95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133 โมดูลที่4 แนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้การปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียน 1. ชื่อหัวข้อ แนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้การปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียน 2. วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม 1. มีความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องภาวะสุขภาพจิตและการปรับตัว สร้างความฉลาดและปรับตัวต่อ การเปลี่ยนผ่านในโลกดิจิทัล ความเข้มแข็งทางใจ การประเมินด้านจิตวิทยาเบื้องต้น การยอมรับ เชื่อมั่น และเห็นคุณค่าในตัวเอง (K) 2. สามารถมีแนวทางการเสริมสร้างทักษะชีวิตให้กับผู้เรียน ทักษะการให้การปรึกษา การใช้แบบประเมิน มีความฉลาดทางดิจิทัล และการสื่อสารเชิงบวก ทักษะในการจัดการกับตัวเอง (S) 3. มีความตระหนักเห็นคุณค่าและความสำคัญของการแนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้การปรึกษา และส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาผู้เรียน (A) 3. สาระสำคัญ การแนะแนวด้านส่วนตัวและสังคม (Personal and Social Guidance) การให้คำปรึกษาและส่งเสริม สุขภาพจิตนักเรียน เป็นกระบวนการช่วยส่งเสริมและพัฒนานักเรียนในด้านบุคลิกภาพ อารมณ์และสังคม เพื่อให้เป็น ผู้ที่มีสุขภาพจิตดี และสามารถปรับตัวเองได้อย่างมีความสุข รู้จักบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม มีทักษะในการจัดการกับตัวเอง มีความเข้มแข็งทางใจ มีความสามารถในการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดีโดยการเสริมสร้าง เจตคติที่ดีต่อตนเองและสังคม การเชื่อมั่น มองเห็นคุณค่าและการยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลเมื่อเกิดปัญหา ก็สามารถแก้ไขได้ถูกต้อง สิ่งสำคัญคือหากโรงเรียนสามารถจัดบริการด้านนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นการป้องกัน ปัญหาทางสังคม สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนผ่านในโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์
134 4. โครงสร้างเนื้อหาและระยะเวลาในการฝึกอบรม โครงสร้างเนื้อหาในหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อพัฒนาครูแนะแนวแกนนํา โมดูลที่ 4 แนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้คำปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียน ประกอบด้วยเนื้อหา จํานวน 2 โมดูลย่อย โดยแบ่งเป็นภาคทฤษฎี จํานวน 2 ชั่วโมง 50 นาทีภาคปฏิบัติ จํานวน 3 ชั่วโมง 10 นาที รวมทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง ดังนี้ โมดูลย่อย ชื่อหน่วย ทฤษฎี (นาที) ปฏิบัติ (นาที) รวม (นาที) 1 Know Myself “รู้จัก เข้าใจ” 1.1 ล้มได้ ลุกเป็น Resilience skill 1.2 ปรับตัว แปลงใจในโลกดิจิทัล 80 40 120 2 Support my mind “แก้ไข ปัญหา” 2.1 ภาวะสุขภาพจิตและการจัดการตนเอง 2.2 ทักษะการให้การปรึกษา 2.3 การพัฒนาระบบนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC) 90 150 240 รวม 170 190 360
135 โมดูล 4 แนะแนวส่วนตัวและสังคม การให้การปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพจิตนักเรียน โมดูลย่อย 4.1.1 Know myself เรื่อง ล้มได้ ลุกเป็น Resilience skill เวลา 1 ชั่วโมง สาระสำคัญ การแนะแนวด้านส่วนตัวและสังคม (Personal and Social Guidance) เป็นกระบวนการช่วยส่งเสริม และพัฒนานักเรียนในด้านบุคลิกภาพ อารมณ์และสังคม เพื่อให้เป็นผู้ที่มีสุขภาพจิตดี มีความเข้มแข็งทางใจ ซึ่งความเข้มแข็งทางใจหมายถึงการที่บุคคลสามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ด้วย การรู้จักตนเอง