The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 1) ป.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ruthairong Srikeaw, 2021-11-25 06:37:02

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 1) ป.2

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 1) ป.2

146

X //
X /X

นาช่วยให้เมลด็ พชื งอก ช่วยในการสรา้ งอาหาร การลาเลยี งอาหารและธาตุอาหาร แสงช่วย
ในการสรา้ งอาหาร และการงอกของเมลด็ พืชบางชนดิ อากาศช่วยในการงอกของเมล็ดพชื
การหายใจ และการสรา้ งอาหาร ธาตอุ าหารชว่ ยให้พืชเจริญเตบิ โตได้อยา่ งปกติ

147

ตน้ ไม้ไมส่ ามารถเจริญเตบิ โตได้ เพราะไมม่ ีนา ซงึ่ อาจทาให้พชื ตายได้

พืชไม่สามารถเจริญเตบิ โตได้ เพราะไม่มแี สงทีช่ ่วยในการสรา้ งอาหาร
ของพืช

พืชสามารถเจริญเติบโตได้ เพราะมีแสงจากหลอดไฟฟ้า ทาใหพ้ ชื มี
แสงจากหลอดไฟฟ้าในการสรา้ งอาหาร

148

หน่วยย่อยท่ี ๓
วัฏจักรชวี ิตของพืชดอก

149

หน่วยย่อยท่ี ๓ วฏั จกั รชีวติ ของพืชดอก

หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี ๑ ชื่อหน่วย สงิ่ มชี ีวิต

จำนวนเวลำเรยี น ๔ ช่วั โมง จำนวนแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ ๒ แผน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำระสำคัญของหน่วย
พชื ดอกเม่ือเจรญิ เตบิ โตและมีดอก ดอกจะมีการสืบพันธ์ุ และเปลย่ี นแปลงไปเปน็ ผล ภายในผลมเี มล็ด

เม่อื เมล็ดงอก ต้นอ่อนท่ีอยูภ่ ายในเมล็ดจะเจริญเติบโตเปน็ พชื ต้นใหม่ พืชตน้ ใหมจ่ ะเจริญเตบิ โตเป็นตน้ พืชที่โต
เต็มวัยและออกดอกเพ่ือสบื พันธุ์และมีผลต่อไปได้อีก เป็นแบบรูปคงท่ีหมุนเวียนต่อเน่ืองเปน็ วฏั จกั รชีวิตของ
พืชดอก

มำตรฐำนและตวั ชว้ี ดั
มำตรฐำน ว ๑.๒

เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหน้าที่ ของอวัยวะตา่ ง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพนั ธก์ นั รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ชีว้ ัด
ว ๑.๒ ป. ๒/๓ สร้างแบบจาลองทบ่ี รรยายวฏั จักรชีวติ ของพชื ดอก

150

ลำดับกำรนำเสนอแนวคิดหลักของหน่วยย่อยที่ ๓ วฏั จกั รชีวิตของพืชดอก

พชื ทม่ี ดี อกจดั เป็นพืชดอก

พืชดอกเม่ือเจริญเตบิ โตและมีดอก ดอกจะมีการสบื พนั ธุเ์ ปลย่ี นแปลงไปเปน็ ผล ภายในผลมีเมลด็
เมื่อเมล็ดงอก ต้นอ่อนท่ีอยภู่ ายในเมล็ดจะเจริญเตบิ โตเป็นพืชตน้ ใหม่

พืชตน้ ใหมจ่ ะเจรญิ เตบิ โตเป็นตน้ โตเตม็ วยั ออกดอกเพื่อสบื พันธม์ุ ผี ลและเมล็ดที่สามารถงอกและเจริญเติบโต
เป็นพชื ตน้ ใหมต่ ่อไปได้อีก ซง่ึ มแี บบรูปคงทหี่ มุนเวยี นต่อเน่ืองเปน็ วฏั จกั รชวี ิตของพชื ดอก

โครงสรำ้ งของหนว่ ยยอ่ ยท่ี ๓ วฏั จักรชวี ิตของพืชดอก

หนว่ ยกำรเรยี นรู้ ช่อื หน่วยย่อย จำนวนแผน ช่ือแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๓ ๒ พชื ดอกรอบตวั ๑
วัฏจกั รชวี ิตของพชื ดอก ๓
๑ สง่ิ มชี ีวิต วฏั จกั รชีวิตของพชื

ดอก

151

แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 15

กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 2

ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศกึ ษำ 2564 รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชำ ว12101

หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี 1 ส่ิงมีชีวิต หนว่ ยย่อยที่ 3 วัฏจักรชวี ิตของพชื ดอก

แผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ่ี 15 เรอ่ื ง พชื ดอกรอบตัว (1) เวลำ 50 นำที

1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั
สำระท่ี 1 วิทยำศำสตร์ชวี ภำพ
มำตรฐำน ว 1.2

เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องอวยั วะต่าง ๆ ของพชื ทที่ างานสัมพนั ธก์ นั รวมทงั้ นาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
ตวั ช้ีวัด ว 1.2 ป. 2/3 สร้างแบบจาลองท่ีบรรยายวัฏจกั รชวี ติ ของพชื ดอก

2. สำระสำคัญ
พชื ท่ีมีดอกจัดเป็นพชื ดอก

3. จุดประสงค์
3.1 ด้ำนควำมรู้ ควำมเข้ำใจ (K)
- ระบุชือ่ ของพชื ท่ีมดี อก
3.2 ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำร (P)
- สงั เกตพชื ท่ีมีดอก
- จดั กระทาและสื่อความหมายขอ้ มูลเกี่ยวกับพชื ดอก
3.3 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คำ่ นยิ ม (A)
- มวี ินยั
- มงุ่ ม่นั ในการทางาน

4. สำระกำรเรยี นรู้
พืชที่มีดอกจดั เป็นพชื ดอก เช่น กหุ ลาบ มะลิ ทานตะวนั

5. สมรรถนะของผเู้ รียน
5.1 ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร
- วาดและชี้สว่ นท่เี ป็นดอก

152

5.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ
- ระบุชอ่ื ของพืชท่มี ดี อก

5.3 ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชีวติ
- มวี นิ ยั
- มงุ่ ม่ันในการทางาน

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 มวี ินยั
6.2 มงุ่ มั่นในการทางาน

7. กิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขนั้ นำเขำ้ สูบ่ ทเรยี น (เวลำ 5 นำที)
1. ครทู บทวนความรเู้ กีย่ วกับพชื และตรวจสอบความรูเ้ ดมิ เกยี่ วกับพชื ดอกโดยใชค้ าถามดงั น้ี

1.1 พืชท่ีรจู้ กั มสี ว่ นประกอบอะไรบ้าง (ราก ลาต้น ใบ ดอก ผลและเมลด็ )
1.2 พืชท่ีเป็นพชื ดอกตอ้ งมีส่วนประกอบอะไรที่สาคัญ (นกั เรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
ขัน้ สอน (เวลำ 40 นำท)ี
2. ครูชวนนกั เรยี นหาคาตอบโดยให้นกั เรยี นอ่านช่อื กจิ กรรมและจดุ ประสงค์ในใบกจิ กรรมที่ 1 พืชดอกรอบตัว
เรามอี ะไรบา้ ง หนา้ 45 จากน้ันครถู ามคาถามดังต่อไปน้ี
2.1 นกั เรยี นจะเรียนเรื่องอะไร (พชื ดอก)
2.2 นกั เรียนจะเรียนดว้ ยวิธกี ารใด (การสารวจ)
2.3 เมือ่ เรียนจบแลว้ นกั เรยี นจะทาอะไรได้ (ระบชุ ื่อพชื ดอก)
3. นกั เรียนอา่ นวธิ ใี นใบกจิ กรรมที่ 1 ข้อ 1-3 หน้า 45 และทาความเข้าใจขัน้ ตอนการทากจิ กรรมโดยครูอาจใช้
คาถามดังต่อไปน้ี
3.1 นักเรียนตอ้ งไปสารวจอะไร (สารวจพชื ท่มี ดี อก)
3.2 นกั เรยี นสารวจท่ไี หนบ้าง (ทโี่ รงเรียน ชมุ ชน บ้าน)
3.3 นกั เรยี นสารวจพืชดอกแลว้ ทาอะไรต่อ (วาดรูปหรือตดิ รูปภาพลงในใบงาน) ครยู า้ ว่า ถ้านักเรยี นวาดรปู

ใหว้ าดต้นพชื ให้เหมือนของจริงมากท่ีสุด
3.4 นักเรียนต้องสารวจพืชท่ีมดี อกอยา่ งน้อยก่ชี นดิ (4 ชนดิ )
3.5 นักเรยี นสามารถสอบถามชอื่ ของพชื ดอกได้จากใครบา้ ง (ผู้ปกครองหรือคุณครู)
3.6 เมอ่ื นักเรยี นสารวจพชื และบันทึกชอ่ื ในรูปแล้ว ต้องทาอะไรต่อไป (นาเสนอหนา้ ช้ันเรียน และบันทกึ ช่ือ

พชื ดอกท้ังหมดลงในใบงาน)
4. ครสู รา้ งข้อตกลงกับนักเรียนก่อนออกไปสารวจพืช โดยเน้นยา้ วา่ ระหว่างสารวจนกั เรยี นควรระมดั ระวงั

ไมเ่ ขา้ ไปในท่รี ก ใหร้ ะวงั สัตว์ เชน่ มด ผ้ึง กัดตอ่ ย

153

5. เมื่อนกั เรยี นเขา้ ใจข้ันตอนการทากิจกรรมแลว้ ครใู ห้นักเรยี นลงมือทากจิ กรรม โดยให้นักเรียนออกไปสารวจ
พืชบริเวณโรงเรียน หรือครูนาบัตรภาพตัวอย่างพืชดอก 4-5 ชนิดต่อกลุ่ม มาให้นักเรียนสังเกต หรือ
อาจบอกให้นักเรียนไปสารวจที่บ้านของตนเองมาล่วงหนา้ และบันทึกผลลงใบงาน 01 พืชดอกรอบตวั
หน้า 46

6. เมื่อนักเรียนวาดรูปพืชที่มีดอกแล้ว ครูให้นักเรียนเขียนชื่อของพืชดอกใต้รูปโดยอาจสอบถามจากผู้รู้
หนังสือพันธุ์ไม้ดอกท่ีครูเตรียมไว้ ลงในใบงาน 01 พืชดอกรอบตัว หน้า 46

