาท่ีจะพึงผอนชําระเปนงวด ๆ
ใหเสรจ็ ส้ินภายในกาํ หนดเวลาทรี่ ะบไุ วในมาตรา ๕๔
ใหไว ณ วนั ที่ ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรือโท สุนาวนิ วิวัฒ
รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทย
(ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เลม ๗๑ ตอนท่ี ๘๒ (ฉบบั พิเศษ) ลงวันท่ี ๑๑ ธนั วาคม ๒๔๙๗)
๖๙
69
กฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๖ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๖๕ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดังตอ ไปนี้
ขอ ๑ การรังวัดทาํ แผนท่ีเพือ่ ออกโฉนดท่ีดนิ ใหกระทาํ ได ๒ วิธี คือ วธิ ีการรังวดั
(๑)๑ แผนท่ีช้ันหน่ึง กระทําโดยการใชกลองธีโอโดไลทและเคร่ืองมือ - แผนทช่ี ้ันหนึง่
วัดระยะโยงยึดหลักเขตวัดงามมุม ภาคของทิศ หรือใชกลองสํารวจแบบประมวลผล
หรือการรังวัดดวยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมหรือดวยเครื่องมือสํารวจประเภท
อื่นท่ีมีความละเอียดถูกตองไมต่ํากวาเกณฑมาตรฐานท่ีกรมที่ดินกําหนด
โดยคํานวณเปนคาพิกัดฉากสืบเนื่องจากหมุดหลักฐานแผนที่ของกรมที่ดิน
และคาํ นวณพืน้ ทโ่ี ดยวิธีคณติ ศาสตรจากคาพกิ ดั ฉากของแตล ะมมุ เขต
(๒) แผนที่ช้ันสอง ซ่ึงใชแผนที่ระวางเปนหลักกระทําโดยวิธีวัดระยะ - แผนทช่ี ั้นสอง
เปนมุมฉากหรือวัดระยะสกัดเปนรูปสามเหลี่ยมจากเสนหมุดหลักฐานโครงงาน
แผนที่หรือโดยวิธีจากรูปถายทางอากาศ และคํานวณเน้ือท่ีโดยวิธีคณิตศาสตร
หรอื โดยมาตราสว น
ทีด่ นิ บริเวณใดควรกระทาํ โดยวธิ ใี ด ใหอธิบดีกําหนด อธิบดกี าํ หนดวิธี
๑ ขอ ๑ (๑) แกไขเพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๙ (พ.ศ. ๒๕๔๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๗๐
70
การรังวดั ตอ ง ขอ ๒. ท่ีดินในแผนท่ีระวางออกโฉนดที่ดินซ่ึงทําการรังวัดเพ่ือออกโฉนด
มาตรฐานเทาเดมิ ท่ีดนิ ไวแลวโดยวิธีแผนท่ีช้ันหน่ึงหรือโดยวิธีแผนท่ีช้ันสอง เมื่อมีความจําเปนตอง
หรือดีกวา
รังวดั ใหม ใหทาํ การรงั วัดโดยมมี าตรฐานเทา เดิมหรือดีกวา
กรณีเขตทีด่ นิ เปน ขอ ๓. เพื่อใหเสนเขตที่ดินท่ีทําการรังวัดเปนเสนตรงไมคดไปคดมา
เสน คด
ใหเ จา ของท่ีดินท้ังสองฝายทําความตกลงกําหนดเสนเขตเสียใหม ใหเปนเสนตรง
เสนเดียวหรือหลายเสนตอกันไดเมื่อตกลงกันประการใด ใหพนักงานเจาหนาที่
ทําการรังวดั ไปตามนน้ั
ใหไ ว ณ วันที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรอื โท สนุ าวนิ วิวัฒ
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
(ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เลม ๗๑ ตอนที่ ๘๒ (ฉบบั พิเศษ) ลงวนั ท่ี ๑๑ ธนั วาคม ๒๔๙๗)
๗๑
71
กฎกระทรวง
ฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชป ระมวลกฎหมายท่ีดิน
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๗๗ มาตรา ๗๘ แหงประมวลกฎหมาย
ทด่ี นิ รฐั มนตรีวา การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไวด งั ตอ ไปน้ี
ขอ ๑๑ ภายใตบังคับขอ ๘ และขอ ๙ บุคคลใดมีความประสงคจะขอ การยน่ื คาํ ขอ
ทําการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ใหบุคคลนั้นย่ืนคําขอตามแบบ ท.ด. ๑
สําหรับที่ดินท่ีมีโฉนดที่ดิน หรือแบบ ท.ด. ๑ ก สําหรับที่ดินที่ยังไมมีโฉนดที่ดิน
