ประโยชน์ของแม่เหล็กไฟฟ้า ทําเข็มทิศ กระดิ่งหรือออดไฟฟ้า หูฟัง ปั้ นจั่นยกของที่เป็นเหล็ก รถแม่เหล็กไฟฟ้า(รถไฟความเร็วสูง)
การเปลี่ยนแปลง ของเปลือกโลก 17
เราจะเรียนอะไรกันบ้าง การผุพังของหิน ภัยแล้ง แผ่นดินไหว นํ้าท่วม ภูเขาาไฟประทุ สึนามิ
การผุพังของหิน 01 1.1 การผุพังเชิงกายภาพ (เชิงกล) 1.2 การผุพังเชิงเคมี การผุพังแบบอยู่กับที่ 02 การกร่อน
การผุพังแบบอยู่กับที่(เชิงกล) การผุพังอยู่กับที่เชิงกล (Mechanical Weathering) คือ กระบวนการที˒ทําให้หินแตกออกเป็นชิ˕นๆได้ เกิดจากแรงกระทําของธรรมชาติ (คุณสมบัติเคมีคงเดิม) ความร้อนและความเย็น โดยความร้อนจากดวงอาทิตย์หรือไฟป˓า ทําให้ด้านนอกของหินร้อนกว่า ด้านในของหิน ทําให้ด้านนอกของหินหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ ส่วนความเย็นได้มาจากฝนซึ˒งทําให้หินที˒ร้อนตัวเย็นลงอย่างรวดเร็ว จึงทําให้หินแตกออกเป็นรอยแยกได้ การแข็งตัวและการละลายเกิดจากนํ˕าที˒อยู่ในรอยแตกของหินแข็งตัวนํ˕าจะขยายตัวออก ทําให้รอยแยกของหินใหญ่มากขึ˕นทําให้ถนนเกิดเป็นหลุมเป็นบ่อ เกิดเจริญเติบโตของต้นไม้โดยเกิดจากการไชชอนของรากต้นไม้ไปตามรอยแยกของหิน เมื˒อรากต้นไม้ใหญ่ขึ˕น ก็สามารถทําให้หินแตกออกได้
การผุพังแบบอยู่กับที่(เชิงเคมี) การผุพังอยู่กับที่เชิงเคมี(Chemical Weathering) คือ กระบวนการที˒ทําให้หินแตกสลายออกเป็นชิ˕นเล็กๆ โดยอาศัยการเปลี˒ยนแปลงทางเคมี (คุณสมบัติทางเคมีเปลี˒ยนแปลง) การละลายแก็สออกซิเจน หินที˒มีเหล็กเป็น องค์ประกอบจะทําปฏิกิริยากับแก๊สออกซิเจนใน สภาวะที˒มีนํ˕าอยู่ด้วยและเกิดเป็นสนิม สนิมทําให้ หินอ่อนตัวลงและแตกเป็นชิ˕นเล็กๆ และให้สีนํ˕าตาล หรือสีแดง การละลายแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แก๊สนี˕จะละลาย รวมตัวกับนํ˕าฝนและนํ˕าที˒อยู่ในชิ˒งอากาศในดินทําให้ เกิดเป็นกรดอ่อน เรียกว่า กรดคาร์บอนิก ซึ˒งจะทําให้ หินอ่อนและหินปูนผุพังลงได้ นํ˕าเป็นตัวการสําคัญที˒สุดที˒ทําให้เกดการผุพัง
