The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายวิชาวิทยาศาสตร์2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by scicrpaoschool, 2022-12-14 04:09:28

รายวิชาวิทยาศาสตร์2

รายวิชาวิทยาศาสตร์2

ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Cause and Effect

เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
ความคิดเห็น - แสดงความคิดเหน็ - - แสดงความคิดเห็น
- แสดงความคิดเห็น - แสดงความคิดเหน็
ผลกระทบของปญั หา/เหตุ ผลกระทบของปัญหา/
การฌไ์ ด้ 10 ข้อขึ้นไป ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปญั หา/ เหตุการณ์ได้ น้อยกวา่ 6
ขอ้
เหตุการณไ์ ด้ 8-9 ข้อ เหตุการณไ์ ด้ 6-7 ข้อ

เนื้อหา - เนอ้ื หาครบถ้วนตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระท่ี - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระที่ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระที่
ก้าหนด 100% ก้าหนด 80-99% กา้ หนด 60-79% กา้ หนดตา่้ ว่า 59%
การน้าเสนอ - เขยี นถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลกั ภาษา - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถกู ตอ้ งตามหลักภาษา
100% 80-99% 60-79% ตา้่ วา่ 59%
ความสวยงาม - ล้าดบั หัวข้อเนื้อหาชัดเจน - ล้าดับหวั ขอ้ เนื้อหาชดั เจน - มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรปุ ไมส่ มเหตสุ มผล
การตรงต่อ - มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง สมเหตุสมผล 60-79% ต่้าว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
เวลา - พูดชัดเจนเสียงดงั ฟงั ชัด - พูดชัดเจนเสียงดังฟังชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดน้าเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้อง
อกั ขระ100% อกั ขระ80-99% อกั ขระ60-79% ตามอกั ขระต่า้ ว่า 59%
- บคุ ลกิ ภาพดีและมีความ - บุคลกิ ภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
มน่ั ใจ - ความพร้อมในการนา้ เสนอ
- มกี ารใช้สอื่ ประกอบการ ไดบ้ างสว่ น - ใช้สีสันสวยงามและมคี วาม - ใชส้ ีสันสวยงามหรอื เปน็ ไป
น้าเสนอ สะอาด ตามเกณฑอ์ ย่างใดอยา่ ง
- ความพร้อมในการนา้ เสนอ - ใชส้ ีสันสวยงาม หนง่ึ
- ใชส้ ีสันสวยงาม - มคี วามสะอาด ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กว่า
- มีความสะอาด - มีความคิดสรา้ งสรรค์ เวลาท่กี า้ หนด 10 นาที สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กว่า
- มีความคิดสร้างสรรค์ เวลาท่ีก้าหนด 15 นาที
- ความเปน็ ระเบยี บอา่ นงา่ ย สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กว่า
สง่ ผลงานครบถว้ น ตรงตาม เวลาท่กี ้าหนด 5 นาที
เวลาท่กี า้ หนด


แนวข้อสอบ o-net

1. ขอ้ ใดเปน็ การน้าหลักของการขยายตัวของวตั ถเุ นอื่ งจากความรอ้ นไปใช้ประโยชน์อย่างถกู ต้อง
1. การนอนอาบแดดในฤดูรอ้ น
2. การวางรางรถไฟโดยเวน้ ชอ่ งวา่ งใหห้ ่างกนั พอสมควร
3. การท้าท่ีจบั พลาสตกิ ของหมอ้ ตม้ เพือ่ ปอ้ งกันความร้อน
4. การเตมิ นา้ ในหมอ้ นา้ รถยนต์จนเตม็ เพอื่ ปอ้ งกันเครื่องยนตเ์ สยี หาย

ทมี่ า : http://www.atom.rmutphysics.com/charud/oldnews/0/286/2/2/test/test9/t01.html


แผนจดั การเรียนรู้ท่ี 18

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ อณุ หภมู ิและความรอ้ น หนว่ ยยอ่ ยท่ี 5
เรือ่ ง การขยายตัวของแกส๊ เมือ่ ได้รับความร้อน เวลา 1 ช่วั โมง
วันที่ทาการสอน..........เดือน................พ.ศ............ ผสู้ อน นายศุภกติ ต์ิ ประเสริฐ

1. สาระสาคญั 2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
เมอ่ื วตั ถสุ องสิง่ อยูใ่ นสมดุลความร้อน วัตถุทงั้ สองมอี ณุ หภมู ิ ว 2.3 ม.1/4 ตระหนักถงึ ประโยชนข์ องความรขู้ องการหดและขยายตวั
ของสสารเนอ่ื งจากความร้อน โดยวิเคราะห์ สถานการณ์ปัญหา และ
เทา่ กนั การขยายตวั ของวตั ถุเปน็ ผลจากความรอ้ นทว่ี ตั ถุได้รบั เพิ่มขนึ้ การ เสนอแนะวิธีการนาความรู้มาแกป้ ญั หาในชวี ิตประจาวัน
นาความรู้เรือ่ ง การขยายตวั ของวตั ถุเมื่อไดร้ บั ความรอ้ นไปใชป้ ระโยชน์

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน / ภาระงาน
การทดลองการขยายตัวของแก๊สเม่อื ได้รับความรอ้ น - ใบงานการทดลองการทดลองการขยายตัวของแกส๊ เมื่อได้รับความร้อน

5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน 6. เครอ่ื งมอื การสอนคดิ
ความสามารถในการแก้ปญั หา - Six thinking hat (White hat)

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ขน้ั ของกิจกรรม 8. สอ่ื 9. วิธีวัดผล

Do Now (3 นาที) - ใบงานการทดลอง - ประเมนิ ใบ
บอกชอ่ื จงั หวัดทข่ี ้นึ ต้นดว้ ยพยญั ชนะ ก มาคนละ 1 จงั หวดั โดยห้ามตอบซ้ากัน การขยายตัวของแกส๊ งานการทดลอง
เมอ่ื ได้รบั ความรอ้ น การขยายตัวของ
Purpose (2 นาที) - หอ้ งเรยี นออนไลน์ แก๊สเมื่อไดร้ บั
เราจะเรยี นเร่อื ง การขยายตัวของแกส๊ เมือ่ ไดร้ บั ความรอ้ นเพื่อใหน้ กั เรียนอธบิ ายการทดลองการ เรอื่ ง การทดลองการ ความรอ้ น
ทดลองการขยายตัว
ขยายตัวของแก๊สเมื่อไดร้ ับความร้อนได้ ของแก๊สเมือ่ ไดร้ บั
Work mode (50 นาท)ี ความรอ้ น
1. นักเรียนตอบคาถามเพอ่ื กระต้นุ ความคดิ “ขนาดของวัตถุมีผลต่อการดูดกลนื และคายความรอ้ นของสาร
หรือไม่ อยา่ งไร” (คิด1 : คิดวิเคราะห)์ (5 นาท)ี
2. นกั เรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 5-6 คน เพอ่ื ศึกษาใบงานการทดลองการทดลองการขยายตวั ของแก๊สเมื่อ
ไดร้ ับความร้อน (พอเพยี ง3 : การมภี ูมคิ ้มุ กันที่ดีในตวั ) (สมรรถนะ 4) (10 นาที)
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมอื ปฏบิ ัตกิ ารทดลองเรอื่ ง การขยายตัวของแก๊สเมื่อได้รบั ความร้อน พรอ้ มกบั
บันทกึ ผลการทดลองลงในใบงานการทดลองการทดลองการขยายตวั ของแกส๊ เมือ่ ได้รบั ความร้อน (พอเพยี ง7
: สังคม) (20 นาที)

4. นกั เรยี นรว่ มกนั ระดมความคิดสรุปผลการทดลองลงในใบงานการทดลอง (คิด3 : คิดวิพากษ์) (5 นาท)ี
5. นักเรียน (ตัวแทนโดยการสมุ่ ) ออกมานาเสนอผลงงานหน้าชัน้ เรียน จากใบงานการทดลองการ
ขยายตวั ของแกส๊ เมอ่ื ได้รบั ความรอ้ น (สมรรถนะ 3) (5 นาท)ี
6. นกั เรยี นและครูสรุปความรเู้ กย่ี วกับเรือ่ ง ใบงานการทดลองการขยายตัวของแก๊สเม่ือไดร้ ับความร้อน
นักเรยี นตอบคาถามดังน้ี (5 นาท)ี
- เม่อื ใหค้ วามร้อนกับบอลลูน บอลลูนจะมีการเปล่ยี นแปลงอย่างไร เพราะเหตใุ ด Six thinking hat
(white hat) (คดิ 1 : คิดวิเคราะห์)
(พอเพียง 2: ความมเี หตผุ ล)
Reflective Thinking (5 นาที)
- 1 สง่ิ ท่นี ักเรียนได้รบั จากการเรียนในวนั นคี้ อื (3 นาที)
- ทาแนวข้อสอบ O-NET 2 ข้อ (2 นาที)


ใบงานการทดลองเรื่องการขยายตัวของแกส๊ เมือ่ ได้รับความร้อน

การขยายตัวของแก๊สเมือ่ ได้รบั ความร้อน

วตั ถุประสงค์ ศึกษาผลของความรอ้ นท่ีมผี ลต่อการขยายตัวของแก๊ส

วัสดุอุปกรณแ์ ละสารเคมี 1. ลกู ปิงปอง 1 ลกู
2. บกี เกอร์ 250 ลูกบาศกเ์ ซนติเมตร 1 ใบ
3. ชุดตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ชุด
4. นา้

วิธกี ารทดลอง 1. นาลกู ปิงปองมาบบี ให้บุบ แต่ไม่ให้มกี ารแตก แลว้ วาดรูปปงิ ปองทบ่ี บุ ลงในตารางบันทึกผล
การทดลอง
2. ต้มนา้ ในบกี เกอร์ด้วยตะเกยี งแอลกอฮอล์จนเดือด
3. ทงิ้ ไว้ประมาณ 2 นาที จงึ นาลูกปงิ ปองออกมา วาดรูปลกู ปิงปองลงในตารางบันทกึ ผลการ
ทดลองอกี คร้ัง
4. หากทาการทดลองในขอ้ 3 เสรจ็ แลว้ ลูกปิงปองยงั ไมก่ ลบั มาเป็นทรงเดิใ ใหน้ กั เรยี นต้ม
ตอ่ ไปจนกระท่งั ไดล้ กู ปงิ ปองท่ีเป็นทรงกลม

สมมุติฐาน .................................................................................................................................................

ตวั แปรทเี่ กย่ี วข้อง ตัวแปรต้น ....................................................................................................................
ตัวแปรตาม ..................................................................................................................
ตัวแปรควบคมุ ...............................................................................................................

ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง รปู ทรงของปิงปองเมอื นาไปตม้ เปน็ เวลา 2
รูปทรงของปิงปองเมอื่ ถกู ทบุ จนบุบ นาที


สรปุ ผลการทดลอง

................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................

คาถามท้ายการทดลอง

1. เม่อื นาลูกปงิ ปองบบุ ไปต้มจะเกดิ อะไรขนึ้ กบั ลูกปิงปอง
................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................

2. เพราะเหตุใด เมื่อนาลกู ปิงปองทบี่ ุบไปต้มจงึ ทาให้ลกู ปิงปองกลบั สรู่ ปู ทรงเดิมได้
................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................


ขอ้ สอบ O-net

1. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การใชป้ ระโยชน์จากความรู้เรอื่ งการขยายตวั และหดตัวของวัตถุ
ก. การหุ้มด้ามจับกระทะด้วยพลาสติก
ข. การขงึ สายไฟระหวา่ งเสาให้หยอ่ นเลก็ น้อย
ค. การวางรางรถไฟโดยเวน้ ช่องวา่ งตรงรอยตอ่ เลก็ นอ้ ย
ง. ไมข่ บั รถบนถนนท่ีรอ้ นจดั เปน็ เวลานาน เนื่องจากยางรถอาจระเบดิ ได้

2. หนูนาเลน่ ปิงปองจนลกู ปงิ ปองยุบ หนนู าควรทาอยา่ งไรเพ่อื ให้ลกู ปิงปองกลับมาเปน็ เหมอื นเดิม
ก. นาไปตม้
ข. แช่ในตู้เย็น
ค. แช่ในแอลกอฮอล์
ง. แชใ่ นสารละลายกรด

ทมี่ า : https://quizizz.com/admin/quiz/5a8696588b167700229457dc/-1-4-


ช่อื – สกลุ แบบประเมินการทาการทดลอง

สมาชกิ กลุ่ม
1.……………………… ………………………………………...ช้นั ………..เลขที่……...
2.……………………… ………………………………………...ชน้ั ………..เลขที่……...
3.……………………… ………………………………………...ชน้ั ………..เลขที่……...
4.……………………… ………………………………………...ชั้น………..เลขท่ี……...
5.……………………… ………………………………………...ชน้ั ………..เลขท่ี……...
6.……………………… ………………………………………...ชนั้ ………..เลขที่……...

คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกาหนด
ตามตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงานการทดลอง

ชือ่ -สกลุ การแบ่ง การ การทา ปฏบิ ัติกา ผลการ รวม สรุปผลการ
ลาดับที่ ของผ้รู ับการ หนา้ ที่ รู้จัก การ รทดลอง ทดลอง 20 คะแนน ประเมนิ ผ่าน/
ภายใน แสดง ทดลอง เสรจ็ ถูกต้อง
ประเมนิ กลุ่ม ความ ตาม ทนั เวลา สะอาด ไม่ผา่ น
คดิ เห็น ข้ันตอน เรียบร้อย

ลงช่อื ....................................................ผู้ประเมิน

................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก
นักเรยี นได้ระดบั คุณภาพที่ พอใช้ ขึ้นไปถือว่1า4ผ-่า1น7 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ


เกณฑก์ ารประเมนิ ผลการสงั เกตพฤตกิ รรมการทดลอง

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

เกณฑ์การ ดมี าก(4) ด(ี 3) พอใช้(2) ตอ้ งปรบั ปรุง(1)
ประเมนิ

1.การแบ่งหน้าที่ มีการแบง่ หน้าทกี่ ัน มีการแบง่ หน้าท่กี ันอยา่ ง มีการแบง่ หนา้ ท่ีกนั อยา่ ง ไม่มกี ารแบ่งหนา้ ทก่ี ัน
ภายในกลมุ่ อยา่ งชัดเจนมคี วาม ชดั เจนมีความรับผิดชอบ ชัดเจนไมร่ ับผิดชอบงานตาม อยา่ งชดั เจนไม่
งานตามบทบาทหน้าที่เป็น บทบาทหน้าที่ รับผิดชอบงานตาม
รับผดิ ชอบงานตาม ส่วนใหญ่ บทบาทหน้าที่
บทบาทหน้าที่

2.การรจู้ กั แสดง รู้จักแสดงความ รจู้ กั แสดงความคิดเหน็ ใน รจู้ กั แสดงความคิดเห็นในกล่มุ ไม่แสดงความคิดเห็นใน

ความคดิ เหน็ คิดเห็นในกลุ่มดีมาก กล่มุ เป็นส่วนใหญ่ บางคร้ัง 60 – 69% กลุ่ม ต่ากวา่ 59%

90-100% 70-89%

3.การทาการ มกี ารทาการทดลอง มีการทาการทดลองตาม มีการทาการทดลองตาม ทาการทดลองไม่ตรง
ทดลองตาม ขัน้ ตอนเป็นบางครัง้ ตามข้นั ตอน
ขน้ั ตอน ตามขั้นตอนดีมาก ข้นั ตอนเปน็ สว่ นใหญ่ 60 – 69% ตา่ กวา่ 59%

90-100% 70-89%

4.ปฏิบตั ิการ ทาการทดลองเสร็จ ทาการทดลองเสร็จตาม ทาการทดลองชา้ และไมค่ ่อย ทาการทดลองชา้ และ
ทดลองเสรจ็ ตามเวลาท่กี าหนด เวลาทีก่ าหนดและถกู ตอ้ ง ถูกต้อง ไม่ถกู ตอ้ ง
ทันเวลา และถูกตอ้ ง เป็นส่วนใหญ่

5.ผลการทดลอง ผลการทดลอง ผลการทดลองถูกต้อง ผลการทดลองถูกต้องแต่ไม่ ผลการทดลองไม่
ชดั เจนไมส่ ะอาด เรียบร้อย ถูกตอ้ งชดั เจนไม่สะอาด
ถกู ตอ้ งสะอาด ถูกต้องชัดเจนดีมาก ชัดเจน เรยี บร้อย

เรียบรอ้ ย สะอาด เรียบร้อย ไมค่ อ่ ยสะอาดและไม่ค่อย

เรยี บร้อย


แผนจัดการเรยี นรทู้ ี่ 19

ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ บรรยากาศ หนว่ ยยอ่ ยที่ 5
เรื่อง ระบบบรรยากาศของโลก เวลา 2 ชว่ั โมง
วันทท่ี าการสอน..........เดือน................พ.ศ............ ผ้สู อน นายศุภกติ ต์ิ ประเสรฐิ

1. สาระสาคญั 2. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั
บรรยากาศเป็นช้ันของแกส๊ ทหี่ ่อห้มุ โลกอยู่ ทาหน้าท่ปี ้องกัน ว 3.2 ม.1/1 สรา้ งแบบจาลองท่ีอธิบายการแบง่ ช้นั บรรยากาศ และ
เปรียบเทยี บประโยชน์ของบรรยากาศ แตล่ ะช้นั
การแผ่รังสจี ากดวงอาทิตยม์ ายงั พ้ืนผวิ โลก ซึ่งอากาศมคี วามสาคัญและ
มคี วามจาเปน็ สาหรับสงิ่ มชี วี ติ ทุกชนิดที่อาศัยอยบู่ นโลก 4. ชิ้นงาน / ภาระงาน
- ใบงาน Diagram ระบบบรรยากาศของโลก
3. สาระการเรียนรู้ - ใบงาน PISA เรอ่ื งกระบวนการเปล่ยี นแปลงลมฟา้ อากาศ
ระบบบรรยากาศของโลก

5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 6. เคร่ืองมือการสอนคดิ

ความสามารถในการคิด - Diagram - Six thinking hats (Black hat) (White Hat)

ความสามารถในการแก้ปัญหา

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ข้นั ของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธวี ดั ผล
- ประเมินใบงาน
Do Now (3 นาที) - Power Point เรอื่ ง Diagram ระบบ
บอกสถานท่ีท่ีนักเรียนอยากน่งั เครอ่ื งบินไปเทย่ี วคนละ 1 ท่ี หา้ มซา้ กนั ระบบบรรยากาศของ บรรยากาศของโลก
โลก - ประเมินใบงาน
Purpose (2 นาท)ี - ใบความรเู้ รอ่ื ง ระบบ PISA เรอ่ื งกระบวนการ
เราจะเรียนเรอื่ ง ระบบบรรยากาศของโลกเพื่อใหน้ กั เรยี นสามารถอธบิ ายระบบบรรยากาศของ บรรยากาศของโลก
- ใบงาน Diagram เปล่ยี นแปลงลมฟ้า
โลกได้ ระบบบรรยากาศของ อากาศ
Work mode (110 นาที) โลก
- หอ้ งเรียนออนไลน์
1. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิด โดยครูใช้คาถาม “PM 2.5 สง่ ผลกระทบใน ระบบบรรยากาศของ
ชวี ติ ประจาวนั อย่างไรบ้าง จงยกตวั อย่าง ” (Black Hat) (5นาที) โลก

2. นักเรยี นดูคลิปวีดีโอ เร่ืองระบบบรรยากาศของโลก (15 นาที) - คลปิ วดี โี อ เรื่องระบบ
3. นกั เรียนฟงั ครูอธบิ ายเพิม่ เติมเร่ืองระบบบรรยากาศของโลก โดยใชส้ อื่ Power point บรรยากาศของโลก
ประกอบการสอน (สมรรถนะ 3) (15 นาที)
4. นักเรียนสบื ค้นเพ่ิมเตมิ จากหอ้ งเรียนออนไลน์ แล้วสรปุ ความรใู้ นรูปแบบแผนผังมโนทัศน์ ลง
มอื ทาใบงาน Diagram ระบบบรรยากาศของโลก
(คิด1 : คิดวเิ คราะห)์ (25 นาที)
5. นักเรียนออกมานาเสนอใบงาน Diagram ระบบบรรยากาศของโลก (15 นาท)ี
6. นักเรียนลงมือทาใบงาน PISA เรื่องกระบวนการเปลยี่ นแปลงลมฟา้ อากาศ (20 นาท)ี
7. นกั เรียนและครูสรปุ ความรูเ้ ก่ยี วกบั เรือ่ ง ระบบบรรยากาศของโลก โดยนกั เรียนตอบคาถาม
ดงั นี้ (15นาที)
7.1 บรรยากาศคืออะไร (white hat)
7.2 ช้นั บรรยากาศโลกแบง่ เปน็ กชี่ น้ั อะไรบ้าง? (white hat) (คิด 1: คิดวเิ คราะห์)
7.3 จะเกิดผลกระทบอะไรขนึ้ หากไมม่ ีบรรยากาศ? (Black hat)
Reflective Thinking (5 นาที)
- 1 สิง่ ทน่ี กั เรยี นไดร้ บั จากการเรยี นในวันนคี้ ือ (3 นาท)ี
- ทาแนวข้อสอบ O-NET 2 ข้อ (2 นาที)


ใบความรูเ้ รอื่ งระบบบรรยากาศของโลก
อากาศคืออะไร

อากาศอย่รู อบตวั เราเสมอ เราสามารถรู้วา่ มีอากาศอย่รู อบๆตัวเราได้โดยโบกมือไปมา กระแส
ลมทีเ่ กิดข้ึนและปะทะกบั ฝ่ามอื ของเรา ก็แสดงวา่ อากาศมีจริง หรือถ้าเรายืนอยใู่ นทที่ ม่ี ีลมพัดผ่าน เรา
จะรู้สกึ ว่ามอี ากาศหรือลมพัดมาถกู ตัวเรา แรงลมสามารถทาให้เกดิ คลน่ื นา้ หรือหมุนกังหนั ลมได้
สว่ นประกอบของอากาศ

สว่ นผสมของก๊าซต่างๆและไอน้า ซ่ึงส่วนใหญไ่ ด้แก่ กา๊ ซไนโตรเจน ก๊าซออกซเิ จน
คาร์บอนไดออกไซด์ และโอโซน อากาศมอี ยู่รอบๆตัวเราทกุ หนทุกแห่ง ท้งั บนยอดสูงสดุ ของภูเขาและ
ในที่จอดรถใตด้ ิน อากาศมอี ยู่ในบ้าน มอี ย่ใู นโรงเรยี นและในรถยนต์ อากาศไม่มีสี ไมม่ ีรสชาติ และไม่
มกี ลิ่นไนโตรเจนเป็นก๊าซท่ีมีมากทส่ี ดุ ประมาณ 78% ก๊าซทีม่ ปี ริมาณรองลงมาคือ ก๊าซออกซิเจน
ประมาณ 21% เป็นก๊าซทจ่ี าเปน็ ต่อสงิ่ มชี วี ิต ส่วนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และโอโซนมปี ริมาณน้อย
มาก

บรรยากาศ คืออะไร ?
บรรยากาศ (Atmosphere)

คอื มวลก๊าซที่ห่อหมุ้ ตงั้ แต่ผวิ โลกจนสูงข้นึ ไปประมาณ 900 กิโลเมตร โดยจะเกิดร่วมกบั ลกั ษณะทาง
กายภาพอ่ืน ได้แก่ อณุ หภมู ิ ความกดอากาศ ความช้นื ลม และอนุภาคฝุ่นผงหรอื มลสาร (Pollutant) ซง่ึ อยใู่ น
ระดับตา่ และคงอยไู่ ดด้ ว้ ยแรงโน้มถ่วงของโลก บรรยากาศที่สูงขน้ึ ประมาณ 80 กโิ ลเมตรจะมีสว่ นผสมของก๊าซ


คล้ายคลึงกัน คนในสถานที่ต่างๆจึงหายใจเอาอากาศเข้าไปโดยไมร่ ้สู กึ ผิดปกตแิ ต่อยา่ งใดบรรยากาศจาแนกตาม
ลกั ษณะและระดบั ความสูง

ประโยชนข์ องชน้ั บรรยากาศ

ชน้ั บรรยากาศทีห่ อ่ หุ้มโลกมปี ระโยชน์ตอ่ ส่งิ มชี ีวิตบนโลก ดังน้ี

1. ชว่ ยปรับอณุ หภูมิของโลกให้เหมาะสมกับการดารงชีวิต กลา่ วคอื โดยปกตใิ นชว่ งกลางวนั ทม่ี แี สงแดด
อากาศท่หี ่อหุม้ โลกจะช่วยดูดกลืนความรอ้ นจากดวงอาทติ ย์ไว้บางส่วนทาใหโ้ ลกมีความอบอนุ่ ขนึ้ ส่วนช่วงกลางคืน
ท่ไี ม่มแี สงแดด อากาศจะช่วยระบายความรอ้ นทาใหโ้ ลกเยน็ ลง ถา้ ไม่มอี ากาศหอ่ หุ้มโลกไว้แลว้ ในชว่ งกลางวัน
อณุ หภูมบิ นผิวโลกจะสูงถงึ ประมาณ 110 องศาเซลเซยี ส และในช่วงกลางคืนอุณหภมู บิ นผวิ โลกจะลดต่าลงจนถึง
ประมาณ -180 องศาเซลเซยี ส

2. ชว่ ยปอ้ งกนั อันตรายจากรังสีตา่ ง ๆ จากดวงอาทติ ย์ เช่น รงั สีอัลตราไวโอเลต (รงั สเี หนอื มว่ ง) จะถกู
แก๊สโอโซนในบรรยากาศดดู ซับไว้บางสว่ นและปล่อยรังสีอลั ตราไวโอเลต ลงมายังผวิ โลกในปริมาณท่เี หมาะสม
สาหรบั มนุษย์ถ้ารา่ งกายถูกรังสีอัลตราไวโอเลตทมี่ ีความเข้มมากเกนิ ไป เซลลผ์ ิวหนงั จะถกู ทาลายและอาจทาให้
เป็นมะเรง็ ท่ผี วิ หนงั ได้

3. ช่วยปอ้ งกันอันตรายจากอนภุ าคตา่ งๆ ทมี่ าจากนอกโลก เช่น อกุ กาบาตหรือสะเก็ดจากดาวเคราะห์
ต่าง ๆ เป็นต้น โดยอนภุ าคเหล่านีจ้ ะเสยี ดสกี ับอากาศท่ีหอ่ หมุ้ โลกและเกิดการลกุ ไหม้จนหมด หรือ มขี นาดเล็กลง
ก่อนตกลงสูผ่ ิวโลก

4. สว่ นผสมของแกส๊ ต่าง ๆ ในอากาศ ช่วยให้เกดิ กระบวนการบางอยา่ งท่จี าเปน็ ต่อการดารงชวี ิตของ
สง่ิ มชี ีวติ เชน่ แก๊สออกซเิ จนเปน็ แก๊สทีใ่ ช้ในกระบวนการหายใจของสิ่งมีชีวิตและ ชว่ ยใหไ้ ฟตดิ แกส๊
คาร์บอนไดออกไซด์เป็นแก๊สทใ่ี ช้ในกระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพชื


ชื่อ..........................................................................ชนั้ ...........เลขที่.........