และอสังหาริมทรัพยอยางอื่น พรอมทั้งแนบหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินหรือ
หลกั ฐานอยา งอืน่ ตอพนักงานเจาหนาที่
แบบ ท.ด. ๑ และแบบ ท.ด. ๑ ก ตามวรรคหนึ่งใหเปนไปตามท่ีอธิบดี แบบ ท.ด. ๑
ประกาศกําหนด
ขอ ๒ กอนทําการจดทะเบยี นใหพนักงานเจาหนาท่ีสอบสวนในเรื่อง การสอบสวน
ดงั ตอไปน้ีดวย คือ
(๑) สิทธิและความสามารถของบุคคลรวมตลอดถึงความสมบูรณแหง
นิตกิ รรมตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
๑ ความในขอ ๑ แกไขเพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕๒ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๗๒
72
ตรวจสอบสภาพ (๒) ขอกําหนดสิทธิในท่ีดินและการคาที่ดิน หรือการหลีกเลี่ยงกฎหมาย
การจดั ทาํ เอกสาร
กรณีตองประกาศ เชน การไดมาซึ่งทดี่ นิ เพอื่ ประโยชนแ กคนตา งดา ว
(๓) การกาํ หนดทุนทรัพยสําหรบั เสียคา ธรรมเนยี มในการจดทะเบียน
สถานทป่ี ด ประกาศ ขอ ๓ ในกรณีที่เห็นเปนการสมควร พนักงานเจาหนาท่ีจะใหคูกรณี
ขอ ยกเวน ไมต อ ง
ประกาศ นํ า พ นั ก ง า น เ จ า ห น า ที่ ห รื อ เ จ า ห น า ท่ี อื่ น ไ ป ต ร ว จ ส ภ า พ ข อ ง ที่ ดิ น ห รื อ
อสังหารมิ ทรพั ยอ ยา งอื่น โดยคูกรณีเปนผูออกคาใชจายเองกไ็ ด
ขอ ๔ นติ ิกรรมท่คี ูกรณีขอใหจดทะเบียนนั้น ถาทําในรูปหนังสือสญั ญา
ใหทําเปนคูฉบับเพื่อเก็บไว ณ สํานักงานที่ดิน ๑ ฉบับ และมอบใหเปนผูฝายอีก
๑ ฉบับ หรือ ๒ ฉบับ แลวแตกรณี ถาทําเปนรูปบันทึกขอตกลงใหทํา ๑ ฉบับ
เพ่ือเก็บไว ณ สํานกั งานที่ดิน
ขอ ๕๒ การจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรมเก่ียวกับที่ดินทยี่ ังไมมีโฉนดท่ีดิน
ใบไตส วน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตามแบบ น.ส.๓ ก. หรือเก่ียวกับ
อสังหาริมทรัพยอยางอื่นในที่ดินดังกลาว หรือเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยอยางอ่ืน
ในที่ดินท่ีมีโฉนดท่ีดิน ใบไตสวนหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตามแบบ
น.ส. ๓ ก. ในกรณีไมรวมกับท่ีดินดังกลาว ใหประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิ
และนติ ิกรรมมีกําหนดสามสิบวัน
ประกาศตามวรรคหนึ่งใหปดไวในท่ีเปดเผย ณ สํานักงานท่ีดินทองท่ี
ซ่ึงที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนต้ังอยู สํานักงานเขตหรือท่ีวาการอําเภอหรือ
ท่ีวาการกิ่งอําเภอทองที่ ท่ีทําการแขวงหรือที่ทําการกํานันทองท่ี และบริเวณ
ทด่ี ินหรอื อสังหารมิ ทรัพยน น้ั แหง ละหน่งึ ฉบบั
ขอ ๖๓ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมดังตอไปนี้ ไมตองประกาศ
ตามความในขอ ๕ คือ
๒ ความในขอ ๕ แกไ ขเพิ่มเตมิ โดย กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๓ ความในขอ ๖ แกไขเพ่ิมเตมิ โดย กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๒๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๗๓
73
(๑) การจดทะเบียนเลกิ สิทธหิ รอื นติ ิกรรม เชน เลกิ เชา เลิกการจํายอม
เปน ตน
(๒) การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมท่ีเกี่ยวเนื่องกับการจํานอง เชน
การไถถ อน การขน้ึ เงนิ การผอนตน การโอนสทิ ธิ การโอนหลุดเปนสิทธิ การโอน
