The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายวิชาวิทยาศาสตร์2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by scicrpaoschool, 2022-12-14 04:09:28

รายวิชาวิทยาศาสตร์2

รายวิชาวิทยาศาสตร์2

แนวการใหค้ ะแนน/แนวการตอบ

คาถามที่ 1 1 คะแนน

ลมบกมีทิศทางใด

แนวการตอบ

เกิดในเวลากลางคนื เน่อื งจากพืนดินคายความรอ้ นเรว็ กวา่ พนื น้าอากาศเหนือ

พนื ดนิ เย็นกว่าอากาศเหนอื พืนนา้ อากาศจงึ เคลอื่ นท่จี ากฝั่ง ออกสู่ทะเล

คาถามท่ี 2 1 คะแนน

ลมทะเลมีทิศทางใด

แนวการตอบ

เกดิ ในเวลากลางวนั เน่ืองจากพนื้ ดนิ รบั ความรอ้ นเรว็ กวา่ พนื้ นา้ อากาศเหนือพนื้ นา้ เย็น

กวา่ อากาศ เหนือพนื้ ดนิ อากาศจงึ เคล่ือนท่ีจากทะเลเขา้ สฝู่ ่ัง

เตม็ 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบสอดคลองกบั แนวค้าตอบ ตอบไมส่ อดคลองกบั แนวค้าตอบ

/มคี ้าตอบ

คาถามท่ี 3 3คะแนน
จากขอ้ ความจงระบว่า ถูก หรือ ผิด
คาตอบ
ข้อ คาถาม
ถกู
1 อากาศเย็นเหนือพนื้ ดนิ จะจมลงสว่ นอากาศรอ้ นเหนือนา้ ทะเลขยายตวั ลอยสงู ขนึ้
ผดิ
ทาใหเ้ กดิ ความกดอากาศตา่ ถกู

2 ลมพดั จากบรเิ วณความกดอากาศสงู ไปยงั บรเิ วณความกดอากาศต่า
3 พนื้ ดนิ คายความรอ้ นเวลากลางคืนเรว็ กวา่ นา้ ทะเลอากาศเหนือพนื้ ดนิ จึงยน็ กวา่

อากาศเหนือนา้ ทะเล

3คะแนน 2คะแนน 1คะแนน
ตอบถกู 3 ข้อ ตอบถูก 2 ข้อ ตอบถูก 1 ข้อ
ถกู /ถกู /ผิด


เก ฑการใหค้ ะแนน

เก ฑารตดั สนิ ค ภา

ช่วงคะแนน ระดับค ภา

5 ดมี าก

3-4 ดี

1-2 อใช้

0 รบั รง

นกั เรยี นได้ระดับค ภา อใช้ ข้นึ ไ ถอื วา่ ผา่ น

แนวข้อสอบ O – NET

1. แรงดนั อากาศ หมายถึง อะไร
1. แรงที่อากาศกระทา้ ต่อหนงึ่ หนว่ ยพืนที่ทรี่ องรับแรงดัน
2. แรงท่อี ากาศกดลงบนผวิ ของวตั ถใุ นทุกทิศทาง
3. อนภุ าคของอากาศ
4. อากาศเคล่อื นทีไ่ ปมาได้อยา่ งอิสระ

2. ปัจจัยที่มีผลต่อความดันอากาศ
1. ขนาดของแรงที่กระทา้
2. พนื ทท่ี ถ่ี ูกแรงกระท้า
3. ความดัน
4. ถูกทงั ขอ้ 1. และ 2.

ท่ีมา : http://testonlinep456.blogspot.com/2014/08/blog-post_28.html


แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 24 หน่วยย่อยท่ี 2
ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 1 ชัว่ โมง
เรอื่ ง ความชน้ื สมั บรู ณ์ และความชน้ื สัมพทั ธ์ ผู้สอน นายศุภกิตต์ิ ประเสรฐิ
วนั ทที่ าการสอน.........................เดือน............................พ.ศ.................

1. สาระสาคญั 2. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด
ความชน้ื สัมบรู ณ์ คือ อัตราสว่ นระหว่างมวลของไอน้าในอากาศกบั มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/2 อธบิ ายปัจจยั ที่มผี ลตอ่ การเปลี่ยนแปลง
องค์ประกอบของลมฟา้ อากาศจากขอ้ มลู ที่รวบรวมได้
ปริมาตรของอากาศนน้ั หนว่ ยวดั ความช้ืนสมั บูรณ์คอื g/m^3 (กรมั ตอ่ ลบ.ม.))
ความช้ืนสัมพทั ธ์ (Relative Humidity 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน compare and contrast เรือ่ ง ความชื้นสมั บรู ณ์ และ
3. เนอ้ื หา/สาระการเรียนรู้ ความช้ืนสัมพทั ธ์
- ความช้นื สมั บรู ณ์ และความช้ืนสัมพัทธ์

5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน 6. เครอื่ งมอื การสอนคิด
- ความสามารถในการคดิ - compare and contrast ,Six Thinking hats (Yellow
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
hat)

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ขั้นของกิจกรรม 8. สอื่ 9. วธิ ีวดั ผล

Do Now (3นาท)ี - Power Point เรอื่ ง - ประเมนิ ใบงาน
“บอกสง่ิ ที่มักทา้ ให้เราขนลุกคนละ 1 สิง่ ” ความชื้นสัมบรู ณ์ และ compare and
Purpose (2นาที) ความช้ืนสัมพัทธ์ contrast เร่ือง
เราจะเรียนเรื่อง ความชนื้ สมั บูรณ์ และความชื้นสัมพทั ธ์ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนสามารถอธบิ าย ความชน้ื สมั บรู ณ์ และ
เกย่ี วกบั ความช้นื สมั บูรณ์ และความช้นื สมั พทั ธ์ ได้อยา่ งถูกต้อง ความช้ืนสัมพทั ธ์

Work mode (50นาท)ี

1. นกั เรยี นตอบค้าถามกระตุ้นความคิด “นกั เรยี นนา้ ความร้เู ร่อื งความช้ืนไปใช้ประโยชน์ - ใบงาน compare and
ในชีวิตประจา้ วันไดอ้ ย่างไร” (Yellow hat) (5 นาท)ี contrast เรอื่ ง ความช้นื
2.นักเรียนฟังครอู ธบิ าย เร่ือง ความชื้นสมั บูรณ์ และความชืน้ สัมพัทธ์ โดยใช้ Power สัมบรู ณ์ และความชื้น
Point ประกอบการสอน (สมรรถนะ 3) (10นาที) สัมพัทธ์
3. นักเรียนแบง่ กลมุ่ 6 คน โดยสืบค้นข้อมูลเกยี่ วกบั ความชน้ื สัมบูรณ์ และความชนื้
สัมพัทธ์ จาก internet เพิม่ เติม(พอเพียง7:สงั คม) (สมรรถนะ 6) (10นาที)
4.นกั เรียนเปรยี บเทียบความเหมือนความตา่ งของ ความชน้ื สมั บรู ณ์ และความชื้นสัมพัทธ์
โดยทา้ ใบงาน Compare and contrast เรื่อง ความชนื้ สมั บูรณ์ และความชน้ื สมั พทั ธ์
เหตผุ ล (คิด 2 : คิดเปรยี บเทียบ) (15 นาที)
5.นกั เรียน(สมุ่ ตัวแทน)ออกมานา้ เสนองานและร่วมกันอภิปรายโตแ้ ยง้ หน้าชนั้ เรยี นโดยใช้
ค้าถาม ดงั นี้ (5นาท)ี
6. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เชอื่ มโยงความคิด เกี่ยวกับความชนื้ สมั บูรณ์ และความชนื้

สัมพัทชธ์้ิ น(คงดิ 6า:นคดดิ สังเคราะห์) (5 นาที)

Reflective thinking (5 นาท)ี

- “1 สิง่ ท่ีนกั เรยี นไดร้ บั ” (3 นาที)

- ทา้ แนวขอ้ สอบ O-NET 1 ขอ้ (2 นาท)ี


ใบความรู้
เรอ่ื ง ความชน้ื

ความชน้ื ของอากา คอื ปริมาณไอน้าทม่ี อี ยูใ่ นอากาศบรเิ วณใดบริเวณหนง่ ง่ มีสัดสว่ นท่แี ตกตา่ งกันไปใน 2 ) ความชื้นสมั ัทธ ( relative humidity ) คอื ปริมาณเปรยี บเทียบระหว่างมวลของไอน้า

แต่ละทอ้ งที่ ถา้ อากาศมคี วามชนื้ ต้่า น้าจะเกดิ การระเหยไดม้ าก เสอื้ ผา้ ทต่ี ากไวจ้ ะแหง้ เรว แต่ถ้าอากาศมี ท่ีมอี ยจู่ รงิ ในอากาศขณะน้นั กบั มวลไอน้าในอากาศอม่ิ ตัวทอ่ี ณุ หภูมแิ ละปรมิ าตรเดียวกนั ( นยิ มบอกค่า
ความช้ืนสูง นา้ จะระเหยได้น้อย เส้อื ผ้าท่ตี ากไวจ้ ะแห้งชา้ ขณะทนี่ ้าเกดิ การระเหยจะทา้ ใหอ้ ุณหภมู ขิ อง ความชนื้ สัมพทั ธเ์ ปนรอ้ ยละ )
สิ่งแวดล้อมลดตา่้ ลง เนอ่ื งจากนา้ ที่ระเหยจะดูดความร้อนจากส่ิงตา่ ง ไปใชใ้ นการระเหยน่ันเอง เช่น
ความชื้นสัมพัทธ์ ( RH ) = มวลของไอน้าท่มี อี ยูจ่ ริง × 100
อณุ หภมู ิของเทอร์มอร์มิเตอรเ์ ปยกลดตา้่ ลง อณุ หภมู ขิ องน้าในตุ่มดินเผาลดตา้่ ลง เปนตน้ การที่น้าในตมุ่ ดิน
มวลของไอนา้ ในอากาศอ่ิมตัวทอ่ี ณุ หภมู ิและปริมาตรเดียวกนั
เผาเยนกว่าน้าที่เกบในภาชนะอ่นื นัน้ เนื่องจากต่มุ ดินเผามีลกั ณะรพู รุน ่งน้าสามารถระเหยออกมาได้ จง

ท้าให้อณุ หภูมขิ องตมุ่ และนา้ ลดต่า้ ลง น้าในตมุ่ ดินเผาจงเยนกว่าดงั กลา่ ว

อากา อม่ิ ตวั คือ อากาศทีม่ ไี อน้าอย่เู ตมท่ีและไม่สามารถรบั เพิ่มไดอ้ ีกแลว้ ณ อณุ หภูมหิ น่ง ตัวอยา่ ง ทีอ่ ณุ หภูมิ 27 องศาเ ลเ ียส อากาศอ่มิ ตวั ด้วยไอน้า 180 กรัมตอ่ ลกู บาศก์เมตร แตข่ ณะนัน้ มี
จจยั ท่ีมผี ลต่อการระเหย ไอน้าอยจู่ ริงเพียง 135 กรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร ความชื้นสัมพัทธ์มคี ่าเท่าไร

