The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือรางวัลการวิจัยแห่งชาติ 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Fabeer Thanakorn, 2022-10-18 07:40:11

หนังสือรางวัลการวิจัยแห่งชาติ2565

หนังสือรางวัลการวิจัยแห่งชาติ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

ศาสตราจารย์ ดร.รธุ ริ ์ พนมยงค์

1. ประวัติสว่ นตัว 3. ประวตั กิ ารทำ�งาน
ชอื่ : นายรธุ ริ ์ พนมยงค์ ตำ�แหน่งในปัจจุบัน
ตำ�แหนง่ ทางวชิ าการ : ศาสตราจารย์ • ศาสตราจารย์ สาขาวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ
วนั เดือน ปเี กดิ : 20 กนั ยายน 2510 • คณบดีคณะพาณชิ ยศาสตร์และการบัญชี
อาชพี : รบั ราชการ ตำ�แหน่งในอดีต
หนว่ ยงานทส่ี งั กดั : คณะพาณชิ ยศาสตรแ์ ละการบญั ชี • ศาสตราจารย์ สาขาวิชาบรหิ ารธรุ กิจ
สถานทตี่ ิดตอ่ : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ • คณบดีคณะพาณิชยศาสตรแ์ ละการบญั ชี
โทรศพั ท์ (ท่ีทำ�งาน) : 0 2696 5723 รองประธานกรรมการมูลนธิ ิปรดี ี พนมยงค ์
โทรศพั ท์ (มือถือ) : - • ศาสตราจารย์ สาขาวชิ าบริหารธรุ กิจ
โทรสาร : 0 2696 5704 • คณบดคี ณะพาณชิ ยศาสตรแ์ ละการบญั ชีอดีตประธาน
E-Mail : [email protected] เครอื ขา่ ยการจัดการหว่ งโซค่ ณุ คา่ และโลจิสตกิ ส์ไทย
(Thai Value Chain Management & Logistics Network)
2. ประวตั กิ ารศกึ ษา
ปี พ.ศ. ทจ่ี บ วฒุ กิ ารศกึ ษา/สถานศกึ ษา/ประเทศ 4. เคร่อื งราชอิสรยิ าภรณ์
พ.ศ. 2528 Baccalaureat (Economics), ปี พ.ศ. เครื่องราชอิสริยาภรณ์
Lycee Michelet, France พ.ศ. 2541 ตริตาภรณม์ งกฎุ ไทย (ต.ม.)
พ.ศ. 2534 Maitrise en Droit des Affaires พ.ศ. 2544 ตรติ าภรณ์ช้างเผอื ก (ต.ช.)
Internationales (L.L.M. พ.ศ. 2548 ทวีตยิ าภรณ์มงกุฎไทย (ท.ม.)
International Business Law), พ.ศ. 2552 ทวีตยิ าภรณ์ชา้ งเผือก (ท.ช.)
Universite de Paris I, Pantheon- พ.ศ. 2555 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)
Sorbonne, France พ.ศ. 2558 ประถมาภรณช์ ้างเผือก (ป.ช.)
พ.ศ. 2544 Doctor of Philosophy (Ph.D.) พ.ศ. 2563 เหรยี ญจกั รพรรดมิ าลา (ร.จ.พ.)
International Logistics, Cardiff
Business School, Cardiff University, 5. ผลงานวิจยั โดยสรุป
Wales, United Kingdom พัฒนาเครื่องมือท่ีใช้ส�ำหรับการวิเคราะห์หลาย
เคร่ืองมือ โดยในระหว่างที่ก�ำลังศึกษาระดับปริญญาเอก
ไดพ้ ฒั นาแบบจำ� ลองตน้ ทนุ การขนสง่ ตอ่ เนอื่ งหลายรปู แบบ
กบั อาจารยท์ ่ีปรกึ ษา ซง่ึ ต่อมาได้ถกู นำ� มาใช้เป็นแบบจ�ำลอง
อา้ งองิ สำ� หรบั การตดิ ตามการขนสง่ ระหวา่ งระเบยี งเศรษฐกจิ
ต่าง ๆ และประเมินศักยภาพของระเบียงเศรษฐกิจให้แก่
คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติ
ส�ำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) การประชุม
สหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD)
ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ธนาคารโลก (World Bank)
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN)
กลุม่ ประเทศในอนุภาคลุ่มแม่น�ำ้ โขง (GMS) ญป่ี ่นุ นามเิ บีย
และประเทศท่ีไม่มีทางออกทางทะเลหลายประเทศท่ัวโลก

50 รางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวลั นกั วิจยั ดเี ด่นแหง่ ชาติ ประจำ�ปงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

โครงสรา้ งพน้ื ฐานและมติ กิ ารอำ� นวยความสะดวกทางการคา้
โดยการพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งในแง่บวก
และลบในระดับจงั หวดั ประเทศหรอื ภูมภิ าค

อาทิ มองโกเลยี ภฏู าน และ สปป.ลาว เปน็ ตน้ สง่ ผลใหม้ ี 6. ผลงานวจิ ยั ทก่ี ำ�ลงั อยใู่ นระหวา่ งดำ�เนนิ การ
ความเข้าใจในบริบท ลักษณะทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม พัฒนาวิธีการค�ำนวณต้นทุนโลจิสติกส์ต่อจีดีพี เป็น
รวมถึงข้อจ�ำกัดของแต่ละพื้นที่ โดยได้น�ำข้อมูลและ
ประสบการณต์ ่าง ๆ ที่ไดร้ ับมาสะท้อนผ่านงานศกึ ษาวิจยั ที่ ครงั้ แรกสำ� หรบั ประเทศไทย ใหก้ บั สำ� นกั งานสภาพฒั นาการ
ได้ด�ำเนินการไปท้งั หมด เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และเป็นหัวหน้าทีม
วิจัยในการปรับปรุงและพัฒนาแบบจ�ำลองต้นทุนโลจิสติกส์
น อ ก จ า ก ก า ร พั ฒ น า ตั ว แ บ บ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ของประเทศไทยฉบับล่าสุดนี้ (ครั้งที่ 3) ให้แก่ สศช.
ประสิทธิภาพระดับมหภาคแล้ว ยังได้พัฒนาตัวแบบ อีกครั้ง เพื่อให้การค�ำนวณต้นทุนโลจิสติกส์ต่อจีดีพีมีความ
การประเมินประสิทธิภาพระดับองค์กรและอุตสาหกรรม ถูกต้อง ทันสมัย และสะท้อนการพัฒนาระบบโลจิสติกส์
(จลุ ภาค) ข้ึนมาดว้ ยเช่นกนั โดยได้ทำ� การศกึ ษาวิจยั ร่วมกบั ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องกับ
ทีมนักวิจัยภายใต้การดูแลและพัฒนาเคร่ืองมือการประเมิน บรบิ ทการเปลยี่ นแปลงของสภาวะการพฒั นาทมี่ ผี ลกระทบ
ประสิทธิภาพโซ่อุปทาน ช่ือว่า SCPAT (Supply Chain กับสมมติฐานการค�ำนวณหรือตัวแปรท่ีใช้ในการค�ำนวณ
Performance Assessment Tool) สำ� หรบั ใชใ้ นการตดิ ตาม ซงึ่ สศช. ไดน้ ำ� ตวั แบบการคำ� นวณใหมน่ ไี้ ปใชส้ ำ� หรบั คำ� นวณ
ประสทิ ธฺ ภิ าพการดำ� เนนิ งานในระบบโซอ่ ปุ ทาน ซง่ึ เครอ่ื งมอื นี้ ต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศไทยและตีพิมพ์ในรายงาน
ไดถ้ กู นำ� ไปใชโ้ ดยกรมอตุ สาหกรรมพน้ื ฐานและการเหมอื งแร่ ต้นทุนโลจิสติกส์ต่อจีดีพีประจ�ำปีอีกด้วย เพื่อให้เป็น
กระทรวงอุตสาหกรรม และส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประโยชน์ต่อผู้ก�ำหนดนโยบายของประเทศและสนับสนุน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำ� หรบั ใชป้ ระเมนิ ประสทิ ธภิ าพ ทางดา้ นวชิ าการ
ระบบโซ่อุปทานของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและ
ภาคเกษตรกรรมในประเทศไทย 7. ผลงานวจิ ัยในอนาคต
มงุ่ มนั่ ทจ่ี ะทำ� งานวจิ ยั ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การอำ� นวยความ
ไ ม ่ เ พี ย ง แ ต ่ ก า ร พั ฒ น า ตั ว แ บ บ ก า ร ป ร ะ เ มิ น สะดวกทางการค้า การพัฒนานโยบายด้านโลจิสติกส์ระดับ
ประสทิ ธภิ าพโลจสิ ตกิ สแ์ ละโซอ่ ปุ ทานสำ� หรบั ผปู้ ระกอบการ ประเทศ การประเมินประสิทธิภาพโซ่อุปทาน และการจัด
ธุรกิจเท่าน้ัน ยังได้ท�ำการพัฒนาเครื่องมือให้แก่องค์กรที่ไม่ การโลจิสติกส์เพ่ือมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้
แสวงหาก�ำไร ท่ีเป็นเคร่ืองมือส�ำหรับใช้ประเมินความ ก�ำลังขยายขอบเขตการศึกษาวิจัยให้มีความครอบคลุม
สามารถดา้ นโลจสิ ตกิ สข์ ององคก์ รดา้ นมนษุ ยธรรมโดยเฉพาะ ในบริบทเรื่องของความร่วมมือของภาครัฐในการพัฒนา
ทม่ี ีชอ่ื เรยี กว่า HUMSCAT (Humanitarian Supply Chain โครงสรา้ งพน้ื ฐานด้านโลจสิ ติกส์ ปญั หาการจัดหาเงนิ ทุนใน
Assessment Tool) โดยเคร่ืองมือนี้สามารถใช้ประเมิน โซอ่ ปุ ทานโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การชำ� ระเงนิ ขา้ มพรมแดนเปน็
ความสามารถขององคก์ รไดท้ งั้ ในระยะเตรยี มพรอ้ มรบั มอื กบั พเิ ศษ รวมถงึ การพฒั นาระบบโลจสิ ตกิ สแ์ ละโซอ่ ปุ ทานอยา่ ง
ภยั พบิ ตั ิ ระยะตอบสนองภยั พบิ ตั เิ ฉพาะหนา้ และระยะฟน้ื ฟู ยงั่ ยนื กเ็ ปน็ อกี หนง่ึ หวั ขอ้ ทมี่ คี วามสนใจเปน็ พเิ ศษสำ� หรบั การ
จากภัยพบิ ัตทิ ีเ่ กดิ ขนึ้ ศกึ ษาวจิ ัยในอนาคตอนั ใกล้น้ี

หัวหน้าทีมวิจัยภายใต้ทุนสนับสนุนของส�ำนักงาน 8. ผลงานวจิ ัยเด่น
กองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เพื่อประเมินผลกระทบ น�ำเสนอกรอบแนวคิดและพัฒนาเป็นตัวแบบอ้างอิง
ของ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ทมี่ ตี ่อประเทศไทย ส�ำหรบั การจดั การโลจิสติกสร์ ะดับประเทศที่ใช้การประเมนิ
(โครงการต่อเนื่องระยะเวลา 3 ปี) ซ่ึงได้มีการพัฒนาแบบ ประสิทธิภาพใน 4 มิติ ซึ่งได้ถูกน�ำมาใช้โดยสมาคม
จ�ำลองผ่านการใช้แบบจ�ำลองทางภูมิศาสตร์ที่สามารถ ประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และธนาคารพัฒนา
แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ผลกระทบของนโยบายดา้ นโลจสิ ตกิ ส์ ทงั้ มติ ิ เอเชยี สำ� หรบั การประเมนิ ความสามารถดา้ นโลจสิ ตกิ สร์ ะดบั
ประเทศและภูมภิ าคในกลมุ่ ประเทศในอนภุ าคล่มุ แมน่ ้�ำโขง

รางวลั การวจิ ยั แห่งชาติ : รางวลั นกั วจิ ัยดเี ดน่ แห่งชาติ ประจำ�ปงี บประมาณ 2565 51

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

10. ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายทเ่ี สนอแนะ
ใหแ้ กร่ ฐั บาล/กระทรวงตา่ ง ๆ และภาคเอกชน
เพอื่ นำ�ไปใชว้ างนโยบายพฒั นา หรอื แกป้ ญั หา

ในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ในทุก
ระดับ ต้องมีการน�ำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ใน
การพัฒนาและก�ำหนดนโยบาย

9. การนำ�ผลงานวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นมติ ติ า่ ง ๆ
 เชงิ ชุมชน/สังคม
งานวิจัยส่งผลกระทบต่อวิถีของชุมชนทั้งในระดับ

ครอบครวั องค์กรธุรกจิ รวมถึงรฐั บาล เนอ่ื งจากมกี ารนำ� ไป
ปฏิบัติในระดบั ความรว่ มมือระหว่างประเทศ

 เชิงพาณชิ ย์
องคก์ รธรุ กจิ ตา่ ง ๆ มกี ารรบั รขู้ ดี ความสามารถในการ
แข่งขันของตนเอง และรับรู้ถึงประสิทธิภาพของผู้ประกอบ
การในอุตสาหกรรม
 เชงิ วชิ าการ
นวัตกรรมท่ีได้จากการวิจัยน้ีสามารถน�ำมาประยุกต์
ใช้ในการประเมิน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้ประโยชน์จาก
องค์ความร้ทู ่เี กิดขน้ึ
 เชงิ พืน้ ที่
จะเห็นได้ว่าปัจจุบันส�ำหรับหลายองค์กร เช่น
ธนาคารโลก ธนาคารเพอื่ การพฒั นาเอเชีย OECD อาเซยี น
และหลายประเทศในภูมิภาค ได้มีการน�ำผลงานวิจัยไป
ประยุกต์ใช้และเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้
ผู้วิจัยเป็นบุคลากรหลักในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์และ
โซ่อุปทานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ยอมรับ
ของสื่อมวลชนในตา่ งประเทศ อาทิ The Financial Times,
BBC และ CNN ที่ขอให้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหา
โลจสิ ตกิ สแ์ ละโซอ่ ปุ ทานในภมู ภิ าคน้ี แตย่ งั รวมถงึ ในภมู ภิ าค
ยุโรปดว้ ยเช่นกัน

52 รางวัลการวจิ ยั แห่งชาติ : รางวลั นกั วจิ ยั ดเี ดน่ แห่งชาติ ประจำ�ปงี บประมาณ 2565

เกียรติคณุ ประกาศ สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

รองศาสตราจารย์ ดร.วธนน์ วริ ยิ สทิ ธาวฒั น์ รางวัลการวิจยั แหง่ ชาติ : รางวลั นกั วิจยั ดเี ดน่ แหง่ ชาติ
ประจำ�ปงี บประมาณ 2565
นกั วิจยั ดีเดน่ แห่งชาติ
สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนเิ ทศศาสตร์

สำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ(วช.)ไดพ้ จิ ารณาเหน็ วา่ “รองศาสตราจารย์ดร.วธนน์ วริ ยิ สทิ ธาวฒั น”์
แหง่ ภาควชิ าสถติ ิ คณะพาณชิ ยศาสตรแ์ ละการบญั ชี จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั เปน็ นกั วจิ ยั คณุ ภาพ
และโดดเดน่ ด้านการวจิ ัย งานวจิ ยั ไดร้ บั การ Review ในวารสารช้นั นำ� ท่ีมี Impact Factor สงู อยา่ ง
ต่อเนอ่ื งไมต่ ่�ำกวา่ 10 เร่อื งต่อปี อทุ ศิ ตนให้เกดิ ประโยชนต์ ่อวงการวจิ ัย อีกท้งั ยงั มผี ลงานวจิ ัยท่ีแสดง
ใหเ้ หน็ ถึงพฒั นาการอย่างมขี นั้ ตอน ทำ� วจิ ยั อย่างต่อเนือ่ งตง้ั แตป่ ี 2014 และยงั ไดร้ ับการแตง่ ตั้งเป็น
Editorial Advisory Member ของ Journal of Industrial Information Integration ในปี
พ.ศ. 2560 และได้รบั การคัดเลือกให้เป็น IEEE Senior Member ในปี พ.ศ. 2562 อีกดว้ ย


วช. จงึ มมี ตใิ หป้ ระกาศเกยี รตคิ ณุ รองศาสตราจารย์ ดร.วธนน์ วริ ยิ สทิ ธาวฒั น์ เปน็ นกั วจิ ยั
ดเี ดน่ แห่งชาติ ประจำ� ปีงบประมาณ 2565 สาขาเทคโนโลยสี ารสนเทศและนิเทศศาสตร์

รางวลั การวจิ ยั แห่งชาติ : รางวลั นกั วิจัยดเี ดน่ แห่งชาติ ประจำ�ปงี บประมาณ 2565 53

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

รองศาสตราจารย์ ดร.วธนน์ วิริยสิทธาวัฒน์

1. ประวตั ิสว่ นตัว 3. ประวตั กิ ารทำ�งาน
ชื่อ : นายวธนน์ วริ ยิ สทิ ธาวฒั น์ ตำ�แหนง่ ในปัจจุบนั
ตำ�แหน่งทางวชิ าการ : รองศาสตราจารย์ • รองศาสตราจารย์ พ.ศ. 2561
วัน เดอื น ปเี กิด : 26 ตลุ าคม พ.ศ. 2524 • รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะพาณิชยศาสตร์
อาชพี : อาจารยป์ ระจำ� และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
หนว่ ยงานทส่ี งั กดั : ภาควชิ าสถติ ิ คณะพาณชิ ยศาสตร์ • ประธานหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบณั ฑิต
และการบญั ชี จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั สาขาการพฒั นาซอฟตแ์ วรด์ า้ นธุรกิจ
สถานที่ติดตอ่ : ภาควชิ าสถติ ิ คณะพาณชิ ยศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
และการบญั ชี จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั
โทรศพั ท์ (ทที่ ำ�งาน) : 0 2218 5650 ตำ�แหนง่ ในอดตี
โทรศัพท์ (มือถอื ) : 08 9720 2900 • ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ พ.ศ. 2559
โทรสาร : - • รองประธานหลกั สูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต
E-Mail : [email protected] สาขาการพัฒนาซอฟต์แวรด์ า้ นธุรกจิ
คณะพาณิชยศาสตรแ์ ละการบญั ชี
2. ประวตั กิ ารศกึ ษา จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั
ปี พ.ศ. ทจ่ี บ วฒุ กิ ารศกึ ษา/สถานศกึ ษา/ประเทศ
พ.ศ. 2547 วศิ วกรรมศาสตรบณั ฑิต/ 4. เครื่องราชอิสริยาภรณ์
คณะวศิ วกรรมศาสตร/์
จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย -
พ.ศ. 2549 Master of Science in Electrical 5. ผลงานวิจัยโดยสรุป
and Computer Engineering/ ในโลกยุคดิจิทัลท่ีเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทส�ำคัญ
Carnegie Mellon University/ ท�ำให้การด�ำเนินงานต่าง ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าง
สหรัฐอเมรกิ า รวดเร็ว สร้างความท้าทายให้กับองค์กรหรือธุรกิจ ในการ
พ.ศ. 2556 Doctor of Philosophy in พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการธุรกิจ เพ่ือรักษาความ
Computer Science/University สามารถในการแข่งขัน และเพือ่ สง่ เสรมิ วิสยั ทัศน์ Thailand
of Oxford/สหราชอาณาจกั ร 4.0 ตามนโยบายของรฐั บาล การนำ� เทคโนโลยมี าประยุกต์
ใช้จงึ เป็นสงิ่ ทหี่ ลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ เพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั เป้าหมาย
ดงั กล่าว งานวิจยั ทไ่ี ด้จัดทำ� ขนึ้ เป็นการศึกษาและประยกุ ต์
ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้แก่ บล็อกเชน (Blockchain)
และ อนิ เทอร์เนต็ ของสรรพส่งิ (Internet-of-Things หรือ
IoT) ในมิตติ า่ ง ๆ เพอ่ื สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ใหเ้ กดิ
ข้ึนในบริบทของกระบวนการธุรกิจ โดยเป้าหมายหลักคือ
ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการธุรกิจให้เป็นแบบอัตโนมัติ
มีประสิทธิภาพ สามารถปรับตัวได้รวดเร็วและทันต่อความ
ต้องการท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังคง
ความน่าเชอื่ ถอื (Trust) มคี ณุ ภาพการใหบ้ ริการ (Quality

54 รางวลั การวิจยั แหง่ ชาติ : รางวลั นกั วจิ ัยดีเด่นแหง่ ชาติ ประจำ�ปีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

of Service) ทดี่ ีขน้ึ และมคี วามมั่นคงปลอดภัย (Security) 7. ผลงานวิจยั ในอนาคต
โดยงานวจิ ยั ทงั้ หมดมีเปา้ ประสงคส์ �ำคัญ เพอื่ การสนบั สนนุ การจัดสร้างสภาวะและประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี
การขับเคล่ือนประเทศเพ่ือเข้าสู่ Thailand 4.0 และเพ่ือ บล็อกเชน เพ่ือสร้างนวัตกรรมให้กับกระบวนการธุรกิจนั้น
ให้ก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ในแต่ละภาคส่วนของธุรกิจและ จะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนเปลงรูปแบบและการท�ำงาน
อุตสาหกรรม ท้ังนี้เพ่ือสร้างสรรค์นวัตกรรมให้เป็นรูปธรรม ของกระบวนการธรุ กจิ ในปจั จบุ นั ขององคก์ รอยา่ งเปน็ ระบบ
และสามารถใช้งานไดจ้ ริงในปจั จบุ นั และในอนาคต โดยประโยชน์หลักของเทคโนโลยีบล็อกเชน คือกลไกการ
ทำ� งานทกุ ข้นั ตอนมคี วามปลอดภยั สูงมาก เน่ืองจากผมู้ สี ว่ น
ร่วมมีส่วนยืนยันความถูกต้องของข้อมูลและกระบวนการ
ทั้งหมด ท�ำให้การจัดเก็บข้อมูลและการด�ำเนินการมีความ
ปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยมมี าก่อน อยา่ งไรก็ตามการประยกุ ต์
ใชบ้ ลอ็ กเชนกบั กระบวนการธรุ กจิ ไมส่ ามารถทำ� ไดโ้ ดยงา่ ยใน
บริบทการท�ำงานจริง จากปัจจัยหลาย ๆ ประการ เช่น
การใช้สาธารณูปโภค (Infrastructure) ที่แตกต่างกัน
การลงทนุ ทส่ี งู ทง้ั ทางดา้ นบคุ ลากรและสนิ ทรพั ย์ การทำ� งาน
ร่วมกับองค์กรอ่ืน ๆ จึงเป็นส่ิงจ�ำเป็นท่ีจะต้องมีการศึกษา
วจิ ยั การประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยดี งั กลา่ วให้มีประสิทธิภาพ

6. ผลงานวจิ ยั ทก่ี ำ�ลงั อยใู่ นระหวา่ งดำ�เนนิ การ 8. ผลงานวิจยั เด่น
ในปจั จบุ นั เทคโนโลยบี ลอ็ กเชนถกู นำ� มาใชป้ ระโยชน์ การขับเคลอ่ื นประเทศเพ่ือเข้าสู่ Thailand 4.0 และ
เป็นเศรษฐกิจดิจิทัลนั้น เทคโนโลยีถือเป็นกลไกท่ีส�ำคัญ
ในมติ ติ า่ ง ๆ และเปน็ สว่ นสำ� คญั ทเี่ สรมิ ขอ้ ดอ้ ยของเทคโนโลยี ในการเปล่ียนผ่าน และสามารถสร้างมูลค่าทางสังคมและ
IoT ที่ประสบปัญหาเร่ืองคุณภาพของการให้บริการและ เศรษฐกิจในระดับสูง เพ่ือท�ำให้แนวคิดดังกล่าวประสบ
ความปลอดภัย เพื่อสร้างแนวทางการท�ำงานร่วมกันของ ความส�ำเร็จ จะต้องมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพ่ือ
เทคโนโลยีดังกล่าว งานวิจัยที่ก�ำลังด�ำเนินการน้ัน ท�ำการ ขบั เคลอื่ น Digital Transformation ของกระบวนการธรุ กจิ
ศึกษา พัฒนา และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทั้งสอง โดย ใหค้ รอบคลมุ ในทกุ ภาคสว่ น การจดั สรา้ งแนวทางการใชง้ าน
ครอบคลมุ รายละเอยี ดตงั้ แตร่ ะดบั เทคนคิ จนถงึ การบรหิ าร บล็อกเชนและ IoT เพ่ือสร้างนวัตกรรมให้กับกระบวนการ
จัดการในภาพรวม น�ำไปสู่การพัฒนาผลลัพธ์ที่สามารถ ธุรกิจ จะเพิ่มความน่าเช่ือถือและความปลอดภัย อีกท้ัง
ใช้งานได้ โดยงานวิจัยได้น�ำเสนอสถาปัตยกรรม และการ การใช้ Smart Contracts จะสร้างสภาวะการด�ำเนินงาน
พัฒนา (Implementation) และมีการประเมินผลหลาก ในกระบวนการธุรกิจเป็นไปแบบอัตโนมัติและยังคงความ
หลายรูปแบบ เพื่อแสดงประสิทธิภาพและศักยภาพของ น่าเชื่อถือ ซ่ึงจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล ต่อการ
สถาปตั ยกรรมและผลลพั ธท์ ไ่ี ดส้ รา้ งขนึ้ ซง่ึ จะชว่ ยผลกั ดนั ใน เปลี่ยนแปลงปรับปรุงกระบวนการธุรกิจให้สอดคล้อง
การนำ� มาประยกุ ตใ์ ชง้ านทงั้ กบั ภาครฐั และเอกชน เพอ่ื แกไ้ ข กับความต้องการท่ีเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วในสังคม
ความปลอดภยั ทจี่ ะเกดิ ขน้ึ และเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการทำ� งาน และเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ในแตล่ ะภาคส่วนในโลกยุคดจิ ิทลั

รางวลั การวจิ ยั แห่งชาติ : รางวัลนักวิจัยดีเดน่ แหง่ ชาติ ประจำ�ปีงบประมาณ 2565 55

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

หรือการใช้กฎหมายพิเศษ เช่น ด้านการเงิน โดยเฉพาะ
การช�ำระสินค้าและบริการผ่านระบบดิจิทัลหรือใช้
สกุลเงินดิจิทัล มาตรการทางด้านภาษีในอุตสาหกรรม
และการด�ำรงชีวิต โดยในบริบทของงานวิจัย จะต้องมี
การรวบรวมประยุกต์ใช้ความรู้ต่าง ๆ จากงานวิจัย
ท้ังด้านวิชาการและสังคม เพื่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน
ท่ีจ�ำเป็นและอ�ำนวยความสะดวกให้กับผู้มีส่วนร่วม
ในโครงการ ทั้งนี้ ควรมีการส่งเสริมมาตรการและ
การประสานงานควบคูก่ นั เพ่ือให้เกดิ ประสทิ ธภิ าพสูงสดุ

9. การนำ�ผลงานวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นมติ ติ า่ ง ๆ
 เชิงวิชาการ
ทั้งแนวคิดในเรื่อง เมืองอัจฉริยะ (Smart City)

อุตสาหกรรมอัจฉริยะ (Smart Industries) โครงสร้าง
สาธารณูปโภคอัจฉริยะ (Smart Utilities) และการด�ำรง
ชีวิตอัจฉริยะ (Smart Life) เพื่อสร้างมูลค่าทางสังคมและ
เศรษฐกิจในระดับสูง โดยท้ังหมดน้ีต้องอาศัยเทคโนโลยี
บล็อกเชนและ IoT ซ่ึงเป็นปัจจัยส�ำคัญในการขับเคล่ือน
แนวคิดดังกล่าวให้เป็นรูปธรรมการพัฒนาอย่างรวดเร็วของ
เทคโนโลยี IoT ท�ำให้เกิดการเชื่อมโยงอุปกรณ์หรือส่ิงของ
ตา่ ง ๆ เขา้ กบั อินเทอร์เน็ต โดยจะเป็นโครงสรา้ งพนื้ ฐานให้
เกิดการบูรณาการข้อมูลเพื่อน�ำมาวิเคราะห์และใช้ให้เกิด
ประโยชน์ ซึ่งการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายในรูปแบบของ
บล็อกเชน จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน อีกท้ัง
ยังเป็นกลไกทางด้านการเงินที่ส�ำคัญท่ีท�ำให้เกิดเศรษฐกิจ
ดจิ ทิ ลั สามารถตอบสนองความตอ้ งการในทกุ ระดับไดอ้ ยา่ ง
มีประสทิ ธภิ าพ

10. ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายทเ่ี สนอแนะ
ใหแ้ กร่ ฐั บาล/กระทรวงตา่ ง ๆ และภาคเอกชน
เพอื่ นำ�ไปใชว้ างนโยบายพฒั นา หรอื แกป้ ญั หา

เพ่ือให้สอดคล้องการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซ่ึง
ประกอบด้วยความร่วมมือของ 3 กระทรวงหลัก คือ
กระทรวงพลงั งาน กระทรวงคมนาคม และกระทรวงดจิ ิทัล
เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในการจัดท�ำแผนแม่บท โดย
เทคโนโลยีเป็น 1 ใน 5 เสาหลักส�ำคัญในการขับเคลื่อน
การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การท�ำให้แนวคิดดังกล่าวเป็น
รปู ธรรมจะตอ้ งใชก้ ลไกจากภาครฐั ผลกั ดนั ใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธ์ิ
โดยภาครฐั ควรสนบั สนนุ การพฒั นาเมอื งตน้ แบบในมติ ติ า่ ง ๆ

56 รางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวลั นักวิจยั ดีเดน่ แห่งชาติ ประจำ�ปีงบประมาณ 2565

เกยี รติคณุ ประกาศ สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

ศาสตราจารยก์ ติ ตคิ ณุ ดร.ไพฑรู ย์ สนิ ลารตั น์ รางวัลการวิจยั แหง่ ชาติ : รางวลั นกั วิจยั ดเี ดน่ แหง่ ชาติ
ประจำ�ปงี บประมาณ 2565
นักวิจยั ดีเดน่ แหง่ ชาติ
สาขาการศึกษา

ส�ำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้พิจารณาเห็นว่า “ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์
สินลารัตน์” แห่ง วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เป็นนักวิจัยมืออาชีพ ได้สร้าง
งานวิจัยและผลผลิต จากงานวิจัยที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาของประเทศ
ในการศึกษาทุกระดับ เฉพาะที่เห็นได้อย่างชัดเจน ได้แก่ การพัฒนากรอบมาตรฐานคุณวุฒิ
ระดับอุดมศึกษาที่ช่วยยกระดับมาตรฐานของ การอุดมศึกษาให้ได้ตามมาตรฐานสากล การวิจัย
และพฒั นาหลักสูตรการศกึ ษาทว่ั ไปในระดับอดุ มศึกษาที่ช่วยพัฒนาผู้เรยี นในระดบั อุดมศึกษา

วช. จึงมีมติให้ประกาศเกียรติคุณ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ เป็น
นกั วจิ ยั ดเี ดน่ แห่งชาติ ประจ�ำปีงบประมาณ 2565 สาขาการศึกษา

รางวัลการวิจัยแหง่ ชาติ : รางวลั นกั วิจัยดีเด่นแห่งชาติ ประจำ�ปงี บประมาณ 2565 57

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

ศาสตราจารย์กติ ตคิ ุณ ดร.ไพฑรู ย์ สินลารตั น์

1. ประวตั ิสว่ นตัว 3. ประวตั กิ ารทำ�งาน
ชอื่ : นายไพฑูรย์ สินลารัตน์ ตำ�แหน่งในปจั จบุ นั
ตำ�แหน่งทางวิชาการ : ศาสตราจารย์กิตตคิ ุณ • อาจารย์อาวุโส มหาวทิ ยาลยั ธรุ กิจบัณฑติ ย์
วัน เดอื น ปเี กิด : 25 สงิ หาคม 2489 • ภาคีราชบณั ฑิต สาขาการศกึ ษา
อาชีพ : อาจารย์ ตำ�แหนง่ ในอดีต
หนว่ ยงานท่ีสังกดั : มหาวิทยาลยั ธรุ กิจบณั ฑิตย์ พ.ศ. 2528 - 2530 หวั หน้าภาควชิ าอดุ มศึกษา
สถานทต่ี ิดต่อ : เลขที่ 154/8 หม่ทู ี่ 3 ซอย ซ2ี คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั
ถนนสขุ าภิบาล 3 แขวงสะพานสงู เขตบึงก่มุ พ.ศ. 2530 - 2533 รองคณบดฝี ่ายวิชาการ
กรุงเทพฯ 10240 คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั
โทรศพั ท์ (ทที่ ำ�งาน) : 0 2954 7300 ตอ่ 361-2 พ.ศ. 2532 - 2535 ผูจ้ ดั การส�ำนกั พมิ พ์
โทรศัพท์ (มือถือ) : 08 1633 9944 จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั
โทรสาร : 0 2954 7910 พ.ศ. 2530 - 2538 อุปนายกสมาคมครศุ าสตร์สัมพนั ธ์
E-Mail : [email protected] พ.ศ. 2536 - 2539 คณบดีคณะครุศาสตร์
พ.ศ. 2540 - 2542 Consultant, RIHED
2. ประวัติการศกึ ษา พ.ศ. 2544 - 2547 คณบดีคณะครศุ าสตร์
ปี พ.ศ. ทจี่ บ วฒุ กิ ารศกึ ษา/สถานศกึ ษา/ประเทศ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั
พ.ศ. 2510 ค.บ. (การสอนภาษาไทย) เกียรตินิยม พ.ศ. 2547 - 2549 หวั หน้าโครงการวจิ ัยบูรณาการ
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย การเปลย่ี นผา่ นการศกึ ษาสยู่ คุ เศรษฐกจิ
ประเทศไทย ฐานความรู้
พ.ศ. 2516 ค.ม. (บรหิ ารการศึกษา) พ.ศ. 2547 - 2560 รองอธกิ ารบดี
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยธรุ กิจบัณฑิตย์
ประเทศไทย
พ.ศ. 2519 Ph.D. (อุดมศึกษา) University of 4. เครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์
Pittsburgh ปี พ.ศ. เครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์
พ.ศ. 2553 มหาปรมาภรณช์ ้างเผอื ก (ม.ป.ช.)

