217
218
219
220
221
222
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผ่านเกณฑใ์ นระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรับปรุง
0 0 = แก้ไข
แนวทางในการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แก้ไข)
1. มวี ินยั นกั เรยี นเข้าเรยี นตรง นักเรยี นเข้าเรียน นกั เรยี นเข้าเรียน นักเรียนไมเ่ ข้า
ตอ่ เวลาสมา่ เสมอ ตรงต่อเวลา ตรงต่อเวลา เรยี น ไมป่ ฏิบตั ิ
บางคร้ัง ปฏบิ ัติ
ปฏิบัตติ าม บางครงั้ ไม่ปฏบิ ตั ิ ตาม
กฎระเบียบ ตามกฎระเบยี บ ตามกฎระเบยี บ กฎระเบียบ
สมา่ เสมอ บางคร้ัง
2. ใฝ่เรยี นรู้ มีความสนใจใน มคี วามสนใจใน มีความสนใจใน ไมม่ คี วาม
กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน สนใจใน
การสอนสมา่ เสมอ การสอนสมา่ เสมอ การสอนบางคร้งั กจิ กรรมการ
ทาใบกจิ กรรมด้วย ทาใบกิจกรรมดว้ ย ไม่ทาใบกจิ กรรม เรยี นการสอน
ตนเองบางครั้ง ไมท่ าใบ
ตนเอง ด้วยตนเอง
กิจกรรม
3. มุ่งมั่นในการ นกั เรยี นตั้งใจทางาน นกั เรียนตงั้ ใจ นักเรียนไม่ตงั้ ใจ นกั เรยี นไม่
ทางาน อย่างเต็ม ทางานอย่างเตม็ ทางาน และส่งงาน ทางานสง่
ความสามารถแต่ ไม่ทนั ตามเวลาที่
ความสามารถ สง่ งานไม่ตรงตาม
ทางานเสรจ็ และส่ง เวลาทกี่ าหนด กาหนด
ทนั ตามเวลาที่
กาหนด
223
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรบั ปรงุ
0 0 = แกไ้ ข
แนวทางในการประเมินทักษะการปฏบิ ตั ิ
ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แกไ้ ข)
1. มที ักษะการ สมาชกิ ในกลุ่มมี สมาชิกในกลุ่มมี สมาชกิ ในกลุม่ ไม่มี สมาชกิ ในกลุ่มไมม่ ี
วางแผนทางาน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อนลง การวางแผนกอ่ น
กลมุ่ ลงมือทาปฏิบตั ิ ลงมือทาปฏิบตั ิ มอื ทาปฏบิ ัติ และ ลงมอื ทาปฏบิ ัติ
และชว่ ยเหลือกัน และชว่ ยเหลอื กนั ช่วยเหลือกนั ทางาน และไมช่ ่วยเหลอื
อยา่ งเตม็ ท่ี เปน็ บางคน บางคน กนั ทางาน
2. มคี วาม สมาชิกในกลมุ่ ทุก สมาชกิ ในกลุม่ สมาชกิ ในกลุ่มไม่ เฉยชาขาดสนใจไม่
กระตอื รือรน้ ใน คนรว่ มกนั ศึกษา ร่วมกันศกึ ษาหา ตั้งใจศกึ ษาหา แสดงความอยากรู้
การหาความรู้ หาความรอู้ ยา่ ง ความรอู้ ย่างตัง้ ใจ ความรู้ อยากเหน็
ตัง้ ใจ เปน็ บางคน
3. มีความมั่นใจ สมาชิกในกล่มุ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกล่มุ ไม่ สมาชิกในกลมุ่ ไม่มี
และกลา้ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ งาน
แสดงออก งานไดอ้ ย่างมน่ั ใจ งานได้อยา่ งมน่ั ใจ งานได้อย่างม่นั ใจ
ถูกต้อง ชดั เจน ถูกต้อง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชัดเจน
เป็นบางครั้ง
224
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 10
กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 11101
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 1/2565
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 ตัวเรา พชื และสตั ว์
เรอ่ื ง ส่วนต่าง ๆ ทแี่ ตกต่างกนั ของพชื หน่วยย่อยที่ 2 พืชและสัตวน์ ่ารู้
ผู้สอน นางสาวกวนิ ทพิ ย์ มะณี เวลา 2 ชว่ั โมง
1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั
1.1 ตัวช้ีวัด
ว 1.2 ป.1/1 ระบุช่ือบรรยายลักษณะและบอกหน้าท่ขี องส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์
และพืช รวมทั้งบรรยายการทาหน้าท่ีรว่ มกนั ของส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายมนษุ ย์ใน
การทากจิ กรรมตา่ ง ๆ จากข้อมูลทรี่ วบรวมได้
2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายความสาคญั ของสว่ นตา่ ง ๆ ของพืชแต่ละสว่ นได้ (K)
2. ระบชุ อื่ และบอกหน้าทขี่ องสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ได้ (K)
3. เขยี นเปรยี บเทียบลกั ษณะของสว่ นตา่ ง ๆ ทแ่ี ตกตา่ งกนั ของพชื แต่ละชนิด (P)
4. รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีทไี่ ด้รับมอบหมาย (A)
3. สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1. ความสาคญั ของส่วนต่าง ๆ ของพืชท่มี ีผลตอ่ การดารงชวี ติ ของพชื
2. ส่วนตา่ ง ๆ ของพชื ทมี่ ลี กั ษณะที่คลา้ ยคลึงกนั หรือแตกตา่ งกัน
4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
พืชมีส่วนต่าง ๆ ที่มีลกั ษณะและหน้าท่ที ่ีแตกต่างกันเพ่อื ให้เหมาะสมกับการดารงชีวิต เช่น ราก มี
ลักษณะเรียวยาว หรือมีขนาดเล็กเปน็ กระจุก ทาหน้าท่ีดดู นา้ ลาต้น เป็นทรงกระบอกตง้ั ตรงหรือมีข้อปลอ้ ง
