“การศึกษาค้นคว้าที่สำคัญและจำเป็นอย่างแรก คือ การศึกษาทางแนวลึก อันได้แก่ การฝึกฝน ค้นคว้าวิชาเฉพาะของแต่ละคน ให้เชี่ยวชาญชำนาญแตกฉานลึกซึ้ง และพัฒนาก้าวหน้าพร้อมกันนั้น ใน ฐานะนักปฏิบัติ ซึ่งต้องทำงานและแก้ปัญหาต่างๆ ร่วมกับผู้อื่นฝ่ายอื่นอยู่เป็นปรกติ ทุกคนจำเป็นต้อง ศึกษาทางแนวกว้างควบคู่กันไปด้วย การศึกษาตามแนวกว้างนี้ หมายถึง การศึกษาให้รู้ให้ทราบถึง วิทยาการสาขาอื่นๆ ตลอดจน ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับสภาวะ และวิวัฒนาการของบ้านเมืองและสังคมใน ทุกแง่มุม เพื่อช่วยให้มองเห็น ให้เข้าใจปัญหาต่างๆ อย่างชัดเจนถูกถ้วน และสามารถนำวิชาการด้านของ ตนประสานเข้ากับวิชาด้านอื่นๆ ได้โดยสอดคล้องถูกต้อง และเหมาะสม พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศ รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๓๓
การออกแบบและการผลิตสิ่งพิมพ์ ….…GRAPHIC DESIGN AND PRINT PRODUCTION… ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประทุมทอง ไตรรัตน์ ISBN 978-974-625-756-5
รายละเอียดหนังสือ การออกแบบและการผลิตสิ่งพิมพ์ GRAPHIC DESIGN AND PRINT PRODUCTION ประทุมทอง ไตรรัตน์ สงวนลิขสิทธิ์ ปรับปรุงครั้งที่ 3 : 3 มิถุนายน 2566 ISBN : 978-974-625-756-5 E-mail: [email protected]
คำนำ สิ่งพิมพ์ใช้ประโยชน์เพื่อการสื่อสาร ความรู้ ความเพลิดเพลิน และใช้ในการดำเนินธุรกิจ เป็นส่วน หนึ่งของผลิตภัณฑ์ฉลาก บรรจุภัณฑ์ รูปแบบสิ่งพิมพ์มีให้เลือกใช้รูปแบบต่างๆ ได้แก่ หนังสือ ตำรา วารสาร เอกสาร โปสเตอร์ แผ่นพับ และเอกสารที่ใช้ในธุรกิจ เช่น ใบเสนอราคา นามบัตร เอกสารอื่นๆ ปัจจุบันการจัดการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยีการพิมพ์และการผลิตสิ่งพิมพ์ได้มีสถาบัน การศึกษาได้จัดรายวิชาเกี่ยวกับการออกแบบสิ่งพิมพ์การผลิตสิ่งพิมพ์ของหลักสูตรสาขาวิชา ในการผลิต บุคลากรด้านการพิมพ์ที่ตอบสนองต่อภาคอุตสาหกรรมการพิมพ์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและธุรกิจ อื่นๆ ในการผลิตสิ่งพิมพ์ที่มีความต้องการบุคลากรที่มีความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ และผลิตสิ่งพิมพ์เพื่อ ใช้ในการดำเนินธุรกิจ และมีหลักสูตรอื่นๆ เปิดสอนรายวิชาด้านการผลิตสิ่งพิมพ์หรือการออกแบบสิ่งพิมพ์ เช่น หลักสูตรสาขาวิชาการออกแบบบรรจุภัณฑ์ หลักสูตรสาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และใน หลักสูตรสาขาวิชากลุ่มนิเทศศาสตร์หรือวารสารศาสตร์ได้มีการจัดรายวิชาเกี่ยวกับการออกแบบสิ่งพิมพ์ และกระบวนผลิตสิ่งพิมพ์ หรือรายวิชาเกี่ยวกับการออกแบบและผลิตสิ่งพิมพ์ของหลักสูตรสาขาวิชาต่างๆ การจัดทำหนังสือเล่มนี้ มาจากแนวคิดและความตั้งใจของผู้เขียนที่ต้องการให้ผู้ที่ศึกษาด้านการ ออกแบบสิ่งพิมพ์และการออกแบบสื่อต่างๆ หรือด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้เข้าใจ หลักการ แนวคิด การออกแบบ และกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ ได้แก่ กระบวนการจัดการ การจัดวางหน้า สิ่งพิมพ์ การเลือก วัสดุระบบการพิมพ์ การทำสำเร็จและการทำเล่ม ซึ่งต้องมีความรู้เพื่อใช้ในการกำหนดค่าต่างๆ ในการ ออกแบบสิ่งพิมพ์หรือการประยุกต์ใช้กับการออกแบบสื่ออื่นๆ โดยมีขั้นตอนการออกแบบที่เหมือนกัน เพื่อ สร้างความเข้าใจกันระหว่าง กระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ของผู้ปฏิบัติงานกับผู้ออกแบบและผู้เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งกระบวนการผลิตให้สามารถเข้าใจถึงกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังว่าผู้อ่านหนังสือเล่มนี้จะได้รับประโยชน์ ความรู้ ความเข้าใจและการนำไปใช้เพื่อเสริม ความรู้เพิ่มจากการเรียนการสอนในห้องเรียนสำหรับนักศึกษาด้านการพิมพ์และด้านการออกแบบ ซึ่งมี รายวิชาเกี่ยวกับการผลิตสิ่งพิมพ์และผู้สนใจสามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่อความเข้าใจของกระบวนการผลิต สิ่งพิมพ์ ท้ายนี้ขอกราบขอบพระคุณบิดา-มารดา ที่ให้กำเนิดและอบรมเลี้ยงดู ครู-อาจารย์ ที่ประสิทธิ์ ประสาทวิชาความรู้ และแหล่งข้อมูลทุกแหล่งที่ใช้ในการนำมาเป็นข้อมูลการเขียนหนังสือ ขอขอบคุณ ครอบครัว เพื่อนๆ ดร.อาทิพย์ สอนสุจิตรา ภราดา ดร.เสกสรร สกนธวัฒน์ ดร.ภารุจีร์ เจริญเผ่า และ นักศึกษาทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์ผลงานที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือในครั้งนี้ ประทุมทอง ไตรรัตน์
สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ คำนิยม สารบัญ สารบัญตาราง สารบัญภาพ บทที่ 1 การผลิตสิ่งพิมพ์ 3 การสร้างแนวคิด 7 การออกแบบสิ่งพิมพ์ 10 การผลิตสิ่งพิมพ์ 11 การจัดการสินค้าแบบโลจิสติกส์ 13 ประเภทของสิ่งพิมพ์ 14 การดำเนินธุรกิจการผลิตสิ่งพิมพ์ 19 บทที่ 2 การออกแบบสิ่งพิมพ์ 33 ความหมายของการออกแบบสิ่งพิมพ์ 34 องค์ประกอบที่ใช้ในการออกแบบ 35 หลักการจัดองค์ประกอบในการออกแบบสิ่งพิมพ์ 44 ระบบกริดในการออกแบบสิ่งพิมพ์ 56 ขั้นตอนการออกแบบสิ่งพิมพ์แต่ละประเภท 62 การใช้กฎการถ่ายภาพในการออกแบบ 80
สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า บทที่ 3 สีและการจัดการสี 93 สีของแสง 93 ตาและสี 94 การจัดการสี 98 การผสมสีแบบบวก 99 การผสมสีแบบหักลบ 101 แผ่นเทียบสี 102 มาตรฐานสี 109 ระบบการจัดการสี 114 การสร้าง Input profile และการสร้าง Output profile 117 การจัดการสีในรูปแบบ SWOP 125 บทที่ 4 ตัวอักษรและภาพ 129 การจัดวางและการออกแบบ รูปแบบ แบบตัวอักษร 130 ตัวอักษรภาษาอังกฤษและตัวอักษรภาษาไทย 135 การออกแบบตัวอักษร 145 ภาพ 149 ภาพดิจิทัล 151 บทที่ 5 การเตรียมการพิมพ์ 175 การจัดวางหน้าสิ่งพิมพ์ 176 ต้นฉบับในรูปของข้อความ 180 การจัดวางข้อความ 181 การจัดการภาพ 184
สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า การตรวจพิสูจน์อักษร 187 ภาษาโพสคริปต์ 190 รูปแบบข้อมูลแบบไฟล์ PDF 190 การปรับค่าความละเอียดและสีตามระบบการพิมพ์ที่ใช้ 192 การตรวจปรู๊ฟก่อนทำการพิมพ์ 198 บทที่ 6 กระดาษ 210 การเลือกใช้กระดาษ 211 กระดาษกับสิ่งแวดล้อม 223 การจัดการกระดาษ 224 บทที่ 7 การพิมพ์และการทำสำเร็จ 233 ระบบการพิมพ์ 234 การพิมพ์ดิจิทัล 234 การพิมพ์แบบพ่นหมึก 236 การพิมพ์แบบการถ่ายโอนความร้อน 238 การพิมพ์ออฟเซต 239 การพิมพ์กราวัวร์ 241 การพิมพ์แพด 242 การพิมพ์เลตเตอร์เพรส 243 การพิมพ์ดรายออฟเซต 244 การพิมพ์เฟล็กโซกราฟี 245 การพิมพ์สกรีน 246 การทำเล่มและการทำสำเร็จ 247
สารบัญ (ต่อ) เรื่อง หน้า การตกแต่ง 247 การทำเล่ม 248 การเคลือบ 248 การปั๊ม 250 การพับ 252 การตัด 257 การเข้าเล่มและการเย็บ 258 การทำปกหนังสือ 262 บรรณานุกรม 265 ดัชนีค้นเรื่อง 274 ประวัติผู้แต่ง 285
สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 4.1 แสดงจำนวนของจำนวนบิตต่อจำนวนสี 155 4.2 แสดงภาพตัวอักษรของการเลือกใช้ความละเอียดในการพิมพ์ 163 6.1 ขนาดของกระดาษมาตรฐานสากลของระบบ ISO 216 6.2 ชนิดของกระดาษกับความละเอียดของสกรีนที่ใช้ 222
สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1.1 ขั้นตอนการผลิตสิ่งพิมพ์ 4 1.2 การสร้างสรรค์งาน 4 1.3 ตัวอักษรและภาพ 5 1.4 การเตรียมพิมพ์ (Prepress) 5 1.5 ความคิดสร้างสรรค์ 9 1.6 สิ่งพิมพ์ 15 1.7 สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ 16 1.8 สิ่งพิมพ์โดยตรง 17 1.9 สิ่งพิมพ์โดยอ้อม 17 1.10 สิ่งพิมพ์จากระบบการพิมพ์ดิจิทัล 20 1.11 การออกแบบหนังสือ โดยการใช้เทคโนโลยี Augmented Reality 27 1.12 หนังสือนิทานภาพเคลื่อนไหวเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ ความเป็นจริงเสมือน (AR Book : Augmented Reality) 28 1.13 การออกแบบ QR Code 29 1.14 การออกแบบโปสเตอร์ โดยใช้AR Marker ฝังลงในภาพ 29 1.15 การทำสื่อสำหรับสอนคนตาบอด โดยการอัดเสียงบรรยายลงใน QR Code 30 2.1 มุมองศาของเม็ดสกรีน AM (Amplitude Modulation) 36 2.2 การเกิดลายเสือของเม็ดสกรีนแบบ AM (Amplitude Modulation) 36 2.3 เม็ดสกรีนแบบ FM (Frequency Modulation) 37 2.4 การใช้จุดในการออกแบบ 37 2.5 การใช้เส้นในการออกแบบสิ่งพิมพ์ 38 2.6 การรูปร่างและรูปทรงในการออกแบบสิ่งพิมพ์ 38
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 2.7 แสงและเงา (Light & Shadow) 40 2.8 ช่องว่าง (Space) 41 2.9 สี (Color) 42 2.10 พื้นผิว (Texture) 43 2.11 การจัดองค์ประกอบ 44 2.12 ความสมดุล 44 2.13 ความสมดุลแบบสมมาตร 45 2.14 ความสมดุลแบบอสมมาตร 45 2.15 ความสมดุลแบบสมมาตร แบบอสมมาตรและแบบรัศมี 46 2.16 เอกภาพ 47 2.17 เอกภาพทางความคิด 48 2.18 เอกภาพทางการมองเห็น 48 2.19 การเน้นจุดความสนใจ 49 2.20 การเน้น 51 2.21 ความขัดแย้งจากขนาด 51 2.22 ความขัดแย้งจากรูปร่าง 52 2.23 ความขัดแย้งจากความเข้มหรือน้ำหนัก 52 2.24 สัดส่วนทอง 53 2.25 การกำหนดสัดส่วนทองของหน้าสิ่งพิมพ์ 54 2.26 จังหวะการจัดวาง 55 2.27 ความเรียบง่าย 55
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 2.28 ทิศทาง 56 2.29 การแบ่งกริด 57 2.30 ตารางกริด 59 2.31 การแบ่งหน้าสิ่งพิมพ์แบบเมนูสคริปต์ 59 2.32 การแบ่งหน้าสิ่งพิมพ์แบบคอลัมน์กริด 60 2.33 การแบ่งหน้าสิ่งพิมพ์แบบโมดูลาร์กริด 60 2.34 การแบ่งหน้าสิ่งพิมพ์แบบไฮลาซิเคิลกริด 61 2.35 ปกแข็ง 65 2.36 ปกอ่อน 66 2.37 ปกหนังสือ 67 2.38 หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) 71 2.39 การพิมพ์หนังสือพิมพ์ 73 2.40 โปสเตอร์ 75 2.42 แผ่นพับ 77 2.43 กฎสามส่วน 80 2.44 ความสมดุล 81 2.45 เส้นนำสายตาและความรู้สึกเคลื่อนไหว 82 2.46 รูปแบบซ้ำๆ 83 2.47 กำหนดมุมมอง 84 2.48 การเลือกฉากหลัง 85 2.49 มิติความลึก 85 สารบัญภาพ (ต่อ)
ภาพที่ หน้า 2.49 กรอบภาพ 86 2.50 การเน้นภาพโดยถ่ายใกล้ และลดทอนส่วนที่ไม่จำเป็น) 87 2.51 สัดส่วนทองคํา 88 2.52 การผสมผสานและทดลอง 89 3.1 ช่วงความยาวคลื่น 94 3.2 การมองเห็น 94 3.3 สีแบบเติมเต็มหรือแม่มีบวก 96 3.4 สีแบบหักลบหรือแม่สลบ 96 3.5 สีทางการพิมพ์ 98 3.6 การจัดการสี 99 3.7 การการผสมสี 99 3.8 พิกเซล 100 3.9 ระบบสี CMYK 102 3.10 ผลกระทบที่เกิดจากการตัดกันของสี 103 3.11 รูปแบบสี RGB, CMYK, Spot 104 3.12 Pantone color guides 105 3.13 HKS color chart 106 3.14 Tristimulus 107 3.15 Delta E 108 3.16 ภาพเครื่องวัดสี 109 3.17 ค่าแกมม่า 111 3.18 วิธีการปรับสีด้วย การใส่ Tint, Tone, Shade 111
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 3.19 ECI RGB 112 3.20 sRGB 113 3.21 Apple RGB 114 3.22 การทํางานของ ICC profile 116 3.23 องศาสกรีน 126 3.24 แถบความควบคุม (Color Bars) ของ SWOP 126 4.1 การเรียงด้วยตัวพิมพ์ด้วยตัวหล่อจากโลหะและเครื่องเรียงพิมพ์ด้วยแสง และจากคอมพิวเตอร์ 129 4.2 การออกแบบตัวอักษร 134 4.3 ระยะห่างระหว่างตัวอักษร ระยะระหว่างบรรทัด ระหว่างกลุ่มคำ 135 4.4 รูปแบบตัวอักษร 135 4.5 ตัวอักษรแบบโรมัน 136 4.6 ตัวอักษรแบบมีเชิง 136 4.7 ตัวอักษรแบบโมเดิร์น 136 4.8 ตัวอักษรแบบเชิงเหลี่ยม 137 4.9 ตัวอักษรแบบไม่มีเชิง 137 4.10 ตัวอักษรแบบตัวเขียน 138 4.11 ตัวอักษรแบบประดิษฐ์ 138 4.12 ตัวอักษรแบบมีหัว 139 4.13 ตัวอักษรแบบไม่มีหัว 139 4.14 ตัวอักษรแบบตัวเขียน 140 4.15 ตัวอักษรประดิษฐ์ 140
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 4.16 โครงสร้างตัวอักษรภาษาอังกฤษ 142 4.17 โครงสร้างตัวอักษรภาษาไทย 143 4.18 ตัวอย่างการออกแบบตัวอักษร 148 4.19 ภาพเชิงวัตถุ 151 4.20 การเติมสีภาพ 152 4.21 การไล่โทนสี 153 4.22 การจัดวางที่ซ้อนทับด้วยความโปร่งแสง 153 4.23 การวาดภาพในคอมพิวเตอร์ 154 4.24 โหมดสีของ RGB และ CMYK 154 4.25 จำนวนของพิกเซล ในการปรากฏสี 155 4.26 ภาพลายเส้น และการแปลงภาพโทนต่อเนื่องเป็นภาพลายเส้น 156 4.27 ภาพมีโทนหรือภาพโทนสีเทา 156 4.28 ภาพโทนสองสีหรือภาพดูโอโทน 157 4.29 การแปลงสีจากสี RGB เป็นสี CMYK 158 4.30 การตั้งค่าโหมดสีดัชนี 159 4.31 ภาพ RAW และภาพแบบ JPEG 160 4.32 การเพิ่มความละเอียดของภาพ 160 4.33 การเพิ่มความละเอียดของภาพ 161 4.34 AM Screening FM : Frequency Modulated Screening Hybrid Halftone Screening 162 4.35 รูปแบบของไฟล์ข้อมูล 164