5. ผลงานวจิ ัยโดยสรุป
ผลงานวิจัยของ ศ.กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์
มผี ลกระทบสงู นำ� ไปสกู่ ารพฒั นานโยบายหลายดา้ น อาทิ
1. การพัฒนาระบบประกนั คุณภาพการศกึ ษา ของ
สำ� นกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา (สกอ.เดมิ ) มกี ารนำ�
บทเรียนท่ีสังเคราะห์ระบบการประกันคุณภาพมาตรฐาน
หลกั สตู รของประเทศตา่ ง ๆ ในสากลที่มกี ารปฏิบัติมาสรุป
เป็นประเดน็ ประกอบการพัฒนาระบบการประกนั คณุ ภาพ
ของประเทศไทย

58 รางวัลการวิจยั แหง่ ชาติ : รางวลั นกั วิจยั ดีเด่นแหง่ ชาติ ประจำ�ปีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

2. การพฒั นากรอบคณุ วฒุ แิ หง่ ชาติ (TQF) จากกรณี 8. ผลงานวจิ ัยเด่น
ศึกษากรอบคุณวุฒิทางการศึกษาของต่างประเทศ ซึ่งให้ 1. ผลงานเรื่อง การน�ำเสนอรูปแบบการจัดการ
ผลการวิจยั ท่ี สกอ. นำ� ไปใชป้ ระกอบการกำ� หนดโครงสรา้ ง ศึกษาในสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานเพื่อส่งเสริมความมั่นคง
ของ มคอ. ที่ สกอ. ใชใ้ นการรบั รองมาตรฐานหลกั สตู รระดบั ของชาตใิ นจงั หวดั ชายแดนของประเทศไทย
อดุ มศึกษา นับเปน็ เวลากว่า 10 ปี การน�ำเสนอรูปแบบการจัดการศึกษาในสถาน
ศึกษาขั้นพ้ืนฐานเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของชาติในจังหวัด
3. การปฏิรูปหลักสูตรและการเรียนการสอน ชายแดนของประเทศไทย เป็นการวิจัยโดยใช้แนวคิด
ทกุ ระดบั การศกึ ษา จากผลการวจิ ยั ทส่ี รา้ งและพฒั นาแนวคดิ การบริหารทฤษฎีเชิงระบบเป็นหลัก โดยศึกษาแนวทาง
การเปล่ียนผ่านการศึกษา “สัตตศิลา” น�ำไปสู่การพัฒนา การบริหารโรงเรียนท่ีพัฒนาขึ้นมาในเรื่องของการส่งเสริม
คู่มือการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาแบบองค์รวมท้ัง ความมั่นคงของชาติ ซึ่งแตกต่างจากการบริหารโรงเรียน
การพฒั นาครูการบรหิ ารจดั การศกึ ษาของเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา โดยท่ัวไป เน่ืองจาก โรงเรียนในจังหวัดชายแดนจะต้องมี
และสถานศึกษา การพัฒนาบทบาทการมีส่วนร่วมของ การเน้นการบรหิ ารงานส่งเสริมความมั่นคงของชาติ เพ่อื ให้
พ่อแม่ผู้ปกครอง ในการสร้างโอกาสการเรียนรู้แก่ผู้เรียน สถานศึกษาสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมตามสภาพบริบท
การพัฒนาทักษะความรู้สารสนเทศ ซ่ึงเป็นทักษะส�ำคัญ ส่ิงแวดล้อม ปัญหาต่าง ๆ รวมท้ังสภาพการจัดการศึกษา
ส�ำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นต้น เป็นงานวิจัยที่ ท่ีเป็นอยใู่ นปัจจบุ ัน
มีการอ้างอิงสงู 2. ผลงานเรื่อง กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับ
อุดมศึกษาของประเทศไทย
6. ผลงานวจิ ยั ทกี่ ำ�ลงั อยใู่ นระหวา่ งดำ�เนนิ การ ก ร อ บ ม า ต ร ฐ า น คุ ณ วุ ฒิ ร ะ ดั บ อุ ด ม ศึ ก ษ า ข อ ง
- ประเทศไทย เป็นระบบแสดงความเชื่อมโยงกันทางการ
อุดมศึกษาไทย โดยแสดงถึงโครงสร้างทางการอุดมศึกษา
7. ผลงานวจิ ัยในอนาคต ความตอ่ เนอ่ื งของแตล่ ะระดบั การเขา้ ส่แู ต่ละระดับ รวมทงั้
1. กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของ คุณวุฒิหรือคุณสมบัติของผู้ส�ำเร็จการศึกษาแต่ละระดับ
ประเทศไทย ที่สอดคล้องกับบริบทของยคุ Disruption เพอ่ื มจี ุดมงุ่ หมายเพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจตรงกนั ของผเู้ กยี่ วขอ้ งกบั
สง่ เสรมิ นวตั กรรมทส่ี รา้ งสรรคผ์ ลติ ภาพทต่ี อบสนองสงั คมโลก การอุดมศกึ ษา ท้งั ผูจ้ ดั ผู้ควบคุมมาตรฐาน และผูใ้ ช้ผลผลติ
2. การปฏิรังสรรคอ์ ุดมศึกษาเพ่ือกา้ วสยู่ คุ 5.0 ของการอุดมศึกษา รวมถึงเป็นแรงกระตุ้นให้มีการพัฒนา
คุณภาพท่ีสูงข้ึนในแต่ละสถาบันและแต่ละวิชาชีพ ทั้งน้ี
ในการพัฒนากรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา
ประเทศไทย มี 2 สว่ น คือ ส่วนแรก เปน็ โครงรา่ งของกรอบ
มาตรฐานและรายละเอียดโครงร่างแต่ละระดับ ซ่ึงเป็น
ภาพใหญ่ของระบบอุดมศึกษารวม ส่วนท่ีสอง เป็นการน�ำ
เสนอรายละเอียดของแต่ละระดับ ผลงานวิจัยนี้ มุ่งหวังให้
ส�ำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาน�ำไปพัฒนาเป็น
กรอบมาตรฐานคุณวุฒิกลาง แล้วประกาศเป็นเกณฑ์
มาตรฐานของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
3. ผลงานเร่ือง การเปลี่ยนผ่านการศึกษาเข้าสู่
ยุคเศรษฐกิจฐานความรู้
“สตั ตศลิ า” เปน็ นวตั กรรมการเปลย่ี นผา่ นการศกึ ษา
ที่ ศ.กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ และคณะ พัฒนาขึ้น
บนฐานการวิจัยบูรณาการ โดยใช้กระบวนการ “การเปลี่ยน
ผ่านการศึกษา” (Education Transformation) เพ่ือ
การเปล่ียนแปลงวัฒนธรรม ค่านิยม ความเชื่อ และวิธี
การท�ำงานของผู้มีส่วนเก่ียวข้องทางการศึกษา จนเกิด

รางวลั การวจิ ยั แห่งชาติ : รางวัลนักวจิ ยั ดีเด่นแหง่ ชาติ ประจำ�ปงี บประมาณ 2565 59

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

ความเข้าใจในหลักการท�ำงาน เป้าหมาย และวิธีปฏิบัติ ท่ีพึงประสงค์ของผู้เรียนไปใช้ในการวิจัยทางการเรียน
ที่ตรงกัน อันน�ำไปสู่การตั้งใจปฏิบัติงานตามแผนที่วางไว้ การสอนในบริบทต่าง ๆ รวมท้ังการน�ำไปพัฒนาเป็น
ร่วมกันอย่างต่อเน่ืองตามทิศทางและเป้าหมายที่ก�ำหนดไว้ เอกสารประกอบการเรียนการสอนในระดับต่าง ๆ และ
โดยเน้นการปรับ 3 ด้านหลัก คือ (1) กระบวนทัศน์ทาง อา้ งองิ ในการทำ� วจิ ยั ตอ่ เนอ่ื งในบรบิ ทตา่ ง ๆ อยา่ งกวา้ งขวาง
การศึกษา (2) ระบบการเรียนรู้ และ (3) โครงสร้างพื้นฐาน
การเรยี นรู้ ของผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งทางการศกึ ษาทท่ี ำ� งานรว่ มกนั 9.2 การน�ำไปใช้ประโยชน์ด้านการก�ำหนดนโยบาย
ได้ผลเป็นหลัก 7 ประการของการเปลี่ยนผ่านการศึกษา ทางการศึกษา โดย สกอ. ได้น�ำผลการวิจัยเกี่ยวกับ
ไดผ้ ลเป็นนวตั กรรมการเปลย่ี นผ่านการศึกษา “สตั ตศิลา” การพฒั นากรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดับอดุ มศึกษา ไปใชใ้ น
การพฒั นา TQF ระดบั อดุ มศกึ ษา ซง่ึ ใชต้ อ่ เนอื่ งมากวา่ 10 ปี
นวัตกรรม “สตั ตศิลา” มีท้งั สิน้ 7 หลกั โดยกลยุทธ์
การขับเคลื่อน “สัตตศิลา” สู่การปฏิบัติจริงในโรงเรียน 9.3 การน�ำผลการวิจัยด้านการประกันคุณภาพ
แบ่งออกได้เป็น 2 กลยุทธ์ คือ (1) กลยุทธ์การขับเคลื่อน การศึกษาไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาระบบการประกัน
นวัตกรรมในพ้ืนท่ี ประกอบด้วย 1.1) กลยุทธ์พ่ีเล้ียง 1.2) คณุ ภาพการศกึ ษาของไทย
กลยุทธ์การแข่งขัน และ 1.3) กลยุทธ์ความร่วมมือกับ
เครอื ข่ายในพืน้ ท่ี และ (2) กลยทุ ธก์ ารขับเคลื่อนนวัตกรรม 10. ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบายทเ่ี สนอแนะ
ในโรงเรียน ประกอบดว้ ย 2.1) กลยทุ ธ์การวางแผนรว่ มกนั ใหแ้ กร่ ฐั บาล/กระทรวงตา่ ง ๆ และภาคเอกชน
2.2) กลยุทธก์ ารเลือกตามความพร้อมและความสนใจ และ เพอ่ื นำ�ไปใชว้ างนโยบายพฒั นา หรอื แกป้ ญั หา
2.3) กลยทุ ธก์ ารรว่ มมอื ดำ� เนนิ การทงั้ โรงเรยี น ความรว่ มมอื
ร่วมใจของครูน�ำไปสู่ผลส�ำเร็จในการเปล่ียนผ่านการศึกษา 1. การวิจัยและพัฒนาหลักสูตรการศึกษาท่ัวไป
2 ระดบั คอื ผลสำ� เรจ็ ระดบั โรงเรยี นเกดิ จาก (1) การบรู ณาการ โดย ศ.กิตติคุณ ดร.ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ได้รับการยอมรับ
สตั ตศลิ าในการจดั การเรยี นการสอนแตล่ ะกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ในวงวิชาการว่าเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ด้าน
ทุกช้ัน ทุกห้องเรียน และบูรณาการกับโครงการต่าง ๆ การศึกษาทั่วไป ซ่ึงเป็นหมวดวิชาท่ีส�ำคัญในการพัฒนา
(2) การได้รับความร่วมมือจากผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องใน และบม่ เพาะนสิ ติ นกั ศกึ ษาใหเ้ ปน็ มนษุ ยท์ ส่ี มบรู ณ์ ตระหนกั
การพฒั นาหลกั สตู รทอ้ งถน่ิ (3) การปรบั ระบบการบรหิ ารงาน และเห็นคุณค่าในตนเอง และยอมรับความแตกต่าง
แบบจากล่างขึ้นบน และเป็นแบบกัลยาณมิตร ผลส�ำเร็จ หลากหลายของเพ่ือนมนุษย์ และพร้อมท่ีจะปรับตัวให้เข้า
ระดับนักเรียนและครู เกิดจากครูได้รับการพัฒนาศักยภาพ กับความเปลีย่ นแปลงของสงั คม
ด้านการจัดการเรียนรู้ และตระหนักถึงความส�ำคัญและ
ความต้องการของผู้เรียนมากข้ึน มีความกระตือรือร้น 2. การวิจัยเก่ียวกับการพัฒนากรอบมาตรฐาน
ในการสอนเพ่ิมข้ึน ในขณะเดียวกัน ผู้เรียนก็ศึกษาค้นคว้า คณุ วฒุ ริ ะดบั อดุ มศกึ ษาของประเทศไทย ซง่ึ สง่ ผลใหผ้ บู้ รหิ าร
ด้วยตนเองอย่างกระตือรือร้น มีวินัย และมีความสุขใน อาจารย์ และผู้เกี่ยวข้อง ได้คิดค้นแนวทางที่เป็นรูปธรรม
การเรยี นมากขึน้ โดยอิงวิชาการ น�ำไปสูก่ ารปฏิรูปหลักสตู ร การจัดการเรียน
การสอน การวดั และประเมนิ ผล รวมทง้ั การประกนั คณุ ภาพ
ความย่ังยืนของการจัดการศึกษาโดยใช้นวัตกรรมน้ี หลักสตู รในระดบั อุดมศกึ ษา ซ่งึ จะสง่ ผลตอ่ การผลิตบัณฑิต
คือ การด�ำเนินการท่ีต่อเน่ืองของผู้มีส่วนเก่ียวข้องท่ีมี ทม่ี คี ณุ ภาพและยกมาตรฐานของสถาบนั อดุ มศกึ ษาใหส้ งู ขนึ้
การพัฒนาชุมชนควบคู่กับการพัฒนาการจัดการศึกษาด้วย
นวัตกรรม การพัฒนาทรัพยากรท่ีจ�ำเป็นต่อการจัดการ ผลงานวิจัยของอาจารย์ส่งผลลัพธ์และผลกระทบ
ศึกษาโดยเฉพาะผู้บรหิ ารและครู และการเลอื กใชก้ ลยทุ ธท์ ี่ ตอ่ การศึกษาไทยในทุกระดับการศกึ ษา ทั้งในระดบั สถาบัน
เหมาะสม และระดับประเทศ โดยในระดับสถาบัน ได้แก่ การปรับ
หลกั สตู ร การจัดการเรียนรู้ การวดั และประเมินผลผเู้ รียนท่ี
9. การนำ�ผลงานวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชนใ์ นมติ ติ า่ ง ๆ สอดคลอ้ งกับยุค Disruption และในระดับประเทศ ไดแ้ ก่
 เชงิ วิชาการ กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาของประเทศไทย
9.1 การนำ� ไปใชป้ ระโยชนด์ า้ นการพฒั นาครู อาจารย์ ซึ่งเป็นการประกันคุณภาพการศึกษา ท่ีมุ่งเน้นคุณภาพ
ผู้เรียนเป็นส�ำคัญ อีกท้ังเป็นการก�ำหนดมาตรฐานวิชาชีพ
ในสถาบนั ผลิตครู นิสติ นักศึกษา โดยมีผ้นู ำ� งานวจิ ัยเกยี่ วกบั การพัฒนาวิชาชีพ การก�ำหนดนโยบายและแผนพัฒนา
การพฒั นาการศกึ ษา การขบั เคลอ่ื นการเปลย่ี นผา่ นการศกึ ษา วิชาชีพ การส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยเกี่ยวกับ
ในมิติของการพัฒนาการเรียนการสอนและคุณลักษณะ การประกอบวิชาชีพ เพ่ือยกระดับมาตรฐานวิชาชีพของ
ผทู้ ี่เกย่ี วขอ้ งทางการศึกษา

60 รางวัลการวจิ ยั แห่งชาติ : รางวลั นักวิจยั ดีเด่นแหง่ ชาติ ประจำ�ปงี บประมาณ 2565

ผลงานวิจิ ััย
ประจำำปีีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

ประกาศสานักงานการวิจยั แหง่ ชาติ
เรื่อง รางวัลการวจิ ยั แหง่ ชาติ : รางวลั ผลงานวจิ ยั ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๕

..................................................

ตามท่ี สานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอผลงานวิจัย
เพอื่ ขอรบั รางวลั การวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานวิจัย ประจาปงี บประมาณ ๒๕๖๕ นัน้

ในการน้ี วช. ได้อนุมัติให้รางวัลการวิจัยแห่งชาติ : รางวัลผลงานวิจัย ประจาปีงบประมาณ
๒๕๖๕ จานวน ๔๙ ผลงาน ในสาขาวิชาการต่าง ๆ รวม ๑๑ สาขาวชิ าการ ดงั น้ี
รางวลั ระดับดเี ดน่ จานวน ๑ ผลงาน ไดแ้ ก่
ผลงานวจิ ยั เรื่อง “Microbial source tracking: เทคโนโลยีเพ่อื การติดตาม
แหลง่ ปนเป้ือนจากน้าเสยี สกู่ ารบริหารจัดการแหล่งน้าอย่างยัง่ ยนื ”
(Microbial Source Tracking: Technology for Identifying
Fecal Pollution Sources for Sustainable Water Resource
Management)
โดย ๑. ดร.ขวญั รวี สิรกิ าญจน
๒. นายเอกชยั คงประจักษ์
๓. นางสาวณัฐชา ใชโ้ รจน์
4. ศาสตราจารย์ ดร.ศกรณ์ มงคลสุข
(สาขาวศิ วกรรมศาสตรแ์ ละอุตสาหกรรมวิจัย)

รางวัลระดบั ดีมาก จานวน ๑๐ ผลงาน ไดแ้ ก่
๑. ผลงานวิจยั เรื่อง “กระบวนการผลิตโซล่าเซลล์ชนิดเพอร์รอฟสไกต์แบบหลายชนั้

ทลี ะชั้นที่ควบคุมได้เปน็ ครัง้ แรกของโลก ทม่ี ีประสทิ ธภิ าพและ
ความทนทานความชน้ื สูง”
(Layer-by-layer Spray Coating of a Stacked Perovskite
Absorber for Perovskite Solarcells with Better
Performance and Stability Under a Humid Environment)
โดย ๑. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พงศกร กาญจนบุษย์
๒. นายกช อามระดิษฐ์
3. นางสาวจติ ประภัสสร์ พลชัย
4. นางสาวปภาดา แก้วอุไร
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พพิ ัฒน์ เรือนคา

/6. ดร.พศิ ิษฐ์ ...

62 รางวััลการวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวััลผลงานวิิจััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565

๒. ผลงานวิจยั เรอ่ื ง สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ
โดย
NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND
๓. ผลงานวจิ ัยเร่ือง
โดย -2-

๔. ผลงานวิจัยเร่อื ง 6. ดร.พศิ ิษฐ์ คาหน่อแกว้
โดย 7. นางสาวพิมพ์สดุ า ภารสงัด
8. นางสาวกุสมุ า ปน่ิ สวุ รรณ์
(สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร)์
“พยาธิสรีรวทิ ยาทางประสาทของการเรยี นรแู้ ละความจา
ในภาวะอ้วนจากระดับเซลลถ์ ึงผปู้ ่วย”
(Neuropathophysiology of Cognition in Obes 14t y:
from Cells to Bedside)
๑. ศาสตราจารย์ (เชย่ี วชาญพิเศษ) ดร.ทันตแพทย์หญงิ สริ ิพร ฉัตรทิพากร
๒. ศาสตราจารย์ (เชย่ี วชาญพเิ ศษ) ดร.นายแพทย์นพิ นธ์ ฉตั รทพิ ากร
3. รองศาสตราจารย์ ดร.วาสนา ปรัชญาสกลุ
4. นายฐติ กิ ร จันทร์ไชย
5. รองศาสตราจารย์ แพทย์หญงิ อรินทยา พรหมนิ ธิกลุ
6. รองศาสตราจารย์ ดร.เภสัชกรจริ ภาส ศรเี พชรวรรณดี
7. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.นพมาศ ศรีเพชรวรรณดี
8. ดร.ณัฐยาภรณ์ อภยั ใจ
9. ดร.เพียงขวัญ สงวนหมู่
10. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ปารเมศ เทยี นนิมิต
11. นางสาวหริ ัญญา ปนิ ตานา
(สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์)
“การกาจัดโรคไข้มาลาเรยี ให้หมดไปตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุข
แหง่ ประเทศไทย”
(Elimination of Plasmodium Falciparum in Thailand)
ศาสตราจารย์ ดร.มัลลิกา อ่มิ วงศ์
(สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์)
“พอลเิ มอรเ์ มมเบรนและเมมเบรนเมทริกผสมสาหรับแยกน้า
จากสารละลายอะซิโอโทรปิก”
(Water-selective Polymeric and Mixed - matrix
Membranes for a Separation of Azeotropic Mixtures)
รองศาสตราจารย์ ดร.สทิ ธพิ งษ์ อานวยพานิชย์
(สาขาวทิ ยาศาสตร์เคมแี ละเภสัช)

/5. ผลงานวิจยั ... 63

รางวัลั การวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ -3-

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND “การบรู ณาการองค์ความรู้จากการวจิ ัยเช้ือฟลาโวแบคทเี รียม
คอลมั แนร์ สนู่ วัตกรรมนาโนวัคซนี เกาะตดิ เยื่อเมือกเพ่ือปอ้ งกันโรค
๕. ผลงานวิจยั เรอื่ ง คอลัมนาริสในปลาน้าจืดอยา่ งยงั่ ยืน”
(Integration of Knowledge from Research on
โดย Flavobacterium Columnare to Innovation of Mucosal
Adhesive Nanovaccine for Sustainable Prevention of
๖. ผลงานวิจยั เร่ือง Columnaris in Freshwater Fish)
โดย 1. รองศาสตราจารย์ ดร.นายสตั วแพทยช์ าญณรงค์ รอดคา
2. รองศาสตราจารย์ ดร.นายสตั วแพทย์พฒั นพล ขยันสารวจ
7. ผลงานวิจัยเรื่อง 3. ดร.ธีรพงศ์ ยะทา
4. Assistant Professor Dr.Ha Thanh Dong
โดย 5. รองศาสตราจารย์ ดร.นายสตั วแพทย์นพดล พิฬารตั น์
8. ผลงานวิจัยเรื่อง 6. ดร.สตั วแพทยห์ ญงิ สริ กิ ร กติ โิ ยดม
(สาขาเกษตรศาสตร์และชวี วทิ ยา)
โดย “เปปไทด์ต้านจลุ ชีพจากกุง้ Anti-lipopolysaccharide factor:
กลไกการออกฤทธ์ิและประสิทธิภาพในปอ้ งกนั โรคตดิ เช้ือในก้งุ ”
(Shrimp Antimicrobial Peptide Anti - lipopolysaccharide
factor: Mechanism of Action and Efficiency in Shrimp
Disease Control)
๑. รองศาสตราจารย์ ดร.กลุ ยา สมบรู ณ์วิวัฒน์
2. ศาสตราจารย์ ดร.อญั ชลี ทศั นาขจร
๓. ดร.เปรมฤทัย สุพรรณกูล
(สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา)
การพัฒนาเซลล์อิเลก็ โตรไลซิสแบบออกไซด์ของแขง็ ชนิดตัวนา
ออกซเิ จนไอออนและใชโ้ ฟมของโลหะเปน็ ตัวรองรับเพื่อใชใ้ นการผลิต
กรนี ไฮโดรเจน จากไอนา้
(Development on Metal-foam-Supported Oxygen-ion
Conducting Solid Oxide Electrolysis Cell for Green
Hydrogen Production from Steam)
รองศาสตราจารย์ ดร.ภัทรพร คิม
(สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวจิ ัย)
“ชาดกนอกนบิ าตในลา้ นนา : การศกึ ษาทางประวตั ิศาสตร์ศลิ ปะ”
(Jataka Outside Nibat in Lanna : A Study in Art History)
ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ชาญคณิต อาวรณ์
(สาขาปรัชญา)

/9. ผลงานวิจัย ...

64 รางวััลการวิิจัยั แห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

-4-

9. ผลงานวิจัยเรอ่ื ง “ปัญหาเขตอานาจศาลในคดีพิพาทเก่ียวกับการใช้อานาจ
โดย หรอื การดาเนนิ การทางปกครองในเร่ืองสิทธิในทดี่ นิ ”
(Conflicts of Jurisdiction over Disputes on Activities
10. ผลงานวจิ ัยเรื่อง of Administrative Agency relating to Land Title)
โดย 1. รองศาสตราจารย์ ดร.กติ ติศกั ด์ิ ปรกติ
2. รองศาสตราจารย์ ดร.สมเกยี รติ วรปญั ญาอนนั ต์
(สาขานิติศาสตร์)
“การสรา้ งความเข้าใจในคณุ ลักษณะ พฤติกรรม และทัศนคติ
ในอนาคตของชาวดจิ ิทัลไทย”
(Understanding Thai Digital Natives’ Characteristics,
Behaviors, and Their Views of the Future)
1. รองศาสตราจารย์ ดร.จลุ นี เทียนไทย
2. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ภทั รพรรณ ทาดี
3. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ภาสนนั ทน์ อศั วรกั ษ์
4. ดร.ปณุ ณฑรยี ์ เจยี วิรยิ บญุ ญา
5. นายฐติ นิ ันทน์ ผวิ นลิ
6. นางสาวฉันท์ฉาย ฉันทวลิ าสวงศ์
(สาขาสงั คมวทิ ยา)

รางวลั ระดบั ดี จานวน ๓๘ ผลงาน ไดแ้ ก่
๑. ผลงานวิจัยเรอื่ ง “อนภุ าคแม่เหลก็ นาโนและแบคทีเรียเซลลโู ลสนาโนคอมโพสิต

สาหรับการประยุกตใ์ ช้งานในหลากหลายด้าน”
(Magnetic Nanoparticles and Bacterial Cellulose
Nanocomposites for Various Applications)
โดย 1. รองศาสตราจารย์ ดร.สปุ รีด์ิ พนิ ิจสนุ ทร
2. นางสาวนิภาพร ศรีพลาย
3. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วิยะดา มงคลธนารกั ษ์
4. ดร.ลิขสิทธิ์ วรรณเสน
5. นางสาวพมิ พช์ นก เอี่ยมวิถวี นิช
6. นางสาวนชุ จรี สลดิ กุล
7. นายยทุ ธยา เขม็ จีน
(สาขาวทิ ยาศาสตร์กายภาพและคณติ ศาสตร)์

๒. ผลงานวิจัยเรื่อง “นอกเหนือจากทฤษฎีแรงโน้มถว่ งของไอน์สไตน์ ความเกยี่ วพนั
โดย เชิงจักรวาลวิทยาและฟิสิกส์ดาราศาสตรจ์ ากการปรับแต่งแรงโน้มถ่วง”
(Beyond Einstein Theory of Gravity: Cosmological and
Astrophysical Implications from Modified Gravity)
1. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ดรศิ สามารถ

/2. รองศาสตราจารย์ ...

