๙๒
92
๙๓
93
กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๑๔ (พ.ศ. ๒๕๐๔)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญตั ิใหใ ชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๒๖ (๑) แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดังตอไปน้ี
ขอ ๑ บุคคลใดมีสิทธิในที่ดินหรือครอบครองที่ดินซ่ึงอยูภายในเขต หนา ท่ีผูมสี ทิ ธิ
สํารวจท่ีดินตามประกาศของคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติ และมีหนาท่ีแจง ในทด่ี ินในเขต
ตามมาตรา ๒๖ (๑) แหง ประมวลกฎหมายท่ดี ิน ใหแจง รายการและลงลายมือชื่อไว สํารวจ
เปนสําคัญตามแบบบัญชีแจงการมีสิทธิในท่ีดินหรือการครอบครองท่ีดินในเขต
สํารวจทด่ี นิ ทา ยกฎกระทรวงนีต้ อนายอําเภอหรือผทู าํ การแทน หรอื ปลัดอาํ เภอผูเปน
หัวหนา ประจาํ ก่งิ อําเภอหรอื ผูทาํ การแทนในทอ งทซี่ ึ่งท่ีดินตั้งอยู
ขอ ๒ การแจงตามขอ ๑ ผูแจงตองนําหลักฐานการมีสิทธิในที่ดินหรือการ แสดงหลกั ฐาน
ในทด่ี ิน
ครอบครองท่ดี ินไปแสดงตอ พนักงานเจา หนาที่ผรู ับแจงดวย
ขอ ๓ ในกรณที ่ีบุคคลหลายคนมสี ทิ ธใิ นทด่ี นิ หรือครอบครองที่ดินแปลง กรณีครอบครอง
เดียวรวมกัน ใหคนใดคนหนึ่งเปนผูแจงแทนกันได โดยระบุช่ือผูมีสิทธิในท่ีดิน รว มกนั
หรือผูครอบครองที่ดินรวมกันนั้นไวในแบบบัญชีแจงการมีสิทธิในที่ดินหรือการ
ครอบครองทดี่ ินในเขตสาํ รวจท่ีดิน ในชองชื่อผมู สี ิทธใิ นทีด่ ินหรือผคู รอบครองทดี่ นิ
๙๔
94
ใหผูอนื่ แจง แทน ขอ ๔ ในกรณีที่ผูมีสิทธิในที่ดินหรือผูครอบครองท่ีดินจัดใหบุคคลอื่น
เปนผูแจงแทน ตองมีคํารับรองของเจาพนักงานผูปกครองทองท่ีหรือพยานอยาง
นอยหนง่ึ คนรับรองวา บคุ คลอื่นนน้ั เปน ผูแจง แทนจรงิ
ใหไ ว ณ วนั ท่ี ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๐๔
พลโท ป. จารุเสถยี ร
รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๗๘ ตอนท่ี ๗๖ วนั ท่ี ๒๖ กนั ยายน ๒๕๐๔)∗
∗ หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คือ เพื่อกําหนดแบบและวิธกี ารใหผ ูมีสิทธิในท่ีดินหรือ
ผูครอบครองที่ดินแจงที่ดินในเขตสํารวจตามประกาศของคณะกรรมการจัดที่ดินแหงชาติ ตามมาตรา ๒๕
แหงประมวลกฎหมายทด่ี ิน
๙๕
95
๙๗
97
กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๑๖)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง พระราชบญั ญตั ใิ หใ ชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๘๑ วรรคสาม แหง ประมวลกฎหมายท่ีดิน
ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔ ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๑๕ รัฐมนตรวี าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดังตอไปน้ี
ขอ ๑ เมื่อมีผูมาขอจดทะเบียนสิทธิเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยซ่ึงไดมา ขอรบั มรดก
โดยทางมรดก ใหพนักงานเจาหนาที่สอบสวนพยานหลักฐานแลวบันทึกลงใน - การสอบสวน
เร่ืองราวขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (ท.ด. ๑) และในแบบบันทึก
การสอบสวนขอจดทะเบียนโอนมรดก (ท.ด. ๘) ดวย
ขอ ๒ ม ร ด ก มีพินัย ก ร ร ม ใ หพ นัก ง า น เ จา ห น า ที่ส อ บ ส ว น - มีพินยั กรรม
พ ย า น ห ล ัก ฐ า น แ ล ะ ว ัน ต า ย ข อ ง เ จ า ม ร ด ก ต ล อ ด จ น สิ ท ธิ ใ น ก า ร รั บ ม ร ด ก
ตามพินัยกรรมดว ย
ขอ ๓ มรดกไมมีพินัยกรรม ใหพ นักงานเจาหนาที่สอบสว น ไมมพี นิ ยั กรรม
พยานหลักฐานและพิจารณาการเปนทายาท สิทธิในการรับมรดก และวันตาย
ของเจามรดก โดยใหผ ูขอแสดงบัญชีเครอื ญาติและหลกั ฐานอ่ืนประกอบดว ย
ขอ ๔ การจดทะเบียนสิทธิเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยซึ่งไดมาโดยทาง การดาํ เนนิ การของ
มรดกไมม ีพินยั กรรม และมที ายาทซ่ึงมีสิทธิไดรบั มรดกหลายคน นอกจากจะตอง เจาหนา ท่ี
ดาํ เนินการตามขอ ๓ แลว ใหพนักงานเจาหนา ทดี่ าํ เนินการดังตอ ไปนี้ดว ย
๙๘
98
- ไมม กี ารโตแยง (๑) ในกรณที ่ีทายาทบางคนมาขอจดทะเบียนรบั มรดกตามสิทธิของตน
- ทายาทอ่ืนไม หรือขอใหลงช่ือทายาทอ่ืนที่มีสิทธิไดรับมรดกทุกคนตามท่ีผูขอแสดงไวในบัญชี
ขอรับ เครือญาติ เมื่อไมมีผูโตแยงภายในกําหนดเวลาท่ีประกาศ ใหพนักงานเจาหนาท่ี
จดทะเบยี นใหต ามทผ่ี ูข อแสดงหลกั ฐานการมสี ิทธติ ามกฎหมาย
- กรณีศาลสง่ั
ทายาทไมรับมรดก (๒) ในกรณที ่ที ายาทบางคนมาขอจดทะเบียนรับมรดกท้งั หมด ถาผูขอ
- กรณีศาลไมส ่งั นําทายาทท่ีแสดงไวในบัญชีเครือญาติทุกคนมาใหถอยคํายินยอม หรือนํา
หลักฐานการไมรับมรดกของทายาทดงั กลาวนั้นมาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ีได
ภายในกําหนดเวลาที่ประกาศ ใหพนักงานเจาหนาท่ีจดทะเบียนใหตามท่ีผูขอ
แสดงหลักฐานการมสี ทิ ธิตามกฎหมาย แตถาผูขอไมสามารถนําทายาทที่แสดงไว
ในบัญชีเครือญาติทกุ คนมาใหถอยคํายินยอม หรือไมสามารถนําหลักฐานการไมรับมรดก
ของทายาทดังกลาวนั้นมาแสดงตอพนักงานเจาหนาท่ีภายในกําหนดเวลาท่ีประกาศ
ได กใ็ หพนักงานเจาหนา ท่ยี กคําขอเสีย
ในกรณีที่จะตองมีคําส่ังศาลเพื่อเปนหลักฐานการไมรับมรดกของ
ทายาท ใหผ ขู อนําคําสั่งศาลท่ีถงึ ทส่ี ุดแลวมาแสดงตอ พนกั งานเจา หนา ทพี่ รอมกับ
การใหถอยคํายินยอมของทายาทนั้นดวย แตถายังไมมีคําสั่งศาลดังกลาว ให
พนักงานเจาหนาที่รอเรื่องไวจนกวาจะมีคําส่ังศาลถึงท่ีสุด ในกรณีเชนนี้ ใหผูขอ
นาํ หลักฐานการดําเนินการทางศาลมาแสดงตอพนักงานเจาหนาที่ภายในกําหนด
สามสิบวัน นับแตวันที่ทายาทน้ันมาใหถอยคํายินยอม ถาผูขอไมนําหลักฐาน
การดําเนินการทางศาลมาแสดงตอพนักงานเจาหนาที่ภายในกําหนดดังกลาว
