The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรพัฒนาครูแนะแนวแกนนำ Coaching

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Putsakit Susane, 2024-05-17 02:01:24

หลักสูตรพัฒนาครูแนะแนวแกนนำ Coaching

หลักสูตรพัฒนาครูแนะแนวแกนนำ Coaching

145 How to improve Empathy- เราจะฝึกความเห็นอกเห็นใจได้อย่างไร ความแตกต่างระหว่าง Sympathy, Empathy และ Compassion 1. Calm จิตสงบ กระตุ้นสมองระบบพักกับย่อยอาหาร ยับยั้งสมองระบบสู้หรือหนีด้วยวิธีการผ่อนคลายหรือทำสมาธิ และการคิดใคร่ครวญด้วยการเขียน “ภาพมโน – จินตนาการพลังโกรธแบบเสือในตัวเรา” ให้เลือกระหว่าง มโนว่ามี เสือโกรธภายในตัวเราเพราะคิดคาดเดาไปเอง หรือ มีเสือโกรธภายนอกตัวเรา แต่เราหลีกเลี่ยงที่จะยอมรับ ความผิดพลาดจากฝีมือของเรา จิตจะสงบได้ เมื่อใจเราให้อภัยตัวเองและผู้อื่น ด้วยพลังแห่งคำพูดยืนยันเปิดใจยอมรับ ความผิดพลาดและจะปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ เพื่อป้องกัน โจรปล้นใจในสมองอารมณ์ส่วนอะมิคดาลา โดยไม่ยึดติดกับการตัดสินถูกผิดและการตำหนิจับผิดคนอื่นไปเรื่อยด้วยความคิดลบ 2. Motivation แรงจูงใจให้ชีวิตมีเป้าหมาย แนะนำตัวเราเองในทุกๆ วันว่า มีเรามีเป้าหมายอะไร? (ถูกต้อง ใจดี มีเมตตา พัฒนาอย่างไร?) ไม่ด่วนตัดสินใครผิดจนทำให้เสียน้ำตาแบบตกใน หรือร้องไห้ออกมาทันทีมีการเรียนรู้ว่าเราจะควบคุมความชอบ โดยปราศจากความต้องการในแบบเคร่งเครียดได้อย่างไร? การมีสุขภาพดีมีพลังใจนั้นจะใช้พลังงานกระตุ้นให้ระวัง อารมณ์ลบ อันเป็นสาเหตุแห่งความสุขกับความรักที่เต็มไปด้วยความเครียดลบ ซึ่งสารสื่อสมองโดปามีนไม่จำเป็นที่จะ สร้างแรงจูงใจให้คาดหวังรางวัลอยู่ตลอดเวลา นั่นคือ เราน่าจะฝึกเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับอยู่ตลอดเวลา 3. Intimacy ความใกล้ชิดคิดเรื่องคนและสัมพันธภาพ ขึ้นอยู่กับความคิดแต่เรื่องตัวเอง ซ่อนอยู่ภายในการสร้างสัมพันธภาพระหว่างเรามากน้อยแค่ไหน การคงไว้ ซึ่งความเห็นอกเห็นใจ ความเมตตากรุณาต่อกัน มิใช่การแสดงความรักโรแมนติด – พูดจาหวานชื่นเพียงเปลือกนอก การฝึกทำความดีแก่คนรอบข้าง ตำหนิน้อยลง ขัดแย้งลดลง รับผิดชอบต่อความประพฤติของตนเอง ไม่รบกวน คุมอารมณ์ได้ ไม่ทำให้คนอื่นยุ่งยาก ไม่คอยจับผิดพิสูจน์ราวกับคนร้าย ไม่โต้เถียงในสิ่งที่จบไปแล้ว ไม่วิพากษ์วิจารณ์


