แผนการจดั การเรียนรู้
รายวชิ าประวัติศาสตร์สากล
ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564
จดั ทาโดย นายรชตะ ขาวดี
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ
โรงเรยี นบา้ นแพงพทิ ยาคม อาเภอบา้ นแพง จงั หวดั นครพนม
สานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษานครพนม
วชิ าประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 1
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ยคุ สมยั และหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์
เวลา 4 ชว่ั โมง
ผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นรแู้ ละขอบขา่ ยภาระงาน/ชนิ้ งาน
ด้านความรู้
1. อารยธรรมเมโสโปเตเมีย
2. อารยธรรมล่มุ น้าไนล์
3. ชนชาตเิ กา่ แกบ่ างกลมุ่ ในเอเชยี ไมเนอร์และดนิ แดนใกล้เคยี ง
4. อารยธรรมกรกี
5. อารยธรรมโรมัน
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ยคุ สมยั และหลกั ฐาน ด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
1. การสอื่ สาร ทางประวตั ศิ าสตร์ และคา่ นยิ ม
2. การคิด ประวตั ศิ าสตร์
3. การแกป้ ัญหา 1. มีวินัย
4. การใช้กระบวนการกลุม่ 2. ใฝ่เรียนรู้
5. การใชเ้ ทคโนโลยี 3. รักความเปน็ ไทย
4. ม่งุ มัน่ ในการท้างาน
ภาระงาน/ชินงาน
1. ท้าแบบทดสอบ
2. การสืบคน้ ขอ้ มูล
3. การจดั ท้าโปสเตอร์
4. การสรา้ งแผนท่ีความคดิ
5. การน้าเสนอผลงานผ่านสือ่ ออนไลน์
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 2
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ยคุ สมยั และหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์
ขน้ั ที่ 1 ผลลพั ธป์ ลายทางทตี่ อ้ งการใหเ้ กดิ ขน้ึ กับนกั เรยี น
ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชนั้
1. ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมัยทางประวตั ิศาสตรท์ แี่ สดงถงึ การเปล่ียนแปลงของมนุษยชาติ
(ส. 4.1 ม. 4–6/1)
2. สรา้ งองคค์ วามร้ใู หม่ทางประวัตศิ าสตร์โดยใช้วิธกี ารทางประวตั ศิ าสตรอ์ ยา่ งเป็นระบบ(ส. 4.1 ม. 4–6/2)
ความเขา้ ใจทคี่ งทนของนกั เรยี น คาถามสาคญั ทที่ าใหเ้ กิดความเขา้ ใจทค่ี งทน
นกั เรยี นจะเขา้ ใจวา่ ...
การศึกษาเก่ียวกบั การนับเวลาและการเทยี บ การนับเวลาและการเทียบศักราช การแบง่ ยุคสมยั
ศักราช การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ และ ทางประวตั ศิ าสตร์ และหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์มี
หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ช่วยให้เข้าใจเร่ืองราวทาง ความสาคญั อย่างไร
ประวัตศิ าสตรไ์ ดด้ ีขึ้น
ความรขู้ องนกั เรยี นทน่ี าไปสคู่ วามเขา้ ใจทคี่ งทน ทกั ษะ/ความสามารถของนกั เรยี นทน่ี าไปสู่
นกั เรยี นจะรวู้ า่ ... ความเขา้ ใจท่ีคงทน นกั เรยี นจะสามารถ...
1. คาสาคัญ ได้แก่ สมัยโบราณ สมัยกลาง สมัย 1. อธิบายการเรยี งลาดบั เหตกุ ารณท์ างประวตั ศิ าสตร์
ปจั จุบัน ตามการแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์
2. นักประวัติศาสตร์ไดแ้ บง่ ยุคสมยั ทาง 2. จาแนกและวิเคราะหข์ อ้ มลู จากหลักฐานทาง
ประวัตศิ าสตรอ์ อกเปน็ 2 สมยั โดยอาศยั หลักฐาน ประวตั ศิ าสตร์
ท่ีเปน็ ลายลกั ษณ์อักษรเปน็ เกณฑ์ ไดแ้ ก่ สมยั ก่อน
ประวตั ศิ าสตร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มนษุ ย์ยงั ไมร่ จู้ ักใช้
ตัวหนงั สอื ในการเลา่ เร่ืองราว และสมัยประวตั ศิ าสตร์
ซึ่งเปน็ ชว่ งเวลาทม่ี นุษย์ใชต้ วั หนังสือในการเล่า
เรอ่ื งราวต่าง ๆ
3. หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ คือ รอ่ งรอย
พฤตกิ รรมของมนษุ ย์ในอดตี ซึ่งนกั ประวตั ศิ าสตร์ใช้
ในการศึกษาเรอ่ื งราวในอดีตของมนษุ ย์ นกั
ประวัตศิ าสตร์ไดจ้ ดั แบง่ หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์
ตามความสาคัญของหลักฐานออกเป็นหลักฐาน
ช้นั ตน้ และหลักฐานช้นั รอง นอกจากน้ียังแบง่
หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรต์ ามลกั ษณะของหลักฐาน
เปน็ หลักฐานลายลักษณอ์ กั ษรและหลักฐานทีไ่ ม่เปน็
ลายลักษณอ์ กั ษร หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ที่
ปรากฏในภูมภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก เช่น โครงกระดกู
มนุษยส์ มัยก่อนประวัตศิ าสตรท์ ปี่ ระเทศจีน เมือง
โบราณโมเฮนโจดาโรในลุ่มนา้ สนิ ธุ
วิชาประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 3
ขนั้ ท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรยี นรซู้ ง่ึ เปน็ หลกั ฐานทแ่ี สดงวา่ นกั เรยี นมผี ลการเรยี นรตู้ ามทกี่ าหนดไว้
อยา่ งแทจ้ รงิ
1. ภาระงานทนี่ กั เรยี นตอ้ งปฏบิ ตั ิ
1.1 จดั ปา้ ยนิเทศแสดงขอ้ มูลเร่ืองการแบง่ ยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์
1.2 สรา้ งแผนท่ีความคิดเกีย่ วกบั หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์
2. วธิ กี ารและเครอื่ งมอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้
2.1 วธิ ีการประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.2 เคร่ืองมือประเมินผลการเรียนรู้
1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน
2) การประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็น 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเปน็
รายบุคคลหรอื เป็นกลมุ่ รายบุคคลหรือเป็นกลุม่
3) การประเมินดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม 3) แบบประเมนิ ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม
และค่านยิ ม และคา่ นิยม
4) การประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมินดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ
3. สง่ิ ทมี่ งุ่ ประเมนิ
3.1 ความเข้าใจ 6 ด้าน ไดแ้ ก่ การอธิบาย ชี้แจง การแปลความและตีความ การประยุกต์ ดัดแปลง และ
นาไปใช้ การมีมมุ มองที่หลากหลาย การให้ความสาคญั และใส่ใจในความรู้สกึ ของผ้อู น่ื และการรจู้ ักตนเอง
3.2 ทักษะ/กระบวนการ เช่น การส่อื สาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี กระบวนการกลมุ่
3.3 คุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม เช่น รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซือ่ สตั ยส์ ุจรติ มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้
อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง มงุ่ มน่ั ในการทางาน รักความเปน็ ไทย มีจิตสาธารณะ
ขนั้ ท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 การแบ่งยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร์ เวลา 1 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 2 หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ เวลา 2 ชั่วโมง
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 4
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1
การแบง่ ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตร์
สาระที่ 4 ประวตั ศิ าสตร์ เวลา 1 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ยคุ สมยั และหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ชนั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
1. สาระสาคญั
การศึกษาเก่ยี วกับการแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตรเ์ พอื่ ให้รู้วา่ เหตกุ ารณใ์ ดเกิดก่อนและเหตกุ ารณใ์ ด
เกิดหลัง ซ่งึ จะช่วยให้เข้าใจเรอ่ื งราวทางประวตั ิศาสตรไ์ ด้ดขี ึ้น
2. ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชน้ั
ตระหนักถึงความสาคญั ของเวลาและยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์ ท่ีแสดงถงึ การเปล่ยี นแปลงของ
มนษุ ยชาติ (ส. 4.1 ม. 4–6/1)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายการแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตรไ์ ด้ (K, P)
2. สนใจใฝเ่ รียนร้แู ละตระหนักถึงความสาคัญของการแบ่งยคุ สมยั ทางประวัติศาสตร์ (A)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นยิ ม (A)
1. ทดสอบก่อนเรียน ประเมินพฤตกิ รรมในการทางาน ประเมนิ พฤติกรรมในการทางาน
2. ซกั ถามความรูเ้ รื่อง การแบ่ง เปน็ รายบคุ คลในด้านความมวี ินัย เปน็ รายบุคคลและเป็นกลมุ่ ในด้าน
ยุคสมัยทางประวตั ิศาสตร์ ความใฝ่เรียนรู้ ฯลฯ การสอื่ สาร การคดิ การแก้ปญั หา
3. ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็น ฯลฯ
รายบคุ คลหรอื เป็นกลุ่ม
5. สาระการเรียนรู้
การแบง่ ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
1. สมัยก่อนประวตั ศิ าสตร์
2. สมัยประวัตศิ าสตร์
6. แนวทางบรู ณาการ ฟัง พดู อ่าน และเขียนข้อมูลเกีย่ วกบั การการแบง่ ยคุ สมัย
ภาษาไทย
ทางประวัตศิ าสตร์
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง การแบ่งยคุ สมัยทางประวัตศิ าสตร์ จากอนิ เทอร์เนต็
วชิ าประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 5
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวช้ีวัดช่วง
ช้ันและจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ให้นักเรียนทราบ
2. ครใู หน้ ักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี นผา่ น Quizizz
3. ครูให้นักเรยี นดูภาพเครอื่ งมือยุคหินเกา่ และภาพหลกั ศลิ าจารึกแล้วถามนักเรยี นว่า ส่งิ ใดนา่ จะเกิด
ข้ึนมากอ่ นกนั ครเู ฉลยแลว้ โยงเข้าสเู่ น้ือหาท่จี ะเรียน
ขั้นท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
4.ครูแบ่งกลมุ่ นักเรยี น กลมุ่ ละ 5–6 คน โดยจดั กลุม่ และแสดงรายชอ่ื ในโปรแกรม Classdojo
แชร์หนา้ จอให้นักเรยี นเห็น ศกึ ษาความร้เู รอ่ื ง การแบ่งยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร์ จากแหล่งการเรยี นร้ตู ่าง ๆ
เช่น ห้องสมุด อินเทอรเ์ นต็ จากนน้ั ให้แตล่ ะกลุม่ นาขอ้ มลู มาจัดทาป้ายโปสเตอร์ ตกแต่งใหส้ วยงามนาเสนอ
5. ครูใหน้ ักเรียนเลอื กโปสเตอร์ดีเด่นโดยพจิ ารณาจากเนอื้ หา ความถกู ต้อง และความสวยงาม
6. นาโปสเตอร์ที่ได้รับการคดั เลือกไปเผยแพร่ผ่านส่ือออนไลน์
ขน้ั ท่ี 3 ฝกึ ฝนผเู้ รยี น
7. ครูให้นกั เรียนทากจิ กรรมเกี่ยวกบั การการแบง่ ยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ ในแบบฝึกทกั ษะ
ประวัติศาสตร์ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง
ขั้นท่ี 4 นาไปใช้
8. ครใู หน้ กั เรยี นนาความรู้เก่ียวกับการแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไปถา่ ยทอดให้ครอบครัวฟัง
ขั้นท่ี 5 สรปุ
9. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ กย่ี วกับการแบ่งยคุ สมัยทางประวัติศาสตร์เปน็ แผนที่ความคิด
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูใหน้ ักเรียนคน้ หาขอ้ มลู เกี่ยวกับโบราณสถานในประเทศไทยที่อยู่ในสมยั ประวัติศาสตร์ 1 แหง่
บนั ทกึ เรื่องราวแล้วนามาเลา่ ให้เพื่อนฟงั
9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น ผา่ น Quizizz
2. ภาพเครอ่ื งมือยุคหินเก่าและภาพหลักศิลาจารกึ
3. หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 4–6 เล่ม 2
4. แบบฝึกทักษะ รายวชิ าพื้นฐาน ประวัติศาสตร์
วชิ าประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 6
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ยคุ สมยั และหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์
คาชแ้ี จง เลอื กคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว
1. ยคุ สมยั ทางประวตั ศิ าสตรใ์ นข้อใดทอ่ี ยใู่ นชว่ งเวลาตดิ ตอ่ กัน
ก ยคุ หนิ ใหม–่ ยุคเหล็ก
ข ยุคหินใหม–่ ยคุ สาริด
ค ยคุ หนิ เก่า–ยคุ หนิ ใหม่
ง ยคุ หนิ เก่าตอนกลาง–ยคุ หนิ กลาง
2. ข้อใดคอื เครอื่ งมอื ยคุ หนิ เกา่ ตอนตน้
ก ฉมวก
ข หัวลูกศร
ค ขวานกะเทาะแบบกาป้ัน
ง เคยี วหนิ เหลก็ ไฟดา้ มไม้
3. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ ูกตอ้ งเกย่ี วกบั สงั คมยคุ เหลก็
ก มีชนชนั้ ตา่ ง ๆ
ข เปน็ ชมุ ชนเมือง
ค อพยพตามฝงู สตั ว์
ง แบง่ ความสัมพันธต์ ามความสามารถ
4. ประวตั ศิ าสตรต์ ะวนั ตกสมยั ปจั จบุ นั หมายถงึ ชว่ งเวลาใด
ก หลงั สงครามเย็น–ปัจจบุ นั
ข หลังสงครามโลกครงั้ ท่ี 1–ปจั จุบนั
ค หลงั สงครามโลกครง้ั ท่ี 2–ปัจจุบัน
ง ไม่มีขอ้ ถูก
5. อะไรเปน็ หลกั ฐานชน้ั รอง
ก ศลิ าจารึก
ข ลูกปดั แก้ว
ค ตราประทับดินเผา
ง หนังสือเรียนประวัติศาสตร์
6. ขอ้ ใดเปน็ หลกั ฐานประวตั ศิ าสตรอ์ ินเดยี สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์
ก สโตนเฮนจ์
ข เมอื งโบราณโมเฮนโจดาโร
ค โครงกระดูกมนษุ ยส์ ไตน์ไฮม์
ง ภาพเขยี นสวี ัวป่าท่ถี ้าอัลตามรี า
วิชาประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 7
7. ข้อใดกลา่ วถงึ หลกั ฐานทเี่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรในสมยั ราชวงศช์ างของจนี ไดถ้ กู ตอ้ ง
ก เปน็ อักษรภาพ
ข จารกึ บนกระดาษ
ค ใหข้ อ้ มลู ทางด้านการแพทย์
ง บนั ทึกเกยี่ วกบั พระราชประวัติ
8. ประมวลกฎหมายฮมั มรู าบเี ปน็ กฎหมายจารกึ ของอารยธรรมอะไร
ก จนี
ข อียปิ ต์
ค อนิ เดยี
ง เมโสโปเตเมยี
9. หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรข์ อ้ ใดเกา่ แกท่ ่สี ดุ
ก คมั ภีรพ์ ระเวท
ข ตาราอรรถศาสตร์
ค คมั ภรี ม์ านวธรรมศาสตร์
ง ศลิ าจารกึ ของพระเจา้ อโศกมหาราช
10. จดุ ประสงคข์ องการทาสนธสิ ัญญาแวรซ์ ายคอื อะไร
ก จัดประชมุ สันติภาพ
ข ต่อต้านการทาสงคราม
ค ลงโทษประเทศเยอรมนี
ง ประกาศชอ่ื ประเทศผู้แพส้ งคราม
วชิ าประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 8
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดอื น พ.ศ.
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอ่ื –สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ไดต้ ามความเหมาะสม
หรืออาจใชเ้ กณฑด์ ังนี้
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 9
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
กลมุ่ ท่ี
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอื่ –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑไ์ ด้ตามความเหมาะสม
หรอื อาจใชเ้ กณฑด์ ังนี้
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วิชาประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 10
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
คาชแี้ จง สงั เกตพฤตกิ รรมในการทางานของนกั เรยี น โดยเขยี นเครื่องหมาย ลงในช่องรายการ
พฤตกิ รรมทีน่ ักเรียนปฏบิ ัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอ่ื –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ
ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ
เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมนิ ให้เป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใช้เกณฑด์ งั นี้
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 11
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดอื น พ.ศ.