กใ็ หพนกั งานเจาหนา ทยี่ กคาํ ขอน้ันเสีย
ใหไว ณ วันท่ี ๒๓ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๑๖
พลเอก ป. จารเุ สถยี ร
รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานุเบกษา เลม ๙๐ ตอนท่ี ๒๒ วันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๑๖)∗
∗ หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คือ เน่ืองจากมาตรา ๘๑ วรรคสาม แหงประมวล
กฎหมายท่ีดิน ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕
ไดบัญญัติใหกําหนดหลักเกณฑและวิธีการดําเนินการจดทะเบียนสิทธิเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยซ่ึงไดมาโดยทาง
มรดกไวใ นกฎกระทรวง จึงจาํ เปน ตอ งออกกฎกระทรวงฉบบั นี้
๙๙
99
กฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๒๕ (พ.ศ. ๒๕๑๖)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๘ ทวิ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซ่ึงแกไข
เพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔ ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๑๕ รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดงั ตอ ไปน้ี
ขอ ๑ การขึ้นทะเบียนท่ีดินของรัฐ ซ่ึงมิไดมีบุคคลใดมีสิทธิครอบครอง การขึน้ ทะเบียนให
หรือท่ีดินสําหรับพลเมืองใชรวมกัน ซึ่งไดถอนสภาพตามมาตรา ๘ (๑) แหง ทบวงการเมอื งใช
ประมวลกฎหมายที่ดนิ ซง่ึ แกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๓๓๔
ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ แลว เพื่อใหทบวงการเมืองใชประโยชนใน
ราชการใหก ระทําไดเ ทาที่รฐั มนตรเี ห็นวาจําเปนแกก ารใชประโยชนในราชการของ
ทบวงการเมืองทีข่ อใหจัดข้นึ ทะเบยี น
ขอ ๒ การขอข้นึ ทะเบยี นตามขอ ๑ ใหท บวงการเมืองผขู อขน้ึ ทะเบียนท่ดี ิน ชี้แจง การขอขึน้ ทะเบยี น
เหตุผลความจําเปน และสงแผนที่แสดงอาณาเขตบริเวณท่ีดินโดยสังเขป
ตอ อธบิ ดี
ขอ ๓ เม่ือไดรับคําขอขึ้นทะเบียนตามขอ ๒ แลว ใหอธิบดีทําการ ขน้ั ตอนดําเนนิ การ
สอบสวนขอเท็จจริงเก่ียวกับคําขอน้ัน และเม่ือไดประกาศจัดข้ึนทะเบียน
ใหราษฎรทราบตามความในมาตรา ๘ ทวิ วรรคสอง แหง ประมวลกฎหมายท่ดี นิ
๑๐๐
100
ซง่ึ แกไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔ ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๑๕ แลวใหอ ธบิ ดเี สนอเร่อื งตอรฐั มนตรีเพอ่ื มคี ําสง่ั ใหขึน้ ทะเบียนหรือไม
เพียงใด ตามทีร่ ัฐมนตรเี หน็ สมควร
ใหไว ณ วันที่ ๓ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๑๖
จอมพล ป. จารเุ สถยี ร
รัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานุเบกษา เลม ๙๐ ตอนที่ ๑๐๖ วันที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๑๖)
∗ หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คือ เน่ืองจากมาตรา ๘ ทวิ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
ซึ่งแกไ ขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบับท่ี ๓๓๔ ลงวันที่ ๑๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ บัญญตั วิ า หลักเกณฑ
และวิธีการในการจัดที่ดินขึ้นทะเบียนเพื่อใหทบวงการเมืองใชประโยชนในราชการ ใหกําหนดโดย
กฎกระทรวง จึงจําเปนตองออกกฎกระทรวงฉบับนี้
๑๐๑
101
กฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๒๖ (พ.ศ. ๒๕๑๖)
ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทีด่ ิน
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๘ ตรี แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน
ซ่ึงแกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔ ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๑๕ รัฐมนตรีวา การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดังตอ ไปนี้
ขอ ๑ ทบวงการเมืองผูมีอํานาจหนาที่ดูแลรักษาที่ดินอันเปน การขอออก นสล.
สาธารณสมบัติของแผนดินสําหรับพลเมืองใชรวมกันหรือใชเพ่ือประโยชน
ของแผนดินโดยเฉพาะประสงคจะใหมีหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง สําหรับที่ดิน
แปลงใด ใหแ สดงความประสงคตอ อธบิ ดี
ขอ ๒๑ เมื่อไดรับคําขอตามขอ ๑ ใหอธิบดีจัดใหมีการสอบสวนและ ขน้ั ตอนดําเนนิ การ
รังวัดทําแผนที่ตามวิธีการรังวัดเพ่ือออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน และประกาศ
การออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงใหประชาชนทราบมีกําหนดสามสิบวัน
โดยปดไวในท่ีเปดเผย ณ สํานักงานที่ดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดินสาขาหน่ึงฉบับ
๑ ความในขอ ๒ แกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๕ (พ.ศ. ๒๕๓๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
๑๐๒
102
กรณมี กี ารคัดคาน ณ ที่วาการอําเภอหรือกิ่งอําเภอทองที่หรือที่ทําการเขตหน่ึงฉบับ ณ ที่ทําการ
กาํ นันหน่ึงฉบบั และในบริเวณท่ีดินน้นั หนึ่งฉบับสําหรับในเขตเทศบาลใหปดไว ณ
- ไมม ีหลักฐานตาม สาํ นักงานเทศบาลอกี หนึ่งฉบบั ดวย ในประกาศดังกลาวใหมีแผนท่ีแสดงแนวเขตท่ีดิน
ป.ที่ดนิ และมี/ไมมี ท่ีจะออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวง และกําหนดระยะเวลาที่ผูมีสวนไดเสียจะ
การฟองศาล คัดคานไวดวย ซ่ึงตองไมนอยกวาสามสิบวันนับแตวันประกาศ ถาไมมีผูคัดคาน
ใหด ําเนินการออกหนังสอื สาํ คญั สําหรบั ทห่ี ลวงตอ ไป
- มหี ลักฐานตาม
ป.ทด่ี นิ ในกรณีที่มีผูคัดคาน ใหอธิบดีรอการออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงไวแลว
ดาํ เนินการดงั นี้
แบบ นสล.