146 จนเกินเหตุอันควร โปรดระลึกเสมอว่าพวกเขาทั้งหลายเคยมีวันที่ไม่สบายใจ ลองเริ่มพูดเห็นด้วยกันพวกเขาบ้าง บอกได้ถ้าเราไปประชุมสาย ออกก่อนเวลาและไปถึงตรงเวลาเสมอ กล้าถกแถลงในส่วนที่ตนเองสร้างปัญหาแล้ว พยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงจัง How to improve Leadership – ทำอย่างไรจะเพิ่มภาวะผู้นำตามธรรมชาติในตัวเราทุกคน 1. Compassion จิตเติบโตด้วยใจเมตตาให้เป็นรางวัลแห่งชีวิต แสดงการให้ความรักต่อตัวเองและพร้อมช่วยเหลือผู้อื่นอย่างพอดี มีความเครียดลดลง ร่างกายมีจิตสงบ ยิ่งให้ความดี ยิ่งได้รับความดี ในหนึ่งลมหายใจ หรือสอง หรือสิบ รอบลมหายใจ ให้เรียนรู้ความรักต่อตัวเอง เราจำเป็นที่จะยอมรับตัวตนที่แท้จริง คือ คิดลบ คิดบวก ไม่คิดอะไรเลย ในปมประสาทฐานของสมองจะสร้างสารโดปามีน ที่ทำหน้าที่จัดลำดับรางวัลให้กับการกระทำของเรา เช่น เราสนุกกับชีวิตคือพลังความห่วงใยที่สำคัญที่สุดในทุกนาที แห่งการดำเนินชีวิต 2. Mindfulness จิตมีสติ สมองทำงานคล้ายแถบยึดกับประสบการณ์อันเลวร้าย แต่คล้ายแถบลื่นกับประสบการณ์อันดีงาม เราจะ ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงอย่างไรให้พลังใจรับรู้สึกเป็นสีเขียว (สันติ พอใจ และไม่คาดหวังสิ่งใด) และคอยเตือนจิตฝึกสติรับรู้สีแดงให้จางลง คือ ความกลัว คับข้องใจ และเจ็บปวดกายใจ ลบจิตสีแดงให้เร็วที่สุด เราเอ่ยคำออกมาได้เลยว่า กำลังเกิดประสบการณ์ใดที่แย่อยู่ กำลังรู้สึกอะไรบ้างให้ดำเนินต่อไป สุดท้ายกำลังคิดที่จะ ช่วยอะไรเพื่อตอบสนองความรู้สึกของเราให้ได้ความจำเป็นที่แท้จริง 3. Learning กำลังเรียนรู้ทำงานอย่างเป็นระบบ กระตุ้นและใส่ใจในการเปลี่ยนแปลงระบบประสาทตามธรรมชาติ “กำลังเรียนรู้ว่าตัวเราเรียนอย่างไร ให้เกิดการเยียวยาชีวิต” ด้วยหลักการ HEAL โดยแยกเป็นเทคนิค คือ • H – Have a positive experience: มีประสบการณ์อันดีงาม • E – Enrich it: เสริมสร้างความรู้สึกดีต่อใจ • A – Absorb it: ซึมซับรับรู้คิดบวก • L – Link positive and negative material: เชื่อมโยงแทนที่สิ่งที่เคยปวดใจ ลองกำลังคิดถึง ความเป็นจริง เช่น เรื่องจริงที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่ไว้ใจและนับได้เป็นรูปธรรม และประสบการณ์ชีวิตคิดบวก ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มิใช่เงื่อนไขหรือปัญหาที่เข้ามารุมเร้าตัวเรา เราทุกคนรู้ว่า กระบวนการปิ๊งแว้บตามธรรมชาติเป็น อย่างไร?


147 วิธีที่ส่งเสริมหนึ่งประสบการณ์คิดบวก ได้แก่ 1. ยืดภาพความทรงจำที่ดีแล้วพูดออกมาสัก 5 - 10 วินาที 2. เปิดใจทำความคิดบวกให้สั้นกระชับได้จับใจความสำคัญ 3. จินตนาการต่อได้ว่าความทรงจำนี้เกิดครั้งแรกในชีวิตเมื่อใด และ 4. คุณให้คุณค่าอย่างไร? นอกจากนี้เรายังสามารถลองได้อีก 3 วิธี ที่จะเพิ่มการซับซับความคิดบวกสู่สมองของเรา คือ 1. ตั้งใจคิดดี 2. สื่อสารความคิดดีด้วยหัวใจที่งดงามดุจอัญมณี และ 3. ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง เราต้องทำการแจกแจงรายละเอียดสิ่งท้าทายรอบตัวเรา แล้วต้องกล้าเผชิญหน้ากับสิ่งท้าทายภายในใจเรา เช่น การตำหนิตนเอง การรับรู้สึกไม่ต้องการสิ่งใด ๆ แล้วค่อย ๆ แยกแยะจิตดีงามที่เป็นตัวเรา เช่น ปลอดภัย พอใจ เป็นมิตร ด้วยความรักและแก้ปัญหาได้เร็วด้วยการคิดบวกแล้วมุ่งมั่นคิดพูดทำออกมาอย่างสร้างสรรค์ทั้งหมดเป็น หลักการที่พวกเราสามารถฝึกฝนตัวเองกันได้ เพื่อสุขภาพสมองที่ดีและส่งผลไปถึงการใช้งานศักยภาพสมองได้ดีอย่างมี ประสิทธิภาพ โดยทั้ง 4 องค์ประกอบนั้น ยังส่งผลต่อการมีทักษะ Resilience skill ได้อีกด้วย


