The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 1 ตัวเรา พืชและสัตว์ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by บุ๋ม บิ๋ม, 2022-10-20 02:33:05

หน่วยที่ 1 ตัวเรา พืชและสัตว์

หน่วยที่ 1 ตัวเรา พืชและสัตว์ง

แผนการจัดการเรียนรู้

วชิ าวิทยาศาสตร์ ว11101
กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง ตัวเรา พืช และสัตว์

ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1
โรงเรียนอนบุ าลหนองหานวทิ ยายน

นางสาวกวนิ ทิพย์ มะณี
รหสั ประจาตวั นกั ศกึ ษา 62040112120

สาขา วทิ ยาศาสตรท์ ่วั ไปและเคมี

การฝึกปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 1
คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อดุ รธานี
รหสั วิชา ED16401 (INTERNSHIP IN SCHOOL 1)

ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565



คานา

เอกสารแผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า ว11101 วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง 2560)
ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 เล่มน้ี จดั ทาข้ึนเพื่อใช้เปน็ กรอบและแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี
บูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ใช้หลกั ความพอประมาณ การคานึงถงึ ความมีเหตุผล มี
ภูมิคุม้ กันที่ดีในตัว ในการใช้สื่อและแหล่งเรียนรู้ รวมท้งั การประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียน เพอ่ื พฒั นา
ให้ผ้เู รียนมีความรอบรู้ ความรอบคอบ และระมัดระวังในการ นาความรู้ต่าง ๆ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
สงู สดุ และพัฒนาคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชวี้ ดั ของกลุ่มสาระการเรยี นรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่กาหนดไวใ้ นหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
(ฉบับปรับปรุง 2560)

มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด คาอธิบายรายวิชา หน่วยการเรียนรู้ และแผนการจดั การเรียนรู้
ทก่ี าหนดไว้ในเอกสารน้ี จะช่วยให้ครเู ห็นผลคาดหวงั ที่ต้องการในการพฒั นาการเรียนรู้ของผู้เรยี นให้
ชัดเจน อีกท้ังยังชว่ ยให้เกิดความชัดเจนเร่ืองการวัดและประเมินผลการเรียนรู้รายวชิ า ว 11101 วิทยา
ศาตร์ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1

ในการจัดทาเอกสารแผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ า ว11101 วทิ ยาศาตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ
ปรับปรุง 2560) ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 เล่มนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีย่ิง ศึกษานิเทศก์จาก
สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3 ผู้บริหารโรงเรยี นอนุบาลหนองหานวิทยายน
และบคุ ลากรในกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีทกุ ทา่ น จงึ ขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสน้ี

นางสาวกวนิ ทิพย์ มะณี

15 ตลุ าคม 2565



สารบัญ

เรอื่ ง หน้า
คานา.............................................................................................................. ......................ก
สารบญั .................................................................................................................................ข
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พ.ศ.2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี...............................................................ง

เปา้ หมายของวิทยาศาสตร์...................................................................................ง
เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร.์ .................................................................................ง
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้.............................................................................จ
คณุ ภาพผเู้ รยี นเมื่อจบช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6.......................................................ช
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น..................................................................................ซ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์สาคญั ของผเู้ รียน.......................................................ฌ
ตัวชว้ี ดั และสาระการเรียนรแู้ กนกลาง ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1.............................ญ
คาอธบิ ายรายวชิ า...............................................................................................................ด
โครงสรา้ งรายวชิ า...............................................................................................................ต
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 ตัวเรา พืชและสัตว์
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 1 รา่ งกายและอวัยวะของเรา..............................................1
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 สารวจอวัยวะของเรา......................................................29
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรียนรอู้ วยั วะของเรา.......................................................87
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 หนา้ ทีข่ องอวัยวะ............................................................108
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 การทางานรว่ มกนั ของอวยั วะ.........................................136
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 การดแู ลรักษาอวยั วะ...........................................................152
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 7 ตัวเรา.............................................................................172
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 พืชและสตั ว์นา่ รู้.............................................................193
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 รู้จักสว่ นต่างๆ ของพชื ...................................................209
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 10 ส่วนตา่ งๆทแ่ี ตกต่างกันของพชื ........................................224
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 รู้จักอวัยวะภายนอกของสตั ว์.......................................242
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 12 หน้าทข่ี องอวัยวะภายนอกของสัตว์.............................263



สารบัญ (ต่อ)

เรื่อง หน้า
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 ลกั ษะท่แี ตกต่างกันของสตั วแ์ ต่ละชนิด............................275



หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พ.ศ.2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

เปา้ หมายวทิ ยาศาสตร์
วิทยาศาสตรเ์ ป็นเรื่องของการเรยี นร้เู กี่ยวกับธรรมชาติ โดยมนุษย์ใช้กระบวนการสงั เกต สารวจ

ตรวจสอบ และการทดลองเก่ียวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาตแิ ละนาผลมาจัดระบบ หลักการ แนวคิด
และทฤษฎี ดังนนั้ การเรียนการสอนวทิ ยาศาสตรจ์ ึงมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เป็นผู้เรียนรู้และค้นพบด้วยตนเอง
มากทส่ี ุด นั่นคือให้ได้ทั้งกระบวนการและองคค์ วามรู้ ต้ังแตว่ ยั เร่ิมแรกก่อนเขา้ เรียน เมื่ออยใู่ นสถานศึกษา
และเมอื่ ออกจากสถานศึกษาไปประกอบอาชีพแลว้ การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตรใ์ นสถานศกึ ษา
มเี ปา้ หมายสาคัญดังนี้

1. เพ่ือใหเ้ ขา้ ใจหลกั การ ทฤษฎีทเ่ี ปน็ พ้ืนฐานในวิทยาศาสตร์
2. เพ่ือให้เข้าใจขอบเขต ธรรมชาติและข้อจากัดของวทิ ยาศาสตร์
3. เพ่ือให้มีทักษะท่ีสาคัญในการศึกษาค้นคว้าและคิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4. เพือ่ พัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและการจัดการ
ทักษะในการส่ือสาร และความสามารถในการตดั สินใจ
5. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์และ
สภาพแวดลอ้ มในเชงิ ที่มีอิทธิพลและผลกระทบซ่ึงกนั และกัน
6. เพอื่ นาความรคู้ วามเข้าใจในเรอื่ งวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสงั คม
และการดารงชวี ิต
7. เพ่ือให้เป็นคนมีจิตวทิ ยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์

เรยี นรูอ้ ะไรในวทิ ยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์มุ่งหวังให้ผเู้ รียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ ทเ่ี น้นการ เช่ือมโยง

ความร้กู ับกระบวนการ มีทกั ษะสาคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้ กระบวนการในการสืบ
เสาะหาความรูแ้ ละแกป้ ัญหาทหี่ ลากหลาย ใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรยี นรู้ ทุกข้ันตอน มกี ารทากิจกรรม
ดว้ ยการลงมอื ปฏบิ ัติจรงิ อยา่ งหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชน้ั โดยกาหนดสาระสาคัญ ดงั นี้



✧ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เก่ียวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของส่ิงมีชีวิต
การดารงชีวติ ของมนุษย์และสัตว์การดารงชวี ิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ และ
วิวฒั นาการของสิ่งมีชวี ติ

✧ วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติของสาร การเปล่ียนแปลงของสาร
การเคลอื่ นท่ี พลงั งาน และคลน่ื

✧ วทิ ยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศ เรียนรู้เกย่ี วกับ องค์ประกอบของเอกภพ ปฏสิ ัมพันธ์ ภายใน
ระบบสรุ ยิ ะ เทคโนโลยีอวกาศ ระบบโลก การเปล่ียนแปลงทางธรณีวิทยา กระบวนการ เปลี่ยนแปลงลม
ฟ้าอากาศ และผลตอ่ สิ่งมชี ีวติ และสง่ิ แวดลอ้ ม

✧ เทคโนโลยี
● การออกแบบและเทคโนโลยเี รยี นรูเ้ ก่ียวกบั เทคโนโลยีเพ่อื การดารงชวี ติ ในสงั คมท่มี ี

การเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตรค์ ณติ ศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ
เพ่อื แก้ปญั หาหรอื พฒั นางานอย่างมีความคิดสร้างสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบ เชงิ วิศวกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยอี ย่างเหมาะสมโดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวติ สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม

● วิทยาการคานวณ เรียนรู้เก่ียวกับการคิดเชิงคานวณ การคิดวิเคราะห์แก้ปัญหา
เปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใชค้ วามรู้ดา้ นวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ และ
การสื่อสาร ในการแก้ปัญหาท่พี บในชีวิตจรงิ ได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ

สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งส่ิงไมม่ ชี วี ิต กับสิ่งมีชวี ิต
และความสมั พันธ์ระหว่างส่ิงมีชวี ิตกับสิ่งมชี ีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอด
พลงั งาน การเปลี่ยนแปลงแทนท่ีในระบบนเิ วศ ความหมายของ ประชากร ปญั หาและ
ผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทงั้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมชี ีวิต หนว่ ยพ้ืนฐานของสิง่ มีชวี ติ การลาเลียงสารเขา้ และออกจาก
เซลล์ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าท่ีของระบบตา่ ง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ี
ทางานสัมพนั ธ์กนั ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าท่ี ของอวัยวะต่างๆ ของพืชที่
ทางานสมั พันธก์ ัน รวมทั้งนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์



มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสาคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร
พนั ธกุ รรม การเปล่ียนแปลงทางพันธกุ รรมท่ีมีผลต่อส่ิงมีชีวติ ความหลากหลาย ทาง
ชีวภาพและวิวฒั นาการของสงิ่ มชี วี ติ รวมทงั้ นาความรไู้ ปใช้ประโยชน์

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะหว่างสมบตั ิของ สสาร

กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการ
เปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงท่ีกระทาตอ่ วตั ถุ ลักษณะ การ
เคลือ่ นทีแ่ บบตา่ ง ๆ ของวตั ถรุ วมทงั้ นาความรูไ้ ปใช้ประโยชน์

มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสมั พันธ์
ระหว่างสสารและพลงั งาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาตขิ อง คลนื่ ปรากฏการณ์
ทีเ่ ก่ียวข้องกับเสียง แสง และคล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟ้า รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้ประโยชน์

สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซีดาว

ฤกษ์และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏสิ ัมพันธภ์ ายในระบบสรุ ิยะ ทีส่ ง่ ผลตอ่ ส่งิ มีชีวิต และการ
ประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธข์ องระบบโลก กระบวนการเปล่ยี นแปลง ภายใน
โลก และ บนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้า อากาศและ
ภูมิอากาศโลก รวมทัง้ ผลต่อส่งิ มชี ีวติ และสงิ่ แวดลอ้ ม

สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชีวิตในสังคมท่มี ีการเปลี่ยนแปลง อยา่ ง

รวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์คณิตศาสตรแ์ ละ ศาสตร์อื่น ๆ เพ่ือ
แก้ปัญหาหรือพฒั นางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิง
วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคานึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวติ สงั คม และ
สง่ิ แวดล้อม



มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชวี ิตจริงอย่างเปน็ ขน้ั ตอนและ
เปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการ
แก้ปญั หาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจรยิ ธรรม

คุณภาพผ้เู รยี นเม่อื จบชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6

1. เข้าใจโครงสรา้ ง ลกั ษณะเฉพาะการปรับตัวของสงิ่ มีชีวิต รวมทั้งความสมั พันธ์ของ ส่ิงมีชีวิต
ในแหลง่ ทอ่ี ยู่ การทาหนา้ ทข่ี องส่วนตา่ ง ๆ ของพชื และการทางานของระบบย่อยอาหาร ของมนษุ ย์

2. เข้าใจสมบัติและการจาแนกกลุ่มของวัสดุ สถานะและการเปล่ียนสถานะของสสาร การ
ละลาย การเปลี่ยนแปลงทางเคมกี ารเปลี่ยนแปลงทีผ่ ันกลบั ไดแ้ ละผันกลบั ไม่ไดแ้ ละการแยกสาร อยา่ งง่าย

3. เขา้ ใจลกั ษณะของแรงโน้มถ่วงของโลก แรงลพั ธ์แรงเสยี ดทาน แรงไฟฟ้าและ ผลของแรงต่าง
ๆ ผลทีเ่ กิดจากแรงกระทาตอ่ วัตถคุ วามดัน หลักการที่มีตอ่ วตั ถวุ งจรไฟฟา้ อย่างง่าย ปรากฏการณ์เบอื้ งต้น
ของเสียง และแสง

4. เข้าใจปรากฏการณ์การข้ึนและตก รวมถงึ การเปลี่ยนแปลงรูปรา่ งปรากฏ ของดวงจันทร์
องค์ประกอบของระบบสุริยะ คาบการโคจรของดาวเคราะห์ความแตกตา่ งของ ดาวเคราะห์และดาวฤกษ์
การข้ึนและตกของกลุ่มดาวฤกษ์การใช้แผนที่ดาว การเกิดอุปราคา พัฒนาการและประโยชน์ของ
เทคโนโลยีอวกาศ

5. เข้าใจลกั ษณะของแหล่งน้า วัฏจักรน้า กระบวนการเกดิ เมฆ หมอก น้าค้าง น้าค้าง
แข็ง หยาดนา้ ฟ้า กระบวนการเกิดหิน วฏั จกั รหิน การใช้ประโยชน์หินและแร่ การเกิด ซากดกึ ดาบรรพ์
การเกิดลมบก ลมทะเล มรสุม ลักษณะและผลกระทบของภัยธรร มชาติธรณีพิบัติภัย การเกิดและ
ผลกระทบของปรากฏการณเ์ รอื นกระจก

6. คน้ หาขอ้ มูลอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและประเมินความน่าเชอ่ื ถอื ตัดสนิ ใจเลือกข้อมูล ใช้
เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแกป้ ัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการทางานร่วมกัน เขา้ ใจ
สทิ ธิและหนา้ ที่ของตน เคารพสิทธขิ องผู้อน่ื

7. ต้ังคาถามหรอื กาหนดปัญหาเก่ียวกบั สง่ิ ที่จะเรียนร้ตู ามที่กาหนดใหห้ รือตาม ความ
สนใจ คาดคะเนคาตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สอดคล้องกับคาถามหรือปัญหา ท่ีจะสารวจ
ตรวจสอบ วางแผนและสารวจตรวจสอบโดยใชเ้ ครอ่ื งมอื อุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ีเหมาะสม
ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ทัง้ เชิงปรมิ าณและคุณภาพ



8. วิเคราะห์ข้อมูล ลงความเห็น และสรุปความสมั พันธ์ของข้อมูลที่มาจากการ สารวจ
ตรวจสอบในรูปแบบทเ่ี หมาะสม เพ่ือส่ือสารความรู้จากผลการสารวจตรวจสอบได้อย่างมี เหตุผลและ
หลกั ฐานอา้ งอิง

9. แสดงถงึ ความสนใจ มงุ่ มนั่ ในสงิ่ ท่ีจะเรยี นรู้ มีความคิดสร้างสรรค์เก่ียวกับ เร่ืองที่จะ
ศึกษาตามความสนใจของตนเอง แสดงความคิดเห็นของตนเอง ยอมรบั ในข้อมูลที่มี หลักฐานอ้างอิง และ
รับฟงั ความคิดเห็นผอู้ นื่

10. แสดงความรับผิดชอบด้วยการทางานที่ได้รับมอบหมายอย่างมุ่งม่ัน รอบคอบ
ประหยัด ซื่อสตั ย์จนงานลุลว่ งเปน็ ผลสาเรจ็ และทางานร่วมกับผู้อ่ืนอยา่ งสร้างสรรค์

11. ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิท ยาศาสตร์และเทคโนโลยีใช้ความรู้และ
กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการดารงชีวิต แสดงความชืน่ ชม ยกย่อง และเคารพสิทธิในผลงาน ของผู้
คิดค้นและศึกษาหาความรู้เพิม่ เติม ทาโครงงานหรอื ชิน้ งานตามที่กาหนดให้หรือตามความสนใจ

12. แสดงถึงความซาบซ้ึง ห่วงใย แสดงพฤติกรรมเก่ียวกับการใช้การดูแลรักษา
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มอยา่ งรู้คุณคา่

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รียน ให้มคี ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่ง

การพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุ มาตรฐานการเรียนรู้ที่กาหนดนั้น จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสาคัญ 5
ประการ ดังน้ี

1. ความสามารถในการสื่อสาร เปน็ ความสามารถใน การรบั และส่งสาร มีวฒั นธรรมใน
การใช้ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรสู้ ึก และทัศนะของตนเองเพ่อื แลกเปลีย่ น ข้อมูล
ข่าวสาร และประสบการณ์อนั จะเปน็ ประโยชน์ต่อการพัฒนา ตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรอง
เพื่อขจัดและลดปัญหา ความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรับหรือไมร่ ับขอ้ มลู ข่าวสารดว้ ยหลัก เหตุผล และ
ความถกู ต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วธิ ีการส่ือสารทม่ี ีประสทิ ธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบท่ีมตี อ่ ตนเองและ
สงั คม

2. ความสามารถในการคดิ เป็นความสามารถใน การคิดวิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์
การคิดอย่างสรา้ งสรรค์ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสรา้ งองคค์ วามรู้
หรือสารสนเทศเพอ่ื การตัดสนิ ใจเกย่ี วกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม



3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถใน การแกป้ ญั หาและอุปสรรคตา่ งๆ
ท่ีเผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสม บนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสัมพนั ธ์และการเปลยี่ นแปลงของเหตุการณต์ า่ งๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความร้มู าใช้ใน
การปอ้ งกันและแก้ไขปญั หา และมีการตดั สินใจท่ีมปี ระสิทธิภาพโดยคานึงถงึ ผลกระทบทเี่ กิดขน้ึ ต่อตนเอง
สังคมและสิ่งแวดลอ้ ม

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ เป็นความสามารถ ในการนากระบวนการตา่ งๆ ไป
ใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน การเรียนร้ดู ้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเน่ือง การทางาน และการอยู่
ร่วมกนั ในสงั คมด้วยการสร้างเสริมความสัมพนั ธอ์ ันดีระหว่างบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แย้ง
ตา่ งๆ อย่างเหมาะสม การปรบั ตัวให้ทันกับการเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวคล้อม และการรจู้ ัก
หลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่ืน

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใช้เทคโนโลยี
ด้านต่างๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้
การส่ือสาร การทางาน การแกป้ ญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ งเหมาะสม และมีคณุ ธรรม

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์สาคัญของผูเ้ รียน
หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รียน ให้มีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เพื่อให้

สามารถอยรู่ ่วมกับผู้อืน่ ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี (หลกั สูตร
แกนกลางการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน 2551)

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
2. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต
3. มีวนิ ัย
4. ใฝ่เรียนรู้
5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
6. ม่งุ มั่นในการทางาน
7. รักความเป็นไทย
8. มจี ติ สาธารณะ



ตัวชวี้ ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 1
สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงไมม่ ีชีวติ กับ
ส่งิ มีชีวติ และความสัมพันธร์ ะหว่างสิง่ มีชีวิตกบั สง่ิ มีชวี ิตตา่ ง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ
เป ลี่ยนแป ลงแทนท่ีใ นระบ บนิเวศ ค วามหมายของประชากรปัญ หาและผลกระทบ ท่ีมีต่อ
ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหา
ส่ิงแวดล้อมรวมทงั้ นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชนั้ ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.1 ว 1.1 ป 1/1 ระบุชื่อพืชและ - บริเวณต่าง ๆ ในทอ้ งถน่ิ เชน่ สนามหญ้า ใต้

สัตว์ทีอ่ าศยั อยู่บรเิ วณต่าง ๆ ตน้ ไม้ สวนหยอ่ ม แหลง่ น้า อาจพบพืชและสตั ว์
จากขอ้ มลู ที่รวบรวมได้ หลายชนดิ อาศัยอยู่
-บริเวณที่แตกตา่ งกันอาจพบพืชและสตั ว์

แตกต่างกัน เพราะสภาพแวดล้อมของแต่ละ

ว 1.1 ป 1/2 บริเวณจะมี ความเหมาะสมตอ่ การดารงชวี ิต
ของพืชและสตั ว์ ทอ่ี าศยั อยใู่ นแต่ละบรเิ วณ เช่น

บอกสภาพแวดลอ้ มที่ สระนา้ มีนา้ เป็นที่อยู่ อาศยั ของหอย ปลา
เหมาะสมกับการดารงชวี ิต สาหร่าย เป็นที่หลบภัยและมี แหล่งอาหารของ
ของสัตวใ์ นบริเวณท่อี าศยั อยู่ หอยและปลา บรเิ วณตน้ มะมว่ งมี ต้นมะม่วง
เปน็ แหลง่ ที่อยู่ และมีอาหารสาหรบั กระรอก

และมด

- ถา้ สภาพแวดล้อมในบริเวณท่ีพืชและสตั ว์

อาศัยอยู่มกี ารเปล่ียนแปลง จะมผี ลต่อการ

ดารงชีวติ ของพืชและสัตว์



สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสงิ่ มีชีวติ หน่วยพนื้ ฐานของส่ิงมีชีวิต การลาเลียงสารผา่ นเซลล์

ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน
ความสัมพันธข์ องโครงสรา้ ง และหนา้ ทข่ี องอวยั วะต่าง ๆ ของพืชท่ที างานสัมพันธ์กนั รวมท้ังนาความรไู้ ป
ใช้ประโยชน์

ชัน้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.1 ว 1.2 ป 1/1 ระบชุ ่ือ - มนษุ ยม์ ีส่วนต่าง ๆ ที่มีลกั ษณะและหนา้ ทีแ่ ตกตา่ งกนั
บรรยายลักษณะและบอก เพื่อให้เหมาะสมในการดารงชีวติ เชน่ ตามีหน้าท่ี ไว้มองดู
หนา้ ทข่ี องสว่ นต่าง ๆ ของ โดยมหี นังตาและขนตาเพอื่ ปอ้ งกันอนั ตรายให้กบั ตา หมู ี
รา่ งกายมนษุ ย์ สัตว์ และ หน้าทรี่ บั ฟงั เสียง โดยมีใบหแู ละรูหู เพอ่ื เปน็ ทางผา่ นของ
พืช รวมท้งั บรรยายการทา เสยี ง ปากมหี น้าทีพ่ ูด กินอาหาร มีช่องปาและมรี มิ ฝปี าก
หน้าทร่ี ่วมกัน ของส่วน บนลา่ ง แขนและมอื มหี นา้ ที่ยก หยิบ จับ มที อ่ นแขนและ
ต่าง ๆ ของรา่ งกายมนษุ ย์ น้วิ มือท่ีขยบั ได้ สมอง มหี น้าที่ควบคุมการทางานของส่วน
ในการทากจิ กรรมต่าง ๆ ต่าง ๆ ของร่างกาย เปน็ ก้อนอยู่ในกะโหลกศรี ษะ โดยส่วน
จากขอ้ มูลที่รวบรวมได้ ตา่ ง ๆ ของร่างกายจะทาหน้าทร่ี ่วมกนั ในการทากจิ กรรม
ในชวี ติ ประจาวนั
- สตั วม์ หี ลายชนิด แต่ละชนิดมสี ว่ นตา่ ง ๆ ท่ีมีลักษณะ
และหน้าท่แี ตกตา่ งกัน เพือ่ ใหเ้ หมาะสม ในการดารงชวี ิต
เชน่ ปลามคี รบี เปน็ แผ่น สว่ นกบ เต่า แมว มีขา 4 ขาและ
มเี ทา้ สาหรับใช้ในการเคลื่อนท่ี
- พชื มสี ว่ นตา่ ง ๆ ที่มลี กั ษณะและหน้าที่แตกต่างกนั
เพอื่ ให้เหมาะสมในการดารงชีวติ โดยทว่ั ไป รากมลี ักษณะ
เรียวยาว และแตกแขนงเป็นรากเลก็ ๆ ทาหนา้ ท่ดี ูดนา้ ลา
ตน้ มลี กั ษณะเปน็ ทรงกระบอกตั้งตรงและมกี ง่ิ ก้าน ทา
หนา้ ทชี่ ูก่งิ ก้าน ใบ และดอก ใบมลี กั ษณะเปน็ แผ่นแบน
ทาหน้าทส่ี รา้ งอาหาร นอกจากน้ีพืชหลายชนิดอาจมดี อกที่
มีสี รปู รา่ งต่าง ๆ ทาหน้าทสี่ ืบพนั ธ์ุ รวมทงั้ มีผลท่ีมีเปลือก



ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

มเี นื้อหอ่ ห้มุ เมล็ด และมีเมลด็ ซ่ึงสามารถงอกเปน็ ต้นใหม่
ได้

ว 1.2 ป1/2ตระหนกั ถงึ - มนุษย์ใช้ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายในการทากิจกรรมตา่ ง

ความสาคญั ของสว่ นตา่ ง ๆ เพอื่ การดารงชวี ิต มนุษย์จึงควรใชส้ ่วนตา่ ง ๆของ

ๆ ของรา่ งกายตนเอง โดย ร่างกายอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และรักษา ความสะอาดอยู่

การดูแลส่วนตา่ งๆ เสมอ เช่น ใชต้ ามองตัวหนังสอื ในท่ี ๆ มีแสงสว่างเพยี งพอ

อย่างถกู ตอ้ ง ให้ปลอดภยั ดูแลตาใหป้ ลอดภัยจากอนั ตราย และรักษาความสะอาด
และรกั ษา ความสะอาดอยู่ ตาอยู่เสมอ

เสมอ

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พันธ์ระหว่างสมบัตขิ อง

สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปล่ยี นแปลงสถานะของ
สสาร การเกดิ สารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี

ช้นั ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.1 ว 2.1 ป 1/1อธิบายสมบตั ิ -วัสดุท่ใี ช้ทาวตั ถทุ ีเ่ ปน็ ของเล่น ของใช้ มหี ลายชนดิ เช่น
ทสี่ งั เกตได้ของวสั ดุท่ใี ชท้ า ผ้า แก้ว พลาสติก ยาง ไม้ อิฐ หิน กระดาษ โลหะ วสั ดุ
วัตถุซึง่ ทาจากวัสดชุ นดิ แต่ละชนดิ มสี มบัติที่สังเกตไดต้ ่าง ๆ เช่น สี นุม่ แขง็
เดยี ว หรือหลายชนิด ขรุขระ เรยี บ ใส ขุ่น ยืดหดได้ บิดงอได้
ประกอบกันโดยใช้
หลักฐานเชิงประจักษ์



ว 2.1 ป 1/2ระบุชนดิ ของ - สมบัตทิ ี่สงั เกตไดข้ องวัสดุแตช่ นิดอาจเหมอื นกนั ซึ่ง
วสั ดแุ ละจดั กลมุ่ วสั ดุตาม สามารถนามาใชเ้ ป็นเกณฑ์ในการจัดกลุม่ วัสดไุ ด้
สมบัติท่ีสงั เกตได้
วสั ดุบางอยา่ งสามารถนามาประกอบกันเพือ่ ทาเป็นวัตถุ
ต่าง ๆ เช่น ผา้ และกระดุม ใช้ทาเสอื้ ไม้และโลหะ ใช้ทา
กระทะ

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของคลื่น ปรากฏการณ์ท่ี
เก่ยี วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

ชน้ั ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ป.1 ว 2.3 ป 1/1บรรยายการเกดิ -เสียงเกดิ จากการสัน่ ของวตั ถุ วัตถทุ ที่ าใหเ้ กิดเสยี งเป็น

เสียงและทศิ ทาง การเคลอื่ นที่ แหลง่ กาเนิดเสยี งซ่ึงมที ัง้ แหลง่ กาเนิดเสียงตาม

ของเสียงจากหลกั ฐานเชิง ธรรมชาตแิ ละแหลง่ กาเนิดเสียงทมี่ นษุ ย์สร้างข้ึน เสยี ง

ประจกั ษ์ เคล่ือนท่ีออกจากแหล่งกาเนดิ เสียงทกุ ทศิ ทาง

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ

กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุรยิ ะที่ส่งผลต่อส่ิงมีชีวิตและการ

ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีอวกาศ

ชนั้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.1 ว 3.1 ป 1/1ระบดุ าวที่ - บนทอ้ งฟ้ามีดวงอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์ และดาว ซ่ึงใน
ปรากฏบนทอ้ งฟ้าในเวลา เวลากลางวันจะมองเหน็ ดวงอาทติ ยแ์ ละอาจมองเหน็



กลางวนั และกลางคนื จาก ดวงจนั ทร์บางเวลาในบางวัน แตไ่ มส่ ามารถมองเหน็

ขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ ดาว

ว 3.1 ป 1/2อธบิ ายสาเหตทุ ี่ -ในเวลากลางวนั มองไมเ่ ห็นดาวสว่ นใหญ่เน่อื งจาก

มองไม่เหน็ ดาวสว่ นใหญ่ ใน แสงอาทติ ยส์ วา่ งกว่าจึงกลบแสงของดาว ส่วนในเวลา

เวลากลางวนั จากหลักฐานเชิง กลางคืนจะมองเห็นดาวและมองเหน็ ดวงจันทร์ เกือบ

ประจักษ์ ทกุ คนื

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองคป์ ระกอบ และความสัมพนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการเปลย่ี นแปลง

ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณพี บิ ัตภิ ัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทั้ง

ผลต่อส่งิ มีชวี ติ และสงิ่ แวดล้อม

ช้นั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.1 ว 3.2 ป 1/1อธิบายลกั ษณะ -หินทอ่ี ยู่ในธรรมชาตมิ ลี กั ษณะภายนอกเฉพาตัว ท่ี

ภายนอกของหิน จาก สังเกตได้ เช่น สี ลวดลาย นา้ หนกั ความแข็ง และเนื้อ

ลักษณะเฉพาะตวั ทส่ี ังเกตได้ หิน

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการแก้ปญั หาทพ่ี บในชีวิตจริงอยา่ งเป็น

ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทนั และมจี ริยธรรม



ชัน้ ตวั ช้วี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ป.1 ว 4.2 ป 1/1แก้ปญั หาอย่างงา่ ย - การแกป้ ญั หาให้ประสบความสาเรจ็ ทาไดโ้ ดยใช้

โดยใช้การลองผิดลองถูก การ ขัน้ ตอนการแก้ปญั หา

เปรียบเทียบ - ปญั หาอย่างง่าย เช่น เกมเขาวงกต เกมหาจุด

แตกต่างของภาพการจดั หนังสือใส่กระเป๋า

ว 4.2 ป 1/2 แสดงลาดบั ข้ันตอน - การแสดงขัน้ ตอนการแก้ปัญหาทาได้โดยการเขยี น

การทางาน หรอื การแกป้ ัญหา บอกเลา่ วาดภาพ หรอื ใช้สัญลักษณ์

อย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ - ปญั หาอยา่ งงา่ ย เชน่ เกมเขาวงกต เกมหาจดุ
หรือข้อความ แตกตา่ งของภาพ การจัดหนังสือใส่กระเป๋า

ว 4.2 ป 1/3 เขียนโปรแกรม - การเขียนโปรแกรมเปน็ การสร้างลาดับของคาสัง่ ให้
อย่างงา่ ย โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รอื คอมพวิ เตอรท์ างาน
ส่ือ
- ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น เขยี นโปรแกรมส่ังให้ ตัว
ละครยา้ ยตาแหนง่ ย่อขยายขนาด เปลย่ี นรปู รา่ ง

- ซอฟตแ์ วร์ หรอื ส่อื ที่ใช้ในการเขยี นโปรแกรม เชน่ ใช้
บตั รคาสง่ั แสดงการเขียนโปรแกรม, Code.org

ป.1 ว 4.2 ป 1/4ใช้เทคโนโลยใี นการ - การใช้งานอุปกรณเ์ ทคโนโลยเี บอ้ื งตน้ เชน่ การใช้

สร้าง จัด เก็บ เรยี กใชข้ อ้ มลู ตาม เมาส์ คีย์บอรด์ จอสมั ผัส การเปิด-ปดิ อุปกรณ์

วตั ถุประสงค์ เทคโนโลยี

-การใช้งานซอฟต์แวรเ์ บอื้ งต้น เชน่ การเข้าและออก
จากโปรแกรม การสร้างไฟล์ การจดั เกบ็ การเรียกใช้
ไฟล์ ทาได้ในโปรแกรม เช่น โปรแกรมประมวลคา
โปรแกรมกราฟิก โปรแกรมนาเสนอ