จาํ นวนฉบบั และ (๑) ในกรณีท่ีผูคัดคานไมมีหลักฐานแสดงสิทธิในท่ีดินตามประมวล
ผูถอื กฎหมายที่ดิน และไมไปใชสิทธิทางศาลภายในหกสิบวันนับแตวันที่คัดคาน
ใหออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงได หากผูคัดคานไปใชสิทธิทางศาล
ใหรอการออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงเฉพาะสวนที่คัดคานจนกวาจะไดมี
คาํ พพิ ากษาถึงที่สุดของศาลแสดงวาผูคัดคานไมมีสทิ ธใิ นท่ีดินนัน้
(๒) ในกรณีท่ีผูคัดคานมีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินตามประมวลกฎหมายท่ีดิน
ใหรอการออกหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงเฉพาะสวนท่ีคัดคานไวกอน และให
ผูวาราชการจังหวัดตรวจสอบสิทธิในที่ดินของผูคัดคานวาไดมาโดยชอบดวยกฎหมาย
หรือไม ถาปรากฏวา ไดมาโดยไมช อบ ใหอ อกหนงั สือสําคญั สาํ หรับท่ีหลวงและแจงให
ผูคัดคานทราบภายในเจ็ดวัน นับแตวันที่ทราบผลการตรวจสอบ และถา
ปรากฏวาไดมาโดยชอบ ใหแจงใหผูคัดคานทราบโดยเร็ว แลวระงับการออก
หนังสอื สําคัญสาํ หรับทีห่ ลวงเฉพาะสวนน้ัน
ขอ ๓ หนังสือสาํ คัญสาํ หรบั ท่ีหลวงใหใ ชแ บบ ส.ธ. ๑ ทายกฎกระทรวงนี้
ขอ ๔ หนงั สอื สําคญั สาํ หรบั ท่หี ลวงใหท าํ ขน้ึ สามฉบบั มอบใหผูดูแลรักษา
ถือไวหนงึ่ ฉบบั และเก็บไว ณ สาํ นกั งานทด่ี นิ จังหวัดหรือสํานักงานท่ีดินสาขาหน่ึง
ฉบับและเก็บไว ณ กรมท่ีดินหน่ึงฉบับ สําหรับฉบับที่เก็บไว ณ สํานักงานท่ีดิน
หรือกรมท่ดี นิ จะจําลองเปน รูปถายก็ได และใหถ ือเสมอื นเปน ตนฉบบั
๑๐๓
103
ขอ ๕ ถาหนังสือสําคัญสําหรับท่ีหลวงชํารุดหรือสูญหายใหอธิบดี นสล. ชํารุด
ออกใบแทนให
ใหไ ว ณ วันท่ี ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๖
จอมพล ป. จารเุ สถียร
รฐั มนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานุเบกษา เลม ๙๐ ตอนท่ี ๑๐๖ วนั ที่ ๒๑ สงิ หาคม ๒๕๑๖)∗
∗ หมายเหตุ : เหตุผลในการประกาศใชก ฎกระทรวงฉบับนี้ คอื เนื่องจากมาตรา ๘ ตรี แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๓๓๔ ลงวันท่ี ๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ บัญญัติวา แบบ
หลกั เกณฑ และวิธีการออกหนังสือสาํ คัญสําหรับที่หลวง ใหเปน ไปตามที่กําหนดในกฎกระทรวง ซึ่งจําเปนตองออก
กฎกระทรวงฉบับนี้
๑๐๔
104
๑๐๕
105
๑๐๗
107
กฎกระทรวง
ฉบบั ที่ ๓๑ (พ.ศ. ๒๕๒๑)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๕ แหง พระราชบัญญตั ใิ หใ ชประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๖๙ ทวิ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
ซง่ึ แกไ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๕๒๐
รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไวดงั ตอ ไปน้ี
การตดิ ตอ หรือการแจง ผมู สี ิทธใิ นทีด่ ินขา งเคียงใหมารับรองแนวเขตหรือ การแจงขางเคยี ง
คัดคานการรังวัดตามความในมาตรา ๖๙ ทวิ วรรคสามและวรรคหก แหง
ประมวลกฎหมายท่ีดิน ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติม
ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๕๒๐ ใหปฏิบตั ดิ งั นี้
(๑) ในกรณีท่ีผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงไดรับการติดตอจากพนักงาน - กรณไี มม าหรือ
เจา หนา ทใี่ หมาระวงั แนวเขตแลว แตไ มมาหรอื มาแตไมยอมลงชื่อรับรองแนวเขต มาแตไ มลงช่อื
โดยไมคัดคานการรังวัดใหพนักงานเจาหนาท่ีทําหนังสือแจงใหมาลงช่ือรับรอง
แนวเขตหรือคัดคานการรังวัดโดยสงทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับไปยังผูมีสิทธิ
ในทดี่ ินขางเคียงตามที่อยูที่เคยติดตอหรือตามที่อยูที่ผูมีสิทธิในทดี่ ินขางเคียงนั้น
ไดแจงเปน หนังสอื ไวต อพนักงานเจา หนาท่ี
(๒) ในกรณีท่ีไมอาจติดตอผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียงใหมาระวังแนวเขตได - กรณีตดิ ตอ ไมไ ด
ใหพนักงานเจาหนาท่ีปดหนังสือแจงใหผูมีสิทธิในที่ดินขางเคียงนั้นมาลงช่ือ
๑๐๘
108
รับรองแนวเขตหรือคัดคานการรังวัดไวในท่ีเปดเผย ณ บริเวณท่ีดินของผูมีสิทธิ
ในท่ีดินขา งเคยี งและ ณ ที่วาการเขตหรือท่ีวาการอําเภอหรือก่ิงอําเภอในทองที่
อันเปนท่ีต้ังของท่ีดินน้ันแหงละหนึ่งฉบับ พรอมกับใหสงหนังสือแจงน้ัน
ทางไปรษณียลงทะเบียนตอบรับไปยังผูมีสิทธิในที่ดินขางเคียงตามที่อยู
ท่ีพนักงานเจาหนาที่สอบถามไดความจากนายทะเบียนอําเภอหรือนายทะเบียน
ทองถ่ิน หรือถาสอบถามแลวยังไมทราบท่ีอยูของผูมีสิทธิในท่ีดินขางเคียง
ก็ใหส งไปยงั ผูม ีสิทธใิ นทดี่ ินขางเคยี งตามทอ่ี ยทู ี่ปรากฏหลักฐานที่สาํ นกั งานทด่ี ิน
ใหไ ว ณ วันท่ี ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๑
ดาํ ริ นอยมณี
รัฐมนตรีชว ยวา การฯ ปฏบิ ตั ิราชการแทน
รัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๙๕ ตอนท่ี ๖๔ วนั ท่ี ๒๐ มิถุนายน ๒๕๒๑)
∗ หมายเหตุ:- เหตผุ ลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบบั น้ี คือ เพือ่ ปฏบิ ตั กิ ารใหเ ปนไปตามมาตรา ๖๙ ทวิ วรรคส่ี
และวรรคหก แหง ประมวลกฎหมายทด่ี ิน ซ่งึ แกไ ขเพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ. ๒๕๒๐ จึงจําเปนตองออกกฎกระทรวงนี้
๑๐๙
109
กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๑)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๕ แหงพระราชบญั ญตั ใิ หใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๗๗ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว ดงั ตอ ไปนี้
ขอ ๑ ใหยกเลิกความในขอ ๕ แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิใหใ ชป ระมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และใหใช
ความตอ ไปน้แี ทน
“ขอ ๕ การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับท่ีดินที่ยังไมมีโฉนดท่ีดิน - ปด ประกาศกรณี
ใบไตส วนหรือหนังสือรบั รองการทาํ ประโยชนตามแบบ น.ส. ๓ ก. หรือเกี่ยวกับ ยกเลิกอาํ นาจหนาท่ี
อสังหาริมทรัพยอยางอื่นในที่ดินดังกลาว หรือเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยอยางอื่น นายอาํ เภอแลว
ในทดี่ ินที่มีโฉนดที่ดิน ใบไตสวน หรือหนังสือรับรองการทําประโยชนตามแบบ น.ส. ๓ ก.
