The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by suppalerk22061, 2021-05-30 13:43:42

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์ 45

รำยวิชำกลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย
ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษำตอนตน้

รำยวิชำพ้ืนฐำน

ชนั้ รหสั วชิ ำ รำยวชิ ำ เวลำ จำนวน
ม. 1 ท21101 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ท21102 ภาษาไทย 1 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกิต
ม. 2 ท22101 ภาษาไทย 2 60 ช่วั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ท22102 ภาษาไทย 3 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต
ม. 3 ท23101 ภาษาไทย 4 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ท23102 ภาษาไทย 5 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกิต
ภาษาไทย 6

46 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

รหสั วชิ ำ ท21101 วิชำ ภำษำไทย 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย

ชั้นมัธยมศึกษำปที ี่ 1 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศึกษาการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการอ่าน หลักการใช้ภาษาไทย และวรรณคดีและ

วรรณกรรมเก่ียวกับการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง จับใจความสาคัญ สรุปความและอธิบาย

รายละเอียดจากเร่ืองที่อ่านสามารถเขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน อภิปราย

แสดงความคิดเห็น และข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์และจาแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุนและ

ขอ้ คิดเหน็ จากบทความท่ีอ่าน อ่านหนังสือบทความหรือคาประพันธ์อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือ

แนวคิดที่ได้จากการอา่ นเพื่อนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวติ ร้แู ละเข้าใจหลกั การคดั ลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด การ

เขียนเรียงความ การเขียนย่อความ การเขียนจดหมายกิจธุระ พูดสรุปใจความสาคัญของเร่ืองที่ฟังและดู

วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นจากเรื่องที่ฟังและดู อธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทย วิเคราะห์ชนิดและ

หน้าท่ีของคาในประโยค วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียนแต่งบทร้อยกรอง สรุปเน้ือหา

วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน พร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบาย

คุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน

ทอ่ งจาบทอาขยานตามทีก่ าหนดและบทรอ้ ยกรองที่มคี ุณคา่ ตามความสนใจ

ฝึกทักษะโดยใช้กระบวนการอ่านเพ่ือสร้างความรู้และความคิดในเร่ืองต่าง ๆ ใช้กระบวนการเขียน

ศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลือกฟัง ดู และพูดอย่างมี

วิจารณญาณและสร้างสรรค์มีทักษะในการแก้ปัญหา ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะ

ผู้นา ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ทักษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ ทักษะ

อาชีพและทกั ษะการเรยี นรู้ สามารถตัดสินใจแกป้ ญั หาในการดารงชีวติ

ตระหนักถึงคุณค่าภาษาไทยและรักษาภาษาไทยในฐานะมรดกของชาติ มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน

และมีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด มุ่งมั่นในการทางาน มีความเชื่อม่ันในตนเอง มี

ความรอบคอบ มีความรับผดิ ชอบ มวี จิ ารณญาณและเห็นคุณคา่ ของการใชช้ ีวิตอยอู่ ยา่ งพอเพียง

รหสั ตัวชวี้ ดั
ท 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/6, ม.1/9
ท 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/9
ท 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/6
ท 4.1 ม.1/1, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5
ท 5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5

รวมท้งั หมด 27 ตวั ชี้วัด

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 47

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน

รหสั วิชำ ท21102 วชิ ำ ภำษำไทย 2 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย

ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศึกษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องเหมาะสมกับเรื่องท่ีอ่าน จับใจความ

สาคัญจากเร่ืองที่อ่าน ระบุเหตุและผล และข้อเท็จจริงกับข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ีอ่าน ระบุและอธิ บายคา

เปรียบเทียบและคาที่มหี ลายความหมายในบริบทต่าง ๆ จากการอ่าน วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับจากการอ่านงาน

เขียนอย่างหลากหลายเพ่ือนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวิต มีมารยาทในการอ่าน คัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด

เขียนส่ือสารโดยใช้ถ้อยคาถูกต้อง ชัดเจน เหมาะสม และสละสลวย เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุ

สาระสาคัญและรายละเอียด สนับสนุน เขียนเรียงความ เขียนย่อความจากเรื่องที่อ่าน เขียนจดหมายส่วนตัว

และจดหมายกิจธุระ เขียนรายงาน การศึกษาค้นคว้าและโครงงาน มีมารยาทในการเขียน พูดสรุปใจความ

สาคญั ของเรือ่ งท่ีฟังและดู เล่าเร่ืองย่อจากเร่ืองที่ฟังและดู พูดแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่อง

ท่ีฟังและดู ประเมินความน่าเชื่อถือของสื่อที่มีเน้ือหาโน้มน้าวใจ พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นท่ีศึกษาค้นคว้า

จากการฟงั การดแู ละการสนทนา มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด วิเคราะห์ความแตกต่างของภาษาพูด

และภาษาเขียน แต่งบทร้อยกรอง จาแนกและใช้ สานวนที่เป็นคาพังเพยและสุภาษิต สรุปเนื้อหาวรรณคดี

วรรณกรรมที่อ่าน วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่ อ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ อธิบายคุณค่าของ

วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านเพ่ือประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่ องจาบท

อาขยานตามทีก่ าหนดและบทร้อยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ

ฝึกใช้กระบวนการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด กระบวนการเลือกใช้ภาษา กระบวนการ

วิเคราะห์ กระบวนการศึกษาคันคว้าที่เหมาะสม วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม เพื่อให้เกิดความรู้ความ

เขา้ ใจ และสามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรักภาคภูมิใจในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีจิตสาธารณะ มีคุณธรรม จริยธรรมมี

ความรู้ ความเข้าใจ มีความคิดสร้างสรรค์ มีนิสัยรักการอ่าน มีมารยาทในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู

และการพูด และอนรุ กั ษภ์ าษาไทยซึง่ เปน็ สมบตั ิอันลา้ คา่ ของชาตใิ ห้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป

รหสั ตัวชี้วัด
ท 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ท 2.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ท 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
ท 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
ท 5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5

รวมทัง้ หมด 35 ตวั ชวี้ ัด

48 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

รหสั วชิ ำ ท22101 วิชำ ภำษำไทย 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย

ชัน้ มธั ยมศึกษำปีที่ 2 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษาการอ่าน การเขียน การฟัง การดูและการพูด หลักการใช้ภาษาไทย และวรรณคดีและ

วรรณกรรม เกี่ยวกับการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง จับใจความสาคัญ สรุปความและอธิบาย

รายละเอียดจากเรื่องที่อ่านสามารถเขียนผังความคิดเพื่อแสดงความเข้าใจในบทเรียนต่าง ๆ ที่อ่าน อภิปราย

แสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์และจาแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุนและ

ข้อคดิ เหน็ จากบทความที่อ่าน อ่านหนังสือบทความหรือคาประพันธ์อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือ

แนวคิดทไ่ี ด้จากการอา่ นเพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ัญหาในชีวิต รู้และเข้าใจหลักการคัดลายมือตัวบรรจงครึ่งบรรทัด การ

เขียนเรียงความ การเขียนย่อความ การเขียนจดหมายกิจธุระ พูดสรุปใจความสาคัญของเร่ืองที่ฟังและดู

วิเคราะห์ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็นและความน่าเชื่อถือของข่าวสารจากส่ือต่าง ๆ วิเคราะห์โครงสร้างประโยค

สามญั ประโยครวมและประโยคซ้อน แตง่ บทร้อยกรอง คาราชาศัพท์ สรปุ เน้อื หาวรรณดีและวรรณกรรมที่อ่าน

ในระดับที่ยากขึ้น วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีวรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่ินที่อ่านพร้อมยกเหตุผล

ประกอบ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่าน สรุปความรู้และและข้อคิดจากการอ่านไป

ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจริง ท่องจาบทอาขยานตามท่กี าหนดและบทร้อยกรองที่มคี ุณค่าตามความสนใจ

ฝึกทักษะโดยใช้กระบวนการอ่านเพื่อสร้างความรู้และความคิดในเรื่องต่าง ๆ ใช้กระบวนการเขียน

ศึกษาคันคว้าอย่างมีประสิทธิภาพกระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลือกฟัง ดู และพูดอย่างมี

วิจารณญาณและสร้างสรรค์มีทักษะในการแก้ปัญหา ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีม และภาวะ

ผู้นา ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ทักษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ ทักษะ

อาชีพและ ทักษะการเรียนรู้ สามารถตดั สินใจแก้ปญั หาในการดาเนินชวี ติ

ตระหนักถึงคุณคาภาษาไทยและรักษาภาษาไทยในฐานะมรดกของชาติ มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน

และมีมารยาทในการอาน การเขียน การฟัง การดูและการพูด มุ่งมั่นในการทางาน มีความเช่ือม่ัน ในตนเอง มี

ความรอบคอบ มคี วามรบั ผิดชอบ มีวจิ ารณญาณและเห็นคุณคา่ ของการใช้ชวี ิตอยอู่ ยา่ งพอเพียง

รหัสตัวชีว้ ัด
ท 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8
ท 2.2 ม.2/1, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/6, ม.1/8
ท 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/4, ม.2/6
ท 4.1 ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
ท 5.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5

รวมทั้งหมด 25 ตวั ช้ีวัด

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 49

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

รหสั วิชำ ท22102 วชิ ำ ภำษำไทย 4 กลุม่ สำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำไทย

ช้นั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 2 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

.......

ศึกษา และ ฝึกทักษะการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด หลักภาษาวรรณคดีและวรรณกรรม

อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้ว และบทรอ้ ยกรองได้ถูกต้องจบั ใจความสาคัญสรุปความ และอธิบายรายละเอียดจาก

เร่อื งทีอ่ า่ น อ่านหนังสือ บทความ หรือ คาประพันธ์อย่างหลากหลาย และประเมินคุณค่าหรือแนวคิดท่ีได้จาก

การอ่าน เพื่อนาไปใช้ แก้ปัญหาในชีวิตเขียนบรรยายและพรรณนาเขียนรายงานการศึกษาค้นคว้า เขียน

จดหมายกจิ ธรุ ะ วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองที่ฟังและดูอย่างมีเหตุผล เพื่อนาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ใน การดาเนิน

ชีวิต พูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นท่ีศึกษา คันคว้าจากการฟัง การ

ดู และการสนทนาการสร้างคาสมาส แต่งบทร้อยกรองรวบรมและอธิบายความหมายของคาภาษาต่างประเทศ

ท่ีใช้ในภาษาไทย สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมวิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีวรรณกรรม และ

วรรณกรรมท้องถิ่นทีอ่ ่าน สรุปความรู้และข้อคิดจากกรอ่านท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรอง

ที่มีคุณค่าตามความสนใจโดยใช้ กระบวนการการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูดกระบวนการเลือกใช้

ภาษา กระบวนการวิเคราะห์ วจิ ารณ์ วรรณคดแี ละวรรณกรรม

เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีนิสัยรักการอ่าน มีมารยาทใน

ด้านการอา่ นการเขียน การฟงั การดู การพูดรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติเห็นคุณค่าและสามารถนามา

ประยกุ ต์ใชใ้ นการดาเนินชวี ิตจริง

รหัสตวั ชวี้ ดั
ท 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/7, ม.2/8
ท 2.1 ม.2/2, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7
ท 3.1 ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
ท 4.1 ม.2/1, ม.2/5
ท 5.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5

รวมท้งั หมด 18 ตัวชีว้ ัด

50 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหสั วิชำ ท23101 วิชำ ภำษำไทย 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 3 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษาหลักอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกต้องและเหมาะสมกับเร่ืองท่ีอ่าน ระบุ

ความแตกต่างของคาท่ีมีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย ระบุใจความสาคัญและรายละเอียดของ

ขอ้ มูลทสี่ นับสนุนจากเรอื่ งท่ีอา่ น อ่านเรอื่ งต่าง ๆ เขยี นกรอบแนวคิดผังความคิด บันทึก ย่อความ และรายงาน

วเิ คราะห์ วิจารณ์ประเมินเรื่องทีอ่ ่านโดยใชว้ ิธกี ารเปรยี บเทยี บ เพอื่ ให้ผู้อ่านเข้าใจได้ดีข้ึน การมีมารยาทในการ

อ่านคัดลายมอื ตัวบรรจงครง่ึ บรรทดั เขียนขอ้ ความโดยใช้ถอ้ ยคาได้ถูกต้องตามระดับภาษาเขียนชีวประวัติหรือ

อัตชีวประวัติ โดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็น และทัศนคติในเร่ืองต่าง ๆ เขียนย่อความ เขียนอธิบาย ช้ีแจง

แสดงความคิดเหน็ และโต้แย้งอยา่ งมีเหตุผล การมีมารยาทในการเขยี นแสดงความคดิ เห็นและประเมินเร่ืองจาก

การฟัง และการดู วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องท่ีฟังและดู เพื่อนาข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต พูดใน

โอกาสต่าง ๆ ได้ ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ มีมารยาทในการฟงั การดูและการพูด จาแนกและใช้ภาษาต่างประเทศ

ท่ีใช้ในภาษาไทย วิเคราะห์โครงสร้างประโยคซับซ้อนวิเคราะห์ระดับภาษาสรุปเน้ือหาวรรณคดี วรรณกรรม

และวรรณกรรมท้องถนิ่ ท่ียากยง่ิ ข้นึ วเิ คราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านสรุปความรู้

และข้อคิดจากการอ่าน เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กาหนดและ

บทร้อยกรองท่มี คี ณุ ค่าตามความสนใจและนาไปใชอ้ ้างองิ

ฝึกทักษะโดยใช้กระบวนการอ่านเพ่ือสร้างความรู้และความคิดในเร่ืองต่าง ๆ ใช้กระบวนการเขียน

ศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลือกฟัง ดู และพูดอย่างมี

วิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

สามารถตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน และมีมารยาทในการอ่าน