148 เอกสารศึกษาเพิ่มเติม


149


150 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับ ชื่อ-สกุล การมีส่วน ร่วม ความ กระตือรือร้น ความถูกต้อง ความคิด สร้างสรรค์ รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน (..................................................) วันที่ ................./................../.................. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน 10-12 7-9 4-6 ต่ำกว่า 4 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง


151 โมดูล 4 แนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้การปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียน โมดูลย่อย 4.1.2 Know myself เรื่อง ปรับตัว แปลงใจในโลกดิจิทัล เวลา 1 ชั่วโมง สาระสำคัญ จากความเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลเทคโนโลยีในปัจจุบัน ที่เข้ามามีบทบาทและถือเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ ของชีวิต จนเรียกได้ว่าเป็น “สังคมยุคดิจิทัล” และเกี่ยวพันทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจ ภาครัฐ สถาบันการศึกษา หรือแม้แต่สถาบันครอบครัว การปรับตัวและเรียนรู้เท่าทันดิจิทัลเทคโนโลยี จึงมีความสำคัญ ในการเพิ่มองค์ความรู้และศักยภาพของผู้คนให้เกิดการเท่าทันดิจิทัลเทคโนโลยี และนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ สูงสุด ทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของตนเองเพื่อให้ก้าวเข้าสู่สังคมยุคดิจิทัลตามมาตรฐานสากลโลก และสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนผ่านในโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม 1. มีความรู้ในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนผ่านในโลกดิจิทัลอย่างเหมาะสม (K) 2. มีทักษะในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนผ่านในโลกดิจิทัล (S) 3. ตระหนักถึงความสำคัญในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนผ่านในโลกดิจิทัล (A) แนวทางการจัดกิจกรรม ขั้นนำ (10 นาที) 1. วิทยากรร่วมอภิปรายกับผู้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับประสบการณ์การใช้เทคโนโลยี โดยใช้ Application Word Cloud (www.mentimeter.com) ในด้าน - การใช้งานเทคโนโลยีในปัจจุบัน - ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยี - วิธีการรับมือ 2. วิทยากรแนะนำ ความเป็นพลเมืองดิจิทัล (Digital Citizenship) ขั้นดำเนินกิจกรรม (40 นาที) 1. วิทยากรอธิบายเรื่อง ความฉลาดทางดิจิทัล (DQ : Digital Intelligence) ทักษะสำคัญที่จะทำให้เป็น พลเมืองดิจิทัลที่สมบูรณ์ 2. วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมทำแบบทดสอบความรู้ด้านดิจิทัล https://think-digital.app/assessment/ 3. วิทยากรแนะนำบทเรียนออนไลน์สำหรับการพัฒนาความรู้ด้านดิจิทัลสำหรับผู้เข้ารับการอบรม ที่ผลแบบทดสอบน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในแต่ละด้าน


152 ขั้นสรุป (10 นาที) 1. วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจในผลแบบทดสอบความรู้ด้านดิจิทัล 2. วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ความฉลาดทางดิจิทัล และแนวทางการถ่ายทอด ให้แก่นักเรียน ผ่าน Application Word Cloud (www.padlet.com) สรุปแนวคิด ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ มีทักษะในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนผ่านในโลกดิจิทัล รวมถึงมีความตระหนักถึง ความสำคัญในเรื่องความทางดิจิทัลอย่างเหมาะสม รายการสื่อ / เครื่องมือ รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.1.2 Know myself เรื่อง ปรับตัว แปลงใจในโลกดิจิทัล 1. แบบทดสอบความรู้ทางดิจิทัล https://think-digital.app/assessment/ 2. เอกสารศึกษาเพิ่มเติม เรื่อง ความฉลาดทางดิจิทัล (DQ Digital Intelligence) 3. Mentimeter หัวข้อ “ความฉลาดทางดิจิทัล” 4. Padlet หัวข้อ “ประโยชน์ที่ได้รับ หลังจากเราปรับตัว แปลงใจ ให้เท่าทัน เทคโนโลยีและโลกดิจิทัล”