7. ครูให้นักเรียนออกมานาเสนอผลการทากิจกรรม และรว่ มกนั อภปิ รายโดยใช้คาถามดังน้ี
7.1 พืชดอกที่นักเรยี นสารวจมีอะไรบา้ ง (นักเรยี นตอบตามทีส่ ารวจได้ เชน่ กุหลาบ)
7.2 รู้ได้อย่างไรว่าพืชทสี่ ารวจเป็นพืชดอก (มดี อก)
7.3 ดอกของพืชทีน่ ักเรยี นสารวจมีลักษณะอย่างไร และอยู่ตาแหน่งใดของตน้ (นักเรยี นตอบตามที่สงั เกตได้
จากพชื ที่สารวจ เช่น ดอกกหุ ลาบ ดอกมีสแี ดงเปน็ กลบี หลายกลบี และดอกจะอยู่ตรงส่วนปลายก่งิ
7.4 พืชดอกทุกชนิดจะเห็นดอกได้เสมอใช่หรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเองซึ่งอาจ
ตอบถูกหรือผิดได้ แต่แนวคาตอบที่ถูกคือ ไม่ใช่ เพราะพืชดอกบางชนิดจะเห็นดอกเมื่อใกล้ตาย เช่น
ตะไครบ้ างชนดิ ไผ่บางชนดิ หรอื จะเห็นดอกเมอ่ื มสี ภาพแวดล้อมท่เี หมาะสม)
7.5 นกั เรยี นคดิ วา่ พืชทุกชนดิ เปน็ พชื ดอกหรอื ไม่ อย่างไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเองซ่ึงอาจ
ตอบถูกหรือผิดได้ ครูใช้รปู ภาพพืชไมม่ ดี อกและอธบิ ายเพิม่ เติมว่า พืชบางชนิดเปน็ พชื ไม่มดี อก เชน่
มอส เฟริ ์น ปรง สนสองใบ สนสามใบ)

8. เม่ือนกั เรียนนาเสนอแล้ว ครใู หน้ ักเรยี นบนั ทึกชื่อพชื ดอกท้ังหมดลงในใบงาน 01 พืชดอกรอบตวั หนา้ 47
9. ครูให้นักเรียนตอบคาถามหลังจากทากิจกรรม หน้า 48 โดยใช้ส่ือสไลด์ให้นักเรียนช่วยกันอ่านคาถาม และ

นาเสนอคาตอบ จากนน้ั ครูใช้สอื่ สไลด์เฉลยคาตอบที่ถูกต้องอีกครง้ั
ขน้ั สรุป (เวลำ 5 นำที)
10. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนลงข้อสรุปด้วยตนเองโดยใช้รูปภาพพืชดอกชนิดต่าง ๆ จากสื่อสไลด์ เพ่ือให้

นักเรียนอธบิ ายวา่ พืชที่มีดอกจัดเป็นพชื ดอก เช่น กหุ ลาบ มะลิ อญั ชนั ดาวเรือง เปน็ ต้น
11. ครูให้นักเรียนทาใบงาน 02 แบบฝกึ หัด เรอื่ งพืชดอกรอบตวั หนา้ 49 เป็นการบ้าน

8. ส่อื /แหล่งเรยี นรู้
8.1 ส่อื สไลด์ เรื่อง พืชดอกรอบตัว (1)
8.2 ใบกจิ กรรมที่ 1 พืชดอกรอบตวั เรามอี ะไรบา้ ง หนา้ 45
8.3 ใบงาน 01 พชื ดอกรอบตวั หน้า 46-48
8.4 ใบงาน 02 แบบฝึกหัด เรื่องพชื ดอกรอบตัว หน้า 49
8.5 รูปภาพพืชดอก เช่น กุหลาบ มะลิ อัญชนั ดาวเรือง เป็นตน้
8.6 รปู ภาพพชื ไม่มีดอก เชน่ มอส เฟริ ์น ปรง สนสองใบ สนสามใบ
8.7 กล้องถ่ายรูป
8.8 สไี ม้

154

9. ชิ้นงำน/ภำระงำน
9.1 ใบงาน 01 พืชดอกรอบตวั หนา้ 46-48
9.2 ใบงาน 02 แบบฝกึ หัด เรอ่ื งพชื ดอกรอบตวั หน้า 49

10. กำรวดั และประเมินผล

ประเด็นกำรประเมิน วิธกี ำร เคร่อื งมือ เกณฑ์กำรตัดสิน

1) ระบุชอ่ื ของพชื ทม่ี ีดอก สงั เกตการตอบคาถามใน แบบประเมินการตอบ คะแนน 9 – 10 หมายถึง ดีมาก

ชนั้ เรยี นและในใบงาน คาถามในช้นั เรยี นและ คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี

ตรวจใบงาน คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้

คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรับปรงุ

2) ทกั ษะกระบวนการ สงั เกตทกั ษะ แบบประเมินทักษะ คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี

ทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการ กระบวนการทาง คะแนน 3 - 4 หมายถงึ พอใช้

- สังเกตพชื ที่มดี อก ทางวทิ ยาศาสตร์ในการ วิทยาศาสตร์ คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

- จัดกระทาและส่อื ทากิจกรรม

ความหมายข้อมลู เกยี่ วกับ

พืชดอก

3) สังเกตพฤติกรรมการมี สงั เกตด้านคุณลกั ษณะ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ คะแนน 3 หมายถงึ ดี

วินัยและความมุ่งมั่นใน อนั พงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้

การทางาน คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง

155

แบบประเมินกำรตอบคำถำมในชน้ั เรียนและตรวจใบงำน
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 15 เร่ือง พืชดอกรอบตัว (15)

ชือ่ ผู้ประเมิน…………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมินผลครัง้ ท่ี………………….... วนั ที่ …………….........……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอื่ ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….

รำยกำรประเมิน/ระดบั คะแนน

กำรตอบ กำรสรุป ควำมถกู ตอ้ ง รวมคะแนน
(10 คะแนน)
ชอ่ื -สกุล/กลุม่ คำถำมใน ควำมรู้ ครบถ้วนของ

ชัน้ เรยี น (4) เนื้อหำในใบงำน

(4) (2)

เกณฑ์กำรประเมิน

ประเดน็ ระดับคณุ ภำพ นำ้ หนัก คะแนน
1.0 รวม
กำรประเมนิ 4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 1.0 4
ตอบคาถามไม่
1. การตอบ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม ถูกต้อง 0.5 4
คาถามในช้นั เรียน ถูกต้องท้ังหมด ถกู ต้องเป็นสว่ น ถกู ต้องบางส่วน
สรปุ ความรูเ้ ข้าใจ 2
ใหญ่ เกี่ยวกบั เรอ่ื งที่
ศกึ ษาไม่ถกู ต้อง
2. การสรุปความรู้ สรุปความรู้ สรปุ ความรูค้ วาม สรปุ ความรคู้ วาม และไม่ครบถ้วน
ความเข้าใจ เขา้ ใจเก่ียวกับ เข้าใจเกีย่ วกับ เนื้อหาท่เี ขยี นใน
เกย่ี วกบั เรอื่ งที่ เรื่องที่ศกึ ษาได้ เรอ่ื งที่ศึกษาได้ ใบงานไมถ่ ูกต้อง
ศึกษาได้ถูกต้อง ถกู ต้อง แต่ไม่ ถกู ต้องบางสว่ น
และครบถ้วน ครบถว้ น และไมค่ รบถว้ น
เนอื้ หาท่ีเขียนใน
3. ความถกู ต้อง เน้อื หาทีเ่ ขยี นใน เนอ้ื หาท่เี ขยี นใน ใบงานมีความ
ครบถว้ นของ ใบงานมคี วาม ใบงานมีบางสว่ น ถูกต้องเป็นส่วน
เนือ้ หาในใบงาน ถูกต้องครบถว้ น ไมถ่ ูกต้อง ตามท่ี นอ้ ย

ตามทีก่ าหนด กาหนด
เกณฑ์กำรตัดสนิ

คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก

คะแนน 7 - 8 หมายถงึ ดี

คะแนน 5 - 6 หมายถงึ พอใช้

คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรับปรุง

156

แบบประเมนิ ดำ้ นทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี 15 เร่ือง พืชดอกรอบตวั (15)
ชอ่ื ผู้ประเมิน…………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมินผลคร้งั ที่………………….... วนั ที่ …………….........……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรื่อง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….

ช่อื -สกุล/กล่มุ รำยกำรประเมนิ /ระดับคะแนน ผลรวม ผลกำรประเมิน
กำรสงั เกต (3) จัดกระทำและส่ือ คะแนน
(6 คะแนน)
ควำมหมำยข้อมูล (3)

เกณฑ์กำรประเมนิ

ทกั ษะกระบวนกำร ระดบั ควำมสำมำรถ
ทำงวิทยำศำสตร์
การสงั เกต ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
สามารถใช้ประสาทสมั ผสั ใน
การจดั กระทาและส่ือ สามารถใช้ประสาทสมั ผสั ใน สามารถใช้ประสาทสมั ผสั ใน การรวบรวมข้ อ มู ล เ ก่ี ย ว กั บ
ความหมายข้อมูล พื ช ที่ มี ด อ ก ไ ด้ เ พี ย ง
การรวบรวมข้อมูล การรวบรวมข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ บางอย่าง ถึงแมจ้ ะได้รับ
คาแนะนาจากครูหรือผอู้ ืน่
เก่ียวกับพืชที่มีดอกได้ พืชที่มีดอกได้ โดยการ สามารถนาข้อมูลท่ีไดจ้ ากการ
สงั เกตมาวาดภาพและนาเสนอ
ด้วยตนเองโดยไม่เพ่มิ เตมิ ชีแ้ นะของครูหรือผ้อู นื่ ข้อมลู เก่ยี วกับพชื ดอกให้ผอู้ ่ืน
เข้าใจได้ง่ายและถกู ต้องได้
ความคิดเห็น บางอย่าง ถึงแม้จะได้รบั
คาแนะนาจากครหู รือผอู้ ื่น
สามารถนาข้อมลู ที่ได้จากการ สามารถนาขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการ

สังเกตมาวาดภาพและ สงั เกตมาวาดภาพและนาเสนอ

นาเสนอขอ้ มลู เก่ียวกบั พืช ขอ้ มลู เก่ียวกบั พืชดอกให้ผอู้ ่ืน

ดอกใหผ้ อู้ ื่นเข้าใจไดง้ ่ายและ เข้าใจได้ง่ายและถกู ต้องได้

ถูกตอ้ งได้ ดว้ ยตัวเอง โดยอาศัยคาแนะนาของครู

หรอื ผู้อ่นื

เกณฑ์กำรตดั สิน
คะแนน 5 - 6 หมายถึง ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ

157

แบบประเมนิ ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ 15 เรื่อง พืชดอกรอบตัว (15)
ช่อื ผู้ประเมนิ ………………………………………………………………………………………........................……………………..
ประเมนิ ผลครั้งท่ี………………….... วันท่ี ……………..……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….………….........
เรอื่ ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ที่ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ระดับพฤตกิ รรม

1 มีวินัย เกิด = 1 ไมเ่ กดิ = 0
2 ม่งุ มั่นในการทางาน

รวมคะแนนทไ่ี ด้ท้ังหมด

เกณฑ์กำรประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มากกวา่ 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50% - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ต่ากว่า 50 % ได้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ำรตดั สิน
คะแนน 3 หมายถึง ดี
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ

158

เฉลยใบงำน

159

นกั เรียนบันทึกตำมทส่ี ำรวจ เช่น กหุ ลำบ

160

มะลิ กุหลำบ เขม็ ดำวเรือง บำนไมร่ ู้โรย
กลว้ ยไม้

161

มีดอก
พืชทุกชนดิ ไม่ได้เปน็ พืชดอก พชื บำงชนดิ ไมม่ ดี อก เช่น
มอส เฟริ ์น
พืชดอกเป็นพชื ทมี่ ดี อก

162

163

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ 16

กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 2

ภำคเรยี นที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564 รำยวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชำ ว12101

หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ 1 ส่ิงมชี ีวิต หน่วยยอ่ ยท่ี 3 วัฏจกั รชวี ติ ของพืชดอก

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 16 เรอื่ ง วฏั จักรชีวติ ของพืชดอก (1) เวลำ 50 นำที

1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตวั ช้ีวดั
สำระที่ 1 วิทยำศำสตร์ชวี ภำพ

มำตรฐำน ว 1.2
เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์

ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหน้าทีข่ องอวัยวะตา่ ง ๆ ของพืชท่ที างานสมั พันธ์กัน รวมทัง้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ตวั ชีว้ ดั ว 1.2 ป. 2/3 สรา้ งแบบจาลองท่บี รรยายวัฏจกั รชีวิตของพืชดอก

2. สำระสำคญั
พืชดอกเมอ่ื เจริญเตบิ โตและมีดอก จะมกี ารสืบพันธ์ุ เกดิ ผลและเมล็ด เม่อื เมล็ดงอกจะได้พืชต้นใหม่ เม่ือพืช

ตน้ ใหม่เจรญิ เติบโตและมดี อก กจ็ ะมกี ารสืบพันธุ์ เกดิ ผลและเมลด็ อีกครั้ง เปน็ แบบรูปคงที่ หมนุ เวียนต่อเน่ืองเปน็
วัฏจักรชวี ติ ของพืชดอก

3. จดุ ประสงค์
3.1 ด้ำนควำมรู้ ควำมเข้ำใจ (K)
- บรรยายการเปลี่ยนแปลงของเมลด็ พชื ขณะท่พี ืชเจริญเติบโต
3.2 ด้ำนทักษะกระบวนกำร (P)
- สงั เกตการเปลีย่ นแปลงของเมล็ดพืชขณะทีพ่ ชื เจรญิ เติบโต
- ลงความเหน็ จากขอ้ มูลเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงของเมล็ดพชื ขณะท่พี ืชเจริญเตบิ โต
3.3 ดำ้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คำ่ นยิ ม (A)
- มีวินัย
- มุ่งมน่ั ในการทางาน

4. สำระกำรเรียนรู้
พืชมีการเปลีย่ นแปลงขณะท่ีเจริญเติบโต โดยจะมรี ากสีขาวงอกออกมาจากเมล็ด

164

5. สมรรถนะของผเู้ รยี น
5.1 ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
- บรรยายการเปลี่ยนแปลงของเมลด็ พืชขณะท่ีพชื เจริญเตบิ โต
5.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ
- ลงความเหน็ จากขอ้ มูลเกยี่ วกบั การเปลี่ยนแปลงของเมลด็ พืชขณะท่ีพชื เจรญิ เตบิ โต
5.3 ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ญั หำ
- การแก้ปัญหาในการทางานกลุ่มร่วมกัน
5.4 ควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชวี ิต
- มวี ินยั
- มุง่ มนั่ ในการทางาน

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
6.1 มวี ินัย
6.2 มงุ่ มน่ั ในการทางาน

7. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ขั้นนำเขำ้ สู่บทเรยี น (เวลำ 5 นำท)ี
1. ครใู ชส้ อื่ สไลด์ทบทวนความรเู้ กยี่ วกบั พืชดอก โดยใชค้ าถามดงั นี้

1.1 นักเรยี นรู้จกั พชื ดอกอะไรบา้ ง (นักเรียนตอบตามทรี่ ู้จัก เชน่ ตน้ กหุ ลาบ ต้นทานตะวัน ต้นชบา
ตน้ มะละกอ ตน้ แตงกวา)

1.2 พชื ที่เป็นพืชดอกตอ้ งมสี ่วนประกอบอะไรทส่ี าคัญ (ดอก)
2. ครูตรวจสอบความรู้เดมิ เก่ยี วกบั เร่ืองการเปล่ยี นแปลงการเจรญิ เตบิ โตของพชื ดอก โดยใชค้ าถามวา่

ถ้านกั เรียนปลกู พืชดอก พืชดอกจะมกี ารเปลี่ยนแปลงขณะเจริญเติบโตอยา่ งไร (นกั เรียนตอบตามเข้าใจของ
ตนเอง)
ขัน้ สอน (เวลำ 40 นำที)
3. ครใู ช้สื่อไลด์ชวนนกั เรียนหาคาตอบโดยให้นักเรียนอ่านช่อื กจิ กรรมและจุดประสงค์ในใบกิจกรรมที่ 1
วัฏจักรชีวิตของพชื ดอกเปน็ อย่างไร ขอ้ ท่ี 1 หนา้ 51 จากสอื่ สไลด์ แลว้ ครูถามคาถามดงั ตอ่ ไปนี้

3.1 นกั เรยี นจะเรยี นเรือ่ งอะไร (การเปลยี่ นแปลงขณะเจริญเตบิ โตของพืชดอกบางชนิด)
3.2 นกั เรยี นจะเรียนด้วยวิธกี ารใด (การสังเกต)
3.3 เม่ือเรียนจบแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (บรรยายการเปล่ียนแปลงขณะเจริญเติบโตของพืชดอก

บางชนดิ )
4. ครแู จง้ ให้นกั เรยี นทราบวา่ นกั เรยี นจะได้สงั เกตการเปลยี่ นแปลงขณะเจรญิ เตบิ โตของพชื ดอกในระยะเมล็ด
5. นักเรียนอา่ นวธิ ีทาในใบกิจกรรมที่ 1 ข้อ 1-3 หน้า 51 และทาความเข้าใจขัน้ ตอนการทากจิ กรรม โดยครูใช้

คาถามจากสอ่ื สไลด์ดังตอ่ ไปนี้

165

5.1 นักเรียนเลือกส่งิ ใดในการทากจิ กรรม (เลือกเมล็ดพชื ทส่ี นใจจากเมล็ดพชื ท่ีครเู ตรยี มไว)้
5.2 นักเรยี นต้องอภิปรายเก่ียวกบั เรื่องอะไรบา้ ง (วิธกี ารปลูกพืช วสั ดอุ ุปกรณ์ทีใ่ ช้ และภาระหน้าทใี่ น

การดแู ลการปลกู พชื )
5.3 เมื่อปลูกพืชแล้ว นกั เรียนต้องสังเกตส่ิงใด (สังเกตเมล็ดพืชเม่ือเรม่ิ ปลูกและการเปลีย่ นแปลงขณะ

เจรญิ เติบโตของพชื สปั ดาหเ์ ว้นสปั ดาห์จนมเี มล็ดใหม่อีกครัง้ บันทึกผล)
6. ครูใชส้ อื่ สไลด์ชวนนกั เรียนอภิปรายเกยี่ วกบั การปลูกพชื โดยใช้คาถามดงั น้ี

6.1 เมื่อเลอื กเมล็ดพชื แลว้ นักเรียนตอ้ งทาอย่างไรก่อนนาไปปลูก (นาเมล็ดพืชไปแชน่ ้าไว้ 1 คนื )
6.2 การปลกู พืชต้องเตรียมวัสดุอปุ กรณ์อะไรบ้าง (กระถาง ดนิ พลั่ว ภาชนะรดน้า) ครูนาตวั อยา่ งของ

จรงิ มาใหน้ ักเรยี นดู และอาจแนะนาการเตรยี มกระถางสาหรับปลกู วา่ ควรมขี นาดใหญ่พอทจ่ี ะ
ใหพ้ ืชเจริญเติบโตจนเปน็ ตน้ เต็มวัยได้ และควรใช้ดนิ ทเี่ หมาะสมต่อชนิดของพืชนน้ั ๆ เช่น ใช้ดิน
ร่วนหรือผสมดนิ กับมลู สัตว์เพ่ือให้มธี าตุอาหารเพยี งพอสาหรับพืช
6.3 นักเรียนควรใสเ่ มลด็ พืชลงในกระถางสาหรับปลกู กเ่ี มล็ด เพราะอะไร (ใส่เมลด็ ลงในดิน 2-3 เมลด็
เพราะอาจจะมเี มล็ดพชื บางเมล็ดไม่งอก)
6.4 การปลูกพืชลงดินทาได้อยา่ งไร (การปลูกพชื ลงดินทาไดโ้ ดยเจาะรูบนดิน แล้วใส่เมล็ดพืชลงไปใน
รู จากนัน้ ใชด้ ินกลบและรดน้า) ครอู าจสาธติ การปลกู พชื ให้นักเรยี นดูเพ่ือให้เกิดความเข้าใจ
6.5 เราจะปลกู พชื หรอื วางกระถางต้นพืชไว้ท่บี ริเวณใด เพราะเหตุใด (เลือกบรเิ วณทม่ี ีแสง เพราะแสง
เป็นสง่ิ ทีจ่ าเป็นต่อการเจริญเติบโตของพชื )
6.6 สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ มหี น้าที่รับผิดชอบอะไรบา้ ง (เชน่ เตรียมกระถาง ดิน ป๋ยุ คอก การดูแลรดน้า
ตน้ พืช และการบันทกึ ผล)
7. ครูให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ เลอื กเมล็ดพชื ท่แี ชน่ า้ ไว้ 1 คนื มาใหน้ ักเรียนเลือกปลกู เช่น มะเขือ ถวั่ เขยี ว
มะเขือเทศ พริก แตงกวา เป็นต้น จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสังเกตเมล็ดพืชที่แช่น้าแล้ว 1 คืน
แลว้ บันทกึ ชอื่ พชื และผลการสงั เกตเมล็ดพชื ลงในตาราง หน้า 52 สปั ดาหท์ ่เี ร่ิมปลูก
8. ครูและนกั เรียนรว่ มกันอภปิ รายความรู้ โดยใช้คาถามดงั น้ี
8.1 เมล็ดพืชก่อนและหลังแช่น้า มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไร (มีการเปลีย่ นแปลง โดยเมล็ดพืช
หลงั แช่ น้าจะมีรากสีขาวงอกออกมาจากเมล็ด)
8.2 การเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนเป็นการเจริญเติบโตหรือไม่ รู้ได้อย่างไร (เป็นการเจริญเติบโต รู้ได้จาก
เมลด็ พชื มกี ารเปล่ยี นแปลงโดยมีรากสีขาวงอกออกมาจากเมล็ด)
9. ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในการปลูกพืช และสร้างข้อตกลงระหว่างลงมือปลูกพืช
ซงึ่ นักเรยี นตอ้ งไม่เลน่ หรอื แกล้งเพอ่ื น และรักษาความสะอาดเมอื่ ปลูกพชื เสร็จแลว้
10. นักเรียนปลูกพชื ลงในกระถาง โดยครูคอยใหค้ าแนะนาและชว่ ยเหลือในระหวา่ งทากจิ กรรม
11. ครูยา้ ใหน้ กั เรยี นคอยรดน้าทุกวัน สงั เกตการเปลี่ยนแปลงทุก ๆ สัปดาห์ โดยบนั ทกึ ผลโดยการวาดรูป
ถา่ ยรปู แล้วพิมพม์ าติดในใบงาน หรอื ถ่ายวดี โิ อการเปลีย่ นแปลงของพชื สัปดาห์เว้นสปั ดาห์ ลงในตาราง
การเปลี่ยนแปลงขณะเจรญิ เติบโตของพืชดอก หน้า 52 ครูอาจอธิบายวา่ ให้บนั ทกึ เวลาจากทตี่ ้นออ่ นงอก