1. อณุ หภูมิ เมอ่ื อณุ หภูมเิ พ่มิ ขน้ การระเหยจะเกิดเรวข้น ความชื้นสัมพัทธ์ = 135 กรัมตอ่ ลูกบาศก์เมตร × 100
2. พนื้ ทีผ่ ิว ถา้ พน้ื ทผี่ ิวหนา้ มากข้นการระเหยจะเกิดได้ดี 180 กรมั ต่อลูกบาศกเ์ มตร
3. ความชื้นในอากาศ ถา้ ในอากาศมีความชื้นสงู การระเหยจะเกดิ ไดย้ าก
4. ชนิดของสาร ของเหลวทมี่ แี รงยดเหนี่ยวระหวา่ งโมเลกุลสูงจะมีคา่ ความร้อนแ งสูงกลายเปนไอได้ยาก = 75 %
ความดันไอต้่า แต่จดุ เดอื ดสงู ใชเ้ ครื่องมือทเี่ รียกวา่ กรอมิเตอร โดยนิยมใชแ้ บบกระเปาะแหง้ -กระเปาะเปยก

เครือ่ งมือวดั ความชื้นอากา

เม่ือโลกได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ นา้ จากแหล่งน้าต่าง บนโลกจะระเหยกลายเปนไอน้าลอยอยู่ 1. ไ โกรมเิ ตอร์ หรอื เคร่ืองมอื วดั ความช้นื แบบเสน้ ผม ถ้าค่าความช้นื สมั พัทธ์สูงข้น เส้นผมจะขยายตัว
ในอากาศปะปนกบั แกสตา่ ง ปรมิ าณไอน้าที่มอี ยูใ่ นอากาศนี้ เรียกวา่ ความชนื้ ของอากาศ ยาวขน้ แต่ถ้าความชนื้ สมั พัทธล์ ดนอ้ ยลง เส้นผมจะหดตัวส้นั ลง

ปรมิ าณไอน้าที่อากาศรับไวจ้ ะมากหรอื นอ้ ยข้นอยู่กบั อุณหภูมิของบรรยากาศ ถ้าอณุ หภมู ิสูงอากาศจะรบั
ไอน้าไดม้ าก ถ้าอุณหภมู ติ ่า้ อากาศจะรบั ไอน้าไดน้ ้อย ถา้ อากาศอยใู่ นสภาพท่ีไมส่ ามารถรบั ไอน้าไดอ้ กี แสดง
ว่าอากาศขณะนน้ั อ่มิ ตัวด้วยไอนา้ เรียกสภาวะนว้ี า่ อากาศอิม่ ตวั ด้วยไอนา้ หรอื อากาศอม่ิ ตวั ง่ เปน
สภาวะทีอ่ ากาศมีความช้นื มากทสี่ ดุ

อากา 1 ลูกบา กเมตร อ หภูมติ ่าง กนั จะรบั อนา้ ด้ดังน้ี กรมิเตอร
ทอ่ี ณุ หภูมิ 10 องศาเ ลเ ียส อากาศรับไอน้าได้มากทสี่ ุดประมาณ 9.3 กรมั
ทอี่ ณุ หภูมิ 20 องศาเ ลเ ยี ส อากาศรับไอนา้ ได้มากที่สุดประมาณ 17.5 กรมั 2. ไ โครมเิ ตอร์หรอื ไ โกรมเิ ตอรก์ ระเปาะเปยก-กระเปาะแห้ง ประกอบด้วยเทอรม์ อมิเตอร์ 2 อนั คู่
ท่อี ุณหภมู ิ 30 องศาเ ลเ ยี ส อากาศรบั ไอนา้ ได้มากทส่ี ดุ ประมาณ 30.5 กรัม กับอันหน่งวดั อุณหภูมธิ รรมดา อกี อนั หน่งห้มุ ดว้ ยผ้าช้ืน เรียกว่ากระเปาะเปยก หลักการท้างานโดยจะปลอ่ ย
ใหน้ ้าทีเ่ กาะอยู่ท่ผี า้ ช้นื ระเหยออก จนกระทง่ั อณุ หภูมิทกี่ ระเปาะเปยกเยนลงตา้่ สุด โดยดูค่าผลตา่ งของเทอร์
การวัดความชนื้ ของอากาศ มอมเิ ตอรท์ ั้งสอง ง่ ค่าที่ได้จะนา้ มาแปลผล คือ ถ้าความตา่ งของอุณหภูมิจากเทอรม์ อมิเตอร์ทั้สองมคี ่ามากขน้
ความชื้นสมั พัทธจ์ ะมีคา่ นอ้ ยลง

เรามวี ธิ ีบอกค่าความชน้ื ของอากาศได้ 2 วธิ ี คือ

1 ) ความชนื้ สมั บรู ( absolute humidity ) หมายถง อัตราส่วนระหวา่ งมวลของไอนา้ อากาศ
กบั ปริมาตรของอากาศนัน้ ณ อุณหภูมิเดียวกนั มีหน่วยเปนกรมั ตอ่ ลูกบาศก์เมตร ( g / m3 )

ความชื้นสัมบรู ณ์ ( AH ) = มวลของไอน้าในอากาศ

ปรมิ าตรของอากาศ ณ อุณหภูมิเดยี วกัน

ตวั อย่าง อากาศในทแี่ ห่งหน่งมีปริมาตร 8 ลกู บาศกเ์ มตร ณ อณุ หภมู ิ 20 องศาเ ลเ ยี ส มไี อน้าอยู่ 32
กรมั ความชนื้ สัมบรู ณ์มีคา่ เท่าไร

ความชื้นสัมบรู ณ์ = 32 กรมั

8 ลกู บาศก์เมตร


ใบงาน Compare and Contrast
เรอ่ื ง ความช้ืนสมั บูร และความช้ืนสัม ทั ธ

คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเปรียบเทยี บความเหมือนความแตกต่างความชน้ื สมั บรู ณ์ และความช้นื สัมพทั ธ์

ความชืน้ สมั บรู ณ์ ความชืน้ สมั พทั ธ์


แบบ ระเมินใบงาน compare & contrast

คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลงานใบงานนักเรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมนิ
ก้าหนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน compare & contrast

ชื่อ-สกล รู แบบ เน้ือหา นาเสนอ ความ ตรงต่อ รวม สร ผลการ
ลาดบั ที่ ของผู้รบั สวยงาม เวลา 20 คะแนน ระเมนิ ผ่าน/
(4คะแนน) (4คะแนน) (4คะแนน)
การ ระเมิน (4คะแนน) (4คะแนน) ม่ผา่ น

ลงชื่อ ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ อใช้ ข้นไปถือว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบ ระเมนิ ใบงาน compare & contrast

เก ฑการ ระดับการ ระเมิน
ระเมิน
รปู แบบ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 ( อใช)้ 1 ( รับ รง)
- ครบองคป์ ระกอบ - ครบองคป์ ระกอบ
- เปรียบเทยี บสง่ิ ทีเ่ หมือน - ครบองคป์ ระกอบ - ครบองคป์ ระกอบ - เปรยี บเทียบส่งิ ทเี่ หมอื น

และตา่ งได้ตรงตามเน้ือหา - เปรียบเทยี บสิ่งที่เหมอื น - เปรยี บเทียบสิ่งทีเ่ หมือน และต่างไดต้ รงตามเนอื้ หา
อยา่ งถูกต้องสมบรู ณ์ อยา่ งถูกตอ้ ง
และต่างได้ตรงตามเน้อื หา และต่างไดต้ รงตามเนอื้ หา ตา้่ ว่า 59%

อย่างถกู ต้อง อย่างถูกต้อง

80-99% 60-79%

การแสดง - แสดงความคดิ เหน - แสดงความคดิ เหน - แสดงความคดิ เหน - - แสดงความคิดเหน
ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/
ความคดิ เหน ผลกระทบของปญั หา/เหตุ ผลกระทบของปญั หา/ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ข้อ เหตกุ ารณไ์ ด้ นอ้ ยกว่า 6
ข้อ
การฌไ์ ด้ 10 ข้อข้นไป เหตกุ ารณไ์ ด้ 8-9 ขอ้

เนอื้ หา - เนือ้ หาครบถว้ นตามสาระท่ี - เน้อื หาถูกต้องตามสาระที่ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระที่ - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระท่ี
การน้าเสนอ ก้าหนด 100% ก้าหนด 80-99% กา้ หนด 60-79% ก้าหนดตา้่ ว่า 59%
ความสวยงาม - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภา า - เขียนถูกต้องตามหลักภา า - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภา า - เขยี นถกู ต้องตามหลักภา า
100% 80-99% 60-79% ต่้าวา่ 59%
- ลา้ ดับหวั ข้อเนอื้ หาชัดเจน - ล้าดับหัวข้อเนอ้ื หาชดั เจน - มีการสรปุ ไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรุปไม่สมเหตุสมผล
- มีการสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง สมเหตุสมผล 60-79% ต่้าวา่ 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
- พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - พดู ชดั เจนเสียงดงั ฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดน้าเสนอได้
- ใชภ้ า าทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภา าทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ า าทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภา าทางการถูกต้อง
อักขระ100% อักขระ80-99% อักขระ60-79% ตามอกั ขระตา้่ ว่า 59%
- บุคลกิ ภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
มัน่ ใจ - ความพรอ้ มในการน้าเสนอ
- มีการใช้ส่ือประกอบการ ไดบ้ างสว่ น - ใช้สีสันสวยงามและมีความ - ใช้สสี ันสวยงามหรือเปนไป
น้าเสนอ สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ ง
- ความพรอ้ มในการน้าเสนอ - ใชส้ ีสันสวยงาม หนง่
- ใชส้ ีสันสวยงาม - มคี วามสะอาด
- มคี วามสะอาด - มีความคิดสร้างสรรค์
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์
- ความเปนระเบยี บอ่านงา่ ย


แนวข้อสอบ O – NET

1. ทีอ่ ณุ หภมู ิ 30 องศาC ตรวจพบไอน้าในอากาศ 32 กรมั และมวลของไอน้าทอ่ี ากาศรบั ไดเ้ ตมทค่ี ือ 40 กรมั
จงหาความชนื้ สมั พัทธ์ในขณะน้ี สูตร ความชืน้ สัมพัทธ์=(มวลไอน้าในอากาศ/มวลของไอน้าอม่ิ ตวั )*100

1. 60 %
2. 80 %
3. 50 %
4. 70 %
ที่มา : http://www.rmutphysics.com/charud/exercise-online/atmosphere1/9806.htm


แผนจัดการเรยี นรทู้ ี่ 25 หนว่ ยยอ่ ยท่ี 7
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 2 ช่ัวโมง
เร่อื ง ความชื้นสัมบูรณ์ และความชื้นสัมพทั ธ์ ผสู้ อน นายศภุ กิตติ์ ประเสรฐิ
วันทท่ี าการสอน..........เดอื น................พ.ศ............