ทาหน้าท่ีชกู งิ่ กา้ น และใบ เปน็ ต้น อวยั วะต่าง ๆ ของพชื จะทางานรว่ มกนั ถา้ พืชขาดส่วนใดสว่ นหนึ่งไปจะมี
ผลต่อการดารงชีวติ ของพชื
225
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มี
2. ความสามารถในการคิด วนิ ัย
1) ทักษะการสังเกต 2. ใฝ่
2) ทกั ษะการสารวจคน้ หา เรียนรู้
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 3. มุ่งม่นั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธกี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)
ชวั่ โมงท่ี 1
6.1 ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครเู ขียนเนื้อเพลง ก่ิง ก้าน ใบ บนกระดานดงั น้ี
เพลง ก่ิง ก้าน ใบ
กิ่ง ก้าน ใบ ชะ ชะ ใบ ก้าน กิ่ง
ฝนตกลมแรงจริง ๆ ฝนตกลมแรงจริง ๆ
ชะ ชะ กิ่ง ก้าน ใบ
ท่มี า : เพลงสอนเด็กปฐมวยั
2. ครสู อนนักเรียนร้องเพลง โดยครรู อ้ งใหน้ ักเรยี นฟังก่อน 1 รอบ แล้วใหน้ ักเรียนร้องตาม พร้อมทาท่า
ทางประกอบเพลง เพอื่ ความสนุกสนาน
3. จากนน้ั ครูถามนักเรยี นวา่ เนอ้ื เพลงได้กล่าวถงึ โครงสรา้ งส่วนใดของพืช ใหน้ กั เรียนยกมอื ตอบ
(แนวตอบ : เนื้อเพลงกลา่ วถงึ กิง่ กา้ น ใบ ของพชื )
4. ครนู านักเรียนเลน่ เกมส่งต่อส่ิงของ โดยครอู ธิบายกติกาการเล่น ดังน้ี
1) ครเู ตรียมกระดาษเขยี นข้อความไว้หลาย ๆ แผ่น แล้วนามาหอ่ รวมกนั เป็นลูกบอล
ตวั อยา่ งข้อความ - วาดสว่ นท่เี ป็นรากของพืช
- วาดสว่ นของพชื ทที่ าหนา้ ที่ สบื พันธุ์
- บอกหนา้ ทข่ี องราก
- เขยี นลกั ษณะของใบ เปน็ ต้น
2) ให้นักเรียนน่ังล้อมกันเป็นวงกลม แล้วส่งต่อลูกบอลกระดาษไปเป็นวงกลม โดยให้รอ้ งเพลง กิ่ง
ก้าน ใบ ไปพร้อม ๆ กับส่งลูกบอล หรืออาจเปลี่ยนเพลงตามความเหมาะสม เพ่ือให้เกิดความ
สนกุ สนาน
226
3) เมอ่ื ครูใหส้ ญั ญาณหยุดลกู บอลอยู่ในมือใคร ให้แกะกระดาษออกมา 1 แผน่ แล้วอา่ นขอ้ ความให้
เพ่ือนฟัง และปฏิบตั ติ ามขอ้ ความทีไ่ ด้ ถ้าหากใครปฏิบตั ติ ามข้อความไม่ไดใ้ หน้ ง่ั รอที่กลางห้อง
4) ปฏบิ ัตซิ ้าจนกวา่ กระดาษขอ้ ความทีค่ รูเตรียมมาหมด เมอ่ื เล่นเกมเรียบร้อย ครูอาจมีบทลงโทษ
เล็ก ๆ นอ้ ย ๆ ใหก้ บั นกั เรยี นท่ปี ฏบิ ตั ิกิจกรรมไม่ได้
6.2 ขั้นสารวจคน้ หา (Explore)
1. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน ตามความสมัครใจ จากน้ันทากิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ที่ 1
จากหนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ หน้า 27 ลงในสมุดประจาตวั นักเรยี น โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มสงั เกตภาพต้น
พืชทมี่ ีสว่ นใดส่วนหนง่ึ ขาดหายไป
(หมายเหต:ุ ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ )
2. จากน้นั ให้แต่ละกลมุ่ รว่ มกันอภิปรายถึงผลที่จะเกิดกับตน้ พืชที่มีสว่ นใดส่วนหนึ่งหายไปวา่ มีผลต่อการ
ดารงชวี ิตของต้นพืชอยา่ งไร
3. ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ สรปุ ผลจากการรว่ มกนั อภิปรายผล เพ่ือเตรียมนาเสนอขอ้ มูลหน้าชั้นเรยี น
4. ครูให้แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอข้อมูล เพ่ือให้เพ่ือนกลุ่มอ่ืน ๆ ช่วยกันแสดงความ
คดิ เห็น
(หมายเหต:ุ ครปู ระเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ การนาเสนอหนา้ ชั้นเรียน)
5. ครูให้นักเรยี นศึกษาข้อมูลความสาคัญของอวัยวะของพชื ท่มี ีผลต่อการดารงชีวิตของพืชจากหนังสือ
เรยี นวิทยาศาสตร์ หน้า 27
6. ครูและนักเรยี นชว่ ยกันสรุปเกี่ยวกับความสาคญั ของสว่ นต่าง ๆ ของพืชทม่ี ผี ลต่อการดารงชีวิตของพืช
ชัว่ โมงที่ 2
6.3 ขั้นอธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ครูใหน้ ักเรียนจับกลุ่มเดิมจากช่ัวโมงท่ีผ่านมา จากนั้นครูแจกใบงานที่ 1.5 เรื่องส่วนต่าง ๆ ของพืชท่ี
แตกตา่ งกันของพชื แลว้ ให้แตล่ ะกล่มุ ปฏิบตั ิกจิ กรรม ดังนี้
1) ให้แตล่ ะกลุ่มไปสารวจพชื ในบรเิ วณโรงเรียน แลว้ เลือกศกึ ษาพืชมา 2 ชนิด
2) สงั เกตลักษณะของส่วนตา่ ง ๆ ของพชื ทั้ง 2 ชนดิ น้นั
3) เปรียบเทียบลกั ษณะของสว่ นต่าง ๆ ของพชื ท้ัง 2 ชนดิ
4) นาขอ้ มลู ทไ่ี ด้มาบันทึกลงในใบงานท่ี 1.5 ทีค่ รแู จกให้ แลว้ ตกแตง่ ใหส้ วยงาม
(หมายเหต:ุ ครูเริ่มประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ )
2. จากน้ันให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มวางแผนการทางานโดยแบง่ หนา้ ที่กันในกลุ่ม ซ่ึงครูอาจช้ีแนะแนวทาง