คาชแี้ จง สงั เกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขียนเครอ่ื งหมาย ลงในช่องรายการ
พฤตกิ รรมที่นกั เรยี นปฏบิ ัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอ่ื –สกลุ แ ่บงงานกันรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ข้อตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนปรับปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑ์ดังน้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วชิ าประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 12
มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน
กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการบันทึกผลงานโดยใชม้ าตราสว่ นประเมินคา่ 4 ระดับ ดังน้ี
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
– บนั ทกึ ผลงานไดถ้ ูกตอ้ งตามจดุ ประสงค์ เขียนบันทกึ ไดช้ ัดเจน แนวคิดหลกั ถกู ต้อง 4
มปี ระเดน็ สาคญั ครบถว้ น
– ใช้ภาษาได้อยา่ งเหมาะสม คาศัพทถ์ ูกต้อง
– บนั ทกึ ผลงานได้ถูกต้องตามจดุ ประสงค์ เขียนบนั ทึกท่มี ีบางส่วนยังไมช่ ดั เจน 3
แนวคดิ หลักถกู ตอ้ ง สว่ นท่ีเป็นประเดน็ สาคญั มีไมค่ รบถว้ น
– ใช้ภาษา คาศัพทไ์ ม่ถกู ต้องในบางส่วน
– บนั ทกึ ผลงานยดึ ตามจุดประสงค์ เขียนบันทกึ ไมช่ ัดเจน แนวคิดหลกั บางสว่ นไม่ 2
ถกู ตอ้ ง สว่ นทีเ่ ป็นประเด็นสาคัญมีไม่ครบถ้วน
– ใชภ้ าษา คาศัพทไ์ ม่ถูกตอ้ งในบางสว่ น
– บันทึกผลงานไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ เขยี นบนั ทึกไมช่ ดั เจน และแนวคดิ หลัก 1
สว่ นใหญไ่ มถ่ ูกตอ้ ง
– ใช้ภาษา คาศัพท์ไมถ่ กู ตอ้ ง
วชิ าประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 13
บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
ลงช่อื (ครผู ู้สอน)
(นายรชตะ ขาวด)ี
//
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 14
ขอ้ เสนอแนะความคดิ เห็นเพม่ิ เตมิ
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ลงชื่อ หวั หนา้ กลุ่มสาระสงั คมศึกษาฯ
(นางปิ่นแก้ว แกว้ เป็นบุญ)
วนั ท่ี / /
รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ลงชื่อ รองผอู้ านวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ
(นางยคุ ลทร โพธศ์ิ รี)
วนั ท่ี / /
ผอู้ านวยการโรงเรยี น
ลงชือ่ ผู้อานวยการโรงเรยี น
(นายเอกชยั คะษาวงค์)
วันท่ี / /
วชิ าประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 15
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2
หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์
สาระที่ 4 ประวตั ศิ าสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 ยคุ สมยั และหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ชนั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
1. สาระสาคญั
หลกั ฐานทางประวัติศาสตรเ์ ป็นรอ่ งรอยทหี่ ลงเหลือมาจากอดตี ทาใหค้ นร่นุ หลังได้เรยี นร้แู ละเข้าใจ
เรอื่ งราวทเี่ กดิ ข้นึ ในอดีต และสามารถศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์ไดอ้ ย่างเปน็ ระบบและได้ข้อเท็จจริง
2. ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชน้ั
สรา้ งองค์ความรู้ใหม่ทางประวตั ศิ าสตรโ์ ดยใช้วิธกี ารทางประวัตศิ าสตร์อยา่ งเปน็ ระบบ
(ส. 4.1 ม. 4–6/2)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายลกั ษณะและการจาแนกหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ได้ (K)
2. สนใจใฝเ่ รียนรู้และตระหนักถงึ ความสาคัญของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ (A)
3. ยกตัวอย่างหลักฐานทางประวัติศาสตรใ์ นภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลกได้ (P, K)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K) ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
และคา่ นยิ ม (A)
1. ทดสอบหลงั เรยี น ประเมินพฤตกิ รรมในการ ประเมินพฤตกิ รรมในการ
2. ซักถามความรู้เร่อื ง หลักฐาน ทางานเป็นรายบุคคลในดา้ นความ ทางานเป็นรายบุคคลและเปน็
ทางประวัตศิ าสตร์ มวี ินยั ความใฝเ่ รียนรู้ ฯลฯ กล่มุ ในด้านการส่ือสาร การคิด
3. ตรวจผลงาน/กจิ กรรมเปน็ การแก้ปญั หา ฯลฯ
รายบุคคลหรอื เป็นกลุ่ม
5. สาระการเรียนรู้
หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์
6. แนวทางบรู ณาการ
ภาษาไทย ฟงั พูด อ่าน และเขยี นข้อมลู เก่ียวกบั หลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์
ศิลปะ ตกแตง่ แผนท่ีความคดิ เรื่อง ประเภทของหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรใ์ ห้สวยงาม
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวชี้วัด
ช่วงชั้นและจุดประสงคก์ ารเรียนรใู้ หน้ กั เรยี นทราบ
วชิ าประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 16
2. ครใู ห้นักเรยี นดภู าพโบราณสถาน โบราณวตั ถุ แลว้ ให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นว่าภาพเหลา่ นม้ี ี
ความสาคัญอย่างไร
ขั้นที่ 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
3. ครูอธบิ ายให้นกั เรียนฟังเกย่ี วกับประเดน็ ในการศกึ ษาเรอ่ื ง หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ดงั นี้
1) ความหมายและความสาคญั ของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์
2) ประเภทของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์
4. ครูแบง่ กลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5-6 คน โดยจดั กลุ่มและแสดงรายชอื่ ในโปรแกรม Classdojo
แชรห์ น้าจอให้นักเรยี นเหน็ ศกึ ษาเร่อื ง ประเภทของหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ แลว้ จัดทาเปน็ แผนที่
ความคดิ ลงบนไฟล์ Google drive ทีค่ รูแชรใ์ ห้ ตกแตง่ ให้สวยงาม
5. ครูให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ ศึกษาข้อมูลเก่ียวกบั หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ในภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลก
จากนั้นนกั เรียนช่วยกนั เสนอตวั อยา่ งหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ในภูมภิ าคต่าง ๆ ของโลกทร่ี ้จู กั โดยครู
บันทึกข้อมลู ลงบน Power point
6. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มคน้ ขอ้ มลู แล้วยกตัวอย่างหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ในภูมภิ าคตา่ ง ๆ
ของโลกลงในใบงานเรื่อง หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตรใ์ นภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก จากนน้ั ครสู มุ่ เลือกนกั เรยี น
บอกตัวอยา่ งหลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ในภมู ภิ าคต่าง ๆ ของโลกจากใบงานทคี่ น้ ขอ้ มูล
7. ครใู ห้นกั เรียนสบื คน้ ข้อมูลหลกั ฐานทีเ่ ป็นลายลกั ษณ์อักษรและไมเ่ ปน็ ลายลักษณอ์ ักษรที่สาคญั
ของประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศละ 2–3 ชนดิ สรปุ เปน็ ตาราง แลกเปล่ียนเรยี นรกู้ ันในชน้ั เรยี น
ขน้ั ท่ี 3 ฝกึ ฝนผเู้ รียน
8. ครใู หน้ ักเรียนทากจิ กรรมเก่ียวกบั หลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ และแบบทดสอบการวัดประเมนิ ผล
การเรยี นรู้ ประจาหน่วยการเรียนรู้ ในแบบฝกึ ทกั ษะ รายวิชาพืน้ ฐาน ประวัติศาสตร์ แล้วช่วยกันเฉลย
ข้ันที่ 4 นาไปใช้
9. ครใู หน้ ักเรียนนาความรู้เร่ือง หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ไปบอกเล่าใหค้ นในครอบครัวฟงั
ข้นั ที่ 5 สรปุ
10. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความรู้เก่ยี วกับหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ แลว้ ให้บนั ทกึ ลงสมดุ
11. ครูใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น ผ่าน Quizizz
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ ละ 4–6 คน คน้ หาภาพเก่ียวกบั หลักฐานทางประวตั ิศาสตร์ในประเทศไทยที่
นกั เรียนสนใจ 1 ยคุ สมัย นาภาพมาจัดทาเป็นสมดุ ภาพเย็บเล่มตกแต่งให้สวยงาม
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียนผ่านโปรแกรม Quizizz
2. โปรแกรม Classdojo
3. ใบงานเร่อื ง หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์ในภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลก
4. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ศิ าสตร์ ม. 4–6 เลม่ 1
5. แบบฝึกทกั ษะรายวิชาพ้ืนฐานประวตั ิศาสตร์
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 17
ชอื่ นามสกลุ เลขที่ ชนั
ใบงาน
เรอ่ื ง หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรใ์ นภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 หลกั ฐานทางประวัติศาสตร์
ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชนั้ ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวัตศิ าสตร์ทแี่ สดงถึงการเปลี่ยนแปลงของ
มนุษยชาติ (ส 4.1 ม. 4–6/1)
คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นค้นขอ้ มูลยกตวั อย่างหลักฐานทางประวตั ศิ าสตรใ์ นภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลกอย่างน้อย 3