มีความอดทน รับผิดชอบ มีความยืดหยุ่นทางความคิด ใช้ศักยภาพของตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในสิ่งที่คาดหวัง อันจะส่งผลให้ เกิดการมองเห็นคุณค่า สามารถปรับตัว การยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลเมื่อเกิดปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ถูกต้อง สมบูรณ์ วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม 1. มีความรู้เกี่ยวกับความเข้มแข็งทางใจ และมีแนวทางในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจให้กับผู้เรียน (K) 2. มีทักษะในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจให้กับผู้เรียน (S) 3. ตระหนักถึงความสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจให้กับผู้เรียน (A) แนวทางการจัดกิจกรรม ขั้นนำ (10 นาที) 1. วิทยากรร่วมอภิปรายกับผู้เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับประสบการณ์ในการเผชิญหน้ากับปัญหา 2. วิทยากรร่วมกับผู้รับการอบรมสรุปสิ่งที่ได้รับเกี่ยวกับการจัดการกับปัญหาดังกล่าว ตลอดจนเชื่อมโยง ความสำคัญของเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ Resilience skill ขั้นดำเนินกิจกรรม (40 นาที) 1. วิทยากรอธิบายเรื่อง Resilience skill ทักษะเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ และให้ผู้รับการอบรมศึกษา ใบความรู้เรื่อง เกี่ยวกับทักษะเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ และอภิปรายร่วมกัน 2. วิทยากรให้ผู้เข้ารับการอบรม แบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม เพื่อถอดบทเรียนเป็นแผนผังความคิด เรื่อง แนวทางการเสริมสร้างความความเข้มแข็งทางใจให้กับผู้เรียน พร้อมนำเสนอตามความเหมาะสม ขั้นสรุป (10 นาที) 1. วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมแลกเปลี่ยนความรู้จากการทำกิจกรรม และแนะนำเอกสารสำหรับ ศึกษาเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับ Resilience skill 2. วิทยากรและผู้เข้ารับการอบรมร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง การเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ และแนวทาง การเสริมสร้างให้แก่ผู้เรียน
136 3. วิทยากรแนะนำเอกสารสำหรับศึกษาเพิ่มเติม 3.1 เรื่อง Talented Brain Performance 3.2 เรื่อง เสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ อึด ฮึด สู้ 3.3 เรื่อง แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างความเข้มแข็งทางใจ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษา สรุปแนวคิด ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ มีทักษะในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ รวมถึงมีความตระหนักถึง ความสำคัญในเรื่องการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ และมีแนวทางที่เหมาะสมในการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางใจ ให้กับนักเรียน รายการสื่อ / เครื่องมือ รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.1.1 Know myself เรื่อง ล้มได้ ลุกเป็น Resilience skill 1. ใบความรู้เรื่อง Resilience Skill 2. เอกสารศึกษาเพิ่มเติม เรื่อง Talented Brain Performance 3. เอกสารศึกษาเพิ่มเติม เรื่อง เสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจ อึด ฮึด สู้