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 4.36 จุดของภาพที่เกิดจากการพิมพ์ 167 4.37 ภาพพิกเซล 167 4.38 สี CMYK และสี RGB 167 4.39 การเกิดภาพสีทางการพิมพ์ 168 4.40 ภาพสี RGB 169 4.41 ภาพตัวอักษร 169 4.42 ภาพแบบอักษร 170 4.43 ภาพออกแบบอักษร 171 4.44 ตัวอักษรจากการจากการวิจัยของ Bryan Reimer, Bruce Mehler, Joseph F, Coughlin, 2012 171 5.1 กระบวนเตรียมการพิมพ์ 175 5.2 การจัดวางหน้าสิ่งพิมพ์ 176 5.3 การจัดวางหน้าสิ่งพิมพ์ 177 5.4 เครื่องหมายตรวจพิสูจน์อักษร 188 5.5 มาตรฐานสีแบบ SWOP, Eurostandard 193 5.6 การปรับค่าสมดุลสีเทา 193 5.7 UCR and Maximum Ink Coverage ในการออกแบบการกำหนดค่าสี 194 5.8 การทํา GCR 195 5.9 Dot Gain 196 5.10 Sharpen the image 196 5.11 Knocking Out, Trapping, and Overprinting 197 5.12 Printed no Overprint and Bad registration 197
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 5.13 Overprints vs. Knockouts 198 5.14 การปรู๊ฟบนหน้าจอ 199 5.15 การปรู๊ฟด้วยเครื่องพริ้นเลเซอร์ 200 5.16 การตรวจปรู๊ฟด้วยฟิล์ม 201 5.17 การปรู๊ฟด้วยเครื่องพิมพ์ 202 5.18 การตรวจปรู๊ฟ ตัวอักษรและสี 203 5.19 ตัวอย่างรูปแบบการจัดวางการออกแบบสิ่งพิมพ์และเว็บไซต์ 205 5.20 ตัวอย่างรูปแบบการจัดวางการออกแบบเว็บไซต์ 206 5.21 ตัวอย่างรูปแบบการจัดวางการออกแบบสิ่งพิมพ์โดยการใช้แอพพลิเคชั่น 207 6.1 เยื่อกระดาษ 213 6.2 การยึดติดของหมึกพิมพ์บนกระดาษเคลือบผิวมีความเรียบ ส่วนกระดาษไม่เคลือบ การยึดติดของหมึกพิมพ์โดยการดูดซึมผ่านทำให้ไม่เรียบและเมื่อแสงตกกระทบ มีการสะท้อนที่กระจาย 214 6.3 ผิวหน้ากระดาษ 214 6.4 ตัวอย่างสีของกระดาษ 215 6.5 กระดาษมาตรฐาน “ชุด A, B, C national Standard Organization 215 6.6 การลงหน้าในการพิมพ์เมื่อนำมาพับ 217 6.7 น้ำหนักของกระดาษ 217 6.8 ความหยาบผิวและความเรียบผิวของกระดาษ 218 6.9 ความหนารวมของกระดาษ 218 6.10 ความทึบแสง กระดาษถ้ามีความทึบแสงน้อยทำให้มองเห็นทะลุผ่านได้มาก 219
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 6.11 ทิศทางตามเกรนและขวางเกรนกระดาษ 220 6.12 ก. ต้นและก้านกุหลาบ ข. ต้นเฮลิโคเนีย ค. ต้นกระถิน 227 6.13 การต้มเยื่อและล้างเยื่อหลังจากการต้ม 228 6.14 การกรองเยื่อและการเอาน้ำออกจากเยื่อเพื่อเก็บเยื่อไว้ใช้ 229 6.15 กระดาษที่ผลิตจากเยื่อต้นกระถิน 229 7.1 การเกิดภาพระบบการพิมพ์แบบพื้นนูน พื้นลึก และพื้นราบ 238 7.2 ระบบการเกิดภาพ Xerographic 239 7.3 เครื่องพิมพ์พ่นหมึก 241 7.4 การพิมพ์พ่นหมึก 241 7.5 กระบวนการพิมพ์ระเหิดหรือการพิมพ์การถ่ายเทความร้อน 242 7.6 การเกิดภาพ การพิมพ์แบบการถ่ายโอนความร้อน 243 7.7 การพิมพ์ออฟเซต แม่พิมพ์เป็นพื้นราบแม่พิมพ์เกาะติดบริเวณภาพและส่วนที่ไม่ใช้ภาพ เป็นน้ำยาฟาว์เทน และถ่ายทอดภาพลงโมผ้ายางและถ่ายทอดลงสู่วัสดุที่ใช้พิมพ์โดย การใช้แรงกด 244 7.8 ระบบการพิมพ์กราวัวร์ 245 7.9 การพิมพ์แพด ในกระบวนการพิมพ์มี 6 ขั้นตอน 1.Home 2. Doctor out 3. Pick-up 4. Doctor in 5. Transfer 6. Return 246 7.10 ระบบการพิมพ์เลตเตอร์เพรส 3 แบบ คือ 1. แบบเพลทเทน 2. แบบไซลินเดอร์ 3. แบบโรตารี 247 7.11 การพิมพ์ดรายออฟเซต 248 7.12 การพิมพ์เฟล็กโซกราฟี 249 7.13 ภาพการพิมพ์สกรีน 250
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 7.14 การลามิเนตและเครื่องลามิเนต 253 7.15 การเคลือบเฉพาะจุด 254 7.16 การปั๊มด้วยแผ่นฟอยล์ 255 7.17 เครื่องพิมพ์แผ่นฟอยล์ จากต้นฉบับพริ้นเลเซอร์ 256 7.18 ปั๊มนูน 257 7.19 งานปั้มจม 257 7.20 การพับหนังสือ 8 หน้า 258 7.21 การพับแผ่นพับ พับ 3 258 7.22 การพับครึ่งหรือการพับ 1 ครั้ง 258 7.23 การพับสาม 259 7.24 การพับเป็นตัว Z 259 7.25 การพับแบบหน้าต่างหรือประตู 259 7.26 การพับแบบประตูซ้อน 259 7.27 การพับแบบพับมุมหรือการพับแบบฝรั่งเศส 260 7.28 การทำรอยพับ 260 7.29 รอยพับ 260 7.30 การตัด 261 7.31 ไดคัต 262 7.32 การเจาะรู 262 7.33 เครื่องเย็บลวดและสิ่งพิมพ์ที่เย็บแบบมุงหลังคา 263 7.34 เครื่องไสสันทากาว 264 7.35 สันห่วงหนังสือ 264
สารบัญภาพ (ต่อ) ภาพที่ หน้า 7.36 สมุดเย็บด้วยเชือก 265 7.37 เครื่องเย็บด้วยด้าย 265 7.38 การเย็บด้วยด้าย 265 7.39 การเจาะรูและเย็บด้วยเชือก 266 7.40 เครื่องทำปกแข็ง 267 7.41 โครงสร้างของหนังสือปกแข็ง 267
ปัจจัยในการออกแบบและการผลิตสิ่งพิมพ์ ในการกำหนดหน้าที่และขั้นตอนการผลิตสิ่งพิมพ์ การสร้างแนวคิด (Idea and Concept) - กลยุทธ์ของงาน (Strategic of Work) - การคิดสร้างสรรค์ (Creative) การออกแบบสิ่งพิมพ์ (Creative Production) - ภาพและตัวอักษร (Image and Text) - การจัดประกอบหน้า (Lay Out) การผลิตสิ่งพิมพ์ (Industrial Production) - การเตรียมการพิมพ์ (Pre-press) - การพิมพ์ (Printing) - การทำสำเร็จ (Finishing and Binding) การจัดการสินค้าหรือโลจิสติกส์ (Logistics) - การขนส่ง (Transport) - การกระจายสินค้า (Distribution)
บทที่ 1 การผลิตสิ่งพิมพ์ (Graphic Print Production) การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของ กระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ จากการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการจัดการการดำเนินธุรกิจ และ กระบวนการผลิตขั้นตอนต่างๆ ของการผลิตสิ่งพิมพ์ และยังสามารถเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันผ่านระบบ เครือข่ายของขั้นตอนการผลิตเกือบทุกขั้นตอนในการผลิตสิ่งพิมพ์เช่นการพัฒนาระบบการพิมพ์ดิจิทัลซึ่ง เป็นระบบการพิมพ์ที่ลดขั้นตอนการทำแม่พิมพ์การส่งผลจากการออกแบบลงบนวัสดุที่ใช้พิมพ์และการ พัฒนากล้องถ่ายภาพดิจิทัลสำหรับถ่ายภาพให้เป็นภาพต้นฉบับที่สามารถนำมาใช้ในการออกแบบสิ่งพิมพ์ การจัดเก็บไว้ในรูปไฟล์ข้อมูลที่สามารถนำมาใช้งานได้ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ เพื่อการตกแต่งภาพ การจัดการสีให้เหมาะกับการทำงานและทำการจัดส่งข้อมูลไปทำงานในขั้นตอนต่อไป ในส่วนการพัฒนา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ทำงานสะดวกขึ้นนอกจากการจัดการในการผลิตสิ่งพิมพ์แล้วนั้น ยังสามารถ นำมาใช้เพื่อการดำเนินธุรกิจขั้นตอนต่างๆ เช่น การจัดเก็บข้อมูล การโฆษณา การติดต่อประสานงาน ลูกค้าและอื่นๆ เชื่อมกันโดยผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นับได้ว่าเป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจการพิมพ์ ให้สามารถบริหารจัดการในการผลิตได้รวดเร็วขึ้น เห็นได้ว่าระบบการจัดการธุรกิจและการผลิตถูก เปลี่ยนไปพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล ที่นำมาใช้ในการจัดการธุรกิจ และกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์และรวมไปถึงการผลิตสื่อที่ทำให้เกิดสื่อใหม่ๆ ในรูปของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มากขึ้น และยังมีการประยุกต์สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในรูปของภาพเคลื่อนไหว เสียง ให้อยู่บนสิ่งพิมพ์สามารถดู ผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งพัฒนาเพื่อเพิ่มความน่าสนใจในการใช้สิ่งพิมพ์ได้ ประเภทของสิ่งพิมพ์สามารถแบ่งออกได้ดังนี้ตามการใช้ประโยชน์ ตามปรากฏในการถ่ายทอด การใช้งาน และตามลักษณะการใช้งานของสิ่งพิมพ์ การผลิตสิ่งพิมพ์มีความเกี่ยวเนื่องกันตลอดทั้ง กระบวนระหว่างผู้ปฏิบัติงานในหน่วยต่างๆ ของกระบวนการผลิต จึงเห็นได้ว่าบทบาทหน้าที่ของนัก ออกแบบสิ่งพิมพ์ไม่ใช่เพียงผู้ออกแบบ แต่อาจต้องทำหน้าที่ในการส่งผลงานออกไปทำการพิมพ์ด้วย เครื่องพิมพ์ดิจิทัล นักออกแบบจึงควรต้องมีความรู้และความเข้าใจในกระบวนการผลิต เพื่อการ ประสานงานกับลูกค้าและหน่วยงานการผลิตให้เกิดความเข้าใจที่ดีในการออกแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามปัจจุบันการผลิตสิ่งพิมพ์ได้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้เพื่อการจัดการและ การดำเนินงานการผลิตสิ่งพิมพ์ ตั้งแต่ขั้นตอนงานเตรียมการพิมพ์จนถึงขั้นตอนงานหลังพิมพ์ เพื่อการผลิต ให้ได้สิ่งพิมพ์ตามต้องการและทันต่อการใช้งาน ดังนั้นผู้ประกอบการและผู้ปฏิบัติงานควรมีความรู้ ความ เข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีให้สามารถนำไปใช้ได้ประโยชน์ได้อย่าง คุ้มค่าและสามารถแข่งขันในการดำเนินธุรกิจได้หน่วยงานควรมีการปรับหน้าที่ในการปฎิบัติให้ชัดเจนตาม การปรับเปลี่ยนที่จะสามารถให้เข้าใจบทบาทของแต่ละหน้าที่ในงานเพื่อส่งผลต่อการปฏิบัติไม่ให้เกิด ความซ้ำซ้อนของหน้าที่แต่ละคนในหน่วยงาน ซึ่งจะทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดความซ้ำซ้อนลงได้
ปัจจัยของกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ มีดังนี้ คือ ภาพที่ 1.1 ขั้นตอนการผลิตสิ่งพิมพ์ 1. การสร้างแนวคิด (Idea and Concept) ประกอบด้วย - กลยุทธ์ของงาน (Strategic Work) - การคิดสร้างสรรค์งาน (Creative Work) ภาพที่ 1.2 การสร้างสรรค์งาน 2. การออกแบบสิ่งพิมพ์ (Creative Print Production) ประกอบด้วย - ภาพและตัวอักษร (Image and Text) - การจัดประกอบหน้า (Lay Out)
ภาพที่ 1.3 ตัวอักษรและภาพ 3. การผลิตสิ่งพิมพ์ (Print Production) ประกอบด้วย - การเตรียมการพิมพ์ (Pre-Press) - การพิมพ์ (Printing) - การทำสำเร็จและการทำเล่ม (Finishing and Binding) ภาพที่ 1.4 การเตรียมพิมพ์ (Pre-Press) 4. การจัดการสินค้าแบบโลจิสติกส์ (Logistics) ประกอบด้วย - การขนส่ง (Transport) - การกระจายสินค้า (Distribution) การผลิตสิ่งพิมพ์ กระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากการพัฒนาเทคโนโลยีในช่วงเวลามากกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ก่อนการปฏิบัติงานการออกแบบสิ่งพิมพ์การเรียงพิมพ์ส่วนใหญ่จะเป็น การใช้ ตัวพิมพ์หล่อด้วยโลหะ และในส่วนการเขียน การวาดภาพ หรือการใช้ภาพถ่ายที่อัดลงกระดาษอัดภาพ หรือภาพถ่ายด้วยฟิล์มสไลด์ ซึ่งต้องนำมาถ่ายทำเป็นฟิล์มในการทำแม่พิมพ์มีหลายขั้นตอน และมีการใช้ น้ำยาที่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเมื่อได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียงพิมพ์ด้วยแสง แต่ยังคงต้องใช้น้ำยาในการสร้างภาพลงบนกระดาษไวแสง