การเขยี น การฟงั การดูและการพดู

รหสั ตวั ชี้วัด
ท 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/10
ท 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/6, ม.3/10
ท 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/4, ม.3/6
ท 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ท 5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4

รวมท้ังหมด 23 ตวั ชี้วัด

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 51

คำอธบิ ำยรำยวิชำพืน้ ฐำน

รหสั วิชำ ท23102 วชิ ำ ภำษำไทย 6 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย

ช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 3 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศึกษาหลกั การประเมินความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้สนับสนุนในเร่ืองท่ีอ่าน วิจารณ์ความสมเหตุสมผล

การลาดับความ และความเป็นไปได้ของเรื่อง วิเคราะห์เพ่ือแสดงความคิดเห็นโต้แย้งเก่ียวกับเรื่องที่อ่าน

ตีความ และประเมินคุณค่าที่ได้รบั จากงานเขียนอย่างหลากหลาย เพื่อนาไปแก้ปัญหาในชีวิต และมีมารยาทใน

การอ่าน เขียนจดหมายกิจธุระ เขียนวิเคราะห์วิจารณ์ และแสดงความรู้ความคิดเห็นหรือโต้แย้งในเรื่องต่าง ๆ

กรอกแบบสมคั รงานพร้อมเขยี นบรรยายเก่ยี วกับความร้แู ละทกั ษะของตนเองที่เหมาะสมกับงาน เขียนรายงาน

การศึกษาค้นคว้าและโครงงาน และมีมารยาทในการเขียน วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ืองท่ีฟังและดูเพื่อนาข้อคิด

มาประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต พูดรายงานเรื่องหรือประเด็นที่ศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการ

สนทนา พูดโน้มน้าว โดยนาเสนอหลักฐานตามลาดับเน้ือหาอย่างมีเหตุผลและน่าเช่ือถือ มีมารยาทในการฟัง

การดู และการพูด ใชค้ าทบั ศพั ทแ์ ละศพั ท์บัญญตั ิ อธิบายความหมายคาศัพท์ทางวิชาการและวิชาชีพ และแต่ง

บทร้อยกรองสรุปเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่ินในระดับท่ียากย่ิงข้ึน วิเคราะห์วิถีไทย

และคุณคา่ จากวรรณคดี และวรรณกรรมที่อ่าน สรปุ ความรู้และขอ้ คิดจากการอ่านเพ่ือนาไปใช้ประยุกต์ในชีวิต

จริง ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยานตามที่กาหนด และบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจและนาไปใช้

อา้ งองิ

ฝึกทักษะโดยใช้กระบวนการอ่าน เพ่ือสร้างความรู้และความคิดในเร่ืองต่าง ๆ ใช้กระบวนการเขียน

ศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการฟัง การดู และการพูด สามารถเลือกฟัง ดู และพูดอย่างมี

วิจารณญาณ และสร้างสรรค์

สามารถตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวิต มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน และมีมารยาทในการอ่าน

การเขยี น การฟงั การดแู ละการพดู

รหสั ตวั ช้ีวดั
ท 1.1 ม.3/6, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10
ท 2.1 ม.3/5, ม.3/7, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10
ท 3.1 ม.3/2, ม.3/3, ม.3/5, ม.3/6
ท 4.1 ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
ท 5.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4

รวมทง้ั หมด 21 ตัวช้ีวัด

52 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

รำยวชิ ำกล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย
ระดับช้ันมัธยมศึกษำตอนปลำย

รำยวชิ ำพน้ื ฐำน

ช้นั รหสั วิชำ รำยวิชำ เวลำ จำนวน
ม. 4 ท31101 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต
ท31102 ภาษาไทย 1 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกิต
ม. 5 ท32101 ภาษาไทย 2 40 ชัว่ โมง 1.0 หนว่ ยกิต
ท32102 ภาษาไทย 3 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต
ม. 6 ท33101 ภาษาไทย 4 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต
ท33102 ภาษาไทย 5 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกิต
ภาษาไทย 6

รำยวิชำเพิ่มเตมิ

ชน้ั รหสั วิชำ รำยวชิ ำ เวลำ จำนวน
ม. 4 ท31201 การอ่านและพจิ ารณาวรรณกรรม 40 ช่ัวโมง 1.0 หนว่ ยกิต
ท31202 การอา่ นและเขียนเชิงสรา้ งสรรค์ 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกิต
ม. 5 ท32201 ประวัติวรรณคดี 40 ช่ัวโมง 1.0 หน่วยกติ
ท32202 การประพันธ์ 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ม. 6 ท33201 พัฒนาทักษะภาษาไทย 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ
ท33202 การใชภ้ าษาไทยสร้างความสาเร็จ 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกิต

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 53

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน

รหัสวชิ ำ ท31101 วชิ ำ ภำษำไทย 1 กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย

ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 4 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศกึ ษา ฝึกทักษะกระบวนการในสาระด้านการอา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ อย่างถูก

อย่างไพเราะ เหมาะสมกับเรอ่ื งทอ่ี ่าน อ่านจับใจความ วิเคราะห์วิจารณ์เร่ืองท่ีอ่านในทุก ๆ ด้านอย่างมีเหตุผล

และประเมินค่าเรื่องท่ีอ่าน เพื่อนาความรู้ความคิดไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต ตอบคาถามจาก

การอา่ นประเภทตา่ ง ๆ ภายในเวลาทีก่ าหนด รู้หลักการเขียนอธบิ าย บรรยาย พรรณนา การเขียนจดหมายกิจ

ธุระ การเขยี นยอ่ ความ การเขยี นเรียงความ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงได้อย่างไพเราะ และใช้ข้อมูลอ้างอิงได้อย่าง

ถูกต้อง พูดแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองท่ีฟังและดู มีวิจารณญาณในการในการเลือกเรื่องท่ีฟังและดูได้อย่างมี

เหตุผล อธิบายธรรมชาติของภาษา พลังของภาษา และลักษณะของภาษา เขียนสะกดคาได้ถูกต้อง แต่งบท

ร้อยกรองได้อย่างไพเราะและถูกต้องตามฉันทลักษณ์ วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตาม

หลักการวิจารณ์เบื้องต้น วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเช่ือมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัติ

ศาสตร์และวถิ ชี ีวิตของสังคมในอดีต วิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรม

ในฐานะทีเ่ ปน็ มรดกทางวฒั นธรรมชาติ สังเคราะหข์ อ้ คิดจากวรรณคดีและวรรณกรรม เพื่อนาไปประยุกต์ใช้ใน

ชีวิตจริง ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยานท่ีกาหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตามความสนใจและนาไปใช้

อ้างอิง

ฝึกทักษะโดยใช้กระบวนการอ่าน เพื่อสร้างความรู้ความคิดนาไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนิน

ชวี ติ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่อื สารอยา่ งมีประสิทธิภาพ ใช้กระบวนการฟัง การดู การพูด สามารถเลือกฟัง

ดู และพดู แสดงความรคู้ วามคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์

รกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติและมนี ิสยั รักการอ่าน การเขียน มีมารยาทในการอ่าน การเขียน

การฟงั การดู การพูดและสามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบยี บ มงุ่ มัน่ ในการทางาน มีความรอบคอบ มีความ

รับผดิ ชอบ

รหัสตัวชีว้ ดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6

รวมท้งั หมด 23 ตวั ชีว้ ดั

54 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหสั วิชำ ท31102 วิชำ ภำษำไทย 2 กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย

ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ 4 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

อ่านออกเสียงบทร้อยแก้ว บทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะ อ่านงานเขียนประเภทต่าง ๆ สรุปเร่ืองท่ี

อ่านวิเคราะห์วิจารณ์ ประเมินค่าอย่างมีเหตุผล แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง นาเสนอแนวคิดใหม่ สังเคราะห์

ความรู้ ความคดิ จากการอา่ นมาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง มีมารยาทในการอ่าน รักการอ่าน ใช้กระบวนการเขียน

เขียนสื่อความในรูปแบบต่าง ๆ เขียนจดหมาย เรียงความ บันทึก รายงานการค้นคว้าใช้ข้อมูลสารสนเทศ

อ้างอิงเขียนส่ือสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีมารยาทในการเขียน ทักษะการฟัง ดู มีวิจารณญาณในการเลือก

ฟัง ดู วิเคราะห์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง นาเสนอแนวคิดใหม่ ประเมินค่ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

ทักษะการพูด พูดในโอกาสต่าง ๆ ทั้งท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการ พูดต่อท่ีประชุม พูดอภิปรายแสดง

ความคิดเห็น เสนอแนวคิด โดยใชภ้ าษาถกู ตอ้ งเหมาะสม มีมารยาทในการฟัง ดู พดู

หลักภาษาไทย มีความรู้เร่ืองการใช้คาและกลุ่มคาสร้างประโยคสื่อสารได้ตรงตามวัตถุประสงค์ มี

ความรู้เรื่องการเพ่ิมคา สร้างคา แต่งบทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ กลอน ฉันท์ ได้ถูกต้อง เห็นคุณค่าของ

ภาษาไทย รักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ

รแู้ ละเข้าใจวรรณคดีและวรรณกรรมไทย วิเคราะห์วิจารณ์ เชื่อมโยงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และ

วิถีชีวิตสังคมในอดีต ประเมินค่า สังเคราะห์ข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง เห็นคุณค่าของวรรณคดีและ

วรรณกรรมเปน็ มรดกวัฒนธรรมของชาติ ท่องจาบทอาขยานและบทร้อยกรองทีม่ ีคุณค่านาไปใช้อ้างองิ

รหัสตวั ชว้ี ดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/6
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6

รวมทง้ั หมด 26 ตวั ชว้ี ดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 55

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหสั วชิ ำ ท32101 วชิ ำ ภำษำไทย 3 กลุม่ สำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย

ชนั้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 5 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศกึ ษาการอา่ น การเขียน การฟงั การดู การพูด และวิเคราะห์วิจารณ์ โดยศึกษาเก่ียวกับการอ่านออก

เสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง การอ่านเพ่ือวิเคราะห์วิจารณ์ การอ่านอย่างมีวิจารณญาณ การเขียนเรียงความ การ

เขียนเชิงวิชาการ การเขียนสารคดี และการประเมินคุณค่างานเขียน การเลือกเรื่องที่ฟังและพูดอย่างมี

วิจารณญาณ และพูดโน้มน้าวใจได้อย่างมีศิลปะ อธิบายลักษณะของภาษา ประโยค เปรียบเทียบและอธิบาย

เก่ียวกบั ความคิดกับภาษาวัฒนธรรม และแต่งบทร้อยกรองประเภทร่ายและฉันท์ได้อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์

วิจารณ์และสังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเรื่อง บทละครพูดคาฉันท์ เร่ืองมัทนะพาธา ตอน สุ

เทษณ์ฝากรักนางมัทนา ลิลิต-ตะเลงพ่าย ท่องจาบทอาขยานที่กาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความ

สนใจและเหน็ คณุ ค่าความงามของภาษา

ฝึกทักษะใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการฟัง การดู และการพูดอย่างสร้างสรรค์

กระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนาความรู้ ความคิดไป

ประกอบในการตัดสินใจแกป้ ัญหาในการดารงชีวิตได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีวจิ ารณญาณ

เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาภูมิปัญญาทางภาษาและสามารถแสดงความคิดเห็น

วเิ คราะห์วิจารณ์ และสังเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยได้อย่างเห็นคุณค่า และนามาประยุกต์ใช้ในชีวิต

จริง ดารงรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ และสร้างนสิ ัยรกั การอ่าน การเขียน ตระหนักถึงมารยาทที่ดีใน

การอา่ น การเขยี น การฟงั การดู และการพดู

รหัสตวั ชว้ี ดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5
ท 2.1 ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/7, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/6
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/2, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/5, ม.4-6/6

รวมทัง้ หมด 25 ตวั ช้ีวดั

56 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำพ้ืนฐำน

รหัสวชิ ำ ท32102 วิชำ ภำษำไทย 4 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย

ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 5 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง ไพเราะ วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่อ่านอย่าง

มีเหตุผล ตอบคาถาม แล้วเขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด สังเคราะห์ความรู้จากการอ่าน ส่ือสิ่งพิมพ์ สื่อ

อิเล็กทรอนิกส์ และแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ มาพัฒนาตน พัฒนาการเรียน และพัฒนาความรู้ทางอาชีพ ย่อความ

และรายงาน ประเมินค่าเพ่ือนาความรู้ความคิดไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต และมีมารยาทในการ

อ่าน เขียนเรียงความ เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ได้ตรงตามวัตถุประสงค์ และเรียบเรียงภาษาได้ถูกต้อง มี

ขอ้ มูลและสาระสาคัญชดั เจน เขยี นรายงานการศึกษาคน้ ควา้ เรอ่ื งทีส่ นใจตามหลักการเขียนเชิงวิชาการ และใช้

ข้อมูลสารสนเทศอา้ งอิงอยา่ งถกู ต้อง บันทกึ การศกึ ษาคน้ คว้าเพื่อนาไปพัฒนาตนเองอย่างสม่าเสมอ มีมารยาท

ในการเขยี น สรุปวเิ คราะห์แนวคิด การใชภ้ าษา และความน่าเช่ือถอื จากเรื่องท่ีฟังและดูอย่างมีเหตุผล ประเมิน

เร่ืองท่ีฟังและดู แล้วกาหนดแนวทางไปประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิต มีวิจารณญาณในการฟังและดู พูดใน

โอกาสตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม มีมารยาทในการฟัง การดู อธิบายและวิเคราะห์หลักการสร้างคาในภาษาไทย

ใช้คาและกลุ่มคาสร้างประโยคตรงตามวัตถุประสงค์ วิเคราะห์อิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถ่ิน

วิเคราะห์และประเมินการใช้ภาษาจากส่ือส่ิงพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ วิเคราะห์วิจารณ์ สังเคราะห์และ

ประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมในฐานะท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เพ่ือ

นาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง รวบรวมวรรณกรรมพื้นบ้านและอธิบายภูมิปัญญาทางภาษา ท่องจาและบอก