ชาํ ระหนีจ้ าํ นอง การแกไขเปลี่ยนแปลงจํานองหรือหน้ีอันจํานองเปนประกนั เปนตน
(๓) การไถถอนจากการขายฝาก การปลดเงื่อนไขการไถหรือการโอนสิทธิ
การไถถอนจากการขายฝาก
(๔) การจดทะเบียนการไดมาจากการขายทอดตลอดโดยมีการบังคับคดี
ทางศาล
(๕) การจดทะเบียนตาม (๒) (๓) หรือ (๔) แลวจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมประเภทอ่นื ตอไปในวนั เดียวกนั
(๖) เมื่อมีการประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทหน่ึง
ประเภทใดไวครบกําหนดแลว ตอ มามีการตกลงเปลี่ยนประเภทการจดทะเบียน
หรือเปลี่ยนคูกรณีฝา ยผูรบั สัญญา
(๗) การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทหน่ึงประเภทใดซ่ึงได
กระทําติดตอในวันเดียวกันเม่ือการจดทะเบียนลําดับแรกนั้นมีการประกาศตาม
ขอ ๕ แลว
(๘) การจะทะเบยี นการโอนตามคาํ สง่ั ศาล
(๙) การจดทะเบียนการโอนตามคําสั่งพนักงานเจาหนาที่ผูมีอํานาจ
ตามกฎหมายอน่ื
(๑๐) การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับทดี่ ินท่ีมีหนังสือรับรอง
การทาํ ประโยชนตามแบบ น.ส. ๓ ก. หรืออสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนในท่ดี ินดังกลาว
รวมกับทด่ี ิน
๗๔
74
กรณมี ีการคัดคา น ขอ ๗ ในการประกาศตามความในขอ ๕. ถาไมมีผูใดคัดคานภายใน
กาํ หนดเวลาแลวใหด าํ เนินการจดทะเบยี นตอ ไป ในกรณีท่ีมีผคู ัดคาน ใหพ นักงาน
จดครอบครอง เจาหนาท่ีสอบสวนพยานหลักฐานและทําการเปรียบเทียบทั้งสองฝาย ถาตกลง
ปรปก ษ กันได ใหทําหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความไวแลวดําเนินการตามน้ัน
คาํ พิพากษาถึงที่สุด ถาตกลงกันไมไดใหงดดําเนินการไวแลวแจงใหท้ังสองฝายไปจัดการฟองรอง
“ไดมาโดยการ วากลาวกันตอไป และเม่ือมีคําพิพากษาถึงที่สุดแลวจึงดําเนินการจดทะเบียน
ครอบครอง” ตามผลแหง คําพพิ ากษา
ตกลง “ไดมาโดย
การครอบครอง” ขอ ๘ การจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ซึ่งไดมาตามประมวลกฎหมายแพงและ
พาณิชยมาตรา ๑๓๘๒ ใหด ําเนนิ การดังน้ี
ตกลงไมไ ด “แบง
ไดม าโดยการ (๑) ผูไดมาตองย่ืนคําขอตอพนักงานเจาหนาท่ีพรอมดวยคําพิพากษา
ครอบครอง” หรอื คําสง่ั ศาลอันถงึ ทส่ี ุด แสดงวา ตนมกี รรมสิทธ์ใิ นทดี่ ินดงั กลา วน้ัน
กรณไี ดม า
เฉพาะสวน (๒) ถาผูไดมาไดกรรมสิทธ์ิที่ดินมาเต็มตามโฉนดที่ดินใหพนักงาน
การออกใบแทน เจาหนาที่จดทะเบยี นในประเภทไดม าโดยการครอบครอง
(๓) ถาโฉนดท่ีดินมีชื่อบุคคลคนเดียวหรือหลายคน แตผูไดมา
ไดก รรมสิทธเิ์ ฉพาะสวนหนึง่ สวนใด ใหส อบสวนวาตา งฝา ยตา งจะยอมใหผูไดมามีช่ือ
รวมในโฉนดที่ดินหรือไม ถาตกลงกัน ก็ใหจดทะเบียนในประเภทไดมาโดย
การครอบครอง โดยเติมชื่อผูไดมาลงไปในโฉนด ถาไมตกลงกันก็ใหแบงแยกสวนของ
ผูไดมาออก โดยใหผูไดมา และผูมีชื่อในโฉนดท่ีดินท่ียังมีกรรมสิทธ์ิอยูไปดูและ
ระวังเขตท่ีดินในกรรมสิทธิ์ของตนแลวจดทะเบียนในประเภทแบงไดมาโดยการ
ครอบครอง
ถาผูไดมาไดกรรมสิทธิ์เฉพาะสวนของคนใดคนหนึ่งหรือหลายคนไมเต็ม
ตามโฉนดที่ดนิ ใหจดทะเบียนในประเภทไดมาโดยการครอบครองเฉพาะสวน
(๔) ในกรณีตาม (๑) (๒) และ (๓) ถาไมไดโฉนดท่ีดินมาใหถือวาโฉนดที่ดิน
สูญหาย ใหเจาพนักงานท่ีดินออกใบแทนโฉนดที่ดิน แลวดําเนินการจดทะเบียน
ตอ ไปตามควรแกก รณี ในกรณเี ชน วา นี้ โฉนดท่ีดนิ เดิมเปนอันใชไ มไ ดต อ ไป