ตวั อยา่ ง ลงในช่องตามยคุ สมยั ท่ีกาหนด
ยคุ สมัย ตวั อย่างหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรใ์ นภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก
สมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์
ประวตั ิศาสตร์
สมัยโบราณ
ประวัติศาสตรส์ มยั กลาง
ประวตั ิศาสตรส์ มยั ใหม่
ประวตั ศิ าสตร์
สมัยปจั จุบนั
วิชาประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 18
แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ยคุ สมยั และหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์
คาชีแ้ จง เลอื กคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว
1. ยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตรใ์ นข้อใดทอี่ ยใู่ นชว่ งเวลาตดิ ตอ่ กนั
ก ยุคหนิ ใหม–่ ยุคเหลก็
ข ยุคหินใหม–่ ยคุ สารดิ
ค ยคุ หินเก่า–ยุคหินใหม่
ง ยุคหินเก่าตอนกลาง–ยุคหินกลาง
2. ข้อใดคอื เครอื่ งมอื ยคุ หนิ เก่าตอนตน้
ก ฉมวก
ข หัวลูกศร
ค ขวานกะเทาะแบบกาปั้น
ง เคยี วหินเหลก็ ไฟดา้ มไม้
3. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ กู ตอ้ งเกยี่ วกบั สงั คมยคุ เหลก็
ก มีชนชนั้ ตา่ ง ๆ
ข เป็นชุมชนเมอื ง
ค อพยพตามฝูงสัตว์
ง แบ่งความสัมพนั ธ์ตามความสามารถ
4. ประวตั ศิ าสตรต์ ะวนั ตกสมยั ปจั จบุ นั หมายถงึ ชว่ งเวลาใด
ก หลังสงครามเย็น–ปจั จุบนั
ข หลงั สงครามโลกคร้งั ที่ 1–ปจั จบุ นั
ค หลงั สงครามโลกคร้งั ที่ 2–ปัจจบุ ัน
ง ไม่มีขอ้ ถกู
5. อะไรเปน็ หลกั ฐานชั้นรอง
ก ศลิ าจารึก
ข ลกู ปัดแก้ว
ค ตราประทบั ดนิ เผา
ง หนงั สอื เรยี นประวัตศิ าสตร์
6. ข้อใดเปน็ หลกั ฐานประวตั ศิ าสตรอ์ นิ เดยี สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์
ก สโตนเฮนจ์
ข เมืองโบราณโมเฮนโจดาโร
ค โครงกระดูกมนุษย์สไตนไ์ ฮม์
ง ภาพเขียนสวี วั ป่าทีถ่ ้าอลั ตามีรา
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 19
7. ข้อใดกลา่ วถงึ หลกั ฐานทเี่ ปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรในสมยั ราชวงศช์ างของจนี ไดถ้ กู ตอ้ ง
ก เป็นอักษรภาพ
ข จารึกบนกระดาษ
ค ให้ข้อมลู ทางดา้ นการแพทย์
ง บนั ทึกเกย่ี วกับพระราชประวัติ
8. ประมวลกฎหมายฮมั มรู าบเี ปน็ กฎหมายจารกึ ของอารยธรรมอะไร
ก จนี
ข อียิปต์
ค อนิ เดยี
ง เมโสโปเตเมีย
9. หลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตรข์ อ้ ใดเกา่ แกท่ สี่ ดุ
ก คัมภรี ์พระเวท
ข ตาราอรรถศาสตร์
ค คมั ภีรม์ านวธรรมศาสตร์
ง ศิลาจารกึ ของพระเจ้าอโศกมหาราช
10. จดุ ประสงคข์ องการทาสนธสิ ัญญาแวรซ์ ายคอื อะไร
ก จดั ประชมุ สันติภาพ
ข ตอ่ ต้านการทาสงคราม
ค ลงโทษประเทศเยอรมนี
ง ประกาศชื่อประเทศผ้แู พ้สงคราม
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 20
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชื่อ–สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม
หรืออาจใช้เกณฑด์ ังน้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรุง)
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 21
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอื่ ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
กลมุ่ ที่
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอ่ื –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินใหเ้ ปน็ ระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ไดต้ ามความเหมาะสม
หรืออาจใชเ้ กณฑ์ดงั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วิชาประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 22
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดอื น พ.ศ.
คาชแี้ จง สงั เกตพฤติกรรมในการทางานของนกั เรียน โดยเขียนเครื่องหมาย ลงในช่องรายการ
พฤติกรรมท่นี กั เรยี นปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ชอ่ื –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ
ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ
เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมินให้เป็นระดับคุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใช้เกณฑด์ งั นี้
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )
วชิ าประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 23
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี
ชน้ั วนั เดอื น พ.ศ.
คาชแี้ จง สงั เกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรยี น โดยเขียนเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งรายการ
พฤตกิ รรมที่นกั เรยี นปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอ่ื –สกลุ แ ่บงงานกันรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ข้อตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนปรับปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ ังนี้
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรงุ )
วชิ าประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 24
มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน
กาหนดเกณฑก์ ารประเมินผลการบนั ทกึ ผลงานโดยใช้มาตราส่วนประเมินคา่ 4 ระดับ ดังน้ี
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
– บันทึกผลงานได้ถกู ต้องตามจุดประสงค์ เขยี นบันทกึ ได้ชัดเจน แนวคิดหลกั ถูกต้อง 4
มีประเดน็ สาคญั ครบถ้วน
– ใช้ภาษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม คาศัพทถ์ กู ต้อง
– บนั ทกึ ผลงานไดถ้ ูกต้องตามจดุ ประสงค์ เขียนบนั ทึกท่ีมบี างส่วนยงั ไมช่ ดั เจน 3
แนวคิดหลกั ถกู ต้อง สว่ นทเี่ ปน็ ประเดน็ สาคัญมีไมค่ รบถ้วน
– ใช้ภาษา คาศัพทไ์ ม่ถกู ตอ้ งในบางส่วน
– บนั ทึกผลงานยดึ ตามจดุ ประสงค์ เขียนบนั ทึกไม่ชัดเจน แนวคดิ หลกั บางสว่ นไม่ 2
ถูกต้อง สว่ นทีเ่ ปน็ ประเดน็ สาคัญมีไมค่ รบถว้ น
– ใชภ้ าษา คาศพั ท์ไม่ถกู ตอ้ งในบางสว่ น
– บันทึกผลงานไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ เขยี นบันทึกไมช่ ัดเจน และแนวคดิ หลัก 1
สว่ นใหญ่ไม่ถกู ตอ้ ง
– ใชภ้ าษา คาศัพท์ไม่ถูกตอ้ ง
วิชาประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 25
บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
ลงชอ่ื (ครผู ้สู อน)
(นายรชตะ ขาวด)ี
//
วิชาประวตั ศิ าสตร์สากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 26
ขอ้ เสนอแนะความคดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
ลงชอ่ื หวั หน้ากล่มุ สาระสังคมศึกษาฯ
(นางป่ินแกว้ แก้วเปน็ บญุ )
วนั ท่ี / /
รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ลงชื่อ รองผอู้ านวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ
(นางยุคลทร โพธศิ์ รี)
วันท่ี / /
ผอู้ านวยการโรงเรยี น
ลงชือ่ ครู ผอู้ านวยการโรงเรียน
(นายเอกชัย คะษาวงค์)
วนั ที่ / /
วิชาประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 27
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 อารยธรรมตะวนั ออก เวลา 6 ชว่ั โมง
ผงั มโนทศั นเ์ ปา้ หมายการเรยี นรแู้ ละขอบขา่ ยภาระงาน/ชน้ิ งาน
ด้านความรู้
1. อารยธรรมจีน
2. อารยธรรมอินเดยี
3. อทิ ธิพลอารยธรรมตะวันออกท่มี ตี อ่ ภมู ิภาคตา่ ง ๆ ของโลก
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ อารยธรรมตะวนั ออก ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
1. การสื่อสาร และคา่ นยิ ม
2. การคดิ
3. การใช้เทคโนโลยี 1. มวี นิ ัย
4. กระบวนการกลุ่ม 2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. รักความเปน็ ไทย
4. มงุ่ มั่นในการทางาน
ภาระงาน/ช้ินงาน
1. การทาแบบทดสอบออนไลน์
2. การอภปิ ราย
3. การสืบคน้ ข้อมูล
4. การนาเสนอผลงานหนงั สือพมิ พห์ น้าเดียว
แผน่ พับ โปสเตอร์ แผนทค่ี วามคดิ
ด้วยโปรแกรม Canva
วิชาประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 28
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 อารยธรรมตะวนั ออก
ขัน้ ที่ 1 ผลลพั ธป์ ลายทางทตี่ อ้ งการใหเ้ กดิ ขน้ึ กบั นกั เรยี น
ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชน้ั
• วิเคราะหอ์ ิทธิพลของอารยธรรมโบราณ และการตดิ ต่อระหว่างโลกตะวนั ออกกับโลกตะวันตกทีม่ ีผลตอ่
พัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
ความเขา้ ใจทคี่ งทนของนกั เรยี น นกั เรยี นจะเขา้ ใจวา่ ... คาถามสาคญั ทท่ี าใหเ้ กดิ ความเข้าใจทค่ี งทน
อารยธรรมจนี และอนิ เดียเป็นอารยธรรม
ตะวันออกท่มี คี วามเปน็ มายาวนานตงั้ แต่ยุคกอ่ น อารยธรรมตะวนั ออกมคี วามสาคัญตอ่ ชนชาติ
ประวัตศิ าสตรจ์ นถึงปัจจบุ นั อารยธรรมทง้ั 2 แหง่ นี้ ต่าง ๆ ในโลกตะวนั ออกอย่างไร
ให้อิทธพิ ลทางดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม ศลิ ปกรรม
ตลอดจนวทิ ยาการตา่ ง ๆ แก่ภูมิภาคอ่ืน ๆ ในโลก
ความรขู้ องนกั เรยี นที่นาไปสคู่ วามเข้าใจทคี่ งทน ทกั ษะ/ความสามารถของนกั เรยี นท่นี าไปสู่
นกั เรยี นจะรวู้ ่า... ความเขา้ ใจทคี่ งทน นกั เรยี นจะสามารถ...
