The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน วิชางานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2567

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เทิดพร, 2024-03-11 20:43:23

แผนการสอน2567_merged

แผนการสอน วิชางานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2567

Keywords: แผนการสอน,งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิส์

2. ใชไ้ขควงเช็คไฟตรวจสอบบริเวณปลกั๊ 220 โวลท์ข้วัใดเป็นนิวตรอนและข้วัใดเป็นไลน์ใหว้าดรูปและ ต าแหน่งให้ชัดเจน 3. ต่อวงจรหลอดไส้ตามรูป สวิตช์ปิ ดเปิ ด หลอดไฟ 4. เปิ ดสวิตช์(เปิ ดวงจร) หลอดติด หรือไม่……………………………………………………………………… 5. ปิ ดสวิตช์(ปิ ดวงจร) หลอดติด หรือไม่………………………………………………………………………. AC 220 V


2. ใชไ้ขควงเช็คไฟตรวจสอบบริเวณปลกั๊ 220 โวลท์ข้วัใดเป็นนิวตรอนและข้วัใดเป็นไลน์ใหว้าดรูปและ ต าแหน่งให้ชัดเจน 3. ต่อวงจรหลอดไส้ตามรูป สวิตช์ปิ ดเปิ ด หลอดไฟ 4. เปิ ดสวิตช์(เปิ ดวงจร) หลอดติด หรือไม่…………………………………………………………………………………………………………… 5. ปิ ดสวิตช์(ปิ ดวงจร) หลอดติด หรือไม่…………………………………………………………………………………………………………… AC 220 V


แบบประเมินผลการน าเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เน้ือหาสาระครอบคลุมชดัเจน (ความรู้เกี่ยวกบัเน้ือหาความถูกตอ้ง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการน าเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลกัษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้า เสียง ซ่ึงทา ให้ผูฟ้ ังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เน้ือหาสาระครอบคลุมชดัเจนถูกตอ้ง 3 คะแนน = มีสาระส าคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระส าคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระส าคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการน าเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการน าเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นา เสนอที่น่าสนใจ นา วสัดุในทอ้งถิ่นมาประยกุตใ์ชอ้ยา่งคุม้ค่าและประหยดั คะแนน = มีเทคนิคการน าเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่น่าสน ใจ แต่ขาด การประยกุตใ์ช้วสัดุในทอ้งถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการน าเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ


แบบประเมินกระบวนการท างานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง........................... รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายการท างานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 2. การมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานไดท้วั่ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดัเตรียมสถานที่สื่อ/ อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้วั่ถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ/อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทวั่ถึงและมีสื่อ/อุปกรณ์ไม่เพียงพอ 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่ก าหนด 2 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่ก าหนด 1 คะแนน = ท างานไม่ส าเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็ นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน


เฉลยกิจกรรมที่ 3 ประกอบแผนการสอนหน่วยที่ 3 เรื่อง วงจรไฟฟ้าเบ้ืองตน้ ตอนที่ 3คา สั่ง ให้นกัศึกษาเขียนเครื่องหมาย(X) ทับตัวอักษรหน้าค าตอบที่ถูกที่สุด ชื่อ: แบบฝึ กหัด 1.ข้อใดไม่ใช่องค์ประกอบของวงจรไฟฟ้า ก. แหล่งจ่ายไฟ ข. ลวดตัวน า ค. แผงวงจร ง. โหลดหรือภาระทางไฟฟ้า 2. การต่อวงจรที่ทา ให้โหลดมีค่าความตา้นทานเพิ่มข้ึนคือขอ้ใด ก. วงจรอนุกรม ข. วงจรขนาน ค. วงจรผสม ง. ไม่แน่นอน 3. การต่อวงจรที่ท าให้โหลดมีค่าความต้านทานลดลงคือข้อใด ก. วงจรอนุกรม ข. วงจรขนาน ค. วงจรผสม ง. ไม่แน่นอน 4. การวัดค่าแรงดันตกคร่อมความต้านทาน จะต้องน ามัลติมิเตอร์มากระท าในลักษณะใด ก. ต่ออนุกรมกับวงจร ข. ต่อขนานกับโหลด ค. ต่ออนุกรมกับโหลด ง. ต่อในลักษณะผสม 5. การวัดค่ากระแสที่ไหลในวงจรอนุกรมจะต้องน ามัลติมิเตอร์มากระท าในลักษณะใด ก. ต่ออนุกรมกับวงจร ข. ต่อขนานกับโหลด ค. ต่ออนุกรมกับโหลด ง. ต่อในลักษณะผสม 6.น าโหลดที่มีความต้านทาน 500 และ 1.2 K มาต่อในลกัษณะอนุกรม ในวงจรน้ีจะมีความตา้นทานรวมเท่าใด ก. 850 ข. 700 ค. 1.7 K ง. 1520 7.วงจรอนุกรมประกอบด้วย R1=5 , R2=3 อยากทราบ R3 จะต้องมีค่าเท่าใด จึงจะท าให้วงจรมีค่าความต้านทานรวมเป็ น 18 ก. 5 ข.3 ค. 8 ง. 10 8.วงจรไฟฟ้าประกอบด้วยความต้านทาน 3 ตัว R1= 6, R2= 9 และ R3= 18 นา มาต่อขนานกนัวงจรไฟฟ้าน้ีมีค่าความ ต้านทานรวมเท่าใด ก. 4.8 ข. 3 ค. 8 ง. 10 9.วงจรไฟฟ้าประกอบด้วยความต้านทาน 4 ตัว R1= 30 , R2= 20 , R3= 40 , R4=10 น ามาต่อขนานกัน วงจรไฟฟ้า น้ีมีค่าความตา้นทานรวมเท่าใด ก. 4.8 ข. 3 ค. 8 ง. 10


10. วงจรไฟฟ้าแบบผสมมีลักษณะการต่อดังรูป ให้ค านวณหาค่าความต้านทานรวม ก. 1.2K ข. 5.7K ค. 8.7K ง. 1300


บันทึกหลังการสอน หน่วยที่ 2 ความรู้เบ ื้องต้นเกยี่วกบัไฟฟ้า ผลการใช้แผนการเรียนรู้ 1. เน้ือหาสอดคลอ้งกบัจุดประสงคเ์ชิงพฤติกรรม 2. สามารถน าไปใช้ปฏิบัติการสอนได้ครบตามกระบวนการเรียนการสอน 3. สื่อการสอนเหมาะสมดี ผลการเรียนของนักเรียน 1. นักศึกษาส่วนใหญ่มีความสนใจใฝ่ รู้ เข้าใจในบทเรียน อภิปรายตอบค าถามในกลุ่ม และร่วมกัน ปฏิบัติใบงานที่ได้รับมอบหมาย 2. นักศึกษากระตือรือร้นและรับผิดชอบในการท างานกลุ่มเพื่อให้งานส าเร็จทันเวลาที่ก าหนด 3. นักศึกษา เข้าใจและรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น ในเรื่อง ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟ้า ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้รบตามหลกัสูตร 2. แผนการสอนและวิธีการสอนครอบคลุมเน้ือหาการสอนทา ใหผ้ สู้อนสอนไดอ้ยา่งมนั่ใจ 3. สอนได้ทันตามเวลาที่ก าหนด


