หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 145

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเติม

รหสั วิชำ ว30243 วิชำ ชีววิทยำ 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศึกษำปที ี่ 5 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษาเก่ียวกับกระบวนการดารงชีวติ ของพชื ดอก เนอ้ื เยอื่ พืช โครงสร้างและหน้าที่ของราก ลาต้นและ

ใบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊ส การคายน้า การลาเลียงน้าและอาหารของพืช ความสาคัญของการสังเคราะห์

ด้วย แสง การค้นคว้าที่เก่ียวข้องกับการสังเคราะห์ด้วยแสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสงและการตรึง

คารบ์ อนไดออกไซด์ของพืช C3 พืช C4 และพืช CAM รวมท้ังปัจจัยบางประการท่ีมีผลต่ออัตราการสังเคราะห์

ด้วย แสง ศึกษาการสืบพนั ธข์ุ องพืชดอกและการเจริญเติบโต วัฏจักรชีวิตของพืชดอก โครงสร้างของตอก การ

สร้าง เซลล์สืบพันธ์ุและการปฏิสนธิ ผล เมล็ด และการงอกของเมล็ด สืบค้นและอธิบายเกี่ยวกับบทบาทของ

สารควบคุม การเจริญเติบโตของพืช และส่ิงเร้าภายนอกที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช เพ่ือนาความรู้ไปใช้

แก้ปัญหาหรือ สถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่เก่ียวกับสถานที่ทรัพยากร ผลิตภัณฑ์สินค้า อาชีพและเรื่องราว

ในกรุงเทพมหานคร หรอื ในสานกั งานเขตบางกะปแิ ละกล่มุ ประชาคมอาเซยี น

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่เก่ียวกับสถานท่ี ทรัพยากร ผลิตภัณฑ์

สินค้า อาชีพและเร่ืองราวในกลุ่มประชาคมอาเซียน ให้ผู้เรียน ได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง โดยใช้

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะความรู้ การสืบค้น การทดลอง สังเกต เปรียบเทียบ

อภิปราย อธิบาย และสรุป ให้ได้องค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการดารงชีวิตของ พืช และนาความรู้ไปใช้

ประโยชน์ในชวี ิตประจาวัน

เพื่อนาทกั ษะและกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนร้สู ่ิงต่างๆ ที่เกี่ยวกับสถานที่ ทรัพยากร ผลิตภัณฑ์

สนิ คา้ อาชพี และเรือ่ งราวในกรงุ เทพมหานคร แล้วนาไปใช้ในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ เกิดเจตคติที่ดีต่อ

วิชา ชีววิทยา มีจิตวิทยาศาสตร์ สามารถส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ

ตนเอง สังคม และประเทศ มีคุณธรรม จริยธรรม ความซ่ือสัตย์ ความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ สามารถทางานอย่าง

เป็น ระบบระเบียบ มุ่งมั่นในการทางาน มีความรอบคอบ มีความรับผิดชอบมีวิจารณญาณ มีความเช่ือมั่นใน

ตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้
1. ทาการทดลอง และเขียนแผนภาพเปรียบเทยี บโครงสร้างและหนา้ ท่ขี องราก ลาตน้ ใบของพืช
2. อธิบายโครงสร้างของปากใบ กลไกการคายน้า และปจั จัยที่มีผลต่อการคายนา้ ของพืช
3. อธิบายกลไกท่ใี ชใ้ นการลาเลียงน้า ธาตอุ าหารและสารอาหารของพชื
4. อธิบาย และสรปุ กระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
5. อธบิ ายปฏกิ ิริยาโฟโตเรสไพเรชนั และกลไกการเพิ่มความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C4

และทซ่ี ีเอเอ็ม (CAM)
6. อธิบายปัจจยั บางประการท่ีมผี ลต่อการสงั เคราะหด์ ้วยแสง และการปรับตวั ของพชื เพ่ือรบั แสง

146 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอปุ ถมั ภ์

7. อธบิ ายการสืบพันธุ์ของพชื ดอก สรา้ งเซลล์ สบื พันธข์ุ องพืชดอก การเกดิ ผล การเกิดเมล็ด และการ

เจริญเติบโตของเมล็ด
8. สืบคน้ และอธบิ ายเกี่ยวกบั การสบื พันธแ์ุ บบไมอ่ าศยั เพศของพืชดอกและการขยายพันธพ์ุ ืช
9. อธบิ ายและเปรียบเทยี บสารที่มผี ลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพชื
10. อธิบายเกย่ี วกบั การตอบสนองของพชื ต่อส่งิ แวดล้อม

รวมทงั้ หมด 10 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 147

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเติม

รหสั วชิ ำ ว30262 วชิ ำ โลก ดำรำศำสตร์และอวกำศ 2 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 5 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศกึ ษาสมบัตขิ องแรเ่ พอื่ ใชต้ รวจสอบและระบุชนดิ แร่ การใชท้ รัพยากรแร่ที่เหมาะสม กระบวนการเกิด

สมบัติ เพอ่ื การจาแนกประเภทและระบชุ อื่ หิน การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรหินท่ีเหมาะสม กระบวนการเกิด

และการสารวจแหล่งปิโตรเลียมและถ่านหินโดยใช้ข้อมูลทางธรณีวิทยา สมบัติของผลิตภัณฑ์ท่ีได้จาก

ปิโตรเลียม และถ่านหิน และการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม อ่านและแปลความหมายจากแผนท่ีภูมิประเทศ

และแผนท่ี ธรณวี ิทยาของพ้ืนทท่ี กี่ าหนด

โดยใชก้ ระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ

วเิ คราะห์ การอธบิ าย การอภปิ รายและสรุป

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ และน้า

ความรู้ ไปใช้ในชีวิตของตนเอง และดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เฝ้าระวังและพัฒนาส่ิงแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิต

วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
1. ตรวจสอบ และระบขุ นิดแร่ รวมทั้งวิเคราะห์ สมบัติและนาเสนอการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรแร่

ที่ เหมาะสม
2. ตรวจสอบ จาแนกประเภท และระบุช่ือหิน รวมทั้งวิเคราะห์สมบัติ และนาเสนอการใช้ประโยชน์

จาก ทรพั ยากรหนิ ท่เี หมาะสม
3. อธิบายกระบวนการเกิด และการสารวจแหล่งปโิ ตรเลียม และถา่ นหนิ โดยใช้ขอ้ มูลทางธรณวี ทิ ย
4. อธิบายสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากปิโตรเลียม และถ่านหินพร้อมนาเสนอการใช้ประโยชน์อย่าง

เหมาะสม
5. อ่าน และแปลความหมายจากแผนทภี่ มู ิประเทศ และแผนที่ธรณีวิทยาของพื้นท่ีที่กาหนด พร้อมท้ัง

อธิบายและยกตัวอยา่ งการใชป้ ระโยชน์
รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรยี นรู้

148 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์

คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเติม

รหสั วิชำ ว30263 วชิ ำ โลก ดำรำศำสตร์และอวกำศ 3 กล่มุ สำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ 5 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษาปัจจัยสาคัญท่ีมีผลต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทิตย์ และผลที่มีต่ออุณหภูมิอากาศใน

แต่ละบริเวณของโลก กระบวนการที่ทาให้เกิดสมดุลพลังงานของโลก แรงต่างๆท่ีมีผลต่อ การหมุนเวียน

อากาศ การหนุนเวยี นอากาศตามเขตละตจิ ูดและผลต่อภูมิอากาศ ปัจจัยท่ีทาให้เกิดการแบ่ง ชั้นน้า และปัจจัย

ท่ี ทาให้เกิดการหมุนเวียน รวมถึงรูปแบบการหมุนเวียนของน้าในมหาสมุทร และผลที่มีต่อลักษณะลมฟ้า

อากาศ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ระหว่างเสถียรภาพอากาศกับการเกิดเมฆ การเกิดแนวปะทะ

อากาศ แบบตา่ งๆและลักษณะลมฟ้าอากาศท่ีเกี่ยวข้อง ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศโลก

การแปลความหมายสัญลักษณ์สมฟา้ อากาศบนแผนที่อากาศ การคาดการณ์ลักษณะลมฟ้าอากาศเบ้ืองต้นจาก

แผนที่อากาศ

โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ

วเิ คราะห์ การอธบิ าย การอภปิ รายและสรปุ

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ และนา

ความรู้ ไปใช้ในชีวิตของตนเอง และดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอ่ืน ๆ เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างย่ังยืน มีจิต

วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และค่านยิ มท่เี หมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายปจั จัยสาคัญท่ีมผี ลตอ่ การรับและคายพลงั งานจากดวงอาทติ ยแ์ ตกต่างกนั และอธิบายผลท่ีมี

ตอ่ อุณหภมู อิ ากาศในแตล่ ะบริเวณของโลก รวมถึงกระบวนการทที่ าให้เกิดสมดุลพลงั งานของโลก
2. อธบิ ายผลของแรงเน่อื งจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส แรงสู่ศูนย์กลาง และ

แรง เสียดทานที่มตี ่อการหมุนเวยี นของอากาศ
3. อธบิ ายการหมุนเวียนของอากาศตามเขตละตจิ ูด และผลท่ีมีต่อภูมิอากาศ
4. อธบิ ายปจั จัยท่ที าให้เกดิ การแบ่งชั้นน้าในมหาสมุทร และปัจจัยท่ีทาให้เกิดการหมุนเวียนของน้าใน

มหาสมุทร และรูปแบบการหมนุ เวียนของน้าในมหาสมุทร
5. อธิบายผลของการหมุนเวยี นนา้ ในมหาสมุทรที่มตี อ่ ลกั ษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิต และส่ิงแวดล้อม
6. อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างเสถียรภาพอากาศ และการเกดิ เมฆ
7. อธิบายการเกดิ แนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ และลกั ษณะลมฟ้าอากาศท่ีเกีย่ วข้อง
8. อธบิ ายปัจจัยตา่ งๆท่ีมีผลต่อการเปลย่ี นแปลงภมู อิ ากาศของโลก พรอ้ มยกตัวอย่างขอ้ มูลสนับสนนุ
9. วิเคราะห์ และอภิปรายเหตุการณ์ท่ีเป็นผลจากการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศโลก และนาเสนอแนว

ปฏิบตั ิ ของมนุษยท์ ่มี ีสว่ นช่วยในการชะลอการเปลีย่ นแปลงภูมอิ ากาศโลก

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์ 149

10. แปลความหมายสญั ลักษณล์ มฟ้าอากาศบนแผนที่อากาศ วิเคราะห์ และคาดการณ์ลักษณะลมฟ้า
อากาศเบื้องต้นจากแผนที่อากาศและข้อมูลสารสนเทศอื่น ๆ เพื่อวางแผนในการประกอบอาชีพ และการ
ดาเนิน ชวี ิตให้สอดคลอ้ งกับสภาพลมฟ้าอากาศ
รวมท้งั หมด 10 ผลกำรเรียนรู้

150 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่มิ เติม

รหัสวชิ ำ ว30283 วชิ ำ กำรผลิตสื่อนำเสนอ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 5 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษา ฝึกทักษะกระบวนการในสาระต่อไปนี้ ศึกษาหลักการของวิทยการข้อมูล และหลักการคิดเชิง

คานวณเพื่อเพ่ิมมูลค่าให้กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ โดยใช้ความรู้ด้านวิทยการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล และ

เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ซ่ึง ประกอบด้วย หลักการออกแบบเว็บไซต์ การสร้าง

เว็บไซต์แนวธุรกิจ การอัพโหลดเว็บไซต์ผ่าน FTP เพื่อเพ่ิมมูลค่า ให้กับผลิตภัณฑ์สินค้าของตนเอง หรือ

ผลติ ภณั ฑ์ท่มี อี ยใู่ นชมุ ชมและกลุ่มประชาคมอาเซยี น

โดยจัดประสบการณ์ ให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้า ด้วยการปฏิบัติจริง และประยุกต์ใช้ศาสตร์ด้านต่างๆ

เพ่ือ สร้างชนิ้ งานผ่านกระบวน การ ทดลอง แก้ไข สรปุ นาเสนอผลงาน

เพอ่ื พัฒนาทักษะและกระบวนการท่ีได้ไปใช้ใน การเรียนรู้ส่ิงต่าง ๆ ในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์

สร้างช้ินงานอย่างเป็นระบบระเบียบ มุ่งม่ันในการทางาน มี ความรอบคอบ รับผิดชอบมีวิจารณญาณ มีความ

เช่ือม่ันในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. ออกแบบโครงสรา้ งของเว็บไซต์ได้
2. สรา้ งเว็บไซต์ได้
3. อพั โหลดเวบ็ ไซต์ผ่าน FTP ได้

รวมทั้งหมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 151

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม

รหสั วชิ ำ ว30284 วชิ ำ กำรนำเสนอผลงำนด้วยเทคโนโลยี กลุ่มสำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่ 5 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

.......

ศกึ ษา การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการนาเสนอ และแบ่งปันข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ

วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศทม่ี ีผลตอ่ การดาเนินชวี ิต อาชพี สังคมและวัฒนธรรมปฏบิ ัตกิ าร

โดยการนาเสนอและแบ่งปันข้อมูล เช่น การเขียนบล็อก อัปโหลดวิดีโอ ภาพอินโฟกราฟิกโดย

คานึงถึงจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ นวัตกรรมเทคโนโลยี อาชีพ และผลกระทบ ของเทคโนโลยี

สารสนเทศต่าง ๆ ต่อการดาเนินชีวิต อาชีพสังคม และวัฒนธรรม รวมถึงเทคโนโลยีเกิดใหม่แนวโน้มการ

เปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีในอนาคต

เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในการนาเสนอและแบ่งปันข้อมูลอ ย่างอย่างปลอดภัยระมัดระวัง

ผลกระทบที่ตามมา เม่ือมีการแบ่งปันข้อมูลหรือเผยแพร่ข้อมูลไม่สร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อ่ืนโดย

คานึงถึงจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ นวัตกรรมเทคโนโลยี อาชีพ และผลกระทบ ของเทคโนโลยี

สารสนเทศต่าง ๆ ตอ่ การดาเนินชวี ิตประจาวัน อาชพี สงั คม และวฒั นธรรม รวมถงึ เทคโนโลยเี กดิ ใหม่แนวโน้ม

การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยใี นอนาคต

ผลกำรเรียนรู้
1. ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและทักษะในการนาเสนอและแบ่งปันข้อมูล เช่น การเขียนบล็อก อัพ

โหลดวดิ โี อ ภาพอินโฟกราฟกิ
2. ผู้เรียนสามารถนาความรู้ทักษะการนาเสนอและแบ่งปันข้อมูล โดยคานึงถึงจริยธรรมระมัดระวัง

ผลกระทบท่ตี ามมา เมอื่ มกี ารแบง่ ปนั ข้อมูลหรือเผยแพร่ข้อมูลไมส่ ร้างความเดือดร้อนต่อตนเองและผู้อนื่
3. ผเู้ รยี นสามารถนาเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยี อาชีพ และผลกระทบ ของเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง

ๆ ต่อการดาเนินชีวิตประจาวัน อาชีพ สังคม และวัฒนธรรม รวมถึงเทคโนโลยีเกิดใหม่ แนวโน้มการ
เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยใี นอนาคต
รวมทง้ั หมด 3 ผลกำรเรยี นรู้

152 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม

รหัสวิชำ ว30204 วิชำ ฟสิ ิกส์ 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนร้วู ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 80 ช่วั โมง จำนวน 2.0 หน่วยกิต

.......