1. สาระสาคญั 2. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ความชน้ื คือปริมาณไอน้าในอากาศ การบอกค่าความช้นื ของ ว 3.2 ม.1/2 อธบิ ายปัจจัยทมี่ ีผลต่อการเปล่ียนแปลงองคป์ ระกอบ
ของลมฟา้ อากาศ จากขอ้ มูล ทีร่ วบรวมได้
อากาศ สามารถบอกได้ทั้งแบบความชื้นสมั บรู ณ์ และความชืน้ สมั พัทธ์

3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้ินงาน / ภาระงาน
ความชื้นสัมบรู ณ์ และความชื้นสมั พัทธ์
- แบบฝึกหดั เรื่อง ความชน้ื สมั บูรณ์ และความชน้ื สัมพทั ธ์
5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน - ใบงาน Cause & Effect ในหวั ข้อ “จะเป็นอยา่ งไร หากเชยี งรายมี
ความช้นื สมั พทั ธ์ 80 % เปน็ เวลา 1 อาทติ ย์”
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 6. เครอื่ งมอื การสอนคิด

- Cause & Effect - Six thinking hats (Yellow hat) (White Hat)

กิจกรรมการเรยี นรู้ 8. สอื่ 9. วธิ ีวดั ผล
- ประเมินแบบฝกึ หัด
7. ขน้ั ของกิจกรรม - Power Point เร่ือง เร่อื ง ความชื้นสัมบรู ณ์
ความชื้นสัมบรู ณ์ และ และความช้นื สมั พทั ธ์
Do Now (3 นาที) ความชืน้ สัมพทั ธ์ - ประเมินใบงาน
บอกสงิ่ ทส่ี ามารถเปล่ยี นสถานะไดโ้ ดยการระเหย มาคนละ 1 อย่าง โดยห้ามตอบซ้ากนั - แบบฝกึ หัดเรอ่ื ง
ความชนื้ สมั บูรณ์ และ Cause & Effect ใน
Purpose (2 นาที) ความชืน้ สมั พัทธ์
เราจะเรียนเรอ่ื ง ความชน้ื สมั บรู ณ์ และความช้นื สมั พัทธ์ เพ่อื ใหน้ กั เรียนสามารถอธิบาย - ใบงาน Cause & หวั ข้อ “จะเปน็ อยา่ งไร
Effect ในหัวข้อ “จะ
ความสัมพันธ์ระหว่าง อุณหภูมิ ความช้ืนและความกดอากาศทม่ี ผี ลตอ่ ปรากฏการณท์ างลมฟ้า เปน็ อย่างไร หาก หากเชียงรายมี
อากาศ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เชียงรายมคี วามช้นื
Work mode (110 นาท)ี สัมพทั ธ์ 80 % เปน็ เวลา ความชื้นสัมพทั ธ์ 80
1 อาทติ ย์”
1. นกั เรียนตอบคา้ ถามกระตุ้นความคิด “นักเรียนน้าความรเู้ รือ่ งความชื้นไปใชใ้ นชวี ติ ประจา้ วนั ได้ % เป็นเวลา 1
อย่างไร” (Yellow hat) (10 นาที)
อาทิตย”์
2. นกั เรียนฟังครูอธิบาย เรอ่ื ง ความชนื้ สมั บูรณ์ และความชื้นสมั พทั ธ์ โดยใช้ Power Point
ประกอบการสอน (15นาที)

3. นกั เรียนจบั คู่ โดยศึกษาเพมิ่ เติมจากอนิ เตอรเ์ นต็ เรอื่ ง ความช้ืนสัมบรู ณ์ และความชนื้ สมั พทั ธ์
(พอเพียง 3 : การมภี ูมิคุม้ กันทดี่ ใี นตัว) (20 นาท)ี

4. แลว้ ทา้ แบบฝกึ หัดเรอ่ื ง ความชืน้ สัมบรู ณ์ และความชนื้ สมั พัทธ์โดยวแิ คราะห์และช่วยกันแก้โจทย์
ปญั หาอยา่ งมเี หตผุ ล (คดิ 1 : คิดวเิ คราะห)์ (คิด5:คิดแกป้ ญั หา) (20 นาที)

5. นักเรียนวิเคราะห์สาเหตแุ ละผลกระทบในหัวขอ้ “จะเป็นอย่างไร หากเชยี งรายมคี วามชืน้ สัมพัทธ์
80 % เป็นเวลา 1 อาทติ ย์” โดยลงมือทา้ ใบงาน Cause & Effect (คิด1 : คิดวเิ คราะห)์ (พอเพียง7 :
สังคม) (25 นาท)ี

6. นักเรียน (ตัวแทนโดยการสมุ่ ) น้าเสนอผลการศึกษาหนา้ ชนั้ เรียนและรว่ มกันโตแ้ ยง้ เพือ่ หาข้อสรปุ
ของหวั ขอ้ ที่ศึกษา (คิด 3 : คดิ วิพากษ์) (สมรรถนะ 3) (10 นาที)

7. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ เชอ่ื มโยงความคิด เกี่ยวกับความชื้นสมั บูรณ์ และความชนื้ สัมพัทธ์ (คดิ 6 :
คิดสังเคราะห)์ (10 นาท)ี

Reflective Thinking (5 นาท)ี
- 1 สิ่งท่ีนกั เรียนได้รับจากการเรียนในวันน้คี อื (3 นาท)ี
- ท้าแนวขอ้ สอบ O-NET 2 ขอ้ (2 นาที)


ชื่อ..........................................................................ชนั้ ...........เลขท่ี.........

ใบงาน Cause & Effect

คาช้ีแจง : ให้นกั เรยี นวิเคราะหส์ าเหตุและผลกระทบในหวั ขอ้ “จะเป็นอยา่ งไร หากเชียงรายมีความชน้ื สมั พัทธ์
80 % เป็นเวลา 1 อาทิตย์”

ผล

“จะเปน็ อย่างไร หาก ผล
เชียงรายมคี วามชืน้ ผล
สัมพทั ธ์ 80 % เปน็ เวลา
ผล
1 อาทิตย์”

ผล

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………


แนวข้อสอบ O –NET

1. การวัดความช้ืนในอากาศนยิ มวัดเป็นความชน้ื สัมพนั ธโ์ ดยใชเ้ ครือ่ งมอื ชนดิ ใด

ก. ไฮโกรมเิ ตอร์
ข. ไฮโดรมิเตอร์
ค. เทอร์มอมิเตอร์
ง. แอมิมอมเิ ตอร์

2. ถ้าขนาดมวลของไอน้าที่มีอยจู่ รงิ ในอากาศในขณะนนั้ เท่ากับมวลของไอนา้ ในอากาศอิ่มตัว ท่อี ณุ หภมู แิ ละ
ปริมาณเดยี วกนั ค่าความช้ืนสมั พันธข์ องอากาศเปน็ เทา่ ใด

ก. 100
ข. 0
ค. 60
ง. 50

ที่มา : http://www.rmutphysics.com/charud/exercise-online/atmosphere1/7584.htm


แบบประเมินใบงาน Cause and Effect

คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินก้าหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect

ชือ่ -สกลุ การแสดง เนื้อหา นาเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผลการ
ลาดบั ที่ ของผรู้ ับการ ความ สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมิน ผ่าน/
คดิ เห็น (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมิน (4คะแนน) (4คะแนน) ไม่ผ่าน

ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

นกั เรียนได้ระดบั คุณภาพที่ พอใช้ ข้ึนไปถือว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Cause and Effect

เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมนิ
4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง)
การแสดง
ความคิดเหน็ - แสดงความคดิ เหน็ - แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคดิ เหน็ - - แสดงความคิดเห็น
ผลกระทบของปัญหา/เหตุ ผลกระทบของปญั หา/
การฌไ์ ด้ 10 ข้อข้ึนไป ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ เหตกุ ารณไ์ ด้ นอ้ ยกวา่ 6
ข้อ
เหตุการณไ์ ด้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ข้อ

เนือ้ หา - เน้ือหาครบถ้วนตามสาระที่ - เน้อื หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เน้อื หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เน้อื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี
ก้าหนด 100% กา้ หนด 80-99% กา้ หนด 60-79% กา้ หนดต่้าวา่ 59%
การน้าเสนอ - เขียนถกู ตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลักภาษา - เขียนถูกต้องตามหลักภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลักภาษา
100% 80-99% 60-79% ตา้่ ว่า 59%
ความสวยงาม - ล้าดับหัวข้อเนอื้ หาชัดเจน - ล้าดับหวั ขอ้ เน้ือหาชดั เจน - มีการสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรปุ ไม่สมเหตุสมผล
การตรงต่อ - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง สมเหตุสมผล 60-79% ต่้าวา่ 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
เวลา - พดู ชดั เจนเสียงดงั ฟงั ชดั - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดน้าเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ ง
อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระตา้่ ว่า 59%
- บุคลกิ ภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
มนั่ ใจ - ความพรอ้ มในการน้าเสนอ
- มกี ารใช้ส่ือประกอบการ ไดบ้ างส่วน - ใช้สีสนั สวยงามและมีความ - ใชส้ ีสันสวยงามหรือเปน็ ไป
นา้ เสนอ สะอาด ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอยา่ ง
- ความพรอ้ มในการน้าเสนอ - ใช้สีสันสวยงาม หน่ึง
- ใช้สสี ันสวยงาม - มคี วามสะอาด ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า
- มคี วามสะอาด - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ เวลาที่ก้าหนด 10 นาที ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้ กว่า
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์ เวลาทก่ี ้าหนด 15 นาที
- ความเป็นระเบียบอ่านง่าย ส่งผลงานครบถ้วน แต่ช้ากว่า
ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม เวลาที่ก้าหนด 5 นาที
เวลาที่ก้าหนด


แบบฝึ กหดั
เรอื่ ง ความชืน้ สมั บรู ณ์ และความชืน้ สมั พทั ธ์

คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนแกโ้ จทยป์ ัญหาโดยแสดงวิธที ้าตามล้าดบั ขน้ั ตอนให้ถกู ต้อง


แผนจัดการเรียนรู้ท่ี 26 หน่วยยอ่ ยท่ี 3
ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 1 ชัว่ โมง
เร่อื ง การเกิดฝน ผู้สอน นายศุภกิตต์ิ ประเสริฐ
วันท่ีทาการสอน.........................เดอื น............................พ.ศ.................

1. สาระสาคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั

ฝน เกิดจากอนภุ าคของไอน้าขนาดตา่ งๆในก้อนเมฆเม่ือมี มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/3 เปรียบเทียบกระบวนการเกิดพายุ ฝน
ขนาดใหญข่ ึนจนไม่สามารถลอยตัวอยใู่ นก้อนเมฆได้กจ็ ะตกลงมาเป็นฝน ฟ้าคะนองและพายหุ มุนเขตร้อน และผลท่มี ีต่อสงิ่ มชี ีวติ และ
ฝนจะตกลงมายงั พืนดนิ ได้นนั จะตอ้ งมเี มฆเกดิ ในทอ้ งฟ้ากอ่ น เมฆมีอยู่ ส่งิ แวดล้อมรวมทังนา้ เสนอแนวทางการปฏิบตั ิตนใหเ้ หมาะสม
หลายชนดิ มเี มฆบางชนิดเท่านนั ทที่ ้าใหม้ ีฝนตก และปลอดภยั

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน

การเกดิ ฝน -ใบงาน PMI เรอื่ ง ปรมิ าณน้าฝนทีม่ ากกวา่ ปกติในฤดูฝน

5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 6. เครอื่ งมือการสอนคิด
ความสามารถในการคดิ PMI, Six Thinking hat (White hat)

กิจกรรมการเรยี นรู้ 8. สือ่ 9. วธิ วี ดั ผล
- ประเมินใบงาน
7. ข้ันของกจิ กรรม - PowerPoint เรื่อง
PMI เรื่อง
Do Now (3นาท)ี การเกิดฝน ปริมาณนา้ ฝนท่ี
“บอกชื่อนา้ ขวดหรือนา้ ชาไข่มกุ มาคนละ 1 อย่างหา้ มซา้ กัน” - ใบความรู้ เร่อื ง
Purpose (2 นาที) การเกิดฝน มากกวา่ ปกติในฤดู
เราจะเรียนเรื่อง การเกดิ ฝนเพ่ือให้นักเรียนวเิ คราะห์ข้อดขี อ้ เสยี ของการเกดิ ฝนและผลที่มตี ่อ
สิง่ มีชีวติ และสง่ิ แวดลอ้ มรวมทงั น้าเสนอแนวทางการปฏิบัตติ นให้เหมาะสมและปลอดภัย - ใบงาน PMI เรื่อง ฝน
Work mode (50นาที)
1. นกั เรียนตอบคา้ ถาม กระตนุ้ ความคดิ ตอ่ ไปนี (5 นาที ) ปริมาณน้าฝนท่มี ากกวา่
ปกตใิ นฤดูฝน
1.1 นักเรียนคิดวา่ ท้าไมฝนถึงตกในปรมิ าณมากในบางช่วงเดอื นของแตล่ ะปี
1.2 นกั เรียนคดิ วา่ ทา้ ไมฝนถงึ ตกในปริมาณน้อยหรอื ไมต่ กเลยในบางชว่ งเดอื นของแต่ละปี
2. นกั เรยี นฟงั ครูอธบิ าย เรื่อง การเกดิ ฝน โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบการเรียนการ
สอน ( 15 นาที )
3. นกั เรียนร่วมกนั ท้ากจิ กรรมกลุ่ม Brainstorming กลมุ่ ละ 4 กลุม่
โดยวเิ คราะหข์ ้อดี ขอ้ เสยี ขอ้ เสนอแนะ การเกดิ ฝน ในใบงาน PMI เรือ่ ง
ปริมาณน้าฝนท่มี ากกว่าปกติในฤดฝู น ( คดิ 1 : คิดวิเคราะห์ ) (สมรรถนะ 4) (พอเพยี ง 7
สงั คม ) (20 นาที)
4. นกั เรียน(ตวั แทน) แต่ละกลมุ่ นา้ เสนอผลงานหนา้ ชันเรยี นและ อภิปราย/โตแ้ ยง้ ผลงาน
รว่ มกัน (สมรรถนะ 3) (5 นาที)
5. นักเรียนและครู รว่ มกนั อภปิ รายและสรุปเช่อื มโยงความรู้ เก่ยี วกบั การเกดิ ฝน
โดยตอบคา้ ถามต่อไปนี ( 5 นาที )
5.1 ประรมิ าณน้าฝนกมี่ ลิ ลติ ร ถือว่าเปน็ ปริมาณฝนตกหนกั (White hat)

5.2ช้ิปนะงเทาศนไทดยมคี ่าเฉลย่ี ปรมิ าณน้าฝนสูงสดุ ในชว่ งเดือนใดถงึ เดอื นใด ทีเ่ ปน็ ฤดูฝน

Reflective thinking (5 นาท)ี
- “1 สิง่ ทน่ี กั เรยี นได้รบั ” (2 นาที)
- ท้าแนวขอ้ สอบ O-NET 1 ขอ้ (3 นาท)ี


แบบประเมินใบงาน PMI

ลาดบั ชอ่ื -สกลุ การแสดงความ เนื้อหา นาเสนอ ความสวยงาม ตรงต่อเวลา รวม สรุปผลการ
ท่ี ของผูร้ บั การประเมนิ คดิ เห็น 20 คะแนน ประเมิน
( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ผ่าน/ไมผ่ ่าน
( 4 คะแนน )

ลงชื่อ ....................................................ผู้ประเมนิ
................/................/................

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

18 - 20 ดีมาก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต้า่ กว่า 10 ปรับปรงุ

นักเรียนได้ระดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ขึนไปถือวา่ ผา่ น


ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
ความ - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง
คิดเห็น - แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน
P ได้ น้อยกว่า 7 ขอ้
ชอ่ ง P ได้ 10 ขอ้ ขนึ ไป ช่อง P ได้ 9-10 ข้อ ชอ่ ง P ได้ 7-8 ขอ้ - แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง

- แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคิดเหน็ ใน M ได้ นอ้ ยกว่า 7 ข้อ
- แสดงความคิดเห็นในช่อง
ชอ่ ง Mได้ 10 ข้อขึนไป ช่อง M ได้ 9-10 ข้อ ช่อง M ได้ 7-8 ข้อ
I ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน

ชอ่ ง I ได้ 10 ข้อขนึ ไป ช่อง I ได้ 9-10 ข้อ ช่อง I ได้ 7-8 ข้อ

เนอื หา - เนอื หาครบถ้วนตาม - เนอื หาถูกตอ้ งตามสาระ - เนือหาถูกตอ้ งตามสาระ - เนือหาถกู ตอ้ งตามสาระ

สาระทีก่ ้าหนด 100% ทก่ี า้ หนด 80-99% ท่ีก้าหนด 60-79% ทีก่ ้าหนดตา่้ กว่า 59%

- เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั - เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก - เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตา้่ กว่า 59%

- ลา้ ดบั หัวขอ้ เนอื หา - ลา้ ดบั หวั ข้อเนือหา - มีการสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ไม่

ชดั เจน ชดั เจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตุสมผลต่า้ กวา่

- มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรปุ ไดอ้ ย่าง 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนา้ เสนอ - พดู ชัดเจนเสียงดังฟังชดั - พดู ชัดเจนเสียงดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดน้าเสนอได้

- ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง - ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ ง

ตามอกั ขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอกั ขระ60-79% ตามอกั ขระต่า้ วา่ 59%

- บุคลิกภาพดีและมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลิกภาพเหมาะสม - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม

มั่นใจ - ความพรอ้ มในการ

- มกี ารใช้สื่อประกอบการ น้าเสนอได้บางสว่ น

น้าเสนอ

- ความพรอ้ มในการ

น้าเสนอ


แนวขอ้ สอบ O-NET
1 .วฏั จักรใดหมนุ เวยี นไมม่ ที ่สี นิ สุด
1.ไฟ
2.แก๊ซ
3.น้า
4.ดิน
ท่มี า https://quizizz.com/admin/quiz/5a8696588b167700229457dc/-1-4-


แผนจดั การเรียนรูท้ ี่ 27

ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ บรรยากาศ หนว่ ยย่อยที่ 3
เรอ่ื ง หยาดนา้ ฟา้ เวลา 2 ชวั่ โมง
วันทที่ าการสอน..........เดือน................พ.ศ............ ผู้สอน นายศุภกิตติ์ ประเสรฐิ

1. สาระสาคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
กอ้ นเมฆท่ีเกิดจากการรวมตัวกนั ของหยดนา้ ไอน้า และ ว 3.2 ม.1/2 อธบิ ายปัจจยั ที่มีผลต่อการเปลยี่ นแปลง
องค์ประกอบของลมฟ้าอากาศ จากจอ้ มลู ที่รวบรวมได้
เกล็ดน้าแข็งเม่ือมีขนาดใหญ่ และมีน้าหนักมากจนไม่สามารถพยงุ
ตัวอย่ใู นรูปกอ้ นเมฆได้ กจ็ ะตกลงมาบนพืนในรปู ของ “หยาดน้า 4. ชน้ิ งาน / ภาระงาน
ฟา้ ” - ใบงาน Diagram หยาดนา้ ฟา้
- ใบงาน เรอ่ื ง หยาดน้าฟา้ (ตามแนว PISA)
3. สาระการเรียนรู้
หยาดน้าฟา้

5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน 6. เคร่ืองมอื การสอนคดิ
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - Diagram - Six thinking hat (White Hat)

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ข้ันของกจิ กรรม 8. สือ่ 9. วธิ วี ัดผล

Do Now (3 นาท)ี - Power Point เรือ่ ง - ประเมินใบงาน

บอกสง่ิ ทจ่ี า้ เปน็ ทสี่ ุด เม่อื เวลาฝนตกและไฟฟา้ ดับ มาคนละ 1 อยา่ ง ห้ามซา้ กนั หยาดน้าฟ้า Diagram หยาดนา้ ฟ้า
- ประเมนิ ใบงาน เรอื่ ง
Purpose (2 นาที) - ใบงาน Diagram หยาดนา้ ฟ้า (ตามแนว
PISA)
เราจะเรยี นเร่อื ง หยาดนา้ ฟ้า เพอ่ื ให้นักเรียนบอกประเภทของหยาดน้าฟ้า และการวดั หยาดน้าฟ้า

ปริมาณของหยาดน้าฟ้าไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง - สอื่ Power

Work mode (110 นาที) ประกอบการสอนเรอื่ ง

1. นักเรียนตอบค้าถามเพ่อื ทบทวนความรเู้ ดิม “เมฆแบ่งประเภทตามความสูงจาก หยาดนา้ ฟ้า

พนื ดนิ ไดเ้ ป็นกี่ประเภท อะไรบ้าง” (White hat) (5 นาท)ี - หอ้ งเรยี นออนไลนเ์ รอ่ื ง

2. นกั เรียนฟงั ครูอธิบายเพม่ิ เติมเรื่องหยาดนา้ ฟ้า โดยใชส้ อื่ Power point ประกอบการ หยาดน้าฟ้า

สอน (สมรรถนะ 3) (15 นาท)ี

3. นักเรยี นสบื คน้ เพ่ิมเตมิ จากหอ้ งเรียนออนไลน์ เรอ่ื งหยาดนา้ ฟ้า (พอเพียง3 : การมี

ภูมคิ มุ้ กันทดี่ )ี (สมรรถนะ 6) (15 นาที)

4. นักเรยี นสรุปความรู้ในรูปแบบแผนผังมโนทศั น์ ลงมอื ท้าใบงาน Diagram เรอื่ งหยาด

น้าฟ้า (คดิ 9 : คดิ เชิงมโนทัศน์) (สมรรถนะ 2) (35 นาที) - ใบงาน เรือ่ ง หยาด
5. นักเรยี น (ตวั แทนโดยการสมุ่ ) ออกมาน้าเสนอใบงาน Diagram เรื่องหยาดนา้ ฟา้ นา้ ฟา้ (ตามแนว PISA)

(สมรรถนะ 3) (10 นาท)ี

6. นักเรียนวิเคราะหค์ า้ ตอบโดยท้าใบงานตามแนว Pisa เร่ือง หยาดนา้ ฟา้ (20 นาที)


กิจกรรมการเรียนรู้ 8. สอ่ื 9. วิธวี ดั ผล

7. ข้นั ของกิจกรรม

7. นักเรียนและครรู ่วมกนั สรปุ เชือ่ มโยงความคดิ เกย่ี วกบั เรอื่ งหยาดนา้ ฟา้
(คิด6 : คดิ สงั เคราะห์) พรอ้ มทงั ร่วมกันตอบคา้ ถามดงั นี (10 นาที)

“เมฆอะไรทม่ี กี ารเปลยี่ นแปลงกลายเปน็ ฝน และมกี ระบวนการเปลย่ี นแปลง
อยา่ งไร?” (White hat)
Reflective Thinking (5 นาที)