๗๕
75
(๕) ถาผไู ดมาไดก รรมสิทธิ์มาไมตรงตามโฉนดทด่ี นิ ใหเ จาพนักงานที่ดิน กรณีไดม า
ไมต รงโฉนด
ออกโฉนดท่ีดนิ ใหใ หม
เม่ือออกโฉนดท่ีดินใหใหมแลว ถาไดโฉนดที่ดินเดิมมาใหหมายเหตุ หมายเหตุการออก
ดว ยหมึกแดง ลงไวในดานหนา ของโฉนดเดิม แสดงวาโฉนดท่ีดินฉบับน้ันไดมีการ โฉนดใหม
ออกโฉนดใหมแลวสําหรับกรณีไมไดโฉนดท่ดี ินเดิมมา ใหระบุไวในประกาศแจกโฉนด
ที่ดิน แสดงวา ไมไดโ ฉนดที่ดินมาดว ย
(๖) ถาโฉนดทด่ี นิ น้นั มกี ารจดทะเบียนผกู พนั เชน จํานอง เชา ภาระจํายอม กรณมี ภี าระผกู พัน
ใหพนกั งานเจา หนาที่แจงใหศาลทราบ เมื่อศาลแจงมาอยางไร ใหปฏิบตั ิตามควร
แกก รณี
ขอ ๙ การจดทะเบียนสิทธิในท่ีดินโดยประการอ่ืนนอกจากนิติกรรม จดสทิ ธิกรณีอื่น
นอกจากนติ ิกรรม
ใหด ําเนนิ การดงั น้ี
(๑) ผูไดมาตองย่ืนคําขอตอพนักงานเจาหนาที่ พรอมดวยเอกสารแสดงสิทธิ
การไดมาและโฉนดท่ีดนิ
(๒) ถาเปนกรณีไดมาโดยศาลส่ัง ใหจดทะเบียนในประเภทโอน
ตามคาํ สัง่ ศาลโดยระบุคําสงั่ ศาลไวดวย
(๓) ถาเปนกรณีไดมาโดยประการอื่น ใหปฏิบัติตามความใน (๒)
โดยอนโุ ลม
(๔) ถาโฉนดท่ีดินมีชื่อไมตรงกับกรณีศาลส่ังมา หรือมกี ารจดทะเบียน
ผูกพันอยู เชน จํานอง เชา ภารจํายอม ใหพนักงานเจาหนาท่ีแจงใหศาลทราบ
เมื่อศาลแจงมาอยา งไรใหปฏิบัตติ ามควรแกกรณี
ใหไ ว ณ วนั ที่ ๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรอื โท สุนาวนิ ววิ ฒั
รัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
(ประกาศราชกจิ จานุเบกษา เลม ๗๑ ตอนท่ี ๘๒ (ฉบับพิเศษ) ลงวันท่ี ๑๑ ธันวาคม ๒๔๙๗)
๗๗
77
ฉบบั ที่ ๘ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใชป ระมวลกฎหมายท่ดี นิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญตั ิใหใชประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๘๖ มาตรา ๘๙ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไวดังตอ ไปนี้
ขอ ๑ คนตา งดา วผูใดไดม าซ่ึงท่ีดนิ ตามความในประมวลกฎหมายทดี่ นิ เงื่อนไขตามทไี่ ดม า
ตองปฏิบัตดิ ังน้ี ซง่ึ ท่ดี นิ
(๑) ตอ งใชทดี่ นิ นัน้ ดว ยตนเองตามทีไ่ ดรับอนญุ าต การขออนญุ าต
(๒) ตอ งเริ่มใชทด่ี นิ น้ันเพื่อกจิ การตามที่ขอภายในกําหนดหน่งึ ป การเสนอ รมต.
แบบคําขอไดมา/ขอ
นบั แตวันทไ่ี ดรบั โอนสิทธใิ นที่ดินมา ใชเพื่อกจิ การอนื่
(๓) ถา จะจําหนา ยจา ยโอนท่ีดนิ ไปตองไดรับอนญุ าตจากรัฐมนตรกี อน
ขอ ๒ การยื่นคาํ ขออนญุ าตใหไดมาซ่ึงท่ีดินใหยนื่ ตอพนกั งานเจา หนาที่
ตามความในมาตรา ๗๑
ขอ ๓ เมอ่ื ไดรับคาํ ขอแลว ใหพ นกั งานเจา หนา ที่สอบสวนแลว เสนอ
รัฐมนตรีพจิ ารณา
ขอ ๔ แบบคําขอใหใชดังน้ี
(๑) การขออนุญาตใหไดมาซึ่งท่ีดนิ ใหใชแ บบ ต. ๑ ทายกฎกระทรวงนี้
หรอื แบบ ๑ ทายกฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ดนิ ในสวน
ท่ีเก่ียวกบั คนตา งดา ว พุทธศกั ราช ๒๔๘๖
๗๘
78
การแจงไมใ ชท ด่ี ิน (๒) การขออนุญาตใชที่ดินเพื่อกิจการอ่ืนใหใชแบบ ต. ๒ ทาย
กรณีนติ บิ คุ คล กฎกระทรวงน้ี หรือแบบ ๒ ทายกฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความใน
ไดม า/ขอใช พระราชบญั ญัตทิ ี่ดนิ ในสว นที่เกย่ี วกบั คนตา งดาว พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๖
- กรณบี รษิ ัท หจก.