การผุพังของหิน(การกร่อน) การกร่อน (Erosion) คือ อาการของกระบวนการที˒ทําให้พื˕นผิวดิน หิน หลุดออก หรือทําละลายออกจากตําแหน่งใด ๆ ของเปลือกโลก ให้เคลื˒อนย้ายไปสู่ตําแหน่งอื˒น ๆ ธารนํ˕าแข็ง กระแสนํ˕า ฝนกรด กระแสลม การเปลี˒ยนแปลงของอุณหภูมิ การกร่อนทางกล คือการที˒ดินหรือหินแตกแยกย่อยและเคลื˒อนย้ายตําแหน่ง การกร่อนทางเคมี คือการที˒ดิน หิน หรือแร่ธาตุถูกย้ายตําแหน่ง ด้วยการละลายในตัวทําละลาย ซึ˒งโดยมากคือนํ˕า เมื˒อละลายแล้วได้ รับการพัดพาไปสู่ตําแหน่งใหม่
ธรณีพิบัติภัย แผ่นดินไหว 01 ภูเขาไฟประทุ 02 สึนามิ 03 แผ่นดินถล่ม ยุบ ทรุด 04 ภัยแล้ง นํ้าท่วม 05 ภัยพิบัติจากการเปลี˒ยนแปลงของเปลือกโลกอย่างฉับพลันและรุนแรง
แผ่นดินไหว โลกมีแผ่นเปลือกอยู่ประมาณ 20 แผ่น โดยเปลือกแต่ละชิ˕นจะแบ่งเป็นชิ˕น ย่อยๆ หลายชิ˕น เรียกว่า “แผ่นเปลือกโลก (Tectonic plates)” ซึ˒งแต่ละแผ่นเปลือกมีการเคลื˒อนไปคนละทิศคนละทาง แบบช้า ๆ บางแผ่น เคลื˒อนประมาณ 1 เซนติเมตรต่อปี บางแผ่นประมาณ 10 เซนติเมตรต่อปี ทําให้ตรงรอยต่อมีแรงชนกัน ทําให้เกิดความเค้นความเครียดในเนื˕อหินของแผ่นเปลือกโลกที˒ค่อยๆ สะสมไปเรื˒อยๆ จนกระทั˒งถึงระดับที˒เนื˕อหินทนแรงไม่ไหว จึงเกิดการไถลตัว หรือว่าการระเบิดตัว เพื˒อปลดปล่อยพลังงานออกมา ส่งผลให้เกิดความร้อน เสียง โดยพลังงานที˒ถูกปลดปล่อยออกมาจะมีลักษณะเป็นลูกคลื˒น เมื˒อเคลื˒อนที˒มาถึงผิวดิน ก็จะ กลายเป็นการสั˒นสะเทือนเกิด “แผ่นดินไหว”
แผ่นธรณีเคลื่อนที่ออกจากกัน (Divergent boundaries) ทําให้เกิดแผ่นดินไหวไม่รุนแรง โดยมีศูนย์กลางอยู่ในระดับตื˕น (ลึกจากพื˕นผิวน้อยกว่า 70 กิโลเมตร) เช่นบริเวณกลางมหาสมุทรแอตแลนติก โดยรอยต่อซึ˒งเกิดจากแผ่นธรณีเคลื˒อนที˒ ออกจากกันมี 2 ลักษณะ คือ แผ่นธรณีทวีปเคลื˒อนที˒ออกจากกัน และแผ่นธรณีมหาสมุทรเคลื˒อนที˒ออกจากกัน แผ่นธรณีเคลื่อนที่ผ่านกัน (Transform fault) แม้ว่าแผ่นธรณีจะเคลื˒อนที˒ผ่าน กันด้วยความเร็วเพียงปีละประมาณ 3 – 6 เซนติเมตร แต่เมื˒อเวลาผ่านไปเป็นเวลา นาน จะสามารถปลดปล่อยพลังงานมหาศาลได้ ปรากฏการณ์จะนี˕ทําให้เกิด แผ่นดินไหวในระดับตื˕น มีความรุนแรงปานกลาง ถ้าเกิดขึ˕นบนแผ่นดินจะทําให้ถนน ขาด สายนํ˕าเปลี˒ยนทิศทางการไหล หรือทําให้เกิดหน้าผาและนํ˕าตก แผ่นธรณีเคลื่อนที่เข้าหากัน (Convergent boundaries) เกิดขึ˕นใน บริเวณที˒แผ่นธรณีปะทะกันซึ˒งเรียกว่า “เขตมุดตัว” (Subduction zone) การปะทะกันเช่นนี˕ทําให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที˒ระดับลึก (300 – 700 กิโลเมตร) และหากเกิดขึ˕นในมหาสมุทรก็จะทําให้เกิดคลื˒นสึนามิ การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก สันเขาใต้มหาสมุทร ร่องลึกมหาสมุทร รอยเลื˒อน ทรานสฟอร์ม นํ้าทะเล
