96
นำ้ ทพ่ี อเหมำะ
อำกำศท่พี อเหมำะ
แตกตำ่ งกนั
เมล็ดแข็ง
เปลอื กหมุ้ เมล็ดออ่ นนุ่ม เมลด็ แตกมรี ำกและลำต้นออก
ใบเลย้ี งงอกออกมำจำกเมลด็
97
ตน้ ออ่ น
เปน็ แหล่งอำหำรของตน้ อ่อน
นำ้ และอำกำศที่พอเหมำะ
นำ้ และอำกำศทพี่ อเหมำะ
98
นำ้ ทพ่ี อเหมำะ
ส่ิงทจ่ี ำเป็นตอ่ กำรงอกของเมล็ดพชื
อำกำศทีพ่ อเหมำะ
นกั เรียนสำมำถทำรูปแบบอน่ื ได้ ครูตรวจเนื้อหำให้ถูกตอ้ ง
99
จำเปน็ เพรำะต้นออ่ นเป็นสิ่งมชี ีวติ ต้องกำรอำหำร ทำใหเ้ จริญเติบโต
เปน็ ตน้ พืชตอ่ ไปได้
ถำ้ นำเมลด็ พืชไปคว่ั ได้รบั ควำมรอ้ นจะทำให้เมล็ดสกุ ตน้ อ่อนที่อยใู่ น
เมล็ดจะตำย ทำใหง้ อกไมไ่ ด้
100
แผนกำรจดั กำรเรยี นรูท้ ี่ 10
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ 2
ภำคเรยี นท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2564 รำยวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชำ ว12101
หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 1 สง่ิ มชี ีวิต หน่วยย่อยที่ 2 กำรเจรญิ เติบโตของพืช
แผนกำรเรยี นรทู้ ี่ 10 เร่อื ง ส่ิงที่จำเป็นตอ่ กำรเจริญเตบิ โตของพชื (1) เวลำ 50 นำที
1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ดั
มำตรฐำน ว 1.2
เข้าใจสมบตั ิของสง่ิ มชี วี ิต หนว่ ยพ้ืนฐานของสง่ิ มีชีวติ การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหนา้ ทขี่ องระบบตา่ ง ๆ ของสตั วแ์ ละมนุษย์ท่ที างานสัมพันธ์กัน ความสมั พันธ์
ของโครงสรา้ งและหน้าที่ของอวยั วะต่าง ๆ ของพืชท่ีทางานสมั พนั ธ์กัน รวมทัง้ นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
ตวั ช้ีวัด
ว 1.2 ป. 2/1 ระบวุ า่ พชื ตอ้ งการแสงและน้า เพื่อการเจรญิ เติบโต โดยใช้ข้อมลู จากหลกั ฐาน
เชงิ ประจกั ษ์
ว 1.2 ป. 2/2 ตระหนักถึงความจาเปน็ ทพี่ ชื ต้องได้รบั นา้ และแสงเพื่อการเจริญเตบิ โต โดยดูแลพืช
ให้ไดร้ ับสง่ิ ดังกลา่ วอย่างเหมาะสม
2. สำระสำคัญ
น้า แสง อากาศ และธาตุอาหาร เปน็ สิง่ ท่จี าเปน็ ตอ่ การเจริญเติบโตของพืช
3. จุดประสงค์
3.1 ดำ้ นควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ (K)
- อธบิ ายการปลูกและวธิ ีการวัดการเจริญเตบิ โตของพืช
3.2 ดำ้ นทักษะกระบวนกำร (P)
- ลงความเหน็ จากขอ้ มลู เกย่ี วกับวิธกี ารปลกู พชื และวิธีการวดั การเจรญิ เตบิ โตของพืช
3.3 ด้ำนคณุ ลักษณะ เจตคติ คำ่ นยิ ม (A)
- มีวินยั
- มุ่งม่นั ในการทางาน
4. สำระกำรเรยี นรู้
การปลูกพืชต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ดิน กระถาง เมล็ดพืช ช้อนปลูก โดยการปลูกพืช 3
กระถาง ควรใช้ดินชนิดเดียวกัน ปริมาณเทา่ กัน ใช้กระถางแบบเดียวกัน เมลด็ พชื ชนิดเดียวกนั ในการนาเมล็ด
พืชลงไปปลูกในดินต้องทารูที่ดินเพื่อใส่เมล็ดพืชแล้วใช้ดินกลบ และการวัดการเจริญเติบโตจะวัดความสูงของ
พชื โดยใชไ้ มบ้ รรทัดในการวัด
101
5. สมรรถนะของผ้เู รยี น
5.1 ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
- อธิบายวธิ ีการปลูกและวธิ กี ารวดั การเจริญเติบโตของพืช
5.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ
- วางแผนการปลกู พชื และการวดั การเจริญเติบโตของพืช
5.3 ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
- แกป้ ญั หาในการทางานกลุม่ รว่ มกัน
5.4 ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ
- มวี ินยั
- มุ่งม่นั ในการทางาน
6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
6.1 มีวินยั
6.2 มุง่ มัน่ ในการทางาน
7. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ขนั้ นำ (เวลำ 5 นำที)
1. ครูทบทวนความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการงอกของเมล็ดพืช โดยนาภาพเมล็ดพืชหรือเมล็ดพืชของจริงชนิดใด
ชนดิ หนึง่ มาใหน้ ักเรียนสงั เกต และใช้คาถามดังน้ี
1.1 สิ่งน้ีคืออะไร (เมลด็ พืช)
1.2 ถ้านาเมล็ดพืชน้ีไปปลูก เมล็ดพืชจะมีการเปล่ียนแปลงอย่างไร (ต้นอ่อนที่อยู่ภายในเมล็ดจะงอก โดยมี
รากสีขาวและยอดอ่อนโผล่ออกมาจากเมล็ด)
1.3 อะไรเป็นส่ิงที่จาเป็นต่อการงอกของเมล็ดพืช (นา้ และอากาศท่ีพอเหมาะ)
2. ครตู รวจสอบความรเู้ ดิมเกี่ยวกับส่ิงท่จี าเปน็ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของพืช โดยใช้คาถามว่า ถ้านกั เรียนต้องปลูก
พชื หนงึ่ ชนิด นักเรียนจะมีวธิ ีการปลกู และดูแลพืชให้เจรญิ เติบโตอย่างไร (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของ
ตนเอง) ครูอาจจดคาตอบของนักเรียนไว้บนกระดาน หากยังเป็นแนวคิดที่คลาดเคลื่อนครูควรแก้ไขให้
ถูกต้องหลังจากทากิจกรรมเสร็จแล้ว
ขน้ั สอน (เวลำ 40 นำที)
3. ครใู ชส้ ื่อสไลด์ชักชวนนกั เรียนอา่ นชือ่ กิจกรรมและจุดประสงค์ในใบกจิ กรรมที่ 1 ส่ิงท่ีจาเปน็ ต่อการ
เจริญเตบิ โตของพชื มีอะไรบา้ ง หน้า 30 จากนนั้ ครูถามคาถาม ดงั ตอ่ ไปน้ี
3.1 นักเรยี นจะเรียนเร่ืองอะไร (สิ่งทีจ่ าเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพชื )
3.2 นักเรียนจะเรียนด้วยวธิ กี ารใด (การสงั เกตและการวัด)
3.3 เม่อื เรียนจบแล้วนักเรียนทาอะไรได้ (อธบิ ายสงิ่ ทีจ่ าเปน็ ต่อการเจริญเตบิ โตของพืช และวัดการ
เจริญเตบิ โตของพืชได้)
102
4. ครใู ห้นกั เรียนอา่ นวธิ ที าในใบกิจกรรมที่ 1 ข้อ 1-3 หนา้ 30 โดยใชว้ ธิ ีฝึกการอ่านจบั ใจความตามความ
เหมาะสมของนักเรยี น จากน้ันครูใช้คาถามตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนดงั นี้
4.1 นกั เรยี นต้องทาอะไรเปน็ อนั ดบั แรก (เลอื กเมลด็ พชื ท่ีจะปลกู )
4.2 นกั เรียนจะต้องอภปิ รายเกี่ยวกบั เรือ่ งอะไร (อภปิ รายเก่ยี วกบั วธิ ีการปลกู พชื ทเี่ ลอื ก)
4.3 นกั เรียนตอ้ งวางแผนเกีย่ วกบั เรื่องอะไรบา้ ง (วิธกี ารปลูกพชื 3 กระถาง และวธิ กี ารวัดการเจรญิ เติบโต)
5. เม่อื นกั เรียนเข้าใจแล้วครูใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ เลอื กเมล็ดพชื ทีค่ รเู ตรียมไว้ รว่ มกนั วางแผนวิธกี ารปลกู และ
วธิ กี ารวดั การเจรญิ เติบโตของพืชชนดิ น้ัน และบนั ทกึ ผลลงในใบงาน 01 สิง่ ท่จี าเป็นต่อการเจริญเติบโตของ
พชื หน้า 32
6. เม่ือนักเรยี นทากิจกรรมเสร็จแล้ว ครสู ุ่มนกั เรียนออกมานาเสนอผลการทากิจกรรม จากนน้ั ครูและนกั เรียน
ร่วมกนั อภิปรายวิธกี ารปลูกพืชที่ถูกต้องและวิธีการวดั การเจรญิ เติบโตของพืช โดยใช้คาถามดงั น้ี
6.1 นักเรียนเลอื กปลูกพืชชนิดใด (นักเรยี นตอบตามผลการทากจิ กรรม)
6.2 ในการปลูกพืช นักเรียนต้องเตรียมอุปกรณอ์ ะไรบ้าง (เมลด็ พืช กระถาง 3 ใบ ดนิ ชอ้ นปลูก)
6.3 นกั เรยี นมีวิธีการปลูกพืชท่เี ลือกอย่างไร (นักเรยี นตอบตามผลการทากิจกรรม เชน่ นาดินชนดิ เดียวกัน
ใสก่ ระถางแบบเดยี วกนั 3 ใบ ในปริมาณท่เี ทา่ กนั นาเมลด็ พืชทแ่ี ช่น้าไว้ 1 คืน ไปปลูกลงดินที่อยู่ใน
กระถาง)
6.4 นักเรียนจะนาเมลด็ พชื ปลูกลงในดินอย่างไร (ใช้น้ิวหรือไม้จิ้มดินให้เป็นรแู ล้วนาเมล็ดพชื ใสใ่ นรู
จากน้ันใช้ดินกลบเมล็ดพืช)
6.5 นักเรียนจะวดั การเจริญเตบิ โตของพืชอย่างไร (วดั ความสงู ของตน้ พชื )
6.6 นกั เรยี นจะใช้เคร่ืองมือใดในการวดั ความสงู ของต้นพชื และมีหน่วยวัดอะไร (นักเรียนตอบตามท่ีเลอื กตาม
ความเหมาะสม เช่น ใช้ไม้บรรทัด มีหนว่ ยวดั คือเซนติเมตร)
7. ครใู หน้ ักเรียนตรวจสอบผลบนั ทกึ ในใบงาน 01 หนา้ 32 หากยงั ไม่ถกู ต้อง แก้ไขให้ถูกตอ้ ง
ขั้นสรปุ (เวลำ 5 นำที)
8. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสรุปความรเู้ ก่ียวกบั วธิ ีการปลูกพชื และการวดั การเจริญเตบิ โตของพืช โดยใช้คาถาม
ดังน้ี
8.1 นักเรียนวางแผนการปลูกพืชอยา่ งไร (เตรยี มกระถาง ดิน เมลด็ พชื ทแี่ ชน่ า้ 1 คนื ชอ้ นปลกู แลว้ ใส่
ดนิ ชนดิ เดยี วกนั ลงในกระถางแบบเดยี วกนั 3 ใบ ในปรมิ าณเทา่ กนั จากน้ันใสเ่ มล็ดพืชลงในดนิ )
8.2 นกั เรยี นจะวัดการเจรญิ เตบิ โตของพชื อยา่ งไร และใช้อะไรในการวดั (วัดความสงู ของตน้ พชื และใช้
ไม้บรรทดั ในการวดั )
10. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายและลงข้อสรุปเกี่ยวกับวิธีการปลูกพืชและการวัดการเจริญเติบโตของพืชว่า
การปลูกพืชต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ดิน กระถาง เมล็ดพืช ช้อนปลูก โดยการปลูกพืช 3 กระถาง
ควรใช้ดินชนิดเดียวกนั ปริมาณเทา่ กัน ใช้กระถางแบบเดียวกนั เมล็ดพืชชนดิ เดยี วกัน ในการนาเมล็ดพชื ลง
ไปปลูกในดินต้องทารูที่ดินเพ่ือใส่เมล็ดพืชแลว้ ใช้ดินกลบ และการวัดการเจริญเติบโตจะวัดความสูงของพืช
โดยใช้ไม้บรรทดั ในการวดั
103
8. สื่อ /แหลง่ เรียนรู้
8.1 ส่อื สไลด์ เรอ่ื ง สิง่ ที่จาเป็นตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช
8.2 ภาพเมลด็ พชื หรือเมลด็ พชื
8.3 ใบกิจกรรมที่ 1 สิง่ ท่จี าเป็นต่อการเจริญเตบิ โตของพชื มอี ะไรบา้ ง หน้า 30
8.4 ใบงาน 01 สง่ิ ท่จี าเปน็ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื หน้า 32
9. ช้ินงำน/ภำระงำน
9.1 วางแผนการปลูกและดูแลพืชลงในใบงาน 01 สิ่งท่ีจาเป็นตอ่ การเจริญเตบิ โตของพืช หน้า 32