และนำมาถ่ายเป็นฟิล์มเพื่อทำแบบพิมพ์ซึ่งยังคงมีการใช้น้ำยาสร้างภาพที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ปัจจุบันเป็นยุคของการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เกือบทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ เริ่มจาก ขั้นตอนการออกแบบโดยทำงานในคอมพิวเตอร์ทั้งการเรียงพิมพ์ การสร้างภาพ เพื่อมาทำการออกแบบ การจัดองค์ประกอบหน้า การทำแม่พิมพ์จนถึงขั้นตอนการพิมพ์ที่ใช้ระบบการพิมพ์ดิจิทัล ซึ่งไม่มีการใช้ น้ำยาในกระบวนการผลิตและลดขั้นตอนการผลิตลง และยังมีความสะดวกและง่ายในการผลิตงานพิมพ์ งานแบบพิมพ์สี จากการปรับเปลี่ยนของธุรกิจการผลิตสิ่งพิมพ์มาเป็นระบบดิจิทัล ทำให้หน่วยงานองค์กรต่างๆ ที่เคยดำเนินการผลิตสิ่งพิมพ์ใช้ภายในหน่วยงานด้วยการพิมพ์ออฟเซตขนาดเล็กได้มี การ ปรับเปลี่ยนมาผลิตงานด้วยเครื่องพิมพ์ดิจิทัล โดยการทำงานจากการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์และส่งผล ออกเป็นสิ่งพิมพ์บนวัสดุใช้พิมพ์ได้โดยตรงมีความสะดวก ความรวดเร็ว และลดกระบวนการทำงานของ ขั้นตอนการทำแม่พิมพ์และได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้งานระบบการพิมพ์ดิจิทัลมากขึ้นในการผลิตสิ่งพิมพ์ ซึ่งเครื่องพิมพ์ดิจิทัลนั้นมีให้เลือกใช้ได้หลายขนาด หลายชนิด หลายราคา ดังนั้นควรเลือกใช้ให้เหมาะกับ จำนวนการผลิตสิ่งพิมพ์ของหน่วยงาน ในส่วนของการพิมพ์ป้ายขนาดใหญ่ซึ่งเดิมจะใช้ระบบการพิมพ์ สกรีนได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบการพิมพ์พ่นหมึกแทนเช่นกัน ซึ่งมีความสะดวกในการผลิตและ สามารถผลิตได้ตามหน้ากว้างตามขนาดของเครื่องและความยาวที่ตามความต้องการ การผลิตงานสิ่งพิมพ์ การทำงานของงานผลิตสิ่งพิมพ์ในแต่ละครั้ง ซึ่งมีปัจจัยต่างๆ ของ กระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ ดังนี้ คือ การสร้างแนวคิด (Idea and Concept) ขั้นตอนการสร้างแนวคิดในการกำหนดแนวคิด ซึ่งมีปัจจัยสำคัญต่างๆ คือ ปัจจัยด้านวัตถุประสงค์ ปัจจัยด้านการใช้งานสิ่งพิมพ์ ปัจจัยด้านการผลิต ปัจจัยด้านงบประมาณและปัจจัยด้านการตลาด โดยมี รายละเอียด ดังนี้วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อการติดต่อสื่อสารหรือการให้ข้อมูลข่าวสาร และวัตถุประสงค์ รองเพื่อการประชาสัมพันธ์ การสร้างภาพลักษณ์ และปัจจัยการใช้งานสิ่งพิมพ์ คือ ลักษณะการอ่าน ระยะเวลาของการใช้ สภาพแวดล้อม วิธีการใช้ ในส่วนปัจจัยกลุ่มเป้าหมายมีลักษณะอย่างไรบ้างที่ควร ต้องนำมาพิจารณาร่วม เช่น เพศ วัย อาชีพ เชื้อชาติ และความต้องการเฉพาะด้านที่มีความต้องการใช้ สิ่งพิมพ์อย่างไร การออกแบบควรต้องออกแบบให้สอดคล้องกับปัจจัยที่กล่าวมา และต้องคำนึงถึงปัจจัย ด้านการผลิต คือ วัสดุ อุปกรณ์และเทคโนโลยีการพิมพ์เป็นปัจจัยต้องนำมาพิจารณาร่วมเช่นกัน เช่น การ เลือกใช้วัสดุและเทคโนโลยีการพิมพ์มีผลต่อปัจจัยด้านงบประมาณการผลิตสิ่งพิมพ์โดยตรง และยังมีผล กับคุณภาพของสิ่งพิมพ์ อีกทั้งปัจจัยการตลาดต้องคำนึงแนวโน้มของสังคมและความนิยม แนวโน้มของ เทคโนโลยี สภาพเศรษฐกิจ กฎหมายและจริยธรรมและการแข่งขัน นับได้ว่าปัจจัยที่จะมีผลต่อการ ออกแบบเพื่อนำมากำหนดแนวคิดเพื่อกำหนดแนวทางการออกแบบสิ่งพิมพ์ให้มีความเหมาะสมกับการใช้ งาน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน
การสร้างแนวคิดมีความสำคัญและมีความต่อเนื่องกับกระบวนการผลิตขั้นตอนอื่นๆ ของ การผลิตสิ่งพิมพ์ การกำหนดส่วนนี้จึงมีความสำคัญต่อการผลิตให้ได้สิ่งพิมพ์ให้มีความสวยงาม และตรงกับ วัตถุประสงค์ของการใช้งานสิ่งพิมพ์ เนื่องจากการใช้สิ่งพิมพ์อาจไม่ได้มุ่งหวังแค่เพื่อการอ่าน แต่ในเรื่อง ของความสวยงาม การสร้างการจดจำที่ดีให้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมสินค้า และยังอาจเสริมสร้างอัต ลักษณ์ของสินค้าผ่านสิ่งพิมพ์ไปยังผู้ใช้หรือกลุ่มเป้าหมายได้เช่นกัน การผลิตสิ่งพิมพ์ต้องมุ่งเน้นตั้งแต่กระบวนการออกแบบที่ให้มีความสวยงาม ความเหมาะสมกับ การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างแนวคิดในการออกแบบสิ่งพิมพ์จึงมีความสำคัญ โดยมี รายละเอียดดังนี้ กลยุทธ์ของงาน (Strategic Work) ขั้นตอนการกำหนดกลยุทธ์กำหนดความชัดเจนของ โครงการรวมถึงเป้าหมายของความสำเร็จ ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกที่ มีผลต่อการผลิตสิ่งพิมพ์ เพื่อใช้วิเคราะห์กำหนดกลยุทธ์ของการทำงาน ออกแบบและการผลิตสิ่งพิมพ์ใน แต่ละงานในแต่ละโครงการให้เป็นไปตรงตามวัตถุประสงค์ จากการสร้างคำถามเพื่อสอบถามผู้ใช้ กลุ่มเป้าหมายและผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยคำถาม อะไร คือ วัตถุประสงค์ของการใช้สิ่งพิมพ์ความ ต้องการของผู้ใช้หรือกลุ่มเป้าหมายคือใครมีแนวคิดต่อการใช้งานอย่างไร ใช้เพื่ออะไร และมีความจำเป็น เฉพาะอย่างไรต่อการใช้สิ่งพิมพ์ หรือการนำไปใช้ประกอบกับสื่ออื่นอย่างไรหรือไม่ และสิ่งพิมพ์ควรมี ลักษณะเป็นอย่างไร ขั้นตอนนี้หากจัดตั้งเป็นหน่วยงานเปรียบเสมือนที่ปรึกษาของโครงการในการทำ หน้าที่จัดหาข้อมูลนำมาเป็นตัวกำหนดงานออกแบบสิ่งพิมพ์ให้มีผลสัมฤทธิ์ของงานการออกแบบสิ่งพิมพ์ และแนวทางของข้อคำถามสามารถประยุกต์ใช้ข้อคำถามแบบ 5W+2H โดยมีรายละเอียด ดังนี้ Why ทำไม คือ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมีอะไร อย่างไร Who ใคร คือ ผู้รับผิดชอบ ใคร คือ กลุ่มผู้บริโภค Where ที่ไหน คือ สถานที่จัดจำหน่ายและยังรวมถึงสถานที่ตั้งของการดำเนินการธุรกิจและใน ส่วนการผลิตสิ่งพิมพ์ When เมื่อไร คือ เวลาของการผลิต และรวมถึงของอายุของการใช้สิ่งพิมพ์มาใช้ใน การคำนวณเวลาของการผลิต What ทำอะไร คือ สิ่งต้องรู้ว่า ทำอะไร แต่ละคนทำอะไรบ้าง เป็นส่วนของการนำมาเพื่อวาง แผนการปฏิบัติงานตามขั้นตอนต่างๆ How อย่างไร คือ ปัจจัยเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์และเทคโนโลยี จะใช้วัสดุอะไรและเทคโนโลยีแบบ ใด อย่างไร จะต้องมีการจัดหาเทคโนโลยีใหม่หรือต้องมีการส่งไปผลิตที่อื่น เนื่องจากไม่สามารถผลิตเองได้ How Much ราคาเท่าไร คือ ต้องคำนึงว่าต้นทุนการผลิตสามารถ มีต้นทุนไม่สูงและสามารถ แข่งขันในตลาดได้ คำตอบที่ได้รับจากคำถาม 5W + 2H นี้ จะนำไปสู่การวางแผนการออกแบบสิ่งพิมพ์ได้ ได้แก่ การ เลือกความเหมาะสมของรูปแบบจากคำถามทำไม คำถามใครเพื่อกำหนดการใช้งานของกลุ่มผู้ใช้ในการ ตัดสินใจ เช่น กลุ่มวัยรุ่นเป็นวัยมีความสนุกสนานการออกแบบควรเลือกใช้เส้น สี ลวดลาย ต้องสร้าง ความตื่นเต้น เร้าใจ ให้ตรงกับความต้องการหรือรสนิยมของแต่ละกลุ่มหรืออาชีพ ในส่วนของสถานที่ต้อง
ให้ทราบถึงที่จะต้องจัดส่งไปนั้นเป็นสถานที่อย่างจะได้เลือกใช้วัสดุที่ทนต่อสภาพแวดล้อมของสถานที่นั้นๆ เวลาในการผลิตสิ่งพิมพ์แต่ละประเภทมีเวลาและอายุของสิ่งพิมพ์ที่แตกต่าง การออกแบบต้องคำนึงถึงสิ่ง นี้จะมีผลต่อการเลือกใช้วัสดุว่ามีอย่างไรต่อการเลือกใช้ระบบการพิมพ์ วัสดุและระบบการพิมพ์จะเป็น ส่วนหนึ่งของการกำหนดราคาของสิ่งพิมพ์ การคิดสร้างสรรค์งาน (Creative Work) การกำหนดแนวทางในการออกแบบโดยใช้หลักการ แนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการออกแบบมาประยุกต์ใช้กับงานออกแบบสิ่งพิมพ์ และการเลือกวิธีการผลิต สิ่งพิมพ์ให้เหมาะกับจำนวนและสอดคล้องกับตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานสิ่งพิมพ์ เช่น การเลือก ตัวอักษร ภาพประกอบ จำนวนสีที่พิมพ์ ขนาดของสิ่งพิมพ์ ลักษณะของสิ่งพิมพ์เสร็จแล้ว มีลักษณะแบบ ไหน ต้องพิมพ์ด้วยระบบอะไรใช้วัสดุอะไร ตรงตามวัตถุประสงค์และมีคุณภาพเพียงพอต่อ การใช้ งานและส่วนของราคาที่เหมาะสม ภาพที่ 1.5 ความคิดสร้างสรรค์ การวางแผนเพื่อการกำหนดรูปแบบของการออกแบบ สิ่งพิมพ์ทั่วไป ได้แก่ หนังสือ นิตยสาร วารสาร แผ่นพับ โปสเตอร์ ป้าย แต่ละประเภทจะมีรูปแบบในการผลิตออกมาคล้ายๆ กันในการกำหนด รูปแบบสามารถสร้างความแตกต่างในรูปแบบได้ เช่น การทำแผ่นพับเป็นรูปแบบบ้านของแผ่นพับโฆษณา ขายบ้าน แต่การกำหนดรูปแบบสิ่งพิมพ์ต้องคำนึงวัตถุประสงค์ของการใช้งานของกลุ่มผู้ใช้ตามความ จำเป็นต่อรูปแบบของสิ่งพิมพ์ที่แตกต่างกันจากการสร้างจุดเด่นและความแตกต่างของสิ่งพิมพ์ชนิด เดียวกันในตลาด การกำหนดแนวคิดเพื่อการออกแบบ ประกอบด้วยขั้นตอนการศึกษาข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในการ ออกแบบ โดยการนำข้อมูลมาพิจารณาร่วมกันระหว่างนักออกแบบกลุ่มเป้าหมายหรือเจ้าของงานให้ได้ ข้อกำหนดเป็นสรุปย่อที่สำคัญเพื่อใช้ในการกำหนดการออกแบบ และนำไปทำแบบร่างให้มีรายละเอียด ตรงตามความต้องการของลูกค้าจากข้อมูลที่ได้นำมาพิจารณาในการออกแบบ ซึ่งเป็นขั้นตอนการกำหนด แนวคิด ออกมาเป็นแบบร่าง และนำมาออกแบบ
การออกแบบสิ่งพิมพ์ (Creative Print Production) สิ่งพิมพ์เป็นสื่อสำหรับการสื่อสารด้วยการมองเห็น การออกแบบสิ่งพิมพ์ควรคำนึงถึง การ มองเห็นต่อการใช้งาน ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการออกแบบสิ่งพิมพ์ ขั้นตอนการนำแนวคิดและกล ยุทธ์มาจัดทำแผนการดำเนินงานการผลิตสิ่งพิมพ์ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยการใช้ องค์ประกอบทางศิลปะมาใช้ในการกำหนดแนวทางของการออกแบบ การเลือกรูปแบบและขนาด ตัวอักษรให้เหมาะกับกลุ่มผู้บริโภคที่ได้มาจากการศึกษาข้อมูล การเลือกใช้ภาพประกอบซึ่งต้องสามารถ สื่อความหมายของเนื้อหา หรือมีความสัมพันธ์กับเนื้อหา การเลือกใช้สี การจัดวาง การกำหนดพื้นที่การ จัดวาง การเลือกใช้วัสดุและอื่นๆ นำมาประกอบต้องให้เกิดความงามทางสุนทรียภาพ และให้เกิด ประโยชน์การใช้สอยตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับการออกแบบ ดังนี้ การออกแบบภาพและตัวอักษร (Image and Text) ในส่วนของภาพถ่ายที่ใช้ในการออกแบบ สิ่งพิมพ์สามารถทำการออกแบบโดยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สร้างภาพและตัวอักษรหรือจากการใช้ ภาพจากกล้องถ่ายภาพดิจิทัลและการใช้ภาพที่มีอยู่ในอินเทอรเน็ตซึ่งเป็นภาพดิจิทัล การใช้งานไม่ต้อง ผ่านกระบวนการนำเข้าภาพด้วยเครื่องกราด แต่หากเป็นภาพถ่ายที่อัดลงบนกระดาษอัดภาพต้องนำมา ผ่านกระบวนการกราดภาพและทำการแปลงเป็นไฟล์ข้อมูลให้เป็นไฟล์ภาพดิจิทัล การแก้ไขภาพดิจิทัล สามารถแก้ไขได้โดยการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการแก้ไขภาพตามความต้องการ การใช้ภาพดิจิทัลส่งผล ให้การใช้กล้องถ่ายภาพด้วยฟิล์มเลือนหายไปจากกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ เนื่องจากการสร้างภาพ การ ตกแต่งภาพ การนำเข้าภาพ เพื่อใช้ออกแบบและจัดหน้าสิ่งพิมพ์สามารถทำได้บนคอมพิวเตอร์ซึ่งมีความ สะดวกต่อการทำงานเป็นอย่างมาก การกำหนดคุณภาพและความละเอียดของภาพในการผลิตสิ่งพิมพ์ ต้องทำตามความต้องการของ ลูกค้าและความจำเป็นหรือความต้องการของการผลิตสิ่งพิมพ์ แต่มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่สำคัญต่อการ กำหนดความละเอียดของภาพในการผลิตสิ่งพิมพ์คือความสามารถของเครื่องพิมพ์ที่ใช้ในการพิมพ์และ คุณภาพของวัสดุพิมพ์ที่ใช้พิมพ์ดังนั้นการกำหนดว่าเป็นกระดาษชนิดใดหรือวัสดุประเภทอะไร และระบบ การพิมพ์ที่ใช้พิมพ์ควรต้องทราบก่อนการออกแบบที่มีผลต่อการกำหนดขนาดตัวอักษร ความละเอียดของ ภาพให้มีความเหมาะสมกับปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น และส่วนของตัวอักษรจัดทำบนเครื่อง คอมพิวเตอร์ซึ่งมีรูปแบบตัวอักษรหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้และสามารถกำหนดขนาดได้ตาม ต้องการ การกำหนดขนาดของตัวอักษรต้องคำนึงถึงการใช้งานที่มีผลต่อผู้ใช้สิ่งพิมพ์และพื้นที่ในการพิมพ์ การออกแบบสิ่งพิมพ์ต้องยึดหลักการออกแบบให้มีความสวยงาม และสื่อความหมายให้ตรงกับ วัตถุประสงค์ของสิ่งพิมพ์ การเลือกใช้ภาพที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ตมาใช้นักออกแบบต้องมีความรู้ ด้าน ลิขสิทธิ์ ด้านความละเอียดของภาพ การตกแต่งภาพ ก่อนนำมาใช้งานผลิตสิ่งพิมพ์หรืองานอื่นๆ