1. คาสาคญั ได้แก่ อาณตั ิแหง่ สวรรค์ โอรสแห่ง 1. อธบิ ายความสาคัญของอารยธรรมจีน
สวรรค์ อารยธรรมลุ่มนา้ สินธุ ศิลปะแบบคนั ธาระ 2. อภิปรายและวเิ คราะหค์ วามสาคัญของอารย-
ศิลปะแบบอมราวดี เส้นทางการคา้ สายไหม ธรรมอนิ เดยี
2. อารยธรรมจนี เป็นอารยธรรมล่มุ น้ารุน่ แรกของ 3. วเิ คราะห์อทิ ธิพลของอารยธรรมตะวนั ออกท่ีมี
โลกเชน่ เดียวกบั อารยธรรมลุ่มน้าไนล์ในอยี ิปต์ อารย ต่อภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก
ธรรมลมุ่ นา้ ไทกริสและยูเฟรทีสในเมโสโปเตเมยี
(ปัจจบุ ันอยใู่ นประเทศอิรัก) อารยธรรมล่มุ น้าสินธใุ น
อนิ เดยี อารยธรรมจนี แบง่ ออกเปน็ อารยธรรมจนี
สมัยกอ่ นประวตั ิศาสตร์ และอารยธรรมจีนสมัย
ประวตั ิศาสตร์
3. อารยธรรมอินเดียเปน็ อารยธรรมเก่าแก่ท่มี ีการ
ถา่ ยทอดมรดกทางวัฒนธรรมใหแ้ ก่โลกอย่างมาก
อารยธรรมอนิ เดียแบง่ ออกเปน็ อารยธรรมอนิ เดีย
สมัยก่อนประวัตศิ าสตร์ และอารยธรรมอนิ เดียสมัย
ประวัติศาสตร์
4. อทิ ธพิ ลอารยธรรมตะวันออกท่ีมีตอ่ ภูมิภาค
ตา่ งๆ ของโลก แบง่ ออกเปน็ การแพรข่ ยายและการ
ถ่ายทอดอารยธรรมจีน ซึ่งเผยแพร่จากการตดิ ต่อด้าน
การคา้ การทูต การแพร่ขยายและการถา่ ยทอด
อารยธรรมอนิ เดียซึง่ เผยแพร่ทางการค้า ศาสนา
การเมอื ง
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 29
ขน้ั ที่ 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรยี นรซู้ ง่ึ เปน็ หลกั ฐานทแี่ สดงว่านกั เรียนมผี ลการเรยี นรู้
ตามทก่ี าหนดไว้อย่างแทจ้ รงิ
1. ภาระงานทน่ี กั เรียนตอ้ งปฏบิ ตั ิ
1.1 อภิปรายเกยี่ วกับอารยธรรมจนี
1.2 สบื ค้นข้อมูลและวิเคราะหเ์ รื่องความเจริญของอารยธรรมอนิ เดยี
1.3 สืบค้นขอ้ มูลและนาเสนอขอ้ มูลเร่ืองอิทธิพลอารยธรรมตะวันออกที่มีตอ่ ภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก
2. วธิ กี ารและเครอื่ งมอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้
2.1 วธิ กี ารประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 2.2 เครอ่ื งมอื ประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1) การทดสอบ 1) แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลังเรียน
2) การประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเป็น 2) แบบประเมินผลงาน/กิจกรรมเป็น
รายบคุ คลหรอื เป็นกลมุ่ รายบุคคลหรือเป็นกลุม่
3) การประเมินด้านคณุ ธรรม จริยธรรม 3) แบบประเมินด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม
และค่านิยม และคา่ นิยม
4) การประเมนิ ด้านทักษะ/กระบวนการ 4) แบบประเมนิ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ
3. สง่ิ ทมี่ งุ่ ประเมนิ
3.1 ความเข้าใจ 6 ดา้ น ได้แก่ การอธบิ าย ช้แี จง การแปลความและตคี วาม การประยุกต์ ดัดแปลง
และนาไปใช้ การมีมุมมองท่ีหลากหลาย การใหค้ วามสาคญั และใส่ใจในความรู้สกึ ของผู้อ่ืน และการรู้จกั ตนเอง
3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ เชน่ การสื่อสาร การคดิ การแกป้ ญั หา การใช้เทคโนโลยี กระบวนการกลุม่
3.3 คณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม เชน่ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มีวินัย ใฝ่เรยี นรู้
อยู่อย่างพอเพยี ง มุ่งมัน่ ในการทางาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ
ข้นั ท่ี 3 แผนการจดั การเรยี นรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 อารยธรรมจนี เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 อารยธรรมอนิ เดีย เวลา 2 ช่วั โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5 อิทธพิ ลของอารยธรรมตะวนั ออกที่มตี อ่ ภมู ิภาค เวลา 2 ช่วั โมง
ตา่ ง ๆ ของโลก
วิชาประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 30
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เวลา 2 ชวั่ โมง
อารยธรรมจนี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
สาระท่ี 4 ประวตั ศิ าสตร์
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 อารยธรรมตะวนั ออก
1. สาระสาคญั
อารยธรรมจนี เปน็ อารยธรรมลมุ่ นา้ ร่นุ แรกของโลกเช่นเดียวกบั อารยธรรมลมุ่ นา้ ไนลใ์ นอียิปต์ อารย
ธรรมลุม่ นา้ ไทกรสิ และยูเฟรทีสในเมโสโปเตเมีย (ปัจจุบนั อยู่ในประเทศอิรัก) อารยธรรมลุ่มน้าสินธใุ นอินเดีย
อารยธรรมจีนแบง่ ออกเป็น อารยธรรมจีนสมัยกอ่ นประวัติศาสตร์ และอารยธรรมจนี สมัยประวัติศาสตร์
2. ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชน้ั
• วิเคราะหอ์ ทิ ธพิ ลของอารยธรรมโบราณ และการติดต่อระหว่างโลกตะวนั ออกกบั โลกตะวันตกท่มี ผี ล
ต่อพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายถงึ ความสาคัญของอารยธรรมจนี ได้ (K)
2. เห็นคุณคา่ และความสาคญั ของอารยธรรมจนี (A)
3. สืบค้นข้อมลู และวิเคราะห์ความสาคัญของอารยธรรมจนี ได้ถูกต้อง (P)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
ดา้ นความรู้ (K) และคา่ นยิ ม (A) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ทดสอบกอ่ นเรียน • ประเมินพฤติกรรมในการ • ประเมนิ พฤตกิ รรมในการ
2. ซกั ถามความร้เู ร่อื งอารยธรรม ทางานเปน็ รายบุคคลในดา้ น ทางานเป็นรายบคุ คลและ เปน็
จีน ความมีวินัย ความใฝเ่ รียนรู้ ฯลฯ กล่มุ ในด้านการสื่อสาร การคดิ
3. ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็น การแกป้ ญั หา ฯลฯ
รายบคุ คลหรือเป็นกลุ่ม
5. สาระการเรยี นรู้
• อารยธรรมจนี
1. ปจั จยั ทางภมู ศิ าสตรก์ บั การตั้งถน่ิ ฐาน
2. อารยธรรมจนี สมยั กอ่ นประวัตศิ าสตร์
3. อารยธรรมจีนสมยั ประวัตศิ าสตร์
4. สงั คมและวฒั นธรรมจีน
5. ศิลปกรรมจีน
6. ความกา้ วหน้าทางวทิ ยาการของจีน
6. แนวทางบรู ณาการ
ภาษาไทย ฟัง พดู อา่ น เขยี นเก่ียวกบั อารยธรรมจนี
วิชาประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชน้ั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 31
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การออกแบบทาหนงั สือพิมพห์ น้าเดียวเกีย่ วกบั อารยธรรมจีน
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. จดั กิจกรรมการเรียนรู้หอ้ งเรยี นออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวช้ีวัดช่วง
ชนั้ และจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นกั เรยี นทราบ
2. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน ผ่านโปรแกรม Quizizz