- 1 สิ่งทีน่ ักเรียนสงสยั จากการเรียนในวนั นีคอื (3 นาที)
- ท้าแนวข้อสอบ O-NET 2 ข้อ (2 นาที)


ใบความรเู้ รื่อง หยาดนา้ ฟา้

ก้อนเมฆทีเ่ กิดจากการรวมตวั ของหยดนา้ ไอน้า และเกล็ดน้าแข็ง และมีนา้ หนกั มากจนไม่
สามารถพยุงตัวอยู่ในรูปกอ้ นเมฆได้ ก็จะตกลงมาบนพนื ในรูปของ “หยาดน้าฟ้า”

1. ประเภทของหยาดนา้ ฟา้
- ฝน (rain) เกิดจากละอองน้าในเมฆ มขี นาดใหญข่ นึ จนไม่สามารถพยงุ ตัวอยใู่ นกอ้ นเมฆได้

จงึ ตกลงมาอยู่ในก้อนเมฆได้ จึงตกลงมาเป็นฝน โดยประเทศไทยมีค่าเฉลย่ี ปรมิ าณน้าฝนช่วงเดอื น
พฤษภาคมถึงตุลาคมสงู เกดิ เปน็ ฤดฝู น

- หิมะ (snow) เกิดจากไอน้าและละอองนา้ ในอากาศท่มี ีอุณหภมู ิต่้าจบั ตัวกันเปน็ เกล็ดน้าแข็ง
ขนาดเล็กแลว้ ตกลงสู่พืนโลก

- ลกู เหบ็ (hail) เกดิ จากผลึกนา้ แข็งในเมฆควิ มูโลนิมบสั ที่กา้ ลงั ตกลงมาด้านลา่ งแลว้ ถูกกระแส
ลมพักขึนดา้ นบนซ้าแล้วซ้าเล่า จนเกดิ การสะสมตัวเปน็ ผลึกนา้ แข็งทีใ่ หญข่ ึนและตกลงมาเปน็ ลูกเหบ็

2. การวดั ปริมาณของหยาดนา้ ฟ้า
เครอ่ื งมอื ที่นยิ มวัดปริมาณหยาดนา้ ฟ้าได้แก่
- เครอ่ื งวัดฝนแบบมาตรฐาน (standard rain gauge) ลักษณะเป็นทรงกระบอกซอ้ นกัน 2
ชัน ใช้วดั ปริมาณฝนในหน่วยมิลลเิ มตร นอกจากนยี ังสามารถน้าไปประยุกตใ์ ชใ้ นการวัด
ปริมาณหิมะได้อีกดว้ ย
- เครื่องวัดฝนแบบชั่งนา้ หนกั (weighing-type rain gauge) ใชช้ ั่งน้าหนกั ด้วยความละเอียด
สงู แลว้ นา้ ค่าที่ไดแ้ ปลึงเป็นปริมาณฝนหรอื หิมะที่ตกลงมา
- เรดาห์ตรวจอากาศ (weather radar) อาศยั หลักการสะทอ้ นของคลืน่ วทิ ยตุ รวจวดั ความ
เข้มของหยาดน้าฟา้ ในแต่ละพนื ท่ี


ตารางที่ 3 การเกิดฝนลกั ษณะตา่ ง ๆ ลักษณะการเกดิ
ลักษณะ

ฝนพาความรอ้ น เกดิ จากอากาศรอ้ นขึนยกตัวขึนสูง ทา้ ให้ไอนา้ ในอากาศร้อนนัน
กลั่นตัวเปน็ เมฆและตกลงมาเป็นฝน พบในชว่ งฤดรู ้อนหรอื ช่วง
เดือนมีนาคมถงึ เดือนพฤษภาคม

ฝนภเู ขา เกดิ จากอากาศชนื เคลือ่ นทีม่ าปะทะกับภูเขา บริเวณดา้ นหนา้ ภเู ขา
ท่ีเกิดจากการปะทะจึงมีฝนตก และดา้ นหลังภูเขาจะเกดิ พนื ทฝ่ี น
แลง้ ทเ่ี รยี กวา่ “เงาฝน” ฝนชนิดนีตกมากและบอ่ ยครัง พบในช่วง
เดือนพฤษภาคมถงึ เดอื นพฤศจิกายน

ฝนพายหุ มนุ เกิดจากพายหุ มนุ ท่ีมีมวลอากาศไหลเขา้ สศู่ นู ย์กลางหยอ่ มความกด
อากาศต้่า มวลอากาศจะยกตัวสูงขนึ อยา่ งรวดเรว็ ทา้ ให้ไอนา้ กล่ัน
ตัวกลายเป็นเมฆหนาทบึ และตกลงมาเปน็ ฝน พบในเดอื นมิถุนายน
ถงึ ตลุ าคม

ฝนแนวปะทะ เกดิ จากอากาศร้อนและอากาศเย็นเคลอ่ื นมาปะทะกัน ท้าให้เกดิ
การก่อตวั เปน็ เมฆและตกลงมาเป็นฝน เกิดในช่วงเดอื นตลุ าคมถงึ
เดอื นพฤศจกิ ายน และเดือนกมุ ภาพันธถ์ งึ เดอื นเมษายน


ใบงาน Diagram
คาชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นสรปุ ความร้ใู นรูปแบบแผนผังมโนทศั น์ ลง


ช่ือ............................................................................ชนั ..........เลขท่.ี ...........

m เรอื่ งหยาดน้าฟา้
งในใบงาน Diagram ต่อไปนใี หถ้ กู ตอ้ ง


ขอ้ สอบ O-net

1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หยาดนา้ ฟา้
ก. ลูกเห็บ
ข. หมอก
ค. ฝน
ง. หิมะ

2. ละอองน้าในอากาศรวมตวั กันเป็นหยดน้าขนาดใหญ่มนี ้าหนกั มากจนอากาศไมส่ ามารถอมุ้ ไว้ได้ตกลงมา
ผา่ นอากาศเยน็ จัดรวมตวั กันกลายเปน็ เกลด็ ของแข็งบนพนื้ ดินเรียกว่าอะไร

ก. ฝน
ข. เมฆ
ค. หิมะ
ง. ลกู เหบ็

ที่มา : https://www.slideshare.net/dnavaroj/2-1-2-27195083


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram

คาชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น ใหท้ ้าเครือ่ งหมายลงในชอ่ งรายการประเมินก้าหนด

ความ สรุปผล

ลา้ ดับที่ ช่อื -สกลุ ความถูกตอ้ ง ครอบคลมุ สอดคล้อง ตรงต่อเวลา ความสะอาด รวม การ
ของผู้รบั การประเมิน ของเนอื หา เนอื หา และเชอื่ มโยง 4 เรียบร้อย 20 ประเมิน
ของเนือหา คะแนน ผ่าน/ไม่
4 4 4
4 ผา่ น

4321 43214 32 14321 4321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึนไปถือว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน Diagram

เกณฑ์การ ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
รปู แบบ
- มีหัวขอ้ ท่ีชดั เจน - มหี วั ขอ้ ทช่ี ัดเจน - มีหัวขอ้ ทช่ี ัดเจน - มหี วั ข้อท่ชี ัดเจน
เนอื หา - เขยี นอย่ใู นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ
- ใชค้ ้าสา้ คญั ตรงประเด็น - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ
การนา้ เสนอ - ใช้สญั ลกั ษณ์หรือภาพส่ือ - เนือหาถกู ต้องตามสาระท่ี
- ใช้ค้าส้าคัญตรงประเด็น - ใชค้ า้ สา้ คญั ตรงประเด็น กา้ หนดต่้ากว่า 59%
ความสวยงาม ความหมาย - เขียนถกู ต้องตามหลักภาษา
การตรงต่อ - ใช้สีสนั ทว่ั แผน่ - ใชส้ ัญลกั ษณห์ รอื ภาพสอื่ ต่า้ กวา่ 59%
- เนือหาครบถ้วนตามสาระที่ - มกี ารสรุปไมส่ มเหตุสมผล
เวลา กา้ หนด 100% ความหมาย ต้่ากว่า 59%
- เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา
100% - เนือหาถูกตอ้ งตามสาระท่ี - เนือหาถูกต้องตามสาระท่ี - สามารถพูดน้าเสนอได้
- ล้าดับหัวขอ้ เนอื หาชดั เจน - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
- มกี ารสรุปได้อย่าง ก้าหนด 80-99% ก้าหนด 60-79% ตามอักขระตา้่ กวา่ 59%
สมเหตสุ มผล 100% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
- พดู ชดั เจนเสียงดงั ฟังชดั - เขยี นถูกต้องตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา
- ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชส้ สี นั สวยงามหรือเป็นไป
อกั ขระ100% 80-99% 60-79% ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ ง
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ หนงึ่
มัน่ ใจ - ล้าดับหวั ข้อเนือหาชดั เจน - มีการสรุปไดอ้ ย่าง
- มีการใช้สอ่ื ประกอบการ ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กว่า
นา้ เสนอ - มกี ารสรุปได้อย่าง สมเหตุสมผล 60-79% เวลาทก่ี ้าหนด 15 นาที
- ความพร้อมในการน้าเสนอ
- ใช้สีสันสวยงาม สมเหตุสมผล 80-99%
- มคี วามสะอาด
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - พดู ชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - การพูดเหมาะสม
- ความเปน็ ระเบียบอา่ นง่าย
ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม - ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม
เวลาทก่ี ้าหนด
อกั ขระ80-99% อักขระ60-79%

- บุคลกิ ภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม

- ความพรอ้ มในการนา้ เสนอ

ได้บางส่วน

- ใช้สีสนั สวยงาม - ใช้สีสนั สวยงามและมีความ
- มีความสะอาด สะอาด
- มีความคิดสร้างสรรค์

ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากวา่ ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กว่า

เวลาทีก่ า้ หนด 5 นาที เวลาท่กี ้าหนด 10 นาที


ตอบค้าถามถูกต้อง เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน PRACQUIZ
ตอบค้าถามไมถ่ ูกต้อง เรื่อง หยาดน้าฟ้า

1 คะแนน
0 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

5 ดมี าก

3-4 ดี

1-2 พอใช้

0 ปรับปรุง

นักเรียนไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี ดี ขึนไปถอื ว่า ผ่าน


ใบงานPISA เร่ือง หยาดน้าฟา้

คาชแี้ จง : จงตอบคาถามข้อ 1 – 4 จากภาพทก่ี าหนดใหต้ อ่ ไปน้ี ( 10 คะแนน )

อา้ งอิง : http://www.lesa.biz/_/rsrc/1305910514675/ 400

คาถามท่ี 1 (ขอ้ ละ 2 คะแนน)

จากข้อมูล จงเขยี นวงกลมลอ้ มรอบค้าวา่ “ใช”่ หรือ “ไมใ่ ช่” ในแต่ละขอ้ ความ

ข้อ ข้อความ คาตอบ
ใช่ / ไม่ใช่
ละอองหมอก (Mist) เป็นหยดนำ้ ขนำด 0.005 – 0.05 มลิ ลเิ มตร ใช่ / ไมใ่ ช่
ใช่ / ไม่ใช่
1. เกดิ จำกเมฆสตรำตสั ทำใหเ้ รำรูส้ กึ ชืน้ เมือ่ เดนิ ผำ่ น มกั พบบนยอดเขำ