ในกรณีไมรวมกับท่ีดินดังกลาว ใหประกาศการขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
มกี ําหนดสามสิบวัน
ประกาศตามวรรคหนึ่งใหปดไวในท่ีเปดเผย ณ สํานักงานท่ีดินทองท่ีซึ่ง
ท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนตั้งอยู สํานักงานเขตหรือท่ีวาการอําเภอหรือ
ท่ีวา การกิ่งอําเภอทองที่ ท่ีทําการแขวงหรือท่ีทําการกํานันทองที่ และบริเวณที่ดิน
หรืออสังหาริมทรัพยนั้น แหงละหน่งึ ฉบับ”
๑๑๐
110
- ปด ประกาศกรณี ขอ ๒ ใหยกเลิกความใน (๑๐) ของขอ ๖ แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗
ยังไมยกเลกิ อาํ นาจ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน
หนาท่นี ายอําเภอ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๒๖)
ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ หใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ ๓ ในทองท่ีซ่ึงรัฐมนตรียังมิไดประกาศยกเลิกอํานาจหนาท่ีในการ
ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินของหัวหนาเขต นายอําเภอหรือปลัดอําเภอ
ผูเปนหัวหนาประจําก่ิงอําเภอตามมาตรา ๑๙ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติม
ประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ ใหปดประกาศขอจดทะเบียนสิทธิ
และนิติกรรมตามขอ ๕ วรรคหน่ึง แหงกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ ชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซ่ึงแกไข
เพ่ิมเติมโดยกฎกระทรวงฉบับนี้ไวในที่เปดเผย ณ สํานักงานเขตหรือท่ีวาการอําเภอ
หรือท่วี าการกิ่งอําเภอทองท่ี ทท่ี าํ การแขวงหรอื ที่ทําการกํานนั ทองท่ี และบริเวณที่ดิน
หรืออสังหาริมทรัพยนั้น แหงละหนึ่งฉบับ และในเขตเทศบาลใหปดประกาศ
ดงั กลา วไวใ นท่ีเปด เผย ณ สํานกั งานเทศบาลอีกหน่ึงฉบับดวย
ใหไว ณ วนั ท่ี ๒๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๑
เสนาะ เทยี นทอง
รัฐมนตรีชวยวา การฯ ปฏบิ ัติราชการแทน
รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๐๕ ตอนที่ ๑๖๐ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๑)∗
∗ หมายเหตุ:- เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เน่ืองจากไดมีการแกไขเพ่ิมเติมมาตรา ๗๑ แหง
ประมวลกฎหมายที่ดนิ โดยพระราชบญั ญัติแกไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ ใหเ จาพนักงาน
ทด่ี ิน เปนพนักงานเจา หนา ที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายแพงและ
พาณชิ ยสําหรบั อสังหารมิ ทรัพยท่ีอยใู นเขตทองท่สี ํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานท่ีดินสาขา สมควรแกไขเพิ่มเติม
หลกั เกณฑแ ละวธิ ีการในการประกาศการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดินหรืออสังหาริมทรพั ยอยางอื่น
เสียใหม เพอื่ ใหส อดคลองกบั บทบัญญตั ิดงั กลา ว จงึ จําเปน ตอ งออกกฎกระทรวงนี้
๑๑๑
111
กฎกระทรวง
ฉบับท่ี ๔๓ (พ.ศ. ๒๕๓๗)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายท่ดี นิ
พ.ศ. ๒๔๙๗
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖ มาตรา ๘ และมาตรา ๑๕ แหง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ และมาตรา ๕๖ แหง
ประมวลกฎหมายที่ดิน รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว
ดงั ตอไปน้ี
ขอ ๑ ใหยกเลกิ
ยกเลิกของเดิม
(๑) กฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใช
ประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
(๒) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
(๓) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๕ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
(๔) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๖ (พ.ศ. ๒๕๑๔) ออกตามความใน
พระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
(๕) กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๘ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ิใหใชประมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
(๖) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๒ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความใน
พระราชบัญญตั ใิ หใชป ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
(๗) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๓ (พ.ศ. ๒๕๑๕) ออกตามความใน
พระราชบญั ญัตใิ หใชประมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
๑๑๒
112
(๘) กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๒๘ (พ.ศ. ๒๕๑๖) ออกตามความใน
พระราชบญั ญัติใหใ ชประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
(๙) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๐ (พ.ศ. ๒๕๑๘) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ใิ หใ ชป ระมวลกฎหมายทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
(๑๐) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๔ (พ.ศ. ๒๕๒๙) ออกตามความใน
พระราชบญั ญัตใิ หใชประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗
(๑๑) กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๓๙ (พ.ศ. ๒๕๓๓) ออกตามความใน
พระราชบัญญตั ใิ หใชป ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗
หมวด ๑
ใบจอง
แบบใบจอง ขอ ๒ แบบใบจองมี ๒ แบบ คือ แบบ น.ส. ๒ และ น.ส. ๒ ก. ทาย
การใชแ บบ กรณี กฎกระทรวงน้ี
ยกเลกิ /ยังไมยกเลกิ
อาํ นาจนายอําเภอ การออกใบจองในทองท่ีซ่ึงรัฐมนตรียังไมไดประกาศยกเลิกอํานาจหนาท่ี
ใบแทนใบจอง ในการปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินของหัวหนาเขต นายอําเภอ หรือ
ปลดั อาํ เภอผเู ปนหัวหนาประจาํ ก่ิงอําเภอ ตามมาตรา ๑๙ แหงพระราชบัญญัติแกไข
เพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ ใหใชแบบ น.ส. ๒
สว นในทอ งท่อี ืน่ ใหใชแบบ น.ส. ๒ ก.