เพอื่ ใหน้ ักเรยี นเกดิ กระบวนการทางานทเ่ี ป็นแบบแผนและรวดเรว็
3. ครกู าหนดเวลาให้นกั เรยี นแต่ละกลุ่มทางาน 30 นาที ในการทากิจกรรม
227
6.4 ขั้นขยายความเข้าใจ (Elaborate)
1. เมอ่ื ทุกกลุ่มทางานเสรจ็ ให้แตล่ ะกลมุ่ นาผลงานการศกึ ษาคน้ ควา้ ออกมานาเสนอหน้าชั้นทีละกลมุ่
(หมายเหตุ: ครูเริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมินการนาเสนอหน้าชน้ั เรียน)
2. เม่ือทุกกลุ่มนาเสนอผลงานครบทุกกลุ่มแล้ว ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลเร่ืองลักษณะของอวัยวะ
ภายนอกท่ีคล้ายกันหรือแตกต่างกันของพชื จากหนังสือเรียน หน้า 28-29 หรือ PowerPoint เรื่อง
ลักษณะสว่ นต่าง ๆ ของพชื
6.5 ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครสู ุ่มเรยี กรายชื่อนักเรียน 2-3 คน ใหอ้ อกมาสรุปความรูท้ ่ีไดจ้ ากการทากิจกรรม และครูให้ความรู้
เพิม่ เตมิ ในส่วนทบี่ กพรอ่ ง
2. ครูประเมนิ ผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ พฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล และ
การนาเสนอผลจากการทากจิ กรรมหน้าช้ันเรียน
3. ครูตรวจสอบผลการทากจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ที่ 1 ลงในสมุดประจาตัวนกั เรยี น
4. ครูตรวจสอบผลการทาใบงานที่ 1.5 เร่ืองรจู้ กั ลกั ษณะส่วนต่าง ๆ ของพืชทแ่ี ตกต่างกัน
228
7. การวัดและประเมินผล
รายการวัด วิธีวัด เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
7.1 การประเมินระหว่างการจดั กจิ กรรม
1) กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ ตรวจสมุดประจาตัว สมดุ ประจาตวั นักเรียน ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1 นกั เรียน
2) ใบงานท่ี 1.5 เรื่องส่วนต่าง ๆ - ตรวจใบงานท่ี 1.5 - ใบงานท่ี 1.5 - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ของพชื ทีแ่ ตกตา่ งกัน
3) การนาเสนอผลการทา - ประเมนิ การ - แบบประเมนิ การนาเสนอ - ระดับคุณภาพ 2
กจิ กรรม นาเสนอ ผลการทากิจกรรม ผา่ นเกณฑ์
4) พฤติกรรมการทางาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดับคุณภาพ 2
รายบคุ คล การทางาน การทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล
5) พฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2
การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
การทางานกล่มุ - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ 2
คุณลักษณะอนั ผา่ นเกณฑ์
6) คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - สังเกตความมวี ินัย พงึ ประสงค์
ใฝ่เรยี นรู้ และ
มุ่งมัน่
ในการทางาน
8. สอื่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ตัวเรา พืช และสตั ว์
2) ใบงานที่ 1.5 เรอื่ งร้จู กั ลักษณะสว่ นตา่ งๆของพชื ทีแ่ ตกตา่ งกัน
3) PowerPoint เรอ่ื งลักษณะสว่ นต่าง ๆ ของพืช
4) เพลงกิ่ง กา้ น ใบ
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
229
230
231
232
233
234
235
236
237
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผ่านเกณฑใ์ นระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรับปรุง
0 0 = แก้ไข
แนวทางในการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แก้ไข)
1. มวี ินยั นกั เรยี นเข้าเรยี นตรง นักเรยี นเข้าเรียน นกั เรยี นเข้าเรียน นักเรียนไมเ่ ข้า
ตอ่ เวลาสมา่ เสมอ ตรงต่อเวลา ตรงต่อเวลา เรยี น ไมป่ ฏิบตั ิ
บางคร้ัง ปฏบิ ัติ
ปฏิบัตติ าม บางครงั้ ไม่ปฏบิ ตั ิ ตาม
กฎระเบียบ ตามกฎระเบยี บ ตามกฎระเบยี บ กฎระเบียบ
สมา่ เสมอ บางคร้ัง
2. ใฝ่เรยี นรู้ มีความสนใจใน มคี วามสนใจใน มีความสนใจใน ไมม่ คี วาม
กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน สนใจใน
การสอนสมา่ เสมอ การสอนสมา่ เสมอ การสอนบางคร้งั กจิ กรรมการ
ทาใบกจิ กรรมด้วย ทาใบกิจกรรมดว้ ย ไม่ทาใบกจิ กรรม เรยี นการสอน
ตนเองบางครั้ง ไมท่ าใบ
ตนเอง ด้วยตนเอง
กิจกรรม
3. มุ่งมั่นในการ นกั เรยี นตั้งใจทางาน นกั เรียนตงั้ ใจ นักเรียนไม่ตงั้ ใจ นกั เรยี นไม่
ทางาน อย่างเต็ม ทางานอย่างเตม็ ทางาน และส่งงาน ทางานสง่
ความสามารถแต่ ไม่ทนั ตามเวลาที่
ความสามารถ สง่ งานไม่ตรงตาม
ทางานเสรจ็ และส่ง เวลาทกี่ าหนด กาหนด
ทนั ตามเวลาที่
กาหนด
238
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรบั ปรงุ
0 0 = แกไ้ ข