สงู

2. ฝน (Rain) เป็นหยดนำ้ มขี นำดประมำณ 0.5 – 5 มลิ ลเิ มตร ฝนสว่ น
ใหญ่ตกลงมำจำกเมฆนิมโบสตรำตสั และเมฆคิวมโู ลนิมบสั

หมิ ะ (Snow) เป็นผลกึ นำ้ แขง็ ขนำดประมำณ 1 – 20 มลิ ลเิ มตร ซึง่

3. เกดิ จำกไอนำ้ จำกนำ้ เยน็ ย่งิ ยวด ระเหิดกลบั เป็นผลกึ นำ้ แขง็ แลว้ ตกลง

มำ (เคยมีหิมะตกท่ีจงั หวดั เชียงรำย ในปีที่อำกำศหนำวเยน็ มำก)


ลกู เห็บ (Hail) เป็นกอ้ นนำ้ แขง็ ขนำดใหญ่กวำ่ 5 เซนตเิ มตร เกิดขนึ้ ใช่ / ไม่ใช่

4. จำกกระแสในอำกำศแนวดงิ่ ภำยในเมฆควิ มโู ลนมิ บสั พดั ใหผ้ ลกึ

นำ้ แขง็ สะสมตวั จนมีขนำดใหญ่และตกลงมำ

(สมรรถนะ : การระบปุ ญั หาเชิงวทิ ยาศาสตร์)

คาถามที่ 2 (ข้อละ 1 คะแนน)
ขอ้ ใดถูกตอ้ ง
1. การเกดิ เมฆฝนระดับต้องตา้่ กวา่ 8 กิโลเมตรเท่านัน
2. ผลกึ นา้ แขง็ เยน็ ตวั ลงยวด -20 องศาเซลเซยี สเท่านัน
3. ฝนเกิดจากการควบแน่นของของแกส๊ เทา่ นนั
4. ถกู ทุกขอ้

ข้อ คาตอบ

(สมรรถนะ : การระบปุ ัญหาเชงิ วทิ ยาศาสตร์)


เกณฑ์การให้คะแนน / แนวคาตอบ

คาถามที่ 1 (ขอ้ ละ 2 คะแนน) จากขอ้ มูล จงเขียนวงกลมล้อมรอบค้าวา่ “ใช่” หรือ “ไมใ่ ช่”

ข้อ ข้อความ คาตอบ

1. ละอองหมอก (Mist) เป็นหยดนำ้ ขนำด 0.005 – 0.05 มลิ ลเิ มตร เกิดจำกเมฆสตรำตสั ทำใหเ้ รำ ใช่ / ไม่ใช่
รูส้ กึ ชืน้ เมอื่ เดนิ ผำ่ น มกั พบบนยอดเขำสงู

2. ฝน (Rain) เป็นหยดนำ้ มขี นำดประมำณ 0.5 – 5 มลิ ลเิ มตร ฝนส่วนใหญ่ตกลงมำจำกเมฆนิมโบ ใช่ / ไม่ใช่
สตรำตสั และเมฆควิ มโู ลนมิ บสั

หมิ ะ (Snow) เป็นผลกึ นำ้ แขง็ ขนำดประมำณ 1 – 20 มลิ ลเิ มตร ซง่ึ เกิดจำกไอนำ้ จำกนำ้ เย็น ใช่ / ไมใ่ ช่

3. ย่ิงยวด ระเหิดกลบั เป็นผลกึ นำ้ แขง็ แลว้ ตกลงมำ (เคยมีหมิ ะตกท่ีจงั หวดั เชียงรำย ในปีที่อำกำศ

หนำวเย็นมำก)

4. ลกู เห็บ (Hail) เป็นกอ้ นนำ้ แขง็ ขนำดใหญ่กวำ่ 5 เซนตเิ มตร เกดิ ขนึ้ จำกกระแสในอำกำศแนวดงิ่ ใช่ / ไมใ่ ช่
ภำยในเมฆคิวมโู ลนิมบสั พดั ใหผ้ ลกึ นำ้ แขง็ สะสมตวั จนมขี นำดใหญ่และตกลงมำ

คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนนเต็ม 1 คะแนน คะแนนเต็ม 0 คะแนน

ตอบถกู ทงั้ 4 ขอ้ : ใช่ / ไมใ่ ช่ ตอบถกู 3 ขอ้ ตอบถกู 2-0 ขอ้

/ ใช่ / ไม่ใช่

คาถามท่ี 2 (ข้อละ 1 คะแนน)

ข้อ คาตอบ
ฝนเกิดจำกกำรควบแนน่ ของของแก๊สเทำ่ นนั้

3

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

3 ดมี าก

2 ดี

1 พอใช้

จ ปรบั ปรงุ

นักเรยี นระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ขนึ ไปถอื วา่ ผ่าน


แผนจดั การเรยี นรู้ท่ี 28 หนว่ ยย่อยที่ 3
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 1 ช่ัวโมง
เร่อื ง แผนท่ีอากาศ ผู้สอน นายศุภกติ ต์ิ ประเสรฐิ
วนั ท่ีทาการสอน.........................เดือน............................พ.ศ.................

1. สาระสาคญั 2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ว 3.2 ม.1/5 ตระหนักถึงคุณคา่ ของการพยากรณ์อากาศ โดย
แผนทอี่ ากาศคือ เปน็ แผนที่แสดงองคป์ ระกอบทาง นาเสนอแนวทางการปฏบิ ัติตนและการใชป้ ระโยชน์จากคา
อตุ ุนิยมวทิ ยา ณ เวลาใดเวลาหนงึ่ ข้อมูลตา่ งๆ ในแผนท่ีอากาศไดร้ บั มา พยากรณอ์ ากาศ
จากเครอื ข่ายสถานีตรวจอากาศผิวพ้นื ท้ังหลาย รวบรวมแลว้ เขียนขึ้น
เป็นตัวเลข รหัส และสญั ลักษณต์ า่ งๆ ทางอตุ ุนยิ มวิทยา 4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน

3. เน้ือหา/สาระการเรียนรู้ - ใบงาน KWL เรอ่ื ง แผนที่อากาศ

แผนทอี่ ากาศ

5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 6. เครื่องมอื การสอนคิด
ความสามารถในการคิด - KWL, Six Thinking hat (White hat)
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

6. ข้นั ของกิจกรรม 7. สื่อ 8. วิธีวัดผล

Do Now (3นาที) - Powerpoint เร่อื ง - ประเมนิ ใบงาน KWL เรอ่ื ง
แผนทีอ่ ากาศ
บอกชื่อปลาที่อยใู่ นน้าเคม็ คนละ 1 ชือ่ หา้ มซ้ากัน แผนทอี่ ากาศ
Purpose (2นาที) - ใบความรู้ เรื่อง
แผนทอ่ี ากาศ
เราจะเรียนเรื่อง แผนทอี่ ากาศ เพือ่ ให้นกั เรยี นสามารถแปลความหมาย -วีดโี อเรือ่ ง แผนท่ีอากาศ
ข้อมลู แผนท่ีอากาศได้อย่างถกู ต้อง
Work mode (50นาที)

1. นกั เรยี นระดมความคดิ โดยครูพดู ถึงคาวา่ “แผนที่อากาศ” คอื อะไร แล้ว

บนั ทกึ ความรู้เดิมเกี่ยวกับเรื่อง ความดนั อากาศ ลงในใบงาน KWL เรอื่ ง

แผนท่อี ากาศ ในชอ่ ง K (พอเพียง7:สังคม) (10นาที)

2. นกั เรยี นตอ้ งการรูอ้ ะไรเพิ่มเตมิ เกี่ยวกับเร่ือง แผนทีอ่ ากาศ จากครผู ู้สอนให้

บนั ทึกลงในช่อง W (สมรรถนะ 1) (10 นาที) - ใบงาน KWLเรื่อง
3. นักเรียนฟังการบรรยายจากครผู สู้ อนเรื่อง แผนทีอ่ ากาศ โดยใชส้ อ่ื แผนที่อากาศ
ประกอบการสอน Power point (สมรรถนะ 3) (15 นาท)ี

4. นักเรยี นศกึ ษาค้นคว้าเพม่ิ เตมิ จากใบความรู้/วีดีโอ เร่ือง แผนท่ีอากาศ และ

วิเคราะหค์ วามรู้ ลงในใบงาน KWL เรือ่ ง แผนท่ีอากาศ โดยบนั ทกึ ความรลู้ ง

ในช่อง L พรอ้ มตกแต่งใบงานใหส้ วยงาม (พอเพียง3:การมภี ูมคิ ุ้มกนั ที่ดใี นตัว)

(10 นาท)ี

5. นักเรยี นและครูสรปุ ความรู้ เรือ่ ง แผนทีอ่ ากาศ โดยครใู ช้คาถาม ดังนี้

(5 นาที)

“บอก1สิ่งทม่ี กั พบในแผนทอี่ ากาศ” (White hat)

“แผนทีอ่ ากาศนอกจากทาให้เราทราบการคาดหมายลักษณะอากาศยงั ทาให้

ทราบอะไรไดอ้ ีกบา้ ง” (คดิ 1:คิดวเิ คราะห์)

Reflective thinking (5 นาท)ี

- “2 สง่ิ ทน่ี กั เรยี นได้รบั ” (3 นาท)ี

- แบบทดสอบหลังเรียน 1 ขอ้ (2 นาท)ี


ใบความรู้เร่ือง แผนทีอ่ ากาศ

แผนทอี่ ากาศ เป็นแผนทแี่ สดงองคป์ ระกอบทางอุตุนิยมวทิ ยา ณ เวลาใดเวลาหน่ึง ขอ้ มูลต่างๆ ในแผนที่
อากาศไดร้ บั มาจากเครือข่ายสถานีตรวจอากาศผวิ พ้นื ท้งั หลาย รวบรวมแลว้ เขียนข้นึ เป็ นตวั เลข รหสั และ
สญั ลกั ษณ์ต่างๆ ทางอุตุนิยมวทิ ยา ขอ้ มลู ท่อี ยใู่ นแผนท่อี ากาศจะนาไปใชใ้ นการคาดหมายการเปล่ียนแปลง
ลกั ษณะอากาศทีจ่ ะเกิดข้ึน ดงั ตวั อยา่ งในภาพ