หุนสว นสามญั ขอ ๕ การแจงไมใชที่ดินใหใชแบบ ต. ๓ ทายกฎกระทรวงนี้ หรือแบบ ๒
ทายกฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความในพระราชบัญญัติที่ดินในสวนท่ีเกี่ยวกับ
- กรณสี มาคมหรือ คนตางดา วพทุ ธศักราช ๒๔๘๖
สหกรณ
- กรณมี ลู นธิ ิ ขอ ๖ ในกรณีท่ีนิติบุคคลตามมาตรา ๙๗ ยื่นคําขอใหไดมา หรือใชเพื่อ
กิจการอยางอื่นซึ่งที่ดิน ใหใชแบบอยางเดียวกับท่ีบัญญัติไวในขอ ๔ และขอ ๕
โดยอนุโลม แลว ใหแสดงรายการดังตอ ไปน้ดี วย คือ
(๑) ถาเปนบริษัทจํากัด หางหุนสวนจํากัด หรือหางหุนสวนสามัญ
ท่ีจดทะเบียนแลวใหแสดงวามีทุนเทาใด แบงเปนกี่หุน มีผูถือหุนหรือผูเปน
หุนสวนเปนคนสัญชาติใดเทาใดถือหุนคนละเทาใด ผูจัดการหรือกรรมการเปน
คนสัญชาติใด เฉพาะบริษัทจํากัดใหแ สดงดวยวาไดออกใบหุนชนิดออกใหแกผ ูถือ
บางหรือไม ถาออกไดออกไปเปนจํานวนเทาใด ถามีนิติบุคคลเปนผูถือหุนหรือเปน
หุนสวน ใหแสดงรายการอยางเดียวกับท่ีกลาวมาขางตนสําหรับนิติบุคคลน้ันดวย
และใหแสดงใบสําคัญการจดทะเบียนกอต้ังนิติบุคคลกับหนังสือบริคณหสนธิ และ
ขอบังคบั (ถามี) ดวย
(๒) ถาเปนสมาคมหรือสหกรณ ใหแสดงวามีสมาชิกเปนคนสัญชาติใด
เทาใดมีวัตถุประสงคอยางไร มีผูจัดการหรือกรรมการเปน คนสัญชาติใด และให
แสดงใบสําคัญการจดทะเบียนหรอื ตราสารกอต้ังนิตบิ ุคคลและขอบงั คบั ดว ย
(๓) ถาเปนมูลนิธิ ใหแสดงวามีวัตถุประสงคอยางไร มีผูจัดการหรือ
กรรมการเปนคนสัญชาติใด และใหแสดงใบสําคัญการจดทะเบียนหรือตราสาร
กอต้งั มูลนิธแิ ละขอ บังคบั ดวย
ใหไว ณ วนั ท่ี ๙ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๗
พลเรือโท สนุ าวินววิ ัฒ
รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
(ประกาศราชกิจจานเุ บกษา เลม ๗๑ ตอนท่ี ๘๒ (ฉบับพเิ ศษ) ลงวันที่ ๑๑ ธนั วาคม ๒๔๙๗)
๗๙
79
๘๐
80
๘๑
81
๘๓
83
กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๐๐)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชป ระมวลกฎหมายที่ดนิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญตั ิใหใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
รัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดังตอ ไปน้ี
ขอ ๑ การขายทีด่ ินใหก ระทําโดยวธิ ีขายทอดตลาด เวนแต วิธขี ายทอดตลาด
(๑) การขายทด่ี ินในกรณที ม่ี ีผเู ชาหรอื ผอู าศัยอยูในท่ดี ินน้ันตดิ ตอ กันมา - กรณมี ผี เู ชา หรอื
ไมนอยกวาหาป ใหกระทําโดยวิธีกําหนดราคาขายตามราคาตลาด และเปด ผอู าศยั ไมน อยกวา
โอกาสใหผ ูเชา ผูอาศัยรวมถึงทายาทของผูเชา หรือผูอาศัย แลวแตกรณี มีโอกาส ๕ ป
ซื้อไดกอ นผอู น่ื เมือ่ ไมเปน ที่ตกลงกนั จงึ ใหกระทําโดยวิธีขายทอดตลาด หรือ
(๒) การขายที่ดินแกบุคคลผูมีสวนไดเสียหรือไดชวยทําประโยชนใน - กรณีประกวด
ที่ดินนนั้ ใหกระทาํ โดยวธิ ีกําหนดราคา แตถาบุคคลดังกลาวหลายคนประสงคจะ ราคา
ซอ้ื ทด่ี นิ แปลงเดียวกนั และไมอาจตกลงกนั ได ใหก ระทาํ โดยวิธีประกวดราคา