166

ออกจากเมล็ดจนเป็นต้นกล้า และย้าวา่ ใหส้ ังเกตอย่างใกล้ชิด หากมีสงิ่ ใดเปลยี่ นแปลงอย่างชัดเจนให้รีบ
บันทกึ ผลโดยทนั ที
ข้นั สรปุ (เวลำ 5 นำที)
12. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสรปุ ความรทู้ ไี่ ดเ้ รียนเก่ียวกับการเปลี่ยนแปลงการเจริญเตบิ โตของพชื ดอก
บางชนิดโดยใช้สื่อสไลด์ได้ว่า พืชมีการเปลี่ยนแปลงขณะเจริญเติบโต โดยจะมีรากสีขาวงอกออกมาจาก
เมลด็
13. นักเรยี นนากระถางพชื ท่ีปลูกแล้ว ไปวางไว้ในบรเิ วณทีม่ ีแสงส่องถึง

8. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 สื่อสไลด์ เร่อื ง วฏั จกั รชวี ิตของพชื ดอก (1)
8.2 ใบกจิ กรรมที่ 1 วฏั จกั รชีวิตของพืชดอกเป็นอยา่ งไร หน้า 51
8.3 ใบงาน 01 การเปล่ยี นแปลงขณะเจรญิ เตบิ โตของพืชดอก หน้า 52
8.4 เมล็ดพชื เช่น มะเขอื ถ่ัวเขยี ว มะเขือเทศ พรกิ แตงกวา
8.5 กระถางปลูก
8.6 พล่วั
8.7 ดนิ
8.8 บัวรดนา้
8.9 นา้

9. ชนิ้ งำน/ภำระงำน
9.1 การปลูกและดแู ลพืชให้เจริญเติบโต
9.2 ใบงาน 01 การเปลยี่ นแปลงขณะเจริญเติบโตของพืชดอก หน้า 52

10. กำรวดั และประเมินผล

ประเดน็ กำรประเมิน วธิ กี ำร เคร่อื งมือ เกณฑ์กำรตดั สิน
1) บรรยายการ สงั เกตการตอบคาถาม แบบประเมินการตอบ คะแนน 9 – 10 หมายถงึ ดีมาก
เปลย่ี นแปลงของเมลด็ พืช ในชั้นเรยี นและในใบ คาถามในช้นั เรยี นและ คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
ขณะทพ่ี ชื เจรญิ เตบิ โต งาน ตรวจใบงาน คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรับปรุง
2) ทกั ษะกระบวนการ สงั เกตทกั ษะ แบบประเมนิ ทกั ษะ คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
ทางวิทยาศาสตร์ คะแนน 3 - 4 หมายถงึ พอใช้
- สงั เกตการเปลยี่ นแปลง กระบวนการ กระบวนการทาง คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
ของเมลด็ พชื ขณะทีพ่ ืช
เจรญิ เตบิ โต ทางวิทยาศาสตร์ในการ วทิ ยาศาสตร์

ทากิจกรรม

ประเดน็ กำรประเมิน วธิ ีกำร เครอ่ื งมือ 167
- ลงความเหน็ จากข้อมูล
เกย่ี วกบั การเปลย่ี นแปลง สังเกตดา้ นคุณลกั ษณะ แบบประเมิน เกณฑ์กำรตัดสิน
ของเมล็ดพชื ขณะทพี่ ืช อนั พงึ ประสงค์ คุณลักษณะ
เจริญเติบโต อนั พึงประสงค์ คะแนน 3 หมายถึง ดี
3) สงั เกตพฤติกรรมการมี คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
วินยั และความมุ่งมนั่ ในการ คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรงุ
ทางาน

แบบประเมนิ กำรตอบคำถำมในชั้นเรียนและตรวจใบงำน
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี 16 เรือ่ ง วฏั จกั รชีวติ ของพืชดอก (1)

ชอ่ื ผปู้ ระเมิน…………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลครงั้ ที่………………….... วันท่ี …………….........……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอ่ื ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….

ช่อื -สกุล/กลมุ่ รำยกำรประเมนิ /ระดับคะแนน รวมคะแนน
กำรตอบคำถำม กำรสรปุ ควำมถกู ต้อง (10 คะแนน)

ในช้นั เรยี น ควำมรู้ ครบถว้ นของ
(4) (4) เนอื้ หำในใบงำน
(2)

168

เกณฑ์กำรประเมิน

ประเดน็ ระดบั คณุ ภำพ นำ้ หนกั คะแนน
1.0 รวม
กำรประเมิน 4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง) 6
ตอบคาถามไม่ 1.0
1. การตอบ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม ถกู ต้อง 4
คาถามในชน้ั เรยี น ถูกต้องท้ังหมด ถกู ต้องเปน็ ถกู ต้องบางสว่ น
สรุปความรู้เข้าใจ
สว่ นใหญ่ เกี่ยวกับเรือ่ งท่ี
ศึกษาไม่ถูกต้อง
2. การสรปุ ความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรู้ความ สรุปความรคู้ วาม และไมค่ รบถ้วน
ความเข้าใจ เข้าใจเกี่ยวกับ เขา้ ใจเกย่ี วกับ
เก่ยี วกบั เร่ืองที่ เร่อื งที่ศึกษาได้ เรื่องที่ศึกษาได้
ศึกษาได้ ถูกต้อง ถกู ต้อง แต่ไม่ ถกู ต้องบางส่วน
และครบถ้วน ครบถว้ น และไม่ครบถว้ น

เกณฑ์กำรตัดสนิ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรับปรงุ

169

แบบประเมนิ ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์
แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ี่ 16 เร่ือง วฏั จักรชีวติ ของพืชดอก (1)

ชือ่ ผปู้ ระเมิน…………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมินผลคร้ังท…ี่ ……………….... วนั ท่ี …………….........……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรือ่ ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….

ชือ่ -สกุล/กล่มุ รำยกำรประเมิน/ระดบั คะแนน ผลรวม ผลกำรประเมิน
กำรสงั เกต (3) กำรลงควำมเห็นจำก คะแนน
(6 คะแนน)
ขอ้ มูล (3)

เกณฑ์กำรประเมิน

ทักษะกระบวนกำร ระดบั ควำมสำมำรถ
ทำงวิทยำศำสตร์
การสงั เกต ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
สามารถใช้ประสาทสมั ผัสในกา
การลงความเห็นจาก สามารถใช้ประสาทสัมผัสใน สามารถใช้ประสาทสัมผสั ใน รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับการ
ขอ้ มลู เปล่ียนแปลงของเมล็ดพืช
การวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ การวบรวมข้อมูลเก่ียวกับ ข ณ ะ ที่ พื ช เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต ไ ด้
บางอยา่ ง ถึงแม้จะไดร้ บั
การเปลี่ยนแปลงของ การเปล่ียนแปลงของ คาแนะนาจากครูหรือผอู้ นื่

เมล็ดพืชขณะที่พืช เมล็ดพืชขณะที่พืช สามารถใชค้ วามรู้หรือ
ประสบการณเ์ ดิมมาใช้บรรยาย
เจริญเติบโตได้ดว้ ยตนเอง เจริญเติบโตได้ โดยการ การเปล่ียนแปลงของเมลด็ พืช
ขณะท่ีพืชเจริญเตบิ โตได้
โดยไม่เพิ่มเติมความ ช้ีแนะของครหู รือผูอ้ นื่ บางอย่าง ถึงแมจ้ ะได้รับ
คาแนะนาจากครหู รือผอู้ ื่น
คิดเห็น

สามารถใชค้ วามรู้หรือ สามารถใชค้ วามรู้หรือ

ประสบการณ์เดมิ มาใช้ ประสบการณเ์ ดมิ มาใช้

บรรยายการเปล่ยี นแปลง บรรยายการเปลย่ี นแปลงของ

ของเมล็ดพชื ขณะทพ่ี ชื เมลด็ พืชขณะท่ีพชื

เจรญิ เตบิ โตไดด้ ้วยตนเอง เจรญิ เตบิ โตได้ โดยการช้ีแนะ

ของครหู รอื ผูอ้ ่นื

170

เกณฑ์กำรตดั สนิ
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ

แบบประเมินดำ้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ่ี 16 เรือ่ ง วฏั จักรชีวติ ของพืชดอก (1)

ช่อื ผู้ประเมิน/กลมุ่ ประเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………..
ชื่อกลุ่มรบั กำรประเมิน…………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมินผลครั้งท่ี………………….... วนั ที่ ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เร่อื ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ท่ี ลกั ษณะ/พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั พฤตกิ รรม

1 มวี นิ ยั เกิด = 1 ไมเ่ กดิ = 0
2 มงุ่ มั่นในการทางาน

รวมคะแนนที่ได้ท้งั หมด

เกณฑ์กำรประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
- มากกว่า 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50% - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ต่ากวา่ 50 % ได้ 1 คะแนน

เกณฑ์กำรตัดสนิ
คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง

171

แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ี่ 17

กลุม่ สำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 2

ภำคเรยี นที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564 รำยวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชำ ว

12101 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 1 สิ่งมชี ีวิต หน่วยย่อยที่ 3 วัฏจักรชีวิตของพืชดอก

แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี 17 เรื่อง วัฏจักรชีวิตของพืชดอก (2) เวลำ 50 นำที

1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ัด
สำระท่ี 1 วิทยำศำสตร์ชวี ภำพ

มำตรฐำน ว 1.2
เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์

ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหนา้ ทีข่ องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชที่ทางานสมั พนั ธ์กนั รวมทงั้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชวี้ ัด ว 1.2 ป. 2/3 สร้างแบบจาลองท่ีบรรยายวฏั จกั รชวี ติ ของพชื ดอก

2. สำระสำคัญ
พชื ดอกเม่ือเจริญเตบิ โตและมดี อก จะมีการสืบพันธ์ุ เกิดผลและเมล็ด เมอ่ื เมลด็ งอกจะได้พืชต้นใหม่ เมื่อพืช

ต้นใหมเ่ จรญิ เตบิ โตและมีดอก กจ็ ะมีการสบื พนั ธุ์ เกิดผลและเมล็ดอีกครั้ง เปน็ แบบรปู คงท่ี หมนุ เวยี นต่อเนอ่ื งเป็น
วัฏจกั รชวี ติ ของพืชดอก