ขอ ๓ ใบแทนใบจองใหใ ชแบบ น.ส. ๒ หรือ น.ส. ๒ ก. แลวแตกรณี
การออกแบบใบแทนใบจอง ใหพนกั งานเจา หนาที่ดาํ เนินการตามวิธีการ
ออกใบแทนโฉนดทด่ี ินโดยอนโุ ลม
หมวด ๒
หนังสือรบั รองการทาํ ประโยชน
แบบหนังสือรบั รอง ขอ ๔ แบบหนังสือรับรองการทําประโยชนมี ๓ แบบ คือ แบบ น.ส. ๓
การทาํ ประโยชน น.ส. ๓ ก. และ น.ส. ๓ ข. ทายกฎกระทรวงน้ี
๑๑๓
113
การออกหนังสือรบั รองการทาํ ประโยชนในทองท่ีทม่ี ีระวางรูปถายทางอากาศ การใชแบบ น.ส. ๓ ก.,
ใหใชแ บบ น.ส. ๓ ก. ในทองท่ที ่ีไมมรี ะวางรูปถายทางอากาศซ่ึงรัฐมนตรีไดประกาศ น.ส. ๓ ข. และ
ยกเลิกอํานาจหนาที่ในการปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินของหัวหนาเขต น.ส. ๓
นายอาํ เภอ หรือปลัดอาํ เภอผูเปนหวั หนา ประจํากิ่งอาํ เภอ ตามมาตรา ๑๙ แหง
พระราชบัญญัตแิ กไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ แลว
ใหใ ชแ บบ น.ส. ๓ ข. สวนในทอ งทอ่ี ่นื ใหใชแบบ น.ส. ๓
ขอ ๕ ที่ดินท่ีจะออกหนังสือรับรองการทําประโยชนตองเปนท่ีดินท่ีผูมีสิทธิ ลักษณะที่ดิน
ในที่ดินไดครอบครองและทําประโยชนแลว และเปนท่ีดินที่สามารถออกโฉนด
ทีด่ ินไดตามทก่ี าํ หนดไวใ นขอ ๑๔
ขอ ๖ ในการนําพนักงานเจาหนาที่ทําการสํารวจพิสูจนสอบสวน นําเดนิ สาํ รวจ
การทําประโยชนตามมาตรา ๕๘ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซ่ึงแกไขเพิ่มเติม
โดยพระราชบัญญตั ิแกไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายทีด่ ิน (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ ใหผู
มีสิทธิในท่ีดินหรือตัวแทนปกหลักตามมุมเขตที่ดินของตนและใหถอยคําตอ
พนักงานเจาหนาที่หรือผูซึ่งพนักงานเจาหนาที่มอบหมายตามแบบ น.ส. ๑ ก.
ทายกฎกระทรวงน้ี
กอนออกหนังสือรับรองการทําประโยชน ใหพนักงานเจาหนาที่ประกาศ ประกาศออก
การออกหนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชนใหท ราบมีกําหนดสามสิบวนั ประกาศนั้น หนังสอื รบั รองการ
ใหปด ไวในทเี่ ปด เผย ณ สาํ นักงานที่ดินทองท่ี สํานักงานเขตหรือท่ีวาการอาํ เภอหรือ ทําประโยชน
ที่วาการก่ิงอําเภอทองที่ ที่ทําการแขวงหรือที่ทําการกํานันทองที่และในบริเวณ
ที่ดินนั้น แหงละหนึ่งฉบับ ในเขตเทศบาลใหปดไว ณ สํานักงานเทศบาล
อกี หนึง่ ฉบับ
ขอ ๗ การขอออกหนังสือรับรองการทําประโยชนตามมาตรา ๕๙ และ การขอเฉพาะราย
มาตรา ๕๙ ทวิ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ซ่ึงแกไขเพ่ิมเติมโดยประกาศของ
คณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ท่ี ๙๖ ลงวนั ท่ี ๒๙ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๑๕ ใหด าํ เนนิ การ ดังน้ี
(๑) ใหผูขอย่ืนคําขอตามแบบ น.ส. ๑ ข. ทายกฎกระทรวงน้ี ตอพนักงาน - ย่นื คําขอ
เจาหนา ที่
๑๑๔
114
- หลกั ฐาน (๒) ในการยื่นคําขอตาม (๑) ถาผูขอมีใบจอง ใบเหยียบยํ่าตราจอง
หลักฐานการแจงการครอบครองที่ดิน หลักฐานวาเปนผูมีสิทธิตามกฎหมายวาดวย
การจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ หรือพยานหลักฐานอื่นท่ีแสดงวาไดสิทธิในที่ดิน
โดยชอบดวยกฎหมาย ใหแนบหลกั ฐานดังกลาวมาประกอบการพิจารณาดว ย
การพิสูจนส อบสวน ขอ ๘ เมื่อไดรับคําขอแลว ใหพนักงานเจาหนาที่ไปพิสูจนสอบสวน
การทําประโยชนยังท่ีดินตามแบบ น.ส. ๑ ค. ทายกฎกระทรวงน้ี ในการนี้
จะมอบใหเ จา หนา ที่ไปทาํ การแทนก็ได
การนาํ และปก หลัก ขอ ๙ ในการนําพนักงานเจาหนาท่ีพิสูจนสอบสวนการทําประโยชน
ใหผูมีสิทธิในที่ดินหรือตัวแทนปกหลักตามมุมเขตท่ีดินของตนและใหถอยคําตอ
พนักงานเจาหนาท่ีหรือผูซึ่งพนักงานเจาหนาท่ีมอบหมายตามแบบ น.ส. ๑ ค.