3. ครใู ห้นกั เรยี นดูแผนทที่ วปี เอเชีย แล้วถามวา่ ประกอบด้วยประเทศใดบ้าง แหลง่ กาเนิดอารยธรรม
ทสี่ าคัญของทวปี เอเชยี อยใู่ นประเทศใด นักเรยี นตอบและแสดงความคิดเห็น จากนน้ั ครูอธิบายสรุปเพือ่
เช่ือมโยงเข้าสเู่ น้ือหาที่จะเรียน
ขัน้ ที่ 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
4. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกี่ยวกบั อารยธรรมจีน
5. ครตู ง้ั คาถามเกี่ยวกับอารยธรรมจีน ตัวอยา่ งคาถามเช่น
1) อารยธรรมจีนเกิดข้ึนในบรเิ วณใด
2) วัฒนธรรมหยางเชาและวฒั นธรรมหลงชานแตกต่างกันอย่างไร
3) โอรสแห่งสวรรค์หมายถงึ อะไร
4) สังคมและวัฒนธรรมจีนมลี กั ษณะอยา่ งไร
5) สถาปัตยกรรมจีนท่ีสาคญั มอี ะไรบ้าง
6) เหตุใดจึงกล่าววา่ วทิ ยาการของจีนเจริญก้าวหน้ามากกวา่ โลกตะวนั ตก
6. นักเรยี นช่วยกันตอบแล้วครอู ธบิ ายเพ่มิ เตมิ
7. ครอู ธบิ ายเร่อื งอารยธรรมจีนผา่ น Power point แชรข์ ึ้นจอ
ขน้ั สอน
8. ครจู ดั การเรยี นการสอนแบบอภปิ รายโดยใชเ้ ทคนิคระดมสมอง โดยปฏิบัตติ ามข้ันตอนดังน้ี
ขัน้ ดาเนนิ การอภปิ ราย
1) ครูแจ้งหัวขอ้ วตั ถุประสงค์ และรูปแบบการอภปิ รายให้นกั เรยี นทราบ โดยขึ้นป้ายผ่านจอ
ให้นักเรียนดู
หวั ข้ออภิปราย: อารยธรรมจนี
วัตถุประสงค์ของการอภปิ ราย: เพ่อื ใหน้ กั เรียนเหน็ ความสาคญั ของอารยธรรมจนี
2) แบง่ กลมุ่ นกั เรยี นโดยจดั กลุ่มและแสดงรายชื่อกล่มุ ในโปรแกรม Classdojo แชร์หนา้ จอ
ใหน้ กั เรยี นเห็น กลมุ่ ละ 5–6 คน โดยแตล่ ะกลุ่มเลือกประธาน 1 คน เลขานุการกลมุ่ 1 คน เปน็ ผู้จด
บนั ทึกความคิดเหน็ ของกล่มุ
3) ให้แตล่ ะกลมุ่ ดาเนนิ การอภิปรายตามหัวข้อที่กาหนด ในขณะทีก่ ลมุ่ ดาเนินการอภิปราย
ครคู อยสงั เกตและกระตุ้นใหท้ กุ คนไดแ้ สดงความคิดเหน็ กันอย่างเตม็ ที่
ขน้ั สรปุ ผลการอภปิ ราย
1) ใหแ้ ต่ละกลุ่มสรปุ บนั ทกึ ผลการอภปิ ราย
วชิ าประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 32
2) ตวั แทนกลุ่มนาเสนอผลการอภปิ รายต่อที่ประชุม
9. ครใู ห้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็ จากความรู้เดมิ เก่ยี วกบั อารยธรรมจนี ทม่ี ผี ลต่อประเทศ
สมาชกิ อาเซยี น เพ่อื เปน็ การทบทวนความรู้
10. ในขณะนักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรม ใหค้ รสู งั เกตพฤตกิ รรมในการทางานและการนาเสนอผลงาน
ของนักเรียนตามแบบประเมินพฤตกิ รรมในการทางานเป็นรายบุคคลหรอื เป็นกลมุ่
ขนั้ ท่ี 3 ฝกึ ฝนผเู้ รยี น
11. ครใู ห้นกั เรียนทากจิ กรรมท่เี กยี่ วกับอารยธรรมจนี ในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพื้นฐาน
ประวตั ศิ าสตร์ แลว้ ชว่ ยกันเฉลยคาตอบทถ่ี ูกตอ้ ง
ขนั้ ท่ี 4 นาไปใช้
12. ครูแนะนาให้นกั เรียนทาหนังสือพมิ พ์หน้าเดียว ดว้ ยโปรแกรม Canva เพอื่ เผยแพรค่ วามรู้
เร่ืองอารยธรรมจนี
ขั้นท่ี 5 สรปุ
13. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ือง อารยธรรมจนี โดยให้นักเรียนสรุปเป็นแผนทค่ี วามคดิ
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครใู ห้แต่ละกลุม่ ศกึ ษาค้นควา้ เพม่ิ เติมนอกเวลา
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลังเรียนผ่านโปรแกรม Quizizz
2. แผนทีท่ วีปเอเชีย
3. Power point อารยธรรมจีน
4. โปรแกรม Classdojo
5. หนังสือเรียน รายวชิ าพื้นฐาน ประวัตศิ าสตร์ ม. 4–6 เล่ม 2 บริษัท สานักพมิ พ์วฒั นาพานิช
จากัด
6. แบบฝึกทักษะรายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์
วชิ าประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 33
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 อารยธรรมตะวนั ออก
คาชแ้ี จง เลอื กคาตอบทถี่ กู ตอ้ งที่สดุ เพยี งคาตอบเดียว
1. ขอ้ ใดคอื อารยธรรมตะวนั ออก
ก อารยธรรมจนี และอารยธรรมอินเดีย
ข อารยธรรมโรมนั และอารยธรรมอินเดยี
ค อารยธรรมลมุ่ นา้ ไนลแ์ ละอารยธรรมกรกี
ง อารยธรรมญป่ี ุ่นและอารยธรรมเมโสโปเตเมยี
2. ขอ้ ใดไม่ใชล่ กั ษณะเครอ่ื งปนั้ ดนิ เผาของวฒั นธรรมหลงชาน
ก ภาชนะ 3 ขา
ข สดี าขัดมันเงา
ค เนอื้ บางและแกร่ง
ง เคลือบสีขาวมลี วดลายใต้เคลือบ
3. ราชวงศฉ์ นิ ปฏบิ ตั อิ ยา่ งไรจงึ สามารถรวมจนี ไดเ้ ปน็ หนงึ่ เดยี ว
ก รวมอานาจเขา้ สรู่ ัฐบาลกลาง
ข มีภาษาเขยี นแบบเดยี วกันทวั่ อาณาจักร
ค ใช้ระบบแลกเปลยี่ นเงนิ ตราเดียวกันทั้งแผน่ ดิน
ง ถูกทกุ ขอ้
4. นกั เรยี นคดิ วา่ จดุ มงุ่ หมายในการสร้างกาแพงเมอื งจนี คอื อะไร
ก ป้องกนั ภัยธรรมชาติ
ข ป้องกนั แนวชายแดน
ค เพ่ือให้เปน็ สิ่งมหศั จรรยข์ องโลก
ง แสดงความยง่ิ ใหญข่ องจกั รพรรดิ
5. ขอ้ ใดไมใ่ ชส่ งิ่ ประดษิ ฐข์ องจนี ทเี่ ผยแพรไ่ ปในเอเชยี กลางและตะวนั ออกกลาง
ก แผนท่ี
ค เข็มทศิ
ข ดนิ ปนื
ง กระดาษ
6. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั อารยธรรมอนิ เดยี สมยั กอ่ นประวตั ศิ าสตร์บรเิ วณลมุ่ นา้ สนิ ธุ
ก มีศาสนา
ข วางผังเมอื งอย่างเป็นระบบ
ค เป็นอารยธรรมของชาวศกะ
ง อยูใ่ นประเทศเนปาลปัจจบุ ัน
วชิ าประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 34
7. ยคุ ทองของอนิ เดยี หมายถงึ ช่วงสมยั อะไร
ก สมยั จกั รวรรดมิ คธ
ข สมยั จกั รวรรดิคปุ ตะ
ค สมยั จกั รวรรดิเมารยะ
ง สมยั การแบง่ แยกและการรกุ รานจากภายนอก
8. วรรณะทไ่ี ดร้ ับการยกยอ่ งมากทส่ี ดุ ในสงั คมอนิ เดยี คอื วรรณะใด
ก วรรณะศทู ร
ข วรรณะไวศยะ
ค วรรณะกษตั ริย์
ง วรรณะพราหมณ์
9. ประตมิ ากรรมพระพทุ ธรปู สมยั แรกของอนิ เดยี ไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากศลิ ปะใด
ก จีน
ข กรีก
ค โรมัน
ง เปอร์เซยี
10. อารยธรรมอนิ เดยี ทปี่ รากฏอยใู่ นวฒั นธรรมเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตด้ า้ นใดโดดเดน่ ทสี่ ดุ
ก ศาสนา
ข ศลิ ปกรรม
ค วรรณกรรม
ง การปกครอง
วชิ าประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 35
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอื่ ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ช่ือ–สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินใหเ้ ป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม
หรืออาจใชเ้ กณฑ์ดังน้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรุง)
วิชาประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 36
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอื่ ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดอื น พ.ศ.