3. จุดประสงค์
3.1 ด้ำนควำมรู้ ควำมเข้ำใจ (K)
- อธิบายและเขียนวัฏจกั รชีวติ ของพืชดอกบางชนิด
3.2 ด้ำนทักษะกระบวนกำร (P)
- สงั เกตการเปล่ียนแปลงขณะเจรญิ เติบโตของพชื ดอกบางชนิด
- สรา้ งแบบจาลองเก่ยี วกบั วฏั จักรชวี ติ ของพชื ดอก
3.3 ดำ้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่ำนิยม (A)
- มีวินัย
- มงุ่ มนั่ ในการทางาน

4. สำระกำรเรยี นรู้
พชื ดอกเมื่อเจริญเตบิ โตและมีดอก ดอกจะมีการสบื พนั ธเุ์ ปล่ียนแปลงไปเปน็ ผล ภายในผลมีเมล็ด เม่ือ

เมล็ดงอก ต้นอ่อนที่อยู่ภายในเมล็ดจะเจริญเติบโตเป็นต้นกล้า แล้วต้นกล้าจะเจริญเติบโตและออกดอกเพ่ือ
สบื พนั ธุ์ ซ่งึ จะเกดิ ผลและเมล็ดต่อไป เปน็ แบบรูปคงที่หมนุ เวยี นต่อเนื่องเปน็ วฏั จักรชีวติ ของพชื ดอก

172

5. สมรรถนะของผเู้ รียน
5.1 ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร
- อธิบายวฏั จักรชวี ติ ของพชื ดอกทีป่ ลูก
5.2 ควำมสำมำรถในกำรคิด
- เขยี นแผนภาพวัฏจักรชีวิตของพชื ดอกทีป่ ลูก
5.3 ควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวติ
- มีวนิ ัย
- มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
6.1 มวี นิ ยั
6.2 มงุ่ ม่ันในการทางาน

7. กิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขัน้ นำเข้ำส่บู ทเรียน (เวลำ 5 นำที)
1. ครูตรวจสอบความร้เู ดิมเก่ียวกบั วฏั จักรชวี ติ ของพชื ดอก โดยใชค้ าถามดงั นี้

1.1 วัฏจักรหมายความว่าอยา่ งไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
1.2 วัฏจักรชีวิตของพืชดอกเป็นอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) ครูจดคาตอบของ

นักเรียนบนกระดานไว้โดยยังไม่เฉลย หากมีแนวคิดท่ีคลาดเคลื่อนครูกลับมาแก้ไขหลังจากทา
กจิ กรรมแลว้
ข้นั สอน (เวลำ 40 นำท)ี
2. ครใู ช้ส่ือสไลดท์ บทวนชอ่ื กิจกรรมและจุดประสงค์ในใบกจิ กรรมท่ี 1 วฏั จักรชีวิตของพืชดอกเปน็ อยา่ งไร
ขอ้ 2 หนา้ 51 แล้วครูถามคาถามดงั ต่อไปน้ี
2.1 นกั เรยี นจะเรียนเรื่องอะไร (วัฏจกั รชวี ติ ของพืชดอกบางชนิด)
2.2 นกั เรยี นจะเรียนด้วยวธิ ีการใด (การสังเกต รวบรวมข้อมูล)
2.3 เมือ่ เรียนจบแลว้ นักเรียนจะทาอะไรได้ (อธบิ ายและเขยี นวัฏจกั รชวี ติ ของพืชดอกบางชนดิ )
3. นักเรียนอ่านวธิ ีทาในใบกิจกรรมที่ 1 ข้อ 4-5 หน้า 51 และทาความเขา้ ใจขน้ั ตอนการทากิจกรรม โดยครูใช้
คาถามจากส่ือสไลด์ดังตอ่ ไปนี้
3.1 เมื่อนักเรียนสังเกตการเปล่ยี นแปลงของพืชมาหลายสัปดาห์แลว้ สิ่งที่ต้องทาต่อไปคอื อะไร (เขียน
แผนภาพแสดงลาดับการเปลีย่ นแปลงของพืชทปี่ ลกู ไว)้
3.2 เมื่อนักเรียนเขียนแผนภาพแสดงลาดับการเปล่ียนแปลงของพืชดอกแล้ว ส่ิงท่ีทาต่อไปคืออะไร
(รวบรวมข้อมลู วฏั จักรชวี ิตของพืชดอกที่ปลกู และนามาเปรียบเทยี บกบั ขอ้ มลู ทีส่ ังเกตของตนเอง
แล้วปรบั การเขียนแผนภาพให้ถกู ต้อง)
3.3 นกั เรยี นตอ้ งนาแผนภาพมาอธบิ ายเกีย่ วกบั เรอื่ งอะไร (อธบิ ายวฏั จักรชวี ิตของพืชดอกที่ปลกู )

173

4. ครเู ตรียมผลการบันทกึ การเปลี่ยนแปลงขณะเจริญเติบโตของพชื ทเ่ี ลอื กปลกู และชวนนักเรียนอภิปราย โดย
ใช้คาถามว่า พืชท่ีนักเรียนเลือกปลูกมีการเปล่ียนแปลงขณะเจริญเติบโตหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบ
ตามท่ีสังเกตได้ มีการเปล่ยี นแปลงขณะเจริญเติบโต เช่น ตน้ ถ่ัวเขียว สัปดาห์ที่ 1 ต้นพืชงอกออกจากเมล็ด
มใี บ 2 ใบ สัปดาห์ที่ 3 ต้นพชื สงู ข้ึน มใี บมีสีเขยี วเข้มและมจี านวนใบเพ่ิมขึน้ สัปดาหท์ ่ี 5 ต้นพืชสงู ข้ึน
ลาตน้ ใหญข่ ึ้น ใบมขี นาดใหญ่ขน้ึ และเพิ่มจานวนมากขึน้ สัปดาห์ท่ี 7 ต้นพชื มีลาตน้ ใหญข่ นึ้ มีดอก สัปดาห์ที่
9 มผี ล)

5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายและเขียนแผนภาพแสดงข้ันตอนการเปลี่ยนแปลงต้ังแต่เป็นเมล็ดจนพืช
เจริญเติบโตและมีเมล็ดใหม่อีกครง้ั และแสดงช่วงเวลาของการเปล่ยี นแปลจากขั้นหน่งึ ไปอีกขั้นหน่ึง บันทึก
ผลในใบงาน หน้า 55
5.1 พืชดอกทป่ี ลูกมลี าดับการเปลีย่ นแปลงขณะเจริญเติบโตอย่างไร (เม่อื เมล็ดพืชงอก ตน้ ออ่ นภายในเมล็ด
จะเจรญิ เติบโตเปน็ ตน้ กล้า แล้วตน้ กลา้ เจริญเตบิ โตต่อไปจนเปน็ ตน้ ทใ่ี หญ่ขนึ้ มดี อก มผี ลและเมลด็ )
5.2 เมล็ดที่ได้จากพืชดอกท่ีปลูก จะเจริญเติบโตเปน็ พืชดอกตน้ ใหม่ไดอ้ ีกหรือไม่ อยา่ งไร (ได้ เม่อื เมล็ดงอก
แลว้ เจริญเตบิ โตข้นึ จนมีดอก ดอกจะสบื พนั ธุ์ มีผลและเมล็ดได้อีก)
5.3 แผนภาพแสดงลาดับการเปล่ียนแปลงของพืชดอกที่ปลูกไว้เป็นอย่างไร (นักเรียนตอบตามผลการ
บันทกึ )

6. ครใู หน้ ักเรยี นรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั วัฏจกั รชีวิตของพชื ดอกทป่ี ลูก โดยครเู ตรยี มอปุ กรณห์ รือใบงานสาหรับ
สืบค้นไว้ให้นักเรียน หรือชวนอภิปรายการเขียนแผนภาพวัฏจักรชีวิตของพืชดอกให้ถูกต้อง ซึ่งการเขียน
แผนภาพจะเขียนลูกศรเช่ือมจากระยะการเจริญเติบโตหน่ึงไปยังอีกระยะการเจริญเติบโตหนึ่ง โดยหัวของ
ลกู ศรจะชไี้ ปทางระยะการเจริญเตบิ โตของพชื ในขั้นต่อไป จากนั้นครใู ห้นกั เรยี นปรับการเขยี นแผนภาพ
วัฏจกั รชวี ติ ของพชื ดอกทีป่ ลูกไวใ้ ห้ถกู ต้อง

7. เม่ือทากิจกรรมเสร็จแล้ว ครูสุ่มนักเรียนออกมานาเสนอแผนภาพอธิบายวัฏจักรชีวิตของพืชดอกที่ปลูก
จากนัน้ รว่ มกนั อภปิ รายผลการทากิจกรรม โดยใชค้ าถามดังน้ี
7.1 พชื ดอกทีป่ ลูกมีการเปลยี่ นแปลงจากดอกไปเปน็ ผลไดเ้ พราะอะไร (เพราะดอกมีการสืบพันธุ์ทาให้
เปลีย่ นแปลงไปเป็นผล)
7.2 เม่ือเมล็ดของพืชดอกต้นเดิมเจริญเติบโตเป็นพืชดอกต้นใหม่ ลาดับการเปล่ียนแปลงขณะเจริญเติบโต
ของพืชดอกต้นใหม่จะเหมือนกับพืชดอกต้นเดิมหรือไม่ อย่างไร (พืชดอกต้นใหม่จะมีลาดับการ
เปลี่ยนแปลงขณะเจริญเติบโตเหมือนกับพืชดอกต้นเดิม โดยต้นอ่อนภายในเมล็ดของพืชดอกต้นใหม่
จะงอกและเจริญเติบโตจนเป็นต้นกล้า แล้วต้นกล้าเจริญเติบโตจนเป็นต้นที่มีขนาดใหญ่ข้ึน จนมีดอก
และสืบพันธ์ุ มผี ลและเมล็ด ซง่ึ เหมือนกับการเปลย่ี นแปลงขณะเจริญเติบโตของพืชดอกต้นเดิม)
7.6 วัฏจักรชีวติ ของพืชดอกเป็นอยา่ งไร (วฏั จกั รชวี ิตของพืชดอกเป็นการเปลยี่ นแปลงขณะเจริญเติบโตของ
พืชดอก โดยเมื่อเมล็ดพืชงอกจะเปลีย่ นแปลงไปเป็นต้นกล้า ต้นกล้าเจรญิ เติบโตขนึ้ จนเป็นต้นทมี่ ี
ขนาดใหญข่ ้นึ เม่ือพชื มดี อก และดอกสบื พันธุจ์ ะเกิดผล ภายในผลมเี มล็ด จากนั้นเมลด็ จะงอกและ
เจรญิ เตบิ โตเปน็ พชื ต้นใหม่อีกคร้งั เป็นแบบรูปคงท่ี หมุนเวียนต่อเนือ่ งเปน็ วฏั จักรชีวิตของพืชดอก)

