ส รุ ป วิ ท ย์ ป . 4 - 6 ฉบับพึ่งตนเอง นายดิเรกฤทธิ์ ยุเหล็ก ตำ แหน่ง ครู คศ.1 โรงเรียนเทศบาลวัดขจรรังสรรค์
เราต้องเรียนอะไรบ้าง วิทยาศาสตร์ชีวภาพ วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ - ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ - หน่วยของสิ่งมีชีวิต - พืช - สัตว์ - สิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม - ร่างกายมนุษย์ - การถ่ายทอดลักษณะทาง พันธุกรรม - อาหารและสารอาหาร - ทรัพยากรธรรมชาติ - วัสดุและคุณสมบัติ ของวัสดุ - สสาร - แรง - เสียงและการได้ยิน - แสงและการมองเห็น - ไฟฟ˖า - แม่เหล็กไฟฟ˖า - การเปลี่ยนแปลงของ เปลือกโลก - ดิน หิน แร่ - นํ˕า - สม ฟ˖า อากาศ - ดาราศาสตร์
1 ทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์
1. กําหนดปัญหา 2. ตั˕งสมมติฐาน 3. ตรวจสอบสมมติฐาน 4. วิเคราะห์ข้อมูล 5. สรุปผลการทดลอง วิทยาศาสตร์ (Science) ความหมาย นักวิทยาศาสตร์ ขั˕นตอนการศึกษา ● ความรู้เกี˒ยวกับธรรมชาติ ทั˕งสิ˒งมีชีวิตและไม่มีชีวิต ● ความรู้นั˕นต้องผ่าน กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ - ทดลอง - สังเกต - ทดสอบเพื˒อยืนยันความ ถูกต้อง
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กําหนดปัญหา ตั˕งสมมติฐานตรวจสอบสมมติฐานวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการ ทดลอง ขั˕นตอนการศึกษา 01 02 03 04 05
01 กําหนดปัญหา เป็นจุดเริ่มต้น ของกระบวนการ เริ˒มจาก การสังเกต ลักษณะการ สังเกตที˒ดี ยึดข้อเท็จจริง เป็นหลัก - เน้นเป็นเรื˒องๆไป - มีจุดมุ่งหมาย - พินิจพิเคราะห์ถึงรายละเอียด - ใช้เครื˒องมือ (ตรวจสอบรายการ, เครื˒องมือวัด) - จดบันทึก ตัวอย่าง : เกษตรกรสังเกตเห็นว่าวัวที˒ตนเลี˕ยงเจริญเติบโตไม่เท่ากัน กําหนดปัญหา : อะไรเป็นปัจจัยที˒ทําให้วัวที˒เลี˕ยงโตไม่เท่ากัน
02 ตั˕งสมมติฐาน ยึดปัญหา เป็นหลัก คาดการณ์ สาเหตุของ ปัญหาน่าจะมี อะไรบ้าง สมมติฐานที˒ดี ควรตรวจสอบ ได้ ตัวอย่าง : สูตรอาหารเสริมที˒ใช้เลี˕ยงมีผลต่อการเจริญเติบโตของวัว
03 ตรวจสอบสมมติฐาน การทดลอง ยึดสมมติฐาน เป็นหลัก การทดลอง ตัวแปร 1. ชุดควบคุม - ไม่ได้รับตัวแปรอิสระ - ใช้อ้างอิงเพื˒อเปรียบเทียบกับข้อมูลที˒ได้ 2. ชุดทดลอง (ชุดทดสอบ) - ใช้ศึกษาผลของตัวแปร - ได้รับตัวแปรอิสระ 1. ตัวแปรต้น (ตัวแปรอิสระ) : กําหนดขึ˕นเพื˒อทดสอบ 2. ตัวแปรตาม : ตัวแปรที˒สืบเนื˒องจากตัวแปรต้น 3. ตัวแปรควบคุม : ตัวแปรที˒ควบคุมให้เหมือนกัน ตัวอย่าง : สูตรอาหารเสริมที˒ใช้เลี˕ยง มีผลต่อการเจริญเติบโตของวัว ตัวแปรต้น : สูตร A ตัวแปรตาม : การเจริญเติบโตของวัว ตัวแปรควบคุม : นํ˕า วัคซีน ความสะอาด ชุดทดลอง : กลุ่มวัวที˒ 1 ให้อาหารสูตร A กลุ่มควบคุม : วัวกลุ่มที˒ 2 กินหย้าอย่างเดียว