ตวั อยา่ งสญั ลกั ษณ์ทางอุตุนิยมวทิ ยาบนแผนที่อากาศ ไดแ้ ก่
 L ศูนยก์ ลางของหยอ่ มความกดอากาศต่า เป็ นบริเวณท่ีอากาศรอ้ นยกตวั ทาใหเ้ กิดเมฆ
 H ศูนยก์ ลางของหยอ่ มความกดอากาศสูง เป็ นบริเวณทีอ่ ากาศเยน็ แหง้ แลว้ ฟ้าใส ไม่มีเมฆปกคลุม
 เส้นไอโซบาร์ (Isobar) เป็ นเสน้ โคง้ ท่ลี ากเช่ือมตอ่ บริเวณท่มี ีความกดอากาศเท่ากนั มีตวั เลขแสดง
คา่ ความกดอากาศซ่ึงมีหน่วยเป็ น เฮคโตปาสคาล (hPa) กากบั ไว้
 แนวปะทะอากาศ (Front) เสน้ อาร์คหนาทึบสีแดงมีเคร่ืองหมายวงกลม คอื แนวปะทะอากาศ
รอ้ น เสน้ อาร์คหนาทบึ สีน้าเงินมีลิ่มสามเหลี่ยม คือ แนวปะทะอากาศเยน็ เมืื่อแนวปะทะท้งั สองชน
กนั จะทาใหเ้ กิดฝนตก
 ข้อมูลจากสถานีตรวจอากาศภาคพืน้ แสดงโดยสัญลกั ษณ์ดงั ตวั อยา่ งในภาพท่ี 2 ซ่ึงอธิบายได้ ดงั น้ี
 วงกลม แสดงปริมาณเมฆปกคลุมเหนือสถานี สีขาว: ไม่มีเมฆ สีดา: เมฆมาก
 ลูกศร แสดงทศิ ทางลมทีพ่ ดั เขา้ หาสถานี ขีดฉากท่ีปลายลูกศรแสดงความเร็วลม ขีดยงิ่ มาก
ลมยง่ิ แรง


 ความกดอากาศท่ีระดบั น้าทะเล แสดงดว้ ยตวั เลขขวามือดา้ นบน เป็ นตวั เลขสามหลกั
หมายถึง ตวั เลขทา้ ยสองหลกั และทศนิยมหน่ึงหลกั (107 หมายถึง 1010.7 hPa)

 แนวโนม้ ของความกดอากาศเปรียบเทยี บกบั 3 ชวั่ โมงที่แลว้ แสดงดว้ ยตวั เลขทางดา้ น
ขวามือมีหน่วยเป็น hPa คา่ + หมายถึงความกดอากาศสูงข้ึน, คา่ - หมายถึงความกดอากาศ
ต่าลง

 อุณหภมู ิจุดน้าคา้ ง แสดงดว้ ยตวั เลขขวามือดา้ นลา่ ง
 ลกั ษณะอากาศ แสดงดว้่ ยสญั ญลกั ษณ์อุตนุ ิยมวทิ ยาทางดา้ นขวามือ

 อุณหภูมิอากาศ แสดงดว้ ยตวั เลขดา้ นซา้ ยบน


แบบประเมินใบงาน KWL

คาช้ีแจง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมิน
กาหนดตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน KWL

ลาดับท่ี ชอ่ื -สกลุ การแสดง เนอ้ื หา นาเสนอ ความ ตรงต่อเวลา รวม สรุปผลการ
ของผรู้ บั การ ความ (4) (4) สวยงาม (4) 20 คะแนน ประเมนิ ผ่าน/ไม่
คิดเห็น (4) ผ่าน
ประเมิน (4)

ประเมนิ ลงช่อื ....................................................ผู้
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นได้ระดับคุณภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถอื วา่ ผ่าน


ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน KWL

เกณฑ์การ ระดับการประเมนิ
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ )
ความคิดเหน็ - แสดงความคดิ เห็นในช่อง
- แสดงความคิดเห็นในช่อง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง
K ได้ น้อยกวา่ 7 ขอ้
K ได้ 10 ขอ้ คาถามขึ้นไป K ได้ 9-10 ข้อคาถาม K ได้ 7-8 ข้อคาถาม - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง

- แสดงความคดิ เห็นในช่อง - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง - แสดงความคิดเหน็ ในช่อง W ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง
W ได้ 10 ขอ้ คาถามขึ้นไป W ได้ 9-10 ข้อคาถาม W ได้ 7-8 ข้อคาถาม
L ได้ น้อยกว่า 7 ข้อ
- แสดงความคดิ เห็นในชอ่ ง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง - แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง

L ได้ 10 ข้อคาถามขนึ้ ไป L ได้ 9-10 ข้อคาถาม L ได้ 7-8 ข้อคาถาม

เน้อื หา - เนอื้ หาครบถ้วนตามสาระ - เนื้อหาถูกต้องตามสาระที่ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระที่ - เนอื้ หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี
กาหนดตา่ วา่ 59%
การนาเสนอ ทีก่ าหนด 100% กาหนด 80-99% กาหนด 60-79% - เขียนถกู ตอ้ งตามหลัก
ภาษาต่าวา่ 59%
ความ - เขียนถูกตอ้ งตามหลัก - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลัก - เขยี นถูกต้องตามหลกั - มกี ารสรุปไมส่ มเหตุสมผล
สวยงาม ต่าวา่ 59%
การตรงต่อ ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79%
เวลา - สามารถพดู นาเสนอได้
- ลาดับหัวขอ้ เนื้อหาชัดเจน - ลาดบั หวั ขอ้ เน้อื หาชดั เจน - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง - ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง
ตามอกั ขระต่าว่า 59%
- มีการสรปุ ไดอ้ ย่าง - มีการสรปุ ได้อย่าง สมเหตุสมผล 60-79% - บคุ ลิกภาพเหมาะสม

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99% - ใชส้ ีสันสวยงามหรอื
เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่างใด
- พดู ชดั เจนเสยี งดังฟงั ชัด - พดู ชัดเจนเสยี งดังฟังชดั - การพดู เหมาะสม อย่างหน่งึ

- ใช้ภาษาทางการถกู ต้อง - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้
กว่าเวลาที่กาหนด 15
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอกั ขระ60-79% นาที

- บุคลิกภาพดีและมคี วาม - บุคลกิ ภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม

ม่นั ใจ - ความพรอ้ มในการนาเสนอ

- มีการใชส้ ่อื ประกอบการ ไดบ้ างสว่ น

นาเสนอ

- ความพรอ้ มในการนาเสนอ

- ใช้สสี ันสวยงาม - ใช้สีสนั สวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงามและมี

- มคี วามสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด

- มคี วามคิดสร้างสรรค์ - มคี วามคิดสรา้ งสรรค์

- ความเป็นระเบยี บอ่านงา่ ย

สง่ ผลงานครบถว้ น ตรงตาม สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้า ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้า

เวลาที่กาหนด กว่าเวลาทกี่ าหนด 5 นาที กว่าเวลาท่กี าหนด 10

นาที


แนวขอ้ สอบ O-net

1. พจิ ารณาแผนท่ีอากาศแสดงสภาพอากาศบริเวณเมือง A B C และ D

ถา้ บริเวณเมือง A มีอณุ หภูมิอากาศสูงมาก และอากาศบริเวณเมือง D มีอณุ หภูมิต่ามากๆขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง
ก. บริเวณเมือง A มีโอกาสเกิดพายุ
ข. บริเวณเมือง C ความกดอากาศต่ามาก
ค. กระแสลมจะพดั จากเมือง A ไปเมือง B
ง. บริเวณเมือง C และ D ความกดอากาศจะแตกตา่ งกนั มาก


แผนจัดการเรียนรูท้ ่ี 29 หน่วยยอ่ ยที่ 3
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 2 ชัว่ โมง
เร่ือง การเกดิ พายุ ผสู้ อน นายศุภกติ ต์ิ ประเสรฐิ
วันที่ทาการสอน....................เดอื น................................พ.ศ.................

1. สาระสาคญั 2. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั
การเกดิ พายุเกิดขึนโดยกระแสลมท่ีพัดดว้ ยความเร็วที่สูง ว 3.2 ม.1/3 เปรยี บเทยี บกระบวนการเกิดพายุ ฝนฟ้าคะนองและ
พายหุ มนุ เขตร้อน และผลทีม่ ีต่อสง่ิ มชี ีวติ และสง่ิ แวดล้อม รวมทงั
มาก เนื่องมากจากความกดอากาศทงั สองบรเิ วณแตกต่างกัน น้าเสนอแนวทางการปฏิบตั ิตนให้เหมาะสมและปลอดภัย
ส้าหรบั พายุที่มผี ลอยา่ งมากตอ่ สภาพอากาศของไทย คือ พายหุ มนุ
เขตรอ้ น 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
- ใบงาน Cause and Effect เร่ือง การเกิดพายุ
3. เนอื้ หา/สาระการเรยี นรู้ - ใบงานตามแนวทาง Pisa เรื่อง การเดินทางของนา้ ในโลก
- การเกดิ พายุ

5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น 6. เครื่องมอื การสอนคดิ
- ความสามารถในการคดิ - Six Thinking hat (Black hat) , - Cause and Effect
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้ 8. สือ่ 9. วธิ วี ัดผล
7. ขนั้ ของกจิ กรรม
- ใบงาน Cause and - ประเมนิ ใบงาน Cause
Do Now(3 นาที) Effect เร่ืองการเกดิ พายุ and Effect เรือ่ ง การ
- ใบความรู้ เรอื่ ง การเกดิ เกดิ พายุ
“บอกช่ือผลไม้คนละ 1 ชนดิ หา้ มซา้ กัน” พายุ - ประเมนิ ใบงานตาม
- Power point เร่ือง การ แนวทาง Pisa เร่ือง การ
Purpose (2 นาที) เกดิ พายุ เดินทางของน้าในโลก
- วีดโิ อเร่อื ง พายุในเอเชีย
เราจะเรียนเรื่อง การเกดิ พายุ เพ่ือใหน้ ักเรียนสามารถอธิบายการเกิดพายุ และผลของ
- ใบงานตามแนวทาง Pisa
การเกดิ พายุต่อมนุษยแ์ ละส่ิงแวดลอ้ มได้อย่างถูกต้อง เร่ือง การเดินทางของนา้ ใน
โลก
Work mode (110นาท)ี

1.นักเรียนฟงั ครอู ธิบาย เรอื่ ง การเกดิ พายุ โดยใช้ Power point ประกอบการเรยี น
(15 นาท)ี
2.นักเรยี นพจิ ารณาอธิบายว่า “ถ้าในประเทศไทยเกิดพายใุ ต้ฝ่นุ จะสง่ ผลอยา่ งไร?” ใน
รูปแบบของใบงาน Cause and Effect เรื่อง การเกดิ พาย(ุ คิด1:คดิ วิเคราะห์) (30 นาที)
3.นกั เรียนออกมานา้ เสนอผลงานหนา้ ชนั เรียนและอภปิ รายผลงาน/โต้แย้งรว่ มกัน (คิด3
: คิดวิพากษ์) (สมรรถนะ 3) (15นาที)
4.นักเรียนดวู ีดโิ อเรอ่ื ง พายุในเอเชยี (10 นาที)
5.นักเรียนลงมอื ทา้ ใบงานตามแนวทาง Pisa เรื่อง การเดินทางของนา้ ในโลก (20 นาที )
6.นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปเชอ่ื มโยงความคดิ เก่ยี วกับการเกิดพายุ พร้อมทังร่วมกนั

“ตพอบายคทุช้าถ่ีม้ิ นาคี มวงดาามังนรนีุน(ดแ10รงนมาาทกๆี) จะส่งผลเสียอย่างไรกบั สิ่งมชี วี ติ และส่ิงแวดลอ้ มและมี

แนวทางในการแก้ไขปัญหาอยา่ งไร ?” (Black hat) (คิด5: คิดแก้ปญั หา) (สมรรถนะ 6)
Reflective thinking (5 นาท)ี

- “2 สิ่งทน่ี ักเรียนไดร้ ับ” (2 นาท)ี

- ทา้ แนวข้อสอบ O-NET 2 ขอ้ (3 นาที)


ใบความร้เู รื่อง การเกิดพายุ


ใบงาน Cause and Effect

จะเกดิ อะไรขนึ้ ถา้ เกิดพายุทอนาโดในประเทศไทย?