ใบงาน Diagram ระบบบรรยากาศของโลก

คาชี้แจง ให้นกั เรียนสรปุ ความร้เู ร่อื งระบบบรรยากาศโลกในรูปของ Diagram

ระบบบรรยากาศของ
โลก
อากาศ

คอื

บรรยากาศ
การแบง่ ช้ัน
ตามการเปล่ียนแปลงอุณหภมู ิ

ตามประเภทแก๊ส

……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………………


แนวขอ้ สอบ O –NET

1. สว่ นประกอบของอากาศทมี่ ปี รมิ าณมากท่สี ดุ คอื อะไร
1.กา๊ ซอารก์ อน
2.ก๊าซออกซิเจน
3.กา๊ ซไนโตรเจน
4.กา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์

2. องคป์ ระกอบใดใบบรรยากาศทาใหเ้ กดิ ปรากฎการณ์ทางล้มฟ้าอากาศ ?
1. แก๊สออกซิเจน
2. แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์
3. ไอนา้
4. แกส๊ ไนโตรเจน

ที่มา : หนังสือเรียน Learn education ข้อสอบ วทิ ยาศาสตร์ ม.1 . 2559


ใบงานตามแนว PISA

สมรรถนะการอธิบายปรากฏการเชิงวิทยาศาสตร์

เวลา 20 นาที คะแนนเต็ม 5 คะแนน

ชอื่ - สกลุ ............................................................................................................ชั้น........................................
โรงเรยี น................................................................อาเภอ......................................จงั หวดั ..................................

คาชแ้ี จง

1. ข้อสอบชุดนมี้ ถี อ้ ยความใหอ้ ่าน มีคาถามการอ่านในใจและความเข้าใจการอ่าน 3 ข้อ จานวน 5 หน้า
2. การตอบคาถามทุกขอ้ ให้ทาในชุดข้อสอบ
3. ให้นักเรยี นอ่านคาถามทุกข้ออย่างละเอียดรอบคอบแล้วตอบคาถามให้ดีทส่ี ุดเท่าทจ่ี ะทาได้

๓.๑ บางคาถามจะมคี าตอบให้เลือกตอบ
ใหน้ ักเรียนวงกลมล้อมรอบตัวเลขท่ีอยู่หนา้ คาตอบ ท่นี ักเรียนคิดว่าถูกตอ้ ง

๓.๒ บางคาถามจะใหน้ กั เรียนเขียนคาตอบส้นั ๆ ในที่ว่างท่ีเตรยี มไว้ในขอ้ สอบ
ให้นกั เรียนเขยี นคาตอบเปน็ ตวั หนงั สอื ตวั เลขไทย หรอื เครื่องหมายตามทก่ี าหนด

๓.๓ บางคาถามตอ้ งการให้นกั เรยี นอธิบายคาตอบ หรือบอกเหตุผลประกอบคาตอบ
โดยกาหนดเงื่อนไขให้ใชเ้ นอื้ เรอ่ื งสนับสนุนคาตอบ
นกั เรียนตอ้ งเขยี นอธบิ าย หรือ เขียนเหตผุ ลประกอบ ภายในถอ้ ยความทีก่ าหนดให้

( ให้นกั เรียนเขียนด้วยลายมอื ทอ่ี ่านง่าย และชัดเจน )


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram

คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรยี น ใหท้ าเคร่ืองหมายลงในช่องรายการประเมินกาหนด

ความ สรปุ ผล

ลาดบั ที่ ชื่อ-สกุล ความถกู ตอ้ ง ครอบคลุม สอดคลอ้ ง ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม การ
ของผูร้ บั การประเมนิ ของเนอ้ื หา เนื้อหา และเชื่อมโยง 4 เรยี บร้อย 20 ประเมนิ
ของเน้อื หา คะแนน ผ่าน/ไม่
4 4 4
4 ผา่ น

4321 43214 32 14321 4321

ลงช่ือ .................................................... ผู้ประเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถอื ว่า ผ่าน


ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
รปู แบบ
- มีหวั ข้อที่ชัดเจน - มหี ัวขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวข้อทช่ี ัดเจน - มีหวั ขอ้ ท่ีชัดเจน
เนือ้ หา - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ
- ใชค้ าสาคญั ตรงประเดน็ - ใช้คาสาคัญตรงประเดน็ - ใช้คาสาคัญตรงประเดน็
การนาเสนอ - ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพส่อื - ใช้สญั ลักษณห์ รอื ภาพสอื่ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระที่
- เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระที่ กาหนดตา่ กว่า 59%
ความสวยงาม ความหมาย ความหมาย กาหนด 60-79% - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา
การตรงตอ่ - ใชส้ สี นั ท่วั แผน่ - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา ตา่ กวา่ 59%
- เน้อื หาครบถ้วนตามสาระท่ี - เนอื้ หาถกู ต้องตามสาระที่ 60-79% - มกี ารสรปุ ไม่สมเหตุสมผล
เวลา กาหนด 100% กาหนด 80-99% - มีการสรุปได้อยา่ ง ต่ากว่า 59%
- เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา สมเหตุสมผล 60-79%
100% 80-99% - สามารถพูดนาเสนอได้
- ลาดบั หัวขอ้ เนือ้ หาชัดเจน - ลาดับหวั ขอ้ เนอื้ หาชดั เจน - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
- มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรุปได้อย่าง ตามอกั ขระตา่ กว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99% - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

- พูดชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - พูดชดั เจนเสียงดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม - ใชส้ สี นั สวยงามหรือเปน็ ไป
ตามเกณฑ์อย่างใดอยา่ ง
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม หน่งึ

อักขระ100% อักขระ80-99% อกั ขระ60-79% สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากวา่
เวลาทก่ี าหนด 15 นาที
- บุคลกิ ภาพดแี ละมีความ - บคุ ลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม

มนั่ ใจ - ความพรอ้ มในการนาเสนอ

- มีการใช้ส่ือประกอบการ ได้บางสว่ น

นาเสนอ

- ความพรอ้ มในการนาเสนอ

- ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงามและมคี วาม
- มคี วามสะอาด - มีความสะอาด สะอาด
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคิดสร้างสรรค์
- ความเปน็ ระเบียบอ่านง่าย

ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากว่า

เวลาทก่ี าหนด เวลาทกี่ าหนด 5 นาที เวลาทก่ี าหนด 10 นาที


ตอบคาถามถกู ตอ้ ง เกณฑก์ ารให้คะแนน PRACQUIZ
ตอบคาถามไมถ่ กู ต้อง เร่อื ง ระบบบรรยากาศของโลก

1 คะแนน
0 คะแนน

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

5 ดมี าก

3-4 ดี

1-2 พอใช้

0 ปรับปรุง

นักเรียนได้ระดบั คุณภาพท่ี ดี ข้ึนไปถือวา่ ผ่าน


ใบงาน Pisa เร่อื ง กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศ
แบบทดสอบวดั ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์

คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเขียนคาตอบ ตามความรู้ ความเขา้ ใจของนกั เรยี นและตอบคาถามใหค้ รบถว้ นทกุ ขอ้ พจิ ารณาขอ้ ความ
ตอ่ ไปนีแ้ ลว้ ตอบคาถามขอ้ 1-2

1. ชนั้ บรรยากาศ ชนั้ ใดที่มีความแปรปรวนมากที่สดุ เพราะเหตใุ ด
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………
เกณฑก์ ารให้คะแนน

คะแนนเตม็ ( 1คะแนน) เมื่อบอกชนั้ บรรยากาศไดถ้ กู ตอ้ ง
แนวคาตอบ โทรโพสเฟียร์ เพราะเป็นชนั้ ท่ีมีพายุ ไมไ่ ด้

คะแนน (0 คะแนน) ตอบผดิ หรอื ไมต่ อบ
2. ชนั้ บรรยากาศ ชนั้ ใดท่ีสามารถสะทอ้ นคลืน่ วทิ ยแุ ละมปี รากฏการณแ์ สงเหนือแสงใต้ (ออโรลา่ ) เกดิ ขนึ้
ตอบ……………………………………………………………………………………………………………………………
เกณฑก์ ารให้คะแนน

คะแนนเตม็ ( 1คะแนน) เมอ่ื บอกชนั้ บรรยากาศไดถ้ กู ตอ้ ง
แนวคาตอบ เทอรโ์ มสเฟียร์

ไม่ได้คะแนน (0 คะแนน) ตอบผดิ หรือไมต่ อบ


แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 20

ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ อุณหภูมิและความร้อน หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1
เร่อื ง การแบ่งชั้นบรรยากาศ เวลา 1 ชว่ั โมง
วันท่ีทาการสอน..........เดอื น................พ.ศ............ ผู้สอน นายศภุ กติ ต์ิ ประเสริฐ

1. สาระสาคญั 2. มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั
บรรยากาศของโลกประกอบดว้ ยสว่ นผสมของแกส๊ ตา่ ง ๆ ที่ ว 3.2 ม.1/1 สร้างแบบจาลองที่อธิบายการแบ่งชั้นบรรยากาศ
และเปรยี บเทยี บประโยชน์ ของบรรยากาศแตล่ ะช้นั
อยู่รอบโลก บรรยากาศไม่ได้แบง่ เป็นชน้ั ทมี่ องเหน็ ได้ แต่การศกึ ษาของ
นกั วทิ ยาศาสตร์ สามารถแบ่งชัน้ บรรยากาศออกเปน็ 5 ชั้น ตาม
อุณหภูมิ และความสูงจากพื้นดิน

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชนิ้ งาน / ภาระงาน
การแบง่ ช้ันบรรยากาศ - ใบงาน Diagram เรื่อง การแบง่ ชน้ั บรรยากาศ

5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น 6. เครือ่ งมอื การสอนคิด
ความสามารถในการคิด - Diagram - Six thinking hat (White hat)
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ขั้นของกิจกรรม 8. ส่ือ 9. วธิ ีวดั ผล
- ประเมนิ ใบงาน
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรเู้ ร่อื ง การ Diagram เรอ่ื ง การแบง่
ช้ันบรรยากาศ
บอกสงิ่ ทีอ่ ยู่นอกโลกมา คนละ1ชนดิ หา้ มซา้ กัน แบง่ ชนั้ บรรยากาศ

Purpose (2 นาท)ี - ใบงาน Diagram

เราจะเรยี นเรอ่ื ง การแบง่ ชั้นบรรยากาศ เพื่อใหน้ ักเรียนสืบค้นและอธบิ ายองค์ประกอบ เรอ่ื ง การแบง่ ช้ัน
และการ แบ่งช้ันบรรยากาศทีป่ กคลมุ ผวิ โลกได้อย่างถูกตอ้ ง บรรยากาศ
Work mode (50 นาที)
- หอ้ งเรียนออนไลน์
1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ โดยครูใชค้ าถาม “อากาศและบรรยากาศ
เรอื่ ง การแบง่ ช้ัน
แตกต่างกันอย่างไร” (คิด2 : คดิ เปรยี บเทียบ) (White Hat) (5 นาที)

2. นักเรยี นศกึ ษาใบความรแู้ ละห้องเรียนออนไลนเ์ ร่ือง การแบ่งชัน้ บรรยากาศ บรรยากาศ
(พอเพยี ง3 : การมีภมู คิ มุ้ กันทด่ี ใี นตัว) (10 นาที)

3. นักเรียนฟังครูอธิบายเพิ่มเติมเร่ืองการแบ่งช้นั บรรยากาศใช้สอื่ Power point
ประกอบการสอน (สมรรถนะ 3) (10 นาที)

4. นักเรยี นลงมอื ทาใบงาน Diagram การแบ่งช้นั บรรยากาศ (สมรรถนะ 2) (15 นาท)ี

5. นกั เรยี น (ตวั แทนโดยการส่มุ ) ออกมานาเสนอใบงาน Diagram การแบง่ ช้ันบรรยากาศ

(สมรรถนะ 3) (5 นาท)ี - ส่ือ power point
6. นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรุปเชื่อมโยงความคิดเกยี่ วกบั การแบ่งชน้ั บรรยากาศ (คดิ 6 :
ประกอบการสอน
คดิ สังเคราะห์) พรอ้ มทงั้ ร่วมกนั ตอบคาถามดังนี้ “เคร่อื งบิน บนิ อยูใ่ นชัน้ บรรยากาศใด ?”

