196 แบบประเมินกระบวนการท างาน ชื่อกลุ ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การก าหนดเป้าหมายร วมกัน 2 การแบ งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การก าหนดเป้าหมายร วมกัน 3 คะแนน่่= สมาชิกทุกคนมีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายการท างานอย างชัดเจน 2 คะแนน่่= สมาชิกส วนใหญ มีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 1 คะแนน่่= สมาชิกส วนน้อยมีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 2. การมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน่่= กระจายงานได้ทั่วถึง่่และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน่่่มีการจัดเตรียมสถานที่่่สื่อ่/ ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่อุปกรณ์ไว้อย างพร้อมเพรียง 2 คะแนน่่= กระจายงานได้ทั่วถึง่่แต ไม ตรงตามความสามารถ่่และมีสื่อ่/ อุปกรณ์ไว้อย างพร้อมเพรียง่แต ขาด ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ การจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน่่= กระจายงานไม ทั่วถึงและมีสื่อ่/ อุปกรณ์ไม เพียงพอ 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน่่= ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย่และตามเวลาที่ก าหนด 2 คะแนน่่= ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย่แต ช้ากว าเวลาที่ก าหนด 1 คะแนน่่= ท างานไม ส าเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน่่= สมาชิกทุกคนร วมปรึกษาหารือ่่ติดตาม่่ตรวจสอบ่่และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน่่= สมาชิกบางส วนมีส วนร วมปรึกษาหารือ่่แต ไม ปรับปรุงงาน 1 คะแนน่่= สมาชิกบางส วนมีส วนร วมไม มีส วนร วมปรึกษาหารือ่และปรับปรุงงาน
197 เฉลยบทที่ 8 ตอนที่ 2
198
199
200
201
202 บ ันท ึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ข้อสรุปหลังการจัดการเรียนรู้/ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……...…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………..……...……………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………..……...………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..……...…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..……...……… 2. ผลการเรียนรู้ของผู้เรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……...…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………..……...……………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………..……...………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..……...…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..……...……… 3. ปัญหา่/่แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……...…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………..……...……………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………..……...………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..……...…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..……...……… ลงชื่อ..........................................ครูผู้สอน ่่่่่่่่่่่่รับทราบผลการด าเนินงาน ่่่่่่่่ (นายประทีป่่ราชบุรี) ่่่่่่่่่่่่่่่่่ลงชื่อ............................................... ่่่่่่่่่่........./........./......... ่่่่่่ (นายมานพ่่ศรีนาราง) ่่หัวหน้าแผนกวิชาช างไฟฟ้าก าลัง ........./........./......... ่่่่่่่่่่่่่ ่่่่่่่่่่ลงชื่อ........................................... ่่่่่่่่่่่่่่่่(นางจินตนา่่อุททัง) ่่่่่่่่่่่่่่่่่่รองผู้อ านวยการฝ่ายวิชาการ ่่่่่่่่่่่่่่่........./........./.........
203 แผนการสอน/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฎี แผนการจัดการเรียนรู้ หน่ วยการเรียนรู้ที่9 รวม 4 ชั่วโมง ชื่อวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ่่่ ชื่อหน วย วงจรเรโซแนนซ์ สอนครั้งที่ 9 จ านวน 4 ชั่วโมง ชื่อเรื่อง วงจรเรโซแนนซ์ หัวข้อเรื่อง 1.่สภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร่RLC 2.่วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 3.่ค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 4.่ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 5.่แบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 6.่วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 7.่ค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 8.่ตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 9.่บทสรุป สาระส าคัญ วงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่วงจรประกอบด้วยตัวต้านทาน่(R) ตัวเก็บประจุ่(C) และตัวเหนี่ยวน า่(L) เมื่อน าไปใช้กับค าความถี่ที่มีการเปลี่ยนแปลง่ส งผลให้ค ารีแอกแตนซ์ตัวเก็บประจุ(XC) และรีแอกแตนซ์ตัว เหนี่ยวน า่(XL) เกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย่ค ารีแอกแตนซ์ทั้งสองจะเกิดการหักล้างกันตลอดเวลา่จะพบว าที่ ความถี่ค าหนึ่งมีผลต อวงจรท าให้ค ารีแอกแตนซ์่XCเท ากับ่XL เกิดการหักล้างกันระหว าง่XC กับ่XL ท าให้ค ารี แอกแตนซ์หมดไป่เหลือเพียงค าความต้านทานอย างเดียว่สภาวะดังกล าวนี้เรียกว า่เรโซแนนซ์่(Resonance) สมรรถนะอาชีพประจ าหน่วย - บอกคุณสมบัติของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมและแบบขนาน อย างครบถ้วน - ค านวณค าสมการวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมและแบบขนาน อย างถูกต้องสมบูรณ์ - แก้ปัญหาสมการวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมและแบบขนานอย างรอบคอบตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง
204 จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ จุดประสงค์ทั่วไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับอธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร่RLC (ด้านความรู้) 2. เพื่อให้มีทักษะในการหาค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม (ด้านทักษะ) 3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน่ (ด้านจิตพิสัย) 4. เพื่อสรุป่สรุปวงจรเรโซแนนซ์่ให้ถูกต้องเหมาะสม (ด้านด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจ พอเพียง) จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. อธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร่RLCได้(ด้านความรู้) 2. บอกวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้(ด้านความรู้) 3. หาค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้(ด้านทักษะ) 4. ประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์เป็นแบบอนุกรมได้(ด้านทักษะ) 5. ค านวณหาค าแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้(ด้านทักษะ) 6. ค านวณวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้(ด้านทักษะ) 7. หาค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้(ด้านทักษะ) 8. ชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้(ด้านจิตพิสัย) 9. สรุปวงจรเรโซแนนซ์่ให้ถูกต้องเหมาะสม (ด้านด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจ พอเพียง)
205 เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎี) 9.1 สภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร RLC วงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่วงจรประกอบด้วยตัวต้านทาน่(R) ตัวเก็บประจุ่(C) และตัวเหนี่ยวน า่(L) เมื่อ น าไปใช้กับค าความถี่ที่มีการเปลี่ยนแปลง่ส งผลให้ค ารีแอกแตนซ์ตัวเก็บประจุ(XC) และรีแอกแตนซ์ตัวเหนี่ยวน า่ (XL) เกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย่ค ารีแอกแตนซ์ทั้งสองจะเกิดการหักล้างกันตลอดเวลา่จะพบว าที่ความถี่ค า หนึ่งมีผลต อวงจรท าให้ค ารีแอกแตนซ์่XCเท ากับ่XL เกิดการหักล้างกันระหว าง่XC กับ่XL ท าให้ค ารีแอกแตนซ์ หมดไป่เหลือเพียงค าความต้านทานอย างเดียว่สภาวะดังกล าวนี้เรียกว า่เรโซแนนซ์่(Resonance) ความถี่ที่ท า ให้เกิดสภาวะเรโซแนนซ์เรียกว า่ความถี่เรโซแนนซ์่(Resonance Frequency ; fr) ในสภาวะเกิดการเรโซแนนซ์่ ท าให้เกิดก าลังไฟฟ้าสูงสุดในวงจร่ค าเรโซแนนซ์ที่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไปตามค ารีแอกแตนซ์่XC และ่XL ที่ ประกอบวงจร่สภาวะเรโซแนนซ์ รูปที่่9.1 แสดงกราฟสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร่RLC ต อวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ่ที่ความถี่เรโซแนนซ์่(fr) กราฟจะมีความแรงสูงสุด่แสดงสภาวะตอบสนองต อความถี่สูงสุด่ความถี่ที่ต่ ากว าและสูงกว าความถี่เรโซแนนซ์จะ เกิดการตอบสนองที่ลดลง่เป็นคุณสมบัติของวงจร่RLC วงจรเรโซแนนซ์่จะต้องประกอบด้วยตัวเก็บประจุและตัวเหนี่ยวน าเป็นหลัก่แต ในการท างานวงจรจะเกิด ค าความต้านทานขึ้นมา่ซึ่งเกิดจากความไม บริสุทธิ์ของตัวเก็บประจุและตัวเหนี่ยวน า่หรือเกิดจากการเพมิ่่ความ ต้านทานเข้าในวงจร่เพื่อควบคุมรูปร าง่และความแรงของรูปกราฟเรโซแนนซ์่การต อวงจรเรโซแนนซ์แบ งออกได้่ 2 ชนิด่คือ่วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม(Series Resonance Circuit) และวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน่(Parallel Resonance Circuit)วงจรเรโซแนนซ์แต ละแบบมีคุณสมบัติที่แตกต างกันไป 9.2 วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่เป็นวงจรที่ประกอบด้วยตัว่LC ต ออนุกรมในวงจร่และมีตัว่R ต ออนุกรม ร วมด้วย่ซึ่งค า่R อาจเป็นค าความต้านทานจากแหล งจ าย่(RS) เป็นค าความต้านทานที่ต อเพิ่ม่(RA) และค าความ ต้านทานที่เกิดภายในตัวเหนี่ยวน า่(RL) ค าทั้งหมดถูกต อในรูปวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่ลักษณะการต อวงจรเร โซแนนซ์แบบอนุกรม่แสดงดังรูปที่่9.2
206 9.3 ค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม การต อวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่บางครั้งมีความจ าเป็นต้องต อวงจรเข้ากับความถี่ที่ถูกก าหนดค าไว้ แล้ว่การจะท าให้วงจรสามารถให้การตอบสนองต อความถี่ที่ต้องการได้นั้น่จ าเป็นต้องเลือกค าความเหนี่ยวน าหรือ ค าความจุที่เหมาะสมมาใช้งาน่การหาค าท าได้จากการใช้สมการหาค าความถี่เรโซแนนซ์่ 9.4 ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม ตัวประกอบคุณภาพ่(Quality Factor) ของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่เป็นตัวแสดงถึงคุณสมบัติของ วงจรอนุกรม่RLC ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับขณะเรโซแนนซ์่เกิดก าลังไฟฟ้าในตัวเหนี่ยวน า่และตัวเก็บประจุมาก น้อยเพียงไร่ซึ่งมีผลต อค าความต้านทานในวงจรเรโซแนนซ์และค ากระแสที่เกิดขึ้นในวงจร่ค า่R ในวงจรต่ าเกิด กระแสไหลในวงจรสูงส งผลให้ค าตัวประกอบคุณภาพสูงด้วย่และถ้าค า่R ในวงจรสูงเกิดกระแสไหลในวงจรต่ า ส งผลให้ค าตัวประกอบคุณภาพต่ าด้วย ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่(QS) ที่จุดเรโซแนนซ์เป็นอัตราส วนระหว าง ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ่(Q) หารด้วยก าลังไฟฟ้าจริง่(P) 9.5 แบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม แบนด์วิดท์่(Bandwidth) ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่หรือย านการตอบสนองความถี่เป็นช วงความ กว้างของความถี่ที่วงจรเรโซแนนซ์ให้การตอบสนอง่ส าหรับวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมเป็นกระแสความถี่ที่ไหล ผ านวงจร่โดยมีช วงการลดลงของค ากระแสที่สูงกว าและต่ ากว าความถี่เรโซแนนซ์่เป็นความกว้างค าหนึ่งที่วงจรเร โซแนนซ์แบบอนุกรมตอบสนอง่เรียกค านี้ว าแบนด์วิดท์่(BW) ค