ศึกษาเก่ียวกับประจุไฟฟ้า การทาให้มีประจุไฟฟ้า กฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า พลังงานศักย์ไฟฟ้า

ศักย์ไฟฟ้า ความต่างศักย์ไฟฟ้า ตัวเก็บประจุ การเคล่ือนท่ีของอิเล็กตรอนอิสระ กระแสไฟฟ้าในลวดตัวนา

ความเร็วลอยเลอื นของอิเลก็ ตรอนอสิ ระ กฎของโอห์ม ความต้านทาน สภาพต้านทาน ความต้านทานสมมูล อี

เอ็ม เอฟของแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้า กาลังไฟฟ้า อีเอ็มเอฟสมมูลจากการต่อแบตเตอรี่

การเปลี่ยน พลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีท่ีตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงานไฟฟ้า

เส้นสนามแม่เหล็ก ฟลักซ์แม่เหล็ก สนามแม่เหล็กที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนาเส้นตรงและโซลินอยด์

แรงแม่เหลก็ ทกี่ ระทาตอ่ อนุภาคทีม่ ีประจไุ ฟฟา้ เคลือ่ นท่ีในสนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กท่ีกระทาต่อเส้นลวดที่มี

กระแสไฟฟ้าผ่านและวางใน สนามแม่เหล็ก แรงระหว่างเส้นลวดตัวนา คู่ขนานที่มีกระแสไฟฟ้าผ่าน หลักการ

ทางานของแกสแวนอมิเตอร์และ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง การเกิดอีเอ็มเอฟเหนียวน้า กฎการเหน่ียวนาของ

ฟาราเดย์ ความต่างศักย์อาร์เอ็มเอฟ และกระแสไฟฟ้าอาร์เอ็มเอส หลักการทางานและประโยชน์ของ

กระแสสลับ 3 เฟส การแปลงอเี อม็ เอฟหมอ้ แปลง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การแก้ปัญหา รู้ว่า

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติท่ีเกิดขึ้นส่วนใหญ่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถอธิบายและตรวจสอบได้ ภายใต้

ขอ้ มูล และเครือ่ งมอื ท่ีมีอย่ใู นช่วงเวลาน้ัน ๆ เขา้ ใจว่า วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สังคม และส่ิงแวดล้อม มีความ

เกี่ยวข้อง สัมพนั ธก์ นั

เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเกิดความร้คู วามเขา้ ใจ สามารถแสดงความคิดเหน็ เชิงวิเคราะห์ ต้ังสมมติฐานและการหา

คาตอบเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เรียนรู้ สามารถต้ังคาถามให้คาอธิบาย แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ รู้จักหาทางออกในการ

แก้ปัญหาได้อย่างกระจ่างชัด สามารถเชื่อมโยงความรู้เปรียบเทียบวิธีการแสวงหาความรู้เกี่ยวกับสาขาวิชา

ต่างๆ และวธิ กี ารรับความรู้

ผลกำรเรียนรู้
1. ทดลองและอธิบายการทาวัตถุที่เป็นกลางทางไฟฟ้าให้มีประจุไฟฟ้า โดยการขัดสีกันและการ

เหน่ียวนา ไฟฟ้าสถิต และคานวณแรงไฟฟา้ ตามกฎของคลู อมบ์
2. อธิบายและคานวณสนามไฟฟ้าและแรงไฟฟ้าทกี่ ระทากับอนุภาคท่ีมีประจุไฟฟ้าท่ีอยู่ในสนามไฟฟ้า

รวมทง้ั สนามไฟฟา้ ลพั ธเ์ นื่องจากระบบจดุ ประจุโดยรวมกันแบบเวกเตอร์
3. อธบิ ายและคานวณพลังงานศักยไ์ ฟฟ้า ศักย์ไฟฟา้ และความต่างศกั ยร์ ะหว่างสองตาหน่งใด ๆ
4. อธบิ ายส่วนประกอบของตัวเก็บประจุ ความสัมพันธ์ระหว่างประจุไฟฟ้า ความต่างศักย์และความจุ

ของ ตัวเก็บประจุ และอธิบายพลังานสะสมในตัวเก็บประจุ และความจุสมมูล และคานวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 153

เกี่ยวข้อง รวมท้ังนาความรู้เร่ืองไฟฟ้าสถิตไปอธิบายหลักการทางานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้าบางชนิดและ
ปรากฏการณใ์ น ชวี ิตประจาวัน

5. อธิบายการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนอิสระและกระแสไฟฟ้าในลวดตัวนา ความสัมพันธ์ระหว่าง
กระแสไฟฟ้าในลวดตวั นากับความเร็วลอยเล่ือนของอิเลก็ ตรอนอิสระ ความหนาแน่นของอิเล็กตรอนในลวดตัว
น้า และพื้นทห่ี น้าตัดของลวดตวั นา และคานวณปรมิ าณต่างๆทเี่ กยี่ วข้อง

6. ทดลองและอธิบายกฎของโอห์ม อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความต้านทานกับความยาว
พ้ืนท่ีหน้าตัด และสภาพต้านทานของตัวนาโลหะที่อุณหภูมิคงตัว และคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทงั้ อธิบาย และคานวณความตา้ นทานสมมลู เม่ือนา้ ตัวตา้ นทานมาต่อกนั แบบอนุกรมและแบบขนาน

7. ทดลอง อธิบาย และคานวณอีเอ็มเอฟของแหล่งกาเนิดไฟฟ้ากระแสตรง รวมทั้งอธิบายและ
คานวณ พลังงานไฟฟ้าและกาลังไฟฟ้า อีเอ็มเอฟสมมูลจากการต่อแบตเตอร่ีแบบอนุกรมและแบบขนาน
รวมทงั้ คานวณปรมิ าณตา่ งๆทีเ่ กยี่ วขอ้ งในวงจรไฟฟา้ กระแสตรงซึ่งประกอบดว้ ยแบตเตอร่ีและตัวตา้ นทาน

8. อธิบายการเปล่ียนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า รวมท้ังสืบค้นและอภิปรายเกี่ยวกับ
เทคโนโลยี ท่ี นามาแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงานไฟฟ้า โดยเน้นด้านประสิทธิภาพ
และ ความคมุ้ คา่ ด้านคา่ ใช้จ่าย

9. สังเกต อธิบายและคานวณเส้นสนามแมเ่ หลก็ ฟลักซ์แม่เหล็ก สนามแมเ่ หล็กทเี่ กิดจากกระแสไฟฟ้า
ใน ลวดตัวนาเส้นตรงและโซลนิ อยด์

10. อธบิ ายและคานวณแรงแมเ่ หล็กที่กระทาต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าเคลื่อนท่ีในสนามแม่เหล็ก แรง
แม่เหลก็ ท่ีกระทาต่อเส้นลวดทีม่ กี ระแสไฟฟา้ ผ่านและวางในสนามแมเ่ หลก็ รศั มคี วามโค้งของการเคลื่อนที่เมื่อ
ประจเุ คล่ือนท่ตี งั้ ฉากกับสนามแมเ่ หล็ก และแรงระหวา่ งเสน้ ลวดตัวนาคขู่ นานทีม่ กี ระแสไฟฟ้าผ่าน

11. อธิบายหลักการทางานของแกลแวนอมเิ ตอร์และมอเตอรไ์ ฟฟ้ากระแสตรง รวมท้ังคานวณปริมาณ
ตา่ งๆ ที่เกี่ยวขอ้ ง

12. สงั เกตและอธบิ ายการเกดิ อีเอ็มเอสเหน่ยี วนากฎการเหนี่ยวนาของฟาราเดย์ และนาความรู้เร่ืองอี
เอ็ม เอส เหน่ียวนาไปอธิบายการทางานของเคร่ืองใช้ไฟฟ้า รวมทั้งอธิบายและคานวณ ความต่างศักย์อาร์เอ็ม
เอส และกระแสไฟฟ้าอีเอ็มเอส

13. อธิบายหลักการทางานและประโยชน์ของกระแสสลับ 3 เฟส การแปลงอีเอ็มเอสหม้อแปลง
รวมทง้ั คานวณปริมาณตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วข้อง
รวมทัง้ หมด 13 ผลกำรเรียนรู้

154 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถมั ภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิ่มเติม

รหัสวิชำ ว30205 วิชำ ฟิสิกส์ 5 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 6 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 80 ช่ัวโมง จำนวน 2.0 หนว่ ยกติ

.......

ศกึ ษา วิเคราะห์ คานวณและอธิบายแนวคิดทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์และการทดลอง

ของ เฮิรตซ์ การแผ่คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าจากสายอากาศ คล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า สเปกตรัมคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โพลา

ไรเซชนั ของคลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้า ความหนาแน่น ความดันในของไหลและ กฎพาสคัล แรงพยุงและหลักอาร์คิมี

ดีส ความพึง ผวิ การเคลอื่ นทใ่ี นของไหลและหลักแบร์นูลลี ความร้อนการเปลี่ยนสถานะของสาร การถ่ายโอน

ความร้อน สภาพ ยืดหยุ่นและลักษณะการยึดและหดตัวของวัสดุที่เป็นแห่งเมื่อถูกกระทาด้วยแรงค่าต่าง ๆ

ความเค้นตามยาว ความเครียดตามยาว และมอดูลัสของยังและนาความรู้เรื่องสภาพยืดหยุ่นทฤษฎีจลน์ของ

แก๊ส กฎของแก๊สและ พลงั งานภายในระบบของแกส๊ การคน้ พบอเิ ลก็ ตรอนแนวคิดเกี่ยวกับแบบจาลองอะตอม

สมมติฐานของพลัง สเปกตั้มของอะตอม ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการโฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่น

และอนุภาค กลศาสตร์ ควอนตัม กัมมันตภาพรังสี การสลายกัมมันตรังสี ไอโซโทป เสถียรภาพของนิวเคลียส

ปฏิกิริยานิวเคลยี ร์ ประโยชน์ของกัมมนั ตภาพรังสีและพลังงานนวิ เคลยี ร์รงั สีในธรรมชาติ อันตรายจากรังสีและ

การปอ้ งกนั และ สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างถกู ต้อง

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกตการ

วเิ คราะห์ การอธปิ ราย การอธบิ ายและการสรปุ ผล

เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความรู้ ความคิด และความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้

และนาความรไู้ ปใช้ในชวี ติ ตนเอง ตลอดจนมจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มทีถ่ กู ต้อง

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายการเกิดและลักษณะเฉพาะของคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า แสงไม่โพลาไรส์ แสงโพลาไรส์เชิงเส้น

และ แผน่ โพลารอยด์ รวมท้ังอธิบายการนาคลืน่ แม่เหลก็ ไฟฟ้าในช่วงความถ่ีต่าง ๆ ไปประยุกต์ใช้และหลักการ
ทางาน ของอปุ กรณท์ เ่ี กยี่ วข้อง

2. สืบค้นและอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศ และ
เปรียบเทียบ การสื่อสารด้วยสัญญาณแอนะลอ็ กกบั สัญญาณดิจิทัล

3. อธิบายและคานวณความร้อนท่ีทาให้สสารเปลี่ยนอุณหภูมิ ความร้อนที่ทาให้สสารเปลี่ยนสถานะ
และ ความรอ้ นทีเ่ กดิ จากการถา่ ยโอนตามกฎการอนรุ ักษ์พลังงาน

4. อธบิ ายสภาพยดื หยุน่ และลกั ษณะการยดึ และหดตวั ของวสั ดทุ ีเ่ ป็นแทง่ เมอื่ ถูกกระทาด้วยแรงค่าต่าง
ๆ รวมทั้ง ทดลองอธิบายและคานวณความเค้นตามยาวความเครียดตามยาว และมอดุลัสของยังและนาความรู้
เรื่อง สภาพยดื หยุ่น ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

5. อธิบายและคานวณความดันเกจ ความดันสมบูรณ์ และความดันบรรยากาศ รวมท้ังอธิบาย
หลกั การทางานของแมนอมิเตอร์บารอมเิ ตอรแ์ ละเคร่ืองอดั ไฮดรอลกิ

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 155

6. ทดลอง อธบิ ายและคานวณขนาดแรงพยงุ จากของใหล
7. ทดลอง อธิบายและคานวณความตึงผิวของของเหลว รวมท้ังสังเกตและอธิบายแรงหนืดของ
ของเหลว
8. อธิบายสมบัติของของไหลอุดมคติ สมการความต่อเนื่อง และสมการแบร์นูลลีรวมท้ังคานวณ
ปริมาณ ต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้องและนาความรู้เกี่ยวกับสมการความต่อเน่ืองและสมการแบร์นูลลีไปอธิบายหลักการ
ทางานของ อุปกรณ์ต่าง ๆ
9. อธิบายกฎของแกส๊ อดุ มคตแิ ละคานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เกย่ี วขอ้ ง
10. อธิบายแบบจาลองของแก๊สอดุ มคติทฤษฎีจลน์ของแกส๊ และอัตราเร็วอาร์เอ็มเอสของโมเลกุลของ
แก็ส รวมท้งั คานวณปริมาณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง
11. อธิบายและคานวณงานท่ีทาโดยแก๊สในภาชนะปิดโดยความดันคงตัว และอธิบายความสัมพันธ์
ระหว่างความรอ้ น พลังงานภายในระบบ และงาน รวมทั้งคานวณปรมิ าณต่างๆ ท่เี ก่ียวข้อง และน้าความรู้เร่ือง
พลังงานภายในระบบไปอธิบายหลักการทางานของเคร่ืองใชใ้ นชีวิต ประจาวัน
12. อธิบายสมมติฐานของพลังค์ หฤษฎีอะตอมของโบร์ และการเกิดเส้นสเปกตรัมของอะตอม
ไฮโดรเจน รวมทัง้ คานวณปรมิ าณตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ียวข้อง
13. อธิบายปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริกและ คานวณพลังงานโฟตอน พลังงานจลน์ของ โฟโต
อเิ ลก็ ตรอน และฟังก์ชนั่ งานของโลหะ
14. อธบิ ายทวิภาวะของคลื่นและอนุภาครวมทง้ั อธิบายและคานวณความยาวคลนื่ เดอบรอยส์
15. อธบิ ายกัมมันตภาพรังสีและความแตกตา่ งของรังสแี อลฟา บีตาและแกมมา
16. อธิบายและคานวณ กัมมันตภาพของนิวเคลียส กัมมันตรังสี รวมทั้ง ทดลองอธิบาย และคานวณ
จานวนนิวเคลียสกัมมนั ตภาพรังสีท่ีเหลือจากการสลายและครงึ่ ชวี ติ
17. อธิบายแรงนิวเคลียร์ เสถียรภาพของนิวเคลียส และพลังงานยึดเหน่ียว รวมทั้งคานวณปริมาณ
ตา่ ง ๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง
18. อธิบายปฏกิ ริ ยิ านวิ เคลยี ร์ ฟชิ ชัน และฟวิ ชัน รวมทงั้ คานวณพลังงานนิวเคลยี ร์
19. อธบิ ายประโยชน์ของพลังงานนิวเคลยี ร์และรังสี รวมท้ังอันตรายและการป้องกนั รงั สีในดา้ นต่าง ๆ
20. อธิบายการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาคแบบจาลองมาตรฐาน และการใช้ประโยชน์จากการ
คน้ ควา้ วิจัยดา้ นฟสิ กิ ส์อนุภาคในด้านตา่ ง ๆ
รวมทัง้ หมด 20 ผลกำรเรียนรู้

156 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพมิ่ เติม

รหสั วิชำ ว30224 วิชำ เคมี 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศกึ ษาและเขยี นสมการเคมีเคมแี สดงปฏกิ ิรยิ าสะเทินและระบุความเป็นกรดเบสขงสารละลายหลังการ

สะเทนิ เขยี น ปฏิกิรยิ าโดรลิซสิ ของเกลือ และระบุความเป็นกรด-เบสของสารละลายเกลือ ทดลองและอธิบาย

หลักการไทเทรต และเลือกใช้อินดิเคเตอร์ท่ีเหมาะสมสาหรับการไทเทรตกรด-เบส คานวณปริมาณสารหรือ

ความเข้มข้นของสาระ ลายกรดหรือเบสจากการไทเทรต อธิบายสมบัติ องค์ประกอบและประโยชน์ของ

สารละลายบัฟเฟอร์ สืบค้น ข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างการใช้ประโยชน์และการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้

เกย่ี วกบั กรด-เบส คานวณเลข ออกซิเดชันและระบุปฏิกิริยาท่ีเป็นปฏิกิริยารีดอกซ์ วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลง

เลขออกซิเดชันและระบุตัวรีดิวซ์ และตัวออกซิไดส์ รวมท้ังเขียนคร่ึงปฏิกิริยาออกซิเดชันและครึ่งปฏิกิริยา

รดี ักชนั ของปฏกิ ิรยิ ารีดอกซ์ ทดลองและ เปรียบเทียบความสามารถในการเป็นตัวรีดิวซ์หรือตัวออกซิไดส์ และ

เขียนแสดงปฏิกิริยารีดอกซ์ ดุลสมการรี ตอกข์ด้วยการใช้เลขออกซิเดชัน และวิธีครึ่งปฏิกิริยา ระบุ

องค์ประกอบของเซลล์ไฟฟ้าเคมี และเขียนสมการ เคมีของปฏิกิริยาท่ีแอโนดและแคโทด ปฏิกิริยารวมและ

แผนภาพเซลล์ คานวณค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของเซลล์ และระบุประเภทของเซลล์เคมีไฟฟ้า ขั้วไฟฟ้า และ

ปฏกิ ิรยิ าเคมีทเ่ี กิดข้ึน อธิบายหลักการทางานและเขียน สมการแสดงปฏิกิริยาของเซลล์ปฐมภูมิและเซลล์ทุติย

ภูมิ ทดลองชุบโลหะและแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟ้า และ อธิบายหลักการทางเคมีไฟฟ้าท่ีใช้ในการชุบโลหะ

การแยกสารเคมีด้วยกระแสไฟฟา้ การทาโลหะให้บริสุทธิ์ และการป้องกันการกัดกร่อนของโลหะ สืบค้นข้อมูล

และนาเสนอตวั อย่างความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยที ่ีเกีย่ วขอ้ ง กับเซลล์เคมไี ฟฟา้ ในชวี ติ ประจาวนั

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะความรู้ การสืบค้น การทดลอง สังเกต

เปรียบเทียบ อภิปราย อธบิ าย และสรปุ ใหไ้ ดอ้ งคค์ วามรู้

เพ่ือให้เกิดเจตคติท่ีดีต่อวิ ชาเคมี มีจิตวิทยาศาสตร์ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนาความรู้ไป

ประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง สังคม และประเทศ มีคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ ความมีวินัย ใฝ่

เรยี นรู้ มจี ติ สาธารณะและค่านยิ มทเ่ี หมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายความหมายของปฏิกิริยาออกซิเดชัน ปฏิกิริยารีดักชัน ปฏิกิริยารีดอกซ์ ตัวรีดิวซ์ตัวออกซิ

ไดส์ ในด้านการถ่ายโอนอิเลก็ ตรอนและการเปลี่ยนแปลงเลขออกซเิ ดชนั ได้
2. จัดล้าดบั ความสามารถในการรับอเิ ลก็ ตรอนของธาตหุ รือไอออน และเปรียบเทียบความสามารถ ใน

การเป็นตวั รีดวิ ซห์ รือตวั ออกซิไดส์ได้
3. ดลุ สมการรีดอกซโ์ ดยใชเ้ ลขออกซเิ ดชันและครึ่งปฏกิ ริ ิยาได้
4. ต่อเซลล์กัลวานิกขากครึ่งเซลล์ท่ีกาหนดให้ พร้อมท้ังบอกขั้วแอโนด ขั้วแคโทด และเขียนสมการ