(White hat) (5 นาที)

Reflective Thinking (5 นาท)ี

- 1 สงิ่ ท่นี กั เรยี นได้รับจากการเรยี นในวนั น้คี ือ (3 นาที)

- ทาแนวข้อสอบ O-NET 2 ขอ้ (2 นาท)ี


ใบความรู้เร่อื งการแบง่ ชัน้ บรรยากาศ

การแบง่ ชั้นบรรยากาศ
การแบ่งช้ันบรรยากาศทีห่ อ่ หุ้มโลกอาจใช้เกณฑต์ ่าง ๆ ในการแบ่งได้หลายรูปแบบ เช่น

ใช้อุณหภูมิเปน็ เกณฑ์ใช้สมบัตขิ องแก๊สหรอื สว่ นผสมของแกส๊ เปน็ เกณฑห์ รือใชส้ มบตั ทิ าง
อตุ ุนิยมวิทยาเปน็ เกณฑซ์ ่ึงอาจมชี ื่อเรยี กช้ันบรรยากาศเหมือนกันหรือแตกตา่ งกัน

การแบง่ ช้ันบรรยากาศโดยใช้อณุ หภมู ิเปน็ เกณฑ์ แบง่ ไดเ้ ปน็ 5 ช้นั ดังน้ี
1. โทรโพสเฟียร์ (Troposphere) วัดได้จากพนื้ ดินสูงข้ึนไปประมาณ 10 กโิ ลเมตรขอบเขตของ
บรรยากาศช้นั น้ีในแต่ละแห่งของโลกจะไมเ่ ท่ากัน เชน่ บริเวณเส้นศูนยส์ ตู รบรรยากาศชั้นน้จี ะสูงจากพนื้ ดินขนึ้ ไป
ประมาณ 16-17 กิโลเมตร ส่วนบรเิ วณขั้วโลกจะมรี ะยะสงู จากพ้ืนดนิ ขนึ้ ไปประมาณ 8-10 กิโลเมตร บรรยากาศ
ชั้นโทรโพสเฟยี ร์ มลี ักษณะดงั น้ี

1.1 อุณหภมู ิจะลดลงตามระดบั ความสงู ทีเ่ พมิ่ ขนึ้ โดยเฉลี่ยจะลดลงประมาณ6.5°C
ตอ่ 1 กโิ ลกรมั สดุ เขตของบรรยากาศชัน้ เรยี กว่า โทรโพพอส (Tropopause) มอี ุณหภูมติ า่ มาก เชน่ ในบริเวณ
เส้นศนู ย์สตู ร อุณหภูมิประมาณ –80°C และในบรเิ วณข้วั โลก ประมาณ –55°C

1.2 บรรยากาศชัน้ นม้ี ีความแปรปรวนมากเนอื่ งจากเป็นบริเวณที่มไี อน้าเมฆฝนพายุ
ตา่ ง ๆ ฟา้ แลบ ฟา้ ร้องและฟ้าผ่า

2. สตราโสเฟยี ร์ (Stratosphere) มีความสูงจากพืน้ ดนิ ต้งั แต่ 10-50 กิโลเมตร มอี ากาศเบาบาง มเี มฆ


น้อยมาก เนอื่ งจากมปี ริมาณไอน้านอ้ ยอากาศไม่แปรปรวน นกั บินจงึ นาเครอ่ื งบนิ บินอยูใ่ นชน้ั น้ี บรรยากาศชั้นนีม้ ี
แกส๊ โอโซนมาก ซ่ึงอยทู่ ่คี วามสงู ประมาณ 25 กโิ ลเมตร แก๊สโอโซนน้ีจะช่วยดดู กลนื รังสอี ลั ตราไวโอเลตจากดวง
อาทิตยไ์ ว้บางส่วน เพื่อไมใ่ หร้ งั สอี ลั ตราไวโอเลตผ่านลงมาสูพ่ ืน้ ผิวโลกมากเกนิ ไป อณุ หภูมขิ องบรรยากาศชั้นนีจ้ ะ
เพิ่มขึน้ ตามระดับความสูงทเี่ พิม่ ขึน้ สุดเขตของบรรยากาศชั้นนเ้ี รียกว่า สตราโตพอส (Stratospause)

3. มโี ซสเฟยี ร์ (Mesosphere) อยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 50-80 กิโลเมตร บรรยากาศชนั้ น้ี อุณหภมู จิ ะ
ลดลงตามระดบั ความสูงเพมิ่ ข้ึนสุดเขตของบรรยากาศชน้ั นี้เรียกวา่ มโี ซพอส ( Mesopause) ซึง่ มีอณุ หภูมิ
ประมาณ –140°C เปน็ บรรยากาศชั้นท่ีสง่ ดาวเทยี มขน้ึ ไปโคจรรอบโลก

4. เทอร์โมสเฟียร์ (Thermosphere) บรรยากาศชนั้ นี้อย่สู ูงจากพนื้ ดนิ ประมาณ 80-500 กโิ ลเมตร ดาว
ตกและอกุ กาบาตจะเริม่ ลุกไหม้ ในบรรยากาศชัน้ น้ี อุณหภมู ขิ องบรรยากาศช้ันนี้ จะสูงขึน้ อยา่ งรวดเร็วในช่วง 80-
100 km จากน้ันอตั ราการสูงข้ึนของอณุ หภูมจิ ะค่อย ๆ ลดลง .โดยทว่ั ไปอุณหภูมิจะอยใู่ นช่วง 227- 1727°C
บรรยากาศชัน้ นม้ี ีความหนาแนน่ ของอนุภาคตา่ ง ๆ จางมาก แตแ่ ก๊สตา่ งๆ ในชั้นน้ี จะอยใู่ นลักษณะท่เี ป็นอนภุ าคท่ี
เป็นประจไุ ฟฟา้ เรยี กวา่ ไอออน สามารถสะท้อนคล่นื วิทยุบางความถ่ีได้ ดังนั้นบรรยากาศชัน้ นจ้ี ึงมีชื่อเรยี กอีกอย่าง
หนง่ึ วา่ ไอโอโนสเฟียร์ (Ionosphere)

5. เอกโซสเฟียร์ (Exosphere) คือบรรยากาศที่อยู่ใน ระดับความสูงจากผิวโลก 500 กิโลเมตรขน้ึ ไปไม่ มี
แรงดงึ ดดู ของโลก ดาวตกและอกุ กาบาตจะไม่ลุกไหมใ้ นชั้นนี้ เนื่องจากมีแกส๊ เบาบางมาก จนไม่ถือว่าเป็นส่วนหนึง่
ของบรรยากาศ


การแบ่งชน้ั บรรยากาศโดยใช้สมบัติของแก๊สหรือสว่ นผสมของแกส๊ เป็นเกณฑ์ แบ่งไดเ้ ป็น 4 ชัน้ ตาม
ตารางตอ่ ไปน้ี

ชนั้ บรรยากาศ ความสูง(km) ส่วนผสมบรรยากาศท่ีสาคัญ
ไอนา้
1.โทรโพสเฟยี ร์ (troposphere) 0-10 โอโซน
อากาศแตกตวั เป็นไอออน (Ion)
2.โอโซโนสเฟียร์ (ozonosphere) 10-55 ความหนาแนน่ ของอะตอมตา่ งๆ
มคี ่าน้อยลง
3.ชน้ั ไอโอโนสเฟียร์ (ionosphere) 80-600

4.ช้นั เอกโซสเฟียร์ (exosphere) 600ขึ้นไป


ชื่อ..........................................................................ชนั้ ...........เลขท่ี.........

ใบงาน Diagram เรอื่ งการแบ่งช้นั บรรยากาศ

คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรเู้ รื่อง การแบ่งช้ันบรรยากาศ ในรปู แบบของ diagram

ช้ันบรรยากาศ


แนวข้อสอบ O –NET

1. แกส๊ โอโซนหนาแนน่ ท่ีสดุ ในบรรยากาศช้นั ใด ?
1. โทรโพสเฟียร์
2. สตราโตสเฟียร์
3. เมโซสเฟียร์
4. เทอร์โมสเฟยี ร์

2. บรรยากาศชัน้ ใดสามารถสะท้อนคล่ืนวิทยไุ ด้ ?
1. โทรโพสเฟียร์
2. สตราโตสเฟียร์
3. เมโซสเฟยี ร์
4. เทอร์โมสเฟียร์

ที่มา : หนังสือเรยี น Learn education ขอ้ สอบ วทิ ยาศาสตร์ ม.1 . 2559


แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram

คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรยี น ให้ทาเครอื่ งหมายลงในชอ่ งรายการประเมินกาหนด

ความ สรุปผล

ลาดับท่ี ชอื่ -สกลุ ความถกู ตอ้ ง ครอบคลุม สอดคลอ้ ง ตรงต่อเวลา ความสะอาด รวม การ
ของผรู้ บั การประเมนิ ของเน้ือหา เน้อื หา และเช่อื มโยง 4 เรยี บร้อย 20 ประเมนิ
ของเนื้อหา คะแนน ผ่าน/ไม่
4 4 4
4 ผ่าน

4321 43214 32 14321 4321

ลงช่อื .................................................... ผ้ปู ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

นักเรยี นไดร้ ะดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถือว่า ผ่าน


ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรงุ )
รปู แบบ
- มีหวั ข้อที่ชัดเจน - มหี ัวขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวข้อทช่ี ัดเจน - มีหวั ขอ้ ท่ีชัดเจน
เนือ้ หา - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ
- ใชค้ าสาคญั ตรงประเดน็ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขียนอยูใ่ นกรอบ
การนาเสนอ - ใช้สญั ลักษณห์ รือภาพส่อื - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระที่
- ใช้คาสาคัญตรงประเดน็ - ใช้คาสาคัญตรงประเดน็ กาหนดตา่ กว่า 59%
ความสวยงาม ความหมาย - เขียนถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษา
การตรงตอ่ - ใชส้ สี นั ท่วั แผน่ - ใช้สญั ลักษณห์ รอื ภาพสอื่ ตา่ กวา่ 59%
- เน้อื หาครบถ้วนตามสาระท่ี - มกี ารสรปุ ไม่สมเหตุสมผล
เวลา กาหนด 100% ความหมาย ต่ากว่า 59%
- เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา
100% - เนอื้ หาถกู ต้องตามสาระที่ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระที่ - สามารถพูดนาเสนอได้
- ลาดบั หัวขอ้ เนือ้ หาชัดเจน - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ ง
- มกี ารสรปุ ได้อย่าง กาหนด 80-99% กาหนด 60-79% ตามอักขระตา่ กว่า 59%
สมเหตสุ มผล 100% - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- พูดชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - เขียนถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา - เขยี นถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา
- ใชภ้ าษาทางการถูกตอ้ งตาม - ใชส้ สี นั สวยงามหรือเปน็ ไป
อักขระ100% 80-99% 60-79% ตามเกณฑ์อย่างใดอยา่ ง
- บุคลกิ ภาพดแี ละมีความ หน่งึ
มนั่ ใจ - ลาดับหวั ขอ้ เนอื้ หาชดั เจน - มีการสรุปได้อยา่ ง
- มีการใช้ส่ือประกอบการ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากวา่
นาเสนอ - มกี ารสรุปได้อย่าง สมเหตุสมผล 60-79% เวลาทก่ี าหนด 15 นาที
- ความพรอ้ มในการนาเสนอ
- ใช้สสี นั สวยงาม สมเหตสุ มผล 80-99%
- มคี วามสะอาด
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - พูดชดั เจนเสียงดังฟังชดั - การพูดเหมาะสม
- ความเปน็ ระเบียบอ่านง่าย
ส่งผลงานครบถว้ น ตรงตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถูกตอ้ งตาม
เวลาทก่ี าหนด
อักขระ80-99% อกั ขระ60-79%

- บคุ ลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม

- ความพรอ้ มในการนาเสนอ

ได้บางสว่ น

- ใชส้ ีสันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงามและมคี วาม
- มีความสะอาด สะอาด
- มคี วามคิดสร้างสรรค์

ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ า้ กวา่ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากว่า

เวลาทกี่ าหนด 5 นาที เวลาทก่ี าหนด 10 นาที


แผนจัดการเรียนรทู้ ่ี 21 หนว่ ยย่อยที่ 1
ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ บรรยากาศ เวลา 2 ชั่วโมง
เรอื่ ง ประโยชนข์ องชน้ั บรรยากาศ ผ้สู อน นายศภุ กิตติ์ ประเสริฐ
วันทท่ี าการสอน....................เดอื น................................พ.ศ.................

1. สาระสาคัญ 2. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั
ประโยชน์ของชนั้ บรรยากาศแต่ละชนั้ มีความแตกตา่ งกนั ซง่ึ ว 3.2 ม.1/1 สร้างแบบจา้ ลองทอ่ี ธิบายการแบง่ ช้ันบรรยากาศ
และเปรียบเทยี บประโยชน์ของบรรยากาศแต่ละชัน้
แบง่ ออกเปน็ 4 ชัน้ เทอรโ์ มสเฟยี ร์เป็นช้ันทีม่ ปี ระโยชนม์ ากเพราะมไี อน้า
เมฆ หมอก และพายุ ชั้นสตาโตสเฟยี ร์ใช้ในการเดนิ ทางทางอากาศ มีโซส 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน
เฟียรเ์ กิดการเผาไหม้ของอุกกาบาส ชน้ั เทอรโ์ มสเฟยี ร์สามารถสะท้อน - ใบงาน Compare and Contrast เรอ่ื ง ประโยชน์ของช้นั
คลน่ื วิทยไุ ด้
3. สาระการเรียนรู้ บรรยากาศ
- ใบงานตามแนว PISA เรื่องการแบง่ ช้นั บรรยากาศ
- ประโยชน์ของชัน้ บรรยากาศ
6. เครอื่ งมือการสอนคิด
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น - Six Thinking hat (White hat) , Compare and
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี Contrast

กจิ กรรมการเรียนรู้ 8. ส่อื 9. วิธีวดั ผล
7. ข้นั ของกิจกรรม
- ใบงาน Compare - ประเมินใบงาน
Do Now (3นาที) and Contrast เรอ่ื ง Compare and
ประโยชนข์ องชัน้ Contrast เร่ือง
“บอกชื่อสัตว์นา้ เค็มคนละ 1 ช่ือ” บรรยากาศ ประโยชนข์ องชั้น
- ใบความรู้ เรือ่ ง บรรยากาศ
Purpose (2นาที) ประโยชน์ของช้ัน - ประเมนิ ใบงานตาม
บรรยากาศ แนว PISA เร่อื งการ
เราจะเรยี นเรอ่ื ง ประโยชนข์ องชน้ั บรรยากาศ เพ่ือให้นักเรียนสามารถเปรียบเทียบประโยชน์ของ แบง่ ชัน้ บรรยากาศ
- ใบงานตามแนว
บรรยากาศแต่ละช้ันได้อย่างถกู ต้อง PISA เรอ่ื งการแบง่ ช้ัน
บรรยากาศ
Work mode (110นาท)ี