แผนการสอน/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฏี แผนการสอน/การเรียนรู้ภาคทฤษฎี หน่วยที่ 5 ชื่อวิชา งานไฟฟ้ าและอิเลก ็ ทรอนิกส ์ เบ้ืองตน ้ สอนสัปดาห์ที่5 ชื่อหน่วย อุปกรณ ์ป้ องกนั ไฟฟ้ า คาบรวม 4 ชื่อเรื่อง. อุปกรณ ์ป้ องกนั ไฟฟ้ า จ านวนคาบ 4 หัวข้อเรื่อง ด้านความรู้ 1. ความปลอดภัยทางไฟฟ้า 2. ความส าคัญของฟิ วส์ 3. การท างานของเซอร์กิตเบรกเกอร์ 4. วิธีการต่อไฟลงดิน ด้านทักษะ 1. ติดต้งัอุปกรณ์ป้องกนั ไฟฟ้าชนิดต่าง ๆ ได้ ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1. ปฏิบัติงานโดยค านึงถึงความปลอดภัยระมัดระวัง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. มีกิจนิสัยรักในความเป็ นช่างอุตสาหกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สาระส าคัญ อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า คืออุปกรณ์ที่ช่วยกันป้องกันอันตรายที่เกิดจากไฟฟ้า ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าช็อด ไฟฟ้าดูดหรือเกิดการลดัวงจรจะทา ใหเ้กิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพยส์ินได้ดงัน้นัอุปกรณ์ป้องกนัจะช่วย ลดอนัตรายที่เกิดจากไฟฟ้าได้อุปกรณ์เหล่าน้ีไดแ้ก่ ฟิวส์เซอร์กิต เบรกเกอร์การต่อลงดิน และเครื่องป้องกนั ไฟฟ้าดูด เป็ นต้น สมรรถนะอาชีพประจ าหน่วย 1.อุปกรณ์ป้องกันและการต่อสายดิน


จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ • จุดประสงคท ์ วั่ ไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยทางไฟฟ้า ความส าคัญของฟิ วส์ การท างานของเซอร์กิตเบรก เกอร์และวิธีการต่อไฟลงดิน (ด้านความรู้ ) 2. เพื่อให้มีทักษะในการต่อไฟลงดิน (ด้านทักษะ) 3. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า (ด้านความรู้ ) 4. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อการเตรียมความพร้อมด้านการเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานอย่าง ถูกต้อง ส าเร็จภายในเวลาที่ก าหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคุณธรรม จริยธรรม) • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. อธิบายความปลอดภัยทางไฟฟ้าได้ (ด้านความรู้ ) 2. บอกความส าคัญของฟิ วส์ได้ (ด้านความรู้ ) 3. สาธิตการท างานของเซอร์กิตเบรกเกอร์ได้ (ด้านความรู้ ) 4. การเตรียมความพร้อมดา้นการเตรียม วสัดุอุปกรณ์นกัศึกษาจะตอ้งกระจายงานไดท้วั่ถึง และตรงตาม ความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง (ด้าน คุณธรรม จริยธรรม/การบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง) 5. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นักศึกษาจะต้องมีการใช้ เทคนิคที่แปลกใหม่ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่น่าสนใจน าวสัดุในทอ้งถิ่นมาประยกุตใ์ช ้ อย่างคุ้มค่าและประหยัด (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/การบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)


เน้ื อหาสาระการสอน/การเรียนรู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎี) 1.อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า 1.1ความส าคัญของฟิ วส์ 1.2ปลกั๊ฟิวส์ 1.3คาร์ตริดฟิ วส์ 1.4เบลดฟิ วส์ 2.เซอร์กิตเบรกเกอร์ อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าคืออุปกรณ์ที่คอยตัดไฟฟ้าในกรณีที่ไฟฟ้าเกิดการลัดวงจรโดยมีอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า ด้วยกันหลายชนิดดังต่อไปนี้ ฟิวส์ ฟิวส์คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจำกัดจำนวนกระแสที่ไหลในวงจร มีลักษณะเป็นตัวนำไฟฟ้า ที่ประกอบด้วยเส้น ลวดทำมาจากโลหะชนิดอ่อน บรรจุอยู่ภายในอุปกรณ์ห่อหุ้ม ซึ่งสามารถที่จะหลอมละลายและตัดวงจรได้เมื่อใช้ งานไฟฟ้ามากเกินไป ฟิวส์แต่ละรุ่น จะมีการแจ้งอัตราทนกระแสกำกับไว้อัตราทนกระแสหมายถึงปริมาณ กระแสไฟฟ้าสูงสุดที่ยอมให้ไหลผ่านฟิวส์ได้ การติดตั้งฟิวส์หรือถอดเปลี่ยนฟิวส์นั้นจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังโดยจะต้องตัดพลังงานไฟฟ้า ออกจากวงจรเสียก่อนเสมอ การถอดฟิวส์จะต้องใช้เครื่องมือสำหรับดึงฟิวส์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ และให้ดึง ฟิวส์ทางด้านไฟออกก่อนเสมอ เมื่อต้องการจะใส่ฟิวส์ให้ใส่ฟิวส์ทางด้านโหลดก่อน แล้วจึงใส่ทางด้านไฟเข้าต่อไป ฟิวส์ที่ใช้งานกันทั่วไปแบ่งได้เป็น 3 ชนิดคือ ปลั๊กฟิวส์ (Plug Fuse) คาร์ตริดฟิวส์ (Cartridae Fuse) และเบ ลดฟิวส์ (Blade Fuse) ดังนี้คือ ปลั๊กฟิวส์(Plug Fuse)


ปลั๊กฟิวส์คือฟิวส์ที่บรรจุอยู่ในกระบอกที่ทำด้วยกระเบื้อง เวลาใช้งานให้ติดตั้งบนฐานเกลียว มีแผ่นไส้ โลหะที่ออกแบบให้ละลาย เมื่อกระแสไหลในวงจรเกินค่าที่กำหนด มีหลายแบบหลายขนาด โดยทั่วไปมีอัตราทน กระแส 0-30 แอมป์ นิยมใช้ตามอาคารบ้านเรือนทั่วไป คาร์ตริดฟิวส์(Cartridae Fuse) คาร์ตริดฟิวส์จะทำงานคล้ายกับปลั๊กฟิวส์ แต่ต่างกันที่เวลาติดตั้งจะต้องติดตั้งบนขาหนีบสปริง คาร์ตริด ฟิวส์จะติดตั้งใช้งานร่วมกับเซฟตี้สวิตช์ ทนกระแสได้ตั้งแต่ 0-60 แอมป์ เบลดฟิวส์(Blade Fuse) เบลดฟิวส์ใช้หลักการหลอดละลายตัวเมื่อมีกระแสเกิน เช่นเดียวกับฟิวส์แบบอื่นแต่จะมีอัตราทนกระแส มากกว่าฟิวส์แบบอื่นคือตั้งแต่ 70-600 แอมป์ เบลดฟิวส์จะติดตั้งบนขาหนีบสปริงมีทั้งแบบใช้ได้เพียงครั้งเดียว และแบบเปลี่ยนไส้ใหม่ได้ รูปที่ 5.3 แสดงรูปร่างของคาร์ตริดฟิวส์ชนิดต่าง ๆ


เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบความร้อน เซอร์กิตเบรกเกอร์ คำถาม เบลดฟิวส์เราสามารถรู้ อันตราการทนกระแสจาก ตำแหน่งใดของฟิวส์ คำตอบ ด้านหน้าของฟิวส์ เซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breakers) คืออุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าที่สามารถเปิดวงจรในขณะที่มี ความผิดปกติเกิดขึ้น โดยที่ไม่ทำให้ตัวเองขาดหรือชำรุดเหมือนฟิวส์ ถ้าเซอร์กิตเบรกเกอร์เปิดวงจร เรา จะต้องหาสาเหตุ ว่าใช้งานกระแสไฟฟ้า มากเกินกว่าที่กำหนดหรือไม่ เกิดไฟดูด, ไฟรั่ว, ไฟช็อต, ไฟเกิน หรือไฟตก เกิดปัญหาที่จุดใด แล้วทำการแก้ไขปัญหาในกรณีดังกล่าว หลังจากนั้นให้กดปุ่มรีเซ็ตให้ วงจรไฟฟ้าทำงานใหม่ได้ การทำงานอาศัยหลักการของแผ่นโลหะ 2 ชนิดซึ่งมีสัมประสิทธิ์การขยายตัวไม่เท่ากันมาประกบยึดติดกัน เมื่อมีกระแสไหลเกิน หรือวงจรผิดปกติโลหะจะร้อน ทำให้โก่งตัวหน้าสัมผัสของเซอร์กิตเบรกเกอร์ จะเปิดวงจรไม่ ทำงาน ในช่วงที่วงจรไม่ทำงาน เราก็ควรหาสาเหตุว่าวเซอร์กิตเบรกเกอร์ ตัดเพราะอะไร แล้วทำการแก้ไขให้ เรียบร้อย และเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่งแผ่นโลหะจะเย็นตัวลง และจะกลับเข้าไปอยู่ในสภาพเดิมอีก สามารถรี เซ็ตให้กลับมาทำงานใหม่ได้ตามปกติ รูปที่ 5.4 แสดงรูปร่างของเบลดฟิวส์ชนิดต่าง ๆ รูปที่ 5.5 แสดงรูปร่างของเซอร์กิตเบรกเกอร์และสัญลักษณ์