รางวััลการวิจิ ัยั แห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ััย ประจำำปีีงบประมาณ 2565 65

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ -5-

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND 2. รองศาสตราจารย์ ดร.พงษ์พิชติ จันทร์นยุ้
3. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อรรถกฤต ฉัตรภูติ
๓. ผลงานวิจัยเร่อื ง 4. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ชาคริต พงษ์กิติวณชิ กุล
โดย (สาขาวทิ ยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร์)
“การพฒั นาและปรบั ปรุงสมบัติของอนุภาคแมเ่ หล็กนาโน
๔. ผลงานวิจัยเรอื่ ง และอนภุ าคกราฟีนออกไซดเ์ พื่อการใชง้ านทางด้านสง่ิ แวดล้อม
โดย และการแพทย์”
(Development and Property Enhancement of Magnetic
๕. ผลงานวจิ ยั เรื่อง Nanoparticles and Graphene Oxide for Environmental
โดย and Medical Applications)
1. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.จรยิ า แกว้ เสน่หา
2. รองศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ ศรอี รุโณทยั
3. รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ โอภาประกาศติ
4. ศาสตราจารย์ ดร.ประมวล ตงั้ บรบิ รู ณ์รัตน์
5. Miss Giang Truc Le Thi
6. ดร.เจษฎา แมน่ ยา
7. ดร.ณรงค์ จนั ทร์เล็ก
8. รองศาสตราจารย์ ดร.นรุ ักษ์ กฤษดานุรักษ์
9. Dr. Abdelhamid Elaissari
10. Miss Patcharanat Kaewmee
(สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณติ ศาสตร์)
“ความผันแปรของลมมรสุมฤดูร้อนในทวปี เอเชียสมยั โฮโลซนี :
การศึกษาเพ่อื สงั เคราะห์ขอ้ มูลทบ่ี ันทึกในหินงอกและวงปีไม้
จากประเทศไทยและจีน”
(Asian Summer Monsoon Variabil0ity During the
Holocene: a Synthesis Study on Stalagmites and Tree
Rings from Thailand and China)
๑. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.โชติกา เมอื งสง
2. รองศาสตราจารย์ ดร.นาฏสดุ า ภูมิจานง
3. Dr.Binggui Cai
4. ดร.สภุ าภรณ์ บัวจนั ทร์
(สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพและคณติ ศาสตร)์
“แกว้ หนา้ ท่ีพิเศษสาหรับใช้กักเก็บพลังงานสะอาดแห่งอนาคต”
(Advanced Functional Glasses for Future Clean
and Green Energy Storage Application)
1. ดร.พินจิ กิจขนุ ทด
2. ดร.วภิ าดา เสนานนท์
(สาขาวทิ ยาศาสตร์กายภาพและคณิตศาสตร)์

/6. ผลงานวิจยั ...

66 รางวััลการวิิจััยแห่ง่ ชาติิ : รางวััลผลงานวิิจัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565

6. ผลงานวจิ ยั เร่อื ง สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ
โดย
NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND
7. ผลงานวิจยั เรอ่ื ง
โดย -6-

8. ผลงานวิจัยเรอื่ ง “สายพันธเุ์ ซลลต์ น้ กาเนิดตัวอ่อนมนุษยจ์ ากตวั อ่อนทผ่ี ่านการ
โดย แชแ่ ขง็ 18 ปี (จากตัวอ่อนเด็กหลอดแกว้ สู่สายพนั ธุเ์ ซลล์
ต้นกาเนิดตัวอ่อนมนุษย์)”
(The First Human Embryonic Stem cell Line Derived
from 18 - year Cryopreservation Embryos (From the in Vitro
Produced Embryos to Human Embryonic Stem cell Line)
๑. ศาสตราจารย์ นายแพทย์กาธร พฤกษานานนท์
๒. ดร.นายสตั วแพทยร์ ัฐจักร รังสิววิ ฒั น์
3. ศาสตราจารย์กติ ตคิ ณุ นายแพทยป์ ระมวล วีรุตมเสน
4. รองศาสตราจารย์ ดร.นายแพทยน์ ิพัญจน์ อิศรเสนา ณ อยุธยา
5. นางสาวปราณี นาชัยศรคี า้
6. นางวิชชุดา อานนท์กิจพานชิ
(สาขาวทิ ยาศาสตร์การแพทย์)
“การกระตุ้นกระบวนการสร้างเซลลเ์ มกะคารโิ อไซท์
และเกล็ดเลือดจากเซลลต์ น้ กาเนิดเม็ดโลหิตโดยการยบั ย้ัง
กระบวนการโอ-กลุคแนกซลิ เลชัน”
(Metabolic sensor O - GlcNAcylation Regulates
Megakaryopoiesis and Thrombopoiesis through c - Myc
Stabilization and Integrin Perturbation)
1. ดร.เภสัชกรหญิงสดุ จติ ลว้ นพชิ ญ์พงศ์
2. นางสาวจริ ารตั น์ ภหู ัดสวน
3. นายพัชร์ณฏั ฐ์ คล้ายหมน่
4. ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรพล อิสรไกรศีล
5. Dr. Xing Kang
6. นางสาวกานตพ์ ชิ ชา ตงั้ เกียรตติ ระกลู
(สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์)
“การวจิ ัยและพัฒนาพลาสติกชีวภาพสมบัติเฉพาะฐานพอลิแลคตกิ
แอซิดและกระบวนการรีไซเคิลทางเคมีสู่การพฒั นาอยา่ งย่งั ยืน
ตามหลกั การเศรษฐกจิ หมนุ เวียน (BCG)”
(Development of Polylactic Acid-based Functional
Bioplastics and Their Chemical Recycling Process for
Bio-Circular and Green economy (BCG) and Sustainable
Development)
1. รองศาสตราจารย์ ดร.ปกรณ์ โอภาประกาสติ
2. ดร.อทิตย์สา เพช็ รสขุ
3. Assistant Professor Dr. Mijanur Rahman

/4. Dr. Bunthoeun …

รางวััลการวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจััย ประจำำปีีงบประมาณ 2565 67

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ -7-

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND 4. Dr. Bunthoeun Nim
5. รองศาสตราจารย์ ดร.มณั ทนา โอภาประกาสิต
9. ผลงานวจิ ยั เรือ่ ง 6. รองศาสตราจารย์ ดร.ไพบูลย์ ศรอี รโุ ณทัย
โดย 7. นางสาวกมลชนก ฐานานุกลู
8. นางสาวจิราวรรณ จนิ ดาแก้ว
๑๐. ผลงานวจิ ยั เรื่อง 9. นางสาวนริศรา ใจแกว้
โดย 10. Dr. Tu Pham Le Phuong
11. Mrs. Chorney Eang
11. ผลงานวิจัยเรอ่ื ง 12. ดร.ชลติ า รตั นเทวะเนตร
โดย 13. Mr. Takeshi Kikutani
(สาขาวทิ ยาศาสตรเ์ คมีและเภสัช)
“การพฒั นาวัสดุสงิ่ ทออเิ ล็กทรอนกิ ส์จากผา้ ใยธรรมชาตขิ องไทย
เพ่ือใชใ้ นอุปกรณเ์ กบ็ เกยี่ วพลังงานชนิดไตรโบอิเล็กทรกิ ส์นาโน
เจเนอเรเตอร์”
(Development of Thai Natural Textiles based
Triboelectric Nanogenerator for Energy Harvesting)
1. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สมพิศ วนั วงษ์
2. นายวีรเดช แสงขนั ธ์
(สาขาวทิ ยาศาสตร์เคมีและเภสัช)
“อนภุ าคนาโนพอลิเมอร์หอ่ หุ้มสารประกอบเอซา – บอดปิ ้ี
สาหรบั ใชเ้ ป็นระบบนาส่งสาหรบั การรักษามะเร็งแบบใช้แสง
กระต้นุ ”
(Aza - BODIPY Encapsulated Polymeric Nanoparticles
As an Effective Nanodelivery System for Photodynamic
Cancer Treatment)
๑. ดร.กันตพัฒน์ จันทรแ์ สนภักดิ์
๒. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อัญญานี คาแกว้
(สาขาวทิ ยาศาสตรเ์ คมแี ละเภสชั )
“การสังเคราะหว์ ัสดุคาร์บอนทีม่ รี พู รุนในระดบั นาโนที่ถกู เจือด้วย
ธาตไุ นโตรเจนและมีโลหะ Co หรือ Ni เป็นองคป์ ระกอบเพ่ือใชเ้ ป็น
ข้วั เคาน์เตอร์อิเลก็ โทรดในเซลล์แสงอาทิตยช์ นดิ สีย้อมไวแสง
(Economical Nanocomposites of Cobalt or Nickel
Species and Polyaniline - Derived N - Doped
Mesoporous Carbons for Dye-Sensitized Solar Cells as
Counter Electrodes)
1. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ปณทิ ตั หาสนิ
2. รองศาสตราจารย์ ดร.วิทยา อมรกจิ บารงุ
(สาขาวิทยาศาสตรเ์ คมีและเภสชั )

/12. ผลงานวิจัย ...

68 รางวัลั การวิิจััยแห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

-8-

12. ผลงานวิจยั เรอื่ ง “การควบคุมพฤติกรรมการเปล่ียนสีของพอลไิ ดอะเซทตลิ ีน
แอสเซมบล:ี อิทธิพลของการจดั เรยี งตวั สายโซ่ สารเติมแตง่
โดย แอลกอฮอล์ พอลิเมอร์ และตัวทาละลาย”
(Control Over Color-transition Behaviors of
1๓. ผลงานวิจัยเรอื่ ง Polydiacetylene Assemblies: Influences of Chain
โดย Organization, Alcoholic and Polymeric Additives,
and Solvents)
1๔. ผลงานวจิ ัยเรอ่ื ง 1. รองศาสตราจารย์ ดร.รกั ชาติ ไตรผล
โดย 2. นางสาวอโณทัย คาพนั ธ์
3. ดร.ธนชั พร พฒั นาธรชัย
1๕. ผลงานวจิ ัยเร่ือง 4. ดร.ชนิตา ขนนั ทอง
โดย 5. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.เรอื โทหญงิ นิภาภทั ร เจริญไทย
6. รองศาสตราจารย์ ดร.นศิ านาถ ไตรผล
(สาขาวิทยาศาสตร์เคมแี ละเภสัช)
“ฤทธิ์ทางชีวภาพและบทบาทในระดับโมเลกลุ ของสารออกฤทธิ์
ในผลติ ภณั ฑผ์ งึ้ ”
(Bioactivities and Molecular Roles of Active Compounds
in Bee Products)
ศาสตราจารย์ ดร.จนั ทรเ์ พ็ญ จันทรเ์ จ้า
(สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา)
“การศึกษาวจิ ยั มะมว่ งให้ไดค้ ุณภาพมาตรฐานส่งออก”
(The Research on Quality Standard of Mango Export)
1. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พีระศักด์ิ ฉายประสาท
2. ดร.สวุ มิ ล เจตะวัฒนะ
3. นางสาวฐิตมิ า คงรตั น์อาภรณ์
4. นายพทุ ธพงษ์ สรอ้ ยเพชรเกษม
(สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา)
“การใชก้ ลยทุ ธ์ด้านเทคโนโลยีชวี ภาพในการเพ่ิมประสิทธิภาพ
การผลติ ไบโอไฮโดรเจน”
(Biotechnological Strategies for Improving Biohydrogen
Production)
1. ศาสตราจารย์ ดร.อรัญ อนิ เจรญิ ศกั ดิ์
2. นางสาวปณตั ดา ยอดแสง
3. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วฒุ ินนั ท์ รักษาจิตร์
4. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วนั ทนยี ์ เขตตก์ รณ์
5. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สรญั ญา พันธ์ุพฤกษ์
(สาขาเกษตรศาสตร์และชวี วทิ ยา)

/16. ผลงานวจิ ัย ...

รางวััลการวิิจัยั แห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565 69

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

-9-

16. ผลงานวิจยั เรื่อง “การประยุกต์ใช้ระบบระบายนา้ แนวดง่ิ สาหรบั ถมบ่อโคลน
โดย ในเหมอื งแม่เมาะ”
(Application of Vertical Drains for Reclamation
17. ผลงานวิจยั เรอื่ ง of a Slurry Pond in Mae Moh Mine)
โดย 1. ศาสตราจารย์ ดร.สุขสันติ์ หอพบิ ูลสุข
2. ดร.อภชิ าติ สดุ ดีพงษ์
1๘. ผลงานวจิ ัยเรอื่ ง 3. Dr. Menglim Hoy
4. นายวิษณุกร สมิงทอง
โดย 5. นายอาทิตย์ อุดมชัย
1๙. ผลงานวจิ ัยเรอื่ ง 6. ศาสตราจารย์ ดร.อวริ ทุ ธ์ิ ชนิ กลุ กจิ นวิ ฒั น์
(สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจยั )
โดย
“ศกึ ษาและพัฒนาเหล็กกลา้ Dual Phase ชนดิ รดี เยน็ ท่ผี ลติ โดย
กรรมวธิ กี ารอบความรอ้ น”
(Development of Cold-rolled Dual - phase Steel
Produced by Annealing Process)
1. รองศาสตราจารย์ ดร.วทิ รู อุทัยแสงสขุ
2. รองศาสตราจารย์ ดร.สรุ ศักด์ิ สุรนันทชยั
(สาขาวศิ วกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย)

“การศึกษาเปรียบเทียบสถาปัตยกรรมยคุ สมยั ใหม่ระหว่างญป่ี นุ่
กับสยามตงั้ แต่กลางศตวรรษท่ี 19 ถึงสน้ิ สุดสงครามโลกครงั้ ท่ี 2
(ค.ศ. 1850 – 1945 / พ.ศ. 2390 - 2488)”
(A Comparative Study of Architecture of the Modern
Period between Japan and Siam from the Mid - 19th
Century to the End of World War II (A.D.1850 - 1945 /
B.E.2390 - 2488))
ศาสตราจารย์สมชาติ จงึ สิรอิ ารักษ์
(สาขาปรัชญา)

“การพัฒนาแผนทน่ี นู ตา่ เพื่อนาทางคนตาบอดในศนู ย์สง่ เสรมิ
และพฒั นาคุณภาพชวี ติ คนพิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ”
(Development of Bas-relief Map to Guide the Blind
at Center of Quality of Life Improvement for Disabled
in the North - eastern Part of Thailand)
1. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์นธิ ิวดี ทองป้อง
2. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สญั ชัย สนั ติเวส
(สาขาปรัชญา)

/20. ผลงานวิจยั ...

70 รางวััลการวิจิ ัยั แห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

-10-

20. ผลงานวิจยั เรื่อง “การแสดงบทประพันธเ์ พลงสาหรับเด่ียวเปยี โนจากวรรณคดไี ทย”
โดย (Music Composition and Performance Project:
Ballades from Thai Literature for Piano Solo)
21. ผลงานวจิ ยั เรอ่ื ง ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.รามสรู สีตลายัน
(สาขาปรชั ญา)
โดย
2๒. ผลงานวิจัยเรอื่ ง “สภาพปัญหาและลู่ทางสนับสนนุ สทิ ธใิ นการรวมกลุ่ม
บนโลกไซเบอร์เพื่อแสดงออกในประเด็นฐานทรัพยากรธรรมชาติ
โดย และส่ิงแวดลอ้ ม”
(The Problems and Prospects on Supporting the Right
23. ผลงานวิจยั เรื่อง to Association in Cyberspace for Expression in the Issues
of Natural Resource and Environment)
โดย ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ทศพล ทรรศนกุลพันธ์
(สาขานติ ิศาสตร์)

“โครงการพัฒนากฎหมายเพื่อค้มุ ครองสวสั ดิภาพสตรี
และครอบครวั : ทบทวนกฎหมายว่าด้วยการปอ้ งกันและ
ปราบปรามการคา้ ประเวณี (ระยะท่ี 1 และ 2)”
(Legal Development for the Protection of the Welfare
of Women and Family: Review of Laws on the Prevention
and Suppression of Prostitution (Phases 1 and 2))
1. รองศาสตราจารย์ ดร.มาตาลักษณ์ เสรเมธากลุ
2. ดร.กรศุทธิ์ ขอพ่วงกลาง
3. ผูช้ ่วยศาสตราจารยส์ าวตรี สขุ ศรี
4. นายภัทรพงษ์ แสงไกร
5. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.เอมผกา เตชะอภยั คุณ
6. ศาสตราจารยร์ ะพีพรรณ คาหอม
7. นายอคั รวฒั น์ เลาวัณย์ศิริ
(สาขานติ ิศาสตร์)
“การพฒั นาประสทิ ธิภาพทางการคลังที่ย่ังยนื สาหรบั ระบบ
หลักประกนั สุขภาพ และแบบจาลองการจัดสรรทรัพยากรกาลงั คน
ดา้ นสุขภาพ”
(Questing for Sustainable Fiscal Space of Universal
Health Coverage and Simulation of Health Worker
Network Redistribution)
ดร.ทปี กร จิรฐ์ ติ ิกลุ ชัย
(สาขาเศรษฐศาสตร์)

/24. ผลงานวิจัย ...

รางวััลการวิจิ ััยแห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ััย ประจำำปีีงบประมาณ 2565 71

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

-11-

24. ผลงานวิจัยเรอ่ื ง “คลองในฐานะเสน้ ทางคมนาคมกบั การพัฒนาเศรษฐกิจ:
หลักฐานจากคลองกบั สวนในกรงุ เทพฯ ชว่ งคริสตศ์ ตวรรษที่ 19”
โดย (Canals and Orchards: The Impact of Transport Network
25. ผลงานวิจัยเรื่อง Access on Agricultural Productivity in 19th – Century
Bangkok)
โดย 1. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ธนั ยพร จันทรก์ ระจ่าง
26. ผลงานวจิ ัยเร่อื ง 2. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.เจสสิกา แมร่ี เวชบรรยงรัตน์
(สาขาเศรษฐศาสตร์)
โดย “สอ่ งผา่ นเพดานแกว้ : ผู้บรหิ ารหญงิ กับความไม่เทา่ เทยี มทางเพศ”
27. ผลงานวิจยั เร่ือง (Shining Through the Glass Ceiling: Female Managers
and Gender Inequality)
โดย รองศาสตราจารย์ ดร.เนตรนภา ยาบชุ ิตะ
28. ผลงานวจิ ยั เรอ่ื ง (สาขาเศรษฐศาสตร)์
“การเสริมสร้างทุนทางสงั คมเพ่อื การพฒั นาเมืองอยา่ งย่งั ยืน”
โดย (An Enhancing of Social Capital for Sustainable Urban
2๙. ผลงานวิจยั เร่ือง Development)
รองศาสตราจารย์ ดร.ภาวณิ ี เอี่ยมตระกูล
(สาขาสงั คมวทิ ยา)
“การบรโิ ภคละครไทยผ่านเว็บไซตใ์ นกลุ่มประเทศอาเซยี นและจีน
: กรณีศึกษาประเทศเวียดนาม ฟลิ ิปปินส์ อนิ โดนีเซีย และจีน”
(Consumption of Thai Television Dramas Through
Websites in ASEAN and China: Case Studies of Vietnam,
the Philippines, Indonesia and China)
รองศาสตราจารย์ ดร.อัมพร จิรฐั ติกร
(สาขาสงั คมวทิ ยา)
“ครรภ์ของชาต:ิ การสร้างวินัยการเจรญิ พันธแ์ุ ละประวตั ศิ าสตร์
วา่ ดว้ ยรฐั กับเพศวิถขี องผูห้ ญิงในไทย”
(Wombs of the Nation: Disciplining Reproduction and
the History of State and Women’s Sexuality in Thailand)
รองศาสตราจารย์ ดร.ปิ่นแกว้ เหลอื งอรา่ มศรี
(สาขาสงั คมวิทยา)
“โครงการศึกษาศกั ยภาพชมุ ชนดา้ นสมารท์ เทคโนโลยีการท่องเท่ียว
เพ่ือประเมนิ และพฒั นาศักยภาพชมุ ชนด้านดิจทิ ัลท่จี าเป็น สาหรบั
การจัดทาข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย การจดั การการท่องเทยี่ ว
โดยชมุ ชนภายในท้องถิน่ ตามนโยบายรัฐบาล 4.0 ในเขตพ้ืนที่
ระเบยี งเศรษฐกิจตะวนั ออก”

/The Potential …

72 รางวััลการวิิจััยแห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565

-12- สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

โดย (The Potential Community Assessment of Smart
30. ผลงานวจิ ยั เรื่อง Tourism Technology and Developing Required
Digitalization for Policy Suggestions of Community
โดย Area-based Tourism toward 4.0 Governmental Policy
in Eastern Economic Corridor (EEC).)
31. ผลงานวจิ ยั เร่ือง รองศาสตราจารย์ ดร.พัทรียา หลักเพช็ ร
(สาขาสังคมวทิ ยา)
โดย
32. ผลงานวจิ ยั เรื่อง “โครงการการพัฒนาวิธกี ารระบเุ อกลักษณ์เฉพาะตวั ของกระบือปลัก
ดว้ ยเทคโนโลยไี บโอเมตริก”
โดย (Development of Swamp Buffalo Identification Method
Using Biometric Feature)
1. รองศาสตราจารย์ ดร.วรพันธ์ คู่สกลุ นริ นั ดร์
2. นายสตั วแพทย์อุดม เจือจันทร์
3. รองศาสตราจารย์ ดร.นายสตั วแพทยอ์ นวุ ตั น์ วิรัชสดุ ากุล
4. นายบพิธ ปุยะติ
5. นางสาวสุนิสา กินาวงศ์
6. นายอภิชาติ ภะวงั
7. นายสรุ พงษ์ เสนาใหญ่
8. นางธีราภรณ์ พรหมภักดี
(สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร)์

“การวิจัยเชิงปฏิบตั กิ ารอยา่ งมีสว่ นรว่ มเพอื่ สขุ ภาวะที่ดี
ของเกษตรกร จากการใช้สารเคมีในสวนส้ม: กรณีศึกษา
ตาบลแมส่ ิน อาเภอศรสี ัชนาลัย จงั หวัดสโุ ขทัย”
(An Action Research in Participatory for well-being with
the Use of Chemical Orange Agricultural Use:
A Case Study in the Measin Subdistrict, Srisatchanalai
District, Sukhothai Province, Thailand)
รองศาสตราจารย์ ดร.พนิดา จงสุขสมสกลุ
(สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนเิ ทศศาสตร์)

“การใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทลั ของผูส้ งู อายุ และข้อเสนอเพ่ือการ
เสริมสรา้ งภาวะพฤฒิพลังของผู้สงู อายไุ ทย”
(Digital Technology Utilization of Elderly and Framework
for Promoting Thai Active and Productive Aging)
รองศาสตราจารย์ ดร.พนม คลฉ่ี ายา
(สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนเิ ทศศาสตร์)

/33. ผลงานวิจัย ...

รางวัลั การวิจิ ััยแห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิิจัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565 73

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ -13-

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

33. ผลงานวิจยั เรือ่ ง “การศึกษาการเปลย่ี นแปลงการใช้ที่ดินและมลพิษทางอากาศ
โดย ในจังหวดั นา่ น”
(A Study of Land uses Change and Air Pollution
34. ผลงานวิจัยเรื่อง in Nan Province)
โดย 1. รองศาสตราจารย์ ดร.ดรุณวรรณ กาธรเกียรติ
2. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.จฑุ าศนิ ี ธญั ประณตี กลุ
35. ผลงานวจิ ัยเรอ่ื ง 3. ดร.ศราวุฒิ นลิ สวัสด์ิ
(สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร)์
โดย “การชแ้ี นะผ่านส่ือเพ่ือผลกั ดันนโยบายสาธารณะเชิงสขุ ภาพ
36. ผลงานวิจยั เร่อื ง ในประเทศไทย”
(Media Advocacy for Advancing Public Health Policy
โดย in Thailand)
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวภิ า สินสุวรรณ
(สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและนิเทศศาสตร์)
“การพัฒนาเคร่ืองมือประเมินและยุทธศาสตร์เสริมสรา้ ง
ผลลพั ธก์ ารเรยี นรู้ สาหรบั นกั ศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี
สาขาวชิ าวศิ วกรรมศาสตร์”
(Development of an Instrument for the Assessment
and Strategies for Enhancing Learning Outcomes
of Undergraduate Engineering Students)
1. รองศาสตราจารย์ ดร.บุรทนิ ขาภิรฐั
2. รองศาสตราจารย์ ดร.ภัทราวดี มากมี
(สาขาการศกึ ษา)
“การวิจยั และพฒั นาโปรแกรมการเสริมสร้างทักษะดา้ นการ
ให้การปรกึ ษา สาหรบั ครูประจาชั้นระดบั ประถมศึกษา
เขตพืน้ ทีภ่ าคเหนอื ของประเทศไทย”
(Research and Development of the Counseling Skills
Strengthening Program for Elementary School Teachers,
Northern Thailand)
1. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วีรวรรณ วงศ์ปิน่ เพช็ ร์
2. ดร.เสรี ใหมจ่ ันทร์
3. นางสาวชลดิ า วสวุ ตั
(สาขาการศกึ ษา)

/37. ผลงานวจิ ยั ...

74 รางวัลั การวิิจััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565

-14- สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

37. ผลงานวิจัยเร่อื ง “การพัฒนาหนุ่ ยนต์แบบมีปฏิสัมพันธต์ ามแนวคิดเกมเปน็ ฐาน
โดย รว่ มกับโมบายแอปพลิเคชนั เพือ่ สง่ เสรมิ ทักษะการคดิ และความ
ยดึ มน่ั ผูกพนั ในการเรียนรสู้ าหรบั ผูเ้ รียนในระดบั ประถมศึกษา”
(A Development of Interactive Robot Based on
Game-Based Learning and Use of Mobile Application
to Enhance Thinking Skills and Learning Engagement
of Elementary School Students)
1. ศาสตราจารย์ ดร.เนาวนิตย์ สงคราม
2. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.เกรกิ ภริ มยโ์ สภา
(สาขาการศกึ ษา)

38. ผลงานวิจัยเรอ่ื ง “การยกระดบั ผลการปฏบิ ัตงิ านและการทางานแบบมคี วามหมาย
โดย ของครูระดับมธั ยมศึกษาด้วยโปรแกรมการปน้ั สรรงาน”
(Development of a Job Crafting Program to Enhance
the Performance and Meaningful Work for the High
School Teachers)
1. ดร.ชยั ยทุ ธ กลบี บวั
2. นางสาวปาริฉัตร ปติ สิ ทุ ธิ
(สาขาการศึกษา)

ทั้งน้ี ผู้วิจัยที่ได้รับรางวัลในแต่ละสาขาวิชาการจะได้รับประกาศนียบัตรเชิดชูเกียรติคุณ
และเงนิ รางวัล ดงั น้ี
รางวัลระดับดเี ดน่ รางวลั ละ ๓๐๐,๐๐๐ บาท
รางวัลระดบั ดมี าก รางวลั ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท
รางวลั ระดบั ดี รางวัลละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท

ประกาศ ณ วนั ที่ 23 พฤศจิกายน ๒๕๖๔

(นางสาววภิ ารตั น์ ดีออ่ ง)
ผูอ้ านวยการสานกั งานการวจิ ัยแห่งชาติ

รางวััลการวิิจััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565 75

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

เกียี รติคิ ุุณประกาศ

รางวัลั การวิจิ ัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจััย
ประจำำปีีงบประมาณ 2565

รางวัลั ระดับั ดีีเด่น่

สาขาวิิศวกรรมศาสตร์์และอุตุ สาหกรรมวิจิ ััย

เรื่อ�่ ง
Microbial source tracking: เทคโนโลยีเี พื่่อ� การติิดตามแหล่่งปนเปื้�อ้ นจากน้ำำ��เสีีย

สู่�ก่ ารบริหิ ารจัดั การแหล่ง่ น้ำ�ำ� อย่า่ งยั่่�งยืืน
Microbial Source Tracking: Technology for Identifying Fecal Pollution

Sources for Sustainable Water Resource Management
โดย

ดร.ขวัญั รวีี สิริ ิิกาญจน และคณะ

สำนัักงานการวิิจััยแห่่งชาติิ (วช.) ได้้พิิจารณาเห็็นว่่าผลงานวิิจััย เรื่�่อง “Microbial source tracking:
เทคโนโลยีีเพื่่�อการติิดตามแหล่่งปนเปื้�้อนจากน้้ำเสีียสู่�่การบริิหารจััดการแหล่่งน้้ำอย่่างยั่�งยืืน” โดย ดร.ขวััญรวีี
สิิริิกาญจน และคณะ แห่่ง สถาบัันวิิจััยจุุฬาภรณ์์ สำนัักงานปลััดกระทรวงการอุุดมศึึกษา วิิทยาศาสตร์์ วิิจััย
และนวััตกรรม เป็็นงานวิิจััยที่�่ทำให้้เกิิดเทคโนโลยีีที่�่จะช่่วยแก้้ไขปััญหามลพิิษทางน้้ำที่่�ประเทศไทยประสบมาอย่่าง
ต่อ่ เนื่่อ� งและยาวนาน ช่่วยลดปัญั หาข้้อขััดแย้ง้ จากการร้อ้ งเรีียนปัญั หาการลัักลอบปล่อ่ ยน้ำ้ เสีีย ช่่วยทำให้้หน่่วยงาน
ต่่าง ๆ กำหนดแผนจััดการฟื้้�นฟููคุุณภาพน้้ำธรรมชาติิให้้เป็็นไปตามเป้้าหมายของยุุทธศาสตร์์ชาติิ ช่่วยประหยััด
งบประมาณการจัดั การคุณุ ภาพน้ำ้ และช่ว่ ยส่ง่ เสริมิ และกระตุ้้�นเศรษฐกิจิ การท่อ่ งเที่ย�่ วทางน้ำ้ ผลผลิติ และผลลัพั ธ์จ์ าก
โครงการวิจิ ัยั นี้�เป็น็ ประโยชน์ต์ ่อ่ วงการวิศิ วกรรมสิ่ง� แวดล้อ้ มและแหล่ง่ น้ำ้ โดยสร้า้ งกำลังั คนที่ม่� ีีทักั ษะการวิจิ ัยั เฉพาะ
ทางขั้้�นสูงู สร้า้ งระบบจัดั การด้า้ นวิจิ ัยั และโครงสร้า้ งพื้้�นฐานที่จ�่ ำเป็น็ และห้อ้ งปฏิบิ ัตั ิกิ ารที่ม�่ ีีความพร้อ้ ม เมื่อ่� ประเทศ
จำเป็็นต้้องใช้้ทรััพยากรเพื่�่อแก้้ไขปััญหาโจทย์์วิิจััยใหม่่ที่�่มีีความท้้าทายสููง โครงสร้้างการวิิจััยที่�่ถููกพััฒนาจากผลการ
วิจิ ัยั นี้� จะช่ว่ ยให้ป้ ระเทศไทยสามารถตอบสนองได้อ้ ย่า่ งรวดเร็ว็ ทัันต่อ่ สถานการณ์์ และช่่วยลดการพึ่ง่� พาเทคโนโลยีี
และผู้ �เชี่�่ยวชาญจากต่่างประเทศ