แนวทางในการประเมินทักษะการปฏบิ ตั ิ
ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แกไ้ ข)
1. มที ักษะการ สมาชกิ ในกลุ่มมี สมาชิกในกลุม่ มี สมาชกิ ในกลุม่ ไม่มี สมาชกิ ในกลุ่มไมม่ ี
วางแผนทางาน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อนลง การวางแผนกอ่ น
กลมุ่ ลงมือทาปฏิบตั ิ ลงมือทาปฏิบตั ิ มอื ทาปฏบิ ัติ และ ลงมอื ทาปฏบิ ัติ
และชว่ ยเหลือกัน และชว่ ยเหลอื กนั ช่วยเหลือกนั ทางาน และไมช่ ่วยเหลอื
อยา่ งเตม็ ท่ี เปน็ บางคน บางคน กนั ทางาน
2. มคี วาม สมาชิกในกลมุ่ ทุก สมาชกิ ในกลุม่ สมาชกิ ในกลุ่มไม่ เฉยชาขาดสนใจไม่
กระตอื รือรน้ ใน คนรว่ มกนั ศึกษา ร่วมกันศกึ ษาหา ตั้งใจศกึ ษาหา แสดงความอยากรู้
การหาความรู้ หาความรอู้ ยา่ ง ความรอู้ ย่างต้งั ใจ ความรู้ อยากเหน็
ตัง้ ใจ เปน็ บางคน
3. มีความมั่นใจ สมาชิกในกล่มุ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกล่มุ ไม่ สมาชิกในกลมุ่ ไม่มี
และกลา้ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ งาน
แสดงออก งานไดอ้ ย่างมน่ั ใจ งานได้อยา่ งมน่ั ใจ งานได้อย่างม่นั ใจ
ถูกต้อง ชดั เจน ถูกต้อง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชัดเจน
เป็นบางคร้งั
239
ภาคผนวก
240
241
242
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 11
กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวทิ ยาศาสตร์ รหัสวิชา ว 11101
ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1/2565
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ตวั เรา พชื และสตั ว์
เรือ่ ง รู้จกั อวัยวะภายนอกของสัตว์ หน่วยย่อยที่ 2 พชื และสตั วน์ า่ รู้
ผสู้ อน นางสาวกวินทพิ ย์ มะณี เวลา 2 ช่ัวโมง
1. มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั
1.1 ตัวช้วี ดั
ว 1.2 ป.1/1 ระบุช่ือบรรยายลักษณะและบอกหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สัตว์
และพืช รวมทั้งบรรยายการทาหน้าท่ีร่วมกันของส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกายมนษุ ย์ใน
การทากจิ กรรมต่าง ๆ จากขอ้ มูลท่รี วบรวมได้
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ระบชุ อ่ื อวยั วะส่วนต่าง ๆ ของสตั ว์ได้ (K)
2. สงั เกตและวาดภาพอวยั วะส่วนตา่ ง ๆ ของสตั ว์ได้ (P)
3. รับผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย (A)
3. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
อวัยวะภายนอกของสัตว์ต่าง ๆ
4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
สตั ว์ส่วนใหญ่จะมอี วัยวะภายนอกคล้ายกับคน สัตวส์ ่วนใหญ่มอี วัยวะภายนอกท่สี าคัญ ไดแ้ ก่ ตา หู
จมกู ปาก ขาและเท้า ซ่งึ อวัยวะแตล่ ะสว่ นทาหนา้ ท่ีแตกตา่ งกนั ไป เพื่อให้เหมาะสมตอ่ การดารงชวี ติ
243
5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียนและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มี
2. ความสามารถในการคดิ วนิ ยั
1) ทักษะการสงั เกต 2. ใฝ่
2) ทกั ษะการสารวจค้นหา เรยี นรู้
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนคิ : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)
ชั่วโมงที่ 1
6.1 ขนั้ กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นข้อมลู และดูรปู ภาพจากหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ หน้า 30
2. ครถู ามนักเรยี นวา่ ในภาพมีสตั วช์ ือ่ วา่ อะไรบ้าง ให้นักเรียนช่วยกนั ตอบ แล้วครูจดช่อื สตั ว์บนกระดาน
(แนวตอบ : นก ช้าง มา้ ไก)่
3. ครูสมุ่ เรียกนักเรียนตามเลขที่และถามวา่ สัตวใ์ นภาพมีอวัยวะภายนอกส่วนใดบ้าง โดยให้นักเรียน
ตอบคนละชนิดตามความเข้าใจของตนเอง แลว้ ใหเ้ พอื่ นช่วยกันแสดงความคิดเห็น และปรบมอื ให้
เพือ่ นทต่ี อบคาถาม
4. ครถู ามคาถามว่า สตั ว์ในภาพมีอวัยวะภายนอกส่วนใดบา้ งทเี่ หมอื นกันและส่วนใดบ้างที่แตกต่างกัน
โดยให้นกั เรยี นช่วยกนั แสดงความคิดเห็น
(แนวตอบ : นก ชา้ ง ม้า ไก่ มีอวยั วะท่ีเหมือนกนั คอื ตา หู จมูก ปาก หาง ขา และเทา้ และมอี วยั วะท่ี
แตกต่างกนั ไดแ้ ก่ นกและไก่มปี ีก ช้างมีงวงและงา)
6.2 ขน้ั สารวจค้นหา (Explore)
1. ครเู ขียนเพลงช้าง บนกระดาน แล้วให้นักเรียนรว่ มกันรอ้ งเพลง
เพลง ช้าง
ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง ชา้ ง หนรู จู้ ักชา้ งหรอื เปลา่
ชา้ งมนั ตัวโตไม่เบา จมกู มันยาวเรียกวา่ งวง
