117
118
119
120
121
122
123
124
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผ่านเกณฑใ์ นระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6
1-3 2 = พอใช้
0 1 = ปรับปรุง
0 = แก้ไข
แนวทางในการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แก้ไข)
1. มวี ินยั นกั เรยี นเข้าเรยี นตรง นักเรยี นเข้าเรียน นกั เรยี นเข้าเรียน นักเรียนไมเ่ ข้า
ตอ่ เวลาสมา่ เสมอ ตรงต่อเวลา ตรงต่อเวลา เรยี น ไมป่ ฏิบตั ิ
บางคร้ัง ปฏบิ ัติ
ปฏิบัตติ าม บางครงั้ ไม่ปฏบิ ตั ิ ตาม
กฎระเบียบ ตามกฎระเบยี บ ตามกฎระเบยี บ กฎระเบียบ
สมา่ เสมอ บางคร้ัง
2. ใฝ่เรยี นรู้ มีความสนใจใน มคี วามสนใจใน มีความสนใจใน ไมม่ คี วาม
กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน สนใจใน
การสอนสมา่ เสมอ การสอนสมา่ เสมอ การสอนบางคร้งั กจิ กรรมการ
ทาใบกจิ กรรมด้วย ทาใบกิจกรรมดว้ ย ไม่ทาใบกจิ กรรม เรยี นการสอน
ตนเองบางครั้ง ไมท่ าใบ
ตนเอง ด้วยตนเอง
กิจกรรม
3. มุ่งมั่นในการ นกั เรยี นตั้งใจทางาน นกั เรียนตงั้ ใจ นักเรียนไม่ตงั้ ใจ นกั เรยี นไม่
ทางาน อย่างเต็ม ทางานอย่างเตม็ ทางาน และส่งงาน ทางานสง่
ความสามารถแต่ ไม่ทนั ตามเวลาที่
ความสามารถ สง่ งานไม่ตรงตาม
ทางานเสรจ็ และส่ง เวลาทกี่ าหนด กาหนด
ทนั ตามเวลาที่
กาหนด
125
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรบั ปรงุ
0 0 = แกไ้ ข
แนวทางในการประเมินทักษะการปฏบิ ตั ิ
ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แกไ้ ข)
1. มที ักษะการ สมาชกิ ในกลุ่มมี สมาชิกในกลุม่ มี สมาชกิ ในกลุม่ ไม่มี สมาชกิ ในกลุ่มไมม่ ี
วางแผนทางาน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อนลง การวางแผนกอ่ น
กลมุ่ ลงมือทาปฏิบตั ิ ลงมือทาปฏิบตั ิ มอื ทาปฏบิ ัติ และ ลงมอื ทาปฏบิ ัติ
และชว่ ยเหลือกัน และชว่ ยเหลอื กนั ช่วยเหลือกนั ทางาน และไมช่ ่วยเหลอื
อยา่ งเตม็ ท่ี เปน็ บางคน บางคน กนั ทางาน
2. มคี วาม สมาชิกในกลมุ่ ทุก สมาชกิ ในกลุม่ สมาชกิ ในกลุ่มไม่ เฉยชาขาดสนใจไม่
กระตอื รือรน้ ใน คนรว่ มกนั ศึกษา ร่วมกันศกึ ษาหา ตั้งใจศกึ ษาหา แสดงความอยากรู้
การหาความรู้ หาความรอู้ ยา่ ง ความรอู้ ย่างต้งั ใจ ความรู้ อยากเหน็
ตัง้ ใจ เปน็ บางคน
3. มีความมั่นใจ สมาชิกในกล่มุ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกล่มุ ไม่ สมาชิกในกลมุ่ ไม่มี
และกลา้ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ งาน
แสดงออก งานไดอ้ ย่างมน่ั ใจ งานได้อยา่ งมน่ั ใจ งานได้อย่างม่นั ใจ
ถูกต้อง ชดั เจน ถูกต้อง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชัดเจน
เป็นบางคร้งั
126
ภาคผนวก
127
บตั รคา
128
บัตรภาพอวยั วะส่วนตา่ งๆ ของคน
129
บัตรภาพอวยั วะส่วนตา่ งๆ ของคน
130
บัตรภาพอวยั วะส่วนตา่ งๆ ของคน
131
บัตรภาพอวยั วะส่วนตา่ งๆ ของคน
132
133
134
ใบงานที่ 1.4
เรอ่ื ง หนา้ ท่ขี องอวัยวะภายใน
คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนวาดภาพ หรอื ตดิ ภาพอวัยวะภายในทต่ี นเองสนใจมา 1 อวัยวะ พร้อมบอกหน้าท่ีของ
อวยั วะภายใน
อวยั วะภายใน คือ หัวใจ .
ตาแหน่งของอวยั วะนอี้ ยู่ ภายในทรวงอกทางด้านซ้าย ..... .
. .. .
หน้าทีข่ องอวยั วะ คือ สูบฉดี เลอื ดไปเลีย้ งสว่ นตา่ งๆ ขอ....งร่างกาย .
..
ใบงานที่ 1.4 135
เรื่อง หนา้ ที่ของอวยั วะภายใน เฉลย
คาชี้แจง : ให้นกั เรยี นวาดภาพ หรอื ตดิ ภาพอวยั วะภายในท่ตี นเองสนใจมา 1 อวยั วะ พร้อมบอกหน้าท่ี
ของอวัยวะภายใน
อวัยวะภายใน คอื หัวใจ .