153 รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.1.2 Know myself เรื่อง ปรับตัว แปลงใจในโลกดิจิทัล 5. PowerPoint โมดูลย่อย 4.1.2 Know myself เรื่อง ปรับตัว แปลงใจใน โลกดิจิทัล - Application Word Cloud (www.mentimeter.com) - Application Word Cloud (www.padlet.com) การวัด/ประเมินผล 1. วิธีการวัดและประเมินผล - ประเมินผลการทำแบบทดสอบความรู้ด้านดิจิทัล 2. เครื่องมือวัดและประเมินผล - แบบทดสอบความรู้ด้านดิจิทัล 3. เกณฑ์การประเมิน - ผ่านแบบทดสอบความรู้ด้านดิจิทัลมากกว่า 60%


154 เอกสารศึกษาเพิ่มเติม เรื่อง ความฉลาดทางดิจิทัล (DQ Digital Intelligence)


155 แบบทดสอบความรู้ทางดิจิทัล https://think-digital.app/assessment/


156 ตัวอย่างผลการทดสอบความรู้ด้านดิจิทัล


157 โมดูล 4 แนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้การปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียน โมดูลย่อย 4.2.1 Support my mind เรื่อง ภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียนและทักษะในการจัดการกับตัวเอง เวลา 1 ชั่วโมง สาระสำคัญ การแนะแนวด้านส่วนตัวและสังคม (Personal and Social Guidance) การให้คำปรึกษาและส่งเสริม สุขภาพจิตนักเรียน เป็นกระบวนการช่วยส่งเสริมและพัฒนานักเรียนในด้านบุคลิกภาพ อารมณ์และสังคม เพื่อให้เป็น ผู้ที่มีสุขภาพจิตดีโดยการศึกษาและทำความเข้าใจภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียน จะช่วยให้ผู้สอนมีแนวทางในการจัด กิจกรรมส่งเสริม ป้องกัน แก้ไข พฤติกรรมของนักเรียน ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะในการจัดการกับตัวเอง ได้แก่ ทักษะการสร้างพลังใจ ทักษะการรับมือกับปัญหาการปรับตัวในยุคดิจิทัลทักษะการปฐมพยาบาลทางใจ ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนสามารถปรับตัวได้อย่างมีความสุข รู้จักบำเพ็ญตนให้เป็นประโยขน์ต่อตนเอง และสังคม วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม 1. มีความรู้เกี่ยวกับ ภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียน และการจัดการกับตนเอง (K) 2. มีแนวทางการเสริมสร้างทักษะในการจัดการกับตัวเองให้กับผู้เรียน (S) 3. ตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของการส่งเสริมภาวะสุขภาพจิต ให้กับผู้เรียน (A) แนวทางการจัดกิจกรรม ขั้นนำ (15 นาที) 1. วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยยกตัวอย่างสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับภาวะ สุขภาพจิตของผู้เรียนที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ภาวะซึมเศร้า ภาวะความเครียด ภัยคุกคามทางเพศ การบูลลี่ เป็นต้น และให้ผู้รับการอบรมทบทวนแนวทางการให้ความช่วยเหลือในประเด็นดังกล่าว โดยเชื่อมโยงถึงความสำคัญของการมีสุขภาพจิตที่ดี การช่วยเหลือ ป้องกัน แก้ไข และความสำคัญ ของเสริมสร้างทักษะการจัดการตนเอง ขั้นดำเนินกิจกรรม (35 นาที) 1. วิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะในการจัดการกับตัวเอง เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาทางภาวะ สุขภาพจิตของนักเรียน ได้แก่ ทักษะการสร้างพลังใจ ทักษะการรับมือกับปัญหาการปรับตัวในยุคดิจิทัล ทักษะการปฐมพยาบาลทางใจ 2. วิทยากรให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาใบความรู้ที่ 1-2 เกี่ยวกับทักษะในการจัดการกับตัวเอง 3. วิทยากรแบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมเพื่อให้ช่วยกันวิเคราะห์ปัญหาภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียนและวิธีการ จัดการกับตัวเอง ลงในใบงาน เรื่อง การวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพจิตผู้เรียน