สองเข้ียวขา้ งงวงเรยี กวา่ งา มหี มู ตี าหางยาว
ท่ีมา : เพลงสอนเดก็ ปฐมวยั
2. ครูขออาสาสมัครนกั เรียน 5-6 คน ออกมาทาทา่ ทางประกอบเพลง แลว้ ใหเ้ พอ่ื น ๆ ช่วยกนั รอ้ งเพลงและ
ปรบมือประกอบ
244
3. จากนน้ั ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานที่ 1.5 เรือ่ งนคี่ ือสตั วช์ นิดใด โดยให้นักเรียนวาดภาพสัตวแ์ ละบอกช่ือตาม
ปรศิ นาคาทายทใี่ บ้ให้ พร้อมตกแต่งใหส้ วยงาม
(หมายเหต:ุ ครเู รม่ิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล)
4. เมื่อแตล่ ะคนทาใบงานเสร็จแล้ว ใหน้ ามาสง่ ครูท่ีหนา้ ห้อง จากน้ันครสู ุ่มใบงานของนักเรียนมา 5 ใบ
แล้วให้เจา้ ของใบงานออกมานาเสนอผลงาน โดยครูเฉลยคาตอบที่ถูกตอ้ งเมอื่ นักเรยี นทุกนาเสนอจบ
5. จากนน้ั ครูนาใบงานที่ 1.5 ไปตดิ ทีป่ า้ ยนเิ ทศของห้องเรียน เพอ่ื ใหน้ กั เรียนได้ศึกษาและชมผลงานของ
เพือ่ นคนอืน่ ๆ
ช่ัวโมงที่ 2
6.3 ข้ันอธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ครแู จ้งจุดประสงคก์ ารเรยี นร้ทู ่จี ะเรียนในวนั นี้ให้นักเรียนทราบ
2. ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนทากจิ กรรมที่ 2 เร่ืองรจู้ กั อวัยวะภายนอกของสตั ว์ โดยปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ดังน้ี
1) ศกึ ษาขัน้ ตอนการทากิจกรรมจากหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ หน้า 31 อย่างละเอียด หากมีข้อ
สงสยั ให้สอบถามครู
2) ตดิ ภาพสัตวท์ ่ตี นเองชอบลงในสมุดประจาตัวนักเรียนหรอื ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ หน้า 34
3) สงั เกตอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของสัตวใ์ นภาพ แลว้ ลากเส้นช้ีบอกช่ืออวัยวะภายนอกของสตั ว์
4) ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนจบั กล่มุ กับเพือ่ น 3-4 คน ทีต่ ิดภาพสตั ว์ตา่ งชนดิ กนั
5) เปรยี บเทยี บอวยั วะภายนอกของสัตว์แต่ละชนิดวา่ มีลักษณะเหมือนกนั หรอื ต่างกัน อย่างไร
6) รว่ มกันอภิปรายและสรปุ เก่ียวกับชอื่ อวัยวะภายนอกของสตั วแ์ ต่ละชนิด พร้อมเตรียมตวั นาเสนอ
หนา้ ช้ันเรยี น
4. ครสู ุม่ นกั เรียน 3-4 กล่มุ ใหอ้ อกมานาเสนอผลจากการทากจิ กรรมท่ี 2 โดยครูถามคาถาม ดงั น้ี
1) สัตว์ทนี่ ักเรยี นช่ืนชอบคืออะไร (แนวตอบ เช่น สุนัข แมว ปลา กระต่าย เป็นต้น)
2) อวยั วะภายนอกของสัตวท์ ีน่ กั เรียนสังเกตมอี ะไรบา้ ง (แนวตอบ หู ตา จมกู ปาก ขาและเทา้ )
(หมายเหต:ุ ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมินการนาเสนอหน้าชัน้ เรียน)
5. โดยครเู ป็นผู้ตรวจสอบขอ้ มลู ความถกู ตอ้ งและเสนอแนะเพมิ่ เตมิ ในส่วนท่ีบกพร่อง
6. ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรุปความรทู้ ไี่ ด้จากการทากจิ กรรมน้ี
6.4 ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. ครูตดิ บตั รภาพสัตว์แต่ละชนดิ บนกระดาน แล้วสุม่ เรียกนักเรยี นออกมาเขียนชอ่ื อวัยวะของสัตว์บน
กระดานทลี ะคน คนละข้อ
2. ครูและเพอื่ นๆ ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้องคาตอบบนกระดาน จากนนั้ ครอู ธิบายให้ความรูเ้ พ่ิมเติม
เก่ยี วกบั อวยั วะภายนอกของสัตว์ โดยให้นกั เรียนเปดิ หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ หน้า 32
3. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละคนทากิจกรรมหนตู อบไดล้ งในสมุดประจาตัวนักเรียนหรือแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์
หนา้ 35-36 เป็นการบ้านแล้วนามาสง่ ครูหนา้ ชน้ั เรยี น
245
6.4 ขัน้ ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูขอนักเรยี นอาสาสมคั ร 1 คน ออกมาสรปุ เกี่ยวกับอวัยวะภายนอกของสตั ว์ เพ่ือให้เกดิ ความเขา้ ใจ
มากขึ้น โดยมคี รูคอยเสรมิ ในส่วนที่ขาดไป
2. ครูประเมนิ ผลนักเรยี น โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล และจากการนาเสนอผลการทา
กจิ กรรมหนา้ ช้นั เรียน
3. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมท่ี 2 เร่ืองรู้จักอวัยวะภายนอกของสัตว์ ในสมุดประจาตัวนักเรียนหรือ
แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ หนา้ 34
4. ครูตรวจสอบผลจากการทาใบงานท่ี 1.6 เร่อื งนีค่ อื สตั ว์ชนดิ ใด
5. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมหนูตอบได้ ในสมดุ ประจาตวั นักเรียนหรือแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ หน้า