าแบนด์วิดท์ของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 9.6 วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน่คือการต อวงจร่RLC ในแบบขนานน าไปใช้งานที่จุดเรโซแนนซ์มีคุณสมบัติใน การท างานที่จุดเรโซแนนซ์เป็นตรงข้ามกับวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่ดังนี้่ที่จุดเรโซแนนซ์จะมีค าอิมพีแดนซ์ใน วงจรสูงสุด่เกิดกระแสไหลในวงจรที่จุดเรโซแนนซ์ต่ าสุด่วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน 9.7 ค่า L และ C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน การหาค าความเหนี่ยวน า่และค าความจุมาใช้งานในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน่ให้ได้ความถี่ เรโซแนนซ์ตามต้องการ่สามารถหาค าได้โดยใช้สูตรเช นเดียวกับวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม 9.8 ตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน่(QP) เป็นสิ่งที่แสดงถึงคุณสมบัติของวงจร่RLC ต อ ขนานในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ่ที่สภาวะเรโซแนนซ์จะเกิดกระแสไหลผ านตัวเหนี่ยวน าและตัวเก็บประจุได้มาก น้อยเพียงไร่ซึ่งมีผลต อความต้านทานในวงจรเรโซแนนซ์ตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน่(QP)
207 9.9 บทสรุป ความถี่ค าหนึ่งมีผลต อวงจรท าให้ค ารีแอกแตนซ์่XC เท ากับ่XL เกิดการหักล้างกัน่ท าให้ค ารีแอกแตนซ์ หมดไป่เหลือเพียงค าความต้านทานอย างเดียว่สภาวะนี้เรียกว า่เรโซแนนซ์ความถี่ที่ท าให้เกิดสภาวะเรโซแนนซ์ เรียกว า่ความถี่เรโซแนนซ์่(fr) ในสภาวะเกิดการเรโซแนนซ์ท าให้เกิดก าลังไฟฟ้าสูงสุดในวงจร วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่ที่ต าแหน งเรโซแนนซ์่จะได้ค าอิมพีแดนซ์ในวงจรต่ าสุดเกิดกระแสไหลใน วงจรสูงสุด่ส วนตัวประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม่เป็นตัวแสดงถึงคุณสมบัติของวงจรอนุกรม่ RLC ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับขณะเรโซแนนซ์่เกิดก าลังไฟฟ้าในตัวเหนี่ยวน า่และตัวเก็บประจุมากน้อยเพียงไร่ ซึ่งมีผลต อค าความต้านทานในวงจร่และค ากระแสที่เกิดขึ้นในวงจร่ถ้าค า่R ในวงจรต่ าเกิดกระแสไหลในวงจรสูง ส งผลให้ค าตัวประกอบคุณภาพสูงด้วย่และถ้าค า่R ในวงจรสูงเกิดกระแสไหลในวงจรต่ าส งผลให้ค าตัวประกอบ คุณภาพต่ าด้วย่สามารถค านวณค าต างๆ่ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม • ด้านทักษะ(ปฏิบัติ) 1. แบบฝึกหัดบทที่่9 • ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อ ที่9) 1. สรุปวงจรเรโซแนนซ์่ให้ถูกต้องเหมาะสม
208 กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน 1. ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ( 15 นาที ) 1. ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์การเรียนของบทที่่9 เรื่อง่่วงจรเรโซแนนซ 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนอธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของ วงจร่RLC 2. ขั้นให้ความรู้( 120 นาที ) 1. ผู้สอนแนะน าให้ผู้เรียนเปิด่่PowerPoint่่ และให้ผู้เรียนเปิเอกสารป ระกอบการสอนวิช า วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ บทที่่่9่่เรื่อง่วงจรเร โซแนนซ และให้ผู้เรียนศึกษารายละเอียดด้วยตนเอง 2. ผู้สอนเปิดโอกาส่ให้ผู้เรียนถามปัญหา่และ ข้อสงสัยจากเนื้อหา่โดยครูเป็นหาค าลิมิตของฟังก์ชัน 3. ขั้นประยุกต์ใช้( 60 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนท าแบบฝึกหัดบทที่่9 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต 1. ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ( 15 นาที ) 1. ผู้เรียนท าความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การ เรียนของบทที่่9่่เรื่อง่่วงจรเรโซแนนซ 2. ผู้เรียนผู้เรียนอธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร่ RLC 2. ขั้นให้ความรู้(120 นาที ) 1. ผู้เรียนศึกษาจาก่PowerPoint และให้ผู้เรียน เปิ ด เอ ก ส า รป ระก อบ ก า รส อน วิช า่วงจ รไฟ ฟ้ า กระแสสลับ่บทที่่9 เรื่องวงจรเรโซแนนซโดยเลือกจด บันทึกเนื้อหาที่ส าคัญ 2. ผู้เรียนซักถามข้อสงสัยที่เกิดขึ้นและผู้เรียน ร วมมือกับผู้สอน่ 3. ขั้นประยุกต์ใช้ ( 60 นาที) 1. ผู้เรียนท าแบบฝึกหัดบทที่่9 2. ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
209 กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน 4. ขั้นสรุปและประเมินผล ( 45 นาที ) 1. ผู้สอนและผู้เรียนร วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้ มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน่ ด้วย PowerPoint ที่จัดท าขึ้น (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-6) (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน) 4. ขั้นสรุปและประเมินผล ( 45 นาที ) 1. ผู้เรียนร วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้มีความ เข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้เรียนศึกษ าเพิ่มเติมนอกห้องเรียน่ด้ วย PowerPoint ที่จัดท าขึ้น (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-6)
210 งานที่มอบหมายหรือกิจกรรมการวัดผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร่สื่อการเรียนการสอนบทที่่4 2. ท าความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของบทที่่4 และให้ความร วมมือในการท ากิจกรรมใน่ บท ที่ 9 ขณะเรียน 1. ท าแบบฝึกหัดที่่9 2. ่่ร วมกันสรุป “วงจรเรโซแนนซ” หลังเรียน 1. - ผลงาน/ชิ้นงาน/ความส าเร็จของผู้เรียน ่่่่่่่่่่่แบบฝึกหัดบทที่่9
211 สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวิชา่วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ่(ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมข้อที่่1-9) 2. แบบฝึกหัดที่่9่่ขั้นประยุกต์ใช้ ข้อ่่1 สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) 1. เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ 2. PowerPoint เรื่อง่่วงจรเรโซแนนซ ่่่่่่่่ สื่อของจริง 1. วงจรเรโซแนนซ (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่่1-9)