10. กำรวัดและประเมนิ ผล
ประเดน็ กำรประเมิน วิธกี ำร เคร่ืองมอื เกณฑ์กำรตัดสิน
1) อธิบายวิธกี ารปลกู และ สงั เกตการตอบคาถามใน แบบประเมินการตอบ คะแนน 9 – 10 หมายถึง ดีมาก
วิธีการวัดการเจริญเติบโต ชั้นเรยี นและตรวจใบงาน คาถามในชน้ั เรียนและ คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
ของพชื ตรวจใบงาน คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรับปรงุ
2) ทักษะกระบวนการ สงั เกตทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะ คะแนน 3 หมายถึง ดี
กระบวนการทาง คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
ทางวทิ ยาศาสตร์ ทางวทิ ยาศาสตร์ในการ วทิ ยาศาสตร์ คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
- ลงความเห็นจากข้อมลู ทากจิ กรรม แบบประเมินคณุ ลักษณะ คะแนน 3 หมายถงึ ดี
อนั พึงประสงค์ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
เกีย่ วกบั วธิ กี ารปลกู พชื คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรุง
และวิธีการวดั การ
เจริญเติบโตของพืช
3) สังเกตพฤติกรรมการมี สังเกตด้านคุณลกั ษณะ
วินัยและความมุ่งม่ันใน อันพงึ ประสงค์
การทางาน
104
แบบประเมนิ กำรตอบคำถำมในช้นั เรียนและตรวจใบงำน
แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ่ี 10 สิง่ ท่ีจำเป็นต่อกำรเจริญเตบิ โตของพืช (1)
ชื่อผู้ประเมิน………………………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลครั้งท…่ี ……………….... วันท่ี ……………..……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรือ่ ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ชอ่ื -สกุล/กล่มุ รำยกำรประเมิน/ระดับคะแนน รวมคะแนน
(10 คะแนน)
กำรตอบคำถำม ควำมถูกตอ้ งครบถ้วน
ในชัน้ เรยี น ของเนื้อหำในใบงำน
(6)
(4)
เกณฑ์กำรประเมิน
ประเดน็ ระดับคุณภำพ น้ำหนกั คะแนน
1.0 รวม
กำรประเมิน 4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 6
ตอบคาถามไม่ 1.0
1. การตอบ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม ถูกต้อง 4
คาถามในช้ันเรียน ถูกต้องทง้ั หมด ถกู ต้องเป็น ถกู ต้องบางส่วน
เนอ้ื หาที่เขยี นใน
ส่วนใหญ่ ใบงานไม่ถูกตอ้ ง
2. ความถกู ต้อง เนือ้ หาทเี่ ขียนใน เนือ้ หาทีเ่ ขียนใน เน้อื หาเขยี นในใบ
ครบถ้วนของ ใบงานมีความ ใบงานมบี างส่วน งานมีความ
เนือ้ หาในใบงาน ถกู ต้องครบถว้ น ไมถ่ ูกตอ้ ง ตามท่ี ถกู ต้องเปน็
ตามท่กี าหนด กาหนด ส่วนน้อย
เกณฑก์ ำรตดั สิน
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถงึ ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรับปรงุ
105
แบบประเมนิ ด้ำนทกั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 10 สงิ่ ทจี่ ำเปน็ ตอ่ กำรเจริญเตบิ โตของพชื (1)
ชื่อผปู้ ระเมนิ …………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมินผลคร้งั ที่………………….... วนั ท่ี …………….........……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรือ่ ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….
ช่อื -สกุล/กลุ่ม รำยกำรประเมนิ /ระดบั คะแนน ผลกำรประเมิน
กำรลงควำมเหน็ จำกข้อมูล
(3)
เกณฑ์กำรประเมนิ
ทกั ษะกระบวนกำร ระดบั ควำมสำมำรถ
ทำงวิทยำศำสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นข้อมลู สามารถลงความเห็นข้อมูลเกี่ยวกับ สามารถลงความเหน็ ข้อมูล
ขอ้ มูล เกี่ยวกับวธิ ีการปลูกพชื และ วิธีการปลูกพืชและการวัดการ เกย่ี วกับวิธีการปลกู พืชและการ
การวัดการเจริญเตบิ โตของ เจริญเติบโตของพืชได้อย่างมี วัดการเจรญิ เตบิ โตของพืชได้
พืชไดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ลด้วย เหตุผลโดยการช้ีแนะของครูหรือ เพยี งบางสว่ น แม้จะไดร้ ับ
ตนเอง ผู้อน่ื คาแนะนาจากครูหรือผู้อื่น
เกณฑก์ ำรตดั สนิ
คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
106
แบบประเมินดำ้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ี่ 10 สง่ิ ท่ีจำเปน็ ตอ่ กำรเจริญเติบโตของพืช (1)
ผูป้ ระเมนิ /กลุ่มประเมนิ ..................................................................................................................................................
ชอื่ กลุ่มรบั กำรประเมิน....................................................................................................................................................
ประเมินผลครง้ั ท่ี...............วนั ที่...........เดือน..................................................พ.ศ.......................................
เรื่อง.................................................................................................................................................................................
ท่ี ลักษณะ/พฤติกรรมบง่ ช้ี ระดบั พฤตกิ รรม
เกดิ = 1 ไมเ่ กดิ = 0
1. มีวินัย
2. มงุ่ มั่นในการทางาน
รวมคะแนนทงั้ หมด
เกณฑค์ ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มากกวา่ 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50 % - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ต่ากวา่ 50 % ได้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ำรตดั สนิ
คะแนน 3 หมายถึง ดี
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ
107
แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ 11
กลุม่ สำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ 2
ภำคเรยี นท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2564 รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชำ ว12101
หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 1 ส่งิ มชี ีวิต หน่วยยอ่ ยที่ 2 กำรเจรญิ เติบโตของพืช
แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ 11 เร่ือง ส่งิ ท่ีจำเปน็ ตอ่ กำรเจริญเตบิ โตของพชื (2) เวลำ 50 นำที
1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตวั ช้วี ดั
มำตรฐำน ว 1.2
เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ีทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหน้าท่ขี องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชทท่ี างานสัมพนั ธก์ นั รวมทงั้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
ตวั ช้วี ัด
ว 1.2 ป. 2/1 ระบวุ ่าพืชตอ้ งการแสงและนา้ เพื่อการเจรญิ เติบโต โดยใชข้ อ้ มูลจากหลกั ฐาน
เชงิ ประจักษ์
ว 1.2 ป. 2/2 ตระหนักถึงความจาเปน็ ท่ีพชื ตอ้ งได้รบั น้าและแสงเพ่ือการเจริญเตบิ โต โดยดูแลพชื
ใหไ้ ด้รับส่ิงดงั กล่าวอย่างเหมาะสม
2. สำระสำคัญ
น้า แสง อากาศ และธาตอุ าหาร เป็นส่งิ จาเปน็ ตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื
3. จดุ ประสงค์
3.1 ด้ำนควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ (K)
- อธิบายการปลกู พชื และการดูแลพชื
3.2 ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร (P)
- ลงความเห็นจากข้อมลู เกี่ยวกับการดูแลพชื ทปี่ ลกู
3.3 ด้ำนคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่ำนยิ ม (A)
- มีวนิ ัย
- มงุ่ ม่ันในการทางาน
4. สำระกำรเรยี นรู้
การปลูกพืชและดูแลพืชให้เจริญเติบโต ทาได้โดยนาเมล็ดพืชชนิดเดียวกัน จานวนเท่ากันปลูกลงดิน
ทั้ง 3 กระถาง รดน้าทุกวนั ในปริมาณเท่ากัน และในเวลาเดียวกันทั้ง 3 กระถาง รวมท้ังวางกระถางในสถานที่
เดยี วกนั มแี สงส่องถงึ
108
5. สมรรถนะของผ้เู รยี น
5.1 ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร
- อธิบายวิธกี ารปลกู และดูแลพชื
5.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ
- ลงความเหน็ จากขอ้ มูลเกี่ยวกับการดแู ลพืชท่ีปลูก
5.3 ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
- การแกป้ ญั หาในการทางานกลุม่ รว่ มกนั
5.4 ควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวิต
- มวี ินัย
- มงุ่ ม่นั ในการทางาน
6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
6.1 มวี ินัย
6.2 มุ่งม่นั ในการทางาน
7. กิจกรรมกำรเรียนรู้
ขนั้ นำ (เวลำ 5 นำที)
1. ครทู บทวนความร้เู กี่ยวกบั การปลกู พชื โดยอาจใช้คาถามจากสอื่ สไลด์ดงั นี้
1.1 นักเรียนมีวิธีการปลูกพืชอย่างไร (การปลูกพืชต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ดิน กระถาง เมล็ดพืช
ช้อนปลูก โดยการปลูกพืช 3 กระถาง ควรใช้ดินชนิดเดียวกัน ปริมาณเท่ากัน ใช้กระถางแบบเดียวกัน
เมลด็ พืชชนิดเดียวกนั ในการนาเมลด็ พืชลงไปปลกู ในดินต้องทารทู ด่ี ินเพื่อใส่เมล็ดพชื แล้วใชด้ นิ กลบ)
1.2 นกั เรยี นจะวดั การเจริญเติบโตอยา่ งไร และใชเ้ คร่ืองมอื ใด (วัดความสูงของตน้ พชื วดั โดยใชไ้ ม้บรรทดั )
2. ครตู รวจสอบความรูเ้ ดิมเก่ยี วกับการเจรญิ เตบิ โตของพชื โดยอาจใช้คาถามดงั นี้