ทา ยกฎกระทรวงนี้
การคํานวณเนอื้ ท่ี ในการคํานวณจํานวนเน้ือที่เพ่ือออกหนังสือรับรองการทําประโยชน
น.ส. ๓ ก. ตามแบบ น.ส. ๓ ก. ใหค าํ นวณโดยวธิ คี ณติ ศาสตรหรือโดยมาตราสว น ท้ังนี้ ใหถือวา
จํานวนเนือ้ ท่ีท่ีคาํ นวณไดเปน จํานวนเน้ือทโี่ ดยประมาณ
การทําประโยชน ขอ ๑๐ เมอ่ื ไดพสิ ูจนสอบสวนการทําประโยชนแลว ปรากฏวาไดมีการ
ครอบครองและทําประโยชนตามสมควรแกสภาพที่ดินในทองถิ่น ตลอดจน
สภาพของกิจการท่ีไดทาํ ประโยชน ใหพนกั งานเจาหนา ทีด่ าํ เนินการ ดงั นี้
- การปดประกาศ (๑) ประกาศการออกหนงั สือรับรองการทําประโยชนใหทราบมีกําหนด
ออกหนังสอื รับรอง สามสิบวัน ประกาศนั้นใหปดไวในท่ีเปดเผย ณ สํานักงานท่ีดินทองที่ สํานักงานเขต
การทําประโยชน หรือที่วาการอําเภอหรือที่วาการกิ่งอําเภอทองที่ ที่ทําการแขวงหรือที่ทําการ
กํานันทองที่และในบริเวณที่ดินนั้น แหงละหน่ึงฉบับ ในเขตเทศบาลใหปดไว
ณ สาํ นกั งานเทศบาลอกี หนึง่ ฉบบั
- กรณีไมอ ยใู น (๒) ถาปรากฏวาที่ดินนั้นไมอยูในเขตปาสงวนแหงชาติ เขตอุทยาน
เขตปา ฯลฯ แหงชาติ เขตรกั ษาพนั ธุสัตวปา เขตหามลา สัตวป าหรือเขตทไ่ี ดจ ําแนกใหเปนเขต
ปาไมถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี และท่ีดินนั้นไมเปนท่ีดินซ่ึงตองหามมิใหออก
หนงั สือรับรองการทําประโยชนตามขอ ๕ และไมมีผูคัดคานภายในกําหนดเวลาที่
ประกาศตาม (๑) ใหพ นกั งานเจาหนาท่ีออกหนังสอื รับรองการทาํ ประโยชนใ หได
๑๑๕
115
(๓) ถาปรากฏวาท่ีดินน้ันต้ังอยูในตําบลที่มีปาสงวนแหงชาติ อุทยาน - กรณีอยูในเขตปา
แหงชาติ พนื้ ทร่ี กั ษาพันธสุ ตั วป า พืน้ ที่หา มลาสัตวป าหรือพืน้ ทที่ ี่ไดจ าํ แนกใหเปน ฯลฯ
เขตปาไมถ าวรตามมติคณะรฐั มนตรีและกรมปาไมหรือกรมพัฒนาที่ดินยังไมไดขีด
เขตปาสงวนแหงชาติ เขตอุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา เขตหามลาสัตว - กรณยี ังไมขดี เขต
ปา หรือเขตที่ไดจําแนกใหเปนเขตปาไมถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี ลงในระวางรูปถาย หรือขีดเขตปาฯ แลว
ทางอากาศเพ่ือการออกหนังสือรับรองการทําประโยชน หรือกรณีท่ีขีดเขตแลว
แตท่ีดินที่ขอออกหนังสือรับรองกา รทําประโ ยชนมีอาณาเขตติดตอ
คาบเกี่ยวหรืออยูในเขตปาสงวนแหงชาติ เขตอุทยานแหงชาติ เขตรักษา
พันธุส ตั วป า เขตหา มลาสตั วป าหรือเขตท่ีไดจําแนกใหเปนเขตปาไมถาวรตามมติ
คณะรัฐมนตรี ใหผูวาราชการจังหวัดแตงต้ังคณะกรรมการรวมกันออกไปตรวจ - การตงั้ กรรมการ
พิสูจนท่ีดินประกอบดวยปาไมอําเภอหรือผูท่ีปาไมจังหวัดมอบหมายสําหรับ
ทองท่ีที่ไมมีปาไมอําเภอ เจาหนาที่บริหารงานท่ีดินอําเภอ ปลัดอําเภอ
(เจาพนักงานปกครอง) และกรรมการอื่นตามที่เห็นสมควร เมื่อคณะกรรมการ
ดังกลาวไดทําการตรวจพิสูจนเสร็จแลว ใหเสนอความเห็นตอผูวาราชการจังหวัด - เสนอความเห็น
วาสมควรออกหนงั สือรับรองการทําประโยชนใ หไดหรือไม เพียงใด สําหรับที่ดิน
ที่ไดจําแนกใหเปนเขตปาไมถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี แตยังไมไดขีดเขตหรือ
ขีดเขตแลวแตที่ดินดังกลาวมีอาณาเขตคาบเก่ียวกับเขตท่ีไดจําแนกใหเปนเขต
ปา ไมถาวร ใหแตง ต้งั ผแู ทนกรมพัฒนาทีด่ นิ เปน กรรมการดว ย
ขอ ๑๑ เม่ือผวู า ราชการจงั หวดั ไดพจิ ารณาผลการตรวจพิสูจนท่ีดินของ ผวจ. พิจารณาผล
คณะกรรมการตามขอ ๑๐ (๓) แลว ปรากฏวาที่ดินนั้นไมอยูในเขตปาสงวน พสิ ูจนทด่ี นิ
แหง ชาติ เขตอุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา เขตหามลาสัตวปาหรือเขต
ทไ่ี ดจําแนกใหเปนเขตปาไมถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี หรือปรากฏวาที่ดินนั้น
อยูในเขตปาสงวนแหงชาติ เขตอทุ ยานแหงชาติ เขตรักษาพนั ธุส ตั วปา เขตหา ม
ลาสัตวปาหรอื เขตทไ่ี ดจ าํ แนกใหเ ปน เขตปาไมถาวรตามมตคิ ณะรัฐมนตรี แตผูขอ การสง่ั การ
ไดค รอบครองและทาํ ประโยชนในท่ดี ินดังกลา วโดยชอบดวยกฎหมายมากอนวันที่
๑๑๖
116
ทางราชการกําหนดใหท่ีดินนั้นเปนปาสงวนแหงชาติ อุทยานแหงชาติ เขตรักษา
พันธุสตั วป า เขตหามลา สัตวปาหรือเขตที่ไดจําแนกใหเปนเขตปาไมถาวรตามมติ
คณะรัฐมนตรี และไมมีผูคัดคานภายในกําหนดเวลาท่ีประกาศตามขอ ๑๐ (๑)
การส่ังการ ใหผ ูวา ราชการจังหวัดสง่ั การใหพ นกั งานเจาหนาทพี่ จิ ารณาดําเนินการตามขอ ๑๐ (๒)
ใบแทนหนงั สอื รบั รอง ขอ ๑๒ ใบแทนหนังสอื รบั รองการทาํ ประโยชนใ หใชแ บบ น.ส. ๓ น.ส. ๓ ก.