212 แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร 2. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์่่ศึกษาหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต นอกสถานศึกษา ผู้ประกอบการ่่สถานประกอบการ่ในท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสาคร การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น 1. บูรณาการกับวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง 2. บูรณาการกับวิชาไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 3. บูรณาการกับวิชาไฟฟ้าเบื้องต้น
213 การประเมินผลการเรียนรู้ หลักการประเมินผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ความรู้ความเข้าใจก อนการเรียนการสอน ขณะเรียน 1. ตรวจแบบฝึกหัดบทที่่9 2. สังเกตการท างาน ่่่่ หลังเรียน 1. - ค าถาม ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลส าเร็จของผู้เรียน ่่่่่่่่่่่่่่ตรวจแบบฝึกหัดบทที่่9
214 สมรรถนะที่พึงประสงค์ ผู้เรียนสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวงจรเรโซแนนซ 1. วิเคราะห์และตีความหมาย 2. ตั้งค าถาม 3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง 4. การประยุกต์ความรู้สู งานอาชีพ สมรรถนะการปฏิบัติงานอาชีพ 1. แสดงความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับวงจรเรโซแนนซ สมรรถนะการขยายผล ความสอดคล้อง จากการเรียนเรื่อง่วงจรเรโซแนนซ ท าให้ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มเกี่ยวกับ่่่สภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร่ RLC วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม ค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม ตัวประกอบคุณภาพของ วงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม แบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรม วงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน ค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน ตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน
215 รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่1 อธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร่RLCได้ 1. วิธีการประเมิน่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่: ทดสอบ ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ ่่: แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน ่่่่่่: อธิบายสภาวะเรโซแนนซ์ของวงจร่RLCได้่จะได้่่1่่คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่2 บอกวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน่่ : ทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : บอกวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ จะได้่่1่่คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่3่่่หาค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน่่ : ทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ ่่่: แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : หาค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้จะได้่่1่่คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่4่่่่ประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์เป็นแบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน่่่่่่่่่่่่่่่่่ ่่: ทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ประกอบคุณภาพของวงจรเรโซแนนซ์เป็นแบบอนุกรมได้ จะได้่่1 คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่5 ค านวณหาค าแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ : ทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ่่่ค านวณหาค าแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ จะได้่่1 คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่6 ค านวณวงจรเรโซแนนซ์อนุกรมได้ 1. วิธีการประเมิน่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ : ทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ่่่ค านวณวงจรเรโซแนนซ์แบบอนุกรมได้ จะได้่่1 คะแนน
216 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่7 หาค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้ 1. วิธีการประเมิน่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ : ทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ่่่หาค า่L และ่C ใช้ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนานได้ จะได้่่1 คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่8 ชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบขนาน ได้ 1. วิธีการประเมิน่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ : ทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ่่่ชี้แจงตัวประกอบคุณภาพและแบนด์วิดท์ในวงจรเรโซแนนซ์แบบ ขนานได้ จะได้่่1 คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม่ข้อที่่9 สรุปวงจรเรโซแนนซ์่ให้ถูกต้องเหมาะสม 1. วิธีการประเมิน่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ : ทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ่่่่่่่่่่่่ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ่่่สรุปวงจรเรโซแนนซ์่ให้ถูกต้องเหมาะสม จะได้่่2 คะแนน
217 แบบฝึกหัดบทที่ 9 ตอนที่่1 เขียนเครื่องหมายกากบาท่(X) ลงในข้อที่ถูกต้องที่สุด
218 ตอนที่่2 อธิบายให้ได้ใจความสมบูรณ์และแสดงวิธีท าให้สมบูรณ์ถูกต้อง