คุณคา่ บทอาขยานตามที่กาหนดและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตามความสนใจ และนาไปใชอ้ า้ งองิ ได้

ฝึกทักษะใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการฟัง การดู และการพูดอย่างสร้างสรรค์

กระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมอย่างสร้างสรรค์ เพื่อนาความรู้ ความคิดไป

ประกอบในการตัดสินใจแก้ปัญหาในการดารงชีวิตได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีวจิ ารณญาณ

เพ่ือใหเ้ หน็ คุณค่า มคี วามตระหนัก สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสานึก

และคา่ นยิ มทดี่ ีงาม

รหสั ตัวช้ีวดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/5, ม.4-6/8
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/6, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/4, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/2, ม.4-6/5, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/4, ม.4-6/6

รวมท้งั หมด 24 ตัวชีว้ ัด

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 57

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหสั วิชำ ท33101 วชิ ำ ภำษำไทย 5 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย

ช้ันมัธยมศึกษำปที ี่ 6 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศึกษาการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง อ่านงานเขียนประเภทต่าง ๆ อ่านตีความ แปลความ

ขยายความ วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่า แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด เขียนส่ือ

ความในรูปแบบต่าง ๆ การอภิปราย บรรยาย พรรณนา การประเมินคุณค่างานเขียน รายงานการค้นคว้า ใช้

ขอ้ มูลสารสนเทศอ้างอิง เลอื กฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ พูดแสดงทรรศนะ โน้มน้าวใจ ธรรมชาติของภาษา

ลักษณะภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา ระดับภาษา ราชาศัพท์ อิทธิพลภาษาต่างประเทศ หลักการ

วิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย เช่ือมโยงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตสังคมไทยใน

อดีต ประเมนิ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์

ใชก้ ระบวนการอา่ น การเขียน ทักษะการฟังและดู การพูด และกระบวนการคิด ในการอ่านออกเสียง

ร้อยแกว้ รอ้ ยกรอง ตีความ แปลความ ขยายความ วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่า แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง มี

มารยาทในการสอ่ื สารด้วยภาษาท่ถี กู ตอ้ งเหมาะสม นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชวี ิต

เห็นคุณค่าและรักษาภาษาไทย วรรณคดี วรรณกรรมไทย ไว้เป็นสมบัติและมรดกทางวัฒนธรรม นา

ความรู้ หลกั การปฏบิ ัตติ ามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงมาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั

รหัสตัวชว้ี ดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/5, ม.4-6/6, ม.4-6/8
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/3, ม.4-6/5
ท 5.1 ม.4-6/1, ม.4-6/4, ม.4-6/6

รวมทงั้ หมด 28 ตัวช้ีวัด

58 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำพื้นฐำน

รหสั วิชำ ท33102 วชิ ำ ภำษำไทย 6 กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย

ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 6 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษาการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ร้อยกรอง อ่านงานเขียนประเภทต่าง ๆ อ่านตีความ แปลความ

ขยายความ วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่า แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด เขียนสื่อ

ความในรูปแบบต่าง ๆ การแสดงทรรศนะ โต้แย้ง โน้มน้าวใจ เชิญชวน ประเมินคุณค่างานเขียน การเขียน

รายงานจากการค้นคว้า ใช้ข้อมูลสารสนเทศอ้างอิง การเขียนบันทึกความรู้ เลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ

พลังของภาษา การแต่งบทร้อยกรอง ประเมินการใช้ภาษาจากสื่อส่ิงพิมพ์และส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ลักษณะเด่น

ข้อคดิ จากวรรณคดีและวรรณกรรมไทย ประเมินคา่ ด้านวรรณศลิ ปแ์ ละสงั คม บทอาขยาน บทร้อยกรอง

ใช้กระบวนการอ่าน การเขียน ทักษะการฟังและดู การพูด และกระบวนการคิดในการอ่านออกเสียง

ร้อยแกว้ ร้อยกรอง ตีความ แปลความ ขยายความ วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินค่า แสดงความคิดเห็นโต้แย้ง มี

มารยาทในการสื่อสาร เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ สามารถส่ือสารด้วยภาษาทถ่ี กู ต้องเหมาะสม

เห็นคุณค่าและรักษาภาษาไทย วรรณคดี วรรณกรรมไทย ไว้เป็นสมบัติและมรดกทางวัฒนธรรม นา

ความรู้ หลักการปฏบิ ตั ติ ามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน

รหสั ตวั ชว้ี ดั
ท 1.1 ม.4-6/1, ม.4-6/9
ท 2.1 ม.4-6/1, ม.4-6/4, ม.4-6/7
ท 3.1 ม.4-6/1, ม.4-6/6
ท 4.1 ม.4-6/1, ม.4-6/4, ม.4-6/7
ท 5.1 ม.4-6/2, ม.4-6/4, ม.4-6/6

รวมทง้ั หมด 28 ตวั ชีว้ ดั

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 59

คำอธิบำยรำยวิชำเพม่ิ เติม

รหสั วิชำ ท31201 วชิ ำ กำรอำ่ นและพจิ ำรณำวรรณกรรม กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย

ช้ันมัธยมศึกษำปที ่ี 4 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

.......

ศึกษาการอธิบายประโยชน์จากการอ่าน บอกความหมายของวรรณกรรม วรรณคดี และวรรณศิลป์

บอกความหมายของสารคดี แยก / อธิบายประเภทและรูปแบบของสารคดี บอกส่วนประกอบต่าง ๆ ของสาร

คดีได้ บอกจุดประสงค์ / บอกกลวิธีของการเสนอเร่ือง แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากบทความ บอก

ประโยชน์และคุณค่าจากเรื่องที่อ่าน บอกองค์ประกอบของเร่ืองสั้น บอกลักษณะ / อธิบายองค์ประกอบนว

นิยาย บอกข้อแตกต่างระหว่างบทละครและงานประพันธ์อื่น บอกข้อดี/ข้อเสียของวรรณกรรมที่อ่าน บอก

ประเภทของคาประพันธ์ บอกความแตกต่างของวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรอง การอ่านข้อเขียนประเภท

ตา่ ง ๆ และวรรณกรรมรูปแบบตา่ ง ๆ ทั้งบนั เทงิ คดแี ละสารคดที เี่ ปน็ รอ้ ยแกว้ และร้อยกรอง

พจิ ารณาแยกขอ้ มูลเท็จจริงออกจากความคดิ เหน็ แยกองค์ประกอบของวรรณกรรม

เพ่ือให้สามารถแสดงความคดิ เห็นในเรื่องที่อ่าน เข้าใจสารของผู้แต่ง และเห็นคุณค่าของวรรณกรรมท่ี

อ่าน

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายประโยชน์จากการอา่ น บอกความหมายของวรรณกรรม วรรณคดี และวรรณศลิ ป์
2. บอกความหมายของสารคดี แยก / อธิบายประเภทและรูปแบบของสารคดี บอกส่วนประกอบต่าง

ๆ ของสารคดไี ด้
3. บอกจุดประสงค์ / บอกกลวิธีของการเสนอเรื่อง แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากบทความ บอก

ประโยชน์และคุณค่าจากเร่อื งที่อา่ น
4. บอกองค์ประกอบของเรื่องสนั้ บอกลักษณะ / อธิบายองคป์ ระกอบนวนยิ าย
5. บอกขอ้ แตกตา่ งระหวา่ งบทละครและงานประพนั ธ์อน่ื บอกข้อด/ี ข้อเสียของวรรณกรรมท่ีอ่าน
6. บอกประเภทของคาประพนั ธ์ บอกความแตกต่างของวรรณกรรมรอ้ ยแก้วและร้อยกรอง

รวมทั้งหมด 6 ผลกำรเรยี นรู้

60 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพม่ิ เติม

รหสั วชิ ำ ท31202 วิชำ กำรพูดและเขียนเชงิ สร้ำงสรรค์ กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย

ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 4 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

.......

ศึกษาภาษาเป็นสิ่งท่ีมนุษย์แต่ละสังคมกาหนดข้ึน เพื่อทาความเข้าใจกันตกลงกันระหว่างสมาชิกใน

กลุ่ม ฉะน้ันการใช้ภาษาต้องกาหนดให้ตรงตามกาหนดของสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาษาพูดหรือภาษาเขียน ภาษา

พูดเป็นภาษาที่ใช้ส่ือสารกันไม่เป็นแบบแผน ภาษาไม่พิถีพิถันในการใช้แต่สื่อสารได้ดี สร้างความรู้สึกที่เป็น

กันเอง ดงั นัน้ ภาษาจงึ มีความสาคญั นกั เรยี นจาเปน็ ต้องศกึ ษาให้เขา้ ใจและฝึกพูดให้ถูกต้อง โดยคานึงถึงความ

เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล ภาษาเขียนเป็นภาษาที่เคร่งครัดต่อการใช้ถ้อยคาและคานึงหลักภาษา เพื่อ

ใช้ในการส่ือสารให้ถูกต้องและใช้ในงานเขียนมากกว่าพูด การเขียนต้องใช้ในถ้อยคาท่ีสุภาพ เขียนให้เป็น

ประโยชน์ เลือกใช้ถ้อยคาท่ีเหมาะสมกับสถานการณ์ที่ส่ือสาร เป็นภาษาที่ใช้ในพิธีการและเป็นทางการ เช่น

การกล่าวรายงาน กลา่ วปราศรัย กล่าวสดุดี การใชภ้ าษาจะระวงั ไม่ใชค้ าทไี่ มจ่ าเปน็ หรือคาฟุ่มเฟออยหรือเล่นคา

จนกลายเป็นการพูดหรือการเขียนเล่น ๆ คนท่ีเขียนได้ดีต้องมีความรักและความสนใจที่จะเขียน ให้เวลากับ

การเขียนไม่ย่อท้อ เป็นปัจจัยพื้นฐานสาคัญต่อการเขียนอย่างยิ่ง การพูดโดยใช้ภาษาท่ีเหมาะสม ถ้อยคา

เหมาะสมกบั กาลเทศะ และบคุ คลจะทาใหก้ ารสื่อสารสัมฤทธิ์ผล ภาษาเป็นวัฒนธรรมที่จะทาให้ชาติมั่นคงเป็น

ปึกแผ่น ด้วยเหตุคนที่พูดภาษาเดียวกันย่อมมีความผูกพันรักใคร่กลมเกลียว ร่วมมือร่วมใจประกอบให้

เจรญิ กา้ วหน้าอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ภาษายังบอกถึงสภาพความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของคนในสังคมและเป็น

เคร่ืองวัดความเจริญก้าวหน้าของชาติ การสร้างความเชื่อมั่นในการพูดต้องอาศัยปัจจัยพื้นฐานหลายประการ

การศึกษาหาความรู้เปรียบเสมือนการได้เติมน้ามันรถยนต์ สามารถขับไปหาใดก็ย่อมได้ การเสริมสร้างความ

เชอ่ื มั่นเปน็ ทรพั ยากรทางจติ ใจทีล่ ้าคา่ ปลุกใจตนเองใหเ้ ตรียมพร้อม

สามารถพูดในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ สามารถสร้างโอกาสแห่งความสาเร็จได้ การตัดสินการใช้ภาษา

พดู และการเขียนมิใช่เพียงเพือ่ ตาหนิหรอื ช่นื ชม

แต่คานึงถึงความเหมาะสมกับกาลเทศะ บุคคลรวมถึงคานึงลักษณะเนื้อหา ระดับภาษาที่ใช้

ความสมั พนั ธภ์ าพของบคุ คล โอกาส สถานที่ และชุมชน

ผลกำรเรียนรู้

1. บอกความหมาย อธบิ ายประโยชนก์ ารพดู และการเขยี น

2. ฝกึ พูดในห้อง พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ รปู แบบ โอกาส องคป์ ระกอบโครงสรา้ ง

3. การใช้ภาพพจนโ์ วหาร กระบวนการ การเขียนรูปแบบตา่ ง ๆ

4. บอกจดุ ประสงค์ การพดู และการเขียน ฝึกพูด และเขียนเปน็ รายบคุ คล

5. เชิญวทิ ยากร การพูด และการเขียน

6. พดู ได้ พูดเปน็ ในทีส่ าธารณะชน

7. สรุปผลงานได้ ประเมินผลงานได้ รวมทงั้ หมด 7 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 61

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่มิ เติม

รหสั วชิ ำ ท32201 วชิ ำ ประวตั ิวรรณคดี กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย

ช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี 5 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศึกษาวรรณคดีสาคัญในสมัยสุโขทัย สมัยอยุธยาตอนต้น ตอนกลาง และตอนปลายเก่ียวกับประวัติ

ความเป็นมา ประวัติผู้แต่ง เนื้อหาสังเขป การชาระหนังสือวรรณคดี เพื่อให้รู้ความเป็นมาของวรรณคดีไทย

เข้าใจความสัมพันธ์ต่อเน่ืองระหว่างสมัย เข้าใจค่านิยมและลักษณะชีวิตของคนในสมัยน้ัน และเห็นคุณค่าของ

วรรณคดสี าคญั ในฐานะท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม โดยใช้กระบวนการเรียนทางภาษา กระบวนการสร้างความ

ตระหนัก กระบวนการสร้างความร้คู วามเขา้ ใจ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ และเสริมสร้างคุณลักษณะ

ท่พี ึงประสงค์

ฝึกทักษะ โดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก เพื่อสร้างองค์ความรู้และฝึกทักษะกระบวนการคิด

อย่างมีวิจารณญาณ และใช้กระบวนการกลุ่มและการบวนการปฏิบัติ เพ่ือความเข้าใจในความเช่ือ วิถีชีวิตท่ี

สอดแทรกในวรรณคดี

เห็นคุณค่าของวรรณคดีที่สาคัญในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและเกิดความภาคภูมิใจในความ

เปน็ ไทย

ผลกำรเรียนรู้
1. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ลักษณะทั่วไปของวรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย
2. อธิบายหลักเกณฑก์ ารแบง่ สมยั ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมได้
3. มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับลักษณะท่วั ไปของวรรณคดสี มัยสุโขทยั
4. อธิบายความสาคัญหรอื คุณคา่ ค่านยิ มของวรรณคดีสมยั สโุ ขทัย ด้านสานวนภาษา ขนบธรรมเนียม

ประเพณี ความรตู้ ่าง ๆ และอทิ ธิพลของวรรณคดใี นสมยั ต่อมาได้
5. มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับลกั ษณะทั่วไปของวรรณคดสี มยั อยธุ ยาตอนตน้
6. อธิบายความสาคัญหรือคุณค่า ค่านิยมของวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนต้น ด้านสานวนภาษา

ขนบธรรมเนยี มประเพณี ความรตู้ ่าง ๆ และอิทธิพลของวรรณคดีในสมัยตอ่ มาได้
7. มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ลกั ษณะทั่วไปของวรรณคดสี มยั อยุธยาตอนกลาง
8. อธิบายความสาคัญหรือคุณค่า ค่านิยมของวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง ด้านสานวนภาษา

ขนบธรรมเนียมประเพณี ความรตู้ า่ ง ๆ และอทิ ธิพลของวรรณคดใี นสมัยต่อมาได้
9. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ลักษณะท่วั ไปของวรรณคดสี มัยอยุธยาตอนปลาย
10. อธิบายความสาคัญหรือคุณค่า ค่านิยมของวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนปลาย ด้านสานวนภาษา

ขนบธรรมเนยี มประเพณี ความร้ตู า่ ง ๆ และอิทธพิ ลของวรรณคดีในสมยั ต่อมาได้
รวมท้ังหมด 10 ผลกำรเรียนรู้

62 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิม่ เติม

รหัสวชิ ำ ท32202 วิชำ กำรประพนั ธ์ กลุ่มสำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย

ช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 5 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษาการเปล่ียนภาษาพูดให้เป็นภาษาเขียนได้อย่างถูกต้อง จดบันทึกความรู้จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ

จากการอ่านได้อย่างถูกต้อง การเขียนบทความเชิงวิชาการได้อย่างถูกต้อง และเขียนอย่างสร้างสรรค์ มี

มารยาทในการเขียนและรับผิดชอบในสิ่งที่เขียน เขียนวิเคราะห์วิจารณ์ และแสดงความรู้ ความคิดเห็น หรือ

โต้แย้ง ในเร่ืองต่าง ๆ เขียนอธิบาย ช้ีแจง แสดงความคิดเห็นและโต้แย้งอย่างมีเหตุผล เขียนเรียงความได้

ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ การเขียนบรรยาย พรรณนา เขียนประวัติบุคคลในท้องถ่ิน สถานที่สาคัญในท้องถ่ิน

ประเพณีประจาท้องถ่ิน กรอกใบสมัครงานพร้อมเขียนบรรยายเก่ียวกับความรู้และทักษะของตนเองท่ี

เหมาะสมกับงาน บอกหลกั การเขียนจดหมายกิจธุระ บอกหลักในการเขียนและเขียนโฆษณาสินค้าและบริการ

ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งน่าสนใจ เขยี นข้อความ คาคม คาขวัญ คติพจน์ และการใช้ถ้อยคาให้เหมาะสมในโอกาสต่าง ๆ

แต่งกลอนสุภาพได้อย่างถูกต้องและมีความคิดริเริ่ม การแต่งบทร้อยกรองต้องมีฉันทลักษณ์ถูกต้อง ไพเราะทั้ง

รสคาและรสความ แต่งโคลงส่ีสุภาพได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ แต่งกาพย์ยานี

11 ได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ บอกลักษณะบังคับ เขียนผังภูมิ และแต่งกาพย์

สุรางคนางค์ ได้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ และมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ การเขียนรายงาน ได้แก่ การเขียน

รายงานจากการศกึ ษาคน้ คว้า การเขยี นรายงานโครงงาน

ฝึกทักษะโดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก เพ่ือสร้างองค์ความรู้และฝึกทักษะกระบวนการคิด

อย่างมีวิจารณญาณ และใช้กระบวนการกลุ่มและกระบวนการปฏิบัติ เพื่อความเข้าใจในความเชื่อ วิถีชีวิตที่

สอดแทรกในวรรณคดี

เห็นคุณคา่ ของวรรณคดสี าคญั ในฐานะที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรมและเกิดความภาคภูมิใจในความเป็น

ไทย

ผลกำรเรียนรู้
1. บอกความหมาย อธิบายประโยชน์ การพดู และการเขยี น
2. ฝึกพดู ในห้อง พฒั นาบคุ ลกิ ภาพ รูปแบบ โอกาส องคป์ ระกอบโครงสร้าง
3. การใชภ้ าพพจน์โวหาร กระบวนการเขียนรปู แบบตา่ ง ๆ
4. บอกจดุ ประสงค์ การพูดและการเขียน ฝกึ พดู และเขยี นเป็นรายบคุ คล
5. เชิญวิทยากร การพูดและการเขียน
6. พดู ได้ พูดเปน็ ในที่สาธารณะชน
7. สรปุ ผลงานได้ ประเมนิ ผลงานได้

รวมท้ังหมด 7 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 63

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่มิ เติม

รหัสวิชำ ท33201 วชิ ำ พัฒนำทักษะภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย

ช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ 6 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศึกษาหลกั ภาษาไทยเรอื่ งเสยี งและอกั ษรไทย คาและกลุ่มคา ประโยคชนดิ ต่าง ๆ เพ่ือให้มีความรู้ และ

ความเขา้ ใจหลักภาษาไทย สามารถนาความรู้ไปใช้วิเคราะห์การใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง อันจะนาไปสู่การ

อนุรักษ์ สามารถสรา้ งงานเขียนขน้ั สงู ได้อย่างถกู ตอ้ งและสร้างสรรค์

ใชก้ ระบวนการอา่ น การเขียน การวิเคราะห์ การประเมินค่าอย่างมีวิจารณญาณ สามารถค้นคว้าจาก

แหล่งเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวางและถูกต้อง มีความคิดสร้างสรรค์เพ่ือให้สามารถใช้ภาษาไทยในการส่ือสารได้

ถกู ต้อง มีความภูมใิ จในมรดกทางวฒั นธรรมภาษาไทย และภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ิน

เสริมสร้างให้นักเรียนเกิดความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน และรัก

ความเปน็ ไทย

ผลกำรเรียนรู้
1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของภาษาได้ วิเคราะห์องค์ประกอบของภาษาและระบุลักษณะ

สาคญั ของภาษาไทย ตลอดจนองค์ประกอบของภาษา
2. นักเรียนสามารถอธิบายชนิดของเสียง ตัวอักษรที่ใช้แทนเสียงในภาษาไทย เสียงและรูปของ

พยญั ชนะ สระ อกั ษรควบ อักษรนา คาเป็น คาตาย รวมทงั้ การผันวรรณยุกต์
3. บอกเหตุผลของการยืมคาภาษาต่างประเทศมาใช้ ข้อสังเกตเกี่ยวกับลักษณะของคา

ภาษาต่างประเทศท่ีใช้อยู่ในภาษาไทย และบอกหลักเกณฑ์ที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของภาษาบาลี
สนั สกฤต

4. สามารถบอกได้ว่า ภาษาไทยมีวิธีการสร้างคาเพ่ือให้เพียงพอกับความต้องการโดยวิธีประสมคา ซ้า
คา ซ้อนคา สมาสคา และสนธิ

5. สามารถบอกชนิด และหนา้ ทีข่ องคาชนดิ ต่าง ๆ ทง้ั 7 ชนิดได้
6. สามารถนาคามาสร้างกลุ่มคาได้ถูกต้องเหมาะสม และบอกลักษณะและหน้าที่ของกลุ่มคาชนิดต่าง
ๆ ท้ัง 7 ชนดิ
7. สามารถนาและกลุ่มคามาสร้างประโยคชนิดต่าง ๆ ได้ถูกต้องเหมาะสม และบอกลักษณะของ
ประโยคชนิดต่าง ๆ ได้
รวมท้ังหมด 7 ผลกำรเรยี นรู้

64 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพม่ิ เติม

รหัสวิชำ ท33202 วิชำ กำรใชภ้ ำษำไทยสร้ำงควำมสำเรจ็ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย

ช้นั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 6 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

อา่ นจบั ใจความ ตีความ แปลความ และขยายความเร่ืองท่ีอ่าน แสดงความสัมพันธ์เร่ืองท่ีอ่านและนา

ความรู้ ความคิด จากการอ่านมาพัฒนาตน พัฒนาการเรียนและพัฒนาความรู้ทางอาชีพ นาไปประยุกต์ใช้

แก้ปัญหาในการดารงชีวิต มีมารยาทและนิสัยรักการอ่าน โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์และกระบวนการ

ปฏิบัติจริงเป็นเคร่ืองมือการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปใช้ในการดาเนินชี วิต มี

คุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ มท่เี หมาะสม สามารถดาเนนิ ชวี ติ ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข

โดยการอธิบาย อภิปราย กระบวนการอ่าน การฟัง การพูดและการเขียน กระบวนการกลุ่ม

กระบวนการคิด กระบวนการทางภาษา การปฏิบตั ิจรงิ การศึกษาคน้ คว้า การใชเ้ ทคโนโลยีและแหลง่ เรยี นรู้

เพื่อให้มีความใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความรู้เป็นสากลบนพื้นฐานความเป็นไทย มีความสามารถในการใช้

ภาษาไทยเพื่อการส่ือสาร ทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างดี มีความกล้าแสดงออกและตระหนักในคุณค่าของ

วัฒนธรรมทางภาษา

ผลกำรเรียนรู้
1. นกั เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจหลกั การอา่ นจับใจความสาคัญและสามารถจับใจความสาคัญจากเรื่อง

ท่ีอา่ นได้
2. นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการตีความ แปลความ เชื่อมโยงความเขียนแสดงความ

คิดเห็นจากเร่อื งอ่านได้
3. นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับหลักการเขียนแนะนาตนเองและสามารถเขียนแนะนาตนเอง เพื่อการ

สัมภาษณ์เขา้ ศกึ ษาตอ่ และการเขา้ ทางานได้
4. นักเรียนมีความรู้เก่ียวกับหลักการพูดแนะนาตนเองและสามารถพูดแนะนาตนเอง เพ่ือการ

สมั ภาษณ์เข้าศกึ ษาตอ่ และการเข้าทางานได้
5. นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับหลักการเขียนย่อความสามารถเขียนย่อความ คิดวิเคราะห์

ความเช่ือมโยง ความสัมพันธ์จากเรอ่ื งทอ่ี ่านได้
6. นักเรียนมมี ารยาทและนสิ ยั รักการอ่าน

รวมทัง้ หมด 6 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 65

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้
คณติ ศำสตร์

66 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

รำยวชิ ำกล่มุ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์
ระดับช้นั มัธยมศึกษำตอนต้น

รำยวิชำพน้ื ฐำน

ชั้น รหัสวชิ ำ รำยวิชำ เวลำ จำนวน
ม. 1 ค21101 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกติ
ค21102 คณิตศาสตร์ 1 60 ช่ัวโมง 1.5 หน่วยกติ
ม. 2 ค22101 คณติ ศาสตร์ 2 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ค22102 คณติ ศาสตร์ 3 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ม. 3 ค23101 คณิตศาสตร์ 4 60 ชัว่ โมง 1.5 หนว่ ยกติ
ค23102 คณติ ศาสตร์ 3 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
คณติ ศาสตร์ 4

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 67

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้นื ฐำน

รหัสวชิ ำ ค21101 วชิ ำ คณติ ศำสตร์ 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรูค้ ณิตศำสตร์

ชัน้ มัธยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษา ฝึกทกั ษะการคดิ คานวณ ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ในสาระต่อไปนี้

- จำนวนตรรกยะ จานวนเต็ม สมบัติของจานวนเต็ม สมบัติของการบวกและการคูณจานวนเต็ม

ทศนิยมและเศษสว่ น จานวนตรรกยะและสมบตั ขิ องจานวนตรรกยะ เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็ม

บวก การนาความรู้เกย่ี วกบั จานวนเต็ม จานวนตรรกยะ และเลขยกกาลงั ไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา

- กำรสร้ำงทำงเรขำคณิต การสร้างรูปเรขาคณิตโดยใช้วงเวียนและเส้นตรง การสร้างรูปเรขาคณิต

อย่างง่ายโดยใช้การสร้างพื้นฐาน การสารวจสมบัติทางเรขาคณิต การนาความรู้เกี่ยวกับการสร้างพ้ืนฐานทาง

เรขาคณิตไปใช้ในชีวิตจรงิ

- เลขยกกำลงั ความหมายของเลขยกกาลัง การคูณและการหารเลขยกกาลัง สัญกรณว์ ิทยาศาสตร์

- ทศนิยมและเศษส่วน ทศนิยมและการเปรียบเทียบทศนิยม การบวกและการลบทศนิยม การคูณ

และการหารทศนยิ ม เศษส่วนและการเปรยี บเทียบเศษส่วน การบวกและการลบเศษส่วน การคูณและการหาร

เศษส่วน ความสัมพันธ์ระหวา่ งทศนยิ มและเศษส่วน

- มิติสัมพันธ์ของรูปเรขำคณิต รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ หน้าตัดของรูปเรขาคณิตสามมิติ

ภาพท่ีได้จากการมองทางด้านหน้าด้านข้าง และภาพด้านบนของรูปเรขาคณิตสามมิติท่ีประกอบขึ้นจาก

ลูกบาศก์

โดยผู้เรียนนาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา พัฒนาการคิด

อย่างมีระบบ สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งนาความรู้หลักการ ทักษะ

และกระบวนการทไี่ ด้ไปเชอื่ มโยงในวชิ าคณิตศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อ

ความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ในการเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่าง

สร้างสรรค์ รวมทัง้ เห็นคุณคา่ และมีเจตคติท่ดี ตี อ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบยี บ มคี วาม