กลมุ่ ที่
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอ่ื –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินให้เปน็ ระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม
หรอื อาจใชเ้ กณฑด์ งั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 37
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
คาชแ้ี จง สงั เกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรียน โดยเขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องรายการ
พฤติกรรมทนี่ กั เรยี นปฏบิ ัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอ่ื –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ
ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ
เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การใหค้ ะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑ์ดงั นี้
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )
วิชาประวัตศิ าสตร์สากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 38
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมท่ี เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
คาชแี้ จง สังเกตพฤติกรรมในการทางานของนกั เรยี น โดยเขียนเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งรายการ
พฤตกิ รรมที่นกั เรยี นปฏิบัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอ่ื –สกลุ แ ่บงงานกันรับผิดชอบ 432 1
ีมกระบวนการทางานเป็นข้ันตอน
ทาตามหน้าที่ที่ไ ้ด ัรบมอบหมาย
ร่วมกันแสดงความ ิคดเห็น
รับ ัฟงความ ิคดเห็นของสมา ิชกกลุ่ม
นามติ/ข้อตกลงของกลุ่มไปปฏิบัติ
ร่วม ักนปรับปรุงผลงาน ้ดวยความเต็มใจ
่มุงมั่นทางานใ ้หสาเร็จ
พอใจ ักบความสาเร็จของงาน
บรรยากาศในการทางาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การให้คะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรุปผลการประเมนิ ใหเ้ ป็นระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑด์ ังน้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )
วิชาประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้ัน ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 39
มติ คิ ณุ ภาพของการบนั ทกึ ผลงาน
กาหนดเกณฑ์การประเมนิ ผลการบันทกึ ผลงานโดยใชม้ าตราส่วนประเมนิ ค่า 4 ระดบั ดังนี้
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
– บันทกึ ผลงานได้ถูกต้องตามจดุ ประสงค์ เขียนบนั ทึกไดช้ ัดเจน แนวคิดหลักถูกต้อง 4
มปี ระเด็นสาคญั ครบถว้ น
– ใชภ้ าษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสม คาศัพท์ถกู ตอ้ ง
– บันทึกผลงานได้ถูกตอ้ งตามจุดประสงค์ เขยี นบนั ทกึ ท่มี บี างส่วนยังไมช่ ัดเจน 3
แนวคดิ หลักถูกต้อง สว่ นที่เปน็ ประเด็นสาคัญมีไมค่ รบถว้ น
– ใชภ้ าษา คาศพั ท์ไม่ถูกต้องในบางส่วน
– บนั ทึกผลงานยึดตามจดุ ประสงค์ เขียนบนั ทกึ ไมช่ ดั เจน แนวคิดหลกั บางส่วนไม่ 2
ถูกตอ้ ง สว่ นท่ีเปน็ ประเด็นสาคัญมไี ม่ครบถ้วน
– ใช้ภาษา คาศพั ทไ์ มถ่ กู ตอ้ งในบางสว่ น
– บันทึกผลงานไม่สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์ เขียนบันทกึ ไมช่ ดั เจน และแนวคิดหลัก 1
ส่วนใหญ่ไมถ่ ูกต้อง
– ใช้ภาษา คาศพั ท์ไม่ถูกตอ้ ง
วิชาประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 40
บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
หวั ขอ้ การประเมนิ ผลการจดั การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้
(K) ………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
(P)
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
3. ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
(A) ………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..……………………………………………………
………………………………………………………………………………………………….……………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………….
ลงชอ่ื (ครูผู้สอน)
(นายรชตะ ขาวดี)
//
วิชาประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 41
ขอ้ เสนอแนะความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ
หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรียนรู้
ลงชื่อ หวั หน้ากลุม่ สาระสังคมศึกษาฯ
(นางปิ่นแก้ว แกว้ เปน็ บุญ)
วันท่ี / /
รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ
ลงชื่อ รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ
(นางยคุ ลทร โพธศิ์ รี)
วนั ท่ี / /
ผอู้ านวยการโรงเรยี น
ลงชือ่ ผูอ้ านวยการโรงเรียน
(นายเอกชยั คะษาวงค์)
วนั ที่ / /
วชิ าประวตั ิศาสตรส์ ากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หนา้ 42
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4
อารยธรรมอนิ เดยี
สาระที่ 4 ประวตั ศิ าสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 อารยธรรมตะวนั ออก ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
1. สาระสาคญั
อารยธรรมอินเดียเป็นอารยธรรมเก่าแกท่ ี่มีการถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมใหแ้ กโ่ ลกอย่างมาก
อารยธรรมอนิ เดียแบง่ ออกเป็น อารยธรรมอนิ เดียสมยั กอ่ นประวัตศิ าสตร์ และอารยธรรมอินเดียสมัย
ประวัตศิ าสตร์
2. ตวั ชว้ี ดั ชว่ งชน้ั
• วเิ คราะห์อิทธพิ ลของอารยธรรมโบราณ และการตดิ ต่อระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวนั ตกท่มี ีผล
ตอ่ พัฒนาการและการเปล่ียนแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายความสาคัญเก่ียวกบั อารยธรรมอินเดียได้ (K)
2. มคี วามสนใจศึกษาเก่ียวกับอารยธรรมอนิ เดีย (A)
3. สบื ค้นและวเิ คราะหข์ อ้ มูลเกี่ยวกบั อารยธรรมอินเดีย (P)
4. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
ดา้ นความรู้ (K) และคา่ นยิ ม (A) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. ซักถามความร้เู รอื่ ง • ประเมนิ พฤติกรรมในการ • ประเมินพฤติกรรมในการ
อารยธรรมอนิ เดีย ทางานเป็นรายบุคคลในด้าน ทางานเปน็ รายบุคคลและ
2. ตรวจผลงาน/กิจกรรมเป็น ความมวี ินัย ความใฝ่เรยี นรู้ เป็นกลุม่ ในดา้ นการสื่อสาร
รายบคุ คลหรือเปน็ กลุ่ม ฯลฯ การคดิ การแกป้ ญั หา ฯลฯ
5. สาระการเรยี นรู้
• อารยธรรมอินเดีย
1. ปจั จยั ทางภูมศิ าสตร์กับการตั้งถ่ินฐาน
2. อารยธรรมอนิ เดียสมยั กอ่ นประวัติศาสตร์
3. อารยธรรมอินเดียสมยั ประวัตศิ าสตร์
4. สงั คมและวฒั นธรรมอินเดีย
5. ศิลปกรรมอินเดีย
6. ความก้าวหนา้ ทางวทิ ยาการของอินเดยี
วิชาประวตั ิศาสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 43
6. แนวทางบรู ณาการ
ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขยี นข้อมูลเก่ียวกบั อารยธรรมอนิ เดีย
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สืบคน้ /แผนท่ีความคิดความรเู้ ก่ียวกบั อารยธรรมอนิ เดีย