174

7.7 นักเรียนเขียนแผนภาพวัฏจกั รชวี ิตของพชื ดอกได้อย่างไร (วาดรูปหรอื เขยี นระบุระยะการเจรญิ เติบโต
ของพืชในแต่ละลาดับ จากนั้นเขียนลกู ศรเชื่อมโยงจากระยะการเจรญิ เติบโตหน่ึงไปยังอีกระยะการ
เจรญิ เตบิ โตหนึ่ง โดยเขียนให้หวั ลูกศรชี้ไปทางระยะการเจริญเตบิ โตของพชื ในขั้นต่อไป)

ข้นั สรุป (เวลำ 5 นำที)
8. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนได้สรปุ ความรูท้ ี่ไดเ้ รียนเกย่ี วกบั การเปลยี่ นแปลงการเจริญเตบิ โตของพชื ดอก

บางชนดิ โดยใช้สือ่ สไลด์ สรปุ ได้วา่ ขณะเจรญิ เติบโตพชื ดอกจะมีการเปล่ียนแปลง เม่ือเมลด็ พชื งอก ต้นอ่อน
ภายในเมล็ดจะเจริญเติบโตเป็นต้นกล้า แล้วต้นกล้าเจริญเติบโตเป็นต้นพืชขนาดใหญ่ มีดอก พร้อมท่ีจะ
สืบพันธุ์ เม่ือพืชสืบพันธุ์แล้วจะเกิดผล ภายในผลมีเมล็ด จากนั้นเมล็ดจะงอกและเจริญเติบโตเป็นพืชต้น
ใหมไ่ ดอ้ กี เปน็ แบบรปู คงที่ หมุนเวียนอยา่ งต่อเนื่องเปน็ วฏั จักรชีวิตของพืชดอก

8. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอื่ สไลด์ เรอ่ื ง วัฏจักรชวี ติ ของพชื ดอก (2)
8.2 ใบกจิ กรรมท่ี 1 วัฏจักรชีวิตของพืชดอกเป็นอยา่ งไร หนา้ 51
8.3 ใบงาน 01 การเปล่ียนแปลงขณะเจริญเติบโตของพืชดอก หน้า 52-55
8.4 บัตรภาพการเปลี่ยนแปลงการเจริญเติบโตของพืช เช่น พริก มะเขือ แตงกวา ถ่ัวเขียว กะเพรา
โหระพา
8.5 กระถางปลกู พืชของนักเรียน

9. ชิ้นงำน/ภำระงำน
9.1 เขยี นแผนภาพแสดงวฏั จักรของพชื ดอก ในใบงาน หน้า 55

10. กำรวดั และประเมนิ ผล

ประเดน็ กำรประเมนิ วิธีกำร เครอ่ื งมอื เกณฑ์กำรตัดสิน
แบบประเมินการตอบ คะแนน 9 – 10 หมายถงึ ดมี าก
1) อธบิ ายและเขยี น สงั เกตการตอบคาถามใน คาถามในชั้นเรียนและ คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
ตรวจใบงาน คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
วฏั จักรชีวติ ของพชื ดอก ชั้นเรียนและในใบงาน คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรับปรุง
คะแนน 5 - 6 หมายถึง ดี
บางชนิด คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรับปรงุ
2) ทักษะกระบวนการ สังเกตทกั ษะกระบวนการ แบบประเมนิ ทกั ษะ
ทางวทิ ยาศาสตร์
- สงั เกตการเปลีย่ นแปลง ทางวิทยาศาสตร์ในการ กระบวนการทาง
ขณะเจริญเติบโตของพชื
ดอกบางชนิด ทากิจกรรม วทิ ยาศาสตร์

ประเดน็ กำรประเมิน วิธกี ำร เครื่องมอื 175
- สรา้ งแบบจาลอง
เก่ียวกบั วัฏจักรชวี ติ ของ สงั เกตด้านคุณลักษณะ แบบประเมนิ เกณฑ์กำรตดั สิน
พชื ดอก อนั พงึ ประสงค์ คุณลักษณะ
3) สงั เกตพฤติกรรมดา้ น อนั พงึ ประสงค์ คะแนน 3 หมายถึง ดี
การมีวินัยและความมุ่งม่นั คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
ในการทางาน คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ กำรตอบคำถำมในช้ันเรยี นและตรวจใบงำน
แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ี่ 17 เรอ่ื ง วัฏจักรชีวติ ของพืชดอก (2)
ชอื่ ผ้ปู ระเมิน…………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลครั้งท่ี………………….... วันท่ี …………….........……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เร่อื ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….

ชอ่ื -สกุล/กลมุ่ รำยกำรประเมิน/ระดับคะแนน รวมคะแนน
กำรตอบคำถำม กำรสรปุ ควำมถกู ต้อง (10 คะแนน)

ในช้ันเรียน ควำมรู้ ครบถ้วนของ
(4) (4) เน้ือหำในใบงำน
(2)

176

เกณฑ์กำรประเมนิ

ประเด็น ระดบั คณุ ภำพ น้ำหนกั คะแนน
1.0 รวม
กำรประเมนิ 4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 4
ตอบคาถามไม่
1. การตอบ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม ถกู ต้อง 4
คาถามในชั้นเรยี น ถูกต้องทั้งหมด ถูกต้องเปน็ ถกู ต้องบางส่วน
2
ส่วนใหญ่

2. การสรุปความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรู้ความ สรปุ ความรู้ความ สรุปความรู้เข้าใจ 1.0
ความเขา้ ใจ เข้าใจเกีย่ วกับ เข้าใจเกี่ยวกับ เก่ียวกบั เร่อื งท่ี
เกีย่ วกบั เร่ืองท่ี เรือ่ งท่ีศึกษาได้ เรื่องท่ีศกึ ษาได้ ศึกษาไม่ถกู ต้อง
ศกึ ษาได้ ถูกต้อง ถกู ต้อง แต่ไม่ ถกู ต้องบางส่วน และไม่ครบถว้ น
และครบถว้ น ครบถ้วน และไมค่ รบถ้วน
เนอื้ หาท่ีเขียนใน เนื้อหาท่เี ขียนใน 1.0
3. ความถูกต้อง เนือ้ หาท่เี ขยี นใน เนอื้ หาท่เี ขียนใน ใบงานมคี วาม ใบงานไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถว้ นของ ใบงานมีความ ใบงานมีบางสว่ น ถกู ต้องเป็นสว่ น
เนอื้ หาในใบงาน ถกู ต้องครบถ้วน ไมถ่ ูกตอ้ ง ตามท่ี นอ้ ย

ตามที่กาหนด กาหนด

เกณฑ์กำรตัดสิน
คะแนน 9 - 10 หมายถงึ ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรับปรงุ

177

แบบประเมินด้ำนทักษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์
แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ่ี 17 เรอ่ื ง วฏั จกั รชีวติ ของพืชดอก (2)

ช่อื ผปู้ ระเมนิ …………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลครงั้ ท…่ี ……………….... วันท่ี …………….........……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอ่ื ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….

ชอื่ -สกุล/กลมุ่ รำยกำรประเมนิ /ระดบั คะแนน ผลรวม ผลกำรประเมิน
กำรสงั เกต (3) กำรลงควำมเหน็ คะแนน
(6 คะแนน)
จำกข้อมูล (3)

เกณฑ์กำรประเมนิ

ทักษะกระบวนกำร ดี (3) ระดบั ควำมสำมำรถ ปรับปรงุ (1)
ทำงวิทยำศำสตร์ พอใช้ (2) ใช้ประสาทสัมผัสในการวบรวม
ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ ก า ร
การสังเกต สามารถใช้ประสาทสัมผสั ใน สามารถใช้ประสาทสัมผัสใน เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข ณ ะ
การวบรวมข้อมูลเก่ียวกับ การวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต ข อ ง พื ช ด อ ก
การเปล่ียนแปลงขณะ การเปล่ียนแปลงขณะ บางชนิดได้บางอย่าง ถึงแม้
เจริญเติบโตของพืชดอก เจริญเติบโตของพืชดอก จะไดร้ บั คาแนะนาจากครูหรอื
บางชนิดได้ดว้ ยตนเองโดย บางชนิดได้ โดยการชแ้ี นะ ผอู้ ืน่
ไม่เพิ่มเตมิ ความคิดเห็น ของครหู รือผู้อ่ืน สรา้ งแบบจาลองโดยการเขียน
แผนภาพวัฏจักรชวี ิตของ
การสรา้ งแบบจาลอง สร้างแบบจาลองโดยการ สร้างแบบจาลองโดยการ พืชดอกบางชนิดได้ แต่อธบิ าย
เขียนแผนภาพวฏั จักรชีวิต เขียนแผนภาพวัฏจักรชวี ิต วัฏจกั รชีวิตของพชื ดอกไม่
ของพชื ดอกบางชนดิ และ ของพืชดอกบางชนิดและ ถกู ต้อง ถงึ แม้จะได้รบั
อธิบายวัฏจักรชวี ิตของ อธบิ ายวัฏจักรชวี ิตของ คาแนะนาจากครหู รือผอู้ ื่น
พชื ดอกได้ดว้ ยตนเอง พชื ดอกได้ โดยการชีแ้ นะของ
ครูหรอื ผอู้ น่ื

178

เกณฑก์ ำรตัดสนิ
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ ดำ้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ่ี 17 เร่ือง วฏั จักรชีวิตของพืชดอก (2)

ชอ่ื ผู้ประเมนิ /กลุ่มประเมิน………………………………………………………………………………………………………………………………..
ชอื่ กลุ่มรับกำรประเมิน…………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมินผลคร้งั ท…ี่ ……………….... วันท่ี ……………..……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เร่อื ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ที่ ลกั ษณะ/พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับพฤติกรรม

1 มวี นิ ัย เกิด = 1 ไม่เกดิ = 0
2 มงุ่ ม่ันในการทางาน

รวมคะแนนท่ีได้ทัง้ หมด

เกณฑก์ ำรประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มากกว่า 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50% - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ต่ากว่า 50 % ได้ 1 คะแนน

เกณฑ์กำรตัดสนิ
คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ

แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 18 179

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษำปีที่ 2

ภำคเรยี นท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2564 รำยวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชำ ว12101

หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 1 สิง่ มชี ีวิต หน่วยยอ่ ยที่ 3 วฏั จักรชีวิตของพชื ดอก

แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 18 เรื่อง วฏั จกั รชีวิตของพืชดอก (3) เวลำ 50 นำที

1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตวั ชวี้ ดั
สำระที่ 1 วิทยำศำสตรช์ ีวภำพ

มำตรฐำน ว 1.2
เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์

ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสร้างและหนา้ ทข่ี องอวัยวะตา่ ง ๆ ของพชื ท่ีทางานสมั พนั ธก์ นั รวมทงั้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ตวั ช้วี ัด ว 1.2 ป. 2/3 สรา้ งแบบจาลองทบ่ี รรยายวัฏจักรชวี ติ ของพืชดอก

2. สำระสำคัญ
พืชดอกเมือ่ เจรญิ เตบิ โตและมีดอก จะมีการสบื พันธ์ุ เกดิ ผลและเมลด็ เม่ือเมลด็ งอกจะได้พชื ตน้ ใหม่ เม่ือพืช