1. นักเรียนฟังครูอธิบาย เรื่อง ประโยชนข์ องชน้ั บรรยากาศ โดยใช้ Power point ประกอบการ
เรียน (สมรรถนะ 3) (15 นาที)
2. นกั เรียนดวู ีดโิ อเรื่อง ประโยชน์ของชัน้ บรรยากาศ (10 นาที)
3. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ทา้ กจิ กรรมกลุ่ม Brainstorming โดยสืบค้นข้อมลู เกย่ี วกับ
ประโยชน์ของชน้ั บรรยากาศ จากใบความรู้เรื่อง ประโยชนข์ องชัน้ บรรยากาศจากบทเรยี นออนไลน์
(พอเพยี ง3:การมีภูมิค้มุ กนั ทด่ี ใี นตวั ) (สมรรถนะ 4) (15 นาท)ี
4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มเปรียบเทียบความเหมือนความแตกตา่ งของช้ันบรรยากาศแต่ละชนั้ ลงในใบงาน
Compare and Contrast เรอื่ ง ประโยชนข์ องชัน้ บรรยากาศ (คิด 2 : คิดเปรยี บเทยี บ) (25 นาที)
5. นกั เรยี น(ตัวแทนกล่มุ )ออกมานา้ เสนอผลงานหน้าชน้ั เรียนและอภปิ รายผลงาน/โตแ้ ย้งร่วมกัน (คิด
3 : คิดวพิ ากษ์) (15นาที)
6. นักเรียนลงมือท้าใบงานตามแนว PISA เรือ่ งการแบง่ ชน้ั บรรยากาศ (20 นาที)
7. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปรวบรวมความรใู้ หม่เก่ยี วกบั ประโยชนข์ องชนั้ บรรยากาศ (คดิ 6 : คิด

สังเคราชะ้ิหน)์ งพารอ้ นมทด้ังร่วมกนั ตอบคา้ ถามดังน้ี “ประโยชนข์ องชั้นบรรยากาศมอี ะไรบา้ ง?” (White

hat) (5 นาที)
Reflective thinking (5 นาท)ี

- “1 ส่ิงทนี่ ักเรียนได้รบั ” (2 นาที)

- ทา้ แนวข้อสอบ O-NET 2 ข้อ (3 นาท)ี


งาน Compare and Contrast เรื่อง การเปรียบเทยี บความเหมอื นความแตกต่าง
ของ……………………………………………


แนวข้อสอบ O –Net

1. บรรยากาศช้ันใดท่ีอุกกาบาตจากนอกโลกจะเริ่มลกุ ไหม้ ขณะเขา้ สู่แรงดงึ ดูดของโลก
1. โทรโพสเฟยี ร์
2. สตราโตสเฟียร์
3. เมโซสเฟียร์
4. เทอรโ์ มสเฟียร์

2. แกส๊ โอโซนหนาแนน่ ทส่ี ดุ ในบรรยากาศชัน้ ใด ?
1. โทรโพสเฟียร์
2. สตราโตสเฟียร์
3. เมโซสเฟยี ร์
4. เทอรโ์ มสเฟียร์

ที่มา : http://www.trueplookpanya.com/examination/display/11268


เวลา 5 นาที ใบงานตามแนว PISA
เร่ืองการแบง่ ชัน้ บรรยากาศ

คะแนนเต็ม 7 คะแนน

ชอ่ื - สกลุ ................................................................................................................ชั้น........................................
โรงเรียน....................................................................อาเภอ......................................จังหวัด..................................

คาชแี้ จง ขอ้ สอบชุดนมี้ ถี ้อยความใหอ้ ่าน มคี า้ ถามการอา่ นในใจและความเขา้ ใจการอา่ น 3 ข้อ จา้ นวน 2
หน้า
๑. การตอบคา้ ถามทุกขอ้ ให้ท้าในชุดขอ้ สอบ
ให้นกั เรียนอา่ นค้าถามทกุ ขอ้ อย่างละเอยี ดรอบคอบแลว้ ตอบคา้ ถามให้ดีทสี่ ุดเทา่ ทจ่ี ะท้าได้
๒.
๓.

๓.๑ บางคา้ ถามจะมคี า้ ตอบให้เลือกตอบ
ใหน้ กั เรียนวงกลมลอ้ มรอบตวั เลขทอี่ ยู่หน้าคา้ ตอบ ท่ีนกั เรยี นคิดว่าถกู ตอ้ ง

๓.๒ บางคา้ ถามจะให้นกั เรียนเขยี นค้าตอบสั้นๆ ในทวี่ า่ งท่ีเตรยี มไวใ้ นข้อสอบ
ให้นักเรยี นเขียนค้าตอบเป็นตวั หนังสอื ตัวเลขไทย หรือเคร่ืองหมายตามท่ีก้าหนด

๓.๓ บางค้าถามต้องการใหน้ ักเรยี นอธิบายคา้ ตอบ หรือบอกเหตุผลประกอบค้าตอบ
โดยก้าหนดเงือ่ นไขให้ใช้เน้ือเร่ืองสนบั สนุนคา้ ตอบ
นกั เรยี นต้องเขยี นอธบิ าย หรือ เขียนเหตุผลประกอบ ภายในถ้อยความทก่ี ้าหนดให้

( ใหน้ กั เรยี นเขียนด้วยลายมือทอี่ ่านง่าย และชดั เจน )

อา่ นถอ้ ยความตอ่ ไปนี้ แลว้ ตอบคาถามข้อ 1-3


ภาวะโลกรอ้ น กับ การเกิดรโู หว่ของชนั้ โอโซน
http://www.greenpeace.org หน้า - มกราคม 7, 2552

การเกิดรูโหว่ในชัน้ โอโซน ยงั เปน็ ประเดน็ ทีห่ ลายคนยังเขา้ ใจผดิ วา่ เปน็ สาเหตุท่ีทา้ ให้เกิดภาวะโลกร้อน แตใ่ น
ความเป็นจรงิ แล้วน้ัน การที่ช้ันโอโซนถูกท้าลายจนเกิดรโู หวท่ ่ีเราได้ยินกนั น้นั มิได้เป็นสาเหตทุ ่ีทา้ ใหโ้ ลกรอ้ นขน้ึ แตจ่ ะ
ท้าใหร้ งั สีท่ีเปน็ อนั ตรายตอ่ มนุษย์และส่งิ มีชวี ิตผ่านเข้ามายงั พืน้ โลกมากขึน้ จึงขออธบิ ายเพ่ิมเติมในประเด็นนีใ้ ห้เกิด
ความเข้าใจมากขึ้น
ตามท่ไี ด้ทราบแลว้ วา่ บรรยากาศที่หอ่ หมุ้ โลกอยมู่ ที ง้ั หมด 4 ชัน้ ไดแ้ ก่ ชั้นโทรโพสเฟียร์ สตราโตสเฟียร์ เมโซสเฟยี ร์
และเทอร์โมสเฟียร์ โดยการเกิดปรากฏการณเ์ รือนกระจก ซ่งึ เป็นกลไกส้าคญั ทีท่ ้าให้เกิดภาวะโลกรอ้ นนนั้ เกดิ ข้นึ ที่ชั้น
บรรยากาศทอ่ี ยใู่ กลผ้ วิ โลกมากที่สดุ (ประมาณเพยี ง 10-15 กโิ ลเมตรนับจากผิวโลกขึ้นไป) น่ันคือ ชัน้ โทรโพสเฟยี ร์ ซึ่ง
ในบรรยากาศชั้นนม้ี ีปรมิ าณกา๊ ซโอโซนน้อยมาก เนอื่ งจากหากโอโซนอยูใ่ นช้ันนีจ้ ะเป็นอันตรายต่อมนษุ ย์

ส่วนช้นั บรรยากาศทพ่ี บกา๊ ซโอโซนมาก ได้แก่ ช้ันสตราโตสเฟียร์ ซึง่ อยไู่ กลจากพ้ืนผวิ โลกขึ้นไปประมาณ 50
กโิ ลเมตร และอยู่เหนอื ช้ันโทรโพสเฟียร์ โดยก๊าซโอโซนในชน้ั บรรยากาศน้ีมีหนา้ ทีด่ ูดซับรงั สีทุกชนดิ ที่แผอ่ อกมา จาก
ดวงอาทติ ย์ไว้มใิ หส้ อ่ งไปยังโลกท้งั หมด โดยเฉพาะรังสอี ลุ ตรา้ ไวโอเล็ตชนดิ บี หรือ UV-B ซึ่งเปน็ รงั สีที่มอี ันตรายต่อ
สิง่ มีชวี ติ และธรรมชาติ หากมนุษยไ์ ด้รบั รังสนี ้เี ป็นระยะเวลานาน จะมคี วามเสี่ยงในการเกิดอันตรายตอ่ ผวิ หนังและ
ดวงตา ท้งั นีพ้ บวา่ หากโอโซนในบรรยากาศในชัน้ สตราโตสเฟยี รล์ ดลงเพียงรอ้ ยละ 1 จะมีผลท้าใหอ้ ัตราการเกิดต้อ
กระจกเพ่มิ ข้นึ รอ้ ยละ 0.6-0.8 นอกจากนี้ ยงั ทา้ ให้เกิดความเสีย่ งต่อการเป็นโรคมะเร็งผวิ หนงั โดยเฉพาะโรคมะเร็ง
ผิวหนงั เมลาโนมา ซึ่งพบวา่ เป็นกนั มากในหมูค่ นผวิ ขาว รวมท้งั ท้าใหภ้ ูมิคุม้ กันโรคลดลง ช่ึงท้าใหเ้ กิดโรคติดต่อตา่ งๆ
มากขึน้ นอกจากรงั สี UV-B จะมผี ลต่อมนษุ ยแ์ ลว้ สตั วแ์ ละพืชกไ็ ด้รบั ผลกระทบจากรังสดี งั กลา่ วนีเ้ ช่นกนั โดยรังสี
UV-B จะไปทา้ ลายการเจรญิ เตบิ โตของสัตวใ์ นช่วงแรก และท้าใหแ้ พลงตอนซึ่งเป็นอาหารส้าคัญของสตั ว์น้าใน
กระบวนการห่วงโซ่อาหารในน้า มปี รมิ าณลดลง สว่ นผลกระทบตอ่ พืชนั้น พบว่ารังสี UV-B จะทา้ ให้การเจริญเตบิ โต
ของพืชลดลง

อย่างไรกต็ าม แม้การเกดิ ภาวะโลกรอ้ น มิได้มสี าเหตุโดยตรงจากการเกดิ รูโหวใ่ นช้ันโอโซน แตก่ ารเพิ่มขึน้
ของสารทา้ ลายชนั้ โอโซนในช้ันบรรยากาศ นอกจากจะยิง่ ไปเพ่ิมความหนาของบรรยากาศในชน้ั โทรโพสเฟยี ร์ ซ่งึ จะท้า
ใหร้ งั สีความร้อนถูกสกดั กั้น และแผค่ วามรอ้ นกลับมายงั พน้ื ผิวโลกไดม้ ากย่งิ ขึ้นแล้วน้ัน สารท้าลายชน้ั โอโซนทส่ี ามารถ
ทะลผุ า่ นชนั้ โทรโพสเฟียร์ข้ึนไปยงั ชั้นสตราโตสเฟยี รไ์ ด้ กจ็ ะไปทา้ ลายโอโซนไดอ้ ย่างรวดเรว็ จากการเกิดปฏกิ ิรยิ าแบบ
ลูกโซ่ ดงั นนั้ ผลกระทบทเ่ี กิดขึ้นต่อสง่ิ มีชีวีตบนโลกที่จะยิง่ รนุ แรงมากข้ึน เพราะแสงอาทติ ย์ท่ีสอ่ งผ่านมานั้นนอกจาก
จะถกู กกั เกบ็ และทา้ ใหโ้ ลกร้อนแล้ว ยังมีรงั สีทเี่ ป็นอันตรายต่อสงิ่ มชี วี ตี ในโลกคือ รังสี UV-B ปะปนเขา้ มาในปริมาณท่ี
เข้มขน้ ข้ึนด้วย ท้ังสองปรากฏการณ์นีจ้ ึงถือเป็นภัยคกุ คามใหญ่หลวงท่ีมนุษย์ทุกคนต้องร่วมกันด้าเนินการเพ่ือช่วยลด
ผลกระทบต่อทั้งโลกและตัวมนุษยเ์ อง

คาถามท่ี 1 1 คะแนน
บรรยากาศชนั้ ใดทใี่ ช้สา้ หรบั สง่ คลนื่ วิทยไุ ปยังส่วนต่างๆ ของโลก


1. โทรโพสเฟียร์ 3. โอโซโนสเฟียร์
2. เอกโซสเฟยี ร์ 4. มีโซสเฟียร์

คาถามท่ี 2 1 คะแนน
ข้อใดไมเ่ กย่ี วขอ้ งกับบรรยากาศชน้ั สตราโตสเฟยี ร์
1. มปี ระจุไฟฟ้าท่ีสามารถสะท้อนคลื่นวิทยุได้ 3. มีชัน้ แก๊สโอโซน
2. มีระดับความสงู 12–50 กโิ ลเมตร 4. อุณหภมู ิสงู ขึน้ ตามระดบั ความสูง

คาถามท่ี 3 5 คะแนน
จากถอ้ ยความข้างตน้ ข้อความตอ่ ไปนี้ เป็นความจริง หรือ ไม่เป็นความจริง ใช่ ไมใ่ ช่
ขอ้ ความ เปน็ ความจริง จงเขยี นเครื่องหมาย X ในช่อง “ใช”่
ขอ้ ความ ไม่เปน็ ความจริง จงเขยี นเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ไม่ใช”่

ท่ี ขอ้ ความ
1 โทรโพสเฟยี ร์เปน็ ช้นั ทีม่ สี ิ่งมีชีวิตอาศยั อยู่
2 ชั้นสตาร์โตสเฟียอุณหภมู ิเพิ่มขนึ้
3 การลุกไหมเ้ กดิ ข้ึนในช้นั มโี ซเฟยี ร์
4 อณุ หภมู ิในช้ันบรรยากาศลดลงตามระดับความสงู
5 ปรากฏการณแ์ สงเหนอื เกดิ ขนึ้ ทกุ พ้นื ท่ขี องโลก


เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

คาถามที่ 1 1 คะแนน

บรรยากาศชัน้ ใดทใี่ ช้ส้าหรับส่งคลื่นวิทยุไปยงั สว่ นต่างๆ ของโลก

1. โทรโพสเฟยี ร์ 3. โอโซโนสเฟยี ร์

2. เอกโซสเฟยี ร์ 4. มีโซสเฟียร์

คาถามท่ี 2 1 คะแนน
ข้อใดไม่เกย่ี วขอ้ งกบั บรรยากาศชั้นสตราโตสเฟียร์
1. มีประจไุ ฟฟ้าที่สามารถสะทอ้ นคล่ืนวิทยุได้ 3. มชี ้ันแกส๊ โอโซน
2. มรี ะดับความสูง 12–50 กโิ ลเมตร 4. อณุ หภมู ิสงู ขึ้นตามระดับความสูง

คาถามท่ี 3 5 คะแนน
จากถอ้ ยความข้างต้น ขอ้ ความตอ่ ไปนี้ เปน็ ความจริง หรอื ไม่เป็นความจริง
ข้อความ เป็นความจริง จงเขยี นเคร่อื งหมาย X ในชอ่ ง “ใช”่ ใช่ ไมใ่ ช่
ขอ้ ความ ไม่เปน็ ความจรงิ จงเขียนเครือ่ งหมาย X ในชอ่ ง “ไมใ่ ช”่ X
X
ท่ี ข้อความ X
1 โทรโพสเฟยี ร์เป็นชน้ั ทีม่ สี ิ่งมีชีวติ อาศยั อยู่
2 ชั้นสตารโ์ ตสเฟียอณุ หภมู เิ พ่ิมข้ึน X
3 การลกุ ไหมเ้ กิดข้ึนในช้นั มีโซเฟยี ร์ X
4 อณุ หภมู ิในชั้นบรรยากาศลดลงตามระดับความสงู
5 ปรากฏการณ์แสงเหนอื เกิดข้นึ ทกุ พื้นที่ของโลก


การจาแนกสมรรถนะ

ตามแนวการประเมนิ ผลนักเรียนรว่ มกับนานาชาติ (PISA)

สมรรถนะ

รูปแบบขอ้ สอบ ข้อที่ คะแนน ระบปุ ระเดน็ ทาง อธบิ าย ใชป้ ระจกั ษพ์ ยาน
วิทยาศาสตร์ ปรากฏการณ์ใน ทางวทิ ยาศาสตร์
เลอื กตอบ เชิงวทิ ยาศาสตร์
แบบปกติ
(4 คะแนน) 11 X
เลือกตอบ
แบบเชงิ ซ้อน 21 X
( 1 คะแนน)
3.1 1 X - ข้อ - ขอ้
รวมจา้ นวนข้อ 3.2 1 X - คะแนน - คะแนน
3.3 1 X
3.4 1 X
3.5 1 X

37 5 ข้อ
7 คะแนน


แผนจัดการเรยี นรู้ท่ี 22 หนว่ ยย่อยท่ี 2
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ บรรยากาศ เวลา 1 ชั่วโมง
เรื่อง อุณหภมู ขิ องอากาศ ผู้สอน นายศภุ กิตต์ิ ประเสรฐิ
วันท่ีทาการสอน....................เดอื น................................พ.ศ.................

1. สาระสาคญั 2. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
อุณหภูมอิ ากาศ (Air temperature) เปน็ ปจั จัยพื้นฐานใน ว 3.2 ม.1/2 อธบิ ายปจั จยั ทม่ี ีผลต่อการเปลีย่ นแปลงองคป์ ระกอบ
ของลมฟ้าอากาศจากข้อมลู ที่รวบรวมได้
การศึกษาสภาพอากาศ (weather) อุณหภมู อิ ากาศแปรเปลย่ี นไปในแต่
ละชว่ งเวลา เช่น ปี ฤดูกาล เดอื น วนั และแม้กระทัง่ รายชั่วโมง 4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน PMI เร่อื ง อุณหภมู ิของอากาศ
3. สาระการเรยี นรู้
- อุณหภูมิอากาศ

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 6. เครือ่ งมือการสอนคิด
- ความสามารถในการแกป้ ัญหา - Six Thinking hat (White hat) ,- PMI
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้

7. ข้ันของกจิ กรรม 8. ส่ือ 9. วิธวี ัดผล

Do Now (3 นาที) - Power point เรื่อง - ประเมินใบงาน PMI

“บอกช่ือสตั วท์ ี่อาศัยไดท้ ัง้ บกและน้าคนละ 1 ชนดิ ห้ามซ้ากนั ” อุณหภูมขิ องอากาศ อุณหภูมิของอากาศ

Purpose (2นาท)ี - ใบความรู้ เร่อื ง

เราจะเรยี นเรอื่ ง อณุ หภูมิอากาศ เพือ่ ใหน้ กั เรียนอธบิ ายอุณหภมู ทิ ่ีมผี ลต่อ ลม ฟ้า อากาศ อุณหภูมขิ องอากาศ

ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

Work mode (50นาท)ี

1.นักเรียนตอบคา้ ถามโดยครถู ามกระตุ้นความคิด “นกั เรยี นสามารถบอกค่าอุณหภูมิของ

อากาศไดห้ รือไม่ ” (5 นาที)

2. นักเรยี นฟังครอู ธิบาย เร่อื ง อณุ หภูมิอากาศ โดยใช้ Power point ประกอบการเรยี น - ใบงาน PMI เรื่อง
(10 นาท)ี อุณหภมู ิของอากาศ
3.นกั เรียนสบื ค้นข้อมูลเก่ยี วกับอณุ หภูมอิ ากาศจากใบความรู้ เรื่อง อุณหภมู ิของอากาศ -วีดีโอ เร่อื ง การเกดิ
จากบทเรียนออนไลน์ แลว้ พิจารณาอยา่ งมวี ิจารณญาณ บอกขอ้ ดี ข้อเสยี ข้อเสนอแนะ พายุ
เกีย่ วกบั อณุ หภมู ิในปัจจบุ นั ในรูปแบบของ ใบงาน PMI เรือ่ ง อณุ หภมู ขิ องอากาศ

(พอเพียง : 3 การมภี มู คิ ้มุ กัน) (สมรรถนะ 2) (15นาที)
4.นกั เรยี นออกมานา้ เสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี นและอภิปรายผลงาน/โต้แยง้ รว่ มกนั (คิด 4 :

คดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ) (สมรรถนะ 3) (5นาที)

5.นักเรยี นดูคลปิ วดี ีโอ เรื่อง การเกิดพายุ (10 นาที)

6.นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ เช่ือมโยงความคดิ เก่ียวกับอณุ หภูมิของอากาศ(คิด6 : คิด

สังเคราะห)์ พร้อมท้ังร่วมกันตอบค้าถามดังนี้ “เพราะอะไรอณุ หภูมใิ นประเทศรสั เซยี กบั

ประเทชศ้ิไนทงยถาึงนต่าดงกัน ?” (White hat) (5 นาท)ี

Refleชctื่อiv..e...t..h..i.n..k..i.n..g...(..5...น..า..ท..)ี..................................................................................เลขที่...............ชั้น........................

- “2 สง่ิ ทีน่ กั เรยี นสงสัย” (2 นาที)

- ทา้ แนวขอ้ สอบ O-NET 2 ขอ้ (3 นาท)ี


ใบความรูเ้ รอ่ื ง อณุ หภูมขิ องอากาศ

ส่ิงที่เปน็ สาเหตสุ ้าคัญทีส่ ุดในการเปลีย่ นแปลงของอณุ หภมู ิในรอบวันกค็ ือ การหมนุ รอบตวั เอง อณุ หภมู อิ ากาศ
ของโลก ซ่ึงทา้ ใหม้ ุมที่แสงอาทิตย์ตกกระทบพน้ื ผิวโลกเปลยี่ นแปลงไป ในชว่ งเวลาเที่ยงวันดวง
อาทติ ยอ์ ยู่สูงเหนือขอบฟา้ มากท่ีสุด แสงอาทติ ยต์ กกระทบพืน้ โลกเปน็ มมุ ฉาก ลา้ แสงมีความ อุณหภูมอิ ากาศ (Air temperature) เป็น
เข้มสูง ในช่วงเวลาเช้าและเยน็ ดวงอาทติ ย์อยูด่ ้านข้าง แสงตกกระทบพน้ื โลกเป็นมมุ เฉียง ปัจจัยพน้ื ฐานในการศึกษาสภาพอากาศ (weather)
ล้าแสงครอบคลมุ พนื้ ที่กวา้ งกว่า ความเข้มของแสงจงึ มนี ้อยกวา่ อีกประการหน่ึงในช่วงเวลา อณุ หภูมอิ ากาศแปรเปลยี่ นไปในแตล่ ะชว่ งเวลา เช่น ปี
เที่ยง ลา้ แสงสอ่ งผา่ นบรรยากาศเป็นระยะทางไมม่ าก แต่ในช่วงเวลาเช้าและเย็น ล้า ฤดกู าล เดอื น วนั และแมก้ ระทั่งรายชว่ั โมง ดังนน้ั
แสงอาทติ ย์ทา้ มมุ ลาด ตอ้ งเดินทางผ่านชนั้ บรรยากาศเป็นระยะทางไกล ความเขม้ ของแสงจงึ
ถูกบรรยากาศกรองใหล้ ดนอ้ ยลง ยงั ผลใหอ้ ุณหภมู ติ า้่ ลงไปอกี ค่าอณุ หภูมเิ ฉลยี่ ในแต่ละวัน (Daily mean
temperature) จึงใช้ค่าอุณหภูมสิ งู สดุ และอุณหภูมิ
ภาพท่ี 1 เทอรม์ อมิเตอร์ชนดิ สงู สดุ ) ตา้่ สุด-Max –min thermometer) ต่้าสุดรวมกันแลว้ หารสอง
อุปกรณ์ซงึ่ ใช้ในการวัดอณุ หภมู ขิ องอากาศ เรียกวา่ “เทอรม์ อมิเตอร์” (Thermometer)
ค่าอุณหภมู เิ ฉลีย่ ของเดอื น (Monthly mean
เทอร์มอมิเตอร์ที่ใช้ในการศกึ ษาสภาพอากาศ คือ “เทอร์มอมิเตอรช์ นิดสูงสุดต่้าสุด-” (Max- temperature) ใชค้ ่าเฉลย่ี อณุ หภมู ขิ องแตล่ ะวนั รวมกัน
min thermometer) ซึง่ สามารถวัดค่าอุณหภูมิสูงสดุ และตา้่ สุดในรอบวนั ได้ จากการศกึ ษา แล้วหารด้วยจา้ นวนวนั
กราฟอุณหภมู ิในรอบวนั จะพบว่า อุณหภมู ิสูงสดุ มักเกิดข้ึนตอนบา่ ย มิใช่ตอนเท่ียง ทัง้ น้ี ระดบั สงู ของพน้ื ที่ (Elevation)
เนือ่ งจากพ้นื ดินและบรรยากาศต้องการอาศัยเวลาในดูดกลนื และคายความร้อน (การเกิดภาวะ อากาศเป็นตัวนา้ ความรอ้ น (Conduction) ท่เี ลว เน่ืองจากอากาศมีความโปร่งใส
เรือนกระจก) อีกทีหน่งึ และมคี วามหนาแน่นต้า่ พนื้ ดนิ จึงดดู กลืนพลงั งานจากแสงอาทติ ย์ไดด้ กี ว่า อากาศถา่ ยเท
ความร้อนจากพืน้ ดิน ดว้ ยการพาความรอ้ น (Convection) ไปตามการเคลื่อนทีข่ องอากาศ
ภาพที่ 2 กราฟแสดงการเปลยี่ นแปลงอณุ หภมู ขิ องอากาศในรอบ 3 วัน ในสภาพทว่ั ไปเราจะพบว่ายิง่ สงู ขน้ึ ไป อณุ หภมู ขิ องอากาศจะลดต่า้ ลงด้วยอตั รา 6.5°C ตอ่
ปัจจัยท่ที า้ ให้อณุ หภูมอิ ากาศในแตล่ ะสถานทม่ี คี วามแตกตา่ งกนั กโิ ลเมตร (Environmental lapse rate) ดงั นน้ั อณุ หภูมบิ นยอดเขาสงู 2,000 เมตร จะต่้า
พ้ืนดินและพืน้ น้า กวา่ อณุ หภูมทิ ี่ระดับน้าทะเลประมาณ 13°C
ละตจิ ดู
พนื้ ดินและพน้ื นา้ มีคุณสมบตั ิในการดูดกลืนและคายความร้อนแตกต่างกัน เมอ่ื รับ เนอื่ งจากโลกเปน็ ทรงกลม แสงอาทติ ย์จึงตกกระทบพน้ื โลกเปน็ มุมไมเ่ ท่ากัน (ภาพท่ี
ความร้อนพ้นื ดินจะรอ้ นข้นึ อยา่ งรวดเร็ว และมีอุณหภูมิสงู กวา่ พน้ื น้า เม่ือคายความร้อนพ้นื ดิน 3) ในเวลาเที่ยงวนั พื้นผิวบรเิ วณศนู ยส์ ูตรไดร้ บั รงั สจี ากแสงอาทิตยเ์ ป็นมมุ ชนั แต่พน้ื ผิว
บรเิ วณขวั้ โลกไดร้ บั รงั สจี ากแสงอาทิตย์เปน็ มมุ ลาด ส่งผลใหเ้ ขตศูนย์สตู รมีอณุ หภูมสิ ูงกว่า
เขตขวั้ โลก ประกอบกบั รงั สีทตี่ กกระทบพื้นโลกเป็นมุมลาด เดนิ ทางผา่ นความหนาชั้น
บรรยากาศเปน็ ระยะทางมากกวา่ รังสที ีต่ กกระทบเป็นมมุ ชนั ความเขม้ ของแสงจงึ ถูก
บรรยากาศกรองให้ลดนอ้ ยลง ยังผลให้อุณหภมู ลิ ดต้่าลงไปอกี