2.1 เราจะมีวิธกี ารดแู ลพืชอยา่ งไรให้พชื เจรญิ เติบโต (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
ข้ันสอน (เวลำ 40 นำที)
3. ครูแจ้งจุดประสงค์ในการทากิจกรรมในช่ัวโมงน้ีให้นักเรียนทราบว่า นักเรียนจะได้ปลูกพืชและวางแผน
วิธีการดแู ลพืชทปี่ ลกู ไวใ้ ห้เจริญเติบโต เพ่ือนาไปใช้ในการศึกษาส่งิ ทจ่ี าเป็นในการเจริญเตบิ โตต่อไป
4. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทาในใบกิจกรรมท่ี 1 ข้อ 4-5 หน้า 30 โดยใช้วิธีฝึกการอ่านจับใจความตามความ
เหมาะสมของนกั เรยี น จากนั้นครูใชค้ าถามตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นดังน้ี
4.1 นักเรียนตอ้ งปลกู พืชทงั้ หมดกีก่ ระถาง กระถางละก่เี มล็ด (3 กระถาง กระถางละ 10 เมลด็ )
ครูควรเสนอแนะการเลือกเมล็ดพืชสาหรับปลูกให้แก่นักเรียน โดยเลือกเมล็ดที่เริ่มเห็นรากสีขาวออก
จากเมล็ด แลว้ ใช้ดินชนิดเดยี วกัน ปรมิ าณดินเทา่ กนั ขนาดกระถางเท่ากัน เพ่ือควบคุมให้พชื ท้ัง 3 กระถาง
มกี ารเจรญิ เติบโตใกลเ้ คยี งกนั เพ่ือนาไปใช้ในการศึกษาสงิ่ ท่จี าเปน็ ในการเจรญิ เตบิ โตของพชื ต่อไป
4.2 นกั เรียนตอ้ งรว่ มกนั พูดคยุ เกีย่ วกบั เรอื่ งอะไร (วิธีการดแู ลให้เมล็ดพชื เรม่ิ งอกและเจริญเติบโต)
109
4.3 นกั เรยี นต้องปลูกพืชเปน็ เวลากี่วนั (5 วัน)
5. เม่อื นกั เรยี นเขา้ ใจขั้นตอนการทากจิ กรรมแล้ว ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกันวางแผนวิธกี ารดแู ลให้เมล็ดพชื งอก
จนต้นพชื มอี ายุครบ 5 วัน และบนั ทกึ ผลลงในใบงาน 01 สงิ่ ท่ีจาเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพชื หน้า 33
6. ครสู ุ่มนกั เรียนออกมานาเสนอวธิ กี ารดูแลพชื หนา้ ชน้ั เรยี น 2 กลุม่ จากน้นั ครูและนักเรียนรว่ มกบั อภิปราย
เกีย่ วกับวธิ ีการดูแลพชื ให้เจริญเติบโต โดยใช้คาถาม ดังน้ี
6.1 ในการดูแลพืชต้ังแตเ่ รม่ิ ปลกู นกั เรียนจะรดน้าตน้ พชื อย่างไรเพื่อให้พืชทง้ั 3 กระถางมกี ารเจรญิ เตบิ โต
ใกล้เคียงกัน (รดน้าพชื ทง้ั 3 กระถางในเวลาเดียวกัน และปรมิ าณเท่ากัน)
6.2 นกั เรยี นจะรดน้าในเวลาใด (นักเรียนตอบตามที่วางแผน เช่น รดน้าเวลาเช้าหรือเยน็ )
6.3 นักเรยี นจะรดนา้ ปริมาณเท่าใด และใช้อุปกรณใ์ ดในการรด (นักเรยี นตอบตามผลการวางแผน เช่น
รดน้าโดยใชช้ ้อนกินขา้ ว และในปรมิ าณ 3 ช้อนกินข้าว)
6.4 นกั เรยี นจะมวี ธิ กี ารรดน้าให้กับพชื ในกระถางอยา่ งไร (ตกั น้าให้เต็มช้อนกนิ ขา้ วและรดให้ทัว่ ทัง้ กระถาง)
6.5 นกั เรยี นตอ้ งดูแลพืชทัง้ หมดก่วี ัน (5 วนั )
7. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สร้างขอ้ ตกลงเกย่ี วกบั การแบ่งหน้าท่รี บั ผดิ ชอบในการดแู ลพชื โดยใช้คาถาม ดังน้ี
7.1 นักเรียนจะแบ่งหน้าที่รบั ผิดชอบการดแู ลพชื อยา่ งไร (นักเรียนตอบตามข้อตกลงกันในกลุ่มของตนเอง)
7.2 นกั เรียนจะนากระถางทปี่ ลูกพชื แลว้ ไปวางไวท้ ใี่ ด (วางไว้บรเิ วณท่มี ีแสงส่องถึง ไม่มสี ตั วม์ ารบกวน ครู
สามารถใหค้ าแนะนาเพิ่มเติมไดว้ ่า สถานที่น้นั ควรปลอดภัยจากสัตว์ทีอ่ าจจะมารบกวน เช่น สนุ ขั หนู
นก)
8. เมอื่ นกั เรียนเข้าใจวิธกี ารดูแลพืชแล้ว ครูให้นกั เรียนเร่ิมทากิจกรรมโดยปลูกพชื ตามแผนท่ีวางไว้ทง้ั หมด 3
กระถาง ซง่ึ ครูคอยชว่ ยเหลอื และแนะนาระหวา่ งนักเรียนปลกู พชื
ขนั้ สรุป (เวลำ 5 นำที)
9. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสรุปกิจกรรมที่ไดท้ าด้วยตนเองใหไ้ ดเ้ ก่ยี วกับวธิ ีการดแู ลพืชให้เจรญิ เตบิ โต
10. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายและลงข้อสรปุ วา่ การปลกู พชื และดูแลพชื ให้เจรญิ เติบโตใกลเ้ คยี งกนั
ทาไดโ้ ดยนาเมลด็ พชื ชนดิ เดียวกนั จานวนเท่ากันปลูกลงดินทัง้ 3 กระถาง รดนา้ ทุกวนั ในปรมิ าณเท่ากนั
และในเวลาเดียวกนั ทั้ง 3 กระถาง รวมทั้งวางกระถางในสถานที่เดียวกัน มีแสงส่องถงึ
11. ครูควรเน้นยา้ เกี่ยวกบั หน้าทีร่ บั ผดิ ชอบในการดแู ลพชื ของนกั เรยี นแต่ละคนในกลุ่ม และวธิ กี ารดูแลพชื
ตามทว่ี างแผน แล้วนากระถางไปวางไว้ในบริเวณทต่ี กลงรว่ มกัน
8. สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้
8.1 สื่อสไลด์ เรอ่ื ง สิ่งทีจ่ าเป็นต่อการเจรญิ เตบิ โตของพืช (2)
8.2 อุปกรณ์ในการปลูกพืช เช่น กระถาง ดนิ ชอ้ นปลกู ช้อนกินข้าว
8.3 เมลด็ พชื
8.4 ใบกจิ กรรมท่ี 1 สง่ิ ท่จี าเป็นตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพืชมอี ะไรบ้าง หน้า 30
8.5 ใบงาน 01 สิ่งท่ีจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช หน้า 33
110
9. ชน้ิ งำน/ภำระงำน
9.1 ใบงาน 01 สงิ่ ท่จี าเปน็ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื หนา้ 33
9.2 พืชที่ปลกู 3 กระถาง
10. กำรวัดและประเมนิ ผล
ประเด็นกำรประเมิน วธิ ีกำร เครอ่ื งมอื เกณฑ์กำรตัดสิน
แบบประเมินการตอบ คะแนน 9 – 10 หมายถงึ ดีมาก
1) อธิบายการปลูกพชื และ สงั เกตการตอบคาถามใน คาถามในชน้ั เรยี นและ คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
ตรวจใบงาน คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
การดแู ลพืช ช้ันเรียนและในใบงาน คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรับปรงุ
คะแนน 3 หมายถึง ดี
2) ทกั ษะกระบวนการ สังเกตทักษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะ คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรุง
ทางวทิ ยาศาสตร์ ทางวิทยาศาสตร์ในการ กระบวนการทาง
คะแนน 3 หมายถึง ดี
- ลงความเห็นจากข้อมูล ทากิจกรรม วทิ ยาศาสตร์ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
เกี่ยวกับการดูแลพืชทปี่ ลกู
3) สังเกตพฤติกรรมการมี สังเกตดา้ นคุณลักษณะ แบบประเมนิ
วนิ ัยและความมงุ่ มน่ั ใน อนั พึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะ
การทางาน อนั พึงประสงค์
111
แบบประเมนิ กำรตอบคำถำมในชน้ั เรยี นและตรวจใบงำน
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี 11 สง่ิ ทจี่ ำเป็นต่อกำรเจรญิ เติบโตของพชื (2)
ชื่อผูป้ ระเมิน………………………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมินผลครงั้ ที่………………….... วันท่ี ……………..……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรือ่ ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ชื่อ-สกุล/กลุ่ม รำยกำรประเมิน/ระดับคะแนน รวมคะแนน
กำรตอบคำถำม กำรสรุปควำมรู้ (10 คะแนน)
ในช้ันเรยี น (4)
(6)
เกณฑก์ ำรประเมิน
ประเดน็ ระดับคุณภำพ นำ้ หนกั คะแนน
1.0 รวม
กำรประเมนิ 4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 6
ตอบคาถามไม่ 1.0
1. การตอบ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม ถูกต้อง 4
คาถามในช้ันเรยี น ถูกต้องท้ังหมด ถูกต้องเป็น ถกู ต้องบางสว่ น
สรุปความรเู้ ขา้ ใจ
ส่วนใหญ่ เกย่ี วกับเรือ่ งที่
ศึกษาไม่ถกู ต้อง
2. การสรปุ ความรู้ สรปุ ความรู้ สรปุ ความรคู้ วาม สรปุ ความรคู้ วาม และไม่ครบถว้ น
ความเขา้ ใจ เข้าใจเกี่ยวกับ เข้าใจเกี่ยวกับ
เกีย่ วกบั เรอื่ งที่ เรอื่ งที่ศกึ ษาได้ เรื่องท่ีศกึ ษาได้
ศกึ ษาได้ ถูกต้อง ถกู ต้อง แต่ไม่ ถกู ต้องบางส่วน
และครบถว้ น ครบถว้ น และไมค่ รบถ้วน
เกณฑก์ ำรตดั สิน
คะแนน 9 - 10 หมายถงึ ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถงึ ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรับปรงุ
112
แบบประเมนิ ด้ำนทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 11 สง่ิ ท่ีจำเปน็ ต่อกำรเจริญเตบิ โตของพชื (2)
ชื่อผูป้ ระเมนิ …………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลครั้งที่………………….... วันที่ …………….........……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอ่ื ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….
ช่อื -สกุล/กลุ่ม รำยกำรประเมนิ /ระดับคะแนน ผลกำรประเมนิ
กำรลงควำมเห็นจำกข้อมูล
(3)
เกณฑ์กำรประเมิน
ทกั ษะกระบวนกำร ระดับควำมสำมำรถ
ทำงวิทยำศำสตร์ ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
การลงความเหน็ จาก สามารถลงความเห็นข้อมูล สามารถลงความเห็นข้อมูลเกี่ยวกับ สามารถลงความเห็นเกย่ี วกับ
ขอ้ มูล เก่ยี วกบั การปลกู และการ การปลูกและการดูแลพืชได้ โดย การปลกู และการดแู ลพชื ได้เพียง
ดแู ลพืชได้อยา่ งมีเหตุผล การช้ีแนะของครูหรือผูอ้ น่ื บางสว่ น แม้จะไดร้ ับคาแนะนา
ดว้ ยตนเอง จากครหู รอื ผู้อื่น
เกณฑ์กำรตัดสิน
คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ
113
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ี่ 11 สิ่งท่ีจำเป็นตอ่ กำรเจรญิ เตบิ โตของพืช (2)
ชือ่ ผู้ประเมนิ /กลุ่มประเมนิ …………………………………………………………………………………………..............................
ชื่อกลุ่มรบั กำรประเมิน………………………………………………………………………………………………..............................
ประเมินผลคร้งั ท…่ี ………………....……....... วัน ……………..…. เดือน …...........……..………. พ.ศ. ……...….…….......