เช่นเดียวกับการใช้ตัวอักษร ซึ่งหากเป็นแบบที่มีลิขสิทธิ์และแบบไม่มีลิขสิทธิ์สามารถนำมาใช้ได้ฟรี หากมี ลิขสิทธิ์ต้องมีการซื้อมาก่อนนำมาใช้งานซึ่งต้องเป็นตามข้อตกลงของเจ้าของลิขสิทธิ์นั้นๆ การจัดวางหน้าสิ่งพิมพ์ (Lay Out) ขั้นตอนการจัดวางหน้าสิ่งพิมพ์ส่วนใหญ่เป็นขั้นตอนของ สิ่งพิมพ์ที่เป็นรูปเล่มหรือเป็นสิ่งพิมพ์มีจำนวนมากกว่าหนึ่งหน้า การจัดวางหน้าสิ่งพิมพ์โดยการใช้ โปรแกรมจัดวางหน้าลงตามแบบที่กำหนด ตามขนาดแม่พิมพ์และขนาดของวัสดุที่ใช้พิมพ์ การทำงานจัด วางหน้าสิ่งพิมพ์คือขั้นตอนการนำงานที่ทำการออกแบบสิ่งพิมพ์ของแต่ละหน้าโดยทำทำการออกแบบไว้ เรียบร้อยแล้ว นำมาทำการจัดวางลงในหน้าของกระดาษตามจำนวนของหน้าสิ่งพิมพ์ เมื่อทำการจัดวาง ครบต้องทำการปรู๊ฟก่อนนำไปทำการพิมพ์จริง ซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจความถูกต้องของตัวอักษร ภาพ และที่สำคัญ คือ การตรวจปรู๊ฟเกี่ยวกับสี ความอิ่มตัวของสี ค่าความดำของภาพ และการเรียงลำดับหน้า การเว้นระยะและรายละเอียดอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับความถูกต้องของงานพิมพ์ก่อนทำการพิมพ์ เพื่อ ป้องกันความเสียหาย การตรวจปรู๊ฟจึงต้องมีความละเอียดและรอบคอบก่อนนำไปทำแม่พิมพ์หรือทำการ พิมพ์ด้วยการส่งผลออกด้วยเครื่องพิมพ์ดิจิทัลให้ได้งานตามแบบที่กำหนด เพื่อนำไปทำการพิมพ์และเมื่อ ทำการพิมพ์แล้วเสร็จ ขั้นตอนต่อไปคือการนำไปทำการพับหรือทำสำเร็จหรือการทำเล่มตามต้นฉบับได้ กำหนดไว้ แต่การจัดวางสำหรับสิ่งพิมพ์ประเภทฉลากหรือบรรจุภัณฑ์ซึ่งจะจัดวางลงในพื้นที่ หน้ากระดาษที่ใช้พิมพ์หนึ่งแผ่นพิมพ์และเมื่อพิมพ์แล้วจะต้องนำมาตัดให้เป็นรูปแบบและขนาดตามที่ กำหนด การผลิตสิ่งพิมพ์ (Print Production) การแบ่งสิ่งพิมพ์โดยแบ่งจากวิธีการใช้งานที่ใช้ในการอ่านซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้ 1. การผลิตสิ่งพิมพ์ที่พิมพ์ลงบนวัสดุ เป็นกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์ที่ผ่านระบบการพิมพ์ ถ่ายทอด ลงสู่วัสดุที่ใช้พิมพ์ชนิดต่างๆ ได้แก่ กระดาษ พลาสติก ผ้า ไม้ โลหะ และวัสดุอื่นๆ โดยใช้แรงกดในการ ถ่ายทอดภาพ หรือไม่ใช้แรงกดถ่ายโอนภาพขึ้นอยู่เทคโนโลยีที่ใช้ในการพิมพ์ 2. การผลิตสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นสร้างขึ้นด้วยโปรแกรม คอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การใช้งานอ่านผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้แบบ ออฟไลน์และออนไลน์และสามารถสร้างให้มีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับผู้ใช้ได้ สามารถแทรกภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหว แบบทดสอบ และสามารถเชื่อมโยงจุดต่างๆ บนหนังสือไปยังเว็บไซต์ต่างๆ และสามารถ สั่งพิมพ์ออกมาใช้ได้ นอกจากนั้นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถปรับปรุงให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา ซึ่ง คุณสมบัติเหล่านี้จะไม่มีในหนังสือธรรมดาทั่วไปในการปรับปรุงต้องทำการพิมพ์ขึ้นใหม่ ขั้นตอนการผลิตสิ่งพิมพ์แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้ การเตรียมการพิมพ์ (Pre-Press) เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการพิมพ์โดย การนำงานด้าน การออกแบบมาดำเนินการต่อในขั้นตอนเตรียมการพิมพ์ การจัดการวางหน้าสิ่งพิมพ์ ตามต้นแบบ เรียกว่า ดัมมี่ (Dummy) คือ แบบร่างต้นฉบับได้มีการกำหนดไว้และทำการตรวจความถูกต้องด้วยการตรวจปรู๊ฟ มีวิธีการตรวจปรู๊ฟสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมหรืออุปกรณ์ที่มีใช้อยู่ในโรงพิมพ์ การออกแบบ
สิ่งพิมพ์และการจัดวางหน้าสิ่งพิมพ์การทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้โปรแกรมการออกแบบ การจัด วางหน้าสิ่งพิมพ์และส่งผลออกสามารถส่งผลออกเป็นแผ่นฟิล์ม แม่พิมพ์หรือเป็นสิ่งพิมพ์ การเตรียมการพิมพ์สำหรับการผลิตหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ในขั้นตอนแรกเป็นขั้นตอน การออกแบบโดยโปรแกรมการออกแบบที่เป็นโปรแกรมเดียวกับการออกแบบสิ่งพิมพ์ทั่วไป และนำเข้ามา จัดรูปแบบหนังสือด้วยโปรแกรมในการทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผลิตออกมาในรูปแบบของหนังสือ อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Book) หรือเรียกกันทั่วไปว่า อีบุ๊ค (E-book) การทำงานบนเครื่อง คอมพิวเตอร์เริ่มจากการออกแบบและการจัดการวางรูปและการแสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ ที่ผู้อ่านสามารถอ่านได้ทางจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาอื่นๆ ที่มีจอภาพแสดงผล ซึ่งการกำหนด ลักษณะการใช้งานขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ใช้ในการสร้าง โดยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เมื่อดำเนินการใน กระบวนการผลิตด้วยการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์การออกแบบ จัดวางหน้า จัดเล่ม การส่งไปยังกลุ่มผู้ใช้ โดยการส่งเข้าไว้บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้ามาใช้งานได้โดยการใช้โปรแกรม สำหรับการเปิดอ่าน การพิมพ์ (Printing) การเลือกระบบการพิมพ์ขึ้นอยู่กับความต้องการคุณภาพของงานพิมพ์หรือ ความต้องการพิมพ์ลงวัสดุประเภทใด ระบบการพิมพ์แบ่งโดยการสร้างภาพเป็นแบบใช้แรงกดกับไม่ใช้ แรงกด แบบใช้แรงกด ได้แก่ การพิมพ์พื้นนูน การพิมพ์พื้นราบ การพิมพ์แบบฉลุ (แม่พิมพ์สกรีน) และ แบบไม่ใช้แรงกด ได้แก่ การพิมพ์ระบบดิจิทัล การเลือกใช้ระบบการพิมพ์ต้องสอดคล้องกับการออกแบบ และต้องคำนึงถึงผลของงานพิมพ์ที่มีต่อการเลือกผิวหน้าของกระดาษ หรือวัสดุที่ใช้พิมพ์กับระบบการ พิมพ์ที่ใช้เนื่องจากระบบการพิมพ์แต่ละระบบมีคุณสมบัติของการถ่ายทอดหมึกพิมพ์ที่แตกต่างกัน และมี คุณสมบัติในการพิมพ์ลงวัสดุและผิวหน้าวัสดุแตกต่างกัน ดังนั้นในการออกแบบควรต้องทราบถึงว่าใช้วัสดุ ชนิดใดและในการตกแต่งสิ่งพิมพ์มีหลายแบบและหลายชนิด การเลือกใช้การเคลือบผิวหน้าสิ่งพิมพ์ต้องมี ความสัมพันธ์กับวัสดุที่ใช้พิมพ์และระบบการพิมพ์ในการผลิตสิ่งพิมพ์ ระบบการพิมพ์ดิจิทัลหรือระบบการพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นระบบการถ่ายโอนหมึกพิมพ์มีวิธี หลายแบบ และการผลิตงานสิ่งพิมพ์จะมีลักษณะและคุณภาพงานแตกต่างกัน ระบบการพิมพ์ดิจิทัล สามารถเชื่อมโยงหน่วยการผลิตได้ตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมการพิมพ์การพิมพ์และการทำสำเร็จหรือการทำ เล่ม การเลือกระบบการพิมพ์ดิจิทัลนอกจากการเลือกเพื่อคุณภาพของสิ่งพิมพ์และความสามารถความเร็ว ของการผลิตซึ่งนับเป็นปัจจัยที่สำคัญ เนื่องจากระบบการพิมพ์ดิจิทัลสามารถทำการพิมพ์ได้รวดเร็วตาม จำนวนความต้องการ (On Demand) เหมาะกับการพิมพ์จำนวนที่ไม่มากนักและราคาพิมพ์ไม่ได้ลดลง ด้วยจำนวนของการพิมพ์ซึ่งต่างกับระบบการพิมพ์แบบใช้แม่พิมพ์และเมื่อจำนวนพิมพ์มากจะส่งผลให้ ราคาต่อหน่วยถูกลง การทำสำเร็จและการทำเล่ม (Finishing and Binding) เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการผลิต สิ่งพิมพ์ การทำสำเร็จและการทำเล่มมีผลต่อเนื่องมาจากการออกแบบ โดยก่อนการออกแบบต้องรู้และ เข้าใจถึงว่าการทำสำเร็จและการทำเล่มมีขนาดและรูปแบบแบบใด เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้งานสิ่งพิมพ์ เพิ่มความสวยงาม ความโดดเด่น ความทนทาน การเลือกใช้กระดาษที่มีผิวหน้าลักษณะต่างๆ มีส่วนเพิ่ม ความแตกต่างให้กับสิ่งพิมพ์ได้เช่นกัน ในส่วนของการออกแบบ การจัดวางองค์ประกอบของหน้าสิ่งพิมพ์
และเมื่อนำไปทำสำเร็จยังคงการจัดวางองค์ประกอบเช่นเดียวกับตามรูปแบบของการจัดวางหน้า เช่น การ เว้นพื้นที่ว่างระหว่างขอบซ้ายและขวา ล่างและบนตามกำหนดไว้ในขั้นตอนการออกแบบ และในการ ออกแบบสิ่งพิมพ์ต้องทราบข้อมูลของการทำเล่มและการทำสำเร็จ ซึ่งต้องนำมาทำการวางแผนการ ออกแบบสิ่งพิมพ์เพื่อทำให้ทราบถึงลักษณะของการตกแต่งสิ่งพิมพ์ตามลักษณะของผิวหน้าของวัสดุที่ เลือกใช้ที่แตกต่าง นักออกแบบต้องคำนึงถึงผลของการเลือกผิวหน้าของกระดาษในการผลิตสิ่งพิมพ์ที่มีผล ต่อการทำสำเร็จ เช่น การเคลือบ การปั๊ม การพับ การทำเล่ม ที่จะไม่ทำให้เกิดปัญหาในการผลิต การจัดการสินค้าแบบโลจิสติกส์ (Logistics) การขนส่ง (Transportation) ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การขนส่งแบบการขนส่ง (Transportation) เท่านั้น แต่โดยรวมแล้วใน 2 เรื่องมีความสัมพันธ์กันระหว่างการขนส่งกับการกระจาย สินค้า ในรูปแบบของการจัดการสินค้าแบบโลจิสติกส์ (Logistics) การจัดจำหน่ายหรือการกระจายสินค้า (Distribution) ต้องดำเนินการให้ทันเวลา และอาจ ต้องใช้ความรวดเร็วค่อนข้างสูงกับสิ่งพิมพ์บางชนิดที่มีอายุการใช้งานค่อนข้างสั้น เช่น หนังสือพิมพ์ราย วันที่มีอายุเพียงวันเดียวในการใช้งาน ดังนั้นการขนส่งและการจำหน่ายต้องทันกับเวลาการใช้งานของ ผู้บริโภคการพิมพ์ กระบวนการโลจิสติกส์ (Logistics) เป็นกระบวนการที่ครอบคลุมและเกี่ยวข้องกับหลาย ฝ่าย ของการจัดจำหน่ายสินค้าหรือการส่งให้กับผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายโดยตรง และมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ มีต้นทุนของการขนส่งน้อยที่สุด และให้มีประสิทธิภาพสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและลดระยะเวลาใน การขนส่งให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ การจัดการสินค้าแบบโลจิสติกส์คือ ระบบการจัดการการส่งสินค้า ข้อมูล และทรัพยากรอื่นๆ จากจุดต้นทางไปยังจุดบริโภคตามความต้องการของผู้บริโภค โดยการผสมผสานของข้อมูล การขนส่ง การ บริหารวัสดุคงคลัง การจัดการวัตถุดิบ การบรรจุหีบห่อ จากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง โดยใช้ความพยายามใน การจัดการกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ ให้เกิดค่าใช้จ่ายโดยรวมต่ำที่สุดในกระบวนการการขนส่ง และการ จัดการกิจกรรมอื่นๆ ของการจัดการโลจิสติกส์ เช่น การจัดการคลังสินค้า การกระจายสินค้า การจัดการ สินค้าคงคลัง การบรรจุภัณฑ์ การรับส่งข้อมูลและระบบสารสนเทศ เป็นต้น เป้าหมายที่สำคัญของ โลจิสติกส์ คือ ความรวดเร็วในการส่งมอบสินค้า การไหลลื่นของสินค้า การไหลลื่นของข้อมูลข่าวสาร การสร้างมูลค่าเพิ่มในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของตลาด ลดต้นทุนในส่วนการดำเนินการ เกี่ยวกับการดูแลและขนส่งสินค้าที่เพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพของการแข่งขัน
ประเภทของสิ่งพิมพ์ สิ่งพิมพ์หมายถึง วัสดุที่ทำการพิมพ์และปรากฏเป็นภาพและตัวอักษร สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การจัดทำข้อความภาพและ ตัวอักษรในรูปแบบเดียวกับสิ่งพิมพ์แต่ต้องทำการอ่านบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สื่อสิ่งพิมพ์หมายถึง สิ่งพิมพ์ที่ใช้ในการสื่อสารทำความเข้าใจหรือให้ความรู้เกิดจาก กระบวนการ พิมพ์ ได้แก่ แผ่นพับ โปสเตอร์ เอกสารต่างๆ เป็นต้น สื่อดิจิทัลหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์หมายถึง การสื่อสารภาพ เสียง ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในส่งข้อมูลไปยังผู้ใช้ สิ่งพิมพ์กับสื่อสิ่งพิมพ์สิ่งพิมพ์ทั่วไปรวมถึงสื่อสิ่งพิมพ์และสิ่งพิมพ์อื่นๆ เช่น บรรจุภัณฑ์ ฉลาก ธนบัตร การพิมพ์ลงบนวัสดุและมีการนำไปใช้งานตามวัตถุประสงค์ตามลักษณะของการผลิต เช่น การ นำไปเป็นบรรจุภัณฑ์ การนำเป็นสิ่งพิมพ์มีค่า ฯลฯ และเพื่อการอ่านสำหรับสิ่งพิมพ์ทั่วไป แต่สิ่งพิมพ์ อิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อในรูปแบบต่างๆ ที่ส่งผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งการใช้อ่าน เพื่อการสื่อสาร ความบันเทิง ข่าวสารและอื่นๆ ซึ่งมีในรูปแบบของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์เพจ การกำหนดวัตถุประสงค์หลักของการออกแบบสิ่งพิมพ์ เพื่อการสื่อสาร ความรู้ หรือการใช้ ประโยชน์ทางการค้าของธุรกิจ ซึ่งการใช้งานสิ่งพิมพ์ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคเป็นส่วนใหญ่ การออกแบบต้องตระหนักถึงกลุ่มผู้บริโภคสิ่งพิมพ์ ภาพที่ 1.6 สิ่งพิมพ์ การแบ่งประเภทของสื่อสิ่งพิมพ์แบ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้ แบ่งตามการใช้ประโยชน์การจัดแบ่งสิ่งพิมพ์ออกตามลักษณะของการใช้งานตามความสำคัญ และประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ แบ่งออกดังนี้ 1. สิ่งพิมพ์ประเภทให้ความรู้ในลักษณะของหนังสือ (Book) เป็นลักษณะของตำรา แบบเรียน วารสารทางวิชาการ ซึ่งเป็นรูปของหนังสือเป็นสิ่งพิมพ์ที่ประกอบด้วยจำนวนหน้าพิมพ์และนำมาทำการ