ตาแหนง่ ของอวัยวะนอ้ี ยู่ ภายในทรวงอกทางด้านซ้าย .... .
. ..
หน้าทข่ี องอวัยวะ คือ สบู ฉดี เลือดไปเลย้ี งสว่ นต่างๆ ของรา่ งกาย.... .
..
136
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 5
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 11101
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1/2565
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 1 ตัวเรา พชื และสัตว์
เรอื่ ง การทางานร่วมกนั ของอวัยวะ หน่วยยอ่ ยที่ 1 ร่างกายของเรา
ผูส้ อน นางสาวกวินทพิ ย์ มะณี เวลา 2 ช่วั โมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
1.1 ตัวชวี้ ดั
ว 1.2 ป.1/1 ระบชุ ื่อบรรยายลกั ษณะและบอกหน้าท่ขี องส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนษุ ย์ สัตว์
และพืช รวมทั้งบรรยายการทาหน้าท่รี ว่ มกนั ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนษุ ยใ์ น
การทากิจกรรมต่าง ๆ จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. สังเกตการทางานรว่ มกันของอวัยวะตา่ ง ๆ ได้ (K)
2. อธิบายการทางานร่วมกันของอวยั วะต่าง ๆ ได้ (K)
3. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมเพื่ออธบิ ายการทางานร่วมกนั ของอวัยวะได้ (P)
4. ให้ความรว่ มมือในการทากจิ กรรมกับผู้อนื่ ได้ (A)
3. สาระการเรียนร้แู กนกลาง
1. ชอื่ และหน้าทขี่ องอวัยวะภายนอก
2. การทางานร่วมกนั ของอวยั วะ
4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
ร่างกายของเราประกอบด้วยอวยั วะต่าง ๆ ซ่ึงทาหนา้ ทแี่ ตกตา่ งกัน ในการทากิจกรรมตา่ ง ๆ
ของเราต้องอาศยั การทางานรว่ มกนั ของอวัยวะ เพ่ือชว่ ยใหเ้ ราสามารถดารงชีวติ ได้ตามปกติ
137
5. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี ินัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
1) ทกั ษะระบุ
2) ทักษะการสงั เกต
3) ทกั ษะการสารวจคน้ หา
4) ทักษาการจาแนกประเภท
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. กิจกรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)
ชัว่ โมงที่ 1
6.1 ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครกู ระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นกอ่ นทจี่ ะเรียนในวันนี้ โดยใหน้ กั เรียนเลน่ เกมปลาเปน็ ปลาตาย
ซ่ึงมกี ติกาการเลน่ ดังน้ี
1) กาหนดใหม้ ีผู้เล่นมากกวา่ 5 คนข้ึนไป โดยใหผ้ เู้ ลน่ 1 คน เป็นคนจบั ปลา และผเู้ ลน่ ทเ่ี หลอื
เปน็ ปลา
2) ใหค้ นจบั ปลา สังเกตปลาวา่ มีใครเปน็ ปลาบา้ ง และอย่ตู าแหนง่ ใดบ้าง จากน้ันให้คนจับปลาใช้
ผา้ ปิดตา ให้สนิท
3) ใหผ้ ู้เลน่ ท่เี ป็นปลาเคลอื่ นทจี่ ากตาแหนง่ เดมิ แลว้ ถามคนจับปลาว่า ปลาเปน็ หรือปลาตาย ถ้า
คนจบั ปลา บอกวา่ ปลาเปน็ ใหผ้ ู้เลน่ ทีเ่ ปน็ ปลาเคล่ือนทไ่ี ปเรอื่ ยๆ แต่ถ้าตอบว่า
ปลาตาย ใหผ้ ู้เลน่ ท่ีเปน็ ปลาหยดุ น่งิ อยู่กบั ที่
4) คนจับปลาต้องเดนิ ไปจบั ปลา แลว้ ทายวา่ ปลาที่ตนเองจับได้เปน็ ใคร
5) ถา้ ทายถูก ปลาทโี่ ดนจบั ได้จะตอ้ งมาเปน็ คนจับปลาแทน
2. เม่อื เลน่ เกมเสร็จ ครใู หน้ กั เรยี นท่ไี ดเ้ ปน็ คนหาปลา ออกมาตอบคาถาม ดังตอ่ ไปน้ี
1) ร้สู กึ อย่างไรเม่อื ตนเองตอ้ งโดนปิดตา
2) ถา้ ให้เลือกเป็นผู้เลน่ ระหว่างเป็นปลากับเป็นคนจับปลา จะเลือกเปน็ ผูเ้ ลน่ ใด เพราะอะไร
3) ถา้ เปลยี่ นให้คนจับปลาไมต่ ้องปดิ ตา นักเรยี นคิดว่าจะสามารถจบั ปลาไดม้ ากกว่านหี้ รือไม่
เพราะอะไร
3. เมอ่ื ทากิจกรรมจบ ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกันสรปุ ขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการเลน่ เกมน้ี จะเก่ียวข้องกบั การใช้
138
อวัยวะหลาย ๆ ส่วนทางานรว่ มกัน โดยให้นกั เรยี นยกมอื แสดงความคิดเหน็
6.2 ข้ันสารวจค้นหา (Explore)