137 รายการสื่อและเครื่องมือ สำหรับ Module 4.1.1 Know myself เรื่อง ล้มได้ ลุกเป็น Resilience skill 4. เอกสารศึกษาเพิ่มเติม เรื่อง แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การสร้างความเข้มแข็งทางใจ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา 5. PowerPoint โมดูลย่อยที่ 4.1.1 Know myself เรื่อง ล้มได้ ลุกเป็น Resilience Skill - กระดาษบรูฟ ตามจำนวนกลุ่ม - ปากกาเคมีตามจำนวนกลุ่ม การวัดและประเมินผล 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 สังเกตการให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมกลุ่ม 1.2 ประเมินการนำเสนอชิ้นงานของแต่ละกลุ่ม 2. เครื่องมือวัดและประเมินผล 2.1 แบบสังเกตการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่ม 2.2 แบบประเมินการนำเสนอชิ้นงาน 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 การสังเกตการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมกลุ่ม รายการสังเกตพฤติกรรม การมีส่วนร่วม ความกระตือรือร้น ความถูกต้อง ความคิดสร้างสรรค์ เกณฑ์ประเมินคุณภาพ 10 -12 คะแนน หมายถึง ดีมาก 7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 -3คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง
138
139
140
141
142 เอกสารสำหรับศึกษาเพิ่มเติม เรื่อง Talented Brain Performance การดึงศักยภาพสมองของมนุษย์ มาพัฒนาให้สอดคล้องกับเรื่องของการพัฒนาคน Talented Brain Performance ซึ่งส่งผลต่อการมีทักษะ Resilience skill โดยมี 4 องค์ประกอบนั้น - Creativity - Cognitive Flexibility - Empathy - Leadership How to improve Creativity – ทำอย่างไรจะฝึกจิตให้คิดสร้างสรรค์ 1. Grit จิตแข็งแกร่งต่อสิ่งแวดล้อมทางกายภาพและเทคโนโลยี โดยอาศัยความรู้สึกเบื้องต้น คือ การทานอาหารเพื่อสุขภาพ นอนหลับลึกให้เต็มอิ่ม ออกกำลังกายอย่าง สม่ำเสมอ กำจัดสารพิษกายใจให้ออกจากร่างกาย และประเมินกับรักษาสมดุลสุขภาวะแห่งตนเต็มศักยภาพ จินตนาการเสมอว่าสุขภาพจะเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น มีพลังงานคืนร่างกายที่มีชีวิตชีวาพร้อมด้วยการตระหนักรู้ ทดสอบสุขภาพตนเองอย่างสม่ำเสมอ อันได้แก่ การแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ มีความอดทน มีความเพียร และมีการผ่อน ความโหดร้ายภายในใจตน
143 เรามีความสามารถที่จะรับรู้สาเหตุที่เกิดขึ้นว่า เราไม่สามารถควบคุมผลที่เกิดตามมาได้ทุกปัญหา จะได้ทบทวนความรับผิดชอบต่อใจที่มีจิตสงบภายในตนเองอย่างสม่ำเสมอ เราช่วยทำอะไรได้ในวันนี้ จงเรียนรู้ว่า การที่เราไม่ได้ช่วยทำอะไรเลย คือ การแก้ปัญหาที่ดูถูกตัวเองมากเกินไป ชีวิตไร้สถานการณ์อันท้าทาย ไร้ความปรารถนา แห่งความหวังดี ไร้สัมพันธภาพอันดี 2. Gratitude ความกตัญญูต่อสภาพสังคม สุขที่คาดหวังจากคนอื่นถือเป็นตัวกระตุ้นความผิดหวังและความอิจฉาริษยาในใจเรา เราลองขบคิดดู เมื่อคนหนึ่งดีใจต่อเรา เราจะจดจำความรู้สึกสัมผัสใจในตอนนั้นได้แค่ไหน? การรับรู้สึกประสบผลสำเร็จทีละนิดทุก ๆ วัน จะชวนให้เราเพลิดเพลินรักในสิ่งที่ทำ เกิดไอเดียอันน่าหลงใหล มีเวลาดีๆ กับคนอื่น ดังนั้นจงลดความคิดลบที่จะเห็นเพียงตัวเองเป็นคนสำคัญแล้วคอยกำกับสั่งการคนอื่น เรากำลังรู้สึกดีขึ้น ในอนาคต แต่บ่อยครั้งที่เรากำลังมีอารมณ์ตึงเครียดกับปัจจุบันขณะ เพราะการยึดติดคาดหวังคำขอบคุณจากคนอื่น การแสดงคำขอบคุณในสิ่งที่เป็นประโยชน์ มิได้ป้องกันความอคติหรือยึดติดเป้าหมายด้วยความลำเอียงภายในใจตน หากแต่เรากำลังต่อสู้กับสิ่งท้าทายและยังคงมีอีกหลายร้อยเป้าหมายที่เราจะก้าวข้ามไปสู่ความสำเร็จ ที่แท้จริง ถ้าเราสามารถแสดงความสุขเมื่อคนอื่นมีความสุขได้ด้วยนั้น เราจะพบความสุขที่ยั้งยืน ความสุขทางใจนี้ จะคลายความเครียดด้วยความเพลิดเพลินใจ ไร้ความอิจฉาตาร้อน ทำให้เราไม่พบกับความเศร้าอย่างแน่นอน 3. Confidence ความมั่นใจ เรากำลังรู้ว่าเราเป็นคนดีคนหนึ่ง ทบทวนชีวิตที่ปรับปรุงได้ดีขึ้น ตำหนิผู้อื่นน้อยลง คบเพื่อนด้วยความเป็น กัลยาณมิตรคิดบวก แสดงความเมตตาจริงใจ มีความรักความเข้าใจด้วยโลกแห่งความยุติธรรมแก่เพื่อนมนุษย์ เมื่อต้องพบเจอสิ่งที่ยากลำบาก พยายามตั้งสติและวิจารณ์ตนเองถึงจุดแข็งแห่งตน จุดที่บำรุงจิตใจภายในร่างกาย ของเราให้เติบโต มีพื้นที่ปลอดภัยและเป็นพวกพ้องสามัคคี เรามีพัฒนาการตั้งแต่วัยเด็กที่สมองจดจำเล่าเรื่องราวของการได้รับการดูแลเอาใจใส่และทำให้เราพึ่งพิงผู้อื่น ด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน พยายามลงทะเบียนคำพูดคิดบวกในสมองของเราอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เรามองเห็นอ่านใจตน และคนอื่นด้วยการกระทำที่สุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน ใช้ความสามารถสูงสุด แรงพยายาม ความเอาใจเขา มาใส่ใจเรา วันที่เรากำลังทำงานหนัก กำลังสร้างมิตรภาพ กำลังทำสิ่งที่ผิดพลาดไปบ้าง กำลังเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ ทักษะชีวิตที่ช่วยเหลือคนอื่นได้ดี มีความอดทนอดกลั่นและอดออม และเป็นผู้ให้ความรักแก่ตนเองกับผู้อื่นอยู่เสมอ
144 How to improve Flexibility – ทำอย่างไรจะเพิ่มความยืดหยุ่น 1. Courage กล้าทำงานเป็นทีม เราจำเป็นที่จะต้องมีความกล้าขณะพูดกับคนอื่นอย่างเปิดใจจริงจัง แยกประสบการณ์ส่วนตัวกับการระดม ความคิดแก้ปัญหา โดยเน้นผลลัพธ์ วัตถุประสงค์ของการแก้ปัญหา คือ ถอดถอนคำชวนเชื่อ คุณคือใคร? มีอะไรพูดคุย ตรงประเด็นบ้าง? การพูดที่ฉลาดคือ ตั้งใจคิดบวก เป็นความจริง ได้ประโยชน์ในเวลาอันสั้น ไม่เร่งรีบ และเป็นที่ ต้องการตอบโจทย์ เมื่อเราต้องการปรับปรุง ให้ตรวจสอบสองรอบว่าเราคิดอะไร จะพูดทำให้คนอื่นเสียกำลังใจ เจ็บใจ ข่มเหงน้ำใจหรือไม่? และจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าเราขอร้องด้วยคำพูดสุภาพและง่ายต่อความเข้าใจของคนอื่นว่า เราหวังที่จะทำอะไรให้แตกต่างหรือเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ฉันรู้สึก ฉันคือใคร? กระบวนการเป็นอย่างไรที่ฉันจะช่วยทำ? ความจริงที่ยังเก็บไว้คาใจตัวเองคืออะไร? เข้าร่วมเมื่อมั่นใจในความเชี่ยวชาญ ของเราและความรู้สึกอยากช่วยเหลือส่วนบุคคล 2. Aspiration ความทะเยอทะยานที่ควบคุมได้อย่างยืดหยุ่น มีจิตที่เติบโตได้ด้วยการใส่ใจในแรงพยายามเรียนรู้และเติบโตมากกว่าคิดคาดหวังความสำเร็จอย่างเดียว ไม่เป็นไรเลยที่เราจะผิดพลาดบ้าง โปรดระลึกรู้ว่า เรากำลังให้อะไรเต็มความสามารถของเราแล้ว และรู้ว่าจะเกิดผล อย่างไรเมื่อพ้นมือเราออกไป ไม่ต้องใช้ความรู้สึกส่วนตัวเป็นหลัก เพราะเราไม่สามารถที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขได้ แม้แต่ลูก ๆ ของเราเอง จงค้นหาจุดสมดุลอันหวานชื่นในความรัก การทำงาน และการเล่น คิดคำนึกถึงเวลาหนึ่ง ในชีวิตของเราที่มีจิตเบิกบาน หลีกเลี่ยงระลึกถึงประสบการณ์อันน่าหวาดกลัว เพราะเวลาที่เราเกิดความทรงจำแย่ ๆ นั้นยิ่งเราครุ่นคิดก็ยิ่งใช้เวลานานเป็นวัน พอเปลี่ยนมาเป็นปีที่เหลือเวลาอยู่นั้น วันเวลาผ่านไปเร็วนัก 3. Generosity ความเอื้ออาทร กระบวนการฝึกให้อภัยเกิดขึ้นหลังจากปฏิเสธ ไม่ใช่ความผิดของตนเอง เปลี่ยนเป็นความโกรธต่อตนเอง และผู้อื่น เริ่มมีการเจรจาต่อรองให้ผู้อื่นคิดว่าตนเองไม่ผิด เกิดความละอายใจใจความผิดของตนเองจนซึมเศร้า และใช้เวลาสื่อสารกับตนเองนานจนกว่าจิตจะเปิดใจยอมรับความผิดแห่งตน จงใช้สติให้กำลังรู้ว่าเราจะทำอะไรและจะปล่อยจิตที่ฟุ้งซ่านให้คลายใจได้อย่างไร? ให้จิตสงบเป็นรางวัลแห่งชีวิต จงขอโทษทันที เพื่อคงคุณค่าความเป็นมนุษย์ที่มีการกระทำความดีงามต่อกัน มองเปิดใจกว้าง โดยเฉพาะให้อภัยตัวเอง ที่คิดลบ ความเอื้ออาทรส่วนใหญ่ไม่ข้องเกี่ยวกับการใช้เงินใด ๆ ขึ้นอยู่กับความซาบซึ้งใจในตนเอง เพื่อแสดงความเป็นคนดี มีน้ำใจช่วยเหลือด้วยความเมตตาที่จะทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตด้วยความรู้สึกสันติสุข