ชั้น ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

-การสร้างและจัดเก็บไฟล์อย่างเปน็ ระบบจะทาให้
เรยี กใช้ ค้นหาข้อมูลไดง้ า่ ยและรวดเรว็

ว 4.2 ป 1/5ใช้เทคโนโลยี - การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย เช่น รู้จกั

สารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏบิ ัติ ขอ้ มลู สว่ นตวั อนั ตรายจากการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตวั

ตามข้อตกลงในการใช้ และไม่บอกขอ้ มลู สว่ นตัวกบั บคุ คลอ่ืนยกเว้นผูป้ กครอง

คอมพวิ เตอร์รว่ มกนั ดูแลรกั ษา หรอื ครู แจง้ ผูเ้ กี่ยวข้องเม่ือตอ้ งการ ความช่วยเหลอื

อุปกรณ์เบื้องต้น ใช้งานอย่าง เก่ียวกับการใช้งาน

เหมาะสม - ข้อปฏบิ ัตใิ นการใช้งานและการดูแลรกั ษาอปุ กรณ์

เช่น ไม่ขดี เขยี นบนอุปกรณ์ ทาความสะอาด ใช้

อุปกรณอ์ ย่างถกู วิธี

- การใชง้ านอย่างเหมาะสม เช่น จัดทา่ นั่งใหถ้ ูกต้อง
การพกั สายตาเมอ่ื ใชอ้ ุปกรณ์เป็นเวลานาน ระมัดระวัง
อบุ ตั ิเหตจุ ากการใช้งาน



คาอธบิ ายรายวชิ า/ตวั ชวี้ ัด

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ ว11101

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 80 ชัว่ โมง/ปี

ศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สตั ว์ และพืช

รวมท้ังการทาหน้าท่ีร่วมกันของสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกายมนษุ ย์ ความสาคัญของสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย

ตนเอง และการดูแลสว่ นตา่ ง ๆ อย่างถูกตอ้ ง ปลอดภัย และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ช่อื พืชและสตั ว์ที่

อาศัยอยูบ่ ริเวณต่าง ๆ สภาพแวดล้อมทเี่ หมาะสมในบรเิ วณที่พืชและสตั ว์อาศัยอยู่ สมบตั ิท่ีสงั เกตได้ของ

วสั ดุที่ใชท้ าวตั ถุซ่ึงทาจากวัสดุ ชนิดเดียวหรือหลายชนิดประกอบกัน ชนดิ ของวัสดุและจัดกลมุ่ วัสดุตาม

สมบัติที่สังเกต การเกิดเสียงและทิศทางการเคล่ือนท่ีของเสียง ลักษณะภายนอกของหินจากลักษณะ

เฉพาะตัวที่สงั เกต ดาวที่ปรากฏบนทอ้ งฟ้าในเวลา กลางวันและกลางคนื และสาเหตุท่มี องไมเ่ ห็นดาวส่วน

ใหญใ่ นเวลากลางวัน

โดยมุง่ หวังใหผ้ ูเ้ รียนไดเ้ รียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ท่ีสามารถนาไปใช้อธบิ าย แก้ไขปญั หา หรือสร้างสรรค์

พฒั นางานในชวี ิตจริงได้ ซึง่ เน้นการเชื่อมโยงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี กับ

กระบวนการทางวิศวกรรมศาสตร์ และให้มีทักษะสาคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้

กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ และการแก้ปญั หาทีห่ ลากหลาย

เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะการคิด และมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกข้ันตอน

รวมท้งั สง่ เสริมให้ผูเ้ รยี นเกิดจติ วทิ ยาศาสตร์และมเี จตคตทิ ด่ี ีต่อการเรียนวทิ ยาศาสตร์

ตัวชว้ี ัด
ว1.1 ป.1/1 ป.1/2
ว1.2 ป.1/1 ป.1/2
ว2.1 ป.1/1 ป.1/2
ว2.3 ป.1/1
ว3.1 ป.1/1 ป.1/2
ว3.2 ป.1/1
รวม 10 ตัวชีว้ ดั



โครงสร้างรายวิชา

ลาดับ ช่ือหน่วยการ เรยี นรู้ มาตรฐานการ เวลา 80 ชัว่ โมง/ปี
เวลา
ท่ี ช่อื บท เรียนร/ู้ สาระสาคญั (ชัว่ โมง) คะแนน
ตวั ชว้ี ัด

1. ตวั เรา พืช และสตั ว์ บทท่ี 1 ตวั เรา ว1.2 ป.1/1 มนุษย์มีส่ว นต่างๆ ที่มี 16 20
15
ว1.2 ป.1/2 ลักษณะและหน้าที่แตกต่าง

กัน เพ่ือให้เหมาะสมในการ

ดารงชีวิต โดยสว่ นต่างๆ ของ

ร่างกายจะทาหน้าที่ร่วมกันใน

การทากิจ กรรมต่าง ๆ ใ น

ชวี ิตประจาวนั

พชื และสัตว์มีสว่ นต่างๆ ท่ี

มลี ักษณะและหนา้ ที่แตกต่าง

กัน เพื่อให้เหมาะสมในการ

ดารงชีวิต

มนุษย์ใช้ส่วนต่างๆ ของ

ร่างกายในการทากิจกรรมต่าง

ๆ เพ่ือการดารงชีวิต ดังน้ัน

มนุษย์จึงค วรใช้ส่วนต่างๆ

ข อ ง ร่ า ง ก า ย อ ย่ า ง ถู ก ต้ อ ง

ปลอดภยั และต้องรักษาความ

สะอาดของรา่ งกายอยู่เสมอ

บทที่ 2 พืชและ ว1.2 ป.1/1 พชื และสตั วม์ ีสว่ นตา่ งๆ ที่ 13

สัตวน์ า่ รู้ มลี ักษณะและหน้าท่ีแตกต่าง

กัน เพื่อให้เหมาะสมในการ

ดารงชวี ติ



2. พชื และสัตว์ในท้องถิ่น บทท่ี 1 ว1.1 ป.1/1 บริเวณต่าง ๆ ในท้องถ่ิน 11 15

พืชและสัตว์ใน ว1.1 ป.1/2 เช่น สนามหญ้า ใต้ต้นไม้

บริเวณตา่ ง ๆ แหล่งนา้

อาจพบพืชและสตั วห์ ลายชนดิ

อาศยั อยู่

บริเวณที่แตกต่างกันอาจ

พบ พืช แ ละ สั ต ว์ แ ต ก ต่ าง กั น

เพราะสภาพแวดล้อมของแต่

ละบริเวณจะมีความเหมาะสม

ต่อการดารงชีวิตของพืชและ

สัต ว์ ท่ี อ าศั ย อ ยู่ ใ น แ ต่ ล ะ

บริเวณแตกต่างกันไป หาก

สภ า พแ ว ด ล้อ ม ใน บ ริ เว ณ ท่ี

พืชและสตั ว์อาศยั อย่เู กิดการ

เปลี่ยนแปลง จะมีผลต่อการ

ดารงชีวิตของพืชและสัตว์

1

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1

กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ รหสั วิชา ว 11101

ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นที่ 1/2565

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ตวั เรา พชื และสตั ว์ หนว่ ยย่อยที่ 1 ร่างกายของเรา
เรอื่ ง รา่ งกายและอวัยวะของเรา เวลา 2 ชวั่ โมง
ผสู้ อน นางสาวกวินทพิ ย์ มะณี

1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด
1.1 ตวั ชีว้ ัด
ว 1.2 ป.1/1 ระบชุ ่ือบรรยายลักษณะและบอกหนา้ ที่ของสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายมนษุ ยส์ ัตว์
และพชื รวมทงั้ บรรยายการทาหนา้ ทรี่ ่วมกนั ของส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย
มนษุ ย์ในการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ จากข้อมูลทีร่ วบรวมได้

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. บอกความแตกตา่ งของอวยั วะภายนอกและอวยั วะภายในได้ (K)
2. สงั เกตและบอกชื่ออวัยวะแตล่ ะส่วนของร่างกายได้ (K)
3. จาแนกภาพอวยั วะภายในและอวยั วะภายนอกได้ (P)
4. มคี วามม่งุ มั่นและต้ังใจในการทางาน (A)

3. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1. ลักษณะของอวัยวะภายนอกรา่ งกายของมนุษย์
2. ลักษณะของอวยั วะภายในรา่ งกายของมนษุ ย์

4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
ร่างกายของเรามีอวัยวะต่าง ๆ ประกอบกัน อวยั วะท่ีเราสามารถมองเห็นได้ เรียกว่า อวัยวะ

ภายนอก และ อวยั วะทีเ่ ราไมส่ ามารถมองเห็นได้ เรยี กวา่ อวัยวะภายใน

2

5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินัย

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรยี นรู้

1) ทักษะระบุ 3. ม่งุ ม่ันในการทางาน

2) ทกั ษะการสังเกต

3) ทักษะการสารวจคน้ หา

4) ทกั ษาการจาแนกประเภท

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional

Model)

ชว่ั โมงที่ 1
6.1 ข้ันกระตนุ้ ความสนใจ (Engage)

1. ครูทกั ทายกบั นกั เรียน ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ที่จะเรยี นในวันนี้ให้นักเรียนทราบ
2. ครูใหน้ ักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพอ่ื วดั ความรเู้ ดิมของนักเรียนกอ่ นเข้าส่กู ิจกรรม
3. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นก่อนจะเร่ิมเรียนในวนั นี้ โดยเขียนเน้อื เพลง ตา หู จมูก บน

กระดาน จากนั้นสอนนกั เรียนรอ้ งเพลง โดยให้นักเรียนรอ้ งตาม
เพลง ตา หู จมกู

ตา หู จมูก จบั ใหถ้ กู จมูก หู ตา
จบั ใหมจ่ ับให้ฉนั ดู (ซ้า)

จบั จมูก ตา หู จับหู ตา จมกู
(ที่มา : เพลงสอนเด็กปฐมวัย)

4. ครพู านักเรียนเล่นเกมจบั ให้ถกู ท่ี โดยครูให้นักเรียนรอ้ งเพลง ตา หู จมกู แลว้ จบั อวยั วะตาม
เนือ้ รอ้ งเพลงให้ทันและถูกต้อง ใครทาผดิ ให้น่ังลงจนกระทั่งเหลือผู้เล่นคนสดุ ท้ายคอื ผู้ชนะ
ครใู ห้รางวลั แก่นักเรียนทช่ี นะ

5. ครูถามนกั เรียนวา่ เพลงท่นี ักเรียนได้ร้องไปเน้ือเพลงกล่าวถึงเร่ืองใด โดยให้นกั เรยี นชว่ ยกัน
ตอบ

3

6. ครูอา่ นสาระสาคัญและใหน้ ักเรียนดภู าพ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื งตวั เรา พืช และสตั ว์จาก
หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 หนา้ 2 เพื่อให้นักเรียนได้ทราบว่าหน่วยท่ี 1 น้ีเรียน
เกีย่ วกับเรอื่ งตัวเรา พืช และสตั ว์

7. ครูให้นกั เรียนเปิดและดภู าพในหนา้ บทท่ี 1 ตวั เรา จากหนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ หน้า 3 แล้ว
ถามคาถามว่า ร่างกายของเราประกอบด้วยอวัยวะอะไรบ้าง และอวัยวะน้ันทาหน้าที่อะไร
จากน้ันให้นักเรียนชว่ ยกันอธบิ ายคาตอบ
(แนวตอบ : รา่ งกายของเราประกอบดว้ ยอวยั วะส่วนตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ตา ทาหนา้ ท่ี มองดสู ิ่งต่าง
ๆ หู ทาหนา้ ท่ี ฟงั เสยี งตา่ ง ๆ จมูก ทาหน้าท่ี หายใจและดมกลน่ิ ปาก ทาหน้าที่ พูด และกนิ
อาหาร แขนและมอื ทาหน้าที่ แขนช่วยในการเคลือ่ นไหวของรา่ งกาย ส่วนมอื ชว่ ยหยิบจบั ส่งิ
ตา่ ง ๆ ขาและเทา้ ทาหน้าที่ ขาชว่ ยในการเคลื่อนท่ี โดยมีเทา้ รับน้าหนักตวั )

8. ครชู ูบัตรภาพอวัยวะของคนและสตั ว์ให้นักเรียนสังเกตแล้วให้ตอบว่าเป็น อวัยวะของคนหรือ
เปน็ อวัยวะของสตั ว์ หรอื ให้นกั เรียนทากิจกรรมนาสู่การเรียนในแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.1
เลม่ 1 หน้า 2 โดยมีรูปอวัยวะของคนและสัตว์ปนกนั และตอบคาถามวา่ ภาพหมายเลข
ใดเป็นอวัยวะของคนและภาพหมายเลขใดเป็นอวัยวะของสัตว์ แล้วช่วยกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ งทากจิ กรรมนาสู่การเรยี นในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ หน้า 2

6.2 ขน้ั สารวจคน้ หา (Explore)

1. ครูให้นักเรียนเรียนรแู้ ละอา่ นคาศัพท์ท่ีเกย่ี วข้องกบั การเรยี นในบทที่ 1 ในสื่อการสอนที่ครูได้

เตรยี มมา โดยครูนาสอื่ ทเี่ ตรียมไว้ติดหน้ากระดานหน้าห้องเรยี น และให้ครเู ป็นผอู้ ่านนาและ

ให้นักเรยี นอ่านตาม ดงั นี้

External organs (แอ็คซ'เตอนลั ออกัน) อวัยวะภายนอก

Internal organs (อิน'เทอนัล ออกัน) อวยั วะภายใน

Skin (ซกิน) ผวิ หนงั

Lung (ลัง) ปอด

Brain (เบรน) สมอง

โดยครสู ามารถเสริมคาศัพทท์ ีเ่ กีย่ วข้องใหก้ บั นักเรียนได้
2. ครูลบคาแปลออกให้เหลือแต่คาศัพท์ จากนั้นครูทาการสุ่มนักเรียนให้ออกมาอ่านคาศัพท์

พร้อมบอกคาแปล คนละ 1 คา โดยมคี รูคอยชว่ ยแนะนา
(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล)
3. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความรูท้ ีไ่ ดจ้ ากการทากจิ กรรมจากช่วั โมงน้ี

4

ชั่วโมงที่ 2

6.3 ขนั้ อธบิ ายความรู้ (Explain)

1. ครูติดบัตรข้อความอวัยวะภายในและบตั รข้อความอวยั วะภายนอกไว้คนละฝ่ังของกระดาน
จากนน้ั นาบตั รคาของชอื่ อวยั วะภายในและอวยั วะภายนอกรา่ งกายใส่ไว้ในกลอ่ ง

2. ครูสุ่มนักเรียนออกมาหยิบบตั รคาในกล่องทลี ะคนแล้วอา่ นให้เพ่อื นฟงั จากนั้นนาบัตรคาไป
ตดิ บนกระดานใหต้ รงกับบัตรข้อความอวัยวะภายในและบัตรขอ้ ความอวัยวะภายนอกทคี่ รูติด
ไวบ้ นกระดานให้ถกู ต้อง
(หมายเหตุ: ครูเริ่มประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล)

3. เมื่อทากิจกรรมเสร็จแล้ว ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปข้อมูลท่ีได้จากการทากิจกรรมบน
กระดาน
เช่น - อวัยวะภายใน ไดแ้ ก่ หัวใจ ปอด ลาไส้ สมอง กระเพาะอาหาร เป็นต้น
- อวัยวะภายนอก ได้แก่ ตา หู จมกู ปาก แขนและมอื ขาและเท้า เปน็ ต้น

4. ครูสนทนากับนกั เรียนเพิ่มเติมเก่ียวกับอวัยวะของรา่ งกายว่า จากข้อมูลบนกระดานนกั เรียน
สามารถมองเห็นอวัยวะใดได้บ้าง และนักเรยี นไม่สามารถมองเหน็ อวัยวะใดบ้าง โดยให้
นักเรยี นยกมอื ตอบคาถามทลี ะคน
(แนวตอบ : - อวัยวะทเ่ี ราสามารถมองเห็นได้ ได้แก่ หู ตา จมูก มอื เท้า เป็นตน้
- อวยั วะทีเ่ ราไม่สามารถมองเหน็ ได้ ได้แก่ หวั ใจ สมอง ปอด ลาไส้ เป็นต้น)