219 แบบประเมินผลการน าเสนอผลงาน ชื่อกลุ ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน่(ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา่ความถูกต้อง่่ ปฏิภาณในการตอบ่และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการน าเสนอ 3 การมีส วนร วมของสมาชิกในกลุ ม 4 บุคลิกลักษณะ่่กิริยา่่ท าทางในการพูด่่น้ าเสียง่่ซึ่งท าให้ผู้ฟังมีความ สนใจ รวม ่่่่่่่่่่่่ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน่่ = มีสาระส าคัญครบถ้วนถูกต้อง่่ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน่่ = สาระส าคัญไม ครบถ้วน่่แต ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน่่่่= สาระส าคัญไม ถูกต้อง่ไม ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการน าเสนอ 3 คะแนน่่ = มีรูปแบบการน าเสนอที่เหมาะสม่่มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม ่่ใช้สื่อและเทคโนโลยี่่่่ ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ประกอบการ่น าเสนอที่น าสนใจ่่น าวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย างคุ้มค าและประหยัด 2 คะแนน่่่่= มีเทคนิคการน าเสนอที่แปลกใหม ่่ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่น าสน่ใจ่่แต ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ขาดการประยุกต์ใช้่วัสดุในท้องถิ่น่่่่่่่่ 1 คะแนน่่่่่= เทคนิคการน าเสนอไม เหมาะสม่และไม น าสนใจ 3. การมีส วนร วมของสมาชิกในกลุ ม 3 คะแนน่่่่่= สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส วนร วมกิจกรรมกลุ ม 2 คะแนน่่ = สมาชิกส วนใหญ มีบทบาทและมีส วนร วมกิจกรรมกลุ ม 1 คะแนน่่ = สมาชิกส วนน้อยมีบทบาทและมีส วนร วมกิจกรรมกลุ ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน่่ = ผู้ฟังมากกว าร้อยละ่90 สนใจ่และให้ความร วมมือ 2 คะแนน่่่่่= ผู้ฟังร้อยละ่70-90 สนใจ่และให้ความร วมมือ 1 คะแนน่่่่่= ผู้ฟังน้อยกว าร้อยละ่70 สนใจ่และให้ความร วมมือ
220 แบบประเมินกระบวนการท างาน ชื่อกลุ ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การก าหนดเป้าหมายร วมกัน 2 การแบ งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การก าหนดเป้าหมายร วมกัน 3 คะแนน่่= สมาชิกทุกคนมีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายการท างานอย างชัดเจน 2 คะแนน่่= สมาชิกส วนใหญ มีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 1 คะแนน่่= สมาชิกส วนน้อยมีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน่่= กระจายงานได้ทั่วถึง่่และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน่่่มีการจัดเตรียมสถานที่่่สื่อ่/ ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่อุปกรณ์ไว้อย างพร้อมเพรียง 2 คะแนน่่= กระจายงานได้ทั่วถึง่่แต ไม ตรงตามความสามารถ่่และมีสื่อ่/ อุปกรณ์ไว้อย างพร้อมเพรียง่แต ขาด ่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่่ การจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน่่= กระจายงานไม ทั่วถึงและมีสื่อ่/ อุปกรณ์ไม เพียงพอ 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน่่= ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย่และตามเวลาที่ก าหนด 2 คะแนน่่= ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย่แต ช้ากว าเวลาที่ก าหนด 1 คะแนน่่= ท างานไม ส าเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน่่= สมาชิกทุกคนร วมปรึกษาหารือ่่ติดตาม่่ตรวจสอบ่่และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน่่= สมาชิกบางส วนมีส วนร วมปรึกษาหารือ่่แต ไม ปรับปรุงงาน 1 คะแนน่่= สมาชิกบางส วนมีส วนร วมไม มีส วนร วมปรึกษาหารือ่และปรับปรุงงาน
221 เฉลยบทที่ 9
222
223
224 บ ันท ึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. ข้อสรุปหลังการจัดการเรียนรู้/ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……...…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………..……...……………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………..……...………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..……...…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..……...……… 2. ผลการเรียนรู้ของผู้เรียน …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……...…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………..……...……………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………..……...………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..……...…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..……...……… 3. ปัญหา่/่แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………….. ……...…………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………..……...……………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………..……...………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..……...…………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………..……...……… ลงชื่อ..........................................ครูผู้สอน ่่่่่่่่่่่่รับทราบผลการด าเนินงาน ่่่่่่่่ (นายประทีป่่ราชบุรี) ่่่่่่่่่่่่่่่่่ลงชื่อ............................................... ่่่่่่่่่่........./........./......... ่่่่่่ (นายมานพ่่ศรีนาราง) ่่หัวหน้าแผนกวิชาช างไฟฟ้าก าลัง ........./........./......... ่่่่่่่่่่่่่ ่่่่่่่่่่ลงชื่อ........................................... ่่่่่่่่่่่่่่่่(นางจินตนา่่อุททัง) ่่่่่่่่่่่่่่่่่่รองผู้อ านวยการฝ่ายวิชาการ ่่่่่่่่่่่่่่่........./........./.........