วช. จึงึ มีมี ติใิ ห้ผ้ ลงานเรื่อ่� งนี้� ได้ร้ ับั รางวัลั การวิจิ ัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำปีงี บประมาณ 2565
รางวัลั ระดับั ดีีเด่่น สาขาวิศิ วกรรมศาสตร์แ์ ละอุตุ สาหกรรมวิจิ ััย

76 รางวัลั การวิิจัยั แห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

1. ชื่อ�่ ผลงานวิจิ ัยั ภาพรวมของสถานการณ์ค์ ุณุ ภาพน้ำ้ จากแหล่ง่ กำเนิดิ แต่ย่ ังั
ชื่่�อผลงานวิิจััย Microbial source tracking: เทคโนโลยีี ไม่่สามารถระบุุที่่�มาของแหล่ง่ กำเนิดิ มลพิิษ
เพื่่�อการติิดตามแหล่่งปนเปื้�้อนจากน้้ำเสีีย
สู่่�การบริหิ ารจัดั การแหล่่งน้ำ้ อย่่างยั่ง� ยืืน การทราบแหล่่งกำเนิิดน้้ำเสีียจึึงเป็็นปััจจััยสำคััญ
หัวั หน้้าคณะ ดร.ขวัญั รวีี สิิริิกาญจน ในการจััดการน้้ำและฟื้�้นฟููคุุณภาพน้้ำอย่่างถููกต้้องและ
สถานที่่�ติิดต่อ่ ห้้องปฏิบิ ัตั ิกิ ารวิิจัยั เทคโนโลยีีชีีวภาพ เหมาะสม และสนัับสนุนุ แผนยุุทธศาสตร์์ชาติิ 20 ปีี ภายใต้้
สถาบัันวิจิ ััยจุฬุ าภรณ์์ ยุุทธศาสตร์์ที่่� 5 การเติิบโตที่่�เป็็นมิิตรกัับสิ่�งแวดล้้อมเพื่่�อ
ผู้้�ร่ว่ มวิจิ ััย 1. นายเอกชัยั คงประจักั ษ์์ การพััฒนาอย่่างยั่�งยืืน และแผนแม่่บทการบริิหารจััดการ
2. นางสาวณััฐชา ใช้โ้ รจน์์ ทรััพยากรน้ำ้ 20 ปีี (พ.ศ. 2561–2580) เป้้าหมายด้า้ นที่่� 4
3. ศ. ดร.ศกรณ์์ มงคลสุุข การจััดการคุุณภาพน้้ำและอนุุรัักษ์์ทรััพยากรน้้ำ รวมทั้�งลด
โทร. 08 0611 0555 ปััญหาคุุณภาพน้้ำทะเลเสื่่�อมโทรมและสนัับสนุุนภาคการ
E-mail : [email protected] ท่่องเที่�่ยวที่่�นำไปสู่่�การขัับเคลื่่�อนเศรษฐกิิจสีีน้้ำเงิิน (Blue
economy) ซึ่�่งเป็็นแนวคิิดใหม่่มุ่�งเน้้นการขัับเคลื่�่อนทาง
2. ความสำำคััญและที่่�มาของการวิิจััย เศรษฐกิิจด้้วยทรััพยากรธรรมชาติิทางทะเลและชายฝั่ �งเพื่่�อ
ปััญหาความเสื่่�อมโทรมของคุุณภาพแหล่่งน้้ำ การพัฒั นาที่ย่�ั่�งยืืน ตลอดจนช่ว่ ยลดปััญหาการเจ็็บป่ว่ ยจาก
ธรรมชาติิ เป็น็ ผลมาจากการปล่อ่ ยมลพิษิ ของเสีียจากแหล่ง่ เชื้ �อก่่อโรคที่่�ส่่งผลกระทบต่่อสุุขภาพของประชากรท้้องถิ่ �น
กำเนิดิ ต่่าง ๆ ทั้�งจากแหล่ง่ กำเนิิดมลพิษิ ที่�่ทราบจุุดแน่่นอน และนัักท่่องเที่่�ยว และเนื่่�องจากแหล่่งกำเนิิดน้้ำเสีียแต่่ละ
(point sources) เช่่น ปลายท่่อน้้ำทิ้�ง และรวมถึึงแหล่่ง ประเภทมีีโอกาสส่ง่ ผลกระทบต่อ่ สุขุ ภาพมนุษุ ย์ไ์ ด้แ้ ตกต่า่ งกันั
กำเนิิดมลพิิษที่่�ไม่่ทราบจุุดแน่่นอน (non-point sources เช่่น น้้ำเสีียปนเปื้�้อนสิ่่�งปฏิิกููลจากชุุมชนบ้้านเรืือนมีี
or diffuse sources) เช่น่ การรั่ว� ไหลของท่อ่ รวบรวมน้ำ้ เสีีย ความเสี่�่ยงต่่อสุุขภาพมนุุษย์์ได้้มากกว่่าน้้ำเสีียที่่�ปนเปื้�้อน
ใต้้ดิิน หรืือจากน้้ำฝนที่่�ชะพาสิ่�งสกปรกจากผิิวดิินลงสู่� สิ่ง� ปฏิกิ ูลู จากสัตั ว์์ ดังั นั้้�นการทราบแหล่ง่ กำเนิดิ มลพิษิ ที่แ�่ ม่น่ ยำ
แหล่่งน้้ำ ตลอดจนสิ่่�งปฏิิกููลจากสััตว์์ป่่าและนกน้้ำ เป็็นต้้น จะสามารถใช้้ประเมิินความเสี่่�ยงต่่อสุุขภาพและกำหนด
อย่่างไรก็็ตามแนวทางการจััดการคุุณภาพน้้ำในปััจจุุบััน มาตรการจััดการแหล่่งปล่่อยมลพิิษเพื่�่อลดความสููญเสีีย
มุ่�งเน้น้ การจัดั การแหล่ง่ กำเนิดิ แบบ point sources ในขณะ อันั เกิดิ จากความเจ็็บป่ว่ ยดังั กล่า่ ว
ที่แ�่ หล่่งกำเนิดิ แบบ non-point sources ที่่�มีีปริิมาณแหล่่ง
กำเนิดิ ที่ห่� ลากหลายและส่ง่ ผลต่อ่ ภาระมลพิษิ ที่ล�่ งสู่�แหล่ง่ น้ำ้ ดัังนั้้�นเทคโนโลยีีการตรวจระบุุแหล่่งกำเนิิดน้้ำเสีีย
ได้ม้ ากกว่า่ ยังั คงไม่ม่ ีีระบบบริหิ ารจัดั การที่เ�่ ป็น็ รูปู ธรรมหรืือ ปนเปื้้�อนในแหล่่งน้้ำอย่่างถููกต้้อง จะช่่วยลดปััญหา
ยัังไม่่มีีระบบการติดิ ตามตรวจสอบที่ช่� ัดั เจน ปััญหาดังั กล่า่ ว ข้้อขััดแย้้งจากการร้้องเรีียนปััญหาการลัักลอบปล่่อยน้้ำเสีีย
ทำให้ป้ ระเทศไทยสูญู เสีียงบประมาณในการจัดั การคุณุ ภาพ และวางแผนจััดการฟื้�้นฟููคุุณภาพน้้ำธรรมชาติิให้้มีีคุุณภาพ
น้ำ้ และน้้ำเสีียในปีี พ.ศ. 2562 สููงถึึง 2,154 ล้า้ นบาท ซึ่ง่� เป็็นไปตามเป้้าหมายของยุุทธศาสตร์์ชาติิ ช่่วยส่่งเสริิมและ
คิดิ เป็น็ ร้อ้ ยละ 50 ของงบประมาณทั้�งหมดที่ใ�่ ช้ใ้ นการบริหิ าร กระตุ้้�นเศรษฐกิจิ และลดความสููญเสีียจากการเจ็็บป่ว่ ยและ
จััดการมลพิิษและสิ่�งแวดล้อ้ ม เสีียชีีวิิตจากโรคติิดเชื้�อที่ส่� ่ง่ ผ่่านทางน้ำ้ ได้้
แม้้ที่่�ผ่่านมาได้้มีีการติิดตามตรวจสอบคุุณภาพน้้ำ
จากตัวั บ่่งชี้้�ต่า่ ง ๆ ทางชีีววิิทยา ได้้แก่่ แบคทีีเรีียกลุ่�มฟีคี อล 3. แหล่่งเงิินทุนุ สนับั สนุุนในการทำำวิจิ ััย
โคลิฟิ อร์ม์ และแบคทีีเรีียโคลิฟิ อร์ม์ ทั้�งหมด ซึ่ง�่ เป็น็ ดัชั นีีที่ใ่� ช้เ้ พื่อ�่ 1. สถาบันั วิจิ ััยจุฬุ าภรณ์์ ปีี พ.ศ. 2557–2560
กำหนดมาตรฐานคุุณภาพน้้ำผิิวดิินและน้้ำทะเลชายฝั่ �งของ 2. ฝ่่ายสวััสดิิภาพสาธารณะ สำนัักงานกองทุุน
ประเทศไทย ในขณะที่�่มาตรฐานน้้ำทิ้�งจากอาคารและจาก
โรงบำบััดน้้ำเสีียชุุมชนไม่่มีีการกำหนดค่่าดััชนีีชี้้�วััดดัังกล่่าว สนัับสนุนุ การวิิจััย (สกว.) ปีี พ.ศ. 2559–2561
จึึงเป็็นเหตุุให้้เกิิดปััญหาน้้ำเสีียปนเปื้้�อนสิ่่�งปฏิิกููล (fecal 3. ฝ่่ายสวััสดิิภาพสาธารณะ สำนัักงานกองทุุน
pollution) ลงสู่�แหล่่งน้้ำจืืดและน้้ำทะเลชายฝั่�งอย่่าง
ต่อ่ เนื่อ�่ ง อย่า่ งไรก็ต็ ามการใช้แ้ บคทีีเรีียมาตรฐานเป็น็ ดัชั นีีชี้้�วัดั สนัับสนุนุ การวิิจััย (สกว.) ปีี พ.ศ. 2561–2563
ทางชีีววิทิ ยายังั มีีข้อ้ จำกัดั ค่อ่ นข้า้ งมาก โดยแสดงให้เ้ ห็น็ เพีียง

รางวััลการวิจิ ัยั แห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565 77

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

4. วััตถุุประสงค์ข์ องการวิจิ ัยั 7. ประโยชน์ท์ ี่่ไ� ด้ร้ ับั จากการวิจิ ัยั
1. เพื่�่อพััฒนาเทคโนโลยีีการตรวจระบุุแหล่่งกำเนิิด ผลจากโครงการวิจิ ัยั ได้้ทำให้้เกิดิ เทคโนโลยีีที่จ�่ ะช่ว่ ย
มลพิิษปนเปื้�้อนจากน้้ำเสีียชุุมชนและฟาร์์มปศุุสััตว์์ด้้วย แก้้ไขปััญหามลพิิษทางน้้ำที่�่ประเทศไทยประสบมาอย่่าง
จุลุ ิินทรีีย์์ ต่อ่ เนื่อ่� งและยาวนาน ช่ว่ ยลดปัญั หาข้อ้ ขัดั แย้ง้ จากการร้อ้ งเรีียน
2. เพื่่�อศึึกษาคุุณสมบััติิเฉพาะตััวที่�่สำคััญ ได้้แก่่ ปัญั หาการลักั ลอบปล่่อยน้้ำเสีีย และทำให้ห้ น่ว่ ยงานต่่าง ๆ
อััตราการย่่อยสลาย (decay rates) อััตราการคืืนกลัับ กำหนดแผนจััดการฟื้้น� ฟููคุุณภาพน้ำ้ ธรรมชาติิให้เ้ ป็็นไปตาม
(recovery rates) รวมถึึงปััจจััยต่า่ ง ๆ เป้า้ หมายของยุทุ ธศาสตร์ช์ าติิ ช่ว่ ยประหยัดั งบประมาณการ
3. เพื่่�อประยุุกต์์ใช้้เทคโนโลยีีในพื้้�นที่�่ประสบปััญหา จัดั การคุณุ ภาพน้ำ้ และน้ำ้ เสีียของประเทศไทยและช่ว่ ยส่ง่ เสริมิ
หรืือได้ร้ ัับการร้้องเรีียนเรื่อ�่ งคุุณภาพน้้ำ และกระตุ้้�นเศรษฐกิิจการท่่องเที่�่ยวทางน้้ำ ผลผลิิตและ
4. เพื่�่อประเมิินความเสี่่�ยงการเจ็็บป่่วยจากการ ผลลัพั ธ์จ์ ากโครงการวิจิ ัยั นี้้�ยังั สร้า้ งความเข้ม้ แข็ง็ ทางวิชิ าการ
รัับสัมั ผัสั น้้ำที่่�ปนเปื้อ�้ นสิ่่ง� ปฏิิกูลู น้้ำเสีียและเชื้�อก่อ่ โรค ต่อ่ วงการวิศิ วกรรมสิ่ง� แวดล้อ้ มและแหล่่งน้้ำ โดยสร้้างกำลังั
5. เพื่่�อพััฒนาต่อ่ ยอดองค์์ความรู้� ได้้แก่่ การพัฒั นา คนที่ม่� ีีทักั ษะการวิจิ ัยั เฉพาะทางขั้้�นสูงู สร้า้ งระบบจัดั การด้า้ น
เครื่่�องมืือตรวจวัดั แบบมืือถืือที่�่ตรวจวััดได้้ในภาคสนาม วิิจััยและโครงสร้้างพื้้�นฐานที่่�จำเป็็น และห้้องปฏิิบััติิการที่�่มีี
6. เพื่่�อส่่งเสริิมให้้เกิิดการนำองค์์ความรู้�ไปใช้้ ความพร้้อม เมื่่�อประเทศจำเป็็นต้้องใช้้ทรััพยากรเพื่่�อแก้้ไข
ประโยชน์ต์ ่อ่ หน่ว่ ยงานรับั ผิดิ ชอบ ทั้�งในระดับั ชาติแิ ละระดับั ปััญหาโจทย์์วิิจััยใหม่่ที่�่มีีความท้้าทายสููง เช่่น การเฝ้้าระวััง
นานาชาติิ เชื้�อก่่อโรคอุุบััติิใหม่่โควิิด-19 ในน้้ำเสีีย โครงสร้้างการวิิจััย
ที่ถ�่ ูกู พัฒั นาจากผลการวิจิ ัยั นี้� จะช่ว่ ยให้ป้ ระเทศไทยสามารถ
5. ระยะเวลาที่่�ทำำการวิิจัยั ตอบสนองได้้อย่่างรวดเร็็ว ทัันต่่อสถานการณ์์ และช่่วยลด
ระยะเวลาการทำวิิจััย 5 ปีี 5 เดืือน ตั้�งแต่่วัันที่่� การพึ่่ง� พาเทคโนโลยีีและผู้�เชี่่�ยวชาญจากต่า่ งประเทศ
1 ตุลุ าคม พ.ศ. 2557 ถึึงวันั ที่่� 2 มีีนาคม พ.ศ. 2563
8. ศัักยภาพในการพัฒั นาไปสู่�่ การใช้ป้ ระโยชน์์
6. สรุุปผลการวิิจััย ในเชิิงสัังคม และ/หรืือ เชิิงพาณิชิ ย์์
ชุดุ โครงการวิจิ ัยั นี้�เป็น็ การสร้า้ งองค์ค์ วามรู้�ใหม่เ่ กี่ย่� วกับั โครงการได้้เผยแพร่่องค์์ความรู้�ไปสู่่�ผู้้�ใช้้ประโยชน์์
ก า ร ใช้้ เ ท ค โ น โ ล ยีี ก ลุ่ � ม จุุ ลิิ นทรีีย์์ ใ น ก า ร ต ร วจ ร ะ บุุ แ หล่่ ง
กำเนิดิ น้ำ้ เสีียในประเทศไทย (Microbial Source Tracking; ในระดัับท้้องถิ่�นและระดัับประเทศ ผ่่านการจััดทำคู่่�มืือ
MST) ผลงานวิจิ ัยั ครอบคลุมุ หัวั ข้อ้ สำคัญั ตั้�งแต่่ การพัฒั นาวิธิ ีี มาตรฐานการปฏิิบััติิงาน รายงานและแนวทางกำหนด
การตรวจวัดั ในห้อ้ งปฏิบิ ัตั ิกิ ารการศึึกษาลักั ษณะเฉพาะต่า่ งๆ มาตรการเฉพาะพื้้�นที่�่เพื่�่อลดการปนเปื้้อ� นของแหล่่งน้ำ้ การ
เพื่่�อประโยชน์์ในการระบุุแหล่่งปนเปื้�้อน การทดสอบวิิธีีที่่� จัดั การประชุมุ เชิงิ ปฏิบิ ัตั ิกิ าร และการจัดั ทำข้อ้ เสนอแนะเชิงิ
พัฒั นาใหม่่กัับตัวั อย่่างในพื้้�นที่�่จริงิ ของประเทศไทย เทคนิิค นโยบาย (policy brief) ให้้กับั หน่ว่ ยงานราชการที่่เ� กี่่�ยวข้อ้ ง
การเก็็บตััวอย่่างในภาคสนาม การประเมิินความเสี่่�ยงต่่อ นอกจากนี้�ผลลัพั ธ์์ (outcomes) ของโครงการ แสดงได้้จาก
สุุขภาพของผู้้�รัับสััมผััสน้้ำปนเปื้้�อน การต่่อยอดองค์์ความรู้� การต่อ่ ยอดโครงการวิจิ ัยั ไปเป็น็ ความร่ว่ มมืือกับั หน่ว่ ยงานที่่�
เพื่่�อพััฒนาเครื่�่องมืือแบบพกพาสำหรัับตรวจในภาคสนาม เกี่ย่� วข้อ้ ง ได้แ้ ก่่ 1) กองจัดั การคุณุ ภาพน้ำ้ กรมควบคุมุ มลพิษิ
ผลสำเร็็จของโครงการ ประกอบด้้วย เทคโนโลยีีการตรวจ กระทรวงทรัพั ยากรธรรมชาติแิ ละสิ่ง� แวดล้อ้ ม 2) การประปา
แหล่ง่ ปนเปื้อ�้ นในห้อ้ งปฏิบิ ัตั ิกิ ารจำนวน 9 รายการ การเผยแพร่่ นครหลวง และ 3) กลุ่�มมาตรฐานสิ่่ง� แวดล้อ้ มด้า้ นการปศุสุ ัตั ว์์
ผลงานในวารสารวิชิ าการระดับั นานาชาติจิ ำนวน 13 ผลงาน กรมปศุุสััตว์์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์์ เพื่อ่� ใช้ป้ ระโยชน์์
การนำเสนอในงานประชุุมวิิชาการระดัับนานาชาติิจำนวน จากงานวิิจััยในการระบุุแหล่่งปนเปื้้�อนมลพิิษในขอบเขต
16 ครั้�ง ผลกระทบเชิิงวิิชาการจากผลงานวิิจััยที่่�ได้้รัับการ การดูแู ลของแต่ล่ ะหน่่วยงาน
อ้้างอิงิ ในระดับั นานาชาติจิ ำนวน 95 ครั้�ง รางวััลผลงานวิจิ ััย
ระดับั นานาชาติิ จำนวน 6 รางวัลั

78 รางวัลั การวิิจััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ััย ประจำำปีีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

9. การนำำผลงานไปใช้้ประโยชน์ใ์ นมิติ ิติ ่่าง ๆ 10. ข้อ้ เสนอแนะเชิิงนโยบายที่่เ� สนอแนะ
 เชิิงชุมุ ชน/สังั คม ให้้แก่่รัฐั บาล/กระทรวงต่่าง ๆ และภาคเอกชน
 เชิิงพาณิิชย์์ เพื่่�อนำำไปใช้ว้ างนโยบาย พัฒั นา หรืือแก้ไ้ ขปัญั หา
 เชิิงวิชิ าการ
 เชิิงพื้้�นที่�่ เทคโนโลยีีการใช้้กลุ่ �มจุุลิินทรีีย์์เพื่่�อระบุุแหล่่งกำเนิิด
องค์์ความรู้�ที่่�เกิิดจากชุุดโครงการวิิจััยก่่อให้้เกิิด มลพิิษ สามารถนำเสนอหลัักฐานทางวิิทยาศาสตร์์เพื่่�อ
สนับั สนุนุ การแก้ไ้ ขปัญั หาคุณุ ภาพน้ำ้ เสื่อ�่ มโทรมของประเทศ
ประโยชน์เ์ ชิงิ ชุมุ ชน สังั คม และสิ่ง� แวดล้อ้ ม ในการสนับั สนุนุ และปรัับปรุุงช่่องว่่างของกฎระเบีียบ ข้้อบัังคัับในปััจจุุบััน
แผนแม่่บทการบริิหารจััดการทรััพยากรน้้ำ 20 ปีี (พ.ศ. ด้ว้ ยแนวทางวิเิ คราะห์ท์ างห้อ้ งปฏิบิ ัตั ิกิ าร ข้อ้ มูลู ข้อ้ ได้เ้ ปรีียบ
2561–2580) ด้้านที่่� 4 การจััดการคุุณภาพน้ำ้ และอนุุรักั ษ์์ และข้้อจำกััดของแต่่ละวิิธีี ในด้้านต้้นทุุน ระยะเวลา และ
ทรััพยากรน้้ำ ในด้า้ นการป้อ้ งกัันและลดการเกิดิ น้้ำเสีียจาก ปััจจััยอื่่�น ๆ รวมทั้�งตััวอย่่างการนำไปใช้้ประโยชน์์ในพื้้�นที่่�
แหล่ง่ กำเนิดิ และฟื้น�้ ฟูแู ม่น่ ้ำ้ ลำคลองและแหล่ง่ น้ำ้ ธรรมชาติิ ศึึกษาที่ผ�่ ่า่ นมา เพื่อ่� เป็น็ ข้อ้ มูลู ประกอบการวางแผนใช้ว้ ิธิ ีีการ
และสอดคล้้องตามเป้้าหมายตามยุุทธศาสตร์์ชาติิ 20 ปีี ที่�่เหมาะสมกัับงบประมาณและความรุุนแรงของปััญหาใน
(พ.ศ. 2561–2580) ภายใต้ย้ ุุทธศาสตร์์ที่่� 5 การเติบิ โตที่่เ� ป็น็ พื้้�นที่�่ และเพิ่่ม� ประสิทิ ธิภิ าพการบริหิ ารจัดั การน้ำ้ ในภาพรวม
มิติ รกัับสิ่ง� แวดล้้อมเพื่่�อการพััฒนาอย่่างยั่�งยืืน โดยเฉพาะใน
รายละเอีียด เรื่่�องการสร้้างการเติิบโตอย่่างยั่�งยืืนบนสัังคม
เศรษฐกิิจสีีน้้ำเงิิน องค์์ความรู้�ที่่�ได้้ยัังเป็็นการเตรีียมความ
พร้้อมให้้ประเทศไทยเป็็นผู้้�นำด้้านการจััดการสิ่ �งแวดล้้อม
ที่�่ดีีที่�่สุุดในกลุ่�มประเทศอาเซีียน ตามเป้้าประสงค์์ของกรม
ควบคุุมมลพิิษ นอกจากนี้้�ยัังถููกนำไปใช้้ประโยชน์์โดยตรง
ต่่อการอนุรุ ัักษ์์แหล่ง่ น้ำ้ ดิิบสำหรับั ผลิติ น้้ำประปา (โครงการ
อยู่�ระหว่า่ งดำเนินิ การ) ซึ่ง่� เป็น็ การสนับั สนุนุ แผนยุทุ ธศาสตร์์
การบริิหารการประปานครหลวง ฉบัับที่�่ 4 (พ.ศ. 2560-
2564) ในยุทุ ธศาสตร์ด์ ้า้ นที่�่ 2 ดำเนินิ การตามแผนน้ำ้ ประปา
ปลอดภัยั (water safety plan) และสร้้างเสถีียรภาพระบบ
น้้ำดิิบ-ผลิิต-จ่่าย ที่่�ก่่อให้้เกิิดความยั่�งยืืนทางสิ่�งแวดล้้อม
ที่จ�่ ะช่ว่ ยส่ง่ เสริมิ เป้า้ หมายการพัฒั นาอย่า่ งยั่ง� ยืืนขององค์ก์ าร
สหประชาชาติิ หััวข้้ออัันดัับที่่� 6 เรื่�่อง น้้ำสะอาดและการ
สุุขาภิบิ าล

ประโยชน์เ์ ชิงิ วิชิ าการ แสดงให้เ้ ห็น็ ได้จ้ ากผลงานวิจิ ัยั
ที่เ่� ป็น็ ที่ย่� อมรับั ในระดับั นานาชาติิ ผู้�วิจิ ัยั ได้ร้ ับั เชิญิ ให้น้ ำเสนอ
และแลกเปลี่�่ยนผลงานวิิจััย รวมถึึงเป็็นผู้้�ทรงคุุณวุุฒิิในเวทีี
ระดัับนานาชาติิ ความร่่วมมืือกัับนัักวิิจััยชั้้�นนำระดัับโลก
การผลิติ กำลัังคนที่่�มีีความสามารถด้า้ นงานวิิจัยั การมีีความ
พร้้อมของทรััพยากรวิิจััย ทำให้ส้ ามารถทำงานวิจิ ััยเชิงิ ลึึกที่�่
มีีผลกระทบสููงและต่่อยอดองค์์ความรู้� และเพิ่่�มศัักยภาพ
ในการแข่ง่ ขัันด้า้ นวิชิ าการของประเทศ

รางวัลั การวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565 79

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

เกีียรติิคุุณประกาศ

รางวัลั การวิจิ ััยแห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ััย
ประจำำปีงี บประมาณ 2565

รางวัลั ระดัับดีีมาก

สาขาวิิทยาศาสตร์์กายภาพและคณิติ ศาสตร์์

เรื่�อ่ ง
กระบวนการผลิติ โซล่า่ เซลล์์ชนิิดเพอรอฟสไกต์์แบบหลายชั้้�นทีีละชั้้�น
ที่่ค� วบคุมุ ได้เ้ ป็น็ ครั้้ง� แรกของโลกที่่�มีีประสิทิ ธิภิ าพและความทนทานความชื้้�นสููง
Layer-by-layer Spray Coating of a Stacked Perovskite Absorber for Perovskite
Solar Cells with Better Performance and Stability under a Humid Environment

โดย
ผู้้�ช่่วยศาสตราจารย์์ ดร.พงศกร กาญจนบุษุ ย์์ และคณะ

สำนัักงานการวิิจััยแห่่งชาติิ (วช.) ได้้พิิจารณาเห็็นว่่าผลงานวิิจััย เรื่่�อง “กระบวนการผลิิตโซล่่าเซลล์์ชนิิด
เพอรอฟสไกต์์แบบหลายชั้้�นทีีละชั้�นที่่�ควบคุุมได้้เป็็นครั้�งแรกของโลก ที่่�มีีประสิิทธิิภาพและความทนทาน
ความชื้�นสููง” โดย ผู้้�ช่ว่ ยศาสตราจารย์์ ดร.พงศกร กาญจนบุษุ ย์์ และคณะ แห่ง่ มหาวิทิ ยาลัยั มหิดิ ล เป็น็ ผลงานที่�่
มีีคุณุ ภาพในระดับั ดีีมาก มีีประสิทิ ธิภิ าพและมีีศักั ยภาพสูงู โดยเป็น็ งานวิจิ ัยั สร้า้ งสรรค์ท์ ี่ส่� ามารถใช้เ้ ทคนิคิ Sequential
Spray Deposition (SSD) มาสร้า้ งเซลล์แ์ สงอาทิติ ย์์เพอรอฟสไกต์ห์ ลายชั้้�น ทำให้ไ้ ด้้เซลล์แ์ สงอาทิติ ย์ท์ ี่่�มีีคุุณภาพสููง
ทนความชื้้�น และราคาประหยัดั และได้ส้ ังั เคราะห์แ์ ละปรับั ปรุงุ สารกึ่ง่� ตัวั นำชนิดิ เพอรอฟสไกต์แ์ บบมีีสีีและกึ่ง่� โปร่ง่ แสง
ให้เ้ หมาะกับั การใช้ท้ ดแทนกระจกโดยการหมุนุ เหวี่ย่� งขึ้้�นรูปู ฟิลิ ์ม์ บางจากสารละลาย และยังั สร้า้ งแผ่น่ ฟิลิ ์ม์ บางที่ม่� ีีส่ว่ น
ประกอบของสารกึ่�่งตััวนำชนิิดเพอรอฟสไกต์์ที่่�มีีทั้้�งแบบมีีสีีและกึ่�่งโปร่่งแสงที่�่มีีสภาพพื้้�นผิิวและสมบััติิทางไฟฟ้้าที่่�ดีี
ทำให้้สามารถสร้้างเซลล์์แสงอาทิิตย์์ที่่�ทนกัับสภาพอากาศของเมืืองไทยได้้ และสามารถใช้้ประโยชน์์ได้้ทั้�งในภาค
ครััวเรืือนและภาคอุุตสาหกรรม งานวิิจััยชิ้้�นนี้้�สร้้างกระบวนการที่�่ทำให้้โซล่่าเซลล์์ชนิิดเพอรอฟสไกต์์มีีความทนกัับ
ความชื้้�นมากขึ้้�น เหมาะที่่�จะนำไปต่่อยอดเป็็นผลิิตภััณฑ์์ที่่�เหมาะสมสำหรัับสภาพอากาศร้้อนชื้้�นของเมืืองไทยและ
ประเทศเพื่่�อนบ้้าน นอกจากนี้�ผลงานวิิจััยยัังได้้ถููกตีีพิิมพ์์เผยแพร่่ในวารสารวิิชาการระดัับนานาชาติิ และได้้รัับการ
ยอมรับั ในระดัับนานาชาติิ