เย็บเล่มส่วนของเนื้อหาและมีปกห่อหุ้มเป็นลักษณะของปกแข็งหรือปกอ่อน เช่นหนังสือ สารคดี ตำรา แบบเรียน เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่แสดงเนื้อหาทางวิชาการเพื่อให้ผู้อ่านได้รับความรู้ในเนื้อหานั้นๆ และหนังสือ ประเภทบันเทิงคดีในการนำเสนอเรื่องต่างๆ 2. สิ่งพิมพ์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร เป็นสิ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการสื่อสารข้อมูลการนำเสนอข่าว และเนื้อหาเกี่ยวกับวิชาการเป็นบทความไม่เจาะจงเฉพาะเรื่อง โดยมีรูปแบบต่างๆ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ (Newspaper) เป็นสิ่งพิมพ์เป็นรูปเล่มแต่ไม่มีการเย็บเล่ม เป็นลักษณะของการสอดเข้ารวมกันเรียงลำดับ เลขหน้าก่อนหลังเขาเป็นเล่ม สำหรับจำพวกสิ่งพิมพ์ที่ทำเป็นเล่ม ได้แก่ วารสาร นิตยสาร ซึ่งออกเป็น ประจำรายวันหรือรายสัปดาห์หรือรายปักษ์ 3. สิ่งพิมพ์ที่ใช้ในการโฆษณา เป็นสิ่งพิมพ์ที่ใช้เพื่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์ มีขนาดและรูปแบบ ของสิ่งพิมพ์โฆษณาหลายประเภทแตกต่างกัน ตามความต้องการของลูกค้าและความเหมาะสมของสื่อ สิ่งพิมพ์ที่ปรากฏหรือสอดแทรกในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร และในรูปของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ผลิตเพื่อใช้ โฆษณาโดยตรง ได้แก่ ใบปลิว (Leaflet หรือ Handbill) แผ่นพับ (Folder) โบรชัวร์ (Brochure) โปสเตอร์ (Poster) 4. สิ่งพิมพ์ที่ใช้ในธุรกิจ การดำเนินธุรกิจต้องมีแบบฟอร์มต่างๆ ที่มีความจำเป็นต่อการดำเนิน ธุรกิจโดยตรงหรือส่งเสริมธุรกิจในรูปแบบต่างๆ ได้มีการใช้สิ่งพิมพ์ในลักษณะต่อไปนี้เพื่อการติดต่อ ระหว่างหน่วยงาน ได้แก่ ซองจดหมาย กระดาษ หัวจดหมาย นามบัตรธุรกิจ ป้ายหรือฉลาก แบบฟอร์ม และใบส่งสินค้า กระดาษบันทึกช่วยจำและสมุดฉีก 5. สิ่งพิมพ์เพื่อการบรรจุภัณฑ์ ส่วนนี้รวมถึงฉลากที่ใช้สำหรับติดกับสินค้า บนขวด บนกล่อง เป็น สิ่งพิมพ์ที่ใช้สำหรับบรรจุผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยแต่ละผลิตภัณฑ์มีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับการใช้งานอะไร อย่างไร เช่น เพื่อการขนส่ง เพื่อเป็นบรรจุภัณฑ์ชั้นนอกหรือบรรจุภัณฑ์ชั้นใน การเลือกวัสดุนั้นต้องเลือก จากความเหมาะสมกับการใช้งานกับสินค้าที่บรรจุ การพิมพ์ในการตกแต่งบรรจุภัณฑ์เพื่อแสดงถึง รายละเอียดหรือข้อความที่จำเป็นต่อผลิตภัณฑ์ภายใน และในส่วนของการพิมพ์ยังมีการพิมพ์ลงบน ผลิตภัณฑ์โดยตรง เพื่อแสดงการใช้งานหรือสร้างความสวยงามของผลิตภัณฑ์ 6. สิ่งพิมพ์มีค่า สิ่งพิมพ์ประเภทนี้ การผลิตต้องมีการป้องกันการปลอมแปลง เพื่อเป็นส่วนของที่ มีมูลค่าหรือเพื่อวัตถุประสงค์โดยตรง ได้แก่ ธนบัตร เช็ค แสตมป์ ไพ่ บัตรเครดิต แบ่งตามการปรากฏของการถ่ายทอดการใช้งาน 1. สิ่งพิมพ์ที่ถ่ายทอดลงบนวัสดุด้วยระบบการพิมพ์โดยเป็นกระบวนการทำให้เกิดภาพจาก ถ่ายทอดหมึกพิมพ์ลงบนวัสดุประเภทต่างๆ เช่น กระดาษ พลาสติก โลหะ ไม้ ผ้า หรือวัสดุอื่นๆ ซึ่งเป็น วัสดุที่ใช้ในการพิมพ์หรือการพิมพ์บนวัสดุของผลิตภัณฑ์โดยตรง 2. สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเป็นกระบวนการผลิตสิ่งพิมพ์หรือเอกสารอยู่ในรูปของสื่อที่สามารถ อ่านผ่านอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ในการนำเสนอข้อมูลแบบ หนังสือหรือสิ่งพิมพ์ทั่วไปที่อาจมีเสียงและภาพประกอบเคลื่อนไหวได้
ภาพที่ 1.7 สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ แบ่งตามลักษณะการใช้งานของสิ่งพิมพ์ 1. สิ่งพิมพ์โดยตรง เป็นสื่อในรูปของสิ่งพิมพ์ที่ใช้งานโดยตรง ได้แก่ หนังสือ หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร จุลสาร โบรชัวร์ แผ่นพับ โปสเตอร์ แผ่นปลิว ปฏิทิน ภาพที่ 1.8 สิ่งพิมพ์โดยตรง ที่มา : http://trang.cdd.go.th 2. สิ่งพิมพ์โดยอ้อม เป็นสิ่งพิมพ์ที่นำไปประกอบบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น การพิมพ์ฉลากหรือตรา สัญลักษณ์บนวัสดุที่ใช้พิมพ์แล้วนำไปติดบนผลิตภัณฑ์บนวัสดุที่ใช้ทำผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์และขึ้นรูป เป็นผลิตภัณฑ์หรือเป็นบรรจุภัณฑ์ ภาพที่ 1.9 สิ่งพิมพ์โดยอ้อม ที่มา : http://artd3302-pachinee.blogspot.com/2015/08/blog-post_24.html
การแบ่งสิ่งพิมพ์ลักษณะแบบใดก็ตาม ในการผลิตต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งานกลุ่ม ของผู้บริโภค การออกแบบสิ่งพิมพ์ควรต้องหาข้อมูลที่สามารถนำมากำหนดแนวทางการออกแบบตั้งแต่ การเลือกใช้รูปแบบตัวอักษร ขนาด ภาพประกอบ วัสดุที่ใช้พิมพ์ ระบบการพิมพ์ การทำสำเร็จ สร้างความ การเข้าใจระหว่างกระบวนการผลิต ซึ่งทำให้การทำงานทุกขั้นตอนสามารถประสานหรือมีการส่งต่อที่เกิด ความเข้าใจไปในแนวทางเดียวกัน นับว่าการควบคุมการผลิตที่เกิดจากการเลือกใช้ข้อมูลที่ได้จาก การศึกษามาประกอบการออกแบบสิ่งพิมพ์ และการจัดวางโดยใช้หลักการออกแบบเพื่อความสวยงาม การจัดวางให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่นเดียวกับการเลือกสี การเลือกแบบตัวอักษร และการออกแบบ สิ่งพิมพ์ว่าต้องการสื่อสารสิ่งใดออกมา เช่น การออกแบบโปสเตอร์งานแสดงดนตรีหรือภาพยนตร์ ควร สื่อสารแนวของดนตรีหรือภาพยนตร์นั้นออกมา เช่นเดียวกันกับการออกแบบสิ่งพิมพ์อื่นๆ หากต้องการ สื่อสารในเรื่องใดควรใช้แนวคิดของการสร้างสรรค์การสื่อสารให้ตรงกับความต้องการของการสื่อตาม ลักษณะของผู้รับสาร ซึ่งแตกต่างกับสิ่งพิมพ์ที่ใช้ในธุรกิจการออกแบบนอกจากการใช้ประโยชน์แล้ว ควร ต้องสื่อสารสัญลักษณ์ขององค์กรออกไปด้วย เช่น การพิมพ์เช็คธนาคารเห็นได้ว่าธนาคารจะมีการสร้าง อัตลักษณ์ของธนาคารผ่านสิ่งพิมพ์ไม่เพียงแต่ใช้สิ่งพิมพ์เพียงอย่างเดียว แต่การใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ เพื่อการสร้างการจดจำ การใช้สิ่งพิมพ์เพื่อการสื่อสารสามารถสื่อเข้าถึงกลุ่มได้โดยตรง เช่น การแจกตรง ไปยังกลุ่มเป้าหมายหรือการวางไว้ณ จุดที่กลุ่มเป้าหมายมาใช้บริการ สำหรับสื่อดิจิทัลที่มีหลายรูปแบบ สามารถส่งต่อไปยังกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงเช่นกัน จึงทำให้สื่อดิจิทัลเข้ามาแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์สำหรับการ ใช้เพื่อการสื่อสาร การโฆษณา ซึ่งเห็นได้ว่าสื่อดิจิทัลเข้ามาแทนที่สิ่งพิมพ์ที่ส่งผลให้สิ่งพิมพ์เพื่อการสื่อสาร และความบันเทิงได้มีการปิดตัวลง ได้แก่ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร นับได้ว่าเป็นยุคของสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือ สื่อดิจิทัล ซึ่งมีความแตกต่างกับการพิมพ์ดิจิทัล ซึ่งการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในระบบการพิมพ์และมี การถ่ายทอดหมึกพิมพ์ลงบนวัสดุ แต่สื่อดิจิทัลสื่อในรูปแบบของสื่ออิเล็กทรอนิกส์สื่อสารผ่านระบบ เครือข่ายในรูปสื่อออนไลน์ต่างๆ เช่น เว็บไซต์ (Website) เฟสบุ๊ก (Facebook) การดำเนินธุรกิจการผลิตสิ่งพิมพ์ การดำเนินธุรกิจการพิมพ์ ได้มีการปรับเปลี่ยนไปตามการพัฒนาของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ นำเข้ามาใช้ตั้งแต่กระบวนการวางแผนการผลิต การจัดการทำให้มีผลต่อการจัดการและการดำเนินการ ธุรกิจการพิมพ์ตั้งแต่การรับงาน การคิดราคา การออกแบบ การพิมพ์จนถึงการทำสำเร็จและการทำเล่ม ซึ่งที่ผ่านมาการผลิตสิ่งพิมพ์มีความยุ่งยากของกระบวนการผลิตและระบบการพิมพ์ต่างๆ ได้แก่ การพิมพ์ ออฟเซต การพิมพ์กราวัวร์การพิมพ์เฟล็กโซกราฟี ที่มีขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การเรียงพิมพ์ การทำ แม่พิมพ์แต่เมื่อมีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการออกแบบ การส่งข้อมูลเพื่อการทำแม่พิมพ์ทำให้ขั้นตอนการ เตรียมการพิมพ์ลดความยุ่งยากลงไปอย่างมาก แต่การพิมพ์แบบการใช้แม่พิมพ์ยังคงใช้ในการผลิตสิ่งพิมพ์ เนื่องจากระบบดิจิทัลยังมีข้อจำกัดอยู่บ้างได้แก่ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของสิ่งพิมพ์จำนวนมากต่อการผลิต เมื่อเทียบกับการพิมพ์ที่ใช้แม่พิมพ์การดำเนินการธุรกิจในการคิดราคาสิ่งพิมพ์ต้องคิดราคารวมทุกอย่างที่
เกิดขึ้นที่มีผลต่อราคาต้นทุนของการผลิต แต่การกำหนดราคาต้องให้ได้ราคาของการผลิตสิ่งพิมพ์ที่ สามารถแข่งขันในตลาดได้และคงได้กำไรเพียงพอคุ้มค่ากับการดำเนินธุรกิจ คุณภาพของระบบการพิมพ์เป็นส่วนที่กำหนดราคาของการพิมพ์ระบบการพิมพ์แต่ละระบบมี ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากราคาของวัสดุและกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ได้แก่ ชนิดของหมึกพิมพ์ การ เตรียมการพิมพ์ แม่พิมพ์และความสามารถของการพิมพ์ลงวัสดุที่ใช้พิมพ์ที่แตกต่างกัน เช่น การพิมพ์บน กระดาษ การพิมพ์บนพลาสติก การพิมพ์ลงบนผ้า หรือวัสดุอื่นๆ ดังนั้นส่วนของสำนักพิมพ์หรือผู้ออกแบบ ทำการออกแบบและทำการจัดส่งไปยังโรงพิมพ์ควรต้องมีความรู้ในการเลือกระบบการพิมพ์ที่เหมาะกับ สิ่งพิมพ์ตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เพื่อให้ได้ราคาที่สามารถผลิตได้ไม่เกินความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและ สามารถแข่งขันในตลาดได้ แต่การเลือกใช้ระบบการพิมพ์ก็ต้องคำนึงถึงความต้องการ จำนวน คุณภาพและราคา การลงทุน ในการปรับเปลี่ยนเครื่องพิมพ์จากการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีมาใช้การพิมพ์ระบบดิจิทัลสามารถผลิต สิ่งพิมพ์ได้รวดเร็วขึ้น แต่ในระบบการพิมพ์ดิจิทัลมีค่าใช้จ่ายที่คงที่ตามจำนวนพิมพ์ซึ่งมีความต่างกับ ระบบการพิมพ์ที่ใช้แม่พิมพ์มีค่าคงที่ของแม่พิมพ์ทำให้ราคาสิ่งพิมพ์ผันแปรตามจำนวนพิมพ์ และแม่พิมพ์ บางชนิดยังสามารถเก็บไว้ในการพิมพ์ครั้งต่อไปได้ทำให้ไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนของการทำแม่พิมพ์ใหม่ในการ พิมพ์ครั้งต่อไป ภาพที่ 1.10 สิ่งพิมพ์จากระบบการพิมพ์ดิจิทัล การบริหารจัดการการคิดราคาให้ลูกค้า ลูกค้าเป็นผู้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความต้องการ รูปแบบของสิ่งพิมพ์กับผู้คิดราคา โดยผู้คิดราคาต้องได้ข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อการคิดราคาการผลิต ซึ่งเป็น ปัจจัยหลักของต้นทุนการผลิตสำหรับการรับงานจากลูกค้า หรือเพื่อการตัดสินใจในการผลิตสิ่งพิมพ์ ออกจำหน่ายของบริษัทผู้ผลิตนับได้ว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณาการวางแผนเพื่อดำเนินงาน แต่ละขั้นตอนการผลิตสิ่งพิมพ์ โดยการกำหนดราคาจะมีราคาออกแบบที่รวมถึงราคาการจัดการภาพ การ ตกแต่งภาพและรวมการจัดวางหน้า การออกแบบควรตระหนักถึงความแตกต่างกันอย่างมากของ
รายละเอียดการออกแบบในแต่ละงานตามความต้องการ นับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำความเข้าใจใน รายละเอียดทั้งหมดที่ต้องดำเนินการ ซึ่งจะเป็นส่วนของการคิดราคาทั้งหมดของการผลิต ส่วนการผลิตก็ ต้องมีการคำนวณเผื่อเสียที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งควรพิจารณาว่าภาษีถูกเพิ่มขึ้นในภายหลังและภายใต้ เงื่อนไขที่นำมาใช้คิดราคาหรือไม่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และสรุปปัจจัยทั้งหมดของการคิดราคา ราคาเท่าไหร่เมื่อรวมภาษีแล้ว รวมค่าขนส่งหรือไม่อย่างไร เป็นต้น จำนวนของการพิมพ์สำหรับการพิมพ์ระบบดิจิทัลจำนวนการพิมพ์ไม่มีผลต่อราคาที่ลดลงของ จำนวนของสิ่งพิมพ์เพราะวัสดุที่ใช้ในการผลิตหมึกพิมพ์และวัสดุพิมพ์ที่ใช้เหมือนกันตามจำนวนของการ พิมพ์ซึ่งมีความต่างกับระบบการพิมพ์อื่นๆ ของระบบการพิมพ์ที่ใช้แม่พิมพ์ ได้แก่ การพิมพ์ออฟเซต การ พิมพ์กราวัวร์ การพิมพ์เฟล็กโซกราฟี การผลิตสิ่งพิมพ์ในส่วนของแม่พิมพ์เวลาการเตรียมการพิมพ์ จะเป็น ค่าใช้จ่ายในการผลิตงานในแต่ละครั้งที่เป็นค่าใช้จ่ายรวมของการผลิตสิ่งพิมพ์ทั้งหมดและเมื่อนำมาคิด ราคาต่อหน่วยจะลดลงตามจำนวนงานพิมพ์ การพิมพ์จำนวนมากหรือน้อย ซึ่งต้องเสียเวลาในการ เตรียมการพิมพ์เท่ากันกับการพิมพ์จำนวนมาก และเมื่อพิมพ์เสร็จต้องใช้เวลาในการจัดเก็บเครื่องล้างที่ไม่ ต่างกัน ซึ่งนับเป็นค่าใช้จ่ายในการทำงาน ดังนั้นการคิดราคาจำนวนของการผลิตสิ่งพิมพ์ควรมีการคิดราคา ที่แตกต่างกันไปตามจำนวนพิมพ์ เมื่อพิมพ์จำนวนมากทำให้ต้นทุนส่วนนี้ลดลงไปคือราคาของแม่พิมพ์ จำนวนสีที่ใช้ในการพิมพ์การพิมพ์ไม่ว่าระบบใดการพิมพ์จำนวนสีที่ใช้ในการพิมพ์มีผลต่อราคา ของสิ่งพิมพ์ การออกแบบสิ่งพิมพ์ควรคำนึงถึงความจำเป็นอย่างแท้จริงของการใช้สีในการพิมพ์ที่ทำให้ ราคาของการพิมพ์ถูกลงได้ ภาพที่ใช้ในการพิมพ์การคิดราคาการผลิตสิ่งพิมพ์ในส่วนการคิดราคาจำนวนภาพ คุณภาพของ ภาพ ชนิดของภาพเป็นส่วนของการกำหนดราคาการผลิตสิ่งพิมพ์การคำนวณราคาต้องคำนึงภาพที่ นำมาใช้ต้องดำเนินการในเรื่องใดบ้าง เช่น การตกแต่งภาพ การนำเข้า การปรับค่าสี และอื่นๆ การคิด ราคาส่วนนี้ต้องนำมาคำนวณรวมเพราะการตกแต่งภาพต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และเวลาในการ ตกแต่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับความยากง่ายและจำนวนของภาพ การจัดวางประกอบหน้า ส่วนนี้การนำภาพและตัวอักษรจากการออกแบบมาทำการจัดวาง ประกอบหน้าเพื่อนำไปทำแม่พิมพ์หรือพิมพ์ การคิดราคาตามจำนวนของหน้าสิ่งพิมพ์และความยากง่าย ต่อการจัดวางที่มีผลต่อเนื่องกับการทำสำเร็จและการทำเล่ม การทำแม่พิมพ์ ค่าใช้จ่ายในการทำแม่พิมพ์จะเป็นค่าใช้จ่ายของระบบการพิมพ์ที่ใช้แม่พิมพ์ การ คำนวณต้องทราบถึงจำนวนการพิมพ์มีทั้งหมดเท่าไร จะต้องใช้แม่พิมพ์แบบใดและระบบที่นำมาใช้ทำ แม่พิมพ์ในระบบนั้นว่ามีค่าใช้จ่ายอย่างไร เช่น ค่าแม่พิมพ์ ค่าฟิล์ม และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในขั้นตอนการทำ แม่พิมพ์ การเตรียมการพิมพ์ขั้นตอนนี้มีความแตกต่างในแต่ระบบการพิมพ์การคิดราคาต้องคิดจาก กระบวนการผลิตของแต่ระบบให้ครอบคลุมของการผลิตแต่ละระบบว่ามีอะไร อย่างไร ในส่วนการ เตรียมการพิมพ์