1. ครใู ห้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 3-4 คน ตามความสมัครใจ จากนั้นครูแจง้ จดุ ประสงค์ของการทา
กิจกรรมให้นกั เรียนทราบกอ่ นทากิจกรรมใหแ้ ต่ละกลุ่มทากิจกรรมท่ี 3 เรือ่ งการทางานรว่ มกันของ
อวยั วะในหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ หน้า 13 โดยปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
2. ใหต้ วั แทนกลุม่ 1 คน เป็นผทู้ ากิจกรรมและให้สมาชกิ ท่เี หลือเปน็ ผู้สงั เกตเพอื่ นท่ที ากจิ กรรมแลว้
บันทกึ ผลในสมดุ ประจาตวั นักเรียนหรอื ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ หน้า 13 ครูกาหนดเวลาในการทา
กจิ กรรมกลุ่มละ 30 นาที และเตรยี มความพร้อมในการนาเสนอผลการทากิจกรรมในคร้ังต่อไป
ชัว่ โมงท่ี 2
6.3 ขั้นอธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ครูใหน้ กั เรยี นรวมกลมุ่ เดิมที่ได้แบ่งไว้เมอ่ื ชวั่ โมงท่ีผา่ นมา จากน้ันใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเตรยี มความพร้อมใน
การนาเสนอขอ้ มูลประมาณ 5 นาที เม่ือทกุ กลุ่มพรอ้ ม ใหแ้ ต่ละกลมุ่ นาผลการทากิจกรรมจากชว่ั โมงท่ี
แล้วออกมานาเสนอหน้าชั้น ทลี ะกลมุ่ โดยให้แตล่ ะกลมุ่ ใช้เวลาในการนาเสนอกลุม่ ละ 5 นาที
2. ครูสมุ่ เรียกรายชอื่ นกั เรยี น 2 คน ให้ออกมาสรุปผลการทากจิ กรรมใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟงั อีกครั้ง
3. จากน้นั ครนู านักเรยี นทากจิ กรรมเกยี่ วกบั การทางานร่วมกันของอวยั วะอีกกิจกรรม
4. โดยครูนาตะกรา้ และลูกบอลมาวางไวห้ นา้ ชั้นเรียน จากน้ันแบ่งนกั เรยี นออกเป็นสองฝ่ายตามความ
เหมาะสม แล้วปฏิบตั กิ จิ กรรม ดังน้ี
1) รอบท่ี 1 ให้แต่ละฝา่ ยส่งตัวแทนออกมา 5 คน ยืนเขา้ แถว โดยคนแรกของแถวยนื หา่ งจาก
ตะกร้า 5 เมตร
2) จากน้นั ใหแ้ ต่ละฝา่ ยโยนลูกบอลให้ลงในตะกรา้ ฝ่ายใดทโี่ ยนลกู บอลลงในตะกรา้ ได้ จะไดล้ กู
ละ 1 คะแนน สลบั กันโยนจนครบทกุ คนแล้วนับคะแนน
3) รอบท่ี 2 ให้ใชผ้ ้าปดิ ตาตัวแทนของแตล่ ะฝ่าย แล้วใหโ้ ยนลูกบอลลงในตะกร้า ถา้ ลกู บอลลง
ตะกรา้ จะไดล้ ูกละ 2 คะแนน
4) สลบั กนั โยนลูกบอลทลี ะฝา่ ยจนครบทกุ คนจากน้นั นับคะแนนฝา่ ยไหนทาคะแนนได้มากทส่ี ุด
เป็นฝ่ายชนะ
5. ครูให้นกั เรียนสง่ ตัวแทนออกมาอธบิ ายความร้ทู ไี่ ดจ้ ากการทากิจกรรมวา่ เกย่ี วขอ้ งกบั การทางาน
รว่ มกันของอวัยวะใดบา้ ง
(แนวตอบ : ในการโยนลูกบอลใหล้ งในตะกร้าตอ้ งอาศยั การทางานรว่ มกันของอวัยวะ คือ ตา แขนและ
มือ ขาและเท้า)
6.จากนน้ั ครูใหน้ กั เรยี นเปดิ หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ หนา้ 14 แลว้ ให้ศกึ ษาเกยี่ วกบั การทางานรว่ มกัน
ของอวัยวะ หรอื ให้นักเรยี นสแกน QR code เร่อื งการทางานรว่ มกนั ของอวัยวะ เพือ่ ประกอบในการเรียน
การสอน
139
6.4 ขั้นขยายความเข้าใจ (Elaborate)
1. ครใู ช้รูปแบบการเรยี นการสอนแบบรว่ มมือเทคนคิ เพ่อื นคู่คิด โดยให้นักเรยี นจบั คูก่ ันแล้วตอบ
คาถามทา้ ทายความคิดขน้ั สูงว่า การเดนิ ทรงตัวบนสะพานแคบ ๆ นกั เรียนต้องอาศัยการทางานของ
อวยั วะใดบ้าง และอวัยวะแต่ละส่วนทางานรว่ มกันอยา่ งไร จากหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ หนา้ 14 แล้ว
บนั ทึกลงในสมดุ ประจาตัวนกั เรียน
2. ให้แตล่ ะคู่สืบค้นข้อมลู เพิม่ เตมิ ได้จากแหล่งขอ้ มลู ตา่ ง ๆ เช่น หนงั สือเรยี น อนิ เทอรเ์ น็ต เป็นตน้
จากนนั้ ใหแ้ ต่ละค่รู ว่ มกนั อภปิ รายและสรุปข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการสบื ค้น
3. ครสู ุ่มนกั เรียน 4-5 คู่ ให้ออกมานาเสนอผลที่ไดจ้ ากการสืบค้น โดยครูตั้งคาถาม ดงั น้ี
1) ในการเดินทรงตวั บนสะพานแคบ ๆ นกั เรียนต้องอาศยั การทางานอวยั วะใดบ้าง
(แนวตอบ ต้องอาศยั ตา แขนและมอื ขาและเท้า ทางานร่วมกันกัน ในการเดินทรงตวั บนสะพานแคบ ๆ)
2) แล้วอวยั วะแตล่ ะส่วนทาหนา้ ทอ่ี ย่าไรบา้ ง