เรือ่ ง……………………………………………………………………………………………………………………....................................
ที่ ลกั ษณะ/พฤติกรรมบง่ ช้ี ระดับพฤตกิ รรม
เกิด = 1 ไม่เกิด = 0
1. มีวินัย
2. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
รวมคะแนนทไี่ ดท้ ้ังหมด
เกณฑ์คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มากกว่า 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50 % - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ต่ากว่า 50 % ได้ 1 คะแนน
เกณฑ์กำรตดั สนิ
คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรุง
114
แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ี่ 12
กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 2
ภำคเรียนที่ 1 ปกี ำรศึกษำ 2564 รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชำ ว12101
หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 1 สง่ิ มีชีวิต หนว่ ยย่อยที่ 2 กำรเจรญิ เตบิ โตของพชื
แผนกำรเรียนรทู้ ี่ 12 เรอื่ ง สิ่งทีจ่ ำเป็นต่อกำรเจรญิ เติบโตของพืช (3) เวลำ 50 นำที
1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตัวชีว้ ัด
มำตรฐำน ว 1.2
เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสร้างและหน้าท่ีของอวยั วะต่าง ๆ ของพืชทที่ างานสัมพนั ธ์กัน รวมท้ังนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ตวั ช้ีวดั
ว 1.2 ป. 2/1 ระบุวา่ พชื ตอ้ งการแสงและนา้ เพ่ือการเจรญิ เตบิ โต โดยใช้ข้อมูลจากหลกั ฐาน
เชงิ ประจักษ์
ว 1.2 ป. 2/2 ตระหนักถึงความจาเปน็ ท่พี ชื ต้องไดร้ ับน้าและแสงเพื่อการเจรญิ เติบโต โดยดแู ลพืช
ใหไ้ ด้รบั สิ่งดังกลา่ วอยา่ งเหมาะสม
2. สำระสำคัญ
น้า แสง อากาศ และธาตุอาหาร เปน็ ส่ิงจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
3. จดุ ประสงค์
3.1 ดำ้ นควำมรู้ ควำมเข้ำใจ (K)
-
3.2 ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร (P)
- สังเกตลักษณะใบและลาต้นของพืช
- วดั ความสูงของตน้ พชื
- ทดลองว่านา้ และแสงเปน็ ส่งิ จาเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพชื
3.3 ดำ้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ คำ่ นยิ ม (A)
- มีวินยั
- ม่งุ มน่ั ในการทางาน
4. สำระกำรเรยี นรู้
น้าและแสงเปน็ สิง่ ที่จาเปน็ ต่อการเจรญิ เติบโตของพืช
115
5. สมรรถนะของผู้เรยี น
5.1 ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ
- การแก้ปัญหาในการทางานกลุ่มร่วมกัน
5.2 ควำมสำมำรถในกำรใช้ทักษะชีวิต
- มวี นิ ัย
- มงุ่ มัน่ ในการทางาน
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
6.1 มวี ินยั
6.2 ม่งุ มัน่ ในการทางาน
7. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ขั้นนำ (เวลำ 5 นำท)ี
1. ครใู ห้นกั เรยี นสังเกตต้นไมใ้ นกระถางทน่ี ักเรยี นปลูกทงั้ 3 กระถาง และถามดงั นี้
1.1 นักเรียนมีการดูแลพืชอย่างไร (วางในท่ที ีม่ แี สงและรดนา้ ในปริมาณทีพ่ อเหมาะ)
1.2 พืชของนักเรียนมีการเจริญเติบโตหรือไม่ รู้ได้อย่างไร (พืชมีการเจริญเติบโต โดยลาต้นสูงขึ้น และใบมี
ขนาดใหญข่ ึ้น)
1.3 นักเรยี นคดิ วา่ สง่ิ ท่จี าเป็นต่อการเจริญเตบิ โตของพืชมีอะไรบา้ ง (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
ขัน้ สอน (เวลำ 40 นำท)ี
2. ครูใชส้ ื่อสไลด์แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ ห้นักเรยี นทราบว่าในช่ัวโมงนี้ นกั เรียนจะไดท้ ดลองเก่ยี วกบั น้าและ
แสงเป็นส่งิ ท่จี าเปน็ ต่อการเจริญเตบิ โตของพชื
3. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทาในใบกิจกรรมที่ 1 ข้อ 6-7 หน้า 30-31 โดยใช้วิธีฝึกการอ่านจับใจความตามความ
เหมาะสมของนกั เรยี น จากน้ันครใู ชค้ าถามตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นดังนี้
3.1 นกั เรียนต้องถอนตน้ พืชให้เหลอื กระถางละก่ีต้น (3 ตน้ )
3.2 นักเรียนมีวิธีการเลือกถอนต้นพืชอย่างไร (ถอนให้เหลือต้นท่ีมีความสูงเท่า ๆ กัน) โดยครูอาจเพิ่มเติม
ว่า นอกจากให้เหลือต้นท่ีมีความสูงใกล้เคียงกันแล้ว ต้นพืชที่เหลือควรเป็นต้นท่ีสมบูรณ์ ลาต้นตรง
แขง็ แรง
3.3 นักเรียนต้องนากระถางทั้ง 3 กระถาง วางไว้บริเวณใด (วางไว้ในสถานที่เดยี วกัน) โดยครคู วรแนะนา
นักเรียนวา่ ควรเลือกสถานที่ที่มแี สงสอ่ งถึง ไม่มสี ตั วม์ ารบกวน และอยู่ในบริเวณท่ีไม่โดนฝน
3.4 ในการทดลองนกั เรียนต้องจดั แตล่ ะกระถางอย่างไร (กระถางที่ 1 ครอบดว้ ยกล่องกระดาษทึบและรดน้า
กระถางที่ 2 ไมค่ รอบกล่องกระดาษทบึ และไม่รดนา้ กระถางที่ 3 ไม่ครอบกลอ่ งกระดาษทึบและรดน้า)
3.5 การนากล่องกระดาษทึบมาครอบกระถางที่ 1 เพื่ออะไร (เพอ่ื ไม่ให้ตน้ พชื ในกระถางที่ 1 ไดร้ บั แสง)
3.6 นักเรยี นต้องสังเกตและบันทกึ ผลอะไรของพืชท้ัง 3 กระถาง (ลักษณะของใบและลาตน้ และความสูงของ
พืชในกระถางทง้ั 3 ใบ)
116
3.7 ในการวัดความสูงของต้นพืช ต้องวดั อย่างไร (นักเรยี นตอบตามความคิด ซึ่งครสู ามารถแนะนาการวดั
ความสูงของตน้ พชื ได้ โดยวัดตงั้ แตโ่ คนตน้ จนถงึ โคนใบท่ีอยบู่ นสุดของต้น ครูอาจนาภาพประกอบหรือ
ตน้ พชื ของจรงิ มาใหน้ ักเรยี นดูเพอ่ื แนะนาวา่ โคนตน้ และโคนใบท่ีอยู่บนสดุ อยู่บริเวณใด)
4. เมอ่ื นกั เรียนเข้าใจแล้ว ครูใหน้ กั เรียนเริ่มทากิจกรรม โดยถอนต้นพืชแต่ละกระถางให้เหลอื กระถางละ 3 ต้น
พรอ้ มทงั้ ทาสัญลักษณ์ต้นท่ี 1 ตน้ ที่ 2 และต้นที่ 3 เพ่ือไม่ใหเ้ กดิ ความสับสนขณะทากิจกรรม
5. ครชู ้แี จงการบนั ทึกผลการทากิจกรรมลงในตาราง ลักษณะของใบและลาต้น และความสงู ของต้นพืชในกระถาง
ต่าง ๆ และทบทวนวธิ กี ารความสูงของต้นพชื รวมทั้งการอ่านคา่ ตวั เลขบนเครื่องมือท่ีใชว้ ัด
หมายเหตุ : หากนักเรียนไมส่ ามารถใช้ไม้บรรทัดในการวัดความสูงของตน้ พชื ได้โดยตรง ครูสามารถแนะนาวีธี
การวดั ได้ โดยใช้แถบกระดาษหรือเชือกไปทาบกับลาต้นพชื ตง้ั แตโ่ คนต้นจนถงึ โคนใบท่ีอยู่บนสดุ จากนั้นทา
สญั ลักษณ์ที่กระดาษหรือเชือก แล้วนามาทาบกบั ไม้บรรทดั เพ่อื อ่านค่าความสงู ของต้นพืช
6. เมอ่ื นักเรยี นเข้าใจการบันทึกผลและวธิ กี ารวดั ใหน้ ักเรียนเรม่ิ วดั การเจรญิ เตบิ โตของพืชทงั้ 3 กระถาง
และบนั ทึกผลลงในใบงาน 01 สง่ิ ท่ีจาเปน็ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื หน้า 34-36 ตารางชอ่ งวันท่เี ร่ิม
ทดลอง และครคู อยให้คาแนะนาในการบันทึกผล
7. เม่อื นักเรียนวดั การเจริญเติบโตของพชื ทง้ั 3 กระถาง และบนั ทกึ ผลเสรจ็ แล้ว ใหน้ กั เรียนนากระถางทง้ั 3
กระถาง ไปวางไวใ้ นบรเิ วณเดียวกนั โดยจดั กระถางตามวิธที าในใบกิจกรรมที่ 1 ขอ้ 7 และเน้นย้าให้
นกั เรยี นแบง่ หนา้ ท่ีดูแลพชื ทง้ั 3 กระถาง จนครบ 5 วนั
ข้นั สรปุ (เวลำ 5 นำที)
8. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสรปุ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรูใ้ นช่ัวโมงน้ีดว้ ยตนเองให้ไดว้ ่า พืชมีการเจริญเติบโต คอื มลี าต้น
สูงข้ึน ขนาดใหญ่ขึน้ มีใบใหญ่ขึ้น
8. ส่อื /แหล่งเรยี นรู้
8.1 สอื่ สไลด์ เรอื่ ง ส่ิงที่จาเปน็ ตอ่ การเจริญเติบโตของพืช (2)
8.2 พืชท่ปี ลูกทั้ง 3 กระถางของแต่ละกลุม่
8.3 ใบกิจกรรมที่ 1 สิง่ ที่จาเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพืชมอี ะไรบ้าง หนา้ 30-31
8.4 ใบงาน 01 ส่งิ ทจ่ี าเปน็ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื หนา้ 34-36
8.5 กล่องทึบ
8.6 ไม้บรรทัด
8.7 ชอ้ นกินข้าว
9. ชน้ิ งำน/ภำระงำน
9.1 ใบงาน 01 ส่ิงทีจ่ าเป็นตอ่ การเจริญเตบิ โตของพืช หนา้ 34-36
9.2 การดูแลพืชทัง้ 3 กระถาง ที่ใชใ้ นการทดลอง
117
10. กำรวดั และประเมินผล
ประเดน็ กำรประเมนิ วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์กำรตัดสนิ
คะแนน 3 หมายถึง ดี
1) ทักษะกระบวนการ สงั เกตทักษะกระบวนการ แบบประเมินทกั ษะ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรงุ
ทางวิทยาศาสตร์ ทางวทิ ยาศาสตร์ในการ กระบวนการทาง
- สังเกตลักษณะใบและ ทากจิ กรรม วิทยาศาสตร์
ลาตน้ ของพชื
- วัดความสูงของตน้ พชื
- ทดลองว่าน้าและแสง
เ ป็ น สิ่ ง จ า เ ป็ น ต่ อ ก า ร
เจริญเติบโตของพชื
2) สังเกตพฤติกรรมการมี สังเกตดา้ นคุณลกั ษณะ แบบประเมินคณุ ลักษณะ คะแนน 3 หมายถงึ ดี
วินัยและความมุ่งม่ันใน อันพึงประสงค์
การทางาน อันพึงประสงค์ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ
แบบประเมินกำรตอบคำถำมในชั้นเรียนและตรวจใบงำน
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 12 เรือ่ ง ส่งิ ทจี่ ำเปน็ ต่อกำรเจรญิ เตบิ โตของพืช (3)
ชอ่ื ผปู้ ระเมนิ …………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมินผลครง้ั ท…่ี ……………….... วนั ท่ี …………….........……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรือ่ ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….