การทำสำเร็จและการทำเล่ม ขั้นตอนนี้ต้องคำนึงถึงว่าสิ่งพิมพ์ที่ผลิตนั้น ต้องมีการทำอะไร และ มีค่าใช้จ่ายหรือการใช้วัสดุส่วนใดบ้างมากำหนดเป็นราคาของงานพิมพ์จากการทำสำเร็จ เช่น การเคลือบ การพับ การเก็บเล่ม การเข้าเล่ม ฯลฯ วัสดุที่ใช้พิมพ์เห็นได้ว่ามีการใช้กระดาษเป็นวัสดุในการพิมพ์เป็นส่วนใหญ่ แต่มีการใช้วัสดุอื่นๆ ในการพิมพ์ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน แต่การพิมพ์บนวัสดุอื่นๆ เป็นผลิตภัณฑ์ ได้แก่ การพิมพ์ ผ้า การพิมพ์แก้ว การพิมพ์โลหะ การพิมพ์บนวัสดุที่หลากหลายและมีความแตกต่างของราคา เนื่องจาก วัสดุที่ใช้และการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์หรือการพิมพ์ลงบนผลิตภัณฑ์ต้องคำนึงถึงรายละเอียดต่างๆ การคิด ราคาส่วนนี้ต้องคิดเผื่อเกินจำนวน แต่ต้องไม่มีการเผื่อที่ส่งผลต่อราคาที่อาจจะสูง ซึ่งต้องคำนึงถึงการ แข่งขันกันทางด้านราคาของการผลิตสิ่งพิมพ์ในตลาด การบรรจุและการขนส่ง การกำหนดราคาอาจถูกกำหนดราคาการขนส่งให้รวมอยู่ด้วย โดย คำนวณจากว่าต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ขนส่งเป็นรูปแบบใด การขนส่งทางใด หากต้องมีค่าใช้จ่ายต้องมี การนำราคามาคำนวณรวมกับราคาของการผลิตสิ่งพิมพ์ ไม่เช่นนั้นทำให้กลายภาระของการจัดส่ง และโรง พิมพ์ส่วนใหญ่มีการบริการจัดส่งในรูปแบบต่างๆ เช่น การส่งทางไปรษณีย์หรือการขนส่ง การคำนวณถึง น้ำหนักของวัสดุที่ใช้พิมพ์เช่น น้ำหนักของกระดาษควรต้องมีการเลือกใช้กระดาษที่มีน้ำหนักน้อยในการ ผลิตที่ส่งผลต่อน้ำหนักรวมของสิ่งพิมพ์ซึ่งน้ำหนักมีผลต่อการขนส่งในรูปแบบต่างๆ ดังนั้นการเลือกใช้ วัสดุที่ใช้พิมพ์มีน้ำหนักเบาทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงได้ การจัดเก็บข้อมูล ปัจจุบันการออกแบบ การจัดทำต้นฉบับทำในรูปแบบของไฟล์ข้อมูล ดิจิทัล สามารถเก็บข้อมูลและภาพไว้เพื่อการใช้ในอนาคต โดยมีการจัดเก็บบนฐานข้อมูลที่มีความปลอดภัยและ สามารถเรียกกลับมาใช้ได้เมื่อต้องการใช้อีก การจัดเก็บไฟล์ข้อมูลดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายไม่มากนักขึ้นอยู่กับ ชนิดของงานและขึ้นอยู่กับวิธีการจัดเก็บ การตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันการผลิตสิ่งพิมพ์ที่สามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือไม่ส่งผลกับผู้ผลิตงานและผู้บริโภคโดยตรง การเลือกวัสดุ หมึกพิมพ์ กระดาษหรือวัสดุอื่นๆ โดยเป็น วัสดุที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่วัสดุดังกล่าวแม้จะมีการผลิตเพิ่มแต่ในส่วนของราคายังแตกต่าง กับวัสดุทั่วไปที่ใช้ในการผลิตสิ่งพิมพ์การคิดราคาหากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มควรนำมาคำนวณเพื่อกำหนดราคา การจัดการเพื่อการให้บริการที่มีคุณภาพ การบริหารจัดการการบริการ เพื่อให้ประสบ ความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจการผลิตสิ่งพิมพ์ การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ประกอบการกับลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของการบริการ การบริการลูกค้าที่ดีต้องมีการพิจารณางานที่มีความรอบคอบในแต่ละราย จากความแตกต่างของงานแต่ละงาน ควรต้องการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนผลิต เนื่องจากการผลิตงาน แต่ละงานมีปัจจัยและความต้องการที่แตกต่าง การให้ความชัดเจนของผลงานที่ลูกค้าควรได้รับ ราคาที่ เหมาะสม และการแสดงความรับผิดต่อผลงานที่ผลิตขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งควรมีการจัดการด้านต่างๆ ดังนี้ 1. การบริการด้วยคุณภาพ การบริการเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการบริการให้กับลูกค้าเกิด ความพึงพอใจที่เกิดขึ้นได้เมื่อผู้ให้บริการต้องศึกษาข้อมูลของลูกค้าอย่างครบถ้วนส่งผลต่อการผลิตที่ได้ คุณภาพเพียงพอต่อวัตถุประสงค์ของการใช้งานสิ่งพิมพ์
2. การจัดส่งและเวลาในการจัดส่ง การกำหนดการรับงานหรือการจัดส่งการบริการมีความจำเป็น ต่อการผลิต เนื่องจากการใช้งานของสิ่งพิมพ์เป็นงานมีเวลาที่แน่นอน เพราะสิ่งพิมพ์มีอายุของการใช้งาน เช่น การ์ดในงานต่างๆ ควรถูกแจกออกไปก่อนที่งานเริ่มขึ้นตามเวลาอันที่เหมาะสม แต่หากจัดส่งไม่ตรง ต่อเวลาที่กำหนดอาจส่งผลเสียได้ 3. ความสามารถในการรับงาน การประมาณความสามารถในการรับงาน ซึ่งต้องสร้างความเข้าใจ ให้กับลูกค้า เนื่องจากการผลิตงานจำนวนน้อยและต้องการความรวดเร็วของผลงาน คุณภาพของผลงาน เกี่ยวข้องกับราคาอย่างไร หรือเรียกว่าหากต้องการงานที่รวดเร็วเพิ่มขึ้นมีผลต่อการผลิตที่ต้องมีส่วนของ การเพิ่มเวลาของการทำงานล่วงเวลาที่อาจเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 4. การทำงานร่วมกัน การผลิตงานสิ่งพิมพ์ผู้รับบริการมีการเข้ามาเพื่อตรวจความถูกต้องของแต่ ละขั้นตอนการผลิตหรือบริษัทของผู้มาใช้บริการ โดยมีพนักงานเพื่อตรวจและติดตามการผลิต เช่น การ ตรวจพิสูจน์อักษร การตรวจดูคุณภาพการพิมพ์ สี ภาพและการทำสำเร็จ ดังนั้นการทำงานร่วมกันต้องให้ ความสำคัญ เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกันของการตรวจคุณภาพแต่ละขั้นตอน ระยะเวลาและสถานที่ในการผลิต ที่ตั้งของสถานที่ในการผลิตมีความสำคัญต่อการได้ลูกค้าหรือ การที่ลูกค้ากลับมาใช้บริการ เนื่องจากการเดินทางมาติดต่อและเส้นทางการบริการ การติดต่อในรูปแบบ อื่นๆ การติดต่อให้มีหลายช่องทางและไม่เพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า การบริการต้องคำนึงถึงในส่วนนี้ การ มาทำงานของพนักงานเองที่มีความสำคัญต่อการเดินทางมาทำงานและกลับไปที่พักย่อมมีค่าใช้จ่าย เนื่องจากการผลิตสิ่งพิมพ์ที่มีเครื่องจักรคงที่ต่อการรับงาน แต่สามารถเพิ่มการผลิตได้ต้องใช้เวลาการ ทำงานเพิ่ม ที่ตั้งจึงเป็นส่วนหนึ่งของการจัดหาวัสดุที่ใช้และความสะดวกของผู้รับบริการและผู้ให้การ บริการ การแสดงตัวอย่างของผลงาน การผลิตสิ่งพิมพ์บริษัทที่ให้บริการควรต้องมีการเก็บผลงานของ ตนเองไว้เพื่อให้ลูกค้าได้ดูเป็นตัวอย่าง เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นถึงงานที่ผลิตที่ผ่านมาสามารถทำให้เข้าใจถึง ผลงานของบริษัทในแต่ละแบบ ซึ่งเป็นส่วนทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจต่อคุณภาพการผลิต มาตรฐานการผลิตและเงื่อนไขการผลิต การกำหนดมาตรฐานของคุณภาพของงาน โดยใช้ มาตรฐานการผลิตมาเป็นตัวควบคุมทำให้งานผลิตไม่มีปัญหาของการรับงาน และการแสดงเงื่อนไขต่อ ลูกค้าก่อนทำการผลิตที่ชัดเจนและสร้างความเข้าใจที่ดี เงื่อนไขและปัจจัยประเด็นต่างๆ ให้มีความ ละเอียดชัดเจน เช่น เรื่องการจ่ายเงิน การตรวจรับงาน การจัดส่ง หรือลิขสิทธิ์ มาตรฐานการจัดการการผลิตและด้านสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการตามมาตรฐาน การจัดการคุณภาพ ISO 9000 สร้างความมั่นใจของการบริหารจัดการ และมาตรฐานด้านการจัดการ สิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14000 เป็นมาตรฐานหรือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการในการผลิตสินค้า เพื่อการส่งออกให้เป็นไปตามมาตรฐานของแต่ละประเทศ และการใช้มาตรฐานต่างๆ ทำให้ลูกค้าเกิดความ มั่นใจต่อคุณภาพงานได้เช่นกัน ความมั่นคงของบริษัท สภาพเศรษฐกิจของบริษัทเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ผู้ใช้บริการมีความ เชื่อถือ อาจจะนำไปใช้กับการดำเนินธุรกิจหรือเพื่อการดำเนินงานต่างๆ ของหน่วยงานหรือองค์กร การ
ประเมินความมั่นคงของบริษัทจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริหารควรมีกลยุทธ์สามารถสร้างความมั่นคง และ สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าต่อความมั่นคงของบริษัท การจัดการดำเนินธุรกิจการผลิตสิ่งพิมพ์กับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการบริหารจัดการ การกำหนดกลยุทธ์การวางแผนการผลิต เป็นสิ่งที่ผู้บริหารของหน่วยงานองค์กรจะต้องใช้ความรู้เพื่อการ บริหารองค์กรและการดำเนินการตามแผนต่างๆ ในการกำหนดแผนงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับ กระบวนการผลิต การรับงานพิมพ์ตามจำนวนและเวลาของการผลิต ที่จะต้องสามารถนำไปวางแผนการ บริหารการใช้อุปกรณ์เครื่องจักร การจัดเตรียมวัสดุในการผลิตอย่างคุ้มค่าและสามารถรองรับการผลิตได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ตามความต้องการของลูกค้า นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำด้วยความรอบคอบ เนื่องจาก เป็นงานที่ต้องสร้างความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ ต้องมีการประสานงานกับหลายๆ ฝ่าย ให้เข้าใจงาน ตรงกัน โดยการใช้วิธีการสื่อสารที่ดีและมีประสิทธิภาพ และเลือกใช้ช่องทางที่มีความรวดเร็วและประหยัด การทำหน้าที่การวางแผนการผลิตควรต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับหน่วยงานการผลิตต่างๆ และลูกค้า หาก มีเหตุการณ์เกิดปัญหาขึ้นจากการผลิตงานต้องสามารถเข้าไปแก้ไขได้และสามารถตรวจสอบความ ผิดพลาดที่เกิดขึ้นว่ามาจากส่วนไหนของขั้นตอนการผลิต และสามารถเข้าไปแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เป็น ที่พอใจของลูกค้าหรือเป็นไปตามมาตรฐานการผลิต ซึ่งต้องทันกับเวลาความต้องการของการรับงานของ ลูกค้า ดังนั้นการสื่อสารภายในองค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญของการบริหารจัดการที่ดีเพื่อให้ถึงเป้าหมาย ความสำเร็จของการผลิตให้ได้ผลงานตามคุณภาพที่วางไว้ การบริหารจัดการงานมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อการบริหารจัดการเข้ามาช่วยควบคุมช่วย ตรวจสอบการบริหารการผลิต และการควบคุมการบริการทั้งหมด โดยใช้หลักการการบริหารใน การสร้างระบบที่ดีให้กับบริษัทประกอบด้วยการวางแผน การดำเนินงาน การตรวจ และ การ ประเมินผลที่ส่งให้การบริหารงานดำเนินการไปอย่างมีระบบ และแก้ไขด้วยการใช้ระบบการบริหารที่มี คุณภาพ การวางแผนการผลิตจะดำเนินงานตามโครงการ โดยมีจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของโครงการ ว่าจะทำอย่างไร เพื่ออะไร เช่น เพื่อการผลิตงาน เพื่อการบริหารจัดการเช่นเดียวกับการผลิตสิ่งพิมพ์แต่ละ งานเปรียบเสมือนโครงการที่จะต้องดำเนินงานให้ได้ผลผลิตตามที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ผู้บริหารโครงการต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจกระบวนการ และปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตที่ ทำให้สามารถวางแผนควบคุมการผลิตไม่ให้เกิดปัญหา หากมีปัญหาเกิดขึ้นสามารถที่แก้ปัญหาต่างๆ ได้ อย่างทันต่อความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งเวลาในการจัดส่งที่สามารถถึงผู้ใช้ได้อย่างมีคุณภาพและทัน ตามเวลาโดยใช้หลักการบริหารแบบ Just in Time รวมกับหลักการบริหารอื่นๆ เข้ามาบริหารจัดการได้ อย่างมีประสิทธิภาพและให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด เพราะการเสียหายส่งผลต่อราคาในการผลิต เพิ่มขึ้น การวางแผนแต่ละครั้งต้องมีการตรวจรายละเอียดของโครงการอย่างละเอียดก่อนเข้าสู่ กระบวนการผลิต คือ ต้องให้ความมั่นใจต่อผลผลิตสามารถตรวจสอบแต่ละโครงการได้ การจัดเก็บข้อมูล ไว้เพื่อใช้ในการผลิตครั้งต่อไป และนำมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ เพื่อนำไปแก้ไขและจัดการ การควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในการผลิตครั้งต่อไป การบริหารเวลาการผลิตสามารถลดเวลาการผลิต ลงและควบคุมคุณภาพที่ลดการสูญเสียจะทำให้ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มในส่วนของผลกำไรได้อีก จากบริหาร