(แนวตอบ เราใช้ ตา ในการมองดูทางบนสะพานทีแ่ คบ เราใช้ ขาและเทา้ ในการเดินไปขา้ งหนา้ บน
สะพาน เราใช้ แขนและมอื ในการทรงตวั ขณะเดินบนสะพานแคบๆ)
4. ครใู ห้นกั เรียนทากิจกรรมหนูตอบไดจ้ ากหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ หนา้ 13 ลงในสมดุ ประจาตัว
นักเรยี นหรอื ในแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ หนา้ 14-15 แล้วนามาส่งในช่ัวโมงถัดไป
6.5 ขนั้ ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูใหน้ ักเรยี นร่วมกันสรุปเกย่ี วกับการทางานรว่ มกันของอวยั วะ ว่า ในขณะที่เราทากจิ กรรมต่าง ๆ
เราต้องอาศัยการทางานรว่ มกันของอวยั วะ เพื่อชว่ ยให้สามารถดารงชีวติ ไดต้ าปกติ
2. ครปู ระเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล พฤติกรรมการทางานกล่มุ
และการนาเสนอผลการทากิจกรรมหนา้ ชน้ั เรยี น
3. ครตู รวจผลการทากจิ กรรมที่ 3 เร่ืองการทางานรว่ มกันของอวัยวะ ในสมดุ ประจาตัวนักเรียนหรือใน
แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ หนา้ 13
4. ครูตรวจผลการทากจิ กรรมหนูตอบได้ในสมุดหรือในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ หน้า 14-15
140
7. การวดั และประเมินผล วธิ วี ดั เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ
รายการวัด
7.1 การประเมนิ ระหว่างการจัดกิจกรรม
1) ผลบนั ทกึ การทากจิ กรรม - ตรวจสมุดประจาตัว - สมดุ ประจาตัว -ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ที่ 3 นกั เรียนหรอื แบบฝึกหดั นกั เรยี นหรอื
วิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ แบบฝึกหดั
1 หนา้ 13 วิทยาศาสตร์ ป.1
เล่ม 1 หน้า 13
2) กิจกรรมหนตู อบได้ - ตรวจสมุดประจาตวั - สมดุ ประจาตวั - รอ้ ยละ 60 ผา่ น
นักเรยี นหรอื แบบฝึกหดั นักเรียนหรือ เกณฑ์
วิทยาศาสตร์ ป.1 เล่ม แบบฝกึ หดั
1 หน้า 14-15 วิทยาศาสตร์ ป.1
เลม่ 1 หน้า 14-15
3) การนาเสนอผลการทา - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดับคุณภาพ 2
กจิ กรรม ผลการทากจิ กรรม นาเสนอผลการทา ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรม
4) พฤตกิ รรมการทางาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกต - ระดับคณุ ภาพ 2
รายบุคคล การทางานรายบคุ คล พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
การทางานรายบุคคล
5) พฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกต - ระดบั คุณภาพ 2
การทางานกลมุ่ พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
การทางานกลุ่ม
6) คุณลกั ษณะอันพงึ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ - ระดับคุณภาพ 2
ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่นั คณุ ลักษณะอัน ผ่านเกณฑ์
ในการทางาน พงึ ประสงค์
141
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 ตวั เรา พืช และสัตว์
2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 ตวั เรา พืช และสตั ว์
3) QR Code เรื่องการทางานร่วมกนั ของอวยั วะ
4) วัสดุ-อปุ กรณ์การทดลองในกจิ กรรมที่ 3 ไดแ้ ก่ ผา้ สาหรับปดิ ตา และสมดุ
5) ตะกร้า 1 ใบ และลกู บอล 5 ลกู
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) ห้องเรียน
3) อินเทอร์เน็ต
142
143
144
145
146
147
148
149
150
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผ่านเกณฑใ์ นระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6
1-3 2 = พอใช้
0 1 = ปรับปรุง
0 = แก้ไข
แนวทางในการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แก้ไข)
1. มวี ินยั นกั เรยี นเข้าเรยี นตรง นักเรยี นเข้าเรียน นกั เรยี นเข้าเรียน นักเรียนไมเ่ ข้า
ตอ่ เวลาสมา่ เสมอ ตรงต่อเวลา ตรงต่อเวลา เรยี น ไมป่ ฏิบตั ิ
บางคร้ัง ปฏบิ ัติ
ปฏิบัตติ าม บางครงั้ ไม่ปฏบิ ตั ิ ตาม