225 แผนการสอน/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฎี แผนการจัดการเรียนรู้ หน วยการเรียนรู้ที่10 รวม 4 ชั่วโมง ชื่อวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ชื่อหน วย แฟกเตอร์ก าลัง สอนครั้งที่ 10 จ านวน 4 ชั่วโมง ชื่อเรื่อง แฟกเตอร์ก าลัง หัวข้อเรื่อง 1. ก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ 2. แฟกเตอร์ก าลัง 3. การค านวณหาค าแฟกเตอร์ก าลัง 4. การแก้แฟกเตอร์ก าลัง 5. บทสรุป สาระส าคัญ ตัวต้านทาน (Resistor) ถือเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่น าไปใช้งานในวงจรต างๆ มากที่สุดรวมถึงในวงจรไฟฟ้า กระแสสลับด้วย ตัวต้านทานแต ละตัวจะมีค าความต้านทาน (Resistance)ภายในตัวแตกต างกันไป ขึ้นอยู กับการ ก าหนดค าจากการผลิต คุณสมบัติในการท างานกับไฟฟ้ากระแสสลับ โดยท าหน้าที่เปลี่ยนพลังไฟฟ้าเป็นพลังงาน ความร้อน ท างานกับแรงดันไฟสลับและกระแสไฟสลับของสัญญาณคลื่นไซน์ จ ายค าเป็น RMS คุณสมบัติของ แรงดันไฟสลับ E และกระแสไฟสลับ I เกิดขึ้นบนตัวต้านทาน R มีเฟสร วมกัน วงจรและสัญญาณ สมรรถนะอาชีพประจ าหน่วย - บอกชนิดของก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ อย างถูกต้องสมบูรณ์ - ค านวณค าแฟกเตอร์ก าลังในวงจรแต ละชนิดตามล าดับเป็นขั้นตอน - แก้แฟกเตอร์ก าลังอย างรอบคอบตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
226 จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ จุดประสงค์ทั่วไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับการอธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ (ด้านความรู้) 2. เพื่อให้มีทักษะในเขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลัง(ด้านทักษะ) 3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีในการชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลัง (ด้านจิตพิสัย) 4. เพื่อสรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย างถูกต้องเหมาะสม (ด้านด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจ พอเพียง) จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1.อธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับได้ (ด้านความรู้) 2. เขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลังได้(ด้านทักษะ) 3.ค านวณหาแฟกเตอร์ก าลังได้(ด้านทักษะ) 4.ชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลังได้(ด้านจิตพิสัย) 5.สรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย างถูกต้องเหมาะสม (ด้านด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจ พอเพียง)
227 เนื้อหาสาระการสอน/การเรียนรู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎี) 10.1 ก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ระดับสัญญาณไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา รวมถึงเฟสสัญญาณก็เกิด การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช นเดียวกัน ผลการเปลี่ยนแปลงท าให้ก าลังไฟฟ้าที่เกิดขึ้นมีการเปลี่ยนแปลงและ แตกต างกัน แบ งออกได้ 3 ส วน เขียนในรูปสามเหลี่ยมก าลังไฟฟ้า(Power Triangle) ประกอบด้วย ก าลังไฟฟ้า จริง (P) ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) และก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) ก าลังไฟฟ้าทั้ง 3 ส วนมีความแตกต างกันในค าที่ ค านวณออกมาได้ 10.1.1 ก าลังไฟฟ้าจริง (P) ก าลังไฟฟ้าจริง (P) หรืออาจเรียกว าก าลังไฟฟ้าเฉลี่ย เป็นก าลังไฟฟ้าที่วงจรได้รับจริง เกิดก าลังไฟฟ้าที่ถูก น าไปใช้งานจริง อาจเกิดได้กับอุปกรณ์จ าพวกตัวต้านทานบริสุทธิ์แรงดันและกระแสมีเฟสเหมือนกัน ในกรณีที่ แรงดันและกระแสมีเฟสไม เหมือนกัน จะต้องจัดเฟสกระแสให้อยู ในต าแหน งเฟสร วมกับแรงดันในรูป Icosq เขียน สมการก าลังไฟฟ้าจริงได้ดังนี้ 10.1.2 ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) เป็นก าลังไฟฟ้าที่เกิดกับอุปกรณ์จ าพวกตัวเหนี่ยวน าและตัวเก็บประจุ โดยเกิด จากแรงดันและกระแสในตัวเหนี่ยวน าและตัวเก็บประจุ กระแสในตัวเหนี่ยวน าจะล้าหลังแรงดันเป็นมุม q (ค า q มี ค าระหว าง 1o ถึง 90o) และกระแสในตัวเก็บประจุจะน าหน้าแรงดันเป็นมุม q (ค า q มีค าระหว าง 1o ถึง 90o) กระแสที่น าหน้าและล้าหลังนี้ สามารถแตกค ากระแสให้อยู ในต าแหน งเฟสร วม และต างเฟส 90o กับแรงดัน 10.1.3 ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) เป็นก าลังไฟฟ้าที่แหล งจ ายก าลังไฟฟ้าต้องจ ายให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต างๆ โดยเกิด จากการคูณกันของแรงดันที่วัดได้จาก AC โวลต์มิเตอร์ กับกระแสวัดได้จาก AC แอมมิเตอร์ วัดค าออกมาได้เป็น ค า RMS หรือค าประสิทธิผล 10.2 แฟกเตอร์ก าลัง
228 แฟกเตอร์ก าลัง (pf) หรือประสิทธิภาพ (Efficiency) ของวงจร บอกให้ทราบว าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้อยู มี ประสิทธิภาพในการท างานมากน้อยเพียงไร แสดงออกมาในรูปเลขทศนิยม หาค าได้จากอัตราส วนของก าลังไฟฟ้า จริง (P) หารด้วยก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) หรือมีค าเท ากับ cosqเขียนเป็นสมการได้ดังนี้ 10.2.2 ภาระตัวเหนี่ยวน า เป็นภาระที่เกิดกระแสไหลผ านมีเฟสล้าหลังแรงดันตกคร อมวงจร เกิดมุมต างเฟส qo เป็นแฟกเตอร์ก าลัง ชนิดล้าหลัง (Lagging Power Factor) เขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมได้ดังรูปที่ 10.3
229