จัดการเวลาของการเตรียมการผลิตจะทำการเพิ่มจำนวนผลิตต่อเครื่องได้มากขึ้น การดำเนินธุรกิจทางการ พิมพ์ราคาของเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตมีราคาค่อนข้างสูง การได้ผลกำไรต้องใช้เวลาการผลิตที่ยาวนาน และต้องผลิตงานเพื่อให้มีงานพิมพ์คุ้มกับราคาเครื่องพิมพ์ ดังนั้นในการวางแผนต้องมีการตรวจแผนทุก ขั้นตอนเป็นอย่างดีและการประสานงานเพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดในการผลิตน้อยที่สุด หากไม่ตระหนักใน ส่วนนี้จะทำให้ราคาของการผลิตสูงขึ้นโดยไม่จำเป็น ธุรกิจหรือกิจการเกี่ยวกับการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์เป็นธุรกิจที่มีตั้งแต่ขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาด ใหญ่และแบ่งออกไปตามกระบวนการผลิต คือ แบ่งออกเป็นสำนักพิมพ์อาจผลิตเพียงต้นฉบับ คือ เป็น ผู้จัดทำข้อมูลเรียบเรียงและทำการออกแบบ แล้วส่งไปยังโรงพิมพ์ในการผลิต และประเภทของการผลิต แบบโรงพิมพ์ แบ่งออกไปตามชนิดของเครื่องที่ใช้พิมพ์ โดยแบ่งออกตามระบบการพิมพ์ที่ใช้เช่น ระบบ ดิจิทัล ระบบการพิมพ์ออฟเซต ระบบการพิมพ์สกรีน ระบบการพิมพ์เฟล็กโซกราฟี ระบบการพิมพ์กรา วัวร์ แต่ปัจจุบันมีโรงพิมพ์ที่มีระบบการพิมพ์มากกว่าระบบเดียวเพิ่มขึ้นในโรงพิมพ์เดียวกัน ได้แก่ การ พิมพ์ดิจิทัลเข้ามาเพื่อรับงานพิมพ์ที่ต้องการความเร็วและจำนวนไม่มากและมีการผลิตหลากหลายแบบ และการแบ่งประเภทโรงพิมพ์มีการแบ่งตามระบบการพิมพ์แล้วแบ่งออกตามกระบวนการผลิตแต่ละ ขั้นตอน การทำงาน ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบสิ่งพิมพ์ การพิมพ์ การทำเล่ม การทำสำเร็จ การที่ธุรกิจการพิมพ์มีการปิดตัวลงเนื่องจากได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการผลิตสื่อ โดยได้มีสื่อ ดิจิทัลเข้ามาแทนสื่อสิ่งพิมพ์มีการส่งไฟล์ข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ยังคงมีความจำเป็นของการ ใช้งานสิ่งพิมพ์ที่พิมพ์ลงบนวัสดุยังมีความจำเป็นในการใช้งาน ซึ่งสื่อดิจิทัลมาแทนที่ไม่ได้ทั้งหมด เช่น การ พิมพ์บรรจุภัณฑ์การพิมพ์หนังสือวิชาการ แม้ว่ามีหนังสือในรูปของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาแทน แต่ ในความนิยมของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในการอ่านงานวิชาการยังมีข้อจำกัดอยู่ เนื่องจากการอ่านผ่าน อุปกรณ์ที่ใช้แสงจำนวนมากที่ส่งผลเสียต่อสายตาของผู้อ่านจึงยังคงมีความต้องการหนังสือในรูปแบบการ พิมพ์ด้วยระบบการพิมพ์ที่พิมพ์บนวัสดุ เพื่อใช้ในการอ่านที่มีความต้องการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง หรือ การแจกจ่ายสิ่งพิมพ์โดยตรงในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ยังกลุ่มเป้าหมาย แม้ว่ามีการผลิตสื่อ อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการอ่านแต่พบว่า การอ่านหนังสือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ยังมีข้อเสีย คือ ผู้อ่านไม่มี สมาธิในการอ่าน ซึ่งอาจทำให้ผู้อ่านหันมาทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น เล่นเกม สนทนากับเพื่อน ส่งอีเมล์ เป็น ต้น และการมีผลเสียด้านสุขภาพโดยเฉพาะการอ่านผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีผลต่อสายตา และอาจทำ ให้การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมลดลง และความลุ่มลึกในการอ่านอาจไม่เทียบเท่ากับหนังสือ อ้างถึงในธน ศักดิ เมืองเจริญ Holum 2011 : Online (2554) งานวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลต่อการส่งเสริมนิสัยรักการ อ่านของนักเรียนโรงเรียนนานาชาติบางกอกพัฒนา วารสารบรรณศาสตร์ มศว ปีที่ 4 ฉบับที่ 2 จากการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบการใช้สื่อในรูปของสิ่งพิมพ์กับแอพพลิเคชั่น เพื่อการส่งเสริมการ ท่องเที่ยวในรูปของการประชาสัมพันธ์และการให้ความรู้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษา เปรียบเทียบความ คิดเห็นโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วยสื่อในรูปแบบของ แอพพลิเคชั่นกับการส่งเสริมใน รูปแบบของสื่อสิ่งพิมพ์ 2) เพื่อศึกษาความคิดเห็นต่อการใช้งาน ระหว่างแอพพลิเคชันกับสื่อสิ่งพิมพ์ กลุ่ม ตัวอย่าง คือ นักท่องเที่ยวจำนวน 200 คนเป็นชาวไทย จำนวน 100 คนและชาวต่างชาติจำนวน 100 คน การเก็บข้อมูลจากแหล่งท่องเที่ยวในเขต กรุงเทพมหานคร ในปีพ.ศ. 2558 โดยใช้แบบสอบถามและการ
สัมภาษณ์สถิติที่ใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่านักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมเลือกใช้ แอพพลิเคชั่น เพื่อสืบค้นข้อมูลรายละเอียดของการท่องเที่ยวมากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์ และเหตุผลของการเลือก สื่อดังกล่าว พบว่า เนื่องจากความสะดวกในการพกพา มีข้อมูลครบถ้วน มีความสวยงามของภาพประกอบ สามารถสอบถามข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้เพิ่มเติม และเห็นว่าสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับการท่องเที่ยวมี การใช้งานน้อยลง เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์มาผลิตสื่อ เพื่อการท่องเที่ยวมีมากในหลาย รูปแบบและเห็นว่าสื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ส่วนหนึ่งของนักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความ คิดเห็นว่าสื่อสิ่งพิมพ์สะดวกในการใช้งานสำหรับในกรณีที่ไม่มีเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเข้าถึง (Wasan Sornkhieo and et.al 2017) การเลือกใช้สื่อเป็นไปตามความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งาน ความสะดวกของเทคโนโลยี และปัจจัย อื่นๆ เช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ความเร็วของอินเทอร์เน็ต ค่าใช้จ่าย ต้องเลือกสื่อที่เหมาะสมกับการใช้ งาน การใช้สื่อออนไลน์ใช้ในการอ่านที่ต้องการข้อมูลที่รวดเร็ว ในการอ่านเพื่อความบันเทิงหรือด้านอื่นๆ แต่การพิมพ์ลงบนวัสดุยังคงมีการผลิตเป็นส่วนบนบรรจุภัณฑ์หรือบนผลิตภัณฑ์และการพิมพ์บนชิ้นส่วน ของผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์พิมพ์ลงวัสดุการเลือกระบบการพิมพ์ต้องคำนึงถึงวัสดุที่ใช้และโครงสร้าง ของบรรจุภัณฑ์ เช่น การพิมพ์ที่เป็นบรรจุภัณฑ์กระดาษ พลาสติก ที่เป็นแผ่นเรียบโดยระบบการพิมพ์ ออฟเซต กราวัวร์ เฟล็กโซกราฟีเลตเตอร์เพรสหรือดิจิทัล แต่หากเป็นผลิตภัณฑ์มีรูปทรงที่ต้องการทำการ พิมพ์บนผลิตภัณฑ์ในการพิมพ์จะใช้ระบบการพิมพ์แพด การพิมพ์สกรีนพิมพ์หรือการใช้การพิมพ์ด้วย ระบบการถ่ายโอนความร้อน เมื่อทำการพิมพ์วัสดุใช้พิมพ์แล้วนำไปติดบนผลิตภัณฑ์ การยึดติดมีความ แตกต่างกันกับการพิมพ์เป็นฉลากแล้วนำไปติดบนผลิตภัณฑ์ที่ใช้กาวในการยึดติด ในส่วนการพิมพ์แบบ การถ่ายโอนความร้อนสามารถติดลงบนวัสดุที่พิมพ์ยึดติดได้แน่นลงไปกับวัสดุมากกว่าการติดด้วยกาวและ ใช้กับวัสดุได้หลายชนิด สำหรับการออกแบบโครงสร้างของบรรจุภัณฑ์ การออกแบบกล่องขึ้นรูปด้วยการพับ การ ออกแบบมีโปรแกรมเฉพาะใช้ในการออกแบบทำให้สร้างสรรค์ผลงานได้สะดวกสบายขึ้น ด้วยการใช้ โปรแกรมออกแบบ 3 มิติการสร้างโครงสร้างและส่งผลออกด้วยเครื่องตัดกล่อง เพื่อขึ้นรูปเป็นบรรจุภัณฑ์ เป็นต้นแบบ 3 มิติ การผลิตงานการออกแบบ 3 มิติ หรือการสร้างภาพ 3 มิติ ลักษณะของงานเป็นภาพรูปแบบ แอนิเมชั่น ในการสร้างภาพและดูภาพบนอุปกรณ์ที่ปรากฏเป็นภาพ 3 มิติและส่วนของการออกแบบ 3 มิติ ในงานผลิตภัณฑ์ออกแบบชิ้นงานด้วยโปรแกรมสร้างภาพให้มีงานเป็นลักษณะ 3 มิติตามรูปแบบของ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ และส่งผลออกเป็นผลิตภัณฑ์โดยการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ในการพริ้นและวัสดุที่ใช้ เป็นพลาสติกหรือวัสดุอื่นๆ ขึ้นอยู่กับเครื่องที่ใช้แต่ละเครื่อง ซึ่งจะได้ชิ้นงานที่มีรูปร่างตามที่ได้ออกแบบ คำว่า Printing หรือ Print โดยทั่วไปหมายถึง การพิมพ์ที่ปรากฏเป็นภาพหรือตัวอักษรติดลงบน วัสดุที่ใช้พิมพ์แต่เมื่อกล่าวถึงการพิมพ์ 3 มิติพิมพ์โดยการพ่นวัสดุออกเป็นรูปทรงที่เรียกว่า พริ้นแบบ 3 มิติ (Print 3 D) มีการนำมาใช้กับการสร้างต้นแบบของผลิตภัณฑ์ที่ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ในการสร้าง งานในลักษณะการสร้างแบบจำลองของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้การพิมพ์ออกมาเป็นสิ่งพิมพ์ที่พิมพ์ลงวัสดุที่ใช้ แบบ 2 มิติ
ภาพที่ 1.11 การออกแบบหนังสือ โดยการใช้เทคโนโลยี Augmented Reality ที่มา : ณัฐดนัย มีศีล การสร้างภาพ 3 มิติทางการมองเห็นบนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือจอภาพ โดยการดูด้วยตาเปล่า หรือการใช้แว่นสำหรับการดูภาพ 3 มิติ ได้มีการนำมาประยุกต์ในการผลิตสิ่งพิมพ์โดยการใช้เทคโนโลยี ทางคอมพิวเตอร์ในการทำภาพให้เป็นภาพเคลื่อนไหว โดยการนำเทคโนโลยี“Augmented Reality” เป็นเทคโนโลยีที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริง (Real) เข้ากับโลกเสมือน (Virtual) ผ่านทางอุปกรณ์ กล้องถ่ายภาพของโทรศัพท์สมาร์โฟน ซึ่งทำให้ภาพบนวัสดุที่ใช้พิมพ์ปรากฏในจอภาพกลายเป็น ภาพเคลื่อนไหว (Animation) มีการนำมาใช้ในการออกแบบหนังสือนิทาน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจ และ การพัฒนาสื่อผสมให้ปรากฏบนสิ่งพิมพ์ ภาพที่ 1.12 หนังสือนิทานภาพเคลื่อนไหวเรื่องเด็กเลี้ยงแกะ ความเป็นจริงเสมือน (AR Book : Augmented Reality) ที่มา : ณัฐดนัย มีศีล
การผลิตสิ่งพิมพ์โดยการใส่ QR Code ลงบนกระดาษที่พิมพ์ เพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต สแกน QR Code นั้นเพื่อเชื่อมโยงไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ โดเมนของเว็บไซต์หรือ ลิ้งค์ ต่างๆ ตำแหน่งที่อยู่เพื่อนำทาง เบอร์โทรศัพท์ หรือหมายเลขฐานข้อมูลต่างๆ การออกแบบ QR Code สามารถออกแบบได้ตามความต้องการใช้งานหรือต้องการสื่อ ดังในภาพที่ 1.13 แสดงพัฒนาการออกแบบ QR Code เพื่อสร้างอัตลักษณ์ของการสื่อสาร จาก QR Code แบบมาตรฐาน จนถึงการปรับแต่งรูปทรง และพื้นที่ว่าง ตลอดจนบรรจุตราสัญลักษณ์ตัวอักษร เพื่อใช้ในการสื่อสาร ไม่เพียงสามารถสแกนได้แต่ ผู้ใช้ทั่วไปยังสามารถเข้าใจและรับรู้ถึงความหมายของ QR Code ได้อีก (วรพจน์ ส่งเจริญ, 2561) นอกจากนี้ยังสามารถใส่เสียงบรรยาย ดังแสดงในภาพที่ 1.15 ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับสอนคนตาบอด โดยการฟังเสียงบรรยายจากการสแกน QR Code ภาพที่ 1.13 การออกแบบ QR Code ที่มา: วรพจน์ ส่งเจริญ การสร้างความเชื่อมต่อข้อมูลบนสิ่งพิมพ์ โดยกำหนดภาพหรือกราฟิกให้เป็น AR Marker โดยใช้ ภาพบนสิ่งพิมพ์ได้ดังแสดงภาพที่ 1.14 เพื่อเชื่อมโยงไปยังสื่อดิจิทัล (วีดิทัศน์ภาพเคลื่อนไหว และภาพ 3 มิติ) ที่ได้ออกแบบให้สอดคล้องกับสิ่งพิมพ์นั้นๆ เมื่อผู้ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต ที่มีโปรแกรม (AR Application) ติดตั้งและส่องไปยัง AR Marker จะปรากฏสื่อดิจิทัลที่ออกแบบไว้แสดงซ้อนขึ้นมาบน สิ่งพิมพ์นั้นๆ เสมือนสื่อสิ่งพิมพ์นั้นสามารถแสดงภาพเคลื่อนไหวและเสียงดนตรีได้ หรือวัตถุ 3 มิติ ที่มี ความสัมพันธ์กับสื่อสิ่งพิมพ์ และสามารถปรับเปลี่ยนมุมมองตามเมื่อผู้ใช้ขยับสิ่งพิมพ์ ขยายขอบเขตการ แสดงผลของสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และประสบการณ์ผู้ใช้ของสื่อสิ่งพิมพ์ (วรพจน์ ส่ง เจริญ, 2561)