ขอ ๒ การแลกเปล่ียนที่ดิน ใหแลกเปลี่ยนกับที่ดินซ่ึงมีราคาใกลเคียงกัน วธิ แี ลกเปลีย่ น
โดยคํานึงถงึ วตั ถปุ ระสงคและประโยชนข องการแลกเปล่ียนนน้ั
ขอ ๓ การใหเชาท่ีดิน ใหกําหนดราคาคาเชา โดยคํานึงถึงสภาพแหง วธิ ใี หเชา
ทอ งทีป่ ระกอบกบั ทุนทไี่ ดลงไปในท่ดี นิ น้ัน
๘๔
84
การพจิ ารณา ในกรณีใหเชาท่ีดินสําหรับอยูอาศัย ถาผูประสงคจะเชามีหลายคนเกินกวา
คัดเลอื ก
กรณีตอ งประกวด ท่ีดินที่กําหนดไว ใหพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่มีความจําเปนและไดรับความ
ราคาคาเชา เดอื ดรอ นเก่ียวกับที่อยอู าศยั มากกวา ไดเชา กอนตามลําดับ
กรณใี หเชา ท่ดี นิ
ท่ถี ูกกนั ออก การใหเ ชาทีด่ นิ แกบุคคลผูมสี ว นไดเสียหรือไดชวยทําประโยชนในที่ดินน้ัน
กรณีเชาซ้อื ใหกระทําโดยวิธีกําหนดราคาคาเชา แตถาบุคคลดังกลาวหลายคนประสงคจะ
จับสลาก เชา ท่ดี ินแปลงเดียวกนั และไมอ าจตกลงกันได ใหกระทําโดยวธิ ีประกวดราคาคาเชา
กรณใี หเ ชาซ้ือท่ดี ิน ขอ ๓ ทวิ๑ ในกรณีใหเชาที่ดินซ่ึงถูกกันออกจากที่ดิน ที่ทางราชการไมออก
ทีถ่ ูกกนั ออก หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ถาผูขอเชาเปนผูไดครอบครองท่ีดินน้ัน ใหกําหนดตาม
อัตราคาเชาปานกลาง ที่มีการเชาอยูในทองท่ีน้ันในวันทําสัญญาเชา และมิใหมี
การเชา ชว ง หรือโอนสทิ ธิการเชา ใหแ กบ ุคคลอน่ื
ขอ ๔ การใหเชา ซ้ือท่ีดิน ใหกําหนดจํานวนเงินและระยะเวลาสงใชเงิน
เปนคราว ๆ โดยคาํ นึงถงึ สภาพแหงทอ งท่ปี ระกอบกับทุนที่ไดลงไปในทด่ี ินนนั้
ถาผูประสงคจะเชาซื้อมีหลายคนเกินกวาที่ดินที่กําหนดไว ใหดาํ เนินการ
เชา ซื้อโดยวิธีจับสลาก เวนแตการเชาซ้ือที่ดนิ สําหรับอยอู าศัย ใหพิจารณาคัดเลือก
บุคคลท่ีมีความจําเปนและไดรับความเดือดรอนเก่ียวกับที่อยูอาศัยมากกวา
ไดเชา ซอ้ื กอ นตามลําดบั
ขอ ๔ ทวิ๒ ในกรณีใหเชาซื้อที่ดนิ ซึ่งถูกกันออกจากท่ีดินท่ีทางราชการ
ไมออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ถาผูขอเชาซ้ือเปนผูไดครอบครองท่ีดินนั้น
ใหถือเอาราคาประเมินทุนทรัพย ในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน
ในวันทําสัญญาเชาซื้อเปนราคาใหเชาซื้อ การชําระคาเชาซื้อจะแบงเปนกี่งวด
แตละงวดจะชําระเปนรายปหรือหลายปตองวดก็ได แตตองชําระใหเสร็จสิ้น
ภายในยี่สบิ ป
๑ ขอ ๓ ทวิ เพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๒ ขอ ๔ ทวิ เพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๘๕
85
ขอ ๔ ตรี๓ คาเชาและคาเชาซื้อที่ไดจากท่ีดินรายใด ใหเปนรายไดของ ผรู ับรายได
ราชการบริหารสว นทองถิ่นท่ีท่ีดินน้นั ต้งั อยู และใหนาํ ไปบาํ รุงทองถิน่ น้ัน
ขอ ๔ จตั วา๔ การพิจารณาใหเชาตามขอ ๓ ทวิ หรือใหเชาซื้อตามขอ ๔ ทวิ ผวู า พิจารณาใหเชา
ใหผวู า ราชการจังหวัดเปน ผูพิจารณาตามควรแกกรณี
ขอ ๕ การมอบหมายใหทบวงการเมืองอื่นจัดหาผลประโยชน กรณีทบวงการเมอื งอนื่
จดั หาผลประโยชน
ใหกระทําโดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา
ในการประกาศใหระบุถึงเขตท่ีดิน จํานวนเนื้อท่ีดิน ชื่อทบวงการเมืองและ การประกาศ