เซอร์กิตเบรกเกอร์แบบแม่เหล็ก เซอร์กิตเบรกเกอร์ในยุคปัจจุบัน การทำงานอาศัยหลักการของแม่เหล็กไฟฟ้า แม่เหล็กไฟฟ้าจะเกิดขึ้นจากการไหลของกระแสไฟฟ้าผ่าน ขดลวด ในกรณีที่กระแสไฟฟ้า ผ่านขดลวดเกินพิกัด แม่เหล็กก็จะยิ่งมีอำนาจในการดูดแผ่นกระเดื่อง ตัดวงจรทำ ให้วงจรเปิด เมื่อแก้ไขสาเหตุของการใช้งานเกินได้แล้ว ก็ให้ทำการรีเซ็ตกระเดื่องตัดวงจร ให้อยู่ในตำแหน่ง เดิม เพื่อใช้งานต่อไป ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตได้ออกแบบเซอร์กิตเบรกเกอร์ให้ตัดไฟได้อย่างรวดเร็วและสามารถป้องกันการใช้ กระแสไฟฟ้ามากเกินกว่าที่กำหนด, ป้องกันไฟดูด, ป้องกันไฟรั่ว, ป้องกันไฟช็อต และป้องกันไฟเกินหรือไฟตกมี รูปแบบต่าง ๆให้เลือกซื้อมากมายดังรูป รูปที่ 5.6 แสดงเซอร์กิตเบรกเกอร์แบบความร้อนขณะวงจรเปิดและปิด รูปที่ 5.7 แสดงเซอร์กิตเบรกเกอร์แบบแม่เหล็กขณะวงจรปิดและเปิด ลละ


การต่อลงดิน สายดินเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของระบบความปลอดภัยทางไฟฟ้า ซึ่งจะต้องมีเมื่อติดตั้งระบบไฟฟ้าใหม่ สายดินจะช่วยป้องกันอันตราย อันเกิดจากกระแสไฟฟ้ารั่วได้ ปกติสายดินจะมี 2 ส่วนคือสายดินของระบบใช้ ป้องกันระบบไฟฟ้าทั้งหมด และสายดินของเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นส่วนที่ป้องกันอันตรายเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ สายดินของระบบมีหน้าที่ป้องกันฟ้าผ่าและไฟฟ้าแรงสูง โดยกระแสไฟฟ้าจะผ่านสายดิน ซึ่งทำด้วยตัวนำที่ดีลงสู่ ดินแทน ท่อประปาที่ฝังอยู่ใต้พื้นดินอย่างต่อเนื่องจะเป็นการต่อลงดินทางไฟฟ้าที่ดีที่สุด เนื่องจากมีพื้นที่ผิวสัมผัส กับดินมาก การที่มีผิวสัมผัสมากจะเป็นการช่วยลดความต้านทาน และทำให้กระแสไฟฟ้าส่วนที่ไม่ต้องการไหลลงสู่ พื้นดินได้ง่ายขึ้น รูปที่ 5.8 แสดงเซอร์กิตเบรกเกอร์ในยุคปัจจุบัน


กราวด์ร็อดมักใช้แท่งทองแดงที่มีความต้านทานมากกว่า 25 โอห์มต่อลงดิน ส่วนการต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าลง ดินเป็นการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าภายในบ้าน รูปที่ 16.10 เป็นการแสดงให้เห็นการไหลของกระแสไฟฟ้า เมื่อ ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ต่อลงดิน ส่วนรูปที่ 16.11 เป็นการแสดงให้เห็นว่าเมื่อบุคคลมาแตะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าจะ ปลอดภัย การต่อสายดินจะทำให้ไม่เกิดอันตรายกับบุคคล กระแสไฟฟ้าจะลงสู่ดินแทน รูปที่ 5.10 แสดงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ต่อลงดินอาจเกิดอันตรายกับตัวเรา รูปที่ 5.9 แสดงการต่อลงดินผ่านสายดิน รูปที่ 5.11 แสดงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่อลงดินจะปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้ารั่วได้


• ด้านทักษะ(ปฏิบัติ) (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 5) 1. ใบงานที่5 แบ่งนักศึกษาออกเป็ นกลุ่ม ๆ ให้แต่ละกลุ่มมีสมาชิกเท่ากันแล้วท างานกลุ่มที่ได้รับมอบหมาย 2. ใบงานที่ 5 แบบฝึ กหัด เรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า กิจกรรมการเรียนการสอนหร ื อการเรียนรู้ ข้นัตอนการสอนหรือกิจกรรมของครูข้นัตอนการเรียนรู้ หรือกิจกรรมของนกัเรียน 1. ข้ันน าเข้าสู่บทเรียน (15นาที) 1. ตรวจความพร้อมของผู้เรียนตรวจการมา เรียนการแต่งกายแนะน าตัวครูผู้สอนผู้เรียนบอกชื่อ วิชา รหัสวิชา จุดประสงค์ของรายวิชา ค าอธิบาย รายวิชา เกณฑ์การประเมินผล โดยให้นักเรียนมีส่วน ร่วม ให้ความรู้เกี่ยวกับความมีมนุษย์สัมพันธ์ 1. ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน (15นาที) 1. จัดเตรี ยมเอกสาร ฟังอาจารย์ผู้สอนแนะน า รายวิชา วิธี การให้คะแนนและวิธี การเรี ยนเรื่ อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า


2. ผูส้อนให้ผูเ้รียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 5 เรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า 2. ข้ันให้ความรู้(75นาที) 1. ผู้สอนน าเข้าสู่บทเรียนโดยอธิบายเกี่ยวกับ อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า พร้อมท้ังประกอบการฉาย แผ่นใส 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนตอบค าถามในเน้ือหาที่เรียน ในหน่วยที่ 5 แล้วให้ผู้เรียนตอบค าถาม 3. ข้ันประยุกต์ใช้(105นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนท าใบงานหน่วยที่ 5เรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า 2. ผู้ส อนให้ผู้เรี ยนแบ่ งกลุ่ม ๆ 5-7 คน ร่วมกันปฏิบัติตามใบงานที่ได้รับมอบหมาย 3. มอบหมายงานให้ผู้เรี ยนไปศึกษา เรื่ อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าเพิ่มเติม 2.ผู้เรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 5 เรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า 2. ข้ันให้ความรู้(75นาที) 1. ผู้เรี ยนศึกษ าจากสื่ อแผ่น ใส และห นังสื อ เกี่ยวกับ อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า 2. ผู้เรียนตอบค าถามในเน้ือหาที่เรียนในหน่วยที่ 5 3. ข้ันประยุกต์ใช้(105นาที ) 1. ผู้เรียนท าใบงานหน่วยที่ 5 เรื่ อง อุปกรณ์ ป้องกันไฟฟ้า 2. ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม ๆ 5-7 คน ร่วมกันปฏิบัติตาม ใบงานที่ได้รับมอบหมาย 3. ผู้เรียนศึกษา เรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า เพิ่มเติม กิจกรรมการเรียนการสอนหร ื อการเรียนรู้ ข้นัตอนการสอนหรือกิจกรรมของครูข้นัตอนการเรียนรู้ หรือกิจกรรมของนกัเรียน 4. ข้ันสรุปและประเมินผล(30นาที) 1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาที่ได้เรียน ให้มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนท าแบบประเมินการเรียนรู้ หน่วยที่ 5 3. แจกแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 5เรื่ อง 4. ข้ันสรุปและประเมินผล(30 นาที) 1.ผู้สอนและผู้เรี ยนร่ วมกันสรุปเน้ือหาที่ได้ เรียนให้มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้เรียนท าแบบประเมินการเรียนรู้หน่วยที่ 5 3. ผู้เรียนท าแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 5ด้วย


อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า 4. ผู้สอนตรวจแบบทดสอบหลังเรียนพร้อมกับ บันทึกคะแนน (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5) (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน) ความซื่อสัตย์ 4. ผู้เรียนนา คะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียนมาเปรี ยบเทียบกันว่าเป็ นอย่างไรมี ผลต่างกันอย่างไร เพื่อดูความก้าวหน้าของตนเอง (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5) งานที่มอบหมายหรือกิจกรรมการวัดผลและประเมินผล a. ก่อนเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนตามที่อาจารย์ผู้สอนและบทเรียนก าหนด 2. ทา แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า แล้วสลับกันตรวจค าตอบ 3. ท าความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของหน่วยเรียนที่ 5 และการให้ความร่วมมือในการท า กิจกรรมในหน่วยการเรียนที่ 5


b. ขณะเรียน 1. ปฏิบัติตามใบงานที่ 5 เรื่องอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า 2. ร่วมกันสรุป “อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า” 3. จัดท าสื่อประกอบการรายงาน • หลังเรียน 1. ท าแบบทดสอบหลังเรียน 2. ท าแบบประเมินการเรียนรู ค าถาม 1. การปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกกระแสไฟฟ้าดูดมีวิธีการอย่างไร 2. ผลกระทบที่มีปฏิกิริยาต่อร่างกายท าให้อ่อนเพลีย แสดงว่าปริมาณกระแสไฟฟ้ามีค่าเท่าใด 3. สาเหตุของการท าให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลเกิน มีวิธีการได้อย่างไร ผลงาน/ชิ้นงาน/ความส าเร็จของผ ู้เร ี ยน ตรวจรายงาน เรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า สมรรถนะที่พึงประสงค์ ผู้เรียนสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า 1. วิเคราะห์และตีความหมาย 2. ต้งัคา ถาม 3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง 4. การประยุกต์ความรู้สู่งานอาชีพ


สมรรถนะการสร้างค่านิยม การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมตามมาตรฐาน งานไฟฟ้าและอิเลก็ทรอนิกส์เบ้ืองตน้ สมรรถนะการปฏิบัติงานอาชีพ 1. น ามาตรฐานงานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอาเซียนมาปฏิบัติ 2. ปฏิบัติตามมาตรฐานงานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 3. ปรับใช้มาตรฐานงานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเทศในกลุ่มอาเซียน สมรรถนะการขยายผล ความสอดคล้อง มาตรฐานงานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอาเซียน ท าให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจไม่มากก็น้อย เมื่อ ผู้เรียนไปท างานท าให้นายจ้างยอมรับความสามารถหรือไม่ผเู้รียนนา รายไดท้ ี่ไดจ้ากอาชีพน้ีมาช่วยในค่าใชจ้่าย อุปกรณ์การเรียนของผู้ปกครอง ส ื่อการเร ี ยนการสอน/การเร ี ยนร ู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. หนังสือเรียนวิชางานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบ้ืองตน้ (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมข้อที่ 1-7) 2. แบบทดสอบก่อนเรียน ใชป้ระกอบการสอนข้นัเตรียม ขอ้ 2 3. ใบความรู้ที่ 5 เรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า (ใช้ประกอบการเรียนการสอนข้นัสอน เพื่อให้บรรลุ จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5) 4. ใบงานที่ 5 เรื่อง อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม


ข้อที่ 1-5) 5. แบบทดสอบหลังเรียน ใชป้ระกอบการสอนข้นัเตรียม ขอ้ 2 6. แบบแบบประเมินการเรียนรู้ ใชป้ระกอบการสอนข้นัสรุป ขอ้ 2 7. แบบเฉลยทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน และแบบประเมินการเรียนรู้ใชป้ระกอบในข้นัเตรียมและ ข้นัสรุป 8. แบบประเมินผลงานตามใบงาน ใชป้ระกอบการสอนข้นัการเรียนการสอน ขอ้ 2 9. แบบประเมินพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ใชป้ระกอบการสอนข้นัการเรียนการสอน ขอ้ 2 สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สื่อของจริง 1. กระดาษโปสเตอร์ 2. ปากกาส าหรับเขียน 3. อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-5) แหล่งการเร ี ยนร ู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร 2. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาข้อมูลทาง Internet นอกสถานศึกษา


ผปู้ระกอบการ สถานประกอบการในทอ้งถิ่น การบูรณาการ/ความสมัพนัธ ์ กบัวิชาอ ื่น 1. บูรณาการกับวิชาชีวิตและวัฒนธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขียน และการฝึ กปฏิบัติตนทาง สังคมด้านการเตรียมความพร้อม ความรับผิดชอบ และความสนใจใฝ่ รู้ 2. บูรณาการกบัวิชาการบริหารการจดัซ้ือ ดา้นการซ้ือการแสวงหาผลิตภณัฑ์ 3. บูรณาการกบัวิชากีฬาเพื่อพฒันาสุขภาพและบุคลิกภาพ ดา้นบุคลิกภาพในการนา เสนอหนา้ช้นัเรียน 4. บูรณาการกับวิชาหลักเศรษฐศาสตร์ ด้านการเลือกใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด การประเมินผลการเร ี ยนร ู้ • หลกัการประเมินผลการเร ี ยนร ู้ ก่อนเรียน. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ขณะเรียน


1. ตรวจผลงานตามใบงานที่ 5 2. สังเกตการท างานกลุ่ม หลังเรียน 1. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 2. ตรวจแบบแบบประเมินผลการเรียนรู้ ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลส าเร็จของผ ู้เร ี ยน ตรวจผลงาน ชิ้นงาน เรื่อง หน้าที่การใช้งานไฟฟ้าในลักษณะต่าง ๆ


รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 อธิบายความปลอดภัยทางไฟฟ้าได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : อธิบายความปลอดภัยทางไฟฟ้าได้ จะได้ 4 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 2 บอกความส าคัญของฟิ วส์ได้ 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมิน 3. เกณฑ์การให้คะแนน : บอกความส าคัญของฟิ วส์ได้ จะได้ 2 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 สาธิตการท างานของเซอร์กิตเบรกเกอร์ได้ 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมิน 3. เกณฑ์การให้คะแนน : สาธิตการท างานของเซอร์กิตเบรกเกอร์ได้ จะได้ 2 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 บอกวิธีการต่อลงดินได้ 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมิน 3. เกณฑ์การให้คะแนน : บอกวิธีการต่อลงดินได้ จะได้ 8 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 5 ต่อไฟลงดินได้ 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมิน 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ต่อไฟลงดินได้ จะได้ 8 คะแนน


• จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 6 เตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์สอดคล้องกับงานได้อย่างถูกต้อง 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมินกระบวนการท างานกลุ่ม 3. เกณฑ์การให้คะแนน : เตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์สอดคล้องกับงานได้อย่าง ถูกต้อง จะได้ 6 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 7 ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง และส าเร็จภายในเวลาที่ก าหนดอย่างมีเหตุ และผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมินกระบวนการท างานกลุ่ม 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง และส าเร็จภายในเวลาที่ก าหนดอย่างมีเหตุ และผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะได้ 6 คะแนน