ต้นใหมเ่ จรญิ เติบโตและมดี อก ก็จะมีการสบื พันธุ์ เกิดผลและเมลด็ อีกครงั้ เป็นแบบรูปคงท่ี หมุนเวยี นต่อเนื่องเปน็
วัฏจักรชวี ติ ของพชื ดอก

3. จดุ ประสงค์
3.1 ดำ้ นควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ (K)
- อธบิ ายและเขียนแผนภาพแสดงลาดับการเปลี่ยนแปลงของพชื ดอก
3.2 ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำร (P)
- สงั เกตการเปล่ยี นแปลงขณะเจรญิ เตบิ โตของพืชดอกบางชนิด
- จัดกระทาและสื่อความหมายข้อมูลโดยการเขียนแผนภาพวัฏจักรชวี ิตของพืชดอกบางชนิด
และนาเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกับการเปล่ยี นแปลงแต่ละขัน้ ของวัฏชวี ติ ของพืชดอก
3.3 ดำ้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่ำนยิ ม (A)
- มีวินยั
- ใฝเ่ รียนรู้

4. สำระกำรเรียนรู้
พชื ดอกเมื่อเจริญเติบโตและมีดอก ดอกจะมกี ารสบื พันธ์เุ ปล่ียนแปลงไปเป็นผล ภายในผลมีเมล็ด เม่ือ

เมล็ดงอก ต้นอ่อนที่อยู่ภายในเมล็ดจะเจริญเติบโตเป็นพืชต้นใหม่ พืชต้นใหม่จะเจริญเติบโตและออกดอกเพื่อ
สืบพนั ธ์ุ ซ่ึงจะเกิดผลและเมลด็ ตอ่ ไปได้เป็นแบบรปู คงท่ี หมุนเวยี นต่อเนอ่ื งเปน็ วฏั จักรชวี ิตของพืชดอก
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน

180

5.1 ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร
- อธิบายการเปลยี่ นแปลงการเจรญิ เติบโตของพืชดอกบางชนิด

5.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ
- เขยี นแผนภาพวฏั จักรชวี ติ ของพชื ดอกบางชนิดและนาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการเปลีย่ นแปลงแตล่ ะขั้น

ของวัฏชีวติ ของพืชดอก
5.3 ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชีวิต

- มีวินยั
- ใฝเ่ รยี นรู้

6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 มวี ินัย
6.2 ใฝเ่ รียนรู้

7. กิจกรรมกำรเรียนรู้
ขัน้ นำเข้ำสบู่ ทเรยี น (เวลำ 5 นำท)ี
1. ครตู รวจสอบความร้เู ดิมเกี่ยวกับวัฏจกั รชวี ติ ของพืชดอกบางชนดิ โดยติดรปู วัฏจกั รชวี ติ ของทานตะวัน

ท่ีนักเรียนเขียนไว้ในช่ัวโมงที่ผ่านมาบนกระดานหรือกระดาษปรู๊ฟ แล้วใช้คาถามว่า วัฏจักรชีวิตของ
ทานตะวันเป็นอย่างไร (เม่ือเมล็ดทานตะวันงอกและเจริญเติบโตเป็นต้นกล้า ต้นกล้าจะเจริญเติบโตต่อไป
เป็นต้นท่ีมีขนาดใหญ่ขึ้น มีดอก เมื่อดอกสืบพันธ์ุจะเกิดผล ภายในผลมีเมล็ด จากนั้นเมล็ดจะงอกและ
เจรญิ เตบิ โตตอ่ ไปเปน็ พืชตน้ ใหม่อกี ครง้ั )
2. ครตู รวจสอบความรูเ้ ดมิ ของนักเรยี นโดยใช้คาถามว่า วัฏจกั รชีวติ ของพชื ดอกชนดิ อ่ืน ๆ เป็นอยา่ งไร
จะเหมือนกบั วัฏจักรชีวิตของทานตะวันหรือไม่ (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
ข้ันสอน (เวลำ 40 นำที)
3. ครูใช้ส่ือไสลด์แจ้งจุดประสงค์ของกิจกรรมในชั่วโมงน้ใี หน้ ักเรียนทราบอีกครั้ง ว่านักเรยี นจะสามารถอธิบาย
การเปลยี่ นแปลงการเจริญเติบโตของพชื ดอกบางชนิดได้
4. นักเรียนอ่านวิธีทาในใบกิจกรรมที่ 1 ข้อ 6 หน้า 51 และทาความเข้าใจข้ันตอนการทากิจกรรม โดยครูใช้
คาถามจากสื่อสไลดด์ ังต่อไปน้ี

4.1 นกั เรยี นตอ้ งเลอื กบตั รภาพการเจริญเตบิ โตของพืชดอกก่ีชนิด (1 ชนิด)
4.2 เมื่อนักเรียนเลือกบัตรภาพการเจริญเติบโตของพืชดอกแล้ว ต้องทาอย่างไรต่อไป (เขียน

แผนภาพวัฏจกั รชวี ติ ของพืชดอก และนาเสนอ)
5. ครูให้นักเรียนทากิจกรรม โดยแจกบัตรภาพการเปล่ียนแปลงขณะเจริญเติบโตของพืชดอกให้แก่นักเรียน

กลุ่มละ 1 ชนิด เช่น แตงโม มะละกอ และมะพร้าว แล้วให้นักเรียนเรียงบัตรภาพการเปล่ียนแปลงขณะ
เจริญเติบโตของพืชดอกชนดิ น้ัน ๆ พร้อมท้ังเขยี นแผนภาพวัฏจักรชวี ิตของพืชดอกชนิดนั้นลงในใบงาน 01
การเปลีย่ นแปลงขณะเจริญเตบิ โตของพืชดอก หน้า 56 โดยกาหนดเวลา 5-10 นาที

181

6. เมอ่ื นักเรียนทากจิ กรรมเรียบร้อยแลว้ ครูให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มนาบัตรภาพการเปลี่ยนแปลงขณะ
เจริญเติบโตของพชื ดอกมาจัดวางบนกระดาน พรอ้ มเขยี นแผนภาพวัฏจกั รชวี ติ ชีวติ ของพืชดอกชนดิ น้นั

7. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอ จากน้ันรว่ มกันอภปิ รายความรู้ โดยใช้คาถามดังน้ี
7.1 วัฏจักรชีวิตของพืชดอกแต่ละชนิดเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (วัฏจักรชีวิตของพืชดอกแต่ละชนิด
เหมือนกัน โดยเมื่อเมล็ดงอกจะเจริญเตบิ โตเป็นต้นกล้า แล้วตน้ กล้าเจริญเตบิ โตจนเป็นตน้ ทใ่ี หญ่
ขึ้น มีดอก มีผล ภายในผลมีเมล็ด จากนั้นเมล็ดก็จะเจริญเติบโตเป็นพืชต้นใหม่อีกคร้ัง เป็นแบบ
รูปคงทห่ี มนุ เวยี นอย่างตอ่ เนอ่ื งเป็นวฏั จักรชีวติ ของพชื ดอก)
7.2 วัฏจักรชีวิตของพืชดอกแต่ละชนิดจาเป็นต้องเร่ิมจากเมล็ดหรือไม่ อย่างไร (วัฏจักรชีวิตของพืช
ดอกแต่ละชนิดไม่จาเป็นต้องเร่ิมจากเมลด็ จะเร่ิมจากช่วงเวลาใดกไ็ ด้ โดยมกี ารเปลีย่ นแปลงเป็น
แบบรูปคงทหี่ มุนเวยี นต่อเนือ่ งไม่สน้ิ สุด)

8. ครูให้นักเรียนตอบคาถามหลังจากทากิจกรรม หน้า 57 โดยใช้คาถามจากสื่อสไลด์ และให้นักเรียนร่วมกัน
อภิปรายคาตอบ จากนนั้ ครเู ฉลยคาตอบทถี่ ูกต้องอีกคร้ัง

9. ครูชวนนักเรียนเปิด AR เพ่ือสังเกตวัฏจักรชีวิตของพืชดอกอีกคร้ัง โดยผ่านโปรแกรมประยุกต์หรือ
application ช่อื ว่า วิทย์ ป.2 ในใบงาน 02 แบบฝกึ หัด เรือ่ งวัฏจักรชวี ิตของพืชดอก หน้า 58

10. ครสู มุ่ นกั เรียน 2-3 คน ออกมาชว่ ยกันเรียงลาดับการเปล่ยี นแปลงขณะเจริญเติบโตของทานตะวัน
จากขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งอีกครง้ั

ข้นั สรุป (เวลำ 5 นำที)
11. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นได้สรปุ ความรูท้ ่ไี ด้เรยี นเกย่ี วกับการเปล่ยี นแปลงการเจรญิ เติบโตของพืชบางชนดิ

โดยใช้สื่อสไลด์ สรุปได้วา่ พชื ดอกเมอื่ เจริญเตบิ โตจนมีดอก ดอกจะมีการสืบพันธเุ์ ปลยี่ นแปลงไปเป็นผล
ภายในผลมเี มลด็ เมอื่ เมล็ดงอก ต้นอ่อนท่ีอยู่ภายในเมล็ดจะเจรญิ เตบิ โตเปน็ ตน้ กล้า แลว้ ต้นกลา้ จะ
เจริญเติบโตเป็นตน้ พืชท่ีมีขนาดใหญ่ขน้ึ และออกดอกเพ่ือสบื พนั ธ์ุ จนเกิดผลและเมลด็ อีกคร้ัง เปน็ แบบ
รูปคงทห่ี มนุ เวียนต่อเนอ่ื งเป็นวฏั จกั รชวี ิตของ
พชื ดอก
12. นักเรียนทาใบงาน 02 แบบฝึกหดั เรื่องวัฏจกั รชวี ิตของพืชดอก หนา้ 58-60 เปน็ การบ้าน

8. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอื่ สไลด์ เรือ่ ง วฏั จกั รชีวติ ของพชื ดอก (3)
8.2 ใบกิจกรรมที่ 1 วฏั จกั รชีวิตของพืชดอกเปน็ อยา่ งไร หนา้ 51
8.3 ใบงาน 01 การเปลยี่ นแปลงขณะเจริญเติบโตของพชื หนา้ 56
8.4 ใบงาน 02 แบบฝึกหัด เร่ืองวัฏจกั รชวี ิตของพืชดอก หนา้ 58-60
8.5 บัตรภาพแสดงถึงวัฏจักรชวี ติ ของ ทานตะวนั แตงกวา ทานตะวนั และมะพรา้ ว

9. ชนิ้ งำน/ภำระงำน
9.1 เขียนแผนภาพแสดงลาดับการเปล่ยี นแปลงขณะเจริญเตบิ โตของพืชดอก ลงในใบงาน หนา้ 56