5. ครูอธบิ ายถงึ ความหมายของอวยั วะภายนอกและอวยั วะภายในใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจเพ่มิ เตมิ
6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า ร่างกายของเราประกอบด้วยอวัยวะอะไรบ้างที่นักเรียน

สามารถมองเห็นได้ และอวัยวะใดบ้างทีน่ กั เรียนไมส่ ามารถมองเหน็ ได้

6.4 ข้ันขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. ครูสนทนากบั นักเรียนว่า คนเรามอี วยั วะต่าง ๆ เหมือนกนั หรือไม่ อยา่ งไร โดยให้นักเรยี นจับ
กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แล้วช่วยกันสืบคน้ หาข้อมูลจากแหลง่ ตา่ ง ๆ เช่น หนังสอื เรียน
จากสอื่ การสอน เป็นตน้ โดยครูกาหนดเวลาในการทากิจกรรมกลุ่มละ 10 นาที
(หมายเหตุ: ครูเรมิ่ ประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายกลมุ่ )
2. หลังจากหมดเวลาท่ีครกู าหนด ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มเตรยี มความพร้อม เพื่อออกมานาเสนอ
ข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นหน้าช้ันเรียน โดยออกมานาเสนอทลี ะกล่มุ
(หมายเหต:ุ ครูเรมิ่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนาเสนอหน้าช้ันเรียน)
3. เมื่อนาเสนอครบทุกกลุ่มแล้ว ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและสรุปผลท่ีแต่ละกลุ่ม
นาเสนอไป เพื่อแนะนาและเสนอแนะข้อบกพร่อง

5

6.5 ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความหมายของอวัยวะภายนอกและอวยั วะภายใน ดงั น้ี อวยั วะที่
เราสามารถมองเห็นได้ เรยี กว่า อวยั วะภายนอก ไดแ้ ก่ ตา หู จมูก แขนและมอื ส่วนอวัยวะที่
เราไมส่ ามารถมองเหน็ ได้ เพราะอยู่ภายในรา่ งกายตวั เรา เรียกว่า อวัยวะภายใน ได้แก่ สมอง
หวั ใจ ตบั และปอด
2. ครตู รวจสอบผลการทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน เพ่ือตรวจสอบความเข้าใจกอ่ นเรยี นของ
นกั เรียน
3. ครูประเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางาน
รายบุคคล พฤติกรรมการทางานกลุม่ และจากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหน้าชน้ั เรยี น
4. ครูตรวจสอบผลจากการทากจิ กรรมนาส่กู ารเรยี นในแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ หน้า 2

7. การวัดและประเมนิ ผล

รายการวดั วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน

1. การประเมนิ กอ่ นเรียน

- แบบทดสอบก่อน

เรยี น หน่วยการ

เรียนรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ประเมินตามสภาพจริง

ตวั เรา พืช และ กอ่ นเรยี น

สัตว์

2. ประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

1) กจิ กรรมนาสู่ - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ป.1 เลม่ 1 หน้า 2
การเรียน วทิ ยาศาสตร์ ป.1

เล่ม 1หนา้ 2

2) การนาเสนอผล - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพ 2
นาเสนอผลทากิจกรรม ผ่านเกณฑ์
การทากจิ กรรม ผลทากจิ กรรม
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2
3) พฤตกิ รรม - สงั เกตพฤตกิ รรม การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

การทางาน การทางานรายบุคคล

รายบคุ คล

4) คุณลกั ษณะ - สงั เกตความมีวินยั - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ 2
คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มั่น อนั พงึ ประสงค์

ในการทางาน

6

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ตัวเรา พืช และสตั ว์
2) แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 ตัวเรา พชื และสัตว์
3) แบบทดสอบก่อนเรยี น
4) บตั รภาพอวัยวะของคนและสตั ว์
5) บัตรคาอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายใน
6) บัตรข้อความอวยั วะภายนอกและอวยั วะภายใน

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) หอ้ งเรียน
3) อนิ เทอร์เน็ต
4) ส่อื การสอน

7

8

9

10

11

12

13

14

15

เกณฑก์ ารวดั ประเมินผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ด)ี

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

7-9 3 = ดี

4-6 2 = พอใช้

1-3 1 = ปรบั ปรงุ

0 0 = แก้ไข

แนวทางในการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ประเดน็ การ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน
3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แก้ไข)
1. มีวินยั
นักเรียนเขา้ เรยี น นกั เรยี นเข้าเรียน นกั เรียนเขา้ เรยี น นกั เรยี นไม่
2. ใฝ่เรยี นรู้ ตรงต่อเวลา ตรงต่อเวลา ตรงตอ่ เวลา เขา้ เรียน ไม่
บางครั้ง ปฏิบัติ บางครั้ง ไม่ ปฏิบตั ติ าม
3. ม่งุ มั่นในการ สม่าเสมอ ปฏบิ ัติ ตามกฎระเบยี บ ปฏบิ ัตติ าม กฎระเบยี บ
ทางาน ตามกฎระเบยี บ บางครง้ั กฎระเบยี บ

สม่าเสมอ

มีความสนใจใน มีความสนใจใน มีความสนใจใน ไมม่ ีความ

กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการ สนใจใน
การสอนสม่าเสมอ การสอน เรียนการสอน กิจกรรมการ
ทาใบกจิ กรรมด้วย สม่าเสมอ ทาใบ บางคร้งั ไม่ทาใบ
กิจกรรมดว้ ย กจิ กรรมด้วย เรยี นการสอน
ตนเอง ตนเองบางคร้ัง
ตนเอง ไม่ทาใบ
กจิ กรรม

นกั เรียนตง้ั ใจ นกั เรยี นตง้ั ใจ นกั เรยี นไมต่ ้งั ใจ นกั เรยี นไม่
ทางานอยา่ งเตม็ ทางานอยา่ งเต็ม ทางาน และสง่ ทางานส่ง
ความสามารถ ความสามารถแต่ งานไม่ทนั ตาม
ทางานเสรจ็ และ ส่งงานไมต่ รงตาม เวลาทีก่ าหนด
ส่งทันตามเวลาท่ี เวลาทกี่ าหนด

กาหนด

16

เกณฑ์การวัดประเมินผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ด)ี

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

7-9 3 = ดี

4-6 2 = พอใช้

1-3 1 = ปรบั ปรุง

0 0 = แกไ้ ข

ประเด็นการ แนวทางในการประเมนิ ทักษะการปฏบิ ตั ิ 0 (แก้ไข)
ประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ สมาชิกในกลุ่มไม่
1. มที ักษะการ มีการวางแผน
วางแผนทางาน 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ ) กอ่ นลงมอื ทา
กลุ่ม ปฏิบตั ิ และไม่
สมาชกิ ในกล่มุ มี สมาชิกในกลมุ่ มี สมาชกิ ในกลุ่มไม่มี
การวางแผนก่อน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อน ช่วยเหลือกัน
ลงมือทาปฏบิ ัติ ลงมอื ทาปฏบิ ตั ิ ลงมอื ทาปฏิบตั ิ ทางาน
และช่วยเหลือกัน และช่วยเหลือกัน และช่วยเหลอื กัน
เฉยชาขาดสนใจ
อย่างเต็มท่ี เปน็ บางคน ทางานบางคน ไม่แสดงความ
อยากรู้อยากเห็น
2. มีความ สมาชิกในกลมุ่ สมาชิกในกลุ่ม สมาชิกในกลมุ่ ไม่
ตงั้ ใจศกึ ษาหา สมาชกิ ในกลุ่มไม่
กระตอื รือรน้ ใน ทุกคนร่วมกัน รว่ มกันศึกษาหา มงี าน
ความรู้
การหาความรู้ ศกึ ษาหาความรู้ ความรูอ้ ยา่ งต้งั ใจ
สมาชกิ ในกลุ่มไม่
อยา่ งต้ังใจ เป็นบางคน สามารถนาเสนอ
งานได้อยา่ งมั่นใจ
3. มีความม่นั ใจ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกลุ่ม ถกู ตอ้ ง ชัดเจน