แสดงปฏกิ ริ ิยาได้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 157

5. เขยี นแผนภาพเซลล์กลั ปว์ านกิ ได้
6. อธิบายวิธีหาค่าศักย์ไฟฟ้ามาตรฐานของคร่ึงเซลล์ (E) โดยการเปรียบเทียบกับคร่ึงเซลล์ไฮโดรเจน
มาตรฐานได้
7. ใชค้ ่า E ของครง่ึ เซลลค์ านวณหาคา่ ศักย์ไฟฟา้ ของเซลล์และทานายการเกิดปฏิกิรยิ ารดี อกซ์ได้
8. อธิบายหลกั การทางานของเซลลก์ ัลวานิก เซลลป์ ฐมภูมิ เซลล์ทตุ ยิ ภูมิ และเซลลอ์ เิ ลก็ โทรไลตกิ ได้
9. อธิบายหลักการทางานพร้อมท้ังเขียนสมการแสดงปฏิกิริยาท่ีเกิดขึ้นในถ่านไฟฉาย เซลล์แอล-
คาไลน์เซลล์ปรอท เซลล์เงิน เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน-ออกซิเจน เซลล์เชื้อเพลิงโพรเพน-ออกซิเจน เซลล์
สะสมไฟฟ้าแบบตะกัว่ เซลล์นิกเกลิ -แคดเมยี ม เชลลล์ ิเทียม-ไอออน พอลเิ มอร์ และเซลล์โซเดยี มซลั เฟอรไ์ ด้
10. อธบิ ายหลกั การของการแยกสารเคมดี ว้ ยกระแสไฟฟา้ การชบุ โลหะด้วยไฟฟา้ และการทาโลหะให้
บรสิ ุทธ์ิ พรอ้ มท้งั เขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ิยาทเี่ กิดข้นึ ได้
11. อธบิ ายสาเหตุหรอื ภาวะทท่ี าใหโ้ ลหะเกดิ การกดั กร่อนพร้อมทั้งเขยี นสมการแสดงปฏกิ ิริยาได้
12. อธิบายวิธีการป้องกนั การกัดกรอ่ นของโลหะโดยวิธอี ะโนไดซ์ การรมดา วธิ แี คโทดิก การเคลือบผิว
ดว้ ยพลาสติกสีหรือน้ามนั การชบุ ดว้ ยโลหะได้
13. อธิบายหลักการทางานของแบตเตอรี่อิเล็กโทรไลต์แข็ง แบตเตอรี่อากาศ การทาอิเล็กโทรได้อะ
ลขิ สน้าทะเลได้
14. อธิบายหลักการถลุงแร่หรือการสกัดแร่ทองแดงสังกะสีและแคดเมียม ดีบุก โคลัมไบต์ -แทน
ทาไลตท์ งั สเตน พลวง และเซอร์คอน พร้อมทงั้ เขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ยิ าท่ีเกดิ ขึน้ ได้
15. บอกประโยชน์ของทองแดง สังกะสีและแคดเมียม ดีบุก โคลัมไบต์-แทนทาไลต์ทั้งสเตน พลวง
และเซอร์คอนได้
16. อธิบายสมบัติและประโยชน์ของแร่รัตนชาตไิ ด้
17. อธิบายวธิ ีพฒั นาคุณภาพของแรร่ ตั นชาตไิ ด้
18. อธบิ ายขนั้ ตอนสาคัญของการทาผลิตภัณฑ์เซรามิกส์ได้
19. บอกประโยชนข์ องผลิตภณั ฑเ์ ซรามิกสพ์ ร้อมทั้งยกตวั อย่างได้
20. อธิบายวธิ ีการผลิตแก้วและปูนซเี มนตไ์ ด้
21. อธบิ ายวธิ ีการผลติ เกลือสมุทรและเกลอื สนิ เธาวไ์ ด้
22. อธิบายวิธีการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์และแก๊สคลอรีนจากโซเดียมคลอไรด์ โดยใช้เซลล์เย่ือ
แลกเปล่ยี นไอออน พร้อมท้งั เขียมสมการแสดงปฏิกริ ิยาทเี่ กดิ ขึ้นได้
23. อธบิ ายกระบวนการผลติ โซดาแอชและสารฟอกขาว พร้อมทั้งเขียมสมการแสดงปฏิกิริยาท่ีเกิดข้ึน
ได้
24. อธิบายกระบวนการผลิตปุ๋ยไนโตรเจน ปุ๋ยฟอสเฟต ปุ๋ยโพแทส และปุ๋ยผสม ตลอดจนผลกระทบ
ต่อสิง่ มชี วี ติ และส่งิ แวดล้อมท่ีเกดิ จากการใช้ปยุ๋ ได้
รวมทั้งหมด 24 ผลกำรเรยี นรู้

158 หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอปุ ถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม

รหสั วิชำ ว30225 วชิ ำ เคมี 5 กลุม่ สำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 6 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

.......

ศึกษาสารประกอบอินทรีย์ท่ีมีพันธะเด่ียว พันธะคู่ หรือพันธะสามท่ีพบในชีวิตประจาวัน การเขียน

สูตร โครงสร้าง ลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบอินทรีย์ วิเคราะห์

โครงสร้าง และระบุประเภทของสารประกอบอินทรีย์จากหมู่ฟังก์ชัน การเขียนสูตรโครงสร้างและเรียกชื่อ

สารประกอบ อินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ที่มีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน 1 หมู่ ตามระบบ IUPAC การเขียนไอโซเมอร์

โครงสรา้ งของ สารประกอบอนิ ทรยี ์ประเภทต่าง ๆวิเคราะหแ์ ละเปรยี บเทียบจุดเดือดและการละลายในน้าของ

สารประกอบ อินทรีย์ท่ีมีหมู่ฟังก์ชัน ขนาดโมเลกุล หรือโครงสร้างต่างกัน ระบุประเภทของสารประกอบ

ไฮโดรคาร์บอนและเขยี น ผลิตภณั ฑ์จากปฏกิ ริ ยิ าการเผาไหม้ ปฏิกิริยากบั โบรมีน หรือปฏิกิริยากับโพแทสเซียม

เปอร์แมงกาเนต การเขียน สมการเคมีและอธิบายการเกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิขสและปฏิกิริยาสะปอนนิฟิเคชัน

การทดสอบปฏกิ ริ ิยาเอสเทอริฟ เคขัน ปฏกิ ริ ยิ าไฮโดรลิซิส และปฏกิ ริ ยิ า สะปอนนิฟิเคชนั การนาสารประกอบ

อินทรีย์ไปใช้ในชีวิตประจาวัน และอุตสาหกรรม ระบุประเภทของปฏิกิริยาการเกิดพอลิเมอร์จากโครงสร้าง

ของมอนอเมอร์หรือพอลิเมอร์ วิเคราะห์และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์

รวมทั้งการนาไปใช้ประโยชน์ การ ทดสอบและระบุประเภทของพลาสติกและผลิตภัณฑ์ยาง รวมท้ังการ

นาไปใช้ประโยชน์ การปรับเปลี่ยนโครงสร้าง และการสังเคราะห์พอลิเมอร์ท่ีมีต่อสมบัติของพอลิเมอร์

ผลกระทบจากการใช้และการกาจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ และแนวทางแก้ไขโดยกาหนดปัญหา และน้าเสนอ

แนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นใน ชีวิตประจาวัน การประกอบอาชะพ

หรืออุตสาหกรรม แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับ สาขาวิชาอื่น รวมท้ังทักษะ

กระบวนการทางวิทยาศาสตร์หรือกระบวนการออกแบบทางวิศวกรรม โดยเน้นการคิด วิเคราะห์ การ

แก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นท่ีสนใจ น้าเสนอผลงาน หรือ

ชิ้นงานที่ได้จากการแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นที่สนใจโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แสดงหลักฐาน

การเขา้ ร่วมสมั มนา การเข้ารว่ มประชมุ วิชาการ หรอื การแสดงผลงาน สิ่งประดิษฐ์ในงานนทิ รรศการ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้นข้อมูล

และการอภิปราย

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ ตัดสินใจ

นาความร้ไู ปใชใ้ นชีวิตประจาวนั มีจติ วิทยาศาสตร์ คณุ ธรรม และค่านยิ มทเี่ หมาะสม สามารถ ทางานอย่างเป็น

ระบบระเบียบ มงุ่ มน่ั ในการทางาน มีความรอบคอบ มีความรบั ผดิ ชอบมีวิจารณญาณ มีความเชอ่ื ม่นั ในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้
1. สบื คน้ ข้อมูลและนาเสนอตวั อย่างสารประกอบอินทรีย์ที่มีพันธะเด่ียว พันธะคู่ หรือพันธะสามท่ีพบ

ในชีวติ ประจาวนั

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์ 159

2. เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบ
อนิ ทรีย์

3. วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งและระบปุ ระเภทของสารประกอบอนิ ทรียจ์ ากหมู่ฟงั ก์ชนั
4. เขียนสูตรโครงสร้างและเรียกชื่อสารประกอบอินทรีย์ประเภทต่าง ๆ ที่มีหมู่ฟังก์ชันไม่เกิน 1 หมู่
ตาม SEUU IUPAC
5. เขยี นไอโซเมอร์โครงสรา้ งของสารประกอบอินทรยี ์ประเภทตา่ ง ๆ
6. วิเคราะห์และเปรียบเทียบจุดเดือดและการละลายในํน้าของสารประกอบอินทรีย์ที่มีหมู่ฟังก์ชัน
ขนาดโมเลกลุ หรือโครงสร้างตา่ งกัน
7. ระบุประเภทของสารประกอบไฮโดรคาร์บอนและเขียนผลิตภัณฑ์จากปฏิกิริยาการเผาไหม้
ปฏิกริ ยิ ากับโบรมนี หรือปฏิกริ ิยากับโพแทสเซยี มเปอร์แมงกาเนต
8. เขยี นสมการเคมแี ละอธบิ ายการเกิดปฏิกริ ิยาไฮโดรลขิ สและปฏิกริ ิยาสะปอนนิฟเิ คชนั
9. ทดสอบปฏกิ ริ ิยาเอสเทอรฟิ เิ คชนั ปฏกิ ิริยาไฮโดรลซิ สิ และปฏิกิรยิ าสะปอนนิฟเิ คชนั
10. สืบค้นข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างการนาสารประกอบอินทรีย์ไปใช้ในชีวิตประจาวันและ
อตุ สาหกรรม
11. ระบุประเภทของปฏิกริ ิยาการเกดิ พอลเิ มอรจ์ ากโครงสรา้ งของมอนอเมอรห์ รือพอลเิ มอร์
12. วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างโครงสร้างและสมบตั ิของพอลเิ มอร์ รวมทั้งการนาไปใช้

ประโยชน์

13. ทดสอบและระบปุ ระเภทของพลาสตกิ และผลติ ภณั ฑ์ยาง รวมท้งั การนาไปใชป้ ระโยชน์

14. อธิบายผลของการปรบั เปลีย่ นโครงสรา้ ง และการสังเคราะหพ์ อลิเมอรท์ ี่มีตอ่ สมบัตขิ องพอลเิ มอร์

15. สืบค้นข้อมูลและนาเสนอตัวอย่างผลกระทบจากการใช้และการกาจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์และ
แนวทางแกไ้ ข

16. กา้ หนดปญั หา และนาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยใช้ความรู้ทางเคมีจากสถาณการณ์ที่เกิดขึ้น
ในชีวติ ประจาวัน การประกอบอาชะพ หรืออุตสาหกรรม

17. แสดงหลักฐานถึงการบูรณาการความรู้ทางเคมีร่วมกับสาขาวิชาอ่ืน รวมทั้งทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตรห์ รอื กระบวนการออกแบบทางวศิ วกรรม โดยเนน้ การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหาและความคิด
สรา้ งสรรค์ เพ่ือแก้ปัญหาในสถานการณห์ รอื ประเด็นท่สี นใจ

18. นาเสนอผลงานหรือชิ้นงานที่ได้จากการแก้ปัญหาในสถานการณ์หรือประเด็นท่ีสนใจโดยใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ

19. แสดงหลกั ฐานการเข้าร่วมสัมมนา การเข้าร่วมประชุมวิชาการ หรือการแสดงผลงาน ส่ิงประดิษฐ์

ในงานนิทรรศการ รวมทัง้ หมด 19 ผลกำรเรยี นรู้

160 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวธุ ราษฎรอุปถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวิชำเพมิ่ เติม

รหสั วชิ ำ ว30244 วิชำ ชีววิทยำ 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี 6 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 60 ชว่ั โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษาพันธุศาสตร์ของเมนเดล ความน่าจะเป็นและกฎแห่งการแยก กฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ

การ ผสมเพอ่ื ศึกษาเกี่ยวกบั กระบวนการยอ่ ยอาหารของส่ิงมีชีวติ การกินและการยอ่ ยอาหารของสัตว์บางชนิด

กระบวนการในการย่อยและการดูดซึมสารอาหารในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ ความหมายและความสาคัญ

ของการหายใจ โครงสร้างที่ทาหน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊สของสัตว์บางชนิดและมนุษย์ กลไกการหายใจและการ

ทางานของ ปอด ศึกษาความสาคัญและประเภทของระบบหมุนเวียนเลือด ระบบลาเลียงสารในสัตว์ การ

ทางานของหัวใจ และ การไหลของเลือด องค์ประกอบของเลือด และหมู่เลือด หน้าท่ีและโครงสร้างของระบบ

น้าเหลอื ง และระบบ ภูมิคุ้มกัน รวมถึงโรคท่ีเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ศึกษาโครงสร้างในการ

กาจัดของเสยี ในสงิ่ มชี ีวติ บางชนดิ โครงสรา้ ง หนา้ ท่แี ละการทางานของไตและระบบขับถ่ายของมนุษย์ รวมถึง

โรคท่ีเกิดจากความผิดปกติ ของไต เพื่อนาความรู้ไปใช้แก้ปัญหาหรือสถานการณ์ในชีวิตประจาวันท่ีเกี่ยวกับ

สถานที่ทรัพยากร ผลิตภัณฑ์สินค้า อาชีพและเรื่องราวในกรุงเทพมหานครหรือในสานักงานเขตบางกะปิและ

กลมุ่ ประชาคมอาเซยี น

โดยจัดประสบการณ์หรือสร้างสถานการณ์ในชีวิตประจาวันที่เกี่ยวกับสถานที่ ทรัพยากร ผลิตภัณฑ์

สินค้า อาชีพและเรื่องราวในกรุงเทพมหานครหรือในสานักงานเขตบางกะปิและกลุ่มประชาคมอาเซียน ให้

ผู้เรียน ได้ศึกษาค้นคว้าโดยการปฏิบัติจริง โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะความรู้

การสบื ค้น การทดลอง สังเกต เปรียบเทียบ อภิปราย อธิบาย และสรุป ให้ได้องค์ความรู้ เกี่ยวกับความสาคัญ

และ ความสัมพันธ์ของระบบภายในร่างกาย และนาความรู้ไปใช้ประโยชน์ใน การดูแลสุขภาพร่างกายของ

ตนเองและ ผู้อนื่

เพ่ือทักษะและกระบวนการท่ีได้ไปใช้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ท่ีเก่ียวกับสถานท่ี ทรัพยากร ผลิตภัณฑ์

สินค้า อาชีพและเรื่องราวในกรุงเทพมหานครหรือในสานักงานเขตบางกะปิและกลุ่มประชาคมอาเซียน แล้ว

น้าไปใช้ในชีวิตประจาวันอย่างสร้าง เกิดเจตคติท่ีดีต่อวิชาชีววิทยา มีจิตวิทยาศาสตร์ สามารถส่ือสารสิ่งท่ี

เรียนรู้ และนาความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง สงั คม และประเทศ มีคุณธรรม จริยธรรม ความ

ซื่อสัตย์ ความมวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบียบ มุ่งม่ันในการทางาน มีความรอบคอบ มี

ความ รับผิดชอบมีวจิ ารณญาณ มีความเช่ือม่ันในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้
1. สืบค้นข้อมูล อภิปราย วิเคราะห์ และสรุปผลการทดลองของเมนเดล อธิบายกฎแห่งการแยกและ

กฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระ การนากฎของเมนเดลไปใช้ในการทานายอัตราส่วนของจีโนไทป์และฟีโนไทป์
ในรนุ่ F, และ F จากการผสมพนั ธ์ุทีพ่ ิจารณาหนึง่ ลักษณะและสองลกั ษณะ

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์ 161

2. สืบค้นข้อมลู อภิปราย และอธบิ ายความสาคัญของการผสมเพื่อทดสอบ การถ่ายทอดลักษณะ ทาง
พันธุกรรมบางลักษณะท่ีไม่เป็นไปตามกฎของเมนเดล เปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมท่ีมีการแปรผัน
ตอ่ เน่ืองและไม่ตอ่ เนอื่ ง

3. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุปเก่ียวกับการถ่ายทอดยีนและโครโมโซม รวมท้ังการค้นพบสาร
พนั ธกุ รรม อธิบายความหมายของ DNA ยนื โครโมโซม และจีโนม

4. สบื คน้ ข้อมลู อภิปราย และอธิบายส่วนประกอบและโครงสร้างของ DNA กระบวนการ สังเคราะห์
DNA และการสงั เคราะห์โปรตนี

5. สืบค้นข้อมูล อภิปราย สรุปสมบัติของยีน และอธิบายเก่ียวกับการเกิดมิวเทชัน และผลท่ีเกิด จาก
มิวเทชนั