รบั ผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และมีความเช่อื มน่ั ในตนเอง

รหัสตวั ช้วี ัด
ค 1.1 ม.1/1, ม.1/2
ค 2.2 ม.1/1, ม.1/2

รวมทง้ั หมด 4 ตวั ชี้วัด

68 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

รหสั วิชำ ค21102 วิชำ คณติ ศำสตร์ 2 กล่มุ สำระกำรเรยี นรูค้ ณิตศำสตร์

ช้ันมธั ยมศึกษำปีท่ี 1 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคิดคานวณ ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ในสาระต่อไปนี้

- สมกำรเชิงเสน้ ตัวแปรเดียว สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การแก้สมการเชิงเส๎นตัวแปรเดียว การนา

ความรู้เกยี่ วกับการแกส้ มการเชงิ เส้นตวั แปรเดียวไปใช้ในชวี ิตจริง

- อตั รำส่วนและร้อยละ อตั ราส่วน อัตราส่วนทเ่ี ทา่ กัน อัตราส่วนของจานวนหลาย ๆ จานวน สัดส่วน

และรอ้ ยละ การนาความรู้เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดสวน และร้อยละไปใช้ในการแกป้ ญั หา

- สมกำรเชิงเส้นสองตัวแปร กราฟของความสัมพันธ์เชิงเส้น สมการเชิงเส้นสองตัวแปร การนา

ความรู้เกี่ยวกบั สมการเชงิ เส้นสองตวั แปร และกราฟของความสัมพันธ์เชิงเส้นไปใชใ๎ นชวี ติ จรงิ

- สถติ ิ การตง้ั คาถามทางสถิติ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การนาเสนอและวเิ คราะห์ข้อมูล การแปล

ความหมายผลลัพธ์ การนาสถติ ิไปใช้ในชีวิตจริง

โดยผู้เรียนนาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา พัฒนาการคิด

อย่างมีระบบ สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งนาความรู้หลักการ ทักษะ

และกระบวนการทีไ่ ดไ้ ปเชอ่ื มโยงในวิชาคณติ ศาสตร์และศาสตร์อ่ืน ๆ

เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ

ความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่าง

สร้างสรรค์ รวมท้ังเห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบียบ มีความ

รบั ผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณ และมคี วามเชอ่ื มน่ั ในตนเอง

รหสั ตัวช้วี ัด
ค 1.1 ม.1/3
ค 1.3 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ค 3.1 ม.1/1

รวมทั้งหมด 5 ตวั ช้ีวดั

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 69

คำอธิบำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหสั วิชำ ค22101 วิชำ คณติ ศำสตร์ 3 กล่มุ สำระกำรเรียนรูค้ ณิตศำสตร์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 2 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

.......

ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคิดคานวณ ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ ในสาระต่อไปน้ี

- จำนวนตรรกยะ เลขยกกาลังที่มีเลขชี้กาลังเป็นจานวนเต็ม การนาความรู้เกี่ยวกับเลขยกกาลังไปใช้

ในการแกป้ ญั หา จานวนจรงิ จานวนตรรกยะ

- จำนวนจรงิ รากท่ีสองและรากท่ีสามของจานวนตรรกยะ การนาความรู้เกี่ยวกบั จานวนจริงไปใช้

- พ้นื ทผี่ วิ การหาพืน้ ท่ีผิวของปริซมึ และทรงกระบอก การนาความรู้เก่ยี วกับพนื้ ท่ีผวิ ของปริซึมและ

ทรงกระบอกไปใชใ๎ นการแกป้ ัญหา

- ปรมิ ำตร การหาปริมาตรของปริซึมและทรงกระบอก การนาความรู้เก่ียวกับปริมาตรของปริซมึ และ

ทรงกระบอกไปใช้ในการแกป้ ัญหา

- กำรสรำ้ งทำงเรขำคณิต การนาความรู้เก่ยี วกบั การสร้างทางเรขาคณิตไปใช้ในชีวติ จริง

- สถิติ การนาเสนอและวิเคราะหข์ ้อมูล แผนภาพจุด แผนภาพต้น–ใบ ฮิสโทแกรม คากลางของข้อมูล

การแปลความหมายผลลพั ธ์ การนาสถติ ิไปใช้ในชีวิตจริง

โดยผู้เรียนนาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา พัฒนาการคิด

อย่างมีระบบ สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งนาความรู้หลักการ ทักษะ

และกระบวนการทไ่ี ดไ้ ปเช่ือมโยงในวิชาคณติ ศาสตรแ์ ละศาสตร์อ่นื ๆ

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ

ความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ในการเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่าง

สร้างสรรค์ รวมทงั้ เห็นคุณคา่ และมเี จตคติท่ีดตี อ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบียบ มคี วาม

รับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมคี วามเช่ือม่ันในตนเอง

รหสั ตวั ชีว้ ดั
ค 1.1 ม.2/1, ม.2/2
ค 2.1 ม.2/1, ม.2/2
ค 2.2 ม.2/1
ค 3.1 ม.2/1

รวมทง้ั หมด 6 ตวั ชวี้ ัด

70 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวิชำพื้นฐำน

รหสั วชิ ำ ค22102 วชิ ำ คณติ ศำสตร์ 4 กล่มุ สำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์

ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 2 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

.......

ศกึ ษา ฝึกทักษะการคดิ คานวณ ทักษะการคดิ วิเคราะห์ ในสาระต่อไปน้ี

- พหุนำม พหุนาม การบวก การลบ และการคูณของพหนุ าม การหารพหุนามด้วยเอกนามทม่ี ผี ลหาร

เป็นพหนุ าม

- กำรแยกตัวประกอบของพหุนำม การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสองโดยใช้ สมบัติการแจก

แจงกาลงั สองสมบูรณ์ ผลต่างของกาลงั สอง

- เสน้ ขนำน สมบัติเกย่ี วกับเสน๎ ขนานและรปู สามเหลีย่ ม

- กำรแปลงทำงเรขำคณิต การเลื่อนขนาน การสะท๎อน การหมุน การนาความรู้เก่ียวกับการแปลง

ทางเรขาคณติ ไปใช้ในการแกป้ ญั หา

- ควำมเท่ำกันทุกประกำร ความเท่ากันทุกประการของรูปสามเหลี่ยม การนาความรู้เก่ียวกับความ

เทา่ กันทุกประการไปใช้ในการแกป้ ัญหา

- ทฤษฎีบทพีทำโกรัส ทฤษฎีบทพีทาโกรัสและบทกลับ การนาความรู้เก่ียวกับทฤษฎีบทพีทาโกรัส

และบทกลับไปใช้ในชีวติ จรงิ

โดยผู้เรียนนาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา พัฒนาการคิด

อย่างมีระบบ สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งนาความรู้หลักการ ทักษะ

และกระบวนการทไ่ี ดไ้ ปเชอื่ มโยงในวิชาคณติ ศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ

เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อ

ความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ในการเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่าง

สร้างสรรค์ รวมทง้ั เห็นคณุ คา่ และมเี จตคติที่ดตี อ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบยี บ มีความ

รบั ผิดชอบ มวี จิ ารณญาณ และมีความเชือ่ มนั่ ในตนเอง

รหสั ตัวชี้วัด
ค 1.2 ม.2/1, ม.2/2
ค 2.2 ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5

รวมทง้ั หมด 6 ตัวช้ีวัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 71

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

รหสั วิชำ ค23101 วชิ ำ คณิตศำสตร์ 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์

ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 3 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ช่ัวโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

.......

ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคดิ คานวณ ทักษะการคิดวเิ คราะห์ ในสาระตอ่ ไปนี้

- อสมกำรเชิงเส้นตัวแปรเดียว อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว การแก้อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

การนาความรู้เกย่ี วกบั การแกอ้ สมการเชงิ เส้นตัวแปรเดียวไปใช้ในการแก้ปัญหา

- กำรแยกตัวประกอบของพหุนำม การแยกตัวประกอบของพหุนามดีกรีสูงกว่าสองสมการเชิงเส้น

สองตัวแปร สมการกาลังสองตัวแปรเดียว การแก้สมการกาลังสองตัวแปรเดียว ตัวแปรการนาความรู้เกี่ยวกับ

การแกส้ มการกาลังสองตวั แปรเดียวไปใช้ในการแกป้ ัญหา

- ควำมคล้ำย รปู สามเหลย่ี มทค่ี ล้ายกัน การนาความรู้เกยี่ วกบั ความคลา้ ยไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา

- ฟงั กช์ ันกำลังสอง กราฟของฟังกช์ ันกาลังสอง การนาความรูเ้ กีย่ วกบั ฟังกช์ นั กาลงั สองไปใช้ในการ

แก้ปัญหา

- สถิติ ข้อมูลและการวิเคราะหข์ ้อมูล แผนภาพกลอง การแปลความหมายผลลัพธ์ การนาสถิติไปใช้ใน

ชวี ิตจริง

โดยผู้เรียนนาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา พัฒนาการคิด

อย่างมีระบบ สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งนาความรู้หลักการ ทักษะ

และกระบวนการทีไ่ ดไ้ ปเช่อื มโยงในวชิ าคณิตศาสตรแ์ ละศาสตร์อืน่ ๆ

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือ

ความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่าง

สร้างสรรค์ รวมทัง้ เหน็ คณุ คา่ และมีเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ คณิตศาสตร์ สามารถทางานอยา่ งเปน็ ระบบระเบยี บ มีความ

รบั ผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเช่อื ม่นั ในตนเอง

รหสั ตวั ช้วี ดั
ค 1.2 ม.3/1, ม.3/2
ค 1.3 ม.3/1, ม.3/2
ค 2.2 ม.3/1
ค 3.1 ม.3/1

รวมท้งั หมด 6 ตัวช้วี ัด

72 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน

รหัสวิชำ ค23102 วิชำ คณติ ศำสตร์ 6 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี 3 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

.......

ศกึ ษา ฝกึ ทักษะการคิดคานวณ ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ในสาระต่อไปนี้

- ระบบสมกำร ระบบสมการสองตัวแปร การแก้ระบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปร การนาความรู้

เกยี่ วกบั การแกร้ ะบบสมการเชิงเส้นสองตัวแปรไปใช้ในการแกป้ ญั หา

- วงกลม วงกลม คอร์ด และเส้นสมั ผัส ทฤษฎีบทเก่ียวกับวงกลม ความน่าจะเป็น เหตุการณ์จากการ

ทดลองสุ่ม

- ปรมิ ำตร และพืน้ ท่ผี ิว การหาปรมิ าตรและพน้ื ท่ผี ิวของพรี ะมิด กรวย และทรงกลม การนาความรู้

เกยี่ วกับปรมิ าตรและพื้นท่ีผิวของพีระมดิ กรวย และทรงกลมไปใช้ในการแกป้ ญั หา

- ควำมนำ่ จะเปน็ การนาความรู้เกี่ยวกบั ความนาจะเป็นไปใช้ในชวี ติ จริง

- อัตรำส่วนตรีโกณมิติ อัตราส่วนตรีโกณมิติ การนาอัตราส่วนตรีโกณมิติของมุม 30 องศา 45 องศา

และ 60 องศา ไปใช้ในการแกป้ ญั หา

โดยผู้เรียนนาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา พัฒนาการคิด

อย่างมีระบบ สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งนาความรู้หลักการ ทักษะ

และกระบวนการที่ไดไ้ ปเชอ่ื มโยงในวิชาคณิตศาสตร์และศาสตร์อ่ืน ๆ

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อ

ความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ในการเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่าง

สร้างสรรค์ รวมท้ังเหน็ คุณคา่ และมีเจตคติท่ดี ตี อ่ คณติ ศาสตร์ สามารถทางานอย่างเปน็ ระบบระเบยี บ มีความ

รับผิดชอบ มวี ิจารณญาณ และมีความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง

รหสั ตวั ชี้วัด
ค 1.3 ม.3/3
ค 2.1 ม.3/1, ม.3/2
ค 2.2 ม.3/2, ม.3/3
ค 3.2 ม.3/1

รวมท้ังหมด 6 ตวั ชว้ี ดั

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์ 73

รำยวิชำกล่มุ สำระกำรเรียนรู้คณิตศำสตร์
ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษำตอนปลำย

รำยวิชำพื้นฐำน

ชนั้ รหสั วิชำ รำยวชิ ำ เวลำ จำนวน
ม. 4 ค31101 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค31102 คณติ ศาสตร์ 1 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ม. 5 ค32101 คณติ ศาสตร์ 2 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ค32102 คณิตศาสตร์ 3 40 ช่ัวโมง 1.0 หน่วยกติ
ม. 6 ค33101 คณติ ศาสตร์ 4 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ค33102 คณติ ศาสตร์ 3 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
คณิตศาสตร์ 4

รำยวิชำเพ่มิ เติม

ชน้ั รหัสวิชำ รำยวชิ ำ เวลำ จำนวน
ม. 4 ค31201 คณิตศาสตร์เพ่มิ เตมิ 1 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกติ
ค31202 คณิตศาสตร์เพ่มิ เตมิ 2 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกติ
ม. 5 ค31203 คณิตศาสตรเ์ พ่ิมพูนประสบการณ์ 1 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค31204 คณติ ศาสตร์เพิ่มพนู ประสบการณ์ 2 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ม. 6 ค32201 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเตมิ 3 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกิต
ค32202 คณติ ศาสตรเ์ พิ่มเติม 4 60 ชั่วโมง 1.5 หน่วยกติ
ค32203 คณิตศาสตร์เพิ่มพูนประสบการณ์ 3 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
ค32204 คณติ ศาสตร์เพิ่มพนู ประสบการณ์ 4 40 ชว่ั โมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค33201 คณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ 5 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต
ค33202 คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ เตมิ 6 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกติ
ค33203 คณิตศาสตร์เพิ่มพนู ประสบการณ์ 5 40 ช่ัวโมง 1.0 หนว่ ยกติ
ค33204 คณติ ศาสตรเ์ พม่ิ พูนประสบการณ์ 6 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกิต

74 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน

รหสั วิชำ ค31101 วิชำ คณิตศำสตร์ 1 กลมุ่ สำระกำรเรียนรคู้ ณติ ศำสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ 4 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศึกษา ฝึกทกั ษะและกระบวนการ ในสาระต่อไปน้ี

- เซต ความรู้เบ้ืองต้นเกย่ี วกับเซต ชนิดของเซต ความสมั พนั ธ์ของเซต แผนภาพเวนนก์ ารดาเนินการ

ระหว่างเซต การแก้ปัญหาโดยใช้เซต

- ตรรกศำสตรเ์ บือ้ งต้น ประพจน์การเชื่อมประพจนก์ ารหาค่าความจริงของประพจนร์ ูปแบบของ

ประพจน์ทสี่ มมูลกนั สจั นิรันดร์การอา้ งเหตผุ ล

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณใ์ นชวี ิตประจาวันท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรยี นได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการ

ปฏบิ ัตจิ ริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพ่อื พัฒนาทกั ษะ และกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้

เหตุผล การส่ือสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทาง

คณิตศาสตร์ และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ

กระบวนการทีไ่ ด้ไปใช้ในการเรียนรู้สงิ่ ต่าง ๆ และใช้ในชวี ิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบ วินัย มีความ

รับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความเชื่อม่ันในตนเอง พร้อมท้ังตระหนักในคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อวิชา

คณิตศาสตร์

รหัสตัวชว้ี ัด
ค 1.1 ม.4-6/1

รวมทัง้ หมด 1 ตัวช้วี ัด

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 75

คำอธิบำยรำยวิชำพน้ื ฐำน

รหสั วิชำ ค31102 วชิ ำ คณิตศำสตร์ 2 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์

ช้นั มัธยมศึกษำปที ่ี 4 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

.......