วช. จึงึ มีมี ติใิ ห้ผ้ ลงานเรื่อ�่ งนี้� ได้ร้ ับั รางวัลั การวิจิ ัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำปีงี บประมาณ 2565
รางวััลระดัับดีีมาก สาขาวิทิ ยาศาสตร์ก์ ายภาพและคณิติ ศาสตร์์

80 รางวััลการวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

1. ชื่่อ� ผลงานวิจิ ัยั การเลืือกพัฒั นาเทคโนโลยีีสำหรับั พลังั งานทางเลืือก
ชื่อ่� ผลงานวิิจััย กระบวนการผลิติ โซล่า่ เซลล์ช์ นิดิ เพอรอฟสไกต์์ ให้้มีีความปลอดภััย เหมาะสม และยั่�งยืืนสำหรัับอนาคต
แบบหลายชั้�้นทีีละชั้้�นที่่�ควบคุุมได้้เป็็น พบว่่าการพััฒนาเทคโนโลยีีพลัังงานจากแสงอาทิิตย์์ซึ่่�งเป็็น
ค รั้้� ง แ ร ก ข อ ง โ ล ก ที่�่ มีีป ร ะ สิิ ทธิิ ภ า พ แหล่่งพลัังงานขนาดใหญ่่และเป็็นแหล่่งพลัังงานสะอาด
และความทนทานความชื้้�นสูงู สามารถช่่วยแก้ป้ ัญั หาวิกิ ฤติทิ างพลังั งานได้้ (รููปที่�่ ๒)
หััวหน้้าคณะ รองศาสตราจารย์์ ดร.พงศกร กาญจนบุษุ ย์์
สถานที่่ต� ิดิ ต่อ่ กลุ่�มสาขาวิชิ าวััสดุศุ าสตร์แ์ ละนวััตกรรมวััสดุุ รูปู ที่�่ 2 แนวโน้ม้ การศึึกษาและพััฒนาเทคโนโลยีพี ลังั งานทางเลือื ก
คณะวิิทยาศาสตร์์ มหาวิิทยาลััยมหิิดล
รหััสไปรษณีีย์์ ๑๐๔๐๐ อ้า้ งอิิง : International Energy Agency (2015)
ผู้้�ร่่วมวิิจััย 1. นายกช อามระดิิษฐ์์ ที่�่ผ่่านมาเซลล์์แสงอาทิิตย์์ที่�่นำมาใช้้สำหรัับพััฒนา

2. นางสาวจิิตประภัสั สร์์ พลชััย เทคโนโลยีีด้า้ นพลัังงานแสงอาทิิตย์์ ได้แ้ ก่่ เซลล์แ์ สงอาทิติ ย์์
3. นางสาวปภาดา แก้้วอุไุ ร ประเภทผลึึกซิลิ ิิกอน (c-Si) เซลล์์แสงอาทิิตย์์ประเภทฟิลิ ์์ม
4. นางสาวพิิมพ์์สุุดา ภารสงััด บางจากวัสั ดุุเชิิงประกอบทองแดงอินิ เดีียมแกลเลีียมซีีลีีไนด์์
5. นางสาวกุุสุมุ า ปิ่่น� สุวุ รรณ์์ (CIGS) เป็็นต้้น อย่่างไรก็็ตามเซลล์์แสงอาทิิตย์์จากผลึึก
6. ดร.พิศิ ิิษฐ์์ คำหน่อ่ แก้ว้ ซิลิ ิกิ อนและวัสั ดุเุ ชิงิ ประกอบทองแดงอินิ เดีียมแกลเลีียมซีีลีีไนด์์
7. ผศ. ดร.พิพิ ััฒน์์ เรืือนคำ ยัังคงประสบปััญหาทางด้้านต้้นทุุนและปริิมาณพลัังงาน
2. ความสำำคััญและที่่ม� าของการวิิจัยั ที่�่นำมาใช้้ในการผลิิตเซลล์์แสงอาทิิตย์์ประเภทนี้้� ดัังนั้้�น
ณ ปััจจุุบัันจากการเจริิญเติิบโตทางด้้านเศรษฐกิิจ นัักวิิจััยทางด้้านพลัังงานแสงอาทิิตย์์ทั่่�วทั้้�งโลกจึึงให้้
สัังคม และจำนวนประชากรที่่�เพิ่่�มขึ้้�น เร่่งให้้เกิิดความ ความสนใจและมุ่�งเน้น้ ที่จ�่ ะศึึกษาและพัฒั นาเซลล์แ์ สงอาทิติ ย์์
ต้้องการพลัังงานและนำไปสู่่�การใช้้ทรััพยากรที่�่มีีอยู่ �อย่่าง จากวััสดุุเชิิงประกอบเพอรอฟสไกต์์ (perovskite) ซึ่่�งเป็็น
จำกัดั มากยิ่ง� ขึ้้�น ส่ง่ ผลให้ส้ ภาพแวดล้อ้ มทั่่ว� โลกเสื่อ่� มถอยลง วััสดุุเชิิงประกอบชนิิดใหม่่ที่�่มีีต้้นทุุนการผลิิตที่่�ต่่ำที่�่ให้้
อย่่างรวดเร็็ว จากปััญหาความต้้องการพลัังงานดัังกล่่าวจึึง ประสิิทธิิภาพที่�่สููงมากยิ่�งขึ้้�น ซึ่�่งเป็็นเทคโนโลยีีใหม่่ที่�่ถููก
เป็น็ แรงผลักั ดันั เร่ง่ ให้เ้ กิดิ การวิจิ ัยั และพัฒั นาเทคโนโลยีีเพื่อ่� พัฒั นาขึ้้�นในช่ว่ งไม่ก่ ี่ป่� ีที ี่ผ�่ ่า่ นมาให้ผ้ ลลัพั ธ์ด์ ้า้ นประสิทิ ธิภิ าพ
แก้ไ้ ขปัญั หาก่อ่ นจะเกิดิ วิกิ ฤติทิ างด้า้ นพลังั งาน ดังั เห็น็ ได้จ้ าก เทีียบเท่่ากัับเซลล์์แสงอาทิิตย์์ประเภทผลึึกรวมซิิลิิกอน
ภาพที่�่ 1 แสดงพื้้�นที่่�ของทั่่�วโลกในเวลากลางคืืน ซึ่ง�่ สะท้อ้ น (polycrystalline silicon) และจากวััสดุุเชิิงประกอบ
ถึึงความต้้องการพลัังงานของทุุกภาคส่่วนที่�่มีีความสััมพัันธ์์ ทองแดงอิินเดีียมแกลเลีียมซีีลีีไนด์์ ในอนาคตมีีการ
โดยตรงต่่อความต้อ้ งการพลังั งานอย่า่ งแท้จ้ ริิง คาดการณ์์ว่่าจะเซลล์์แสงอาทิิตย์์ประเภทวััสดุุเชิิงประกอบ
เพอรอฟสไกต์์ จะให้้ประสิิทธิิภาพเทีียบเท่่าหรืืออาจจะ
รูปู ที่่� 1 แผนที่ก่� ารใช้พ้ ลังั งานไฟฟ้า้ ตามภูมู ิภิ าคต่า่ ง ๆ ทั่่ว� โลกในเวลากลางคืนื ให้้ประสิิทธิิภาพสููงกว่่าเซลล์์แสงอาทิิตย์์จากผลึึกซิิลิิกอน
เชิิงเดี่�่ยว (single silicon) นอกจากนี้�เซลล์์แสงอาทิิตย์์
อ้า้ งอิงิ : NASA Earth Observatory/NOAA NGDC (2012) ประเภทวััสดุุเชิิงประกอบเพอรอฟสไกต์์ ยัังมีีต้้นทุุนด้้าน
การผลิิตที่ต่� ่่ำใกล้้เคีียงกับั การผลิิตเซลล์แ์ สงอาทิติ ย์์ประเภท
สารประกอบอินิ ทรีีย์์ และเซลล์แ์ สงอาทิติ ย์ช์ นิดิ สีีย้อ้ มไวแสง
อีีกด้ว้ ย

รางวัลั การวิจิ ัยั แห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ััย ประจำำปีีงบประมาณ 2565 81

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

กัับวััสดุุแบบดั้�งเดิิม เช่่น ซิิลิิกอน จึึงมีีความเหมาะสมที่�่จะ
นำไปพััฒนาในเชิิงอุุตสาหกรรมขนาดใหญ่่ของประเทศไทย
เพื่่อ� ให้้มีีความมั่่ง� คงทางพลัังงานต่อ่ ไปได้ใ้ นอนาคต

รููปที่�่ 3 การเปรีียบเทีียบประสิิทธิิภาพการทำงานของเซลล์์แสงอาทิิตย์์ 3. แหล่ง่ เงิินทุุนสนัับสนุุนในการทำำวิิจััย
ชนิดิ ต่า่ ง ๆ โครงการร่ว่ มสนับั สนุนุ ทุนุ วิจิ ัยั และพัฒั นา กฟผ.-สวทช.

ด้้วยคุุณสมบััติิเฉพาะตััวที่�่พิิเศษเหล่่านี้้�ร่่วมกัับ 4. วัตั ถุุประสงค์ข์ องการวิจิ ััย
การศึึกษาและพัฒั นาวัสั ดุเุ พอรอฟสไกต์์ เพื่อ�่ เป็น็ ชั้้�นดูดู กลืืน 1. สัังเคราะห์์และปรัับปรุุงสารกึ่่�งตััวนำชนิิด
แสงในเซลล์์แสงอาทิิตย์์ชนิิดใหม่่อย่่างมีีประสิิทธิิภาพทำให้้ เพอรอฟสไกต์์แบบมีีสีีและกึ่�่งโปร่่งแสงให้้เหมาะกัับการใช้้
เซลล์์พลัังงานแสงอาทิิตย์์เพอรอฟสไกต์์ มีีประสิิทธิิภาพ ทดแทนกระจก
สููงกว่่า 20% ในเวลาเพีียงไม่่กี่�่ปีีของการศึึกษาและพััฒนา 2. สร้้างแผ่่นฟิิล์์มบางที่่�มีีส่่วนประกอบของสารกึ่�่ง
วััสดุุชนิิดนี้้�ไม่่เพีียงแต่่มีีความน่่าสนใจเฉพาะด้้านงานวิิจััย ตััวนำชนิิดเพอรอฟสไกต์์แบบมีีสีีและกึ่�่งโปร่่งแสงที่�่มีีสภาพ
เซลล์์แสงอาทิิตย์์เท่่านั้้�น วััสดุุเพอรอฟสไกต์์ยัังมีีศัักยภาพ พื้้�นผิวิ และสมบัตั ิทิ างไฟฟ้า้ ที่ด่� ีี สามารถสร้า้ งเซลล์แ์ สงอาทิติ ย์์
ในการนำไปประยุุกต์์ใช้้ในงานด้้านต่่าง ๆ อย่่างกว้้างขวาง และทนกับั สภาพอากาศเมืืองไทยได้้
อาทิิ ด้้านเลเซอร์์ (lasing) อุุปกรณ์์ไดโอดเปล่่งแสง 3. ขึ้้�นรูปู และสร้า้ งเซลล์แ์ สงอาทิติ ย์แ์ บบกึ่ง�่ โปรงแสง
(light emitting diodes) และอุุปกรณ์์ตรวจจัับแสง ขนาดเล็็ก
(photo detectors) เป็็นต้้น การศึึกษาและพััฒนาเซลล์์
แสงอาทิติ ย์์เพื่อ่� ให้ไ้ ด้ป้ ระสิทิ ธิภิ าพที่�่สููงเท่่านั้้�น ยัังต้อ้ งคำนึึง 5. ระยะเวลาที่่ท� ำำการวิจิ ััย
ถึึงประโยชน์ใ์ ช้ส้ อยที่ห่� ลากหลายและความสวยงาม อย่า่ งไร มกราคม 2561 - ธัันวาคม 2562
ก็็ตามการศึึกษาวิิจััยและพััฒนาเทคโนโลยีีเซลล์์แสงอาทิิตย์์
จากเพอรอฟสไกต์์ ส่่วนใหญ่่ ณ ปััจจุุบัันมุ่่�งเน้้นศึึกษาและ 6. สรุุปผลการวิจิ ัยั
พััฒนาเซลล์์แสงอาทิิตย์์จากเพอรอฟสไกต์์แบบทึึบแสง โดยปกติิโซล่่าเซลล์์ชนิิดเพอรอฟสไกต์์จะมีีวััสดุุ
โดยเฉพาะอย่่างยิ่ �งเซลล์์แสงอาทิิตย์์ที่�่มีีโครงสร้้างของ ชนิิดเพอรอฟสไกต์์เพีียงชั้้�นเดีียวในการดููดกลืืนแสงอาทิิตย์์
ชั้้�นดูดู กลืืนแสงแบบ CH3NH3PbI3 เนื่อ�่ งจากมีีประสิทิ ธิภิ าพ เพื่่�อสร้า้ งพลังั งานไฟฟ้้า ถ้า้ จะมีีวัสั ดุุเพอรอฟสไกต์ห์ ลายชั้้�น
ที่่�สููง แต่่เซลล์์แสงอาทิิตย์์แบบทึึบแสงมีีข้้อจำกััดในการใช้้ ต้อ้ งใช้ว้ ัสั ดุอุ ื่น่� มาคั่น� กลางเพื่อ่� ไม่ใ่ ห้ช้ ั้้�นด้า้ นบนมาทำลายวัสั ดุุ
งานโดยไม่่สามารถนำไปใช้้แทนกระจกหรืือวััสดุุภายนอก ชั้้�นด่่านล่่าง งานวิิจััยชิ้้�นนี้้�ทำให้ส้ ามารถสร้้างโซล่า่ เซลล์์ชนิดิ
ของอาคารที่่�ต้้องการให้้แสงผ่่านเข้้าไปได้้บางส่่วน ดัังนั้้�น เพอรอฟสไกต์แ์ บบหลายชั้้�นต่อ่ กัันและควบคุุมความหนาได้้
เพื่อ่� แก้้ไขปััญหาดัังกล่า่ ว งานวิจิ ัยั นี้�จึงมุ่�งเน้้นศึึกษาการผลิติ ในระดัับนาโนมิิเตอร์์เป็็นครั้�งแรกของโลกด้้วยกระบวนการ
เซลล์์แสงอาทิิตย์์จากเพอรอฟสไกต์์แบบมีีสีี ไม่่ทึึบแสง ขึ้้�นรููปแบบสเปรย์์ที่�่ควบคุุมจำนวนและขนาดของอนุุภาค
โดยการปรัับมิิติิของเพอรอฟสไกต์์ เพื่�อ่ ให้้เกิิดปรากฏการณ์์ ของเหลวจากหััวสเปรย์์และความร้้อนอย่่างเหมาะสมทำให้้
การกีีดกัันทางควอนตััม และเทคโนโลยีีสารละลายโดยใช้้ อนุภุ าคของเหลวก่่อตัวั เป็น็ ผลึึกสารกึ่่�งตัวั นำทันั ทีีเมื่อ่� สัมั ผัสั
แฮไลด์ช์ นิดิ ต่่าง ๆ และสิ่�งเจอปนอื่�น่ ๆ เพื่อ�่ สร้า้ งชั้้�นกีีดขว้า้ ง กัับแผ่่นรองรัับหรืือชั้้�นเพอรอฟสไกต์์ด่่านล่่าง (รููปที่่� 4) ใน
ความชื้้�นเพื่่�อความทนทานและเหมาะสมกัับสภาพอากาศ งานวิิจััยเพื่่�อแสดงถึึงศัักยภาพของกระบวนการที่่�พััฒนาขึ้้�น
เมืืองไทย ซึ่�่งเป็็นการปรัับช่่องว่่างของแถบพลัังงานและ ทีีมวิิจััยสร้้างวััสดุุเพอรอฟสไกต์์ที่่�มีีความทนทาน ความ
นำไปสู่่�สารกึ่ง่� ตัวั นำที่ม่� ีีลักั ษณะกึ่ง่� โปร่ง่ แสงและสร้า้ งเสถีียรภาพ ชื้้�นมากแต่่สร้้างไฟฟ้้าได้้ไม่่ดีีนััก โดยควบคุุมความหนาให้้มีี
ที่�่สููงขึ้้�นอีีกด้้วย เซลล์์แสงอาทิิตย์์จากเพอรอฟสไกต์์แบบ ค่า่ น้อ้ ยลงบนเพอรอฟสไกต์อ์ ีีกชนิดิ ที่ไ่� ม่ท่ นทาน ความชื้้�นแต่่
กึ่่�งโปร่่งแสงเป็็นเทคโนโลยีีที่่�สามารถร่่วมช่่วยแก้้ปััญหา สร้า้ งไฟฟ้า้ ได้้มากโดยควบคุุมความหนาให้้มีีค่่ามาก ผลลััพธ์์
วิกิ ฤติดิ ้า้ นพลังั งาน อีีกทั้�งยังั มีีค่า่ ใช้จ้ ่า่ ยต่่ำและสามารถสร้า้ ง คืือโซล่่าเซลล์์ที่�่ได้้รัับข้้อดีีจากทั้ �งสองชั้้�นที่่�ทั้ �งทนทานและ
โดยใช้้เทคนิิคอย่่างง่่าย ในขณะเดีียวกัันเซลล์์แสงอาทิิตย์์ สร้้างไฟฟ้้าได้้ดีี กระบวนการใหม่่นี้�เปิิดช่่องทางสำหรัับการ
จากเพอรอฟสไกต์์ เป็็นสารกึ่่�งตััวนำที่่�มีีคุณุ ภาพสููงใกล้เ้ คีียง พัฒั นานวัตั กรรมใหม่่ๆต่อ่ ไปอีีกมากกว่า่ เทคนิคิ ที่ม่� ีีในปัจั จุบุ ันั

82 รางวััลการวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

ทำให้ส้ ามารถพัฒั นาโซล่า่ เซลล์ห์ รืือวัสั ดุอุ ิเิ ล็ก็ ทรอนิกิ ส์ต์ ่า่ ง ๆ Deposition (SSD) เพื่่�อสร้้างฟิิล์์มเพอรอฟสไกต์์ทีีละชั้้�น
เช่น่ เซ็น็ เซอร์์ หรืือ แอลอีีดีี ให้ม้ ีีประสิทิ ธิภิ าพที่ด�่ ีีขึ้้�นหรืือการ ท ำ ใ ห้้ เ กิิ ด เ พ อ ร อ ฟ ส ไ ก ต์์ ห ล า ย ชั้้�น ที่่� ค ว บ คุุ ม ไ ด้้ เ ป็็ น
ใช้ง้ านในรููปแบบใหม่่ ๆ ครั้�งแรก เราแสดงถึึงการทำงานของ SSD โดยการสร้้าง
ฟิิล์์มเพอรอฟสไกต์์สองชั้้�นจากเพอรอฟสไกต์์ที่่�มีีมิิติิต่่างกััน
7. ประโยชน์์ที่่ไ� ด้้รับั จากการวิิจััย โดยเคลืือบเพอรอฟสไกต์์กึ่�่งสองมิิติิที่่�มีีเสถีียรภาพสููงบน
1) กระบวนการผลิิตโซล่่าเซลล์์ชนิิดเพอรอฟสไกต์์ เพอรอฟสไกต์์แบบสามมิิติิที่่�มีีี�ประสิิทธิิภาพทางไฟฟ้้าที่่�ดีี
แบบหลายชั้้�นที่่�ควบคุุมได้้เป็็นครั้�งแรกของโลก งานวิิจััยนี้� ด้ว้ ยกระบวนการ SSD ภายใต้ส้ ภาพอากาศทั่่ว� ไป (40 -50%
เป็็นองค์์ความรู้�ที่�่สามารถนำไปต่่อยอดสู่่�นวััตกรรมและ RH) เราสามารถสร้้างเพอรอฟสไกต์์ที่่�มีีเสถีียรภาพที่�ส่ ูงู และ
อุปุ กรณ์ไ์ ฟฟ้า้ และอิเิ ล็ก็ ทรอนิกิ ส์ต์ ่า่ ง ๆ เช่น่ เซ็น็ เซอร์์ แอลอีีดีี มีีประสิิทธิิภาพทางไฟฟ้้าที่่�ดีีไปพร้้อม ๆ กััน กระบวนการ
โซล่า่ เซลล์์ และอื่่น� ๆ SSD สามารถเปิิดเส้้นทางใหม่่สำหรัับการผลิิตเซลล์์แสง
2) สร้า้ งชื่อ�่ เสีียงให้ผู้้�วิจิ ัยั และประเทศไทยในวงกว้า้ ง อาทิติ ย์แ์ บบเพอรอฟสไกต์ข์ นาดใหญ่่ ภายใต้ส้ ภาพแวดล้อ้ ม
ในระดัับชาติิและนานาชาติิ โดยงานวิิจััยนี้�เข้้าถึึงผู้้�อ่่าน ทั่่�วไป ทำให้้สามารถลดต้้นทุุนในการผลิิตเซลล์์แสงอาทิิตย์์
อย่า่ งน้อ้ ย 11.9 ล้า้ นคน ผ่า่ นสื่อ่� ต่า่ ง ๆ ทั้�งในและนอกประเทศ ดัังกล่่าว
เช่น่ World Industrial Reporter และ Science Daily
3) ผลิติ บุุคลากรวิจิ ััยที่่�มีีคุณุ ภาพ 9. การนำำผลงานไปใช้้ประโยชน์ใ์ นมิติ ิติ ่า่ ง ๆ
4) ทุนุ วิจิ ัยั สำหรับั งานวิจิ ัยั นี้�ได้ร้ ับั การสนับั สนุนุ จาก  เชิงิ ชุมุ ชน/สังั คม
การไฟฟ้้าฝ่า่ ยผลิิต สวทช. และคณะวิทิ ยาศาสตร์์ ม.มหิิดล สามารถนำไปต่่อยอดเพื่�่อพััฒนาโซล่่าเซลล์์ที่่�
ทำให้้เกิิดความร่่วมมืือระหว่่างหน่่วยงานในรููปแบบต่่าง ๆ
โดยทุุนวิิจััยนี้�ผลิิตผลงานระดัับนานาชาติิ Q1 จำนวน เหมาะสมกับั เมืืองไทย เนื่อ่� งจากโซล่า่ เซลล์ช์ นิดิ เพอรอฟสไกต์์
3 เรื่�่อง และอนุุสิิทธิิบััตรระหว่่างสามหน่่วยงาน 2 เรื่่�อง มีีประสิิทธิิภาพไม่่ลดลงตามอุุณหภููมิิที่่�สููงขึ้้�น ต่่างจาก
โดย รศ. ดร.พงศกร กาญจนบุษุ ย์์ เป็น็ corresponding โซล่า่ เซลล์ช์ นิิดซิลิ ิิกอนที่�่ใช้้ในปัจั จุบุ ันั
author หรืือผู้้�ประดิิษฐ์์ในทั้้�ง 5 ผลงานดัังกล่่าว ทั้�งสอง
อนุุสิิทธิบิ ััตรได้้รัับการจดทะเบีียนแล้ว้ นัักศึึกษาที่่เ� กี่�่ยวข้อ้ ง  เชิิงพาณิชิ ย์์
กัับทุุนวิิจััยนี้�ได้้งานที่่�ดีีทำหลัังจบการศึึกษาทุุกคน ทั้�งที่�่ สามารถนำไปต่่อยอดเพื่่�อพััฒนาเพอรอฟสไกต์์แบบ
สวทช. บริษิ ััทซีีเกท เทคโนโลยีี (ประเทศไทย) เป็น็ ต้้น หลายชั้้�นเพื่่�อประยุุกต์ใ์ ช้้ในด้้านต่่าง ๆ
5) กลุ่�มวิิจััยของกระผมกำลัังนำองค์์ความรู้้�จาก  เชิิงวิชิ าการ
งานวิจิ ัยั ข้า้ งต้น้ ไปพััฒนาต่่อยอดเป็็นควอนตัมั เซนเซอร์ช์ นิิด ผลิิตบุุคลากรวิิจััยที่�่มีีคุุณภาพ ผลงานตีีพิิมพ์์ระดัับ
เพอรอฟสไกต์ด์ ้ว้ ยการสเปรย์์ โดยได้ร้ ับั ทุนุ โครงการควอนตัมั นานาชาติิ
จากรััฐบาล  เชิิงพื้้�นที่�่ นำมาประยุกุ ต์ใ์ ช้้ในการเรีียนการสอน
ที่ค�่ ณะวิิทยาศาสตร์์ มหาวิิทยาลัยั มหิดิ ล
8. ศัักยภาพในการพัฒั นาไปสู่�่ การใช้้ประโยชน์์
ในเชิงิ สังั คม และ/หรืือ เชิิงพาณิิชย์์ 10. ข้้อเสนอแนะเชิิงนโยบายที่่�เสนอแนะให้้แก่่
เพอรอฟสไกต์์เป็็นวััสดุุชนิิดใหม่่ที่�่สามารถนำมา รัฐั บาล/กระทรวงต่่าง ๆ และภาคเอกชน

ผลิิตเป็็นเซลล์์แสงอาทิิตย์์ที่�่มีีประสิิทธิิภาพสููง โดยสามารถ เพื่อ่� นำำไปใช้ว้ างนโยบาย พัฒั นา หรืือแก้ไ้ ขปัญั หา
ผลิติ จากสารละลาย ทำให้ต้ ้น้ ทุนุ การผลิติ ต่่ำและยังั สามารถ ให้ท้ ุนุ วิิจัยั อย่า่ งต่อ่ เนื่อ่� ง พัฒั นาระบบ ecosystem
ปรัับปรุุงคุุณสมบััติิของเซลล์์แสงอาทิิตย์์ โดยเปลี่่�ยนแปลง
องค์์ประกอบของสารละลายตั้�งต้น้ เพื่�่อให้้มีีคุณุ สมบัตั ิิต่่าง ๆ เพื่่�อนำองค์์ความรู้้�จากการวิิจััยและพััฒนาไปต่่อยอดอย่่าง
เช่่น มีีความโปร่่งแสง เพื่�่อนำไปใช้้เป็็นกระจกหน้้าต่่างที่�่ เป็น็ ระบบ เพิ่่ม� ความคล่อ่ งตัวั ในการทำวิจิ ัยั ด้า้ นเอกสารและ
สามารถผลิิตกระแสไฟฟ้้าได้้ นอกจากนี้�ในการผลิิตในเชิิง การใช้้ทุุนวิิจัยั
อุุตสาหกรรม กระบวนการฉีีดพ่่นเป็็นหนึ่�่งในตััวเลืือกที่�่
สำคััญที่�่สามารถผลิิตเซลล์์แสงอาทิิตย์์ที่่�มีีขนาดใหญ่่
ในงานวิิจััยนี้�เราพััฒนากระบวนการ Sequential Spray

รางวััลการวิจิ ััยแห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจััย ประจำำปีีงบประมาณ 2565 83

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

เกียี รติิคุุณประกาศ

รางวััลการวิิจััยแห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจััย
ประจำำปีงี บประมาณ 2565

รางวััลระดัับดีีมาก

สาขาวิทิ ยาศาสตร์์การแพทย์์

เรื่่�อง
พยาธิสิ รีีรวิิทยาทางประสาทของการเรีียนรู้�และความจำำในภาวะอ้ว้ นจากระดับั เซลล์์ถึึงผู้้�ป่่วย
Neuropathophysiology of Cognition in obesity: from Cells to Bedside

โดย
ศาสตราจารย์์ (เชี่่ย� วชาญพิิเศษ) ดร. ทัันตแพทย์์หญิิงสิริ ิพิ ร ฉัตั รทิิพากร และคณะ