ภาพที่ 1.14 การออกแบบโปสเตอร์ โดยใช้AR Marker ฝังลงในภาพ ที่มา: วรพจน์ ส่งเจริญ ภาพที่ 1.15 การทำสื่อสำหรับสอนคนตาบอด โดยการอัดเสียงบรรยายลงใน QR Code ที่มา: ประทุมทอง ไตรรัตน์ สรุปโดยภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในการสื่อสาร และการใช้คอมพิวเตอร์ ใน อุตสาหกรรมต่างๆ และอุตสาหกรรมการพิมพ์และการสื่อสารทำให้รูปแบบของสิ่งพิมพ์ที่เคยใช้เพื่อการ สื่อสารมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบและปรับเปลี่ยนการใช้สื่อรูปแบบใหม่แทนสื่อสิ่งพิมพ์ในการสื่อสาร จำนวนมาก โดยผ่านช่องทางการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ มาประยุกต์ เพื่อการผลิตที่เพิ่มรูปแบบของสิ่งพิมพ์ได้เช่นกัน แต่สำหรับสิ่งพิมพ์ที่ยังคงมีความต้องการของ การใช้งานเฉพาะ เช่น การพิมพ์บรรจุภัณฑ์ การพิมพ์ผ้า การพิมพ์ป้าย ฯลฯ ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ นำมาใช้กับระบบการพิมพ์ทำให้ผลิตสิ่งพิมพ์ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ได้แก่ การพิมพ์ดิจิทัล และยังมีการ พัฒนาวัสดุที่ใช้พิมพ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้เลือกใช้ในการผลิตสิ่งพิมพ์
หลักการจัดองค์ประกอบทางศิลปะ ความสมดุล (Balance) - ความสมดุลแบบสมมาตร (Symmetrical Balance) - ความสมดุลแบบอสมมาตร (Asymmetrical Balance) เอกภาพ (Unity) - เอกภาพทางความคิด (Intellectual Unity) - เอกภาพทางการมองเห็น (Visual Unity) จุดเน้นแห่งความสนใจ (Center of Interest) การเน้น (Emphasis) - การเน้นโดยใช้จุดแห่งความสนใจ (Emphasis by Center of Interest) - การเน้นโดยการตัดกัน (Emphasis by Isolation) - การเน้นโดยการแยกตัวออกไป (Emphasis by Isolation) - การเน้นโดยการจัดวางตำแหน่ง (Emphasis by Placement) - การเน้นโดยการใช้เส้นนำสายตา (Emphasis by Perspective Line) ความขัดแย้ง (Contrast) - ความขัดแย้งของขนาด (Contrast of Scale) - ความขัดแย้งของรูปร่างและรูปทรง (Contrast of Shape and Form) - ความขัดแย้งของความเข้มหรือน้ำหนัก (Contrast of Weight) - ความขัดแย้งของทิศทาง (Contrast of Direction) - ความขัดแย้งของพื้นผิว (Contrast of Texture) - ความขัดแย้งของการเว้นที่ว่าง (Contrast of Space) สัดส่วน (Proportion) จังหวะและการซ้ำ (Rhythm & Repetition) - แบบสม่ำเสมอ (Regular) - แบบไม่สม่ำเสมอ (Irregular) - แบบเป็นลำดับ (Progressive) ความเรียบง่าย (Simplicity) ทิศทางและการเคลื่อนไหว (Direction & Movement) ระบบกริดในการออกแบบสิ่งพิมพ์ (Grids System in Graphic Design)
บทที่ 2 การออกแบบสิ่งพิมพ์ (Graphic Design) การสร้างแนวคิดในการออกแบบสิ่งพิมพ์สามารถนำหลักการออกแบบ และการจัดวางองค์ ประกอบทางศิลปะมาประยุกต์ใช้เป็นแนวคิดในการออกแบบสิ่งพิมพ์ การออกแบบสิ่งพิมพ์ควรยึด หลักการออกแบบให้ตรงตามวัตถุประสงค์หลักของการใช้งาน เช่น เพื่อการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ หรือเพื่อเป็นเอกสารด้านวิชาการ และควรคำนึงความสวยงามเหมาะสมและสร้างจุดเด่นเพื่อการจดจำที่ดี ให้กับกลุ่มผู้บริโภค และการกำหนดแนวคิดต้องใช้ข้อมูลที่ทำการศึกษาโดยใช้หลักการการหาข้อมูลจาก การใช้คำถาม 5 W 2H ได้แก่ Why ทำไม การหาปัจจัยที่ว่าทำไม่ต้องออกแบบ Who ใคร คือ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ Where ที่ไหนที่นำสิ่งพิมพ์ไปใช้ และที่ไหนคือแหล่งของปัจจัยที่เกี่ยวข้อง What อะไร ที่เป็นข้อจำกัดอะไรคือจุดมุ่งหมาย When ใช้เมื่อไร หรืออาจรวมถึงเวลาในการผลิต How มีวิธีการ อย่างไร ใช้กระบวนการผลิตอะไร How Much ราคาเป็นราคาต้นทุนและราคาที่ต้องจำหน่าย การใช้ข้อ คำถาม เพื่อให้ได้ถึงข้อมูลเพื่อใช้ในการกำหนดแนวคิดในการออกแบบสิ่งพิมพ์ ให้ทราบถึงกลุ่มผู้บริโภค กลุ่มไหน อายุ เพศ เพื่อนำไปกำหนดขนาดของตัวอักษร ลักษณะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นปัจจัยของการ ผลิตสิ่งพิมพ์ต้องคำนึงวัสดุที่ใช้พิมพ์และรวมถึงกระบวนการผลิต จะต้องใช้เพื่อนำไปวางแผนการผลิตได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้ได้ทราบรายละเอียดของกระบวนการผลิตทำให้สามารถลดและป้องกัน การเกิดปัญหาในการผลิต และสามารถผลิตสิ่งพิมพ์ออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาหลักการ แนวคิด การตั้งคำถามกับเจ้าของงานหรือกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ข้อมูล นำมากำหนดแนวคิดการออกแบบสิ่งพิมพ์ซึ่งจะทำให้สามารถออกแบบได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการใช้ ประโยชน์สิ่งพิมพ์และการออกแบบต้องมีการประยุกต์ใช้หลักทางศิลปะการจัดองค์ประกอบ เพื่อเป็นแนว ทางการเพิ่มและสร้างจินตนาการในงานการออกแบบให้มีความสวยงาม และสร้างจุดเน้นตามความ ต้องการ เช่น การสื่อสาร การอ่าน การออกแบบจะต้องใช้ความละเอียดและรอบคอบของเนื้อหาสาระ ความถูกต้องและครบถ้วนตามต้นฉบับ สิ่งพิมพ์ประกอบด้วยภาพและตัวอักษร การใช้ภาพมาประกอบ เพื่อสื่อความหมายหรือเป็นส่วนที่ช่วยอธิบายเพิ่มเติมของเนื้อหา การเลือกภาพต้องเลือกภาพที่มีคุณภาพ และความสวยงามของภาพตามการถ่ายภาพ เพื่อเป็นส่วนที่เสริมให้คุณภาพงานพิมพ์มีความสวยงามมาก ขึ้น
ความหมายของการออกแบบสิ่งพิมพ์ การออกแบบสิ่งพิมพ์เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบนิเทศศิลป์ (Visual Communication Design) หมายถึง การออกแบบสื่อทางการมองเห็นและมีอีกคำหนึ่งที่ใช้กับการออกแบบสิ่งพิมพ์ คือ การ ออกแบบกราฟิก (Graphic Design) ที่มีความหมายใกล้เคียงกับการออกแบบนิเทศศิลป์กับการออกแบบ สร้างสรรค์เพื่อการมองเห็น ลักษณะของงานออกแบบสิ่งพิมพ์ในความหมายของการออกแบบนิเทศศิลป์ที่ มีใช้อยู่ทั่วไปในรูปแบบของสื่อสิ่งพิมพ์ ได้แก่ การออกแบบหนังสือ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การ ออกแบบโปสเตอร์ การออกแบบแผ่นพับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์ และยังรวมถึง การออกแบบในรูปแบบของสิ่งพิมพ์รูปแบบอื่นๆ การออกแบบสิ่งพิมพ์เป็นความหมายที่แยกกันออกเป็น 2 คำ คือ การออกแบบกับสิ่งพิมพ์ การออกแบบ คือ การใช้ความคิดสร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อให้เกิดงานใหม่หรือการปรับปรุงงาน เดิมให้ดีขึ้น โดยผ่านกระบวนการของการใช้เครื่องมือในการออกแบบ เพื่อให้ได้ตามวัตถุประสงค์ของการ ออกแบบของการใช้งาน ให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพของการใช้งานอย่างสร้างสรรค์ การออกแบบ คือ การถ่ายทอดรูปแบบจากความคิดออกมาเป็นผลงานที่สามารถมองเห็น รับรู้ หรือสัมผัสได้ สิ่งพิมพ์คือ วัสดุตีพิมพ์ที่ผลิตขึ้นด้วยระบบการพิมพ์ที่สามารถรับรู้ได้ด้วยการมองเห็น และ สิ่งพิมพ์สำหรับคนตาบอดจะเป็นสิ่งพิมพ์ที่รับรู้ได้ด้วยการสัมผัส การออกแบบสิ่งพิมพ์คือ การกำหนดแนวทางที่นำไปปฏิบัติเพื่อกำหนดรูปแบบ รูปทรง ขนาด ตัวอักษร ขนาดภาพ และการจัดวาง โดยสามารถใช้หลักการจัดวางองค์ประกอบทางศิลปะ เพื่อนำมา กำหนดการจัดวางหน้าสิ่งพิมพ์ซึ่งประกอบด้วย ตัวอักษร ภาพ หรือองค์ประกอบอื่นๆ โดยใช้หลักการจัด องค์ประกอบทางศิลปะที่สร้างความแปลกใหม่ จากของเดิมหรือการออกแบบจนกลายเพื่อการส่งเสริม การสร้างอัตลักษณ์ขององค์กรที่ไปพร้อมกับสิ่งพิมพ์ สรุปได้ว่าลักษณะรูปแบบสิ่งพิมพ์ที่อยู่บนวัสดุที่ใช้พิมพ์ ในรูปแบบของหนังสือ หนังสือพิมพ์ หนังสือการ์ตูน นิตยสาร วารสารต่างๆ ที่ใช้สำหรับให้ความรู้ ความบันเทิง และใช้ทางธุรกิจ และสื่อใน รูปแบบของสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นรูปเล่ม เรียกว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มีลักษณะการออกแบบเป็น หนังสือ แต่การอ่านบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีความสะดวกในการใช้งานและส่งถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ โดยตรงด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศส่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ต กระบวนการออกแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ยังคงใช้หลักการออกแบบทางศิลปะ และหลักการออกแบบสิ่งพิมพ์ได้เช่นกันตามวัตถุประสงค์ของการใช้ งาน
องค์ประกอบที่ใช้ในการออกแบบ การออกแบบสิ่งพิมพ์การใช้แนวคิดที่กว้างและครอบคลุมถึงกระบวนการทุกขั้นตอน ตั้งแต่ ขั้นตอนการผลิตสิ่งพิมพ์จนถึงขั้นตอนการทำสำเร็จ ดังนั้นการออกแบบสิ่งพิมพ์ควรมีความรู้ ความเข้าใจ ในการกำหนดรูปแบบ ขนาด การนำไปใช้ ตามความต้องการของผู้บริโภคจากข้อมูลที่ทำการศึกษาเพื่อ นำมากำหนดในขั้นตอนการวางรูปแบบ การเลือกตัวอักษร การถ่ายภาพ การตกแต่งภาพ การตกแต่งและ ปรับโทนสีของภาพสำหรับการพิมพ์ การตกแต่งตัวอักษร การปรับแต่งสี การจัดทำรูปแบบของไฟล์ข้อมูล ในรูปแบบต่างๆ ให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภทรวมถึงการตรวจความถูกต้องของแม่พิมพ์ก่อนไปทำ การพิมพ์ และการกำหนดรูปแบบสิ่งพิมพ์ว่าเมื่อเสร็จแล้วมีรูปแบบเป็นอย่างไร การนำหลักการออกแบบทางศิลปะมาใช้ในการกำหนดแนวคิดที่เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบ สิ่งพิมพ์ โดยการนำองค์ประกอบพื้นฐานนำมารวบรวมเข้าด้วยกันอย่างมีระบบ ซึ่งประกอบกับตัวอักษร และภาพ โดยต้องคำนึงถึงการจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ให้บรรลุตามวัตถุประสงค์การใช้งานที่ให้เกิด คุณค่าต่อการใช้ประโยชน์ และมีความงามทางศิลปะ องค์ประกอบพื้นฐานที่มีส่วนสำคัญของการออกแบบสิ่งพิมพ์มีดังนี้ จุด (Dot) เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการออกแบบ ตามหลักการเกิดเส้นจากจุดเรียงตัวกัน เป็นเส้น และการสร้างจุดในคอมพิวเตอร์เกิดจากตารางสี่เหลี่ยม เรียกว่า พิกเซล (Pixel) ที่มาต่อกันเป็น จุดและเมื่อทำการขยายจะเห็นเป็นสี่เหลี่ยม จุดเป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบที่ทำให้เกิดเป็นเส้นและโทน ของภาพ ลักษณะของภาพทางการพิมพ์ที่เกิดจากจุดเป็นภาพโทนต่อเนื่อง เรียกว่า ภาพฮาล์ฟโทน (Half Tone) เกิดจากเม็ดสกรีน มี3 รูปแบบ แบบที่หนึ่งเม็ดสกรีน แบบ AM (Amplitude Modulation) คือ เม็ดสกรีนที่มีรูปร่างต่างกัน มีการเรียงตัวของจำนวนจุดที่มีขนาดเท่ากัน แต่จำนวนของจุดต่อพื้นที่มี จำนวนไม่เท่ากันทำให้ภาพที่มีโทนแตกต่างกัน การใช้สกรีนแบบ AM อาจทำให้เกิดภาพลายตาเสื่อ หรือ เรียกว่า มั่วเร (Moire) และในการผลิตภาพ 4 สีในการพิมพ์ต้องกำหนดมุมของเม็ดสกรีนแต่ละสีจะต้อง ให้แตกต่างกัน เช่นกำหนดให้สีเหลือง (Yellow) 0 องศา สีม่วงแดง (Magenta) 75 องศา สีน้ำเงิน (Cyan) 15 องศา และสีดำ (Black) 45 องศา การกำหนดองศาของเม็ดสกรีนในงานพิมพ์ 4 สี สามารถทำการปรับ องศาได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าต้องการความเข้มของภาพที่สีใด ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการความ เข้มของสีที่ต้องการเน้น แบบที่สอง คือ เม็ดสกรีนแบบ FM (Frequency Modulation) เกิดจากการเรียง ตัวของขนาดจุดที่เท่ากัน แต่มีจำนวนต่างกันในพื้นที่เท่ากันเกิดโทนที่แตกต่างกัน เม็ดสกรีนแบบไม่มี ปัญหาเรื่องลายตาเสื่อ และแบบที่สาม คือ เม็ดสกรีนแบบผสม (Hybrid Screen) โดยการนำเม็ดสกรีน แบบ AM และ FM มารวมกันในการกำหนดโทนของภาพแต่ละจุด ซึ่งให้ความละเอียด กลมกลืนของภาพ ใกล้เคียงภาพต้นฉบับมาก
ภาพที่ 2.1 มุมองศาของเม็ดสกรีน AM (Amplitude Modulation) ภาพที่ 2.2 การเกิดลายตาเสื่อของเม็ดสกรีนแบบ AM (Amplitude Modulation) ที่มา : http://www.printtosme.com ภาพที่ 2.3 เม็ดสกรีนแบบ FM (Frequency Modulation) ที่มา: https://blogs.scientificamerican.com/symbiartic/dots-spots-and-pixels-whats-in-a-name/