ศึกษา ฝึกทักษะและกระบวนการ ในสาระต่อไปนี้

- ฟังก์ชัน ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน ฟังก์ชันเชิงเส้น ฟังก์ชันกาลังสอง ฟังก์ชันเอกซ์โพแนนเชียล

ฟงั กช์ ันค่าสัมบรู ณ์ ฟงั ก์ชนั ข้นั บนั ได

โดยจัดประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณใ์ นชีวติ ประจาวันท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรยี นได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการ

ปฏิบตั จิ ริง ทดลอง สรปุ รายงาน เพือ่ พัฒนาทักษะ และกระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปญั หา การให้

เหตุผล การส่ือสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ต่าง ๆ ทาง

คณิตศาสตร์ และเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ

กระบวนการท่ไี ด้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชวี ิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบ วินัย มีความ

รับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความเชื่อมั่นในตนเอง พร้อมทั้งตระหนักในคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อวิชา

คณิตศาสตร์

รหสั ตัวชี้วดั
ค 1.2 ม.4-6/1

รวมทัง้ หมด 1 ตวั ชว้ี ัด

76 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

รหัสวิชำ ค32101 วชิ ำ คณติ ศำสตร์ 3 กลุ่มสำระกำรเรยี นรูค้ ณติ ศำสตร์

ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษา ฝกึ ทกั ษะและกระบวนการ ในสาระต่อไปน้ี

- ดอกเบ้ยี และมลู ค่ำของเงนิ ดอกเบ้ีย มูลคา่ ของเงิน ค่ารายงวด

- เลขยกกำลงั รากที่ n ของจานวนจริง เมื่อ n เป็นจานวนนบั ที่มากกว่า 1 เลขยกกาลังท่ีมีเลขช้ีกาลัง

เป็นจานวนตรรกยะ

โดยจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ในชีวติ ประจาวันท่ีใกล้ตวั ให้ผู้เรยี นได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการ

ปฏิบัติจริง ทดลอง สรุป รายงาน เพ่ือพัฒนาทกั ษะ และกระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปัญหา การให้

เหตุผล การสื่อสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทาง

คณิตศาสตร์ และเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ

กระบวนการทีไ่ ด้ไปใช้ในการเรียนรู้สง่ิ ต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์

เพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบ วินัย มีความ

รับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความเช่ือมั่นในตนเอง พร้อมท้ังตระหนักในคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อวิชา

คณิตศาสตร์

รหสั ตัวชีว้ ัด
ค 1.1 ม.4-6/1
ค 1.3 ม.4-6/1

รวมท้ังหมด 2 ตวั ช้วี ดั

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 77

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รหสั วิชำ ค32102 วชิ ำ คณติ ศำสตร์ 4 กล่มุ สำระกำรเรยี นรคู้ ณิตศำสตร์

ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ 5 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศกึ ษา ฝึกทักษะและกระบวนการ ในสาระต่อไปนี้

- หลกั กำรนบั เบ้ืองตน้ หลกั การบวกและการคณู การเรยี งสับเปล่ียนเชิงเส้นกรณที ีส่ ิ่งของแตกต่างกนั

ทง้ั หมด การจัดหมู่กรณที สี่ ่งิ ของแตกต่างกันทั้งหมด

- ควำมนำ่ จะเปน็ การทดลองสุ่มและเหตกุ ารณ์ ความนาจะเป็นของเหตุการณ์

โดยจดั ประสบการณห์ รือสร้างสถานการณใ์ นชีวิตประจาวันท่ใี กล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการ

ปฏิบตั จิ รงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพื่อพัฒนาทกั ษะ และกระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปญั หา การให้

เหตุผล การส่ือสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทาง

คณิตศาสตร์ และเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อ่ืน ๆ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ

กระบวนการท่ไี ด้ไปใช้ในการเรยี นรู้สง่ิ ต่าง ๆ และใช้ในชวี ิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์

เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบ วินัย มีความ

รับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความเชื่อม่ันในตนเอง พร้อมทั้งตระหนักในคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อวิชา

คณิตศาสตร์

รหสั ตวั ช้วี ดั
ค 3.2 ม.4-6/1, ม.4-6/2

รวมทัง้ หมด 2 ตวั ชว้ี ัด

78 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รหสั วชิ ำ ค33101 วชิ ำ คณติ ศำสตร์ 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 6 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศกึ ษา ฝึกทกั ษะและกระบวนการ ในสาระต่อไปนี้

- ลำดับและอนุกรม ลาดับจากัดและลาดับอนันต์ ลาดับเลขคณิตและลาดับเรขาคณิต อนุกรม-เลข

คณิตและอนกุ รมเรขาคณิต

โดยจัดประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่ใกล้ตวั ให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการ

ปฏบิ ัตจิ รงิ ทดลอง สรุป รายงาน เพือ่ พัฒนาทักษะ และกระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปญั หา การให้

เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ต่าง ๆ ทาง

คณิตศาสตร์ และเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อ่ืน ๆ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ

กระบวนการทไี่ ด้ไปใช้ในการเรียนรู้สิง่ ต่าง ๆ และใช้ในชีวิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์

เพื่อให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบ วินัย มีความ

รับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความเช่ือม่ันในตนเอง พร้อมทั้งตระหนักในคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชา

คณติ ศาสตร์

รหัสตวั ชีว้ ัด
ค 1.2 ม.4-6/2

รวมทงั้ หมด 1 ตวั ชี้วัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 79

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหสั วชิ ำ ค33102 วชิ ำ คณิตศำสตร์ 6 กลุม่ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์

ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศกึ ษา ฝึกทักษะและกระบวนการ ในสาระต่อไปน้ี

- สถิติเบ้ืองต้น ข้อมูลตาแหน่งที่ของข้อมูลคากลาง (ฐานนิยม มัธยฐานคาเฉล่ียเลขคณิต) ค่าการ

กระจาย (พิสัย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความแปรปรวน) การนาเสนอข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ การ

แปลความหมายของคาสถิติ

โดยจัดประสบการณ์หรอื สร้างสถานการณใ์ นชวี ิตประจาวนั ท่ใี กล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษา ค้นคว้าโดยการ

ปฏิบตั ิจรงิ ทดลอง สรปุ รายงาน เพือ่ พัฒนาทักษะ และกระบวนการในการคดิ คานวณ การแก้ปญั หา การให้

เหตุผล การสื่อสาร การส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และการนาเสนอ การเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ทาง

คณิตศาสตร์ และเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะ

กระบวนการทไ่ี ด้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และใช้ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์

เพ่ือให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบ มีระเบียบ วินัย มีความ

รับผิดชอบ มีวิจารณญาณ มีความเช่ือม่ันในตนเอง พร้อมท้ังตระหนักในคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อวิชา

คณิตศาสตร์

รหัสตวั ชวี้ ัด
ค 3.1 ม.4-6/1

รวมทั้งหมด 1 ตวั ชว้ี ดั

80 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิม่ เติม

รหัสวชิ ำ ค31201 วชิ ำ คณติ ศำสตร์เพ่ิมเตมิ 1 กลุม่ สำระกำรเรียนร้คู ณติ ศำสตร์

ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี 4 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ

.......

ศึกษา ฝึกทกั ษะการคิดคานวณ การใช้เหตผุ ลและฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี

- ตรรกศำสตร์ การสร้างตารางค่าความจริง รูปแบบของประพจน์ที่สมมูลกัน สัจนิรันดร์ นิเสธของ

ประพจน์ การอา้ งเหตุผล ประโยคเปดิ ตวั บ่งปริมาณ คา่ ความจริงของประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณตัวเดียว สมมูล

และนิเสธของประโยคที่มตี ัวบ่งปริมาณ

- จำนวนจริงและพหุนำม ระบบจานวนจริงและสมบัติของจานวนจริง พหุนามตัวแปรเดียว การ

แยกตัวประกอบพหุนาม สมการพหุนามตัวแปรเดียว สมการเศษส่วนของพหุนาม การไม่เท่ากันของจานวน

จริง ชว่ งและการดาเนินการบนช่วง อสมการพหนุ ามตัวแปรเดยี ว อสมการเศษส่วนของพหุนาม ค่าสัมบูรณ์

ค่าสัมบูรณ์ของจานวนจริงและสมบัติของค่าสัมบูรณ์ของจานวนจริง สมการและ อสมการค่าสัมบูรณ์ของพหุ

นามตวั แปรเดียว

การจดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดยปฏิบัติ ทดลอง สรุป

รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทาง

คณิตศาสตร์ การนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ

และใช้ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งสรา้ งสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างมีระเบียบ รอบคอบ มีความ

รับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและเชอ่ื มั่นในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. สร้างตารางค่าความจริง ตรวจสอบความสมมูลกันระหว่างประพจน์สองประพจน์ ความเป็นสัจนิ

รันดร์ของประพจน์ได้
2. หาค่าความจริงและนิเสธของประโยคเปิดที่มีตัวบ่งปริมาณตัวเดียว ตรวจสอบความสมมูลกันของ

ประโยคเปดิ สองประโยคที่มตี วั บ่งปรมิ าณตวั เดียวได้
3. ใชค้ วามร้เู กย่ี วกับตรรกศาสตร์ ในการแก้ปญั หาสือ่ สาร ส่อื ความหมาย และอา้ งเหตุผลได้
4. ใชส้ มบตั ขิ องจานวนจริง การไม่เทา่ กันของจานวนจริงในการ แกป้ ัญหาได้
5. แยกตวั ประกอบของพหนุ ามตัวแปรเดียวได้
6. แก้สมการและอสมการพหุนามตัวแปรเดียว สมการและอสมการเศษส่วนของพหุนาม สมการและ

อสมการค่าสัมบูรณ์ของพหุนามตวั แปรเดยี ว และนาความร้เู กยี่ วกบั พหนุ ามไปใชแ้ ก้ปญั หาได้
รวมท้ังหมด 6 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 81

คำอธิบำยรำยวิชำเพม่ิ เติม

รหสั วชิ ำ ค31202 วิชำ คณติ ศำสตร์เพม่ิ เติม 2 กล่มุ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์

ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 4 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คานวณ การใชเ้ หตุผลและฝกึ การแกป้ ัญหาในสาระต่อไปนี้

- หลักกำรนับเบื้องต้น กฎเกณฑ์เบื้องต้นของการนับ หลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ียน

เชิงเส้น การเรียงสับเปล่ียนเชิงวงกลมกรณีท่ีสิ่งของแตกต่างกันทั้งหมด การจัดหมู่กรณีท่ีสิ่งของแตกต่างกัน

ท้งั หมด ทฤษฎบี ททวนิ าม

- ควำมน่ำจะเป็น การทดลองสุ่มและเหตุการณ์ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ และกฎที่สาคัญบาง

ประการของความน่าจะเปน็ และการแกป้ ญั หา

- เมทรกิ ซ์ เมทรกิ ซ์ การดาเนนิ การของเมทริกซ์ สมบัติของเมทริกซ์ ดีเทอร์มินันต์ เมทริกซ์ผกผัน

การดาเนนิ การตามแถว การแกร้ ะบบสมการเชงิ เส้นโดยใชเ้ มทริกซ์

การจัดประสบการณ์หรอื สรา้ งสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดยปฏิบัติ ทดลอง สรุป

รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทาง

คณิตศาสตร์ การนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ

และใช้ในชวี ติ ประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างมีระเบียบ รอบคอบ มีความ

รบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณและเชอ่ื ม่ันในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้
1. เข้าใจความหมาย หาผลลพั ธข์ องการบวกเมทริกซ์ การคณู เมทรกิ ซ์กับจานวนจริง การคูณ ระหว่าง

เมทรกิ ซ์ หาเมทรกิ ซ์สลับเปล่ยี น หาดีเทอรม์ แิ นนต์ของเมทริกซ์ n x n เมือ่ n เป็นจานวนนับท่ี ไม่เกนิ สามได้
2. หาเมทริกซผ์ กผันของเมทริกซ์ 2x2 ได้
3. เข้าใจเกีย่ วกับการดาเนนิ การตามแถว (Row Operation) และนาความรู้ไปใช้แกป้ ญั หาได้
4. แก้ระบบสมการเชิงเส้นโดยใชเ้ มทรกิ ซ์ผกผนั และการดาเนินการตามแถวได้
5. ใช้กฎเกณฑ์เบ้ืองต้นเก่ียวกับการนับ หลักการบวกและการคูณ การเรียงสับเปล่ียน และการจัดหมู่