182

9.2 ใบงาน 02 แบบฝกึ หัด เรอื่ งวัฏจักรชวี ติ ของพืชดอก หนา้ 58-60

10. กำรวดั และประเมินผล

ประเด็นกำรประเมนิ วธิ กี ำร เคร่อื งมอื เกณฑ์กำรตดั สนิ
แบบประเมินการตอบ คะแนน 9 – 10 หมายถึง ดมี าก
1) อธบิ ายและเขยี น สงั เกตการตอบคาถาม คาถามในชนั้ เรยี นและ คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
ตรวจใบงาน คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
แผนภาพแสดงลาดับการ ในชัน้ เรยี นและในใบ แบบประเมินทักษะ คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรับปรุง
กระบวนการทาง คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
เปลยี่ นแปลงขณะ งาน วทิ ยาศาสตร์ คะแนน 3 - 4 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรับปรงุ
เจริญเตบิ โตของพชื ดอก แบบประเมิน
คณุ ลักษณะ คะแนน 3 หมายถงึ ดี
2) ทกั ษะกระบวนการ สงั เกตทกั ษะ อนั พงึ ประสงค์ คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
ทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการ

- สงั เกตการเปลี่ยนแปลง ทางวทิ ยาศาสตร์ใน

ขณะเจริญเตบิ โตของ การทากจิ กรรม

พชื ดอกบางชนิด

- จัดกระทาและส่อื

ความหมายข้อมลู โดยการ

เขยี นแผนภาพวฏั จกั รชวี ิต

ของพชื ดอกบางชนดิ และ

นาเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการ

เปล่ียนแปลงแตล่ ะขนั้

ของวัฏชีวิตของพืชดอก

3) สงั เกตพฤติกรรมการมี สงั เกตด้านคุณลักษณะ

วนิ ยั และใฝ่เรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์

183

แบบประเมนิ กำรตอบคำถำมในชนั้ เรยี นและตรวจใบงำน
แผนกำรเรยี นรู้ท่ี 18 เรื่อง วัฏจกั รชีวิตของพืชดอก (3)

ช่อื ผปู้ ระเมนิ …………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลครง้ั ท…่ี ……………….... วันท่ี …………….........……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เร่ือง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….

ชือ่ -สกุล/กลุ่ม รำยกำรประเมนิ /ระดับคะแนน รวมคะแนน
กำรตอบ กำรสรุป ควำมถกู ตอ้ ง (10 คะแนน)
คำถำมในชน้ั ควำมรู้ ครบถว้ นของ
เรียน (4) เนือ้ หำในใบงำน

(4) (2)

เกณฑก์ ำรประเมิน

ประเด็น ระดับคณุ ภำพ น้ำหนกั คะแนน
กำรประเมนิ 4 (ดีมำก) 1.0 รวม
1. การตอบ ตอบคาถามได้ 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 4
คาถามในชัน้ เรียน ถูกต้องทงั้ หมด ตอบคาถามไม่
ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม ถูกต้อง 4
ถกู ต้องเปน็ ถกู ต้องบางส่วน
ส่วนใหญ่ 2

2. การสรปุ ความรู้ สรปุ ความรู้ สรุปความรู้ความ สรปุ ความรู้ความ สรปุ ความร้เู ข้าใจ 1.0
ความเขา้ ใจ เข้าใจเกย่ี วกับ เขา้ ใจเกยี่ วกับ เก่ยี วกับเรื่องท่ี
เกย่ี วกบั เรือ่ งที่ เรอ่ื งที่ศึกษาได้ เรื่องท่ีศกึ ษาได้ ศึกษาไม่ถูกต้อง
ศกึ ษาได้ ถูกต้อง ถกู ต้อง แต่ไม่ ถูกต้องบางสว่ น และไมค่ รบถว้ น
และครบถว้ น ครบถว้ น และไม่ครบถว้ น
เนื้อหาที่เขียนใน เนอ้ื หาทเ่ี ขียนใน 1.0
3. ความถูกต้อง เนอ้ื หาที่เขียนใน เนื้อหาทเี่ ขียนใน ใบงานมคี วาม ใบงานไมถ่ กู ต้อง
ครบถว้ นของ ใบงานมคี วาม ใบงานมบี างส่วน ถูกต้องเปน็
เน้อื หาในใบงาน ถกู ต้องครบถ้วน ไมถ่ ูกตอ้ ง ตามที่ สว่ นน้อย

ตามที่กาหนด กาหนด
เกณฑก์ ำรตัดสิน

คะแนน 9 - 10 หมายถงึ ดมี าก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรับปรงุ

184

แบบประเมินดำ้ นทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์

แผนกำรเรยี นรูท้ ี่ 18 เร่ือง วัฏจกั รชวี ติ ของพชื ดอก (3)
ช่อื ผู้ประเมิน…………………………………………………………………………........................………………………………………..

ประเมนิ ผลครั้งท…ี่ ……………….... วันที่ …………….........……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........

เรื่อง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….

ช่ือ-สกุล/กลมุ่ รำยกำรประเมิน/ระดบั คะแนน ผลรวม ผลกำรประเมนิ
กำรสงั เกต (3) กำรลงควำมเหน็ จำก คะแนน
(6 คะแนน)
ขอ้ มูล (3)

เกณฑ์กำรประเมนิ

ทักษะกระบวนกำร ระดบั ควำมสำมำรถ
ทำงวิทยำศำสตร์
การสงั เกต ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
สามารถใช้ประสาทสมั ผสั ในกา
การจดั กระทาและสอื่ สามารถใช้ประสาทสัมผสั ใน สามารถใช้ประสาทสัมผัสใน รวบรวมข้ อ มู ล เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร
ความหมายข้อมลู เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ข ณ ะ
การวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ การวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ เ จ ริ ญ เ ติ บ โ ต ข อ ง พื ช ด อ ก
ได้บางอย่าง ถึงแมจ้ ะได้รบั
การเปลี่ยนแปลงขณะ การเปลี่ยนแปลงขณะ คาแนะนาจากครูหรือผู้อนื่
สามารถนาขอ้ มูลทไี่ ดจ้ ากการ
เจริญเติบโตของพืชดอก เจริญเติบโตของพืชดอก สังเกตและการสบื คน้ ขอ้ มลู มา
เขียนแผนภาพวฏั จักรชีวติ ของ
ได้ดว้ ยตนเอง โดยไม่ ได้ โดยการช้ีแนะของครู พชื ดอกบางชนดิ และไม่
สามารถนาเสนอให้ผูอ้ ่นื เขา้ ใจได้
เพิ่มเติมความคิดเห็น หรอื ผูอ้ นื่ ถงึ แมจ้ ะได้รับคาแนะนาจาก
ครูหรอื ผู้อื่น
สามารถนาขอ้ มูลทีไ่ ด้จากการ สามารถนาขอ้ มลู ทไ่ี ด้จากการ

สงั เกตและการสืบคน้ ขอ้ มลู มา สังเกตและการสบื คน้ ข้อมูลมา

เขียนแผนภาพวฏั จกั รชวี ติ เขียนแผนภาพวฏั จกั รชวี ติ ของ

ของพชื ดอก และนาเสนอให้ พชื ดอกบางชนิด และนาเสนอ

ผู้อนื่ เข้าใจได้ง่ายและถูกต้อง ใหผ้ ้อู ื่นเข้าใจไดง้ ่ายและ

ได้ ด้วยตวั เอง ถกู ตอ้ งได้ โดยอาศยั

คาแนะนาของครูหรือผู้อื่น

185

เกณฑก์ ำรตัดสนิ
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถึง ปรับปรงุ

แบบประเมนิ ดำ้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนกำรเรียนร้ทู ่ี 18 เรื่อง วัฏจกั รชวี ิตของพืชดอก (3)

ชื่อผูป้ ระเมิน/กล่มุ ประเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………..
ชือ่ กลุ่มรบั กำรประเมิน…………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมนิ ผลครง้ั ที่………………….... วันที่ ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เร่ือง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ท่ี ลักษณะ/พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดับพฤตกิ รรม
รวมคะแนนที่ไดท้ ั้งหมด
1 มวี ินัย เกิด = 1 ไม่เกดิ = 0
2 ใฝเ่ รียนรู้

เกณฑก์ ำรประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มากกวา่ 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50% - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ต่ากว่า 50 % ได้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ำรตดั สนิ
คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

186

เฉลยใบงำน

187

ตำมทนี่ ักเรยี นเลอื กปลกู
คำตอบข้ึนอยกู่ ับกำรสังเกต

188

คำตอบขึน้ อยูก่ บั กำรสงั เกต

189

คำตอบขึน้ อยูก่ บั กำรสงั เกต

190

แผนภำพวฏั จักรชีวติ ของพชื ดอกท่ีเลอื กปลกู ขึน้ อย่กู ับ
ผลกำรทำกิจกรรมของนกั เรยี น

191

แผนภำพวัฏจักรชีวติ ของพชื ดอกข้ึนอยู่กับ
ชนิดของพืชดอกท่ีนกั เรียนได้รับในกำรทำกจิ กรรม

192

เมลด็ พชื จะงอก และเจรญิ เติบโตเป็นตน้ กลำ้ แล้วตน้ กล้ำเจริญเติบโต
เป็นต้นพชื ทม่ี ขี นำดใหญ่ มดี อก เมอื่ ดอกสบื พนั ธ์ุ จะเกดิ ผล ภำยใน
ผลมีเมลด็
เม่อื พชื เจรญิ เติบโตจนมีเมล็ด เมลด็ จะงอกตอ่ ไปเปน็ พชื ตน้ ใหม่ได้อีก
เมอ่ื มอี ำกำศและนำ้ ทพ่ี อเหมำะ
วฏั จักรชีวติ

พืชดอกเมอื่ เจรญิ เติบโตและมีดอก ดอกจะมกี ำรสืบพนั ธ์ุและเกิดผล ภำยในผลมเี มล็ด
เม่ือเมลด็ งอก ต้นออ่ นที่อย่ภู ำยในเมล็ดจะเจริญเตบิ โตเป็นตน้ กล้ำ ตน้ กลำ้ จะเจรญิ เตบิ โต
เปน็ ต้นพืชขนำดใหญ่ เมื่อมีดอกจะมีกำรสืบพนั ธ์ุ เกดิ ผลและเมล็ดตอ่ ไปเป็นแบบรูปคงท่ี
หมุนเวียนต่อเนอ่ื งเปน็ วฏั จักรชีวิตของพืชดอก

193

เม่อื เมลด็ พืชดอกงอกเปน็ ตน้ ออ่ น ตน้ อ่อนเจรญิ เติบโตเปน็ ตน้ กลำ้ ต้นกลำ้ เจริญเติบโตเปน็
ตน้ ท่ีมีขนำดใหญ่ข้นึ จนมดี อก เม่อื ดอกสืบพันธุจ์ ะเปล่ียนแปลงเปน็ ผล ภำยในผลมเี มลด็
เมล็ดทอ่ี ย่ภู ำยในผลจะสำมำรถงอกต่อไปได้อีก เปน็ แบบรปู คงที่หมุนเวียนต่อเน่อื งเป็น
วฏั จกั รชีวิตของพืชดอก

194

ต้นมะเขอื โตเตม็ ท่ี ท่ีออกดอก

195

ตน้ ข้าวโตเต็มท่ี ท่ีออกดอก
ตน้ กลา้


Click to View FlipBook Version