การทําประโยชน หรอื น.ส. ๓ ข. แลว แตก รณี
การออกใบแทนหนังสือรับรองการทําประโยชน ใหพนกั งานเจา หนา ท่ี
ดาํ เนินการตามวธิ กี ารออกใบแทนโฉนดทดี่ ินโดยอนโุ ลม
หมวด ๓
โฉนดที่ดิน
แบบโฉนดท่ดี นิ ขอ ๑๓ โฉนดท่ีดินใหใ ชแบบ น.ส. ๔ จ. ทายกฎกระทรวงนี้
โฉนดรนุ เกา ในกรณีโฉนดที่ดินที่ออกเปนโฉนดตราจองหรือตราจองท่ีตราวา“ไดทํา
ประโยชนแลว” ใหมีคําวา “โฉนดตราจอง” หรือ “ตราจองที่ตราวา “ไดทํา
ลักษณะที่ดนิ ท่ีออก
ไดแ ละออกไมไ ด ประโยชนแ ลว”” แลว แตกรณี ไวใ ตต ราครุฑ
ขอ ๑๔ ท่ีดินที่จะออกโฉนดท่ีดินตองเปนที่ดินที่ผูมีสิทธิในท่ีดินได
ครอบครองและทําประโยชนแลว และเปนที่ดินท่ีสามารถออกโฉนดที่ดินไดตาม
กฎหมายแตห ามมิใหออกโฉนดท่ีดินสําหรบั ทด่ี นิ ดังตอ ไปน้ี
(๑) ทด่ี ินทร่ี าษฎรใชป ระโยชนร วมกัน เชน ทางนํ้า ทางหลวง ทะเลสาบ
ท่ชี ายตลง่ิ
(๒) ที่เขา ท่ีภูเขา และพ้ืนท่ีท่ีรัฐมนตรีประกาศหวงหามตามมาตรา ๙ (๒)
แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน แตไมรวมถึงท่ีดินซ่ึงผูครอบครองมีสิทธิครอบครอง
โดยชอบดวยกฎหมายตามประมวลกฎหมายท่ีดนิ
(๓) ท่เี กาะ แตไ มร วมถึงท่ีดินของผูซึ่งมหี ลักฐานแจงการครอบครองที่ดิน
มีใบจอง ใบเหยียบยา่ํ หนังสอื รับรองการทําประโยชน โฉนดตราจอง ตราจองท่ีตราวา
“ไดทําประโยชนแลว” หรือเปนผูมีสิทธิตามกฎหมายวาดวยการจัดที่ดินเพ่ือการ
๑๑๗
117
ครองชีพ หรือท่ีดินท่ีคณะกรรมการจัดท่ีดินแหงชาติไดอนุมัติใหจัดแกประชาชน
หรือท่ีดินซึ่งไดมีการจัดหาผลประโยชนตามมาตรา ๑๐ และมาตรา ๑๑ แหง
ประมวลกฎหมายท่ดี ิน โดยคณะกรรมการจดั ทด่ี นิ แหง ชาตไิ ดอนุมัติแลว
(๔) ที่สงวนหวงหามตามมาตรา ๑๐ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวล
กฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๒๐ (๓) และ (๔) แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
ซ่งึ แกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ๓)
พ.ศ. ๒๕๒๖ หรอื กฎหมายอ่นื
(๕) ท่ีดินที่คณะรัฐมนตรีสงวนไวเพ่ือรักษาทรัพยากรธรรมชาติหรือ
เพ่ือประโยชนสาธารณะอยางอน่ื
ขอ ๑๕ การออกโฉนดท่ีดินตามมาตรา ๕๘ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน ขน้ั ตอนการออกเดนิ
ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๔) สํารวจ
พ.ศ. ๒๕๒๘ ใหด าํ เนินการ ดงั นี้
(๑) ใหมีการรังวัดทําแผนท่ีตามวิธีการรังวัดเพ่ือออกโฉนดท่ีดิน โดยให - รังวดั
เจา ของทด่ี ินปก หลักหมายเขตทด่ี นิ ไวทุกมุมทดี่ ินของตน
(๒) ใหเจาของที่ดินหรือผูแทนใหถอยคําตามแบบ น.ส. ๕ ทาย - สอบสวน
กฎกระทรวงนี้
(๓) กอนแจกโฉนดท่ดี ิน ใหเ จา พนกั งานที่ดนิ ประกาศการแจกโฉนดท่ีดิน - ประกาศแจก
ใหทราบมกี ําหนดสามสิบวัน ประกาศนั้นใหปดไวในท่ีเปดเผย ณ สํานักงานท่ีดิน
ทองที่ สํานักงานเขตหรือท่ีวาการอําเภอหรือท่ีวาการก่ิงอําเภอทองท่ี ที่ทําการ
แขวงหรือที่ทําการกํานันทองท่ี และในบริเวณที่ดินนั้น แหงละหน่งึ ฉบับ ในเขต
เทศบาลใหปดไว ณ สาํ นักงานเทศบาล อีกหนึ่งฉบบั
ขอ ๑๖ ในกรณอี อกโฉนดท่ีดนิ เฉพาะรายตามมาตรา ๕๙ และมาตรา ๕๙ ทวิ กรณอี อกเฉพาะราย
แหง ประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี ๙๖
ลงวันท่ี ๒๙ กุมภาพันธ พ.ศ. ๒๕๑๕ ใหผูมีสิทธิครอบครองท่ีดินย่ืนคําขอตามแบบ
น.ส. ๑ ข. ทายกฎกระทรวงนี้ และใหนําขอ ๗ (๒) ขอ ๑๐ (๒) และ (๓) ขอ ๑๑
และขอ ๑๕ มาใชบ ังคบั โดยอนุโลม
๑๑๘
118
ใบแทน ขอ ๑๗ ในการออกใบแทนโฉนดที่ดินใหด ําเนินการ ดังนี้
- สูญหาย (๑) ในกรณีโฉนดที่ดินเปนอันตรายหรือสูญหาย ใหเจาของท่ีดิน
ย่ืนคําขอและปฏิญาณตนตอเจาพนักงานท่ีดินโดยใหนําพยานหลักฐานมาให
- ชํารุด เจาพนักงานท่ีดินทําการสอบสวนจนเปนท่ีเชื่อถือได และใหเจาพนักงานที่ดิน
- ศาลมคี ําสั่ง ประกาศใหทราบมีกําหนดสามสิบวัน ประกาศน้ันใหปดไวในที่เปดเผย ณ
จดทะเบยี น สาํ นักงานทีด่ นิ ทอ งที่ สํานักงานเขตหรือที่วาการอําเภอหรือที่วา การกิ่งอําเภอทองท่ี
- ขายทอดตลาด ท่ีทาํ การแขวงหรอื ทท่ี ําการกํานันทองที่ และในบริเวณท่ีดินนั้น แหงละหน่ึงฉบับ
ในเขตเทศบาลใหป ดไว ณ สํานกั งานเทศบาล อีกหนึ่งฉบับ ถามีผูคัดคานภายในเวลา
ที่กําหนดและนําพยานหลักฐานมาแสดง ใหเจาพนักงานท่ีดินสอบสวนแลวส่ังการ
ไปตามควรแกกรณี ถา ไมมีผใู ดคัดคานภายในเวลาที่กําหนด ใหออกใบแทนใหไป
ตามคําขอ
(๒) ในกรณีโฉนดที่ดินชํารุด ถาเจาของที่ดินนําโฉนดที่ดินท่ีชํารุดนั้น
มามอบและโฉนดท่ีดินท่ีชํารุดนั้นยังมีตําแหนงท่ีดิน เลขที่โฉนดที่ดิน ชื่อและ
ตราประจาํ ตาํ แหนง ของผูวาราชการจงั หวัด และหรือชื่อและตราประจําตําแหนง
ของเจาพนักงานที่ดินตามแบบโฉนดที่ดินปรากฏอยูซ่ึงสามารถตรวจสอบได
ใหอ อกใบแทนใหไ ปได ถาขาดขอ ความสําคัญดังกลาวใหนําความใน (๑) มาใชบ งั คบั
(๓) ในกรณีศาลมีคําสั่งหรือมีคําพิพากษาอันถึงที่สุดเก่ียวกับโฉนดท่ีดิน
หรือผูใดมีสิทธิจดทะเบียนตามคําพิพากษาของศาล แตไมไดโฉนดที่ดินมาหรือ
โฉนดที่ดินเดิมเปนอันตราย ชํารุดหรือสูญหายดวยประการใด ใหผูมีสิทธิ