ในการแกป้ ญั หาได้
6. หาความนา่ จะเป็นและนาความรเู้ กย่ี วกับความน่าจะเป็นไปใช้แก้ปญั หาได้

รวมทงั้ หมด 6 ผลกำรเรียนรู้

82 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม

รหสั วิชำ ค31203 วิชำ คณติ ศำสตรเ์ พ่ิมพูนประสบกำรณ์ 1 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 4 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศึกษาในเรอ่ื งระเบียบวิธกี ารพสิ จู น์ การพิสูจนป์ ระโยค ถา้ ...แลว้ ... การพสิ ูจน์ประโยคทม่ี ีตวั เชอ่ื มและ

การพิสูจน์ประโยคที่มีตัวบ่งปริมาณ อุปนัยเชิงคณิตศาสตร์ อสมการ อสมการที่เก่ียวกับพีชคณิต อสมการค่า

สัมบูรณอ์ ยา่ งยาก โจทยป์ ญั หาประยุกตอ์ ยา่ งยาก

นาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา พฒั นาการคิดอย่างมีระบบ

สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งนาความรู้ หลักการ ทักษะและ

กระบวนการทีไ่ ด้ไปเช่ือมโยงในวชิ าคณติ ศาสตรแ์ ละศาสตรอ์ ื่น ๆ

เห็นคุณค่าและเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบรอบคอบ มีความ

รับผิดชอบ และมคี วามคิดรเิ ริม่ สรา้ งสรรค์

ผลกำรเรียนรู้
1. สามารถพสิ จู น์ประโยคทมี่ ตี วั เชอ่ื มทางตรรกศาสตร์ได้
2. สามารถพิสูจนป์ ระโยคท่ีมีตัวบ่งปริมาณได้
3. สามารถแกอ้ สมการอย่างยากและอสมการค่าสัมบรู ณ์อย่างยากได้

รวมทัง้ หมด 3 ผลกำรเรียนรู้

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 83

คำอธิบำยรำยวิชำเพมิ่ เติม

รหสั วิชำ ค31204 วชิ ำ คณิตศำสตรเ์ พม่ิ พูนประสบกำรณ์ 2 กล่มุ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์

ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 4 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศกึ ษา ฝึกทกั ษะการคานวณ และการคิดอยา่ งมเี หตุผล การเรียนรู้โดยการปฏิบัติจริง ฝึกการแก้ปัญหา

ในเร่อื งความสัมพนั ธ์และฟงั ก์ชัน แสดงความสมั พนั ธ์และฟงั กช์ ัน อินเวอสค์ วามสมั พันธ์ และอินเวอสฟ์ ังกช์ ัน

การหาโดเมน เรจน์และการนาไปใช้ ภาคตัดกรวย การเขียนกราฟแสดงความสัมพันธ์ของรูปวงกลม วงรี

พาราโบลา และไฮเพอร์โบลา โจทย์ปัญหาเสริมทักษะ และการนาไปใช้

การนาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา การดาเนินชีวิตและ

ศึกษาต่อ การมีเหตุมผี ล

เหน็ คุณค่าและมเี จตคติท่ดี ีตอ่ คณติ ศาสตร์ พัฒนาการคิดอยา่ งมรี ะบบ สรา้ งสรรค์ และการคิดอยา่ งมี

วิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมทั้งมที กั ษะทางอาชพี การเรียนร้แู ละมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน

ผลกำรเรยี นรู้
1. อธบิ ายความสัมพนั ธแ์ ละฟงั ก์ชัน อินเวอร์สของความสมั พันธ์ อินเวอร์สของฟังกช์ นั และหาโดเมน

และเรจน์ของฟงั กช์ ันและอินเวอร์สของฟงั กช์ นั ได้
2. สามารถเขยี นกราฟและรูปแบบความสัมพันธ์ของรูปวงกลม วงรี พาราโบลา และไฮเพอร์โบลา มา

ใช้ในการแกโ้ จทยป์ ญั หาท่ีมคี วามซับซอ้ นได้
3. มีความสามารถในการแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือสาร การส่ือความหมายทาง คณิตศาสตร์

และการนาเสนอ การเชือ่ มโยงความรู้ตา่ ง ๆ ทางคณติ ศาสตร์ และเช่ือมโยงคณิตศาสตร์กับศาสตร์อื่น ๆ และมี
ความคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์
รวมท้ังหมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

84 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเติม

รหสั วิชำ ค32201 วชิ ำ คณติ ศำสตร์เพิ่มเตมิ 3 กลุม่ สำระกำรเรียนรูค้ ณิตศำสตร์

ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 5 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษา ฝึกทักษะการคิดคานวณ การใชเ้ หตผุ ลและฝกึ การแกป้ ัญหาในสาระตอ่ ไปน้ี

- ฟังก์ชัน การบวก การลบ การคูณ และการหารฟังก์ชัน ฟังก์ชันประกอบ และฟังก์ชันผกผัน

ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม นิยามของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียล กราฟ ของฟังก์ชันเอกซ์

โพเนนเชียล การแก้สมการและอสมการฟังกช์ ันเอกซ์โพเนนเชียล นยิ ามของฟงั ก์ชนั

- ลอกำริทึม กราฟของฟังก์ชันลอการิทมึ สมบัติของลอการิทึม ลอการิทึมสามัญ การอ่านค่าลอกกา

รทิ มึ จากตาราง ลอการทิ ึมธรรมชาติ สมการและอสมการลอการิทมึ

- เรขำคณิตวเิ ครำะห์ ระยะระหว่างจดุ สองจุด จดุ กง่ึ กลางของสว่ นของเส้นตรง ความชันของเส้นตรง

เส้นขนาน เส้นต้ังฉาก ความสัมพันธ์ซึ่งมีกราฟเป็นเส้นตรง ระยะห่างระหว่างเส้นตรงกับจดุ ภาคตัดกรวย

วงกลม วงรี พาราโบลา ไฮเพอร์โบลา และการเลอ่ื นกราฟ

การจดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดยปฏิบัติ ทดลอง สรุป

รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทาง

คณิตศาสตร์ การนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ

และใชใ้ นชีวิตประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างมีระเบียบ รอบคอบ มีความ

รับผิดชอบ มวี จิ ารณญาณและเชอื่ ม่ันในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้
1. หาผลลัพธ์การบวก การลบ การคณู และการหารฟงั ก์ชนั ได้
2. หาฟังก์ชันประกอบและฟังกช์ นั ผกผันได้
3. ใชส้ มบตั ิของฟังกช์ นั ในการแกป้ ญั หาได้
4. เข้าใจลักษณะของกราฟของฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิทึม และนาไปใช้ในการ

แกป้ ญั หา
5. แก้สมการและอสมการเอกซโ์ พเนนเชยี ลและลอการิทึม และนาไปใชใ้ นการแก้ปัญหาได้
6. หาระยะทางระหว่างจุดสองจุด จุดกึ่งกลางของส่วนของเส้นตรง ความชันของเส้นตรง ระยะห่าง

ระหว่างจุดกบั เส้นตรง และระยะห่างระหว่างเส้นคูข่ นานได้
7. เขยี นกราฟและหาสมการวงกลม วงรี พาราโบลา ไฮเพอรโ์ บลาได้
8. ใชค้ วามรเู้ กีย่ วกบั เรขาคณิตวิเคราะห์และภาคตดั กรวยในการแก้ปัญหาได้

รวมท้งั หมด 8 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 85

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม

รหัสวชิ ำ ค32202 วชิ ำ คณติ ศำสตร์เพิม่ เตมิ 4 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูค้ ณิตศำสตร์

ชัน้ มัธยมศึกษำปที ี่ 5 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

.......

ศกึ ษา ฝึกทักษะการคดิ คานวณ การใช้เหตุผลและฝกึ การแกป้ ญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี

- จำนวนเชงิ ซ้อน จานวนเชงิ ซ้อน ค่าสัมบูรณ์ของจานวนเชิงซ้อน สมบัติของจานวนเชิงซ้อน จานวน

เชิงซ้อนในรูปเชิงขั้ว ผลคูณ / ผลหารของจานวนเชิงซ้อนในรูปเชิงข้ัว ทฤษฎีของเดอร์มัวร์ รากที่ n ของ

จานวนเชงิ ซอ้ น เม่ือ n เปน็ จานวนนับที่มากกวา่ 1 สมการพหนุ าม

- ฟังก์ชนั ตรีโกณมิติ ฟังกช์ ันตรโี กณมิติและกราฟของฟังก์ชันตรีโกณมิติ (ฟังก์ชันไซน์ ฟังก์ชันโคไซน์

และฟังกช์ นั ตรีโกณมติ อิ ื่น ๆ ) ฟังกช์ ันตรีโกณมติ ิของผลบวกหรอื ผลตา่ งของจานวนจริงหรือมุมเอกลักษณ์และ

สมการตรโี กณมติ ิ ฟังก์ชันตรีโกณมิตผิ กผัน กฎของโคไซน์ กฎของไซน์ และการนาไปใช้

- เวกเตอร์ในสำมมิติ เวกเตอร์ นิเสธของเวกเตอร์ การบวก การลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอร์ด้วยส

เกลาร์ ผลคูณเชิงสเกลาร์ ผลคูณเชิงเวกเตอร์ การใช้เวกเตอร์พิสูจน์ทฤษฎีบททางเรขาคณิต เวกเตอร์หนึ่ง

หนว่ ย เวกเตอร์ในสามมติ ิและการนาความรู้เกย่ี วกับเวกเตอร์ไปใชใ้ นการแก้ปัญหา

การจัดประสบการณห์ รอื สรา้ งสถานการณ์ที่ใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดยปฏิบัติ ทดลอง สรุป

รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทาง

คณิตศาสตร์ การนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้ส่ิงต่างๆ

และใช้ในชีวติ ประจาวันอยา่ งสร้างสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างมีระเบียบ รอบคอบ มีความ

รับผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณและเชือ่ มนั่ ในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้
1. เขา้ ใจจานวนเชงิ ซ้อน และใชส้ มบตั ขิ องจานวนเชงิ ซ้อนในการแก้ปัญหาได้
2. หารากที่ n ของจานวนเชงิ ซ้อน เมอ่ื n เป็นจานวนนับทีม่ ากกว่า 1 ได้
3. แก้สมการพหุนามตัวแปรเดียวดีกรีไม่เกินส่ี ที่มีสัมประสิทธิ์เป็นจานวนเต็ม และนาไปใช้ใน การ

แก้ปญั หาได้
4. เขา้ ใจฟงั ก์ชันตรโี กณมติ ิ และลกั ษณะกราฟของฟังกช์ นั ตรีโกณมติ ิ และนาไปใช้ในการแกป้ ัญหาได้
5. แกส้ มการตรีโกณมิติ และนาไปใช้ในการแกป้ ญั หาได้
6. ใช้กฎของโคไซน์ และกฎของไซน์ในการแก้ปญั หาได้
7. หาผลลัพธ์ของการบวก การลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอร์ด้วยสเกลาร์ หาผลคูณเชิงสเกลาร์ และ

ผลคูณเชิงเวกเตอร์ได้
8. นาความรู้เกยี่ วกบั เวกเตอรใ์ นสามมติ ิไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาได้

รวมทงั้ หมด 8 ผลกำรเรยี นรู้

86 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่มิ เติม

รหัสวชิ ำ ค32203 วิชำ คณติ ศำสตรเ์ พ่ิมพูนประสบกำรณ์ 3 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 5 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศกึ ษาในเรื่อง ฟังกช์ ันตรโี กณมติ ิและการประยุกต์ การหาค่าฟังก์ชันตรีโกณจากนิยามของวงกลมหนึ่ง

หน่วย การใช้สูตรรูปแบบต่าง ๆ การพิสูจน์เอกลักษณ์ สมการตรีโกณมิติ อินเวอร์สฟังก์ชันตรีโกณ การ

ประยุกต์ใช้กฎของ sine และ cosine เวกเตอร์สองมิติและสามมิติ การบวกลบเวกเตอร์ การคูณเวกเตอร์

ดว้ ยสเกลา ขนาดของเวกเตอร์ ผลคูณเชิงสเกลา ผลคณู เชิงเวกเตอร์ และการประยุกต์เวกเตอร์

นาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใชใ้ นการแกป้ ญั หา พัฒนาการคิดอยา่ งมีระบบ

สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้ อมทั้งนาความรู้หลักการ ทักษะและ

กระบวนการที่ได้ไปเช่ือมโยงในวิชาคณติ ศาสตร์และศาสตรอ์ นื่ ๆ

เห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบรอบคอบ มีความ

รับผดิ ชอบ และมคี วามคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์

ผลกำรเรียนรู้
1. สามารถนาความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ชแ้ กป้ ญั หาเร่ืองฟังก์ชนั ตรโี กณมิติและการประยุกต์
2. สามารถนาความรู้ไปประยกุ ต์ใชแ้ ก้ปัญหาเรื่องเวกเตอรไ์ ด้

รวมท้งั หมด 2 ผลกำรเรยี นรู้

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์ 87

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่มิ เติม

รหัสวชิ ำ ค32204 วชิ ำ คณิตศำสตรเ์ พมิ่ พูนประสบกำรณ์ 4 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้คณติ ศำสตร์

ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่ 5 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษาในเรื่อง ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชียลและฟังก์ชันลอการิท่ึม เลขยกกาลัง บทนิยามฟังก์ชันเอกซ์

โพเนนเชียล กราฟฟงั กช์ นั เอกซ์โพเนนเชยี ล ฟงั กช์ ันเพม่ิ ฟังก์ชนั ลด สมการและอสมการเอกซ์โพเนนเชียล บท