ชอ่ื -สกุล/กลุม่ รำยกำรประเมนิ /ระดบั คะแนน รวมคะแนน
กำรตอบ กำรสรปุ ควำมถกู ต้อง (10 คะแนน)
คำถำมใน ควำมรู้ ครบถว้ นของ
ชนั้ เรียน (4) เน้ือหำในใบงำน
(4) (2)
118
เกณฑก์ ำรประเมนิ
ประเดน็ ระดบั คณุ ภำพ นำ้ หนกั คะแนน
1.0 รวม
กำรประเมนิ 4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 1.0 4
ตอบคาถามไม่
1. การตอบ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม ถกู ต้อง 1.0 4
คาถามในชัน้ เรยี น ถูกต้องทัง้ หมด ถูกต้องเป็น ถูกต้องบางส่วน
สรปุ ความรเู้ ข้าใจ 2
สว่ นใหญ่ เก่ยี วกับเรื่องท่ี
ศกึ ษาไม่ถูกต้อง
2. การสรุปความรู้ สรปุ ความรู้ สรุปความรูค้ วาม สรุปความรู้ความ และไม่ครบถว้ น
ความเข้าใจ เข้าใจเกีย่ วกับ เข้าใจเกย่ี วกับ เน้ือหาทเ่ี ขยี นใน
เกย่ี วกบั เรือ่ งท่ี เรือ่ งท่ีศึกษาได้ เรอ่ื งที่ศึกษาได้ ใบงานไม่ถกู ตอ้ ง
ศกึ ษาได้ ถูกต้อง ถกู ต้อง แต่ไม่ ถูกต้องบางส่วน
และครบถ้วน ครบถว้ น และไมค่ รบถว้ น
เนอ้ื หาทีเ่ ขียนใน
3. ความถกู ต้อง เนื้อหาท่เี ขยี นใน เน้ือหาท่เี ขียนใน ใบงานมคี วาม
ครบถว้ นของ ใบงานมีความ ใบงานมีบางส่วน ถกู ต้องเปน็
เนอ้ื หาในใบงาน ถกู ต้องครบถว้ น ไม่ถูกต้อง ตามที่ ส่วนนอ้ ย
ตามทีก่ าหนด กาหนด
เกณฑก์ ำรตัดสนิ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดมี าก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ ด้ำนทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี 12 เรอ่ื ง ส่ิงท่จี ำเป็นตอ่ กำรเจริญเติบโตของพืช (3)
ชอื่ ผู้ประเมิน…………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลครั้งท่…ี ……………….... วนั ที่ …………….........……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรือ่ ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….
ชือ่ -สกุล/กลุม่ รำยกำรประเมนิ /ระดับคะแนน ผลรวม ผลกำรประเมิน
กำรสังเกต (3) กำรวัด (3) กำรทดลอง (3) คะแนน
(9 คะแนน)
119
เกณฑ์กำรประเมนิ
ทักษะกระบวนกำร ระดับควำมสำมำรถ
พอใช้ (2)
ทำงวิทยำศำสตร์ ดี (3) ปรบั ปรงุ (1)
สามารถใชป้ ระสาทสัมผสั ในการ สามารถใชป้ ระสาทสัมผสั ในการ
การสงั เกต สามารถใชป้ ระสาทสัมผสั รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับลกั ษณะของ รวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกับลักษณะ
ลาต้นและใบของตน้ พชื ได้ โดยการ ของลาต้นและใบของตน้ พืชได้
ในการรวบรวมข้อมลู ชแี้ นะของครหู รือผูอ้ ื่น เพียงบางอย่าง ถงึ แม้จะได้รบั
คาแนะนาจากครูหรอื ผู้อื่น
เกี่ยวกบั ลักษณะของลาต้น
และใบของตน้ พชื ได้ ด้วย
ตนเองโดยไม่เพ่มิ เติมความ
คิดเหน็
การวัด สามารถใช้ไม้บรรทดั วดั สามารถใช้ไมบ้ รรทดั วัดความสูง สามารถใชไ้ ม้บรรทัดวดั ความสูง
ความสงู ของต้นพชื และ ของตน้ พืชและบอกหน่วยไดอ้ ย่าง ของต้นพืช แตบ่ อกหนว่ ยได้ไม่
บอกหน่วยได้อยา่ งถูกต้อง ถูกตอ้ งไดโ้ ดยการชี้แนะของครู ถกู ตอ้ ง ถงึ แมจ้ ะได้รับคาแนะนา
ไดด้ ว้ ยตนเอง หรือผูอ้ ื่น จากครหู รอื ผ้อู ่นื
การทดลอง สามารถทาการทดลอง สามารถทาการทดลองเก่ียวกับผล สามารถทาการทดลองเกีย่ วกับ
เก่ียวกับผลของน้าและแสง ข อ ง น้ า แ ล ะ แ ส ง ที่ มี ต่ อ ก า ร ผลของนา้ และแสงทมี่ ีต่อการ
ทมี่ ีต่อการเจรญิ เตบิ โตของ เจริญเติบโตของพืชได้ถูกต้อง เจริญเติบโตของพชื ตามขัน้ ตอน
พืชตามข้ันตอนได้ถกู ต้อง ครบถ้วนตามข้ันตอนโดยการชี้แนะ ไมถ่ กู ต้องและไมค่ รบถว้ นตาม
ครบถว้ นดว้ ยตนเอง ของครหู รือผู้อื่น ขั้นตอน ถงึ แม้จะได้รบั คาแนะนา
จากครูหรือผู้อ่ืน
เกณฑ์กำรตดั สนิ
คะแนน 5 - 6 หมายถึง ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
120
แบบประเมินดำ้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ี่ 12 สง่ิ ท่ีจำเปน็ ตอ่ กำรเจรญิ เติบโตของพืช (3)
ผ้ปู ระเมนิ /กลุ่มประเมนิ ..................................................................................................................................................
ชือ่ กลุ่มรับกำรประเมิน....................................................................................................................................................
ประเมินผลครง้ั ท่ี...............วนั ที่...........เดือน..................................................พ.ศ.......................................
เร่ือง.................................................................................................................................................................................
ท่ี ลักษณะ/พฤติกรรมบง่ ช้ี ระดบั พฤตกิ รรม
เกดิ = 1 ไมเ่ กิด = 0
1. มีวินัย
2. มงุ่ มั่นในการทางาน
รวมคะแนนทงั้ หมด
เกณฑค์ ุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มากกว่า 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50 % - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ต่ากว่า 50 % ได้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ำรตัดสนิ
คะแนน 3 หมายถึง ดี
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
121
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี 13
กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษำปที ่ี 2
ภำคเรียนที่ 1 ปกี ำรศกึ ษำ 2564 รำยวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชำ ว12101
หน่วยกำรเรยี นร้ทู ่ี 1 สง่ิ มีชีวิต หนว่ ยยอ่ ยที่ 2 กำรเจรญิ เติบโตของพืช
แผนกำรเรียนร้ทู ่ี 13 เรื่อง ส่ิงทีจ่ ำเป็นตอ่ กำรเจรญิ เติบโตของพชื (4) เวลำ 50 นำที
1. มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ / ตัวชี้วดั
มำตรฐำน ว 1.2
เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสรา้ งและหน้าท่ีของอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ที่ทางานสมั พันธ์กนั รวมท้งั นาความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตวั ช้ีวดั
ว 1.2 ป. 2/1 ระบวุ า่ พชื ตอ้ งการแสงและนา้ เพื่อการเจริญเตบิ โต โดยใช้ขอ้ มูลจากหลักฐาน
เชิงประจกั ษ์
ว 1.2 ป. 2/2 ตระหนักถึงความจาเปน็ ทพ่ี ชื ต้องได้รับน้าและแสงเพ่ือการเจริญเติบโต โดยดแู ลพืช
ใหไ้ ด้รับสิ่งดงั กลา่ วอย่างเหมาะสม
2. สำระสำคญั
น้าและแสงเป็นส่งิ ทจี่ าเป็นต่อการเจริญเติบโตของพชื
3. จุดประสงค์
3.1 ด้ำนควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจ (K)
- อธิบายวา่ นา้ และแสงเปน็ ส่งิ ท่จี าเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพืช
3.2 ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร (P)
- สงั เกตลักษณะใบและลาตน้ ของพชื
- วัดความสูงของต้นพชื
- ลงความเหน็ จากข้อมูลวา่ นา้ และแสงเป็นส่ิงที่จาเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพชื
- ทดลองวา่ นา้ และแสงเปน็ ส่ิงจาเป็นตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื
3.3 ด้ำนคุณลกั ษณะ เจตคติ คำ่ นยิ ม (A)
- ใฝ่เรียนรู้
- มงุ่ ม่นั ในการทางาน
4. สำระกำรเรยี นรู้
น้าและแสงเป็นสิ่งทจี่ าเปน็ ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื
122
5. สมรรถนะของผู้เรียน
5.1 ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
- อธบิ ายวา่ นา้ และแสงเป็นสิ่งทจ่ี าเปน็ ต่อการเจรญิ เติบโตของพืช
5.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ
- ลงความเหน็ จากข้อมูลว่าน้าและแสงเปน็ สิง่ ทจี่ าเป็นตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื
5.3 ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ
- การแกป้ ญั หาในการทางานกล่มุ ร่วมกนั
5.4 ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ
- ใฝเ่ รยี นรู้
- ม่งุ มัน่ ในการทางาน
6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 ใฝ่เรียนรู้
6.2 มุ่งม่นั ในการทางาน
7. กจิ กรรมกำรเรียนรู้
ขน้ั นำ (เวลำ 5 นำที)
1. ครทู บทวนการทากิจกรรมจากชว่ั โมงทแ่ี ลว้ โดยถามคาถามดงั น้ี
1.1 นักเรียนจัดกระถางที่ 1 อย่างไร (รดน้า แต่ไม่โดนแสง)
1.2 นักเรียนกระถางที่ 2 อย่างไร (ไม่รดนา้ และโดนแสง)
1.3 นักเรียนกระถางท่ี 3 อย่างไร (รดนา้ และโดนแสง)
1.4 นักเรียนนักเรียนคิดว่าพืชทั้ง 3 กระถาง มีการเจริญเติบโตเหมือนกันหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบ
ตามที่นักเรยี นเข้าใจ)
ขน้ั สอน (เวลำ 40 นำท)ี
2. ครูช้ีแจงจุดประสงค์ของกิจกรรมในวันนี้ให้นักเรียนทราบว่า ในช่ัวโมงน้ีนักเรียนจะได้อธิบายผลของน้าและ
แสงทมี่ ตี อ่ การเจรญิ เตบิ โตของพชื
3. ครชู วนนกั เรยี นหาคาตอบโดยการอ่านวธิ ีทาในใบกจิ กรรมที่ 1 ข้อ 8 หนา้ 31 โดยใช้วิธีฝึกการอ่านตามความ
เหมาะสมของนกั เรยี น จากน้นั ครูใช้คาถามตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น โดยใชค้ าถาม ดังนี้
3.1 นักเรียนต้องทาอะไรบ้าง (สังเกตลักษณะของใบ ลาต้น และความสูงของต้นพืชท้ัง 3 กระถาง เม่ือผ่าน
ไปแลว้ 5 วนั )
3.2 นักเรียนต้องอภิปรายเปรียบเทียบผลการทดลองของพืชในกระถางคู่ใดบ้าง (เปรียบเทียบผลของพืชใน
กระถางที่ 1 กบั 2 และกระถางที่ 2 กับ 3)
123
4. เมอ่ื นกั เรยี นเขา้ ใจขนั้ ตอนการทากจิ กรรมแล้ว ครูให้นักเรียนแต่ละกล่มุ ลงมอื ทากจิ กรรม โดยวดั ความสูง
ของตน้ พืช สงั เกตลักษณะของใบและจานวนใบของตน้ พืชทง้ั 3 กระถาง และบันทึกผลลงในใบงาน 01