สิ่งมีชวี ติ บ้านเรอื น


แบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect

คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมิน
กา้ หนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect

ชื่อ-สกุล การแสดง นาเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรปุ ผลการ
ลาดบั ท่ี ของผรู้ บั การ ความ เนอื้ หา สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมนิ ผ่าน/
คดิ เห็น (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมิน (4คะแนน) (4คะแนน) ไมผ่ า่ น

ลงช่ือ ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

นักเรียนได้ระดบั คุณภาพที่ พอใช้ ขนึ ไปถือว่า ผ่าน


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
ความคดิ เหน็ - แสดงความคดิ เห็น - - แสดงความคดิ เห็น
- แสดงความคิดเหน็ - แสดงความคดิ เหน็
ผลกระทบของปัญหา/เหตุ ผลกระทบของปัญหา/
การฌ์ได้ 10 ข้อขึนไป ผลกระทบของปญั หา/ ผลกระทบของปัญหา/ เหตกุ ารณไ์ ด้ น้อยกว่า 6
ข้อ
เหตกุ ารณ์ได้ 8-9 ขอ้ เหตุการณไ์ ด้ 6-7 ขอ้

เนอื หา - เนอื หาครบถว้ นตามสาระที่ - เนือหาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนอื หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนอื หาถูกตอ้ งตามสาระท่ี
ก้าหนด 100% กา้ หนด 80-99% กา้ หนด 60-79% ก้าหนดต่้าว่า 59%
การน้าเสนอ - เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา
100% 80-99% 60-79% ต่้าว่า 59%
ความสวยงาม - ลา้ ดับหวั ข้อเนอื หาชัดเจน - ลา้ ดับหวั ข้อเนอื หาชดั เจน - มีการสรุปไดอ้ ย่าง - มีการสรุปไมส่ มเหตุสมผล
การตรงต่อ - มีการสรปุ ได้อยา่ ง - มีการสรปุ ได้อย่าง สมเหตุสมผล 60-79% ตา้่ ว่า 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
เวลา - พดู ชดั เจนเสียงดังฟังชดั - พูดชัดเจนเสียงดงั ฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู น้าเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ ง
อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระตา่้ วา่ 59%
- บคุ ลิกภาพดีและมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
มั่นใจ - ความพร้อมในการนา้ เสนอ
- มีการใชส้ อ่ื ประกอบการ ไดบ้ างส่วน - ใช้สสี นั สวยงามและมคี วาม - ใช้สสี ันสวยงามหรอื เป็นไป
น้าเสนอ สะอาด ตามเกณฑ์อยา่ งใดอยา่ ง
- ความพร้อมในการน้าเสนอ - ใชส้ สี ันสวยงาม หนึง่
- ใช้สสี นั สวยงาม - มีความสะอาด สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กวา่
- มคี วามสะอาด - มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ เวลาท่ีก้าหนด 10 นาที ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กวา่
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ เวลาทก่ี ้าหนด 15 นาที
- ความเปน็ ระเบยี บอา่ นง่าย ส่งผลงานครบถ้วน แต่ช้ากว่า
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรงตาม เวลาทก่ี ้าหนด 5 นาที
เวลาที่ก้าหนด


แนวขอ้ สอบ O –net

1. ชอื่ เรียกลมพายชุ นิดใดแตกต่างจากขอ้ อื่น
1. เฮอรเิ คน
2. ทอรน์ าโด
3. ดเี ปรสชัน
4. วลิ ลี่ - วิลลี่

2. ประเภทของพายแุ บง่ โดยใช้สิ่งใดเปน็ เกณฑ์
1. ทศิ ทางการเคลอ่ื นที่
2. ลกั ษณะการเกิดของพายุ
3. ความเร็วลมใกลศ้ นู ย์กลาง
4. บริเวณที่มีพายกุ อ่ ตวั

ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/examination/display/622


ใบงานตามแนวทาง PISA เรอ่ื ง การเดนิ ทางของน้าในโลก

คาชแี้ จง : จงตอบคาถามขอ้ 1 – 2 จากภาพท่กี าหนดใหต้ ่อไปน้ี ( 10 คะแนน )
อ้างองิ : https://ngthai.com/science/5773/water-cycle/


คาถามท่ี 1 (ข้อละ 2 คะแนน)

จากข้อมลู จงเขยี นวงกลมลอ้ มรอบค้าว่า “ใช”่ หรือ “ไมใ่ ช่” ในแตล่ ะขอ้ ความ

ขอ้ ขอ้ ความ คาตอบ
1. น้าทผ่ี ิวโลกระเหยไปในอากาศ ใช่ / ไม่ใช่
2. ไอน้าในอากาศลอยออกนอกชันบรรยากาศ ใช่ / ไมใ่ ช่
3. หยดนา้ ในเมฆตกลงมาเปน็ ฝน ใช่ / ไมใ่ ช่
4. นา้ เค็มอย่ใู นทะเล มหาสมุทร ใช่ / ไมใ่ ช่
(สมรรถนะ : การระบปุ ญั หาเชิงวทิ ยาศาสตร์
คาถามที่ 2 (ขอ้ ละ 1 คะแนน)
จากภาพ ขอ้ ใดกลา่ วผิด
1. นา้ จืดอย่ใู นธารนา้ แขง็ แมน่ ้า ทะเลสาบ นา้ ใตด้ นิ เป็นต้น
2. น้าเค็มอยใู่ นทะเล มหาสมุทร
3. น้าเคม็ มีปรมิ าณ 3 ใน 4 ของโลก
4. ไอนา้ ในอากาศควบแนน่ กลายเป็นหยดนา้ ในเมฆ

ขอ้ คาตอบ

(สมรรถนะ : การระบปุ ัญหาเชงิ วิทยาศาสตร์)


เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน / แนวคาตอบ

คาถามที่ 1 (ขอ้ ละ 2 คะแนน)
จากข้อมูล จงเขียนวงกลมล้อมรอบค้าวา่ “ใช่” หรอื “ไมใ่ ช่” ในแต่ละขอ้ ความ

ข้อ ข้อความ คาตอบ

1. นำ้ ท่ผี วิ โลกระเหยไปในอำกำศ ใช่ / ไมใ่ ช่
2. ไอนำ้ ในอำกำศลอยออกนอกชน้ั บรรยำกำศ ใช่ / ไม่ใช่
3. หยดนำ้ ในเมฆตกลงมำเป็นฝน ใช่ / ไม่ใช่
4. นำ้ เค็มอยใู่ น ทะเล มหำสมทุ ร ใช่ / ไมใ่ ช่

คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนนเตม็ 1 คะแนน คะแนนเตม็ 0 คะแนน
ตอบถกู ทัง 4 ขอ้ : ใช่ / ไม่ใช่ / ใช่ / ไมใ่ ช่
ตอบถกู 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ขอ้

คาถามท่ี 2 (ขอ้ ละ 1
คะแนน)
ขอ้ คาตอบ

3 น้าเค็มมปี รมิ าณ 3 ใน 4 ของโลก

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

3 ดีมาก

2 ดี

1 พอใช้

0 ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขึนไปถือวา่ ผา่ น


แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 30 หน่วยย่อยท่ี 3
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 1 ช่ัวโมง
เรอื่ ง พายุ ผสู้ อน นายศภุ กิตต์ิ ประเสรฐิ
วนั ทีท่ าการสอน....................เดือน................................พ.ศ.................

1. สาระสาคัญ 2. มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด
การเกิดพายเุ กิดขนึ้ โดยกระแสลมท่พี ดั ด้วยความเร็วทส่ี ูงมาก ว 3.2 ม.1/3 เปรียบเทยี บกระบวนการเกดิ พายุ ฝนฟา้
คะนองและพายหุ มนุ เขตร้อน และผลท่มี ีตอ่ ส่ิงมชี ีวิตและ
เนอ่ื งมากจากความกดอากาศทง้ั สองบริเวณแตกตา่ งกัน สาหรบั พายุทม่ี ี ส่ิงแวดล้อม รวมทงั้ นาเสนอแนวทางการปฏบิ ัติตนให้
ผลอย่างมากตอ่ สภาพอากาศของไทย คอื พายุหมนุ เขตร้อน 4เห. มชาะ้ินสงมานแล/ภะาปรละองดาภนัย

3. เนื้อหา/สาระการเรยี นรู้ - ใบงาน Compare and Contrast เรอื่ ง ฝนฟ้าคะนอง
พายุ และพายุหมุนเขตร้อน

5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน 6. เครื่องมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการคดิ Six Thinking hat (Black hat) , Compare and
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี Contrast

กิจกรรมการเรยี นรู้

7. ขน้ั ของกจิ กรรม 8. สื่อ 9. วิธวี ัดผล

Do Now(3 นาที) - Power point เรอ่ื ง การเกดิ - ประเมินใบงาน ,

“บอกชือ่ ผลไม้คนละ 1 ชนิดหา้ มซ้ากนั ” พายุ Compare and
Purpose (2 นาท)ี Contrast เรื่อง ฝนฟา้
เราจะเรียนเร่ือง การเกดิ พายุ เพ่อื ให้นักเรยี นสามารถเปรยี บเทียบและ - ใบงาน , Compare and คะนองและพายหุ มุน
สามารถอธิบายเก่ียวกบั พายไุ ด้ Contrast เรือ่ ง ฝนฟ้าคะนอง เขตรอ้ น
Work mode (50นาที) และพายหุ มนุ เขตรอ้ น
1.นักเรียนฟังครูอธบิ าย เร่อื ง การเกิดพายุ โดยใช้ Power point - ใบความรู้ เรอ่ื ง การเกดิ พายุ
- วดี โิ อเร่อื ง พายุในเอเชยี

ประกอบการเรียน (10 นาที)

2.นักเรียนแตล่ ะกลุ่มเปรียบเทียบความเหมือนความแตกต่างของพายชุ นิด

ตา่ งๆ โดยในยกตัวอยากพายมุ า 3 ชนิด แล้วลงในใบงาน Compare and

Contrast เรือ่ ง ฝนฟ้าคะนองและพายุหมนุ เขตร้อน (สมรรถนะ 2) (20 นาที)

3.นักเรียนออกมานาเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียนและอภิปรายผลงาน/โตแ้ ยง้

รว่ มกัน (คดิ 3 : คดิ วิพากษ์) (สมรรถนะ 3) (10นาที)

4.นกั เรียนดูวีดโิ อเรอ่ื ง พายุในเอเชยี ร่วมกันสรปุ เช่ือมโยงความคิด เกีย่ วกับ

การเกดิ พายุ พร้อมทัง้ รว่ มกนั ตอบคาถามดังนี้ (10 นาท)ี

4.1 พายทุ อร์นาโดก่อให้เกดิ ผลเสียตอ่ มนษุ ย์และส่ิงแวดล้อมอยา่ งไร

(Black hat)

R- e“f2leสc่งิชtท้iิ นv่ีนeักงเtราhยี นiนnไดkดinร้ gับ”(5(2นนาทาท)ี ี)

- ทาแนวข้อสอบ O-NET 2 ขอ้ (3 นาที)


Click to View FlipBook Version