กิจการท่ีมอบหมาย รวมถึงความประสงคใหจัดหาผลประโยชนสําหรับรัฐหรือ
บาํ รุงทอ งถิน่ ดว ย
ขอ ๖ ใหอธิบดีหรือหัวหนาทบวงการเมืองที่ไดรับมอบหมาย แลวแตกรณี ประกาศไมน อ ยกวา
ประกาศวัตถุประสงคที่จะดําเนินการ วิธีการ และรายละเอียดใหทราบลวงหนา ๓๐ วัน
ไมนอยกวาสามสิบวันประกาศน้ันใหปดไว ณ สํานักงานที่ดินจังหวัดหรือ
สํานักงานที่ดินสาขาหน่ึงฉบับ ณ ที่วาการอําเภอหรือกิ่งอําเภอทองที่หนึ่งฉบับ
ทบี่ า นกํานนั หน่ึงฉบับ และในท่ีเปดเผยในบริเวณที่ดินนั้นหนึง่ ฉบบั
ใหไว ณ วนั ที่ ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๐๐
พลโท ป. จารเุ สถียร
รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๔ ตอนท่ี ๑๑๐ วันท่ี ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๐๐)
๓ ขอ ๔ ตรี เพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๔ ขอ ๔ จัตวา เพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒๐ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
∗ หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เพ่ือกําหนดหลักเกณฑและวิธีการจัดหา
ผลประโยชนในท่ีดินของรัฐ ซ่ึงมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิครอบครองและมิใชสาธารณสมบัติของแผนดินอันราษฎรใช
ประโยชนร วมกนั
๘๗
87
กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๐๐)
ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทดี่ ิน
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๑๒ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
รัฐมนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย ออกกฎกระทรวงไว ดังตอไปนี้
ขอ ๑ ผใู ดมีความประสงคจ ะขอสัมปทานเพ่อื กระทํากิจการอยางใด ๆ ใน การขอสัมปทาน
ท่ีดิน ใหท ําเร่ืองราวตามแบบ ท.ด. ๗๓ ทายกฎกระทรวงนี้ ย่ืนตอนายอําเภอทองท่ี
รวมหา ชดุ พรอมดว ยแผนทที่ ดี่ ินสบิ ชุด
ในกรณีขอสัมปทานท่ีดิน ซ่ึงถูกกันออกจากท่ีดินที่ทางราชการไมออก
หนงั สือแสดงสิทธใิ นทดี่ ิน ผูข อสัมปทานจะตองเปนผซู ่ึงไดครอบครองทด่ี นิ นน้ั ๑
ขอ ๒ แผนทีท่ ดี่ ินตามขอ ๑ ใหแ สดงเขตที่ดินและภูมิประเทศในบริเวณท่ี แผนทย่ี นื่ พรอ ม
ขอสัมปทาน มีรัศมีหางจากเขตท่ีดินออกไปดานละอยางนอย ๓๐๐ เมตร และให คาํ ขอ
แสดงวามีส่ิงปลูกสราง พืชพนั ธไุ มหรือทรพั ยากรอันมคี าอยางใดบา งหรอื ไม กบั ให
แสดงแผนผงั ที่จะใชท ด่ี นิ นนั้ กระทํากจิ การโดยละเอียด
๑ วรรคสองของขอ ๑ เพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๑ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความในพระราชบัญญัตใิ หใช
ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๘๘
88
การปด ประกาศ ขอ ๓ เม่ือไดรับเรื่องราวตามขอ ๑ ใหนายอําเภอทองที่ปดประกาศ
ณ สํานักงานที่ดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดินสาขา ณ ที่วาการอําเภอหรือก่ิงอําเภอ