6. บอกความหมายของเทคโนโลยีชีวภาพทางด้านพันธุศาสตร์ได้ สืบค้นข้อมูล อภิปราย และ อธิบาย
กระบวนการสรา้ ง DNA สายผสม

7. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และเปรียบเทียบการโคลนยืนโดยอาศัย พลาสมีดและเทคนิค พีซี อาร์
วเิ คราะหก์ ารนาเทคโนโลยีทาง DNA ไปประยุกตใ์ ชป้ ระโยชนใ์ นด้านตา่ งๆ

8. สืบค้นขอ้ มลู อภิปราย และวิเคราะหห์ ลกั ฐานตา่ งๆ ทส่ี นับสนุนการเกิดวิวัฒนาการของ สง่ิ มีชีวิต
9. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และอธิบายเปรียบเทียบแนวคิดเก่ียวกับวิวัฒนาการของลามาร์ก และ
ทฤษฎีการคัดเลอื กโดยธรรมชาติของชาร์ลดาร์วนิ
10. สบื ค้นขอ้ มลู อภปิ ราย และอธิบายกระบวนการเกิดสปีชสี ใ์ หม่ของสิ่งมชี วี ิต
รวมทง้ั หมด 10 ผลกำรเรยี นรู้

162 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์

คำอธิบำยรำยวิชำเพมิ่ เติม

รหสั วิชำ ว30245 วชิ ำ ชวี วทิ ยำ 5 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ันมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 6 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษา ความสาคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ การเกิดเซลล์เร่ิมแรกของสิ่งมีชีวิตและ

วิวัฒนาการ ของส่ิงมีชีวิตเซลล์เดียว สิ่งมีชีวิตกลุ่มแบคทีเรีย ส่ิงมีชีวิตกลุ่มโพรทิสต์ ส่ิงมีชีวิตกลุ่มพืช สิ่งมีชีวิต

กลุ่มฟังใจ และ ส่ิงมีชีวิตกลุ่มสัตว์ การจาแนกสิ่งมีชีวิตจากหมวดหมู่ใหญ่จนถึงหมวดหมู่ย่อย วิธีการเขียนชื่อ

วทิ ยาศาสตรใ์ นลาดับ ขั้นสปชี ีส์ ไตโคโทมสั คียใ์ นการระบสุ ิง่ มชี วี ติ โครงสร้างและหน้าท่ีของระบบประสาทของ

ไฮดรา พลานาเรีย ไส้เดือนดิน กุ้ง หอย แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลัง โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์

ประสาท การเปลย่ี นแปลงของ ศักย์ไฟฟ้าที่เย่ือหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท กลไกการถ่ายทอดกระแสประสาท

โครงสร้างของระบบประสาท ส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก โครงสร้างและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ใน

สมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง สมองส่วนหลัง และไขสันหลัง โครงสร้างและหน้าที่ของ ตา หู จมูก ลิ้น และ

ผิวหนังของมนุษย์ โรคต่าง ๆ ที่ เก่ียวข้องกับ ตา หู จมูก ล้ิน และผิวหนังของมนุษย์ และบอกแนวทางในการ

ดแู ลปอ้ งกัน และรกั ษา การหา ตาแหนง่ ของจุดบอด โฟเวีย และความไวในการรับสัมผสั ของผิวหนัง โครงสร้าง

และหนา้ ท่ขี องอวยั วะที่เกี่ยวข้อง กับการเคล่ือนทขี่ องแมงกะพรุน หมกี ดาวทะเล ไส้เดือนดิน แมลง ปลา และ

นก โครงสร้างและหน้าท่ีของกระดูก และกล้ามเน้ือท่ีเกี่ยวข้องกับการเคล่ือนไหวและการเคล่ือนที่ของมนุษย์

การทางานของข้อต่อชนิดต่าง ๆ และการทางานของกล้ามเนื้อโครงร่างท่ีเกี่ยวข้องกับการเคล่ือนไหวและการ

เคลือ่ นท่ขี องมนษุ ย์ การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัย เพศและการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศในสัตว์ โครงสร้างและหน้าท่ี

ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและระบบ สืบพันธุ์เพศหญิง กระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสร้าง

เซลล์ไข่ และการปฏิสนธิในมนุษย์ การเจริญเติบโต ระยะเอ็มบริโอและระยะหลังเอ็มบริโอของกบ ไก่ และ

มนษุ ย์ หน้าทขี่ องฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเน้ือเย่ือ ท่ีสร้าง ฮอร์โมน พฤติกรรมที่เป็นมาแต่กาเนิดพฤติกรรม

ที่เกิดจากการเรียนรู้ของสัตว์ ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับ วิวัฒนาการของระบบประสาท การสื่อสาร

ระหวา่ งสตั วท์ ีท่ าให้สัตว์แสดงพฤติกรรม กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน ในระบบนิเวศ การเกิดไบโอมแมกนิฟิ

เคชนั การลดการเกิดไบโอมแมกนิฟิเคชัน วัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกามะถัน และวัฏจักรฟอสฟอรัส ลักษณะ

ของใบโอมท่ีกระจายอยู่ตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ บนโลก การเปลี่ยนแปลงแทนท่ี แบบปฐมภูมิ และการ

เปล่ียนแปลงแทนที่แบบทุติยภูมิ ลักษณะเฉพาะของประชากรของสิ่งมีชีวิตบางชนิด การเพ่ิม ของประชากร

แบบเอ็กโพเนนเชียล และการเพิ่มของประชากรแบบลอจิสติก ปัจจัยท่ีควบคุมการเติบโตของ ประชาก ร

ปัญหาการขาดแคลนน้า การเกิดมลพิษทางน้า มลพิษทางอากาศ ทรัพยากรดิน ผลกระทบที่ทาให้สัตว์ ป่ามี

จานวนลดลง ผลกระทบท่ีเกิดจากการทาลายป่าไม้ และผลกระทบท่ีมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม และ

ผลกระทบท่มี ีตอ่ มนุษย์และสิง่ แวดลอ้ ม

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ

วเิ คราะห์ การอธบิ าย การอภปิ รายและสรปุ

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 163

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู้ และนา
ความรู้ ไปใช้ในชีวิตของตนเอง และดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอ่ืนๆ เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างย่ังยืน มีจิต
วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
1. อภิปรายความสาคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และความเชื่อมโยงระหว่าง ความ

หลากหลายทางพนั ธุกรรม ความหลากหลายของสปชี สี ์ และความหลากหลายของระบบนเิ วศ
2. อธบิ ายการเกิดเซลล์เรมิ่ แรกของสง่ิ มชี ีวติ และวิวัฒนาการของสิ่งมชี ีวติ เซลลเ์ ดียว
3. อธบิ ายลักษณะสาคัญ และยกตัวอยา่ งสิง่ มีชีวิตกลุ่มแบคทีเรีย ส่ิงมีชีวิตกลุ่มโพรทิสต์ สิ่งมีชีวิตกลุ่ม

พืชสิ่งมีชีวิตกลุ่มฟังใจ และสิ่งมีชีวิตกลุ่มสัตว์ การทางานของระบบประสาทโซมาติก และระบบประสา ท
อัตโนมตั ิ

4. อธบิ าย และยกตวั อยา่ งการจาแนกส่งิ มีชีวติ จากหมวดหม่ใู หญ่จนถงึ หมวดหมู่ย่อย และวิธีการเขียน
ชอ่ื วิทยาศาสตร์ในลาดับขั้นสปีชสี ์

5. สร้างใตโคโทมสั คยี ์ในการระบุสิ่งมีชวี ิตหรอื ตวั อย่างท่กี าหนดออกเป็นหมวดหมู่
6. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าท่ีของระบบประสาทของไฮตรา พลา
นาเรยี ไสเ้ ดอื นดนิ กุง้ หอย แมลง และสัตวม์ กี ระดกู สันหลงั
7. อธิบายเกีย่ วกบั โครงสรา้ งและหน้าท่ขี องเซลล์ประสาท
8. อธิบายเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงของศักย์ไฟฟ้าที่เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไกการ
ถ่ายทอดกระแสประสาท
9. อธบิ าย และสรุปเก่ียวกบั โครงสรา้ งของระบบประสาทสว่ นกลางและระบบประสาทรอบนอก
10. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายโครงสร้างและหน้าท่ีของสว่ นต่าง ๆ ในสมองส่วนหนา้ สมองส่วนกลาง สมอง
ส่วนหลงั และไขสนั หลงั
11. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และ ยกตัวอย่างการทางานของระบบประสาทโซมาติก และ
ระบบ
ประสาทอัติโนวัติ
12. สบื คน้ ข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังของมนุษย์ ยกตัวอย่าง
โรคต่างๆ ที่เกย่ี วข้อง และบอกแนวทางในการดูแลปอ้ งกัน และรักษา
13. สงั เกต และอธิบายการหาตาแหนง่ ของจุดบอด โฟเวยี และความไวในการรับสมั ผัสของผวิ หนัง
14. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย และเปรียบเทยี บโครงสรา้ งและหน้าที่ของอวัยวะท่ีเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนท่ี
ของแมงกะพรุน หมีก ดาวทะเล ไส้เดือนดนิ แมลง ปลา และนก
15. สืบค้นข้อมูล และอธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของกระดูกและกล้ามเน้ือท่ีเกี่ยวข้องกับการ
เคลือ่ นไหวและการเคลอ่ื นท่ีของมนษุ ย์

164 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์

16. สังเกต และอธิบายการทางานของข้อต่อชนิดต่าง ๆ และการทางานของกล้ามเน้ือโครงร่างที่
เกี่ยวขอ้ งกับการเคลื่อนไหวและการเคลื่อนทีข่ องมนุษย์

17. สบื ค้นข้อมูล อธบิ าย และยกตัวอย่างการสบื พนั ธ์ุแบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศ
ในสัตว์

18. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าท่ีของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์เพศชายและระบบสืบพันธุ์
เพศหญิง

19. อธบิ ายกระบวนการสรา้ งสเปริ ม์ กระบวนการสร้างเซลลไ์ ข่ และการปฏสิ นธิในมนุษย์
20. อธิบายการเจริญเตบิ โตระยะเอ็มบรโิ อและระยะหลังเอ็มบรโิ อของกบ ไก่ และมนุษย์
21. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนผังสรุปหน้าท่ีของฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเน้ือเยื่อ ท่ีสร้าง
ฮอรโ์ มน
22. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กาเนิดพฤติกรรมที่เกิด
จากการเรยี นรู้ของสตั ว์
23. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับวิวัฒนาการของระบบ
ประสาท
24. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ าย และยกตวั อยา่ งการส่อื สารระหวา่ งสัตวท์ ท่ี าใหส้ ัตวแ์ สดงพฤติกรรม
25. วิเคราะห์ อธบิ าย และยกตัวอยา่ งกระบวนการถา่ ยทอดพลังงานในระบบนเิ วศ
26. อธิบาย ยกตัวอย่างการเกิดไบโอมแมกนิฟิเคชัน และบอกแนวทางในการลดการเกิดไบโอมแมก
นิฟิเคชัน
27. สืบค้นข้อมูล และเขียนแผนภาพ เพื่ออธิบายวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกามะถัน และวัฏจักร
ฟอสฟอรัส
28. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอธิบายลักษณะของไบโอมที่กระจายอยู่ตามเขต ภูมิศาสตร์ต่าง ๆ
บนโลก
29. สบื คน้ ข้อมลู ยกตวั อย่าง อธบิ าย และเปรียบเทยี บการเปล่ียนแปลงแทนท่ีแบบปฐมภูมิ และ
30. การเปล่ียนแปลงแทนท่ีแบบทุติยภูมิ สืบค้นข้อมูล อธิบาย ยกตัวอย่าง และสรุปเก่ียวกับ
ลกั ษณะเฉพาะของประชากรของสิ่งมชี วี ิตบางชนดิ
31. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการเพิ่มของประชากรแบบเอ็กโพเนนเขียส
และการเพ่ิมของประชากรแบบลอจิสตกิ
32. อธบิ าย และยกตัวอยา่ งปัจจัยที่ควบคมุ การเติบโตของประชากร
33. วิเคราะห์ อภปิ ราย และสรุปปญั หาการขาดแคลนน้า การเกิดมลพิษทางน้า และผลกระทบท่ีมีต่อ
มนุษยแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม รวมท้ังเสนอแนวทางการวางแผนการจัดการนา้ และการแก้ไขปญั หา
34. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรปุ ปัญหามลพิษทางอากาศ และผลกระทบท่ีมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
รวมทงั้ เสนอแนวทางการแก้ไขปญั หา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 165

35. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาที่เกิดกับทรัพยากรดิน และผลกระทบท่ีมีต่อมนุษย์และ
สง่ิ แวดล้อมรวมท้งั เสนอแนวทางการแก้ไขปญั หา

36. วิเคราะห์ อภิปราย และสรปุ ปัญหา ผลกระทบทเ่ี กดิ จากการทาลายปา่ ไม้ รวมทั้งเสนอแนวทางใน
การป้องกันการทาลายปา่ ไมแ้ ละการอนุรักษ์ป่าไม้

37. วิเคราะห์ อภปิ ราย และสรุปปัญหา ผลกระทบที่ทาให้สัตว์ป่ามีจานวนลดลง และแนวทางในการ
อนุรักษ์สตั ว์ป่า
รวมทัง้ หมด 37 ผลกำรเรยี นรู้

166 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอปุ ถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเติม

รหัสวชิ ำ ว30264 วชิ ำ โลก ดำรำศำสตรแ์ ละอวกำศ 4 กลุ่มสำระกำรเรียนร้วู ทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 6 ภำคเรยี นที่ 1 เวลำ 40 ชัว่ โมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศึกษาการกาเนิดและการเปล่ียนแปลงพลังงาน สสาร ขนาดอุณหภูมิของเอกภพหลังบิ๊กแบงใน

ช่วงเวลาต่าง ๆ ตามวิวัฒนาการของเอกภพ หลักฐานท่ีสนับสนุนทฤษฎีบ๊ิกแบงจากความสัมพันธ์ระหว่าง

ความเร็วกับ ระยะทางของกาแล็กซี รวมทั้งข้อมูลการค้นพบไมโครเวฟพื้นหลังจากอวกาศ โครงสร้างและ

องค์ประกอบของ กาแล็กซีทางช้างเผือก และระบุตาแหน่งของระบบสุริยะ กระบวนการเกิดดาวฤกษ์

กระบวนการสรา้ งพลงั งานของ ดาวฤกษ์ และผลที่เกดิ ขน้ึ

โดยวิเคราะห์ปฏิกิริยาลูกโซโปรตอน-โปรตอน และ วัฏจักรคาร์บอน ในโตรเจน ออกซิเจน ปัจจัยท่ี

ส่งผลต่อความส่องสว่างของดาวฤกษ์ และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่างกับโชติ มาตรของดาว

ฤกษ์ ความสัมพันธ์ระหว่างสี อุณหภูมิผิว และสเปกตรัมของ ดาวฤกษ์ วิธีการหาระยะทางของ ดาวฤกษ์ด้วย

หลักการแพรัสแลกซ์ ลาดับวิวัฒนาการท่ีสัมพันธ์กับมวลต้ังต้น และการเปล่ียนแปลงสมบัติบาง ประการของ

ดาวฤกษ์ในลาดับวิวัฒนาการจากแผนภาพเฮิร์ชปรุง-รัสเซลส์กระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบ่งเขต บริวาร

ของดวงอาทิตย์ และลักษณะของดาวเคราะหท์ ่เี อือ้ ตอ่ การดารงชวี ิต การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวง อาทิตย์

ดว้ ยกฎเคพเลอร์ และกฎความโน้มถ่วงของนิวตัน โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะ โดย

ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ วิเคราะห์

การอธบิ าย การอภิปรายและสรปุ

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และนา

ความรู้ ไปใช้ในชีวิตของตนเอง และดูแลรักษาส่ิงมีชีวิตอ่ืนๆ เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างย่ังยืน มีจิต

วิทยาศาสตร์ จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทีเ่ หมาะสม

ผลกำรเรียนรู้
1. อธิบายการกาเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาดอุณหภูมิของเอกภพหลังบิ๊กแบงใน

ช่วงเวลาต่างๆ ตามวิวัฒนาการของเอกภพ
2. อธิบายหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบ๊ิกแบงจากความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับระยะทางของ

กาแลก็ ซี รวมทั้งข้อมูลการคน้ พบไมโครเวฟพืน้ หลงั จากอวกาศ
3. อธิบายโครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก และระบุตาแหน่งของระบบสุริยะ

พรอ้ ม อธิบายเชื่อมโยงกับการสงั เกตเห็นทางช้างเผอื กของคนบนโลก
4. อธบิ ายกระบวนการเกิดดาวฤกษ์ โดยแสดงการเปลี่ยนแปลงความดัน อุณหภูมิ ขนาดจากดาวฤกษ์

กอ่ นเกิดจนเปน็ ดาวฤกษ์
5. อธิบายกระบวนการสร้างพลังงานของดาวฤกษ์ และผลท่ีเกิดข้ึนโดยวิเคราะห์ปฏิกิริยาลูกโซ

โปรตอน โปรตอน และวัฏจักรคาร์บอน ไนโตรเจน ออกซเิ จน

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 167

6. ระบปุ ัจจัยทส่ี ่งผลตอ่ ความสอ่ งสว่างของดาวฤกษ์ และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่าง
กับ โชตมิ าตรของดาวฤกษ์

7. อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่างสี อณุ หภูมิผิว และสเปกตรมั ของดาวฤกษ์
8. อธิบายวิธีการหาระยะทางของดาวฤกษ์ด้วยหลักการแพรัลแลกซ์ พร้อมคานวณหาระยะทางของ
ดาวฤกษ์
9. อธบิ ายลาดับววิ ัฒนาการท่ีสมั พันธ์กับมวลต้ังต้น และวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงสมบัติบางประการ
ของ ดาวฤกษใ์ นลาดับววิ ฒั นาการจากแผนภาพเฮิร์ชปรุง-รัสเซลส์
10. อธิบายกระบวนการเกิดระบบสุริยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ และลักษณะของดาว
เคราะห์ ทเี่ อื้อตอ่ การดารงชวี ติ
11. อธิบายการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ด้วยกฎเศพเลอร์ และกฎความโน้มถ่วงของนิว
ตัน พรอ้ มคานวณคาบการโคจรของดาวเคราะห์
12. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะ และวิเคราะห์ นาเสนอ
ปรากฏการณ์ หรอื เหตกุ ารณ์ที่เก่ยี วข้องกับผลของลมสรุ ยิ ะ และพายุสุริยะทีม่ ตี อ่ โลก รวมทัง้ ประเทศไทย
รวมท้งั หมด 12 ผลกำรเรยี นรู้

168 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอปุ ถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวิชำเพม่ิ เติม

รหสั วิชำ ว30265 วชิ ำ โลก ดำรำศำสตรแ์ ละอวกำศ 5 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ี่ 6 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษาการสร้างแบบจาลองทรงกลมฟ้า สังเกต และเชื่อมโยง จุดและเส้นสาคัญของแบบจาลองทรง

กลม ฟ้ากับทอ้ งฟ้าจริง และการระบุพิกัดของดาวในระบบพิกัดขอบฟ้า และระบบศูนย์สูตร การสังเกตท้องฟ้า

และ อธิบายเส้นทางการขึ้นการตกของดวงอาทิตยแ์ ละดาวฤกษ์ เวลาสรุ ยิ คตปิ รากฏ

โดยรวบรวมขอ้ มูลและการ เปรียบเทียบเวลาขณะท่ีดวงอาทิตย์ผ่านเมริเดียนของผู้สังเกตในแต่ละวัน

เวลาสุริยคติปานกลาง และเปรียบเทียบ เวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก มุมห่างที่สัมพันธ์กับตาแหน่งในวง

โคจร และตาแหน่งปรากฏของดาวเคราะห์ที่ สังเกตได้จากโลก การสารวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ใน

ช่วงเวลาความยาวคลื่นต่างๆ ดาวเทียม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การ วิเคราะห์ การอธบิ าย การอภปิ รายและสรปุ

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งท่ีเรียนรู้ และนา

ความรู้ ไปใชใ้ นชีวิตของตนเอง และดูแลรักษาส่ิงมีชีวิตอ่ืน ๆ เฝ้าระวังและพัฒนาส่ิงแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิต

วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นยิ มที่เหมาะสม

ผลกำรเรยี นรู้
1. สร้างแบบจาลองทรงกลมฟ้า สังเกต และเชื่อมโยง จุดและเส้นสาคัญของแบบจาลองทรงกลมฟ้า

กับ ทอ้ งฟา้ จริง และอธิบายการระบุพิกัดของดาวในระบบพิกดั ขอบฟ้า และระบบศูนย์สูตร
2. สงั เกตท้องฟา้ และอธิบายเสน้ ทางการบินการตกของดวงอาทิตย์และดาวฤกษ์
3. อธิบายเวลาสุริยคติปรากฏ โดยรวบรวมข้อมูลและการเปรียบเทียบเวลาขณะท่ีดวงอาทิตย์ผ่านเม

รเิ ดยี นของผสู้ ังเกตในแตล่ ะวนั
4. อธบิ ายเวลาสรุ ยิ คตปิ านกลาง และเปรียบเทียบเวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก
5. อธิบายมุมห่างท่ีสัมพันธ์กับตาแหน่งในวงโคจร และอธิบายเชื่อมโยงกับตาแหน่งปรากฏของดาว

เคราะห์ท่สี งั เกตได้จากโลก
6. สืบค้นข้อมูล อธิบายการสารวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ในช่วงเวลาความยาวคลื่นต่างๆ

ดาวเทียม ยานอวกาศ สถานีอวกาศ และนาเสนอแนวคิด การนาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีอวกาศมา
ประยกุ ต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาวันและในอนาคต

7. สืบค้นขอ้ มูล ออกแบบ และนาเสนอกิจกรรม การสังเกตดาวบนทอ้ งฟ้าด้วยตาเปล่า และหรือกล้อง
โทรทรรศน์
รวมทงั้ หมด 7 ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอุปถัมภ์ 169

กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้
สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

170 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอปุ ถมั ภ์

รำยวิชำกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษำตอนตน้

รำยวชิ ำพ้ืนฐำน

ชัน้ รหสั วิชำ รำยวชิ ำ เวลำ จำนวน
ม. 1 ส21101 สังคมศึกษา 1 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกติ
สังคมศึกษา 2 40 ชั่วโมง 1.0 หนว่ ยกิต
ส21102 ประวตั ิศาสตร์ 1 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต
ส21103 ประวตั ศิ าสตร์ 2 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส21104 พระพทุ ธศาสนา 1 20 ช่ัวโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส21105 พระพทุ ธศาสนา 2 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส21106 สงั คมศึกษา 3 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต
ม. 2 ส22101 สังคมศึกษา 4 40 ชั่วโมง 1.0 หน่วยกติ
ส22102 ประวัติศาสตร์ 3 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส22103 ประวตั ิศาสตร์ 4 20 ชวั่ โมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส22104 พระพทุ ธศาสนา 3 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส22105 พระพุทธศาสนา 4 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต
ส22106 สงั คมศึกษา 5 40 ช่วั โมง 1.0 หน่วยกิต
ม. 3 ส23101 สังคมศึกษา 6 40 ชว่ั โมง 1.0 หน่วยกิต
ส23102 ประวตั ศิ าสตร์ 5 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต
ส23103 ประวตั ิศาสตร์ 6 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกิต
ส23104 พระพทุ ธศาสนา 5 20 ชวั่ โมง 0.5 หน่วยกติ
ส23105 พระพุทธศาสนา 6 20 ชั่วโมง 0.5 หนว่ ยกติ
ส23106

รำยวชิ ำเพ่มิ เตมิ

ชัน้ รหสั วชิ ำ รำยวชิ ำ เวลำ จำนวน
ม. 1 ส21201 หนา้ ที่พลเมือง 1 20 ชั่วโมง 0.5 หน่วยกติ
ส21202 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 2 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกติ
ม. 2 ส22201 หนา้ ท่ีพลเมือง 3 20 ช่วั โมง 0.5 หน่วยกติ
ส22202 หน้าที่พลเมือง 4 20 ชวั่ โมง 0.5 หนว่ ยกติ
ม. 3 ส23201 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 5 20 ชว่ั โมง 0.5 หนว่ ยกิต
ส23202 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 6 20 ชว่ั โมง 0.5 หน่วยกิต

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 171

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รหัสวิชำ ส21101 วิชำ สังคมศึกษำ 1 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นมัธยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 40 ช่วั โมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 มุ่งให้ผู้เรียน ตระหนัก เห็นคุณค่า เกิดทักษะ

กระบวนการสร้างองค์ความรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ สารวจ นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถ่ินตลอดจน

กระแสการเปลี่ยนแปลงในยคุ โลกาภวิ ัตน์ เขา้ มาเป็นส่วนหน่งึ ในการสรา้ งองคค์ วามรู้

สาระภูมิศาสตร์ มุ่งเน้นให้ผู้เรียน เลือกใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ อธิบาย วิเคราะห์เช่ือมโยงโดย

การศึกษา เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ การแบ่งเวลาของประเทศไทยกับทวีปต่าง ๆ ความแตกต่างของเวลา

มาตรฐานกับเวลาท้องถ่ิน ภัยธรรมชาติและการระวังภัยท่ีเกิดขึ้นในประเทศไทย ทวีปเอเซีย ออสเตรเสีย โอ

เชียเนีย ศึกษาการเปลี่ยนแปลงประชากร เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมการก่อกาเนิดส่ิงแวดล้อมใหม่ทาง

สังคมแนวทางการ ใชท้ รัพยากรของคนในชุมชนแผนอนุรักษท์ รพั ยากร ความร่วมมือระหว่างประเทศทาเลที่ตั้ง

กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสงั คม ปจั จัยทางกายภาพทีม่ ผี ลต่อการเลือ่ นไหลของความคิด เทคโนโลยี สินค้าและ

ประชากรในทวีปเอเชียออสเตรเลีย โอเชียเนีย

โดยใช้ทักษะกระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการทางสังคม

กระบวนการเผชิญสถานะกรณ์ กตีความ แยกแยะ เปรียบเทียบ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และสา มารถใช้

เทคโนโลยีแสวงหาความรู้เพื่อให้ผู้เรียนใช้ทักษะท่ีหลากหลายด้วยวิธี การสืบคันข้อมูล การตีความแยกแยะ

เปรยี บเทียบ วิเคราะห์ การแก้ปญั หาและกระบวนการกลุ่ม มีความรู้ ความเข้าใจ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ

สภาพแวดล้อมทางกายภาพท่ีก่อให้เกิดการสร้างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสานึก และมีส่วนร่ามในการอนุรักษ์

ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมเพอื่ การพัฒนาทยี่ ่งั ยนื

รหสั ตัวชี้วดั
ส 5.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ส 5.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4

รวมท้งั หมด 7 ตัวชีว้ ัด

172 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอุปถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

รหัสวิชำ ส21102 วชิ ำ สงั คมศึกษำ 2 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชนั้ มัธยมศึกษำปที ี่ 1 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 40 ชวั่ โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มุ่งให้ผู้เรียน ตระหนัก เห็นคุณค่า เกิดทักษะ

กระบวนการสร้างองค์ความรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ สารวจ นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถิ่นตลอดจน

กระแสการเปลี่ยนแปลงในยคุ โลกาภิวัตน์ เขา้ มาเป็นส่วนหน่ึงในการสร้างองค์ความรู้

สาระหน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรมและการดาเนินชีวิต มุ่งให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติ ระบุความสามารถ

ของตนเอง อภิปราย แสดงออกถึงการเคารพสิทธิเสรีภาพ โดยให้ผู้เรียนศึกษา กฎหมายในการคุ้มครองสิทธิ

ของบุคคลประโยชน์ของการปฏิบัติตนตามกฎหมาย บทบาทหน้าที่ของเยาวชนที่มีต่อสังคมและประเทศโดย

เน้นจิตสาธารณะความคล้ายคลึงและความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมไทยกับวัฒนธรรมของปร ะเทศภูมิภาค

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วัฒนธรรมท่ีเป็นปัจจัยในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี วัฒนธรรมในชุมชนท้องถิ่น วิธี

ปฏบิ ัตติ นในการเคารพสิทธเิ สรภี าพของตนเองและผู้อ่ืนและมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับแนวคิด หลักการและ

สถาบันควรมีบทบาทท่ีเกี่ยวข้องในฐานะสมาชิกของสังคม ท้ังในระดับท้องถ่ิน ประเทศและระดับโลก

ตลอดจนการมีส่วนร่วมรับผิดชอบในฐานะพลเมืองที่ดีของสังคม ที่คานึงถึงสิทธิมนุษยชนและอุดมการณ์

ประชาธิปไตยตลอดจนตระหนักในความสาคัญของความเสมอภาคและความยุติธรรมในสังคมและการสร้าง

ความเป็นธรรมในสังคม ให้ผู้เรียนศึกษาหลักการเจตนารมณ์ โครงสร้างและสระสาคัญของรัฐธรรมนูญแห่ง

ราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน การแบ่งอานาจและการถ่วงดุลอานาจอธิปไตย 3 ฝ่าย การปฏิบัตินตาม

บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับสิทธิมนุษยชน การเคารพ

และยึดมั่นในสิทธิและศักด์ิศรีของความเป็นมนุษย์ตลอดจนมีความรู้ความเข้าโจธรรมชาติของความขัดแย้ง มี

ขันติ อดทน อดกลนั้ ต่อความแตกต่างของความขัดแย้ง สามารถจรจาต่อรองเช่ือมประสานเพื่อลดปัญหาหรือ

คลายปมชัดแย้งโดยปราศจากการใช้ความรุนแรงสาระเศรษฐศาสตร์ มุ่งเน้นให้ผู้เรียน สามารถอธิบาย

วิเคราะห์ โดยศึกษาความหมายความสาคัญของเศรษฐศาสตร์ทรัพยากร การบริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการในการบริโภคที่ดีปัจจัย ค่านิยมและพฤติกรรมของการบริโภคในสังคมปัจจุบัน ปรัชญาเศรษฐกิจ

พอเพียงและการนามาประยุกต์ใช้ในการดารงชีวิตโดยให้ผู้เรียนศึกษา ความหมาย ประเภทและความสาคัญ

ของสถาบันการเงินท่ีมีต่อระบบเศรษฐกิจ บทบาทหน้าท่ีของธนาคารกลาง การหารายได้ รายจ่าย การออม

การลงทนุ ยกตัวอย่าง ทส่ี ะทอ้ นใหเ้ ห็นการพึง่ พาอาศยั กันและกัน การแชง่ ขนั ทางเศรษฐกิจในประเทศ ปัญหา

เศรษฐกจิ ในชมุ ชน การประกอบอาชีพของชุมชนในท้องถิ่น ประเทศและเสนอแนวทางแก้ไข ความหมายและ

กฎอุปสงค์ อุปทาน ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อการกาหนดอุปสงค์ อุปทาน ความหมายและความสาคัญของ

ทรัพยส์ ินทางปญั ญา ตัวอย่างการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

เพื่อใช้ทักษะท่ีหลากหลาย การสืบค้นข้อมูล การตีความ แยกแยะ เปรียบเทียบ วิเคราะห์สังเคราะห์

เพื่อให้ผู้เรียนใช้ทักษะที่หลากหลายด้วยวิธีการประชาธิปไตย การสืบคั้นข้อมูล การตีความแยกแยะ

เปรียบเทียบ วิเคราะห์ การแกป้ ัญหาและกระบวนการกล่มุ เห็นความสาคญั ของการเป็นพลเมืองดีพึ่งพาอาศัย

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 173

กันมกี ารแข่งขนั กนั ทางเศรษฐกจิ มีการพัฒนาทีย่ ่งั ยนื รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะดารงชีวิต
อย่างพอเพยี ง

รหสั ตัวชีว้ ัด
ส 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
ส 2.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ส 3.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ส 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4

รวมทงั้ หมด 14 ตัวช้ีวัด

174 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์

คำอธิบำยรำยวิชำพนื้ ฐำน

รหสั วชิ ำ ส21103 วิชำ ประวัตศิ ำสตร์ 1 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ช้นั มัธยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ

.......

ศึกษารายวิชาประวัติศาสตร์ 1 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 เป็นรายวิชาท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียน ตระหนัก เห็น

คุณค่า เกิดทักษะ กระบวนการสร้งองค์ความรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถิ่น

ตลอดจนกระแสการเปล่ียนแปลงในยุคโลกาภิวัฒน์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้งองค์ความรู้ในการศึกษา

ตัวอยา่ งการใช้เวลาและช่วงเวลาและยคุ สมยั ท่ีปรากฏในเอกสารประวัติศาสตร์ไทย ศึกษาความสาคัญของเวลา

และชว่ งเวลาสาหรบั การศกึ ษาประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์และความสาคัญของอดีตท่ีมีต่อปัจจุบันและอนาคต

ศกึ ษาท่ีมาของศกั ราชท่ปี รากฏในเอกสารประวตั ิศาสตรไ์ ทย ไดแ้ ก่ จ.ศ. / ม.ศ / ร.ศ. / พ.ศ / ค.ศ. / และ ฮ.ศ.