เฉลยกิจกรรมที่ ประกอบแผนการสอนหน่วยที่ เรื่อง อุปกรณ ์ป้องกนัไฟฟ้า ตอนที่ 1 แบ่งนักศึกษาออกเป็ นกลุ่ม ๆ ให้แต่ละกลุ่มมีสมาชิกเท่ากันแล้วท าการทดลองตามข้นัตอนที่ใบ งานก าหนดในแต่ละหัวข้อ ชื่อ: 1. วาดรูปอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าพร้อมบอกหน้าที่การใช้งานในลักษณะต่าง ๆ ตัวที่ รูปร่าง หน้าที่การใช้งาน 1 เซอร์กิตเบรกเกอร์เป็นอุปกรณ์ป้องกันทางไฟฟ้าที่หน้าที่ ในการป้องกันใช้ ไฟฟ้าเกินพิกัด (overload) และ กระแสลัดวงจร (short circuit) 2 อุปกรณ์ป้องกนักระแสไฟฟ้ารั่ว: RCDs Resedual current devices อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดน้ีเป็นอุปกรณ์ที่สามารถตดั วงจรไฟฟ้าทนัทีที่มีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลออกจากวงจร การทา งานของอปุกรณ์น้ี 3 เป็ นอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากกระแสไฟฟ้าเกิน กระแสไฟฟ้าลดัวงจรและกระแสไฟฟ้ารั่วภายในตวั เดียวกัน โดยใช้หลักการท างานร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ ป้องกันกระแสไฟฟ้าเกิน 4 ตู้คอนซูมเมอร์ยูนิค : Consumer Unitเป็ นตู้ที่ใช้ ส าหรับใส่รวมอุปกรณ์ป้องกันระบบไฟฟ้าต่างๆ (เซอร์กิต เบรกเกอร์อุปกรณ์ป้องกนักระแสไฟฟ้ารั่วและอุปกรณ์ เสริมออื่นๆ) เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า 5 เซอร์กิตเบรคเกอร์ เป็ นอุปกรณ์ป้องกันกระแสเกินและ ป้องกันการลัดวงจร


แบบประเมินผลการน าเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง............................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เน้ือหาสาระครอบคลุมชดัเจน (ความรู้เกี่ยวกบัเน้ือหาความถูกตอ้ง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการน าเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลกัษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้า เสียง ซ่ึงทา ให้ผูฟ้ ังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เน้ือหาสาระครอบคลุมชดัเจนถูกตอ้ง 3 คะแนน = มีสาระส าคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระส าคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระส าคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการน าเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการน าเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นา เสนอที่น่าสนใจ นา วสัดุในทอ้งถิ่นมาประยกุตใ์ชอ้ยา่งคุม้ค่าและประหยดั 2 คะแนน = มีเทคนิคการน าเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่น่าสน ใจ แต่ขาด การประยกุตใ์ช้วสัดุในทอ้งถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการน าเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ


แบบประเมินกระบวนการทา งานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง............................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายการท างานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานไดท้วั่ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดัเตรียมสถานที่สื่อ/ อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้วั่ถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ/อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทวั่ถึงและมีสื่อ/อุปกรณ์ไม่เพียงพอ 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่ก าหนด 2 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่ก าหนด 1 คะแนน = ท างานไม่ส าเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็ นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน


แบบฝึ กหัดที่ 5 เรื่องอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า ค าส ให้เติมค าลงในช่องว่างให้สมบูรณ์ 1. ฟิวส์ที่ใชก้นัทวั่ ไปคือ ก. ปลกั๊ฟิวส์ ข. เบลดฟิ วส์ ค. คาร์ตริค ง. ถูกทุกข้อ 2.ข้อใดคือหน้าที่ของฟิ วส์ ก. จ ากัดจ านวนแรงดันในวงจร ข. ก าจัดจ านวนแรงดันในวงจร ค.จ ากัดจ านวนกระแสที่ไหลในวงจร ง. ก าจัดจ านวนกระแสที่ไหลในวงจร 3.ข้อใดคือคุณสมบัติของฟิ วส์ ก. เมื่อใช้ไฟฟ้ามากต้องไม่ตัด ข. ท าจากฉนวน ค. เป็ นตัวน าที่แข็งแรง ง. สามารถที่จะหลอมละลายได้ 4.ข้อใดคือการถอดฟิ วส์ที่ถูกต้อง ก.ถอดจากตรงกลาง ข.ถอดจากดา้นโหลดก่อน ค.ถอดจากดา้นไฟก่อน ง. ถอดด้านใดก็ได้ 5.ข้อใดคือการใส่ฟิ วส์ที่ถูกต้อง ก. ใส่จากตรงกลาง ข. ใส่จากดา้นโหลดก่อน ค. ใส่จากดา้นไฟก่อน ง. ใส่ด้านใดก็ได้ 6. ปลกั๊ฟิวส์มีอตัราทนกระแสไดก้ี่แอมป์ ก. 0-30 แอมป์ ข. 0-32 แอมป์ ค. 0-35 แอมป์ ง. 0-38 แอมป์ 7.ขอ้ใดไม่ใช่ปลกั๊ฟิวส์ที่นิยมใชต้ามอาคารบา้นเรือน ก. ปลกั๊ฟิวส์แบบมาตรฐาน ข. ปลกั๊ฟิวส์แบบเอส ค. ปลีกฟิ วส์แบบแอล ง. ปลกั๊ฟิวส์แบบขาดชา้ 8.ฟิ วส์ชนิดใดมีอัตราทนกระแสได้สูง ก. ปลกั๊ฟิวส์ ข. เบลดฟิ วส์ ค. คาร์ตริค ง. ถูกทุกข้อ


9.ข้อใดคือไม่ใช้หลักการหลอดละลายตัวเมื่อมีกระแสเกิน ก. ปลกั๊ฟิวส์ ข. เบลดฟิ วส์ ค. คาร์ตริดฟิ วส์ ง. เซอร์กิตเบรกเกอร์ 10.ข้อใดคือสัญลักษณ์ของฟิ วส์ ก. ข. ค. ง. ข้อ ก และ ค ถูกต้อง เฉลย แบบฝึกหัดที่5 ข้อที่ คำตอบ 1 ง. 2 ค. 3 ง. 4 ค. 5 ข. 6 ก. 7 ค. 8 ข. 9 ง. 10 ข. บันทึกหลังการสอน บทที่ 5 อุปกรณ ์ป้ องกนั ไฟฟ้ า


ผลการใช้แผนการสอน 1. เน้ือหาสอดคลอ้งกบัจุดประสงคเ์ชิงพฤติกรรม 2. กิจกรรมการสอนเหมาะสมกบัเน้ือหาและเวลาที่กา หนด 3. สื่อการสอนเหมาะสมดี ผลการเรียนของนักเรียน 1. นักศึกษาส่วนใหญ่มีความเข้าใจในบทเรียนร่วมกัน อภิปรายตอบค าถามในกลุ่ม และร่วมกัน ปฏิบัติใบงานที่ได้รับมอบหมาย 2. นักศึกษากระตือรือร้นและรับผิดชอบในการท างานกลุ่มเพื่อให้งานส าเร็จทันเวลาที่ก าหนด 3. นักศึกษาวัดและทดสอบทรานซิสเตอร์ได้ 4. นักศึกษาประกอบวงจรคอมมอนเดรนได้ ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้รบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวิธีการสอนครอบคลุมเน้ือหาการสอนทา ใหผ้ สู้อนสอนไดอ้ยา่งมนั่ใจ 3. สอนทันตามเวลาที่ก าหนด ปัญหาและอุปสรรค(ที่นักศึกษาพบขณะปฏิบัติ) 1. นักศึกษาแต่ละคนมีทักษะในการใช้เครื่องมือแตกต่างกัน 2. นกัศึกษาแต่ละคนมีพ้ืนฐานในเน้ือหาวิชาที่สอนแตกต่างกนั