สำนัักงานการวิิจััยแห่่งชาติิ (วช.) ได้้พิิจารณาเห็็นว่่าผลงานวิิจััย เรื่�่อง “พยาธิิสรีีรวิิทยาทางประสาทของ
การเรียี นรู้�และความจำในภาวะอ้ว้ นจากระดับั เซลล์ถ์ ึงึ ผู้้�ป่ว่ ย” โดย ศาสตราจารย์์ (เชี่่ย� วชาญพิเิ ศษ) ดร. ทันั ตแพทย์์
หญิงิ สิริ ิพิ ร ฉัตั รทิพิ ากร และคณะ แห่ง่ คณะทันั ตแพทยศาสตร์์ มหาวิทิ ยาลัยั เชียี งใหม่่ เป็น็ งานวิจิ ัยั ที่ด่� ีีและมีีคุณุ ภาพ
ภาวะเมตาบอลิกิ ซินิ โดรม (Metabolic syndrome; MetS) เป็น็ ปัญั หาด้า้ นสุขุ ภาพที่เ�่ กิดิ ขึ้้�นอย่า่ งกว้า้ งขวางทั่่ว� โลก โดย
เชื้�อประจำถิ่น� ในทางเดินิ อาหารของมนุษุ ย์เ์ ป็น็ สาเหตุหุ นึ่ง่� ที่เ่� หนี่ย่� วนำให้เ้ กิดิ พยาธิสิ ภาพของภาวะเมตาบอลิกิ ซินิ โดรม
ถึึงแม้ว้ ่า่ จะมีีการใช้ย้ ารักั ษาเพื่อ�่ ช่ว่ ยปรับั ปรุงุ ความเปลี่ย่� นแปลงทางเมตาบอลิกิ ในผู้้�ป่ว่ ยเมตาบอลิกิ ซินิ โดรมแต่ค่ วามรู้�
เกี่่�ยวกัับส่่วนประกอบของเชื้ �อประจำถิ่ �นในทางเดิินอาหารของผู้้�ป่่วยเมตาบอลิิกซิินโดรมที่่�ได้้รัับการรัักษาด้้วยยา
ยังั ไม่่เป็็นที่่�รู้�จัักมากนััก มีีการศึึกษาวิิเคราะห์์ส่ว่ นประกอบของเชื้�อประจำถิ่�นในทางเดิินอาหารของผู้้�ป่่วยเมตาบอลิกิ
ซินิ โดรมที่ไ่� ด้ร้ ับั การรักั ษาด้ว้ ยยา และนำผลการวิเิ คราะห์เ์ ชื้�อประจำถิ่น� ในทางเดินิ อาหารเหล่า่ นี้�ไปใช้เ้ ป็น็ ตัวั บ่ง่ ชี้�ของ
สภาวะการเปลี่่�ยนแปลงทางเมตาบอลิิกในผู้้�ป่่วยเมตาบอลิิกซิินโดรม ผลการศึึกษาทำให้้ทราบถึึงการเปลี่่�ยนแปลง
ปริมิ าณแบคทีีเรีียทั้�งจำนวนและชนิดิ ส่ง่ ผลต่อ่ ภาวะอ้ว้ นลงพุงุ และการเรีียนรู้้�และความจำที่ถ่� ดถอย การปรับั เปลี่ย่� น
ชนิดิ แบคทีีเรีียหรืือการลดความเครีียดออกซิเิ ดชััน มีีส่ว่ นช่ว่ ยในการลดพยาธิิสภาพในร่า่ งกายและสมองจากสภาวะ
อ้้วนลงพุงุ ได้้ องค์ค์ วามรู้้�จากผลงานวิิจััย ก่่อให้เ้ กิิดประโยชน์์ต่อ่ การนำไปวิิจัยั พััฒนาต่่อยอดองค์ค์ วามรู้�ที่น่� ำไปสู่่�การ
กำหนดแนวทางการรัักษาผู้้�ป่ว่ ยที่�ม่ ีีภาวะอ้ว้ นลงพุงุ ที่ม�่ ีีภาวะสมองเสื่�่อมต่่อไปได้้ในอนาคต

วช. จึงึ มีมี ติใิ ห้ผ้ ลงานเรื่อ�่ งนี้� ได้ร้ ับั รางวัลั การวิจิ ัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำปีงี บประมาณ 2565
รางวััลระดัับดีมี าก สาขาวิิทยาศาสตร์ก์ ารแพทย์์

84 รางวััลการวิจิ ััยแห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิิจัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

1. ชื่่�อผลงานวิจิ ััย 2. ความสำำคััญและที่่ม� าของการวิจิ ัยั
ชื่่�อผลงานวิจิ ััย พยาธิิสรีีรวิิทยาทางประสาทของการ Metabolic syndrome (MetS) หรืือภาวะ
เรีียนรู้้�และความจำในภาวะอ้้วนจาก อ้้วนลงพุุง ทำให้้เกิิดการเพิ่่�มความเสี่�่ยงต่่อโรคหััวใจ
ระดัับเซลล์ถ์ ึึงผู้�้ ป่่วย โรคหลอดเลืือดสมอง โรคเบาหวานประเภท 2 และการลดลง
หััวหน้้าคณะ ศ. (เชี่�่ยวชาญพิิเศษ) ของการเรีียนรู้้�และความจำ การศึึกษาของเราได้พ้ ััฒนาสััตว์์
ดร.ทพญ.สิิริพิ ร ฉััตรทิพิ ากร ทดลองให้้มีีลัักษณะคล้้ายภาวะอ้้วนลงพุุงในคน ผ่่านการ
สถานที่่�ติดิ ต่อ่ คณะทัันตแพทยศาสตร์์ มหาวิิทยาลััย บริิโภคอาหารไขมัันสููงแบบเรื้�อรััง (HFD) เราพบว่่าสััตว์์ที่�่มีี
เชีียงใหม่่ และศูนู ย์ว์ ิจิ ัยั และฝึกึ อบรมสาขา การบริิโภค HFD เป็็นเวลานาน ทำให้เ้ กิิดความผิิดปกติขิ อง
โรคทางไฟฟ้้าของหััวใจ คณะแพทยศาสตร์์ การเผาผลาญอาหาร ผิิดปกติิของลำไส้้ พยาธิิวิิทยาของ
มหาวิทิ ยาลัยั เชีียงใหม่่ สมอง ซึ่�่งส่่งผลให้้การเรีียนรู้้�และความจำลดลง นอกจากนี้�
E-mail: [email protected] เรายัังแสดงให้้เห็็นว่่า การเปลี่่�ยนแปลงของปริิมาณและ
ผู้้�ร่ว่ มวิิจัยั 1. ศ. (เชี่ย�่ วชาญพิิเศษ) ชนิดิ แบคทีีเรีียในลำไส้้(gutdysbiosis)เกิดิ ขึ้้�นในระยะแรกสุดุ
ดร.นพ.นิิพนธ์์ ฉััตรทิิพากร ของการบริิโภค HFD ตามมาด้้วยพยาธิิสภาพของสมองซึ่่�ง
นำไปสู่่�การลดลงของการเรีียนรู้้�และความจำ ในสััตว์์ที่�่เป็็น
2. รศ.พญ.อริินทยา พรหมิินธิิกุลุ ภาวะอ้ว้ นลงพุงุ ที่�่มีีลัักษณะแบบ MetS การปรัับปรุุง การ
3. รศ.ดร.วาสนา ปรััชญาสกุลุ เผาผลาญอาหาร หรืือ gut dysbiosis ในลำไส้้ควรให้้ผล
4. ผศ.ดร.นพ.ปารเมศ เทีียนนิมิ ิติ ประโยชน์์ในการป้้องกัันระบบประสาทและการลดลงของ
5. รศ.ดร.ภก.จิิรภาส ศรีีเพชรวรรณดีี ความรู้�ความเข้า้ ใจในภาวะอ้ว้ นลงพุุง
6. ดร.ณััฐยาภรณ์์ อภััยใจ การศึึกษาของเราแสดงให้้เห็็นว่่า 1) ปรัับเปลี่�่ยน
7. ผศ.ดร.นพมาศ ศรีีเพชรวรรณดีี พารามิเิ ตอร์ก์ ารเผาผลาญอาหาร โดยใช้ย้ าต้า้ นโรคเบาหวาน
8. ดร.เพีียงขวัญั สงวนหมู่่� และยาลดไขมันั สามารถเพิ่่ม� การเรีียนรู้้�และความจำในภาวะ
9. นายฐิติ ิกิ ร จันั ทร์์ไชย อ้ว้ นลงพุุงได้ด้ ีีขึ้้�น 2) ปรับั เปลี่�ย่ นไมโครไบโอตาในกระเพาะ
10. นางสาวหิิรััญญา ปินิ ตานา อาหารโดยพรีีไบโอติิกและโปรไบโอติิกยัังช่่วยฟื้้�นฟููการ
เรีียนรู้้�และความจำ ในภาวะอ้ว้ นลงพุงุ ผ่า่ นแกนสมองในลำไส้้
ซึ่�่งนำไปสู่่�การปรัับปรุุงความเป็็นการทำงานของสมองส่่วน
hippocampus (สมองที่่�มีีผลต่่อการเรีียนรู้้�และความจำ)
การทำงานของไมโตคอนเดรีียของสมองและการกระตุ้้�น
ของไมโครเกลีีย ซึ่่�งเซลล์์ที่�่ทำให้้เกิิดการอัักเสบในสมอง
ลดลง ผลที่่�พบไม่่เพีียงเกิิดขึ้้�นในสััตว์์ทดลองเท่่านั้้�น
การปรัับเปลี่่�ยนปริิมาณและชนิิดแบคทีีเรีียในลำไส้้
(gut dysbiosis) ของมนุษุ ย์ย์ ังั มีีส่ว่ นเกี่ย�่ วข้อ้ งกับั หนึ่ง�่ ในการ
ก่่อโรคของผู้้�ป่่วยภาวะอ้้วนลงพุุง แต่่ไม่่ค่่อยมีีใครรู้�เกี่�่ยวกัับ
องค์ป์ ระกอบของจุลุ ินิ ทรีีย์ใ์ นลำไส้ข้ องผู้้�ป่ว่ ยภาวะอ้ว้ นลงพุงุ
การศึึกษาของเรามีีวััตถุุประสงค์์เพื่�่อวิิเคราะห์์องค์์ประกอบ
ของจุุลิินทรีีย์์ในลำไส้้ ของผู้้�ป่่วยภาวะอ้้วนลงพุุง และ
ความเป็น็ ไปได้ใ้ นการใช้จ้ ุลุ ินิ ทรีีย์ใ์ นลำไส้เ้ ป็น็ ตัวั บ่ง่ ชี้�สภาวะ
การเผาผลาญอาหาร การค้้นพบของเราชี้�ให้้เห็็นว่่าข้้อมููล
เกี่่�ยวกัับความชุุกของแบคทีีเรีียที่�่เป็็นประโยชน์์สามารถ
ช่่วยในการประเมิินสุุขภาพการเผาผลาญของผู้้�ป่่วยภาวะ
อ้้วนลงพุุง นอกจากนี้�เรายัังรายงานว่่าระดัับ fibroblast
growth factor 21 (FGF21) มีีความสััมพันั ธ์์อย่า่ งอิิสระกับั
ความบกพร่่องทางการเรีียนรู้้�และความจำในผู้้�ป่่วย

รางวััลการวิิจัยั แห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565 85

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

MetS ที่่�ไม่่ใช่่ผู้้�สููงอายุุ นอกจากนี้�เราแสดงให้้เห็็นว่่าความ 5. ระยะเวลาที่่ท� ำำการวิจิ ัยั
บกพร่่องทางการเรีียนรู้้�และความจำในประชากรสููงอายุุ ระยะเวลาการทำวิิจััย 12 ปีี 2 เดืือน ตั้�งแต่่วัันที่�่
มีีความสััมพัันธ์์กัับความผิิดปกติิของไมโทคอนเดรีียในเซลล์์ 19 มิิถุนุ ายน 2551 - 30 สิิงหาคม พ.ศ. 2563
โมโนนิิวเคลีียร์์ในเม็็ดเลืือดขาว โดยรวมแล้้วการศึึกษาของ
เราจากเซลล์์ถึึงคนป่่วย แสดงให้้เห็็นว่่าสภาพทางระบบ 6. สรุปุ ผลการวิจิ ัยั
ประสาทซึ่�่งส่่งผลให้้ความรู้�ความเข้้าใจที่่�ลดลงเกิิดขึ้้�นใน งานวิิจััยโครงการนี้� พบว่่าผลของการกิินอาหาร
ภาวะอ้ว้ นลงพุงุ และวิธิ ีีการรักั ษาหลายวิธิ ีีสำหรับั การป้อ้ งกันั ไขมัันสููงเป็็นระยะเวลานาน ๆ ทำให้้เกิิดการเปลี่�่ยนแปลง
ระบบประสาทในภาวะอ้ว้ นลงพุุงนี้� ในแบคทีีเรีียในลำไส้้ การอักั เสบในทางเดินิ อาหาร การสะสม
ของไขมัันมากเกิินไปจะก่่อให้้เกิิดภาวะอ้้วนลงพุุง นำไปสู่่�
3. แหล่ง่ เงิินทุนุ สนัับสนุุนในการทำำวิิจัยั การเกิิดภาวะการอัักเสบระดัับต่่ำ ๆ ทั่่�วร่่างกาย ส่่งผลให้้
สถาบันั ที่�่ให้้ทุุนอุุดหนุุนการวิิจัยั คืือ เกิิดภาวะดื้�อต่่ออิินซููลิินในร่่างกาย และในเซลล์์ประสาท
1. สำนัักงานคณะกรรมการส่่งเสริิมวิิทยาศาสตร์์ มีีการทำงานที่่�ผิิดปกติิของไมโตคอนเดรีียในเซลล์์สมอง
มีีการเพิ่่ม� การทำงานของเซลล์อ์ ักั เสบหรืือไมโครเกลีียในสมอง
วิจิ ััยและ นวัตั กรรม (สกสว.) นำไปสู่่�การบกพร่อ่ งในการเรีียนรู้้� และความจำ ยิ่ง� มีีภาวะอ้ว้ น
2. สำนัักงานบริิหารงานวิจิ ัยั มหาวิิทยาลััยเชีียงใหม่่ ลงพุงุ ไปนาน ๆ จะส่ง่ ผลทำให้ม้ ีีการสะสมของเบต้า้ อะไมลอยด์์
ในสมอง นำไปสู่่�การเกิดิ โรคสมองเสื่อ่� มตามมาได้้ นอกจาก
4. วััตถุุประสงค์์ของการวิิจััย การศึึกษาในสัตั ว์ท์ ดลองเพื่อ่� ให้เ้ ข้า้ ใจถึึงพยาธิสิ ภาพในสมอง
1) ศึึกษาถึึงการเปลี่�่ยนแปลงของเชื้ �อประจำถิ่ �นใน และเข้้าใจกลไกการเกิิดภาวะสมองเสื่่�อมในสััตว์์ทดลองแล้้ว
ลำไส้้ ภาวะอัักเสบในเลืือด และความผิิดปกติิของระบบ เรายัังศึึกษาในผู้้�ป่่วยที่�่มีีภาวะอ้้วนลงพุุงร่่วมด้้วย แล้้วพบ
เมตาบอลิิก การเกิิดพยาธิิสภาพต่่าง ๆ ในสมอง ได้้แก่่ เหตุุการณ์์เดีียวกััน คืือ คนที่�่มีีภาวะอ้้วนลงพุุงจะมีีการพบ
การเพิ่่�มขึ้้�นของความเครีียดออกซิิเดชััน การตายของเซลล์์ ภาวะบกพร่่องของการเรีียนรู้้�และความจำ โดยเรายัังพบว่่า
การเพิ่่ม� การทำงานของไมโครเกลีีย การทำงานที่ผ�่ ิดิ ปกติขิ อง biomarker ในเลืือด ที่�่บ่่งชี้้�ถ้้าการบกพร่่องการเรีียนรู้้�
การส่ง่ ต่อ่ สัญั ญาณประสาท การลดลงของกระบวนการเรีียนรู้้� และความจำในคนที่�่มีีภาวะอ้้วนลงพุุง จากระดัับการ
และจดจำ ตลอดจนการเพิ่่�มขึ้้�นของระดัับเบต้้าอะไมลอยด์์ เปลี่ย�่ นแปลงของฮอร์โ์ มน fibroblast growth factor 21
ในหนูอู ้ว้ นที่ถ�่ ูกู เหนี่ย่� วนำด้ว้ ยการรับั ประทานอาหารไขมันั สูงู (FGF21) และการทำงานของไมโตคอนเดรีียของเม็็ดเลืือด
ติิดต่่อกัันเป็น็ ระยะเวลานาน ขาวได้้อีีกด้้วย นอกจากนี้�ในการชะลอการเสื่�่อมของสมอง
2) ศึึกษาถึึงผลของยาต้้านเบาหวาน ยาลดไขมััน จากภาวะอ้้วนลงพุุง เราพบว่่าการให้้ยาต้้านเบาหวาน,
หรืืออาหารที่่�ปรัับเปลี่่�ยนระบบนิิเวศของแบคทีีเรีียใน ยาลดไขมััน สามารถลดพยาธิิสภาพในสมองของหนููที่่�
ลำไส้้ ว่า่ สามารถลดภาวะอ้ว้ นร่ว่ มกับั ความผิดิ ปกติขิ องระบบ มีีภาวะอ้้วนลงพุุงได้้ ยิ่�งไปกว่่านี้�และการเปลี่่�ยนแปลง
เมตาบอลิิก ตลอดจนลดพยาธิิภาพที่�่เกิิดขึ้้�นในสมองส่่วน ความสมดุุลของแบคทีีเรีียในสำไส้้โดยการใช้้โปรไพโอติิก,
ฮิิปโปแคมปััส ได้้แก่่ ลดการเกิิดความเครีียดออกซิิเดชััน พรีีไบโอติิก หรืือซิินไบโอติิก สามารถทำให้้ลดพยาธิิสภาพ
ลดการตายของเซลล์์ ลดการเพิ่่�มจำนวนของไมโครเกลีีย ที่่�เกิิดขึ้้�นในสมองที่่�เป็็นผลจากการกิินอาหารไขมัันสููงเป็็น
ลดความผิิดปกติิในการส่่งสััญญาณของอิินซููลิิน และลด เวลานานได้้ สำหรัับผู้้�ป่่วยเมตาบอลิิกซิินโดรมที่�่ได้้รัับการ
ความผิิดปกติิในการส่่งต่่อสััญญาณประสาท ส่่งผลให้้ รัักษาด้้วยยา และเมื่่�อนำมาวิิเคราะห์์เชื้�อประจำถิ่�นใน
ลดภาวะบกพร่่องของกระบวนการเรีียนรู้้�และจดจำ ทางเดินิ อาหารเหล่า่ นี้้�พบว่า่ สามารถใช้เ้ ป็น็ ตัวั บ่ง่ ชี้�ของสภาวะ
ในหนูอู ้ว้ นที่ถ่� ูกู เหนี่ย�่ วนำด้ว้ ยการรับั ประทานอาหารไขมันั สูงู การเปลี่ย่� นแปลงทางเมตาบอลิกิ ในผู้้�ป่ว่ ยเมตาบอลิกิ ซินิ โดรม
ติิดต่อ่ กัันเป็น็ ระยะเวลานาน ได้้เช่่นเดีียวกัับสััตว์์ทดลอง ผลการศึึกษาโดยสรุุปจาก
3) ศึึกษาว่่าผู้้�ป่่วยที่�่มีีภาวะอ้้วนลงพุุงจะมีีลัักษณะ โครงการวิจิ ัยั นี้้�จากสัตั ว์ท์ ดลองถึึงคน พบว่า่ การเปลี่ย�่ นแปลง
ผิดิ ปกติิของระบบนิเิ วศของแบคทีีเรีียในลำไส้้ ความผิิดปกติิ ปริิ ม า ณ แ บ ค ทีี เรีี ย ทั้ � ง จ ำ นวน แ ล ะ ช นิิ ดส่่ ง ผ ล ต่่ อ ภ า ว ะ
ของระบบเมตาบอลิิก และภาวะบกพร่อ่ งในการเรีียนรู้้�และ อ้้วนลงพุุง และการเรีียนรู้้�และความจำที่�่ถดถอย การปรัับ
ความจำ คล้า้ ยกับั ในสััตว์์ทดลองหรืือไม่่ เปลี่่�ยนชนิิดแบคทีีเรีีย หรืือการลดความเครีียดออกซิิเดชััน

86 รางวัลั การวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ััย ประจำำปีีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

ด้้วยยาต้้านเบาหวาน ยาลดไขมััน มีีส่่วนช่่วยในการลด 9. การนำำผลงานไปใช้ป้ ระโยชน์์ในมิติ ิติ ่า่ ง ๆ
พยาธิิสภาพในร่่างกายและสมองจากสภาวะอ้้วนลงพุุงได้้  เชิิงชุมุ ชน/สัังคม
ดัังนั้้�นความรู้้�จากโครงการนี้้�จะนำไปสู่่�การพััฒนาแนวทาง  เชิิงพาณิชิ ย์์
การรัักษาในผู้้�ป่่วยที่่�มีีภาวะอ้้วนลงพุุงที่�่มีีภาวะสมองเสื่่�อม  เชิงิ วิชิ าการ เพื่อ่� ใช้้ประโยชน์์ทางการแพทย์์
ต่่อไปในอนาคต  เชิิงพื้้�นที่�่

7. ประโยชน์์ที่่ไ� ด้้รับั จากการวิิจััย 10. ข้อ้ เสนอแนะเชิิงนโยบายที่่เ� สนอแนะ
โครงการวิิจััยนี้้�จากสััตว์์ทดลองถึึงคน พบว่่า ให้แ้ ก่ร่ ัฐั บาล/กระทรวงต่า่ ง ๆ และภาคเอกชน
การเปลี่ย�่ นแปลงปริมิ าณแบคทีีเรีียทั้�งจำนวนและชนิดิ ส่ง่ ผล เพื่อ่� นำำไปใช้ว้ างนโยบาย พัฒั นา หรืือแก้ไ้ ขปัญั หา
ต่่อภาวะอ้้วนลงพุุง และการเรีียนรู้้�และความจำที่�่ถดถอย
การปรัับเปลี่่�ยนชนิิดแบคทีีเรีีย หรืือการลดความเครีียด ภาวะอ้้วนลงพุุง นอกจากมีีผลเสีียต่่อเส้้นเลืือด
ออกซิิเดชััน มีีส่่วนช่ว่ ยในการลดพยาธิสิ ภาพในร่า่ งกายและ และหััวใจแล้้ว ยัังมีีผลเสีียต่่อสมอง เป็็นภััยเงี ยบ เพราะ
สมองจากสภาวะอ้้วนลงพุุงได้้ ดัังนั้้�นความรู้้�จากโครงการนี้� เราไม่่ทราบว่่าสมองเราเริ่�มเสื่�่อมแล้้ว และถ้้าสมองเสื่่�อม
จะนำไปสู่่�การพััฒนาแนวทางการรัักษาต่่อไปในอนาคต ไปแล้ว้ ต่อ่ ให้ใ้ ช้ย้ าดีีแค่ไ่ หน โอกาสที่จ�่ ะกลับั มาเหมืือนเดิมิ นั้้�น
มันั ยาก เพราะฉะนั้้�นเราต้อ้ งป้อ้ งกันั ไม่ใ่ ห้เ้ กิดิ ภาวะอ้ว้ นลงพุงุ
8. ศัักยภาพในการพััฒนาไปสู่�่ การใช้ป้ ระโยชน์์ ดีีที่ส�่ ุุด เพราะว่่าเป็็นแล้้วยากต่อ่ การรัักษา
ในเชิิงสัังคม และ/หรืือ เชิงิ พาณิิชย์์
โ ค ร ง ก า ร วิิ จัั ย นี้ � เ ป็็ น ก า ร ศึึ ก ษ า ที่่� ด ำ เ นิิ น ก า ร ใ น

หนูู อ้้ วน เ พื่่� อ ส ร้้ า ง โ ม เ ด ล ข อ ง ภ า ว ะ อ้้ วน ล ง พุุ ง ใ น ค น
นอกจากนี้�การปรัับเปลี่�ย่ นชนิดิ แบคทีีเรีีย หรืือการลดความ
เครีียดออกซิเิ ดชันั โดยยาต่า่ ง ๆ มีีส่่วนช่ว่ ยในการลดพยาธิิ
สภาพในร่า่ งกายและสมองจากสภาวะอ้ว้ นลงพุงุ ได้้ จากนั้้�น
การค้น้ พบที่ส่� ำคัญั ได้ถ้ ูกู ถ่า่ ยทอดไปเป็น็ การศึึกษาทางคลินิ ิกิ
ซึ่�่งรวมถึึงผู้้�ป่่วยภาวะลงพุุงที่�่มีีการเปลี่�่ยนแปลงปริิมาณ
แบคทีีเรีียทั้ �งจำนวนและชนิิดคล้้ายกัับที่�่พบในสััตว์์ทดลอง
รายงานนี้้�ยัังแสดงให้้เห็็นถึึงความสาคััญของการค้้นพบ
ตััวทำนายใหม่่ เช่่น FGF21 และการทำงานของไมโตคอน
เดรีียของเม็็ดเลืือดขาวของภาวะการเรีียนรู้้�และความจำที่่�
ถดถอย

รางวัลั การวิิจััยแห่ง่ ชาติิ : รางวััลผลงานวิิจัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565 87

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

เกีียรติคิ ุุณประกาศ

รางวััลการวิิจัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวััลผลงานวิิจััย
ประจำำปีงี บประมาณ 2565

รางวัลั ระดัับดีีมาก

สาขาวิทิ ยาศาสตร์ก์ ารแพทย์์

เรื่�อ่ ง
การกำำจัดั โรคไข้้มาลาเรีียให้้หมดไปตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุุขแห่่งประเทศไทย

Elimination of Plasmodium Falciparum in Thailand
โดย

ศาสตราจารย์์ ดร.มััลลิกิ า อิ่่�มวงศ์์

สำนัักงานการวิิจัยั แห่่งชาติิ (วช.) ได้พ้ ิจิ ารณาเห็็นว่่าผลงานวิจิ ัยั เรื่อ�่ ง “การกำจัดั โรคไข้ม้ าลาเรีียให้ห้ มดไป
ตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขุ แห่ง่ ประเทศไทย” โดย ศาสตราจารย์์ ดร.มัลั ลิกิ า อิ่ม� วงศ์์ แห่ง่ คณะเวชศาสตร์์
เขตร้อ้ น มหาวิิทยาลัยั มหิิดล เป็น็ งานวิิจััยที่่�ดีีและมีีคุุณภาพ โรคติิดเชื้�อมาลาเรีียยัังคงเป็น็ ปัญั หาหลักั สำคััญของโลก
โดยมีีผู้้�ที่�่ติิดเชื้�อสููงถึึง 200 ล้้านราย/ปีี และมีีผู้้�เสีียชีีวิิตทั่่�วโลกกว่่า 400,000 คน/ปีี สำหรัับประเทศไทยนั้้�น
กรมควบคุมุ โรค กระทรวงสาธารณสุขุ ร่ว่ มกับั องค์ก์ ารอนามัยั โลก กำหนดให้้ “ประเทศไทยปลอดจากโรคไข้ม้ าลาเรีีย
ภายในปีี พ.ศ. 2567” เพื่�่อการนำไปสู่่�การตััดสิินใจและการปรัับใช้้นโยบายในการดำเนิินงานควบคุุมโรคมาลาเรีีย
อย่่างยิ่�งยวด โดยเฉพาะในเขตเอเชีียตะวัันออกเฉีียงใต้้ ซึ่่�งผลการวิิจััยพบว่่ายัังมีผู้�ติิดเชื้�อแต่่ไม่่แสดงอาการ (พาหะ)
เป็็นจำนวนมากในพื้้�นที่�่เอเชีียตะวัันออกเฉีียงใต้้ ก่่อให้้เกิิดองค์์ความรู้�ใหม่่ที่่�ลบล้้างความเชื่�่อดั้�งเดิิมว่่าในเขตภููมิิภาค
เอเชีียตะวัันออกเฉีียงใต้้นี้�มีผู้�ติิดเชื้�อแบบไม่่แสดงอาการมีีจำนวนน้้อย และการใช้้ mass anti-malarial drug
administration หรืือการให้ย้ ากับั คนอยู่�อาศััยเป็น็ จำนวนมากในบริเิ วณที่่�พบผู้�ติดิ เชื้�อแต่ไ่ ม่ม่ ีีการแสดงอาการน่่าจะ
เป็็นแนวทางที่�่สำคััญในการกำจััดเชื้�อให้้หมดไปได้้ ทั้�งนี้้�ข้้อมููลนี้�ได้้นำเสนอต่่อกรมควบคุุมโรค กระทรวงสาธารณสุุข
ในการประชุุมคณะกรรมการนโยบายและแนวทางการใช้้ยามาลาเรีียเพื่่�อพิิจารณานโยบายและแนวทางการใช้้
ยารัักษามาลาเรีียของประเทศไทย

วช. จึงึ มีมี ติใิ ห้ผ้ ลงานเรื่อ่� งนี้� ได้ร้ ับั รางวัลั การวิจิ ัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำปีงี บประมาณ 2565
รางวััลระดับั ดีีมาก สาขาวิิทยาศาสตร์์การแพทย์์