และกล้า สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ

แสดงออก งานไดอ้ ย่างม่นั ใจ งานได้อยา่ งม่ันใจ

ถกู ต้อง ชัดเจน ถูกต้อง ชัดเจน

เปน็ บางครัง้

17

ภาคผนวก

23

บตั รคำ 

ตา หู

จมูก ปาก

แขนและ ขาและ
มอื เทา้

24

บตั รคำ ลาไส้ 
ตับ
หัวใจ กระเพาะ
สมอง อาหาร
ปอด

25 

บตั รข้อควำม

อวัยวะภายนอก
อวัยวะภายใน

26

บตั รภำพอวยั วะส่วนตำ่ งๆ ของคน



27

บตั รภำพอวยั วะส่วนตำ่ งๆ ของคน



บตั รภำพอวยั วะส่วนตำ่ งๆ ของสตั ว์

27



บตั รภำพอวยั วะส่วนตำ่ งๆ ของสตั ว์

28



29

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2

กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 11101 รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์

ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1/2565

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 ตวั เรา พืช และสตั ว์ หนว่ ยย่อยที่ 1 ร่างกายของเรา
เร่ือง สารวจอวัยวะของเรา เวลา 2 ชวั่ โมง
ผ้สู อน นางสาวกวนิ ทพิ ย์ มะณี

1. มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั
1.1 ตวั ชว้ี ัด
ว 1.2 ป.1/1 ระบุชื่อบรรยายลักษณะและบอกหน้าทีข่ องสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกายมนุษย์
สตั ว์ และพืช รวมทั้งบรรยายการทาหน้าที่ร่วมกันของส่วนต่าง ๆ ของ
ร่างกายมนษุ ย์ในการทากิจกรรมต่าง ๆ จากขอ้ มูลที่รวบรวมได้

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. สงั เกตและบอกชือ่ อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกายตนเองได้ (K)
2. เปรียบเทยี บอวยั วะภายนอกแต่ละสว่ นของตนเองกบั เพื่อนได้ (K)
3. ปฏิบตั กิ จิ กรรมสารวจอวัยวะภายนอกของตนเองได้ (P)
4. รับผดิ ชอบต่อหน้าท่ีทไี่ ดร้ ับมอบหมาย (A)

3. สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1. ระบุชื่ออวยั วะภายนอกร่างกายของมนุษย์
2. ระบุชอ่ื อวัยวะภายในรา่ งกายของมนุษย์

4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
ร่างกายของเรามีอวัยวะต่าง ๆ ประกอบกัน อวัยวะท่ีเราสามารถมองเห็นได้ เรียกว่า อวัยวะ

ภายนอก และอวัยวะท่เี ราไม่สามารถมองเหน็ ได้ เรียกวา่ อวยั วะภายใน

30

5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มี

2. ความสามารถในการคดิ วินยั

1) ทกั ษะระบุ 2. ใฝ่

2) ทักษะการสังเกต เรียนรู้

3) ทักษะการสารวจคน้ หา 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน

4) ทักษาการจาแนกประเภท

3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ช่วั โมงที่ 1

6.1 ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)

1. ครสู ุ่มนักเรียน 3-4 คน ออกมาบอกความหมายของอวัยวะภายนอกและอวัยวะภายใน พรอ้ ม
ยกตัวอย่างอวัยวะมา 2 อวยั วะ แล้วให้เพื่อน ๆ ในห้องชว่ ยกนั แสดงความคิดเห็นและปรบมือ
ใหก้ ับเพื่อนท่ีออกมาตอบคาถาม
(หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล)

2. ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ทีจ่ ะเรียนในวันนใ้ี หน้ ักเรียนทราบ
3. ครูนาบัตรภาพหรอื วาดแผนภาพรา่ งกายคนทมี่ ีส่วนต่าง ๆ ของอวัยวะภายนอกขาดหายไปไว้

บนกระดาน แล้วใหน้ กั เรยี นสังเกตภาพ จากนั้นครสู ุ่มนกั เรยี นใหอ้ อกมาเติมอวยั วะสว่ นทีข่ าด
หายไป แล้วให้เพือ่ น ๆ ช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ งและบอกชื่ออวยั วะภายนอกที่ขาด
หายไปบนแผนภาพ
3. ครูนาแผนภาพอวัยวะภายในมาให้นักเรียนช่วยกันสังเกต แล้วถามนักเรียนว่า นักเรียน
สามารถมองเหน็ อวยั วะในภาพนไี้ ด้หรอื ไม่ เพราะเหตุใด แล้วให้นักเรียนช่วยกันตอบ
(แนวตอบ : มองไมเ่ ห็น เพราะอวยั ว้เหล่าน้อี ยูภ่ ายในร่างกายของเรา ซึ่งมีผวิ หนังหอ่ หุ้มอยู)่

6.2 ขัน้ สารวจคน้ หา (Explore)
1. ครใู ห้นกั เรียนจบั คทู่ ากจิ กรรมที่ 1 เรอ่ื งสารวจอวยั วะของเรา ตอนท่ี 1 โดยปฏบิ ตั ดิ งั นี้

31

1) ครอู ธิบายขั้นตอนการทากจิ กรรมที่ 1 เรือ่ งสารวจอวยั วะของเรา ตอนท่ี 1 จากหนงั สือ
เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 หน้า 5 อยา่ งละเอียด

2) ให้นกั เรียนจบั คู่กับเพ่ือนเพศเดียวกัน แลว้ ผลัดกันสารวจรา่ งกายของตนเองและเพือ่ น
วา่ มอี วัยวะภายนอกอะไรบ้างทนี่ กั เรยี นสังเกตเหน็ ได้

3) วาดภาพตนเองลงในสมุดประจาตวั นักเรียนหรือแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1
หนา้ 4 แลว้ ลากเส้นช้ีบอกช่ืออวยั วะภายนอกให้ถูกตอ้ ง

4) เมื่อแต่ละคู่ทากิจกรรมเสร็จแลว้ ให้แต่ละคู่ร่วมกันเปรียบเทียบข้อมูลอวยั วะภายนอก
ของตนเองกบั เพื่อน พร้อมทั้งซักถามข้อสงสยั

5) ร่วมกนั อภปิ รายและสรุปผลการทากิจกรรม เพือ่ นาเสนอข้อมลู หน้าชนั้ เรยี น
(หมายเหต:ุ ครูเรม่ิ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายกลุ่ม)
2. ครูสุ่มนักเรียนด้วยการจับฉลากช่ือ 3-4 คน ให้ออกมานาเสนอข้อมูลที่ได้จากการสารวจ
อวัยวะของตนเองหน้าช้ัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และตรวจสอบความถูกต้อง โดยครูต้ัง
คาถาม ดังน้ี
1) นักเรยี นมองเห็นอวัยวะใดของเพือ่ นบา้ ง

(แนวตอบ : เชน่ ตา หู จมูก ปาก แขนและมือ ขาและเทา้ )
2) อวยั วะท่ีเราสามารถมองเหน็ ไดเ้ รยี กว่าอะไร

(แนวตอบ : อวยั วะภายนอก)
(หมายเหตุ: ครเู ร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การนาเสนอหน้าช้ันเรียน)
3. ใหน้ ักเรยี นทกุ คนร่วมกันอภปิ รายความรเู้ กย่ี วกับอวัยวะภายนอกทีไ่ ดจ้ ากการทากจิ กรรม

ชว่ั โมงที่ 2

6.3 ขน้ั อธบิ ายความรู้ (Explain)

1. ครูชวนนกั เรียนสนทนาเพ่ือทบทวนความรู้เดิมจากการทากิจกรรมจากชั่วโมงทีแ่ ล้วเก่ียวกับ
อวัยวะภายนอกของรา่ งกาย

2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละตามความสามารถ แล้วทากิจกรรมที่ 1 เรื่อง
สารวจอวยั วะของเรา ตอนท่ี 2 จากหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ หน้า 6 โดยปฏบิ ัติ ดังนี้
1) ศึกษาข้นั ตอนการทากิจกรรมท่ี 1 เรื่องสารวจอวัยวะของเรา ตอนที่ 2 จากหนังสอื เรยี น
วิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 หนา้ 6 อยา่ งละเอียด หากมขี ้อสงสัยใหส้ อบถามครู
2) ให้ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ ออกมารับบตั รภาพอวยั วะภายในและแผนภาพอวยั วะภายใน


Click to View FlipBook Version