158 4. ผู้เข้ารับการอบรมแต่ละกลุ่มนำเสนอปัญหาภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียน ที่แต่ละกลุ่มพบเจอพร้อมทั้งวิธีการ จัดการกับตัวเองที่แต่ละกลุ่มเลือกใช้กับผู้เรียน ขั้นสรุป (10 นาที) 1. วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันสรุป พิจารณาสาเหตุของปัญหาและการจัดการกับปัญหา ภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียน และทักษะการจัดการกับตัวเองที่เหมาะสม สรุปแนวคิด การรู้จักและเข้าใจภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียน ทักษะในการจัดการกับตัวเอง ได้แก่ ทักษะการสร้างพลังใจ ทักษะการรับมือกับปัญหาการปรับตัวในยุคดิจิทัล ทักษะการปฐมพยาบาลทางใจ ในการดำเนินงานแนะแนว ด้านส่วนตัวและสังคม โดยมีจุดมุ่งเน้นในการส่งเสริมสุขภาวะจิตของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถปรับตัว และดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข รายการสื่อ / เครื่องมือ รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.2.1 Support my mind เรื่อง ภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียนและทักษะในการจัดการกับตัวเอง 1. ใบความรู้ที่ 1 ภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียน และทักษะในการจัดการกับ ตนเอง 2. ใบความรู้ที่ 2 ทักษะการปฐมพยาบาลทางใจ 3. ใบงาน เรื่อง วิเคราะห์ปัญหาภาวะสุขภาพจิตผู้เรียน


159 รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.2.1 Support my mind เรื่อง ภาวะสุขภาพจิตของผู้เรียนและทักษะในการจัดการกับตัวเอง 4. PowerPoint โมดูลย่อยที่ 4.2.1 Support my mind เรื่อง ภาวะ สุขภาพจิตของผู้เรียนและทักษะในการจัดการกับตัวเอง - Application School Health HERO การวัด/ประเมินผล 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 สังเกตการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมกลุ่ม 1.2 ประเมินการนำเสนอชิ้นงานของแต่ละกลุ่ม 2. เครื่องมือวัดและประเมินผล 2.1 แบบสังเกตการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่ม 2.2 แบบประเมินการนำเสนอชิ้นงาน 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การสังเกตการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่ม รายการสังเกตพฤติกรรม การมีส่วนร่วม ความกระตือรือร้น ความถูกต้อง ความคิดสร้างสรรค์ เกณฑ์ประเมินคุณภาพ 8 - 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6 - 7 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 -3คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง 3.2 การประเมินการนำเสนอชิ้นงาน รายการประเมิน รายละเอียดข้อมูล รูปแบบการนำเสนอ การสื่อสาร ความเชื่อมโยงของข้อมูลแต่ละส่วน เกณฑ์การประเมิน 8 - 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6 - 7 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 -3คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง


160 แอพพลิเคชัน School Health HERO https://schoolhealthhero.obec.go.th/


161


162


163


164


165


166


167


168


169 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับ ชื่อ-สกุล การมี ส่วนร่วม ความ กระตือรือร้น ความถูกต้อง ความคิด สร้างสรรค์ รวม 12 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 คะแนน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน (..................................................) วันที่................./................../.................. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน 10-12 7-9 4-6 ต่ำกว่า 4 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง


170 โมดูล 4 แนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้การปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียน โมดูลย่อย 4.2.2 Support my mind เรื่อง ทักษะการให้การปรึกษา เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที สาระสำคัญ การให้การปรึกษาเป็นกระบวนการให้ความช่วยเหลือบุคคลด้วยการสนทนาหรือการพูดคุยกัน อย่างมีเป้าหมายและมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ตลอดจนเป็นการใช้ทักษะ ขั้นตอนและทฤษฎีของการให้การปรึกษา เพื่อให้ผู้รับการปรึกษามีความไว้วางใจ พร้อมที่ค้นหาสาเหตุของปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่จนสามารถตัดสินใจและแก้ไข ปัญหาด้วยตนเองอย่างเหมาะสม ดังนั้นผู้ให้การปรึกษาจำเป็นต้องสามารถเลือกใช้ทักษะการให้การปรึกษา ในการสื่อสารทั้งการใช้ภาษาท่าทางและภาษาพูดในการช่วยเหลือผู้รับการปรึกษารวมถึงสามารถดำเนินการ ให้การปรึกษาตามขั้นตอนที่ถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้การให้การปรึกษาบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม 1. มีความรู้เกี่ยวกับการให้การปรึกษา (K) 2. สามารถเลือกใช้ทักษะให้การปรึกษาอย่างเหมาะสม (S) 3. ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ทักษะการให้การปรึกษาได้อย่างที่ถูกต้อง (A) แนวทางการจัดกิจกรรม ขั้นนำ (10 นาที) 1. วิทยากรสอบถามประสบการณ์เบื้องต้นของผู้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการให้การปรึกษา 2. วิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายและความสำคัญของการให้การปรึกษา พร้อมทั้งให้ ผู้เข้ารับการอบรมศึกษาใบความรู้ที่ 1 เรื่องการให้การปรึกษา ขั้นดำเนินกิจกรรม (120 นาที) 1. วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมศึกษารายละเอียดของการให้การปรึกษา จากใบความรู้ที่ 2 เรื่อง ทักษะ การให้การปรึกษา ซึ่งประกอบด้วย ทักษะการใส่ใจ การถาม การเงียบ การทวนซ้ำ การให้กำลังใจ การสรุปความ การให้ข้อมูลและคำแนะนำ การชี้ผลที่ตามมา รวมถึงขั้นตอนการให้การปรึกษา 5 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นการสร้างสัมพันธภาพ ขั้นทักษะการฟัง ขั้นสำรวจทำความเข้าใจปัญหาผลกระทบ ความต้องการและกำหนดเป้าหมายที่เป็นจริงได้ ขั้นหาแนวทางแก้ไขปัญหา ขั้นวางแผน เพื่อนำไปสู่ การปฏิบัติขั้นยุติการให้การปรึกษา โดยใช้คลิปวีดิทัศน์ประกอบการฝึกทักษะการให้การปรึกษา และอภิปรายร่วมกับผู้เข้ารับการอบรม


171 2. ให้ผู้เข้ารับการอบรมฝึกทักษะการให้การปรึกษาโดยการแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ได้แก่ ผู้ขอรับการปรึกษา ผู้ให้การปรึกษา และผู้สังเกตการณ์ โดยสมาชิกแต่ละคนในกลุ่มมีบทบาทดังนี้ คนที่ 1 แสดงบทบาทเป็นผู้เข้ารับการอบรมรับฟังปัญหาและให้การปรึกษา คนที่ 2 แสดงบทบาทเป็นนักเรียนผู้ขอรับการปรึกษาโดยเล่าปัญหาให้ผู้เข้ารับการอบรบฟัง คนที่ 3 แสดงบทบาทเป็นผู้สังเกตการณ์ โดยบันทึกผลกการสังเกตลงในใบงาน แบบบันทึก การสังเกตการให้การปรึกษาและให้ข้อมูลย้อนกลับต่อลักษณะการให้การปรึกษา ขั้นสรุป (20 นาที) 1. วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมสะท้อนผลของการฝึกทักษะการให้การปรึกษาร่วมกัน และให้ข้อเสนอแนะ สรุปแนวคิด ผู้เข้ารับการอบรมแนะแนวแกนนำงานนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษาจำเป็นต้องมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับ ความหมาย ความสำคัญ เพื่อให้สามารถถ่ายทอดและพัฒนานักเรียนเพื่อนที่ปรึกษาได้อย่างถูกต้อง รวมถึงมีทักษะ การให้การปรึกษาซึ่งเป็นสมรรถนะและเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะทักษะการให้การปรึกษาจะทำให้นักเรียนเกิดความรู้สึกไว้วางใจและมีทัศนคติที่ดีต่อผู้เข้ารับการอบรม และการให้การปรึกษา รวมทั้งจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจปัญหา สาเหตุของปัญหา และวางแนวทางแก้ไขปัญหา ของตัวเองได้ ซึ่งทักษะการให้การปรึกษาที่จำเป็นประกอบด้วย ทักษะการใส่ใจ การถาม การเงียบ การทวนซ้ำ การให้กำลังใจ การให้ข้อมูลและคำแนะนำ การชี้ผลที่ตามมา รายการสื่อ/เครื่องมือ รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.2.2 Support my mind เรื่อง ทักษะการให้การปรึกษา 1. ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง การให้การปรึกษา 2. ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง ทักษะการให้การปรึกษา