88 รางวัลั การวิิจัยั แห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

1. ชื่่อ� ผลงานวิจิ ัยั 3. แหล่ง่ เงิินทุุนสนัับสนุุนในการทำำวิิจัยั
ชื่่อ� ผลงานวิิจััย การกำจััดโรคไข้้มาลาเรีียให้้หมดไป สำนัักงานคณะกรรมการส่่งเสริิมวิิทยาศาสตร์์
ต า ม น โ ย บ า ย ก ร ะ ท ร ว ง ส า ธ า ร ณ สุุ ข
แห่ง่ ประเทศไทย วิิจัยั และนวััตกรรม (สกสว.) และสำนัักงานการวิิจัยั แห่่งชาติิ
หััวหน้า้ คณะ ศาสตราจารย์์ ดร.มััลลิิกา อิ่ �มวงศ์์ รหัสั โครงการ RTA6280006
สถานที่่�ติิดต่่อ ภาควิิชาชีีวโมเลกุุลและพัันธุุศาสตร์์
โรคเขตร้้อน คณะเวชศาสตร์์เขตร้้อน 4. วัตั ถุุประสงค์ข์ องการวิิจััย
มหาวิทิ ยาลััยมหิดิ ล 1. ค้้ นห า ผู้ � ที่�่ มีี ก า ร ติิ ด เชื้ � อ ม า ล า เรีี ย แ ต่่ ไ ม่่ แ ส ด ง
อาการของโรค จััดเป็็นพาหะและเป็็นแหล่่งรัังโรคที่่�สำคััญ
2. ความสำำคัญั และที่่�มาของการวิิจััย ในการแพร่ก่ ระจายเชื้�อ การดำเนินิ การค้น้ หาผู้�ติดิ เชื้�อเหล่า่ นี้�
มาลาเรีียยัังคงเป็็นปััญหาหลัักสำคััญของโลกโดย ว่า่ มีีใครบ้า้ ง อยู่�บริเิ วณใด และมีีการแพร่ก่ ระจายเป็น็ อย่า่ งไร
มีผู้�ที่�่ติิดเชื้�อสููงถึึง 200 ล้้านรายต่่อปีี คร่่าชีีวิิตของผู้้�ป่่วย จึึงมีีความจำเป็็นอย่่างยิ่ �งเพื่่�อการกำจััดเชื้ �อให้้หมดไปจาก
ทั่่�วโลกกว่่า 400,000 คน/ปีี สำหรัับประเทศไทยนั้้�น พื้้�นที่�่อย่า่ งสมบููรณ์์
กรมควบคุุมโรค กระทรวงสาธารณสุุขแห่่งประเทศไทย 2. วิิเคราะห์์ผู้�ติิดเชื้�อแต่่ไม่่แสดงอาการนี้�ติิดเชื้�อ
ร่่วมกัับองค์์การอนามััยโลก มีีวิิสััยทััศน์์ให้้ “ประเทศไทย ปริมิ าณเท่า่ ไหร่่ และแพร่ก่ ระจายเชื้�อได้ห้ รืือไม่่
ปลอดจากโรคไข้้มาลาเรีีย ภายในปีี พ.ศ. 2567” ทั้�งนี้�ผู้�ที่�ม่ ีี 3. ทดสอบการใช้ย้ าแบบ mass anti-malarial drug
การติดิ เชื้�อมาลาเรีีย แต่ไ่ ม่แ่ สดงอาการของโรคจัดั เป็น็ พาหะ administration สามารถเป็น็ แนวทางในการกำจัดั มาลาเรีีย
แ ล ะ เ ป็็ น แ หล่่ ง รัั ง โร ค ที่่� ส ำ คัั ญ ใ น ก า ร แ พร่่ ก ร ะ จ า ย เชื้ � อ ให้ห้ มดไปได้ห้ รืือไม่่
การดำเนินิ การค้น้ หาผู้�ติดิ เชื้�อเหล่า่ นี้้�ว่า่ มีีใครบ้า้ ง อยู่�บริเิ วณใด
และมีีการแพร่ก่ ระจายเป็น็ อย่า่ งไร จึึงมีีความจำเป็น็ อย่า่ งยิ่ง� 5. ระยะเวลาที่่�ทำำการวิิจััย
เพื่�อ่ การกำจัดั เชื้�อให้ห้ มดไปจากพื้้�นที่�อ่ ย่่างสมบูรู ณ์์ ตััวอย่่างที่่�มาจากภููมิิภาคเอเชีียตะวัันออกเฉีียงใต้้
ทางผู้ �วิิจััยจึึงได้้ทำการพััฒนาการตรวจเชื้ �อมาลาเรีีย ซึ่่�งประกอบด้้วย ไทย พม่่า กััมพููชา และลาว ในช่่วงปีี
ที่่�มีีความไวสููง (high volume-sensitive qPCR) 2013 - 2018 เป็็นจำนวน 61,544 ตััวอย่่าง โดยเชิิญ
เพื่อ่� ค้น้ หากลุ่�มผู้�ที่ต่� ิดิ เชื้�อนี้� ซึ่ง่� ก่อ่ นหน้า้ นี้้�ยังั ไม่ม่ ีีการตรวจใด ๆ ชาวบ้้านทุกุ คนที่�่มีีอายุมุ ากกว่า่ 6 เดืือน ให้้เข้้าร่ว่ ม
ที่�่มีีความไวพอที่่�จะพบเชื้ �อที่�่มีีปริิมาณต่่ำในประชากรกลุ่ �ม
นี้�ได้้ ด้้วยการตรวจค้้นหาผู้�ที่่�ติิดเชื้�อด้้วยความไวสููงนี้� ทำให้้
สามารถตรวจเชื้�อได้้ต่่ำถึึง 20 parasites/mL ซึ่่�งต่่ำกว่่า
ตรวจด้้วยกล้้องจุุลทรรศน์์ ซึ่่�งเป็็นวิิธีีมาตรฐานในปััจจุุบััน
ถึึงกว่่า 2,000 เท่่า และต่่ำกว่่าในการตรวจด้้วยเทคโนโลยีี
PCR ทั่่�วไปโดยประมาณ 500 เท่่า จากนั้้�นได้้ดำเนิิน
โครงการวิจิ ัยั

รููปที่่� 1 แสดงพื้้�นที่่ท� ี่�ด่ ำเนิินการเก็บ็ ตััวอย่า่ งเพื่่อ�
ค้น้ หาการติดิ เชื้อ� ที่ซ่� ่อ่ นอยู่�ในร่า่ งกายโดยไม่แ่ สดง
อาการในตััวอย่่างที่�่มาจากภููมิิภาคเอเชีียตะวััน
ออกเฉีียงใต้้ ซึ่�งประกอบด้้วย ไทย พม่า่ กััมพูชู า
และลาว ในช่่วงปีี 2013 - 2018 เป็็นจำนวน
61,544 ตัวั อย่่าง

รางวัลั การวิิจััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565 89

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

6. สรุุปผลการวิิจััย 2. โดยมีีโจทย์์วิิจััยคืือ ผู้�ติิดเชื้�อแต่่ไม่่แสดงอาการนี้�
1. โดยมีีโจทย์์วิิจััยคืือ ผู้�ติิดเชื้�อแต่่ไม่่แสดงอาการมีี ติิดเชื้�อปริิมาณเท่่าไหร่่ และแพร่่กระจายเชื้�อได้้หรืือไม่่
จำนวนเท่่าไหร่่ ใครติดิ เชื้�อบ้้าง และอยู่�บริิเวณใด เพื่อ�่ ตอบ ได้้ทำการวิิเคราะห์์ค่่า density distributions ของเชื้�อ
โจทย์์วิิจััยนี้�จึ งได้้ทำการค้้นหาและสำรวจในกลุ่�มประชากร P. vivax และ P. falciparum ว่่าอยู่�ในสััดส่่วนที่่�สููงพอที่�่
ทั้ �งหมดในตััวอย่่างที่�่มาจากภููมิิภาคเอเชีียตะวัันออกเฉีียงใต้้ จะพััฒนาไปเป็็น gametocyte ที่่�สามารถแพร่่กระจายได้้
ซึ่่�งประกอบด้้วย ไทย พม่่า กััมพููชา และลาว ในช่่วงปีี (transmissibility) โดยไม่่ก่่อให้้เกิิดความเจ็็บป่่วยแก่่ผู้�ที่�่มีี
2013-2018 เป็็นจำนวน 61,544 ตััวอย่่าง โดยเชิิญชาวบ้้าน การติดิ เชื้�อที่�่มาลาเรีียแบบไม่่แสดงอาการ
ทุุกคนที่�่มีีอายุุมากกว่่า 6 เดืือน ให้้เข้้าร่่วม ในบางพื้้�นที่�่
มีีการติิดเชื้ �อมาลาเรีียของผู้ �ที่�่ไม่่แสดงอาการค่่อนข้้างสููง 3. โดยมีีโจทย์์วิิจััยคืือ การใช้้ยาแบบ mass anti-
ถึึง 78% รวมถึึงเปรีียบเทีียบผลการตรวจชุุดตรวจวิินิิจฉััย malarial drug administration สามารถเป็็นแนวทาง
อย่่างรวดเร็็ว Plasmodium falciparum/pan malaria ในการกำจััดมาลาเรีียให้้หมดไปได้้หรืือไม่่ ได้้ดำเนิินการ
rapid diagnostic tests (RDTs), และตรวจหาเชื้�อมาลาเรีีย Operational research แบบ mass anti-malarial drug
ที่่�มีีความไวสููง (high volume-sensitive qPCR) โดยพบว่า่ administration ในหมู่่�บ้้านหนึ่�่งบริิเวณชายแดนไทย
การตรวจโดยใช้้กล้้องจุุลทรรศน์์แบบใช้้แสงและชุุดตรวจ พม่่า โดยใช้้ dihydroartemisinin-piperaquine plus
วิินิิจฉััยอย่่างรวดเร็็ว RDT สามารถตรวจเจอเชื้�อได้้เพีียง single-dose primaquine และติิดตามผลของการติิดเชื้�อ
หนึ่่�งในสี่�่ของผู้ �ที่�่มีีการติิดเชื้ �อที่�่มาลาเรีียแบบไม่่แสดงอาการ แบบไม่่แสดงอาการพบว่่า อััตราการติิดเชื้�อ falciparum
ที่�่ตรวจเจอจากวิิธีี high volume-sensitive qPCR ลดลงอย่่างมีีนััยสำคััญอย่่างน้้อย 5 เท่่า และมีีระยะเวลา
การติิดเชื้ �อที่่�มาลาเรีียแบบไม่่แสดงอาการพบได้้บ่่อยแม้้ใน ปลอดมาลาเรีียชนิิด falciparum นานถึึง 6 เดืือนขึ้้�นไป
พื้้�นที่ท�่ ี่ม�่ ีีการแพร่เ่ ชื้�อมาลาเรีียต่่ำ (low transmission area) นัับเป็็นแนวทางการปฏิิบััติิที่่�มีีประสิิทธิิภาพสููงในการกำจััด
เชื้�อ P. falciparum อย่่างรวดเร็็วถึึงแม้้ว่่าจะเป็็นพื้้�นที่่�
ที่ม่� ีีการดื้�อยาหลายอนุุพัันธ์์

รููปที่�่ 2 แสดงผลการตรวจตััวอย่่างเพื่่�อค้้นหาการติิดเชื้�อที่่�ซ่่อนอยู่�ในร่่างกายโดยไม่่แสดงอาการในตััวอย่่างที่่�มาจากภููมิิภาคเอเชีียตะวัันออกเฉีียงใต้้
ซึ่ง� ประกอบด้ว้ ย ไทย พม่่า กััมพูชู า และลาว ในช่่วงปีี 2013 - 2018 เป็็นจำนวน 61,544 ตััวอย่่าง พบว่า่ ในบางพื้้�นที่ม�่ ีีการติิดเชื้อ� มาลาเรีียของผู้�ที่ไ�่ ม่่แสดง
90 รางวััลการวิจิ ััยแห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิิจััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

รูปู ที่�่ 3 แสดงผลอััตราการติดิ เชื้อ� falciparum ก่่อนและหลังั การให้้ยา mass drug administration พบว่า่ อัตั ราการติดิ เชื้อ� falciparum ลดลงอย่่างมีี
นัยั สำคััญอย่่างน้อ้ ย 5 เท่า่ (Landier et al., 2018)

7. ประโยชน์์ที่่ไ� ด้้รับั จากการวิิจััย 9. การนำำผลงานไปใช้ป้ ระโยชน์์ในมิิติติ ่า่ ง ๆ
ประโยชน์์ในเชิิงวิิชาการโดยเพิ่่�มพููนองค์์ความรู้�  เชิิงชุมุ ชน/สัังคม
ใหม่่เนื่�่องด้้วยผลการศึึกษาโดยใช้้เทคโนโลยีีนี้้�ก่่อให้้เกิิด  เชิงิ วิชิ าการ
องค์์ความรู้ �ใหม่่ที่�่ลบล้้างความเชื่่�อดั้ �งเดิิมว่่าในเขตภููมิิภาค
เอเชีียตะวัันออกเฉีียงใต้้นี้ �มี ผู้ �ติิดเชื้ �อแบบไม่่แสดงอาการ 10. ข้้อเสนอแนะเชิงิ นโยบายที่่เ� สนอแนะให้แ้ ก่่
เป็็นจำนวนน้้อย และการดำเนิินการ Operational รัฐั บาล/กระทรวงต่่าง ๆ และภาคเอกชน
research แบบ mass anti-malarial drug administration
น่า่ จะเป็น็ แนวทางที่ส�่ ำคัญั ในการกำจัดั เชื้�อให้ห้ มดไปได้ซ้ ึ่ง�่ จะ เพื่อ�่ นำำไปใช้ว้ างนโยบาย พัฒั นา หรืือแก้ไ้ ขปัญั หา
สนับั สนุนุ ให้้ “ประเทศไทยปลอดจากโรคไข้ม้ าลาเรีีย ภายใน ทั้�งนี้� ข้้อมููลนี้�ได้้นำเสนอต่่อองค์์การอนามััยโลก
ปีี พ.ศ. 2567” ตามวิสิ ัยั ทัศั น์์ของกรมควบคุมุ โรค กระทรวง
สาธารณสุุขแห่่งประเทศไทย ที่่�ได้้ตั้�งไว้้ร่่วมกัับองค์์การ (WHO) ณ กรุุงเจนีีวา ประเทศสวิิตเซอร์์แลนด์์ ในการ
อนามััยโลก และแนวทางนี้�สามารถนำไปใช้้ในการกำจััด ประชุมุ WHO evidence review meeting on the use of
มาลาเรีียในพื้้�นที่่อ� ื่�น่ อีีกได้้ malaria diagnostics in low transmission settings เมื่่อ�
วันั ที่�่ 16-18 ธันั วาคม 2556 ส่ง่ ผลให้ล้ บล้า้ งความเชื่อ�่ ดั้�งเดิมิ
8. ศักั ยภาพในการพัฒั นาไปสู่�่ การใช้้ประโยชน์์ ว่่าในเขตภููมิิภาคเอเชีียตะวัันออกเฉีียงใต้้นี้ �มี ผู้ �ติิดเชื้ �อแบบ
ในเชิิงสัังคม และ/หรืือ เชิิงพาณิิชย์์ ไม่แ่ สดงอาการเป็น็ จำนวนน้อ้ ย และทางองค์ก์ ารอนามัยั โลก
โครงการนี้้�มีีการสร้้างนัักวิิจััยรุ่่�นใหม่่ นัักศึึกษา (WHO) ได้้ตั้�งเป้้าหมายและพิิจารณาวิิธีีการที่�่เหมาะสม
ในแต่่ละพื้้�นที่่�ในการกำจัดั มาลาเรีียต่อ่ ไป
ปริิญญาโท และเอก โดยมีีการแลกเปลี่่�ยนนัักวิิจััยและ
นัักศึึกษาในระหว่่างหน่่วยงานต่่างประเทศเพื่่�อให้้นัักวิิจััย
นักั ศึึกษาได้แ้ ลกเปลี่ย่� นประสบการณ์จ์ ริงิ และมีีระบบพี่เ่� ลี้�ยง
(Mentor) เพื่�่อสร้า้ งความเข้ม้ แข็ง็ ในเชิิงวิิชาการและวิจิ ััยแก่่
นัักวิิจัยั รุ่่�นใหม่่เพื่�อ่ เป็น็ พลังั ผลัักดันั ให้แ้ ก่ป่ ระเทศชาติิต่่อไป

ดำเนินิ การเผยแพร่อ่ งค์ค์ วามรู้� การฝึกึ อบรมเกี่ย่� วกับั
เทคนิิคการตรวจการติิดเชื้�อมาลาเรีียให้้แก่่นัักวิิจััย และ
บุุคลากรสาธารณสุุขจากประเทศต่่าง ๆ ในเขตลุ่่�มน้้ำโขง
ยกตััวอย่่างเช่่น และบุุคลากรสาธารณสุุขของประเทศไทย
มาเลเซีีย เวีียดนาม พม่่า ลาว เป็็นต้้น

รางวัลั การวิจิ ัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565 91

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

เกียี รติิคุณุ ประกาศ

รางวัลั การวิจิ ััยแห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิิจััย
ประจำำปีงี บประมาณ 2565

รางวััลระดัับดีมี าก

สาขาวิทิ ยาศาสตร์์เคมีแี ละเภสัชั

เรื่อ�่ ง
พอลิเิ มอร์์เมมเบรนและเมมเบรนเมทริิกผสมสำำหรับั แยกน้ำำ�� จากสารละลายอะซิโิ อโทรปิกิ

Water-selective Polymeric and Mixed-matrix Membranes
for a Separation of Azeotropic Mixtures
โดย
รองศาสตราจารย์์ ดร.สิทิ ธิิพงษ์์ อำำนวยพานิชิ ย์์

สำนัักงานการวิิจััยแห่่งชาติิ (วช.) ได้้พิิจารณาเห็็นว่่าผลงานวิิจััย เรื่่�อง “พอลิิเมอร์์เมมเบรนและ
เมมเบรนเมทริิกผสมสำหรัับแยกน้้ำจากสารละลายอะซิิโอโทรปิิก” โดย รองศาสตราจารย์์ ดร.สิิทธิิพงษ์์
อำนวยพานิชิ ย์์ แห่ง่ คณะวิทิ ยาศาสตร์์ มหาวิทิ ยาลัยั ขอนแก่น่ เป็น็ การพัฒั นาเมมเบรนสำหรับั การแยกน้ำ้ ออกจาก
สารละลายอะซิโิ อโทรปิกิ ทำให้ไ้ ด้เ้ มมเบรนแยกน้ำ้ ประสิทิ ธิภิ าพสูงู แบบใหม่่ ได้แ้ ก่่ เมมเบรนจากยางธรรมชาติดิ ัดั แปร
เมมเบรนโครงสร้้างร่่างแหสองชั้้�น และเมมเบรนเมทริิกผสมที่่�มีีสมบัตั ิิ anti-trade-off โดยสามารถแยกน้้ำออกจาก
สารละลายเอทานอลหรืือสารละลายอะซิโิ ตนได้ค้ วามบริสิ ุทุ ธิ์์ส� ูงู มากกว่า่ 99% และเมมเบรนที่ส�่ ังั เคราะห์ข์ ึ้้�นสามารถ
นำไปประยุุกต์์ใช้้ในอุุตสาหกรรมการผลิิตเชื้�อเพลิิงชีีวภาพโดยเฉพาะไบโอเอทานอล และประสบความสำเร็็จในการ
เตรีียมเมมเบรนที่ส่� ามารถแยกน้ำ้ ออกจากสารละลายเอทานอล ซึ่ง่� เป็น็ งานวิจิ ัยั ที่ม่� ีีกระบวนการวิจิ ัยั ถูกู ต้อ้ งเหมาะสม
สำหรับั การวิจิ ัยั และพัฒั นา จึึงเป็น็ ประโยชน์อ์ ย่า่ งมากในการนำมาประยุกุ ต์ใ์ ช้ใ้ นอุตุ สาหกรรมการผลิติ เชื้�อเพลิงิ ชีีวภาพ

วช. จึงึ มีมี ติใิ ห้ผ้ ลงานเรื่อ�่ งนี้� ได้ร้ ับั รางวัลั การวิจิ ัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำปีงี บประมาณ 2565
รางวััลระดับั ดีมี าก สาขาวิิทยาศาสตร์เ์ คมีแี ละเภสััช

92 รางวััลการวิิจััยแห่่งชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

1. ชื่อ�่ ผลงานวิจิ ััย เอทานอลโดยวิิธีีการกลั่ �นต้้องใช้้พลัังงานสููงในการเปลี่�่ยน
สถานะของผสม และการใช้้สารสกััดซึ่่�งเป็็นสารก่่อมะเร็็ง
ชื่�อ่ ผลงานวิิจัยั พอลิิเมอร์์เมมเบรนและเมมเบรนเมทริิก และไม่่เป็็นมิิตรกัับสิ่�งแวดล้้อม ส่่วนการใช้้ตััวดููดซัับน้้ำ
ผสมสำหรัับแยกน้้ำจากสารละลาย โมเลกููลาร์์ซีีพจะสิ้้�นเปลืืองพลัังงานในการบำบััดเพื่�่อ
อะซิิโอโทรปิกิ นำกลัับมาใช้้ใหม่่ โดยโมเลกููลาร์์ซีีพที่�่ดููดซัับน้้ำได้้ดีีย่่อม
หัวั หน้้าคณะ รองศาสตราจารย์์ ดร.สิทิ ธิพิ งษ์์ อำนวยพานิชิ ย์์ ต้อ้ งใช้พ้ ลังั งานมาก อีีกทั้�งประสิทิ ธิภิ าพในการดูดู ซับั น้ำ้ ของ
สถานที่่ต� ิิดต่อ่ สาขาวิิชาเคมีี คณะวิิทยาศาสตร์์ โมเลกูลู าร์ซ์ ีีพจะลดลงตามระยะเวลาการใช้้งาน
โทรศัพั ท์ ์ 0-4300-9700 ต่อ่ 42174 42175
089-422-9972 กระบวนการแยกน้้ำที่่�สามารถแก้้ปััญหาข้้างต้้นของ
มืือถืือ การผลิติ เอทานอลคืือ การแยกโดยเมมเบรน (Membranes)
เช่่น กระบวนการเพอร์์แวพอเรชััน (Pervaporation)
E-mail: [email protected] ซึ่�่งเป็็นการแยกของเหลวผสมออกจากกัันผ่่านการแพร่่และ
ผู้้�ร่่วมวิิจััย 1. ดร.สัันติิ คููณทรัพั ย์์ ละลายของสารที่ถ�่ ูกู แยกในเมมเบรน โดยไม่อ่ าศัยั ความร้อ้ น
2. ดร.ธนิิตพร นาคกุลุ ในการทำให้้ของผสมระเหยเป็็นไอเหมืือนการกลั่�น ส่่งผล
3. ดร.วิิไลรัตั น์์ วงศ์์เทพ ให้ก้ ารใช้พ้ ลัังงานลดลงเป็น็ อย่า่ งมาก ที่�ส่ ำคััญกระบวนการ
4. ดร.วิธิ วินิ ท์ว์ ิชิ ญ์์ เนาวนนท์์ เมมเบรนสามารถแยกสารละลายอะซิิโอโทรปิิกได้้
ทุุกความเข้้มข้้นโดยไม่่มีีข้้อจำกััดทางเทอร์์โมไดนามิิกส์์
2. ความสำำคัญั และที่่ม� าของการวิิจััย สามารถแยกสารผสมที่�่มีีจุดุ เดืือดใกล้เ้ คีียงกััน และสารผสม
จ า ก ส ภ า ว ะ ค ว า ม ต้้ อ ง ก า ร ใช้้ เชื้ � อ เ พลิิ ง ที่�่ เ พิ่่� ม ขึ้้�น ที่่�ไวต่่อความร้้อน สามารถใช้้ร่่วมกัับปฏิิกิิริิยาทางเคมีีและ
ส วนท า ง กัั บ แ หล่่ ง เชื้ � อ เ พลิิ ง ฟ อ ส ซิิ ล ที่่� มีีปริิ ม า ณ จ ำ กัั ด ชีีวภาพต่่าง ๆ เพื่่อ� เพิ่่�มประสิทิ ธิิภาพการเกิิดปฏิิกิิริิยา
ส่่งผลให้้มีีการส่่งเสริิมและพััฒนาการใช้้เชื้ �อเพลิิงทางเลืือก
ที่่�มีีความยั่�งยืืน หนึ่�่งในเชื้�อเพลิิงทางเลืือกที่�่ใช้้กัันอย่่าง การพัฒั นากระบวนเมมเบรนให้ม้ ีีความสามารถในการ
แพร่่หลายคืือ แก๊๊สโซฮอล์์ (Gasohol) ที่่�ได้้จากการผสม แยกสารละลายอะซิิโอโทรปิิกได้้ดีี สิ่�งสำคััญที่่�สุุดคืือวััสดุุ
น้้ำมัันเบนซิินกัับเอทานอลบริิสุุทธิ์์� เอทานอลเป็็นเชื้�อเพลิิง ที่่�ประกอบเป็็นเมมเบรนและการสัังเคราะห์์ ประสิิทธิิภาพ
ที่ไ่� ด้จ้ ากผลิติ ผลทางการเกษตร เช่่น อ้้อยและมันั สำปะหลััง การแยกของเมมเบรนพิจิ ารณาจากปริมิ าณการแยกในเทอม
หรืือวััสดุเุ หลืือใช้ช้ ีีวมวล (Biomass) ส่ง่ ผลให้เ้ อทานอลเป็็น ของค่่าฟลัักส์์ (Flux, J) ซึ่ง่� เป็น็ ปริมิ าณของสารที่ถ่� ููกแยกต่อ่
เชื้�อเพลิงิ หมุนุ เวีียนที่ม�่ ีีความยั่ง� ยืืน พื้้�นที่่�ต่่อเวลา และคุุณภาพการแยกในรููปของค่่าการแยก
ในกระบวนการการหมััก (Fermentation) จะได้้ (Separation factor, β) คืืออััตราส่่วนความเข้้มข้้นของ
เอทานอลเกิดิ ขึ้้�นประมาณ 8 - 12% โดยปริิมาตร ซึ่�ง่ ต้อ้ ง สารที่่�แยกผ่่านเมมเบรนเทีียบกัับสารดัังกล่่าวในสารป้้อน
ผ่่านกระบวนการแยกเอาเอทานอลออก ทั่่�วไปอาศััยวิิธีี กลไกการแยกโดยเมมเบรนขึ้้�นกัับความสามารถในการ
การกลั่น� (Distillation) ทำให้ไ้ ด้เ้ อทานอลเข้ม้ ข้น้ เพิ่่ม� ขึ้้�นเป็น็ ละลายในเมมเบรน (Solubility, S) และอััตราการแพร่่
96% โดยปริิมาตร อย่่างไรก็็ตามเอทานอลที่่�ใช้้ในการผลิิต ผ่่านเมมเบรน (Diffusivity, D) โดยผลคููณระหว่่างค่่า S
แก๊๊สโซฮอล์์ต้้องมีีความบริิสุุทธิ์์�มากกว่่า 99% โดยปริิมาตร กัับ D คืือค่่าการซึึมผ่่าน (Permeability, P) ซึ่�่งเป็็นค่่าที่่�
ซึ่�่งความเข้้มข้้นของเอทานอลดัังกล่่าวไม่่สามารถใช้้ สะท้้อนสมบััติิการแยกของเมมเบรน และอััตราส่่วนค่่า
การกลั่�นปกติิได้้ เนื่�่องจากของผสมของเอทานอลกัับ Permeability ของสารที่่�แยกผ่่านเมมเบรนได้เ้ ทีียบกับั สาร
น้้ำเกิิดเป็็นของผสมอะซิิโอโทรปิิก (Azeotrope) ที่�่ความ ที่�่ไม่่ถููกแยกเรีียกว่า่ ค่า่ การเลืือก (Selectivity, α) สำหรับั
เข้ม้ ข้น้ ของเอทานอล 97.2% โดยปริมิ าตร ดัังนั้้�นจึึงจำเป็น็ เมมเบรนที่่�มีีประสิิทธิิภาพการแยกที่�่ดีีต้้องมีีค่่าการซึึมผ่่าน
ต้้องมีีกระบวนการแยกน้้ำต่่อเนื่�่องจากกระบวนการกลั่ �น ที่�่สููงและมีีค่่าการเลืือกที่�่มากกว่า่ 1.0
กระบวนการแยกน้้ำ (Dehydration) แบบดั้�งเดิิมใช้้
การกลั่�นแบบอะซิิโอโทรปิิก (Azeotropic Distillation) งานวิจิ ัยั นี้�เป็น็ การพัฒั นาเมมเบรนสำหรับั การแยกน้ำ้
โดยการผสมสารสกััด (Entrainer) เช่น่ เบนซินิ (Benzene) (Water-selective membranes) ออกจากสารละลาย
หรืือไซโคลเฮกเซน (Cyclohexane) เข้้าไปกัับสารละลาย อะซิิโอโทรปิิกและสารผสมที่่�มีีจุุดเดืือดใกล้้เคีียงกัันซึ่�่งแยก
เอทานอล ทำให้้เกิิดการเปลี่�่ยนแปลงของจุุดอะซิิโอโทรปิิก ไม่่ได้้โดยการกลั่�น เช่่น สารละลายเอทานอลหรืืออะซิิโตน
หรืือการใช้้การดููดซัับน้้ำโดยโมเลกููลาร์์ซีีพ (Molecular สำหรัับใช้้ในกระบวนการแยกน้้ำเพื่่�อทดแทนกระบวนการ
sieve) เช่่น ซีีโอไลต์์ (Zeolite) อย่่างไรก็็ตามการแยก กลั่�นและการดููดซัับแบบดั้�งเดิิม โดยได้้พััฒนาเมมเบรนที่�่มีี
ค่่าการซึึมผ่่านและค่่าการเลืือกของน้้ำที่�่สููง การออกแบบ

รางวััลการวิิจัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565 93

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

และสัังเคราะห์์เมมเบรนให้้ความสำคััญกัับปรากฏการณ์์ สองหน้้าที่่�คืือ ทำหน้้าที่่�เป็็นตััวเชื่�่อมขวางลดการบวมตััว
Trade-off ระหว่่างค่่า Permeability และ Selectivity ของโครงสร้้างเมมเบรนในน้้ำ และทำหน้้าที่�่กำหนดขนาด
ที่�่มัักเกิิดขึ้้�นกัับเมมเบรนฐานพอลิิเมอร์์ (Polymer-based ช่่องทางหรืือ Free volume ภายในเมมเบรนให้้มีีขนาด
membranes) กล่่าวคืือ เมมเบรนที่�่ให้้ค่่า Permeability เหมาะสมให้้โมเลกุุลของน้้ำแพร่่ผ่่านได้้ง่่าย ในขณะที่�่จำกััด
สูงู มักั จะมีีค่า่ Selectivity ที่ต�่ ่่ำ หรืือถ้า้ ต้อ้ งการ Selectivity การแพร่ผ่ ่่านของสารที่�่มีีโมเลกุุลใหญ่่กว่่าน้้ำ
ที่ส่� ูงู ขึ้้�นต้อ้ งแลกกับั ค่า่ Permeability ที่ล�่ ดต่่ำลง สาเหตุหุ ลักั
ที่�่ทำให้้เกิิดปรากฏการณ์์ Trade-off คืือ การบวมตััวของ รููปที่�่ 1 ระบบเพอร์แ์ วพอเรชันั (Pervaporation)
เมมเบรน (Swelling) ภายใต้้สภาวะของสารที่่�แยกได้้ดีี
ด้้วยเมมเบรน นอกจากนั้้�นแล้้วการบวมตััวที่�่มากเกิินไป 3. แหล่ง่ เงิินทุนุ สนัับสนุนุ ในการทำำวิิจัยั
ทำให้้ความแข็็งแรงเชิิงกลของเมมเบรนต่่ำลง เมมเบรน สำนัักงานกองทุุนสนับั สนุนุ การวิิจััย (สกว.)
ในงานวิิจัยั นี้้�ประกอบด้้วย 4. วัตั ถุปุ ระสงค์์ของการวิจิ ัยั
4.1 พััฒนาเมมเบรนจากพอลิิเมอร์์และพอลิิเมอร์์
ก) เมมเบรนจากยางธรรมชาติิ ยางธรรมชาติิเป็็น
อิิลาสโตเมอร์์ที่�่ขึ้้�นรููปเป็็นเมมเบรนได้้ง่่ายจากน้้ำยาง ผสมเพื่�่อแยกน้้ำจากสารละลายอะซิิโอโทรปิิก มีีเป้้าหมาย
ธรรมชาติิ ในขณะที่�่ความไม่่ชอบน้้ำของยางธรรมชาติิ เพื่�่อสัังเคราะห์์เมมเบรนที่่�ให้้ค่่าการแยกน้้ำสููง โดยมีีการ
ช่่วยลดการบวมตััวในน้้ำของเมมเบรน เมมเบรนจากฐาน บวมตัวั ต่่ำในระหว่า่ งการใช้ง้ าน และขึ้้�นรูปู เป็น็ ฟิลิ ์ม์ บางได้ง้ ่า่ ย
ยางธรรมชาติิสัังเคราะห์์จากยางธรรมชาติิที่่�กราฟด้้วย
พอลิิเอทิิลเมตราคริิเลต (Poly 2-ethylmethacrylate, 4.2 พััฒนาเมมเบรนเมทริิกผสมระหว่่างพอลิิเมอร์์
PHEMA) และเมมเบรนจากยางธรรมชาติิผสมกัับ กัับอนุุภาคซีีโอไลต์์ อนุุภาคนาโนซิิลิิกา และอนุุภาค
พอลิอิ ะคริิลิกิ แอซิดิ (polyacrylic acid, PAA) นาโนซิลิ ิิกาที่ม่� ีีรููพรุุนระดัับเมโซ เพื่่�อแยกน้ำ้ จากสารละลาย
อะซิิโอโทรปิิกมีีเป้้าหมายเพื่่�อเป็็นเมมเบรนแบบ Anti-
ข) เมมเบรนจากพอลิิไวนิิลแอลกอฮอล์์ พอลิิไวนิิล Trade-off ที่ส่� ามารถเพิ่่ม� ค่า่ การซึึมผ่า่ นและค่า่ การแยกของ
แอลกอฮอล์์เป็็นพอลิิเมอร์์ชอบน้้ำที่่�ขึ้้�นรููปเป็็นเมมเบรนได้้ดีี น้้ำได้พ้ ร้อ้ มกััน
มีีเสถีียรภาพทางเคมีี ความร้้อนและสมบััติิเชิิงกลที่่�ดีี
ไม่เ่ ป็น็ พิษิ และเป็น็ มิติ รกับั สิ่ง� แวดล้อ้ ม พอลิไิ วนิลิ แอลกอฮอล์์ 5. ระยะเวลาที่่ท� ำำการวิจิ ัยั
มีีหมู่่�ไฮดรอกซิิลจำนวนมากเหมาะสำหรัับเป็็นเมมเบรน พ.ศ. 2557 - พ.ศ. 2564
สำหรัับแยกน้้ำ แต่่มีีข้้อเสีียคืือ บวมตััวได้้ดีีในน้้ำ ส่่งผลให้้
ประสิิทธิิภาพการแยกน้้ำลดลง พอลิิไวนิิลแอลกอฮอล์์ 6. สรุปุ ผลการวิิจัยั
เมมเบรนอยู่�ในรููปของเมมเบรนเชื่�่อมขวาง การเชื่่�อมขวาง 6.1 พัฒั นาเมมเบรนแยกน้ำ้ ได้จ้ ากน้ำ้ ยางธรรมชาติิ
ดำเนิินการสองครั้�งกัับพอลิิไวนิิลแอลกอฮอล์์ที่่�มีีน้้ำหนััก ผ่่านการผสมและดััดแปรร่่วมกัับพอลิิเมอร์์ชอบน้้ำและ
โมเลกุลุ แตกต่า่ ง ได้เ้ มมเบรนในรูปู แบบของโครงตาข่า่ ยซ้อ้ น สารตััวเติิมซีีโอไลต์์ ซึ่�่งสามารถเพิ่่�มประสิิทธิิภาพการเลืือก
(Double-network PVA membrane) ซึ่ง่� เพิ่่ม� ประสิทิ ธิภิ าพ ผ่า่ นน้ำ้ ลดการบวมน้ำ้ และเพิ่่ม� ความแข็ง็ แรงให้ก้ ับั เมมเบรน
การแยกน้้ำเนื่�่องจากจำนวนหมู่่�ไฮดรอกซิิลที่่�มากขึ้้�น และ 6.2 พััฒนาเมมเบรนจากพอลิิไวนิิลแอลกอฮอล์์ที่่�
ลดการบวมน้้ำลงได้้มากจากการจำกััดการบวมตััวโดย มีีประสิิทธิภิ าพการเลืือกผ่่านน้ำ้ เพิ่่ม� สูงู ขึ้้�น โดยกรรมวิิธีีการ
โครงสร้้างร่่างแหที่ซ�่ ้อ้ นกัันสองชั้้�น เชื่่�อมขวางสองขั้้�นตอนได้เ้ ป็น็ โครงสร้้างแบบร่่างแหสองชั้้�น

ค) เมมเบรนเมทริิกผสม มีีเป้้าหมายเพื่่�อเพิ่่�ม
ประสิิทธิิภาพการแยกน้้ำโดยอาศััยสารตััวเติิมที่�่ผสมกัับ
เมมเบรนฐานยางธรรมชาติิและฐานพอลิิไวนิิลแอลกอฮอล์์
โดยสารตััวเติิม ได้้แก่่ อนุุภาคซีีโอไลต์์ อนุุภาคนาโนซิิลิิกา
และอนุุภาคนาโนซิิลิิกาที่�่มีีรููพรุุนระดัับเมโซ เมมเบรน
เมทริิกผสมที่�่พััฒนาขึ้้�นนอกจากมีีสมบััติิการแยกน้้ำที่�่ดีี
ยัังมีีสมบััติิพิิเศษคืือ ปรากฏการณ์์ Anti-Trade-off ที่่�ค่่า
ของ Permeability และ Selectivity เพิ่่�มขึ้้�นไปพร้อ้ มกััน
เมื่่�อมีีการเพิ่่�มอุุณหภููมิิ ซึ่่�งสมบััติิดัังกล่่าวไม่่พบในเมมเบรน
ฐานพอลิิเมอร์์ทั่่�วไป เกิิดขึ้้�นจากสารตััวเติิมซึ่�่งมีีบทบาท

94 รางวััลการวิิจัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

6.3 พััฒนาเมมเบรนเมทริิกผสมฐานพอลิิไวนิิล 8. ศักั ยภาพในการพัฒั นาไปสู่�่ การใช้ป้ ระโยชน์์
แอลกอฮอล์์ ที่�่มีีค่่าการซึึมผ่่านและค่่าการเลืือกผ่่านน้้ำ ในเชิงิ สัังคม และ/หรืือ เชิงิ พาณิิชย์์
เพิ่่�มขึ้้�นพร้้อมกัันเมื่�่อเพิ่่�มอุุณหภููมิิ (Anti-Trade-off) การแยกโดยเมมเบรนสามารถใช้้ในการแยกสาร
โดยการเติิมอนุุภาคนาโนซิิลิิกาหรืืออนุุภาคนาโนซิิลิิกาที่�่มีี
รูพู รุุนระดัับเมโซ ละลายอะซิิโอโทรปิิก สารละลายที่่�มีีจุุดเดืือดใกล้้เคีียงกััน
และสารที่ส่� ลายตัวั ได้ง้ ่า่ ยภายใต้ค้ วามร้อ้ น ซึ่ง�่ ไม่ส่ ามารถแยกได้้
6.4 ได้้วิิธีีการสัังเคราะห์์อนุุภาคนาโนซิิลิิกาและ โดยการกลั่�น ที่่�สำคััญกระบวนการเมมเบรนใช้้พลัังงานต่่ำ
อนุุภาคนาโนซิิลิิกาที่่�มีีรููพรุุนระดัับเมโซ รวมถึึงการดััดแปร เมื่่�อเปรีียบเทีียบกัับการกลั่�นและการดููดซัับ การแยกด้้วย
อนุภุ าคดัังกล่า่ วผ่่านการกราฟด้ว้ ยพอลิเิ มอร์์ เมมเบรนเป็น็ การแยกที่ม�่ ีีประสิทิ ธิภิ าพสูงู สามารถประยุกุ ต์์
ใช้้ทดแทนกระบวนการแยกแบบดั้�งเดิิมได้้ โดยเฉพาะใน
7. ประโยชน์ท์ ี่่�ได้ร้ ัับจากการวิจิ ััย อุตุ สาหกรรมเชื้�อเพลิงิ ชีีวภาพ เช่่น การผลิติ ไบโอเอทานอล
7.1 ได้้เมมเบรนแยกน้้ำประสิิทธิิภาพสููงแบบใหม่่
ได้้แก่่ เมมเบรนจากยางธรรมชาติิดััดแปร เมมเบรนแบบ 9. การนำำผลงานไปใช้ป้ ระโยชน์์ในมิติ ิิต่่าง ๆ
ร่่างแหสองชั้้�น และเมมเบรนเมทริิกผสมที่่�มีีสมบััติิ  เชิิงชุุมชน/สัังคม
Anti-Trade-off ที่่�ปริิมาณและคุุณภาพการแยกน้้ำเพิ่่�มขึ้้�น  เชิงิ พาณิิชย์์
ไปพร้้อมกัันเมื่่�อเพิ่่�มอุุณหภููมิิ ซึ่�่งเป็็นสมบััติิที่่�พบได้้ยากใน  เชิิงวิิชาการ
เมมเบรนฐานพอลิเิ มอร์์ เมมเบรนที่พ่� ัฒั นาขึ้้�นมีีประสิทิ ธิภิ าพ  เชิิงพื้้�นที่�่
ในการแยกน้้ำสููง โดยสามารถแยกน้้ำออกจากสารละลาย
เอทานอลหรืือสารละลายอะซิโิ ตนได้ค้ วามบริสิ ุทุ ธิ์์ส� ูงู มากกว่า่ 10. ข้อ้ เสนอแนะเชิิงนโยบายที่่�เสนอแนะ
99% โดยโมล เมื่อ�่ ทดสอบกัับสารป้้อนที่่ม� ีีน้้ำน้้อยกว่า่ 10% ให้้แก่ร่ ัฐั บาล/กระทรวงต่า่ ง ๆ และภาคเอกชน
โดยโมล เพื่อ�่ นำำไปใช้ว้ างนโยบาย พัฒั นา หรืือแก้ไ้ ขปัญั หา
7.2 ผลงานวิิจััยได้้รัับการตีีพิิมพ์์ในวารสารวิิชาการ
ระดัับนานาชาติใิ นฐานข้้อมููล Scopus และ ISI
7.3 ผลงานวิิจััยได้้รัับอนุุสิิทธิิบััตร 2 เรื่่�องคืือ
การสังั เคราะห์อ์ นุภุ าคนาโนซิลิ ิกิ าเมโซพอร์์ และการสังั เคราะห์์
อนุุภาคซิิลิกิ าเมโซพอร์์ที่่�มีีหมู่่�ฟังั ก์์ชันั เฉพาะบนพื้้�นผิวิ

พอลิิเมอร์์เมมเบรนและเมมเบรนเมทริิกผสมสำหรัับแยกน้้ำจากสาร
ละลายอะซิโิ อโทรปิกิ

ภาพจากกล้้องจุุลทรรศน์์อิิเล็็กตรอน (TEM และ SEM) ของอนุุภาค 95
นาโนซิลิ ิกิ า (a) เมมเบรนฐานยางธรรมชาติิ (b) และเมมเบรนเมทริกิ ผสม (c)

รางวััลการวิจิ ัยั แห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิิจัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

เกีียรติิคุุณประกาศ

รางวัลั การวิิจัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิิจัยั
ประจำำปีีงบประมาณ 2565

รางวััลระดับั ดีมี าก

สาขาเกษตรศาสตร์แ์ ละชีีววิทิ ยา

เรื่อ�่ ง
การบููรณาการองค์์ความรู้้�จากการวิิจััยเชื้้อ� ฟลาโวแบคทีีเรีียม คอลััมแนร์์
สู่�่นวััตกรรมนาโน วัคั ซีนี เกาะติิดเยื่่�อเมืือกเพื่�อ่ ป้้องกัันโรคคอลัมั นาริสิ ในปลาน้ำำ��จืืดอย่่างยั่่ง� ยืืน
Integration of Knowledge from Research on Flavobacterium
Columnare to Innovation of Mucosal Adhesive Nanovaccine
for Sustainable Prevention of Columnaris in Freshwater Fish

โดย
รองศาสตราจารย์์ ดร. นายสัตั วแพทย์์ชาญณรงค์์ รอดคำำ และคณะ

สำนัักงานการวิิจััยแห่่งชาติิ (วช.) ได้้พิิจารณาเห็็นว่่าผลงานวิิจััย เรื่�่อง “การบููรณาการองค์์ความรู้�
จากการวิิจััยเชื้�อฟลาโวแบคทีีเรีียม คอลััมแนร์์ สู่่�นวััตกรรมนาโนวััคซีีนเกาะติิดเยื่่�อเมืือกเพื่�่อป้้องกัันโรคคอลััม
นาริิสในปลาน้้ำจืืดอย่่างยั่ง� ยืืน” โดย รองศาสตราจารย์์ ดร. นายสัตั วแพทย์์ชาญณรงค์์ รอดคำ และคณะ แห่ง่
คณะสััตวแพทยศาสตร์์ จุุฬาลงกรณ์์มหาวิิทยาลััย เป็็นผลงานวิิจััยที่�่เป็็นประโยชน์์อย่่างมากต่่ออุุตสาหกรรม
ประมง ซึ่่�งสามารถลดความเสีียหายที่่�เกิิดกัับการเพาะเลี้�ยงปลา โดยทำการศึึกษาวิิจััยเพื่่�อให้้ได้้ข้้อมููลและเชื้�อ
ฟลาโวแบคทีีเรีียม คอลััมแนร์์ (Flavobacterium columnare) ที่ค่� วามรุุนแรงของโรคคอลััมนาริิส (columnaris)
แล้้วนำมาพัฒั นาเป็็นนาโนวััคซีีนเกาะติิดเยื่�่อเมืือกแบบจุ่�มแช่่ ซึ่่ง� มีีวิิธีีการใช้้ที่�่ง่่าย ราคาถูกู สามารถกระตุ้้�นภููมิิคุ้�มกันั
ของปลาได้้เป็็นอย่่างดีี ทำให้้ปลาในกลุ่�มที่่�ได้้รัับวััคซีีนมีีอััตราการรอดชีีวิิตสููง ปลามีีภููมิิคุ้�มกัันหลัังการทำวััคซีีนนาน
ถึึง 60 วััน มีีประสิิทธิภิ าพสููงในการป้้องกัันโรคคอลััมนาริิสในปลา เป็น็ ประโยชน์ต์ ่อ่ เกษตรกรผู้�เพาะเลี้�ยงปลา และ
อุุตสาหกรรมการประมงของประเทศ

วช. จึงึ มีมี ติใิ ห้ผ้ ลงานเรื่อ�่ งนี้� ได้ร้ ับั รางวัลั การวิจิ ัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำปีงี บประมาณ 2565
รางวัลั ระดัับดีมี าก สาขาเกษตรศาสตร์แ์ ละชีีววิทิ ยา

96 รางวัลั การวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ััย ประจำำปีีงบประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

1. ชื่�่อผลงานวิิจััย
ชื่อ�่ ผลงานวิิจัยั การบููรณาการองค์์ความรู้้�จากการวิิจััย
เชื้�อฟลาโวแบคทีีเรีียม คอลัมั แนร์์ สู่่�นวัตั กรรม
นาโนวััคซีีนเกาะติิดเยื่่�อเมืือกเพื่่�อป้้องกััน
โรคคอลัมั นาริิสในปลาน้้ำจืืดอย่า่ งยั่ง� ยืืน
หัวั หน้า้ คณะ รศ.น.สพ.ดร. ชาญณรงค์์ รอดคำ
สถานที่่�ติิดต่อ่ คณะสััตวแพทยศาสตร์์
จุฬุ าลงกรณ์ม์ หาวิิทยาลััย
ผู้้�ร่่วมวิจิ ััย 1. รศ.ดร.น.สพ.พััฒนพล ขยันั สำรวจ

2. ดร. ธีีรพงส์์ ยะทา
3. Assistant Prof. Dr. Ha Thanh Dong
4. รศ.ดร.น.สพ.นพดล พิฬิ ารัตั น์์
5. ดร.สพ.ญ.สิริ ิกิ ร กิติ ิโิ ยดม

2. ความสำำคัญั และที่่�มาของการวิิจัยั 3. แหล่ง่ เงินิ ทุุนสนับั สนุุนในการทำำวิจิ ััย
ง า น วิิ จัั ย นี้ � เริ่ � ม ต้้ นขึ้้�น ด้้ ว ย ปัั ญ ห า ก า ร ร ะ บ า ด ข อ ง ทุุนสนัับสนุุนการวิิจััยและนวััตกรรม จุุฬาลงกรณ์์
โรคคอลััมนาริิส (columnaris) หรืือโรคเหงืือกเน่่า หรืือ
โรคตััวด่่างในปลาน้้ำจืืด โดยเฉพาะปลานิิล ซึ่�่งถืือเป็็นปลา มหาวิทิ ยาลััย
เศรษฐกิิจที่่�สำคััญของประเทศไทย และหลาย ๆ ประเทศ
ทั่่�วโลก ผู้�วิิจััยได้้นำปััญหามาวิิเคราะห์์และเริ่�มต้้นแก้้ปััญหา 4. วััตถุปุ ระสงค์์ของการวิิจััย
ด้้ ว ย ก า ร พัั ฒ น า ก า ร เ พ า ะ แ ย ก เชื้ � อ ฟ ล า โ ว แ บ ค ทีี เรีี ย ม 4.1 เพื่�่อศึึกษาวิิจััยเชิิงลึึกเกี่่�ยวกัับโรคคอลััมนาริิส
คอลััมแนร์์ (Flavobacterium columnare) ขึ้้�น จากนั้้�น หรืือโรคเหงืือกเน่า่ ในปลาน้้ำจืืด
ทำการวิิเคราะห์์สมบััติิปรากฏและสมบััติิทางพัันธุุกรรม 4.2 เพื่�่อพััฒนานวััตกรรมวััคซีีนและวิิธีีการอื่�่น ๆ
(phenotypic and genotypic characterization) ของเชื้�อ ในการแก้้ปััญหาโรคคอลััมนาริิสให้้แก่่ปลาน้้ำจืืดเศรษฐกิิจ
ห า ข้้ อ มูู ล ท า ง ร ะ บ า ด วิิ ท ย า ข อ ง เชื้ � อ ทั่่� วทุุ ก ภูู มิิ ภ า ค ข อ ง ได้อ้ ย่า่ งมีีประสิทิ ธิภิ าพและสามารถนำไปใช้ใ้ ห้เ้ กิดิ ประโยชน์์
ประเทศไทย และนำข้้อมููลทุุกอย่่างมาบููรณาการเพื่�่อนำไป ได้้อย่่างเป็น็ รููปธรรมและยั่ง� ยืืน
ใช้แ้ ก้ป้ ัญั หาโรคคอลััมนาริสิ (columnaris) ในปลาน้้ำจืืด
ซึ่่� ง จ า ก ก า ร บูู ร ณ า ก า ร นี้ � ไ ด้้ ก่่ อ ใ ห้้ เ กิิ ดนวัั ต ก ร ร ม
นาโนวััคซีีนเกาะติิดเยื่�่อเมืือก (mucosal adhesive
nanovaccine) เพื่อ�่ ใช้ใ้ นการกระตุ้้�นภูมู ิคิุ้�มกันั ของปลาน้ำ้ จืืด
ใ ห้้ ส า ม า ร ถต้้ า นท า นต่่ อ ก า ร ก่่ อ โร ค ค อ ลัั ม น า ริิ ส ข อ ง เชื้ � อ
ฟลาโวแบคทีีเรีียม คอลััมแนร์์ได้้ ถืือเป็็นการแก้้ปััญหา
โรคระบาดคอลััมนาริิสในปลาน้้ำจืืดได้้อย่่างยั่�งยืืน ส่่งเสริิม
เศรษฐกิิจของอุุตสาหกรรมการเลี้�ยงปลาน้้ำจืืด นอกจากนี้�
การป้้องกัันโรคโดยใช้้นาโนวััคซีีนแบบจุ่ �มนี้้�ยัังสามารถทำได้้
กับั ปลาที่ม�่ ีีขนาดเล็ก็ มากได้ซ้ ึ่ง�่ วัคั ซีีนแบบฉีีดไม่ส่ ามารถทำได้้
การทำวััคซีีนยัังเป็็นการช่่วยให้้ไม่่ต้้องใช้้ยาปฏิิชีีวนะ
เพื่อ�่ รักั ษาโรคระบาด ลดต้น้ ทุนุ ที่ต�่ ้อ้ งใช้ใ้ นการรักั ษาโรคปลา
ล ดอัั ต ร า ก า ร เ กิิ ด ย า ป ฏิิ ชีีวน ะ ต ก ค้้ า ง แ ล ะ ก า ร เ กิิ ด เชื้ � อ
แบคทีีเรีียดื้�อต่อ่ ยาปฏิชิ ีีวนะอันั อาจจะส่ง่ ผลเสีียต่อ่ ผู้�บริโิ ภคได้้

รางวัลั การวิิจัยั แห่่งชาติิ : รางวััลผลงานวิิจัยั ประจำำปีีงบประมาณ 2565 97

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

5. ระยะเวลาที่่ท� ำำวิิจััย ที่ม�่ ีีคุณุ สมบัตั ิดิ ีีเยี่ย่� มในการเกาะติดิ เยื่อ่� เมืือกของปลาซึ่ง�่ เป็น็
ระยะเวลาที่�ท่ ำวิจิ ัยั จำนวน 5 ปีี ตั้�งแต่่ พ.ศ 2558 การเลีียนแบบธรรมชาติิของการก่่อโรคของเชื้�อนี้� ดัังนั้้�น
ถึึง พ.ศ. 2563 นาโนวััคซีีนแบบจุ่ �มแช่่นี้้�จึึงสามารถกระตุ้้�นภููมิิคุ้ �มกัันของ
ปลาได้้เป็็นอย่่างดีี ทำให้้ปลาในกลุ่�มที่�่ได้้รัับวััคซีีนมีี
อัตั ราการรอดสัมั พัทั ธ์ท์ ี่ส่� ูงู ปลามีีภูมู ิคิุ้�มกันั หลังั การทำวัคั ซีีน
นานถึึง 60 วััน การให้น้ าโนวััคซีีนนี้้�แก่ป่ ลาน้้ำจืืดโดยวิิธีีการ
จุ่�มแช่่เป็็นวิิธีีการที่ง�่ ่่าย สะดวก รวดเร็ว็ ราคาถูกู และก่อ่ ให้้
เกิดิ ประสิทิ ธิภิ าพสูงู ในการป้อ้ งกันั โรค จึึงถืือได้ว้ ่า่ นาโนวัคั ซีีน
ที่่�พััฒนาขึ้้�นนี้้�เป็็นวััคซีีนในอุุดมคติิที่�่จะใช้้ป้้องกัันโรคคอลััม
นาริสิ หรืือโรคเหงืือกเน่า่ ในปลาน้ำ้ จืืดได้อ้ ย่า่ งมีีประสิทิ ธิภิ าพ
และยั่ง� ยืืน

6. สรุุปผลการวิจิ ัยั 7. ประโยชน์ท์ ี่่�ได้้รัับจากการวิิจัยั
งานวิจิ ัยั ดังั กล่า่ วเป็น็ การศึึกษาเกี่ย่� วกับั โรคคอลัมั นาริสิ ผลงานวิิจััยนี้ �ได้้รัับการตีีพิิมพ์์เป็็นบทความวิิชาการ
(columnaris) หรืือโรคเหงืือกเน่า่ ในปลาน้ำ้ จืืด ซึ่ง�่ เป็น็ โรคที่ม�่ ีี 14 เรื่อ�่ ง ในวารสารวิิชาการระดับั นานาชาติิชั้้�นนำ ในสาขา
สาเหตุุ มาจากเชื้�อแบคทีีเรีียแกรมลบ ชื่อ่� ฟลาโวแบคทีีเรีียม Aquatic Science และ Veterinary Science พร้อ้ มกันั นี้้�ได้้
คอลััมแนร์์ (Flavobacterium columnare) การระบาด ผลิิตนักั วิจิ ัยั ที่่ม� ีีคุุณภาพทั้้�งในระดับั ปริญิ ญาโท ปริญิ ญาเอก
ของโรคมักั ทำให้ป้ ลาเลี้�ยงมีีอัตั ราการตายที่ส่� ูงู มากและทำให้้ และระดัับหลัังปริิญญาเอก จากการบููรณาการและ
ธุรุ กิจิ การเพาะเลี้�ยงปลาน้ำ้ จืืดเกิดิ ความสูญู เสีียทางเศรษฐกิจิ ต่อ่ ยอดผู้้�วิจิ ัยั สามารถผลิติ นาโนวัคั ซีีนแบบจุ่�มแช่เ่ พื่อ่� ป้อ้ งกันั
เป็็นอย่่างมาก ผู้�วิจิ ััยได้้ทำการศึึกษาลักั ษณะทางพันั ธุกุ รรม โรคเหงืือกเน่่าในปลาน้้ำจืืดได้้สำเร็็จอย่่างมีีประสิิทธิิภาพ
และได้จ้ ัดั กลุ่�มของสายพันั ธุ์์�ต่า่ ง ๆ ของเชื้�อฟลาโวแบคทีีเรีียม นอกจากนี้้�นวััตกรรมนาโนวััคซีีนที่่�ได้้พััฒนาขึ้้�นนี้้�ได้้ยื่่�น
คอลััมแนร์์ที่่�แยกได้้จากปลาน้้ำจืืดของประเทศไทยไว้้ และ จดสิิทธิิบััตรแล้ว้ จำนวน 3 สิทิ ธิิบััตร และได้ร้ ับั รางวััลต่า่ ง ๆ
พบว่่าส่่วนใหญ่่ของเชื้ �อที่�่แยกได้้ในประเทศไทยถููกจััดอยู่ � จำนวนมากจากการประกวดและมอบรางวััลจากหลาย
ใน Genomovar II หรืือ Genetic group II และ Genetic สถาบััน
group IV หลัังจากนั้้�นได้้ทำการศึึกษาเกี่่�ยวกัับการ
ตรวจวิินิิจฉััยเชื้�อ ความรุุนแรง และพยาธิิกำเนิิดของเชื้�อ
จนได้้สายพัันธุ์์�ของเชื้ �อที่�่มีีความรุุนแรงในการก่่อโรคสููง
และอยู่�ในกลุ่�มมีีความชุุกในการก่่อให้้เกิิดโรคสููง จากนั้้�น
จึึงได้้นำเชื้ �อสายพัันธุ์์�ดัังกล่่าวมาพััฒนาเป็็นนาโนวััคซีีน

98 รางวัลั การวิจิ ััยแห่ง่ ชาติิ : รางวัลั ผลงานวิจิ ัยั ประจำำปีงี บประมาณ 2565

สำ�นักงานการวิจัยแห่งชาติ

NATIONAL RESEARCH COUNCIL OF THAILAND

8. ศักั ยภาพในการพัฒั นาไปสู่่�การใช้้ประโยชน์์ 9. การนำำผลงานไปใช้้ประโยชน์์ในมิติ ิิต่า่ ง ๆ
ในเชิงิ สังั คม และ/หรืือ เชิิงพาณิชิ ย์์  เชิิงชุุมชน/สังั คม
ในปัจั จุบุ ันั นาโนวัคั ซีีนดังั กล่า่ วกำลังั ได้ร้ ับั การต่อ่ ยอด  เชิงิ พาณิชิ ย์์
 เชิงิ วิชิ าการ
เชิงิ พาณิชิ ย์ส์ู่่�ผู้้�ประกอบการไทย นอกจากนี้�ผู้�วิจิ ัยั ยังั ได้ท้ ำการ  เชิิงพื้้�นที่่� เพื่่�อการแก้้ปััญหาโรคเหงืือกเน่่าของ
ก่่อตั้�งเป็น็ บริษิ ััท Spin-off ชื่่�อ “บริิษัทั อะควา อิินโนแวค”
เพื่่�อการวิิจััยและพััฒนาเรื่�่องโรคติิดเชื้�อของปลา นวััตกรรม ปลาน้้ำจืืดให้้แก่่เกษตรกรผู้�เลี้�ยงสััตว์์น้้ำในพื้้�นที่�่ต่่าง ๆ ใน
และวััคซีีนเพื่่�อป้้องกันั โรคติดิ เชื้�อต่า่ ง ๆ ในปลา อีีกทั้�งมีีการ หลายจัังหวััด
ต่่อยอดไปใช้้ให้้เป็็นประโยชน์์ต่่อการเกษตรกรรมการเลี้ �ยง
สัตั ว์น์ ้ำ้ อย่่างยั่ง� ยืืนและเป็็นประโยชน์ใ์ นเชิิงพาณิิชย์์อีีกด้้วย 10. ข้อ้ เสนอแนะเชิงิ นโยบายที่่เ� สนอแนะให้แ้ ก่่
รัฐั บาล/กระทรวงต่า่ ง ๆ และภาคเอกชน

เพื่อ�่ นำำไปใช้ว้ างนโยบาย พัฒั นา หรืือแก้ไ้ ขปัญั หา
รัฐั บาลและองค์ก์ รต่่าง ๆ ที่�เ่ กี่ย�่ วข้อ้ งควรมีีนโยบาย

ในการสนัับสนุุน ให้้ความช่่วยเหลืือนัักวิิชาการในการวิิจััย
และพััฒนาวััคซีีนสััตว์์น้้ำ กระบวนการจดทะเบีียนและ
การผลิิตวััคซีีนสััตว์์น้้ำ และควรผลัักดัันให้้มีีการใช้้งานจริิง
เพื่�่อการป้้องกัันโรคระบาดสััตว์์น้้ำในเชิิงพื้้�นที่�่ครอบคลุุมทั้ �ง
ประเทศไทยอย่่างเป็็นรููปธรรมเพื่�่อการป้้องกัันโรคระบาด
ในสัตั ว์น์ ้ำ้ อย่า่ งยั่ง� ยืืน ซึ่ง่� เท่า่ กับั เป็น็ การส่ง่ เสริมิ ลดการใช้ย้ า
ปฏิิชีีวนะในการเลี้�ยงสััตว์์น้ำ้ ลดปัญั หาเชื้�อดื้�อยาและปััญหา
ยาปฏิิชีีวนะตกค้้างในเนื้�อปลาและสิ่ง� แวดล้้อมได้อ้ ีีกด้้วย

รางวัลั การวิิจัยั แห่ง่ ชาติิ : รางวััลผลงานวิจิ ััย ประจำำปีงี บประมาณ 2565 99


Click to View FlipBook Version