นิยามของฟังก์ชันลอการิทึม กราฟของฟังก์ชันลอการิทึม การหาค่าลอการิทึม การแก้สมการและอสมการ

ลอการิทึม ลอการิทึมสามัญ แอนติลอการิทึม ลอการิทึมธรรมชาติ กฎเกณฑ์เบื้องต้นเกี่ยวกับการนับแฟคเทอ

เรียล n วิธีการเรียงสับเปลี่ยนและการจัดหมู่ ทฤษฎีบททวินาม ความน่าจะเป็นและกฎท่ีสาคัญบางประการ

ของความน่าจะเปน็

นาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปญั หา พฒั นาการคิดอยา่ งมีระบบ

สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้ อมท้ังนาความรู้หลักการ ทักษะและ

กระบวนการท่ไี ดไ้ ปเชื่อมโยงในวิชาคณิตศาสตร์และศาสตร์อื่น ๆ

เห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบรอบคอบ มีความ

รบั ผดิ ชอบ และมคี วามคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์

ผลกำรเรยี นรู้
1. สามารถนาความรูไ้ ปประยุกต์ใชแ้ ก้ปัญหาเรอ่ื งฟงั ก์ชนั เอกซ์โพเนนเชียลและลอการิทึ่มได้
2. สามารถนาความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชแ้ ก้ปัญหาเรื่องความน่าจะเป็นได้

รวมท้ังหมด 2 ผลกำรเรียนรู้

88 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพม่ิ เติม

รหัสวิชำ ค33201 วิชำ คณิตศำสตร์เพม่ิ เติม 5 กล่มุ สำระกำรเรยี นรคู้ ณติ ศำสตร์

ชัน้ มัธยมศึกษำปที ี่ 6 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศกึ ษา ฝกึ ทกั ษะการคดิ คานวณ การใช้เหตุผลและฝกึ การแก้ปญั หาในสาระตอ่ ไปน้ี

- ลำดับและอนุกรม ลาดับจากัดและลาดับอนันต์ ลิมิตของลาดับอนันต์ อนุกรมจากัดและอนุกรม

อนนต์ ผลบวก n พจนแ์ รกของอนุกรม ผลบวกอนุกรมอนันต์ การนาความรู้เกี่ยวกับลาดับและอนุกรมไปใช้

ในการแกป้ ัญหามูลค่าของเงนิ และค่ารายงวด

- กำรแจกแจงควำมน่ำจะเป็นเบ้ืองต้น การแจกแจงเอกรูป การแจกแจงทวินาม และการแจกแจง

ปกติ

การจดั ประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดยปฏิบัติ ทดลอง สรุป

รายงาน เพ่ือพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อความหมายทาง

คณิตศาสตร์ การนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการที่ได้ไปใช้ในการเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ

และใช้ในชวี ติ ประจาวันอยา่ งสรา้ งสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างมีระเบียบ รอบคอบ มีความ

รบั ผดิ ชอบ มวี ิจารณญาณและเชือ่ ม่นั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. ระบุได้วา่ ลาดับทีก่ าหนดให้เปน็ ลาดบั ลู่เข้าหรือล่อู อก
2. หาผลบวก n พจนแ์ รกของอนกุ รมได้
3. หาผลบวกอนกุ รมอนันตไ์ ด้
4. เข้าใจและนาความรูเ้ กย่ี วกับลาดับและอนกุ รมไปใช้ในการแกป้ ญั หาได้
5. หาความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่เกิดจากตัวแปรสุ่มท่ีมีการแจกแจงเอกรูป การแจกแจงทวินาม

และการแจกแจงปกติ และการนาไปใช้ในการแกป้ ญั หาได้
รวมท้ังหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 89

คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเติม

รหสั วิชำ ค33202 วิชำ คณติ ศำสตร์เพิ่มเติม 6 กลุ่มสำระกำรเรยี นร้คู ณิตศำสตร์

ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 6 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 60 ช่วั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศึกษา ฝึกทกั ษะการคดิ คานวณ การใช้เหตุผลและฝึกการแก้ปญั หาในสาระต่อไปน้ี

- แคลคูลัสเบ้ืองต้น ลิมิตและความต่อเนื่องของฟังก์ชั่น อนุพันธ์ของฟังก์ชั่นพีชคณิต ความชันของ

เสน้ โคง้ ค่าสูงสดุ และค่าต่าสุดของฟังก์ชัน และปริพันธ์ของฟังก์ชั่นพีชคณิต พื้นท่ีใต้โค้ง และ พื้นที่ระหว่าง

เส้นโค้ง

การจดั ประสบการณห์ รือสร้างสถานการณ์ท่ีใกล้ตัวให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า โดยปฏิบัติ ทดลอง สรุป

รายงาน เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การส่ือความหมายทาง

คณิตศาสตร์ การนาประสบการณ์ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ

และใชใ้ นชีวิตประจาวนั อยา่ งสร้างสรรค์

เห็นคุณค่าและมีเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างมีระเบียบ รอบคอบ มีความ

รับผดิ ชอบ มีวจิ ารณญาณและเชือ่ ม่ันในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้

1. หาลมิ ิตและตรวจสอบความต่อเนอ่ื งของฟังกช์ ันที่กาหนดให้ได้

2. หาอนุพันธข์ องฟงั ก์ชั่นพีชคณิตท่กี าหนดให้ และนาไปใช้แกป้ ัญหาได้

3. หาปริพนั ธไ์ ม่จากัดเขตและจากดั เขตของฟงั กช์ ่ันพีชคณติ ทกี่ าหนดให้ และนาไปใชแ้ ก้ปัญหาได้

รวมทง้ั หมด 3 ผลกำรเรียนรู้

90 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพ่มิ เติม

รหัสวชิ ำ ค33203 วิชำ คณิตศำสตรเ์ พม่ิ พนู ประสบกำรณ์ 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรคู้ ณิตศำสตร์

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

.......

ศึกษาในเรือ่ งโจทย์ปญั หา O – NET PAT1 และคณิตศาสตร์วิชาสามญั 7 วชิ า

นาความรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปญั หา พฒั นาการคดิ อยา่ งมรี ะบบ

สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้อมท้ังนาความรู้หลักการ ทักษะและ

กระบวนการทไี่ ดไ้ ปเชอื่ มโยงในวชิ าคณิตศาสตร์และศาสตรอ์ ่นื ๆ

เห็นคุณค่าและเจตคติท่ีดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบรอบคอบ มีความ

รบั ผดิ ชอบ และมีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์

ผลกำรเรียนรู้

1. สามารถนาความรูไ้ ปใช้แก้โจทย์ปญั หา O – NET ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง

2. สามารถนาความร้ไู ปใช้แกโ้ จทยป์ ญั หา PAT1 ไดอ้ ย่างถูกต้อง

3. สามารถนาความรู้ไปใชแ้ ก้โจทยป์ ัญหาวชิ าคณิตศาสตร์สามัญ 7 วชิ าได้อยา่ งถกู ต้อง

รวมทง้ั หมด 3 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 91

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพมิ่ เติม

รหสั วิชำ ค33204 วชิ ำ คณติ ศำสตร์เพ่มิ พนู ประสบกำรณ์ 6 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้คณิตศำสตร์

ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 6 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศึกษาในเรือ่ งโจทยป์ ัญหา O – NET PAT1 และคณติ ศาสตรว์ ิชาสามัญ 7 วิชา

นาความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา พฒั นาการคดิ อยา่ งมีระบบ

สร้างสรรค์ และการคิดอย่างมีวิจารณญาณ แก้ไขปัญหาได้ พร้ อมท้ังนาความรู้หลักการ ทักษะและ

กระบวนการที่ไดไ้ ปเช่ือมโยงในวชิ าคณิตศาสตรแ์ ละศาสตร์อนื่ ๆ

เห็นคุณค่าและเจตคติที่ดีต่อคณิตศาสตร์ สามารถทางานได้อย่างเป็นระบบรอบคอบ มีความ

รบั ผิดชอบ และมคี วามคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์

ผลกำรเรยี นรู้

1. สามารถนาความร้ไู ปใช้แก้โจทย์ปัญหา O – NET ได้อย่างถกู ต้อง

2. สามารถนาความรไู้ ปใช้แกโ้ จทยป์ ัญหา PAT1 ไดอ้ ย่างถูกต้อง

3. สามารถนาความรูไ้ ปใชแ้ ก้โจทยป์ ญั หาวชิ าคณิตศาสตร์สามญั 7 วชิ าได้อยา่ งถูกต้อง

รวมทงั้ หมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

92 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้
วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 93

รำยวิชำกลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษำตอนตน้

รำยวิชำพืน้ ฐำน

ชนั้ รหัสวชิ ำ รำยวิชำ เวลำ จำนวน
ม. 1 ว21101 วทิ ยาศาสตร์ 1 60 ชว่ั โมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว21102 วิทยาศาสตร์ 2 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต
ม. 2 ว21203 วทิ ยาการคานวณ 1 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ว21204 การออกแบบและเทคโนโลยี 1 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
ม. 3 ว22101 วิทยาศาสตร์ 3 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกติ
ว22102 วทิ ยาศาสตร์ 4 60 ชั่วโมง 1.5 หนว่ ยกิต
ว22203 วิทยาการคานวณ 2 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต
ว22204 การออกแบบและเทคโนโลยี 2 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
ว23101 วทิ ยาศาสตร์ 5 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกติ
ว23102 วิทยาศาสตร์ 6 60 ชว่ั โมง 1.5 หน่วยกิต
ว23203 วิทยาการคานวณ 3 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ
ว23204 การออกแบบและเทคโนโลยี 3 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกติ

รำยวิชำเพ่มิ เตมิ

ชน้ั รหัสวิชำ รำยวิชำ เวลำ จำนวน
ม. 1 ว21201 การใช้เทคโนโลยแี ละองคค์ วามรู้ 1 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ
ว21202 การใช้เทคโนโลยีและองคค์ วามรู้ 2 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ม. 2 ว22201 กระบวนการสอ่ื สารขอ้ มูล 20 ชัว่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ
ว22202 การเขยี นโปรแกรมเบื้องตน้ 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ
ม. 3 ว23201 การสรา้ งและนาเสนอกราฟิก 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ว23202 การสรา้ งและนาเสนอภาพเคลื่อนไหว 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต

94 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพน้ื ฐำน

รหัสวชิ ำ ว21101 วิชำ วิทยำศำสตร์ 1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 1 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 60 ชวั่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษา วิเคราะห์ อธิบายรูปร่างลักษณะของเซลล์ของส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียวและส่ิงมีชีวิตหลายเซลล์

หน้าที่ และสว่ นประกอบสาคัญของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ กระบวนการสารผ่านเซลล์โดยการแพร่และออสโม

ซิส ผลและ ปจั จัยบางประการที่จาเป็นต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช กลุ่มเซลล์ท่ีเก่ียวข้องกับการลาเลียง

น้าและธาตุ อาหารของพืช โครงสร้างของดอกที่เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์ของพืช กระบวนการสืบพันธ์ุแบบ

อาศัยเพศของพืช ดอก และการสืบพันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศของพืชโดยใช้ส่วนต่างๆ ของพืช ผลของการใช้

เทคโนโลยีชีวภาพในการ ขยายพันธ์ุ ธาตุอาหารบางชนิดที่มีผลต่อการเจริญเติบโตและการดารงชีวิตของพืช

อธบิ ายสมบัติทางกายภาพบาง ประการของธาตุโลหะ อโลหะ และก่ึงโลหะ การจัดกลุ่มธาตุเป็นโลหะ อโลหะ

และถึงโลหะ จุดเดือด จุด หลอมเหลวของสารบริสุทธ์ิและสารผสม ความหนาแน่นของสารบริสุทธ์ิและสาร

ผสม ความสัมพนั ธร์ ะหว่างอะตอม ธาตุและสารประกอบ โครงสรา้ งอะตอม การจัดเรียงอนุภาค แรงยึดเหนี่ยว

ระหว่างอนุภาค และการเคล่ือนที่ของ อนุภาคของสสารชนิดเดียวกันในสถานะ ของแข็ง ของเหลว และแก็ส

ความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานความร้อนกับ การเปลี่ยนสถานะของสสาร ใช้กล้องจุลทรรศน์ศึกษาเซลล์และ

โครงสร้างต่างๆ ภายในเซลส์ ปรับปรงุ พนั ธุแ์ ละขยายพันธ์ุพืชเพอื่ ผลผลิตของพืชให้เหมาะสมกับความต้องการ

ของมนุษย์ เลอื กใชป้ ยุ๋ ที่มีธาตุอาหารเหมาะสมกับพืชในสถานการณ์ท่ีกาหนด

โดยใช้เคร่ืองมือวัดมวลและปริมาตรของสารบริสุทธิ์และสารผสมใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใน

การสืบ เสาะหาความรู้ สารวจตรวจสอบ สามารถคิดแก้ปัญหา สืบค้นข้อมูล อภิปรายเพ่ือให้เกิดความรู้

สามารถนา เทคโนโลยมี าใช้

เพื่อให้มีจิตวิทยาศาสตร์ จิตสาธารณะ ตระหนักถึงความสาคัญของการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชต่อ

ส่ิงมีชีวิต และส่ิงแวดล้อม ความสาคัญของสัตว์ที่ช่วยในการถ่ายเรณูของพืชดอก ความสาคัญของธาตุอาหาร

บางชนดิ ทม่ี ีผล ต่อการเจรญิ เติบโตและการดารงชีวิตของพืช ความสาคัญของเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเน้ือเยื่อ

ในการใช้ประโยชน์ ในด้านต่างๆ คุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ ก่ึงโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี ตระหนักถึง

คุณค่าของความรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี และนาความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นการดารงชีวิต

รหัสตัวช้ีวัด
ว 1.2 ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10, ม.1/11 ม.1/12,
ม.1/13, ม.1/14, ม.1/15, ม.1/16, ม.1/17, ม.1/18
ว 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10

รวมทง้ั หมด 28 ตัวชวี้ ัด


Click to View FlipBook Version