7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1. จัดกิจกรรมการเรียนรู้ห้องเรียนออนไลน์ผ่าน แอพพลิเคชัน Line meeting ครูแจ้งตัวชี้วัด
ชว่ งชน้ั และจุดประสงค์การเรียนร้ใู หน้ กั เรียนทราบ
2. ครูเปดิ วีดิทศั น์เก่ียวกบั อารยธรรมอนิ เดยี ใหน้ กั เรยี นดู แลว้ ถามนกั เรียนว่ามีความเกย่ี วข้อง
กับอารยธรรมอินเดยี อยา่ งไรบ้าง จากน้นั ครอู ธิบายสรปุ เพ่อื เชื่อมโยงเข้าสู่เนอื้ หาที่จะเรยี น
ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้
3. ครูอธบิ ายเกยี่ วกบั อารยธรรมอินเดีย โดยนาเสนอผ่าน Power point แชรข์ นึ้ หน้าจอ แล้วเปดิ
โอกาสใหน้ กั เรยี นซักถาม
4. ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี นออกเป็น 6 กลมุ่ สบื ค้นข้อมูลและวิเคราะหว์ ่าความเจริญของอารยธรรม
อนิ เดียที่แต่ละกลุ่มเลอื กเป็นอย่างไร
กลมุ่ ที่ 1 ปจั จัยทางภูมิศาสตร์กบั การตั้งถิ่นฐาน
กลมุ่ ท่ี 2 อารยธารรมอินเดียสมยั กอ่ นประวัตศิ าสตร์
กลมุ่ ที่ 3 อารยธรรมอนิ เดียสมยั ประวัตศิ าสตร์
กลมุ่ ท่ี 4 สังคมและวฒั นธรรมอนิ เดีย
กลมุ่ ท่ี 5 ศิลปกรรมอนิ เดีย
กลมุ่ ที่ 6 ความก้าวหนา้ ทางวิทยาการของอนิ เดยี
5. ครใู หแ้ ตล่ ะกลุ่มนาเสนอผลงานในรปู แบบทหี่ ลากหลาย เชน่ แผน่ พับ โปสเตอร์ แล้วครู
ประเมินผลงานและเสนอแนะเพ่ิมเติม
6. ครูให้นักเรยี นทาใบงาน เรอื่ ง อารยธรรมอินเดยี จากน้ันครูให้นักเรียนบนั ทึกความรูท้ ่ีได้
ลงในแบบบันทกึ
7. ครูใหน้ ักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ จากความรู้เดมิ เกย่ี วกับอารยธรรมอินเดียทมี่ ีอิทธิพล
ต่อประเทศสมาชิกอาเซียนในดา้ นตา่ ง ๆ
8. ในขณะนักเรยี นปฏบิ ัติกิจกรรม ให้ครสู งั เกตพฤติกรรมในการทางานและการนาเสนอผลงาน
ของนักเรยี นตามแบบประเมินพฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบุคคลหรือเปน็ กลุม่
ขน้ั ที่ 3 ฝกึ ฝนผู้เรยี น
9. ครูใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมทเี่ กี่ยวกับอารยธรรมอนิ เดีย ในแบบฝึกทกั ษะประวัติศาสตร์
ข้ันท่ี 4 นาไปใช้
10. ครใู หน้ ักเรียนนาประโยชน์จากการเรยี นเร่อื ง อารยธรรมอินเดีย ไปเผยแพรค่ วามรู้ให้กบั ผอู้ ่ืน
วชิ าประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 44
ขน้ั ท่ี 5 สรปุ
11. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปความรู้เรอ่ื ง อารยธรรมอินเดีย ใหน้ กั เรยี นสรปุ เป็นแผนท่คี วามคิด
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูให้นักเรยี นศกึ ษาเพิ่มเติมนอกเวลาเกีย่ วกับอารยธรรมอินเดีย
9. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
1. วีดิทศั นเ์ ก่ยี วกบั อารยธรรมอินเดีย
2. ใบงาน เรื่อง อารยธรรมอินเดยี
3. แบบบันทึกความรู้
4. หนงั สือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ม. 4–6 เล่ม 2 บริษัท สานักพมิ พ์วัฒนาพานิช
จากัด
5. แบบฝกึ ทกั ษะรายวิชาพื้นฐาน ประวัติศาสตร์ ม.6
6. โปรแกรม Classdojo
7. Power point อารยธรรมอนิ เดีย
วิชาประวัตศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 45
ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชนั้
ใบงาน
เรอื่ ง อารยธรรมอนิ เดยี
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4 อารยธรรมอินเดยี
ตวั ชวี้ ดั ชว่ งชน้ั วเิ คราะห์อิทธพิ ลของอารยธรรมโบราณ และการตดิ ตอ่ ระหว่างโลกตะวนั ออกกับโลก
ตะวนั ตกท่ีมีผลตอ่ พัฒนาการและการเปล่ยี นแปลงของโลก (ส 4.2 ม. 4–6/1)
คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์และสรปุ ปจั จยั ทางภูมศิ าสตรแ์ ละการตั้งถน่ิ ฐานของอารยธรรมอินเดียมา
พอเข้าใจ
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชนั้ ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 46
ชอ่ื นามสกลุ เลขท่ี ชนั้
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ แบบบนั ทกึ ความรู้
1. สรปุ ความรทู้ ี่ได้
เรื่อง
2. สรปุ แนวคดิ ใหมท่ ไ่ี ด้
3. การนาไปใช้ประโยชน์
วชิ าประวัติศาสตรส์ ากล (ส30162) ช้นั ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หนา้ 47
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอื่ ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชนั้ วนั เดือน พ.ศ.
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ที่ ช่ือ–สกลุ ความถูก ้ตองการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 4321
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดสร้างสรรค์ (4 คะแนน)
รูปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยชน์ (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม
หรืออาจใชเ้ กณฑ์ดังน้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดมี าก)
7–8 คะแนน = 3 (ดี)
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรับปรงุ )
วิชาประวตั ศิ าสตรส์ ากล (ส30162) ชัน้ ม.6 : ครูรชตะ ขาวดี หน้า 48
แบบประเมนิ ผลงาน/กจิ กรรมเปน็ กลมุ่
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอื่ ง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดอื น พ.ศ.
กลมุ่ ที่
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอ่ื –สกลุ ความ ูถกต้องการของผลงาน/กิจกรรม (6 คะแนน) 432 1
จุดเด่นของผลงาน/ ิกจกรรม (4 คะแนน)
ความคิดส ้รางสรรค์ (4 คะแนน)
ูรปแบบการนาเสนอผลงาน (3 คะแนน)
การนาไปใช้ประโยช ์น (3 คะแนน)
รวมคะแนน (20 คะแนน)
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
การสรปุ ผลการประเมินให้เปน็ ระดบั คุณภาพ 4, 3, 2, 1 กาหนดเกณฑ์ได้ตามความเหมาะสม
หรอื อาจใชเ้ กณฑด์ งั น้ี
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช้)
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )
วชิ าประวัติศาสตร์สากล (ส30162) ชั้น ม.6 : ครรู ชตะ ขาวดี หน้า 49
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานเปน็ รายบคุ คล
ผลงาน/กจิ กรรมที่ เรอ่ื ง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่
ชน้ั วนั เดือน พ.ศ.
คาชแ้ี จง สงั เกตพฤติกรรมในการทางานของนักเรียน โดยเขยี นเคร่อื งหมาย ลงในช่องรายการ
พฤติกรรมทนี่ กั เรยี นปฏบิ ัติ
รายการประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ
ท่ี ชอ่ื –สกลุ สนใจในการทางาน
ไม่เอาเปรียบเพ่ือนในการทางาน
เสนอความคิดเห็น 432 1
ัรบฟังความคิดเห็นของผู้ ่ือน
ให้ความ ่ชวยเห ืลอ ู้ผ ือ่น
มุ่งม่ันทางานให้สาเ ็รจ
ประเ ิมนและปรับปรุงงาน ้ดวยความเต็มใจ
เคารพ ้ขอตกลงของก ุล่ม
ทาตามห ้นา ่ีท ี่ทไ ้ด ัรบมอบหมาย
พอใจ ักบความสาเ ็รจของงาน
รวมคะแนน
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
เกณฑก์ ารประเมนิ
1. การใหค้ ะแนน ให้ 1 คะแนน
2. การสรปุ ผลการประเมินให้เป็นระดับคณุ ภาพ 4, 3, 2, 1 ใชเ้ กณฑ์ดงั นี้
9–10 คะแนน = 4 (ดีมาก)
7–8 คะแนน = 3 (ด)ี
5–6 คะแนน = 2 (พอใช)้
0–4 คะแนน = 1 (ควรปรบั ปรงุ )