แผนการสอน/แผนการเรียนรู้ภาคทฤษฏี แผนการสอน/การเรียนรู้ภาคทฤษฎี หน่วยที่ 6 ชื่อวิชา งานไฟฟ้ าและอิเลก ็ ทรอนิกส ์ เบ้ืองตน ้ สอนสัปดาห์ที่ 6 ชื่อหน่วย ตัวต้านทาน คาบรวม 4 ชื่อเรื่อง. ตัวต้านทาน จ านวนคาบ 4 หัวข้อเรื่อง ด้านความรู้ 1. ชนิดของตัวต้านทาน 2. ตัวต้านทานแบบค่าคงที่ 3. ตัวต้านทานชนิดคาร์บอนผสม 4. หน่วยของความต้านทาน ด้านทักษะ 5. อ่านค่าความต้านทาน ด้านคุณธรรม จริยธรรม 6. ความรับผิดชอบ 7. ความสนใจใฝ่ รู้ สาระส าคัญ ตัวต้านทาน (Resistor) เป็ นอุปกรณ์ที่ใช้ในการต้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้า นิยมน ามาประกอบ ในวงจรทางดา้นไฟฟ้าอิเลก็ทรอนิกส์ทวั่ ไป ตวัอยา่งเช่นวงจรเครื่องรับวิทย,ุโทรทศัน์, เครื่องขยายเสียง ฯลฯ เป็ นต้น ตัวต้านทานที่ต่ออยู่ในวงจรไฟฟ้า ท าหน้าที่ลดแรงดัน และจ ากัดการไหลของกระแสไฟฟ้าในวงจร ตัว ตา้นทานมีรูปแบบและขนาดแตกต่างกนัตามลกัษณะของการใชง้าน นอกจากน้ียงัแบ่งออกเป็นชนิดค่าคงที่และ ชนิดปรับค่าได้ สมรรถนะอาชีพประจา หน่วย(สิ่งที่ตอ้งการให้เกิดการประยกุตใ์ชค้วามรู้ทกัษะ คุณธรรม เขา้ดว้ยกนั ) 1. อ่านค่าความต้านทาน


จุดประสงค์การสอน/การเรียนรู้ • จุดประสงคท ์ วั่ ไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. เพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับชนิดของความต้านทาน ตัวต้านทานแบบค่าคงที่ ตัวต้านทานชนิดคาร์บอน ผสม ตัวต้านทานแบบฟิ ล์มโลหะ ตัวต้านทานแบบฟิ ล์มคาร์บอน ตัวต้านทานแบบไวร์วาวด์ และ หน่วยของความต้านทาน (ด้านความรู้ ) 2. เพื่อให้มีทักษะในการอ่านค่าความต้านทาน (ด้านทักษะ) 3. เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อการเตรียมความพร้อมด้านการเตรียม วัสดุ อุปกรณ์ และการปฏิบัติงานอย่าง ถูกต้อง ส าเร็จภายในเวลาที่ก าหนด มีเหตุและผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคุณธรรม จริยธรรม) • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. บอกรายละเอียดของตัวต้านทานแบบต่าง ๆ ได้ (ด้านความรู้) 2. ระบุหน่วยต่าง ๆ ของตัวต้านทานได้ (ด้านความรู้) 3. อธิบายวิธีการอ่านค่าความต้านทานได้ (ด้านความรู้) 4. ฝึ กอ่านค่าตัวต้านทานได้ (ด้านทักษะ) 5. ฝึ กวัดค่าตัวต้านทานได้ (ด้านทักษะ) 6. เตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์สอดคล้องกับงานได้อย่างถูกต้อง (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/ บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง) 7. ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง และส าเร็จภายใน เวลาที่ก าหนดอย่างมีเหตุและผลตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง (ด้านคุณธรรม จริยธรรม/บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง)


เน ื้อหาสาระการสอน/การเร ี ยนร ู้ • ด้านความรู้(ทฤษฎี) 1. ชนิดของตัวต้านทาน (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่1) ตัวต้านทานที่ผลิตออกมาใช้ปัจจุบันมีมากมายหลายชนิด ในกรณีที่แบ่งโดยยึดเอาค่ความต้าทาน เป็ นหลักจะแบ่งออกได้เป็ น 3 ชนิดคือ 1. ตัวต้านทานแบบค่าคงที่ 2. ตัวต้านทานแบบปรับค่าได้ 3. ตัวต้านทานแบบเปลี่ยนค่าได้ 2. ตัวต้านทานแบบค่าคงที่ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่2) ตวัตา้นทานชนิดค่าคงที่มีหลายประเภท ในหนงัสือเล่มน้ีจะขอก่าวประเภทที่มีความนิยมใชใ้น วงจรทางดา้นอิเลก็ทรอนิกส์โดยทวั่ ไป ดงัน้ี 1. ตัวต้านทานชนิดคาร์บอนผสม (Metal Film) 2. ตัวต้านทานแบบฟิ ล์มโลหะ (Metal Film) 3. ตัวต้านทานแบบฟิ ล์มคาร์บอน (Carbon Film) 4. ตัวต้านทานแบบไวร์วาวด์ (Wire Wound) 5. ตัวต้านทานแบบแผ่นฟิ ล์มหนา (Thick Film Network) 6. ตัวต้านทานแบบแผ่นฟิ ล์มบาง (Thin Film Network) 3. ตัวต้านทานชนิดคาร์บอนผสม (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่3) เป็ นตัวต้านทานที่นิยมใช้กันแพร่หลายมากม มีราคาถูก โครงสร้างท ามาจากวัสดุที่มีคุณสมบัติเป็ น ตวัตา้นทานผสมกนัระหวา่งผงคาร์บอนและผงของฉนวน อตัราของส่วนผสมของวสัดุท้งัสองชนิดน้ีจะทา ใหค้ ่า ความต้านทานมีค่ามากน้อยเปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการ • ด้านทักษะ(ปฏิบัติ) (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 4-6) 1. ใบงานที่ 6 2. แบบประเมินการเรียนรู้ บทที่ 6


• ด้านคุณธรรม/จริยธรรม/จรรยาบรรณ/บูรณาการเศรษฐกจิพอเพยีง (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่7-8) 1. การเตรียมความพร้อมดา้นการเตรียม วสัดุอุปกรณ์นกัศึกษาจะตอ้งกระจายงานไดท้วั่ถึง และตรง ตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง 2. ความมีเหตุมีผลในการปฏิบัติงาน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นักศึกษาจะต้องมีการใช้ เทคนิคที่แปลกใหม่ ใชส้ื่อและเทคโนโลยีประกอบการ นา เสนอที่น่าสนใจ นา วสัดุในทอ้งถิ่นมาประยกุตใ์ช้ อย่างคุ้มค่าและประหยัด (จะสอนเน้ือหาอะไรที่เกี่ยวกบัการเตรียมความพร้อมดา้นการเตรียม วสัดุอุปกรณ์และ การปฏิบัติงานอย่างมี เหตุและผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง )


กจิกรรมการเร ี ยนการสอนหร ื อการเร ี ยนร ู้ ข้นัตอนการสอนหรือกิจกรรมของครูข้นัตอนการเรียนรู้ หรือกิจกรรมของนกัเรียน 1. ข้ันน าเข้าสู่บทเรียน (20นาที) 1. ตรวจความพร้อมของผู้เรียนตรวจการมา เรียนการแต่งกายแนะน าตัวครูผู้สอนผู้เรียนบอกชื่อ วิชา รหัสวิชา จุดประสงค์ของรายวิชา ค าอธิบาย รายวิชา เกณฑ์การประเมินผล โดยให้นักเรียนมีส่วน ร่วม ให้ความรู้เกี่ยวกับความมีมนุษย์สัมพันธ์ 2. ผูส้อนให้ผูเ้รียนทา แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ 2 เรื่อง ตัวต้านทาน 2. ข้ันให้ความรู้(60 นาที) 1. ผู้สอนน าเข้าสู่บทเรียนโดยอธิบายเกี่ยวกับ ตัวต้านทาน พร้อมท้งัประกอบการฉายแผ่นใส 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนตอบค าถามในเน้ือหาที่เรียน ในหน่วยที่ 2 แล้วให้ผู้เรียนตอบค าถาม 3. ข้ันประยุกต์ใช้( 90 นาที ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนท ำใบงำนหน่วยที่ 2 เรื่อง ตัว ต้ำนทำน 2. ผู้ส อนให้ผู้เรี ยนแบ่ งกลุ่ม ๆ 5-7 คน ร่วมกันปฏิบัติตามใบงานที่ได้รับมอบหมาย 3. มอบหมายงานให้ผู้เรียนไปศึกษา เรื่อง การ อ่านค่าความต้านทานเพิ่มเติม 1. ขั้นน าเข้าสู่บทเรียน (20 นาที) 1. จัดเตรี ยมเอกสาร ฟังอาจารย์ผู้สอนแนะน า รายวิชา วิธีการให้คะแนนและวิธีการเรียนเรื่อง ตัว ต้านทาน 2.ผู้เรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยที่ 2 เรื่อง ตัวต้านทาน 2. ข้ันให้ความรู้(60 นาที) 1. ผู้เรียนศึกษาจากสื่อแผ่นใสและหนังสือ 2. ผู้เรียนตอบค าถามในเน้ือหาที่เรียนในหน่วยที่ 2 3. ข้ันประยุกต์ใช้(200 นาที) 1. ผู้เรียนท าใบงานหน่วยที่ 2 เรื่อง ตัวต้านทาน 2. ผู้เรียนแบ่งกลุ่ม ๆ 5-7 คน ร่วมกันปฏิบัติตาม ใบงานที่ได้รับมอบหมาย 3. ผู้เรียนศึกษา เรื่องการอ่านค่าความต้านทาน