35-36
7. การวดั และประเมินผล
รายการวัด วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
7.1 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรม - ตรวจสมุดประจาตวั ร้อยละ 60 ผา่ น
นกั เรียนหรอื แบบฝกึ หดั เกณฑ์
1) ผลบนั ทกึ การทา - ตรวจสมดุ ประจาตัว วทิ ยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1
หน้า 34 - รอ้ ยละ 60 ผา่ น
กิจกรรมที่ 2 นกั เรียนหรือแบบฝึกหัด - ใบงานท่ี 1.6 เรือ่ ง เกณฑ์
- รอ้ ยละ 60 ผ่าน
วิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 - ตรวจสมดุ ประจาตวั เกณฑ์
นักเรียนหรอื แบบฝกึ หดั
หนา้ 34 วิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 - ระดับคณุ ภาพ 2
หนา้ 35-36 ผ่านเกณฑ์
2) ใบงานที่ 1.6 เรือ่ งนี่ - ตรวจใบงานที่ 1.6 - แบบประเมนิ การ
นาเสนอผลการทา - ระดับคุณภาพ 2
คอื สตั วช์ นิดใด กจิ กรรม ผ่านเกณฑ์
- แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2
3) กจิ กรรมหนูตอบได้ - ตรวจสมุดประจาตวั การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
- แบบประเมิน
นักเรยี นหรือแบบฝึกหัด คณุ ลักษณะอัน
พงึ ประสงค์
วิทยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1
หน้า 35-36
4) การนาเสนอผลการทา - ประเมนิ การนาเสนอ
กจิ กรรม ผลการทากิจกรรม
5) พฤตกิ รรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม
รายบคุ คล การทางานรายบคุ คล
6) คุณลกั ษณะอันพึง - สังเกตความมีวนิ ัย
ประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มน่ั
ในการทางาน
246
8. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ ป.1 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 ตวั เรา พชื และสัตว์
2) แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ตวั เรา พชื และสัตว์
3) ใบงานที่ 1.6 เร่ืองน่ีคอื สัตวช์ นดิ ใด
4) บัตรภาพสตั ว์
5) เพลงช้าง
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
247
248
249
250
251
252
253
254
255
256
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผ่านเกณฑใ์ นระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรับปรุง
0 0 = แก้ไข
แนวทางในการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แก้ไข)
1. มวี ินยั นกั เรยี นเข้าเรยี นตรง นักเรยี นเขา้ เรียน นกั เรยี นเข้าเรียน นักเรียนไมเ่ ข้า
ตอ่ เวลาสมา่ เสมอ ตรงต่อเวลา ตรงต่อเวลา เรยี น ไมป่ ฏิบตั ิ
บางคร้ัง ปฏบิ ัติ
ปฏิบัตติ าม บางครงั้ ไม่ปฏบิ ตั ิ ตาม
กฎระเบียบ ตามกฎระเบยี บ ตามกฎระเบยี บ กฎระเบียบ
สมา่ เสมอ บางคร้ัง
2. ใฝ่เรยี นรู้ มีความสนใจใน มคี วามสนใจใน มีความสนใจใน ไมม่ คี วาม
กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน กิจกรรมการเรียน สนใจใน
การสอนสมา่ เสมอ การสอนสม่าเสมอ การสอนบางคร้งั กจิ กรรมการ
ทาใบกจิ กรรมด้วย ทาใบกิจกรรมดว้ ย ไม่ทาใบกจิ กรรม เรยี นการสอน
ตนเองบางครั้ง ไมท่ าใบ
ตนเอง ด้วยตนเอง
กิจกรรม
3. มุ่งมั่นในการ นกั เรยี นตั้งใจทางาน นกั เรียนตงั้ ใจ นักเรียนไม่ตงั้ ใจ นกั เรยี นไม่
ทางาน อย่างเต็ม ทางานอยา่ งเตม็ ทางาน และส่งงาน ทางานสง่
ความสามารถแต่ ไม่ทนั ตามเวลาที่
ความสามารถ สง่ งานไมต่ รงตาม
ทางานเสรจ็ และส่ง เวลาทกี่ าหนด กาหนด
ทนั ตามเวลาที่
กาหนด
257
เกณฑ์การวัดประเมนิ ผล (ผา่ นเกณฑ์ในระดบั ดี)
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
7-9 3 = ดี
4-6 2 = พอใช้
1-3 1 = ปรบั ปรงุ
0 0 = แกไ้ ข
แนวทางในการประเมินทักษะการปฏบิ ตั ิ
ประเด็นการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรงุ ) 0 (แกไ้ ข)
1. มที ักษะการ สมาชกิ ในกลุ่มมี สมาชิกในกลุม่ มี สมาชกิ ในกลุม่ ไม่มี สมาชกิ ในกลุ่มไมม่ ี
วางแผนทางาน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อน การวางแผนก่อนลง การวางแผนกอ่ น
กลมุ่ ลงมือทาปฏิบตั ิ ลงมือทาปฏิบตั ิ มอื ทาปฏบิ ัติ และ ลงมอื ทาปฏบิ ัติ
และชว่ ยเหลือกัน และชว่ ยเหลอื กนั ช่วยเหลือกนั ทางาน และไมช่ ่วยเหลอื
อยา่ งเตม็ ท่ี เปน็ บางคน บางคน กนั ทางาน
2. มคี วาม สมาชิกในกลมุ่ ทุก สมาชกิ ในกลุม่ สมาชกิ ในกลุ่มไม่ เฉยชาขาดสนใจไม่
กระตอื รือรน้ ใน คนรว่ มกนั ศึกษา ร่วมกันศกึ ษาหา ตั้งใจศกึ ษาหา แสดงความอยากรู้
การหาความรู้ หาความรอู้ ยา่ ง ความรอู้ ย่างต้งั ใจ ความรู้ อยากเหน็