กฎระเบียบ ตามกฎระเบยี บ ตามกฎระเบยี บ กฎระเบียบ
สมา่ เสมอ บางคร้ัง
2. ใฝ่เรยี นรู้ มีความสนใจใน มคี วามสนใจใน มีความสนใจใน ไมม่ คี วาม
กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน สนใจใน
การสอนสมา่ เสมอ การสอนสมา่ เสมอ การสอนบางคร้งั กจิ กรรมการ
ทาใบกจิ กรรมด้วย ทาใบกิจกรรมดว้ ย ไม่ทาใบกจิ กรรม เรยี นการสอน
ตนเองบางครั้ง ไมท่ าใบ
ตนเอง ด้วยตนเอง
กิจกรรม
3. มุ่งมั่นในการ นกั เรยี นตั้งใจทางาน นกั เรียนตงั้ ใจ นักเรียนไม่ตงั้ ใจ นกั เรยี นไม่
ทางาน อย่างเต็ม ทางานอย่างเตม็ ทางาน และส่งงาน ทางานสง่
ความสามารถแต่ ไม่ทนั ตามเวลาที่
ความสามารถ สง่ งานไม่ตรงตาม
ทางานเสรจ็ และส่ง เวลาทกี่ าหนด กาหนด
ทนั ตามเวลาที่
กาหนด
151
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรบั ปรงุ
0 0 = แกไ้ ข
แนวทางในการประเมินทักษะการปฏบิ ตั ิ
ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แกไ้ ข)
1. มที ักษะการ สมาชกิ ในกลุ่มมี สมาชิกในกลุม่ มี สมาชกิ ในกลุม่ ไม่มี สมาชกิ ในกลุ่มไมม่ ี
วางแผนทางาน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อนลง การวางแผนกอ่ น
กลมุ่ ลงมือทาปฏิบตั ิ ลงมือทาปฏิบตั ิ มอื ทาปฏบิ ัติ และ ลงมอื ทาปฏบิ ัติ
และชว่ ยเหลือกัน และชว่ ยเหลอื กนั ช่วยเหลือกนั ทางาน และไมช่ ่วยเหลอื
อยา่ งเตม็ ท่ี เปน็ บางคน บางคน กนั ทางาน
2. มคี วาม สมาชิกในกลมุ่ ทุก สมาชกิ ในกลุม่ สมาชกิ ในกลุ่มไม่ เฉยชาขาดสนใจไม่
กระตอื รือรน้ ใน คนรว่ มกนั ศึกษา ร่วมกันศกึ ษาหา ตั้งใจศกึ ษาหา แสดงความอยากรู้
การหาความรู้ หาความรอู้ ยา่ ง ความรอู้ ย่างต้งั ใจ ความรู้ อยากเหน็
ตัง้ ใจ เปน็ บางคน
3. มีความมั่นใจ สมาชิกในกล่มุ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกล่มุ ไม่ สมาชิกในกลมุ่ ไม่มี
และกลา้ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ งาน
แสดงออก งานไดอ้ ย่างมน่ั ใจ งานได้อยา่ งมน่ั ใจ งานได้อย่างม่นั ใจ
ถูกต้อง ชดั เจน ถูกต้อง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชัดเจน
เป็นบางคร้งั
152
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 11101
ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1/2565
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ตัวเรา พืช และสตั ว์ หน่วยยอ่ ยท่ี 1 รา่ งกายของเรา
เร่ือง การดูแลรกั ษาอวยั วะ เวลา 2 ช่วั โมง
ผสู้ อน นางสาวกวนิ ทพิ ย์ มะณี
1. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด
1.1 ตัวชว้ี ัด
ว 1.2 ป.1/1 ระบชุ ่ือบรรยายลกั ษณะและบอกหน้าทีข่ องสว่ นตา่ ง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์ และพชื
รวมทงั้ บรรยายการทาหนา้ ทีร่ ่วมกันของส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายมนษุ ย์ในการทา
กจิ กรรมต่าง ๆ จากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้
ป.1/2 ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของสว่ นต่าง ๆ ของร่างกายตนเอง โดยการดแู ลส่วนต่าง ๆ
อย่างถูกตอ้ ง
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายวิธีการรักษาอวยั วะต่าง ๆ อย่างถูกวธิ ีและใหเ้ กิดความปลอดภยั ได้ (K)
2. สาธติ วธิ ีการดแู ลรกั ษาอวัยวะต่าง ๆ ได้ (P)
3. มคี วามรบั ผดิ ชอบต่องานท่ไี ด้รบั มอบหมาย (A)
4. มคี วามมุง่ ม่นั และตั้งใจในการทางาน (A)
3. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
การดแู ลรกั ษาอวยั วะของรา่ งกาย
4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ร่างกายของเราประกอบด้วยอวัยวะตา่ ง ๆ ซึ่งทาหน้าทแี่ ตกต่างกนั ในการทากิจกรรมตา่ ง ๆ ของเรา
ต้องอาศยั การทางานรว่ มกนั ของอวยั วะ เพอ่ื ช่วยให้เราสามารถดารงชีวติ ไดต้ ามปกติ
153