กจิกรรมการเร ี ยนการสอนหร ื อการเร ี ยนร ู้ ข้นัตอนการสอนหรือกิจกรรมของครูข้นัตอนการเรียนรู้ หรือกิจกรรมของนกัเรียน 4. ข้ันสรุปและประเมินผล(70 นาที) 1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเน้ือหาที่ได้เรียน ให้มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนท าแบบประเมินการเรียนรู้ หน่วยที่ 2 3. แจกแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 2 เรื่อง ตัวต้านทาน 4. ผู้สอนตรวจแบบทดสอบหลังเรียนพร้อมกับ บันทึกคะแนน (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-7) (รวม 240 นาที หรือ 4 คาบเรียน) 4. ข้ันสรุปและประเมินผล(60 นาที) 1. ผู้สอนและผู้เรี ยนร่ วมกันสรุปเน้ือหาที่ได้ เรียนให้มีความเข้าใจในทิศทางเดียวกัน 2. ผู้เรียนท าแบบประเมินการเรียนรู้หน่วยที่ 2 3. ผู้เรียนท าแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 2 ด้วยความซื่อสัตย์ 4. ผู้เรียนนา คะแนนจากแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียนมาเปรี ยบเทียบกันว่าเป็ นอย่างไรมี ผลต่างกันอย่างไร เพื่อดูความก้าวหน้าของตนเอง (บรรลุจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-7)


งานที่มอบหมายหรือกิจกรรมการวัดผลและประเมินผล a. ก่อนเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนตามที่อาจารย์ผู้สอนและบทเรียนก าหนด 2. ทา แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องระบบความปลอดภัยแล้วสลับกันตรวจค าตอบ 3. ท าความเข้าใจเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนของหน่วยเรียนที่ 6 และการให้ความร่วมมือในการท า กิจกรรมในหน่วยการเรียนที่ 6 b. ขณะเรียน 1. ปฏิบัติตามใบงานที่ 2 เรื่องตัวต้านทาน 2. ร่วมกันสรุป “ตัวต้านทาน” 3. จัดท าสื่อประกอบการรายงาน • หลังเรียน 1. ท าแบบทดสอบหลังเรียน 2. ท าแบบประเมินการเรียนรู้ ผลงาน/ชิ้นงาน/ความส าเร็จของผ ู้เร ี ยน การวัดค่าความต้านทาน ค าถาม 1. การปฐมพยาบาลผู้ที่ถูกกระแสไฟฟ้าดูดมีวิธีการอย่างไร 2. ผลกระทบที่มีปฏิกิริยาต่อร่างกายท าให้อ่อนเพลีย แสดงว่าปริมาณกระแสไฟฟ้ามีค่าเท่าใด 3. สาเหตุของการท าให้เกิดกระแสไฟฟ้าไหลเกิน มีวิธีการได้อย่างไร สมรรถนะที่พึงประสงค์ ผู้เรียนสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ ระบบความปลอดภัยในงานไฟฟ้า 1. วิเคราะห์และตีความหมาย 2. ต้งัคา ถาม 3. อภิปรายแสดงความคิดเห็นระดมสมอง 4. การประยุกต์ความรู้สู่งานอาชีพ


สมรรถนะการสร้างค่านิยม การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมตามมาตรฐาน งานไฟฟ้าและอิเลก็ทรอนิกส์เบ้ืองตน้ สมรรถนะการปฏิบัติงานอาชีพ 1. น ามาตรฐานงานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอาเซียนมาปฏิบัติ 2. ปฏิบัติตามมาตรฐานงานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ 3. ปรับใช้มาตรฐานงานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประเทศในกลุ่มอาเซียน สมรรถนะการขยายผล ความสอดคล้อง มาตรฐานงานไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอาเซียน ท าให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจไม่มากก็น้อย เมื่อ ผู้เรียนไปท างานท าให้นายจ้างยอมรับความสามารถหรือไม่ผเู้รียนนา รายไดท้ ี่ไดจ้ากอาชีพน้ีมาช่วยในค่าใชจ้่าย อุปกรณ์การเรียนของผู้ปกครอง


ส ื่อการเร ี ยนการสอน/การเร ี ยนร ู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. หนังสือเรียนวิชางานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เบ้ืองตน้ (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมข้อที่ 1-7) 2. แบบทดสอบก่อนเรียน ใชป้ระกอบการสอนข้นัเตรียม ขอ้ 2 3. ใบความรู้ที่ 6 เรื่อง ตัวต้านทาน (ใช้ประกอบการเรียนการสอนข้นัสอน เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์เชิง พฤติกรรมข้อที่ 1-7) 4. ใบงานที่6 เรื่อง ตัวต้านทาน (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-8) 5. แบบทดสอบหลังเรียน ใชป้ระกอบการสอนข้นัเตรียม ขอ้ 2 6. แบบแบบประเมินการเรียนรู้ ใชป้ระกอบการสอนข้นัสรุป ขอ้ 2 7. แบบเฉลยทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน และแบบประเมินการเรียนรู้ใชป้ระกอบในข้นัเตรียมและ ข้นัสรุป 8. แบบประเมินผลงานตามใบงาน ใชป้ระกอบการสอนข้นัการเรียนการสอน ขอ้ 2 9. แบบประเมินพฤติกรรมการท างานกลุ่ม ใชป้ระกอบการสอนข้นัการเรียนการสอน ขอ้ 2 สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สื่อของจริง 1. มัลติมิเตอร์ 2. ตัวต้านทาน (ใช้ประกอบการเรียนการสอนจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อที่ 1-7)


แหล่งการเร ี ยนร ู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุดวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสาคร 2. ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ศึกษาหาข้อมูลทาง Internet นอกสถานศึกษา ผปู้ระกอบการ สถานประกอบการในทอ้งถิ่น การบูรณาการ/ความสัมพนัธ ์ กบัวชิาอ ื่น 1. บูรณาการกับวิชาชีวิตและวัฒนธรรมไทย ด้านการพูด การอ่าน การเขียน และการฝึ กปฏิบัติตนทาง สังคมด้านการเตรียมความพร้อม ความรับผิดชอบ และความสนใจใฝ่ รู้ 2. บูรณาการกบัวิชาการบริหารการจดัซ้ือ ดา้นการซ้ือการแสวงหาผลิตภณัฑ์ 3. บูรณาการกบัวิชากีฬาเพื่อพฒันาสุขภาพและบุคลิกภาพ ดา้นบุคลิกภาพในการนา เสนอหนา้ช้นัเรียน 4. บูรณาการกับวิชาหลักเศรษฐศาสตร์ ด้านการเลือกใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด


การประเมินผลการเร ี ยนร ู้ • หลกัการประเมินผลการเร ี ยนร ู้ ก่อนเรียน. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน ขณะเรียน 1. ตรวจผลงานตามใบงานที่ 2 2. สังเกตการท างานกลุ่ม หลังเรียน 1. ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน 2. ตรวจแบบแบบประเมินผลการเรียนรู้ ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลส าเร็จของผ ู้เร ี ยน ตรวจผลงาน ชิ้นงาน เรื่อง การวัดค่าความต้านทาน


รายละเอย ี ดการประเมินผลการเร ี ยนร ู้ • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 อธิบายรายละเอียดของตัวต้านทานแบบต่าง ๆ ได้ 1. วิธีการประเมิน : ทดสอบ 2. เครื่องมือ : แบบทดสอบ 3. เกณฑ์การให้คะแนน : อธิบายรายละเอียดของตัวต้านทานแบบต่าง ๆ ได้ จะได้ 4 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 2 ระบุหน่วยต่าง ๆ ของตัวต้านทานได้ 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมิน 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ระบุหน่วยต่าง ๆ ของตัวต้านทานได้ จะได้ 2 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 บอกวิธีการอ่านค่าความต้านทานได้ 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมิน 3. เกณฑ์การให้คะแนน : บอกวิธีการอ่านค่าความต้านทานได้ จะได้ 2 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 ฝึ กอ่านค่าความต้านทานได้ 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมิน 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ฝึ กอ่านค่าความต้านทานจะได้ 8 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 5 ฝึ กวัดค่าความต้านทานได้ 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมิน 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ฝึ กวัดค่าความต้านทานได้ จะได้ 8 คะแนน


• จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 6 เตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์สอดคล้องกับงานได้อย่างถูกต้อง 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมินกระบวนการท างานกลุ่ม 3. เกณฑ์การให้คะแนน : เตรียมความพร้อมด้าน วัสดุ อุปกรณ์สอดคล้องกับงานได้อย่าง ถูกต้อง จะได้ 6 คะแนน • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 7 ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง และส าเร็จภายในเวลาที่ก าหนดอย่างมีเหตุ และผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. วิธีการประเมิน : ตรวจผลงาน 2. เครื่องมือ : แบบประเมินกระบวนการท างานกลุ่ม 3. เกณฑ์การให้คะแนน : ปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง และส าเร็จภายในเวลาที่ก าหนดอย่างมีเหตุ และผลตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จะได้ 6 คะแนน


แบบประเมินผลการน าเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง............................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เน้ือหาสาระครอบคลุมชดัเจน (ความรู้เกี่ยวกบัเน้ือหาความถูกตอ้ง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการน าเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลกัษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้า เสียง ซ่ึงทา ให้ผูฟ้ ังมีความ สนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เน้ือหาสาระครอบคลุมชดัเจนถูกตอ้ง 3 คะแนน = มีสาระส าคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระส าคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระส าคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการน าเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการน าเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นา เสนอที่น่าสนใจ นา วสัดุในทอ้งถิ่นมาประยกุตใ์ชอ้ยา่งคุม้ค่าและประหยดั 2 คะแนน = มีเทคนิคการน าเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการน าเสนอที่น่าสน ใจ แต่ ขาด การประยกุตใ์ช้วสัดุในทอ้งถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการน าเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ


แบบประเมินกระบวนการทา งานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ช้นั ………………………ห้อง............................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การก าหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายการท างานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการก าหนดเป้าหมายในการท างาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานไดท้วั่ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจดัเตรียมสถานที่สื่อ/ อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง 2 คะแนน = กระจายงานไดท้วั่ถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ/อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรียมสถานที่ 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทวั่ถึงและมีสื่อ/อุปกรณ์ไม่เพียงพอ 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่ก าหนด 2 คะแนน = ท างานได้ส าเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่ก าหนด 1 คะแนน = ท างานไม่ส าเร็จตามเป้าหมาย 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็ นระยะ 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน


แบบฝึ กหัดที่ 6 เรื่องตัวต้านทาน ให้เติมคา ลงในช่องว่างให้สมบูรณ ์ 1.ข้อใดไม่ใช้สัญลักษณ์ของตัวความต้านทาน ก. ข. ค. ง. 2.ข้อใดคือหน้าที่ของตัวต้านทาน ก. ก าจัดกระแสไฟฟ้า ข. จ ากัดกระแสไฟฟ้า ค. ก าจัดแรงดันไฟฟ้า ง. จ ากัดแรงดันไฟฟ้า 3.ข้อใดคือหน่วยของความต้านทาน ก. α ข. V ค. µ ง. Ω 4.ตัวต้านทานแบบใดมีค่าผิดพลาดน้อยที่สุด ก. แบบโลหะ ข. แบบฟิ ล์มโลหะ ค. แบบคาร์บอน ง. แบบฟิ ล์มคาร์บอน 5.ปุ่ มปรับความดังเสียงคือความต้านทานแบบใด ก. แบบพิเศษ ข. แบบปรับค่าได้ ค. แบบเปลี่ยนค่าได้ ง. แบบเน็ทเวอร์ค 6.ถ้าต้องการความต้านทาน 10 โอห์ม 20 วัตต์ ต้องเลือกความต้านทานชนิดใด ก. แบบโลหะ ข. แบบฟิ ล์มหนา ค. แบบไวร์วาวด์ ง. แบบคาร์บอน 7.ข้อใดคือเครื่องมือที่ใช้วัดค่าความต้านทาน ก. โวลท์มิเตอร์ ข. แอมป์ มิเตอร์ ค. โอห์มมิเตอร์ ง. วัตต์มิเตอร์ 8.โพเทนชิโอมิเตอร์คืออะไร ก. ตัวความต้านทานแบบเปลี่ยนค่าได้ ข. ตัวความต้านทานแบบปรับค่าได้ ค. ตัวต้านทานแบบค่าคงที่ ง. มิเตอร์ชนิดหนึ่ง 9.ตัวความต้านทานมีรหัสแถบสี เขียว ด า ด า ทอง แสดงถึงค่าเท่าไร ก. 50 โอห์ม ± 5 % ข. 500 โอห์ม ± 5 % ค. 50 โอห์ม ± 10 % ง. 500 โอห์ม ± 10 % 10.ความต้านทานเปลี่ยนค่าได้ชนิดใดมีลักษณะการเปลี่ยนค่าแบบลิเนีย ก. A ข. B ค. C ง. D


เฉลย แบบฝึกหัดที่6 เฉลย แบบฝึกห ข้อที่ คำตอบ 1 ข. 2 ข. 3 ง. 4 ข. 5 ค. 6 ค. 7 ค. 8 ก. 9 ก. 10 ข. บันทึกหลังการสอน


บทที่ 6 ตัวต้านทาน ผลการใช้แผนการสอน 1. เน้ือหาสอดคลอ้งกบัจุดประสงคเ์ชิงพฤติกรรม 2. กิจกรรมการสอนเหมาะสมกบัเน้ือหาและเวลาที่กา หนด 3. สื่อการสอนเหมาะสมดี ผลการเรียนของนักเรียน 1. นักศึกษาส่วนใหญ่มีความเข้าใจในบทเรียนร่วมกัน อภิปรายตอบค าถามในกลุ่ม และร่วมกัน ปฏิบัติใบงานที่ได้รับมอบหมาย 2. นักศึกษากระตือรือร้นและรับผิดชอบในการท างานกลุ่มเพื่อให้งานส าเร็จทันเวลาที่ก าหนด 3. นักศึกษาวัดและทดสอบทรานซิสเตอร์ได้ 4. นักศึกษาประกอบวงจรคอมมอนเดรนได้ ผลการสอนของครู 1. สอนเน้ือหาไดค้รบตามหลักสูตร 2. แผนการสอนและวิธีการสอนครอบคลุมเน้ือหาการสอนทา ใหผ้ สู้อนสอนไดอ้ยา่งมนั่ใจ 3. สอนทันตามเวลาที่ก าหนด


Click to View FlipBook Version