172 รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.2.2 Support my mind เรื่อง ทักษะการให้การปรึกษา 3. ใบงาน แบบบันทึกผลการสังเกตการให้การปรึกษา 4. PowerPoint โมดูลย่อยที่ 4.2.2 Support my mind เรื่อง ทักษะการให้ การปรึกษา - คลิปวีดิทัศน์การฝึกทักษะการให้การปรึกษา การวัด/ประเมินผล 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 การสังเกตการณ์เข้าร่วมกิจกรรม 2. เครื่องมือวัดและประเมินผล 2.1 แบบสังเกตการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การสังเกตการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่ม รายการสังเกตพฤติกรรม บุคลิกภาพ ความถูกต้องของการใช้ทักษะ ความครบถ้วนของกระบวนการแนวทางในการแก้ปัญหา เกณฑ์ประเมินคุณภาพ 8 - 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6 - 7 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 -3คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง หมายเหตุ กิจกรรมที่จัดขึ้นในหน่วยฝึกปฏิบัติการให้การปรึกษา (Case Counseling) เน้นการฝึกปฎิบัติของผู้เข้ารับการอบรม เกี่ยวกับทักษะการให้การปรึกษา เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเกิดความเข้าใจและพัฒนาทักษะในการให้การปรึกษา ที่ถูกต้อง อันจะนำไปสู่การมีความชำนาญในการให้ความช่วยเหลือนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


173


174


175


176


177


178


179


180


181


182


183


184


185


186


187 แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับ ระดับคะแนน ลำดับ ชื่อ-สกุล บุคลิกภาพ ความถูกต้อง ของการใช้ ทักษะ ความ ครบถ้วนของ กระบวนการ แนวทางใน การ แก้ปัญหา รวม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน (..................................................) วันที่................./................../.................. เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน 10-12 7-9 4-6 ต่ำกว่า 4 ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง


188 โมดูล 4 แนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้การปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียน โมดูลย่อย 4.2.3 Support my mind เรื่อง การพัฒนาระบบการดำเนินงานกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC: Youth Counselor วิถีใหม่ เวลา 30 นาที สาระสำคัญ การพัฒนาระบบการดำเนินงานของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) เป็นการพัฒนานักเรียนแกนนำ ที่ทางสถานศึกษาพิจารณาแล้วว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการให้ความช่วยเหลือเพื่อนด้วยกระบวนการให้คำปรึกษา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างเครือข่ายทางการแนะแนวในรูปแบบของเพื่อนช่วยเพื่อน ซึ่งหากครูแนะแนวมีความรู้ ความเข้าใจระบบการดำเนินงานของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) อันประกอบไปด้วย การพัฒนานักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา ในส่วนขององค์ความรู้ ทักษะ ที่เข้ากับยุคสมัย การขับเคลื่อนเชิงนโยบาย ซึ่งการวางแผนการดำเนินงานในส่วนต่าง ๆ ด้วยความเข้าใจ มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน จะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนการดำเนินงานฯ อย่างมีประสิทธิภ าพ และมีเครือข่ายในการเรียนรู้ร่วมกัน และช่วยขยายองค์ความรู้ และเพิ่มพูนประสบการณ์และมีทิศทางที่เป็นรูปธรรม ในการพัฒนางานอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม 1. มีความรู้ ความเข้าใจในแนวทางการจัดกิจกรรม แนวทางการอบรม และแนวปฏิบัติการดำเนินงานสำหรับ นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) (K) 2. ถอดบทเรียนในการดำเนินงาน และริเริ่มให้เกิดการขับเคลื่อนเป็นรูปธรรมชัดเจนในสถานศึกษา (S) 3. ออกแบบการดำเนินการโครงการนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) (S) 4. เห็นความสำคัญของการพัฒนาระบบการดำเนินงานกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC: Youth Counselor วิถีใหม่ (A) แนวทางการจัดกิจกรรม ขั้นนำ (5 นาที) 1. วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการดำเนินงานของกิจกรรม นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC ในแต่ละสถานศึกษาอย่างไรบ้าง โดยสอบถามจากผู้เข้ารับการอบรมที่ดำเนินงาน อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเป็นประเด็นศึกษาในการจัดกิจกรรม