จดทะเบียนย่ืนคําขอใบแทนแลวใหดําเนินการตามที่กําหนดไวใน (๑) หรือ (๒)
แลว แตก รณี
(๔) ในกรณีเจาพนักงานผูมีอํานาจในการยึดและขายทอดตลาดที่ดินของ
ผทู ่ีคางชําระภาษอี ากรหรือเงินคางจายใด ๆ ตามท่ีกฎหมายบัญญัติไว ขอใหออก
ใบแทน โฉนดท่ี ดิ นสํ า หรั บที่ ดิ นดั งก ล าว ซึ่ งเจ าพ นั กงา นผู มี อํ า น า จ ไ ด ยึ ด ม า
ขายทอดตลาดแลว แตไ มไดโฉนดท่ีดินมาหรือโฉนดที่ดินเดิมเปนอันตราย ชํารุด
หรอื สูญหายดวยประการใด ใหถ อื หนงั สอื ของเจา พนักงานดงั กลาวเปนคําขอและ
ดาํ เนนิ การทาํ นองเดยี วกบั ทกี่ ําหนดไวใ น (๓) แตไ มต อ งสอบสวน
๑๑๙
119
(๕) ในกรณีอธิบดีจะใชอํานาจจําหนายท่ีดินตามประมวลกฎหมายท่ีดิน - อธด. ใชอ ํานาจ
แตไมไดโฉนดท่ีดินมาหรือโฉนดท่ีดินเดิมเปนอันตราย ชํารุด หรือสูญหาย จาํ หนาย
ดว ยประการใด ใหด ําเนนิ การทํานองเดยี วกับที่กําหนดไวใ น (๔) แตไ มตองสอบสวน
(๖) ในกรณีอธิบดีหรือผูวาราชการจังหวัดใชอํานาจเพิกถอนหรือแกไข - กรณเี พกิ ถอน/
โฉนดท่ีดิน เพิกถอนหรือแกไขรายการจดทะเบียนตามมาตรา ๖๑ แหงประมวล แกไ ข
กฎหมายท่ีดินซ่ึงแกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแกไขเพิ่มเติมประมวล
กฎหมายท่ีดิน (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ แตไมไดโฉนดท่ีดินมาหรือโฉนดที่ดิน
เปนอันตราย ชํารุดหรือสูญหายดวยประการใด ใหดําเนินการทํานองเดียวกับ
ทก่ี ําหนดไวใน (๔) แตไมตอ งสอบสวน
ในกรณที ่ีไมไดโ ฉนดที่ดนิ มาตาม (๓) (๔) (๕) และ (๖) ใหถือวาโฉนดท่ีดิน ถือวาโฉนดเกา
สูญหาย สูญหาย
ขอ ๑๘ ใบแทนโฉนดท่ดี ินใหใ ชแบบ น.ส. ๔ จ. แบบใบแทนโฉนด
การออกใบแทนโฉนดที่ดิน ใหเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดหรือเจาพนักงานที่ดิน - วธิ กี ารสราง
จงั หวัดสาขาคนปจ จุบันหรอื เจาพนักงานท่ีดินซงึ่ อธิบดีมอบหมายลงลายมือชื่อและ ใบแทน
ประทับตราประจําตําแหนงของเจาพนักงานท่ีดินเปนสําคัญใหมีคําวา “ใบแทน”
ดวยหมึกสีแดงไวดานหนาของโฉนดที่ดินในสารบัญจดทะเบียนใหระบุวัน เดือน ป
ท่ีออกโฉนดท่ีดินฉบับเดิมดวยหมึกสีแดง ถามีรายการจดทะเบียนใหคัดรายการ
ดวยหมึกสีแดงและใหเจาพนักงานที่ดินลงลายมือช่ือและประทับตราใตรายการ
สุดทาย ถาไมมีรายการจดทะเบียน ใหเจาพนักงานที่ดินลงลายมือชื่อและ
ประทบั ตราใตว ัน เดือน ป ที่ออกโฉนดท่ีดนิ ฉบับเดมิ
สวนโฉนดท่ีดินฉบับสํานักงานที่ดิน ในสารบัญจดทะเบียนใหมีคําวา - การดาํ เนินการ
“ไดออกใบแทนโฉนดท่ีดินแลว” และวัน เดือน ป ท่ีออกดวยหมึกสีแดงกับให ฉบบั สาํ นักงาน
เจา พนกั งานทด่ี นิ ลงลายมอื ชือ่ กํากับไว
ขอ ๑๙ ในกรณีออกโฉนดท่ีดินใหกับบุคคลตามมาตรา ๖ แหง กรณีครอบครอง
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งไดแจงการ มากอ น ป.ที่ดนิ และ
ครอบครองตามมาตรา ๕ แหงพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน แจง ส.ค. ๑
๑๒๐
120
พ.ศ. ๒๔๙๗ ไวแลว ใหดําเนินการตามหลักเกณฑและวิธีการท่ีกฎกระทรวงนี้
กาํ หนดไวโ ดยอนโุ ลม
ใหไว ณ วันท่ี ๒๒ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๓๗
เดน โตะมีนา
รัฐมนตรชี วยวา การฯ ปฏิบตั ิราชการแทน
รัฐมนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย
(ราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๑๑๑ ตอนที่ ๑๒ ก วนั ท่ี ๑ เมษายน ๒๕๓๗)∗
∗ หมายเหตุ : - เหตุผลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากไดมีประกาศกระทรวงมหาดไทย
ตามมาตรา ๑๙ แหงพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายท่ีดิน (ฉบับท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ ยกเลิกอํานาจหนาท่ีของ
นายอําเภอเก่ียวกับการปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายท่ีดินในบางทองที่แลว สมควรปรับปรุงแบบ หลักเกณฑ และ
วิธีการออกหนังสือรับรองการทําประโยชน รวมทั้งใบแทนของหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินดังกลาว เพ่ือใหเจาพนักงานที่ดิน
สามารถปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายทดี่ นิ ได นอกจากน้ี หลกั เกณฑการออกหนังสือรับรองการทาํ ประโยชนและโฉนดท่ีดิน
ไดใชบังคับมาเปนเวลานานแลว สมควรปรับปรุงใหเหมาะสมกับสภาวการณในปจจุบัน โดยเฉพาะการขอออกหนังสือ
รับรองการทาํ ประโยชนในพ้ืนท่ีปาสงวนแหงชาติ อุทยานแหงชาติ เขตรักษาพันธุสัตวปา เขตหามลาสัตวป า และเขตที่ได
จาํ แนกใหเ ปน เขตปาไมถ าวรตามมติคณะรัฐมนตรี ยังไมมีมาตรการที่รัดกุมเหมาะสม จึงสมควรกําหนดใหมีการตรวจสอบ
รับรองจากกรมปาไมและกรมพัฒนาที่ดินกอนออกหนังสือรับรองการทําประโยชนดวย และพรอมกันน้ี สมควรกําหนด
หลักเกณฑการออกโฉนดท่ีดินสําหรับท่ีเกาะ เพื่อปองกันการบุกรุกของราษฎรกับเพ่ืออนุรักษทรัพยากรธรรมชาติ
จงึ จาํ เปน ตอ งออกกฎกระทรวงน้ี
๑๒๑
121
๑๒๒
122
๑๒๓
123
๑๒๔
124
๑๒๕
125
๑๒๖
126
๑๒๗
127
๑๒๘
128
๑๒๙
129
๑๓๐
130
๑๓๑
131
๑๓๒
132
๑๓๓
133
๑๓๔
134
๑๓๕
135
๑๓๖
136
137
๑๓๘
138
๑๓๙
139
๑๔๐
140
๑๔๑
141