5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวนิ ัย
2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทางาน
1) ทกั ษะระบุ
2) ทกั ษะการสังเกต
3) ทกั ษะการสารวจคน้ หา
4) ทักษาการจาแนกประเภท
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)
ชัว่ โมงท่ี 1
6.1 ขัน้ กระตุน้ ความสนใจ (Engage)
1. ครเู ขียนข้อความเก่ยี วกบั หน้าทขี่ องอวยั วะตา่ ง ๆ ไวบ้ นกระดานเปน็ ขอ้ ๆ ดังน้ี
1) ใชม้ องดูส่งิ ตา่ ง ๆ
2) กนิ อาหาร และพูด
3) ยืน เดิน และวงิ่
4) ใชฟ้ งั เสียงต่าง ๆ
5) หยบิ จบั สิ่งของ
2. ครนู าบัตรคาและบัตรภาพอวัยวะภายนอก ท่เี คยใช้เลน่ เกมในแผนฯ ที่ 4 มาใสก่ ล่องคละกันและวางไว้
หนา้ ชัน้ เรยี น จากน้นั ส่มุ รายชื่อนักเรียนให้ออกมาหยบิ บตั รคาหรือบตั รภาพคนละ 1 ใบ แลว้ นาไปตดิ บน
กระดานใหต้ รงกับหนา้ ท่ีทค่ี รเู ขียนไว้ จนครบบตั รคาท่ีอยู่ในกลอ่ ง
(หมายเหต:ุ ครเู ร่มิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล)
3. เมื่อครสู ่มุ เรียกนกั เรียนมาหยบิ บตั รคาและบตั รภาพจนครบทกุ ใบ ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งของขอ้ มลู บนกระดาน
4. ครกู ระตนุ้ ความสนใจของนักเรยี นก่อนท่ีจะเรยี นในวันนีว้ า่ ในแตล่ ะวันเรามีวธิ ีดแู ลรักษาอวัยวะตา่ ง ๆ
อยา่ งไรบ้าง โดยให้นกั เรยี นยกมือตอบคาถามทีละคน
(แนวตอบ : เช่น เราดแู ลรักษาตา ไดแ้ ก่ อ่านหนังสอื ในทท่ี ่มี แี สงสวา่ งเพยี งพอ และลา้ งหน้าใหส้ ะอาดอยู่เสมอ
เราดแู ลรกั ษาหู ได้แก่ ไมใ่ ห้เพ่อื นตะโกนใส่หู และไมใ่ ช้ไมห้ รอื ของแข็งแตะหู เราดูแลรักษาจมูก ไดแ้ ก่ ไม่ใช้นว้ิ
มอื หรอื สง่ิ ของต่าง ๆ แคะจมกู เราดูแลรกั ษาปาก ได้แก่ ไมใ่ ชฟ้ นั กัดของท่ีแข็งมาก และแปรงฟันทุกวนั วนั ละ 2
ครง้ั เราดแู ลรกั ษาผิวหนัง ได้แก่ อาบนา้ อย่างน้อยวันละ 2 ครง้ั และเช็ดตวั ใหแ้ หง้ ทุกคร้ังหลงั จากอาบนา้ เสร็จ
154
เราดูแลรกั ษาแขนและมือ ได้แก่ ตดั เลบ็ มอื ใหส้ น้ั อย่เู สมอ และล้างมือก่อนรบั ประทานอาหารเราดแู ลรักษาขา
และเทา้ ได้แก่ ใสร่ องเทา้ ก่อนออกจากบา้ น และตัดเลบ็ เท้าให้สนั้ อย่เู สมอ)
5. ครูใหน้ ักเรยี นอ่านเกร็ดวทิ ยน์ า่ รู้ จากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ หนา้ 15 เพอ่ื เป็นการเสรมิ ความร้ใู นการ
ดูแลรักษาอวัยวะต่าง ๆ
6.2 ขน้ั สารวจค้นหา (Explore)
1. ครใู หแ้ ต่ละคนทากิจกรรมท่ี 4 เรอื่ งการดแู ลรักษาอวัยวะ จากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ หนา้ 16
โดยปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ดงั น้ี
1) ศกึ ษาขั้นตอนการทากจิ กรรมจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ หนา้ 16 อยา่ งละเอียด หากมขี ้อสงสัย
ใหส้ อบถามครูใหแ้ ตล่ ะคนสารวจตนเองว่า เคยดูแลรกั ษาอวยั วะต่าง ๆ ด้วยวิธใี ดบ้าง แลว้ บนั ทกึ ผลลงในสมุด
ประจาตวั นกั เรียนหรอื แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ หนา้ 17-18
2) สืบค้นขอ้ มลู วิธีการดูแลรักษาอวยั วะตา่ ง ๆ ของรา่ งกายเพิ่มเติมจากแหลง่ ข้อมลู ตา่ ง ๆ เช่น
หนังสือเรียน อนิ เทอร์เน็ต เปน็ ต้น
(หมายเหต:ุ ครูเรม่ิ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล)
2. เมื่อแต่ละคนทากจิ กรรมเสรจ็ แล้ว ครูใชร้ ูปแบบการเรียนการสอนแบบรว่ มมอื เทคนิคเพ่ือนคคู่ ิด โดยให้
นักเรียนจับค่กู ับเพื่อน จากน้ันนาคาตอบของตนเองมาเปรยี บเทียบกบั เพื่อน แล้วผลดั กนั ซักถามข้อสงสยั และ
ร่วมกนั อภิปรายผล
(หมายเหต:ุ ครเู ร่ิมประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ )
3. ครูขออาสาสมัครนักเรียน 2-3 คู่ ออกมานาเสนอผลจากการทากจิ กรรมของตนเอง แล้วให้เพอื่ น ๆ
รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยครูเปน็ ผูต้ รวจสอบความถูกตอ้ งครแู ละนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายเกีย่ วกับ