ศึกษาวิธีการเทียบศักราชต่าง ๆ และตัวอย่างการเปรียบเทียบ การใช้ศักราชต่าง ๆ ที่ปรากฏในเอกสารทาง

ประวัติศาสตร์ไทย ศึกษาข้อแตกต่างของแต่ละศักราช เรียนรู้ถึงความหมายและความสาคัญของวิธีการทาง

ประวัติศาสตร์ ทม่ี ีความเช่อื มโยงกัน

โดยการวิเคราะห์ข้อมูลและการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ การตรวจสอบประเมินค่าของ

ขอ้ มลู ขา่ วสารทางประวัติศาสาตร์และทัศนอติท่ีแตกต่างกัน ซึ่งมีอยู่อย่างหลากหลายในโลกยุคโลกาภิวัตน์ มา

วิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ศึกษาตัวอย่างหลักฐานในการศึกษาประวัติศาสตร์ไทย ในสมัยสุโขทัยทั้งหลักฐาน

ช้ันต้น และหลักฐานชั้นรอง เช่น ข้อความในหลักศิลาจารีกสมัยสุโขทัย เป็นต้น ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น อาศัย

เหตุการณ์สาคัญในสมัยสุโขทัย ศึกษาท่ีตั้งและสภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย

ตะวันออกเฉียงใต้ท่ีมีผลต่อพัฒนาการทางด้านต่างๆ ท้ังด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองการปกครองต่างๆ

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงความร่วมมือในกลุ่มประเทศในภูมิภาคอาเซียนนาไปสู่ความร่วมมือ

ของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคน้ี การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งท่ีเกิดขึ้นและนาไปสู่การพัฒนาที่ย่ังยืนในภูมิภาค

เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้โดยใชท้ ักษะที่หลากหลาย วิเคราะห์ เปรียบเทียบ นาวธิ กี ารทางประวัติศาสตร์ อธิบาย

ทางประวตั ศิ าสตร์ และสามารถใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาความรูเ้ พ่อื ให้ผเู้ รียนเกิดความรัก ภาคภูมิใจในชาติ

ศาสน์ กษัตริย์ รกั ความเปน็ ไทย ซอื่ สัตย์ สุจรติ ไฝ่เรียนรเู้ ปน็ พลเมืองดี

เพ่ือตระหนักถึงความแตกต่างทางสังคม วัฒนธรรมและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ใน

สงั คมไทยและสังคมโลก

รหสั ตวั ช้ีวดั
ส 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3
ส 4.2 ม.1/1, ม.1/2

รวมทั้งหมด 5 ตวั ช้ีวัด

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 175

คำอธบิ ำยรำยวิชำพน้ื ฐำน

รหัสวชิ ำ ส21104 วิชำ ประวตั ิศำสตร์ 2 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 1 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษารายวิชาประวัติศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นรายวิชาที่มุ่งให้ผู้เรียน ศึกษา วิเคราะห์ ที่ต้ัง

และสภาพภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมืองของประเทศต่างๆ

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความร่วมมือผ่านกลุ่มเป็นอาเซียนที่ถือว่าเป็นพัฒนาการของภูมิภาค ที่ต้ัง

และความสาคัญของแหลง่ อารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้

โดยกระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการปฏิบัติกระบวนการกลุ่ม

กระบวนการบูรณาการ กระบวนการแก้ปัญหาเพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ

และการเมืองของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุความสาคัญของแหล่งอารยธรรมใน

ภมู ภิ าคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้

เพ่ือให้นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านการรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื้อสัตย์สุจริต มีวินัยใฝ่

เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มุ่งม่ันในการทางาน รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้

อยา่ งสนั ติสขุ

รหสั ตวั ช้วี ดั
ส 4.3 ม.1/1, ม.1/2

รวมทง้ั หมด 2 ตัวชี้วดั

176 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์

คำอธิบำยรำยวิชำพืน้ ฐำน

รหสั วชิ ำ ส21105 วิชำ พระพุทธศำสนำ 1 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชน้ั มัธยมศกึ ษำปีท่ี 1 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษารายวิชาพระพุทธศาสนาระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่1 มุ่งพัฒนาส่งเสริมให้ผู้เรียน มีคุณธรรม

จริยธรรมปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีทักษะและเห็นคุณค่าในการวิเคราะห์ สังเคราะห์

สร้างองค์ความรู้ใหม่จากการศึกษาค้นคว้า นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถิ่น มาใช้เป็นแนวทางในการ

ดาเนินชีวิตเพ่ือเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเชียนในการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา มุ่งเน้นให้ผู้เรียน

ปฏบิ ัตนิ และเหน็ คณุ คา่ ในการปฏบิ ัติตามศาสนพธิ โี ดยให้ผ้เู รียนศึกษาการสงั คายนา การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

เข้าสู่ประเทศไทยพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทยในฐานะเป็นศาสนาประจาชาติ สถาบันหลักของสังคมไทย

สภาพแวดลอ้ มทกี่ วา้ งขวางและครอบคลมุ สงั คมไทย การพัฒนาตนและครอบครัว พุทธประวัติพุทธสาวก พุทธ

สาวิกา พระมหากัสสปะพระอุบาลี อนาถบิณฑิกเศรษฐี พระโสณะ พระอุตตระ นางวิสาขา ชาดก อัมพชาดก

ติตติรชาดก ตัวอย่างบุคคลในท้องถิ่นหรือประเทศท่ีปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างด้านศาสนสัมพันธ์หรือผลงาน

ด้านศาสนสัมพันธ์ พระธรรมโกษาจารย์ พระรัตนตรัย อริยสัจ 4 พุทธศสนสุภาษิต ย เว เสวติ ตาทิโสอตตนา

โจทยตตาน นิสมม กรณเสยโยเหตุผลความจาเป็นท่ีทุกคนต้องศึกษาเรียนรู้ศาสนาอื่น ศาสนิกชนของศาสนา

ตา่ ง ๆ มกี ารประพฤติปฏิบัติตนและวิถีการดาเนินชีวิตแตกต่างกันตามหลักความเช่ือและคาสอนของศาสนาท่ี

ตนนับถือ

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบคันข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนกระปฏิบัติ

กระบวนการกลุม่ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา

เพอื่ ใหผ้ ู้เรียนเกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ สามารถนาไปปฏิบตั ใิ นการดาเนนิ ชวี ิต นาไปพัฒนาแก้ปัญหาของ

ตนเองและครอบครัว รักษาส่ิงแวดล้อม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มี

วินยั นยั ใฝเ่ รียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง มงุ่ มน่ั ในการทางาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ และปฏิบัติตนเป็นศา

สนิกชนท่ีดี มีศรัทธาที่ถูกต้อง สามารถนาหลักธรรมของพระพุทธศาสนาไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเองอยู่

รว่ มกบั ผู้อ่นื อยา่ งสนั ติสุขยอมรับศาสนาอ่ืน เหน็ ความสาคัญของการเป็นพลเมอื งดี บาเพญ็ ประโยชนเ์ พอ่ื สงั คม

รหัสตวั ช้วี ัด
ส 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6, ม.1/8, ม.1/9, ม.1/10, ม.1/11

รวมท้ังหมด 10 ตวั ชีว้ ดั

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 177

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

รหสั วชิ ำ ส21106 วชิ ำ พระพุทธศำสนำ 2 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ 1 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษารายวิชาพระพุทธศาสนา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 มุ่งพัฒนาส่งเสริมให้ผู้เรียน มีคุณธรรม

จริยธรรมปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีทักษะและเห็นคุณค่าในการวิเคราะห์ สังเคราะห์

สร้างองค์ความรู้ใหม่จากการศึกษาค้นคว้า นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถิ่น มาใช้เป็นแนวทางในการ

ดาเนินชีวิตเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ในการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนา มุ่งเน้นให้ผู้เรียน

ปฏิบัติตนและเห็นคุณคา่ ในการปฏิบัติตามศาสนพิธี

โดยให้ผู้เรียนศึกษาและฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการพัฒนาจิตเพื่อการเรียนรู้และการดาเนินชีวิ ตด้วยวิธีคิด

แบบโยนิโสมนสิการ วิธีปฏิบัติและประโยชน์ของการบริหารจิตและเจริญปัญญา การฝึกการบริหารจิตและ

เจรญิ ปัญญาตามหลักสติปัฏฐานเน้นอานาปานสติ นาวิธีการบริหารจิตและเจริญปัญญาไปใช้ในชีวิตประจาวัน

ปฏิบัติเกี่ยวกับหน้าที่ชาวพุทธและมารยาทชาวพุทธ เร่ืองการบาเพ็ญประโยชน์และการบารุงวัด วิถีชีวิตของ

พระภิกษุ บทบาทของพระภิกษุในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เช่น การแสดงธรรม ปาฐกถาธรรม การ

ประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างการปฏิบัติตนที่เหมาะสม การเข้าพบพระภิกษุ การแสดงความเคารพ การ

ประนมมือ การไหว้ การกราบ การเคารพ พระรัตนตรัย การฟังเจริญพระพุทธมนต์ การฟังสวดพระอภิธรรม

การฟังธรรมเทศนา การปฏิบัติตนอย่างเหมาะสมต่อศาสนิกชนอื่นในสถานการณ์ต่าง ปฏิบัติตนอย่าง

เหมาะสมตอ่ เพ่ือนตามหลักพระพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาทีต่ นนับถือ การจดั โต๊ะหมู่บูชา การจุดธูปเทียน การจัด

เครอื่ งประกอบโตะ๊ หม่บู ชู า คาอาราธนาต่าง ๆ ศึกษาประวัติและความสาคัญของวันธรรมสวนะ วันเข้าพรรษา

วนั ออกพรรษา วันเทโวโรหณะ ระเบียบพธิ ี พิธเี วียนเทียน การปฏิบัติตน ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอัฐมี

บูชา วันอาสาฬหบูชา วันธรรมสวนะและเทศกาลสาคัญโดยใช้ทักษะท่ีหลากหลาย การสืบคันข้อมูล การ

ตคี วาม แยกแยะ เปรียบเทียบ วิเคราะห์ สังเคราะห์ตามหลักโยนิโสมนสิการและสามารถใช้เทคโนโลยีแสวงหา

ความรู้ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะเห็นคุณค่า มีคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงามมี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ รักชาติ ศาสน์

กษตั รยิ ์ ดารงชีวิตอย่างพอเพยี ง

รหัสตัวชี้วัด
ส 1.1 ม.1/6, ม.1/7
ส 1.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5

รวมท้งั หมด 7 ตวั ชี้วัด

178 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รหสั วชิ ำ ส22101 วิชำ สงั คมศกึ ษำ 3 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 40 ชว่ั โมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

.......

ศึกษารายวิชาสังคมศึกษา ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 มุ่งเน้นให้ผู้เรียน เลือกใช้เคร่ืองมือทาง

ภูมิศาสตร์อธิบาย วิเคราะห์เชื่อมโยง เลือกใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ ในการรวบรวม วิเคราะห์ และเช่ือมโยง

เกิดทักษะ ต่าง ๆ เข้ามาใช้ใน กระบวนการสร้างองค์ความรู้ โดยการศึกษา การใช้เคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์ใน

การวบรวม วิเคราะห์และนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับลักษณะทางกายภาพและสังคมของทวีปยุโรปและแอฟริกา

วเิ คราะห์ความสมั พนั ธร์ ะหว่างลกั ษณะทางกายภาพและสงั คมของทวีปยุโรปและแอฟริกา วิเคราะห์การก่อเกิด

สิ่งแวดล้อมใหม่ทางสังคมอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในทวีปยุโรป และ

แอฟริกา สารวจ อภปิ รายประเด็นปัญหาเก่ียวกับส่ิงแวดล้อมที่เกิดข้ึนในทวีปยุโรปและแอฟริกา วิเคราะห์เหตุ

และผลกระทบท่ปี ระเทศไทยได้รับจากการเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดลอ้ มในทวปี ยุโรปและแอฟริกา

โดยใช้ทักษะทีห่ ลากหลาย การรวบรวม วเิ คราะห์ สารวจ อภิปราย และสามารถใชเ้ ทคโนโลยีแสวงหา

ความรู้

เพ่ือให้ผู้เรียนใช้ทักษะท่ีหลากหลายด้วยวิธีการประชาธิปไตย การสืบค้นข้อมูล สารวจ อภิปราย

วิเคราะห์ การแก้ปีญหาและกระบวนการกลุ่ม มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เน้นการให้ประสบการณ์ที่ใกล้ตัว

ผู้เรียน เพ่ือให้เกิดการเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมสู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ โดยการใช้ภาพ ข่าวหรือ

สถานการณ์ต่าง ๆ ให้ผู้เรียนฝึกการสังเกต ตอบคาถามหาแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสม ส่งเสริมการ

ทางานกลุ่มเพ่ือพัฒนาทักษะทางสังคม นาไปสู่การยอมรับ และเห็นคุณค่าของตนเองและผู้อ่ืน ตระหนักและ

เข้าใจปฏิสัมพนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั สิง่ แวดลอ้ ม มจี ิตสานึกและมสี ว่ นรว่ มในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ

ส่งิ แวดลอ้ ม เพ่ือการพัฒนาที่ยัง่ ยนื

รหัสตวั ช้วี ัด
ส 5.1 ม.2/1, ม.2/2
ส 5.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4

รวมทง้ั หมด 6 ตวั ชี้วดั

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถัมภ์ 179

คำอธบิ ำยรำยวิชำพื้นฐำน

รหัสวชิ ำ ส22102 วชิ ำ สังคมศกึ ษำ 4 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกติ

.......

ศึกษา วิเคราะห์ ระบบเศรษฐกิจแบบต่างๆ การพึ่งพาอาศัยกัน และการแข่งชันกันทางเศรษฐกิจใน

ภูมิภาคเอเชีย การกระจายของทรัพยากรในโลกท่ีส่งผลต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ การ

แขง่ ขันทางกรค้าในประเทศและตา่ งประเทศท่ีส่งผลต่อคุณภาพสินค้า ปริมาณการผลิตและราคาสินค้าปัจจัยท่ี

มีผลต่อกรลงทุนและการออม ปัจจัยการผลิตสินค้าและบริการ และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการผลิตสินค้าและ

บริการ เสนอแนวทางการพัฒนาการผลิตในท้องถิ่นตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง การคุ้มครองสิทธิของ

ตนเองในฐานะผู้บริโภคศึกษาวิเคราะห์บทบาท ความสาคัญและความสัมพันธ์ของสถาบันทางสังคม ความ

คลา้ ยคลงึ และความแตกต่างของวัฒนธรรมไทย และวัฒนธรรมของประเทศในภูมิภาคเอเชีย เพ่ือนาไปสู่ความ

เข้าใจอันดีระหว่างกันข้อมูลข่าวสารทางการเมืองการปกครองที่ มีผลกระทบต่อสังคมไทยสมัยปัจจุบัน

กระบวนการกฎหมาย การปกป้องคุ้มครองผู้อื่นตามหลักสิทธิมนุษยชน การปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท

สทิ ธเิ สรภี าพและหนา้ ทใ่ี นฐานะพลเมอื งดี

โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการเผชิญ

สถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม

เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจ และปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี ดารงชีวิตร่วมกันใน

สังคมไทย และสังคมโลกอย่างสันติสุข สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี และ

เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการสืบคันข้อมูล เข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดารงชีวิต สามารถ

สอื่ สารสิ่งทเี่ รียนรู้ มีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม และมคี ณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์

สุจริต มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการทางาน มจี ติ สาธารณะ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง รกั ความเปน็ ไทย

รหสั ตัวช้ีวัด
ส 3.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4
ส 3.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4

รวมท้ังหมด 8 ตวั ชว้ี ดั

180 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอปุ ถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

รหสั วิชำ ส22103 วิชำ ประวัติศำสตร์ 3 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี 2 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

.......

ศกึ ษารายวิชาประวัตศิ าสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 เป็นรายวิชาท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนตระหนัก เห็นคุณค่า

เกิดทักษะ กระบวนการสร้งองค์ความรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถ่ิน ตลอดจน

กระแสการเปลยี่ นแปลงในยคุ โลกาภวิ ฒั น์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสรา้ งองค์ความรู้

ในการศึกษาวิธีการ ประเมินความน่าเช่ือถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในลักษณะต่าง ๆ อย่าง

ง่ายๆเช่น การศึกษาภูมิหลังของผู้กระทาหรือผู้เกี่ยวข้อง สาเหตุช่วงระยะเวลา รูปลักษณ์ของหลักฐานทาง

ประวตั ศิ าสตรไ์ ทยทีม่ ีอยู่ในทอ้ งถ่นิ ของตน ตวั อย่างการประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของหลักฐานทางประวัติศาสตร์

ไทย ทอี่ ย่ใู นทอ้ งถ่นิ ของตนเองหรือหลักฐานสมัยอยุธยาและธนบุรี เช่น ข้อความบางตอนในพงศาวดารอยุธยา

จดหมายเหตุชาวต่างชาติ ตัวอย่างการตีความข้อมูลจากหลักฐานท่ีแสดงเหตุการณ์สาคัญ ในสมัยอยุธยาและ

ธนบุรี การแยกแยะระหว่างข้อมูลกับความคิดเห็นรวมทั้งความจริงกับข้อเท็จจริงจากหลักฐานทาง

ประวัติศาสตร์ เห็นความสาคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลและการตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์ การ

ตรวจสอบประเมินคาของขอ้ มลู ข่าวสารทางประวัติศาสาตร์และทัศนคติท่ีแตกต่างกัน ซึ่งมีอยู่อย่างหลากหลาย

ในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ มาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ และศึกษาปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่ส่งผลต่อพัฒนาการของ

ภูมิภาคต่างๆในทวีปเอเชีย (ยกเว้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อธิบายพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และ

การเมืองของภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงท่ีมีผลต่อพลเมืองโลก การแก้ปัญหาความขัดแย้ง การ

พ่ึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน อันจะนาไปสู่การพัฒนาท่ีย่ังยืนในภูมิภาคเอเชีย ระบุความสาคัญของแหล่งอารย

ธรรมโบราณและแหล่งมรดกโลกในภูมิภาคเอเชียและอิทธิพลของอารยธรรมโบราณที่มีต่อ ภูมิภาคเอเชียใน

ปัจจุบนั

โดยใช้ทักษะที่หลากหลาย การสืบค้นข้อมูล การรวบรวมข้อมูล การตีความ แยกแยะ เปรียบเทียบ

วิเคราะห์ความแตกต่าง สรุปใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ และสามารถใช้เทคโนโลยีในการแสวงหาความรู้

เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรัก ภาคภูมิใจในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย ซื่อสัตย์ สุจริต ใฝ่เรียนรู้เป็น

พลเมอื งดี ตระหนักถงึ ความแตกตา่ งทางสังคม วัฒนธรรมและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ในสังคมไทย

และสังคมโลก

รหัสตวั ชว้ี ัด
ส 4.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3
ส 4.2 ม.2/1, ม.2/2

รวมทงั้ หมด 5 ตัวช้วี ัด

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 181

คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

รหสั วชิ ำ ส22104 วิชำ ประวตั ิศำสตร์ 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ 2 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษาศึกษาวิถีชีวิต และพัฒนาการของอาณาจักรอยุธยา และธนบุรีในด้านต่าง ๆ วิเคราะห์ปัจจัยท่ี