230 10.3 การค านวณหาค่าแฟกเตอร์ก าลัง ประสิทธิภาพของวงจรไฟฟ้าแสดงออกมาได้ด้วยแฟกเตอร์ก าลัง (pf) การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ควร พิจารณาจากค าแฟกเตอร์ก าลังที่มีค าเข้าใกล้ 1 ยิ่งมีค าเข้าใกล้ 1 มากขึ้นเท าไร ยิ่งท าให้เครื่องใช้ไฟฟ้ามี ประสิทธิภาพในการท างานมากขึ้นเท านั้น การค านวณหาค าแฟกเตอร์ก าลังและค าก าลังไฟฟ้าต างๆ เป็นสิ่งจ าเป็น 10.4 การแก้แฟกเตอร์ก าลัง ค าแฟกเตอร์ก าลังที่บอกไว้เป็นค าแสดงให้ทราบว า อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้อยู มีประสิทธิภาพในการท างานมาก น้อยเพียงไร ประสิทธิภาพสูงสุดของอุปกรณ์ไฟฟ้ามีค าแฟกเตอร์ก าลัง (pf)เท ากับ 1 โดยการท าให้มุม q ของ สามเหลี่ยมก าลังลดลงเป็น 0o ซึ่งเป็นค าที่บอกให้ทราบว าอุปกรณ์ไฟฟ้าท างานได้ค าสูงสุด เกิดก าลังไฟฟ้าในการ ท างานมากที่สุด โดยไม เกิดก าลังไฟฟ้าที่สูญเสียไปจากก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) โดยปกติแล้วอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผลิตมาใช้งาน ส วนมากเป็นประเภทที่มีตัวเหนี่ยวน าต อร วมในวงจรด้วย ซึ่งมี ผลต อเฟสของแรงดันและกระแสที่เกิดขึ้นในวงจรแตกต างกันไป เฟสกระแสจะล้าหลังแรงดันเสมอ เกิดแฟกเตอร์ ก าลังชนิดล้าหลังมีค า pf น้อยกว า 1 ท าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้งานกินกระแสในการท างานมากขึ้น ประสิทธิภาพใน การท างานลดลง และต้องจ ายค ากระแสมากขึ้น เป็นสิ่งที่ไม ต้องการให้เกิดขึ้น ดังนั้นจึงมีความจ าเป็นต้องปรับค า แฟกเตอร์ก าลังใหม ใหมี้ค า pf เข้าใกล้ 1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการท างานของอุปกรณ์ไฟฟ้า และยังช วย ประหยัดค าใช้ไฟฟ้าได้มากขึ้น การปรับแก้ค าแฟกเตอร์ก าลังให้เข้าใกล้ 1 ในวงจรการท างานที่มีภาระเป็นประเภทตัวเหนี่ยวน า เช น มอเตอร์ มีค าแฟกเตอร์ก าลังล้าหลัง ท าได้โดยต อเพิ่มตัวเก็บประจุขนานกับภาระของวงจร โดยใช้ค าความจุที่ เหมาะสม ผลการแก้แฟกเตอร์ก าลังท าให้กระแสไหลในวงจรลดลง มุมต างเฟสระหว างแรงดันและกระแสน้อยลง ส งผลให้ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) และก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) มีค าลดลง ช วยให้ค าแฟกเตอร์ก าลังมีค าเข้าใกล้ 1 มากขึ้น กรณีที่ภาระเป็นตัวเก็บประจุก็สามารถปรับแก้ค าแฟกเตอร์ก าลังท าได้เช นเดียวกัน โดยต อเพมิ่ ตัวเหนี่ยวน ามีค า พอเหมาะขนานกับภาระของวงจร เพื่อท าให้ค าแฟกเตอร์ก าลังเข้าใกล้1 มากขึ้น การพิจารณาในการแก้แฟกเตอร์ก าลังพิจารณาดังนี้ 1. ก าลังไฟฟ้าจริง (P) ต้องคงที่ 2. กระแสในวงจร (I) ต้องลดลง 3. มุมต างเฟส (q) ต้องลดลง 4. แฟกเตอร์ก าลัง (pf) ต้องเพิ่มขึ้น 5. ก าลังไฟฟ้าปรากฏ (S) ต้องลดลง 6. ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ (Q) ต้องลดลง 10.5 บทสรุป ก าลังไฟฟ้าแบ งออกได้ 3 ส วน ประกอบด้วย ก าลังไฟฟ้าจริง (P) ก าลังไฟฟ้ารีแอกตีฟ(Q) และก าลังไฟฟ้า ปรากฏ (S) แต ละส วนหาค าได้ดังนี้
231 • ด้านทักษะ(ปฏิบัติ) 1. แบบฝึกหัดบทที่ 10 • ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อ ที่ 5) 1. สรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย างถูกต้องเหมาะสม
232 กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน 1. ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ( 15 นาที ) 1. ผู้สอนแจ้งวัตถุประสงค์ของการเรียน บทที่ 10 เรื่อง แฟกเตอร์ก์ก าลัง 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนอธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ 2. ขั้นให้ความรู้(120 นาที ) 1. ผู้สอนเปิด PowerPoint และให้ผู้เรียนเปิด เอกสารประกอบการสอนวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ บทที่ 10 เรื่อง แฟกเตอร์ก์ก าลัง พร้อมอธิบาย เนื้อหาทีละส วน 2. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามข้อสงสัยที่ เกิดขึ้นระหว างการเรียนการสอน และตอบข้อซักถาม 3. ขั้นประยุกต์ใช้ (60 นาที) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนท าแบบฝึกหัดบทที่ 10 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต 1. ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน ( 15 นาที) 1. ผู้เรียนท าความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของ การเรียน บทที่ 10 เรื่อง แฟกเตอร์ก์ก าลัง 2. ผู้เรียนอธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ 2. ขั้นให้ความรู้(120 นาที) 1. ผู้เรียน ศึ กษ า วิ ธีก า รใช้PowerPoint กั บ เอกสารประกอบการสอน วิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ บทที่ 10 เรื่อง แฟกเตอร์ก์ก าลัง พร้อมอธิบายเนื้อหา ทีละส วนโดยเลือกจดบันทึกเนื้อหาที่ส าคัญ 2. ผู้เรียนซักถามข้อสงสัยที่เกิดขึ้น 3. ขั้นประยุกต์ใช้( 60 นาที ) 1. ผู้เรียนท าแบบฝึกหัดบทที่ 10 2. ผู้เรียนสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต
233 กิจกรรมการเรียนการสอนหรือการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน 4. ขั้นสรุปและประเมินผล ( 45 นาที) 1. ผู้สอนและผู้เรียนร วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้ มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วยPowerPoint ที่จัดท าขึ้น (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5) (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน) 4. ขั้นสรุปและประเมินผล( 45 นาที) 1. ผู้สอนและผู้เรียนร วมกันสรุปเนื้อหาที่ได้เรียนให้ มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมนอกห้องเรียน ด้วย PowerPoint ที่จัดท าขึ้น (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5)
234 งานที่มอบหมายหรือกิจกรรมการวัดผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนบทที่ 10 2. ท าความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของบทที่ 10 และให้ความร วมมือในการท ากิจกรรมใน บท ที่ 10 ขณะเรียน 1. ท าแบบฝึกหัดที่ 10 2. ร วมกันสรุป “แฟกเตอร์ก์ก าลัง” หลังเรียน 1. - ผลงาน/ชิ้นงาน/ความส าเร็จของผู้เรียน แบบฝึกหัดบทที่ 10
235 สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. เอกสารประกอบการสอนวิชา วงจรไฟฟ้ากระแสสลับ (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมข้อที่ 1-5) 2. แบบฝึกหัดที่ 10 ขั้นประยุกต์ใช้ ข้อ 1 สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) 1. เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ 2. PowerPoint เรื่อง แฟกเตอร์ก์ก าลัง สื่อของจริง 1. แฟกเตอร์ก์ก าลัง (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5)