ส่งิ ที่จาเปน็ ตอ่ การเจริญเติบโตของพืช หน้า 34-36 ในตารางช่องวนั ท่ีส้นิ สดุ การทดลอง
5. ครูใหเ้ วลานักเรียนแตล่ ะกลุม่ อภิปรายเปรียบเทยี บผลการสงั เกตและการวัดความสงู ของกระถางแตล่ ะคู่
ครคู อยใหค้ าแนะนาแต่ละกลมุ่ และสมุ่ นักเรียนนาเสนอ
6. เม่อื นกั เรยี นทากจิ กรรมเสรจ็ แลว้ ครนู าอภิปรายเพ่ือเชอ่ื มโยงไปสู่ขอ้ สรุปของการทดลอง โดยอาจใช้
คาถามดงั น้ี
6.1 ต้นพืชในกระถางท่ี 1 และ 3 มีการเจรญิ เติบโตเหมือนหรอื แตกต่างกนั อยา่ งไร (แตกต่างกนั พชื ใน
กระถางท่ี 3 ลาตน้ มคี วามสูงเพมิ่ ข้ึน ลาต้นและใบมีขนาดใหญ่ขน้ึ แลมสี ีเขียวเข้ม ส่วนพืชในกระถางท่ี
1 พืชมคี วามสูงเพม่ิ ข้นึ แตน่ ้อยกว่าพชื ในกระถางที่ 3 ใบและลาตน้ มสี เี ขียวออกเหลือง ลาต้นมีขนาด
ลบี เล็ก)
6.2 ตน้ พืชในกระถางท่ี 2 และ 3 มีการเจริญเติบโตเหมอื นหรือแตกต่างกนั อย่างไร (แตกตา่ งกนั พืชใน
กระถางที่ 3 ลาตน้ มีความสงู เพ่มิ ขน้ึ ใบและลาตน้ มีสีเขียวเขม้ ลาตน้ มขี นาดใหญ่ขน้ึ สว่ นพชื ใน
กระถางท่ี 2 ใบและลาตน้ มีสเี ขยี วออกเหลอื ง ลาต้นมขี นาดลีบเลก็ มคี วามสูงเพมิ่ ขึน้ แตน่ ้อยกว่าพืช
ในกระถางที่ 3)
6.3 พชื ในกระถางท่ี 1 และ 3 และกระถางท่ี 2 และ 3 ต้นพืชในกระถางใดเจริญเติบโตดีกวา่ เพราะเหตุใด (พชื ใน
กระถางที่ 3 เจรญิ เติบโตดีกวา่ พืชในกระถางท่ี 1 และ 3 เพราะพืชในกระถางที่ 3 ไดร้ ับท้ังน้าและแสง สว่ นพชื
ในกระถางที่ 1 ไม่ได้รบั แสง และพืชในกระถางที่ 2 ไม่ได้รับนา้ )
6.4 อะไรเปน็ ส่ิงที่จาเปน็ ต่อการเจริญเตบิ โตของพืช (นา้ และแสง)
ข้ันสรุป (เวลำ 5 นำที)
7. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นสรปุ แนวคิดหรือสง่ิ ท่ีได้เรยี นรู้ในกิจกรรมนี้ด้วยตนเองให้ได้ว่า น้าและแสงเปน็ สิ่งที่
จาเป็นต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื
8. ครูใหน้ ักเรียนตอบคาถามหลงั ทากิจกรรม ขอ้ ท่ี 1-5 หนา้ 39-40 เป็นการบ้าน
8. สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 ส่ือสไลด์ เรอ่ื ง สง่ิ ทีจ่ าเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพืช (4)
8.2 พชื ทปี่ ลูกทั้ง 3 กระถางของแตล่ ะกลมุ่
8.3 ใบกจิ กรรมท่ี 1 สิง่ ที่จาเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพชื มีอะไรบ้าง หน้า 31
8.4 ใบงาน 01 สงิ่ ที่จาเป็นต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื หน้า 34-36 และ 39-40
8.5 กล่องทบึ
8.6 ไมบ้ รรทดั
9. ชน้ิ งำน/ภำระงำน
9.1 ใบงาน 01 ส่ิงท่จี าเปน็ ต่อการเจรญิ เตบิ โตของพชื หนา้ 34-36 และ 39-40
124
10. กำรวดั และประเมนิ ผล
ประเด็นกำรประเมนิ วิธกี ำร เคร่อื งมือ เกณฑ์กำรตดั สิน
1) อธิบายว่านา้ และแสง สังเกตการตอบคาถามใน แบบประเมินการตอบ คะแนน 9 – 10 หมายถงึ ดีมาก
เป็นสง่ิ ทจี่ าเป็นตอ่ การ ช้ันเรยี นและตรวจใบงาน คาถามในชนั้ เรียนและ คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
เจรญิ เตบิ โตของพชื ตรวจใบงาน คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
แบบประเมินทักษะ คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรับปรงุ
2) ทักษะกระบวนการ สังเกตทักษะกระบวนการ กระบวนการทาง คะแนน 3 หมายถงึ ดี
วทิ ยาศาสตร์ คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
ทางวิทยาศาสตร์ ทางวิทยาศาสตร์ในการ คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินคุณลักษณะ
- สังเกตลักษณะใบและ ทากจิ กรรม อันพึงประสงค์ คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
ลาตน้ ของพืช คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
- วัดความสงู ของตน้ พืช
- ลงความเห็นจากข้อมูล
ว่ า น้ า แ ล ะ แ ส ง เ ป็ น ส่ิ ง ที่
จาเป็นต่อการเจริญเติบโต
ของพืช
- ทดลองว่าน้าและแสง
เ ป็ น ส่ิ ง ที่ จ า เ ป็ น ต่ อ ก า ร
เจรญิ เตบิ โตของพชื
3) สังเกตพฤติกรรมการมี สงั เกตด้านคุณลักษณะ
วินัยและความมุ่งมั่นใน อันพงึ ประสงค์
การทางาน
125
แบบประเมนิ กำรตอบคำถำมในชน้ั เรยี นและตรวจใบงำน
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ่ี 13 สงิ่ ที่จำเปน็ ตอ่ กำรเจริญเติบโตของพชื (4)
ชือ่ ผู้ประเมิน………………………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลคร้งั ที…่ ……………….... วันที่ ……………..……... เดือน ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอ่ื ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
รำยกำรประเมิน/ระดบั คะแนน
กำรตอบ กำรสรุป ควำมถกู ตอ้ ง รวมคะแนน
(10 คะแนน)
ชือ่ -สกุล/กลมุ่ คำถำมใน ควำมรู้ ครบถ้วนของ
ชนั้ เรียน (4) เน้อื หำในใบงำน
(4) (2)
เกณฑก์ ำรประเมนิ
ประเด็น 4 (ดีมำก) ระดับคณุ ภำพ 1 (ปรบั ปรุง) นำ้ หนัก คะแนน
กำรประเมิน 3 (ดี) 2 (พอใช้) ตอบคาถามไม่ 1.0 รวม
ถูกต้อง 1.0 4
1. การตอบ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม
คาถามในชน้ั เรยี น ถูกต้องทัง้ หมด ถกู ต้องเป็น ถกู ต้องบางสว่ น สรปุ ความรเู้ ขา้ ใจ 1.0 4
เก่ยี วกบั เรือ่ งที่
สว่ นใหญ่ ศกึ ษาไม่ถกู ต้อง 2
และไม่ครบถว้ น
2. การสรุปความรู้ สรุปความรู้ สรปุ ความรูค้ วาม สรปุ ความร้คู วาม เน้ือหาที่เขยี นใน
ความเขา้ ใจ เขา้ ใจเกย่ี วกับ เขา้ ใจเกย่ี วกับ ใบงานไม่ถูกตอ้ ง
เกี่ยวกับเรื่องท่ี เรือ่ งท่ีศกึ ษาได้ เรอ่ื งท่ีศกึ ษาได้
ศึกษาได้ ถูกตอ้ ง ถกู ต้อง แต่ไม่ ถูกต้องบางส่วน
และครบถ้วน ครบถว้ น และไม่ครบถ้วน
เนื้อหาทีเ่ ขียนใน
3. ความถกู ต้อง เนอื้ หาท่ีเขียนใน เนอ้ื หาที่เขยี นใน ใบงานมคี วาม
ครบถว้ นของ ใบงานมคี วาม ใบงานมีบางสว่ น ถูกต้องเปน็
เน้อื หาในใบงาน ถกู ต้องครบถ้วน ไมถ่ ูกตอ้ ง ตามที่ สว่ นนอ้ ย
ตามที่กาหนด กาหนด
เกณฑ์กำรตัดสนิ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถงึ ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรับปรุง
126
แบบประเมนิ ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ 12 สงิ่ ทจ่ี ำเปน็ ตอ่ กำรเจริญเตบิ โตของพืช (3)
ชอ่ื ผู้ประเมิน………………………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมินผลครั้งที…่ ……………….... วนั ที่ ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรื่อง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
รำยกำรประเมิน/ระดบั คะแนน ผลรวม
คะแนน
ชอ่ื -สกุล/กลุ่ม กำร กำรลง กำร (12 คะแนน) ผลกำร
สังเกต กำรวดั ควำมเหน็ ทดลอง ประเมนิ
(3) (3) จำกขอ้ มูล
(3)
(3)
เกณฑ์กำรประเมนิ
ทกั ษะกระบวนกำร ดี (3) ระดับควำมสำมำรถ ปรับปรุง (1)
ทำงวิทยำศำสตร์ สามารถใชป้ ระสาทสัมผสั พอใช้ (2) สามารถใช้ประสาทสัมผัสในการ
การสังเกต ในการรวบรวมขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกับลกั ษณะ
เก่ียวกับลักษณะของต้นพืช สามารถใช้ประสาทสมั ผสั ในการ ของต้นพืชได้บางสว่ น ถงึ แมจ้ ะ
การวัด ได้ ดว้ ยตนเองโดยไม่ รวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับลกั ษณะ ไดร้ บั คาแนะนาจากครูหรือผู้อืน่
เพ่ิมเติมความคิดเหน็ ของตน้ พืชได้ โดยการช้แี นะของ
การลงความเหน็ จาก สามารถใช้ไมบ้ รรทดั วัด ครหู รอื ผอู้ น่ื สามารถใชไ้ มบ้ รรทัดวดั ความสงู
ขอ้ มลู ความสูงของต้นพชื และ ของตน้ พืช แตบ่ อกหนว่ ยได้ไม่
บอกหนว่ ยได้อยา่ งถกู ต้อง สามารถใช้ไมบ้ รรทัดวดั ความสงู ถูกตอ้ ง ถงึ แม้จะได้รับคาแนะนา
ไดด้ ว้ ยตนเอง ของตน้ พชื และบอกหนว่ ยได้อย่าง จากครูหรอื ผูอ้ นื่
สามารถลงความเหน็ จาก ถกู ต้องไดโ้ ดยการชี้แนะของครู สามารถลงความเหน็ จากข้อมลู ท่ี
ขอ้ มลู ท่ีได้จากการทดลอง หรอื ผู้อื่น ไดจ้ ากการทดลอง ไดว้ ่า พชื ใน
ไดว้ า่ พชื ในกระถางที่ได้รับ สามารถลงความเหน็ จากข้อมูลท่ี กระถางท่ีได้รับนา้ และแสงจะ
นา้ และแสงจะเจรญิ เตบิ โต ไดจ้ ากการทดลอง ไดว้ ่า พชื ใน เจรญิ เตบิ โตไดด้ ีกว่าพืชใน
ได้ดีกว่าพืชในกระถางท่ี กระถางทไี่ ด้รับน้าและแสงจะ กระถางท่ีไมไ่ ด้รบั นา้ และแสงได้
เจรญิ เตบิ โตไดด้ ีกว่าพืชในกระถาง
ท่ไี มไ่ ด้รบั นา้ และแสงไดโ้ ดยการ
ชี้แนะของครูหรอื ผูอ้ ่นื
127
ทักษะกระบวนกำร ดี (3) ระดบั ควำมสำมำรถ ปรับปรงุ (1)
ทำงวิทยำศำสตร์ ไมไ่ ด้รับนา้ และแสงได้ด้วย พอใช้ (2) บางสว่ น ถึงแมจ้ ะได้รบั
ตนเอง คาแนะนาจากครูหรือผูอ้ ่นื
การทดลอง สามารถทาการทดลอง สามารถทาการทดลองเก่ยี วกบั ผล สามารถทาการทดลองเกี่ยวกับ
เกย่ี วกับผลของน้าและแสง ของน้าและแสงทม่ี ตี ่อการ ผลของนา้ และแสงท่ีมตี ่อการ
ทม่ี ีตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของ เจรญิ เติบโตของพชื ไดถ้ กู ต้อง เจริญเติบโตของพืชตามขน้ั ตอน
พืชตามขั้นตอนได้ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นตามขน้ั ตอนโดยการ ไม่ถกู ต้องและไมค่ รบถว้ นตาม
ครบถ้วนด้วยตนเอง ชแ้ี นะของครูหรือผอู้ ่ืน ขั้นตอน ถงึ แม้จะได้รับคาแนะนา
จากครูหรือผู้อนื่
เกณฑก์ ำรตดั สนิ
คะแนน 9 - 12 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 8 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 4 หมายถงึ ปรับปรุง
128
แบบประเมินดำ้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู ี่ 13 สงิ่ ที่จำเป็นตอ่ กำรเจรญิ เติบโตของพชื (4)
ผู้ประเมนิ /กลุ่มประเมิน..................................................................................................................................................