04 วิเคราะห์ข้อมูล ตัวอย่าง : การเจริญเติบโตของวัวแต่ละกลุ่ม หาความสัมพันธ์ของข้อมูล 05 สรุปผลการทดลอง อธิบายความหมายของข้อมูล สรุปว่าเป็นไปตามสมมติฐานหรือไม่
2 หน่วยของสิ่งมีชีวิต
เราจะเรียนกัน 3 หัวข้อ เซลล์ คุณสมบัติ ของ สิ่งมีชีวิต ชนิดของสิ่งมีชีวิต
คุณสมบัติของสิ่งมีชีวิต - มีระเบียบแบบแผน (โครงสร้าง) - มีเมตาบอลิซึม (สร้างและใช้พลังงาน) - มีการเคลื่อนไหว - มีการปรับตัว - มีการรักษาภาวะสมดุล - มีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า ที่ใช้ในการดํารงชีวิต คุณสมบัติ เพื่อการดํารงเผ่าพันธ์ คุณสมบัติ มีวิวัฒนาการ ข้อสังเกต - มีการสืบพันธ์ - มีการเจริญเติบโต - มีการสืบทอดทางพันธุกรรม - ไม่จําเป็นต้องมีครบทุกข้อ - ไวรัสและไวรอยด์เป็นสิ่งมีชีวิตเพราะมีข้อ 2 1 2 3 01
ชนิดของสิ่งมีชีวิต ไม่มีเซลล์ ไวรัสและไวรอยด์ เซลล์เดียว - แบคทีเรีย - อะมีบา - พารามีเซียม - ยูกลีนา หลายเซลล์ - เห็ด - พืช - สัตว์ 02
03 เซลล์ (CELL) ประวัติการศึกษา เซลล์ ชนิดของเซลล์ เซลล์พืช และ เซลล์สัตว์ การจัดระบบ เซลล์ - โรเบิร์ด ฮุค - ชวันน์และชไลเดน - โปรคาริโอต - ยูคาริโอต - มีเหมือนกัน - ความแตกต่าง
โรเบิร์ต ฮุค - ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ - ส่องชิ˕นไม้คอร์กบางๆ เห็นห้องสี˒เหลี˒ยมเรียงติดกัน ห้องว่างนี˕ เรียกว่า เซลล์ - ห้องว่าง คือ เซลล์ที˒ตายแล้ว เหลือแต่ผนัง ค.ศ. 1665 ประวัติการศึกษาเซลล์ ชวันน์และชไลเดน - นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน - ทฤษฎีเซลล์ “สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ประกอบด้วยเซลล์ และผลิตภัณฑ์ของเซลล์ เซลล์คือหน่วยพื้นฐานที่เล็กที่สุดของสิ่งมี ชีวิต” ค.ศ. 1839
ชนิดของเซลล์ โปรคาริโอต สิ่งมีชีวิตที่ไม่มีเยื้อหุ้มเซลล์ เช่น แบคทีเรีย ยูคาริโอต มีเยื้อหุ้มเซลล์ เช่น สาหร่าย, เห็ด, รา, ยีสต์, พืช, สัตว์ จํา เซลล์ที˒เล็กที˒สุดคือไมโครพลาสมา เซลล์ที˒ใหญ่ที˒สุดคือเซลล์ไข่นกกระจอกเทศ
เซลล์พืช & เซลล์สัตว์ นิวเคลียส (Nucleus) เยื˕อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) ไรโบโซม (Ribosome) ไมโทคอนเดรีย (Mitochondrion) ร่างแหเอนโดพลาซึม (Endoplasmic reticulum) กอลจิคอมเพล็กซ์ (Golgi apparatus) ไซโทพลาซึม (Cytoplasm) ผนังเซลล์ (Cell wall) คลอโรพลาสต์ (Chloroplast) (บรรจุคลอโรฟิลล์) แวคคิวโอล (Vacuole) เซนทริโอล (Centriole) ไลโซโซม (Lysosome) รูปร่าง : เหลี่ยม มีเซลลูโลสเป็นองค์ประกอบ รูปร่าง : ค่อนข้างกลม เซลล์พืช (Plant Cell) เซลล์สัตว์ (Animal Cell)