236 แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร 2. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต นอกสถานศึกษา ผู้ประกอบการ สถานประกอบการ ในท้องถิ่นจังหวัดสมุทรสาคร การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น 1. บูรณาการกับวิชาวงจรไฟฟ้ากระแสตรง 2. บูรณาการกับวิชาไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 3. บูรณาการกับวิชาไฟฟ้าเบื้องต้น
237 การประเมินผลการเรียนรู้ หลักการประเมินผลการเรียนรู้ ก่อนเรียน 1. ความรู้ความเข้าใจก อนการเรียนการสอน ขณะเรียน 1. ตรวจแบบฝึกหัดบทที่ 10 2. สังเกตการท างาน หลังเรียน 1. - ค าถาม 1. ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลส าเร็จของผู้เรียน ตรวจแบบฝึกหัดบทที่ 10
238 สมรรถนะที่พึงประสงค์ ผู้เรียนสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแฟกเตอร์ก์ก าลัง 1. วิเคราะห์และตีความหมาย 2. ตั้งค าถาม 3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง 4. การประยุกต์ความรู้สู งานอาชีพ สมรรถนะการปฏิบัติงานอาชีพ 1. RLC ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ สมรรถนะการขยายผล ความสอดคล้อง จากการเรียนเรื่อง แฟกเตอร์ก์ก าลัง ท าให้ผู้เรียนมีความรู้เพิ่มเกี่ยวกับ ก าลังไฟฟ้ากระแสสลับ แฟกเตอร์ก าลัง การค านวณหาค าแฟกเตอร์ก าลัง การแก้แฟกเตอร์ก าลัง เป็นต้น
239 รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 อธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : อธิบายก าลังไฟฟ้ากระแสสลับได้ จะได้ 2 คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 2 เขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลังได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : เขียนสมการของแฟกเตอร์ก าลังได้จะได้ 2 คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 ค านวณหาแฟกเตอร์ก าลังได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ค านวณหาแฟกเตอร์ก าลังได้จะได้ 2 คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 ชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลังได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ชี้แจงการแก้แฟกเตอร์ก าลังได้ จะได้ 4 คะแนน จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 5 สรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย างถูกต้องเหมาะสม 4. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 5. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 6. เกณฑ์การให้คะแนน : สรุปแฟกเตอร์ก าลังได้อย างถูกต้องเหมาะสม จะได้ 2 คะแนน
240 แบบฝึกหัดบทที่ 10 ตอนที่ 1 เขียนเครื่องหมายกากบาท (X) ลงในข้อที่ถูกต้องที่สุด
241 \
242
243 แบบประเมินผลการน าเสนอผลงาน ชื่อกลุ ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา ความถูกต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการน าเสนอ 3 การมีส วนร วมของสมาชิกในกลุ ม 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท าทางในการพูด น้ าเสียง ซึ่งท าให้ผู้ฟังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน = มีสาระส าคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระส าคัญไม ครบถ้วน แต ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระส าคัญไม ถูกต้อง ไม ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการน าเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการน าเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ น าเสนอที่น าสนใจ น าวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย างคุ้มค าและประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนิคการน าเสนอที่แปลกใหม ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่น าสน ใจ แต ขาดการประยุกต์ใช้ วัสดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการน าเสนอไม เหมาะสม และไม น าสนใจ 3. การมีส วนร วมของสมาชิกในกลุ ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส วนร วมกิจกรรมกลุ ม 2 คะแนน = สมาชิกส วนใหญ มีบทบาทและมีส วนร วมกิจกรรมกลุ ม 1 คะแนน = สมาชิกส วนน้อยมีบทบาทและมีส วนร วมกิจกรรมกลุ ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร วมมือ
244 แบบประเมินกระบวนการท างาน ชื่อกลุ ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การก าหนดเป้าหมายร วมกัน 2 การแบ งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การก าหนดเป้าหมายร วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายการท างานอย างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส วนใหญ มีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 1 คะแนน = สมาชิกส วนน้อยมีส วนร วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ / อุปกรณ์ไว้อย างพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แต ไม ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ / อุปกรณ์ไว้อย างพร้อมเพรียง แต ขาด การจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม ทั่วถึงและมีสื่อ / อุปกรณ์ไม เพียงพอ 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่ก าหนด 2 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย แต ช้ากว าเวลาที่ก าหนด 1 คะแนน = ท างานไม ส าเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส วนมีส วนร วมปรึกษาหารือ แต ไม ปรับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส วนมีส วนร วมไม มีส วนร วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน
245 เฉลยแบบฝึกหัดบทที่ 10