ชอ่ื กลุ่มรบั กำรประเมิน....................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครั้งที.่ ..............วนั ที่...........เดอื น..................................................พ.ศ.......................................
เรือ่ ง.................................................................................................................................................................................
ท่ี ลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดับพฤตกิ รรม
เกดิ = 1 ไม่เกดิ = 0
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มุ่งมน่ั ในการทางาน
รวมคะแนนท้งั หมด
เกณฑ์คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มากกว่า 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50 % - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ต่ากวา่ 50 % ได้ 1 คะแนน
เกณฑ์กำรตัดสิน
คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
129
แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ 14
กล่มุ สำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ 2
ภำคเรียนท่ี 1 ปีกำรศกึ ษำ 2564 รำยวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รหสั วิชำ ว12101
หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี 1 สง่ิ มชี ีวิต หนว่ ยยอ่ ยที่ 2 กำรเจริญเตบิ โตของพืช
แผนกำรเรยี นรทู้ ี่ 14 เร่อื ง ส่ิงที่จำเปน็ ตอ่ กำรเจรญิ เติบโตของพชื (5) เวลำ 50 นำที
1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้ / ตัวชว้ี ดั
มำตรฐำน ว 1.2
เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเลียงสารเข้า และออกจากเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์
ของโครงสร้างและหนา้ ท่ขี องอวยั วะตา่ ง ๆ ของพชื ทที่ างานสัมพนั ธก์ ัน รวมทั้งนาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
ตัวชวี้ ัด
ว 1.2 ป. 2/1 ระบุว่าพชื ตอ้ งการแสงและน้า เพื่อการเจรญิ เตบิ โต โดยใชข้ อ้ มูลจากหลักฐาน
เชิงประจกั ษ์
ว 1.2 ป. 2/2 ตระหนักถึงความจาเป็นท่ีพืชต้องไดร้ ับนา้ และแสงเพื่อการเจรญิ เติบโต โดยดแู ลพชื
ให้ได้รบั ส่งิ ดงั กล่าวอย่างเหมาะสม
2. สำระสำคญั
นา้ แสง อากาศ และธาตอุ าหาร เปน็ สิ่งท่ีจาเปน็ ตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช
3. จดุ ประสงค์
3.1 ดำ้ นควำมรู้ ควำมเข้ำใจ (K)
- อธิบายสิ่งทจ่ี าเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพืช
3.2 ด้ำนทกั ษะกระบวนกำร (P)
- จัดกระทาข้อมูลโดยเขยี นแผนผงั ความคิดเรอื่ งสง่ิ จาเปน็ ตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช
- ตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ เกยี่ วกับส่งิ จาเป็นตอ่ การเจริญเติบโตของพืช
3.3 ดำ้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่ำนิยม (A)
- ใฝเ่ รียนรู้
- มุ่งม่นั ในการทางาน
4. สำระกำรเรยี นรู้
น้า แสง อากาศ และธาตุอาหาร เป็นส่ิงท่ีจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยน้าเกี่ยวข้องกับการ
งอกของเมล็ดพืช การสร้างอาหาร การลาเลียงอาหารและธาตุอาหาร แสงใช้ในการสร้างอาหาร อากาศใช้ใน
การงอกของเมลด็ การหายใจ และการสรา้ งอาหาร ธาตุอาหารช่วยให้พชื เจริญเติบโตเปน็ ปกติ
130
5. สมรรถนะของผู้เรียน
5.1 ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร
- อธิบายส่งิ ทจี่ าเปน็ ต่อการเจรญิ เติบโตของพชื
5.2 ควำมสำมำรถในกำรคดิ
- เขยี นผังความคิดเรือ่ งสง่ิ ท่ีจาเปน็ ตอ่ การเจริญเติบโตของพืช
6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
6.1 ใฝ่เรียนรู้
6.2 มุ่งม่ันในการทางาน
7. กิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขั้นนำ (เวลำ 5 นำที)
1. ครูทบทวนการเรยี นร้จู ากชว่ั โมงท่แี ล้วเก่ียวกับน้าและแสงเป็นสง่ิ ทจ่ี าเปน็ ตอ่ การเจริญเตบิ โตของพชื โดยใชค้ าถาม
ดงั นี้
1.1 อะไรเป็นสิ่งท่ีจาเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพชื บ้าง (นา้ และแสง)
1.2 ถ้าพชื ขาดนา้ และแสง พืชจะเป็นอย่างไร (พืชจะเจรญิ เติบโตได้ไม่ดี หรือไม่เจริญเติบโต และตายในที่สดุ )
1.3 น้าและแสงมีความสาคัญต่อพืชอย่างไรบ้าง (นักเรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
1.4 นอกจากแสงและนา้ แล้ว ยงั มีส่ิงอน่ื อกี หรือไม่ทจี่ าเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพชื (นกั เรยี นตอบตามความ
เข้าใจของตนเอง)
ข้นั สอน (เวลำ 40 นำที)
2. ครูช้ีแจงจุดประสงค์ของกิจกรรมในวันน้ีให้นักเรียนทราบว่า นักเรียนจะได้อธิบายส่ิงท่ีจาเป็นต่อการ
เจรญิ เติบโตของพืช
3. ครูชวนนักเรียนหาคาตอบโดยอ่านวิธีทาในใบกิจกรรมที่ 1 ข้อ 9 หน้า 31 โดยใช้วิธีฝึกการอ่านจับใจความ
ตามความเหมาะสมของนกั เรยี น จากนนั้ ครใู ช้คาถามตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นดงั นี้
3.1 นักเรียนต้องอา่ นใบความรเู้ รื่องอะไร (สิ่งทจ่ี าเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพืช)
3.2 นักเรียนนาความรู้จากใบความรู้มาทาอะไร (เขียนผังความคิดเร่ืองส่ิงที่จาเป็นต่อการเจริญเติบโตของ
พืช)
4. นักเรียนและครูร่วมกันอา่ นใบความร้เู รอ่ื งส่งิ ท่ีจาเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพชื หน้า 37 จากนั้นครแู ละ
นักเรียนรว่ มกันอภิปรายโดยอาจใชค้ าถาม ดังน้ี
4.1 นอกจากนา้ และแสงแล้ว ยังมีสิ่งใดอีกบ้างทจี่ าเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพืช (อากาศและธาตอุ าหาร)
4.2 น้ามคี วามสาคญั ตอ่ พืชอยา่ งไรบ้าง (พืชใชน้ ้าในการงอกของเมลด็ การสร้างอาหาร การลาเลยี งอาหาร
และธาตุอาหาร)
4.3 แสงมีประโยชน์ต่อพชื อย่างไรบ้าง (เพอ่ื ใชใ้ นการสร้างอาหารและการงอกของเมล็ดพชื บางชนดิ )
4.4 อากาศมีความสาคญั ต่อพชื อย่างไรบ้าง (พชื ใช้ในการงอกของเมล็ด การหายใจ การสร้างอาหาร)
131
4.5 ธาตอุ าหารมีความสาคัญตอ่ พืชอยา่ งไรบา้ ง (เพ่ือให้พืชเจริญเตบิ โตเป็นปกติ)
4.6 พชื ได้รับธาตุอาหารจากทใ่ี ด (จากดิน)
5. ครูและนักเรียนร่วมอภิปรายวิธีการเขียนผังความคิดเร่ืองส่ิงท่ีจาเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช โดยอาจ
ยกตวั อย่างวธิ ีการเขียนในเร่ืองอน่ื จนแน่ใจว่านักเรียนเขียนได้ และครคู อยชว่ ยเหลอื ในการเขียน
6. ครใู หน้ กั เรียนเขยี นผงั ความคดิ เรอ่ื งส่งิ ท่จี าเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพชื ลงในใบงาน 01 ส่งิ ทจ่ี าเปน็ ตอ่
การเจริญเติบโตของพชื หน้า 38 และนาเสนอ
7. นักเรยี นตอบคาถามหลังจากทากิจกรรมหน้า 41
ขั้นสรปุ (เวลำ 5 นำที)
8. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสรุปแนวคดิ หรือสิง่ ท่ีได้เรียนร้จู ากกิจกรรมนด้ี ว้ ยตนเองเกยี่ วกบั ส่งิ ทจี่ าเป็นต่อการ
เจริญเตบิ โตของพชื
9. ครใู หน้ กั เรยี นร่วมกันอภปิ รายและลงข้อสรุปให้ได้วา่ แสง น้า อากาศ และธาตุอาหารเปน็ สงิ่ ที่จาเป็นตอ่
การเจริญเตบิ โตของพชื โดยพืชใช้นา้ ในการงอกของเมลด็ พืช การสร้างอาหาร การลาเลยี งอาหารและ
ธาตอุ าหาร ใช้แสงในการสรา้ งอาหาร ใช้อากาศในการงอกของเมล็ดพชื การหายใจ และการสรา้ งอาหาร
และใช้ธาตุอาหารชว่ ยใหพ้ ชื เจรญิ เตบิ โตไดอ้ ย่างปกติ
10. ครูให้นกั เรยี นทาใบงาน 02 แบบฝึกหดั เร่ืองสิง่ ทีจ่ าเป็นตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช หนา้ 42-43 เป็น
การบ้าน
8. สือ่ /แหล่งเรียนรู้
8.1 ส่อื สไลด์ เรือ่ ง ส่ิงที่จาเปน็ ตอ่ การเจรญิ เติบโตของพชื (5)
8.2 ใบกจิ กรรมที่ 1 สง่ิ ทจ่ี าเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพชื มีอะไรบ้าง หน้า 31
8.3 ใบความรู้ เรื่องส่งิ ทจี่ าเป็นต่อการเจรญิ เตบิ โตของพืช หน้า 37
8.4 ใบงาน 01 สิง่ ท่ีจาเปน็ ต่อการเจริญเติบโตของพืช หน้า 38
8.5 ใบงาน 02 แบบฝกึ หัด เรอ่ื งสิ่งท่ีจาเป็นต่อการเจรญิ เติบโตของพืช หน้า 42-43
9. ชนิ้ งำน/ภำระงำน
9.1 ใบงาน 01 สงิ่ ที่จาเป็นตอ่ การเจริญเติบโตของพชื หน้า 38
9.2 ใบงาน 02 แบบฝึกหดั เรือ่ งส่งิ ทจ่ี าเปน็ ต่อการเจริญเตบิ โตของพืช หนา้ 42-43
132
10. กำรวดั และประเมินผล
ประเดน็ กำรประเมนิ วธิ กี ำร เคร่ืองมอื เกณฑ์
แบบประเมินใบงาน คะแนน 3 หมายถงึ ดี
1) อธิบายสิ่งทจ่ี าเป็นตอ่ ตรวจใบงาน คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
แบบประเมินทกั ษะ คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรงุ
การเจรญิ เตบิ โตของพชื กระบวนการทาง คะแนน 3 หมายถงึ ดี
วทิ ยาศาสตร์ คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
2) ทกั ษะกระบวนการ สงั เกตทกั ษะกระบวนการ คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ
ทางวทิ ยาศาสตร์ ทางวทิ ยาศาสตร์ในการ อนั พึงประสงค์ คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้
- จดั กระทาขอ้ มูลโดย ทากิจกรรม คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
เขียนผังความคิดเร่อื ง
ส่ิงจาเปน็ ต่อการ
เจริญเติบโตของพืช
- ตคี วามหมายข้อมลู และ
ลงข้อสรปุ เกย่ี วกับ
สิ่งจาเป็นตอ่ การ
เจริญเตบิ โตของพืช
3) สังเกตพฤติกรรมการมี สังเกตดา้ นคุณลกั ษณะ
วินัยและความมุ่งม่ันใน อันพงึ ประสงค์
การทางาน
133
แแบบประเมินกำรตอบคำถำมในชั้นเรยี น
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี 14 เร่อื ง สง่ิ ท่จี ำเป็นต่อกำรเจรญิ เติบโตของพืช (5)
ชอื่ ผู้ประเมนิ ………………………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมนิ ผลคร้งั ท่ี………………….... วันท่ี ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอื่ ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….