ส่งผลต่อความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรอยุธยา และสมัยธนบุรีเก่ียวกับ การเมืองการ

ปกครอง เศรษฐกิจสังคม ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และเกิดความภาคภูมิใจในความ

เป็นไทย วิเคราะห์ความสาคัญของภูมิปัญญาสมัยอยุธยา สมัยธนบุรีที่มีผลต่อการพัฒนาชาติไทยในยุคต่อมา

ประวัติความเป็นมาการต้ังถิ่นฐานของชุมชนการนาวิธีการทางประวัติศาสตร์ไปศึกษาเรื่องราวของท้องถิ่น

ภูมิอากาศทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม สภาพแวดล้อมทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม การปกครอง

ส่วนทอ้ งถิ่น การดารงชวี ติ วัฒนธรรม ผลงาน / มรดกทางวัฒนธรรม ประเพณี ของครอบครัว การละเล่น คติ

ความเชื่อ พิธีกรรมทางศาสนา ภูมิปัญญา / แหล่งเรียนรู้ คาขวัญจังหวัดสมุทรปราการ สถานท่ีสาคัญในอดีต

ปัจจุบัน บุคคลสาคัญบุคคลท่ีมีผลงาน ท่ีมีช่ือเสียงเป็นแบบอย่างท่ีดีด้านต่างๆ การอนุรักษ์ภูมิปัญญา / แหล่ง

เรยี นรูข้ องชมุ ชนเอกลกั ษณข์ องท้องถนิ่ เหตุการณ์สาคัญท่ีเกิดขึ้นในอดีต และปัจจุบัน สถานภาพทางกายภาพ

เศรษฐกิจ สังคมในท้องถิ่น อาชีพ สินค้า การผลิตสินค้า และบริการต่างๆ ในชุมชน / ท้องถิ่น การพัฒนา

เศรษฐกิจในชุมชน ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การเมืองการปกครอง ส่ิงแวดล้อม ปัญหาการว่างงาน

ปัญหายาเสพติด ปัญหาทุจริตอาชญากรรม เหตุการณ์ละเมิดสิทธิเด็กในครอบครัว โรงเรียน ชุมชน ท้องถ่ิน

ผลกระทบท่ีเกิดข้ึน แนวทางการแก้ไข และการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ในครอบครัว

โรงเรียน ชุมชน เพ่อื การพฒั นาทย่ี ั่งยืน

โดยใช้กระบวนการการขัดเกลาทางสังคม กระบวนการสืบค้ันข้อมูล กระบวนการคิด

กระบวนการพัฒนาค่านิยม กระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนการแก้ไขปัญหา

กระบวนการกล่มุ เพ่ือใหเ้ กดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ และนาความรู้ไปใช้

ในประโยชน์ในชีวิตประจาวัน

เพื่อให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีจิตสานึกที่ดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน มีจิต

สาธารณะและอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

รหสั ตวั ชว้ี ัด
ส 4.3 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3

รวมท้ังหมด 3 ตวั ชว้ี ัด

182 หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชริ าวุธราษฎรอปุ ถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รหัสวชิ ำ ส22105 วชิ ำ พระพทุ ธศำสนำ 3 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี 2 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

.......

ศึกษารายวิชาพระพุทธศาสนา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 เป็นรายวิชาท่ีมุ้งเน้นให้ผู้เรียนตระหนักเห็น

คุณค่า เกิดทักษะ กระบวนการสร้างองค์ความรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์การศึกษาวิเคราะห์การเผยแผ่

พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ความสาคัญของพระพุทธศาสนาต่อสังคมไทยในฐานะเป็นรากฐาน

ของวัฒนธรรมอกลักษณ์และมรดกของชาติ ประพฤติปฏิบัติตนตามแบบอย่างพุทธสาวก พุทธสาวิกาและชาว

พุทธตวั อย่าง ชาดก หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พระรัตนตรัย อริยสัจ โครงสร้างพระไตรปิฎกและคาศัพท์

ทางพระพทุ ธศาสนา

โดยใช้กระบวนการศึกษา ค้นคว้า อธิบาย อภิปราย วิเคราะห์ สรุปความคิด กระบวนการกลุ่ม ฝึก

ทักษะในการแกป้ ญั หา กระบวนการเผชิญสถานการณ์ กระบวนการเทคโนโลยี การแสดงบทบาทสมมติ

เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เกิดศรัทธาอย่างยิ่งต่อพระรัตนตรัยและรักการเรียนรู้พระพุทธศาสนา

ประพฤติปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนท่ีดีมีคุณธรรม จริยธรรม ในการอยู่ร่วมกันในสังคมและสามารถนา

หลักธรรมไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้ โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการ

กลุ่ม กระบวนการมีส่วนร่วมกระบวนการตรวจสอบ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์และ

การสืบคันข้อมูลเพื่อเป็นพลเมืองดีมีคาานิยมที่ดีงาม ธารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย อยู่อย่างพอเพียง

ดารงชีวติ อยรู่ ว่ มกันในสังคมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ุข

รหัสตวั ชี้วัด
ส 1.1 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/5, ม.2/6, ม.2/7, ม.2/8

รวมทง้ั หมด 6 ตวั ชี้วัด

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 183

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รหสั วชิ ำ ส22106 วิชำ พระพทุ ธศำสนำ 4 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 2 ภำคเรยี นที่ 2 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษาศึกษาวิเคราะห์บทบาทของพระภิกษุในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาการแสดงธรรม ปาฐกถา

ธรรมศึกษาวเิ คราะห์บทบาทของขาวพทุ ธเรอื่ งการบรรยายธรรม การจัดนิทรรศการ การเข้าค่ายพุทธบุตร การ

เข้าร่วมพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ศึกษาแนวทางปฏิบัติตามหลักศีลธรรม จริยธรรม คานิยมที่ดีงามตาม

หลักศาสนาที่ตนนับถือ มารยาทชาวพุทธ พุทธศาสนพิธี วันสาคัญทางพระพุทธศาสนา การบริหารจิตเจริญ

ปญั ญา การพฒั นาจิตเพ่อื การเรียนรู้และดาเนินชีวิตด้วยวิธีศิตแบบโยนิโสมนสิการ การเป็นลูกท่ีดีตามหลักทิศ

6 ศาสนพธิ ี พธิ ีกรรมตามแนวปฏิบัตขิ องศาสนาอน่ื ๆ

โดยใช้กระบวนการการศึกษา คนั คว้า อธิบาย อภิปราย วเิ คราะห์ สรปุ ความคิด กระบวนการกลุ่ม ฝึก

ทกั ษะในการแกป้ ญั หา กระบวนการเผชญิ สถานการณ์ กระบวนการเทคโนโลยี การแสดงบทบาทสมมตุ ิ

เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ ความเข้าใจ เกิดความศรัทธาอย่างย่ิงต่อพระรัตนตรัยและรักการเรียนรู้

พระพุทธศาสนา ประพฤตปิ ฏบิ ัติตนเปน็ พทุ ธศาสนิกชนท่ดี มี ีคณุ ธรรม จริยธรรม ในการอยู่ร่วมกันในสังคมและ

สามารถนาหลักธรรมไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้

รหสั ตัวช้วี ดั
ส 1.1 ม.2/9, ม.2/10
ส 1.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3, ม.2/4, ม.2/5

รวมทั้งหมด 7 ตวั ชี้วดั

184 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวธุ ราษฎรอุปถมั ภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

รหัสวิชำ ส23101 วชิ ำ สงั คมศึกษำ 5 กลุม่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 3 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 40 ชั่วโมง จำนวน 1.0 หน่วยกิต

.......

ศึกษาศกึ ษารายวิชาสงั คมศึกษา 5 ข้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 เปน็ รายวิชาท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียน ตระหนัก เห็น

คุณค่า เกิดทักษะ กระบวนการสร้างองค์ความรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถ่ิน

ตลอดจนกระแสการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์ เข้ามาเป็นส่วนหน่ึงในการสร้างองค์ความรู้ในการใช้

เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์ และนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับลักษณะทางกายภาพและสังคม

ของทวปี อเมริกาเหนือ และอมริกาใต้ วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะทางกายภาพและสังคมชองทวีป

อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้การก่อเกิดส่ิงแวดล้อมใหม่ ทางสังคม อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทาง

ธรรมชาตแิ ละทางสงั คมของทวปี อเมริกาเหนือและอเมรกิ าใต้ เหตุและผลกระทบต่อเน่ืองจากการเปล่ียนแปลง

ขอส่ิงแวดล้อมในทวีปอเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ที่ส่งผลต่อประเทศไทยรวมถึงการเปล่ียนแปลงท่ีมีผลต่อ

พลเมืองโลก การแก้ปัญหาความขัดแย้ง การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและ ความร่วมมือของทวีปอเมริกาเหนือ และ

อเมริกาใต้ อนั จะนาไปการพัฒนาท่ียั่งยืน ของประชากรโลก ระบุแนวทางการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ

สิ่งแวดล้อมในทวีปอเมริกาเหนือและอเมรกิ าใต้สารวจ อภิปรายประเด็นปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นใน

ทวปี อเมรกิ าเหนือ และอเมรกิ าใตแ้ ละสามารถวเิ คราะหข์ ้อมูลข่าวสารทางภูบิศาสตร์และทัศนคติท่ีแตกต่างกัน

ซ่งึ มอี ยอู่ ย่างหลากหลายในโลกยคุ โลกาภิวัตน์ มาวเิ คราะหอ์ ยา่ งเปน็ ระบบ เพอื่ แกป้ ัญหาที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน

อธิบายกลไกราคาในระบบเศรษฐกิจ บทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในระบบเศรษฐกิจ วิเคราะห์

ความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงกับระบบสหกรณ์ ผลเสียจากการว่างงาน และแนวทาง

แกป้ ัญหา ความขัดแย้งทเ่ี กดิ ขนึ้ สาเหตุและวิธกี ารกีดกันทางการค้นในการค้าระหว่างประเทศ โดยอาศัยความ

รา่ มมือ การท่งี พาอาศัยซึ่งกันและกัน ได้ตระหนักถึงความแตกต่างทางสังคม วัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซ่ึง

สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขในสังคมโลก อภิปราย บทบาทความสาคัญของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ

ระหว่างประเทศโดยใช้ทักษะที่หลากหลาย การใช้เคร่ืองมือ การสืบคันข้อมูล การรวบรวมข้อมูล สารวจ

อภิปรายอธิบาย เปรียบเทียบ วิเคราะห์ สังเคราะห์ กระบนการแก้ปัญหา และสามารถใช้เทคโนโลยีในการ

แสวงหาความรู้

เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรัก ภาคภูมิใจในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ชื่อสัตย์ สุจริต ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะมี

คุณธรรม จริยธรรม และคานิยมของความเป็นพลเมืองที่ดี ตระหนักถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมและ

สามารถอยู่ร่วมกันผู้อื่นได้อย่างสันติสุขเห็นความสาคัญและคุณค่าของวิชาภูมิศาสตร์และเศรษฐศาสตร์

ตลอดจนวิเคราะห์ ประเมินข้อมูลข่าวสารและทัศนคติท่ีแตกต่างกันเกี่ยวกันสถานการณ์ทางเศรษฐศาสตร์ได้

อยา่ งสมเหตุสมผล และสามารถนาไปปรบั ประยกุ ต์ใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวัน ส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชน

และประเทศใหเ้ จริญรุ่งเรอื ง

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 185

รหัสตวั ชี้วดั
ส 3.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3
ส 3.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5, ม.3/6
ส 5.1 ม.3/1, ม.3/2
ส 5.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4

รวมทั้งหมด 15 ตวั ช้ีวดั

186 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอปุ ถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวิชำพนื้ ฐำน

รหสั วชิ ำ ส23102 วิชำ สงั คมศึกษำ 6 กลมุ่ สำระกำรเรียนรูส้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ 3 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษารายวิชาสังคมศกึ ษา 6 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 เป็นรายวชิ าทีม่ ุ่งเนน้ ใหผ้ ู้เรยี น ตระหนัก เห็นคุณค่า

เกดิ ทักษะ กระบวนการสร้างองค์ความรู้ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถ่ิน ตลอดจน

กระแสการเปล่ยี นแปลงในยุคโลกาภิวฒั น์ เข้ามาเป็นส่วนหน่ึงในการสร้างองค์ความรู้อธิบายความแตกต่างของ

การกระทาผิดคดีอาญาและคดีแพ่ง ระบอบการปกครองแบบต่าง ๆ ท่ีใช้ในปัจจุบัน การมีส่วนร่วมในการ

ปกป้องคุ้มครองผู้อ่ืนตามหลักสิทธิมนุษยชน อนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและเลือกรับวัฒนธรรมสากลท่ีเหมาะสม

โดยวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร หลักกฎหมายตามหลักสิทธิมนุษยชนและทัศนคติท่ีแตกต่างกัน ซ่ึงมีอยู่อย่าง

หลากหลายในโลกยุคโลกาภิวัตน์ และตระหนักถึงความแตกต่างทางสังคม วัฒนธรรมของแต่ละวัฒนธรรม มา

วิเคราะห์อยา่ งเป็นระบบและนาไปปรับใช้ในปัจจบุ นั ใตอ้ ย่างมีความสุข วิเคราะห์ปัจจัยท่ีก่อให้เกิดปัญหาความ

ขัดแย้งในประเทศ และเสนอความคิด ในการแก้ไขปัญหาความชัดแย้ง เปรียบเทียบระบอบการปกครองของ

ไทยกับประเทศอื่นๆ ที่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันในมาตราต่าง ๆ ที่

เก่ียวกับการเลือกต้ัง ประเด็นปัญหาท่ีเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทยเสนอแนวคิด

ในการดารงชวี ติ อย่างมคี วามสขุ ทงั้ ในประเทศและสังคมโลก

โดยใช้ทักษะท่ีหลากหลาย การสืบค้นข้อมูล การรวบรวมข้อมูล การตีความ แยกแยะ เปรียบเทียบ

วเิ คราะหค์ วามแตกต่าง และสามารถใชเ้ ทคโนโลยใี นการแสวงหาความรู้

เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นเกดิ ความรัก ภาคภูมิใจในชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รักความเป็นไทย ซ่ือสัตย์จริต เรียนรู้ เป็น

พลเมืองดี ตระหนักถงึ ความแตกตา่ งทางสังคม วัฒนธรรมและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ในสังคมไทย

และสงั คมโลก

รหสั ตัวชว้ี ดั
ส 2.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5
ส 2.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4

รวมทั้งหมด 9 ตวั ชวี้ ดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 187

คำอธิบำยรำยวิชำพนื้ ฐำน

รหสั วชิ ำ ส23103 วิชำ ประวัติศำสตร์ 5 กล่มุ สำระกำรเรียนรู้สงั คมศึกษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ 3 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

.......

ศึกษาศึกษา วิเคราะห์ เรื่องราวเหตุการณ์สาคัญทางประวัติศาสตร์ได้อย่างมีเหตุผลตามวิธีการทาง

ประวัติศาสตร์ ใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ในการศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ ที่ตนสนใจ พัฒนาการทางสังคม

เศรษฐกิจ และการเมืองของภูมิภาคต่าง ๆ ในโลกโดยสังเขป ผลของการเปลี่ยนแปลงที่นาไปสู่ความร่วมมือ

และความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษท่ี 20 ตลอดจนความพยายามในการขจัดปัญหาความขัดแย้ง โดยใช้วิธีการ

ทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทางสังคม กระบวนการปฏิบัติ

กระบวนการเชิญสถานการณ์และแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการนาวิธีการ

ทางประวัติศาสตร์มาใช้ศึกษาเรื่องราวท่ีเก่ียวช้องกับตนเอง ครอบครัว ท้องถ่ินของตนเอง และประวัติศาสตร์

สมยั รตั นโกสนิ ทร์ ตลอดจนพัฒนาการในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก เกิดความรักความภาคภูมิใจในความเป็นไทย

ตระหนักถึงความสาคัญของการเปล่ียนแปลงในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกและผลกระทบท่ีเกิดขึ้นจากความ

เปลีย่ นแปลงตังกล่าว มคี ณุ ลักษณะอนั พึงประสงคใ์ นด้านรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้

อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่าง

สนั ตสิ ขุ

โดยใช้กระบวนการการชัดเกลาทางสังคม กระบวนการสืบคันข้อมูล กระบวนการคิด

กระบวนการพัฒนาคานิยม กระบวนการประชาธิปไตย กระบวนการทางจริยธรรม กระบวนการแก้ไขปัญหา

กระบวนการกลมุ่ เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ และนาความรู้ไปใช้

ในประโยชน์ในชีวิตประจาวนั

เพ่ือให้มีความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ มีจิตสานึกท่ีดี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทางาน มีจิต

สาธารณะและอยู่อย่างพอเพยี ง

รหสั ตัวชี้วดั
ส 4.1 ม.3/1, ม.3/2
ส 4.2 ม.3/1, ม.3/2

รวมทัง้ หมด 4 ตวั ชว้ี ัด

188 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอปุ ถมั ภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำพ้ืนฐำน

รหสั วชิ ำ ส23104 วชิ ำ ประวตั ศิ ำสตร์ 6 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้สังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ช้นั มธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 ภำคเรียนที่ 2 เวลำ 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษารายวิชาประวัติศาสตร์ ข้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นรายวิชาที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียน ศึกษา พัฒนาการ

ของไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ในดา้ นต่าง ๆ และศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อความม่ันคงและความเจริญรุ่งเรืองของไทย