ความสาคัญของการดูแลรักษาอวยั วะตา่ ง ๆ
(หมายเหตุ: ครูเริ่มประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบประเมินการนาเสนอหน้าช้นั เรียน)
ชว่ั โมงที่ 2
6.3 ขัน้ อธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ครูเขยี นเนื้อเพลง แปรงฟัน ไว้บนกระดานเพลง แปรงฟัน
แปรงซิแปรง แปรงฟนั ฟนั หนูสวยสะอาดดี
แปรงขน้ึ แปรงลงทกุ ซี่ สะอาดดเี ม่ือหนแู ปรงฟนั (ซา้ 2 คร้ัง)
ที่มา : เพลงสอนเด็กปฐมวัย
2. ครรู ้องเพลงให้นักเรยี นฟังกอ่ น 1 ครง้ั แลว้ ให้นักเรยี นร้องตามและทาท่าประกอบตามจังหวะเพลง
ครถู ามนกั เรยี นวา่ จากเนือ้ เพลงเป็นการดแู ลอวยั วะส่วนใด และการแปรงฟันทถี่ ูกต้องควรทาอยา่ งไร ให้
นกั เรยี นยกมือตอบแสดงความคิดเหน็
(แนวตอบ : อวัยวะในเพลงนค้ี ือ ฟัน โดยเราควรแปรงฟันอย่างน้อยวนั ละ 2 ครงั้ เวลาแปรงใหแ้ ปรงฟันให้
ทว่ั และแปรงขน้ึ -ลง เพื่อให้ฟนั สะอาด)
155
3. ครูใชว้ ธิ กี ารสอนโดยใช้การสาธิต โดยใหน้ ักเรยี นจับกลมุ่ ตามความสมคั รใจ กล่มุ ละ 4-5 คน แล้วให้แต่
ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาจบั ฉลาก เพอื่ เลือกบตั รข้อความเกย่ี วกบั พฤติกรรมการดูแลอวยั วะใหส้ มาชกิ ในกลมุ่
รว่ มกันแสดงความคิดเห็นว่า
1) พฤติกรรมที่จับไดใ้ นฉลากนัน้ เป็นพฤติกรรมการดแู ลอวยั วะทถี่ ูกวธิ ีหรอื ไม่
2) ถา้ หากไม่ถูกตอ้ ง วิธีการดูแลอวัยวะทถี่ ูกวธิ ีต้องปฏิบัตอิ ยา่ งไร
4. ใหส้ มาชิกเตรียมการสาธติ กิจกรรมตามข้อความทจี่ ับฉลากไดป้ ระกอบการอธบิ าย
5. ครูให้แตล่ ะกลุ่มออกมาสาธติ กจิ กรรมประกอบการอธิบาย โดยใช้เวลาในการสาธิตกลุม่ ละ 5 นาที แลว้ ให้
แตล่ ะกลุม่ ชว่ ยตรวจสอบความถูกต้องของการสาธิต
6.4 ขัน้ ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. ครูใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ว่า หากนักเรียนปฏบิ ัติตนตามท่ีจับฉลากไดท้ ้งั หมด แลว้ จะทาให้
นักเรียนมสี ขุ ภาพท่แี ขง็ แรงหรือไม่ เพราะอะไร
2.ครใู หน้ ักเรียนทากิจกรรมหนูตอบไดจ้ ากหนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ หนา้ 16 ลงในสมุดประจาตวั นกั เรยี น
หรอื แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ หนา้ 19-20
6.5 ขน้ั ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันสรปุ ความร้เู กีย่ วกบั วธิ กี ารดูแลอวยั วะท่ีถูกวิธี
2. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมท่ี 4 เรอ่ื งการทางานร่วมกันของอวยั วะ ในสมดุ ประจาตวั นกั เรยี นหรอื แบบฝึกหดั
วิทยาศาสตร์ หนา้ 17-18
3. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมหนตู อบได้ ในสมุดประจาตวั นกั เรยี นหรือแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์
หนา้ 19-20
4. ครปู ระเมนิ ผลนักเรยี น โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล พฤติกรรมการทางานกลุ่ม และ
การนาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าชั้นเรยี น
156
7. การวัดและประเมินผล วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมิน
รายการวดั
7.1 การประเมินระหว่างการจัดกิจกรรม
1) ผลบนั ทึกการทา - ตรวจสมุดประจาตัว - สมดุ ประจาตวั นกั เรยี น -รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
กจิ กรรมที่ 4 นกั เรยี นหรือแบบฝึกหดั หรือแบบฝกึ หัด
วทิ ยาศาสตร์ ป.1 เล่ม วทิ ยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1
1 หน้า 17-18 หน้า 17-18
2) กจิ กรรมหนูตอบได้ - ตรวจสมุดประจาตัว - สมุดประจาตวั นกั เรยี น - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
นกั เรยี นหรือแบบฝกึ หดั หรือแบบฝกึ หัด
วทิ ยาศาสตร์ ป.1 เลม่ วทิ ยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1
1 หน้า 19-20 หนา้ 19-20