รำยกำรประเมนิ /ระดบั คะแนน
กำรตอบ กำรสรปุ ควำมถูกต้อง รวมคะแนน
(10 คะแนน)
ช่อื -สกุล/กลมุ่ คำถำมใน ควำมรู้ ครบถว้ นของ
ชนั้ เรียน (4) เนือ้ หำในใบงำน
(4) (2)
เกณฑ์กำรประเมนิ
ประเดน็ ระดบั คุณภำพ น้ำหนัก คะแนน
1.0 รวม
กำรประเมิน 4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) 4
ตอบคาถามไม่
1. การตอบ ตอบคาถามได้ ตอบคาถามได้ ตอบคาถาม ถกู ต้อง 4
คาถามในชั้นเรยี น ถูกต้องทั้งหมด ถกู ต้องเป็น ถกู ต้องบางสว่ น
2
ส่วนใหญ่
2. การสรปุ ความรู้ สรปุ ความรู้ สรปุ ความร้คู วาม สรุปความรคู้ วาม สรุปความรู้เข้าใจ 1.0
ความเขา้ ใจ เข้าใจเกย่ี วกับ เข้าใจเกี่ยวกับ เกยี่ วกบั เรอื่ งที่
เกยี่ วกับเร่ืองท่ี เร่ืองที่ศึกษาได้ เร่อื งท่ีศึกษาได้ ศึกษาไม่ถกู ต้อง
ศึกษาได้ ถูกตอ้ ง ถูกต้อง แต่ไม่ ถูกต้องบางส่วน และไมค่ รบถ้วน
และครบถว้ น ครบถ้วน และไม่ครบถว้ น
เน้อื หาท่เี ขยี นใน เน้ือหาทีเ่ ขียนใน 1.0
3. ความถูกต้อง เน้ือหาท่เี ขียนใน เนือ้ หาทเี่ ขียนใน ใบงานมคี วาม ใบงานไมถ่ กู ตอ้ ง
ครบถ้วนของ ใบงานมคี วาม ใบงานมบี างสว่ น ถกู ต้องเป็น
เนื้อหาในใบงาน ถกู ต้องครบถ้วน ไม่ถูกตอ้ ง ตามที่ ส่วนน้อย
ตามทก่ี าหนด กาหนด
เกณฑ์กำรตัดสิน
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดมี าก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรบั ปรุง
134
แบบประเมนิ ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
แผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ่ี 14 เรือ่ ง สง่ิ ท่ีจำเปน็ ตอ่ กำรเจริญเติบโตของพืช (5)
ชอื่ ผูป้ ระเมนิ …………………………………………………………………………........................………………………………………..
ประเมินผลคร้ังท…่ี ……………….... วนั ท่ี …………….........……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอื่ ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………….
รำยกำรประเมนิ /ระดบั คะแนน ผลรวม
คะแนน
ชอ่ื -สกุล/กล่มุ กำรจัดกระทำและ กำรตีควำมหมำย (6 คะแนน) ผลกำรประเมิน
สื่อควำมหมำย ข้อมูลและลงขอ้ สรปุ
ข้อมูล (3) (3)
เกณฑ์กำรประเมิน
ทกั ษะกระบวนกำร ระดับควำมสำมำรถ
ทำงวิทยำศำสตร์
การจัดกระทาและสื่อ ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
ความหมายข้อมูล สามารถจดั กระทาขอ้ มลู โดย
สามารถจัดกระทาขอ้ มูลโดย สามารถจัดกระทาข้อมูลโดย เขยี นผังความคิดเรื่องสิ่งที่
การตีความหมาย จาเปน็ ตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของ
ข้อมลู และลงข้อสรปุ เขียนผังความคิดเรื่องสง่ิ ท่ี เขยี นผงั ความคิดเรอื่ งสงิ่ ที่ พชื และนาเสนอให้ผู้อ่ืน
เข้าใจได้บางอย่าง ถงึ แมจ้ ะ
จาเป็นต่อการเจรญิ เติบโต จาเป็นตอ่ การเจรญิ เติบโต ได้รับคาแนะนาจากครหู รือ
ผู้อนื่
ของพืชและนาเสนอให้ ของพืชและนาเสนอให้ สามารถตคี วามหมายข้อมลู
และลงข้อสรปุ ได้วา่ น้า แสง
ผู้อื่นเข้าใจได้ดว้ ยตนเอง ผู้อ่ืนเข้าใจได้ โดยการ อากาศ และธาตุอาหารเป็นส่งิ
ที่จาเปน็ ต่อการเจริญเตบิ โต
โดยไมเ่ พิ่มเตมิ ความ ช้ีแนะของครหู รือผ้อู น่ื ของพืชได้บางอย่าง ถงึ แม้จะ
ได้รับคาแนะนาจากครหู รือ
คิดเห็น ผู้อนื่
สามารถตีความหมายข้อมูล สามารถตคี วามหมายข้อมลู
และลงข้อสรุปไดว้ ่า น้า แสง และลงข้อสรปุ ได้ว่า น้า แสง
อากาศ และธาตุอาหารเป็น อากาศ และธาตุอาหารเป็น
สง่ิ ทจ่ี าเป็นตอ่ การ ส่ิงท่ีจาเปน็ ต่อการ
เจริญเติบโตของพชื ได้ดว้ ย เจรญิ เติบโตของพชื ได้ โดย
ตนเอง การชแ้ี นะของครหู รอื ผู้อืน่
135
เกณฑก์ ำรตัดสนิ
คะแนน 5 - 6 หมายถึง ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ ด้ำนคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู ่ี 14 สงิ่ ทีจ่ ำเปน็ ตอ่ กำรเจรญิ เติบโตของพืช (5)
ผปู้ ระเมิน/กลุ่มประเมนิ ..................................................................................................................................................
ช่อื กลุ่มรบั กำรประเมิน....................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครง้ั ที่...............วนั ท่ี...........เดือน..................................................พ.ศ.......................................
เร่ือง.................................................................................................................................................................................
ที่ ลกั ษณะ/พฤติกรรมบ่งช้ี ระดับพฤติกรรม
เกดิ = 1 ไม่เกดิ = 0
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
รวมคะแนนทั้งหมด
เกณฑก์ ำรประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์
- มากกว่า 80 % ได้ 3 คะแนน
- 50% - 79 % ได้ 2 คะแนน
- ตา่ กว่า 50 % ได้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ำรตัดสิน
คะแนน 3 หมายถงึ ดี
คะแนน 2 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
136
เฉลยใบงำน
137
นักเรียนตอบตำมผลกำรทำกิจกรรม เช่น ถวั่ เขยี ว
คาตอบมไี ดห้ ลากหลาย เข่น
1. นาเมลด็ พชื แชน่ าไว้ 1 คนื
2. นาดนิ รว่ นใส่ลงในกระถาง 3 ใบ ในปรมิ าณเทา่ กนั
3. นาเมลด็ พชื ที่แช่นาไวว้ างบนดินในกระถาง โดยวางเมลด็ พืช
ใหท้ ัว่ กระถาง
4. รดนาในปริมาณเท่ากนั และนาไปวางในทท่ี ม่ี แี สงสอ่ งถงึ
นกั เรียนตอบตามผลการทากจิ กรรม
เช่น ความสงู ของพชื
เช่น ไม้บรรทัด
138
1
เชา้
1
คาตอบอาจแตกต่างจากนขี ึนอย่กู บั ชนดิ ของพืช
2
เช้าและเย็น
139
นกั เรยี นวาดรปู ตามท่ีสงั เกตได้
และบันทึกความสูงตามท่ีวัดได้
140
นกั เรยี นวาดรปู ตามท่ีสงั เกตได้
และบันทึกความสูงตามท่ีวัดได้
141
นกั เรยี นวาดรปู ตามท่ีสงั เกตได้
และบันทึกความสูงตามท่ีวัดได้
142
ลาเลียงอาหารและธาตอุ าหาร การงอกของเมล็ดพชื
สรา้ งอาหาร
นา แสง
อากาศ ธาตุอาหาร
สร้างอาหาร ชว่ ยให้พชื
การงอกของเมล็ดพืช เจริญเติบโตได้
อย่างปกติ
143
พชื มีการเจรญิ เตบิ โต ทราบได้จากมีลาตน้ สงู และใหญ่ขนึ และมใี บใหญข่ นึ
พืชกระถางท่ี ๑ และ ๓ มกี ารเจริญเติบโตแตกตา่ งกนั โดยพชื กระถางที่ ๓
มีขนาดและความสูงของลาต้น และใบที่ใหญ่กวา่ กระถางท่ี ๑
144
แสง โดยพืชกระถางที่ ๓ ได้รบั แสง สว่ นกระถางท่ี ๑ ไมไ่ ดร้ บั แสง
พชื กระถางท่ี ๒ และ ๓ มกี ารเจรญิ เตบิ โตแตกตา่ งกนั โดยพชื กระถางท่ี ๓
มขี นาด ความสงู ของลาตน้ และใบทใี่ หญ่กวา่ กระถางที่ ๒
นา โดยพชื กระถางท่ี ๒ ไม่ได้รบั นา ส่วนกระถางท่ี ๓ ได้รับนา
145
แสง นา อากาศ ธาตอุ าหาร
แสง นา อากาศ และธาตอุ าหารเปน็ สง่ิ ทีจ่ าเปน็ ตอ่ การเจริญเติบโต
ของพชื