การจัดระบบของเซลล์ ออร์แกเนลล์ (Organelle) เนื้อเยื่อ (Tissue) ระบบอวัยวะ (Organ system) เซลล์ (Cell) อวัยวะ (Organ) ร่างกาย (Organism) ออร์แกเนลล์ → เซลล์ → เนื้อเยื้อ → อวัยวะ → ระบบอวัยวะ → ร่างกาย
3 พืช (PLANT)
หัวข้อที่เราจะเรียนกันนะ 01 เซลล์ (Cell) 02 โครงสร้าง ของพืช 03 ผล 04 เมล็ด 05 การลําเลียงนํ้า และอาหาร 06 ปัจจัยที่มีผลต่อ การเจริญเติบโต 07 การสังเคราะห์ ด้วยแสง 08 การหายใจ ของพืช 09 การตอบสนอง ของพืช 10 การสืบพันธุ์ ของพืช
เซลล์พืช01 นิวเคลียส (Nucleus) - บรรจุสารพันธุกรรม - ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เยื้อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) : เป็นเยื˒อเลือกผ่าน, จําเป็น, พืชขาดไม่ได้ ไรโบโซม (Ribosome) : สร้างโปรตีน ไมโทคอนเดรีย (Mitochondrion) - สร้างพลังงานให้แก่เซลล์ - เสมือนโรงไฟฟ˖าของเซลล์ ร่างแหเอนโดพลาซึม (Endoplasmic reticulum) : สร้างโปรตีนและไขมัน กอลจิคอมเพล็กซ์ (Golgi apparatus) : สร้างคาร์โบไฮเดรต ไซโทพลาซึม (Cytoplasm) ผนังเซลล์ (Cell wall) - มีเซลลูโลสเป็นองค์ประกอบ - เพื˒อป˖องกัน และเสริมสร้าง ความแข็งแรงของเซลล์ คลอโรพลาสต์ (Chloroplast) : (บรรจุคลอโรฟิลล์, สังเคราะห์ด้วยแสง) แวคคิวโอล (Vacuole) - เก็บนํ˕ามัน สี สารพิษ - ขนาดใหญ่กว่าของสัตว์ รูปร่าง : เหลี่ยม
02 โครงสร้างของพืช 1 ดอก 2 ใบ 3 ลําต้น 4 ราก
ดอก กลีบดอก (Petal) - ล่อแมลง เพราะมีสีสันสวยงาม อับเรณู (Anther) ก้านชูอับเรณู (Filament) ออวุล (Ovule) ฐานรองดอก (Receptacle) ก้านดอก (Pedicel) กลีบเลี้ยง (Sepal) - ปกป˖องดอกอ่อน - ห่อหุ้มดอกตูม รังไข่ (Ovary) ก้านเกสรเพศเมีย (Style) ยอดเกสรเพศเมีย (Stigma) เกสรเพศเมีย (Carpel or Pistil) เกสรเพศผู้ (Stamen) หน้าที่ และส่วนประกอบ ดอก มีหน้าที˒ สืบพันธุ์ ① ② ③ ④
ดอก ประเภทของดอก ดอกสมบูรณ์ ดอกไม่สมบูรณ์ ดอกสมบูรณ์ ดอกไม่สมบูรณ์ แบ่งตามส่วนประกอบ เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ประเภทของดอก จํานวนดอกบนก้าน ดอกเดี่ยว ดอกช่อ - มีครบ 4 ส่วน - กุหลาบ - ชบา - ไม่ครบ 4 ส่วน - ดอกฟักทอง - เกสรเพศผู้ และเกสร เพศเมียอยู่ในดอก เดียวกัน - กุหลาบ - ชบา - เกสรเพศผู้ และเกสร เพศเมียอยู่คนละดอก เดียวกัน - ดอกฟักทอง - 1 ดอกบน 1 ก้าน - กุหลาบ - ชบา - หลายดอกบน 1 ก้าน - ดอกมะละกอ - ดอกข้าวโพด
ลักษณะของ ใบ พืชใบเลี้ยงเดี่ยว พืชใบเลี้ยงคู่ เส้นใบเรียงขนาน เส้นใบเรียงเป็นร่างแห ลักษณะมีสีเขียว ของคลอโรฟิลล์
หน้าที่ของ ใบ ใบ : คายนํ้า ด้วยการสังเคราะห์ด้วยแสง ผักตบชวา - ทุ่นลอยนํ˕า กระบองเพชร - หนาม - ลดการคายนํ˕า ตําลึง - มือยึดเกาะ หน้าวัว เฟื่ องฟ้า คริสต์มาส กาบหอยแครง หยาดนํ้าค้าง หม้อข้าวหม้อแกงลิง ควํ่าตายหงายเป็น - สืบพันธุ์ ใบประดับ ดักแมลง
ตา (ฺBud) ข้อ (ฺNode) ปล้อง (ฺinternode) ส่วนประกอบ หน้าที่ และชนิดของ ลําต้นหน้าที่ของลําต้น : ชูกิ˒ง ก้าน ใบ ดอก เหง้า - กล้วย แง่ง - ข่า - ขิง - ขมิ˕น เลื˕อยยาว ตามพื˕นดิน หรือผิวนํ˕า - ฟːกทอง - ผักบุ้ง - กระเฉด ตั˕งตรง - ต้นไม้ ยืนต้น ลําต้นใต้ดิน ลําต้นเหนือดิน ชนิดของลําต้น หัว - เผือก - แห้ว - กระเทียม - หอม ไต่ขึ˕นที˒สูง - เถาวัลย์ - ถั่ว -แตงกวา คล้ายใบ - พญาไร้ใบ - หน่อไม้ฝรั่ง
หน้าที่ และระบบของ ราก ระบบรากแก้ว ระบบรากฝอย ระบบรากแก้ว ประกอบด้วย - รากแก้ว : โคนใหญ่ ปลายเรียว ใช้ยึดลําต้น พบในพืชใบเลี˕ยงคู่ - รากแขนง : แตกจากรากแก้ว แผ่ออกด้านข้างแนวขนานกับพื˕น ใช้ยึดลําต้น - รากขนอ่อน หรือขนราก : ขนาดเล็ก แตกแขนงจากรากแขนง ดูดซึมนํ˕าและแร่ธาตุ ระบบรากฝอย - มีรากฝอยเป็นจํานวนมาก ไม่มีรากใดเป็นรากหลัก - แผ่กระจายออกไปรอบๆโคนต้น - ปลายรากฝอยจะมีรากขนอ่อน รากฝอย (Fibrous root) รากขนอ่อน (Root hair) รากแก้ว (Tap root) รากแขนง (Lateral root) รากขนอ่อน (Root hair) ราก มีหน้าที˒ ยึดลําต้น ดูดนํ˕าและแร่ธาตุ สะสมอาหาร
หน้าที่ และระบบของ รากวิสามัญ (Adventitious root) : เป็นรากที˒ไม่ได้กําเนิดมาจากรากแก้วหรือรากแขนง รากเปลี˒ยนแปลงเพื˒อทําหน้าที˒เฉพาะ ราก ใช้ราก ยึดเกาะ เช่น พลูด่าง พริกไทย กล้วยไม้ ใช้ราก สะสมอาหาร เช่น มันเทศ มันแกว มันสําปะหลัง แครอต หัวไชเท้า กระชาย ใช้ราก หายใจ เช่น แสม ใช้ราก สังเคราะห์ด้วยแสง เช่น ไทร ใช้ราก คํ้าจุน เช่น โกงกาง อ้อย ข้าวโพด
ผล (Fruits) 03
การเกิด หน้าที่ โครงสร้างของผล การเกิดผล : หลังจากปฏิสนธิซ้อน - รังไข่เจริญเป็นผล - ออวุลเจริญเป็นเมล็ด - ผนังรังไข่เปลี˒ยนเป็นเพอริคาร์ป (Pericarp) (ห่อหุ้มเมล็ด) หน้าที่ของผล : ห่อหุ้มเมล็ดและต้นอ่อน โครงสร้างของผล เปลือก (ฺExocarp) - ชั˕นนอกสุด ชั้นกลาง (ฺMesocarp) - เนื˕อของผล ชั้นในสุด (ฺEndocarp) - เป็นชั˕นในสุด Pericarp
ประเภทของผล ผลเดี่ยว (Simple fruit) : - เกิดจากรังไข่ในดอกเดียวกัน อาจเป็นดอกเดี˒ยวหรือดอกช่อ - เช่น มะเขือ มะม่วง มะนาว ผลกลุ่ม (Aggregate fruit) : - เกิดจาก 1 ดอกแต่หลายรังไข่ที˒อยู่บนฐานเดียวกัน - เช่น น้อยหน่า สตรอเบอร์รี˒ กระดังงา ผลรวม (Multiple fruit) : - เกิดจาก 1 รังไข่ 1 ดอกแต่รวมกันจนเหมือนผลเดี˒ยว เช่น ลูกยอ ขนุน สาเก สับปะรด มะเดื˒อ
เมล็ด (Seed) 04
หน้าที่ และส่วนประกอบของ เมล็ด หน้าที่ของเมล็ด : ขยายพันธุ์ ส่วนประกอบของเมล็ด เอ็มบริโอ (ฺEmbryo) เอนโดสเปิร์ม (ฺFood store) สะสมอาหารสําหรับเอมบริโอ เปลือกหุ้มเมล็ด (ฺSeed coat) ป˖องกันอันตรายและการคายนํ˕า เอพิคอทิล (Epicotyl) - เจริญเป็นลําต้น ใบ ดอก - อยู่เหนือใบเลี˕ยง ไฮโพคอทิล (Hypocotyl) - เจริญเป็นลําต้น - อยู่ใต้ใบเลี˕ยง แรดิคอล (Radicle) - เจริญเป็นรากแก้ว First true leaves
05การลําเลียงนํ้าและอาหารของพืช 1 ลําเลียงนํ้า และเกลือแร่ 2 ลําเลียงอาหาร 3 การคายนํ้า
ทําให้นํ˕าและเกลือแร่ถูกดูดขึ˕น ไปจาก ราก → ลําต้น → กิ่ง ก้าน ใบ เพื˒อแทนที˒ส่วนของนํ˕าที˒พืช สูญเสียไป จากการคายนํ˕า การลําเลียงนํ้าและเกลือแร่ของพืช นํ˕าและแร่ธาตุจากดินเข้าสู่ → ขนราก → ราก โดยการออสโมซิส ไซเลม (Xylem) : ท่อลําเลียงนํ˕าและแร่ธาตุจากดิน ผ่านรากขึ˕นสู่ ลําต้นไปยังใบและปลายยอดของพืช นํ˕าเคลื˒อนที˒ผ่านท่อไซเลมโดย การออสโมซิส (Osmosis) การดึงดูดระหว่างโมเลกุลของนํ˕า (Cohesion) และแรงยึดติด ของโมเลกุลนํ˕ากับผนังเซลล์ในท่อลําเลียง (Adhesion) การลําเลียงนํ˕าและเกลือแร่ ทิศล่างขึ˕นบน ออสโมซิส (Osmosis) - การเคลื˒อนที˒โมเลกุลของนํ˕า จากบริเวณที˒มี ความเข้มข้นน้อย → ไปบริเวณที˒มีความเข้มข้นมาก - โดยผ่านเยื˒อเลือกผ่าน ❶ ❷ ❸ ❹
การลําเลียงอาหารของพืช การลําเลียงอาหาร ทิศบนลงล่าง ลําเลียงนํ˕า และแร่ธาตุ (Xylem) การสังเคราะห์ ด้วยแสง (Phloem) ไซเลม (Xylem) โฟลเอ็ม (Phloem) แคมเบียม (Cambium) ไซเลม (Xylem) แคมเบียม (Cambium) โฟลเอ็ม (Phloem) ท่อลําเลียงอาหาร หรือ “โฟลเอม” (Phloem) - ลําเลียงสารอาหาร “นํ˕าตาลกลูโคส” (Glucose) - ที˒ได้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงที˒ ใบ → ก้าน → กิ˒ง → ลําต้น → ราก - ทิศบน → ล่าง
ปากใบปิด การคายนํ้าของพืช ปากใบ (Stoma) เซลล์คุม (Guard cells) การคายนํ้าของพืช - เกิดที˒ปากใบ - เซลล์คุม (Guard cells) : ควบคุมการเปิด-ปิด ของปากใบ ปัจจัยที่มีผลต่อการคายนํ้าของพืช ❶ แสงแดด : ความเข้มแสงมาก → คายนํ˕ามาก ❷ ลม : ลมแรง → คายนํ˕ามาก ❸ ความชื˕น : ความชื˕นตํ˒า → คายนํ˕ามาก ❹ อุณหภูมิ : อุณหภูมิสูง → คายนํ˕ามาก ❺ ความกดอากาศ : ความกดอากาศตํ˒า → คายนํ˕ามาก ปากใบเปิด ประโยชน์การคายนํ้าของพืช - ช่วยให้เกิดการลําเลียงของนํ˕าได้อย่างต่อเนื˒อง - ช่วยลดความร้อนของต้นไม้ - เป็นการปรับอุณหภูมิภายในต้นพืช ไม่ให้สูงมาก
ที˒มีผลต่อการ เจริญเติบโตของพืช 06 ปัจจัย
ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ① ดิน ② นํ้า ③ แสงแดด ④ อากาศ
ธาตุอาหารหลักของดิน - ไนโตรเจน (N) : ใบ (ถ้าขาด ใบเหลือง, แห้ง) - ฟอสฟอรัส (P) : รากและดอก (ถ้าขาด รากไม่เจริญเติบโต, ไม่ออกดอก) - โพแทสเซียม (K) : ลําต้น (ถ้าขาด ลําต้นไม่แข็งแรง) 1 ดิน - ช่วยในการลําเลียงนํ˕าและอาหาร - สังเคราะห์ด้วยแสง - (ถ้าขาด เหี˒ยวเฉาและตาย) - (ถ้าได้รับมากเกิน รากเน่าและตาย) 2 นํ้า ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
แสงแดด - สังเคราะห์ด้วยแสง - พืชแต่ละชนิดชอบความเข้มแสงไม่เท่ากัน 3 แสงแดด กลางวัน - สังเคราะห์ด้วยแสง - คายออกซิเจน ดูดคาร์บอนไดออกไซด์ 4 อากาศ ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช กลางคืน - หายใจปกติ - ดูดออกซิเจน คายคาร์บอนไดออกไซด์
การสังเคราะห์ด้วยแสง 07
การสังเคราะห์ด้วยแสงคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ออกซิเจน (O₂) นํ˕า (H₂O) นํ˕าตาล (C₆H₁₂O₆) แสง กระบวนการเปลี˒ยน พลังงานแสง →พลังงานเคมี (อาหาร) 6CO₂ + 12H₂O 6C₆H₁₂O₆ + 6O₂ + 6H₂O แสง คลอโรฟิลล์ ไปเลี˕ยงส่วนต่างๆของพืช และเก็บไว้ในรูปของแป˖ง นํ˕า และออกซิเจน คายออกทางใบ การสังเคราะห์ด้วยแสง เกิดขึ˕นได้ในเวลาที˒มีแสงเท่านั˕น
08 การหายใจของพืช
C₆H₁₂O₆ + 6O₂ 6CO₂ + 6H₂O + พลังงาน (กลูโคส) (ออกซิเจน) (คาร์บอนไดออกไซด์) (นํ˕า) (พลังงาน) การหายใจของพืช เปลี˒ยนกลูโคสไปเป็นพลังงาน โดยใช้ออกซิเจน เกิดที˒ไมโทรคอนเดรียของเซลล์พืช
การตอบสนองของพืช 09
การตอบสนองของพืชการตอบสนองของพืช : การเคลื˒อนไหวของพืช - แบ่งออกเป็น 2 ประเภท 1. ไม่เกี˒ยวข้องกับการเจริญเติบโต - การเคลื˒อนไหวเนื˒องจากแรงดันเต่ง - เช่น การสั˒นสะเทือนทําให้ใบกระเฉดหุบ - ไมยราบหุบ - ควบคุมโดยฮอร์โมนออกซิน - การสั˒นโยกของปลายยอดขณะเจริญเติบโต - การบิดเกลียวของไม้เลื˕อย 2. เกี˒ยวข้องกับการเจริญเติบโต
10การสืบพันธุ์ของพืช
2 ขั˕นตอน ➀ ถ่ายละอองเรณู ➁ ปฏิสนธิ ➀ ปักชํา ➁ ตอนกิ˒ง ➂ ทาบกิ˒ง ➃ ติดตา ➄ เพาะเลี˕ยงเนื˕อเยื˒อ ข้อดี ข้อเสีย อาศัยเพศ ไม่อาศัยเพศ การสืบพันธุ์ของพืช หลังปฏิสนธิ การสืบพันธุ์ของพืช