ภาพท่ี 3 มุมที่แสงอาทิตยต์ กกระทบพื้นผวิ โลก

ต้าแหนง่ ทางภูมิศาสตร์
พื้นผวิ โลกมีสภาพภูมปิ ระเทศแตกต่างกัน มที ั้งทรี่ าบ ทวิ เขา หบุ เขา ทะเล
มหาสมุทร ทะเลสาบ ทะเลทราย ทรี่ าบสูง สภาพภูมิประเทศมอี ทิ ธพิ ลสง่ ผลกระทบสภาพลม
ฟา้ อากาศโดยตรง เชน่ พื้นทท่ี ะเลทรายจะมอี ุณหภูมแิ ตกตา่ งระหวา่ งกลางวนั กลางคนื
มากกว่าพน้ื ท่ชี ายทะเล พืน้ ท่ีรบั ลมจะมอี ุณหภูมติ า่้ กวา่ พนื้ ทีอ่ ับลมเนือ่ งจากไมม่ ีการถา่ ยเท
ความร้อน

ปรมิ าณเมฆ และอัลบโี ดของพน้ื ผวิ
เมฆสะทอ้ นรังสจี ากอาทิตยบ์ างส่วนกลบั คืนสูอ่ วกาศ ขณะเดียวกนั เมฆดูดกลนื รงั สี
คลืน่ สั้นเอาไว้และแผพ่ ลงั งานออกมาในรปู ของรงั สีอินฟราเรด ในเวลากลางวนั เมฆชว่ ยลด
อณุ หภูมิอากาศใหต้ า่้ ลง และในเวลากลางคืน เมฆท้าให้อณุ หภูมอิ ากาศสูงขึ้น เมฆจงึ ท้าให้
อุณหภมู อิ ากาศเวลากลางวนั และกลางคนื ไม่แตกตา่ งกันมากนกั


ใบงาน PMI
เรื่อง อณุ หภมู ขิ องอากาศ

คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นบอก ข้อดี ขอ้ เสยี และข้อเสนอแนะเกยี่ วกบั อณุ หภูมขิ องอากาศใน
ปจั จุบนั

PM I


แบบประเมนิ ใบงาน PMI

คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมินผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมิน
กา้ หนดตามตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน PMI

ลาดับ ชอ่ื -สกลุ การแสดงความ เน้ือหา นาเสนอ ความสวยงาม ตรงตอ่ เวลา รวม สรปุ ผลการ
ที่ ของผรู้ ับการประเมิน คิดเหน็ 20 คะแนน ประเมิน ผา่ น/
( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน )
( 4 คะแนน ) ไม่ผ่าน

ลงชือ่ ....................................................ผูป้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตา่้ กว่า 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถอื วา่ ผา่ น


ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI

เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรบั ปรุง)
ความคดิ เหน็ - แสดงความคิดเห็นในช่อง P
- แสดงความคดิ เห็นในช่อง P - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง P - แสดงความคิดเห็นในช่อง P
ได้ 10 ข้อข้ึนไป ได้ 9-10 ข้อ ได้ 7-8 ขอ้ ได้ นอ้ ยกว่า 7 ขอ้
- แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง M
- แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง - แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง
Mได้ 10 ขอ้ ข้นึ ไป M ได้ 9-10 ข้อ M ได้ 7-8 ขอ้ ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ขอ้
- แสดงความคิดเหน็ ในชอ่ ง I
- แสดงความคิดเห็นในชอ่ ง I - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง I - แสดงความคดิ เหน็ ในช่อง I
ได้ 10 ข้อขึ้นไป ได้ 9-10 ขอ้ ได้ 7-8 ขอ้ ได้ นอ้ ยกว่า 7 ข้อ

เน้อื หา - เน้อื หาครบถ้วนตามสาระท่ี - เนอื้ หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เน้อื หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนื้อหาถกู ตอ้ งตามสาระที่

ก้าหนด 100% ก้าหนด 80-99% กา้ หนด 60-79% กา้ หนดต้า่ กวา่ 59%

- เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลักภาษา - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา - เขียนถกู ต้องตามหลกั ภาษา

100% 80-99% 60-79% ต่้ากวา่ 59%

- ล้าดับหัวขอ้ เนอื้ หาชดั เจน - ลา้ ดบั หวั ข้อเนือ้ หาชัดเจน - มีการสรปุ ไดอ้ ย่าง - มกี ารสรุปไม่สมเหตสุ มผลตา่้

- มีการสรุปไดอ้ ยา่ ง - มกี ารสรุปได้อยา่ ง สมเหตสุ มผล 60-79% กว่า 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การน้าเสนอ - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นา้ เสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใชภ้ าษาทางการถกู ตอ้ งตาม - ใช้ภาษาทางการถูกต้องตาม

อักขระ100% อกั ขระ80-99% อกั ขระ60-79% อักขระตา่้ วา่ 59%

- บุคลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

ม่ันใจ - ความพร้อมในการนา้ เสนอ

- มีการใชส้ ่อื ประกอบการ ได้บางส่วน

น้าเสนอ

- ความพรอ้ มในการนา้ เสนอ

ความสวยงาม - ใช้สสี นั สวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงามและมีความ - ใชส้ ีสันสวยงามหรือเปน็ ไป

- มีความสะอาด - มีความสะอาด สะอาด ตามเกณฑ์อย่างใดอย่างหน่งึ

- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคิดสร้างสรรค์

- ความเป็นระเบียบอา่ นงา่ ย

การตรงตอ่ ส่งผลงานครบถ้วน ตรงตาม ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ า้ กว่า สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้ากวา่ ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กว่า

เวลา เวลาทก่ี ้าหนด เวลาทก่ี า้ หนด 5 นาที เวลาท่กี า้ หนด 10 นาที เวลาทกี่ ้าหนด 15 นาที


แนวข้อสอบ O – NET

1. ข้อใดไม่ใช่ปัจจยั ทท่ี า้ ใหอ้ ณุ หภูมิของอากาศแตกตา่ งกัน
1. ระดับความสงู
2. เมฆปกคลมุ ท้องฟา้
3. แกนโลกท่เี อียง
4. ความหนาแนน่ ของธาตุ

2. อณุ หภมู ขิ องโลกในช่วงกลางวันและกลางคืนจะเปน็ อย่างไรถา้ ไม่มบี รรยากาศห่อห้มุ ไว้ ?
1. อุณหภูมกิ ลางวันต่้ามาก อุณหภูมิกลางคืนสงู มาก
2. อณุ หภมู กิ ลางวันสูงมาก อุณหภมู ิกลางคนื ต่้ามาก
3. อุณหภูมกิ ลางวนั กลางคนื ไมค่ งท่ี
4. ไมส่ ามารถสรุปได้

ท่ีมา : http://www.trueplookpanya.com/examination/display/622


แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 23 หน่วยยอ่ ยที่ 2
ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ บรรยากาศ เวลา 2 ชัว่ โมง
เรอ่ื ง ความดนั อากาศและลม ผู้สอน นายศุภกิตติ์ ประเสริฐ
วันทีท่ าการสอน.........................เดือน............................พ.ศ.................

1. สาระสาคัญ 2. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั
ความดันอากาศคอื แรงกดอนั เนื่องมาจากน้าหนักของอากาศต่อ มาตรฐาน ว 3.2 ม.1/2 อธิบายปัจจัยทีม่ ผี ลต่อการ
เปลยี่ นแปลงองคป์ ระกอบของลมฟา้ อากาศจากข้อมลู ที่
หน่วยพืนที่ ในแต่ละบริเวณของโลกมแี รงดันอากาศตา่ งกนั ขึนอยู่กับ รวบรวมได้
ปัจจัยตา่ ง ๆ
4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ลม เกดิ ขนึ เมื่ออากาศ 2 บรเิ วณมคี วามกดอากาศ และอุณหภูมิ - ใบงาน Diagram เรอ่ื งความดันอากาศและลม
แตกต่างกนั หากมีความแตกต่างมากลมก็จะย่ิงพักรงมากขนึ และยังมี - ใบงานตามแนวทางPisa เรอื่ ง ลมบกลมทะเล
ปัจจัยท่ีมผี ลตอ่ ความเร็วลมด้วย
6. เครือ่ งมือการสอนคดิ
3. สาระการเรยี นรู้
Diagram, Six thinking hats (White hat, yellow hat)
ความดันอากาศและลม

5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
ความสามารถในการคดิ

กิจกรรมการเรยี นรู้ 8. สื่อ 9. วธิ ีวดั ผล
7. ขนั้ ของกจิ กรรม
- Power Point เรือ่ ง - ประเมินใบงาน
Do Now (3นาท)ี ความดันอากาศและลม Diagram เรอื่ งความ
- ใบความรู้ เรอ่ื ง ความ ดันอากาศและลม
บอกสิ่งทน่ี ักเรยี นตอ้ งทา้ ทุกเชา้ กอ่ นมาโรงเรียนคนละ 1 อย่างหา้ มซา้ กัน ดันอากาศและลม - ประเมนิ ใบงานตาม
- ใบงาน Diagram เรื่อง
Purpose (2นาท)ี ความดันอากาศและลม แนวทางPisa เรอ่ื ง

เราจะเรียนเร่ืองความดนั อากาศและลม เพอื่ ให้นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเก่ียวกับปรกฏ - ใบงานตามแนวทาง ลมบกลมทะเล
Pisa เรอ่ื ง ลมบกลม
การณ์ท่เี กี่ยวกับความดันอากาศและลมไดอ้ ย่างถูกต้อง ทะเล

Work mode (110นาท)ี

1.นกั เรียนตอบค้าถามกระตุ้นความคิด (5 นาท)ี
1.1 นกั เรียนจะอธิบายค้าว่า แรงดันอากาศ ไดว้ ่าอยา่ งไร (White hat)
1.2 การทล่ี มพดั มปี ระโยชน์อย่างไรบา้ ง (yellow hat)
1.3 นกั เรียนคดิ วา่ การทลี่ มพดั เกิดขนึ ไดอ้ ย่างไร

2. นกั เรยี นสืบค้นขอ้ มลู เกีย่ วกับความดนั อากาศและลม โดยศึกษาจากใบความร/ู้
อนิ เตอรเ์ น็ต เร่ือง การถ่ายโอนความร้อน และสรุปความร้ใู นรปู แบบแผนผงั ลงในใบงาน
Diagram เรื่องความดันอากาศและลม (คดิ 9 : คิดเชิงมโนทัศน์) (20 นาท)ี
3.นักเรียนแต่ละกลมุ่ นา้ เสนอผลงานหนา้ ชันเรยี น และอภิปรายผลงานร่วมกนั
(คดิ 3 : คิดวพิ ากย์) (สมรรถนะ 3) (10 นาท)ี
4. นกั เรยี นและครู ร่วมกนั สรุปความรู้ เร่ือง ความดนั อากาศและลม โดยตอบคา้ ถาม
ตอ่ ไปนี (15 นาที)

4.1ชผ้ิลนขงองาคนวาดมแตกต่างของความดันอากาศกบั อณุ หภมู ิ 2 บริเวณทตี่ ่างกนั ทา้ ให้

เกิดปรากฏการณใ์ ดขึน
4.2 ปจั จัยทม่ี ีผลตอ่ ความเรว็ ลมคอื อะไร และเกิดขึนอยา่ งไร

5.นกั เรยี นฟงั ครูอธบิ ายสรปุ โดยใช้ power point ประกอบการสอน เรอ่ื ง ความดนั
อากาศและลม (15 นาที )


กิจกรรมการเรียนรู้ 8. ส่อื 9. วธิ วี ดั ผล
7. ขน้ั ของกิจกรรม

6 นกั เรียนลงมอื ท้าใบงานตามแนวทาง Pisa เรอ่ื ง ลมบกลมทะเล (20 นาที)
7.ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยใบงานตามแนวทาง Pisa (15นาท)ี
8..ครูและนกั เรียนรวมกันสรปุ เชอื่ มโยงความรู้ เรอ่ื ง ความดนั อากาศและลม (10 นาท)ี
Reflective thinking (5 นาท)ี

- “2 ส่ิงที่นักเรยี นไดร้ บั ” (2 นาที)

- ทา้ แนวข้อสอบ O-NET 2 ขอ้ (3 นาท)ี


ใบความรู้
เร่อื ง ความดันอากาศและลม

ความดนั อากาศหรือความดนั บรรยากาศเปน ความกดดนั อยู่จุดใดหนงึ่ ของชันบรรยากาศของโลก จจยั ทีม่ ีอทิ ธิ ลต่อความกดอากาศ

โดยท่วั ไปความกดอากาศจะประมาณเท่ากับความกดดนั ทีเ่ กดิ ขึนยอ้ นน้าหนักของอากาศอย่บู นจุดนัน ๆ ซงึ่ 1. อ หภูมิ อากาศทม่ี ีอุณหภูมิสงู จะขยายตวั ทา้ ใหม้ ีความกดอากาศต้า่