ทองท่ี ที่บา นกาํ นนั และในที่เปดเผยในบริเวณที่ดินนั้น เปนระยะเวลาไมนอยกวา
สามสิบวัน เม่ือครบกําหนดแลว จะมีผูคัดคานหรือไมก็ตาม ใหนายอําเภอ
สอบสวนพิจารณาเรื่องราวเสนอความเห็นไปยังผูวาราชการจังหวัด และให
ผวู าราชการจังหวัดพิจารณาเสนอความเหน็ ไปยงั รฐั มนตรีเพอื่ ส่ังการตอไป
ลกั ษณะผขู อและ ขอ ๔ การใหส ัมปทานที่ดินนั้น ใหรัฐมนตรีอนญุ าตตอ เมอ่ื
ท่ดี ินทข่ี อสัมปทาน (๑) ผขู อมคี วามประพฤตดิ ี
(๒) ผูขอมีความสามารถ และมีปจจัยที่จะกระทํากิจการท่ีไดรับสัมปทาน
ใหเ ปน ผลสําเรจ็ ได
(๓) ท่ีดินที่จะอนุญาตสมควรกับกิจการท่ีขอสัมปทานและไมเปนท่ีเสื่อม
เสยี แกเศรษฐกจิ ของประเทศ ไมข ดั ตอสาธารณประโยชน และไมเปนอันตรายแก
ทรัพยสิน หรอื ขดั ตอ สวัสดภิ าพของประชาชนทอ่ี ยูในบริเวณใกลเ คียง
ขอ ๕๒รัฐมนตรีมีอํานาจกําหนดเง่ือนไขใดๆ ไว ในสัมปทานและกําหนด
อํานาจกาํ หนดเงอ่ื นไข
- ไมเกนิ ๕๐ ป อายุสมั ปทานตามท่เี หน็ สมควรแกก ิจการนน้ั แตไมเกนิ หา สิบป
- เกนิ ๒๐ ป ครม. ในกรณีที่จะใหสัมปทานแกผูใดเกินยี่สิบป ตองไดรับอนุมัติจาก
อนุมตั ิ คณะรัฐมนตรีกอนเปนราย ๆ ไป
จํานวนฉบับของ สัมปทานบัตรใหจัดทําเปนสี่ฉบับ เก็บรักษาไวท่ีกรมที่ดินหนึ่งฉบับ จังหวัด
สัมปทานบตั ร และอําเภอทองท่แี หง ละหนึง่ ฉบับ และใหผ รู ับสัมปทานถือไวหน่งึ ฉบับ
ไมป ระสงคท าํ ตอ ขอ ๖ ถาผูรับสัมปทานไมมีความประสงคจะกระทํากิจการท่ีไดรับ
สัมปทานตอไป ก็ใหยื่นเรื่องราวตอรัฐมนตรีโดยผานนายอําเภอทองที่ตามลําดับ
และใหส ัมปทานนนั้ ส้ินอายุนบั แตว นั ทรี่ ฐั มนตรอี นมุ ตั ิ
๒ ความในขอ ๕ ถูกแกไขเพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๓ (พ.ศ. ๒๕๐๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๘๙
89
ขอ ๗ ในกรณีท่ีผูรับสัมปทานเปนบุคคลธรรมดา เมื่อผูรับสัมปทานถึงแกกรรม ผรู ับสัมปทานตาย
ทายาทหรือผูมีสวนไดเสียคนใดมีความประสงคจะถือสัมปทานน้ันตอไป ใหยื่น
เรอ่ื งราวตอรัฐมนตรี โดยผานนายอําเภอทองที่ตามลําดับภายในกําหนดเกาสิบวัน
นับแตวันท่ีผูรับสัมปทานถึงแกกรรม ถาไมมีผูใดย่ืนเร่ืองราวภายในกําหนดเวลา
ดงั กลาวใหถ อื วา สมั ปทานนั้นส้ินอายุในวันทค่ี รบกําหนดเกา สิบวนั
ขอ ๘ ถาผูรับสัมปทานมีความประสงคจะโอนสัมปทานใหแกผูอ่ืน ขอโอนสมั ปทาน
ใหผ ูโอนและผูรับโอนยืน่ เร่ืองราวตอรฐั มนตรีโดยผา นนายอําเภอทองท่ีตามลําดับ
เมอ่ื รัฐมนตรีพจิ ารณาเห็นสมควรก็อนุญาตใหโอนได
ผูรับโอนยอมไดรับชวงสิทธิและหนาท่ีในกิจการของสัมปทานน้ันตอไป สิทธิผรู ับโอน
เทาทผี่ รู บั สมั ปทานเดมิ มีอยู
ใหไ ว ณ วันที่ ๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๐๐
พลโท ป. จารเุ สถียร
รัฐมนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานุเบกษา เลม ๗๔ ตอนท่ี ๑๑๐ (ฉบับพิเศษ) วนั ที่ ๒๔ ธนั วาคม ๒๕๐๐)∗
∗ หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เพื่อกําหนดหลักเกณฑและวิธีการใหสัมปทาน
ใหหรอื ใหใ ชทด่ี นิ ของรัฐซึง่ มิไดมบี ุคคลใดมีสทิ ธคิ รอบครอง
๙๐
90
๙๑
91