การวัดขนาดแผ่นดินไหว(มาตราริกเตอร์) วัดความรุนแรง มาตราเมอร์คัลลี ไม่รู้สึก เบามาก เบา ปานกลาง แรง รุนแรง รุนแรงมาก 4-4.9 ข้าวของในบ้านสั˒นไหวชัดเจน 5-5.9 สร้างความเสียหายยับเยินได้กับสิ˒งก่อสร้างที˒ ไม่มั˒นคง แต่ไม่มีปัญหากับสิ˒งก่อสร้างที˒มั˒นคง 6-6.9 สร้างความเสียหายค่อนข้างรุนแรงได้ในรัศมี 80 km 7-7.9 สร้างความเสียหายรุนแรงในบริเวณกว้าง 8-8.9 สร้างความเสียหาย รุนแรงในได้ในรัศมี 100 km 9-9.9 ล้างผลาญ ทุกสิ˒งทุกอย่างในรัศมี 1000 km
❶ ก่อนเกิดภูเขาไฟระเบิดทุกครั˕งจะมีแผ่นดินไหวก่อนเสมอ ❷ โดยเฉพาะบริเวณที˒มีการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลกลงไปใต้พื˕นมหาสมุทร ซึ˒งเป็นบริเวณที˒หินหนืดแทรกตัวได้ง่าย ❸ เกิดขึ˕นบริเวณรอยต่อของแผ่นธรณีหรือบริเวณจุดร้อน เกิดจากแรงดันใต้ พื˕นโลกที˒ดันอัดหินหนืดให้แทรกรอยแตกขึ˕นมาสู่ผิวโลกทางปล่องไฟ หินหนืด จะเรียกว่า"ลาวา"(Lava) ถ้าอยู่บริเวณผิวโลกแล้วจะเรียกว่า"แมกมา" ยังมีแก๊ส ไอนํ˕า ฝุ˓นผง เถ้าถ่านต่างๆออกมาด้วย แก๊ส ไอนํ้า ฝุ่นผง เถ้าถ่าน ลาวา ช่องที่แมกมาพุ่งขึ้นมา แมกมา ปล่องภูเขาไฟ กรวยประทุย่อย กรวยหินภูเขาไฟ สลับชั้น ภูเขาไฟประทุ
สึนามิ สําหรับอันตรายที˒มักจะตามมาจากการเกิดแผ่นดินไหวนั˒นคือ การเกิดอาฟเตอร์ช็อก ซึ˒งอาจเป็นได้ทั˕งการเกิด แผ่นดินไหวอีกระลอก การประทุของภูเขาไฟ รวมไปถึงการเกิดคลื˒นยักษ์สึนามิในกรณีที˒เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเล ครั้งรุนแรงของไทย พ.ศ. 2547 แผ่นดินไหวใต้มหาสมุทรอินเดียตอนเหนือเกาะสุมาตราอินโดนีเซีย เกิดสึนามิกระทบชายฝั˒ งตะวันออกของภาคใต้ ภูเก็ต พังงา กระบี˒ ❶ เกิดจากเปลือกโลกเคลื˒อนตัวในแนวดิ˒งใต้มหาสมุทร ทําให้เกิดการแทนที˒มวลนํ˕าอย่างเฉียบพลัน ❷ นํ˕าในทะเลแยกตัวอย่างรุนแรง ฉับพลันระลอกคลื˒นจะแผ่กระจายออกทุกทิศทาง ❸ ในบริเวณทะเลลึก สึนามิจะมีความเร็วคลื˒นสูง แต่มีความเสี˒ยงคลื˒นน้อย ❹ ในบริเวณที˒มีนํ˕าตื˕น ความเร็วคลื˒นจะลดลง แต่ความ สูงคลื˒นเพิ˒มขึ˕นเกิดคลื˒นขนาดใหญ่ปะทะชายฝั˒ ง ❺ คลื˒นที˒ซัดขึ˕นฝั˒ งอาจท่วมลึกเข้าไปใน แผ่นดินได้ถึงหลายร้อยเมตร