ในสมัยรัตนโกสินทร์ประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัตนโกสินทร์และเข้าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิ

ปัญญาไทย มีความรัก ความภูมใิ จ และธารงความเป็นไทย รวมถงึ ศึกษาบทบาทของโทยในสมยั ประชาธปิ ไตย

โดยใชว้ ธิ ีการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ กระบวนการสืบค้นข้อมูล กระบวนการทาง

สังคม กระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการนาวิธีการประวัติศาสตร์มาใช้ศึกษาเรื่องราวท่ี

เก่ยี วกับประวัติศาสตร์สมยั รัตนโกสินทร์

เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดความรักความภาคภูมีใจในความเป็นไทย ตระหนักถึงความสาคัญของการ

เปลย่ี นแปลงทางการเมืองของไทย และผลกระทบที่เกิดขึน้ จากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มีคุณลักษณะอันพึง

ประสงคใ์ นด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ไผ่เรียนรู้ มุ่งม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย มี

จิตสาธารณะสามารถดาเนินชีวติ อยรู่ ว่ มกันใต้อย่างสันติสุข

รหัสตัวช้วี ัด
ส 4.3 ม 3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4

รวมทง้ั หมด 4 ตวั ช้ีวดั

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวุธราษฎรอุปถัมภ์ 189

คำอธิบำยรำยวชิ ำพนื้ ฐำน

รหสั วิชำ ส23105 วชิ ำ พระพุทธศำสนำ 5 กลุม่ สำระกำรเรียนรูส้ ังคมศึกษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ชัน้ มธั ยมศึกษำปีที่ 3 ภำคเรียนท่ี 1 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษารายวิชาพระพุทธศาสนา ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม

ปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีทักษะและเห็นคุณค่าในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างองค์

ความรู้ใหม่จากการศึกษาค้นคว้า นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถ่ินมาใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต

เพอื่ เตรียมความพรอ้ มสปู่ ระชาคมอาเซียน

โดยให้ผู้เรียนศึกษาและเป็นแนวทางปฏิบัติในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือสู่

ประเทศต่าง ๆ ท่ัวโลก วิเคราะห์ความสาคัญทางพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือในฐานะที่ช่วย

สร้างสรรค์อารยธรรมและความสงบสุขแก่โลก ศึกษาพุทธประวัติจากพระพุทธรูปปางต่าง ๆ วิเคราะห์และ

ประพฤติตนตามแบบอย่างการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เร่ืองเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง

ตามท่ีกาหนด อธิบายสังฆคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบอริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ

ตามที่กาหนด เห็นคุณค่าและวิเคราะห์การปฏิบัติตนตามหลักธรรมในการพัฒนาตน เพ่ือเตรียมพร้อมสาหรับ

การทางานและการมีครอบครัว รวมถึงปฏิบัติตในตาสนพิธี ท้ังพิธีทาบุญ งานมงคล งานอวมงคล การนิมนต์

พระภิกษุ การเตรียมทีต่ ัง้ พระพทุ ธรูปและเครอ่ื งบชู าการวงตัวยสายสิญจน์ การปูลาดอาสนะ การเตรียมเครื่อง

รบั รอง การจุตธูปเทียน ปฏิบตั ิตนในวันเลย้ี งพระ การถวายขา้ วพระพทุ ธ การถวายไทยธรรม และการกรวดน้า

และอธิบายประวตั วิ นั สาคญั ทางพระพทุ ธศาสนาตามทีก่ าหนดและปฏิบตั ติ นไดอ้ ย่างถูกตอ้ งโดยใช้กระบวนการ

คดิ กระบวนการสบื คันข้อมูล กระบวนการทางสังคมกระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญ

สถานการณ์ และแกป้ ัญหา

เพื่อให้ผ้เู รียนเกดิ ความรู้ความเขา้ ใจ สามารถนาไปปฏบิ ัติในการดาเนนิ ชีวิต นาไปพัฒนาแก้ปัญหาของ

ตนเองและครอบครัว มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสนกษัตริย์ ช่ือสัตย์ สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่

อยา่ งพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี มีศรัทธา

ที่ถูกต้องสามารถนาหลักธรรมของพระพุทธศาสนาไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสันติสุข

ยอมรับศาสนาอน่ื เหน็ ความสาคญั ของการเป็นพลเมอื งตี บาเพญ็ ประโยชน์เพื่อสงั คม

รหสั ตัวชีว้ ดั
ส 1.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, .ม.3/5, ม.3/6, ม.3/7
ส 1.2 ม.3/4, ม.3/5

รวมทง้ั หมด 9 ตวั ช้วี ัด

190 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนวชิราวธุ ราษฎรอุปถมั ภ์

คำอธิบำยรำยวชิ ำพืน้ ฐำน

รหัสวิชำ ส23106 วิชำ พระพทุ ธศำสนำ 6 กล่มุ สำระกำรเรียนรสู้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 3 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 20 ชัว่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษารายวิชาพระพุทธศาสนา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม

ปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีทักษะและเห็นคุณคาในการวิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างองค์

ความรู้ใหม่จากการศึกษาคันคว้า นาสภาพปัญหาและภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้เป็นแนวทางในการดาเนินชีวิต

เพอ่ื เตรียมความพร้อมสปุ ระชาคมอาเซยี น

โดยให้ผู้เรียนศึกษาและเป็นแนวทางปฏิบัติในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือสู่

ประเทศต่าง ๆ ท่ัวโลก วิเคราะห์ความสาคัญทางพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับถือในฐานะท่ีช่วย

สร้างสรรค์อารยธรรมและความสงบสุขแก่โลก ศึกษาพุทธประวัติจากพระพุทธรูปปางต่าง ๆ วิเคราะห์และ

ประพฤตติ นตามแบบอยา่ งการดาเนินชีวิตและข้อคิดจากประวัติสาวก ชาดก เรื่องเล่า และศาสนิกชนตัวอย่าง

ตามท่ีกาหนด อธิบายสังฆคุณและข้อธรรมสาคัญในกรอบอริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ

ตามที่กาหนด เห็นคุณค่าและวิเคราะห์การปฏิบัติตนตามหลักธรรมในการพัฒนาตน เพื่อเตรียมพร้อมสาหรับ

การทางานและการมีครอบครัว รวมถึงปฏิบัติตนในตาสนพิธี ท้ังพิธีทาบุญ งานมงคล งานอวมงคล การนิมนต์

พระภกิ ษุ การเตรยี มทตี่ ั้งพระพทุ ธรปู และเคร่ืองบูชาการวงตัวยสายสิญจน์ การปูสาดอาสนะ การเตรียมเครื่อง

รบั รอง การจุดธปู เทยี น ปฏิบัติตนในวนั เล้ยี งพระ การถวายขา้ วพระพทุ ธ การถวายไทยธรรม และการกรวดน้า

และอธบิ ายประวตั วิ ันสาคญั ทางพระพุทธศาสนาตามทกี่ าหนดและปฏบิ ตั ิตนได้อยา่ งถกู ต้องโดยใช้กระบวนการ

คดิ กระบวนการสืบคน้ ข้อมูล กระบวนการทางสงั คมกระบวนการปฏิบัติ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญ

สถานการณ์ และแกป้ ญั หา

เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นเกิดความรูค้ วามเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัตใิ นการดาเนินชีวติ นาไปพัฒนาแก้ปัญหาของ

ตนเองและครอบครัว มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ชื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ไผ่เรียนรู้ อยู่

อย่างพอเพียง มงุ่ ม่นั ในการทางาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ และปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี มีศรัทธา

ที่ถูกต้องสามารถนาหลักธรรมของพระพุทธศาสนาไปปฏิบัติในการพัฒนาตนเอง อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสันติสุข

ยอมรบั ศาสนาอน่ื เห็นความสาคัญชองการเปน็ พลเมอื งดี บาเพญ็ ประโยชนเ์ พือ่ สงั คม

รหัสตัวชว้ี ัด
ส 1.1 ม.3/3, ม.3/8, ม.3/9, ม.3/10
ส 1.2 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/6, ม.3/7

รวมท้ังหมด 9 ตวั ชีว้ ัด

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นวชริ าวธุ ราษฎรอปุ ถัมภ์ 191

คำอธิบำยรำยวิชำเพิ่มเติม

รหสั วิชำ ส21201 วชิ ำ หนำ้ ทพี่ ลเมือง 1 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวัฒนธรรม

ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 1 ภำคเรียนที่ 1 เวลำ 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

.......

ศึกษาและมีส่วนร่วมอนุรักษ์มารยาทไทยในการแสดงความเคารพ การสนทนา การแต่งกาย การมี

สัมมาคารวะ แสดงออกถึงความเอ้ือเฟ้ออเผ่ือแผ่และเสียสละต่อสังคม เห็นคุณค่าและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียม

ประเพณีศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่ือสัตย์สุจริต

ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของตนเอง ปฏิบัติ

ตนเปน็ แบบอยา่ งของความรกั ชาติ ยดึ ม่ันในศาสนา และเทิดทนู สถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุกต์และเผยแพร่

พระบรมราโชวาท ในเรือ่ งมเี หตผุ ล รอบคอบ หลกั การทรงงาน ในเรื่องการใชธ้ รรมชาตชิ ่วยธรรมชาติ การปลูก

ป่าในใจคน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต

ขยนั หมัน่ เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ และตง้ั ใจปฏบิ ตั ิหน้าท่ี

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์

กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง

คา่ นยิ ม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ

เพ่ือให้ผู้เรียนมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่น

ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ เปน็ พลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง

เป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี

และมวี นิ ยั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. มสี ว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์มารยาทไทย
2. แสดงออกถงึ ความเอือ้ เฟอ้อเผ่ือแผ่ และเสียสละตอ่ สังคม
3. เหน็ คณุ ค่าและอนุรักษ์ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ศลิ ปวัฒนธรรม และภมู ปิ ญั ญาไทย
4. เป็นแบบอย่างของความรกั ชาติ ยดึ มัน่ ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
5. ประยุกตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
6. ปฏบิ ัตติ นเป็นผูม้ ีวนิ ัยในตนเอง

รวมทั้งหมด 6 ผลกำรเรยี นรู้

192 หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนวชริ าวธุ ราษฎรอุปถมั ภ์

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิม่ เติม

รหัสวิชำ ส21202 วิชำ หน้ำทีพ่ ลเมอื ง 2 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี 1 ภำคเรียนท่ี 2 เวลำ 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

.......

ศกึ ษาและปฏิบตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามวถิ ีประชาธปิ ไตย ในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ของสังคม

การตัดสินใจโดยใช้เหตุผล มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน

ตรวจสอบขอ้ มลู เพื่อใช้ประกอบ การตัดสินใจในกิจกรรมต่าง ๆ ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความ

ซ่ือสัตย์สุจริต อดทน ขยันหม่ันเพียร ใฝ่หาความรู้ ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับผลท่ีเกิดจากการกระทาของ

ตนเองยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเร่ืองวิถีชีวิต

วัฒนธรรม ศาสนา ส่ิงแวดล้อม อยู่ร่วมกันอย่างสันติและพึ่งพาซึ่งกันและกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ด้วยการ

เคารพซ่ึงกันและกัน ไม่แสดงกิริยาและวาจาดูหม่ินผู้อ่ืน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แบ่งปัน มีส่วนร่วมในการ

แก้ปัญหาความขัดแย้ง โดยสันติวิธี ในเรื่องการทะเลาะวิวาท ความคิดเห็นไม่ตรงกัน ด้วยการเจรจาไกล่เกลี่ย

การเจรจาต่อรอง การระงับ ความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต อดทน

ใฝ่หาความรู้ ต้ังใจปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ จากการกระทาของตนเอง

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์

กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง

ค่านิยม และกระบวนการสรา้ งเจตคติ

เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ัน

ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั ริย์ เปน็ พลเมืองดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง

เป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี

และมีวินยั ในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. ปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธปิ ไตย
2. มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบข้อมูลเพ่ือใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรม

ตา่ ง ๆ
3. ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอยู่ร่วมกัน

อย่างสันติ และพ่งึ พาซงึ่ กันและกนั
4. มสี ว่ นรว่ มในการแก้ปญั หาความขัดแย้งโดยสนั ตวิ ธิ ี
5. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผูม้ ีวนิ ยั ในตนเอง

รวมทั้งหมด 5 ผลกำรเรียนรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอปุ ถัมภ์ 193

คำอธิบำยรำยวชิ ำเพ่ิมเติม

รหสั วชิ ำ ส22201 วิชำ หนำ้ ทพ่ี ลเมอื ง 3 กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้สงั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ 2 ภำคเรยี นท่ี 1 เวลำ 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

.......

ศึกษามีส่วนร่วมและแนะนาผู้อ่ืนให้อนุรักษ์มารยาทไทย ในการแสดงความเคารพ การสนทนา การ

แต่งกาย การมีสัมมาคารวะ แสดงออกและแนะนาผู้อ่ืนให้มีความเอ้ือเฟอ้อเผ่ือแผ่และเสียสละต่อสังคม เห็น

คณุ คา่ อนรุ ักษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณี ศลิ ปวฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัย

ในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ต้ังใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับผลที่เกิดจากการ

กระทาของตนเองปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างและแนะนาผู้อื่นให้มีการปฏิบัติตนที่แสดงออกถึงความรักชาติ ยึด

ม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ประยุกต์และเผยแพร่พระบรมราโชวาท ในเร่ืองการมีสติ

ความขยัน อดทน หลักการทรงงาน ในเรื่องภูมิสังคม ขาดทุนคือกาไร และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัย ในตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ และต้ังใจ

ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์

กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง

ค่านยิ ม และกระบวนการสร้างเจตคติ

เพ่ือให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่น

ในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ เปน็ พลเมอื งดีในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง

เป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนอย่างสันติ จัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี

และมวี ินัยในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้

1. มสี ่วนรว่ มและแนะนาผู้อน่ื ใหอ้ นุรักษม์ ารยาทไทย

2. แสดงออกและแนะนาผ้อู ่นื ใหม้ คี วามเอ้อื เฟออ้ เผ่ือแผ่ และเสียสละตอ่ สังคม

3. เห็นคุณค่า อนรุ กั ษ์ และสืบสานขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภูมิปัญญาไทย

4. เป็นแบบอย่างและแนะนาผู้อื่นให้มีความรักชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูน สถาบัน

พระมหากษตั ริย์

5. ประยกุ ตแ์ ละเผยแพรพ่ ระบรมราโชวาท หลักการทรงงาน และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

6. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มวี ินยั ในตนเอง

รวมทั้งหมด 6 ผลกำรเรยี นรู้

194 หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นวชิราวุธราษฎรอปุ ถัมภ์

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำเพิ่มเติม

รหสั วชิ ำ ส22202 วิชำ หน้ำท่พี ลเมอื ง 4 กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้สังคมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม

ชัน้ มัธยมศึกษำปีท่ี 2 ภำคเรยี นท่ี 2 เวลำ 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ

.......

ศึกษาและปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ในเร่ืองการติดตามข่าวสารบ้านเมือง ความ

กล้าหาญ ทางจริยธรรม การเป็นผู้นาและการเป็นสมาชิกท่ีดี มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจต่อ

กิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรมต่าง ๆ และรู้ทัน

ข่าวสาร ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซ่ือสัตย์สุจริต อดทน ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี ใฝ่หาความรู้

และยอมรับผลที่เกิดจากการกระทาของตนเองเห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอย่างสันติ และ

พ่ึงพาอาศัยซ่ึงกันและกันโดยคานึงถึง ความหลากหลายทางสังคม วัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย ในเรื่องวิถีชีวิต

วัฒนธรรม ศาสนา สิ่งแวดล้อม การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมและการพ่ึงพาซ่ึงกันและกัน ในเรื่องการ

เคารพซงึ่ กันและกัน ไม่แสดงกริ ยิ า และวาจาดูหม่ินผู้อื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แบ่งปัน มีส่วนร่วมและเสนอ

แนวทางการแก้ปัญหาความขดั แยง้ โดยสนั ติวิธีเก่ยี วกบั การละเมดิ สทิ ธิ การใช้ของส่วนรวม ด้วยการเจรจาไกล่

เกลี่ย การเจรจาต่อรอง การระงับ ความขัดแย้ง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต

อดทน ใฝห่ าความรู้ ตั้งใจปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ยอมรบั ผลท่ีเกดิ จากการกระทาของตนเอง

โดยใช้กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์

กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ กระบวนการสร้างความตระหนัก กระบวนการสร้าง

ค่านยิ ม และกระบวนการสร้างเจตคติ

เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะที่ดีของคนไทย ภาคภูมิใจในความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึดมั่น

ในศาสนา และเทดิ ทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ เป็นพลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง

เป็นประมุข มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครอง อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ จัดการความขัดแย้งด้วยสันติวิธี

และมวี ินัยในตนเอง

ผลกำรเรียนรู้
1. ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย
2. มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการตัดสินใจ ตรวจสอบข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในกิจกรรม

ตา่ ง ๆ และรทู้ ันข่าวสาร
3. เห็นคณุ ค่าของการอยู่ร่วมกันในภูมิภาคเอเชียอยา่ งสนั ติ และพง่ึ พาซึง่ กนั และกนั
4. มสี ่วนร่วมและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาความขัดแย้งโดยสนั ติวธิ ี
5. ปฏบิ ัตติ นเป็นผมู้ วี นิ ยั ในตนเอง

รวมทัง้ หมด 5 ผลกำรเรียนรู้