หมายความวา่ จุดทม่ี คี วามกดอากาศต้่าจะมีอากาศทมี่ ีมวลสารตา้่ กว่าจะอย่ขู า้ งบนมนั ด้วยเหตุผลแบบ 2. ความชนื้ อากาศชืนมีไอน้าอยมู่ าก จะเบากว่าอากาศแห้งทม่ี ีปริมาตรเทา่ กัน อากาศชนื จึงมคี วามกด
เดียวกนั ความกดอากาศจะตา่้ ลงเมอ่ื ระดับความสงู เพิ่มขึน ความกดอากาศท่คี วามสงู ระดบั น้าทะเล จะเทา่ กบั อากาศต้่ากว่าอากาศแห้ง
1 atm (หนงึ่ หน่วยบรรยากาศ) หรอื 101.325 kPa (กิโลปาสคาล) หรอื 760 mmHg (มลิ ลเิ มตรปรอท)

อ กร ท่ีใชว้ ดั ความดนั อากาศ 3. ความสูง เมือ่ ความสูงจากระดบั น้าทะเลเพ่ิมขนึ ความกดอากาศจะมีค่าลดลง

1. บารอมเิ ตอร รอท (murcury barometre)

ประกอบดว้ ยหลอดแกว้ กลวงยาวประมาณ 90 เซนตเิ มตร ที่ปลายดา้ นหนึ่งปด โดยภายในบรรจุ บนยอดเขาสงู ๆ ความกดอากาศจะต้า่ มาก และมปี ริมาณออกซิเจนนอ้ ย จึงทา้ ใหน้ กั ปนเขาเหนื่อยง่าย ดงั นนั ในการ

ปรอทไว้ และปากหลอดคว่า้ อยใู่ นภาชนะทีร่ องรบั ปรอท ทีค่ วามสงู ท่รี ะดับน้าทะเล (ความดัน 1 บรรยากาศ) ปนเขาจ้าเปนต้องมีอปุ กรณต์ ่างๆ เพ่อื ชว่ ยใหก้ ารปนเขางา่ ยขนึ

ปรอทในหลอดแกว้ จะมคี วามสงู เหนอื ระดบั ปรอทในภาชนะ 76 เซนตเิ มตร หรอื 760 มลิ ลิเมตรปรอท

(ความดนั 1 บรรยากาศ มีค่าเท่ากับ 76 เ นตเิ มตร หรอื 760 มิลลิเมตร รอท หรือ 10.336 เมตรของน้า
หรือ 1.01325 บาร หรอื 1.01 x 105 N/m2)

2. แอนนิรอยดบารอมเิ ตอร (aneroid barometre)
ประกอบดว้ ยตลบั โลหะอะลูมิเนยี ม ซง่ึ ยดึ ดา้ นหนง่ึ ของตลบั ตดิ กบั สปริง แลว้ ตอ่ ไปทค่ี านและเข็มชี

ตลับจะยบุ พองตามค่าความกดอากาศ โดยหากความกดอากาศสงู ตลบั จะยุบตวั ทา้ ใหเ้ ข็มชีไปบนหนา้ ปัดทีม่ ี
ตัวเลขแสดงความกดอากาศเปนมิลลิบาร์

3. บารอกรา (barograph)
สว่ นประกอบคลา้ ยกบั แอนนริ อยดบ์ ารอมิเตอร์ แตส่ ามารถบันทึกข้อมูลของความกดอากาศตอ่ เนื่อง

และบอกเวลาไดด้ ้วย โดยบันทกึ ลงบนแผน่ กราฟทีพ่ นั อยู่รอบกระปองที่ตอ่ เขา้ กบั แกนของมอเตอร์ กระปองจะ
หมนุ ครบรอบภายใน 24 ชว่ั โมง ท้าให้อา่ นคา่ ความกดอากาศในช่วงเวลาทผ่ี า่ นมาได้


การเกดิ ลม
คือ อากาศทเี่ คล่อื นท่ี การเคลื่อนที่ของอากาศ เปนผลเนือ่ งจากความแตกตา่ งของอุณหภูมสิ อง

แหง่ หรือความแตกต่างของความกดอากาศสองแหง่ โดยลม จะพัดจากบริเวณที่มคี วามกดอากาศ
สงู เขา้ ส่บู รเิ วณทมี่ ี ความกดอากาศต้า่ โดยกระแสการไหลของลมจะหยดุ หรอื ความดนั ของสอง
จดุ มคี า่ เทา่ กนั อยา่ งไรก็ตามการ ไหลของลมจะเปลี่ยนแปลงได้ เนอ่ื งจากปรากฏการณ์ โครโิ อลิส
กระบวนการเกดิ ลม เน่อื งจากสาเหตตา่ ง ๆ ดงั นี้

เนื่องจากความแตกตา่ ง ของอ หภูมิ สอง แหง่ อากาศเมอ่ื ไดค้ วามรอ้ นจะขยายตวั
อากาศร้อนจึงลอยตวั สูงขึน อากาศท่ีอุณหภมู ิต้่ากว่าบริเวณข้างเคยี ง จะเคลอ่ื นท่เี ขา้ แทนที่ การ
เคล่ือนทข่ี องอากาศ เน่อื งจากสองแหง่ มี อุณหภูมิตา่ งกันท้าให้เกิดลม

เน่อื งจากความแตกตา่ งของความกดอากาศ อากาศเมอื่ ไดร้ บั ความรอ้ นจะขยายตัว
ท้า ให้มีความหนาแน่นลดลง และเปนผลให้ความกดอากาศนอ้ ยลงดว้ ย อากาศเย็นบริเวณใกล้
เคียง ซง่ึ มคี วามหนาแน่นมากกว่า จะเกิดการ เคล่ือนที่เข้ามาบริเวณ ท่มี ีความกดอากาศตา่้ กว่า
การเคล่ือนท่ขี องอากาศ เนือ่ งจากสอง แหง่ มี ความ กดอากาศต่างกนั ทา้ ใหเ้ กิดลม

ประเภทและชนิดของลม

ลมประจำเวลำ คอื ลมที่เกิดขนึ้ ในชว่ งเวลาตา่ งกนั
เช่น ลมบกเกดิ ในเวลากลางคนื เนื่องจากพนื้ ดนิ คายความ
รอ้ นเรว็ กวา่ พนื้ นา้ อากาศเหนือพนื้ ดนิ เย็นกวา่ อากาศเหนือ
พนื้ นา้ อากาศจึงเคล่อื นที่จากฝ่ัง ออกสทู่ ะเลเรียกวา่ ลมบก
สว่ นลมทะเลเกดิ ในเวลากลางวนั เน่ืองจากพนื้ ดนิ รบั ความ
รอ้ นเรว็ กวา่ พนื้ นา้ อากาศเหนือพนื้ นา้ เยน็ กวา่ อากาศ เหนือ
พนื้ ดนิ อากาศจงึ เคล่อื นที่จากทะเลเขา้ ส่ฝู ่ังเรยี กวา่ ลมทะเล

ลมประจำฤดูไดแ้ ก่ ลมที่พดั เป็นประจาตามฤดกู าล
ในประเทศไทยมีฤดมู รสมุ อยู่ 2 ฤดู คอื ลมมรสมุ ตะวนั ตกเฉียง
ใต้ และลมมรสมุ ตะวกั ออกเฉียงเหนือ

ลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งใต้ หรอื ลมมรสมุ ฤดรู อ้ น
พดั จากมหาสมทุ รอนิ เดยี ผา่ นอ่าวไทย และปะทะขอบฝ่ัง
ตะวนั ออกของอ่าวไทย มรสมุ นีเ้ ร่มิ ตงั้ แตเ่ ดอื นพฤษภาคมและ
สนิ้ สดุ ลงในเดือนตลุ าคม ขณะพดั ผา่ นประเทศไทยไดห้ อบไอ
นา้ จากมหาสมทุ รมาดว้ ยเป็นจานวนมากจงึ ทาใหม้ ีฝนตกชกุ

ลมมรสุมตะวนั ตกเฉยี งเหนือ หรือลมมรสมุ ฤดู
หนาว พดั จากประเทศจีน และไซบเี รยี ลงมาจนถงึ บรเิ วณอ่าว
ไทยตอนใต้ ทาให้ อากาศมคี วามหนาวเยน็ ตงั้ แตเ่ ดอื นตลุ าคม
จนถงึ เดอื นกมุ ภาพนั ธ์


ใบงาน Diagram เร่อื งความดนั อากาศและลม


แบบ ระเมินผลงานใบงาน Diagram

คาชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน ใหท้ า้ เคร่อื งหมายลงในช่องรายการประเมนิ กา้ หนด

ความ ความ สรปุ ผล
สอดคล้อง สะอาด
ลา้ ดับท่ี ชื่อ-สกุล ความถูกตอ้ ง ครอบคลุม และเชอื่ มโยง ตรงต่อเวลา เรยี บร้อย รวม การ
ของผู้รับการประเมิน ของเนือหา เนือหา ของเนอื หา 4 20 ประเมิน
4 คะแนน ผ่าน/ไม่
4 4 4 ผ่าน

4321 43214 32 14321 4321

ประเมิน ลงช่อื .................................................... ผู้
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

นักเรยี นได้ระดบั คุณภาพที่ อใช้ ขึนไปถือว่า ผ่าน


ตารางแนบท้ายแบบ ระเมินใบงาน Diagram

เก ฑการ ระดบั การ ระเมนิ
ระเมนิ
รูปแบบ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 ( อใช)้ 1 ( รับ รง)
- มีหัวขอ้ ทช่ี ดั เจน - มหี วั ข้อที่ชดั เจน
เนือหา - เขยี นอย่ใู นกรอบ - มีหวั ข้อท่ีชดั เจน - มีหัวขอ้ ทีช่ ดั เจน - เขียนอยใู่ นกรอบ
- ใชค้ ้าสา้ คญั ตรงประเด็น
การน้าเสนอ - ใช้สญั ลกั ษณ์หรอื ภาพสื่อ - เขียนอยูใ่ นกรอบ - เขียนอยใู่ นกรอบ - เนือหาถูกต้องตามสาระที่
ก้าหนดตา่้ กว่า 59%
ความสวยงาม ความหมาย - ใชค้ ้าสา้ คญั ตรงประเด็น - ใช้ค้าส้าคญั ตรงประเดน็ - เขียนถูกต้องตามหลักภาษา
การตรงต่อ - ใชส้ ีสันท่ัวแผน่ ต่้ากว่า 59%
- เนอื หาครบถว้ นตามสาระที่ - ใชส้ ัญลักษณ์หรือภาพสื่อ - มีการสรุปไมส่ มเหตุสมผล
เวลา ก้าหนด 100% ต่้ากวา่ 59%
- เขียนถูกตอ้ งตามหลักภาษา ความหมาย
100% - สามารถพูดนา้ เสนอได้
- ลา้ ดบั หวั ข้อเนือหาชดั เจน - เนอื หาถกู ตอ้ งตามสาระท่ี - เนอื หาถกู ต้องตามสาระท่ี - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
- มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง ตามอกั ขระตา่้ กวา่ 59%
สมเหตสุ มผล 100% ก้าหนด 80-99% กา้ หนด 60-79% - บุคลิกภาพเหมาะสม
- พูดชดั เจนเสียงดงั ฟงั ชัด
- ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม - เขยี นถูกต้องตามหลักภาษา - เขยี นถกู ต้องตามหลกั ภาษา - ใชส้ ีสันสวยงามหรือเปนไป
อกั ขระ100% ตามเกณฑอ์ ยา่ งใดอยา่ ง
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ 80-99% 60-79% หนึ่ง
มนั่ ใจ
- มกี ารใช้ส่อื ประกอบการ - ล้าดบั หัวขอ้ เนือหาชดั เจน - มกี ารสรุปไดอ้ ย่าง ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้ากว่า
น้าเสนอ เวลาทกี่ ้าหนด 15 นาที
- ความพร้อมในการนา้ เสนอ - มีการสรุปไดอ้ ย่าง สมเหตสุ มผล 60-79%
- ใชส้ ีสนั สวยงาม
- มคี วามสะอาด สมเหตสุ มผล 80-99%
- มคี วามคิดสร้างสรรค์
- ความเปนระเบยี บอา่ นงา่ ย - พดู ชดั เจนเสยี งดังฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรงตาม
เวลาท่ีก้าหนด - ใชภ้ าษาทางการถกู ต้องตาม - ใช้ภาษาทางการถกู ตอ้ งตาม

อกั ขระ80-99% อกั ขระ60-79%

- บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม

- ความพร้อมในการน้าเสนอ

ได้บางส่วน

- ใช้สีสันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงามและมีความ
- มคี วามสะอาด สะอาด
- มีความคดิ สร้างสรรค์

สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ ้ากวา่ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้ กวา่

เวลาท่กี ้าหนด 5 นาที เวลาที่กา้ หนด 10 นาที


ใบงานตามแนวทาง PISA เรื่อง ลมบกลมทะเล

คาชแ้ี จง : จงตอบคาถาม จากภา ทกี่ าหนดให้ตอ่ ไ นี้

อ้างอิงhttp://stemforlife.ipst.ac.th/2017/03/14/wind/


คาถามท่ี 1 1 คะแนน

ลมบกมีทิศทางอยา่ ไร

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

คาถามท่ี 2 1 คะแนน

ลมทะเลมที ศิ ทางใด

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………………………………………………..

คาถามท่ี 3 3คะแนน
จากขอ้ ความจงระบว่า ถกู หรือ ผดิ

ข้อ คาถาม คาตอบ
1 อากาศเย็นเหนือพนื ดิน จะจมลงสว่ นอากาศรอ้ นเหนอื นา้ ทะเลขยายตัวลอย

สงู ขนึ ท้าให้เกิดความกดอากาศต้่า
2 ลมพดั จากบรเิ วณความกดอากาศสูงไปยงั บรเิ วณความกดอากาศต่้า
3 พนื ดนิ คายความร้อนเวลากลางคนื เร็วกวา่ นา้ ทะเลอากาศเหนอื พืนดินจงึ ย็

นกว่าอากาศเหนือน้าทะเล


Click to View FlipBook Version