3) การนาเสนอผลการทา - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมินการนาเสนอ - ระดับคณุ ภาพ 2
กจิ กรรม ผลการทากจิ กรรม ผลการทากจิ กรรม ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
รายบคุ คล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
5) พฤตกิ รรมการทางาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2
กลมุ่ การทางานกลุม่ การทางานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์
6) คณุ ลกั ษณะอันพงึ - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ คุณลักษณะ ระดบั คุณภาพ 2
ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั อันพึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
ในการทางาน
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ตวั เรา พชื และสัตว์
2) แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 ตวั เรา พชื และสตั ว์
3) บัตรภาพอวัยวะภายนอก
4) บัตรคาอวัยวะภายนอก
5) บตั รข้อความพฤติกรรมการดแู ลรักษาอวยั วะ
6) เพลงแปรงฟนั
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมดุ
2) ห้องเรียน
3) อินเทอร์เน็ต
157
158
159
160
161
162
163
164
165
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผ่านเกณฑใ์ นระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรับปรุง
0 0 = แก้ไข
แนวทางในการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แก้ไข)
1. มวี ินยั นกั เรยี นเข้าเรยี นตรง นักเรยี นเขา้ เรียน นกั เรยี นเข้าเรียน นักเรียนไมเ่ ข้า
ตอ่ เวลาสมา่ เสมอ ตรงต่อเวลา ตรงต่อเวลา เรยี น ไมป่ ฏิบตั ิ
บางคร้ัง ปฏบิ ัติ
ปฏิบัตติ าม บางครงั้ ไม่ปฏบิ ตั ิ ตาม
กฎระเบียบ ตามกฎระเบยี บ ตามกฎระเบยี บ กฎระเบียบ
สมา่ เสมอ บางคร้ัง
2. ใฝ่เรยี นรู้ มีความสนใจใน มคี วามสนใจใน มีความสนใจใน ไมม่ คี วาม
กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน สนใจใน
การสอนสมา่ เสมอ การสอนสม่าเสมอ การสอนบางคร้งั กจิ กรรมการ
ทาใบกจิ กรรมด้วย ทาใบกิจกรรมดว้ ย ไม่ทาใบกจิ กรรม เรยี นการสอน
ตนเองบางครั้ง ไมท่ าใบ
ตนเอง ด้วยตนเอง
กิจกรรม
3. มุ่งมั่นในการ นกั เรยี นตั้งใจทางาน นกั เรียนตงั้ ใจ นักเรียนไม่ตงั้ ใจ นกั เรยี นไม่
ทางาน อย่างเต็ม ทางานอยา่ งเตม็ ทางาน และส่งงาน ทางานสง่
ความสามารถแต่ ไม่ทนั ตามเวลาที่
ความสามารถ สง่ งานไมต่ รงตาม
ทางานเสรจ็ และส่ง เวลาทกี่ าหนด กาหนด
ทนั ตามเวลาที่
กาหนด
166
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรบั ปรงุ
0 0 = แกไ้ ข
แนวทางในการประเมินทักษะการปฏบิ ตั ิ
ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แกไ้ ข)
1. มที ักษะการ สมาชกิ ในกลุ่มมี สมาชิกในกลุม่ มี สมาชกิ ในกลุม่ ไม่มี สมาชกิ ในกลุ่มไมม่ ี
วางแผนทางาน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อนลง การวางแผนกอ่ น
กลมุ่ ลงมือทาปฏิบตั ิ ลงมือทาปฏิบตั ิ มอื ทาปฏบิ ัติ และ ลงมอื ทาปฏบิ ัติ
และชว่ ยเหลือกัน และชว่ ยเหลอื กนั ช่วยเหลือกนั ทางาน และไมช่ ่วยเหลอื
อยา่ งเตม็ ท่ี เปน็ บางคน บางคน กนั ทางาน
2. มคี วาม สมาชิกในกลมุ่ ทุก สมาชกิ ในกลุม่ สมาชกิ ในกลุ่มไม่ เฉยชาขาดสนใจไม่
กระตอื รือรน้ ใน คนรว่ มกนั ศึกษา ร่วมกันศกึ ษาหา ตั้งใจศกึ ษาหา แสดงความอยากรู้
การหาความรู้ หาความรอู้ ยา่ ง ความรอู้ ย่างต้งั ใจ ความรู้ อยากเหน็
ตัง้ ใจ เปน็ บางคน
3. มีความมั่นใจ สมาชิกในกล่มุ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกล่มุ ไม่ สมาชิกในกลมุ่ ไม่มี
และกลา้ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ งาน
แสดงออก งานไดอ้ ย่างมน่ั ใจ งานได้อยา่ งมน่ั ใจ งานได้อย่างม่นั ใจ
ถูกต้อง ชดั เจน ถูกต้อง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชัดเจน
เป็นบางคร้งั