ตัง้ ใจ เปน็ บางคน
3. มีความมั่นใจ สมาชิกในกล่มุ สมาชกิ ในกลมุ่ สมาชกิ ในกล่มุ ไม่ สมาชิกในกลมุ่ ไม่มี
และกลา้ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ สามารถนาเสนอ งาน
แสดงออก งานไดอ้ ย่างมน่ั ใจ งานได้อยา่ งมน่ั ใจ งานได้อย่างม่นั ใจ
ถูกต้อง ชดั เจน ถูกต้อง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ชัดเจน
เป็นบางคร้งั
258
ภาคผนวก
259
260
261
บัตรภาพ
262
บัตรภาพ
263
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 12
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชาวิทยาศาสตร์ รหสั วชิ า ว 11101
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนที่ 1/2565
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ตัวเรา พชื และสตั ว์ หน่วยยอ่ ยที่ 2 พชื และสตั ว์น่ารู้
เรื่อง หนา้ ท่ีของอวัยวะภายนอกของสตั ว์ เวลา 2 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวกวนิ ทพิ ย์ มะณี
1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
1.1 ตัวชีว้ ัด
ว 1.2 ป.1/1 ระบุช่ือบรรยายลักษณะและบอกหน้าท่ีของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษย์ สตั ว์
และพชื รวมทง้ั บรรยายการทาหนา้ ท่ีรว่ มกันของส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมนุษยใ์ น
การทากจิ กรรมตา่ ง ๆ จากขอ้ มูลที่รวบรวมได้
2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ระบชุ ือ่ อวยั วะต่าง ๆ ของสัตวไ์ ด้ (K)
2. อธบิ ายหน้าที่ของอวยั วะต่าง ๆ ของสัตว์ได้ (P)
3. ปฏิบตั กิ จิ กรรมเพ่ืออธบิ ายหน้าท่ีของอวยั วะตา่ ง ๆ ของสตั วไ์ ด้ (P)
4. รบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีท่ีได้รับมอบหมาย (A)
3. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1. อวยั วะภายนอกของสตั ว์
2. หน้าทีอ่ วัยวะภายนอกของสตั ว์
4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
สตั วส์ ว่ นใหญจ่ ะมอี วยั วะภายนอกคล้ายกบั คน สตั วแ์ ต่ละชนดิ มีอวยั วะภายนอกท่สี าคญั ได้แก่ ตา หู
จมูก ปากขาและเทา้ ซึง่ อวยั วะแตล่ ะสว่ นทาหนา้ ทแี ตกต่างกันไป เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมต่อการดารงชีวิต
264
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มี
2. ความสามารถในการคดิ วนิ ัย
1) ทักษะการสงั เกต 2. ใฝ่
2) ทักษะการสารวจค้นหา เรียนรู้
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 3. มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วิธีสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชว่ั โมงท่ี 1
6.1 ขั้นกระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครูเขียนชอ่ื อวยั วะภายนอกของสัตว์บนกระดาน ดังนี้ หู ตา จมูก ปาก ขาและเทา้
2. ครถู ามนกั เรยี นว่า อวัยวะภายนอกของสตั ว์ที่ครเู ขียนไว้บนกระดาน อวยั วะใดทีส่ นุ ัขใช้ในการหายใจ
โดยให้นกั เรียนชว่ ยกันตอบ
3. ครูใหแ้ ต่ละคนเปิดหนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ หน้า 33 แลว้ อา่ นกิจกรรมท่ี 3 หนา้ ทีข่ องอวัยวะภายนอก
ของสตั ว์ เพอ่ื ทาความเข้าใจกอ่ นทากิจกรรม
6.2 ขน้ั สารวจคน้ หา (Explore)
1. เมื่อนกั เรยี นทาความเขา้ ใจแลว้ ให้แต่ละคนสังเกตอวัยวะต่าง ๆ ของสัตวแ์ ต่ละชนิดจากบตั รภาพที่ครู
เตรียมไว้
2. จากนั้นให้นกั เรยี นสบื ค้นข้อมลู เกย่ี วกับหนา้ ทขี่ องอวยั วะแตล่ ะสว่ นของสัตวจ์ ากแหลง่ ข้อมลู ต่าง ๆ เชน่
หนงั สอื อินเทอร์เน็ต เป็นต้น แล้วบันทึกลงในสมุดประจาตัวนกั เรียนหรือในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์
หนา้ 38
3. ใหแ้ ตล่ ะคนอภปิ รายและสรปุ ขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการสบื คน้ เกี่ยวกบั หน้าท่ีของอวยั วะแตล่ ะส่วนของสัตว์
4. ครสู ุม่ เรยี กนกั เรียน 3-4 คน ใหอ้ อกมานาเสนอข้อมลู ท่ไี ดจ้ ากการสืบค้นหน้าช้นั เรยี น
5. ใหท้ ุกคนรว่ มกนั อภปิ รายเก่ียวกับหน้าท่ขี องอวยั วะแต่ละส่วนของสัตว์ โดยครูถามคาถาม ดังน้ี
สตั วท์ ี่นักเรียนชอบมอี วัยวะใดบา้ ง แลว้ อวัยวะแต่ละส่วนทาหน้าที่อย่างไร
(แนวตอบ หู ทาหนา้ ที่ ฟงั เสยี งต่าง ๆ ตา ทาหน้าที่ มองดูส่งิ ตา่ ง ๆ จมูก ทาหนา้ ท่ี หายใจและดมกลิ่น
ปาก ทาหน้าที่ กนิ อาหารและส่งเสียงรอ้ ง ผิวหนงั ทาหนา้ ท่ี ปกคลุมรา่ งกายให้อบอนุ่ ขาและเท้า ทา
หน้าที่ ในการเคล่ือนทแ่ี ละรับน้าหนักตวั )