ภัยแล้ง ฝนทิ˕งช่วง ไม่ตกตามฤดูกาล ป˓าไม้ถูกทําลาย การเปลี˒ยนแปลงอุณหภูมิของโลก เกิดความผิดปกติของตําแหน่งและทิศทางลมมรสุม
ฝนตกหนักเกินกว่าแผ่นดินและต้นไม้จะซับนํ˕าได้ พายุ ฝนตกหนัก การตัดไม้ทําลายป˓า การระบายนํ˕าไม่มีประสิทธิภาพ มวลนํ˕าจากภาคเหนือไหลลงสู่ทะเล นํ้าท่วม
ดิน หิน แร่ 18
เราจะเรียนอะไรกันบ้าง แร่ หิน ดิน
ดิน ซากพืช ซากสัตว์ กระบวนการเกิดดิน เน่าเปื่ อย ย่อยสลาย นํ้าและอากาศ ฮิวมัส (อินทรีย์วัตถุ) วัตถุต้นกําเนิด (ออินทรีย์วัตถุ) ผุพัง หิน ทรายและแร่ธาตุ ดิน เกิดจากวัตถุต้นกําเนิดดินรวมตัวกับฮิวมัส คลุกเคล้าผสมกัน
องค์ประกอบของดิน
ชนิดของดิน ดินทราย ➠ปนทราย เนื˕อหยาบ ➠ไม่จับเป็นก้อน ➠ไม่อุ้มนํ˕า ➠นํ˕าไหลผ่านได้มาก ➠สารอาหารน้อย ดินเหนียว 01 แบ่งตามส่วนประกอบ 02 แบ่งตามชั้นดิน ดินร่วน ➠เนื˕อละเอียด ร่วนซุย ➠อุ้มนํ˕าพอดี ➠สารอาหารมาก ➠เหมาะต่อการเพาะปลูกพืช ➠เนื˕อละเอียดมาก ➠อุ้มนํ˕าได้มาก ➠นํ˕าไหลผ่านได้น้อย ➠เหมาะปลูกพืชที˒ต้องการนํ˕าขัง ดินชั้นบน ➠ลึกจากผิวดิน 20 เซนติเมตร ➠สีคลํ˕า มีอินทรีย์วัตถุอยู่มาก ➠เม็ดดินขนาดใหญ่ ➠นํ˕าและอากาศผ่านได้ดี ➠เหมาะแก่การเพาะปลูก ดินชั้นล่าง ➠ลึกตั˕งแต่ 20 เซนติเมตรลงไป ➠สีจาง มีอินทรีย์วัตถุน้อย ➠เม็ดดินขนาดเล็ก ➠นํ˕าและอากาศผ่านได้น้อย
ดินเสื่อม ดินสูญเสียความสมบูรณ์ของสารอาหารและแร่ธาตุ สาเหตุ จากมนุษย์ ตัดไม้ทําลายป˓า สารเคมี ขยะ ขุดหน้าดินขาย ทิ˕งของเสียจากโรงงาน บํารุงรักษา ➠ ปลูกพืชขั˕นบันได หญ้าแฝก ➠ ปลูกพืชคลุมดิน ถั˒วสลับกับพืชอื˒น ➠ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ➠ ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด ➠ ดินเปรี˕ยว (pH <7) เติมปูนขาวหรือปูนมาร์ล ➠ ดินด่าง (pH >7) เติมแอมโมเนียมซัลเฟตหรือผงกํามะถัน ➠ ดินเค็ม มีเกลือมาก เติมแคลเซี˒ยมซัลเฟตและใช้นํ˕าจืดชะล้าง สาเหตุ จากธรรมชาติ นํ˕ากัดเซาะ ลมพัดพาหน้าดิน
ประเภทของหิน หินแปร หินตะกอนหรือ หินชั้น หินอัคนี 1 2 3
หินอัคนี (Igneous Rock) หินอัคนี (Igneous Rock) เกิดจากการการแข็งตัวของแมกมา หรือหินหนืดร้อน หรือลาวาที˒ปะทุออกมาจากใต้พื˕นโลก มีความแข็งมากกว่าหินประเภทอื˒น ๆ หินอัคนีมีหลายชนิด แล้วแต่แร่ธาตุที˒เป็นส่วนประกอบและลักษณะการเย็นตัว แมกมา ลาวา หินบะซอลต์ (หินอัคนีพุ) เกิดจากการเย็นตัวลงอย่างรวดเร็วของลาวา มีผลึก ขนาดเล็กและมีรูพรุน แต่มีความแข็งแรงทนทาน จึงถูกนํามาใช้ในงานก่อสร้าง เช่นกัน หินออบซิเดียน เกิดจากการเย็นตัวลงแบบฉับพลันของลาวา ไม่มี ผลึก มีแร่ซิลิกาสูงจึงมีลักษณะคล้ายแก้วสีดํา ผิวเรียบ มีความมัน วาว รอยแตกคม สมัยโบราณถูกนํามาใช้เป็นมีดและอาวุธ หินแกรนิต เกิดจากการเย็นตัวช้า ๆ ของลาวา ทําให้มี ผลึกขนาดใหญ่ มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัด กร่อน จึงถูกนํามาใช้ในงานก่อสร้าง Basalt Obsidian Granite
หินตะกอนหรือหินชั้น หินตะกอน (Sediment Rock) เกิดจากการจับตัวกันของเศษตะกอนต่างๆ ทั˕งซากพืชซากสัตว์ เศษดินโคลน กรวด ทราย และเศษหินต่าง ๆ ที˒ผุกร่อน ที˒ถูกสายนํ˕า สายลมพัดพามาตกตะกอนทับถมกัน มีลักษณะเป็นแผ่นเป็นชั˕น จึงเรียกว่าหินชั˕นด้วย มีหลายชนิด แล้วแต่ชนิดของตะกอนที˒ทับถมกัน หินกรวด เกิดจากเศษกรวดทับถมกันจนจับตัวกันแน่นแข็ง มี เนื˕อหยาบ นิยมนํามาทําถนน หินทราย เกิดจากการทับถมกันของเม็ดทรายขนาดเล็ก จึงมี เนื˕อละเอียดกว่าหินกรวด นิยมนํามาใช้ในงานตกแต่งอาคาร สิ˒งปลูกสร้าง ใช้ทํารูปแกะสลัก หินดินดาน เกิดจากการทับถมกันของเศษดินโคลน ดินเหนียว ทรายแป˖ง มีเนื˕อละเอียดมาก เกาะตัวกันเป็นชั˕นบาง ๆ เปราะ แตกง่าย นิยมนํามาใช้ในงานเครื˒องปั˕ นดินเผา หินปูน เกิดจากการทับถมกันของซากสัตว์ กระดูกสัตว์ กระดองสัตว์ทะเล อย่าง ปู กุ้ง หอย หินปูนจึงมีองค์ประกอบเป็นแคลไซต์ ถูกกัดกร่อนได้ง่าย ด้วยกรด หินปูนใช้ทําปูนซีเมนต์เพื˒อผสมเป็นคอนกรีตสําหรับงานก่อสร้าง
หินแปร หินแปร (Metamorphic Rock) เกิดจากการแปรสภาพของหินอื˒นๆ หรือของหินแปรเอง โดยเนื˕อหินมีการแปรสภาพไปจากเดิมเพราะได้รับแรงดันและอุณหภูมิสูง อย่าง เช่นแรงดันและความร้อนสูงจากแมกมาใต้เปลือกโลก แต่ไม่ใช่การแปรสภาพจากการหลอมเหลว หินแปรมีหลากหลายชนิด หินชนวน (Slate rock) เกิดจากการแปรสภาพของหินดินดาน จึงมี เนื˕อละเอียด เป็นชั˕นบาง ๆ สามารถกระเทาะออกจากกันได้ นิยมนํามา ทําเป็นกระดานชนวน กระดานดํา ใช้มุงหลังคาหรือปูทางเท้า หินอ่อน (Marble rock) แปรสภาพมาจาก หินปูน นิยมนํามาใช้ในการตกแต่งอาคารเพื˒อ ความสวยงาม ทั˕งยังใช้ในงานแกะสลัก หินควอร์ตไซต์ แปรสภาพมาจากหินทราย มีความหนาแน่นมากกว่าหินทราย ประกอบไปด้วยผลึกของเม็ดทรายขนาดไล่เลี˒ยกัน มีความคงทนสูงมาก
วัฎจักรหิน(Rock cycle) ➤ ➤ ➤ วัฎจักรของหิน เริ˒มต้นและสิ˕นสุดที˒แมกมาเสมอ หินแปร แมกมา (หินหนืด) หินอัคนี ตะกอน หินตะกอนหรือหินชั้น ➤ ➤ เย็นตัว ผุพัง กัดเซาะ สะสม ทับตัว แข็งตัว อุณหภูมิ และความดัน มาก หลอมละลาย ➤ ➤ หลอมละลาย กร่อน พัดพา ➤ อุณหภูมิ และความดัน มาก ➤ ผุพังกัดกร่อน พัดพา
ประโยชน์ของหิน หินอัคนี หินแกรนิต สิ˒งก่อสร้าง ครก หินบะซอลต์ ก่อสร้างถนน หินแปร หินอ่อน ก่อสร้าง กระเบื˕อง แกะสลัก หินชนวน กระเบื˕องมุงหลังคา หินตะกอน หรือหินชั้น หินปูน ปูนซีเมนต์ หินทราย งานก่อสร้าง (สมัยก่อน) หินลับมีด
18 แร่
กระบวนการเกิด 1. หินหนืดใต้เปลือกโลกเย็นตัว ความชื˕นระเหยออก แร่ตกผลึกช้าๆ 2. การละลายนํ˕าร้อน ก๊าซร้อน แล้วไหลซึมตามรอยแตกและช่องว่างระหว่างหิน เกิดสายแร่ 3. ไอนํ˕าร้อนควบแน่น ละลายแร่ธาตุออกมาเมื˒อไอนํ˕าระเหยจึงเหลือแต่แร่ แร่
01 มีสี เห็นจากภายนอก สี 02 สีผง บดละเอียดมีสี˒ผง (อาจ คนละสีกับสีที˒เห็นภายนอก) ผง 03 ความแข็ง แร่หนึ˒งขูดขีดอีก แร่หนึ˒งเป็นรอย แข็งสุดคือ เพชร ระดับ1-10 ความแข็ง 04 มีความแวววาว แร่ควอต ซ์คล้ายแก้ว ความแวววาว สมบัติของแร่
แร่กัมมันตรังสี แร่โลหะ แร่เชื้อเพลิง แร่อโลหะ แร่รัตนชาติ ตัวอย่างชนิดของแร่
นํ้า 19
เราจะเรียนอะไรกันบ้าง แหล่งนํ้า วัฎจักรของนํ้า ประโยชน์ของนํ้า การอนุรักษ์นํ้า
แหล่งนํ้า พื˕นโลก 3 ใน 4 เป็นนํ˕า 1 ใน 4 เป็นพื˕นดิน นํ˕าผิวดิน นํ˕าจืด ห้วย หนองคลอง บึง ทะเลสาบนํ˕าจืด นํ˕าผิวดิน นํ˕าเค็ม ทะเล หมาสมุทร ทะเลสาบนํ˕าเค็ม นํ˕าใต้ดิน นํ˕าในชั˕นกรวดระดับตื˕น นํ˕าซึมลงจากผิวดิน นํ˕าบาดาล นํ˕าที˒กักเก็บในชั˕นหินตะกอน
วัฏจักรของนํ้า แสงแดดมากทําให้นํ˕ากลายเป็นไอมาก ลมแรงนํ˕าระเหยเร็ว พืช รากดูดนํ˕าไปใช้แล้วคายนํ˕าทางปากใบ สัตว์ กินนํ˕าแล้วหายใจและขับถ่ายนํ˕าออก
ดื่ม กิน ประกอบอาหาร 02 ทําความสะอาด 03 การเกษตร 04 07 ผลิตไฟฟ้า 06 คมนาคม ขนส่ง 05 อุตสาหกรรม แหล่งกําเนิดสิ่งมีชีวิต 01 08 สันทนาการ ประโยชน์ของนํ้า
ปัญหานํ้าเสีย นํ้าทิ้งจากครัวเรือน โรงงานอุตสาหกรรม การเกษตร ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงและฆ่าหญ้า การทําเหมืองแร่
วัดคุณภาพนํ้า ประมาณออกซิเจนที˒ละลายนํ˕า ยิ˒งสูงยิ˒งดี ตํ˒ากว่า 3 มก./ลิตร เป็นนํ˕าเสีย 01 ค่า DO 03 ประมาณออกซิเจนที˒ต้องใช้ย่อยสารอินทรีย์โดยสารเคมี ยิ˒งสูงยิ˒งดี ค่า COD ไม่เกิน 120 มก./ลิตร นํ˕าเสียที˒ปล่อยลงสู่แหล่งนํ˕าได้ (ค่า COD > BOD เสมอ) ค่า COD 05 พบในลําไส้คนและสัตว์ ไม่มีโคลิฟอร์มแบคทีเรียปนเปื้ อน ยิ˒งตํ˒า ยิ˒งดี ปริมาณออกซิเจนที˒ต้องใช้ย่อยสารอินทรีย์ในนํ˕า 02 นํ˕าเสียที˒ปล่อยลงสู่แหล่งนํ˕าได้ต้องมี BOD ไม่เกิน 20 mg/ลิตร ค่า BOD 04 ตะกั˒ว(Pb), ปรอท(Hg), แคดเมียม(Cd) ไม่มีโลหะหนัก สีใสและเป็นกลาง 06
การอนุรักษ์นํ้า ใช้นํ˕าอย่างประหยัด ไม่ทิ˕งปฏิกูลลงแหล่งนํ˕า บําบัดนํ˕าเสียให้ได้มาตรฐานก่อนปล่อยลงแหล่งนํ˕า ลดการทําลายป˓าและดูแลต้นนํ˕า
ลม ฟ้า อากาศ 20
เราจะเรียนอะไรกันบ้าง ลม อากาศ เมฆและฝน
องค์ประกอบอากาศก๊าซไนโตรเจน(N2 ) ก๊าซออกซิเจน (O2 1% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO ) 2 )
คุณสมบัติของอากาศ เป็นสสาร มีมวลต้องการที˒อยู่และสัมผัสได้ ทําให้เป็นของเหลวได้ โดยเพิ˒มความดัน ลดอุณหูมิ เป็นของไหล ถ่ายเทได้ มีความชื˕น มีระดับอุณหภูมิ มีความดัน ความหนาแน่น
ความสําคัญของอากาศ มีก๊าซที˒จําเป็นต่อสิ˒งมีชีวิต ก๊าซออกซิเจน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยปรับอุณหภูมิของโลก ช่วยเผาไหม้วัตถุจากนอกโลก ช่วยป˖องกันอันตรายจากรังสีของดวงอาทิตย์ ก๊าซโอโซน “ป˖องกัน” รังสียูวี ทําให้เกิดลม พายุและฝน
ความกดอากาศ สุญญากาศ 760 mmHg ความดันบรรยากาศ ปรอท (Hg) ● ความกดอากาศหรือเรียกว่า “ความดันบรรยากาศ” ● คือแรงที˒อากาศที˒กดลงต่อหนึ˒งหน่วยพื˕นที˒ ● เนื˒องจากมีชั˕นอากาศห่อหุ้มโลก และอากาศเองเป็นสสารที˒มีนํ˕าหนัก จึงกดทับลงมา ด้วยอิทธิพล แรงโน้มถ่วง เราเรียกนํ˕าหนักกดทับลงมาว่า “ความกดอากาศ” ● เราสามารถวัดได้ด้วยบารอมิเตอร์ (Barometer) หน่วยของความกดอากาศ มิลลิบาร์ (mb)มิลลิเมตรปรอท(mmHg), เฮกโตพาสคาล(hPa) ความดันปรอท = ความดันบรรยากาศ (ทางอุตุนิยมวิทยา)
ปัจจัยที่มีผลต่อความกดอากาศ นํ้าทะเล ที˒ระดับนํ˕าทะเล ความกดอากาศ 1 atm หรือ 760 mmHg ความดันอากาศตํ˒า ความดันอากาศสูง เนื˒องจากมีชั˕นอากาศห่อหุ้มโลก และอากาศเองเป็นสสารที˒มีนํ˕าหนัก จึงกดทับลง มาด้วยอิทธิพล แรงโน้มถ่วง เราเรียกนํ˕าหนักกดทับลงมาว่า “ความกดอากาศ” ❶ ความสูงของพื้นที่ ยิ˒งสูง ➠ ความกดอากาศยิ˒งตํ˒าลง ❷ อุณหภูมิ อุณหภูมิยิ˒งสูง (อากาศร้อน) มีความหนาแน่นน้อยกว่าอากาศเย็น ➠ ความกดอากาศตํ่า อุณหภูมิยิ˒งตํ่า (อากาศเย็น) มีความหนาแน่นมากกว่าอากาศร้อน ➠ ความกดอากาศสูง
ประโยชน์ของอากาศ แรงยก แรงโน้มถ่วง แรงขับ แรงต้าน แรงของอากาศที˒ไหลผ่านปีกของเครื˒องบินและยกเครื˒องบินให้ลอยขึ˕น เป็นแรงที˒เกิดจากแรงต้าน หรือ แรงฉุด เป็นแรงที˒เกิดจากเครื˒องยนต์ ความดันอากาศภายในหลอด ความดันอากาศภายนอกหลอด การใช้ปากดูดอากาศในหลอด ทําให้ความดันอากาศภายในหลอด < ความดันอากาศภายนอกหลอด โดยแรงทั˕งสี˒แรกที˒ได้กล่าวไปข้างต้นจะต้องอยู่ ในสภาวะสมดุลที˒เหมาะสมให้เครื˒องบินบินได้ ● กาลักนํ˕า เครื˒องสูบนํ˕า ● การใช้หลอดดูดนํ˕า ● เครื˒องบิน เครื˒องร่อน บอลลูน
ความชื้นของอากาศ ไอนํ˕าที˒มีอยู่ในอากาศ ความชื˕นสูง ➠ ไอนํ˕ามีมาก ผ้าแห้งช้า เหนียวตัว ความชื˕นตํ˒า ➠ ไอนํ˕ามีน้อย ผ้าแห้งเร็ว ผิวแห้ง ความชื˕นสัมพัทธ์ที˒รู้สึกสบาย = 60% เครื˒องวัด ไฮโกรมิเตอร์
ลม L H อุณหภูมิตํ˒า ความกดอากาศสูง (H) อุณหภูมิสูง ความกดอากาศตํ˒า (L) กลางวัน กลางคืน H อุณหภูมิตํ˒า ความกดอากาศสูง (H) L อุณหภูมิสูง ความกดอากาศตํ˒า (L) ลมเกิดจาก อากาศเคลื˒อนที˒จากที˒ความกดอากาศสูง (H) ไปที˒➠ความกดอากาศตํ˒า (L)
ลมอ่อน 6-11 km/hr ลมปานกลาง 20-28 km/hr กิ˒งไม้เล็กขยับไหว กระดาษปลิว ฝุ˓นตลบ ลมแรง 29-38 ต้นไม้เล็กแกว่งไกวไปมา พายุ 89-102 ต้นไม้หักโค่น พายุใหญ่ 103-117 สิ˒งก่อสร้างเสียหาย ถ้า > 117 เฮอร์ริเคนหรือไต้ฝุ˓น ลมสงบ ความเร็ว <1 km/hr ความเร็วลม ①②③④⑤⑥