189 ขั้นดำเนินกิจกรรม (20 นาที) 1. วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรมศึกษา พัฒนาความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการดำเนินงาน กิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา จากเอกสารดังนี้ 1) คู่มือครูแนวทางการจัดกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา 2) คู่มือสำหรับนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา 3) คู่มือการฝึกอบรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา 2. วิทยากรแบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการอบรมออกเป็นกลุ่ม จัดกิจกรรมโดยให้ผู้เข้ารับการอบรมได้เล่าประสบการณ์ บทบาทหน้าที่และขอบข่ายการปฏิบัติงานของผู้เข้ารับการอบรมในการดำเนินงานของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ในสถานศึกษาของตนเอง แล้วร่วมกันถอดบทเรียน (Lesson Learned) เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ ของครูแนะแนวในการดำเนินกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา ลงใน Application word cloud (www.mentimeter.com) 3. วิทยากรจัดกิจกรรมโดยการใช้คำถาม เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้คิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ 1) ลักษณะของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษาวิถีใหม่ 2) การดำเนินงานกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษาวิถีใหม่ให้เกิดการขับเคลื่อนเป็นรูปธรรมชัดเจนใน สถานศึกษา ขั้นสรุป (5 นาที) วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันสะท้อนคิดเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการดำเนินงานของนักเรียน เพื่อนที่ปรึกษา (YC) วิถีใหม่ โดยมุ่งเน้น/เพิ่มเติมประเด็นที่สำคัญในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสนับสนุน การดำเนินงาน ประกอบการดำเนินงานในองค์ประกอบต่าง ๆ สรุปแนวคิด ครูแนะแนว เป็นผู้ที่มีบทบาทและหน้าที่ดูแลงานกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษาโดยให้ความรู้ด้าน การให้การปรึกษา ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โครงสร้างของกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) การตรวจสอบ การดำเนินงานของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ดำเนินการประชุมรายกรณี บูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความถูกต้องข้อมูล สรุป นำเสนอ ผลการดำเนินงานแก่ผู้บริหาร และฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ครูแนะแนวควรมีองค์ประกอบด้านความรู้ คือ ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวัยรุ่น หลักการให้การปรึกษา หลักจิตวิทยา และการแนะแนว ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และการดำเนินงานของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) องค์ประกอบ ด้านทักษะ คือ ความสามารถในการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนางานกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ให้สามารถปฏิบัติ หน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ องค์ประกอบด้านเจตคติ คือ คุณลักษณะเชิงพฤติกรรมส่วนบุคคล ที่แสดงออกถึง การยอมรับความแตกต่างของผู้เรียน มีความเป็นกัลยาณมิตร มีใจรักและศรัทธาต่อการทำงานกับผู้เรียน มีความอดทน เป็นผู้ฟังที่ดีให้ความช่วยเหลือผู้เรียนอย่างเต็มความสามารถ


190 สำหรับ นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) ควรมีคุณลักษณะดังนี้ 1) ให้ความใส่ใจเพื่อนในชั้นเรียน 2) มีความเห็นอกเห็นใจ 3) มีทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล 4) มีสัมพันธภาพที่ดีกับเพื่อน 5) มีความเป็นผู้นำ 6) มีความรับผิดชอบ 7) ไม่มีประวัติการทำร้ายตนเอง 8) ไม่มีปัญหาทางอารมณ์ 9) มีความสนใจ ในการพัฒนาความรู้ที่ได้รับจากการอบรมเชิงปฏิบัติการ และสามารถเข้าร่วมกิจกรรมอื่นที่เป็น การขับเคลื่อน การดำเนินงานของนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) รายการสื่อ/เครื่องมือ รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.2.3 Support my mind เรื่อง การพัฒนาระบบการดำเนินงานกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC: Youth Counselor วิถีใหม่ 1. คู่มือครู แนวทางการจัดกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) 2. คู่มือสำหรับนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor)


191 รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.2.3 Support my mind เรื่อง การพัฒนาระบบการดำเนินงานกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา YC: Youth Counselor วิถีใหม่ 3. คู่มือการฝึกอบรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) วิถีใหม่ 4. Mentimeter เรื่อง บทบาทหน้าที่ของครูแนะแนวในการดำเนินงาน นักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC: Youth Counselor) วิถีใหม่ 5. PowerPoint โมดูลย่อยที่ 4.2.3 Support my mind เรื่อง การพัฒนา ระบบการดำเนินงานกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) วิถีใหม่ การวัดและประเมินผล 1. วิธีการวัดและประเมินผล สังเกตจากความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรม 2. เครื่องมือวัดและประเมินผล แบบสังเกตการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน การสังเกตการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่ม รายการสังเกตพฤติกรรม การมีส่วนร่วม ความกระตือรือร้น ความถูกต้อง ปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างแม่นยำ เกณฑ์ประเมินคุณภาพ 10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก 7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 -3คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง


192


193


194


Click to View FlipBook Version