265
6. ครูและนกั เรยี นช่วยกันสรุปความรทู้ ไี่ ด้จากการทากิจกรรมน้ี
ช่ัวโมงที่ 2
6.3 ขัน้ อธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ครแู ละนักเรยี นช่วยกันอภปิ รายและสรุปผลจากการทากิจกรรมในชั่วโมงทแี่ ล้วอกี ครั้ง
2. ครูให้นักเรยี นเปิดหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ หน้า 34-35 แล้วให้นกั เรยี นศึกษาข้อมลู เก่ียวกับหนา้ ที่
อวยั วะภายนอกของสตั ว์ หรอื ครอู าจเปดิ PowerPoint เร่อื งโครงสร้างภายนอกของสตั ว์ ประกอบใน
การเรยี นการสอน
3. ครูให้นักเรียนเล่มเกมตอบคาถาม โดยแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน โดยให้แต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบ
คาถาม โดยครจู ะส่มุ หยิบและชบู ตั รข้อความเกยี่ วกบั หน้าทีข่ องอวัยวะภายนอกของสตั วข์ น้ึ มา จากน้ัน
ให้แต่ละกลุ่มยกมือ กลุ่มท่ียกมือก่อนมีสิทธิใ์ นการตอบคาถามก่อนว่า บัตรข้อความดังกลา่ วตรงกับ
อวัยวะภายนอกของสัตว์ส่วนใด กลุ่มใดท่ไี ด้คะแนนสูงสดุ เป็นกลุ่มชนะ โดยครูมอบรางวัลให้เป็น
กาลังใจแกก่ ลมุ่ ท่ีชนะ
(หมายเหต:ุ ครเู ร่ิมประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม)
6.4 ขั้นขยายความเข้าใจ (Elaborate)
1. ครูถามนักเรียนว่า ถา้ สตั วแ์ ต่ละชนิดมีอวัยวะสว่ นใดส่วนหน่ึงขาดหายไป จะสง่ ผลตอ่ การดารงชีวิต
ของสตั ว์ชนดิ นัน้ หรอื ไม่ เพราะอะไร โดยใหน้ กั เรียนชว่ ยกันแสดงความคิดเห็น
2. ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมหนูตอบได้จากหนังสือเรยี น หน้า 33 ลงในสมดุ ประจาตวั นกั เรียนหรือใน
แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ หนา้ 39-40 เปน็ การบา้ นแล้วนามาสง่ ครูหนา้ ชัน้ เรียน
6.5 ขนั้ ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครใู ห้นกั เรยี นร่วมกันสรุปหน้าท่ีของอวยั วะภายนอกของสตั วต์ า่ ง ๆ
2. ครปู ระเมินผลนกั เรียน โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล พฤตกิ รรมการทางานกล่มุ และ
จากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหนา้ ช้ันเรยี น
3. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมที่ 3 เรอ่ื งหน้าทข่ี องอวัยวะภายนอกของสัตว์ ในสมุดประจาตวั นกั เรียน
หรอื ในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ หน้า 38
4. ครูตรวจสอบผลการทากจิ กรรมหนตู อบไดใ้ นสมุดประจาตัวนักเรยี นหรอื ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์
หนา้ 39-40
266
7. การวดั และประเมินผล
รายการวดั วธิ ีวัด เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรม
1) ผลบนั ทึกการทา - ตรวจสมดุ ประจาตวั - สมุดประจาตวั นักเรยี น - รอ้ ยละ 60 ผา่ น
กิจกรรมท่ี 3 นักเรยี นหรอื แบบฝึกหัด หรอื แบบฝกึ หดั เกณฑ์
วิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ วิทยาศาสตร์ ป.1
1 หนา้ 38 เล่ม 1 หน้า 38
2) กจิ กรรมหนตู อบได้ - ตรวจสมุดประจาตัว - สมุดประจาตวั นักเรยี น - ร้อยละ 60 ผ่าน
นกั เรยี นหรอื แบบฝกึ หดั หรือแบบฝึกหัด เกณฑ์
วิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ วิทยาศาสตร์ ป.1
1 หน้า 39-40 เล่ม 1 หน้า 39-40
3) การนาเสนอผลการทา - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมนิ การ - ระดับคณุ ภาพ 2
กจิ กรรม ผลการทากิจกรรม นาเสนอผลการทา ผ่านเกณฑ์
กจิ กรรม
4) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดับคณุ ภาพ 2
รายบคุ คล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
5) พฤตกิ รรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
กลุ่ม การทางานกลมุ่ การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
6) คุณลักษณะอันพึง - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ 2
ประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่นั คุณลกั ษณะอนั ผ่านเกณฑ์
ในการทางาน พึงประสงค์
8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ตัวเรา พชื และสตั ว์
2) แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป.1 เลม่ 1 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 ตวั เรา พืช และสัตว์
3) Power Point เรอ่ื งโครงสร้างภายนอกของสตั ว์
4) บตั รขอ้ ความหน้าทข่ี องอวัยวะภายนอกของสัตว์
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน